พิมพ์หน้านี้ - OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 13 [P.9]< 30.1.2018

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบ => ข้อความที่เริ่มโดย: mod-cup ที่ 07-10-2018 03:55:55

หัวข้อ: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 13 [P.9]< 30.1.2018
เริ่มหัวข้อโดย: mod-cup ที่ 07-10-2018 03:55:55
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิ์ส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรูปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ
หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสต์กระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทู้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพสต์ หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเว็บแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล์ บอกเมล์ แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสต์นิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insert quote ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เว็บ http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม้อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเว็บ แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสต์จนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสต์ในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรื่องบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสต์นิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสต์ให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเว็บบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เว็บไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสต์ชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเว็บไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสต์อ้างอิงชื่อผู้โพสต์หรือเว็บไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเว็บไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสต์และเว็บไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสต์ค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเว็บไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสต์ได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพสต์
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฎการซื้อขายของเล้าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสต์เรื่องสั้นให้มาโพสต์ที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสต์แรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสต์แรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฎทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17



เว็บไซต์แห่งนี้เป็นเว็บไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฎหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเว็บไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเว็บไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

***********************************************************************************
สวัสดีค่า มาม๊ะ เอาเรื่องใหม่มาเสิร์ฟจ้า พอดีพี่ซาวน์น้องหอมเดินทางมาเกินครึ่งแล้ว เราเลยได้โอกาสเปิดเรื่องใหม่ บอกเลยว่าห่างหายจากการแต่งนิยายไปหลายปีมากเนื่องจากปัญหาด้านการเรียน แต่พอมาอยู่ต่างประเทศคนเดียวก็เหงาจับใจ เลยหวนกลับมาทำอะไรๆที่ใจรักอีกรอบ

เรื่องนี้อาจไม่ใช่นิยายในกระแส ตัวละครอาจขัดใจใครหลายๆคน เพราะพระเอกไม่ใช่หนุ่มหล่อล่ำกล้ามใหญ่ชอบไล่ปล้ำคนอื่นอีกแล้ว ส่วนนายเอก...เอิ่ม ไม่รู้จะใช้คำนี้ได้หรือเปล่า แต่เราอยากแต่งนิยายเรื่องนี้มาหลายปีแล้ว แต่ก็กลัวโดนด่า 5555 กลัวคนไม่อิน ไม่เข้าใจความรักของสองคนนี้ เพราะแม้แต่เจ๊พิชกับอิตาร์ก็ยังไม่เข้าใจตัวมันเอง แต่พอเวลาผ่านไปเริ่มโตขึ้นเลยคิดได้ว่า จะกลัวอะไร ลองดูก็ไม่เสียหายนี่...เอาเป็นว่าขอฝาก 'เจ๊พิช' กับ 'อิตาร์' ไว้ในอ้อมกอดอ้อมใจนักอ่านทุกท่านด้วยนะคะ



OMG
เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด!

#เมียตุ๊ด
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >บทนำ< 07.10.2018
เริ่มหัวข้อโดย: mod-cup ที่ 07-10-2018 04:02:20
บทนำ
All the world’s a stage, and everyone merely players.




“อืม”

“อือ อ๊ะ”

ร่างกายเบาโหวงแต่ก็ร้อนรุ่มกับสัมผัสที่ได้รับ ฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ที่ไหลตีวนอยู่ในร่างกายจนรู้สึกร้อนท้องร้อนคอแต่คงไม่เท่ากับสัมผัสเร่าร้อนที่ไต่สัมผัสไปตามลำตัวจนต้องแอ่นตัวขึ้นโค้งเป็นลำธนู โอบลำแขนไปยังร่างแข็งแกร่งแต่นุ่มมือที่คร่อมทับอยู่ ปัดป่ายจิกเล็บระบายความเสียวซ่านบนผิวนั้น

“ฮ้า”

โอ๊ย แล้วผมก็สะดุ้งเฮือก ขนลุกตั้งแต่ปลายเท้าขึ้นมายันต้นคอเมื่อความอุ่นร้อนเข้าครอบครองส่วนอ่อนไหว กรีดร้องครางกระเส่าอย่างห้ามไม่อยู่ เลื่อนมือทั้งสองข้างมาขยุ้มเส้นผมที่อยู่กลางลำตัว

“มะไหว อึก ไม่ไหวแล้ว...”

เมื่อผมครวญครางอย่างอดรนทนไม่ไหวอีกฝ่ายก็เร่งความเร็วขึ้นจนไม่นานผมก็รู้สึกถึงลำแสงที่สว่างวาบขึ้นในหัว กระตุกตัวเกร็งก่อนปลดปล่อยความทรมานออกมาอย่างแสนสุข

และวินาทีต่อมาก็ต้องปรือตาขึ้นมองเมื่อรู้สึกถึงขาทั้งสองข้างที่ถูกจับอ้าออกกว้าง หืม มองไม่ชัดเลยอ่ะ ดวงตาพร่าเลือนจากความสุขสมเมื่อครู่ ทั้งยังปวดหัวตุบจากฤทธิ์แอลกอฮอล์ อือ คิดอะไรไม่ออกเลยอ่ะ

แล้วสติก็ถูกกระชากออกอีกครั้งกับจุมพิตร้อนระอุ เกลียวลิ้นที่แทรกเข้ามาทำให้ผมมัวเมาอีกครั้ง สัมผัสที่ถูไถเข้ากับช่องทางด้านหลังจนมันเต้นตุบอย่างเรียกร้องก็ทำให้ผมหยุดคิดทุกสิ่งและรับทุกอย่างตามสัญชาตญาณของร่างกาย

ถ้ามันจะทำให้ผมสุขสมเจียนคลั่ง ผมยอม...





เช้าวันใหม่

โอ๊ย ปวดตัวจัง

แล้วใครเปิดม่านแต่เช้าอ่ะ แสบตาเว้ย

“ตื่นแล้วก็ลุกอีเก้งกลูต้า”

เสียงใครมาหึ่งๆข้างหูวะ

สักพักก็รู้สึกถึงแรงจิ้มแรงๆที่หน้าผาก

“ลุก มาคุยให้รู้เรื่อง จะมาปล่อยให้กูบ้าตายแบบนี้คนเดียวไม่ได้ ลุกๆๆ”

แล้วแรงจิ้มก็เพิ่มแรงขึ้นเรื่อยๆจนผมขมวดคิ้วมุ่น โอ๊ย กูเจ็บ จิ้มอยู่ได้

แล้วรู้สึกเหมือนเล็บจะจิกมาที่ผิวหน้าด้วยระหว่างจิ้มมาเนี่ย เป็นแผลเป็นรอยขึ้นมารักษาหลายบาทนะ กว่าหน้าจะใสแบบนี้เสียไปกี่แสนรู้ไหม!

“โอ๊ยยย อะไรนักหนา คนจะนอน!”

 แล้วผมก็ทนแรงก่อกวนไม่ไหว  ขมวดหัวคิ้วอย่างหงุดหงิด ตลบผ้าห่มพร้อมเด้งตัวลุกนั่งทั้งที่ตายังลืมไม่ขึ้น ปวดหัวโว้ยยยย
ปลุกขึ้นมาถ้าไม่มีสาระนะจะด่าให้หาทางกลับบ้านไม่เจอเลย โอ๊ย ทำไมปวดสะโพกจังวะ

ผมกระถดตัวถอยหลังไปพิงหัวเตียงเมื่อรู้สึกปวดแปลบไปทั้งร่างเหมือนโดนสิบล้อทับมา โดยเฉพาะส่วนนั้น ซ้ำยังปวดหัวตุบๆจากอาการแฮงค์จนต้องยกมือขึ้นมาคลึงขมับ

“มึงจะหลับตามโนฝันอีกนานไหมอีกลูต้า!”

เสียงแหลมติดทุ้มแหวขึ้นพร้อมกับบางอย่างที่กระแทกหน้าอย่างจัง โอ๊ย คนยิ่งปวดหัวอยู่ขว้างอะไรมาวะ จับดูถึงรู้ว่าเป็นหมอนอิง แล้วคนที่เรียกผมว่าอีกลูต้ามีอยู่ไม่กี่คนหรอก

“อิเจ๊?”

ก็กลุ่มอิตุ๊ดรุ่นพี่ปีสี่คณะเดียวกันนี่แหละ

คนที่ผมเรียกไม่ใช่ใคร หน้าขาวใสแม้แต่สิวสักเม็ดก็ไม่มี ผิวเนียนแบบสาวเกาหลียังอาย ผมตรงยาวดำขลับประหนึ่งนุ่นวรนุชพรีเซนเตอร์แพนทีน ไหนจะหุ่นยาวเพรียวที่นั่งไขว่ห้างที่แม้ไม่มีหน้าอกหน้าใจแต่ก็ดูเซ็กซี่ขยี้ใจจนผมเจ้าของความสูงเพียง 164 เซนติเมตรอิจฉา

นี่คือยังไม่มีหน้าอกและยังไม่ได้ผ่าตัดแปลงเพศนะ ไม่งั้นนี่เวทีมิสทิฟฟานี่ยูนิเวิร์สมีสะเทือน!

“เออ กูเอง”

“เจ๊มาอยู่ห้องกูได้ไงอ่ะ”

ถึงจะรู้จักกันเพราะอยู่คณะเดียวกันแต่ก็ไม่ได้สนิทกันป่ะ มีพูดคุยกันบ้างตอนทำงานสาขางานคณะ แล้วเจ๊มันรู้จักห้องผมได้ไงวะ แต่เมื่อคืนผมเมามาก เจ๊มันคงเป็นลากมาส่งห้องมั้ง

ก็นะ เมื่อคืนเละเหมือนหมา อกหักจากน้องอิ๊งค์เดือนสาขาปีนี้ ผู้ชายตัวเล็ก(กว่าผม) แก้มป่อง ปากแดง สเป๊กผม ตามจีบอยู่หลายเดือน แม่งถูกเดือนมอคาบไปแดก!

เจ็บกว่าโดนทิ้งก็ตรงประโยคที่น้องมันปฏิเสธนี่แหละ ‘พี่ตาร์ดีเกินไป’

สัด! นี่มันปี 2018 แล้วโว้ย เมื่อไหร่จะเลิกใช้มุกกากๆแบบนี้สักที บอกมาเลยกูเตี้ย! กูไม่รวยเหมือนไอ้เดือนมอนั่น! บอกเหตุผลจริงๆที่มึงบอกกับเพื่อนมึงอ่ะ!

ส่วนอิเจ๊ตรงหน้า ผมบังเอิญไปเจอที่ร้านพร้อมกลุ่มแก๊งค์ดอกขจรของอิเจ๊มันนั่นแหละ โต๊ะมันเต็มผมกับเพื่อนอีกสองคนไม่มีที่นั่ง เจ๊ๆเห็นเป็นรุ่นน้องในคณะเลยแบ่งๆที่ให้นั่งด้วย

“มึงจะเหม่ออีกนานไหม ฟังอยู่อยู่ป่ะนิ” แล้วหมอนอิงก็ลอยมาอัดหน้าผม สองครั้งแล้วนะอิเจ๊ อย่าคิดว่าสวยแล้วกูไม่กล้าเตะนะโว้ยยยย

กูจะเหม่อ กูกำลังอกหัก ซ้ำตื่นมายังเจ็บตูด ปวดตัว ปวดหัว เข้าใจบ้างเซ่!

“เจ็บก้นว่ะเจ๊ เหมือนโดนเย่อมาเลย” โอย เป็นริดสีดวงอีกหรอวะ เพิ่งรักษาหายไป ขี้กูก็ไม่แข็งนี่หว่าช่วงนี้

“เรื่องนี้แหละที่กูจะคุยกับมึง”

“ห๊ะ”

“เรื่องที่มึงโดนเอานี่ไง!”
 
เยที่ลอยกระแทกหน้ากูเต็มๆจนอดคลำก้นตัวเองไม่ได้ ห๊ะ คือกูโดนเย่อหรอวะ

“เฮ้ย พูดไรอิเจ๊”

“กูพูดไรล่ะ ตูดระเบิด หน้าซีดไปหมดแล้วยังมาโง่อยู่อีก!”

ผมลองขยับตัวดู แต่ความเจ็บปวดที่แล่นไปทั่วกายทำให้ต้องนิ่วหน้า ทิ้งตัวพิงหัวเตียงเหมือนเดิม

บอกกูทีว่าแค่ริดสีดวงกูแตก T^T

“คะใครมันทำกูวะอิเจ๊ มันอยู่ไหน ระหรือหนีไปแล้ว เจ๊มึงจำหน้ามันได้มั้ย แม่งกูเป็นรุกนะเว้ยยย มาระเบิดตูดกูได้ไง!” คิดแล้วจะร้องไห้ ถึงคิดว่าสายรุกจะไม่ค่อยเหมาะกับตัวเองก็เถอะเพราะหาทาร์เก็ตที่เหมาะกับเรายากเหลือเกิน และพวกที่เข้าหาก็หวังแอ้มตูดกูทั้งนั้น แต่ก็อยากเดินทางสายนี้ให้สุดก่อนนะเว้ย...แล้วอนาคตมันไม่เวิร์คจะเทิร์นเป็นรับก็ค่อยว่ากัน

แต่ไม่ทัน กูโดนทะลวงไส้แล้ว ฮืออออ

“มึงเลิกโวยวายได้ไหมอิกลูต้า...” เสียงอิเจ๊เริ่มกดเสียงต่ำอย่างหมดความอดทน

“ก็พี่มึงไม่ได้มาโดนอย่างกูนี่!”

“กูขอเป็นฝ่ายโดนแบบมึงยังรู้สึกดีกว่า” อิเจ๊ตวัดสายตาคมมองมา

“อย่าบอกนะว่าคนที่เยผมคือผัวเจ๊น่ะ!”

“โอ๊ย มึงแย่งผัวกูยังไม่เสียใจเท่านี้เลย ที่ใครเค้าบอกว่ามึงโง่กูเพิ่งเข้าใจวันนี้แหละ!”

“อะไรของเจ๊วะ!”

“มึงคิดว่ากูมานั่งอยู่ตรงนี้ทำไมห๊ะ!!”

“...”

กะก็มา...

เออ นั่นสิ อิเจ๊มันมานั่งสวยลอยหน้าลอยตาบนโซฟาห้องผมได้ยังไง

แล้วพอสังเกตเรือนร่างเพรียวสูงยาวเกิน 180 แต่ดูดีสมส่วนในชุดคลุมอาบน้ำลายริลัคคุมะที่ปกติผมใส่เป็นประจำ

แล้ว....

เพ่งสายตามองดีๆ ต้นคอที่โผล่พ้นเนื้อผ้าก็มีรอยจ้ำแดงหลายจุด

ระหรือว่า....

มะไม่นะ...

นะนี่...

ผมค่อยๆยกนิ้วที่สั่นเทาขึ้นชี้หน้าสวย

“สะสามพีหรอ!”

“โอ๊ย อิดอก กูจะไม่ทน!”


#เมียตุ๊ด
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >บทนำ< 07.10.2018
เริ่มหัวข้อโดย: arissara ที่ 07-10-2018 06:37:09
55555 ท่าจะ ฮาหลายย
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >บทนำ< 07.10.2018
เริ่มหัวข้อโดย: lovenine ที่ 07-10-2018 07:31:02
เอาแล่วๆ 555 ลุ้นๆ ต่อไป
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >บทนำ< 07.10.2018
เริ่มหัวข้อโดย: papapoope ที่ 07-10-2018 07:55:38
โอ้ยฮา5555
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >บทนำ< 07.10.2018
เริ่มหัวข้อโดย: cheezett ที่ 07-10-2018 08:18:52
ว้ายย ผิดผีคร้าาา  :oo1: :oo1: :m20:
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >บทนำ< 07.10.2018
เริ่มหัวข้อโดย: ก้อนขี้เกียจ ที่ 07-10-2018 08:38:38
เฮ้ยชอบๆ 55555555 นั่งขำจนเป็นบ้าน้องตาร์แม่งจี้
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >บทนำ< 07.10.2018
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 07-10-2018 09:08:13
แล่ววว.......แล่วววว....แล้ว   :z1: :pighaun: :haun4:
อิตุ๊ดเจ๊ เป็นผัวรุกกลูต้าซะแล้ว  อะจ๊ากกกกกกกก  :z3:

สนุกกกกกกกกก  ชอบบบบบ  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >บทนำ< 07.10.2018
เริ่มหัวข้อโดย: Cyclopbee ที่ 07-10-2018 18:27:26
เปิดเรื่องมาน่าสนใจมากค่าาา
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >บทนำ< 07.10.2018
เริ่มหัวข้อโดย: naezapril ที่ 07-10-2018 22:49:54
ขอตอนต่อไปเลยได้ไหมมมมม
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >บทนำ< 07.10.2018
เริ่มหัวข้อโดย: rockiidixon666 ที่ 07-10-2018 23:01:50
อะไรเนี่ยยย อิเจ๊  :laugh:
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >บทนำ< 07.10.2018
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 07-10-2018 23:02:45
 o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 1< 08.10.2018
เริ่มหัวข้อโดย: mod-cup ที่ 08-10-2018 01:51:32
ตอนที่ 1
คนแพ้ก็ต้อง(ยอม)ให้ตุ๊ดดูแล




‘ตาร์ มึงเป็นไงบ้าง’

เสียงในสายเรียกให้ผมพยายามกรอกเสียงที่ปกติที่สุดลงไป

“เออ ดีขึ้นแล้ว อีกไม่กี่วันก็ไปเรียนได้ละ”

‘พรุ่งนี้วันศุกร์ พวกกูว่าจะไปเยี่ยมเนี่ย’

“เฮ้ย มาทำไม กูไม่เป็นไรมาก”

ไปที่บ้านแล้วไม่เจอก็ตายโหงสิ!

ผมลนลานลุกลนจนเผลอขยับตัวมากไปทำให้ต้องนิ่วหน้าออกมาด้วยความเจ็บปวด ฮือออ น้ำตาจะไหลเลยกู

แล้วอิเจ๊ มึงอ่ะตัวดี ไม่ต้องมาถลึงตาใส่กูเลย!

เพราะความผิดพลาดจนพาลมาเป็นความบัดสีแปดเปื้อน เรียกได้ว่าเป็นราคีคาวที่สุดในชีวิตกูเลยก็ได้ แม่งเอ้ย! เสียตูดว่าชอกช้ำระกำใจพอแล้ว ยังจะมาเสียให้กับตุ๊ดที่ขึ้นชื่อว่าหน้าสวยที่สุดในมหาวิทยาลัยนี้ด้วย


‘กูนี่แหละ คนที่เอาตูดมึงเมื่อคืน’


ประโยคที่ทำผมอึ้งขากรรไกรค้าง มือไม้สั่นอย่างควบคุมไม่ได้ เป็นประโยคที่ตามหลอกหลอนรีเพลย์ซ้ำๆอยู่ในหัว และสุดท้ายก็ปล่อยโฮโผกอดกันร้องไห้กระซิกๆ

คนนึงร้องไห้เพราะเสียตูด

อีกคนคร่ำครวญเพราะได้ตูด

อนาถชิบ...

แง้ แม่กูจะต้องเป็นลมอีกกี่รอบ!

สาบานเลยว่าชาตินี้จะไม่แตะเหล้า น้ำเมาหรือยาดองอีก มีเรื่องเสียใจจะเข้าตบเท้าเข้าร้านบิงซูแดกให้เบาหวานขึ้นตากันไป ยอมตัดนิ้วโป้งเท้าทิ้ง ฮือออ

และเพราะคืนอันน่าอัปยศอดสูส่งผลให้ตอนนี้กระผมนาย ‘กรชวิน’ หรือ ‘ไอ้ตาร์’ ของเพื่อนๆต้องมานอนซมหยอดน้ำข้าวต้มอยู่บนเตียงสีฟ้าพาสเทลกับเหล่าบรรดาเจ้าหญิงดิสนีย์ที่แสนสยดสยอง เอลซ่า...ขอร้อง ไปสร้างปราสาทน้ำแข็งไกลๆ ขนผมสีทองเรืองรองของมึงแหย่จมูกกู๊วววว

“อิเจ๊ เอาบรรดาตุ๊กตาเจ้าหญิงไปไว้ที่อื่นได้ป่ะวะ กูนอนไม่ถนัด เกะกะ!” หลอนด้วยชิบหาย

ผมบ่นใส่คนที่เดินถือชามข้าวต้มเข้ามา ใบหน้าที่มีแผ่นมาร์กแปะอยู่กรอกตามองบนพลางวางถาดอาหารบนโต๊ะญี่ปุ่นก่อนยกขึ้นมาวางบนเตียง ตรงหน้าผม

“มึงก็แค่คนอาศัยมีสิทธิ์อะไรมาไล่เจ้าของเตียง แดกซะ”

จะบอกว่าเหล่าเอลซ่า อันนา ออโลล่า นางซินเป็นเจ้าของเตียงสินะ กูต้องสำนึกบุญคุณสร้างหอคอยลอยฟ้าตอบแทนเลยมั้ย....

อิเจ๊ดอกขจร! ที่กูต้องมานอนเป็นผักกระดิกตัวไม่ได้เหมือนคนเป็นอัมพาตนี่ไม่ใช่เพราะเจ๊มึงหรอกหรออออออ

ใช่ครับ ตอนนี้ผมย้ายสารร่างมาอยู่ห้องอิเจ๊ เมื่อปรับจูนสมองได้ว่าเสียเอกราชให้กับตุ๊ดสวยตรงหน้าไปแล้วเพราะน้ำเมาจากเราทั้งสอง ตกลงกันได้ว่าจะเหยียบเรื่องนี้ไว้สุดตีน ให้มันเป็นรอยดำจุดเล็กๆในชีวิต แล้วต่างคนต่างแยกย้ายกันกลับไปใช้ชีวิตของใครของมัน

แต่ก่อนจะถึงวันนั้น...ฮือออ ตูดกูฉีก ฉีกแบบจริงๆครับไม่ได้สำออยออเซาะแต่อย่างไร ไม่รู้ว่าบ้องตันที่ยัดเข้ามามันใหญ่ขนาดไหน แต่มันขนาดที่ผมต้องเข้าโรงพยาบาลอ่ะครับ ไม่ได้เข้าแบบธรรมดา ต้องให้ตุ๊ดสวยเค้าแบกขึ้นหลังไปเลยเพราะไม่สามารถลุกเดินได้ ความเจ็บปวด ณ ขณะนั้นยังจำได้ดี...แม้แต่แรงหายใจยังแทบไม่มี ชีวิต...



‘อิกลูต้า อย่าลุก!’

‘กูปวดเยี่ยว’

‘กูบอกว่าอย่าขยับ!’

‘อะไรขะ...อะอิเจ๊...เลือด...’

‘กรี๊ดดดด มันไหลมาตามขา ลูกมึงไหลแล้ววววววว’

‘อิเจ๊! กูไม่ได้แท้ง แต่เลือดเต็มเลย ทะทำไงดี’

‘หมอ...มึงต้องไปโรง’บาล!’

‘ไม่! กูอาย!’

‘อิดอก ใช่เวลาหน้าบางหรอ ห่วงชีวิตมึงก่อนมั้ย ถ้าตายไปแล้วแผ่นดินมันไม่ได้สูงขึ้น ก็เก็บชีวิตผลาญเงินพ่อแม่มึงต่อไป อร๊าย กุญแจรถกูไปไหน ขึ้นหลังกูมา เอาผ้านี่ซับเลือดก่อน ยังจะยืนนิ่ง เดี๋ยวกูตบจมูกเบี้ยวเลย!‘

‘อะอิเจ๊ มึงจะไปชุดนี้หรอ’

‘ชุดไหนกูก็สวย คนตูดย้วยแถม*วยสั้นอย่างมึงน่ะหุบปาก’



ถ้าสองสามวันก่อนคุณไปโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งแล้วเจอตุ๊ดร่างสูงในชุดคลุมอาบน้ำริลัคคุมะกับสลิปเปอร์ลายเดียวกันวิ่งหัวฟูแบกคนหน้าหล่อๆคล้ายๆต่อ ธนภพ มาก็อย่าตกใจนะครับ กำลังถ่ายละครอยู่ กำลังยุ่งมากอาจไม่มีเวลาแจกลายเซ็นต์หรือถ่ายรูปด้วย ก็ขออภัย แต่ติดตามผลงานกันได้ทางช่องไลน์กากี ถุย!

พอมาถึงโรงพยาบาลหมอก็ซักประวัติ ตรวจอาการ แม่งโคตรอายหมอเลย ฮือออ โดนหมอด่าไปสามบรรทัด แปดวรรค สองพันตัวอักษรได้เมื่อหมอเห็นแผลฉีกขาดที่รูทวาร มันเหวอะจนหมอรับไม่ได้ ได้ยาแก้อักเสบ ยาทา นัดดูแผลใหม่อีกหนึ่งสัปดาห์ แล้วก็ใบนัดตรวจเลือดด้วย

กูจะไม่ติดโรคตายใช่มั้ย...

เอาชีวประวัติผมไว้เป็นบทเรียนนะครับ

เซ็กส์ = ป้องกัน

ถุงยาง สารหล่อลื่น ต้องพร้อมนะครับ ช่องทางข้างหลังไม่เหมือนช่องคลอดผู้หญิงไม่มีน้ำหล่อลื่นธรรมชาติ ยิงตรงเลยไม่ได้ ฮือออออออ

และเพราะร่างกายที่ชอกช้ำระกำทรวงผมจึงต้องหยุดเรียน โดยมีอิเจ๊เป็นคนเอาใบรับรองแพทย์ไปยื่นให้กับอาจารย์ประจำวิชา

ส่วนผมก็โกหกไอ้ทะโมนสองตัวเพื่อนสนิทว่าป่วยหนักติดไวรัสสายพันธุ์ใหม่สองพันยี่สิบเก้า แม่มารับกลับไปดูแลที่บ้าน ซึ่งความจริงคือถูกหิ้วสารร่างมาอยู่คอนโดอิเจ๊ชั่วคราว

หนึ่งคือ กูกลับบ้านไปให้แม่เห็นสภาพนี้ไม่ได้

สอง ถ้าอยู่หอตัวเองเผื่ออยู่ดีๆพวกทะโมนโผล่มาเห็นสภาพผมต้องรู้แน่ว่าโดยตีค่ายแตกมา

ดังนั้น อิเจ๊ มึงทำ มึงรับผิดชอบ!

ซึ่งอิเจ๊มันก็ดีครับ ดูแลผมดีทุกอย่าง เช้ามาเช็ดตัวให้(ตอนนี้แผลโดนน้ำไม่ได้) เอาแปรงสีฟันมาให้ขัดถึงเตียง ก่อนออกไปเรียนก็หาข้าวหายาเตรียมไว้ให้ เย็นกลับมาก็มาเตรียมอาหารมื้อเย็นพร้อมยาให้ต่อ ตบท้ายด้วยเช็ดตัว ผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้า พานอน

เรียกได้ว่าบริการถึงเตียง แทบไม่ต้องกระดิกตัว

เนื่องด้วยรู้สึกผิดกับสิ่งที่ทำ เลยขอชดใช้เวรกรรมที่ทำไว้เพื่อวันข้างหน้าจะได้ผัวตามที่หวัง ไม่ใช่อยู่ดีๆก็ได้บทผัวแบบนี้

พี่มึงก็เป็นเวรกรรมของกูไม่ต่างกันนั่นแหละ!

จะมีก็แต่เยี่ยวที่ตอนนี้พอเดินไปเข้าห้องน้ำเองได้ แรกๆนี่ต้องเยี่ยวใส่ขัน

ใช่...ขันครับ ขันน้ำร้านทุกอย่างยี่สิบ ฮือออ ชีวิต

“อิเจ๊ โจ๊กอีกแล้วหรอ เบื่ออ่ะ”

“อย่าเรื่องมาก หมอบอกให้กินของอ่อนๆจะได้ขี้ง่ายถ่ายคล่อง”

“แต่กูเบื่อ กินโจ๊กมาสามวันแล้วนะ” ห้ามื้อแล้วอ่ะ แม่งกินแต่โจ๊กปลา เปลี่ยนเป็นหมูเป็นไก่ให้บ้างก็ไม่ได้

“กลั้นใจแดกๆเข้าไปจะได้กินยา ไว้หายกูจะพาไปเลี้ยงหม้อไฟ เครื่องในตุ๋นเลยดีม๊ะห๊ะ แดกควายทั้งตัวก็ไม่มีใครว่า แต่ตอนนี้มึงต้องทนต้องฝืนบ้าง ตดออกมามึงยังเจ็บจนร้องไห้ กินตามใจอยาก ขี้ทีนึงไม่ขาดใจตายไปเลยหรือไง จะให้กูขนศพไปไว้วัดไหนก็สั่งเสียมา”

เท้าเอวด่าขนาดนี้ ก็จับกูเผานั่งยางเลยเถอะ นั่นปากหรือระฆังวัดแจ้ง เดี๋ยวกูร้องถึงสำนักงานเขตเลย T^T

แล้วผมเอาแรงที่ไหนไปสู้รบปรบมือได้ ก้มหน้าตักโจ๊กเข้าปากเงียบๆสิ

“ต้องให้ด่า แดกดีๆไม่ชอบ แล้วดูซิ แผ่นมาร์กกูเลื่อนไปหมด หน้ากูจะมีริ้วรอยมั้ย โอ๊ยยยย” แล้วเสียงก่นด่าก็ลากยาวไปอีกครึ่งชั่วโมงพร้อมกับร่างสูงเพรียวที่ผลุบหายไปในห้องน้ำ

บอกกูทีว่านี่เป็นแค่ฝันร้าย หยิกแรงๆ เอารถแบคโฮมาบดร่างกูให้ตื่นเลยก็ได้

อย่าทำร้ายด้วยเรื่องที่ว่าได้อิเจ๊พิชชี่สัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำสปีชีส์ด่าสี่วันสามคืนไม่เหนื่อยนี่เป็นผัวคนแรกเลย...





ผมจัดการกินโจ๊กอ้วกหมาเสร็จก็ยกโต๊ะญี่ปุ่นวางลงข้างเตียง นิ่วหน้าเมื่อตอนเอี้ยวตัวแล้วรู้สึกเจ็บแปลบที่แผล เป็นจังหวะที่อิเจ๊เดินออกมาจากห้องน้ำพอดี พอเห็นจากที่เพิ่งหยุดบ่นได้ไม่ถึงสิบวิก็บ่นยาวไปอีกร่วมสิบนาที เพราะมันกลัวแผลผมจะอักเสบขึ้นมาอีก

อ่ะนะ ไข้ผมเพิ่งลด สองวันที่ผ่านมาไข้ขึ้นตลอด เป็นอิเจ๊ที่ไม่ได้หลับได้นอนต้องเฝ้าไข้ จับเช็ดตัว ป้อนยาทั้งวันทั้งคืน

มันเลยขยาดกลัวผมจะไข้ขึ้นอีก

เพราะการอดนอนทำหน้าอิเจ๊มันโทรม!

แล้วไข้เพิ่งจะลดลงวันนี้นี่เอง

หลังจากที่อิเจ๊จัดการเอาถาดอาหารออกไปเก็บในครัวแล้ว มันก็เดินเข้ามาพร้อมอาวุธที่ทำให้ผมหน้าซีดเซียวทุกครั้งที่พบเห็น

ช่วงเวลานี้มาถึงอีกแล้วหรอวะ

ฮืออออ

“กะกูว่ากูเริ่มไม่เจ็บแล้วล่ะ” ผมคว้าเอาตุ๊กตาข้างตัวมากอดไว้แน่น

ฮือ มู่หลาน ปกป้องเราด้วย T^T

อิเจ๊นางมารสาวเท้าเข้ามาหาช้าๆ มือสองข้างกำลังค่อยๆใส่ถุงมือยาง

มันไม่ได้ดูเหมือนคุณหมอ แต่เหมือนฆาตกรโรคจิตชำแหละศพ! กูกลั๊ววววว

“ทำไมมึงต้องทำตัวมีปัญหาตอนจะทายาทุกที”

มึงไม่ได้มาโดนจับแหกขา โดนจ้องโดนควักรูตูดเหมือนกูนี่

“กูหายแล้วจริงๆ แค่กินยาน่าจะพอ”

อีกฝ่ายที่ขึ้นมานั่งพับขาอยู่ปลายเตียงหรี่ตามอง

“จริงหรอ...”

“อืม” ผมพยักหน้าแข็งขัน

วันนี้กูจะไม่ยอมให้อิเจ๊เอานิ้วควานทวารได้อีก!

“ก็ได้…”

เหย เหย

“ได้จริงหรอ...มึงไม่หลอกกูนะเจ๊” ไม่ใช่ผมเผลอแล้วทะลวงเข้ามานะ

“ได้สิ...”

ทะทำไมรู้สึกขนลุกกับรอยยิ้มหวานวะ

แต่คงไม่มีอะไรหรอก เจ๊มันถอดถุงมือออกแล้วเดินออกไปข้างนอกแล้วนี่

พอร่างอวตารเดินหายไปจากห้อง ผมก็ปล่อยลมหายใจพรู เลื่อนตัวลงนอนราบบนเตียง

แต่ผมลืมบางอย่างไปได้ยังไงนะ...

ผมลืมได้ยังไงว่ากูกำลังอยู่กับอิเจ๊พิชชี่นางมารร้ายปี 2018!

มันจะยอมปล่อยกูไปเพียงแค่อ้อนวอนประโยคสองประโยคหรอ ไม่มี๊!

“อะอิเจ๊ เอาถาดมาทำไร”

ตาผมเบิ่งโตแทบถลนเมื่อเห็นอิเจ๊เดินถือถาดกลมสแตนเลสอันใหญ่เท่าล้อรถมอเตอร์ไซด์เข้ามา ริมฝีปากเหยียดยิ้มหวานอาบยาพิษให้ผมขยุ้มผ้านวมหนาในมือแน่น

ผมรู้สึกไม่ปลอดภัย ขนตูดยังลุกอย่างรู้สึกถึงอันตรายที่คืบคลานเข้ามา!

“พิสูจน์ไง”

“พะพิสูจน์ไร...”

“ก็หายแล้วนิ ไม่เจ็บแล้ว ขอฟาดก้นสักที”

“เฮ้ย อิเจ๊!” ผมยึดผ้านวมที่อีกฝ่ายเอื้อมมือมารั้งออกตรงปลายตีนแน่น มึงจะบ้าหรออิเจ๊ ไม่ใช่มึงสวยมึงรวยแล้วจะทำยังไงกับกูก็ได้นะเว้ย อยู่ๆเดินมาจะเอาถาดฟาดก้นกูแบบนี้ไม่ด๊ายยยย รับรองแม่งฟาดมาทีไส้กูไหลหลากเป็นน้ำป่าหน้าฝนแน่ๆ

กูไม่ยอมมมมมมม

“เอาน่า หายแล้วไม่ใช่หรอ กูขอฟาดเบาๆ ถ้าไม่เจ็บคืนนี้กูจะได้ทาสลิปปิ้งมาร์กแล้วหลับได้อย่างสบายใจ”

“มะไม่”

“มาม๊ะ เจ๊พิชชี่จะขอแตะเบาๆ”

“มะไม่อิเจ๊ กูป่วยอยู่นะ!”

“ไหนเมียที่รักของเจ๊บอกว่าหายแล้วไง”

ยะอย่าง้างมือเตรียมฟาดขนาดนั้น กูขอร้อง T^T

“มะไม่หาย”

“ว่ายังไงนะ” แววตานางมารร้ายหรี่มอง “อีกทีซิ”

แล้วยกถาดขึ้นสูงเตรียมฟาด จนผมต้องละล่ำละลักตะโกนความจริงออกไป

“ยังไม่หาย ยังเจ็บอยู่ ตูดนะเว้ยไม่ใช่ดินน้ำมัน ปั้นถูๆแล้วมันจะกลับมาเรียบเหมือนเดิม!”

พอจบประโยคอิเจ๊มันก็ทิ้งถาดลงเกิดเป็นเสียงถาดกระทบพื้นเสียงดัง ยกมือท้าวเอวชี้หน้า

“ก็แค่นี้อิดอก ต้องให้กูใช้กำลัง นอนลง อ้าขา กูจะทายาให้ แล้วถ้ายังแผลงฤทธิ์ กูจะเอาหลอดยายัดตูดมึงอิกลูต้า!”



#เมียตุ๊ด

น้องตาร์ของพี่ จนกว่าจะหาย รอดน้ำมือนางมารร้ายให้ได้นะลูก โถวว
[/color]
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 1< 08.10.2018
เริ่มหัวข้อโดย: 19th ที่ 08-10-2018 03:56:22
แต่ดูทรงแล้ว มาเวย์นี้ก็ได้อยู่นะเจ๊ ไหนๆ รุกก็ขาดตลาดแล้ว เจ๊ก็ผันตัวหน่อยจะเป็นไร 555555  :m20:
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 1< 08.10.2018
เริ่มหัวข้อโดย: papapoope ที่ 08-10-2018 07:34:45
เจ๊อย่าโหดกับน้องงงงง
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 1< 08.10.2018
เริ่มหัวข้อโดย: Hirose ที่ 08-10-2018 07:41:40
ปัวปากจัดที่ดูแลดีก็ยังดีนะคะน้องต้า
  :impress2:
มาต่อเร็วๆน้า
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 1< 08.10.2018
เริ่มหัวข้อโดย: sweetie009 ที่ 08-10-2018 11:12:03
ฮ่าลั่น รออ่านต่อจ้าาา สนุกกมากกกกกกก :hao6:
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 1< 08.10.2018
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 08-10-2018 17:46:17
อืมมมม.............ความสัมพันธ์ของทั้งคู่  :-[
ดูสนิทสนมกันถึงรูถึงก้น   :serius2: :really2: :เฮ้อ:
ล้วงๆควักๆทายาได้อย่างใกล้ชิด  :impress2:
จะเป็นความลับ แบบต่างคนต่างไปได้จริงหรือ   :z3:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 1< 08.10.2018
เริ่มหัวข้อโดย: ก้อนขี้เกียจ ที่ 08-10-2018 18:21:02
ชอบบบบบบ เจ๊เกรี้ยวกราดอ่ะ
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 1< 08.10.2018
เริ่มหัวข้อโดย: ooomukooo ที่ 09-10-2018 15:56:20
ติดตามๆ
 :hao7: :hao7: :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 1< 08.10.2018
เริ่มหัวข้อโดย: Nekosama ที่ 09-10-2018 22:04:29
ลั่นมากๆ ผิดผีที่สุด ติดตามค่ะ ><
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 2< 11.10.2018
เริ่มหัวข้อโดย: mod-cup ที่ 11-10-2018 00:42:46

ตอนที่ 2
ยูทูบเบ้อ(เร่อ)



“ไรอ่ะเจ๊”

“ไม่เสือกจ่ะ”

หน้าม้านไปดิกู

ขอถามหน่อยเห้ออออ นี่ก็อยู่ห้องคนเดียวทั้งวัน นั่งๆนอนๆจนน้ำลายจะบูดอยู่ละ แบคทีเรียล้านตัวในปากคันยิบๆโหยหาอยากจะเม้ามอยฝอยตะเข็บกับใครสักคน แต่พอไอ้ใครสักคนกลับห้องมาพร้อมหอบกล่องสีขาวลายแดงของพี่ไปรฯขนาดตั้งแต่กอไก่ไปจนถึงคอควายหลายกล่องเข้ามาด้วย แล้วก็นั่งจมแกะกล่องนั้นแงะกล่องนี้ บ่องตง อยากขุดเผือกมาก

“ไปกินข้าวดิ อยู่บนโต๊ะนู่น”

ผมมองตามหน้าที่เพยิดไปยังข้าวกล่องสองกล่องที่วางอยู่บนโต๊ะกระจกตัวเตี้ยหน้าทีวี เยดเข้! วันนี้ไม่มาเป็นถุงใสมัดยางเว้ย มาเป็นกล่องข้าวพลาสติก งี้แสดงว่าต้องเป็นเมนูแห้งไม่ใช่เมนูน้ำ โอยยยย ในที่สุดกูก็หลุดพ้นจากโจ๊กอ้วกหมาสักที

หรืออิเจ๊มันจะใจดีซื้อพริกแกงหมูหน่อไม้ดองที่ผมบ่นอยากกินมาให้

โง้ยยยย น้ำตาจิไหล สวยแล้วยังใจดีที่สุดในโลกหล้า วันไหนอิเจ๊มันลงประกวดมิสแกรนด์พังง๊าเมื่อไหร่จะยอมเสียค่าบริการสามบาทเติมเงินตู้บุญเติมมาทุ่มโหวตให้มึงนะเจ๊

ฟึ่บ

ผมพุ่งตัวไปเปิดกล่องข้าวสองกล่องดูทันที

ง่อวววววว ถึงจะไม่ใช่แกงหมูหน่อไม้ดอง แต่ก็ยังเป็นพริกแกงหมูกรอบวะ โอ๊ย ได้กลิ่นพริกแกงหอมๆแล้วน้ำลายสอ พี่จะจัดให้ลิ้นชาเลยน้องเอ้ยยย

ปั่ก

“โอ๊ย” กล่องขนาดกอไก่กระแทกหัวกูเต็มๆ

“อย่ากระแดะ กล่องนั้นของกู ของมึงน่ะข้าวผัด”

“โหย ไรอ่ะ กูอยากกินผัดพริกแกงอ่ะ” หมูกรอบก็อยากกิน...

“เพิ่งเดินได้ไม่ถึงแปดก้าวแล้วอย่าทำซ่า”

“ไม่เอา กูจะกินกล่องนี้” ผมหยิบกล่องข้าวผัดพริกแกงมาหนีบไว้แน่น ผมดีขึ้นแล้วนะเว้ย เดินได้แล้ว ไม่เจ็บมากแล้วด้วย ตอนเอ่อ...ทำธุระถ่ายหนักก็ไม่ทรมานแล้ว ตอนนี้แดกพริกสิบเม็ดตูดกูก็รับไหว!

“อิกลูต้า” มาอีกละเสียงข่มขู่พร้อมสายตานางมาร

“ไม่”

“ไอ้ตาร์” เริ่มหรี่ตา มือกำกล่อง

“ไม่โว้ยยย เฮ้ย อย่าขว้างมานะ นั่นกล่องคอควาย หัวแตกได้เลยนะ”

“ถ้ามึงยังไม่ยอมแดกข้าวของมึงดีๆ จะเจอตะตีน!”

ชะอุ่ย...พยัญชนะไทยตัวไหนวะ ขู่แม่งตลอด คราวนี้ไม่ยืนเท้าเอวละ ยกตีนขึ้นมาพาดบนโซฟาเลย นึกภาพออกมั้ยครับ อิเจ๊มันนั่งท่ามกลางกล่องไปรษณีย์อยู่บนพื้นข้างๆโต๊ะกระจกตัวเตี้ยที่ผมกำลังนั่งยองคุ้ยข้าวอยู่ แล้วโซฟาก็จัดเข้าชุดอยู่ใกล้ๆกัน พออิเจ๊มันยกตีนขึ้นไปพาดกลายเป็นหัวแม่เท้าที่กระดิกอีกนิดก็แหย่เข้าไปในรูจมูกกูได้แล้ว แหมะ ดีนะยังทาเล็บสีชมพูพาสเทล ไม่มีขี้เล็บแลดูสะอาดสะอ้าน ยังถือว่าให้เกียรติหนังหน้ากูหน่อย ถุย

แล้วคิดหรอว่าใช้ตีนมาขู่แบบนี้กูจะกลัว ไม่กลัวโว้ยยยยยย แต่ที่ยอมเปลี่ยนเป็นหยิบกล่องข้าวผัดขึ้นมาน่ะไม่ได้กลัวคำขู่หรอกนะ กลัวอิเจ๊มันทำจริง ฮืออออ

“จะต้องให้กูฟ้อนทุกวัน แดกดีๆไม่ชอบ ชอบเคล้าน้ำตา ทำไม เดือนนี้แม่มึงไม่ส่งตังให้ใช้หรอถึงต้องแดกข้าวคลุกน้ำตาแทนน้ำปลาน่ะ”

โหยยย วิ่งหากะลา หามีดตัดขาไม่ทันเลยกู ด่าซะรู้สึกอาภัพ ต้องจนเบอร์ไหนถึงต้องเค้นน้ำตามากินแทน T^T

“…”

“แล้วบุญคุณน่ะสำนึกบ้างมั้ย เอาข้าวกูไปใส่จานด้วยสิ มึงหิวเป็นคนเดียวหรือไง น้ำใจอ่ะหัดมีบ้าง ทำดีเยอะๆเผื่อชาติหน้าจะได้มีสติสัมปชัญญะครบเหมือนคนอื่นเขา”

ไม่น่าเลยกู

ไม่น่าหาเรื่องโยนหินไปกระทบปากอิเจ๊มัน ไฟแล่บจนหาน้ำดับไม่ทันแล้วเนี่ย ขอลี้ภัยไปในครัวสักแปปแล้วกัน หูอื้อไปหมดแล้วโว้ยยยย







“แล้วตกลงของไรเยอะแยะอ่ะ”

เห็นนั่งแกะมาพักใหญ่ๆละ นี่ก็กินข้าวไปแกะไปด้วยเนี่ย ส่วนมากสามสี่กล่องที่แกะเสร็จแล้วจะเป็นพวกเครื่องสำอางค์ ลิปสติก รองพื้น บรัชออน และอีกหลายๆอย่างที่เกี่ยวกับความสวยความงาม

“ก็พวกสกินแคร์ เครื่องสำอางค์”

“เยอะมากอ่ะ ใช้หมดนี่เลยหรอ” เดือนๆนึงหมดค่าบำรุงตั้งแต่หัวยันตีนไปกี่หมื่นวะ ผมก็ใช้นะพวกสกินแคร์ เป็นผู้ชายดูแลตัวเองระดับนึง แต่ไม่เท่าอิเจ๊อ่ะ

“บางอันก็ใช้บ่อย บางตัวไม่ถูกกับผิวก็ปาดครั้งเดียวเลิก”

“แล้วไมไม่ซื้อแค่ของที่ใช้ประจำอ่ะ”

“ไม่ได้ซื้อ ของฟรี”

“ห๊ะ มีหนุ่มเปย์ให้งี้หรอ เยอะขนาดนี้มีเป็นฮาเร็มเลยดิ” โหยยยย มายไอดอลลลล

อิเจ๊หยุดมือตักข้าว ปรายตามอง

“หน้ากูดูกระหรี่ขนาดนั้น? ทางแบรนด์เค้าส่งมาให้รีวิวย่ะ”

“นี่รับจ้างรีวิวของหรอ เช็คดีๆนะอิเจ๊ ระวังนะเมื่อหลายเดือนก่อนดาราโดนตำรวจเรียกเกือบยกวงการ” ข่าวดังของแบรนด์หมาจิกไก่สกินถ้าจำกันได้

“หน้ากูดูไร้ความคิดขนาดนั้นหรออิกลูต้า กูรีวิวสกินแคร์ เครื่องสำอางค์อยู่แล้ว ที่ซื้อใช้เองก็มี อันไหนใช้ดีก็ว่าดี อันไหนเหี้ยก็วิจารณ์ไปตามตรง กูไม่ได้เกิดมาแค่สวยเลอค่าแต่จิตใจกูก็ดีดั่งนางฟ้านางสวรรค์ พวกที่มาจ้างรีวิวแล้วให้อวยสรรพคุณเกินจริงน่ะกูไม่รับหรอก ตื้อมากๆกูด่ากระเจิงให้อีก กูจะทำให้เหล่าเจ้าหญิงผิดหวังในตัวกูได้ไง กูทำไม่ได้หรอก มันผิดบาป” แล้วก็ส่งสายตาอ่อนโยนไปที่ตุ๊กตาสโนวไวท์บนโซฟา

โถววว กูควรจะรู้สึกไงหรอกับคนที่กลัวเหล่าบรรดาตุ๊กตาเจ้าหญิงเสียใจน่ะ

“ว้าว งี้เจ๊ก็เป็นยูทูบเบอร์ดิ”

“เรียกบิวตี้บล็อกเกอร์จะถูกกว่า”

“เหมือนกันแหละ ก็รีวิวอัพลงยูทูบป่ะ ชื่อช่องไรอ่ะเผื่อไปติดตาม”

อิเจ๊ปรายตามองก่อนวางช้อนไปหยิบโทรศัพท์มือถือมาจิ้มๆหน้าจอแล้วส่งให้ดู

โหยย ยอดติดตามห้าแสนกว่า

“โหว สุดยอด”

“ไงล่ะผัวมึง”

“แค่ก”

“เหี้ยอ่ะเจ๊” ดูก็รู้มันอยากแกล้ง น้ำเกือบพุ่งเลยกู นี่ถ้าพุ่งใส่หน้าอิคนปากเหี้ยจนสิวขึ้นเนี่ย เอาบังตอมาไล่สับหัวกูนี่สู้นะ แหม่

“กินเสร็จยัง ช่วยกูแกะของหน่อย”

“ไม่อ่ะ ขี้เกียจ”

“แหมอิดอก นอนอืดจนจะเป็นแผลกดทับละ ขยับร่างกายบ้างเดี๋ยวแขนขาจะลีบตามสมองไป”

ด่ากูไม่มีสมองยังเจ็บน้อยกว่า นี่ถ้าจิตไม่แข็งแรงพออยู่กับอิผีโมเอะนี่ไม่ได้นะครับ มีโดดตึกตาย

แล้วทาสน้อยผู้ต่ำต้อยจะทำอะไรได้ นอกจากเก็บจานไปล้างแล้วลากสังขารกลับมานั่งช่วยอิเจ๊แกะของ แล้วแยกกองไว้เป็นแบรนด์ๆไป แต่ขอนั่งบนโซฟานะครับ เจ็บตูด งือ

“อืม คืนนี้รีวิวไรก่อนดีอ่ะ ลิปสติกหรือรองพื้น” แล้วเจ๊แกก็เริ่มสควอชสีลิปสติกที่ท้องแขนเล่น แล้วก็นั่งเพ้อเฉดนี้ก็สวย อีกเฉดก็ดี “สีนี้สวยเนอะ”

เอ่อ ไอ้ที่ปาดๆห้าหกแท่งต่างกันตรงไหน

อิเจ๊ >> คอตตอนแคนดี้ จาวา มีเดียมออเรนจ์ ไบรท์ป็อปปี้ นีออนนู๊ด

ผม >> ส้ม ส้ม ส้ม ส้ม ส้ม

...

แล้วเหมือนอิเจ๊จะมองหน้าเอ๋อๆของผมออก

“กูลืมไป มึงโง่”

อันนี้กูไม่เจ็บครับ เพราะผมมั่นใจว่าตัวเองน่ะเป็นมนุษย์ปกติที่ปกติสามารถแยกแม่สีและคู่สีได้ไม่มีเพี้ยน ไม่ใช่สายตาอมนุษย์ที่แยกสีได้เป็นค่า RGB สิบหกจุดแปดล้านสีงี้ บุ่ยยยย









“อิกลูต้า เข้ามาหน่อย”

อะไรอีกอ่ะ เพิ่งแกะของออกจากกล่องเสร็จจนปวดเล็บคุดไปหมด นอนดูการ์ตูนอยู่บนโซฟายังไม่ทันจบตอนเลย เสียงแหลมทุ้มจากในห้องนอนก็ตะโกนเรียก

เห็นกูเดินเหินได้หน่อยนี่ใช้กูจัง เอาขวดกระแทกตูดให้ระบมอีกดีมั้ยวะ นึกถึงช่วงเวลาที่แม้แต่เยี่ยวอิเจ๊ยังเอาไปเทให้นี่รู้สึกว่าสบายดีจัง

ขอทำเป็นไม่ได้ยินสักแปป อย่างน้อยให้วันพีซจบตอนก่อนก็ได้

“ถ้าต้องเรียกซ้ำสอง ไม่ใช่แค่เสียงที่ลอยไปแน่”

หุย วาปถึงห้องนอนในสองวินาทีเลยจ้า

“มีไรจ๊ะคนสวย”

“ตอแหล จับขาตั้งกล้องให้หน่อย มันหักข้างนึง”

“แล้วไม่ซื้อใหม่อ่ะ”

“พอใจจะใช้อันเดิม จบมั้ย”

“จบจ่ะ”

นางมารร้ายยยยยยยย ถึงร้ายก็เกลียดมึง ฮือออ ผมเลยจำใจลากเบาะโฟมทรงกลมสีชมพูหวานแหววมานั่งแล้วจับขาตั้งกล้องให้อิเจ๊ที่ตอนนี้อยู่ในเสื้อกล้ามตัวโคร่งสีขาวเผยผิวเนียนขาวผ่องเป็นยองใย กับกางเกงขาสั้นสีชมพูพอดีตัว มัดผมขึ้นเป็นทรงดังโง๊ะอยู่กลางศีรษะ กำลังนั่งปัดแก้มสีชมพูระเรื่ออยู่บนเตียงหลังจากเขียนคิ้วเสร็จ

โหววว แค่แต่งหน้าก็เปลี่ยนจากตุ๊ดหน้าโหดใจทรามเป็นน้องพิมฐามาเองได้ในพริบตา

พลังแห่งเมคอัพจริงๆ

“เอานะ เดี๋ยวกูยกมือทำท่าโอเคมึงกดอัดเลยนะ” ผมพยักหน้าให้น้องพิมฐาเกรดมิลเลอร์ที่นั่งขัดสมาธิอยู่บนเตียง สายตามองตรงจิกกล้อง พออิเจ๊ส่งสัญญาณมือผมก็กดปุ่มเริ่ม สัญญาณไฟสีแดงกระพริบขึ้นพร้อมกับวิญญาณบิวตี้บล็อกเกอร์ของอิเจ๊ก็เข้าสิงสถิต

“สวัสดีค่า มาพบกันอีกแล้วกับพิชชี่คนสวย มีคอมเม้นท์มากมายที่ทิ้งคำถามไว้เกี่ยวกับน้ำตบสาหร่ายหางปลาวาฬที่พิชรีวิวไว้เมื่อคลิปก่อนเนอะ เดี๋ยวท้ายคลิปเราจะรวบรวมคำถามส่วนใหญ่ที่ถามมากันเยอะมากมาตอบกัน แต่ก่อนอื่นนี่เลยจ้า วันนี้จะมารีวิวลิปสติกตัวใหม่ของแบรนด์ xyz ให้ดู อันนี้แบรนด์ส่งมาให้เนอะ เนื้อลิปก็จะ...บลาๆ”

แรกๆผมก็ตื่นตาตื่นใจ สนใจกับการเคลื่อนไหวหยิบลิปสีโน้นสีนี้ของอิเจ๊มาทาอยู่หรอก ก็เพลินตาดี แต่แปปเดียวเท่านั้นแหละ จากภาษาคนเป็นภาษาต่างด้าวขึ้นเรื่อยๆก็เริ่มงุนงงจนเบื่อหน่าย

ที่คุณๆดูกันอ่ะคือผ่านการตัดต่อ ใส่ซาวน์ แปะกราฟฟิค กระชับเนื้อหามาแล้วไง เลยดูเพลินกระชับแถมได้สาระครบ แต่นี่อัดสดครับ สควอชสีที่ท้องแขนจบต้องปาดจริงที่ริมฝีปาก ในคลิปที่ตัดแล้วอ่ะแปปๆครับ นี่ของจริงปาดเสร็จต้องใช้รีมูฟเวอร์ลบ ลบแล้วลงลิปมัน แล้วถึงเริ่มปาดใหม่ มีลงแบบเบลนด์บางๆแนวสาวเกาหลีกับลงเน้นๆเห็นเม็ดสีชัดปากเบินกันไป วนเวียนเป็นกงล้อเวรกรรมอยู่แบบนี้จนครบทุกแท่ง

เวียนหัวโว้ยยยยยย

ง่วงด้วย เหมือนตาจะปิด งืมๆ

...

“สำหรับวันนี้ก็ประมาณนี้เนอะ มีอะไรซักถามทิ้งข้อความไว้ในเพจเหมือนเดิมจ้า วันนี้ไปละ บายๆ...ฟู่ว จบละ ไหนดูดิ๊เป็นไง”

แล้วคนบนเตียงก็ลุกกระโดดผลุงมานั่งเบียดบนเก้าอี้โฟมเพื่อเช็ควิดีโอที่อัดไว้ ผมที่นั่งสับผงกอยู่สะดุ้งเสียวขาวาบเหมือนตกจากที่สูงเมื่อมีคนมาเบียด เคยเป็นกันมั้ยครับเคลิ้มๆกำลังจะหลับแล้วมีอะไรมาทำให้สะดุ้งตกใจ เลยเผลอกระตุกตัว และ...ชิบ หาย แล้ว ขอเวลานอกวิ่งไปหยิบมีดมาตัดขาแป๊บ ชิงเสียขาดีกว่าเสียชีวิต โฮ

กระตุกตีนดีดตรงไหนไม่ไปดันไปถีบขาตั้งกล้องอิเจ๊มัน ล้มโครมครับ

ชิบชีวีหายสิ!

“เจ๊ กูขอโต๊ดดดดดดดดด” ผมรีบคุกเข่าบีบน้ำตาให้อิเจ๊ที่ก้มลงเก็บลูกรักของมันมาสำรวจลูบซ้ายรูปขวาจนพบว่า...

เลนส์แตก!!!

ต้องเป็นเมื่อกี้ที่มันกระแทกขอบเตียงก่อนตกลงพื้นแน่เลย T^T

“ไอ้เหี้ยตาร์ มึงตายยยยยยย”

ใครอยู่ให้ฆ่าก็ควายแล้วโว้ยยยย

แต่ก่อนจะสับขาหนี คนหน้าตาดีแต่มีความพิการทางการเคลื่อนไหวอย่างผมจะไปไหนรอด โดนกระชากแขนไว้แล้วจับทุ่มลงเตียง

“ผมไม่ได้ตั้งใจนะโว้ย”

“กูจะเลาะหนังขามึงออก จะลอกเนื้อ เฉือนกระดูกมึงทิ้ง”

“แอ่ก”

จบคำร่างเขื่องของอิเจ๊ก็ขึ้นคร่อมนั่งหันหลังทับท้อง ก่อนจะจับขาข้างที่เตะกล้องขึ้นมาบีบในท่าที่เหมือนจะหักทิ้งเป็นสองท่อน

“ม่ายยยยยยยยยยย มึงจะหักขาคนทั้งเป็นแบบนี้ไม่ได้นะอิเจ๊ มึงคือตัวเต็งในการประกวดมิสทิฟฟานี่ในอนาคตนะเว้ย พอได้ตำแหน่งก็จะมีงานแสดงงานโชว์ตัว แล้วก็จะกลายเป็นคนสวยและรวยมาก เผลอๆได้ผัวเป็นไฮโซสบายไปตลอดชาติ ถ้าพี่มึงฆ่ากูจะเป็นฆาตกร โดนจับ นั่งขัดส้วมอยู่ในคุก พี่มึงจะฆ่ากูไม่ด้ายยยยยย อั่ก เจ็บๆๆๆๆ”

อย่ากัดน่องกู๊ววววววววววว

อิเจ๊มันเลื้อยทิ้งน้ำหนักทับผมทั้งตัว จนเป้ามันบี้อยู่ตรงใบหน้าผม ส่วนทางหัวก็หันสลับไปอีกด้าน ใช้ปากกัดน่องขาผมอยู่

แอ่ก หายใจไม่ออกจากการโดนอุดจมูกและปาก แง้ ขาก็เจ็บเหมือนเนื้อจะหลุด แหก ผิวหนังกำพร้ากูแหกติดร่องฟันมันแล้ว แม่จ๋า ช่วยลูกด้วยยยยยย

ผมดิ้นเต็มแรง ขาก็ดีดเพื่อให้หลุดจากฟันซี่คมที่พอหลุดมันก็กัดจมเขี้ยวเข้ามาใหม่ ชาติที่แล้วมึงเป็นหมาในหรอ โอ๊ยย  ส่วนหน้าก็ส่ายไปมาเพื่อหาช่องอากาศหายใจจนสุดท้ายต้องใช้หัวมุดดันแหกระหว่างขาทั้งสองข้างของอีกฝ่ายให้แยกออกเพื่อโผล่หัวขึ้นไปหายใจโกยออกซิเจนเข้าปอด

“แฮ่กๆ”

อิเจ๊กูเหมือจะตายจริงๆนะเนี่ย ชีวิตผมมีค่าแค่เลนส์กล้องหรอวะ T^T

แล้วแรงกัดจมเขี้ยวที่ขาก็ผ่อนแรงลงไปเมื่อไหร่ไม่รู้ แต่พอผมเริ่มหายใจได้อย่างปกติลดระดับการหอบจนตัวโยนลง ก็รู้สึกว่าแรงขบกัดเหลือแค่เบาๆเท่านั้น

“เอ่อ...จะเจ๊...”

ยังจำกันได้ใช่มั้ยครับว่าผมเอาชีวิตรอดจากการขาดอากาศหายใจยังไง

ใช่ครับผมมุดเรียวขาทั้งสองขึ้นมา เลยกลายเป็นว่าศีรษะผมลอยเด่นอยู่ตรงหว่างขา ขณะที่ท่อนลำตัวยังโดนกดทับอยู่ภายใต้ร่างที่สูงและหนากว่า แล้วตรงหน้าคือเนื้อผ้ากางเกงตัวบางที่ลมหายใจอุ่นผมเป่ารดอยู่นั้น....คือเป้าของอิเจ๊...

พรึ่บ

เอ่ยเรียกอย่างไม่เต็มเสียงและนิ่งกันไปเสี้ยววินาทีก็เป็นร่างด้านบนที่ได้สติก่อนรีบลุกผละออกไป กระเด้งตัวไปยืนข้างเตียงอย่างเก้งๆกังๆก่อนสุดท้ายจะหมุนตัวเดินเร็วออกจากห้องนอนไป

ผมที่สมองยังประมวลผลได้ไม่เต็มที่กระพริบตาช้าๆ

“เอ่อ...”

มะเมื่อกี้มันอะไรวะ

ที่รู้สึกว่า ‘ตรงนั้น’ มันพองสู้ลมหายใจของผม...

เลยกลายเป็นว่าค่ำนั้นก็เกิดความประดักประเดิดขึ้นระหว่างเรา จนพออิเจ๊เดินเข้ามาในห้องนอนเพื่ออาบน้ำ ผมก็ลี้ภัยออกไปนั่งดูสารคดีสัตว์โลกอยู่ด้านนอก

ไม่รู้ดิ

บางทีผมอาจขาดอากาศหายใจนานเกินไป  ร่างกายขาดออกซิเจนหลายนาที

ตัวและใจมันเลยยังสั่นไม่หยุด...

...สงสัยยังไม่หายเหนื่อยมั้ง




#เมียตุ๊ด

หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 2< 11.10.2018
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 11-10-2018 03:18:57
 :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 2< 11.10.2018
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 11-10-2018 06:44:48
เอาล่ะสิ............  o18
อิเจ๊ รุกสู้......เอ่อ......ซู่ซ่าซะและ   :z1: :haun4:
โดยหน้าตาร์สีไปมากับเป้าตัวเอง   o22
แถมลมหายใจของตาร์เป่าที่ตรงนั้น  :z3:
เล่นเอา......พอง  วิ่งพรวดพราดไปห้องน้ำเลย
พูดไม่ออก ทั้งที่ปกติด่าตาร์เป็นไฟแท้ๆ  :hao3:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 2< 11.10.2018
เริ่มหัวข้อโดย: ก้อนขี้เกียจ ที่ 11-10-2018 06:55:25
ฮึบไว้เจ๊ ฮึบว้ายยยยยย :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 2< 11.10.2018
เริ่มหัวข้อโดย: Hirose ที่ 11-10-2018 07:29:59
 :เฮ้อ: :เฮ้อ:
ท่าจะรอดยากแหละหนู๋กลูต้า
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 2< 11.10.2018
เริ่มหัวข้อโดย: cheezett ที่ 11-10-2018 13:19:14
หื้มๆๆๆๆ เจ้จะตบะแตกแล้ววว
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 2< 11.10.2018
เริ่มหัวข้อโดย: 19th ที่ 11-10-2018 15:09:56
ผิดผีไม่หยุด เจ๊ 555555555 :laugh:  :m20:
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 2< 11.10.2018
เริ่มหัวข้อโดย: aoihimeko ที่ 11-10-2018 17:31:51
สิ่งนี้ที่รอคอย. เรารอแนวนี้มานานมากๆ

จำได้ว่าเคยอ่านอยู่เรื่องนึงแต่คนเขียนไม่มาต่อเลย

น่าเสียดายสุด

,ละดีใจที่ mod  กลับมานะจ๊ะ :กอด1:
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 2< 11.10.2018
เริ่มหัวข้อโดย: chaoyui ที่ 11-10-2018 22:10:38
เจ๊ไหวมั้ยยย
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 2< 11.10.2018
เริ่มหัวข้อโดย: papapoope ที่ 12-10-2018 01:05:27
เจ๊อย่ารุนเเรงกับน้องงงง
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 2< 11.10.2018
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 12-10-2018 07:24:03
สนุกค่ะ ชอบเจ๊ 5555
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 2< 11.10.2018
เริ่มหัวข้อโดย: wanirahot ที่ 12-10-2018 15:32:17
เจ้สาวขนาดนี้เป็นผัวได้ไง
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 2< 11.10.2018
เริ่มหัวข้อโดย: papapoope ที่ 13-10-2018 20:01:53
รอนะคะ :impress2:
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 3< 15.10.2018
เริ่มหัวข้อโดย: mod-cup ที่ 15-10-2018 04:34:58
ตอนที่ 3
Tonight that I’m crazy




ผมนั่งดูทีวีไปเกือบครึ่งชั่วโมงก็ได้ยินเสียงปลดกลอนประตูห้องน้ำ

พอร่างในชุดคลุมอาบน้ำสีฟ้าอ่อนเดินซับผมออกมา ผมก็เดินถือผ้าเช็ดตัวหน้ามึนสวนเข้าไปอาบน้ำต่อโดยไม่กล้ามองหน้าอีกฝ่าย โอ๊ยยยย กูจะเกร็งไปไหน เจ็บกล้ามเนื้อหน้าไปหมดแล้วเนี่ย

ก็แค่โดนอิเจ๊ทุ่มทับจับโยน

โดนหมาบ้ากัดน่องขบขา

โดนบดบี้หน้าจนหายใจไม่ออก

แล้วก็โดน...เอ่อ...เอ่อ...

โอ๊ย! จะอะไรกันนักหนาวะ! มันก็เหมือนๆตอนอิเจ๊ยืนเท้าเอวชี้หน้าด่านั่นแหละ! แค่เปลี่ยนอวัยวะจากนิ้วชี้เป็นหางพญาหงส์แค่นั้นเอง!

ไม่คิดอะไรแล้ว! อาบน้ำดีกว่า ร้อนโว้ยยยย คอนโดนี่แม่งไม่ดีเลย ร้อนจะตายทำไมห้องน้ำไม่ติดแอร์!

ผมใช้เวลาในการล้างหน้าแปรงฟันอาบน้ำไม่ถึงสิบนาที และทายาในที่ลับอีกสองนาทีถ้วน(ตั้งแต่ผมขยับตัวและเดินเหินเองพอได้ ผมก็ขออิเจ๊ทายาเอง) พอทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยผมก็ควรออกไปใช่มั้ย

แต่ไม่! ผมพยายามมองหาแอคติวิตี้ทำต่อไป พยายามเค้นเยี่ยวเป็นรอบที่สามทั้งที่ไม่ปวดสักนิด พยายามนั่งเบ่งขี้แม้ปกติผมจะถ่ายหนักแค่รอบเดียวในตอนเช้าก็ตาม

หรือแม้แต่ล้างพื้นห้องน้ำ ขัดส้วม เช็ดอ่าง! แม้จะยังขยับตัวค่อนข้างลำบากเพราะยังเสียดๆช่องทางด้านหลังอยู่บ้าง

แต่ไม่รู้ทำไมถึงโคตรขยัน วันนี้กูรักห้องน้ำรักโถสุขภัณฑ์ม๊ากมาก

ก๊อกๆ

พรืด

“โอ๊ย”

ผมที่กำลังพยายามแงะฝาปิดช่องระบายน้ำออกมาเพื่อเก็บเส้นผมที่คาอยู่ล้มพรืดหงายท้องจนก้นจ้ำเบ้าพื้นเพราะตกใจกับเสียงเคาะประตูที่แม้ไม่ได้ดังมากแต่หัวจิตหัวใจผมก็อ่อนแอเกินกว่าจะรับไหว งือออ แม่จ๋า ลูกเจ็บ T^T

“อิกลูต้า! แดกขี้หมดคลังแล้วก็ออกมาสักที กูปวดเยี่ยว! แล้วร้องทำไม เป็นอะไรหรือเปล่า”

เป็นเพราะมึงแหละอิเจ๊ ทุกเรื่องเลย T^T

ปังๆ

พรืด

“โอ๊ย”

กูกำลังจะลุก มึงจะทุบประตูทำไมอี๊กกก เลยสะดุ้งล้มอีกรอบเลย เจ็บตูด แง้

“พาชู้ไปเอาในนั้นหรอ! ตกลงเป็นอะไร! ถ้าไม่เปิดกูไม่พังเข้าไปหรอกนะ กูไม่มีเงินซ่อม!”

ปังๆ ปังๆ

โอ๊ยยยยยยยยยย

“มะไม่เป็นไร กูแค่ล้ม...”

โครม!

ไหนมึงจะไม่พังเข้ามาง๊ายยยย แล้วอีพลังเท้าเบอร์สิบที่ถีบเข้ามาจนประตูเปิดผางนี่มันคืออะร๊ายยยย

“ทำไมโง่ล้ม เป็นไงบ้างเนี่ย!”

“โอ๊ยๆ อย่าแหกขากู!”

อะไรคือการพังประตูเข้ามาแล้วพุ่งเข้ามาจับแหกขาดูรูก้น แล้วผมที่ยังอยู่ในผ้าเช็ดตัวสีขาวพันเอวผืนเดียวก็หน้าเหวอทำตัวไม่ถูก

กว่าจะได้สติก็โดนจับแหกโดนจ้องไปถึงไหนต่อไหน

“จะเจ๊...” ผมพยายามหุบขาสองข้างเข้าหากัน

“มันเหมือนจะบวมๆ”

นอกจากสองมือจะยันต้นขาผมไม่ให้หุบลงแล้ว ปากยังพึมพำอย่างไม่สนใจฟังคำร้องของผู้ถูกกระทำ แล้วยังจะช้อนตัวผมขึ้นอุ้มในท่าเจ้าสาวอย่างไม่ถามความสมัครใจของผมเลย

“เฮ้ยเจ๊ กูไม่เป็นไร”

ตกใจสิความเดิมยังไม่ทันหายความอายใหม่ก็มาอีกแล้ว ฮือ ชีวิต

ฟุ่บ

อิเจ๊อุ้มผมมาวางบนเตียง พอผมจะดีดตัวขึ้นก็ถูกชี้หน้าถลึงตาใส่ ก่อนอิเจ๊จะหายเข้าไปในห้องน้ำแล้วเดินกลับออกมาพร้อมหลอดยาในมือ

ทำไมเหตุการณ์นี้มันคุ้นๆ T^T

“กะกูทาแล้ว...”

“ทาใหม่ มันบวม แล้วเมื่อกี้กูดูไม่เห็นคราบยาเลย อ่านออกมั้ยว่ายาใช้ภายนอก ให้ทาไม่ใช่ให้ละลายน้ำแดก”

“กูไม่ได้โง่มั้ยอ่ะเจ๊” ต้องมองผมโง่แค่ไหนอ่ะถึงคิดว่าบีบยาหลอดไปละลายน้ำกินอ่ะ

“หุบปาก อย่าเถียง ทาใหม่คือทาใหม่”

แล้วภาพจำของพี่ป๊อบปองกูลก็มา โดนจับแหกขา ป้ายยาลงบนรูตูด ฮือ อิเจ๊ มึงจะเที่ยวไปควานรูก้นคนอื่นจนเป็นเรื่องปกติเหมือนถักเปียให้เพื่อนแบบนี้ไม่ได้นะเว้ย นี่รูก้นไม่ใช่ถ้ำผานางคอยที่จะเข้าไปเดินสำรวจเมื่อไหร่ก็ได้น่ะ T^T

พอฝาของหลอดยาถูกปิดลงก็เกิดเดดแอร์ขึ้น ผมที่จ้องหน้าอีกฝ่ายได้ไม่เต็มตา และอิเจ๊ก็ไม่ได้พ่นคำด่าอีกต่อไป ไม่รู้จะทำยังไงเลยได้แต่ดึงผ้าห่มหนาขึ้นมาห่มและพลิกตัวนอนตะแคงข้าง

“จะหลับก็กินยาก่อนด้วยล่ะ”

เหมือนจะรู้ว่าผมอึดอัด(เพิ่งจะรู้ตัวหรอวะ T^T) อิเจ๊เลยหมุนตัวเดินหันหลังไปหน้ากระจก รวบผมขึ้นก่อนใช้กิ๊บหนีบผมไว้ แอบมองจากมุมนี้แม่งโคตรเซ็กซี่อ่ะ ถ้าอิเจ๊เตี้ยกว่านี้อีกสักสิบยี่สิบเซ็นต์ผมก็โอเคนะที่จะมีอิเจ๊เป็นเมีย


ดึ๊งดึ่ง

เสียงไลน์มือถือผมดังขึ้นให้อิเจ๊หันหน้ามาปรายตามองแว๊บนึง แต่สุดท้ายก็ไม่ได้สนใจและเดินออกจากห้องไป

ผมเอื้อมมือไปหยิบมือถือขึ้นมาดูไฟหน้าจอที่สว่างวาบ เป็นข้อความไลน์ในกลุ่ม ‘สามเฟี้ยวกุเจี๊ยวยาว’


Card12
*ส่งรูป 2 รูป*
งานวิชาอิ๊งสื่อสาร ส่งวันจันทร์นะเว้ย

Iydg,T
โอ๊ยยย ของชั่วโมงที่แล้วกูยังปั่นไม่ทันเลย ล้อจะหลุดแล้วเนี่ย

Guitar
ให้อธิบายกราฟหรอ
ผมมองเห็นสไลด์พาวเวอร์พอยท์ที่ถ่ายมาไม่ชัดเลยพิมพ์ถามกลับไป
Card12
เออ เห็นชัดมั้ย
*ส่งรูป*

แล้วไอ้การ์ดก็ส่งรูปที่ซูมมากกว่าเดิมมาให้ เป็นกราฟแท่งแสดงสถิติของจำนวนประชากรของเด็กที่เกิดในปี 2550-2560 ให้เขียนอธิบายพร้อมวิจารณ์เป็นภาษาอังกฤษ โฮ...ภาษาไทยกูยังไม่รู้จะเขียนอะไรลงไปเลย T^T
Guitar
เห็นละๆ ขอบใจเว้ย
แต่เหี้ยยยยยยย อะไรคือเขียนอธิบาย 300 คำ

Iydg,T
งานเก่าที่ให้หา synonym กูยังเผาไม่เสร็จเลยยยยยย

Guitar
มีทูววว
การ์ดที่ร๊ากกกก

Iydg,T
การ์ดที่ร๊ากกกกกกก

Card12
พวกมึงสองตัวไม่ต้องเลย
ทำเอง คราวนี้กูไม่ให้ลอก
ครั้งที่แล้ว อ.จับได้คะแนนหารสาม
ครั้งนี้แดกไข่นะโว้ยย

Guitar
ไข่กินละดีมีโปรตีนนะ T^T

Card12
ตีนกูนิ
ทำเอง เดี๋ยวกูช่วยตรวจ

Iydg,T
ไปให้มึงตรวจคือไร กูเผาทันก่อนส่งห้านาทีก็เก่งละ

Guitar
มีทูววววว

Card12
พวกมึงชอบดองงานไง
มึงอ่ะตัวดีเลยไอ้แฟ้ม
ไอ้ตาร์ด้วย เป็นไงบ้าง

Guitar
ก็ดี วัน จ.ก็ไปเรียนละ

Card12

แล้วกลับมาหอยัง

Guitar
ยังๆกลับวัน อา.

Iydg,T
ของฝากกูด้วย ข้าวหลามหนองมน

Guitar
กูป่วยมั้ยล่ะสัด ไม่ได้มาเที่ยว

แล้วจริงๆคือกูอยู่ปราสาทเจ้าหญิงดินแดนดิสนีย์ ไม่ได้กลับบ้าน จะเอาข้าวหลามที่ไหนไปฝากมึง T^T

Card12
กูไปทำงานละ หายเร็วๆมึง
มีไรให้ช่วยก็บอก

Guitar
ทำการบ้านอิ๊งให้กูที

Card12
ตีนนิ
แค่กูปั่นรายงานสื่อสารฯ กับวิวัฒฯ ให้มึงก็มือหงิกละ
วิชานี้ทำเองโว้ยยยย

Guitar
คนน่ารักมักใจร้าย T^T

Iydg,T
ข้าวหลามๆ

Guitar
olo

แล้วกลุ่มก็เงียบไปไม่มีข้อความอะไรตอบกลับมาอีก ผมเข้าไปไถทวิต เช็คเฟส เช็คไอจี ฮืออ อยากลงรูปอ่ะ ห่างหายไปหลายวันคันไม้คันมือ แต่ไม่กล้า กลัวพลาดแล้วเพื่อนจับได้ว่าไม่ได้กลับบ้าน ตอนนี้ไอจีสตอรี่ผมเลยเงียบเหงาได้แต่นั่งส่องของคนอื่นเขาไปทั่ว

เข้าไปเจอสตอรี่ของน้องอิ๊งพอดีก็อยากจะปาโทรศัพท์ทิ้ง หวานกันเหลือเกินกับเดือนมอเนี่ยยย สตอรี่ไอจีแม่งอยู่ได้ 24 ชั่วโมงแล้วจะหายไปใช่มั้ยครับ แต่กูไม่เคยเห็นไอ้เดือนนี่หายไปจากสตอรี่มึงเลยยย ขอสาปแช่งให้แม่งเลิกกัน ฮือ!

เอาจริงๆผมก็ไม่ได้เจ็บมากแล้วหรอก ตั้งแต่เกิดเรื่องวุ่นวายโดนตุ๊ดจิ้มในชั่วข้ามคืน สมองก็ไม่มีเวลาคิดเรื่องอื่นอีกเลย จากที่คิดว่าจะต้องนั่งเศร้าเคล้าเหล้าไปอีกหลายเดือน ก็หายในพริบตาเพราะต้องเอาเวลามานั่งรักษาตูดและพร้อมตั้งรับกับอิตุ๊ดแก๊งค์ดอกขจรที่เหมือนเป็นเมนส์ฮอร์โมนพลุ่งพล่านตลอดเวลา ฮือ ชีวิต

ไม่ใช่ผมโอเคกับเรื่องที่เกิดขึ้นหรอกนะ แต่แค่คิดว่าผิดพลาดไปแล้ว คิดมากไปก็เรียกร้องอะไรกลับคืนมาไม่ได้ จะข้ามประตูโดเรมอนไปแก้ไขอะไรก็ไม่ได้อีก ก็ต้องยอมรับอ่ะ

แล้วอิเจ๊มันก็ไม่ได้มีท่าทีดูถูกหรือล้อเลียน ซ้ำยังดูแลรับผิดชอบอย่างดี ถึงจะปากร้ายไปหน่อยก็เถอะ

ในข้อเสียก็ยังมีข้อดีล่ะนะ



ติ๊ง!

ใครทักมาอีกวะ

หรือมีงานไรอีก แค่นี้ก็ปั่นไม่ไหวละเว้ยยยย


Tanawat PT
การ์ดบอกว่าตาร์ไม่สบาย
เป็นไงบ้างครับ ดีขึ้นยัง

พี่เต้...


Guitar Kornchawan

ดีขึ้นละครับ

Tanawat PT
หายไวๆนะครับ
พี่เป็นห่วง
คิดถึงเราด้วย ไม่เจอหน้าหลายวันเลย

Guitar Kornchawan
ครับ

Tanawat PT
แล้วจะกลับมาเรียนวันไหน
ให้พี่ไปรับได้นะ

Guitar Kornchawan
น่าจะวันจันทร์อ่ะครับ
ไม่รบกวนดีกว่า ผมไปได้
Tanawat PT
อ่อเค
งั้นพักผ่อนเถอะ
พี่ไม่กวนละครับ

Guitar Kornchawan
ครับ

Tanawat PT

ฝันดีครับ
*สติ๊กเกอร์เป็ดส่งจูบ*

Guitar Kornchawan
*สติ๊กเกอร์ลิงยิ้ม*

เฮ้อ ผมวางมือถือลงบนโต๊ะหัวเตียง พี่เต้เรียนอยู่คณะแพทย์ ตามจีบผมตั้งแต่ค่ายรับน้องมอละ แต่ยังไงอ่ะ ผมยังมั่นใจว่าตัวเองเป็นรุกเกิดมาเพื่อบุกไม่ใช่รับอ่ะ เลยพยายามหนีพี่แกมาตลอด แกก็ดีอ่ะนะ แต่เคยมั้ยอ่ะ มีคนมาพูดหวานๆเพราะๆใส่แล้วขนลุกอ่ะ

แล้วยิ่งสายตาที่พร้อมจะแดกเราเข้าไปทั้งตัว บอกเลยครับผมไม่สู้ ไม่ใช่ทองหยิบทองหยอด ไม่พร้อมโดนกิน!

แล้วตอนนั้นผมก็รักปักใจกับน้องอิ๊งค์อยู่ด้วย แต่สุดท้ายก็เดือนมอสอยไป ฮือ ชีวิต

เฮ้อ

คิดไรมากมายให้ปวดหัววะ

ขอลาหลับก่อนละกัน

ผมเอื้อมมือไปดึงตุ๊กตาผ้านุ่มตัวนึงมากอด

คืนนี้น้องซินนอนกับพี่แล้วกันนะคะ




วันนี้เป็นวันเสาร์

ผมตื่นมาตอนแปดโมงกว่าๆ เข้าไปล้างหน้าแปรงฟัน เดินออกมาก็ไม่เจออิเจ๊อยู่ในห้องนั่งเล่น แต่เห็นร่างแว๊บๆนั่งอยู่ที่ระเบียงเลยเดินเข้าไปเกาะประตูกระจกมอง จะทักทายอรุณสวัสดิ์ยามเช้าแต่พออีกฝ่ายเงยหน้าขึ้นจากแมคบุ๊คมาสบตากันเท่านั้นแหละ

เชร้ดดดดดดด นี่มันคนหรือซอมบี้วะ จะไม่กระโดดกัดคอกูใช่ป่ะ

อิเจ๊มันไม่ต้องไปเรียนก็จริง จะมานั่งจิบกาแฟริมระเบียงยามเช้าก็ไม่แปลก

แต่ทำไมสภาพเหมือนโดนรุมโทรมมาทั้งหมู่บ้านขนาดนี้

“เจ๊ มึงไหวป่ะวะ”

“ขอกาแฟดำแก้วนึง”

ผมปรายตามองแก้วกาแฟเปล่าสามแก้วบนโต๊ะ

“ยังจะกินอีกหรอ”

“บอกไรก็ทำ อย่าขัดได้มั้ยห๊ะ”

ผีบ้าตลอดอ่ะ

“ใส่ครีมกี่ช้อน”

“มึงเข้าใจคำว่ากาแฟดำมั้ยห๊ะ!”

เกรี้ยวกราด เกรี้ยวกราดดดดดด กาแฟใส่ครีมใส่น้ำตาลมันก็ยังเป็นสีดำมั้ยล่ะ ก็ไม่ได้เปลี่ยนเป็นสีเขียวสีเหลืองสักหน่อย บู่ววว
 
และถึงแม้ถึงขอบตาจะดำ หน้าจะเบลอ แต่ปากนี่ด่ากูได้เสมอต้นเสมอปลายจริงๆ

“เออๆ รอแป๊บ”

ผมเปิดประตูระเบียงทิ้งไว้ก่อนเดินเข้าครัวมาชงกาแฟดำให้อิเจ๊และโอวัลตินให้ตัวเอง แถมขนมปังปิ้งทาแยมสตอเบอรี่อีกคนละสองแผ่น

“ช้า”

“แหม กูไม่ได้เสกเอามั้ยล่ะเจ๊”

“ขม”

“เอ๊า ก็กาแฟดำ”

นี่กลัวดำไม่พอใส่กาแฟมาห้าช้อนเพียวๆเลยนะ

อิเจ๊ยกแก้วขึ้นจิบอีกที เบ้หน้าก่อนวางแก้วลงแล้วคว้าขนมปังไปกินต่อ ก่อนเริ่มจ้องหน้าจอคิ้วขมวดอีกครั้ง

ผมที่นั่งอยู่อีกฝั่งจ้องคนที่เข้าโหมดทำงานทั้งตาแดงก่ำอย่างสงสัย

“ได้นอนบ้างยังเนี่ย”

“ยัง”

“เหยย เก้าโมงแล้วนะเจ๊ ไปนอนเหอะ”

“อีกแป๊บ”

“แป๊ปมึงยาวกี่เมตรอ่ะ”

“อย่ากวนตีน”

อุ่ย บอกดีเฉยๆก็ได้ ไม่ต้องถีบเก้าอี้ เดี๋ยวกูหงายหลัง!

“จริงนะเจ๊ หน้าแย่มากอ่ะ ดูดิขอบตาดำ หน้าโทรม เหมือนหน้าผากมีสิวขึ้นด้วยอ่ะ หวายๆไม่สวย”

“ถ้ามึงยังไม่หยุด คราวนี้กูถีบหงายหลังจริงๆ”

มึงไม่กล้าหรอก แบร่ แต่ไม่กล้าพูดออกไป กลัวโดนถีบจริง แฮร่ เลยเลือกพูดด้วยน้ำเสียงห่วงใยแล้วเก็บความกวนตีนไว้ในใจแทน

“งานเร่งหรอ”

 “นิดหน่อย”

“นิดหน่อยแสดงว่าไม่รีบมาก”

สายตามารปรายมองซึ่งถอดความได้ว่าถ้าผมยังไม่หุบปาก ผมจะโดนดี

“แล้วแต่เลย อยากทำไรก็ตามใจ” ผมเก็บจานกับแก้วเปล่าแล้วลุกขึ้น “ก็แค่กลัวมาตายในห้องหรอก กลัวผี!”

แล้วผมก็วิ่งหนีออกมา รองเท้าที่ลอยมาไม่ได้แตะตัวผมหรอก

กูโดนมาเยอะครับ ไม่ได้เล่นกูร๊อกก กูรู้ทัน ครึ



หลังจากที่มั่นใจว่าจะไม่มีโต๊ะ เก้าอี้ หรือกระถางต้นไม้ลอยมากระทบหัว ผมหอบงานมานั่งทำในห้องนั่งเล่น เอาหลังพิงโซฟา มือกำลังร่างแผนผังการเขียนอธิบายกราฟเป็นภาษาไทยก่อนว่าจะเขียนอะไรดีบ้าง ไอ้ผมมันคนเสมอต้นเสมอปลายครับ อิ๊งเกรดหนึ่งเกรดสองมาตั้งแต่ประถมยันขึ้นมหาลัย เรียกได้ว่าความพยายามอยู่ที่ไหนกูไม่ไปที่นั่นครับ เลยดักดานมาจนถึงมาทุกวันนี้

ก็นะ งานก็ยากแต่ก็อดหันไปมองร่างซอมบี้ตรงระเบียงไม่ได้

เฮ้อ

ทำงานแบบน่าเรียกพญายมมารับไป

แต่งานคงรีบจริงแหละ ไม่งั้นคนรักสวยรักงามอย่างอิเจ๊คงไม่อดหลับอดนอนให้หนังหน้าเหี่ยวหรอก

ที่ลุกมาต้มข้าวต้มนี่คือหิวเองนะและหมูมันเยอะไงเลยทำเผื่อเจ้าของห้องด้วยเดี๋ยวจะมาด่ากูไม่มีน้ำใจอีก

แต่วืดครับ! เพราะพอทำเสร็จ ตักใส่ถ้วยเดินถือออกมาให้ก็ไม่เห็นร่างขาวนั่งอยู่ที่เดิมแล้ว

มะไม่นะ!

อิเจ๊! ฮือออออออออ

ผมรีบวางชามข้าวต้มบนโต๊ะที่ตอนนี้ยังมีแมคบุ๊ควางอยู่ ก่อนถลาเข้าไปจับราวระเบียงแล้วชะโงกศีรษะออกไปกวาดตาดูข้างล่าง
ไม่มี

ฮู่ววว

นึกว่าเครียดจนโดดตึกตายไปแล้ว ตกใจหมด เอ๊ะ หรือกู้ภัยมาเก็บศพไปแล้ว

โฮวว อิเจ๊ อย่าเพิ่งตายนะ ยังไม่ได้ถามเลยว่าอยากอยู่วัดไหน T^T

เมื่อไม่เห็นศพสมองเละเลือดสาดของอิเจ๊ที่พื้นคอนกรีตด้านล่าง เลยเดินเข้าไปดูในห้องนอนก็เห็นสารร่างของซอมบี้ตอนคว่ำหน้าตายอยู่บนเตียง

ค่อยๆย่องเข้าไปเอานิ้วอังจมูกก็สัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่นที่รินรดปลายนิ้วอย่างสม่ำเสมอ ฟู่ววว ยังไม่ตาย

พอพิสูจน์ได้ว่าไม่ต้องเรียกกู้ภัย ไม่ต้องเคลื่อนย้ายศพ ก็หันไปหยิบรีโมทมาเปิดเครื่องปรับอากาศเพราะผมปิดไปตั้งแต่ตอนเช้าที่ตื่นมาแล้ว

คิดดูดิเหนื่อยแค่ไหน คนขี้ร้อนอย่างอิเจ๊ถึงไม่มีแรงแม้แต่จะกดเปิดแอร์อ่ะ

เมื่อจัดการเปิดแอร์ให้ห้องเย็นฉ่ำ ใช้ผ้าห่มคลุมร่างบนเตียงแต่เว้นเท้าเอาไว้ให้

พ่อแม่จะต้องภูมิใจในตัวกรชวินที่เป็นคนดีได้ขนาดนี้ ยืดอกตบสามทีอย่างภูมิใจในตัวเอง

เยี่ยมจริงๆ เยี่ยมจริงๆ เยี่ยมจริงๆ



#เมียตุ๊ด


ท่ามกลางความเกรี้ยวกราดของอิเจ๊ และความกวนบาทาของน้องตาร์ มันมีความห่วงใยซ่อนอยู่ ผิดผีๆ ง่อวววววว >O<
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 3 [P.3]< 15.10.2018
เริ่มหัวข้อโดย: 19th ที่ 15-10-2018 04:41:55
ความภรรยาแรงมาก พ่อต้องภูมิใจ 5555555  :m20:
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 3 [P.3]< 15.10.2018
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 15-10-2018 08:55:34
 :mew3: :mew3:
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 3 [P.3]< 15.10.2018
เริ่มหัวข้อโดย: Monnee ที่ 15-10-2018 09:13:41
 :hao7: :hao3: : :hao3:
โอ๊ะอย่างฮา.. ไม่รู้จะไปทางไหนกันนะเนี่ย
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 3 [P.3]< 15.10.2018
เริ่มหัวข้อโดย: aoihimeko ที่ 15-10-2018 10:22:16
เจ้จะหึงต้าไหมอ่า

คือเราจินตนาการเจ้ไว้ประมาณอังเดรล่ะ. อิอิ
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 3 [P.3]< 15.10.2018
เริ่มหัวข้อโดย: suck_love ที่ 15-10-2018 12:31:24
ความผิดพลาดนี้ใหญ่หลวงนัก 55555555555
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 3 [P.3]< 15.10.2018
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 15-10-2018 18:18:12
มันยังไง ตาร์ว่าตัวเองเป็นรุก  :m20:
แต่ไหงพี่เต้จ้องจะเขมือบ  :z3:
แสดงว่าตาร์ต้องน่ารักแน่เลย  :mew1: :mew1:
แต่ตัวเองว่าตัวเองหล่อ  :laugh:

มีอะไรแปลกๆเข้ามาระหว่างเจ๊กับตาร์นะ  :hao3:
มันดูห่วงใยกันเกินรุ่นพี่รุ่นน้องนะ  o18
ก็คอยจับตากันต่อไป   :really2:
        :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 3 [P.3]< 15.10.2018
เริ่มหัวข้อโดย: papapoope ที่ 15-10-2018 22:02:25
เจ๊ยังคงความเกรี้ยวกราดไว้เสมอ5555
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 3 [P.3]< 15.10.2018
เริ่มหัวข้อโดย: Chompoo reangkarn ที่ 16-10-2018 00:36:13
ปกติไม่ชอบอ่านเคะหรือเมะออกสาวเป็นตุ๊ดเป็นกระเทย.มักข้ามผ่านไม่อ่านเลยแต่พอเรื่องทดลองอ่านดู เฮ้ยขำผัวเมียคู่นี้ สนุกค่ะ ขอติดตามอ่าน มาอัพเรื่อยๆนะคะ :mew1:
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 3 [P.3]< 15.10.2018
เริ่มหัวข้อโดย: chaoyui ที่ 16-10-2018 10:19:47
พ่อแม่ต้องภูมิใจ ตาร์จะออกเรือน 55555
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 3 [P.3]< 15.10.2018
เริ่มหัวข้อโดย: KizzllKizz ที่ 16-10-2018 15:07:36
เอ้อออ เค้าก็มีความเป็นห่วงเป็นใยกันเนาะ
 :hao6:
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 4 [P.2]< 20.10.2018
เริ่มหัวข้อโดย: mod-cup ที่ 20-10-2018 18:15:02
ตอนที่ 4
กูว่า...กูชอบมึง




ผมนั่งทำงานเขียนๆลบๆจนเวลาล่วงไปยังบ่ายสองท้องก็เริ่มครวญครางประท้วงว่าเลยเวลามื้อเที่ยงมานานแล้ว ไม่สามารถทนได้ไหวอีกต่อไปแล้ว ต้องหาบางอย่างมาใส่ท้องให้น้ำย่อยทำงานได้แล้ว ดังนั้นผมจึงบิดขี้เกียจคลายความเมื่อยขบและลุกขึ้นเดินเข้าไปในครัวเปิดตู้เย็นเพื่อหาของประทังชีวิต

บนเตามีข้าวต้มเหลืออยู่ในหม้อนิดหน่อย แต่คาดว่าน่าจะไม่พอกิน

ในตู้เย็นก็มีแต่ของที่ไม่สามารถทำให้อิ่มท้องได้เลย จำพวกโยเกิร์ต นมจืด ผลไม้ตระกูลเบอรี่

มันจะเป็นตู้เย็นที่ดูมีประโยชน์เกินไปแล้ว ร่างกายผมต้องการโปรตีนจำพวกเนื้อสัตว์ ฮือ

เอาไงดีวะ จะเข้าไปปลุกอิเจ๊ตอนนี้ต้องโดนงับหัวตายแน่เลย ปลุกเจ้าหญิงตอนกำลังนิทราโทษคือตายสถานเดียว และผมยังไม่อยากตาย ทุกวันนี้กว่าจะเอาชีวิตรอดในดินแดนยมทูตได้ก็แย่ละ ผมจะไม่เดินเข้าไปในปากจระเข้เองแน่นอน

กินข้าวต้มประทังชีวิตไปก่อนก็ได้วะ

คิดได้ดังนั้นผมเลยจัดการเปิดเตาแก๊สอุ่นข้าวต้มเครื่องที่เหลือในหม้อ เอ ตอกไข่ใส่ลงไปด้วยดีกว่า แล้วก็จะแซ่บขนาดถ้าได้พริกป่นอีกสักนิด น้ำส้มสายชูกับน้ำตาลอีกสักหน่อย อืม อยู่ไหนน้า

“เอ๊ะ”

ขณะที่ผมกำลังเปิดตู้หาเครื่องปรุง รื้อของเข้าๆออกๆกระดาษแข็งๆก็ตกลงมา พอหยิบมาดูเท่านั้นแหละ...

โอวก็อด ชีวิตรอดแล้ว!!

มีใบสั่งอาหารอยู่ในห้องก็ไม่บอก!

ผมหยิบกระดาษขนาดเอสี่ที่เคลือบแข็งขึ้นมาก่อนกวาดสายตาอ่านบรรดาเมนูอาหารที่เรียงรายอยู่พร้อมราคา ‘ร้านตามบอก’  แหม มีบริการเดลิเวอรี่พร้อมราคาน่าคบหาแบบนี้มีหรือที่นายกรชวินจะพลาด!

ผมเดินพลางกระโดดอย่างอารมณ์ดีไปหยิบมือถือในห้องนั่งเล่นแล้วจัดการโทรไปตามเบอร์ที่ให้ไว้ แล้วทันทีที่เสียงสำเนียงอิสานของปลายสายดังขึ้น ผมก็จัดการสั่งรายการอาหารให้สมกับร้านตามบอก บอกพริกแกงได้พริกเผา สั่งกระเพราได้ฉู่ฉี่ ง่อววว

เอาเถอะ อย่างน้อยก็ไม่ต้องวุ่นวายเรื่องที่อยู่จัดส่งเพราะเพียงแค่บอกว่าส่งห้องเจ๊พิชชี่คนสวย คุณป้าก็จำคอนโดได้ทันที ฮู่วเร่! คราวนี้ก็นอนตีพุงรอกันไป อิอิ

ผมนอนตีป้อมรอได้ประมาณครึ่งชั่วโมงเสียงโทรศัพท์บ้านก็ดังลั่นห้อง

“ครับ?”

“มีคนมาส่งอาหาร ให้ขึ้นไปเลยมั้ยคะ”

“ขึ้นมาเลยครับ”

ผมรับคำก่อนที่จะวางหูลง เดินย่องๆไปหยิบกระเป๋าสีน้ำตาลแบรนด์ไฮสตรีทที่วางอยู่โต๊ะข้างหัวเตียงในห้องนอน ก่อนควักแบงค์สีม่วงออกมาหนึ่งใบ และค่อยๆปิดเบาๆและวางไว้ที่เดิม

ก็ไม่ได้สั่งมากินคนเดียวเนอะ สั่งมาเผื่อคนที่หลับอยู่ด้วย เพราะฉะนั้นไม่ถือว่าขโมยเนอะ แชร์ๆกัน ผมเป็นคนออกแรงสั่ง อิเจ๊เป็นคนออกตังก็แล้วกัน แฟร์ๆ ครึ

ปิ๊งป่อง

เสียงสวรรค์ พี่มารอรับออเจ้าแล้วจ้า

“มาแล้วค้าบบบ”

แอ๊ด

“อาหารที่สั่งมาสะ...อ้าว”

“...!!”

“ไหนว่าอยู่บ้านไง”

“อะไอ้แฟ้ม”

ชิบหายแล้ว! ช่วยผมหาหน่อย ไม่ใช่หาชิบนะ ไม่ได้เล่นมุก หมายถึงหาที่ซ่อนเนี่ย ขอวาบเลยได้มั้ย ฮือออ

ฟึ่บ

ปัง

ก่อนสมองจะประมวลผลหาข้อแก้ตัวอะไรได้ สัญชาตญาณก็สั่งให้เด้งตัวออกมาจากห้องและปิดประตูเพื่อไม่ให้ไอ้สายตาที่สาดส่องเข้าไปด้านในมองเห็นอะไร

“เอ่อ...”

ผมยืนเก้ๆกังๆอย่างไม่รู้จะเอ่ยทักหรืออธิบายอย่างไร มือไม้ก็ไม่รู้จะต้องจัดวางตรงไหนได้แต่ยกขึ้นๆลงๆ อย่ามามองกูด้วยสายตาจับผิดแบบนั้นสิ สมองกำลังประมวลผล มันไม่สั่งงาน อย่ากดดันกู T^T

“ทั้งหมด 259 บาท”

“หะหา?” อยู่ๆก็โพล่งขึ้น คนที่กำลังเค้นสมองเพื่อตอบคำก็ได้แต่อ้าปากเหวอทำตาปริบๆอย่างตามไม่ทัน แต่พอเห็นถุงอาหารที่ยื่นมาก็เริ่มเข้าใจ “อ่อ”

ผมยื่นมือไปรับพร้อมส่งเงินให้

“ไม่ทอนนะ ทิป”

นั่นแบงค์ห้าร้อยนะโว้ยยยยย

เป็นเวลาปกติคงไม่ยอม แต่นี่ต้องเอาตังทอนสองร่อยกว่าบาทปิดปากมันสินะ T^T

“ทำงานได้สองวันก็เจอของดี หึ อย่าคิดว่ากูไม่รู้นะมึง”

“ระรู้อะไร”

“ก็นี่ห้องใครล่ะ”

“อะเอ่อ...”

มึงรู้แล้วเร้อออออออออ

“มึงอย่าบอกใครนะ กูขอ T^T” ผมกระโจนไปกอดแขนมันไว้ ส่งสายตาอ้อนวอนให้ไอ้เพื่อนสนิท นี่ถ้าเป็นไอ้การ์ดจะไม่หนักใจเท่านี้เลย

แต่นี่เป็นไอ้แฟ้มปากรั่ว แฟ้มรู้สามโลกรู้ มนุษย์ต่างดาว นักอวกาศที่ไปสำรวจดาวอังคารยังรู้เลย ฮือ

“หึๆไม่ได้กลับบ้านสินะมึงอะ” มันเอาฝ่ามือยันศีรษะผมออกจากการถูไถต้นแขนมันพลางมองด้วยสายตารู้ทัน เออ กูพลาด “แล้วที่ป่วยนี่...”

สายตาเจ้าเล่ห์กวาดมองไปทั่วร่างกายพลางยิ้มเหยียด “ไวไฟนะมึงอะ ไหนว่ารุก”

นี่แฟ้มเพื่อนรักหรือเจนญาณทิพย์ จะมองทะลุปรุโปร่งเกินไปแล้ว หมดกันตาร์ฉลามบุกในตำนาน T^T

“กะกู...คือ...”

คิดสิ เค้นสิ แก้ตัวสิ เถียงมันไปซี้!!

“แล้วโกหกพวกกูสองคนด้วยนะ” มันยังจี้ต่อ “แหมกลับบ้าน แหมป่วย แหมไข้ป่าแดก แหมตอแหล”

“ฮือออ อย่าโกรธกูเลยน้า กูขอโทษ T^T” กูต้องคุกเข่าสำนึกผิดมั้ยอะ ไม่อยากให้มันโกรธเลย แล้วดูมันดิ หน้านิ่งได้อีก กูจะร้องแล้วนะ “ขอโทษจริงๆนะเว้ย คะคือๆๆๆคือกู...เอ่อ...อาย”

ในที่สุดผมก็ยอมรับออกไป มาถึงขั้นนี้ปิดบังอะไรคงไม่ได้แล้ว ท่าทางมันก็ดูไม่ตกใจอะไรมากที่ผมกับ...เอ่อ...อิเจ๊บั่มบั๊มกัน คิดในแง่ดีอย่างน้อยก็เพื่อนสนิทละวะ คงไม่เอาไปโพทนาให้ขายขี้หน้ากัน

แต่อย่าตีหน้านิ่งใส่กูงี้สิ ใจคอไม่ดี

ผมจะร้องแล้วจริงๆนะ

ผมแคร์เพื่อนนะเว้ย แต่ก็อยากให้มันเข้าใจว่ามันไม่ใช่เรื่องดินฟ้าอากาศที่จะเล่าให้ฟังกันได้ง่ายๆ มันลำบากใจ ฮือ

“มะมึง...T^T”

“เออ กูเข้าใจ ก็ลุ้นๆอยู่ เดี๋ยวไปส่งอาหารต่อก่อนค่อยมาสำเร็จโทษที่มึงโกหก” มันยีผมจนฟู ผลักใบหน้าออกแล้วชี้คาดโทษ ก่อนก้มลงไปหยิบกระเป๋าเก็บความร้อนใบใหญ่ที่ใส่อาหารไว้

ผมเดินหน้าหงอยตามหลังไปส่งมันที่ลิฟท์

แต่ขณะที่มันก้าวเข้าไปและประตูลิฟท์กำลังจะปิดลงผมก็เข้าใจท่าทีที่ดูไม่ตกใจของมันได้อย่างชัดเจน

“ดีใจกับมึงและพี่เต้ด้วยนะ ลงเอยกันสักที หึ”


“...!!”

หะหือ

อะไรนะ!

ผมกับพี่เต้!?

ว็อท!?



นั่นล่ะ สุดท้ายก็เดินกลับห้องไปแบบมึนๆ คืออะไร กูงงไปหมดแล้ว พี่เต้เกี่ยวอะไรด้วย หรือยังไง แต่ผมก็ไม่ได้ถามอะไรออกไปนะ ปล่อยให้ประตูลิฟท์ปิดลงและเลขชั้นเคลื่อนตัวไปเรื่อยๆ

ตอนนี้กรชวินต้องการเวลาตั้งสติและคิดแป๊บ

แอ๊ด

“หิว”

นั่นไง อยู่เงียบๆได้ที่ไหนล่ะ เปิดประตูเข้ามาก็เจอผีหน้าขาวนั่งโพกหัวในชุดคลุมอาบน้ำสีฟ้านั่งหน้าหงิกอยู่บนโซฟาละ

ผมไม่ตอบอะไรเพียงแค่ชูถุงอาหารในมือขึ้นให้ดูแล้วเดินลอยๆเข้าไปในครัว

แต่ยังไม่ทันได้จัดการเทลงจาน อีกฝ่ายก็เดินตามหลังมาติดๆ

“เป็นไร”

เฮือก

จะยื่นหนังหน้ามาถามก็ไปล้างเอาไอ้โคลนขาวๆบนหน้าออกก่อนไหม เหมือนจะเข้ามาสิงกันมากกว่าอะ มาร์กได้ทุกวันแล้วผมก็ตกใจได้ทุกวันด้วย ยังกะผีจูออน

วันดีคืนดีตื่นมาหัวใจจะวายคิดว่าใครขโมยลูกนิมิตที่วัดมา แม่งเหมือนเอาทองคำเปลวมาแปะหน้า ไม่ชินโว้ยยยย

“เปล่า”

“ทำหน้าเหมือนโดนดูดวิญญาณ โดนผีเข้าสิงป่ะวะ เฮ้! นี่ใคร มาเข้าสิงอิกลูต้าระวังมันจับย่อยไม่ได้ไปผุดไปเกิดนะ”

“อย่ากวนตีนได้ป่ะ?”

กำลังใช้สมองเว้ย อย่ามาทำเป็นอารมณ์ดีแหย่กันตอนนี้ได้ป่ะ ใช่สิ ได้นอนหลับเต็มตื่นแล้วนี่ เมื่อเช้าแทบจะแดกหัวกัน

แล้วเหมือนผมจะแหย่เท้าหาเสี้ยน เพราะอีกฝ่ายตอนนี้หยุดหยอกผมแล้วแต่หรี่ตามองแทน

พลั่ก

“ปากดีนะ” ผลักหัวผมจนเกือบโขลกข้างฝาตู้เย็น แล้วก็สะบัดตูดเดินเข้าห้องนอนไป

แง้ เมื่อกี้เห็นนะว่าจะยกเท้าถีบ ต้องขอบใจมั้ยที่ยังยั้งเท้าแล้วใช้มือแทน ดูมีมารยาทจัง T^T

พอผมจัดอาหารลงจานเสร็จก็ยกออกไปวางบนโต๊ะกระจกตัวเล็กในห้องนั่งเล่น ยังไม่ทันจะจุดธูปเรียกนางมารร่วมห้องก็เดินเฉิดฉายออกมาในชุดกางเกงขาสั้นสีชมพูพาสเทลโชว์เรียวขากับเสื้อกล้ามสีขาวโชว์ผิวเนียนสวยกับผมยาวตรงพริ้วสลวย

มันจะดูออร่าจับอะไรขนาดนั้นวะ

“ขอน้ำส้มคั้นสดด้วยนะ”

ฮึ่ย นางมารก็คือนางมารล่ะวะ ไม่น่าไปเผลอเชยชม

ผมเดินกระแทกเท้าเข้าไปในครัวเทน้ำส้มคั้นเย็นๆในเหยือกลงในแก้วใส ก่อนนำมาวางให้กับอีกฝ่ายแล้วนั่งลงบนพื้นพรมเพื่อกินข้าวบ้าง

แล้วพอได้พริกแกงเครื่องในไก่ไข่ดาวกรอบๆกับต้มจืดเต้าหู้หมูสับก็เหมือนความตึงเครียดในสมองจะผ่อนเบาลง สมองโล่งขึ้นเยอะเลย ถามว่ายังมีความกังวลเรื่องโป๊ะแตกอยู่มั้ยก็กังวล แต่มันก็โล่งขึ้นเมื่อปริมาณอาหารเต็มกระเพาะ

สรุปที่หงุดหงิดเพราะกูหิวสินะ

“เอิ๊ก”

“ทุเรศ”

“โทษๆฮ่าๆ”

ไม่ได้ตั้งใจนะ มันกลั้นไม่ได้เลยเผลอเรอออกมานิดนึง อย่าทำหน้ารังเกียจน้องขนาดนั้น ครึ

“หึ อิ่มแล้วก็อารมณ์ดี ที่เมื่อกี้ทำหน้าเป็นตูดหมาแก่ ตกลงมีเรื่องไร ถ้ายังยึกยักกูจะไม่ถามแล้วนะ จะจับโยนลงระเบียงไปเลย”

นี่คนนะ คนหล่อมากด้วย ทำไมพูดง่ายเหมือนปล่อยแมลงปอแบบนั้นอะ

“ก็...”

ผมตัดสินใจเล่าให้อิเจ๊ฟัง อย่างน้อยก็ช่วยกันคิดช่วยกันตัดสินใจ ลงเรือลำเดียวกันแล้วก็ต้องช่วยกันแจวช่วยกันพาย อย่างน้อยอิเจ๊มันก็ผ่านโลกมามากกว่าผมตั้งสามปี เผื่อจะคิดหาทางออกอะไรได้

“สรุปคือเพื่อนมึงมาเป็นคนส่งอาหาร มาโป๊ะเจอมึง เลยคิดว่ามึงหอบผ้าหอบผ่อนมาเป็นผัวเมียให้ไอ้เต้ไรนั่น?”

ผัวเมีย....น่าเกลียดชิบ

“อือ ทำไมเจ๊ไม่บอกผมวะว่าไอ้แฟ้มมันเป็นคนส่งอาหารอะ”

“เอ้า นั่นมันร้านเพื่อนกู ทุกทีเพื่อนกูไม่ก็น้องมันมาส่ง มึงอะเป็นเพื่อนสนิทกันภาษาอะไรถึงไม่รู้ว่าเพื่อนทำงานที่ไหน”

“ก็ปกติมันทำงานเสิร์ฟที่ร้านกาแฟ เป็นพนักงานร้านถ่ายเอกสาร ล้างจานร้านข้าวต้ม ส่งพิซซ่า คอลเซนเตอร์ เล่นดนตรีตอนกลางคืน...”

“พอๆกูพอจะรู้ละ”

นี่ยังไม่ถึงครึ่งเลยนะของงานที่ไอ้แฟ้มทำ

“แล้วเอาไงดีอะเจ๊”

“ก็อยากเป็นเมียกูหรือไอ้เต้ไรนั่นล่ะ แต่เอ๊ะ ผู้ชายสูงๆตี๋ๆดีกรีเดือนแพทย์ปีที่แล้วใช่มั้ย”

“ก็...อืม”

“อะแฮ่ม โอเคเอาใหม่ อยากเป็นเมียกูหรือน้องเต้ล่ะ”

แหม รู้ว่าหล่อก็ดัดเสียงหวานละมุนเชียวนะอิเจ๊ เก็บนอ! เขตปลอดสัตว์สงวน!

“ก็แล้วทำไมมันถึงเข้าใจว่าผมกับพี่เต้...”

“ก็น้องเต้เขาพักอยู่ที่นี่ ชั้น 16”

หะหา...

ซวยแล้วไง ดีนะเดี้ยงอยู่ ไม่ไปเดินเพ่นพ่านให้ใครเห็นมาก

“แล้วเอาไงดีวะเจ๊” ถ้าไอ้แฟ้มมันไปแซวพี่เต้ความต้องแตกแน่

“อยากเป็นของใครก็บอกเพื่อนไปแบบนั้น พี่เต้อะไรนั่นก็ดูชอบมึงนิไม่น่ายากอะไร นอกเสียจากว่ามึงอยากเป็นเมียกูมากกว่า”

เมีย...

อีกแล้ว...

ทำไมอิเจ๊พูดง่ายจังวะ ให้เดินไปบอกไงอะ ‘เฮ้ มึงเข้าใจผิดนะ กูอะไม่ได้เป็นเมียพี่เต้ แต่เป็นของอิเจ๊พิชชี่ปีสี่ตุ๊ดสวยๆที่เคยมาจับหรรมมึงอะจำได้มั้ย’ แบบนี้ก็ได้หรอ T^T

“เจ๊...ขอถามไรหน่อยดิ”

ผมมีเรื่องคาใจยันหัวใจยิบๆ พออีกคนเลิกคิ้วประมาณว่ามีอะไรผมก็ค่อยๆถามออกมา

“คือ...มึงอะเจ๊ ชอบพูดว่าเราเอ่อ...เป็นผัวๆเมียๆอะ ไม่รู้สึกกระดากไรเลยหรอวะ...”

เนี่ย มันแปลกๆอะ คืออิเจ๊มันก็ตุ๊ดป่ะวะ คือถึงแม้จะยังไม่ได้ทำนม ตัดงวงและพวงไข่ แต่ดูรวมๆแล้วมันก็คือตุ๊ดสวยๆคนนึงเลยนะเว้ย ตุ๊ดที่มีจริตจะก้าน ตุ๊ดที่เห็นผู้ชายหล่อๆแล้วนอโผล่เหมือนที่พูดถึงไอ้พี่เต้เมื่อกี้อะ

แต่ยังไงอะ มันกลับพูดว่าเราเป็นผัวเมียกันได้แบบหน้าตาเฉย

หรือมันอยากได้ผมเป็นผัววะ ลำบากใจจริงๆเกิดมาหล่อเนี่ย ก็รู้ตัวอะนะว่ามาดแมนแฮนด์ซัมแค่ไหน แต่เหตุการณ์ในคืนนั้นมันก็ตามหลอกหลอนว่ะ แล้วไหนจะขนาดตัวที่เอิ่ม...ผมไม่อยากแหงนหน้าคุยกับเมียตัวเอง แล้วก็ไม่อยากโดนเมียอุ้มไปไหนมาไหนด้วย

แต่เมื่อกี้อิเจ๊มันพูดว่า...เมียกู

“กูก็แค่พูดเรื่องจริงอะ ไม่เห็นต้องคิดไร”

“ไม่เอาดิเจ๊”

“เอาไปแล้วไง”

“ใช่เรื่องล้อเล่นหรอวะ”

“ที่ใส่เข้าไปคืนนั้นไม่ใช่ท่อรถมอเตอร์ไซค์นะเผื่อเข้าใจผิด”

“อิเจ๊พิช!!”

นอกจากปากจะจัดกว่าเครื่องกินเหรียญแล้ว ก็ยังสัปดนได้อีกนะเจ๊ อ่อนใจว่ะ แล้วใครเอาฮีทกันมาเป่าหู ร้อนโว้ยยยย

“มึงจะคิดไรมากอะ จะรูปลักษณ์เป็นไงมันสำคัญขนาดนั้นเลยหรอ” อิเจ๊เปลี่ยนสีหน้าเป็นจริงจัง สายตาที่มองตาทำให้ผมรู้สึกวูบวาบนั่งไม่ติดที่ “แค่เรารู้สึกดีๆให้กันมันก็พอป่าวอะ”

“เฮ้ยเจ๊ เรามันแค่ผิดพลาดเว้ย”

“มึงคิดงั้นหรอ”

“เออดิ เมาทั้งคู่ป่ะ หรือเจ๊ตั้งใจ...”

“โอ๊ย!! อย่ามโน! คืนนั้นถ้าไม่เมาเอาเงินมาฟาดหัวล้านนึงก็ไม่ได้เห็นขาอ่อนกูหรอก!”

“ถ้าสิบล้านอะ”

“ร่างสัญญามาเลย กันเบี้ยว”

ขอยาดกรอกตาสามที

“ดอกขจรสมชื่อกลุ่มจริงๆ”

“ฮ่าๆ ที่กูหมายถึงคือหลังจากนั้นต่างหาก”

กึก

งงอะ เจ๊ต้องการสื่ออะไรวะ หลังจากนั้นคืออะไร หลังจากคืนนั้นก็เจ็บไง เจ็บโคตรๆ ขี้ลำบากไปหลายวัน ต้องให้อิเจ๊มาคอยป้อนข้าวป้อนน้ำป้อนยา เช็ดตัวเปลี่ยนเสื้อผ้า ทายาเช้าเย็น หนักๆเข้าต้องอุ้มไปขี้ในห้องน้ำเลยก็มี เรียกได้ว่าเป็นผู้ป่วยติดเตียงช่วยเหลือตัวเองไม่ได้เกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ไปหลายวัน และถึงแม้จะยังพอเดินได้อิเจ๊ก็ยังเป็นโรคหวาดระแวงกลัวแผลในที่ลับผมอักเสบ ยังจิกหัวด่าทุกครั้งที่เคลื่อนตัว เลยต้องยอมให้อิเจ๊มันอุ้มไปมา

บางทีก็น่าเบื่อเนอะนอนอยู่แต่ในห้องนอน อีกฝ่ายก็ด่าไปงั้นแหละสุดท้ายก็ยอมใจอ่อนพาออกมานั่งเล่นดูทีวีที่โซฟาบ้าง นั่งรับลมริมระเบียงบ้าง

แต่พออาการผมดีขึ้นก็อย่างที่เห็นอะ โดนใช้โดนกดขี่เยี่ยงทาส เดินได้หน่อยก็โดนใช้ช่วยงานใช้ทำกับข้าว ทำงานบ้าน นี่ยังไม่รวม...

เอ๊ะ...เดี๋ยวนะ

มันแปลกๆป่ะวะ

มะมันเหมือนกับว่าเราสองคนเป็น เอ่อ เป็น...

“ก็แค่...เอ่อ...รับผิดชอบปะ ตะต่อไปก็ใช้ชีวิตของใครของมันตามที่ตกลงกันไว้ไง”

อย่างมองกันด้วยสายตากดดันแบบนี้ดิ กูไม่มีทางคิดอะไรกับเจ๊หรอก แล้วเจ๊ก็ไม่ต้องมารู้สึกอะไรกับกูด้วย มันผิดที่ผิดทางมาตั้งแต่เริ่ม…

...แล้วมันจะเดินต่อไปได้ดียังไงวะ

“งั้นลองมั้ย”

“ละลองอะไร”

“ก็ลองไง ว่าตอนนี้น่ะ...”

จุ๊บ

“...!”

ไวกว่าความคิดริมฝีปากบางสีชมพูก็ฉกวูบลงมา ใบหน้าเนียนใสของอีกฝ่ายที่โคลสอัพเข้ามาใกล้จนมองเห็นเป็นภาพเบลอให้ผมเบิกตากว้างและเสี้ยววินาทีต่อมาก็ยกมือขึ้นเพื่อดันอีกฝ่ายออก แต่ก็ถูกรั้งข้อมือทั้งสองข้างไว้ด้วยมือเดียว และมืออีกข้างได้ยึดต้นคอผมไว้เพื่อไม่ให้หันใบหน้าหนี

รสชาติสตอเบอรี่หวานๆของลิปกลอสบนริมฝีปากนุ่มหยุ่นของอีกฝ่ายทำให้สติผมเริ่มเลือนลาง สมองขาวโพลนเมื่อปลายลิ้นนิ่มค่อยๆไล้ลงบนริมฝีปากของผมอย่างหยอกล้อและล่อลวงให้ผมเผยอริมฝีปากให้ความอุ่นนุ่มนั้นเข้ามาซุกซนไปตามแนวฟัน

ก่อนแทรกเข้ามาเกี่ยวพันเกลียวลิ้นให้ร่างกายเกร็งไปทุกสัดส่วนสวนทางกับหัวใจกลับเต้นระรัวกับความวาบหวามที่กำลังได้ลิ้มลอง

สมองผมตีรวนอย่างสับสนและคัดค้านสิ่งที่เป็น

แต่...

ยิ่งอีกฝ่ายละเลียดและอ่อนโยน ร่างกายก็โอนอ่อนคล้อยตาม...จังหวะการเต้นของหัวใจก็เพิ่มขึ้นจนกลายเป็นจังหวะกลองหนักๆที่อื้ออึงอยู่ในหัว

คิดอะไรไม่ออกเลย...

ผมไม่รู้ว่าเมื่อไหร่...ที่ลิ้นและริมฝีปากตอบโต้สัมผัสของอีกฝ่าย

ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหน...กับการบดเบียดแลกเปลี่ยนชิมรสชาติของน้ำบ่อน้อยของกันและกัน

และไม่รู้ว่าเพราะอะไร...ผมถึงรู้สึกดี อยากได้อีก อยากจูบต่อไปเรื่อยๆ


“กูว่า...กูชอบมึง”




#เมียตุ๊ด



ง่อววววว ฟ้าผ่า ฟ้าผ่าจ้าาาา >O<










หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 4 [P.2]< 20.10.2018
เริ่มหัวข้อโดย: Cyclopbee ที่ 20-10-2018 18:24:43
 :m20:ึฟ้าผ่าาาาาา
ตลกเต้ น้องน่ารักกกกก
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 4 [P.2]< 20.10.2018
เริ่มหัวข้อโดย: Hirose ที่ 20-10-2018 19:23:34
 :z3: :z3:
เจ้เก็บกดเลยรู้ว่าต้องคนนี่ใช่มั้ย
หรือเจ้แค่มึนๆแล้วตั้งใจกด
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 4 [P.2]< 20.10.2018
เริ่มหัวข้อโดย: cheezett ที่ 20-10-2018 19:32:57
เจ้ชัดเจนมากกก ผิดผีอย่างแรว้งค้าา ชอบบ
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 4 [P.2]< 20.10.2018
เริ่มหัวข้อโดย: ก้อนขี้เกียจ ที่ 20-10-2018 19:40:57
แหมเจ๊ไม่ค่อยเลยอ่ะ55555
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 4 [P.2]< 20.10.2018
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 20-10-2018 21:10:01
 :mew1: :mew1: :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 4 [P.2]< 20.10.2018
เริ่มหัวข้อโดย: Chompoo reangkarn ที่ 20-10-2018 22:27:17
เจ๊ติดใจต้าซะแล้ว
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 4 [P.2]< 20.10.2018
เริ่มหัวข้อโดย: papapoope ที่ 20-10-2018 23:21:54
เจ๊รุกแรงมากกกก~
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 4 [P.2]< 20.10.2018
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 20-10-2018 23:24:35
แล้วๆ.........ว่าแล้วเจ๊ติดใจต้าร์แล้ว   :z3: :z3: :z3:
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 4 [P.2]< 20.10.2018
เริ่มหัวข้อโดย: Smirnoff ที่ 20-10-2018 23:48:27
5555555เนี่ยยยย โลกเราต้องการความคอมเมดี้แบบสองผัวเมียนี้ค่ะ
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 4 [P.2]< 20.10.2018
เริ่มหัวข้อโดย: mijimaria ที่ 21-10-2018 00:17:05
ว้ายยยยยย เจ๊รุกน้องแล้ว :-[ :-[
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 4 [P.2]< 20.10.2018
เริ่มหัวข้อโดย: 19th ที่ 21-10-2018 00:35:09
เจ๊โว้ยยยยยย ผิดผีที่สุด หรือจริงๆเจ๊ไม่ได้เป็นตุ๊ด แค่เป็นเกย์รุกออกสาวใช่ไหม  :laugh:
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 4 [P.2]< 20.10.2018
เริ่มหัวข้อโดย: chaoyui ที่ 21-10-2018 01:34:45
เจ๊ไม่ทนแล้วววว
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 4 [P.2]< 20.10.2018
เริ่มหัวข้อโดย: GBlk ที่ 21-10-2018 10:16:38
เจ๊ไวมากกก
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 4 [P.2]< 20.10.2018
เริ่มหัวข้อโดย: aoihimeko ที่ 23-10-2018 15:04:11
กรี๊ด...ชนะเลิศ

ิกดเลยๆๆๆ :hao7:
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 4 [P.2]< 20.10.2018
เริ่มหัวข้อโดย: naruxiah ที่ 23-10-2018 15:46:04
โอ้ยเจ้ เจ้ต้องรุกแล้วจริงๆค่ะ​ น้องตาร์ซื่อมาก​ น่ารักปนฮามากอ่ะเรื่องนี้​
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 4 [P.2]< 20.10.2018
เริ่มหัวข้อโดย: nevergoodbye ที่ 23-10-2018 21:22:15
โอ๊ยเจจ๊  :hao7:
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 5 [P.3]< 27.10.2018
เริ่มหัวข้อโดย: mod-cup ที่ 27-10-2018 02:45:24

ตอนที่ 5
แพ้ภัย แพ้ใจ แพ้เธอ



“ไอ้ตาร์เสร็จยัง ต้องไปแล้วๆ”

“สองนาทีๆถึงสรุปแล้ว”

ปากว่าแต่สายตาไม่ได้ละไปจากกระดาษตรงหน้า ส่วนมือก็จับปากกาเขียนด้วยความเร็วพอๆกับรถเมล์สายแปดแหกทุกทางโค้งเพราะผมหยุดเรียนไปหนึ่งสัปดาห์แล้วการบ้านรายงานทุกอย่างไอ้การ์ดจะส่งให้ทางไลน์ตลอด แต่ถ้างานไหนด่วนมันก็จะทำให้เลย

แต่....มันลืมบอกผมว่ามีการบ้านวิชาพฤติกรรมมนุษย์

ที่อาจารย์โคตรเคร่ง โคตรโหด

ไม่มีงานส่งนี่ไม่ใช่ได้ศูนย์คะแนนนะครับ...ติดลบจ้า

ก้วยเหตุผลว่าคะแนนงานเท่ากับศูนย์ คะแนนความไม่มีความรับผิดชอบลบห้า โอยยย กูจะบ้าตาย นี่ไม่รู้ว่าในช่องกรอกคะแนนแดงเถือกไปกี่ช่อง ฮือ ชีวิต

แล้วจะทำยังไงได้ล่ะ เสี่ยงลอกถ้าถูกจับได้ยังได้คะแนนครึ่งนึง ไม่มีส่งติดลบนะครับ แล้วไอ้ผมก็คนดีมีคุณธรรมนำพาความซื่อสัตย์ในหัวจิตหัวใจอย่างสูงส่งก็ดึงของไอ้การ์ดมาลอกสิครับจะช้าอยู่ไย

แล้วตอนนี้เรื่องไก่ยังไม่ทันหายเรื่องควายเข้ามาแทรกเพราะกำลังจะเข้าคลาสสาย งือ ยังลอกไม่เสร็จอ่ะ แต่ต่อให้ข้างหน้าจะมีกับดักระเบิด ฝูงเสือ เรือไททานิคจอดขวางทางอยู่ก็ต้องไปเข้าเรียนให้ทัน ห้ามสายแม้แต่นาทีเดียวเข็มนาทีชี้เลขสิบสองปุ๊บท่านอาจารย์จะล็อคห้องทันที อยากจะถามเหลือเกินว่ายึดจากนาฬิกาเรือนไหน ถ้ายึดจากนาฬิกาบนข้อมือกูจะขอปรับย้อนหลังสักครึ่งชั่วโมง

แล้วเวรกรรมนำพาคือผมขาดไม่ได้แล้วไงใช้โควต้าครบแล้ว ถ้าขาดอีกครั้งเดียวคือหมดสิทธิ์สอบ

ผมจะติดเอฟตั้งแต่ปีหนึ่งไม่ได้ พ่อต้องฆ่าผมทิ้งแน่ๆ ขายควายส่งโคตรควายเรียน ฮือ T^T

“เหลือเขียนชื่อ ชิบบบบบ”

“ไม่ทันแล้วมึง ต้องไปแล้วอีกแค่สามนาทีต้องวิ่งขึ้นชั้นสี่นะเว้ย” ไอ้แฟ้มเข้ามาดึงสมุดบนโต๊ะที่ผมกำลังเขียนไป แล้วฉุดข้อมือผมลุกขึ้น “วิ่งไปเขียนไปละกันนะมึง”

“เฮ้ยแป๊บ กระเป๋ากู” ผมคว้ากระเป๋าเป้และวิ่งตามแรงลาก สักพักไอ้แฟ้มก็ปล่อยข้อมือและยื่นสมุดมาให้ โว้ย นี่มึงคิดว่ากูจะวิ่งไปเขียนไปได้จริงหรอ มีหวังอาจารย์แม่ได้ขยำกระดาษงานกูละปาใส่กบาลแน่ๆ

จะแถว่าเป็นภาษาขอมก็กลัวคะแนนจะติดลบร้อยจนเรียนซ้ำสิบรอบก็ยังไม่พอน่ะสิ

ดังนั้นผมเลยกอดสมุดรายงานเอาไว้และวิ่งขึ้นอาคารเต็มแรงสูบ ไม่ใช่มีแค่ผมสามคนนะ ยังมีเพื่อนร่วมคลาสที่กำลังเร่งฝีเท้าวิ่งขึ้นบันไดประหนึ่งวิ่งได้ให้ล้านอยู่สี่ห้าคน พอวิ่งถึงชั้นสองผมก็เหนื่อยหอบ

ไม่ไหวแล้ว ปอดกูสูบออกซิเจนไม่ทัน หัวใจกูทำงานหนักไปกว่านี้ไม่ไหว

เอามือทั้งสองข้างเท้าต้นขาหอบแฮกก่อนยืดตัวพาดสมุดรายงานกับผนังปูนสีขาวเพื่อเขียนชื่อกับรหัสนิสิต พอเสร็จก็ฉีกกระดาษเอสี่แผ่นนั้นออกจากสมุดรายงานแล้ววิ่งขึ้นต่อ

นี่จะไปเรียนหรือพิชิตยอดดอย ถึงแล้วต้องปักธงแดงด้วยมั้ยสาด

ไอ้เชี่ยแฟ้มมึงกระโดดทีสองขั้นไม่รอกูเลย ขากูสั้นเห็นใจหน่อยโว้ย

วืด

เชี่ยแล้วไงหัวใจกู

แม้สองขาผมกำลังวิ่งขึ้นต่อไปไม่หยุดแต่มันก็เบาแรงลงสวนทางกับอัตราการเต้นของหัวใจที่กระหน่ำแรงขึ้นเมื่อขณะที่อีกไม่กี่ขั้นบันไดผมจะถึงชั้นสี่ก็มีพี่ชั้นปีสี่ที่น่าจะเพิ่งเลิกคลาสเดินสวนลงมา จะไม่รู้สึกใจสั่นขนาดนี้เลยถ้าหนึ่งในหลายคนที่สวนกันไม่ใช่คนที่ผมยังไม่อยากเจอหน้ามากที่สุด

อิเจ๊…

เพียงเสี้ยววินาทีที่เห็นก็ให้หัวใจที่เต้นเป็นจังหวะหนักๆด้วยความเหนื่อยหอบอยู่ก่อนแล้วกระหน่ำถี่รัวแรงจนนับอัตราการเต้นกันไม่ถูกจนพลังงานทั้งหมดที่ร่างกายมีถูกหัวใจดึงไปใช้จนเกือบหมด เหลือแรงให้สองขาได้ก้าวต่อน้อยเหลือเกิน

เมื่อวานเพิ่งจูบกัน เพิ่งวิ่งหนีมา โชคชะตาแม่งตลกร้ายหรือชาตินี้กูทำบุญน้อยไป ถึงได้มาเจอกันทั้งที่ยังไม่ได้เตรียมใจเลย ฮือ กลั่นแกล้ง กลั่นแกล้ง

“เฮ้ย ไอ้ตาร์เร็วๆ อาจารย์มาหน้าประตูแล้ว”

ไอ้การ์ดที่เห็นผมก้าวช้าลงมากกระโดดลงมากระชากแขนแล้วลากให้สับเท้าตามขึ้นไป ผมปล่อยตัวไปตามแรงลาก ปล่อยมือที่ถือกระดาษรายงานให้ไอ้แฟ้มที่มาดึงไปอย่างไม่ทักท้วงอะไร

เอาเถอะ ฝากส่งที ตอนนี้สติไม่อยู่กับเนื้อกับตัวแล้วว่ะ

แค่อิเจ๊ปรายตามองมาด้วยสายตาว่างเปล่าไม่มีแม้แต่ความเกรี้ยวกราดอย่างเดิมทำไมถึงอยากเข้าไปกระชากที่แผ่นแปะสิวบนหน้าออกแล้วเอานิ้วจิ้มขี้บี้มันลงไปแรงๆ

ให้สิวมันอักเสบและติดเชื้อพุพองไปเลย

แต่ก็ดีแล้วนิ ที่กังวลว่าถ้าเจอกันอิเจ๊ต้องวิ่งเข้ามาตะครุบหัว ลากเข้าพงหญ้าไปจิกหัวตบข้อหาวิ่งหนีออกมาโดยไม่ได้รับอนุญาตแล้วยังไม่ยอมรับโทรศัพท์อีก ก็ไม่ต้องกลัวแล้ว ดูท่าอีกฝ่ายจะไม่สนใจอะไรเลยด้วยซ้ำ

ก็เป็นอย่างที่อยากให้เป็น...

กลับไปเป็นแค่คนรู้จักที่เรียนสาขาเดียวกันก็เท่านั้น

“อ้าวเฮ้ย นั่งตาลอย เจ๊แกให้เปิดสไลด์สามสิบสอง”

“เจ๊เหี้ยไร!”

“เกรี้ยวกราดไรเนี่ยมึง เสียงดังระวังเจ๊แดกหัว”

“กูไม่กลัวเรียกเจ๊มึงมาเลย!”

“หุบปาก”

ไอ้การ์ดตบหัวผมกับไอ้แฟ้มคนละทีก่อนกระซิบเสียงดุรอดไรฟันแล้วใช้สายตาบังคับให้เปิดชีทแล้วหันไปโฟกัสกับสไลด์ที่ฉายอยู่บนโปรเจ็คเตอร์จอใหญ่ตรงหน้า ผมเม้มปากแน่นมือหยิบชีทในกระเป๋าออกมา

เออ กูเป็นอะไรของกูวะ

ไอ้แฟ้มมันหมายถึงอาจารย์แม่ ไม่ใช่อิเจ๊...เฮอะ อย่าไปพูดถึงเลย

ผมหายดีแล้ว ต่างคนต่างแยกย้ายกันกลับไปใช้ชีวิตของใครของมัน…ก็ถูกต้องแล้ว

‘กูว่า...กูชอบมึง’


ส่วนที่ว่าชอบน่ะ...อาจจะแค่หวั่นไหว เดี๋ยวห่างๆกันไปก็หายเองนั่นแหละ

โอ๊ยยยย ช่างเหอะ ไม่คิดแล้ว

“ไอ้เชี่ยตาร์เหม่อไรเนี่ย เอากระดาษขึ้นมาดิ”

“อ่ะนี่”

ไอ้แฟ้มสะกิดผมที่นั่งตาลอยและไอ้การ์ดก็ส่งกระดาษเอสี่เปล่ามาให้ ผมหยิบมางงๆก่ออนจะเบิ่งตาโตเมื่อไอแฟ้มกระซิบว่ามีสอบย่อยท้ายชั่วโมง กูมัวนั่งเหม่อเป็นพระเอกเอ็มวีมาสองชั่วโมงเลยหรอวะ สมองที่รับรู้ครั้งล่าสุดคือกูเพิ่งหยิบชีทขึ้นมาเรียนเองป่ะวะ ตัดภาพมาอีกทีคือสอบแล้ว คืออะไร โฮ แล้วยังไงสุดท้ายแล้วยังไง หล่อเหมือนในเอ็มวีมั้ยก็ไม่ แต่ไม่มีเนื้อหาในหัวมาสอบอ่ะเรื่องจริงงงงง

โว้ย อิเจ๊ คราวหน้าอย่าให้เจอนะ จะกระโดดกัดให้หูขาดเลย ข้อหาทำให้กูเสียสมาธิ แง่ง!






“ป่ะ”

“ไปไหน”

“วัด”

“เฮ้ย ไปทำอะไร”

ผมฝืนแรงลากของไอ้แฟ้ม ฮ่วย โดนลากทั้งวันเลยวันนี้ เดี๋ยวคนโน้นคนนี้เอะอะก็จับลาก นี่ยังไม่ทันเก็บของใส่กระเป๋าเสร็จไอ้ห่าแฟ้มก็เอาอีกละ

“ไปให้หลวงพ่อรดน้ำมนต์”

“เฮ้ย”

“เฮ้ยไร ป่ะ”

“เดี๋ยววววววว”

นาทีนี้เบรกสุดตีนเลย คืออะไร อยู่ๆมาบอกไปวัดอาบน้ำมนต์ น้ำที่ห้องไม่ไหลโดนตัดมิเตอร์หรือยังไงก็บอก กูจ่ายค่าน้ำค่าไฟตรงตามกำหนดทุกเดือนมีให้มึงทั้งอาบทั้งแช่ไม่ต้องไปรบกวนวัดเนอะ

“มึงก็เลิกแกล้งมันได้ละ” ไอ้การ์ดส่ายหัวเบื่อๆ

เดี๋ยวๆตกลงพวกมึงกำลังแกล้งกูหรอ

“ไม่ได้แกล้ง กูเอาจริง”

เดี๋ยวๆตกลงไม่ได้แกล้งใช่มั้ย

“กินไรดีเที่ยงนี้”

“ไปวัดหัวเมืองดีหรือเอาใกล้ๆมอ”

“ข้าวมันไก่มะ เมื่อคืนกูเจอในเพจตามแต่จะแดกแล้วอยาก”

“รดเสร็จแล้วขอมาสักขวดเอาไว้อาบเอาไว้ดื่ม”

“โอ๊ยยยยย” ผมสะบัดแขนออกจากมือไอ้แฟ้มแล้วยกขยี้หัวตัวเอง คือมึงจะพูดกันไปคนละเรื่องแบบนี้ไม่ได้ กูคิดไม่ทัน และหันไปมาจนเวียนหัวไปหมดแล้ววววว

แปะ

แล้วสุดท้ายมันก็หัวเราะและตีมือกัน

ตกลงแกล้งกูสินะ

สนุกกันมากมั้ย เดี๋ยวกูก็แดกหัวพวกมึงแทนข้าวซะนิ

“ก็กูกลัวมึงโดนผีเข้าเห็นเหม่อตลอด”

“เป็นห่าไรก็ไม่บอก หลายเรื่องแล้วนะมึงอ่ะ”

“หรือทะเลาะกับพี่เต้”

“พี่เต้เกี่ยวไร” อยู่ๆเทิร์นกลับไปคณะแพทย์ได้ไงวะ

“เอ๋า ก็นึกว่าทะเลาะกับผัว”

“เฮ้ย มะมั่วไรมึงไอ้แฟ้ม” นี่สะดุ้งสุดตัวเลย ใครได้ยินบ้างวะเนี่ย นี่เดินลงมาถึงตึกรวมแล้วนะ ใครเอาไปพูดนี่เสียหายหลายหมื่นล้าน ไม่ใช่ผมนะ พี่เต้เดือนแพทย์นู่น ผมน่ะแค่หลืบไรของมหาลัยนี้

“เอาน่ามึงไม่ต้องปิดหรอก ไอ้การ์ดมันรู้แล้ว”

“เฮ้ย”

“เดี๋ยวนี้ริอาจคิดปิดบังกูนะมึง”

“เฮ้ยย”

“แหะๆ กูไม่ได้เล่าให้ใครฟังเลยนะนอกจากไอ้การ์ด มันห่วงมึง”

“เฮ้ยยยย”

นี่ผมตกใจไปกี่สิบเฮ้ยแล้วอ่ะ ขอตั้งสติแป๊บ อ่อ ตอนนี้ผมเป็นเมียพี่เต้อยู่ โอเค ขอโทษนะพี่ T^T

หลังจากที่ไอ้แฟ้มไปจ๊ะเอ๋ผมที่คอนโดอิเจ๊วันนั้น ตอนกลางคืนมันก็ไลน์มาหา เรียกได้ว่ามันด่ามันมโนอะไรผมเออออห่อหมกไปหมด กำลังอึนๆกับจูบดูดวิญญาณไม่มีเวลามาแก้ตัวหรอกครับ น้ำเชี่ยวอย่าเอาเรือไปขวาง ไหลไปก่อน ยังไม่อยากโดนน้ำป่าซัดตาย

ตอนนี้เพื่อนสนิททั้งสองคนของผมเลยเข้าใจผิดไปไกล

แล้วผมยังไม่มีความกล้าพอจะแก้ด้วย กลัวโดนสิบคำถามสามคำตอบแล้วจะจนมุม ขอเวลาหาบันไดไว้ปีนหนีก่อน แล้วกูจะสารภาพนะ ฮือ

“เลิกทำหน้าเป็นไก่ตาแตกได้ละ” โอ๊ย อ่ยายีหัวกูสิ เสียทรงหมด

“ป่ะ วัดกัน”

“ยัง ยังไม่เลิก”

“ฮ่าๆ หน้ามึงตลกดี ไปๆกินข้าวกัน ร้านไหนดีการ์ด”

“ข้าวมันไก่ไง”

“แต่กูอยากกินสเต็กกะทะร้อนหน้ามออ่ะ”

“มีทูววว”

“แล้วถามกูเพื่อ”

สรุปไอ้การ์ดแพ้ไปด้วยเสียงสองต่อหนึ่ง ทำใจนะการ์ดนะ เราอยู่กันแบบประชาธิปไตย ครึ

พอพูดถึงสเต๊กกะทะร้อนเจ้าอร่อยหน้ามอผมก็เลิกตาแตกเปลี่ยนเป็นตาประกายดาวห้าแฉก งือออออ ไม่ได้กินมานานแล้วอ่ะ กินแต่โจ๊กกับข้าวผัดมาหลายมื้อแล้ว อิเจ๊ไม่ให้กินของย่อยยากเลย พองอแงมากๆเข้าก็ยอมแต่ต้องให้อิเจ๊เคี้ยวให้ก่อนนะผมค่อยกิน แล้วใครจะไปกินลง แหวะ

“มึงไปรถไอ้การ์ดนะ”

“มึงก็ไปด้วยกันดิ”

“ไม่เป็นไร เดี๋ยวกูเอาเลม่อนไปเลย” เลม่อนที่ว่าเป็นมอเตอร์ไซค์ฟี่โน่สีเขียวมะนาวลูกรักไอ้แฟ้มมัน

“เค เจอกันที่ร้าน”

ผมเดินมาลานจอดรถหลังตึกรวมกับไอ้การ์ดเดินอ้อมไปเปิดประตูที่ถูกปลดล็อกก่อนสอดตัวเข้าไปนั่งเบาะข้างคนขับ

กึก

มือที่กำลังจับเบลท์ขึ้นมาคาดหยุดชะงักกับภาพตรงหน้า คนสองคนที่เดินจูงมือกันผ่านหน้ารถไป หนอยยยยยย ทำมาเป็นบอกว่าชอบว่ารู้สึกดี มาจูบกันทำไมวะ ผมตัดสินใจถูกแล้วที่ไม่ถลำไปกับคำพูดชวนวาบหวามนั่น สุดท้ายตุ๊ดก็ชอบผู้ชายสูงหล่อล่ำมั้ยอ่ะ อยากได้คนที่ปกป้องดูแลได้อ่ะเนอะ จะมายึดติดอะไรกับผู้ชายหน้าบอยปกรณ์ส่วนสูงเสนาหอยแบบผมกันล่ะ เฮอะ!

“จะขาดคามือแล้วไอ้สัด”

เสียงไอ้การ์ดให้ผมละสายตาจากภาพตรงหน้าแล้วเสียบหัวเข็มขัดให้เรียบร้อย

“ทะเลาะอะไรกันก็เคลียร์ๆกันซะให้เรียบร้อย”

“ห๊ะ?”

“ก็นู่นไม่ใช่หรอ” มันเพยิดไปข้างหน้าให้ผมเสียวสันหลังวาบ มันรู้หรอวะ ผมรีบหันสายตามองตรงไปอีกครั้งก็ไม่เห็นอิเจ๊คนสวยกับผู้กระสวยใหญ่แล้ว

หืม...ผมพอรู้ละ

นี่ถ้าไม่เพ่งดูดีๆไม่เห็นนะ มองทะลุลานจอดรถไปจะมีสวนหย่อมที่มีโต๊ะหินตั้งอยู่หลายชุด ซึ่งหนึ่งโต๊ะในนั้นมีร่างของผัวในมโนของไอ้แฟ้มนั่งอยู่กับผู้หญิงผมยาวร่างเล็ก

โอยยย พี่เต้ ผมจะเอาน้ำแดงเปิดฝาเสียบหลอดไปขอขมาพี่นะ พรุนไปถึงไหนแล้วอ่ะ โถ

“ออกรถเถอะ” ผมเลยทำเสียงนิ่งหน้าตึง ไอ้การ์ดปรายตามองแต่สุดท้ายก็ยอมถอยรถออก

ใช้เวลาไม่นานเราก็มาถึงร้านสเต๊กหน้ามอ โฮ่วววว แค่เปิดประตูรถกลิ่นก็โชยมาโชยมา เรื่องที่หงุดหงิดก่อนหน้าเบาบางลงทันตาเห็น เขาว่ากันว่าหมูกะทะจะเยียวยาทุกสิ่ง แต่ไม่จริงเสมอไป...ความจริงแล้วของอร่อยใดๆทุกอย่างในโลกล้วนเยียวยาได้ ฮืออออ เนื้อจ๋าพี่มาแล้วววววว

แต่...

ให้ตายเถอะ สามร้อยกว่าร้านรอบมอ ทำไมต้องมาเจอกันอีกวะ

“อร๊ายยยย น้องการ์ดจ๋า สนใจนั่งโต๊ะเดียวกันมั้ยจ๊ะ นั่งข้างๆยอมให้ควัก นั่งตักกินฟรีเลยจ้า” เสียงพี่แคนดี้หนึ่งในแก๊งตุ๊ดดอกขจรที่หน้าอกกหน้าใจใหญ่กว่าหัวเด็ก กรีดกรายนิ้วเรียกลั่นร้าน

ผมกระตุกชายเสื้อไอ้การ์ดยิกๆ ไม่นั่ง ไม่เอานะมึง ไปนั่งไกลๆอิเจ๊กลุ่มนี้เลย

เฮ้ยๆๆๆ

ผมตาโตเมื่อมัวแต่ยึดชายเสื้อไอ้การ์ด ไอ้แฟ้มก็เดินลิ่วๆหยิบเก้าอี้ไปแทรกนั่งข้างพี่อ้อนน้อย พี่อ้อนน้อยเป็นตุ๊ดร่างเล็กตัวขาวอ้อนแอ้น เท่าที่ผมเห็นผ่านๆพี่อ้อนน้อยจะแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าผู้ชายแต่เป็นโทนสีพาสเทล ที่พอผมเห็นพี่เขาทีไรจะนึกถึงเค้กไข่ไต้หวัน นุ่มๆฟูๆดูละมุน

แล้วดูดิ พอไอ้แฟ้มมันเบียดตัวไปใกล้พี่เขาก็ทำตาโตอ้าปากเหวอๆ งืออ เหมือนกระต่ายขนฟูๆ อยากได้อ่ะอยากได้

ส่วนอีกคนน่ะเหรอ เฮอะ สวยแล้วไงถ้าไม่ได้รักเดียว

“ไอ้การ์ดกูนั่งโต๊ะอื่นนะ” ผมเบือนหน้าหนีสายตาที่จ้องผมตั้งแต่เดินเข้ามาในร้าน หมุนตัวจะเดินไปนั่งโต๊ะอื่นแต่โดนเกี่ยวคอเสื้อไว้ก่อน

“โต๊ะว่างมีที่ไหนล่ะ เต็มหมดแล้วมึง”

“งั้นกูก็จะสั่งกลับบ้าน”

“ผีเหี้ยที่ไหนเข้าสิงอีกเนี่ย นั่งนี่แหละ พี่เขาอุตส่าห์ชวนสาขาเดียวกันทั้งนั้น”

“แต่กูไม่อยากนั่งโต๊ะเดียวกับตุ๊ด” ผมกัดฟันบอก

“เป็นคนขี้เหยียดตั้งแต่เมื่อไหร่” ผมโดนไอ้การ์ดผลักหัวเบาๆก่อนถูกลากไปนั่งโต๊ะเดียวกับพี่ๆแก๊งดอกขจร

ผมไม่ได้เหยียดนะเว้ย ไม่ได้ตั้งใจเลย ผมก็เป็นเกย์จะไปเหยียดเพศได้ยังไง กูอยากเหยียดอยากเหยียบแค่คนเดียวว้อย

“ฮือ อิพิชสั่งแค่ซอสพริกไทยดำกับสลัดให้กูพอ กูได้เนื้อดีๆละ ถ้าจะนุ่มและหวานมาก” พี่แคนดี้ส่งสายตาหวานแถมเลียริมฝีปากจ้องไอ้การ์ดที่นั่งข้างๆตาวาว ไอ้การ์ดระบายยิ้มอ่อนกระชากใจยิ่งทำให้พี่แคนดี้แทบจะโผตัวเข้าสิง

หึ กูรู้ว่าในใจมึงกลัว ไอ้การ์ดมันเป็นพวกให้เกียรติคนอื่น มันเลยไม่กล้าผลักเจ๊แคนดี้ออก

ผมยืนมองเม้มปากชั่งใจอยู่แป๊บนึง ก็ถอนใจยอมทิ้งตัวนั่งร่วมโต๊ะ

“อิตาร์ตรงนี้ไม่ได้ เชิญฝั่งนู้นจ่ะ”

พี่กิมจิ(ชื่อเดิมก้องภพ) ตวัดตามองพลางชี้นิ้วไปอีกฝั่ง เอามือตะบบเก้าอี้ข้างตัวไว้ไม่ให้ผมนั่ง

อ้าวเนอะ พอจะยอมร่วมโต๊ะก็ขัดกันไม่เลิกไม่รา ล้มโต๊ะแม่ง

 “ทำไมอ่ะ”

“เดี๋ยวผัวในอนาคตกูจะมานั่ง”

“ห๊ะ เจ๊มีผัวแล้วหรอ เมื่อวันก่อนยังวิ่งบีบไข่พี่อาร์มอยู่เลย” พี่อาร์มคือพี่รหัสผมเองครับ

“ยังไม่มีแต่เผื่อได้ มึงเข้าใจคำว่าในอนาคตมั้ย มากินสเต๊กแล้วอยากรับทานของหวานล้างคอน่ะ กูนี่ทับทิมกรอบสยาม หวานมันหอมอร่อย” ดูจากสายตาแล้ว กูไม่รู้เลยเนอะว่ามึงหมายถึงใครน่ะ

อยากจะเดินไปสะกิดพี่ที่นั่งโต๊ะข้างๆเหลือเกินว่าคืนนี้กลับบ้านระวังปอบดักกินตับ ตับ ตับ ตับ ตับ

“โห อย่างเจ๊น่ะถั่วแปบลืมโรยน้ำตาลอ่ะดิ ทั้งแบนทั้งจืด”

“อ๊าย เดี๋ยวกูตบ”

ผมรีบเผ่นไปนั่งเก้าอี้ว่างที่เหลือเพียงตัวเดียวฝั่งตรงข้าม ขำที่ทำให้เจ๊กิมจิแทบจะปีนโต๊ะมาตบผมได้ แต่พอหันไปเจอกับสายตาคนด้านข้างที่มองมาอยู่ก่อนแล้วก็หุบยิ้มลง

ทำไมผมต้องมาซวยนั่งข้างคนที่ยังไม่อยากเจอหน้าด้วยวะ

เมื่อวานบอกชอบ วันนี้ควงหนุ่มมาแดกสเต๊กเฉย

“ไอ้ตาร์กินไร” ผมหันไปตามเสียงเรียก ไอ้แฟ้มที่มือถือปากกากับกระดาษเมนูแผ่นเล็กๆ ที่มีรายการมาให้แล้วแค่ติ๊กเมนูในช่องสี่เหลี่ยมเพื่อเลือกชนิดเนื้อ ระดับความสุกและน้ำซอสราด

ผมสั่งเมนูโปรดที่ผมมักจะกินประจำอย่างไม่ลังเล

“สเต๊กเนื้อเกรวี่ เอาแบบมีเดียมแรร์ เพิ่มไส้กรอกด้วยนะ” ส่วนสลัดกับมันฝรั่งทอดเป็นเครื่องเคียงมาคู่กับสเต๊กอยู่แล้ว

“สเต๊กปลา”

“หืม สั่งเพิ่มหรอพี่” ไอ้แฟ้มถามเมื่อเสียงของคนข้างตัวผมดังขึ้น

“เปล่ากูสั่งแล้ว หมายถึงของไอ้เตี้ยนี่น่ะ สเต๊กปลา” อิเจ๊มันปรายตามองมาทางผม

“ไม่เอา กูจะกินสเต๊กเนื้อ!”

“ปลา”

“เนื้อ!”

“อิกลูต้า...” มาอีกแล้วไอ้น้ำเสียงเย็นๆที่ชอบใช้ขู่ ตลอดอ่ะ แต่ครั้งนี้ไม่ได้ผลหรอกเว้ย

“พีทไปยุ่งไรกับน้องอ่ะ หงุดหงิดอะไรมาคะ” ผู้ชายที่นั่งข้างอิเจ๊อีกฝั่งนึงเลิกคิ้วถาม มือยกขึ้นหยิกแก้มแกมหยอกแต่โดนอิเจ๊ปัดทิ้ง

เออ ยุ่งไรอ่ะ เอาเวลาไปดูแลผู้ชายนู่น ตัวใหญ่อย่างกับควาย ก้ามโตอย่างกับปูยักษ์คงต้องแดกวัวทั้งตัวอ่ะ สั่งไปจานเดียวไม่พอหรอก!

“เออ อิพิชชี่ วันนี้มึงเกรี้ยวกราดทั้งวัน อุตส่าห์พามาแดกร้านที่ชอบละ ยังจะไปกินหัวน้องมันอีก ไม่เห็นตัวอิตาร์มันหรอ เล็กอย่างกับลูกหมาสู้มึงไม่ได้หรอกนะ” พี่แคนดี้ช่วย แต่ลูกหมานี่คือไรอ่ะ ไม่อยากสูงเองหรอกมั้งกลัวผู้ชายในมอจะหมองหมด

แค่เกิดมาหน้าหน้าดีเกินมนุษย์มนาก็ลำบากใจจะแย่

อิเจ๊ไม่ได้ตอบอะไรแต่ยังจ้องผมอย่างไม่ลดละ ผมก็ไม่ยอมเหมือนกัน ต่างคนต่างอยู่สิวะ ต่อให้พ่ออิเจ๊มาเองก็ผมก็ไม่ฟังหรอก อย่าคิดจะมาใช้วิชานางมารแถวนี้ นี่เกิดใหม่แล้วโว้ย นางซินได้ตกส้นเข็มตายไปแล้ว เหลือแต่มู่หลานผู้สู้สุดใจ เก็บอำนาจมืดไปลงกับเหล่าบรรดาเจ้าหญิงในห้องมึงเถอะ กูกบฏ! กูต่อต้าน! กูจะเป็นตัวของตัวเอง!

“อ๊ะ”

ฮะเฮือก อิเจ๊มันกระตุกยิ้มมุมปากอย่างชั่วร้าน ก่อนจะ...

“กูว่าสเต๊กปลาก็น่าลอง เมนูแนะนำของร้านด้วย”

“ตกลงมึงเปลี่ยนนะ” ไอ้แฟ้มถามย้ำ

“อะอืม”

ผมไม่ได้กลัวอิเจ๊นะ ไม่ได้กลัวสายตาหรือน้ำเสียงกึ่งข่มขู่บังคับนั่นสักนิด คนอย่างอิเจ๊อ่ะมีขู่ที่ไหน ลืมไปว่าอย่างอิเจ๊น่ะคนจริงพอ!

ฮือออ มันลูบขาผมอ่า ลูบแบบไอ้เสี่ยลามก แล้วก็ทำท่าจะลูบขึ้นมาเรื่อยๆด้วย

มึงเป็นตุ๊ด! ลืมแล้วเร้อออออออ

ถึงโต๊ะฝั่งที่ผมนั่งจะมีแค่ผม อิเจ๊ และพี่ผู้ชายก้ามปูที่ถึงแม้พี่เขาจะนั่งเล่นมือถืออยู่ก็ใช่ว่าจะไม่หันมาเห็นนี่

แล้วถ้าอิเจ๊พิชมันบ้าไม่ลูบขาผมแค่ส่วนที่อยู่ใต้โต๊ะ แต่ทำอะไรหรือพูดบางอย่างที่ทำให้ความลับแตกขึ้นมาทำไงอ่ะ

ไหนว่าเหยียบสุดตีนไง กูเหยียบอยู่คนเดียวเนี่ย มึงอ่ะคุ้ยตลอดเลย

อิ นาง มาร ร้าย

โฮวววววววว



#เมียตุ๊ด







หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 5 [P.3]< 27.10.2018
เริ่มหัวข้อโดย: ก้อนขี้เกียจ ที่ 27-10-2018 07:29:19
ชอบบบบบ มาต่อไวๆ นะคะ :mew1:
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 5 [P.3]< 27.10.2018
เริ่มหัวข้อโดย: naezapril ที่ 27-10-2018 07:29:46
ควงผช.แล้วมาลูบน้องเฉยยยยย
น้องงงงง​ หึงหรอลูก
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 5 [P.3]< 27.10.2018
เริ่มหัวข้อโดย: GBlk ที่ 27-10-2018 07:38:57
ร้ายคงเส้นคงวาาา
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 5 [P.3]< 27.10.2018
เริ่มหัวข้อโดย: Hirose ที่ 27-10-2018 09:34:10
 :laugh: :laugh:
โธ่ลูก...ลูกหวังอะไรอยู่
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 5 [P.3]< 27.10.2018
เริ่มหัวข้อโดย: Chompoo reangkarn ที่ 27-10-2018 10:38:50
เจ๊พิชชี่นางเป็นนางมารที่แท้ทรู
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 5 [P.3]< 27.10.2018
เริ่มหัวข้อโดย: papapoope ที่ 27-10-2018 11:28:38
เจ๊อย่าแกล้งน้องงง
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 5 [P.3]< 27.10.2018
เริ่มหัวข้อโดย: 19th ที่ 27-10-2018 14:10:01
 o22 o22 o22
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 5 [P.3]< 27.10.2018
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 27-10-2018 15:53:11
  อ้าว. อิเจ้ควางผู้ก้ามปูมาทำไม


หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 5 [P.3]< 27.10.2018
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 27-10-2018 19:09:02
เจ๊ รมณ์เสียทั้งวันเพราะตาร์สินะ   :really2: :serius2: o22

เจ๊พิช  สาวเสียบ  :z3:

เจ๊พิช   ตาร์    :กอด1: :กอด1: :กอด1:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 5 [P.3]< 27.10.2018
เริ่มหัวข้อโดย: omuya ที่ 27-10-2018 20:14:27
55555555 โอ๊ยยว เจ๊ เด็กมันกลัวนะ
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 5 [P.3]< 27.10.2018
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 27-10-2018 20:50:25
 :z1: :z1:
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 5 [P.3]< 27.10.2018
เริ่มหัวข้อโดย: naruxiah ที่ 27-10-2018 22:42:54
ยังไม่เข้าที่เข้าทางทั้งสองคน​ กลูต้าพึ่งหนีมาเจอชอตให้หึง​ เจ้ก็เป็นไรยอมให้คนอื่นจูบเนี่ย
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 5 [P.3]< 27.10.2018
เริ่มหัวข้อโดย: mijimaria ที่ 28-10-2018 20:51:44
อ่ะแหนะๆ มีหึงๆ ว่าแต่เจ๊พาใครมาคะเนี้ย หวังว่าไม่ใช่แฟนหรือกิ๊กเจ๊นะ  :impress2: :impress2:
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 5 [P.3]< 27.10.2018
เริ่มหัวข้อโดย: aoihimeko ที่ 28-10-2018 22:25:23
ผช.คนนั้นเป็นใคร คงไม่ใช่แฟนหรอกเนาะ

เจ๊อย่าลืมว่ามีเมียแล้วนะ
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 6 [P.3]< 3.11.2018
เริ่มหัวข้อโดย: mod-cup ที่ 03-11-2018 06:25:46


ตอนที่ 6
ม่านหมอกในดวงตา



แอ๊ด

“มาอีกละ”

“บ่นแต่ก็เปิดประตูให้กูตลอด”

ปากบางสีชมพูอมส้มจากลิปสติกเบะออก ยักไหล่ไอด้อนแคร์แล้วเบี่ยงตัวเดินแทรกเข้ามาในห้อง ผมกรอกตามองบนก่อนปิดประตูแล้วลากสังขารไปนั่งเล่นเกมคอมพิวเตอร์ต่อ ปล่อยไปครับอย่าไปสนใจสัมภเวสีที่ชอบมาล่องลอยขอส่วนบุญเป็นประจำ

ถามว่าทำไมผมถึงยอมเปิดประตูให้

ลองไม่เปิดสิ ยืนทุบประตูแหกปากเรียกอยู่นั่นแหละ หนักๆนี่ตะโกนด่าเลย อายห้องอื่นเขานะครับ หน้าผมยางมันน้อยไม่ได้ฉาบให้หนาแข็งแรงทนทานแบบใครบางคน

นอกจากหน้าหนาแล้วยังเป็นพวกชอบกลืนน้ำลายตัวเอง ปากพูดอะไรไว้จำไม่เคยได้ น้ำแตกแล้วแยกทางมีอยู่จริงแต่ไม่ใช่กับอิเจ๊หน้ามึนแน่นอน นอกจากจะไม่เข้าใจคำว่าชีวิตใครชีวิตมันแล้ว ยังไม่สำนึกว่ากำลังรุกล้ำพื้นที่ส่วนตัวคนอื่น

‘ของเมียก็เหมือนของผัว ห้องมึงก็เหมือนห้องกู’

…แบบนี้ก็ได้หรอวะ

เพราะหลังจากที่แยกกันที่ร้านสเต๊กให้ผมคิดว่าทุกอย่างคงจบลงสักที แต่ก็ไม่...ทุกเย็นจะเห็นอิเจ๊มาเสนอหน้าที่ห้องพร้อมอาหารเย็น ถ้าวันไหนมีงานก็จะโผล่มาดึก แต่ถ้าเป็นเสาร์อาทิตย์เที่ยงก็โผล่แล้ว

เรียกว่าไม่ได้มีเวลาให้ผมได้ตั้งสติเลยแม้แต่น้อย

วันนี้วันเสาร์ แต่มาตอนเย็นแฮะ ค่อยดีหน่อย

“มากินข้าว”

“กินแล้ว” ปากตอบแต่ตายังจ้องหน้าจอ มือยังกดเมาท์ยิกๆ ตายๆตายยย

“มื้อไหน”

“เช้า”

“นี่มันห้าโมงเย็นแล้ว”

“จิ๊”

ขัดใจจริงโว้ย ยังไม่หิวอ่ะ อยากเล่นเกมมากกว่า วันนี้มันเสาร์นะ วันหยุดอ่ะ อิทสะมายวีคเคนอ่ะยูโนว์? เราจะกินจะขี้จะนอนตอนไหนก็ได้มั้ยอ่ะ

“อย่าให้ต้องเรียกรอบสองนะ”

“ก็ไม่หิว”

โป๊ก

ไม่ทันขาดคำขวดยาคูลท์เปล่าก็ลอยมากระแทกหัว เจ็บอ่ะไม่เท่าไหร่ แต่ไอ้ที่เหลือติดก้นมันกระเด็นเลอะมั้ยอ่ะ เลอะเทอะได้ตลอด ผมเพิ่งสระผมเมื่อเช้าเองนะ!

“ทำไมเจ๊สกปรกว๊า”

“มากินข้าว”

“เออ!”

ผมกดหยุดเกมส์แล้วลุกเดินไปที่โต๊ะญี่ปุ่นกลางห้องที่มีจานผัดไทสองจานวางอยู่พร้อมน้ำเปล่าสองแก้ว ขืนให้เรียกรอบที่สามมีหวังคงไม่ใช่แค่ขวดนมเปล่า มีจานมีแก้วลอยมาบ้างแหละ

ผมยังไม่อยากหัวโนไปเรียนวันจันทร์หรอกนะ มันไม่คูล!

“มันมีกุ้งแห้ง” ผมก้มมองจานผัดไทตรงหน้า ไม่ชอบกินกุ้งแห้ง มันเค็มอ่ะ แล้วนี่กุ้งแดงฝอยๆเต็มจานเลย

“ของมึงจานนี้มั้ยล่ะ” อิเจ๊เลื่อนอีกจานตรงข้ามมาให้ และดึงจานตรงหน้าผมไป

ค่อยคุยกันได้ขึ้นมาหน่อย

“แดกฟรีแล้วยังเรื่องมาก”

“ก็ไม่ได้ขอให้ซื้อมาให้”

“ปากดี”

“เก่ง”

“จ้ะ”

ที่กล้าต่อปากต่อคำนี่ไม่ใช่อัพเวลเพิ่มขึ้นหรอกนะครับ แต่จับรู้สึกได้ว่าวันนี้อิเจ๊มันดูอารมณ์ดี ลองคิ้วขมวดหน้าหงิกมาสิแค่หายใจผมยังไม่ค่อยจะกล้าเลย เห็นหล่อๆแบบนี้ผมก็กลัวตายนะคร้าบบบบบ

“มีอีเวนต์หรอ”

“อืม”

ถึงว่า แต่งตัวซะสวยเชียว

ถึงแม้อิเจ๊จะปล่อยผมยาว รักสวยรักงาม แต่ก็ไม่ค่อยเห็นใส่กระโปรงแต่งหญิงแต่งหน้าจัดเต็มหรอกครับ ส่วนมากจะเป็นกางเกงยีนหรือไม่ก็สกินนี่สีเข้มกับเสื้อเชิร์ตสีอ่อนซะมากกว่า แต่วันนี้มาเต็มชุดใหญ่ไฟกระพริบ แต่งหน้าเป็นสาวหวานสไตล์เกาหลี ผมก็ดัดลอน ทั้งชุดยังเป็นเดรสสายเดี่ยวสีน้ำตาลอิฐระบายตรงชายกระโปรงขับผิวให้ขาวผ่องขึ้นไปอีก

และเรียกขนแขนให้ลุกชัน

คือมันสวยจนขนลุกอ่ะ

เปรตร้อยแปดสิบเซ็นต์ใส่เดรสทำไมถึงดูดีได้วะ

“งานไรอ่ะ”

“art liper เปิดตัวเครื่องสำอางค์ไลน์ใหม่”

“ที่พี่มึงรีวิวแต่งหน้ารับฮาโลวีนนั่นอ่ะนะ”

“อืม”

ผมก็ไม่ค่อยรู้เรื่องอะไรมากหรอก ไม่ค่อยเข้าใจเรื่องความสวยความงามเท่าไหร่ แต่เห็นคลิปผ่านๆก็สวยดี

“ใช้แบรนด์เค้ามาแต่งรีวิว เลยได้ไปอีเวนต์ด้วยงี้หรอ มันจะเกินไปแล้ว”

“เก่ง”

แค่กๆเส้นจันทร์ติดคอเลยกู

ขี้ลอก อ่ะโด่ววว







“เจ๊ เมื่อไหร่จะกลับอ่ะ”

“ไล่?”

“เออดิ ดึกแล้ว”

สี่ทุ่มแล้วครับ อะไรคือการกินเสร็จ ก็มาขออาบน้ำห้องคนอื่น หลับไปบนเตียงคนอื่นหน้าตาเฉยๆทั้งที่ยังอยู่ในชุดคลุมอาบน้ำสีขาวของคนอื่นอีกต่างหาก

แล้วตื่นมายังมาแย่งมือถือคนอื่นไปกดเล่นอีก

“ปกติตีสามตีสี่ยังเห็นออน ตอแหลทำมาสี่ทุ่มดึก”

“มารบกวนคนอื่นแล้วด่าแบบนี้ก็ได้หรอ”

“รบกวน? นี่หาข้าวหาน้ำให้แดก ตรวจรายงานให้นี่คือรบกวน”

“ก็...ไม่ได้ขอป่าวอ่ะ”

“เนรคุณจริงๆ”

“…”

“เลี้ยงไม่เชื่อง”

“เกินไป”

“หึ มานั่งนี่”

“ไม่”

ผมไม่มีทางขึ้นไปนั่งบนเตียงข้างมันเด็ดขาด อันตราย

“ตามใจ ที่วงแดงๆไว้คือทุเรศนะ แบบว่าถ้ากูเป็นอาจารย์คงฉีกทิ้งไม่ส่งกลับมาให้แก้หรอก” อิเจ๊ที่กึ่งนั่งกึ่งนอนเหยียดยาวอยู่บนเตียงปิดเล่มรายงานแล้วโยนไว้บนเตียง ทำท่าจะลุกออกจากเตียงให้ผมรีบถลาเข้าไปเกาะขาไว้

“แหม มันก็ไม่ได้แย่ขนาดนั้นมั้ง ก็พูดจาเกินไปอ่ะ” ผมส่งเสียงกระเง้ากระงอด สองมือจับขาที่ปล่อยลงข้างเตียงขึ้นไปไว้บนเตียงเหมือนเดิมพลางกดบีบนวดให้

“เกินไปสิ เรียนมัธยมมาเค้าไม่ได้สอนหรอวิธีเขียนรายงานทำยังไง เนื้อหาก็เจิ่งนองเป็นน้ำ กทม.รอการระบาย นี่ใส่สน็อกเกิ้ลแล้วกระโดดตูมลงไปในรายงานมึง ดำน้ำดูปะการังเพลินเลย”

ยิ่งกว่าน้ำท่วมทุ่งผักบุ้งโหลงเหลง ก็เล่นใหญ่ขนาดลงไปดำน้ำกันเลยนี่แหละ

ฮือ ความหน้าชานี้ เอารองเท้ามาฟาดหน้ายังไม่รู้สึกอะไร T^T

มันต้องแย่ขนาดไหนกันนะ

“แล้วรูปที่เลือกมาใส่ในรายงานนี่แตกนี้ยิ่งกว่าส้นเท้าอาม่ากูอีก”

อิเจ๊มันหยิบสมุดรายงานขึ้นมาเปิดอีกครั้งแล้วจิ้มนิ้วลงไปยังรูปที่มีรอยปากกาสีแดงกากบาทอยู่

โห ทำร้ายจิตใจกันเกินไปแล้ววววว

“มึงรู้มั้ยว่าทำไมอาจารย์ถึงให้มึงทำใหม่”

“กูทำแย่”

“แล้วทำไมถึงทำแย่ล่ะ”

“ก็ทำปกติอ่ะ ไม่รู้มันจะแย่”

“หรอ ไม่รู้หรือไม่ใส่ใจ”

“ไม่ใช่นะ กูตั้งใจทำ กูนั่งทำทั้งคืนไม่ได้นอนเลยนะเว้ย”

“นี่ไง...” อิเจ๊ม้วนเล่มรายงานเคาะลงบนศีรษะผมเบาๆสองสามที ไม่เจ็บหัวแต่สายตาที่มองมาอย่างตำหนิก็ทำเอาใจเสียไปไม่น้อย

มาท่านี้แล้วด่ายาวชัวร์ นั่งพับเพียบพนมมือรอเลยได้เลย ฟังเทศน์เสร็จก็ก้มกราบสามที

เอ้า นักเรียน กราบบบบบบบ

“อดหลับอดนอนทำงานไม่ได้หมายถึงตั้งใจนะ...มันเป็นเพราะการไม่ใส่ใจ ไม่วางแผนงาน คิดว่าแค่มีส่งๆไปแต่ไม่คิดถึงคุณภาพของเนื้องานที่ได้”

ผมเม้มปากหลบตา จะมองขาดเกินไปแล้ว ก็จริงแหละ ผมเป็นพวกชอบดองงาน แล้วมาเร่งทำเอาก่อนวันส่ง ใช้เวลาที่เหลือไปกับการออกไปเที่ยวเล่นกับเพื่อน เล่นเกม ดูหนังฟังเพลงไปเรื่อย พอถึงวันใกล้จะส่งเท่านั้นแหละพลังงานบางอย่างในตัวจะขับเคลื่อนพวยพุ่งออกมาจนได้เป็นชิ้นงานร้อนๆเสิร์ฟอาจารย์

ก็เหมือนขนมปังไง อบเสร็จใหม่ๆร้อนๆ น่ากินดีออก ก็นึกว่าคนอื่นจะชอบด้วย T^T

“อย่างนี่...เนื้อหาไม่สอดคล้องกับหัวข้อที่ให้ ที่พอจะใช้ได้ดูก็รู้ว่าก็อปจากเว็บมา อธิบายยืดเยื้อไม่กระชับเขียนวนไปวนมา อย่างรูปนี่ก็เสิร์ชกูเกิ้ลเจอรูปไหนขึ้นรูปแรกก็เอามาเลยใช่มั้ย”

“…” ทำไมรู้...

“เอกสารอ้างอิงก็เขียนผิดจนน่าเกลียด เอาเว็บไซด์กูเกิ้ลมาแปะแบบนี้ใช้ได้ที่ไหนกัน เด็กอนุบาลยังรู้เลยว่าไม่ควรทำ ไม่ใช่แค่ไม่ให้เกียรติต้นฉบับที่ใช้อ้างอิง ยังดูถูกตัวเองอีก งานสะท้อนตัวตนเคยได้ยินมั้ย”

“…”

“ถ้ามึงยังไม่ปรับปรุงตัว ยังทำงานชุ่ยๆแบบนี้อยู่ มึงอาจจะเรียนจบได้แต่ไม่ใช่คนคุณภาพแน่นอน”

“ก็กูเรียนไม่เก่ง”

“คนคุณภาพไม่ได้หมายความว่าต้องได้เกรดเฉลี่ยสูง ต้องรู้จักพัฒนา ปรับปรุง มีความรับผิดชอบ และคิดอย่างถี่ถ้วนรอบคอบ อย่ามีหัวไว้แค่เลี้ยงเหา หัดใช้สมองบ้างปล่อยเบลอมากๆระวังมันจะเสื่อมไปซะก่อน ค.ว.ย. อ่ะรู้จักมั้ย คิด วิเคราะห์ แยะแยะ หรือรู้จักแต่ *วยกู”

“อิเจ๊!”

กูเกือบสลดแล้วเชียว ถ้ามึงไม่ขุดเรื่องบัดสีมาพูดอีก

“อย่ามาทำเป็นโวยวายเดี๋ยวตบปากแตก หรือกูพูดผิด วันนี้ก็นั่งเล่นเกมทั้งวัน กูเห็นนั่งเล่นมาตั้งแต่เมื่อคืน งานใหม่ให้เดายังไม่ได้เริ่มทำ งานเก่าก็ยังไม่ได้แก้ ทำไมกลัวใช้ชีวิตไม่คุ้มหรือไง เขาให้เปอร์ได้แปดปี มึงก็จะเรียนยันปีแปดเลยว่างั้น”

“ปากอ่ะเจ๊”

แทงใจดำชิบ T^T แล้วใครจะอยู่แปดปี สี่ปีก็พอเว้ย ผมจะจบพร้อมเพื่อน เราจะรับปริญญาถ่ายรูปที่ป้ายหน้ามหาวิทยาลัยไปพร้อมๆกัน

“แล้วยังไงจะฟังมั้ยว่าแต่ละจุดควรแก้ไขตรงไหน หรือจะไล่กูกลับอีก?”

“ฟัง ว่ามาสิ”

ผมไหลสารร่างลงไปนั่งบนพื้นข้างล่าง เอาคางเกยที่นอนนุ่มๆ อย่างรอฟังคำแนะนำการแก้ไขงานโดยผู้เชี่ยวชาญที่ผ่านการเรียนรู้มาเกือบสี่ปี

“มาทำตาใสเป็นหมารอกระดูก เฮ้อ ถ้าไม่ติดว่ากูรักนะจะบีบคอมึงให้ตายเลย”

“อะอะไรเล่า”

“ไปหาสมุดปากกามาจดสิ กูพูดไปสมองไข่กบแบบมึงจะจำได้หมดมั้ย กูไม่ทำให้นะบอกเลย แค่แนะนำเฉยๆ”

“คร้าบบบ แม่คร้าบบบบ”

“เดี๋ยวเถอะ”

แล้วในจังหวะที่อิเจ๊เหลียวหลังไปคว้าหมอนข้าง ซึ่งไม่ต้องเดาเลยว่ามันจะเป็นอาวุธมาทำร้ายผมแน่ๆ ผมก็จัดการวิ่งหนีไปที่โต๊ะหนังสือ หยิบกระดาษเอสี่เปล่ากับปากกามาจดตามที่อิเจ๊สั่ง

ยังดีที่นางมารยอมรามือผมถึงกล้ากลับไปนั่งบนพื้นข้างเตียงอีกครั้ง ซึ่งอิเจ๊ก็เปลี่ยนจากท่ากึ่งนั่งพิงหัวเตียงมาเป็นนอนคว่ำหน้าเอาหมอนหนุนแขน เปิดรายงานที่เต็มไปด้วยรอยขีดเขียนด้วยปากกาสีแดงและเริ่มต้นวิจารณ์สิ่งที่ต้องแก้ไขและปรับปรุง

ซึ่งผมก็ตั้งใจฟังและจดตามอย่างละเอียด พลาดไม่ได้แล้วนะครับ ส่งรอบสองนี่ไม่มีโดนตีกลับมาแก้นะ โยนทิ้งถังขยะอย่างเดียว ทำไมชีวิตเด็กปีหนึ่งที่เพิ่งปรับตัวกับระบบการเรียนในมหาวิทยาลัยมาได้แค่เทอมเดียวต้องมาเจออาจารย์เขี้ยวลากดินขนาดนี้ก็ไม่รู้ ฮือ ตาร์ไม่ไหว ตาร์อยากตาย T^T

“แก้เสร็จแล้วก็ส่งไฟล์มา เดี๋ยวช่วยดูให้”

“ช่วยทำด้วยไม่ได้หรอ ฟังแล้วแลยากจัง”

“ไม่ยากหรอก แค่ต้องหาข้อมูลเยอะหน่อย” แล้วอิเจ๊ก็ก้มเขียนอะไรบางอย่างบนหน้าปกรายงาน “อ่ะนี่ ชื่อหนังสือที่ต้องใช้ บางทีข้อมูลในเว็บไซต์ก็ไม่ละเอียดพอ กูรู้ว่ายุคนี้มันยุคไอทีแต่บางเนื้อหาสาระในหนังสือก็ครบถ้วนกว่า อย่ามักง่ายสักแต่ก็อปปี้เพท”

“ก็มันง่ายดี เขาสรุปมาให้แล้ว ไม่ต้องมานั่งย่อเอง”

“มีสมองก็ใช้ก่อนมันจะฝ่อ ก็อปยกมาทั้งแผงก็ดูถูกสมองเด็กมหาลัยเกินไปมั้ง”

เหยียดตามองขนาดนี้ก็ด่ากูเลยว่ากูโง่ กูชุ่ย ฮือ ไหนว่าชอบกูไง ตรงไหนที่ว่าชอบบบบบ

“เจ๊…ช่วยหน่อยดิ”

งานมันต้องส่งวันจันทร์แล้วอ่ะ พรุ่งนี้ผมไม่แน่ใจเลยว่าจะทำทัน ไหนจะต้องไปยืมหนังสือที่หอสมุด ไหนจะต้องมานั่งเรียบเรียง สรุป พิมพ์ จัดหน้า โอ๊ย จะเสร็จกี่โมงอ่ะ

“โนว วันนี้อยู่ว่างๆแทนที่จะค่อยๆทำไปก็มัวแต่เล่นเกม”

“ก็รอเจ๊มาดูให้ก่อนไงว่าต้องแก้ตรงไหนถึงจะดี”

“อย่ามาอ้าง ส่วนที่ทำไปก่อนได้ก็มี”

“เจ๊ T^T”

“คืนนี้ก็ทำเท่าที่ทำได้ไปก่อน ส่วนไหนที่ต้องใช้ข้อมูลอ้างอิงก็เว้นไว้”

ผมมองเล่มรายงานที่ถูกแก้ด้วยปากกาแดงเถือกทั้งเล่มอย่างอ่อนใจ เฮ้อ เอาวะ อย่างน้อยอิเจ๊ก็แนะแนวทางให้ แก้ให้จนผมเหลือแค่ทำตามอย่างเดียวแล้วเนี่ย

นี่ไง ถึงจะบอกว่าไม่ช่วย ไม่ทำให้ แต่ที่วงๆกาๆเขียนๆไว้ก็เหมือนรายงานเสร็จไปเกือบห้าสิบเปอร์เซ็นต์แล้วอ่ะ

เหมือนขึ้นเสาบ้าน ก่ออิฐ ฉาบปูนไว้ให้แล้ว เหลือให้ผมมาทาสี มุงหลังคา กับตกแต่งภายในนิดหน่อยเท่านั้น

“มองอะไร” เจ๊ที่นอนคว่ำก้มหน้าตอบข้อความในมือถืออยู่เงยหน้าขึ้นมามอง

ผมส่ายศีรษะก่อนยิ้มบางๆ

“ขอบคุณนะเจ๊”

“เปลี่ยนเป็นอย่างอื่นได้ป่ะ”

“อะไรอ่ะ”

“มาจูบหน่อย”

“เฮ้ย”

ผมดีดตัวลุกและถอยหนีไปจนสุดห้อง

“ละเล่นอะไรอ่ะเจ๊ ไม่ตลกนะเว้ย”

อิเจ๊กรอกตามองบนก่อนลุกลงจากเตียง หน้าผมเลิ่กลั่กเลย เหยยยยย กลัวนะเนี่ยยย อย่าเดินเข้ามา ออกไปไกลๆ ฮือ

“ชิ กูหมดอารมณ์ละ นี่ผู้มีพระคุณไม่ใช่แมลงสาป โปรดให้เกียรติ”

“ก็มึงอ่ะเจ๊...นิสัย”

“กูก็แค่ปากตรงกับใจ รู้สึกยังไงก็พูดไปตามนั้น”

“มันไม่ดี เมื่อไหร่จะเลิก” มันทำให้ผมหวาดระแวงนะเว้ย อิเจ๊มันจ้องจะวอแวตลอดเลยอ่ะ ฮือ ชีวิต

“ทำไม รักชอบใครสักคนมันผิดยังไง”

“ไม่ใช่กับเราสิวะ” ผมวิ่งหนีมาที่ระเบียง เมื่ออิเจ๊เดินมาตรงโซฟากลางห้อง “เป็นพี่น้องกันไม่ได้หรอ...”

อิเจ๊มันน่ารักมากเลย ผมยังอยากมีมันอยู่ในชีวิต เป็นพี่เป็นน้องสาขาที่ช่วยเหลือกันไป ไม่ใช่แบบนี้อ่ะ มันไม่ใช่ เข้าใจความรู้สึกผมมั้ยอ่ะ T^T

ผมอึดอัดนะ

ครืด ครืด

ขอบคุณสตีฟจ็อบที่ทำให้โลกนี้มีไอโฟนถือกำเนิดขึ้น ให้คนที่จดจ้องผมไม่วางตาด้วยสายตาที่หลากหลายความรู้สึกละลงไปมองหน้าจอที่สว่างวาบก่อนจะกดรับ

“อืม กำลังจะลงไป กินแล้ว อืม ห้านาที” อิเจ๊เก็บมือถือลงกระเป๋าเป้ที่สะพายมาด้วย ถอดชุดคลุมออกให้ผมรีบหมุนตัวหันหลังหลับตาปี๋ อะไรคือนึกอยากจะแก้ผ้าตรงไหนก็แก้ แบบนี้ก็ได้หรอ ฮือ ไม่เห็นใจกันเลย

แกร๊ก

เสียงเปิดประตูให้ผมรีบหมุนตัวกลับไปมอง

“จะกลับแล้วหรอ”

“อืม”

“กลับไงอ่ะ” มึงก็ถามโง่ๆเนอะไอ้ตาร์ เมื่อกี้ก็ได้ยินอยู่ว่ามีคนมารอรับ!

“พอร์ชมารับ”

พี่ผู้ชายกล้ามปูที่เคยเจอที่ร้านสเต๊กสินะ เห็นเรียกชื่อกันอยู่ แล้วทุกครั้งที่อิเจ๊มาห้องผมนะ ต้องเป็นพี่คนนี้มารับมาส่งทุกที!

“มีอะไรหรือเปล่า” อิเจ๊ที่ก้มใส่รองเท้าหลังจากเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จเงยหน้ามองผมที่เดินเข้ามาใกล้

ผมส่ายหัว แล้วหยิบกระเป๋าเป้ส่งให้

“พรุ่งนี้จะมามั้ย...”

“น่าจะไม่ มีธุระ”

“ไหนว่าพรุ่งนี้ไม่มีงาน”

“ธุระส่วนตัวน่ะ”

“กับพี่พอร์ชหรอ”

“อืม”

เดทสินะ

อิเจ๊ยื่นมือมารับกระเป๋าคล้องไว้บนไหล่พลางจ้องหน้ากันด้วยสายตานิ่งๆ

“อยากให้มาหรอ”

“ไม่อ่ะ”

ซะที่ไหน

ใจหนึ่งก็ไม่อยากให้มาจริงๆนั่นแหละ มันอึดอัด

แต่อีกใจพอคิดว่าที่จะไม่ยอมมาหาเหมือนทุกวันเพราะจะไปกับใครอีกคน มันก็รู้สึก...เหมือนถูกลดความสำคัญ

“อืม จากที่ไล่ก็พอรู้”

“คือกู...”

“แต่กูหน้าด้าน ถ้ามีเวลาจะแวะมาแล้วกัน ถ้ามาไม่ได้จะส่งข้อความมาบอกจะได้ไม่ต้องรอ”

“ใครจะรอ จะหนีสิไม่ว่า”

“แล้วแต่” อิเจ๊ยักไหล่ไอด็อนแคร์ท่าประจำก่อนยื่นมือมาขยี้หัวผมจนฟูฟ่อง หมุนตัวเปิดประตูให้อ้ากว้างแล้วก้าวขาออกไป

หมับ

“หือ?”

อะไอ้มือเวรรรรรรร ไปจับชายกระโปรงของอีกฝ่ายไว้ทำไม ดูสิ เอี้ยวตัวมามองกันด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยคำถาม ฮือออ

“อ่อ กระโปรงเลอะน่ะ ปัดอออกให้”

“อืม งั้นไปแล้วนะ เจอกัน”

“อื้อ ‘พรุ่งนี้’ เจอกัน”

ผมจงใจเน้นคำว่าพรุ่งนี้ ไม่รู้สิ ลึกๆผมก็รู้สึกว่าตัวเองเห็นแก่ตัว อยากให้เขาเลือกที่จะมาหาผมมากกว่าไปทำธุระกับไอ้พี่พอร์ชนั่น ไม่อยากให้รอว่างหรือเสร็จธุระแต่อยากให้มาหาเลย มาหากันเหมือนทุกวัน แล้วยกเลิกนัดนั่นไปซะ ไม่ต้องไปเจออีกเลยยิ่งดี

แต่อีกใจก็คิดว่าดีแล้ว สมควรแล้ว ถ้าอิเจ๊กับพี่พอร์ชก้ามปูไปกันได้ด้วยดีมันก็จะได้เลิกยุ่งกับผมสักที เลิกรู้สึกในทางชู้สาว แล้วมาเป็นพี่น้องกันได้ในแบบที่ผมหวังไว้

แต่ทำไมกันนะ...ผมถึงรู้สึกวูบโหวง

ไม่สบายใจเลย...

สงสัยเพราะร่างกายขาดน้ำตาลมั้ง เลยรู้สึกเหมือนไม่มีแรง

เฮ้อ หาช็อกโกแลตในตู้กินดีกว่า

เพิ่งพลังงานให้ร่างกาย

เผื่อพอมีแรงแล้วจะหายจากอาการบ้าๆนี่สักที


#เมียตุ๊ด

หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 6 [P.3]< 3.11.2018
เริ่มหัวข้อโดย: Hirose ที่ 03-11-2018 07:50:45
 :z3: :z3:
น้องงงงงงงถูกเจ้แกมัดไว้แล้วแก้ยากนะ
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 6 [P.3]< 3.11.2018
เริ่มหัวข้อโดย: cheezett ที่ 03-11-2018 08:56:04
เอาแล้วๆๆ เด็กน้อยเอ้ยย5555
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 6 [P.3]< 3.11.2018
เริ่มหัวข้อโดย: Chompoo reangkarn ที่ 03-11-2018 10:20:43
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 6 [P.3]< 3.11.2018
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 03-11-2018 19:35:41
 :mew2: :mew2:
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 6 [P.3]< 3.11.2018
เริ่มหัวข้อโดย: naruxiah ที่ 03-11-2018 20:44:00
แทงกั๊กกันทำไมแผนเจ้ให้น้องมันรู้ตัวป่าว​
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 6 [P.3]< 3.11.2018
เริ่มหัวข้อโดย: papapoope ที่ 04-11-2018 01:19:11
น้องลูกกก
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 6 [P.3]< 3.11.2018
เริ่มหัวข้อโดย: ooomukooo ที่ 04-11-2018 01:55:23
น้องดูท่าจะรอดยาก
ติดพี่เขาแล้ว  :hao7:
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 6 [P.3]< 3.11.2018
เริ่มหัวข้อโดย: MinorMa ที่ 04-11-2018 06:14:28
รอตอนต่อไปน้าา
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 6 [P.3]< 3.11.2018
เริ่มหัวข้อโดย: aoihimeko ที่ 04-11-2018 15:31:04
พอร์ชนี่เดาว่าเป็นสปีชี่เดียวกับเจ้

ส่วนต้าร์  ทำไมหนูซื่อบื้อ :m16:
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 6 [P.3]< 3.11.2018
เริ่มหัวข้อโดย: omuya ที่ 04-11-2018 20:11:37
เด็กน้อย รู้ใจตุวเองเร็วๆนะ ก่อนที่เจ๊มันจะหยุดกับคนอื่น
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 6 [P.3]< 3.11.2018
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 04-11-2018 22:25:18
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 6 [P.3]< 3.11.2018
เริ่มหัวข้อโดย: Supparang-k ที่ 05-11-2018 13:31:55
หึหึ   เด็กน้อยยังไม่รู้ใจตัวเองสินะว่าต้องการเจ๊  กิ้ววววววว
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 6 [P.3]< 3.11.2018
เริ่มหัวข้อโดย: Ladyfern161237 ที่ 10-11-2018 17:50:13
  :impress2: โห่ย ชอบเจ๊อ่า คนแมนที่แท้จริง
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 6 [P.3]< 3.11.2018
เริ่มหัวข้อโดย: MayuYume ที่ 11-11-2018 11:10:21
เป็นแนวที่หายากมากชอบมากเบยค่ะ เจ๊อย่างแมน 5555555
รอตอนต่อไปเบยคร๊าาา  :hao7:
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 6 [P.3]< 3.11.2018
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 11-11-2018 13:08:43
เจ้รุกคืบ

เจ้รุกฆาต
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 6 [P.3]< 3.11.2018
เริ่มหัวข้อโดย: ChocoPop ที่ 12-11-2018 08:22:02
รออยู่น้าาา มาต่อไวๆ อยากเห็นเจ๊คนสวยรุกอีก 5555
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 7 [P.4]< 16.11.2018
เริ่มหัวข้อโดย: mod-cup ที่ 16-11-2018 23:33:35


ตอนที่ 7
I do




Pitchy’s part



ปัง!

“ปิดเบาๆก็สนิทแล้วจ้า”

“อย่าเพิ่งกวนตีน”

“อุ่ย”

ไอ้คนที่นั่งตำแหน่งคนขับทำท่าเป็นสะดุ้งแล้วแอบหันหน้าไปขำเบาๆก่อนออกรถ เดี๋ยวมึงจะโดนกูแดกหัวเดี๋ยวก่อน คนยิ่งหงุดหงิดๆอยู่

“ไปบ้านเลยหรือเปล่า”

“แวะคอนโดเปลี่ยนชุดก่อน” มีหวังไปชุดนี้พ่อได้เป็นลมพอดี

“รับทราบครับ”

ผมเปิดคอนโซลหน้ารถหยิบยางมัดผมที่มีติดรถไว้ขึ้นมามัดขมวดเป็นปมไว้กลางศีรษะ ตอนนี้อะไรก็ดูยุ่งเหยิงน่ารำคาญไปเสียหมด แม้แต่ผมยาวสลวยที่ผมรักนักหนาก็ไม่เว้น

“น้องมันขัดใจอะไรอีกล่ะ”

“เสือก”

“มาทีไรก็เกรี้ยวกราดกลับมาทุกที แต่ก็ยังมาหาเค้าได้ทุกวันเนอะ”

“สาระแน ใครให้เสนอความเห็น”

“ก็แค่พูดลอยๆ”

“หุบปาก”

ขอเวลาจัดการกับอารมณ์ตัวเองสักพักนี่ไม่ได้เลย ไอ้ตัวดีข้างตัวนี่ไม่ให้ความร่วมมือเลยสักนิด พูดมากพูดอยู่ได้ ที่สำคัญมันพูดแทงใจดำด้วย

“นี่ผมยังงงอยู่เลยนะว่าพีทชอบอะไรเด็กนั่นน่ะ ดูไม่น่าใช่สเป๊กอ่ะ คนที่น้ำลายหกกับผู้ชายหุ่นล่ำกล้ามแน่น ไปติดใจอะไรกับเด็กปีหนึ่งตัวกระเปี๊ยก แถมหน้าตาโคตรอ้อยเลย”

“อ้อยพ่องอ่ะ”

“วุ้ย แค่นี้ก็หวง กับน้องกับนุ่งเนอะ”

“รุงรังมึงอ่ะ แล้วรถกูเมื่อไหร่จะคืน ไปไหนมาไหนลำบากเนี่ย” ไอ้พอร์ชมันกระโหลกขับรถไปเสยต้นโกงกางหน้ายุบไปครึ่งคัน แล้วก็ทำตัวลำไยมาตื๊อเอารถผมไปใช้ เมื่อไหร่จะซ่อมเสร็จก็ไม่รู้ ลำไยไหทองคำเป็นที่สุด

“อีกสักอาทิตย์อ่ะ ลำบากตรงไหนผมก็ไปรับไปส่ง”

“ไปไหนทีก็ต้องโทรเรียก บางทีมึงก็ไม่ว่างกูต้องเรียกแท๊กซี่ไปเอง อากาศก็ร้อน มึงรู้มั้ยแสงยูวีมันทำร้ายผิว”

“เอาน่า ให้น้องนุ่งยืมหน่อย ช่วงนี้กำลังจีบดาวพยาบาลอยู่ จะพาเดินพาขึ้นรถสาธารณะก็ไม่ไหวมั้ยอ่ะ น่า เดี๋ยวน้องได้รถเมื่อไหร่จะรีบคืนนะ”

“ย่ะ”

“ทำไม กลัวน้องน่ารักนั่นเข้าใจผิดหรอ บอกน้องไปยังอ่ะว่าผมเป็นใคร”

“ยัง”

“อ้าว ทำไมอ่ะ มางอนกันนี่ผมไม่เกี่ยวนะเว้ย”

“หึ ไม่สนใจสิไม่ว่า” เอาจริงๆถ้าอิกลูต้ามันทำท่าไม่ชอบใจหรือหึงผมคงรู้สึกดีกว่านี้แล้วรีบอธิบายว่าไอ้พอร์ชเป็นน้อง แต่มันนิ่ง มันไม่สนใจ เหมือนไม่แคร์กันเลยอะ

อยู่ๆให้ไปเอ่ยปากเองก็ดูจะเสร่อเกินไป ผมไม่ทำหรอก

ไม่ถึงสิบนาทีรถก็มาถึงคอนโด ผมขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อผ้าโดยมีไอ้ลูกพี่ลูกน้องตัวโตเดินตามมาด้วย เดินก้มหน้าก้มตากดโทรศัพท์ยิกๆยิ้มน้อยยิ้มใหญ่น่าหมั่นไส้จริง

“นั่งรอข้างนอกนี่แหละ อย่านั่งทับลูกสาวกูนะ!” ผมตีไหล่มันที่นั่งลงโดยที่ไม่มองเลยว่าอันนานอนอยู่ที่มุมโซฟา ก่อนเดินเข้าห้องนอนมาเปลี่ยนชุด เลือกเป็นกางเกงยีนกับเสื้อเชิร์ตผ้านิ่มสีขาว ผมก็รวบขึ้นมัดเป็นหางม้า

“ป่ะ”

ไอ้คนที่นั่งจิ้มหน้าจออยู่เงยหน้าขึ้นมองก่อนเลิกคิ้วสูง

“ไม่ลบเครื่องสำอางออกหรอ”

“เออ ลืมเลย” ผมเลยเดินกลับเข้าห้องนอนอีกครั้งเพื่อจัดการใบหน้าของตัวเอง เอาจริงๆพ่อก็รู้แหละว่าผมเป็นแบบไหน เคยดราม่าบ้านแตกกันมาแล้ว ทุกวันนี้ก็พอทำใจยอมรับได้บ้าง แม้จะยังไม่เต็มร้อยก็เถอะ แต่ก็ยอมลงมาเยอะ ผมเลยไม่อยากทำอะไรที่มันดูประเจิดประเจ้อมาก เดี๋ยวจะหัวใจวายตายไปซะก่อน

“เสร็จยัง”

“ใครให้เข้ามา ออกไป”

“นิดหน่อยเอง”

“ไม่ได้ ออกไปเลยไป๊”

“ขี้หวงงงง อยากจะรู้จริ๊งใครจะได้เข้ามาบ้างน้อ น้องที่เทียวไปหาเช้าเย็นเคยได้เข้ามามั้ยน้า”

เสียงโหยหวนน่ารำคาญดังไกลออกไปที่ห้องนั่งเล่น ทำไม ผมจะหวงพื้นที่ส่วนตัวไม่ได้หรอ คนสวยที่ไหนก็มักจะมีเขตแดนเป็นของตัวเองทั้งนั้น อย่างในห้องผมนี่ใครจะนั่งจะเดินไปไหนก็ได้ ยกเว้นห้องนอน หวง!

มีคนเดียวเท่านั้นแหละที่เข้ามาได้

แต่ก็ไม่เคยจะรู้ตัวสักทีว่าสำคัญขนาดไหน

ลำไยที่สุด ขัดใจ

“ป่ะ”

“เค เมื่อกี้น้าตุ่นโทรมาตามแล้ว”

“ก็ไปสิ รออะไร”

“รอพีทมั้ยล่ะคร้าบบบ”









คืนนี้ผมกลับมานอนบ้านเพราะพรุ่งนี้เช้าเป็นวันเกิดของเพ้นท์น้องชายคนเล็กของบ้าน แต่ไม่ใช่พ่อแม่เดียวกันนะครับ ผมเป็นลูกชายคนเดียวของพ่อแม่ ส่วนพอร์ชกับเพ้นเป็นพี่น้องท้องเดียวกัน แต่ลุงทรงไม่ค่อยว่างหรอกต้องไปทำงานต่างประเทศบ่อยๆ เราสามคนเลยถูกเลี้ยงมาด้วยแม่ของผม

เรียกได้ว่าโตด้วยกันมาจากเต้าเดียวกัน

เรียกได้ว่าพอร์ชกับเพ้นท์เล่นหุ่นยนต์เล่น ผมก็เล่นนะ เอาหุ่นยนต์มาเป็นบอดี้การ์ดให้เหล่าเจ้าหญิงน้อยๆของผม

“อุ้ย หลีหล่น!” ตกใจกับเงาตะคุ่มๆที่อยู่ตรงมุมบันไดขั้นบนสุด พอเพ่งมองดีๆถึงเห็นว่าเป็นใคร นึกว่าผีไม่มีหัว “พ่อ”

พ่อพยักหน้าเดินสวนลงมา

“เพิ่งกลับมาถึงหรอ”

“ครับ” นี่พยายามเก๊กเสียงให้ทุ้มสุดชีวิต ก็รู้แหละว่าพ่อจับโป๊ะได้นานแล้ว แต่ก็เกรงใจนิ๊ดนึงอ่ะนะ

“ไปพักผ่อนไป พรุ่งนี้อย่าตื่นสายล่ะ”

“ครับ”

“อืม”

เมื่อพ่อพยักหน้าแบบนั้น ผมเลยเบี่ยงตัวเพื่อเดินขึ้นไปบนบ้าน แต่ในจังหวะที่เดินสวนกันเสียงทุ้มมากด้วยอำนาจก็ดังขึ้นให้ผมเสียวสันหลัง แล้วซอยเท้าก้าวถี่ขึ้น นี่ถ้ากระโดดข้ามทีเดียวสามขั้นได้คงทำไปแล้ว

แต่ไม่ได้ไง มันขัดต่อภาพลักษณ์กุลสตรีที่แสนเรียบร้อย...

“เห็นภาพงานวันนี้ จะแต่งตัวอะไรก็ดูให้เหมาะสมหน่อยนะ”




ปัง

หลังจากสอดตัวเข้ามาในห้องและปิดประตูลง แผ่นหลังพิงประตูแล้วก็พรูลมหายใจออกมา

เชิญคุณลงทัณฑ์บรรชา จนสมอุราจนสาแก่จายยยย

โอเค โศรยาต้องหยุดโศกาก่อน คุณหฤษฎิ์ก็บ่นเราทุกครั้งที่ออกอิเวนท์อยู่แล้วเป็นเรื่องปกติ

แต่ใครหนอใครช่างเอภาพเอาคลิปมาให้พ่อผมดูอยู่นั่น

กะให้หัวใจวายตายหรือยังไงกัน ตายไปก็ไม่ได้สมบัติหรอกนะเพราะผมรอฮุบอยู่ บอกไว้เลย!

ก็หารายได้ส่งเด็ก เลี้ยงผู้ชายเนอะ ค่าเปย์ผู้ชาย ค่าดูแลผิวพรรณมันก็ไม่น้อยนะค๊า

ก็อยากจะขอโทษเจ้าคุณพ่อที่ทำให้ผิดหวังในความเป็นตัวผม

ติ๊ดๆ

ใครทักมาดึกดื่น ก็ว่าลบสติ๊กเกอร์ไลน์ฟรีไปหมดแล้วนะ



‘ถึงบ้านหรือยัง’



หือ อิกลูต้าหน้าหวานของผม ฝนจะตกลงมาเป็นลูกหมาซะมั้ง อยู่ๆทักมาเนี่ย

ผมรีบเข้าโปรแกรมไลน์ตอบกลับทันที



‘ถึงแล้ว’




และยังไม่ทันที่อีกฝ่ายจะตอบกลับมา ผมก็กดวีดีโอคอลไปหาก่อน รออยู่นานจนสายเกือบตัดอีกฝ่ายถึงจะกดรับ

ลีลาท่ามากได้ตลอดจริงๆ

‘โทรมาทำไม’

มัดจุกหน้าเอ๋อเชียว ทำปากบุยๆน่าจับมาบี้จูบแรงๆ

“ทำไรอยู่”

‘กำลังจะนอน’

“ทำรายงานไปถึงไหนแล้ว”

‘เอ่อ...’

แค่เห็นหน้าอึกอักผ่านจอผมก็กรอกตามองบนอย่างเบื่อหน่าย ยังไม่ได้ทำน่ะสิอีหน้าแบบนี้

“ทำไมขี้เกียจ”

‘เขียนบทนำไปแล้ว ที่เหลือพรุ่งนี้ค่อยทำ ง่วงแล้ว’

“เดี๋ยวก็ทำชุ่ยๆอีก เกิดมาหน้าตาอัปลักษณ์เนื้อสมองน้อยแล้วยังจะสันหลังยาวอีก”

‘บ่นจริง น่ารำคาญอ่ะ’

ริมฝีปากเล็กจุ๋มจิ๋มงึมงำจนแทบจับเป็นประโยคไม่ได้ แต่ไม่รู้ทำไมเหมือนกันว่าผมถึงฟังรู้เรื่อง

พอๆกับไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมผมถึงตกหลุมรักอิเด็กน้อยหน้าขาวปากแดงเป็นตูดลิงแสมลพบุรี

มันโคตรจะคนละไทป์กับแบบที่ผมชอบ ไม่สูงไม่ล่ำไม่แม้แต่จะหำใหญ่

รูปร่างหน้าตาออกไปทางหมากระเป๋า แถมยังโง่อีก ขัดใจไปเสียทุกอย่าง

ขัดใจเดี๊ยนเนี่ย ทำไมจากที่คิดว่าจะได้ผัวหน้าพี่เวียร์ ดันได้เมียหน้าหมาปั๊ก เฮ้อ

“รำคาญให้ตลอด ง่วงก็ไปนอน อย่าให้รู้ว่าแอบเล่นเกม”

‘เออน่า’

มาทำเสียงจิ๊จ๊ะน่าจับมาหวดน่องด้วยไม้มะยมสักทีสองที ทำไมดื้อแบบนี้นะ

แล้วผมก็ต้องแปลกใจกับไอ้เด็กกระโปกอีก เมื่อมันไม่ได้ตัดสายไปเหมือนทุกที ซ้ำสายตายังสาดส่องมองอะไรอยู่นั่น

ผมหันไปด้านหลังตัวเองตามสายตาของคนปลายสาย

อะไร อย่าบอกนะพ่อเลี้ยงกุมารแล้วมันมาเพ่นพ่านในห้องผมน่ะ กรี๊ดแตกจริงๆนะ

“มองอะไรยะ”

‘ปะเปล่า...’

“ไม่ได้เห็นเอ่อ...อะไรแปลกๆใช่มั้ย...”

‘แล้วซ่อนอะไรไว้ล่ะ’

“กรี๊ดดด เห็นหรอ!” ไม่ได้แล้ว ผมต้องไปบอกพ่อ ว่าให้ไปสร้างบ้านใหม่ให้กุมารอยู่ จะมาเลี้ยงในบ้านเดียวกันแบบนี้ไม่ได้!

‘นี่กรี๊ดทำไมเนี่ย’

“กก็มึง...เห็น เอ่อ สิ่งลี้ลับ...งือ กูบอกพ่อแล้วนะว่าอย่าเอาเข้ามา ฮือ” ผมมองซ้ายขวาตาหลุกหลิก จับเอาปลายผมมาขบกัดเพื่อระบายความหวาดหวั่นในใจ

‘เจ๊อยู่บ้านหรอ’ มันหยุดทำตายื่นตายาวไปด้านหลังแล้วหันมามองหน้ากัน เอ่อแสดงว่าไปแล้วใช่มั้ย

“อืม พรุ่งนี้วันเกิดน้องชาย บ้านมีกินเลี้ยง มะมึงไม่เห็นแล้วใช่ป่ะ” ผมจะร้องแล้วจริงๆนะเว้ย

แล้วนี่มึงยิ้มทำไม มะไม่ใช่มันมานั่งแกว่งเท้าอยู่บนไหล่ผมนะ ไม่นะ อย่ามองแบบนั้นสิอิกลูต้า เดี๋ยวตบตาหลุดเลย

‘หะๆ งั้นไปนอนแล้วนะ’

ทำไมต้องทำหน้าอารมณ์ดีเกินเบอร์ มึงจะแก้แค้นกูโดยการปล่อยกูไว้กับผีใช่มั้ย!

“ไม่! อยู่เป็นเพื่อนกูก่...”

ติ๊ด

แล้วภาพใบหน้าไอ้เด็กลิงแสมก็หายไปจากหน้าจอ เหลือไว้เพียงตัวเลขที่ปรากฎระยะเวลาที่คุยกัน

อะเด็กบ้า! ทิ้งกันได้ไง! พรุ่งนี้กูจะไปตามทบต้นทบดอกให้หายแค้นเลย งือ คืนนี้ลากหมอนไปนอนห้องพระแล้วกัน สาธุ







Guitar’s part



ฟู่ววว

ทำไมต้องโล่งใจแปลกๆด้วยนะที่รู้ว่าอิเจ๊มันติดธุระกับที่บ้าน ไม่ใช่ เดต...

ฮ้าฮา ตาแจ้งสมองโล่งขึ้นมาแล้วสิ นั่งแก้รายงานสักหน่อยดีกว่า พรุ่งนี้จะได้ไม่ไฟลนก้นมาก

แค่นี้ก็จี้ตูดจนร้อนไปหมดละ

ผมนั่งทำงานจนเวลาล่วงไปนานแค่ไหนก็ไม่อาจทราบได้ พอรู้ตัวอีกทีแสงแดดสีส้มอ่อนก็ลอดผ่านม่านหน้าต่างเข้ามา โห อเมซิ่งจิงเกอเบล ผมสามารถนั่งทำงานได้หกชั่วโมงติดกัน พ่อแม่ควรเอาน้ำแดงกับซาลาเปาไส้หวานไปแก้บนที่ยอดปลวกหลังบ้านแล้วล่ะ

จากเด็กขี้ขนหลังยาวกว่าต้นมะพร้าว กลายเป็นหนุ่มหล่อผู้เคร่งขรึมกร๊าวใจ

แหม่ เรานี่เวลาจริงจังกับงานก็ดูหล่อใช่เล่น อิอิ

โครกกก

โอย แต่พอหลุดจากภวังค์ของงานตรงหน้า หนังตาก็โคตรหนัก แถมท้องยังร้องโครกคราก เลยบิดขี้เกียจสามที ซ้าย ขวา ซ้าย ฮึบ แล้วลากสังขารเดินไปยังตู้เย็น มีอะไรกินบ้างว้า เช้าตรู่แบบนี้ใกล้ๆหอก็พอมีของขายบ้างอ่ะนะ โจ๊ก น้ำเต้าหู้ หมูปิ้ง อาหารเช้ายอดฮิต แต่ผมขี้เกียจอ่ะ อยากยัดอะไรก็ได้ลงท้องแล้วนอนเลย

แล้วก็ต้องยิ้มกว้างเมื่อเปิดตู้เย็นที่ทำใจว่าคงมีแค่น้ำเปล่ากับไข่ฟองสองฟองเหมือนอย่างทุกครั้ง กลับพบกับของกินมากมายที่อัดแน่นเต็มตู้เย็น

อาหารแช่แข็งในช่องฟรีซ ไล่ชั้นลงมาเป็นพวกผลไม้สดจำพวกองุ่น แอปเปิ้ล ส้ม ชั้นล่างสุดเป็นขนมขบเคี้ยว อะไรคือห่อโปเต้ก็เอามาแช่เย็นด้วย ไล่ไปยังฝาตู้เย็นข้างขวดน้ำเปล่าจะเป็นบรรดานมรสจืด ช็อกโกแลต สตรอเบอรี่ แม้แต่นมถั่วเหลืองก็ยังมี

ไม่ต้องเปิดไพ่ให้เสียเวลาก็รู้ว่ามาจากฝีมือใคร

นี่คิดว่าห้องผมน้ำท่วมหรือไง ถึงซื้อของมาตุนให้เยอะขนาดนี้ นี่ถ้ามีข้าวสาร ปลากระป๋อง มาม่าละใช่เลย  ถุงยังชีพชัดๆ

โอ๊ย แล้วพูดไม่ทันขาดคำ เพราะเมื่อผมเปิดกล่องลิ้นชักลายริลัคคุมัคที่สะสมแสตมป์เซเว่นอย่างบ้าคลั่งเพื่อแลกมันมาก็เจอเข้ากับมาม่าหลากหลายรสชาติทั้งไทยและเกาหลี แล้วยังจะปลากระป๋อง ผักกาดกระป๋องยังมีอ่ะ เอ้า ยอมเค้าเลย

บ้านใครน้ำท่วมมาห้องผมได้นะครับ ดูแล้วเป็นศูนย์หลบภัยไปได้หลายวัน

ผมเลือกเกี๊ยวน้ำออกมาเวฟ ได้กินอะไรร้อนๆหลังจากที่อดนอนมาทั้งคืนแล้วรู้สึกดีเป็นบ้า

หลังจากซัดมื้อเช้าเสร็จ ผมก็เคร้งลงเตียง และหลังจากนั้นก็ไม่รับรู้อะไรอีกเลย เรียกว่าสมองชัตดาวน์เหมือนคอมพิวเตอร์แบตเสื่อมตอนโดนดึงปลั๊กออก





ครืด ครืด

งืมๆ

ใครโทรมาว้า ง่วงโว้ยยยยยย

มือผมควานเปะปะไปยังโต๊ะข้างหัวเตียง ก่อนจะคว้าวัตถุที่สั่นครืดๆขึ้นมา

“โหล”

ครืดดด

งืออ ทำไมสั่นใส่หูกู!

ดึงขึ้นมาก่อนหยีตาดู

อ่อ ยังไม่ได้กดรับอ่ะ

ติ๊ด

“โหล”

‘ไอ้ตาร์’

“เออ”

‘ยังไม่ตื่นหรอวะ’

“อืม”

‘ตื่นๆ ไปหอสมุดกลางกัน’

“ไม่ไป จะนอน”

ติ๊ดๆ

โอ๊ย มึงเข้าใจคำว่าจะนอนมั้ย มึงต้องวางสาย ไม่ใช่กดขอวิดีโอคอล!

“กูง่วง!” ผมกดรับคำขอ ทันทีที่หน้าไอ้แฟ้มโผล่มาบนหน้าจอ ผมก็ตีหน้าบึ้งทันที

‘ไหนเมื่อวานบอกจะไปหอสมุดกลางอ่ะ กูก็จะไปเนี่ย ลุกเลย ไปด้วยกัน’

“ไปก่อนเลย เดี๋ยวตามไป” ผมว่างัวเงียพลางบี้หน้าลงบนหมอน

“ไม่ได้ อีกครึ่งชั่วโมงกูไปรับ ตามนี้”

แล้วมันก็วางสายไป ทิ้งให้ผมนอนหลั่งน้ำตาท่วมหมอน ถ้าราขึ้นก็โทษไอ้แฟ้มคนเดียวเลย

เกิดเฮี้ยนห่าไรขึ้นมา ทุกทีกูเห็นมึงขี้เกียจจะตาย!

ผมโยนโทรศัพท์ทิ้งแล้วหลับตาลงอีกครั้ง ขออีกสิบนาทีก็แล้วกัน ฮือ











สุดท้ายสิบนาทีก็ลากยาวไปเป็นชั่วโมง ไอ้แฟ้มด่ายาวจนผมต้องกดตัดสายหนี สรุปว่ามันไปก่อน แล้วให้ผมตามไปทีหลัง

ทั้งที่ขี่รถมาถึงหน้าหอผมแล้วนะ บอกให้ขึ้นมารอบนห้องขอแต่งตัวแป๊บเดียวก็ไม่ยอม

รีบไปตายที่ไหนวะ

ผมเลยลุกขึ้นไปอาบน้ำทั้งที่หัวยังหนักอึ้งและมึนขั้นสุด ฮือ ใครมาแอบเอาขี้เลื่อยกูออกแล้วยัดหินเข้ามาแทนวะ ปวดหัวเว้ยยย

พอได้น้ำเย็นราดหัวก็รู้สึกสดชื่นขึ้นมา เดินขยี้ผมออกมาจากห้องน้ำพลางเดินไปหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูเวลา บ่ายโมงแล้วหรอวะ ตายโหง วันนี้หอสมุดกลางปิดบ่ายสามโมงเย็น

รีบเลยกู รีบเลยกู ดีนะอิเจ๊ลิสต์รายชื่อหนังสือไว้ให้แล้ว

พูดถึงก็หายไปเลยเนี่ย จมเค้กวันเกิดตายไปแล้วมั้ง ปกติต้องทักต้องโทรมากวน นี่แม้แต่สติ๊กเกอร์หน้ามาดามมดที่ส่งมาเป็นประจำก็ไม่มี เฮอะ! ไปวันเกิดน้องชายจริงเปล่าเหอะ

แล้วกูจะมาฟุ้งเรื่องอิเจ๊ทำไมล่ะเนี่ยยยยยยย

ผมรีบแต่งตัว กวาดของลงเป้หนังสีน้ำตาลใบโปรดแล้วลงไปยังลานจอดรถของหอ อืม ให้ตายเถอะ ลืมใส่เสื้อคลุมแขนยาวมา แดดโคตรร้อนเลย กูจะละลายกลายเป็นผุยผงก่อนถึงที่หมายมั้ยวะ

บนงึมงำแต่สุดท้ายเพราะความขี้เกียจก็ตัดสินใจออกมาทั้งอย่างนั้น ระหว่างขี่รถเห็นคนที่ผมติดหนี้บุญคุณเขาไว้โดยที่เจ้าตัวไม่รู้ยืนกระสับกระส่ายหน้าเคร่งอยู่ข้างถนน ผมเลยเปิดไฟเลี้ยวแล้วชะลอรถจอดลงข้างๆพี่เขา

“พี่เต้”

“อ้าว น้องตาร์”

“รถเป็นไรอ่ะครับ” ผมมองไปที่รถยนต์คันสีขาว

“ยางแตกน่ะ เซ็งเลย แต่เรียกช่างแล้วล่ะ” ปัญหาเหมือนได้รับการแก้ไขแล้วแต่หน้าตาเจ้าตัวดูไม่คลายความเครียดลงเลย

“มีอะไรให้ผมช่วยมั้ยครับ” พี่เต้มองหน้าผมอย่างลังเล แต่สุดท้ายก็ถอนหายใจออกมา

“คือความจริงพี่มีสอบน่ะ โทรให้เพื่อนมารับแล้ว แต่ไม่รู้ว่ากว่ามันจะมา จะไปเข้าสอบกันทันมั้ย”

อืม แพทย์เขาเรียนเขาสอบไม่เหมือนคณะอื่นอ่ะเนอะ

“งั้นผมไปส่งมั้ย แอร์ไม่เย็นเหมือนรถยนต์ แต่ไปสอบทันแน่นอน”

“ได้หรอครับ รบกวนน้องตาร์หรือเปล่า”

“สบายมาก ขึ้นมาเลยครับ” ผมขยับตัวไปด้านหน้านิดหน่อยเพื่อให้พี่เต้ขึ้นมาซ้อน อีกฝ่ายหายเข้าไปในรถแป๊บนึงก่อนออกมาพร้อมกระเป๋าสะพายข้าง พอขึ้นซ้อนวิญญาณนักบิดฟอมูล่าวันก็เข้าสิง ถึงจะเป็นแค่ฮอนด้าสกูปปี้ แต่พาสารถีไปสอบทันแน่นอนจ้า

ในที่สุดผมก็พาพี่เต้มาสอบทัน แต่กว่าจะถึงก็เล่นเอาเหงื่อตก

พี่เต้อ่ะเหงื่อออกเพราะแดดเผา แต่ตัวเรานี่สิ...เหมือนชาวนากับกูเห่าชัดๆ

อะไรคือผมช่วยพี่ แต่พี่หลอกแต๊ะอั๋งโผ้มมมมมมม

เดี๋ยวเกาะบ่า เดี๋ยวจับเอว แรกๆก็ว่าพี่เค้าคงไม่ชิน คงกลัวตก โอเค ยอมรับได้

แต่หลังๆมีลูบๆไล้ๆนี่ไม่ใช่แล้วโว้ยยยยยยย

นี่ถ้าไม่รีบลงไปมีถีบนะเออ

“ขอบใจน้องตาร์มากนะครับที่มาส่ง”

“ครับ พี่รีบไปเถอะ เดี๋ยวไม่ทัน”

“มีห่วงด้วย น่ารักจัง” ไล่ต่างหากโว้ย

“ผมไปก่อนนะ”

“ครับ เอาไว้พี่เลี้ยงข้าวตอบแทนนะ”

“เห้ย ไม่เป็นไร นิดเดียวเอง” ถือว่าหายกัน เพราะผมก็เอาชื่อพี่มาแอบอ้างบ่อยๆ

“ตกลงตามนี้ เดี๋ยวพี่ไปก่อน จุ๊บครับ”

โฮ ไม่ฟังกูเลย แล้วมาทำปากจู๋อีก จุ๊บเจิ๊บอะไรล่ะ ขนลุกเว้ย





กว่าผมจะมาถึงหอสมุดก็ล่อไปบ่ายสองกว่าๆ โทรหาไอ้แฟ้มก็ได้ความว่านั่งอยู่ชั้นสอง ผมขึ้นไปพลางกวาดสายตามองหาก็เจอเจ้าตัวที่ยกรักแร้โบกมือไหวๆอยู่

เออ เห็นแล้ว

“ช้า”

“เออน่า อ้าว หวัดดีครับพี่อ้อนน้อย” ผมขมวดคิ้วงงว่าพี่เขามาอยู่นี่ได้ยังไง หันไปเลิกคิ้วใส่ไอ้แฟ้ม ผมว่าได้กลิ่นตุๆ

“อ้อนขอตามมา”

“ไม่ได้อ้อน แฟ้มต่างหากตามพี่มาเอง!”

ตกลงอ้อนนี่คือคำกิริยาไม่ใช่นาม ถูกม๊ะ

“รู้หรอกว่าอยากให้มาด้วย”

“ไม่เคย”

เอ่อ ผมว่าผมได้กลิ่นผัวเมียแปลกๆ หรี่ตามองอย่างคนขี้เผือก เรื่องเรียนไม่ค่อยขยัน แต่เรื่องมันกูต้องยุ่ง!

แล้วที่จิกกูเป็นไก่นี่ความจริงผีเด็กเรียนไม่ได้เข้าสิงถูกมั้ย ผีขุนแผนนี่เอง

หึ เพื่อนแฟ้ม เราต้องมีหลังไมค์กันแล้วล่ะ

“อ่ะแฮ่ม ตามสบายนะ ไม่ต้องสนใจกูหรอก เฮ้ย กูอยู่ได้จริงๆ ไม่เป็นไรๆ” ผมวางกระเป๋าเป้ ยกมือขึ้นโบก อีกมือทาบอกเป็นเชิงเจ็บปวดมากมาย เลยโดนยางลบปาใส่ เฮ้ย โดนหน้าผากดังแปะเลย เจ็บนะ

“ไหนจะไปยืมหนังสืออ่ะ ไปดิ เดี๋ยวก็หมดเวลายืมหรอก”

“โอเค เพื่อนแฟ้ม กูรู้มึงเป็นห่วง กลัวกูยืมหนังสือไม่ทัน ไม่ได้คิดจะไล่ เข้าใจๆ”

แล้วก่อนที่อะไรๆจะลอยมาอีก ผมก็เผ่นแนบ โหย แซวนิดแซวหน่อยทำเกรี้ยวกราด ได้ทีกูก็ต้องขี่แพะไล่ป่าวอ่ะ ทีมึงยังเล่นกูเป็นเดือนๆ

ผมไปที่คอมพิวเตอร์ของหอสมุดเพื่อดูว่าหนังสือที่ต้องการเลขที่อะไร อยู่ชั้นไหน เพื่อสะดวกต่อการหา ใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมงผมก็ได้หนังสือทั้งหมดมาไว้ในมือ ไปทำเรื่องยืมกับบรรณารักษ์แล้วหอบหนังสือที่หนาเท่าตึกสามชั้นกลับมาที่โต๊ะ

“โห เดี๋ยวนี้อินเตอร์ อ่านหนังสือภาษาปะกิด” กูอยากอ่านซะที่ไหนล่ะ โง่จะตาย ขนาดอ่านภาษาบ้านเกิดยังไม่ค่อยเข้าใจเลย

แต่เพราะเนื้อหาที่ต้องการไม่มีในหนังสือภาษาไทยไง ฮือ ชีวิต

“แล้วไปไหนต่อ” ผมถาม ใกล้บ่ายสาม หอสมุดจะปิดละ

“อ้อนไปไหน” แฟ้ม จู๋มึงผูกติดกับพี่เค้าหรอ!

“เดี๋ยวจะไปทำงานห้องพิชชี่ต่อ เออแล้วก็...” พี่อ้อนน้อยหันมาสบตากับผม ง่อวววว ทำไมตาพี่เค้าสวยจัง “พิชบอกว่าให้ตาร์ไปด้วย”

“หะหา? เกี่ยวไรกับผมอ่ะ” แล้วเจ๊รู้ได้ไงอ่ะว่าผมอยู่ด้วย

“ไม่รู้อ่ะ พิชบอกที่นัดกันเมื่อวานเปลี่ยนเป็นไปที่ห้องพิชเลยแล้วกัน”

อ่อ สงสัยที่เจ๊บอกเสร็จธุระแล้วจะมาช่วยดูรายงาน ตะแต่! ไปบอกคนอื่นว่านัดกันแบบนี้ก็สงสัยกันหมดสิ! อิเจ๊บ้าเอ้ย

“พะพอดีผมบังเอิญเจอเจ๊ที่มหาลัย เจ๊รู้เรื่องที่รายงานผมโดนตีกลับ เลยเอ่ยปากจะช่วย”

“ยังไม่ได้ถาม”

กูอยากบอกไงไอ้เชี่ยแฟ้ม! อย่าขัดดิ เดี๋ยวมีพิรุธ

“พิชก็แบบนี้แหละ ใจดีกับทุกคน งั้นเราไปกันเลยเนอะ”

“ครับ”

จะทำไงได้ล่ะ ปฎิเสธก็เดี๋ยวจะดูมีพิรุธไปใหญ่ เลยได้แต่เก็บกระเป๋า เดินตามพี่อ้อนน้อยไป

“เดี๋ยวผมแยกไป รถผมอยู่ทางนี้”

“งั้นพี่รอข้างหน้านะ”

“ไม่ต้องรอครับ พี่เอารถยนต์มาใช่มั้ย เจอกันที่คอนโดเจ๊พิชเลย” มาขับรอผม คันหลังบีบแตรไล่พอดี

“อ้าว เรา...”

พี่อ้อนน้อยทำท่าจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ไอ้แฟ้มจับแขนไว้ซะก่อน

“ไปกันเถอะ เฮ้ย กูไปกับอ้อนนะ”

“เออ”

ผู้หญิงกับเพื่อน มึงก็ไม่เลือกกูหรอก ชิ

แต่พี่อ้อนน้อยไม่ใช่ผู้หญิงนี่หว่า เหอๆ

 












#เมียตุ๊ด

















หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 7 [P.4]< 16.11.2018
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 17-11-2018 00:06:43
 :mew3: :mew3:
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 7 [P.4]< 16.11.2018
เริ่มหัวข้อโดย: fc_fic ที่ 17-11-2018 05:52:02
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 7 [P.4]< 16.11.2018
เริ่มหัวข้อโดย: cheezett ที่ 17-11-2018 06:43:50
รอออ  :o8: :o8: :o8:
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 7 [P.4]< 16.11.2018
เริ่มหัวข้อโดย: ก้อนขี้เกียจ ที่ 17-11-2018 12:42:20
วงวารเจ๊พิช55555555
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 7 [P.4]< 16.11.2018
เริ่มหัวข้อโดย: aoihimeko ที่ 17-11-2018 13:18:58
ทำไมนะ. ทำไมไม่ปฏิเสธเต้ไปให้ชัดๆ. 
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 7 [P.4]< 16.11.2018
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 17-11-2018 13:42:10
อ้าว น้องกลูต้า

ไม่รักนวลสงวนตัวเลย

มีผัวแล้ว ไปให้คนอื่นลวนลามทำไม
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 7 [P.4]< 16.11.2018
เริ่มหัวข้อโดย: omuya ที่ 17-11-2018 14:37:27
 :hao3:  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 7 [P.4]< 16.11.2018
เริ่มหัวข้อโดย: KizzllKizz ที่ 17-11-2018 20:22:13
ขออัญเชิญอิพี่เต้ไปไกลๆจ้า
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 7 [P.4]< 16.11.2018
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 17-11-2018 20:25:01
อิเจ๊พิช น่ะรู้ตัวว่ารักชอบตาร์แล้ว  :impress2:
ตามมาดูแลทั้งเรื่องทำรายงาน ทั้งเรื่องอาหารการกิน  :mew1:

ตาร์เอง ก็ชอบๆเจ๊แล้ว กลัวเจ๊ไปแอบเดทกับหนุ่ม  :mew2:
พอวิดีโอคอลถึงได้ตายื่นตายาวส่องภายในห้อง
จนเจ๊กลัวว่าจะมีสิ่งลึ้ลับในห้องไปซ้า  :serius2:

พิช ตาร์   :กอด1: :กอด1: :กอด1:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
ขอแแก้ที่ผิดนะ
เชิญคุณลงทัณฑ์บรรชา ------  บัญชา
ผมก็เคร้ง ลงเตียง -----  เคล้ง
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 7 [P.4]< 16.11.2018
เริ่มหัวข้อโดย: yumenari ที่ 18-11-2018 12:32:03
ฮือ ดีต่อใจจจ
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 7 [P.4]< 16.11.2018
เริ่มหัวข้อโดย: chancha ที่ 18-11-2018 17:50:17
รอเจ๊กับน้องกลูต้า
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 7 [P.4]< 16.11.2018
เริ่มหัวข้อโดย: papapoope ที่ 22-11-2018 06:53:37
รอเจ้กับน้องต้านะคะ><
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 7 [P.4]< 16.11.2018
เริ่มหัวข้อโดย: KS.F ที่ 22-11-2018 09:04:52
 :mew4:
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 7 [P.4]< 16.11.2018
เริ่มหัวข้อโดย: ANIKI. ที่ 22-11-2018 09:43:28
ชอบบ 5555
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 7 [P.4]< 16.11.2018
เริ่มหัวข้อโดย: angel_Z4 ที่ 22-11-2018 12:13:46
อ๋า~ เฮียพีท!//โดนตบ
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 7 [P.4]< 16.11.2018
เริ่มหัวข้อโดย: yumenari ที่ 23-11-2018 08:05:39
ฮือเมื่อไหร่จะมา

อ่านทวนไปหลายรอบแล้วววว
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 7 [P.4]< 16.11.2018
เริ่มหัวข้อโดย: angelninae ที่ 23-11-2018 22:25:16
เจ๊พิชชี่น่ารักมาก โดยนิสัยแล้วเจ้ชอบเป็นฝ่ายดูแล เหมาะสมแล้วกับน้องตาร์
รออ่านอยู่นะคะ คิดถึงคนเขียนค่ะ
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 7 [P.4]< 16.11.2018
เริ่มหัวข้อโดย: akashita ที่ 23-11-2018 23:18:01
เพิ่งมาเจอเรื่องนี้ ชอบมากกกอ่ะค่าาา
น้องต้าร์เอ้ยยยย ชอบเจ๊แล้วอะดิ อิอิ
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 7 [P.4]< 16.11.2018
เริ่มหัวข้อโดย: nooluk ที่ 25-11-2018 19:29:57
เพิ่งมาอ่าน ชอบมากกกกกกกกกกกกกกกก :impress2: :impress2: :impress2: :impress2:
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 7 [P.4]< 16.11.2018
เริ่มหัวข้อโดย: cheezett ที่ 25-11-2018 20:30:48
เมื่อไรจะมาาา รอน้องต้าร์กะเจ้พิชนานแว้ววว
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 8 [P.4]< 26.11.2018
เริ่มหัวข้อโดย: mod-cup ที่ 26-11-2018 17:36:25


ตอนที่ 8
I can't stand it anymore




“เฮ้ย อิเจ๊ ลากมาทำไมเนี่ย”

โอ๊ย ลากมาทำไมเนี่ย คนอื่นสงสัยกันหมด ภาวนาให้รายงานนรกแตกดูดวิญญาณทุกคนเอาไว้ อย่าให้เงยหน้าขึ้นมาสนใจผมเลย ฮือ

อิเจ๊ลากผมเข้ามาในครัว เปิดตู้เย็น แล้วจับหน้าผมมุดเข้าไปในนั้นทำทีว่ากำลังคุ้ยหาของกินอยู่

โป๊ก

ตู้เย็นมึงแข็งและเย็นได้มาตรฐาน มอก. สปช. หัวกูได้พิสูจน์แล้ว ฮือ

จับหัวตูโขกฝาตู้เย็นตะมายยยยย

“อิโง่”

“อะไรเนี่ยเจ๊” หัวยังเจ็บไม่หาย มันเอานิ้วมาจิ้มๆหน้าผากผมย้ำๆจนศีรษะด้านหลังโขกฝ้าตู้เย็นซ้ำๆ

แล้วพอจะยืดตัวขึ้น มันก็จิกผมของผมลงมามุดไอ้เครื่องทำความเย็นนี่ใหม่ โอ๊ยยยยย นี่ตาร์สุดหล่อ ไม่ใช่ไอติม ไม่ต้องกลัวละลายโว้ย

“โง่เอง แล้วอย่ามางอแงกับกูทีหลังนะ”

“โง่ไร แค่ให้ช่วยทำรายงานนิดหน่อย อย่ามาเบ่งนะเฟ้ยย” ผมเอาฝ่ามือไปบี้หน้าอิเจ๊แล้ววินาทีต่อมาก็ถูกปัดออก สิวขึ้นแน่ หึๆ

“มึงพาใครมาห้องกู”

“เอ๊า ก็พี่อ้อนน้อยไง พี่เค้าบอกว่ามึงให้มา” ผมทำหน้างงใส่

“อีกคนล่ะ”

“กะก็ไอ้แฟ้ม...เอ้ย ขอโทษนะเจ๊ ลืมถามก่อน แต่ผมไม่ได้พามานะ นู่น มันมากับพี่อ้อนน้อย” ขอโทษนะพี่อ้อน... ผมขอโยนขี้ไปให้หน่อย ลืมเลยว่าอิเจ๊มันหวงพื้นที่ส่วนตัว T^T

“ไม่ใช่แบบนั้นเว้ย โอ๊ย นี่ร่างจำแลงของควายมูร่าห์ใช่ป่ะ”

“โอ๊ย” อย่าบิดแก้ม ฮือ “ก็อะไรล่ะ อย่ามายึกยัก”

“ก็เพื่อนมึงคนนี้ไม่ใช่หรือไงที่มาส่งอาหารห้องกูครั้งก่อนหน้านู้นน่ะ”

“ก็ใช่ แล้ว...อ๊ะ!”

ผมนึกออกแล้ว แง้ ผมรู้แล้วว่าทำไมไอ้แฟ้มมันถึงมองผมแปลกๆตั้งแต่เข้ามาในห้อง

ตอนแรกก็โทษความโง่เง่าของตัวเองที่พาสารร่างขึ้นมายังห้องอิเจ๊ด้วยตัวเองคนเดียว แต่ดูเหหมือนคนอื่นก็ไม่ได้สงสัยอะไรที่ผมรู้สถานที่ตั้งคอนโดอิเจ๊

ยกเว้นไอ้แฟ้มที่เหลือบมองผมแปลกๆเป็นระยะ

แต่คิดข้อแก้ตัวเอาไว้แล้วนะว่าถ้ามันถามว่ามาห้องอิเจ๊ถูกได้ไง ก็จะตอบว่าให้อิเจ๊ส่งโลเคชั่นให้ แล้วที่มีไลน์กันเพราะอิเจ๊อาสาช่วยเหลือเรื่องรายงานเลยแอดไลน์กันไว้

แต่นี่เป็นไง จบเลย

“ฮือ ทำไงดีอ่ะเจ๊”

ยังจำสายตาของไอ้แฟ้มวันนั้นได้ดีว่ามันมองทะลุปุโปร่งแค่ไหนว่าผมผ่านอะไรมา

“ทำตัวเฉยๆ”

“ตะแต่”

“บางทีมันอาจจะลืมไปแล้วก็ได้ เหมือนมึงไง” สายตาดูแคลนนี่คืออะไร โฮ

“มึงว่างั้นหรอ...”

โป๊ก

“พูดไม่เพราะ”

“ใช่เวลามั้ยนิ”

“แล้วไงใครแคร์ โนสนอยู่แล้ว”

“ไม่สนแล้วตีกูทำไม T^T”

“ก็ลำไยมึงจะมางอแงไง ไป ออกไปได้แล้ว เดี๋ยวคนอื่นสงสัย”

“เอ้ย เดี๋ยวดิเจ๊ แล้วทำไงอ่ะ ถ้าไอ้แฟ้มรู้ ถะถ้ามันสงสัยเรื่องเรา...” ผมคว้าต้นแขนไว้ กระวนกระวายจนเหงื่อตก

“บางเรื่องก็ต้องปล่อยให้มันเป็นไปป่ะ แล้วกูก็คิดว่าตัวเองมีดีพอที่ทำให้มึงไม่อายใคร”

อิเจ๊หันมาตอบด้วยใบหน้านิ่งๆแล้วคว้ากล่ององุ่นเดินออกไป

มันเป็นประโยคที่ฟังเหมือนจะดูดี แต่ไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกดีขึ้นสักนิด





ผมเดินกลับไปนั่งทำงานในห้องนั่งเล่น นั่งหันหลังให้พวกเจ๊ดอกขจร แบบพวกเจ๊ปีสี่ก็นั่งล้อมโต๊ะกระจกบนพื้นพรมส่วนผมก็นั่งหันหลังชนกับอิเจ๊และใช้โซฟาเป็นโต๊ะเพื่อวางแล็ปท็อปพิมพ์งาน

ส่วนไอ้แฟ้มก็นั่งเล่นเกมในมือถืออยู่ใกล้ๆพี่อ้อนน้อย ดูเหมือนมันจะไม่สนใจอะไรผมอีก

ซึ่งก็ดีแล้ว

“เหม่ออะไร ทำงาน”

“อืม อย่ายุ่งดิ”

ผมกระซิบตอบ อย่ามาจอแจ เดี๋ยวคนอื่นสงสัย

พอผมทำท่าแบบนั้น ไม่รู้มันหมั่นเขี้ยวหรืออะไรสอดแขนเข้ามาที่เอวผมแล้วใช้มือบีบปั้นพุง งือ มาบีบพุงกะทิเค้าทำไม เฮอะ ไม่มีแล้วมาทำเป็นอิจฉา

“ปล่อยเลย”

“สะดีดสะดิ้งนัก เดี๋ยวก็โดนหรอก...” ร่างขาวกว่าเอียงตัวโน้มมาพร้อมกระชับเอวแน่นขึ้น งือออ อย่าเอาหน้าเข้ามาใกล้ซอกคอกูวววว ผมยังไม่กล้าหันหน้าไปมอง ได้แต่จดจ้องหน้าจอเหมือนเดิม นิ้วแทบจะจิกแป้นพิมพ์หลุดติดมือ เกร็งไปทั้งตัวแล้ววววว

อย่ามาเป่าลมหายใจรดต้นคอนะเฟ้ย

“อิเจ๊ ไม่เล่นดิ ไม่เอา”

“แล้วใครเล่น ไหน ทำรายงานถึงไหนแล้ว” โอยยยย อย่าเอาคางมาวางบนไหล่ทำตัวเหมือนโอปป้าในซีรีส์เกาหลีได้มั้ย ลืมแล้วหรอว่าตัวเองเป็นตุ๊ดหน้าขาวผมยาวปากแดง ไม่อินเว้ย

แค่หน้าแดงหน่อยๆ งือ

ไม่มีใครเห็นใช่มั้ยง่า

“ทำเองได้น่า ปล่อย”

“หอมก่อนสิ”

“อิเจ๊....”

“หอมละนะ”

“ถ้าทำนะ จะไม่คุยด้วย” งือ ขอทีเถอะ ปล่อยเห๊อะ จะตายแหล่ววววว

“หึ เดี๋ยวง้างปากเอง”

“พิช ตรงนี้แบบนี้ดีป่ะ”

ขอบคุณเสียงสรรค์ของพี่อ้อนน้อย เอาอินางมารออกไปจากการสิงสู่ร่างผมได้

ฮือ อยากได้น้ำแดงหรือขนมถ้วยฟู เดี๋ยวน้องจัดใส่ถ้วยขึ้นถวาย



“อ้อน...เดี๋ยวแฟ้มจะไปแล้วนะ”

“อือ”

“เดี๋ยวเลิกงานแล้วโทรหานะ”

“อืม ทำงานที่ไหนวันนี้”

“ร้านพี่ต๊อด”

“ให้ไปส่งมั้ย”

“ไม่เป็นไร อ้อนทำงานต่อเลย เดี๋ยวแฟ้มไปมอไซค์วิน”

“อ่อ โอเค”

ทำไมนะ แค่ได้ยินเสียงก็รู้สึกผะอืดผะอมเหมือนแดกของหวานในปริมาณเกินพอดี

“ป่ะ”

หืม สะกิดไหล่กูทำไม

“นั่งหน้าเอ๋ออะไร ป่ะ มอไซค์วินของกู”

ผมชี้นิ้วเข้าหาตัวเอง

มอไซค์วิน? กู?

“เออ ไปเร็ว ไม่มีกูมึงจะเหงานะ”

“เอารถอิกลูต้าไป เดี๋ยวกูไปส่งมันเอง” อิเจ๊เงยหน้าขึ้นบอก ไอ้แฟ้มหันมามองผมเป็นเชิงว่าเอาไง

“เพิ่งรู้ว่าสนิทกันขนาดนี้ มีรับส่งกันด้วย”

“เฮ้ย สนงสนิทอะไรล่ะ” ผมกระเด้งตัวขึ้นพร้อมพับหน้าจอแล็ปท็อปลง “นั่นสิ ผมอยู่คงรบกวนพี่ๆ เกรงใจเนอะไม่ได้สนิทอะไรกันขนาดนั้น ป่ะๆเดี๋ยวไปส่ง” ผมดันหลังไอ้แฟ้มให้ออกเดิน “พี่ๆไปก่อนนะ หวัดดีครับๆ”

พอหลุดออกมาจากห้องนั้นได้ผมก็ตรงมาที่ลิฟท์ ยืนเขย่าขารอดูเลขชั้นที่ค่อยๆเคลื่อนขึ้นมา ทำไมช้าจังวะ

“ฮ่าๆ”

“อะไรไอ้แฟ้ม”

“ยืนไปเงียบๆจะไม่เข้าตัวมากกว่านะ”

ใครมีเข็มกับด้ายกระสอบส่งมาที ผมจะเย็บปากตัวเอง แม้แต่เสียงการขยับตัวของลิ้นไก่ก็จะไม่ให้มึงได้ยินเลย ฮือ ชีวิต

ผมไม่รู้ว่าไอ้แฟ้มคิดไปถึงไหน เราไม่ควรแก้ตัวออกไปให้ดูมีพิรุธ เอาจริงๆ ตอนนี้รอยหยักในสมองผมมันตีกันรวนไปหมด เหมือนมีคนจับเส้นประสาทที่ปลายทั้งสองด้านแล้วแกว่งมันกระทบกับพื้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนผมเบลอไปหมด

งั้นก็ทำเบลอเลยแล้วกัน





ผมมาส่งไอ้แฟ้มที่ร้านกาแฟพี่ต๊อด ถามว่าให้มารับกลับกี่โมงเพราะวันนี้มันไม่ได้เอารถมา ได้คำตอบว่าไม่ต้องมารับเพราะพี่อ้อนน้อยจะแวะมารับเอง

หืออออ ใครเอาหมามุ่ยมาทาบนปาก คันคะเยออยากเสือกเหลือเกินว่าไปเผลอได้กันตอนไหน

แต่กลัวจะโดนโยนปูนกลับมาให้แดกร้อนท้องเล่น เลยหุบปากฉับ พยักหน้ารับทราบแต่โดยดี

“กูกำลังจีบอ้อนอยู่ ไม่ต้องทำหน้าสงสัยขนาดนั้น”

เชร้ดดดด หยั่งรู้ไปอีก

“แค่จีบหรอวะ ยังกับคู่ผัวตัวเมียกัน”

“อ้อนไม่ได้ใจง่ายเหมือนมึง”

“กูก็ไม่ใช่เหอะ”

“อยากจะแหมให้ถึงดาวอังคาร แล้วที่กูเห็นล่ะ สรุปไม่ใช่พี่เต้ แต่เป็น....”

“เห้ย อะไร มั่วแล้วมึงอ่ะ กะกูแค่ให้อิเจ๊ช่วยรายงาน แล้ว...แล้ว...”

“เออ พอๆ อย่ารวนมึง หายใจช้าๆ เดี๋ยวก็ช็อกตายก่อนหรอก เฮ้อ มึงนี่นะ โกหกอะไรไม่เคยเนียน แล้วยังจะทำ”

“อะไอ้แฟ้ม กูกับเจ๊ไม่ได้เป็นอะไรกันนะเว้ย”

“จะบอกว่ามึงเป็นกับพี่เต้?”

“ก็...เปล่า...”

ไอ้แฟ้มมองหน้าผมนิ่งๆ ผมก็ยิ่งหลุบตาลงต่ำคางชิดอก ตาหลุกหลิก สองมือที่กำแฮนด์มอเตอร์ไซด์ไว้สั่น นี่สินะอาการลนลานที่ไอ้แฟ้มว่าถึง

บรื้นนนนนนนน

ไม่ไหวแล้ว

แต่ไอ้บ้าเอ้ย ผมห้ามตัวเองไม่ได้ มือผมบิดคันเร่งแล้วสองล้อกลมๆก็พาผมพุ่งทะยานออกมา รู้ตัวอีกทีหน้าไมค์ก็บิดไปที่แปดสิบกิโลเมตรต่อชั่วโมง ไอลมร้อนตีแสกหน้าจนชาไปหมด ฮือ ตายโหงแน่ๆ

ยิ่งเสียงหัวเราะดังลั่นของไอ้แฟ้มที่ตามหลังมาแว่วๆให้รู้เลยว่าท่าทางของผมมันต้องทั้งแปลกและตลกมาก

โอ๊ยยยย ช้างตายทั้งตัวเอาใบบัวปิดไม่มิดจริงๆโว้ยยยย



ยังไม่ได้อ่านหนึ่งข้อความ



‘เอาน่า มีตุ๊ดเป็นเมียก็เพลียได้นะจ๊ะ’

‘สรุปวันนั้นไม่ได้โดนเอาจนเอวเคลื่อน แต่เอาพี่เค้าจนเอวเคล็ดสินะ555’






ไอ้แฟ้ม ไอ้เควี่ยยยยยยยยยยยยยย

นี่มึงคิดว่ากูได้อิเจ๊เป็นเมียหรอ!







แล้วตั้งแต่วันสยองสองบรรทัด ผมก็หลบหน้าหลบตาไอ้แฟ้มอย่างจริงจัง ไปเรียนเสร็จก็ไม่มีสังสรรค์ต่อ หมดคาบละรีบดีดตัวออกมาเลย กลัวครับ กลัวสายตาที่เหมือนมองมาอย่างรู้ทันปนขำขัน กลัว...คำถามที่ผมอาจไม่มีคำตอบให้

ยิ่งอยู่ใกล้ ยิ่งลนลาน ความยิ่งแตก ความลับว่าผมเสียตูดให้ตุ๊ดมันใกล้แตกเข้าไปทุกวัน

ดังนั้น ผมจะมาเรียนแบบเข้าสายห้านาที แล้วออกจากห้องเรียนทันทีที่อาจารย์บรรยายจบ

ขอไปตั้งหลักพักทำใจก่อนนะ

ติ๊ดๆ

‘เป็นบ้าหรอ กูโทรไปไม่รับ ทักไปไม่ตอบ ไปหาที่ห้องไม่เจอ ถ้าวันนี้กูติดต่อมึงไม่ได้อีก กูจะเผาห้อง!’



นี่ก็อีกคน

จิกเป็นไก่ ตามติดชีวิตยิ่งกว่ารายการเรียลลิตี้ นี่สิงได้สิงไปแล้ว

นี่ก็คงไปดักรอผมที่หน้าห้องเรียนแล้วไม่เจอ เสียใจด้วยนะ วันนี้กูทำเป็นมาเข้าห้องน้ำแล้วหนีออกมาเลย!

เพราะมีลางสังหรณ์ว่าถ้าช้าจะโดนแร้งมารุมทึ้งจนตัวตาย

ตอนนี้ผมไม่อยากเจอใครเลย

อยากหดหัวอยู่ในกระดอง อยากให้เวลากับตัวเอง



“น้องตาร์” ผมสะดุ้ง หันขวับกลับไปมองต้นเสียง ก่อนพรูลมหายใจอย่างโล่งอกเมื่อเป็นพี่เต้ที่ยืนยิ้มแฉ่งดั่งแสงอาทิตย์ประเทศไทยในตอนเที่ยงวัน

ไม่ได้อบอุ่นนะครับ ร้อนจนขนลุก

“อ้าว พี่เต้”

“มาทำไรตึกแพทย์ครับ” อ้าว นี่กูเดินหลบเลี่ยงตามแนวอาคารจากตึกกลางมาโผล่คณะแพทย์เลยหรอเนี่ย “หรือว่า....”

มาทำเป็นอมยิ้มกรุ้มกริ่ม ขนลุกง่ะ งือ

“...คิดถึงพี่หรอ”

โอ๊ย อยากจะอ้วกสักที

นี่กูไม่ใช่เต้าขนมครกนะ เมื่อไหร่จะเลิกหยอด

“อ่ะเอ่อ...คือผม...มาหาข้าวกินน่ะครับ”

“ที่นี่หรอครับ”

“ใช่ครับ เห็นเค้าว่าข้าวมันไก่ที่นี่อร่อย” พี่เต้ทำหน้างงๆใส่ผม

“โรงอาหารที่นี่ไม่มีข้าวมันไก่นะครับ”

เพล้ง

เสียงไรแตกอ่ะ

อ๋อ

เศษหน้าผมเอง

เดินมาแถวนี้ก็ระวังนะครับ เดี๋ยวจะบาดเท้าเอา

โฮววววววว T^T

“แฮร่ งั้นผมคงจำผิด ถ้างั้น...ผมขอตัวก่อน”

“เดี๋ยวสิครับ” พี่เต้ยื่นมาจับข้อมือผมเอาไว้ ผมรีบชักมือกลับ “ไปกินข้าวกันไหม พี่เลี้ยงเอง”

“เอ่อ...”

“ตอบแทนที่ตาร์มาส่งพี่วันนั้นไง”

แค่พี่ไม่แปลงร่างเป็นปลาหมึกมาลวนลามกัน แค่นั้นก็ตอบแทนมากละเว้ยยย

“เรื่องเล็กน้อยเอง ไม่เป็นไรครับ ผม...” นะนั่นอิเจ๊หรือเปล่า มาทำไรที่นี่วะ “ปะไปกินข้าวกันเถอะ”

จากที่ไม่ชอบให้อีกฝ่ายมาสัมผัสตัว กลายเป็นตอนนี้ผมคว้าข้อมือพี่เต้แล้วพาอีกฝ่ายวิ่งไปอีกทาง ฮือ จะพาไปกินลาบก้อย ปิ้งย่าง หรือชาบูตอนนี้ได้หมดอ่ะ ขอแค่หนีอิตุ๊ดหน้าขาวผมยาวที่โดนหนุ่มๆเข้าไปรุมล้อมอยู่ได้เป็นพอ

“นี่หิวขนาดนี้เลยหรอครับเนี่ย เดี๋ยวๆรถพี่อยู่ทางนี้”

“นำไปสิครับ”

พี่เต้พาผมมากินอาหารญี่ปุ่นที่ห้างใกล้มอ พอกินเสร็จก็พาไปดูหนังต่อ พยายามจะขอปลีกตัวกลับตั้งแต่กินข้าวเสร็จแล้ว แต่อีกคนก็หาทางตื้อให้ผมอยู่ต่อ จนตอนนี้ก็มาส่งผมที่หอจนได้

“ขอบคุณนะครับ” ถ้าไม่เนียนจับมือผมตอนดูหนังจะขอบคุณกว่านี้มาก

“วันนี้พี่มีความสุขมาก ยังไงครั้งหน้าไปด้วยกันอีกนะครับ”

“เอ่อ...ครับ” ครั้งหน้านี่หมายถึงชาติหน้าได้หรือเปล่า T^T “ไปนะครับ”

“ฝันดีนะครับ”

“ครับ”

ผมเดินขึ้นบันไดหอมาด้วยความรู้สึกหมดแรง นี่ไปเรียนหรือไปรบ เหมือนหลุดไปในรังโจรแล้วโดนล่าอ่ะ อยากจะม้วนตัวเป็นดักแด้ให้หนอนแดก ฮือ

แล้วดูสิมาถึงห้องตัวเองแล้วก็เดินไปไขประตูห้องชิวๆให้สมกับจ่ายค่าห้องตรงเวลาทุกเดือนก็ไม่ได้ ต้องโผล่หน้าจากมุมบันไดมองไปยังหน้าห้องตัวเองก่อนว่ามีสัมภเวสีผมยาวหน้าขาวมาดักรอหน้าห้องหรือเปล่า ทำตัวลับๆล่อๆเหมือนหนีหนี้นอกระบบ ขอล่ะ ขอพักวันนึง ไม่อยากไปแอบหลบอยู่ดาดฟ้าอีกนะเว้ย ดึกๆมันหนาว

แล้วเหมือนฟ้าจะเป็นใจ วันนี้ไม่มียมทูตมาล่าวิญญาณ

สบายใจละตู

แกร้ก

“เฮ้ย เชี่ยยยยย”

แทบจะสิ้นสติ เข้ามาอยู่ในห้องกูได้ไง ปีนระเบียงเข้ามาเร้อออ หรือหย่อนตัวมาทางหลังคา T^T

“กลับมาแล้วหรอไอ้ตัวดี”

“จะเจ๊...เข้ามาได้ไง...”

“หลบหน้ากูยังพอทน” อย่าคลืบคลานเข้ามาด้วยท่าทางเหมือนจะฉีกกันเป็นชิ้นๆแบบนี้นะเว้ย มันน่ากลัว แง้ “แต่ไปอี๋อ๋อกับผู้ชายกูทนไม่ได้”

“อี๋อ๋ออะไรใช้คำน่าเกลียด เฮ้ย”

ตุบ

“จะเจ๊”

“โดนมันจับตรงไหนหรือเปล่า”

“เปล่า...”

นี่คิดว่าตัวเองเป็นผู้ชายกล้ามแน่นหรือไง ถึงจับกูทุ่มลงเตียงแล้วคร่อมทับเนี่ย เผลอทำตัวแมนขัดกับรูปร่างหน้าตาไปหลายครั้งแล้วนะเว้ย

ไหนความอ่อนแอ ไหนความบอบบางที่มึงพยายามสะกดจิตตัวเองตลอดห๊ะอิเจ๊!

“จูบกันมั้ย”

“จะบ้าหรอวะ เห็นกูเป็นคนไงเนี่ย”

“แล้วทำไมต้องไปกินข้าวดูหนังกับมัน”

“รู้ได้ไงอ่ะ”

“แล้วเพราะมันใช่มั้ยมึงถึงหลบหน้ากู”

“โอ๊ยเจ๊ กูเจ็บ อย่าบีบแขน” เห็นตัวนุ่มนิ่มทำไมแรงควายขนาดนี้วะ “เจ็บขาด้วย ปล่อย”

มันโถมตัวมาทับ จับสองมือผมขึ้นเหนือหัว กดลงบนเตียงและบีบข้อมือไว้ ตัวก็นั่งทับขาสองข้างไว้จนขยับไม่ได้

ฮือออ เจ็บ

“ตอบมา อย่าสำออย” จะบีบให้กระดูกข้อมือแตกเลยหรือไง ใจร้ายไปแล้วววว “ทำไม ไหนว่าเป็นรุกไง กับกูทำเป็นรับไม่ได้ สุดท้ายก็ยอมเป็นเมียมันอีกคนหรือไง หรือคิดว่าเสียแล้วเสียเลยจะเสียให้ใครอีกก็ได้”

กึก

“อย่ามาดูถูกกัน” ก็แค่ตุ๊ดปากหมาคนนึงที่เคยตะโกนด่าผมมามากกว่านี้ด้วยซ้ำ แต่ถ้อยคำร้ายกาจกับดวงตาสีน้ำตาลวาวโรจน์ช่างกรีดหัวใจผมเหลือเกิน

ทำไมต้องว่าร้ายกัน

อย่ามาสาดอารมณ์ด้วยถ้อยคำน่ารังเกียจ ทั้งที่ก็เป็นหนึ่งในคนที่ทำให้ผมไม่เป็นตัวของตัวเองมากที่สุดด้วยซ้ำ

“กูไม่ได้ดูถูก มึงทำตัวให้กูคิดแบบนั้น ถ้าไม่ใช่ก็อธิบายมาสิ!”

มันเปลี่ยนมาใช้มือทั้งสองข้างบีบหัวไหล่ผมแล้วเขย่าอย่างแรง ถ้าสิ่งที่รองรับผมอยู่ไม่ใช่เตียงนุ่ม ป่านนี้คงหัวแตกไหล่หักไปแล้ว

“พูดมาสิ!”



พูดจาว่าร้ายกับคนอื่นมีสิทธิ์มาสั่งด้วยหรอ…

“หลบหน้ากูทำไม! ไปกับมันทำไม!”

….

“มึงชอบมันหรอ หรือใช้มันเป็นเครื่องมือเพื่อห่างกู อย่าคิดว่ากูรู้ไม่ทันมึง บอกเลยนะมุกนี้ใช้ไม่ได้ กูไม่มีทางปล่อยมึงไปแน่ มึงเป็นของกูแล้ว มึงเป็นเมียกู!”

ถุย!

หมดแล้ว…

ความอดทนอดกลั้น

ผมพอแล้ว...ไม่ไหวแล้ว...

“นี่มึงถุยน้ำลายใส่หน้ากูหรอ”

“เออ เอาให้สิวเสี้ยนอุดตันอักเสบขึ้นให้หน้ามึงพังไปเลย” ผมสะบัดตัวสุดแรงจนคนที่อึ้งตะลึงงันอยู่เสียจังหวะให้ผมหลุดจากอีกฝ่ายมาได้ แต่สุดท้ายก็ถูกจับกดลงไปท่าเดิมอีก

โอ๊ย อะไรนักหนาวะ

“อย่านะ ถ้าถุยมาอีกคราวนี้กูปล้ำแน่”

มันขู่ นั่นทำให้ผมทั้งกลัวทั้งแค้นจนรู้สึกแน่นหน้าอกไปหมดจนกลั่นออกมาเป็นน้ำตาที่รื้นคลอหน่วงจนมองคนตรงหน้าไม่ชัด

“ฮึก ทำไมวะ...เจ๊เลิกยุ่งกับกูไม่ได้หรอ...” ผมลดเสียงเป็นอ้อนวอนพร้อมกับแรงคลายข้อมือที่เบาลงจนผมสามารถสะบัดหลุดออกมาได้อย่างง่ายดาย แต่ไม่...เพราะแม้แต่ชักมือออกผมก็ไม่มีแรงมากพอ...

“ไม่ได้...” น้ำเสียงยังคงความแข็งกร้าวแต่เจือไปด้วยความขื่นขมจนทำให้ผมปวดไปทั้งใจ “...กูเลิกยุ่งกับมึงไม่ได้จริงๆ ทำไมหรอตาร์ กูมันแย่ขนาดนั้นเลยหรอ...”

ผมส่ายหน้าทั้งน้ำตา

“พี่ไม่ได้แย่ ฮึก ไม่แย่...

“…”

“แต่กูอาย...”

“…”

 “ฮือ กูอายเจ๊...กูอาย...”





#เมียตุ๊ด













หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 8 [P.4]< 26.11.2018
เริ่มหัวข้อโดย: fc_fic ที่ 26-11-2018 18:03:49
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 8 [P.4]< 26.11.2018
เริ่มหัวข้อโดย: PP0504 ที่ 26-11-2018 18:26:41
ให้เวลาน้องหน่อยนะ
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 8 [P.4]< 26.11.2018
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 26-11-2018 18:43:12
 :mew2: :mew2:
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 8 [P.4]< 26.11.2018
เริ่มหัวข้อโดย: cheezett ที่ 26-11-2018 18:47:09
ฮือออ  :mew2: :mew2: :mew2:
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 8 [P.4]< 26.11.2018
เริ่มหัวข้อโดย: Ladyfern161237 ที่ 26-11-2018 18:52:54
เจ๊ลุคนี้คือดีย์~ ดูแลเอย คอยบ่นคอยเตือนเอย แต่เห็นแววขี้หึงมาแต่ไกลจ้า แอบสงสารเจ๊อ่ะ โดนเมินยังไงก็ยังรักอยู่ ตาร์ลูก ไม่ต้องอายนะ เชื่อเถอะเวลามีเจ๊อยู่มันดีนะ  :hao5:
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 8 [P.4]< 26.11.2018
เริ่มหัวข้อโดย: chancha ที่ 26-11-2018 19:14:03
เข้าใจอ่าาา ต้องให้เวลาน้อง
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 8 [P.4]< 26.11.2018
เริ่มหัวข้อโดย: angelninae ที่ 26-11-2018 20:12:40
เศร้าจัง แต่ก็เข้าใจได้ น้องตาร์กำลังสับสน ขอเวลาหน่อยนึงนะ เจ้อย่าเพิ่งคาดคั้นกัน  :mew2:
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 8 [P.4]< 26.11.2018
เริ่มหัวข้อโดย: suck_love ที่ 26-11-2018 20:14:17
เราเข้าใจตาร์นะ ของแบบนี้มันต้องใช้เวลา
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 8 [P.4]< 26.11.2018
เริ่มหัวข้อโดย: naruxiah ที่ 26-11-2018 20:24:03
ไม่เอาไม่อายสิ​  เจ๊ก็ของแรร์​อยู่นะ​ ค่อยๆทำความ​เข้าใจ​กับ​ตัวเอง​ก่อนมั้ยว่าชอบเจ๊​แค่ไหน​ เจ๊ต้องเข้มแข็ง​นะ​ ต้องสอนน้องให้ได้ว่าการยอมรับ​ความรู้สึก​ตัวเองไม่ใช่เรื่องน่าอาย​
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 8 [P.4]< 26.11.2018
เริ่มหัวข้อโดย: Chompoo reangkarn ที่ 26-11-2018 20:48:31
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 8 [P.4]< 26.11.2018
เริ่มหัวข้อโดย: Supparang-k ที่ 26-11-2018 21:12:33
 :m15: :m15: :m15:


ถถถ...สงสารใครดี
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 8 [P.4]< 26.11.2018
เริ่มหัวข้อโดย: mijimaria ที่ 26-11-2018 21:41:56
เจ๊ใจเย็นๆหน่อยซิ เวลาคุยกับน้อง ให้เวลาน้องเข้าอีกซักนี้ดดด 
 :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 8 [P.4]< 26.11.2018
เริ่มหัวข้อโดย: Mafiaziip ที่ 26-11-2018 21:44:34
เริ่มตอนมายังเล่นกันอยู่เลย แต่จบตอนแบบน้ำตาคลอตามน้องต้าแล้วเนี่ย :sad4: :sad4:

 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 8 [P.4]< 26.11.2018
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 26-11-2018 21:53:38
คนรอบข้างตาร์.......
อย่างแฟ้ม  อิเจ๊ พี่เต้  :เฮ้อ:
ก๋จะทำให้ตาร์สับสน วุ่ยวาย  :z3:
แต่ตาร์ ก็อ่อน และอ่อนแอจริงๆ  :angry2:
        :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 8 [P.4]< 26.11.2018
เริ่มหัวข้อโดย: aoihimeko ที่ 26-11-2018 22:01:16
 เฮ้อ.....
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 8 [P.4]< 26.11.2018
เริ่มหัวข้อโดย: Duangjai ที่ 26-11-2018 22:07:48


ต้าร์สับสน ต้าร์ต้องการคนปรึกษา ต้าร์ ต้าร์.… ต้าร์อายอ่ะ

เจ๊แปลงโฉมเถอะ ถ้ารักต้าร์กลับมาเป็นรุกแบบสมภาคภูมิหน่อยดิ

แล้วพออยู่กันสองคน ต้าร์จะเล่นตุ๊กตาเจ้าหญิงเป็นเพื่อนนะ


 :really2:  :really2:  :really2:  :really2:  :really2:  :really2:  :really2:

หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 8 [P.4]< 26.11.2018
เริ่มหัวข้อโดย: yumenari ที่ 26-11-2018 23:50:07
 :katai2-1: :katai2-1:

มาแล้วๆ


ทำไมรักเจ้มากอะะ
ต้าลูกกกกกก
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 8 [P.4]< 26.11.2018
เริ่มหัวข้อโดย: Peterpanmama ที่ 27-11-2018 00:36:24
น้องต้า หนูแค่สับสนนะลูก
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 8 [P.4]< 26.11.2018
เริ่มหัวข้อโดย: gigi22 ที่ 27-11-2018 09:54:04
เจ็บจี๊ดดดด~
 :sad4: :o12: :pig4:
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 8 [P.4]< 26.11.2018
เริ่มหัวข้อโดย: nooluk ที่ 27-11-2018 11:52:19
อิเจจจจจจจจจจจจจ๊ เข้าใจน้องหน่อยยยยยยยยย :o12:
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 8 [P.4]< 26.11.2018
เริ่มหัวข้อโดย: KizzllKizz ที่ 27-11-2018 16:11:57
เจ๊ให้เวลาน้องหน่อยนะ อย่าเพิ่งเกลียดน้อง ฮืออออ
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 8 [P.4]< 26.11.2018
เริ่มหัวข้อโดย: Fengfang ที่ 27-11-2018 21:28:01
 :sad4:เจ๊อย่าโกรธน้องนะน้องสับสน
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 8 [P.4]< 26.11.2018
เริ่มหัวข้อโดย: เขมกันต์ ที่ 28-11-2018 13:26:16
อ่านรวดเดียวตั้งแต่เมื่อคืน ถือโอกาสเมนต์รวบยอดตรงนี้นะคะ
อยากบอกว่า รักเจ๊ อยากได้เจ๊ ฮ่าาาา เจ๊เป็นตุ๊ดที่มีออร่าหลัวแรงมาก
ไม่ว่าจะท่วงท่าอุ้มตาร์ ดูแลประคบประหงม หรือ ฉากที่เขี่ยขาของตาร์ นี่เราชอบนะ

และยอมใจกับความปากจัดของเจ๊มาก ไม่รู้ว่าจะมีวันที่ตาร์เถียงชนะมั้ย เพราะเจ๊ปากว่ามือถึงด้วย
ไม่ต้องให้ขู่ซ้ำสอง ของปลิวมาแน่นอนน มาถึงตอนสุดท้าย จู่ๆ ดึงเข้าดราม่าไม่ทันตั้งตัว

เข้าใจที่ตาร์จะอาย อยากเป็นรุกมาตลอดชีวิต พลิกผันแบบนี้ก็ทำใจยากแล้ว ยังมีสามีเป็นเจ๊พิชชี่อีก
มันยิ่งยากเป็นสองต่อ เจ๊พิชชี่ลองถอยออกมาก่อนมั้ย ให้น้องได้คิดนิดนึงน้า
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 8 [P.4]< 26.11.2018
เริ่มหัวข้อโดย: akashita ที่ 28-11-2018 20:35:33
โธ่ หนูต้าลูกกกกก
เจ๊พิชชี่ก็ให้เวลาน้องหน่อยนะ อย่ารุกมากเจ๊ น้องมันยังปรับตัวไม่ทัน
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 8 [P.4]< 26.11.2018
เริ่มหัวข้อโดย: Teamiss ที่ 01-12-2018 18:51:28
ตอนต่อไปจงมาาาา งื้ออออ ชอบเรื่องนี้ชอบอิเจ้ 55555555 :z3:
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 8 [P.4]< 26.11.2018
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 02-12-2018 14:11:21
จะสงสารใครดี จับผลัดจับผลู่มาได้กันเนี่ย
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 8 [P.4]< 26.11.2018
เริ่มหัวข้อโดย: Chanikan ที่ 03-12-2018 18:16:57
สงสารน้อง น้องคงรู้สึกกดดัน
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 8 [P.4]< 26.11.2018
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 03-12-2018 18:48:21
อยากอ่านต่อใจจิขาดแล้วเน้อออออออ  :z3: :z3: :z3:
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 8 [P.4]< 26.11.2018
เริ่มหัวข้อโดย: fairyyadajb ที่ 04-12-2018 10:33:10
อยากอ่านแล้ววววว คิดถึงเจ้พิช
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 8 [P.4]< 26.11.2018
เริ่มหัวข้อโดย: สุนิสา ที่ 04-12-2018 23:02:02
รอเด้อจ้าา
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 8 [P.4]< 26.11.2018
เริ่มหัวข้อโดย: SeLoFENa ที่ 05-12-2018 01:32:50
สงสารน้อง  :mew2:

น้องกดดัน :katai1:
 น้องสับสน  :serius2:

ทั้งที่ก็รู้สึกดีๆด้วย ให้เวลาน้องงงงงง น้องใจไม่แข็งแรง :o12:
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 8 [P.4]< 26.11.2018
เริ่มหัวข้อโดย: angelninae ที่ 05-12-2018 12:51:09
คิดถึงน้องตาร์กับเจ้พิช  :m15: :monkeysad:
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 9 [P.5]< 6.12.2018
เริ่มหัวข้อโดย: mod-cup ที่ 06-12-2018 01:11:19



ตอนที่ 9
ฺBlue tone





“ตื่นแล้วหรอ”

ผมมองไปยังคนที่เอ่ยทักด้วยสายตานิ่งๆ ปวดหัวจัง ปวดตาด้วย รู้สึกได้เลยว่าตาต้องบวมมากแน่ๆ หนักเป็นวงล้อรถสิบล้อขนาดนี้

เมื่อคืนผมร้องไห้แล้วเผลอหลับไปตอนไหนก็ไม่รู้

แล้วนี่...ยังไม่กลับไปอีกหรอ

ผมเบือนหน้าหนีเมื่ออีกคนยื่นผ้าขนหนูผืนเล็กที่ชุบน้ำอุ่นบิดหมาดมาให้ จนสุดท้ายก็ได้ยินเสียงถอนหายใจก่อนผ้าจะถูกโยนลงมาจนปิดหน้า

เฮ้ย นอกจากหน้าด้านแล้วยังจะใช้ความรุนแรงไม่เลิก ฮุ่ย

“ลุกมาคุยกันหน่อยไหม”

ผมหันไปสบตากับคนที่สภาพดูแย่ไม่ต่างกัน ผมยังจำได้ดี เมื่อคืนผมร้องไห้แล้วพูดประโยคแย่ๆออกมาอย่างควบคุมไม่ได้ แต่ก็ต้องยอมรับ...ว่ามันคือความจริง เป็นความรู้สึกจริงๆของผมที่ระเบิดออกมา จนเผลอไปทำร้ายความรู้สึกอีกฝ่ายเข้า จนพอได้สติผมก็รู้สึกผิด

ซ้ำยังรู้สึกผิดหนักกว่าเก่าเมื่ออีกฝ่ายไม่ได้ตะคอกหรือทำรุนแรงกลับมาอย่างที่ชอบทำเลย แค่ผละออก แต่ไม่หนีไปไหน ทำเพียงล้มตัวลงนอนข้างๆและกอดปลอบผมที่สะอื้นจนตัวโยนไว้ทั้งคืน

“ไปอาบน้ำล้างหน้า กูไปซื้อโจ๊กมา เดี๋ยวเทใส่ถ้วยไว้ให้”

ผมเม้มปากอย่างชั่งใจ อยากดื้อดึงแต่สุดท้ายก็ยอมลุกเดินไปยังห้องน้ำแต่โดยดี

ไม่รู้สิ แค่ไม่อยากให้ดวงตาหม่นคู่นั้นดับแสงลงไปมากกว่านี้

น้ำตาคลออีกแล้วกู จะอ่อนแอไปไหน

ถ้าพ่อรู้ว่ามึงร้องไห้ง่ายแบบนี้ โดนกระทืบตายเลย!

พอแปรงฟันล้างหน้าเสร็จ ผมก็เดินซับหน้าออกมา เอาผ้าเช็ดตัวไปตากที่ราว ก่อนจะไปเปิดตู้เย็น หยิบน้ำเปล่ามารินลงแก้ว แล้วเดินไปนั่งขัดสมาธิตรงโต๊ะญี่ปุ่นกลางห้องที่มีโจ๊กหนึ่งถ้วยวางอยู่

ทุกอย่างเป็นไปอย่างเชื่องช้า ไม่รู้สิ แค่รู้สึกว่าถ้าเดินแรงกว่านี้อีกนิด ขยับตัวเร็วกว่านี้อีกหน่อย ร่างกายผมจะแตกสลายอะไรแบบนั้น

เวอร์เนอะ

“ไม่กินหรอ” ผมเงยหน้าถามคนที่นั่งตรงข้ามเมื่อเห็นชามโจ๊กแค่ชามเดียว อิเจ๊ส่ายหน้า

“ไม่หิว มึงกินเถอะ มีเรียนสิบโมงนี่”

“แล้วเจ๊อ่ะ”

“กูปีสี่ ไม่มีตัวเรียนแล้ว”

อืม ปีสี่เข้าสู่เทอมสองช่วงฝึกงานแล้วนี่นา

พูดถึงพี่ๆปีสี่ก็เริ่มทยอยไปฝึกงานกันบ้างแล้ว มีแต่อิเจ๊นี่แหละยังเห็นวนเวียนอยู่ในมหาวิทยาลัย

“กินเข้าไป เดี๋ยวหายร้อนจะไม่อร่อย”

“อืม”

ผมค่อยๆตักโจ๊กขึ้นมาเป่าก่อนนำเข้าปาก พอตักกินไปได้สักพักก็รู้สึกสำนึกบุญคุณคนขาย ฮึก ทำไมถึงทำอร่อยจัง ดูสิ หมูเด้งก็นุ่มกลมกล่อม ตับก็สุกกำลังดี หอมขิงอ่อนๆไม่ฉุนเกินไป

ฮึก อร่อยจัง ฮืออ

“ไม่ต้องร้อง”

ไม่ได้ร้อง! แค่กำลังตื้นตันโจ๊กที่แสนอร่อย!

แล้วอย่ามาใช้นิ้วปาดน้ำตาให้นะ! ไม่รู้หรอว่ามันยิ่งทำให้ร้องมากขึ้นน่ะ

“ตาบวมเป็นตูดหมาแก่ น่าสมเพชจริงๆ”

ถ้าจะด่าก็แสดงท่าทีขี้เหยียดเหมือนเดิมเซ่ มาด่าด้วยเสียงอ่อนโยนแบบนี้จะให้กูทำยังไงกัน!

“เจ๊”

“หืม”

“กู...ขอโทษนะ” ผมยังก้มหน้ามองมือที่จับช้อนคนโจ๊กในถ้วยอยู่ “ที่ เอ่อ...พ่นน้ำลายใส่เจ๊เมื่อวาน”

จะใช้คำว่าถุยก็ดูจะสะเทือนใจไปหน่อย

“อืม ช่างมันเถอะ กูทดไว้ในใจแล้ว มึงโดนเอาคืนแน่”

ขวับ

เงยหน้ามองทันทีแบบกระดูกคอแทบเคลื่อน แล้วก็ได้เห็นมุมปากยกยิ้มเจ้าเล่ห์ ช่างไม่เข้ากับลิปกลอสแวววาวสีหวานที่อยู่บนริมฝีปากอิ่มเลยสักนิด

ทำไมเป็นคนเจ้าคิดเจ้าแค้นแบบนี้วะ

มึงต้องพูดว่า ไม่เป็นไร คนที่รักต่อให้ขี้ใส่มือก็ไม่โกรธแบบนี้ดิ ฮุ่ย

อ้าว แล้วอะไร ผมยังขมุบขมิบปากด่าไม่ทันจบหนึ่งบทสวด สีหน้าทำไมเปลี่ยนเป็นจริงจังอีกแล้วอ่ะ

สายตาก็ทำไมต้องหมองลงอีกแล้ววะ

จะทำให้กูใจชื้นสักห้านาทีได้มั้ย ตาปูดๆยังไม่ทันยุบดี แค่นี้ก็รู้สึกแย่ที่ทำให้นางมารร้ายกลายร่างเป็นผักเฉาจะแย่แล้วนะเว้ยยย

ขอก้มหน้าแดกโจ๊กหนีสายตาต่อแล้วกัน

“อิตาร์...”

“ว่า?”

 “...กู...จะเลิกยุ่งกับมึงตามที่มึงขอนะ”

กึก

ก็ดีแล้วนิ

“อืม”

แล้วทำไมมือที่จับช้อนต้องหมดลงเสียดื้อๆด้วยนะ

“…”

“ขอบคุณนะ”

“อืม ก็มึงร้องไห้ขนาดนั้นนี่นะ กูจะทนได้ยังไง...”

ทำไมวะ ทำไมถึงอึดอัดหัวใจจนอยากร้องไห้ออกมาดังๆ

“ดีใจไหม ต่อไปจะไม่ได้เห็นหน้ากูแล้วนะ”

“จะเจ๊...” ผมเงยหน้ามองใบหน้าขาวใสไร้รอยสิวที่ยิ้มขื่นส่งมาให้ “...เป็นพี่น้องกันไม่ได้หรอ...”

ผมกลืนน้ำลายที่จุกอยู่ตรงคอก่อนจะพูดต่อ

“...ผมยังอยากเจอหน้าเจ๊อยู่นะ”

ปลายประโยคแผ่วพร้อมกับตาที่หลุบลงอย่างสู้ความวูบไหวในนัยน์ตาอีกฝ่ายไม่ไหว เสไปตักโจ๊กเละๆเข้าปาก

แม้ผมจะอยู่ในสถานะที่เจ๊อยากให้เป็นไม่ได้...แต่ผมก็ยอมรับนะ ว่ายังอยากเจอ อยากต่อปากต่อคำ อยากได้ความห่วงใยที่ทำให้อบอุ่นไปทั้งใจเหมือนเดิม

“ไม่เจอน่ะถูกแล้ว” มือขาวเอื้อมมาเช็ดมุมปากที่เลอะให้ “กูกำลังจะไปเยอรมันน่ะ”

เคร้ง

ผมเงยหน้ามองอีกฝ่ายแทบจะทันที

“ยะเยอรมัน...” ผมมองคนตรงหน้าอย่างไม่เชื่อสายตา หูอื้อไปหมด “จะบ้าหรอ!!”

ผมลุกขึ้นยืน เท้าเอวชี้หน้าอิเจ๊อย่างที่มันชอบทำ จะต่างก็ตรงที่นิ้วผมนั้นมันสั่นไปหมด

“เป็นบ้าอะไรอิกลูต้า”

ไม่ต้องมาทำหน้าเหวอ!

“แค่อกหัก แค่คนกากๆอย่างกูไม่รับรัก ถึงกับต้องหนีไปพักใจต่างประเทศเลยหรือไง ดูละครมากไปหรอ” ตอนนี้ความสั่นไหวของปลายนิ้วลามไปทั่วกายแล้ว “แล้วเรื่องเรียนล่ะ อีกเทอมเดียวก็จะจบแล้ว ยะอย่าบอกนะว่าจะดร็อป ไม่ได้นะเว้ย อย่ามายึดติดกับกูได้มั้ยวะ ทำไรก็นึกถึงพ่อแม่บ้าง”

“เดี๋ยวนะ...”

“ละแล้วที่นัดถ่ายรูปชุดครุยกับแก๊งดอกขจรล่ะ พวกเจ๊ๆคงเสียใจน่าดูถ้าเจ๊ไม่จบพร้อมกัน”

“นี่…”

“ที่ผมไม่เห็นเจ๊ไปฝึกงานเหมือนคนอื่นก็เพราะแบบนี้ใช่มั้ย ทำไมทำแบบนี้วะ จะทำให้กูรู้สึกผิดไปถึงไหน ถ้าคนอื่น...อ่ะ อื้อๆ”

ผมดิ้นเต็มแรงเมื่อฝ่ายที่นั่งอยู่เริ่มทนไม่ไหว ฉุดผมให้ล้มลงเข้าหาและ...

โนว นี่ไม่ใช่ชีวิตจริงแต่อิงนิยายวายฉบับสายฮา ต่อให้ดราม่าอิเจ๊มันก็ไม่ออมมือง่ายๆ ไม่มีหรอกดึงมาแล้วจูบปิดปาก มันโรแมนซ์ไป อย่างมันนะแอดวานซ์กว่านั้นเยอะ

อิเจ๊! มึงจะเอาสลิปเปอร์ริลัคคุมะสุดคิวท์มาอุดปากกูแบบนี้ไม่ได้นะเว้ยยยยยยยยยยยย

“อื้อๆ”

กูเพิ่งซักอ่ะ ยังหอมฉุยกลิ่นน้ำยาปรับผ้านุ่มไฮยีนกลิ่นอะโรเวอราอยู่เลย

เห็นมั้ยว่ารองเท้ามันจะเปื้อนน้ำลายกู! แง้!

“อยู่นิ่งๆ” หลังจากมันยัดสลิปเปอร์เข้ามาในปากผมแล้วก็เอามืออุดไว้ไม่ให้ผมบ้วนออก ก่อนจับร่างผมนั่งตรงกลางระหว่างขาจนแผ่นหลังผมแนบกับแผ่นอกแล้วใช้อ้อมแขนข้างที่เหลือรัดตัวผมไว้แน่น

ฮืออออ นี่มันอัลไลลลล ความดราม่าที่อบอวลหายไปไหน ทำไมความจัญไรถึงเข้ามาแทนที่ นี่หรือโชคชะตาของกีตาร์สุดหล่อ ฮือ ชีวิต

“อย่าดิ้นสิ” กูต้องฟังคนที่เอารองเท้ายัดปากกูมั้ยอ่ะ ไม่โว้ยยยย “นิ่งและฟังพี่”

กึก

ผมไม่ได้นิ่งตามที่มันสั่งหรอกนะ แต่น้ำเสียงนุ่มหูและความชื้นแฉะตรงใบหูต่างหากที่ทำให้ผมตัวแข็งเกร็ง

นั่งนิ่งหุบปากเผลอกัดสลิปเปอร์ในปากแน่นเพียงเพราะมันเลียหูกูนี่แหละ

ฮือ

ไหนจะเลิกยุ่ง ลวนลามกูอีกแล้วอ่ะ

“กูไปฝึกงาน”

ไว้ใจไม่ได้เลย เผลอทีไร…

หืม

เมื่อกี้อิเจ๊ว่าไงนะ

“ที่ไปเยอรมันน่ะ ไปฝึกงานค่ะ”

เพล้ง

หนังหน้ากูสงสัยจะมีหลายชั้นเหมือนวงปี เพราะแม่งแตกบ่อยแค่ไหนก็ยังมีให้แตกอยู่เรื่อยๆ

คุณแม่บ้านครับ ช่วยมาเก็บเศษหน้าผมที ค่อยๆโกยอย่างระมัดระวังด้วยนะครับเพราะมันแตกละเอียดมาก

อะไรดลใจให้กูคิดว่าอิเจ๊มันจะหนีรักไปพักใจต่างประเทศวะ

คนที่ดูละครมากไปไม่ใช่อิเจ๊หรอก กูเอ๊งงงงงงงง

และทันทีที่อิเจ๊ปล่อยมือที่อุดอยู่ สลิปเปอร์ก็ล่วงลงสู่พื้นเป็นภาพสโลโมชั่น ริลัคคุมะลูกรักได้ตายไปพร้อมกับใจกู ฮือ T^T

“ทะทำไมไม่บอกเร็วๆล่ะ” ไม่ได้ กูจะต้องกู้ศักดิ์ศรีและวงปีบนหนังหน้ากูขึ้นมา ผมไม่ผิด มันต่างหากที่บอกช้า

“ก็แมวตัวไหนมัวแต่ร้องโวยวายล่ะ มีช่องไฟให้กูได้เข้าแทรกมั้ย”

ไม่มี T^T

“กะก็...”

“หึ ห่วงกูล่ะสิ อ๊ะๆ ไม่ต้องมาแก้ตัวทำปากเก่ง กูมองตาก็เห็นไปถึงสำไส้ติ่งที่กำลังจะอักเสบละ” แช่งกันทำไม และถึงจะปล่อยปากผมเป็นอิสระ แต่วงแขนกลับโอบกระชับมากขึ้น “คิดถึงกูบ้างนะ อย่าลืมกัน”

“ปะไปนานหรอ”

“ถ้านานล่ะ”

“ของแปลกอย่างเจ๊ใครจะลืม” ไหนจะอ้อมกอดอุ่นนี่อีกล่ะ “แล้วตกลงไปนานหรอ”

“สามเดือน”

“แค่สามเดือนเอง ตดยังไม่ทันหายเหม็นก็กลับมาแล้ว”

“อืม นั่นสิ”

งุ้ย ใจหายหมด นึกว่าไปเป็นปี แค่สามเดือนเอง แป๊บๆเดี๋ยวก็กลับมาวอแวให้ผมร้องไห้งอแงอีก

“สามเดือนนี้ กูจะลืมมึงให้ได้นะ”

“…”

“กูจะพยายามเลิกรัก แล้วรู้สึกกับมึงในแบบพี่น้องอย่างที่มึงขอ หวังว่าระยะทางที่ห่างคนละซีกโลกจะช่วยกูได้ไม่มากก็น้อยล่ะนะ”

“ทำไมอยู่ๆก็...ใจดีล่ะ” ทุกทีผมขออะไรก็ไม่เห็นจะให้ผมได้เลย ทั้งดื้อรั้นเอาแต่ใจ ชอบเอาชนะจะตายแล้วอยู่ๆทำไมถึงได้...

“หึ ใจดีหรอ ไม่หรอก” อิเจ๊เอนหลังพิงเตียงแล้วดึงผมให้เอนพิงจมไปในอ้อมกอดด้วย ก่อนยกมืออีกข้างขึ้นมาลูบศีรษะผมเบาๆ มันอบอุ่นนะ แต่ก็เจือด้วยความหน่วงหัวใจไปกับน้ำเสียงของอีกฝ่าย “มึงต่างหากที่ใจร้าย...ที่มองความเจ็บปวดของกูเป็นความใจดี...”

“…”

“ขออยู่แบบนี้สักพักนะ”

ผมนั่งนิ่งจมอยู่ในอ้อมกอดอุ่น อ้อมกอดที่ไม่ได้เต็มไปด้วยมัดกล้ามเหมือนพระเอกในนิยาย ไม่ได้ตัวใหญ่ให้รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นแมวน้อย ตรงข้ามเจ้าของอ้อมแขนตัวนุ่มนิ่มยิ่งกว่าผมเสียอีกซ้ำยังมีความหอมอ่อนๆจากโลชั่นที่ใช้ชะโชมผิว

แต่นั่นแหละ...ไม่ว่ายังไงผมก็รู้สึกดีทุกครั้งที่ได้อยู่ในอ้อมกอดนี้

แม้แต่ตอนนี้ที่ความเจ็บปวดอบอวลไปทั่วบริเวณ อ้อมกอดนี้ก็ยังให้ความรู้สึกดีอยู่

สัมผัสแนบชิดที่ไม่ได้ทำให้ความเจ็บลดน้อยถอยลง มันยังเจ็บเท่าเดิม...แค่ทำให้ผมรู้ว่าไม่ใช่แค่ผมหรือเขา แต่เรากำลังเจ็บเท่าๆกัน

“นี่”

“ครับ”

ผมตอบรับเสียงเรียกหลังจากที่เรากอดกันเงียบๆไปพักใหญ่

“ขอถามอะไรหน่อยได้มั้ย”

“อะไรหรอ”

“ขอความจริงนะ ถือว่ากูขอ ยังไม่รู้เลยว่าหลังจากนี้จะได้คุยกันอีกหรือเปล่า”

“ทำไมล่ะ” ก็ไหนว่าไปสามเดือนแล้วก็กลับ....

“ไม่รู้สิ ถ้ามันทำใจเป็นพี่น้องไม่ได้...ก็คงไม่มีหน้ามาเจอมึงหรอก”

“จะถามอะไรล่ะ”

แล้วถ้ายอมตอบความจริงไปจะพอให้มาเจอกันอีกได้หรือเปล่า





“ชอบกูบ้างมั้ย”

“…”

“ว่าไงตาร์ รักกูบ้างหรือเปล่า”

.

.

.

“อืม”








………………………………………………………………..





อิเจ๊ไปเยอรมันได้สามวันแล้ว...

วันที่บิน ผมก็ได้ไปส่งอิเจ๊เหมือนกัน

เจ๊ไม่ได้ขอ ผมก็ไม่ได้เอ่ยปากว่าจะไปส่ง

แต่พอถึงวันก็เกาะติดไอ้แฟ้มเพราะรู้ว่ามันต้องตามพี่อ้อนน้อยไปส่งอิเจ๊...

หรือไม่...ที่มันยอมตามพี่อ้อนน้อยไปอาจเป็นเพราะผม

แต่ก็นั่นแหละ ถือซะว่าเพราะไอ้แฟ้ม ผมถึงได้ตามไปส่งเจ๊ขึ้นเครื่องได้

ไม่ได้คุยกัน ไม่ได้เอ่ยลา ได้แต่ยืนมองเจ๊ร่ำลาครอบครัวกับเพื่อนๆแก๊งค์ดอกขจร รวมถึงผู้ชายชื่อพอร์ชที่เพิ่งรู้ว่าเป็นพี่น้องกันจากบทสนทนาที่ได้ยินจากการที่ผมนั่งอยู่บนเก้าอี้ห่างๆข้างๆไอ้แฟ้ม

และก่อนที่เจ้าของเรือนผมยาวตรงดำขลับจะเดินเข้าไปในอาคารผู้โดยสาร อีกฝ่ายก็เพียงแค่หันมาสบตา ส่งยิ้มบาง และหันหลังเดินจากไป

ผมมองตามแผ่นหลังนั้นจนลับสายตาด้วยภาพเลือนลางจากม่านน้ำตาที่เข้ามาบดบังการมองเห็น

ไอ้แฟ้มไม่ได้เอ่ยแซวหรือถามซอกแซก แค่นั่งเงียบๆและกอดไหล่ผมไว้อย่างให้กำลังใจเพียงเท่านั้น







“มึงสองคนมีเรื่องปิดบังกูหรือเปล่า”

“ไม่นิ”/ “เปล่า”

“มีพิรุจชัดๆ”

“ตรงไหน”/ “ตรงไหน”

“ตรงนี้นี่แหละ!”

พอไอ้การ์ดถลึงตาใส่ ผมกับไอ้แฟ้มก็ยกน้ำปั่นขึ้นมาดูดพร้อมกันแก้กระหาย

“หึ ดูแลกันดียิ่งกว่าผัวเมีย ไอ้ห่านี่ก็ทำตัวเหมือนผัวตาย ส่วนมึงไอ้แฟ้ม ประคบประหงมมันเหมือนคนท้องอ่อนๆ” มันยกกระดาษเอสี่ที่ม้วนอยู่ในมือชี้หน้าเราสองคน “นี่ถ้าไม่ติดว่ามึงจีบพี่อ้อนน้อยอยู่นะ กูคิดว่าแดกกันเอง”

“เฮ้ย”

พูดเชี่ยไรไอ้การ์ด กูขนลุก!

“สรุปมีเรื่องอะไร”

“ไม่มี” ผมส่ายหน้าหวืออีกรอบ พอมันตวัดสายตาไปที่ไอ้แฟ้ม ไอ้ห่านั่นก็ทำเป็นมองนกมองไม้ไปเรื่อย

“โอเค กูก็มีประโยชน์แค่คอยช่วยงาน คอยติวให้พวกมึง ไม่ใช่เพื่อน ถูกกันเป็นคนนอกก็ไม่แปลก”

“เฮ้ย ไอ้การ์ด ไม่ใช่แบบนั้นนะเว้ย”

“แล้วแบบไหน ทุกทีเราไม่มีเรื่องปิดบัง ถ้าไอ้แฟ้มรู้ กูต้องรู้ หรือกูรู้ พวกมึงสองคนก็ต้องรู้ แต่นี่อะไรมุบมิบกันอยู่สองคน มึงก็เอาแต่นั่งซึม ทำตัวเหมือนคนวิญญาณออกจากร่าง”

“กะกูแค่...”

“ถ้าจะโกหกก็เงียบไปดีกว่า”

กริบเลย หุบปากงับแมลงวันแทบไม่ทัน

“เอาเถอะ เห็นกูเป็นเพื่อนเมื่อไหร่ก็ค่อยบอก มาติวกันต่อแล้วกัน” แล้วมันก็เปิดชีทเรียน ผมแอบสบตากับไอ้แฟ้มก่อนจะโดนดุให้สนใจเนื้อหาที่ไอ้การ์ดจะติวให้ตรงหน้า

ขอโทษนะไอ้แฟ้ม ที่ทำให้มึงซวยไปด้วย

กูเห็นเรื่องทุกอย่างมันจบลงแล้ว เลยไม่อยากรื้อฟื้นหรือพูดอะไรอีก

ส่วนมึงไอ้การ์ด ขอโทษที่ทำให้รู้สึกไม่ดี

สัญญาเลยว่าถ้าพร้อมเมื่อไหร่จะเล่าให้มึงสองคนฟังแน่นอน

แต่ขอเวลาหน่อยนะ...

เพราะตอนนี้ วันนี้...ที่กูรู้หัวใจตัวเอง

ไม่สิ...รู้ใจน่ะ รู้มาตั้งนานแล้ว

แต่ยอมรับหัวใจน่ะ...เพิ่งจะยอมรับได้…

ในวันที่สายไป...

แต่มันก็ดีแล้วล่ะ ให้มันจบไปแบบนี้แหละดีแล้ว

มันอาจจะปวดใจหน่อย แต่เดี๋ยวมันก็ดีขึ้น

ก็นี่มันชีวิตปกติอย่างที่ผมอยากได้คืนนี่นา

มันดีแล้ว...





#เมียตุ๊ด









หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 9 [P.5]< 6.12.2018
เริ่มหัวข้อโดย: angelninae ที่ 06-12-2018 01:47:36
เย้ๆมาแล้วววว
เจ๊ได้ยินคำว่าชอบแล้ว อย่ายอมแพ้ง่ายๆนะเจ๊
กลับมาแล้วต้องได้กันนะคะ! ระหว่างนี้ตาร์ก็ทบทวนตัวเองไปก่อนน
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 9 [P.5]< 6.12.2018
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 06-12-2018 02:02:31
 :mew2: :mew2:
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 9 [P.5]< 6.12.2018
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 06-12-2018 02:09:55
คิดว่าอีเจ๊คงไม่ยอมตัดง่ายๆหรอก. อาจจะวางแผนไว้แล้วก็ได้ระหว่างไปฝึกงาน
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 9 [P.5]< 6.12.2018
เริ่มหัวข้อโดย: Fengfang ที่ 06-12-2018 06:50:23
เจ๊อย่าทิ้งน้อง :impress3:
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 9 [P.5]< 6.12.2018
เริ่มหัวข้อโดย: Hirose ที่ 06-12-2018 07:41:47
 :katai4: :katai4:
รู้สึกว่าเจ๊ไปแล้วจะสวยขึ้นแน่ 5555+
น้องต้าค่ะ พอรู้ว่าเจ๊ตัดใจแล้วจะไม่งอแงใช่มั้ย
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 9 [P.5]< 6.12.2018
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 06-12-2018 08:10:20
ก็รู้ใจตัวเองแต่ทำปากดี......
....." เป็นพี่เป็นพี่เป็นน้อง..." บ้างละ
แต่ใจหาย ตอนเขาจากไป ..........   :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
รีบๆส่งข่าวบอกไปสิว่าคิดถึงเจ๊.... ว่ารักเจ๊.......   :-[

เจ๊  ตาร์   :กอด1: :กอด1: :กอด1:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 9 [P.5]< 6.12.2018
เริ่มหัวข้อโดย: naruxiah ที่ 06-12-2018 08:21:35
โ​ถ่ว​น้องงงงงสงสาร​ ผัวตุ๊ดหนีไปเยอรมัน​ ห่างกันแบบนี้ดีเลยจะได้เห็นอะไรชัดเจนมากขึ้น
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 9 [P.5]< 6.12.2018
เริ่มหัวข้อโดย: chancha ที่ 06-12-2018 08:25:18
รอเจ๊กลับมา
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 9 [P.5]< 6.12.2018
เริ่มหัวข้อโดย: nooluk ที่ 06-12-2018 10:45:59
บินตามไงหาเจ๊เลยยยยยยยยยยยยยยนุ้งต้า
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 9 [P.5]< 6.12.2018
เริ่มหัวข้อโดย: MayuYume ที่ 06-12-2018 11:32:20
ตอนแรกฮาๆพอมาอ่านตอนแปดกับตอนเก้าแบบฉุดอารมณ์เลย ฮือออออ
ขอให้กลับมาดีกันเร็วๆนะ(?)  :hao5:
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 9 [P.5]< 6.12.2018
เริ่มหัวข้อโดย: เขมกันต์ ที่ 06-12-2018 11:39:49
ถ้าเราเป็นเจ๊พิชนี่ จุกเลยนะ ชอบแต่ไม่อยากคบเนี่ย
เหตุผลเพราะว่าอาย แสดงว่ารับตัวตนกันไม่ได้เลย
เข้าใจว่าน้องอยากรุก แต่จากตอนนี้ น้องอยากรู้สึกเป็นแมวน้อย
หนูไม่ได้อยากรุกแล้วลูกกกกก เจ๊พิชสู้ๆ นะ ตาร์เองก็ยอมรับตัวตนให้ได้เถอะ
อยู่แบบทุกข์ ไม่สนุกหรอกนาจา
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 9 [P.5]< 6.12.2018
เริ่มหัวข้อโดย: aoihimeko ที่ 06-12-2018 12:45:21
อ่า...ร้องไห้แทนพิช เพราะพิชไม่ร้อง
ก็ได้แต่รอวันที่พิชจะกลับมา
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 9 [P.5]< 6.12.2018
เริ่มหัวข้อโดย: Duangjai ที่ 06-12-2018 14:01:16
……

น้องเขาก็รอเจ๊กลับมานั่นแหละ

อีก 3 เดือน เจ๊กลับมา เปลี่ยนไทป์ให้ชัดเจน 

จะเป็นอะไรก็ได้ แต่ต้องชัดเจนกับคู่อ่ะ

เชียร์นะจ้ะ


 :katai3:  :katai3:  :katai3:  :katai3:  :katai3:  :katai3:  :katai3:


……

 

หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 9 [P.5]< 6.12.2018
เริ่มหัวข้อโดย: yumenari ที่ 06-12-2018 21:58:47
เจ้ๆๆๆ อย่าทิ้งน้องงง
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 9 [P.5]< 6.12.2018
เริ่มหัวข้อโดย: Fengfang ที่ 06-12-2018 22:03:56
อยากรู้ความคิดเจ๊ วางแผนอะไรอยู่ไหมคิดว่าเจ๊ไม่ตัดใจง่ายๆหรอก คริคริ :laugh:
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 9 [P.5]< 6.12.2018
เริ่มหัวข้อโดย: papapoope ที่ 06-12-2018 23:51:25
เจ๊มีแผนรึเปล่าน้าาาา
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 9 [P.5]< 6.12.2018
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 07-12-2018 11:17:14
เราว่าถ้าอิเจ้มันเปลี่ยนลุคเป็นรุกจริงๆ อิน้องมันอาจจะอายน้อยกว่านี้ก็ได้มั้งนะ
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 9 [P.5]< 6.12.2018
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 07-12-2018 14:02:28
นังกลูต้่าร์ถ้าหล่อนไม่เอาอิเจ้ ป้าขอเอาเองก็แล้วกัน
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 9 [P.5]< 6.12.2018
เริ่มหัวข้อโดย: Ladyfern161237 ที่ 07-12-2018 16:10:09
คาดหวังให้้มันเป็นแผนการของเจ๊ เจ๊ออกจะฉลาดต้องมองออกสิว่าน้องหวั่นไหวไปไกลแล้วววว
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 9 [P.5]< 6.12.2018
เริ่มหัวข้อโดย: Fengfang ที่ 11-12-2018 12:33:09
คิดถึงจังเลย :กอด1:
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 9 [P.5]< 6.12.2018
เริ่มหัวข้อโดย: Teamiss ที่ 12-12-2018 00:16:16
เง้อออออ มาต่อไวๆนะ อยากให้เจ้กลับมาอยู่กับต้าเร็วๆ :hao5:
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 9 [P.5]< 6.12.2018
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 13-12-2018 06:16:49
เจ๊ไปเยอรมันแล้ว น้องต้าจะรู้ใจตัวเองยัง
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 9 [P.5]< 6.12.2018
เริ่มหัวข้อโดย: LoveAlone ที่ 13-12-2018 09:47:08
 :L1: :3123: :L2:
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 9 [P.5]< 6.12.2018
เริ่มหัวข้อโดย: PK.Kenaf ที่ 13-12-2018 22:27:45
อ่านทันแล้วจ้าาาา ชอบแนวนี้นะ น้องเด๋อมาก ทาสผัวที่แท้ทรู 5555555 เจ๊ไปตั้ง3เดือน หวังว่าพอเจ๊กลับมาน้องจะไปง้อนะ รู้ใจตัวเองแล้ว อย่าเสียเขาไปอีก นี่มองว่ามันเป็นเรื่องการยอมรับ ที่น้องจะต้องยอมรับในตัวเจ๊ และพร้อมที่จะก้าวเดินไปด้วยกัน
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 10 [P.6]< 17.12.2018
เริ่มหัวข้อโดย: mod-cup ที่ 17-12-2018 02:36:58
ตอนที่ 10
Finally found my heart



“โอ๊ยยย หิว กินข้าวกันมั้ยมึง”

“เอาดิ” ผมตอบไอ้แฟ้มพลางรวบชีทเรียนเก็บใส่กระเป๋าเป้หลังอาจารย์สอนเสร็จ ใครแม่งจัดตารางเรียนเอาภาษาไทยเพื่อการเขียนมาไว้ตอนเย็นวะ ง่วงชิบ นี่อยากจะร่ายบทกลอนใส่สักบทก่อนจะละสังขารตายไป

เมื่อไหร่จะครบสามเดือนวะ ขี้เกียจเรียนวิชามอแล้ว หลุดจากปีหนึ่งไปจะได้เรียนวิชาเอกสักที

ไม่ได้เกี่ยวกับที่ใครจะกลับมาเลยนะ ไม่เกี่ยวจริงๆ

“กินไรดี” ไอ้แฟ้ม

“อะไรก็ได้” ผม

“ป้าหวีมั้ย” ไอ้การ์ด

“ไม่อะ” ผม

“อะไรก็ได้ไม่มีอยู่จริงสินะ” กวนตีนอีกละเชี่ยแฟ้มนิ

“ไปลองร้านหลังมอกัน”

“มึงก็พูดงี้ทุกวันอะ ร้านหลังมอมันมีอะไรหรอ หืม”

เอาขี้หน้ากร้านๆมึงออกไปห่างๆไอ้แฟ้ม เดี๋ยวกูจกขี้ที่ตูดป้ายหน้าเลยนิ

“ไม่มีอะไรเว้ยยย” ทำไมแค่ผมอยากลองร้านใหม่ๆที่อยู่หลังมอแล้วมันมีอะไร

“หึ”

“อะไรไอ้การ์ด”

“ป่าว มึงจะแดกร้านที่ถัดจากเมื่อวานใช่ปะ”

เหย รู้ได้ไง มันจะรู้ใจเกินไปแล้ว แต่ผิดว่ะ แต่ไม่ทันพูดอะไรไอ้แฟ้มก็ปากยื่นแทรกซะก่อน อยากจะตัดปากมันทิ้งจริงๆ

“ไม่ใช่โว้ย ร้านติดกับเมื่อวานมันร้านก๋วยเตี๋ยว ไอ้ตาร์นาวเวอร์ชั่นมันต้องร้านอาหารตามสั่งเท่านั้น แดกไล่ไปตั้งแต่ออกประตูมอ ตามถนนเส้นที่ 41 เลาะหลังมอไปจนถึงนู่นนนนน”

“ถึงไหนวะเพื่อนแฟ้ม”

“เอ้า นี่เพื่อนการ์ดไม่รู้หรอว่าเพื่อนตาร์หน้ามนของเราเดี๋ยวนี้ไม่ใช่เป็นแค่นักศึกษาล่าปริญญานะครับ ยังเป็นนักรีวิวอาหารด้วย หม่อมถนัดแดกนี่ชิดซ้าย เพราะนี่ครับ...หมาถนัดแดก ไม่ใช่แดกธรรมดานะครับ แดกแต่ข้าวผัด แดกมันทุกร้าน กินมันทุกมื้อ”

“โห สุดยอดเลยครับ ชาแนลอะไรครับ กระผมจะขอไปติดตาม”

“ไอ้พวกเหี้ย”

ด่าได้แค่นี้จริงๆครับ พอดีเป็นคนดี หมามันเห่าหอนเลยไม่ถือสา

ก็ผมกินแต่ข้าวผัดจริงๆอย่างที่มันว่าแหละ ก็ทำไมอะ ปากกู ลำไส้กู กูอยากกินไรก็ได้ปะ หรือจะเอา ตัวตัวปะล่า หลังเซเว่นปิด ต่อยกัน? ป่าวอะ ให้บอกด้วยจะปิดวันไหน จะได้ไปซื้อของมาตุนไว้ ครึ

วันนี้ผมไม่ได้เอารถมา ส่วนไอ้แฟ้มก็เมื่อเช้าพี่อ้อนน้อยมาส่ง เราสามคนเลยไปรถไอ้การ์ดกัน กว่าฝ่ารถติดมหาประลัยหลังมอไปได้ไอ้การ์ดก็ด่าความยาวต่อกันนี่คงถึงเชียงรายสุดเขตแดน

“แดกเข้าไปข้าวผัดมึงอะ กูสั่งพิเศษของพิเศษมาให้เลย หัวจวยมาก จะต้องมาแดกหลังมอ มึงก็รู้ว่าช่วงเย็นๆแบบนี้รถติดแค่ไหน” มันเสือกจานข้าวผัดที่เด็กเอามาเสิร์ฟให้พลางกระพือปกคอเสื้อนักศึกษาด้วยอากาศที่ร้อนอบอ้าวบวกกับร้านเล็กๆที่มุงด้วยหลังคาสังกะสี เรียกได้ว่าหกโมงเย็นแล้วก็ไม่ทำให้ไอความร้อนลดลงไปเลย

แต่จะโทษกูคนเดียวไม่ได้นะเว้ย ก่อนออกมาก็เออออห่อหมก พอเจอรถติดตีเรือกูแตกซะงั้น บู่ว

“โห สั่งไรมาอะ น่ากินโคตรรร”

“ผัดกะเพราปลาหมึก” มีไข่ดาวเยิ้มๆด้วย โฮววว

“ของมึงก็น่ากิน”

“แน่นอน ร้านนี้เค้าขึ้นชื่อเมนูฉู่ฉี่ปลากรอบเว้ย” ท็อปปิ้งหมูยอทอดไปอี๊กกกกกกก

“งือ”

“ชอบแดกเผ็ดแล้วไม่สั่ง กูเห็นกินแต่ข้าวผัดมาอาทิตย์กว่าละ”

“เรื่องของกู”

“ก็อย่ามาน้ำลายไหลใส่จานข้าวกูสิเว้ย”

“ไอ้ขี้งก”

“แบ่งมั้ย คนละครึ่ง” งือ เพื่อนการ์ด นอกจากสมองจะปราดเปรื่องแล้วจิตใจยังงดงาม เพื่อนซึ้งงงง แต่ไม่เป็นไรนะ เอาไว้คราวหน้า เมื่อภารกิจกูสำเร็จเสร็จสิ้น

“ไม่เอาอะ กูอยากกินข้าวผัด”

ผมว่าแล้วตักข้าวผัดใส่ปาก ค่อยๆละเลียดชิมรสชาติอย่างตั้งใจ

ไม่ใช่

ไม่ใช่อ้ะ!

“หน้าหงอย” ไอ้แฟ้ม ช้อนมึงเลอะ อย่าเอามาเคาะหัวกู ยังไม่ครบสามวันขี้เกียจสระผมโว้ยยย

“สั่งเอง แดกเอง หงอยเอง ไม่อร่อยรึไง” ยังไม่ทันตอบไอ้การ์ดก็ตักข้าวผัดนจานผมไปกิน “ก็อร่อยนิ”

“อืม” ผมพยักหน้าหงอยๆ

“อร่อยแล้วเป็นไร”

“เปล่า”

“เฮ้อ” แล้วทำไมมึงสองตัวต้องถอนหายใจพร้อมกันอะ

“นี่กูถามจริงๆเถอะ” เป็นไอ้แฟ้มที่ทนไม่ได้เลิกคิ้วถามอย่างอดทนไม่ไหว “ถ้าลองกินมันจนสุดทางแล้วไม่ใช่มึงจะทำไง”

“สะสุดทางอะไรของมึง”

“แหมะ ไอ้ตาร์ นอกจากเขากูยังจะไม่งอกแล้ว กูยังขุดเผือกแดกประทังชีวิต กับอิแค่เพื่อนที่ชอบแดกเผ็ดมาตลอดชีวิตหันมากินข้าวผัด แล้วต้องเป็นร้านเส้นหลังมอที่เป็นทางกลับคอนโดของใครบางคนน่ะทำไมกูจะไม่รู้”

หน้าตามึงเหยียดหยามกูมาก เออ มึงเก่ง

“แต่ที่ไม่รู้น่ะคือมึงเกิดเฮี้ยนอะไร หรือคิดถึงพี่เค้าจนเป็นบ้า” ไอ้การ์ด ถึงกูจะเล่าทุกอย่างให้ฟังไม่ได้หมายความว่ามึงจะเอามาล้อเลียนกูได้นะเว้ย

“เออ สักที เห็นกับที่กูไปกินกับมึงทุกแห่งหน สรุปยังไง ไหนเหลา”

“ไม่มีอะไร...”

“แล้วที่มื้อเช้ากินแต่โจ๊กร้านเดิมๆนี่ไม่มีอะไรด้วยหรือเปล่า”

“ก็มื้อเช้ากินโจ๊กมันอุ่นท้อง ย่อยง่าย”

“แต่ไปยากโว้ยยย มันอยู่อีกฟากโลกของหอมึงเลยเหอะ”

“ก็เจ้านี้อร่อย”

“แล้วมึงไปรู้ได้ไงว่าอร่อย”

“ก็...”

“ก็?”

“อย่าคาดคั้นกูสิ มึงก็รู้นี่” ผมก้มหน้าหลบสายตา แต่กูได้ยินเสียงถอนหายใจเหนื่อยหน่ายของพวกมึงนะเฟ้ยยย เดี๋ยวขบหูเลย

“นี่ไอ้ตาร์...” ไอ้การ์ดมันใช้ส้อมงัดคางผมขึ้นมาให้สบตา

เจริญอีกคนเคาะหัว อีกคนงัดคาง ขี้ปากพวกมึงทั้งนั้น

แต่นี่เข้าซีนจริงจังใช่ปะ โอเค กูจะไม่โวยวาย

“…ถ้ามึงไม่พูดก็ไม่มีใครเข้าใจหรอกนะ” สายตาที่มองมาจริงจังและฉายความเฉียบขาด ถ้าเปรียบก็คงเหมือนกล้องจุลทรรศน์ที่มองทะลุปุโปร่งเข้าไปถึงเซลล์กล้ามเนื้อหัวใจ

“กะกูแค่กำลังตามหาร้านข้าวผัด” ผมก้มหน้าเขี่ยมะเขือเทศในจานออก อ้อมแอ้มตอบอย่างคนมีชนักติดหลัง “…ที่เจ๊มันเคยซื้อให้กินน่ะ”

“มันอร่อยมากหรอวะ”

“อืม อร่อย...” รู้สึกเหมือนคัดจมูกเลยว่ะ “...อร่อยที่สุดเลย”

“อร่อยเหมือนโจ๊กเจ้าประจำที่มึงเห่อไปกินช่วงนี้มั้ย”

“อืม”

“ไอ้ตาร์…”

“ยิ่งโจ๊กปลาใส่ไข่ลวกพิเศษสองฟองนะ อร่อยสุดๆเลย แต่มึงต้องระวังนะมันร้อนมากเลย แต่ตอนกูกินอะไม่รู้ทำไมมันถึงอุ่นกำลังดี กูก็สงสัยนะ ทำไมตอนกูซื้อกินเองมันโคตรร้อน ลวกปากกูพองไปหมด แม่ง...”

“...”

“เนี่ย กูก็เลยอยากรู้ว่าข้าวผัดมันจะร้อนเหมือนกันรึเปล่า มันจะอุ่นพอดีเหมือนอย่างที่กูเคยกินตอนป่วยมั้ย”

“...มึง”

“มึงรู้ป่ะ ว่าเมื่อก่อนกูโคตรเกลียดเลยไอ้โจ๊กกับข้าวผัดเนี่ย แม่งทั้งจืดทั้งเละ”

ผมยกหลังมือขึ้นปาดน้ำบ้าๆที่ไหลออกมาจากตา

โอเค ผมควรยอมรับตัวเองสักที

ร้องไห้ก็ร้องไห้สิ ก็กูคิดถึงนิ กูปวดใจ กูร้องไห้ ร้องไห้เว้ยยยยย

 “มึงเบื่อมั้ยวะ ต้องโดนกูลาก ฝ่ารถติดมากินข้าวทุกวัน”

“เฮ้ย คิดมากไรวะ”

“เออ เพื่อนกันปะ”

“ดีจัง” แล้วกลับคนที่พิเศษขนาดนั้น ทำไมผมถึงกล้าคิดว่าเขาน่าเบื่อแล้วไล่ให้ไปไกลๆกันนะ

“เออน่า อย่าคิดมาก แดกๆ”

“นั่นสิ อย่าดึงดราม่าดิวะ กูก็บ่นไปงั้นแหละ เดี๋ยวพรุ่งนี้เที่ยงกูพามาแดกร้านข้างๆนี่ ยังไม่เคยกินใช่ปะ” ไอ้แฟ้มบอกพลางขยี้ผมจนฟูไปหมด

“เออ แล้วเดี๋ยวพรุ่งนี้เช้ามีเรียนสิบโมง เก้าโมงกูมารับไปแดกโจ๊ก ร้านเดิมเนอะ”

“อืม” ผมมองหน้าพวกมันสองคนอย่างซึ้งโคตรๆ “ขอบใจนะ กะกู...”

“…”

“…คิดถึงรสชาตินั้น”





“คิดถึงจริงๆ”







หลังจากฟาดข้าวผัดเคล้าน้ำตาแห่งความดราม่าร้อนฉ่า 2018 ไอ้การ์ดก็มาส่งผมที่หอก่อนจะเลยไปส่งไอ้แฟ้ม ก่อนลงรถพวกมันก็รุมตบหัวผมกันใหญ่โทษฐานหมั่นไส้ที่ทำตัวหางลู่หูตกเหมือนหมาโดนเจ้าของทิ้ง และก็ดีใจที่สุดท้ายผมยอมรับตัวเองได้สักที

แคร์อะไรกับสังคม กับสายตาคนอื่น

แต่คนรอบข้างเข้าใจ แค่เราอยู่กับใครแล้วสบายใจก็พอแล้ว

สายตาที่มองมา ไม่ได้มีค่าเท่าหัวใจ...

อยากจะโทรไปหาซะตอนนี้เลย แต่ที่ไทยสองทุ่ม เยอรมันก็เพิ่งบ่ายสอง มันจะรบกวนเวลางานอิเจ๊รึเปล่านะ

ไว้เดี๋ยวค่อยโทรก็แล้วกัน
.
.
.

เดี๋ยว...ไม่มีอยู่จริง

อุตส่าห์คิดว่าสักเที่ยงคืนจะโทรหาอิเจ๊

อะไรคือกูเผลอหลับไปก่อน

แง้

ตื่นอีกทีแปดโมงเช้า ที่นู่นก็ตีสอง ใครจะกล้าโทรไปกวนว๊า

ฮือ





ครืด ครืด

“โหล”

“ตื่นยัง”

“ยัง นี่แม่ซื้อรับสาย”

“ฟวย อีกครึ่งชั่วโมงไปรับ” เสียงด่าจากไอ้การ์ด ให้ผมกระตุกยิ้มอารมณ์ดีแต่เช้า

ได้ทำให้อีกฝ่ายขุ่นมัวนี่มันชื่นหัวใจ

“เจอกันที่ร้านก็ได้ เดี๋ยวกูเอารถไปเอง”

“ไม่อะ เดี๋ยวไปรับ รีบไปอาบน้ำ ขี้เกียจขึ้นไปรอ”

“เออๆ แค่นี้นะ”

ผมวางสาย สลัดผ้าห่มออกแล้วเดินเข้าห้องน้ำ นี่ยังเมาขี้ตาอยู่เลย

แต่ต้องรีบครับ ชักช้าไอ้การ์ดมาถึงแล้วผมยังแต่งตัวไม่เสร็จมีหวังโดนบ่นหูชา เบื่อมัน ขี้หูนี่ถึงขั้นไม่ต้องไปปั่นไปแคะ โดนคลื่นเสียงของไอ้การ์ดไปสักครึ่งชั่วโมงรับลองไหลเป็นลาวา

จะเอารถไปเอง ช่วงนี้ไอ้เพื่อนตัวดีทั้งสองคนก็ไม่ให้ผมขี่รถหรอก เพราะเมื่ออาทิตย์ก่อนเพิ่งขี่มอเตอร์ไซค์ลูกรักไปเสยเสาไฟในมอมา ล้มเลยครับ ไม่ใช่เสาไฟนะ ผมเนี่ย ล้มไม่เป็นท่า โดนรถทับไปอีก ล้อยังหมุนติ้วๆอยู่เลย

ดีนะไม่ได้ขี่เร็วมาก แค่ 40 กิโลเมตร/ชั่วโมง ไม่งั้นป่านนี้คงได้ไปจีบบุรุษพยาบาลเพลินกันเลยล่ะ

แค่เข่าถลอกกับศอกเป็นแผล ไม่ได้ไปโรงพยาบาล เรียกไอ้การ์ดมารับแล้วให้มันไปส่งที่ห้อง ทำแผลให้

แล้วเพื่อนผมมันก็เด็กเรียนเนอะ ไม่เคยมีเรื่องชกต่อยหรือเกิดอุบัติเหตุให้มีแผลไปแปดเปื้อนผิว เลยไม่รู้จักวิธีทำแผล กดสำลีลงมาแทบจะกระชากหนังหัวโขกเสาเตียง แม่ง คงคิดว่าท่อนขาผมคือต้นตะเคียน ถูซะอย่างกับเลขมันจะขึ้น ฮือ ชีวิต

จะเรียกไอ้แฟ้มมาก็ติดงาน เลยต้องทนให้มันขูดหนังกำพร้าไป พูดแล้วน้ำตาจะไหล

นี่ถ้าอิเจ๊อยู่นะผมไม่ต้องเจ็บขนาดนั้นหรอก เจ๊น่ะ ถึงปากจะด่าจะโวยวาย แต่ก็เบามือตลอด

ฮือ คิดถึงโว้ยยยยย

เพิ่งจะผ่านไปหนึ่งเดือนกับห้าวันเอง T^T

งือ มา เปิดฝักบัวราดหัวเล่นซีนดราม่ากันเถอะ

มีเวลาอาบน้ำแค่ห้านาทีกูก็เล่นซีนนี้ได้

ฮือ นี่กูเป็นพระเอกหรือไบโพล่า





“ช้า”

“แค่ห้านาที ไอ้แฟ้มอะ”

“เจอกันที่ร้าน”

“อ่อ”

แล้วไอ้การ์ดก็เคลื่อนรถ ส่วนผมก็รีบเอี้ยวตัวไปคว้าเป้มันมาเปิดซิป แฮร่ นี่ไงเจอแล้ว ใบงานที่ต้องส่งเช้านี้ ขอลอกหน่อยน้า ไม่ได้ขี้เกียจน้า ลองทำแล้วน้า แต่โง่เกินกว่าจะแก้โจทย์เองจริงๆน้า ฮือ

“ลอกแล้วตอนเย็นมาติวด้วยนะมึง เดี๋ยวตอนสอบทำไม่ได้”

“รู้ละน่า”

“รู้ตลอด มึงกับไอ้แฟ้มนี่พอกัน ไอ้ห่านั่นก็ให้กูถ่ายคำตอบให้ตั้งแต่เมื่อคืน แต่ตอนติวนี่ไม่ค่อยจะกระตือรือร้นกัน”

“คร้าบ คุณพ่อ อย่าเพิ่งบ่นเลยนะ ขอสมาธิทำงานแป๊บนึง”

แล้วผมก็ได้รับฝ่ามือพิฆาตลงทัณฑ์บรรชามาหนึ่งฝ่ามือพระยูไล ฮือ อย่าตบแรงมาก ที่มีอยู่ก็น้อยนิด มึงยังไปตบให้มันกระเด็นออกมาอี๊ก แคนี้ก็มีแต่ขี้เลื่อยละ

“มึงก็ไม่ได้โง่นะไอ้ตาร์ มึงน่ะมันขี้เกียจ....$%#&^%&*”

เฮ้อ กว่าจะถึงร้าน ก็โดนไอ้การ์ดล้างขี้หูให้ซะสะอาดเอี่ยมอ่อง

เกือบจะเขียนคำด่าลงไปในกกระดาษรายงานแทนคำตอบ

“เดินหน้าแหยเหมือนคนขี้ไม่ออกมาแบบนี้ โดนของแต่เช้าสิมึง”

“เออดิ”

“ฮ่าๆ”

“มึงไม่ต้องขำหรอก เดี๋ยวพ่อมึงจอดรถเสร็จ มึงโดนต่อจากกูแน่” แล้วไอ้แฟ้มก็ทำหน้าเหมือนคนท้องอืดไม่ต่างจากผม เป็นที่รู้กันว่าพลังแร๊ปของไอ้การ์ดถ้ามันได้เริ่มอ้าปากบ่นก็ติดลมบนยาว

“กูรีบไปสั่งโจ๊กปิดปากให้มันดีกว่า จัดพิเศษเครื่องในไปเลย เคี้ยวอะไรเหนียวๆให้เมื่อยขากรรไกรจะได้ไม่มีแรงบ่น มึงเอาเหมือนเดิมนะ”

“อืม”

“ไปนั่งรอปะ นู่น อ้อนจองโต๊ะไว้ละ” ผมหันไปทางทิศทางที่มันเพยิดหน้าก็เจอเข้ากับความขาวออร่าของเทดาตัวน้อยๆ คนอะไรมันดูนุ่มนิ่มน่ารักไปหมดเลยวะ

“พี่อ้อนหวัดดีครับ”

“อ้าวตาร์ นั่งๆ วันนี้ขอมาฝากท้องด้วยนะ”

“ครับ ทำไมวันนี้พี่มากับมันได้อะ” ช่วงนี้ผมไม่ค่อยเจอพี่อ้อนเท่าไหร่ เพราะพี่เค้าไปฝึกงานแล้ว

“พอดีวันนี้พี่เข้ามอน่ะ ไปทำเรื่องเอกสารนิดหน่อย”

“อ่อ แล้ว...”

“หืม”

“เปล่าครับ”

เฮ้อ ไม่กล้าอีกแล้ว พี่อ้อนจะรู้มั้ยนะ ว่าคนทางนู้นเป็นยังไงบ้าง

“อ้อน ตับหมดอะ แฟ้มเปลี่ยนเป็นหมูเด้งให้นะ”

“ใส่กุ้งด้วยมั้ย”

“ใส่คร้าบบบ โจ๊กตับกับหมูสับเห็ดหอม แต่ถ้าเป็นหมูเด้งต้องกินกับกุ้งลวก แฟ้มจำได้น่า”

พี่อ้อนไม่พูดอะไร แต่แก้มสองข้างแดงปลั่ง ไอ้แฟ้มก็ตาเยิ้มซะ ฮัลโหล่ววววววว อย่าสวีทกันมาก เห็นใจคนหล่อโดนทิ้งด้วยคร้าบบบ แค่คิดถึงคนห่างกันก็จะแย่ละ ยังต้องมาดูคู่รักนั่งกระหนุงกระหนิงกันอีก คว่ำโต๊ะแม่ง



- ไม่มีทางหนีได้เลย ฉันเลยต้องเอ่ยปาก บอกรักเธอ รักเธอ... –

ขอบคุณเสียงโทรศัพท์ที่ถึงแม้จะหวานเลี่ยนจนแทบอ้วก แต่ก็มาช่วยดึงสติไม่ให้ผมลุกขึ้นล้มโต๊ะได้

‘เฮลโหล่ววววว กระต่ายน้อยยย’

“เดี๋ยวเถอะ แล้วนี่ทำไมตื่นเช้า ที่นู่นยังไม่เช้าเลย”

ใช่สิ ที่นู่เพิ่งตีสาม ยี่สิบสองนาที ทำไมตื่นแล้วล่ะ

ผมไม่ได้ถามออกไปนะ ได้แต่คิดในใจเพราะตอนนี้ทั้งจิตใจและกายหยาบได้ถูกสต๊าฟจนแข็งค้าง หยุดการทำงานชั่วขณะไปแล้ว

สะเสียงอิเจ๊อะ เสียงมันอะ เสียงมัน!

“มันเป็นไร” ผมเหมือนได้ยินเสียงไอ้การ์ดแว่วๆ เสียงเก้าอี้พลาสติกเลื่อน เหมือนมีคนนั่งลงข้างๆตัว แต่จิตใจกูได้ล่องลอยไปอยู่ในมือถือคนที่นั่งตรงข้ามเรียบร้อยแล้ว

งือ แล้วทำไมกูไม่นั่งข้างๆพี่อ้อนอะ อยากเห็นหน้าอะ อยากเห็นหน้าเว้ยยยยย ฮือ

ไอ้แฟ้ม มึงลุกมา ลุกออกมา!

แล้วทำไมกูต้องได้แต่พูดในใจ พูดในใจ! ตีกันวุ่นวายอยู่ในสมอง แต่กายหยาบกูขยับไม่ได้เลย ได้แต่นั่งฟังตาปริบๆ

‘กำลังจะนอน เพิ่งกลับมาจากแฮงค์เอ้าท์ ง่วงมาก พรุ่งนี้ต้องตื่นเช้าอีกอีดอก’

“แล้วทำไมไม่โทรไลน์มา โทรมาแบบนี้เปลืองเงิน วิดิโอคอลอีก”

‘กูรวย จบมั้ยยะ ก็เน็ตที่ห้องมันแย่ กูเสียค่าห้องเดือนละห้าร้อยยูโร แต่สัญญาณอิเตอร์เน็ตแม่งแย่ยิ่งกว่าหนังหน้าอิแคนดี้อีก’

“เบาๆสิ เสียงดัง เกรงใจข้างห้อง”

‘จ้ะ แม่คนดี กูแค่จะโทรมาบอกว่า กูลืมส่งใบรายงานทางการเงินไป กูแปลงเป็นไฟล์พีดีเอฟไปแล้ว มึงปริ๊นแล้วแนบไปกับเอกสารก่อนหน้าแล้วให้อาจารย์ต้นเซนต์เลย’

“ได้ๆ”

‘เคค่ะ ขอบใจมากนะกระต่ายน้อย เดี๋ยวเพื่อนจะซื้อเควายกลิ่นอะโรเวอราไปฝาก อิอิ’

“พิชชี่ เดี๋ยวเถอะ!”

แก้มแดงๆของพี่อ้อนน้อย ไม่ได้ทำให้ความสนใจผมละไปจากเสียงก้องลำโพงนั่นได้เลย

แค่ลุกเดินอ้อมไปอีกฝั่งโต๊ะ ผมก็จะได้เห็นใบหน้าของคนที่คิดถึงแล้ว แต่ผมไม่กล้าเลย...กลัวสีหน้าอีกฝ่ายเมื่อเห็นกัน...

‘จ้า แล้วนี่ทำไร กูมึนอะ จะไปนอนแล้วนะ เบียร์ที่นี่แรงเหี้ยๆ’

“ที่นี่เช้าแล้ว กำลังจะกินโจ๊ก เราอยู่กับแฟ้ม การ์ด”

‘แรดนะเดี๋ยวนี้ ควบสอง น้องการ์ดนี่จองนะ กลับไปจะขอเลียหน้าคนหล่อสักที อั่ยย่ะ’

“น้องก็อยู่นะ...”

‘…’

ทำไมพูดถึงผมแล้วต้องเงียบล่ะ น้องที่ว่าหมายถึงผมใช่มั้ย

“คุยมั้ย”

พี่อ้อนน้อยทำท่าเหมือนจะหันหน้าจอมือถือมา ผมขยับตัวอย่างตื่นเต้น แต่เสี้ยววินาทีก็มาก็โดนความผิดหวังวิ่งชนอย่างแรง

‘ไม่อะ ง่วง จะไปนอนแล้ว แค่นี้แหละ เดี๋ยวล่าหนุ่มหล่อไปถวายนะจ๊ะ บ๊ายยย’

“เฮ้ย เจ๊พิช ไม่ต้องเอามาฝากอ้อนเลย!” ไอ้แฟ้มโผล่หน้าไปในจอ แต่ไม่ทันจะพูดจบเสียงสัญญาณก็ตัดไปซะก่อน

ไปแล้วอะ

เจ๊ไปแล้ว เจ๊ไปแล้ว...

ไม่คุยกับกูด้วย T^T

“โอเคมั้ยวะ” ไอ้การ์ดลูบหลังผมเบาๆ ผมเม้มปากมองเพื่อน ส่ายหน้าน้ำตาคลอ

“โอเค...”

“ไหวมั้ยเนี่ย โอเคแล้วส่ายหัวทำไม” หันไปมองไอ้แฟ้มก่อนพยักหน้า

“ไม่ไหว...”

“โอ๊ย มึงไม่ไหวจริงๆแล้วอะ อย่าร้อง ฮึบๆ”

“น้องตาร์ อย่าร้องนะ พิชชี่แค่ไม่กล้าน่ะ แต่คิดถึงน้องตาร์นะ” พี่อ้อนน้อยไม่ต้องปลอบผม อิเจ๊มันเทผมแล้วววว ฮืออ

“…”

“พิชถามถึงตาร์ตลอดเลยนะ”

“จะจริงหรอครับ”

“จริงสิ พิชคิดถึงน้องตาร์จะตาย เมื่อวันก่อนที่คอลกันยังให้แวะซื้อน้ำเต้าหู้เจ้าอร่อยไปให้อยู่เลย น้องตาร์ได้กินมั้ย”

ผมหันไปหาไอ้แฟ้มทันที

“ทำไมมึงไม่บอกกูว่าเจ๊ฝากมาให้” กูแบ่งมึงกินไปด้วยอะ ถ้ารู้ว่าของอิเจ๊ฝากมานะไม่ให้ใครกินหรอก งือ คายปาท่องโก๋คืนมา!

“กูก็ไม่รู้ อ้อนบอกให้เอาไปให้มึง แบ่งกันกินอะ”

“ก็พิชไม่ให้บอก”

“แล้วทำไมถึงบอก”

“ก็สงสารน้อง”

ฮืออออ เทวดาน้อยของตาร์ T^T

“หึ หน้าระรื่นขึ้นมาทันที เหมือนกี้หน้าเหมือนโดนยาฆ่าหญ้า นาทีต่อมาบานเป็นดอกทานตะวัน” แซะไปเถอะไอ้การ์ด กูไม่สน หัวใจกำลังพองโต

“กินลงแล้วเนอะ แดกๆ เดี๋ยวไปเรียนไม่ทัน”

“แฟ้มพูดไม่เพราะ”

“เค รับทานครับ เสวยกันสักทีเนอะ กระผมหิวแล้วคร้าบบบบ”

“เดี๋ยวเถอะ”

สรุปแล้ว อิเจ๊ยังรักผมใช่มั้ย

ยังเป็นห่วงเป็นใยกัน

อร๊ายยยยย เขิลลลลลล

ฮุ่เล่ กำลังใจมาเต็ม เย็นนี้เถอะ จะโทรไปง้อนะครับที่ร๊ากกกกก




#เมียตุ๊ด
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 10 [P.6]< 17.12.2018
เริ่มหัวข้อโดย: Supparang-k ที่ 17-12-2018 05:23:47
จะรอดูสิว่าตาร์จะกล้าโทรหาพี่เขาอะป่าว
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 10 [P.6]< 17.12.2018
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 17-12-2018 07:30:10
โถ๋กลูต้าร์น้อย

หนูช่างขี้มโนอะไรขนาดน้านนนนน
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 10 [P.6]< 17.12.2018
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 17-12-2018 07:41:06
อย่างนี้แหละ...........คนปากแข็ง
ทั้งที่รักเขาไปแล้ว   :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:

เจ๊  ตาร์   :กอด1: :กอด1: :กอด1:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 10 [P.6]< 17.12.2018
เริ่มหัวข้อโดย: aoihimeko ที่ 17-12-2018 08:03:50
 :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 10 [P.6]< 17.12.2018
เริ่มหัวข้อโดย: yumenari ที่ 17-12-2018 08:46:06
ฮรุยยยยยยย
เจ้ อย่าเพิ่งทิ้งน้องน้าาาาาา


อย่าดราม่าน้าาาาา
แต่เนาดรามาตรงที่มากดรีเฟรชทุกวันฮืออออออ

มันยังไม่จุใจง่ะ
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 10 [P.6]< 17.12.2018
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 17-12-2018 12:50:00
 :mew2: :mew2:
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 10 [P.6]< 17.12.2018
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 17-12-2018 16:25:11
บานยังกับจานเชิงเลยตอนนี้
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 10 [P.6]< 17.12.2018
เริ่มหัวข้อโดย: Peterpanmama ที่ 17-12-2018 17:27:31
น้องต้าเดินหน้าลุยเลยจ้า
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 10 [P.6]< 17.12.2018
เริ่มหัวข้อโดย: mutyamania ที่ 17-12-2018 21:55:01
แปลกๆ ดีนะคู่นี้ จินตนาการร่างเจ้ไว้เป็นหนุ่มร่างสูงผมยาว ตัวบางเอวคอดแต่แอบมีกล้ามอ่ะ อุอุ
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 10 [P.6]< 17.12.2018
เริ่มหัวข้อโดย: naruxiah ที่ 17-12-2018 23:54:21
ดีน้องต้า  โทรง้อผัวเจ๊​เลย​ พัฒนา​ขึ้นแล้ววว
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 10 [P.6]< 17.12.2018
เริ่มหัวข้อโดย: PK.Kenaf ที่ 18-12-2018 13:19:56
รีบๆโทร ห้ามหลับอีกนะ เดี๋ยวเจ๊ไปเจอฝรั่งแซ่บๆ อดเลยนะจ๊ะเธอ
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 10 [P.6]< 17.12.2018
เริ่มหัวข้อโดย: angel_Z4 ที่ 18-12-2018 23:09:36
น่าตีจริงๆเลยทั้งเจ้าตาร์ทั้งเจ้พิช เอามือมาตีทีซิ!
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 10 [P.6]< 17.12.2018
เริ่มหัวข้อโดย: goldentime ที่ 27-12-2018 18:58:11
คิดถึงเค้าจนทนไม่ไหวแล้วอะดิ555
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 10 [P.6]< 17.12.2018
เริ่มหัวข้อโดย: aommyga40 ที่ 29-12-2018 11:59:42
 :hao3:  รอน้องงงงงง
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 11 [P.7]< 31.12.2018
เริ่มหัวข้อโดย: mod-cup ที่ 31-12-2018 05:27:16

ตอนที่ 11
- again -




“การ์ด กูขอยืมเงินสี่หมื่นสิ”

“เฮ้ย เอาไปทำไร”

“ซื้อตั๋วเครื่องบิน”

ผั้วะ

“โอ๊ย ตบกูไมเนี่ย”

“ตบให้ตื่นไง มโนไรอีกมึงอะ”

มึงไม่เข้าใจอะ ทำไมต้องว่ากู ทำไมต้องทำร้ายร่างกาย

กูไม่เจ็บหรอกนะ ไม่สะเทือนเลย

เพราะโดยบล็อกไลน์ เฟส และไอจีน่ะ มันเจ็บกว่าเยอะเว้ยยยย

กล้าดียังไง ไหนว่ารักกู หลงกูไง ทำไมถึงบล็อกกัน!

ผมจะไปเยอรมัน ไปตามด่าถึงที่เลย แง้

ติดแค่ผมไม่มีเงินไง เออ กูมันคนกาก นี่ตัวเอกนะเว้ย ทำไมสร้างมาแค่หล่อลากแต่ไม่มากเงิน อยากรวยอะ แบบคิดถึงอยากไปหาก็ซื้อตั๋วไปได้เลย ไม่ก็มีเครื่องบินส่วนตัวงี้

วีซ่าอะไรไม่ต้องกังวล ออกคำสั่งทีเดียวทุกอย่างก็ได้ดั่งใจ

ทำไมกูถึงไม่เป็นงั้นวะ อย่าว่าแต่ต่างประเทศเลย จะไปต่างจังหวัดยังไม่มีปัญญา โกรธเว้ย

“ตกลงว่าไง เป็นไร กูเห็นมึงยืมตังไอ้การ์ดมาแต่เช้าละ” ไอ้แฟ้ม อย่ามาเคาะหัว เดี๋ยวกูกัดคอเลย แง่ง

“ยืมแล้วมันให้มั้ยล่ะ ไอ้ขี้งก”

“กูไม่ได้งก เงินแค่สามสี่หมื่น”

“งั้นก็เอามาสิ”

“แต่มึงมันเพ้อเจ้อไง กูเห็นงอแงตั้งแต่เช้าละ ถามจริง ถ้ากูให้ยืมจริงมึงจะไปมั้ย”

“...”

...ไม่ไป

ไม่สิ

ไปไม่ได้ต่างหาก

ก็จะสอบมิดเทอมอยู่แล้วผมจะปลีกตัวไปไหนได้ล่ะ

แล้วติดหนี้เพื่อนสามสี่หมื่น มีหวังพ่อรู้โดนตีน่องลายแน่

แต่ทำไมอะ กูไม่โอเค กูอยากงอแง ทำไมต้องขัดกู!

“ฮึก”

“อ้าวเชี่ย น้ำตาก็มา”

ยังไม่ไหลเว้ย แค่คลอๆ

ก็พวกมึงอะ ขัดใจกู

“มันบล็อกกู”

“...”

“มึง...” เบะแล้ว กูไม่ไหวแล้ว พอเป็นเรื่องมันกูโคตรอ่อนไหวเลย “มันเทกู...”

“เฮ้อออ”

“มันทิ้งกู”

“สาวแตกไปอีกเพื่อนกู ไหนแมนนักแมนหนา เจอดุ้นตุ๊ดเข้าไปที จบเห่เลย”

“มันทำให้กูเป็นแบบนี้ แล้วมันก็เทกู!”

“เห้ย เบาๆ คนอื่นมองแล้ว”

แล้วยังไง! ใครกล้ามองมาบวกเลย แต่เลขอย่าเกินสามหลักนะ กูคิดไม่ออก!

“ช่างคนอื่นสิ กูไม่สนใจคนอื่นแล้ว เพราะกูสนใจคนอื่นกูถึงทำเรื่องโง่ๆไปไง กูไล่หัวใจตัวเอง ผลักไสคนที่กูรัก กูมันโง่ หน้าบางไม่เข้าเรื่อง เอาฆ้อนมากูจะทุบปูนที่หน้ากูออก” ผมเอาหน้าผากโขลกโต๊ะหินอ่อนแรงๆได้สองทีไอ้แฟ้มก็เอาฝ่ามือมารองไว้

รองทำไม กูจะเอาเลือดโง่กูออก

“โอ๊ย มึงนี่ปกติก็บ๊องอยู่แล้ว อกหักทีเป็นบ้าไปกันใหญ่”

“กูไม่ได้อกหัก!”

“แล้วที่ร้องไห้นี่?”

“กูใจสลาย...”

“โว๊ะ!!”

ตึง ตึง โป๊ะ

แง้! อย่ามาจังหวะซิทคอม กำลังดราม่าโว้ยยยย







“พากูมาที่นี่ทำไม”

หลังจากนั่งดราม่ากลางคณะจนเต็มที่ มีเพื่อนหน้าเหี้ยสองตัวนั่งเฝ้าพร้อมจกหมูย่างข้าวเหนียวไปด้วย มึงช่วยอินกับความเศ้ราโศกของกูหน่อย มานั่งขบหมู ทำเอาน้ำตากูเหือดแห้ง แต่น้ำย่อยกะเพาะหลั่งริน

หิวโว้ยยยยยย

สุดท้ายความตะกละก็ชนะทุกอย่าง เลยลากไอ้เพื่อนสองตัวไปร้านอาหารตามสั่ง จัดข้าวผัดหมูพิเศษหมูยอทอดไปเน้นๆ สองจาน แต่หลังจากนั้นไอ้การ์ดมันก็พามาที่คอนโดหนึ่ง ซึ่งไม่คุ้นเลย แอบซ่อนกิ๊กไว้ที่นี่หรอ

“คอนโดอ้อน”

ผมหันไปมองไอ้แฟ้มที่นั่งอยู่เบาะหลัง

“พามาทำไม”

“ก็อยากคุยกับใครล่ะ”

ผมตีหน้าบึ้ง

“มันบล็อกกู”

“แต่ไม่ได้บล็อกอ้อนนิ”

“ถ้าโทรไปแล้วมันเห็นกู แล้วตัดสายทิ้งล่ะ”

“ก็อดคุยไง”

“เพื่อนเหี้ย”

“เอาน่า อย่าเพิ่งคิดไปเอง ไม่มีอะไรจะเสียแล้ว ลองก่อน”

“...”

“เอาไง ถ้ามึงไม่โอกูให้ไอ้การ์ดออกรถไปส่งมึงที่หอตอนนี้เลย แล้วก็ไปนอนร้องไห้ขี้มูกโป่งต่อ แล้วพรุ่งนี้จะซื้อหมอนมาเปลี่ยนให้”

“เกี่ยวไรกับหมอน”

“ก็ป่านนี้เปียกน้ำตาจนราขึ้นละมั้ง”

“สัด”

“มึงก็อย่าไปแหย่มัน ไอ้ตาร์ ครั้งนี้มึงผิดนะ มึงต้องง้อ แค่เค้าบล็อกมึงก็ท้อแล้วหรอ พี่มันพยายามกับมึงมาตั้งหลายเดือน กูไม่เห็นมันจะยอมแพ้เลย”

“แต่ตอนนี้มันยอมแล้ว...”

“เพราะใครล่ะ”

“เพราะกู”

“เออ ทำตัวเองทั้งนั้น ก็สู้หน่อย”

“อืม...”

“ก็แค่นั้น ป่ะลง กูบอกอ้อนไว้ละว่าจะมา”

แล้วพวกเราสามคนก็ยกโขยงกันไปบุกห้องพี่อ้อนที่เปิดรอต้อนรับอยู่แล้ว โห ห้องกว้างมากเลย เฟอนิเจอร์ส่วนมากตกแต่งด้วยสีขาวตามสีของห้อง ดูสบายตา จะว่าไปก็คล้ายๆคอนโดอิเจ๊คือเข้ามาเป็นห้องโถงนั่งเล่น ฝั่งซ้ายเป็นครัว ฝั่งขวาคือห้องนอน ห้องอิเจ๊ส่วนมากก็ตกแต่งด้วยสีขาวนี่แหละ จะคัลเลอร์ฟูลตรงบรรดาตุ๊กตาและของสะสมของเหล่าเจ้าหญิง

แง้ คิดถึงอีกแล้ว

“เดี๋ยวรอแป๊บนะ เมื่อกี้ทักไปพิชเพิ่งถึงห้องน่ะ”

ผมเหลือบตามองไปยังนาฬิกาบนผนังห้อง สี่ทุ่มกว่าแล้ว ที่นู่นก็สี่โมงเย็นกว่าๆ

“เลิกงานเร็วจังครับ”

“อืม ที่นู่นมืดไว้น่ะ เห็นพิชว่าบ่ายสามครึ่งฟ้าก็เริ่มมืดแล้ว หนาวด้วย เลยกลับห้องเร็วหน่อย”

“อ่อ”

“แล้วสบายดีใช่มั้ยครับ” อากาศหนาวขนาดนั้นคงไม่ป่วยหรอกนะ

“เอาไว้คุยกันเองนะ แต่เท่าที่เห็นก็ดูโทรมๆ” พี่อ้อนหันมายิ้มดวงตาแพรวพราว “ไม่รู้เพราะสภาพอากาศหรือสภาพจิตใจ”

แซวซะผมสำนึกผิดไม่ทันเลย T^T

ครืด ครืดดด

“อ๊ะ โทรมาแล้ว”

พี่อ้อนหยิบโทรศัพท์ยื่นให้ผม ผมมองเครื่องมือสื่อสารที่กำลังสั่นและหน้าจอปรากฏภาพของคนที่โคตรคิดถึง

มือยื่นออกไปรับมันมา ก่อนจะถูกดันตัวเข้าไปในห้องนอนแล้วประตูก็ปิดลง ท่ามกลางสายตาให้กำลังใจของเจ้าของห้อง

ผมจ้องหน้าจอ พลางสูดหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะกดปุ่มสีเขียวที่ขึ้นรูปกล้องวิดีโอ

‘รับช้า นั่งขบหูกะ...เฮ้ย’ คนที่กำลังคุ้ยยางมัดผมอยู่พร้อมเอ่ยปากบ่นทันทีที่ผมกดรับ ทันทีที่เงยหน้าขึ้นมองและเห็นว่าเป็นผมไม่ใช่พี่อ้อนน้อย มือข้างหนึ่งที่รวบผมไว้ก็คลายออกจนผมตรงสยายลงมาเคลียบ่า ใบหน้าตกใจนิ่งอึ้งแล้ววินาทีต่อมาสายก็ตัดไป

“ฮึก” แล้วไอ้น้ำตาเวรก็ไหลทันที

ทั้งบล็อก ทั้งตัดสาย

มันเทผม เทจริงๆด้วย

ครืดดด ครืดดด

แต่ก่อนจะปล่อยโฮก๊อกสอง ไอ้เครื่องสี่เหลี่ยมสีโรสโกล์วในมือก็สั่นอีกรอบ เป็นคนเดิมที่โทรมา ผมรีบปาดน้ำตาทิ้งแล้วกดรับสาย

‘โทษที เมื่อกี้ตกใจไปหน่อย’

“…”

‘ร้องไห้หรอ ใครแกล้ง...’ ไม่ต้องมาเสียงอ่อน มึงนั่นแหละ เพราะมึงคนเดียวเลย

“บล็อกกูทำไม”

‘หืม’

“ไม่ต้องมา มึงบล็อกกูทุกทางเลย! แล้วยังจะมาตัดสายทิ้งอีก!”

‘ก็บอกว่าตกใจ มือมันลั่น’

“แล้วบล็อกทำไม”

‘...’

“เจ๊...กูถามว่าบล็อกกูทำไม” ผมกัดฟันถาม คอยดูนะ จะไปเผาตุ๊กตาเจ้าหญิงมันให้หมดเลย!

‘แล้วมีอะไร ทำไมเอามือถืออ้อนมาได้’

“ก็กูติดต่อเจ๊ไม่ได้!”

‘แล้วมีอะไรล่ะ’

.

.

.

ผมกัดริมฝีปากแน่นอย่างไม่รู้จะเริ่มตอบคำถามอย่างไร

“สะสบายดีมั้ย” เป็นการถามที่เหี้ยมาก แต่พอมองเต็มๆตาดูผอมกว่าเดือนก่อนเยอะเลย

‘อืม’

“หนาวมากรึเปล่า”

‘อืม’

“ฝึกงานเป็นไงบ้าง”

‘ก็ดี’

“ดีกว่าที่ไทยอีกหรอ”

‘อืม’

แล้วผมขบริมฝีปากจนเจ็บจี๊ด คิดว่าตอนนี้มันคงห้อเลือด

‘ถ้าไม่มีอะไรแล้ว...’

“จะเจ๊...”

‘…’

คลายแรงกัดออกแล้วเม้มปากแน่น หลุบสายตามองต่ำ ถึงจะผ่านหน้าจอ แต่ผมก็สู้สายตานั้นไม่ไหวหรอก ถ้าต้องเอ่ยสิ่งนี้ออกไป

“...คิดถึง”

‘…’

“เจ๊...ตาร์ขอโทษ ยกโทษให้ตาร์นะ”

‘...’

“ตาร์ขอโทษที่ผลักไส ที่ทำให้เจ๊เสียใจ ตอนนี้รู้แล้วว่าเจ๊สำคัญแค่ไหน ระเรากลับมาเหมือนเดิมได้หรือเปล่า ตาร์คิดถึง...”

‘…’

“โคตรคิดถึงเจ๊เลย...”

.

.

.

แล้วความเงียบก็เข้าปกคลุมทั่วบริเวณ ความจริงแล้วผมไม่ควรได้ยินเสียงอะไร แต่ไม่...หูสองข้างผมอื้ออึงไปหมดเพราะเสียงหัวใจตัวเองที่รัวกระหน่ำ

พูดออกไปแล้ว...

คำพูดที่ส่งตรงมาจากหัวใจ ไม่ได้ไตร่ตรองหรือกลั่นกรองจากสมองเลย

เพราะกลัวว่าถ้ามัวแต่คิดนานไป อีกฝ่ายจะตัดสายไปซะก่อน

เพราะแค่เมื่อกี้ที่อีกฝ่ายเผลอวางสาย ผมก็เจ็บจะแย่แล้ว

เจ็บจนกลัว ว่าถ้าช้ากว่านี้เพียงนาที ก็ไม่มีโอกาสอีก...

“ทะทำไมเงียบล่ะ”

ซ้ำยังหายไปจากหน้าจอด้วย

ตอนนี้ผมเห็นแต่เพดานห้องสีเหลืองมัสตาร์ด

เฮ้ย คืออะไร ที่ผมกลั้นใจพูดไป มีแค่ผมที่อินคนเดียวหรอ แล้วนี่หายไปตั้งแต่เมื่อไหร่

ที่ผมบอกไปเมื่อกี้ได้ยินหรือเปล่าเนี่ย

“เจ๊...อิเจ๊!”

 ผมยื่นริมฝีปากไปใกล้ๆลำโพงแล้วตะโกนเรียก มาวางโทรศัพท์ทิ้งไว้ให้ผมจ้องตากับฝ้าเพดานไม่ได้นะเฟ้ย

แต่ก่อนที่ผมจะตะโกนใส่ลำโพงอีกรอบ น้ำเสียงแปร่งๆก็แทรกขึ้นมาจากลำโพง

‘อืม ยังอยู่...’

อยู่แล้วไม่โผล่หน้ามาล่ะ

แต่เสียงที่ได้ยินก็ยืนยันได้ว่าเจ้าตัวยังอยู่ใกล้ๆไม่ได้ไปไหน

“เมื่อกี้ได้ยินที่พูดมั้ย” ผมถามออกไปอย่างไม่แน่ใจ ให้พูดครั้งที่สองนี่ก็ไม่รู้จะรวบรวมความกล้าได้อย่างครั้งแรกมั้ย

‘ได้ยิน’

อ่อ โล่งใจไปที

“ละแล้ว...” ผมขยับตัวอย่างอึดอัด

ยังไงอะ ถึงจะไม่เห็นหน้า แต่ผมก็รู้อะว่าอีกฝ่ายฟังอยู่

“…แล้วเจ๊ว่าไงอะ”

‘เรื่องอะไร’

อ้าว เพิ่งพูดไป แกล้งทำลืมหรอวะ

ไม่เอา เราง้ออยู่ เราจะไม่เกรี้ยวกราด

“กะก็เรื่องเราไง...กลับมาเหมือนเดิมได้มั้ย” ผมเสพติดการมีอิเจ๊อยู่ข้างๆไปแล้ว

‘เฮ้อ...มึงนี่ขยันทำให้กูประสาทแดกซะจริง’ แล้วอีกฝ่ายก็โผล่ใบหน้าเข้ามาในกล้อง หลังจากที่ให้ผมดูเพดานห้องซะนาน

‘แล้วที่ว่าเหมือนเดิมน่ะเหมือนแบบไหน’

“กะก็...”

‘กูน่ะ...ไม่อยากเป็นเหมือนเดิมแล้ว....’ สายตาอีกฝ่ายจ้องลึกผ่านกล้องสบลึกเข้ามาในนัยต์ตาของผม ‘พยายามฝ่ายเดียวมันเจ็บนะ’

“เจ๊”

‘อีกสองเดือนกูจะกลับ ช่วงนี้มึงเก็บไปคิดนะ ว่าอยากให้เราเป็นแบบไหนกันแน่’

“ไม่เอา”

ผมไม่อยากเหงา ไม่อยากเศร้าเพราะคิดถึงอีกแล้ว

‘ทำไมดื้อ’

“กะก็...” ผมเม้มปาก มองใบหน้าที่ผมคิดถึงด้วยดวงตาสั่นไหว รู้ว่ามันเห็นแก่ตัว แต่ก็ทนกับสภาพนี้ไม่ไหวแล้ว “กะกูโทรหาได้มั้ย”

‘ตาร์ ทำแบบนี้ ถ้าสุดท้ายแล้วคำตอบคือ ‘ไม่’ กูจะเจ็บมากนะ’

“ขอโทษ”

ก้มหน้าเม้มปากกับความเห็นแก่ตัวของตัวเอง

.

.

.

‘เฮ้อ เลิกทำหน้าเป็นหมาหงอยสักที รู้ว่าทำตาตก หูลู่ รู้ว่าทำแบบนี้แล้วจะใจอ่อนก็ทำจัง อยู่ใกล้ๆกูจะเอารองเท้าตบหน้าให้’

“ทำไมต้องเกรี้ยวกราด” เบะปากแล้วนะ

‘ก็มึงน่ะ เอ้ออ เดี๋ยวกูปลดบล็อกให้’

“จะจริงเหรอ”

‘เออ แล้วจำใส่กระโหลกไว้ ว่ากูปล่อยมึงแล้ว แต่มึงน่ะเป็นคนเอากุญแจมาคล้องเราไว้อีก เพราะงั้นจะทำอะไรก็นึกถึงกูที่โดนล่ามไว้กับมึงด้วย กระตุกเบาๆน่ะพอรับได้ แต่กระชากแรงมันเจ็บนะยะ แล้วอีกอย่างให้รู้ไว้...’

“…”

‘ที่กูบล็อกไม่ใช้เพราะโกรธเกลียด แต่เพราะถ้ายังเห็นมันห้ามใจไม่ได้ที่จะติดต่อไป’

“…”

‘ยังไงก็...ถนอมใจกูหน่อยนะ’

“…”

‘ลูกกุญแจอยู่ในมือมึง ขอร้องอย่าหลอกพากูไปไกลๆจนกูหลงทาง แล้วปลดแม่กุญแจออก ทิ้งกูไว้ เพราะไม่รู้ว่าครั้งนี้กูจะหาทางกลับเจอหรือตายอยู่กลางป่า’

.

.

.

‘ถึงหน้าตามึงจะทุเรศ หุ่นเหมือนฮอบบิทขาดสารอาหาร แต่เชื่อเถอะ...หัวใจกูน่ะ อยู่ในมือมึงแล้ว...’

จบคำด่าสายก็ตัดไป

ทิ้งให้ผมเหวอกับถ้อยคำมากมายที่รัวมาเป็นชุดกับสายตาอ้อนวอน

และเมื่อผมตั้งสติได้ก็กำลังจะกดโทรไปหาใหม่ เสียงสั่นของมือถือก็ดังระรัวในกระเป๋ากางเกง ให้ต้องวางมือถือพี่อ้อนน้อยลงและหยิบมือถือเจ้าปัญหาของตัวเองขึ้นมา

หน้าจอแจ้งเตือนเป็นชื่อของคนที่เพิ่งวางสายไป

ผมกดเข้าไปในช่องแชทของโปรแกรมสีเขียว

ก่อนที่สติ๊กเกอร์พร้อมเสียงมาดามมดจะทำให้ผมหัวเราะทั้งน้ำตา



‘สวัสดีค่ะ’

‘ตอแหลมมม’

‘น่ารักอ่ะ’

‘มิสยูววว’



ลูกกุญแจน่ะ ผมโยนทิ้งไปแล้ว จะไม่ปลดมันออกอีก









Pitchy’s part



ครืด ครืดดดด

“มาแล้วววว”

นี่มันจะสั่นตั้งแต่แก้ผ้า แปรงฟัน อาบน้ำ ยันสระผมเสร็จเลยรึไงนะ ให้เวลากูขัดตัวหน่อยก็ไม่ได้ใช่มั้ย ลงทุนแบกมะขามพะเยามาจากไทยเลย ยังไม่ได้แกะใช้เลยนะยะ

นี่รีบเอาผ้าซับผมที่เปียกชุ่มไว้ แล้วรีบเช็ดตัววิ่งออกมารับโทรศัพท์ทั้งที่ยังไม่ได้ผูกเชือกชุดคลุมอาบน้ำให้เรียบร้อย หนาวววว

“ฮัลโหล่วววว อะไรของมึงห๊ะ เป็นไก่หรือไง จิกๆๆๆ จิกกูอยู่นั่น” พอกดรับได้ผมก็ว๊ากออกไปทันที

ตั้งแต่ปรับความเข้าใจกันได้ เราก็วิดีโอคอลคุยกันทุกวัน

‘โมโหไรมาอะ’

โอ๊ยยยย โมโหมึงนั่นแหละอิกลูต้า! แต่พอเห็นตากลมแบ๊วๆแล้วด่าไม่ลง! กูเกลียดความแพ้นี้!

“หัดยิงปืนกลหรือไง กูอาบน้ำอยู่”

‘อ้าวหรอ โทษทีๆ จะนอนแล้วอะ เลยโทรมาหาก่อน ฮ้าว’ หน้าตาไม่ได้มีความสำนึกผิด ซ้ำจะยังมาหาวน้ำตาคลออีก โอ๊ย น่ารักโว้ย

“ง่วงก็ไปนอน ที่ไทยตีสองแล้ว”

‘งืม วันนี้เหนื่อยมั้ย’ เสียงคนถามเสียงงัวเงียพลางบี้หน้าลงบนหมอนจนใบหน้าครึ่งซีกจมหายไป

“นิดหน่อย เจอเพื่อนร่วมงานหมาบ้า มีแก๊สเปิดค้างไว้มาหาว่ากูลืมปิด พอกูบอกไม่ได้ทำก็ไม่เชื่อ ด่ารัวมาเป็นชุด กูนี่ฟังไม่ทัน”

‘แล้วเจ๊ทำไง’

“กูคนดีไม่เถียงสักคำ”

“ยอม?”

“ตบสิ รออะไร”

เด็กในจอตาเบิ่งโต ลุกพรวดขึ้นจนผมที่กำลังลงเซรั่มบำรุงผิวหน้าหลุดขำ

‘แล้วจะผ่านฝึกงานมั้ยเนี่ย’

“ผ่านสิ เพราะกูไม่ได้ตบคน แค่ตบโต๊ะ แค่นั้นก็หลบหลังตู้เย็นกันไม่ทันแล้ว”

‘โว๊ะ’

แล้วไอ้เด็กหน้าขาวก็ยู่ปาก มองบนแล้วล้มตัวลงไปนอนต่อ

“นอนได้แล้ว ดึกแล้ว พรุ่งนี้มีเรียนเช้านิ”

‘อืม’

“อืมแล้วก็วาง”

‘อีกแป๊บนึง’ พอลงครีมตัวสุดท้ายเสร็จใช้ฝ่ามือตบหน้าเบาๆสองทีก็หันมามองเด็กหน้าขาวเต็มตา ตาจะปิดอยู่แล้วยังงอแงอีก

“อ้อนอะไร หืม”

‘คิดถึง’

อึก

พอยอมรับหัวใจตัวเองได้ ก็เปิดเผยซะ พูดตรงซะใจกูสั่นไปหมด

ไอ้เด็กตูดหมึกเอ้ย

“หึ ไปนอนไป เดี๋ยวเช้ามาโยเยไม่ยอมตื่น ลำบากเพื่อนต้องมาลากอีก”

‘ตั้งนาฬิกาปลุกแล้ว’

“เคยปลุกได้ด้วยหรอ”

‘จิ๊ ไม่ได้ขี้เซาขนาดนั้นมั้ยล่ะ’

“น้อยไปสิ สัญญาณไฟไหม้ก็ปลุกมึงไม่ได้” มีครั้งนึงที่อิกลูต้าไปค้างคอนโดผม แล้วมีเด็กพิเรนทร์ไปกดสัญญาณไฟไหม้ ทำเอาคนในคอนโดแตกกระเจิง ขนของวิ่งหนีกันวุ่น

ยกเว้นอิกลูต้าที่หลับเหมือนซ้อมตาย ถ้าไฟไหม้จริงก็ตายในกองเพลิง สิ้นชื่ออิลิงหน้าขาว เป็นลิงตอตะโก

‘ชอบเอาความจริงมาพูดเล่น ไปนอนก็ได้’

“ลดแอร์ก่อนนอนด้วย อย่าลืมห่มผ้า แล้วล็อคห้องดีหรือยัง”

‘ล็อคแล้ว เป็นห่วงหรอ’ ไม่ต้องมายิ้มแฉ่งเลย อยู่ใกลๆจะจับบี้ปากแม่ง

โอ๊ยยย อยากจะบ้าตาย พออยู่ใกล้ๆจะโดนเนื้อต้องตัวทีโดนข่วนไปทั้งตัว

แต่พอเจ้าตัวยอม ทำไมฉันต้องอยู่ไกลด้วยเนี่ย

 “อืม ห่วงสิ หน้ายิ่งโง่ๆอ๋องๆ อยู่”

‘ห่วงก็รีบกลับมา’ อย่ามาเสียงเล็กเสียงน้อยใส่

 กระเทยอยากฟัดเมียยยยยยย





สุดท้ายก็ต้องเป็นผมที่กดวางเมื่ออีกฝ่ายบ่ายเบี่ยงไม่ยอมวาง ผมที่ต้องขึ้นพรีเซนต์รายงานความก้าวหน้าของงานพรุ่งนี้ก็ฟังไปนั่งทำงานไป มีตอบคำถามบ้าง แต่ส่วนมากจะเป็นอิกลูต้าที่เล่าเรื่องราวต่างๆให้ฟังว่าวันนี้ไปเจออะไรมาบ้าง

จนผ่านไปเป็นชั่วโมงเสียงก็เงียบไป

เลยละสายตาจากหน้าจอคอมพ์ไปดูหน้าจอมือถือ ก็เห็นแค่ซีกหน้ากับใบหู กับเสียงหายใจที่ดังสม่ำเสมอ

หึ จ้อจนลิงหลับ

มันอะจ้อเอง แล้วก็หลับเอง ตลกจริงๆ

ผมไม่อยากปลุกเพราะตีสามกว่าแล้ว เลยหยิบมือถือที่วางพิงกับหน้าจอคอมพ์ขึ้นมาแล้วกดจูบลงไปเบาๆ

“กู๊ดไนท์ อิลิงเผือก”

มันเป็นความธรรมดาที่โคตรมีความสุขเลย

ถึงจะทรมานด้วยความห่างไกล แทบขาดใจด้วยความคิดถึง

แต่มันก็ดีมากจริงๆ เหมือนเราเริ่มที่จะศึกษาและเรียนรู้กัน

มันอาจดูเป็นความสัมพันธ์ที่ดูเรียงไทม์ไลน์ผิดตำแหน่ง

ที่ได้กันก่อน อยู่ด้วยกัน จบความสัมพันธ์ แล้วค่อยมาเริ่มเรียนรู้กันใหม่

แต่ช่างมันเถอะ ถึงจะยุ่งเหยิง มั่วซั่ว แต่ทุกวันนี้มันทำให้รู้สึกดีมาก ผมก็ถือว่าคุ้ม

ผมไม่รู้หรอกว่าอิกลูต้าจะเปิดใจยอมรับได้กี่เปอร์เซ็นต์ วันข้างหน้ามันจะปลดแม่กุญแจที่คล้องเราสองคนไว้ แล้วทิ้งผมไปอีกมั้ย

แต่ผมอยากให้มันสู้นะ สู้และผ่านทุกอย่างไปด้วยกัน

เพราะผมเชื่อว่าเราไม่ได้ผิดปกติ ไม่ได้ผิดแผก

เราไม่ใช่สัตว์ประหลาดสปีชีส์ใหม่ ไม่ต้องมาคลาสซิไฟซ์ให้ว่าผมควรจัดอยู่ในหมวดหมู่ไหน ผู้หญิง ผู้ชาย ตุ๊ด เกย์ กระเทย โบ๊ท โบน คิง ควีน

ผมแค่เป็นตัวของตัวเอง ที่สังคมจัดให้ว่าเป็นตุ๊ด...ก็โอเค เป็นตุ๊ดก็ได้



แต่กับเรื่องความรัก มันกะเกณฑ์อะไรให้แน่ชัดไม่ได้หรอก

เพราะครั้งหนึ่งสังคมก็เคยตั้งบรรทัดฐานไว้ว่า...ผู้หญิงต้องคู่กับผู้ชาย

แต่แล้วยังไงล่ะ

ก็เห็นแล้วนี่ว่า ผู้ชายกับผู้ชาย หรือผู้หญิงกับผู้หญิงก็คู่กันได้

แม้แต่ทอมรักกับกระเทยจนมีลูกออกมาเป็นโซ่ทองคล้องใจก็ยังมี



เพราะงั้นมันไม่ใช่เรื่องของเพศ เรื่องของรูปร่างหน้าตา

แต่มันคือเรื่องของหัวใจ

....เราแค่รักกัน



แค่นั้นเอง





 #เมียตุ๊ด



สวัสดีปีใหม่ค่ะ

อย่าถามหาความโกรธเกรี้ยวจากอิเจ๊ นางเป็นตุ๊ดที่เข้าใจหัวใจตัวเองและแมนที่สุดในสามโลกแล้ว

เชื่อเถอะ หาอีกสามชาติอิกลูตาร์ก็หาใครทั้งรักทั้งหลง ใจอ่อนให้ขนาดนี้ไม่ได้ >O<
  :-[










หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 11 [P.7]< 31.12.2018
เริ่มหัวข้อโดย: aoihimeko ที่ 31-12-2018 06:07:10
 :กอด1:ดีแล้ว
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 11 [P.7]< 31.12.2018
เริ่มหัวข้อโดย: ก้อนขี้เกียจ ที่ 31-12-2018 07:30:02
ตอนเพดานเป็นสีเหลืองคืออิเจ๊กรี๊ดอันหมอนอยู่แน่ๆ
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 11 [P.7]< 31.12.2018
เริ่มหัวข้อโดย: angelninae ที่ 31-12-2018 08:25:25
น่ารักมากก รอวันสองคนกลับมาอยู่ด้วยกันค่ะ
สวัสดีปีใหม่นะคะ  o13
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 11 [P.7]< 31.12.2018
เริ่มหัวข้อโดย: KizzllKizz ที่ 31-12-2018 11:36:25
พอต้ารู้ใจตัวเองแล้วก็น่ารักมากเลยยยย อยากฟัดแง
สุขสันต์วันปีใหม่ค่า เป็นของขวัญปีใหม่ที่ดีมาก ขอบคุณนะคะ

 o13
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 11 [P.7]< 31.12.2018
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 31-12-2018 12:23:11
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 11 [P.7]< 31.12.2018
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 31-12-2018 13:12:18
แมนๆอย่างกลูตาร์กลัวถูกเท.......   :mew2:
คิดถึง ก็บอกตรงๆไม่มีอ้อมค้อม  น่ารัก   :mew1:
อย่างนี้อิเจ๊ ไปไหนไม่รอดแล้ววววว   :z3:

อิเจ๊  กลูตาร์   :กอด1: :กอด1: :กอด1:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 11 [P.7]< 31.12.2018
เริ่มหัวข้อโดย: Mengjie_JJ ที่ 31-12-2018 13:30:38
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 11 [P.7]< 31.12.2018
เริ่มหัวข้อโดย: naruxiah ที่ 31-12-2018 14:00:38
น่ารัก​ น้องต้าทำดีมากลูกดีใจกับเจ้และน้องต้าค่ะ​ สวัสดี​ปีใหม่ค่ะ
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 11 [P.7]< 31.12.2018
เริ่มหัวข้อโดย: mew.kani ที่ 31-12-2018 14:11:58
รีบฝึกงาน รีบกลับไทยนะคะ เจจจ๊
ท่าทางน้องตาร์จะคิดถึงม๊ากกกก  :-[
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 11 [P.7]< 31.12.2018
เริ่มหัวข้อโดย: ooomukooo ที่ 31-12-2018 19:23:24
งือ~~~~  :-[
เขินง่ะ   :ling1:
โครตชอบ   :katai2-1:
ดีต่อใจมาก  :impress2:
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 11 [P.7]< 31.12.2018
เริ่มหัวข้อโดย: เขมกันต์ ที่ 31-12-2018 20:43:38
เจ๊พิชกลับมาฟัดเมียไวๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 11 [P.7]< 31.12.2018
เริ่มหัวข้อโดย: angel_Z4 ที่ 01-01-2019 08:06:42
รอเจ๊~
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 11 [P.7]< 31.12.2018
เริ่มหัวข้อโดย: chancha ที่ 01-01-2019 17:23:09
อยากให้กลับมาเจอกันเร็วๆ
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 11 [P.7]< 31.12.2018
เริ่มหัวข้อโดย: 14th-friedegg ที่ 01-01-2019 17:46:53
ชอบบทสุดท้ายของอิเจ๊ โดนใจมากเลยย
เราก็คิดเหมือนกัน
จะเป็นอะไรก็เป็นเหอะ แค่จับมือกันไปจนวันสุดท้ายของชีวิตก็พอ
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 11 [P.7]< 31.12.2018
เริ่มหัวข้อโดย: rk ที่ 01-01-2019 18:09:44
ชอบเรื่องนี้มากๆค่ะ
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 11 [P.7]< 31.12.2018
เริ่มหัวข้อโดย: padthaiyen ที่ 01-01-2019 23:30:39
น่ารักทั้งคู่
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 11 [P.7]< 31.12.2018
เริ่มหัวข้อโดย: akashita ที่ 04-01-2019 17:05:48
ยอมรับตัวเองแล้วเนอะต้าร์
ทีนี้ก็อ้อนอิเจ๊บ่อย ๆ นะ เจ๊จะได้หลงกว่าเดิม อิอิ
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 11 [P.7]< 31.12.2018
เริ่มหัวข้อโดย: yumenari ที่ 04-01-2019 18:56:47
อ่านตอนแรกสงสารน้องมากกก

มีความเป็นน้องสุงมากอะ
แต่อ่านๆไปแล้วแบบ

งุ้ยยยยยยยยยยย

กลับมาเจอกานนนนนน

แล้วจัดหนักเลยเจ้ มีความเปนหลัวสุงมากค้าาา

หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 11 [P.7]< 31.12.2018
เริ่มหัวข้อโดย: wanirahot ที่ 04-01-2019 21:35:03
รอเจ๊กลับมานะค่าาาา รีบมฟัดนว๊องงงงงง
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 11 [P.7]< 31.12.2018
เริ่มหัวข้อโดย: papapoope ที่ 05-01-2019 06:41:09
เจ๊รีบกลับมาหาน้องน้าาาา
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 11 [P.7]< 31.12.2018
เริ่มหัวข้อโดย: PK.Kenaf ที่ 05-01-2019 22:37:31
น้องต้าอ้อนเยอะๆ เจ๊จะได้รีบกลับ
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 11 [P.7]< 31.12.2018
เริ่มหัวข้อโดย: Seilong2 ที่ 06-01-2019 06:35:10
หู้ยยยย น่ารัก
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! &gt;ตอนที่ 11 [P.7]&lt; 31.12.2018
เริ่มหัวข้อโดย: meanmena ที่ 06-01-2019 10:23:07
ม่ายยยยยยยย  มาต่อ​นะคะ​  รอ​ออออ

Sent from my BLA-L29 using Tapatalk

หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 11 [P.7]< 31.12.2018
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 06-01-2019 10:33:24
 :pig4:
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 11 [P.7]< 31.12.2018
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 06-01-2019 10:52:23
อิกูลต้าเดี๋ยวนี้หัดอ้อนนะ
พี่พีชชี่รีบๆฝึกงานให้เสร็จนะ มีเด็กรออยู่
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 11 [P.7]< 31.12.2018
เริ่มหัวข้อโดย: bangkeaw ที่ 07-01-2019 08:12:31
ตอนแรกเจ๊ก็รักจะแย่อยู่แล้ว ยิ่งน้องมาอ้อนแบบนี้ เจ๊ยิ่งหลงมากกว่าเดิม
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 11 [P.7]< 31.12.2018
เริ่มหัวข้อโดย: yumenari ที่ 13-01-2019 09:27:45
 :katai1:รอออออออออออออ

 :katai5: ...................... :katai5:
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! &gt;ตอนที่ 11 [P.7]&lt; 31.12.2018
เริ่มหัวข้อโดย: meanmena ที่ 14-01-2019 23:09:40
ยัง​รอ​นะคะ

Sent from my BLA-L29 using Tapatalk

หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 11 [P.7]< 31.12.2018
เริ่มหัวข้อโดย: aoihimeko ที่ 15-01-2019 00:32:40
เจ๊มาเถอะ....ยังตีตั๋วกลับไม่ได้อีกหรอ
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 12 [P.8]< 15.1.2018
เริ่มหัวข้อโดย: mod-cup ที่ 15-01-2019 03:14:48

ตอนที่ 12
come back




สามเดือนผ่านไปไวเหมือนโกหก

แต่มันคือเรื่องจริงครับ

นับจากที่อิเจ๊ได้หอบสารร่างไปฝึกงานที่เยอรมัน ณ ตอนนี้ก็ครบกำหนดแล้ว

แล้ววันนี้ก็เป็นกำหนดกลับ ซึ่งเที่ยวบินระบุว่า ณ เวลา 06.30 นาฬิกา ล้อจะแตะพื้นถนนราดยางมะตอยของประเทศไทย

แต่จั๊ดง่าวเหอะ ที่มันสิบโมงสามสิบนาที ยี่สิบเจ็ดวินาทีแล้ว ยังไม่ถึงเลยเว้ยยยยยย

ดีเลย์ขนาดนี้มึงจอดแวะพักแดกสตาบัคสาขาเมฆหนาหมอกพิษอยู่หรอ

“ใจเย็นดิมึง หน้ามรสุมก็แบบนี้ ดีเลย์เป็นธรรมดา”

“กูก็ไม่ได้หงุดหงิดนิ”

“จ้า ไม่ได้หงุดหงิดเลย แต่น้ำเสียงเกรี้ยวกราดมาก”

จิ๊

ผมเบี่ยงตัวหลบมือไอ้แฟ้มที่ยื่นมาผลักหน้าผาก สองกระทงแล้วนะมึงอะ มานั่งจี๋จ๋ากับพี่อ้อนไม่พอยังจะมาทำร้ายร่างกายกูอีก เดี๋ยวโดดถีบขาคู่เลย!

“ใจเย็นๆนะ” พี่อ้อนยิ้มบางส่งมาให้อย่างปลอบใจ โฮ นางฟ้าของผม ยิ้มละลายใจที่สุด

“แหมะ ที่งี้ล่ะตาเยิ้มใส่เมียกูเชียว” จำต้องดึงขึ้นตักกอดเอวแสดงความหวงแหนขนาดนั้นมั้ย หมั่นไส้เว้ยยยย

“ครับ ผมรอได้ แต่มันอดหงุดหงิดไม่ได้อะ”

“ไหนว่าไม่หงิดไง” ไอ้เชี่ยแฟ้ม

“มันก็ไม่เชิงไง คือแบบว่า...ไงวะ” อธิบายไม่ถูกว่ะ ก็ไม่ได้หงุดหงิด แต่ก็เออหงุดหงิด แต่แบบไม่ใช่เพราะรอนาน แต่ก็แบบดีเลย์อะ โอ้ย

“ไม่ต้องห่วงอิดอก อิพิชน่ะไม่มีความชั่วร้ายอะไรจะทำลายได้ เพราะมันกาลกีนีสุดละ กลับมาเหยียบแผ่นดินไทยให้แปดเปื้อนแน่” พี่แคนดี้ที่กลับจากไปซื้อน้ำมากรีดกรายนั่งลงข้างๆพร้อมท่านั่งไขว้ห้างอย่างซุปเปอร์โมเดลโทนกระโทก

แต่สิ่งที่เจ๊แคนดี้พูดแม่งโคตรแทงใจดำ เหมือนมานั่งกลางใจ

ใช่ ผมไม่ได้หงุดหงิดที่ต้องตื่นแต่เช้ามารับ เพราะผมตื่นเต้นจนนอนไม่หลับอยู่แล้ว

ผมไม่ได้หงุดหงิดที่จนป่านนี้แล้วยังไม่มีอะไรตกถึงท้อง

และผมก็ไม่ได้หงุดหงิดที่ต้องมานั่งรอท่ามกลางคนที่เยอะมากมายจนอึดอัด

สิ่งพวกนี้มันดูเล็กน้อยไปเลย เมื่อคิดว่าที่เครื่องดีเลย์หลายชั่วโมงขนาดนี้เพราะนักบินเอาเครื่องลงจอดไม่ได้จากสภาพอากาศที่ย่ำแย่

มันทำให้ผมห่วงจนแทบบ้า แต่จะให้มานั่งหน้าเศร้า ร้องไห้ก็ดูจะปัญญอ่อนเกินไป เลยต้องแสดงออกมาแบบคนเฟียสๆ เกรี้ยวกราดแม่งงง

อยากจะเจอหน้าให้รู้ว่าอีกฝ่ายไม่เป็นอะไรและปลอดภัยดี

“อ้าว ที่นั่งหน้ายุ่งคิ้วขมวดนี่ห่วงหรอ”

“อ้อน เปลี่ยนผัวนะ โง่ขนาดนี้”

“เจ๊!”

“ก็จริง หล่ออย่างเดียวกินไม่ได้นะจ๊ะ ถ้าไม่รวยก็ควรฉลาด”

“ทำไมด่าแรง ไม่รักเก๊าละหรอออออ” แล้วไอ้แฟ้มก็ผละจากกอดเอวพี่อ้อนน้อยพุ่งมากอดแขนเอาหน้าถูเหมือนแมว...แมวขี้เรื้อน แหวะ

“กูอะรัก แต่มึงมันไม่รักดีไง กูอ้อยใส่มาตั้งหลายเดือน มึงเสือกทรยศไปเอาคนขี้เหร่” โห่เจ๊ กล้าเนอะ มองพี่อ้อนด้วยหางตาเหยียดขนาดนี้

ถ้าพี่อ้อนน้อยขี้เหร่ เจ๊ก็ขี้โคลนในป่าชายเลนอะ

พี่อ้อนอมยิ้มขำกับท่าทางบ้าๆบอๆของแฟนตัวเองก่อนจะหันกลับมาหาผม

“เป็นห่วงพิชหรอ”

“ก็...ครับ” ผมพยักหน้ายอมรับ เอาตรงๆเลยคือโดนรอยยิ้มสะกด อารมณ์แบบใครเห็นรอยยิ้มนี้ยอมหมดอะครับ งือ

“ไม่ต้องห่วงนะ พิชเป็นคนดี พระคุ้มครอง”

“สวรรค์ไม่รับ นรกยังคิดหนัก”

“เดี๋ยวเถอะ ดี้นิ ไปว่าพิชทำไม ตัวเองก็นิสัยไม่ได้ต่าง” เจ๊แคนดี้เบ้ปากยักไหล่ไอด็อนแคร์

“อะ กินซะ เดี๋ยวเป็นลมไปซะก่อน อิพิชด่ากูอีก ส่วนนี่ของพวกมึงสองคน” เจ๊แคนดี้คุ้ยถุงขนมปังยี่ห้อดังก่อนยื่นให้ ผมรับถือไว้แต่ยังไม่ได้แกะกิน

“เอ้า แดกสิยะ หรือต้องให้แกะให้เคี้ยวให้ก่อน”

ฮือออ อย่ากระโจนมาบีบคอกันเซ่ ที่เจ๊อ้อนว่าเหมือนกับอิเจ๊นี่ไม่ผิดเลย ร่างโคลนกันชัดๆ

แต่ก่อนที่สงครามกระเทยฆาตกรรมเทพบุตรจะก่อเกิดขึ้น หางตาผมก็เหลือบไปเห็นบอร์ดดิจิตอลของสนามบินขึ้นโชว์ว่าเที่ยวบินที่เดินทางจากมิวนิคแตะมาถึงเรียบร้อยแล้ว

ผมผุดลุกขึ้นทันทีทั้งที่สายตายังจ้องบอร์ดอยู่ให้มั่นใจว่าผมไม่ได้มองผิดไป หรือเบลอจนสับสนแถว

แต่ไม่ผิด ถึงแล้ว เครื่องลงจอดแล้ว ไม่ได้หายไปกับพายุ

นรกสวรรค์ไม่ต้องการเธอออออ ฉันต่างหากที่ต้องการยูวววว

“โอ๊ยยย ยิ้มไมว่าแต่กระเดือกขนมปังลงท้องไปก่อน ไส้ครีมมันจะไหลออกปากมึงละน่ะ เห็นแล้วกูคิดลึก!”

ไอ้แฟ้ม ไอ้วิปริต ลามกขึ้นสมอง!

แต่คนหล่อจะให้อภัย เพราะหัวใจกำลังพองโต อิอิ

ผมผุดลุกไปยืนเกาะรั้วเหล็กสีเงินที่กันญาติที่มารอรับผู้โดยสารขาออกไว้ ลักษณะท่าทางเหมือนผมมาเที่ยวสวนสัตว์รอดูขบวนลิงแสมออกมาโชว์ตัว

“นั่นๆนั่นไง” มือที่จับรั้วสีเงินเย็นเฉียบ คอชะเง้อมองตามนิ้วของไอ้แฟ้มที่ชี้ไป กวาดตามองตาจนเห็นร่างสูงเด่นผิวขาวออร่า ผมสีดำขลับที่มักปล่อยยาวตรงเสมอกลับถักเปียคอนโรลเครึ่งศีรษะขณะที่ผมด้านหลังยังปล่อยาวเหมือนเดิม แล้ว ชิบหาย นั่นคือย้อมผมสีใหม่ใช่มั้ย คอลวิดีโอกันเมื่อวันก่อนยังดำอยู่เลย หายไปสองวันเป็นสีรุ้งไปแล้ว

อธิบายยังไงดีคือสีหัวตรงโคนเป็นสีตาลไล่ลงไปเป็นสีเทาค่อนไปทางขาวแต่ต่ำกว่าหูลงมาคือสีรุ้ง

โอ๊ยยย สาย ฝ. เว่อออออออ

มึ๊งงงงงง อาร์ตกับบ้ามันมีเส้นบางๆกั้นอยู่วววว

นั่นไง อิเจ๊รุ้งเจ็ดสีมณีเจ็ดแสงมันหันมาเห็นผมแล้ว เข็นรถที่.ljกระเป๋าตรงมาพลางฉีกยิ้มกว้าง

หมับ

“คิดถึงจัง”

พอเดินมาหยุดตรงหน้าก็ดึงผมเข้าไปกอดทั้งที่ยังมีรั้วกั้นเราไว้

ตัวหอมจัง กลิ่นเดิมเลย

“อื้ม” ผมยกมือกอดตอบกลับไปพลางซุกหน้าลงไปที่อกอีกฝ่าย สูดดมกลิ่นและผิวสัมผัสที่คิดถึงอยู่ทุกวัน

“ขอโทษนะที่ช้า”

“ไม่เป็นไร”

“คิดถึงมึงจัง ฟอดด” ผมหลับตารับสัมผัสที่กดลงมายังข้างขมับ เสียงสูดลมหายใจเรียกให้หัวใจผมพองฟู ไม่ใช่อิ่มเอมนะ กลัวหูหาย สูดขนาดนี้กลัวใบหูจะหลุดเข้าไปในโพลงจมูก!

โวยวายนี่ไม่ใช่อะไร กอดกันไปสักพักแล้วความมืดที่บังตามันเริ่มจาง ยางบนผิวหน้าก็เริ่มหนาขึ้น ผมเลยขยับตัวยุกยิกในอ้อมกอดนุ่มนิ่ม เพราะหางตาเริ่มเห็นสายตาล้อเลียนของไอ้แฟ้มกับอมยิ้มเจ้าเล่ห์ของพี่อ้อนน้อย ดิ้นหันมาอีกด้านก็เห็นความเบะปากมองบนของเจ๊แคนดี้

“ปะปล่อยก่อน...”

อีกฝ่ายยอมคลายกอดแต่ก็ไม่วายกดจมูกลงมาหอมที่แก้มฟอดใหญ่ ก่อนใช้แขนพาดกอดคอไว้แล้วอออกเดิน ใช้มือที่ว่างอีกข้างดันรถเข็นขนกระเป๋าตามมา

เดินแบบผมอยู่ฝั่งนึง อิเจ๊อยู่ฝั่งนึง ตามแนวรั้วไป พอหมดเขตแดนกั้นเราสองคนมือที่พาดบนบ่าก็ดึงให้ผมเข้าไปใกล้ตัวมากขึ้น กลายเป็นรัดคอผมไปแล้ว นี่รักหรือแค้นหายใจจะไม่ออกแล้วเว้ยยยย

“นี่จะไม่ทักคนอื่นเลยใช่ป่ะ นี่สวยขนาดนี้จ้างกูมาแค่เป็นตัวประกอบหรอ” เสียงพี่แคนดี้โวยวายมาจากด้านหลัง อิเจ๊หยุดเดินแล้วปรายตาหันไปมอง

“ตัวประกอบอะสูงไปสำหรับมึง นี่ เอาไป” อิเจ๊เสือกรถเข็นกระเป๋าไปทางเจ๊แคนดี้ ให้เจ๊แกร้องกรี๊ดกร๊าดแต่ก็ยอมรับไว้

“นี่มึงเห็นค่ากูแค่นี้หรอ กูจะเอาไปเผาทิ้ง”

“ตามใจสิ ก็แค่น้ำหอมชาแนลที่มึงฝากซื้อก็อยู่ในนั้น”

“อร๊ายยยยยยย อิเพื่อนเลิฟ เอาไปๆ” โหย เจ๊ น้ำหอมทำให้ขายน้องได้อะ ใกล้กว่านี้ก็สิงแล้วโว้ยยย ไม่ต้องผลัก!

“เหนื่อยมั้ยพิช” พี่อ้อนน้อยที่เดินจูงมือกับไอ้แฟ้มอยู่ข้างๆถามขึ้น

“นิดหน่อย แต่เห็นหน้าไอ้เตี้ยนี่ก็หายละ”

ยิ้มแก้มแตกไปดิกู

“แล้วไปไหนต่อ กลับบ้านมั้ย”

“คงยังอะ ขอนอนพักก่อน ค่อยเข้าไป ไม่มีคนอยุ่บ้านด้วย พ่อกับแม่ไปไต้หวันกลับวันศุกร์นู่น”

“งั้นไปห้องเลยเนอะ”

“เค” ผมกระตุกชายเสื้อยืดปาดคอกว้างของอิเจ๊เบาๆ

“หืม”

“หิวอะ แวะกินข้าวก่อนได้มั้ย”

“เอาดิ อยากกินอาหารไทยเหมือนกัน”

“ที่นู่นไม่มีหรอ”

“มี แต่มันเป็นอาการไทยเวอร์ชั่นเยอรมัน รสชาติแบบไม่บอกไม่รู้เลยว่าคืออาหารไทย” หน้าตาคือเพลียมาก ฮ่าๆสมน้ำหน้า ที่ไทยมีให้ฝึกเยอะแยะ อยากกระแดะไปไกลเอง บู่วววว

“ส้มตำเจ๊ก้อยมะ”

“เอาดิ ไม่ได้กินนานแล้วเหมือนกัน”

“เออ คิดถึงไก่ทอดตะไคร้กรอบๆ”

โอ๊ยยย คิดแต่ละเมนูแล้วน้ำลายไหลจนต้องแอบเอาชายเสื้อคนที่กอดคออยู่มาปาดเบาๆ









ผลั่ก

“อื้ม”

“ดะเดี๋ยว...จะใจเย็นๆ....”

ทันทีที่พี่อ้อนน้อยมาส่งที่คอนโด เจ๊แคนดี้รื้อกระเป๋าเสื้อผ้าเพื่อเอาของฝาก และไอ้แฟ้มที่ตามเก็บของที่เจ๊แคนดี้รื้ออกมาใส่กระเป๋าให้เหมือนเดิม ไม่สิ เรียกว่าโยนๆเข้าไปโปะๆไว้ดีกว่า

พอทุกคนเสร็จสิ้นกระบวนการก็พากันกลับออกไป ซึ่งพอดีกับคนที่เดินทางมายาวไกลอาบน้ำเสร็จ และทันทีที่แขกทั้งสามออกไปและประตูปิดลง

ร่างสูงเพรียวในชุดเสื้อกล้ามกางเกงขาสั้นก็ดันผมลงบนโซฟาและตามลงมาทาบทับ ระดมจูบจนผมหายใจไม่ทัน

“อย่าสิ” แล้วพอยกมือมาดันยังปัดออกอีกนะ

“ดะเดี๋ยวสิ” ผมเบี่ยงหน้าหนี แต่กลายเป็นเปิดทางให้อีกฝ่ายไปซุกซนไต่ปลายจมูกสลับกดจูบบนลำคอ

“ไม่คิดถึงกูหรอ” ไม่ต้องมาส่งเสียงอ่อนออดอ้อน กูแพ้ กูแพ้ แง้

แล้วไงอะ ก็ยอมให้นางจูบสิ ตอนแรกก็ไม่ใช่จะตั้งใจขัดขืน แค่ยังตั้งตัวไม่ทันเฉยๆ พอเสียงอุ่นมางี้นอนเหลวเป็นขี้ผึ้งลนไฟเลย ฮือออออ

ค่อยๆหลับตาลง ยกมือขึ้นกอดคอไว้ แล้วเผยอปากรับเกลียวลิ้นของอีกฝ่ายที่ส่งเข้ามา

อืม

ผมหลงมัวเมาไปกับรสจูบกลิ่นสตรอเบอรี่จากลิปกลอสของอีกฝ่าย เสียงวาบไหวให้รู้สึกวาบหวาน คิดถึง ผมคิดถึงสัมผัส กลิ่น ทุกๆอย่างของคนที่คร่อมทับอยู่ ผมคิดถึงมากจริงๆ

“อ๊ะ”

“โทษๆ” ผมสะดุ้งเมื่อปลายลิ้นที่ลากลงไปหยอกล้อที่หัวนมผ่านเนื้อผ้าจนขึ้นรอยเปียกแฉะเป็นวง เผลอใช้ฟันขบกัดกัดจนผมสะดุ้งให้อีกฝ่ายคิดว่าผมเจ็บ…

แต่จริงๆน่ะผมเสียว ฮือ

“ถอดนะ”

“อืม”

ผมยกตัวให้อีกฝ่ายดึงเสื้อตัวบางออกจากตัว ขณะที่มือก็ซนลอดเข้าไปลูบไล้ผิวใต้เสื้อกล้ามของอีกฝ่าย ฮา ตอนที่คนด้านบนยืดตัวถอดเสื้ออกแล้วดึงยางจากข้อมือไปรวบผมโคตรโซฮอตชะมัด

ขาวขึ้นหรือเปล่า ตัวที่นุ่มนิ่มก็ดูมีกล้ามเนื้อขึ้น

หลังจากเสื้อหลุดทั้งคู่ ริมฝีปากเราก็ประกบกันอีกครั้ง เหมือนเกิดไฟฟ้าสถิตให้ตัวรู้สึกแปลบปลาบก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นความละมุนให้ผมเคลิ้มเคลิ้มหลงมึนเมา สมองขาวโพลนจนคิดอะไรไม่ออกได้แต่ให้สัญชาตญาณนำไป ตอบสนองต่อสัมผัสอีกฝ่ายที่ชักนำอยู่ รู้ตัวอีกทีร่างกายเราทั้งคู่ก็เปล่าเปลือย ขาทั้งสองข้างถูกจับแยกออก ก่อนจะใช้นิ้วช่วยขยายจนผมอดที่จะเปล่งเสียงในลำคอกับความเจ็บปนเสียวสะท้านไม่ได้

และเมื่อทุกอย่างพร้อมแล้ว ความแข็งขืนก็ขยับเข้ามาจ่อ แล้ว...

“เอ่อ มึงมีถุงมั้ย” ผมผงกหัวขึ้น มองอีกฝ่ายตาใส ก่อนส่ายหัวเบาๆ

“กูก็ไม่มี” ผมเห็นสายตาลำบากใจของอีกฝ่ายพร้อมสันกรามที่ขบอย่างพยายามอดทนอดกลั้น

ผมก็เอ่ยปากไม่ออก ความโคตรเจ็บจากเซ็กส์ครั้งแรกจนเดี้ยงไปหลายวันทำให้ผมกลัว...ว่าการไม่ใส่ถุงยางและไม่มีเจลหล่อลื่นช่วยมันทรมานแค่ไหน

“มะไม่เป็นไร กะกูไหว” งือออ เสียงจะสั่นไปไหน แต่เห็นอีกฝ่ายต้องการขนาดนี้ผมก็พร้อมยอม

อิเจ๊แค่มองผมสลับกับส่วนล่าง ก่อนสุดท้ายจะส่ายหัวช้าๆแล้วล้มตัวลงมากอดผมจากด้านหลังเอาไว้แน่น

“ไว้คราวหน้าก็ได้”

“ตะแต่มึง...” มันแข็งขืนดุนดันต่อสู้พร้อมฟาดฟัน ผมสัมผัสได้ T^T

“ถ้ากูสุขแต่ต้องทำมึงเจ็บเหมือนครั้งแรกของเรากูก็ไม่โอเคอะ ไว้กูไปเหมาถุงยางมาทั้งโรงงานก่อน คราวนี้มึงไม่รอดแน่”

โอ๊ยยยยยย ถ้าเสียงจะกระเส่าเจ้าเล่ห์ขนาดนี้ ก็เอากูเลยเถอะ กูพร้อมมมมมมม

ฮือ พูดเล่นนะ นี่ซาบซึ้งน้ำตาแทบไหลที่อิเจ๊ยอมหยุด ถึงจะสงสารมันแต่ก็สงสารสังขารตัวเองมากกว่า

ผมก็ค้างนะ ต้องการเหมือนอิเจ๊แหละ วิทยายุทธพร้อมมากทั้งสิบกระบวนท่า แต่พอเจอกระบี่ยาวไร้ปลอกมันก็หงอเลยอ่า

“ปะปล่อยแป๊บนึง”

“หือ” ให้ปล่อยเว้ย ไม่ได้กอดแน่นขึ้น

“จะไปห้องน้ำ”

ที่งี้ล่ะกระดกหัวมายิ้มเจ้าเล่ห์ใส่เชียว

“ไปทำไมห้องน้ำ” เห็นหน้าก็รู้ละว่ารู้ทัน แล้วจะถามทำไมเล่า

แต่เอ๊ะ ทำไมหน้าตากรุ้มกริ่มขึ้น

เหมือนนางร้ายในละครตอนวางแผนฆ่านางเอกเลย ฮืออออ

“รูล่างเข้าไม่ได้ แต่รูบนยังใช้ได้นะจ๊ะ”

“ยังไง”

ไม่ตอบ แต่มันทำให้ดูเลย โดยการจับตัวผมพลิกลงไปด้านล่าง จับขาผมดึงให้ตำแหน่งน้องชายพอดีกับปากตัวเอง ซึ่งเป็นองศาที่เป๊ะมากเพราะปากผมก็ตรงกับกระบี่ไร้เทียมทานเหมือนกัน

ฮือออ

ช่วยแพลนกล้องไปที่โคมไฟ บันได หรือริมระเบียงสักแป๊บนะครับ อื้มมมมมมม >O<




#เมียตุ๊ด









หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 12 [P.8]< 15.1.2018
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 15-01-2019 03:49:48
อาไร๊!!!! ทำไมตัดชับ!!! อย่างนี้ล่ะ
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! &gt;ตอนที่ 12 [P.8]&lt; 15.1.2018
เริ่มหัวข้อโดย: meanmena ที่ 15-01-2019 05:11:42
มา​แล้ว​วววว​  ไม่​เสีย​แรง​คิดถึง

Sent from my BLA-L29 using Tapatalk

หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 12 [P.8]< 15.1.2018
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 15-01-2019 05:34:18
ให้ความรู้สึก...............  :o8:
ที่อวลคลื่นความคิดถึงกันของคนที่รักกันมากๆเลย   :-[  :impress2:

แต่ก็ให้ขัดใจ  ฮึ้ยยยยย   :fire: :angry2: :serius2:
........ ทำม้ายยยย  ทำไมไม่เตรียมอุปกรณ์ พวกเควาย ถุงยาง มาให้พร้อม  :katai1:
รู้ว่าต้องมีฉากแบบนี้เกิดขึ้นแน่ๆ   :z3:
ทำคนอ่านรมณ์เสีย เพราะมันค้างงงงง   :เฮ้อ: :serius2: :really2:

เจ๊  ตาร์   :กอด1: :กอด1: :กอด1:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: 
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 12 [P.8]< 15.1.2018
เริ่มหัวข้อโดย: aoihimeko ที่ 15-01-2019 05:36:54
So hot !!!!!
 :m25:
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 12 [P.8]< 15.1.2018
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 15-01-2019 05:50:31
 :pighaun: :pighaun:
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 12 [P.8]< 15.1.2018
เริ่มหัวข้อโดย: Hirose ที่ 15-01-2019 06:02:35
 :z3: :z3: :z3: :z3:
อย่าว่าแต่น้องค้างเลย
จุดนี่พี่ก็ค้างงงงงงงงงงงงงง
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 12 [P.8]< 15.1.2018
เริ่มหัวข้อโดย: Supparang-k ที่ 15-01-2019 06:08:56
 :mc4: :mc4: :mc4:


ดีใจที่ได้กลับมาเจอกัน

 :z1: :z1: :z1: :z1:


เรานี่อยากออกเงินช่วยซื้อถุงยาง   อิอิ
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 12 [P.8]< 15.1.2018
เริ่มหัวข้อโดย: meanmena ที่ 15-01-2019 06:19:00
แต่​เรื่อง​ยนี้  ไม่​ควร​พลาด​นะคะ​ ต้อง​พร้อม​ค่ะ​
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 12 [P.8]< 15.1.2018
เริ่มหัวข้อโดย: KizzllKizz ที่ 15-01-2019 07:47:13
ก็คือหลังจากนี้ถุงยางที่เซเว่นจะหมดเลยจ้า อิเจ้ไปเหมาหมด5555555
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 12 [P.8]< 15.1.2018
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 15-01-2019 08:01:29
ก๊อกๆ

ถุงยางกับเควาย

แขวนอยู่หน้าประตูนะ

เอาไปใช้ได้เลย

ป้าซื้อมาให้ฟรีไม่คิดตังค์
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 12 [P.8]< 15.1.2018
เริ่มหัวข้อโดย: mijimaria ที่ 15-01-2019 10:35:24
ว้ายยยย ค้างงงงง :a5:
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 12 [P.8]< 15.1.2018
เริ่มหัวข้อโดย: yumenari ที่ 15-01-2019 11:04:22
ตัดเผื่ออออออออออออออ :katai1:


นับวันรอทุกวันนน

ยิ่งกว่านุ้งต้ารอเจ้อีก


มายาวยาวๆๆๆๆๆ


หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 12 [P.8]< 15.1.2018
เริ่มหัวข้อโดย: numay ที่ 15-01-2019 11:06:46
 :z1:ทำร้ายจิตใจกันมาก กลับมาต่อบัดเด๋วนี้้
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 12 [P.8]< 15.1.2018
เริ่มหัวข้อโดย: kokoro ที่ 15-01-2019 13:31:40
น้องตาร์ พอทำความเข้าใจกับความรู้สึกของตัวเองแล้วก็ใจอ่อนกับเจ๊เขาตลอดเลย
พอเจ๊ไม่อยู่ก็เห็นความใส่ใจของเขาแล้วใช่มั้ย
รออ่านตอนต่อไปนะคะ
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 12 [P.8]< 15.1.2018
เริ่มหัวข้อโดย: angelninae ที่ 15-01-2019 13:57:25
เจ๊กลับมาก็หื่นเลยนะค้าาาาา  :z1: :haun4:
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 12 [P.8]< 15.1.2018
เริ่มหัวข้อโดย: เขมกันต์ ที่ 15-01-2019 17:17:45
โอ๊ยยย กลับมาเจอกันไฟก็ลุกเปรี๊ยะๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! &gt;ตอนที่ 12 [P.8]&lt; 15.1.2018
เริ่มหัวข้อโดย: boobee ที่ 15-01-2019 19:12:07
เข้ามาอ่านตอนแรก ระหว่างนั่งกินข้าว ฮาจนข้าวจะติดคอ ไม่ไหวแล้ว 5555554

Sent from my CLT-L29 using Tapatalk

หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 12 [P.8]< 15.1.2018
เริ่มหัวข้อโดย: Himbeere20 ที่ 15-01-2019 19:44:34
 :katai4:
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! &gt;ตอนที่ 12 [P.8]&lt; 15.1.2018
เริ่มหัวข้อโดย: boobee ที่ 15-01-2019 20:00:48
อิเจ๊ปากโคดจัด ด่าเจ็บ พ่วงความโหด ถึงจะสวยแต่เป็นผัวนะจ๊ะ โหยๆๆๆ ชอบๆๆ

Sent from my CLT-L29 using Tapatalk

หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 12 [P.8]< 15.1.2018
เริ่มหัวข้อโดย: เข็มวินาที ที่ 16-01-2019 01:00:28
แพนกล้องได้เจ็บขั้วหัวใจมาก :o12:
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! &gt;ตอนที่ 12 [P.8]&lt; 15.1.2018
เริ่มหัวข้อโดย: boobee ที่ 16-01-2019 20:34:23
ถึงเจ๊จะไม่มีถุงยาง แต่ก็หยุดความหื่นของเจ๊ไม่ได้นะจ๊ะ

Sent from my CLT-L29 using Tapatalk

หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 12 [P.8]< 15.1.2018
เริ่มหัวข้อโดย: aoihimeko ที่ 24-01-2019 17:51:36
เจ้...หายยยยยยย.  :katai5:
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 12 [P.8]< 15.1.2018
เริ่มหัวข้อโดย: mijimaria ที่ 25-01-2019 00:52:33
กลับมาก่อนค้าาาาา อย่าพึ่งตัดเข้าโคมฟายยยยย ว้ายยยยยยยยย :ling1: :hao7:
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 12 [P.8]< 15.1.2018
เริ่มหัวข้อโดย: Sweettemp ที่ 25-01-2019 02:46:27
ว้าวววว คิดถูกจริงๆที่กดเข้ามาอ่าน มีทั้งข้อคิดและความฮา แต่ตินิดนึงค่ะ ทำไมตัดฉับกันอย่างนี้~~ มาต่อเร็วๆคร่าาาาาา มันค้างคาจายยยยยย 5555  :hao7: :serius2:
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 12 [P.8]< 15.1.2018
เริ่มหัวข้อโดย: Khuan29 ที่ 27-01-2019 07:59:56
รอทุกวันเลยนะ :z6:
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 12 [P.8]< 15.1.2018
เริ่มหัวข้อโดย: Khuan29 ที่ 27-01-2019 08:00:56
รอทุกวันเลยนะ :z6:
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 12 [P.8]< 15.1.2018
เริ่มหัวข้อโดย: LoveAlone ที่ 28-01-2019 05:21:33
 o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 12 [P.8]< 15.1.2018
เริ่มหัวข้อโดย: yumenari ที่ 29-01-2019 13:15:25
มายางงงงง
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 13 [P.9]< 30.1.2018
เริ่มหัวข้อโดย: mod-cup ที่ 30-01-2019 01:28:34
ตอนที่ 13
เตรียมพร้อมรบในสนามรัก



“ประชุมครั้งต่อไปศุกร์หน้านะครับ ขอให้น้องๆทุกฝ่ายเตรียมข้อมูลมาให้พร้อมด้วย แต่ฝ่ายสถานที่พี่ขอดูโลเคชั่นก่อนนะ ส่งเมล์มาให้พี่โจ๊กได้เลย โอเคเท่านี้ แยกย้ายครับ”

จบคำพี่ปีสี่เสียงพูดคุยจอแจพร้อมเสียงแตกฮือดั่งผึ้งแตกลังก็ดังอื้อลั่นห้องสโลปที่เด็กเอกสื่อสารฯได้ยึดครองไว้หลายชั่วโมง

แต่เวลานี้ดูเหมือนแม้แต่วินาทีเดียวก็ไม่มีใครอยากอยู่ พุ่งตัวกันออกไปเพื่อโกยอากาศบริสุทธิ์ หลังจากประชุมเรื่องค่ายกระชับความสัมพันธ์นอกสถานที่กันอย่างตึงเครียดมาตั้งแต่ช่วงเย็น

หัวข้อก็ไม่ได้ซีเรียสมาก แต่ที่ทำเอากดดันกันหายใจแทบไม่ออกจากความพิถีพิถัน (เยอะ) ของรุ่นพี่มากกว่า ตดนี่ตีกลับขึ้นไปที่กระบังลม เรอออกมานี่ไม่รู้จะเป็นกลิ่นข้าวโพดเน่าหรือผัดกระเพราค้างคืน

แต่ก็เข้าใจได้ครับ ค่ายนอกสถานที่ก็ต้องรอบคอบรัดกุม เพื่อความปลอดภัยของนักศึกษาทุกคน

“เห้ย ลุกดิ แดกข้าว” ไอ้การ์ดเดินมาตบแผ่นหลังผมที่นอนหนุนแขนจำลองร่างเป็นของเหลวอยู่บนโต๊ะเลกเชอร์ เฮ้อออ หิวนะ แต่หมดแรงจะลุก มีเรียนแต่แปดโมงเช้า ยันหกโมงเย็น แล้วต้องมาประชุมต่ออีก ฮือ แม่จ๋า พาหนูกลับบ้านโหน่ยยย T^T

“อุ้มหน่อย”

“เจ๊มึงได้บีบไข่กูแตกสิ ลุก”

อย่าเอาเท้าเขี่ย กูไม่ใช่ขี้!

“แป๊บดิว้า”

“เหนื่อยมากอะไรของมึงนิ อยู่ฝ่ายสันธนาการช่วงนี้มันไม่เหนื่อยเท่าสถานที่แบบกูโว้ย” ใครจะอยากอยู่สันธนาการกัน โดนบังคับจากไอ้พวกพี่ปีสี่ต่างหาก หึ อย่าคิดว่าไม่รู้นะว่าใครบงการ ไอ้พวกอิเจ๊ดอกขจรไงจะใครล่ะ

ให้ผมมาเต้นแร้งเต้นกา หมดกันลุคพระเอกนาดาว

“ลุกเร็ว หิวข้าวแล้ว ไม่งั้นกูไม่รอนะ ทิ้งไว้นี่ ให้ผัวมึงมารับ”

“เห้ย” ผมเด้งตัวขึ้นทันทีที่ไอ้การ์ดพูด เสียงดังอะมึง มาผัวๆเมียๆอะไรแถวนี้ “ตะโกนหาพ่อง”

เรื่องโพสิชั่นนี่ความลับเว้ย ไม่นิยมป่าวประกาศ

ให้มันเป็นเรื่องบนเตียงที่รู้กันสองคนพอ

ความสัมพันธ์ของเราก็พอมีคนรู้บ้าง ไม่สิ รู้กันเยอะ ทั้งมหา’ลัยแล้วมั้ง ก็อย่างว่าอะนะ ถึงอิเจ๊มันจะไม่ใช่หนุ่มฮอตสาวแซ่บ แต่ก็มีชื่อเสียงในมหาวิทยาลัยพอสมควร ด้วยความสวยโดดเด่นที่มีบวกกับเป็นเจ้าแม่กิจกรรมตัวยง แล้วยังพ่วงตำแหน่งบิวตี้บล็อกเกอร์ยอดติดตามหลายแสน เลยพอทำให้คนในมอสนใจความเป็นไปของนางพอสมควร

แล้วกระผมที่โดนมันลากไปไหนมาไหน ตัวติดกันยิ่งกว่าขาเบียด ใครๆก็ได้กลิ่นหอมหวานอบอวลเป็นธรรมดา

ไหนจะมีรูปเราสองคนที่โดนแอบถ่ายบ้าง อิเจ๊โพสต์ในไอจีแล้วโดนแคปไปลงเพจบ้าง ทุกคนเลยฟันธงว่าหนุ่มคนใหม่ที่สาวเทียมคนดังควงอยู่ตอนนี้คือหนุ่มหล่อหน้าใสสไตล์เกาหลีแห่งสาขาสื่อสารฯ

แม้จะมีเสียงวิพากวิจารณ์กันสนุกปากกับสเป็คที่เปลี่ยนไปของอิเจ๊ หึ รู้หรอกว่าผมหล่อกว่าที่มันเคยคบผ่านๆมาใช่มั้ยล่า รู้ว่าแอบกรีดร้องและอิจฉาที่อิเจ๊ควงหนุ่มสุดหล่อในโลกหล้า (ไอ้แฟ้มบอกโลกหน้าล่ะสิ แหมะ อิจฉากูก็บอก)

ไม่อยากชมต่อหน้ากลัวว่าผมจะเขินสินะ ฮิห้า อิอิ >O<

ซึ่งแรกๆที่คนอื่นเริ่มรู้ ผมก็ทำตัวไม่ถูกนะ เหมือนมีชนักติดหลังไง ใครไม่รู้ เรารู้อ่ะเนอะว่าเป็นเมียนาง

แต่พออิเจ๊ตีหน้าเศร้าเข้ามาถามว่ายังแคร์คนอื่นมากกว่าความรู้สึกมันอีกหรอ เท่านั้นแหละ เหมือนโดนฉาบมาตีเรียกสติข้างหู

ตื่นเลยครับ หน้าสั่น ใส่เมมไม่แคร์โลกสนแค่คนที่รักลงในสมองอย่างรวดเร็ว แหม มันเผลอหลุดๆไปช่วงนึง อย่าตาเขียวซี่

รู้แล้วน่าอะไรสำคัญในชีวิต

แล้วยิ่งทำให้ผมมั่นใจ ไม่อายคน ก็คงเพราะสัมผัสอ่อนโยนกับคำพูดที่หนักแน่นสั่นหัวใจ



‘ไม่เห็นต้องสนใจใครเลย คนเขาจะรู้แค่เราเป็นคนรักกัน สนใจอะไรกับคำว่าผัวเมีย เขาก็เดากันไป’




ใช่ เดากันไป

และประชากรร้อยละ 80 ก็เดาว่าผมเป็นผัว!

เพราะสวยๆเริ่ดๆ ชะนีแตกอย่างอิเจ๊ไม่พ้นไทป์เมียแน่นอน!

แม้ผมจะเตี้ยกว่า ตัวบางกว่า ปากแดงกว่า แต่ผมไม่ยาว ออร่าดาวไม่จับ แยกเบอร์สีลิปติกไม่ออก เพราะงั้นผมเป็นเมียไม่ด้ายยย

แต่คนอีกกลุ่มนึงก็ว่าผมเป็นแค่ลูกสาว เป็นตัวหลอก เป็นตุ๊ดปากแดงหัวโปกที่กำลังจะมาเป็นสาวสวยในภายภาคหน้าคนต่อไป

ผมนี่ขนลุกเลยเมื่อคิดภาพตาม ตัวเองที่ต้องมานั่งทาปากแดง คัดเบ้าตา ทาแก้ม

โว๊ะ ผมละมึน

แต่ก็ดีแล้วล่ะ คิดไรกันก็ตามสบายเลยเน้อออออ



“ไอ้แฟ้มอะ”

“ติดงาน”

ผมพยักหน้าให้ไอ้การ์ดแล้วกระโดดขึ้นรถมันไปเพื่อหาไรกินกัน หิวชิบหายขนาดนี้หมูกะทะอย่างเดียวครับพี่น้อง

ไอ้แฟ้มช่วงนี้ทำงานโคตรหนัก รับทุกงาน ออกทุกจ็อบ ไม่รู้แม่งได้นอนบ้างหรือเปล่า เห็นนอกจากเวลาเรียนแม่งก็ทำงานอย่างเดียว

เพื่อนฝูงนี่ไม่มีเวลาไปสังสรรค์กันเลย เอาเถอะ ถ้ามีเวลากูขออัญเชิญไปนอน

ส่วนอิเจ๊ที่ขยันลาก เรียกว่าว่างไม่ได้ต้องจำลองตัวเองเป็นขี้ไคลเกาะติดกูแทบจะเอากากกาแฟมาขัดออก วันนี้ได้จรลีหายไปเพราะโดนพ่อเรียกตัวกลับบ้านด่วน

ไม่รู้มีเรื่องอะไร แต่เห็นหัวเสียหัวฟัดเหวี่ยง นี่พ่อยังไม่บอกนะว่าจะคุยเรื่องอะไร แต่กลับบ้านต้องลบเครื่องสำอางค์ไงด้วยเกรงใจพ่อ

แล้วเพิ่งแต่งเสร็จลุคสาย ฝ. เบ้าตาแน่นจัด ปากนี่แมทสุด เป็นไงยังไม่ทันฉีดน้ำแร่ ต้องลบจ้า

สมน้ำหน้า ฮ่าๆ

ดังนั้นเย็นนี้ตี้หมูกะทะได้แบบสบายตัว ซู่ซู่ หมูจ๋า ตาร์มาแว้วววววว



“สองท่านนะคะ”

“ครับ”

เราเดินตามพนักงานกันไปที่โต๊ะในสุดของร้าน ผมเอาเป้วางบนเก้าอี้แล้วพุ่งไปตักบรรดาเนื้อต่างๆทันที

งือออออ เห็นของกินละมันชื่นหัวจายยยยย

ผมยกจานหกใบที่ใส่บรรดาหมูหมักงา ตับหมัก ลูกชิ้น ปลาหมึก เส้นหมี่ กลับมาที่โต๊ะที่ไอ้การ์ดสั่งน้ำอัดลมกับเบียร์วุ้นเย็นๆไว้รอท่าแล้ว โอ๊ย ชีวิตกูจะมีความสุขอะไรไปมากกว่านี้ งือ

“เออ เมื่อกี้ไอ้แฟ้มทักมาชวนออกคืนนี้”

“หืม มันควรนอนมั้ยอะ”

“ไม่รู้มัน มันชวน กูว่าช่วงนี้มันแปลกๆว่ะ”

“ใช่มะ” ผมที่กำลังคาบเส้นหมี่หยกเงยหน้ามองเลยครับ ผมก็สัมผัสได้เหมือนกัน คนอารมณ์ดีๆบ้าบออย่างไอ้แฟ้มมาตีหน้าเคร่งตลอด ที่ผ่านมาถึงมันจะทำงานเยอะเพราะความงกส่วนตัว แต่ก็ไม่เคยเห็นจริงจังจนไม่ได้หลับได้นอนขนาดนี้

จะว่าเก็บเงินไปแต่งพี่อ้อนน้อยก็ไม่น่าใช่

“เออ นี่ชวนออกเองอีก” เห็นด้วย! คนขี้งกอย่างมันมาชวนไปกินเหล้า ทั้งที่มันบอกเป็นการเสียเงินกับสิ่งไม่มีประโยชน์ ลากมันไปเที่ยวทีไอ้การ์ดเป็นคนจ่ายทุกทีแหละ

ไอ้การ์ดนี่เห็นเป็นเด็กเรียน แต่คอทองแดงนะครับ

ผิดกับไอ้แฟ้มที่ดูเหมือนเกเร แต่เหล้ายาไม่แตะ

“หรือมันจะมีปัญหาเรื่องเงิน” ผมคาดเดา

“ไม่น่าใช่ เอาจริงๆบ้านมันก็ไม่ได้ลำบาก แต่มันอยากทำงานเอง”

“บางทีบ้านมันธุรกิจอาจล้มงี้”

“พ่อแม่มันเป็นหมอ ธุรกิจเชี่ยไรล่ะ”

อ้าว ไม่รู้นิ เห็นทำงานเหมือนบ้านโดนฟ้องล้มละลาย

“ช่างแม่งเหอะ เดี๋ยวคืนนี้ก็ค่อยตะล่อมถามมัน ถ้าเป็นเรื่องเงินจริงกูก็พอช่วยได้ กลัวจะไม่ใช่นี่สิ” ผมหรี่ตามองไอ้คุณชายบ้านรวย

“มึงไปรู้อะไรมา”

“ไม่รู้ เดาเฉยๆเว้ย”

“แน่นะ”

“เออ รีบๆแดก ไอ้แฟ้มมันนัดสามทุ่ม ต้องกลับไปอาบน้ำก่อนอีก” เออจริงว่ะ กลิ่นหมูกะทะเหม็นติดตัวขนาดนี้ “แล้วอย่าลืมขอแม่มึงล่ะ”

“บอกแม่ทำไม แม่หลับไปแล้ว” ต่างจังหวัดสองทุ่มก็ปิดไฟนอนหมดแล้ว

“โอ๊ย กูหมายถึงแม่ทูนหัว”

หืม? อ๋อ อิเจ๊สินะ

“ไม่ต้องขอก็มาได้โว้ย นั่นน่ะ ไม่กล้าหือกับกูหรอก”

“หรา”

“เออสิ”









ที่ไหนล่ะ

“ห้ามดื่มจนเมารู้มั้ย”

“อือ”

“ห้ามดื่มเลยยิ่งดี”

“ไปร้านเหล้าปะ ไม่ใช่ร้านนม”

“อย่าปากดี ได้ผัวมาทุกวันนี้ก็เพราะเมามั้ย จะกลับแล้วโทรมาเดี๋ยวกูไปรับ”

“เดี๋ยวไอ้การ์ดไปส่ง”

“กูจะมารับ ไม่ต้องเถียง หุบปากไป เพื่อนมึงเวลาเมาแล้วไว้ใจไม่ได้สักคน เดี๋ยวก็ปล่อยปะละเลยจนโดนใครลากไปแดก ตัวเท่าลูกหมาแรงกัดมีแค่พอถาก ขอไปด้วยก็ไม่ให้ อย่าให้รู้ว่าแอบมีกิ๊ก”

“กิ๊กพ่อง” แล้วมึงอะยังไม่เคยขอกูเป็นแฟนเลยเถอะ พูดเรื่องนี้แล้วงอน ชิ “ไอ้แฟ้มมันมีปัญหาอะ ไม่อยากเอาคนอื่นไปเผื่อมันไม่สบายใจจะเล่าให้ฟัง”

ยิ่งถ้ามีปัญหาเรื่องหัวใจยิ่งไม่ควรพาอิเจ๊ไปด้วย เพื่อนสนิทใครก็รู้อยู่

“กูเป็นคนอื่นสำหรับมึงสินะ”

“อย่ามา รู้หรอกว่าเป็นแผนดราม่า ไม่ให้ไปด้วยหรอก แบร่”

อิเจ๊ตวัดตาขวางมอง หึๆ รู้ทันหรอกน่า อย่ามาใช้มุกนี้ ความฉลาดนี่มันถ่ายทอดมาจากดีเอ็นเอเว้ย ของดีแม่ให้มา อิอิ

จุ๊บ

เนียนหอมตลอดดดดดดด

ในจังหวะที่จอดรถหน้าร้าน ด้วยความหมั่นไส้ มันเลยจับหน้าผมดึงมาบี้แก้มแรงๆ

“อื้อ เอ็บ”

“ดูแลตัวเองดีๆ เดี๋ยวไปรอที่คอนโดอ้อน” อ่อ ใช่สิ คอนโดพี่อ้อนอยู่ใกล้ๆนี่เอง

เออ จะว่าไป...

“พี่อ้อนน้อยทะเลาะกับไอ้แฟ้มหรอ” ทุกทีไอ้แฟ้มไม่ใช่สายเที่ยว ถ้าจะมาก็พาพี่อ้อนน้อยมาด้วยตลอด

พักนี้ก็ไม่ค่อยเห็นไปไหนมาไหนด้วยกัน

“ไม่รู้สิ อ้อนไม่ได้บอกไรอะ” ทำเป็นตีหน้านิ่งเชียวนะ อย่าให้รู้นะว่ามีไรปิดบัง “มองไร ไม่เสือกสิ เรื่องคนอื่นอะ เค้าไม่บอกก็อย่าไปอยากรู้ เดี๋ยวเค้าอยากเล่าก็เล่าเอง”

โห ด่าซะกูหมาเลย

“เออ ไปละ” แหน่ะ อะไรอีก มาฉุดแขนไว้ทำไม

“อย่าปล่อยให้แบตหมด ทักมาให้ตอบ เข้าใจมั้ย”

“ครับพ่ออออออ”

“เดี๋ยวโดนดีดปาก แล้วอย่าเมามาก กลับห้องมีเรื่องจะคุย”

“เรื่องไรอะ” หูผึ่งทันที

“ค่อยเล่ามันยาว ลงไปได้แล้วไป ชิ่วๆ”

ชิ

ไล่เป็นหมาเลย ไปก็ได้วะ



ผมลงจากรถ โบกมือบ๊ายบายให้คนบนรถ จะรอให้รถขับออกไปก่อนแต่อีกฝ่ายเพยิดหน้าให้เดินเข้าไปในร้าน ห่วงจนเว่อ หวงจนขึ้นสมอง แต่ทำไมผมต้องอมยิ้ม งุ้ย แรดจริงกู

“เฮ้ยๆ รีบเมาไปไหนวะ”

สุดจัดปลัดบอกมาก สามทุ่มครึ่งล่อไปเกือบขวดละ

“ช้า”

“แค่ครึ่งชั่วโมงเอง”

ช้านิดช้าหน่อยทำเป็นบ่น ผมนั่งลงข้างไอ้การ์ดแล้วสะกิดมัน แต่สายตามองไปที่ไอ้แฟ้มอย่างเป็นห่วง

“ตกลงมันเป็นไรวะ”

“ไม่รู้ดิ เงียบ ไม่พูดไม่จา ดื่มอยากเดียว”

“อกหักปะวะ” ดื่มขนาดนี้บ้านไม่น่าล้มละลาย แต่ผ่านคืนนี้ไปไม่แน่

“มึงถามเจ๊พิชมายังอะ”

“เจ๊บอกไม่รู้”

“ไม่รู้หรือไม่บอก”

“ไม่ชัวร์”

“โฮะ มึงก็ถวายร่างเพื่อเพื่อนหน่อย”

“เออ เดี๋ยวกลับไปกูแก้ผ้าโก่งตูดให้เลย ถุย มันใช่เวลามั้ยล่ะ”

ยังมีหน้ามาขำ ผมถีบขาไอ้ตัวยุไปทีก่อนหันไปหาไอ้แฟ้ม เขยิบเก้าอี้ไปใกล้แล้วยกแขนกอดคอมันไว้

ลำบากหน่อยเพราะมันดันสูงกว่าผมหลายเซนต์แต่ไม่เป็นไร ฮึบๆ

“เอ้ยมึง คิดไงชวนพวกกูออกมา”

“อยาก”

“เห้ย มีเรื่องไรไม่สบายใจบอกกูได้นะเว้ย เห็นกูงี้แต่พึ่งพาได้นะ”

“…”

“มีไหล่ให้ซบ มีนุ่นให้พัก มีตักให้มึงหนุนนอนอบอุ่นใจ”

“…”

กริบ

โอเค

โหมดไอ้แฟ้มดึงหน้าตึงประหนึ่งร้อยไหมแล้วยังไม่เข้าที่นี่อาจจะไม่เหมาะกับผม ขอถอยก่อนแล้วกัน

ส่งสัญญาณให้ไอ้การ์ดเข้ามานั่งแทน ส่วนผมก็ย้ายก้นไปนั่งที่มัน

เออะ กูให้ไปปลอบเพื่อน ไม่ใช่ให้ไปนั่งเงียบๆ บริการชงเหล้าให้มัน ดูสิ ซดเอาๆตับมึงรับไม่ไหวล้าวววว

แต่เอาเถอะ ถ้าเรื่องมันเศร้านัก ก็จัดเลยเหล้าเข้มๆ เดี๋ยวเพื่อนแท้คนนี้จะถวายตัวดื่มเป็นเพื่อนมึงเอง

ให้รู้ไปสหายว่าต่อให้โลกนี้วอดวายมึงจะยังมีเพื่อนคนนี้ข้างกายไม่เปลี่ยนแปลง เอ้า ดื่มมมมมมมม

ดื่มให้เมา เผื่อเผลอหลุดปากเล่าอะไรออกมาบ้าง

ไม่ได้เสือกนะครับ แค่เก็บไว้มากๆมันจะแน่นอก ต้องยกออก

สุดท้ายก็ไม่ได้เรื่องอะไร ไอ้การ์ดมือชงมันจัดซะไอ้แฟ้มฟุบไปที่โต๊ะ เอ...ไม่ใช่สิ ผมต่างหากที่ฟุบ หน้าจิ้มโต๊ะแล้ว มองมุมนี้นึกว่าไอ้แฟ้มมันฟุบ ไม่ช่ายยยยย มันยังนั่งซดอยู่แต่กระดกได้ช้ากว่าเดิม

แต่ไอ้การ์ดก็ช้านะ ช้าอะมึงช้า ชงเร็วๆ เอิ๊กกกกกกก

“โทรให้เจ๊พิชมารับเหอะ เริ่มเลื้อยละ” นั่นเสียงมึงใช่มั้ยไอ้แฟ้ม ดีจายมึงพูดแล้วววววว

“เฮ้ยๆ มึงจะไปเกาะเค้าไม่ได้ เดี๋ยวแม่มึงกินหัวกูหรอก นั่งดีๆ” ไรอะ แค่เห็นเสื้อสวย อยากรู้ซื้อจากร้านไหน ช่วงนี้สไตล์วินเทจกำลังมา อยากจะหล่อเหมือนพี่ออฟ จุมพล ครึ

“ไปต่อห้องกูมั้ยมึง ไอ้ตาร์ไม่ไหวละ”

“อืม”

“งือออ กูไปด้วย ไปๆ ตะแต่บอกอิมารก่อนนะเว้ย มันรออยู่ นู่นนนนนนน”

“โอ๊ย อย่าชี้ไปเรื่อย”

“อยู่ห้องพี่อ้อนนนนนน พี่อ้อนตั้ลล้ากกกกกกก”

งุ้ยๆ เพื่อนแฟ้มทำไมต้องตีหน้าเคร่ง พี่อ้อนแฟนมึงงายยยย ไม่รักพี่อ้อนละหรอออ ทำไมหน้าดุ บู่ววว

“เฮ้อ มา ช่วยกันหิ้วคนละข้าง”

ผมรู้สึกว่าตัวเองลอยๆ พอหันซ้ายเพ่งตาดูก็เห็นกกหูของ...อืม อ้อ เพื่อนแฟ้ม หันขวาก็เห็นหูของสหายการ์ด

นี่จะพากูบินหรอ เออดีๆ ตาร์อยากโต้ลม ฟิ้ววววว

“มึงอยู่เฉยๆดิวะ ตีขาหาพ่องไม่ได้ว่ายน้ำ แฟ้มๆมึงเปิดประตูรถให้หน่อย”

ตุบ

งือ เจ็บ

เหมือนโดนโยนลงบนอะไรสักอย่าง มันเด้งดึ๋งๆเหมือนเบาะ แต่เจ็บง่ะ งือ แล้วง่วงจัง ขอหลับละนะ

“ฮัลโหล เจ๊พิช พี่อยู่ไหนอะ ไอ้ตาร์มัน กนหาดิไตรำพทิหบส” โอ๊ยยยย เสียงดัง เบาๆหน่อย คนจะนอนโว้ยยยยย











ปวดหัว

ฮือ

ปวดหัวจัง

“’งืออออออ”

นี่หนังตาหรือหนังควายทำไมมันถึงได้หนักขนาดนี้ ปวดหัวตื้อไปหมดเลยด้วย แต่ก็คอแห้งหิวน้ำ เลยพยายามเปิดเปลือกตาขึ้น ก่อนจะหยีตาให้กับแดดที่ส่องมาทางระเบียง

“ใครมันเปิดม่านแต่เช้าวะ แค่กๆ”

“กูนี่แหละเปิด เช้าที่ไหนล่ะ จะบ่ายแล้วย่ะ ตื่นสักที นอนมากเดี๋ยวปวดหัว อะน้ำ” บ่นยาวเป็นสะพานพระรามแปดอย่างนี้ไม่มีใครหรอกครับ คนที่คุณก็รู้ว่าใครนั่นแหละ

“จะออกไปไหนอะ” วันนี้มาลุคเมคอัพโนเมคอัพ เสื้อเชิร์ตแขนยาวเนื้อนุ่มทรงผู้หญิงกับยีนส์สกินนี่รัดรูปพอดีตัว เหมือนจะออกไปข้างนอก

“ก็นี่แหละเรื่องที่จะเล่าให้ฟัง บอกว่ายังไง ห้ามเมาไม่ใช่หรอ”

“แฮร่ ก็ไอ้แฟ้มมันเมา เลยดื่มเป็นเพื่อน...”

“…”

“นิดเดียว...” นี่เอานิ้วชี้กับนิ้วโป้งขึ้นมาจีบให้รู้ว่านิดเดียวจริงๆ แฮร่

โป๊ก

“อย่ามาทะเล้น เดี๋ยวกูกลับมาจัดการ นอนพักไป ทำข้าวต้มไว้ให้ในครัว ลากสังขารไปแดกด้วย เฮ้อ ว่าจะพาไปด้วย สภาพนี้คงไม่ไหว” นิ้วชี้จิ้มหน้าผากผมแรงๆจนหงายหลังลงไปบนหมอนนุ่ม ผมแกล้งทำเป็นร้องเจ็บด้วยแอคติ้งใหญ่มาก เลยโดนจูบบี้ปากแรงๆ ก่อนผู้ประทุษร้ายจะลุกไปถักเปียเดี่ยวหน้ากระจก ปากก็บ่นไรไปผมฟังไม่ค่อยถนัด เพราะเริ่มมึนหัวอีกแล้ว

ขอนอนอีกซักตื่นแล้วกัน

อิเจ๊คงไปออกอิเวนท์ตามปกติ อีกนานกว่าจะกลับ ผมคงตื่นก่อนอยู่แล้ว งือ ปวดหัว







ครืด ครืดด

ใครมาเจาะผนังตอนนี้

ฮือ ทำไมต้องทำให้เกิดแรงสั่นสะเทือน สุดหล่อจะตื่นไม่ไหว งืม กี่โมงแล้วนะ

ตีสี่เอง

นอนต่อดีมั้ย

หืม?

ไม่สิ

ไม่ใช่ตีสี่

ผมค่อยๆลืมตา กระพริบตาปริบปรับสายตา มองออกไปนอกหน้าต่างเห็นท้องฟ้าเริ่มสลัวทั้งที่พระอาทิตย์ยังส่องแดดจ้าอยู่ จนได้สติว่าความจริงไม่ได้ใกล้มืด มันขมุกขมัวเพราะพิษของฝุ่นพี่เอ็ม 25 ยังไม่วิกฤตินะครับ ไม่ต้องกังวล นี่ก็รอว่าเมื่อไหร่จะประกาศเป็นเขตควบคุมต้องรอใช้ไฟฉายส่องกบส่องนำทางก่อนหรือเปล่า แค่กๆ (ปลิวเมื่อไหร่ไม่ต้องสืบ)

จ๊อกกก

ดีจริงกู ตื่นมาก็หิว เหมือนอิเจ๊จะทำข้าวต้มไว้ให้ ป่านนี้อืดเป็นศพตุ๊กแกแล้วมั้ง ลองเดินไปดูหน่อย พอเดินมาในครัวเปิดหม้อดูก็ยิ้มออก

สมกับเป็นคนรู้ใจ รู้ไปถึงตับไตลำไส้ใหญ่

คงเดาได้ว่าผมจะนอนแบบซ้อมตาย เลยต้มเป็นน้ำซุปแยกเครื่องแยกน้ำ แล้วแยกข้าวไว้ด้วย

ให้ผมประกอบร่างและอุ่นกินเอง จะได้กินข้าวหอมๆอร่อยๆ

งือออ รักจัง มาๆหอมหน่อยให้รางวัลที

ผมยกข้าวต้มกุ้งหอมฉุยโปะไข่ลวกสองฟองกับกาแฟดำออกมานั่งกินที่ห้องนั่งเล่น เปิดทีวีช่องการ์ตูนทิ้งไว้ มือข้างหนึ่งตักข้าว อีกข้างไถโทรศัพท์

อืม แจ้งเตือนเฟสบุ๊คเยอะจัง ล่อไปยี่สิบกว่านี่คืออะไร

ผมเปิดเข้าไปดูถึงร้องอ้อ แหมมมม ก็แค่รูปอิเจ๊ไปเดินห้าง เป็นรูปแอบถ่ายจากด้านหลังบ้าง ด้านข้างบ้าง แล้วเอามาโพสต์ลงเพจมหาวิทยาลัย กระผมผู้ตกเป็นข่าวคู่ควงกับอิเจ๊ในช่วงนี้ก็จะโดนแท็กจากคนคอมเมนต์ด้วยบ่อยๆ

ชินละ มันไปออกงานทีเฟสผมก็โดนระเบิดด้วยข้อความแจ้งเตือน

มือถือค้างก็เจอมาแล้ว

หืม?

แต่เหมือนครั้งนี้จะต่างออกไป

นี่ไม่เหมือนไปงาน บรรยากาศรอบข้างก็ไม่ได้มีคนหนาแน่น มีกล้องหรือสิ่งที่บอกว่ามีงานเกิดขึ้น

อืม หรือจะแค่ไปเดินเล่น มีคอลเลคชั่นเครื่องสำอางค์ออกใหม่หรือวะ

แต่นั่นมันไม่ใช่ประเด็นไง

ประเด็นคือ…

ผู้ชายที่เดินข้างๆนี่เป็นใคร!

ใช้นิ้วซูมภาพดูใกล้ๆแล้ว อื้อหือ ขึ้นมันขึ้น

ตัวสูงใหญ่ ขาว เบ้าดี มีกล้ามท้อง สเป๊กอิเจ๊ ไอ้กล้ามปูหูใหญ่นี่คือใคร!

เดินจูงมือ โอบไหล่นี่บอกทีว่าเพราะเป็นลม ไม่ได้นอกใจกัน!

ก๊าซซซซซซซซซ









แล้วผมก็ได้คำตอบในค่ำวันนั้น



เรียกว่าโทรจิกเป็นไก่ ให้รีบกลับมาห้องด่วน ใจนี้ร้อนดั่งไฟบนภูเขาลาวา แทบจะแปลงร่างเป็นสุนัขไล่กัดหัวคน

แต่ยังพอตั้งสติได้จากบทเรียนของพี่พอร์ชเลยไม่ตีโพยตีพายมโนไปเองเหมือนที่ผ่านมา

แต่ถ้าให้คำตอบที่ระคายหูมีหัวแตกแน่ๆรับรอง

แล้วไอ้ ‘ว่าที่คู่หมั้น’ นี่มันถือเป็นคำตอบดีๆได้หรือเปล่าวะ!!

“ทะทำไมอยู่ดีๆถึงจะหมั้นล่ะ พ่อยอมรับหรอ ไหนมึงบอกว่าไม่ชอบที่มึงเป็นกะเทยไง แล้วทำไม....”

โอ๊ย อยู่ดีๆผัวดันจะมีผัวนี่ผมต้องรู้สึกยังไง

“กูก็ไม่รู้ เมื่อวานเค้าเรียกกูไปหา แล้วก็บอกจะให้กูหมั้นกับลูกชายเพื่อนที่ทำธุรกิจร่วมกัน กูนี่เกือบจะกรีดร้องลั่นบ้าน” อิเจ๊ทำท่าขนลุกก่อนจะยกมือขึ้นมาพัดด้วยท่าทางดัดจริต นี่พยายามจะดับไฟร่านในตัวอยู่ใช่มั้ย

ก็นะ ไอ้ลูกชายเพื่อนพ่อ(ง)อะไรนั่นโคตรหล่อ โคตรดูดี แล้วยังจะโคตรรวยอีก

บอกทีว่าผมยังเป็นพระเอกอยู่ รู้สึกเหมือนเป็นตัวประกอบค่าตัวชั่วโมงละร้อยบาท ฮือ

“ทำไมปิดบัง”

“ปิดบังหอยอะไรล่ะ บอกแล้วไงอย่าเมาๆมีเรื่องจะคุยด้วย ไปอย่างราชากลับมาอย่างหมาขี้เรื้อน สภาพเน่ายิ่งกว่าขยะ เอาไปทิ้งข้างทางยังสงสารเทศบาลที่ต้องมาเจอเลย”

โห ด่าซะกูดูน่ารังเกียจกว่าขยะเปียกอีก

“เอ้า ก็ลืมอะ มึงก็มีเรื่องคุยทุกวัน ใครจะรู้เรื่องสำคัญ”

“ก็หัดใช้สมองคิดบ้าง ไม่ได้มีไว้เป็นอาหารพยาธิอย่างเดียว ถ้าไม่สำคัญจะย้ำแล้วย้ำอีกมั้ยยะ”

งืออออ เจ็บปวดดดดดดด

อย่าเพิ่งด่า กลับเข้าประเด็นก๊อนนน

“แล้วมึงก็ตอบตกลงหรอ”

“เปล่า”

“เปล่าแล้วทำไมไปไหนมาไหนด้วยกันอะ”

เพี๊ยะ

ผมตีมือที่ยื่นมาคว้าตัวจะไปกอด

ไม่ต้องมาจับเลย! วันนี้อธิบายไม่เคลียร์อย่าคิดว่าจะได้มาโดนตัว

“กูค้านแล้ว บอกพ่อไปด้วยว่ามีแฟนแล้ว พ่อกูไม่ฟัง บอกว่าไหนๆก็เป็นแบบนี้แล้วก็ทำอะไรให้เค้าภูมิใจได้บ้าง”

กึก

ผมชะงักกับแววตาวูบไหว

อารมณ์งี่เง่างอแงของผมค่อยๆลดลง เมื่อเริ่มตระหนักได้ว่าคนที่ลำบากใจกับเรื่องนี้ที่สุดคือคนตรงหน้า

ผมค่อยๆขยับตัวเข้าไปใกล้ ล้มตัวนอนหนุนตัก หันหน้าเข้าลำตัวอีกฝ่าย กอดเอวนุ่มไว้และฝังใบหน้าลงกับหน้าท้องอีกฝ่าย

“บอกว่าอย่าจับไง” พูดอู้อี้เมื่อรู้สึกว่าต้นแขนถูกลูบเบาๆ

พอผมดุสัมผัสก็ละออกไป

ชิ ยังงอนอยู่ โปรดอย่ามาจับ ผมจับได้คนเดียว!

“ไม่ต้องห่วงนะ กูไม่ยอมหมั้นหรอก วันนี้ที่ออกไปเพราะงานน่ะ พ่อให้ไปเจอลูกค้า กูก็พอรู้แหละว่าจะโดนหลอกไปเจอ แต่พอเอางานมาอ้างก็ก็ปฏิเสธไม่ได้”

“อืม”

“คราวหลังไปกับกูสิ”

“พูดแบบนี้แสดงว่ายังต้องไปเจอกันอีกหรอ”

“ก็คงอีกสักพัก จนกว่าพ่อจะเปลี่ยนใจ”

“แล้วถ้าไม่ล่ะ”

“ก็คงต้องจำใจแต่งงานอะ หล่อ หุ่นดี หรรมใหญ่ ซี๊ดดดดด”

ปั่ก

“โอ๊ย ล้อเล่นๆฮ่าๆ” ยังจะมาหัวเราะอีกคนกำลังเครียด แล้วไม่ต้องมารวบไปกอดเลย ขี้ฉวยโอกาสนัก กลายเป็นว่าผมนั่งคร่อมตักหันหน้าเข้าหาอีกฝ่าย ใบหน้าโดนกดไว้ตรงไหล่ แล้วโดนฝ่ามืออีกฝ่ายประคองศีรษะไว้ให้จมอยู่ในอก “กูไม่มีทางรักใครหรอกนอกจากมึง อิกลูต้าหน้าลิง จุ๊บ”

มะแม่ง ขะเขินเลย >///<

เหมือนจะโรแมนติก ตะแต่หายใจไม่ออกโว้ยยย

นี่จะให้ขาดอากาศหายใจตายแล้วไปอยู่กับไอ้ว่าที่คู่หมั้นกล้ามโตใช่มั้ย

ฝันไปเถอะ ถึงผมตายไปก็จะมาขี่คอมันไว้ ยันต์สำนักไหนก็ไล่ผมไม่ได้

เหอะ คู่หมั้นงั้นหรอ เดี๋ยวเจอตาร์เล็กพริกขี้หนู

เดี๋ยวเจอ!





#เมียตุ๊ด

 


























หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 13 [P.9]< 30.1.2018
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 30-01-2019 02:58:40
 :pig4:
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 13 [P.9]< 30.1.2018
เริ่มหัวข้อโดย: KizzllKizz ที่ 30-01-2019 06:25:03
คุณพ่อคิดอะไรอยู่!! อิเจ๊ไม่ควรเป็นเมียใคร ควรเป็นสามีต้าเท่านั้น ใจบางละเกินนางอยู่ด้วยกันแล้วน่ารักมาก

 :o8:
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 13 [P.9]< 30.1.2018
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 30-01-2019 06:48:39
ตาร์ มีมารผจญซะละ  :เฮ้อ: :serius2: :z3:
ว่าแต่แฟ้ม มีปัญหากับอ้อนแน่เลย  :mew2:
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 13 [P.9]< 30.1.2018
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 30-01-2019 07:37:15
กลูต้าร์

มีคู่แข่ง
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 13 [P.9]< 30.1.2018
เริ่มหัวข้อโดย: antr93 ที่ 30-01-2019 07:56:48
 :pig4:
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 13 [P.9]< 30.1.2018
เริ่มหัวข้อโดย: yumenari ที่ 30-01-2019 09:58:29
ลุยยยยเลยกลูต้าาาาา
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 13 [P.9]< 30.1.2018
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 30-01-2019 10:37:56
 :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 13 [P.9]< 30.1.2018
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 30-01-2019 11:36:32
ต้าศึกนี้ช่างใหญ่หลวงนัก สู้ ๆ ล่ะ
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 13 [P.9]< 30.1.2018
เริ่มหัวข้อโดย: เขมกันต์ ที่ 30-01-2019 12:36:25
เอ๊าาา ตาร์อย่ายอมนะลูกกกกกก กว่าจะทำใจยอมรับเจ๊เข้ามา ห้ามปล่อยไปง่ายๆ นะ
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 13 [P.9]< 30.1.2018
เริ่มหัวข้อโดย: Am.FerfaHara ที่ 30-01-2019 18:52:12
ขอบคุณที่มาอัพนะคะ รออยู่เลย
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 13 [P.9]< 30.1.2018
เริ่มหัวข้อโดย: aoihimeko ที่ 30-01-2019 21:59:33
 :m16:
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 13 [P.9]< 30.1.2018
เริ่มหัวข้อโดย: padthaiyen ที่ 30-01-2019 22:29:31
ตาร์เจอคู่แข่งซะแล้ว
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 13 [P.9]< 30.1.2018
เริ่มหัวข้อโดย: เข็มวินาที ที่ 31-01-2019 01:37:04
ป่วนหนักๆเลยรูก  :hao7:
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 13 [P.9]< 30.1.2018
เริ่มหัวข้อโดย: Sky ที่ 01-02-2019 00:34:51
สรุปคุณคู่แข่งเจอตาร์แล้วเบนเข็มเลย ขอเปลี่ยนคน
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 13 [P.9]< 30.1.2018
เริ่มหัวข้อโดย: angelninae ที่ 10-02-2019 07:14:52
คิดถึงเจ้ :hao5:
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 13 [P.9]< 30.1.2018
เริ่มหัวข้อโดย: nikpook ที่ 10-02-2019 17:17:57
ขำอิน้องต้าร์มีความหาเรื่องคู่หมั้นเจ๊ ก็คือขี้หึงกันทั้งเจ๊และอิน้อง แฟ้มกับอ้อนคือมีปัญหาอะไรกันนะ แล้วเมื่อไหร่เจ๊จะขออิน้องเป็นแฟน อยากให้เจ๊เล่นตัวอย่าพึ่งขอเพราะเราอิจอิน้องเราอยากได้อิเจ๊มาเป็นของเรา เจ๊คืองานดีย์มากสวยเผ็ชมากและดูแลคนเก่งด้วย เราชอบตอนที่เจ๊จับอิน้องจุ๊บน้องหอมเอ็นดูมีแต่คำว่าน่ารักเต็มไปหมด  รอตอนต่อไปอยู่น้า สนุกมากๆมาต่อเร็วๆนะเราเป็นกลจให้นักเขียน :กอด1: :3123: :pig4:
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 13 [P.9]< 30.1.2018
เริ่มหัวข้อโดย: aoihimeko ที่ 16-02-2019 14:22:38
เจ๊หายอีกแล้ววว :ling1:
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 13 [P.9]< 30.1.2018
เริ่มหัวข้อโดย: yumenari ที่ 19-02-2019 02:38:49
 :mew3: หายนานนนนนนนเลยยย
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 13 [P.9]< 30.1.2018
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 19-02-2019 03:07:39
 :katai5: :katai5: :katai5: :katai5:
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 13 [P.9]< 30.1.2018
เริ่มหัวข้อโดย: aoihimeko ที่ 24-02-2019 06:09:10
รอบ​นี้​หาย​นาน​เลยอ่ะ​  หรือ​ว่า​จะ​ช่วย​กลูต้า​วางแผน​อะไร​อยู่​   :hao7: :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 13 [P.9]< 30.1.2018
เริ่มหัวข้อโดย: Hirose ที่ 26-02-2019 07:53:04
 :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1:
อยากอ่านต่อแล้วค่ะ
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 13 [P.9]< 30.1.2018
เริ่มหัวข้อโดย: mailmay ที่ 04-03-2019 02:04:16
 :jul1: :katai5: :z3:
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 13 [P.9]< 30.1.2018
เริ่มหัวข้อโดย: Fonjae333 ที่ 04-03-2019 12:42:02
คิดถึงน้องแล้วววววว :katai4: :katai5:
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 13 [P.9]< 30.1.2018
เริ่มหัวข้อโดย: aoihimeko ที่ 11-03-2019 11:45:07
 :z13  มาเถอะ
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 13 [P.9]< 30.1.2018
เริ่มหัวข้อโดย: cakecoco-boom ที่ 11-03-2019 14:36:39
รออยู่น้าาาาาาาา :katai5:
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 13 [P.9]< 30.1.2018
เริ่มหัวข้อโดย: LSK ที่ 12-03-2019 15:44:21
ชอบอ่ะ  :hao6:
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 13 [P.9]< 30.1.2018
เริ่มหัวข้อโดย: Blue ที่ 18-03-2019 22:57:39
 :pig4:
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 13 [P.9]< 30.1.2018
เริ่มหัวข้อโดย: aoihimeko ที่ 28-03-2019 05:26:59
เจ้!!!!!!!!!  เราหายไปติดเกมส์ตั้งนานเจ้ยังไม่มาหรอ

 :ling1: :ling1: :ling1:

รออยู่เด้อ :hao5:
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 13 [P.9]< 30.1.2018
เริ่มหัวข้อโดย: meteexp ที่ 29-03-2019 22:39:57
ได้อยู่!!
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 13 [P.9]< 30.1.2018
เริ่มหัวข้อโดย: xexezero ที่ 16-04-2019 15:30:54
เพิ่งได้มาอ่าน และชอบมากกกกค่าาาาา ติดตามได้ รอตอนต่อไปนะคะ :impress2:
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 13 [P.9]< 30.1.2018
เริ่มหัวข้อโดย: YounIn ที่ 16-04-2019 22:19:43
สนุกๆ
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 13 [P.9]< 30.1.2018
เริ่มหัวข้อโดย: amisezmin ที่ 16-04-2019 23:21:34
รออยู่น้า :call:
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 13 [P.9]< 30.1.2018
เริ่มหัวข้อโดย: t2007 ที่ 17-04-2019 08:12:49
อิกลูต้า จะพิสูจน์รักวิธีใหนน๊อ
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 13 [P.9]< 30.1.2018
เริ่มหัวข้อโดย: KizzllKizz ที่ 19-04-2019 21:14:51
ฉันมารอพี่ที่ท่าน้ำทุกวันเลยนา
 :sad4:
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 13 [P.9]< 30.1.2018
เริ่มหัวข้อโดย: aoihimeko ที่ 23-04-2019 06:23:11
เจ้จ๋า... กลับมาเถอะ   :mew4:
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 13 [P.9]< 30.1.2018
เริ่มหัวข้อโดย: amisezmin ที่ 06-05-2019 21:35:05
หายไปเลยกลับมาต่อได้แล้วจ้า :call:
หัวข้อ: Re: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 13 [P.9]< 30.1.2018
เริ่มหัวข้อโดย: aoihimeko ที่ 24-05-2019 12:35:55
คือ.... แล้วเจ้ก็ไม่กลับมาสินะ  :ling1: