OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 13 [P.9]< 30.1.2018
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: OMG เอาไงดี ผมมีสามีเป็นตุ๊ด! >ตอนที่ 13 [P.9]< 30.1.2018  (อ่าน 43750 ครั้ง)

ออฟไลน์ naruxiah

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 913
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-2
โอ้ยเจ้ เจ้ต้องรุกแล้วจริงๆค่ะ​ น้องตาร์ซื่อมาก​ น่ารักปนฮามากอ่ะเรื่องนี้​

ออฟไลน์ nevergoodbye

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1240
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-2
โอ๊ยเจจ๊  :hao7:

ออฟไลน์ mod-cup

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +348/-5

ตอนที่ 5
แพ้ภัย แพ้ใจ แพ้เธอ



“ไอ้ตาร์เสร็จยัง ต้องไปแล้วๆ”

“สองนาทีๆถึงสรุปแล้ว”

ปากว่าแต่สายตาไม่ได้ละไปจากกระดาษตรงหน้า ส่วนมือก็จับปากกาเขียนด้วยความเร็วพอๆกับรถเมล์สายแปดแหกทุกทางโค้งเพราะผมหยุดเรียนไปหนึ่งสัปดาห์แล้วการบ้านรายงานทุกอย่างไอ้การ์ดจะส่งให้ทางไลน์ตลอด แต่ถ้างานไหนด่วนมันก็จะทำให้เลย

แต่....มันลืมบอกผมว่ามีการบ้านวิชาพฤติกรรมมนุษย์

ที่อาจารย์โคตรเคร่ง โคตรโหด

ไม่มีงานส่งนี่ไม่ใช่ได้ศูนย์คะแนนนะครับ...ติดลบจ้า

ก้วยเหตุผลว่าคะแนนงานเท่ากับศูนย์ คะแนนความไม่มีความรับผิดชอบลบห้า โอยยย กูจะบ้าตาย นี่ไม่รู้ว่าในช่องกรอกคะแนนแดงเถือกไปกี่ช่อง ฮือ ชีวิต

แล้วจะทำยังไงได้ล่ะ เสี่ยงลอกถ้าถูกจับได้ยังได้คะแนนครึ่งนึง ไม่มีส่งติดลบนะครับ แล้วไอ้ผมก็คนดีมีคุณธรรมนำพาความซื่อสัตย์ในหัวจิตหัวใจอย่างสูงส่งก็ดึงของไอ้การ์ดมาลอกสิครับจะช้าอยู่ไย

แล้วตอนนี้เรื่องไก่ยังไม่ทันหายเรื่องควายเข้ามาแทรกเพราะกำลังจะเข้าคลาสสาย งือ ยังลอกไม่เสร็จอ่ะ แต่ต่อให้ข้างหน้าจะมีกับดักระเบิด ฝูงเสือ เรือไททานิคจอดขวางทางอยู่ก็ต้องไปเข้าเรียนให้ทัน ห้ามสายแม้แต่นาทีเดียวเข็มนาทีชี้เลขสิบสองปุ๊บท่านอาจารย์จะล็อคห้องทันที อยากจะถามเหลือเกินว่ายึดจากนาฬิกาเรือนไหน ถ้ายึดจากนาฬิกาบนข้อมือกูจะขอปรับย้อนหลังสักครึ่งชั่วโมง

แล้วเวรกรรมนำพาคือผมขาดไม่ได้แล้วไงใช้โควต้าครบแล้ว ถ้าขาดอีกครั้งเดียวคือหมดสิทธิ์สอบ

ผมจะติดเอฟตั้งแต่ปีหนึ่งไม่ได้ พ่อต้องฆ่าผมทิ้งแน่ๆ ขายควายส่งโคตรควายเรียน ฮือ T^T

“เหลือเขียนชื่อ ชิบบบบบ”

“ไม่ทันแล้วมึง ต้องไปแล้วอีกแค่สามนาทีต้องวิ่งขึ้นชั้นสี่นะเว้ย” ไอ้แฟ้มเข้ามาดึงสมุดบนโต๊ะที่ผมกำลังเขียนไป แล้วฉุดข้อมือผมลุกขึ้น “วิ่งไปเขียนไปละกันนะมึง”

“เฮ้ยแป๊บ กระเป๋ากู” ผมคว้ากระเป๋าเป้และวิ่งตามแรงลาก สักพักไอ้แฟ้มก็ปล่อยข้อมือและยื่นสมุดมาให้ โว้ย นี่มึงคิดว่ากูจะวิ่งไปเขียนไปได้จริงหรอ มีหวังอาจารย์แม่ได้ขยำกระดาษงานกูละปาใส่กบาลแน่ๆ

จะแถว่าเป็นภาษาขอมก็กลัวคะแนนจะติดลบร้อยจนเรียนซ้ำสิบรอบก็ยังไม่พอน่ะสิ

ดังนั้นผมเลยกอดสมุดรายงานเอาไว้และวิ่งขึ้นอาคารเต็มแรงสูบ ไม่ใช่มีแค่ผมสามคนนะ ยังมีเพื่อนร่วมคลาสที่กำลังเร่งฝีเท้าวิ่งขึ้นบันไดประหนึ่งวิ่งได้ให้ล้านอยู่สี่ห้าคน พอวิ่งถึงชั้นสองผมก็เหนื่อยหอบ

ไม่ไหวแล้ว ปอดกูสูบออกซิเจนไม่ทัน หัวใจกูทำงานหนักไปกว่านี้ไม่ไหว

เอามือทั้งสองข้างเท้าต้นขาหอบแฮกก่อนยืดตัวพาดสมุดรายงานกับผนังปูนสีขาวเพื่อเขียนชื่อกับรหัสนิสิต พอเสร็จก็ฉีกกระดาษเอสี่แผ่นนั้นออกจากสมุดรายงานแล้ววิ่งขึ้นต่อ

นี่จะไปเรียนหรือพิชิตยอดดอย ถึงแล้วต้องปักธงแดงด้วยมั้ยสาด

ไอ้เชี่ยแฟ้มมึงกระโดดทีสองขั้นไม่รอกูเลย ขากูสั้นเห็นใจหน่อยโว้ย

วืด

เชี่ยแล้วไงหัวใจกู

แม้สองขาผมกำลังวิ่งขึ้นต่อไปไม่หยุดแต่มันก็เบาแรงลงสวนทางกับอัตราการเต้นของหัวใจที่กระหน่ำแรงขึ้นเมื่อขณะที่อีกไม่กี่ขั้นบันไดผมจะถึงชั้นสี่ก็มีพี่ชั้นปีสี่ที่น่าจะเพิ่งเลิกคลาสเดินสวนลงมา จะไม่รู้สึกใจสั่นขนาดนี้เลยถ้าหนึ่งในหลายคนที่สวนกันไม่ใช่คนที่ผมยังไม่อยากเจอหน้ามากที่สุด

อิเจ๊…

เพียงเสี้ยววินาทีที่เห็นก็ให้หัวใจที่เต้นเป็นจังหวะหนักๆด้วยความเหนื่อยหอบอยู่ก่อนแล้วกระหน่ำถี่รัวแรงจนนับอัตราการเต้นกันไม่ถูกจนพลังงานทั้งหมดที่ร่างกายมีถูกหัวใจดึงไปใช้จนเกือบหมด เหลือแรงให้สองขาได้ก้าวต่อน้อยเหลือเกิน

เมื่อวานเพิ่งจูบกัน เพิ่งวิ่งหนีมา โชคชะตาแม่งตลกร้ายหรือชาตินี้กูทำบุญน้อยไป ถึงได้มาเจอกันทั้งที่ยังไม่ได้เตรียมใจเลย ฮือ กลั่นแกล้ง กลั่นแกล้ง

“เฮ้ย ไอ้ตาร์เร็วๆ อาจารย์มาหน้าประตูแล้ว”

ไอ้การ์ดที่เห็นผมก้าวช้าลงมากกระโดดลงมากระชากแขนแล้วลากให้สับเท้าตามขึ้นไป ผมปล่อยตัวไปตามแรงลาก ปล่อยมือที่ถือกระดาษรายงานให้ไอ้แฟ้มที่มาดึงไปอย่างไม่ทักท้วงอะไร

เอาเถอะ ฝากส่งที ตอนนี้สติไม่อยู่กับเนื้อกับตัวแล้วว่ะ

แค่อิเจ๊ปรายตามองมาด้วยสายตาว่างเปล่าไม่มีแม้แต่ความเกรี้ยวกราดอย่างเดิมทำไมถึงอยากเข้าไปกระชากที่แผ่นแปะสิวบนหน้าออกแล้วเอานิ้วจิ้มขี้บี้มันลงไปแรงๆ

ให้สิวมันอักเสบและติดเชื้อพุพองไปเลย

แต่ก็ดีแล้วนิ ที่กังวลว่าถ้าเจอกันอิเจ๊ต้องวิ่งเข้ามาตะครุบหัว ลากเข้าพงหญ้าไปจิกหัวตบข้อหาวิ่งหนีออกมาโดยไม่ได้รับอนุญาตแล้วยังไม่ยอมรับโทรศัพท์อีก ก็ไม่ต้องกลัวแล้ว ดูท่าอีกฝ่ายจะไม่สนใจอะไรเลยด้วยซ้ำ

ก็เป็นอย่างที่อยากให้เป็น...

กลับไปเป็นแค่คนรู้จักที่เรียนสาขาเดียวกันก็เท่านั้น

“อ้าวเฮ้ย นั่งตาลอย เจ๊แกให้เปิดสไลด์สามสิบสอง”

“เจ๊เหี้ยไร!”

“เกรี้ยวกราดไรเนี่ยมึง เสียงดังระวังเจ๊แดกหัว”

“กูไม่กลัวเรียกเจ๊มึงมาเลย!”

“หุบปาก”

ไอ้การ์ดตบหัวผมกับไอ้แฟ้มคนละทีก่อนกระซิบเสียงดุรอดไรฟันแล้วใช้สายตาบังคับให้เปิดชีทแล้วหันไปโฟกัสกับสไลด์ที่ฉายอยู่บนโปรเจ็คเตอร์จอใหญ่ตรงหน้า ผมเม้มปากแน่นมือหยิบชีทในกระเป๋าออกมา

เออ กูเป็นอะไรของกูวะ

ไอ้แฟ้มมันหมายถึงอาจารย์แม่ ไม่ใช่อิเจ๊...เฮอะ อย่าไปพูดถึงเลย

ผมหายดีแล้ว ต่างคนต่างแยกย้ายกันกลับไปใช้ชีวิตของใครของมัน…ก็ถูกต้องแล้ว

‘กูว่า...กูชอบมึง’


ส่วนที่ว่าชอบน่ะ...อาจจะแค่หวั่นไหว เดี๋ยวห่างๆกันไปก็หายเองนั่นแหละ

โอ๊ยยยย ช่างเหอะ ไม่คิดแล้ว

“ไอ้เชี่ยตาร์เหม่อไรเนี่ย เอากระดาษขึ้นมาดิ”

“อ่ะนี่”

ไอ้แฟ้มสะกิดผมที่นั่งตาลอยและไอ้การ์ดก็ส่งกระดาษเอสี่เปล่ามาให้ ผมหยิบมางงๆก่ออนจะเบิ่งตาโตเมื่อไอแฟ้มกระซิบว่ามีสอบย่อยท้ายชั่วโมง กูมัวนั่งเหม่อเป็นพระเอกเอ็มวีมาสองชั่วโมงเลยหรอวะ สมองที่รับรู้ครั้งล่าสุดคือกูเพิ่งหยิบชีทขึ้นมาเรียนเองป่ะวะ ตัดภาพมาอีกทีคือสอบแล้ว คืออะไร โฮ แล้วยังไงสุดท้ายแล้วยังไง หล่อเหมือนในเอ็มวีมั้ยก็ไม่ แต่ไม่มีเนื้อหาในหัวมาสอบอ่ะเรื่องจริงงงงง

โว้ย อิเจ๊ คราวหน้าอย่าให้เจอนะ จะกระโดดกัดให้หูขาดเลย ข้อหาทำให้กูเสียสมาธิ แง่ง!






“ป่ะ”

“ไปไหน”

“วัด”

“เฮ้ย ไปทำอะไร”

ผมฝืนแรงลากของไอ้แฟ้ม ฮ่วย โดนลากทั้งวันเลยวันนี้ เดี๋ยวคนโน้นคนนี้เอะอะก็จับลาก นี่ยังไม่ทันเก็บของใส่กระเป๋าเสร็จไอ้ห่าแฟ้มก็เอาอีกละ

“ไปให้หลวงพ่อรดน้ำมนต์”

“เฮ้ย”

“เฮ้ยไร ป่ะ”

“เดี๋ยววววววว”

นาทีนี้เบรกสุดตีนเลย คืออะไร อยู่ๆมาบอกไปวัดอาบน้ำมนต์ น้ำที่ห้องไม่ไหลโดนตัดมิเตอร์หรือยังไงก็บอก กูจ่ายค่าน้ำค่าไฟตรงตามกำหนดทุกเดือนมีให้มึงทั้งอาบทั้งแช่ไม่ต้องไปรบกวนวัดเนอะ

“มึงก็เลิกแกล้งมันได้ละ” ไอ้การ์ดส่ายหัวเบื่อๆ

เดี๋ยวๆตกลงพวกมึงกำลังแกล้งกูหรอ

“ไม่ได้แกล้ง กูเอาจริง”

เดี๋ยวๆตกลงไม่ได้แกล้งใช่มั้ย

“กินไรดีเที่ยงนี้”

“ไปวัดหัวเมืองดีหรือเอาใกล้ๆมอ”

“ข้าวมันไก่มะ เมื่อคืนกูเจอในเพจตามแต่จะแดกแล้วอยาก”

“รดเสร็จแล้วขอมาสักขวดเอาไว้อาบเอาไว้ดื่ม”

“โอ๊ยยยยย” ผมสะบัดแขนออกจากมือไอ้แฟ้มแล้วยกขยี้หัวตัวเอง คือมึงจะพูดกันไปคนละเรื่องแบบนี้ไม่ได้ กูคิดไม่ทัน และหันไปมาจนเวียนหัวไปหมดแล้ววววว

แปะ

แล้วสุดท้ายมันก็หัวเราะและตีมือกัน

ตกลงแกล้งกูสินะ

สนุกกันมากมั้ย เดี๋ยวกูก็แดกหัวพวกมึงแทนข้าวซะนิ

“ก็กูกลัวมึงโดนผีเข้าเห็นเหม่อตลอด”

“เป็นห่าไรก็ไม่บอก หลายเรื่องแล้วนะมึงอ่ะ”

“หรือทะเลาะกับพี่เต้”

“พี่เต้เกี่ยวไร” อยู่ๆเทิร์นกลับไปคณะแพทย์ได้ไงวะ

“เอ๋า ก็นึกว่าทะเลาะกับผัว”

“เฮ้ย มะมั่วไรมึงไอ้แฟ้ม” นี่สะดุ้งสุดตัวเลย ใครได้ยินบ้างวะเนี่ย นี่เดินลงมาถึงตึกรวมแล้วนะ ใครเอาไปพูดนี่เสียหายหลายหมื่นล้าน ไม่ใช่ผมนะ พี่เต้เดือนแพทย์นู่น ผมน่ะแค่หลืบไรของมหาลัยนี้

“เอาน่ามึงไม่ต้องปิดหรอก ไอ้การ์ดมันรู้แล้ว”

“เฮ้ย”

“เดี๋ยวนี้ริอาจคิดปิดบังกูนะมึง”

“เฮ้ยย”

“แหะๆ กูไม่ได้เล่าให้ใครฟังเลยนะนอกจากไอ้การ์ด มันห่วงมึง”

“เฮ้ยยยย”

นี่ผมตกใจไปกี่สิบเฮ้ยแล้วอ่ะ ขอตั้งสติแป๊บ อ่อ ตอนนี้ผมเป็นเมียพี่เต้อยู่ โอเค ขอโทษนะพี่ T^T

หลังจากที่ไอ้แฟ้มไปจ๊ะเอ๋ผมที่คอนโดอิเจ๊วันนั้น ตอนกลางคืนมันก็ไลน์มาหา เรียกได้ว่ามันด่ามันมโนอะไรผมเออออห่อหมกไปหมด กำลังอึนๆกับจูบดูดวิญญาณไม่มีเวลามาแก้ตัวหรอกครับ น้ำเชี่ยวอย่าเอาเรือไปขวาง ไหลไปก่อน ยังไม่อยากโดนน้ำป่าซัดตาย

ตอนนี้เพื่อนสนิททั้งสองคนของผมเลยเข้าใจผิดไปไกล

แล้วผมยังไม่มีความกล้าพอจะแก้ด้วย กลัวโดนสิบคำถามสามคำตอบแล้วจะจนมุม ขอเวลาหาบันไดไว้ปีนหนีก่อน แล้วกูจะสารภาพนะ ฮือ

“เลิกทำหน้าเป็นไก่ตาแตกได้ละ” โอ๊ย อ่ยายีหัวกูสิ เสียทรงหมด

“ป่ะ วัดกัน”

“ยัง ยังไม่เลิก”

“ฮ่าๆ หน้ามึงตลกดี ไปๆกินข้าวกัน ร้านไหนดีการ์ด”

“ข้าวมันไก่ไง”

“แต่กูอยากกินสเต็กกะทะร้อนหน้ามออ่ะ”

“มีทูววว”

“แล้วถามกูเพื่อ”

สรุปไอ้การ์ดแพ้ไปด้วยเสียงสองต่อหนึ่ง ทำใจนะการ์ดนะ เราอยู่กันแบบประชาธิปไตย ครึ

พอพูดถึงสเต๊กกะทะร้อนเจ้าอร่อยหน้ามอผมก็เลิกตาแตกเปลี่ยนเป็นตาประกายดาวห้าแฉก งือออออ ไม่ได้กินมานานแล้วอ่ะ กินแต่โจ๊กกับข้าวผัดมาหลายมื้อแล้ว อิเจ๊ไม่ให้กินของย่อยยากเลย พองอแงมากๆเข้าก็ยอมแต่ต้องให้อิเจ๊เคี้ยวให้ก่อนนะผมค่อยกิน แล้วใครจะไปกินลง แหวะ

“มึงไปรถไอ้การ์ดนะ”

“มึงก็ไปด้วยกันดิ”

“ไม่เป็นไร เดี๋ยวกูเอาเลม่อนไปเลย” เลม่อนที่ว่าเป็นมอเตอร์ไซค์ฟี่โน่สีเขียวมะนาวลูกรักไอ้แฟ้มมัน

“เค เจอกันที่ร้าน”

ผมเดินมาลานจอดรถหลังตึกรวมกับไอ้การ์ดเดินอ้อมไปเปิดประตูที่ถูกปลดล็อกก่อนสอดตัวเข้าไปนั่งเบาะข้างคนขับ

กึก

มือที่กำลังจับเบลท์ขึ้นมาคาดหยุดชะงักกับภาพตรงหน้า คนสองคนที่เดินจูงมือกันผ่านหน้ารถไป หนอยยยยยย ทำมาเป็นบอกว่าชอบว่ารู้สึกดี มาจูบกันทำไมวะ ผมตัดสินใจถูกแล้วที่ไม่ถลำไปกับคำพูดชวนวาบหวามนั่น สุดท้ายตุ๊ดก็ชอบผู้ชายสูงหล่อล่ำมั้ยอ่ะ อยากได้คนที่ปกป้องดูแลได้อ่ะเนอะ จะมายึดติดอะไรกับผู้ชายหน้าบอยปกรณ์ส่วนสูงเสนาหอยแบบผมกันล่ะ เฮอะ!

“จะขาดคามือแล้วไอ้สัด”

เสียงไอ้การ์ดให้ผมละสายตาจากภาพตรงหน้าแล้วเสียบหัวเข็มขัดให้เรียบร้อย

“ทะเลาะอะไรกันก็เคลียร์ๆกันซะให้เรียบร้อย”

“ห๊ะ?”

“ก็นู่นไม่ใช่หรอ” มันเพยิดไปข้างหน้าให้ผมเสียวสันหลังวาบ มันรู้หรอวะ ผมรีบหันสายตามองตรงไปอีกครั้งก็ไม่เห็นอิเจ๊คนสวยกับผู้กระสวยใหญ่แล้ว

หืม...ผมพอรู้ละ

นี่ถ้าไม่เพ่งดูดีๆไม่เห็นนะ มองทะลุลานจอดรถไปจะมีสวนหย่อมที่มีโต๊ะหินตั้งอยู่หลายชุด ซึ่งหนึ่งโต๊ะในนั้นมีร่างของผัวในมโนของไอ้แฟ้มนั่งอยู่กับผู้หญิงผมยาวร่างเล็ก

โอยยย พี่เต้ ผมจะเอาน้ำแดงเปิดฝาเสียบหลอดไปขอขมาพี่นะ พรุนไปถึงไหนแล้วอ่ะ โถ

“ออกรถเถอะ” ผมเลยทำเสียงนิ่งหน้าตึง ไอ้การ์ดปรายตามองแต่สุดท้ายก็ยอมถอยรถออก

ใช้เวลาไม่นานเราก็มาถึงร้านสเต๊กหน้ามอ โฮ่วววว แค่เปิดประตูรถกลิ่นก็โชยมาโชยมา เรื่องที่หงุดหงิดก่อนหน้าเบาบางลงทันตาเห็น เขาว่ากันว่าหมูกะทะจะเยียวยาทุกสิ่ง แต่ไม่จริงเสมอไป...ความจริงแล้วของอร่อยใดๆทุกอย่างในโลกล้วนเยียวยาได้ ฮืออออ เนื้อจ๋าพี่มาแล้วววววว

แต่...

ให้ตายเถอะ สามร้อยกว่าร้านรอบมอ ทำไมต้องมาเจอกันอีกวะ

“อร๊ายยยย น้องการ์ดจ๋า สนใจนั่งโต๊ะเดียวกันมั้ยจ๊ะ นั่งข้างๆยอมให้ควัก นั่งตักกินฟรีเลยจ้า” เสียงพี่แคนดี้หนึ่งในแก๊งตุ๊ดดอกขจรที่หน้าอกกหน้าใจใหญ่กว่าหัวเด็ก กรีดกรายนิ้วเรียกลั่นร้าน

ผมกระตุกชายเสื้อไอ้การ์ดยิกๆ ไม่นั่ง ไม่เอานะมึง ไปนั่งไกลๆอิเจ๊กลุ่มนี้เลย

เฮ้ยๆๆๆ

ผมตาโตเมื่อมัวแต่ยึดชายเสื้อไอ้การ์ด ไอ้แฟ้มก็เดินลิ่วๆหยิบเก้าอี้ไปแทรกนั่งข้างพี่อ้อนน้อย พี่อ้อนน้อยเป็นตุ๊ดร่างเล็กตัวขาวอ้อนแอ้น เท่าที่ผมเห็นผ่านๆพี่อ้อนน้อยจะแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าผู้ชายแต่เป็นโทนสีพาสเทล ที่พอผมเห็นพี่เขาทีไรจะนึกถึงเค้กไข่ไต้หวัน นุ่มๆฟูๆดูละมุน

แล้วดูดิ พอไอ้แฟ้มมันเบียดตัวไปใกล้พี่เขาก็ทำตาโตอ้าปากเหวอๆ งืออ เหมือนกระต่ายขนฟูๆ อยากได้อ่ะอยากได้

ส่วนอีกคนน่ะเหรอ เฮอะ สวยแล้วไงถ้าไม่ได้รักเดียว

“ไอ้การ์ดกูนั่งโต๊ะอื่นนะ” ผมเบือนหน้าหนีสายตาที่จ้องผมตั้งแต่เดินเข้ามาในร้าน หมุนตัวจะเดินไปนั่งโต๊ะอื่นแต่โดนเกี่ยวคอเสื้อไว้ก่อน

“โต๊ะว่างมีที่ไหนล่ะ เต็มหมดแล้วมึง”

“งั้นกูก็จะสั่งกลับบ้าน”

“ผีเหี้ยที่ไหนเข้าสิงอีกเนี่ย นั่งนี่แหละ พี่เขาอุตส่าห์ชวนสาขาเดียวกันทั้งนั้น”

“แต่กูไม่อยากนั่งโต๊ะเดียวกับตุ๊ด” ผมกัดฟันบอก

“เป็นคนขี้เหยียดตั้งแต่เมื่อไหร่” ผมโดนไอ้การ์ดผลักหัวเบาๆก่อนถูกลากไปนั่งโต๊ะเดียวกับพี่ๆแก๊งดอกขจร

ผมไม่ได้เหยียดนะเว้ย ไม่ได้ตั้งใจเลย ผมก็เป็นเกย์จะไปเหยียดเพศได้ยังไง กูอยากเหยียดอยากเหยียบแค่คนเดียวว้อย

“ฮือ อิพิชสั่งแค่ซอสพริกไทยดำกับสลัดให้กูพอ กูได้เนื้อดีๆละ ถ้าจะนุ่มและหวานมาก” พี่แคนดี้ส่งสายตาหวานแถมเลียริมฝีปากจ้องไอ้การ์ดที่นั่งข้างๆตาวาว ไอ้การ์ดระบายยิ้มอ่อนกระชากใจยิ่งทำให้พี่แคนดี้แทบจะโผตัวเข้าสิง

หึ กูรู้ว่าในใจมึงกลัว ไอ้การ์ดมันเป็นพวกให้เกียรติคนอื่น มันเลยไม่กล้าผลักเจ๊แคนดี้ออก

ผมยืนมองเม้มปากชั่งใจอยู่แป๊บนึง ก็ถอนใจยอมทิ้งตัวนั่งร่วมโต๊ะ

“อิตาร์ตรงนี้ไม่ได้ เชิญฝั่งนู้นจ่ะ”

พี่กิมจิ(ชื่อเดิมก้องภพ) ตวัดตามองพลางชี้นิ้วไปอีกฝั่ง เอามือตะบบเก้าอี้ข้างตัวไว้ไม่ให้ผมนั่ง

อ้าวเนอะ พอจะยอมร่วมโต๊ะก็ขัดกันไม่เลิกไม่รา ล้มโต๊ะแม่ง

 “ทำไมอ่ะ”

“เดี๋ยวผัวในอนาคตกูจะมานั่ง”

“ห๊ะ เจ๊มีผัวแล้วหรอ เมื่อวันก่อนยังวิ่งบีบไข่พี่อาร์มอยู่เลย” พี่อาร์มคือพี่รหัสผมเองครับ

“ยังไม่มีแต่เผื่อได้ มึงเข้าใจคำว่าในอนาคตมั้ย มากินสเต๊กแล้วอยากรับทานของหวานล้างคอน่ะ กูนี่ทับทิมกรอบสยาม หวานมันหอมอร่อย” ดูจากสายตาแล้ว กูไม่รู้เลยเนอะว่ามึงหมายถึงใครน่ะ

อยากจะเดินไปสะกิดพี่ที่นั่งโต๊ะข้างๆเหลือเกินว่าคืนนี้กลับบ้านระวังปอบดักกินตับ ตับ ตับ ตับ ตับ

“โห อย่างเจ๊น่ะถั่วแปบลืมโรยน้ำตาลอ่ะดิ ทั้งแบนทั้งจืด”

“อ๊าย เดี๋ยวกูตบ”

ผมรีบเผ่นไปนั่งเก้าอี้ว่างที่เหลือเพียงตัวเดียวฝั่งตรงข้าม ขำที่ทำให้เจ๊กิมจิแทบจะปีนโต๊ะมาตบผมได้ แต่พอหันไปเจอกับสายตาคนด้านข้างที่มองมาอยู่ก่อนแล้วก็หุบยิ้มลง

ทำไมผมต้องมาซวยนั่งข้างคนที่ยังไม่อยากเจอหน้าด้วยวะ

เมื่อวานบอกชอบ วันนี้ควงหนุ่มมาแดกสเต๊กเฉย

“ไอ้ตาร์กินไร” ผมหันไปตามเสียงเรียก ไอ้แฟ้มที่มือถือปากกากับกระดาษเมนูแผ่นเล็กๆ ที่มีรายการมาให้แล้วแค่ติ๊กเมนูในช่องสี่เหลี่ยมเพื่อเลือกชนิดเนื้อ ระดับความสุกและน้ำซอสราด

ผมสั่งเมนูโปรดที่ผมมักจะกินประจำอย่างไม่ลังเล

“สเต๊กเนื้อเกรวี่ เอาแบบมีเดียมแรร์ เพิ่มไส้กรอกด้วยนะ” ส่วนสลัดกับมันฝรั่งทอดเป็นเครื่องเคียงมาคู่กับสเต๊กอยู่แล้ว

“สเต๊กปลา”

“หืม สั่งเพิ่มหรอพี่” ไอ้แฟ้มถามเมื่อเสียงของคนข้างตัวผมดังขึ้น

“เปล่ากูสั่งแล้ว หมายถึงของไอ้เตี้ยนี่น่ะ สเต๊กปลา” อิเจ๊มันปรายตามองมาทางผม

“ไม่เอา กูจะกินสเต๊กเนื้อ!”

“ปลา”

“เนื้อ!”

“อิกลูต้า...” มาอีกแล้วไอ้น้ำเสียงเย็นๆที่ชอบใช้ขู่ ตลอดอ่ะ แต่ครั้งนี้ไม่ได้ผลหรอกเว้ย

“พีทไปยุ่งไรกับน้องอ่ะ หงุดหงิดอะไรมาคะ” ผู้ชายที่นั่งข้างอิเจ๊อีกฝั่งนึงเลิกคิ้วถาม มือยกขึ้นหยิกแก้มแกมหยอกแต่โดนอิเจ๊ปัดทิ้ง

เออ ยุ่งไรอ่ะ เอาเวลาไปดูแลผู้ชายนู่น ตัวใหญ่อย่างกับควาย ก้ามโตอย่างกับปูยักษ์คงต้องแดกวัวทั้งตัวอ่ะ สั่งไปจานเดียวไม่พอหรอก!

“เออ อิพิชชี่ วันนี้มึงเกรี้ยวกราดทั้งวัน อุตส่าห์พามาแดกร้านที่ชอบละ ยังจะไปกินหัวน้องมันอีก ไม่เห็นตัวอิตาร์มันหรอ เล็กอย่างกับลูกหมาสู้มึงไม่ได้หรอกนะ” พี่แคนดี้ช่วย แต่ลูกหมานี่คือไรอ่ะ ไม่อยากสูงเองหรอกมั้งกลัวผู้ชายในมอจะหมองหมด

แค่เกิดมาหน้าหน้าดีเกินมนุษย์มนาก็ลำบากใจจะแย่

อิเจ๊ไม่ได้ตอบอะไรแต่ยังจ้องผมอย่างไม่ลดละ ผมก็ไม่ยอมเหมือนกัน ต่างคนต่างอยู่สิวะ ต่อให้พ่ออิเจ๊มาเองก็ผมก็ไม่ฟังหรอก อย่าคิดจะมาใช้วิชานางมารแถวนี้ นี่เกิดใหม่แล้วโว้ย นางซินได้ตกส้นเข็มตายไปแล้ว เหลือแต่มู่หลานผู้สู้สุดใจ เก็บอำนาจมืดไปลงกับเหล่าบรรดาเจ้าหญิงในห้องมึงเถอะ กูกบฏ! กูต่อต้าน! กูจะเป็นตัวของตัวเอง!

“อ๊ะ”

ฮะเฮือก อิเจ๊มันกระตุกยิ้มมุมปากอย่างชั่วร้าน ก่อนจะ...

“กูว่าสเต๊กปลาก็น่าลอง เมนูแนะนำของร้านด้วย”

“ตกลงมึงเปลี่ยนนะ” ไอ้แฟ้มถามย้ำ

“อะอืม”

ผมไม่ได้กลัวอิเจ๊นะ ไม่ได้กลัวสายตาหรือน้ำเสียงกึ่งข่มขู่บังคับนั่นสักนิด คนอย่างอิเจ๊อ่ะมีขู่ที่ไหน ลืมไปว่าอย่างอิเจ๊น่ะคนจริงพอ!

ฮือออ มันลูบขาผมอ่า ลูบแบบไอ้เสี่ยลามก แล้วก็ทำท่าจะลูบขึ้นมาเรื่อยๆด้วย

มึงเป็นตุ๊ด! ลืมแล้วเร้อออออออ

ถึงโต๊ะฝั่งที่ผมนั่งจะมีแค่ผม อิเจ๊ และพี่ผู้ชายก้ามปูที่ถึงแม้พี่เขาจะนั่งเล่นมือถืออยู่ก็ใช่ว่าจะไม่หันมาเห็นนี่

แล้วถ้าอิเจ๊พิชมันบ้าไม่ลูบขาผมแค่ส่วนที่อยู่ใต้โต๊ะ แต่ทำอะไรหรือพูดบางอย่างที่ทำให้ความลับแตกขึ้นมาทำไงอ่ะ

ไหนว่าเหยียบสุดตีนไง กูเหยียบอยู่คนเดียวเนี่ย มึงอ่ะคุ้ยตลอดเลย

อิ นาง มาร ร้าย

โฮวววววววว



#เมียตุ๊ด








ออฟไลน์ ก้อนขี้เกียจ

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 594
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-1
ชอบบบบบ มาต่อไวๆ นะคะ :mew1:

ออฟไลน์ naezapril

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 122
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
ควงผช.แล้วมาลูบน้องเฉยยยยย
น้องงงงง​ หึงหรอลูก

ออฟไลน์ GBlk

  • ขอให้สรรพสัตว์จงมีความสุข
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1432
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +82/-43
ร้ายคงเส้นคงวาาา

ออฟไลน์ Hirose

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 22
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
 :laugh: :laugh:
โธ่ลูก...ลูกหวังอะไรอยู่

ออฟไลน์ Chompoo reangkarn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1089
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-0
เจ๊พิชชี่นางเป็นนางมารที่แท้ทรู

ออฟไลน์ papapoope

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 291
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-1
เจ๊อย่าแกล้งน้องงง

ออฟไลน์ 19th

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 232
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ kawisara

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1586
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-7
  อ้าว. อิเจ้ควางผู้ก้ามปูมาทำไม



ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
เจ๊ รมณ์เสียทั้งวันเพราะตาร์สินะ   :really2: :serius2: o22

เจ๊พิช  สาวเสียบ  :z3:

เจ๊พิช   ตาร์    :กอด1: :กอด1: :กอด1:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ omuya

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2024
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +121/-9
55555555 โอ๊ยยว เจ๊ เด็กมันกลัวนะ

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

ออฟไลน์ naruxiah

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 913
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-2
ยังไม่เข้าที่เข้าทางทั้งสองคน​ กลูต้าพึ่งหนีมาเจอชอตให้หึง​ เจ้ก็เป็นไรยอมให้คนอื่นจูบเนี่ย

ออฟไลน์ mijimaria

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 38
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
อ่ะแหนะๆ มีหึงๆ ว่าแต่เจ๊พาใครมาคะเนี้ย หวังว่าไม่ใช่แฟนหรือกิ๊กเจ๊นะ  :impress2: :impress2:

ออฟไลน์ aoihimeko

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3133
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +155/-9
ผช.คนนั้นเป็นใคร คงไม่ใช่แฟนหรอกเนาะ

เจ๊อย่าลืมว่ามีเมียแล้วนะ

ออฟไลน์ mod-cup

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +348/-5


ตอนที่ 6
ม่านหมอกในดวงตา



แอ๊ด

“มาอีกละ”

“บ่นแต่ก็เปิดประตูให้กูตลอด”

ปากบางสีชมพูอมส้มจากลิปสติกเบะออก ยักไหล่ไอด้อนแคร์แล้วเบี่ยงตัวเดินแทรกเข้ามาในห้อง ผมกรอกตามองบนก่อนปิดประตูแล้วลากสังขารไปนั่งเล่นเกมคอมพิวเตอร์ต่อ ปล่อยไปครับอย่าไปสนใจสัมภเวสีที่ชอบมาล่องลอยขอส่วนบุญเป็นประจำ

ถามว่าทำไมผมถึงยอมเปิดประตูให้

ลองไม่เปิดสิ ยืนทุบประตูแหกปากเรียกอยู่นั่นแหละ หนักๆนี่ตะโกนด่าเลย อายห้องอื่นเขานะครับ หน้าผมยางมันน้อยไม่ได้ฉาบให้หนาแข็งแรงทนทานแบบใครบางคน

นอกจากหน้าหนาแล้วยังเป็นพวกชอบกลืนน้ำลายตัวเอง ปากพูดอะไรไว้จำไม่เคยได้ น้ำแตกแล้วแยกทางมีอยู่จริงแต่ไม่ใช่กับอิเจ๊หน้ามึนแน่นอน นอกจากจะไม่เข้าใจคำว่าชีวิตใครชีวิตมันแล้ว ยังไม่สำนึกว่ากำลังรุกล้ำพื้นที่ส่วนตัวคนอื่น

‘ของเมียก็เหมือนของผัว ห้องมึงก็เหมือนห้องกู’

…แบบนี้ก็ได้หรอวะ

เพราะหลังจากที่แยกกันที่ร้านสเต๊กให้ผมคิดว่าทุกอย่างคงจบลงสักที แต่ก็ไม่...ทุกเย็นจะเห็นอิเจ๊มาเสนอหน้าที่ห้องพร้อมอาหารเย็น ถ้าวันไหนมีงานก็จะโผล่มาดึก แต่ถ้าเป็นเสาร์อาทิตย์เที่ยงก็โผล่แล้ว

เรียกว่าไม่ได้มีเวลาให้ผมได้ตั้งสติเลยแม้แต่น้อย

วันนี้วันเสาร์ แต่มาตอนเย็นแฮะ ค่อยดีหน่อย

“มากินข้าว”

“กินแล้ว” ปากตอบแต่ตายังจ้องหน้าจอ มือยังกดเมาท์ยิกๆ ตายๆตายยย

“มื้อไหน”

“เช้า”

“นี่มันห้าโมงเย็นแล้ว”

“จิ๊”

ขัดใจจริงโว้ย ยังไม่หิวอ่ะ อยากเล่นเกมมากกว่า วันนี้มันเสาร์นะ วันหยุดอ่ะ อิทสะมายวีคเคนอ่ะยูโนว์? เราจะกินจะขี้จะนอนตอนไหนก็ได้มั้ยอ่ะ

“อย่าให้ต้องเรียกรอบสองนะ”

“ก็ไม่หิว”

โป๊ก

ไม่ทันขาดคำขวดยาคูลท์เปล่าก็ลอยมากระแทกหัว เจ็บอ่ะไม่เท่าไหร่ แต่ไอ้ที่เหลือติดก้นมันกระเด็นเลอะมั้ยอ่ะ เลอะเทอะได้ตลอด ผมเพิ่งสระผมเมื่อเช้าเองนะ!

“ทำไมเจ๊สกปรกว๊า”

“มากินข้าว”

“เออ!”

ผมกดหยุดเกมส์แล้วลุกเดินไปที่โต๊ะญี่ปุ่นกลางห้องที่มีจานผัดไทสองจานวางอยู่พร้อมน้ำเปล่าสองแก้ว ขืนให้เรียกรอบที่สามมีหวังคงไม่ใช่แค่ขวดนมเปล่า มีจานมีแก้วลอยมาบ้างแหละ

ผมยังไม่อยากหัวโนไปเรียนวันจันทร์หรอกนะ มันไม่คูล!

“มันมีกุ้งแห้ง” ผมก้มมองจานผัดไทตรงหน้า ไม่ชอบกินกุ้งแห้ง มันเค็มอ่ะ แล้วนี่กุ้งแดงฝอยๆเต็มจานเลย

“ของมึงจานนี้มั้ยล่ะ” อิเจ๊เลื่อนอีกจานตรงข้ามมาให้ และดึงจานตรงหน้าผมไป

ค่อยคุยกันได้ขึ้นมาหน่อย

“แดกฟรีแล้วยังเรื่องมาก”

“ก็ไม่ได้ขอให้ซื้อมาให้”

“ปากดี”

“เก่ง”

“จ้ะ”

ที่กล้าต่อปากต่อคำนี่ไม่ใช่อัพเวลเพิ่มขึ้นหรอกนะครับ แต่จับรู้สึกได้ว่าวันนี้อิเจ๊มันดูอารมณ์ดี ลองคิ้วขมวดหน้าหงิกมาสิแค่หายใจผมยังไม่ค่อยจะกล้าเลย เห็นหล่อๆแบบนี้ผมก็กลัวตายนะคร้าบบบบบ

“มีอีเวนต์หรอ”

“อืม”

ถึงว่า แต่งตัวซะสวยเชียว

ถึงแม้อิเจ๊จะปล่อยผมยาว รักสวยรักงาม แต่ก็ไม่ค่อยเห็นใส่กระโปรงแต่งหญิงแต่งหน้าจัดเต็มหรอกครับ ส่วนมากจะเป็นกางเกงยีนหรือไม่ก็สกินนี่สีเข้มกับเสื้อเชิร์ตสีอ่อนซะมากกว่า แต่วันนี้มาเต็มชุดใหญ่ไฟกระพริบ แต่งหน้าเป็นสาวหวานสไตล์เกาหลี ผมก็ดัดลอน ทั้งชุดยังเป็นเดรสสายเดี่ยวสีน้ำตาลอิฐระบายตรงชายกระโปรงขับผิวให้ขาวผ่องขึ้นไปอีก

และเรียกขนแขนให้ลุกชัน

คือมันสวยจนขนลุกอ่ะ

เปรตร้อยแปดสิบเซ็นต์ใส่เดรสทำไมถึงดูดีได้วะ

“งานไรอ่ะ”

“art liper เปิดตัวเครื่องสำอางค์ไลน์ใหม่”

“ที่พี่มึงรีวิวแต่งหน้ารับฮาโลวีนนั่นอ่ะนะ”

“อืม”

ผมก็ไม่ค่อยรู้เรื่องอะไรมากหรอก ไม่ค่อยเข้าใจเรื่องความสวยความงามเท่าไหร่ แต่เห็นคลิปผ่านๆก็สวยดี

“ใช้แบรนด์เค้ามาแต่งรีวิว เลยได้ไปอีเวนต์ด้วยงี้หรอ มันจะเกินไปแล้ว”

“เก่ง”

แค่กๆเส้นจันทร์ติดคอเลยกู

ขี้ลอก อ่ะโด่ววว







“เจ๊ เมื่อไหร่จะกลับอ่ะ”

“ไล่?”

“เออดิ ดึกแล้ว”

สี่ทุ่มแล้วครับ อะไรคือการกินเสร็จ ก็มาขออาบน้ำห้องคนอื่น หลับไปบนเตียงคนอื่นหน้าตาเฉยๆทั้งที่ยังอยู่ในชุดคลุมอาบน้ำสีขาวของคนอื่นอีกต่างหาก

แล้วตื่นมายังมาแย่งมือถือคนอื่นไปกดเล่นอีก

“ปกติตีสามตีสี่ยังเห็นออน ตอแหลทำมาสี่ทุ่มดึก”

“มารบกวนคนอื่นแล้วด่าแบบนี้ก็ได้หรอ”

“รบกวน? นี่หาข้าวหาน้ำให้แดก ตรวจรายงานให้นี่คือรบกวน”

“ก็...ไม่ได้ขอป่าวอ่ะ”

“เนรคุณจริงๆ”

“…”

“เลี้ยงไม่เชื่อง”

“เกินไป”

“หึ มานั่งนี่”

“ไม่”

ผมไม่มีทางขึ้นไปนั่งบนเตียงข้างมันเด็ดขาด อันตราย

“ตามใจ ที่วงแดงๆไว้คือทุเรศนะ แบบว่าถ้ากูเป็นอาจารย์คงฉีกทิ้งไม่ส่งกลับมาให้แก้หรอก” อิเจ๊ที่กึ่งนั่งกึ่งนอนเหยียดยาวอยู่บนเตียงปิดเล่มรายงานแล้วโยนไว้บนเตียง ทำท่าจะลุกออกจากเตียงให้ผมรีบถลาเข้าไปเกาะขาไว้

“แหม มันก็ไม่ได้แย่ขนาดนั้นมั้ง ก็พูดจาเกินไปอ่ะ” ผมส่งเสียงกระเง้ากระงอด สองมือจับขาที่ปล่อยลงข้างเตียงขึ้นไปไว้บนเตียงเหมือนเดิมพลางกดบีบนวดให้

“เกินไปสิ เรียนมัธยมมาเค้าไม่ได้สอนหรอวิธีเขียนรายงานทำยังไง เนื้อหาก็เจิ่งนองเป็นน้ำ กทม.รอการระบาย นี่ใส่สน็อกเกิ้ลแล้วกระโดดตูมลงไปในรายงานมึง ดำน้ำดูปะการังเพลินเลย”

ยิ่งกว่าน้ำท่วมทุ่งผักบุ้งโหลงเหลง ก็เล่นใหญ่ขนาดลงไปดำน้ำกันเลยนี่แหละ

ฮือ ความหน้าชานี้ เอารองเท้ามาฟาดหน้ายังไม่รู้สึกอะไร T^T

มันต้องแย่ขนาดไหนกันนะ

“แล้วรูปที่เลือกมาใส่ในรายงานนี่แตกนี้ยิ่งกว่าส้นเท้าอาม่ากูอีก”

อิเจ๊มันหยิบสมุดรายงานขึ้นมาเปิดอีกครั้งแล้วจิ้มนิ้วลงไปยังรูปที่มีรอยปากกาสีแดงกากบาทอยู่

โห ทำร้ายจิตใจกันเกินไปแล้ววววว

“มึงรู้มั้ยว่าทำไมอาจารย์ถึงให้มึงทำใหม่”

“กูทำแย่”

“แล้วทำไมถึงทำแย่ล่ะ”

“ก็ทำปกติอ่ะ ไม่รู้มันจะแย่”

“หรอ ไม่รู้หรือไม่ใส่ใจ”

“ไม่ใช่นะ กูตั้งใจทำ กูนั่งทำทั้งคืนไม่ได้นอนเลยนะเว้ย”

“นี่ไง...” อิเจ๊ม้วนเล่มรายงานเคาะลงบนศีรษะผมเบาๆสองสามที ไม่เจ็บหัวแต่สายตาที่มองมาอย่างตำหนิก็ทำเอาใจเสียไปไม่น้อย

มาท่านี้แล้วด่ายาวชัวร์ นั่งพับเพียบพนมมือรอเลยได้เลย ฟังเทศน์เสร็จก็ก้มกราบสามที

เอ้า นักเรียน กราบบบบบบบ

“อดหลับอดนอนทำงานไม่ได้หมายถึงตั้งใจนะ...มันเป็นเพราะการไม่ใส่ใจ ไม่วางแผนงาน คิดว่าแค่มีส่งๆไปแต่ไม่คิดถึงคุณภาพของเนื้องานที่ได้”

ผมเม้มปากหลบตา จะมองขาดเกินไปแล้ว ก็จริงแหละ ผมเป็นพวกชอบดองงาน แล้วมาเร่งทำเอาก่อนวันส่ง ใช้เวลาที่เหลือไปกับการออกไปเที่ยวเล่นกับเพื่อน เล่นเกม ดูหนังฟังเพลงไปเรื่อย พอถึงวันใกล้จะส่งเท่านั้นแหละพลังงานบางอย่างในตัวจะขับเคลื่อนพวยพุ่งออกมาจนได้เป็นชิ้นงานร้อนๆเสิร์ฟอาจารย์

ก็เหมือนขนมปังไง อบเสร็จใหม่ๆร้อนๆ น่ากินดีออก ก็นึกว่าคนอื่นจะชอบด้วย T^T

“อย่างนี่...เนื้อหาไม่สอดคล้องกับหัวข้อที่ให้ ที่พอจะใช้ได้ดูก็รู้ว่าก็อปจากเว็บมา อธิบายยืดเยื้อไม่กระชับเขียนวนไปวนมา อย่างรูปนี่ก็เสิร์ชกูเกิ้ลเจอรูปไหนขึ้นรูปแรกก็เอามาเลยใช่มั้ย”

“…” ทำไมรู้...

“เอกสารอ้างอิงก็เขียนผิดจนน่าเกลียด เอาเว็บไซด์กูเกิ้ลมาแปะแบบนี้ใช้ได้ที่ไหนกัน เด็กอนุบาลยังรู้เลยว่าไม่ควรทำ ไม่ใช่แค่ไม่ให้เกียรติต้นฉบับที่ใช้อ้างอิง ยังดูถูกตัวเองอีก งานสะท้อนตัวตนเคยได้ยินมั้ย”

“…”

“ถ้ามึงยังไม่ปรับปรุงตัว ยังทำงานชุ่ยๆแบบนี้อยู่ มึงอาจจะเรียนจบได้แต่ไม่ใช่คนคุณภาพแน่นอน”

“ก็กูเรียนไม่เก่ง”

“คนคุณภาพไม่ได้หมายความว่าต้องได้เกรดเฉลี่ยสูง ต้องรู้จักพัฒนา ปรับปรุง มีความรับผิดชอบ และคิดอย่างถี่ถ้วนรอบคอบ อย่ามีหัวไว้แค่เลี้ยงเหา หัดใช้สมองบ้างปล่อยเบลอมากๆระวังมันจะเสื่อมไปซะก่อน ค.ว.ย. อ่ะรู้จักมั้ย คิด วิเคราะห์ แยะแยะ หรือรู้จักแต่ *วยกู”

“อิเจ๊!”

กูเกือบสลดแล้วเชียว ถ้ามึงไม่ขุดเรื่องบัดสีมาพูดอีก

“อย่ามาทำเป็นโวยวายเดี๋ยวตบปากแตก หรือกูพูดผิด วันนี้ก็นั่งเล่นเกมทั้งวัน กูเห็นนั่งเล่นมาตั้งแต่เมื่อคืน งานใหม่ให้เดายังไม่ได้เริ่มทำ งานเก่าก็ยังไม่ได้แก้ ทำไมกลัวใช้ชีวิตไม่คุ้มหรือไง เขาให้เปอร์ได้แปดปี มึงก็จะเรียนยันปีแปดเลยว่างั้น”

“ปากอ่ะเจ๊”

แทงใจดำชิบ T^T แล้วใครจะอยู่แปดปี สี่ปีก็พอเว้ย ผมจะจบพร้อมเพื่อน เราจะรับปริญญาถ่ายรูปที่ป้ายหน้ามหาวิทยาลัยไปพร้อมๆกัน

“แล้วยังไงจะฟังมั้ยว่าแต่ละจุดควรแก้ไขตรงไหน หรือจะไล่กูกลับอีก?”

“ฟัง ว่ามาสิ”

ผมไหลสารร่างลงไปนั่งบนพื้นข้างล่าง เอาคางเกยที่นอนนุ่มๆ อย่างรอฟังคำแนะนำการแก้ไขงานโดยผู้เชี่ยวชาญที่ผ่านการเรียนรู้มาเกือบสี่ปี

“มาทำตาใสเป็นหมารอกระดูก เฮ้อ ถ้าไม่ติดว่ากูรักนะจะบีบคอมึงให้ตายเลย”

“อะอะไรเล่า”

“ไปหาสมุดปากกามาจดสิ กูพูดไปสมองไข่กบแบบมึงจะจำได้หมดมั้ย กูไม่ทำให้นะบอกเลย แค่แนะนำเฉยๆ”

“คร้าบบบ แม่คร้าบบบบ”

“เดี๋ยวเถอะ”

แล้วในจังหวะที่อิเจ๊เหลียวหลังไปคว้าหมอนข้าง ซึ่งไม่ต้องเดาเลยว่ามันจะเป็นอาวุธมาทำร้ายผมแน่ๆ ผมก็จัดการวิ่งหนีไปที่โต๊ะหนังสือ หยิบกระดาษเอสี่เปล่ากับปากกามาจดตามที่อิเจ๊สั่ง

ยังดีที่นางมารยอมรามือผมถึงกล้ากลับไปนั่งบนพื้นข้างเตียงอีกครั้ง ซึ่งอิเจ๊ก็เปลี่ยนจากท่ากึ่งนั่งพิงหัวเตียงมาเป็นนอนคว่ำหน้าเอาหมอนหนุนแขน เปิดรายงานที่เต็มไปด้วยรอยขีดเขียนด้วยปากกาสีแดงและเริ่มต้นวิจารณ์สิ่งที่ต้องแก้ไขและปรับปรุง

ซึ่งผมก็ตั้งใจฟังและจดตามอย่างละเอียด พลาดไม่ได้แล้วนะครับ ส่งรอบสองนี่ไม่มีโดนตีกลับมาแก้นะ โยนทิ้งถังขยะอย่างเดียว ทำไมชีวิตเด็กปีหนึ่งที่เพิ่งปรับตัวกับระบบการเรียนในมหาวิทยาลัยมาได้แค่เทอมเดียวต้องมาเจออาจารย์เขี้ยวลากดินขนาดนี้ก็ไม่รู้ ฮือ ตาร์ไม่ไหว ตาร์อยากตาย T^T

“แก้เสร็จแล้วก็ส่งไฟล์มา เดี๋ยวช่วยดูให้”

“ช่วยทำด้วยไม่ได้หรอ ฟังแล้วแลยากจัง”

“ไม่ยากหรอก แค่ต้องหาข้อมูลเยอะหน่อย” แล้วอิเจ๊ก็ก้มเขียนอะไรบางอย่างบนหน้าปกรายงาน “อ่ะนี่ ชื่อหนังสือที่ต้องใช้ บางทีข้อมูลในเว็บไซต์ก็ไม่ละเอียดพอ กูรู้ว่ายุคนี้มันยุคไอทีแต่บางเนื้อหาสาระในหนังสือก็ครบถ้วนกว่า อย่ามักง่ายสักแต่ก็อปปี้เพท”

“ก็มันง่ายดี เขาสรุปมาให้แล้ว ไม่ต้องมานั่งย่อเอง”

“มีสมองก็ใช้ก่อนมันจะฝ่อ ก็อปยกมาทั้งแผงก็ดูถูกสมองเด็กมหาลัยเกินไปมั้ง”

เหยียดตามองขนาดนี้ก็ด่ากูเลยว่ากูโง่ กูชุ่ย ฮือ ไหนว่าชอบกูไง ตรงไหนที่ว่าชอบบบบบ

“เจ๊…ช่วยหน่อยดิ”

งานมันต้องส่งวันจันทร์แล้วอ่ะ พรุ่งนี้ผมไม่แน่ใจเลยว่าจะทำทัน ไหนจะต้องไปยืมหนังสือที่หอสมุด ไหนจะต้องมานั่งเรียบเรียง สรุป พิมพ์ จัดหน้า โอ๊ย จะเสร็จกี่โมงอ่ะ

“โนว วันนี้อยู่ว่างๆแทนที่จะค่อยๆทำไปก็มัวแต่เล่นเกม”

“ก็รอเจ๊มาดูให้ก่อนไงว่าต้องแก้ตรงไหนถึงจะดี”

“อย่ามาอ้าง ส่วนที่ทำไปก่อนได้ก็มี”

“เจ๊ T^T”

“คืนนี้ก็ทำเท่าที่ทำได้ไปก่อน ส่วนไหนที่ต้องใช้ข้อมูลอ้างอิงก็เว้นไว้”

ผมมองเล่มรายงานที่ถูกแก้ด้วยปากกาแดงเถือกทั้งเล่มอย่างอ่อนใจ เฮ้อ เอาวะ อย่างน้อยอิเจ๊ก็แนะแนวทางให้ แก้ให้จนผมเหลือแค่ทำตามอย่างเดียวแล้วเนี่ย

นี่ไง ถึงจะบอกว่าไม่ช่วย ไม่ทำให้ แต่ที่วงๆกาๆเขียนๆไว้ก็เหมือนรายงานเสร็จไปเกือบห้าสิบเปอร์เซ็นต์แล้วอ่ะ

เหมือนขึ้นเสาบ้าน ก่ออิฐ ฉาบปูนไว้ให้แล้ว เหลือให้ผมมาทาสี มุงหลังคา กับตกแต่งภายในนิดหน่อยเท่านั้น

“มองอะไร” เจ๊ที่นอนคว่ำก้มหน้าตอบข้อความในมือถืออยู่เงยหน้าขึ้นมามอง

ผมส่ายศีรษะก่อนยิ้มบางๆ

“ขอบคุณนะเจ๊”

“เปลี่ยนเป็นอย่างอื่นได้ป่ะ”

“อะไรอ่ะ”

“มาจูบหน่อย”

“เฮ้ย”

ผมดีดตัวลุกและถอยหนีไปจนสุดห้อง

“ละเล่นอะไรอ่ะเจ๊ ไม่ตลกนะเว้ย”

อิเจ๊กรอกตามองบนก่อนลุกลงจากเตียง หน้าผมเลิ่กลั่กเลย เหยยยยย กลัวนะเนี่ยยย อย่าเดินเข้ามา ออกไปไกลๆ ฮือ

“ชิ กูหมดอารมณ์ละ นี่ผู้มีพระคุณไม่ใช่แมลงสาป โปรดให้เกียรติ”

“ก็มึงอ่ะเจ๊...นิสัย”

“กูก็แค่ปากตรงกับใจ รู้สึกยังไงก็พูดไปตามนั้น”

“มันไม่ดี เมื่อไหร่จะเลิก” มันทำให้ผมหวาดระแวงนะเว้ย อิเจ๊มันจ้องจะวอแวตลอดเลยอ่ะ ฮือ ชีวิต

“ทำไม รักชอบใครสักคนมันผิดยังไง”

“ไม่ใช่กับเราสิวะ” ผมวิ่งหนีมาที่ระเบียง เมื่ออิเจ๊เดินมาตรงโซฟากลางห้อง “เป็นพี่น้องกันไม่ได้หรอ...”

อิเจ๊มันน่ารักมากเลย ผมยังอยากมีมันอยู่ในชีวิต เป็นพี่เป็นน้องสาขาที่ช่วยเหลือกันไป ไม่ใช่แบบนี้อ่ะ มันไม่ใช่ เข้าใจความรู้สึกผมมั้ยอ่ะ T^T

ผมอึดอัดนะ

ครืด ครืด

ขอบคุณสตีฟจ็อบที่ทำให้โลกนี้มีไอโฟนถือกำเนิดขึ้น ให้คนที่จดจ้องผมไม่วางตาด้วยสายตาที่หลากหลายความรู้สึกละลงไปมองหน้าจอที่สว่างวาบก่อนจะกดรับ

“อืม กำลังจะลงไป กินแล้ว อืม ห้านาที” อิเจ๊เก็บมือถือลงกระเป๋าเป้ที่สะพายมาด้วย ถอดชุดคลุมออกให้ผมรีบหมุนตัวหันหลังหลับตาปี๋ อะไรคือนึกอยากจะแก้ผ้าตรงไหนก็แก้ แบบนี้ก็ได้หรอ ฮือ ไม่เห็นใจกันเลย

แกร๊ก

เสียงเปิดประตูให้ผมรีบหมุนตัวกลับไปมอง

“จะกลับแล้วหรอ”

“อืม”

“กลับไงอ่ะ” มึงก็ถามโง่ๆเนอะไอ้ตาร์ เมื่อกี้ก็ได้ยินอยู่ว่ามีคนมารอรับ!

“พอร์ชมารับ”

พี่ผู้ชายกล้ามปูที่เคยเจอที่ร้านสเต๊กสินะ เห็นเรียกชื่อกันอยู่ แล้วทุกครั้งที่อิเจ๊มาห้องผมนะ ต้องเป็นพี่คนนี้มารับมาส่งทุกที!

“มีอะไรหรือเปล่า” อิเจ๊ที่ก้มใส่รองเท้าหลังจากเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จเงยหน้ามองผมที่เดินเข้ามาใกล้

ผมส่ายหัว แล้วหยิบกระเป๋าเป้ส่งให้

“พรุ่งนี้จะมามั้ย...”

“น่าจะไม่ มีธุระ”

“ไหนว่าพรุ่งนี้ไม่มีงาน”

“ธุระส่วนตัวน่ะ”

“กับพี่พอร์ชหรอ”

“อืม”

เดทสินะ

อิเจ๊ยื่นมือมารับกระเป๋าคล้องไว้บนไหล่พลางจ้องหน้ากันด้วยสายตานิ่งๆ

“อยากให้มาหรอ”

“ไม่อ่ะ”

ซะที่ไหน

ใจหนึ่งก็ไม่อยากให้มาจริงๆนั่นแหละ มันอึดอัด

แต่อีกใจพอคิดว่าที่จะไม่ยอมมาหาเหมือนทุกวันเพราะจะไปกับใครอีกคน มันก็รู้สึก...เหมือนถูกลดความสำคัญ

“อืม จากที่ไล่ก็พอรู้”

“คือกู...”

“แต่กูหน้าด้าน ถ้ามีเวลาจะแวะมาแล้วกัน ถ้ามาไม่ได้จะส่งข้อความมาบอกจะได้ไม่ต้องรอ”

“ใครจะรอ จะหนีสิไม่ว่า”

“แล้วแต่” อิเจ๊ยักไหล่ไอด็อนแคร์ท่าประจำก่อนยื่นมือมาขยี้หัวผมจนฟูฟ่อง หมุนตัวเปิดประตูให้อ้ากว้างแล้วก้าวขาออกไป

หมับ

“หือ?”

อะไอ้มือเวรรรรรรร ไปจับชายกระโปรงของอีกฝ่ายไว้ทำไม ดูสิ เอี้ยวตัวมามองกันด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยคำถาม ฮือออ

“อ่อ กระโปรงเลอะน่ะ ปัดอออกให้”

“อืม งั้นไปแล้วนะ เจอกัน”

“อื้อ ‘พรุ่งนี้’ เจอกัน”

ผมจงใจเน้นคำว่าพรุ่งนี้ ไม่รู้สิ ลึกๆผมก็รู้สึกว่าตัวเองเห็นแก่ตัว อยากให้เขาเลือกที่จะมาหาผมมากกว่าไปทำธุระกับไอ้พี่พอร์ชนั่น ไม่อยากให้รอว่างหรือเสร็จธุระแต่อยากให้มาหาเลย มาหากันเหมือนทุกวัน แล้วยกเลิกนัดนั่นไปซะ ไม่ต้องไปเจออีกเลยยิ่งดี

แต่อีกใจก็คิดว่าดีแล้ว สมควรแล้ว ถ้าอิเจ๊กับพี่พอร์ชก้ามปูไปกันได้ด้วยดีมันก็จะได้เลิกยุ่งกับผมสักที เลิกรู้สึกในทางชู้สาว แล้วมาเป็นพี่น้องกันได้ในแบบที่ผมหวังไว้

แต่ทำไมกันนะ...ผมถึงรู้สึกวูบโหวง

ไม่สบายใจเลย...

สงสัยเพราะร่างกายขาดน้ำตาลมั้ง เลยรู้สึกเหมือนไม่มีแรง

เฮ้อ หาช็อกโกแลตในตู้กินดีกว่า

เพิ่งพลังงานให้ร่างกาย

เผื่อพอมีแรงแล้วจะหายจากอาการบ้าๆนี่สักที


#เมียตุ๊ด


ออฟไลน์ Hirose

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 22
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
 :z3: :z3:
น้องงงงงงงถูกเจ้แกมัดไว้แล้วแก้ยากนะ

ออฟไลน์ cheezett

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 471
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
เอาแล้วๆๆ เด็กน้อยเอ้ยย5555

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Chompoo reangkarn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1089
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-0

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

ออฟไลน์ naruxiah

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 913
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-2
แทงกั๊กกันทำไมแผนเจ้ให้น้องมันรู้ตัวป่าว​

ออฟไลน์ papapoope

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 291
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-1
น้องลูกกก

ออฟไลน์ ooomukooo

  • AngieAngel
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 183
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
    • AngieAngel
น้องดูท่าจะรอดยาก
ติดพี่เขาแล้ว  :hao7:

ออฟไลน์ MinorMa

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 181
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-2
รอตอนต่อไปน้าา

ออฟไลน์ aoihimeko

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3133
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +155/-9
พอร์ชนี่เดาว่าเป็นสปีชี่เดียวกับเจ้

ส่วนต้าร์  ทำไมหนูซื่อบื้อ :m16:

ออฟไลน์ omuya

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2024
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +121/-9
เด็กน้อย รู้ใจตุวเองเร็วๆนะ ก่อนที่เจ๊มันจะหยุดกับคนอื่น

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11

ออฟไลน์ Supparang-k

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1909
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-3
หึหึ   เด็กน้อยยังไม่รู้ใจตัวเองสินะว่าต้องการเจ๊  กิ้ววววววว

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด