ภาคต่อของความรัก - ภาคพิเศษ ภาคแห่งความวุ่นวาย END หน้า 13 UP!! 09/02/2019
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ภาคต่อของความรัก - ภาคพิเศษ ภาคแห่งความวุ่นวาย END หน้า 13 UP!! 09/02/2019  (อ่าน 84498 ครั้ง)

ออฟไลน์ reverofjs

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 380
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
หูยยย ชัดเจนนี่ร้ายลึกมากกก
ร้ายแบบเนียนๆมาตั้งหลายปี  :m16:

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
จันทร์จะจูบหรือไม่จูบ

"และยังทำให้อดีตคนรักไม่นอนกับเขาอีก "
เนียนมากอ่ะชัดเจน ทำให้คิดตามจันทร์เลย
ว่าที่ปาลไม่ยุ่งกับจันทร์เพราะเบื่อ ที่ไหนได้
เพราะกลัวจันทร์เจ็บและคิดว่าจันทร์ไม่ชอบ
พอการไม่มีเรื่องบนเตียงเลยตลอด 2 ปี
มันก็เลยพาจืดชืด แถมมีชัดเจนสั่นขาเตียง
ทุกครั้งที่มีโอกาส ซึ่งมีเยอะและบ่อยซะด้วย

ดีใจจันทร์วางสถานะคุณชายหลี่เรียบร้อยแล้ว

ออฟไลน์ river

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2398
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +231/-3
แมนมาก กล้าทำก็กล้ารับ แต่หักหลังคนอื่นไม่ค่อยดีนะ ชัดเจน

ออฟไลน์ Duangjai

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 655
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-1


ปาลกับจันทร์เคลียร์กันแล้วนะ. ค้นความรู้สึกกันให้ลงตัว

แล้วกลับมาร่วมชีวิตกันใหม่นะ

ปาลเป็นคนจิตใจดีนะ แต่ก้อหลงตัวเองไป ทำให้ลืมคิดถึงจันทร์ไป

หนึ่งปีผ่านไป ปาลรู้ใจตัวเองมากขึ้น ปรับปรุงตัวเองให้ดีขึ้น

แล้วจันทร์หล่ะ. จะปรับตัวเองบ้างไหม คุยกันก่อน ก่อนตัดสินใจ



 :110011: :z7: :110011: :z7: :110011: :z7: :z7: :110011: :z7:


………

ออฟไลน์ mab

  • ชื่อ mab ไม่ได้ชื่อ map
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 693
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-0
ดูปาลจะอ่อนแอมากเลยอ่ะ
เหมือนไม่กล้าจัดการอะไรกับชัดเจน
เพราะรักมาก...
ปาลต้องทำอะไรให้เด็ดขาดแล้วนะ
เดี๋ยวก็ไม่ได้จันทร์คืนมาหรอก  :ruready

ออฟไลน์ idee

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 79
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-2
เพิ่งได้โอกาสมาอ่านเรื่องนี้แบบรวดเดียวเลยค่ะ
เจ็บจิ๊ดๆ แทนปาลกับจันทร์ทุกครั้งตอนเขานึกกันได้ว่าตัวเองไม่ได้อยู่ในสถานะนั้นแล้วอ่ะคุณคนเขียน

เรารุ้สึกว่าคุยกัน ปรับความเข้าใจกันแล้วก็เถอะ แต่เวลามันผ่านไป การจะกลับเข้าไปอยู่จุดเดิมก็คงยาก ถ้าปาลอยากกลับไปจริงๆ คงต้องพยายามมากๆๆๆ
(บางทีเราก็คิดว่าอาจจะดีกว่าที่จันทร์จะเริ่มใหม่กับใคร แต่ก็เข้าใจว่ามันไม่ใช่กับใครก็ได้อ่ะ)

แต่มันก็ตัดกันไม่ขาดอ่ะ เข้าอยู่ในชีวิตกันและกันมาเป็นสิบปี
ไม่รู้ว่าสองคนนี้ต่อไปจะตัดสินใจกันยังไง แต่เราจะติดตามอ่านนะค้าา

ออฟไลน์ เขมกันต์

  • nothing’s else I can say
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 452
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +164/-9
    • Twitter

ภาค 22 ชัดเจน




ตั้งแต่จำความได้ ผมก็เติบโตมาในครอบครัวใหญ่ที่ไม่ใช่ครอบครัวของตัวเอง ผมมีพี่ป้าน้าอาต่างสายเลือดรายล้อมอยู่รอบกายผมเต็มไปหมด ผมมีพี่ชายอยู่สองคน พี่คนโตชื่อศรารัณหรือพี่ปอนด์ พี่คนที่สองชื่อปาณัสม์หรือพี่ปาล พี่คนที่สองชอบพาผมไปเล่นด้วยอยู่เสมอเพราะพี่คนโตแก่กว่าผมหลายปี จึงไม่ค่อยอยากเล่นกับผมที่ยังเด็กเกินไปนัก



เริ่มโตรู้เรื่องขึ้นมาอีกนิด ผมก็ได้ไปโรงเรียนกับพี่ทั้งสองคน โดยมีพ่อชมขับรถไปส่งพวกเราที่โรงเรียนและมารับในตอนเย็นทุกวัน พ่อเคยเล่าว่าตั้งใจจะส่งผมไปเรียนอีกโรงเรียนหนึ่งแต่พี่ปาลไม่ยอม ผมเลยได้มาเรียนกับพวกเขา ผมมีชีวิตความเป็นอยู่อย่างนั้นกระทั่งวันหนึ่งผมจึงได้รู้ว่า พี่ชายสองคนนั้นคือลูกเจ้านาย ส่วนพ่อของผมเป็นเพียงคนสวนหรือแค่คนงานที่อาศัยอยู่ในตระกูลโภคินวิวัฒน์



ตอนที่ผมอยู่ชั้นมัธยมต้นปีที่สาม พี่ปาลอยู่ชั้นมัธยมปลายปีที่หก ผมเห็นพี่ชายคนนี้มีสาวมากหน้าหลายตามาคอยพัวพันอยู่เสมอ แต่ไม่เคยตกลงคบใครจริงจังเลยสักคน เอาแต่เกี้ยวคนนั้น จีบคนนี้ พอเบื่อก็ทิ้งไป ผมไม่เคยเล่าหรือพูดเรื่องนี้กับใคร ยกเว้นพ่อชม แต่พ่อบอกว่าเรื่องของเจ้านาย ผมไม่ควรปากมากเพราะผมจะถูกด่าเอาได้ ผมเห็นด้วย ตราบใดที่พี่ปาลไม่ได้ทำอะไรให้ผมเดือดร้อน ผมก็จะไม่ยุ่งวุ่นวายกับเขา




เมื่อถึงวันที่ผมต้องเข้าเรียนต่อในระดับอุดมศึกษา พี่ปาลก็แนะนำเชิงขู่บังคับให้ผมมาเข้าเรียนมหาวิทยาลัยที่เดียวกับตนเอง ผมไม่ได้ปฏิเสธเขา เพราะมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงไม่ใช่ว่าจะเข้ากันได้ง่ายๆ ถ้าผมสอบติด ก็ค่อยว่ากัน




วันแรกของการเปิดภาคเรียนใหม่กับชีวิตนักศึกษา ผมตื่นเต้นมากจนเกือบจะนอนไม่หลับ ผมเห็นพี่ชายคนที่สองมานั่งเฝ้าผมที่คณะ ทั้งที่เขาเรียนอีกคณะหนึ่ง ผมไม่รู้ว่าพี่ปาลมาทำอะไรที่นี่ หรือว่ามาคอยสอดส่องพฤติกรรมของผมแล้วเอาไปบอกพ่อชมงั้นหรือ ทว่าน่าแปลกใจ ไม่รู้ทำไมผมถึงได้รับสิทธิ์พิเศษไม่ต้องรับน้อง รุ่นพี่ถึงกับมาบอกผมเองเลยด้วยซ้ำว่าถ้าผมไม่สะดวกรับน้องก็ไม่เป็นไร แต่ผมไม่อยากทำตัวพิเศษกว่าคนอื่น ผมจึงพยายามเข้ารับน้องเหมือนเพื่อนๆ ให้มากที่สุด




การเรียนของผมเริ่มต้นไปได้ด้วยดี ผมลองสอบชิงทุนเพื่อที่จะได้แบ่งเบาภาระของพ่อชมและเจ้านาย ไม่คาดฝันว่าผมจะสอบได้ทุนจริงๆ ผมมีความสุขกับการเรียน มีเพื่อนที่นิสัยดี แต่ผมแทบจะไม่ได้ไปไหนมาไหนหลังเลิกเรียนกับเพื่อนเลย ผมกลับบ้านพร้อมพี่ปาลเสมอ บางทีผมก็ยังไม่อยากกลับบ้านหรอก แต่พี่ปาลก็จะรอ ผมเกรงใจจึงต้องกลับไปพร้อมกัน มาถึงตอนนี้พ่อชมไม่ได้มารับส่งผมแล้ว เป็นพี่ปาลที่ขับรถมามหาวิทยาลัยเอง ตอนนี้ผมเริ่มสูงไล่ทันเขาแล้ว ไม่ได้ตัวเล็กเหมือนเดิมอีกต่อไป




พี่ชายบอกผมว่า เดี๋ยวจะพาผมไปหัดขับรถและไปสอบใบขับขี่ ถ้าหากพี่ชายเรียนจบเมื่อไหร่ ผมจะได้ขับรถมาเรียนเอง แต่พี่ปาลก็ไม่ค่อยว่างหรือลืมไปแล้วก็ไม่รู้ พี่ชายเอาแต่พาหญิงสาวที่ผมก็จำชื่อเธอไม่ได้ เพราะเปลี่ยนหน้าไปเรื่อย ออกไปข้างนอกเสมอ บางทีก็ลืมผมไว้ที่คณะ จนผมต้องกลับบ้านเอง แต่นั่นก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไร ผมกลับบ้านเองได้สบาย ไม่ได้รู้สึกลำบาก


“ชัดเจน เราชอบชัดนะ” หญิงสาวคนหนึ่งมาจากคณะไหนก็ไม่รู้ มาสารภาพกับผมตอนที่ผมกำลังนั่งรอพี่ปาลอยู่ ใต้ถุนคณะของตัวเอง

“ชะ..ชอบผมเหรอ” ผมตื่นเต้น อึกอัก ไม่เคยเจอเหตุการณ์อะไรแบบนี้มาก่อนในชีวิต

“ใช่จ้ะ เราชอบชัดมาตั้งแต่คืนเฟรชชี่แล้วล่ะ”

“ชอบผมได้ยังไง เราไม่เคยคุยกันเลย”

“เรารู้จักชัดนะ รู้จักตั้งแต่ชัดประกวดเดือนมหา’ลัย”

“อย่างนั้นเหรอ” ผมเกาท้ายทอยแก้เขิน

“ชัดรู้ตัวไหมว่า ชัดมีเสน่ห์มากเลย”

“อ่า..ขอบคุณครับ”

“มีคนชอบชัดเยอะมากเลยนะ แต่เพราะชัดตาดุอะ แถมยังไม่ค่อยยิ้มอีก คนก็เลยกลัว”

“แล้วเธอ..เอ่อ โทษทีนะ ชื่ออะไรเหรอ” ผมยังไม่รู้จักชื่อเธอเลย

“เราชื่อมิ้ง”

“มิ้งไม่กลัวผมเหรอ”

“เราก็กลัวนะ แต่เราชอบชัด อยากรู้จักชัดมากกว่านี้”

“ขอบคุณนะ”

“ชัด กลับยัง” เสียงพี่ปาลเรียกผมดังขึ้นจากทางด้านหลัง

“เอ่อ..ครับ พี่ปาล กลับครับ” ผมหันกลับไปบอกเขาก่อนจะกลับมาบอกหญิงสาว “มิ้ง ผมขอตัวกลับก่อนนะ”

“นั่นใช่พี่ปาล ที่อยู่ปีสี่ไหม”

“ใช่”

“เขาเป็นพี่ของชัดเหรอ มิ้งไม่เห็นรู้เลย”

“ไม่ใช่หรอก” ผมส่ายหน้า “เขาเป็นลูกเจ้านายที่ผมอาศัยอยู่ที่บ้านด้วยน่ะ”

“อย่างนั้นเหรอ”

“ผมไปนะ”

“จ้ะ”



ผมเอ่ยลาและเดินออกมาจากบริเวณนั้นก่อนจะก้าวขึ้นไปนั่งในรถทางด้านหน้าคู่กับพี่ปาล เขาขับรถออกไปอย่างนุ่มนวลเหมือนเคย

“มีสาวมาจีบเหรอ” พี่ปาลละสายตาจากถนนหันมามองหน้าผมอยู่ชั่วครู่ก่อนจะหันกลับไปแล้วถามผมขึ้น

“คงงั้นมั้ง”

“เขาไม่ได้บอกเหรอว่ามาหาทำไม”

“บอก เขาบอกว่าชอบผม”

“โห เข้ามาแป๊บเดียว มีสาวมาจีบน้องกูแล้วเว้ย ไม่ธรรมดานะมึงอะ” เขาเหมือนจะเอ่ยชมใช่หรือเปล่า

“พี่ปาลจะบอกพ่อเหรอ”

“กูไม่ใช่คนขี้ฟ้อง จะบอกเรื่องนี้กับพ่อมึงทำไมล่ะ” เขาใช้หลังมือเคาะหัวผมเบาๆ

“ไม่รู้สิ ผมก็แค่ถามดู”

“ไม่บอกหรอก แต่มึงต้องป้องกันด้วย”

“ป้องกันอะไรพี่ ไม่มี ผมเปล่า ผมไม่ได้ทำอะไร” ผมโวยวาย จู่ๆ ที่เขาพูดอะไรขึ้นมาก็ไม่รู้

“เขินเหรอ หน้าแดงเลยนะมึง แดงทะลุผิวออกมาเลย”

“รู้แล้วว่าตัวดำ” ผมบ่นอย่างไม่พอใจ

“ไม่ได้ตัวดำเสียหน่อย ผิวแทนไง กูยังอยากผิวเหมือนมึงเลย”

“ผู้หญิงเขาชอบแบบพี่ปาลทั้งนั้น ไม่ได้ชอบหน้าอย่างผม” ผมบ่น ไม่ว่าจะกี่ยุคกี่สมัย ผู้หญิงก็ชอบหนุ่มขาวตี๋พิมพ์นิยม

“มึงหล่อนะชัด แต่ก็ถูกของมึงที่ผู้หญิงเขาชอบแบบกู ไม่งั้นป่านนี้เดือนมหา’ลัยคงหนีไม่พ้นมือมึงหรอก”

“เหรอครับ”

“ที่พูดเนี่ยชมนะ” พี่ปาลหัวเราะ จนผมลังเลว่าเขาพูดจริงพูดเล่นกันเนี่ย

“รู้แล้วน่า”

“ถ้ามึงชอบคนไหนก็บอกกู เดี๋ยวกูช่วย”

“พี่ไม่ต้องยุ่ง ถ้าผมชอบใคร ผมจะจีบเอง”

“เขินอีก เออๆ ไม่ยุ่งก็ได้ แต่ห้ามลืมป้องกัน รู้ไหม”

“ไม่มีหรอกน่า!!”

“โวยวาย” แล้วพี่ปาลก็หัวเราะดังลั่นรถ


สัปดาห์ถัดมา มิ้งก็มาหาผมที่คณะอีก ผมใจเต้นเหมือนเดิม ผมไม่ได้ชอบมิ้งหรอกนะ แต่ในใจลึกๆ มันรู้สึกเหมือนตัวเองยืดได้ ตัวมันพองๆ

“ชัดเจน”

“ครับ”

“ชัดจะว่าอะไรไหม ถ้ามิ้งจะขอเบอร์พี่ปาลอะ” ผมงงไปนิดหน่อย แต่ไม่เข้าใจมากๆ มิ้งชอบผมไม่ใช่เหรอ ทำไมขอเบอร์พี่ปาลล่ะ

“มิ้งว่าอะไรนะครับ” ผมทวนซ้ำ

“คืออย่างนี้ ไม่ใช่มิ้งนะ เพื่อนมิ้งอยากได้เบอร์พี่ปาล คือเพื่อนมิ้งชอบพี่ปาลอะ”

“อ่อ..” ผมค่อยโล่งใจ “แต่.. ผมไม่กล้าให้ เดี๋ยวพี่ปาลด่า”

“มิ้งจะไม่บอกพี่ปาลหรอกว่าได้เบอร์มาจากชัด”

“จะดีเหรอ”

“ให้เบอร์กับมิ้งเถอะนะ มิ้งกลัวเพื่อนโกรธ”

“ก็ได้ แต่อย่าบอกพี่ปาลว่าได้เบอร์มาจากผม”

“จ้ะ ขอบคุณนะชัด”


น่าแปลก นับตั้งแต่นั้นมา ผมไม่เห็นมิ้งมาที่คณะผมอีกเลย นอกจากได้ยินเสียงบ่นของพี่ชาย


“ชัด กูถามหน่อย มึงไม่ได้เอาเบอร์กูไปให้ใครใช่ไหม” เขาถามผมอย่างหัวเสียเล็กน้อย

“ทำไมเหรอพี่”

“พักนี้มีคนโทรหากูเยอะแยะ จะเปลี่ยนเบอร์ทิ้งแล้วเนี่ย รำคาญ”

“เขาโทรผิดหรือเปล่า” ผมถาม ใจเริ่มหวั่น

“ไม่ผิด เขาเรียกชื่อกู เรียกถูกคน”

“งั้นเขาคงโทรมาจีบพี่นั่นแหละ” ผมเดา

“กูไม่ชอบถูกจีบ กูเป็นเสือ เสือมันต้องล่าเอง”

“จะไปเปลี่ยนเบอร์ไหมอะ” ผมถามเขา จะได้แก้ปัญหานี้ให้จบ

“เออ เดี๋ยววันหยุดค่อยไปเปลี่ยนเบอร์ แล้วคนล่าสุดที่โทรมาเนี่ย วุ่นวายชีวิตกูมาก แทบจะสิงร่างกู ส่งข้อความมาแทบทุกชั่วโมง”

“ใครอะพี่”

“ชื่อมิ้ง แต่มึงคงไม่รู้จักหรอก”



ผมตัวชา ไม่ต้องเดาให้เหนื่อย ผมก็คิดว่าน่าจะเป็นมิ้งเดียวกับที่มาขอเบอร์พี่ปาลจากผมนั่นแหละ ไหนเขาบอกเอาเบอร์ไปให้เพื่อนไง ทำไมถึงเป็นตัวเขาเองได้ ผมไม่แปลกใจแล้วว่าทำไมเขาถึงหายไป เพราะเขามีตัวเลือกใหม่ที่น่าสนใจกว่านี่เอง



ผมถูกหลอกเป็นครั้งแรกในชีวิต



“ตกลง มึงไม่ได้เอาเบอร์กูไปให้ใครไหม”

“เปล่า ผมไม่ได้ให้เบอร์พี่กับใคร”



และเป็นครั้งแรกในชีวิตที่ผมโกหกเขาเช่นกัน



หลังจากนั้น ชีวิตนักศึกษาปีที่หนึ่งของผมก็มีคนเข้ามาวนเวียนในชีวิตอยู่มากมาย แต่เขาไม่ได้สนใจในตัวผม แค่เพราะผมรู้จักกับพี่ปาล เขาสนใจพี่ชายผมมากกว่า ผมเป็นแค่เด็กในบ้าน มีหรือที่ผมจะไปสู้หรือเทียบอะไรเขาได้


ผมค่อยหายใจโล่งอีกครั้งเมื่อพี่ปาลเรียนจบ แล้วไปเรียนต่อป.โท ที่นิวยอร์ก แต่เขาไม่ได้เริ่มเรียนทันที เพราะต้องปรับพื้นภาษาให้ดีเสียก่อน ระหว่างที่เขาเรียนต่ออยู่ที่นั่น ผมก็ไม่ค่อยได้คุยกับเขาเท่าไหร่นัก พี่ปาลเองก็ไม่ได้กลับมาที่เมืองไทยเช่นกัน



ผมได้ยินคุณหญิงกิ่งกานต์เปรยอยู่บ่อยๆ ว่า ‘เจ้าปาลมันห่วงเล่น บ้านช่องไม่ค่อยอยากกลับ’ผมไม่รู้ว่าเล่นในที่นี้คือเล่นอะไร แต่ไม่เป็นไร ผมไม่ได้อยากรู้ กระทั่งคุณผู้ชายของบ้านเริ่มป่วย อาการไม่ค่อยดี พี่ปาลจึงกลับบ้านมาบ่อยขึ้น เสมือนว่า นิวยอร์ก-กรุงเทพ นั้นใกล้กันราวกับไปเดินเล่นรับลมทะเลอยู่พัทยาแล้วขับรถกลับบ้าน



หลังงานงานศพถูกจัดขึ้นและเสร็จสิ้นพิธีการแล้ว เขาก็กลับไปเรียนและหายไปดังเดิม ตอนที่พี่ปาลกลับมาอีกครั้งหลังเรียนจบ เขาดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้น สุขุมมากกว่าเดิม แววตาขี้เล่นดูลดน้อยลง เอาจริงเอาจังมากขึ้น ด้วยเวลาที่ผ่านไปหลายปีทำให้ผมไม่กล้าเรียกเขาว่าพี่ปาลอีกแล้ว ผมจึงเรียกเขาว่าคุณปาล เหมือนที่พ่อผมเรียก คุณปาลเริ่มทำงานในบริษัทของครอบครัวเหมือนกับคุณปอนด์ ตอนนั้นผมเรียนปีสุดท้ายแล้ว คุณหญิงกิ่งกานต์บอกผมว่าหากผมเรียนจบเมื่อไหร่ก็ให้มาช่วยงานที่บ้านเรานะ ผมได้แต่พยักหน้ารับ ไม่มีโอกาสได้ปฏิเสธ



ตอนที่ผมเรียนจบมาได้สักพัก วันหนึ่งคุณปาลก็พาผู้ชายมาที่บ้านและแนะนำกับครอบครัวว่านี่คือแฟนของเขา ผมรู้สึกตกใจเล็กน้อยด้วยความไม่คาดคิด ตลอดเวลาคุณปาลคบหาแต่ผู้หญิงมาโดยตลอด ผู้ชายคนนี้ชื่อฉันทัช หรือคุณเทมส์ เขามีใบหน้าเรียวสวย ปากอิ่ม คิ้วเข้ม ผิวขาว ค่อนข้างสูงทีเดียว คุณปาลแนะนำคร่าวๆ ว่า คุณเทมส์ทำงานที่สายการบินแห่งหนึ่ง และคุณปาลเจอกับเขาที่นั่น ทว่าดูเหมือนคุณหญิงกิ่งกานต์ดูจะไม่ค่อยพอใจแฟนของลูกชายสักเท่าไหร่ คุณหญิงแสดงออกชัดทีเดียว



สีหน้าของคุณเทมส์ดูเหมือนไม่พอใจคุณหญิงเช่นกัน เขาดูฮึดฮัดแต่ออกอาการมากไม่ได้ ผมเห็นคุณปาลบีบมือคุณเทมส์ไว้ คงจะปลอบใจกระมัง ในตอนนั้นผมอยากรู้ว่าทำไมคุณปาลถึงโชคดีด้านความรักเสมอ เขามีคนรักอยู่รอบกายไม่ขาด ผมเห็นหน้าของคุณเทมส์แล้ว ไม่รู้ทำไมผมจึงกลัวแทนเขาเหลือเกิน กลัวว่าวันใดวันหนึ่งคุณปาลจะเบื่อและทิ้งคุณเทมส์ไปเหมือนกับคนอื่นๆ ที่ผ่านมา




ผมไม่ค่อยเข้าใจตัวเองนักหรอก เวลาที่เห็นคุณปาลพาคุณเทมส์มาที่บ้าน ผมมักจะคอยไปเสนอหน้าป้วนเปี้ยนอยู่แถวๆ นั้นเสมอ ผมแค่รู้สึกว่าอยากเห็นหน้าเขา ผมคิดว่าผมคงมองคุณเทมส์ได้ทั้งวันโดยไม่เบื่อ เขาดูสดใส ยิ้มแย้ม มีอารมณ์ขัน ภายหลังคุณหญิงกิ่งกานต์ป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่ อาการรุนแรงทีเดียว นั่นเป็นเพราะคุณหญิงไม่ยอมไปหาหมอที่โรงพยาบาลตั้งแต่ทีแรก ผมเห็นคุณเทมส์กระวนกระวายใจ เขาดูไม่สบายใจกับเรื่องนี้เลย จนผมอดห่วงเขาไม่ได้ อันที่จริงเขาไม่จำเป็นต้องเป็นห่วงเป็นใยคุณหญิงมากขนาดนี้ก็ได้ เพราะคุณหญิงก็ไม่ได้ชอบเขาเท่าไหร่ไม่ใช่หรือ



คุณเทมส์ไปเฝ้าไข้คุณหญิง ใบหน้าของเขาดูเศร้าสร้อย และเพราะเหตุการณ์อาการป่วยของคุณหญิงในครั้งนี้ ผมจึงได้เจอน้องสาวของคุณเทมส์เป็นครั้งแรก เธอชื่ออินทัช หรือคุณไทน์ เธอสวยมาก สูงพอๆ กับพี่ชาย คุณปาลเล่าให้ผมฟังว่าถ้าคุณเทมส์ไว้ผมยาว แต่งตัวเป็นผู้หญิงก็จะเหมือนคุณไทน์ไม่ผิดเพี้ยน ผมสงสัยในทีแรก ต่อมาจึงถึงบางอ้อว่าแท้จริงนั้น คุณไทน์เป็นน้องชายฝาแฝดของคุณเทมส์ แต่แปลงเพศเป็นสาวสวยเรียบร้อยแล้ว




คุณไทน์เธอสวยนะ แต่ผมกลับชอบคุณเทมส์มากกว่า เมื่อคิดถึงตอนนี้ผมกลับตกใจในความรู้สึกตัวเอง ผมชอบคุณเทมส์งั้นหรือ เป็นไปได้ยังไง ผมเริ่มเครียดและหาทางตัดใจจากคุณเทมส์ เพราะมันไม่ถูกต้อง คุณเทมส์เป็นคนรักของคุณปาล แต่ไม่ว่าจะพยายามเท่าไหร่ มันก็ไม่มีผลอะไร ผมไม่สามารถตัดใจจากเขาได้เลย




หลังจากที่คุณหญิงหายดีแล้ว ทั้งคุณเทมส์และคุณหญิงดูเข้ากันได้ดีกว่าเดิม คุณเทมส์ยังไปมาหาสู่ที่บ้านเสมอจนกระทั่งลูกสาวของคุณปอนด์ หรือน้องปัณณ์ป่วยต่อจากคุณหญิง คุณเทมส์จึงตัดสินใจย้ายมาอยู่กับคุณปาลที่บ้านเพราะเป็นห่วงน้องปัณณ์และคุณหญิงไปในคราวเดียวกัน คุณเทมส์ดูรักเด็กเหมือนคุณปาล เขาทั้งคู่คงอยากมีลูกล่ะมั้ง แต่มันเป็นไปไม่ได้เพราะอะไรเราคงรู้ดี




ผมสงสัยว่าทำไมคุณปาลถึงเรียกคุณเทมส์ว่าจันทร์ ตอนหลังที่น้องปัณณ์พูดได้ก็เรียกคุณเทมส์ว่าจันทร์เหมือนกัน ผมเคยถามคุณปาลนะ แต่เขาตอบผมด้วยรอยยิ้มและบอกว่ามันเป็นความลับ




ยิ่งคุณเทมส์ย้ายมาอยู่ร่วมชายคาบ้านแบบนี้ ผมเห็นเขาทุกวัน ผมยิ่งตัดใจไม่ได้ ใจของผมมันผูกติดกับคุณเทมส์ไปแล้ว ทั้งที่เขาไม่เคยแสดงความรู้สึกอะไรต่อผมเลย นอกจากนายชัดเจนที่เป็นน้องชายของคุณปาลเท่านั้น เขามีระยะห่างให้ผมและทุกคนเสมอ ถึงอย่างนั้นผมก็พอใจที่จะเป็นแบบนี้ แค่เขายิ้ม ผมก็มีความสุข ผมคิดว่าผมไม่ต้องการอะไรอีกแล้ว




คุณปาลเริ่มทำงานหนักขึ้น เขาพาคุณเทมส์ย้ายไปอยู่คอนโดใกล้บริษัท ผมอาสาที่จะขับรถให้คุณปาล ด้วยใจหนึ่งที่ผมอยากเจอคุณเทมส์เหมือนเดิม ผมเข้าใกล้เขาได้มากที่สุดก็คงแค่นี้ แค่นี้ก็พอแล้ว คุณปาลมีเวลาให้คุณเทมส์น้อยลงกว่าเดิมมาก ตอนนี้คุณเทมส์ลาออกจากงานมาอยู่ที่คอนโดเฉยๆ เขาคงเบื่อพอสมควร มีหลายครั้งที่ผมไปรับคุณเทมส์มาที่บริษัท แล้วต้องเห็นแววตาเศร้าๆ ของเขา ดูเหมือนเขาคงจะเหงาไม่น้อย




คุณเทมส์ไม่ค่อยได้ออกไปไหน เพราะคุณปาลไม่ชอบ คุณปาลเป็นเด็กที่หวงของตั้งแต่เด็ก ถ้าของเล่นชิ้นไหนที่คุณปาลไม่อนุญาตให้เล่น ผมจะไปแตะต้องไม่ได้ คุณปาลติดนิสัยนี้มากระทั่งตอนโตและต่อเนื่องไปถึงคนรัก เขาทำงานจนไม่มีเวลาให้คุณเทมส์ ผมเป็นห่วงคุณเทมส์ ผมอยากดูแลเขาเอง ถ้าเป็นผมนะ ผมจะไม่มีวันทำให้คุณเทมส์ต้องเศร้าแบบนี้เลย




เป็นผมไม่ได้หรือ เป็นผมได้หรือเปล่าครับ




ผมเริ่มสงสารเขามากขึ้นเรื่อยๆ ผมเริ่มรู้สึกโกรธคุณปาลที่ไม่ถนอม ไม่รักษาน้ำใจของคุณเทมส์ ผมจึงเริ่มทำอะไรบางอย่าง อันที่จริงผมไม่สบายใจที่จะทำมันหรอก แต่ผมปล่อยให้คุณเทมส์เป็นแบบนี้ไม่ได้ ผมอยากเห็นเขายิ้ม มีความสุขเหมือนเดิม เหมือนครั้งแรกที่ผมเห็นเขา




ตอนที่ผมได้ยินจากคุณปาลว่าคุณเทมส์หนีเที่ยว ผมตกใจมาก ไม่น่าเชื่อว่าคุณเทมส์จะทำอะไรแบบนั้น แต่เขาคงเหงามาก ทำไมเขาถึงไม่บอกผม วันต่อมาคุณปาลให้ผมไปรับคุณเทมส์มาทานข้าวเที่ยงที่บริษัท ผมกดกริ่งที่หน้าห้องของเขา รออยู่พักใหญ่คุณเทมส์ถึงมาเปิดประตูด้วยท่าทางที่อิดโรย พอเห็นว่าเป็นผมที่ยืนอยู่หน้าห้อง เขารีบดึงคอเสื้อให้สูงขึ้น แต่มันก็ไม่สูงพอ ผมเห็นร่องรอยเป็นสีแดงปื้นอยู่บนคอของคุณเทมส์ทั่วไปหมด




ผมกำหมัดแน่น คุณปาลไม่ถนอมคุณเทมส์อีกแล้ว ผมบอกเขาว่าผมมารับคุณเทมส์ไปทานข้าวกลางวันกับคุณปาลที่บริษัท เขายิ้มให้ผมและบอกว่าเขาไม่อยากออกไปข้างนอกตอนนี้ เขาชวนผมทานมื้อเที่ยงด้วยกันที่ห้อง ใจจริงผมอยากปฏิเสธนะ แต่ผมก็อยากทานข้าวกับคุณเทมส์ตามลำพังสองคนบ้าง ผมจึงตอบตกลง




คุณเทมส์ไม่ได้สนใจสายตาของผมที่มองรอยแดงบนคอของเขาอีกต่อไป คงคิดว่าไหนๆ ผมก็เห็นแล้ว ไม่มีประโยชน์จะปิดบังแล้วกระมัง เขาให้ผมโทรไปบอกคุณปาลเรื่องมื้อกลางวัน ตอนที่ผมโทรกลับไป ผมได้ยินเสียงคุณปาลหัวเราะแผ่วเบาพร้อมกับคำพูดตบท้ายว่า ‘คราวหน้ายังจะกล้าหนีเที่ยวอีกไหม’ เขาทำอะไรคุณเทมส์บ้าง ทำไมอดีตพี่ชายผมถึงโหดเหี้ยมเหลือเกิน



ทว่าคุณเทมส์ดูเหมือนจะไม่ได้กลัวคำขู่นั้นเท่าไหร่ เขากัดปากเล็กน้อยเหมือนขัดใจอะไรบางอย่างตอนที่ฟังผมรายงานก่อนจะพึมพำออกมาว่า ‘พูดอะไรเนี่ย’ แล้วเขาก็ยิ้มออกมา



ผมไม่เข้าใจอะไรเลย



ผมคิดว่าคุณเทมส์มีแววตาที่สดใสขึ้นอยู่พักหนึ่ง แต่สุดท้ายเขาก็กลับมาเศร้าเหมือนเดิมอีก ผมเริ่มไม่สบายใจอีกแล้ว ถึงเวลาที่คุณเทมส์ต้องเป็นอิสระเสียที และผมจะเป็นคนดูแลเขาต่อจากนั้นเอง ผมจะทำให้เขามีความสุขที่สุดเท่าที่ชีวิตคนคนหนึ่งจะมีได้




ใจของผมมันย้อนแย้ง ผมไม่ได้อยากทำร้ายพี่ชายผม เขาเป็นผู้มีพระคุณ แต่เขาทำให้คนที่ผมรักเจ็บปวด ผมจึงจำเป็นต้องทำแบบนี้ ความลับไม่มีในโลก วันหนึ่งที่เขาได้รู้เรื่องทั้งหมด หวังว่าเขาจะไม่เกลียดผม และเพราะครั้งแรกที่ผมเคยโกหกเขามันทำให้ผมรู้ว่าผมไม่ชอบการโกหก ดังนั้นผมจึงหลีกเลี่ยงการโกหกแต่เลือกบอกความจริงเพียงครึ่งเดียว ส่วนคนฟังจะตีความอย่างไร ก็สุดแท้แต่พวกเขาก็แล้วกัน




ในเมื่ออยู่ด้วยกันแล้วไม่มีความสุขก็เลิกแล้วต่อกันเถอะ ผมแค่ช่วยกระตุ้นให้เร็วขึ้นเท่านั้นเอง



ผมเป็นคนเก็บกระดาษโน้ตใบนั้นไปเอง อันที่จริงตั้งใจจะทิ้งมันไปแต่ผมก็ทำไม่ลงเพราะนั่นคือลายมือคุณเทมส์ เหมือนมีเขามาอยู่ใกล้ๆ ผม ที่ผมเอาโน้ตมาด้วยเพราะนิสัยของคุณปาลแล้ว ผมรู้ว่าพวกเขาจะต้องทะเลาะกันแน่นอนแต่จะหนักหรือเบาก็ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ และเหมือนว่ามันคงจะหนักหนาพอดู ผมจัดฉากโทรบอกให้คุณเกศสิรีเอาเอกสารมาให้คุณปาลเซ็นที่ผับหลังจากรู้ว่าคุณเทมส์มาหาคุณปาลที่บริษัทด้วยธุระบางอย่าง หลังจากนั้นผมก็โทรไปหาคุณเทมส์พูดจาหว่านล้อมเขาเล็กน้อย และทำให้เขามาที่ผับแห่งนี้



ผมไม่ได้คาดหวังว่าแผนนี้จะสำเร็จหรอก แต่โชคดันเข้าข้างผม



ในที่สุดพวกเขาก็เลิกกัน



ลึกๆ ผมก็เสียใจที่เห็นคุณเทมส์ร้องไห้ แต่ไม่เป็นไร จากนี้ผมจะดูแลคุณเทมส์ต่อไปเอง



ทุกอย่างดูเหมือนกำลังไปได้ดี คุณเทมส์เปิดโอกาสให้กับผม แต่จู่ๆ วันหนึ่งคุณเทมส์ก็บอกให้ผมเลิกรักเขา เลิกรอเขา เพราะอะไร ผมไม่เข้าใจ ผมรอเขามาหลายปี รอเขามานานมาก ทำไมถึงมาตัดรอนความรักของผมง่ายๆ แบบนี้ เขาบอกว่าเขาไม่ได้รักผม เขาอาจจะไม่รักผมในตอนนี้ แต่อีกหน่อยเขาอาจจะรักผมก็ได้ไม่ใช่หรือ ทำไมไม่ให้โอกาสผมอีกหน่อย



ผมไม่ค่อยมั่นใจหรอกนะ คุณเทมส์เองก็เหมือนกับคนอื่นเหรอ เขาชอบคุณปาลเพราะคุณปาลเหนือกว่าผมทุกอย่างใช่ไหม



เขาบอกว่าเรื่องฐานะไม่ใช่ปัญหา แต่ปัญหามันอยู่ที่ผมเป็นคนของบ้านคุณปาล ผมไม่เข้าใจ ผมผิดด้วยหรือที่เกิดมาในครอบครัวนั้น ผมเลือกเกิดไม่ได้ก็จริง แต่ถ้าเขารับรัก ตอบรับไมตรีของผม ให้ผมพาเขาไปให้พ้นจากที่นั่น ผมก็ทำให้ได้



ผมทำได้นะ ทำได้จริงๆ



ตอนนี้คุณปาลกำลังหาทางกลับไปคืนดีกับคุณเทมส์ มาถึงตรงนี้ผมเริ่มรับไม่ได้ ผมไม่มีความสุข ใจของผมมันร้อนรน ผมกำลังทนไม่ไหว ผมยอมให้คุณเทมส์กลับไปหาคุณปาลอีกครั้งไม่ได้หรอก เพราะนั่นแปลว่า ผมจะไม่มีสิทธิ์อย่างสมบูรณ์อีกครั้ง และคุณเทมส์อาจจะต้องกลับมาเศร้าแบบนั้น แค่คิดถึงผมก็ทรมาน ผมไม่อยากเห็นเขาเศร้า



ผมจึงทำอะไรที่ไม่คาดฝัน นั่นคือ เอกสารแผ่นนั้น




‘ไม่อนุมัติ’




เพื่อให้เขายุ่งอยู่กับงานเหมือนเดิม จนลืมที่จะสนใจคุณเทมส์เหมือนเมื่อก่อน ผมจึงเลือกทำมันลงไป




‘คุณเทมส์ครับ ผมมันโง่และบ้ามากเลยใช่ไหม’






========================================

มาคั่นอารมณ์ด้วยความคิดของชัดเจนเสียหน่อยค่ะ ตั้งแต่เด็กจนโต ลากยาวมาถึงปัจจุบันเลย

กลับมาแล้วค่า คิดถึงทุกคนเลย

เจอกันวันอังคารค่ะ



HASHTAG #ภาคต่อของความรัก

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ mab

  • ชื่อ mab ไม่ได้ชื่อ map
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 693
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-0
อ่าาาาา ชัดเจน เริ่มชัดเจนละ

ตัดใจเหอะชัด ชีวิตชัดต้องหาคนที่รักชัดได้สักคนแหละน่า  :ling2:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ sailom_orn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-1
 :เฮ้อ: อึดอัดไม๋ชัดเจน เกรงใจจนไม่กล้าบอกความต้องการของตัวเอง จากเรื่องเล็กไป เลยทำให้เก็บกด และทำผิดเรื่องใหญ่ :mew5:

ออฟไลน์ panpang

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 497
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
ชีวิตชัดเหมือนจะดีแต่ก็น่าสงสาร  :hao5:

ออฟไลน์ nonlapan

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 156
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-2
ชัดเจนเป็นเหมือนคนแบบทำผิดไปเพราะความไม่รู้อ่ะ แบบทำไปเพราะเหตุผลง่ายๆ แต่ชัดก็น่ารักนะพอได้มาอ่านมุมมองนี้

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
ผิดตั้งแต่คิดจะเสียบแทนแล้วล่
กระตุ้นให้เลิกกัน ชัดเจนก็ยังคิดจะเข้าไปดูแลแทนปาล
ถ้าไม่คิดจะไปแทน เรื่องมันคงพอให้อภัยได้ แต่นี่ขอทำใจก่อนนะ

ออฟไลน์ anythinginitt

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 184
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
อ่านเรื่องชัดเจนแรกๆ นี่แอบจิ้น ปาล-ชัดนะ มาตามเฝ้า ตามดู 555555

ออฟไลน์ aukuzt

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 107
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
พอได้อ่านภาคของชัดเจนแล้วรู้สึกเห็นใจปนเอ็นดู เหมือนน้องเล็กที่ถูกพี่ปาลประคบประหงม อยู่ภายใต้การปกป้องของพี่ แต่พอวันหนึ่งกลายเป็นว่าไม่ใช่น้อง แถมยังเป็นเด็กในบ้าน ความรู้สึกน้อยใจ ผิดหวัง เจียมเนื้อเจียม บวกกับรักอย่างหมดใจ ทำให้หลงทำอะไรผิดๆ อย่างไม่ให้น่าอภัย โดยไม่รู้เท่าทัน. ก็พอจะอภัยให้ชัดเจนได้นะ (คนอ่านลืมง่าย)
อยากให้ชัดเจนได้เจอรักแท้ คนที่จะเข้าใจคนชัดเจน ยอมรับในตัวตนของชัดเจนได้ไวไว

ออฟไลน์ onlyplease

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
เราว่า ชัดเจนดูเหมือนจะดี  แต่มีโมเม้นต์แบบขี้อิจฉานิดๆแต่ทำอะไรไม่ได้  คือร้ายลึก ไม่สำนึกบุญคุณ
คนแบบนี้ จริงๆไม่น่าให้อภัย อย่างเลือกพูดความจริงครึ่งเดียวทั้งๆที่รู้ เป็นคนเจ้าแผนการที่ไม่ค่อยคิดถึงความเดือดร้อนที่จะตามมา  เพราะ บริษัทไม่ใช่ของเรางี้เหรอ ควมคิดทุเรศมาก
.
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

ออฟไลน์ river

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2398
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +231/-3
ชัดเจนบ้าจริงๆแหละ

ออฟไลน์ miikii

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1719
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
นายมันบ้ามากชัดเจน

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ เขมกันต์

  • nothing’s else I can say
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 452
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +164/-9
    • Twitter


ภาค 23  My ring



ฉันทัชก้มลงประกบริมฝีปากลงบนปากบางได้รูปของคนร้องขอ ปลายลิ้นเกี่ยวกระหวัดสอดแทรกเข้าไปในโพรงปากคนใต้ร่าง มือของปาณัสม์ประคองใบหน้าของเขา ส่วนอีกมือจับท้ายทอยของเขาไว้ตามความเคยชิน ฉันทัชวางมือบนหน้าอกของอดีตคนรัก



ใบหน้าเอียงปรับองศาให้พอดีอย่างพอเหมาะพอเจาะ ลิ้นอุ่นดูดดึงกันไปมา ไม่มีใครอยากยอมแพ้กัน กลิ่นที่เคยชินมาร่วมสิบปี บัดนี้กลับได้มาสัมผัสกันอีกครั้ง ทั้งชวนให้คิดถึงและค้นหาไปพร้อมกัน ฉันทัชเลื่อนมือมายึดหัวไหล่ของอีกฝ่ายเสียแล้ว



ปาณัสม์พลิกร่างคนข้างบนให้ตกมาอยู่ใต้อาณัติของตัวเอง เขาถอนริมฝีปากออกมา พร่างพรมจูบไปทั่วใบหน้า หน้าผาก คิ้ว เปลือกตา แก้ม คาง ไม่มีบริเวณใดที่รอยจูบเขาจะว่างเว้นไม่ไปแตะต้อง เขาดูดดึงปากอิ่มของฉันทัชอย่างไม่รู้เบื่อ หยอกเย้าให้ใจสั่น



คนอยู่ด้านบนพรมจูบไล่ระลงมาที่คอของอีกฝ่าย ฉันทัชเงยหน้าขึ้นเพื่อเอาอากาศหายใจเข้าปอด เขายกมือทั้งสองข้างโอบรอบท้ายทอยของปาณัสม์เอาไว้ราวกับกลัวว่าร่างกายจะร่วงหล่นจากเหวสูงชัน ปาณัสม์ลากไล้ร่างกายของอีกฝ่ายด้วยฝ่ามือร้อนจัด อุณหภูมิในร่างกายพุ่งสูงขึ้น โหมกระพือด้วยอารมณ์ที่จวนจะเผาไหม้



มือของปาณัสม์บีบเคล้นสะโพกของฉันทัชไม่เบามือนักด้วยความมันเขี้ยว จนคนถูกบีบรู้สึกเจ็บ เสียงตีดังเพี๊ยะจึงดังขึ้น ปาณัสม์หัวเราะในลำคอ ไม่ได้โกรธที่ถูกตีมือ ปาณัสม์ยืดตัวกลับขึ้นไปด้านบนอีกครั้ง และฉันทัชเองก็กำลังมองทุกการกระทำของอดีตคนรัก เขาเฝ้ารอจูบจากปาณัสม์



ริมฝีปากของทั้งสองคนประกบกันแน่นสนิทอีกครั้ง ลิ้นสีแดงควานสำรวจโพรงปากของปาณัสม์อย่างคล่องแคล่ว ฉันทัชไม่ใช่คนที่ไม่เคยผ่านมือชายหรือชายหนุ่มที่ไม่ประสา เขาไม่ได้เป็นแบบนั้นหลังจากใช้ชีวิตคู่กับอีกฝ่ายมาเนิ่นนาน แค่ไม่ค่อยได้ใช้งานเท่านั้นเอง



พวกเขาใช้เวลาจูบกันยาวนาน ราวกับไม่อยากจะผละออกจากกัน มือของปาณัสม์เลื่อนลงหมายจะดึงกางเกงนอนของฉันทัชออก ทว่าเขากลับถูกมือของเจ้าของกางเกงนั้นดึงเอาไว้ ปาณัสม์เงยหน้ามองอีกฝ่าย เห็นฉันทัชส่ายหน้าเบาๆ เป็นการปฏิเสธ



“ขอโทษที ลืมไปว่าจันทร์ไม่ชอบ” ฉันทัชมองหน้าอีกฝ่าย มือหยุดชะงักลง ดูเหมือนชัดเจนจะล้างสมองปาณัสม์ได้ดี

“ไม่เคยพูดเลยนะว่าไม่ชอบ อย่าคิดเองเออเองคนเดียวสิ” ฉันทัชใช้นิ้วชี้เขี่ยจมูกของปาณัสม์ไปทีหนึ่งเพื่อหยอกล้อ

“อ่าว...เหรอ แล้วทำไม”

“ตอนนี้มันไม่ดีหรอก ไหนขอแค่จูบเฉยๆ ไง” ฉันทัชทวนความต้องการของอีกฝ่าย “คืนนี้พอเถอะ นอนดีกว่าไหม”

“ได้ครับ แต่ขอนอนกอดจันทร์ได้หรือเปล่า”

“คนอะไรได้คืบจะเอาศอก”



คิดเหมือนกันไหมว่าการอ้อนขออะไรแบบนี้ ไม่ค่อยต่างจากหลี่หยางเซิงสักเท่าไหร่ ที่เขาค่อนข้างชอบคุณชาย หลี่มากกว่าใครคงเป็นเพราะส่วนนี้ล่ะมั้ง นิสัยที่เหมือนกัน



ปาณัสม์หลับไปแล้ว มือของชายหนุ่มยังกอดเขาไว้แน่น ฉันทัชกำลังนึกโกรธตัวเองที่ใจอ่อนเกินไป เขาเกลียดคำว่า ‘วัวเคยขาม้าเคยขี่’  หรือ ‘ของมันเคยๆ กัน’  ปฏิเสธไม่ได้เลยว่ามันเป็นความรู้สึกที่จุดไฟด้านอารมณ์ให้ติดได้โดยง่าย เขาสามารถเดาได้ว่าถ้าปาณัสม์ทำแบบนี้กับตัวเขา แล้วเขาจะรู้สึกอย่างไร จะมีความสุขแค่ไหน เมื่อถูกสัมผัส เขาเกลียดที่ตัวเองยังจดจำความรู้สึกนั้นได้ดี



ใจจริงแล้ว ในช่วงเวลานั้น ฉันทัชอยากจะปล่อยตัวเองให้เดินไปถึงที่สุด โดยไม่ต้องสนใจอะไร ในเมื่อเขาโสด ซ้ำยังเป็นผู้ชาย ไม่มีพันธะ หากจะนอนกับผู้ชายอีกสักคนที่ไม่มีพันธะเช่นกันก็คงไม่ผิด ยิ่งอีกฝ่ายเป็นคนรักเก่าด้วย เขายิ่งสบายใจมากกว่าที่จะไปนอนกับคนอื่น แต่เขากลับทำไม่ได้ ถ้ายอมมีความสัมพันธ์กับปาณัสม์ในค่ำคืนนี้ เกรงว่าจะต้องมีปัญหารุงรังตามมาอย่างแน่นอน เขายังไม่พร้อมเดินกลับเข้าไปในวังวนที่ยังหวาดระแวงอยู่



กลัวว่าหัวใจตัวเองจะยอมติดบ่วงขังแล้วไม่กล้าเดินออกมาอีกครั้ง



คนอื่นอาจจะยุติความสัมพันธ์ได้เพียงชั่วข้ามคืน แต่ฉันทัชใช้เวลาสามปีเพื่อดึงตัวเองออกมา เขาไม่เคยทำสำเร็จ ตราบจนปีสุดท้ายที่เขาเริ่มอดทนไม่ไหว หลายต่อหลายเรื่องที่ถูกทำให้คิดว่าปาณัสม์นอกใจ ไม่สนใจและความเบื่อ ประดังโถมเข้าหาเขามากๆ เข้า จนในที่สุดฟางเส้นสุดท้ายได้ขาดออกจากกัน เขาจึงบอกเลิกปาณัสม์ได้เสียที



ถึงแม้จะมารู้ทีหลังว่าส่วนหนึ่งมาจากที่เขาหูเบาเชื่อคำพูดของชัดเจน มันก็สายไปเสียแล้ว...



และต่อให้ไม่มีชัดเจนที่คอยเร่งปฏิกิริยา ฉันทัชก็เชื่อว่าสุดท้ายแล้วพวกเขาก็คงไปกันไม่รอดหรอก ทุกอย่างมันเกิดจากเขาสองคนเท่านั้น ถ้าเขากับปาณัสม์คุยกันและใส่ใจกันมากกว่านี้ มันคงจะจบสวยกว่านี้





....




“คนขี้เซา ตื่นได้แล้วครับ” เสียงทุ้มกระซิบดังข้างหูของฉันทัช เขารู้สึกรำคาญที่ถูกรบกวนการนิทราของตนเอง มือขาวปัดป่ายโบกไปด้วยความไม่ชอบใจ แต่กลับได้ยินเสียงหัวเราะตามมาพร้อมกับสัมผัสข้างแก้ม

 “ง่วง อย่ามายุ่งได้ไหม คนจะนอน” ผลจากการที่ไล่ใครอีกคนให้ออกไป คือสัมผัสของแก้มอีกข้างหนึ่งแทน

“ตื่นเถอะ”

ฉันทัชปรือตาขึ้นมามองคนยิ้มทำหน้าทะเล้นอยู่ข้างกาย “กี่โมงแล้ว”

“เจ็ดโมง” ฉันทัชกลอกตา ที่ไทยเพิ่งจะหกโมง หมอนี่มันบ้า? ตื่นมาวิ่งหรือไงกัน

“ยังเช้าอยู่ จะนอน จะไปไหนก็ไป” คนที่ยังง่วงหยิบหมอนแถวนั้นขึ้นมาปิดหน้าตัวเอง เขาง่วงนอนและไม่ชอบการถูกปลุกทุกวิธี

“ถ้าไม่ตื่น จะปลุกด้วยวิธีของปาลแล้วนะ” แต่ดูเหมือนจะมีอยู่คนหนึ่งที่ไม่ยอมเข้าใจอะไรเลย

ฉันทัชดึงหมอนออก มองหน้าหาเรื่องอีกฝ่าย “ถ้าขืนยังปลุกอีก จะโกรธจริงๆ ด้วย”

“ไม่เอาน่า จันทร์ไม่โกรธปาลหรอก” ปาณัสม์ก้มหน้าลงมาหาคนขี้เซา ทำให้แหวนที่ร้อยอยู่ในสร้อยตกลงมาให้ฉันทัชได้เห็นอีกครั้ง เขามองตามสายสร้อยที่ว่านั่น

“เอาคืนไปดีไหม” ปาณัสม์ถามขึ้น

“ไม่เอาอะ ในเมื่อให้คืนไปแล้ว ก็ไม่อยากเอากลับมาผูกมัดตัวเองอีก” อดีตเจ้าของแหวนปฏิเสธ

“ครั้งนี้จะไม่ใช่การผูกมัด นอกจากความเต็มใจ”

“เชื่อยาก ถอยหน่อยจะลุก” ฉันทัชบอก มันไม่ใช่คำขอร้องแต่เหมือนจะออกคำสั่งมากกว่า

“จะไปไหน อาบน้ำใช่ไหม”

“เปล่า จะกลับไปนอนที่ห้อง”

“พอตอบไม่ได้ก็หนีปาลอีกเหมือนเดิม”

“ไม่ได้หนี แค่ง่วง อยากกลับไปนอน”

“ไม่ได้หนีก็ไม่หนี ให้อีกสิบห้านาที โอเคไหม แล้วต้องลุกไปอาบน้ำ” ปาณัสม์ไม่อยากโต้เถียง ในเมื่ออีกฝ่ายว่าแบบนั้นเขาก็จะว่าตาม

“ปาลจะไปไหนล่ะ เครื่องออกตอนบ่าย ไม่เห็นต้องรีบตื่นแต่เช้า” ฉันทัชคาใจ จะรีบไปไหนของเขา

“ออกไปหาอะไรกินกัน เดินเที่ยวก่อนกลับด้วย ยังไงวันนี้คุณก้องก็ไม่ได้ให้จันทร์เข้าไปทำงานไม่ใช่หรือ”

“อืม เลยจะนอนให้เต็มอิ่มไง”

“ไว้นอนวันหลังน่า วันนี้ไปกินข้าวกับปาลก่อน”

ฉันทัชทำท่าจะปฏิเสธอีกครั้ง แต่เห็นสายตาหงอย หูตกแบบนี้ เขาเลยถอนหายใจแทน “ยี่สิบนาทีแล้วปลุกด้วย” ชายหนุ่มต่อรองอีกห้านาที

“ได้เลย”


ฉันทัชหลับตาลง แต่เขากลับนอนไม่หลับเสียแล้ว






“จันทร์ ตื่นเถอะ”

“อือ” เสียงครางรับแต่ดวงตายังปิดสนิท

“ตื่นเถอะๆ ลุกได้แล้ว”

“ไม่เอา ง่วง เมื่อคืนกว่าเครื่องจะลงได้ ดีเลย์ไปตั้งสามชั่วโมง” ฉันทัชตอบ เขาเพิ่งนอนหลับช่วงรุ่งสางนี่เอง

“สิบโมงแล้วครับ”

“บ่ายโมงนะ” ฉันทัชต่อรอง

“ปาลให้สุดๆ แค่เที่ยงนะ เราไม่เจอกันมาตั้งครึ่งเดือนแล้ว ปาลคิดถึง อยากคุย อยากกอด อยากฟัดจันทร์”

ฉันทัชพยายามลืมตามามองคนงอแง “สิบเอ็ดโมง ปลุกนะ”

“ได้เลย” รางวัลของฉันทัชที่ได้ตอบแทนกลับมาคือรอยยิ้มของปาณัสม์ที่เขาหลงใหล




เหตุการณ์แบบนี้มันเหมือนเมื่อก่อน เหมือนช่วงเวลาที่เขากับปาณัสม์คบกันในช่วงแรกๆ ปาณัสม์ยังมีบางอย่างที่เหมือนเดิม แต่เพราะความจำเจที่อยู่ด้วยกันมานานทำให้เราละเลยกันไปใช่ไหม


‘ถ้าเรากลับมาคบกัน เราจะไม่ทำให้ทุกอย่างเป็นเหมือนเดิมใช่ไหม’


ฉันทัชหลุดความคิดนี้ออกมา แต่แล้วก็ต้องขมวดคิ้ว


‘อย่าเลย มันไม่ดีหรอก’



ชายหนุ่มพลิกตัวนอนคว่ำ หน้าจมลงไปในหมอนเพื่อสะกดกลั้นความคิดเลยเถิดเหล่านั้น เขากำลังพาตัวเองไปสู่จุดเดิม ทั้งที่เดินออกมาได้แล้วแท้ๆ จะกลับไปอีกทำไม


เอวของฉันทัชถูกดึงเข้าไปหาอะไรบางอย่าง จากที่นอนคว่ำอยู่กลายเป็นนอนตะแคงหลังชนกับหน้าอกของปาณัสม์ในเวลานี้


“เดี๋ยวก็หายใจไม่ออกหรอก นอนไม่หลับ ทำไมไม่ตื่นขึ้นมาเสียที” เสียงอดีตคนรักดังขึ้นจากด้านหลัง

“ยังไม่ครบสิบนาที”

“ถ้าไม่หลับแล้วก็ลุกเถอะ” ต้นคอของฉันทัชรู้สึกกำลังถูกสัมผัสจากอะไรบางอย่าง

“ขี้เกียจ” ฉันทัชตอบ มันยังเช้าเกินไป

“ถ้าไม่ลุก จะนอนกอดไว้แบบนี้”

“ตามสบาย”

“ไม่หวงตัวเลยเหรอ” ปาณัสม์แกล้งถาม

“เมื่อวานก็กอดนี่ ทำมากกว่ากอดก็ทำไปแล้ว ไม่ทันแล้วมั้ง” ฉันทัชพูดเอื่อยๆ ไม่ได้รู้สึกเขินอายหรือกระดากอะไร

“พูดแบบนี้ อยากทำมากกว่านี้เลย”

“อันนั้นคงจะยากหน่อย”

“ให้เวลาเพิ่มอีกสิบนาที หลับเถอะ เผื่อจะอารมณ์ดีกว่านี้” ปาณัสม์ไม่ต่อความยาว เขาเลือกพูดเรื่องอื่นแทน กดจูบลงบนแก้มอีกฝ่ายและลูบผมให้อย่างเบามือเหมือนกำลังกล่อมเด็กคนหนึ่งนอน




ปาณัสม์กำลังพยายามและต่อสู้เรื่องคนรัก เรื่องงานและเรื่องของชัดเจน เขาเป็นคนที่ทุ่มเทอะไรแล้วมักจะจดจ่อกับสิ่งใดสิ่งหนึ่งจนลืมทุกอย่างที่เหลือไปหมด อาจจะให้ความสำคัญบ้างแต่น้อยเหลือเกิน เขาเคยเลือกงานเป็นความสำคัญอันดับหนึ่งของชีวิต เพราะคิดว่าฉันทัชจะไม่ไปไหน จะอยู่กับเขาตลอดไป




เขาคิดผิด ไม่มีใครทนต่อการถูกละเลยและการเพิกเฉยได้ และเมื่อเขาละเลยอีกฝ่ายมากขึ้นเรื่อยๆ สิ่งที่ได้ตอบแทนกลับมาคือความรู้สึกของฉันทัชที่ไม่สนใจเขาเช่นกัน เราพูดกันน้อยลง คุยกันน้อยลง โดยปกติปาณัสม์จะไม่พูดเรื่องงานให้ฉันทัชฟังอยู่แล้ว เพราะไม่อยากให้อีกฝ่ายเป็นห่วง แต่พอสถานการณ์บานปลาย กลายเป็นว่ายิ่งไม่จำเป็นต้องพูดถึงเรื่องงานอีกต่อไป     



แม่คอยเตือน พี่ชายคอยย้ำ แม้กระทั่งลุงชมก็ยังเคยบอกเขา แต่ปาณัสม์ไม่เคยจะเก็บเอามาใส่ใจ เมื่อได้ทำงานเขาจะลืมทุกอย่าง เมื่อเลิกงาน กลับบ้านมาเจอกับความเงียบ ความเย็นชาโดยที่เขาลืมคิดไปว่าสาเหตุหลักมาจากการกระทำของเขาตั้งแต่ทีแรก เขาจึงไม่ค่อยอยากกลับบ้าน ไม่อยากทะเลาะ ไม่อยากเหนื่อยใจ เพราะไม่อยากจะจากกันด้วยความรู้สึกแบบนี้




ถึงจะเป็นความทุกข์ทรมานแบบนั้น เขาก็ไม่ได้อยากจะเลิกกับอีกฝ่ายเท่าไหร่ เพราะอย่างน้อยเวลากลับมาบ้านเขาก็ยังเจอฉันทัช เหมือนชีวิตยังมีใครอีกคนที่รอหรือถ้ากลับบ้านแม่ อย่างน้อยก็ยังเจอคนในครอบครัว เขาคงคิดไปคนเดียวเพราะอีกฝ่ายไม่อยากจะทนอีกต่อไป



ฉันทัชตัดสินใจทำในสิ่งที่เขาคิดว่าไม่น่าจะเกิดขึ้นได้ ถึงแม้จะเคยรู้สึกโล่งใจตอนที่เลิกแต่พอสำนึกได้ปาณัสม์ก็ไม่กล้าเดินกลับเข้าไปในชีวิตของอีกฝ่ายในทันที เขารู้สึกกลัวใจของฉันทัช ไม่รู้ว่าคนอื่นรวบรวมความกล้านานเท่าไหร่ แต่เขาใช้เวลาเกือบปีและพอมีโอกาส เขาจึงค่อยๆ เดินหน้าเรื่องหัวใจตัวเองเสียที



แต่อดีตคนรักของปาณัสม์นั้นใจแข็งเหลือเกิน นั่นคือสิ่งที่ชายหนุ่มรู้ดีมาโดยตลอด ฉันทัชเป็นคนที่ใช้หัวใจนำทางชีวิตก็จริง แต่ไม่ใช่เสมอไป เมื่อคืนนี้ถ้าไม่ใช่เพราะเขากำลังกลุ้มใจและกังวลกับเรื่องของชัดเจนนั้น ฉันทัชคงไม่ยอมโอนอ่อนให้ถึงขนาดนี้



กระนั้นเขาก็ยังโลภมากอยู่ดี เขาสร้างวันนี้ให้เหมือนตอนที่เรายังคบอยู่อีกครั้งหนึ่ง ไม่รู้ว่าฉันทัชจะรู้ตัวหรือเปล่าว่าเหตุการณ์นี้มันกำลังซ้อนทับอดีตของเรา ปล่อยให้เป็นโลกเพ้อฝันไปก่อนก็แล้วกัน ตอนนี้แค่ฉันทัชไม่ผลักไสเขาก็คงมากเกินพอแล้ว



พรุ่งนี้เขาต้องกลับไปเผชิญหน้ากับความเป็นจริง ทั้งฉันทัช ทั้งชัดเจน




...




ฉันทัชถือน้ำเปล่ามาสองขวด เดินกลับมาก็เห็นปาณัสม์กำลังยืนหลังตรงทอดสายตาไปยังอ่าววิกตอเรีย เกาะฮ่องกง อยู่ ฉันทัชเห็นอีกฝ่ายจากด้านหลัง เขาไม่รู้ว่าปาณัสม์แสดงสีหน้าอย่างไร แต่เดาว่าคงไม่ใช่เรื่องที่ดีนักหรอก


มือขาวของฉันทัชยื่นขวดน้ำไปให้ “ไง คิดเรื่องอะไรอยู่ล่ะ”

“เปล่า”

“โกหกไม่เก่ง”

“เรื่องชัดหรือ” ฉันทัชลองเดา

“ก็ไม่เชิง” ปาณัสม์รับน้ำขวดนั้นขึ้นมายกดื่ม “มีเรื่องชัดนิดหนึ่ง แต่มีเรื่องจันทร์เยอะกว่า”

“เรื่องของเทมส์?” ฉันทัชถาม “มีอะไรให้ต้องคิดด้วยเหรอ” เขาหัวเราะออกมา วันนี้ลมค่อนข้างเย็นสบาย ทำให้เขารู้สึกผ่อนคลาย

“อยากอยู่แบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ” ปาณัสม์หันมามองคนที่ยืนด้านข้าง

“อยู่คนเดียวได้ไหมล่ะ เทมส์ไปนั่งนะ เมื่อย” ทั้งที่เข้าใจความหมายดี แต่ฉันทัชก็เลือกตอบไปอีกความหมายหนึ่ง

“ไม่ใช่สักหน่อย” ปาณัสม์นิ่วหน้าที่ถูกอีกฝ่ายทำลายบรรยากาศดีๆ แบบนี้ไปอย่างง่ายดาย

“เมื่อยจริงๆ เดินไปซื้อน้ำตั้งไกลอะ”

ปาณัสม์จับมือข้างที่ว่างของฉันทัชเอาไว้กลัวอีกฝ่ายจะเดินไปหาที่นั่งจริงๆ “แม่เคยถามปาลว่า ปาลจะอยู่ได้ไหมถ้าไม่มีจันทร์”

ฉันทัชเลิกคิ้ว “ปาลตอบว่า?”

“อยู่ได้”

“ก็เก่งนี่” ฉันทัชเอ่ยชม ถึงในใจจะรู้สึกเจ็บจี๊ดนิดหน่อยกับคำตอบของอีกฝ่าย

“แต่เอาเข้าจริง อยู่ไม่ได้” ปาณัสม์หัวเราะ “ปาลรู้ว่าตัวเองบ้ามาก ที่ทำเป็นเก่ง”

“เขาว่าคนรูปปากแบบนี้ คือพวกปากดีและปากจัดด้วย” ฉันทัชดึงปากของอีกฝ่ายเล็กน้อย แต่ดึงไม่ค่อยได้หรอกเพราะปาณัสม์ค่อนข้างบาง

“งั้นเหรอ” ปาณัสม์หันกลับไปมองอ่าววิกตอเรียอีกครั้ง “เมื่อก่อนปาลทำตัวไม่ดีมากเลยใช่ไหม”

“รู้ตัวด้วยเหรอ” ฉันทัชยิ้ม “ปาลทำตัวดีแล้ว แต่ช่วงหลัง ไม่รู้สิ ปาลคงเครียดเรื่องงานแล้วเรื่องอื่นด้วยมั้ง” ฉันทัชตั้งใจละเรื่องของชัดเจน เขาจะไม่พูดเรื่องนี้

“อีกอย่างเราก็อยู่ด้วยกันมานาน ต่างละเลยกัน เทมส์เองก็ทำไปไม่น้อยหรอก ตอนปาลเมาๆ เทมส์ก็ถีบตกเตียงไปบ่อยเหมือนกันนะ” ฉันทัชหัวเราะเต็มเสียงหลังจากที่เขาสารภาพออกไป

“ห๊ะ!?” ปาณัสม์ตาแทบจะถลนออกจากเบ้าเมื่อได้ยิน “ถีบปาลงั้นเหรอ”

“ช่ายยย” ฉันทัชลากเสียงยานคางพลางทำหน้าทะเล้นยิ้มรับไม่บิดเบือน ปาณัสม์ขยับเข้ามาใกล้ ฉันทัชรีบถอยเท้าอัตโนมัติ “เรื่องมันเป็นอดีตน่า ผ่านมาแล้วก็ให้มันผ่านไป” เขารีบพูดต่อ

“มันน่าตีนัก ถีบปาลได้ไงเนี่ย ถึงว่าบางทีตื่นมา ทำไมตัวเขียวๆ เราก็นึกว่าเมาแล้วเดินชนโต๊ะ”

“คนเมาก็ร้ายกาจเหอะ พูดจาไม่ค่อยรู้เรื่อง ตะคอกใส่บ้างล่ะ โวยวายเสียงดังบ้างล่ะ สารพัดให้ปวดหัว”

“ปาลแย่ขนาดนั้นเลยหรือ”

“อืม”

“ไม่รู้ตัวเลย ปาลไม่เป็นแบบนั้นแล้วนะ ไม่เมาแล้ว” ปาณัสม์ยิ้มพลางกระชับมือของอีกฝ่ายให้แน่นขึ้น “จันทร์ครับ”

“หืม?” ฉันทัชตอบรับด้วยความหวาดระแวง ปาณัสม์จะมาไม้ไหน

“กลับไทยไปคราวนี้ ให้ปาลทำอะไรให้จันทร์บ้างได้ไหม”

“อยากทำอะไรให้ล่ะ”

“เรื่องแรกก็รถ ปาลรู้นะ ถ้าไทน์กับชัดไม่ว่าง จันทร์ต้องกลับบ้านเอง”

“อืม แต่ก็ไม่ได้ลำบากอะไรนะ แต่เรื่องนี้เทมส์ซื้อเองได้ ปาลไม่ต้องช่วยหรอก”

“เมื่อไหร่ล่ะ ไทน์บอกจันทร์ขี้งกไม่ยอมซื้อง่ายๆ”

ฉันทัชหรี่ตามอง “แอบคุยกับไทน์เหรอ”

“นิดหน่อย”

“ตอนไหน เมื่อไหร่ ปกติไม่ถูกกันนี่นา เจอหน้ากันทีไรกัดกันตลอด”

“ไทน์มันชอบหาเรื่องปาลก่อน” ปาณัสม์รีบฟ้อง

“พอกันนั่นแหละ ปาลเองก็ใช่ย่อย” แต่ฉันทัชเลือกไม่เข้าข้างใคร “คุยอะไรกับไทน์ เจ้าน้องตัวแสบไม่เล่าให้เทมส์ฟังเลย”

“ปาลกับไทน์เจอกันในงานหนึ่งโดยบังเอิญ ก็เลยคุยกันเรื่องจันทร์ รู้ไหมไทน์ด่าปาลเละเลย” ปาณัสม์ยิ้ม เขาไม่ได้โกรธที่ถูกน้องสาวอีกฝ่ายด่าเลย

“เรื่องอะไร”

“ตั้งแต่เรื่องรถ ลามไปถึงเรื่องเงินหรือค่าใช้จ่ายในบ้านอะไรแบบนี้ ที่ไม่เคยให้จันทร์เลย เอาจริงๆ นะ ปาลไม่เคยคิดเลย คือไงดีอะ ปกติแม่ดูแลให้หมด ปาลเลยคิดไม่ถึงจริงๆ”

“ไม่เป็นไรหรอก เทมส์เองก็ปากหนักไม่ถามปาลเองด้วย อีกอย่างมันก็ไม่ได้เดือดร้อนอะไรมากมาย”

“ปาลรู้สึกเหมือนทำทุกอย่างผิดพลาดตลอดเวลา” ฉันทัชมองคนหูลู่คอตกแบบนี้แล้วก็ต่อว่าไม่ลง

“บอกแล้วไงว่าไม่เป็นไร”

“สัญญาว่าต่อไปจะไม่เป็นแบบนี้อีก”

“ไม่ต้องสัญญาหรอก เรื่องอนาคต ใครจะไปรู้กันเล่า” ฉันทัชบอกปัด

“ให้ปาลแก้ตัวใหม่นะ”

ฉันทัชยิ้ม “สะสมความดีเอาไว้เยอะๆ เทมส์จะคอยให้ดาวไว้ในใจ เมื่อไหร่ที่ดาวมันเต็มฟูในอกเหมือนเดิมค่อยว่ากันอีกทีก็แล้วกัน”



ปาณัสม์ทำท่าจะเถียงอะไรกลับ แต่ถูกฉันทัชห้ามเอาไว้ได้ทัน “ห้ามมีข้อแม้ ตอนนี้เทมส์ชอบชีวิตในตอนนี้ ถ้าจะรับปาลกลับเข้ามาในชีวิตของเทมส์อีกครั้ง เทมส์ก็อยากทำให้แน่ใจว่ามันจะไม่เป็นเหมือนเดิม ไม่ใช่แค่ปาลนะ หมายถึงเทมส์ด้วย มันคงไม่แฟร์ถ้าจะให้ปาลต้องทำทุกอย่างเพื่อเทมส์คนเดียว เข้าใจหรือเปล่า”

“เข้าใจ”

“เพราะฉะนั้น ตอนนี้ก็ให้เป็นแบบนี้ไปก่อน เรื่องของอนาคตก็ให้มันเป็นอนาคตนะ”

ปาณัสม์ปลดสร้อยที่สวมอยู่ออกจากคอ “อยู่เฉยๆ” เขาสั่งฉันทัชที่ทำท่าจะขยับตัวหนี ก่อนจะสวมสร้อยนั้นลงไปแทน

“อะไร เอามาให้เทมส์ทำไม”

“ถ้าจันทร์จะถอดมันก็ขอให้มีแค่สองเรื่องเท่านั้นคือเอาแหวนที่อยู่ในสร้อยมาใส่ไว้ในที่ที่ของมัน กับไม่อยากสวมมันอีกต่อไปแล้ว ถึงตอนนั้นปาลจะได้รู้ตัวเสียที”



ฉันทัชไม่ตอบอะไรนอกจากใช้มือจับแหวนที่ร้อยอยู่ในสร้อยเส้นนี้เท่านั้น










========================================



ใครลืมว่าปาลขออะไรไว้ กลับไปย้อนอ่านตอน 21 ได้นะคะ

เทมส์ ยัยเด็กขี้ใจอ่อน



เจอกันวันศุกร์ค่ะ และ เรื่องนี้ใกล้จะจบแล้วค่ะ ทั้งหมดมี 28 ตอนค่ะ



HASHTAG #ภาคต่อของความรัก

ออฟไลน์ nonlapan

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 156
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-2
น้องต้องใจแข็งนะ สะสมดาวช้าๆๆๆ ยังไม่อยากให้จบเลยค่ะ

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
แข็งใจไว้หน่อย กลับไปเร็วเดี๋ยวจะว่าเราใจง่ายได้ 55555

ออฟไลน์ miikii

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1719
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
หงอยแล้วหงอยอีก ฮืออออออออ
มันไม่มีคนผิดไปซะทุกอย่างอย่างน้อยก็ผิดด้วยกันทั้งคู่ TT
ก็ขอให้แก้ไขให้ดีขึ้นกว่าเดิมๆๆๆ  :hao5:

ออฟไลน์ sailom_orn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-1
(≧∇≦) เทมส์เริ่มใจอ่อนเเล้ว แต่ขออีกนิดให้ปาลทรมานใจเล่น :laugh:

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
ดีแล้วที่ยังรู้ความผิดและคิดปรับให้มันถูก
ไม่ใช่เอาแต่โทษใครหรืออะไร

ออฟไลน์ onlyplease

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
ใจแข็งเข้าไว้นะจันทร์
แอ๊วผู้ให้ครบ100คนค่อยกลับไป
ถ้า อิอดีตสามี มันยังรอ
ถ้าไม่รอ ก็ช่างแม่งงง
 :katai3: :katai3: :katai3: :katai3:

ออฟไลน์ Duangjai

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 655
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-1
……


จันทร์อยากเดินต่อไปอย่างมั่นคงและมั่นใจในอนาคต

ปาลเองก้อคงต้องแสดงความจริงใจและจริงจัง

ส่วนชัดเจน เป็นอะไรที่ต้องถนอมน้ำใจแต่ก้อต้องให้เด็ดขาดนะ


 :katai4:   :katai4:  :katai4:   :katai4:  :katai4:  :katai4:



 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด