ภาคต่อของความรัก - ภาคพิเศษ ภาคแห่งความวุ่นวาย END หน้า 13 UP!! 09/02/2019
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ภาคต่อของความรัก - ภาคพิเศษ ภาคแห่งความวุ่นวาย END หน้า 13 UP!! 09/02/2019  (อ่าน 72125 ครั้ง)

ออฟไลน์ เขมกันต์

  • nothing’s else I can say
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 452
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +164/-9
    • Twitter


ภาค 26 Lullaby




            “เมื่อเช้าเทมส์ไปคุยกับชัดมา” ฉันทัชเริ่มเล่าเมื่ออาหารคำแรกหย่อนลงกระเพาะไปแล้ว

            “คุยอะไรกับชัด”

            “ก็เรื่องวุ่นๆ พวกนี้”

            “จันทร์ไม่น่าต้องมาเดือดร้อน ปาลคุยกับชัดไปแล้วเหมือนกัน”

            “งั้นหรือ แล้วเรียบร้อยดีไหม”

            “เรียบร้อยแล้ว ชัดยังจะทำงานที่นี่ต่อ” ปาณัสม์ยิ้มก่อนจะตักอาหารตรงหน้าให้อีกฝ่าย

            “ปาลแน่ใจแล้วเหรอว่าชัดจะไม่ทำอีก”

            “เชื่อว่าชัดคงไม่ทำอีกหรอก ปาลเป็นพี่ชายของชัดนะ ครั้งหน้าเขาคงคิดมากกว่านี้”

            “ปาลอาจจะคิดว่าชัดเป็นน้อง แล้วชัดล่ะ คิดว่าปาลเป็นพี่หรือเปล่า”

            “พูดอะไรอย่างนั้น ชัดอาจจะดื้อไปบ้าง แต่ชัดไม่ทำอีกแล้ว เชื่อปาลนะ”


            ฉันทัชลอบมองอีกฝ่าย เอาเถอะ พูดไปตอนนี้ก็คงไม่ได้อะไรขึ้นมา ชัดเจนคงไม่กล้าทำอีกแล้วก็ได้ เขาอาจจะกังวลมากไปเอง

            “เราไม่คุยเรื่องชัดแล้วได้ไหม”

            “ทำไมล่ะ” ฉันทัชถามกลับ

            “มัวแต่คุยเรื่องชัด จนไม่ได้คุยเรื่องของเราเลย”

            “ไม่เห็นเป็นไร”

            “ไม่ได้ แล้วแบบนี้เมื่อไหร่จันทร์จะใจอ่อนกันเล่า”

            “เทมส์คิดว่าเราคุยเรื่องนี้จบไปตั้งแต่ที่ฮ่องกงแล้วเสียอีก” ฉันทัชตักข้าวเข้าปากไปอีกคำด้วยท่าทางสบายๆ ไม่ได้เคร่งเครียด

            “ปาล...”

            “เทมส์พูดไปแล้ว ปาลก็พยายามหน่อยแล้วกัน เริ่มจากเป็นเพื่อนกันก่อนดีไหม” ฉันทัชเสนอ

            ปาณัสม์หรี่ตาลงพลางส่ายหน้า “อย่าเอามุกที่ใช้กับคนอื่นมาใช้กับปาล คนเคยอยู่ด้วยกัน มีสัมพันธ์มากกว่าเพื่อน กลับมาเริ่มต้นด้วยความรู้สึกแบบเพื่อนไม่ได้หรอก”

            “งั้นก็ไม่ต้องเริ่ม ไม่ต้องเป็นอะไรทั้งนั้น เป็นเหมือนปีที่ผ่านมาก็แล้วกัน เป็นคนไม่รู้จักกัน”

            “ไม่เอา”

            “นั่นก็ไม่เอา นี่ก็ไม่เอา” ฉันทัชเริ่มอิ่มเสียแล้ว พอเจอปาณัสม์ในโหมดปกติ ไม่ใช่อ่อนแอ เขาจึงกำลังรู้สึกว่าตัวเองคิดผิดที่เป็นคนริเริ่มชวนอีกฝ่ายออกมาทานข้าวด้วยกัน

            “จันทร์ทำได้จริงๆ เหรอ มองปาลเป็นเพื่อนได้จริงๆ ใช่ไหม ถ้าเป็นแค่เพื่อน ปาลไปไหนกับใคร ผู้หญิงคนไหน จันทร์ก็จะไม่โกรธ ไม่รู้สึกอะไรเลยใช่หรือเปล่า”

            พอถูกย้อนคำถามกลับมา ฉันทัชถึงกับอึกอัก “เทมส์ไม่อยากคุยเรื่องนี้ที่นี่”

            “อืม ไม่อยากคุยเรื่องนี้ที่นี่นั่นก็ส่วนหนึ่ง แต่จันทร์อยากหนีมากกว่า” ปาณัสม์เอื้อมมือไปคว้ามืออีกฝ่ายมาจับไว้ “ไม่เอาแบบนี้สิครับ ไม่หนีปาลได้ไหม”

            “อิ่มหรือยัง คิดเงินเลยไหม​” ฉันทัชดึงมือกลับ ก่อนจะถามเรื่องอื่นแทน

            ปาณัสม์ถอนหายใจ เขาพยักหน้าก่อนจะเรียกพนักงานมาคิดเงินตามที่อีกฝ่ายต้องการ

            “เดี๋ยวกลับบริษัทเลยใช่ไหม” ปาณัสม์หมายถึงบริษัทของก้องภพ

            “ใช่”

            “ต้องรอกลับพร้อมพี่ก้องหรือเปล่า”

            “เปล่า เทมส์กลับเอง”

            “ปาลไปส่งนะ”

            “อืม” ฉันทัชรับคำ เพราะไม่อยากปฏิเสธอีกฝ่ายให้เป็นเรื่องวุ่นวาย

            “แล้วตอนเย็น ปาลจะมารับ ห้ามหนีกลับก่อน ถ้าหนีกลับ จะเจอกับอะไร คงรู้ใช่ไหม”


            ฉันทัชนั่งนิ่งไม่ตอบ เวลาที่ปาณัสม์ไม่พอใจยังทำให้ฉันทัชกลัวอยู่เช่นเดิม ไม่ใช่กลัวอีกฝ่ายจะทำร้ายร่างกายเขาหรอก ปาณัสม์ไม่มีนิสัยอย่างนั้น แต่มันจะเป็นเรื่องบนเตียงเสียมากกว่า ฉันทัชมุ่นคิ้ว แต่เราก็เลิกกันแล้วไม่ใช่เหรอ ปาณัสม์ย่อมต้องไม่มีสิทธิ์ทำแบบนี้กับเขา


            ใช่ อีกฝ่ายจะมาทำกับเขาแบบนี้ไม่ได้


            “ถึงจะเลิกกันแล้ว จันทร์อย่าคิดว่าปาลไม่กล้าทำ” ไม่ต้องให้ฉันทัชได้ครุ่นคิดต่อ ปาณัสม์เฉลยให้ ราวกับรู้ว่าฉันทัชกำลังคิดอะไรอยู่

            “ก็..ไม่ได้คิดอะไร” ฉันทัชเฉไฉ

            “แล้วเข้าใจหรือเปล่า”

            “เข้าใจอะไร”

            “เข้าใจว่าปาลจะมารับตอนเย็น”

            “อ้อ..เข้าใจสิ เข้าใจอยู่แล้ว” ฉันทัชยิ้มให้ แต่ก็ดูเป็นรอยยิ้มที่เฝื่อนเต็มที





            ...





            “ช่วงนี้ คนบางคนมีสารถีมารับส่งทุกวัน น้องคนนี้ไม่ได้บริการรับใช้เลย ตกกระป๋องเสียแล้วเรา” อินทัชพูดขึ้นในวันเสาร์ตอนที่มื้อเช้ากำลังจะเริ่มขึ้น

            “จะพูดอะไรก็พูดมาเลย อย่ามาพูดแบบนี้” ฉันทัชดุ พลางวางจานข้าวผัดของโปรดของอินทัชลงตรงหน้าหญิงสาว

            “ไม่ซื้อรถแล้วหรือไง” ฉันทัชเกร็งตัวรับคำถามของน้องสาว ผิดคาดที่อีกฝ่ายดันกลับถามถึงรถยนต์

            “ซื้อสิ ต้องซื้ออยู่แล้ว”

            “เมื่อไหร่ ไปซื้อเลยไหม” อินทัชเร่ง

            “พรุ่งนี้”

            “บทจะไวก็ไวทันใจ แต่พรุ่งนี้ไทน์มีงานอะ ไปด้วยไม่ได้ ไปวันอื่นได้หรือเปล่า” อินทัชแปลกใจ ไม่คิดว่าพี่ชายจะตัดสินใจอย่างรวดเร็ว เพราะเธอแค่ตั้งใจกระตุ้นเตือนเฉยๆ

            “ไม่เป็นไร เทมส์ไปได้ ไม่ต้องห่วง”

            “แล้วเทมส์จะไปยังไง ไปดูคนเดียว ไม่มีใครช่วยติ ช่วยเลือกเลยนะ” อินทัชบอกด้วยความเป็นห่วง

            “เปล่า ไปกับปาลน่ะ”

            “โอ๊ะ โอ ถ้าไปกับปาล แล้วมันไม่ซื้อให้ ไม่ต้องไป” อินทัชแกล้งขู่พี่ชาย

            “เดี๋ยวเลือกคันแพงๆ มาก็แล้วกัน พอใจไหม”

            “ดีแล้ว ไม่ได้อยากให้เทมส์เป็นคนโลภหรอกนะ แต่ถ้าเทมส์ซื้อเอง คงเป็นรถญี่ปุ่นอีโคคาร์ทั่วไป เพราะเทมส์คงเสียดายเงิน แล้วรถยิ่งราคาถูก ความปลอดภัยมันก็ยิ่งต่ำลงมาตามราคา ไทน์เป็นห่วง ปาลมันซื้อให้ก็ดีเหมือนกัน เจ้านั่นมันแค่ไม่ค่อยใส่ใจเรื่องเงิน แต่มันไม่ขี้เหนียว มันบื้อ” อินทัชเอ่ยชมปาณัสม์แต่ก็ไม่วายที่จะกระทบกระเทียบอีกฝ่ายอยู่ดี

            “รู้แล้ว”

            “แล้วนี่ตกลงยังไง”

            “อะไรยังไง?”

            “กับปาลไง จะกลับไปคบเหรอ ตอนนั้นเจ็บมากเลยนะ ร้องไห้ตั้งเยอะ” อินทัชยกเรื่องอดีตขึ้นมาเตือนความจำ

            “บอกให้เอาเงินจากเขาไปซื้อรถ แต่ไม่อยากให้กลับไปคบ โหดชะมัด”

            “คืนดีกันแล้ว?” อินทัชทำตาโต

            “ใครบอก”

            “อ้าว ไม่ใช่เหรอ”

            “ยังหรอก ยัง”

            “แต่ก็ไม่นานมั้ง ไทน์นึกว่าใจเทมส์มันเอียงไปทางนั้นเกือบหมดแล้วเสียอีก” อินทัชเดาพลางเย้าพี่ชายไปพร้อมกัน

            “รู้ดีกว่าเทมส์เสียอีก”

            “อ๊ะ แน่นอน ไม่งั้นจะเป็นน้องที่ตามออกมาได้ไง”

            “เทมส์กลัว ไม่กล้ากลับไป ตอนนั้นทั้งเครียด ทั้งเหนื่อย กังวลใจ ทะเลาะ ทุกเรื่อง เทมส์ไม่อยากเจอมันอีก” ฉันทัชสารภาพ

            “คิดไหมว่าปาลมันก็กลัว”


            ฉันทัชเอียงคอมองน้องสาว สบตาอีกฝ่าย “สรุปว่าอยู่ข้างไหนกันแน่ ตะกี้ยังไม่อยากให้เทมส์กลับไป สักพักก็ดูจะเข้าอกเข้าใจปาลเสียอย่างนั้น”


            “ไทน์เดาเอา” อินทัชบอก “เดาจริงๆ ไทน์แค่รู้สึกว่า ในเมื่อเทมส์ยังกลัวที่จะเริ่มต้นเลย แล้วปาลล่ะ ไม่กลัวหรือไง อย่าลืมนะว่า ก่อนเลิกกันเรื่องนี้ คนผิดไม่ใช่แค่ปาลหรือเทมส์ แค่คนเดียว แต่เป็นทั้งคู่”


            ฉันทัชถือช้อนค้าง พลางมองออกไปที่หน้าบ้านเหมือนต้องการใช้ความคิด


            “ปาลมันเลือกที่จะทิ้งความกลัวแล้วสู้ใหม่ ไม่ต้องคิดอะไรมากหรอก ดูเรื่องชัดเจนสิ ขนาดชัดทำกับปาลถึงขนาดนั้น มันยังให้อภัยเลยอะ คนที่ถูกคนไว้ใจหักหลัง กลับขาวเป็นดำ ยังไงก็ต้องกลัวอยู่แล้ว แต่ปาลมันเป็นแบบนี้ไง บางทีมันก็ฉลาดกับหัวใจและสมองตัวเองเหมือนกัน รู้ว่าตัวเองต้องการอะไร”

            “ไทน์” จู่ๆ ฉันทัชก็เรียกอีกฝ่ายเพราะสะดุดคำพูดบางอย่าง

            “ไงจ๊ะ ฮันนี่”

            “ปาลรู้เรื่องชัดที่พูดเบือนความจริงแล้วเหรอ”

            “ใช่ ไทน์บอกเองแหละ”

            “บอกทำไม”

            “ปาลมันควรรู้นะเทมส์ ว่าชัดทำอะไรไว้บ้าง ถ้าปาลต้องอยู่กับความไม่รู้ มันจะรับมือแล้วแก้ปัญหาได้ยังไง จริงไหม”

            “อ่า..เหรอ”

            “ทำไมล่ะ เทมส์กลัวอะไร”

            “ไม่ใช่เรื่องอะไรของเทมส์หรอก แค่ไม่อยากให้ปาลต้องผิดใจกับชัดมากไปกว่านี้”

            “ปาลโตแล้ว ก็อายุเท่าเรานี่นะ” อินทัชหัวเราะ “ให้มันตัดสินใจเอง เป็นห่วงล่ะสิ อีกอย่างชัดเองก็ทำผิด เราไม่ควรปกป้องคนผิด”

            “จริงๆ แล้วบอกไปก็ดีเหมือนกัน เทมส์เองก็รู้สึกไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เหมือนคนโกหกอะ”

            “ไทน์เห็นด้วยกับบางอย่างที่เราไม่รู้ไม่เห็นจะดีกว่า แต่บางเรื่องมันควรบอก ช่างแต่งหน้าเคยมาปรึกษากับไทน์ว่าเห็นสามีของเพื่อนไปกับผู้หญิงอื่น แล้วนางก็ไม่แน่ใจไงว่าควรจะบอกเพื่อนดีไหม กลัวแบบถ้าเขารู้ไส้รู้พุงกันดีอยู่แล้วล่ะ เราจะกลายเป็นหมาหรือเปล่า”

            “แล้วไทน์บอกเขาไปว่าไง”

            “ไทน์บอกว่าควรบอกอะ แต่ถ้าเพื่อนรับรู้อยู่แล้วหรือรับได้ก็เป็นเรื่องของเขาที่ไม่เกี่ยวกับเราแล้ว ไทน์แค่คิดว่าหน้าที่ของเพื่อนคืออะไรล่ะ ควรเตือน ควรบอกเพื่อนหรือเปล่า”

            “อืมก็จริง” ฉันทัชพยักหน้าเห็นด้วย

            “มีเรื่องเดียวที่ไทน์ทำผิดไม่รู้หน้าที่ก็คงเป็นเรื่องเทมส์นั่นแหละ”

            “หืม?”

            “ไทน์บอกให้เทมส์เลิกกับปาลเสมอ จำได้หรือเปล่า”

            “จำได้”

            “ทั้งที่ไทน์ไม่มีสิทธิ์เลยนะว่าไหม ไทน์เป็นแค่น้อง แต่คนที่เจอปัญหาเป็นเทมส์ อันที่จริงไทน์ควรจะช่วยเทมส์แก้ปัญหามากกว่าซ้ำเติมเทมส์”

            “คิดอะไร นี่อย่ามาดึงเข้าดราม่า ไทน์ก็ช่วยเตือนสติเทมส์ตั้งหลายครั้ง” ฉันทัชเตรียมแก้ไขสถานการณ์

            “แรกๆ ยุให้เลิกไม่รู้เท่าไหร่ ตอนหลังไทน์ก็ไม่อยากให้เทมส์เครียดไปกว่าเดิมเลยคอยเตือน แต่พอนึกๆ ดูหลายเหตุการณ์ ที่เจอกัน ทำให้ไทน์คิดว่า ทั้งที่เทมส์มีไทน์ไว้ค่อยปรึกษา แต่ไทน์กลับทำได้ไม่ดีและเข้าขั้นแย่ ไทน์ขอโทษนะ”

            “ขอโทษทำไม ไม่เอาๆ พอๆ” ฉันทัชลุกขึ้นไปกอดน้องสาวที่นั่งอยู่อีกฟากของโต๊ะ “เทมส์ไม่เคยโกรธ ไม่เคยเก็บเรื่องพวกนี้มาโทษไทน์เลย ไม่เคยคิดอะไรแบบนี้ด้วย เพราะฉะนั้นไทน์ห้ามคิดอะไรบ้าๆ แบบนี้อีก และนี่เป็นคำสั่งของพี่ชาย”

            “อือ”

            “ดีมาก ถ้ายังคิดอะไรเพ้อเจ้ออีก จะโกรธจริงๆ และโกรธมากด้วย”   

            “เข้าใจแล้ว”

            “แล้ววันนี้วันเสาร์ อยู่บ้านหรือไง” ฉันทัชเปลี่ยนเรื่องคุยเพื่อผ่อนคลายบรรยากาศ

            “เปล่า เดี๋ยวคุณก้องมารับ จะพาน้องกายไปกินไอติม”

            “ครอบครัวสุขสันต์เสียจริง ดีจังไม่ต้องท้องก็มีลูกทันใช้” ฉันทัชเย้าแหย่น้องสาวคืนบ้าง

            “ครอบครัวอะไรล่ะ ไทน์สัญญากับน้องกายไว้ต่างหาก พูดอะไรของเทมส์เนี่ย ไม่คุยด้วยแล้ว ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าดีกว่า” อินทัชหลบอาการหน้าร้อนของตัวเอง รีบหนีขึ้นไปข้างบน

            “ไทน์” ฉันทัชตะโกนเรียกน้องสาวจากทางด้านล่าง

            “ว่าไง”

            “เทมส์ยืมรถนะ จะไปหาน้องปัณณ์” พอน้องสาวเอ่ยถึงเด็กชาย ทำให้ฉันทัชนึกถึงเด็กหญิงขึ้นมาบ้าง ไม่เจอกันนานเท่าไหร่แล้ว ไม่รู้ว่าน้องปัณณ์จะคิดถึงอาจันทร์บ้างไหม

            “จ้ะ ฮันนี่ กุญแจรถวางอยู่ที่เดิม”

            “โอเค”




            ....



            “อาจันทร์ขา” เสียงเด็กหญิงส่งเสียงเจื้อยแจ้วเสียงดังโดยที่อาจันทร์เจ้าของชื่อยังไม่ทันจะได้นั่งบนโซฟาในห้องรับแขกบ้าน

            “ว่าไงคะ คนเก่ง เป็นเด็กดีหรือเปล่า”

            “เป็นเด็กดีค่ะ เด็กดีมากด้วย”

            “สวัสดีครับ พี่ปอนด์ พี่เกด” สองสามีภรรยาเดินตามหลังบุตรสาวมาอย่างไม่รีบร้อน

            “จ้ะ หายหน้าหายตาไปเลย สบายดีนะเทมส์” ชลพิการับไหว้แล้วเอ่ยถาม

            “ครับ”

            “วันนี้ลมอะไรหอบมาล่ะ” ศรารัณเอ่ยถามบ้าง

            “ลมคิดถึงน้องปัณณ์ครับ” ฉันทัชยิ้ม พลางเขี่ยแก้มหลานสาวที่กอดเอวแน่น

            “งั้นเราปล่อยให้อาหลานเขาใช้เวลาด้วยกันดีไหมคะพี่ปอนด์ เกดว่าตอนนี้ลูกสาวคงไม่สนใจเราแล้วล่ะค่ะ” ชลพิกาออกความเห็น

            “อืม พี่ก็ว่างั้น” ศรารัณรับคำกับภรรยาสาวก่อนจะหันมาทางฉันทัชอีกครั้ง “อ้อ เจ้าปาลมันไม่อยู่หรอกนะ ไม่ต้องห่วง ส่วนแม่ก็กำลังงีบกลางวันอยู่บนห้องอีกสักพักคงลงมา ถ้ารู้ว่าลูกรักมา คงตื่นเดี๋ยวนี้เลยล่ะ” พี่ชายคนโตของบ้านว่าพลางหัวเราะก่อนจะขอตัวออกไปดูบุตรชายคนเล็ก

            “อาจันทร์ขา”

            “ว่ายังไงคะ”

            “คิดถึงอาจันทร์จังเลยค่ะ” เด็กหญิงอ้อนพลางกอดเอวผู้เป็นอาต่างสายเลือดแน่นขึ้นไปอีก

            “อาก็คิดถึงน้องปัณณ์เหมือนกันค่ะ ไหนให้อาดูหน่อยสิว่าตัวสูงขึ้นหรือเปล่า” ฉันทัชปลดมือของหลานสาวและย่อตัวลงเพื่อให้สายตาอยู่ในระดับเดียวกัน

            “หนูสูงขึ้นนะคะ คุณครูบอกว่าสูงขึ้นสองเซนต์”

            “อืม สงสัยจะจริง” ฉันทัชว่าตาม ไม่เจอพักเดียวเด็กหญิงเริ่มสูงขึ้นใกล้จะเป็นเด็กสาวแรกรุ่นเต็มที

            “อาไทน์ล่ะคะ”

            “อาไทน์ติดงานค่ะ เหมือนเดิม” ฉันทัชคร้านจะอธิบายว่าอินทัชไปรับน้องกาย ถ้าหากน้องปัณณ์รู้ ก็กลัวว่าหลานสาวอาจจะน้อยใจ

            “ว้า ติดงานเหมือนอาปาลตลอดเลย” น้องปัณณ์ทำปากยู่เพราะคุณอาสายเลือดเดียวกันก็ไม่ค่อยอยู่ให้เห็นหน้าเช่นกัน

            “ไว้คราวหน้าอาจันทร์ จะให้อาไทน์มารับไปกินไอติมนะคะ”

            “อาจันทร์ก็ต้องมานะคะ แล้วกายด้วยก็ได้ค่ะ”

            “ไม่กลัวน้องกายแย่งไอติมเราอีกหรือ” ฉันทัชแซว

            “ไม่เป็นไรค่ะ ถ้ากายแย่ง น้องปัณณ์ก็จะบอกอาจันทร์ดีไหมคะ”

            “เก่งมากค่ะ โตขึ้นอีกนิดแล้วนะเรา” ฉันทัชลูบศีรษะเด็กหญิงด้วยความรัก ความเอ็นดูเหมือนเช่นเดิม คิดๆ แล้วก็เริ่มใจหาย เลี้ยงมาตั้งแต่ยังคลาน เริ่มเดินได้ก้าวสั้นๆ ตอนนี้ตัวโตสูงขึ้นเลยเอวเขามาแล้ว

            “แต่หนูอยากให้อาจันทร์กับอาปาลพาไปกินไอติมมากกว่า” จู่ๆ เด็กหญิงก็พูดขึ้นมา ฉันทัชแปลกใจกับคำพูดหลานสาว

            “ทำไมหรือคะ”

            “ถ้าอาจันทร์กับอาปาลไปด้วยกัน ก็จะเอาใจหนูคนเดียว แต่ถ้าอาไทน์มาด้วย บางทีอาไทน์ก็ไม่ตามใจหนู” ฉันทัชโล่งใจเมื่อได้ยินคำตอบของน้องปัณณ์ นึกว่าอะไรที่แท้ก็อยากถูกตามใจนี่เอง



            ฉันทัชตามใจหลานสาวน้อยกว่าปาณัสม์ แต่ก็ยังใจอ่อนอยู่ดี ผิดกับอินทัชที่มักจะขัดฉันทัชอยู่หลายครั้งที่เห็นว่าเรื่องที่จะตามใจนั้นไม่สมควร ทั้งที่คิดแบบนั้นแต่เอาเข้าจริง น้องปัณณ์ถูกตามใจน้อยกว่าบ้านอื่นอยู่มากโขเพราะทุกคนกลัวเด็กหญิงจะเสียนิสัยติดตัวไปกระทั่งโต

            “อาไทน์ชอบแกล้งหนู” เด็กหญิงย้ำอีกครั้ง

            “อาไทน์รักน้องปัณณ์น้า เห็นน้องปัณณ์น่ารักก็เลยแกล้ง” ฉันทัชแก้ตัวแทนน้องสาว

            “ถ้าตอนบ่ายอาปาลกลับมาทัน อาจันทร์กับอาปาลพาหนูไปกินไอติมได้ไหมคะ” เด็กหญิง
สบโอกาสหาจังหวะทวงขอได้เป็นผลสำเร็จ

            “ร้ายนะเรา” ฉันทัชบีบจมูกของหลานสาวทีหนึ่งไม่แรงนัก พอให้รู้สึกถึงความมันเขี้ยว

            “ได้ไหมคะ หนูไม่ได้ไปกินไอติมกับอาจันทร์แล้วก็อาปาลนานแล้ว”

            “ต้องรอถามอาปาลก่อนนะคะ ว่าอาปาลจะกลับมาทันไหมแล้วเหนื่อยหรือเปล่า ตกลงไหม” ฉันทัชใจอ่อนกับหลานสาวอีกครั้งหนึ่ง

            “ได้เลยค่า หนูไปยกน้ำกับขนมมาให้นะคะ”

            “อาจันทร์ขอไปหาคุณย่าก่อนได้ไหมคะ” ฉันทัชหมายถึงคุณหญิงกิ่งกานต์ เจ้าของบ้านที่ยังนอนหลับอยู่ข้างบน

            “ค่า งั้นเดี๋ยวหนูไปขอพ่อปอนด์กับแม่เกดด้วย ดีใจจังเลย” เด็กหญิงศราลักษณ์หอมแก้มฉันทัชอย่างตั้งใจ ก่อนจะวิ่งตัวปลิวไปหาพ่อและแม่เพื่อขออนุญาตไปข้างนอก


            ฉันทัชมองเด็กหญิงวิ่งจนหางเปียสองข้างขยับขึ้นลง ก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มให้กับภาพนั้นก่อนจะเลยขึ้นไปห้องนอนของคุณหญิง


            ชายหนุ่มเคาะประตูสองสามครั้งแต่ไม่ได้ดังนัก ก่อนจะเปิดเข้าไปโดยไม่รอคำอนุญาต ถ้าหากคุณหญิงหลับอยู่ ฉันทัชก็จะได้ปิดประตูลงอย่างเงียบเชียบดังเดิม แต่พอชะโงกหน้าเข้าไป เขาก็เห็นคุณหญิงลุกขึ้นนั่งเสมือนว่าตื่นขึ้นมาพักใหญ่แล้ว


            “อ้าว เทมส์..แม่กำลังจะลงไปหาพอดี”

            “แม่รู้หรือครับว่าเทมส์มา”

            “จ้ะ”

            “รู้ได้ไงครับ”

            “ใจของแม่บอกจ้ะ” คุณหญิงบอกอย่างอารมณ์ดี

            “พูดอะไรแบบนี้เป็นด้วยหรือครับ” ฉันทัชเดินเข้าไปหอมแก้มมารดาอดีตคนรัก

            “คิดว่าเจ้าปาลได้จากใครมาล่ะ” คำตอบของคุณหญิง ทำให้ฉันทัชถึงกับพูดไม่ออก เพราะมันก็จริงอย่างที่คุณหญิงว่า

            “ไปจ้ะ ลงไปข้างล่างกัน”

            “ครับ”

            “แล้วมานี่ รู้ไหมว่าเจ้าปาลไม่อยู่” คุณหญิงถามระหว่างเดินลงบันไดมาชั้นล่าง

            ฉันทัชหัวเราะ ใครๆ ก็ดูจะเป็นห่วงเขาเรื่องนี้เสียจริง “ไม่ทราบครับ เทมส์เพิ่งรู้จากพี่ปอนด์เมื่อสักครู่นี้เอง”

            “เหรอจ๊ะ แม่ก็กลัวเทมส์ลำบากใจถ้ามาแล้วเจอตัวปัญหาอยู่ที่บ้าน” คุณหญิงหัวเราะตามบ้าง

            “ไม่เป็นไรครับ ทุกวันนี้ลูกชายแม่ก็โผล่หน้ามาให้เห็นทุกวัน” ฉันทัชพูดออกไป เขาไม่คิดว่าเรื่องนี้คุณหญิงจะไม่รู้เห็น

            “ถ้าอย่างนั้น ลูกชายแม่พอจะมีหวังบ้างไหมล่ะจ๊ะ” คุณหญิงอาศัยจังหวะนี้ถามกลับเมื่อเดินมาถึงโซฟาที่นั่งพอดี คนในบ้านก็รู้งาน รีบนำน้ำชาของว่างยามบ่ายมาวางไว้ ราวกับรู้ใจไม่ต้องรอให้เอ่ยทวงถาม

            ฉันทัชหยิบขนมมากัดเข้าปากก่อนจะตามด้วยน้ำชาที่อวลไปด้วยกลิ่นหอมของใบชาอย่างดี

            “เทมส์ควรจะกลับไปดีไหมครับแม่” ฉันทัชถามออกไปทั้งที่รู้ว่า อย่างไรแล้วมารดาก็ต้องเข้าข้างลูกชายอย่างแน่นอน

            “แม่เคยบังคับเทมส์ด้วยหรือ มานั่งข้างๆ แม่นี่จ้ะ แม่จะเล่าอะไรให้ฟัง” คุณหญิงตบที่นั่งข้างตัวก่อนจะยกถ้วยน้ำชาขึ้นจิบด้วยความพอใจ


            ฉันทัชทำตามอย่างว่าง่าย คุณหญิงยิ้มก่อนจะเล่านิทานให้ฟัง “แม่กับพ่อของเจ้าปาลน่ะ ไม่ได้ชอบพออะไรกันแต่แรกหรอกนะจ๊ะ แม่ถูกส่งไปเรียนถึงเมืองนอก ตอนนั้นก็โก้เก๋เชียวล่ะ เลยไม่อยากแต่งงาน อยากทำงานใช้ความรู้ที่อุตส่าห์ไปร่ำเรียนมา แต่พ่อกับแม่ของแม่น่ะ เขาก็ยังมีความคิดแบบเก่าอยู่ เป็นผู้หญิงยิงเรือก็ควรแต่งงานมีเหย้ามีเรือนให้เรียบร้อย แต่เพราะแม่เพิกเฉย เขาเลยหาคู่ให้แม่เสียเลย”


            “แล้วพ่อ...เขาก็โอเคเหรอครับ” ฉันทัชไม่รู้จักพ่อของปาณัสม์เลยแม้แต่น้อย ตอนที่คบกัน พ่อของปาณัสม์ก็ลาโลกนี้ไปแล้ว

            “ไม่เลยจ้ะ ไม่เลย เขาก็หัวดื้อเหมือนกัน รายนี้ก็ไม่เบา บ้างานไม่ต่างอะไรกับเจ้าปาลหรอก แต่ลูกคนจีนล่ะนะ ก็ขัดพ่อแม่ลำบากหน่อย เลยได้จับพลัดจับผลูมาแต่งงานกัน”

            “เทมส์คิดว่าแม่รักกับพ่อเลยแต่งงานกันเสียอีก”

            “ช่วงปีแรก แม่ก็ยังไปทำงานอยู่ พอคลอดเจ้าปอนด์นั่นแหละ แม่ถึงหยุดไปทำงาน หันมาเลี้ยงลูกเต็มตัว ยังไงเลี้ยงเองก็ดีกว่าให้คนอื่นเลี้ยงให้ใช่ไหม”


            ฉันทัชพยักหน้าเห็นด้วย


            “ก็อยู่มาเรื่อยๆ จนกระทั่งคลอดเจ้าปาล ทีนี้ล่ะ บริษัทกำลังก้าวหน้า พ่อเจ้าปาลก็เอาแต่ทำงาน แม่ก็เข้าสู่ภาวะหลังคลอด คิดนั่นผูกนี่ไปเรื่อย เลี้ยงลูกไป ร้องไห้ไป นึกๆ ดูแล้วก็ตลกตัวเอง”

            “จริงเหรอครับ” ฉันทัชไม่เคยรู้หรือได้ยินเรื่องนี้มาก่อน

            “จ้ะ สุดท้ายแม่เลยหอบข้าวหอบของกลับบ้าน พ่อเจ้าปาลก็กระไร คิดว่าแม่เหนื่อย คงจะให้ตายายช่วยเลี้ยงหลาน เลยไม่ได้มาตามแม่กลับบ้าน”

            “แม่ไม่โกรธหรือครับ”

            “น้อยใจมากกว่า จนเจ้าปาลเกือบจะขวบแล้วนั่นแหละ เขาถึงคิดได้มาตามแม่กลับบ้าน ว่าไป เจ้าปาล ลูกชายคนนี้ก็ถอดแบบพ่อเขามาเลยว่าไหม”

            ฉันทัชไม่ตอบ ได้แต่ยิ้มแห้งแล้วจึงถามต่อว่า

            “แม่ก็ยอมกลับมาหรือครับ”

            “ใช่จ้ะ กรณีแม่น่ะ ตัดสินใจไม่ยากเพราะเจ้าปอนด์ก็บ่นคิดถึงพ่ออยู่ทุกวี่ทุกวัน แม่ก็ยังมีความคิดว่าผัวเดียวเมียเดียวดีกว่าเปลี่ยนคู่ไปเรื่อย และที่สำคัญคือแม่รักพ่อเขา การกลับไปจะทำให้แม่มีความสุขกว่าเดิม”

            “แล้วมีความสุขไหมครับ”

            “มากเลยจ้ะ” คุณหญิงมองถ้วยน้ำชานิ่ง ฉันทัชมองตามคิดว่าคุณหญิงคงกำลังหวนนึกถึงอดีต จึงไม่พูดอะไรขัดจังหวะ

            “ที่แม่เล่าให้ฟัง ไม่ได้ต้องการให้เทมส์มาคิดหรือทำตามแม่หรอกนะจ๊ะ ถ้าเทมส์คิดว่า ตอนนี้ดีอยู่แล้วไม่ได้โหยหาที่จะกลับไป ก็ไม่ต้องกลับไป แต่ถ้าเทมส์คิดว่า ตอนนี้ก็ดีอยู่แล้ว และจะดีกว่านี้อีกถ้ามีอีกคนเข้ามาในชีวิต ก็ค่อยคิดทบทวนใหม่ดีไหม ไม่ต้องรีบร้อนหรอก ทุกอย่างมันมีข้อดีข้อเสียทั้งนั้น ค่อยๆ คิดดู เพราะถ้าเราแก้ไขปัญหาไม่ได้ สุดท้ายผลก็จะจบลงเหมือนเดิมจ้ะ”

            ยังไม่ทันที่ฉันทัชจะได้พูดหรือตอบอะไร เด็กหญิงหางเปียก็วิ่งผ่านหน้าคนทั้งคู่ไปอย่างรวดเร็ว

            “นี่น้องปัณณ์วิ่งไปหน้าบ้านทำไม” คุณหญิงเอ่ยถามด้วยความสงสัย

            “ปาลกลับมาแล้วไงครับ คงไปรอรับอา” ศรารัณที่อุ้มบุตรชายคนเล็กเข้ามาพอดีช่วยคลายความสงสัยให้มารดานิดหน่อย

            “ร้อยวันพันปีก็ไม่ได้วิ่งเร็วอย่างนี้นี่นา” คุณหญิงยังแปลกใจ

            “เด็กจะอ้อนคุณอาน่ะครับ ขอไปกินไอติม” ฉันทัชเฉลยให้เสียเอง ก่อนจะลุกขึ้นไปดูน้องปุณณ์เสียหน่อย หน้าตาจิ้มลิ้ม ผมดกดำ สร้างความเอ็นดูให้กับฉันทัชไม่น้อย เสียดายที่เขาไม่ค่อยได้มีโอกาสดูแลหรือช่วยเลี้ยงเด็กคนนี้เสียเลย

            “ถ้าย้ายกลับมา พี่จะให้เทมส์ช่วยเลี้ยงนะ พี่กับเกดจะได้สบาย” ศรารัณพูดราวกับอ่านใจคนตรงหน้าออก

            “เจ้าปอนด์ เดี๋ยวเถอะ ลูกตัวเองแท้ๆ เอะอะก็จะให้เทมส์เลี้ยง แล้วก็บ่นว่าลูกไม่รัก” คุณหญิงดุลูกชายเสียเอง

            “โธ่ แม่ครับ ปอนด์ก็พูดเล่นเฉยๆ ถ้าเทมส์ย้ายกลับมาจริง แม่ก็ดีใจไม่ใช่หรือ” ศรารัณบอกอย่างรู้ใจ

            “ย่ะ!” คุณหญิงกระแทกเสียงใส่บุตรชายเล็กน้อยพอเป็นพิธี เพราะใจจริงเธอก็ปรารถนาเช่นนั้นอยู่แล้ว

            “คุณพ่อขา คุณย่าขา” เสียงใสดังขึ้น “อาปาลบอกถ้าอาจันทร์ไปด้วยจะพาหนูไปกินไอติมค่ะ” เด็กหญิงศราลักษณ์ยิ้มหน้าแป้นเข้ามาแล้วกระโดดเกาะแขนคุณอาจันทร์

            “รับปากหลานแล้ว ห้ามผิดคำพูดนะเทมส์” ศรารัณบอก

            ฉันทัชยิ้มให้กับพี่ชายอดีตคนรักก่อนจะหันมาบอกหลานสาว “ให้อาปาลนั่งพักสักหน่อย แล้วเราค่อยออกไปกันนะคะ”

            “ตกลงค่ะ เดี๋ยวหนูไปเอาน้ำมาให้อาปาลก่อน” สิ้นคำพูด หลานสาวคนเดียวของบ้านก็วิ่งหายเข้าไปที่หลังบ้านอย่างรวดเร็ว ทิ้งให้คุณอาและคุณพ่อส่ายหน้าเบาๆ ด้วยความเอ็นดูในตัวเด็กหญิง

            “เวียนหัวตาลายเลยเชียว วิ่งปรูดไปทางนั้นที ทางนี้ที” คุณหญิงหยิบยาดมขึ้นสูดเสียงดัง




           
           

========================================

คู่นี้เขามีมุมผลัดกันเป็นผู้มีวางอำนาจค่ะ

เจอกันวันอังคารค่ะ



HASHTAG #ภาคต่อของความรัก

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6

ออฟไลน์ miikii

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1719
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
หลานบ้านนี้น่ารักมากเลย  :katai2-1:
ไทน์กับคุณก้องนี่ยังไงน้าาา

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
 :z1: :z1: :z1: :z1:   ชัดเจนจะมีคู่ไหมอะ ขอภาคต่อไปชัดเจนเป็นพระเอกได้ไหม

ออฟไลน์ sailom_orn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-1
 :katai2-1: น้องปัณ...หนูเป็นงานมากเลย :mew1:

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
เมื่อไหร่ไทน์จะยอม ๆ รับซะทีกับคุณก้อง

ออฟไลน์ mab

  • ชื่อ mab ไม่ได้ชื่อ map
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 694
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-0
อบอุ่น

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
เอ็นดูน้องปัณ รู้งาน

ออฟไลน์ เขมกันต์

  • nothing’s else I can say
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 452
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +164/-9
    • Twitter

ภาค 27 Can we get back together?



“เอารสไหนดีน้า” เด็กหญิงที่ร้องขอมาทานไอศกรีมกำลังเลือกรสชาติอยู่หน้าตู้กระจกใสอย่างตั้งใจ



“เลือกกี่รสก็ได้ แต่ต้องทานให้หมดนะคะ” ปาณัสม์ที่ยืนกำกับอยู่ด้านหลัง ก้มลงบอกหลานสาว



“อาปาลกับอาจันทร์ก็ช่วยหนูกินไม่ได้เหรอ มีตั้งหลายรสที่หนูอยากกิน”



“รสไหนบ้างคะ” ปาณัสม์ถามต่อ มือขาวๆ นิ้วสั้นๆ จิ้มลงไปที่รสชาติของไอศกรีมอยู่สามสี่รส



“ถ้าแค่นี้ก็ได้ค่ะ อาจะช่วย”



“จริงนะคะ”



“ค่ะ” รางวัลของปาณัสม์คราวนี้คือหลานสาวกอดคอผู้เป็นอาแล้วหอมแก้มลงไป “อาปาลกลับไปนั่งรอนะ เลือกเสร็จแล้วก็ตามมาเองได้หรือเปล่า”



“ได้ค่า” เด็กหญิงศราลักษณ์รับปากอย่างมั่นใจก่อนจะหันกลับไปใส่ใจกับการสั่งไอศกรีมต่อ



“ตามใจหลานเยอะหรือเปล่า” คำถามแรกของฉันทัชเมื่อเห็นปาณัสม์นั่งลงที่ฝั่งตรงข้าม



“ไม่มากเท่าจันทร์หรอก”



“น้อยไปสิ อาปาลนี่ล่ะตัวดี” ฉันทัชว่า ถ้าจะมีคนที่ตามใจหลานมากที่สุดของบ้าน ตำแหน่งนี้คงหนีไม่พ้นปาณัสม์



“นิดหน่อยเองน่า น้องปัณณ์เลือกไอติมแค่สามสี่รส จันทร์ไม่โอเคหรือ”



“ก็พอไหว” ฉันทัชบอกเพราะสองอานี่แหละ ท้ายที่สุดจะต้องเป็นคนช่วยหลานสาว หากทานไม่หมด



“อืม” ปาณัสม์เสยผมที่ปรกตาให้พ้นจากสายตา การกระทำนั้นทำให้ขัดสายตาของฉันทัชพอสมควร



“นี่ปาล”



“ครับ?”



“เดี๋ยวกินไอติมเสร็จ แล้วไปตัดผมออกหน่อย ผมหน้ามันยาวแล้ว ข้างหลังก็เริ่มยาว”



“วันหลังก็ได้น่าจันทร์” ปาณัสม์เลื่อนวันเพราะไม่ได้รู้สึกว่าต้องเร่งจัดการในตอนนี้



“วันนี้แหละ เห็นแล้วมันขัดตา” ฉันทัชปรายตามองพลางบอกด้วยเสียงเหนื่อยหน่าย



ปาณัสม์ได้ยินจากน้ำเสียงก็เอะใจพอมองใบหน้าคนพูดเท่านั้น เขาก็ตอบรับอย่างว่าง่าย “เอาสิ ไปตัดวันนี้เลย”





ช่วงเวลาไอศกรีมสุขสันต์ผ่านไป คนที่กลัวจะทานไม่หมดทีแรก สุดท้ายก็ทานหมดได้อย่างน่าประหลาดใจ คุณอาสองคนจึงช่วยทานไอศกรีมเพียงอย่างละนิด อย่างละหน่อยเท่านั้น



“เราจะไปไหนกันต่อคะ” เสียงเด็กแปดขวดถามขึ้นเมื่อเดินออกมาจากร้าน



“เราจะพาอาปาลไปตัดผมกันค่ะ” ฉันทัชที่กำลังจูงมือหลานสาวเลือกตอบเสียเอง



“ผมหน้าม้าอาปาลยาวแล้ว ตัดก็ดีค่ะ หนูเห็นแล้วยังรำคาญแทนเลย”



ฉันทัชยิ้ม มองเด็กตรงหน้า “ช่างพูดนะเราน่ะ”



“ไม่ใช่หน้าม้าสักหน่อย” ปาณัสม์เอ่ยแย้งขึ้นมาบ้าง พลางจับปอยผมข้างหน้ามาดู



“เหมือนกันแหละค่ะ” คำพูดของหลานสาวถือเป็นคำตัดสิน









...










“ยินดีต้อนรับครับ” เสียงพนักงานดังขึ้นต้อนรับลูกค้า “อ้าว นึกว่าใคร คุณปาลนี่เอง แล้ววันนี้คุณเทมส์ก็มาด้วยเหรอครับ”



“พูดอย่างนี้แสดงว่าผมมาไม่ได้แล้วหรือ” ฉันทัชเย้า



“ไม่ใช่อย่างนั้นครับ ผมจะกล้าไล่ลูกค้าได้ไงกัน แค่จะบอกว่าดีครับ คุณมาก็ดี”



“ทำไมครับ? มีอะไรหรือเปล่า”



“คุณปาลจะได้เปลี่ยนทรงใหม่เสียที คุณไม่มาด้วยเป็นปี คุณปาลมาทีไรก็บอกให้ตัดทรงเดิม เอาสั้นขึ้น แค่นั้น แต่ผมตอนนี้ของคุณปาลมันไม่ใช่ทรงเดิม ลอนที่ดัดก็คลายหมดแล้ว”





ฉันทัชหันหน้าไปมองเจ้าของชื่อ เลิกคิ้วเล็กน้อย ทำท่าทางว่าใช่อย่างที่เขาพูดหรือเปล่า แต่ปาณัสม์เลือกจะไหวไหล่เบาๆ



“ก็ผมไม่รู้จะเอาทรงไหน” ปาณัสม์ตอบ



“แล้ววันนี้จะตัดทรงไหนดีครับ” พนักงานที่มีดีกรีเป็นถึงเจ้าของร้านถามขึ้น



“อืม ทรงไหนดี จริงๆ ทรงเก่าก็ดี” ฉันทัชทำท่าครุ่นคิด “แต่ถ้าทำวันนี้ น้องปัณณ์ต้องรอนานแน่เลย”



“ครับ?”



“เอาเกรียนๆ แบบไปฝึก รด. ดีไหม” ฉันทัชถาม ตั้งใจแกล้งเหยื่อที่จะถูกนำไปทดลอง



“ไม่เอา อย่าเล่นน่า” ปาณัสม์จึงปรามกลับมาบ้าง



“เอาทรงนี้ละกันครับ ตัดให้สั้นลงกว่านี้อีกหน่อย ไม่ต้องถึงกับอันเดอร์คัท” ในใจฉันทัชก็อยากให้ปาณัสม์ตัดอันเดอร์คัทที่กำลังฮอตฮิตอยู่ในตอนนี้ แต่ทว่ามันจะไม่เหมาะสมกับตำแหน่งหน้าที่การงาน กลัวว่าคนจะไม่ค่อยเชื่อถือเข้าไปอีก



“ข้างหน้าก็เซตเสยๆ เอาหน่อยก็คงได้” ฉันทัชสรุปให้



“ได้เลยครับ”



“นานไหม” ฉันทัชถามเพราะถ้าหากนานเกินไป เขาจะได้พาหลานสาวออกไปเดินเล่นข้างนอก



“ประมาณชั่วโมงถึงชั่วโมงครึ่งล่ะครับ”



“โอเคครับ” ฉันทัชพูดจบก็หันไปพูดกับคนที่ต้องอยู่ในร้านต่อ “เดี๋ยวเทมส์พาน้องปัณณ์ไปดูของข้างนอกนะ ถ้าเสร็จก่อนก็โทรมานะ”



“ตกลง”







กลับมาอีกครั้ง สองมือของฉันทัชก็เต็มไปด้วยถุงของเล่นที่มีทั้งของเด็กหญิงศราลักษณ์และเด็กชายอิศรา เพราะเขาไม่ได้ซื้ออะไรให้เด็กทั้งสองคนนานแล้วจึงถือโอกาสนี้จัดการไปอย่างไม่เสียดายเงินในบัญชีธนาคารที่อินทัชชอบค่อนแคะว่าพี่ชายของเธอนั่นขี้งกนัก ขี้งกหนา



“เป็นไง” ปาณัสม์ยืนรออยู่หน้าร้านเรียบร้อยเมื่อเห็นอีกฝ่ายเดินเข้ามาหา



“ก็ดี แต่ยังไม่ถูกใจ” ฉันทัชบอกพลางเม้มปาก มันมีบางอย่างที่ยังติดขัดในใจ แต่เพราะเวลาไม่ค่อยมี ได้เท่านี้ก็ถือว่าโอเคแล้วล่ะมั้ง



“ว้าว อาปาล หล่อจังเลย” เด็กหญิงเอ่ยชม พอผมหน้าโล่งจึงได้อวดใบหน้าของปาณัสม์



“น้องปัณณ์พูดถูกใจอาปาลมากเลยค่ะ แต่ดูเหมือนอาจันทร์จะไม่ค่อยชอบ” ปาณัสม์ว่าพลางโยนเรื่องไปให้เจ้าของความคิดเรื่องทรงผม



“อาจันทร์ไม่ชอบเหรอคะ”



“เปล่าหรอกค่ะ” ฉันทัชย่อตัวลงไปพูดกับหลานสาวเพื่อให้ได้ยินเพียงสองคน “แต่อาจันทร์ว่า อาปาลหล่อได้กว่านี้อีกน้า”



“เหรอคะ”



“ไว้วันหลังอาค่อยพาอาปาลมาตัดผมใหม่อีกรอบ”



“หนูมาด้วยได้ไหมคะ”



“อาปาลต้องใช้เวลาเสริมหล่อนาน ไว้วันอื่นดีกว่าค่ะ”



“ก็ได้ค่ะ”



“แฮ่ม..สองอาหลานคุยอะไรกัน หืม?” ปาณัสม์รู้สึกตัวเองเป็นส่วนเกิน จึงพูดแทรกขึ้นมา



“ความลับค่ะ” เด็กหญิงตอบคุณอาอย่างมีเลศนัย



“กล้าใจร้ายไม่บอกอาหรือคะ” ปาณัสม์ย่อตัวอุ้มเด็กหญิงขึ้นมาคุยเพื่อให้ใบหน้ามีระดับเดียวกัน





เด็กหญิงศราลักษณ์จึงอาศัยจังหวะนี้ถอดแว่นตาของปาณัสม์ออกแล้วถือไว้เสียเองแล้วหันไปทางฉันทัช “หนูว่าถ้าอาปาลถอดแว่นก็หล่อแล้วนะอาจันทร์”



ฉันทัชหัวเราะ “ใส่ไว้อย่างเดิมแหละค่ะ ดีแล้ว” แล้วหยิบแว่นออกมาจากหลานสาวเพื่อใส่คืนให้ปาณัสม์ดังเดิม



“กลับเลยไหม” ปาณัสม์เสนอความคิด ตอนนี้ก็เย็นย่ำแล้ว



“ค่า” เด็กหญิงไม่มีอิดออด ยอมตามกลับบ้านแต่โดยดี เพราะใจอยากจะไปแกะของเล่นที่บ้านเต็มทีแล้ว



“ปาลช่วยถือ” ปาณัสม์บอกคนที่ถือของพะรุงพะรังทั้งสองมือ



“ไม่เป็นไร”



“ปาลถือให้เอง จันทร์ดูน้องปัณณ์เถอะ”



“ขอบคุณนะ” ฉันทัชเลยไม่แย้งอะไรต่อ ส่งถุงทั้งหมดไปให้แล้วไปจับมือเด็กหญิงแทน













....









“กลับมากันแล้ว แม่ยังถามเจ้าปอนด์กับยายเกดอยู่เลยว่าเราสามคนจะกลับมากินข้าวบ้านไหม”



“เทมส์คงไม่ครับแม่ เดี๋ยวจะขับรถกลับบ้านเลย กลัวจะดึกกว่านี้”



“อะไรกัน จะหิ้วท้องไปถึงบ้านได้ไง หิวแย่ ถ้ากลัวว่าจะดึกนักก็ค้างที่นี่เสียเลย ห้องหับที่บ้านเราก็มีออกถมไป” คุณหญิงบ่นแกมดุ



“แต่แม่ครับคือเทมส์...” ฉันทัชอยากปฏิเสธแต่ก็ไม่กล้า



“กลัวไทน์จะห่วงรึ”



“ก็ไม่เชิงครับ” ฉันทัชโกหกได้ไม่เต็มปากเพราะรู้ว่าน้องสาวมีนัดกับก้องภพ ยังไงก็ไม่ได้มานั่งรอเขาอยู่ที่บ้านเป็นแน่



“แม่จะต้องโทรหาเจ้าเด็กนี่บ้างแล้ว ข่าวลือหนาหูเหลือเกินว่ากำลังสนิทกับคุณก้องภพ” คุณหญิงหรี่ตาลงมองฉันทัชอย่างไม่ไว้ใจ “เทมส์ก็รู้เรื่องน้องใช่ไหม”



“อ่า..ครับ” ฉันทัชไม่คิดว่าคุณหญิงจะรู้เรื่องของอินทัช แต่ก็ไม่น่าแปลกใจสักเท่าไหร่ สังคมไฮโซก็ไม่ได้ใหญ่โตอะไร ข่าววงนอกวงในก็คงมาถึงหูคุณหญิงได้ไม่ยาก



“คุณก้องภพ เขามีหน้าที่การงานที่ดีก็จริง ทำธุรกิจร่วมกับเราก็ไม่มีหมกเม็ดหรือมีนอกใน โปร่งใสทุกอย่าง ถึงจะมีลูกชายแล้วก็ไม่ได้น่าเกลียดอะไรเพราะไม่ได้มีภรรยาเป็นตัวเป็นตนมาคอยรังควาน แต่เขาเจ้าชู้ไม่ใช่รึ” ในที่สุดคุณหญิงก็พูดประเด็นสำคัญออกมา



“คุณแม่ก็...เรื่องส่วนตัวของไทน์เขานะครับ” ศรารัณพูดขึ้นมาเพื่อช่วยเหลือฉันทัชที่กำลังตกที่นั่งลำบาก



“ถ้าไทน์ไม่เห็นใจแม่แล้วก็ช่างเถอะ แม่จะไม่พูดไม่ห้ามหรอก”



“ไม่ใช่อย่างนั้นครับ ไทน์รักและเคารพแม่เหมือนกับเทมส์ ตอนนี้ไทน์ยังไม่ได้ตกลงจะคบกับคุณก้องครับ”



“แม่ไม่ว่าหรอกถ้าไทน์จะรักจะชอบใคร แต่ถ้าคุณก้องภพเขามาทำเล่นๆ กับลูกสาวแม่ล่ะก็ แม่ไม่ยอมหรอกนะ”



“ไทน์โตแล้วนะครับแม่” เป็นอีกครั้งที่ศรารัณช่วยกู้สถานการณ์



“ย่ะ!” คุณหญิงกระแทกเสียงใส่บุตรชายคนโต “แล้วตกลงเทมส์จะไม่อยู่กินข้าวที่นี่หรือ” คุณหญิงถามด้วยน้ำเสียงที่ยังขุ่นเคือง



“ทานครับ เดี๋ยวเทมส์อยู่ทานข้าวกับแม่ที่นี่ก่อน” มีหรือที่ฉันทัชจะกล้าปฏิเสธ



“ดีจ้ะ ดีมาก” พลันน้ำเสียงคุณหญิงก็แปรเปลี่ยนกลับมาใสหวานดังเดิม







นอกจากจะต้องอยู่โยงทานข้าวเย็นกับคุณหญิงพร้อมด้วยสมาชิก คืนนี้ฉันทัชก็ไม่ได้กลับไปนอนที่บ้านด้วยเช่นกัน คุณหญิงให้เหตุผลว่าพรุ่งนี้เขากับปาณัสม์ก็ต้องไปเลือกรถด้วยกันอยู่แล้ว จะได้ไม่ต้องเสียเวลาไปรับแล้วไปส่งให้ยุ่งยาก ออกจากบ้านไปพร้อมกันเลยจะได้สะดวกกว่า



“ยังไม่นอนหรือ” เสียงทุ้มดังขึ้นจากด้านหลังทำให้ฉันทัชที่กำลังง่วนอยู่กับการชงเครื่องดื่มอยู่หน้าเคาต์เตอร์ในครัวถึงกับสะดุ้งเล็กน้อย



“อืม นอนไม่หลับเลยลงมาหาอะไรดื่มเสียหน่อย ปาลล่ะ”



“เหมือนกัน”



“ดื่มอะไรไหม”



“เหมือนจันทร์ก็ได้” ปาณัสม์ตอบส่งๆ เพราะเขาไม่ได้มีเมนูอะไรที่อยากดื่มจริงจัง



“ได้เหรอ มันไม่ใช่เหล้านะ ดื่มไปจะปวดท้องหรือเปล่า” ฉันทัชถาม ไม่ใช่เป็นห่วง แต่แกล้งอีกฝ่ายเล่นมากกว่า



“ไม่ขนาดนั้น ไม่ค่อยได้ไปดื่มแล้ว เหล้าอะ”



“รู้น่า แซวเล่นไปอย่างนั้นเอง มีคนช่วยเยอะเหลือเกิน พูดให้เทมส์ฟังว่าปาลเป็นอย่างนี้ เปลี่ยนไปอย่างนี้ แรงเชียร์เยอะสุดๆ”



“พวกเขาอยากให้เรากลับมาอยู่ด้วยกัน”



“ถ้ากลับมาอยู่ด้วยกันอีกครั้ง เราสองคนจะเป็นเหมือนเดิมไหม เราจะเบื่อกัน จะทะเลาะกันอีกหรือเปล่า”



“ไม่รู้สิ ปาลตอบไม่ได้หรอก คนเราอยู่ด้วยกันมันก็ต้องมีบ้าง แต่ต่อจากนี้ปาลจะทำให้จันทร์รู้ว่า ปาลจะไม่ทำแบบเดิม จะไม่สัญญา จะไม่รับปาก แต่จะพยายามทำให้จันทร์เป็นคนที่มีความสุขอีกครั้ง ร้องไห้เสียใจให้น้อยที่สุด”



“เทมส์จะมีความสุขกว่าตอนนี้ใช่ไหม” ฉันทัชยื่นแก้วนมที่เพิ่งอุ่นเสร็จใหม่ๆ ให้ปาณัสม์ และเริ่มชงนมใหม่อีกแก้วให้ตัวเองบ้าง







ปาณัสม์ยิ้ม เขาให้คำตอบนี้ไม่ได้ “ทั้งที่อยู่ด้วยกันมานาน แต่เรากลับไม่ค่อยปรับตัวเข้าหากันเลย ปาลเอาแต่ใจ จันทร์ไม่พอใจ แต่เราเลือกไม่พูดกัน ปาลไม่อยากให้เป็นแบบนี้อีก ปาลอยากให้จันทร์บอกหรือถามปาลมากกว่านี้ ปาลรู้ตัวนะว่าจันทร์ไม่ชอบนิสัยของปาลหลายอย่าง แต่ปาลก็ไม่เคยลองแก้ไขเลย ปาลเลยอยากขอโอกาสที่จะแก้ไขตัวเองเสียใหม่”



“เทมส์ไม่ค่อยถามปาลจริงๆ นั่นแหละ เทมส์เลือกเดินหนีเสมอเวลาเรามีปัญหากัน เทมส์คิดมาตลอดว่าถ้าเราอารมณ์เย็นลงมันคงจะคุยง่ายขึ้น แต่สุดท้ายเรามักแค่ขอโทษกันแต่ไม่อยากลงมือแก้ไข”



“เราสองคนเดินทางผิดมาตลอดเลย” ปาณัสม์วางแก้วลงบนโต๊ะเล็กข้างหน้าแล้วจึงลุกขึ้นไปหาฉันทัช เขาจับมือทั้งสองข้างของฉันทัชไว้ เพื่อให้ทั้งคู่ได้สบตากัน



“ขอโทษทีที่ปาลหาสถานที่ที่มันโรแมนติกกว่านี้ไม่ได้”



“หืม?” ฉันทัชสงสัย เงยหน้ามองปาณัสม์ อีกฝ่ายกำลังพูดเข้าเรื่องอะไร



“เราเบื่อกัน ทะเลาะกัน เลิกกัน แต่ปาลไม่เคยเลิกรักจันทร์เลยนะ จันทร์เคยพูดว่าจันทร์เห็นภาพปลายทางที่มีปาลกับจันทร์อยู่ข้างกัน ปาลเองก็เช่นกัน ปาลไม่ได้อยากเห็นแค่ภาพนั้น แต่ปาลอยากทำให้มันเป็นจริง”



“ขอบคุณที่ยังรักเทมส์ นึกว่าจะไม่ได้ยินคำนี้แล้วเสียอีก”



“จะไม่รักจันทร์ได้ยังไง ใครกันที่อยากให้ปาลใส่แว่นไว้ อย่างน้อยก็เพื่อจะได้ปกปิดความหล่อของตัวเองไว้แบบนี้ล่ะ”



ฉันทัชทำหน้าเหม็นเบื่อทันที “หลงตัวเอง”



“อย่าเรียกว่าหลงตัวเอง เรียกว่ารู้จักตัวเองดีกว่า” ปาณัสม์ยิ้มให้ ละมือออกมาทาบที่แก้มข้างหนึ่งของฉันทัชเอาไว้



“กลับมาเป็นจันทร์ของปาลนะครับ”



“ดาวมันยังฟูไม่เต็มอกเลย อย่าเร่งเทมส์ได้หรือเปล่า”



“ใจแข็งจัง ก็ได้ๆ แม่ก็บอกปาลอยู่ว่าอย่าเพิ่งเร่งจันทร์ แต่ปาลใจร้อน เราห่างกันมาปีหนึ่งแล้ว ปาลไม่อยากรออีก อยากกอดจันทร์ อยากจูบ อยากทำกับจันทร์”



“ทะลึ่ง”



“อ้าว อยากนอนกับเมียก็ผิดเหรอ”



“เมียไรอีก ไม่ได้เป็นอะไรกันสักหน่อย”



“เขินเหรอ” ปาณัสม์แกล้งดึงแก้มอีกฝ่ายเบาๆ



“ขึ้นไปนอนได้แล้ว” ฉันทัชเอ่ยปากไล่



“ไม่ดื่มนมแล้วเหรอ ปาลยังไม่ได้ดื่มเลย”



“ไม่ดื่มแล้ว ปาลก็รีบเลย มัวแต่โม้อะไรนักก็ไม่รู้”



“เขินแล้วพาลแบบนี้ไม่ได้นะครับ” ปาณัสม์บอกอย่างรู้ทัน



“ถ้ามัวแต่โอ้เอ้ งั้นเทมส์ไปนอนก่อนแล้วกัน” ฉันทัชพูดพลางจะเดินหนีไปจากบริเวณนั้น



“เดี๋ยวสิๆ รอปาลก่อน” ปาณัสม์รีบกระดกนมเข้าปากอย่างรวดเร็วแล้วรีบไปวางในอ่างล้างจาน ก่อนจะเดินตามคนนำหน้าไป “ไปนอนห้องเรานะ”



“เรื่องอะไร ไม่ไป”



“ไปเถอะน่า ห้องนั้นไม่ค่อยมีแขกมาพัก ฝุ่นเยอะ กลิ่นอับ นอนไม่สบายหรอก” ปาณัสม์หาเหตุผลต่างๆ นานามาให้อีกฝ่ายฟัง



“เรื่องเล็กน้อยแค่นั้นเทมส์นอนได้” ฉันทัชบอก ขายังไม่หยุดเดิน



“ไม่มีเทมส์นอนด้วยปาลนอนไม่หลับ”



“ปีก่อนๆ นอนได้ไง ในห้องน้ำก็เห็นเคยนอนได้ อย่ามาอ้างนั่นอ้างนี่ เทมส์ไม่เชื่อ” ฉันทัชยังไม่ยอมใจอ่อน



“มันเปลืองไฟ นอนห้องเดียวกัน แอร์จะได้เปิดแค่เครื่องเดียวไง”



“เดี๋ยวเทมส์จ่ายค่าไฟให้” ฉันทัชบอกอย่างระอาให้กับคนที่ยังไม่ยอมละความพยายาม



“ใจแข็งชะมัด ก็คนมันคิดถึง อยากนอนกอดด้วยไม่ได้หรือ” ปาณัสม์ยื่นไม้ตายออกมาหวังให้อีกฝ่ายยอมทำตามใจ



“นอนกอดหมอนข้างไปก่อน” ฉันทัชหยุดยืนที่หน้าห้องของตัวเองพอดิบพอดี



“ฝันดีนะครับ ปาณัสม์ที่รัก” ฉันทัชกล่าวปิดท้ายก่อนจะหายเข้าไปในห้องนอน ปล่อยให้ปาณัสม์รับคำฝันดีที่เป็นฝันร้ายในเวลานี้เอาไว้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้





“จันทร์ใจร้าย” ชายหนุ่มโอดครวญได้เท่านี้ก่อนจะยอมแพ้แล้วกลับเข้าไปนอนห้องตัวเอง

 



========================================

นึกว่านิยายเรื่องนี้จะไม่มีคำว่า "รัก" เสียอีก


กลัวว่าสัปดาห์นี้จะมีปัญหาค่ะ เลยมาลงวันนี้และตอนจบวันพุธนะคะ


HASHTAG #ภาคต่อของความรัก

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05-12-2018 10:46:10 โดย เขมกันต์ »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ nonlapan

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 156
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-2
จะจบแล้วหรอ ใจหายแฮะ  :hao5:

ออฟไลน์ mab

  • ชื่อ mab ไม่ได้ชื่อ map
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 694
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-0
อิตาปาลขี้อ้อนจริงวุ้ย o18

ออฟไลน์ Duangjai

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 655
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-1
.....

เดี๋ยวๆๆๆ.  ตอนหน้าที่จะลง เป็นตอนจบของเรื่องแล้ว???

 :ruready  :ruready  :ruready  :ruready  :ruready  :ruready  :ruready

บทสวีทหวีดหวิวของจันทร์กับปาลยังไม่มา   บทสรุปของไทน์กับคุณก้องภพยังไม่มี

นิยายขายดี ยืดออกอีกนิดเพราะคนใกล้ชิดติดใจน้าาาา


 :hao3:  :hao3:  :hao3:  :hao3:  :hao3:  :hao3:  :hao3:  :hao3:


……


ออฟไลน์ sailom_orn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-1
 :mew1: :mew1: :mew1: :mew1:  หยอดทุกสถานการณ์จริงๆ

ออฟไลน์ may27

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 297
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
เนื้อเรื่อง  ดูเป็นผู้ใหญ่ดีค่ะ  เหมือนจะสนุก....แต่ไม่สุด  .....ไม่รู้ว่าเพราะอะไรเหมือนกันค่ะ   ....เป็นกำลังใจให้ทั้งปาลและคนแต่งนะคะ

ออฟไลน์ เขมกันต์

  • nothing’s else I can say
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 452
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +164/-9
    • Twitter

ภาค 28 ภาคต่อของความรัก



“ทำตัวลึกลับ นึกว่าจะพาไปร้านไหน ที่แท้ก็มาที่นี่ ถ้าจะมาร้านนี้ เทมส์ขับรถมาเองก็ได้ ไม่เห็นต้องไปรับเลย” ฉันทัชบ่นตอนที่ลงมาจากรถที่มีคนขับเป็นพ่อหนุ่มหน้าเดิม



“ปาลอยากไปรับเอง”



“แล้วจะซื้อรถให้ทำไม ถ้าเทมส์ไม่ได้ใช้ จอดให้หนูแทะสายไฟเล่น เปลืองค่าเสื่อมอยู่ที่บ้าน จนไทน์บอกจะเอาไปขายทิ้งแล้ว”



“บอกไทน์ ถ้าเอาไปขายก็เอาเงินมาให้ปาลด้วย”



“ยังเล่นอยู่อีก”



“เข้าไปในร้านกันเถอะ ปาลจองโต๊ะไว้แล้ว”



“มีอะไรพิเศษหรือเปล่า เซอร์ไพรส์?” ฉันทัชถามระหว่างที่กำลังนั่งลง ปาณัสม์เลือกโต๊ะประจำของคนทั้งคู่ ฉันทัชเริ่มแปลกใจเหมือนมีวาระอะไรบางอย่าง ที่ไม่ใช่การพามาทานข้าวตามปกติ



“เดือนนี้ จำไม่ได้เหรอ?”



“อืม จำได้ ครบรอบไง” ฉันทัชจำได้ และวันนี้ยังเป็นวันที่พวกเขาตกลงร่วมกันว่าเป็นวันครบรอบอีกด้วย



“ปาลเลยพาจันทร์มาที่ร้านนี้เหมือนเดิม”



“แต่เราไม่จำเป็นต้องมาทำอะไรแบบนี้ มีอะไรปิดบังเทมส์อยู่ล่ะสิ”



ฉันทัชบอกเพราะตอนนี้พวกเขาไม่ได้กลับมาคบกัน



“บอกตอนนี้ก็หมดสนุกกันพอดี สั่งอาหารก่อนดีกว่า” ปาณัสม์เริ่มเปิดเมนูที่วางอยู่ข้างตัว



“ไวจังเลยนะ เหมือนปีที่แล้วเพิ่งจะมาร้านนี้เอง” คนที่ตั้งใจพาฉันทัชมาร้านนี้พูดขึ้นหลังจากสั่งอาหารเรียบร้อยแล้ว



“ตอนนั้นมาแบบไม่ได้ตั้งใจด้วย พอน้องพนักงานถามขึ้นมา เทมส์ตกใจเลย” ฉันทัชนึกย้อนไปเมื่อปีก่อนที่พนักงานร้านถามถึงการมาฉลองครบรอบในวันสำคัญของพวกเขา



“แต่ปาลตั้งใจนะ กำลังคิดว่าจะหาโอกาสชวนยังไง จันทร์ก็มาที่บ้านพอดี”



“เจ้าเล่ห์”



“เปล่าสักหน่อย ก็บอกอยู่ตะกี้ว่าจันทร์นั่นแหละเดินเข้ามาเอง”



“ถ้าแม่ไม่ป่วย ไม่มีทางหรอกที่จะไป และถ้าแม่ไม่พูดก็ไม่ยอมมาร้านนี้ด้วยหรอก” ฉันทัชบอก



“ตอนนั้นมีเรื่องชัดด้วย ยังไงปาลก็ต้องหาโอกาสคุยกับจันทร์เรื่องนี้ให้ได้อยู่แล้ว”



“เออ..นี่ปาล” พอปาณัสม์พูดถึงชัดเจน ทำให้ฉันทัชนึกอะไรขึ้นมาได้



“ครับ?”



“ชัดเป็นไงบ้างล่ะ ตั้งแต่ย้ายออกไปนี่ก็ปีหนึ่งแล้วใช่ไหม”



“ไม่ค่อยเล่าอะไรให้ปาลฟังหรอก แต่คงไม่แย่เกินไปหรอกมั้ง มาทำงานทุกวัน แต่ดูเหมือนจะมีอะไรบางอย่างเพิ่มขึ้นนะ”



“อะไรอะ” ฉันทัชถามด้วยความอยากรู้



“ชัดกำลังมีเรื่องความรักเข้ามาในชีวิต”



“ความรัก? เอาจริงดิ” ฉันทัชตาโตด้วยความประหลาดใจ



“คิดว่างั้นนะ”



“ชัดตัดใจจากเทมส์ได้แล้วจริงๆ ใช่ไหม ทำใจง่ายขนาดนั้นเลยเหรอ” ไม่ใช่ว่าฉันทัชจะหวงก้างหรือจะดึงรั้งชัดเจนเอาไว้หรอก แต่ชัดเจนรักเขามาตั้งหลายปี เรื่องเพิ่งผ่านมาปีเดียว ชัดเจนจะตัดใจได้ง่ายดายอย่างนั้นเชียวหรือ



“อย่าให้ชัดรู้นะ นี่ปาลกับพี่ปอนด์อุตส่าห์ลงทุนไปสืบมากันเองเลย”



“พี่ปอนด์ก็เอาด้วยเหรอ” ฉันทัชหลุดขำออกมาเพราะปกติแล้วศรารัณไม่ได้สนิทกับชัดเจนมากเท่ากับปาณัสม์



“แน่นอน พี่ปอนด์ก็ห่วงชัดนะ ยิ่งรู้เรื่องนั้นยิ่งเป็นห่วง”



“พี่ปอนด์เก่งชะมัด ทั้งที่ปาลปิดเรื่องชัดแทบตาย พี่ปอนด์กลับรู้ง่ายๆ” ฉันทัชพูดขึ้นบ้าง ปาณัสม์เล่าให้เขาฟังว่าศรารัณพูดว่าในเมื่อเป็นนักธุรกิจอยู่แวดวงเหล่านี้หูตาต้องกว้างไกล แล้วยิ่งเป็นเรื่องในบริษัทด้วย ทำไมศรารัณจะไม่รู้





แต่ศรารัณก็รับรู้เพียงแค่เรื่องปลอมเอกสารเรื่องเดียว พ่วงอีกเรื่องที่ชัดเจนชอบฉันทัช แต่ไม่ได้รู้ลึกในเรื่องอื่นของชัดเจนด้วย ซึ่งศรารัณรู้แค่นี้ย่อมดีกว่ารู้เรื่องทั้งหมด



“จะฟังเรื่องชัดต่อไหม”



“ฟังๆ เล่าเลย”



“ดูเหมือนชัดเจนจะสนิทกับเด็กข้างห้อง”



“เด็ก? เฮ้ย บรรลุนิติภาวะยัง อายุเท่าไหร่ เกินสิบแปดไหม พรากผู้เยาว์ไม่ได้นะ” ฉันทัชรัวถามออกไปเป็นชุดด้วยความเป็นห่วง



“ใจเย็นก่อน อย่าเพิ่งตีโพยตีพาย”​ ปาณัสม์ขำกับท่าทีของคนตรงหน้า “นักศึกษามหา’ลัย ปีสามแล้ว อายุก็ยี่สิบพอดี บรรลุนิติภาวะเรียบร้อย รอดพ้นคุกและตะราง ยกเว้นว่าพ่อแม่เขาจะมาหิ้วไอ้ชัดเข้าซังเต”



“ชัดไวไฟขนาดนั้นเลยเหรอ ไม่น่าเชื่อ กับเทมส์ไม่เคยรุ่มร่ามเลยนะ” ฉันทัชบอกเมื่อเทียบกับประสบการณ์ของตัวเองเวลาอยู่ตามลำพังกับชัดเจน



“ลองดูรูปน้องเขาก่อนไหม เผื่อจะเอามาประกอบการพิจารณาว่าชัดควรจะห้ามใจไหม” ปาณัสม์เปิดแอปพลิเคชันสีเขียว พลางส่งให้ฉันทัชรับไปดู



“แน่ะ มีไอดีกันด้วย คิดอะไรกับน้องหรือเปล่า” ฉันทัชหรี่ตามองคนตรงหน้า



“อย่าคิดเกินเลยน่า พี่ปอนด์ก็มีเหมือนกัน น้องเขาให้มาตอนที่ไปหาชัดแล้วเจอน้องออกมาจากห้องไอ้ชัดมัน น้ำตางี้นองเต็มหน้า น่าสงสาร”



“สงสารมากระวังเถอะ มันจะเลยเถิด” ฉันทัชขู่



“ไม่กล้าครับ ไม่กล้า ขนาดเอาใจสารพัด ขัดใจสักนิดก็ไม่มี ไปรับไปหาเช้าถึงเย็นถึง คุณฉันทัชยังใจแข็งขนาดนี้ กระผมไม่กล้าออกนอกลู่นอกทางหรอกครับ ไม่อยากนอนคนเดียวไปตลอด มือด้านหมดแล้วเนี่ย”



“หยุดคิดทะลึ่งเลย” ฉันทัชบอกเสียงลอดไรฟัน



“ดูรูปหรือยัง”



“ลืมเลย” ฉันทัชจึงหยิบโทรศัพท์ของปาณัสม์ขึ้นมาดูอีกรอบ ดวงตาเรียวเบิกกว้างขึ้นด้วยความตกใจ “หน้าตาของน้องเขา..”



“ใช่ไหมล่ะ” ปาณัสม์รับโทรศัพท์คืนมาจากฉันทัช



“อืม” ฉันทัชพยักหน้า



“ไทป์เดียวกับจันทร์เลย”



“ไม่ได้เหมือนกันขนาดนั้นสักหน่อย แต่น้องหน้าตาน่ารักดีนะ น้องเขาชื่ออะไร”



“เคลียร์”



“บังเอิญจังเลย คนหนึ่งก็ชื่อชัด อีกคนหนึ่งก็ชื่อเคลียร์ หวังว่ามันจะแจ่มแจ้งชัดเจนโปร่งใสล่ะนะ”



“ถ้าเป็นอย่างที่จันทร์ว่าก็ดีสิ”



“ทำไมล่ะ อ้อ ตะกี้ปาลบอกว่าน้องเขาร้องไห้ออกมาจากห้องชัดใช่ไหม”



“อืม ชัดยังไม่ลืมจันทร์ แต่น้องเข้ามาในชีวิตของชัดแล้ว”



“เทมส์สงสารน้องเลย เราช่วยน้องได้ไหม” ฉันทัชนึกห่วง



“เข้าใจหรือยังว่าทำไมพี่ปอนด์กับปาลถึงขอไอดีน้องเขามา”



“เทมส์อยากช่วย”



“จันทร์อย่าช่วยเลย ถ้าน้องรู้ว่าจันทร์คือคนที่ชัดรักมาตลอด น้องจะรู้สึกยังไง”



“จริงด้วย” ฉันทัชพยักหน้าเห็นด้วยเพราะเขากลายเป็นส่วนหนึ่งของปัญหาระหว่างชัดเจนกับน้องเคลียร์ไปแล้ว



“แล้วเทมส์ต้องทำไงอะ”



“จันทร์อยู่เฉยๆ ดีกว่า ปาลเองก็ยื่นมือเข้าไปยุ่งมากไม่ได้หรอก เรื่องของเขาสองคน ถ้าน้องรักชัดจริงๆ คงพยายามเต็มที่ แต่ถ้าชัดยังเลือกจันทร์อยู่ดี ใครหน้าไหนก็ไปช่วยน้องไม่ได้หรอก”



“น้องเคลียร์..” ฉันทัชรำพึงออกมาด้วยความสงสารเด็กที่ยังไม่เคยเจอหน้ากันสักครั้ง



“แล้วไทน์กับพี่ก้องเป็นไงบ้าง” ปาณัสม์ถามคนรักกลับบ้าง



“เหมือนเดิม เทมส์คิดว่าคุณก้องแค่จีบไทน์เล่นๆ ผิดคาดแฮะ จริงจัง”



“ไทน์ไม่ชอบพี่ก้องเหรอ”



“ชอบสิ ชอบพ่อเผื่อไปถึงลูกเลยล่ะ” ฉันทัชว่า



“แล้วติดอะไรตรงไหน”



“ยังไม่มั่นใจในตัวคุณก้องมั้ง ความเจ้าชู้ไม่เข้าใครออกใคร”

         

“งั้นเหรอ นึกว่าเป็นห่วงชื่อเสียง เป็นถึงดารงดารา” ปาณัสม์ทำเสียงค่อนขอดน้องสาวของอีกฝ่าย



“ขนาดไม่เจอตัวกันยังอุตส่าห์แขวะกันอีก” ฉันทัชส่ายหน้า “ไม่ใช่หรอก คงเป็นห่วงเรื่องของเทมส์มากกว่าว่าตกลงจะเอายังไงกับชีวิตกันแน่”



“งั้นก็ทำให้ไทน์เลิกห่วงจันทร์สักทีสิ มาเข้าเรื่องของเราดีกว่า”



“เรื่องของเรา? เทมส์กับปาลอะนะ”



“ใช่”



“ยังไงล่ะ” ฉันทัชถาม “เอ ทำไมอาหารมาช้าจัง” ฉันทัชเฉไฉไปเรื่องอาหารแทน



“เปลี่ยนเรื่องเหรอ อะ รออาหารมาก่อนก็ได้”



“ขออภัยที่ให้รอนานค่ะ” พูดถึงอาหาร อาหารก็มาทันใจ พนักงานสาวยกอาหารที่สั่งมาเสิร์ฟพอดี



“ปีนี้พวกคุณก็มาเช่นเคยนะคะ ครบรอบปีที่เท่าไหร่แล้วคะ” หญิงสาวยิ้มให้พลางยกอาหารทีละจานวางลงบนโต๊ะอย่างนุ่มนวล



“ปีที่ศูนย์ของการเป็นแฟนครับ”



“เอ๋? ทำไมคะ” เธอทำหน้าสงสัย ก็นับหนึ่งสองสามสี่เพิ่มมาทีละปี ทำไมปีนี้ถึงกลายเป็นศูนย์ไปได้



“เรารีเซตความสัมพันธ์น่ะครับ นี่ผมเลยต้องเริ่มจีบเขาใหม่ ปีนี้ก็ครบรอบหนึ่งปีพอดีที่จีบเขา”



“พวกคุณสองคนนี่เล่นอะไรน่ารักจังเลยค่ะ คงไม่อยากให้ชีวิตคู่จืดชืดใช่ไหมคะ ทำทุกวันให้เหมือนเพิ่งคบกัน จะได้ไม่เบื่อกัน ขอให้จีบติดไวๆ นะคะ” พนักงานสาวพูดตามความรู้สึกของตัวเองโดยไม่ได้รู้เรื่องราวเบื้องหลังของแขกเลยแม้แต่น้อย



“ขอบคุณครับ ผมจะพยายามเต็มที่เลย” ปาณัสม์ยิ้มรับ



“เอาใจช่วยค่ะ ขอให้คุณทั้งสองคนมีความสุขกับชีวิตคู่นะคะ” หญิงสาวกล่าวปิดท้ายก่อนจะค้อมตัวเดินออกไปด้วยความสุภาพ



“ปาลจีบจันทร์ติดหรือยังครับ”



“คิดว่ายังไงล่ะ?” ฉันทัชเอ่ยถามให้อีกฝ่ายเดาคำตอบเอง



“ปาลไม่ทำห้องรกแล้วนะ แม่บ้านชอบมากบอกไม่ต้องก้มเยอะ คอยตามเก็บเสื้อผ้า ไม่ปวดหลังด้วย” ปาณัสม์หัวเราะขณะที่เล่าให้อีกฝ่ายฟัง



“เทมส์ใช้ครีมอาบน้ำน้อยลงแล้วนะ พื้นไม่ค่อยลื่นละ ไทน์ชมใหญ่เลย” ฉันทัชคุยขึ้นบ้าง



“ปาลทำงานน้อยลงแล้วนะ แต่ยังกลับบ้านช้าอยู่ดีเพราะมารับจันทร์ก่อน”



“เทมส์ทำงานมากขึ้นนะ” ฉันทัชหัวเราะ “แต่ก็ไม่เท่าปาลอยู่ดี”



“ปาลดื่มน้อยลงแล้วนะ จนไอ้จักรมันบ่นหูชาว่าเหงาไม่มีเพื่อนไปกินเหล้าด้วย”



“เทมส์ดื่มมากขึ้นนะ แต่ไปกับไทน์ วันหลังชวนจักรไปด้วยก็น่าจะดี”



“ปาลพยายามหึงและหวงจันทร์น้อยลงแล้วนะ ยิ่งเวลาจันทร์คุยกับคุณชายหลี่ ปาลก็สงบสติอารมณ์ได้มากกว่าเดิมแล้วนะ”



“คุณชายหลี่กำลังตามจีบคนใหม่อยู่”



“ถ้าจีบคนใหม่แล้วเขามาคุยกับจันทร์ทำไม”



“ปรึกษาน่ะ” ฉันทัชหัวเราะ



“อ่อนจริงๆ” ปาณัสม์ทำเสียงดูถูกอีกฝ่าย



“นิสัยไม่ดีไปว่าเขา” ฉันทัชปราม



“อันนี้แก้ยาก แต่ก็ลดลงแล้วนะ”



“ลดเรื่องหลงตัวเองลงด้วยก็ดีนะ” ฉันทัชเสริม



“ไม่เอาๆ นั่นจุดขาย” ปาณัสม์ว่า



“ตั้งแต่เทมส์ทำงานกับคุณก้อง คิดว่าตัวเองใจเย็นขึ้น”



“รู้ได้ไง” ปาณัสม์ถาม



“เทมส์ถามคุณก้องกับไทน์มา”



“เดี๋ยวนี้ เริ่มถามแล้วหรือ” ปาณัสม์หลิ่วตาพลางถาม



“ไม่ดีหรือไง”



“ดีสิ แต่ต่อให้จันทร์เหมือนเดิม ปาลก็จะถามจันทร์ให้มากขึ้นเอง”



“อืม จะอยู่ให้ถามดีๆ ไม่เอาแต่หนีแล้วด้วย”



“ทำตัวน่ารักเพิ่มขึ้นแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่“



“เทมส์ก็เป็นของเทมส์แบบนี้นั่นล่ะ” ฉันทัชว่า เขาตักอาหารตรงหน้ามาลองชิม



“อ้อ ปาลเปิดบัญชีใส่เงินสดไว้ให้จันทร์ด้วยนะ” ปาณัสม์บอกพลางยื่นบัตรเอทีเอ็มตรงหน้าอีกฝ่าย



“รหัสล่ะ?”



“นึกว่าไม่เอา” ปาณัสม์เอ่ยแซว “ส่วนรหัส ลองเดาดูหน่อยว่าใจตรงกันกับปาลหรือเปล่า”



“เอาสิ ได้เงินใครจะไม่ชอบ จะเอาไปเช็กดูว่ามีเงินอยู่เท่าไหร่ พอให้เที่ยวรอบโลกไหม”



“ถ้าอยากเที่ยวรอบโลก มาบอกพี่ได้เลย เดี๋ยวพี่คนนี้จะจัดทริปให้น้องเอง”



“จริง?”



“จริงสิครับ แต่มีข้อแม้นะ”



“ข้อแม้อะไร” ฉันทัชถามกลับ



“ข้อแม้ว่า ตลอดทั้งทริปเราจะจองห้องพักในโรงแรมเพียงห้องเดียว”



“สองเตียงก็ได้สินะ”



“ตามใจจันทร์ แต่นั่นไม่ใช่ปัญหาของปาล” ปาณัสม์บอก ต่อให้เป็นเตียงคู่ เขาจะขึ้นไปนอนเบียดกับอีกฝ่ายอยู่ดี



“จะคุ้มไหมเนี่ย”



“คุ้มสิ เที่ยวฟรี แค่ช่วยปาลประหยัดค่าห้องพักเอง”



“เปย์ไม่จริงนะเนี่ย”



“ก็มาเป็นแฟนพี่สิ พี่จะให้ทุกอย่างที่อยากได้เลย”



“เพ้อเจ้อ” ฉันทัชยิ้ม



“ตกลงว่าปาลจีบติดหรือยังครับ” ปาณัสม์ถามคำถามนี้อีกครั้ง



ฉันทัชยังไม่ตอบ ชายหนุ่มเลือกปลดสร้อยคอที่ปาณัสม์เคยสวมให้เมื่อก่อนตอนที่ไปทำงานที่ฮ่องกงด้วยกัน ออกมาวางบนกลางโต๊ะ



“ตอนนั้นปาลพูดว่ายังไงนะ ถ้าหากเทมส์จะถอดสร้อยเส้นนี้”



“ปาลบอกว่า ถ้าจันทร์จะถอดมันก็ขอให้มีแค่สองเรื่องเท่านั้นคือเอาแหวนที่อยู่ในสร้อยมาใส่ไว้ในที่ที่ของมัน กับไม่อยากสวมมันอีกต่อไปแล้ว ถึงตอนนั้นปาลจะได้รู้ตัวเสียที”



“วันนี้เทมส์ถอดมันออกมาแล้วนะ”



“อืม แล้วจันทร์ตัดสินใจว่ายังไง”



ฉันทัชแตะแหวนที่ยังร้อยอยู่ในสายสร้อยเส้นนั้น









“ปาลคิดว่ายังไงล่ะ?”

 









 

           

Never Ending Story




========================================



จบแล้ววว **ซับหัวตา



ไม่รู้ว่าจะมีใครชอบตอนจบแบบนี้ไหม แต่อยากให้ชอบนะคะ (มัดมือชก) เขมต้องการให้จบแบบนี้ตั้งแต่เริ่มวางพล็อตเรื่องนี้ค่ะ ยอมรับว่าเขวไปบ้าง แต่ท้ายที่สุดก็ยึดมั่นตามความตั้งใจเดิม ต้องขออภัยจริงๆ หากว่าจะไม่ชอบตอนจบ **โค้ง


แม้ว่าจะเป็นการจบแบบปลายเปิดแต่เป็นเปิดที่ทุกคนเดาทางได้ใช่มั้ยคะ  นั่นล่ะค่ะ ท่านผู้อ่าน


คู่ของไทน์ จริงๆ แล้วเขมเคยแจ้งไว้ (อาจจะไม่ได้ครบทุกช่องทาง ขออภัยด้วยค่ะ) ว่าไม่อยากให้มองคู่นี้เป็นคู่รองของเรื่อง เป็นตัวละครที่สร้างสีสันให้กับเรื่องดีกว่า

แล้วทำไมตอนจบ พวกเขาจบแบบนี้

จบแบบนี้ตามความตั้งใจของไทน์ที่บอกคุณก้องว่าถ้าเทมส์ยังแก้ปัญหาไม่เรียบร้อย ไทน์ก็จะอยู่แบบนี้ค่ะ แต่..แต่.. เขมก็ยังเชื่อว่า ต่อให้ไม่ได้ลงดีเทลในเรื่อง ไทน์ก็ไม่ได้พ้นไปจากความวุ่นวายของคุณก้องหรอกค่ะ


คู่ของชัดเจน ตามนั้นค่ะ ทิ้งท้ายไว้แบบนั้น จุดนี้เป็นจุดที่เพิ่มเข้ามา หลายคนอยากให้ชัดมีคู่ใช่มั้ยล่ะ เขมยังไม่ได้แต่งเรื่องของชัดนะคะ ไม่แน่ใจว่าจะมีสปินออฟมั้ย เพราะชัดเป็นตัวละครหนึ่งที่เขียนยากค่ะ แต่มีในตอนพิเศษนะคะ


คุณชายหลี่ มาแต่ชื่อ ตัวไม่มาค่ะ ให้เขาใช้ชีวิตกับคนที่ตามจีบไปนะคะ อย่าไปกวนเขาเลย


มาถึงตรงนี้ อยู่ด้วยกัน ดำเนินกันมา 28 ตอน ขอบคุณมากๆ เลย ไม่ว่าจะทุกคอมเมนต์ ทุกกำลังใจ ทุกแชร์ หรือทุกอย่างที่พูดถึงนิยายเรื่องนี้ในช่องทางโซเชียล



คำชมนั้นเป็นแรงพลังที่ยิ่งใหญ่มาก ทำให้เขียนแต่ละเรื่องให้จบ

คำติก็เช่นกัน เขมจะนำมาปรับปรุงพัฒนาการเขียนให้ดีกว่านี้นะคะ

ยอมรับว่าหลายครั้งท้อจนอยากจะพูดคำว่า "พอแล้ว เหนื่อยแล้ว" เหมือนเทมส์ในเรื่องเลย แต่พอเห็นว่ามีคนที่ยังรออ่านก็เหมือนได้รับแรงขับเคลื่อนมาอีกครั้ง



ขอบคุณทุกกำลังใจ ขอบคุณจริงๆ ค่ะ ขอโทษที่ยาวไปหน่อยนะคะ มีเรื่องที่อยากพูดเยอะมาก



สุดท้ายและท้ายสุดจริงๆ หากมีตรงไหนสงสัยหรือไม่เข้าใจ ถามเขมมาได้ตลอดนะคะ ถามทางทวิตจะตอบได้เร็วกว่าค่ะ




รักทุกคนเสมอ แล้วเจอกันใหม่นะคะ บุญรักษาค่ะ



HASHTAG #ภาคต่อของความรัก

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
ก็รักกันอะเนอะ. ไปไหนไกลไม่ได้หรอก

ออฟไลน์ nonlapan

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 156
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-2
ขอบคุณมากนะคะที่เขียนงานดีๆแบบนี้ให้อ่าน หวังว่าจะได้เจอกันเรื่องใหม่น้าาา  :mew1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ mab

  • ชื่อ mab ไม่ได้ชื่อ map
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 694
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-0
จบแล้ววววววว แล้วเค้าก็กลับมารักกัน

 :mew1: :mew1: :mew1:

ขอบคุณนะคะ

ออฟไลน์ anythinginitt

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 184
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
ชอบเรื่องนี้จ้า เขียนถึงความรักในด้านดีและร้าย มีเรื่องต้องปรับกันไป ดูเป็นความจริงดี เลิฟๆ คนเขียนน้า จะติดตามเรื่องต่อไป

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ sailom_orn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-1
 :hao3: ขอบคุณสำหรับความรักเรื่องนี้ค่ะ ขอบคุณที่พยามยามสู้เพื่อคนอ่านนะคะ  :mew1: เป็นอีกเรื่องที่มีความละมุน+หน่วงมาก  :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ Duangjai

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 655
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-1
……

จบแบบปลายเปิดที่เดาทางได้ การกระทำสำคัญกว่าคำพูด

 แต่ก็นั่นแหละนะ บางทีเราก็อาจจะเขวได้ว่ามันใช่อย่างที่คิดไหม

ขอตอนพิเศษหลังจากจันทร์สวมแหวนสักตอนสองตอนหน่อยละกันนะ

อยากอ่านตอนปาลกระดี๋กระด๋าที่จันทร์กลับมาอยู่ด้วยอ่ะ


 :o8:  :-[  :impress2:  :o8:  :-[  :impress2:  :o8:  :-[  :impress2:


……


ออฟไลน์ AeAng11

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 528
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
ขอบคุณและเป็นกำลังใจให้ค่ะ

ออฟไลน์ miikii

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1719
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
ก็รู้ๆกันมะแบบนี้ แต่ก็อยากรู้ว่าตอนจากนี้จะเป็นยังไง 555555555
 :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ sira_nann

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 212
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
ตอนจบน่ารักมาก ชอบนะตอนที่ต่างฝ่ายบอกว่่่่่่าเปลี่ยนในเรืีองเล็กน้อย (แต่ดันเป็นจุดเริ่มให้ปัญหาใหญ่ตามมา) เช่น ทำงานน้อยลง ใช้ครีมน้อยลง คือเหมาะกันอ่ะ เข้าใจกันโดยไม่ต้องพูดมาก

แอบอยากรู้จักน้องเคลียร์ คำว่าตัวแทน คงดราม่าน่าดู อิอิ

ขอบคุณคนเขียนนะคะ

ออฟไลน์ Justccwpo

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 111
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
สนุกมากเลยเสียใจที่รู้จักเรื่องนี้ช้าไปไม่งั้นจะเม้นทุกตอนเลยยย

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด