{ yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ( แจ้งข่าวตีพิมพ์ หน้า8 ) - 9.12.61
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ( แจ้งข่าวตีพิมพ์ หน้า8 ) - 9.12.61  (อ่าน 163826 ครั้ง)

ออฟไลน์ yasperjer

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 500
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-2
คนอ่านก็จะหายใจไ​ม่ออก​ เขินนนนนนนนน

ออฟไลน์ Gokusan

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +269/-1
เนี่ย...ทำแบบเนี้ยะ~~~
คนอ่านขาดอากาศหายใจตายพอดีย์~~~

หวานมาทั้งตอน คุณพี่หึงหน้าตึงจนน้องต้องง้อซะงั้น...งี้ก็ได้เหรออออ 555

พี่คุณไม่มีแฟน? แล้วภูผามากะพี่คุณได้ไง น้องชายพี่เขยสนิทกันขนาดรับส่งเลยดิ...เอ๊~~~ ชักยังไงๆ อิอิ

ออฟไลน์ Swanlee

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 96
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-0










10



อบอุ่นกว่าเตาผิงในฤดูหนาว

นุ่มนิ่มกว่าวิปครีมที่เคยกิน

 



“ถ้ากลับไม่ไหวก็นอนที่นี่แหละครับ”



เขาหลับตาตอนที่หลังมือนุ่มทาบบนหน้าผาก



“เราก็อยู่กับพี่ด้วยสิ”



“อย่าดีกว่าครับ ผมเกรงใจคุณแม่คุณนะ”



“เกรงใจทำไม คุณแม่ไม่ว่าอะไรหรอก”



“คุณนี่ดื้อจริงๆ เลย”



“น้อยกว่าเราเยอะ”



“แบบนี้แสดงว่าหายปวดหัวแล้วใช่มั้ยครับ”



ทรงโปรดส่ายหน้าเบาๆ ขมวดคิ้วก่อนขยับตัวซุกใบหน้าเข้ากับมือนุ่มที่วางอยู่บนหมอน อยู่ดีๆ เขาก็ปวดหัวตุบๆ ร้อนๆ หนาวๆ เหมือนไม่สบายเลยได้ขึ้นมานอนอยู่บนห้องของตัวเองที่ไม่ได้ใช้มาเป็นปีๆ



“ฝนตกอยู่ จะกลับยังไง”



“เดี๋ยวเรียกแท็กซี่มารับก็ได้ครับ”



“ไม่ต้องเลย ถ้าอยากกลับเดี๋ยวไปส่ง” คนป่วยมองน้องที่ถอนหายใจเบาๆ แล้วเขาก็ต้องคลี่ยิ้มเมื่อคนผิวขาวยอมแพ้



เอ็นดูพยักหน้าเชิงบอกว่ายอมอยู่ต่อที่นี่กับทรงโปรดก็ได้



“มีใครเคยบอกมั้ยครับว่าคุณตื๊อเก่ง”



“ยังไม่มีนะ”



“งั้นรู้ไว้เลยนะครับ คุณตื๊อเก่งมาก”



ปกติเขาไม่เคยวอแวใครแบบนี้ เพราะทั้งชีวิตของทรงโปรดไม่เคยเกิดอาการหลงรักใครมากขนาดนี้มาก่อน



คนป่วยที่ไม่ยอมหลับตานอนพักขยับตัวเข้าใกล้คนผิวขาว...ไม่รู้เป็นเพราะอะไร พอได้อยู่ใกล้ๆ น้องอาการปวดหัวตุบมันก็ดีขึ้น ความนุ่มนิ่มของเอ็นดูคงเป็นยารักษาอาการป่วยให้ทรงโปรดได้



คราวนี้เขาเลยยกหัวหนักอึ้งขึ้นไปซบลงบนตักนุ่มของน้อง เอ็นดูร้องตกใจ ทำท่าจะผลักเขาออกแต่ก็ต้องยอมนั่งนิ่งๆ เมื่อทรงโปรดส่งเสียงร้องโอยออกมาเบาๆ



“ทำไมไม่นอนบนหมอนล่ะครับ”



“หมอนมันแข็ง”



“ตักผมแข็งกว่าหมอนอีกนะ”



“ตักเรานุ่มจะตาย”



“คุณนี่...”



ถึงเจ้าของตักจะจิ๊ปากทำหน้ามู่ทู่ แต่ก็ปล่อยให้คนตื๊อเก่งอย่างทรงโปรดยืมตักแทนหมอนอยู่ดี



“ถ้าสบายใจแล้วก็ควรนอนได้แล้วนะครับ”



“อยากมองหน้าเราก่อน”



“มองหน้าผมแล้วจะหายป่วยเหรอคุณ”



“ก็อยากมอง”



อือ เชื่อเขาเลย



แต่ก็นั่นแหละ ถึงจะป่วยแต่การนอนหลับในช่วงเวลาที่ฟ้ายังสว่างแบบนี้ไม่ใช่นิสัยของหม่อมราชวงศ์ทรงโปรดเลยสักนิด เขาเลยนอนลืมตาจ้องโครงหน้าคนน่ารักท่ามกลางเสียงของสายฝน มือหนาข้างที่ไม่ได้จับมือน้องเอาไว้คลำหาโทรศัพท์ของตัวเอง ว่าจะหยิบมาดูสักหน่อยว่าตอนนี้กี่โมงแล้ว...แต่ก็หาไม่เจอ



“หาอะไรเหรอครับ”



“โทรศัพท์”



เอ็นดูเอี้ยวตัว ชะโงกหน้าหาโทรศัพท์เครื่องสีดำของเขาที่ไม่เห็นแม้แต่วี่แววว่าวางอยู่แถวนี้ ทรงโปรดขมวดคิ้วเล็กน้อย หลับตาก่อนพยายามนึกว่ามันอยู่ตรงไหน



“ลืมเอาไว้ข้างล่างหรือเปล่าครับ”



“น่าจะใช่”



“ขยับหน่อยคุณ เดี๋ยวผมลงไปหยิบให้”



“ไม่ต้องหรอก โทรบอกให้ใครสักคนที่อยู่ข้างล่างเอาขึ้นมาให้ก็ได้”



“ไม่เอาครับ ไม่ต้องใช้คนอื่นเลย” น้องก้มหน้าบอกเขาด้วยน้ำเสียงนุ่มน่าฟังแล้วตบฝ่ามือลงบนหมอน



“ขยับไปนอนที่อื่นไม่ได้แล้ว”



“เมื่อกี้ยังขยับมานอนบนตักผมได้เลยนี่ครับ”



เลิกแกล้งแล้วก็ได้



ทรงโปรดยอมขยับหัวไปนอนบนหมอนแทนตักของเอ็นดูแล้วอมยิ้มออกมาเมื่อเห็นว่าคนที่ให้ยืมตักเมื่อกี้ใช้กำปั้นทุบบนขาของตัวเองซะแล้ว



“เมื่อยเหรอ”



“ครับ ตัวคุณไม่ใช่เบาๆ สักหน่อย”



“คงเหมาะกับการให้พี่นอนทับมากกว่า”



“คุณ! พูดดีๆ หน่อยสิครับ”



แล้วแขนแกร่งของทรงโปรดก็ถูกตี



นู่น คนที่ตีเขากระโดดลงจากเตียงวิ่งออกจากห้องพร้อมกับแก้มแดงๆ ไปนู่นแล้ว ทรงโปรดหลุดขำให้กับอาการเขินที่โคตรน่ารักของน้อง ความจริงแล้วเขาไม่ได้ตั้งใจพูดให้เป็นความหมายในแง่ติดเรทเลยสักนิด แต่คนฟังนี่สิ คิดไปถึงไหนแล้วก็ไม่รู้



แต่บอกตามตรง



โคตรชอบเลย



แก้มกลมฟูๆ ของน้องที่แดงปลั่งเวลาเขินเนี่ย







*****





 

เอ็นดูอยากแวะเข้าครัวก่อน อยากเปิดตู้เย็นหาน้ำแข็งมาถูแก้มร้อนๆ ของตัวเอง



มือขาวตบลงบนแก้มเบาๆ พยายามสั่งให้ตัวเองหยุดยิ้ม แต่สาบานได้ ทำยังไงก็ไม่ยอมหุบยิ้มสักที



โทษหม่อมราชวงศ์ทรงโปรดคนเจ้าเล่ห์ที่พูดอะไรออกมาแต่ละคำก็ทำให้คนฟังคิดลึกทุกประโยค โชคดีที่เอ็นดูพาแก้มร้อนๆ กับรอยยิ้มกว้างของตัวเองหนีเขาออกมาได้ทัน ไม่อย่างนั้นเอ็นดูคงกลั้นยิ้มไว้ไม่อยู่แล้วหลุดยิ้มต่อหน้าเขาแน่ๆ



ทรงโปรดร้ายกาจอะไรขนาดนี้



เอ็นดูยืนสงบสติอยู่พักหนึ่งหลังจากที่ก้าวลงบันไดมาแล้ว มือขาวยกขึ้นลูบอกเบาๆ หายใจเข้าออกลึกๆ พยายามไม่เก็บเอาใบหน้า น้ำเสียงคำพูดและรอยยิ้มของเขามาจำใส่ใจ



ฮือ แต่ไม่ไหวเลย



สุดท้ายเขาก็ยังวนเวียนอยู่ในความคิดตลอด



ยกมือพัดหน้าแล้วค่อยๆ สาวเท้าเดินตรงไปยังห้องนั่งเล่นที่คาดว่าทรงโปรดน่าจะลืมโทรศัพท์ไว้ แต่พอถึงหน้าห้องกลับต้องชะงักเมื่อภาพเหตุการณ์ที่เพิ่งผ่านมาถาโถมให้ความร้อนเห่อไปทั่วทั้งใบหน้า



ยังสงสัยตัวเองอยู่เลยว่ากล้าจูบเขาก่อนได้ยังไง



ไม่เอาแล้ว ไม่คิดแล้ว



เอ็นดูกลั้นใจแล้วแกล้งทำเป็นลืมๆ ไป มือขาวเลื่อนประตูห้องนั่งเล่นให้เปิดออกก่อนแทรกตัวเข้าไปในนั้น ทุกพื้นที่ในวังภัสร์ฤทัยมีแต่ความทรงจำที่ทำให้เอ็นดูแก้มดูแก้มแดงทั้งนั้นเลย



เอ็นดูเดินตรงไปหยิบโทรศัพท์เครื่องสีดำของทรงโปรดที่วางลืมไว้บนโซฟา แค่ถือเครื่องหน้าจอก็สว่างวาบ เลยทำให้รู้ว่ามีคนแชตหาทรงโปรดเยอะมาก แต่เอ็นดูแค่ไม่รู้ว่าข้อความที่ถูกส่งมานั้นคืออะไร แล้วก็ไม่ได้อยากรู้เรื่องส่วนตัวของเขาขนาดนั้นเลยกดล็อกโทรศัพท์ให้หน้าจอกลับไปเป็นสีดำเหมือนเดิม



“สบายดีมั้ยเอ็นดู ไม่ได้เจอกันตั้งนาน คิดถึงกันบ้างหรือเปล่า”



เจ้าของชื่อหันขวับเมื่อถูกสัมผัสที่ไหล่กลม เอ็นดูรีบปัดมือที่ถือวิสาสะแตะต้องกายของตัวเองออกทันทีเมื่อเห็นว่าคนคนนั้นคือใคร



“ภู”



“นึกว่าจำเราไม่ได้ซะอีก”



หม่อมราชวงศ์ภูผายืนล้วงกระเป๋ากางเกงเอียงหน้ามองคนที่ตัวสูงกว่า ส่งสายตาหวานเยิ้มหวังให้เอ็นดูเงยหน้าสบตากันบ้าง แต่เปล่าเลย เอ็นดูนิ่งมาก แถมยังหันหน้าหนีอีกต่างหาก



“จำได้สิ ขอโทษนะที่ไม่ได้คุยอะไรด้วยเลย”



“ไม่เป็นไร...” ภูผาเม้มปากพลางเหลือบตามองข้อมือของคนผิวขาวที่มีสายสิญจน์ผูกอยู่ “เพิ่งรู้ว่าเธอหมั้นแล้ว”



“อืม...” เอ็นดูลากเสียงยาว ก้มมองข้อมือของตัวเองที่ยังไม่ได้ถอดสายสิญจน์ออก



สงสัยวันนี้ต้องให้ทรงโปรดช่วยตัดออกสักหน่อยแล้ว



การมีสายสิญจน์ผูกติดตัวไม่ค่อยสะดวกต่อการใช้ชีวิตประจำวันเท่าไหร่ เอ็นดูคิดว่าสายสิญจน์ที่ผูกข้อมือของตัวเองอยู่มันค่อนข้างอมน้ำพอสมควรเลย แล้วเอ็นดูเองก็เป็นคนชอบล้างมือบ่อยๆ แน่นอนว่าแค่มันโดนน้ำนิดเดียวก็รู้สึกชื้นแฉะน่ารำคาญแล้ว



ไม่รู้ว่าทรงโปรดจะเป็นเหมือนกันหรือเปล่า



เดี๋ยวนะ คิดถึงเขาอีกแล้วเหรอเนี่ย



“เธอยังโกรธเราอยู่เหรอเอ็นดู”



“ไม่ได้โกรธแล้วนะ”



ไม่ได้รู้สึกอะไรแล้วด้วย



“แต่เธอเย็นชาใส่เรา” หม่อมราชวงศ์ภูผาทำหน้าผิดหวังที่คนเคยสนิททำตัวห่างเหินกัน



เอ็นดูอยากบอกภูผามากๆ เลยนะว่าไม่เจอกันตั้งนานจะให้ทำตัวปกติเหมือนเมื่อก่อนได้ยังไง แต่ก็นั่นแหละ เอ็นดูไม่ใช่คนพูดมากเลยเงียบแล้วส่งยิ้มให้แทน



“ช่างเหอะ” ภูผาบอกปัดเพราะเห็นว่าเอ็นดูไม่หือไม่อืออะไรด้วยเลย “ว่าแต่เราไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าพี่โปรดคบกับเธอ”



“...”



“พี่โปรดเจ้าชู้มากเลยนะ เที่ยวเก่งด้วย”



“...”



“เธอไม่ชอบคนเจ้าชู้ไม่ใช่เหรอ”



เอ็นดูถอนหายใจเฮือก แสดงอารมณ์ไม่พอใจออกมาจนภูผายกยิ้ม



ภูผาชอบ...ชอบให้เอ็นดูหัวเสีย



“ขอบคุณนะที่บอกว่าเขาเป็นคนยังไง” เอ็นดูคลี่ยิ้ม “ความจริงเรายังไม่รู้จักเขาดีเท่าไหร่”



“แสดงว่าที่เธอหมั้นเพราะคลุมถุงชนเหรอ...ว่าละ ที่บ้านเธอชอบบังคับ”



“เปล่า เราเต็มใจหมั้น”



“อ้าว อะไรของเธอ”ภูผาขมวดคิ้วงุนงง



เอ็นดูทำหน้านิ่งก่อนก้มมองโทรศัพท์สีดำในมือที่สั่นครืดเพราะมีคนโทรเข้า แล้วก็ต้องขมวดคิ้วทันทีเมื่อเห็นว่าเบอร์ที่โทรเข้ามาเป็นเบอร์ของเอ็นดูเอง



และจากที่ขมวดคิ้วอยู่ก็เปลี่ยนเป็นคลี่ยิ้มพร้อมกับหัวเราะเบาๆ



สาเหตุก็เพราะเบอร์ของเอ็นดูที่หม่อมราชวงศ์ทรงโปรดเมมชื่อเอาไว้ว่า



กระต่ายที่น่า ‘เอ็นดู’



ไม่ใช่แค่นั้นหรอกที่ทรงโปรดทำ แต่เขาใช้รูปภาพกระต่ายขนฟูฟ่องขึ้นโชว์เวลามีสายเรียกเข้าหรือโทรออกด้วย



“ไปก่อนนะภู ไว้ค่อยคุยกันใหม่” บอกลาคนที่ทำหน้ายุ่งก่อนจะเดินออกไป แต่ภูผายังอุตส่าห์ตะโกนตามหลังมาอีก



“ที่บอกเพราะเป็นห่วง พี่โปรดเจ้าชู้มาก เรากลัวว่าเธอจะต้องเสียเวลากับคนแบบนั้น”



เอ็นดูชะงัก หมุนตัวกลับไปมองหน้าคนที่อุตส่าห์มอบความเป็นห่วงมาให้



“เราไม่ชอบคนเจ้าชู้แต่ก็ใช่ว่าเราจะไม่ชอบเขา”



“...”



“ขอบคุณที่เป็นห่วง แต่เราคิดว่าเราสามารถคุยเรื่องนี้กับเขาได้”



“...”



“โดยไม่ต้องมีคนอื่นเข้ามาเกี่ยว”







*****





 

สรุปแล้ววันทั้งวันนี้เอ็นดูก็ใช้ชีวิตอยู่ในวังภัสร์ฤทัย อยู่เป็นพยาบาลดูแลไข้หม่อมราชวงศ์ทรงโปรดที่บ่นว่าปวดหัวแต่ไม่ยอมไปหาหมอ ที่สำคัญ ไม่ยอมให้พี่เขยตัวเองที่เป็นหมอมาตรวจอาการด้วย



คนตัวสูงบอกกับเอ็นดูว่าเขายังไหวอยู่ แต่ไหวแบบไหนไม่รู้นะ ลุกก็โอย นั่งก็โอย ทรงโปรดเรียกให้เอ็นดูช่วยประคองทุกทีเลย



อือ ก็นี่แหละคนขี้อ้อน



จนกระทั่งตอนนี้ถึงเวลามื้อค่ำ ทุกคนพร้อมหน้าพร้อมตากันมาก ตอนแรกทรงโปรดทำท่าจะไม่ลงมาร่วมโต๊ะเพราะให้เหตุผลว่าตัวเองยังป่วยอยู่ (ปากบอกป่วย แต่ลุกขึ้นมากดโทรศัพท์เล่น)



เอ็นดูไม่อยากจะบังคับเขาและไม่อยากเสียมารยาทหากไม่ลงไปร่วมโต๊ะ เลยคิดว่าจะปล่อยให้ทรงโปรดอยู่คนเดียวในห้อง ส่วนตัวเองก็จะลงไปทานมื้อค่ำ แต่เชื่อมั้ย แค่เอ็นดูขยับตัวลงจากเตียง ทรงโปรดก็ดีดตัวลงตามแล้วกลายเป็นคนป่วยนั่นแหละที่เกินกุมมือเขาลงมายันห้องอาหาร



แบบนี้เขาเรียกว่าป่วยไม่จริงนี่นา



หลังจากที่เอ็นดูยกมือสวัสดีผู้ใหญ่ทุกคน มื้อค่ำก็เริ่มขึ้น...เป็นครั้งแรกที่เอ็นดูได้มีโอกาสเจอเหล่าพี่ๆ ของทรงโปรดครบทุกคน หม่อมราชวงศ์รฐา กับหม่อมราชวงศ์ทรงคุณ เอ็นดูเคยเจอมาแล้ว มีแต่หม่อมราชวงศ์ทรงเพลิงนี่แหละ ที่เอ็นดูเพิ่งเคยเจอเป็นครั้งแรก



จะพูดยังไงดี...พี่น้องบ้านนี้หล่อสวยดูดีกันทุกคนเลย



แต่ว่ามื้อค่ำวันนี้เป็นมื้อค่ำที่ค่อนข้างอึดอัดพอสมควรเพราะคำว่าพร้อมหน้าพร้อมตานี่แหละ



พร้อมแบบที่ ภูผาก็ร่วมโต๊ะอยู่ด้วย



แถมยังนั่งตรงข้ามเอ็นดูอีกต่างหาก



คนผิวขาวไม่ใส่ใจถึงแม้จะถูกจ้องด้วยสายตาที่เหมือนจะกลั่นแกล้งกันอยู่ตลอด ภูผาเสียมารยาทโดยการใช้เท้าเขี่ยเข่าของเอ็นดูจนเขาเผลอก้มลงไปมองหลายครั้ง พอโดนแกล้งเข้าบ่อยๆ เอ็นดูก็พอที่จะมีสติ ทำเฉย ไม่ก้มลงไปมอง ไม่สนใจ



แต่คนที่สังเกตถึงความผิดปกติของเอ็นดูก็คือคุณว่าที่คู่หมั้นคนหล่อที่นั่งอยู่ข้างกันนี่แหละ เอ็นดูเห็นว่าเขาขมวดคิ้วตลอด และพักหลังเอ็นดูก็ไม่ได้ถูกเขี่ยเข่าอีกแล้ว พอก้มหน้ามองใต้โต๊ะถึงได้รู้ว่าทรงโปรดกำลังใช้เท้าของเขาเหยียบเท้าภูผาเอาไว้



ส่วนคนที่ถูกเหยียบน่ะหน้ามุ่ยเลย



“เป็นอะไรชายภู อาหารไม่อร่อยหรือไง”



หม่อมราชวงศ์ภูมินทร์พี่เขยของทรงโปรดซึ่งเป็นพี่ชายแท้ๆ ของภูผาขมวดคิ้วถามน้องชายตัวแสบที่นั่งกลั้นหายใจจนแก้มป่องหน้าแดง เอ็นดูมองสลับระหว่างทรงโปรดกับภูผามาได้สักพัก เลยเห็นว่าตอนนี้ภูผามองทรงโปรดแบบหวาดหวั่นจนเอ็นดูเกือบหลุดขำ



“อร่อยครับพี่ภูมิ แต่ภูอิ่มแล้ว”



“ทานไปได้กี่คำเองคะน้องภู ข้าวในจานยังไม่พร่องเท่าไหร่เลย”



“ภูไม่ค่อยหิวครับพี่ฐา อยากกลับบ้านแล้ว”



“อยากกลับก็กลับไป นั่งทำหน้าหน่ายแบบนี้เสียมารยาท เดี๋ยวใครเห็นเข้าจะทานข้าวตามไม่ลง”



โดนพี่ชายดุจนได้



“ผมขอโทษพี่ๆ ทุกคนนะครับ ขอโทษคุณป้านัดด้วยนะครับ”



ภูผายกมือไหว้ผู้ใหญ่ทุกคนร่วมทั้งทรงโปรด ก่อนจะชะงักเมื่อสบตากับเอ็นดู เขาลดระดับมือลงวางบนตัก แล้วผงกศีรษะให้เอ็นดูเชิงขอโทษ



เอ็นดูแอบแง้มผ้าคลุมโต๊ะเพื่อมองสถานการณ์ใต้โต๊ะอีกครั้ง ทรงโปรดปล่อยเท้าที่เหยียบเท้าของภูผาออกแล้ว ร่างสูงนั่งตักน้ำซุปเข้าปากหน้าระรื่นเลยทีเดียว



เขาน่ะร้ายนัก



หลังจากที่โต๊ะอาหารไร้เงาภูผา เอ็นดูก็ผ่อนคลายขึ้นเยอะ เพราะไม่มีสายตาแปลกๆ คอยกดดันให้ตักข้าวเข้าปากไม่ได้ ไม่มีใครแกล้งเขี่ยเข่าให้รู้สึกรำคาญ



ต้องขอบคุณทรงโปรดจริงๆ



ทว่าตอนที่กำลังเพลิดเพลินกับอาหารบนโต๊ะก็ต้องชะงักเมื่อกระดาษทิชชูสีขาวถูกแตะเบาๆ บนมุมปากที่กำลังมุบมิบ เอ็นดูถือช้อนค้างกลางอากาศแล้วก็ต้องรีบหดคอหนีเมื่อทรงโปรดทำท่าจะเช็ดปากให้อีกครั้ง



“คุณ ผมเช็ดเองได้ครับ”



“กินไป เดี๋ยวเช็ดให้เอง”



“...พอแล้วคุณ”



รายนี้ก็ทำอะไรไม่สนใจคนอื่นจริงๆ ผู้ใหญ่นั่งอยู่เต็มโต๊ะยังกล้าทำแบบนี้อีก



“ผมมาไม่ทันอาหารตาชุดใหญ่ตอนกลางวัน แต่ก็ยังทันของหวานตอนค่ำนะครับพี่คุณ” หม่อมราชวงศ์ทรงเพลิงกระแอมไอเบาๆ แล้วเปล่งเสียงทุ้มๆ ของเขาคุยกับหม่อมราชวงศ์ทรงคุณที่นั่งอยู่ข้างๆ



“ตอนกลางวันดุดัน แต่ตอนนี้หวานฉ่ำ แต่ก็ใช้ได้เหมือนกัน”



เอ็นดูไม่รู้หรอกว่าทรงคุณกับทรงเพลิงคุยเรื่องอะไรกันอยู่ รู้แต่ว่ารอยยิ้มของพี่น้องบ้านนี้น่ะเหมือนกันสุดๆ



โดยเฉพาะตอนที่ยิ้มแบบ...เจ้าเล่ห์



พี่รฐาก็เอากับเขาด้วย เธอยกยิ้มมุมปาก หัวเราะคิกคักกับน้องชายทั้งสองคน ส่วนทรงโปรดน่ะเหรอ รายนั้นนั่งทำหน้าระรื่น ยัดคิ้วหรี่ตาให้พี่ๆ ของตัวเอง



จนสุดท้ายแล้วก็นั่งให้ทรงโปรดเอาแต่ใจตัวเองจนกระทั่งอิ่ม เขาคอยตักนู่นตักนี่ให้ตลอด เอ็นดูกินได้สักพักก็คอยเช็ดปากให้...ต่อหน้าผู้ใหญ่เลยนั่นแหละ



คนอย่างหม่อมราชวงศ์ทรงโปรดแคร์อะไรที่ไหน







*****







มื้อค่ำของวันนี้สิ้นสุดแล้ว ฝนที่โปรยปรายทั้งวันก็เช่นกัน



พื้นที่หลังวังริมแม่น้ำเจ้าพระยาเป็นจุดพักผ่อนหลังจากที่เอ็นดูอิ่มแปล้



ที่นี่ยิ่งดึกยิ่งสวยเพราะไฟสีนวลประดับรอบวัง อีกทั้งเรือบนแม่น้ำยังประดับไฟสวยงามอีกต่างหาก ตรงข้ามวังจุดที่เอ็นดูยืนกอดอกมองอยู่นี้เป็นร้านอาหารชื่อดังที่คุณหญิงลักขณาชอบมาทานบ่อยๆ



เอ็นดูจำเรื่องราวสมัยที่ยังไม่ย้ายมากรุงเทพฯ ได้ดี ทุกครั้งที่มีงานสำคัญในกรุงเทพฯ คุณหญิงลักขณามักจะพาเอ็นดูมาด้วยบ่อยๆ และดินเนอร์สุดหรูกันที่ร้านอาหาร้านนั้น เอ็นดูจำได้ว่าทุกครั้งที่มาทานอาหาร มักจะต้องนั่งมองวังงามหลังนี้ตลอด



และคิดอยู่เสมอว่าถ้าหากได้เข้ามาเยี่ยมบ้างก็คงจะดีไม่น้อยเลย



คิดไม่ถึงจริงๆ ว่าตอนนี้จะได้มีโอกาสเข้ามาเยี่ยมวังที่ตัวเองแอบมองมาตั้งเด็กๆ



“หนาวมั้ย”



“ไม่ครับ”



ถึงจะบอกว่าไม่ แต่เสื้อกันหนาวตัวใหญ่ก็ถูกคลุมลงบนไหล่ของเอ็นดูซะแล้ว



คนที่เพิ่งเดินมาตรงหลังวังยกยิ้มมุมปาก ปลายนิ้วชี้แตะแก้มขาวเพื่อวัดอุณหภูมิของคนที่เฝ้าไข้มาทั้งวันว่ายังปกติดีหรือว่าคิดไข้เขาไปแล้ว



“ใส่ไว้ จะได้ไม่หนาว”



“ขอบคุณนะครับ”



ทรงโปรดระบายยิ้มให้คนผิวขาว เอ็นดูมองมือหนาที่ถือกรรไกรเอาไว้ แล้วก็ต้องคลี่ยิ้มออกมาเมื่อทรงโปรดจับแขนนิ่มข้างที่มีสายสิญจน์ผูกอยู่ขึ้นมาอย่างทะนุถนอม



“ความจริงยังไม่อยากถอด อยากใส่จนกว่าจะถึงวันหมั้นมากกว่า”



“สายสิญจน์เปื่อยพอดีนะครับ”



“เปื่อยก็เปื่อยสิ”



เอ็นดูยิ้มให้กับท่าทางของทรงโปรด



คำพูดดูเอาแต่ใจ แต่ใบหน้านี่นิ่งเรียบเชียว ถ้าไม่ติดว่ามีรอยยิ้มประดับที่มุมปาก เอ็นดูคงคิดว่าเขากำลังโกรธที่ถูกขอร้องให้ช่วยตัดสายสิญจน์



หลังจากทานมื้อค่ำเสร็จ เอ็นดูก็กระซิบถามทรงโปรดเรื่องสร้อยข้อมือ ลืมไปแล้วด้วยซ้ำว่าสร้อยของตัวเองส่งซ่อมอยู่



ทรงโปรดคุยกับทรงคุณเรื่องสร้อยและได้ความว่าสร้อยเสร็จแล้วเรียบร้อย อยู่บนห้องของทรงคุณเอง ตอนที่ทรงโปรดจะขึ้นไปเอาสร้อยให้เอ็นดู เขาก็ถือโอกาสพูดเรื่องสายสิญจน์ว่ามันสมควรที่จะถูกตัดออกได้แล้ว



เอ็นดูไม่ได้เล่าอย่างละเอียดว่าทำไมตัวเองถึงตัดสายสิญจน์ออกเองไม่ได้ แค่บอกว่าที่บ้านต้องให้อีกฝ่ายช่วยตัดเพราะเป็นความเชื่อ ทรงโปรดก็พยักหน้าตกลง



“แล้วสายสิญจน์จะเอาไปไว้ที่ไหน หิ้งพระหรือเปล่า” ทรงโปรดถามหลังจากที่ค่อยๆ ตัดสายสิญจน์ออกจากข้อมือของเอ็นดูทีละเส้น เขาคอยระวังไม่ให้เหล็กของกรรไกรเฉียดผิวของเอ็นดู



“ทิ้งได้เลยครับ”



“น่าเสียดาย”



“ก็แค่สายสิญจน์น่ะคุณ”



“แค่สายสิญจน์ที่ไหน นี่ของสำคัญที่ทำให้พี่ได้หมั้นกับเราเลยนะ”



“ยังไม่ได้หมั้นสักหน่อยนะครับ”



ขี้ตู่อีกแล้ว...



ทรงโปรดหัวเราะในลำคอก่อนค่อยๆ ตัดสายสิญจน์เส้นสุดท้ายออก



ตอนแรกเขาทำท่าจะไม่โยนลงถังขยะ แต่พอเอ็นดูจับโยนเองเขาเลยทำตาม



สายสิญจน์ไม่ได้ปลุกเสกอะไร เป็นแคสายสิญจน์ที่ผู้ใหญ่ผูกจองตัว รับขวัญ เป็นสัญลักษณ์ว่าพวกเขาทำพิธีตามความเชื่อของผู้ใหญ่เพื่อความสบายใจเรียบร้อยแล้วเท่านั้น



“ขอบคุณครับ” พึมพำบอก ก่อนที่ตัวเองจะเป็นฝ่ายตัดสายสิญจน์ออกจากข้อมือหนาบ้าง



เพราะมัวแต่ก้มหน้าเลยไม่ทันสังเกตว่าคนตัวสูงกำลังเอียงคอมองตัวเองด้วยสายตาที่แสดงถึงความเอ็นดูมากแค่ไหน จนกระทั่งทรงโปรดใช้ปลายนิ้วโป้งลูบแก้มกลมเบาๆ นั่นแหละ เอ็นดูถึงได้ชะงัก เหลือบตามองเขาก่อนกลับมาตั้งใจตัดสายสิญจน์ออกเหมือนเดิม



“ใจอ่อนบ้างหรือยัง”



“อะไรครับ”



อยู่ๆ ก็ถามไม่มีหัวเรื่อง



“ใจเราน่ะ อ่อนให้พี่บ้างหรือยัง”



“...” คนผิวขาวเม้มปาก ทำหูทวนลมก้มหน้ายุ่งกับสายสิญจน์



“ว่าไง”



“นิ่งๆ ได้มั้ยครับ เดี๋ยวกรรไกรโดนแขน”



“ตอบมาก่อนสิ”



“ไม่ครับ”



“ปากแข็ง”



“...”



“แก้มแดงขนาดนี้ยังบอกว่าไม่”



เอ็นดูวางกรรไกรลงบนโต๊ะหลังจากที่ตัดสายสิญจน์เส้นสุดท้ายเสร็จ หมุนตัวทำท่าจะเดินหนีคนตัวสูงที่ทำให้หน้าเริ่มเห่อร้อนอีกครั้งแต่ก็ถูกทรงโปรดรั้งไว้ด้วยมือหนาที่จับไหล่กลมทั้งสองข้าง



“หน้าแดงก็ไม่ได้เหรอครับ”



“หน้าแดงต้องมีเหตุผล”



“...”



“เราน่ะปากแข็ง”



“...ไม่สักหน่อย”



คนผิวขาวเงยหน้าเถียงทันควัน รีบยกมือแตะริมฝีปากเอิบอิ่มของตัวเองที่โดนกล่าวหา



แล้วก็ต้องก้มหน้างุดตามเดิมเมื่อทรงโปรดคลี่ยิ้มกว้าง



ยิ้มน่ามองแต่เอ็นดูไม่กล้ามอง



เพราะกลัวว่าใจจะสั่นมากไปกว่านี้



“ไม่ต้องเถียง ปากเราแข็งจะตาย”



“ปากผมไม่ได้แข็งสักหน่อย…” ยืนยันด้วยการพึมพำเบาๆ ก่อนเอนตัวซบหน้าลงบนอกกว้างของคนตัวสูงเพื่อซ่อนแก้มแดงปลั่ง “คุณก็เคยสัมผัสแล้วไม่ใช่เหรอครับ”



ทุกครั้งที่เคยสัมผัสกัน ทรงโปรดก็แนบแน่นขนาดนั้น

...ทำไมถึงยังหาว่าน้องปากแข็งอยู่อีกก็ไม่รู้



























#ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี

 

 

ออฟไลน์ k00_eng^^

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 647
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +63/-2

ออฟไลน์ catka12

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 587
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-0
 :ruready เขินมากกกกก  :ruready

ออฟไลน์ wwll

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 20
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
สูดหายใจลึกมากกก ยิ่งกว่าหลังคาร์ดิโอ้
จะขาดอากาศหายใจเอาเน้อ!!!!!
คุณพี่โปรดเล่นจัดชุดใหญ่ไฟกระพริบตลอดดด

คนเจ้าชู้ คือคนที่ยังไม่เจอคนที่ใช่ มันคือจริงมาก
บอกเลยว่าภูผานี่มาไม้นี่ไม่ได้ผลจร้าา
อดีตก็คืออดีต ก็อาจจะมีตามมาหลอกหลอนบ้าง
คงไปผญเจ็บไว้เยอะ ก็ตามแก้กันหน้างานไป

ตอนนี้ก็ทำคะแนนไว้เยอะๆ
เพราะน้องดูนุ่มนิ่มๆ แต่คนแบบนี้บางทีก็ตัดได้ง่ายๆเลยเด้อ

รอตอนต่อไปนะคะไรท์

ออฟไลน์ Chompoo reangkarn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1089
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-0

ออฟไลน์ momonuke

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 772
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
จะร้องไห้ นุเขินนนนนน  :ling1: :ling1: :ling1:

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3382
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
 :pig4: :pig4: :pig4:

งุ้ย...มดขึ้นจอเต็มไปหมด

ออฟไลน์ Tiffany

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1157
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
หวานจริงๆ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ jeaby@_@

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1160
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +454/-3
สนุกมากกกก อ่านถึงเเค่ตอนสอง รีบมมาเมนท์ก่อน มาต่อเรื่อยๆนะคะ ตามอยู่ค่ะ

ออฟไลน์ songte

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1425
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
อือหือ เบาหวานขึ้นตา
เรื่องนี้ไม่ใช้น้องหรอกที่จะขาดอากาศหายใจ คนอ่านเนี่ยะแหล่ะตายก่อน สำลักน้ำตาล :-[

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4992
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7

ออฟไลน์ Swanlee

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 96
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-0

11



ไม่ได้โหยหาความรักหรอกนะ

โหยหาแต่คุณนั่นแหละ

: )

 



เอ็นดูกำลังคิดว่าเย็นนี้จะกลับไปทำอะไรกินเป็นมื้อค่ำดีทั้งๆ ที่ยังนั่งฟังเสียงอาจารย์บรรยายบทความเกี่ยวกับเศรษฐกิจซบเซาเป็นภาษาอังกฤษในชั่วโมงเรียน



ตาเรียวจ้องโปรเจ็กเตอร์ นิ้วขาวสวยควงปากกา แต่ใจนี่ลอยไปไหนต่อไหนแล้วก็ไม่รู้



เมื่อเช้าไม่ได้กินข้าวเพราะมัวแต่วุ่นวายแต่กับเรื่องรถ ขนาดจอดรถในคอนโดยังไม่ทันขับออกไปไหนก็ถูกรถอีกคันถอยมาชนจนกระโปรงหน้าเปิด ไฟหน้าแตกกระจาย สัญญาณนิรภัยในรถ Lexus ร้องเตือนเสียงดังทั่วทั้งลานจอดรถชั้นนั้น



คนที่ขับมาชนยังเป็นเด็กนักเรียนอยู่เลย



เอ็นดูรีบวิ่งออกมาดูสถานการณ์ทั้งที่ยังแปรงฟันล้างหน้าไม่เสร็จ น้องนักเรียนยกมือขอโทษขอโพยยกใหญ่ น้องเป็นเด็กผู้ชายอวบๆ ขาวๆ น่ารัก ท่าทางจะร้องไห้ของเด็กคนนั้นทำเอาเอ็นดูไม่อยากเอาเรื่องอะไรเลย



จริงๆ เอ็นดูไม่ได้โกรธอยู่แล้ว รถมีประกันไม่ค่อยเดือดร้อนอะไรเท่าไหร่ น้องนักเรียนบอกว่าจะให้คุณพ่อมาช่วยเคลียร์และจ่ายค่าเสียหายส่วนอื่นๆ ให้ แต่เอ็นดูปฏิเสธ ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของประกันภัยจัดการก็พอ เขาไม่ติดใจเอาเรื่องแถมยังปลอบเด็กนักเรียนที่น่าสงสารคนนั้นอีกด้วย



เรื่องจบตอนที่เจ้าหน้าที่ประกันภัยมาถึง ทำเรื่องแป๊บเดียวเอ็นดูก็บอกให้น้องคนนั้นไปโรงเรียนได้แล้ว



ส่วนเอ็นดูก็นั่งแท็กซี่ฝ่ารถติดมาเรียน

 



Prod: แล้วเย็นนี้จะกลับเองหรือไง

Prod: รอที่มอมั้ย เดี๋ยวไปรับ



 

เอ็นดูกลั้นยิ้ม ละสายตาจากโปรเจ็กเตอร์มาจ้องโทรศัพท์แทน



นอกจากคุณแม่ที่รู้ว่าหลังจากนี้ยาวไปเกือบเดือนเอ็นดูจะไม่มีรถใช้งานเพราะถูกยกไปเคลม ก็มีทรงโปรดนี่แหละที่รู้เรื่องนี้ด้วยเหมือนกัน นับว่าเขาคือคนแรกเลยที่เอ็นดูเล่าเรื่องเมื่อเช้าให้ฟัง



หม่อมราชวงศ์ทรงโปรดทำท่าจะมารับเอ็นดูไปเรียนตั้งแต่เมื่อเช้าแล้ว แต่ตอนนั้นเอ็นดูนั่งอยู่บนแท็กซี่และกำลังจะถึงมหา’ลัยเลยปฏิเสธคนตัวสูงที่ทำเสียงเป็นห่วงเป็นใยผ่านโทรศัพท์



คอนโดอยู่ไกลกันขนาดนั้น เอ็นดูไม่อยากให้เขาฝ่ารถติดตอนเช้าๆ หรอก



ถึงแม้ว่าอยากจะเจอหน้าเขามากแค่ไหนก็ตาม



ผ่านมาหนึ่งเดือนกว่าๆ หลังจากที่ไปได้มีโอกาสเข้าไปเยี่ยมวังภัสร์ฤทัย เอ็นดูใช้ชีวิตปกติเหมือนเดิมทุกอย่าง แต่มีอย่างหนึ่งที่ไม่ปกติเท่าไหร่ก็คือ...ความสนิทสนมที่เอ็นดูมอบให้ทรงโปรด



พวกเขาสนิทกันมากขึ้น หนำซ้ำยังสนิทกันเหมือนกับว่ารู้จักมาเป็นปีๆ ด้วย



ไม่รู้ว่าหาเรื่องอะไรมาคุยกันได้มากมายขนาดนี้ ชีวิตของเอ็นดูไม่ได้หวือหวา แต่ก็มีเรื่องคุยกับทรงโปรดทุกชั่วโมงเลย ทรงโปรดเองก็เหมือนกัน เขาพูดคุยกับเอ็นดูอย่างเป็นธรรมชาติ ไม่มีจังหวะไหนที่ต่างคนต่างเงียบเพราะหมดเรื่องคุยเลยสักครั้ง



เอ็นดูรู้สึกตื่นเต้นกับการได้คุยกับทรงโปรดทุกครั้ง ไม่ว่าจะแชต โทรคุย วิดีโอคอลล์ หรือว่าเจอหน้า



เจอหน้านี่ยิ่งแล้วใหญ่...ตื่นเต้นกว่าเดิมไปอีก

 



N-Doo: คุณเลิกงานสามทุ่มไม่ใช่เหรอครับ

Prod: เลิกกี่โมงก็ได้ถ้าเราอยากให้ไปรับ

N-Doo: ไม่รบกวนคุณดีกว่า

N-Doo: ตั้งใจทำงานเถอะครับ

 Prod: โอเค

Prod: เดี๋ยวเย็นนี้ไปรับ



 

อ่าว...

 



Prod: คืนนี้ขอนอนด้วยนะ

Prod: ถ้าหอบงานไปทำด้วยจะโกรธมั้ย

N-Doo: จะโกรธทำไมล่ะครับ

N-Doo: เรื่องของคุณนี่นา

Prod: กลัวมีใครบางคนงอแงที่สนใจงานมากกว่า

Prod: เดี๋ยวโดนทำหน้ามุ่ยใส่อีก

N-Doo: ผมไม่ได้งอแงสักหน่อย

Prod: แต่หนีไปนอนก่อน แถมไม่ยอมให้กอดอีกต่างหาก

N-Doo: ไม่คุยด้วยแล้วนะครับ ผมต้องเรียนต่อ

 



ไม่อยากโดนเขาล้อเลยชิ่งหนีด้วยการล็อกหน้าจอโทรศัพท์ เอ็นดูไม่ได้โกรธนะที่เขายกเรื่องนี้มาพูด แต่ขำตัวเองมากกว่าที่ดันไปงอนทรงโปรดทั้งที่รู้ว่าเขามีงานด่วนต้องทำ



เรื่องมันเกิดขึ้นเมื่อวานซืนที่ผ่านนี่เอง หม่อมราชวงศ์ทรงโปรดขับรถฝ่าฝนเพื่อมานอนค้างที่คอนโดของเอ็นดู ความจริงไม่ได้ตั้งใจจะงอนหรืองอแงอะไรเลยนิด แต่ตอนนั้นตีสองแล้ว ทรงโปรดยังนั่งหลังแข็งทำงานอยู่ในห้องนอนอยู่เลย ด้วยความ...เป็นห่วง เอ็นดูเลยเรียกให้เขามานอนอีกครั้ง...อือ น่าเป็นรอบที่สิบได้แล้วมั้ง



แล้วทรงโปรดก็ทำให้เอ็นดูคิดว่าเขาจะเดินมานอนจริงๆ



หม่อมราชวงศ์ทรงโปรดหันมาส่งยิ้มให้ก่อนจะลุกขึ้นเดินมาที่เตียง เอ็นดูจำได้ว่าตัวเองก็คลี่ยิ้มตอนที่คนตัวสูงโน้มตัวลงมาจูบปลายจมูก คนผิวขาวเอื้อมมือคว้าข้อมือหนา ออกแรงกระตุกเล็กน้อยส่งสัญญาณให้เขารู้ว่าควรล้มตัวลงนอนได้แล้ว แต่ทรงโปรดกลับส่ายหน้า จุมพิตหน้าผากเอ็นดูแล้วผละตัวออกเดินกลับไปนั่งทำงานเหมือนเดิม



อือ เอ็นดูเหวอไปเลย



ทรงโปรดไม่มีทางเข้าใจหรอกว่า



เอ็นดูอยากให้เขามานอนกอดจะแย่แล้ว



ก็นั่นแหละ เอ็นดูเลยเผลองอแงใส่ด้วยการหยิบมาห่มมาคลุมโปง นอนถอนหายใจฟึดฟัดไม่สนใจว่าทรงโปรดจะเรียกหรือชวนคุยยังไง จนกระทั่งไม่กี่นาทีต่อมาที่เอ็นดูได้ยินเสียง MacBook ของทรงโปรดถูกพับฝาปิดพร้อมกับเสียงเก้าอี้ลากพื้นดังครืด และตามมาด้วยเตียงที่ยวบลงเพราะน้ำหนักของทรงโปรดที่โถมลงมา เขาดึงหน้าห่มผืนใหญ่ออกให้พ้นใบหน้าขาวของเอ็นดู แต่สุคนตัวเล็กก็ดึงมันขึ้นมาปิดหน้าอีกครั้ง



‘เดี๋ยวหายใจไม่ออก’

‘...’

‘เอ็นดู’



หายใจไม่ออกจริงๆ แต่เอ็นดูก็นอนเม้มปากผ่อนลมหายใจฟึดฟัดอยู่อย่างนั้นจนกระทั่งทรงโปรดดึงผ้าห่มออกอีกครั้ง แต่คราวนี้เขาดึงออกจากตัวของเอ็นดูเลย แถมยังโยนทิ้งไว้บนพื้นข้างเตียงอีกต่างหาก



‘เอาผ้าห่มคืนมาเลยนะครับ’

‘ทำไมหน้างอ’

‘ไม่ได้งอ หน้าปกติครับ’

‘นี่ไม่ปกติแล้ว’

‘ผมง่วงแล้ว’

‘อย่าเพิ่งนอน’

‘ผมง่วง’

‘ขอโทษที่มัวแต่ทำงานแล้วไม่ได้มากอดเราเลย’

‘…’

‘กอดแล้วนะครับ หายงอนได้แล้ว’

‘ผมไม่ได้งอนนะคุณ’

‘อือ แต่งอแง’

‘เฮ้อ’



บอกเลยว่านึกถึงทีไรก็นั่งขำตัวเองจนไหล่สั่นจริงๆ



แล้วสุดท้ายในคืนนั้นเอ็นดูก็ผล็อยหลับจมอ้อมกอดทรงโปรด และการที่ตัวเองงอแงครั้งนั้นครั้งเดียว คนตัวสูงก็หยิบเรื่องนี้มาล้อกันไม่เลิกสักที



เขาบอกว่าชอบให้เอ็นดูงอแงใส่บ่อยๆ



เพราะทรงโปรดชอบปลอบ ชอบง้อให้เอ็นดูหายงอแง



แล้วก็ไม่มีสมาธิเรียนเพราะนอกจากในหัวจะมีแต่เรื่องของกินเย็นนี้ ยังมีเรื่องของทรงโปรดมารบกวนจิตใจให้ยิ้มกริ่มแก้มร้อนคนเดียวจนเพื่อนที่นั่งข้างๆ หันมอง



กระทั่งโทรศัพท์สั่นครืดเพราะมีสายเข้า โทรศัพท์ที่วางอยู่บนโต๊ะสั่นแรงจนเกิดเสียงดัง เอ็นดูรีบหยิบขึ้นมาแล้วกุมไว้แน่นก่อนหันไปพึมพำขอโทษเพื่อนที่นั่งเหลือบตามองอยู่ข้างๆ



ก้มหน้ามองหน้าจอโทรศัพท์ที่สว่างวาบพลันหลุดยิ้มอีกครั้งเมื่อเห็นว่าใครเป็นคนโทรเข้ามา แต่สุดท้ายเอ็นดูก็ตัดสายทิ้งก่อนกดเข้าแอพพลิเคชั่นที่ใช้แชตกับคนคนนั้น



 

N-Doo: ผมเรียนอยู่นะคุณ

Prod: ช่วยอะไรหน่อย

N-Doo: อะไรครับ

Prod: ช่วยหา How to ทำยังไงให้หายคิดถึงเอ็นดูหน่อยครับ

 



ฮือ คนบ้า!



ถ้าคิดจะโทรมากวนเพื่อหยอดกันแค่นี้นะ สาบานได้ว่าเอ็นดูคงทำเป็นไม่สนใจเขาแน่ๆ



ไม่น่าแชตไปถามเลย

 



Prod: ว่าไง มีมั้ย

N-Doo: ไม่มีครับ

Prod: เหรอ แย่เลย

Prod: คนที่คิดอยู่น่ารักมากๆ อยากให้ช่วยลดความน่ารักลงหน่อย

N-Doo: ผมไม่ได้น่ารักนะคุณ

N-Doo: คิดไปเองหรือเปล่าครับ

Prod: คนน่ารักมักบอกว่าตัวเองไม่น่ารัก

 



เอ็นดูเกาท้ายทอยเบาๆ พลางเม้มปาก ไม่รู้ว่าทรงโปรดว่างมากหรือไงถึงได้เอาแต่แกล้งกันแบบนี้ตลอด

 



N-Doo: ถ้าไม่มีอะไรผมจะปิดเน็ตแล้วนะครับ

 



เอ็นดูเลยทำเมินข้อความของเขา เปลี่ยนเรื่องสนทนาเอง พยายามไม่ให้ทรงโปรดหยอดคำหวานได้อีก คนผิวขาวรู้ว่าตอนนี้ตัวเองชักจะเกิดอาหารพ่ายแพ้ให้กับทรงโปรดมากเกินไปแล้ว



ก็แพ้มาตั้งนานแล้วแหละ แต่พอนับวันยิ่งรู้สึกว่า...แพ้มากขึ้นไปทุกที

 



Prod: มี

Prod: คิดถึงมากๆ ถ้าเจอแล้วขอกอดหน่อยได้หรือเปล่า

N-Doo: แล้วแต่คุณเลยครับ



 

ก็ถูกกอดทั้งๆ ที่ไม่ได้ถูกขออนุญาตมาหลายครั้งแล้ว

 



Prod: กอดแน่นๆ ก็ได้ใช่มั้ย

N-Doo: (ส่งสติ๊กเกอร์หมีพยักหน้า)

Prod: แล้วเอ็นดูจะกอดพี่กลับด้วยได้หรือเปล่า

N-Doo: (ส่งสติ๊กเกอร์หมีทำมือ OK)

Prod: แล้วถ้าขอให้เอ็นดูจูบด้วยได้มั้ย

N-Doo: ผมไม่ชอบจูบใครก่อนครับ

Prod: ไม่เป็นไร พี่จัดการเอง

 



ปากจิ้มลิ้มมุบมิบตอนที่อ่านข้อความนั้นจบ  เอ็นดูไม่มีภูมิต้านทานทรงโปรดแล้ว ไม่สิ เอ็นดูไม่เคยมีภูมิต้านทานเขามาตั้งแต่แรกแล้วต่างหาก



คนผิวขาวก้มมองเวลาบนหน้าจอโทรศัพท์ เกิดอยากให้เวลาเดินเร็วกว่านี้เพื่อที่จะได้เจอทรงโปรดไวขึ้น



ความรู้สึกแบบนี้คงเป็นอาการเดียวกับทรงโปรดเป็นอยู่



เป็นอาการที่...



อยากจะขอ How to ทำยังไงไม่ให้คิดถึงเขามากเกินไป







 *****







ซุปเปอร์มาร์เก็ตในห้างดังเป็นสถานที่ที่ทรงโปรดพาเอ็นดูมาเลือกซื้อของเข้าตู้เย็น รวมทั้งของใช้บางส่วนของเขาเอง



หม่อมราชวงศ์ทรงโปรดเข็นรถเข็นอยู่หน้าโซนอาหารสด ตาคมมองแผ่นหลังบางของคนผิวขาวเพลินตา น้องหยิบนู่นจับนี่ใส่ตะกร้า รู้เลยว่าเอ็นดูก็ช็อปปิ้งเก่งไม่เบาเหมือนกัน



“เบื่อหรือยังคุณ”



“ไม่เบื่อ เพลินดี”



ไม่เบื่อจริงๆ

เพราะน้องน่ามองมากเขาเลยมีจุดโฟกัสสายตา



แก้มยุ้ยขาวนวลของน้องน่ากัดเวลาก้มมองของในชั้นอาหาร แก้มน้องยุ้ยๆ ฟูๆ ดูนิ่มจนทรงโปรดแทบอดใจไม่ไหว อยากกัดให้รู้แล้วรู้รอด



น่ารักอะไรขนาดนี้วะ



นี่เขาพูดคำนี้ไปกี่ครั้งแล้วเนี่ย



“เสร็จแล้วครับ...” น้องหยิบเนื้อหมูถาดสุดท้ายใส่รถเข็น แล้วก็ต้องชะงักเมื่อสายตาเห็นโรลออนขวดสีดำยี่ห้อหนึ่งวางอยู่ในนั้น “ของคุณเหรอครับ”



ปลายนิ้วชี้เรียวขาวชี้ไปที่ขวดสีดำ



“ใช่”



“ที่ห้องคุณหมดแล้วเหรอครับ”



ทรงโปรดยกหลังมือถูกปลายจมูกเบาๆ



ที่เอ็นดูก็เพราะเมื่ออาทิตย์ที่แล้วก็เพิ่งพากันมาเดินห้างซื้อของใช้เข้าห้อง แล้วเอ็นดูก็เห็นเองกับตาว่าทรงโปรดหยิบโรลออนขวดสีนี้ ยี่ห้อนี้ติดมือไปด้วย



“ที่ห้องพี่ยังมีอยู่ แต่ที่ห้องเราไม่มี”



“ก็ผมไม่ใช้ยี่ห้อนี้นี่ครับ”



“พี่ใช้”



“...”



“ซื้อติดไว้ที่ห้องเราไง เวลาไปนอนด้วยจะได้มีใช้”



แล้วเจ้าคนน่ารักก็หมุนตัว หนีซ่อนแก้มแดงกับยิ้มเขินของตัวเองซะงั้น



“ไปจ่ายเงินได้แล้วครับคุณ”



น้องที่เดินนำไปก่อนชะงักหันกลับมาเหลือบมองทรงโปรด มือขาวกวักเรียกคนตัวสูง แน่นอนว่าเขายอมเข็นรถตามแต่โดยดี



อยู่กับเอ็นดูคุณชายทรงโปรดว่าง่ายอยู่แล้ว



เอ็นดูทำหน้าที่หยิบของลงบนสายพานของเคาน์เตอร์แคชเชียร์ ทรงโปรดเองก็ช่วยอีกแรงจนกระทั่งของทุกอย่างพร้อมคิดเงิน เสียงที่ยิงบาร์โค้ดดังติดต่อกันหลายครั้ง แต่มันก็ไม่ได้ดึงความสนใจของเอ็นดูได้เลยสักนิด



ก็เพราะตอนนี้มีแต่คนมองหม่อมราชวงศ์ทรงโปรดที่ยืนครองรถเข็นพร้อมกับออร่าเปล่งประกายแทบทั้งห้าง



ทั้งผู้หญิงและผู้ชายเลยแหละที่จ้องทรงโปรดด้วยสายตาคลั่งไคล้



เอ็นดูตวัดตามองคนตัวสูงที่ยืนทำไม่รู้ไม่ชี้ มองนู่นนี่ มองตัวเลขที่แสดงราคาสินค้าหน้าเคาน์เตอร์บ้างอะไรบ้าง ก่อนจะละสายตาจากที่อื่นแล้วมองคนตัวเล็กที่ยืนกอดอกจ้องเขาเขม็ง



ทรงโปรดเลิกคิ้ว ยกมือบีบแก้มขวาของน้องเบาๆ



“มองอะไร”



ไม่ชอบเลย



เอ็นดูไม่เข้าใจว่าเขาจะหล่อดูดีไปเพื่ออะไร ทรงโปรดผิวขาวมาก โครงหน้าเรียวยาวเห็นสันกรามชัดเจน คิ้วเข้มแถมเส้นขนยังเรียงตัวสวยยิ่งกว่าคนที่กันคิ้ว ตาคมกริบมักอ่อนโยนเวลามองเอ็นดู จมูกของเขาก็โด่งและโค้งช่วงปลาย...มองยังไงก็หาที่ติไม่ได้



เอ็นดูไม่ชอบปากของเขา ปากหยักสีธรรมชาติที่ชอบยกยิ้มเวลาตัวเองได้เปรียบกับเรื่องอะไรสักอย่าง...แถมเส้นผมสีดำที่ถูกเซ็ตเป็นทรงปัดไปทางซ้ายกลุ่มหนึ่ง ส่วนอีกกลุ่มเล็กๆ ก็อยู่ทางขวา เปิดให้เห็นหน้าผากที่ดูดีของเขา



ดูดีแม้กระทั่งหน้าผาก คิดดูละกันว่าหม่อมราชวงศ์ทรงโปรดต้องหล่อออร่ามากขนาดไหน



ไม่ชอบความหล่อที่มักดึงดูดความสนใจคนอื่นแบบนี้เลย



“เอ็นดู” เจ้าของชื่อสะดุ้งโหยงตอนที่มือหนาลูบเส้นผมนุ่มของตัวเองเบาๆ “จ่ายเงินแล้ว กลับกันครับ”



“เดี๋ยวครับ...คุณจ่ายค่าของนี่เองเหรอครับ”



เพราะว่ามีคนอื่นยืนต่อหลังพวกเขาอยู่ ทรงโปรดเลยใช้แขนแกร่งข้างซ้ายโอบไหล่กลมของน้องแล้วพาเดินออกจากจุดชำระเงินพร้อมกับเข็นรถไปด้วย



น้องถามเสียงหลงเลย พาแก้มกลมๆ เงยขึ้นมองเขาที่สูงกว่าตั้งหลายเซ็นต์



“ใช่”



“งั้นขอเลขบัญชีด้วยครับ เดี๋ยวผมโอนคืนให้”



“โอนมาทำไม”



“ของพวกนี้ผมซื้อเข้าห้องผม คุณไม่ต้องมาทำเป็นป๋าจ่ายเงินให้เลย”



“ก็ไม่ได้ป๋า”



“...”



“แต่จะหมั้นกันแล้ว เราต้องฝึกใช้กระเป๋าตังค์พี่ให้ชิน”



ไม่เห็นเกี่ยวกันเลย



“ไม่รู้แหละครับ ผมรอเลขที่บัญชีจากคุณอยู่นะ”



เอ็นดูส่ายหน้าไปมา ยู่ปากตลอดทางเดินเมื่อมองไปรอบๆ แล้วพบว่ายังมีคนมองตามทรงโปรดจนหันคอตามแทบ 360 องศา



“ไม่รู้สึกหนักใจบ้างเหรอครับที่มีแต่คนมองตาเป็นมันขนาดนี้”



“ไม่ได้สนใจสักหน่อย”



เอ็นดูเบ้ปาก



“สนใจแต่คนนี้”



นิ้วชี้เรียวยาวจิ้มลงบนแก้มนุ่มของเอ็นดู



“แค่เงยหน้ามองพี่คนเดียวก็ดีใจแล้ว”



ทรงโปรดก็คือทรงโปรด



คนที่ขยันจีบเอ็นดูได้ทุกสถานการณ์นั่นแหละ





*****







เอ็นดูไม่ได้เก่งเรื่องเข้าครัว ไม่ได้ทำอาหารเก่ง แค่เปิดยูทูบดูสูตรแล้วทำตามเท่านั้นเอง



ช่วงแรกๆ ที่ย้ายเข้ามาอยู่ในกรุงเทพฯ เอ็นดูอยู่ได้ด้วยอาหารแช่แข็งในเซเว่น บอกเลยว่ากินครบทุกเมนูแล้วแหละ จนกระทั่งพัฒนาตัวเองด้วยการซื้อของสดมาลองทำ เมนูแรกที่ทำแล้วสำเร็จก็คือข้าวไข่เจียว



สามปีกับการทำอาหารกินเอง สลับกับซื้อกินไปด้วย ทำให้เอ็นดูพอที่จะมีความเคยชินกับการเข้าครัวอยู่บ้าง เอ็นดูยังไม่เก่งในเรื่องของการกะเกณฑ์เครื่องปรุง อาหารที่ทำเอง (แม้ว่าจะเคยทำบ่อยแล้ว) รสชาติก็ยังไม่คงเดิม อร่อยบ้างไม่อร่อยบ้าง สลับกันไป



ส่วนเย็นวันนี้เอ็นดูลองทำสเต็กเนื้อที่ทรงโปรดบอกว่าอยากกิน เพราะว่าเพิ่งเคยลองทำเป็นครั้งแรกคนผิวขาวเลยรู้สึกประหม่า เชฟในยูทูบที่กำลังสอนบอกสูตรก็ลงมือทำอย่างรวดเร็วจนเอ็นดูต้องกดหยุดแล้วดูใหม่ซ้ำอยู่หลายครั้ง



แต่มันก็ลุล่วงไปได้ด้วยดี



“หอม”



เอ็นดูเกือบทำสเต็กไม่เสร็จก็เพราะคนนี้แหละ



“หิวแล้ว”



“หิวแล้วก็ปล่อยสิครับ” ตีหลังมือคนที่โอบกอดจากด้านหลัง “ไปนั่งรอที่โต๊ะเลยคุณ”



หม่อมราชวงศ์ทรงโปรดเกิดงอแงอะไรขึ้นมาอีกก็ไม่รู้ ตอนแรกเขาก็เอนหลังบนโซฟาดูทีวีอยู่ดีๆ หรอกนะ แต่ไปๆ มาๆกลับเดินมากอดเอ็นดูที่กำลังทำอาหารอยู่จากทางด้านหลัง คนตัวสูงเกยคางบนไหล่แคบๆ ของเอ็นดู ไม่พอแค่นั้น เขายังหอมพวงแก้มกลมซ้ายทีขวาทีอีกด้วย



ไล่ให้ไปนั่งรอเฉยๆ ก็ไม่ยอมไปแล้ว



“วันนี้ฝนไม่ตก ไปนั่งชมวิวที่ระเบียงกันมั้ย” คนตัวสูงยกคางขึ้นจากไหล่ของเอ็นดูแล้ว เขาเอียงหน้าถามพร้อมกระชับกอดแน่น



“คุณอยากออกไปนั่งกินที่ระเบียงเหรอครับ”



“อือ บรรยากาศน่าจะดี กินสเต็กจิบไวน์”



เอ็นดูคลี่ยิ้มเมื่อลองหลับตาฟังแล้วพบว่า...ก็น่าโรแมนติกดีเหมือนกัน



“แล้วก็มองหน้าเราไปด้วย”



“ถ้าอย่างนั้นนั่งในห้องก็ได้มั้งคุณ”



ย่นจมูกใส่คนตัวสูงที่ยืนหัวเราะชอบใจแถมยังกดปลายจมูกลงบนแก้มเอ็นดูซ้ำไปซ้ำมา



พอหม่อมราชวงศ์ทรงโปรดถูกมองด้วยสายตาค้อนๆ จากคนผิวขาว เขาเลยยอมปล่อยท่อนแขนแกร่งที่โอบกอดเอวคอดของน้องออก ก่อนจะขยับตัวยกจานสเต็กที่วางอยู่ขึ้นมาถือ สาวเท้าออกจากแพนทรี่โดยไม่ลืมที่จะหันมาส่งเสียงทุ้มและเล่นหูเล่นตากับเอ็นดูอีกด้วย



“ไปที่ระเบียงดีกว่า เปลี่ยนบรรยากาศบ้าง”



ถึงจะรู้สึกหมั่นไส้เขานิดหน่อยและแอบเบ้ปากให้กับความเจ้าเล่ห์ของทรงโปรดไปแล้ว แต่มือขาวก็เอื้อมหยิบแก้วกับขวดไวน์ที่ทรงโปรดซื้อมาเองแล้วเดินตามคนตัวสูงไปที่ระเบียงอยู่ดี



เท้าขาวที่อยู่ในสลิปเปอร์แบรนด์ดังชะงักเมื่อลมเย็นพัดมาพร้อมกับกลิ่นอายของกรุงเทพฯ ในยามค่ำคืน หม่อมราชวงศ์ทรงโปรดวางจานสเต็กไว้บนเคาน์เตอร์ที่ถูกสร้างไว้ตรงระเบียงก่อนหันมายื่นมือรับแก้วกับไวน์ที่น้องถืออยู่ไปวางไว้ด้วยเช่นกัน



“ถ้านั่งกินอยู่แล้วฝนตกลงมา เก็บของหนีไม่ทันเลยนะครับ”



เอ็นดูแซวเพราะทรงโปรดหยิบลำโพงพกพา Beats Pill+ ที่เดิมทีมันวางอยู่ข้างๆ ทีวีติดมือมาด้วย ลำโพงตัวนี้เป็นคนตัวสูงนั่นแหละ แต่เพราะว่าเขามานอนที่นี่บ่อยๆ ทรงโปรดเลยมักจะหยิบของบางส่วนจากเพนต์เฮ้าส์ของเขามาวางไว้ในห้องของเอ็นดูแทน



เจ้าของห้องอย่างเอ็นดูก็ไม่อยากจะพูดอะไรมาก ปล่อยเลยตามเลย



 ตามใจหม่อมราชวงศ์ทรงโปรดไปเลยแล้วกัน



คนผิวขาวขยับตัวนั่งบนเก้าอี้สตูบาร์ข้างคนตัวสูง ระเบียงคอนโดไม่ได้กว้างเท่าไหร่ แต่มันก็พอมีพื้นที่ให้เอ็นดูสามารถวางเคาน์เตอร์และทำเป็นที่นั่งกินลมชมวิวได้



ทรงโปรดเปิดเพลงจากโทรศัพท์ที่เชื่อมต่อกับลำโพงสีดำของเขาไว้แล้ว เสียงนุ่มๆ ของชาร์ลี พูท ที่ขับขานเพลง Marvin Gaye นั้นช่างเข้ากับบรรยากาศและเพลิดเพลินดีจริงๆ ไม่สิ ถ้าเป็นเพลงไหนของชาร์ลี พูท เอ็นดูก็คิดว่ามันทั้งเพราะและดีทั้งนั้น



เพราะเอ็นดูชอบนักร้องคนนี้



มุมปากเอิบอิ่มของคนน่ารักเลยกระตุกขึ้นเล็กน้อย เอ็นดูก้มหน้าหั่นสเต็กบนจานก่อนตักเข้าปาก เงยหน้ามองวิวตอนกลางคืนของกรุงเทพ จุดที่คนผิวขาวชอบโฟกัสสายตาไปมากที่สุดที่ก็คือแม่น้ำเจ้าพระยาที่อยู่ทางซ้ายมือ



แต่สิ่งที่น่ามองพอๆ กับแม่น้ำเจ้าพระยาก็คือโครงหน้าของหม่อมราชวงศ์ทรงโปรด คนตัวสูงนั่งอยู่ทางซ้ายมือของเอ็นดู ทำให้ตอนที่หันหน้ามองวิว สายตาของเอ็นดูเลยมีภาพเสี้ยวหน้าของทรงโปรดอยู่ด้วย แสงไฟสีเหลืองนวลตรงระเบียงทำให้เอ็นดูรู้สึกว่า...ทรงโปรดดูอบอุ่นมากจริงๆ



“มองแบบนี้คิดตังค์ดีมั้ย”



แล้วก็ต้องก้มหน้าหัวเราะเมื่อเจ้าของโครงหน้าหล่อเหลาหันมายกยิ้มให้



“คงต้องเก็บตังค์ทุกคนที่มองคุณแล้วมั้งครับ” เอ็นดูยู่ปาก



ทุกคนที่มองทรงโปรด เอ็นดูหมายถึงพวกสาวๆ ที่จ้องคนตัวสูงตาเป็นมันในห้างวันนี้ และรวมถึงคนอื่นๆ ที่ชอบมองทรงโปรดแบบหลงใหล



แต่เพราะทำปากยู่หน้ามู่ทู่ให้เขาเห็น แก้มกลมๆ ของเอ็นดูเลยถูกบีบ



“ขี้หึงนะเรา”



“ไม่ได้หึงนะครับ”



“ปากแข็ง”



“นี่คุณ!”



เอ็นดูรีบยกมือปิดปากเมื่อจู่ๆ คนที่กำลังบีบแก้มก็ยื่นปากมาทาบทับลงบนกลีบปากอวบอิ่มสีชมพู เบิกตาโตมองทรงโปรดที่ผละริมฝีปากออกไปแล้ว แต่ยังนั่งยิ้มกริ่มยักคิ้วหรี่ตาให้อยู่



“หึงบ่อยๆ ดีแล้ว ชอบ”



“ถ้าผมทำให้คุณหึงบ้างล่ะครับ คุณจะชอบมั้ย” ถลึงตาใส่คนข้างๆ



“อืม...” ทรงโปรดเท้าคางบนเคาน์เตอร์ เอียงใบหน้าหล่อเหลามองเจ้าคนน่ารักที่กำลังนั่งขมวดคิ้ว



“ลองดูมั้ย”



“...”



“จะได้รู้ว่าเวลาหึงพี่โหดแค่ไหน”



อย่าท้าเลย

ถ้าทำให้หึงขึ้นมาจริงๆ...

หม่อมราชวงศ์ทรงโปรดต้องแย่แน่ๆ













#ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี

 















แย่แน่ๆ >,,,,<

แต่ว่าใครจะแย่กันนะ ♥

 
 

 

 

 

 

 

 


ออฟไลน์ k00_eng^^

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 647
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +63/-2
เขินคู่นี้มากอ่ะ

ออฟไลน์ Tiffany

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1157
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
หวานจริงๆคู่นี้

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4992
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7

ออฟไลน์ songte

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1425
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
หวานกันจริงๆ มุ้งมิ้งๆกันสุดๆอ่ะ

ออฟไลน์ Chompoo reangkarn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1089
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-0

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3382
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Swanlee

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 96
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-0
12
ก็เสียงคุณหวานชะมัด ผมเลยอยากได้ยินซ้ำๆ




สเต็กเนื้อหวานๆ พร่องจนเกือบหมดจาน เช่นเดียวกับไวน์รสเลิศที่ทรงโปรดซื้อมาสี่ขวด และตอนนี้ก็หมดไปสามขวดแล้ว
ทรงโปรดยกยิ้ม หรี่ตามองเจ้าคนน่ารักที่จิบไวน์ได้เร็วไม่เท่าเขา น้องแค่จิบเล็กๆ น้อยๆ ไม่ให้เนื้อที่เคี้ยวแล้วกลืนติดคอเท่านั้นเอง ผิดกับเขาที่ดื่มหนักราวกับว่ามันคือน้ำเปล่า
ขนาดแค่จิบนิดเดียว แก้มกลมๆ ยังขึ้นสีแดงปลั่งแถมตาหวานๆ ยังเยิ้มกว่าเดิมด้วย
น้องโคตรน่ารัก
“ดื่มเป็นด้วยเหรอ” เขาแกล้งถามไปงั้น
ทรงโปรดเปล่งเสียงทุ้มคลอกับเสียงเพลงจากลำโพงพกพา เอียงหน้ามองคนน่ารักที่กำลังใช้ส้อมจิ้มเนื้อชิ้นสุดท้ายเข้าปาก
“ดื่มเข้างานสังคมได้ครับ”
“อือ” ครางรับก่อนยื่นแก้วของตัวเองไปชนกับแก้วไวน์ของน้อง
“คุณน่าจะเมาแล้วนะครับ”
“ไม่ได้เมา”
“คนเมาไม่เคยยอมรับตัวเอง”
เขาหัวเราะ ไวน์รสเลิศราคาแพงแค่ที่หมดไปสามขวดทำให้เขาเมาไม่ได้หรอก แต่มันทำให้เขารู้สึกคึกมากกว่าเดิมเท่านั้นเอง
หม่อมราชวงศ์ทรงโปรดมีสติดี
แต่ถ้าเมา คงเมาความน่ารักของเอ็นดูมากกว่า
“เอาน้ำเปล่ามั้ย เดี๋ยวไปหยิบให้”
“ไม่เป็นไรครับ”
คนที่บอกว่าไม่เป็นไรทำตาหยี หลังจากที่กระดกไวน์ในแก้วลงคอจนหมด ผิวขาวๆ ของน้องเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำ
ดูก็รู้ว่าน้องคออ่อน
คนน่ารักส่งยิ้มให้ก่อนก้มหน้าเมื่อทรงโปรดเค้นหัวเราะ เขาเห็นว่าน้องกำลังบีบมือเล็กๆ ของตัวเองที่วางอยู่บนตัก เอ็นดูประหม่า...แล้วก็เกิดอาการไม่กล้าสบตาเขาขึ้นมาซะอย่างนั้น
“คุยกันหน่อยมั้ย” ทรงโปรดเลิกคิ้วถาม
“คุยอะไรครับ”
“เรื่องทั่วๆ ไป”
“อ่า”
“เดือนหน้าก็หมั้นกันแล้ว พี่ควรรู้จักเรามากกว่านี้”
ที่ผ่านมาก็รู้จักกันมากแล้วนะ...
คนเด็กกว่าเม้มปากก่อนผงกศีรษะขึ้นลงเบาๆ
เอ็นดูช้อนตาหวานฉ่ำมองหม่อมราชวงศ์ทรงโปรดที่กำลังขยับเก้าอี้สตูบาร์ตัวที่เขานั่งเข้าใกล้
ทรงโปรดทำให้การคุยกันครั้งนี้ใกล้ชิดมากยิ่งขึ้นเมื่อเขาจับมือประสานนิ้วเรียวยาวไว้กับนิ้วนุ่มนิ่มของเอ็นดู มือข้างนั้นที่จับกันวางบนเคาน์เตอร์ ส่วนมืออีกข้างของทรงโปรดยังถือแก้วไวน์จิบเบาๆ ให้น้องคลายความประหม่า
เขารู้เรื่องราวเกี่ยวกับตัวเอ็นดูมาแล้วพอสมควร ส่วนหนึ่งก็ถามเจ้าตัวเอา แล้วจากนั้นน้องก็เต็มใจเล่า แต่มันไม่ใช่ทั้งหมดที่เขารู้
ทรงโปรดอยากรู้ให้มากกว่านี้
“พรุ่งนี้ไม่มีเรียนใช่มั้ย” เริ่มจากคุยเรื่องทั่วๆ ไป
“ครับ”
“โอเค งั้นตื่นสายได้”
“ผมไม่ชอบตื่นสาย”
อันนี้เขารู้ แต่ก็แกล้งพูดไปงั้น
“จมูกรั้นๆ เนี่ย ขอกัดทีได้มั้ย” ทรงโปรดวางแก้วไวน์แล้วใช้มือบีบจมูกน้องเบาๆ
เอ็นดูชอบย่นจมูกใส่ น้องคงไม่รู้ว่าท่าทางแบบนั้นทำให้ตัวเองยิ่งน่ารักเข้าไปใหญ่
คนถูกบีบจมูกก็ทำหน้ามุ่ยตามมาติดๆ
“เอ็นดู”
“ครับ”
“รู้สึกอะไรกับพี่บ้างหรือยัง”
“...”
ตาคมมองโครงหน้าหวานที่เลิ่กลั่กเมื่อถูกถามคำถามนี้อีกครั้ง
แต่ทว่ายังไม่ทันได้คำตอบของเอ็นดูสักประโยค โทรศัพท์ของน้องก็สั่นครืด เอ็นดูเหลือบตามองหน้าจอโทรศัพท์ แต่ทรงโปรดยังจับจ้องน้องไม่วางตา
กระทั่งเมื่อดวงตาเรียวรีของน้องช้อนมองทรงโปรดพร้อมกับกัดริมฝีปากประหม่า เขาถึงได้เลิกคิ้วก่อนจะเหลือบตามองโทรศัพท์ของเอ็นดูที่ยังสั่นครืด
พร้อมกับรอยยิ้มมุมปากที่กระตุกขึ้นทันที
ไอ้เด็กภูผาโทรเข้ามานี่เอง
ยังไม่เลิกตอแยอีกเหรอวะ
เขารู้ว่าภูผาพยายามติดต่อเอ็นดูตลอด แต่น้องไม่เล่นด้วยและปฏิเสธทุกครั้ง เอ็นดูหนักแน่นพอที่จะบอกกับภูผาว่ารำคาญ
แต่ไอ้เด็กบ้านี่ขี้ตื๊อแถมยังหน้าด้านทานทนไม่เบา
“บล็อกเบอร์มั้ย”
เอ็นดูทำปากมุบมิบ
“แล้วแต่นะ ไม่ได้บังคับ” เขาแค่แสดงความคิดเห็น
พูดจบน้องก็รีบคว้าโทรศัพท์ขึ้นมากดตัดสายทิ้ง นิ้วโป้งนุ่มนิ่มสัมผัสลงบนหน้าจอเพื่อแตะเบอร์ที่เพิ่งตัดสายทิ้งไป
เอ็นดูโน้มตัวหาทรงโปรดเล็กน้อย ยื่นโทรศัพท์ไว้ตรงกลางให้เห็นพร้อมกันว่าน้องได้กดบล็อกเบอร์ของภูผาไปแล้ว
ก่อนจะบล็อกไลน์ เฟซบุ๊ก และอินสตาแกรมในเวลาต่อมา
เฮ้ย ไม่ได้บังคับน้องเลยนะเนี่ย : )
ทรงโปรดแกล้งทำหน้านิ่ง แต่ในใจเขาโคตรจะโลดเต้นดีใจที่น้องบล็อกเบอร์แฟนเก่าต่อหน้าต่อตา...อย่างนี้คงไม่ต้องถามแล้วมั้งว่าน้องรู้สึกอะไรกับเขาหรือยัง
เพราะทรงโปรดคิดว่าเขารู้คำตอบดีอยู่แล้ว
“คุยต่อสิครับ”
น้องเขย่ามือที่จับกันไว้ เร่งให้ทรงโปรดชวนคุยต่อ
แต่ทรงโปรดเล่นตัว
ร่างสูงรินไวน์ใส่แก้วแล้วกระดกลงคอ ใช้สายตาเจ้าเล่ห์ดุดันมองกระต่ายน้อยที่น่ารัก
“ถามเรื่องเก่าๆ ได้ใช่มั้ย”
เอ็นดูพยักหน้า “อยากรู้อะไรก็ถามมาเถอะครับ”
“คบกับไอ้ภูได้ยังไง”
“เรียกเขาดีๆ หน่อยสิคุณ”
ทรงโปรดไหวไหล่ ยกมือขาวที่จับกันไว้ขึ้นมาประทับริมฝีปากร้อนหนักๆ บนหลังมือหนึ่งครั้ง
“เจอกันตอนไปแลกเปลี่ยนที่อังกฤษครับ ก็คบกันตามประสาเด็ก”
เอ็นดูลอบสังเกตอาการของทรงโปรดเป็นระยะ เขารู้ว่าน้องพยายามเล่าเลี่ยงๆ ไม่ลงลึกว่าทำไมถึงตกลงคบกัน ไม่เล่าว่าตอนคบกับภูผามันดียังไง
อือ มันไม่ใช่สิ่งที่เขาควรรู้หรอก
แต่ก็อยากรู้...ทรงโปรดอยากรู้ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับเอ็นดู
“พี่ก็เรียนที่อังกฤษตั้งแต่เด็ก ไม่เห็นจะเจอเรา”
“คงยังไม่ถึงเวลามั้งครับ”
“พอได้ยินแล้วอยากเจอเราตั้งแต่เกิด”
“คุณนี่เว่อร์จริงๆ”
ทรงโปรดหัวเราะแล้วโน้มหน้าจูบหลังมือขาวอีกครั้ง แต่คราวนี้เขาละเลียดเบาๆ ขบเม้มที่ข้อมือทั้งด้านนอกและด้านใน
แล้วก็พบว่าข้อมือของน้องหวานมาก
หวานไม่แพ้ริมฝีปากจิ้มลิ้มเลย
“ปกติชอบฉวยโอกาสคนอื่นแบบนี้ประจำเลยหรือเปล่าครับ”
“คนอื่นที่ไหน นี่ว่าที่คู่หมั้น”
“คุณย้ำบ่อยจัง กลัวจะไม่ได้หมั้นเหรอครับ”
“ไม่กลัว”
“...”
“แค่รำคาญไอ้พวกที่ชอบมาเกาะแกะเรา”
เห็นน้องย่นคิ้วแล้วก็อดไม่ได้ที่จะระบายยิ้ม เครื่องหมายคำถามเต็มหน้าเอ็นดูไปหมด น้องไม่ต้องเปล่งเสียงถามอะไรเลยสักนิด ทรงโปรดก็พร้อมขยายความหมายประโยคเมื่อครู่
“หมายถึงไอ้ภู”
“ภูไม่ได้เกาะแกะผมนะครับ”
“มันส่งข้อความมาหาเราบ่อยหรือเปล่า”
น้องเม้มปาก พยักหน้าเบาๆ
“ทั้งๆ ที่มันรู้ว่าพี่กับเรากำลังจะหมั้นกัน”
“คุณเนี่ยคิดมากจริงๆ เลย”
“...”
“ถึงเขาจะพยายามคุยกับผมทุกวัน แต่ผมไม่คิดอะไร...มันก็ไม่มีอะไรหรอกครับ”
รู้ว่าน้องพูดให้เขาสบายใจ และใช่ ทรงโปรดสบายใจขึ้นมานิดหน่อย
คุณชายทรงโปรดหลับตาลงครู่เดียวก็เปิดเปลือกตา ส่งยิ้มให้น้องที่กำลังจ้องหน้าเขา
“เล่าเรื่องไอ้ภูกับเราให้ฟังหน่อย”
“คุณจะอยากรู้ให้ไม่สบายใจไปทำไมครับ”
“ก็อยากรู้เรื่องของเรา”
น้องหัวเราะพร้อมส่ายหน้า
“ไม่มีอะไรมากหรอกครับ ก็คบกันธรรมดา”
“เคยพามันไปที่วังหรือเปล่า”
เอ็นดูส่ายหน้า
“เคยนอนกับมันมั้ย”
“คุณ...” เอ็นดูเปล่งเสียงหงอยๆ
เขารอคำตอบ และสุดท้ายน้องก็ส่ายหน้า
“ผมกับภูอยู่ไกลกันครับ แทบจะไม่ได้เจอกันเลยด้วยซ้ำ”
ทรงโปรดหรี่ตามองพลางใช้นิ้วโป้งแกร่งลูบปลายคางสากของตัวเองเบาๆ เขาพอใจกับคำตอบของเอ็นดู และพอใจมากที่น้องยอมเล่าเรื่องส่วนตัวของตัวเอง
“แสดงว่ายังไม่เคยจูบกับมัน”
“ไม่ครับ เคยจูบ”
“...”
“ภูผาคือจูบแรกของผม”
ทรงโปรดดุนลิ้นข้างแก้ม ทั้งที่ตอนนี้ลมโบกพัดเย็นสบาย แต่ทำไมในกายและใจของเขาถึงได้ร้อนรุ่มเหมือนมีคนมาจุดไฟ หม่อมราชวงศ์ทรงโปรดถอนหายใจยาว โคลงศีรษะเล็กน้อยเมื่อน้องบีบมือหนาของเขา
“คุณ ผมไม่ได้ตั้งใจจูบนะครับ”
ทำไมเขาโคตรขี้หวงแบบนี้วะ
ร่างสูงเงยหน้าคลี่ยิ้ม เขายื่นมือไปลูบแก้มของน้องเบาๆ พยายามบอกตัวเองว่า...โอเค มันเป็นแค่อดีต แต่ทำไมเป็นอดีตที่ได้ยินแล้วอยากลุกไปต่อยหน้าไอ้เด็กภูผาซะตอนนี้เลยก็ไม่รู้
ส่วนคนเล่าน่ะเหรอ...
นั่งยิ้มกริ่มเลย
“เก่งครับ”เปล่งเสียงทุ้มบอกน้อง
“อะไรเหรอครับ” น้องเลิกคิ้วถาม
“เก่งที่ทำให้พี่หึงเราได้มากขนาดนี้”
เอ็นดูเม้มปากกลั้นยิ้ม น้องไม่ได้ก้มหน้าแต่สบตากับตาคมพร้อมกับทำสีหน้าไม่รู้ไม่ชี้แถมปากจิ้มลิ้มที่เม้มไว้ยังมุบมิบอีกต่างหาก
ชนะแล้วครับเอ็นดู
ชนะพี่หมดทุกทางแล้ว
ทรงโปรดละมือที่ลูบแก้มใสๆ ออก ยกแก้วไวน์กระดกน้ำลงคอแทน การกระทำเหมือนคนที่ช้ำใจแล้วยกเหล้าซดของทรงโปรดทำเอาเอ็นดูหัวเราะกลั้ว แต่น้องก็ไม่ได้ห้ามให้เขาหยุดดื่ม แต่สนับสนุนด้วยการรินไวน์ใส่ให้อีกต่างหาก
คิดจะมอมทรงโปรดให้เมา
ดูเอาแล้วกันว่าระหว่างหม่อมราชวงศ์ทรงโปรด กับ หม่อมหลวงจิรา ใครร้ายกาจกว่ากัน
“อยากรู้อะไรอีกมั้ยครับ”
“พอก่อน”
“คุณไม่โกรธใช่มั้ยที่ผมพูดความจริง”
“ไม่โกรธ แต่หึง”
“รู้แล้วครับ”
“หึงมาก--”
ไม่ทันจบประโยคก็ต้องกลืนคำที่เหลือลงคอเมื่อริมฝีปากของร่างสูงถูกบดเบียดด้วยกลีบปากเอิบอิ่ม น้องหลับตาทันทีที่ความอ่อนนุ่มสัมผัสเข้าด้วยกัน แม้จะไม่เก่งเรื่องแบบนี้เท่าทรงโปรดแต่ก็พยายามให้จูบมีรสชาติด้วยการขยับและขบเม้มเบาๆ
มือที่กุมไว้จับแน่นกว่าเดิม ส่วนมืออีกข้างที่ว่าง เอ็นดูยกมันขึ้นเพื่อประคองกรอบหน้าหล่อเหลาของทรงโปรด คนที่ช่ำชองกว่าเอียงหน้าปรับองศาของริมฝีปากให้ลงล็อก เขาไม่ปล่อยให้น้องเป็นคนคุมเกมนาน
จูบที่ผสมรสชาติของไวน์ทำให้เอ็นดูหายใจติดขัด ทรงโปรดยกยิ้ม ขบเม้มริมฝีปากน้องเบาๆ แล้วแทรกลิ้นเข้าไปในปากหวาน
ไม่ใช่ครั้งแรกที่ได้เชยชิมเอ็นดู แต่ทรงโปรดก็ยังรู้สึกตื่นเต้นทุกครั้ง
ตื่นเต้นกับความหวานของน้อง
ไวน์รสเลิศที่ทรงโปรดชอบดื่มไม่เท่าน้ำหวานๆ จากปากจิ้มลิ้มของเอ็นดู
บรรยากาศตอนนี้ก็ช่างเป็นใจ แสงไฟสีเหลืองอ่อน ลมพัดเย็นๆ กับระเบียงคอนโดจากความสูงบนชั้นห้าสิบสองทำให้ทรงโปรดแทบคลั่ง ใช่ สิ่งที่ทำให้เขาคลั่งนอกเหนือสิ่งแวดล้อมตอนนี้ ก็คือเอ็นดู
น้องไปเรียนไอ้การออกอ้อนนี้มาจากไหน ใครบอกให้น้องเอาฝ่ามือนุ่มๆ มาแตะเอวแกร่งของเขา เสียงหวานที่หลุดครางเมื่อเขาแกล้งกัดริมฝีปากเบาๆ นั่นอีก
เอ็นดูจะน่ากินเกินไปแล้ว
“ทำอย่างนี้ระวังตัวเองไม่ปลอดภัย” ผละริมฝีปากออกเพื่อเตือนคนลองดี
ทรงโปรดไม่เว้นระยะห่าง ปากของเขายังคลอเคลียกับปากนุ่ม ทั้งยังย้ำจูบให้น้องแก้มแดงเล่น
“ผมต้องกลัวด้วยเหรอครับ”
แกล้งทำไม่กลัวแต่ตอนพูดตัวกลับสั่นจนเขาต้องรั้งร่างนุ่มๆ เข้ามากอดเอาไว้
“อยู่กับคุณไม่ปลอดภัยอยู่แล้ว”
“รู้ว่าไม่ปลอดภัยแล้วทำไมถึงยอมให้เข้าใกล้”
คนถูกถามทำหน้ามุ่ยแล้วหนีริมฝีปากที่ทำท่าจะบดเบียดจูบอีกครั้ง น้องเอียงหน้าซบแก้มกลมบนไหล่กว้าง ถึงจะหลบไม่ให้ตัวเองถูกจูบที่ริมฝีปาก แต่ลำคอขาวๆ ก็ถูกทรงโปรดก้มลงไปคลอเคลียขบเม้ม อยู่ดี
“อย่ากัดสิครับ”
“ก็ไม่ยอมตอบคำถาม”
“ผมไม่รู้”
“ชอบพี่แล้วใช่มั้ย”
“ไม่รู้ครับ...”
“...”
“ไม่รู้ว่าชอบ หรือรัก”
แล้วจะให้อดใจยังไงไหว
ทรงโปรดยกยิ้มทั้งที่ยังฝังจมูกลงบนเนื้อคอขาว ทรงโปรดกอดน้องแน่นกว่าเดิมหลังจากที่ได้ยินเสียงนิ่มๆ พูดขึ้น โอเค ไม่ต้องบอกแล้วก็ได้ว่าน้องรู้สึกอะไรกับเขาหรือยัง
ที่เอ็นดูตอบมา ไม่ว่าจะชอบหรือรัก
ก็ล้วนเป็นสิ่งที่น้องรู้สึกทั้งนั้น
“อื้อ คุณ กัดทำไมครับ”
“เนื้อเราหวาน”
ฟันซี่คมแทะเนื้อขาวๆ จนเป็นรอยแดง ทรงโปรดไม่พอใจ เขาดูดเม้มลำคอของเอ็นดูจนกลายเป็นจุดช้ำ ปล่อยให้เจ้าคนตัวหวานนอนประหม่าเกร็งตั้งแต่หัวจรดเท้าในอ้อมกอด
เขารู้ว่าน้องเหมือนจะหายใจไม่ออก
เพราะเขาก็เป็นเหมือนกัน
เอ็นดูหลับตากัดริมฝีปากกลั้นเสียงร้อง ถูกเขาสัมผัสแค่นี้ก็สั่นไปหมดแล้ว น้องกำมือแน่นทุกครั้งที่ฟันซี่คมสัมผัสบนเนื้อคอ
และความที่อยากรู้ว่าคุณชายทรงโปรดจะมีอาการเหมือนกันมั้ย เปลือกตาเลยปรือเปิดเพื่อพบกับลำคอแกร่งของทรงโปรด แล้วคนตัวสูงพลันหายใจติดขัดทันทีเมื่อปลายลิ้นฉ่ำน้ำสัมผัสบนลำคอ
“ทำอะไร”
“กัดคุณ...อื้อ”
โดนเขากัดซ้ำอีกครั้งจนกลั้นเสียงร้องไม่ได้ ทรงโปรดหัวเราะในลำคอเมื่อฟันของเจ้ากระต่ายขบแทะบนคอของเขาเบาๆ ราวกับกลัวว่าเขาจะเจ็บ
“กัดแรงๆ ก็ได้”
“ไม่...ไม่เอาครับ”







[ต่อด้านล่างค่ะ]





ออฟไลน์ Swanlee

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 96
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-0



“กัดแรงๆ ก็ได้”
“ไม่...ไม่เอาครับ”
เขาหยุดทำให้คอน้องเป็นรอยฟันแล้ว และรอให้คนในอ้อมกอดจัดการกับคอเขาต่อเหมือนกัน
ทรงโปรดอึดอัดตรงความเป็นชายของเขามาก เนื้อมันดุนดันกางเกงชั้นในขึ้นมาจนเป้ากางเกงของเขาพองโต
“เอ็นดู”
“...ครับ”
“อึดอัดมั้ย”
“ฮือ”
ครางตอบพลางพยักหน้า
“คุณ อย่าจับครับ”
ไม่ทันแล้ว
มือหนาวางลงบนจุดที่น้องบอกว่าอึดอัด เอ็นดูหนีบขาเข้าหากัน ส่ายหน้าไม่ยอมให้เขาจับมัน แต่สุดท้ายความอึดอัดของเอ็นดูก็ถูกหม่อมราชวงศ์ทรงโปรดบีบคลึงเบาๆ ผ่านเนื้อกางเกง
“มีใครเคยจับตรงนี้หรือยัง”
“...ไม่เคยครับ”
เขายกยิ้มให้กับคนที่นอนซบไหล่
“จับแค่ผมคนเดียว...แล้วก็คุณ”
“เด็กดี”
ซิปกางเกงถูกรูดลงตามแนวดิ่งเผยให้เห็นเนื้อผ้าสีครีมที่ซ่อนอยู่ภายในกางเกงดำตัวนี้ เอ็นดูครางฮือเมื่อเข็มขัดนักศึกษาถูกปลดออก
“...เบาๆ ครับ”
น้องร้องตอนที่ทรงโปรดใช้มือบีบก้อนกลมๆ ที่ถูกกางเกงชั้นในห่อหุ้มอยู่ สะโพกอวบส่ายไม่ติดเก้าอี้เมื่อเขาจงใจใช้นิ้วโป้งสัมผัสลงบนส่วนปลายของน้อง คนตัวบางเงยหน้าส่งเสียงคราง กัดริมฝีปากทรมานที่ถูกร่างสูงขยำส่วนที่เป็นตัวเอง
ทรงโปรดดันขอบกางเกงสีดำออกจากสะโพกของเอ็นดู คนที่อ่อนระทวยอยู่ในกอดให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี เอ็นดูยกสะโพกขึ้นเพื่อให้ทรงโปรดจัดการกับกางเกงนักศึกษาของตัวเองง่ายๆ จนกระทั่งมันหลุดพ้นปลายเท้า ส่วนกลางกายก็ถูกมือหนาบดคลึงได้ลึกซึ้งกว่าเดิม
น้องพยายามกลั้นเสียงร้องเลยประคองกรอบหน้าเขาไว้แล้วบดจูบลงบนริมฝีปาก ทรงโปรดไม่ใจร้าย...ถึงมือเขาจะปรนเปรอเอ็นดู แต่เรียวลิ้นของเขาก็ต้องมอบความวาบหวามให้น้องเช่นกัน
“ฮื้อ ค...คุณ มัน”
ครางดังกว่าเดิมเมื่อสิ่งที่หลบอยู่ในกางเกงชั้นใน Supreme สีครีมถูกจับออกมา เอ็นดูปรือตาก้มหน้ามองตัวเองที่ถูกทรงโปรดกอบกุมเอาไว้
ร่างสูงจูบใบหูขาวแล้วคลอเคลียให้น้องขนลุก พอได้สัมผัสกับความอึดอัดของเอ็นดูแบบเนื้อแนบเนื้อเขาก็รู้สึกได้ว่าน้องร้อนรุ่ม
ทรงโปรดเลยระบายให้ด้วยการใช้ปลายนิ้วโป้งคลึงรอบปลายมน สลับกับกอบกุมเนื้อร้อนแล้วขยับขึ้นลงช้าๆ
“คุณ...อึก”
เสียงโคตรหวาน
หวานเหมือนตัวน้องไม่มีผิด
เอ็นดูเกาะไหล่เขาไว้แน่นเมื่อข้อมือหนาขยับตัวน้องเร็วขึ้น มืออีกข้างบดคลึงเนื้อนุ่มบนอกของน้อง คนผิวขาวเชิดหน้าแอ่นตัวให้ ทรงโปรดเลยใช้นิ้วสะกิดกับยอดอกที่ซ่อนอยู่ในเสื้อเชิ้ตสีขาว
“อย่าหยุดได้มั้ยครับ”
“รอก่อน เดี๋ยวพี่ทำให้”
“คุณ!”
ทรงโปรดไม่ได้ปลดกระดุมทีละเม็ด แต่เขากระชากมันออกจนเสื้อขาดวิ่น เอ็นดูสะท้านกว่าเดิมเมื่อเชิ้ตที่ใส่ถูกถอดออกจากไหล่ เผยให้เห็นผิวขาวที่เอ็นดูไม่เคยเปิดให้ใครชมเชยมาก่อน
เสื้อที่หลุดออกจากไหล่และกองอยู่ช่วงเอวกับแขนเสื้อที่ยังอยู่ตรงศอกทำให้น้องดูเอ็กซ์มากกว่าเดิม ตาหวานฉ่ำปรือ เชิดหน้า เผยอปากจิ้มลิ้ม ทรงโปรดอดใจไม่ไหว เขากลายเป็นเสือร้ายที่ก้มหน้าดูดเม้มอกของน้อง
“อื้อ ฮึก...คุณ”
มือขาวดันไหล่ของทรงโปรดออกแต่ก็ไม่ได้ผล เอ็นดูไม่รู้สึกเจ็บตอนที่เขากัดยอดอกตัวเอง แต่แปลกที่รู้สึกดีจนอยากให้เขากัดอีก
 “หวานจังเอ็นดู”
“อือ คุณครับ”
“หวานทั้งตัวเลยใช่มั้ย”
เขาเงยหน้าถามพลางเสยผมสีน้ำตาลที่คลอเคลียกรอบหน้าของเอ็นดู แต่ทว่าประโยคคำตอบที่ได้รับกลับทำให้สติของทรงโปรดขาดสะบั้น
“ลองชิมดูสิครับ...ผมก็ไม่รู้”
“อนุญาตแล้วนะ”
“ฮื้อ คุณอ่ะ” เขินไปหมด
เขาหัวเราะก่อนเคลื่อนตัวลงจากเก้าอี้ หม่อมราชวงศ์ทรงโปรดยกยิ้ม หมุนเก้าอี้ของเอ็นดูให้น้องนั่งหันหลังให้วิวของกรุงเทพฯ
ทรงโปรดดันขอบกางเกงชั้นใน Supreme ออกจากสะโพกกลม ก่อนจับเรียวขาขาวแยกออกจากกันแล้วพาดไว้บนไหล่กว้าง ทรงโปรดคุกเข่าต่อหน้าเอ็นดู กระตุกยิ้มพร้อมกับแนบริมฝีปากลงบนต้นขาด้านในขณะที่ตาคมยังจ้องใบหน้าคนตัวขาว
“อ้า ฮือ”
น้องแม่งโคตรยั่ว
หม่อมหลวงจิรากัดนิ้วชี้เบาๆ คิ้วสวยขมวดเชิดหน้าครางไม่เป็นภาษา ทรงโปรดไม่รู้ว่าน้องจงใจยั่วเขาหรืออารมณ์พาไป แต่ที่แน่ๆ ตอนนี้เขาโคตรอยากสั่งสอนน้องเลย
ทรงโปรดจูบต้นขาด้านในไล่ขึ้นมาเรื่อยๆ จนกระทั่งถึงจุดที่มีน้ำใสๆ ปริ่มอยู่ตรงปลาย เขาอ้าปากครอบครองน้อง เอื้อมมือจับไหล่เอ็นดู ออกแรงเขย่าเบาๆ ให้น้องก้มมองว่าตอนนี้ตัวเองกำลังอยู่ในปากของทรงโปรด
“อื้อ คุณ อึก พอแล้ว”
ทรงโปรดเหลือบมองคนที่นั่งกระสับส่ายร้องระงมอยู่บนเก้าอี้
จนกระทั่งทรงโปรดถอดปากออก เขาใช้มือรูดชักเอ็นดูรัวเร็วจนน้องแอ่นสะโพกลอยตามมือ ลมเย็นๆ ตอนกลางคืนพัดกระทบร่างเปลือยจนเอ็นดูสะท้าน และสุดท้ายก็พวยพุ่งความรู้สึกออกมาเต็มหน้าท้องของตัวเอง
“เสร็จแล้วเหรอ”
“คุณ...คุณแกล้งผม”
“แล้วชอบมั้ย”
กัดปากอีกแล้ว
“ชอบครับ”
ทรงโปรดลุกขึ้นยืนเต็มความสูง ใช้นิ้วกลางกวาดเอาน้ำขาวๆ บนหน้าท้องของน้องแล้วป้ายลงไปตรงช่องทางด้านหลังที่แนบสนิท เขาก้มลงจูบปากอวบที่ถูกกัดจนเห่อแดง น้องเงยหน้ารับเรียวลิ้นที่ส่งเข้ามา เกี่ยวกระหวัดกันจนน้ำหวานไหลออกจากมุมปาก เสียงจูบของพวกเขาดังทั่วทั้งระเบียง
“ผม...ทำให้นะ”
ทรงโปรดผละริมฝีปากเพื่อฟังว่าน้องจะพูดอะไร และสิ่งที่ได้ยินก็ทำเอาเขาขมวดคิ้ว เอ็นดูคลี่ยิ้มส่งให้ คนตัวสูงมองน้องด้วยความหลงใหล ผิวขาวถูกไฟสีส้มนวลสาดส่อง น้องดูนุ่มนิ่มขาวฟูน่ากิน ไม่ผอมจนเกินไป และไม่อวบจนเกินตัว
เขาชอบแบบนี้...อะไรที่พอดีแบบเอ็นดู
เอ็นดูลงจากเก้าอี้ มือขาวปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตสีดำของเขาออกเพียงแค่สี่เม็ด แล้วสิ่งที่ทำให้ทรงโปรดยกยิ้มพึงพอใจก็คือริมฝีปากอวบที่จูบลงบนแผงอกของเขา พร้อมๆ กับมือน้อยๆ ที่ปลดเข็มขัดราคาแพงออกและรูดซิปกางเกงของเขาลง
เอ็นดูช้อนตามองคนตัวสูงขณะที่ตัวเองค่อยๆ คุกเข่าลงบนพื้น มือสั่นระริกคว้าสิ่งที่อัดแน่นอยู่ในกางเกงชั้นใน Calvin Klein ออกมา
น้องผงะแถมถอยหลังหนีเมื่อความใหญ่โตของเขาปรากฏอยู่ตรงหน้า ทรงโปรดลูบผมเอ็นดูเบาๆ เปล่งเสียงปลอบคนที่นั่งคุกเข่าอยู่
“กลัวเหรอ”
“...เปล่าครับ ผมแค่แปลกใจ”
“แปลกใจ” เลิกคิ้วถามพร้อมกับน้องที่ผงกศรีษะ
“ของคุณมัน...ใหญ่”
ใหญ่เกินมาตรฐานชายไทย
ทรงโปรดหัวเราะเบาๆ เมื่อเทียบกับปากของน้องเขากลัวว่ามันจะเข้าไปไม่ได้ แต่เจ้าคนน่ารักไม่สนใจอะไรแล้ว น้องค่อยๆ ใช้ลิ้นเลียตั้งแต่โคน จูบเม้มสลับเลียขึ้นมาเรื่อยๆ จนถึงส่วนปลาย และเอ็นดูก็กลืนมันเข้าปาก น้องขยับช้าๆ จนทรงโปรดครางในลำคอ
ปากน้องเล็กจิ้มลิ้ม พอต้องครอบครองความใหญ่โตทำให้ทรงโปรดรู้สึกว่าน้องรัดเขาแน่น ยิ่งซี่ฟันที่ขูดโดนเนื้อร้อนยิ่งทำให้แทบปลดปล่อยตอนนั้น
“ยืนขึ้น”
“อื้อ” น้องส่ายหน้า
“พอแล้วครับ เดี๋ยวพี่เสร็จก่อน”
อ่า น้องโคตรดี
เด็กดียอมคายเขาออก ทรงโปรดประคองไหล่กลมขึ้นมา เขาจูบแก้มกลมๆ ของน้องสองครั้งแล้วบอกให้เอ็นดูขึ้นไปนั่งบนเก้าอี้เหมือนเดิม น้องว่าง่ายไม่อิดออด คนตัวสูงเลยรีบหยิบกระเป๋าสตางค์ที่วางอยู่บนเคาน์เตอร์ หยิบซองถุงยางอนามัยกับเจลหล่อลื่นแบบซองออกมา
ทรงโปรดรีบฉีกซองเจลหล่อลื่นออก ละเลงมันลงบนปลายนิ้วกลางและนิ้วชี้ก่อนโยนซองทิ้ง เอ็นดูขยับสะโพก เอนตัวไปกับเคาน์เตอร์ น้องถูกจับแยกเรียวขาอีกครั้งเมื่อนิ้วเย็นๆ ปาดเจลลงบนช่องทางสีชมพู
“...คุณ”
ทรงโปรดค่อยๆ แทรกนิ้วกลางเข้าไป เขาใจเย็นเมื่อตรงนี้ของน้องยังไม่เคยถูกใครรุกล้ำ แค่ขยับนิ้วช้าๆ น้ำตาน้องก็ซึมออกมาแล้ว เขาจ้องหน้าตลอดทุกความเคลื่อนไหว เช่นเดียวกับน้องที่กัดปากยั่ว ส่งสายตาอ้อนๆ ไม่ลดละ
“อีกนิ้ว...มั้ยครับ”
“ไม่เจ็บเหรอ”
“มัน...มันบอกไม่ถูก”
“อื้อ เจ็บแล้วครับ เบาๆ นะครับ”
“รู้แล้ว”
ก็น่ารักแบบนี้ไง นิ้วที่สองเขาเลยรีบแทรกเข้าไปจนน้องร้องออกมา ทรงโปรดคิดว่าแค่สองนิ้วก็คับแน่นไปหมดแล้ว แก่นกายของเขาใหญ่กว่านี้หลายเท่า น้องจะรับไหวหรือเปล่า
กระทั่งทรงโปรดขยับนิ้วช้าๆ เขาควานหาจุดที่จะทำให้น้องกระสับกระส่าย ขณะที่ดวงตายังจ้องมองกันเหมือนสื่อความในใจ
เอ็นดูเชื่อใจเขา ยอมให้เขาล่วงเกินขนาดนี้
“คุณ! อื้อ...คุณครับ”
“ตรงนี้เหรอ”
“อย่า ผม...รู้สึก ฮื้อ”
ทรงโปรดงอนิ้วย้ำตรงจุดที่น้องร้องระงม คนตัวขาวส่ายหน้าเอื้อมมือปิดปาก ทรงโปรดขยับนิ้วเข้าออกจงใจเน้นจุดนั้นจนน้องแอ่นตัว
เอ็นดูนั่งไม่ติดเก้าอี้ ตัวกระตุกทุกครั้งทั้งที่เขาขยับนิ้ว น้องเอื้อมมือจับไหล่กว้างพลางทุบลงแรงๆ เขารู้ว่าน้องอยากสั่งสอนที่บังอาจทำให้เอ็นดูสูญเสียความเป็นตัวเอง
โชคดีที่ระเบียงห้องเอ็นดูไม่ติดกับระเบียงห้องอื่น พื้นที่ตรงนี้เลยเป็นที่ที่น้องครางระงมได้อย่างไม่ต้องกลัวว่าใครจะมาได้ยิน
“พอเถอะครับ หายใจไม่ทันแล้ว”
“อีกนิดเด็กดี”
“พอ เอานิ้วออกไปเถอะครับ”
เขาไม่สน และยังย้ำจุดนั้นจนน้องตัวงอ
“คุณ...เอาของคุณเขามาสักที”
ทรงโปรดสบถหยาบออกมา เขาถอดนิ้วออกเมื่อน้องสั่งจริงจัง ทรงโปรดเอื้อมมือหยิบซองถุงยางไว้ในมือ ทุกการเคลื่อนไหวมีสายตาของเอ็นดูคอยมองอยู่
ทรงโปรดยื่นหน้าเข้าใกล้ ถือซองถุงยางไว้ใกล้ๆ กับริมฝีปาก
“ช่วยพี่แกะถุงยางหน่อย”
“ครับ”
เขางับมุมขวาของซองขณะที่น้องรีบใช้ปากจิ้มลิ้มงับมุมซ้ายของซองเอาไว้ ทรงโปรดกับเอ็นดูช่วยกันฉีกซองออกด้วยปากจนกระทั่งเนื้อถุงยางไซส์ใหญ่สุดและบางที่สุดหล่นลงบนหน้าท้องขาวของเอ็นดู
ทรงโปรดปล่อยซองออกจากปาก เขาหยิบถุงยางมาสวมลงบนความแข็งแกร่ง เทเจลแบบซองลงบนช่องทางแคบอีกครั้ง เอ็นดูหายใจแรงกว่าเดิมเมื่อทรงโปรดดันตัวเองเข้าไป ฝ่ามือนุ่มๆ ดันหน้าท้องแกร่งของทรงโปรดเอาไว้ ส่ายหน้าบ่งบอกว่าตัวเองไม่ไหวกับความใหญ่เกินที่เอ็นดูจะรับได้
“ไม่เกร็งสิเด็กดี”
“คุณ ผมเจ็บ”
“ผ่อนคลาย ให้พี่เข้าไปนะครับ”
เขาเข้าได้แค่ส่วนปลายก็ต้องค้างไว้แบบนั้น น้องรัดรึงจนเขาแทบปลดปล่อย แถมยังส่ายหน้าไม่ยอมให้ขยับเข้าไปอีกต่างหาก ทรงโปรดโน้มตัวจูบปากเอ็นดูหนักๆ เกี่ยวเรียวลิ้นหวานอยู่นานจนน้องครางอื้ออึง
พอน้องผ่อนคลายและสนใจกับจูบมากกว่า ทรงโปรดเลยดันสะโพกเข้าไปจนสุด...ใช่ น้องร้องดังกว่าเดิม คนผิวขาวบนเก้าอี้สตูบาร์นั่งน้ำตาอาบแก้มจนทรงโปรดต้องก้มลงจูบซับแก้มกลม
“เจ็บครับ”
ทรงโปรดก็เจ็บเหมือนกัน
น้องรัดแน่นขนาดนี้ทรงโปรดเองก็เจ็บไม่แพ้กัน เขาทั้งปวดหนึบ อยากขยับแต่คิดว่าถ้าน้องไม่ยอมผ่อนคลาย เขาต้องปลดปล่อยทุกอย่างออกมาเร็วแน่ๆ
“ออกไปก่อนนะครับ”
“ถ้าพี่ออกเราจะเจ็บกว่าเดิม”
“คุณ...ผมเจ็บ”
“เด็กดี กอดพี่สิครับ แล้วผ่อนคลาย อย่าไปเกร็ง”
“กอดแล้วครับ”
แขนขาวโอบกายหนาไว้แน่น เอ็นดูซบแก้มกลมบนอกแกร่ง ปล่อยให้มือหนาของทรงโปรดลูบผมนุ่ม
เขาค่อยขยับสะโพกเมื่อน้องเริ่มคลายอาการเกร็ง พาตัวเองออกจนเกือบสุดแล้วสวนกลับเข้ามาใหม่จนได้ยินเสียงเนื้อกระทบเนื้อ เอ็นดูเริ่มส่งเสียงครางปนสะอื้นก่อนที่น้องจะปล่อยกอดออก แล้วเอนหลังพิงเคาน์เตอร์แทน
“แน่น”
“แรงครับ แรงอีก”
ไม่ทันไรก็ร้องเรียกให้เขาเพิ่มแรงซะแล้ว ทรงโปรดสวนสะโพกตามที่น้องต้องการจนน้องสั่น
เสียงครางของทรงโปรดกับเอ็นดูปนกัน มันเป็นเสียงที่เขาคิดว่าน่าฟังมากที่สุดตั้งแต่ผ่านการร่วมรักมา เอ็นดูหวานทั้งเนื้อทั้งตัว ผิวขาวยังมีจุดแดงจางๆ จากฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ น้องน่ามองจนทรงโปรดยับยั้งชั่งใจไม่ได้
“ไอ้ภูเคยทำแบบนี้กับเรามั้ย”
“...ไม่ครับ” น้องส่ายหน้ารัว เม็ดเหงื่อเริ่มไหลตามกรอบหน้า
เขากระแทกสะโพก เน้นย้ำผ่านจุดที่น้องต้องครางลั่น
“มันเป็นอะไร ไอ้ภูมันเป็นอะไรกับเรา”
“อื้อ...แฟนเก่า”
เขาหึง ยิ่งถามยิ่งหึง
น้องตอบทั้งที่ยังร้องคราง มือขาวยกขึ้นลูบเอาแกร่งเหมือนบอกให้หม่อมราชวงศ์ทรงโปรดใจเย็นลงกว่านี้
“ไม่เกี่ยวข้องอะไรกันแล้วนะครับ”
“ดี ดีครับคนเก่ง”
“อื้อ คุณ”
“พี่สำคัญกว่ามันใช่มั้ย”
“สำคัญครับ”
ทรงโปรดยกยิ้มพอใจ ขณะที่สะโพกก็ทำงานไม่หยุด
มือแกร่งจับเอวบางทั้งข้างไว้แน่น บีบเบาๆ แต่ทำให้เอ็นดูน้ำตาซึม เขารั้งเอวน้องเข้าใกล้แล้วสวนใส่จนน้องตัวสั่น
“เด็กดี ทำไมพี่ถึงสำคัญ พี่เป็นอะไรกับเราครับ”
“อื้อ คุณ มะ...ไม่ไหวแล้ว”
“พี่เป็นอะไร ตอบสิ”
“Husband...”
ทรงโปรดฟาดสะโพกขาวที่แอ่นขึ้น กระตุกยิ้มเมื่อน้องย้ำอีกครั้ง
“My husband”
“อ่า”
ทรงโปรดปลดปล่อยทุกอย่างไว้ในถุงยางอนามัย อาการหึงเมื่อกี้หายวับไปกับตาเมื่อตำแหน่งของเขาถูกเปล่งออกจากปากน้อง
เอ็นดูหมดแรงทิ้งตัวบนเคาน์เตอร์ น้องกลั้นหายใจเมื่อทรงโปรดถอดถอนตัวเองออก ถุงยางอนามัยที่มีน้ำขาวขุ่นอยู่ในนั้นถูกดึงออกเช่นกัน ร่างสูงโยนทิ้งมันไว้บนพื้น ก่อนก้มลงจูบริมฝีปากของคนตัวเล็กที่กึ่งนอนกึ่งนั่งหอบหายใจ
เขาส่งยิ้มพลางขบเม้มริมฝีปากน้องเบาๆ เวลานี้น้องโคตรน่ารัก ดวงตาหวานฉ่ำระเรื่อน้ำ กลีบปากเผยอกอบโกยอากาศเข้าปอด แก้มแดงจนอยากฝังจมูกสูดดมแรงๆ
“ฟ้าร้องแล้วครับ”
ไม่ใช่แค่ฟ้าร้อง แต่ฝนก็ตกตามลงมาทันที
“อือ เสร็จทันฝนตกพอดี”
“...บ้า”
ทุบอกแกร่งแรงๆ ก่อนที่จะตกอยู่ในอ้อมกอดเขา
ทรงโปรดรวบตัวน้องเข้ากอด ก่อนช้อนขึ้นอุ้มแนบอก เขากระซิบบอกให้เอ็นดูหยิบกระเป๋าสตางค์ที่มีถุงยางยังไม่ได้ใช้ยัดอยู่ในนั้นติดมือมาด้วย ส่วนลำโพงกับโทรศัพท์ทรงโปรดไม่สนใจแล้ว ปล่อยให้มันตากฝนไว้อย่างนั้น
คนแข็งแรงอุ้มน้องกลับเข้าห้องนอน เอ็นดูคล้องคอแกร่งด้วยแขนนุ่มนิ่มสองข้าง น้องซบใบหน้าลงบนไหล่กว้างและจูบลำคอเขาอีกต่างหาก
สงสัยยังไม่พอ
“คอคุณเป็นรอย” เปล่งเสียงหวานบอกพลางใช้ปลายนิ้วชี้ลูบไล้ไปตามลอยที่ตัวเองกัดเอาไว้ “ไม่เป็นไรใช่มั้ยครับ”
เขาร้องหึในลำคอแล้วบอกด้วยเสียงทุ้ม “พี่ชอบ”
ก่อนจะวางน้องลงบนเตียงนอนแล้วขึ้นคร่อมคนผิวขาว เอ็นดูไม่ยอมปล่อยแขนที่คล้องคอออกแต่กลับรั้งคอเขาให้โน้มลงรับจูบ
เขาแนบแน่นริมฝีปากชิมความหวาน ขบเม้มปากจิ้มลิ้มบวมเจ่อก่อนผละออก ทรงโปรดงับปลายจมูกโด่งสวยเบาๆ อย่างมันเขี้ยวและเจ้าของจมูกก็ร้องฮือปนหัวเราะเมื่อเขาฝังจมูกลงบนแก้มขาว
มือหนาลูบไล้เค้นคลึงเอวนุ่ม ลากต่ำไปจุดกลางลำตัวที่ปลดปล่อยน้ำขาวออกมาพร้อมเขาเมื่อกี้ เอ็นดูกัดปากยั่วบนร่างไม่พอ น้องยังแอ่นสะโพกให้จุดนั้นเสียดสีกับหน้าท้องแกร่งอีกต่างหาก
แปะ
“ตีทำไมครับ” หน้ามุ่ยเมื่อสะโพกขาวถูกฟาด
“ระวังจะไม่ได้นอน”
“คุณไหวเหรอครับ”
คนถูกท้าทายยกยิ้ม มือหนาจับก้อนนุ่มของน้องไว้ในมือแล้วรูดขึ้นลงจนคนใต้ร่างร้องระงมอีกครั้ง เอ็นดูส่ายหน้าผมเผ้ากระจายบนหมอน เขาครางต่ำน้องจิกเล็บลงบนแผ่นหลัง
ทรงโปรดจับเรียวขาขาวแยกออกจากกัน เขาทำท่าจะสอดใส่ทันทีแต่พอนึกขึ้นได้ว่ายังไม่ได้ป้องกันก็ชะงัก คนตัวสูงเอื้อมหยิบซองถุงยางอนามัยออกจากกระเป๋าสตางค์ แต่ยังไม่ทันที่เขาจะได้จัดการฉีกซองมือนุ่มนิ่มก็จับข้อมือหนาเอาไว้
น้องส่ายหน้า ปากจิ้มลิ้มมุบมิบเปล่งเสียง
“ถ้าไม่ใส่จะเป็นอะไรมั้ยครับ”
“ไม่อยากใส่เหรอ”
ไม่เปล่งเสียงตอบแต่พยักหน้าเบาๆ
แก้มเอ็นดูแดงปลั่งเพราะอายที่ตัวเองต้องการอะไรแบบนั้น ทรงโปรดที่มันเขี้ยวน้องอยู่แล้วเลยก้มหน้าฟัดพวงแก้มนุ่มแรงๆ อีกครั้ง เขาโยนถุงยางไว้บนหัวเตียง จ่อปลายมนใหญ่โตของตัวเองเข้าที่ช่องทางสีชมพูน่ามอง กระซิบบอกคนที่แอ่นสะโพกรออยู่ก่อนแล้ว
“ได้ พี่ก็ไม่อยากใส่เหมือนกัน”
“อะ...อ๊า!”
กดสะโพกแกร่งเข้าไปในตัวน้อง แม้ว่ามันจะถูกเบิกทางมาก่อนหน้านั้นแต่เอ็นดูยังสดใหม่เสมอ ทันทีที่เขาเข้าไปจนสุด น้องก็ตอดรัดจนเขาปวดหนึบ
ชายหนุ่มครางพลางขยับสะโพก ก้มหน้ามองคนที่ยกมือขึ้นประคองกรอบหน้าเขา เอ็นดูเผยอริมฝีปากครางหงิงน่าสงสาร หางตาของน้องมีน้ำใสๆ ซึมออกตลอดเวลา
“เจ็บเหรอ”
“...ไม่ครับ”
“ขอโทษ”
“ฮื้อ คุณ...แรงอีก”
น้องโคตรน่ารัดอะไรขนาดนี้วะ
เอ็นดูใช้ศอกยันกายขึ้นนั่งทั้งที่ทรงโปรดยังสวนกายเข้ารัวแรงตามที่น้องขอ หัวกลมๆ ของน้องสั่นคลอนตามแรงกระแทก คนตัวสูงขยับตัวตามเมื่อน้องเปลี่ยนจากนอนเป็นนั่งได้สำเร็จ พวกเขากอดกันแน่น เนื้ออกแกร่งกับอกนุ่มนิ่มสัมผัสเสียดสีกัน
“คุณ ไปตรงนู้น”
“หือ ตรงไหน”
ปลายตามองตามนิ้วเรียวที่ชี้ออกไปนอกห้อง ทรงโปรดเห็นแต่โซฟาในห้องนั่งเล่น เขาหันกลับมาจูบขมับน้องเบาๆ สวนกายเข้าลึกและออกเกือบสุดก่อนสวนกลับเข้าไปใหม่
“โซฟาเหรอ”
“ครับ”
“เด็กดี ไม่ต้องอายแล้วมั้ง”
“อื้อ”
น้องสั่นศีรษะซุกหน้าบนไหล่กว้างตอนที่ทรงโปรดขยับตัวลงจากเตียงแล้วช้อนตัวน้องไว้แนบอก เขาอุ้มเจ้าคนที่อยากเปลี่ยนสถานที่ลงจากเตียงก่อนก้าวเท้าแข็งแรงเดินออกจากห้องนอน
ทุกครั้งที่ลำขาแกร่งเดินไปทางทรงโปรดก็แกล้งกระแทกเข้าไปในตัวน้องแรงๆ จนเอ็นดูร้องไห้ น้องทุบอกแกร่งแถมยังใช้ฟันซี่คมงับไหล่เขาเป็นการสั่งสอนที่บังอาจทำให้น้องน้ำตาไหล
จนกระทั่งถึงโซฟา ทรงโปรดถอดตัวเองจากช่องสีชมพู เขาจับสะโพกน้องบังคับให้เอ็นดูหันหน้าเข้ากำแพงแล้วโชว์สะโพกขาวๆ ให้เขาเห็น ร่างสูงก้มหน้าใช้ลิ้นอุ่นเลียช่องทางหวานฉ่ำ เอ็นดูที่คุกเข่าอยู่บนโซฟาสะท้านไปทั้งกาย
“เข้ามาสิคุณ...อย่าทำแบบนั้น”
เอ็นดูขยุ้มกลุ่มผมสีดำของเขา ทรงโปรดชิมความหวานจากช่องทางด้านล่างของน้องเสร็จแล้วก็ลุกขึ้นยืนเต็มความสูง จ่อความแข็งแกร่งเข้าไปในตัวน้องอีกครั้ง สวนสะโพกใส่ไม่ยั้งจนเสียงหวานครางระงมลั่นห้อง
มือขาวที่ค้ำยันพนักพิงโซฟาไว้แทบหมดแรง ทรงโปรดแรงเยอะเกินไปจนเอ็นดูไม่มีแรงคุกเข่า ท่อนสีชมพูน่าชิมกลางกายตัวของน้องเสียดสีกับหนังโซฟาตามแรงกระแทก เอ็นดูปรือตาเอี้ยวหน้าหาร่างสูงที่ยืนซ้อนหลัง
“พี่โปรด...พี่โปรด อยาก...”
เสียงหวานๆ เปล่งเรียกชื่อหม่อมราชวงศ์ทรงโปรด ริมฝีปากจิ้มลิ้มที่ขยับเรียกเขาทำเอาเลือดในร่างกายของคนตัวสูงสูบฉีดแรงกว่าเดิม ทรงโปรดยื่นปากจูบลงมุมปากสีชมพู มือหนาบีบแก้มก้นขาวนวลเบาๆ
“พี่โปรดอยู่นี่ครับ” กระซิบปลอบเจ้าคนขี้ยั่ว “เอ็นดูอยากได้อะไร บอกพี่โปรดสิ”
“แรงอีก...พี่โปรด น้อง อื้อ...น้องขอแรงอีก”
ทรงโปรดครางต่ำ คำเรียกใหม่ที่เอ็นดูเปล่งออกมาทำให้เขากระแทกกายเข้าไปแรงกว่าเดิม
“พี่โปรดกลัวน้องเจ็บ” กระซิบพลางขบเม้มใบหูขาว
“ไม่เจ็บ...น้องไม่เจ็บ อึก”
ไม่พูดเปล่าแต่ยังจับข้อมือหนาของเข้าเอื้อมไปด้านหน้า น้องวางมือของทรงโปรดไว้ตรงกลางกายที่เสียดสีกับโซฟา ก่อนจับมือหนาให้กุมน้องเอาไว้ เอ็นดูบังคับมือของทรงโปรดให้ขยับท่อนสีชมพูขึ้นลง ใช่ เขาปรนเปรอตามที่น้องต้องการทั้งหมด
ก็เล่นน่ารักน่ากินขนาดนี้
แต่เจ้าคนขี้ยั่วหมดแรงฟุบไปกับพนักพิงโซฟาแล้ว ทรงโปรดดันสะโพกเน้นย้ำเมื่อเอ็นดูครางเสียงหวานน่าสงสารพร้อมกับปลดปล่อยน้ำออกมาจนเปรอะโซฟาและเปื้อนมือเขา คนตัวสูงเร่งตัวเองด้วยการสวนสะโพกรัวแรงกว่าเดิม เอ็นดูที่ถึงฝั่งไปก่อนตอดรัดเขาจนทนไม่ไหว
หม่อมราชวงศ์ทรงโปรดกระแทกตัวครั้งสุดท้ายก่อนปล่อยน้ำอุ่นๆ เข้าไปในตัวน้อง เสียงครางเปลี่ยนเป็นเสียงหอบหายใจถี่ ตาคมมองแผ่นหลังขาวที่สะท้านตามแรงสะอื้น
น้องฟุบหน้ากับพนักพิงโซฟาอยู่อย่างนั้นจนเขาต้องจับไหล่กลมแล้วรั้งตัวน้องขึ้นมา ทรงโปรดแช่กายค้างไว้แม้ว่าจะปลดปล่อยหมดแล้ว เขายังอยากอยู่ในตัวนุ่มๆ ของน้องต่อ
“ไงครับคนเก่ง...หายใจทันมั้ย”
จับน้องพิงอกแกร่งแทน คนตัวขาวผงกศีรษะช้าๆ เผยอริมฝีปากโกยอากาศเข้าปอด
แขนแกร่งรัดตัวน้องไว้หลวมๆ เขากดจูบตามท้ายทอยขาว ความเหนียวจากน้ำที่พวยพุ่งเข้าไปในตัวน้องไหลออกมาแม้ว่าทรงโปรดยังแช่ท่อนของตัวเองเอาไว้ เขาขยับสะโพกอีกสามสี่ครั้งคนในอ้อมกอดก็ร้องครางออกมาอีกแล้ว
“เหนื่อยแล้วครับ” เอ็นดูปรือตาขยับปากบอก
“อือ พี่รู้”
“รู้แล้วยังทำเหรอคุณ”
หม่อมราชวงศ์หัวเราะเบาๆ เขาดันสะโพกเข้าออกอีกครั้งจนถูกมือขาวฟาดลงบนต้นขาแกร่ง ทรงโปรดจูบแก้มกลมของเอ็นดู สูดดมเอาความหอมหวานเข้าปอดอย่างชื่นใจ
รู้แล้วแหละว่าน้องเหนื่อย แต่อยากทำตัวน่ารักเองทำไม

แล้วเขาดันเป็นพวกโลภมากด้วย
ยังอยากได้ยินเสียงหวานๆ ครางลั่นอีก : )





#ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี







 :m15:

ออฟไลน์ catka12

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 587
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-0
 :m25: ohhhhhh ผิดผีอย่างที่คุณหณิงป้าบอกจริงๆด้วย....  :m25: น้องเอ็นดู so -amn hot!!!!!  :hao7: ต้องอย่างนี้สิค่ะ...ชายโปรดไปไหนไม่รอดsure  :hao7:  o13

ออฟไลน์ Gokusan

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +269/-1
เอ่อ...นว้องงงง น้องเซ็กซี่เกินบรรยาย

ยังไม่ได้หมั้นเลยนะค้าาาา ข้ามขั้นซะแล้ว 555
ก็น้องเป็นใจนี่เนาะ ใครจะว่า อิอิ

ไม่ต้องหมั้นแล้วค่ะ แต่งไปเล้ยยยย

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3393
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
น้องเอ็นดูใช่เล่นนะเนี่ย ทำไมอยู่ถึงยอมซะล่ะ ไอ้เราก็นึกว่าต้องรอหมั้นซะก่อนถึงจะยอมมีฉากแบบนี้ซะอีก

ออฟไลน์ 05th_of_06th

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 102
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ฮือออออ น้องเอ็นดูใช่ย่อยนะเนี่ยทำไมแซ่บบบบ ช็อตที่เรียกพี่โปรดกับน้อง คือแบบบบตายปัยเรยยยยยยย :jul1: :jul1:

ออฟไลน์ Bluedock

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 36
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
เป็นเหมือนชื่อเรื่องเลยตอนนี้ แต่งแบบนี้คนอ่านขาดอากศหายใจพอดีเฮือก

ออฟไลน์ Tiffany

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1157
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
ฉากนี้เลือดไหลจะหมดตัวแล้วจ้า

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6774
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
น้องคะ ร้ายแบบนี้ พี่โปรดไม่รอดแล้ว ฟาเหลืองแน่นอน   :haun4:

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4992
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
 :haun4: :beat: :z1:

ถึงตอนนี้คนอ่านก็ตายกันพอดี
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด