ภาคต่อของความรัก - ภาคพิเศษ ภาคแห่งความวุ่นวาย END หน้า 13 UP!! 09/02/2019
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ภาคต่อของความรัก - ภาคพิเศษ ภาคแห่งความวุ่นวาย END หน้า 13 UP!! 09/02/2019  (อ่าน 70507 ครั้ง)

ออฟไลน์ river

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2398
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +231/-3
ความสัมพันธ์มันตัดกันยาก

ออฟไลน์ mab

  • ชื่อ mab ไม่ได้ชื่อ map
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 694
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-0
เล่นตัวเยอะๆ อย่ากลับไปง่ายๆ นะจันทร์
สวยเลือกได้ซะอย่าง :o8: :o8:

ออฟไลน์ เขมกันต์

  • nothing’s else I can say
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 452
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +164/-9
    • Twitter

ภาคพิเศษ ลอยกระทง




“ที่ลอยกระทงมีตั้งเยอะตั้งแยะ ทำไมต้องเจาะจงมาที่นี่ด้วย” ฉันทัชบ่นระหว่างเดินออกมาจากรถไฟฟ้าใต้ดิน


“คนก็เยอะ อากาศจะหายใจก็ไม่ค่อยมี” คนที่บ่นมาแต่แรกยังบ่นต่อเรื่อยมากระทั่งเมื่อถึงใกล้ปลายทาง “ขอโทษครับ”


“เอาแต่บ่นเลยเดินชนคนอื่นเลย เห็นไหม” ปาณัสม์พูดขึ้นบ้าง เขาเดินตามหลังฉันทัชมาเรื่อยๆ เพราะคนที่แห่มาจากไหนไม่รู้มากมายมหาศาล ทำให้เขาสองคนไม่สามารถเดินเคียงข้างกันบนทางเท้าได้

“ทำไมปาลจะต้องมาที่นี่ด้วย ไม่ได้คิดจะมาลอยกระทงสักหน่อย ไปที่ไหนก็ได้” ฉันทัชยังบ่นต่อ เมื่อพวกเขาเดินเลี้ยวเข้ามาในรั้วของมหาวิทยาลัยชื่อดัง

“ที่ไหนคนก็เยอะน่า แต่ที่นี่น่าสนใจที่สุด”


เสียงกลองตีสนั่น กิจกรรมแต่ละซุ้มมีให้เห็นผ่านตาระหว่างทาง ทำให้เพลินตาไม่น้อย แต่ฉันทัชก็ยังไม่ลืมคำถามของตัวเอง


“น่าสนใจยังไง” ฉันทัชติดใจเอ่ยถามเสียงดังขึ้นพลางมองสระน้ำขนาดปานกลางที่ล้อมรอบด้วยหนุ่มสาวนักศึกษาพากันออกมาลอยกระทง

“จันทร์ไม่เห็นเหรอว่า ที่นี่มีแต่เด็กหนุ่มสาว กระชุ่มกระชวยดีไหมล่ะ” คนตอบทำหน้าทะเล้น “โอ๊ย ตีปาลทำไมอะ”

“คิดจะมามองเด็กแถวนี้เหรอไง แก่แล้ว เจียมตัวบ้าง” ฉันทัชว่าพลางค่อนขอดอีกฝ่าย

หน็อยแน่!พาเขามาเพื่อให้มาดูอะไรแบบนี้เหรอ

“แก่อะไรกัน ยังไม่สามสิบเสียหน่อย เราสองคนเพิ่งยี่สิบแปดเอง” ปาณัสม์เถียง

“นักศึกษาอายุระหว่างสิบแปดถึงยี่สิบสอง นี่เกินมากี่ปีล่ะ ถึงว่าตัวเองไม่แก่ โคแก่อยากกินหญ้าอ่อนหรือไง” ฉันทัชยังฉุน

“ไม่เอาน่า ไม่โกรธสิครับ ปาลพาจันทร์มาที่นี่เพราะปาลเป็นศิษย์เก่าไง ปาลไม่รู้จะพาไปไหน”

“แค่นั้น?” ฉันทัชปรายตามอง “ถ้าไม่รู้ก็พาไปดูหนังก็ได้” เขาบอกเพราะพักนี้เขาไม่ค่อยได้ไปโรงหนังเลยเนื่องจากปาณัสม์งานชุกรัดตัวเหลือเกิน

“ไม่หรอก มีอีกข้อ”

“อะไร?”

“ช่วงนี้ปาลไม่ค่อยได้พาจันทร์ออกมาเที่ยวใช่ไหม จะพาไปผับก็คงไม่ดี มีแต่ริ้นไรคอยจะมาวุ่นวายกับจันทร์ แต่ถ้ามาที่นี่ ในเมื่อมีแต่เด็กๆ ก็คงไม่มีใครสนใจจันทร์หรอก ใช่ไหมเล่า” ปาณัสม์บอกความรู้สึกที่แท้จริง

ฉันทัชหลุดขำ “คิดว่าได้ผลเหรอ” ฉันทัชเดินออกมา ทิ้งระยะห่างจากปาณัสม์เล็กน้อย

“จันทร์จะทำอะไร”

“รอสิบนาที แล้วมาดูกัน”

“ทำไม” ปาณัสม์เอ่ยถามโดยไร้เสียงเพราะตอนนี้เสียงรอบข้างดังจนไม่ได้ยินเสียงกันเองแล้ว


ฉันทัชเลือกเดินออกมายืนใกล้ๆ สระน้ำ ทำท่าทีเหมือนร้อนรนหาอะไรสักอย่างอยู่แถวนั้น ปาณัสม์ยืนกอดอกมองคนรักกำลังพิสูจน์อะไรบางอย่างให้เขาเห็น เขามองนาฬิกาเริ่มจับเวลาถอยหลัง สิบนาทีคือสิบนาที


ห้านาทีผ่านไป ฉันทัชยังเดินเตร่ไปมา ปาณัสม์ยิ้มออกมานิดหน่อยที่เหมือนจะไม่มีอะไรเกิดขึ้น


ล่วงเข้านาทีที่เจ็ด ปาณัสม์คิดว่าเขาจะไม่รออีกแล้ว เตรียมก้าวขาจะเดินไปหาอีกฝ่าย แต่ทว่าฉันทัชเหมือนจะมีคนเข้าไปหาเขาก่อนเสียแล้ว ปาณัสม์เดินเข้าไปใกล้เพื่อให้ได้ยินบทสนทนา ไม่มีทางที่เขาจะปล่อยให้ฉันทัชคุยกับเจ้าเด็กหน้าอ่อนนี่โดยที่เขาไม่รู้เรื่องเป็นอันขาด


“ขอโทษครับ” เด็กนั่นว่า

“ครับ?” ฉันทัชเงยหน้าขึ้นตอบ

“หาอะไรอยู่หรือเปล่าครับ ทำของตกเหรอ”

“ครับ ผมทำสร้อยข้อมือหล่นหาย ไม่แน่ใจว่าตรงไหน แต่คิดว่าน่าจะเป็นตรงนี้ล่ะครับ” ฉันทัชอธิบาย

“ผมช่วยหาไหมครับ”

“จะรบกวนเกินไปหรือเปล่า ไปลอยกระทงเถอะครับ” ฉันทัชบอกด้วยความเกรงใจ

“ไม่รบกวนเลย ยินดีต่างหากครับ คุณ...เอ่อ”

“เทมส์ครับ”

“นัทครับ วิศวะไฟฟ้า ปีสาม”

“ยินดีที่ได้รู้จักครับ” ฉันทัชยิ้มให้


ปาณัสม์ยืนมอง มือกำแน่นเล็กน้อย เขากำลังอดทนมองดูคนรักกำลังเล่นหูเล่นตากับเจ้าเด็กที่บอกว่าชื่อนัทอะไรนี่


เหอะ! นัทครับ วิศวะไฟฟ้า ปีสาม ปาณัสม์อยากจะพ่นใส่หน้า รู้จักไหม เขาเนี่ย พี่ปาลคนดังที่นี่เลยนะเว้ย ไอ้เด็กนี่ชักไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง


“ว่าแต่ทำไมนัทไม่เคยเห็นหน้าเทมส์เลย เทมส์เรียนคณะไหน ปีอะไรเหรอ”

“เทมส์เรียนอักษร”

“ทำไมนัทไม่เคยเห็นเลย”

“นัทเคยมาคณะเทมส์ด้วยเหรอ คนที่คณะออกเยอะแยะจะเห็นได้ไง เทมส์ยังไม่เคยเห็นนัทเลย” ฉันทัชแสร้งตอบเลี่ยงๆ

“สาวอักษรน่ารัก” นัทว่าอย่างนั้น ฉันทัชจึงยิ้มตอบ

“งั้นเหรอ แต่เทมส์ไม่ใช่นะ”

“นัทรู้ แต่เทมส์น่ารักกว่าสาวที่คณะเทมส์ตั้งเยอะ” ฉันทัชคิดในใจ พ่อหนุ่มนี่ปากหวานเหมือนกัน


ในขณะที่ปาณัสม์กำลังด่าคนที่ยืนข้างฉันทัชในใจ ‘ไอ้เด็กนี่ เดี๋ยวจะทำให้หาทางกลับคณะไม่ถูกเลย’


“พูดเหมือนกำลังจะจีบเทมส์เลย” ฉันทัชแกล้งทำเป็นไม่เข้าใจก่อนจะรีบเปลี่ยนเรื่อง “เทมส์คิดว่าสร้อยน่าจะตกตรงนี้แน่ๆ” เขาย่อตัวลง อีกฝ่ายจึงย่อตัวลงตาม


มือขาวควานหาสร้อยข้อมือตรงพื้นดินท่ามกลางแสงไฟสลัวๆ ฉันทัชเงยหน้ามองปาณัสม์ที่ยืนอยู่ข้างหลังนัท ทำหน้าตาเป็นต่อและเหมือนกำลังท้าให้อีกฝ่ายรอดูอะไรบางอย่างที่จะตามมา ปาณัสม์ขยับเท้าเข้ามาใกล้ ฉันทัชส่ายหน้าเป็นการปฏิเสธไม่ให้ปาณัสม์เข้ามา

ฉันทัชตั้งใจให้มือของเขาชนกับนัทหนุ่มวิศวะโดยบังเอิญ “ขอโทษครับ แสงมันน้อย ผมมองไม่เห็น”

“ไม่เป็นไรครับ” นัทว่าพลางดึงมือฉันทัชไว้ “มือนิ่มแบบนี้อย่าหาเองเลย เดี๋ยวนัทหาให้ดีกว่า”

“เกรงใจ ช่วยกันหาจะได้เจอไวๆ ดีไหม” ฉันทัชสบตากับอีกฝ่าย เขาประดิษฐ์รอยยิ้มนั้นให้คนหวังดี


ปาณัสม์คิดว่าเขาควรจะยุติละครเรื่องนี้เสียที เขาปลดสร้อยข้อมือของตัวเองออกก่อนจะสาวเท้าเข้าไปใกล้


“สร้อยอยู่นี่” ปาณัสม์บอกเสียงนิ่ง ทำให้นัทที่หันหลังให้ตกใจเล็กน้อย สองคนที่หาของจึงพากันยืนขึ้น

“ตกอยู่ตรงไหนเหรอ ขอบคุณนะปาล” ฉันทัชเดินกลับไปหาคนรัก พลางส่งเสียงราวกับดีใจเสียเต็มประดาที่หาของเจอ

“ข้างหลังคนนี้” ปาณัสม์ว่าก่อนจะชี้มือไปที่นัทหนุ่มผู้หวังดีแต่ดันโชคร้าย

“เขาชื่อนัท มาช่วยจันทร์หาสร้อยน่ะ” ฉันทัชบอกปาณัสม์ก่อนจะหันไปทางนัทต่อ “ขอบคุณนัทมากนะ ที่มาช่วย เทมส์หาสร้อย”

“ไม่เป็นไรครับ”

“ถ้าหายไปต้องเสียใจแน่เลย ดีนะที่แฟนเทมส์หาจนเจอ” ฉันทัชตั้งใจจะจบเรื่องนี้เหมือนกัน

“แฟน?”

“อื้อ ใช่ นี่แฟนเทมส์เอง”

“งั้นนัทไปนะ”

“บายนะ”


นัทเด็กวิศวะปีสามรีบเดินออกไปจากบริเวณนี้ทันที เมื่อรู้ว่าคนที่เขาดันมาสนใจกลับมีเจ้าของแล้ว และหน้าตาของอีกฝ่ายก็ดูไม่ค่อยสบอารมณ์เขาเหมือนกัน คงจะไม่พอใจที่เขามายุ่มย่ามกับเทมส์ล่ะมั้ง



เกือบไปแล้วไหมล่ะ



“กลับบ้าน” ปาณัสม์ดึงแขนของฉันทัชก่อนจะบอกเจตนาของตนเอง

“เพิ่งมาเอง รีบกลับได้ไง” ฉันทัชทำเสียงเหมือนไม่ทุกข์ร้อนอะไร

“เล่นอะไรแบบนี้”

“ปาลก็รอดูอยู่ไม่ใช่หรือไง”

“เด็กสมัยนี้มันมองไม่ออกเหรอไงว่าคนละรุ่นกับมัน”

“หยาบคาย คนแก่มีแต่ปาลนั่นแหละ จันทร์ไม่ใช่เสียหน่อย” ฉันทัชค้าน “จะไปไหนอะปาล ยังไม่กลับนะ” ฉันทัชท้วงพลางขืนตัวเอง

“ยังไม่ได้พากลับบ้าน”

“อ้าว แล้วจะไปไหน”

“พาจันทร์ไปล้างมือ”

“อ่อ ก็ดีเหมือนกัน ตะกี้คุ้ยดิน มือเลอะ”

“ไม่ใช่เสียหน่อย” ปาณัสม์บอก “พาไปล้างคราบมือไอ้เด็กนั่นออกต่างหาก”

“เวอร์จริง”

“ไม่เวอร์ จะเล่นละครอะไร ทำไมต้องเปลืองตัวด้วย”

“เปลืองอะไรล่ะ ก็วิน-วินนะ” ฉันทัชยักไหล่

“พูดแบบนี้แสดงว่าอยากกลับบ้านใช่ไหม”

“ล้อเล่นน่าปาล” ฉันทัชรีบออกตัว พอดีพอร้ายจะอดเดินเล่นต่อ

“ไปล้างมือก่อน” ปาณัสม์มองคนรักตาขุ่นก่อนจะพาไปห้องน้ำเพื่อล้างมือตามความตั้งใจเดิม “อุตส่าห์พามาที่นี่แล้วยังมีคนสนใจอยู่อีก ปีหน้าพาไปที่ไหนดีวะ” ปากบางของเจ้าตัวยังบ่นต่อไประหว่างทางเดินไม่หยุด ทำให้ฉันทัชอมยิ้มไปตลอดทาง


หลังจากล้างมือเสร็จ ทั้งคู่ก็กลับมาที่เดิมอีกครั้ง ผู้คนยังหนาตาเหมือนเดิม ยิ่งดึกยิ่งคึกคัก แสงเทียนในสระน้ำส่งแสงแข่งกันเหมือนกลุ่มแสงที่รวมตัวกันกลุ่มใหญ่


“ตกลงว่าไม่ลอยกระทงหรือ” ฉันทัชถามเมื่อเห็นร้านขายกระทง

“จันทร์อยากลอยหรือ”

“ไม่หรอก ไม่อยากเพิ่มขยะ”

“อืม ปาลก็เหมือนกัน มาเดินดูรับบรรยากาศก็พอ”

“เห็นด้วย” ฉันทัชพยักหน้าตาม

“ถ้าน้องปัณณ์ได้มาด้วยคงจะดี” ปาณัสม์พูดขึ้นตอนที่เดินผ่านร้านขนมร้านหนึ่ง

“นั่นสิน้า” ฉันทัชเห็นด้วย ตอนนี้ปัณณ์หรือเด็กหญิงศราลักษณ์อายุอานามราวสามขวบ

“ปีหน้าไม่ให้น้องปัณณ์ไปกับพี่ปอนด์และพี่เกดแล้ว” ปาณัสม์โอด

“น้อยๆ หน่อยอาปาล ยังไงหลานก็เป็นลูกพี่ชายปาลนะ น้องปัณณ์อยู่กับพ่อแม่ก็ต้องมีความสุขมากกว่าสองอาอย่างเราอยู่แล้ว”

“พาหลานไปเที่ยววันอื่นก็ได้นี่ ทำไมต้องวันลอยกระทง” ปาณัสม์ยังโอดต่อไม่หยุด

“เด็กกว่าน้องปัณณ์ก็อาปาลนี่แหละ สำหรับจันทร์นะ วันไหนที่มีน้องปัณณ์อยู่ด้วย จันทร์ก็ดีใจแล้ว” ฉันทัชยิ้มเมื่อนึกถึงหลานรักที่ตอนนี้ไปเที่ยวกับบิดามารดา

“แล้วอาปาลล่ะ อาจันทร์ดีใจหรือเปล่าเวลาอาปาลอยู่ด้วย” ปาณัสม์ว่าพลางก้มลงมาใกล้ใบหน้าของฉันทัช

“เอาหน้าออกไปห่างๆ หน่อย คนเยอะแยะ อายเขา”

“ก็เสียงมันดัง ขี้เกียจตะโกนนี่นา”

“ไม่เชื่อ” ฉันทัชบอก คนอย่างปาณัสม์นี่มันเจ้าเล่ห์จะตายไป

“ดีใจหรือเปล่าครับ”

“อืม ดีใจมากๆ ถ้าจะให้ดีกว่านี้ก็ช่วยทำงานให้น้อยลงหน่อย จันทร์อยู่คอนโดคนเดียวมันเหงา”

“เหงาก็มาหาปาลที่บริษัทสิ”

“ไม่เอาหรอก ไม่อยากไปกวน อีกอย่างปาลมีประชุมบ่อย ไปหาก็คงไม่ค่อยได้เจอ”

“ไม่งอนนะ คนดี ช่วงนี้งานเยอะจริงๆ แต่ปาลจะรีบเคลียร์งานแล้วพาจันทร์ไปเที่ยว โอเคไหม”

“สัญญา?”

“สัญญาครับ”






========================================

ตอนพิเศษสั้นๆ ค่ะ เป็นเรื่องราวสมัยที่เขายังคบกันอยู่ ตามอายุเลยค่ะ

เป็นการแต่งแบบ ไร้พล็อตใดๆ ค่ะ และแต่งอย่างรวดเร็ว หากมีคำพูดแปลกๆ หรือคำผิดขออภัยค่ะ

ชอบไม่ชอบ บอกกันได้นะคะ



เจอกันวันศุกร์ค่ะ


HASHTAG #ภาคต่อของความรัก


ออฟไลน์ sailom_orn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-1
 :pig4: ขอบคุณที่ให้มองเห็นมุมหวานๆของคู่นี้่ะ

ออฟไลน์ miikii

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1719
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
เสน่ห์แรงตลอดดดดดด

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ กาแฟมั้ยฮะจ้าว

  • Let me hug you tight, and I’ll make you feel how important you are.
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 920
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +570/-0

ออฟไลน์ mab

  • ชื่อ mab ไม่ได้ชื่อ map
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 694
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-0
 o18 ขี้หึงจังปาล

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
ชอบที่เทมส์ยังเสน่ห์แรงแบบนี้จริง

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ เขมกันต์

  • nothing’s else I can say
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 452
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +164/-9
    • Twitter

ภาค 24 Are you happy or pretend to be?


ก้องภพมองหญิงสาวตรงหน้าที่เอาแต่เขี่ยผักในจานเล่นไปมา ไหนบอกว่าหิว พออาหารมาแล้วกลับนั่งเขี่ยเล่นอยู่อย่างนั้น


“ไทน์”

“หืม?” หญิงสาวขานรับชื่อตัวเองอัตโนมัติ โดยไม่ได้สนใจว่าใครเรียก

“หิวไม่ใช่เหรอ”

“อืม”

“แล้วทำไมไม่กิน เอาแต่เขี่ยเล่นแบบนี้ใช้ได้ที่ไหน”


อินทัชได้ยินคนตรงหน้าบ่นก็เลยหยุดการกระทำนั้น มองอีกฝ่ายตรงๆ “บ่นเป็นพ่อเลย นี่ไทน์นะ ไม่ใช่น้องกาย”

“จะเด็กหรือผู้ใหญ่ ถ้าทำแบบนี้ก็ต้องโดนบ่นทั้งนั้น”

“โอเค กินแล้วๆ” อินทัชเริ่มลงมือทานเพราะไม่อยากฟังอีกฝ่ายพูดต่อ

“เป็นอะไร วันนี้ดูเหม่อๆ มีอะไรก็เล่าให้ผมฟังบ้าง ก็ได้นะ” ก้องภพมักจะถามอินทัชด้วยคำพูดแบบนี้อยู่เสมอ แต่เป็นอินทัชเองที่ไม่ค่อยจะพูดอะไร


หญิงสาววางช้อนส้อมลงบนจาน ชั่งใจอยู่ครู่หนึ่ง จึงพูดขึ้น “ก่อนที่คุณจะไปฮ่องกง ฉันเจอปาล หุ้นส่วนของคุณที่งาน งานหนึ่ง”

ก้องภพเลิกคิ้ว “เหรอ มีอะไรแปลกหรือเปล่า คุณน่าจะรู้จักเขาอยู่แล้วนี่ หรือว่าเขาทำท่ามาจีบคุณ ผมไม่ชอบนะแบบนี้”

“หึ ให้มันน้อยๆ หน่อย ยังไม่ได้เป็นอะไรกันเลย” อินทัชแค่นเสียง “อีกอย่าง คนแบบนั้นให้ฟรีแถมทองเท่าน้ำหนักตัว ยังไม่เอาเลย”

“ทำไมพูดถึงเขาแบบนั้นกันเล่า ถ้าผมมีน้องสาวก็อยากให้คบกับปาลนะ ดูเอาการเอางานดี เรื่องมารยาท การศึกษาไม่ต้องพูดถึง ดีครบสูตร”

“ดีแต่เปลือกน่ะสิ” อินทัชพูดต่อทันที

“คุณไม่ชอบปาลรึ” ก้องภพจับได้ถึงความไม่ชอบมาพากล

"ก็ไม่เชิง แค่เจอหน้ากันแล้วมันอดไม่ได้ที่จะด่าน่ะ”

“เพราะอะไร คนเราจะไม่ชอบ ไม่ถูกชะตา มันต้องมีสาเหตุนะคุณ” ก้องภพถาม มุมปากกระตุกยิ้มออกมาเล็กน้อยด้วยความขบขันในท่าทางของหญิงสาว

อินทัชกัดริมฝีปากอย่างขัดใจ “ก็มันแย่งเทมส์ไปอะ” หญิงสาวประกาศออกมาด้วยความไม่พอใจ

“แย่งเทมส์? ไทน์ นี่คุณกำลังพูดอะไร อย่าบอกนะว่า คุณกับเทมส์...” ก้องภพหรี่ตาด้วยความไม่ไว้ใจ หญิงสาวที่เขาตามเทียวไล้เทียวขื่อมาร่วมปี

“หยุดความคิดเน่าๆ ของคุณเลยนะ คุณก้องภพ” อินทัชอยากจะเอาส้อมจิ้มหน้าคนกล่าวหา “อย่าบอกนะว่า คุณ” อินทัชทวนคำพูดเหมือนกับก้องภพเมื่อสักครู่นี้

“คุณไม่รู้เรื่องปาลกับเทมส์?”

“เรื่องอะไร” ชายหนุ่มทำหน้าสงสัย “ผมไม่รู้ พวกเขาสองคนทำไมหรือ”


อินทัชหน้าเสีย เธอไม่รู้ว่าควรจะพูดต่อดีหรือไม่ “พูดมาเถอะ หรือคุณก็ไม่ไว้ใจผม”

“เปล่าค่ะ ไม่ใช่อย่างนั้น ฉันแค่คิดว่าถ้าเทมส์รู้อาจจะไม่ค่อยพอใจ”

“ไม่เป็นไร เอาเป็นว่าผมจะไม่บอกเทมส์ดีไหม”

“ไม่พูดแน่นะ”

“ด้วยเกียรติของผมเลย”

“มีกับเขาด้วยหรือ” หญิงสาวเบ้ปาก บ่นพึมพำกับตัวเอง “ปาลกับเทมส์เคยคบกันมาก่อน เพิ่งเลิกกันเมื่อปีที่แล้ว”

ก้องภพทำหน้านิ่งไม่พูดอะไร จนอินทัชรู้สึกไม่ค่อยวางใจ “นี่...ตกใจหรือ”

“เรื่องที่พวกเขาเคยคบกันนั่นผมย่อมตกใจอยู่แล้ว แต่ผมแค่รู้สึกไม่ค่อยดีนิดหน่อย เพราะให้เขาสองคนทำงานด้วยกันแทบจะตลอดเวลา”

“ถ้าเทมส์ไม่บ่น คุณก็อย่าไปคิดมากเลย”

“ที่เทมส์ไม่บ่นเพราะเป็นเรื่องงานหรือเปล่า” ก้องภพยังไม่สบายใจ

“ก็อาจจะใช่ แต่ถ้าเทมส์ไม่พอใจจริงๆ คงเอามาบ่นให้ฉันฟังบ้างแล้วล่ะ แต่นี่ไม่มี เพราะฉะนั้นคุณเลิกกังวลใจเถอะ”

“แล้วมันเกี่ยวอะไรที่คุณเจอกับปาล”

“เกือบลืมเลย” อินทัชเลยเริ่มเล่าเหตุการณ์วันนั้นให้อีกฝ่ายฟัง








...



“ไทน์” ปาณัสม์เรียกชื่อหญิงสาวเมื่อเดินมาหยุดข้างกายอินทัช

“มีอะไร”

“เราขอคุยด้วยหน่อย”

“คุยอะไร เราไม่อยากคุย” อินทัชสะบัดเสียง เธอไม่อยากคุยกับปาณัสม์

“พูดดีๆ ด้วยแล้วนะ” ปาณัสม์โต้กลับ

“ใครใช้ให้มาคุยล่ะ กลับไปเลย ไม่อยากคุยด้วย ถ้ารู้ว่ามางานนี้แล้วจะเจอนายล่ะก็ เรายกเลิกงานนี้ดีกว่า”

ปาณัสม์สะกดอารมณ์ “ขอคุยด้วยหน่อย อยากคุยเรื่องจันทร์”

“เลิกกันไปแล้วไม่มีอะไรต้องคุยกันอีกแล้วมั้ง อ้อ ได้ข่าวว่ากลับมาง้อพี่ชายเราอีกรอบเหรอ ครั้งนี้เราจะขัดขวางทุกอย่าง ไม่ยอมให้นายทำสำเร็จหรอก” อินทัชประกาศออกไป

“ขอโทษ แต่ขอคุยหน่อยได้ไหม อยากคุยจริงๆ” ปาณัสม์บอกน้องสาวอดีตคนรัก เขาอยากคุยกับอินทัชเพราะเรื่องของอีกคน อินทัชทำท่าจะปฏิเสธอย่างไร้เยื่อใย แต่พอเห็นสีหน้าของคนขอร้อง ทำให้เธอบอกปัดไม่ลง



ในใจลึกๆ แล้วเธอก็ไม่ได้จงเกลียดจงชังอะไรปาณัสม์หรอก ก็แค่หวงและห่วงพี่ชายเท่านั้นเอง


“หาเก้าอี้นั่งก่อนแล้วกัน ขี้เกียจยืน มันเมื่อย”

“ตามเรามาทางนี้”

“ว่ามา” พอมีที่นั่ง อินทัชก็เข้าเรื่องทันที

“จันทร์สบายดีไหม”

“ไหนว่าจะกลับไปง้อ แต่ดันไม่รู้สารทุกข์สุกดิบของเทมส์หรือไง”

“ภายนอกน่ะรู้ แต่ภายในน่ะไม่รู้”

“ที่คิดจะกลับไปจีบเทมส์เนี่ย เพราะอะไรกันแน่ หรือทำเพื่อแม่? แม่ให้กลับมาง้อเทมส์ใช่ไหม” อินทัชทำตาโตเมื่อคิดว่าเข้าใจอะไรบางอย่าง

“เปล่า ไม่ใช่แม่หรอก เป็นเราเอง” ปาณัสม์ไม่ได้นั่งลงข้างอินทัช เขายืนอยู่ฝั่งตรงข้าม มองอีกฝ่ายที่นั่งอยู่แทน “เราอยากกลับไปคบกับจันทร์จริงๆ”

“จริงจังแค่ไหนล่ะ ถ้ากลับไปคบแล้วจะทิ้งขว้างแบบเดิมอีกหรือเปล่า”

“จริงจังถึงขนาดที่ว่าเราจะไม่ให้จันทร์ต้องเสียใจที่กลับมาคบกับเราอีก”

“ตอนนั้นก็พูดแบบนี้ ตอนที่อยากได้เทมส์ไปจากเราก็พูดแบบนี้ แล้วไง พอเราเปิดโอกาสให้ ทำไมไม่ดูแลพี่เราให้ดี ทำไมต้องทำให้พี่เราเสียใจ” อินทัชเสียงสูงขึ้นเล็กน้อย

“เราขอโทษ เราผิดเองที่ละเลยพี่ชายไทน์มาตลอด”

“บอกตรงๆ นะ เราไม่รู้สึกดีใจเลยที่รู้ว่านายอยากจะกลับมาคบกับพี่เรา รู้ไหม เทมส์โทรมาร้องไห้กับเรากี่ครั้ง เราต้องปลอบเทมส์กี่ครั้ง เราอยากร้องไห้แค่ไหนที่เห็นพี่เราเสียใจแบบนั้น แต่เราก็ทำไม่ได้ เราจะร้องไห้ให้เทมส์เป็นกังวลไม่ได้” อินทัชบอกอีกฝ่ายเสียงสั่น

 “เรา...” ปาณัสม์พูดไม่ออก เพราะเขาไม่เคยเห็นอินทัชในโหมดอารมณ์นี้มาก่อน ปกติหญิงสาวเอาแต่แขวะเขา กัดเขาบ้าง ตามประสาของคนที่เหม็นหน้ากัน

“รู้ไหม เราขอให้เทมส์เลิกกับนายไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง แต่เทมส์ไม่เคยเลิกเลย เราไม่รู้ว่าทำไมเทมส์ต้องทน พอเราถามเทมส์ก็บอกว่านายไม่เคยทำผิดสัญญา สัญญาบ้าบออะไรวะ!” อินทัชระบายออกมาด้วยความอัดอั้น หลุดสบถคำที่ไม่สุภาพออกมาด้วย น้ำตาเม็ดเล็กไหลเอ่อลงมาจากเบ้าตา หญิงสาวใช้นิ้วปาดมันออกอย่างเบามือเพราะกลัวเปื้อนเครื่องสำอาง



ปาณัสม์ไม่รู้ต้องทำตัวอย่างไรเมื่อตกอยู่ในสถานการณ์นี้ เขาจึงทำเพียงแค่ยื่นผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกไปให้ อินทัชรับมันไว้โดยไม่ปฏิเสธ แต่ก็ไม่ได้ขอบคุณปาณัสม์เช่นกัน


“รู้ไหม เราไม่ชอบที่นายทำกับพี่เราแบบนั้น ให้พี่เราออกจากงาน ให้พี่เราอยู่แต่ในบ้าน เงินก็ไม่ให้ เทมส์มันต้องหางานพิเศษทำเพราะมันดันปากหนักไม่ขอเงินจากนาย เราเกลียดที่พี่เราเป็นแบบนี้แล้วยังบ้าจี้ เชื่อฟังคำพูดของนายทุกอย่าง เทมส์มันตาบอดเพราะนายคนเดียว”

“ไม่ทำอีกแล้ว เราจะให้อิสระกับจันทร์ ไม่บังคับอะไรอีกแล้ว” ปาณัสม์ตกใจ เขาไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อนกระทั่งคำพูดที่พรั่งพรูออกมาจากปากของอินทัช

“รู้ไหม เทมส์มันบูชาความรัก ดูออกบ้างไหมที่เทมส์ทำตัวให้ความหวังคนอื่นไปทั่ว จริงๆ แล้วมันแค่เรียกร้องความสนใจ เทมส์ชอบทำเหมือนไม่สนใจ ไม่ยี่หระในความรู้สึก แต่จริงๆ มันคิดมากกว่าใคร มันไม่กล้ารักใครเลยแล้วพอเทมส์ได้รัก มันก็ยิ่งกลัว มันกลัวเราไม่รัก กลัวแม่นายไม่รัก และมันกลัวนายไม่รักมันมากที่สุด”


อินทัชกลืนก้อนในลำคอลงไปก่อนจะพูดต่อ “รู้ไหม ว่าเพราะอะไรเทมส์ถึงเป็นแบบนั้น ตอนพวกเราเป็นเด็กทั้งที่หน้าตาเราเหมือนกัน พ่อกับแม่กลับห่วงเรามากกว่าเทมส์เพราะเราตัวเล็ก ผอมกว่าพี่ แม่ดูแลเรามากกว่าเทมส์เพราะกลัวเราป่วย กลัวเราไม่สบาย เทมส์ไม่เคยพูดหรือแสดงอาการอะไรเลย แต่เทมส์นอนร้องไห้ บางคืนก็ละเมอว่าพ่อกับแม่ไม่รักเทมส์เหมือนที่รักไทน์บ้างเหรอ พ่อกับแม่ไม่ใช่ไม่รักเทมส์ เขาแค่เป็นห่วงเรามากกว่าเทมส์เท่านั้น แต่เทมส์ไม่เข้าใจ”

“จันทร์ไม่เคยเล่าเรื่องพวกนี้ให้ฟังเลย”

“เทมส์ไม่พูดหรอก เทมส์มันปากหนักเหมือนที่มันไม่เคยถามอะไรจากนายเลย ทุกครั้งถ้าเราอยากรู้ เราต้องเค้นถาม เทมส์ถึงจะยอมพูด”

“ต่อไปเราจะถามจันทร์ให้มากขึ้น”

“เรายังไม่ได้บอกว่าจะยอมเปิดโอกาสให้นายอีกครั้งนะปาล พี่เราเจ็บขนาดนั้น คิดว่าเราจะยอมง่ายๆ เหรอ”


ปาณัสม์เริ่มเมื่อยขา เขาจึงเปลี่ยนใจเดินมานั่งเก้าอี้ที่ว่างข้างตัวอินทัช “เราอยากอยู่กับจันทร์จริงๆ แต่ถ้าเขาอยู่กับเราแล้วต้องทุกข์ขนาดนี้ เราไม่ทำแล้วก็ได้ ให้จันทร์เจอคนใหม่คงจะดีกว่า”


อินทัชหันไปมองคนที่นั่งข้างๆ “ถ้าเทมส์จะรักคนอื่น ป่านนี้คงทำไปแล้ว ตัวเลือกดีๆ เข้ามาก็เยอะ แต่พี่บ้าของเรามันตัดทิ้งหมด ต่อหน้าเรา เทมส์ยิ้มตลอด ทุกการกระทำของเทมส์พยายามบอกเราว่าเทมส์ไม่เป็นไร ไม่ต้องเป็นห่วง แต่ยิ่งมันไม่ร้องไห้ ยิ่งปกปิดแบบนี้ เรามองหน้าเทมส์ก็รู้ว่ายังรักนาย ตัดนายไม่ขาด นั่นล่ะคือคำตอบที่นายถามเราว่าเทมส์เป็นยังไง” อินทัชถอนหายใจแล้วพูดต่อ

“ถ้านายรับปากว่าจะดูแลพี่เราให้ดีอย่างที่พูดไว้จริงๆ เราก็จะไม่ห้าม” หมดกันอินทัช ทั้งที่จะตั้งป้อมขัดขวางอีกฝ่ายเต็มที่ พอเอาเข้าจริงก็ทำไม่ลง “จะทำอะไรก็รีบทำ ก่อนที่หมามันจะคาบไปแดก”

“พูดไม่เพราะ ถ้าเป็นน้องปัณณ์ เราตีตายเลย”

“กล้าตีหลานเหรอ นายมันอ่อน ไม่กล้าทำหรอก” อินทัชดูถูกอีกฝ่ายทันที

“ถูกของเธอ เอาเข้าจริง เราก็ไม่กล้าตีหลานหรอก” ปาณัสม์ยิ้ม “พอเธอพูดถึงเรื่องหมา...เรารู้เรื่องชัดที่มาจีบจันทร์แล้ว”

“รู้แล้วเหรอ ฉลาดขึ้นเหมือนกันนะ” หญิงสาวพอน้ำตาเหือดแห้งก็กลับเข้าโหมดปากกรรไกรดังเดิม

“เปล่า เราไม่ได้ฉลาดขึ้น ชัดบอกเราเอง” ปาณัสม์สารภาพ

“ชัดเจนคงเอาจริง แต่เสียใจแทนชัดด้วยนะ เราให้เทมส์ไปตัดความหวังของชัดแล้ว และต่อให้เทมส์ไม่มีใคร เราก็จะไม่ยอมให้เทมส์ไปคบกับชัดเด็ดขาด”

“ชัดเจนไม่ได้แย่ขนาดนั้น”

“นี่..” อินทัชเรียกอีกฝ่ายอย่างไม่พอใจ “ชัดเจนเป็นศัตรูหัวใจนายนะ พูดแบบนี้ได้ไง”

“น้องเราเป็นคนดี”

“ถ้าเป็นคนดี คงไม่ตีท้ายครัวพี่ชาย หาเรื่องยุแยงให้คนเขาแตกกันหรอก”

“ยุแยงอะไร” ปาณัสม์ขมวดคิ้วพลางถาม

“นายไม่รู้เรื่องเลยหรือไง” อินทัชจึงเล่าเรื่องที่รู้มาจากฉันทัชให้ปาณัสม์ฟัง ถึงแม้พี่ชายของเธอจะขอร้องไว้ว่าห้ามเล่าให้ใครฟัง แต่ปาณัสม์มีสิทธิ์ที่จะรู้เรื่องนี้เหมือนกันเพราะมันเกี่ยวกับชายหนุ่มโดยตรง

“เราไม่รู้เลย” ปาณัสม์หน้าซีดเผือดเมื่อฟังหญิงสาวเล่าจนจบ

“น้องชายที่นายรัก มันทำนายเสียเจ็บเลยไหมล่ะ”

“ชัดคงโกรธเรามาก ชัดบอกเราเหมือนกันว่าไม่พอใจ ชัดเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดที่เราทำตัวแย่ๆ กับจันทร์” ปาณัสม์พูดอย่างปลงตก “ทุกอย่างมันเกิดจากตัวเราทั้งนั้น”

“ใช่ นายทำทุกอย่างแย่ แต่พี่เราก็ผิดเหมือนกันที่ไม่พูด ไม่ถาม เอาแต่เฉย นายกับพี่เราต้องคุยกันให้มากกว่านี้ ต่อให้ไม่มีชัดเจนในวันนั้นหรือวันไหน ถ้าสองคนยังเป็นอยู่แบบนี้ สุดท้ายก็เลิกกันอยู่ดี”

“อืม เลิกกันครั้งนี้เราได้เรียนรู้อะไรเยอะเลย”

“ใส่ใจกับคู่ของตัวเองหน่อย” อินทัชได้ทีจึงสอนไปอีกหนึ่งข้อ “แล้วก็ขอโทษที่เราเสียงดัง โวยวายร้องไห้ใส่อะ พอดีเราสติแตกไปหน่อย เราไม่เคยพูดเรื่องเทมส์กับใครเลย มันอัดอั้น”

“ไม่เป็นไร เราขอโทษเหมือนกันที่ทำให้เธอต้องทุกข์ไปด้วย”

“ช่างเถอะ ยังไงเทมส์ก็เป็นพี่เรา”

“แล้วไง หายสติแตกยัง อยากให้เรากอดปลอบหน่อยไหม คิดเสียว่าเราเป็นพี่ชายไทน์อีกคนก็ได้”

“จะบ้าหรือไง เทมส์ได้หึงตาย หึงเรานะ ไม่ใช่นาย”

“เรามีน้องชายแล้ว” จู่ๆ ปาณัสม์ก็พูดขึ้น “แต่จริงๆ เราอยากมีน้องสาวอีกคนนะ”

“มาบอกเราทำไม บอกแม่สิ”

“แม่มีไม่ได้ พอคลอดเรา หมอก็ห้ามแม่มีลูกอีก แม่อยากมีลูกสาวลูกชายเพิ่ม เหมือนเราที่อยากมีน้องชายกับน้องสาว ไม่คิดบ้างเหรอว่าแม่รักจันทร์กับเทมส์มาก เพราะตรงตามที่แม่อยากได้นั่นแหละ”

“อย่างนั้นเหรอ”

“อืม แม่อยากได้ลูกแฝดนะ แต่กรรมพันธุ์บ้านเราไม่มีเชื้อแฝดเลย พึ่งหมอหลายครั้งก็ไม่สำเร็จ จันทร์กับไทน์ทำให้แม่สมหวังนะ รู้ตัวไหม”

“รักแม่จัง” อินทัชพูดขึ้น ต้องขอบคุณฉันทัชที่พาเธอเข้ามาในครอบครัวนี้ ได้เจอกับคุณหญิงกิ่งกานต์ ทำให้เธอรู้สึกเหมือนยังมีแม่อยู่บนโลกนี้

“ว่าไง ให้เรากอดปลอบไหม น้องไทน์?”

“น้องบ้าอะไรล่ะ ไม่เอา เดี๋ยวเราไปกอดเทมส์ก็หาย” อินทัชปฏิเสธ “ดูให้หน่อย หน้าเราเลอะหรือเปล่า”

ปาณัสม์มองอยู่ครู่หนึ่งก็ตอบ “ไม่เลอะ”

“แน่ใจ?” อินทัชถามกลับไปแต่ในใจเริ่มหวาดระแวงเพราะกลัวถูกแกล้ง หญิงสาวจึงหยิบกระจกพกพาอันเล็กจากกระเป๋าขึ้นมาส่อง แต่ก็ไม่เจอคราบหรือรอยเลอะบนใบหน้าจริงๆ

“ขอบคุณโลกนี้ที่มีเครื่องสำอางกันน้ำได้ กลับเข้าไปในงานกันเถอะ” อินทัชพูดอย่างสบายใจ





...



“เรื่องหลักมันก็แค่นี้ ส่วนพวกเรื่องจุกจิก ยิบย่อยคงไม่ต้องเล่าหรอกเนอะ” อินทัชบอกก้องภพ แต่ทว่าชายหนุ่มที่นั่งฟังกำลังคิดถึงอะไรบางอย่าง หรือว่าตอนที่ไปฮ่องกงด้วยกันครั้งล่าสุด สาเหตุที่ปาณัสม์มีสีหน้าไม่ค่อยสู้ดีนั้นจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องที่อินทัชเพิ่งเล่าให้ฟัง



อันที่จริงเขาคิดว่าเป็นเรื่องอื่นด้วยซ้ำ มันคือเรื่องที่เขารับรู้มาตั้งแต่แรก หากไม่ได้พูดหรือทำอะไรลงไป มีข่าวมาถึงหูเขาว่า ปาณัสม์ได้มีการยกเลิกคำสั่งการผลิตสินค้าส่งออกไปเกาะฮ่องกง แต่คำสั่งยกเลิกก็ถูกเปลี่ยนแปลงกลับกลายเป็นผลิตสินค้าได้อย่างเรียบร้อยและทันเวลา ก้องภพไม่ได้ยื่นมือเข้าไปยุ่งและไม่ได้สนใจจะไปสอบถามเพราะเห็นว่าหุ้นส่วนของเขาแก้ไขปัญหาดังกล่าวได้เรียบร้อยแล้ว


“เป็นอะไรคุณก้อง ทำไมทำหน้านิ่งแบบนั้น” หญิงสาวถามด้วยความสงสัยที่อีกฝ่ายเงียบไปแต่กลับแสดงสีหน้านิ่งเฉย

“ได้ยินแล้วมันน่าน้อยใจ”

“อะไร”

“คุยกับเทมส์ แทนตัวเองว่าไทน์ คุยกับปาล แทนตัวเองว่าเรา แต่เวลาคุยกับผม แทนตัวเองว่าฉัน” ก้องภพพูดขึ้น

“คุณเป็นอะไรเนี่ย”

“ไหนแทนตัวเองว่าไทน์กับผมสิ”

“บ้าหรือไง จำไม่ได้เลยว่าคุณเป็นคนคิดเล็กคิดน้อยแบบนี้ด้วย” อินทัชรู้สึกเขินขึ้นมาจึงพูดต่อว่าเพื่อกลบเกลื่อนความรู้สึกตัวเอง

“ตั้งแต่ที่รู้จักผู้หญิงชื่อไทน์”

“เพ้อเจ้อใหญ่แล้ว ไม่นึกว่าคุณจะมีโมเมนต์อะไรแบบนี้เหมือนคนอื่น”

“แบบไหนครับ?”

“ก็แบบที่งอแงหรืออยากได้อะไรแบบนี้อะ”

“ไม่เคยเป็นเหมือนกัน เพิ่งเคยเป็นเนี่ยแหละ”

“พูดให้ดีใจ?”

“เปล่า ผมพูดจริงๆ จากประวัติผม คุณคงรู้ดี ผมไม่มีความจำเป็นต้องทำแบบนั้นกับผู้หญิงคนอื่น จริงไหม”

“คงงั้นมั้ง” อินทัชบอก ว่ากันตามตรงเธอก็เห็นพ้องตามที่ก้องภพพูด

“คุณเขินแล้วน่ารักเหมือนกันนะ” ก้องภพพูดอย่างที่ตาเห็น

“บ้าไปใหญ่แล้ว ใครเขินอะไร ไม่มีเสียหน่อย” อินทัชจึงโวยวายมากกว่าเดิมเพราะอายที่ถูกจับได้

“ชอบผมหรือยัง ถ้าชอบผมก็ตอบตกลงคบกับผมเถอะ” ก้องภพเดินหน้าไล่รุกอีกฝ่าย

“นี่ก็มากกว่าคนอื่นแล้ว”

“ไม่คบ?” ก้องภพย้ำถาม “หรือห่วงชื่อเสียง”

“ไม่ได้ห่วงเรื่องนั้นหรอก วงการมายา มันเละเทะไปหมด อีกอย่างถ้าประกาศตัวว่ากำลังคบกับคุณด้วย ฉันคงยิ่งดังเพราะจับคุณได้สำเร็จ” อินทัชหัวเราะ คนในวงการรู้กันทั่วว่าก้องภพเปลี่ยนสาวบ่อยแค่ไหน ชายหนุ่มไม่ใช่เป็นแค่เพียงนักธุรกิจ แต่นามสกุลมารดาที่พ่วงมาด้วยเป็นถึงนามสกุลเก่าแก่ ผู้ดีเก่าที่มีแต่คนนับหน้าถือตา

“แล้วติดอะไร”

“ขอให้คำตอบทีหลังได้หรือเปล่า อยากให้สบายใจหมดห่วงเรื่องของเทมส์ก่อน”

“ถ้าพี่ชายคุณใจแข็งไม่กลับไปคบกับปาลสักที ผมไม่ต้องรอไปอีกนานหรือ”

“รอไม่ได้ก็ไม่เป็นไรนะ พอดีฉันไม่รีบ”

“ใครบอกว่าผมรอไม่ได้”

“ไม่รู้สิ แต่ถ้าคุณรอได้ เมื่อถึงตอนนั้น ไทน์จะให้คำตอบคุณแน่นอน โอเคไหม”



========================================

กลับเข้าสู่สถานการณ์เดิมค่ะ

หากสังเกตดีๆ ไทน์กับปาล ไม่เคยเจอกันสักครั้งเลย เพราะเขาไม่ค่อยถูกกันค่ะ

แต่จริงๆ ไม่ได้เกลียดกันน้า



HASHTAG #ภาคต่อของความรัก



ออฟไลน์ sailom_orn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-1
 :-[ คู่ไทม์ คุณก้องก็มา  :mew1:

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ miikii

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1719
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
ไทน์รักเทมส์มากๆเลยน้า  :katai2-1:

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ nonlapan

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 156
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-2
อยากได้แยกคู่ไทน์จัง 555555 คู่เด็กจีนด้วย คู่ชัดด้วย อยากอ่านไปหมดเลยยยย

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
ทีนี้คุณก้องจะแค่ลุ้นหรือจะลงมือช่วยคู่จันทร์กับปาล อิอิ

ออฟไลน์ mab

  • ชื่อ mab ไม่ได้ชื่อ map
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 694
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-0
ปาลกะไทม์กัดกันดีจริง 555

ออฟไลน์ TheDoungJan

  • ขอบคุณนักเขียนที่คนที่สร้างทุกตัวละครขึ้นมานะคะ(♡˙︶˙♡)
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 682
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
โถ่คุณก้องมีน้อยใจที่ไทน์แทนตัวว่าฉันด้วย :pig4:

ออฟไลน์ river

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2398
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +231/-3
เป็นคู่ที่ดูมุ้งมิ้งดีจัง

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ เขมกันต์

  • nothing’s else I can say
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 452
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +164/-9
    • Twitter

ภาค 25 It’s time to get better




‘เจอกันหน่อยได้ไหมครับ’



ชัดเจนกำลังยืนอ่านข้อความที่ถูกส่งเข้ามาในโทรศัพท์มือถือของเขา ช่วงจังหวะที่เขากำลังยืนต่อคิวซื้อกาแฟอยู่ที่ร้านในตึกบริษัท และเมื่อพบว่าผู้ส่งเป็นใครทำให้เขายิ่งแปลกใจ หัวสมองตีกันพัวพันไปหมดว่าฉันทัชอยากเจอเขาเพราะอะไร



ชัดเจนเพิ่งเห็นว่าข้อความถูกส่งมาตั้งแต่เจ็ดโมงเช้า แต่เขาเพิ่งเห็นตอนใกล้จะสิบโมง ชายหนุ่มกำลังจะกดตอบข้อความกลับไปแต่อีกฝ่ายก็ส่งมาอีกเสียก่อน




‘ผมยืนอยู่ข้างหลังชัด’


CHAN_P sent a photo


‘ซื้อกาแฟให้แล้ว’





ชัดเจนหันหลังกลับไปก็เจอคนที่ส่งข้อความยืนอยู่ด้านหลังเขาจริงๆ ฉันทัชแต่งตัวด้วยชุดทำงาน ยืนถือแก้วกาแฟอยู่ ฉันทัชมาที่นี่ได้อย่างไร ชายหนุ่มเดินออกจากแถวแล้วตรงดิ่งมาหาฉันทัชทันที



“รู้ได้ไงครับว่าผมอยู่ที่นี่” ชัดเจนถามตอนที่รับกาแฟมาจากอีกฝ่ายพลางกล่าวขอบคุณ

“ถามพี่ปอนด์มาน่ะ มานั่งตรงนี้กันเถอะ” ฉันทัชมองหาโต๊ะว่างก่อนจะเดินนำไป

“มาได้ไงครับ”

“คุณก้องมีธุระมาคุยกับพี่ปอนด์นิดหน่อย ผมเลยขอตัวออกมา”

“เหรอครับ”

“เข้าเรื่องดีกว่า ชัดคงสงสัยว่าผมอยากคุยเรื่องอะไร คืออย่างนี้ผมรู้เรื่องโพสต์อิทหรือเรื่องที่ชัดโกหกผมหลายๆ ครั้งตลอดหลายปีที่ผ่านมา”

“ผมไม่ได้โกหก” ชัดเจนแย้ง

“โอเคๆ ผมพูดผิดไปหน่อย หมายถึงเรื่องที่ชัดตั้งใจให้ผมหรือปาลเข้าใจกันผิดก็แล้วกัน”

“ผม..”

“ชัดบอกว่าชอบผม แต่วิธีนี้มันไม่ยุติธรรมเลยรู้ตัวหรือเปล่า ถ้าเราได้คบกันจริงๆ แล้ววันหนึ่งความจริงถูกเปิดเผย ชัดคิดว่าผมยังจะคบชัดต่อไปเหรอ”

“ผมชอบคุณเทมส์จริงๆ จนถึงตอนนี้ก็ยังรู้สึกเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง แต่ที่ผมทำไปก็เพราะผมหวังดีกับคุณนะครับ”

“ชัดแน่ใจหรือว่าหวังดีกับผมจริงๆ ไม่ใช่ทำเพราะหวังผลให้ตัวเอง”

“ผมไม่ปฏิเสธหรอกครับว่าจะไม่คิดถึงผลอะไรเลย แต่ความตั้งใจแรกของผมคือทำให้คุณมีความสุข”

“ทำไมชัดถึงคิดว่าผมไม่มีความสุข”

“คุณปาลไม่ค่อยดูแลคุณไม่ใช่เหรอครับ ปล่อยให้คุณอยู่ที่ห้องตามลำพังคนเดียว คุณอยากไปไหนก็ทำไม่ได้”

ฉันทัชพอได้ยินก็ยิ้มออกมา “ทำไมครับ หรือผมพูดอะไรผิด” ชัดเจนเห็นรอยยิ้มนั้นก็ถามด้วยความไม่เข้าใจ

“ไม่มีใครบังคับผมได้ ถ้าผมไม่ยินดีที่จะทำเอง”

“ครับ?”

“ผมตาบอดเพราะความรักก็จริง ปาลพูดอะไรผมก็ทำตามที่เขาพูด นั่นก็ใช่ แต่จริงๆ แล้ว ผมก็เป็นมนุษย์คนหนึ่งที่มีความคิดเป็นของตัวเอง ชัดจำไม่ได้เหรอ ช่วงแรกผมเชื่อเขาที่ไหน ออกไปเที่ยวกับไทน์ตั้งหลายครั้ง”

“พอกลับมาคอนโดคุณเทมส์ก็ทะเลาะกับคุณปาล”

“มันก็มีบ้าง ปาลมันบ่นตามประสานิสัยที่หวงนั่นหวงนี่ แต่ไม่ได้หนักหนาอะไรหรอก เรื่องมันมาหนักขึ้น ตอนที่ใกล้จะเลิกกันแล้วนั่นล่ะ”

 “แล้วทำไมผมไปรับคุณเทมส์ทีไร คุณถึงดูเศร้าตลอด”

“ชัดชอบเอาเรื่องคุณสิมากรอกหูผมไม่ใช่หรือ ก็ต้องมีคิดมากบ้าง” ฉันทัชหัวเราะ “แล้วบางทีผมแปลนิยายหรือบทความอะไรที่มันหดหู่ ดูหนังบ้าง มันก็ต้องเศร้าเป็นธรรมดา ไม่ใช่แค่เรื่องปาลเรื่องเดียวหรอก ชัดอย่าคิดแทนผมสิ ชัดควรจะถามผมมากกว่าว่าตอนนั้นผมเป็นยังไง หรือคิดอะไรอยู่ต่างหาก”

“แต่มันก็ไม่แปลกหรอกที่ชัดจะไม่ถาม เพราะผมเองยังไม่อยากจะถามปาลเลย เราก็คิดเองเออเองอยู่คนเดียวเพราะเราคิดว่าเข้าใจเขาและเข้าใจถูกแล้ว” ฉันทัชยังคงพูดต่อ


ชัดเจนเลือกไม่พูดอะไร เขาเป็นอย่างที่ฉันทัชพูดจริงๆ และยังเชื่อว่าเข้าใจอีกฝ่ายไม่ผิดหรอก ฉันทัชแค่จะหาเรื่องอื่นมาแก้ต่างช่วยปาณัสม์เท่านั้น


“ชัดรู้หรือเปล่าว่าสิ่งที่ทำลงไปมันไม่ถูกต้อง การทำให้คู่รักแตกหักกันมันผิด ถึงแม้ว่าสาเหตุที่ผมกับปาลเลิกกัน ประเด็นหลักมันไม่ได้มาจากชัดก็ตาม แต่ก็พูดได้อยู่หรอกว่าชัดก็มีส่วน”

“ถ้าอย่างนั้นก็ถือว่าผมทำสำเร็จสิครับ”

“ชัด! มันไม่ใช่เลย ชัดไม่ได้ทำสำเร็จ แต่กำลังทำผิด ชัดควรจะเล่นเกมส์อย่างตรงไปตรงมา สิ่งที่ทำในตอนนี้มันผิดกติกา ถ้าถูกจับได้ก็ต้องถูกเชิญให้ออกจากการแข่งขัน แล้วตอนนี้ชัดก็ถูกจับได้แล้ว”

“ตั้งแต่ที่คุณเทมส์ปฏิเสธผมวันนั้น ผมก็เหมือนถูกให้ออกจากแข่งขันไปนานแล้ว”

“ที่ผมพูดกับชัดวันนั้น ผมหมายความแบบนั้นจริงๆ ไม่ได้เกี่ยวกับปาลหรือเรื่องเงิน ฐานะอะไรนั่น และผมอยากให้ชัดลองไปทบทวนคิดดูใหม่ ชัดไม่รู้สึกผิดต่อปาลบ้างเลยเหรอ เขาเป็นพี่ชายคุณนะ”

“เขาเคยเป็นพี่ชายผม กระทั่งผมรู้ตัวว่าผมเป็นแค่ลูกคนสวนในบ้านเขาเท่านั้น” คำพูดของชัดเจนทำให้ฉันทัชตกใจค่อนข้างมาก ในขณะที่ชัดเจนคิดแบบนี้ แต่ปาณัสม์กลับรู้สึกผิดต่อน้องชายแทน


จะบ้าไปกันใหญ่ คนทำผิดดันไม่สำนึก คนถูกกระทำดันรู้สึกผิด


“แปลว่าชัดไม่เคยรู้สึกผิดกับสิ่งที่ทำลงไปเลยใช่ไหม”

“ครับ”

“ผมผิดหวังนะ ผิดหวังในตัวชัดมาก ชัดเป็นคนฉลาด ทำงานเก่งเป็นเหมือนมือขวาของพี่ปอนด์กับปาล เป็นเด็กในบ้านที่คุณแม่เห็นเป็นเหมือนลูกหลานแท้ๆ ผมไม่คิดว่าชัดจะตอบแทนพวกเขาด้วยวิธีนี้”

“ไม่เป็นไรครับ คุณเทมส์จะผิดหวังในตัวผมก็ไม่เป็นไร เพราะยังไงคุณเทมส์ก็ไม่เคยเห็นผมในสายตาอยู่แล้ว” ฉันทัชอยากจะตบหน้าผากตัวเอง ชัดเจนเหมือนไม่รับฟังอะไรที่เขาพูดเลย

“ไม่ว่าผมจะพูดยังไง ก็คงเปลี่ยนความคิดของชัดไม่ได้สินะ ชัดเป็นอย่างที่ไทน์บอกผมไว้ไม่มีผิด ต่อให้พูดไปก็คงเปลืองน้ำลายเปล่าประโยชน์ แต่ผมอยากจะบอกชัดไว้อย่างหนึ่ง อดีตพี่ชายของชัดรักชัดมาก เขาเป็นทุกข์กับการกระทำของชัด และเขาไม่เคยโทษชัดเลยนอกจากตัวเอง ผมฝากเท่านี้ล่ะ ไปนะ” ฉันทัชไม่รอคำตอบหรือรอสังเกตสีหน้าของชัดเจนอีกต่อไป เขาลุกขึ้นแล้วออกจากร้านกาแฟไปอย่างรวดเร็ว





...






“คุณปาลอยู่ไหมครับ” ชัดเจนขึ้นลิฟต์มายังชั้นของปาณัสม์โดยเฉพาะ

“อยู่ค่ะ คุณชัดเข้าไปได้เลยค่ะ” เกศสิรีตอบอย่างรวดเร็ว

ชัดเจนเคาะประตูตามมารยาท กระทั่งได้ยินเสียงอนุญาตจากภายในห้องแล้วเขาจึงเปิดเข้าไปและปิดมันลงอย่างเบามือ


“คุณปาล”

“ชัด?มีอะไรหรือเปล่า” ปาณัสม์แปลกใจ เขาเพิ่งกลับจากฮ่องกงเมื่อวาน ไม่คิดว่าวันนี้ชัดเจนจะมาหาเขาเสียแล้ว
         

ชัดเจนไม่พูดอะไร นอกจากหยิบกระดาษที่ถือมาด้วยวางบนโต๊ะก่อนจะยื่นไปข้างหน้าปาณัสม์


“อะไร”

“อ่านดูสิครับ” ชัดเจนตอบ


ปาณัสม์ไม่แม้แต่จะดู เพราะเขารู้ว่ากระดาษใบนั้นคืออะไร ใบลาออกที่ชัดเจนต้องการจะทำ


“กูเคยบอกแล้วว่าไม่ให้ออก” ปาณัสม์ขยำกระดาษแผ่นนั้นทิ้งอย่างไม่ไยดี

“แต่ผมไม่อยากทำงานกับคุณปาลอีกแล้ว”

“เกลียดกูมากนักเหรอ” ปาณัสม์พ่นลมหายใจออกมา เขาวางปากกาลงพร้อมกับยืนขึ้นเพื่อมองอีกฝ่ายได้อย่างชัดเจน

“ผมไม่ได้เกลียดคุณปาล แต่ผมคงทนไม่ไหว ถ้าต้องเห็นคุณเทมส์กับคุณปาลกลับมาอยู่ด้วยกันอีก”

“ถ้ามึงกังวลเรื่องนั้น กูบอกเลยว่าตอนนี้จันทร์ไม่กลับมาอยู่กับกูหรอก และไม่รู้จะมีวันที่เขายอมกลับมาไหม กูก็ไม่รู้เหมือนกัน”

“ทำไมครับ”

“จันทร์ไม่ใช่คนที่พอกูไปง้อเขาก็รีบกลับมาทันที เขาไม่ใช่คนแบบนั้น” ปาณัสม์เริ่มปวดหัว เรื่องของฉันทัชก็ยังไม่เรียบร้อย เรื่องชัดเจนก็ยุ่งยากไปอีก “ถ้ามึงลำบากใจ อยากจะย้ายออกไปอยู่ข้างนอกตอนนี้ กูก็ไม่ห้าม แต่กูไม่อนุญาตให้มึงไปอยู่ข้างนอกถาวร และกูอยากให้มึงทำงานที่นี่ต่อไป ตอนนี้มึงก็ช่วยพี่ปอนด์อยู่แล้ว จากนี้ก็ช่วยเต็มตัวไปเลยแล้วกัน”

“แล้วคุณปาลล่ะ?”

“มึงจะห่วงเรื่องของกูทำไม ตะกี้ยังขู่แง่งๆ จะลาออกอยู่เลย”

“ผม..”

“มึงเข้าใจงานบริษัทนี้เกือบจะทุกอย่าง ถ้าไม่มีกู ไม่มีพี่ปอนด์ กูก็เชื่อว่ามึงจะพาบริษัทนี้ไปได้ตลอดรอดฝั่งเลยด้วยซ้ำ เพราะงั้นก็อยู่ที่นี่เถอะ”

“ผมขอคิดก่อนได้ไหม เพราะผมก็รู้สึกลำบากใจ ที่สร้างเรื่องไปแบบนั้น”

“กูไม่ให้คิด มึงอยู่ที่นี่น่ะเหมาะสมที่สุด เพราะมึงควรจะแก้ไขสิ่งที่มึงทำผิด แต่กูขอเพียงข้อเดียวเท่านั้น”

“ครับ?”

“อย่าทำลายความไว้ใจของกูกับพี่ปอนด์อีกครั้งก็พอ ทำได้หรือเปล่า”

“เรื่องคุณเทมส์ ผมไม่ขอโทษหรอกครับ เพราะผมตั้งใจทำจริงๆ แต่เรื่องยกเลิกการผลิต ตั้งแต่ทำลงไปผมกลับไม่สบายใจเลย”

“ดีแล้วที่อย่างน้อยมึงก็ยังรู้สึกผิดอยู่ งั้นมึงยิ่งต้องทำงานช่วยพี่ปอนด์ให้ดี”

“ผมขอโทษ” ชัดเจนยกมือไหว้ปาณัสม์ เขาพูดตรงตามอย่างที่ใจรู้สึกทุกอย่าง เพราะฉะนั้นเรื่องของฉันทัช เขาจะไม่ยอมขอโทษอีกฝ่ายแน่นอน

“คุณปาลไม่กลัวหรือว่า วันข้างหน้าผมจะทำเรื่องแบบนี้อีก” ชัดเจนหมายถึงเรื่องที่เขาปลอมลายเซ็น

“ต่อให้กูกลัวหรือไม่กลัว แล้วมีอะไรเปลี่ยนแปลงได้ไหมล่ะ แค่ครั้งหน้าถ้ามึงคิดจะทำอีกก็ขอให้สงสารกูบ้างก็พอ

ปาณัสม์เดินอ้อมโต๊ะทำงานมาหยุดยืนตรงหน้าของชัดเจน เขาตบบ่าให้อภัยน้องชาย

“แล้วจะให้ผมบอกคุณปอนด์ยังไงเรื่องที่ผมจะไปทำงานด้วย”

“ตกลงมึงรับข้อเสนอกูแล้วใช่ไหม ไอ้น้องรัก” ปาณัสม์ค่อยยิ้มออกมาได้หน่อย เขาตบบ่าชัดเจนอีกสองสามครั้งก่อนจะกลับไปนั่งเก้าอี้ประจำตัว

“เรื่องพี่ปอนด์ไม่ต้องเป็นห่วง เดี๋ยวกูคุยเอง ส่วนกูกับมึง เราจะไม่พูดถึงเรื่องนั้นอีก เรื่องที่แล้วก็ให้แล้วกันไป ทุกเรื่อง

“ทุกเรื่อง?”

“ใช่ ทุกเรื่อง รวมถึงเรื่องรถที่กูไม่ได้ซื้อให้จันทร์ หรือเรื่องที่มึงกล่าวหากูด้วย ไอ้ชัด ไอ้เวร!” พอพูดถึงเรื่องนี้ปาณัสม์ก็อยากจะถอนคำพูดที่เรียกอีกฝ่ายว่าน้องรักทิ้งไปเสีย

“คุณปาลรู้เหรอครับ” ชัดเจนถาม แต่ก็สงสัยว่าจะเป็นฉันทัชที่บอกให้คนตรงหน้าเขาฟังอย่างนั้นมั้ง หรือปาณัสม์ต่างหากที่เป็นคนบอกฉันทัช


ช่างเถอะ สองคนรู้เรื่องนี้ก็ดีแล้วเหมือนกัน จะได้ชัดเจนทุกอย่างเสียที


“เออ ทำกูเสียแสบ”

“ผมไม่ขอโทษนะ”

“เออ!กลับไปทำงานได้แล้ว เดี๋ยวกูหักเงินเดือน”

“อย่าพาลครับ”

“มึงกล้าพูดว่ากูพาลเหรอ ไอ้ชัด เดี๋ยวมึงจะโดน” ปาณัสม์โวยวาย แต่ชัดเจนกลับไม่ได้แสดงทีท่าหวาดกลัว เขากลับตั้งหลักยืนอยู่แบบนั้น


ปาณัสม์ทำพูดเสียงแข็งไปอย่างนั้นเอง ลึกๆ เขาก็โล่งอกที่อย่างน้อยเรื่องของชัดเจนก็ถูกแก้ไขได้แล้ว และหวังว่าชัดเจนจะไม่ทำลายโอกาสและความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาให้ล้มเหลวอีกครั้ง


“ผมเองก็มีเรื่องที่อยากจะขอคุณปาลเรื่องหนึ่งเหมือนกัน”

“ว่ามาสิ”

“ผมไม่ได้รู้สึกยินดีที่คุณปาลจะกลับไปหาคุณเทมส์ เพราะกลัวคุณจะทำให้เขาเสียใจอีก ถ้าคุณเทมส์ใจอ่อนยอมกลับมาจริงๆ อย่าทำให้เขาเสียใจอีกได้ไหมครับ”

“เรื่องของอนาคต กูไม่รู้หรอก เขาอาจจะไม่กลับมาก็ได้ แต่ถ้าเขากลับมาจริง กูไม่สัญญาได้ไหมว่าจะไม่ทำให้เขาเสียใจอีก แต่กูจะพยายามทำให้ทุกอย่างไม่เป็นเหมือนเดิม ไม่ปล่อยให้เขาต้องอยู่คนเดียว กูจะไม่บ้างานเกินไป ให้อิสระเขา และลดความหวงของตัวเองลง นี่กูก็พยายามอยู่นะ ลูกชายท่านประธานหลี่ตามจีบจันทร์อยู่ มึงรู้ไหม” พอพูดถึงศัตรูหัวใจ ปาณัสม์ก็เริ่มเซ็ง

“เท่าที่เห็นจากครั้งก่อน ก็น่าจะใช่”

“เออ จันทร์ชอบเด็กนั่น ดูก็รู้”

“ก็ดีแล้วนี่ครับ คุณเทมส์จะได้ไม่กลับมาหาคุณปาล”

“ไอ้ชัด!!” ปาณัสม์หงุดหงิดเพิ่มขึ้น ชัดเจนไม่ได้เข้าข้างเขา

“ครับ?” ชัดเจนส่งเสียงรับด้วยท่าทางไม่ทุกข์ร้อน

“เออ กูก็ลืมไปว่ามึงคงดีใจ ถ้าจันทร์จะไม่กลับมาคบกับกู”

“ผมไม่อยากพูดให้คุณลำพองใจหรอก” ชัดเจนพ่นหายใจออกมา “แต่คุณชายหลี่น่ะ เหมือนใครรู้ไหมครับ”

“ใคร?”

“คุณปาลตอนอายุเท่านั้นไงครับ”

“ไม่เห็นเหมือน” ปาณัสม์เบ้ปากเล็กน้อย อีกทั้งส่ายหน้าอย่างรวดเร็ว “กูดูดีกว่าตั้งเยอะ”

“ผมไม่ได้หมายถึงหน้าตา”

“แล้วหมายถึงอะไร” ปาณัสม์ถามเพื่อขอความกระจ่าง

“นิสัยไงครับ ตอนนั้นที่คุณปาลอยู่กับคุณเทมส์แรกๆ ก็เป็นแบบนี้ไม่ใช่หรือไง”

“ไม่ใช่หรอก กูไม่จ๊ะจ๋า อี๋อ๋อ ขนาดนั้น ทำตัวติดกันแทบจะสิงร่างกัน ไม่ใช่กูแน่ๆ กูไม่มีทางทำแบบนั้น” ปาณัสม์ยืนยันเสียงแข็ง “เดี๋ยวนะ นี่มึงยิ้มแบบนี้คงสะใจใช่ไหม” เขายกมือชี้หน้าหมายจะเอาเรื่องชัดเจน

“ผมจะไม่เถียงกับคุณปาลต่อหรอกครับ มันเสียเวลา แต่ถ้าคุณมีเวลาลองถามคุณหญิง พ่อผมหรือคุณปอนด์ดูก็ได้ว่า ช่วงแรกๆ ที่คุณพาคุณเทมส์มาที่บ้าน คุณเป็นแบบไหน” ชัดเจนบอกทิ้งท้ายก่อนจะเดินหนีออกไปจากห้องอย่างรวดเร็ว เพราะกลัวอีกฝ่ายจะรั้งเขาไว้

“ไอ้ชัด มึงกลับมาก่อน”


ปาณัสม์เรียกชัดเจนเอาไว้จริงๆ อย่างที่ชายหนุ่มคิด แต่ชัดเจนไม่คิดจะหยุดจนกระทั่ง เจ้าตัวออกไปนอกห้องแล้วนั่นแหละ จึงชะโงกหน้าเข้ามา อีกครั้ง


“ไม่ได้อยากช่วยเหลือหรอก แต่คุณเทมส์น่ะตอนนี้อยู่ที่บริษัทนะครับ”

“แล้วทำไมเพิ่งมาบอกวะ”

“ป่านนี้คงกลับไปแล้วล่ะมั้งครับ” ชัดเจนพูดทิ้งท้ายก่อนจะปิดประตูลงอย่างฉับพลัน ไม่รอฟังคนในห้องก่นด่าออกมา


ปาณัสม์รีบปิดแฟ้มลงอย่างรวดเร็ว เขาคว้าโทรศัพท์แล้วพุ่งตรงไปยังประตูที่ถูกปิดเมื่อสักครู่นี้ แต่มือยังไม่ทันจะได้แตะต้องที่จับ บานประตูใหญ่ก็ถูกเปิดเข้ามาเสียก่อนจากใครบางคน หากปาณัสม์เดินเร็วกว่านี้ ประตูนั้นคงต้องกระทบกับใบหน้าเขาเป็นแน่

“โอ๊ะ โทษที โดนตรงไหนหรือเปล่า” คนที่ถือวิสาสะเปิดประตูเข้ามารีบร้องบอกโดยเร็วเมื่อเห็นว่าการกระทำของตนเกือบทำให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ

“ไม่ ไม่โดน โชคดีที่ปาลหลบทัน” ถึงจะบอกไม่เป็นไร แต่เขาก็รู้สึกเสียววาบไปเหมือนกัน เพราะถ้าโดนศีรษะของเขา คงแย่แน่ๆ

“ลืมตัวไปหน่อย”

“ไม่เป็นไร จันทร์มาได้ไง กำลังจะไปหาอยู่พอดี”

“มาชวนไปกินข้าว”

“หืม?” ปาณัสม์แปลกใจ ไม่น่าเป็นไปได้

“ไปไหม?” ฉันทัชทวนถามซ้ำ

“ไม่ไปได้ไง” ปาณัสม์ยิ้ม

“ก็ว่างั้น”

“แล้วพี่ก้องล่ะ”

“เจ้านายเทมส์ใจดี อนุญาตให้ไปกินข้าวกับหุ้นส่วนบริษัทแค่สองคน”

“ไปเลยไหม”

“เอาสิ”




========================================

ตอนนี้ราบเรียบปิดคดีค่ะ สามตอนหลังที่เหลือจะเป็นพระนายล้วนๆ แล้ว

เจอกันวันวันศุกร์ค่ะ



HASHTAG #ภาคต่อของความรัก

ออฟไลน์ nonlapan

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 156
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-2
ออร่าความรักลอยมาแล้ว  :mew3:

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ miikii

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1719
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1

ออฟไลน์ sailom_orn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-1
 :impress3: เดินหน้าง้ออีกนิด เทมส์ใกล้ใจอ่อนเเล้ว

ออฟไลน์ onlyplease

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
วู้ๆๆๆ หมั่นไส้ปาลอ่ะ  :katai5: :katai5:

ออฟไลน์ idee

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 79
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-2
คุณคนเขียนนน เราชอบจันทร์มากกก
ชอบจนจากที่คิดว่าอยากให้งอนปาลต่อ เราอยากให้คืนดีกันแล้วเพราะจันทร์คงจะมีความสุข ฮืออออ

ชัดเจนกับปาล ถ้าไม่มีปมเรื่องครอบครัว น่าจะเป็นคู่พี่น้องที่สนิทและซี้กันมากๆ อาจจะถึงขนาดแย่งจีบจันทร์กันเลยด้วยซ้ำ
อยากให้เขียนถึงปมนี้ต่ออีกนิดจังเลยค่ะ ยังไม่อยากให้จบเลยย

เป็นกำลังใจให้นะคะ จะติดตามต่อไปค่า

ออฟไลน์ mab

  • ชื่อ mab ไม่ได้ชื่อ map
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 694
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-0
 :hao6: จะหวานกันละเหรอ

ออฟไลน์ เขมกันต์

  • nothing’s else I can say
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 452
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +164/-9
    • Twitter
เทมส์จะใจอ่อนมั้ยยยยยน้า

ขอบคุณทุกคนมากเลยค่ะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด