ภาคต่อของความรัก - ภาคพิเศษ ภาคแห่งความวุ่นวาย END หน้า 13 UP!! 09/02/2019
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ภาคต่อของความรัก - ภาคพิเศษ ภาคแห่งความวุ่นวาย END หน้า 13 UP!! 09/02/2019  (อ่าน 70779 ครั้ง)

ออฟไลน์ warin

  • รถไฟขบวนนั้น ได้แล่นผ่านไปแล้ว
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1937
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-1
    • -

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
จะว่าใครได้ก็ต้องว่าปาลล่ะที่มีความรู้สึกเบื่อแล้วไม่ทำอะไรให้ดีขึ้นเลยจนเรื่องมันกลายเป็นแบบนี้

ออฟไลน์ Duangjai

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 655
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-1



ปาลคงต้องพยามและอดทนมากกว่านี้

เพราะที่ผ่านมาเหมือนไก่ได้พลอย ไม่ดูแลรักษาไว้

พอวันนึงมันหม่นไปหมดแล้ว กว่าจะขัดให้เงาดังเดิมก้อต้องใช้เวลาละนะ


 :hao3:  :hao3:  :hao3:  :hao3:  :hao3:  :hao3:





ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7

ออฟไลน์ 19th

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
เลิกกันทั้งที่ยังรักก็เลยคุง่าย แต่รอบนี้มีคนเตรียมถังน้ำรอหลายคนเลยนะ :laugh:

ออฟไลน์ aukuzt

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 107
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
ใครจะว่าไงก็เถอะ ยังไงเราก็จะยืนยันให้ปาลเป็นพระเอกต่อไป

ออฟไลน์ mab

  • ชื่อ mab ไม่ได้ชื่อ map
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 694
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-0
 :ruready ไงละ เกือบโดนจูบแล้วจันทร์  :hao4:

ออฟไลน์ broke-back

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5947
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-16
หายเบื่อกันเมื่อไหร่
ก็คงกลับมาอยู่ด้วยกัน

ไม่มีเหตุผลอะไรร้ายแรงตอนที่ตกลงแยกทาง
ก็แค่คิดว่าเบื่อ..ไม่ใช่เหรอ

ยังรักกันอยู่..ก็ต้องวนเวียนเจอกันอยู่อย่างนี้
จนกว่าใจจะรู้สึกตรงกันว่าเราใช้เวลาให้หายเบื่อพอแล้ว
กลับมาหากันได้แล้ว  เน๊อะ ปาลจันทร์

ออฟไลน์ TheDoungJan

  • ขอบคุณนักเขียนที่คนที่สร้างทุกตัวละครขึ้นมานะคะ(♡˙︶˙♡)
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 682
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
ลุ้นต่อไป กลัวว่าถ้ากลับมาคบกันแล้วจะเบื่อกันอีกมั้ย แอบสงสารคุณชายหลี่นิดๆเหมือนเทมส์ให้ความหวังเลย :pig4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ เขมกันต์

  • nothing’s else I can say
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 452
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +164/-9
    • Twitter

ภาค 15 Friendship Forever


“เอ้า ชนแก้วเว้ย พวกมึง” อ้อแอ้เรียกรวมพลแก้วในมือทุกคนด้วยเสียงดัง

“ชน!!” แก้วทั้งห้าใบชูประสานกันพร้อมกับเบียร์ที่กระฉอกออกจากแก้วเล็กน้อย แต่ก็ไม่มีใครสนใจ


วันนี้เป็นคืนวันศุกร์ คืนปล่อยผี แถมยังมีบอลคู่สำคัญเตะอีกต่างหาก ทำให้บรรยากาศในร้านแบบโอเพ่นแอร์นั้นเสียงดังไม่น้อย อีกทั้งดนตรีสดที่ดังเข้ามาในโสตประสาทตลอดเวลา ทำให้แต่ละโต๊ะแทบจะตะโกนคุยกันเลยล่ะมั้ง เสียงเชียร์บอลดังมาเป็นระยะ ทว่าไม่ได้ทำให้โต๊ะของฉันทัชต้องหงุดหงิดใจ


เต็มที่เลยพวก!


“คิดถึงสมัยเรียนมหาลัยว่ะ สอบเสร็จทีไรได้ไปเมาตลอด” เมธาวีบอกพลางปาดฟองเบียร์ออกจากปากอย่างมีศิลปะ จะให้ปาดปากไปทั้งหลังมือทีเดียวหญิงสาวไม่มีทางทำแน่ บอกเลยมันไม่คลาสสิก มันต้องใช้ปลายนิ้วเช็ดออกตามด้วยลิ้นที่แลบออกมาเลียเท่านั้น

“เขาว่ากันว่า นึกถึงอดีตคือคนแก่” ฉันทัชพูดลอยๆ

“ไอ้เทมส์ มึง!” เมธาวีลุกขึ้นเตรียมบู๊กับฉันทัชที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม

“ใจเย็นก่อน ถ้ามึงไม่ได้เป็นอย่างที่ไอ้เทมส์ว่าก็ไม่ต้องเดือดร้อนเหมือนควายถูกเชือดแบบนี้” อ้อแอ้ดึงแขนเมธาวีให้นั่งลงพลางพูดราวกับปลอบประโลม

“มึงแน่ใจนะว่ามึงกำลังกล่อมให้กูไม่ลุกขึ้นไปหยิกแก้มไอ้เทมส์มัน” เมธาวีหรี่ตามองเพื่อนสุดเปรี้ยวที่นั่งอยู่ทางขวามือ

“หยุดๆ พอเลยพวกแกสองคน” เจ้าแม่ปางห้ามญาติต้องออกโรงเอง แพรวายกมือเป็นสัญญาณบอกให้ทั้งคู่เลิกเถียงกัน

ฉันทัชหัวเราะกับท่าทางของเพื่อน “ไอ้เทมส์ แกอีกคน ไม่ต้องไปแหย่มัน” สุดท้ายฉันทัชก็ไม่รอดพ้นจากแพรวา เขาถูกดุอยู่ดี

“ไอ้โย เรื่องของมึงยังไงล่ะ พูดมา” อ้อแอ้หันไปทางด้านขวาของตัวเองเพื่อถามเพื่อนชายที่มีปัญหา

“กูไม่ชอบเวลาผู้หญิงเขาซุบซิบนินทาถึงกูเท่าไหร่ว่ะ”

“เรื่องปกติหรือเปล่าวะ ไม่มีผู้หญิงคนไหนในโลกที่ไม่นินทาคน” เมธาวีออกความเห็น

“จะนินทาใครก็ทำไปดิ แต่พอเป็นกู กูเลยหนาวๆ ร้อนๆ แล้วพยายามยัดเยียดผู้ชายให้กูจัง”

“ทำไมวะ” แพรวาถามขึ้นบ้าง

“เขาคิดว่ากูแอ๊บแมน” คำตอบของโยธา ทำให้ทุกคนที่เหลือพากันหัวเราะครืน

“เพื่อเป็นการพิสูจน์ โยก็จับทำเมียให้หมด”

“กูไม่คิดว่านี่จะเป็นคำพูดจากปากไอ้เทมส์เลยว่ะ” เมธาวีตาโตเมื่อได้ยินคำแนะนำของฉันทัช

“มึงพูดเล่นใช่ปะ เทมส์” โยธาถามกลับ

“เราพูดจริง” ฉันทัชตอบหน้าตาย ก่อนจะยกเบียร์ขึ้นดื่มอีกอึกใหญ่

“ไอ้เทมส์ต้องผีเข้าแน่ๆ เลย” อ้อแอ้พูด เจ้าตัวคงอยากกระซิบ แต่เสียงกระซิบคงดังมากไปหน่อย ทุกคนถึงได้ยินทั่วโต๊ะ

“เทมส์ แกสบายดีนะ” แพรวาที่นั่งข้างฉันทัช วางมือบนไหล่เพื่อนด้วยความเป็นห่วง

ตอนนี้ทุกคนดูเลิ่กลั่ก กระทั่งฉันทัชหัวเราะ “เราล้อเล่นน่ะ”

“ไอ้เทมส์บ้า ทำหน้าตายกวนตีนชะมัด” เมธาวีบอก

“เราแนะนำว่า โยเลิกสนใจไปเถอะ ยกเว้นว่าโยไม่ชอบงานที่นั่นแหละ ถึงมาคิดกันใหม่” คราวนี้ฉันทัชพูดเป็นการเป็นงานขึ้นมา

“เห็นด้วย” แพรวาสนับสนุน

“กูก็ด้วย” เมธาวีและอ้อแอ้พูดขึ้นสมทบอีก

“ทำไมวะ” โยธาขอเหตุผล

“คนที่นินทาอะ พูดจบก็ลืม พูดแค่สนุกปาก แล้วโยจะไปทำอะไรเขาได้ เดินไปต่อยหรือ ก็ไม่ได้อีก ทางที่ดีไม่ต้องยุ่งหรือไปสนใจหรอก เดี๋ยวเขาก็เลิกนินทาไปเอง”

“ใช่ ยิ่งแกแสดงอาการ คนนินทามันก็ยิ่งได้ใจ” แพรวาบอกเพิ่ม

“มึงดูดาราคนนั้นสิ ที่เป็นหมออะไอ้โย เขาก็มีข่าวเป็นเกย์ตลอด ตอนนี้ลูกสองละ ไม่ต้องไปสนใจพวกนั้นหรอก สนใจแค่ตัวมึงเองเถอะ ให้ผ่านโปรจะดีกว่า” อ้อแอ้พูดถึงดาราคนหนึ่งที่พวกเขาก็รู้จักกันดี

“เรื่องงานกูมั่นใจอยู่แล้วน่า”

“ถ้างั้นก็ไม่มีอะไรให้ต้องกังวลแล้วนี่หว่า จริงไหมเพื่อน” เมธาวีบอก “เอ้า ชนสิวะ รออะไร” หญิงสาวชูแก้ว เสียงเฮจากทุกคนดังขึ้นอีกครั้ง

ฉันทัชเรียกพนักงานมารับออเดอร์ “น้อง เอาเบียร์อีกทาว”

“โอ๊ะๆ คุณเทมส์ พอไม่มีคนคุมนี่ไม่ต้องเกรงใจใครเลยเว้ย” อ้อแอ้มองพลางพูดต่อด้วยความหมั่นไส้

“เราก็เป็นแบบนี้มาตั้งนานแล้วนี่”

“เราก็เป็นแบบนี้มาตั้งนานแล้วนี่” เมธาวีเลียนเสียงของฉันทัชแทบไม่ผิดเพี้ยน “อยากจะขำให้ท้องแข็ง ใครวะที่เคยพูดว่า‘เรากินแก้วนี้แก้วเดียวนะ เดี๋ยวแฟนว่า’” เมธาวีกลอกตากับภาพฉันทัชในอดีต

“อย่าเมาเหมือนหมาล่ะ ถ้ามึงเมานะ กูจะลากมึงกลับห้อง” อ้อแอ้พูด และฉันทัชก็คิดว่าหญิงสาวพูดจริงเหมือนกัน

“ไม่เมาๆ ระดับนี้ไม่เมา”

“นังนี่ตั้งใจจะกินเพื่อนตลอด” แพรวาหันไปว่าอ้อแอ้

“มึงไม่ดูหนังหน้าเพื่อนมึงบ้างเหรอ น้องมันเป็นนางแบบดัง สวยจะตาย หน้ามันก็เหมือนน้อง ไม่น่าเชื่อว่าพอผมสั้นก็หล่อฉิบหายวายวอด” อ้อแอ้บอกแพรวากลับ แต่กระนั้นทั้งโต๊ะก็ได้ยินกันทั่ว

“นังแอ้ ชาตินี้ไม่ได้กินไอ้เทมส์หรอก เลิกเพ้อได้แล้ว” แพรวาย้ำ “อีกอย่างนะ ไม่รู้ว่า ถ่านไฟเก่ามันจะคุหรือเปล่า”

“ห๊ะ!? ว่าไงนะ ถ่านอะไรจะคุวะ?” คนที่บอกไม่ชอบถูกผู้หญิงนินทา แต่พอมีเรื่องเมาท์มอยล่ะก็ โยธาก็ไม่เบาเช่นกัน

“ไม่มีอะไร” ฉันทัชปฏิเสธ

“เทมส์ อย่าคิดว่าเราเผาแกเลยนะ แต่นังพวกนี้ต้องรับรู้ค่ะ มันจะได้คอยเป็นหูเป็นตาให้” แพรวาเล่าให้เพื่อนฟังว่าเจอฉันทัชเดินทางไปฮ่องกงและเที่ยวบินนั้นก็มีปาณัสม์นั่งไปด้วย ถึงแม้จะคนละคลาสกันก็เถอะ

“ไม่มีอะไรจริงๆ เราไปเรื่องงาน” ฉันทัชปฏิเสธซ้ำ

“เออ ไม่มีอะไรก็ไม่มีอะไร” เมธาวีพูด “งั้นวันนี้ไม่เมาไม่กลับนะเว้ย”

“นังเม แกเมาไปคนเดียวเถอะ” แพรวาบอกพลางเบ้ปาก

“ทำไมวะ นานๆ เจอกันที”

“พรุ่งนี้จะพาใยไหมไปสวนสัตว์ ขืนเมากลับไป ผัวด่าตาย” แพรวาพูดติดตลก แต่มันคือความจริง

“เราก็เหมือนกัน ต้องไปรับคนที่สนามบินตั้งแต่เช้า” ฉันทัชเปรยขึ้นมาบ้าง

“ไปรับใครวะ” อ้อแอ้ถามด้วยความอยากรู้ “ผู้ชายหรือผู้หญิง คนไทยหรือต่างชาติ”

“อาจจะไปรับไทน์ก็ได้” โยธาเดา “ใช่เปล่าวะ เทมส์”

ฉันทัชส่ายหน้า “ไปรับเพื่อน...ผู้ชาย” เขาเว้นวรรคนิดหนึ่ง ยิ้มที่มุมปากนิดหน่อย ก่อนจะพูดต่อ “อิมพอร์ตจากฮ่องกง”

เสียงผิวปากของเมธาวีดังขึ้นมาทันที “เอาละเว้ย งานนี้เพื่อนกูจะมีผู้ใหม่เสียที”


ถึงเมธาวีจะอยากเมาแค่ไหน แต่พอใกล้เที่ยงคืน ทุกคนก็พร้อมใจที่จะแยกย้าย พออายุมากขึ้น ความต้องการที่จะฝืนร่างกายแล้วลากยาวไปถึงเช้านั้นแทบจะเป็นไปไม่ได้ ใจมันอยากนอนพักให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้


“เทมส์กลับยังไง” แพรวาถามด้วยความเป็นห่วง เพราะทั้งแพรวาให้สามีมารับ ส่วนอีกสามคนบ้านอยู่ใกล้กันจึงนั่งแท็กซี่กลับไปพร้อมกัน

“แท็กซี่” ฉันทัชตอบพลางยิ้มให้แพรวา

“ไหวไหม เมาหรือเปล่า”

ฉันทัชส่ายหน้า ปากยังยิ้มอยู่ “ไม่เมา เราดื่มไม่เยอะ ไม่เท่าไอ้เมกับอ้อแอ้หรอก”

“ให้เราไปส่งดีไหม”

“ไม่เป็นไร บ้านแพรก็ไม่ได้อยู่ใกล้เรา เสียเวลาขับไปส่ง เรานั่งแท็กซี่กลับได้ แค่นี้เองสบายมาก”

“อ้าว พี่เขามาพอดี” แพรวาหมายถึงสามีของตนเอง ตอนนี้สารถีคนโปรดขับเข้ามาที่ลานจอด อันเป็นที่ใช้ร่วมกันของหลายๆ ร้าน ณ บริเวณนี้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว


ฉันทัชบอกลาเพื่อนและย้ำกับแพรวาอีกครั้งหนึ่งว่าเขาโอเค อย่างไรถ้าเขาถึงบ้านแล้วจะรีบส่งข้อความไปหาทันที เพื่อให้หญิงสาวสบายใจ แพรวาจึงพยักหน้าและเข้ามากอดฉันทัชทีหนึ่งก่อนจะขึ้นรถไป


ฉันทัชเดินมาทางประตูทางออกของลานจอด เพื่อออกไปเรียกแท็กซี่ จังหวะนั้นเขาเหมือนเห็นใครสักคนที่คุ้นหน้าคุ้นตาเสียเหลือเกิน



‘ชัดเจน’



เจ้าของชื่อยืนพิงรถยนต์อยู่ มือก็กดโทรศัพท์มือถือ คงจะหาอะไรทำฆ่าเวลาระหว่างรอใครสักคน ชัดเจนยังอยู่ในชุดทำงานเสื้อเชิ้ตและกางเกงสแล็กสีดำ ไม่ผูกไท สวมรองเท้าหนังสีดำมันปลาบ จะว่าไปบริษัทของปาณัสม์ไม่เคร่งขนาดต้องผูกไทไปทำงาน ขนาดเจ้าของยังไม่ทำเลย คงไม่อุตริออกกฎให้พนักงานทำหรอก



ฉันทัชยิ้ม ถ้ามองจากมุมนี้ชัดเจนถือว่าเป็นชายหนุ่มที่น่าสนใจ มีเสน่ห์ไม่น้อย หน้าที่การงานของชายหนุ่มก็ไม่ด้อยกว่าใครคนอื่น การศึกษาแม้จะไม่ได้จบจากเมืองนอกมา แต่มหาวิทยาลัยที่จบนั้นคุยอวดใครต่อใครได้สบาย อีกทั้งหน้าตาของชัดเจนก็ไม่ได้ขี้ริ้วขี้เหร่เลย เอนเอียงไปทางกลุ่มคนที่หน้าตาค่อนข้างดีด้วยซ้ำ ปาณัสม์นั้นยังมีเค้าโครงออกเป็นหนุ่มหน้าตี๋จากเชื้อจีนแสนเจือจางทางฝั่งพ่อ แต่ชัดเจนนี่ไทยแท้เต็มตัว ผิวสีน้ำผึ้งเนียนเสมอตัว ดวงตาคมดุ ยาวรี ผมหยักศกนิดๆ จมูกโด่งรับใบหน้า รูปร่างก็ตัวสูงพอๆ กับปาณัสม์หรืออาจจะสูงกว่าด้วยซ้ำ ฉันทัชไม่แน่ใจเพราะไม่เคยสังเกตมองสองคนนี้ยืนเทียบกันชัดๆ เสียที



น่าเสียดายที่ป่านนี้ยังไม่มีแฟนเสียที มัวแต่หลงเดินทางผิดมาสนใจคนเย็นชาอย่างเขา ฉันทัชถอนหายใจ หากไม่ติดว่าชัดเจนเป็นคนของปาณัสม์แล้วล่ะก็ ฉันทัชคงจะพิจารณาความสัมพันธ์ระหว่างเขากับชัดเจนเสียใหม่



มันถูกต้องอย่างที่อินทัชเคยพูด หากเขายอมเปิดใจกับชัดเจนนั้น เขาจะไม่สามารถหลีกเลี่ยงคนรอบข้างจากบ้านของปาณัสม์ได้เลย และมันคงไม่ใช่เรื่องที่ดี ที่เขาจะเปลี่ยนคนคบจากคนนั้นมาเป็นคนนี้ แค่นึกถึงตอนที่ปาณัสม์สับรางเปลี่ยนคนระหว่างแพรวามาเป็นเขา เรื่องราวมันยังบานปลาย ทั้งที่ตอนนั้นปาณัสม์ยังไม่ได้จีบแพรวาจริงจังหรือเป็นแฟนกับหญิงสาวเลยแม้แต่น้อย



ตอนที่ชัดเจนขอโอกาสในคราวแรก ฉันทัชยอมรับว่าตนเองคิดน้อยหรือแทบจะไม่คิดอะไรเลยด้วยซ้ำ ใจหนึ่งเพราะเขาเพิ่งเลิกกับปาณัสม์ ความลิงโลดมันมีอยู่เต็มหัวใจที่ยังมีคนสนใจในตัวเขา อีกใจหนึ่งเขาไม่สนใจว่าเลยว่าใครจะรู้สึกหรือคิดอย่างไร ถ้าเขาจะรักใคร เขาก็แค่รักเท่านั้นเอง



ไม่รู้ว่าเป็นความโชคดีหรือโชคร้ายที่ชัดเจนไม่สามารถทำให้เขารู้สึกไปมากกว่าความเป็นชัดเจนที่ฉันทัชรู้จักได้ ความสัมพันธ์จึงไม่พัฒนาไปไหน ตราบจนอินทัชมาย้ำอีกครั้งในความคิด ทำให้เขาที่เริ่มจะตาสว่างและมีสติจึงคิดได้



เกือบไปแล้ว



เกือบจะทำให้ทุกอย่างมันยุ่งยากไปมากกว่านี้



“ชัด” ฉันทัชเรียกชื่ออีกฝ่ายออกไป ชัดเจนเงยหน้าขึ้นมองมาตามเสียงเรียก สีหน้าของชัดเจนดูตกใจ คงไม่คาดคิดว่าจะเจอกับเขา

“คุณเทมส์มาที่นี่ได้ไงครับ” ชัดเจนมองซ้ายขวาแต่ก็ไม่เห็นว่าฉันทัชมากับใคร

“มากินข้าวกับเพื่อนน่ะ”

“แล้วเพื่อน?”

“กลับไปแล้ว ผมกำลังจะกลับพอดี แต่เจอชัดเขาเสียก่อน แล้วชัดล่ะ?”

“ผมก็เหมือนเดิมครับ รอคุณปาล” จริงๆ แล้วคำตอบของชัดเจนไม่ใช่คำตอบแปลกใหม่สำหรับฉันทัช เขาพยักหน้ารับรู้

“ปาลมาเจอลูกค้าเหรอ แล้วทำไมชัดไม่เข้าไปด้วยล่ะ ทำไมมายืนรอให้ยุงกัดอยู่ตรงนี้” ฉันทัชพอรู้ว่า ปาณัสม์แทบไม่เคยให้ชัดเจนต้องมาแกร่วรออยู่ที่รถแบบนี้ เพราะชัดเจนไม่ใช่คนขับรถ ชัดเจนเป็นมากกว่านั้น



แม้กระทั่งเวลาที่ปาณัสม์ให้ชัดเจนไปรับเขามาทานข้าวด้วยกันนั้น ปาณัสม์เอ่ยปากชวนชัดเจนทานข้าวร่วมโต๊ะด้วยกันทุกครั้ง ฉันทัชเองก็ไม่ได้รู้สึกไม่ดี มีแต่ชัดเจนที่เลือกปฏิเสธและขอตัวกลับ

“คุณปาลบอกให้ผมรอตรงนี้ครับ”

“ธุระสำคัญงั้นหรือ ดึกแล้วนะเนี่ย” ฉันทัชแปลกใจ

“เอ่อ...” ชัดเจนทำหน้าลำบากใจ ชายหนุ่มหันกลับเข้าไปมองในร้าน ฉันทัชจึงมองตามสายตาของชัดเจนเข้าไปในนั้น


ฉันทัชเห็นอดีตคนรักนั่งอยู่ในร้าน ผู้ร่วมโต๊ะที่นั่งคนละฝั่งของปาณัสม์เป็นหญิงสาวที่ฉันทัชมองรูปร่างหน้าตาของหญิงสาวไม่ชัด เพราะจากมุมนี้มันไกลเกินไป เขาเห็นแค่เพียงรอยยิ้มของคนทั้งคู่ที่กำลังส่งมอบให้กัน


ใจของเขามันกำลังรู้สึกอะไรบางอย่าง


“แล้วคุณเทมส์จะไปไหนต่อครับ”

“กลับบ้าน ง่วงแล้ว” ฉันทัชยิ้มรีบยกมือปิดปากหาวหวอดใหญ่ประกอบคำพูด

“ผมไปส่งนะครับ”

“ไม่เป็นไร ต้องรอปาลไม่ใช่หรือ เดี๋ยวออกมาไม่เจอก็หัวเสียหรอก” ฉันทัชปฏิเสธพลางโบกมือบอกปัด

“เดี๋ยวผมเข้าไปบอกคุณปาลก่อนครับ คุณปาลคงไม่กลับเร็วๆ นี้ ยังไงผมก็กลับมารับทัน” ชัดเจนว่า

“อย่าเลย ภาวนาให้ปาลกลับไวๆ เถอะ ชัดจะได้ไปพักเสียที เหนื่อยมาทั้งวันแล้ว ผมว่าชัดไปนั่งในรถเปิดแอร์เย็นๆ รอดีกว่า” ฉันทัชแนะนำ

“เปลืองน้ำมันครับ”

“ค่าน้ำมันให้คนธุระเยอะมันจ่ายไป” ฉันทัชบอกอย่างไม่สนใจ

“คุณเทมส์...”

ระหว่างนั้นแท็กซี่ผ่านมาพอดี ฉันทัชเลยโบกเรียกไว้ “ผมไปนะ แล้วอย่าลืมไปรอในรถ ยุงมันชุม” ฉันทัชพูดจบก็ขึ้นรถแท็กซี่ออกไป


คล้อยหลังฉันทัชออกไปไม่นาน ปาณัสม์ก็เดินออกมาส่งหญิงสาวที่เขานั่งคุยงานด้วยในค่ำคืนนี้ ร่ำลากันเรียบร้อย ปาณัสม์ก็ถอนหายใจเสียยืดยาวตอนที่ขึ้นมานั่งในรถด้านหลังได้เสียที

“เหนื่อยเว้ย เอาใจยากชะมัด” ปาณัสม์บ่น

“ทำไมล่ะครับ คุยยากหรือ”

“ใช่ คุณหนูเอาแต่ใจ แถมพูดเป็นเชิงขู่กู ทุกๆ สิบนาที ถ้าไม่ตามใจจะบอกพ่อไม่ต้องเซ็นสัญญา นี่มันเวรกรรมอะไรวะ กูจะทำธุรกิจกับพ่อเขา ทำไมต้องมากินข้าวกับผู้หญิงงี่เง่าแบบนี้ด้วย”

“อดทนหน่อยเถอะครับ พอเซ็นสัญญาได้ก็สบายแล้ว” ชัดเจนปลอบ

“ว่าแต่มึงเถอะ รอนานไหม กูบอกให้เข้าไปนั่งข้างในด้วยกันก็ไม่เอา รอในรถก็ไม่ยอม มายืนรอข้างนอก ยุงไม่กัดแย่แล้วรึ” ปาณัสม์บ่นแต่ก็ห่วงน้องชายร่วมบ้านมากกว่า เขาดึงแว่นออกมาพลางนวดที่หัวตาเพื่อคลายความเหนื่อยล้า

“ผมไม่กล้าหรอก คุณหนูนั่นดูท่าไม่อยากให้ผมเข้าไปนั่งด้วย”

“ไม่เห็นต้องใส่ใจเลย แต่เอาจริงๆ นะ กูว่ามึงรอข้างนอกอาจจะสบายใจกว่าว่ะ” ปาณัสม์พูดอย่างอิจฉา

“เดี๋ยวผมขับรถกลับบ้านเลยนะครับ” ชัดเจนถามขณะติดเครื่องยนต์

“อืม ง่วงแล้ว รอบหน้าให้พี่ปอนด์มาคุยเองเลย กูไม่มาแล้ว”



...




ฉันทัชไขกุญแจเข้ามาในบ้านที่ปิดไฟมืด ไม่มีรถยนต์จอดอยู่แสดงว่าน้องสาวของเขายังไม่เลิกงานหรืออาจจะไปไหนต่อ เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาส่งข้อความไปหาแพรวาว่าถึงบ้านเรียบร้อยแล้ว และโทรออกไปหาคนที่นึกห่วง


“ว่าไงจ๊ะ ฮันนี่” เสียงเพลงดังลอดเข้ามาพร้อมกับเสียงของอินทัช

“ทำงานอยู่หรือเปล่า”

“เสร็จแล้ว”

“ดึกแล้ว ทำไมไม่กลับบ้าน นี่เทมส์คิดว่าไทน์ยังทำงานอยู่”

“ก็ไม่เชิง งานเลิกแล้วเขาเลยพามาเลี้ยงกินข้าว”

“กินข้าวอะไรเสียงเพลงดังกระหึ่ม” ฉันทัชบ่น

“ยังได้ยินเสียงชัดอยู่หรือ นี่ไทน์ออกมาคุยนอกห้องแล้วนะ พวกพี่ๆ ทีมงานชอบร้องคาราโอเกะอะ ไทน์ไม่ได้มานานแล้ว เลยมากับเขาด้วย” อินทัชบอกด้วยเสียงสดใส

“เทมส์ล่ะ อยู่ไหน ถึงบ้านหรือยัง วันนี้มีนัดกินข้าวกับเพื่อนไม่ใช่หรือ”

“แยกย้ายแล้ว เพิ่งถึงบ้านเมื่อตะกี้นี้นี่แหละ”

“เหรอ ดีแล้ว ปิดบ้านดีๆ ด้วย ไม่ต้องเป็นห่วงไทน์ คืนนี้อาจไม่กลับ”

“เดี๋ยวๆ ให้มันน้อยๆ หน่อย ไม่กลับแล้วจะไปนอนไหน”

“ก็...กับใครสักคนแถวนี้มั้ง” อินทัชหัวเราะดังเข้ามาให้ฉันทัชได้ยิน

“ไม่ได้ กลับบ้านเลย ห้ามไปนอนค้างบ้านคนอื่น”

“ล้อเล่น ไทน์ดื่มไปเยอะเลย เมาแล้วขับไม่ได้นี่นา ไทน์เลยว่าจะไปนอนกับเพื่อนนางแบบด้วยกัน เทมส์วางใจได้ไม่ต้องเป็นห่วง”

“โอเค ถ้าอย่างนั้นก็พอจะคุยกันได้หน่อย” ฉันทัชค่อยโล่งใจ ก็พอรู้ว่าร่างกายมันเป็นของน้องสาว อินทัชจะทำอะไรก็ได้ แต่เขาก็หวงนี่นา ไม่อยากให้อินทัชต้องใช้ชีวิตเปลืองเกินไปนัก

“ล็อกบ้านดีๆ นะ คืนนี้อย่าลืมฝันถึงน้องอินอินด้วยนะจ๊ะ ฮันนี่” เมื่ออินทัชหยอดเสียงหวานมาให้พี่ชาย

“ครับ แล้วพี่จะฝันถึงน้องอินอิน” ฉันทัชเองก็หยอดเสียงนุ่มคืนกลับให้น้องสาวเช่นกัน


อินทัชวางโทรศัพท์จากพี่ชาย กำลังจะหมุนตัวกลับเข้าห้องคาราโอเกะ ข้อมือเรียวสวยก็ถูกใครสักคนคว้าไว้เสียก่อน รอยยิ้มที่ถูกระบายจากที่คุยกับฉันทัชนั้นหุบยิ้มลงทันที


“กลับบ้านได้แล้ว” พอเห็นว่าคนที่คว้าข้อมือตัวเองเป็นใคร อินทัชเลยไม่ได้พยายามจะดึงมือกลับอย่างที่ตั้งใจในทีแรก

“รู้ได้ไงว่าฉันอยู่ที่นี่” อินทัชถาม

“ไม่ใช่เรื่องยาก”

“คุณมาทำไม” อินทัชเดินเลี่ยงออกมาจากหน้าห้องคาราโอเกะอีก เธอไม่อยากให้ใครเห็นว่าตัวเองกำลังยืนคุยกับผู้ชายที่ชื่อก้องภพ

“มารับคุณกลับบ้านไง” ก้องภพเดินตามมาโดยไม่ซักถาม

“คืนนี้ฉันไม่กลับบ้าน จะไปนอนค้างบ้านเพื่อน” หญิงสาวปฏิเสธ

“เพื่อนที่ไหน” คนถามขมวดคิ้ว ดูเหมือนไม่ค่อยพอใจสักเท่าไหร่

“เพื่อนนางแบบในห้องนั้น”

“ไปบอกเพื่อนคุณสิว่าคุณจะกลับแล้ว” ก้องภพบอกแต่คำพูดเหมือนเป็นคำสั่งเสียมากกว่า

“คุณก้อง คุณกลับไปก่อนก็แล้วกัน”

“วันเสาร์คือวันของผมไม่ใช่หรือ” ก้องภพทวง มันเป็นข้อตกลงมาสักพักใหญ่แล้วระหว่างคนทั้งคู่

“แต่วันนี้วันศุกร์ ยังไม่ใช่วันเสาร์” อินทัชแย้ง

“ผิดแล้ว” ก้องภพส่ายหน้า พลางยกหน้าจอโทรศัพท์มือถือให้อินทัชได้ดู “ตอนนี้เกือบจะตีหนึ่ง เข้าเช้าวันเสาร์แล้ว”

“ตอนเช้าค่อยเจอกันก็ได้มั้งคุณ” อินทัชยังหลบเลี่ยง เจ้าตัวยังสนุกอยู่เลย


ทว่าก้องภพไม่ตอบหรือพูดอะไร ชายหนุ่มยืนนิ่ง สบตากับอินทัช กดดันอย่างเงียบเชียบ นี่มันสงครามประสาทชัดๆ อินทัชหัวเสีย อย่าเอาบรรยากาศของนักธุรกิจมาต่อรองกับเธอได้ไหม


สุดท้ายคนที่แพ้ก่อนคงหนีไม่พ้นหญิงสาว “ก็ได้ๆ กลับก็ได้ รออยู่นี่ เดี๋ยวฉันไปบอกเพื่อนข้างในห้องก่อน”


“ผมไปรอที่รถแล้วกัน ให้เวลาลาเพื่อนสิบนาที”


อินทัชเดินเข้าไปในห้องเพื่อขอตัวกลับก่อน ทุกคนโวยวายเล็กน้อยแต่ไม่ได้ดึงรั้งอะไรหญิงสาวไว้ เพราะเจ้าตัวบอกว่ามีธุระนิดหน่อย


ระหว่างทางที่กลับออกมา จู่ๆ อินทัชก็นึกถึงฉันทัชขึ้นมา หากพี่ชายของเธอรู้เรื่องว่าคืนนี้ นอกจากน้องสาวจะไม่ไปนอนค้างบ้านเพื่อนผู้หญิงด้วยกันแต่เป็นบ้านผู้ชายแล้วล่ะก็...


ไม่รู้ว่าเขาจะโดนบ่นมากแค่ไหน แล้วยิ่งถ้ารู้ว่าผู้ชายคนนั้นคือเจ้านายของตัวเองอีกล่ะ



ซื้อที่อุดหูเตรียมไว้ดีกว่า




========================================

เอ ชักจะยังไง?

เจอกันวันอังคารค่ะ



HASHTAG #ภาคต่อของความรัก

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ miikii

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1719
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
ปาลไปทำบุญหน่อยมั้ยอ่ะ 5555555555
ละคำตอบของชัดเจนก็ไม่เคยทำให้มองปาลดีได้เลยอ่ะ
บิดเบือนเก่งจัง  :hao3:

ออฟไลน์ sailom_orn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-1
 :ruready ต้องใจดำขนาดไหน ถึงพูดบิดเบือนความจริงได้ขนาดนี้นะชัดเจน

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
น้องอินจะเอายังงี้จริงเหรอ ถามจริงคบกับก้องแล้วใช่ม่ะแต่ปิดไว้ไม่บอกใครใช่ป่ะ

ออฟไลน์ TheDoungJan

  • ขอบคุณนักเขียนที่คนที่สร้างทุกตัวละครขึ้นมานะคะ(♡˙︶˙♡)
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 682
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
ตอนแรกก็สงสารชัดเจนแต่เจอคนพูดที่พูดถึงปาลแล้วมองดีๆไม่ได้เลย. น้องอินอินไปตกลงกะคุณก้องเมื่อไรเนี่ย รอนะคะ :pig4:

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
ขัดเจนแอบร้ายลึกนะเนี่ยะ อิอิ

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
ชัดเจนร้ายจริงๆ โน๊ตที่หายไปตอนนั้นก็คงใช่

ว่าแต่ไปรับหนุ่มส่งตรงจากฮ่องกงจะมีไรเกิดขึ้นบ้างนะ

ออฟไลน์ mab

  • ชื่อ mab ไม่ได้ชื่อ map
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 694
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-0
 :katai2-1: อินอินไวไฟแท้ 555

ออฟไลน์ river

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2398
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +231/-3
เขาว่าคนมีความรักมักเห็นแก่ตัว
แต่อย่างที่ชัดเจนทำเนี่ย เรียกว่าแทงข้างหลังปาล์มได้กลายๆเลย

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ 19th

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ชัดเจนก็พูดความจริงนะ แต่เป็นความจริงในมุมชัดเจนคนเดียว ร้ายไม่เบา  o18

ออฟไลน์ เขมกันต์

  • nothing’s else I can say
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 452
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +164/-9
    • Twitter

ภาค 16 When I realized…




ฉันทัชเข้านอน แต่ร่างกายยังไม่ยอมหลับ ภาพของปาณัสม์กับหญิงสาวคนนั้นยังติดตาอยู่จนถึงเดี๋ยวนี้ ฉันทัชเบื่อตัวเองที่มีสภาวะจิตใจไม่มั่นคงแบบนี้ ทั้งที่ความสัมพันธ์มันเปลี่ยนไปแล้ว เคยคิดว่าตนเองจัดการกับจิตใจได้เป็นอย่างดี แต่สุดท้ายแค่ภาพที่ไม่สามารถบรรยายสถานะของชายหญิงคู่หนึ่ง ยังทำให้ใจเขาเขว คิดฟุ้งซ่านได้ขนาดนี้


ใจเขามันอ่อนแอเหลือเกิน


เวลาที่เรารักใครสักคน มักอยากจะเป็นเจ้าของอีกฝ่ายด้วยกันทั้งนั้น ความหึงหวงนั้นมีอยู่ในตัวมนุษย์ทุกคน แต่จะมากหรือน้อยนั้นขึ้นอยู่กับการจัดการภายในจิตใจของแต่ละบุคคล ฉันทัชเองก็เช่นกัน แน่นอนเขาย่อมรู้สึกหึงหวงปาณัสม์อยู่แล้ว แต่เขาอาศัยคำว่า ‘เชื่อใจ’ และ ‘ไว้ใจ’ เป็นวิธีการจัดการและรักษาสภาพจิตใจของตนเองให้มั่นคง ต่างจากปาณัสม์ที่เลือกทางแก้ปัญหาโดยการเก็บเขาไว้ใกล้ตัว โดยมีตัวของฉันทัชเองที่บ้าจี้ทำตามที่อีกฝ่ายร้องขอ


คำถามที่เขาเคยถามตัวเองว่า ยังรักปาณัสม์อยู่ไหม วันนี้เขาตอบได้แล้ว


ความเจ็บที่หัวใจเป็นเครื่องยืนยันว่าเขายังรักปาณัสม์เหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง


เขายังรักทั้งที่ แม้ว่าปาณัสม์จะไม่เคยมาง้องอนหรือโผล่หน้ามาให้เห็นเลยแม้แต่ครั้งเดียวก็ตาม อีกฝ่ายคงพยายามตัดใจจากเขา เหมือนที่เขาพยายามทำด้วยเช่นกัน ฉันทัชคิดว่าเขาคิดไม่ผิดเรื่องของอีกฝ่ายหรอก


และนี่กระมังคงเป็นเหตุผลที่ว่า ทำไมเขาถึงมองข้ามชัดเจนไปอย่างง่ายดาย และทำไมถึงยังลังเล แบ่งรับแบ่งสู้ในความสัมพันธ์กับคุณชายหลี่มานานขนาดนี้


ยอมรับว่า ลึกๆ แล้ว ตอนที่เลิกกันใหม่ๆ ฉันทัชเคยคิดไว้เหมือนกันว่าถ้าหากปาณัสม์มาง้อ เขาจะยอมกลับไปหรือไม่ ถ้าในตอนนั้น เขาคงจะตอบอย่างมั่นใจเลยว่า ‘ไม่’ เขาจะไม่กลับไปอยู่ในห้องขังนั้นอีก


แล้วถ้าเป็นตอนนี้ล่ะ?


ฉันทัชเฝ้าคิดและตอบคำถามใจตัวเองอย่างระวัง ในที่สุดคำตอบที่ผุดขึ้นมาในหัวของเขาก็ยังเป็นคำตอบเหมือนเดิม


หากกลับไปคบกันจริงๆ ใครเล่าจะรับประกันความสัมพันธ์จากนี้ได้ล่ะว่าอีก ห้าปี สิบปี ข้างหน้า มันจะไม่เกิดประวัติศาสตร์ซ้ำรอยอีก พูดตรงๆ เลยว่า ฉันทัชกลัว


ชีวิตตอนนี้ที่เป็นอยู่ มันดีที่สุดสำหรับเขาแล้ว


ฉันทัชคิดไม่ตก เรื่องชัดเจนก็ยังไม่จบ ถึงแม้เขาจะพูดกับชัดเจนอย่างตรงไปตรงมาแล้วก็ตาม แต่ดูเหมือนจะไม่มีประโยชน์อะไรเลย ชัดเจนทำตัวเหมือนเดิม สิ่งที่ยืนยันได้ว่าเคยมีเหตุการณ์ที่เขาเคยพูดกับชัดเจนแล้วก็คือ อีกฝ่ายไม่รบเร้าหรือพูดถึงที่จะมาคอยรับส่งเขาอีก


หรือเขาพูดไม่ชัดเจน?


นอกจากเรื่องนี้ ยังมีคุณชายหลี่อีกหนึ่งคน ยอมรับว่าพึงพอใจในตัวอีกฝ่ายไม่น้อย ถ้าเขายอมรับตกลงคบกับคุณชาย หลี่ไป ชีวิตก็คงจะมีความสุข


แต่เขาจะมีความสุขจริงหรือ?


คำพูดของคุณชายหลี่ในวันที่เซ็นสัญญาร่วมกันที่ฮ่องกงนั้นทำให้เขาหวาดระแวง เขาเพิ่งได้รับอิสระจากความสัมพันธ์แค่ปีเดียวเอง เขายังไม่อยากถูกจับเข้ากรงอีก ยิ่งเป็นคุณชายคนเล็กที่เอาแต่ใจด้วยล่ะก็น่ากลัวว่าจะรับมือไม่ไหว


อินทัชเองก็เคยเตือนเขาแล้วว่านิสัยที่ชอบปล่อยเรื่องราวให้มันเลยเถิดจนไม่คิดจะจัดการนั้น ระวังผลสุดท้ายมันจะกลับมาทำร้ายเขา ตอนนี้เขากำลังเริ่มได้รับผลกรรมนั้นทีละนิดๆ อยู่ใช่หรือไม่


หัวใจตัวเองก็ตัดออกมาไม่ได้ ยังเอาหัวใจคนอื่นยังมาผูกติดกับตัวเองอีก


ในที่สุดฉันทัชก็หลับไปทั้งที่สมองยังตีกันวุ่นวายไปหมด ความทรงจำสุดท้ายผุดขึ้นมาว่า ในเมื่อรักได้ มันก็ต้องเลิกรักได้เหมือนกัน





...




“อากาศร้อนจัง” คนพูดขยับเสื้อหวังให้คลายความร้อนยามที่เดินออกมานอกอาคารสนามบิน

“อากาศประเทศไทยก็แบบนี้ล่ะครับ มาก็หลายครั้งแล้ว ยังไม่ชินอีกหรือ” ฉันทัชมองหน้าคนบ่นก่อนจะลงไปจุดบริการรถแท็กซี่ของสนามบิน

“ผมเคยได้ยินว่าบ้านคุณมีหน้าหนาวไม่ใช่หรือ”

“เคยมีครับ” ฉันทัชยิ้ม “ตอนนี้เหลือแค่ร้อน ร้อนมาก ร้อนที่สุด”

“ไม่น่าทนได้” แขกผู้มาเยือนทำท่าไม่ไหวตามคำพูด

“ผมแถมหน้าฝนให้อีกฤดูก็แล้วกัน ตกนิดเดียว น้ำก็ท่วมแล้วท่วมอีก” ฉันทัชหัวเราะให้กับตลกร้ายในประเทศตัวเอง

“ย้ายไปอยู่กับผมที่ฮ่องกงนะ” คุณชายหลี่สบโอกาสเอ่ยปากชวน

“ไม่เอาหรอกครับ” ฉันทัชบอกพลางเข้าไปนั่งในรถอย่างเรียบร้อย

คุณชายหลี่รอกระทั่งรถออกตัว จึงถามต่อ “ทำไมล่ะ ไปอยู่กับผมไม่ดีตรงไหน ผมเลี้ยงคุณได้สบายมากเลยนะ คุณอยากได้อะไร ผมจะหามาให้”

ฉันทัชยิ้มให้เด็กหนุ่มคนหนึ่งที่พยายามเหมือนเอาขนมมาหลอกล่อ “งานของผมอยู่ที่นี่ ผมไปไม่ได้หรอก”

“คุณเป็นห่วงงานหรือ”

“ครับ ผมเพิ่งทำงานกับคุณก้องได้ปีเดียวเอง ขืนลาออกตอนนี้ คุณก้องต้องโกรธแน่ๆ เลย” ฉันทัชพูดพยายามไม่ให้เป็นเรื่องจริงจังเกินไปนัก

“บอกว่าไปทำงานกับพ่อผม รับรองคุณก้องไม่โกรธหรอก เชื่อผมสิ” คุณชายหลี่พูดอย่างมั่นใจ

“แล้วใครจะทำงานแทนผมกันล่ะครับ”

“ก็ให้คุณก้องรับคนใหม่มาทำแทนไม่ได้เหรอ แล้วคุณก็โอนงานไปให้” ชายหนุ่มพูดเหมือนเป็นเรื่องธรรมดา

“คุณพูดง่ายจัง”

“ไม่เห็นมีอะไรยากนี่นา ในเมื่อคุณจะลาออก คุณก้องก็ต้องหาคนมาแทน ระหว่างนั้นคุณก็สอนงานเขาไป เสร็จแล้วก็ย้ายไปอยู่กับผม เห็นไหม ง่ายจะตาย”

“แล้วเมียผมที่นี่ล่ะ?” ฉันทัชท้วง

“จุ๊ๆ” คุณชายหลี่ยกนิ้วขึ้นมาเหวี่ยงไปมา “คุณไม่มีเมียเพราะคุณมีไม่ได้ ไม่เอาน่าเลิกแกล้งผมเถอะ ผมจะขาดใจอยู่แล้ว” คุณชายหลี่พูดพลางดึงมือฉันทัชมาจับไว้

แต่ฉันทัชกลับดึงมือออกมาอย่างนุ่มนวลแล้วส่งยิ้มให้อีกฝ่าย “ที่ไทย คุณจะทำแบบนี้ไม่ได้ครับ คนที่นี่เขาไม่ชินกับวัฒนธรรมแบบฝรั่ง”

“แย่จัง แล้วที่ไหนถึงจะทำได้” หลี่หยางเซิงทำหน้าเสียดาย

“ที่ไหนก็ทำไม่ได้ทั้งนั้นครับ”

“คุณใจร้าย”

“เดี๋ยวเราเอากระเป๋าคุณไปเก็บที่โรงแรมก่อน แล้วผมจะพาคุณไปทานอาหารไทย ดีไหมครับ” ฉันทัชบอกโปรแกรมคร่าวๆ ให้อีกฝ่ายฟัง

“ตามใจคุณเลย ผมยังไงก็ได้”

“คุณง่วงหรือเปล่า นอนก่อนไหม ถึงโรงแรมแล้วเดี๋ยวผมค่อยปลุก” ฉันทัชถามด้วยความเป็นห่วง

“ไม่เป็นไรครับ”


ฉันทัชทำตามโปรแกรมที่ได้บอกอีกฝ่ายไว้ ตอนนี้เขากำลังพาหนุ่มนักท่องเที่ยวจากฮ่องกงมาเดินห้างใจกลางเมือง ทีแรกเจ้าบ้านตั้งใจจะพาอีกฝ่ายไปวัด อันเป็นสถานที่นักท่องเที่ยวนั้นต้องไป แต่คนที่ขอเปลี่ยนสถานที่คือนักท่องเที่ยวเสียเอง เพราะความร้อนที่เจ้าตัวไม่อยากจะทน

“ร้านนี้..อาหารไทยอร่อย” ฉันทัชบอกตอนที่พาอีกฝ่ายเดินเข้ามานั่งที่โต๊ะใดโต๊ะหนึ่งในร้าน

“อืม..ตกแต่งสวยดี” หลี่หยางเซิงมองไปรอบๆ ร้านที่ตกแต่งด้วยสไตล์ไทยผสมผลานกับทางตะวันตกเพื่อไม่ให้ล้าสมัยจนเกินไปนัก

“คุณอยากกินอะไรเป็นพิเศษไหม” ฉันทัชถามระหว่างพลิกหน้าเมนูดู

“มาประเทศไทยต้องกินอะไร ผัดไท?”

ฉันทัชยิ้ม “มีหลายอย่างเลย แต่คุณลองผัดไทก่อน ตอนเย็นผมจะพาคุณไปเยาวราช”

“คืออะไร”

“เดี๋ยวถึงเวลานั้นก็รู้เอง มีของอร่อยๆ กินอีกเพียบเลย”

“ทริปนี้ที่ผมจะได้กินของอร่อยเพราะคุณอยากให้ผมกินหรือเพราะคุณอยากกินเองกันแน่”

“พูดอะไรอย่างนั้นคุณชายหลี่ ผมอยากให้คุณลองกินจริงๆ นะ” ฉันทัชหัวเราะ คราวนี้เขาเป็นฝ่ายถูกจับได้เสียเอง


ตกเย็นวันนั้นฉันทัชก็พาหลี่หยางเซิงออกตระเวนราตรีหาของกินท่ามกลามความคึกคักของเยาวราช เขาสนุกเหมือนได้เที่ยวอย่างเต็มที่ ผู้ชายสองคนเดินเข้าร้านนี้ออกร้านนั้นเป็นว่าเล่น ร้านไหนที่ดังหน่อยมีคนต่อแถวยาวเหยียด เขาก็เป็นต้องปรี่ไปเข้าคิวรอ เพราะไม่อยากพลาดร้านเด็ด


ฉันทัชตื่นเต้นทุกครั้งที่ได้ออกไปไหนมาไหน ยิ่งมีผู้คนพลุกพล่าน หรือมีความวุ่นวาย ที่นั่นเขายิ่งชอบเป็นพิเศษ ไม่ใช่ว่าเขาชอบความวุ่นวายแต่อย่างใด แต่เขาชอบความมีชีวิต ความเป็นอยู่ การมีตัวตนที่สะท้อนออกมาให้เห็น มันทำให้เขาได้เห็นอะไรหลายๆ อย่างจากคนมากมาย หลายคนแสดงสีหน้าออกมาไม่ซ้ำกัน ทั้งโกรธ ยิ้ม หัวเราะ หรือดีใจ หลากหลายความรู้สึกให้เขาได้เก็บภาพพวกนั้นไว้ด้วยสองตาของตัวเอง


“ผมชักสงสัยแล้วว่าใครพาใครเที่ยว แล้วใครเป็นนักท่องเที่ยวตัวจริงกันแน่” หลี่หยางเซิงเอ่ยแซวระหว่างที่กำลังนั่งทานขนมหวานอยู่

“คุณไม่ชอบหรือ” ฉันทัชถามแล้วยิ้มตาหยี เปี่ยมไปด้วยความสุข

“ชอบครับ อยู่กับคุณ ไม่ว่าที่ไหนผมก็ชอบทั้งนั้นแหละ”

“ปากหวานอีกแล้ว” ฉันทัชชม

“บอกคุณบ่อยๆ เผื่อว่าคุณจะใจอ่อนกับผมไง” คุณชายหลี่ว่า

“คุณนี่...จริงๆ เลย” ฉันทัชว่าอย่างเอ็นดูในความตั้งใจของอีกฝ่าย

“แล้วเราจะไปไหนต่อ” คนอายุน้อยกว่าถามขึ้นบ้าง แต่ฉันทัชส่ายหน้าเป็นคำตอบ

“ไม่แล้วครับ วันนี้คุณควรจะกลับไปพัก ตะลอนมาทั้งวันแล้ว”

“ผมยังไม่ง่วงเลย อีกอย่างผมอยากอยู่กับคุณนานๆ”

“อย่าดื้อสิครับ พรุ่งนี้ผมจะมารับคุณแต่เช้า เราไปเที่ยววัดกันไหม”

“ไม่ไปครับ คราวก่อนคุณก็พาผมไปเที่ยววัด” นักท่องเที่ยวเอาแต่ใจปฏิเสธข้อเสนอของฉันทัช

“แล้วคุณอยากไปไหนล่ะครับ”

“ถ้าผมบอกแล้ว คุณจะพาไปจริงๆ เหรอ”

“จริงสิ ถ้าไม่ไปลำบากเกินไปนัก ผมจะพาคุณไปแน่ๆ”

“ที่ที่ผมจะไป ไม่ลำบากคุณหรอก” คุณชายหลี่พูดด้วยสายตาสงบ

“ที่ไหนครับ?” ฉันทัชไม่ทันสังเกตปฏิกิริยาของอีกฝ่าย เขาถามกลับไปทันที

“ห้องผม”

“ครับ?” ฉันทัชคิดว่าเขาฟังผิด

“พรุ่งนี้..ช่วยอยู่กับผมที่ห้องทั้งวันได้ไหมครับ”

“ผม..เอ่อ..”

“มันยากไปหรือครับ” สีหน้าของคุณชายคนเล็กดูผิดหวังไม่น้อย

“มันไม่ยากไปหรอก แต่คุณมาเที่ยวทั้งที ไม่อยากไปเที่ยวที่ไหนเหรอครับ”

“คิดจะมีแฟนเป็นคนไทย ผมว่าอีกหน่อยผมคงได้เที่ยวจนครบทุกที่นั่นแหละ” คุณชายหลี่บอก

“ตกลงว่าได้ไหม” หลี่หยางเซิงถามซ้ำ

“ถ้าคุณสัญญาว่าจะอยู่ห้องเฉยๆ ไม่ออกนอกลู่นอกทาง ก็ได้ครับ ผมจะไปหา”

“ผมเปลี่ยนใจแล้ว” จู่ๆ หลี่หยางเซิงก็เปลี่ยนใจกะทันหัน

“ครับ?”

“ผมเพิ่งนึกอะไรดีๆ ออก เราเปลี่ยนไปบ้านคุณแทนได้ไหม”

“บ้านผม?” ฉันทัชชี้มือเข้าหาตัวเอง “ผมไม่มีบ้านเป็นของตัวเองหรอก ที่อยู่ทุกวันนี้เป็นของอินอินน่ะ”

“ผมไปได้หรือเปล่า อินอินจะอนุญาตไหม ผมสัญญาว่าจะไม่ทำอะไรให้คุณลำบากใจเลย” หลี่หยางเซิงกำลังอ้อนขอตามนิสัยของเจ้าตัว

ฉันทัชหยุดคิดชั่วครู่ก่อนจะตอบอีกฝ่ายไปว่า “ก็ได้ เห็นแก่ที่คุณทำตัวเป็นเด็กดีก็แล้วกัน”

“ขอบคุณครับ” คุณชายหลี่ยิ้มกว้างที่คำขอของตนสำเร็จ

“พรุ่งนี้ผมไปรับคุณที่โรงแรมแล้วจะพาไปที่บ้านนะครับ”

“ผมจะตั้งตารอเลย”

“รีบกินครับ เสร็จแล้วผมจะไปส่งคุณที่โรงแรม”




...




รุ่งเช้า ฉันทัชกำลังนั่งรอใครบางคนอยู่ที่โซฟาด้านล่างของตัวบ้าน เมื่อคืนเขาหลับไปด้วยความอ่อนเพลีย ชายหนุ่มลืมสังเกตไปเสียสนิทว่า น้องสาวของเขายังไม่กลับบ้าน ผ่านมาสองคืนแล้วแต่อินทัชก็ยังไม่มีวี่แววจะกลับมา นอกจากข้อความที่ส่งมาแทน


‘ค้างบ้านเพื่อนต่ออีกคืนนะ ฮันนี่’


ทำตัวเหลวไหลเกินไปหรือเปล่า ฉันทัชกดโทรศัพท์ไปหาน้องสาวจนมือแทบหงิกแต่ก็ได้รับคำตอบจากระบบฝากข้อความซ้ำๆ ดังเดิมว่าไม่สามารถติดต่อเบอร์ดังกล่าวได้ในขณะนี้


เห็นเขานั่งเฉยๆ แบบนี้ แต่ในใจกลับร้อนรุ่ม หากใกล้เที่ยงแล้วยังติดต่อน้องสาวไม่ได้ เห็นที เขาคงจะต้องทำอะไรสักอย่าง เช่นโทรหาเพื่อนของหญิงสาว โทรแจ้งตำรวจหรือโทรหาคุณก้องภพ


ใช่ คุณก้องภพ... เจ้านายของเขาเอง ฉันทัชคิดว่าคุณก้องภพอาจจะพอรู้อะไรบ้างก็ได้ เขาเชื่ออย่างนั้น


ยังไม่ทันที่จะต้องใช้แผนการที่วางไว้ เสียงรถยนต์คันหนึ่งก็แล่นเข้ามาจอดในบ้าน พร้อมกับร่างของหญิงสาวที่ฉันทัชคุ้นตาเป็นอย่างดี


“โอ๊ะ แต่งตัวเสียหล่อเชียว มีนัดเดทหรือจ๊ะ ฮันนี่” อินทัชทักทายพี่ชายด้วยเสียงสดใสเพื่อกลบเกลื่อนความผิด

“ไม่ต้องมาโอ๊ะ มาเอ๊ะ ทำไมเพิ่งกลับมาเอาป่านนี้” ฉันทัชตำหนิน้องสาว

“อะไรกัน ไทน์ก็ส่งข้อความบอกเทมส์แล้วนี่ หงุดหงิดทำไม” อินทัชนั่งลงข้างๆ ฉันทัช ซบศีรษะลงบนไหล่พี่ชายเพื่อเอาใจ

ฉันทัชเบี่ยงตัวหลบเขยิบหนีด้วยความไม่พอใจ “เทมส์ติดต่อไทน์ไม่ได้เลย รู้ไหมว่าเป็นห่วง”

“ขอโทษ” หญิงสาวหน้าสลด “พอดีโทรศัพท์แบตหมด”

“เทมส์รู้ว่าไทน์โตแล้ว มีสิทธิ์จะทำอะไรก็ได้ แต่อย่าหายไปแบบนี้สิ เราเหลือกันแค่นี้แล้วนะ” ฉันทัชพูดเสียงเรียบแต่คนฟังก็เข้าใจได้เป็นอย่างดีว่าพี่ชายเป็นห่วงตนเองมากแค่ไหน

“ขอโทษ ขอโทษจริงๆ จะไม่ทำแบบนี้อีกแล้ว อย่าโกรธไทน์เลย ขอโทษ” หญิงสาวคว้ามือพี่ชายมากุมแน่น อินทัชคิดว่ากลับมาถึงบ้านคงจะถูกพี่ชายบ่นเสียยกใหญ่พอเจอเรื่องราวที่กลับตาลปัตรแบบนี้ หญิงสาวใจเสีย ทำตัวไม่ถูก สู้ให้ฉันทัชบ่นเธอเหมือนอย่างเดิมคงจะไม่รู้สึกผิดเท่านี้

“ถ้ารู้สึกผิดก็บอกเทมส์มาว่าไทน์ไปนอนบ้านใครมา” ฉันทัชเลี่ยงที่จะไม่ถามว่าน้องสาวไปนอนกับใครมา

“เอ่อ...ไทน์” คราวนี้เจ้าตัวไม่สามารถรอดพ้นเงื้อมมือพี่ชายได้อีกแล้ว

“ผู้หญิงหรือผู้ชาย” ฉันทัชเปลี่ยนคำถามเสียใหม่ ด้วยน้ำเสียงที่เข้มกว่าเดิม

“ผู้ชาย...” อินทัชบอกเสียงเบารีบอาศัยจังหวะที่ฉันทัชเงียบพูดต่อทันที “แต่ไม่มีอะไรเกินเลยนะ ไทน์นอนกับน้องกาย”

“อ้อ....” แค่ประโยคเดียว ฉันทัชยิ้มออกมานิดหน่อย เขาคิดว่าตนเองเข้าใจเรื่องทั้งหมด “กับคุณก้องภพเนี่ย”

“โอเคแน่ใช่ไหม” ฉันทัชถามด้วยความเป็นห่วงเพราะรู้กิตติศัพท์ชื่อเสียงของเจ้านายตนเองได้เป็นอย่างดี

“ไทน์ยังไม่ได้คบกับเขา เทมส์ก็รู้ใช่ไหมว่าคุณก้องเป็นคนเจ้าชู้” ฉันทัชพยักหน้า

“คุณก้องไม่ได้บังคับหรือฝืนใจไทน์ใช่หรือเปล่า ถ้าเกิดว่าเขาทำตัวไม่ดีกับไทน์ต้องบอกเทมส์นะ เทมส์อยู่ข้างไทน์เสมอไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ตาม” ฉันทัชบอกอย่างจริงจัง

“ก็ลองเลือกไม่อยู่ข้างไทน์สิ” อินทัชแกล้งขู่แฝดพี่

“ดูแลตัวเองดีๆ นะไทน์” ฉันทัชดึงน้องสาวเข้ามากอด พลางลูบหลังเบาๆ เขาสัมผัสได้ว่าอนาคตของแฝดน้องคนนี้คงจะเจ็บๆ คันๆ กับผู้ชายที่ชื่อก้องภพต่อไปอีกนาน

“อืม เทมส์ก็ด้วยนะ” อินทัชกอดตอบ เธอกระชับแขนกอดพี่ชายแน่นเช่นกัน

“เทมส์รักไทน์มากนะ น้องรักของพี่” ฉันทัชจูบแก้มอินทัชเพื่อเป็นการตอกย้ำความรู้สึกของเจ้าตัว

“ฟังแล้วปลื้มจัง อยากเป็นมากกว่าน้องจังเลยอะ” อินทัชยิ้ม ทำหน้าทะเล้น

“มากไปแล้ว ไปอ้อนคุณก้องนู่น”

“ไม่เอาหรอก” อินทัชบอกปัด เธอพินิจมองการแต่งตัวพี่ชายอีกครั้ง “ว่าแต่วันนี้แต่งตัวเสียหล่อ จะออกไปไหน”

“ไปรับผู้ชาย”

“หืม?ใครอะ คนใหม่เหรอ ยังไงอะ ทำไมไทน์ไม่เห็นรู้เรื่องเลย” น้ำเสียงของอินทัชเต็มไปด้วยความตื่นเต้นและสงสัย ฉันทัชกำลังจะมีรักครั้งใหม่หรือนี่

“คิดเลอะเทอะ” ชายหนุ่มดีดหน้าผากน้องสาวไปทีหนึ่ง “คุณชายหลี่..หลี่หยางเซิง”

“คุณชายหลี่มาเมืองไทยเหรอ มาทำไมล่ะ มาเที่ยวเหรอ แล้วทำไมเทมส์ต้องไปรับเขาด้วย” อินทัชหรี่ตาลงคล้ายกำลังจะจับผิด

“เขาอยากมาเที่ยวบ้านเรา”

“บ้านเรา?”

“อืม ที่นี่ ได้ไหม?” ฉันทัชขยายความ

“ไอ้ได้น่ะ มันได้อยู่แล้ว ยังไงนี่ก็บ้านเทมส์ จะมาก็มาเถอะ แต่มาเมืองไทยทั้งที ทำไมไม่ไปเที่ยวที่คนเขาชอบไปกัน มาบ้านเราทำไม” อินทัชพูดพลางใช้ความคิด


ฉันทัชยิ้ม แต่เลือกไม่พูดอะไร


“หรือว่า” หญิงสาวตาเบิกกว้างขึ้น “คุณชายหลี่จีบเทมส์เหรอ!?”

“งั้นมั้ง” ฉันทัชเลือกตอบกำกวม

“จริงเหรอ ไม่น่าเชื่อ นี่ไทน์คิดว่าเขาถอดใจไปแล้วนะเนี่ย”

“เด็กเอาแต่ใจน่ะ อยากได้อะไรก็ต้องเอาให้ได้” ฉันทัชพูดอย่างอารมณ์ดี

“ถ้าไม่ชอบ มีหรือที่คนอย่างเทมส์จะสนใจ อย่าบอกนะว่าก็ชอบคุณชายหลี่เหมือนกัน”

“ไม่เชิง ก็ไม่ได้เสียหายอะไรไม่ใช่หรือ”

“มันก็ใช่ อยากกินเด็กเป็นอมตะรึไง” อินทัชถามติดตลก

“ไม่เห็นเกี่ยวเลย”

“นึกยังไงขึ้นมา ไหนบอกว่ายังไม่อยากมีใครไม่ใช่หรือไง” อินทัชยังจำได้ว่าพี่ชายเขามีคนเข้ามาคุยไม่น้อยหรอก แต่เจ้าตัวปัดทิ้งไปเสียหมด ยกเว้นบางคนที่ชายหนุ่มยังเกรงใจ อย่างชัดเจนเป็นต้น

“แค่คิดว่ามันถึงเวลาแล้วหรือเปล่า ที่เราควรจะเดินหน้าต่อไปจริงๆ เสียที”

“ด้วยการมีแฟนใหม่เนี่ยน่ะเหรอ” อินทัชมองพี่ชาย “ไทน์ว่าไม่ดีมั้ง”

“ทำไมล่ะ”

“ถ้าตัดความรู้สึกเก่าออกไปยังไม่ได้ ก็ไม่ควรดึงใครเข้ามาเพิ่ม มันจะเป็นปัญหาภายหลัง”

“ไม่เคยได้ยินหรือไงว่า วิธีที่จะลืมคนเก่าให้เร็วที่สุดก็คือการมีคนใหม่” ฉันทัชย้อน

อินทัชถอนหายใจ “มันใช้ไม่ได้ผลกับทุกคนหรอกนะ ไม่งั้นคงไม่มีคนมาตั้งกระทู้ถามหรอกว่า‘ทำยังไงดีคะ แฟนยังไม่ลืมแฟนเก่า’หรือ ‘แฟนยังกลับไปคุยกับแฟนเก่า เขาบอกตัดใจไม่ได้ เราควรจะทำยังไงดี’เยอะเลยนะเทมส์ กระทู้แบบนี้อะ”

“เจ้าแม่โซเชียลจริงๆ” ฉันทัชแซว

“ไม่ใช่สักหน่อย วงการบันเทิงก็มีแต่ขี้นินทา หาข่าว จับผิดชาวบ้านทั้งนั้น คนก็เอามาเล่าให้ไทน์ฟัง”

“นี่..ไทน์รู้จักเทมส์ดี เชื่อไทน์นะ อย่าทำร้ายความรู้สึกคนอื่นเลย” หญิงสาวพูดจากใจ

“แล้วถ้าเทมส์ตั้งใจจะเริ่มต้นใหม่จริงๆ ล่ะ”

“ถามตัวเองให้ดีก่อนแล้วกันว่าต้องการแบบนั้นจริงๆ ไหม” อินทัชมองหน้าพี่ชาย “เรื่องคุณชายหลี่ วันนี้ก็พาเขาไปเที่ยวเถอะ”

“ก็ได้ เดี๋ยวจะบอกคุณชายหลี่ว่าเมียที่บ้านดุ ไม่ให้ผู้ชายเข้าบ้าน ดีไหม”

อินทัชหัวเราะ “แล้วแต่เทมส์เลย ถ้างั้นก็บอกเพิ่มไปด้วยล่ะว่าเทมส์กลัวเมียมาก เขาจะได้เชื่อ”


หญิงสาวขอตัวไปอาบน้ำผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้า เธอปลดล็อกหน้าจอโทรศัพท์ดูรูปรูปหนึ่งเมื่ออยู่ในห้องนอนตามลำพัง รูปภาพนี้เธอได้มาจากก้องภพตอนที่ชายหนุ่มและพี่ชายของเธอไปฮ่องกงครั้งล่าสุด


ภาพที่ฉันทัชกำลังจัดเน็กไทให้คุณชายหลี่ ตอนนั้นอินทัชยังหัวเราะพลางตอบก้องภพไปด้วยคำพูดที่ว่า


‘เทมส์ก็เป็นแบบนี้แหละ ชอบทำให้คนอื่นคิด ทั้งที่เจ้าตัวไม่คิดอะไร’


แต่วันนี้ดูเหมือนจะไม่ใช่เสียแล้ว


‘อย่านะเทมส์ อย่าเพิ่มปัญหาให้มันยุ่งยากมากไปกว่าเดิม’



คำขอร้องในใจจากอินทัช ไม่รู้ว่ามันจะส่งไปถึงพี่ชายของเธอหรือเปล่า


ฉันทัชไปรับหลี่หยางเซิงด้วยรถยนต์ของอินทัชที่หญิงสาวยัดเยียดมาให้ ภารกิจพาคุณชายหลี่เที่ยววันนี้จะได้สะดวกสบายมากขึ้น ฉันทัชไม่ได้ปฏิเสธเพราะอินทัชไม่มีงาน เจ้าตัวขอเลือกนอนอยู่บ้านทั้งวัน


หลี่หยางเซิงตอนที่รู้ว่าฉันทัชไม่สะดวกที่จะพาอีกฝ่ายไปที่บ้านนั้น เจ้าตัวก็หน้าม่อยลงเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้เสียใจนานเพราะฉันทัชพาชายหนุ่มออกมาข้างนอกให้ลืมความผิดหวังอย่างรวดเร็ว


“พรุ่งนี้ผมต้องไปทำงาน ไปส่งไม่ได้ คุณชายหลี่ไปสนามบินเองได้นะครับ”

“ครับ ผมบอกทางโรงแรมให้เรียกรถไว้แล้ว”

“เก่งมากครับ” ฉันทัชเอ่ยชม

“คุณพูดเหมือนผมเป็นเด็กเลย” หลี่หยางเซิงเซ็งเล็กน้อย เขาโตแล้ว ทำไมอีกฝ่ายชอบย้ำเขาเป็นเด็กนัก

“เด็กกว่าผม ก็คือเด็กนั่นแหละ”

“สักวันหนึ่งผมจะทำให้คุณเห็นว่าผมโตแล้ว”

“จะรอนะครับ” ฉันทัชหัวเราะ


ฉันทัชพาหลี่หยางเซิงไปเที่ยวทะเลใกล้ๆ กรุงเทพฯ พาชายหนุ่มไปนั่งทานอาหารทะเล รับไอความเค็มเข้าปอดเบาๆ ก่อนจะพาอีกฝ่ายกลับไปส่งโรงแรมในช่วงเย็น

“ผมส่งแค่หน้าโรงแรมนะ” ฉันทัชพูดขึ้นเมื่อรถจอดสนิท

“ไม่ขึ้นไปด้วยกันหรือ” หลี่หยางเซิงถาม แต่นัยน์ตานั้นกำลังอ้อนฉันทัชเหมือนลูกหมาอ้อนขอกินขนม

ฉันทัชส่ายหน้า

“ไม่ให้ผมไปบ้านคุณ พอขอให้ขึ้นไปส่งที่ห้องก็ไม่ได้อีก”

“งอนหรือครับ ไม่เอาน่า ไว้คราวหน้าถ้าคุณมา ผมจะพาไปค้างที่ต่างจังหวัดดีไหม”

“ให้ความหวังผมอีกหรือเปล่า” ถึงแม้คุณชายหลี่จะทำเสียงเหมือนประชด แต่ทว่าดวงตากลับสุกใสเป็นประกาย

“คราวนี้ พูดจริงๆ สัญญา” ปกติแล้วฉันทัชจะไม่ชอบให้คำสัญญาเพราะกลัวจะทำไม่ได้ แต่พอเห็นชายหนุ่มเศร้าสร้อย เขาก็นึกอยากปลอบใจ

“สัญญาด้วยอะไรครับ”

“สัญญาด้วยคำพูดของผมนี่แหละ”

“ไม่เอา ขอหลักประกันหน่อยสิครับ”

“เป็นอะไรดีล่ะ” ฉันทัชย้อนถาม

“จูบหวานๆ ได้ไหม” ไม่ผิดอย่างที่ฉันทัชคิด เรื่องความเจ้าเล่ห์แบบนี้หลี่หยางเซิงก็ไม่เบา

“ที่ประเทศผม...ทำตามใจคุณแบบนั้นไม่ได้หรอก”

“ให้ขึ้นไปส่งผมที่ห้องก็ไม่เอา” ชายหนุ่มวกกลับมาเรื่องเดิม

ฉันทัชหัวเราะ “ยื่นหน้ามาสิครับ”

หลี่หยางเซิงทำตามโดยไร้การอิดออด ฉันทัชยืดตัวไปเพื่อหอมแก้มอีกฝ่าย “เอาไปแค่นี้ก่อน”

“คุณทำแบบนี้ ผมพูดต่อไม่ถูกเลย”

“ถ้างั้นก็เข้าโรงแรมได้แล้ว พรุ่งนี้เดินทางปลอดภัยนะครับ” ฉันทัชอวยพร

“ขอบคุณครับ แล้วผมจะรอทริปแรกของเรานะ” หลี่หยางเซิงดึงมือฉันทัชขึ้นมา แล้วประทับริมฝีปากลงไปกลางฝ่ามือของอีกฝ่าย

“ครับ”




========================================

พบคนนิสัยไม่ดีหนึ่งอัตรา

เนื่องจาก LOTTO สื่อรัก จะได้เป็นรูปเล่มแล้ว เขมเลยมาลงเพิ่มอีกหนึ่งตอนค่ะ (เกี่ยวไหม)

เจอกันวันอังคารค่ะ



HASHTAG #ภาคต่อของความรัก

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ miikii

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1719
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
ขี้ใจอ่อนจังเลยนะเทมส์
พอเทียบกับปาลละก้คือ 5555555
เทมส์เก่งกว่าปาลเยอะเลย

ออฟไลน์ mab

  • ชื่อ mab ไม่ได้ชื่อ map
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 694
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-0
พออาคุงชายหลี่โตขึ้น
อาคุงฉันทัชก็แก่พอดี อิอิ :o12:

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
มีคนเจ็บเพิ่มอีกหนึ่งอัตรา

ออฟไลน์ sailom_orn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-1
 :mew2: :mew2: :mew2: เทมส์จ๋า อย่าทำร้านคุณชายหลี่ของเราน้าาา

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
เทมส์อย่าดึงคนอื่นมาเจ็บเพิ่มเลยเราสงสารเขา

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
เฮ้อออ ถ้าเริ่มต้นใหม่ได้จริงๆมันก็ดี
แต่กลัวจะต้องไปตั้งกระทู้ถามน่ะซิ
ก็ไม่แน่นะ ถึงตอนนั้น อาจไม่ใช่ทั้งคู่
แต่ก็มีเยอะแยะที่หย่าแล้วจดใหม่
แต่นั่นต้องต่างฝ่ายต้องไม่ได้อยู่ในกรงใครนะ

ออฟไลน์ เขมกันต์

  • nothing’s else I can say
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 452
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +164/-9
    • Twitter
เฮ้อออ ถ้าเริ่มต้นใหม่ได้จริงๆมันก็ดี
แต่กลัวจะต้องไปตั้งกระทู้ถามน่ะซิ
ก็ไม่แน่นะ ถึงตอนนั้น อาจไม่ใช่ทั้งคู่
แต่ก็มีเยอะแยะที่หย่าแล้วจดใหม่
แต่นั่นต้องต่างฝ่ายต้องไม่ได้อยู่ในกรงใครนะ

คนชอบทำให้ทุกอย่างมันยุ่งยากค่ะ ><

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด