บทที่ 19 : จุดจบและจุดเริ่มต้น
Jin part
ผมกอดลาน้อง สัญญากับเจ้าตัวสูงโย่งว่าจะกลับมากินข้าวที่บ้านบ่อยๆ ทำเอาหน้ามันบานเป็นจานกระด้งจนอดไม่ได้ที่จะตบหัวมันเบาๆ เพราะอย่างนี้ไงถึงเกลียดเจ้าเด็กนี่ไม่ลง
หลังจากนั้นพวกเราก็ออกมาจากบ้าน มาพักที่บนชั้นสองของคาเฟ่กลางเมือง ผมกับเคย์ตัดสินใจจะพักก่อนที่พวกเราจะกลับไปที่มหาลัย
“งั้นเรื่องทั้งหมดก็จบแล้วสินะครับ” พี่พลยิ้มอ่อนแรง
“งั้นมั้งครับ ผมจบแล้ว ใครไม่จบก็ช่าง” ผมเลิกคิ้วพูดไม่ยี่หระ
“โชคดีที่เรื่องไม่ไปกันใหญ่” เรนพลิกหน้าหนังสือ เหตุผลที่หมอนี่ไม่ไปร่วมทัพตอนที่คนอื่นบุกไปคุยกับพ่อผมเพราะว่าพ่อของเรนดันเป็นเพื่อนสนิทของพ่อผมพอดี และมันดันกลัวพ่อตัวเองจนหัวหด
“หุบปากไปเลยไอ้คนขี้ขลาด”
“เฮ้ มึงก็ลองไปคุยกับพ่อกูสักชั่วโมงจะได้เข้าใจ ตาแก่นั่นน่ากลัวจะตายไป”
“เดี๋ยวพี่ลงไปทำเครื่องดื่มมาให้ทุกคนก่อนนะครับ”
วันนี้คาเฟ่ปิด พี่พลจึงไม่ต้องลงไปต้อนรับแขก ลงไปข้างล่างไม่นานเขาก็เอาเมนูโปรดของพวกผมขึ้นมาเสิร์ฟถึงที่ ผมรับเอาโกโก้ซึ่งมีมะตูมเผาเพิ่มกลิ่นอยู่ข้างบนมาจิบ
“ขอบคุณครับ” เคย์ตอบรับ ผมสังเกตเห็นว่าถ้าพี่พลกับเคย์ไปเดินด้วยกัน ต้องมีคนเผ่นป่าราบเพราะคิดว่าเป็นอันธพาลแหง
“เฮ้อ หมดเวลาบู๊พี่ก็ต้องทำงานต่ออีกแล้ว” สาวสวยหนึ่งเดียวที่ลาออฟฟิศเพื่อมาฉะกับพ่อผมนอนเหยียดบนโซฟาจิ้มแป้นคีย์บอร์ดอย่างเฉื่อยแฉะ
พี่พลนั่งลงตรงที่วางมือของโซฟา เขาเอื้อมมือมาโยกหัวผมเบาๆ พร้อมกับยิ้มดุๆ ซึ่งผมชินไปเสียแล้ว
“หมดเรื่องหมดราวเสียทีนะ”
ผมแอบเห็นสายตาแผดเผามาจากเคย์ เจ้าตัวจ้องเขม็งมาทางนี้อย่างไม่ปิดบังแรงหึงทำเอาเรนกลอกตามองบนขึ้นฟ้าแล้วทำเป็นไม่รับรู้ แต่พี่พลก็ยังเป็นคนความรู้สึกช้าที่อ่านบรรยากาศไม่เป็น จึงไม่ยอมละมือจากหัวผมเสียที
“อือ หลังจากหนีตามผู้ชายไปก็ได้คิดอะไรดีๆ เพียบเลย” ผมเอ่ยเชิงล้อเล่น
เขาโยกหัวผมด้วยท่าทีเหลืออด
“เดี๋ยวผมไปก่อนแล้ว โชคดีนะครับ” ผมเอ่ยขอบอกลา วางแก้วใบโปรดไว้บนโต๊ะแล้วกวักมือเรียกเคย์ก่อนจะเซเพราะแรงโถมจากใครบางคน
“โชคดีนะคะน้อง” เป็นพี่มิ้นต์ที่กอดผมแน่น ก่อนที่ชายหนุ่มผู้ดูแลคาเฟ่จะเดินเข้ามากอดพวกเราอีกทอด
“ขอให้เป็นความรักที่มีความสุขนะครับ”
เรนพ่นลมทางจมูกจนได้ยินเสียงหึ ก่อนจะเดินเข้ามากอดผม
“เจ้าโง่ มึงรู้ว่าถ้ามีเรื่องอะไรมึงทักกูมาได้เสมอ”
ผมรู้สึกได้ถึงน้ำตาอุ่นๆ ที่ไหลไปตามหน้า ผมทั้งหัวเราะทั้งร้องไห้ รู้สึกโชคดีเหลือเกินที่ถึงแม้จะไม่มีแม่แล้ว และไม่มีครอบครัวที่ปรึกษาได้ยามยาก ผมกลับมีกลุ่มคนที่พร้อมจะช่วยเหลือกันและกันยามลำบาก
ในรั้วมหาลัย ผมอาจไม่ค่อยได้กลับมาสถานที่แห่งนี้ ผมอาจจะใช้ชีวิตวัยรุ่นไปกับการผจญภัย แต่ผมรู้ว่าเมื่อไรที่ผมเหนื่อย
ผมมีสถานที่ให้กลับมาได้เสมอ
“เป็นคนดีจังเลยนะ” เคย์เปรย
“อือ ทุกคนเลย กูโชคดีที่แม่ไปรวบรวมคนดีๆ ขนาดนี้”
“ดีแล้ว” สายตาของเคย์ระยิบระยับจนผมอดยิ้มไปด้วยไม่ได้
“กลับห้องกัน” ผมคิดถึงเตียงอุ่นๆ กับการกลิ้งไปมาภายใต้ผ้าห่มผืนเดียวกันเสียแล้วสิ
“อือ ต้องกลับไปอ่านหนังสือด้วย” รูมเมทของผมก้มหน้าซบพวงมาลัยอย่างเหนื่อยอ่อนเมื่อคิดถึงไฟนอลที่กำลังรออยู่
“เวรเอ๊ย อย่าเพิ่งพูดเรื่องไฟนอลได้มั้ย”
“จิน เราย้ายออกกันเถอะ”
“หือ?”
“หลังจบปีแรก กูไปลองหาหอแล้ว ปีสองเราไปอยู่หอนอกกันเถอะ”
“อยู่ด้วยกัน?”
“แหงสิ!” เคย์เบิกตาโต จิ้มหน้าผากผม “เรื่องแบบนี้ยังต้องถามอีกเหรอ”
ผมเผลอหัวเราะ จ้องมองคนที่หน้ามุ่ยไปแล้ว
“อยู่กับกูจะดีเหรอ กูปากร้ายนะ ใจร้ายด้วย” ผมแหย่
“อือ แต่ก็รักไปแล้วมั้ย”
“ไอ้หมาโง่! พูดเรื่องแบบนี้ออกมาได้เต็มปาก” ผมโวยวาย หน้าร้อนกับประโยคที่เขาพูดออกมาอย่างไม่ทันตั้งตัว
“มึงรู้มั้ยว่ากูคุยอะไรกับพ่อมึง” เขาสบตาผม ระบายยิ้มอ่อนๆ เจิดจ้าเหมือนยามเช้า
“รายงานมาสิ” ผมเลิกคิ้ว รอฟังเรื่องที่น่าจะทำให้รอยยิ้มผมกว้างขึ้นไปอีก
“กูบอกพ่อมึงว่าทำไมกูถึงรักมึง ตอนแรกที่เข้าหากูไม่ได้รักมึงแบบว่ารักเลยหรอกนะ มันคือความชอบความสนใจ แบบว่าถ้าเป็นคนคนนี้ล่ะก็คงให้ความรักในแบบที่กูต้องการได้แน่ๆ” เคย์ยิ้มสมเพชตัวเอง “กูแค่อยากให้มีคนรักกูเยอะๆ แต่ก็ไม่กล้าเผยตัวตนจริงๆ ของตัวเองเกินไป กูกากจะตาย เรียนก็ไม่เก่ง ไม่มั่นใจในตัวเอง แต่ก็พยายามทำตัวให้ดูดีเกินจริงเพราะอยากให้ทุกคนประทับใจ พอเห็นมึงที่แน่วแน่กับสิ่งที่ตัวเองชอบ กูก็คิดว่า ถ้าเป็นความรักจากมึงล่ะก็คงทำให้กูเต็มได้แน่นอน”
“แล้วยังไงต่อ”
“แต่มึงสอนให้กูมั่นใจในตัวเอง ตอนกูหวั่นไหวกับคำพูดโค้ช มึงก็บอกให้กูมั่นใจในตัวเอง ถ้ากูมัวแต่ฟังคำของคนรอบข้างจนไขว้เขว กูจะจบลงที่การเลิกล้มความพยายามนั่นไป กูฟังแต่คนรอบข้างจนไม่ได้ฟังเสียงของตัวเอง ตอนที่กูรักตัวเอง คือตอนที่กูรักมึง”
“…”
“กูเหมือนภาชนะก้นรั่ว เพราะกูรักตัวเองไม่เป็น จึงรักใครไม่ได้ ความรักจากคนอื่นมันไม่พอ แต่ตอนที่กูรักตัวเอง กูไม่ต้องรอความรักจากใคร มันมาจากตัวกูเองได้ และกูก็มีมันเหลือให้คนอื่น และกูให้ทั้งหมดนั่นกับมึง”
เคย์เอื้อมมือมาเกลี่ยแก้มผมพร้อมยิ้มออกมาเหมือนกำลังมองของล้ำค่า
“หลายๆ เหตุการณ์มึงอาจจะคิดว่ามันเป็นเรื่องปกติ มึงแค่สอนกู มึงอาจจะจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่ามึงสอนอะไรกูบ้าง แต่กูจำได้ทุกประโยค และมันช่วยกูไว้ ขอบคุณนะ”
พวกเรากลับมาถึงห้องพักหลังจากนั้นไม่นาน แน่นอนว่าเพราะไม่มีเรียนทั้งคู่ จึงไม่มีเพื่อนๆ โทรตามหรือส่งข้อความมา พวกเราเองหลังกลับมาก็ใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการอ่านหนังสือเตรียมสอบใต้ผ้าห่มผืนเดียวกัน
เท้าของพวกเราปัดเกี่ยวกันไปมา จนสุดท้ายรูมเมทผมก็หัวเราะแล้วรวบตัวผมนอนกอด จนลงท้ายที่พวกเรานอนกลิ้งเกลือกกันในผ้าห่มจนมันพันตัวเราเป็นดักแด้
ผมยืดตัวไปจูบปลายจมูกเขา และได้รับรางวัลเป็นใบหน้าแดงจัดจากเคย์
“คนกาก” ผมแซว บิดปลายจมูกโด่งนั่นอย่างเอ็นดู
“อย่าแซวสิ” เขาหลบตาผม แสร้งเอาชีทมาอ่านต่อ
“หนีทหาร กากจริงๆ เจ้าหมาโง่”
“…แต่เป็นหมาโง่ให้มึงคนเดียวนะ”
ขยันหยอด!
ผมฟึดฟัดใส่คนที่พัฒนาเลเวลขึ้นไปทุกที
“จิน เป็นแฟนกันเถอะ”
“…”
“กูอาจจะไม่สามารถป่าวประกาศกับโลกว่าเป็นแฟนกับมึงได้ ไม่สามารถขึ้นสเตตัสบอกทุกคน อาจจะมีแค่เพื่อนๆ เราที่รู้ แต่อย่างน้อยกูก็อยากทำให้มันชัดเจน”
ผมเหลือบมองใบหน้าเขา ก่อนจะพ่นลมหายใจพรู
ผมไม่ต้องการให้โลกรู้และเข้าใจข้อจำกัดของโลกดี
การเป็นเกย์หรือมีคนรักเพศเดียวกันเป็นเรื่องหนักหัวของคนรอบข้างเสมอ
“ได้ เป็นแฟนกัน” ผมซบหน้ากับหมอน บอกเขาด้วยรอยยิ้มและได้รับการตอบกลับเป็นรอยยิ้มกว้างจนเห็นฟันเขี้ยวของเจ้าตัว
“อือ ทำไงดี อยากบอกคนอื่นจัง บ้าเอ๊ย ถึงเวลาแล้วกูดีใจสุดๆ เลย”
“อะไรกันล่ะนั่น” ผมหัวเราะใส่คนที่เอาหมอนปิดหน้าเหมือนเป็นสาวน้อย
ผมไม่เคยฝันอยากมีความรักแต่โลกดันเหวี่ยงคนคนหนึ่งมาให้ผม เขาดูเป็นคนเข้าถึงยาก ไว้ตัวและเป็นคนละประเภทกับผมโดยสิ้นเชิง แต่จริงๆ แล้วข้างในตัวตนแสนดูดีกลับเป็นผู้ชายกากๆ คนหนึ่ง
ผมนิสัยเสีย ซ้ำยังมีดีแค่หน้าตาน่ารัก แต่กลับมีคนคนหนึ่งชอบผมเสียขนาดยอมเจ็บเพื่อผมได้
ผมช่างเป็นคนที่โชคดีเหลือเกิน
ไม่รู้ว่าในอนาคตพวกเราจะไปในทิศทางไหน มันอาจจะจบไม่ดี พวกเราอาจเข้ากันไม่ได้ หรืออาจจะเป็นแฮปปี้เอนดิ้งตลอดไปอย่างในนิทาน
แต่ไม่ว่าเรื่องอะไร แค่เห็นรอยยิ้มในตอนนี้ของเคย์
ผมรู้สึกว่ามันคุ้มค่า
The END
----------------------------------------------
จบแล้ว ขอบคุณที่อยู่ด้วยกันจนสุดทางนะคะ เดี๋ยวตอนพิเศษชุดสาวน้อยเวทมนตร์กำลังจะมาแล้วค่ะ อิ___อิ
สถานีต่อไปคืออีบุ๊คค่ะ สงสัยต้องใส่warningไว้เยอะเพราะเรทกว่าที่ลงในเล้าเยอะ T-T
ทั้งcaged, non-con, Feminization เยอะ555555555555555555555555
สุดท้ายนี้ เราชอบผู้ชายใส่กระโปรงมากๆเลยค่าาาาาาาาาาาา ในอนาคตอยากเขียนอีกกกกกกกกกกกกกกกก