พิมพ์หน้านี้ - { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ( แจ้งข่าวตีพิมพ์ หน้า8 ) - 9.12.61

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่โพสจนจบแล้ว => ข้อความที่เริ่มโดย: Swanlee ที่ 23-08-2018 15:49:54

หัวข้อ: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ( แจ้งข่าวตีพิมพ์ หน้า8 ) - 9.12.61
เริ่มหัวข้อโดย: Swanlee ที่ 23-08-2018 15:49:54
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ...
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย

เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม









ทำแบบนี้...ขาดอากาศหายใจพอดี




เพราะเขาทำแบบนี้ไง ถึงได้รู้สึกหวั่นไหว หายใจติดๆ ขัดๆ ทุกที






หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ตอน 01 - up 23.8.61
เริ่มหัวข้อโดย: Swanlee ที่ 23-08-2018 15:58:06
01



เรื่องที่ต้องรู้ คือเรื่องของคุณทั้งนั้น



 

มันมีไม่กี่คนหรอกที่ทำให้รู้สึกประทับใจตั้งแต่แรกเจอ จนอยากตามหา อยากพูดเรื่องดีๆ ในแต่ละวันให้ฟังเพื่อที่จะสนิทกับเขาคนนั้นได้มากขึ้น ความรู้สึกแบบนี้ถูกเรียกว่า ถูกใจตั้งแต่แรกเจอ ถูกชะตา ต้องใจ หรืออีกอย่างในเชิงความรักก็คือ พรหมลิขิต



คนที่ใช้ชีวิตเพื่อจมอยู่กับงานและเที่ยวเล่นไปวันๆ อย่างผมไม่ได้อคติอะไรกับคำว่าพรหมลิขิต แค่เอือมกับมัน เพราะมักจะถูกคนรอบข้างถามถึงเรื่องนี้บ่อยๆ



ผมอายุยี่สิบแปด เริ่มทำงานตั้งแต่อายุยี่สิบเอ็ด คนรอบข้างเลยมองว่าถึงวัยที่สมควรมีครอบครัวสักที แต่โทษที ผมมีพี่สาวคนหนึ่งที่แต่งงานมีลูกไปแล้ว และพี่ชายสองคนที่ยังโสด แล้วทำไมผมต้องแต่งงานปาดหน้าพี่ๆ ไปก่อน



ด้วยความที่ผมเป็นลูกคนสุดท้อง ผมเลยเกือบเสเพล ทำอะไรตามใจตัวเองมาตั้งแต่ช่วงที่ยังเป็นวัยรุ่น ผมเรียนอยู่ที่อังกฤษตั้งแต่อายุสิบขวบ เพิ่งกลับไทยตอนอายุยี่สิบ เรียนอยู่ที่นี่ได้แค่แป๊บเดียวแล้วก็ใช้ชีวิตกับงานมาตลอด



ตอนนี้ผมสนุกกับงาน แฮงก์เอ้าท์กับเพื่อนกลุ่มเดียวกันในผับที่มีไฮโซระดับท็อปๆ ใช้บริการ ผมก็เป็นหนึ่งในนั้น



ดูไม่มีอนาคต แต่ผมดูแลกิจการของครอบครัวรวมทั้งธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของตัวเอง



เวลางานผมจริงจัง เวลาเที่ยวผมก็จริงจังเหมือนกันกัน



ชีวิตวนเวียนอยู่แค่นี้ นอนดึก แต่ตื่นเช้าไปทำงาน พบลูกค้า ตกดึกก็เที่ยว ดื่ม (ยกเว้นวันไหนที่งานเยอะ ก็งดเที่ยว)



ง่ายๆ เลยนะ ผมยังไม่อยากมีใคร



หลายคนที่ผมเคยคุยยังไม่คลิกกัน ทุกคนเข้าหาผมมีอยู่ไม่กี่อย่าง ถ้าไม่คิดว่าผมรวย ก็คงอยากใช้ชีวิตเป็นคุณนายในวัง มีสามีที่เป็นราชนิกุล



ใช่ ผมมีวัง วังที่ผมกับครอบครัวเรียกว่าบ้าน



หม่อมราชวงศ์ทรงโปรด ภัสร์ฤทัย



หรือที่ทุกคนมักเรียกว่า คุณชายโปรด



และผม เป็นคุณชายที่เข้าผับบ่อยทุกสุด ควงสาวเยอะที่สุดในบรรดาพี่น้อง



โลกของผมไม่ได้แคบ แต่ผมเลือกจะใช้เวลาว่างอยู่ในผับ เพื่อนมักบอกว่าฉากการทำงานของผมก็แค่ตัวปลอม ที่แท้จริงผมมือต้องถือแก้วแอลกอฮอล์ ใช้สายตามองเหยื่อแล้วจับขึ้นห้อง ไม่ใช่ผมที่นั่งทำงานอยู่ในบริษัท



มีแต่คนบอกว่าผมเจ้าชู้



แต่เหมือนกับว่าไอ้นิสัยที่คนบอกว่าเจ้าชู้ของผมมันกำลังจะหายไปตลอดกาล เมื่อสายตาของผมเห็นกระต่ายตัวขาวกำลังแบกผู้ชายคนหนึ่งที่ใส่ชุดนักศึกษา งงมั้ย กระต่ายจะแบกคนได้ยังไง



เขาเป็นคน...คนนั้นที่ผมเห็นดูนุ่ม ฟู แก้มกลม น่ารักเหมือนกระต่าย



น่ารักเหรอวะ



ผมห่างหายจากความรู้สึกแนวๆ นี้ไปนานมาก ผมไม่เคยมองอะไรสวยงามหรือน่ารัก แต่เด็กคนนั้นทำให้สายตาของผมล็อกเขาเอาไว้



“ไอ้คุณชาย มึงได้ยินกูมั้ยวะ”



“อะไร”



ผมไม่ได้ยิน เพราะเวลาที่จดจ่อกับอะไรสักอย่าง หูตาของผมจะไปอยู่ที่นั่น



อือ ตอนนี้ผมกำลังมองกระต่าย



“กูถามว่า ที่นี่ให้เด็กอายุไม่ถึงยี่สิบเข้าได้ด้วยเหรอ”



“ไม่รู้”



“มึงดูนั่น”



ผมเหลือบตามองตามของไอ้จอมภพ เพื่อนสนิทของผมเอง มันกำลังชี้ไปที่กลุ่มนักศึกษา และกระต่ายขาวของผมที่ยืนอยู่ในกลุ่มนั้น



“โตกันแล้ว”



“โตเหี้ยอะไร น้องที่แบกไอ้หัวเหลืองอยู่ กูว่าไม่ถึงยี่สิบ”



ผมเหลือบตามองไอ้ภพอีกครั้ง รู้ทันทีว่ามันกำลังเล็งกระต่ายตัวเดียวกับผม



และรู้ว่ามันทำได้แค่มอง เพราะจอมภพมีแฟนอยู่แล้ว



“น้องกลุ่มนั้นบรรลุนิติภาวะแล้วไอ้ภพ”



ผมละสายตาจากไอ้จอมภพเมื่อเสียงของไอ้พีชดังขึ้น ได้รับคำยืนยันจากเจ้าของผับแล้วว่าเด็กกลุ่มนั้นมีอายุที่สามารถเที่ยวผับได้



“หม่อม ทำไมวันนี้มึงดื่มน้อย” ไอ้พีชถาม มันไม่เคยเรียกชื่อเล่นผม เลยทำให้ผมมีชื่อเล่นเฉพาะที่มันเรียกเท่านั้น



“จะเข้าพรรษาแล้ว”



“สาบานนนน คอแข็งเป็นหินอย่างมึงเนี่ยนะจะเลิกเหล้าเข้าพรรษา”



ไม่หรอก เทศกาลไหนก็มาหยุดความชอบของผมไม่ได้ แต่รู้มั้ย ว่าเราต้องทำตัวดีๆ ให้ดูดีเพื่อเข้าหาคนที่ต้องตา ตัวผมอาจจะมีกลิ่นเหล้า แต่ก็พยายามทำให้ได้กลิ่นน้อยที่สุด



ถ้าน้องกระต่ายไม่ชอบเหล้า ผมก็พร้อมเลิกให้ตอนนี้เลย



“เหมือนว่าน้องเขาจะมีปัญหาหรือเปล่าวะ” ไอ้ภพช่างสังเกต แต่มันไม่เคยที่จะสังเกตเงียบๆ



ต่างจากผม



กระต่ายอยู่ในสายตาผมตลอด ผมว่าน้องเขาทำหน้ามุ่ย ซึ่งเป็นสีหน้าที่น่ารักมาก ปากจิ้มลิ้มพึมพำอะไรสักอย่างกับคนหัวเหลืองที่เมาปลิ้น



ผมยกโทรศัพท์ที่วางอยู่บนโต๊ะขึ้นมา เข้าโหมดกล้อง ซูม และกดชัตเตอร์ทุกอิริยาบถของเด็กคนนั้น



น่าเอ็นดูมาก



“เชี่ย แม่งอ้วกใส่ร้านกูอีกแล้ว”



ไอ้พีชจิ๊ปาก ยกมือกุมขมับตอนที่ไอ้เด็กหัวเหลืองเอาทุกสิ่งออกจากปากแล้วพ่นลงพื้น ผมเหลือบตาหลบภาพนั้น แต่ยังไม่สามารถละสายตาจากกระต่ายตัวขาวได้



น้องเขาไม่มีอาการรังเกียจสักนิด



หรือชินแล้ววะ



ผ้าเย็นแจกแขกถูกฉีกมาเช็ดเสื้อกับปากไอ้เด็กหัวเหลือง กระต่ายของผมทำหน้าที่เก็บซากให้เกือบทั้งหมด ยกเว้นพื้นที่ผมภาวนาไม่ให้น้องเขาก้มลงไปเช็ด



แล้วผมก็หายใจทั่วท้องเมื่อเห็นว่ากระต่ายตัวนั้นแบกไอ้ตัวปัญหาเมาปลิ้นไปที่นั่งพักอีกฝั่งโดยไม่ก้มลงไปทำความสะอาดพื้นร้านให้ไอ้พีช



“มึงควรคัดลูกค้าแล้วว่ะ เกรดต่ำแบบนั้นห้ามเข้า”



ไอ้ภพพึมพำบอก ผมยกแก้วเหล้าขึ้นจิบ สายตาจ้องน้องคนนั้น



“เกรดต่ำเหี้ยอะไร ไอ้หัวเหลืองลูกดาราดัง ส่วนน้องคนที่แบกมันอยู่เป็นลูกชายหม่อมราชวงศ์เทพพงศ์ วงศ์ประดิษฐ์”



“นามสกุลวงศ์ประดิษฐ์?” ผมพึมพำแล้วหันหน้ามองไอ้พีช



“มึงรู้จักเปล่าวะไอ้หม่อม นั่นน่ะลูกชายคุณแอ้ เผื่อเป็นเพื่อนแม่มึง”



“รู้ได้ไงว่าแม่เขาชื่อแอ้”



“แม่เขาเป็นมิสยูนิ เวิลด์ เวิร์สอะไรสักอย่างสมัยสาวๆ เดือนก่อนยังออกข่าวพิธีเปิดงานกินทุเรียนอยู่เลย”



รู้ลึก



คุณแม่ผมมีเพื่อนเป็นนางแบบนางงามหรือไฮโซเยอะ เพราะท่านอยู่ในแวดวงนี้ ผมคุ้นชื่อคุณหญิงแอ้ แต่ก็แค่คุ้น ผมไม่รู้จักเขาหรอก



ระหว่างที่ไอ้ภพกับไอ้พีชกำลังคุยเรื่องนางงามที่ผมเข้าไม่ถึง จู่ๆ กระต่ายน้อยก็พาไอ้หัวเหลืองเดินผ่านโต๊ะที่ผมกำลังนั่งอยู่



แต่คนเมาจังหวะเก้ามันมันก็เป๋ตามประสา ไอ้หัวเหลืองสะดุดบันไดล้มคะมำ และนั่นก็ทำให้ผมได้ยินเสียงหวานๆ ของกระต่ายร้องตกใจ



“พี่ปัน ลุกๆ พื้นมันนอนไม่ได้”



“ง่วงงงงแล้วน้องพี่ ขอนอนตรงนี้ละกัน”



“พี่ปัน ลุกขึ้นเถอะครับ อายคนอื่นเขา”



“เหล้าสักแก้ว เดี๋ยวเข้าพรรษาพี่จะจำศีลแล้วน้องเอ๋ย”



“พี่ปัน”



กระต่ายย้ำชื่อของไอ้หัวเหลือง ใบหน้าจิ้มลิ้มมู่ทู่ จมูกโด่งสวยย่นฟึดฟัด ปากอวบๆ สีชมพูของน้องเขาเม้มเล็กน้อย กระต่ายตัวขาวยืนเท้าเอวมองคนเมาที่สลบแทบเท้าเล็กๆ ของน้อง



ดูเหวี่ยง



แต่น่ารักว่ะ



“ถ้าพี่ปันไม่ลุก เอ็นจะกลับแล้วนะ”



“อย่าทิ้งเพ่ นี่เพ่รหัสงาย เอิ้ก”



“มึงไปช่วยน้องเขาหน่อยดิ นั่นลูกค้ามึงอ่ะ” ไอ้ภพพเยิดหน้า ดันไหล่ให้ไอ้พีชไปช่วยพยุงลูกค้าขึ้น



แต่ไอ้พีชขืนตัว แล้วเถียงอะไรไม่รู้กับไอ้ภพสองคน ผมเลยตัดความรำคาญ ลุกขึ้นเต็มความสูง ก้าวเท้าเดินลงบันไดสองขั้น แล้วย่อตัวจับปีกคนเมาให้ลุกขึ้น



“เชี่ย/แม่มึ้ง” เสียงไอ้สองคนนั้นสบถดังแว่ว



“ขอบคุณครับ” แต่เสียงหวานของน้องกระต่ายกลบเสียงของไอ้สองคนนั้น



น้องเขาไม่เงยหน้ามองผม เพราะมัวแต่ก้มหน้าประคองไอ้ขี้เมา



เคยเห็นกระต่ายน้อยตาแดงมั้ยครับ เขาว่ากันว่าดุเอาเรื่อง เข้าใกล้อาจโดนกัด ขนาดเจ้าของเลี้ยงจนเชื่องยังใช้เขี้ยวคมงับนิ้วได้เลย



น้องคนนี้เป็นกระต่ายแบบนั้น



น่ารัก ฟึดฟัด น่าฟัดด้วย



ผมเผ้าของน้องเขาฟูเพราะรบกับไอ้ขี้เมา ใบหน้าขาวกระจ่างมู่ทู่เพราะไอ้ขี้เมาเป็นต้นเหตุ ผมชอบเครื่องหน้าของน้อง ผสมผสานกันได้อย่างลงตัว น่าดู น่ามองไปหมด



“พี่ปัน ใจเย็นๆ ยืนให้ตรงก่อนแล้วค่อยเดิน”



“น้องครับ เดี๋ยวให้รปภมาช่วย”



ไอ้พีชตัดสินใจลงมาทำหน้าที่เจ้าของร้าน แต่การที่มันใช้คำว่ารปภ ทำเอากระต่ายน้อยของผมเงยหน้าสบตากับมัน พร้อมทำหน้าเป็นกระต่ายตื่นตูม



“ขอโทษนะครับ เขาเป็นพี่รหัสผมเอง” ถึงผมจะเห็นใบหน้าจากด้านข้าง ก็รู้ได้เลยว่าน้องกำลังกังวล



“เฮ้ยน้อง ใจเย็นครับ พี่ไม่ได้ให้คนมาลากเพื่อนน้องไปไหน”



“น่ารักจริงๆ ว่ะ”



ไอ้พีชคุยกับน้อง ส่วนไอ้ภพเดินมากระซิบข้างๆ ผม



“อ่อ ครับ”



ผมจับปีกขวาของไอ้เด็กขี้เมา ส่วนน้องเขาจับปีกซ้าย



ผมจับด้วยมือข้างเดียว แต่น้องเขาต้องจับแน่นด้วยมือถึงสองข้าง



“อย่าพาพี่กลับบ้านนะเอ็นดู ไม่งั้นพี่โดนแม่ตีแน่ๆ เลย ฮือ”



“ไม่กลับครับไม่กลับ เดี๋ยวคืนนี้ไปนอนห้องเอ็นนะ”



“ฮืออออ เอ็นดู”



ไอ้ขี้เมาเศร้าอะไรมาไม่รู้ มันทำท่าจะคว้าคอน้องเขามากอด แต่โชคดีที่น้องเขาผงะออกและเป็นช่วงที่รปภวิ่งเข้ามาอุ้มไอ้ขี้เมานี่ได้พอดี



แต่น้องชื่อเอ็นดูเหรอ



น่าเอ็นดูสมชื่อเลยว่ะ



ผมยืนมองน้องเขาที่เอาแต่ชะโงกหน้ามองร่างเมาๆ ของพี่รหัสที่ถูกหิ้วออกไปข้างนอก



น้องเขาดูสับสนเมื่อเงยหน้าสบตากับไอ้พีช ส่วนไอ้เจ้าของร้านคนนี้ก็ยืนลุ้นว่าน้องเขาจะพูดอะไร



จุดๆ นี้ผมอิจฉามัน ทั้งที่ผมเสนอตัวเข้าช่วยแต่ก็แพ้คำว่ารปภ หรือผมควรพูดออกไปว่าจะเอาตำรวจมาจับไอ้เมานั่นดี ถึงจะได้รับความสนใจบ้าง



“ขอบคุณนะครับ แล้วก็ขอโทษด้วยนะครับ ร้านเลอะไปหมดเลย”



“ไม่เป็นไร พี่เข้าใจคนเมา”



ผมเห็นว่าน้องเขายิ้มเจื่อน ผงกศีรษะเบาๆ แล้วทำท่าจะวิ่งตามร่างของไอ้ขี้เมาออกไป แต่ผมไวกว่า เอื้อมมือคว้าต้นแขนของน้องเขาไว้



แล้วก็พบว่าแขนน้องเขานุ่มมาก



เพราะความนุ่มทำให้ผมเผลอออกแรงบีบจนเสียงหวานๆ ครางออกมา



ใครจะไปรู้ว่าจะบอบบางขนาดนี้



ผมเลยคลายมือจนสุดท้ายก็ปล่อยแขนของกระต่าย ผมกำมือแล้วล้วงไว้ในกระเป๋ากางเกงพร้อมกับสร้อยข้อมือที่น้องเขาทำหล่นบนพื้นไว้เมื่อกี้



แม้แต่หน้าน้องเขายังไม่กล้าเงยขึ้นมอง



ผมไม่ได้น่ากลัวขนาดนั้นสักหน่อย



“ขอบคุณครับที่ช่วยพยุงพี่ปัน”



น้องเขาคงคิดว่าที่ผมจับแขนไว้เพราะอยากได้คำขอบคุณ ความจริงผมไม่ได้อยากได้คำขอบคุณอะไรจากน้องเขาเลย



แต่ที่ผมอยากได้คือ



“ชื่ออะไร”



เสียงหวานๆ ของน้องเขา



“เอ็นดูครับ”



ผมอยากให้เขาเงยหน้ามองผม



“อายุเท่าไหร่ ยังเรียนอยู่เข้าผับได้ยังไง” แล้วผมจะเผลอทำเสียงเข้ม



“ไอ้เชี่ย มึงดุอะไรขนาดนั้น เป็นพ่อน้องเขาหรือไง”



เสียงไอ้ภพทำให้ผมกระตุกยิ้ม



กระต่ายตาแดงเป็นกระต่ายที่ดุ ผมเลยต้องใช้ความดุของตัวเองเข้าข่ม



 “อายุยี่สิบสองครับ ส่วนพี่ปันยี่สิบสาม”



ผมไม่ตอบอะไร แต่ยืนมอง ใช้ความเงียบของตัวเองกดดันให้น้องเขาเงยหน้ามอง แต่ก็ไม่



จนแล้วจนรอดกระต่ายก็ไม่ยอมสบตา น้องเขาไม่ได้ก้มหน้า แต่เหลือบตามองอย่างอื่น ผมขยับเท้าถอยหลังเล็กน้อย และเป็นจังหวะที่น้องเขาหมุนตัวหันหลัง ก่อนจะสาวเท้าวิ่งหนีผมไปพร้อมกับเสียงหัวเราะของไอ้พีชกับไอ้ภพ



ผมมองตามแผ่นหลังเล็กๆ ที่ค่อยๆ หายไป และก่อนที่ประตูจะปิดลง ผมเห็นว่าน้องเขาหันหน้ามองเข้ามาในร้าน ดวงตาประกายคู่สวยสบสายตากับผมอย่างจัง และหายไปเมื่อประตูปิดสนิท



แล้วอาการถูกตา ต้องใจ ก็เกิดขึ้น กระต่ายน้อยที่ไม่มองหน้าผม เสียงหวานที่ดังวนอยู่ในความคิด



ถึงไม่ใช่ซินเดอเรลล่าทิ้งรองเท้าให้เจ้าชาย แต่น้องเขาทิ้งสร้อยข้อมือไว้ให้



และถึงผมจะไม่ใช่เจ้าชาย แต่หลังจากนี้ก็คงต้องตามหาเจ้าของสร้อยข้อมือเส้นนี้ซะแล้ว









#ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี

 


-----


เปิดเรื่องแย้วคับทุกคน><

ชื่อเรื่องยาวที่สุดตั้งแต่แต่งมาเลย 5555

ฝากด้วยนะคะ พงือ

 :katai4:
 
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ตอน 01 - up 23.8.61
เริ่มหัวข้อโดย: arjinn ที่ 23-08-2018 17:26:57
มาเอาใจช่วยให้คุณชายโปรดตามหาน้องเอ็นดูให้เจอโดยไว
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ตอน 01 - up 23.8.61
เริ่มหัวข้อโดย: warin ที่ 23-08-2018 18:43:04
ติดตามค่ะ
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ตอน 01 - up 23.8.61
เริ่มหัวข้อโดย: yasperjer ที่ 23-08-2018 21:57:06
เปิดเรื่องใหม่แย้ว​ ละมุนเหมือนเดิม​ น้องเอ็นดูน่าบีบจังเย​ยย​ คุณชายตามหาตัวน้องให้เจอไวๆน้า :katai3:
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ตอน 01 - up 23.8.61
เริ่มหัวข้อโดย: เปลว แว๊บแว๊บ ที่ 24-08-2018 00:36:01
ฮือออ น้องเอ็นดู น่าเอ็นดูจังเลยค่ะ
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ตอน 01 - up 23.8.61
เริ่มหัวข้อโดย: catka12 ที่ 24-08-2018 02:00:18
 o13  :hao7:  :hao6:
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ตอน 01 - up 23.8.61
เริ่มหัวข้อโดย: Chompoo reangkarn ที่ 24-08-2018 05:50:46
 ชอบชื่อน้องมันช่างน่ารัก น้องเอ็นดู มาต่อเร็วๆน้า :ling1: :ling1:
หัวข้อ: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ตอน 02 - up 24.8.61
เริ่มหัวข้อโดย: Swanlee ที่ 24-08-2018 14:38:22
02



ซึมซับ ลึกซึ้งทุกสัมผัสชัดเจน

 



“แม่ว่าชุดนี้สวยดีนะ”



“ชุดนี้ก็สวยค่ะ เหมาะกับคุณแม่”



เครื่องเพชรระยิบระยับแสบตาจนคนตัวสูงที่นั่งอยู่ถึงกับหันหน้าหนี เสียงพูดคุยกันของคุณปนัดดากับหม่อมราชวงศ์รฐา ภัสร์ฤทัย ดังขึ้นภายในห้องรับรองของวังภัสร์ฤทัย คุณชายทรงโปรดเดินหนีมาอยู่ในห้องครัว ตอนแรกเขานั่งอยู่ข้างๆ พี่สาวกับคุณแม่ แต่เพราะแสบตาเครื่องเพชรนี่แหละ เลยต้องหาที่หลบ



เพราะว่าทรงโปรดเป็นคนที่ว่างที่สุดในบรรดาพี่น้อง หลังเลิกงานเลยถูกโทรตามให้กลับวังทันที ความคิดที่จะไปนั่งสังสรรค์กับเพื่อนหายวับไปกับตา



วันนี้เขาต้องไปงานเลี้ยงวันเกิดของคุณหญิงแป้วอะไรสักอย่างที่เขาไม่รู้จัก แต่พี่สาวกับคุณแม่รู้จักเป็นอย่างดี



 

Prod: ถ้าใครเลิกงานแล้วก็อยากให้มาอยู่ที่วังด้วยกันนะครับ

Prod: รถยังไม่ออก มีเวลาอาบน้ำแต่งตัวไปงานกับคุณแม่

Khun: โชคดีนะโปรด ตอนนี้พี่ยังอยู่ที่บริษัท

Plerng: พี่ติดประชุม

 



ดีมั้ยล่ะ พี่ชายทั้งสองของเขา หม่อมราชวงศ์ทรงคุณ กับ หม่อมราชวงศ์ทรงเพลิง หาเรื่องหนีงานเลี้ยงทั้งที่วันนี้ก็ว่างเหมือนกัน คุณชายทรงโปรดพิงสะโพกลงบนโต๊ะสีขาว คลี่ยิ้มให้กับหน้าจอโทรศัพท์ที่ขึ้นแชตของพี่ชายทั้งสอง



“น้องชายโปรด อยู่ไหนคะ รถมารอรับแล้วนะ”



ดวงตาคมละจากโทรศัพท์ก่อนเก็บมันใส่ไว้ในกระเป๋ากางเกง เขาเดินออกจากห้องครัวหลังจากที่ซ่อนตัวอยู่ในนี้ได้แค่แป๊บเดียวเท่านั้น คุณชายทรงโปรดเลิกคิ้วสงสัยเมื่อเห็นคุณแม่กับพี่สาวยืนชะเง้อคอมองหาร่างสูงๆ



สงสัยเลือกเครื่องเพชรกันเสร็จแล้ว



“น้องชายโปรดมาแล้วค่ะคุณแม่” หม่อมราชวงศ์รฐาเดินมาควงแขนเขา



ร่างสูงคลี่ยิ้มให้พี่สาวกับคุณแม่ที่คล้องแขนแกร่งคนละข้าง สองสาวสวยพากันก้าวเท้าออกบ้าน หม่อมราชวงศ์รฐากับคุณปนัดดาแต่งตัวสวยมาก เครื่องเพชรจัดเต็มจนเขาเริ่มสงสัยว่ารู้สึกเมื่อยคอกันบ้างมั้ย รู้สึกแสบตาหรือเปล่าที่แสงวับๆ ของมันแยงตา



ดูเหมือนพวกท่านทั้งสองชินชากับมันแล้ว หรือบางทีเขาควรต้องใส่ถึงจะได้รู้ว่ามันแยงตาหรือเปล่า



ไม่ดีกว่า



ชะลอเท้าตรงหน้าบ้าน ตอนนี้ฝนตกหนักแต่คุณแม่กับพี่สาวก็ยืนยันที่จะไปงานเลี้ยง ระหว่างรอสาวใช้ถือร่มมารับ ทรงโปรดชะงักแล้วคิดขึ้นได้อย่างหนึ่ง



ถ้านั่งรถคันเดียวกันไปงานเลี้ยง อย่างนี้เขาก็หาทางหนีออกจากงานลำบาก



ทรงโปรดเหลือบมองระหว่างรถตู้คันหรูกับเบนซ์สีดำของเขาที่จอดอยู่ในโรงรถ รถของเขาราคาแพงไม่แพ้กับรถตู้ของครอบครัว ทรงโปรดเก็บเงินซื้อด้วยน้ำพักน้ำแรงของตัวเอง เขาไม่มีวันปล่อยให้มันจอดเหงาๆ ข้างรถเก๋งไฟฟ้าขนาดเล็กของหลานชายแน่นอน



จนกระทั่งร่มถูกถือมาโดยสาวใช้และทรงโปรดรับมาถือไว้เอง กางให้พี่สาวกับคุณแม่ เดินส่งพวกท่านขึ้นรถตู้เสร็จสรรพ จังหวะที่กำลังจะปิดประตูให้ คุณปนัดดากลับใช้มือสวยๆ รั้งประตูไว้ซะก่อน



“ขึ้นรถครับชายโปรด” คุณปนัดดาส่งสายตาดุๆ



“รีบขึ้นมาเร็วๆ น้องชายโปรด ฝนกระเด็นเข้ารถหมดแล้ว” แถมยังถูกพี่สาวกดดัน



หม่อมราชวงศ์ทรงโปรดคลี่ยิ้ม จับมือของคุณแม่ออกจากประตูรถ ตอนนี้น้ำฝนที่ตกลงพื้นมันกระเด็นโดนขากางเกงสีดำของเขาจนรู้สึกชื้นและแฉะหน่อยๆ



“ผมขับรถไปเองดีกว่าครับคุณแม่”



“ไม่ได้ เดี๋ยวชายโปรดหนีแม่อีก”



“ไม่หนีครับ ผมสัญญา”



ครั้งหนึ่งเขาเคยหนีงานเลี้ยงไปพร้อมกับเบนซ์คู่ใจคันหรู คุณปนัดดางอนอยู่หลายวันจนเขาต้องกลับมานอนที่วังร่วมเดือนเพื่อง้อคุณแม่



ทรงโปรดไม่อยากถูกงอนอีกแล้ว แต่เขาก็ไม่อยากนั่งรถตู้จริงๆ



มีรถขับไปเองแท้ๆ ทำไมต้องให้คนอื่นขับพาไปด้วย



“ได้ งั้นชายโปรดขับรถนำหน้าแม่ไป”



“...”



“ถ้าออกนอกเส้นทางเมื่อไหร่ แม่จะให้พลขับตามลูกไปติดๆ”



ก็นั่นแหละ แม่ยังไงก็คือแม่



ต่อให้โตแล้วยังไง ก็ต้องอยู่ในโอวาทแม่อยู่ดี



คุณชายทรงโปรดพยักหน้าก่อนจะเลื่อนประตูรถตู้ปิด เขากำมือร้อง Yes! ในใจ ตอนนี้เขายอมหมดทุกอย่างขอแค่ให้ได้ขับรถไปเอง



ร่างสูงก้าวฉับๆ ตรงไปยังโรงรถที่จอดรถเบนซ์คันงาม มือหนาเปิดประตู สตาร์ทรถ เปิดแอร์และเปิดเพลงฟังให้สบายใจ เขาเบื่องานเลี้ยงมาก แต่คิดซะว่าวันนี้ไปเปิดหูเปิดตาก็แล้วกัน อย่างน้อยอาจจะได้เพื่อนดื่มคนใหม่ หรืออาจจะได้ลูกค้าเพิ่มขึ้นจากการไปงานเลี้ยงครั้งนี้



เท้าขวาเหยียบคันเร่งออกจากโรงรถ ทรงโปรดประคองพวงมาลัยเลี้ยวเทียบข้างรถตู้คันหรู ก่อนที่จะขับนำออกไปจากหน้าวัง แล้วชะลอรถด้วยการเหยียบเบรกเบาๆ เมื่อถึงประตูใหญ่ของวัง มองซ้ายขวา ดูให้แน่ใจว่าไม่มีรถสวนมา เขาถึงได้หักพวงมาลัยแล้วขับต่อไปบนถนน



ทรงโปรดอยู่ในรถพร้อมกับการจราจรติดขัดบนถนนสายหลัก ฝนตกกับเวลาเลิกงานของคนในเมืองเป็นของคู่กัน



เขาเคาะนิ้วบนพวงมาลัยตามจังหวะเพลง มองกระจกหลังก็เห็นรถตู้ที่คุณแม่กับพี่สาวที่อยู่จอดห่างจากเขา ทรงโปรดขับรถเร็ว ตลอดทางมีโทรศัพท์จากคุณแม่เข้ามาเป็นระยะ ท่านบอกให้เขาเลิกใจร้อนแล้วขับรถช้าๆ



โชคดีที่โรงแรมสำหรับจัดงานเลี้ยงอยู่ไม่ไกลจากวังของเขา เป็นโรงแรมติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา ทรงโปรดได้ยินมาว่าตอนแรกคุณหญิงแป้วจะขอใช้พื้นที่ในวังเพื่อจัดงานเลี้ยง เพราะนอกจากจะติดแม่น้ำเจ้าพระยาเหมือนกันโรงแรมที่ต้องไปวันนี้ บรรยากาศในวังยังร่มรื่น สวย หรูหรา ใหญ่โตพอที่จะจัดงานเลี้ยงได้เลย



แต่วังภัสร์ฤทัยไม่ใช่สถานที่รับจัดเลี้ยง โชคดีที่คุณแม่ปฏิเสธไป



เขาหมดเวลาไปกับการอยู่บนถนนที่มีการจราจรติดขัดเกือบยี่สิบนาที สุดท้ายก็ถึงโรงแรมริมแม่น้ำเจ้าพระยาสักที ทรงโปรดเคลื่อนกายลงจากรถเมื่อตอนที่ดับเครื่องยนต์ทุกอย่างเสร็จ คุณแม่กับพี่รฐาเดินควงกันเข้าไปในตัวโรงแรม เดินหาห้องบอลรูมที่ใช้จัดงานวันเกิดในคืนนี้



“คุณชายครับ ขอกุญแจรถด้วยครับ”



ทรงโปรดชะงักเท้าที่กำลังก้าวตามคุณแม่กับพี่สาว เขาเลิกคิ้วแล้วหันมามองพี่พล คนขับรถของวังที่กำลังยืนโน้มตัวเล็กน้อย ยื่นมือที่สวมถุงมือสีขาวมาตรงหน้า



“อะไรครับพี่พล”



“ผมขอกุญแจรถคุณชายด้วยครับ” คนขับรถเงยหน้าสบตาหม่อมราชวงศ์ทรงโปรด “คุณปนัดดาสั่งให้ผมถือกุญแจรถของคุณชายจนกว่าจะจบงานครับ”



แม่นะแม่



ทรงโปรดตัดความรำคาญโดยการล้วงกุญแจรถจากกระเป๋ากางเกงใส่มือของพล คนขับรถโน้มตัวแล้วเดินหายไป ส่วนเขาก็ถอนหายใจ เลี่ยงอะไรไม่ได้สักอย่าง



แล้วสิ่งที่ทรงโปรดเกลียดที่สุดก็เกิดขึ้น



ทุกคนจ้องมาที่เขาเป็นตาเดียวหลังจากที่ประตูห้องบอลรูมเปิดออก คุณชายทรงโปรดเคยออกงานสังคมและเขาก็ถูกจ้องแบบนี้บ่อยๆ เขารู้ว่าตัวเองหล่อ เท่ สุขุม คุณหญิงคุณนายหลายคนอยากได้ทรงโปรดไปเป็นลูกเขย แต่เขาไม่สน และที่สำคัญ ทรงโปรดคุยเรื่องนี้กับคุณแม่แล้วด้วย



บังคับให้เขาไปไหนมาไหนด้วยได้ แต่สิ่งที่ห้ามบังคับกัน คือเรื่องหัวใจ



“คุณชายทรงโปรดหรือเปล่าคะ”



กระทั่งตอนที่เขากำลังจะหนีสายตาของคุณหญิงคุณป้า หรือลูกท่านหลานเธอเข้าไปหาพี่สาวกับคุณแม่ หญิงสาวที่นั่งเฝ้าหน้าประตู ใส่ชุดราตรีสวยๆ ก็เปล่งเสียงขึ้นซะก่อน อีกทั้งยังมีเด็กผู้ชายสูงเท่าเข่าของเขากำลังกระโดดดึงปลายนิ้วก้อยของเล่นด้วย



ไอ้หนูน่ารักนี่ จับตีก้นซะดีมั้ง



“รบกวนคุณชายทรงโปรดลงชื่อเข้างานตรงนี้ แล้วเลือกหน้ากากใส่เข้างานได้เลยนะคะ”



ไม่น่าล่ะ คนในงานถึงได้มีหน้ากากสีดำใส่กันทั้งงาน ทรงโปรดโน้มตัวลง หยิบปากกาที่วางอยู่บนโต๊ะ ก่อนเซ็นชื่อแล้วสุมหยิบหน้ากากครึ่งหน้าติดมือมา ก้มมองเด็กชายที่นัวเนียเกาะแข้งขาของเขา คาดว่าน่าจะอายุสามขวบเท่าลูกชายของหม่อมราชวงศ์รฐา เด็กน่ารักคนนี้ใส่หน้ากากแบบเดียวกันกับที่เขาหยิบมาด้วย



กำลังก้มมองอยู่พักหนึ่ง แม่ของเด็กคนนั้นก็มาอุ้มไป



ทรงโปรดใส่หน้ากากแล้วเดินเข้างาน แบบนี้ก็ดีเหมือนกัน การอำพรางหน้าทำให้เขาเลิกเป็นจุดสนใจได้นิดหน่อย



อาหารเยอะ แต่ไม่มีอะไรถูกใจเขาเท่าวิสกี้ ทรงโปรดจิบแอลกอฮอล์ เพลิดเพลินไปกับเสียงเพลงบรรเลงเพราะเข้ากับบรรยากาศของงาน



ตาคมมองผู้หญิงในงานแต่ไม่ได้พิศวาส เขาแต่มองเพื่อให้ตัวเองเข้าใจว่าทำไมพี่สาวกับคุณแม่ถึงได้เลือกเครื่องเพชรอลังการสวมคอ เพราะหากไม่บอกว่าที่นี่คืองานเลี้ยงวันเกิด เขานึกว่าเป็นงานแสดงสินค้า พวกเครื่องเพชร พลอย อะไรแบบนี้ซะอีก



แต่ระหว่างที่เขากำลังจิบแอลกอฮอล์ เพลิดเพลินกับสิ่งอื่นนอกเหนือจากคน จู่ๆ คนตัวเล็กผิวขาวนวลก็เดินตรงมาทางเขา และหยุดอยู่ตรงหน้าผลไม้เคลือบช็อกโกแลต แม้จะใส่หน้ากากปิดบังหน้าไปครึ่งหนึ่ง แต่ถ้าคุณชายทรงโปรดสนใจใครสักคนเข้าแล้ว เขาจะจำคนนั้นได้ขึ้นใจ



เจ้าของสร้อยข้อมือที่เขาต้องออกตามหา



-----

ต่อด้านล่างค่ะ
หัวข้อ: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ตอน 02.02 - up 24.8.61
เริ่มหัวข้อโดย: Swanlee ที่ 24-08-2018 14:41:23

ไม่น่าเชื่อ...ข้ามคืนแค่คืนเดียวก็เจอตัว



เอ็นดู ที่น่าเอ็นดูเหมือนชื่อ



ทรงโปรดมองตามมือขาวๆ ที่กำลังหยิบส้อมขึ้นตักผลไม้ มืออีกข้างถือจานสำหรับรองไม่ให้ช็อกโกแลตไหลเปรอะโต๊ะวางของกิน น้องเก้ๆ กังๆ อยู่พักใหญ่ ไม่แน่ใจว่าทำไม่เป็นหรืออะไร



แต่น่าเอ็นดูมากๆ



และท่าทางไม่ชำนาญกับการเอาผลไม้ไปจุ่มช็อกโกแลตเพื่อเคลือบก็ทำให้ทรงโปรดวางแก้ววิสกี้ลง ก่อนจะเอื้อมมือหยิบผลไม้ชนิดเดียวกันกับที่เอ็นดูถืออยู่ขึ้นมา ทรงโปรดหยิบจานรองรอไว้ จุ่มเนื้อสตรอว์เบอร์รีลงในถังช็อกโกแลต แล้วยื่นให้คนเด็กกว่าที่ยืนอยู่ตรงข้าม



“ขอบคุณครับ”



“ให้สอนมั้ย ทำอย่างนั้นวันนี้ก็ไม่ได้กินพอดี”



“ไม่เป็นไรครับ ขอบคุณครับ”



จะหนีเขาอีกแล้ว



เอ็นดูเดินเลี่ยงไปข้างหน้า แม้จะถือจานผลไม้ที่เขาทำให้ไปด้วยก็ตาม แต่ท่าทางนิ่งๆ ของเอ็นดูทำเอาทรงโปรดชะงัก



สงสัยจะจำกันไม่ได้



ทรงโปรดเดินตามอย่างระมัดระวัง เขาเลิกสนใจวิสกี้ เพราะตอนนี้มีอะไรน่าสนใจกว่าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ตั้งเยอะ ร่างสูงชะลอเท้าเล็กน้อยก่อนหยิบหน้ากากออกจากใบหน้าของตัวเองแล้วล้วงมือไว้ในกระเป๋ากางเกง ดวงตาคมกริบจับจ้องใบหน้าหวาน จนคนถูกมองเงยหน้าขึ้น



“มีอะไรหรือเปล่าครับ”



มือขาวยกขึ้นแตะแก้มตัวเอง ใช้ตากลมๆ มองคนตัวสูง ทรงโปรดอยากเกี่ยวหน้ากากของเอ็นดูออก เขาอยากมองใบหน้าสวยๆ ให้ชัดเจนมากกว่ามีหน้ากากบดบังแบบนี้



แต่ทำแบบนั้นกระต่ายอาจจะตื่นตูม



“เพื่อนเป็นยังไงบ้าง เมื่อวานเห็นเมาไม่รู้เรื่อง”



“...”



“คืนนี้ไม่เที่ยวผับแล้วเหรอ”



“เฮ้ย”



ร้องออกมาแล้วก็รีบยกมือปิดปากตัวเอง ท่าทางลุกลี้ลุกลนของเอ็นดูทำให้ทรงโปรดยิ้มมุมปาก



สงสัยคงจำกันได้แล้วมั้ง



ถึงจะสบตากันแค่แวบเดียว แต่เขามั่นใจว่าเอ็นดูต้องบันทึกใบหน้าของทรงโปรดใส่สมองถึงได้สะดุ้งโหยงเหมือนเจอผีแบบนี้



แต่เขาไม่ใช่ผี ไม่ต้องสะดุ้งแรงแบบนั้นก็ได้



“คุณ...”



“จำได้มั้ย ที่เจอกันเมื่อคืน”



ถ้าปฏิเสธ เขาจะตีปากด้วยปาก



เพราะตอนที่เขาถามว่าจำได้มั้ย เจ้าคนเด็กกว่าก็รีบวางจานผลไม้แล้วจับต้นแขนข้างที่โดนเขาบีบเมื่อคืนทันที คงจะเจ็บ ช้ำใน หรืออะไรสักอย่างถึงได้จับตรงนั้น



“เจ็บเหรอ”



“เปล่าครับ”



“แล้วจับทำไม”



“ก็เมื่อคืนคุณจับตรงนี้”



สาบานว่าเขาไม่ได้ตาฝาด เมื่อกี้เจ้ากระต่ายน้อยน่ารักกัดปากตัวเองเบาๆ



“แสดงว่า เมื่อคืนรุนแรงไปหน่อย”



“รุนแรงอะไร”



“ที่จับแขนไง”



ทรงโปรดกลั้นยิ้มสุดฤทธิ์เมื่อเอ็นดูสะบัดหน้ารัวใส่ ปากจิ้มลิ้มมุบมิบเหมือนบ่นอะไรกับตัวเอง



“ขอโทษที่ทำให้เจ็บ”



“ไม่เจ็บครับ ไม่เป็นไร”



“สรุปยังไง ที่ถามเมื่อกี้”



คุณชายทรงโปรดหาเรื่องกระต่ายน้อยจนได้ เจ้าของร่างสูงที่ยืนล้วงกระเป๋ากางเกงวกกลับไปประโยคแรกของวันนี้ที่เขาได้สนทนากับเอ็นดู กะต้อนด้วยคำถามเดิมๆ ให้น้องตอบ แล้วจะได้เข้าคำถามอื่นๆ ต่อ



แต่คนผิวขาวกลับเอียงหน้ามอง



ทีงี้ล่ะกล้าสบตา



อยากดึงหน้ากากออกจริงๆ อยากรู้ว่าจะกล้ามองหน้าเขาตรงๆ อีกมั้ย



“คุณถามอะไรเหรอครับ”



“เพื่อนเป็นยังไงบ้าง คืนนี้ไม่เที่ยวผับแล้ว--”



ยังไม่ทันพูดจบประโยค เจ้าเด็กผิวขาวก็ยกนิ้วชี้ขึ้นแตะปากอวบ ส่วนอีกมือรีบโบกหยอยๆ มาทางเขา ศีรษะก็ส่ายไปมา ลุกลี้ลุกลนดูร้อนใจ แต่ก็ดูน่ารักในสายตาคนมอง



ทรงโปรดชอบอะไรแบบนี้



แบบเอ็นดูนี่แหละ



“อย่าพูดนะครับ” เอ็นดูหันซ้ายหันขวา เหมือนกลัวว่าจะมีคนมาได้ยิน “เดี๋ยวคุณแม่ได้ยิน...”



แต่ประโยคหลังน้องพึมพำเบาๆ แล้วทรงโปรดก็ไม่แน่ใจว่าน้องพูดอะไรเพราะเสียงเพลงในนี้ดังกลบ



“ทำไม ไม่อยากให้แม่รู้เหรอ” เดาล้วนๆ



“นี่คุณ”



“อย่างนี้แสดงว่าหนีเที่ยว”



“ไม่ได้หนีเที่ยวนะครับ ผมไปตามพี่รหัสกลับบ้าน”



ทรงโปรดพินิจใบหน้ากระต่ายที่กำลังตื่นตูม แม้จะมีหน้ากากบังอยู่ครึ่งหนึ่ง แต่แววตาที่ประกายวับวาวฉายความกังวลให้เขาเห็น



“พี่รหัสแบบไหนให้รุ่นน้องตามหิ้วกลับบ้าน” ทรงโปรดส่งเสียงทุ้มออกไปทางดุดันถามคนที่ตัวเล็กกว่า “เรียนที่ไหน คณะอะไร แบบนี้ควรฟ้องอาจารย์ดีมั้ย”



“คุณเป็นใครเนี่ย ทำไมต้องมายุ่ง--- เอ่อ ทำไมต้องมาใส่ใจเรื่องของผมด้วย”



เชื่อมั้ย ประโยคดูเกี้ยวกราด แต่น้ำเสียงของน้องสื่อออกมากได้นุ่มนวลมาก ทรงโปรดรู้ว่าน้องหมายความว่าอะไร เขากำลังโดนหาว่าไปเสือกอะไรกับเรื่องของคนอื่น ประมาณนี้



ทรงโปรดไม่แคร์ เมื่อคนตรงหน้าพูดด้วยน้ำเสียงนิ่มๆ เขาเลยไม่รู้สึกว่าตัวเองกำลังถูกด่า



“เป็นคนที่เก็บไอ้นี่ได้”



เขาหยิบสร้อยข้อมือเส้นเล็กออกจากกระเป๋าชุดสูทดำ ถือโชว์ระดับใบหน้าของน้อง แล้วก็ต้องรีบเก็บใส่กระเป๋าเหมือนเดิมเมื่อเจ้ากระต่ายยกแขนขึ้นหวังจะแย่งสร้อยข้อมือกลับคืน เอ็นดูอ้าปากสีหน้าเลิ่กลั่ก ก่อนกัดริมฝีปากเบาๆ



ทรงโปรดชักสงสัย ไอ้อาการกัดปากเอ็นดูทำจนติดเป็นนิสัยเลยหรือเปล่า



แล้วเอ็นดูไม่รู้หรือไง ว่าทำแบบนี้...ทำให้เขาอยากเข้าใกล้มากขึ้นกว่าเดิม



ไม่ใช่แค่ทรงโปรด แต่ผู้ชายคนอื่นที่เห็นก็ต้องอยากเข้าใกล้



เพราะยั่วกันขนาดนี้



“นั่นสร้อยผม”



“แน่ใจ”



“ครับ แน่ใจ เมื่อวานมันหายที่ผั--” น้องเม้มปาก ส่ายหัวแรงๆ เหมือนไม่อยากให้คำว่าผับหลุดออกจากปาก “นั่นแหละ...คุณเก็บได้เหรอครับ”



ที่พีชบอกว่าแม่ของน้องเป็นอดีตนางงามคงเป็นเรื่องจริง เพราะกิริยา ท่าทาง คำพูด การวางตัวของเอ็นดูราวกับถูกอบรมสั่งสอนมาเป็นอย่างดี พูดเพราะกับคนแปลกหน้า น้ำเสียงนุ่มละมุนชวนฟัง เป็นเสียงหวานๆ ที่เขาเก็บไปฝัน



“มีคนทำตก เลยเก็บไว้”



“มันเป็นของผมเอง ขอคืนนะครับ”



กระต่ายน้อยแบมือขอพร้อมๆ กับเพลงเต้นรำที่ดังขึ้นพอดี เสียงพิธีกรบอกว่าช่วงนี้เป็นเวลาที่ทุกคนสามารถเชิดฉายบนฟลอร์ได้ขอเพียงมีคู่เต้นรำ ทรงโปรดยกยิ้ม ตาคมจับจ้องฝ่ามือขาวที่เขาคิดว่าหากได้สัมผัส คงจะนุ่มนิ่มไม่ต่างจากเนื้อแขนของเจ้าตัว



ร่างสูงค่อยๆ สาวเท้าเดิน ซึ่งแน่นอนว่าเอ็นดูก็เดินตามทั้งที่แบมือค้างไว้อย่างนั้น



“คุณ จะไปไหน ผมขอสร้อยคืนด้วยครับ”



น้องเดินตามทุกฝีก้าว ระหว่างกลางพวกเขาทั้งสองมีโต๊ะอาหารตัวยาวขั้นอยู่ จนกระทั่งสิ้นสุดความยาวของโต๊ะอาหาร คุณชายทรงโปรดเดินอ้อมมามาอีกฝั่ง ร่างสูงชะลอเท้าเมื่อเอ็นดูเดินใกล้เข้ามา ก่อนที่น้องจะชะงักนิ่งเมื่อระยะห่างตอนนี้ไม่ได้มีมากเหมือนก่อนหน้านั้น



ไม่มีโต๊ะอาหารแบ่งเขต ทรงโปรดเลยลดระยะให้ความใกล้ของเขากับน้องเพิ่มมากขึ้นกว่าเดิม



เอ็นดูสาวเท้าหนีไปหนึ่งก้าว และเขาคิดว่าต้องมีก้าวต่อไปแน่ๆ แต่คนอย่างทรงโปรดไม่มีวันปล่อยให้คนที่เขาถูกใจหนีหายไปไหนเป็นครั้งที่สอง



มือเล็กๆ ที่ยื่นรอเพื่อขอสร้อยคืนเลยถูกกุมไว้ด้วยมือหนา นิ้วเรียวยาวของเขาสอดประสานกับนิ้วของน้อง ทรงโปรดดึงร่างที่เล็กกว่าแนบชิดจนใบหน้าหวานแนบบนอกกว้าง เขาจับมืออีกข้างของเอ็นดูแล้วบังคับวางบนไหล่กว้าง ก่อนที่เอ็นดูจะได้ขัดขืน มือหนาอีกข้างก็ล็อกเอวบางของน้องไว้แล้ว



“คุณ ปล่อยผม”



“ไม่เห็นหรือไง คนอื่นเขาจับคู่เต้นรำกันหมด”



“เห็นครับ แต่คนอื่นเขาจับคู่ชายหญิง...ไม่ใช่แบบนี้”



เสียงน้องอู้อี้ เอ็นดูพยายามขืนตัวออกเพราะตอนนี้กลายเป็นว่าตัวเองตกอยู่ในอ้อมกอดของร่างสูง แต่ทรงโปรดแรงเยอะ แถมมือไม้ยังเหนียวหนึบเหมือนติดกาวเลยทำให้ขยับตัวตามใจตัวเองไม่ได้เลย



“สมัยไหนแล้ว ผู้ชายด้วยกันก็จับคู่เต้นรำได้”



“จะสมัยไหนก็ไม่ได้ทั้งนั้นแหละครับ”



“ตอนอยู่มัธยมเคยเรียนลีลาศมั้ย เวลาที่ผู้หญิงไม่พอให้จับคู่ ผู้ชายก็ต้องจับคู่ซ้อมกันเอง”



“เคยเรียนครับ แต่ไม่เคยจับคู่กับผู้ชาย”



“งั้นนี่ก็เป็นครั้งแรก”



“คุณ ปล่อยได้แล้ว”



ทรงโปรดชอบเสียงร้องที่ฟังดูวุ่นวาย หงุดหงิด แต่สื่อออกมาได้นุ่มนวล นุ่มนิ่มในแบบฉบับของเอ็นดู เขาหัวเราะเบาๆ ก่อนขยับเท้าไปข้างหลังเล็กน้อย แน่นอนว่าคนตัวเล็กในอ้อมกอดก็ก้าวเท้าตามโดยอัตโนมัติ



“เต้นรำเก่งนะเรา”



“ก้าวเท้าตามคุณไง”



“แสดงว่าเป็นผู้นำที่ดี”



เขาอวยตัวเองหนักเอาการ และถ้าตอนนี้จ้องหน้าสบตากัน คงได้เห็นเอ็นดูเบ้ปากใส่



“ผมเป็นผู้ตามที่ดีต่างหาก”



“ถ้าคนนำก้าวเท้าไม่ดี คนตามจะก้าวตามดีๆ ได้ยังไง”



เขาได้ยินเสียงน้องถอนลมหายใจ



“เอาเถอะครับ เรื่องของคุณเลย”



เพราะขัดขืนไม่ได้เอ็นดูเลยจำใจจมอยู่ในอ้อมกอดของร่างสูง แก้มขาวแนบอกกว้าง ทรงโปรดรู้ว่าน้องไม่ได้อยากใกล้ชิดคนแปลกหน้าอย่างเขา แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เพราะตอนนี้ใกล้จนไม่มีระยะห่าง



“แต่ถ้าคนนำก้าวพลาดจะเป็นแบบนี้”



“เฮ้ย คุณ!”



ทรงโปรดสาธิตผู้นำเต้นรำที่ก้าวเท้าพลาด ด้วยการก้าวเท้าไปข้างหลัง เพียงเสี้ยววินาทีเขาก็ชักเท้ากลับที่เดิม เป็นจังหวะเดียวกับที่เอ็นดูก้าวเท้าตามพอดี เลยทำร่างเล็กปะทะกับคนตัวสูงอย่างจังจนหลุดร้องออกมา



คนในอ้อมกอดทรงตัวไม่ได้ ซวนเซทำท่าจะล้มแต่ทรงโปรดกระชับเอวบางให้แน่นกว่าเดิม เลื่อนท่อนแขนแกร่งโอบหลังของเอ็นดูพลางลูบปลอบเบาๆ



ทรงโปรดหยุดเต้นรำนำน้องแม้ว่าเพลงจะบรรเลงดังอย่างต่อเนื่อง มือเล็กที่ประสานนิ้วกันบีบเข้ากับมือของเขาก่อนจะคลายแรงนั้นออก เอ็นดูเงยหน้ามองทรงโปรด สายตาของน้องฉายแววกังวล



“อย่าทำแบบนี้อีกนะคุณ”



“ทำไม”



“ยังต้องถามอีกเหรอครับ” เอ็นดูกัดปากเบาๆ “คุณเป็นใครไม่รู้...จู่ๆ ก็มากอด”



โคตรน่ารัก...



ทรงโปรดรู้สึกอยากฟัดคนที่เพิ่งเจอหน้ากันแค่สองครั้งจริงๆ เอ็นดูอาจจะไม่รู้ว่าความนุ่มนิ่มน่าบีบไปซะทุกส่วนของตัวเองทำให้ใจของใครอีกคนสั่นรัว เอ็นดูต้องไม่มีทางรู้ว่าน้ำเสียงของตัวเองชวนฝันหวานมากแค่ไหน และที่สำคัญ



ตัวน้องโคตรจะหอมเลย



โรคจิตก็คราวนี้แหละวะไอ้โปรด



“อยากรู้จักมั้ย เดี๋ยวบอกชื่อ”



“ไม่ครับ คืนสร้อยมาก็พอ”



“ไม่คิดจะขอบคุณคนที่เก็บสร้อยได้หน่อยเหรอ”



“ต้องคืนของก่อนสิครับ”



“ได้”



“คุณ!”



“ชู่ว”



ทรงโปรดคลายมือที่ประสานนิ้วกับน้องออก แล้วใช้มือข้างนั้นเกี่ยวเอาสายของหน้ากากที่คล้องใบหูขาวออกตามไปด้วย เอ็นดูหันหน้าหวังจะหนี แต่สุดท้ายก็ต้องยืนนิ่งยอมให้เขาเป็นคนถอดหน้ากากออกใบหน้า



จนกระทั่งมันหลุดออก ทรงโปรดโยนหน้ากากของเอ็นดูทิ้งลงพื้นทันทีที่เห็นใบหน้าขาวนวลเต็มตา


เอิบอิ่มทุกสัดส่วน

เขารับรู้ได้ทันทีว่าน้องหายใจแรงกว่าเดิม คนตัวเล็กในอ้อมกอดไม่ยอมสบตาเหมือนตอนที่หน้ากากยังบดบังครึ่งใบหน้า เอ็นดูหนีสายตาคมด้วยการก้มมองพื้น แต่ก็ถูกมือหนาเชยคางมนขึ้นจนได้



แล้วก็เป็นอีกครั้งที่เอ็นดูแพ้เขา



“ชายโปรด!”



“เอ็นดู...ลูก!”



เสียงของผู้หญิงสองคนดังขึ้น เสียงหนึ่งที่เรียกชื่อจริงเขาจำได้ว่าเสียงของคุณแม่ ส่วนอีกเสียงที่เปล่งเรียกชื่อเอ็นดูด้วยความตกใจ...น่าจะเป็นเสียงคุณแม่ของน้อง



และเสียงสองเสียงนั้นส่งผลให้เขากับเอ็นดูหันหน้ามองเพียงแค่เสี้ยววินาทีฝ่ามือเล็กๆ ก็รีบดันไหล่ของเขาออกอย่างเต็มแรง ร่างสูงเซถอยหลัง แต่เขาก็สามารถตั้งหลักแล้วกลับมายืนล้วงกระเป๋าเท่ๆ ได้เหมือนเดิม



คนน่ารักหนีไปยืนข้างแม่แล้ว



“น้องชายโปรดรู้จักน้องเอ็นดูมาก่อนเหรอคะ”



เป็นหม่อมราชวงศ์รฐาที่เปล่งเสียงพูดปนรอยยิ้ม คุณชายทรงโปรดมั่นใจว่าพี่สาวของเขาเห็นภาพที่เขากับน้องยืนกอดกันกลางฟลอร์ เพราะเธอเล่นขยิบตายิ้มกริ่มแบบพี่น้องรู้กันให้ซะขนาดนั้น



ตาคมมองเจ้าเด็กน่ารักที่ไปยืนกัดปากก้มหน้าหลบสายตา นึกคิดถึงกลิ่นหอมหวานจากตัวของน้องทันที อยากใกล้ อยากกอดอีกครั้ง



เมื่อกี้ยังไม่หนำใจ



“บังเอิญครับ เมื่อวานผมเจอน้องที่ผั--”



“ที่ห้างครับ”



แล้วเจ้าคนน่ารักก็พ่นโกหกคำโตออกมา



“...เอ็นเจอคุณชายที่ห้าง เขาเก็บสร้อยของเอ็นได้ครับคุณแม่”



คงเป็นห้างที่มีเพลงเปิดดังๆ มีแอลกอฮอล์แทบทุกแบรนด์ แล้วก็มีพี่รหัสหัวสีเหลืองที่เมาแอ๋



ทรงโปรดยกยิ้ม ผงกศีรษะให้กับความโป้ปดเก่งของเอ็นดู เขายังไงก็ได้อยู่แล้ว ถ้าเอ็นดูไม่อยากให้บอกกับผู้ใหญ่ว่าไปเจอกันที่ไหน เขาก็จะไม่บอก



แต่การที่ทรงโปรดต้องช่วยน้องโกหกผู้ใหญ่...ต้องมีข้อแลกเปลี่ยน



“บังเอิญจังเลยค่ะ ชายโปรด...แม่กำลังจะแนะนำให้รู้จักพอดี”



ไม่มีใครสงสัยเลยสักนิด แถมยังยินดีที่เขากับเอ็นดูเคยเจอกันแล้ว



“ชายโปรดครับ นี่คุณน้าแอ้ เพื่อนแม่เอง”



“สวัสดีครับคุณน้าแอ้”



หม่อมราชวงศ์ทรงโปรดโน้มตัวยกมือไหว้คุณแอ้อย่างสุภาพ คุณแม่เขาน่ะเพื่อนเยอะ จำไม่หมดหรอกว่าใครเป็นใครบ้าง แต่สงสัยคนคนนี้คงต้องจำให้ขึ้นใจ



“สูงหล่อมากๆ เลยค่ะคุณนัด แอ้เคยเจอแต่คุณชายเพลิงก็คิดว่าสูงแล้วนะคะ แต่คุณชายโปรดสูงกว่าพี่ชายอีก”



ในบรรดาพี่น้องผู้ชาย ทรงโปรดสูงสุด เขาสูง 188 เซนติเมตร



“ชายโปรดชอบเล่นกีฬาค่ะคุณแอ้ เลยสูงนำพี่ๆ”



“ทฤษฎีดื่มนมอย่างเดียวไม่ได้ผลค่ะคุณนัด เอ็นดูดื่มแต่นมเลยสูงเท่านี้เอง”



“สูงเท่านี้เหมาะดีแล้วค่ะ น่ารักน่าตีจะตายไป”



เห็นมั้ย คุณแม่ยังคิดเหมือนกัน



ทรงโปรดมองคนตัวเล็กที่เอาแต่ก้มหน้า สองมือขาวที่เขาเคยสัมผัสประสานกลัดกุมกันไว้ น้องดูท่าทางอึดอัดเหมือนอยากออกจากที่นี่เร็วๆ



“คุณแม่ครับ เอ็นขอตัวกลับก่อนได้มั้ย...พอดีพรุ่งนี้มีสอบตอนเช้า ไม่อยากนอนดึกครับ”



คนไม่อยากนอนดึกที่เมื่อวานไปโผล่ในผับตอนเที่ยงคืนหน้ามุ่ยใส่คุณแม่ ทรงโปรดสังเกตทุกอาการของเอ็นดู รู้ว่าน้องไม่ได้อยากจะโกหกเลยพยายามหนีออกจากที่นี่ ทั้งที่ตอนนี้เป็นเวลาแค่สองทุ่มเศษเท่านั้น



“ตอนนี้ฝนตกหนักเลยนะลูก ว่าแต่เอ็นดูพักอยู่ที่ไหนเหรอครับ” แล้วก็เป็นแม่ของเขาเองที่แสดงความห่วงใหญ่โดยการไถ่ถาม



“เอ็นพักอยู่ที่คอนโด Star view ครับคุณน้า”



ตาคมมองคนเด็กกว่าที่พูดจาดูสนิทสนมเข้ากับผู้ใหญ่ง่าย พอเหลือบมองคุณแม่ของเขาก็เห็นว่าท่านดูโปรดปรานเจ้าเด็กขี้โกหกคนนี้เหลือเกิน



“งั้นก็ให้ชายโปรดไปส่งได้น่ะสิ”                                                   



เขาหันขวับมองคุณแม่ก่อนเหลือบมองเอ็นดูที่ทำตาโตเลิ่กลั่ก แล้วทรงโปรดก็คลี่ยิ้มออกมา



ขอบคุณครับคุณแม่ รักคุณแม่ที่สุดในโลกเลย



“อ้าว คุณชายโปรดจะกลับเลยเหรอคะ” คุณแม่ของน้องถาม



เขาไม่ต้องตอบ คุณแม่ก็ทำหน้าที่ตอบแทนทุกอย่าง



“ชายโปรดไม่อยากอยู่ในงานนานอยู่แล้วค่ะคุณแอ้ นี่ก็คงอยากกลับแทบแย่”



คุณแอ้ยิ้มกว้างพลางยกมือลูบผมสีน้ำตาลเข้มของเอ็นดู ท่านจับมือน้องแล้วพาเดินมาหยุดตรงหน้าร่างสูง



ดีว่ะ ผู้ใหญ่เข้าทางขนาดนี้



“อย่างนั้นน้าฝากน้องด้วยนะคะคุณชาย น้าไม่อยากให้กลับบ้านคนเดียวเลย กลัวจะเป็นอันตรายค่ะ”



แต่คนที่อยากกลับบ้านทำหน้าเหมือนคนจะร้องไห้



ทรงโปรดคลี่ยิ้ม โน้มศีรษะเล็กน้อยก่อนเอื้อมมือไปจับมือขาวของเอ็นดูเอาไว้ ออกแรงดึงนิดหน่อยน้องก็มายืนก้มหน้าข้างๆ เขาแล้ว



“ได้ครับคุณน้า ผมจะดูแลน้องอย่างดี”



ทรงโปรดเหลือบมองคนข้างกาย และยกยิ้มให้เมื่อเห็นว่าเอ็นดูก็เงยหน้ามองเขาพอดี



คุณแม่หวงขนาดนี้ สงสัยต้องส่งให้ถึงเตียงเลยว่ะ

 

 

 



#ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี




-----


พี่โปรดเขาก็จะขี้แกล้งหน่อยๆ ><


 :z13:

หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ตอน 02 - up 24.8.61
เริ่มหัวข้อโดย: ก้อนขี้เกียจ ที่ 24-08-2018 15:22:00
งุ้ยน่าฟัดจริงๆ ด้วย  :-[
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ตอน 02 - up 24.8.61
เริ่มหัวข้อโดย: TheWanFah ที่ 24-08-2018 15:58:56
ผู้ใหญ่ก็เห็นดีเห็นงามด้วย
ชอบน้องเอ็นดู นุ่มนิ่ม น่าบีบมากเลยค่ะลูก
พี่โปรดก็ขี้แกล้งมากๆเลยเนอะ
รออ่านตอนต่อไปแล้วค่ะ
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ตอน 02 - up 24.8.61
เริ่มหัวข้อโดย: arjinn ที่ 24-08-2018 16:00:58
เชียร์ให้ส่งถึงเตียงค่ะ
ว่าแต่น้องก็แอบชอบหรือเปล่าหนอ อาการไม่กล้าสบตานี่น่าสงสัย
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ตอน 02 - up 24.8.61
เริ่มหัวข้อโดย: Chompoo reangkarn ที่ 24-08-2018 17:22:51
 :ling1


สงสารน้องจะตามเสือร้ายอย่างชายโปรดได้งัยเนี่ยะ  สนุกมากแวดวงศไฮโซ

หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ตอน 02 - up 24.8.61
เริ่มหัวข้อโดย: ammchun ที่ 24-08-2018 20:44:20
ฮืออออออ  น้องงงงงงหนีไปปปปปปปปปปป
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ตอน 02 - up 24.8.61
เริ่มหัวข้อโดย: กาแฟมั้ยฮะจ้าว ที่ 25-08-2018 13:22:04
ขอบคุณครับ +1 ให้นะครับ :a2:
หัวข้อ: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ตอน 03 - up 28.8.61
เริ่มหัวข้อโดย: Swanlee ที่ 28-08-2018 15:04:34










03

เป็นเกลียวคลื่นที่กระทบในอกซ้าย

แล้วเราก็ลงไปในนั้น จนแทบขาดอากาศหายใจ

 







“ไม่ต้องจับมือแล้วก็ได้มั้งครับ”



ทั้งที่เดินอยู่ในลานจอดรถแล้วแท้ๆ หม่อมราชวงศ์ทรงโปรดยังจับมือไม่ยอมปล่อย และรู้ทั้งรู้ว่าตัวเองสูงกว่าก็ยังแกล้งด้วยการก้าวขายาวเดินไปตามโถงทางเดินของโรงแรมอย่างเร็วจนเอ็นดูแทบต้องวิ่งตาม



“ปล่อยได้ยังไง เดี๋ยวลูกคุณน้าหายรับผิดชอบไม่ไหวพอดี”



“คุณพูดเว่อร์”



“ขึ้นรถ”



คุณชายทรงโปรดรับกุญแจรถจากคนขับรถที่ก่อนหน้านั้นยึดกุญแจเขาไป เสียงปลดล็อกประตูรถดังขึ้นพร้อมๆ กับเสียงทุ้มของเขา เอ็นดูเงยหน้ามองทรงโปรดแวบเดียว ก่อนเปิดประตูรถแล้วหย่อนตัวเข้าไปนั่ง



ขนาดทำตามคำสั่งของคนโตกว่าอย่างดี เขายังไม่ยอมปล่อยมือเอ็นดูออกเลย



“จะปิดประตูครับ”



เขาถึงยอมปล่อย



เมื่อมือขาวเป็นอิสระ เอ็นดูเลยคว้าประตูรถแล้วดึงเข้าตัวเพื่อปิด เพียงแค่ไม่กี่วินาทีเจ้าของรถก็เข้ามานั่งในตำแหน่งคนขับ เอ็นดูกัดริมฝีปากเหลือบมองทรงโปรดที่ทำหน้าสบายอกสบายใจ



เอ็นดูเบนสายตาจากใบหน้าของเขาแล้วมองไปที่อื่น มือขาวดึงสายเบลท์เพื่อคาดตัว แต่ดึงยังไงก็ดึงไม่ออก เลยตัดใจปล่อยเลยตามเลย



“คุณ! อีกแล้วนะ จะทำอะไรครับ”



“จะคาดเบลท์ให้”



“ไม่เป็นไร ผมคาดเองได้”



ใจแทบร่วงลงตาตุ่มเมื่อร่างสูงขยับตัวแนบชิด มือหนาข้างซ้ายเอื้อมพาดตัวเอ็นดู ส่วนมือขวาอ้อมผ่านด้านหลัง กักขังไว้ในอ้อมกอดอีกครั้ง และใกล้ชิดเอ็นดูอีกครั้ง



มือเรียวเล็กทาบบนอกกว้างพร้อมออกแรงดันแต่ทรงโปรดไม่สะท้าน แถมยังทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ ยื่นจมูกของตัวเองเข้าใกล้กับพวงแก้มยุ้ยของเอ็นดูจนเจ้าตัวต้องหันหน้าหนี



คนอะไรไม่รู้ชอบฉวยโอกาส



“ถ้าจะคาดเองทำไมไม่คาดตั้งแต่แรก”



“ก็สายเบลท์รถคุณดึงไม่ออก ติดอะไรอยู่ไม่รู้”



ดูเหมือนว่าทรงโปรดก็กำลังพยายามดึงมันออกอยู่เหมือนกัน เอ็นดูกลั้นหายใจเมื่อลมอุ่นๆ จากปลายจมูกโด่งของร่างสูงสัมผัสลงบนลำคอขาวของตัวเอง เม้มปากแน่น กลืนน้ำลายคอช้าๆ รอให้เวลาที่ตัวเองได้เป็นอิสระมาถึงไวๆ



จนกระทั่งตาเรียวเห็นสายเบลท์สีดำถูกดึงออกโดยมือหนา ทรงโปรดดึงเบลท์พาดกายของเอ็นดู เขาผละตัวถอยออกก่อนขยับไปนั่งประจำที่คนขับเหมือนเดิมเมื่อเสียงล็อกของเบลท์ดังขึ้น



เอ็นดูยกมือขึ้นจับเบลท์แน่น ต่างคนต่างเงียบ



ไม่ได้อยากจะเหลือบมองเขาเลย แต่สายตาดันเผลอมองตลอด และทุกครั้งที่เหลือบมองก็เห็นว่ามุมปากหยักของคุณชายทรงโปรดกำลังยกยิ้มอยู่ด้วย



คงมีความสุขมากที่ได้แกล้ง



“จอดหน้าโรงแรมก็ได้นะครับ”



เมื่อรถเบนซ์สีดำคันหรูเคลื่อนตัวออกจากลานจอดรถ เอ็นดูก็เปล่งเสียงบอกทรงโปรด คงดีกว่าถ้าหารถกลับเอง อย่างน้อยก็ไม่ต้องนั่งร่วมทางกับเขา



แต่เมื่อตอนที่รถออกสู่ถนนใหญ่ทรงโปรดกลับไม่แวะจอดตรงไหนให้สักที่ เขาเอื้อมมือเปิดเพลงเพราะๆ จากคลื่นวิทยุแล้วขับต่อไปท่ามกลางสายฝนที่กระหน่ำลงมา



“คุณ”



“รับปากคุณน้าแอ้ไว้แล้วว่าต้องส่งให้ถึงที่”



“ไม่เป็นไรหรอกครับ ออกมาขนาดนี้แล้วคุณแม่คงไม่รู้”



“...”



“ไม่อยากรบกวนเวลาคุณด้วย”



“จะให้จอดแล้วทิ้งไว้แถวๆ นี้ จากนั้นก็ไปโกหกคุณน้าแอ้ว่าส่งลูกชายถึงหน้าคอนโดอย่างนั้นเหรอ”



จังหวะที่รถติดไฟแดงร่างสูงเปล่งเสียงถามเอ็นดูที่นั่งหายใจไม่ทั่วท้องอยู่บนรถ ยังคงแอบมองเขาอยู่ แต่เว้นระยะเพราะตอนนี้ทรงโปรดกำลังหันหน้าจ้องเอ็นดูด้วยดวงตาคมกริบ



“โกหกคนเดียวไม่พอ ยังชอบให้คนอื่นช่วยโกหกอีกด้วย”



“...”



“ร้ายนะเรา”



“ขอโทษครับ ผมไม่ได้อยากโกหก”



เอ็นดูขอโทษเขาจากใจจริง ใช่ว่าอยากโกหกซะเมื่อไหร่ และไม่ใช่แค่เปล่งคำขอโทษออกมาอย่างเดียว แต่สองมือขาวเรียวยังยกขึ้นพนมก้มหน้าไหว้คนอายุมากกว่าอีกต่างหาก



หม่อมหลวงจิรา วงศ์ประดิษฐ์ ถูกเลี้ยงดูปูเสื่อมาอย่างดี เอ็นดูเป็นผ้าขาวสะอาดเอี่ยมของตระกูลวงศ์ประดิษฐ์ ถูกเลี้ยงมาให้อยู่ในโอวาทของคุณหญิงลักขณาผู้เป็นป้าที่ค่อนข้างจะเป็นคนหัวโบราณ ทำให้เอ็นดูไม่สามารถนอกลู่นอกทางได้



ปกติเอ็นดูต้องอาศัยในวังที่เขาใหญ่ แต่เพราะสอบติดมหาวิทยาลัยดังในกรุงเทพฯ เขาเลยได้รับอนุญาตจากผู้ใหญ่ให้ออกมาใช้ชีวิตคนเดียวได้ คุณแอ้ซื้อคอนโดใจกลางกรุงฯ ให้เอ็นดูที่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากมหาวิทยาลัย



คุณแม่อะลุ่มอล่วยกฎครอบครัวกับเอ็นดูมากที่สุดแล้วเพราะท่านเป็นผู้หญิงสมัยใหม่ แต่สิ่งที่คุณแม่ขออย่างเดียวก็คืออย่าไปเที่ยวสังสรรค์ดึกดื่น พยายามอย่าไปในสถานที่ที่คุณหญิงป้าไม่ชอบเพราะหากรู้ถึงหูหม่อมราชวงศ์ลักขณาขึ้นมาเมื่อไหร่ ไม่ใช่เอ็นดูที่ถูกดุคนเดียว แต่คุณหญิงป้าอาจจะดุคุณแม่ไปด้วย



“ไม่ได้อยากโกหกแต่ก็โกหกไปแล้ว”



เอ็นดูกัดริมฝีปากอวบเบาๆ อยากถอนหายใจแรงเพื่อระบายความอึดอัดใจแต่ก็กลัวเสียมารยาท แค่นี้เอ็นดูก็ถูกข้อหาคนขี้โกหกรัดตัวไปหมดแล้ว



“ผมมีเหตุผลครับ”



“เหตุผลอะไร” เขาถามพร้อมหันหน้าหล่อๆ มองคนตัวขาว



“คืนสร้อยมาก่อนได้มั้ย แล้วผมจะบอก”



“คนที่โกหกมีข้อแม้ได้ด้วยเหรอ”



“คุณ”



“บอกเหตุผลมา ถ้าฟังขึ้นจะคืนสร้อยให้”



“ไม่เกี่ยวกันมั้งครับ สร้อยของผม คุณเก็บได้ก็ควรคืน”



“เกี่ยวสิ”



เป็นผู้ชายที่เอาแต่ใจตัวเองมาก



แต่เอ็นดูก็ทำอะไรเขาไม่ได้เลย เพราะตอนนี้ทรงโปรดเป็นคนกุมความลับของเอ็นดูอยู่ ถ้าเกิดเรื่องที่เขาเข้าผับถึงหูคุณแม่กับคุณหญิงป้าเมื่อไหร่ เอ็นดูคงถูกเรียกกลับวังแล้วอาจจะถูกกักบริเวณทันที



ยังไงตอนนี้ก็หาทางเลือกอื่นไม่ได้ ในเมื่อสร้อยข้อมือยังอยู่กับเขา และทรงโปรดเองก็เป็นคนที่ถือไพ่เหนือกว่า...บอกเหตุผลไปคงไม่มีอะไรเสียหาย



“คุณแม่ไม่ชอบให้ผมไปในที่แบบนั้นครับ”



“อืม” เขาครางรับเสียงเบา



“แต่ที่คุณเจอเมื่อวาน เพราะว่าพี่ปัน...พี่รหัสเขาอกหักแล้วดื่มหนักมาก ผมกลัวว่าจะเกิดอันตรายเลยไปรับกลับห้อง”



“...”



“...”



เอ็นดูเม้มปากแน่น บีบมือตัวเองเบาๆ ไม่รู้ว่าความจริงที่พูดไปทรงโปรดจะเชื่อมากน้อยแค่ไหน แต่อย่างน้อยเขาก็คือคนเดียวที่เอ็นดูไม่ได้โกหกด้วย



“คอนโดอยู่ข้างหน้าใช่มั้ย”



“ครับ? อ่อ ใช่ครับ”



เขาไม่หือไม่อืออะไรกับเหตุผลของเอ็นดูเลยสักนิด แต่เปลี่ยนเรื่องได้เร็วเหมือนเปลี่ยนเครื่องดื่มในผับ



ทรงโปรดพยักหน้าเล็กน้อยก่อนหักพวงมาลัยเลี้ยวเข้าบริเวณคอนโดหรู ก่อนจะขับรถขึ้นบนลานจอดรถของคอนโด



“คุณจะขึ้นไปดื่มน้ำก่อนมั้ยครับ”



“อือ กำลังคอแห้งอยู่พอดี”



เอ็นดูชะงักหันขวับมองทรงโปรด เบิกตากลมของตัวเองเล็กน้อย อ้าปากค้างเพราะไม่คิดว่าประโยคที่เอ่ยตามมารยาทจะส่งผลให้คนตัวสูงเปิดประตูแล้วลงจากรถคันหรูในทันที



งานเข้าแล้ว



“ไม่ลงมาล่ะ”



เอ็นดูปลดเบลท์เมื่อทรงโปรดเดินอ้อมจากอีกฝั่งมาเปิดประตูรถให้ คนผิวขาวก้าวลงจากรถก่อนเสียงประตูปิดจะดังขึ้น เงยหน้ามองร่างสูงแวบเดียวก็ต้องหลบสายตาเมื่อพบว่าเขาจ้องมองก่อนอยู่แล้ว



“พักอยู่ชั้นไหน”



“ห้าสิบสองครับ”



“โอเค เชิญครับ”



หม่อมราชวงศ์ทรงโปรดผายมือให้เอ็นดูเดินนำไปก่อน คนผิวขาวก้าวขาพลางยกข้อมือขวาขึ้นมาลูบเบาๆ



สร้อยยังอยู่กับทรงโปรด แต่จะขอคืนตอนนี้เขาคงทำไม่รู้ไม่ชี้ใส่อีก



คงต้องรอให้เขาดื่มน้ำจนสบายใจก่อน แล้วค่อยทวงสร้อยคืนอีกที










*****











เพราะว่าวันนี้ฝนตกหนัก เอ็นดูเลยไม่ได้ออกไปยืนริมระเบียงเพื่อดูแสงสีของแม่น้ำเจ้าพระยาเหมือนวันก่อนๆ มือขาวดึงผ้าม่านปิดหน้าต่าง นอกจากเม็ด นอกจากฝนที่สาดกระทบเกาะอยู่บนกระจกก็ไม่มีอะไรน่ามองแล้ว



นอกซะจากเจ้าของร่างสูงที่นั่งดูทีวีจิบน้ำแก้วเดียวมานานเกือบสองชั่วโมง



ตั้งแต่ถึงห้อง เอ็นดูเดินทำอะไรเรื่อยเปื่อยเสร็จไปแล้วเยอะมาก เสิร์ฟน้ำให้ทรงโปรด หวังว่าเขาจะจิบเบาๆ แล้วขอตัวกลับ แต่เปล่าเลย ทรงโปรดขอเปิดทีวีดูข่าว แล้วทำตัวสบายๆ เหมือนที่นี่เป็นบ้านของตัวเอง



เขาจะทำตัวสบายๆ ก็ไม่ผิดหรอก เพราะเอ็นดูพลาดเองที่บอกกับเขาว่า ‘ตามสบายครับ’



พลาดเองจริงๆ



ใครจะคิดว่าเขาจะทำตัวตามสบายแบบนี้



“คุณ ยังไม่กลับอีกเหรอครับ”



เอ็นดูยืนห่างจากร่างสูงที่นั่งอยู่บนโซฟาราวห้าเมตร เอ่ยปากถามเชิงไล่ให้เขากลับบ้านกลับช่องได้แล้ว



ทรงโปรดมองออกไปข้างนอกหน้าต่าง แต่พอพบว่ามีม่านปิดอยู่เขาเลยขยับตัวลุกขึ้นเดินไปตรงนั้น มือหนาแง้มม่านสีเทาออกเล็กน้อย ก่อนปิดมันไว้เหมือนเดิมแล้วเดินกลับมายืนอยู่ตรงหน้าโซฟา



“ฝนยังตกอยู่ ตกหนักด้วย”



เอ็นดูเห็นเขายกยิ้ม



“ใจคอจะไล่กลับทั้งๆ ที่ฝนอยู่แบบนี้เลยเหรอ”



“แล้วคุณจะเอายังไง”



“ก็ต้องอยู่ที่นี่จนกว่าฝนจะหยุดตก”



“งั้นคงเช้าเลยแหละครับ”



“อืม”



“...”



“ถ้าหยุดตกตอนเช้าคืนนี้คงต้องนอนค้างที่นี่”



ร่างสูงยืนล้วงกระเป๋ากางเกง เปล่งเสียงทุ้มด้วยท่าทางนิ่งเฉย ผิดกับเอ็นดูที่ขมวดคิ้ววุ่นวาย ส่ายหน้าจะพูดปฏิเสธแต่ก็ถูกคุณชายทรงโปรดดักทางไว้ก่อน



“อย่าลืมนะว่าเราทำเรื่องอะไรไว้”



“ผมรู้ว่าผมโกหก ผมขอโทษและบอกเหตุผลให้คุณฟังไปหมดแล้ว”



เอ็นดูไม่ชอบที่ตัวเองเป็นแบบนี้เลย การที่ไม่สามารถควบคุมอารมณ์ตัวเองได้เพราะถูกเขาแกล้งมันทำให้เอ็นดูหงุดหงิดตัวเองที่สุด รู้ทั้งรู้ว่าเขาจงใจทำให้ปั่นป่วนแต่ก็ยังหลงเข้าไปอยู่วังวนคนขี้แกล้งอยู่ดี



“ฝนตกไม่พอ แต่เมาด้วย ทำไมใจร้ายไล่กลับบ้านแบบนี้”



“คุณเมาเหรอ”



“ใช่”



“เมาแล้วขับรถมาส่งผมทำไมครับ”



“ก็คุณน้าแอ้ฝากฝังไว้แล้ว”



“ดื่มด้วยเหรอ ทำไมไม่เห็น...” เอ็นดูพึมพำเพราะไม่อยากส่งเสียงเถียงกับเขาแล้ว



“ดื่มวิสกี้ไปแก้วหนึ่ง”



ร่างสูงยกยิ้มตอนที่เอ็นดูสบตาเขา



ปากจิ้มลิ้มมุบมิบเหมือนจะพูดอะไรต่อ แต่ก็เปลี่ยนเป็นเม้มแน่น



“นอนห้องไหน”



“ผมเหรอครับ”



“ใช่”



“ห้องนี้ เฮ้ย ไม่ๆ คุณ”



เสียงร้องหวานๆ ดังขึ้นเมื่อทรงโปรดสาวเท้าเข้าไปในห้องนอนของเอ็นดู เขาถอดสูทสีดำออกแล้วพาดไว้กับเก้าอี้ที่ตั้งอยู่ในห้องนอนก่อนล้มตัวลงบนเตียงนุ่มๆ ที่มีกลิ่นหอมของเจ้าของห้องติดอยู่



เอ็นดูวิ่งตามมาติดๆ จะร้องบอกให้ทรงโปรดลุกขึ้นแล้วออกจากนี้ไปก็ไม่ได้แล้ว เพราะมือหนาค่อยๆ ปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตสีขาวของเขาออกทีละเม็ดจนแผงอกขาวกำยำเผยต่อหน้าต่อตาเอ็นดู



ทรงโปรดดุนลิ้นข้างแก้ม ยกยิ้มร้ายตามแบบฉบับคนเจ้าเล่ห์



 “สร้อยข้อมืออยู่ในกระเป๋าเสื้อ”



 “ผมหยิบได้ใช่มั้ยครับ”



แต่เขาก็เจ้าเล่ห์กับเอ็นดูคนเดียวเท่านั้น



“ได้”



“ขอบคุณนะครับที่เก็บสร้อยไว้ให้”



“แต่คืนนี้ห้ามหนีไปนอนที่อื่น”



เขารู้ทันความคิดเจ้ากระต่ายน่ารักนี่หมดแหละ



“เคยนอนตรงไหนก็นอนตรงไหน”



“ผมนอนตรงนี้”



เอ็นดูชี้นิ้วไปตรงจุดที่เขานอนอยู่



“แต่คุณนอนอยู่”



“ไม่เป็นไร เดี๋ยวขยับให้”







*****







จอมภพPP: เมื่อคืนไม่ครบแก๊งว่ะ

จอมภพPP: มีคนหายหัว

Peach: ไอ้หม่อมถูกคุณแม่กักตัวเหรอวะ

จอมภพPP: หรือว่ามันจะเจอหญิงถูกใจแล้วนัดกินตับ

Peach: ก็น่าคิด ได้ข่าวว่าเมื่อคืนหม่อมมันไปงานเลี้ยงด้วย น่าจะเจอคุณหนูสวยๆ เปล่าวะ

จอมภพPP: ตรวจเลือดด้วยเพื่อน อย่ามั่วมากน้าเป็นห่วง

Prod: รำคาญ

จอมภพPP: เกี้ยวกราดใส่เพื่อนแต่เช้า

Peach: เมื่อคืนไม่มาร้านกู ไปไหนมาวะ

Prod: งานเลี้ยง

Peach: ไม่ดิ งานเลี้ยงกี่ครั้งมึงก็ปลีกตัวมาร้านได้

Prod: เบื่อ จะให้ไปทุกวันเลยเลยหรือไง

จอมภพPP: อย่างไอ้โปรดเนี่ยนะเบื่อ

Prod: เออ เมื่อวานไปส่งเด็กมา

จอมภพPP: นั่นไงกูว่าละ

จอมภพPP: เฮ้ย เดี๋ยวๆ

จอมภพPP: มึงส่งเด็กด้วยวิธีไหนวะ

จอมภพPP: ลงมาส่งแล้วให้เขานั่งแท็กซี่กลับเองงี้อ่อ พ่อคนหวงรถ

Prod: เปล่า ก็ขับไปส่ง

Peach: กูไม่เชื่อ

จอมภพPP: กูก็ไม่

จอมภพPP: นอกจากคุณหญิงแม่แล้ว มึงก็ไม่เคยให้ใครนั่งรถของมึง

จอมภพPP: โดยเฉพาะที่นั่งข้างคนขับ

Prod: ใช่ ก็คุณแม่สำคัญที่สุด

Peach: แล้วเด็กที่ไปส่งเนี่ย สำคัญเท่าคุณหญิงแม่เลยเหรอ

Prod: อือ สำคัญ

 

ถ้าไม่สำคัญจะให้มานั่งบนรถทำไมล่ะวะ



นอกจากคุณแม่แล้ว ทรงโปรดไม่เคยให้ใครขึ้นมานั่งบนรถของเขา โดยเฉพาะที่นั่งข้างคนขับ



ตามนั้น ทรงโปรดเป็นคนรักรถเข้าเส้นเลือด เขาไม่อยากให้ใครมายุ่งกับรถสุดรักสุดหวง เลยตัดปัญหาโดยการไม่อนุญาตให้ใครสักคนขึ้นมาหย่อนก้นในรถของเขา มีแต่คุณแม่คนเดียวเท่านั้นที่มีสิทธิ์



แต่ตอนนี้ไม่ใช่แค่คุณแม่แล้ว



เพราะมีเจ้าคนน่ารักที่ชื่อเอ็นดูได้สิทธิ์เป็นคนสำคัญของหม่อมราชวงศ์ทรงโปรด



ตอนนี้เขาเหมือนคนบ้าที่นั่งดมกลิ่นน้ำยาปรับผ้านุ่มหอมๆ กลิ่นเดียวกับน้องแล้วคลายปากยิ้มอารมณ์ดีอยู่ในห้องรับแขก รอเจ้าเด็กน่ารักแต่งตัวไปสอบจนตัวเองดื่มโกโก้ร้อนหมดแก้วไปแล้ว



มุ้งมิ้งดีมั้ยล่ะ



คนคูลๆ อย่างเขาต้องมายกแก้วโกโก้ขึ้นดื่มเพราะที่นี่ไม่มีกาแฟ



ห้องน้องไม่มีกาแฟเลยจริงๆ หลังจากที่ทรงโปรดตื่นนอน อาบน้ำ แต่งตัวเสร็จแล้วก็เจอกับเจ้าของห้องที่นั่งอยู่หน้าทีวีจอใหญ่ เอ็นดูถามเขาว่าจะดื่มอะไรก่อนกลับมั้ย แน่นอนว่าเขาต้องดื่มกาแฟ แต่เอ็นดูส่ายหน้าแล้วบอกเสียงนิ่มว่าที่นี่ไม่มีคาแฟ มีแต่โกโก้ ชาเชียว แล้วก็นมสด



เข้มๆ อย่างเขาก็ต้องเลือกอะไรที่เข้มๆ โกโก้อ่ะพอได้อยู่



เอ็นดูมีสอบตอนสิบโมง เขาเลยอาสาไปส่งเพราะเช้านี้ฝนตกไม่ยอมหยุดสักที เอ็นดูปฏิเสธไม่ได้เพราะทรงโปรดดันหยิบเรื่องในผับกับเรื่องที่น้องโกหกเมื่อคืนขึ้นมาพูดอีกครั้ง



ไม่ได้จะขู่ แค่บอกให้รู้ว่ายังไม่ลืม : )



น้องพูดอะไรมากไม่ได้ เอ็นดูเลยเป็นเด็กดีที่ตกอยู่ในโอวาทของเขาแทน แถมน้องยังใจดีกอดเสื้อผ้าของเขาไว้แนบอกไปปั่นแห้งให้ ใส่น้ำยาปรับผ้านุ่มซะหอมจนทรงโปรดดมแล้วดมอีก



แต่อยากดมเนื้อหอมๆ ของน้องมากกว่า



ทั้งที่มีสอบสิบโมงแต่เอ็นดูตื่นมาตั้งแต่ตีห้าเพื่อซักผ้าให้ ดูเหมือนน้องจะตื่นเช้า ก็ใช่ แต่ก็ยังไม่ทันทรงโปรดที่ตื่นมาจ้องหน้าคนนอนอยู่ตั้งแต่ตีสี่ครึ่งอยู่ดี



เหมือนโรคจิตจริงแหละ

 



Peach: ไอ้หม่อม แล้วเด็กที่มึงขับรถไปส่งนี่ชื่ออะไรวะ

 



“คุณ เห็นสร้อยข้อมือของผมมั้ยครับ”



เสียงนุ่มนิ่มดังขึ้นพร้อมๆ กับเสียงแจ้งเตือนข้อความเข้า แน่นอนว่าทรงโปรดเลือกที่จะสนใจเสียงนุ่มเจือความว้าวุ่นมากกว่าเสียงอื่น เขาเอี้ยวตัวมองเจ้าของห้องที่เดินทำหน้ามุ่ยออกจากห้องแต่งตัว คิ้วสวยขมวดชนกันยุ่งเหยิง เอ็นดูเดินประคองข้อมือขวาตรงมาหาเขา



“สร้อยหายอีกแล้ว...” เอ็นดูเม้มปาก “คุณไม่ได้แกล้งกันใช่มั้ย”



ถ้าเป็นคนอื่นคงโวยวายแต่เอ็นดูแค่เปล่งเสียงนิ่มๆ นุ่มๆ ของตัวเองออกมาเท่านั้น ใบหน้าของน้องมีแต่ความเครียดจนทรงโปรดต้องลุกขึ้นเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ



ถึงเขาจะชอบแกล้ง แต่ถ้าได้คืนของแล้วก็คืนเลย



ไม่เก็บไว้กับตัวเพื่อหาเรื่องน้องแน่นอน



“คืนไปแล้วนี่”



“เมื่อคืนผมหยิบออกจากสูทของคุณแล้ว แต่ว่า...มันหายไปไหนแล้วก็ไม่รู้”



“แล้วได้ใส่หรือยัง”



เอ็นดูพยักหน้าหงึก เม้มปากแน่น ตาแดงก่ำเหมือนเด็กกำลังจะร้องไห้



“โอเค ใจเย็นๆ ก่อน เดี๋ยวช่วยหา”



ทรงโปรดวางมือบนศีรษะกลม ก้มหน้ามองน้อง ลูบเส้นผมนุ่มกับโครงหน้าหวานของคนตัวเล็กเบาๆ แล้วผละตัวออกก่อนเดินกลับเข้าไปในห้องนอน



เอ็นดูยืนนิ่งเมื่อรับสัมผัสกับน้ำเสียงอ่อนโยนของคุณชายทรงโปรด ขอบตาร้อนพลันหายไปทันทีแล้วเปลี่ยนเป็นแก้มปลั่งขึ้นสีแดงแทน น้องหมุนกายตามร่างสูงที่หายเข้าไปในห้อง คลี่ยิ้มบางเมื่อเห็นว่าคนที่ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับสร้อยข้อมือนั้นดูเป็นเดือดเป็นร้อนยิ่งกว่าเอ็นดูซะอีก



“คุณ ผมหาในห้องนอนแล้ว”



ร่างสูงก้มๆ เงยๆ รื้อหมอน ผ้าปูที่นอนทุกอย่างลงพื้น ตอนนี้ทรงโปรดกับกำลังรื้อลิ้นชักของเอ็นดูด้วย



“แล้วเจอมั้ย” ทรงโปรดหันมาถาม แล้วก็พบกับคำตอบว่าไม่จากการส่ายหัวของเอ็นดู “โอเค”



“ผมจำไม่ได้เลยว่ามันหายไปตอนไหน”



“จำไม่ได้ไม่เป็นไร ช่วยกันหาแป๊บเดียวก็เจอ”



ทรงโปรดทำท่าจะเดินออกจากห้องแล้วหาต่อ แต่ตอนนี้มันเก้าโมงเศษๆ ไปแล้ว เอ็นดูมีสอบตอนสิบโมง แน่นอนว่าน้องไปสายกว่านี้ไม่ได้



“ไม่เป็นไรครับ คุณไปทำงานเถอะ ผมก็จะไปสอบแล้วเหมือนกัน”



ร่างสูงชะงักเท้าที่กำลังเดินเข้าห้องน้ำ เขาหันมามองน้องที่ทำหน้ามู่ทู่



ดูวุ่นวายใจขนาดนี้ อยากรู้จริงๆ ว่าจะเอาสมาธิที่ไหนไปสอบ



“บอกแล้วไงว่าจะไปส่ง”



“คุณไม่ทำงานเหรอครับ”



“ทำ แต่จะไปส่งเราก่อน”



“...”



“แล้วสร้อยที่หายสำคัญมากมั้ย”



ทรงโปรดถาม เขาขมวดคิ้วตามเอ็นดู รู้สึกเครียดไปด้วยจริงๆ



“สำคัญครับ เป็นสร้อยที่คุณพ่อให้ไว้ก่อนเสีย”



น้องเงยหน้าสบตาก่อนละไปมองอย่างอื่น ทั้งๆ ที่อยู่ในโหมดดราม่ายังอุตส่าห์กัดริมฝีปากอวบยั่วเขาอีกจนได้



รู้แล้วว่าเป็นท่าประจำตัว

แต่ไม่ต้องทำบ่อยๆ ก็ได้




 “มันเก่าแล้วเลยขาดง่าย ผมจะเอาไปซ่อมตั้งหลายครั้งแต่ก็ลืมทุกที”



ทรงโปรดขยับกายสูงเข้าใกล้ ประคองโครงหน้าหวานนุ่มนิ่มของน้องด้วยมือหนาทั้งสองข้างให้เงยขึ้นสบตาอีกครั้ง เขาโล่งใจเมื่อเห็นว่าดวงตาของน้องไม่ได้แดงก่ำเหมือนตอนแรก แต่เป็นแก้มกลมๆ นุ่มๆ ที่แดงระเรื่อแทน



“งั้นไปสอบก่อน เสร็จแล้วค่อยกลับมาหาใหม่ ดีมั้ย”



น้องกะพริบตาปริบ พยักหน้าเบาๆ สองครั้ง



เด็กดี ไม่ดื้อเลยว่ะ



“แล้วสอบเสร็จกี่โมง”



“ประมาณสี่โมงครึ่งครับ”



“ถ้าสอบเสร็จแล้วอย่าเพิ่งกลับ เดี๋ยวไปรับ เข้าใจมั้ย”



“ทำไมต้องมารับผมด้วย”



“เดี๋ยวช่วยหาสร้อยต่อไง”



“เอ่อ...ไม่ต้องก็ได้ครับ ผมหาเองได้”



“เอ็นดู มีสิทธิ์ดื้อกับพี่ด้วยเหรอ”




สรรพนามที่เขาใช้เรียกตัวเองทำเอาเอ็นดูชะงักค้างทันที ลมหายใจที่เข้าออกสม่ำเสมอก็พาลหยุดไปด้วย เสียงทุ้มนุ่มของทรงโปรดน่าฟัง ยิ่งประกอบกับใบหน้าที่มีรอยยิ้มมุมปากด้วยแล้ว...เอ็นดูยิ่งรู้สึกร้อนผ่าวแปลกๆ



“ไม่ได้ดื้อสักหน่อย...” น้องพึมพำ กลอกตาเลิ่กลั่ก ไม่กล้าสบตา



จู่ๆ ก็รู้สึกแพ้...ไม่รู้ด้วยว่าแพ้เป็นครั้งที่เท่าไหร่ตั้งแต่เจอเขา



“เอาเป็นว่าทำตามที่บอก ถ้าไม่ตกลง--”



“คุณนี่ชอบขู่จริงๆ เลย”



“ไม่ได้ขู่ คนมีความผิดร้อนตัวไปเองมากกว่า”



“คุณทำเป็นลืมบ้างได้มั้ย ไม่ต้องจำเอาไว้ทุกเรื่องก็ได้”



“เรื่องของเรามันน่าจำ”



“...น่าจำตรงไหนครับ ไม่เห็นจะน่าจำเลย”



ทรงโปรดยกยิ้ม ค่อยๆ ผละมือออกจากแก้มนุ่มนิ่มของน้องแล้วล้วงมือไว้ในกระเป๋ากางเกงของตัวเอง ร่างสูงก้าวขายาวเดินตรงไปยังประตูห้อง แล้วหยุดเมื่อพบว่าประตูนี้ต้องใส่รหัสหรือสแกนนิ้วเพื่อเปิดประตูเท่านั้น



แต่ยิ่งนิ่งได้ไม่นานเจ้าของห้องก็หิ้วกระเป๋าเป้พาดไหล่ก่อนเดินมาสแกนนิ้วปิดประตูให้ เอ็นดูไม่มองหน้าทรงโปรดแต่ยู่ปากพร้อมเปล่งเสียงหวานๆ ของตัวเองออกมา



“ก็ได้ สอบเสร็จแล้วผมจะรอคุณ”



ไม่รู้ว่าไอ้ท่าทางช้อนตามองแล้วกะพริบแพขนตางอนยาวหน่อยๆ น้องไปเรียนรู้มาจากไหน



แต่บอกเลยว่าน่ารักมาก



“มารับด้วยแล้วกันนะครับ”



น่ารักจนอยากให้รางวัลเลยว่ะ















#ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี

 

 




















แบบนี้น้องเอ็นดูก็ไม่ปลอดภัยพอดี ._.

 thx.


 
 :katai4:
 

 

 

หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ตอน 03 - up 28.8.61
เริ่มหัวข้อโดย: momonuke ที่ 28-08-2018 18:45:22
ฮือออ ติดตามนะคะ น่ารักอะ อยากบีบน้องงง
น้องเอ็นดู พี่ไม่ไหววว น่าเอ็นดูจังรู้กกกกกกก
แงงงงง นุขอจับนุขอทัชน้องงงง คนอะไรน่ารักกก
พี่โปรดก็แกล้งน้องงงงงง แงงงง คนบ้าาาา
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ตอน 03 - up 28.8.61
เริ่มหัวข้อโดย: goosongta ที่ 28-08-2018 20:38:20
เนื้อเรื่องน่ารักน่าเอ็นดูจริงๆเลย
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ตอน 03 - up 28.8.61
เริ่มหัวข้อโดย: Marnajung ที่ 28-08-2018 21:49:31
ไม่รู้ว่าจะแพ้เอ็นดูหรือชายโปรดก่อนดี เขิน :-[
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ตอน 03 - up 28.8.61
เริ่มหัวข้อโดย: TheWanFah ที่ 28-08-2018 21:52:54
เอ็นดูน้องสมชื่อน้อง
น่าบีบมากเลย
พี่โปรดก็รุกเร็วเหลือเกิน
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ตอน 03 - up 28.8.61
เริ่มหัวข้อโดย: กาแฟมั้ยฮะจ้าว ที่ 29-08-2018 15:39:49
ขอบคุณครับ +1 ให้นะครับ :a2:
หัวข้อ: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ตอน 04 - up 29.8.61
เริ่มหัวข้อโดย: Swanlee ที่ 29-08-2018 16:43:27
04

เหมือนดวงอาทิตย์ในวันที่ฝนตกเลย

ท้องฟ้ามืดครึ้ม แต่คุณยังสว่าง โดดเด่น และสดใส



 



“คืนนี้ห้ามไปผับหรือร้านเหล้าที่ไหนอีกนะพี่ปัน



“เออหน่า พี่ทำใจได้แล้ว”



“ไม่น่าเชื่อเท่าไหร่เลย”



หม่อมหลวงจิรายู่ปากใส่พี่รหัสที่ทำตัวไม่น่าไว้ใจเท่าไหร่ คนเพิ่งอกหักจิตใจยังบอบช้ำ ถึงพี่ปันจะยืนยันนักหนาว่าตัวเองโอเคดีทุกอย่าง แต่เอ็นดูก็ไม่อยากปักใจเชื่อ



“เห็นมั้ย สีผมก็เปลี่ยนแล้ว”



“เกี่ยวอะไรกันล่ะพี่ปัน”



“เกี่ยว ก็หมายถึงตัดใจได้แล้ว เปลี่ยนสีผม เปลี่ยนตัวเองให้เป็นคนใหม่”



“สาธุเลย จะได้ไม่ต้องไปหิ้วพี่ปันกลับบ้านอีก”



“แหะ ก็ไม่อยากให้น้องมาลำบากเพราะพี่แล้วนี่หว่า”



เอ็นดูเดินอยู่ในตึกรวมของมหา’ลัย ตั้งแต่สอบวิชาแรกยันวิชาสุดท้ายเสร็จแล้วก็อยู่แต่วนนี้ไม่ได้ไปไหน ฝนตกหนักทำให้ร้านกาแฟในตึกเรียนรวมเต็มไปด้วยนักศึกษา รวมถึงบริเวณรอบๆ ด้วยเช่นกัน



เอ็นดูชะเง้อคอมองรถที่จอดอยู่หน้าตึกแล้วก้มมองนาฬิกาข้อมือ ไม่รู้ว่าคนที่บอกจะมารับอยู่ไหน เบอร์โทรหรือช่องทางติดต่อกันก็ไม่มี



ไม่ได้รอเขานะ แต่เขาบอกเองนี่นาว่าจะมารับ



แต่ถ้าเขาไม่มารับ...ก็คงจะแย่หน่อยๆ : (



ปกติเอ็นดูขับรถมาเรียนเอง ฝนตกหนักแค่ไหนถ้าได้นั่งอยู่ในรถของตัวเองก็ยังพออุ่นใจ เอ็นดูไม่ชอบอยู่ในมหา’ลัยนานๆ ถ้าไม่มีอะไรจำเป็น



แต่ตอนนี้รถของตัวเองจอดอยู่ที่คอนโด เพราะเมื่อเช้ามีคนมาส่งถึงที่ แถมยังบอกว่าจะมารับกลับคอนโดอีกด้วย



เอ็นดูยืนรอจุดเดิม คือหน้าตึกเรียนรวม เมื่อเช้าทรงโปรดบอกให้มารอตรงนี้เพื่อจะได้หาตัวกันง่ายๆ หน่อย



“แล้วเรายังไม่กลับบ้านอีกเหรอ”



“เอ็นรอรถครับพี่ปัน”



“รอรถ? วันนี้ไม่ได้ขับรถมาเองว่างั้น”



เอ็นดูฉีกยิ้ม หันไปพยักหน้าหงึกๆ ให้พี่รหัสที่ยืนอยู่ข้างๆ



“แล้วนี่ใครจะมารับ คนในวังป่ะ”



“ลูกชายของเพื่อนคุณแม่--”



ยังไม่ทันจบประโยค ร่างสูงดูเด่นกว่าใครก็เดินกางร่มสาวเท้าตรงมาทางที่คนผิวขาวยืนอยู่ และในตอนนั้นเองที่มุมปากเอิบอิ่มเผลอกระตุกยิ้ม...



จู่ๆ ก็ดีใจที่เขาไม่เบี้ยวนัด



เอ็นดูสะกิดแขนพี่ปันเบาๆ ก่อนที่ตัวเองจะยกมือสวัสดีคนแก่กว่า ส่วนพี่ปันถึงจะทำหน้างงๆ แต่สุดท้ายก็ยกมือไหว้ตามรุ่นน้อง



เอ็นดูไม่ค่อยชอบใบหน้านิ่งเรียบของคุณชายทรงโปรดเท่าไหร่ เหมือนกับใบหน้านั้นได้หมายหัวเขาไว้ตลอดว่าตัวมีความผิดใหญ่หลวงติดตัว



“กลับเลยมั้ย”



หลังจากที่ทรงโปรดรับไหว้เด็กทั้งสอง เขาก็เอื้อมมือดึงคนผิวขาวให้มายืนอยู่ใกล้ๆ



ตาคมมองรุ่นพี่ขี้เมาของเอ็นดูที่เจอในผับ สภาพในตอนนั้นกับตอนนี้เหมือนเป็นคนละคน



ตอนนี้ดูเป็นผู้เป็นคนกว่าเยอะ



“คุณ ปล่อย”



เอ็นดูกัดฟันร้องเสียงเบาให้ได้ยินกันแค่สองคน ดิ้นขลุกขลักเมื่อจู่ๆ ทรงโปรดก็โอบไหล่กลมแนบกาย เอ็นดูแทบจมไปกับอกเมื่อทรงโปรดกระชับแขนแน่นกว่าเดิม



“อยู่นิ่งๆ ร่มมันคันเล็ก”



“คุณจอดรถไว้ตรงไหน เดี๋ยวผมเดินไปเอง”



“เดินไปเองก็เปียก”



“ไม่เป็นไรครับ”



“เป็น เดี๋ยวไม่สบาย”



เอ็นดูเม้มปากเลิกพูดเพราะรู้ว่าไม่มีประโยชน์อะไร คนตัวเล็กเลยปล่อยให้เขาโอบ ปล่อยให้ตัวเองอยู่ในอ้อมกอดภายใต้ร่มคันนี้ เอ็นดูก้มหน้าก้าวเท้าระมัดระวัง กลัวว่าน้ำจะกระเด็นเปื้อนกางเกงของทรงโปรด



กลิ่นชื้นของฝนโชยแตะจมูกจนเอ็นดูทำจมูกฟึดฟัด แต่เชื่อเถอะว่ากลิ่นหอมๆ ของเอ็นดูดึงดูดความสนใจทรงโปรดมากกว่าอีก



ทรงโปรดไม่ใช่คนที่ชอบเสียสละอะไรเพื่อคนอื่นมากมาย เขาเป็นนักธุรกิจ ชอบได้กับได้มากกว่าเสีย แต่ตอนนี้เขากำลังสละแขนและมือเพื่อโอบไหล่ของน้องเพื่อไม่ให้เอ็นดูเปียกฝน เอียงร่มไปทางน้องเยอะกว่าจนซีกขวาของเขาชุ่มน้ำไปหมด



กระทั่งฝ่าฝนมาถึงเบนซ์สีดำ ทรงโปรดเปิดประตูข้างคนขับแล้วให้น้องแทรกตัวขึ้นรถก่อน เขาวางมือหนาไว้บนศีรษะกลม กันเอาไว้ไม่ให้หัวไปกระแทกกับกรอบประตูจนเอ็นดูเข้านั่งอย่างปลอดภัยถึงได้ผละออก



แล้วก็เป็นทรงโปรดบ้างที่ก้าวเท้ายาวๆ เพื่ออ้อมไปนั่งประจำที่คนขับ



“คุณ”



สตาร์ทรถเรียบร้อย เตรียมจะเข้าเกียร์แล้วเหยียบคันเร่ง แต่ก็ต้องชะงักเมื่อเสียงนิ่มๆ หวานๆ ดังขึ้น



“เสื้อคุณเปียกเหรอครับ”



ทรงโปรดมองใบหน้าหวานที่กำลังชะเง้อมองแขนข้างซ้ายของเขา ทรงโปรดหันมองเช่นกัน ก่อนจะเห็นว่ามันเปียกชุ่มจนน้ำหยดแหมะลงพื้น



“หันมาหน่อยครับ เดี๋ยวผมเช็ดให้”



มือขาวกำผ้าเช็ดหน้าสีครีมไว้ในมือ เอ็นดูช้อนตามองเขา กะพริบตาเมื่อเห็นว่าทรงโปรดกระตุกยิ้มก่อนจะหันหน้าเข้าหาเอ็นดู ทรงโปรดยื่นแขนข้างที่เปียกให้ แล้วมองใบหน้าหวานที่ก้มเงยๆ อยู่แถวๆ อกของเขา



น่ารักว่ะ



ทรงโปรดไม่รู้ว่าไอ้ผ้าเช็ดหน้าผืนนี้จะทำให้เสื้อของเขาหายเปียกได้ยังไง แต่ก็ยอมนั่งนิ่งให้เอ็นดูเช็ดๆ ถูๆ บิดน้ำออกจากเสื้อต่อไป



“มันเปรอะคราบสีดำน่ะครับ ไม่รู้ว่าไม่โดนอะไรมา”



“สงสัยเป็นฝุ่น พอเสื้อเปียกน้ำเลยดูสกปรกกว่าเดิม”



“อ่า...ขอโทษนะครับ”



“ขอโทษอะไร”



แม้จะก้มหน้าหลบสายตา แต่ทรงโปรดเห็นว่าน้องกำลังกัดริมฝีปากตัวเองอยู่ สองมือน้อยๆ ที่จับต้นแขนข้างซ้ายของเขาสั่นประหม่า



“ไหน เงยหน้าสิ...บอกหน่อยว่าขอโทษอะไร”



ประคองแก้มด้วยมือหนา เชยขึ้นให้น้องสบกับตาคมของเขา ทรงโปรดยกยิ้มเมื่อเห็นปากจิ้มลิ้มสีแดงบวมหน่อยๆ คงกัดปากจนเกือบช้ำไปแล้ว



แก้มกับจมูกก็แดงระเรื่อ น่ารัก น่ากัดไปหมด



“ขอโทษที่ทำให้คุณเปียก เสื้อก็เปื้อนด้วย”



“ไม่ต้องขอโทษหรอก”



“ทำไมครับ”



“ไม่อยากให้เปียกฝนไง เลยเต็มใจเปียกแทน”



ลูกตาสีน้ำตาลเข้มเลิ่กลั่กก่อนจะหยุดโฟกัสที่จุดๆ หนึ่งซึ่งไม่ใช่ใบหน้าเขา ทรงโปรดหัวเราะในใจเมื่อเห็นว่าแก้มน้องแดงกว่าเดิม มือเล็กเริ่มขยับยุกยิกบนท่อนแขนขวา เอ็นดูกำลังเช็ดเสื้อให้เขาอีกแล้ว



จะทำยังไงกับเด็กน่ารักคนนี้ดีวะ



ถ้าเป็นคนอื่นเมื่อถูกใจเขาคงเปิดโรงแรมแล้วพาขึ้นเตียง จบด้วยการดึงถุงยางอนามัยออกแล้วก็หายไปจากชีวิตเพราะรู้ว่ามันไม่ใช่ แต่กับเอ็นดูนั้นแตกต่าง เขาไม่มีความคิดที่จะเริ่มทุกอย่างเร็วด้วยการพาน้องขึ้นเตียงแล้วจบลงเหมือนคนอื่นๆ ที่ผ่านมา แต่ทรงโปรดรู้สึกอยากแกล้งไปเรื่อยๆ จนแก้มกลมแดงระเรื่อหลายๆ ครั้ง



“คุณเต็มใจเปียกฝนแทนคนอื่นแบบนี้บ่อยใช่มั้ยครับ”



“กับเราคนเดียว”



มือเล็กที่กำลังเช็ดแขนเสื้อชะงัก จากที่ทำตาเลิ่กลั่กก็เปลี่ยนเป็นจ้องตาคมจนระริกสั่นไหว ทรงโปรดคลี่ยิ้ม ผละมือที่ประคองกรอบหน้าหวานออก เลื่อนไปรวบเอวของคนน่ารักแทน ออกแรงรั้งให้น้องขยับเข้าใกล้ ทรงโปรดโน้มใบหน้าลงแล้ววางลงบนไหล่แคบๆ หันหน้าเข้าหาลำคอขาวที่เป็นจุดรวมของกลิ่นหอม



ได้กลิ่นแล้วชื่นใจ หายเหนื่อย



เขารู้วางน้องพยายามดันตัวออก เพราะมือเล็กเลื่อนมาทาบบนอกแล้วดันเบาๆ แต่เขาน่ะดื้อ ต่อให้เอ็นดูผลักจนสุดแรงยังไงทรงโปรดก็ไม่ยอมผละตัวออกไปหรอก



“แล้วเราล่ะ สละผ้าเช็ดหน้ามาเช็ดแขนเสื้อให้คนอื่นแบบนี้บ่อยใช่มั้ย”



ทรงโปรดใช้ปลายจมูกสูดกลิ่นหอมๆ จากลำคอขาวเข้าปอด เขาเห็นว่าคอขาวๆ นี้มีขนอ่อนสีทองที่ไหวลู่ไปตามแรงหายใจของเขาด้วย



โคตรเซ็กซี่เลยว่ามั้ย



“ดูช่ำชองดี”



“คุณคือคนแรกครับ”



“...”



“เพราะไม่มีใครกางร่มให้ผมแบบนี้”



น้ำเสียงนิ่มๆ นุ่มๆ หวานหยดย้อย กับคำตอบที่ทำให้ทรงโปรดยิ้มออกมา



“ไม่มีใครยอมเปียกฝนเพื่อผมเหมือนคุณหรอกครับ”



เปลี่ยนใจไม่แกล้งไปเรื่อยๆ แล้วได้มั้ยวะ

แต่ขออุ้มขึ้นเตียงแล้วฟัดให้จมเขี้ยวไปเลย







*****





หม่อมหลวงจิราทำหน้ามุ่ยยืนมองท้องฟ้าที่เทฝนลงมาจนน้ำท่วมกรุงเทพฯ เป็นเหตุผลให้หม่อมราชวงศ์ทรงโปรดไม่ยอมกลับบ้านกลับช่องหลังจากที่หาสร้อยข้อมือเส้นสำคัญให้จนเจอ



แล้วจะทำยังไงได้ ในเมื่อเขายืนยันว่ายังไงคืนนี้ก็ต้องค้างที่นี่เหมือนเดิม



“น้ำท่วม รถมันลุยน้ำไม่ได้ เดี๋ยวเข้าท่อแล้วดับกลางทางจะทำยังไง”



น้ำท่วมระดับเข่าของเอ็นดู แล้วท่อรถเบนซ์คันหรูของทรงโปรดก็ต่ำกว่าเข่าไปอีก มิดช่วงล่างจริงๆ นั่นแหละ



จะแนะให้เขายืมรถของตัวเองไปขับก่อนก็ใช่เรื่อง รถของเอ็นดูเป็นของ Lexus NX300h มันสูงว่าเบนซ์คันหรู และมั่นใจว่าสามารถขับลุยน้ำได้ เอ็นดูได้มาจากวังในวันคล้ายวันเกิดครบรอบยี่สิบปี...ก็เมื่อสองปีที่ผ่านมานี่เอง



ไม่รู้ว่าทรงโปรดขับรถของคนอื่นได้หรือเปล่า แต่เอาเถอะ อย่าไปหาเรื่องไล่เขากลับบ้านเลย



เดี๋ยวโดนงอนอีก : (



ตอนที่ทรงโปรดก้มๆ เงยๆ หยิบสร้อยข้อมือออกจากใต้โซฟาในห้องแต่งตัวได้แล้ว เขาก็รีบเดินมาบอกข่าวดีกับเอ็นดู แต่เจ้าของห้องดันใจร้าย แค่ขอบคุณแล้วบอกให้เขากลับบ้านเดี๋ยวนั้น



เอ็นดูรู้ว่าตัวเองผิดที่ไล่แขก คุณชายทรงโปรดมีน้ำใจมาช่วยหาของก็สมควรต้องเลี้ยงน้ำเลี้ยงข้าวเขาสักหน่อย



คนตัวใหญ่ทำหน้าเซ็งแล้วเงียบไป บอกให้ไปล้างมือทรงโปรดก็นั่งนิ่งๆ อยู่บนโซฟาในห้องรับแขกจนเอ็นดูอ่อนใจ ต้องหยิบทิชชูเปียกกับเจลล้างมือแล้วเดินไปหาเขาเอง



‘นี่คุณ ยื่นมือมาหน่อยครับ’



‘...’




ตั้งแต่เกิดมาจนอายุยี่สิบสอง ก็มีแต่คุณแม่ที่งอนเพราะเอ็นดูดื้อ นอกจากนั้นก็ไม่มีใครมางอนเขาอีกเลย นอกจากทรงโปรด ผู้ชายตัวโตๆ คนนี้



‘มือคุณสกปรก เดี๋ยวผมเช็ดให้’




เอ็นดูหย่อนสะโพกนั่งข้างๆ ร่างสูง เม้มปากเล็กน้อยเพราะเขาไม่ยอมยื่นมือที่กอดอกให้สักที



หวงนักหรือไงก็ไม่รู้



‘คุณ--’



‘เดี๋ยวเช็ดเอง’




ทรงโปรดเอื้อมมือจะหยิบทิชชูเปียกไปเช็ดเอง แต่เอ็นดูซ่อนมันไว้ข้างหลัง ยู่ปากมองค้อนคนตัวสูง



‘คุณงอนผม’




‘ไม่ได้งอน’



‘นี่ไง คุณ...งอน’



‘มันน่ามั้ยล่ะ ฝนตกแบบนี้ยังมาไล่กลับบ้าน’



‘ขอโทษครับ ผมไม่ไล่แล้ว ตามสบายเลยแล้วกัน”




ทรงโปรดผ่อนคลายใบหน้าตึงๆ กว่าเดิม



‘แต่ยื่นมือมาหน่อยนะครับ เดี๋ยวผมเช็ดให้’



ทุกอย่างผ่านไปได้ด้วยดี ทรงโปรดไม่งอนแล้ว และตอนนี้เขากำลังนั่งเปลือยท่อนบนเพราะเสื้อเชิ้ตสีขาวถูกจับโยนใส่เครื่องซักผ้า



เอ็นดูไม่ได้จะเสนอว่าจะซักเสื้อให้ แต่ตอนน้องกำลังหอบตะกร้าเสื้อไปซัก เขาก็รีบปลดกระดุมเสื้อออกแล้วเดินตามหลังมาติดๆ เอ็นดูเกือบหัวใจวายตายตอนที่หมุนตัวกลับแล้วพบกับแผงอกกว้างๆ ของทรงโปรด



“ส่วนสร้อยเดี๋ยวเอาไปซ่อมให้”



“คุณซ่อมเป็นเหรอครับ”



ทรงโปรดส่ายหน้า “พี่ชายทำงานเกี่ยวกับพวกเครื่องประดับ น่าจะมีช่างฝีมือดีๆ ช่วยซ่อมให้ได้”



“พี่คุณเหรอครับ”



“รู้จัก?”



“ก็...พี่คุณออกงานกับคุณป้านัดบ่อยๆ”



ในบรรดาพี่น้องตระกูลนี้ เอ็นดูเจอหน้าหม่อมราชวงศ์ทรงคุณบ่อยสุด ประมาณสี่ห้าครั้งได้ แต่ก็ไม่ได้สนิทหรือเคยคุยกันเหมือนกับทรงโปรด



“กับคนอื่นเรียกพี่ได้ แต่กับพี่เรียกคุณ”



ทรงโปรดวางนิ้วเรียวบนจมูกโด่งสวยของเอ็นดู ออกแรงเคาะเบาๆ จนน้องหลับตาปี๋ หดคอถอยหนีเล็กน้อย



“เดี๋ยวจะโดนตี”



“คนอื่นที่ไหน นั่นพี่ชายคุณนี่ครับ”



“ไหนลองเรียกพี่โปรด”



น้องเม้มปาก กลอกตาเลิ่กลั่ก



“เอ็นดู”



“...ผมหิวข้าวแล้ว ขอไปหาอะไรกินก่อนนะครับ”



ไม่เอาหรอก ถ้าเรียกแบบนั้น...หัวใจต้องสั่นมากแน่ๆ



แต่ถึงหนียังไงก็ไม่รอด เพราะเอ็นดูหยุดเดินแล้วหมุนซ้ายขวาในแพนทรี่ มือไม้มันสั่นเพราะคำว่า ‘พี่โปรด’ จากเสียงทุ้มนุ่มที่ลอยวนเวียนในหัว หิวก็หิว แต่คิดไม่ออกเลยว่าจะกินอะไรดี



ก็ตอนนี้ในหัวไม่มีพื้นที่ให้คิดอย่างอื่น เพราะมีแต่เรื่องของทรงโปรดเต็มหัวไปหมดเลย



เอ็นดูลากสลิปเปอร์แบรนด์เนมราคาแพงจนเกิดเสียง ทรงโปรดเดินมาดูคนน่ารักที่กำลังเดินไปมาอยู่ในแพนทรี่ เขาหัวเราะเบาๆ พลางไหวไหล่ พิงสะโพกแกร่งบนโซฟา ตาคมล็อกไว้กับร่างเล็กๆ ของกระต่ายตัวน้อยเรียบร้อยแล้ว



“ไหนบอกว่าหิว ทำไมมาเดินเล่นอยู่ในนี้ล่ะ”



“เฮ้ย”



เอ็นดูสะดุ้งเหมือนเจอผี แต่โทษที เขาคือเทวดา



ทรงโปรดยกยิ้ม มองน้องที่กำลังเบิกตาโตยกมือขาวขึ้นปิดปาก เขาสาวเท้าตรงเข้ามาในแพนทรี่ มือหนาล้วงไว้ในกระเป๋ากางเกง ก่อนหยุดอยู่ตรงหน้าเอ็นดูที่ขยับถอยหนีไปแล้วหนึ่งก้าว



“เอาเสื้อคลุมมั้ยครับ เดี๋ยวผมไปหยิบให้”



“จะหนีกันอีกแล้ว”



เอื้อมมือคว้าเจ้าเด็กน่ารักไว้ด้วยมือเดียวก่อนดึงเข้าหาตัว ทรงโปรดต้อนจนน้องหมดทางหนี เอวของเอ็นดูชนกับเคาน์เตอร์จนถอยหลังไปไหนไม่ได้แล้ว คนผิวขาวหันหน้าหนีแผ่นอกขาวๆ ของทรงโปรด จะยกมือดันออกก็ไม่กล้า



ไม่กล้าสัมผัสเนื้อแนบเนื้อ



“ไง ไหนบอกว่าหิว”



“ก็...กำลังคิดอยู่ครับว่าจะทำอะไรกินดี”



ทรงโปรดเลิกคิ้ว เอียงหน้ามองคนที่หาสารพัดข้ออ้างมาพูด ตอนนี้เขากักตัวเอ็นดูไว้ด้วยแขนสองข้างที่มีลอนของกล้าม เท้าแขนบนเคาน์เตอร์ โน้มตัวเล็กน้อยแต่จมูกโด่งก็เกือบชนเข้ากับหน้าผากที่มีผมนุ่มคลอเคลีย



“ปกติทำอาหารกินเองเหรอ”



“ครับ”



“ไม่น่า เมื่อวานที่กินถึงได้อร่อยเหมือนเชฟมาเอง”



“ขอบคุณครับ”



“สอนบ้างได้มั้ย ปกติซื้อกินอย่างเดียว”



“คือ...คุณ ไปคุยที่อื่นดีกว่ามั้ยครับ”



เอ็นดูวางศอกสองข้างบนเคาน์เตอร์ เอนตัวไปข้างหลังเล็กน้อยเมื่อทรงโปรดโน้มหน้าลงมา ร่างสูงคลี่ยิ้มตอนที่น้องเอียงหน้าหนี ทำให้เขาเห็นเส้นเลือดฝอยจางๆ บนแก้มขาวใส



“คุยในนี้แหละ”



“งั้นใส่เสื้อคลุมก่อนดีกว่า เดี๋ยวผมไปหยิบให้”



“หนีเก่งนะเรา”



“ไม่ได้หนีนะครับ”



ยิ่งใกล้ยิ่งได้กลิ่นหอมๆ ชัดเจน ทรงโปรดสงสัยเหลือเกินว่าตัวของน้องมีส่วนไหนบ้างที่ไม่หอม



คอก็หอม แก้มกับใบหูก็หอม เหลือตรงไหนอีกที่เขายังไม่ได้ดมและควรจะต้องดม แล้วเขาก็เผลอใช้ปลายจมูกคลอเคลียแก้มขาว เฉียดไปเฉียดมาจนน้องเข่าอ่อน



เอ็นดูคือสารเสพติดชนิดใหม่

มีฤทธิ์ร้ายที่ทำให้หม่อมราชวงศ์ทรงโปรดมัวเมา อยากฝังจมูกให้จมไปทุกส่วน



“คุณ ออกไปเถอะครับ”



“ยังคุยไม่จบเลย”



“ไม่เอาแล้วครับ ใกล้เกินไปแล้ว”



“ตาเถร! นี่มันผิดผี”



“เอ็นดู...นั่นหนูพาใครเข้าห้องคะ”




อดีตนางงามรีบถอนแว่นตากันแดดสีชาออกแล้วพับเก็บลงกระเป๋า Prada สีดำ ส่วนคนข้างๆ...หม่อมราชวงศ์ลักขณา หรือคุณหญิงป้าของเอ็นดูยืนช็อกไปแล้ว



“ชายโปรดเหรอคะ” เสียงคุณแม่ดังขึ้นอีกครั้ง



เจ้าของห้องรีบยกมือผลักไหล่เปลือยของทรงโปรดให้ออกห่าง แต่ร่างสูงยังเนิบนาบ ค่อยๆ ผละตัวออกปล่อยให้น้องเป็นอิสระ



คนตัวขาวเลิ่กลั่กทำอะไรไม่ถูกเมื่อถูกสองสายตามองมาที่เขา คิ้วสวยขมวดแน่นก่อนจะคลายออก เอ็นดูเม้มปาก ฝืนฉีกยิ้มแล้วยกมือสวัสดีผู้ใหญ่ทั้งสอง



“สวัสดีครับคุณแม่ สวัสดีครับคุณหญิงป้า”



“สวัสดีครับ” แล้วก็เป็นทรงโปรดที่ยกมือไหว้ผู้ใหญ่ตามมาติดๆ



แต่นั่นไม่ใช่ประเด็น เพราะตอนนี้หัวใจดวงน้อยๆ ของเอ็นดูมันเต้นรัวจนแทบระเบิดออกมา



เอ็นดูรีบวิ่งปรี่เข้าหาคุณหญิงลักขณาที่ยืนนิ่งไปแล้ว มือขาวแตะลงเบาๆ บนท่อนเเขนนุ่มของท่าน ก่อนจะหันหน้าขอความช่วยเหลือจากทรงโปรดและคุณแม่



“คุณแม่ คุณหญิงป้าเขา--”



“คงช็อกน่ะลูก ชายโปรดคะ มาช่วยน้าประคองคุณหญิงไปนั่งพักหน่อยค่ะ”



เอ็นดูแอบค้อนทรงโปรดตอนที่ร่างสูงวิ่งมาช้อนร่างของคุณหญิงลักขณาไว้ เขาไม่มีอาการตกใจเหมือนที่เอ็นดูเป็นเลยสักนิด



แต่ร้ายกว่านั้น เอ็นดูกลับเห็นทรงโปรดกระตุกยิ้ม



คงดีใจมากน่ะสิที่ได้แกล้งคนอื่น







*****





ฟ้าฝนเป็นพยานกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทรงโปรดแค่แกล้งเอ็นดูเล่นๆ เท่านั้น แต่เรื่องมันกลับบานปลายจนถึงหูผู้ใหญ่ที่วังภัสร์ฤทัย



คุณหญิงลักขณาให้คุณแม่ของเอ็นดูต่อสายไปที่วังภัสร์ฤทัยด่วน ท่านต้องการคุยกับใครก็ได้ที่จะสามารถรับฟังเรื่องราวที่คุณหญิงลักขณาพบเจอเต็มสองตา



และแน่นอนว่าคนที่รับที่โทรศัพท์ก็คือคุณแม่ของทรงโปรดเอง



แล้วก็นั่นแหละ พอท่านทราบข่าวก็รีบบึ่งมาถึงคอนโดของน้องทันที



ตอนนี้ทรงโปรดกับคนผิวขาวเลยนั่งคุกเข่าอยู่ต่อหน้าผู้ใหญ่ทั้งสามท่าน



“พี่อยากให้คุณนัดเข้าใจนะคะ ไม่ว่าจะชายหญิง หญิงหญิงหรือ...ชายชาย เมื่ออยู่กันสองต่อสองก็ไม่ควรใกล้ชิดกันเกินควร”



คุณหญิงลักขณาถือยาดมติดจมูก หัวใจแทบวายตายตอนที่เห็นภาพไม่ควรต่อหน้าต่อตา



“ค่ะคุณหญิง”



“แล้วพี่ก็อยากให้คุณนัดเข้าใจด้วยนะคะ ว่าการกระทำแบบนี้ บ้านพี่เรียกว่าผิดผี”



“คุณพี่คะ เด็กๆ เขาก็แค่หยอกกันเล่นๆ”



“เล่นแบบไหนหอมแก้มแนบเนื้อเหรอจ๊ะแม่แอ้ สมัยพี่สาวๆ ไม่มีการหยอกเล่นแบบนี้หรอกนะ”



“...”



“ที่สำคัญ หลายชายโปรดก็แต่งตัวไม่เรียบร้อย” คุณหญิงลักขณาเหลือบมองทรงโปรด ลอนที่แขนแกร่งกับซิกซ์แพ็กส์บนหน้าท้องของทรงโปรดยังติดตาท่านอยู่เลย



เอ็นดูก้มหน้ากัดปาก ตั้งแต่นั่งคุกเข่ามาเนี่ย เขายังไม่มีโอกาสเปิดปากอธิบายอะไรเลยสักนิด แล้วก็อย่าพูดถึงคนขี้แกล้งนั่นเลย ทรงโปรดดูท่าจะไม่สะทกสะท้านกับการโดนเรียกไปเทศน์ แต่กลับดูชอบซะอีก



“คุณหญิงป้าครับ เรื่องนี้เอ็นอธิบายได้”



เสียงนุ่มนิ่มแว่วดังอย่างใจเย็น ทรงโปรดเห็นน้องช้อนตาฉ่ำน้ำมองผู้ใหญ่ทั้งสามท่าน สองมือขาววางประสานบนหน้าตัก ความเรียบร้อยของเอ็นดูทำให้เขาต้องเลิกคิ้ว



มารยาทดีมาก คงถูกอบรมสั่งสอนอย่างดี



“อะไรอีกเอ็นดู ป้าเห็นเต็มตา”



“คุณพี่ลองฟังเด็กๆ อธิบายก่อนดีมั้ยคะ” คุณแอ้บอกด้วยน้ำเสียงที่ใจเย็น และความใจเย็นของเธอก็ทำให้คุณหญิงลักขณาพยักหน้า



“พูดมา ป้ารอฟังอยู่”



“เสื้อคุณ...เสื้อคุณชายโปรดเปียกฝนครับ เอ็นเลยอาสาซักให้ พอดีคุณชายโปรดไปรับเอ็นที่มหา’ลัยครับคุณหญิงป้า”



“เรามีรถขับเอง ทำไมต้องให้คนอื่นไปรับ” คุณหญิงลักขณายิงคำถามต่อ



“สร้อยข้อมือเอ็นหายครับ คุณชายโปรดเลยจะช่วยหา เอ่อ...เมื่อคืนคุณชายโปรดค้างที่นี่ เพราะฝนตกหนัก ตื่นเช้ามาเอ็นหาสร้อยข้อมือไม่เจอ คุณชายโปรดเลยสัญญาว่าจะช่วยหา”



“นอนที่นี่...อย่าบอกนะว่านอนด้วยกันแล้ว!”



“ไม่ใช่อย่างนั้นนะครับคุณหญิงป้า”



คุณหญิงลักขณาตีความหมายไปในทางอื่น ท่านขมวดคิ้วอยู่คนเดียวในขณะที่คุณแอ้กับคุณนัดปิดปากพากันกลั้นหัวเราะให้กับความหัวโบราณของคุณหญิง



ท่านเป็นคนหัวโบราณที่ถือเรื่องการสัมผัสตัวเป็นเรื่องใหญ่ ยิ่งเอ็นดูถูกเลี้ยงมาราวกับเป็นผู้หญิงด้วยแล้วเลยทำให้เหตุการณ์ครั้งนี้เป็นเรื่องที่คนหัวโบราณอย่างคุณหญิงลักขณาไม่มีวันเข้าใจ



“ไม่ใช่อย่างนั้นอะไรของเรา ถึงจะอธิบายแต่ป้าก็ไม่เข้าใจอยู่ดี...แล้วทำไมต้องหอมแก้มกัน”



เอ็นดูกัดปาก เผลอยกมือขึ้นลูบแก้มกลมเบาๆ



ยังไม่ได้หอมสักหน่อย แค่จมูกเฉียดไปมาเท่านั้นเอง



“ถ้าไม่ได้เป็นอะไรกันทำไมต้องหอมแก้ม ตอบป้าสิ”



ทรงโปรดหันมองเอ็นดูที่ก้มหน้าจ๋อยเหมือนเด็กถูกดุ เขาเอ็นดูน้องในเวลาแบบนี้จริงๆ



ร่างสูงค่อยๆ ขยับเข้าใกล้ ทรงโปรดไม่ปริปากพูดอะไรสักคำ เขายื่นมือหนาของตัวเองไปกุมมือขาวไว้ การกระทำนั้นทำให้เอ็นดูสะดุ้งแล้วเงยหน้าขึ้นมอง



“คุณ...”



“เอาหล่ะ คุณนัดคะ พี่ไม่รู้ว่าวังภัสร์ฤทัยมีความเชื่อยังไง แต่ภาพที่พี่เห็นกับคำอธิบายของเอ็นดูที่บอกว่า...นอนด้วยกันแล้ว มันประกอบกันชัดเจนว่าผิดผี”



ทรงโปรดบีบมือขาวเบาๆ เป็นครั้งแรกที่น้องสบตาคมของเขาแบบไม่กะพริบหรือหลบหนี



“ทรงโปรดต้องผูกข้อไม้ข้อมือกับเอ็นดูไว้ก่อนค่ะคุณนัด”



“คุณหญิงป้าครับ แต่พวกเราไม่ได้เป็นอะไรกันเลยนะครับ” เอ็นดูโอดครวญออกมา น้องทำตาละห้อยน่าสงสาร



“ไม่ได้เป็นแล้วหอมแก้มกันได้ยังไง ไหนจะนอนด้วยกันอีก โกหกป้าหรือเปล่าว่าไม่ได้เป็นอะไรกัน”



“ขอโทษแทนน้องด้วยครับคุณหญิงป้า” เสียงทุ้มเปล่งขึ้นครั้งแรกหลังจากที่เงียบไปนาน “น้องยังไม่กล้าบอกเรื่องนี้ให้ใครรู้ เพราะกลัวว่าจะไม่เหมาะ”



เอ็นดูเงยหน้ามองเขา



หัวใจดวงน้อยๆ หยุดเต้น



“ผมกับเอ็นดูเป็นแฟนกันครับ”



“คุณ!”



“เพื่อเป็นการรับผิดชอบทุกอย่าง ผมจะทำให้ถูกต้องตามที่ผู้ใหญ่เห็นสมควรครับ”



“คุณรู้มั้ยว่าผูกข้อไม้ข้อมือหมายความอะไร คุณพูดอะไรออกมาครับ”



“แล้วหมายความว่ายังไง เอ็นดูบอกให้พี่เข้าใจได้มั้ย”



ทรงโปรดยกยิ้ม ทำไมเขาจะไม่รู้ว่าความหมายของการผูกข้อไม้ข้อมือคืออะไร ตรงข้ามกัน เขารู้เต็มอกเลยแหละ



“งั้นดีเลย ถ้าชอบกันรักกันก็ผูกไม้ผูกมือจองตัวไว้ก่อน ไปมาหาสู่จะได้ไม่มีใครว่า”



เอ็นดูอ้าปากพะงาบ พยายามดึงมือออกจากมือหน้าแต่ก็ไม่สำเร็จ จะหันไปปฏิเสธคุณหญิงป้าก็ไม่ทันแล้ว



“ถ้าคุณนัดไม่ขัดข้องอะไร เสาร์นี้พี่อยากจะเชิญเยี่ยมวังวงศ์ประดิษฐ์ค่ะ จะได้กันหารือดูหาฤกษ์ยามวันหมั้นด้วย”

 

 











#ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี

 







 

 

 

 

 

 

 

 

 เอาใจช่วยน้องเอ็นดูด้วยนะคะ >.<
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ตอน 04 - up 29.8.61
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 29-08-2018 18:48:55
 :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ตอน 04 - up 29.8.61
เริ่มหัวข้อโดย: Gokusan ที่ 29-08-2018 19:44:53
สงสารน้องงงง โดนมัดมือชกซะงั้น

คุณชายพี่ย่ามใจไป ระวังน้องโกรธจริงจะยิ้มไม่ออก หึหึ
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ตอน 04 - up 29.8.61
เริ่มหัวข้อโดย: goosongta ที่ 29-08-2018 19:45:08
เข้าทางชายโปรดเลยแบบนี้ไม่ต้องออกแรงจีบให้เหนื่อย
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ตอน 04 - up 29.8.61
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 29-08-2018 20:50:38
 :pig4: :pig4: :pig4:

แหม่.......เข้าทางคุณชายโปรดหล่ะสิ  พอได้ยินคำว่าผูกข้อไม้ข้อมือเนี่ย  เลยฉวยโอกาสพูดเลย  อิอิ
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ตอน 04 - up 29.8.61
เริ่มหัวข้อโดย: ก้อนขี้เกียจ ที่ 29-08-2018 21:47:56
เดี๋ยวก่อนนะคะคุณหญิงป้า555555555555
หัวหน้าชิปเปอร์เปล่าเนี่ย คือป้าไวมาก
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ตอน 04 - up 29.8.61
เริ่มหัวข้อโดย: Mafiaziip ที่ 29-08-2018 22:02:33
พลิกล็อคไปอีก ยิ่งอธิบายก็ยิ่งผิดผี แต่ดีที่คุณหญิงป้าไม่หัวโบราณเรื่องเพศ

ชายโปรดก็ต้องทำให้น้องรู้ได้แล้วว่าตัวเองคิดจริงจังกับน้องจริง ๆ เดี๋ยวน้องจะคิดว่าอยากแกล้งกันเฉย ๆ

 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ตอน 04 - up 29.8.61
เริ่มหัวข้อโดย: catka12 ที่ 29-08-2018 23:07:25
 :hao7: เข้าทางชายโปรดเขาหละคุณหญิงป้า  :hao7:
 o13 ดีงามมากๆๆๆ  o13
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ตอน 04 - up 29.8.61
เริ่มหัวข้อโดย: Chompoo reangkarn ที่ 30-08-2018 00:50:14
  คุณหญิงป้าจะรู้ไหมเนี่ยเปิดช่องให้คนเจ้าเล่ห์ฉวยโอกาสมัดน้องเอ็นดู  ชายโปรดนั่งเงียบๆ รอจังหวะและโอกาสจากความหัวโบราณของคุณหญิงป้า  ร้ายจริงๆ :5555:
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ตอน 05 - up 30.8.61
เริ่มหัวข้อโดย: Swanlee ที่ 30-08-2018 15:15:17








05



ความรู้สึกที่ชัดเจนกว่าใช้กล้องส่องทางไกล

ส่องใจแล้วเจอแต่หน้าคุณ




“สร้อยข้อมือเส้นนี้ขาด ผมอยากซ่อมให้ใช้ได้อีกนานๆ”



“มันขึ้นอยู่กับการใช้งานของคนใส่ ถ้าใส่แล้วเกี่ยวนู่นเกี่ยวนี่แป๊บเดียวก็ขาดอีก”



ทรงโปรดพิงสะโพกบนโต๊ะทำงานสีน้ำตาลเข้ม กอดอกใช้ลิ้นดุนแก้ม



“เดี๋ยวพี่ส่งซ่อมให้ ว่าแต่นี่สร้อยโปรดเหรอ”



“เปล่าครับพี่คุณ ไม่ใช่ของผม”



หม่อมราชวงศ์ทรงคุณที่นั่งอยู่บนเก้าอี้เงยหน้ามองน้องชาย ก่อนคลี่ยิ้มเมื่อเห็นว่ามุมปากของหม่อมราชวงศ์ทรงโปรดกำลังยกยิ้ม



ทรงคุณหยิบไฟฉายขึ้นมาส่องดูเนื้อสร้อยข้อมือ แค่สัมผัสเขาก็รู้สึกถึงความนิ่มของสร้อย ไม่แข็งบาดเนื้อ แต่ถนอมผิวของคนที่ใส่...สร้อยเส้นนี้ราคาไม่ต่ำกว่าหลักแสนแน่นอน



และเขาก็ต้องขมวดคิ้ว เงยหน้ามองน้องชายอีกครั้งเมื่อเห็นว่าสร้อยเส้นนี้มีป้ายสลักชื่อเจ้าของเอาไว้



♥ เอ็นดู



“อ่อ ของว่าที่คู่หมั้น”



เขาหยอกน้องชายที่เคยพูดไว้ว่าจะไม่แต่งงานก่อนพี่ๆ ทั้งสามคน แต่ไปๆ มาๆ ก็กลับได้ยินข่าวว่าผู้ใหญ่กำลังหาฤกษ์หมั้นหมายซะแล้ว



และปกติคุณชายทรงโปรดไม่ค่อยกลับวัง จะมาที่นี่เฉพาะเวลาที่คุณแม่บอกให้มาเท่านั้น แต่คืนนี้ทรงโปรดโผล่หน้าโผล่ตาให้ทรงคุณเห็นที่วัง พร้อมเอาสร้อยข้อมือของว่าที่คู่หมั้นติดตัวมาด้วย...



มาทำธุระสำคัญให้คนในหัวใจ



“พี่ถามจริงเถอะโปรด ไปคบกับน้องตอนไหน ทำไมถึงปิดเงียบ”



“ยังไม่ได้คบครับพี่โปรด แต่จะคบในอนาคตเร็วๆ นี้”



“อ้าว ไม่ได้คบกันแล้วไปหมั้นกันทำไม”



“พี่คุณเคยรู้สึกรักใครตั้งแต่แรกเจอมั้ยครับ”



“พรหมลิขิตหรือไง”



ทรงโปรดก้มหน้าหัวเราะเบาๆ เขาจะบอกเรื่องนี้กับพี่ชายยังไงดี บอกว่าเป็นพรหมลิขิตตั้งแรกเจอ พรหมลิขิตที่พาเขามาพบกับเอ็นดูอีกครั้งในงานเลี้ยงวันนั้น



แล้วทรงโปรดก็ล็อกคนคนนี้ไว้กับสายตา บอกตัวเองว่าอีกไม่นาน…



หัวใจของเขาดวงนี้จะมีเจ้าของที่ชื่อว่าเอ็นดูมาครอบครอง



“โปรดพูดคำว่ารักออกมาเองนะ”



“ครับ ผมพูดเอง”



“ถ้าโปรดรู้สึกแบบนั้นก็ดี พี่นึกว่าคลุมถุงชนซะอีก”



สำหรับหรับเขา ความรู้สึกที่ก่อตัวรวดเร็วกับเหตุการณ์ที่ผ่านมาไม่ได้ถือว่าเป็นการคลุมถุงชน แต่เป็นทางชี้แนะของผู้ใหญ่ที่เขาเองก็เห็นว่ามันดีและไม่ผิดอะไร ถ้าหมั้นกันแล้วก็กลายเป็นคนรัก จากนี้เขาจะได้ไปมาหาสู่ห้องน้องได้โดยไม่ต้องกังวลว่าน้องจะเสียหาย



แต่เอ็นดูเถอะ คิดเหมือนกันหรือเปล่า



ไม่ใช่ว่าป่านนี้นอนร้องไห้ตาบวมไปแล้วเหรอ



ทรงโปรดมองนาฬิกาข้อมือ Rolex เลิกคิ้วเมื่อเห็นว่าตอนนี้เป็นเวลาสี่ทุ่มเศษ ตั้งแต่กลับจากคอนโดของเอ็นดูตั้งแต่วันนั้นเขาก็ไม่ได้เจอหน้าเจ้าคนน่ารักอีกเลย



นี่ก็เข้าวันที่สามแล้ว



คิดถึงจะแย่



ร่างสูงหยิบโทรศัพท์มือถือก่อนปลดล็อกแล้วกดเข้าแอพพลิเคชั่นแชต เลื่อนดูรายชื่อเพื่อนที่เพิ่งเพิ่มล่าสุดเมื่อวามวันที่แล้ว หลุดยิ้มออกมาทันทีที่ตาคมเห็นรูปโปรไฟล์ที่เป็นรูปเซลฟี่ของเจ้าตัว



N-Doo



เขายังจำเหตุการณ์วันนั้นได้ดี หลังจากที่คุกเข่าเล่าความเท็จให้ผู้ใหญ่ฟัง คุณหญิงลักขณานัดแนะเชิญครอบครัวของเขาเข้าเยี่ยมวังวงศ์ประดิษฐ์ที่เขาใหญ่ จุดประสงค์หลักก็เพื่อหาฤกษ์ยามดีๆ เพื่อทำพิธีหมั้น และอยากให้เขาเห็นชีวิตการเป็นอยู่ของเอ็นดูสมัยยังอยู่ในวังด้วย



ก่อนกลับ ทรงโปรดรีบปลีกตัวไปคุยกับเจ้ากระต่ายน้อยของเขาที่เอาแต่ทำหน้ามู่ทู่ เขาสนใจสีหน้าที่แสดงออกว่าไม่พอใจกับเหตุการณ์ครั้งนั้น…แต่เอ็นดูก็พูดอะไรออกมาไม่ได้ เลยได้แต่ทำหน้าตาน่าหยิกแบบนี้



เขายื่นไอโฟนให้น้อง เปิดไลน์พร้อมกับเข้าหน้าต่างค้นหาเพื่อน



‘อะไรครับ’

‘ขอไลน์’

‘...’

‘เบอร์โทรด้วย’

‘เอาไปทำไมครับ’

‘อัพเดตเรื่องสร้อยข้อมือ’

‘ไม่เป็นไรครับ ถ้าซ่อมเสร็จแล้ว...คุณค่อยเอามาให้ผมก็ได้’

‘เอามาให้ที่คอนโดเราใช่มั้ย’

‘เอ่อ...’

‘อยากชวนขึ้นห้องอีกใช่มั้ยล่ะ เลยไม่ยอมให้ไลน์’

‘นี่คุณ พูดเบาๆ สิครับ เดี๋ยวคุณหญิงป้าได้ยิน’



เขายกยิ้ม สนที่ไหนล่ะ ยังไงก็ต้องได้หมั้นกันอยู่แล้ว ถ้าคุณหญิงลักขณาได้ยินคงไม่เสียหายอะไร



‘ได้ แต่ถ้าไม่ให้ไลน์ ต้องบอกเรื่องที่ผับ--’

‘ผมก็จะบอกคุณหญิงป้าว่าเราไม่ได้เป็นอะไรกัน คุณก็แค่โกหก’

‘เชื่อได้เหรอ หลักฐานคาตาขนาดนั้น’



เอ็นดูหน้าง้ำงอ ขมวดคิ้วชนกันในขณะที่เขาเลิกคิ้วกระตุกยิ้มร้ายส่งให้



‘ไม่เป็นไร ไม่ให้ก็ไม่เป็นไร’



เขาทำท่าจะหมุนตัวเดินออกจากห้อง แต่จู่ๆ เจ้ากระต่ายน้อยก็เดินมาดักหน้า เอ็นดูเม้มปาก ก้มหน้าประหม่า ก่อนแบมือขอโทรศัพท์จากเขา



‘เอามาสิครับ ผมจะได้แอดไอดี’



ทรงโปรดทำหน้านิ่งก่อนยื่นโทรศัพท์ให้เอ็นดู ปลายนิ้วนุ่มสัมผัสกับมือหนาตอนที่น้องหยิบโทรศัพท์ไปครอบครองไว้ เอ็นดูก้มหน้าพิมพ์ไอดีของตัวเอง กดแอดเองเสร็จสรรพแล้วส่งคืนทรงโปรด



ตั้งแต่วันที่ได้ช่องทางการติดต่อมา ทรงโปรดก็เอาแต่เปิดดูรูปโปรไฟล์ของน้อง สลับกับโพสต์ในไทม์ไลน์ เขาหลุดยิ้มทุกครั้งที่เห็นว่าไทม์ไลน์ของเจ้าคนน่ารักมีแต่รูปที่โชว์รอยยิ้มสวยๆ ไว้พิฆาตคนมอง ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าทรงโปรดหลงเครื่องหน้าที่น่ารักของน้องไปแล้ว



และเอ็นดูยิ้มสวยมาก แต่ไม่เคยที่จะฉีกยิ้มสวยๆ ให้เขาสักครั้ง



ทรงโปรดไม่ได้ทักแชตน้องไปเพราะเอาแต่ส่องรูป ส่วนเอ็นดูก็ไม่ได้ทักแชตเขาเหมือนกัน แล้ววันนี้เขาก็เพิ่งได้มีโอกาสกลับวังตอนดึกเพื่อเอาสร้อยข้อมือมาส่งให้พี่ชายไปซ่อม



เขาเลิกงานตอนสามทุ่ม พอเสร็จงานก็รีบตรงมาที่วังทั้งที่ฝนยังตก



“กลับก่อนนะครับพี่คุณ ดึกแล้ว”



“โอเค ขับรถกลับดีๆ ล่ะ”



“ครับพี่คุณ ผมฝากสร้อยข้อมือด้วยนะครับ”



“ได้เลย พี่จะหาช่างฝีมือดีๆ ให้”



เขายกมือไหว้ลาพี่ชาย รบกวนเวลาพักผ่อนของหม่อมราชวงศ์ทรงคุณแล้วก็รีบเดินออกจากวังภัสร์ฤทัย ทรงโปรดกดรีโมทรถกับรีโมทประตูวังพร้อมกัน เขาเคลื่อนตัวเข้าไปนั่งในเบนซ์คันหรูที่ไม่เคยให้คนอื่นขึ้นมาโดยสารนอกคุณแม่และเอ็นดู ดึงเบลท์คาดลำตัว กำลังจะเข้าเกียร์ D แต่เสียงแจ้งเตือนข้อความเข้าก็ดังขึ้นซะก่อน



ปกติคุณชายทรงโปรดไม่ค่อยสนใจเสียงไลน์เท่าไหร่ แต่ตอนนี้เขากลับหยิบโทรศัพท์ออกจากกระเป๋ากางเกง แล้วเข้าหน้าแชต ก่อนที่รอยยิ้มจะปรากฏบนใบหน้าหล่อเหลาเพอร์เฟ็กต์ของทรงโปรด



จะไม่ให้ยิ้มได้ยังไง ก็คนที่เขาคิดถึงดันส่งแชตมาหา



ไม่รู้ว่ามือลั่นหรือเปล่า แต่หลังจากที่อ่านข้อความแล้วน่าจะไม่ คงไม่มีใครลั่นออกมาเป็นข้อความยาวๆ


มันคือกระแสของพรหมลิขิตเปล่าวะ

กระแสที่คิดถึงปุ๊บ ทักแชตมาปั๊บ

 



N-Doo: คุณ สร้อยข้อมือเป็นยังไงบ้างครับ ซ่อมได้หรือเปล่า

N-Doo: ขอโทษนะครับที่ทักมาดึกๆ ผมไม่รู้ว่าคุณนอนหรือยัง ถ้านอนแล้วขอโทษด้วยนะครับ

Prod: สร้อยเพิ่งส่งให้พี่คุณซ่อม พอดีเพิ่งว่าง ขอโทษที่ตอบช้า

Prod: พี่ยังไม่นอน ยังไม่ถึงบ้านเลย

 



ขึ้น Read เร็วจนอดคิดไม่ได้ว่าเจ้ากระต่ายน่ารักของเขาอาจจะจดๆ จ้องๆ หรือรอการตอบกลับอยู่ ทรงโปรดกำลังจะทิ้งโทรศัพท์ไว้บนเบาะข้างคนขับ แต่ไลน์ก็เด้งข้อความของน้องขึ้นมาอีก

 



N-Doo: อ่า ครับ

N-Doo: คุณจะไปผับเหรอครับ

 



นั่นแหละ ทรงโปรดต้องหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถือไว้อีกครั้ง

 



Prod: เห็นพี่เป็นคนชอบเที่ยวหรือไง

N-Doo: ครับ

N-Doo: เอ้ย

Prod: เพิ่งทำงานเสร็จ แล้วก็แวะมาหาพี่คุณ เอาสร้อยมาให้ซ่อม

Prod: ตอนนี้กำลังจะกลับแล้ว กำลังจะขับรถกลับแต่มาตอบแชตเราก่อน

Prod: ไม่ได้แวะผับหรือเที่ยวที่ไหน

 



ปกติเขาไม่ชอบพิมพ์อะไรยาวๆ แต่เพราะกลัวว่าเอ็นดูจะเข้าใจผิดเลยอธิบายยาวเหยียดไป



ขนาดยังไม่คบ ยังไม่หมั้น เขายังทำขนาดนี้



ถ้าได้เป็นเจ้าของใจน้องขึ้นมาจริงๆ ไม่ต้องรายงานสามเวลาเลยเหรอวะ

 



N-Doo: ขับรถดีๆ นะครับ ถนนมันลื่น

N-Doo: ฝันดีนะครับคุณ

Prod: จะนอนแล้วเหรอ

N-Doo: ยังครับ

Prod: ทำอะไรอยู่ ทำไมนอนดึก

N-Doo: กำลังท่องบทพรีเซนต์งานพรุ่งนี้อยู่ครับ

Prod: นอนได้แล้ว

N-Doo: ยังจำไม่ได้เลยครับ เดี๋ยวค่อยนอนตอนห้าทุ่มครึ่ง

Prod: อืม

Prod: พี่ก็น่าจะถึงห้องตอนนั้นพอดี

N-Doo: อ่า

Prod: รอมั้ย

N-Doo: รออะไรครับ

Prod: รอกลับถึงห้องก่อน เดี๋ยวมาคุยด้วยใหม่

N-Doo: ทพ

 



ทรงโปรดยิ้มกว้างให้กับตัวอักษร ทพ ไม่รู้ว่าทำไมเอ็นดูถึงตอบมาแบบนั้น แต่ถ้าให้เดา ขอเดาว่าน้องคงจะเขินจนมือสั่นแล้วเผลอพิมพ์ผิด

 



N-Doo: ทำไมต้องรอด้วย

Prod: ไม่อยากรอก็ไม่ต้องรอ

Prod: ฝันดีล่วงหน้าครับ

 



เอ็นดูส่งสติ๊กเกอร์รูปหมีที่มีข้อความว่า ‘ขับรถดีๆ นะ’ มาให้

ทรงโปรดวางโทรศัพท์ลงบนเบาะอีกครั้ง จากที่ตั้งใจว่าจะเหยียบคันเร่งสักหนึ่งร้อยยี่สิบกิโลเมตรต่อชั่วโมงเพื่อให้กลับถึงเพนต์เฮ้าส์ก่อนห้าทุ่มครึ่ง เห็นทีคงต้องขับสักแปดสิบกิโลเมตรต่อชั่วโมงแทน

 



*****





00:00 am



สารภาพว่ารอ เกือบจะรัวข้อความไปถามตั้งแต่ห้าทุ่มครึ่งแล้ว



เอ็นดูปิดสคริปต์บนหน้าจอแล็ปท็อป พับฝาจอลงเมื่อมันไม่มีความหมาย ท่องเท่าไหร่ก็ไม่จำใส่ใจ เพราะสมองมัวแต่กระวนกระวายคิดแต่เรื่องคนอื่น



ฝนตกหนักอีกแล้ว และคืนนี้ควรจะเป็นคืนที่เอ็นดูสามารถเดินไปล้มนอนลงบนเตียงนุ่มๆ ได้อย่างสบายใจ แต่กลับมานั่งขมวดคิ้ววุ่นวายเพราะห่วงเขา



เป็นห่วงจริงๆ



เอ็นดูยังถามตัวเองอยู่เลยว่าทำไมต้องเป็นห่วงคนที่เพิ่งเจอหน้ากันไม่กี่วัน แถมคนที่ห่วงอยู่นี่ยังชอบแกล้งตัวเองอีกด้วย



เอ็นดูหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูอีกครั้ง สติ๊กเกอร์หมีขับรถดีๆ นะ ที่ส่งไป ทรงโปรดก็แค่อ่านแต่ไม่ได้ตอบกลับ



คนผิวขาวหลับตาลงช้าๆ กำลังทะเลาะกับความคิดของตัวเองอยู่ว่าจะเอายังไงดี...จะทักไปก่อน หรือรออีกสักหน่อย



ไม่รู้แหละ ตอนนี้เอ็นดูปิดไฟที่ห้องนั่งเล่นแล้วพาตัวเองเดินเข้าห้องนอนแล้ว ไปนอนกลิ้งบนเตียงคงดีกว่านั่งหลังแข็งแบบนี้



แต่พอล้มตัวนอนบนเตียง มือก็เผลอไปกดโดนปุ่มคอลล์ในแอพแชต เอ็นดูมองตาค้างอยู่อย่างนั้นจนกระทั่งปลายสายกดรับถึงได้เอื้อมมือกดตัดสายอย่างตกใจ



เมื่อกี้เอ็นดูได้ยินเสียงทุ้มๆ ของทรงโปรดดังลอดผ่านลำโพงด้วย



ฮือ ทำไงดี ไม่ได้ตั้งใจโทรหาเขานะ



คนตัวเล็กหยิบหมอนขึ้นมาปิดหน้า เอ็นดูคลี่ยิ้มกว้างเมื่อรู้ว่าปลายสายคงไม่ได้เกิดอันตราย



แต่แล้วก็ต้องสะดุ้งเมื่อเสียงแชตดังขึ้น เอ็นดูดึงหมอนออกจากหน้า เหลือบมองโทรศัพท์ก่อนจะรีบหยิบมันขึ้นมากดตอบเมื่อตัวเองถูกกล่าวหา



 

Prod: ไง คิดเหรอถึงคอลล์มา

N-Doo: เปล่านะครับ นิ้วไปโดนต่างหาก

Prod: เหรอ



 

เอ็นดูยู่ปาก พูดความจริงเนี่ยไม่ค่อยจะเชื่อกันเลย



 

N-Doo: ไหนคุณบอกว่าจะถึงห้องห้าทุ่มครึ่ง

N-Doo: นี่เที่ยงคืนแล้วนะครับ

Prod: มีคนแถวนี้บอกให้ขับรถดีๆ เลยถึงห้องช้าไปหน่อย

N-Doo: คุณขับรถเร็ว คนนั่งด้วยหัวใจจะวายตาย

Prod: มีอยู่สองคนเท่านั้นแหละที่พี่ขับรถให้นั่ง

 



เอ็นดูกะพริบตาปริบๆ ไม่ได้พิมพ์อะไรกลับไป แต่กำลังคิดอยู่ ที่ทรงโปรดบอกแบบนั้น พูดเล่นหรือพูดจริง

 



Prod: สรุปรออยู่ใช่มั้ย

 



คนผิวขาวสะดุ้งเบาๆ เมื่อหน้าจอไอโฟนเด้งแชตต่อมา

 



N-Doo: เพิ่งท่องสคริปต์เสร็จต่างหาก

Prod: ดึกๆ แบบนี้ท่องไปจะจำอะไรได้

 



ก็จริงอย่างที่เขาบอกนั่นแหละ ดึกๆ แบบนี้ไม่เหมาะกับการท่องจำอะไรเลย จิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวด้วย ท่องสิบครั้งก็ลืมสิบครั้ง



เอ็นดูบอกตัวเองแล้วแหละ...พรุ่งนี้เช้าค่อยเริ่มใหม่

 



N-Doo: ก็ยังดีกว่าไม่ทำอะไรเลยนี่ครับ

 



เอ็นดูเม้มปาก หลังจากข้อความนั้นที่พิมพ์ลงไปทรงโปรดเพียงแค่อ่าน เขาไม่ได้ตอบอะไรกลับมาเลย คนผิวขาวก้มมองข้อมือของตัวเอง ข้อมือข้างซ้ายที่เคยมีสร้อยของคุณพ่อสวมอยู่ตอนนี้มันว่างเปล่า เอ็นดูไม่ชินเลยจริงๆ

 



N-Doo: คุณ ผมขอถามเรื่องสร้อยอีกได้มั้ยครับ

N-Doo: คุณพอจะบอกได้มั้ยว่าสร้อยจะซ่อมเสร็จเมื่อไหร่

Prod: คิดถึงสร้อยแล้วเหรอ

Prod: พี่ขอซ่อมด่วนที่สุด น่าจะไม่เกินสามวัน

N-Doo: อ่า ขอบคุณนะครับ



 

ค่อยเบาใจหน่อย อย่างน้อยก็ไม่ต้องรอสร้อยข้อมือเป็นเดือนเหมือนที่เคยส่งซ่อม



 

N-Doo: ถ้าอย่างนั้นฝันดีนะครับ

Prod: เดี๋ยวสิ

Prod: เพิ่งถึงห้อง ยังไม่ได้อาบน้ำเลย

Prod: ข้าวก็ยังไม่ได้กิน

 



คนที่นอนอ่านแชตอยู่ขมวดคิ้ว ไม่รู้ว่าทรงโปรดจะบอกทำไม แต่ถึงอย่างนั้นดวงตาเรียวก็จดจ่ออยู่กับหน้าแชตของเขามากๆ



เอ็นดูแค่รู้สึกว่า



การได้คุยกับทรงโปรดทำให้รู้สึกสบายใจ

 



N-Doo: ครับ

Prod: อะไรคือครับ

N-Doo: ก็รับรู้ไงครับ

Prod: รับรู้แล้วยังไงต่อ

Prod: ยังไม่ได้กินข้าว มาทำกับข้าวให้กินหน่อย

N-Doo: ดึกแล้วนะคุณ

N-Doo: หาอย่างอื่นรองท้องไปก่อนสิครับ

Prod: แสดงว่าถ้าไม่ดึกจะมาทำให้กินใช่มั้ย

N-Doo: เฮ้อ

N-Doo: แล้วแต่คุณจะคิดเลย

N-Doo: ไปนอนแล้วนะครับ

Prod: เอ็นดู

Prod: พรุ่งนี้มีเรียนกี่โมง

N-Doo: ถามทำไมครับ

Prod: อยากรู้

 



ทำหน้ามู่ทู่ กำลังจะวางโทรศัพท์ไว้บนหัวเตียง เอ็นดูไม่อยากสนใจว่าเขาจะพิมพ์อะไรต่อ ตอนนี้ตาเริ่มปรือ แล้วเอ็นดูก็ง่วงมาก ยิ่งฝนตกหนักแบบนี้ยิ่งเหมาะกับการนอนเพื่อที่จะตื่นเช้าๆ มาท่องสคริปต์อีกรอบ



เอ็นดูขยับตัวบนเตียงให้อยู่ในท่าที่สบาย เอื้อมมือปิดไฟบนหัวเตียง แล้วก็ต้องหลุดยิ้มออกมาเมื่อเห็นข้อความของทรงโปรดเด้งขึ้น



 

Prod: เดี๋ยวพรุ่งนี้เช้าไปหาที่คอนโด

Prod: อย่าเพิ่งหนีไปเรียนก่อน

Prod: ไม่งั้นจะโดนตี

“ชอบแกล้ง”



คนผิวขาวพึมพำ นอนตะแคงมองโทรศัพท์ของตัวเองที่มีแสงสว่างบนหน้าจอ ก่อนที่มันจะดับลง

ถ้าเป็นคืนก่อนๆ ในชีวิตปกติของเอ็นดู ก็คงจะนอนมองเพดานสีครีมที่อยู่ในความมืด หลับตาแล้วหลับไป แต่ผิดกันกับคืนนี้ เป็นคืนแรกที่เอ็นดูนอนมองแชตของทรงโปรดเป็นสิ่งสุดท้าย แล้วค่อยหลับตาลง



แล้วแต่เขาก็แล้วกัน อยากมาก็มา



ยังไงเอ็นดูก็ต้อนรับอยู่แล้ว







*****





 

พอรู้ว่าตู้เย็นไม่มีของสดสำหรับทำกับข้าวมื้อเช้า เจ้าของห้องก็รีบคว้ากุญแจรถแล้วขับออกไป Foodland ที่อยู่ใกล้ๆ คอนโดตั้งแต่ตีห้าครึ่งท่ามกลางฝนในกรุงเทพฯ ที่ยังพรำลงมา



เอ็นดูคิดไม่ออกว่าจะทำอะไรให้ทรงโปรดกินดี



และไม่รู้ด้วยว่าทำไมตัวเองต้องตื่นเต้นกับการมาของเขาด้วย



แต่ถึงอย่างนั้นตอนนี้อาหารมื้อเช้าที่เอ็นดูตื่นขึ้นมาทำก็เสร็จเรียบร้อยแล้ว



ตลกตัวเองเหมือนกันที่ดันตื่นมาเตรียมทุกอย่างให้เขาซะพร้อมไปหมด กับไอ้แค่ประโยคหนึ่งๆ ที่บอกว่าเช้านี้จะมาหาก็ทำให้เอ็นดูมีแรงกระตุ้นขึ้นมา ใครจะไปคิดว่าจู่ๆ ภาพที่เขากระตุกยิ้มต่อหน้าจะปรากฏขึ้นในหัว สามวันที่ไม่ได้เจอกัน...คุณชายทรงโปรดวนเวียนในความคิดของเอ็นดูตลอดเลย



เป็นสามวันที่เอ็นดูเปิดดูรูปโปรไฟล์ของเขาแทบทุกเวลาที่ว่าง



รูปโปรไฟล์ของทรงโปรดดูดีเหมือนตัวจริง ทรงโปรดใส่สูทดำ เขายกยิ้มให้กล้อง และรอยยิ้มร้ายๆ ของเขาก็ทำเอาคนมองไม่อยากจะละสายตา



เอ็นดูไม่อยากจะเชื่อตัวเองเหมือนกันว่าสามวันที่ผ่านมานี้ นอกจากจะส่องโปรไฟล์ของเขา ยังเผลอกดเข้าหน้าไทม์ไลน์ของทรงโปรดที่ไม่มีอะไรอัพเดตเลยสักอย่าง



และครั้งสุดท้ายก็คือเมื่อคืน กว่าจะรวบรวมความกล้าทักแชตถามเรื่องสร้อยข้อมือได้ก็เสียเวลาไปตั้งหลายชั่วโมง สารภาพเลยว่าที่ท่องสคริปต์ไม่จำขึ้นใจสักที ก็เพราะในหัวดันมีเรื่องของหม่อมราชวงศ์ทรงโปรดวนอยู่เต็มไปหมด



เอ็นดูส่ายหน้าเบาๆ เงยหน้ามองนาฬิกาดิจิตอลที่ติดอยู่บนผนังในครัว เขาใช้เวลาสำหรับเช้านี้ในการทำอาหารเพื่อรอคนที่บอกว่าจะมาหาราวสามชั่วโมง ตอนนี้แปดโมงกว่าแล้วยังไม่เห็นวี่แววของทรงโปรดเลยสักนิด



ไม่รู้ว่าจะต้องรอจนอาหารเย็นชืดไปเลยหรือเปล่า



จนกระทั่งเสียงกริ่งที่ประตูดังขึ้น คนที่ยืนพิงกำแพงห้องรีบหันมองก่อนสาวเท้าไปที่ประตู แล้วก็ต้องหลุดยิ้มออกมาทันทีเมื่อจอสี่เหลี่ยมที่ติดอยู่ข้างประตูแสดงใบหน้าของคนที่เอ็นดูกำลังรอ



เอ็นดูกลืนน้ำลายเบาๆ เป่าลมออกปาก แล้วเม้มริมฝีปากกลั้นรอยยิ้มของตัวเองไว้ไม่ให้เขาเห็นก่อนจะเอื้อมมือเปิดประตูห้องเข้าหาตัว



“สวัสดีครับ”



“สวัสดีครับ” เอ็นดูพึมพำสวัสดีกลับเมื่อคนตัวสูงทักทายขึ้นมาก่อนพร้อมกับรอยยิ้มที่มุมปาก มือขาวจับประตูไว้ ก่อนจะดันมันปิดสนิทเมื่อทรงโปรดเดินเข้ามาในห้อง



“โทรหาก็ไม่ยอมรับสาย”



“ปิดเสียงไว้เลยไม่ได้ยินครับ”



ทรงโปรดระบายยิ้มกว้างเมื่อเดินนำเจ้าของห้องมาถึงแพนทรี่แล้วพบกับอาหารเช้าหอมกรุ่นหน้าตาหน้าทานวางอยู่บนเคาน์เตอร์ประมาณสามอย่าง เขาคิดไม่ถึงเลยด้วยซ้ำว่าเอ็นดูจะทำอาหารเช้ารอจริงๆ



มือหนายกขึ้นลูบหน้าท้องแกร่งที่มีกล้ามเนื้อจางๆ อยู่บนนั้นก่อนจะหันมามองเจ้าของห้องที่ยืนทำหน้านิ่ง



“ทานข้าวเลยมั้ยครับ หรือคุณจะดื่มกาแฟก่อน”



“มีกาแฟด้วยเหรอ”



“ผมเพิ่งซื้อเครื่องทำกาแฟมา”



“...”



“จริงๆ มันชงชาเขียวกับโกโก้ได้ด้วย ทำได้หลายอย่างดีเลยซื้อมาน่ะครับ”



เจ้าเด็กน่ารักเดินไปกอดเครื่องชงกาแฟสีดำที่วางใกล้ๆ กับไมโครเวฟ ท่าทางเลิ่กลั่กที่ดูก็รู้ว่าน้องไม่ได้ซื้อเครื่องชงกาแฟมาเพื่อชงชาเขียวหรือชงโกโก้อย่างเดียวหรอก



ชื่อมันก็บอกอยู่ว่าชงกาแฟ



และทรงโปรดก็ชอบดื่มกาแฟ



เข้าข้างตัวเองได้มั้ยว่าน้องซื้อเครื่องนี้มาเพื่อชงกาแฟให้โดยเฉพาะ



“กินข้าวก่อนดีกว่า ส่วนกาแฟค่อยดื่มตอนกินข้าวเสร็จ”



“คุณดื่มกาแฟหลังกินข้าวประจำเหรอครับ”



“เปล่า ปกติไม่กินข้าวเช้า”



“...”



“ดื่มแต่กาแฟกับขนมปังก็อยู่ได้ยันเย็นแล้ว”



“ระวังปวดท้องนะคุณ”



“ทำไงได้ ไม่มีคนทำมื้อเช้าให้กิน”



“ไม่เห็นเกี่ยวกันเลย คุณแวะซื้ออะไรกินก่อนทำงานก็ได้นี่ครับ”



ทรงโปรดอมยิ้ม ยืนมองคนน่ารักที่ค้านการอดมื้อเช้าของเขา



“ถ้าไม่อยากปวดท้อง ต่อจากนี้ก็กินอาหารเช้าด้วยนะครับ มื้อเช้าสำคัญที่สุด”



“งั้นเอ็นดูก็ทำมื้อเช้าให้พี่กินทุกวันสิ”



คนน่ารักช้อนตามอง เอ็นดูเลิกคิ้วเล็กน้อย มุมปากจิ้มลิ้มเหมือนจะยกยิ้มแต่ก็ไม่...ทรงโปรดเห็นอาการประหม่าของเอ็นดูเต็มสองตา และเขาก็ชอบอาการประหม่านี้มากๆ



เพราะมันทำให้ทรงโปรดมั่นใจว่า...เอ็นดูกำลังหวั่นไหวไปกับเขา



“เรื่องอะไรล่ะครับ”



“เรื่องของว่าที่คู่หมั้น”



ทรงโปรดหย่อนกายลงบนเก้าอี้สตูลบาร์หน้าเคาน์เตอร์ เขาทิ้งประโยคให้อีกคนขมวดคิ้ว ส่วนตัวเองก็นั่งเท้าคางมองอาหารน่ากินที่เอ็นดูทำ



“นี่คุณ ผมไม่หมั้นกับคุณนะ”



ทรงโปรดหัวเราะหึในลำคอ คิดไว้แล้วว่าเอ็นดูคงไม่ยอม



“แล้วจะทำยังไง คุณหญิงป้าของเราดูเชื่อในสิ่งที่เห็นขนาดนั้น”



“เป็นเพราะคุณดันไปบอกกับคุณหญิงป้าว่าเราเป็น--” น้องกัดริมฝีปากเบาๆ ถอนหายใจก่อนพูดต่อให้จบ “เป็นแฟนกัน”



“แล้วไม่ใช่เหรอ”



“ไม่ใช่ครับ”



“ที่นอนเตียงเดียวกัน กอดกันคืนนั้น...หมายความว่าไง”



“ผม...คืนนั้น คุณอยากแย่งหมอนข้างผมไปทำไมล่ะ”



“รู้มั้ย พี่ได้หอมแก้มเราด้วยนะ”



“นี่คุณ”



ทรงโปรดยังจำสัมผัสนุ่มนิ่มกับกลิ่นหอมๆ ของน้องได้อยู่เลย คืนนั้นที่เขาขับรถมาส่งเอ็นดูถึงห้องและนอนร่วมเตียงเดียวกัน เอ็นดูหยิบหมอนข้างมาวางแบ่งเขตไว้ตรงกลาง แต่เขาก็หยิบออกแล้วเอาไปก่ายแทน พอตกดึกขึ้นมาหน่อย คนที่นอนแทบติดขอบเตียงในตอนแรกก็ขยับตัวมาพาดแขนบนตัวของเขา



ไม่พอแค่นั้น น้องยังขยับตัวซุกอกของเขาอีกต่างหาก มั่นใจว่าคนหลับปุ๋ยไม่รู้ตัวและคิดว่าเขาคงเป็นหมอนข้างไปแล้วแน่ๆ



แต่หมอนข้างใบนี้มีมือมีแขนที่สามารถกอดรัดน้องไว้ในอ้อมกอดได้



ทรงโปรดยอมรับว่าเขาแอบฉวยโอกาสด้วยการหอมเบาๆ บนหน้าผาก ตอนแรกเขาจะยับยั้งชั่งใจ แต่กลิ่นหอมของเอ็นดูยั่วยวนอารมณ์เขาเหลือเกิน จากหน้าผากก็เลื่อนไปที่จมูก ทรงโปรดพรมจูบเบาๆ บนแก้มนุ่มของน้อง จูบย้ำอยู่อย่างนั้นจนกระทั่งเลื่อนมาหยุดตรงริมฝีปากเอิบอิ่ม



ตรงนี้เขาละไว้ อดใจไว้ก่อน



รอสัมผัสตอนที่น้องรู้สึกตัว ตอนที่น้องสามารถตอบสนองได้ดีกว่า



“อย่าทำแบบนี้เลยครับ คุณกับผมไม่ได้เป็นอะไรกันสักหน่อย”



“ไม่รู้สึกอะไรกับพี่เลยจริงๆ เหรอ”



“ไม่เลยครับ”



“มีคนบอกว่าเวลาพูดโกหกมักจะหลบตา”



“...”



“เอ็นดูหลบตาพี่”



ร่างสูงลุกขึ้นจากเก้าอี้ เดินอ้อมเคาน์เตอร์ไปหาคนที่เอาแต่ก้มหน้าขมวดคิ้วอยู่ตรงเครื่องชงกาแฟ พอน้องเห็นว่าเขาเดินมาก็ทำท่าจะถอยหนี แต่แขนแกร่งของทรงโปรดรวบเอาตัวของคนน่ารักไว้ให้ตกอยู่ในอ้อมกอด เอ็นดูร้องฮือ พยายามดันไหล่กว้างให้ออกห่าง แต่ยิ่งน้องดิ้น เขาก็ยิ่งรัดแน่นกว่าเดิม



“ปล่อยเลยนะคุณ”



“สบตาก่อน แล้วบอกว่าไม่รู้สึกอะไรกับพี่เลย”



คนในอ้อมกอดไม่ยอมเงยหน้าขึ้นแม้แต่องศาเดียว แต่กลับก้มหน้า แนบแก้มกลมบนอกของเขาเพื่อหลีกหนีการสบตาพูดความจริง มือขาวที่เคยผลักไหล่เปลี่ยนเป็นกำแน่นแล้ววางทาบไว้นิ่งๆ แทน เอ็นดูส่ายหน้าช้าๆ



“คุณขี้โกง”



ขี้โกงมากๆ ด้วย



“ขี้โกงยังไง”



“คุณได้เปรียบ แต่ผมเสียเปรียบตลอด”



เสียเปรียบที่ตัวเองยอมตกอยู่ในอ้อมกอดของเขาง่ายๆ



และยังรู้สึกดีกับกอดอุ่นๆ ของเขา



“ถ้าเงยหน้าแล้วตอบคำถามตามความรู้สึก พี่คิดว่าเราน่าจะเป็นคนที่ได้เปรียบมากกว่า”



“แล้วถ้าไม่ตอบล่ะครับ”



“ก็จะทำให้ตอบจนได้ แล้วต้องตอบว่ารู้สึกดีกับพี่ด้วย”



“การกระทำคุณเหมือนจีบ แต่คำพูดคุณเหมือนจะง้างปากผม”



“รู้ด้วยเหรอว่าพี่จีบ” เสียงทุ้มนุ่มเปล่งขึ้นพร้อมกับหัวเราะเบาๆ



รู้ทั้งรู้แต่ก็ยังถาม



“ก็ คุณแสดงออกขนาดนั้น”



“แสดงว่าพี่ชัดเจนใช่มั้ย”



ขนาดนี้แล้ว...เป็นใครก็ต้องดูออก



“ผมไม่รู้...”



แต่น้องก็ยังทำปากแข็ง



ทำเป็นไม่รู้



“เอ็นดู เงยหน้ามองกันหน่อย...แล้วรู้ไว้ด้วย”



เขาผละตัวออกเล็กน้อยให้มีระยะห่างเพื่อที่จะก้มมองหน้าคนตัวเล็กกว่า ทรงโปรดอมยิ้มเมื่อเห็นว่าแก้มสองข้างของน้องแดงระเรื่อ เอ็นดูกัดริมฝีปากแน่น หันหน้าหนีเมื่อมือหนาเชยคาง แต่สุดท้ายก็เสียเปรียบเมื่อทรงโปรดล็อกใบหน้าหวานๆ ไว้ด้วยมือของเขา



“พี่กำลังจีบเรา”



“...”



“ถ้าตอนนี้เอ็นดูไม่รู้สึกอะไรอย่างที่พูด”



“...”



“พี่จะทำให้เรารู้สึกเอง”



เตรียมตัวไว้เลยหม่อมหลวงจิราคนน่ารัก : )









#ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี

                         

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 









หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ตอน 05 - up 30.8.61
เริ่มหัวข้อโดย: MmBb ที่ 30-08-2018 15:46:02
เจอเรื่องนี้ในเด็กดีเมื่อเช้าเองสะดุดตาเพราะชื่อเรื่องเลยพอมาเจอในนี้ด้วยแล้วก็อัพไวมากๆด้วยยิ่งชอบมากขึ้นไปอีก ดีแล้วที่พี่โปรดพูดออกไปตรงๆว่ารู้สึกยังไงกับน้อง ไม่งั้นน้องก็คงคิดแค่ว่าพี่เป็นคนชอบแกล้งแค่นั้นเอง ชอบค่ะรอตอนต่อไปนะคะ
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ตอน 05 - up 30.8.61
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 30-08-2018 15:49:09
ขอถังออกซิเจนด่วนค่า แอ้กๆ
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ตอน 05 - up 30.8.61
เริ่มหัวข้อโดย: k00_eng^^ ที่ 30-08-2018 18:30:44
เขินมากกก
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ตอน 05 - up 30.8.61
เริ่มหัวข้อโดย: momonuke ที่ 30-08-2018 19:54:07
น่ารักกก ฮืออออ ชายโปรดน่ารักไม่แพ้น้องเลยยยย คนบ้าาาา
น้องเอ็นดูน่ารักกกก แงงงง นุหลงน้องงงงงง :ling1: :ling1:
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ตอน 05 - up 30.8.61
เริ่มหัวข้อโดย: TheBig ที่ 30-08-2018 21:37:25
งื้ออออออออออ น่ารักมากๆเลยค่ะ รอตอนต่อไปนะคะ  :mew2: :mew1: :mew3:
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ตอน 05 - up 30.8.61
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 30-08-2018 22:21:32
 :pig4: :pig4: :pig4:

ดูทรงแล้ว  คงฟีลกู๊ด  ไม่น่าจะมีเสริฟมาม่าให้ทานกัน
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ตอน 05 - up 30.8.61
เริ่มหัวข้อโดย: กาแฟมั้ยฮะจ้าว ที่ 31-08-2018 09:29:14
ขอบคุณครับ +1 ให้นะครับ :a2: :katai2-1: o13
หัวข้อ: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ตอน 06 - up 31.8.61
เริ่มหัวข้อโดย: Swanlee ที่ 31-08-2018 16:54:30









06



คุณเหมือนยา

ค่อยๆ ซึมเข้ามาในหัวใจ สุดท้ายก็เสพติดไม่รู้ตัว



 

ฝนที่ตกตลอดทั้งวันในกรุงเทพฯ หายไปจากสายตาเมื่อรถตู้คันหรูเคลื่อนเข้าสู่จังหวัดนครราชสีมา มีเพียงท้องฟ้ามืดครึ้มกับเสียงฟ้าร้องที่ทำท่าเหมือนฝนจะตกเท่านั้น



เอ็นดูมองรถเบนซ์คันหรูสีดำที่วิ่งนำรถตู้คันนี้พร้อมกับความรู้สึกหลากหลายที่ซึมเข้ามาในหัวใจ รถที่ทรงโปรดขับนำทางเพื่อไปยังวังวงศ์ประดิษฐ์ที่ตั้งบนพื้นที่ดินเขาใหญ่ แล่นห่างจากรถที่เอ็นดูนั่งอยู่หลายเมตร ก่อนจะละสายตามามองธรรมชาติที่อยู่รอบข้างเพื่อกลบอาการว้าวุ่น



“นี่ไงจ๊ะเอ็นดู รีสอร์ตหนึ่งในสามโครงการที่ชายโปรดเป็นเจ้าของ”



หม่อมราชวงศ์รฐาชี้นิ้วเรียวยาวของเธอไปทางขวามือ เอ็นดูผงกศีรษะช้าๆ ใช้สายตาประกายวับวาวของตัวเองมองดูโครงการบ้านและคอนโดที่ทรงโปรดลงทุน



“สวยมั้ยจ๊ะ อีกสองที่จะอยู่ไกลจากวังไปหน่อย ที่เห็นออกแบบให้เป็นสไตล์ยุโรป ความคิดพี่ทั้งนั้นเลยจ้ะ”



“สวยมากเลยครับพี่ฐา” เอ็นดูคลี่ยิ้มให้



ในรถที่เขาโดยสารกลับบ้านเป็นรถของวังภัสร์ฤทัย มีคุณปนัดดา หม่อมราชวงศ์รฐากับลูกชายวัยสามขวบนั่งมาด้วย ตอนแรกเอ็นดูเกือบต้องไปนั่งเป็นตุ๊กตาหน้ารถข้างๆ ทรงโปรดแล้ว แต่ก็พูดจนคนตัวโตจนใจอ่อนยอมให้มานั่งรถตู้คันเดียวกับคุณแม่



จะไม่ใจอ่อนยังไงไหว ก็เอ็นดูเล่นอ้อนซะขนาดนั้น



เขาไม่ได้ทำอะไรเลย แต่ทรงโปรดบอกว่านั่นเป็นการอ้อน



แค่ทำหน้างอ ใช้ปลายนิ้วแตะท่อนแขนแกร่งแล้วเขย่าเบาๆ...แค่นี้ก็อ้อนแล้วเหรอ



“ไว้วันไหนเอ็นดูว่างๆ ให้ชายโปรดพาไปเที่ยววังที่กรุงเทพฯ ด้วยนะจ๊ะ” คุณแม่ของทรงโปรดลูบผมนุ่มสีน้ำตาลของเอ็นดูเบาๆ



เอ็นดูเพิ่งรู้จากปากหม่อมราชวงศ์รฐาก่อนที่รถจะออกจากกรุงเทพฯ ว่าทรงโปรดทำอสังหาริมทรัพย์ใกล้ๆ วังวงศ์ประดิษฐ์มาได้สี่ปีแล้ว โดยมีเธอเป็นหุ้นส่วนใหญ่ ใช้เวลาสร้างตั้งแต่เอ็นดูอยู่มัธยมปลาย กระทั่งไปเรียนต่อที่กรุงเทพฯ ถึงได้เสร็จสมบูรณ์พร้อมเปิดตัวอลังการ



และบริเวณที่รถกำลังขับผ่านอยู่ตอนนี้ ก็เป็นรีสอร์ตที่ชื่อ Ozone life Khao Yai หนึ่งในโครงการบ้านและคอนโดที่ทรงโปรดลงทุนสร้างขึ้นมาด้วยมือของตัวเอง



ไม่ทันไรรถตู้คันหรูก็เลี้ยวเข้าไปในรีสอร์ตของทรงโปรดก่อนจะจอดเทียบอยู่หน้ารีสอร์ต พนักงานรีบวิ่งกรูกันเข้ามาเปิดท้ายรถรับกระเป๋าเดินทางของคุณปนัดดากับหม่อมราชวงศ์รฐาขึ้นรถเข็นกระเป๋า เอ็นดูมองตามเลิ่กลั่กเมื่อประตูรถเปิดออกโดยคุณแม่ของทรงโปรด



“เดี๋ยวเอ็นดูกลับวังไปพักผ่อนนะคะ พอดีว่าแม่นัดคุณหญิงลักขณาที่นี่ อยากให้ท่านเยี่ยมชมธุรกิจของชายโปรดเขาก่อนน่ะจ้ะ...นี่แม่ไม่ได้บอกชายโปรดไว้ล่วงหน้าเลยนะ”



“ให้ผมลงไปด้วยได้มั้ยครับ”



“กลับเข้าวังดีกว่าจ้ะ มีเรื่องที่ผู้ใหญ่ต้องคุยกันเยอะแยะเลย ไว้เจอกันอีกทีตอนมื้อค่ำนะคะ”



คุณแมของทรงโปรดลูบผมเอ็นดูอีกครั้งก่อนจะก้าวลงจากรถพร้อมกับหม่อมราชวงศ์รฐา



ลับลมคมในอะไรเยอะแยะ



เอ็นดูเหมือนเด็กที่โดนห้ามไม่ให้ลงจากรถ มือขาวเกาะประตูรถตู้ไว้ตอนที่รถคันนี้เคลื่อนออกจากรีสอร์ต ชะเง้อมองตามผู้ใหญ่ทั้งสองที่เพิ่งลงจากรถจนกระทั่งสุดสายตาก่อนจะยอมแพ้ นั่งเอนกายอยู่บนเบาะหนังสีดำแล้วหลับตาลงช้าๆ



และไม่นานก็ต้องปรือตาขึ้นเมื่อรถตู้คันนี้แล่นเข้าสู่รั้วของวังวงศ์ประดิษฐ์ เอ็นดูเปิดกระจกแง้มรับกลิ่นของธรรมชาติที่ห่างหายไปนานถึงสามปี วังวงศ์ประดิษฐ์อยู่ท่ามกลางธรรมชาติแสนบริสุทธิ์ นอกจากจะมีภูเขาสวยๆ กับพื้นหญ้าแล้ว คุณหญิงป้ายังปลูกดาวเรืองกับกุหลาบไว้อีกด้วย



พุ่มดอกกุหลาบที่สมัยเด็กๆ เอ็นดูเคยมาเด็ดไปให้คุณพ่อยังอยู่ดีและสวยงามเหมือนเก่า เอ็นดูมองข้างถนนที่เต็มไปด้วยความทรงจำดีๆ แล้วก็คลี่ยิ้มออกมา



เริ่มอยากเรียนจบเร็วๆ แล้วกลับมาอยู่ที่นี่จัง



แต่กลับกันกับเอ็นดูเมื่อสามปีที่แล้ว เขาอยากเข้ากรุงเทพฯ ใช้ชีวิตวัยรุ่นคนเดียว และมันก็เป็นแบบนั้นมาตลอด เอ็นดูไม่มีเพื่อนเลย มีแต่พี่รหัสที่สนิทมากที่สุด ตอนแรกคิดว่าสันโดษดี แต่ไปๆ มาๆ ก็เหงา



เหงามาตั้งสามปีแหนะ



เอ็นดูระบายยิ้มเล็กน้อยเมื่อรถจอดเทียบที่หน้าวัง เขาขอบคุณคนขับรถก่อนเลื่อนประตูรถตู้ไปทางซ้ายเพื่อเปิดออก จังหวะที่กำลังก้าวเท้าซ้ายลงจากรถ จู่ๆ ประตูรถที่เลื่อนออกไปก็ทำท่าจะเลื่อนปิดเอง เอ็นดูที่ไม่ทันระวังต้องโดนประตูรถหนีบตัวแล้วถ้าไม่ได้มือหนาของคนที่ขับรถนำมาก่อนช่วยเลื่อนประตูกลับไปทางเดิม



“ลงดีๆ พื้นมันลื่น”



มือหนาข้างขวาจับประตูไม่ให้เลื่อนกลับ ส่วนมือซ้ายกุมมือขาวนวลของน้องไว้แน่น ทรงโปรดเป็นหลักสำคัญให้เอ็นดูยึดเพื่อก้าวลงจากรถอย่างปลอดภัย น้องเงยหน้าสบกับตาคมของร่างสูงแต่ยังไม่ได้เคลื่อนตัวลงจากรถ ดวงตาสวยหวานเหลือบมองมือซ้ายของตัวเองที่ถูกกุมเอาไว้



ความนุ่มนวล อบอุ่น อ่อนโยน แผ่ออกจากตัวทรงโปรดแล้วซึมผ่านฝ่ามือของเอ็นดู เหมือนมีกระแสบางอย่างที่ทำให้คนผิวขาวต้องหยุดชะงักแล้วมองหน้าเขา มองความเพอร์เฟ็กต์บนเครื่องหน้าของหม่อมราชวงศ์ทรงโปรด



แต่เมื่อได้สติน้องก็ก้มหน้างุด ค่อยๆ เคลื่อนตัวลงจากรถภายใต้การช่วงเหลือของทรงโปรดจนกระทั่งยืนบนพื้นด้วยความปลอดภัย มือหนาถึงได้ดึงประตูรถตู้ให้ปิดดังเดิม



“ขอบคุณนะครับ”



“เมื่อกี้เห็นคุณแม่กับพี่ฐาลงที่รีสอร์ต” เสียงนุ่มทุ้มดังขึ้นใกล้ๆ เอ็นดูผงกศีรษะ ยกมือขึ้นเกาใบหูเบาๆ



“ครับ คุณป้านัดบอกว่านัดพบผู้ใหญ่ฝั่งผมที่นั่น”



“ไม่เอา เรียกใหม่”



“อะไรครับ”



“คุณแม่ เรียกใหม่ ไม่ใช่คุณป้า”



“ผมเรียกของผมอย่างนั้นตั้งนานแล้ว”



“เปลี่ยนซะ ต่อจากนี้จะไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว”



“...”



“เรียกแม่คู่หมั้นว่าคุณป้าได้ยังไง”



“คุณขี้ตู่ที่สุดเลย”



คนตัวโตก้าวขายาวตามคนน่ารักที่หันหน้าหนีเดินนำเข้าไปในวัง ทรงโปรดมองแผ่นหลังบางของน้อง มองเอ็นดูที่เอื้อมมือเปิดประตูวังออกก่อนจะพบกับความเงียบ



“สวัสดีค่ะคุณเอ็นดู”



“สวัสดีครับพี่สา...ไม่มีใครอยู่เลยเหรอครับ”



เอ็นดูหันไปทักทายกับคนที่ทำหน้าที่ดูแลเรื่องความสะอาดของวัง เขาโทรศัพท์คุยกับพี่สาบ่อยที่สุดตั้งแต่ไปอยู่กรุงเทพฯ การเจอหน้ากันในรอบหลายปีเลยไม่ทำให้เกิดความเคอะเขินเท่าไหร่



“อยู่ที่รีสอร์ตโอโซนกันหมดเลยค่ะ เห็นว่าเชิญอาจารย์ที่ดูดวงแม่นๆ ไปหาฤกษ์หมั้นให้คุณเอ็นดูนะคะ”



“...”



“แหะๆ นั่น...ว่าที่คู่หมั้นคุณเอ็นดูหรือเปล่าคะ”



หม่อมราชวงศ์ทรงโปรดยกยิ้มให้พี่สา ยกมือสวัสดีคนแก่กว่าแม้ว่าเขาจะเป็นเพียงคนใช้แต่ทรงโปรดก็ไม่ได้ถือตัว ตรงกันข้าม เขาสุภาพเรียบร้อยกับทุกคน ทุกฐานะ



เอ็นดูไม่ได้แนะนำทรงโปรดให้พี่สารู้จัก ขณะเดียวกันก็ไม่ได้แนะนำพี่สาให้ทรงโปรดรู้จักเช่นกัน คนตัวเล็กหันซ้ายหันขวา ตามองทุกอย่างในบ้านที่คงยังคงสภาพเดิมทุกอย่าง



พี่สาเดินหายไปในครัวหลังจากที่สาวใช้อีกคนนำน้ำมาเสิร์ฟให้เอ็นดูกับแขกที่มาเยือน กระทั่งตอนนี้เหลือเพียงเขากับน้อง ทรงโปรดขยับตัวสำรวจความสวยงามของวังใหญ่หลังนี้



“ชอบ Versace เหรอ” เดาจากเฟอร์นิเจอร์ที่เป็นแบรนด์ Versace เกือบทั้งหมด



“คุณพ่อกับคุณหญิงป้าชอบครับ” เอ็นดูเงยหน้ามองร่างสูงที่กำลังจิบน้ำเปล่าในแก้ว “คุณแม่เคยเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ให้ Versace ด้วยครับ”



“พาแขกชมวังหน่อยสิ”



“คุณไม่เมื่อยเหรอครับ ขับรถมาตั้งไกล”



“ทำไม จะนวดให้เหรอ”



“...”



“เอางั้นก็ได้”



“เดินดีกว่าครับ จะได้ยืดเส้นยืดสาย”



เงยหน้ามองเขาครู่เดียวก็หลบตาแล้วสาวเท้าเดินนำ พาแขกตัวสูงเยี่ยมชมวังวงศ์ประดิษฐ์ที่อยู่ท่ามกลางธรรมชาติ เอ็นดูเริ่มจากบริเวณนอกก่อน ที่นี่มีสระว่ายน้ำ สวนดอกไม้ สนามเล็กๆ ไว้สำหรับตีกอล์ฟ



“ผมชอบออกมาปั่นจักรยานเล่นแถวนี้ครับ” เอ็นดูใช้ถนนเส้นเล็กๆ ภายในวังสำหรับปั่นจักรยานออกกำลังกาย หรือถ้าเบื่อวิวในวังเมื่อไหร่ก็จะปั่นออกไปข้างนอก เอ็นดูมักจะปั่นจักรยานผ่านพื้นที่โครงการของทรงโปรดเสมอเลย



ไม่น่าเชื่อว่า เขากับทรงโปรดจะอยู่ใกล้กันมาตลอด



“ปั่นออกไปถึงรีสอร์ตด้วยหรือเปล่า” ทรงโปรดวางแก้วน้ำไว้บนโต๊ะสีขาว ก่อนยืนเอามือล้วงกระเป๋าแล้วสูดกลิ่นอายของธรรมชาติเข้าปอด



“บางครั้งครับ ผมจำได้ว่าตอนนั้นรีสอร์ตของคุณยังไม่เป็นรูปเป็นร่างเลย”



“ติดปัญหานิดหน่อย โครงสร้างกับก็แบบไม่ลงตัว”



“แต่ก็ผ่านมาได้แล้วนะครับ รีสอร์ตคุณสวยมากๆ ด้วย”



ทรงโปรดยกยิ้ม หันหน้ามองคนตัวเล็กที่ยืนอยู่ข้างๆ



“อยากเป็นเจ้าของรีสอร์ตมั้ย”



“อยากครับ ผมเคยฝันอยู่นะว่าอยากทำธุรกิจแบบนี้บ้าง แต่คงต้องใช้เงินเยอะมากแน่ๆ เลย”



“มีอีกวิธี ง่ายกว่า”



“ยังไงครับ” คนตัวเล็กเงยหน้ามอง ก่อนเม้มปากเมื่อเห็นรอยยิ้มร้ายๆ ปรากฏบนใบหน้าหล่อเหลาของทรงโปรด



รอยยิ้มร้ายๆ ของเขาทำให้เอ็นดูหน้าแดง



“เป็นเมียพี่”



ยิ่งเจอคำพูดของเขาด้วย หน้ายิ่งแดงเข้าไปใหญ่



“จะโอนทุกโครงการให้เราเลย”



เพล้ง!



“ตกใจจนทำแก้วหลุดเลยเหรอ”



เอ็นดูผงะเมื่อเสียงแก้วแตกดังขึ้นก่อนก้มมองเศษแก้วกับน้ำเปล่าที่เจิ่งนองบนพื้นกระเบื้อง อยู่ในมือตัวเองแท้ๆ แต่ดันเผลอทำหลุดมือซะได้



น้องส่ายหน้าช้าๆ ทำท่าจะโน้มตัวเก็บเศษแก้วขึ้นมาแต่ก็ถูกคนตัวสูงห้ามไว้ ทรงโปรดไม่ได้พูดอะไร แต่เขาปรามเอ็นดูด้วยสายตาและก้มลงเก็บเศษแก้วขึ้นมาวางไว้บนโต๊ะด้วยตัวเอง



“คุณ ผมทำเองครับ คุณเป็นแขกนะ”



“ดูมือตัวเองก่อน ถ้าเก็บเองได้บาดมือพอดี”



มือเอ็นดูสั่นมาก สั่นตามหัวใจดวงน้อยๆ ที่อยู่ในอกข้างซ้าย มันเต้นโครมครามจนเอ็นดูไม่สามารถควบคุมได้



เพราะคำพูดของทรงโปรดคนเดียวเลย



“เขินขนาดนั้นเลยเหรอ”



“อะไรครับ”



“แสดงว่าหวั่นไหวกับคำพูดของพี่”



“ไม่สักหน่อย”



ทรงโปรดลุกขึ้นยืนเต็มความสูงหลังจากที่เขาเก็บเศษแก้วขึ้นมาวางไว้บนโต๊ะครบทุกชิ้น ยืนกอดอกมองคนตัวบางที่ทำหน้าทำตาเลิ่กลั่กน่าแกล้ง



เป็นกระต่ายตื่นตูมของทรงโปรดอีกครั้ง



“แล้วหน้าแดงทำไม” เสียงนุ่มทุ้มถามปนเสียงหัวเราะ



“ก็อากาศมัน...” เอ็นดูอึกอัก ลนลาน ไปไม่เป็น เขากำลังพูดคำว่าอากาศร้อนหน้าเลยแดง แต่ก็พูดออกไปไม่ได้เพราะตอนนี้อากาศไม่ได้ร้อน ออกจะเย็นเพราะฝนกำลังตก



“อากาศมันทำไม”



เอ็นดูเม้มปาก ส่ายหน้าไม่ยอมพูดต่อ กำลังจะหมุนตัวเดินหนีทรงโปรดแต่กลับถูกรั้งไว้ด้วยมือหนา



“ถ้าอยากมีรีสอร์ตเป็นของตัวเองอย่าลืมนึกถึงพี่นะครับ”



“เลิกพูดไปเลยนะคุณ”



แล้วก็...



เลิกทำให้หัวใจของเอ็นดูเต้นแรงผิดปกติด้วย



สงสารกันหน่อยเถอะ







*****





 

“ฤกษ์หมั้นที่ป้าดูไว้เป็นวันที่ยี่สิบอีกสองเดือนหน้า เสียดายจริง ป้านึกว่าจะได้ฤกษ์ภายในอาทิตย์นี้ซะอีก”



ถึงจะไม่ได้ฤกษ์หมั้นภายในอาทิตย์นี้ แต่ข้อมือของทรงโปรดกับเอ็นดูก็เต็มไปด้วยสายสิญจน์สีขาว



มันเกิดขึ้นหลังจากที่เอ็นดูพาเขาเยี่ยมชมวังเสร็จแล้ว ผู้ใหญ่ฝ่ายเขากับฝ่ายน้องก็กลับจากรีสอร์ตของเขาพอดี พวกท่านไม่พูดอะไร มีแต่รอยยิ้มแล้วควักมือเรียกให้ทรงโปรดกับเอ็นดูเข้าไปหาภายในห้องรับแขก ก่อนจะถูกผูกสายสิญจน์เข้ากับข้อมือซ้าย



ตอนแรกทรงโปรดนึกว่าน้องจะตกใจและไม่ยอมให้ผู้ใหญ่ผูกข้อไม้ข้อมือซะอีก แต่กลับกัน เอ็นดูไม่ค้านอะไรสักอย่าง ยอมคลานเข่าเข้าหาผู้ใหญ่อย่างนอบน้อม ยกข้อมือข้างซ้ายให้พวกท่านผูกข้อมือพร้อมกับรอยยิ้มจางๆ บนใบหน้า



‘รักกันชอบกันก็ทำให้ถูกต้องตามประเพณีดีกว่านะลูก จากนี้ดูแลกันดีๆ นะจ๊ะ’



เขายังจำเสียงนุ่มนิ่มของน้องที่ขานรับคำอวยพรจากคุณหญิงลักขณาได้ดี น้องใจเย็นดูต่างจากคนที่ไม่ยอมรับงานหมั้นหมายหรืองานผูกข้อไม้ข้อมือเลยสักนิด



เอ็นดูทำให้ทรงโปรดแปลกใจ



หรือน้องจะยอมเป็นเมียเราจริงๆ แล้ววะ



“อาหารถูกปากเหรอชายโปรด ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เชียว”



คุณแม่แซวเขากลางโต๊ะอาหาร และมันก็ทำให้ทรงโปรดหลุดยิ้มออกมาเมื่อเห็นคนผิวขาวข้างกายกำลังหันหน้ามองเขา



“ได้ทานขนมหวานเลยอารมณ์ดีครับ อร่อยด้วย”



“บัวลอยไข่หวานที่ชายโปรดกินอยู่ เอ็นดูทำจ้ะ ป้าสอนเองกับมือ”



“หวานเหมือนคนทำเลยครับ”



“นี่คุณ พูดแบบนี้ได้ยังไง”



ต่อหน้าผู้ใหญ่อย่าหวังว่าเขาจะเว้น



อะไรที่เร่งต้อนเร่งจีบได้เขาทำหมด แล้วผลลัพธ์ของการจีบน้องไม่เลือกสถานที่ก็คือแก้มกับจมูกที่ขึ้นสีแดงนั่นแหละ



น้องจับช้อนแน่นมาก ทำปากยู่ตอนที่เขายกยิ้มให้ ก่อนจะก้มหน้างุดเมื่อได้ยินเสียงหัวเราะของผู้ใหญ่ดังขึ้น



ดูท่าว่าคนที่วงศ์ประดิษฐ์จะชอบหม่อมราชวงศ์ทรงโปรดเอามากๆ



ทรงโปรดรวบช้อนสั้นวางไว้บนจานที่ใช้รองถ้วยบัวลอยไข่หวานหลังจากที่กินจนหมด นั่งจิบน้ำเปล่าอยู่พักหนึ่งคุณแม่ก็เอ่ยปากขอตัวกลับที่พักเพราะเจ้าหลานชายตัวดีดันงอแงขึ้นมา



“คุณนัดน่าจะพักที่วังนะคะ” คุณแม่ของเอ็นดูทำหน้าเสียดาย



“อยากพักเหมือนกันค่ะคุณแอ้ แต่เจ้าตัวเล็กชอบงอแงตอนดึก เกรงใจน่ะค่ะ กลัวจะร้องเสียงดังรบกวน”



คุณแม่หมายถึงลูกชายของพี่สาวเขาเอง เด็กวัยกำลังซุกซนน่าบีบแก้มคนนี้ชอบงอแงกลางดึก แล้วร้องไห้เสียงดังลั่นวังเลยทีเดียว ทรงโปรดเคยเจอกับตัวเองตอนกลับไปค้างที่วัง



“กลับก่อนนะคะคุณแอ้ เจอกันพรุ่งนี้เช้านะคะ”



“ค่ะคุณนัด”



คนตัวสูงลุกขึ้นยืนก่อนยกมือไหว้ลาผู้ใหญ่ เช่นเดียวกับเอ็นดูที่ยืนขึ้นรอส่งแขก น้องยกมือไหว้ลาคุณแม่กับพี่สาวของเขา ชะงักเล็กน้อยเมื่อต้องก้มศีรษะไหว้ทรงโปรดอีกคน



“ไม่ต้องก็ได้”



“สวัสดีครับ”



อ่าว



บอกว่าไม่ต้อง แต่ก็ยังยกมือไหว้เขาหน้าตาเฉย ทรงโปรดเลยรับไหว้น้องด้วยการใช้มือหนารองมือขาวที่พนมไว้ตรงอก แล้วใช้มืออีกข้างลูบผมสีน้ำตาลนุ่มของน้องเบาๆ



น้องนิ่งไปเลยว่ะ



“น่ารักจริงๆ เลยนะคะคู่นี้”



เอ็นดูผงะตัวออกเมื่อเสียงของหม่อมราชวงศ์รฐาดังขึ้นพร้อมกับเสียงหัวเราะคิกคักของคนรอบข้าง น้องทำหน้ามู่ทู่ ปากจิ้มลิ้มง้ำงอ ก้มหน้าซ่อนแก้มแดงๆ ของตัวเองจนคางแทบชิดอก



“ถึงรีสอร์ตแล้วเดี๋ยวไลน์บอก”



“ไม่ต้องหรอกครับ ช่วงนี้ผมขี้เกียจตอบแชต”



“ขี้เกียจตอบแชตใช่มั้ย”



“ครับ”



“โอเคครับ พี่จะได้เปลี่ยนเป็นโทรไปหาแทน”



นี่แหละคือเขา



หม่อมราชวงศ์ทรงโปรด ภัสร์ฤทัย



คนที่จะทำให้เอ็นดูต้องขาดอากาศหายใจเข้าสักวัน







*****







เอ็นดูยืนเม้มปากใช้สายตามองท้องฟ้าที่มีแต่เมฆบดบังจนไม่เห็นดาวสักดวง มือข้างซ้ายถือโทรศัพท์ราคาแพงของตัวเองแนบเข้ากับใบหู ก้มหน้ามองกุญแจรถเบนซ์ในมือขาวข้างขวา ก่อนจะเอนกายพิงกรอบประตูระเบียง



[สะดวกขับมาคืนพี่มั้ยครับ พรุ่งนี้เช้าพี่ต้องใช้รถด้วย]



“พรุ่งนี้คุณไม่ต้องมาใส่บาตรที่วังเหรอครับ”



[อืม...ใส่บาตรหกโมง แต่พี่ต้องไปอีกที่ตอนตีสี่ครึ่ง]



“...”



[หรือจะให้พี่เดินไปเอากุญแจรถที่วังก็ได้]



“ไม่ต้องหรอกครับ เดี๋ยวผมไปคืนให้”



[ขับรถพี่มานะ]



“รู้แล้วครับ”



ทรงโปรดทำกุญแจรถเบนซ์หายที่วัง ไม่รู้ว่าหายเองหรือจงใจให้หาย แล้วเขาก็ดันเป็นคนหาเจอซะด้วย



มันหล่นอยู่ที่สวนดอกไม้นี่เอง เอ็นดูเปิดไฟให้สว่างทั่วทั้งบริเวณรั้ววังแล้วเดินออกไปหาตอนสองทุ่มครึ่ง พอเจอแล้วก็รีบส่งข่าวบอกคนอื่นๆ ที่กำลังหากันให้วุ่น เอ็นดูขอบคุณคนงานในวังทุกคนที่อุตส่าห์มาช่วยหา



“อีกห้านาทีผมไปถึงนะครับ”



[...]



เอ็นดูชะงักตอนที่กำลังเอื้อมมือเปิดประตูห้อง ลดมือข้างที่ถือโทรศัพท์ มองหน้าจอให้แน่ใจว่าสายไม่ได้หลุด แต่ปลายสายแค่เงียบไป



“คุณ ผมจะวางสายแล้วนะ”



[ไม่ต้องวาง]



“เดี๋ยวผมต้องขับรถนะครับ”



[วางโทรศัพท์ไว้บนเบาะก็ได้ แต่ไม่ต้องวางสาย]



“เปลืองค่าโทรนะคุณ”



[ไม่เป็นไร รวย]



แอบเบะปากให้กับสกิลการอวยตัวเองของทรงโปรด รู้แล้วว่าเขารวย แถมคนรวยคนนี้ยังเป็นฝ่ายโทรมาหาเอ็นดูก่อนอีกด้วย



พอไม่รู้ว่าจะพูดอะไรต่อเอ็นดูเลยเงียบ แต่มือก็ยังถือโทรศัพท์แนบใบหูฟังเสียงลมหายใจของเขาที่เล็ดลอดดังผ่านโทรศัพท์ เอ็นดูก้าวเท้าลงบันไดพลางกระชับเสื้อคลุมแขนยาวที่สวมทับชุดนอนสีครีม เดินผ่านห้องนั่งเล่น ห้องรับแขก ห้องโถงของวังเพื่อออกไปยังลานจอดรถ



เอ็นดูแง้มประตูวังเบาๆ แทรกตัวออกก่อนปิดลงเบาๆ เช่นกัน นิ้วโป้งกดปุ่มปลดล็อกประตูรถเบนซ์คันหรูผ่านรีโมทรถที่ตัวเองถืออยู่ ไฟหน้าและไฟท้ายของรถคันหรูกะพริบสองครั้ง เอ็นดูก้าวเท้าเดินตรงไปก่อนจะเปิดประตูรถแล้วแทรกตัวเข้าไปนั่ง



[เราเป็นคนแรกที่ได้ขับรถพี่]



“เหรอครับ ต้องดีใจมั้ย”



ชะงักเล็กน้อยตอนที่รู้ว่าตัวเองเป็นคนแรกที่ได้ขับรถของทรงโปรด เอ็นดูเหยียบเบรกพร้อมกับกดปุ่มสตาร์ท เปิดไฟหน้า เปิดแอร์ เข้าเกียร์แล้วเปลี่ยนเป็นเหยียบคันเร่งก่อนที่จะหมุนพวงมาลัยไปทางขวาด้วยมือข้างเดียวของตัวเอง



[ดีใจหน่อย ปกติพี่เป็นคนหวงรถนะ]



“...”



[มีแค่คุณแม่กับเราที่ได้นั่งรถพี่]



“เป็นความโชคดีหรือโชคร้ายครับ”



ทรงโปรดหัวเราะเสียงเบาผ่านโทรศัพท์ เสียงหัวเราะทุ้มนุ่มของเขาทำเอาคนฟังหลุดยิ้ม



“นี่คุณรออยู่ตรงไหน ผมต้องขับเข้าไปในรีสอร์ตเลยหรือเปล่า”



[ขับเข้ามาเลย แล้วเลี้ยวซ้าย]



“อ่า...ครับ”



[พี่รออยู่ในสวน]



“รอให้ยุงมากัดเหรอครับ”



[รอให้เรามากัดแทนได้มั้ย]



ไม่อยากคุยกับเขาต่อแล้ว อยากจะตัดสายทิ้งไปด้วยซ้ำ แต่มือมันไม่ยอมทำตามที่ใจสั่งสักที เอ็นดูเลยได้แต่กลั้นยิ้มตอนที่รถกำลังเคลื่อนไปตามถนนเส้นเล็กๆ ในบริเวณของเขาใหญ่ พอใกล้ถึงหน้ารีสอร์ตเลยตบไฟเลี้ยวซ้าย หมุนพวงมาลัยอย่างใจเย็น



“กำลังเลี้ยวเข้าไปในสวนแล้วครับ”



[โอเค จอดรถไว้แถวๆ นั้นแล้วมาหาหน่อยครับ พี่รออยู่ตรงสระว่ายน้ำ]



“คุณจะแกล้งอะไรผมหรือเปล่าเนี่ย”



[ไม่ได้แกล้ง แต่ตรงนี้วิวสวย พี่อยากให้มาดูด้วยกัน]



“ไม่เป็นไรครับ ผมอยู่ที่นี่ตั้งแต่เด็กจนโต เห็นวิวครบทุกมุมแล้ว”



[ทำไมดื้อแบบนี้] น้ำเสียงไม่จริงจังทำเอาคนที่กำลังจอดรถหลุดยิ้มกว้าง



“ผมกำลังจอดรถอยู่ครับ เดี๋ยวเดินไปหา”



[น่ารัก]



เอ็นดูเม้มปาก ค่อยๆ ก้าวลงจากรถเบนซ์ก่อนจะยืนก้มหน้า พยายามทำให้ตัวเองสงบ ไม่หลงยิ้มไปกับคำพูดของทรงโปรด



“เมื่อกี้คุณยังบอกว่าผมดื้ออยู่เลย”



[ดื้อจริงมั้ยล่ะ เราไม่ยอมทำตามที่พี่บอก]



“เป็นอะไรกับผมเหรอครับ ทำไมต้องทำตามที่คุณบอกทุกอย่างด้วย”



[อยากให้พูดจริงๆ เหรอ]



“เอ่อ ไม่ต้องพูดก็ได้”



อยากตีปากตัวเองแต่ก็ต้องทำตัวปกติไว้ก่อน เพราะตอนนี้เอ็นดูเดินมาเรื่อยๆ ตามทางที่เขาบอกจนกระทั่งเห็นแผ่นหลังกว้างที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ริมสระว่ายน้ำ



ให้เห็นไม่ได้หรอกว่าตัวเองกำลัง...เขินไปกับคำพูดทุกคำของเขา



“ถึงแล้วครับ”



ทรงโปรดหันหน้ามองก่อนจะตัดสายทิ้ง ร่างสูงลุกขึ้นจากเก้าอี้ เดินมาหาคนตัวเล็กที่ยื่นกุญแจรถรออยู่ก่อนแล้ว



“ขอบคุณครับ”



“นี่คุณ เอากุญแจคืนไปแล้วปล่อยมือผมด้วย”



“ขอเวลาแป๊บเดียว”



คนตัวสูงไม่ได้หยิบกุญแจรถของตัวเอง แต่กลับยกมือขึ้นกุมมือขาวที่ถือกุญแจรถของเขาอยู่ ทรงโปรดพาเอ็นดูเดินมาใกล้ๆ เก้าอี้ตัวเดิมที่เขานั่งเมื่อกี้ ผายมือให้น้องนั่งลงแต่กลับถูกส่ายหน้าปฏิเสธ



“คุณมีอะไรก็ว่ามาเลย” น้องพึมพำ “มันดึกแล้วนะครับ”



จากใบหน้าหล่อเหลาของทรงโปรดที่กำลังคลี่ยิ้มก็เปลี่ยนเป็นนิ่งขรึมจริงจัง จากเดิมที่เคยกุมมือขวาของเอ็นดูไว้แค่ข้างเดียวก็ยกมือซ้ายขึ้นมากุมไว้ด้วยกัน เอ็นดูก้มหน้ามองมือหนาเล็กน้อยก่อนจะเงยมองคนตัวสูง



“ไหนบอกว่าไม่ยอมหมั้นกับพี่” ทรงโปรดเลิกคิ้ว “ทำไมจู่ๆ ถึงยอมให้ผู้ใหญ่ผูกข้อมือง่ายๆ”



“คุณพูดอะไรไว้ล่ะครับ”



คราวนี้ทรงโปรดขมวดคิ้ว ไล้ปลายนิ้วโป้งบนหลังมือขาวของเอ็นดูเบาๆ ก่อนจะยกยิ้มมุมปาก



“พี่กำลังจีบเรา”



คำนี้ขอซื้อได้มั้ย



ได้ยินทีไร...หน้าร้อนทุกทีเลย



“แสดงว่าให้โอกาสพี่?”



กำลังจะอ้าปากเปล่งคำตอบ แต่เสียงฟ้าร้องกลับดังขึ้นพร้อมกับฝนที่โปรยลงมาอย่างรวดเร็ว ทรงโปรดใช้มือหนาบังศีรษะของน้องไม่ให้โดนฝน ก่อนจะพาวิ่งเข้าไปหลบข้างๆ สระว่ายน้ำ เป็นที่ที่มีหลังคายื่นออกมาแค่หนึ่งเมตรเท่านั้น



เอ็นดูยืนหลังชิดกำแพงโดยมีคนตัวสูงใช้ร่างหนาของตัวเองบังละอองฝนให้ ทรงโปรดเท้าแขนซ้ายไว้กับผนังกำแพง ส่วนมือขวาวางหลวมๆ บนเอวบางของน้อง



“ขยับเข้ามาอีกก็ได้ครับ หลังคุณโดนฝน”



มือขาวกำเสื้อยืดบริเวณอกไว้แน่น กลั้นหายใจเมื่อเขาขยับแนบชิดตามที่บอกจนไม่เหลือพื้นที่ว่างระหว่างกัน



ถึงฝนจะตก ฟ้าจะร้องกังวาน



แต่ทำไมเอ็นดูถึงได้ยินเสียงหัวใจของทรงโปรดเต้นดังก็ไม่รู้



“เอ็นดู เมื่อกี้ที่ถาม ยังรอคำตอบอยู่นะครับ”



ทรงโปรดโน้มใบหน้าลงมา คลอเคลียใบหูขาวสะอาดของน้องด้วยปลายจมูกโด่งจนอยากขยับหนีแต่ก็ทำไม่ได้ เพราะทุกส่วนของร่างกายมันชิดกันไปหมด



“คุณ ข...ขยับออกไปหน่อยได้มั้ยครับ”



เอ็นดูไม่ชอบแบบนี้เลย ใกล้จนรับรู้ถึงลมหายใจอุ่นๆ ของเขา



“ตอบมาก่อน”



“คุณ...”



“ให้โอกาสพี่ใช่มั้ย”



น้องกัดริมฝีปากเอิบอิ่มเบาๆ โครงหน้าหวานเงยมองทรงโปรดที่เลิกคิ้วรอคำตอบอยู่



แต่ยังไม่ทันที่ขยับปากเปล่งคำตอบออกมา ริมฝีปากจิ้มลิ้มสีชมพูก็ถูกทาบลงแผ่วเบาด้วยปากของคนตัวสูง คางเรียวถูกล็อกด้วยมือหนา ทรงโปรดบีบคลึงปลายคางของน้องเบาๆ ค่อยๆ ขยับริมฝีปากลงบนความนุ่มนิ่มอวบตึงของกลีบปาก



ทรงโปรดยกยิ้มทั้งที่ยังแนบชิดริมฝีปาก เขาถือว่าการที่มือของน้องคลายออกจากเสื้อแล้วยกขึ้นคล้องลำคอแกร่งเป็นคำตอบที่ถามไปเมื่อกี้ ถือว่าการที่เอ็นดูขยับปากจูบตอบ เป็นการแสดงความรู้สึกที่เอ่อล้นเต็มอกให้เขารับทราบ



ว่าน้องเองก็รู้สึกดีๆ กับเขาไม่แพ้กัน



แหงสิ ถ้าไม่รู้สึกอะไรเลย



จะยอมให้จูบแบบนี้ได้ยังไง

 









#ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี











เอ็นดูใครมากกว่ากันคะ

ระหว่างคุณชายโปรดกับน้องเอ็นดู ><



 

 

 

 

 

 

 

 

 




หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ตอน 06 - up 31.8.61
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 31-08-2018 17:23:31
 :pig4: :pig4: :pig4:

หวานกันซะ

ป.ล.  คงไม่คิดจะเสริฟมาม่าให้ทานนะ
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ตอน 06 - up 31.8.61
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 31-08-2018 17:37:11
อะไรจะกร๊าวใจเบอร์นี้คะ. ทั้งคู่น่ารักแบบนี้รีบๆแต่งเลยค่ะ
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ตอน 06 - up 31.8.61
เริ่มหัวข้อโดย: catka12 ที่ 31-08-2018 20:49:12
 :hao7: หวานนนนนนนมากกกกกก ชอบบบบบบบบค่ะ  o13 มาต่อเร็วนะค่ะ  :call:
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ตอน 06 - up 31.8.61
เริ่มหัวข้อโดย: momonuke ที่ 31-08-2018 23:05:15
ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดีเหรอคะ แต่งแบบนี้ก็ขาดอากาศหายใจพอดีเหมือนกันค่ะ
นุเขินนนนน ไม่ไหวแล้ววว นุจะตายยยยยย ชายโปรดกับน้องน่ารักเวอร์ๆๆๆ :ling1: :ling1: :ling1:
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ตอน 06 - up 31.8.61
เริ่มหัวข้อโดย: goosongta ที่ 01-09-2018 05:15:00
หมันไส้ชายโปรด มีความเจ้าเล่ห์
หัวข้อ: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ตอน 07.1 - up 1.9.61
เริ่มหัวข้อโดย: Swanlee ที่ 01-09-2018 14:28:44






07



ในแต่ละวันของชีวิต

ถูกเติมเต็มด้วยรอยยิ้มของคุณ

 





เป็นเช้าแรกที่ได้มีโอกาสตักบาตรในรอบหลายเดือน คนผิวขาวย่นจมูกฟุดฟิดเมื่อกลิ่นหญ้าชื้นโชยขึ้นมา เอ็นดูหลับตาลงรับกลิ่นอายของธรรมชาติ



“อายุวรรณโณ สุขัง พลัง”



มือที่พนมอยู่ตรงอกยกขึ้นรับพร เอ็นดูพึมพำสาธุเบาๆ แบมือลูบผมตัวเองก่อนหันไปพยุงคุณหญิงลักขณาให้ลุกขึ้น ส่วนคุณแม่ของเขาน่ะลุกขึ้นยืนเต็มความสูงของอดีตนางงามก่อนใครเพื่อนแล้ว



เลยรีสอร์ตของคุณชายทรงโปรดไปหน่อยจะมีพระเดินบิณฑบาตตอนเช้า เมื่อคืนที่ผู้ใหญ่นัดแนะกันไว้ว่าจะทำบุญตักบาตรร่วมกันทรงโปรดเองก็รับทราบ แต่เช้านี้ก็ไร้เงาเจ้าของร่างสูงอยู่ดี



“เดี๋ยวเข้าไปทานอาหารเช้าด้วยกันนะคะน้องนัด พี่ให้เด็กทำข้าวต้มกุ้งไว้ เห็นน้องฐาบอกว่าเจ้าตัวเล็กชอบทาน”



เคล้ากับเสียงคุณหญิงลักขณาก็เป็นเสียงหัวเราะเอิ้กอ้ากของเจ้าตัวเล็กที่กำลังวิ่งเล่นอยู่บนสนามหญ้า



“ชายโปรดก็ชอบข้าวต้มกุ้งเหมือนกันค่ะคุณพี่ น้าหลานนิสัยการกินเหมือนกันเป๊ะเลยค่ะ”



“ทานง่ายดีนะคะ” คุณหญิงลักขณายิ้ม



“ใช่ค่ะคุณพี่ เสียดายจัง...ชายโปรดน่าจะกลับมาไม่ทันมื้อเช้า”



คุณนัดพูดขึ้นเพราะลูกชายสุดที่รักตื่นตั้งแต่ตีสี่แล้วขับรถออกไปดูงานอีกโครงการในพื้นที่บริเวณเขาใหญ่ที่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากวังวงศ์ประดิษฐ์เท่าไหร่ แต่ทรงโปรดก็แชตมาบอกเอ็นดูตั้งแต่หกโมงแล้วว่าคงจะกลับไปไม่ทันไปใส่บาตรด้วย



คนอะไรทำงานแม้กระทั่งวันหยุด



เอ็นดูยกเก้าอี้ที่ใช้วางของใส่บาตรวางไว้ท้ายรถตู้ ก่อนจะเดินตรงไปยังจักรยานของพี่แม่บ้านที่ตัวเองยืมมาปั่น เอ็นดูหันไปฉีกยิ้มแฉ่งให้คุณแม่ เป็นอันรู้ว่าเขาจะขอปั่นจักรยานกลับเข้าวังไปก่อน



คนตัวบางขึ้นคร่อมจักกรยาน กำลังจะใช้เท้าปั่นแต่เสียงแจ้งเตือนข้อความเข้ากลับดังขึ้น ปากจิ้มลิ้มยู่เล็กน้อยก่อนจะล้วงมือหยิบโทรศัพท์ออกจากกระเป๋ากางเกง แล้วก็ต้องคลี่ยิ้มทันทีเมื่อเห็นว่าใครเป็นคนที่ส่งแชตเข้ามา



 

Prod: เอาบุญมาฝาก

Prod: (Sent a photo)



 

เอ็นดูมองรูปที่เขาส่งมาให้ เป็นรูปที่หม่อมราชวงศ์ทรงโปรดให้ใครสักคนถ่ายตอนที่เขากำลังย่อตัวนั่งพนมมือรับพรจากพระ วิวรอบๆ เป็นหญ้า ทางเดิน และภูเขา เอ็นดูคาดว่าคงเป็นพื้นที่โครงการรีสอร์ตของทรงโปรด



 

N-Doo: สาธุครับ

Prod: เสียดายกลับไม่ทันทำบุญด้วย

Prod: ชาติหน้าได้เจอกันช้าแน่ๆ เลย

N-Doo: เว่อร์แล้วครับ



 

“เอ็นดู รีบกลับเข้าบ้านนะลูก”



เสียงคุณแม่แว่วดังขึ้น เอ็นดูทำมือโอเคพยักหน้างึกตอบรับคุณแม่ก่อนก้มหน้ารัวนิ้วโป้งพิมพ์ข้อความ



 

N-Doo: คุณได้กินข้าวเช้าหรือยังครับ



 

พิมพ์ไปตามความคิดนั่นแหละ เอ็นดูอยากรู้ว่าตอนนี้เขากำลังทำอะไรอยู่ อยากรู้ว่าเขาได้หาอะไรรองท้องหรือยัง



แล้วก็อยากบอกด้วยว่า เช้านี้ที่บ้านเขามีข้าวต้มกุ้ง...ของโปรดของใครบางคนด้วย



 

Prod: ถ้ายัง เราจะทำให้กินเหรอ

N-Doo: ไม่ครับ แต่ว่า

N-Doo: เช้านี้ที่บ้านมีข้าวต้มกุ้งนะครับ             

N-Doo: กินข้าวเช้าบ้างนะคุณ ผมก็จะไปกินแล้วเหมือนกัน

Prod: พิมพ์มาเลยก็ได้ว่าอยากให้พี่กลับไปกินข้าวต้มกุ้งด้วย

N-Doo: หลงตัวเอง



 

แต่ก็อยากพิมพ์ไปตามที่เขาบอกจริงๆ นั่นแหละ



เอ็นดูเม้มปาก ไหล่กลมไหวเล็กน้อยเมื่อตัวเองเผลอหัวเราะออกมาเบาๆ คนนั่งคร่อมจักรยานกระชับเสื้อคลุมที่ใส่ป้องกันอากาศเย็น ปกติที่เขาใหญ่ช่วงเช้าอากาศดีอยู่แล้ว พอเมื่อคืนฝนตกตลอดเลยทำให้เช้านี้อากาศดีกว่าเดิม



เขายกมือขึ้นเกาหัวเบาๆ กัดปากเล็กน้อยก่อนจะแตะนิ้วโป้งลงบนหน้าจอเพื่อพิมพ์ข้อความตอบกลับ



 

N-Doo: เพิ่งรู้ว่าคุณชอบกินข้าวต้มกุ้ง

Prod: คุณแม่บอกใช่มั้ย

N-Doo: ครับ ผมได้ยินคุณแม่คุณคุยกับคุณหญิงป้า

Prod: อือ หิวข้าวแล้ว

N-Doo: บอกผมแล้วจะหายหิวเหรอครับ

Prod: ก็ไม่แน่

N-Doo: นี่คุณ ถ้าหิวก็รีบกลับนะครับ

N-Doo: เดี๋ยวผมตักข้าวต้มกุ้งใส่ชามไว้ให้

 



ข้าวต้มไม่ได้อร่อยที่สุดในโลกหรอก



แต่เพราะมีคนหน้าตาน่ารักนั่งร่วมโต๊ะแถมยังตักข้าวต้มให้กินด้วยนี่สิ คุณชายทรงโปรดถึงได้เจริญอาหารมากกว่าเดิม



และตอนนี้เขาก็นั่งตรงข้ามกับคนน่ารัก เอียงหน้ามองหมอกที่ลอยเหนือภูเขาอยู่ที่ริมระเบียง ทรงโปรดไขว้ขา ยกยิ้มมุมปากอารมณ์ดีเมื่ออาหารเช้ามื้อนี้เขาสามารถอ้อนขอเจ้าของห้องให้ช่วยหิ้วขึ้นมากินบนนี้ได้



“กินสิคุณ มองหน้าอยู่ได้” เจ้าของห้องพึมพำ ตักข้าวต้มเข้าปาก ขมวดคิ้วมองคนตัวโต



ไหล่กว้างของทรงโปรดสั่นไหวจากการหัวเราะในลำคอ



อยากน่ามองเองทำไมล่ะ



หม่อมราชวงศ์ทรงโปรดรีบขับรถมาที่วังวงศ์ประดิษฐ์หลังจากที่เจ้าของวังบอกว่าจะตักข้าวต้มรอ พอมาถึงเขาก็รีบก้าวเท้ายาวตรงเข้ามาที่ห้องอาหารทันที ทั้งที่รีบแล้วก็ยังไม่ทันมื้อเช้า เพราะตอนนั้นเขาเห็นว่าโต๊ะอาหารกำลังถูกเก็บทำความสะอาดโดยสาวใช้



แต่จู่ๆ เอ็นดูก็เดินเข้ามา น้องบอกว่าเดี๋ยวให้คนเคลียร์โต๊ะเพื่อที่เขาจะได้นั่งทาน ส่วนผู้ใหญ่ที่ทานจนเสร็จแล้วออกไปเที่ยวแถวโบนันซ่า และคงจะไปที่อื่นต่ออีกด้วย



แต่นั่นไม่สำคัญเท่ากับ...เอ็นดูเองก็ยังไม่ได้กินมื้อเช้าเพราะรอเขาอยู่



‘โต๊ะใหญ่เกินไป’

‘ทำไมครับ’

‘โต๊ะทานอาหารใหญ่ๆ ต้องนั่งกินกันหลายคนถึงจะอร่อย’

‘…’

‘ขึ้นไปกินบนห้องเราได้มั้ย เมื่อคืนพี่เห็นที่ระเบียงห้องเรามีโต๊ะเก้าอี้ตั้งอยู่’

‘ห้องผมไม่ได้ที่กินข้าวนะคุณ’

‘ถ้านั่งตรงนี้เหมือนจะกินไม่ลง’

‘เมื่อคืนก็เห็นกินได้ปกตินี่ครับ’

‘เมื่อคืนคนเยอะ เลยนั่งตรงนี้ได้’

‘คุณนี่...’

‘...’

‘ก็ได้ครับ งั้นคุณช่วยยกขึ้นไปด้วยแล้วกัน’



ทรงโปรดยกช้อนที่มีข้าวต้มตักเข้าปาก ใช้ตาคมเหลือบมองคนตัวเล็กที่ยกแก้วน้ำขึ้นจิบเบาๆ เอ็นดูนั่งห่อไหล่แย้มยิ้มบางให้ธรรมชาติ



อย่างนี้ก็ได้เหรอวะ ยิ้มให้อะไรอยู่ไม่รู้ แต่ไม่ยิ้มให้เขา



ก๊อกๆ



ข้อนิ้วหนาเคาะลงบนโต๊ะทำเอาคนที่กำลังจิบน้ำอยู่ชะงักแล้วเหลือบตามอง เอ็นดูเลิกคิ้วก่อนจะวางแก้วน้ำลงบนโต๊ะ ถูกใจหม่อมราชวงศ์ทรงโปรดเมื่อดวงตาประกายวับวาวสบกับตาคมของเขา



“มีอะไรครับ”



“เงียบเกินไป”



“ให้เปิดเพลงมั้ยครับ”



“ไม่เอา”



เอ็นดูเม้มปาก…



“คุยด้วยก็พอ”



“ไม่มีอะไรจะคุยนี่นา”



ไม่รู้ว่าเพราะอากาศที่นี่ค่อนข้างไปทางหนาวเย็น หรือเพราะน้องเขินอะไรกันแน่ จมูกโด่งสวยถึงได้ระเรื่อสีแดงขึ้นมา...ทรงโปรดหัวเราะเบาๆ ก่อนตักข้าวต้มกุ้งคำสุดท้ายเข้าปาก



คนอะไรน่าบีบขนาดนี้



“ออกไปเที่ยวกันมั้ย”



“คุณไม่เหนื่อยบ้างเหรอครับ ตื่นมาทำงานแต่เช้า...ยังจะหาเรื่องเที่ยวอีก” น้องที่กินข้าวหมดก่อนเขาไปนานแล้วพูดขึ้น เจ้าคนน่ารักทำหน้าทำตาสงสัย “อ้อ...คุณมันคนถึก”



“รู้ได้ไงว่าถึก”



“เช้าทำงาน เย็นเที่ยวผับ แล้วก็ตื่นเช้าไปทำงานอีก...ไม่ถึกแล้วเรียกว่าอะไรครับ”



“ใส่ใจเรื่องพี่ด้วยเหรอ”



“...”



“อยากพิสูจน์มั้ยว่าถึกจริงหรือเปล่า”



แปะ



เพราะยักคิ้วทำหน้าทำตาเจ้าเล่ห์ใส่น้องเลยถูกมือนุ่มตีลงบนต้นแขนแกร่ง ถึงมือเอ็นดูจะนุ่ม เสียงที่ตีแขนเขาฟังดูไม่แรงเท่าไหร่ แต่เจ็บเอาเรื่องจนมือหนาต้องยกขึ้นลูบต้นแขนเบาๆ



“ถ้ากินหมดแล้วก็กลับไปได้แล้วครับ”



“ยังไม่หมด”



“เกลี้ยงถ้วยขนาดนั้นยังบอกว่าไม่หมดอีกเหรอคุณ”



“เหลือของหวาน...” เขาลากเสียงยาว



ส่งสายตาเจ้าเล่ห์พร้อมกับปลายนิ้วชี้แกร่งที่จิ้มลงบนแก้มกลมของน้อง เอ็นดูสะดุ้งโหยง ถอยหลังหนีทั้งที่ยังนั่งอยู่บนเก้าอี้ คิ้วขมวดทำสีหน้าวุ่นวายตกใจให้ทรงโปรดเห็น แถมยังยกมือขึ้นจับแก้มข้างที่ถูกจิ้มเหมือนเด็กหวงของอีกด้วย



“อย่าทำแบบนี้อีกนะคุณ” ทำหน้ามู่ทู่ตอบเสียงเบา



“ทำไม กลัวผิดผีหรือไง”



เอ็นดูชูแขนข้างที่มีสายสิญจน์ขึ้น ยู่ปากจิ้มลิ้มน่ารัก “คงไม่ผิดแล้วมั้งครับ”



“จับนิดจับหน่อยไม่ได้”



“นั่งเฉยๆ ไม่ได้เลยเหรอครับ ทำไมต้องหาเรื่องแกล้งผมบ่อยๆ ด้วย”



“ไม่ได้แกล้ง”



“แกล้งชัดๆ”



แล้วเอ็นดูก็ทำตัวเป็นกระต่ายตาแดงที่ดุๆ ใส่หม่อมราชวงศ์ที่แสนเจ้าเล่ห์



แต่ทรงโปรดก็ไม่ใส่ใจ เขาทำท่าจะเอื้อมมือไปจิ้มแก้มน้องอีกครั้งแต่เจ้าตัวกลับลุกขึ้นยืน คนตัวบางมองค้อนหม่อมราชวงศ์ทรงโปรดที่ชอบทำตัวรุ่มร่ามใส่กันก่อนจะสาวเท้าเดินหนีเข้าไปในห้องแต่ก็ต้องส่งเสียงร้องเมื่อเอวบางถูกรวบไว้ด้วยแขนแกร่ง



“นี่คุณ ปล่อยเลยนะ”



“จะไปไหน” กระซิบใกล้ใบหูขาว รั้งแผ่นหลังบางแนบชิดอกแกร่ง เอ็นดูรีบยกมือปิดปากตอนที่เห็นคนสวนนั่งพรวนดินอยู่ข้างล่าง



“ปล่อยครับ”



“บอกมาก่อนว่าจะไปไหน”



“ผมจะลงไปข้างล่าง ส่วนคุณก็กลับไปได้แล้ว”



น้องเอียงหน้าหลบจมูกโด่งของคนตัวสูง กระซิบเสียงนุ่มนิ่มบอกให้ปล่อย ก่อนเม้มปากเมื่อคนสวนที่อยู่ข้างล่างลุกขึ้นเดินไปมา



“ทำไมถึงชอบไล่”



“...”



“อยู่กรุงเทพฯ ก็ไล่ มาเขาใหญ่ยังไล่อีก”



“ไม่ได้ไล่ครับ แต่ทำไมคุณไม่กลับไปสักที”



“ก็ไม่ได้อยากจะกลับ”



“ฮึ่ย”



คุณชายทรงโปรดหัวเราะ แกล้งใช้จมูกโด่งถูลงบนลำคอขาวเบาๆ ล็อกน้องไว้ในอ้อมกอดทั้งๆ ที่ยังดิ้นและหดคอถอยหนี



“หยุดเลยนะคุณ เมื่อคืนยังไม่พอหรือไง”



แล้วทรงโปรดก็ต้องหลุดขำออกมาอีกครั้งเมื่อคนที่เพิ่งพ่นประโยคเมื่อกี้รีบยกมือปิดปาก เอ็นดูทำหน้าเลิ่กลั่กก่อนลดมือที่ปิดปากมาตีแขนแกร่งของเขาแทน



ลนแบบนี้ เขินแน่นอน



ทรงโปรดกระชับกอด ก้มหน้าวางคางบนไหล่แคบของน้อง เขาหลับตาแล้วยิ้มกว้าง เปล่งเสียงทุ้มตอบคำถามให้คนในอ้อมกอดฟัง



“ถ้าบอกว่าไม่พอจะยอมให้ทำอีกมั้ย”



“ม...ไม่ คุณโลภมากเกินไป”



“นิดเดียวก็ได้ ขอแตะปากให้ชื่นใจหน่อย”



เอ็นดูซบหน้าลงบนฝ่ามือนุ่มของตัวเอง ส่ายหน้ารัวจนเส้นผมสีน้ำตาลฟูกระจาย



“พอเถอะครับ เดี๋ยวคนอื่นเห็น”



ไม่เห็นใจกันเลย เขามีแต่ได้ ส่วนเราได้อะไรนอกจากหน้าร้อนๆ



แถมหัวใจยังเต้นแรงมากอีกต่างหาก



“กลัวคนอื่นเห็นเหรอ”



“ฮื่อ” เอ็นดูส่ายหน้า ไม่อยากได้ยินเสียงของเขาแล้ว



“งั้นเข้าไปจูบในห้องก็ได้”







[ต่อด้านล่างค่ะ]





หัวข้อ: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ตอน 07.2 - up 1.9.61
เริ่มหัวข้อโดย: Swanlee ที่ 01-09-2018 14:29:50


10:08 pm



เพราะว่าพรุ่งนี้เป็นวันจันทร์ เอ็นดูเลยต้องกลับกรุงเทพฯ ในช่วงเย็นของวันอาทิตย์



และเพราะว่าพรุ่งนี้เป็นวันจันทร์ เอ็นดูเลยต้องนั่งรถเบนซ์สีดำคันหรูของทรงโปรดกลับกรุงเทพฯ เพราะเจ้าของรถคันนี้ก็ต้องกลับไปทำงานเช่นกัน



ตอนแรกเอ็นดูคิดว่าจะได้นั่งรถกลับพร้อมกับคุณแม่ของทรงโปรดและหม่อมราชวงศ์รฐาซะอีก แต่ก็ไม่ เพราะพวกท่านบอกว่าจะอยู่พักผ่อนต่อที่เขาใหญ่อีกสักสองสามวัน อยู่สูดอากาศบริสุทธิ์ให้ชื่นใจก่อน



 ตอนนี้เข้าสู่กรุงเทพฯ แล้ว อีกไม่กี่นาทีจะถึงคอนโดของเอ็นดู



จำได้ว่าตัวเองนั่งนิ่งๆ อยู่ในรถ ไม่ได้คุยอะไรกับทรงโปรดสักคำ อ้อ ได้คุยตอนที่ทรงโปรดแวะปั๊ม แล้วเอ็นดูก็ถามเขาว่าอยากดื่มกาแฟหรือเปล่า ทรงโปรดพยักหน้าบอกว่าตัวเองอยากดื่มอะไร แล้วเขาก็แค่ทำหน้าที่ลงไปซื้อให้เท่านั้น



พอขึ้นรถอีกครั้ง เอ็นดูก็หลับยาวจนกระทั่งถึงกรุงเทพฯ...เพิ่งจะตื่นเมื่อกี้นี้แหละ



“คุณจะขึ้นไปดื่มน้ำก่อนมั้ย”



เสียงปลดสายเบลท์ดังขึ้นพร้อมๆ กับเสียงนุ่มนิ่มของเอ็นดู น้องเอียงหน้ามองคนตัวสูงที่กำลังหักพวงมาลัยเลี้ยวรถเข้าสู่บริเวณคอนโด



“อยากให้ขึ้นไปมั้ย”



“ก็...แล้วแต่คุณสิครับ”



แต่ดูท่าว่าเขาจะไม่ขึ้นไป



เพราะตอนนี้ทรงโปรดขับรถมาจอดตรงหน้าคอนโดแทน ไม่ได้ขึ้นไปจอดบนลานจอดรถเหมือนเดิม น้องผ่อนลมหายใจเบาๆ เม้มริมฝีปากอวบอิ่มเล็กน้อย  จู่ๆ ก็รู้สึกใจแป้วที่หม่อมราชวงศ์ทรงโปรดจะไม่ขึ้นไปพักดื่มน้ำก่อน



จนกระทั่งรถเบนซ์หรูคันนี้จอดสนิทเทียบหน้าคอนโด



เอ็นดูคลายริมฝีปากที่เม้มไว้ ดวงตาเรียวรีประกายวิบวับจ้องมองใบหน้าหล่อเหลาครบเครื่องของหม่อมราชวงศ์ทรงโปรดที่เห็นเพียงด้านข้าง เขายกยิ้มมุมปากก่อนหันมองเจ้าเด็กน่ารักที่นั่งจ้องหน้าเขาอยู่



“เดี๋ยวต้องไปธุระต่อ” ทรงโปรดพูดด้วยโทนเสียงปกติ



เอ็นดูเหลือบมองนาฬิกา Rolex บนข้อมือแกร่งของทรงโปรดพร้อมทำหน้าสงสัย...ไม่รู้เลยว่าเขามีธุระอะไรช่วงดึกๆ แบบนี้



ถ้าไม่ขึ้นไปดื่มน้ำบนห้องของเอ็นดู ก็ควรกลับไปพักผ่อนมากกว่า



“ครับ” น้องเม้มปากอีกครั้ง ขยับตัวหยิบกระเป๋าเป้ที่ใส่เสื้อผ้ามากอดแนบอก “ขอบคุณนะครับที่มาส่ง”



“เดี๋ยวโทรหา”



“โทรมาทำไมครับ”



“มีเรื่องจะคุยด้วย”



“คุยตอนนี้ไม่ได้เหรอคุณ”



หม่อมราชวงศ์ทรงโปรดอมยิ้มก่อนจะเอื้อมมือหนามาลูบผมนุ่มของคนตัวเล็ก เจ้ากระต่ายน้อยช้อนตามอง ค้อนเล็กน้อยเพราะเขาส่ายหน้าไปมา



“คุยตอนนี้ไม่ได้”



“คุณนี่...จริงๆ เลย”



เขาเอาแต่อมยิ้มและลูบผมนุ่มเล่น เอ็นดูไม่รู้ว่าจะคุยอะไรกับเขาต่อ เลยเบี่ยงตัวหลบมือหนาที่กำลังวุ่นวายกับเส้นผมของตัวเองอยู่ ยกมือไหว้ขอบคุณคนตัวโตที่มาส่งก่อนจะเปิดประตูรถออกแล้วเดินหนีหม่อมราชวงศ์ทรงโปรดที่ชอบทำตัวให้...



ให้รู้สึกวุ่นวายหัวใจ จนต้องคิดถึงตลอดเวลา







*****







11:11 pm



เอ็นดูก้าวเท้าเดินอยู่ในล็อบบี้ของคอนโดหลังจากที่เพิ่งซื้อของในซุปเปอร์เสร็จ เอื้อมมือขาวกดปุ่มลิฟต์แล้วยืนรอ พยายามไล่สิ่งที่วนเวียนอยู่ในความคิดออกไป...แต่ก็ทำไม่ได้สักที



เอ็นดูคิดถึงคุณชายทรงโปรด



คิดถึงมากๆ ด้วย



ตึ๊ง



เสียงลิฟต์ดังขึ้นเรียกให้เอ็นดูก้าวเท้าเข้าลิฟต์ก่อนที่ประตูจะปิดสนิท เอื้อมมือกดเลือกชั้นห้าสิบสองพร้อมกับหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเล่นฆ่าเวลาว่างๆ



หาอะไรทำเพื่อไม่ให้คิดถึงเขามากไป



เรียวนิ้วโป้งเลื่อนหน้าจอไล่ดูแชตตั้งแต่วันเสาร์ เอ็นดูไม่ได้อ่านแชตใครเลย ใช่ ผลของการไม่อ่านแชตนั่นแหละ ที่ทำให้ตัวเลขแจ้งเตือนจำนวนข้อความพุ่งสูงถึงหลักพัน



ส่วนใหญ่เป็นแชตของกลุ่มคนร่วมคณะกัน เอ็นดูไม่ใส่ใจเลยปัดทิ้งเพราะส่วนใหญ่ไม่มีอะไรสำคัญให้อ่านนอกจากคนในคณะไปร้านเหล้าแล้วถ่ายแอลกอฮอล์อวดกัน บางคนก็ไปเที่ยวทะเลแล้วถ่ายรูปส่งก็เท่านั้น



เอ็นดูเลือกที่จะเข้าไปอ่านและตอบแชตของพี่รหัสมากกว่า คนที่ก้มหน้ามองจอโทรศัพท์ระบายยิ้มเมื่อเห็นว่าพี่รหัสของตัวเองส่งข้อความมาล่าสุดก็เมื่อห้านาทีที่แล้ว แชตที่ส่งมาไม่มีอะไรมาก แค่ถามว่าเอ็นดูหายไปไหน รัวมาแบบนี้หลายข้อความติดจนคนอ่านหัวเราะออกมาเบาๆ



 

N-Doo: ใจเย็นๆ นะพี่ปัน

N-Doo: เอ็นเพิ่งถึงคอนโด นี่กำลังขึ้นลิฟต์อยู่เลย

Pun: เฮ้ย ไปไหนมาทำไมกลับดึกแบบนี้

N-Doo: เพิ่งกลับจากบ้านที่เขาใหญ่ง่ะพี่ปัน

N-Doo: ไปทำนี่มา



 

เอ็นดูถ่ายรูปแขนข้างที่มีสายสิญจน์สีขาวผูกข้อมือแล้วกดส่งให้พี่รหัส ก้าวเท้าเดินออกจากลิฟต์เมื่อประตูเลื่อนเปิดออก เดินไม่กี่ก้าวก็ถึงหน้าห้อง เขาใส่รหัสอันล็อกก่อนใช้แผ่นหลังดันประตูก่อนแทรกตัวเข้าห้อง

 

Pun: เฮ้ยยยย มันคืออะไร

Pun: โดนรับขวัญเหรอ ที่วังมีอะไรแบบนี้ด้วยเหรอ

N-Doo: บอกแล้วห้ามตกใจนะ

Pun: งั้นอย่าเพิ่ง คอลล์ได้ป่ะ

N-Doo: ได้ๆ

 



เอ็นดูวางของที่ซื้อมาจากซุปเปอร์ลงบนโต๊ะ รีบหยิบหูฟังออกจากกระเป๋าแล้วเสียบเข้ากับโทรศัพท์ของตัวเองทันที ไม่นานนักจากหน้าแชตก็เปลี่ยนเป็นสายเรียกเข้าของพี่รหัส



ปันคือคนเดียวที่เอ็นดูไว้ใจ เคารพ นับถือเหมือนพี่ชายจริงๆ พี่รหัสคนนี้ก็ดูแลเขาไม่ต่างจากน้องชายแท้ๆ เวลาที่เอ็นดูมีเรื่องไม่สบายใจ หรืออยากเล่าอะไรสักอย่าง ปันนี่แหละคือคนแรกที่จะได้รับรู้ความรู้สึกของเอ็นดู



“ทำไมเสียงดังจังพี่ปัน” ขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อเสียงที่ได้ยินไม่ใช่เสียงของปัน แต่เป็นเสียงเพลงที่ดังกึกก้อง “พี่ปันอยู่ที่ไหนครับ”



[แป๊บๆ]



ระหว่างที่รอ เอ็นดูก็เคลื่อนตัวเข้าไปในห้องนอน หย่อนสะโพกนั่งบนเตียงนุ่มของตัวเอง ถอนหายใจเบาๆ เมื่อเหมือนจะเดาได้ว่าพี่รหัสคนนี้น่าจะไปสิงอยู่ในผับที่ไหนสักที่อีกแน่ๆ



[โอเค มาละ]



“พี่ปันอยู่ที่ไหน...ไปเที่ยวอีกแล้วใช่มั้ยครับ”



[อือออออ คลายเครียดนิดหน่อย วันนี้วันเกิดเจ้าของร้านด้วยอ่ะ เลยมาหนุกๆ]



“ร้านไหนครับ พี่ปันรู้จักกับเจ้าของร้านเหรอ” เอาเป็นว่า...รู้กันว่าตอนนี้ปันอยู่ที่ไหน มีอยู่ที่เดียวแหละที่พี่รหัสชอบไปบ่อยๆ นั่นก็คือผับ



[พี่ไม่รู้จัก แต่เพื่อนๆ พี่มันจักไง ร้านที่เอ็นดูไปแบกพี่กลับวันนั้นแหละ]



“เฮ้อ นี่เอ็นไม่ต้องไปแบกพี่กลับอีกแล้วใช่มั้ย”



[อย่าพูดเรื่องพี่เลย เอาเรื่องเราเหอะ สายสิญจน์นี่ยังไง แค่กลับวังต้องผูกขนาดนี้เลยเหรอ]



ปันเข้าไม่ถึงเรื่องพวกนี้เท่าไหร่ ไม่รู้ว่าในวังมีอะไรแปลกๆ เหมือนบ้านคนธรรมดามั้ย ปันชอบให้เอ็นดูเล่าเรื่องในวังให้ฟัง ชอบฟังชีวิตการเป็นอยู่ของเอ็นดูในนั้น



“เอ็นกลับไปผูกข้อมือมา”



[อืมมมม ผูกข้อมือแบบไหนอ่ะ รับขวัญกลับบ้าน หรือผูกข้อมือจองตัวแต่งงานงี้ป่ะ]



“ไม่ใช่แต่งงานครับ แค่หมั้น”



[เอ๋า นี่พี่พูดเล่นนะเว้ย จะไปหมั้นกับใครอ่ะ]



เสียงปลายสายตกใจสุดๆ เอ็นดูเดาหน้าพี่รหัสออกเลย ป่านนี้ต้องทำตาโตตื่นเต้นรออยู่แน่ๆ



“พี่ปันจำคนที่ไปรับเอ็นเมื่อหลายวันก่อนได้มั้ย หม่อมราชวงศ์ทรงโปรดน่ะครับ”



[คนนั้นอ่ะเหรอ เฮ้ยๆๆ ไม่ได้โกหกพี่ใช่เปล่าเนี่ย]



“ครับพี่ปัน คนนั้นเลย”



พอพูดถึงคนนั้น รอยยิ้มมุมปากของทรงโปรดก็ลอยอยู่ในหัวของเอ็นดูทันที ไม่ใช่แค่รอยยิ้ม แต่ตามมาด้วยน้ำเสียงทุ้มๆ ของเขาอีกด้วย



ทำไมจู่ๆ ก็มาอยู่ในความคิด



แล้วทำไมเอ็นดูต้องไปเก็บเรื่องราวของเขามาไว้ในความทรงจำด้วยก็ไม่รู้



แต่ที่มากกว่าน้ำเสียง รอยยิ้ม ก็คือสัมผัส



นิ้วชี้เผลอยกแตะริมฝีปากเมื่อความนุ่มนวล อ่อนโยน ละมุน กลับเข้ามาในความรู้สึกอีกครั้ง ทรงโปรดเหมือนผ้าห่มในวันที่ฝนตกหรือในวันที่อากาศหนาว เขาห่มเอ็นดูไว้ให้ผ่อนคลาย ในขณะเดียวกันก็ทำให้เอ็นดูสับสน มึนงง ตาพร่ามัวไปหมด



แต่ไม่น่าเชื่อ ว่าสัมผัสของเขาจะทำให้เอ็นดูอบอุ่นไปทั้งหัวใจได้ขนาดนี้



[เดี๋ยวนะ แล้วทำไมถึงไปผูกข้อมือกันได้อ่ะ แล้วไหนจะหมั้นอีก คือยังไงเนี่ยน้อง]



“อุบัติเหตุนิดหน่อยครับ”



[อุบัติเหตุแบบไหนถึงต้องหมั้น นี่ไม่ใช่ว่า...]



“ไม่มีอะไรหรอกครับ ก็แค่หมั้นให้ผู้ใหญ่สบายใจเท่านั้นเอง”



[แล้วเอ็นดูก็ยอมเนี่ยนะ ไม่ดิ คุณชายเขาก็ยอมหมั้นด้วยเหรอ มันแปลกๆ นะเอ็นดู คิดว่าพี่จะเชื่อเราเหรอ]



คนผิวขาวอมยิ้มให้กับความรู้ทันของพี่รหัส คนผิวขาวเอนตัวพิงหัวเตียงก่อนใช้นิ้วชี้เกาแก้มกลมเบาๆ



[เล่ามาให้หมด แล้วพี่จะบอกว่าตอนนี้พี่เจออะไร]



แต่จู่ๆ เสียงที่เคยตื่นเต้นตกใจก็เปลี่ยนเป็นนิ่งเรียบ เอ็นดูเกาหัวเบาๆ เมื่อพี่รหัสมีข้อแลกเปลี่ยนซะงั้น



“อะไรครับ”



[เล่าไม่เล่า]



“เล่าๆ แต่พี่ปันเกริ่นมาก่อนได้มั้ยว่าเจออะไร”



[ถามก่อนได้เปล่า เราได้คิดอะไรกับคุณชายทรงโปรดมั้ยอ่ะ]



“...ทำไมเหรอครับพี่ปัน”



[พี่ไม่มั่นใจเลยว่าคุณชายทรงโปรดเขามีแฟนหรือยัง...]



“...”



[พี่เห็นเขากำลังนั่งดื่มอยู่กับผู้หญิงคนหนึ่งอ่ะ ดูสวยดีนะ]



“อ่า เหรอครับ”



[แต่ตอนนี้คุณชายเขาลุกหนีไปแล้ว อืมมมม ไม่น่าจะใช่แฟน...]



คนฟังก้มหน้าพลางส่ายหัว



อย่าถามเลยว่าอีกฝ่ายมีใครแล้วหรือยัง เพราะตัวเขาเองยังไม่รู้อะไรเกี่ยวกับหม่อมราชวงศ์ทรงโปรดมากเท่าไหร่



รู้แค่ว่าทุกเวลาที่ได้อยู่ใกล้กัน เขาทำให้เอ็นดูกลายเป็นคนที่ไม่สามารถควบคุมความรู้สึกกับอัตราการเต้นของหัวใจได้เลยสักครั้ง



ทรงโปรดทำให้เอ็นดูต้องยอมแพ้อยู่เรื่อย



หม่อมราชวงศ์ทรงโปรดเล่นหูเล่นตาเก่ง ดูเจ้าชู้เสน่ห์แพรวพราว สามารถใช้สายตา คำพูด หว่านล้อมคนให้ตกอยู่ในห้วงของเขาได้



นิสัยของทรงโปรดคงเป็นแบบนั้นมานานแล้ว…นิสัยที่มักทำให้ใครต่อใครหลงใหลในตัวเขา



ไม่รู้เลยว่าการที่เปิดใจให้ทรงโปรดเป็นเรื่องดีหรือเปล่า



ที่รู้ตอนนี้เอ็นดูกำลังขมวดคิ้ว วุ่นวายใจเพราะแค่รู้ว่าเขากำลังอยู่กับคนอื่น



ที่รู้ตอนนี้...เหมือนกับว่าหัวใจของเอ็นดูมันวูบลงเดี๋ยวนั้นเลย

 





*****







ประชุมเช้านี้บรรยากาศอึมครึมกว่าทุกวัน เพราะหม่อมราชวงศ์ทรงโปรดหน้านิ่ง อารมณ์ไม่ดี แถมยังสั่งแก้แบบเฟอร์นิเจอร์ล็อตใหม่ของบริษัทยกชุด อารมณ์แปรปรวนของบอสทำเอาพนักงานที่นั่งอยู่ในห้องประชุมถึงกับเกร็งกันทั่วหน้า



ทรงโปรดเหลือบมองโทรศัพท์ของตัวเอง เขายังเปิดหน้าแชตของเอ็นดูค้างเอาไว้ตั้งแต่เมื่อคืน รายนั้นไม่รับสาย ไม่ตอบแชต เมื่อเช้าไปหาถึงห้องก็ไม่เจอ เห็นแต่แม่บ้านที่ทำความสะอาดห้องของน้องอยู่แล้วบอกว่าเจ้าของห้องนี้ออกไปเรียนตั้งแต่ตีห้าครึ่งแล้ว



ไปเรียนตั้งแต่ตีห้าครึ่ง เป็นไปได้ไงวะ



มีอาจารย์ที่ไหนลุกขึ้นมาสอนตั้งแต่เช้าตรู่ขนาดนั้น แต่สิ่งที่เขาหงุดหงิดไม่ใช่เรื่องที่เอ็นดูไปเรียนเร็วหรอก เพราะว่าเขาติดต่อน้องไม่ได้เลยมากกว่า



ลงทุนขนาดที่ว่าตามถึงห้องไม่เจอเลยไปตามถึงมหาวิทยาลัย เอ็นดูเรียนคณะบริหารธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ ภาคอินเตอร์ แน่นอนว่าการตามหาตัวน้องในคณะเป็นอะไรที่ง่ายมาก



มันง่ายจริงๆ เพราะแค่เขาถามเด็กๆ ในคณะว่ารู้จักคนที่ชื่อเอ็นดูมั้ย ทุกคนก็พยักหน้าหงึกๆ พร้อมกันหมด แต่พอถามต่อว่าเอ็นดูอยู่ที่ไหน ทุกคนกลับชี้นิ้วไปกันคนละทิศทาง



‘พี่ลองไปถามคนที่เรียนปีสามมั้ยคะ แต่ว่าวันนี้ปีสามไม่มีเรียนไม่ใช่เหรอ’

‘ปีสามว่างนะวันนี้ รุ่นพี่เพิ่งไลน์มาบอกเมื่อกี้อ่ะครับ’



เขาต้องขอบใจน้องคณะนี้จริงๆ ที่ให้ความร่วมมืออย่างดี



ทรงโปรดหาเพื่อนร่วมคณะของเอ็นดูไม่ได้สักคน เพราะวันนี้ปีสามไม่มีเรียน คงนอนอยู่บ้านกันหมด



แล้วที่แม่บ้านบอกว่าน้องออกไปเรียนตั้งแต่ตีห้าครึ่งนี่มันยังไงวะ



“คุณชายจะแก้แบบตรงไหนอีกมั้ยคะ”



หม่อมราชวงศ์ทรงโปรดเหลือบมองเสียงไพเราะของเลขาที่นั่งหลังตรงอยู่ข้างเขา ปานวาดเลิกคิ้วเชิงถามอีกครั้งเมื่อถูกจ้องหน้า



“ไม่ครับ”



“งั้นพี่ให้ดีไซน์เนอร์คอนเฟิร์มแบบตามนี้เลยนะคะ”     



เขาแค่พยักหน้าแล้วหยิบเอกสารยืนยันการ Revise แบบมาเซ็นคอนเฟิร์มให้ ปานวาดเหลือบมองเจ้านายของตัวเอง พอเห็นว่าเขานิ่งไป ไม่มีอะไรพูดต่อเลยกระแอมไออีกครั้ง



“คุณชายมีอะไรจะคุยต่อมั้ยคะ”



“ไม่ครับ”



“งั้น...ทุกคนกลับไปทำงานได้แล้วใช่มั้ยคะ”



“ครับ”



ไม่ได้ตั้งใจตอบสั้นๆ หรือคีพลุคคุณชายเย็นชาอะไรหรอก แต่เพราะทรงโปรดกำลังใช้นิ้วโป้งของเขาพิมพ์ข้อความหาคนที่หายตัวไปตั้งแต่เมื่อคืนอยู่ เลยไม่ได้เงยหน้ามองคนรอบตัว



เขาไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน งานก็คืองาน ที่ผ่านมาทรงโปรดไม่เคยเก็บเรื่องของใครมาใส่ใจให้เสียงานแบบนี้ แต่กับเจ้าคนตัวขาวน่ารักน่าบีบนั่น...ยอมรับว่าเขาแพ้ราบคาบ



ร่างสูงรอจนกระทั่งพนักงานทุกคนเดินออกจากห้องประชุมแล้วเหลือเขาแค่คนเดียว ทรงโปรดถอนหายใจยาว เอนหลังไปกับพนักพิงเก้าอี้ เปิดดูรูปโปรไฟล์ของคนที่ไม่ยอมตอบไลน์



เหมือนคนบ้าเลยว่ะ



บ้าคิดถึงน้องอยู่คนเดียว



ถอนหายใจอีกครั้งแล้วใช้นิ้วโป้งพิมพ์ข้อความบอกน้องไปว่าเป็นห่วง เขาคงมานั่งจ้องโทรศัพท์ทุกวินาทีไม่ได้เหมือนเดิมเพราะตัวเองก็มีงานการต้องทำ หม่อมราชวงศ์ทรงโปรดเลยตั้งใจว่าข้อความนี้จะเป็นข้อความสุดท้ายของชั่วโมงนี้แล้วแหละ ชั่วโมงถัดไปค่อยแชตหาอีกที



 

Prod: ถ้าว่างแล้วตอบกลับด้วย

Prod: เป็นห่วง กลัวเราเป็นอะไรไป



 

ร่างสูงลุกขึ้นยืนหลังจากที่กดส่งข้อความเสร็จแล้ว ทรงโปรดพยายามสงบสติอารมณ์ของตัวเองไม่ให้ขุ่นมัวเหมือนตอนแรก ยอมรับว่าอาการที่เขาแสดงออกตอนประชุมทำให้พนักงานหลายคนที่ร่วมงานกันขนลุกซู่



แต่จังหวะที่กำลังจะก้าวเท้าเอื้อมมือเพื่อเปิดประตูห้องประชุม จู่ๆ เสียงแจ้งเตือนบ่งบอกว่ามีข้อความเข้าดังขึ้น หม่อมราชวงศ์ทรงโปรดรีบยกมือข้างที่จับโทรศัพท์ขึ้นมาดู คลี่ยิ้มทันทีเมื่อเห็นว่าคนที่ทำให้เขาคิดถึงจนแทบเป็นบ้าตอบแชตกลับมาแล้ว



 

N-Doo: เพิ่งว่างครับ

N-Doo: คุณจะรัวแชตมาขนาดนี้ทำไมเนี่ย

 



คนตัวสูงหัวเราะในลำคอ เขานึกสีหน้าของเอ็นดูออกทันทีเมื่อไล่สายตาอ่านแชตจบ กระต่ายน้อยของเขาคงทำหน้ายุ่งๆ ขมวดคิ้ว อมลมจนแก้มฟูอยู่แน่ๆ



 

Prod: คิดถึง

Prod: เป็นห่วงด้วย

N-Doo: ขอบคุณครับที่เป็นห่วง ผมสบายดี

 



ปลายนิ้วโป้งกำลังจะพิมพ์ข้อความอะไรบางอย่างลงไป แต่ก็ชะงักเมื่อทรงโปรดคิดว่าถ้าพิมพ์มันไม่ทันใจเท่าได้ยินเสียง เขาเลยออกจากหน้าต่างแชตก่อนจะกดโทรหาคนที่เพิ่งคุยกันเมื่อกี้แทน



ทรงโปรดหมุนตัวก่อนสาวเท้าเดินไปตรงกระจกใสบานใหญ่ที่อยู่ตรงข้าม เขาก้มหน้าเล็กน้อย มือหนาเกี่ยวม่านที่บังกระจกใสออกเพื่อให้มองเห็นทิวทัศน์ของกรุงเทพฯ และเป็นจังหวะเดียวกับที่เอ็นดูกดรับสายพร้อมเปล่งเสียงนุ่มนิ่มพอดี



[สวัสดีครับ]



“คิดถึง”



[เอ่อ...ครับ] เสียงพึมพำแผ่วเบาทำเอาทรงโปรดยิ้มกว้าง ถ้าให้เดาน้องคงหน้าแดงอยู่แน่ๆ



“ไม่คิดถึงกันบ้างเหรอ”



[ไม่ครับ]



ทรงโปรดหัวเราะให้ปลายสายได้ยิน เป็นเสียงหัวเราะทุ้มนุ่มที่เขาเชื่อหมดใจว่าถ้าเจ้าน้อยกระต่ายน่ารักตัวนี้ได้ยินต้องอมยิ้มมีความสุขเหมือนๆ กับเขา



“ปากแข็ง”



[คุณมีอะไรพูดมาเลยได้มั้ยครับ ผมจะไม่ว่างแล้ว]



ถ้าหูไม่ได้ฝาด หม่อมราชวงศ์ทรงโปรดมั่นใจว่าได้ยินเสียงหัวเราะปนเสียงร้องของเด็กกลุ่มหนึ่งดังมาจากปลายสาย เขาขมวดคิ้วตั้งใจฟังอีกครั้ง



เอ็นดูอยู่ที่ไหน?



“เหมือนได้ยินเสียงเด็ก”



[ครับ ผมมาทำบุญกับพี่ปัน]



“ทำบุญที่ไหน”



[ถามทำไมครับ คุณจะมาเหรอ]



มือหนาข้างหนึ่งล้วงกระเป๋ากางเกง หม่อมราชวงศ์ทรงโปรดชอบน้ำเสียงที่ฟังดูรั้นๆ ของเอ็นดูจนอยากขับรถไปหาเจ้าตัวแล้วตีปากเอิบอิ่มสักทีสองทีให้หายมันเขี้ยว



“เผื่อไปหาได้”



[อยู่บ้านเลี้ยงเด็กกำพร้าที่นนทบุรีครับ]



ทรงโปรดยกยิ้ม จากตอนแรกที่ไม่มีแรงทำงานก็กลายเป็นว่าเหมือนได้ชาร์จพลังเกือบเต็มร้อย แค่น้ำเสียงใสๆ นุ่มนิ่มของเอ็นดูก็ทำเอาทรงโปรดกระชุ่มกระชวยขึ้นมาแล้ว



แตกต่างจากทุกวันที่ผ่านมาจริงๆ เขาไม่เคยรู้สึกผ่อนคลายเท่านี้มาก่อน การได้ยินเสียง ได้คุย ได้เจอหน้าน้องก็ทำให้ชีวิตของทรงโปรดไม่น่าเบื่อ



 ชีวิตที่ไร้สีสันของเขาหายไปตั้งแต่วันที่ได้เจอหม่อมหลวงจิรา วงศ์ประดิษฐ์



“เดี๋ยวไปหา”



[จะมาทำไมครับ]



“อยากทำบุญ”



[ทำบุญที่ไหนก็ได้มั้งคุณ ไม่จำเป็นต้องมาที่นี่เลย]



“อยากทำบุญร่วมกับเรา”



[เฮ้อ คุณนี่...]



“ส่งโลเคชั่นให้ด้วย เดี๋ยวไปหา”



ต้องรีบไปหาเดี๋ยวนี้เลย...



ก็คนมันคิดถึงจะตายอยู่แล้ว

 

 

 

 

 

 

 

#ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี

 

 









พี่ชายโปรดคะ งานเข้าแล้วค่ะ

ง้อด่วนๆ เลย ._.

หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ตอน 07 - up 1.9.61
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 01-09-2018 16:17:13
น้อนนนนน
แต่งเลยๆ
หัวข้อ: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ตอน 08 - up 1.9.61
เริ่มหัวข้อโดย: Swanlee ที่ 01-09-2018 16:30:04


08



ไม่มีใครที่ทำให้รู้สึกสับสนเท่าคุณ

 



เสียงล้อรถบดเม็ดหินขึ้นพร้อมเสียงฟ้าร้อง หม่อมราชวงศ์ทรงโปรดเงยหน้ามองท้องฟ้าที่เปลี่ยนจากสีฟ้าสว่างเป็นสีเทา เขาดับเครื่องยนต์ของเบนซ์สีดำหลังจากที่จอดเรียบร้อยแล้ว มือหนาปลดกระดุมสูทออกก่อนโยนมันไว้ที่เบาะข้างๆ ก่อนที่จะก้าวลงจากรถคันหรูของตัวเองที่จอดคู่กับ Lexus สีขาวของคนที่เขาคิดถึง



ร่างสูงสง่าสาวเท้าเหยียบหินกรวด หม่อมราชวงศ์ทรงโปรดไร้ที่ติทุกสัดส่วน เครื่องหน้าหล่อเหลาหนึ่งเดียวของเขาสะดุดตาใครหลายคนให้มาหมายปองอยากเป็นเจ้าของหัวใจ



แต่ทรงโปรดแปลกใจจริงๆ ในเมื่อเขาเพอร์เฟ็กต์ขนาดนี้ ทำไมเอ็นดูถึงยังมีท่าทีเฉยชาใส่แทบทุกครั้ง



รวมทั้งตอนนี้ด้วย



คนตัวสูงสบตากับคนเด็กกว่าที่เหลือบมองทรงโปรดแค่แวบเดียว ก่อนจะหันไปคุยกับเด็กคนหนึ่งในบ้านเด็กกำพร้าแห่งนี้ มือขาวๆ ของน้องลูบผมเด็กที่ร้องไห้สะอื้นงอแง คนผิวขาวย่อตัวนั่งยองเพื่อให้เหลือส่วนสูงเทียบเท่ากับเด็กคนนั้น ท่าทางของเอ็นดูอ่อนโยนกว่าทุกครั้งที่เขาเห็น



น่ารัก น่าเอ็นดูอีกแล้ว



ทรงโปรดได้ยินไม่ค่อยชัดเท่าไหร่ว่าเอ็นดูกำลังพูดอะไรกับเด็กน้อยที่กำลังงอแงอยู่ แต่เด็กคนนั้นพยักหน้ารัวก่อนจะหันหน้ามาทางเขาแล้วยกสองมือที่ถือถุงขนมขึ้นไหว้ ก่อนเดินหนีเข้าไปนั่งในหอประชุมที่มีพี่รหัสของเอ็นดูกำลังอ่านนิทานให้เด็กๆ คนอื่นฟังอยู่



“ทำเด็กร้องไห้เหรอ”



“มาถึงก็หาเรื่องกันเลยเหรอครับ”



เจ้าคนน่ารักทำหน้าหงิกตั้งแต่เด็กคนนั้นเดินกลับไป ทำให้ทรงโปรดเกิดความสงสัยขึ้นมาทันทีว่าถ้าอยากได้ความอ่อนโยนจากน้องบ้างต้องร้องไห้งอแงแบบเด็กคนนั้นหรือเปล่า



แต่ก็โตเกินจะร้องไห้แล้วเปล่าวะ เดี๋ยวหาว่าปัญญาอ่อนพอดี



“คิดถึง หายไปไหนมา โทรไปก็ไม่รับสาย ไม่ตอบไลน์ ไม่อะไรเลย”



ทรงโปรดรัวจนคนฟังกะพริบตาปริบ เขาก้มหน้าเล็กน้อยเพื่อมองสีหน้าของคนตรงหน้า น้องยังหน้ามุ่ยอยู่เลย ไม่รู้ไปโดนใครทำอะไรให้ไม่ถูกใจเข้าหรือเปล่า



“ก็รับสายแล้วนี่ครับ ไลน์ก็ตอบแล้วด้วย”



“หมายถึงเมื่อคืน กับเมื่อเช้าก่อนที่เราจะตอบแชต”



คนตัวขาวเงยหน้ามองคนสูงกว่าเล็กน้อยก่อนจะขมวดคิ้ว ทรงโปรดมั่นใจ และสิ่งที่เขามั่นใจต้องไม่ผิดแน่ๆ...เหมือนน้องกำลังมีคำถาม กำลังงอนเขาอยู่



“ผมนอนอยู่ครับ อยากพักผ่อนเลยไม่สนใจโทรศัพท์”



พยักหน้าตามน้ำคนขี้งอนสักหน่อย ทำให้น้องรู้ว่าเขาเหมือนจะเชื่อในสิ่งที่น้องพูดให้ฟัง ทั้งที่ความจริงทรงโปรดไม่ได้เชื่อเลยแม้แต่นิดเดียว



ตอนพูดไม่สบตา แถมมือที่กุมประสานกันไว้ยังบีบแน่นอีกต่างหาก



เก็บอาการไม่ค่อยอยู่เลยสักครั้ง เขารู้ทันทุกที



“นึกยังไงถึงมาทำบุญที่นี่”



น้องดูอึดอัดเขาเลยเปลี่ยนเรื่องให้คนตรงหน้าผ่อนคลาย อย่างน้อยก็รู้แล้วแหละว่าเอ็นดูกำลังงอนอะไรเขาอยู่สักอย่าง



“มาทุกเดือนอยู่แล้วครับ”



“รู้จักที่นี่ได้ยังไง”



“ผมสนิทกับพี่ปันครับ แม่พี่ปันมาที่นี่บ่อย พี่ปันเลยชวนมาทำบุญด้วยกันตั้งแต่ปีหนึ่ง”



ดูผิวเผินไอ้เด็กที่เมาแอ๋วันนั้นไม่น่าจะใช่สายนักบุญเท่าไหร่ น่าจะเป็นพวกหนักเข้าผับเน้นแอลกอฮอล์มากกว่า



ดูคนที่ภายนอกไม่ได้จริงๆ



“เด็กที่นี่น่าสงสารครับ ผมอยากมาบ่อยๆ ให้พวกเขารู้สึกว่ายังมีคนที่รักเขาอยู่”



“น่ารัก”



“ครับ?”



“น่ารักไม่พอยังใจดีอีกด้วย”



ปกติถ้าโดนเขาต้อนแบบนี้เอ็นดูคงต้องหน้าแดงหรือจมูกแดงไปแล้ว แต่ไม่ น้องแค่ใช้นิ้วชี้ถูปลายจมูกโด่งเบาๆ เงยหน้ามองเขาด้วยสีหน้านิ่งเฉย



งอนอะไรมาวะเนี่ย



“คุณมาเพื่อพูดแค่นี้ใช่มั้ย” แล้วคนที่เงยหน้ามองเขาด้วยสีหน้านิ่งเมื่อกี้ก็เปลี่ยนเป็นสีหน้าง้ำงอนิดหน่อย “ผมจะได้เลิกสนใจคุณแล้วเข้าไปหาเด็กๆ”



“เดี๋ยวสิ” ทรงโปรดคว้ามือนุ่มๆ ของน้องมากุมเอาไว้ “อย่าใจดีแค่กับเด็ก ใจดีกับคนที่กำลังจีบตัวเองด้วย”



“คุณมีคนใจดีด้วยเยอะแล้วไม่ใช่เหรอครับ”



เสียงพึมพำกลับจมูกฟึดฟัดทำให้คิ้วของทรงโปรดเลิกขึ้น อยากจะเค้นถามตรงนี้ว่างอนอะไร เขาทำผิดอะไรหรือเปล่าแต่ร่างสูงก็ยังอดทนใจเย็น



เอ็นดูมีจุดอ่อนอยู่หลายอย่าง



อย่างแรกที่เขาจับจุดอ่อนนั้นได้ก็คือ น้องโกหกไม่เก่งเลยสักนิด



ตะล่อมถามไปเรื่อยๆ เดี๋ยวก็ได้คำตอบที่คาใจแล้ว



“ไม่มีใครใจดีกับพี่เลย เข้าใจผิดแล้ว”



“งั้นคุณก็คงชอบใจดีกับคนอื่น”



ชอบจริงๆ เลย ปากจิ้มลิ้มที่ยื่นๆ ยู่ๆ เวลาพูดอะไรออกมาพร้อมกับอารมณ์ไม่พอใจของน้องเนี่ย โคตรจะน่ารัก



เจ้าตัวคงไม่รู้เลยว่าท่าทางของตัวเองตอนนี้ ยิ่งกว่าเด็กที่กำลังร้องไห้งอแงซะอีก



“ใจดีกับเราคนเดียว”



“ไม่จริง เมื่อคืนคุณยังใจดีกับผู้หญิง--เอ้ย ไม่ๆ” คนผิวขาวรีบยกมือข้างหนึ่งปิดปาก เบิกตากว้างก่อนส่ายหน้ารัวไปมาก่อนจะก้มหน้างุด พอหลุดปากพูดออกมาก็ทำท่าจะหมุนตัวเดินหนี แต่คนที่กุมมือไว้กระชับมือไว้แน่นเลยไม่สามารถหนีไปไหนได้



ทรงโปรดก้มหน้ามองคนตัวเล็กที่ตอนนี้หน้าแดงหูแดง เมื่อกี้น้องพูดถึงผู้หญิง และยังพูดถึงเมื่อคืนอีกด้วย คนตัวโตร้องอ้อในใจทันที เมื่อคืนเขาไปงานวันเกิดของพีชที่ผับ และเขาก็เห็นว่าพี่รหัสของเอ็นดูเองก็ไปร่วมงานนี้ด้วยเหมือนกัน



แต่ประเด็นสำคัญมันอยู่ไม่ได้อยู่ที่ว่าเขาเจอใครหรอก เจ้าคนน่ารักขี้งอนนี่มากกว่าที่ทำท่าเหมือนคนหลุดปากพ่นความในใจคำโตออกมา



“เอ็นดู เงยหน้ามองพี่หน่อย”



ถ้าไม่ได้เข้าใจอะไรผิดไปเอง หม่อมราชวงศ์ทรงโปรดพอจะรู้สาเหตุที่น้องบึ้งตึงใส่ ไม่ยอมรับสายเขาตั้งแต่เมื่อคืนแล้วล่ะ



“ผมจะเข้าไปเล่นกับเด็กๆ ต่อแล้วครับ”



“คุยกันก่อน”



“ไม่มีอะไรจะคุยครับ”



“แต่พี่มี”



“ผมไม่มี”



“ปันบอกเหรอว่าพี่ใจดีกับผู้หญิงคนอื่น”



“พี่ปันไม่ได้บอกครับ เขาแค่บังเอิญเห็นคุณอยู่ในผับกับผู้หญิงคนอื่น”



ยิ้มออกเลยว่ะ



คราวนี้เอ็นดูเลิ่กลั่กกว่าเดิม หันซ้ายหันขวาหลังจากพูดจบ ทรงโปรดเดาว่าน้องคงหลุดปากระบายสิ่งที่อยู่ในใจออกมาก่อนจะรู้ตัวว่าตัวเองไม่ควรพูดถึงได้ลนลานแบบนี้



ร่างสูงผงกศีรษะเข้าใจฟีลของคนขี้หึง จะมีอาการหงุดหงิด งุ่นง่าน รำคาญ ไม่อยากรับสายคนที่เป็นต้นเหตุทำให้หึง...น้องคงวุ่นวายใจน่าดู



ดีใจนะเนี่ยที่โดนหึงแบบนี้



“แล้วพี่ปันของเราได้บอกหรือเปล่าว่าพี่ทำอะไรกับผู้หญิงคนนั้นต่อ” พอเห็นน้องวุ่นวายเขาก็ยิ่งแกล้ง



“...พี่ปันบอกแค่ว่า คุณคุยกับผู้หญิงคนนั้น”



คนผิวขาวหลุดปากบอกสาเหตุของอาการทั้งหมดพึมพำเสียงเบา ตอนนี้เอ็นดูยอมเขาแล้ว ในเมื่อหลุดพูดทุกอย่างออกมาหมดขนาดนี้คงปั้นหน้าตึงบอกคนตัวสูงต่อไปว่าไม่ได้เป็นอะไรเขาคงไม่เชื่อ



“แล้วคุณได้ทำอะไรกับผู้หญิงคนนั้นต่อหรือเปล่าล่ะครับ”



คนถามไม่ได้เงยหน้ามอง แต่ก้มหน้ายู่ปาก มือข้างที่ไม่ได้ถูกทรงโปรดกุมก็ยกขึ้นเกาปลายจมูกเบาๆ



แต่ก้มหน้าได้ไม่นานก็ต้องเงยขึ้นเมื่อถูกมือหนาเชยคาง ตาคมมองกลีบปากจิ้มลิ้มที่เม้มแน่น เขาชอบอาการที่แสดงออกถึงความประหม่าของน้อง



ชอบดวงตาเรียวรีกับนัยน์ตาที่วาวฉ่ำประกายระยิบระยับเหมือนได้มองดาวตอนกลางคืน ชอบจมูกโด่งสวยที่มักจะฟึดฟัดเวลาถูกเขาแกล้ง ชอบปากกับแก้มกลมๆ ของน้อง หอมหวาน มีรสชาติ อยากสัมผัสอยากลิ้มลองทุกครั้ง



ชอบน้องจริงๆ ว่ะ



พอตาคมสบกับตาวาววับของคนเด็กกว่า ทรงโปรดเลยค่อยๆ ขยับปากบอกในสิ่งที่เอ็นดูกำลังคาใจ



“ไม่ได้ทำอะไรเลย ผู้หญิงคนนั้นแค่มาถามว่าทำไมข้อมือถึงมีสายสิญจน์...” ปกติทรงโปรดไม่ชอบใส่เครื่องประดับอะไรนอกจากนาฬิกาเพื่อดูเวลา เขาไม่ชอบให้มีอะไรบางอย่างมารุงรังที่ข้อมือ



แต่พอเป็นสายสิญจน์ที่ผูกไว้เพื่อจองตัว เป็นสายสิญจน์ที่เอ็นดูเองก็ถูกผูกเหมือนกัน เขาเลยเต็มใจผูก



“เลยบอกไปว่าผูกข้อมือ...เตรียมหมั้นกับแฟน”



แปะ



“ขี้ตู่อีกแล้ว” คนผิวขาวตีแขนแกร่งของคนโตกว่า ส่งสายตามองค้อนทรงโปรดที่เอาแต่โมเมคนเดียว



“ไม่ได้ขี้ตู่ ก็เป็นแฟนกันแล้วไม่ใช่เหรอ”



“ผมยังไม่ได้เป็นอะไรกับคุณนะครับ”



“เป็นแล้ว”



“ตอนไหนครับ”



“ตั้งแต่ตอนที่เราหึงพี่”



“...”



“หึงพี่วันไหนก็เป็นแฟนวันนั้นแหละ”



“คุณนี่...”



หม่อมราชวงศ์ทรงโปรดหัวเราะออกมาด้วยความเอ็นดู แก้มกลมๆ นิ่มๆ นี่แดงปลั่ง จากที่หน้างอตอนแรกก็เปลี่ยนเป็นกลั้นยิ้มเขิน



“เชื่อที่พี่พูดหรือเปล่า”



“...”



“คราวหลังถ้าสงสัยอะไร โกรธอะไรก็บอกกันหน่อย อย่าหายไปแบบนี้อีก”



“ผมไม่ได้โกรธคุณนะครับ”



“ไม่โกรธแต่หึง”



“แล้วแต่คุณเลยก็แล้วกัน”



หันหน้าหนีให้หลุดจากมือหนาที่จับคางมนอยู่ ทรงโปรดยอมปล่อยคนผิวขาวให้เป็นอิสระเพราะตอนนี้เด็กๆ บางส่วนกำลังมองมาที่พวกเขาถึงแม้จะว่ามีต้นไม้สูงบังอยู่ก็ตาม แต่ก็มีช่องว่างที่สายตาอื่นสามารถมองลอดออกมาได้



“คุณเอาแต่เข้าผับ เปลี่ยนมาเข้าวัดทำบุญบ้างนะครับ”



น้ำเสียงนิ่มนุ่มกับสายตาที่ยังค้อนเขาอยู่ทำเอาหม่อมราชวงศ์ทรงโปรดหัวเราะในลำคอจนไหล่สั่น คนโตกว่าเอื้อมมือขยี้ผมนุ่มเบาๆ ก่อนผละออกเมื่อได้ยินเสียงคนกำลังเดินมาตรงนี้



“ขอโทษที่รบกวนนะคะ น้องเอ็นดูหิวหรือยังคะ พอดีพี่กับคุณภาเพิ่งทำมื้อเที่ยงเมื่อกี้นี้เองค่ะ”



เสียงพี่กาญเจ้าหน้าที่ของบ้านรับเลี้ยงเด็กกำพร้าดังขึ้น เธอพยายามเหยียบก้อนกรวดให้เบาที่สุดเพราะเห็นว่าเอ็นดูกำลังคุยกับแขกอยู่



“ไม่เป็นไรครับพี่กาญ วันนี้คุณป้าเข้าครัวด้วยเหรอครับ” ทรงโปรดมองเจ้าคนน่ารักที่แย้มยิ้มให้คนอื่น



รอยยิ้มสวยๆ เนี่ย สงวนไว้ให้เขาคนเดียวก็ไม่ได้



“คุณภาบอกว่าคันไม้คันมือน่ะค่ะ ก็เลยขอเข้าครัวเอง” คุณภาคือแม่ของปัน คนที่พาเอ็นดูมาหาเด็กๆ ที่นี่ “อ้าว...คุณชายโปรดใช่มั้ยคะ”



ถึงจะหันหลังให้แต่เธอก็จำทรงโปรดได้เป็นอย่างดี คนถูกทักหันหน้าพร้อมส่งรอยยิ้ม ทรงโปรดยกมือสวัสดีคนอายุมากกว่าพร้อมกับส่งยิ้มให้



“สวัสดีครับพี่กาญ”



พอเห็นเขายิ้มทักทายกันเหมือนคนรู้จักเอ็นดูก็เลิกคิ้วสงสัยทันที ยืนมองทรงโปรดกับพี่กาญที่คุยกันว่าไม่ได้เจอกันนาน นู่นนี่นั่นเยอะแยะจนเอ็นดูจับใจความไม่ได้



“น้องเอ็นดูคะ นี่คุณชายทรงโปรด เป็นคนที่บริจาคเงินช่วยเหลือบำรุงตึกนอนและสร้างโรงเรียนให้เด็กที่นี่ค่ะ...แต่เอ เมื่อกี้เห็นยืนคุยกัน น่าจะรู้จักกันอยู่แล้วใช่มั้ยคะ”



ทรงโปรดมองคนที่ทำหน้าเหมือนไม่เชื่อว่าเขาเป็นคนบริจาคเงินช่วยเหลือบ้านกำพร้าที่นี่ น้องยกมือขึ้นเกาหัวเบาๆ เหลือบตามองเขาเล็กน้อยก่อนจะหันไปยิ้มแหยให้พี่กาญ แล้วน้องก็ต้องชะงักเมื่อเสียงทุ้มของคนตัวสูงเปล่งประโยคหนึ่งออกมา



ประโยคที่ทำให้เอ็นดูหน้าแดงก่ำ เขินอายจนอยากแทรกแผ่นดินหนีไปเลย



“ว่าที่คู่หมั้นผมเองครับพี่กาญ”



“จริงเหรอคะ”



“นี่คุณ”



คนพูดลอยหน้าลอยตา ยกยิ้มมุมปากเจ้าเล่ห์จนเอ็นดูไม่อยากมอง ดูท่าทรงโปรดจะมีความสุขมากๆ กับการประกาศให้ใครต่อใครรู้ว่าพวกเขากำลังหมั้นหมายกันเร็วๆ นี้



“พี่ขอแสดงความยินดีด้วยนะคะ น้องเอ็นดูกับคุณชายโปรดเหมาะสมกันจริงๆ เลยค่ะ”



เอ็นดูได้แต่ยิ้มเจื่อน ส่วนทรงโปรดน่ะคลี่ยิ้มกว้างชอบใจไปแล้ว



ก็ปล่อยให้เขาชอบใจต่อไปเถอะ เอ็นดูห้ามไม่ให้เขายิ้มไม่ได้อยู่แล้ว



และอีกอย่าง



สิ่งที่เขาพูด...ก็เป็นความจริงทั้งนั้น







*****







หม่อมราชวงศ์ทรงโปรดละมือจากงานในบริษัทมาช่วยงานบุญคุณภา ปัน และเอ็นดู ที่บ้านเลี้ยงเด็กกำพร้า หลังจากที่อาหารมื้อเที่ยงสิ้นสุดลง เด็กที่คุ้นเคยกับทรงโปรดก็แทบกรูเข้ามาหา ตะโกนเรียกชื่อ ‘พี่โปรดๆ’ โบกมือหยอยๆ แย่งกันร้องให้พี่โปรด (ของเด็กๆ) มาเล่นด้วยกัน



ไม่น่าเชื่อว่าทรงโปรดจะรักเด็ก และไม่น่าเชื่อว่าเด็กๆ จะรักทรงโปรดขนาดนี้



เอ็นดูใช้นิ้วชี้เลื่อนภาพบนหน้าจอไอโฟน มันเป็นรูปเมื่อหลายปีก่อนตอนที่ทรงโปรดเข้ามาดูการก่อสร้างบำรุงตึกนอนของเด็กๆ ที่นั่น เขารู้เกี่ยวกับเรื่องอสังหาริมทรัพย์ แน่นอนว่าผู้ชายคนนี้ต้องรู้จักผู้รับเหมาก่อสร้างฝีมือดีๆ ใช่ ทรงโปรดให้ผู้รับเหมาก่อสร้างมารีโนเวทสถานที่รับเลี้ยงเด็กกำพร้าใหม่ทั้งหมด แถมยังมาคุมงานด้วยตัวเองจนมันสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี



ที่เอ็นดูรู้เพราะพี่ปันบอก แล้วก็ดูเหมือนว่าพี่ปันจะไปถามพี่กาญมาอีกทีด้วย



“อิ่มแล้วเหรอ”



คนที่กำลังไถโทรศัพท์อยู่สะดุ้งเล็กน้อย เอ็นดูกำลังเพลินกับการดูรูปเมื่อหลายปีก่อนของคนตรงหน้า มือขาวรีบกดล็อกโทรศัพท์ให้หน้าจอเปลี่ยนเป็นสีดำ กำมันไว้ในมือแน่นแล้วทำเป็นก้มหน้าก้มตาตักน้ำซุปเข้าปาก



เหลือบมองคนตัวโตถึงได้เห็นว่าเขากำลังเลิกคิ้วและใช้ตาคมจ้องมองเอ็นดูอยู่ คนผิวขาวชะงักเล็กน้อย ค่อยๆ ปล่อยช้อนวางลงในถ้วยน้ำซุป



มองแบบนี้ใครจะไปกินลง



“มีอะไรหรือเปล่าคุณ”



เอาแต่จ้องหน้าอยู่ได้



“เราดูอะไรอยู่”



เอ็นดูยกมือขึ้นเกาลำคอขาวเบาๆ ส่ายหน้าแล้วพึมพำตอบ “ดูแชตพี่ปันอยู่ครับ”



“อ่อ อือ”



จู่ๆ ก็ทำขรึมใส่ เอ็นดูตามอารมณ์คนตรงหน้าไม่ทันจริงๆ



ตอนนี้พวกเขาอยู่ที่ห้างในกรุงเทพฯ หลังจากเยี่ยมน้องๆ ที่บ้านเด็กกำพร้าเสร็จ ทรงโปรดก็คะยั้นคะยอให้ไปที่ห้างด้วยกัน แล้วเอ็นดูจะทำอะไรได้...ขนาดขับรถมาคนละคันแท้ๆ ทรงโปรดยังตื๊อให้เขานั่งรถเบนซ์กลับแทน ส่วน Lexus ของตัวเองพี่ปันก็อาสาขับกลับให้



“เป็นอะไรครับ อาหารไม่อร่อยเหรอ”



เพราะใส่ใจเลยถาม เห็นทรงโปรดทำหน้านิ่งตั้งแต่ตอนที่เอ็นดูหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเล่นแล้ว



จากตอนแรกที่หัวใจรู้สึกวูบดิ่งเพราะพี่ปันบอกว่าเห็นทรงโปรดอยู่กับคนอื่นก็กลับมาพองโตอีกครั้งตอนที่เขาอธิบายทุกอย่างให้เอ็นดูฟัง



บอกตามตรงแค่เห็นหน้าหล่อเหลาของเขามือไม้ก็สั่น แข้งขาอ่อนแรง แถมใจยังอ่อนยวบอีกต่างหาก ยิ่งพอเปิดใจฟังเขา ฟังเสียงทุ้มนุ่มของทรงโปรดเอ็นดูยิ่งอาการหนักเข้าไปกันใหญ่



ไม่รู้ว่าแบบนี้เรียกว่าแพ้หมดใจหรือเปล่า



แต่เอ็นดูดีใจจริงๆ ที่เขามาหา ดีใจที่เขาเล่าทุกอย่างแบบไม่ปิดบังอะไร



“เห็นเราเอาแต่สนใจโทรศัพท์”



“...”



“คนในนั้นคงสำคัญกว่าพี่”



เอ็นดูชะงักพลางกัดริมฝีปากเบาๆ ก้มหน้ามองถ้วยน้ำซุปเล็กน้อย จะบอกยังไงดี คนในโทรศัพท์ที่เอ็นดูเพิ่งละสายตาเมื่อกี้ก็คือทรงโปรด



มันหมายความว่า...ทรงโปรดสำคัญสำหรับเอ็นดูใช่มั้ย



“ทำไมคุณคิดมากจังครับ”



“อือ ก็เพิ่งมาคิดมากกับเรานี่แหละ”



“งั้นเลิกคิดไปเถอะครับ ปวดหัวเปล่าๆ”



“เรื่องใจร้ายใส่พี่เนี่ย ถนัดนัก”



เอ็นดูเอียงหน้าเล็กน้อย ขำให้กับอาการงอแงของทรงโปรด มือข้างที่กำโทรศัพท์อยู่ยกขึ้นมา เอ็นดูตั้งโทรศัพท์ให้เห็นช่วงใบหน้าเพื่อสแกนปลดล็อก ก่อนหน้าจอโทรศัพท์จะเด้งหน้าแอพพลิเคชั่นที่เปิดค้างไว้เมื่อกี้ขึ้นมาอีกครั้ง



และมันก็เด้งเป็นรูปถ่ายของทรงโปรด รูปเมื่อหลายปีก่อนที่พี่ปันส่งมา



รูปที่เอ็นดูนั่งมองแล้วยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่คนเดียวจนทรงโปรดคิดว่าเขากำลังคุยกับคนอื่น



“ผมไม่ได้ใจร้ายเลยนะครับ” น้องวางโทรศัพท์ไว้ตรงหน้าทรงโปรด ให้เขาดูว่าเมื่อกี้นี้เอ็นดูกำลังให้ความสำคัญกับรูปภาพของใครอยู่



คนผิวขาวกุมมือไว้บนตัก ก้มหน้าพลางเหลือบตามองคนตัวสูงที่กำลังก้มมองโทรศัพท์ของเอ็นดู น้องคลี่ยิ้มพร้อมกับทรงโปรดที่ยกยิ้มพอดี



“เลิกคิดมากได้แล้วใช่มั้ยครับ”



“เปลี่ยนเป็นหึงคนในรูปแทนได้มั้ย”



“จะหึงตัวเองได้ด้วยเหรอครับ”



“หึงหมด”



แปลกแล้ว...คนอะไรหึงตัวเองได้ด้วย



“แสดงว่าคนในรูปน่าสนใจถึงได้มอง”



“ครับ”



“...”



“ก็...น่าสนใจดี”



เอ็นดูหลบสายตาคมที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม ตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ที่เหมือนจะหลงอยู่ในวังวนรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ของเขา อยากให้หม่อมราชวงศ์ทรงโปรดช่วยลดความน่ามองลงสักหน่อย อยากให้เขาน่าสนใจน้อยลงกว่านี้



อย่างน้อย หัวใจของเอ็นดูจะได้ไม่เต้นแรงจนเกินไป



อย่างน้อย จะได้มีแรงหายใจทัน



ไม่ใช่เหมือนกับขาดอากาศหายใจเพราะเขาแบบนี้















#ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี

 

 

 

 

หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ตอน 08 - up 1.9.61
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 01-09-2018 17:14:54
 :pig4: :pig4: :pig4:

มดเต็มไปหมด
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ตอน 08 - up 1.9.61
เริ่มหัวข้อโดย: k00_eng^^ ที่ 01-09-2018 17:23:32
โอ๊ยยย เขินมากอ่ะ
คุณชายโปรดกับน้องเอ็นดูน่ารักมาก
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ตอน 08 - up 1.9.61
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 01-09-2018 17:32:10
รอเขาเข้าหอนะคะ ตอนนั้นคงขาดอากาศหายใจยกเล้า
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ตอน 08 - up 1.9.61
เริ่มหัวข้อโดย: กาแฟมั้ยฮะจ้าว ที่ 02-09-2018 21:43:08
ขอบคุณครับ +1 ให้นะครับ :a2: :katai2-1: o13
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ตอน 08 - up 1.9.61
เริ่มหัวข้อโดย: O-RA DUNGPRANG ที่ 03-09-2018 01:42:17
 o13 o13 o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ตอน 08 - up 1.9.61
เริ่มหัวข้อโดย: Chompoo reangkarn ที่ 03-09-2018 03:59:40
คนอ่านก็กำลังขาดอากาศหายใจด้วยเนี่ย  อะไรจะน่ารักขนาดนี้น้องเอ็นดู
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ตอน 08 - up 1.9.61
เริ่มหัวข้อโดย: monoo ที่ 03-09-2018 21:25:21
 :-[ :-[
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ตอน 08 - up 1.9.61
เริ่มหัวข้อโดย: TheBig ที่ 03-09-2018 22:27:25
 :o8: :-[ :impress2: :mew3: :mew1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ตอน 08 - up 1.9.61
เริ่มหัวข้อโดย: PandP ที่ 05-09-2018 01:12:07
รอตอนต่อไปจ้าาา
หัวข้อ: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ตอน 09/1 - up 6.9.61
เริ่มหัวข้อโดย: Swanlee ที่ 06-09-2018 11:33:52

09



แค่ท้องฟ้าครึ้มใจก็เผลอไปนึกถึงคุณ

สำคัญขนาดไหนคิดดูแล้วกัน

: )

 





“ไม่เอาแล้วนะคุณ ผมอาย”



[เราไม่เชื่อไม่ใช่เหรอ ให้เพื่อนพี่บอกอีกรอบก็ได้]



“ผมเชื่อๆ ฮื่อ ไม่เอาแล้วคุณ”



เสียงอู้อี้ดังขึ้นเมื่อหน้าหวานๆ ซุกอยู่บนหมอน เอ็นดูสั่นศีรษะรัวตอนที่ทรงโปรดทำท่าจะแพลนกล้องให้พี่พีช เพื่อนของเขาที่เป็นเจ้าของผับ



ไม่มีอะไรหรอก แค่เอ็นดูถามด้วยความสงสัยว่าไม่ได้ไปเที่ยวกลางคืนแล้วเหรอ เพื่อนถึงต้องมาหาถึงห้อง ทรงโปรดก็หาว่าเอ็นดูยังคาใจเรื่องผู้หญิงคนอื่นซะงั้น



คุณชายเขาเลยแสดงให้เห็นถึงความบริสุทธิ์ใจอีกครั้งด้วยการลากพี่พีชมาตอบคำถาม



“คุณอย่าทำแบบนี้สิครับ”



เสียงหัวเราะทุ้มนุ่มทำเอาเอ็นดูแทบอยากจะเงยหน้ามองค้อนเขาเดี๋ยวนั้น แต่ก็กลัวว่าพี่พีชจะยังอยู่ในกล้องคอยมองเอ็นดูอยู่เหมือนกันเลยสู้เอาหน้ามุดหมอนไปเลยดีกว่า



[เอ็นดู ไอ้พีชมันไปแล้ว]



“กลับไปแล้วเหรอครับ”



[ยังไม่กลับ ไปเข้าห้องน้ำเฉยๆ]



เอ็นดูอยากกดตัดสายหลายครั้งแล้ว เพราะพี่พีชชอบแซวอะไรที่ทำให้ม้วนตลอด จริงๆ พี่เขาแซวทรงโปรดนั่นแหละ แต่ทำไมคนเขินต้องเป็นเอ็นดูด้วยก็ไม่รู้



ส่วนคนที่ถูกแซวก็ดูท่าจะชอบใจ ถึงได้ยกยิ้มมุมปากส่งสายตาเจ้าเล่ห์ผ่านกล้องแบบนั้น



หนึ่งสัปดาห์แล้วที่เอ็นดูไม่ได้เจอเขา ทรงโปรดติดงาน ส่วนเอ็นดูก็เรื่อยๆ เหมือนทุกวัน ทรงโปรดมักจะวิดีโอคอลล์มาหาเอ็นดูบ่อยๆ ตอนแรกคุณชายเขาเล่นวิดีโอคอลล์มาสามเวลา เช้า กลางวัน เย็น จนเอ็นดูแทบไม่มีสมาธิทำอะไรเลยสักอย่าง เลยบอกให้เขาเพลาๆ ลงบ้าง คุยกันตอนเย็นหรือตอนที่ทรงโปรดว่างก็พอ



อีกฝ่ายทำท่าจะไม่ยอม เอาแต่บอกว่าคิดถึง ไม่ได้เจอหน้าก็ขอมองผ่านโทรศัพท์แทน เอ็นดูเกือบใจอ่อนแล้วด้วยซ้ำ ไม่ได้เลย...ถ้าให้เอาแต่จ้องหน้ากันผ่านโทรศัพท์ถี่ขนาดนี้ งานการไม่เสร็จกันพอดี



แต่สุดท้ายทรงโปรดก็ยอมนะ



เอ็นดูถอนหายใจเบาๆ ใช้ดวงตาเรียวรีที่ทรงโปรดชอบบอกว่าสวย น่ามอง จ้องคนโตกว่าที่ยังอยู่ในเชิ้ตขาว ทรงโปรดเพิ่งถึงเพนต์เฮ้าส์ใกล้บริษัทของเขาเมื่อสิบห้านาทีนี้เอง และสาเหตุที่ทำให้เขาต้องแพลนกล้องไปที่พี่พีช ก็เพราะเอ็นดูดันหลุดปากเรื่องผับนั่นแหละ



เพิ่งรู้เหมือนกันว่าหลังจากคืนวันเกิดของพี่พีชทรงโปรดก็ไม่เที่ยวกลางคืนอีกเลย ด้วยความที่คิดถึงเพื่อนมาก เจ้าของผับเลยหอบแอลกอฮอล์มานั่งดื่มที่เพนต์เฮ้าส์ของทรงโปรดแทน เรียกได้ว่าแทบจะเนรมิตเพนต์เฮ้าส์ให้เป็นผับไปแล้วด้วยซ้ำ



ถึงไม่อยากให้เขาดื่มมาก แต่ก็ห้ามอะไรไม่ได้หรอก



หม่อมราชวงศ์ทรงโปรดไม่ได้เป็นอะไรกับเอ็นดูเลยนี่นา



มากสุดก็แค่ว่าที่คู่หมั้น



และอีกอย่าง ถ้าเกิดหลุดปากห้ามไป...เดี๋ยวเขาก็รู้หมดว่าเอ็นดูกำลังคิดอะไรกับเขาอยู่



[คืนนี้มันจะนอนที่นี่]



“เรียกเพื่อนดีๆ หน่อยสิครับ”



เอ็นดูหัวเราะเพราะทรงโปรดขมวดคิ้ว นิ้วเรียวของทรงโปรดกำลังปลดกระดุมสามเม็ดบนออก และพอแผงอกขาวแกร่งน่าซบของเขาเผยให้เห็นแบบหมิ่นเหม่ เอ็นดูก็หลบสายตาทันที



เขาทำแบบนี้ประจำ ทุกครั้งที่คุยกันไม่เคยมีครั้งไหนเลยที่ทรงโปรดจะไม่ทำให้เอ็นดูหน้าร้อนผ่าว



“คุณน่าจะไปอาบน้ำได้แล้วนะครับ”



[...]



“จะสี่ทุ่มแล้วนะคุณ”



[ขอนั่งพักก่อน]



เอ็นดูบอกให้เขาไปอาบน้ำตั้งแต่เริ่มคุยกัน และทรงโปรดก็พูดแบบนี้ทุกครั้งเลย...จะทำยังไงได้ในเมื่อเขายืนยันว่าจะนั่งพักก่อน



คนผิวขาวก้มหน้าเล็กน้อยมองสายสิญจน์ผูกข้อมือที่ยังไม่ได้แกะออก ตามความเชื่อของบ้านเอ็นดู ถ้าเป็นการผูกข้อไม้ข้อมือแบบนี้จะไม่สามารถถอดออกเองได้ ต้องให้คู่ที่อีกฝ่ายที่ผูกข้อไม้ข้อมือด้วยกันมาถอดสายสิญจน์ออกให้เท่านั้น



คนที่จะสามารถถอดสายสิญจน์ให้เอ็นดูได้ก็คือทรงโปรด



แต่อีกฝ่ายไม่รู้ว่าบ้านของเอ็นดูมีความเชื่ออะไรบ้าง ไม่รู้เหมือนกันนะว่าเขาจะตัดสายสิญจน์ออกไปเองหรือยัง



[ทำอะไรอยู่]



เสียงทุ้มดังขึ้น เอ็นดูก็เงยหน้ามอง



“กำลังจะนอนครับ”



[ทำไมวันนี้นอนเร็ว]



“ก็ปกตินะครับ วันนี้อากาศดีด้วย”



ความจริงอากาศก็ดีน่านอนแทบทุกวันนั่นแหละ แต่เห็นว่าวันนี้เพื่อนของทรงโปรดมาหาเลยไม่อยากจะรบกวนเวลาส่วนนั้นของเขาเท่าไหร่ ถึงแม้ว่าวันนี้จะเป็นวันศุกร์ วันที่เอ็นดูสามารถนอนดึกและตื่นสายได้ในวันพรุ่งนี้ก็ตาม



[วันนี้ไม่ยุ่งใช่มั้ย]



“ไม่ยุ่งนะครับ ไม่มีอะไรเลย”



[ไปหาได้หรือเปล่า]



“...”



คนผิวขาวเม้มปาก ยังไม่ได้ตอบเขาเดี๋ยวนั้นแต่กำลังคิดอยู่ว่า...เขาจะมาหาทำไม



[คิดถึง]



“...”



[ไม่ได้เจอกันตั้งอาทิตย์หนึ่ง ไม่มีแรงทำงานเลย]



“แล้วพี่พีชล่ะครับ”



[เรื่องของมัน]



“คุณจะไล่เพื่อนกลับ แล้วมาหาผมเหรอ...นิสัยไม่ดีเลย”



[ไม่ได้จะไล่ ก็ให้มันนอนอยู่ที่นี่ เดี๋ยวไอ้ภพก็มาอยู่เป็นเพื่อน]



นัดปาร์ตี้กันขนาดนั้นแล้วยังจะอุตส่าห์หนีเพื่อนมาหาคนอื่น ดูเขาเถอะ…



[ได้มั้ย]



“...”



[คิดถึงไม่ไหวแล้ว]



“ขนาดนั้นเลยเหรอคุณ” เอ็นดูหลุดขำ อาการของคนโตกว่าตอนนี้ดูงอแงเอาเรื่องเลย ทรงโปรดไม่ได้เบะปาก ทำจมูกย่น หรือทำอะไรเหมือนที่เอ็นดูเคยงอแงใส่เขาหรอก แต่เขาเลิกคิ้ว นัยน์ตาคมหม่นหน่อยๆ นี่ก็คืองอแงของทรงโปรดแล้ว



[มากกว่านั้นอีก]



“คุณนี่ เว่อร์ตลอด”



[ไม่คิดถึงกันบ้างเหรอ]



คำถามที่เขาถามออกมาส่งผลให้เอ็นดูร้อนผ่าวไปทั้งตัว หัวใจที่เต้นปกติอยู่ดีๆ ก็เต้นแรงอีกครั้งเพราะความรู้สึกมันประท้วงขึ้นมา



ประท้วงให้เจ้าตัวยอมรับสักทีว่าที่กระวนกระวายเพราะไม่ได้เจอหน้าเขาแบบนี้



มันคือความรู้สึกที่เรียกว่าอะไร



“อยากมาก็มาสิครับ”



หม่อมราชวงศ์ทรงโปรดระบายยิ้มกว้าง เขาหันไปคว้ากุยแจรถกับกระเป๋าสตางค์สีดำไว้ในมือ ลุกขึ้นยืนเต็มความสูงก่อนจะหันมาพูดกับกล้อง



[อยากกินอะไรหรือเปล่า เดี๋ยวแวะซื้อเข้าไป]



“ไม่เป็นไรครับ”



แค่เขามา



“นี่คุณ”



แค่ได้เจอหน้า



“ขับรถดีๆ ไม่ต้องรีบนะครับ”



แค่นี้...ก็ไม่ต้องการอะไรอีกแล้ว :- )







[ต่อด้านล่าง]


















 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

หัวข้อ: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ตอน 09/2 - up 6.9.61
เริ่มหัวข้อโดย: Swanlee ที่ 06-09-2018 11:35:13



[ไอ้หม่อมชั่ว มีเมียแล้วทิ้งเพื่อน]



[กูอุตส่าห์วนรถหาซื้อถังแตกของโปรดของมึงนะเนี่ยไอ้คุณชาย]



[บังอาจมากที่หนีกูไป กูกำลังอาบน้ำอยู่นะมึงงง]



หม่อมราชวงศ์ทรงโปรดกดปิดแอพพลิเคชั่นไลน์หลังจากที่ได้ยินเสียงโหยหวนของเพื่อนสองคนที่ส่ง Voice message มาให้



เพื่อนหรือเมียวะ งอแงกันฉิบหาย



ขนาดว่าที่เมีย...เอ้ย! ว่าที่คู่หมั้นยังไม่งอแงเท่าไอ้เพื่อนสองคนนี้เลย



นิ้วโป้งกดล็อกโทรศัพท์ก่อนวางไว้บนโต๊ะข้างหัวเตียง วางคู่โทรศัพท์ราคาแพงรุ่นเดียวกับเจ้าของห้อง ตอนนี้เจ้าคนน่ารักกำลังอาบน้ำ ส่วนเขาก็นอนแกว่งเท้าสบายใจ ยึดห้องของเอ็นดูไว้นี่แหละ



ใช่ คืนนี้เขาจะนอนค้างที่นี่ อาจจะรวมไปถึงคืนพรุ่งนี้ด้วย



ทรงโปรดใช้แขนรองคอตัวเองแทนหมอน รอยยิ้มผุดขึ้นบนใบหน้าเมื่อหวนคิดถึงเรื่องราวก่อนหน้านั้น เรื่องที่เขาบอกกับเจ้าห้องห้องนี้ว่าคืนนี้จะขอเป็นแขกมาพักด้วย พอนึกถึงใบหน้ามู่ทู่กับเสียงนุ่มนิ่มน่ารัก หม่อมราชวงศ์ทรงโปรดก็ชักอยากให้เอ็นดูอาบเสร็จเร็วๆ แล้วมานอนด้วยกันตรงนี้สักที



ตอนนี้เที่ยงคืนเศษแล้ว ไอ้พวกเพื่อนๆ เขาก็ยึดพื้นที่ในเพนต์เฮ้าส์ไปเรียบร้อยแล้วล่ะ ยิ่งดึกฝนยิ่งตกหนัก จะโทรไปไล่ให้พวกนั้นกลับบ้านกลับช่องก็ไม่ใช่เรื่อง ดีซะอีก มีคนเฝ้าห้องให้



ทรงโปรดคว้ารีโมทโทรทัศน์ขึ้นมากดเปิดหน้าจอ ตอนแรกเขากะว่าจะกดเปลี่ยนช่องแต่พอเห็นว่ามันเป็นช่องที่กำลังฉายภาพยนตร์อยู่เลยวางรีโมทลง เป็นภาพยนตร์ดังที่เขาชอบและตั้งใจว่าจะไปดูภาคนี้ตั้งแต่เมื่อปีที่แล้ว แต่ก็ไม่ได้ไปดูเพราะติดงาน ติดภารกิจอะไรหลายอย่างจนลืมมาถึงวันนี้



แต่ภาพยนตร์ที่ชอบนักหนาก็ไม่สามารถดึงดูดความสนใจของทรงโปรดเท่าเจ้าของร่างขาวนวลเอิบอิ่มที่ค่อยๆ แง้มประตูแล้วแทรกตัวเองเข้ามาในห้องนอนนี้หรอก



 ทรงโปรดสงสัยมาตลอดเลยว่าเอ็นดูมีพลังพิเศษอะไรหรือเปล่า ถึงได้ทำให้ภาพรอบตัวเขามันเบลอไปหมด น้องทำให้เขาต้องโฟกัสสายตาไปแค่ที่น้องคนเดียว เพราะดวงตา จมูก ริมฝีปาก ลำคอ ทุกๆ อย่างที่เป็นเอ็นดูนั้นชัดเจนมากที่สุด



“ยังไม่นอนอีกเหรอครับ”



เสียงของน้องก็ชัดมากกว่าเสียงตัวละครในทีวีที่กำลังคุยกันอยู่ด้วย



“รอเราไง”



“รอผมทำไม...” คนผิวขาวยู่ปาก “ผมคุณยังไม่แห้งนี่นา ทำไมไม่เป่าก่อนละครับ”



คนที่มุ่ยหน้าบอกเขาผมเผ้ายังไม่แห้งดีเหมือนกัน ทรงโปรดก้มหน้าก่อนสะบัดผมเบาๆ ก่อนจะได้ยินเสียงร้องของน้องดังขึ้นเมื่อหยดน้ำมันกระจายไปทั่ว



“คุณ ที่นอนเปียกหมดแล้วมั้งครับ ลุกขึ้นมาเป่าผมก่อนเลย”



“พี่ไม่ชอบใช้ไดร์เป่าผม”



“...”



“มันร้อน”



“ปรับให้เป็นลมเย็นได้ครับ”



“พี่ไม่ชอบเสียงมัน ดังเกิน”



“เฮ้อ”



“เช็ดให้หน่อยได้มั้ย”



ทรงโปรดชี้นิ้วไปบนผ้าขนหูที่น้องกำลังถือเช็ดเส้นผมนุ่มของตัวเอง...เขาอยากใช้ผ้าผืนนั้นร่วมกับน้อง



“ผมให้ผ้าขนหนูไปต่างหากแล้วนี่คุณ”



“หายไปไหนแล้วก็ไม่รู้”



“...”



“น่าจะลืมอยู่ข้างนอก”



“เดี๋ยวออกไปหยิบให้ใหม่นะครับ”



พอเห็นว่าเจ้าของห้องกำลังจะหมุนตัวเดินออกไปข้างนอก ทรงโปรดก็รีบดีดตัวขึ้นแล้วลงจากเตียงก้าวเข้าประชิดตัวน้องไว้ทันที มือหนาเอื้อมจับไหล่กลมไว้หลวมๆ ออกแรงดึงนิดเดียวน้องก็เข้ามาอยู่ในห้องพร้อมกับประตูที่ถูกปิดโดยเขา



“เช็ดให้หน่อย”



“ทำไมงอแงแบบนี้ครับ”



“ไม่ได้งอแง นี่อ้อนอยู่”



“แบบนี้เรียกงอแงครับ”



ทรงโปรดเลิกคิ้วเมื่อคนเด็กกว่าเอาแต่มองเลยหน้าเขาขึ้นไป ก่อนที่มือเล็กๆ ขาวๆ ของน้องจะขึ้นหยิบสักอย่างบนหัวของเขา แต่เพราะความสูงที่ห่างกันหลายเซ็นต์ทำให้น้องต้องเขย่งปลายเท้าขึ้น ส่วนคนที่สูงกว่าน่ะไม่ให้ความร่วมมือหรอก เขาแกล้งเอ็นดูด้วยการยืนตัวตรงอยู่อย่างนั้นจนเสียงนิ่มๆ ดังขึ้น



“ก้มลงหน่อยได้มั้ยครับ อะไรติดผมคุณก็ไม่รู้”



น้องมองค้อนตอนที่บอกให้เขาก้ม แต่ทรงโปรดกลับใช้มือหนาทั้งสองข้างวางทาบไว้กับเอวบางของน้องแทน หม่อมราชวงศ์ทรงโปรดคลี่ยิ้มดึงร่างคนน่ารักให้แนบชิดกับตัวของเขา



“คุณ!”



ตัวน้องนุ่มมาก



“อย่าซนได้มั้ยครับ” จากที่ยกมือขึ้นจะหยิบอะไรสักอย่างบนผมของเขาก็เปลี่ยนเป็นวางไว้บนไหล่กว้างแทน



“มีอะไรติดบนผมพี่เหรอ”



“ไม่รู้ครับ คุณเล่นกอดแบบนี้จะไปเห็นได้ยังไง...”



ทรงโปรดหัวเราะ ค่อยๆ ออกแรงดันให้น้องก้าวเท้าถอยหลัง น้องทำท่าจะเซล้มแต่โชคดีที่ยังมีแขนแกร่งโอบหลังไว้อยู่ตลอด ทรงโปรดก้าวขาไปข้างหน้าขณะที่เอ็นดูถอยหลัง จนกระทั่งเรียวขาของคนผิวขาวสัมผัสกับขอบเตียงร่างสูงถึงได้หยุดเคลื่อนไหว



“นั่งลงครับ” กระซิบบอกเบาๆ ให้อีกคนเต็มใจทำตาม



เอ็นดูเม้มปากก่อนย่อตัวนั่งบนเตียง มือขาวยังเกาะไหล่กว้างแน่นไม่ยอมปล่อย จังหวะที่น้องค่อยๆ นั่งลง ทรงโปรดเองก็ย่อตัวตามน้องเหมือนกัน...เขารัดน้องไว้ในอ้อมกอดไม่ยอมปล่อย สัมผัสความนุ่มนิ่ม อบอุ่นจากตัวของเอ็นดู



“ขึ้นมานั่งข้างบนสิคุณ ลงไปนั่งบนพื้นทำไมครับ”



ตอนที่สะโพกกลมสัมผัสลงบนเตียงเป็นเวลาเดียวกับที่เข่าของทรงโปรดสัมผัสลงบนพื้นของห้องนอนห้องนี้



เขาคุกเข่าอยู่ตรงหน้าของเอ็นดู



แม้ว่าน้องจะนั่งอยู่บนเตียงซึ่งสูงกว่า และเขาก็ลดระดับความสูงของตัวเองให้แล้ว แต่ทรงโปรดก็ยังสูงกว่าเอ็นดูนิดหน่อยอยู่ดี



“ดูให้หน่อย อะไรติดผมอยู่”



ทรงโปรดโน้มตัวกอดคนผิวขาวไว้แน่นก่อนทาบใบหน้าเข้ากับอกข้างซ้ายของน้อง เอ็นดูชะงัก กัดริมปากอวบเบาๆ กลั้นลมหายใจทันทีเมื่อใบหูของคนที่กำลังคุกเข่าแนบเพื่อฟังเสียงหัวใจเต้น



“หายใจสิครับ”



เขารู้ว่าน้องเกร็ง



“กลั้นไว้แบบนั้นเดี๋ยวหายใจไม่ออกพอดี”



มือหนาลูบแผ่นหลังบอบบางของน้องเบาๆ พยายามให้น้องผ่อนคลายมากที่สุดแต่ดูเหมือนว่าคนที่นั่งอยู่บนเตียงจะไม่รับรู้ ไม่ได้ยินเสียงของเขาไปแล้ว



หม่อมราชวงศ์ทรงโปรดหัวเราะในลำคอ เงยหน้ามองคนผิวขาวที่ไม่ตอบรับอะไรสักอย่าง พอเห็นใบหน้าหวานที่แสดงอาการเลิ่กลั่กก็อดไม่ได้ที่จะใช้มือบีบจมูกโด่งรั้นนั่นเบาๆ



“สรุปมีอะไรติดผมพี่มั้ย”



“คุณ”



“ครับ”



“อย่าทำแบบนี้อีกนะ”



“...”



“ผมเหมือนจะ หายใจไม่ออกเลย”



ก็อยากจะบอกเหมือนกัน



ถ้าเอ็นดูยังขยันทำตัวแบบนี้บ่อยๆ สักวันทรงโปรดคงสำลักความน่ารักของน้อง



คงได้ขาดอากาศขาดใจเพราะน้องแน่ๆ







*****





 

ริมหน้าต่างของห้องที่ตั้งอยู่บนชั้นห้าสิบสองของคอนโดไม่มีนกมาเกาะแล้วส่งเสียงร้องจิ๊บๆ เหมือนที่วังวงศ์ประดิษฐ์ ไม่มีภูเขาสวยๆ หรือหมอกในยามเช้าให้เอ็นดูไปยืนมองพร้อมกับจิบชาอุ่นๆ ด้วยเหมือนกัน



แต่มีแผ่นหลังกว้างของหม่อมราชวงศ์ทรงโปรดที่กำลังยืนอยู่ตรงระเบียง ในมือหนาถือโทรศัพท์กำลังวิดีโอคอลล์กับหลานชายวัยสามขวบของตัวเองอยู่



แค่เห็นเสี้ยวหน้าก็รับรู้ได้ว่าทรงโปรดยิ้มแย้มให้กับเด็กน้อยน่ารักในกล้อง เสียงเล็กๆ ร้องเรียก ‘คุณอาโปรด’ ทำเอาเอ็นดูเองก็หลุดยิ้มไปด้วย แต่เสียงที่ทำให้เอ็นดูรู้สึกอุ่นวาบไปทั้งหัวใจ คือเสียงทุ้มของคนตัวสูงที่คุยกับหลานชายอยู่



“น้องเล็กครับ ฝนเพิ่งหยุดตกออกไปวิ่งที่สนามหญ้าไม่ได้นะครับ”



เอ็นดูเดาว่าทรงโปรดคงกำลังปรามเจ้าหลานชายที่อยากออกไปวิ่งเล่นบนสนามหญ้าตามประสาเด็ก แล้วรอยยิ้มก็ปรากฏบนมุมปากของเอ็นดูทันทีเมื่อแผ่นหลังของเขาทำให้นึกถึงเรื่องเมื่อคืน



อย่าคิดว่าจะมีอะไรเกินเลย แม้กระทั่งจูบเล็กๆ น้อยๆ ทรงโปรดก็ไม่ได้ทำเลยสักนิด



แค่กอดกันเท่านั้น



แต่เป็นกอดที่กล่อมให้เอ็นดูหลับฝันดีจนวันนี้ตื่นสายไปเลย



“ยิ้มอะไร” ทรงโปรดที่เดินล้วงกระเป๋ากางเกงเข้ามาในห้องยกยิ้ม เอ็นดูเผลอสะดุ้งโหยงตอนที่เสียงทุ้มดังขึ้น



กำลังใจลอยอยู่แท้ๆ เลย



“เปล่านี่ครับ”



อ้อมแอ้มตอบเขาไปพร้อมกับก้มหน้าซ่อนรอยยิ้ม เอ็นดูมองโทรศัพท์ในมือของตัวเอง เช้านี้ยังไม่มีอาหารรองท้องเลยสักอย่าง พอเห็นว่าตอนนี้เป็นเวลาเก้าโมงครึ่งเอ็นดูก็ได้แต่ลูบท้องตัวเองเบาๆ



“หลานงอแงอยากเจอหน้า”



จู่ๆ เสียงทุ้มก็ดังขึ้นอีกครั้ง ดึงความสนใจให้เอ็นดูเงยหน้ามองคนตัวสูงที่ยืนอยู่



“พี่ต้องกลับบ้านก่อน”



เอ็นดูผงกศีรษะเล็กน้อย จู่ๆ หัวคิ้วของตัวเองก็ขมวดเป็นปม พอได้ยินว่าเขาจะต้องกลับแล้ว เอ็นดูก็รู้สึกเสียดายขึ้นมาทันทีเลย



หม่อมราชวงศ์ทรงโปรดน่าจะอยู่กินข้าวเช้าด้วยกันก่อน



แต่เสียดาย...ในตู้เย็นไม่มีของสดสำหรับทำอาหารอะไรได้เลย



“ทำไมทำหน้าหงอยขนาดนั้น ไม่อยากให้ไปเหรอ”



“ผมทำหน้าแบบนั้นเหรอครับ”



คนถูกทักว่าหน้าหงอยรีบหาพื้นที่ที่สะท้อนเงามองตัวเองได้ทันที อยู่ใกล้สุดๆ ตอนนี้ก็เป็นโทรศัพท์แล้วล่ะ เอ็นดูยกมันขึ้นมาส่อง แต่พอได้ยินเสียงหัวเราะของทรงโปรดก็ทำเอาแทบลดโทรศัพท์ลงไม่ทัน



โดนแกล้งอีกแล้ว



“นี่คุณ”



“ร้อนตัวนะเรา”



“กลับบ้านคุณไปเลย ไม่ต้องมายิ้มแบบนี้ด้วย”



เกลียดจริงรอยยิ้มมุมปากที่ยกขึ้นหน่อยๆ แบบนี้ ทรงโปรดควรจะรู้ตัวสักทีว่าการที่เขายิ้มแบบนั้นบ่อยๆ มันทำให้คนมองเผลอยิ้มตาม



แต่จะยิ้มให้เขาเห็นไม่ได้ คนผิวขาวเลยก้มหน้าซ่อนยิ้มเขินไว้



“อยากไปเที่ยวบ้านพี่มั้ย”



“อยากครับ เอ้ย! คือ...” คนหลุดปากเลิ่กลั่ก เลิกตากว้างทำท่าทางลุกลี้ลุกลน “คุณอ่ะ”



“อะไรอีก พี่ทำไม” ทรงโปรดเลิกคิ้ว พูดไปหัวเราะไป



เอ็นดูนี่น่าเอ็นดูจริงๆ



“ไม่มีอะไรครับ คุณกลับไปเถอะ”



“เมื่อกี้ใครบอกว่าอยากไปเที่ยวบ้านพี่”



“...”



“จู่ๆ ก็มาไล่กันเฉย”



“โอเค ผมอยากไปเที่ยวบ้านคุณเองแหละครับ...พอใจหรือยัง”



ก็ยอมแพ้แล้ว จะทำปากแข็งบอกว่าไม่อยากไปคงไม่ได้



“แต่...วันนี้วันหยุด ผมกลัวว่าจะไปรบกวนเวลาส่วนตัวของคุณ”



“ไม่รบกวน”



“...”



“พี่ยกเวลาส่วนตัวให้เราหมดแล้ว”



 



เช้านี้เอ็นดูฝากท้องไว้กับครัวของวังภัสร์ฤทัย



แม้จะมาถึงในช่วงสายแล้ว แต่ที่นี่ก็มีอาหารรับรองแขกอยู่เสมอ แตกต่างจากบ้านของเอ็นดูเอง คุณป้าลักขณาเคร่งในเรื่องการกินมาก ต้องเป๊ะตรงเวลาและพร้อมหน้า ถ้าเกิดไม่ทันมื้อเช้าก็ต้องรออีกทีมื้อเที่ยงไปเลย



ทรงโปรดพาเอ็นดูเดินสำรวจรอบๆ บ้านหลังจากที่ทานมื้อเช้าเสร็จ ที่นี่ร่มรื่นแม้อยู่ใจกลางกรุงเทพฯ วังสไตล์อิตาเลี่ยนตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา



จุดที่เอ็นดูยืนอยู่ตรงนี้คือสวนหย่อมที่มองเห็นแม่น้ำเจ้าพระยาชัดที่สุด เสียงเรือ เสียงคลื่น ทำให้รอยยิ้มผุดบนใบหน้าหวานๆ ของเอ็นดู



“ทำไมคุณถึงไม่อยู่ที่นี่ล่ะครับ”



น้องกอดอกพลางเงยหน้าถาม กะพริบตาปริบตอนที่มือหนายกแก้วไวน์ขึ้นจิบเบาๆ



ฟ้ายังไม่มืดแต่ทรงโปรดก็หาเวลาดื่มไวน์ซะแล้ว



“บริษัทกับบ้านไกลกัน พี่เลยซื้อห้องอยู่ใกล้ๆ กับที่ทำงาน ไปกลับสะดวกกว่า”



“อ่า...น่าเสียดายนะครับ ที่นี่สวยมากๆ เลย”



“วังของเราก็สวย เรายังหนีมาอยู่กรุงเทพฯ เลย”



“ผมต้องเรียนนี่คุณ”



“เสียดายที่มหา’ลัยเราอยู่ไกลกับห้องพี่”



“...”



“ไม่งั้นจะชวนมาอยู่ด้วยกันสักหน่อย”



“พูดอย่างกับผมจะยอมไปอยู่ด้วยง่ายๆ”



“แล้วยอมมั้ย”



“ตลกแล้วคุณ”



แล้วก็ต้องมองค้อนอีกครั้งเมื่อคนตัวสูงหัวเราะชอบใจ เอ็นดูไม่มั่นใจเท่าไหร่ว่าทรงโปรดเมาแล้วหรือเปล่า เขาเพิ่งจิบไวน์หมดไปสองแก้ว แล้วแก้วนี้ก็เป็นแก้วที่สาม



แต่คนคอแข็งอย่างหม่อมราชวงศ์ทรงโปรดคงไม่เมาไวน์แค่สามแก้วง่ายๆ หรอกมั้ง



“น่าจะเป็นเสียงรถของพี่คุณ”



เจ้าของวังภัสร์ฤทัยเปล่งเสียงทุ้มนุ่มออกมา เอ็นดูเอี้ยวหลังมองตามแค่ครู่เดียวก็หันกลับมามองเสี้ยวหน้าของทรงโปรดต่อ



คนจิบไวน์อยู่หน้าแดงจมูกแดงหมดแล้ว



“ไปสวัสดีพี่คุณได้มั้ยครับ”



“อืม เดี๋ยวพาไป”



เขาจิบไวน์ลงคออีกครั้งก่อนวางแก้วไว้บนโต๊ะ ร่างสูงลุกขึ้นพร้อมกับเอ็นดู ในช่วงที่เรียวขาขาวใต้กางเกงสีดำกำลังก้าวไปข้างหน้า ทรงโปรดก็ชะงักเอ็นดูไว้ด้วยการจับมือของน้องมาประสานเข้ากับนิ้วแกร่ง



“ต้องจับมือด้วยเหรอครับ”



“กลัวหาย”



“ผมก็อยู่ตรงนี้ จะหายไปไหนได้ล่ะครับ”



“ตัวไม่หาย แต่กลัวใจเราหายไปอยู่กับคนอื่น”



คนฟังเงยหน้ามองคนสูงกว่าพลางเอียงคอพร้อมกับทำหน้าไม่เข้าใจ แต่ก็ต้องหัวเราะออกมาเบาๆ เมื่อนึกขึ้นได้ว่าทรงโปรดคงจะเมาแล้วถึงได้พูดอะไรแบบนี้ออกมา



“ที่นี่มีคนอื่นด้วยเหรอครับ”



“...”



“คนในครอบครัวครัวคุณทั้งนั้นเลยนะ”



“ถ้าไม่ใช่พี่ คนอื่นก็คือคนอื่น”



“...”



“พี่คุณก็คือคนอื่น”



อาการที่ทรงโปรดกำลังเป็นอยู่ตอนนี้



เรียกว่าหึง



เอ็นดูคลี่ยิ้ม ทรงโปรดในโหมดแบบนี้น่ากลัวอยู่เหมือนกัน หน้าของเขาไม่ยิ้มแย้ม แถมยังจ้องเอ็นดูตาเขม็งอีกต่างหาก



หึงแม้กระทั่งพี่ชายตัวเองก็ได้เหรอ



“แค่ไปสวัสดีเองครับ”



ไม่รู้จะพูดยังไงให้เขาเลิกทำหน้าดุ พอสิ้นเสียงนั้นทรงโปรดก็สาวเท้าพาเอ็นดูไปหน้าบ้าน ตลอดทางน้องไม่ได้มองอย่างอื่นเลยนอกจากก้มมองมือข้างหนึ่งของตัวเองที่ถูกเขากุมไว้ แล้วก็ต้องคลี่ยิ้มออกมาอีกครั้งเมื่อเห็นว่ามือของทรงโปรดมีขนาดใหญ่กว่ามือของตัวเองเยอะเลย



“สวัสดีครับพี่คุณ”



“อ้าว สวัสดีโปรด นั่น...น้องเอ็นดูใช่มั้ยครับ”



เอ็นดูเงยหน้าทันทีที่เสียงสองเสียงดังขึ้น กำลังจะฉีกยิ้มและเตรียมยกมือไหว้หม่อมราชวงศ์ทรงคุณแต่กลับชะงักค้างเมื่อดวงตาเรียวรีเห็นผู้ชายตัวสูงอีกคนที่กำลังก้าวลงจากแลมโบกินี่สีดำคันหรู



“ภูผา” พึมพำเบาๆ แต่ร่างสูงข้างกายหันมองขวับ ทรงโปรดเลิกคิ้วมองสลับระหว่างภูผากับเอ็นดู



รู้จักกันมาก่อนเหรอวะ



“เอ็นดูนี่เอง” ภูผาทัก



“สวัสดีครับพี่คุณ” คนผิวขาวยิ้มให้ภูผาก่อนหันมายกมือไหว้ทรงคุณทั้งๆ ที่มืออีกข้างของตัวเองยังถูกกุมไว้



“ภูผารู้จักกับน้องเอ็นดูมาก่อนเหรอ” รับไหว้เสร็จสรรพหม่อมราชวงศ์ทรงคุณก็ฉีกยิ้มถามภูผาที่มีศักดิ์เป็นน้องชายของสามีหม่อมราชวงศ์รฐา



ภูผาดุนลิ้นข้างแก้ม ใช้สายตาเจ้าเล่ห์เจ้าชู้มองมาที่กระต่ายน้อยของทรงโปรด เอ็นดูเม้มปากก่อนเงยหน้ามองทรงโปรดที่ออกแรงบีบมือเขาแน่นกว่าเดิม



“รู้จักครับพี่คุณ”



“...”



“ไม่ได้เจอกันนาน น่ารักขึ้นเยอะเลยนะเอ็นดู”



ไม่รู้จะตอบอะไร และไม่คิดจะตอบอะไรภูผาด้วย เพราะตอนนี้มือหนาของทรงโปรดที่กุมมือเอ็นดูไว้ร้อนและชื้นเหงื่อ เขาไม่ได้หันหน้ามองเอ็นดูเพราะเอาแต่จ้องภูผาอยู่



“คุณครับ...” ใช้ปลายนิ้วแตะลงบนแขนแกร่ง ทรงโปรดเลยยอมละตาคมจากภูผา แล้วหันมามองคนตัวเล็กที่ยืนอยู่ข้างๆ แทน



“หน้าคุณแดงหมดแล้ว”



“อือ สงสัยตรงนี้ร้อน”



“...”



“ไปหาที่เย็นๆ นั่งคุยกันดีกว่า” ทรงโปรดถอนหายใจก่อนหันไปมองพี่ชายของเขา “ขอตัวครับพี่คุณ”



ทันทีที่ลาหม่อมราชวงศ์ทรงคุณ ท่อนแขนแกร่งก็ยกขึ้นโอบไหล่ของคนผิวขาวทันที ทรงโปรดพาเอ็นดูเดินผ่านหน้าหม่อมราชวงศ์ภูผาโดยที่พวกเขาทั้งสองยังไม่มีคำทักทายอะไรต่อกันเลยสักประโยค



ก่อนที่กลิ่นชื้นแฉะจากพื้นหญ้าจะเปลี่ยนเป็นกลิ่นหอมของเครื่องปรับอากาศ แม้ว่าจะมีสาวใช้ยืนอยู่แถวนั้นแต่ทรงโปรดก็ไม่ยอมปล่อยเอ็นดูให้ออกจากอ้อมกอดสักที ซ้ำยังกอดแน่นกว่าเดิมจนน้องหลบสายตาของสาวใช้แทบไม่ทัน



แล้วไอ้หน้าบึ้งๆ ของเขาเนี่ย เอ็นดูขอซื้อได้มั้ย



ทำหน้าแบบนี้แล้วน่ากลัวบอกไม่ถูกเลย



“ดื่มน้ำมั้ยครับ ตัวคุณร้อนไปหมดแล้ว”



เอ็นดูเดาว่าเป็นเพราะทรงโปรดดื่มไวน์เข้าไป หน้าและมือของเขาเลยแดงก่ำ แถมตัวยังร้อนอีกด้วย



เดานะ ไม่รู้ว่าเกี่ยวกับไวน์หรือเปล่า



ตาเรียวรีสำรวจห้องที่ทรงโปรดพาเดินเข้ามา ลักษณะมันเป็นกระจกใสทั้งหมด ในนี้มีโซฟา ทีวี ดูแล้วเหมือนห้องนั่งเล่น



เจ้าของวังภัสร์ฤทัยเลื่อนประตูกระจกใสปิดหลังจากเปิดเครื่องปรับอากาศให้ทำงาน เปลี่ยนจากโอบไหล่คนตัวบางมาเป็นจับมือนุ่มนิ่มก่อนพาแขกคนสำคัญเดินไปนั่งบนโซฟาตัวยาว



เอ็นดูทำปากมุบมิบตอนที่เห็นทรงโปรดเอนหลังแล้วถอนหายใจยาวออกมา



ขนาดเปิดแอร์แต่เหงื่อยังออก ไม่รู้จะร้อนอะไรนักหนา



เพราะคนตัวสูงไม่ตอบว่าจะดื่มน้ำหรือเปล่า เขานิ่งและหอบหายใจเหมือนคนเหนื่อยเอ็นดูเลยไม่กล้าขยับตัวไปไหน ใช้ดวงตาพินิจอาการของคนตรงหน้าไปพลางๆ มือหนาที่กุมมือของเอ็นดูร้อนผ่าวจริงๆ



“รู้จักกับภูผาเหรอ”



“ครับ?” ทรงโปรดพึมพำออกมาเอ็นดูเลยได้ยินไม่ค่อยชัดเท่าไหร่ “ถามอีกทีได้มั้ยครับ”



คราวนี้เอ็นดูยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆ คนตัวสูง



“รู้จักกับภูผาเหรอ”



“อ่อ...” ลากเสียงยาว “ก็...เคยสนิทกันครับ”



“สนิทขนาดไหน”



ตาคมจ้องคนผิวขาว เอ็นดูคลี่ยิ้มก่อนวางมืออีกข้างไว้บนหลังมือหนาข้างที่กุมมือกันอยู่



“สนิทพอสมควรครับ เคยคบกันตอนเรียนที่อังกฤษ”



“แฟนเก่าว่างั้น”



“...ครับ”



ทรงโปรดนิ่งกว่าเดิมตอนที่เอ็นดูบอกความสัมพันธ์ครั้งเก่าระหว่างเขากับหม่อมราชวงศ์ภูผา เครื่องหน้าหล่อเหลาของเขาแสดงอาการไม่พอใจชัดเจนจนเอ็นดูต้องลูบหลังมือหนาด้วยปลายนิ้วโป้งเบาๆ



หม่อมราชวงศ์ทรงโปรดเนี่ย ชอบคิดมากและขี้หึงเก่งที่หนึ่งเลย



“พี่ไม่ชอบ”



“ไม่ชอบผมเหรอครับ”



“ไม่ชอบภูผา”



“อ่า”



“เราอย่าไปยุ่งกับมันได้มั้ย”



“เรียกเขาดีๆ สิคุณ”



“อือ อย่าไปยุ่งกับไอ้คุณชายภูผาได้มั้ย”



เอ็นดูหัวเราะเบาๆ ก่อนจะเม้มปากแล้วผงกศีรษะ “ผมไม่เคยยุ่งกับเขาอยู่แล้วครับ”



“กลัวมันจะมายุ่งกับเรา”



“คุณหึงเหรอครับ”



“ใช่ หึงมาก”



คำตอบทำเอาเอ็นดูก้มหน้าซ่อนรอยยิ้ม ไม่ใช่แค่ส่งเสียงตอบ แต่ทรงโปรพยักหน้ายืนยันด้วย



“ทำให้หายหึงหน่อยได้มั้ย”



“อะไรกันคุณ หึงเองก็ต้องหายเองได้สิครับ”



“เราเป็นต้นเหตุ”



“ผมอยู่เฉยๆ ตั้งแต่แรก”



“เราน่ารักเกินไป เห็นสายตาไอ้ภูผามั้ย ถ้ามันจับเรากินได้มันคง--”



เสียงทุ้มที่พ่นอารมณ์หึงออกมาเป็นคำพูดขาดหายไปทันทีเมื่อคนผิวขาวแนบริมฝีปากลงบนปากของคนตัวสูง เอ็นดูขยับตัวขึ้นคร่อมร่างทรงโปรดที่นั่งเอนกายอยู่บนโซฟา มือขาวที่ถูกกุมไว้ถูกปล่อยเป็นอิสระ น้องเลยใช้สองฝ่ามือนุ่มประคองโครงหน้าหล่อเหลาของทรงโปรดแทน



ทำให้ให้คนขี้หึงคลายความหึงลงไปหน่อย เอ็นดูไม่รู้วิธีนี้จะได้ผลมากน้อยแค่ไหน แต่การที่แขนแกร่งโอบเอวบางเอาไว้แล้วรัดแน่น...ทำให้เอ็นดูอยากผละกลีบปากตัวเองออกจริงๆ



เอ็นดูแค่ก้มหน้าแนบริมฝีปากไว้เฉยๆ ไม่ได้รุกล้ำหรือขยับบดเบียด แต่เหมือนแค่นี้จะไม่พอใจคนที่เอ็นดูนั่งทับอยู่สักเท่าไหร่ เพราะหลังจากนั้นไม่กี่วินาที ทรงโปรดก็เอียงหน้าปรับองศาให้ริมฝีปากของพวกเขาแนบแน่นกว่าเดิม



แล้วเอ็นดูก็ปล่อยให้เขาเป็นฝ่ายเดินเกมเมื่อปากของคนใต้ร่างขยับเบาๆ ทรงโปรดอ้ากลีบปากครองครองริมฝีปากเอิบอิ่มแล้วดูดจนเกิดเสียง น้องสะดุ้งตัวกระตุก มือนุ่มที่ประคองใบหน้าของทรงโปรดเลื่อนจับไหล่กว้างไว้แน่น สะโพกกลมที่บดเบียดตักแกร่งค่อยๆ ยกหนี พยายามจะดันตัวเองออกแต่ก็ถูกแขนแกร่งล็อกไว้กับตัวแน่น



จะหนีก็หนีไม่ได้ ทั้งที่เป็นคนเริ่มจูบเอง



แต่คงต้องรอให้ทรงโปรดเป็นฝ่ายสิ้นสุด



แล้วจะให้ทำยังไง นอกจาก...ตกอยู่ในอ้อมกอดและรับสัมผัสของคนขี้หึงต่อไปจนกว่าหม่อมราชวงศ์ทรงโปรดจะพอใจ

 





*****







Khun: โปรด

Khun: คุณแม่ให้คนทำความสะอาดห้องน้องทุกวันนะ

Khun: ย้ายไปสวีทกันบนห้องเราดีมั้ย

Khun: หรือว่าจงใจทำให้คนที่ไม่มีแฟนอย่างพี่ตาร้อน

Khun: 5555

Plerng: เกิดอะไรที่บ้านเหรอครับ

Khun: โปรดจูบคู่หมั้นอยู่ในห้องนั่งเล่น

Khun: ดูดดื่มกันน่าดูเลยเพลิง

Plerng: อ่า 55555

Plerng: อีกห้านาทีผมจะถึงบ้านครับพี่คุณ

Plerng: หวังว่าจะทันเห็นช็อตเด็ดนะ





















#ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี

หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ตอน 09 - up 6.9.61
เริ่มหัวข้อโดย: yasperjer ที่ 06-09-2018 16:26:00
คนอ่านก็จะหายใจไ​ม่ออก​ เขินนนนนนนนน
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ตอน 09 - up 6.9.61
เริ่มหัวข้อโดย: Gokusan ที่ 06-09-2018 17:48:10
เนี่ย...ทำแบบเนี้ยะ~~~
คนอ่านขาดอากาศหายใจตายพอดีย์~~~

หวานมาทั้งตอน คุณพี่หึงหน้าตึงจนน้องต้องง้อซะงั้น...งี้ก็ได้เหรออออ 555

พี่คุณไม่มีแฟน? แล้วภูผามากะพี่คุณได้ไง น้องชายพี่เขยสนิทกันขนาดรับส่งเลยดิ...เอ๊~~~ ชักยังไงๆ อิอิ
หัวข้อ: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ตอน 10 - up 6.9.61
เริ่มหัวข้อโดย: Swanlee ที่ 06-09-2018 18:25:36










10



อบอุ่นกว่าเตาผิงในฤดูหนาว

นุ่มนิ่มกว่าวิปครีมที่เคยกิน

 



“ถ้ากลับไม่ไหวก็นอนที่นี่แหละครับ”



เขาหลับตาตอนที่หลังมือนุ่มทาบบนหน้าผาก



“เราก็อยู่กับพี่ด้วยสิ”



“อย่าดีกว่าครับ ผมเกรงใจคุณแม่คุณนะ”



“เกรงใจทำไม คุณแม่ไม่ว่าอะไรหรอก”



“คุณนี่ดื้อจริงๆ เลย”



“น้อยกว่าเราเยอะ”



“แบบนี้แสดงว่าหายปวดหัวแล้วใช่มั้ยครับ”



ทรงโปรดส่ายหน้าเบาๆ ขมวดคิ้วก่อนขยับตัวซุกใบหน้าเข้ากับมือนุ่มที่วางอยู่บนหมอน อยู่ดีๆ เขาก็ปวดหัวตุบๆ ร้อนๆ หนาวๆ เหมือนไม่สบายเลยได้ขึ้นมานอนอยู่บนห้องของตัวเองที่ไม่ได้ใช้มาเป็นปีๆ



“ฝนตกอยู่ จะกลับยังไง”



“เดี๋ยวเรียกแท็กซี่มารับก็ได้ครับ”



“ไม่ต้องเลย ถ้าอยากกลับเดี๋ยวไปส่ง” คนป่วยมองน้องที่ถอนหายใจเบาๆ แล้วเขาก็ต้องคลี่ยิ้มเมื่อคนผิวขาวยอมแพ้



เอ็นดูพยักหน้าเชิงบอกว่ายอมอยู่ต่อที่นี่กับทรงโปรดก็ได้



“มีใครเคยบอกมั้ยครับว่าคุณตื๊อเก่ง”



“ยังไม่มีนะ”



“งั้นรู้ไว้เลยนะครับ คุณตื๊อเก่งมาก”



ปกติเขาไม่เคยวอแวใครแบบนี้ เพราะทั้งชีวิตของทรงโปรดไม่เคยเกิดอาการหลงรักใครมากขนาดนี้มาก่อน



คนป่วยที่ไม่ยอมหลับตานอนพักขยับตัวเข้าใกล้คนผิวขาว...ไม่รู้เป็นเพราะอะไร พอได้อยู่ใกล้ๆ น้องอาการปวดหัวตุบมันก็ดีขึ้น ความนุ่มนิ่มของเอ็นดูคงเป็นยารักษาอาการป่วยให้ทรงโปรดได้



คราวนี้เขาเลยยกหัวหนักอึ้งขึ้นไปซบลงบนตักนุ่มของน้อง เอ็นดูร้องตกใจ ทำท่าจะผลักเขาออกแต่ก็ต้องยอมนั่งนิ่งๆ เมื่อทรงโปรดส่งเสียงร้องโอยออกมาเบาๆ



“ทำไมไม่นอนบนหมอนล่ะครับ”



“หมอนมันแข็ง”



“ตักผมแข็งกว่าหมอนอีกนะ”



“ตักเรานุ่มจะตาย”



“คุณนี่...”



ถึงเจ้าของตักจะจิ๊ปากทำหน้ามู่ทู่ แต่ก็ปล่อยให้คนตื๊อเก่งอย่างทรงโปรดยืมตักแทนหมอนอยู่ดี



“ถ้าสบายใจแล้วก็ควรนอนได้แล้วนะครับ”



“อยากมองหน้าเราก่อน”



“มองหน้าผมแล้วจะหายป่วยเหรอคุณ”



“ก็อยากมอง”



อือ เชื่อเขาเลย



แต่ก็นั่นแหละ ถึงจะป่วยแต่การนอนหลับในช่วงเวลาที่ฟ้ายังสว่างแบบนี้ไม่ใช่นิสัยของหม่อมราชวงศ์ทรงโปรดเลยสักนิด เขาเลยนอนลืมตาจ้องโครงหน้าคนน่ารักท่ามกลางเสียงของสายฝน มือหนาข้างที่ไม่ได้จับมือน้องเอาไว้คลำหาโทรศัพท์ของตัวเอง ว่าจะหยิบมาดูสักหน่อยว่าตอนนี้กี่โมงแล้ว...แต่ก็หาไม่เจอ



“หาอะไรเหรอครับ”



“โทรศัพท์”



เอ็นดูเอี้ยวตัว ชะโงกหน้าหาโทรศัพท์เครื่องสีดำของเขาที่ไม่เห็นแม้แต่วี่แววว่าวางอยู่แถวนี้ ทรงโปรดขมวดคิ้วเล็กน้อย หลับตาก่อนพยายามนึกว่ามันอยู่ตรงไหน



“ลืมเอาไว้ข้างล่างหรือเปล่าครับ”



“น่าจะใช่”



“ขยับหน่อยคุณ เดี๋ยวผมลงไปหยิบให้”



“ไม่ต้องหรอก โทรบอกให้ใครสักคนที่อยู่ข้างล่างเอาขึ้นมาให้ก็ได้”



“ไม่เอาครับ ไม่ต้องใช้คนอื่นเลย” น้องก้มหน้าบอกเขาด้วยน้ำเสียงนุ่มน่าฟังแล้วตบฝ่ามือลงบนหมอน



“ขยับไปนอนที่อื่นไม่ได้แล้ว”



“เมื่อกี้ยังขยับมานอนบนตักผมได้เลยนี่ครับ”



เลิกแกล้งแล้วก็ได้



ทรงโปรดยอมขยับหัวไปนอนบนหมอนแทนตักของเอ็นดูแล้วอมยิ้มออกมาเมื่อเห็นว่าคนที่ให้ยืมตักเมื่อกี้ใช้กำปั้นทุบบนขาของตัวเองซะแล้ว



“เมื่อยเหรอ”



“ครับ ตัวคุณไม่ใช่เบาๆ สักหน่อย”



“คงเหมาะกับการให้พี่นอนทับมากกว่า”



“คุณ! พูดดีๆ หน่อยสิครับ”



แล้วแขนแกร่งของทรงโปรดก็ถูกตี



นู่น คนที่ตีเขากระโดดลงจากเตียงวิ่งออกจากห้องพร้อมกับแก้มแดงๆ ไปนู่นแล้ว ทรงโปรดหลุดขำให้กับอาการเขินที่โคตรน่ารักของน้อง ความจริงแล้วเขาไม่ได้ตั้งใจพูดให้เป็นความหมายในแง่ติดเรทเลยสักนิด แต่คนฟังนี่สิ คิดไปถึงไหนแล้วก็ไม่รู้



แต่บอกตามตรง



โคตรชอบเลย



แก้มกลมฟูๆ ของน้องที่แดงปลั่งเวลาเขินเนี่ย







*****





 

เอ็นดูอยากแวะเข้าครัวก่อน อยากเปิดตู้เย็นหาน้ำแข็งมาถูแก้มร้อนๆ ของตัวเอง



มือขาวตบลงบนแก้มเบาๆ พยายามสั่งให้ตัวเองหยุดยิ้ม แต่สาบานได้ ทำยังไงก็ไม่ยอมหุบยิ้มสักที



โทษหม่อมราชวงศ์ทรงโปรดคนเจ้าเล่ห์ที่พูดอะไรออกมาแต่ละคำก็ทำให้คนฟังคิดลึกทุกประโยค โชคดีที่เอ็นดูพาแก้มร้อนๆ กับรอยยิ้มกว้างของตัวเองหนีเขาออกมาได้ทัน ไม่อย่างนั้นเอ็นดูคงกลั้นยิ้มไว้ไม่อยู่แล้วหลุดยิ้มต่อหน้าเขาแน่ๆ



ทรงโปรดร้ายกาจอะไรขนาดนี้



เอ็นดูยืนสงบสติอยู่พักหนึ่งหลังจากที่ก้าวลงบันไดมาแล้ว มือขาวยกขึ้นลูบอกเบาๆ หายใจเข้าออกลึกๆ พยายามไม่เก็บเอาใบหน้า น้ำเสียงคำพูดและรอยยิ้มของเขามาจำใส่ใจ



ฮือ แต่ไม่ไหวเลย



สุดท้ายเขาก็ยังวนเวียนอยู่ในความคิดตลอด



ยกมือพัดหน้าแล้วค่อยๆ สาวเท้าเดินตรงไปยังห้องนั่งเล่นที่คาดว่าทรงโปรดน่าจะลืมโทรศัพท์ไว้ แต่พอถึงหน้าห้องกลับต้องชะงักเมื่อภาพเหตุการณ์ที่เพิ่งผ่านมาถาโถมให้ความร้อนเห่อไปทั่วทั้งใบหน้า



ยังสงสัยตัวเองอยู่เลยว่ากล้าจูบเขาก่อนได้ยังไง



ไม่เอาแล้ว ไม่คิดแล้ว



เอ็นดูกลั้นใจแล้วแกล้งทำเป็นลืมๆ ไป มือขาวเลื่อนประตูห้องนั่งเล่นให้เปิดออกก่อนแทรกตัวเข้าไปในนั้น ทุกพื้นที่ในวังภัสร์ฤทัยมีแต่ความทรงจำที่ทำให้เอ็นดูแก้มดูแก้มแดงทั้งนั้นเลย



เอ็นดูเดินตรงไปหยิบโทรศัพท์เครื่องสีดำของทรงโปรดที่วางลืมไว้บนโซฟา แค่ถือเครื่องหน้าจอก็สว่างวาบ เลยทำให้รู้ว่ามีคนแชตหาทรงโปรดเยอะมาก แต่เอ็นดูแค่ไม่รู้ว่าข้อความที่ถูกส่งมานั้นคืออะไร แล้วก็ไม่ได้อยากรู้เรื่องส่วนตัวของเขาขนาดนั้นเลยกดล็อกโทรศัพท์ให้หน้าจอกลับไปเป็นสีดำเหมือนเดิม



“สบายดีมั้ยเอ็นดู ไม่ได้เจอกันตั้งนาน คิดถึงกันบ้างหรือเปล่า”



เจ้าของชื่อหันขวับเมื่อถูกสัมผัสที่ไหล่กลม เอ็นดูรีบปัดมือที่ถือวิสาสะแตะต้องกายของตัวเองออกทันทีเมื่อเห็นว่าคนคนนั้นคือใคร



“ภู”



“นึกว่าจำเราไม่ได้ซะอีก”



หม่อมราชวงศ์ภูผายืนล้วงกระเป๋ากางเกงเอียงหน้ามองคนที่ตัวสูงกว่า ส่งสายตาหวานเยิ้มหวังให้เอ็นดูเงยหน้าสบตากันบ้าง แต่เปล่าเลย เอ็นดูนิ่งมาก แถมยังหันหน้าหนีอีกต่างหาก



“จำได้สิ ขอโทษนะที่ไม่ได้คุยอะไรด้วยเลย”



“ไม่เป็นไร...” ภูผาเม้มปากพลางเหลือบตามองข้อมือของคนผิวขาวที่มีสายสิญจน์ผูกอยู่ “เพิ่งรู้ว่าเธอหมั้นแล้ว”



“อืม...” เอ็นดูลากเสียงยาว ก้มมองข้อมือของตัวเองที่ยังไม่ได้ถอดสายสิญจน์ออก



สงสัยวันนี้ต้องให้ทรงโปรดช่วยตัดออกสักหน่อยแล้ว



การมีสายสิญจน์ผูกติดตัวไม่ค่อยสะดวกต่อการใช้ชีวิตประจำวันเท่าไหร่ เอ็นดูคิดว่าสายสิญจน์ที่ผูกข้อมือของตัวเองอยู่มันค่อนข้างอมน้ำพอสมควรเลย แล้วเอ็นดูเองก็เป็นคนชอบล้างมือบ่อยๆ แน่นอนว่าแค่มันโดนน้ำนิดเดียวก็รู้สึกชื้นแฉะน่ารำคาญแล้ว



ไม่รู้ว่าทรงโปรดจะเป็นเหมือนกันหรือเปล่า



เดี๋ยวนะ คิดถึงเขาอีกแล้วเหรอเนี่ย



“เธอยังโกรธเราอยู่เหรอเอ็นดู”



“ไม่ได้โกรธแล้วนะ”



ไม่ได้รู้สึกอะไรแล้วด้วย



“แต่เธอเย็นชาใส่เรา” หม่อมราชวงศ์ภูผาทำหน้าผิดหวังที่คนเคยสนิททำตัวห่างเหินกัน



เอ็นดูอยากบอกภูผามากๆ เลยนะว่าไม่เจอกันตั้งนานจะให้ทำตัวปกติเหมือนเมื่อก่อนได้ยังไง แต่ก็นั่นแหละ เอ็นดูไม่ใช่คนพูดมากเลยเงียบแล้วส่งยิ้มให้แทน



“ช่างเหอะ” ภูผาบอกปัดเพราะเห็นว่าเอ็นดูไม่หือไม่อืออะไรด้วยเลย “ว่าแต่เราไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าพี่โปรดคบกับเธอ”



“...”



“พี่โปรดเจ้าชู้มากเลยนะ เที่ยวเก่งด้วย”



“...”



“เธอไม่ชอบคนเจ้าชู้ไม่ใช่เหรอ”



เอ็นดูถอนหายใจเฮือก แสดงอารมณ์ไม่พอใจออกมาจนภูผายกยิ้ม



ภูผาชอบ...ชอบให้เอ็นดูหัวเสีย



“ขอบคุณนะที่บอกว่าเขาเป็นคนยังไง” เอ็นดูคลี่ยิ้ม “ความจริงเรายังไม่รู้จักเขาดีเท่าไหร่”



“แสดงว่าที่เธอหมั้นเพราะคลุมถุงชนเหรอ...ว่าละ ที่บ้านเธอชอบบังคับ”



“เปล่า เราเต็มใจหมั้น”



“อ้าว อะไรของเธอ”ภูผาขมวดคิ้วงุนงง



เอ็นดูทำหน้านิ่งก่อนก้มมองโทรศัพท์สีดำในมือที่สั่นครืดเพราะมีคนโทรเข้า แล้วก็ต้องขมวดคิ้วทันทีเมื่อเห็นว่าเบอร์ที่โทรเข้ามาเป็นเบอร์ของเอ็นดูเอง



และจากที่ขมวดคิ้วอยู่ก็เปลี่ยนเป็นคลี่ยิ้มพร้อมกับหัวเราะเบาๆ



สาเหตุก็เพราะเบอร์ของเอ็นดูที่หม่อมราชวงศ์ทรงโปรดเมมชื่อเอาไว้ว่า



กระต่ายที่น่า ‘เอ็นดู’



ไม่ใช่แค่นั้นหรอกที่ทรงโปรดทำ แต่เขาใช้รูปภาพกระต่ายขนฟูฟ่องขึ้นโชว์เวลามีสายเรียกเข้าหรือโทรออกด้วย



“ไปก่อนนะภู ไว้ค่อยคุยกันใหม่” บอกลาคนที่ทำหน้ายุ่งก่อนจะเดินออกไป แต่ภูผายังอุตส่าห์ตะโกนตามหลังมาอีก



“ที่บอกเพราะเป็นห่วง พี่โปรดเจ้าชู้มาก เรากลัวว่าเธอจะต้องเสียเวลากับคนแบบนั้น”



เอ็นดูชะงัก หมุนตัวกลับไปมองหน้าคนที่อุตส่าห์มอบความเป็นห่วงมาให้



“เราไม่ชอบคนเจ้าชู้แต่ก็ใช่ว่าเราจะไม่ชอบเขา”



“...”



“ขอบคุณที่เป็นห่วง แต่เราคิดว่าเราสามารถคุยเรื่องนี้กับเขาได้”



“...”



“โดยไม่ต้องมีคนอื่นเข้ามาเกี่ยว”







*****





 

สรุปแล้ววันทั้งวันนี้เอ็นดูก็ใช้ชีวิตอยู่ในวังภัสร์ฤทัย อยู่เป็นพยาบาลดูแลไข้หม่อมราชวงศ์ทรงโปรดที่บ่นว่าปวดหัวแต่ไม่ยอมไปหาหมอ ที่สำคัญ ไม่ยอมให้พี่เขยตัวเองที่เป็นหมอมาตรวจอาการด้วย



คนตัวสูงบอกกับเอ็นดูว่าเขายังไหวอยู่ แต่ไหวแบบไหนไม่รู้นะ ลุกก็โอย นั่งก็โอย ทรงโปรดเรียกให้เอ็นดูช่วยประคองทุกทีเลย



อือ ก็นี่แหละคนขี้อ้อน



จนกระทั่งตอนนี้ถึงเวลามื้อค่ำ ทุกคนพร้อมหน้าพร้อมตากันมาก ตอนแรกทรงโปรดทำท่าจะไม่ลงมาร่วมโต๊ะเพราะให้เหตุผลว่าตัวเองยังป่วยอยู่ (ปากบอกป่วย แต่ลุกขึ้นมากดโทรศัพท์เล่น)



เอ็นดูไม่อยากจะบังคับเขาและไม่อยากเสียมารยาทหากไม่ลงไปร่วมโต๊ะ เลยคิดว่าจะปล่อยให้ทรงโปรดอยู่คนเดียวในห้อง ส่วนตัวเองก็จะลงไปทานมื้อค่ำ แต่เชื่อมั้ย แค่เอ็นดูขยับตัวลงจากเตียง ทรงโปรดก็ดีดตัวลงตามแล้วกลายเป็นคนป่วยนั่นแหละที่เกินกุมมือเขาลงมายันห้องอาหาร



แบบนี้เขาเรียกว่าป่วยไม่จริงนี่นา



หลังจากที่เอ็นดูยกมือสวัสดีผู้ใหญ่ทุกคน มื้อค่ำก็เริ่มขึ้น...เป็นครั้งแรกที่เอ็นดูได้มีโอกาสเจอเหล่าพี่ๆ ของทรงโปรดครบทุกคน หม่อมราชวงศ์รฐา กับหม่อมราชวงศ์ทรงคุณ เอ็นดูเคยเจอมาแล้ว มีแต่หม่อมราชวงศ์ทรงเพลิงนี่แหละ ที่เอ็นดูเพิ่งเคยเจอเป็นครั้งแรก



จะพูดยังไงดี...พี่น้องบ้านนี้หล่อสวยดูดีกันทุกคนเลย



แต่ว่ามื้อค่ำวันนี้เป็นมื้อค่ำที่ค่อนข้างอึดอัดพอสมควรเพราะคำว่าพร้อมหน้าพร้อมตานี่แหละ



พร้อมแบบที่ ภูผาก็ร่วมโต๊ะอยู่ด้วย



แถมยังนั่งตรงข้ามเอ็นดูอีกต่างหาก



คนผิวขาวไม่ใส่ใจถึงแม้จะถูกจ้องด้วยสายตาที่เหมือนจะกลั่นแกล้งกันอยู่ตลอด ภูผาเสียมารยาทโดยการใช้เท้าเขี่ยเข่าของเอ็นดูจนเขาเผลอก้มลงไปมองหลายครั้ง พอโดนแกล้งเข้าบ่อยๆ เอ็นดูก็พอที่จะมีสติ ทำเฉย ไม่ก้มลงไปมอง ไม่สนใจ



แต่คนที่สังเกตถึงความผิดปกติของเอ็นดูก็คือคุณว่าที่คู่หมั้นคนหล่อที่นั่งอยู่ข้างกันนี่แหละ เอ็นดูเห็นว่าเขาขมวดคิ้วตลอด และพักหลังเอ็นดูก็ไม่ได้ถูกเขี่ยเข่าอีกแล้ว พอก้มหน้ามองใต้โต๊ะถึงได้รู้ว่าทรงโปรดกำลังใช้เท้าของเขาเหยียบเท้าภูผาเอาไว้



ส่วนคนที่ถูกเหยียบน่ะหน้ามุ่ยเลย



“เป็นอะไรชายภู อาหารไม่อร่อยหรือไง”



หม่อมราชวงศ์ภูมินทร์พี่เขยของทรงโปรดซึ่งเป็นพี่ชายแท้ๆ ของภูผาขมวดคิ้วถามน้องชายตัวแสบที่นั่งกลั้นหายใจจนแก้มป่องหน้าแดง เอ็นดูมองสลับระหว่างทรงโปรดกับภูผามาได้สักพัก เลยเห็นว่าตอนนี้ภูผามองทรงโปรดแบบหวาดหวั่นจนเอ็นดูเกือบหลุดขำ



“อร่อยครับพี่ภูมิ แต่ภูอิ่มแล้ว”



“ทานไปได้กี่คำเองคะน้องภู ข้าวในจานยังไม่พร่องเท่าไหร่เลย”



“ภูไม่ค่อยหิวครับพี่ฐา อยากกลับบ้านแล้ว”



“อยากกลับก็กลับไป นั่งทำหน้าหน่ายแบบนี้เสียมารยาท เดี๋ยวใครเห็นเข้าจะทานข้าวตามไม่ลง”



โดนพี่ชายดุจนได้



“ผมขอโทษพี่ๆ ทุกคนนะครับ ขอโทษคุณป้านัดด้วยนะครับ”



ภูผายกมือไหว้ผู้ใหญ่ทุกคนร่วมทั้งทรงโปรด ก่อนจะชะงักเมื่อสบตากับเอ็นดู เขาลดระดับมือลงวางบนตัก แล้วผงกศีรษะให้เอ็นดูเชิงขอโทษ



เอ็นดูแอบแง้มผ้าคลุมโต๊ะเพื่อมองสถานการณ์ใต้โต๊ะอีกครั้ง ทรงโปรดปล่อยเท้าที่เหยียบเท้าของภูผาออกแล้ว ร่างสูงนั่งตักน้ำซุปเข้าปากหน้าระรื่นเลยทีเดียว



เขาน่ะร้ายนัก



หลังจากที่โต๊ะอาหารไร้เงาภูผา เอ็นดูก็ผ่อนคลายขึ้นเยอะ เพราะไม่มีสายตาแปลกๆ คอยกดดันให้ตักข้าวเข้าปากไม่ได้ ไม่มีใครแกล้งเขี่ยเข่าให้รู้สึกรำคาญ



ต้องขอบคุณทรงโปรดจริงๆ



ทว่าตอนที่กำลังเพลิดเพลินกับอาหารบนโต๊ะก็ต้องชะงักเมื่อกระดาษทิชชูสีขาวถูกแตะเบาๆ บนมุมปากที่กำลังมุบมิบ เอ็นดูถือช้อนค้างกลางอากาศแล้วก็ต้องรีบหดคอหนีเมื่อทรงโปรดทำท่าจะเช็ดปากให้อีกครั้ง



“คุณ ผมเช็ดเองได้ครับ”



“กินไป เดี๋ยวเช็ดให้เอง”



“...พอแล้วคุณ”



รายนี้ก็ทำอะไรไม่สนใจคนอื่นจริงๆ ผู้ใหญ่นั่งอยู่เต็มโต๊ะยังกล้าทำแบบนี้อีก



“ผมมาไม่ทันอาหารตาชุดใหญ่ตอนกลางวัน แต่ก็ยังทันของหวานตอนค่ำนะครับพี่คุณ” หม่อมราชวงศ์ทรงเพลิงกระแอมไอเบาๆ แล้วเปล่งเสียงทุ้มๆ ของเขาคุยกับหม่อมราชวงศ์ทรงคุณที่นั่งอยู่ข้างๆ



“ตอนกลางวันดุดัน แต่ตอนนี้หวานฉ่ำ แต่ก็ใช้ได้เหมือนกัน”



เอ็นดูไม่รู้หรอกว่าทรงคุณกับทรงเพลิงคุยเรื่องอะไรกันอยู่ รู้แต่ว่ารอยยิ้มของพี่น้องบ้านนี้น่ะเหมือนกันสุดๆ



โดยเฉพาะตอนที่ยิ้มแบบ...เจ้าเล่ห์



พี่รฐาก็เอากับเขาด้วย เธอยกยิ้มมุมปาก หัวเราะคิกคักกับน้องชายทั้งสองคน ส่วนทรงโปรดน่ะเหรอ รายนั้นนั่งทำหน้าระรื่น ยัดคิ้วหรี่ตาให้พี่ๆ ของตัวเอง



จนสุดท้ายแล้วก็นั่งให้ทรงโปรดเอาแต่ใจตัวเองจนกระทั่งอิ่ม เขาคอยตักนู่นตักนี่ให้ตลอด เอ็นดูกินได้สักพักก็คอยเช็ดปากให้...ต่อหน้าผู้ใหญ่เลยนั่นแหละ



คนอย่างหม่อมราชวงศ์ทรงโปรดแคร์อะไรที่ไหน







*****







มื้อค่ำของวันนี้สิ้นสุดแล้ว ฝนที่โปรยปรายทั้งวันก็เช่นกัน



พื้นที่หลังวังริมแม่น้ำเจ้าพระยาเป็นจุดพักผ่อนหลังจากที่เอ็นดูอิ่มแปล้



ที่นี่ยิ่งดึกยิ่งสวยเพราะไฟสีนวลประดับรอบวัง อีกทั้งเรือบนแม่น้ำยังประดับไฟสวยงามอีกต่างหาก ตรงข้ามวังจุดที่เอ็นดูยืนกอดอกมองอยู่นี้เป็นร้านอาหารชื่อดังที่คุณหญิงลักขณาชอบมาทานบ่อยๆ



เอ็นดูจำเรื่องราวสมัยที่ยังไม่ย้ายมากรุงเทพฯ ได้ดี ทุกครั้งที่มีงานสำคัญในกรุงเทพฯ คุณหญิงลักขณามักจะพาเอ็นดูมาด้วยบ่อยๆ และดินเนอร์สุดหรูกันที่ร้านอาหาร้านนั้น เอ็นดูจำได้ว่าทุกครั้งที่มาทานอาหาร มักจะต้องนั่งมองวังงามหลังนี้ตลอด



และคิดอยู่เสมอว่าถ้าหากได้เข้ามาเยี่ยมบ้างก็คงจะดีไม่น้อยเลย



คิดไม่ถึงจริงๆ ว่าตอนนี้จะได้มีโอกาสเข้ามาเยี่ยมวังที่ตัวเองแอบมองมาตั้งเด็กๆ



“หนาวมั้ย”



“ไม่ครับ”



ถึงจะบอกว่าไม่ แต่เสื้อกันหนาวตัวใหญ่ก็ถูกคลุมลงบนไหล่ของเอ็นดูซะแล้ว



คนที่เพิ่งเดินมาตรงหลังวังยกยิ้มมุมปาก ปลายนิ้วชี้แตะแก้มขาวเพื่อวัดอุณหภูมิของคนที่เฝ้าไข้มาทั้งวันว่ายังปกติดีหรือว่าคิดไข้เขาไปแล้ว



“ใส่ไว้ จะได้ไม่หนาว”



“ขอบคุณนะครับ”



ทรงโปรดระบายยิ้มให้คนผิวขาว เอ็นดูมองมือหนาที่ถือกรรไกรเอาไว้ แล้วก็ต้องคลี่ยิ้มออกมาเมื่อทรงโปรดจับแขนนิ่มข้างที่มีสายสิญจน์ผูกอยู่ขึ้นมาอย่างทะนุถนอม



“ความจริงยังไม่อยากถอด อยากใส่จนกว่าจะถึงวันหมั้นมากกว่า”



“สายสิญจน์เปื่อยพอดีนะครับ”



“เปื่อยก็เปื่อยสิ”



เอ็นดูยิ้มให้กับท่าทางของทรงโปรด



คำพูดดูเอาแต่ใจ แต่ใบหน้านี่นิ่งเรียบเชียว ถ้าไม่ติดว่ามีรอยยิ้มประดับที่มุมปาก เอ็นดูคงคิดว่าเขากำลังโกรธที่ถูกขอร้องให้ช่วยตัดสายสิญจน์



หลังจากทานมื้อค่ำเสร็จ เอ็นดูก็กระซิบถามทรงโปรดเรื่องสร้อยข้อมือ ลืมไปแล้วด้วยซ้ำว่าสร้อยของตัวเองส่งซ่อมอยู่



ทรงโปรดคุยกับทรงคุณเรื่องสร้อยและได้ความว่าสร้อยเสร็จแล้วเรียบร้อย อยู่บนห้องของทรงคุณเอง ตอนที่ทรงโปรดจะขึ้นไปเอาสร้อยให้เอ็นดู เขาก็ถือโอกาสพูดเรื่องสายสิญจน์ว่ามันสมควรที่จะถูกตัดออกได้แล้ว



เอ็นดูไม่ได้เล่าอย่างละเอียดว่าทำไมตัวเองถึงตัดสายสิญจน์ออกเองไม่ได้ แค่บอกว่าที่บ้านต้องให้อีกฝ่ายช่วยตัดเพราะเป็นความเชื่อ ทรงโปรดก็พยักหน้าตกลง



“แล้วสายสิญจน์จะเอาไปไว้ที่ไหน หิ้งพระหรือเปล่า” ทรงโปรดถามหลังจากที่ค่อยๆ ตัดสายสิญจน์ออกจากข้อมือของเอ็นดูทีละเส้น เขาคอยระวังไม่ให้เหล็กของกรรไกรเฉียดผิวของเอ็นดู



“ทิ้งได้เลยครับ”



“น่าเสียดาย”



“ก็แค่สายสิญจน์น่ะคุณ”



“แค่สายสิญจน์ที่ไหน นี่ของสำคัญที่ทำให้พี่ได้หมั้นกับเราเลยนะ”



“ยังไม่ได้หมั้นสักหน่อยนะครับ”



ขี้ตู่อีกแล้ว...



ทรงโปรดหัวเราะในลำคอก่อนค่อยๆ ตัดสายสิญจน์เส้นสุดท้ายออก



ตอนแรกเขาทำท่าจะไม่โยนลงถังขยะ แต่พอเอ็นดูจับโยนเองเขาเลยทำตาม



สายสิญจน์ไม่ได้ปลุกเสกอะไร เป็นแคสายสิญจน์ที่ผู้ใหญ่ผูกจองตัว รับขวัญ เป็นสัญลักษณ์ว่าพวกเขาทำพิธีตามความเชื่อของผู้ใหญ่เพื่อความสบายใจเรียบร้อยแล้วเท่านั้น



“ขอบคุณครับ” พึมพำบอก ก่อนที่ตัวเองจะเป็นฝ่ายตัดสายสิญจน์ออกจากข้อมือหนาบ้าง



เพราะมัวแต่ก้มหน้าเลยไม่ทันสังเกตว่าคนตัวสูงกำลังเอียงคอมองตัวเองด้วยสายตาที่แสดงถึงความเอ็นดูมากแค่ไหน จนกระทั่งทรงโปรดใช้ปลายนิ้วโป้งลูบแก้มกลมเบาๆ นั่นแหละ เอ็นดูถึงได้ชะงัก เหลือบตามองเขาก่อนกลับมาตั้งใจตัดสายสิญจน์ออกเหมือนเดิม



“ใจอ่อนบ้างหรือยัง”



“อะไรครับ”



อยู่ๆ ก็ถามไม่มีหัวเรื่อง



“ใจเราน่ะ อ่อนให้พี่บ้างหรือยัง”



“...” คนผิวขาวเม้มปาก ทำหูทวนลมก้มหน้ายุ่งกับสายสิญจน์



“ว่าไง”



“นิ่งๆ ได้มั้ยครับ เดี๋ยวกรรไกรโดนแขน”



“ตอบมาก่อนสิ”



“ไม่ครับ”



“ปากแข็ง”



“...”



“แก้มแดงขนาดนี้ยังบอกว่าไม่”



เอ็นดูวางกรรไกรลงบนโต๊ะหลังจากที่ตัดสายสิญจน์เส้นสุดท้ายเสร็จ หมุนตัวทำท่าจะเดินหนีคนตัวสูงที่ทำให้หน้าเริ่มเห่อร้อนอีกครั้งแต่ก็ถูกทรงโปรดรั้งไว้ด้วยมือหนาที่จับไหล่กลมทั้งสองข้าง



“หน้าแดงก็ไม่ได้เหรอครับ”



“หน้าแดงต้องมีเหตุผล”



“...”



“เราน่ะปากแข็ง”



“...ไม่สักหน่อย”



คนผิวขาวเงยหน้าเถียงทันควัน รีบยกมือแตะริมฝีปากเอิบอิ่มของตัวเองที่โดนกล่าวหา



แล้วก็ต้องก้มหน้างุดตามเดิมเมื่อทรงโปรดคลี่ยิ้มกว้าง



ยิ้มน่ามองแต่เอ็นดูไม่กล้ามอง



เพราะกลัวว่าใจจะสั่นมากไปกว่านี้



“ไม่ต้องเถียง ปากเราแข็งจะตาย”



“ปากผมไม่ได้แข็งสักหน่อย…” ยืนยันด้วยการพึมพำเบาๆ ก่อนเอนตัวซบหน้าลงบนอกกว้างของคนตัวสูงเพื่อซ่อนแก้มแดงปลั่ง “คุณก็เคยสัมผัสแล้วไม่ใช่เหรอครับ”



ทุกครั้งที่เคยสัมผัสกัน ทรงโปรดก็แนบแน่นขนาดนั้น

...ทำไมถึงยังหาว่าน้องปากแข็งอยู่อีกก็ไม่รู้



























#ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี

 

 
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ตอน 10 - up 6.9.61
เริ่มหัวข้อโดย: k00_eng^^ ที่ 06-09-2018 19:44:52
 :-[ :-[
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ตอน 10 - up 6.9.61
เริ่มหัวข้อโดย: catka12 ที่ 06-09-2018 20:44:43
 :ruready เขินมากกกกก  :ruready
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ตอน 10 - up 6.9.61
เริ่มหัวข้อโดย: wwll ที่ 06-09-2018 22:08:13
สูดหายใจลึกมากกก ยิ่งกว่าหลังคาร์ดิโอ้
จะขาดอากาศหายใจเอาเน้อ!!!!!
คุณพี่โปรดเล่นจัดชุดใหญ่ไฟกระพริบตลอดดด

คนเจ้าชู้ คือคนที่ยังไม่เจอคนที่ใช่ มันคือจริงมาก
บอกเลยว่าภูผานี่มาไม้นี่ไม่ได้ผลจร้าา
อดีตก็คืออดีต ก็อาจจะมีตามมาหลอกหลอนบ้าง
คงไปผญเจ็บไว้เยอะ ก็ตามแก้กันหน้างานไป

ตอนนี้ก็ทำคะแนนไว้เยอะๆ
เพราะน้องดูนุ่มนิ่มๆ แต่คนแบบนี้บางทีก็ตัดได้ง่ายๆเลยเด้อ

รอตอนต่อไปนะคะไรท์
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ตอน 10 - up 6.9.61
เริ่มหัวข้อโดย: Chompoo reangkarn ที่ 07-09-2018 00:06:00
 :pig4 :pig4:
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ตอน 10 - up 6.9.61
เริ่มหัวข้อโดย: momonuke ที่ 07-09-2018 01:45:59
จะร้องไห้ นุเขินนนนนน  :ling1: :ling1: :ling1:
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ตอน 10 - up 6.9.61
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 07-09-2018 02:15:11
 :pig4: :pig4: :pig4:

งุ้ย...มดขึ้นจอเต็มไปหมด
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ตอน 10 - up 6.9.61
เริ่มหัวข้อโดย: Tiffany ที่ 07-09-2018 04:24:21
หวานจริงๆ
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ตอน 10 - up 6.9.61
เริ่มหัวข้อโดย: jeaby@_@ ที่ 09-09-2018 09:51:31
สนุกมากกกก อ่านถึงเเค่ตอนสอง รีบมมาเมนท์ก่อน มาต่อเรื่อยๆนะคะ ตามอยู่ค่ะ
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ตอน 10 - up 6.9.61
เริ่มหัวข้อโดย: songte ที่ 09-09-2018 16:04:50
อือหือ เบาหวานขึ้นตา
เรื่องนี้ไม่ใช้น้องหรอกที่จะขาดอากาศหายใจ คนอ่านเนี่ยะแหล่ะตายก่อน สำลักน้ำตาล :-[
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ตอน 10 - up 6.9.61
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 09-09-2018 20:47:50
 :pig4:  :pig4: :pig4:
หัวข้อ: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ตอน 11 - up 12.9.61
เริ่มหัวข้อโดย: Swanlee ที่ 12-09-2018 15:32:42

11



ไม่ได้โหยหาความรักหรอกนะ

โหยหาแต่คุณนั่นแหละ

: )

 



เอ็นดูกำลังคิดว่าเย็นนี้จะกลับไปทำอะไรกินเป็นมื้อค่ำดีทั้งๆ ที่ยังนั่งฟังเสียงอาจารย์บรรยายบทความเกี่ยวกับเศรษฐกิจซบเซาเป็นภาษาอังกฤษในชั่วโมงเรียน



ตาเรียวจ้องโปรเจ็กเตอร์ นิ้วขาวสวยควงปากกา แต่ใจนี่ลอยไปไหนต่อไหนแล้วก็ไม่รู้



เมื่อเช้าไม่ได้กินข้าวเพราะมัวแต่วุ่นวายแต่กับเรื่องรถ ขนาดจอดรถในคอนโดยังไม่ทันขับออกไปไหนก็ถูกรถอีกคันถอยมาชนจนกระโปรงหน้าเปิด ไฟหน้าแตกกระจาย สัญญาณนิรภัยในรถ Lexus ร้องเตือนเสียงดังทั่วทั้งลานจอดรถชั้นนั้น



คนที่ขับมาชนยังเป็นเด็กนักเรียนอยู่เลย



เอ็นดูรีบวิ่งออกมาดูสถานการณ์ทั้งที่ยังแปรงฟันล้างหน้าไม่เสร็จ น้องนักเรียนยกมือขอโทษขอโพยยกใหญ่ น้องเป็นเด็กผู้ชายอวบๆ ขาวๆ น่ารัก ท่าทางจะร้องไห้ของเด็กคนนั้นทำเอาเอ็นดูไม่อยากเอาเรื่องอะไรเลย



จริงๆ เอ็นดูไม่ได้โกรธอยู่แล้ว รถมีประกันไม่ค่อยเดือดร้อนอะไรเท่าไหร่ น้องนักเรียนบอกว่าจะให้คุณพ่อมาช่วยเคลียร์และจ่ายค่าเสียหายส่วนอื่นๆ ให้ แต่เอ็นดูปฏิเสธ ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของประกันภัยจัดการก็พอ เขาไม่ติดใจเอาเรื่องแถมยังปลอบเด็กนักเรียนที่น่าสงสารคนนั้นอีกด้วย



เรื่องจบตอนที่เจ้าหน้าที่ประกันภัยมาถึง ทำเรื่องแป๊บเดียวเอ็นดูก็บอกให้น้องคนนั้นไปโรงเรียนได้แล้ว



ส่วนเอ็นดูก็นั่งแท็กซี่ฝ่ารถติดมาเรียน

 



Prod: แล้วเย็นนี้จะกลับเองหรือไง

Prod: รอที่มอมั้ย เดี๋ยวไปรับ



 

เอ็นดูกลั้นยิ้ม ละสายตาจากโปรเจ็กเตอร์มาจ้องโทรศัพท์แทน



นอกจากคุณแม่ที่รู้ว่าหลังจากนี้ยาวไปเกือบเดือนเอ็นดูจะไม่มีรถใช้งานเพราะถูกยกไปเคลม ก็มีทรงโปรดนี่แหละที่รู้เรื่องนี้ด้วยเหมือนกัน นับว่าเขาคือคนแรกเลยที่เอ็นดูเล่าเรื่องเมื่อเช้าให้ฟัง



หม่อมราชวงศ์ทรงโปรดทำท่าจะมารับเอ็นดูไปเรียนตั้งแต่เมื่อเช้าแล้ว แต่ตอนนั้นเอ็นดูนั่งอยู่บนแท็กซี่และกำลังจะถึงมหา’ลัยเลยปฏิเสธคนตัวสูงที่ทำเสียงเป็นห่วงเป็นใยผ่านโทรศัพท์



คอนโดอยู่ไกลกันขนาดนั้น เอ็นดูไม่อยากให้เขาฝ่ารถติดตอนเช้าๆ หรอก



ถึงแม้ว่าอยากจะเจอหน้าเขามากแค่ไหนก็ตาม



ผ่านมาหนึ่งเดือนกว่าๆ หลังจากที่ไปได้มีโอกาสเข้าไปเยี่ยมวังภัสร์ฤทัย เอ็นดูใช้ชีวิตปกติเหมือนเดิมทุกอย่าง แต่มีอย่างหนึ่งที่ไม่ปกติเท่าไหร่ก็คือ...ความสนิทสนมที่เอ็นดูมอบให้ทรงโปรด



พวกเขาสนิทกันมากขึ้น หนำซ้ำยังสนิทกันเหมือนกับว่ารู้จักมาเป็นปีๆ ด้วย



ไม่รู้ว่าหาเรื่องอะไรมาคุยกันได้มากมายขนาดนี้ ชีวิตของเอ็นดูไม่ได้หวือหวา แต่ก็มีเรื่องคุยกับทรงโปรดทุกชั่วโมงเลย ทรงโปรดเองก็เหมือนกัน เขาพูดคุยกับเอ็นดูอย่างเป็นธรรมชาติ ไม่มีจังหวะไหนที่ต่างคนต่างเงียบเพราะหมดเรื่องคุยเลยสักครั้ง



เอ็นดูรู้สึกตื่นเต้นกับการได้คุยกับทรงโปรดทุกครั้ง ไม่ว่าจะแชต โทรคุย วิดีโอคอลล์ หรือว่าเจอหน้า



เจอหน้านี่ยิ่งแล้วใหญ่...ตื่นเต้นกว่าเดิมไปอีก

 



N-Doo: คุณเลิกงานสามทุ่มไม่ใช่เหรอครับ

Prod: เลิกกี่โมงก็ได้ถ้าเราอยากให้ไปรับ

N-Doo: ไม่รบกวนคุณดีกว่า

N-Doo: ตั้งใจทำงานเถอะครับ

 Prod: โอเค

Prod: เดี๋ยวเย็นนี้ไปรับ



 

อ่าว...

 



Prod: คืนนี้ขอนอนด้วยนะ

Prod: ถ้าหอบงานไปทำด้วยจะโกรธมั้ย

N-Doo: จะโกรธทำไมล่ะครับ

N-Doo: เรื่องของคุณนี่นา

Prod: กลัวมีใครบางคนงอแงที่สนใจงานมากกว่า

Prod: เดี๋ยวโดนทำหน้ามุ่ยใส่อีก

N-Doo: ผมไม่ได้งอแงสักหน่อย

Prod: แต่หนีไปนอนก่อน แถมไม่ยอมให้กอดอีกต่างหาก

N-Doo: ไม่คุยด้วยแล้วนะครับ ผมต้องเรียนต่อ

 



ไม่อยากโดนเขาล้อเลยชิ่งหนีด้วยการล็อกหน้าจอโทรศัพท์ เอ็นดูไม่ได้โกรธนะที่เขายกเรื่องนี้มาพูด แต่ขำตัวเองมากกว่าที่ดันไปงอนทรงโปรดทั้งที่รู้ว่าเขามีงานด่วนต้องทำ



เรื่องมันเกิดขึ้นเมื่อวานซืนที่ผ่านนี่เอง หม่อมราชวงศ์ทรงโปรดขับรถฝ่าฝนเพื่อมานอนค้างที่คอนโดของเอ็นดู ความจริงไม่ได้ตั้งใจจะงอนหรืองอแงอะไรเลยนิด แต่ตอนนั้นตีสองแล้ว ทรงโปรดยังนั่งหลังแข็งทำงานอยู่ในห้องนอนอยู่เลย ด้วยความ...เป็นห่วง เอ็นดูเลยเรียกให้เขามานอนอีกครั้ง...อือ น่าเป็นรอบที่สิบได้แล้วมั้ง



แล้วทรงโปรดก็ทำให้เอ็นดูคิดว่าเขาจะเดินมานอนจริงๆ



หม่อมราชวงศ์ทรงโปรดหันมาส่งยิ้มให้ก่อนจะลุกขึ้นเดินมาที่เตียง เอ็นดูจำได้ว่าตัวเองก็คลี่ยิ้มตอนที่คนตัวสูงโน้มตัวลงมาจูบปลายจมูก คนผิวขาวเอื้อมมือคว้าข้อมือหนา ออกแรงกระตุกเล็กน้อยส่งสัญญาณให้เขารู้ว่าควรล้มตัวลงนอนได้แล้ว แต่ทรงโปรดกลับส่ายหน้า จุมพิตหน้าผากเอ็นดูแล้วผละตัวออกเดินกลับไปนั่งทำงานเหมือนเดิม



อือ เอ็นดูเหวอไปเลย



ทรงโปรดไม่มีทางเข้าใจหรอกว่า



เอ็นดูอยากให้เขามานอนกอดจะแย่แล้ว



ก็นั่นแหละ เอ็นดูเลยเผลองอแงใส่ด้วยการหยิบมาห่มมาคลุมโปง นอนถอนหายใจฟึดฟัดไม่สนใจว่าทรงโปรดจะเรียกหรือชวนคุยยังไง จนกระทั่งไม่กี่นาทีต่อมาที่เอ็นดูได้ยินเสียง MacBook ของทรงโปรดถูกพับฝาปิดพร้อมกับเสียงเก้าอี้ลากพื้นดังครืด และตามมาด้วยเตียงที่ยวบลงเพราะน้ำหนักของทรงโปรดที่โถมลงมา เขาดึงหน้าห่มผืนใหญ่ออกให้พ้นใบหน้าขาวของเอ็นดู แต่สุคนตัวเล็กก็ดึงมันขึ้นมาปิดหน้าอีกครั้ง



‘เดี๋ยวหายใจไม่ออก’

‘...’

‘เอ็นดู’



หายใจไม่ออกจริงๆ แต่เอ็นดูก็นอนเม้มปากผ่อนลมหายใจฟึดฟัดอยู่อย่างนั้นจนกระทั่งทรงโปรดดึงผ้าห่มออกอีกครั้ง แต่คราวนี้เขาดึงออกจากตัวของเอ็นดูเลย แถมยังโยนทิ้งไว้บนพื้นข้างเตียงอีกต่างหาก



‘เอาผ้าห่มคืนมาเลยนะครับ’

‘ทำไมหน้างอ’

‘ไม่ได้งอ หน้าปกติครับ’

‘นี่ไม่ปกติแล้ว’

‘ผมง่วงแล้ว’

‘อย่าเพิ่งนอน’

‘ผมง่วง’

‘ขอโทษที่มัวแต่ทำงานแล้วไม่ได้มากอดเราเลย’

‘…’

‘กอดแล้วนะครับ หายงอนได้แล้ว’

‘ผมไม่ได้งอนนะคุณ’

‘อือ แต่งอแง’

‘เฮ้อ’



บอกเลยว่านึกถึงทีไรก็นั่งขำตัวเองจนไหล่สั่นจริงๆ



แล้วสุดท้ายในคืนนั้นเอ็นดูก็ผล็อยหลับจมอ้อมกอดทรงโปรด และการที่ตัวเองงอแงครั้งนั้นครั้งเดียว คนตัวสูงก็หยิบเรื่องนี้มาล้อกันไม่เลิกสักที



เขาบอกว่าชอบให้เอ็นดูงอแงใส่บ่อยๆ



เพราะทรงโปรดชอบปลอบ ชอบง้อให้เอ็นดูหายงอแง



แล้วก็ไม่มีสมาธิเรียนเพราะนอกจากในหัวจะมีแต่เรื่องของกินเย็นนี้ ยังมีเรื่องของทรงโปรดมารบกวนจิตใจให้ยิ้มกริ่มแก้มร้อนคนเดียวจนเพื่อนที่นั่งข้างๆ หันมอง



กระทั่งโทรศัพท์สั่นครืดเพราะมีสายเข้า โทรศัพท์ที่วางอยู่บนโต๊ะสั่นแรงจนเกิดเสียงดัง เอ็นดูรีบหยิบขึ้นมาแล้วกุมไว้แน่นก่อนหันไปพึมพำขอโทษเพื่อนที่นั่งเหลือบตามองอยู่ข้างๆ



ก้มหน้ามองหน้าจอโทรศัพท์ที่สว่างวาบพลันหลุดยิ้มอีกครั้งเมื่อเห็นว่าใครเป็นคนโทรเข้ามา แต่สุดท้ายเอ็นดูก็ตัดสายทิ้งก่อนกดเข้าแอพพลิเคชั่นที่ใช้แชตกับคนคนนั้น



 

N-Doo: ผมเรียนอยู่นะคุณ

Prod: ช่วยอะไรหน่อย

N-Doo: อะไรครับ

Prod: ช่วยหา How to ทำยังไงให้หายคิดถึงเอ็นดูหน่อยครับ

 



ฮือ คนบ้า!



ถ้าคิดจะโทรมากวนเพื่อหยอดกันแค่นี้นะ สาบานได้ว่าเอ็นดูคงทำเป็นไม่สนใจเขาแน่ๆ



ไม่น่าแชตไปถามเลย

 



Prod: ว่าไง มีมั้ย

N-Doo: ไม่มีครับ

Prod: เหรอ แย่เลย

Prod: คนที่คิดอยู่น่ารักมากๆ อยากให้ช่วยลดความน่ารักลงหน่อย

N-Doo: ผมไม่ได้น่ารักนะคุณ

N-Doo: คิดไปเองหรือเปล่าครับ

Prod: คนน่ารักมักบอกว่าตัวเองไม่น่ารัก

 



เอ็นดูเกาท้ายทอยเบาๆ พลางเม้มปาก ไม่รู้ว่าทรงโปรดว่างมากหรือไงถึงได้เอาแต่แกล้งกันแบบนี้ตลอด

 



N-Doo: ถ้าไม่มีอะไรผมจะปิดเน็ตแล้วนะครับ

 



เอ็นดูเลยทำเมินข้อความของเขา เปลี่ยนเรื่องสนทนาเอง พยายามไม่ให้ทรงโปรดหยอดคำหวานได้อีก คนผิวขาวรู้ว่าตอนนี้ตัวเองชักจะเกิดอาหารพ่ายแพ้ให้กับทรงโปรดมากเกินไปแล้ว



ก็แพ้มาตั้งนานแล้วแหละ แต่พอนับวันยิ่งรู้สึกว่า...แพ้มากขึ้นไปทุกที

 



Prod: มี

Prod: คิดถึงมากๆ ถ้าเจอแล้วขอกอดหน่อยได้หรือเปล่า

N-Doo: แล้วแต่คุณเลยครับ



 

ก็ถูกกอดทั้งๆ ที่ไม่ได้ถูกขออนุญาตมาหลายครั้งแล้ว

 



Prod: กอดแน่นๆ ก็ได้ใช่มั้ย

N-Doo: (ส่งสติ๊กเกอร์หมีพยักหน้า)

Prod: แล้วเอ็นดูจะกอดพี่กลับด้วยได้หรือเปล่า

N-Doo: (ส่งสติ๊กเกอร์หมีทำมือ OK)

Prod: แล้วถ้าขอให้เอ็นดูจูบด้วยได้มั้ย

N-Doo: ผมไม่ชอบจูบใครก่อนครับ

Prod: ไม่เป็นไร พี่จัดการเอง

 



ปากจิ้มลิ้มมุบมิบตอนที่อ่านข้อความนั้นจบ  เอ็นดูไม่มีภูมิต้านทานทรงโปรดแล้ว ไม่สิ เอ็นดูไม่เคยมีภูมิต้านทานเขามาตั้งแต่แรกแล้วต่างหาก



คนผิวขาวก้มมองเวลาบนหน้าจอโทรศัพท์ เกิดอยากให้เวลาเดินเร็วกว่านี้เพื่อที่จะได้เจอทรงโปรดไวขึ้น



ความรู้สึกแบบนี้คงเป็นอาการเดียวกับทรงโปรดเป็นอยู่



เป็นอาการที่...



อยากจะขอ How to ทำยังไงไม่ให้คิดถึงเขามากเกินไป







 *****







ซุปเปอร์มาร์เก็ตในห้างดังเป็นสถานที่ที่ทรงโปรดพาเอ็นดูมาเลือกซื้อของเข้าตู้เย็น รวมทั้งของใช้บางส่วนของเขาเอง



หม่อมราชวงศ์ทรงโปรดเข็นรถเข็นอยู่หน้าโซนอาหารสด ตาคมมองแผ่นหลังบางของคนผิวขาวเพลินตา น้องหยิบนู่นจับนี่ใส่ตะกร้า รู้เลยว่าเอ็นดูก็ช็อปปิ้งเก่งไม่เบาเหมือนกัน



“เบื่อหรือยังคุณ”



“ไม่เบื่อ เพลินดี”



ไม่เบื่อจริงๆ

เพราะน้องน่ามองมากเขาเลยมีจุดโฟกัสสายตา



แก้มยุ้ยขาวนวลของน้องน่ากัดเวลาก้มมองของในชั้นอาหาร แก้มน้องยุ้ยๆ ฟูๆ ดูนิ่มจนทรงโปรดแทบอดใจไม่ไหว อยากกัดให้รู้แล้วรู้รอด



น่ารักอะไรขนาดนี้วะ



นี่เขาพูดคำนี้ไปกี่ครั้งแล้วเนี่ย



“เสร็จแล้วครับ...” น้องหยิบเนื้อหมูถาดสุดท้ายใส่รถเข็น แล้วก็ต้องชะงักเมื่อสายตาเห็นโรลออนขวดสีดำยี่ห้อหนึ่งวางอยู่ในนั้น “ของคุณเหรอครับ”



ปลายนิ้วชี้เรียวขาวชี้ไปที่ขวดสีดำ



“ใช่”



“ที่ห้องคุณหมดแล้วเหรอครับ”



ทรงโปรดยกหลังมือถูกปลายจมูกเบาๆ



ที่เอ็นดูก็เพราะเมื่ออาทิตย์ที่แล้วก็เพิ่งพากันมาเดินห้างซื้อของใช้เข้าห้อง แล้วเอ็นดูก็เห็นเองกับตาว่าทรงโปรดหยิบโรลออนขวดสีนี้ ยี่ห้อนี้ติดมือไปด้วย



“ที่ห้องพี่ยังมีอยู่ แต่ที่ห้องเราไม่มี”



“ก็ผมไม่ใช้ยี่ห้อนี้นี่ครับ”



“พี่ใช้”



“...”



“ซื้อติดไว้ที่ห้องเราไง เวลาไปนอนด้วยจะได้มีใช้”



แล้วเจ้าคนน่ารักก็หมุนตัว หนีซ่อนแก้มแดงกับยิ้มเขินของตัวเองซะงั้น



“ไปจ่ายเงินได้แล้วครับคุณ”



น้องที่เดินนำไปก่อนชะงักหันกลับมาเหลือบมองทรงโปรด มือขาวกวักเรียกคนตัวสูง แน่นอนว่าเขายอมเข็นรถตามแต่โดยดี



อยู่กับเอ็นดูคุณชายทรงโปรดว่าง่ายอยู่แล้ว



เอ็นดูทำหน้าที่หยิบของลงบนสายพานของเคาน์เตอร์แคชเชียร์ ทรงโปรดเองก็ช่วยอีกแรงจนกระทั่งของทุกอย่างพร้อมคิดเงิน เสียงที่ยิงบาร์โค้ดดังติดต่อกันหลายครั้ง แต่มันก็ไม่ได้ดึงความสนใจของเอ็นดูได้เลยสักนิด



ก็เพราะตอนนี้มีแต่คนมองหม่อมราชวงศ์ทรงโปรดที่ยืนครองรถเข็นพร้อมกับออร่าเปล่งประกายแทบทั้งห้าง



ทั้งผู้หญิงและผู้ชายเลยแหละที่จ้องทรงโปรดด้วยสายตาคลั่งไคล้



เอ็นดูตวัดตามองคนตัวสูงที่ยืนทำไม่รู้ไม่ชี้ มองนู่นนี่ มองตัวเลขที่แสดงราคาสินค้าหน้าเคาน์เตอร์บ้างอะไรบ้าง ก่อนจะละสายตาจากที่อื่นแล้วมองคนตัวเล็กที่ยืนกอดอกจ้องเขาเขม็ง



ทรงโปรดเลิกคิ้ว ยกมือบีบแก้มขวาของน้องเบาๆ



“มองอะไร”



ไม่ชอบเลย



เอ็นดูไม่เข้าใจว่าเขาจะหล่อดูดีไปเพื่ออะไร ทรงโปรดผิวขาวมาก โครงหน้าเรียวยาวเห็นสันกรามชัดเจน คิ้วเข้มแถมเส้นขนยังเรียงตัวสวยยิ่งกว่าคนที่กันคิ้ว ตาคมกริบมักอ่อนโยนเวลามองเอ็นดู จมูกของเขาก็โด่งและโค้งช่วงปลาย...มองยังไงก็หาที่ติไม่ได้



เอ็นดูไม่ชอบปากของเขา ปากหยักสีธรรมชาติที่ชอบยกยิ้มเวลาตัวเองได้เปรียบกับเรื่องอะไรสักอย่าง...แถมเส้นผมสีดำที่ถูกเซ็ตเป็นทรงปัดไปทางซ้ายกลุ่มหนึ่ง ส่วนอีกกลุ่มเล็กๆ ก็อยู่ทางขวา เปิดให้เห็นหน้าผากที่ดูดีของเขา



ดูดีแม้กระทั่งหน้าผาก คิดดูละกันว่าหม่อมราชวงศ์ทรงโปรดต้องหล่อออร่ามากขนาดไหน



ไม่ชอบความหล่อที่มักดึงดูดความสนใจคนอื่นแบบนี้เลย



“เอ็นดู” เจ้าของชื่อสะดุ้งโหยงตอนที่มือหนาลูบเส้นผมนุ่มของตัวเองเบาๆ “จ่ายเงินแล้ว กลับกันครับ”



“เดี๋ยวครับ...คุณจ่ายค่าของนี่เองเหรอครับ”



เพราะว่ามีคนอื่นยืนต่อหลังพวกเขาอยู่ ทรงโปรดเลยใช้แขนแกร่งข้างซ้ายโอบไหล่กลมของน้องแล้วพาเดินออกจากจุดชำระเงินพร้อมกับเข็นรถไปด้วย



น้องถามเสียงหลงเลย พาแก้มกลมๆ เงยขึ้นมองเขาที่สูงกว่าตั้งหลายเซ็นต์



“ใช่”



“งั้นขอเลขบัญชีด้วยครับ เดี๋ยวผมโอนคืนให้”



“โอนมาทำไม”



“ของพวกนี้ผมซื้อเข้าห้องผม คุณไม่ต้องมาทำเป็นป๋าจ่ายเงินให้เลย”



“ก็ไม่ได้ป๋า”



“...”



“แต่จะหมั้นกันแล้ว เราต้องฝึกใช้กระเป๋าตังค์พี่ให้ชิน”



ไม่เห็นเกี่ยวกันเลย



“ไม่รู้แหละครับ ผมรอเลขที่บัญชีจากคุณอยู่นะ”



เอ็นดูส่ายหน้าไปมา ยู่ปากตลอดทางเดินเมื่อมองไปรอบๆ แล้วพบว่ายังมีคนมองตามทรงโปรดจนหันคอตามแทบ 360 องศา



“ไม่รู้สึกหนักใจบ้างเหรอครับที่มีแต่คนมองตาเป็นมันขนาดนี้”



“ไม่ได้สนใจสักหน่อย”



เอ็นดูเบ้ปาก



“สนใจแต่คนนี้”



นิ้วชี้เรียวยาวจิ้มลงบนแก้มนุ่มของเอ็นดู



“แค่เงยหน้ามองพี่คนเดียวก็ดีใจแล้ว”



ทรงโปรดก็คือทรงโปรด



คนที่ขยันจีบเอ็นดูได้ทุกสถานการณ์นั่นแหละ





*****







เอ็นดูไม่ได้เก่งเรื่องเข้าครัว ไม่ได้ทำอาหารเก่ง แค่เปิดยูทูบดูสูตรแล้วทำตามเท่านั้นเอง



ช่วงแรกๆ ที่ย้ายเข้ามาอยู่ในกรุงเทพฯ เอ็นดูอยู่ได้ด้วยอาหารแช่แข็งในเซเว่น บอกเลยว่ากินครบทุกเมนูแล้วแหละ จนกระทั่งพัฒนาตัวเองด้วยการซื้อของสดมาลองทำ เมนูแรกที่ทำแล้วสำเร็จก็คือข้าวไข่เจียว



สามปีกับการทำอาหารกินเอง สลับกับซื้อกินไปด้วย ทำให้เอ็นดูพอที่จะมีความเคยชินกับการเข้าครัวอยู่บ้าง เอ็นดูยังไม่เก่งในเรื่องของการกะเกณฑ์เครื่องปรุง อาหารที่ทำเอง (แม้ว่าจะเคยทำบ่อยแล้ว) รสชาติก็ยังไม่คงเดิม อร่อยบ้างไม่อร่อยบ้าง สลับกันไป



ส่วนเย็นวันนี้เอ็นดูลองทำสเต็กเนื้อที่ทรงโปรดบอกว่าอยากกิน เพราะว่าเพิ่งเคยลองทำเป็นครั้งแรกคนผิวขาวเลยรู้สึกประหม่า เชฟในยูทูบที่กำลังสอนบอกสูตรก็ลงมือทำอย่างรวดเร็วจนเอ็นดูต้องกดหยุดแล้วดูใหม่ซ้ำอยู่หลายครั้ง



แต่มันก็ลุล่วงไปได้ด้วยดี



“หอม”



เอ็นดูเกือบทำสเต็กไม่เสร็จก็เพราะคนนี้แหละ



“หิวแล้ว”



“หิวแล้วก็ปล่อยสิครับ” ตีหลังมือคนที่โอบกอดจากด้านหลัง “ไปนั่งรอที่โต๊ะเลยคุณ”



หม่อมราชวงศ์ทรงโปรดเกิดงอแงอะไรขึ้นมาอีกก็ไม่รู้ ตอนแรกเขาก็เอนหลังบนโซฟาดูทีวีอยู่ดีๆ หรอกนะ แต่ไปๆ มาๆกลับเดินมากอดเอ็นดูที่กำลังทำอาหารอยู่จากทางด้านหลัง คนตัวสูงเกยคางบนไหล่แคบๆ ของเอ็นดู ไม่พอแค่นั้น เขายังหอมพวงแก้มกลมซ้ายทีขวาทีอีกด้วย



ไล่ให้ไปนั่งรอเฉยๆ ก็ไม่ยอมไปแล้ว



“วันนี้ฝนไม่ตก ไปนั่งชมวิวที่ระเบียงกันมั้ย” คนตัวสูงยกคางขึ้นจากไหล่ของเอ็นดูแล้ว เขาเอียงหน้าถามพร้อมกระชับกอดแน่น



“คุณอยากออกไปนั่งกินที่ระเบียงเหรอครับ”



“อือ บรรยากาศน่าจะดี กินสเต็กจิบไวน์”



เอ็นดูคลี่ยิ้มเมื่อลองหลับตาฟังแล้วพบว่า...ก็น่าโรแมนติกดีเหมือนกัน



“แล้วก็มองหน้าเราไปด้วย”



“ถ้าอย่างนั้นนั่งในห้องก็ได้มั้งคุณ”



ย่นจมูกใส่คนตัวสูงที่ยืนหัวเราะชอบใจแถมยังกดปลายจมูกลงบนแก้มเอ็นดูซ้ำไปซ้ำมา



พอหม่อมราชวงศ์ทรงโปรดถูกมองด้วยสายตาค้อนๆ จากคนผิวขาว เขาเลยยอมปล่อยท่อนแขนแกร่งที่โอบกอดเอวคอดของน้องออก ก่อนจะขยับตัวยกจานสเต็กที่วางอยู่ขึ้นมาถือ สาวเท้าออกจากแพนทรี่โดยไม่ลืมที่จะหันมาส่งเสียงทุ้มและเล่นหูเล่นตากับเอ็นดูอีกด้วย



“ไปที่ระเบียงดีกว่า เปลี่ยนบรรยากาศบ้าง”



ถึงจะรู้สึกหมั่นไส้เขานิดหน่อยและแอบเบ้ปากให้กับความเจ้าเล่ห์ของทรงโปรดไปแล้ว แต่มือขาวก็เอื้อมหยิบแก้วกับขวดไวน์ที่ทรงโปรดซื้อมาเองแล้วเดินตามคนตัวสูงไปที่ระเบียงอยู่ดี



เท้าขาวที่อยู่ในสลิปเปอร์แบรนด์ดังชะงักเมื่อลมเย็นพัดมาพร้อมกับกลิ่นอายของกรุงเทพฯ ในยามค่ำคืน หม่อมราชวงศ์ทรงโปรดวางจานสเต็กไว้บนเคาน์เตอร์ที่ถูกสร้างไว้ตรงระเบียงก่อนหันมายื่นมือรับแก้วกับไวน์ที่น้องถืออยู่ไปวางไว้ด้วยเช่นกัน



“ถ้านั่งกินอยู่แล้วฝนตกลงมา เก็บของหนีไม่ทันเลยนะครับ”



เอ็นดูแซวเพราะทรงโปรดหยิบลำโพงพกพา Beats Pill+ ที่เดิมทีมันวางอยู่ข้างๆ ทีวีติดมือมาด้วย ลำโพงตัวนี้เป็นคนตัวสูงนั่นแหละ แต่เพราะว่าเขามานอนที่นี่บ่อยๆ ทรงโปรดเลยมักจะหยิบของบางส่วนจากเพนต์เฮ้าส์ของเขามาวางไว้ในห้องของเอ็นดูแทน



เจ้าของห้องอย่างเอ็นดูก็ไม่อยากจะพูดอะไรมาก ปล่อยเลยตามเลย



 ตามใจหม่อมราชวงศ์ทรงโปรดไปเลยแล้วกัน



คนผิวขาวขยับตัวนั่งบนเก้าอี้สตูบาร์ข้างคนตัวสูง ระเบียงคอนโดไม่ได้กว้างเท่าไหร่ แต่มันก็พอมีพื้นที่ให้เอ็นดูสามารถวางเคาน์เตอร์และทำเป็นที่นั่งกินลมชมวิวได้



ทรงโปรดเปิดเพลงจากโทรศัพท์ที่เชื่อมต่อกับลำโพงสีดำของเขาไว้แล้ว เสียงนุ่มๆ ของชาร์ลี พูท ที่ขับขานเพลง Marvin Gaye นั้นช่างเข้ากับบรรยากาศและเพลิดเพลินดีจริงๆ ไม่สิ ถ้าเป็นเพลงไหนของชาร์ลี พูท เอ็นดูก็คิดว่ามันทั้งเพราะและดีทั้งนั้น



เพราะเอ็นดูชอบนักร้องคนนี้



มุมปากเอิบอิ่มของคนน่ารักเลยกระตุกขึ้นเล็กน้อย เอ็นดูก้มหน้าหั่นสเต็กบนจานก่อนตักเข้าปาก เงยหน้ามองวิวตอนกลางคืนของกรุงเทพ จุดที่คนผิวขาวชอบโฟกัสสายตาไปมากที่สุดที่ก็คือแม่น้ำเจ้าพระยาที่อยู่ทางซ้ายมือ



แต่สิ่งที่น่ามองพอๆ กับแม่น้ำเจ้าพระยาก็คือโครงหน้าของหม่อมราชวงศ์ทรงโปรด คนตัวสูงนั่งอยู่ทางซ้ายมือของเอ็นดู ทำให้ตอนที่หันหน้ามองวิว สายตาของเอ็นดูเลยมีภาพเสี้ยวหน้าของทรงโปรดอยู่ด้วย แสงไฟสีเหลืองนวลตรงระเบียงทำให้เอ็นดูรู้สึกว่า...ทรงโปรดดูอบอุ่นมากจริงๆ



“มองแบบนี้คิดตังค์ดีมั้ย”



แล้วก็ต้องก้มหน้าหัวเราะเมื่อเจ้าของโครงหน้าหล่อเหลาหันมายกยิ้มให้



“คงต้องเก็บตังค์ทุกคนที่มองคุณแล้วมั้งครับ” เอ็นดูยู่ปาก



ทุกคนที่มองทรงโปรด เอ็นดูหมายถึงพวกสาวๆ ที่จ้องคนตัวสูงตาเป็นมันในห้างวันนี้ และรวมถึงคนอื่นๆ ที่ชอบมองทรงโปรดแบบหลงใหล



แต่เพราะทำปากยู่หน้ามู่ทู่ให้เขาเห็น แก้มกลมๆ ของเอ็นดูเลยถูกบีบ



“ขี้หึงนะเรา”



“ไม่ได้หึงนะครับ”



“ปากแข็ง”



“นี่คุณ!”



เอ็นดูรีบยกมือปิดปากเมื่อจู่ๆ คนที่กำลังบีบแก้มก็ยื่นปากมาทาบทับลงบนกลีบปากอวบอิ่มสีชมพู เบิกตาโตมองทรงโปรดที่ผละริมฝีปากออกไปแล้ว แต่ยังนั่งยิ้มกริ่มยักคิ้วหรี่ตาให้อยู่



“หึงบ่อยๆ ดีแล้ว ชอบ”



“ถ้าผมทำให้คุณหึงบ้างล่ะครับ คุณจะชอบมั้ย” ถลึงตาใส่คนข้างๆ



“อืม...” ทรงโปรดเท้าคางบนเคาน์เตอร์ เอียงใบหน้าหล่อเหลามองเจ้าคนน่ารักที่กำลังนั่งขมวดคิ้ว



“ลองดูมั้ย”



“...”



“จะได้รู้ว่าเวลาหึงพี่โหดแค่ไหน”



อย่าท้าเลย

ถ้าทำให้หึงขึ้นมาจริงๆ...

หม่อมราชวงศ์ทรงโปรดต้องแย่แน่ๆ













#ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี

 















แย่แน่ๆ >,,,,<

แต่ว่าใครจะแย่กันนะ ♥

 
 

 

 

 

 

 

 

หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ตอน 11 - up 12.9.61
เริ่มหัวข้อโดย: k00_eng^^ ที่ 12-09-2018 18:43:31
เขินคู่นี้มากอ่ะ
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ตอน 11 - up 12.9.61
เริ่มหัวข้อโดย: Tiffany ที่ 12-09-2018 18:46:58
หวานจริงๆคู่นี้
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ตอน 11 - up 12.9.61
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 12-09-2018 19:13:21
 :-[ :-[ :-[


 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ตอน 11 - up 12.9.61
เริ่มหัวข้อโดย: songte ที่ 12-09-2018 22:37:32
หวานกันจริงๆ มุ้งมิ้งๆกันสุดๆอ่ะ
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ตอน 11 - up 12.9.61
เริ่มหัวข้อโดย: Chompoo reangkarn ที่ 13-09-2018 00:48:11
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ตอน 11 - up 12.9.61
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 13-09-2018 07:47:11
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ตอน 12/1 - up 13.9.61
เริ่มหัวข้อโดย: Swanlee ที่ 13-09-2018 12:15:01
12
ก็เสียงคุณหวานชะมัด ผมเลยอยากได้ยินซ้ำๆ




สเต็กเนื้อหวานๆ พร่องจนเกือบหมดจาน เช่นเดียวกับไวน์รสเลิศที่ทรงโปรดซื้อมาสี่ขวด และตอนนี้ก็หมดไปสามขวดแล้ว
ทรงโปรดยกยิ้ม หรี่ตามองเจ้าคนน่ารักที่จิบไวน์ได้เร็วไม่เท่าเขา น้องแค่จิบเล็กๆ น้อยๆ ไม่ให้เนื้อที่เคี้ยวแล้วกลืนติดคอเท่านั้นเอง ผิดกับเขาที่ดื่มหนักราวกับว่ามันคือน้ำเปล่า
ขนาดแค่จิบนิดเดียว แก้มกลมๆ ยังขึ้นสีแดงปลั่งแถมตาหวานๆ ยังเยิ้มกว่าเดิมด้วย
น้องโคตรน่ารัก
“ดื่มเป็นด้วยเหรอ” เขาแกล้งถามไปงั้น
ทรงโปรดเปล่งเสียงทุ้มคลอกับเสียงเพลงจากลำโพงพกพา เอียงหน้ามองคนน่ารักที่กำลังใช้ส้อมจิ้มเนื้อชิ้นสุดท้ายเข้าปาก
“ดื่มเข้างานสังคมได้ครับ”
“อือ” ครางรับก่อนยื่นแก้วของตัวเองไปชนกับแก้วไวน์ของน้อง
“คุณน่าจะเมาแล้วนะครับ”
“ไม่ได้เมา”
“คนเมาไม่เคยยอมรับตัวเอง”
เขาหัวเราะ ไวน์รสเลิศราคาแพงแค่ที่หมดไปสามขวดทำให้เขาเมาไม่ได้หรอก แต่มันทำให้เขารู้สึกคึกมากกว่าเดิมเท่านั้นเอง
หม่อมราชวงศ์ทรงโปรดมีสติดี
แต่ถ้าเมา คงเมาความน่ารักของเอ็นดูมากกว่า
“เอาน้ำเปล่ามั้ย เดี๋ยวไปหยิบให้”
“ไม่เป็นไรครับ”
คนที่บอกว่าไม่เป็นไรทำตาหยี หลังจากที่กระดกไวน์ในแก้วลงคอจนหมด ผิวขาวๆ ของน้องเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำ
ดูก็รู้ว่าน้องคออ่อน
คนน่ารักส่งยิ้มให้ก่อนก้มหน้าเมื่อทรงโปรดเค้นหัวเราะ เขาเห็นว่าน้องกำลังบีบมือเล็กๆ ของตัวเองที่วางอยู่บนตัก เอ็นดูประหม่า...แล้วก็เกิดอาการไม่กล้าสบตาเขาขึ้นมาซะอย่างนั้น
“คุยกันหน่อยมั้ย” ทรงโปรดเลิกคิ้วถาม
“คุยอะไรครับ”
“เรื่องทั่วๆ ไป”
“อ่า”
“เดือนหน้าก็หมั้นกันแล้ว พี่ควรรู้จักเรามากกว่านี้”
ที่ผ่านมาก็รู้จักกันมากแล้วนะ...
คนเด็กกว่าเม้มปากก่อนผงกศีรษะขึ้นลงเบาๆ
เอ็นดูช้อนตาหวานฉ่ำมองหม่อมราชวงศ์ทรงโปรดที่กำลังขยับเก้าอี้สตูบาร์ตัวที่เขานั่งเข้าใกล้
ทรงโปรดทำให้การคุยกันครั้งนี้ใกล้ชิดมากยิ่งขึ้นเมื่อเขาจับมือประสานนิ้วเรียวยาวไว้กับนิ้วนุ่มนิ่มของเอ็นดู มือข้างนั้นที่จับกันวางบนเคาน์เตอร์ ส่วนมืออีกข้างของทรงโปรดยังถือแก้วไวน์จิบเบาๆ ให้น้องคลายความประหม่า
เขารู้เรื่องราวเกี่ยวกับตัวเอ็นดูมาแล้วพอสมควร ส่วนหนึ่งก็ถามเจ้าตัวเอา แล้วจากนั้นน้องก็เต็มใจเล่า แต่มันไม่ใช่ทั้งหมดที่เขารู้
ทรงโปรดอยากรู้ให้มากกว่านี้
“พรุ่งนี้ไม่มีเรียนใช่มั้ย” เริ่มจากคุยเรื่องทั่วๆ ไป
“ครับ”
“โอเค งั้นตื่นสายได้”
“ผมไม่ชอบตื่นสาย”
อันนี้เขารู้ แต่ก็แกล้งพูดไปงั้น
“จมูกรั้นๆ เนี่ย ขอกัดทีได้มั้ย” ทรงโปรดวางแก้วไวน์แล้วใช้มือบีบจมูกน้องเบาๆ
เอ็นดูชอบย่นจมูกใส่ น้องคงไม่รู้ว่าท่าทางแบบนั้นทำให้ตัวเองยิ่งน่ารักเข้าไปใหญ่
คนถูกบีบจมูกก็ทำหน้ามุ่ยตามมาติดๆ
“เอ็นดู”
“ครับ”
“รู้สึกอะไรกับพี่บ้างหรือยัง”
“...”
ตาคมมองโครงหน้าหวานที่เลิ่กลั่กเมื่อถูกถามคำถามนี้อีกครั้ง
แต่ทว่ายังไม่ทันได้คำตอบของเอ็นดูสักประโยค โทรศัพท์ของน้องก็สั่นครืด เอ็นดูเหลือบตามองหน้าจอโทรศัพท์ แต่ทรงโปรดยังจับจ้องน้องไม่วางตา
กระทั่งเมื่อดวงตาเรียวรีของน้องช้อนมองทรงโปรดพร้อมกับกัดริมฝีปากประหม่า เขาถึงได้เลิกคิ้วก่อนจะเหลือบตามองโทรศัพท์ของเอ็นดูที่ยังสั่นครืด
พร้อมกับรอยยิ้มมุมปากที่กระตุกขึ้นทันที
ไอ้เด็กภูผาโทรเข้ามานี่เอง
ยังไม่เลิกตอแยอีกเหรอวะ
เขารู้ว่าภูผาพยายามติดต่อเอ็นดูตลอด แต่น้องไม่เล่นด้วยและปฏิเสธทุกครั้ง เอ็นดูหนักแน่นพอที่จะบอกกับภูผาว่ารำคาญ
แต่ไอ้เด็กบ้านี่ขี้ตื๊อแถมยังหน้าด้านทานทนไม่เบา
“บล็อกเบอร์มั้ย”
เอ็นดูทำปากมุบมิบ
“แล้วแต่นะ ไม่ได้บังคับ” เขาแค่แสดงความคิดเห็น
พูดจบน้องก็รีบคว้าโทรศัพท์ขึ้นมากดตัดสายทิ้ง นิ้วโป้งนุ่มนิ่มสัมผัสลงบนหน้าจอเพื่อแตะเบอร์ที่เพิ่งตัดสายทิ้งไป
เอ็นดูโน้มตัวหาทรงโปรดเล็กน้อย ยื่นโทรศัพท์ไว้ตรงกลางให้เห็นพร้อมกันว่าน้องได้กดบล็อกเบอร์ของภูผาไปแล้ว
ก่อนจะบล็อกไลน์ เฟซบุ๊ก และอินสตาแกรมในเวลาต่อมา
เฮ้ย ไม่ได้บังคับน้องเลยนะเนี่ย : )
ทรงโปรดแกล้งทำหน้านิ่ง แต่ในใจเขาโคตรจะโลดเต้นดีใจที่น้องบล็อกเบอร์แฟนเก่าต่อหน้าต่อตา...อย่างนี้คงไม่ต้องถามแล้วมั้งว่าน้องรู้สึกอะไรกับเขาหรือยัง
เพราะทรงโปรดคิดว่าเขารู้คำตอบดีอยู่แล้ว
“คุยต่อสิครับ”
น้องเขย่ามือที่จับกันไว้ เร่งให้ทรงโปรดชวนคุยต่อ
แต่ทรงโปรดเล่นตัว
ร่างสูงรินไวน์ใส่แก้วแล้วกระดกลงคอ ใช้สายตาเจ้าเล่ห์ดุดันมองกระต่ายน้อยที่น่ารัก
“ถามเรื่องเก่าๆ ได้ใช่มั้ย”
เอ็นดูพยักหน้า “อยากรู้อะไรก็ถามมาเถอะครับ”
“คบกับไอ้ภูได้ยังไง”
“เรียกเขาดีๆ หน่อยสิคุณ”
ทรงโปรดไหวไหล่ ยกมือขาวที่จับกันไว้ขึ้นมาประทับริมฝีปากร้อนหนักๆ บนหลังมือหนึ่งครั้ง
“เจอกันตอนไปแลกเปลี่ยนที่อังกฤษครับ ก็คบกันตามประสาเด็ก”
เอ็นดูลอบสังเกตอาการของทรงโปรดเป็นระยะ เขารู้ว่าน้องพยายามเล่าเลี่ยงๆ ไม่ลงลึกว่าทำไมถึงตกลงคบกัน ไม่เล่าว่าตอนคบกับภูผามันดียังไง
อือ มันไม่ใช่สิ่งที่เขาควรรู้หรอก
แต่ก็อยากรู้...ทรงโปรดอยากรู้ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับเอ็นดู
“พี่ก็เรียนที่อังกฤษตั้งแต่เด็ก ไม่เห็นจะเจอเรา”
“คงยังไม่ถึงเวลามั้งครับ”
“พอได้ยินแล้วอยากเจอเราตั้งแต่เกิด”
“คุณนี่เว่อร์จริงๆ”
ทรงโปรดหัวเราะแล้วโน้มหน้าจูบหลังมือขาวอีกครั้ง แต่คราวนี้เขาละเลียดเบาๆ ขบเม้มที่ข้อมือทั้งด้านนอกและด้านใน
แล้วก็พบว่าข้อมือของน้องหวานมาก
หวานไม่แพ้ริมฝีปากจิ้มลิ้มเลย
“ปกติชอบฉวยโอกาสคนอื่นแบบนี้ประจำเลยหรือเปล่าครับ”
“คนอื่นที่ไหน นี่ว่าที่คู่หมั้น”
“คุณย้ำบ่อยจัง กลัวจะไม่ได้หมั้นเหรอครับ”
“ไม่กลัว”
“...”
“แค่รำคาญไอ้พวกที่ชอบมาเกาะแกะเรา”
เห็นน้องย่นคิ้วแล้วก็อดไม่ได้ที่จะระบายยิ้ม เครื่องหมายคำถามเต็มหน้าเอ็นดูไปหมด น้องไม่ต้องเปล่งเสียงถามอะไรเลยสักนิด ทรงโปรดก็พร้อมขยายความหมายประโยคเมื่อครู่
“หมายถึงไอ้ภู”
“ภูไม่ได้เกาะแกะผมนะครับ”
“มันส่งข้อความมาหาเราบ่อยหรือเปล่า”
น้องเม้มปาก พยักหน้าเบาๆ
“ทั้งๆ ที่มันรู้ว่าพี่กับเรากำลังจะหมั้นกัน”
“คุณเนี่ยคิดมากจริงๆ เลย”
“...”
“ถึงเขาจะพยายามคุยกับผมทุกวัน แต่ผมไม่คิดอะไร...มันก็ไม่มีอะไรหรอกครับ”
รู้ว่าน้องพูดให้เขาสบายใจ และใช่ ทรงโปรดสบายใจขึ้นมานิดหน่อย
คุณชายทรงโปรดหลับตาลงครู่เดียวก็เปิดเปลือกตา ส่งยิ้มให้น้องที่กำลังจ้องหน้าเขา
“เล่าเรื่องไอ้ภูกับเราให้ฟังหน่อย”
“คุณจะอยากรู้ให้ไม่สบายใจไปทำไมครับ”
“ก็อยากรู้เรื่องของเรา”
น้องหัวเราะพร้อมส่ายหน้า
“ไม่มีอะไรมากหรอกครับ ก็คบกันธรรมดา”
“เคยพามันไปที่วังหรือเปล่า”
เอ็นดูส่ายหน้า
“เคยนอนกับมันมั้ย”
“คุณ...” เอ็นดูเปล่งเสียงหงอยๆ
เขารอคำตอบ และสุดท้ายน้องก็ส่ายหน้า
“ผมกับภูอยู่ไกลกันครับ แทบจะไม่ได้เจอกันเลยด้วยซ้ำ”
ทรงโปรดหรี่ตามองพลางใช้นิ้วโป้งแกร่งลูบปลายคางสากของตัวเองเบาๆ เขาพอใจกับคำตอบของเอ็นดู และพอใจมากที่น้องยอมเล่าเรื่องส่วนตัวของตัวเอง
“แสดงว่ายังไม่เคยจูบกับมัน”
“ไม่ครับ เคยจูบ”
“...”
“ภูผาคือจูบแรกของผม”
ทรงโปรดดุนลิ้นข้างแก้ม ทั้งที่ตอนนี้ลมโบกพัดเย็นสบาย แต่ทำไมในกายและใจของเขาถึงได้ร้อนรุ่มเหมือนมีคนมาจุดไฟ หม่อมราชวงศ์ทรงโปรดถอนหายใจยาว โคลงศีรษะเล็กน้อยเมื่อน้องบีบมือหนาของเขา
“คุณ ผมไม่ได้ตั้งใจจูบนะครับ”
ทำไมเขาโคตรขี้หวงแบบนี้วะ
ร่างสูงเงยหน้าคลี่ยิ้ม เขายื่นมือไปลูบแก้มของน้องเบาๆ พยายามบอกตัวเองว่า...โอเค มันเป็นแค่อดีต แต่ทำไมเป็นอดีตที่ได้ยินแล้วอยากลุกไปต่อยหน้าไอ้เด็กภูผาซะตอนนี้เลยก็ไม่รู้
ส่วนคนเล่าน่ะเหรอ...
นั่งยิ้มกริ่มเลย
“เก่งครับ”เปล่งเสียงทุ้มบอกน้อง
“อะไรเหรอครับ” น้องเลิกคิ้วถาม
“เก่งที่ทำให้พี่หึงเราได้มากขนาดนี้”
เอ็นดูเม้มปากกลั้นยิ้ม น้องไม่ได้ก้มหน้าแต่สบตากับตาคมพร้อมกับทำสีหน้าไม่รู้ไม่ชี้แถมปากจิ้มลิ้มที่เม้มไว้ยังมุบมิบอีกต่างหาก
ชนะแล้วครับเอ็นดู
ชนะพี่หมดทุกทางแล้ว
ทรงโปรดละมือที่ลูบแก้มใสๆ ออก ยกแก้วไวน์กระดกน้ำลงคอแทน การกระทำเหมือนคนที่ช้ำใจแล้วยกเหล้าซดของทรงโปรดทำเอาเอ็นดูหัวเราะกลั้ว แต่น้องก็ไม่ได้ห้ามให้เขาหยุดดื่ม แต่สนับสนุนด้วยการรินไวน์ใส่ให้อีกต่างหาก
คิดจะมอมทรงโปรดให้เมา
ดูเอาแล้วกันว่าระหว่างหม่อมราชวงศ์ทรงโปรด กับ หม่อมหลวงจิรา ใครร้ายกาจกว่ากัน
“อยากรู้อะไรอีกมั้ยครับ”
“พอก่อน”
“คุณไม่โกรธใช่มั้ยที่ผมพูดความจริง”
“ไม่โกรธ แต่หึง”
“รู้แล้วครับ”
“หึงมาก--”
ไม่ทันจบประโยคก็ต้องกลืนคำที่เหลือลงคอเมื่อริมฝีปากของร่างสูงถูกบดเบียดด้วยกลีบปากเอิบอิ่ม น้องหลับตาทันทีที่ความอ่อนนุ่มสัมผัสเข้าด้วยกัน แม้จะไม่เก่งเรื่องแบบนี้เท่าทรงโปรดแต่ก็พยายามให้จูบมีรสชาติด้วยการขยับและขบเม้มเบาๆ
มือที่กุมไว้จับแน่นกว่าเดิม ส่วนมืออีกข้างที่ว่าง เอ็นดูยกมันขึ้นเพื่อประคองกรอบหน้าหล่อเหลาของทรงโปรด คนที่ช่ำชองกว่าเอียงหน้าปรับองศาของริมฝีปากให้ลงล็อก เขาไม่ปล่อยให้น้องเป็นคนคุมเกมนาน
จูบที่ผสมรสชาติของไวน์ทำให้เอ็นดูหายใจติดขัด ทรงโปรดยกยิ้ม ขบเม้มริมฝีปากน้องเบาๆ แล้วแทรกลิ้นเข้าไปในปากหวาน
ไม่ใช่ครั้งแรกที่ได้เชยชิมเอ็นดู แต่ทรงโปรดก็ยังรู้สึกตื่นเต้นทุกครั้ง
ตื่นเต้นกับความหวานของน้อง
ไวน์รสเลิศที่ทรงโปรดชอบดื่มไม่เท่าน้ำหวานๆ จากปากจิ้มลิ้มของเอ็นดู
บรรยากาศตอนนี้ก็ช่างเป็นใจ แสงไฟสีเหลืองอ่อน ลมพัดเย็นๆ กับระเบียงคอนโดจากความสูงบนชั้นห้าสิบสองทำให้ทรงโปรดแทบคลั่ง ใช่ สิ่งที่ทำให้เขาคลั่งนอกเหนือสิ่งแวดล้อมตอนนี้ ก็คือเอ็นดู
น้องไปเรียนไอ้การออกอ้อนนี้มาจากไหน ใครบอกให้น้องเอาฝ่ามือนุ่มๆ มาแตะเอวแกร่งของเขา เสียงหวานที่หลุดครางเมื่อเขาแกล้งกัดริมฝีปากเบาๆ นั่นอีก
เอ็นดูจะน่ากินเกินไปแล้ว
“ทำอย่างนี้ระวังตัวเองไม่ปลอดภัย” ผละริมฝีปากออกเพื่อเตือนคนลองดี
ทรงโปรดไม่เว้นระยะห่าง ปากของเขายังคลอเคลียกับปากนุ่ม ทั้งยังย้ำจูบให้น้องแก้มแดงเล่น
“ผมต้องกลัวด้วยเหรอครับ”
แกล้งทำไม่กลัวแต่ตอนพูดตัวกลับสั่นจนเขาต้องรั้งร่างนุ่มๆ เข้ามากอดเอาไว้
“อยู่กับคุณไม่ปลอดภัยอยู่แล้ว”
“รู้ว่าไม่ปลอดภัยแล้วทำไมถึงยอมให้เข้าใกล้”
คนถูกถามทำหน้ามุ่ยแล้วหนีริมฝีปากที่ทำท่าจะบดเบียดจูบอีกครั้ง น้องเอียงหน้าซบแก้มกลมบนไหล่กว้าง ถึงจะหลบไม่ให้ตัวเองถูกจูบที่ริมฝีปาก แต่ลำคอขาวๆ ก็ถูกทรงโปรดก้มลงไปคลอเคลียขบเม้ม อยู่ดี
“อย่ากัดสิครับ”
“ก็ไม่ยอมตอบคำถาม”
“ผมไม่รู้”
“ชอบพี่แล้วใช่มั้ย”
“ไม่รู้ครับ...”
“...”
“ไม่รู้ว่าชอบ หรือรัก”
แล้วจะให้อดใจยังไงไหว
ทรงโปรดยกยิ้มทั้งที่ยังฝังจมูกลงบนเนื้อคอขาว ทรงโปรดกอดน้องแน่นกว่าเดิมหลังจากที่ได้ยินเสียงนิ่มๆ พูดขึ้น โอเค ไม่ต้องบอกแล้วก็ได้ว่าน้องรู้สึกอะไรกับเขาหรือยัง
ที่เอ็นดูตอบมา ไม่ว่าจะชอบหรือรัก
ก็ล้วนเป็นสิ่งที่น้องรู้สึกทั้งนั้น
“อื้อ คุณ กัดทำไมครับ”
“เนื้อเราหวาน”
ฟันซี่คมแทะเนื้อขาวๆ จนเป็นรอยแดง ทรงโปรดไม่พอใจ เขาดูดเม้มลำคอของเอ็นดูจนกลายเป็นจุดช้ำ ปล่อยให้เจ้าคนตัวหวานนอนประหม่าเกร็งตั้งแต่หัวจรดเท้าในอ้อมกอด
เขารู้ว่าน้องเหมือนจะหายใจไม่ออก
เพราะเขาก็เป็นเหมือนกัน
เอ็นดูหลับตากัดริมฝีปากกลั้นเสียงร้อง ถูกเขาสัมผัสแค่นี้ก็สั่นไปหมดแล้ว น้องกำมือแน่นทุกครั้งที่ฟันซี่คมสัมผัสบนเนื้อคอ
และความที่อยากรู้ว่าคุณชายทรงโปรดจะมีอาการเหมือนกันมั้ย เปลือกตาเลยปรือเปิดเพื่อพบกับลำคอแกร่งของทรงโปรด แล้วคนตัวสูงพลันหายใจติดขัดทันทีเมื่อปลายลิ้นฉ่ำน้ำสัมผัสบนลำคอ
“ทำอะไร”
“กัดคุณ...อื้อ”
โดนเขากัดซ้ำอีกครั้งจนกลั้นเสียงร้องไม่ได้ ทรงโปรดหัวเราะในลำคอเมื่อฟันของเจ้ากระต่ายขบแทะบนคอของเขาเบาๆ ราวกับกลัวว่าเขาจะเจ็บ
“กัดแรงๆ ก็ได้”
“ไม่...ไม่เอาครับ”







[ต่อด้านล่างค่ะ]




หัวข้อ: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ตอน 12/2 - up 13.9.61
เริ่มหัวข้อโดย: Swanlee ที่ 13-09-2018 12:17:21



“กัดแรงๆ ก็ได้”
“ไม่...ไม่เอาครับ”
เขาหยุดทำให้คอน้องเป็นรอยฟันแล้ว และรอให้คนในอ้อมกอดจัดการกับคอเขาต่อเหมือนกัน
ทรงโปรดอึดอัดตรงความเป็นชายของเขามาก เนื้อมันดุนดันกางเกงชั้นในขึ้นมาจนเป้ากางเกงของเขาพองโต
“เอ็นดู”
“...ครับ”
“อึดอัดมั้ย”
“ฮือ”
ครางตอบพลางพยักหน้า
“คุณ อย่าจับครับ”
ไม่ทันแล้ว
มือหนาวางลงบนจุดที่น้องบอกว่าอึดอัด เอ็นดูหนีบขาเข้าหากัน ส่ายหน้าไม่ยอมให้เขาจับมัน แต่สุดท้ายความอึดอัดของเอ็นดูก็ถูกหม่อมราชวงศ์ทรงโปรดบีบคลึงเบาๆ ผ่านเนื้อกางเกง
“มีใครเคยจับตรงนี้หรือยัง”
“...ไม่เคยครับ”
เขายกยิ้มให้กับคนที่นอนซบไหล่
“จับแค่ผมคนเดียว...แล้วก็คุณ”
“เด็กดี”
ซิปกางเกงถูกรูดลงตามแนวดิ่งเผยให้เห็นเนื้อผ้าสีครีมที่ซ่อนอยู่ภายในกางเกงดำตัวนี้ เอ็นดูครางฮือเมื่อเข็มขัดนักศึกษาถูกปลดออก
“...เบาๆ ครับ”
น้องร้องตอนที่ทรงโปรดใช้มือบีบก้อนกลมๆ ที่ถูกกางเกงชั้นในห่อหุ้มอยู่ สะโพกอวบส่ายไม่ติดเก้าอี้เมื่อเขาจงใจใช้นิ้วโป้งสัมผัสลงบนส่วนปลายของน้อง คนตัวบางเงยหน้าส่งเสียงคราง กัดริมฝีปากทรมานที่ถูกร่างสูงขยำส่วนที่เป็นตัวเอง
ทรงโปรดดันขอบกางเกงสีดำออกจากสะโพกของเอ็นดู คนที่อ่อนระทวยอยู่ในกอดให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี เอ็นดูยกสะโพกขึ้นเพื่อให้ทรงโปรดจัดการกับกางเกงนักศึกษาของตัวเองง่ายๆ จนกระทั่งมันหลุดพ้นปลายเท้า ส่วนกลางกายก็ถูกมือหนาบดคลึงได้ลึกซึ้งกว่าเดิม
น้องพยายามกลั้นเสียงร้องเลยประคองกรอบหน้าเขาไว้แล้วบดจูบลงบนริมฝีปาก ทรงโปรดไม่ใจร้าย...ถึงมือเขาจะปรนเปรอเอ็นดู แต่เรียวลิ้นของเขาก็ต้องมอบความวาบหวามให้น้องเช่นกัน
“ฮื้อ ค...คุณ มัน”
ครางดังกว่าเดิมเมื่อสิ่งที่หลบอยู่ในกางเกงชั้นใน Supreme สีครีมถูกจับออกมา เอ็นดูปรือตาก้มหน้ามองตัวเองที่ถูกทรงโปรดกอบกุมเอาไว้
ร่างสูงจูบใบหูขาวแล้วคลอเคลียให้น้องขนลุก พอได้สัมผัสกับความอึดอัดของเอ็นดูแบบเนื้อแนบเนื้อเขาก็รู้สึกได้ว่าน้องร้อนรุ่ม
ทรงโปรดเลยระบายให้ด้วยการใช้ปลายนิ้วโป้งคลึงรอบปลายมน สลับกับกอบกุมเนื้อร้อนแล้วขยับขึ้นลงช้าๆ
“คุณ...อึก”
เสียงโคตรหวาน
หวานเหมือนตัวน้องไม่มีผิด
เอ็นดูเกาะไหล่เขาไว้แน่นเมื่อข้อมือหนาขยับตัวน้องเร็วขึ้น มืออีกข้างบดคลึงเนื้อนุ่มบนอกของน้อง คนผิวขาวเชิดหน้าแอ่นตัวให้ ทรงโปรดเลยใช้นิ้วสะกิดกับยอดอกที่ซ่อนอยู่ในเสื้อเชิ้ตสีขาว
“อย่าหยุดได้มั้ยครับ”
“รอก่อน เดี๋ยวพี่ทำให้”
“คุณ!”
ทรงโปรดไม่ได้ปลดกระดุมทีละเม็ด แต่เขากระชากมันออกจนเสื้อขาดวิ่น เอ็นดูสะท้านกว่าเดิมเมื่อเชิ้ตที่ใส่ถูกถอดออกจากไหล่ เผยให้เห็นผิวขาวที่เอ็นดูไม่เคยเปิดให้ใครชมเชยมาก่อน
เสื้อที่หลุดออกจากไหล่และกองอยู่ช่วงเอวกับแขนเสื้อที่ยังอยู่ตรงศอกทำให้น้องดูเอ็กซ์มากกว่าเดิม ตาหวานฉ่ำปรือ เชิดหน้า เผยอปากจิ้มลิ้ม ทรงโปรดอดใจไม่ไหว เขากลายเป็นเสือร้ายที่ก้มหน้าดูดเม้มอกของน้อง
“อื้อ ฮึก...คุณ”
มือขาวดันไหล่ของทรงโปรดออกแต่ก็ไม่ได้ผล เอ็นดูไม่รู้สึกเจ็บตอนที่เขากัดยอดอกตัวเอง แต่แปลกที่รู้สึกดีจนอยากให้เขากัดอีก
 “หวานจังเอ็นดู”
“อือ คุณครับ”
“หวานทั้งตัวเลยใช่มั้ย”
เขาเงยหน้าถามพลางเสยผมสีน้ำตาลที่คลอเคลียกรอบหน้าของเอ็นดู แต่ทว่าประโยคคำตอบที่ได้รับกลับทำให้สติของทรงโปรดขาดสะบั้น
“ลองชิมดูสิครับ...ผมก็ไม่รู้”
“อนุญาตแล้วนะ”
“ฮื้อ คุณอ่ะ” เขินไปหมด
เขาหัวเราะก่อนเคลื่อนตัวลงจากเก้าอี้ หม่อมราชวงศ์ทรงโปรดยกยิ้ม หมุนเก้าอี้ของเอ็นดูให้น้องนั่งหันหลังให้วิวของกรุงเทพฯ
ทรงโปรดดันขอบกางเกงชั้นใน Supreme ออกจากสะโพกกลม ก่อนจับเรียวขาขาวแยกออกจากกันแล้วพาดไว้บนไหล่กว้าง ทรงโปรดคุกเข่าต่อหน้าเอ็นดู กระตุกยิ้มพร้อมกับแนบริมฝีปากลงบนต้นขาด้านในขณะที่ตาคมยังจ้องใบหน้าคนตัวขาว
“อ้า ฮือ”
น้องแม่งโคตรยั่ว
หม่อมหลวงจิรากัดนิ้วชี้เบาๆ คิ้วสวยขมวดเชิดหน้าครางไม่เป็นภาษา ทรงโปรดไม่รู้ว่าน้องจงใจยั่วเขาหรืออารมณ์พาไป แต่ที่แน่ๆ ตอนนี้เขาโคตรอยากสั่งสอนน้องเลย
ทรงโปรดจูบต้นขาด้านในไล่ขึ้นมาเรื่อยๆ จนกระทั่งถึงจุดที่มีน้ำใสๆ ปริ่มอยู่ตรงปลาย เขาอ้าปากครอบครองน้อง เอื้อมมือจับไหล่เอ็นดู ออกแรงเขย่าเบาๆ ให้น้องก้มมองว่าตอนนี้ตัวเองกำลังอยู่ในปากของทรงโปรด
“อื้อ คุณ อึก พอแล้ว”
ทรงโปรดเหลือบมองคนที่นั่งกระสับส่ายร้องระงมอยู่บนเก้าอี้
จนกระทั่งทรงโปรดถอดปากออก เขาใช้มือรูดชักเอ็นดูรัวเร็วจนน้องแอ่นสะโพกลอยตามมือ ลมเย็นๆ ตอนกลางคืนพัดกระทบร่างเปลือยจนเอ็นดูสะท้าน และสุดท้ายก็พวยพุ่งความรู้สึกออกมาเต็มหน้าท้องของตัวเอง
“เสร็จแล้วเหรอ”
“คุณ...คุณแกล้งผม”
“แล้วชอบมั้ย”
กัดปากอีกแล้ว
“ชอบครับ”
ทรงโปรดลุกขึ้นยืนเต็มความสูง ใช้นิ้วกลางกวาดเอาน้ำขาวๆ บนหน้าท้องของน้องแล้วป้ายลงไปตรงช่องทางด้านหลังที่แนบสนิท เขาก้มลงจูบปากอวบที่ถูกกัดจนเห่อแดง น้องเงยหน้ารับเรียวลิ้นที่ส่งเข้ามา เกี่ยวกระหวัดกันจนน้ำหวานไหลออกจากมุมปาก เสียงจูบของพวกเขาดังทั่วทั้งระเบียง
“ผม...ทำให้นะ”
ทรงโปรดผละริมฝีปากเพื่อฟังว่าน้องจะพูดอะไร และสิ่งที่ได้ยินก็ทำเอาเขาขมวดคิ้ว เอ็นดูคลี่ยิ้มส่งให้ คนตัวสูงมองน้องด้วยความหลงใหล ผิวขาวถูกไฟสีส้มนวลสาดส่อง น้องดูนุ่มนิ่มขาวฟูน่ากิน ไม่ผอมจนเกินไป และไม่อวบจนเกินตัว
เขาชอบแบบนี้...อะไรที่พอดีแบบเอ็นดู
เอ็นดูลงจากเก้าอี้ มือขาวปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตสีดำของเขาออกเพียงแค่สี่เม็ด แล้วสิ่งที่ทำให้ทรงโปรดยกยิ้มพึงพอใจก็คือริมฝีปากอวบที่จูบลงบนแผงอกของเขา พร้อมๆ กับมือน้อยๆ ที่ปลดเข็มขัดราคาแพงออกและรูดซิปกางเกงของเขาลง
เอ็นดูช้อนตามองคนตัวสูงขณะที่ตัวเองค่อยๆ คุกเข่าลงบนพื้น มือสั่นระริกคว้าสิ่งที่อัดแน่นอยู่ในกางเกงชั้นใน Calvin Klein ออกมา
น้องผงะแถมถอยหลังหนีเมื่อความใหญ่โตของเขาปรากฏอยู่ตรงหน้า ทรงโปรดลูบผมเอ็นดูเบาๆ เปล่งเสียงปลอบคนที่นั่งคุกเข่าอยู่
“กลัวเหรอ”
“...เปล่าครับ ผมแค่แปลกใจ”
“แปลกใจ” เลิกคิ้วถามพร้อมกับน้องที่ผงกศรีษะ
“ของคุณมัน...ใหญ่”
ใหญ่เกินมาตรฐานชายไทย
ทรงโปรดหัวเราะเบาๆ เมื่อเทียบกับปากของน้องเขากลัวว่ามันจะเข้าไปไม่ได้ แต่เจ้าคนน่ารักไม่สนใจอะไรแล้ว น้องค่อยๆ ใช้ลิ้นเลียตั้งแต่โคน จูบเม้มสลับเลียขึ้นมาเรื่อยๆ จนถึงส่วนปลาย และเอ็นดูก็กลืนมันเข้าปาก น้องขยับช้าๆ จนทรงโปรดครางในลำคอ
ปากน้องเล็กจิ้มลิ้ม พอต้องครอบครองความใหญ่โตทำให้ทรงโปรดรู้สึกว่าน้องรัดเขาแน่น ยิ่งซี่ฟันที่ขูดโดนเนื้อร้อนยิ่งทำให้แทบปลดปล่อยตอนนั้น
“ยืนขึ้น”
“อื้อ” น้องส่ายหน้า
“พอแล้วครับ เดี๋ยวพี่เสร็จก่อน”
อ่า น้องโคตรดี
เด็กดียอมคายเขาออก ทรงโปรดประคองไหล่กลมขึ้นมา เขาจูบแก้มกลมๆ ของน้องสองครั้งแล้วบอกให้เอ็นดูขึ้นไปนั่งบนเก้าอี้เหมือนเดิม น้องว่าง่ายไม่อิดออด คนตัวสูงเลยรีบหยิบกระเป๋าสตางค์ที่วางอยู่บนเคาน์เตอร์ หยิบซองถุงยางอนามัยกับเจลหล่อลื่นแบบซองออกมา
ทรงโปรดรีบฉีกซองเจลหล่อลื่นออก ละเลงมันลงบนปลายนิ้วกลางและนิ้วชี้ก่อนโยนซองทิ้ง เอ็นดูขยับสะโพก เอนตัวไปกับเคาน์เตอร์ น้องถูกจับแยกเรียวขาอีกครั้งเมื่อนิ้วเย็นๆ ปาดเจลลงบนช่องทางสีชมพู
“...คุณ”
ทรงโปรดค่อยๆ แทรกนิ้วกลางเข้าไป เขาใจเย็นเมื่อตรงนี้ของน้องยังไม่เคยถูกใครรุกล้ำ แค่ขยับนิ้วช้าๆ น้ำตาน้องก็ซึมออกมาแล้ว เขาจ้องหน้าตลอดทุกความเคลื่อนไหว เช่นเดียวกับน้องที่กัดปากยั่ว ส่งสายตาอ้อนๆ ไม่ลดละ
“อีกนิ้ว...มั้ยครับ”
“ไม่เจ็บเหรอ”
“มัน...มันบอกไม่ถูก”
“อื้อ เจ็บแล้วครับ เบาๆ นะครับ”
“รู้แล้ว”
ก็น่ารักแบบนี้ไง นิ้วที่สองเขาเลยรีบแทรกเข้าไปจนน้องร้องออกมา ทรงโปรดคิดว่าแค่สองนิ้วก็คับแน่นไปหมดแล้ว แก่นกายของเขาใหญ่กว่านี้หลายเท่า น้องจะรับไหวหรือเปล่า
กระทั่งทรงโปรดขยับนิ้วช้าๆ เขาควานหาจุดที่จะทำให้น้องกระสับกระส่าย ขณะที่ดวงตายังจ้องมองกันเหมือนสื่อความในใจ
เอ็นดูเชื่อใจเขา ยอมให้เขาล่วงเกินขนาดนี้
“คุณ! อื้อ...คุณครับ”
“ตรงนี้เหรอ”
“อย่า ผม...รู้สึก ฮื้อ”
ทรงโปรดงอนิ้วย้ำตรงจุดที่น้องร้องระงม คนตัวขาวส่ายหน้าเอื้อมมือปิดปาก ทรงโปรดขยับนิ้วเข้าออกจงใจเน้นจุดนั้นจนน้องแอ่นตัว
เอ็นดูนั่งไม่ติดเก้าอี้ ตัวกระตุกทุกครั้งทั้งที่เขาขยับนิ้ว น้องเอื้อมมือจับไหล่กว้างพลางทุบลงแรงๆ เขารู้ว่าน้องอยากสั่งสอนที่บังอาจทำให้เอ็นดูสูญเสียความเป็นตัวเอง
โชคดีที่ระเบียงห้องเอ็นดูไม่ติดกับระเบียงห้องอื่น พื้นที่ตรงนี้เลยเป็นที่ที่น้องครางระงมได้อย่างไม่ต้องกลัวว่าใครจะมาได้ยิน
“พอเถอะครับ หายใจไม่ทันแล้ว”
“อีกนิดเด็กดี”
“พอ เอานิ้วออกไปเถอะครับ”
เขาไม่สน และยังย้ำจุดนั้นจนน้องตัวงอ
“คุณ...เอาของคุณเขามาสักที”
ทรงโปรดสบถหยาบออกมา เขาถอดนิ้วออกเมื่อน้องสั่งจริงจัง ทรงโปรดเอื้อมมือหยิบซองถุงยางไว้ในมือ ทุกการเคลื่อนไหวมีสายตาของเอ็นดูคอยมองอยู่
ทรงโปรดยื่นหน้าเข้าใกล้ ถือซองถุงยางไว้ใกล้ๆ กับริมฝีปาก
“ช่วยพี่แกะถุงยางหน่อย”
“ครับ”
เขางับมุมขวาของซองขณะที่น้องรีบใช้ปากจิ้มลิ้มงับมุมซ้ายของซองเอาไว้ ทรงโปรดกับเอ็นดูช่วยกันฉีกซองออกด้วยปากจนกระทั่งเนื้อถุงยางไซส์ใหญ่สุดและบางที่สุดหล่นลงบนหน้าท้องขาวของเอ็นดู
ทรงโปรดปล่อยซองออกจากปาก เขาหยิบถุงยางมาสวมลงบนความแข็งแกร่ง เทเจลแบบซองลงบนช่องทางแคบอีกครั้ง เอ็นดูหายใจแรงกว่าเดิมเมื่อทรงโปรดดันตัวเองเข้าไป ฝ่ามือนุ่มๆ ดันหน้าท้องแกร่งของทรงโปรดเอาไว้ ส่ายหน้าบ่งบอกว่าตัวเองไม่ไหวกับความใหญ่เกินที่เอ็นดูจะรับได้
“ไม่เกร็งสิเด็กดี”
“คุณ ผมเจ็บ”
“ผ่อนคลาย ให้พี่เข้าไปนะครับ”
เขาเข้าได้แค่ส่วนปลายก็ต้องค้างไว้แบบนั้น น้องรัดรึงจนเขาแทบปลดปล่อย แถมยังส่ายหน้าไม่ยอมให้ขยับเข้าไปอีกต่างหาก ทรงโปรดโน้มตัวจูบปากเอ็นดูหนักๆ เกี่ยวเรียวลิ้นหวานอยู่นานจนน้องครางอื้ออึง
พอน้องผ่อนคลายและสนใจกับจูบมากกว่า ทรงโปรดเลยดันสะโพกเข้าไปจนสุด...ใช่ น้องร้องดังกว่าเดิม คนผิวขาวบนเก้าอี้สตูบาร์นั่งน้ำตาอาบแก้มจนทรงโปรดต้องก้มลงจูบซับแก้มกลม
“เจ็บครับ”
ทรงโปรดก็เจ็บเหมือนกัน
น้องรัดแน่นขนาดนี้ทรงโปรดเองก็เจ็บไม่แพ้กัน เขาทั้งปวดหนึบ อยากขยับแต่คิดว่าถ้าน้องไม่ยอมผ่อนคลาย เขาต้องปลดปล่อยทุกอย่างออกมาเร็วแน่ๆ
“ออกไปก่อนนะครับ”
“ถ้าพี่ออกเราจะเจ็บกว่าเดิม”
“คุณ...ผมเจ็บ”
“เด็กดี กอดพี่สิครับ แล้วผ่อนคลาย อย่าไปเกร็ง”
“กอดแล้วครับ”
แขนขาวโอบกายหนาไว้แน่น เอ็นดูซบแก้มกลมบนอกแกร่ง ปล่อยให้มือหนาของทรงโปรดลูบผมนุ่ม
เขาค่อยขยับสะโพกเมื่อน้องเริ่มคลายอาการเกร็ง พาตัวเองออกจนเกือบสุดแล้วสวนกลับเข้ามาใหม่จนได้ยินเสียงเนื้อกระทบเนื้อ เอ็นดูเริ่มส่งเสียงครางปนสะอื้นก่อนที่น้องจะปล่อยกอดออก แล้วเอนหลังพิงเคาน์เตอร์แทน
“แน่น”
“แรงครับ แรงอีก”
ไม่ทันไรก็ร้องเรียกให้เขาเพิ่มแรงซะแล้ว ทรงโปรดสวนสะโพกตามที่น้องต้องการจนน้องสั่น
เสียงครางของทรงโปรดกับเอ็นดูปนกัน มันเป็นเสียงที่เขาคิดว่าน่าฟังมากที่สุดตั้งแต่ผ่านการร่วมรักมา เอ็นดูหวานทั้งเนื้อทั้งตัว ผิวขาวยังมีจุดแดงจางๆ จากฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ น้องน่ามองจนทรงโปรดยับยั้งชั่งใจไม่ได้
“ไอ้ภูเคยทำแบบนี้กับเรามั้ย”
“...ไม่ครับ” น้องส่ายหน้ารัว เม็ดเหงื่อเริ่มไหลตามกรอบหน้า
เขากระแทกสะโพก เน้นย้ำผ่านจุดที่น้องต้องครางลั่น
“มันเป็นอะไร ไอ้ภูมันเป็นอะไรกับเรา”
“อื้อ...แฟนเก่า”
เขาหึง ยิ่งถามยิ่งหึง
น้องตอบทั้งที่ยังร้องคราง มือขาวยกขึ้นลูบเอาแกร่งเหมือนบอกให้หม่อมราชวงศ์ทรงโปรดใจเย็นลงกว่านี้
“ไม่เกี่ยวข้องอะไรกันแล้วนะครับ”
“ดี ดีครับคนเก่ง”
“อื้อ คุณ”
“พี่สำคัญกว่ามันใช่มั้ย”
“สำคัญครับ”
ทรงโปรดยกยิ้มพอใจ ขณะที่สะโพกก็ทำงานไม่หยุด
มือแกร่งจับเอวบางทั้งข้างไว้แน่น บีบเบาๆ แต่ทำให้เอ็นดูน้ำตาซึม เขารั้งเอวน้องเข้าใกล้แล้วสวนใส่จนน้องตัวสั่น
“เด็กดี ทำไมพี่ถึงสำคัญ พี่เป็นอะไรกับเราครับ”
“อื้อ คุณ มะ...ไม่ไหวแล้ว”
“พี่เป็นอะไร ตอบสิ”
“Husband...”
ทรงโปรดฟาดสะโพกขาวที่แอ่นขึ้น กระตุกยิ้มเมื่อน้องย้ำอีกครั้ง
“My husband”
“อ่า”
ทรงโปรดปลดปล่อยทุกอย่างไว้ในถุงยางอนามัย อาการหึงเมื่อกี้หายวับไปกับตาเมื่อตำแหน่งของเขาถูกเปล่งออกจากปากน้อง
เอ็นดูหมดแรงทิ้งตัวบนเคาน์เตอร์ น้องกลั้นหายใจเมื่อทรงโปรดถอดถอนตัวเองออก ถุงยางอนามัยที่มีน้ำขาวขุ่นอยู่ในนั้นถูกดึงออกเช่นกัน ร่างสูงโยนทิ้งมันไว้บนพื้น ก่อนก้มลงจูบริมฝีปากของคนตัวเล็กที่กึ่งนอนกึ่งนั่งหอบหายใจ
เขาส่งยิ้มพลางขบเม้มริมฝีปากน้องเบาๆ เวลานี้น้องโคตรน่ารัก ดวงตาหวานฉ่ำระเรื่อน้ำ กลีบปากเผยอกอบโกยอากาศเข้าปอด แก้มแดงจนอยากฝังจมูกสูดดมแรงๆ
“ฟ้าร้องแล้วครับ”
ไม่ใช่แค่ฟ้าร้อง แต่ฝนก็ตกตามลงมาทันที
“อือ เสร็จทันฝนตกพอดี”
“...บ้า”
ทุบอกแกร่งแรงๆ ก่อนที่จะตกอยู่ในอ้อมกอดเขา
ทรงโปรดรวบตัวน้องเข้ากอด ก่อนช้อนขึ้นอุ้มแนบอก เขากระซิบบอกให้เอ็นดูหยิบกระเป๋าสตางค์ที่มีถุงยางยังไม่ได้ใช้ยัดอยู่ในนั้นติดมือมาด้วย ส่วนลำโพงกับโทรศัพท์ทรงโปรดไม่สนใจแล้ว ปล่อยให้มันตากฝนไว้อย่างนั้น
คนแข็งแรงอุ้มน้องกลับเข้าห้องนอน เอ็นดูคล้องคอแกร่งด้วยแขนนุ่มนิ่มสองข้าง น้องซบใบหน้าลงบนไหล่กว้างและจูบลำคอเขาอีกต่างหาก
สงสัยยังไม่พอ
“คอคุณเป็นรอย” เปล่งเสียงหวานบอกพลางใช้ปลายนิ้วชี้ลูบไล้ไปตามลอยที่ตัวเองกัดเอาไว้ “ไม่เป็นไรใช่มั้ยครับ”
เขาร้องหึในลำคอแล้วบอกด้วยเสียงทุ้ม “พี่ชอบ”
ก่อนจะวางน้องลงบนเตียงนอนแล้วขึ้นคร่อมคนผิวขาว เอ็นดูไม่ยอมปล่อยแขนที่คล้องคอออกแต่กลับรั้งคอเขาให้โน้มลงรับจูบ
เขาแนบแน่นริมฝีปากชิมความหวาน ขบเม้มปากจิ้มลิ้มบวมเจ่อก่อนผละออก ทรงโปรดงับปลายจมูกโด่งสวยเบาๆ อย่างมันเขี้ยวและเจ้าของจมูกก็ร้องฮือปนหัวเราะเมื่อเขาฝังจมูกลงบนแก้มขาว
มือหนาลูบไล้เค้นคลึงเอวนุ่ม ลากต่ำไปจุดกลางลำตัวที่ปลดปล่อยน้ำขาวออกมาพร้อมเขาเมื่อกี้ เอ็นดูกัดปากยั่วบนร่างไม่พอ น้องยังแอ่นสะโพกให้จุดนั้นเสียดสีกับหน้าท้องแกร่งอีกต่างหาก
แปะ
“ตีทำไมครับ” หน้ามุ่ยเมื่อสะโพกขาวถูกฟาด
“ระวังจะไม่ได้นอน”
“คุณไหวเหรอครับ”
คนถูกท้าทายยกยิ้ม มือหนาจับก้อนนุ่มของน้องไว้ในมือแล้วรูดขึ้นลงจนคนใต้ร่างร้องระงมอีกครั้ง เอ็นดูส่ายหน้าผมเผ้ากระจายบนหมอน เขาครางต่ำน้องจิกเล็บลงบนแผ่นหลัง
ทรงโปรดจับเรียวขาขาวแยกออกจากกัน เขาทำท่าจะสอดใส่ทันทีแต่พอนึกขึ้นได้ว่ายังไม่ได้ป้องกันก็ชะงัก คนตัวสูงเอื้อมหยิบซองถุงยางอนามัยออกจากกระเป๋าสตางค์ แต่ยังไม่ทันที่เขาจะได้จัดการฉีกซองมือนุ่มนิ่มก็จับข้อมือหนาเอาไว้
น้องส่ายหน้า ปากจิ้มลิ้มมุบมิบเปล่งเสียง
“ถ้าไม่ใส่จะเป็นอะไรมั้ยครับ”
“ไม่อยากใส่เหรอ”
ไม่เปล่งเสียงตอบแต่พยักหน้าเบาๆ
แก้มเอ็นดูแดงปลั่งเพราะอายที่ตัวเองต้องการอะไรแบบนั้น ทรงโปรดที่มันเขี้ยวน้องอยู่แล้วเลยก้มหน้าฟัดพวงแก้มนุ่มแรงๆ อีกครั้ง เขาโยนถุงยางไว้บนหัวเตียง จ่อปลายมนใหญ่โตของตัวเองเข้าที่ช่องทางสีชมพูน่ามอง กระซิบบอกคนที่แอ่นสะโพกรออยู่ก่อนแล้ว
“ได้ พี่ก็ไม่อยากใส่เหมือนกัน”
“อะ...อ๊า!”
กดสะโพกแกร่งเข้าไปในตัวน้อง แม้ว่ามันจะถูกเบิกทางมาก่อนหน้านั้นแต่เอ็นดูยังสดใหม่เสมอ ทันทีที่เขาเข้าไปจนสุด น้องก็ตอดรัดจนเขาปวดหนึบ
ชายหนุ่มครางพลางขยับสะโพก ก้มหน้ามองคนที่ยกมือขึ้นประคองกรอบหน้าเขา เอ็นดูเผยอริมฝีปากครางหงิงน่าสงสาร หางตาของน้องมีน้ำใสๆ ซึมออกตลอดเวลา
“เจ็บเหรอ”
“...ไม่ครับ”
“ขอโทษ”
“ฮื้อ คุณ...แรงอีก”
น้องโคตรน่ารัดอะไรขนาดนี้วะ
เอ็นดูใช้ศอกยันกายขึ้นนั่งทั้งที่ทรงโปรดยังสวนกายเข้ารัวแรงตามที่น้องขอ หัวกลมๆ ของน้องสั่นคลอนตามแรงกระแทก คนตัวสูงขยับตัวตามเมื่อน้องเปลี่ยนจากนอนเป็นนั่งได้สำเร็จ พวกเขากอดกันแน่น เนื้ออกแกร่งกับอกนุ่มนิ่มสัมผัสเสียดสีกัน
“คุณ ไปตรงนู้น”
“หือ ตรงไหน”
ปลายตามองตามนิ้วเรียวที่ชี้ออกไปนอกห้อง ทรงโปรดเห็นแต่โซฟาในห้องนั่งเล่น เขาหันกลับมาจูบขมับน้องเบาๆ สวนกายเข้าลึกและออกเกือบสุดก่อนสวนกลับเข้าไปใหม่
“โซฟาเหรอ”
“ครับ”
“เด็กดี ไม่ต้องอายแล้วมั้ง”
“อื้อ”
น้องสั่นศีรษะซุกหน้าบนไหล่กว้างตอนที่ทรงโปรดขยับตัวลงจากเตียงแล้วช้อนตัวน้องไว้แนบอก เขาอุ้มเจ้าคนที่อยากเปลี่ยนสถานที่ลงจากเตียงก่อนก้าวเท้าแข็งแรงเดินออกจากห้องนอน
ทุกครั้งที่ลำขาแกร่งเดินไปทางทรงโปรดก็แกล้งกระแทกเข้าไปในตัวน้องแรงๆ จนเอ็นดูร้องไห้ น้องทุบอกแกร่งแถมยังใช้ฟันซี่คมงับไหล่เขาเป็นการสั่งสอนที่บังอาจทำให้น้องน้ำตาไหล
จนกระทั่งถึงโซฟา ทรงโปรดถอดตัวเองจากช่องสีชมพู เขาจับสะโพกน้องบังคับให้เอ็นดูหันหน้าเข้ากำแพงแล้วโชว์สะโพกขาวๆ ให้เขาเห็น ร่างสูงก้มหน้าใช้ลิ้นอุ่นเลียช่องทางหวานฉ่ำ เอ็นดูที่คุกเข่าอยู่บนโซฟาสะท้านไปทั้งกาย
“เข้ามาสิคุณ...อย่าทำแบบนั้น”
เอ็นดูขยุ้มกลุ่มผมสีดำของเขา ทรงโปรดชิมความหวานจากช่องทางด้านล่างของน้องเสร็จแล้วก็ลุกขึ้นยืนเต็มความสูง จ่อความแข็งแกร่งเข้าไปในตัวน้องอีกครั้ง สวนสะโพกใส่ไม่ยั้งจนเสียงหวานครางระงมลั่นห้อง
มือขาวที่ค้ำยันพนักพิงโซฟาไว้แทบหมดแรง ทรงโปรดแรงเยอะเกินไปจนเอ็นดูไม่มีแรงคุกเข่า ท่อนสีชมพูน่าชิมกลางกายตัวของน้องเสียดสีกับหนังโซฟาตามแรงกระแทก เอ็นดูปรือตาเอี้ยวหน้าหาร่างสูงที่ยืนซ้อนหลัง
“พี่โปรด...พี่โปรด อยาก...”
เสียงหวานๆ เปล่งเรียกชื่อหม่อมราชวงศ์ทรงโปรด ริมฝีปากจิ้มลิ้มที่ขยับเรียกเขาทำเอาเลือดในร่างกายของคนตัวสูงสูบฉีดแรงกว่าเดิม ทรงโปรดยื่นปากจูบลงมุมปากสีชมพู มือหนาบีบแก้มก้นขาวนวลเบาๆ
“พี่โปรดอยู่นี่ครับ” กระซิบปลอบเจ้าคนขี้ยั่ว “เอ็นดูอยากได้อะไร บอกพี่โปรดสิ”
“แรงอีก...พี่โปรด น้อง อื้อ...น้องขอแรงอีก”
ทรงโปรดครางต่ำ คำเรียกใหม่ที่เอ็นดูเปล่งออกมาทำให้เขากระแทกกายเข้าไปแรงกว่าเดิม
“พี่โปรดกลัวน้องเจ็บ” กระซิบพลางขบเม้มใบหูขาว
“ไม่เจ็บ...น้องไม่เจ็บ อึก”
ไม่พูดเปล่าแต่ยังจับข้อมือหนาของเข้าเอื้อมไปด้านหน้า น้องวางมือของทรงโปรดไว้ตรงกลางกายที่เสียดสีกับโซฟา ก่อนจับมือหนาให้กุมน้องเอาไว้ เอ็นดูบังคับมือของทรงโปรดให้ขยับท่อนสีชมพูขึ้นลง ใช่ เขาปรนเปรอตามที่น้องต้องการทั้งหมด
ก็เล่นน่ารักน่ากินขนาดนี้
แต่เจ้าคนขี้ยั่วหมดแรงฟุบไปกับพนักพิงโซฟาแล้ว ทรงโปรดดันสะโพกเน้นย้ำเมื่อเอ็นดูครางเสียงหวานน่าสงสารพร้อมกับปลดปล่อยน้ำออกมาจนเปรอะโซฟาและเปื้อนมือเขา คนตัวสูงเร่งตัวเองด้วยการสวนสะโพกรัวแรงกว่าเดิม เอ็นดูที่ถึงฝั่งไปก่อนตอดรัดเขาจนทนไม่ไหว
หม่อมราชวงศ์ทรงโปรดกระแทกตัวครั้งสุดท้ายก่อนปล่อยน้ำอุ่นๆ เข้าไปในตัวน้อง เสียงครางเปลี่ยนเป็นเสียงหอบหายใจถี่ ตาคมมองแผ่นหลังขาวที่สะท้านตามแรงสะอื้น
น้องฟุบหน้ากับพนักพิงโซฟาอยู่อย่างนั้นจนเขาต้องจับไหล่กลมแล้วรั้งตัวน้องขึ้นมา ทรงโปรดแช่กายค้างไว้แม้ว่าจะปลดปล่อยหมดแล้ว เขายังอยากอยู่ในตัวนุ่มๆ ของน้องต่อ
“ไงครับคนเก่ง...หายใจทันมั้ย”
จับน้องพิงอกแกร่งแทน คนตัวขาวผงกศีรษะช้าๆ เผยอริมฝีปากโกยอากาศเข้าปอด
แขนแกร่งรัดตัวน้องไว้หลวมๆ เขากดจูบตามท้ายทอยขาว ความเหนียวจากน้ำที่พวยพุ่งเข้าไปในตัวน้องไหลออกมาแม้ว่าทรงโปรดยังแช่ท่อนของตัวเองเอาไว้ เขาขยับสะโพกอีกสามสี่ครั้งคนในอ้อมกอดก็ร้องครางออกมาอีกแล้ว
“เหนื่อยแล้วครับ” เอ็นดูปรือตาขยับปากบอก
“อือ พี่รู้”
“รู้แล้วยังทำเหรอคุณ”
หม่อมราชวงศ์หัวเราะเบาๆ เขาดันสะโพกเข้าออกอีกครั้งจนถูกมือขาวฟาดลงบนต้นขาแกร่ง ทรงโปรดจูบแก้มกลมของเอ็นดู สูดดมเอาความหอมหวานเข้าปอดอย่างชื่นใจ
รู้แล้วแหละว่าน้องเหนื่อย แต่อยากทำตัวน่ารักเองทำไม

แล้วเขาดันเป็นพวกโลภมากด้วย
ยังอยากได้ยินเสียงหวานๆ ครางลั่นอีก : )





#ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี







 :m15:
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ตอน 12 - up 13.9.61
เริ่มหัวข้อโดย: catka12 ที่ 13-09-2018 13:30:07
 :m25: ohhhhhh ผิดผีอย่างที่คุณหณิงป้าบอกจริงๆด้วย....  :m25: น้องเอ็นดู so -amn hot!!!!!  :hao7: ต้องอย่างนี้สิค่ะ...ชายโปรดไปไหนไม่รอดsure  :hao7:  o13
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ตอน 12 - up 13.9.61
เริ่มหัวข้อโดย: Gokusan ที่ 13-09-2018 13:45:53
เอ่อ...นว้องงงง น้องเซ็กซี่เกินบรรยาย

ยังไม่ได้หมั้นเลยนะค้าาาา ข้ามขั้นซะแล้ว 555
ก็น้องเป็นใจนี่เนาะ ใครจะว่า อิอิ

ไม่ต้องหมั้นแล้วค่ะ แต่งไปเล้ยยยย
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ตอน 12 - up 13.9.61
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 13-09-2018 16:01:15
น้องเอ็นดูใช่เล่นนะเนี่ย ทำไมอยู่ถึงยอมซะล่ะ ไอ้เราก็นึกว่าต้องรอหมั้นซะก่อนถึงจะยอมมีฉากแบบนี้ซะอีก
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ตอน 12 - up 13.9.61
เริ่มหัวข้อโดย: 05th_of_06th ที่ 13-09-2018 17:23:43
ฮือออออ น้องเอ็นดูใช่ย่อยนะเนี่ยทำไมแซ่บบบบ ช็อตที่เรียกพี่โปรดกับน้อง คือแบบบบตายปัยเรยยยยยยย :jul1: :jul1:
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ตอน 12 - up 13.9.61
เริ่มหัวข้อโดย: Bluedock ที่ 13-09-2018 19:45:56
เป็นเหมือนชื่อเรื่องเลยตอนนี้ แต่งแบบนี้คนอ่านขาดอากศหายใจพอดีเฮือก
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ตอน 12 - up 13.9.61
เริ่มหัวข้อโดย: Tiffany ที่ 13-09-2018 19:48:42
ฉากนี้เลือดไหลจะหมดตัวแล้วจ้า
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ตอน 12 - up 13.9.61
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 13-09-2018 19:57:00
น้องคะ ร้ายแบบนี้ พี่โปรดไม่รอดแล้ว ฟาเหลืองแน่นอน   :haun4:
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ตอน 12 - up 13.9.61
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 13-09-2018 20:14:52
 :haun4: :beat: :z1:

ถึงตอนนี้คนอ่านก็ตายกันพอดี
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ตอน 12 - up 13.9.61
เริ่มหัวข้อโดย: k00_eng^^ ที่ 13-09-2018 20:35:54
ร้อนแรงมาก
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ตอน 12 - up 13.9.61
เริ่มหัวข้อโดย: TheWanFah ที่ 14-09-2018 07:13:10
เอ็นโซฮอตมากเว่อร์
พี่โปรดก็เอ็นดูน้องหนักจริงๆ
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ตอน 12 - up 13.9.61
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 14-09-2018 09:04:51
 :pig4: :pig4: :pig4:

ยอมง่ายไปนะหนู  อิอิ
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ตอน 12 - up 13.9.61
เริ่มหัวข้อโดย: สีหราช ที่ 14-09-2018 19:02:04
 :really2: :really2:
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ตอน 12 - up 13.9.61
เริ่มหัวข้อโดย: O-RA DUNGPRANG ที่ 14-09-2018 21:44:25
 :haun4: :haun4: :haun4:   :haun4: :haun4:
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ตอน 12 - up 13.9.61
เริ่มหัวข้อโดย: Mafiaziip ที่ 14-09-2018 23:02:55
คุ๊ณณณณณณณณณณณณณณณ OMGGGGGGG

 :pighaun: :pighaun: :haun4: :haun4:

เหมือนดูพอร์นเลยค่ะ 555555555 เลือดแทบพุ่ง ไม่คิดว่าน้องจะมาทางนี้เลย แซบมากกกกกกก ชอบน้อง  :katai2-1: :กอด1:

 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ตอน 13 - up 19.9.61
เริ่มหัวข้อโดย: Swanlee ที่ 19-09-2018 15:41:17




13



โลกนี้ไม่ต้องมีพระอาทิตย์ก็ได้นะ

เพราะแค่มีคุณโลกทั้งใบก็สดใสแล้ว



 

หัวข้อ: รอยคิสมาร์กจะหายภายในกี่วัน (18+)

พอดีพรุ่งนี้จะต้องไปทำงานนอกสถานที่ค่ะ แต่เมื่อคืนแฟนดันทำรอยไว้ที่คออ่า T^T

อยากรู้ว่ารอยมันจะหายภายในกี่วันเหรอคะ แล้วๆๆ มีวิธีอะไรที่จะลบรอยได้มั้ยคะ

ปล. ตอนนี้รอยชัดมาก (รูปอยู่ด้านล่างนะคะT^T)



~ความคิดเห็นที่1

คอนซีลเลอร์ก็ปกปิดได้นะคะ แต่ต้องเลือกสีที่เข้ากับสีผิว ไม่งั้นคอลอยแน่



~ความคิดเห็นที่2

อุ๊ปปปส์!



~ความคิดเห็นที่3

เอาเหรียญขูดครับ



~ความคิดเห็นที่4

จริงๆ เอาว่านหางจระเข้ทาก็ได้นะ แล้วเอาผ้าเช็ดออก แต่มันจะหายช้า ตามคห.บนก็ได้นะ ไม่เคยลองแต่เห็นเพื่อนทำ ออกนิดเดียวเองอ่ะค่ะ ._.

 



ขมวดคิ้วหน้ายุ่ง แล้วสุดท้ายก็ถอนหายใจออกมาแรงๆ





เอ็นดูเลิกเสิร์ชหาวิธีลบรอยจูบในอินเตอร์เน็ต เปลี่ยนมานั่งนวดขมับตัวเองแทน เขาชะเง้อคอมองรอยจ้ำแดงๆ ที่อยู่บนคอ มองรอยผ่านกระจกหน้าจอโทรศัพท์แล้วก็ต้องถอนหายใจออกมาอีกครั้ง



ความจริงมันควรจะหายได้แล้ว แต่คุณชายทรงโปรดดันมาเติมรอยให้ชัดเจนมากขึ้นไปอีก



เอ็นดูนอนซมกับรสรักร้อนฉ่าที่เขามอบให้เมื่อสามวันก่อน นอนเมื่อยตัวอยู่หนึ่งวันเต็มๆ ปวดจนไม่อยากขยับไปไหนและสุดท้ายก็ต้องขาดเรียน



แต่ก็มีคุณชายเขาคอยดูแลตลอด



และตอนนี้คนที่เป็นสาเหตุของรอยจูบนี้ก็นั่งทำหน้าระรื่นชื่นใจอยู่ข้างๆ เอ็นดูนี่แหละ



ดูสิ ยังกล้ามายิ้มกริ่มใส่อีก



ไม่รู้ว่าคุณชายทรงโปรดไปเอาเรี่ยวแรงมาจากไหน คืนนั้น...คนตัวสูงพักยกบนโซฟาได้แค่สิบนาที ก็อุ้มร่างของเอ็นดูไปล้างตัวในห้องน้ำ อือ นั่นแหละ คุณชายทรงโปรดไม่ปล่อยให้เอ็นดูอาบน้ำดีๆ หรอก



แทนที่จะจบแค่นั้น แต่ไม่ หม่อมราชวงศ์ทรงโปรดต่อที่แพรทรี่ โต๊ะกินข้าว กลับมาที่เตียงนอน...แล้วจบที่พรมปูพื้นผืนสีน้ำตาล



“อาหารไม่อร่อยเหรอ”



อ้อ ลืมบอก เช้าวันนี้หม่อมราชวงศ์ทรงโปรดเข้าครัวทำอาหารเองด้วย



“อร่อยครับ”



“ดูทำหน้า...” คนสูงกว่าเอียงหน้าหรี่ตามอง



เอ็นดูเลยเงยมองคนตัวสูงที่นั่งอยู่ข้างๆ บ้าง ทรงโปรดพาดแขนโอบไหล่แคบ ระยะใกล้ชิดกันขนาดนี้สาบานสิว่าคุณชายทรงโปรดมองไม่เห็น...ว่าเอ็นดูกำลังเสิร์ชหาอะไรในโทรศัพท์ทั้งๆ ที่เขาก็ชะโงกหน้ามอง



“ผมบอกคุณแล้วใช่มั้ยครับ”



“อือ...” เขาครางรับ “บอกว่าอะไร?”



แล้วก็ทำเป็นแกล้งลืม



“พรุ่งนี้ผมต้องไปงานเลี้ยงกับคุณแม่ไงครับ”



“อือ”



“แล้วคุณมาทำแบบนี้ได้ยังไง” นิ้วชี้ลำคอขาวที่มีรอยช้ำตัดสีผิวขาวๆ



เอ็นดูไม่รู้ว่าคนปกติชอบทำรอยบนตัวตรงจุดไหนบ้าง แต่หม่อมราชวงศ์ทรงโปรดไม่ทำแค่ที่คอ เขากลับเพิ่มรอยที่สันกรามด้านขวา ใต้คาง และจุดใกล้ๆ ติ่งหู แถมยังมีอีกสาม-สี่รอยที่เห็นชัดตรงลำคอจนเอ็นดูไม่รู้แล้วว่าจะหาวิธีอะไรมาปกปิดได้



โทษทรงโปรดคนเดียวไม่ถูกหรอก



เพราะเอ็นดูเต็มใจให้ทำรอยไว้เอง



รอยพวกนี้มันกระทบกันชีวิตประจำวันของเอ็นดูพอสมควร เพราะอย่างวันนี้ที่ไปเรียน เอ็นดูก็ถูกมองด้วยสายตาแปลกๆ ถูกมองจนทนไม่ไหวเลยต้องกลั้นใจหยิบผ้าพันคอที่เตรียมไว้ขึ้นมาพันรอบลำคอ



แล้ววันพรุ่งนี้เอ็นดูต้องไปงานเลี้ยงกับคุณแม่ ถึงจะแต่งตัวเรียบร้อย ใส่สูทผูกเนกไท แต่เชื่อเถอะ...ยังไงก็เห็นรอยจูบอยู่ดี



“ไม่เห็นเป็นไรเลย ใครๆ เขาก็รู้ทั้งนั้นว่าเราจะหมั้นกับพี่เดือนหน้า”



“หมั้นแล้วเกี่ยวอะไรกับรอยครับ”



คุณชายตัวสูงหัวเราะจนไหล่สั่น



“พรุ่งนี้คนต้องมองเยอะแน่ๆ เลย”



“ไม่ต้องไปไง”



“ครับ?”



“บอกคุณแม่ดีๆ ว่าเราไปไม่ได้ ท่านไม่บังคับหรอก”



“คุณพูดง่าย”



“คุยให้มั้ยล่ะ”



“คุยกับคุณแม่ยังไงก็ได้ครับ แต่กับคุณหญิงป้า...”



“อือ นั่นแหละ เดี๋ยวคุยให้”



ทรงโปรดไหวไหล่ ทุกอย่างที่เขาพูดออกง่ายดูง่ายดายไปหมด แต่เอาเถอะ...เอ็นดูก็ไม่อยากไปงานเลี้ยงทั้งที่ตัวเองยังไม่พร้อมแบบอยู่แล้ว เลยพยักหน้ายอมให้ทรงโปรดจัดการเรื่องงานของเย็นพรุ่งนี้แทน



“แต่ที่หลังอย่าทำแบบนี้อีกนะครับ”



“อย่าทำอะไร” คนตัวสูงเอียงหน้าถาม เลิกคิ้วเหมือนไม่รู้ว่าตัวเองทำอะไรไว้บ้าง เอ็นดูเลยชี้นิ้วไปที่รอยอีกครั้ง หน้ามุ่ยเปล่งเสียงอ้อมแอ้มบอกเขา



“ห้ามทำรอยที่คออีกนะครับ”



“อือ...” หม่อมราชวงศ์ทรงโปรดจ้องเอ็นดูด้วยสายตาเจ้าเล่ห์ เป็นสายตาที่เอ็นดูเกลียดที่สุดเลย



เกลียดแต่ก็...รู้สึกดีที่ถูกมองแบบนี้



“นี่คุณ ไม่ต้องมาทำหน้าแบบนี้เลย ห้ามก็คือห้ามนะครับ”



“ได้ เดี๋ยวไปทำที่อื่นแทน”



!!!



“บนตัวเรามีพื้นที่ให้ฝากรอยอีกเยอะ”



“คุณ!”



เอ็นดูร้องเสียงหลงเมื่อถูกร่างสูงขึ้นคร่อม และสุดท้ายก็พ่ายแพ้ตอนที่จมูกโด่งฝังลงบนแก้มกลม



เอ็นดูเบื่อเขาที่สุดเลย



เบื่อที่ชอบมาทำให้รู้สึกตัวร้อนหน้าแดง เขินตัวม้วน



เบื่อที่ควบคุมความรู้สึกของตัวเองไม่ได้สักครั้งที่อยู่ใกล้เขา



เบื่อที่เผลอไผลไปกับจูบหวานฉ่ำของหม่อมราชวงศ์ทรงโปรด เบื่อ...แต่ก็โหยหาแต่อ้อมกอดของเขาเพียงคนเดียว ดูย้อนแย้งดี แต่...อือ เอ็นดูเป็นแบบนั้นแหละ





*****





 

[แล้วนี่คุณได้กินข้าวหรือยังครับ]



“ทำธุระก่อน เดี๋ยวแวะกินใกล้ๆ คอนโด”



[คุณ มันไม่ได้สำคัญขนาดนั้นนะครับ กินข้าวก่อนแล้วค่อยไปหาคุณแม่ก็ได้]



“พี่มาถึงแล้ว ถึงเวลานัดพอดีด้วย”



[ทำไมไม่บอกก่อนล่ะครับ ผมนึกว่าคุณจะโทรไปคุยซะอีก]



ทรงโปรดอมยิ้มให้กับเสียงงุ้งงิ้งของน้องที่ดังผ่านโทรศัพท์ เขากำลังนึกภาพตามเสียง ป่านนี้เอ็นดูคงจะทำหน้ามุ่ยปากยู่อยู่แน่ๆ



ก็เขาเล่นบุกมาถึงโรงแรมที่คุณแม่ของน้องพักอยู่นี่น่ะสิ



“แค่นี้ก่อนนะเอ็นดู คุณแม่เรามาแล้ว”



[อ่า โอเครับ]



ทรงโปรดไม่ได้กดตัดสายแต่เขาเก็บโทรศัพท์ใส่ไว้ในกระเป๋ากางเกงในตอนที่ร่างเพรียวสง่างามเดินตรงมาทางเขา ทรงโปรดยกมือไหว้อดีตนางงามที่ฉีกยิ้มมาแต่ไกล



ดอกไม้ช่อใหญ่ที่ทรงโปรดตั้งใจเลือกถูกยื่นให้คุณแม่ของน้อง มันเป็นกุหลาบขาวที่ทรงโปรดขับรถวนหาแทบทั่วทั้งกรุงเทพฯ เพื่อเอามาเยี่ยมผู้ใหญ่ ใช่ มันคือดอกกุหลาบที่อดีตนางงามอย่างคุณแอ้ นภัสรา วงศ์ประดิษฐ์ เคยให้นิยามไว้บนเวทีการประกวด Miss Universe ที่อเมริกาเมื่อหลายสิบปีก่อน



คุณแม่น้องเอ็นดูยิ้มกว้าง ดวงตาคู่สวยมองกุหลาบขาวในมือหม่อมราชวงศ์ทรงโปรดก่อนยื่นมือออกไปรับ



“ขอบใจจ้ะชายโปรด เวลาเห็นดอกกุหลาบแม่นึกถึงตอนที่ยืนอยู่บนเวทีตลอดเลย”



อดีตนางงามจูบดอกกุหลาบเบาๆ “แต่มันก็ย้ำให้รู้ว่าแม่แก่แล้ว”



“ไม่เลยครับ คุณแม่ยังดูสวยอยู่ตลอดเวลา”



“ปากหวานจริงนะชายโปรด...ว่าแต่มาหาแม่ถึงโรงแรมมีเรื่องอะไรหรือเปล่าคะ”



“เรื่องน้องครับ” ทรงโปรดผายมือให้คุณแม่ของน้องนั่งลงบนโซฟา “พรุ่งนี้เอ็นดูไม่สะดวกไปงานเลี้ยงครับคุณแม่”



“ทำไมล่ะจ๊ะ เอ็นดูมีปัญหาอะไรหรือเปล่า”



ตั้งแต่มาถึงกรุงเทพฯ คุณนภัสราก็ยังไม่ได้ไปหาลูกชายสุดที่รักเพราะมัวแต่ยุ่งเรื่องที่พักและต้องคอยดูแลคุณหญิงลักขณาที่อยากจะซื้อชุดราตรีใหม่ทั้งๆ ที่ชุดเดิมสั่งตัดเสร็จแล้ว เลยต้องเหนื่อยไปเดินห้างเป็นเพื่อนพี่สาวของสามี แถมยังไม่ได้อะไรติดมือกลับมาเพราะหม่อมราชวงศ์ลักขณาเกิดเปลี่ยนใจอยากใส่ชุดเดิม



“น้องไม่สะดวกครับคุณแม่”



“อืม...ไม่พร้อมยังเอ่ย ไม่สบายหรือว่า...”



“น้องไม่สะดวกออกงานเพราะร่างกายไม่พร้อมครับ” ทรงโปรดสบตาเรียวสวยของอดีตนางงามที่นั่งทำหน้าลุ้นว่าเขาจะพูดอะไรออกมา



เธอถอนหายใจก่อนยกมือขึ้นตบบ่าหม่อมราชวงศ์ทรงโปรด ชายหนุ่มคลี่ยิ้มเมื่อคุณแม่ของน้องส่งสายตาเหมือนคนรู้กัน



“มีอะไรพูดกับแม่ตรงๆ ได้เลยจ้ะชายโปรด”



“ผมกับน้องเล่นกันแรงไปหน่อยครับ”



“...”



“เอ็นดูกลัวว่าถ้าไปงานเลี้ยงทั้งๆ ที่ตัวยังมีรอย...กลัวจะถูกคนอื่นมองไม่ดีครับ”



คุณชายทรงโปรดสังเกตอาการของผู้หญิงตรงหน้า คุณแม่ของน้องนั่งนิ่งแถมแก้มสองข้างยังขึ้นสีแดงอีกต่างหาก ท่านเม้มปากสีแดงสดเล็กน้อย กระแอมไอก่อนยกมือพัดลมใส่หน้าเบาๆ



“โอเคจ้ะ แม่เข้าใจวัยรุ่น”



“ขอบคุณครับ” หม่อมราชวงศ์ทรงโปรดยกมือไหว้



“ไม่ไปงานเลี้ยงก็ไม่เป็นไรจ๊ะ...ไว้เดี๋ยวแม่จะโทรคุยกับน้องอีกที”



“ผมต้องบอกคุณหญิงป้าด้วยมั้ยครับ”



“ไม่เป็นไรๆ เดี๋ยวแม่จัดการให้เอง ดีแล้วที่ชายโปรดมาบอกตรงๆ...แม่จะได้เบาใจ ตอนแรกก็นึกว่าเอ็นดูไม่สบายแล้วงอแงไม่ยอมไปหาหมอซะอีก” อดีตนางงามกลั้นยิ้มเขิน เธอตีความคำว่าเล่นของทรงโปรดออก



เช่นเดียวกับทรงโปรดที่นั่งคลี่ยิ้มก่อนเหลือบมองกระเป๋ากางเกงที่สั่นรัวเพราะโทรศัพท์ เขาเลยล้วงมือหยิบมันออกมาดูแบบผ่านๆ แล้วก็ต้องระบายยิ้มกว้างเมื่อเห็นว่าต้นเหตุที่ทำให้โทรศัพท์สั่นก็คือลูกชายของคุณนภัสรานี่เอง



N-Doo: คุณ เป็นยังไงบ้างครับ

N-Doo: ตอนนี้ฝนตกหนักนะครับ เมื่อกี้ผมออกมาดูหน้าคอนโด เหมือนน้ำจะท่วมด้วย

N-Doo: ถ้าเกิดว่าที่โรงแรมน้ำท่วมเหมือนกัน คุณให้ผมไปรับได้นะครับ

 

“ถ้าอย่างนั้นผมขอตัวกลับก่อนนะครับ”



“เชิญจ้ะๆ ขับรถดีๆ นะชายโปรด”



“ขอบคุณครับคุณแม่” ทรงโปรดยกมือไหว้คุณนภัสราอีกครั้งก่อนเก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋ากางเกงเหมือนเดิม



“ฝากเอ็นดูด้วยนะชายโปรด แม่มีลูกชายคนเดียว”



“ครับคุณแม่ ผมจะดูแลน้องอย่างดีเลยครับ”



เรื่องดูแลเอ็นดูเนี่ย ไว้ใจเขาได้เลย

 

“คุณแม่แค่โทรมาถามครับว่าโอเคดีหรือเปล่า...นี่คุณไปคุยกับคุณแม่ว่ายังไงเหรอครับ”



[คุยแบบที่ผู้ใหญ่คุยกัน]



เอ็นดูทำยู่ปากใส่คนที่นอนยิ้มให้ผ่านหน้าจอโทรศัพท์ หม่อมราชวงศ์ทรงโปรดเพิ่งเคลียร์งานเสร็จเลยมานั่งๆ นอนๆ อยู่บนเตียง ตอนแรกก็โทรคุยกันดีๆ อยู่หรอก แต่รายนั้นงอแงอยากเห็นหน้าเอ็นดู เขาเลยต้องยอมเปิดกล้องทั้งที่ยังแปรงฟันไม่เสร็จเลยด้วยซ้ำ



เอ็นดูเดินออกจากห้องน้ำหลังจากที่จัดการเรื่องสุขภาพปากของตัวเองเสร็จแล้ว มือนุ่มขยับผ้าขนหนูผืนขาวที่วางอยู่บนศีรษะเบาๆ ซับเอาน้ำออกจากเส้นผมสีน้ำตาล



[อย่าทำหน้างอสิ]



“ดูคุณตอบสิครับ”



ทรงโปรดหัวเราะกลั้ว...ไม่รู้ว่าเป็นโรคจิตหรือไงถึงได้ชอบแกล้งเอ็นดู



[บอกคุณแม่เราไปว่าพี่เล่นกับเราแรงไปหน่อย]



“เล่นอะไรครับ”



“เล่นจ้ำจี้”



“นี่คุณ…อย่าพูดเล่นนะครับ” ขมวดคิ้วแน่นเมื่อทรงโปรดหลับตาแถมมุมปากยังยกยิ้มกรุ่มกริ่ม



[ไม่ได้พูดเล่น]



ยืนอมลมจนแก้มป่อง เอ็นดูอยากจะตัดสายทิ้งแล้ววิ่งไปร้องไห้ใส่หมอนตอนนี้เลยจริงๆ หน้าตาของทรงโปรดบ่งบอกว่าเขาไม่ได้พูดเล่นเลยสักนิด



คนผิวขาวเลยรีบวิ่งเข้าห้องแล้วล้มตัวลงบนเตียง เอ็นดูก้มหน้าซุกหมอนใบใหญ่  ร้องฮือออกมาเมื่อได้ยินเสียงหัวเราะของคนในสาย



ตั้งแต่คุยกันมา...หม่อมราชวงศ์ทรงโปรดไม่เคยโกหกเอ็นดูเลยสักครั้ง เขาขี้แกล้ง เจ้าเล่ห์ก็จริง แต่ทรงโปรดไม่เคยหลอกหรือยกเรื่องไม่จริงอะไรมาคุยกัน ใช่ เอ็นดูเชื่อเลยแหละว่าสิ่งที่เขาพูดเมื่อกี้คือความจริง



ในขณะที่เอ็นดูแทบดึงหูฟังออกเพราะไม่อยากได้ยินเสียงของเขาแล้ว คุณชายทรงโปรดกลับหัวเราะชอบใจที่เห็นคนผิวขาวดีดดิ้นตีขาอยู่บนที่นอน



อยากจะบ้าตายเพราะเขาแล้วเนี่ย : (



[คืนนี้จะนอนหลับมั้ยเรา]



“นอนไม่หลับเพราะคุณนั่นแหละ”



[ให้ไปกล่อมมั้ย]



อือ ดีจริงๆ



หม่อมราชวงศ์คนชอบฉวยโอกาสยิ้มกริ่มใส่กล้อง ไม่พอแค่นั้น...เขายังเลียริมฝีปากเหมือนเสือที่รอให้กระต่ายผงกศีรษะตกลง แต่ไม่ เอ็นดูไม่มีวันปล่อยให้เขามาทำอะไรแบบนั้นอีกแน่นอน



“คุณควรไปนอนได้แล้วนะครับ”



[ช่วยหน่อยสิ]



“ช่วยอะไรเหรอครับ”



เสียงทุ้มเปล่งออกมาเหมือนรำคาญอะไรบางอย่าง เอ็นดูเงยหน้ามองใบหน้าหล่อเหลาครบเครื่อง คนผิวขาวขมวดคิ้วเล็กน้อย ลืมเรื่องแสบๆ ที่คุณชายทรงโปรดทำไว้เมื่อกี้ไปเลย



[เดี๋ยวแคปให้ดู]



“ครับ”



ไม่ถึงหนึ่งนาทีก็มีข้อความของคุณชายทรงโปรดส่งเข้ามา เอ็นดูกดสลับโหมดให้ขึ้นหน้าแชต พลางไล่สายตาอ่านช้าๆ ก่อนจะกดเข้าไปยังโหมดวิดีโอคอลล์เหมือนเดิม



 

จอมภพPP: มีเมียแล้วลืมเพื่อนเหรอมึง @Prod

จอมภพPP: มาหาเพื่อนบ้างดิวะ @Prod

Peach: ไอ้หม่อม คืนนี้ที่ร้านคนไม่เยอะ

Peach: มานั่งคลายเครียดบ้างก็ได้

 



“เพื่อนคุณคงคิดถึงคุณมาก”



เอ็นดูคลี่ยิ้มพลางหัวเราะ...คนตัวสูงที่อยู่ในสาย ส่งหน้าแชตในไลน์กลุ่มที่มีแต่เพื่อนสนิทกำลังคุยกันเรื่องการหายตัวไปจากผับของหม่อมราชวงศ์คนนี้ตั้งแต่มีว่าที่คู่หมั้น เอ็นดูเห็นว่าก่อนหน้าแชตนั้นพี่จอมภพกับพี่พีช...กระหน่ำแชตรุมทรงโปรด ตามตัวให้เขาไปนั่งเล่นที่ผับ



“ทำไมคุณไม่ไปหาเพื่อนบ้างล่ะครับ”



จำได้ว่าล่าสุดพี่พีชก็เพิ่งมาหาทรงโปรดถึงเพนต์เฮ้าส์ แต่เจ้าของห้องกลับเอาแต่คุยกับเอ็นดู แถมยังหนีเพื่อนมาหาเขาถึงห้องอีกต่างหาก



ป่านนี้เพื่อนงอนแย่แล้วมั้ง



[ถ้าพี่ไปเราจะโอเคเหรอ]



“...”



[แค่คราวก่อนพี่ก็เข็ดแล้ว ไม่อยากโดนเรางอนใส่อีก]



งอนเพราะรู้ว่ามีผู้หญิงเข้าใกล้ต่างหาก



ไม่ได้งอนเพราะไปผับสักหน่อย…



[นอนอยู่ในห้องคุยกับเราสบายกว่าไปนั่งหลังแข็งที่นั่นตั้งเยอะ]



“แต่เมื่อก่อนคุณก็ไปทุกวันไม่ใช่เหรอครับ”



[รู้ได้ไง]



“มีคนบอกมาครับ”



[ตอนนี้เลิกแล้ว มีเมียเป็นตัวเป็นตนแล้ว]



ตุบ



ไม่น่านอนหงายแล้วยกโทรศัพท์ขึ้นสูงๆ เลย เพราะตอนที่เสียงทุ้มนุ่มพ่นประโยคเมื่อกี้ออกมา เอ็นดูก็ถึงกับมือไม้อ่อนเผลอปล่อยโทรศัพท์หล่นโดนจมูกเต็มๆ



[เอ็นดู เขินเหรอ]



มือขาวหยิบโทรศัพท์ที่หล่นอยู่ข้างตัวขึ้นมา น้องยู่ปากทำหน้ามุ่ยใส่คนที่นึกจะพูดอะไรก็พูด แล้วแต่ละอย่างที่เขาพูดออกมาน่ะ มีแต่ทำให้หัวใจของเอ็นดูเต้นรัว



“เปล่าครับ...ผมง่วงแล้ว” เลยอ้อมแอ้มตอบ กลอกตาเลิ่กลั่กเพราะไม่กล้าสบกับตาคมของเขา “ถ้าคุณจะไปหาเพื่อนก็ไปเถอะครับ ผมไม่งอนหรอก”



บอกเอาไว้ให้ทรงโปรดรู้ว่าเอ็นดูไม่ใช่คนที่งอนพร่ำเพรื่อ



เอ็นดูไม่ได้อยากเป็นเจ้าของชีวิตของหม่อมราชวงศ์ทรงโปรดเลยสักนิด เอ็นดูให้อิสระทรงโปรดเต็มที่ เหมือนกับที่ทรงโปรดให้เอ็นดู



[อือ ไม่ไปหรอก]



“คลายเครียดบ้างก็ได้นะครับ ทำงานหนักมาทั้งวันแล้วนี่ครับ”



แถมยังอยู่ดูแลเอ็นดูในช่วงที่ไม่สบายตัวอีกต่างหาก



[คุยกับเรานี่แหละคลายเครียด]



“คุณคลายเครียดเพราะได้แกล้งผมต่างหาก”



[อยากให้พี่ไปเหรอ]



“...ก็ เพื่อนคุณคิดถึงนี่นา ไม่อยากให้คุณคิดว่าผมบังคับไม่ให้คุณไปนะครับ”



[เราไม่ได้บังคับ]



“...”



[ที่ไม่ไปเพราะกลัวเราไม่สบายใจจริงๆ]



“แสดงว่าคุณอยากไปใช่มั้ยครับ”



คุณชายทรงโปรดหัวเราะ



[เราไปกับพี่มั้ยล่ะ]



“จะให้ผมไปทำอะไรครับ ผมไม่ได้ดื่มสักหน่อย”



[พาเมียไปอวดเพื่อน]



ขอซื้อได้มั้ยคำนี้



“ล้อเล่นกับผมอีกแล้ว”



[พูดจริง]



“เฮ้อ”



[ไปมั้ย]



“คุณอยากไปก็ไปสิครับ ชวนผมไปด้วยหมดสนุกพอดี”



[เราไปด้วยน่าจะสนุกกว่า]



“...”



[พี่จะได้อุ่นใจด้วย]



คนตื๊อเก่งทำหน้าออดอ้อนตามสไตล์คนเจ้าชู้ที่ใช้สายตากับสีหน้าแบบนี้หลอกสาวขึ้นเตียง อ้อ อย่างหม่อมราชวงศ์ทรงโปรดทำสีหน้าแบบไหนสาวๆ ก็คงพร้อมพุ่งเข้าใส่อยู่แล้วแหละ



ดูเขาแพรวพราว เสน่ห์แรงขนาดนั้น



แต่เอาจริงๆ นะ พอคิดถึงเรื่องสาวๆ ทีไรหัวใจของเอ็นดูก็ระอุเป็นไฟทุกที



คนผิวขาวกัดริมฝีปากอวบอิ่มอีกครั้ง ดวงตาคู่สวยที่นัยน์ตาฉ่ำน้ำสบกับตาคมผ่านหน้าจอโทรศัพท์ เอ็นดูเห็นว่าทรงโปรดเลิกคิ้ว มุมปากยกยิ้มรอคำตอบของเอ็นดู



“ไปก็ได้ครับ แต่คุณอย่าแต่งตัวหล่อมากนะ”



[ทำไม...หวงเหรอ]



“ครับ หวง”



[เปลี่ยนใจไม่ไปผับแล้วได้มั้ย ไปอยู่กับเราที่ห้องน่าจะมีเรื่องให้สนุกเยอะกว่าอีก]



เอ็นดูก้มหน้างุด ส่ายหน้าไม่รู้ไม่ชี้ ไม่รับผิดชอบคำพูดของตัวเองแล้ว



ก็เขาอยากดูดีมากเกินไปทำไมล่ะ

















#ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี









 

 

หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ตอน 13 - up 19.9.61
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 19-09-2018 16:17:49
เกลียดคุณชายโปรดจริง ๆ ชอบแกล้งน้องให้เขินแบบนี้ได้ไงค่ะ ปล่อยให้น้องได้พักหายใจหายคอบ้างค่ะคุณชายโปรดดดดดด
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ตอน 13 - up 19.9.61
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 19-09-2018 16:19:20
แต่งเลยค่ะจะหมั้นไปทำไม
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ตอน 13 - up 19.9.61
เริ่มหัวข้อโดย: k00_eng^^ ที่ 19-09-2018 18:42:45
เขินแทนน้องเลยอ่ะ
คุณชายโปรดขี้แกล้ง
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ตอน 13 - up 19.9.61
เริ่มหัวข้อโดย: songte ที่ 19-09-2018 21:06:30
หวานกันเว่อวังจริงๆเลย อิจจนตาร้อนไปหมดแล้ว
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ตอน 13 - up 19.9.61
เริ่มหัวข้อโดย: O-RA DUNGPRANG ที่ 19-09-2018 21:46:26
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ตอน 13 - up 19.9.61
เริ่มหัวข้อโดย: catka12 ที่ 19-09-2018 22:16:25
 :hao6: ใช่ค่ะ...อยู่ห้องกับน้องน่าจะสนุกสมใจกว่า  :hao7:  :hao7:  :hao7:   :hao6:  :hao6:  :hao6:   o13
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ตอน 13 - up 19.9.61
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 20-09-2018 08:24:39
 :pig4: :pig4: :pig4:

ไม่น่าเชื่อว่าชายโปรดจะเปลี่ยนไปได้มากขนาดนี้

ถึงกับหักดิบการไปเที่ยวผับแทบทุกคืนอย่างเมื่อก่อนได้เนี่ย
หัวข้อ: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ตอน 14 - up 20.9.61
เริ่มหัวข้อโดย: Swanlee ที่ 20-09-2018 09:03:30






14



เอาจริงๆ นะ

คุณทำให้ตาคู่นี้ของผม...มองอย่างอื่นไม่ได้นอกจากคุณ

 







คุณชายทรงโปรดในคราบไม่แตะแอลกอฮอล์ แต่นั่งกอดไหล่ว่าที่คู่หมั้นใช้ตาคมดุๆ จ้องพวกที่มองกระต่ายในอ้อมกอดทำเอาพีชกับจอมภพแทบสำลักน้ำ แทบดื่มแอลกอฮอล์ไม่ลง



นี่สรุปชวนเพื่อนมาผับเพื่อนั่งดูมันสวีทกับแฟนสองคนเหรอวะ



ไม่รู้หรอกว่าเป็นแฟนกันหรือยัง เพราะเวลาที่หม่อมราชวงศ์ทรงโปรดหลุดปากเรียกว่าเมียออกมาแต่ละทีเนี่ย เจ้าคนผิวขาวตัวดูนุ่มนิ่มก็หันมาตีไหล่กว้างของทรงโปรดทุกครั้ง



เอ้อ เมียกับแฟนมันไม่เหมือนกันนี่หว่า



“ถ้ากูไม่ได้ตาฝาด มึงเห็นรอยจ้ำๆ ที่คอน้องมั้ยวะB1” จอมภพเอาศอกสะกิดแขนเพื่อนที่เป็นเจ้าของสถานบันเทิง



“แสงมันนัวๆ อ่ะ แต่จากประสบการณ์กูว่าชัวร์”



“ว้าว...” จอมภพตาโตยกมือปิดปาก ทำตัวเป็นสาวน้อยที่ไม่ประสาเรื่องแบบนี้



ถึงเสียงเพลงในผับจะดังกลบเสียงคุยกันของจอมภพกับพีช แต่ปากที่ขยับอยู่นั่นน่ะ ไม่พ้นสายตาทรงโปรดหรอก



นี่ก็ไม่รู้ว่าคิดถูกหรือเปล่าที่ชวนน้องออกมานั่งเป็นเพื่อนเพื่อให้อีกฝ่ายสบายใจว่าเขาไม่ได้เหลวไหล จากที่น้องต้องคอยหวงคอยดูว่าจะมีสาวๆ เข้าหาหรือเปล่า กลายเป็นว่าเขาเองนี่แหละที่ต้องตาหึงตามหวงจนหน้าหงิก



เอ็นดูนี่โคตรดึงดูดผู้ชายเจ้าชู้เลยจริงๆ



ถึงแม้ว่าทรงโปรดจะโอบจะกอดน้องไว้ แต่ไอ้พวกเจ้าชู้ทั้งหลายก็ยังไม่เลิกส่งสายตาหวานเยิ้มให้เอ็นดูอยู่ดี



หม่อมราชวงศ์ทรงโปรดแทบอยากพาน้องกลับบ้านตอนนี้เลยด้วยซ้ำ



แล้ววันนี้เอ็นดูก็ดันใส่เสื้อคอกว้างที่เห็นไหล่ขาวๆ หมิ่นเหม่ ถูกใจไอ้พวกผู้ชายเลยแหละ มองกันตาเป็นมัน...สงสัยเหมือนกันว่าน้องไม่อายรอยที่คอแล้วหรือไง



หรือจงใจใส่เสื้อคอกว้างยั่วเขากันแน่



“กลับเลยมั้ย”



“เบื่อแล้วเหรอครับ”



สลับกันไปหมด



เอ็นดูต้องถามเขาสิ ว่ากลับเลยมั้ย ส่วนเขาก็ต้องถามกลับไปว่าเบื่อแล้วเหรอ แต่นี่กลายเป็นคนตัวสูงที่เริ่มถามเอง ดูเอาเถอะว่าเขามันขี้หึงขนาดไหน



“อือ เบื่อแล้ว”



“อ่า...เพราะว่าไมได้ดื่มหรือเปล่าครับ...เลยเบื่อ” เอ็นดูโน้มตัวหยิบขวดไวน์แล้วรินใส่แก้ว แต่น้องไม่ระวังตัวเลย ก้มทีคอเสื้อก็กว้างๆ ก็โหว่ลึกเห็นอกขาวปลั่งเหมือนน้ำนม เดือดร้อนคุณชายทรงโปรดต้องรีบรวบคอเสื้อแนบอกน้อง



“เอ็นดู พี่ไม่ดื่ม”



“ของชอบไม่ใช่เหรอครับ”



“ถ้าเมาแล้วใครจะขับรถกลับ”



“ผมไง”



แวบหนึ่งที่เห็นรอยยิ้มจากมุมปากคนผิวขาว เหมือนเอ็นดูพึงพอใจที่เห็นคนโตกว่ามีอาการร้อนๆ หนาวๆเพราะความยั่วเก่งของน้อง...ทรงโปรดหรี่ตาลง เอียงหน้ามองคนที่กำลังก้มหน้าก้มตารินไวน์ให้



เขาขยับตัวเข้าใกล้น้องมากกว่าเดิม โน้มหน้าลงตามอีกฝ่าย ใช้จมูกโด่งคลอเคลียแก้มขาวจนน้องเอียงหน้าหนี



“จะมอมเหล้าพี่เหรอ”



น้องตัวโคตรหอม...เขาถึงได้เผลอรังแกจนน้องแทบช้ำ



“ขี้แกล้งนะเรา”



“แกล้งอะไรครับ” ยังทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ แต่กลั้นยิ้มซะขนาดนั้น



“เอ็นดู ระวังจะไม่ได้นอนนะ”



“อะไรของคุณครับเนี่ย ผมอยู่เฉยๆ นะครับ”



คนผิวขาวเบี่ยงตัวออกจากแขนแกร่ง หนีจมูกโด่งที่คอยแต่จะฝังลงบนแก้มกับซอกคอตลอดเวลา หม่อมราชวงศ์ทรงโปรดรุ่มร่ามมาก มือไม้ของเขาอยู่ไม่สุขเลยสักนิด



“เฮ้ยยยย สนใจเพื่อนหน่อยดิวะ”



“มีเมียแล้วลืมเพื่อนเหรอไอ้หม่อม”



เสียงแซวของจอมภพกับพีชทำเอาเอ็นดูต้องก้มหน้างุดหลบสายตาที่สองคนนั้นส่งมาหยอกล้อ ส่วนหม่อมราชวงศ์ทรงโปรดน่ะเชิดหน้าตั้งแล้ว เขาดูภูมิใจเหลือเกินที่โดนเพื่อนแซวแบบนั้น



“ดื่มไปเลยนะคุณ...เลิกทำหน้าแบบนี้ด้วย”



หลังมือขาวกระแทกบนอกแกร่ง น้องช้อนตามองค้อนหม่อมราชวงศ์ทรงโปรด



“สรุปเราจะมอมพี่จริงๆ ใช่มั้ย”



“ดื่มไปเถอะครับ”



แก้เขินด้วยการบังคับให้เขาดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งแน่นอนว่ามันเข้าทางทรงโปรดอยู่แล้ว...แต่เขากลับส่ายหน้าปฏิเสธ วันนี้เขาไม่อยากแตะแอลกอฮอล์จริงๆ



“ดื่มแทนพี่สิ”



“อะไรล่ะคุณ ไม่ใช่ของชอบผมสักหน่อย”



“แล้วทำไมคะยั้นคะยอให้พี่ดื่ม”



กระชับแขนรั้งเจ้าคนน่ารักเข้ามากอดไว้แน่นจนเพื่อนสองคนที่นั่งมองอยู่ห่างๆ เบือนหน้าหนีพร้อมกัน



“เห็นคุณทำหน้าบึ้ง เลยคิดว่าหงุดหงิดที่ไม่ได้ดื่ม...”



ทรงโปรดส่ายหน้าปฏิเสธ “พี่หน้าบึ้งเพราะมีแต่คนมองเรา...ถามจริงนะเอ็นดู”



“...”



“เก็บความน่ารักไว้ให้พี่ดูคนเดียวไม่ได้เหรอ”



น้องขมวดคิ้วพลางอมยิ้ม หรี่ตามองคนที่ชักจะงอแงไปกันใหญ่ก่อนหลุดหัวเราะออกมาเมื่อทรงโปรดก้มหน้าวางคางไว้บนไหล่ของเอ็นดู



น้องส่ายหน้า ใช้มือขวาบีบมือหนาเบาๆ ส่วนมือซ้ายยกขึ้นลูบท้ายทอยของคนตัวสูง ปลอบคุณชายตัวโตที่มีนิสัยขี้หึงขี้หวงมากเกินไปแล้ว



“งั้นกลับเลยมั้ยครับ”



“อือ กลับเลย”



“แต่คุณยังไม่ได้คุยกับเพื่อนเลยนี่นา”



“มาให้พวกมันเห็นหน้าก็พอแล้ว”



“อย่างนี้ก็ได้เหรอครับ”



“ได้สิ”



ทรงโปรดหลับตาลงพลางผ่อนลมหายใจรดลำคอที่มีกลิ่นหอมหวาน นี่ขนาดเขากอดน้อง แสดงความเป็นเจ้าของขนาดนี้...ไอ้พวกผู้ชายเจ้าชู้ยังมองกันอยู่เลย



หวงจริงๆ ว่ะ

ไม่อยากให้ใครเห็นเอ็นดู ไม่อยากให้เอ็นดูเห็นใคร



ยอมรับว่าตลอดเวลาที่ผ่านมาคุณชายทรงโปรดไม่เคยหึงหวงใครเท่านี้มาก่อน ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมแล้วสุดท้ายถึงได้มาสยบแทบเท้าให้กับคนตัวนุ่มในอ้อมกอด



หรือเขาจะเป็นเสือสิ้นลายแล้วจริงๆ



หม่อมราชวงศ์ทรงโปรดเคยได้ยินที่พวกผู้ใหญ่ชอบพูดกัน...คนเจ้าชู้อย่างเขา ถ้าได้เจอของจริงเข้าสักวันคงตกหลุมจนหาทางออกไม่ได้



อือ น้องนั่นแหละคือของจริงที่เขาเจอ







*****







เอ็นดูมองตัวเองในกระจกหลังจากที่ถูกจับให้มานั่งเป็นตุ๊กตาราวสองชั่วโมงแล้ว ขัดใจกับเส้นผมสีน้ำตาลที่ปรกหน้า แม้ว่าจะถูกเซ็ตด้วยไดร์เป่าผมแล้วก็ตาม...แต่ผมที่ยาวขึ้นกว่าเดิมมันก็ทิ่มเปลือกตาอยู่ดี



หนีงานเลี้ยงสังสรรค์ได้ แต่คราวนี้หนีงานแต่งไม่ได้จริงๆ



เป็นงานแต่งครั้งที่สามของเพื่อนคุณหญิงลักขณา เอ็นดูจำได้ว่าเมื่อสิบปีก่อนตัวเองก็เพิ่งไปงานแต่งของคุณหญิงคนนี้มาครั้งหนึ่งแล้ว



“เรียบร้อยค่ะน้องเอ็นดู”



“ขอบคุณครับ”



“ผิวน้องเอ็นดูนุ่มมากๆ เลยนะคะ เด้งๆ เต่งตึงยิ่งกว่าพวกดาราอีก”



คนถูกชมยิ้มแหย ไม่ใช่อะไรหรอก ก็พี่เขาดันพูดประโยคนี้เป็นรอบที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้ตั้งแต่ที่จับใบหน้าของเอ็นดู พี่ตุ๊กติ๊กเป็นสาวประเภทสอง มีอาชีพเป็นช่างแต่งหน้าชื่อดังของเมืองไทยที่หม่อมราชวงศ์ลักขณาจ้างให้มาแต่งหน้าทำผมไปงานแต่ง



“พี่ขอถามหน่อยได้มั้ยคะ...น้องเอ็นดูมีแฟนแล้วใช่มั้ย”



“เอ่อ...ทำไมเหรอครับ”



คนถูกถามมองหน้าช่างแต่งหน้าผ่านกระจกด้วยสายตาเลิ่กลั่ก แต่แล้วพี่ตุ๊กติ๊กก็ต้องรีบเบิกตากว้าง รีบเม้มปากก่อนก้มหัวโค้งตัวให้เอ็นดู



“ขอโทษค่ะน้องเอ็นดู พี่มันปากเสียละลาบละล้วงเกินไป” พี่ตุ๊กติ๊กตบปากตัวเองจนเอ็นดูต้องยกมือห้าม



“ไม่เป็นไรครับพี่ตุ๊กติ๊ก ผมไม่ได้ถือสาอะไรเลยครับ”



“ไม่โกรธพี่ใช่มั้ยคะ”



เอ็นดูส่ายหน้า ส่งยิ้มกว้างให้พี่ตุ๊กติ๊ก “ไม่โกรธครับ”



“คือว่าาาา ตรงนี้อ่าาาา” นิ้วชี้พี่ตุ๊กติ๊กจิ้มลงบนท้ายทอยของเอ็นดู พี่เขาอมยิ้มเขิน บิดตัวกระสับกระส่ายไปมา “พี่กลบรอยคิสมาร์กให้น้องเอ็นดูที่ท้ายทอยแล้วนะคะ คึคึคึคึ”



พี่ตุ๊กติ๊กเดินหนีไปพร้อมกับเสียงหัวเราะประหลาดๆ ของพี่เขา ทิ้งให้เอ็นดูนั่งหน้าเหวอยกมือขึ้นกุมท้ายทอยของตัวเอง คนผิวขาวถอนหายใจ มองสีหน้างุ่นง่านของตัวเองในกระจก



ก็บอกแล้วว่าห้ามทำรอยที่คอ แต่ต้นเหตุของรอยนี้ฟังกันที่ไหน



เอาจริงๆ รอยเดิมมันหายไปตั้งแต่อาทิตย์แรกแล้วแหละ แต่ว่า...เมื่อหลายคืนก่อนเอ็นดูดันพลาดท่าให้เขาแกล้งอีกจนได้ มันก็ตามอารมณ์...เล่นกัน จูบกัน ทรงโปรดเป็นฝ่ายปลุกความต้องการของเอ็นดู แล้วพวกเขาก็หวั่นไหวตามอารมณ์ของกันและกันไม่รู้ตั้งกี่รอบ



ฮื่อ ทรงโปรดทำให้เอ็นดูหน้าร้อนผ่าวอีกแล้ว



แต่ไม่รู้ตัวจริงๆ นะว่าเขาแอบทำรอยไว้ตอนไหน เพราะถ้ารู้เอ็นดูคงจะระวังตัวมากกว่านี้ และถึงแม้ว่าท้ายทอยขาวๆ จะมีเส้นผมสีน้ำตาลคลอเคลียอยู่ก็ตาม....แต่แล้วยังไงล่ะ วันนี้ก็มีคนเห็นรอยนั้นอยู่ดี



หม่อมราชวงศ์ทรงโปรดน่าจะเป็นคนโรคจิต...ไม่รู้ทำไมถึงได้ชอบสร้างรอยไว้นักหนา



มันต้องแฟร์ๆ มั้ย เอ็นดูไม่ได้ทำรอยบนตัวเขานี่นา



“หิวหรือยังจ๊ะเอ็นดู”



แล้วก็ต้องสะดุ้งโหยงเมื่อคุณหญิงลักขณาเดินฉีกยิ้มจากกรอบประตู เอ็นดูไม่รู้ตัวเลยว่าท่านเข้ามาตอนไหน ไม่ได้ยินเสียงเปิดประตูหรืออะไรเลยสักอย่าง



“ยังเลยครับคุณหญิงป้า”



คนตัวบางในชุดสูทดูดีสีขาวลุกขึ้นยืนก่อนยื่นมือไปรับคุณหญิงลักขณาที่เดินอยู่บนรองเท้าส้นสูง



“ตัวหอมจังเอ็นดู เอ...ไม่ได้ใช้น้ำหอมกลิ่นเดิมแล้วเหรอจ๊ะ”



ท่านขมวดคิ้วทำจมูกฟุดฟิดก่อนคลี่ยิ้มกว้างอีกครั้ง มือเรียวสวยของหม่อมราชวงศ์ลักขณายกขึ้นกุมแก้มกลมของหลานชาย “น้ำหอมชื่อกลิ่นอะไรจ๊ะ ป้าว่าหอมดี...เผื่อได้ซื้อมาใช้บ้าง”



“ความจริงมันไม่มีชื่อครับคุณหญิงป้า”



“อ้าว”



“มันเป็นกลิ่นที่คุณชายโปรดผสมให้น่ะครับ”



ผสมให้เอ็นดูโดยเฉพาะ มีเอกลักษณ์ และเป็นกลิ่นที่เมื่อสูดดมแล้วรู้สึกสดชื่น สบายใจ...



“ว้า...อย่างนี้ป้าก็ไม่มีสิทธิ์ใช้ด้วยใช่มั้ยเนี่ย”



“ถ้าคุณหญิงป้าอยากใช้ ไว้จะไปขอให้เขาผสมให้อีกนะครับ” พูดจบก็ก้มหน้างุดกลั้นยิ้มเขินเมื่อได้ยินเสียงคุณหญิงลักขณาหัวเราะ



“ป้าแค่หยอกเล่น ไม่เห็นต้องทำหน้าหวงขนาดนั้นเลย” จมูกรั้นถูกคุณหญิงป้าบีบเบาๆ “เจ้าเด็กหวงของ”



“...ไม่ได้หวงนะครับ”



“แหม...เมื่อกี้เราทำหน้างอใส่ป้า ไม่รู้ตัวเลยหรือไงจ๊ะ”



“จริงเหรอครับ ขอโทษนะครับที่เสียมารยาท”



“ตายๆๆ ไม่ต้องขอโทษป้าเลย” หม่อมราชวงศ์ลักขณาหัวเราะกลั้วเมื่อเห็นว่าหลานชายคนเดียวของตัวเองทำหน้าเหมือนคนจะร้องไห้



รู้ว่าหลานชายคนนี้กลัวเธอมาก แต่เอ็นดูคงไม่ทันได้สังเกตว่าตั้งแต่ที่ตัวเองมีว่าที่คู่หมั้น คุณหญิงลักขณาก็แทบจะไม่ได้เข้มงวดอะไรด้วยแล้ว...ไม่อยากไปงานเลี้ยงก็ไม่บังคับ ยกเว้นแต่งานนี้ที่สำคัญจริงๆ คุณหญิงลักขณาถึงได้ขอให้เอ็นดูมาร่วมงานด้วย



แค่อยากให้มาศึกษาดูเท่านั้นว่างานหมั้นงานแต่งเขาดำเนินงานทำพิธีกันยังไง



พอถึงคิวของตัวเอง...เอ็นดูจะได้ไม่เงอะงะมาก



“เสียดายจริงๆ ที่วันนี้ชายโปรดมาร่วมงานด้วยไม่ได้”



หม่อมราชวงศ์ลักขณาเอาแต่พูดถึงคนที่งานรัดตัว ใจจริงแล้วท่านอยากให้ทรงโปรดมางานแต่งงานด้วย จะได้เปิดตัวหลานเขยให้คุณหญิงคุณนายได้รู้จัก



อือ แต่ดีแล้วแหละที่เขามาไม่ได้ หัวใจของเอ็นดูจะได้หยุดพักบ้าง



โดนเขาหยอดตลอดแบบนี้ไม่ดีเลย เอ็นดูรู้สึกเหนื่อยที่ใจต้องเต้นแรง...แต่ขณะเดียวกันก็ชอบความรู้สึกนั้นมากๆ



ไม่ทันไรเอ็นดูก็ถูกเชิญเข้าไปในงาน แต่กว่าจะเข้ามาในห้องบอลรูมได้บอกเลยว่าต้องฝ่าสมรสุมคุณหญิงคุณนายที่พาลูกชายลูกสาวมาโชว์ตัว โชคดีที่ตอนนี้คุณแม่ของเอ็นดูอยู่ต่างประเทศ ถ้าเกิดว่าท่านมางานแต่งด้วยอีกคนคงได้รวมพลังกับหม่อมราชวงศ์ลักขณา พูดอวดเอ็นดูให้ทุกคนที่อยู่ในงานฟังไม่จบไม่สิ้นแน่นอน



พอโชว์ตัวเสร็จเรียบร้อยก็เข้าสู่ช่วงเวลาอิสระของเอ็นดู โดยปกติแล้วเอ็นดูจะเพลิดเพลินกับอาหารในงานเลี้ยงแทบทุกงาน แต่งานนี้เอ็นดูกลับเมิน...เปลี่ยนเป็นออกมาเดินเล่นข้างนอกแทนที่จะนั่งดูบ่าวสาวกล่าวอะไรต่างๆ บนเวที



คุณหญิงป้ากระซิบบอกเอ็นดูว่าถ้าอยากกลับก็สามารถกลับได้เลย แต่เอ็นดูไม่มีรถเพราะยังจอดซ่อมอยู่ที่ศูนย์ ตอนนี้เลยมายืนรับละอองฝนที่ระเบียงสวนหย่อมของโรงแรมแทน



ก็คงต้องรอกลับพร้อมคุณหญิงป้า แค่ไม่เข้าไปอยู่งานเท่านั้น



เอ็นดูมองวิวกรุงเทพฯ ตอนกลางคืนผ่านม่านฝนที่ตกลงมา...จู่ๆ ก็คิดถึงใครอีกคนที่ติดงานขึ้นมาอีกครั้ง ไม่รู้เลยว่าป่านนี้หม่อมราชวงศ์ทรงโปรดจะเป็นยังไงบ้าง ไม่ได้คุยกันตั้งหลายชั่วโมง เอ็นดูรู้สึกว่างเปล่าจริงๆ



ทั้งที่ผ่านมาในชีวิตไม่เคยมีคุณชายทรงโปรดเข้ามายุ่งเกี่ยว ตอนนั้นเอ็นดูรู้สึกเรื่อยๆ กับทุกอย่าง คิดว่าพอเรียนจบที่ไทย อาจจะไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ ไม่มีเรื่องอะไรให้วุ่นวายสับสนเท่าตอนสอบ...แต่ตอนนี้มันเปลี่ยนไปแล้ว คนคนนั้นทำให้เอ็นดูสับสนยิ่งข้อสอบยากๆ ซะอีก



คนผิวขาวเงยหน้า ยืนพิงกำแพงหน้ามองท้องฟ้าสีดำ ไม่มีหรอกหมู่ดาวระยิบระยับ มีแต่สายฝนกับแสงไฟของโรงแรมเท่านั้น เอ็นดูก้มหน้าคลี่ยิ้มให้กับตัวเอง...นอกจากหม่อมราชวงศ์ทรงโปรด ก็ไม่มีอะไรน่ามองสำหรับเอ็นดูแล้วแหละ



กระทั่งเสียงฝนตกดังปนกับเสียงโทรศัพท์ร้องเรียกว่ามีคนโทรเข้า ดึงความสนใจให้เอ็นดูก้มหน้าหยิบโทรศัพท์ออกจากกระเป๋ากางเกง คนผิวขาวในชุดสูทขาวสะอาดขยับตัวหนีละอองฝน ฉีกยิ้มกว้างเมื่อเห็นว่าคนที่โทรมาคือใคร



เอ็นดูกดรับ ยกโทรศัพท์แนบใบหู อมยิ้มรอฟังเสียงทุ้มนุ่มของปลายสาย



[คิดถึงกันมั้ย]



ดูประโยคแรกของเขาสิ...หม่อมราชวงศ์ทรงโปรดเก่งจริงๆ ที่ทำให้เอ็นดูกลั้นยิ้มไม่อยู่



“มีอะไรหรือเปล่าครับ” เอ็นดูเลี่ยงตอบคำถาม เพราะเดี๋ยวตอบไปหน้าก็แดงก่ำอีก



[บอกให้ชื่นใจหน่อย]



“ยังไม่เลิกงานอีกเหรอครับ”



[เอ็นดู...ไม่คิดถึงพี่เหรอ]



ถึงจะเกลียดน้ำเสียงอ้อนๆ...แต่เอ็นดูก็ยืนฟังไป อมยิ้มไป



เอ็นดูเดินออกจากระเบียงของโรงแรมกดลิฟต์เพื่อลงไปยังล็อบบี้ กดโทรศัพท์แนบใบหูให้แน่นขึ้นกว่าเดิมเพื่อฟังเสียงปลายสายหายใจ



ไม่ได้เจอหน้ากันตั้งหลายวัน มันก็ต้อง...คิดถึงสิ



“ครับ”



[ครับอะไร]



“ก็คิดถึง”



[คิดถึงใครเหรอ]



เขาก็เป็นซะอย่างนี้ไง...



“คิดถึงคุณครับ”



[ชื่นใจ]



“ได้แกล้งคนอื่นสนุกมากมั้ยครับ”



[เคยแกล้งซะที่ไหน ทำไมชอบใส่ร้ายพี่]



“คุณว่างแล้วหรือไงครับ เอาเวลาคุยกับผมไปทำงานต่อให้เสร็จดีกว่ามั้ย”



ยังได้ยินเสียงคุยกันของคนประมาณสามสี่คนอยู่เลย พอยกข้อมือมองนาฬิกาข้อมือก็พบกว่ามันดึกพอสมควรแล้ว แต่คุณชายทรงโปรดกับทีมก็ยังไม่ยอมวางมือจากงานสักที



[ตอนนี้เบรคอยู่เลยโทรมาหาเรา ขอกำลังใจหน่อยได้มั้ย พี่ล้าไปหมดแล้ว]



เลิกคิ้วพลางอมยิ้มตอนที่ได้ยินเสียงอ้อนๆ ของคุณชายทรงโปรดเป็นรอบที่สองของวัน เขาก็เป็นแบบนี้แหละ มีวิธีการพูดให้คนฟังหลงใหลและยอมทำตาม



“ไม่ให้หรอกครับ”



[เฮ้อ...งั้นไม่มีแรงทำงานแน่ๆ]



“เรื่องของคุณเลย”



[ทำไมใจร้ายเก่ง...ได้พี่แล้วทิ้งขว้างเลยเหรอ]



“นี่คุณ เลิกพูดแบบนี้เลยนะครับ...เดี๋ยวคนอื่นก็ได้ยินหรอก”



[ไม่สน คนอื่นจะได้รู้ว่าเมียพี่เป็นคนใจร้าย]



“คุณ!” หายใจฟึดฟัดยืนกระแทกปลายเท้าลงบนพื้นคนเดียว เอ็นดูไม่ได้โกรธหรอกนะที่เขาไม่ยอมเลิกพูดคำนั้นสักที แต่กลับเขินจนตัวแทบม้วน...โชคดีที่ไม่มีใครอยู่ตรงนี้เลยสักคน ไม่อย่างนั้นคงได้เห็นเอ็นดูเต้นแร้งเต้นกาแน่ๆ



[เอาไงดีครับเอ็นดู พี่เหนื่อยจะแย่อยู่แล้ว]



ฟังจากน้ำเสียงแล้วท่าทางจะเหนื่อยจริงๆ เอ็นดูรู้สึกสงสารหม่อมราชวงศ์ทรงโปรดจับใจขึ้นมาเลยแหละ ถ้าอยู่ใกล้กัน...ป่านนี้เขาคงจะเข้ามากอด มาหอม เอากำลังใจจากเอ็นดูไปเต็มปอดแล้วแน่ๆ



ใช่ เอ็นดูก็ไม่ขัดขืนด้วย เพราะการได้ตกอยู่ในอ้อมกอดของเขา...ก็คือการชาร์จพลังของเอ็นดูเหมือนกัน



“จะให้ผมทำยังไงล่ะครับ...”



[มาหาหน่อยได้มั้ย]



“ให้ผมไปรบกวนเวลางานคุณเหรอ”



[กว่าเรามาถึงพี่คงสรุปงานเสร็จพอดี]



“...”



[เดี๋ยวพี่ให้คนไปรับ]



“ดึกแล้วนะคุณ รบกวนคนอื่นเปล่าๆ”



[งั้นเดี๋ยวพี่ไปรับเอง]



“ทำงานไปเถอะครับ เดี๋ยวผมนั่งแท็กซี่ไปหาก็ได้”



[รออยู่ที่นั่นแหละ ทำตามที่พี่บอกนะครับ เด็กดี]



“…ก็ได้ครับ”



ก็ยอมเขาอยู่แล้ว

ยอมมาตั้งแต่แรกแล้วด้วย







*****





 

เหมือนหัวใจจะหลุดออกจากอกทุกครั้งที่รู้ว่าจะได้เจอหม่อมราชวงศ์ทรงโปรดในอีกไม่กี่นาที



เอ็นดูเดินตามพี่คนขับรถที่ทรงโปรดส่งมารับ ใช่ ตอนนี้เขาอยู่ในบริษัทที่เป็นตึกสูงใจกลางกรุงเทพแล้ว ไฟบนตึกถูกดับแทบทุกชั้น เหลือเพียงชั้นนี้ที่เปิดสว่างเพราะยังมีพนักงานบางส่วนนั่งทำโอทีอยู่



“คุณชายอยู่ในห้องนี้ครับ”



คนประหม่าสะดุ้งเล็กน้อย เอ็นดูชะลอเท้าเมื่อถึงหน้าห้องที่มีประตูสีกาแฟอ่อนปิดอยู่ คนเด็กกว่าก้มศีรษะเล็กน้อยพึมพำขอบคุณพี่คนขับรถ ก่อนยกมือเคาะประตูสอง-สามครั้ง เม้มปากยืนรอไม่ถึงนาทีประตูก็ถูกเปิดออกโดยเจ้าของห้อง



“นี่คุณ...ใจเย็นสิครับ”



ยังไม่ทันได้ยิ้มให้หรือทักทายสักประโยค คนตัวขาวก็ถูกมือหนาดึงเข้าห้อง หม่อมราชวงศ์ทรงโปรดรั้งคนน่ารักเข้าสู่อ้อมกอดอบอุ่น ฝังจมูกลงบนพวงแก้มขาวซ้ำไปซ้ำมาหลายรอบ



ดีนะที่ปิดประตูแล้ว



“พอได้แล้วครับ”



“คิดถึง”



เขารู้ว่าเอ็นดูแพ้คำนี้ก็ยังจะขยันพูดออกมาอยู่ได้



“ใช้น้ำหอมที่พี่ผสมให้ใช่มั้ย”



คนตัวสูงเลิกทำรุ่มร่ามใส่เพราะเอ็นดูดันอกเขาออก หม่อมราชวงศ์เลยกุมมือขาวพาน้องเดินไปนั่งที่โซฟา เมื่อกี้ที่หอมแก้มเอ็นดูเขาได้กลิ่นน้ำหอมจางๆ ด้วย



“ใช่ครับ”



เอ็นดูคลี่ยิ้มตามเมื่อเห็นว่าหม่อมราชวงศ์ทรงโปรดระบายยิ้มกลบความเหนื่อยล้าบนใบหน้าของเขา มือขาวๆ ของคนน่ารักเลยยกขึ้นประคองกรอบหน้าของทรงโปรด หรี่ตามองก่อนทำปากมุบมิบ



ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่หลงใหลใบหน้าหล่อเหลาครบเครื่องของเขา



ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่ยอมให้เขามีอิทธิพลในชีวิต



ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่หลงไปคิดถึงเขาจนไม่เป็นอันทำอะไร



ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ที่รู้สึกกลั้นหายใจทุกครั้งที่อยู่ใกล้กัน



เพราะว่าจะรู้ตัว...ในหัวของเอ็นดูก็มีแต่ภาพเขาลอยวนไปวนมาอยู่ตลอดแล้ว



“คุณหญิงป้าถามด้วยนะครับว่าน้ำหอมกลิ่นนี้ชื่ออะไร อยากไปซื้อใช้บ้าง”



“แล้วเราตอบคุณหญิงไปว่าอะไร” ทรงโปรดใช้นิ้วชี้แตะปลายจมูกโด่งสวยของน้อง



“ผมตอบไปว่าไม่มีชื่อครับ...เพราะคุณผสมให้”



“จริงๆ มันมีชื่อ”



“เหรอครับ” คนตัวบางเลิกคิ้วสงสัย ก็ไม่เห็นว่าที่ขวดจะมีชื่อน้ำหอมบอกนอกว่าชื่อแบรนด์นี่นา



เอ็นดูทำปากมุบมิบ ก้มหน้ามองมือขาวของตัวเองที่วางทับบนฝ่ามือหนาของทรงโปรด เอ็นดูตีฝ่ามือทรงโปรดเล่นเบาๆ



อือ นั่นแหละ อยู่กับทรงโปรดเอ็นดูเป็นตัวของตัวเองมากที่สุด



อยู่กับทรงโปรดเอ็นดูจะงอแงยังไงได้ จะทำตัวเป็นเด็กยังไงก็ได้



อยู่กับทรงโปรดเอ็นดูสบายใจที่สุดแล้ว



หม่อมราชวงศ์ทรงโปรดใช้นิ้วโป้งคลึงฝ่ามือน้องเบาๆ ส่วนมืออีกข้างเชยคางของคนน่ารักให้เงยขึ้นสบตา



ต่างคนต่างอุ่นวาบไปทั้งหัวใจเมื่อได้เห็นรอยยิ้มของกันและกัน



ทรงโปรดยื่นหน้าให้หน้าผากชนกับหน้าฝากของน้องอย่างนุ่มนวล และปล่อยให้มันแนบชิดไว้ เขาคลึงเคล้าคางอีกฝ่าย กระซิบเสียงทุ้มบอกคนที่รอฟังชื่อน้ำหอมกลิ่นพิเศษกลิ่นนี้



“ชื่อกลิ่นว่า...กลิ่นหอมๆ ของหม่อมหลวงจิรา วงศ์ประดิษฐ์”



“...เหรอครับ ชื่อยาวจัง” เอ็นดูหัวเราะ



“มันมีอีกชื่อ”



“อีกชื่อคืออะไรเหรอครับ”



“พี่โปรดรักเอ็นดู”



“...”



“...”



“นั่นชื่อกลิ่นหรือประโยคบอกเล่าครับ”



“ทั้งสองอย่าง”



“...”



“เวลาที่เราหยิบมาใช้ จะได้รู้สึกเหมือนว่าพี่บอกรักเราอยู่”



“...”



“พี่โปรดรักเอ็นดู แบบนี้ชอบมั้ย”



“...”



“...”



“...ชอบครับ”



อือ...ก็ชอบทั้งชื่อกลิ่น ทั้งคนตั้งชื่อกลิ่นน้ำหอมนั่นแหละ















#ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี













กลิ่นพี่โปรดรักเอ็นดูมันก็จะหอมฟุ้งหน่อย

อย่าเพิ่งเหม็นกลิ่นพี่โปรดรักเอ็นดูกันนะ :)

หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ตอน 14 - up 20.9.61
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 20-09-2018 09:05:12
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ตอน 14 - up 20.9.61
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 20-09-2018 11:09:02
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ตอน 14 - up 20.9.61
เริ่มหัวข้อโดย: Dark_Sky ที่ 20-09-2018 11:53:10
ละมุนมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
มาต่อเรื่อยๆนะคะไม่อยากให้จบเลย
 :o8: :-[ :o8: :-[
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ตอน 14 - up 20.9.61
เริ่มหัวข้อโดย: k00_eng^^ ที่ 20-09-2018 12:19:07
โอ๊ยยย เขินตัวแตกมาก
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ตอน 14 - up 20.9.61
เริ่มหัวข้อโดย: Chompoo reangkarn ที่ 20-09-2018 13:46:06
ภาพลักษณ์เรียบร้อยใสซื่อของเอ็นดูหายวับไปเลยกลายเป็นนางแมวยั่วสวาทเลย  :a5:
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ตอน 14 - up 20.9.61
เริ่มหัวข้อโดย: Tiffany ที่ 20-09-2018 13:59:54
หอมนำ้หอมกลิ่นพิเศษมาก
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ตอน 14 - up 20.9.61
เริ่มหัวข้อโดย: catka12 ที่ 20-09-2018 14:04:17
 :hao3: หอมจนหยุดดมไม่ได้ใช่ไหมค่ะชายโปรด  :hao3:
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ตอน 14 - up 20.9.61
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 20-09-2018 14:39:30
เหม็นกลิ่นความรักเสียจริง
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ตอน 14 - up 20.9.61
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 20-09-2018 18:18:41
ว้าย หมั่นไส้ เหม็นความรักย่ะ
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ตอน 14 - up 20.9.61
เริ่มหัวข้อโดย: momonuke ที่ 20-09-2018 18:44:29
คนอ่านก็ไม่ไหวแล้ววว ฮืออ จะตายแลว้วว
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ตอน 14 - up 20.9.61
เริ่มหัวข้อโดย: Supparang-k ที่ 20-09-2018 19:09:22
มันคงเป็นน้ำหอมที่เขาหอมกันแค่สองคนสินะ  เพราะเรารู้สึก...เหม็นความรัก  5555
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ตอน 14 - up 20.9.61
เริ่มหัวข้อโดย: O-RA DUNGPRANG ที่ 20-09-2018 19:21:06
 :z1: :z1: :z1: :z1: :z1:
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ตอน 14 - up 20.9.61
เริ่มหัวข้อโดย: Mafiaziip ที่ 20-09-2018 21:38:28
พี่โปรดหวานและอบอุ่นมากกกกกกกกกกกก ใจละลายแล้วค่าาาาาาาาาาาาา

 :กอด1: :กอด1: :กอด1: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ตอน 14 - up 20.9.61
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 23-09-2018 15:03:36
โอ้ยเหม็นกลิ่นความรักไปหมดดดดดด เอ็นดูเผ็ดกว่าที่คิด น้องควรจะใสๆ แต่อะไรคือชี้ไปที่โซฟาคะลูก คุณแม่จับตีเลย !
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ตอน 14 - up 20.9.61
เริ่มหัวข้อโดย: theindiez ที่ 23-09-2018 16:41:24
ถ้าพี่โปรดจะรุกขนาดนี้คนอ่านก็ขาดอากาศหายใจแทนเอ็นดูแล้วค่ะพี่ เขินไปหมดดด
หัวข้อ: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ตอน 15 - up 25.9.61
เริ่มหัวข้อโดย: Swanlee ที่ 25-09-2018 21:16:17


15



พอได้นึกถึงความสวยงาม

ในหัวก็มีแต่ใบหน้าของคุณ



 



“ตอนนี้งานเดินไปเกือบหกสิบเปอร์เซ็นต์แล้วครับคุณชาย ผมคิดว่ายังไงก็สามารถเปิดตัวรีสอร์ตทันปลายปีหน้าแน่นอนครับ”



ฝนตกพรำๆ ในช่วงเย็นของเชียงรายกับพื้นดินเฉอะแฉะทำให้เอ็นดูต้องยืนถูปลายรองเท้ากับขอบปูนซีเมนต์เพื่อให้ก้อนดินก้อนหินที่ติดพื้นรองเท้าหลุดออก



ถึงจะจดจ่อกับการขูดดินออกจากรองเท้าแต่หูก็ยังฟังเสียงสนทนาของผู้ชายสองคนที่คุยกับเรื่องความคืบหน้าของงาน



“เดินไปตรงเต็นท์คนงานมั้ยครับคุณเอ็นดู ตรงนั้นมีก๊อกน้ำ ล้างรองเท้าได้นะครับ”



เอ็นดูเงยหน้าส่งยิ้มให้พี่บอลซึ่งเป็นคนของหม่อมราชวงศ์ทรงโปรดที่ถูกส่งให้มาดูแลรีสอร์ตที่เชียงราย คนผิวขาวเลิกขูดดินออกจากรองเท้า ยิ้มแหยให้ทรงโปรดที่ยืนกางร่มให้อยู่ข้างๆ



“เดินได้หรือเปล่า” ถามด้วยความเป็นห่วงเพราะน้องไม่ทันระวัง เพิ่งเดินเหยียบโคลนเกือบลื่นเมื่อกี้นี้เอง



เอ็นดูคิดว่าเดินตามรอยเท้าพี่บอลกับทรงโปรดแล้วจะปลอดภัยนี่นา ที่ไหนได้ล่ะ ได้โคลนติดรองเท้าเยอะกว่าคนตัวสูงทั้งสองคนอีก



คนผิวขาวผงกศีรษะเบาๆ ก่อนที่หม่อมราชวงศ์ทรงโปรดจะจับหมับเข้าที่ต้นแขน มือซ้ายของคนสูงกว่าถือร่ม มือขวาก็คอยเป็นหลักประคองไม่ให้เอ็นดูลื่นล้ม



“เดินลำบากนิดหนึ่งนะครับ พอดีตรงนี้รอทำถนนตอนที่สร้างตัวรีสอร์ตเสร็จแล้ว” พี่บอลอธิบายตอนที่ทรงโปรดก้าวเท้านำเอ็นดูไปหนึ่งก้าว พี่บอลชี้นิ้วไปทางข้างหน้าที่เป็นบ้านของคนงานก่อสร้าง



“ก๊อกน้ำอยู่ข้างหน้าครับคุณชาย”



“คุณ...ผมเดินเองได้ครับ” กระซิบบอกคนตัวสูง



“อย่าดิ้น เดี๋ยวก็ลื่นอีก” เขาก็กระซิบกลับ



จากที่จับต้นแขนเอ็นดูอยู่ดีๆ ตอนนี้ก็เปลี่ยนไปโอบไหล่แล้วรั้งให้อยู่ในอ้อมกอดไปซะแล้ว



เอ็นดูไม่กล้ามองหน้าพี่บอลเลย เพราะเมื่อกี้เห็นว่าพี่เขากลั้นยิ้มด้วย แถมยังเปิดทางให้ทรงโปรดกอดเอ็นดูได้ง่ายขึ้นด้วยการขอร่มไปถือเองอีกต่างหาก ตอนนี้เลยกลายเป็นว่าเอ็นดูตกอยู่ในอ้อมกอดของหม่อมราชวงศ์ทรงโปรดเต็มๆ



เอ็นดูเลยได้แต่จำใจให้เขากอดแล้วพาเดินไปที่ก๊อกน้ำ แต่เพราะทางตรงนี้มันลื่นมากๆ เอ็นดูเลยวางเเขนไว้กับเอวของคนตัวสูง ใช่ หม่อมราชวงศ์ทรงโปรดยกยิ้มพอใจกับท่อนแขนเล็กๆ ที่คล้องเอวเขา คนตัวสูงก้มหน้าลง กระซิบเสียงทุ้มนุ่มใกล้ใบหูของคนผิวขาว



“กอดแน่นกว่าที่พี่กอดอีก”



เอ็นดูเงยหน้ามองค้อน เกลียดรอยยิ้มมุมปากแสนเจ้าเล่ห์ของคุณชายทรงโปรดจริงๆ นะ ไม่รู้ว่ามีใครเคยบอกหรือเปล่าว่ามันเป็นยิ้มที่เหมือนจะชวนหาเรื่องทุกครั้งที่มองเลย



หาเรื่องชวนให้ยิ้ม ชวนให้ใจสั่นจนต้องก้มหน้าซ่อนแก้มแดงๆ



“หิวหรือยังล่ะเรา”



“นิดหน่อยครับ”



“เดี๋ยวกลับไปหาอะไรกินที่โรงแรมเลยแล้วกัน”



ชะลอเท้าตอนที่เดินมาถึงก๊อกน้ำ เอ็นดูมองซ้ายมองขวา บริเวณเชิงเขาตรงนี้เป็นเต็นท์คนงานก่อสร้างกับบ้านชั่วคราวของผู้รับเหมา สร้างใกล้ๆ กับพื้นที่ของรีสอร์ต จมูกโด่งสวยฟุดฟิดสูดกลิ่นอาหารหอมๆ ที่คนงานก่อสร้างทำเพื่อเป็นมื้อเย็นของวันนี้...เอ็นดูหิวข้าวขึ้นมาทันทีเลย



“เอ็นดู นั่งลง”



“คุณ! ไม่เอาครับ...ลุกขึ้นเลยนะ”



ทรงโปรดที่ลงไปนั่งยองใกล้ๆ กับก๊อกน้ำพลางกระตุกมือขาวให้ลงมานั่งบนตักของเขา เอ็นดูส่ายหน้ารัว เป็นฝ่ายดึงคนโตกว่าให้ลุกขึ้นยืน แต่มีเหรอที่หม่อมราชวงศ์ทรงโปรดจะยอม เขาเองก็ส่ายหน้า แถมยังพเยิดหน้าไปทางพี่บอลที่ยืนกางร่มให้



“นั่งเร็ว เดี๋ยวพี่บอลยืนรอจนเมื่อยนะ”



“คุณอ่ะ...”



“เร็วๆ เอ็นดู จะได้รีบล้างรองเท้ารีบกลับโรงแรม”



“ไม่เอาครับ คุณลุกขึ้นมาเลย--เฮ้ย!”



สุดท้ายก็เป็นตัวเองที่ตัวปลิวนั่งจุมปุ๊กบนตักของหม่อมราชวงศ์ทรงโปรด คนตัวสูงเกือบเซล้มเพราะน้องดิ้นขัดขืน แต่เพราะว่าต้นขาแกร่งของทรงโปรดแข็งแรงพอที่จะประคองตัวเองไว้ได้ เอ็นดูกับเขาเลยไม่ล้มลงไปกองบนพื้น



“อยู่นิ่งๆ”



“พอเลยคุณ ผมทำเองได้ครับ”



เอ็นดูตีมือหนาเมื่อคนที่ให้ยืมตักนั่งเอื้อมมือทำท่าจะถอดรองเท้าให้ แต่สุดท้ายก็ถูกดุด้วยตาคม เอ็นดูเลยต้องนั่งทำหน้ามู่ทู่ ปล่อยให้คุณชายทรงโปรดถอดรองเท้าราคาแพงของตัวเองออกจากเท้า



คนผิวขาวนั่งมองหม่อมราชวงศ์ทรงโปรดที่จัดการขูดดินโคลนออกจากพื้นรองเท้าให้ทั้งสองข้าง มือหนาจับรองเท้ามาถูขณะที่เปิดให้น้ำไหลออกจากก๊อก คนสูงกว่าขยับหนีละอองน้ำที่กระเด็นโดนเอ็นดู แขนแกร่งของเขาโอบเอวน้องอยู่ด้วย แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ทำให้การทำความสะอาดพื้นรองเท้าเป็นอุปสรรคสำหรับทรงโปรดเลยสักนิด



“ลำบากเกินไปมั้ยคุณ”



เอ็นดูไม่ได้เบาเหมือนปุยนุ่นสักหน่อย หม่อมราชวงศ์ทรงโปรดยังให้เอ็นดูนั่งทับตักทั้งที่เขายังนั่งยองๆ อยู่



“ไม่เห็นจะลำบากตรงไหน”



“แล้วเมื่อยมั้ยครับ ให้ผมลุกขึ้นดีกว่า”



“ยกเท้าขึ้นอีกหน่อย เดี๋ยวถุงเท้าจะเปื้อนโคลน”



สนใจที่เอ็นดูพูดซะที่ไหน



ในเมื่อทรงโปรดเลือกที่จะเมิน เอ็นดูเลยแกล้งเขาด้วยการทิ้งน้ำหนักตัวลงบนตักไปเต็มๆ...คนตัวสูงเหลือบมองเจ้าเด็กน่ารักที่นั่งลอยหน้าลอยตา ทรงโปรดยกมุมปากก่อนยื่นหน้ากระซิบเบาๆ ให้ได้ยินกันแค่สองคน



“เดี๋ยวคืนนี้เจอดี”



“ไม่เจอดีอะไรทั้งนั้นแหละครับ...เพราะนอนกันคนละห้อง”



เอ็นดูกระซิบตอบเบาๆ แถมยังแกล้งเป่าลมใส่ใบหูของทรงโปรดอีกด้วย



คนขี้แกล้งเลยถูกมือหนาตีเข้าที่ต้นขา เอ็นดูจิ๊ปาก ทำหน้ามุ่ยก่อนก้มลงใส่รองเท้าข้างที่ล้างโคลนออกหมดแล้ว



“ขอบคุณครับ”



“เปลี่ยนจากคำขอบคุณเป็นหอมแก้มดีกว่า”



“คุณนี่จริงๆ เลย”



พอรองเท้าข้างที่สองล้างโคลนเสร็จเรียบร้อย เอ็นดูก็รีบหยิบมาสวมแล้วเด้งตัวลุกขึ้นยืนทันที คนผิวขาวฉีกยิ้ม โน้มตัวยื่นมือขวาส่งให้หม่อมราชวงศ์ทรงโปรดพยุงเพื่อลุกขึ้นยืนบ้าง



“ถึงกับลุกไม่ขึ้นเลยเหรอคุณ”



“แค่นี้จิ๊บๆ”



ทรงโปรดแข็งแรงจะตาย เอ็นดูนั่งทับไม่กี่นาที...ทำอะไรเขาไม่ได้หรอก



“คุณชายกับคุณเอ็นดูรอตรงนี้นะครับ เดี๋ยวผมขับรถมารับ”



หม่อมราชวงศ์ทรงโปรดพยักหน้ารับ เอื้อมมือจับด้ามร่มมาถือไว้เอง เอ็นดูพยายามยืนให้พ้นดินโคลนมากที่สุด



ไม่ได้กลัวดินนะ รองเท้าของเอ็นดูจะกลับไปเปื้อนดินอีกครั้งยังได้เลย แต่เอ็นดูกลัวว่าทรงโปรดจะจับเขานั่งลงบนตักแล้วถอดรองเท้าไปล้างโคลนออกให้อีกต่างหาก เจ้าตัวเลยพยายามเลี่ยงๆ โคลนเข้าไว้



“คุณไม่อายพี่บอลเหรอครับ”



“อายอะไร”



“ก็...ที่คุณล้างรองเท้าให้ผม”



“น่าอายตรงไหน”



คนเด็กกว่าช้อนตามองคนตัวสูง เอ็นดูเอียงหน้าเล็กน้อยก่อนขยับปากเปล่งเสียงนุ่มๆ



“คุณเป็นถึงเจ้าของรีสอร์ต ต้องทำเก๊กๆ ขรึมๆ ต่อหน้าลูกน้องไม่ใช่เหรอครับ”



“แล้วยังไง...” ทรงโปรดหัวเราะเบาๆ



“คุณมานั่งล้างรองเท้าให้ผม...ก็ไม่ขรึมกันพอดี”



จบประโยคปลายจมูกโด่งของเอ็นดูก็ถูกข้อนิ้วแกร่งบีบเบาๆ น้องยู่ปากยืนกอดอกพลางหันหน้าหนีมือของคนตัวสูง แต่หนียังไงก็หนีไม่พ้น สุดท้ายจมูกของเอ็นดูก็ถูกบีบไว้แบบนั้น



“เราอยู่ด้วยจะขรึมไปทำไม”



“คีพลุคเจ้าของรีสอร์ตไงคุณ”



หม่อมราชวงศ์ทรงโปรดส่ายหน้า ยกยิ้มก่อนรั้งเอวคนตัวขาวเข้ามากอด มือหนายกขึ้นยีผมนุ่มเบาๆ คนตัวสูงอาศัยช่วงที่ตรงนี้ไม่มีใครก้มหน้าหอมหัวน้องฟอดใหญ่



“คุณ...”



“ว่าไงครับ”



“ขอบคุณนะครับ”



“ขอบคุณเรื่องอะไร” ทรงโปรดก้มหน้ามองคนน่ารัก กระตุกยิ้มเมื่อเห็นว่าเอ็นดูไม่ได้ก้มหน้างุดหนีสายตาของเขา



“ขอบคุณทุกเรื่องเลยครับ”



“พี่ก็ขอบคุณเราเหมือนกัน”



“...เรื่องอะไรเหรอครับ นี่ๆๆ ห้ามตอบเหมือนผมนะ”



“ขอบคุณที่รักพี่”



“ใครรักคุณครับ”



“เอ็นดูไง”



“มั่ว...”



“เอ็นดูรักพี่โปรดไม่ใช่เหรอ”



“ม ไม่ใช่นะครับ”



“อ้าว...”



“คุณมั่วเก่งตลอดเลย”



เอ็นดูเลิ่กลั่กเหมือนคนถูกจับได้ โชคดีที่พี่บอลขับรถกระบะมารับถึงที่ซะก่อน เจ้าคนตัวขาวเลยพาแก้มกลมๆ ที่เปลี่ยนเป็นสีแดงวิ่งขึ้นรถไปนู่นแล้ว



อือ...ก็ถูกจับได้จริงๆ นั่นแหละ







*****





 

หม่อมราชวงศ์ทรงโปรดมองเอ็นดูที่นั่งตักอาหารมื้อเย็นเข้าปาก



เขาต้องขอบคุณอะไรดีที่ทำให้น้องเปลี่ยนใจยอมมาเชียงรายด้วยกัน



จริงๆ แล้วตอนนี้น้องอยู่ในช่วงเตรียมสอบไฟนอล คนเด็กกว่าตั้งใจจะเก็บตัวอ่านหนังสือแล้วอยู่แต่ในห้อง แต่ก็ถูกทรงโปรดรบเร้าจนได้มาอยู่ที่เชียงรายด้วยกัน



เขาอยากให้น้องพักสมองก่อนสอบ



“พรุ่งนี้พี่จะออกไปคุยกับหัวหน้าที่รับเหมาก่อสร้าง เราจะไปด้วยมั้ย”



“ไปครับ”



น้องพยักหน้าหงึกๆ ปากจิ้มลิ้มยังเคี้ยวอาหารจนแก้มป่อง



น่ารักจริงๆ เหมือนกระต่ายตอนกินแครอทเลย



“กินข้าวสิคุณ มองอยู่ได้...”



“อยากมอง” ทรงโปรดหัวเราะ



เขาชอบเวลาที่เอ็นดูเบ้ปากใส่มันทำให้ดูรั้นๆ ดื้อๆ อยากลองดีกับเขายังไงก็ไม่รู้



ตาคมมองสร้อยข้อมือของน้อง เอ็นดูใส่มันไว้ตลอด และเหมือนว่าที่ส่งให้หม่อมราชวงศ์ทรงคุณซ่อมคราวนั้นสร้อยดูแข็งแรงดีไม่ขาดง่ายเหมือนเมื่อก่อน



ใช่ เพราะว่าตอนที่เขากับน้องจูบกัน...กอดกันแน่นๆ แขนกับมือของพวกเขาพันกันยุ่งไปหมด สร้อยข้อมือของเอ็นดูขูดผิวเนื้อของทรงโปรดจนเลือดซิบก็ยังไม่เห็นว่าสร้อยของน้องจะขาดเหมือนที่ผ่านๆ มาเลยสักครั้ง



“ตอนไปดูที่ไซต์งานผมเห็นแบบรีสอร์ตตั้งอยู่ในออฟฟิศน่ะครับ” ทรงโปรดจ้องคนเสียงนุ่ม “แบบรีสอร์ตสวยดี...พี่บอลบอกว่าคุณเป็นคนนั่งทำเองเหรอครับ”



ทรงโปรดขมวดคิ้วพลางคลายออกแล้วผงกศีรษะเบาๆ ก่อนจะได้เข้าไปสำรวจงานเขาแวะออฟฟิศที่พี่บอลประจำอยู่เพื่อเซ็นเอกสาร เดาว่าเอ็นดูคงเห็นแบบจำลองรีสอร์ตที่ตั้งอยู่กลางออฟฟิศแล้ว...แต่ไม่รู้ว่าเอ็นดูแอบไปคุยกับพี่บอลตอนไหน



ถึงพี่บอลจะมีลูกมีเมียแล้ว แต่คุณชายทรงโปรดก็ไม่อยากให้เอ็นดูคุยกับใครทั้งนั้น



หึงได้มั้ยวะแบบนี้



 “ใช่ พี่ทำเอง”



แต่เพราะวันนี้น้องน่ารักมาก และเขาชวนน้องมาที่นี่เอง...ฉะนั้นหม่อมราชวงศ์ทรงโปรดเลยพักเรื่องหึงหวงไว้ก่อน



“คุณสอนผมทำบ้างได้มั้ย...ผมอยากทำโมเดลบ้านเป็นบ้าง”



“ทำไมจู่ๆ ถึงอยากทำ”



“ก็...ผมอยากทำเอาไว้ดูเล่น เวลาไปเดินงานแฟร์แล้วเจอโมเดลบ้านก็ชอบคิดตามตลอดเลยครับ ว่าถ้าวันหนึ่งได้สร้างโมเดลตามแบบในฝันได้ก็คงดี”



หม่อมราชวงศ์พยักหน้าเบาๆ



คนอย่างหม่อมหลวงจิรามีวังที่ใหญ่กว่าวังภัสร์ฤทัยตั้งหลายเท่า แถมยังตั้งอยู่ในพื้นที่ที่สงบโอบล้อมไปด้วยธรรมชาติ ไม่น่าเชื่อว่าเอ็นดูจะมีแบบบ้านในฝันที่นอกเหนือจากวังวงศ์ประดิษฐ์ ซึ่งนั่นก็เป็นบ้านในฝันของใครหลายๆ คนอยู่แล้ว



“วังวงศ์ประดิษฐ์ยังไม่ใช่บ้านในฝันเหรอ”



เอ็นดูชะงักเมื่อเสียงทุ้มกับคำถามของหม่อมราชวงศ์ทรงโปรดดังขึ้น น้องคลี่ยิ้มพลางส่ายหน้า แน่นอนว่าการที่อีกฝ่ายส่ายหน้าทำให้ทรงโปรดเลิกคิ้วสงสัย



“ที่นั่นใหญ่ไปครับ”



“แล้วเราอยากได้บ้านแบบไหน”



“บ้านเดี่ยวสองชั้นทั่วไปครับ”



ทรงโปรดระบายยิ้มเมื่อนึกขนาดบ้านในฝันตามเอ็นดู คนผิวขาวเองก็ยิ้มออกมาก่อนก้มหน้าตักอาหารในจานเข้าปาก



“เดี๋ยวกินข้าวเสร็จแล้วผมจะเปิดรูปในอินเตอร์เน็ตให้ดูนะครับ”



“ได้ แต่ว่าอุปกรณ์ทำโมเดลบ้านอยู่ที่กรุงเทพฯ นะ”



“อ่า...ที่วังเหรอครับ”



“เปล่า”



“...”



“ที่ห้องพี่”



“จะชวนผมไปห้องคุณหรือไงครับ” มุมปากของเอ็นดูยกยิ้ม เดี๋ยวนี้เก่งขึ้นเยอะ น้องรู้ทันเขาหลายอย่างแล้ว



“ถ้าชวนแล้วเราจะไปหรือเปล่า”



คุณชายวางช้อนลงบนจาน ก่อนประสานมือหนาสองข้างไว้ด้วยกันแล้วใช้เป็นที่พักคางของเขา ส่งรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ให้กับคนผิวขาวที่นั่งอยู่ตรงข้าม พอเอ็นดูช้อนตามองน้องก็เขินจนต้องกลั้นยิ้มก้มหน้าซ่อนแก้มสีชมพู



เขาไม่ได้รอเอาคำตอบจากน้องหรอก รายนั้นคงเขินจนพูดไม่ออก แต่จู่ๆ เสียงนุ่มนิ่มที่หม่อมราชวงศ์มักจะตั้งใจฟังทุกครั้งที่ได้ยินก็ดังขึ้น



“ไปครับ”



ทรงโปรดหัวเราะในลำคอ เขานึกว่าน้องคงตอบว่าไม่ หรือทำเป็นเฉไฉไม่ได้ยินสิ่งที่เขาพูดเมื่อกี้นี้ซะอีก



“ไปเพื่อเรียนทำโมเดลบ้านนะครับ ทำไมต้องยิ้มแบบนั้นด้วย”



“พี่ยิ้มแบบไหน?”



“ส่องกระจกเอาสิคุณ”



หม่อมราชวงศ์ก็ทำตามที่ว่าที่คู่หมั้นบอก เพราะในห้องอาหารของโรงแรมมีกระจกใสอยู่ พอแสงไฟจากเพดานกระทบโดนมันก็เกิดเป็นเงาสะท้อนเลยพอเป็นกระจกเงาให้คนตัวสูงส่องดูใบหน้าหล่อเหลาของตัวเองได้



พอทรงโปรดเห็นรอยยิ้มของตัวเอง เขาก็ถามเอ็นดูอีกครั้ง



“ยิ้มหล่อ?”



“เปล่าครับ”



“ถ้าไม่ใช่แล้วพี่ยิ้มแบบไหน”



“ยิ้มแบบคนเจ้าชู้”



แล้วคนที่บอกว่าเขายิ้มเจ้าชู้ก็คลายยิ้มกว้างเมื่อแก้มกลมๆ ถูกมือหนาบีบ...หม่อมราชวงศ์ทรงโปรดมือหนักจะตาย ใครจะพูดว่าเขาแตะๆ จับๆ นิดเดียวก็เหมือนคนออกแรงบีบให้แหลกคามือแล้ว แต่นั่นกับคนอื่นไง ถ้าเป็นเอ็นดูเขาต้องจับแบบทะนุถนอมเต็มที่



ถนอมแล้วนะ แต่พอปล่อยมือออก แก้มน้องนี่แดงเป็นรอยบีบเลย



“เจ็บมั้ย” คนตัวสูงเปลี่ยนจากบีบแก้มเป็นใช้นิ้วโป้งแกร่งเกลี่ยตามรอยแดงเบาๆ



“ไม่ครับ...” น้องยิ้มตาหยี ส่ายหน้าไปมาแล้วสุดท้ายก็แนบแก้มลงบนฝ่ามือหนาของหม่อมราชวงศ์ทรงโปรด



โคตรจะขี้อ้อน



อือ แบบนี้ไงถึงห้ามใจไม่ค่อยได้...เผลอทำให้น้องมีรอยบนตัวทุกที



แต่คนที่กำลังแนบแก้มบนฝ่ามือหนาอยู่ต้องชะงักเมื่อเสียงริงโทนจากโทรศัพท์ของทรงโปรดดังขึ้น ปากจิ้มลิ้มมุบมิบเล็กน้อยก่อนที่เอ็นดูจะยกแก้มของตัวเองออกจากมือหนาแล้วก้มหน้างุดจัดการกับอาหารที่ตัวเองยังกินไม่เสร็จอีกครั้ง



ส่วนหม่อมราชวงศ์ทรงโปรดน่ะเหรอ เขาก่นด่าคนที่โทรเข้ามาไปหลายคำ กระทั้งเหลือบตามองชื่อของคนที่โทรเข้ามาก็ต้องส่ายหน้าแล้วผ่อนลมหายใจออกมายาวๆ คนตัวสูงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดรับสาย



ถึงแม้ว่าโทรศัพท์จะแนบใบหูเขาแล้ว แต่เชื่อเถอะ ตาคมของคุณชายทรงโปรดละออกจากใบหน้าน่ารักของเอ็นดูไม่ได้เลย



“ครับพี่บอล”



[ตอนนี้คุณชายพักผ่อนอยู่ใช่มั้ยครับ]



“ครับ ผมกำลังกินข้าวอยู่”



[ผมขอโทษด้วยนะครับที่ต้องรบกวนเวลาส่วนตัวของคุณชาย แต่ตอนนี้ที่ไซต์งานเกิดเรื่องใหญ่แล้วครับ]



เสียงพี่บอลหอบหายใจทำให้ทรงโปรดขมวดคิ้ว



“มีอะไรครับพี่บอล”



และน้ำเสียงทุ้มที่ไม่ได้นุ่มนวลก็ทำให้เอ็นดูเงยหน้าขึ้นมอง



[คนงานก่อสร้างจุดไฟเผาหนังสือพิมพ์ในที่พักครับ แล้วในบ้านก็มียางรถยนต์ด้วย ตอนนี้ไฟลุกถึงตัวรีสอร์ตใกล้ๆ กับที่พักคนงาน เสียหายไปหนึ่งหลังแล้วครับคุณชาย]



“แล้วตอนนี้เป็นยังไงบ้าง” เขาขมวดคิ้ว หม่อมราชวงศ์ทรงโปรดขบกราม



[ยังดับไฟไม่ได้เลยครับคุณชาย ผมให้คนโทรเรียกรถดับเพลิงมาแล้ว แต่บ้านคนงานมียางรถยนต์เยอะมากไฟเลยรุก ตอนนี้กำลังช่วยเอาน้ำมาดับไฟอยู่ครับ]



“เกิดอะไรขึ้นเหรอครับ” เอ็นดูวางช้อนลงบนจาน น้องเงยหน้ามองหม่อมราชวงศ์ทรงโปรดที่ลุกขึ้นยืนเต็มความสูง



[คนงานที่จุดไฟน่าจะเมายาครับคุณชาย ตอนนี้ผมยังหาตัวมันไม่เจอเลย]



“ไม่มีใครเป็นอะไรใช่มั้ยครับ”



[ตอนนี้ทุกคนปลอดภัยครับ]



“ขอบคุณครับพี่บอล ผมจะไปที่รีสอร์ตเดี๋ยวนี้ครับ”



หม่อมราชวงศ์ทรงโปรดกดวางสาย คนตัวสูงที่ขมวดคิ้วแน่นสบตากับคนผิวขาวที่ยืนทำหน้าเครียดไม่แพ้กัน เอ็นดูเลิกคิ้วเชิงถามว่าเกิดอะไรขึ้น ริมฝีปากอวบอิ่มสีชมพูขยับเล็กน้อยคล้ายจะพูดอะไรบางอย่างแต่สุดท้ายน้องก็เม้มปาก



“ที่รีสอร์ตไฟไหม้ เดี๋ยวพี่ต้องไปหน้างาน เราอยู่โรงแรมคนเดียวได้ใช่มั้ย”



“ไฟไหม้เหรอครับ แล้ว...ตอนนี้ไฟดับหรือยังครับ”



“ยัง แต่พี่บอลเรียกรถดับเพลิงแล้ว”



“อ่อ...” ดวงตาเรียวรีของเอ็นดูหรี่ลง คนผิวขาวค่อยๆ สาวเท้าเดินมาหยุดอยู่หน้าหม่อมราชวงศ์ทรงโปรด “ผมขอไปด้วยได้มั้ยครับ...เผื่อจะช่วยอะไรได้”



“อยู่โรงแรมดีกว่าเอ็นดู ที่นั่นมันอันตราย” มือหนาวางลงบนศีรษะกลมพร้อมกับลูบผมสีน้ำตาลนุ่มเบาๆ



“...”



“พี่กลัวว่าเราจะเป็นอะไรไป พี่เป็นห่วงเรา”



“ผมก็เป็นห่วงคุณเหมือนกันครับ”



“...”



“...เป็นห่วงรีสอร์ต แล้วก็คนอื่นๆ ด้วย”



มุมปากของคุณชายทรงโปรดยกยิ้มทันที เพราะเป็นครั้งแรกในช่วงเวลาที่มีปัญหาแล้วเขาไม่รู้สึกว่าต้องเผชิญกับปัญหานั้นเพียงลำพัง ทรงโปรดรับรู้ได้ถึงความวุ่นวานใจและเครียดไม่แพ้กันผ่านปลายนิ้วมือเรียวของเอ็นดูที่แตะอยู่บนท่อนแขนแกร่ง



“ให้ผมช่วยเหลือคุณบ้างนะครับ”



ขอบคุณเอ็นดูจริงๆ



ขอบคุณที่ในเวลาแบบนี้น้องยังไม่ทิ้งกัน



ขอบคุณที่ทำให้รู้ว่าหัวใจของเขาที่ฝากไว้กับเอ็นดู



เขาฝากไว้ถูกคนแล้ว







*****







“คุณบอลเข้าไปในบ้านหลังนั้นยังไม่ออกมาเลยค่ะคุณชาย”



“พี่บอลเข้าไปทำอะไรครับ”



“เข้าไปยกแจกันดอกไม้ที่แพงๆ ออกน่ะค่ะ เห็นคุณบอลเคยเล่าให้ฟังว่าคุณชายไปประมูลมาแพง เลยไม่อยากให้มันไหม้ไปกับไฟค่ะคุณชาย”



หม่อมราชวงศ์ทรงโปรดอยากทึ้งหัวตัวเอง ตอนนี้เขาไม่ได้สนใจแจกันโบราณที่ไปประมูลมาหลักล้านเลยสักนิด แต่ที่เขาเป็นห่วงมากที่สุดก็คือชีวิตของทุกคน



พอมาถึงไซต์งาน คนแรกที่เขาถามถึงก็คือพี่บอล แต่เลขาฯ ของพี่บอลกลับบอกว่าอีกฝ่ายวิ่งเข้าไปในบ้านหลังที่ถูกไฟไหม้เพื่อเอาของราคาแพงของเขาออกมา ในรีสอร์ตนี้มีบ้านห้าหลังที่สร้างเสร็จและเอาเฟอร์นิเจอร์เข้าไปวางเรียบร้อยแล้ว หนึ่งในนั้นโดนไฟไหม้เพราะตั้งอยู่ใกล้กับบ้านพักคนงานมากที่สุด



“รถดับเพลิงยังไม่มาอีกเหรอครับพี่เปิ้ล” หันไปถามเลขาฯ ของพี่บอลที่ยืนทำหน้าว้าวุ่น



“อีกสิบนาทีจะถึงค่ะคุณชาย”



“ไม่ทัน...”



ไฟลุกโชนแรงกว่าเดิม ทั้งยังไม่มีวี่แววของพี่บอลเลยสักนิด หม่อมราชวงศ์ทรงโปรดมองซ้าย-ขวา พอเห็นถังน้ำสีดำที่บรรจุน้ำอยู่ก็รีบยกขึ้นมาราดจนเปียกไปทั้งตัว



“คุณทำอะไรครับ เอาน้ำมาราดตัวทำไม”



คนผิวขาวที่ยืนอยู่ข้างๆ หันมาถามหน้าเครียด เหมือนว่าหม่อมราชวงศ์ทรงโปรดกำลังจะตัดสินใจทำอะไรบางอย่างที่เอ็นดูคาดไม่ถึง



คนตัวสูงจับไหล่แคบของเอ็นดู หม่อมราชวงศ์ทรงโปรดบีบไหล่กลมเบาๆ พลางใช้ตาคมที่แสดงถึงความอ่อนโยนจับจ้องใบหน้าหวานฉ่ำ



“รอพี่อยู่ตรงนี้ เข้าใจมั้ยครับ”



“คุณจะไปไหน” เอ็นดูขมวดคิ้วแน่น ยกมือขึ้นจับท่อนแขนแกร่งของทรงโปรดไว้ “คุณจะเข้าไปข้างในเหรอครับ”



หม่อมราชวงศ์ทรงโปรดพยักหน้า แต่ฉับพลันเอ็นดูกลับสั่นศีรษะรัว



“มันอันตราย ผมไม่ให้คุณเข้าไปนะครับ”



“รอพี่อยู่ตรงนี้ พี่จะรีบออกมา”



“คุณ!”



หม่อมราชวงศ์ทรงโปรดจูบหน้าผากว่าที่คู่หมั้น เอ็นดูไม่ทันได้พูดอะไรเขาก็ถือถังน้ำที่บรรจุน้ำจนเต็ม สาวเท้าวิ่งเข้าไปในบ้านหลังที่ปกคลุมไปด้วยเพลิงไฟ



เอ็นดูอ้าปากค้าง แทบล้มลงกองบนพื้นเดี๋ยวนั้นเลย...



หม่อมราชวงศ์ทรงโปรดย้ำนักย้ำหนาว่าให้เขารออยู่ในที่ที่ปลอดภัย แต่กลับเป็นเจ้าของร่างสูงเองที่เสี่ยงอันตรายเข้าไปแบบนั้น



ยืนกระวนกระวายใจไม่ถึงนาที เสียงไซเลนของรถดับเพลิงและรถตำรวจก็ร้องดังทั้งบริเวณพร้อมๆ กับร่างของพี่บอลที่หอบเอาแจกันออกมาจากบ้าน เอ็นดูเกือบจะเบาใจแล้วถ้าพี่บอลออกมาพร้อมกับ...คนที่เพิ่งหายเข้าไป



เจ้าหน้าที่ส่วนหนึ่งวิ่งเข้าไปพยุงพี่บอลที่ยิ้มเจื่อน เอ็นดูก้าวเท้าฉับๆ ตามไปติดๆ ตาเรียวรีสำรวจคนของทรงโปรดว่าบาดเจ็บตรงไหนหรือเปล่า แต่พี่บอลส่ายหน้าเหมือนรู้ว่าเอ็นดูกำลังตั้งคำถาม



“ผมไม่เป็นอะไรครับคุณ--”



“แล้วคุณชายโปรดล่ะครับ”



“คุณชาย? ทำไมครับ”



“เขาเข้าไปตามพี่บอลออกมา พี่บอลเห็นเขามั้ยครับ”



คนตรงหน้าถูกหิ้วปีกส่ายหน้าพร้อมขมวดคิ้วแน่น นั่นยิ่งทำให้เอ็นดูอยากจะร้องไห้ออกมาเดี๋ยวนั้นเลย คนผิวขาวมองเข้าไปในบ้านก่อนจะหันไปมองรถดับเพลิงที่ต่อสายเตรียมดับไฟ เอ็นดูกำมือแน่น สูดลมหายใจเข้าเต็มปอดก่อนวิ่งฝ่าเพลิงเข้าไปในบ้านพร้อมกับเสียงร้องเรียกของคนที่ยืนอยู่ตรงนั้น



พอเข้ามาแล้วเอ็นดูก็ร้อนผ่าวไปทั้งตัว แสบผิวไปหมด เอ็นดูสำลักควันทั้งๆ ที่ยังเดินเข้ามาไม่ถึงไหน คนผิวขาวในเพลิงไหม้น้ำตาไหลอาบแก้ม ไม่รู้เลยว่าเป็นเพราะแสบตา หรือเพราะหาทรงโปรดไม่เจอ



“คุณอยู่ไหน ได้ยินผมมั้ย โอ๊ย!”



เอ็นดูล้มลงเมื่ออะไรบางอย่างหล่นทับหลัง มันหนัก และร้อน ร้อนจนแสบ อยากลุกขึ้นแต่ก็ลุกไม่ไหว เขานอนคว่ำอยู่บนพื้นกระเบื้องที่ร้อนพอกัน พยายามคลานหนีแต่ก็ต้องทรุดลงบนพื้นเหมือนเดิมเมื่อตัวเองเกิดสำลักควันไฟ



“คุณ...อยู่ไหน”



“เอ็นดู! เอ็นดู!”



เจ้าของชื่อตาพร่ามัว เอ็นดูได้ยินแต่เสียงทุ้มแสนคุ้นเคยตะโกนออกมา แม้พยายามลืมตามองก็ลำบาก ตอนนี้เอ็นดูแสบตามากจริงๆ



“เอ็นดู ลืมตามองพี่”



กระทั้งอะไรบางอย่างที่ทับแผ่นหลังถูกยกออก เอ็นดูได้ยินเสียงแต่ทำตามที่ทรงโปรดบอกไม่ได้



“คุณ...”



ทรงโปรดพยุงตัวน้องขึ้น สอดแขนแกร่งใต้ท้ายทอย น้ำในกระป๋องที่ถือเข้ามาด้วยถูกราดใส่ตัวของเอ็นดูจนเปียก มือหนาควักน้ำที่เหลือลูบหน้าลูบตาน้อง



“อย่าหลับนะครับ เอ็นดู ได้ยินเสียงพี่มั้ย”



ทรงโปรดเสียงสั่น เขารีบช้อนตัวน้องแนบอก คนตัวสูงหรี่ตาหลบควันไฟ เขามองหาประตูทางออก และเมื่อเจอแล้วทรงโปรดก็รีบสาวเท้าหลบหลีกไฟที่ลุกโชนออกไปทันที



“เอ็นดู อย่าหลับ”



พอพ้นเขตอันตราย ทรงโปรดทรุดนั่งบนหญ้า ในอ้อมแขนของเขามีคนผิวขาวที่นอนหมดสติอยู่ มือหนาตบแก้มนุ่มของเอ็นดูเบาๆ ปลุกให้น้องตื่น แต่ไม่ ตอนนี้เอ็นดูหลับลึกจนเขาปลุกไม่ได้



“พาคนเจ็บขึ้นรถไปส่งโรงพยาบาลเร็ว”



ทรงโปรดไม่รู้แล้วว่านั่นเป็นเสียงของใคร แต่เขาเห็นเตียงหามคนป่วยตรงมาทางนี้



“เอ็นดู พี่อยู่นี่แล้วครับ”



หม่อมราชวงศ์ทรงโปรดเขย่าตัวเอ็นดู แต่น้องหลับไม่ตอบสนองอะไรสักอย่าง



คนตัวสูงแนบหน้าลงบนหน้าผากของคนที่หมดสติ เขารู้สึกว่าขอบตาของตัวเองมันร้อนผ่าวและปวดหนึบ...และรู้ตัวอีกทีก็ตอนที่น้ำจากดวงตาไหลหยดลงบนแก้มกลมของน้อง



“เอ็นดู ตื่นเถอะ พี่โปรดอยู่นี่แล้ว”



ในชีวิตนี้หม่อมราชวงศ์ทรงโปรดไม่เคยเสียน้ำตาให้ใคร



“เด็กดี...ลืมตามองพี่โปรดหน่อยสิครับ”



แต่ตอนนี้...ทรงโปรดเสียน้ำตาให้กับเด็กที่นอนหน้าซีดตัวร้อนผ่าวในอ้อมกอด



น้ำตาของหม่อมราชวงศ์ทรงโปรด มีไว้ร้องไห้กับเรื่องของเอ็นดูเท่านั้น



“คุณชาย อุ้มน้องขึ้นเตียงไปส่งโรงพยาบาลเร็ว” ชาวบ้านสะกิดไหล่



ทรงโปรดพยักหน้า เขาค่อยๆ อุ้มน้องขึ้นไปนอนบนเตียงเล็กๆ สำหรับแบกคนป่วย รัดนิรภัยอย่างดีเพื่อไม่น้องกลิ้งตกลงมา มือหนาจับมือขาวไว้แน่น



ทรงโปรดไม่สนอะไรแล้ว ไม่สนว่ารีสอร์ตจะไหม้กี่หลัง เสียหายเท่าไหร่



เขาสนใจแต่เอ็นดูเท่านั้น



“เอ็นดู...พี่โปรดรักเอ็นดูนะครับ” ทรงโปรดสาวเท้าพลางก้มหน้าแนบริมฝีปากลงบนแก้มขาวขณะที่ชาวบ้านกำลังช่วยหามเอ็นดูขึ้นรถ



เขารักเอ็นดูมาก



รักมากจนคิดว่าชีวิตนี้ทรงโปรดคงขาดเอ็นดูไปไม่ได้













#ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี

 

 

 

 

 

 
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ตอน 15 - up 25.9.61
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 25-09-2018 21:42:12
ตอนนี้จะขาดอากาศจริง ๆ แล้ว เอ็นดูลูกอย่าเป็นอะไรไปนะ
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ตอน 15 - up 25.9.61
เริ่มหัวข้อโดย: BAKA ที่ 25-09-2018 22:27:54
เอ็นดู ลูกกกก
ขอให้อย่าเป็นอะไรหนักเลยนะ
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ตอน 15 - up 25.9.61
เริ่มหัวข้อโดย: k00_eng^^ ที่ 25-09-2018 22:37:39
เอ็นดูอย่าเป็นอะไรนะลูก
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ตอน 15 - up 25.9.61
เริ่มหัวข้อโดย: TheWanFah ที่ 25-09-2018 23:20:08
เอ็นดูลูก
อย่าเป็นอะไรนะ
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ตอน 15 - up 25.9.61
เริ่มหัวข้อโดย: O-RA DUNGPRANG ที่ 26-09-2018 00:06:41
 o22 o22 o22
หัวข้อ: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ตอน 16 - up 26.9.61
เริ่มหัวข้อโดย: Swanlee ที่ 26-09-2018 09:06:53


16



รู้แล้วว่าการมีคุณอยู่ในหัวใจ

มันทำให้ทุกอย่างๆ ผ่อนคลายได้ทันที



 

“ขวัญเอ๋ยขวัญมา อยู่กับเนื้อกับตัวนะลูก” ลูบผมนุ่มๆ ของคนป่วยที่นอนอยู่บนเตียงสีขาว เรียวนิ้วสวยของอดีตนางงามไล้ตามโครงหน้าหวานฉ่ำของลูกชายคนเดียวที่ใครๆ ต่างก็บอกเป็นเสียงเดียวกันว่าหน้าตาของเอ็นดูถอดแบบมารดามาเป๊ะๆ



ใช่ คนป่วยเพิ่งฟื้นขึ้นมาเมื่อกี้นี้เอง...ตอนที่หลับตาอยู่ เอ็นดูรู้สึกปวดเมื่อยตามตัวและเจ็บที่แผ่นหลังกับขาขวา รู้สึกขัดๆ ไปหมด เลยลืมตาตื่นขึ้นมา ก็พบว่าตัวเองนอนอยู่ในห้องพักผู้ป่วยแบบ VIP ซะแล้ว



เอ็นดูเห็นเพดานสีขาวเป็นอย่างแรก พอกวาดตามองก็พบกับคุณแม่ที่นั่งอ่านนิตยาสารอยู่บนโซฟา จะเปล่งเสียงเรียกท่านแต่คอแหบแห้งไปหมด โชคดีที่คุณแม่เงยหน้ามอง ไม่อย่างนั้นเอ็นดูคงนอนคอแห้งต่อไปอีกสักพักเลย



“แม่เรียกคุณหมอแล้ว...ดื่มน้ำเยอะๆ ก่อนนะลูก”



“พอแล้วครับคุณแม่ เมื่อกี้ก็ดื่มไปแล้วตั้งแก้วหนึ่งนะครับ”



“แม่กลัวหนูหิวนี่นา”



“ไม่หิวแล้วครับคุณแม่ ขอบคุณนะครับ”



คุณแม่กะให้เขาดื่มน้ำสักสามสี่แก้ว แต่คนป่วยอย่างเอ็นดูดื่มไปแก้วหนึ่งเต็มๆ ก็ถือว่าเยอะแล้ว ตอนนี้คอไม่แห้ง เสียงกลับมาใช้งานได้เหมือนเดิม คนป่วยเลยส่ายหน้าไม่ขอดื่มน้ำต่อ



ดวงตาเรียวรีกวาดมองรอบห้อง ในนี้ไม่มีคนอื่นนอกจากเอ็นดูกับคุณแม่ เขาเห็นกระเป๋าเดินทางสีโรสโกลด์ของคุณแม่ที่วางอยู่ใกล้ๆ โซฟา เดาว่าท่านคงจะรีบเก็บกระเป๋าแล้วบินมาที่เชียงรายทันทีที่รู้ข่าว



“ลำบากคุณแม่แย่เลย...ขอโทษด้วยนะครับ”



“พูดอะไรแบบนั้น ทำอย่างกับแม่ไม่เคยบินมาเฝ้าหนูที่โรงพยาบาลไปได้” อดีตนางงามหัวเราะขณะที่ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนระบายยิ้มกว้าง



นั่นแหละ มันเคยเกิดเหตุการณ์ประมาณนี้มาแล้วครั้งหนึ่ง ตอนนั้นเอ็นดูอยู่มอต้น ไปเข้าค่ายอาสากับโรงเรียน แล้วก็เป็นไข้ป่าจนถูกหามขึ้นเฮลิคอปเตอร์ส่งตัวไปยังโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด แต่ตอนนั้นค่อนข้างแย่ โรงพยาบาลที่ใกล้เป็นแค่โรงพยาบาลเล็กๆ ที่ไม่มีอุปกรณ์ในการรักษาอาการของเอ็นดู เลยต้องส่งตัวไปที่โรงพยาบาลในเมืองอีกที



“คุณแม่ครับ แล้วคุณชายเขา...”



“ชายโปรดเพิ่งกลับไปก่อนที่เอ็นดูจะตื่นได้ห้านาทีเองจ้ะ...รู้มั้ย ชายโปรดจับมือหนูไว้ตลอดเลยนะ ไม่ยอมกินข้าวกินปลา ไม่ยอมพักผ่อน หน้าตาอิดโรยยิ่งกว่าหนูตอนนี้อีก”



คุณแม่จับมืออีกข้างที่ไม่มีเข็มน้ำเกลือเจาะ บีบๆ คลึงๆ ให้รู้ว่ามือข้างนี้แหละที่หม่อมราชวงศ์ทรงโปรดจับไว้ตลอดไม่ยอมปล่อย



“เขาปลอดภัยใช่มั้ยครับคุณแม่”



หลังตัวเองน่ะเจ็บแสนเจ็บ แต่เอ็นดูยังไม่ห่วงตัวเองเท่าหม่อมราชวงศ์ทรงโปรดที่เสี่ยงชีวิตเข้าไปช่วยลูกน้อง ยอมรับว่าจำเหตุการณ์หลังจากที่เข้าในบ้านหลังนั้นไม่ได้ เอ็นดูรู้แค่ว่า...ตัวเองมองหาทรงโปรดผ่านควันดำ กลั้นหายใจแทบตาย และสุดท้ายก็เหมือนกับหลับไปแค่นั้นเอง



“ปลอดภัยกว่าหนูเยอะเลยค่ะ ชายโปรดเอาแต่ขอโทษแม่” อดีตนางงามผ่อนลมหายใจ ภาพที่ชายร่างสูงนั่งคุกเข่าก้มหน้าพร่ำขอโทษต่อหน้ายังติดตา



หม่อมราชวงศ์ทรงโปรดสูงส่งกว่าเธอมาก ทั้งในเรื่องยศศักดิ์ ฐานะ ผิดกับเธอที่เป็นเพียงผู้หญิงธรรมดา มันไม่เหมาะไม่ควรเลยที่คุณชายจะมานั่งคุกเข่าก้มหน้าต่อหน้าคนธรรมดา...เธอกลัวหากใครผ่านมาเห็นภาพนนั้น ทรงโปรดจะถูกมองไม่ดี



...คุณนภัสราพยุงคนตัวสูงให้ลุกขึ้นแทบทันที แต่เชื่อเขาเลย...หม่อมราชวงศ์ทรงโปรดส่ายหน้าและคุกเข่าอยู่อย่างนั้นจนกว่าเธอจะพูดให้อภัย



แต่เรื่องก็จบโดยการที่อดีตนางงามย่อตัวลงนั่งในท่าเดียวกับหม่อมราชวงศ์ทรงโปรด เธอบอกว่าเขาไม่ผิดเลยไม่รู้ว่าพูดให้อภัยยังไงในเมื่อเรื่องนี้ทรงโปรดไม่ได้ตั้งใจทำให้เอ็นดูเจ็บตัว...



ทรงโปรดคงกลัวว่าคุณแม่ของเอ็นดูจะเมื่อยเข่าเมื่อยขา เขาเลยยอมลุกขึ้นยืน แต่ก็ยังไม่เลิกขอโทษคุณนภัสรา



“ยิ้มออกเลยเหรอคะลูกแม่...ไม่ต้องกังวล ชายโปรดไม่เป็นอะไรจ้ะ ห่วงตัวเองก่อนดีมั้ย”



เอ็นดูหัวเราะเมื่อถูกนิ้วชี้เรียวสวยจิ้มลงบนหน้าผาก คนผิวขาวเอาแต่ยิ้ม รู้สึกสบายใจโล่งใจบอกไม่ถูก พอรู้ว่าคุณชายทรงโปรดไม่เป็นอะไร เอ็นดูก็หายเจ็บหายป่วยแล้วแหละ



“หมอมาแล้ว...งั้นเดี๋ยวแม่ออกไปหาอะไรทานก่อนนะคะ” คุณแม่ของเอ็นดูหันมองเสียงเคาะประตู พอรู้ว่าเป็นคุณหมอที่ดูอาการของลูกชายคนนี้ก็รู้เบาใจขึ้นมาทันที เธอหันกลับมาลูบโครงหน้าเนียนคนที่นอนยิ้มระรื่น “อยากได้อะไรเพิ่งโทรบอกแม่ได้เลยนะจ๊ะ เดี๋ยวแม่ซื้อมาให้”



“ได้ครับคุณแม่ ขอบคุณนะครับ”



อือ นี่ก็ยิ้มตลอดเลย

ยิ้มให้คุณหมอกับพยาบาลที่เดินเข้ามาดูอาการหลังฟื้น

ยิ้มให้สายน้ำเกลือที่เอ็นดูไม่ชอบเอามากๆ



เอ็นดูยินดีกับความเจ็บครั้งนี้นะ เจ็บตัวแต่สบายใจ...คนป่วยยกมือขาวข้างที่ยังหลงเหลือความอุ่นจากมือหนาขึ้นมามอง เขาดูแลเอ็นดูจริงๆ ถึงแม้ว่าเอ็นดูจะไม่ได้รู้สึกตัวลืมตาขึ้นมามองสถานการณ์ตอนนั้น แต่ก็รับรู้ได้ถึงความห่วงใย



คิดไม่ผิดแล้วจริงๆ ที่เลือกเปิดใจให้เขา

หม่อมราชวงศ์ทรงโปรดที่ใครต่อใครบอกว่าเจ้าชู้...ดูเหมือนจะหยุดหัวใจไว้ที่เอ็นดูคนเดียวแล้วแหละ : )







*****







คนที่ร่างกายป่วยนอนเล่นโทรศัพท์มือถือตั้งแต่คุณหมอตรวจร่างกายเสร็จ เอ็นดูเบื่อเข็มที่เจาะบนหลังมือมาก เข็มนั้นทำให้เขาขยับมือไม่ค่อยถนัดเท่าไหร่



แต่ทำไงได้ คุณหมอบอกว่าเอ็นดูยังไม่แข็งแรงพอ ต้องหยอดน้ำเกลือไปก่อน



เอ็นดูอยากออกไปเดินเล่นบ้าง แต่ขายังเจ็บอยู่ จริงๆ มันไม่ได้หนักหนาอะไรมากหรอก แต่คุณแม่ดันส่งสายตาดุๆ บอกให้เอ็นดูนอนพักอยู่บนเตียงนี่น่ะสิ คนผิวขาวเลยต้องหยิบโทรศัพท์มาเล่นแก้เบื่อแทน



จริงๆ แล้วต้องให้คนป่วยสูดอากาศสดชื่น อือ นั่นแหละ พอเอ็นดูอยากสูดอากาศดีๆ คุณแม่ก็ให้คนขนดอกไม้สดที่ซื้อจากร้านมาตกแต่งใส่แจกัน ฉีดสเปรย์กลิ่นธรรมชาติดับกลิ่นฉุนของยา แทบเนรมิตห้องพักคนป่วยวีไอพีห้องนี้ให้เป็นสวนหย่อม



“ได้เวลาทานข้าวเย็นแล้วจ้ะ” คุณอดีตนางงามคนสวยสวมร่างเป็นพยาบาล คุณแม่เดินตามหลังพยาบาลตัวจริงที่ถือถาดข้าวมาให้ เอ็นดูทำหน้ามู่ทู่ยู่ปาก...เขาเบื่ออาหารโรงพยาบาลที่สุดในโลก



“ตอนเที่ยงข้าวต้มกับหมูหยอง” คนป่วยชะโงกหน้ามองของที่อยู่ในถ้วย “...นี่ก็ข้าวต้มกับหมูกรอบ อีกแล้วเหรอครับ”



ช้อนตากลมๆ มองคุณแม่ที่ยืนกอดอกเอียงหน้าฉีกยิ้มให้ลูกชาย คุณหมอบอกว่าเอ็นดูสูดควันไฟเข้าไปเยอะพอสมควร เลยทำให้มีอาการแสบคอแสบจมูก อาหารอ่อนๆ นี่แหละเหมาะกับคนป่วยมากกว่า เอ็นดูเลยได้กินข้าวต้มกับหมูที่ละลายน้ำแล้วเหลว...กับผัดต้มที่มันไม่ค่อยเข้ากันเท่าไหร่มาสองมื้อแล้ว



“ก็หนูยังป่วยอยู่นี่นา ทานแบบนี้จะได้โล่งคอ”



คนป่วยแทบมือไม้อ่อน เอ็นดูจะทำตัวเป็นเด็กๆ อ้อนขอคุณแม่ให้หาอาหารอย่างอื่นมาให้ก็ทำไม่ได้ แค่นี้ก็ลำบากคุณแม่มากๆ แล้ว ตั้งแต่เอ็นดูเข้าโรงพยาบาลคุณแม่ก็ทำนู่นทำนี่จนเอ็นดูอยากลุกไปช่วย ท่านพยายามทำให้เอ็นดูผ่อนคลายเพราะรู้ว่าลูกชายคนนี้ไม่ชอบโรงพยาบาล พยายามทำให้ห้องพักห้องนี้เหมือนห้องนอนของเอ็นดูมากที่สุด



เอ็นดูกลัวคุณแม่จะเหนื่อย



“ทานด้วยกันมั้ยครับคุณแม่”



อดีตงามงามส่ายหน้ารัว “แม่เห็นหนูกินข้าวต้มติดกันสองมื้อก็เบื่อแทนแล้วล่ะ”



“เห็นมั้ยครับ คุณแม่ยังเบื่อเลย”



“แต่หนูเป็นคนป่วยไงจ๊ะ อดทนทานเข้าไปจะได้หายไวๆ”



คนตัวเล็กไหล่ลู่ลง รู้สึกคาวปากยังไงบอกไม่ถูก อาจเพราะอาหารโรงพยาบาลไม่อร่อยทั้งสองมื้อด้วยแหละมั้ง แต่ยังดีนะที่มีส้มสองผล มีอะไรเปรี้ยวๆ ให้เอ็นดูไม่พะอืดพะอมบ้าง



เอ็นดูแกะช้อนกับส้อมออกจากซองพลาสติกขณะที่คุณแม่ยืนแกะเปลือกส้มอยู่ข้างเตียง คนผิวขาวจุ่มช้อนลงในถ้วยข้าวต้ม โรยหมูกรอบลงไปสองแผ่น ใช้ช้อนคนให้มันนิ่มจนแทบเหลวไปกับข้าวต้มก่อนจะตักเข้าปาก แต่ก็ต้องชะงักเมื่อจู่ๆ เสียงประตูเปิดเข้ามาพร้อมกับเสียงนุ่มทุ้มคุ้นหูดังขึ้น



“สวัสดีครับคุณแม่”



“อ้าว...สวัสดีจ้ะชายโปรด”



ชายโปรดของคุณแม่ส่งยิ้มให้คนป่วยที่นั่งถือช้อนข้าวค้างกลางอากาศ ก็ดูสิ...ปากบอกสวัสดีผู้ใหญ่ แต่ตาคมนี่จ้องน้องตาไม่กะพริบ



อือ หม่อมราชวงศ์ทรงโปรดรู้ว่าเอ็นดูฟื้นแล้ว แต่ไม่รู้ว่าน้องจะตื่นขึ้นมาพร้อมกับความสดใสเปล่งปลั่งขนาดนี้



เอ็นดูเองก็จับจ้องใบหน้าอิดโรยของทรงโปรดไม่วางตาเหมือนกัน คนผิวขาวเกิดอาการคอแห้งอีกครั้งทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ก็ดื่มน้ำไปแล้ว



คิดถึงเขาจัง…



“เดี๋ยวแม่ลงไปซื้อกาแฟที่ช็อปก่อนดีกว่า เย็นแล้วเดี๋ยวร้านปิด” ทนอยู่ในสถานการณ์ที่เห็นคนสองคนจ้องตากันไม่ได้ ไม่สิ คุณแม่เอ็นดูไม่อยากอยู่เป็นก้างขวางเด็กสองคนนี้มากกว่า



อดีตนางงามเอาผมทัดใบหู อมยิ้มเล็กน้อยก่อนเดินผ่านหม่อมราชวงศ์ทรงโปรดออกจากห้องไปในที่สุด



ปล่อยให้คนรักกันเขาได้คุยกัน ได้ดูแลกันดีกว่า



คนตัวสูงปิดประตูหลังจากที่คุณแม่ของเอ็นดูเดินออกไปแล้ว หนำซ้ำยังกดล็อกลูกบิดอีกต่างหาก แต่เอ็นดูไม่รู้หรอกว่าเขาล็อกประตู เพราะดวงตาคู่สวยๆ เอาแต่จับจ้องโครงหน้าหล่อเหลาของหม่อมราชวงศ์ทรงโปรดอยู่



“เอ็นดู กะพริบตาบ้างก็ได้” คนพูดหลุดขำ



นั่นแหละ ไหล่กว้างที่สั่นเพราะขำส่งผลให้เอ็นดูกะพริบตาปริบ



“คุณ...” กำลังจะอ้าปากพูดอะไรสักอย่างออกไป แต่กลับต้องกลืนคำพวกนั้นลงคอเมื่อตัวของเอ็นดูถูกรวบเข้าสู่อ้อมกอดอบอุ่น แขนแกร่งโอบกายคนตัวขาวอย่างทะนุถนอม เขารู้ว่าเอ็นดูเจ็บตรงส่วนไหนบ้าง และถึงแม้ว่าจะเป็นห่วง คิดถึงมากแค่ไหนก็ตาม หม่อมราชวงศ์ทรงโปรดก็ไม่กล้ากอดน้องแรงๆ



“พี่ขอโทษ”



เอ็นดูคิดถึงเสียงของเขา



“ขอโทษอะไรครับ” ถามเสียงอู้อี้เพราะซบหน้าบนอกแกร่ง



“ขอโทษที่ทำให้เราเจ็บตัว” มือหนาลูบผมนุ่มสีน้ำตาลเข้ม เสียงของหม่อมราชวงศ์ทรงโปรดสั่นเครือจนเอ็นดูต้องคล้องแขนกอดเขากลับ มือขาวลูบแผ่นหลังกว้างเบาๆ ส่ายหน้าไปมาบนอกแกร่ง “คนที่ต้องมานอนบนนี้ควรเป็นพี่มากกว่า”



“ไม่นะครับ”



เอ็นดูเสี่ยงชีวิตเข้าไปตามหาทรงโปรดแบบนั้น



“ถ้าคุณเป็นอะไรไป”



ก็เพราะอยากให้เขาปลอดภัย

แต่ถ้าหม่อมรางวงศ์ทรงโปรดเป็นอะไรไป



“ผมต้องแย่แน่ๆ เลย”



เอ็นดูคงอยู่ไม่ได้ คงร้องไห้ขาดใจ...

อือ นั่นแหละ เอ็นดูต้องแย่แน่ๆ







*****







เชียงรายฝนตกหนักกว่ากรุงเทพฯ หลายเท่า



ขนาดปิดหน้าต่างมิดชิด ยังได้ยินเสียงฝนกระหน่ำกระทบระเบียง...อย่างนี้คุณแม่ก็กลับมาเปลี่ยนเวรผลัดกันเฝ้าเอ็นดูกับทรงโปรดไม่ได้แน่ๆ



ใช่ ก่อนหน้านั้นคุณแม่กลับขึ้นมาบนห้อง ท่านบอกว่าจะขอกลับไปอาบน้ำแต่งตัวที่โรงแรมและขอฝากเอ็นดูไว้กับทรงโปรดไม่เกินหนึ่งชั่วโมง แต่นี่สองชั่วโมงผ่านไปแล้ว...คืนนี้เอ็นดูคงได้อยู่กับหม่อมราชวงศ์ทรงโปรดจริงๆ



“ครับคุณแม่ สบายใจได้ครับ เดี๋ยวผมดูแลเอ็นดูให้เอง”



เสียงทุ้มทรงเสน่ห์ดังขึ้น เรียกให้ดวงตาคู่สวยหันมองคนที่เพิ่งเดินออกจากห้องน้ำ หม่อมราชวงศ์อยู่ในชุดเหมือนตอนไปทำงาน แค่ไม่มีสูทดำทับเชิ้ตขาว...แค่นี้เขาก็ดูดีมากแล้ว



แขนเสื้อถูกพับเกือบถึงศอก เผยให้เห็นลำแขนแกร่งขาวที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามกับเส้นเลือดหลังมือ ทรงโปรดปลดกระดุมเสื้อสามเม็ด จงใจโชว์อกหนั่นน่าซบ



ชายเสื้อหลุดลุ่ยออกจากกางเกงสีดำ หลุดบ้างไม่หลุดบ้าง ดูเหมือนชายหนุ่มที่วุ่นกับงานจนลืมจัดการตัวเอง...แต่ในความเป็นจริงแล้วทรงโปรดวุ่นกับเอ็นดูมากกว่า



ก็เขาเล่นเทคแคร์เหมือนเอ็นดูเดินไม่ได้หยิบไม่ได้ แทบอุ้มเอ็นดูเข้าห้องน้ำ...แทบจะ ยืนเฝ้าเอ็นดูทำธุระด้วยซ้ำ



“ทานไม่ยากครับ พอทานซุปเสร็จก็ทานยาเลย”



เอ็นดูมองคนที่สวมสลิปเปอร์สีขาวของโรงพยาบาลกำลังสาวเท้ามายังเตียงคนป่วย คนผิวขาวไหล่สั่นเล็กน้อยเพราะหลุดขำ เมื่อกี้คุณแม่ต้องคุยกับทรงโปรดเรื่องที่เอ็นดูกินยายากแน่ๆ



“ครับ สวัสดีครับคุณแม่” ร่างสูงลดโทรศัพท์ลงก่อนใส่ในกระเป๋ากางเกง เขาเลิกคิ้วมองเอ็นดู ยกยิ้มเมื่อเห็นว่าแก้มกลมๆ อมลมไว้ “ฟูแล้ว”



“อะไรฟูครับ”



“นี่ไง” นิ้วชี้จิ้มลงบนแก้ม “แก้มฟูแล้ว”



เอ็นดูเอียงหน้าหนีนิ้วชี้แกร่ง เหลือบตามองอย่างอื่นที่ไม่ใช่หม่อมราชวงศ์ทรงโปรด อยู่ๆ ก็มาบอกว่าแก้มฟงแก้มฟู



ฟูขนาดนี้ยังไม่ยอมหอมกันเลย



“ง่วงหรือยัง”



“ไม่เลยครับ...คุณง่วงเเล้วเหรอ”



ทรงโปรดส่ายหน้า ขยับตัวนั่งข้างคนป่วยที่อยู่ในชุดสีเทาอ่อนของโรงพยาบาล เอ็นดูนั่งจุมปุ๊กขัดสมาธิ เป็นกระต่ายตัวกลมๆ แสนน่ารัก



“เมื่อไหร่จะได้เอาเข็มออกเหรอครับ”



“เราแข็งแรงแล้ว พรุ่งนี้หมอคงเอาออกให้”



คนฟังคว่ำปากหน้ามุ่ย...เอาจริงๆ เลยนะ ถ้านอนโรงพยาบาลโดยไม่เจาะน้ำเกลือเอ็นดูโอเคมากกว่านี้อีก



“ที่รีสอร์ตเป็นยังไงบ้างเหรอคุณ...ที่โดนไฟไหม้ต้องสร้างใหม่ใช่มั้ยครับ”



เอ็นดูเปลี่ยนเรื่องคุย และถามเรื่องที่อยากรู้ คนป่วยคนนี้เป็นห่วงรีสอร์ตไม่แพ้เจ้าของโครงการ



“ใช่ ผู้รับเหมารับผิดชอบทั้งหมด เพราะคนงานของเขาทำให้เกิดความเสียหาย ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง”



“แต่สีหน้าคุณเหมือนยังมีเรื่องไม่สบายใจอยู่นะครับ”



“ทำไมเดี๋ยวนี้ช่างสังเกต”



“ผมก็ช่างสังเกตมาตั้งนานแล้วนะครับ”



“แล้วสังเกตหรือยังว่าพี่รักเรามากแค่ไหน”



“อ...อะไรครับ”



จู่ๆ ก็พูด...

ฮื่อ หน้าร้อนเลยเนี่ย



“ไง คนช่างสังเกต ไม่รู้เหรอว่าพี่รักเราขนาดไหน”



“...ไม่รู้ครับ”



ทรงโปรดทำให้เอ็นดูสบตาได้ไม่กี่นาทีก็ต้องก้มหน้างุดหนีตาคมเพราะประโยคของคนเจ้าชู้ที่มีไว้จีบสาวให้ระทวย



ถึงเอ็นดูจะไม่ใช่ผู้หญิง แต่เนี่ย...ก็แทบม้วนตัวเกลียวแล้ว



“คุณนี่นอกเรื่องอยู่เรื่อย”



ทรงโปรดหัวเราะเบาๆ รั้งไหล่แคบให้ขยับซบลงบนอกแกร่ง ตอนนี้เอ็นดูใช้กายหนาเป็นที่อิงแทนหัวแล้วเตียง



“ที่เหมือนไม่สบายใจเพราะเป็นห่วงเรา เรื่องรีสอร์ตพี่อยู่ในหัวพี่น้อยมาก”



“...”



“พี่พาเอ็นดูมาลำบากหรือเปล่า”



“ไม่เลยครับ” ส่ายหัวบนอกแกร่ง เงยหน้ามองทรงโปรดพร้อมฉีกยิ้มกว้าง “ผมหายแล้ว...คุณสบายใจได้แล้วนะ”



“ยังเจ็บขาอยู่เลย หายที่ไหน”



“หายแล้วครับ มีหมอดูแลดี”



“ชอบหมอหรือไง”



นั่นไง เสียงเข้มเชียว



หึงเก่งจริงๆ เลย



“ครับ...ชอบ”



“เอ็นดู” หม่อมราชวงศ์ทรงโปรดดุเจ้าของชื่อด้วยตาคมและเสียงทุ้มที่เข้มกว่าเดิม เขากดหน้ามองเจ้าคนน่ารักที่อมยิ้ม ปากจิ้มลิ้มมุบมิบนี่น่าตีนัก



“หมอคนเนี้ยใจดีมากเลย รู้ว่าผมไม่ชอบกินข้าวของโรงพยาบาลก็ออกไปซื้อซุปมาให้”



มือขาววางลงบนฝ่ามือหนา สอดนิ้วทั้งหมดเข้ากับนิ้วเรียวยาวของคนตัวสูง เอ็นดูก้มมองมือของตัวเองที่มีขนาดเล็กผิดกับมือของทรงโปรด



“ฝนก็ตกแต่ยังออกไปหาซื้อให้...ผมไม่อยากให้คุณหมอออกไปไหนเลยครับ เป็นห่วง”



ยิ้มแล้ว คุณชายทรงโปรดคนขี้น้อยใจยกยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมาแล้ว



“เหรอ...คุณหมอได้ยินคงดีใจมาก”



“ดีใจก็ยิ้มกว้างๆ สิครับ”



“เอ็นดู”



“ครับ”



“เมื่อกี้บอกว่าชอบหมอ”



“...”



“ลองจีบดูมั้ย พี่ว่าหมอก็ชอบเอ็นดูเหมือนกัน”



“...จะดีเหรอครับ”



เงยหน้าช้อนตามองคนตัวสูงที่นั่งอยู่ด้านหลัง “เดี๋ยวคุณก็โกรธผมอีก”



“จีบได้”



“...”



“ถ้าเป็นคุณหมอทรงโปรด พี่ไม่โกรธ”



“...”



“...



“งั้นขอจีบนะครับ”



ประหม่าจนกัดปากสีชมพู



“แต่...ผมจีบใครไม่เป็นนะ”



“ไม่เป็นไร”



“...”



“แค่นี้ก็ถือว่าจีบหมอติดแล้วเอ็นดู”



ต่างคนต่างสบตา ยิ้มให้จนแก้มแทบปริ



นี่เป็นครั้งแรกเลยที่เอ็นดูแสดงความรู้สึกชัดเจนผ่านคำพูด อือ...มันก็ไม่ชัดเจนมากขนาดนั้น แต่เขารับรู้ได้ว่าเอ็นดูรู้สึกยังไงก็พอแล้ว



นี่ถ้าใครมาเห็นสองคนนี้ยิ้มให้กัน เอาหน้าผากชนกัน หัวเราะคิกคักทั้งๆ ที่ยังไม่ได้พูดอะไร...คงเหม็นความรักน่าดู



เอ็นดูหยิบโทรศัพท์รุ่นใหม่ของตัวเองขึ้นมาถือ กดเข้าแอพพลิเคชั่นที่เพิ่งโหลดมาเมื่อช่วงบ่าย มันคือแอพพลิเคชั่นออกแบบบ้าน ทำแปลน สร้างพื้นที่ ตกแต่งห้องต่างๆ  บอกตามตรง...เพราะว่าไฟไหม้ที่รีสอร์ตนั่นแหละ เอ็นดูเลยโหลดแอพนี้มาออกแบบรีสอร์ตเอาไว้



ไม่ได้จะแช่งให้รีสอร์ตของทรงโปรดไหม้หมดนะ แต่เผื่อไว้ไง..เผื่อว่าในอนาคตทรงโปรดเกิดคิดแบบรีสอร์ตไม่ออกแล้ว...เอ็นดูอาจจะเอาแบบที่ทำขึ้นมาเองไปเสนอเขาก็ได้



 “ขอพี่ดูหน่อย มันคืออะไร”



“รีสอร์ตครับ...ผมทำเล่นๆ นะ”



“ทำเล่นๆ ซะสวยขนาดนี้เลยเหรอ”



ทรงโปรดถือวิสาสะวางคางบนไหล่แคบ มือหนาประคองมือนุ่มข้างที่ถือโทรศัพท์ ตาคมจ้องมองแบบรีสอร์ตที่เจ้าตัวบอกว่าทำเล่นๆ



“อยากได้รีสอร์ตแบบนี้เหรอ”



“ครับ แต่ว่าคุณอย่าสนใจเลย เดี๋ยวผมก็ลบทิ้งแล้ว”



“ลบทำไม”



“ก็...”



เอ็นดูกลืนคำที่จะพูดลงคอก่อนเม้มปากเมื่อมือหนากดส่งแบบรีสอร์ตเข้าไลน์ของเขาเอง ไม่ถึงนาทีเสียงแจ้งเตือนข้อความเข้าในโทรศัพท์ของทรงโปรดก็ดังขึ้น



“อะไรกัน...จะขโมยไอเดียร์รีสอร์ตของผมไปสร้างเองเหรอคุณ”



“อือ ขโมยไปเป็นแบบสร้างรีสอร์ตให้ว่าที่คู่หมั้น”



“...”



“ตอนแรกว่าจะให้เป็นของขวัญวันหมั้น แต่คงสร้างไม่ทัน...เอางี้มั้ย”



“...”



“รีสอร์ตนี้ พี่สร้างให้เป็นสินสอดไปสู่ขอเราวันแต่งงานแล้วกัน”



ถ้าเขาจะทำแบบนี้ เอ็นดูก็ขอไม่รับรู้อะไรแล้วนะ ขอนอนจมกองเลือดสีชมพูเพราะมีความสุข...นี่ก็กลั้นยิ้มจนเมื่อยแก้มแล้ว



เอาเลย ตามใจคุณชายทรงโปรดเลย

ยังไงเอ็นดูก็ขัดใจเขาไม่ได้อยู่แล้ว









#ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี













คุณชายยยยยย >,,,,<
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ตอน 16 - up 26.9.61
เริ่มหัวข้อโดย: benceii ที่ 26-09-2018 10:12:27
โอยยยยย น่ารักกกกกก
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ตอน 16 - up 26.9.61
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 26-09-2018 10:25:17
โอ๊ยยยย เบาหวานขึ้นตาอ่ะ  :-[ :-[ :-[


 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ตอน 17 - up 26.9.61
เริ่มหัวข้อโดย: Swanlee ที่ 26-09-2018 12:59:19

17



ได้จ้องตาไม่กี่วินาทีก็แพ้แล้ว

ขอร้องได้มั้ย...อย่าทำให้แพ้ไปมากกว่านี้เลย



 



เอ็นดูนั่งอมยิ้มอยู่บนวีลแชร์ระหว่างกำลังรอรถตู้มารับ ฟังเสียงคนสองคนคุยกัน เสียงหนึ่งเป็นของคุณนภัสราคุณแม่ของเอ็นดูเอง...ส่วนอีกเสียงหนึ่งเป็นเสียงของคุณปนัดดา คุณแม่ของหม่อมราชวงศ์ราชวงศ์ทรงโปรด



ตอนนี้ก็อยู่ในโรงพยาบาลเอกชนของเชียงรายนั่นแหละ สามวันกับการอยู่ในห้องผู้ป่วยแบบวีไอพีสิ้นสุดลงแล้วเมื่อหมอบอกว่าเอ็นดูแข็งแรงดี และสามารถกลับบ้านได้



ส่วนหม่อมราชวงศ์ทรงโปรดยืนประจำตำแหน่งคนเข็นวีลแชร์ให้เอ็นดู เขาเองก็ฟังคุณแม่ทั้งสองท่านยืนคุยกันอย่างออกรสด้วยเช่นกัน ระหว่างรอรถตู้เนี่ย...คุณปนัดดาเผาเขาไปหลายเรื่องแล้ว



“ชายโปรดเนี่ยสูงหล่อดีจริงๆ นะคะคุณนัด”



“ได้ความสูงจากท่านพ่อของเขากันหมดเลยค่ะ”



เผาลูกชายเสร็จแล้วตบท้ายด้วยการชมอย่างภูมิใจ ถึงจะยืนห่างกันไม่กี่เมตรแต่ทรงโปรดก็ได้ยินที่คุณแม่ของเขาเม้ามอยกับคุณแม่ของแฟนอยู่



อือ นั่นแหละ มาถึงขั้นนี้แล้ว เรียกว่าแฟนคงไม่ผิด



ถึงจะยังไม่ได้ขอเป็นแฟนแบบทางการก็เถอะ



“หัวเราะอะไร”



คนผิวขาวนี่ก็นั่งหัวเราะตั้งแต่ที่คุณแม่ของพวกเขาเริ่มเม้าเรื่องลูกชาย เรื่องหลักๆ ก็มีแต่เรื่องของทรงโปรดทั้งนั้น ส่วนเอ็นดูถูกพูดถึงเหมือนกัน แต่เรื่องที่ถูกเผาไม่เยอะเท่าเรื่องของทรงโปรดหรอก



“หัวเราะก็ไม่ได้เหรอครับ”



คนป่วยที่ได้รับอนุญาตให้ออกจากโรงพยาบาลเงยหน้ามองคนตัวสูง เอ็นดูอมยิ้มทำปากมุบมิบใส่คุณชาย เล่นหูเล่นตาจนเขาอดใจไม่ไหวต้องโน้มตัวก้มหน้าฝังจมูกบนแก้มเจ้าคนผิวขาวบนวีลแชร์



“คุณ!” กัดฟันกรอดมองค้อนคนที่กล้าก้มหน้าหอมแก้มในที่สาธารณะแบบนี้



เขาเคยอายที่ไหน ให้กอดเอ็นดูแน่นๆ ตรงนี้ยังได้เลย น้องอยากทำตัวน่ารักน่าฟัดให้เห็นเอง เอ็นดูรู้อยู่แล้วว่าหม่อมราชวงศ์ทรงโปรดไม่ค่อยมีความอดทนกับความน่ารักของน้องเท่าไหร่



ยิ่งชอบยิ่งยั่ว ยิ่งรักยิ่งทำให้หลง



แค่นี้ก็โงหัวไม่ขึ้นแล้ว



“เปลี่ยนจากงานหมั้นเป็นงานแต่งเลยมั้ยคะคุณแอ้” คุณแม่เขาก็ชงเก่ง



“ตอนแรกแอ้ติดเรื่องที่เอ็นดูยังไม่จบค่ะคุณนัด แต่ดูสิคะ...เด็กเขารักกันขนาดนั้น แอ้วางใจฝากชีวิตเอ็นดูไว้กับชายโปรดแล้วล่ะค่ะ”



หม่อมหลวงจิราก้มหน้ายู่ปาก สองมือขาวที่วางบนตักบีบนวดให้กำลังใจตัวเอง...ดูดิ ยังไม่ทันหมั้นคุณแม่ของเขาก็เห็นตรงกันว่าควรแต่ง...



เข้าทางเลยว่ะ



“แต่งเลยมั้ย”



“แต่งอะไรของคุณครับ”



“แต่งงานไง”



“...”



“ไม่ต้องหมั้นแล้ว กินลูกชายเขาไปแล้ว”



“ม...ไม่รู้ครับ รถมาแล้วด้วย…โอ๊ย”



เขินจนทำอะไรไม่ถูก คนที่นั่งอยู่บนวีลแชร์ลืมตัวว่าขาเจ็บอยู่รีบลุกขึ้นยืน เอ็นดูทิ้งน้ำหนักลงบนขาข้างขวาที่ยังไม่หายดีเพื่อพยุงตัว แล้วสุดท้ายแทบเซล้มลงพื้นเพราะความเจ็บ...ดีนะที่คุณชายทรงโปรดไวกว่า รีบคว้าเจ้าคนผิวขาวเข้ามากอดไว้แน่น



“ระวังหน่อยเอ็นดู”



“เจ็บครับ...” ก้มหน้าพึมพำใส่อกแกร่ง จะเขย่งเป็นกระต่ายขาเดียวแล้วนั่งลงบนวีลแชร์ต่อแต่ก็ไม่ทันคนตัวสูงที่ช้อนร่างน้องตัวปลิวในท่าเจ้าสาว “ปล่อยเลยนะคุณ เดินเองได้ครับ”



ฟังซะที่ไหน



ทรงโปรดพาเจ้าคนน่ารักขึ้นไปนั่งบนรถตู้คันหรูท่ามกลางเสียงหัวเราะชอบใจของคุณแม่ทั้งสองท่าน คนที่ดี๊ด๊ามากที่สุดก็คือพวกท่านนั่นแหละ แต่ดูท่าคุณแม่ของทรงโปรดจะชอบอกชอบใจมากกว่าใคร



คนเจ็บขานั่งจุมปุ๊กบนเบาะสีครีมในตอนที่คุณปนัดดากับคุณนภัสราเลื่อนประตูอีกฝั่งแล้วขึ้นนั่งบนเบาะด้านหลัง ทรงโปรดขึ้นไปนั่งข้างเอ็นดูทันทีที่ผู้ใหญ่ประจำที่เรียบร้อยแล้ว



“น่าเสียดายจริงๆ นะคะ นัดกะว่าจะได้อยู่สูดอากาศภาคเหนือต่ออีกสักหน่อย”



“ไว้คราวหน้าค่อยมาพักผ่อนกันก็ดีนะคุณนัด สมัยที่แอ้มาเก็บตัวกับกองประกวดที่นี่ เขาพาไปเที่ยวที่สวยๆ ด้วยค่ะ...ไว้แอ้จะพาคุณนัดไปเที่ยวเอง”



“ต้องขอโทษจริงๆ นะคะที่ต้องทำให้กลับกรุงเทพฯ กะทันหันแบบนี้...ท่านพี่เขาร้อนใจอยากเจอว่าที่คู่หมั้นของชายโปรดน่ะค่ะ”



“แอ้เข้าใจค่ะคุณนัด”



อือ นั่นแหละ คุณหมออนุญาตให้ออกจากโรงพยาบาลก็ต้องกลับกรุงเทพฯ ทันที



หม่อมราชวงศ์ทรงโปรดเคลียร์งานที่รีสอร์ตเสร็จแล้ว ส่วนที่เสียหายเขาได้รับการรับผิดชอบ มันไม่ได้เสียหายเยอะเท่าไหร่เมื่อเทียบกับเปอร์เซ็นต์งานที่เดินหน้าไปเยอะพอสมควร



เขาคิดเอาไว้ว่าจะอยู่พักผ่อนกับเอ็นดูตามประสาว่าที่คู่หมั้น แต่กลับถูกตามตัวกลับกรุงเทพฯ เมื่อคุณแม่บอกว่าหม่อมเจ้าทรงยศ ภัสร์ฤทัย หรือท่านพ่อของเขาบินจากอังกฤษและอยู่ที่วังรอเจอหน้าว่าที่คู่หมั้นของทรงโปรด



ปกติหม่อมเจ้าทรงยศอาศัยอยู่กับคุณแม่ที่วังนั่นแหละ แต่ท่านสามเดือนที่ผ่านมาท่านออกทริปเที่ยวรอบโลกกับกลุ่มเพื่อนที่โตมาด้วยกัน ล่าสุดท่านส่งรูปมาให้ดูว่าอยู่อังกฤษ ที่ที่ทรงโปรดคุ้นเคยเป็นอย่างดี อีกไม่กี่วันต่อมาก็ได้รับข่าวว่าตอนนี้ท่านอยู่กรุงเทพฯ ซะแล้ว



เอ็นดูไม่เคยเจอท่านพ่อของเขา ตอนนี้น้องเลยดูประหม่า



“มือเป็นอะไร” เห็นบีบจัง บีบๆ คลึงๆ วนอยู่อย่างนี้หลายรอบจนทรงโปรดอดไม่ได้ที่จะยื่นมือหนาไปกุมมือขาวเอาไว้ “หนาวเหรอ”



“ไม่ครับ”



พวกเขาไม่ได้คุยกันเสียงดังเพราะคุณแม่ที่นั่งอยู่เบาะหลังกำลังสนุกสนานกับการสนทนากันอยู่ หม่อมราชวงศ์ทรงโปรดใช้โทนเสียงทุ้มต่ำ ก้มหน้าเข้าใกล้ใบหูขาวแล้วเปล่งเสียงออกไป



“เห็นบีบมือซะแน่น นึกว่าหนาว”



น้องส่ายหน้าพลางคลายมือที่บีบกันไว้ออกช้าๆ แล้วประสานนิ้วมือเข้ากับนิ้วแกร่งของทรงโปรดแทน เบาะที่เขานั่งติดกับเบาะของเอ็นดู ไม่มีช่องโหว่ให้คุณแม่ที่นั่งด้านหลังเห็นว่าตอนนี้มือของเขากำลังกุมกันไว้



เพราะคุณแม่ไม่เห็นนี่แหละ เอ็นดูเลยกล้าจับมือทรงโปรด



“ท่านพ่อดุมั้ยครับ”



“ดุ”



คนฟังหน้าจ๋อย ขมวดคิ้วจนทรงโปรดหลุดขำ



รู้ทันทีว่าที่น้องแสดงอาการประหม่าสาเหตุมาจากอะไร แต่ถึงรู้แล้วทรงโปรดก็ยังไม่วายแกล้งให้เอ็นดูตัวสั่น



“แล้วผมต้องทำตัวยังไงครับ ต้องใช้ราชาศัพท์กับท่านพ่อของคุณหรือเปล่า...” คนพูดเขย่าแขนแกร่งของทรงโปรดเบาๆ “ผมใช้ราชาศัพท์ไม่เป็นนะครับ”



เขาขำเมื่อน้องกระซิบเบาๆ จนต้องก้มหน้าลงไปฟังน้ำเสียงนุ่มนิ่มกับมือน้อยๆ ที่บีบมือหนาเป็นระยะ



“เดี๋ยวเย็นนี้ก็รู้”



“บอกหน่อยไม่ได้เหรอครับ ผมจะได้ทำตัวถูก”



“บอกไปเดี๋ยวไม่สนุก”



“ผมไม่ได้จะสนุกกับคุณด้วยสักหน่อย” คนผิวขาวยู่ปากหน้างอ “เครียดจะตายแล้วคุณ”



“มาตายบนอกพี่มา” ทรงโปรดตบอกแกร่งปักๆ



“นอกเรื่องเก่งจังนะครับ”



แค่เล่นมุกให้เอ็นดูยิ้มหวานๆ ให้ดูก็เท่านั้นเอง ไม่อยากเห็นความเครียดหรือความกังวลใจบนใบหน้าสวยๆ นี้เลย



เห็นเอ็นดูนิ่งๆ ไม่ค่อยหืออือกับอะไรเท่าไหร่แบบนี้ เหมือนถูกชักจูงง่าย ซึ่งก็ใช่ ถึงจะดูเป็นคนยังไงก็ได้ แต่ความจริงเด็กคนนี้คิดมากเป็นที่หนึ่ง ทรงโปรดเดาว่าน้องเป็นเด็กที่ชอบเก็บอะไรไว้ในใจคนเดียว เครียด มีความสุข หรืออยากจะร้องไห้ยังไงก็ไม่ค่อยแสดงให้ใครเห็น



จะมีแต่เขานี่แหละที่ได้เห็นแทบทุกมุมของเอ็นดู



“ผมไม่เก่งราชาศัพท์นะครับ” น้องช้อนตาขยับปากบอก สีหน้ากังวลหน่อยๆ ของเอ็นดูทำให้เขาต้องวางมือลงบนศีรษะกลมของคนเด็กกว่า



“เครียดอะไรขนาดนั้น”



“ก็...ผมทำตัวไม่ถูกนี่ครับ จำได้ว่าตอนเด็กเคยใช้ราชาศัพท์แค่สองสามครั้งเอง...”



“ใช้กับใคร”



“ท่านปู่ครับ”



“ได้ยินมาว่าท่านปู่เราดุมาก”



ได้ยินมาจากคุณนภัสราตอนคุยกันเรื่องหม่อมเจ้าทรงยศอยากพบหน้าลูกสะใภ้นั่นแหละ คุณแม่ของเอ็นดูเล่าให้คุณแม่ของเขาฟังว่าสมัยที่ท่านปู่ของเอ็นดูยังมีชีวิตอยู่ที่วังเคร่งครัดเรื่องระเบียบและการใช้ราชาศัพท์มากกว่านี้เยอะมาก



ทรงโปรดเลยเดาว่าที่เอ็นดูเป็นเด็กดีอยู่ในโอวาทของคุณหญิงลักขณาคงเพราะเป็นว่าคุณหญิงป้าได้เชื้อความเจ้าระเบียบมาจากท่านพ่อของตัวเอง เลยมาเข้มงวดใส่หลานชายที่น่ารักคนนี้



“ตอนเด็กๆ ท่านปู่บังคับให้ผมนั่งคัดคำราชาศัพท์ด้วยนะครับ” พอได้ยินผู้ใหญ่ที่นั่งอยู่ด้านหลังคุยเรื่องความหลัง เอ็นดูก็พูดบ้าง



ชอบสุดๆ ก็คือตอนที่เริ่มเล่าเรื่องของตัวเองออกมาโดยที่เขาได้ขอให้เล่า



เอ็นดูทำแบบนี้กับคนที่สนิทใจด้วยเท่านั้น



“จำได้ว่านั่งคัดไปก็ร้องไห้ไปด้วย แล้วจากนั้นก็กลัวราชาศัพท์ไปเลยครับ”



“เดี๋ยวนี้ยังกลัวอยู่มั้ย”



“ไม่ได้ใช้เลยไม่กลัวครับ แต่ตอนนี้เริ่มกลัวแล้ว”



“ไม่น่ากลัวหรอก อย่าคิดมาก”



“แสดงว่าคุณใช้ราชาศัพท์เก่งมากเลยสินะครับ”



“เปล่า” หม่อมราชวงศ์ทรงโปรดหัวเราะ



ตัวเขาเองไปอยู่อังกฤษตั้งแต่เด็กแทบไม่ได้ใช้ภาษาไทยด้วยซ้ำ ราชาศัพท์ไม่ต้องพูดถึง ถ้าทรงโปรดไม่ดูข่าวราชสำนักหรือพวกละครหลังข่าวเขาก็ไม่มีวันรู้เลยว่าคำพวกนี้มันต้องใช้ยังไงและต้องใช้กับใคร



กับกลุ่มเพื่อนก็เหมือนกัน ถ้าเป็นเมื่อก่อนตอนที่ยังไม่กลับไทย ทรงโปรด จอมภพ และพีช ใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสารกันตลอด ก่อนจะเปลี่ยนมาพูดภาษาบ้านเกิดกันก็ตอนที่เริ่มทำงาน



“สรุปคุณจะช่วยอะไรผมได้บ้างเนี่ย...”



คนตัวเล็กตัดพ้อไม่จริงจังก่อนทิ้งศีรษะไว้กับพนักพิงของเบาะสีครีม เหลือบตามองคนตัวสูงข้างกาย เช่นเดียวกับหม่อมราชวงศ์ทรงโปรดที่กำลังใช้ตาคมจับจ้องใบหน้าของว่าที่คู่หมั้น



ต่างคนต่างระบายยิ้มให้กัน สองมือสอดประสานไม่ยอมปล่อย เสียงกระซิบของพวกเขาเงียบลงแล้ว เหลือแต่เสียงพูดคุยของคุณแม่ของทั้งสองคนนั่นแหละ ที่ทำให้รอยยิ้มจางๆ ระหว่างหม่อมราชวงศ์ทรงโปรดกับหม่อมหลวงจิราเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มที่กว้างขึ้น



“คุณแอ้ขัดข้องอะไรมั้ยคะ ถ้าหลังจบงานหมั้นพวกเราจะมาคุยกันเรื่องงานแต่งต่อเลย”



“ยินดีมากเลยค่ะคุณนัด เห็นเด็กๆ รักกันขนาดนี้...จบงานหมั้นแล้วเราสองคนคงต้องได้จัดการงานแต่งต่อแน่ๆ เลยค่ะ”







*****







วังภัสร์ฤทัยที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาคึกคักเป็นพิเศษเพราะแขกคนสำคัญของเจ้าบ้านเพิ่งลงจากรถพร้อมกับทายาทวังใหญ่หลังนี้ที่ประคองว่าที่คู่หมั้นลงจากรถตู้คันหรู



รถยนต์หลายคันจอดอยู่ในโรงรถ เอ็นดูปลายตามองตอนที่ลงจากรถเรียบร้อยแล้ว...เท่าที่เห็นไม่ต่ำกว่าห้าคัน แต่ราคารวมๆ เกือบร้อยล้าน หนึ่งในนั้นคือเบนซ์คันหรูของหม่อมราชวงศ์ทรงโปรดที่จอดสนิทตั้งแต่ไปเชียงราย แลมโบกินี่ของหม่อมราชวงศ์ภูผา อาวดี้สองคันกับแอสตันมาร์ตินที่เอ็นดูไม่รู้เป็นของใคร และเบนท์ลีย์คันหรูสีน้ำตาลที่ราคาน่าจะเกินหกสิบล้านไปแล้ว



เอ็นดูถึงขั้นก้มหน้ากัดริมฝีปาก จากที่ได้กำลังใจจากหม่อมราชวงศ์ทรงโปรดตั้งแต่บนเครื่องบินแล้วว่าไม่มีอะไรต้องกังวล ตอนนี้ไม่เลย เอ็นดูทั้งประหม่า กังวล เครียดจนไม่อยากก้าวขาเดินเข้าวังภัสร์ฤทัย



“คุณ ทำไมรถจอดเยอะจังเลยครับ”



“ปกติของวันรวมญาติ”



ปกติของเขาแต่ไม่ปกติสำหรับเอ็นดูเลยสักนิด รถคันหรูไม่ทำให้เอ็นดูตื่นตาตื่นใจหรอก เพราะที่วังของเจ้าตัวก็มีแบบนี้ไม่ต่ำกว่าสิบคัน มันถูกจอดไว้ในห้องใต้ดินของโรงจอดรถ เป็นรถที่เหมาะกับการขับเล่น ขับออกงานหรูๆ มากกว่าใช้ในชีวิตประจำวัน หม่อมราชวงศ์ลักขณาเลยให้จอดไว้ในห้องใต้ดินเผื่อรักษารถไว้และไม่ให้มันดูเอิกเกริกเกินไป



“ไม่มีคนอื่นหรอก คนในครอบครัวทั้งนั้น”



“เดี๋ยวนี้นับภูผาเป็นญาติแล้วเหรอครับ”



“ตอนแรกก็ว่าจะนับ แต่พอนึกได้ว่ามันเป็นแฟนเก่าเรา...ไม่นับเลยดีมั้ย”



“ผมล้อเล่นครับ”



ย่นคิ้วใส่คนตัวสูงที่ยิ้มกริ่มทีเล่นทีจริง กับภูผาเคลียร์จบตั้งแต่บล็อกทุกอย่างไปแล้ว รายนั้นโตพอที่จะรู้ว่าเอ็นดูไม่เล่นด้วย และภูผาก็ไม่หน้าด้านพอมาเล่นกับคนที่มีเจ้าของแล้ว (ถึงแม้ว่าก่อนหน้านั้นภูผาจะมาก่อกวนเอ็นดูเพราะรู้ว่าเป็นว่าที่คู่หมั้นของทรงโปรดก็เถอะ)



จริงๆ แล้วภูผาเป็นคนดีนะ เรียนเก่งแถมเรียนทันตแพทยศาสตร์อีกต่างหาก แต่ติดที่เจ้าชู้ไม่แพ้ทรงโปรด แสบซ่าตามประสาวัยรุ่น ในเมื่อตอนนี้ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับภูผาแล้ว...เอ็นดูก็ได้แต่ภาวนาให้ฝ่ายนั้นเลิกเจ้าชู้แล้วจริงจังกับใครสักคนสักที



“เข้าบ้านกัน”



พอได้ยินน้ำเสียงทุ้มนุ่มที่พาให้อบอุ่นไปทั้งหัวใจ ประกอบกับมือหนาที่กุมมือขาวแล้วบีบนวดให้กำลังใจเบาๆ ก็เหมือนกับว่าเขาเติมความกล้าให้เอ็นดูไปแล้ว คนสูงกว่าโน้มตัวจูบผมสีน้ำตาลนุ่ม พาดแขนแกร่งโอบเอวคนที่เพิ่งหายป่วยให้เดินเข้าไปในวังหลังใหญ่นี้ด้วยกัน



เสียงเพลงแจ๊สประกอบกับกลิ่นหอมของสเปรย์ปรับอากาศอบอวลภายโถงทางเดินของวังทำให้เอ็นดูผ่อนคลายขึ้นเป็นกอง พอมองเข้าไปในห้องรับแขกขนาดกว้างที่ประตูถูกเปิดเอาไว้ เห็นคุณแม่ของทรงโปรดกับคุณแม่ของเอ็นดูที่ลงจากรถและนั่งอยู่ในห้องนั้นก่อนแล้วก็รู้สึกอุ่นใจเพิ่มมากขึ้น



“ให้ดิฉันเอาวีลแชร์มาให้มั้ยคะ คุณเอ็นดูน่าจะเดินไม่ค่อยถนัด”



“ไม่เป็นไรครับ ผมเดินไหว” คนเจ็บขาค่อยๆ วางปลายเท้าสัมผัสพื้นพรม “ไม่ค่อยปวดเท่าไหร่แล้วครับ”



“ถ้าปวดจะได้อุ้ม วีลแชร์ไม่จำเป็นเหรอก”



“ห้ามทำรุ่มร่ามต่อหน้าผู้ใหญ่เด็ดขาดนะครับ”



“ไม่รู้ ขอดูความประพฤติก่อน”



“นี่คุณ...”



“เด็กดี เข้าเฝ้าท่านพ่อกันครับ”



ทรงโปรดไม่สนอะไรแล้ว เขาค่อยๆ ประคองเอ็นดูให้เดินเข้าไปในห้องรับแขก และเมื่อพวกเขาก้าวผ่านกรอบประตูสวยงามเข้าไปยังด้านในของห้องรับแขก เอ็นดูก็พลันหายใจไม่ทั่วท้องทันทีเมื่อเห็นทุกคนอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันจริงๆ



ทุกคนนั่งพับเพียบบนพื้นหลบไปซ้ายบ้างขวาบ้าง ในขณะที่เอ็นดูกับทรงโปรดยืนอยู่กลางห้อง เอ็นดูรีบยกมือขึ้นสวัสดีหม่อมราชวงศ์ทรงเพลิงและหม่อมราชวงศ์ทรงคุณ ตามด้วยหม่อมราชวงศ์รฐา หม่อมราชวงศ์ภูมินทร์ที่เป็นสามี ชำเลืองมองภูผาที่นั่งยักไหล่ให้ก่อนจะเบนสายตาและยกมือไหว้หม่อมราชวงศ์ลักขณาที่ฉีกยิ้มกว้างป้องปากคุยกับคุณแม่ของทรงโปรดอยู่



เอ็นดูแทบจะย่อตัวนั่งลงบนพื้นตอนนั้นหากไม่มีเสียงทุ้มเสียงหนึ่งดังขึ้นจากทางด้านหลังซะก่อน



“อ้าว หายไปแป๊บเดียว ทำไมลงไปนั่งบนพื้นกันหมด”



เสียงๆ นั้นทำเอาคนที่นั่งอยู่บนพื้นลุกขึ้นโค้งคำนับ เช่นเดียวกับเอ็นดูกับคนตัวสูงข้างกายที่หันหลังขวับ



เข่าแทบทรุดเลย โชคดีที่หม่อมราชวงศ์ทรงโปรดประคองเอ็นดูไว้



“โค้งคำนับก็พอ ไม่ต้องนั่งลง” ทรงโปรดบอกพลางรั้งคนที่ทำท่าจะทรุดตัวนั่งเพื่อทำความเคารพต่อหน้าท่านพ่อของเขา



“...ครับ” น้องชะงักก่อนพยักหน้าตอบรับทรงโปรด



หม่อมราชวงศ์ทรงโปรดและว่าที่คู่หมั้นโค้งกายคำนับหม่อมเจ้าทรงยศพร้อมกัน ใจดวงน้อยๆ ของเอ็นดูเต้นแรง เต้นแบบคนที่ตื่นเต้นจนเลือดสูบฉีด หน้ากับมือนี่ร้อนจนเหงื่อผุด



“กราบถวาย--”



“สวัสดีครับท่านพ่อ”



คนที่กำลังจะเปล่งราชาศัพท์ชะงัก เอ็นดูเม้มปากเมื่อเห็นว่าทรงโปรดใช้คำสามัญกับหม่อมเจ้าทรงยศ



“สวัสดีครับ...ท่านพ่อ” เลยพูดสามัญตามทรงโปรด



คนผิวขาวกัดริมฝีปากสวยๆ ของตัวเองแน่น ก็ขนาดอยู่ต่อหน้าผู้ใหญ่ทุกคนทรงโปรดยังกอดเขาไว้ไม่ยอมปล่อยสักที ทั้งที่บอกว่าอย่ารุ่มร่าม...คุณชายเขาฟังซะที่ไหนล่ะ



“หมดทุกหมดโศกนะลูก ครั้งนี้ถือว่าฟาดเคราะห์ไป”



เอ็นดูยืนตัวเกร็งเมื่อมือหนาของหม่อมเจ้าทรงยศวางลงบนศีรษะกลมแล้วลูบเบาๆ คล้ายปลอบประโลมว่าที่คู่หมั้นของลูกชายคนเล็กให้หายตกใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น



ท่าทางนุ่มนวล เป็นกันเองของท่านพ่อทำเอาเอ็นดูทำอะไรไม่ถูก



“ไหนดูสิ คนที่ชายโปรดบอกว่าน่ารักเหมือนกระต่าย...เงยหน้าให้พ่อมองหน่อยเร็ว”



ปลายคางถูกเชยขึ้น เอ็นดูไม่กล้าสบตาท่านหรอกนะ แต่เพราะไม่สามารถเหลือบตาหนีได้เลยจำเป็นต้องยิ้มเจื่อนสบตาหวานกับท่านพ่อของคุณชายทรงโปรด



“น่ารักสมกับที่ชายโปรดอวดไว้”



“...”



“อืม...ลูกนี่เหมือนกระต่ายจริงๆ”



หม่อมเจ้าทรงยศปล่อยมือออกจากคางของเอ็นดู เปลี่ยนตำแหน่งไปลูบผมนุ่มเหมือนเดิม



ไม่เห็นว่าท่านจะดุเลย เอ็นดูโดนคุณชายโปรดหลอกแล้วมั้งเนี่ย



แต่นั่นไม่ใช่ประเด็น ประเด็นมันอยู่ที่...ไม่รู้ทำไม...อยู่ๆ เอ็นดูก็รู้สึกว่าสายตาของท่านอบอุ่น เหมือนสายตาคุณพ่อของเอ็นดูที่มองลูกชายคนนี้ด้วยความเอ็นดูตลอด



คุณพ่อตั้งชื่อเล่นนี้ให้ เพราะเอ็นดูเป็นเด็กน่าเอ็นดูสมชื่อตั้งแต่แรกเกิด



‘ตอนหนูเกิดแก้มก็ป่อง ผิวขาวน่าฟัด เลี้ยงง่ายไม่ร้องงอแง เป็นขวัญใจของพี่ๆ พยาบาลทุกคนเพราะตาใสแจ๋วน่าเอ็นดูของหนู...พ่อคิดชื่อเล่นไว้ให้หนูสองชื่อ แก้มป่องกับเอ็นดู แต่พ่อคิดว่าจะเก็บชื่อแก้มป่องไว้ให้น้องหนูมากกว่า เสียดาย...ที่น้องเขาไม่ยอมมาเกิดกับครอบครัวเราสักที’



แล้วก็รู้สึกคิดถึงจนต้องกุมข้อมือข้างที่สร้อยคล้องประดับไว้ แต่กลับต้องเบิกตากว้าง ขมวดคิ้วยุ่งเมื่อไม่พบกับสิ่งที่เป็นของแทนใจของคุณพ่อ



“นั่งคุยกันดีกว่าลูก ชายโปรด ประคองน้องไปนั่งเร็ว”



หม่อมเจ้าทรงยศขยับตัวนั่งลงบนโซฟาที่ประจำพร้อมกับคนอื่นที่นั่งลงบนโซฟาเหมือนกัน



บรรยากาศผ่อนคลายลงกว่าเดิมเพราะเอ็นดูไล่ความประหม่าออกได้แล้ว ทุกคนแย้มยิ้ม ทรงโปรดก็เช่นกัน คนตัวสูงประคองให้น้องนั่งลงบนโซฟาพร้อมกับตัวเองที่ขยับตัวนั่งข้างน้อง



“คุณ...สร้อยข้อมือผมหายอีกแล้วครับ” คนผิวขาวอาศัยจังหวะที่ผู้ใหญ่กำลังคุยกัน เสียงหัวเราะของหม่อมเจ้าทรงยศดังกลบเสียงอื่น ยิ่งประสานกับเสียงหัวเราะของหม่อมราชวงศ์ลักขณาด้วยแล้ว ในห้องนี้ก็ไม่ได้ยินเสียงคุยของใครเลยถ้าไม่กระซิบกระซาบกัน



“ขยันหายทำหายนะเรา”



“ไม่ได้ตั้งใจนี่ครับ” พูดพลางลูบข้อมือปอยๆ “หายที่เชียงรายแน่ๆ เลย”



พึมพำคนเดียวเพราะหม่อมราชวงศ์ทรงโปรดเอาแต่แจกยิ้มเจ้าเล่ห์ให้อยู่ได้



คนที่มัวแต่เครียดเรื่องสร้อยไม่ทันสังเกตว่าว่าที่คู่หมั้นร่างสูงกำลังใช้มือล้วงกระเป๋าเสื้อเชิ้ตสีดำอยู่ กว่าจะรู้ตัวว่าทรงโปรดทำอะไรก็ตอนที่วัตถุเย็นๆ สัมผัสโดนผิวขาว



“คุณ สร้อยของผมนี่ครับ อยู่กับคุณเองเหรอครับ” คนเครียดยิ้มแฉ่ง เงยหน้ามองทรงโปรดที่ยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย



“รู้ว่าเป็นของสำคัญ จะปล่อยให้หายไปกับกองเพลิงได้ยังไง” เขาพูดขณะก้มหน้าสวมสร้อยลงบนข้อมือขาว



“หมายความว่ายังไงนะครับ”



“สร้อยเราหลุดอยู่ในบ้านที่ไฟไหม้ พี่รู้ตั้งแต่อุ้มเราออกจากบ้านแล้ว แต่ยังไม่มีโอกาสกลับไปเอา”



“...”



“พอคุณแม่บินมาหาเราถึงที่ พี่เลยกลับไปหาสร้อยให้ เกือบหาไม่เจอ”



“ทำไมคุณต้องเอาตัวเองเข้าไปเสี่ยงแบบนั้นด้วยล่ะครับ”



เพลิงที่มอดไปแล้ว มีวันกลับมาลุกโชนอีกครั้ง เอ็นดูดูจากรูปถ่ายรีสอร์ตหลังที่ถูกไหม้ เจ้าหน้าที่กั้นเป็นรั้วเขตอันตรายห้ามเข้า แต่หม่อมราชวงศ์ก็ยังจะเข้าไปหาสร้อยให้เอ็นดูอีก



“ทีเอ็นดูยังเสี่ยงชีวิตเข้าไปช่วยพี่โปรดได้เลยนี่ครับ”



“...”



เอาอีกแล้ว



เขารู้ว่าเอ็นดูแพ้อะไรแบบนี้ก็ยังพูดออกมา ไม่ใช่แค่น้ำเสียงทุ้มๆ ที่ทำให้เอ็นดูตื้นตันใจ แต่สายตาอบอุ่นกับความจริงใจที่แสดงออกมานั่นแหละ...ที่ทำให้เอ็นดูกลั้นยิ้มไว้ไม่ได้เลยจริงๆ



“ผมเต็มใจช่วยครับ”



“เหมือนกัน”



“ขอบคุณนะครับ”



“ขอบคุณที่ช่วย?”



“ครับ แล้วก็อีกอย่าง...”



หม่อมราชวงศ์ทรงโปรดเลิกคิ้ว เอียงคอมองคนตัวขาวที่ตอนนี้หน้าแดงระเรื่อ



“ขอบคุณนะครับ...ที่รักผม”



“อันนี้เต็มใจมากๆ” ทรงโปรดยิ้มกว้าง “แต่ต้องสลับคำหน่อย”



“ครับ?”



“เปลี่ยนจากที่รักผม เป็นที่รักของผม”



ไม่สนแล้วว่าสายตาของใครกำลังจับจ้องอยู่บ้าง เอ็นดูสนใจแค่สายตาของทรงโปรดคนเดียวก็พอแล้ว



แล้วเขาก็ยังเป็นคนที่เดินหน้าทำแต้มอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าตอนนี้ความสัมพันธ์ทางกายจะเกินเลยไปถึงไหนต่อไหนก็ตาม



หม่อมราชวงศ์ทรงโปรดยังเหมือนเดิม...ไม่เคยเปลี่ยน



เป็นคนที่จีบเอ็นดูอยู่เสมอ และไม่มีท่าทีว่าจะเบื่อหน่ายเอ็นดูเลยสักนิด



ตอนนี้เอ็นดูมั่นใจแล้วแหละ



“ครับ ที่รักของผม”



มั่นใจที่ให้คนคนนี้ครอบครองทั้งตัวและหัวใจ

 

 

 

 

#ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี







หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ตอน 17 - up 26.9.61
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 26-09-2018 13:25:53
โอ๊ยยยยยยย เหม็นความรักจริงๆ เลยคู่นี้
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ตอน 17 - up 26.9.61
เริ่มหัวข้อโดย: Tiffany ที่ 26-09-2018 14:33:21
หวานละมุน อบอุ่นมากๆ
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ตอน 18 - up 26.9.61
เริ่มหัวข้อโดย: Swanlee ที่ 26-09-2018 18:09:01






18



I like you

No, actually i adore you





 

วางกระเป๋าลงบนเตียงพร้อมกับทิ้งตัวลงนอนบนความนุ่มบนที่นอน ตาเรียวสวยมองเพดานห้องที่ไม่เห็นมาหลายวัน เครื่องปรับอากาศเย็นๆ กับเสียงสายฝนพรำที่ได้ยินจากชั้นห้าสิบสองทำให้เอ็นดูรู้สึกผ่อนคลายจนต้องคลี่ยิ้มออกมา



ยอมรับว่าเหนื่อย การทานข้าวกับผู้ใหญ่เป็นอะไรที่เหนื่อยมาก



เหนื่อยแต่มีความสุข



สุขที่เหมือนกับว่าได้กอดคุณพ่อ ได้ใช้เวลาร่วมกันอีกครั้ง



คนผิวขาวในห้องที่เปิดไฟสลัวจับเข็มกลัดที่ติดอยู่บนอกซ้าย สัมผัสเบาๆ ด้วยการลูบ เพชรหลายสิบเม็ดถูกฝังประดับบนเข็มกลัด มูลค่าของมันเกือบล้าน เป็นเข็มกลัดที่ท่านพ่อของทรงโปรดตั้งใจทำให้เป็นของหมั้น



ไม่ใช่ของแรร์ไอเท็มนะ เพราะหม่อมเจ้าทรงยศทำขึ้นมาจำนวนสี่ชิ้น ชิ้นแรกหม่อมราชวงศ์ภูมินทร์ สามีของหม่อมราชวงศ์รฐาได้ไป อีกชิ้นอยู่กับเอ็นดู ท่านพ่อของทรงโปรดเพิ่งกลัดเข้ากับเนื้อผ้าบนอกด้านซ้ายให้เมื่อหลายชั่วโมงที่ผ่านมา



ส่วนอีกสองชิ้นที่เหลือ...เอ็นดูเดาว่าก็คงอยู่ในตู้เซฟของหม่อมเจ้าทรงยศ เก็บรักษาไว้อย่างดีเพื่อรอวันที่จะได้มอบให้กับคนที่ตกลงปลงใจใช้ชีวิตร่วมกับหม่อมราชวงศ์ทรงเพลิง และหม่อมราชวงศ์ทรงคุณ



ยังจำความอบอุ่นของท่านพ่อได้อยู่เลย หม่อมเจ้าทรงยศทำให้เอ็นดูแทบกลั้นน้ำตาไม่อยู่ตอนที่ถูกท่านสวมกอด ท่านรู้เรื่องที่คุณพ่อของเอ็นดูจากไป ไม่ได้ตอกย้ำ แต่เติมเต็มให้เอ็นดูรู้สึกเหมือนกับว่าได้อยู่ใกล้ๆ คุณพ่ออีกครั้ง



ท่านกอด ลูบผม มองด้วยสายตาอ่อนโยนเหมือนที่คุณพ่อเคยมอง ตอนนั้นเอ็นดูไม่ได้รู้สึกกลัวหรือกังวลอะไรเลยสักนิด แต่กลับตื้นตันมากๆ จนต้องก้มลงกราบตักงามๆ ที่หม่อมเจ้าทรงยศเมตตาเอ็นดูขนาดนี้



พอได้อยู่เงียบๆ คนเดียวหางตาสวยก็เปื้อนน้ำตา มุมหนึ่งที่ไม่มีใครรู้คือเอ็นดูร้องไห้เก่ง...พอตกดึกเขามักจะร้องไห้เพราะคิดถึงคุณพอแทบทุกคืน แต่อาการเหล่านี้มันหายไปตั้งแต่หม่อมราชวงศ์ทรงโปรดเข้ามาวนเวียนในหัวใจ



เขาทำให้เอ็นดูลืมความเศร้าหลายๆ อย่าง ทำให้เอ็นดูมีชีวิตชีวา



นี่ก็เพิ่งร้องไห้เป็นครั้งแรกตั้งแต่รู้จักกับคุณชายเขาเลยนะ



“เอ็นดู”



“คุณ...”



จู่ๆ คนที่เอ็นดูเพิ่งบอกให้กลับไปพักผ่อนก็ปรากฏตัวตรงหน้า ร่างสูงยืนบดบังดวงไฟสลัวที่เอ็นดูตั้งใจเปิดไว้แค่ดวงเดียว คนผิวขาวค่อยๆ ขยับตัวขึ้นนั่ง กำลังจะยกมือปาดน้ำตาที่ซึมออกมา แต่กลับไม่ทันมือหนาที่ยื่นมาเกลี่ยน้ำใสๆ



หม่อมราชวงศ์ทรงโปรดขยับตัวนั่งลงข้างๆ เจ้าของห้อง ประคองกรอบหน้าเนียนใสน่าทะนุถนอมเบาๆ เช่นเดียวกันปลายนิ้วโป้งแกร่งที่เกลี่ยเช็ดน้ำตาให้



“ไล่พี่กลับ แต่ตัวเองมานอนร้องไห้แบบนี้เหรอ”



“...ไม่ได้ไล่นะครับ” เอ็นดูไม่อยากจะเชื่อว่าตัวเองเปล่งเสียงแหบพร่าออกมา เขาเลยเม้มปาก กลืนก้อนแข็งๆ บางอย่างลงคอ “ผมให้คุณกลับไปพักผ่อนต่างหาก”



“เอ็นดู เราเป็นแบบนี้พี่จะปล่อยให้อยู่คนเดียวได้ยังไง”



“ผมหายดีแล้วนะคุณ”



“หายดีแล้วทำไมยังดูซึมๆ”



“...”



“คิดถึงคุณพ่อใช่มั้ย”



เอ็นดูจ้องตาคมทั้งที่ยังรู้สึกว่าขอบตาร้อนผ่าว ยู่ปากพลางส่ายหน้าเบาๆ กำลังจะปฏิเสธแต่กลับถูกรวบตัวด้วยแขนแกร่งให้ชิดกับแผ่นอกอุ่นๆ



“คุณรู้ได้ยังไงครับ”



“มองหน้าก็รู้แล้ว” ทรงโปรดลูบผมนุ่มสลับกับลูบหลังให้



คนถูกจับได้ยิ้มกว้าง แค่กอดเบาๆ กับมือหนาที่คอยลูบประโลมก็ทำให้เอ็นดูหยุดเลิกร้องไห้ได้ และจากที่เคยร้องไห้คิดถึงคุณพ่อคนเดียว ไม่มีใครเคยเห็นน้ำตาของเอ็นดูเลยสักคน...มันเปลี่ยนไปหมดในตอนที่คุณชายทรงโปรดเดินเข้ามา



เขาเป็นคนที่เห็นเอ็นดูร้องไห้ เป็นคนที่เข้ามาปลอบอย่างอ่อนโยน



เป้นคนที่รับรู้เรื่องราวของเอ็นดู



หม่อมราชวงศ์ทรงโปรดเห็นทุกด้านของเอ็นดูครบแล้วนะ : )



“ตอนที่ท่านพ่อกอด...ผมก็คิดถึงคุณพ่อขึ้นมาเลยครับ”



เป็นคนแรกที่เอ็นดูกล้าเล่าเรื่องราวต่างๆ ให้ฟัง



“ตอนที่ผมหลับไป คุณพ่อมาปลุกผมด้วยนะครับ ตอนนั้นผมคิดถึงคุณแม่ คิดถึงคุณหญิงป้า...คิดถึงคุณด้วย อยากลืมตาแต่ก็ลืมไม่ได้เลย”



ทรงโปรดกระชับแขนกอดคนในอ้อมกอดให้แน่นกว่าเดิม วางคางบนศีรษะกลมที่มีกลิ่นหอมของแชมพูสระผม กดจูบเบาๆ เมื่อได้ยินเสียงนุ่มนิ่มกำลังเล่าเหตุการณ์ที่ตัวเองหลับอยู่ในโรงพยาบาลให้ฟัง



“แต่พอได้ยินเสียงคุณพ่อผมก็พยายามลืมตาขึ้นมา ผมคิดว่าตัวเองหูฟาด...แต่ในห้องไม่มีใครเลยนอกจากคุณแม่”



“ถ้าคุณพ่อไม่มาปลุกเราก็ไม่ยอมตื่นใช่มั้ย” ถามน้ำเสียงงอแงจนเอ็นดูหลุดขำ



“ตื่นสิครับ ผมยังไม่อยากตายสักหน่อย”



“ไม่ยอมให้เราตายหรอก”



“ผมคงไม่อายุสั้นขนาดนั้นหรอกมั้งคุณ”



“เปลี่ยนเรื่องคุยดีมั้ย”



เงยหน้ามองหม่อมราชวงศ์ทรงโปรดที่จูบผมนุ่มซ้ำไปซ้ำมา พอเขาเห็นใบหน้าขาวๆ เลยเปลี่ยนมาจูบแก้มแทน



“ไม่ร้องไห้แล้วนะ เด็กดี”



ดูวิธีปลอบของเขาสิ หม่อมราชวงศ์โยกตัวเอ็นดูเบาๆ เหมือนกำลังกล่อมให้เด็กที่ร้องไห้งอแงหลับคาอก แต่ตัวเองยังตักตวงความสุขโดยการพรมจูบทั่วใบหน้าเอ็นดูอยู่เลย คนตัวขาวร้องฮือเมื่อฟันซี่คมงับปลายจมูกเบาๆ



“กัดทำไมครับ”



“มันเขี้ยว”



“เดี๋ยวผมก็ร้องไห้อีกหรอก”



“ร้องสิ เดี๋ยวปลอบเอง”



น้องซุกหน้าหนีริมฝีปาก...ทรงโปรดคลายความเศร้าของเอ็นดูทีละนิดจนกระทั่งมันจางหายไป ความคิดถึงคุณพ่อยังตราตรึงอยู่ในหัวใจตลอด แต่เอ็นดูแค่ไม่ร้องไห้แล้ว...ไม่ร้องไห้เพราะได้หม่อมราชวงศ์ทรงโปรดช่วยปลอบ



เอ็นดูอยู่คนเดียวมาตลอด ร้องไห้คนเดียว มีความสุขคนเดียว



แต่ตอนนี้ไม่ใช่แล้ว เพราะมีอีกคนคอยรับฟังเอ็นดูทุกอย่าง



คุณชายทรงโปรดคือคนที่มาเติมเต็มชีวิตของเอ็นดูจริงๆ







*****





 

“...ตื่นแล้วเหรอครับ” งัวเงียผงกศีรษะขึ้นเล็กน้อย ปรือตามองร่างสูงที่อยู่ในเชิ้ตขาวกำลังกลัดกระดุมตรงปลายเตียง “ตีสี่เองนะคุณ”



แล้วก็ทิ้งศีรษะลงบนหมอนอีกครั้งเมื่อพบว่านี่ยังไม่ใช่เวลาตื่นของตัวเอง เอ็นดูหลับตาปี๋ แต่พอได้ยินเสียงหัวเราะกับเตียงที่ยวบลงเลยต้องลืมตาขึ้น ยู่ปากมองคนที่แต่งตัวหล่อตั้งแต่เช้าตรู่กำลังขึ้นคร่อมร่างตัวเอง



“วันนี้มีประชุมเช้า เรื่องรีสอร์ตที่เชียงราย”



ถึงแม้ว่าเอ็นดูจะไม่ใช่คนในบริษัทของหม่อมราชวงศ์ทรงโปรด แต่คุณชายเขาก็เต็มใจบอกรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ของการประชุมให้ฟัง หลักๆ ก็เรื่องที่เกิดเพลิงไหม้ และระยะเวลาในการสร้างกับขนย้ายเฟอร์นิเจอร์จาก supplier เข้าไปวางไว้ในรีสอร์ตตามฮวงจุ้ยที่อินทีเรียแนะนำ



เอ็นดูไม่จำต้องรู้ แต่ทำไงได้ หม่อมราชวงศ์ทรงโปรดบอกหมดแล้ว



แต่คนเพิ่งตื่นกลับทำหน้ามุ่ย ขยับแก้มซบกับฝ่ามือหนาที่ยกขึ้นลูบโครงหน้า



“แล้วใครจะไปส่งผมที่มหา’ลัยล่ะครับ”



“ขายังไม่หายเจ็บ หยุดเรียนไปก่อน”



“ใกล้สอบแล้วครับ”



อีกอึดใจเดียวเอ็นดูจะจบปีสาม เมื่อคืนก่อนนอนเขาเข้าไปเช็กไลน์กลุ่มของสาขาบริหารการค้าระหว่างประเทศภาคอินเตอร์ที่ตัวเองไม่ค่อยมีบทบาทในนั้นสักเท่าไหร่ เห็นเพื่อนคนหนึ่งบอกว่าพรุ่งนี้อาจารย์จะแนะแนวข้อสอบไฟนอลนี้ด้วย



“เดี๋ยวพี่ให้คนขับรถที่บริษัทมารับ มีเรียนกี่โมงล่ะเรา”



“แปดโมงครึ่งครับ”



“โอเค…”



“แต่ผมไม่อยากรบกวนคนอื่นเลย”



“…”



“ผมขอขับรถของคุณไปเรียนได้มั้ยครับ” เม้มปากกลั้นยิ้ม กะพริบตาปริบๆ เมื่อหม่อมราชวงศ์ขมวดคิ้ว



“เจ็บขาอยู่จะขับรถยังไง”



“หายแล้วครับ วันนี้เดินเองได้แล้ว กินยาไปแล้วสบายมากเลย”



“ถ้าใช้รถพี่ แล้วพี่จะไปทำงานยังไง”



“เดี๋ยวผมไปส่ง”



“มันไกล”



“นะครับ...พี่โปรด”



คนถูกเรียกว่า ‘พี่โปรด’ ชะงัก ส่วนคนที่เปล่งเสียงนุ่มนิ่มออกมาตอนนี้ก็ทำตาแป๋วอ้อนคนโตกว่า



ทรงโปรดสบถในใจ เขายิ่งแพ้คนขี้อ้อนอยู่ด้วย…อือ ก็นั่นแหละ พอโดนเอ็นดูร่ายมนต์ใส่ ริมฝีปากก็แห้งจนต้องใช้ลิ้นเลีย



อ้อนได้น่ารักขนาดนี้ รถที่วังมีกี่คันพี่โปรดคนนี้ก็ให้เอ็นดูได้หมด



“คิดว่าจะใจอ่อนเหรอ” ใช้ปลายนิ้วแตะลงบนจมูกของคนใต้ร่าง หม่อมราชวงศ์เอียงคอมองคนน่ารักที่กลั้นยิ้มและพยักหน้าเบาๆ



เฮ้อ ทำไงได้ ในเมื่อเอ็นดูยืนยันว่าตัวเองหายดีแล้วด้วยการกระแทกเท้าลงเตียง แถมยังผงกหัวจูบแก้มซ้ายขวาของเขาอีกต่างหาก อยากยืมรถของทรงโปรดถึงขั้นลงทุนทำตัวน่ารักขนาดนี้ ถ้าใจร้ายก็กลัวว่าน้องจะงอนใส่



หม่อมราชวงศ์เลยก้มหน้าจูบริมฝีปากอวบเบาๆ ก่อนขยับจุมพิตบนหน้าผากของเอ็นดู



“ไม่ได้ก็ไม่เป็นไรนะครับ เดี๋ยวผมให้พี่ปันมารับก็ได้”



เห็นว่าเขาเงียบไปเอ็นดูเลยไม่อยากรบเร้าอะไรมาก รู้แหละว่าหม่อมราชวงศ์ทรงโปรดรักรถมาก...เอ็นดูก็แค่อยากขับรถของเขาไปเรียนเท่านั้นเอง



เหมือนเด็กที่อยากขับรถของพ่อแม่ไปเรียนนั่นแหละ พอมีเพื่อนมาถามว่านี่รถใครก็ยืดอกตอบแบบภูมิใจว่านี่รถพ่อรถแม่เอง แต่เอ็นดูไม่ได้อยากขับไปอวดใครหรอกนะ ไม่ได้มีความรู้สึกอยากอวดอะไรเลยสักอย่าง



แค่วันนี้อยากขับรถของคุณชายทรงโปรดเท่านั้น ไม่อยากให้ใครมารับ ไม่อยากให้ทรงโปรดไปส่ง อยากขับรถไปส่งเจ้าของรถเบนซ์คันหรูคันนั้นด้วยตัวเอง แล้วก็อยากขับไปรับเจ้าของรถกลับบ้านด้วยกัน



มันคงเป็นความรู้สึกที่อยากทำอะไรเพื่อเขาบ้าง ยอมรับเลย ตั้งแต่รู้จักหม่อมราชวงศ์ทรงโปรดมา เอ็นดูยังไม่เคยเทคแคร์คนตัวสูงได้ถึงครึ่งเท่าที่เขาทำให้ คุณชายทรงโปรดใส่ใจเอ็นดูทุกเรื่อง ไม่ว่าจะกิน นอน เดิน หรือแม้กระทั่งขยับตัวซ้ายขวา ชีวิตของเอ็นดูเปลี่ยนไปมากจากเดิมก็เพราะเขา



ถึงจะเป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ที่เอ็นดูอยากทำให้ก็ตาม ทรงโปรดจะรับรู้หรือไม่ก็ช่าง นั่นไม่ใช่ประเด็นที่เอ็นดูต้องการ ที่ต้องการก็คือ...อยากดูแลคุณชายทรงโปรด อยากตอบแทนสิ่งดีๆ ในชีวิตที่ผู้ชายตัวสูงคนนี้มอบให้



ทรงโปรดไม่จำเป็นต้องรู้หรอก...ถ้ารู้ก็เขินแย่เลย



คนตัวสูงขยับตัวเอื้อมมือไปตรงโต๊ะข้างหัวเตียง เอ็นดูหลับตาปี๋เมื่ออกแกร่งของเขาลอยอยู่ตรงหน้า ถึงจะอยู่ในเชิ้ตสีขาวแล้วก็เถอะ แต่อกหนั่นแน่นของเขาน่ามองน่าซบจะตาย



แล้วก็ต้องลืมตาอีกครั้งเมื่อวัตถุเย็นๆ วางลงบนหน้าผาก คนตาแป๋วใช้มือหยิบมันออก คลี่ยิ้มเมื่อพบว่ามันคือรีโมทรถยนต์ของหม่อมราชวงศ์ทรงโปรด



“ลุกไปอาบน้ำได้แล้ว” มือหนาลูบแก้มกลมเบาๆ



“อะไรคุณ...ตอนแรกทำท่าเหมือนจะไม่ให้ยืม”



“คิดไปคิดมา ให้เราไปส่งไปรับก็ดีเหมือนกัน”



“...”



“คนที่บริษัทจะได้รู้ว่าพี่มีเมียแล้ว”



แปะ



แขนแกร่งของหม่อมราชวงศ์ทรงโปรดถูกมือน้อยๆ ของเอ็นดูตีเข้าให้ ดูเขาพูดสิ...เข้าท่าซะที่ไหน บอกให้เลิกพูดคำนี้เป็นสิบรอบแล้ก็ไม่ฟัง แถมยังลอยหน้าลอยตาไม่สนใจแก้มแดงปลั่งของเอ็นดูอีกต่างหาก



“นอนต่อมั้ย ตีห้าครึ่งค่อยตื่นมาอาบน้ำ”



“ไม่เอาครับ ผมไปทำอาหารเช้าให้คุณดีกว่า”



“ทำไว้ให้แล้ว”



พูดไปก็พรมจูบแก้มกลมๆ ไป เอ็นดูเอียงหน้าหลบปากอุ่นๆ ของเขาไม่ทันเลยต้องยอมมอบแก้มของตัวเองให้ทรงโปรดหอมต่อไปอย่างนั้น



“เด็กดี เดี๋ยวตีห้าครึ่งพี่โปรดมาปลุกนะครับ”



“อื้อ...ผมจะนอนแล้ว”



โดนมือหนารุ่มร่ามใส่ตรงช่วงเอวคอดแต่เอ็นดูก็ไม่ได้ปัดมือเขาออกหรอก กลับประคองกรอบหน้าของคุณชายทรงโปรดที่หล่อเหลาจนบางทีเอ็นดูก็อิจฉา และรู้สึกหวงใบหน้าของคนคนนี้ในหลายๆ ครั้งด้วย



ต่างคนต่างยิ้มกว้างให้กัน ตอนนี้พระอาทิตย์ยังไม่โผล่ขึ้นจากขอบฟ้า แต่รอยยิ้มแสนหล่อของทรงโปรดก็เป็นเหมือนพระอาทิตย์ในเช้าที่มีฝนพรำ



“อย่าไปยิ้มแบบนี้ให้ใครดูนะคุณ”



“เอ็นดูมีสิทธิ์ดูคนเดียวอยู่แล้ว”



คนที่ทำให้เอ็นดูหวั่นไหวใจสั่นทุกครั้ง ก็หม่อมราชวงศ์ทรงโปรดคนนี้นี่แหละ







*****







“สรุปการประชุมอยู่ในแฟ้มนะคะคุณชาย”



“ขอบคุณครับ”



ปานวาดมองคุณชายทรงโปรดที่นั่งมุ่งมั่นขมวดคิ้วอยู่หน้า iMac สีเทา ก่อนเหลือบมองแม่บ้านประจำออฟฟิศที่กำลังเดินตามเลขาฯ พร้อมกับถือกาแฟรอบบ่ายของทรงโปรดเข้ามาเสิร์ฟ



“คิ้วขมวดเลยเหรอคะคุณชาย มีอะไรให้พี่ช่วยมั้ยคะ”



ท่าทางเครียดแบบนี้เดาว่าบอสของเธอคงเครียดกับงาน หม่อมราชวงศ์ทรงโปรดเป็นคนจริงจังกับงานมาก งานต้องออกมาเป๊ะ คุณชายเขาละเอียดเนี้ยบกว่าผู้หญิงบางคนซะอีก



“ตอนที่วาดแต่งงาน สามีพี่วาดเซอร์ไพรส์ของขวัญวันแต่งยังไงเหรอครับ” พอเห็นว่าบอสถามอย่างสนอกสนใจเธอก็ยิ้มเขิน ปานวาดแต่งงานกับสามีมาสิบปีแล้ว แต่ความรักยังหวานฉ่ำเหมือนคู่หนุ่มสาวที่แต่งงานกันใหม่ๆ



“ก่อนแต่งงานสามวันนะคะ เขาก็พาพี่ไปหมู่บ้านที่พี่ชอบแอบมองบ่อยๆ เวลาขับรถผ่าน สามีพี่ปิดตาพี่ด้วยค่ะ พอเปิดมาอีกทีก็เห็นบ้านหลังโตกับรถยนต์หนึ่งคันจอดอยู่”



คนฟังคลี่ยิ้ม สามีปานวาดไม่ใช่คนอื่นคนไกล ก็หัวหน้าบอร์ดบริหารของบริษัทเขานี่แหละ สามีปานวาดเป็นคนที่ดูทาทางขึงขัง ดุดัน...ทรงโปรดเองก็ไม่อยากเชื่อว่าหัวหน้าบอร์ดบริหารคนนี้จะทำให้ภรรยาที่แต่งงานกันมานานนับสิบปียืนยิ้มเขินได้



“ตอนแรกพี่ก็นึกว่าต้องย้ายเข้าไปอยู่ที่บ้านพ่อกับแม่ของเขา พี่เคยบ่นๆ ค่ะว่าอยากอยู่แบบส่วนตัวครอบครัวเล็กๆ มากกว่า...ไม่คิดเลยนะคะว่าคุณชัชจะซื้อเรือนหอให้...ว่าแต่ คุณชายถามทำไมเหรอคะ จะเซอร์ไพรส์อะไรคุณเอ็นดูวันหมั้นหรือเปล่าคะเนี่ย”



“นิดหน่อยครับพี่วาด คนนั้นเขาอยากมีรีสอร์ตเป็นของตัวเองบ้าง”



“หูย ถ้าให้รีสอร์ตก็ไม่นิดเลยนะคะคุณชาย”



นิดหน่อยของหม่อมราชวงศ์ทรงโปรดคือการสร้างรีสอร์ตที่มูลค่านับร้อยล้านให้ว่าที่คู่หมั้น ปานวาดยกมือกุมอกเมื่อเห็นรอยยิ้มของบอส รอยยิ้มหล่อๆ ที่มีเจ้าของครอบครองไว้แล้ว



คิ้วที่ขมวดในตอนแรกคลายออกเมื่อหม่อมราชวงศ์ทรงโปรดได้คนคุยคลายเครียด เขาเรียกปานวาดมาช่วยดูแบบเพราะเธอจบคณะสถาปัตยกรรมด้วยเกียรตินิยมอันดับหนึ่ง แน่นอนว่าฝีมือและประสบการณ์เหนือกว่าทรงโปรดอยู่แล้ว



 “เดี๋ยวคุณเอ็นดูจะขึ้นมาข้างบนครับพี่วาด ยังไงผมฝากพี่วาดดูแลหน่อยนะครับ” ทรงโปรดพูดขึ้นหลังจากที่ปรึกษารายละเอียดแบบของรีสอร์ตเรียบร้อยแล้ว



“ค่ะคุณชาย” เธอวาดยิ้มสวยๆ ก่อนหมุนตัวเดินออกไปจากห้องทำงาน



คนที่ยืมรถเบนซ์ของเขาไปเพิ่งแชตมาบอกเมื่อกี้นี้เองว่าถึงบริษัทเรียบร้อยแล้ว เอ็นดูเคยมาที่นี่เป็นครั้งที่สอง เขาไม่แน่ใจว่าน้องจะขึ้นมาบนห้องทำงานถูกหรือเปล่า



 

N-Doo: ลิฟต์ตัวไหนครับ



 

ทรงโปรดกดดูรูปที่เอ็นดูถ่าย ลิฟต์ตรงลานจอดรถชั้นใต้ดินจะมีอยู่หนึ่งตัวที่ทรงโปรดสงวนไว้ใช้เฉพาะผู้ที่เกี่ยวข้องเท่านั้น เรียกอีกอย่างว่าเป็นลิฟต์ส่วนตัวของเขานั่นแหละ



 

Prod: ซ้ายมือครับ กดมาชั้น 19 ได้เลย

N-Doo: งั้นผมกดชั้น 11 นะครับ

Prod: ก็ได้

Prod: พี่จะได้ลงไปรับเราขึ้นมา

Prod: ชั้นนั้นเซลล์ทำงานอยู่ด้วย จะได้เปิดตัวไปเลยว่านี่เมียพี่

N-Doo: โหยคุณ ล้อเล่นนิดหน่อยเอง

N-Doo: นี่ครับๆ กดชั้น 19 แล้ว

 



คุณชายทรงโปรดส่งสติ๊กเกอร์ดุ๊กดิ๊กเสือตีก้นกระต่าย พอกระต่ายโดนตีแล้วก็ยืนร้องไห้น้ำตาไหล อือ มันเหมาะกับคนคูลๆ อย่างเขาดี



ทรงโปรดไม่เคยซื้อสติ๊กเกอร์มาใช้สำหรับแชตเลยจริงๆ เขาไม่ชอบอะไรแบบนี้อยู่แล้ว ปกติทรงโปรดไม่ค่อยอินกับการใช้สติ๊กเกอร์เท่าไหร่ ไม่เหมือนคุณหญิงรฐาพี่สาวของเขาหรอก ที่มีสติ๊กเกอร์แทบทุกแบบ



แต่ไอ้ตัวนี้มันน่ารักดี เอ็นดูส่งมาให้เขาดูแล้วบอกว่าสติ๊กเกอร์ที่เป็นเสือน่ะเหมือนเขามากๆ เลย ส่วนเขาบอกว่ากระต่ายก็เหมือนเอ็นดู จากนั้นไม่นานหม่อมราชวงศ์ทรงโปรดก็ทำการซื้อสติ๊กเกอร์มาใช้ทั้งๆ ที่เขาไม่เคยซื้อมาก่อน



อือ นั่นแหละ แล้วครั้งแรกที่ส่งสติ๊กเกอร์นี้ให้น้อง เอ็นดูหัวเราะกลั้วจนแทบหายใจไม่ทัน หน้านี่แดงไปหมดเลย

 



N-Doo: เลยชั้น 11 มาแล้วครับ

Prod: อยู่ชั้นไหนแล้ว

N-Doo: 13 ครับ

N-Doo: 15 แล้วครับ

 



เอ็นดูเป็น Power ให้เขาเหลือเกิน



ปกติแล้วหม่อมราชวงศ์ทรงโปรดไม่จับโทรศัพท์บ่อย ใครแชตมาทีกว่าจะตอบก็นู้น ข้ามวัน ไม่ก็หลายชั่วโมงต่อมา แต่เอ็นดูทำให้เขาติดโทรศัพท์มากกว่าเดิม



แต่น่าจะติดคนในโทรศัพท์มากกว่าติดโทรศัพท์



 

Prod: เอ็นดู อยู่ไหนแล้ว



 

“คุณชายคะ คุณเอ็นดูมาถึงแล้วค่ะ”



เสียงปานวาดดังผ่านอินเตอร์คอมทำให้เขาหลุดยิ้ม เจ้าตัวดีที่ไม่ตอบไลน์ตอนนี้อยู่หน้าห้องเขาแล้ว หม่อมราชวงศ์ทรงโปรดไม่ได้ตอบกลับแต่เขาลุกขึ้นยืนเต็มความสูงก่อนสาวเท้าตรงไปยังประตูห้องทำงาน แล้วก็ต้องยกยิ้มเมื่อเห็นคนน่ารักยืนโน้มตัวรอฟังเสียงตอบจากอินเตอร์คอม



“หัวจะทิ่มโต๊ะอยู่แล้วเอ็นดู”



“อ้าว...สวัสดีครับ”



เจ้าของชื่อสะดุ้ง ยกมือขาวเกาท้ายทอยยิ้มเก้อ



“คืนครับ”



เอ็นดูยื่นรีโมทรถคืนคนตัวสูงเมื่อทรงโปรดพาเดินเข้ามาในห้อง เขาปิดประตูมิดชิดแถมยังล็อกกลอนอีกด้วย เมื่อกี้ก่อนเข้ามาคุณชายทรงโปรดกำชับกับเลขาฯ ว่าวันนี้เขาไม่รับแขกอีกแล้ว



ที่ไม่รับแล้วเพราะว่าเขาจะสูดเอาพลังกายพลังใจจากน้องนี่ไง



“คุณนี่...จริงๆ เลย ยังไม่ถึงเวลาเลิกงานเลยนี่ครับ”



พูดกันไม่กี่คำเอ็นดูก็ถูกหม่อมราชวงศ์ทรงโปรดจับกดลงบนโซฟาแล้วระดมจูบจนหายใจแทบไม่ทัน แต่ดีนะที่เขาไม่รุ่มร่ามถึงขั้นปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตกับถอดเข็มขัดกางเกงของเอ็นดูออก...ไม่งั้นแย่แน่ๆ



หม่อมราชวงศ์ไหวไหล่ เขาหัวเราะเบาๆ ก่อนลุกขึ้นนั่งบนโซฟาโดยไม่ลืมที่จะประคองว่าที่คู่หมั้นที่นอนอยู่ให้ลุกขึ้นนั่งด้วยเหมือนกัน แต่ก็ไม่ใช่ว่านั่งเฉยๆ ซะเมื่อไหร่ ตอนนี้ทรงโปรดรั้งเอ็นดูเข้าไปกอดไว้แน่นเลยแหละ



“ไกลมั้ย”



“จากมหา’ลัย มาที่บริษัทเหรอครับ”



“อือ”



“แล้วคุณว่าไกลมั้ยล่ะ”



“สำหรับพี่ไม่”



“สำหรับผมก็ไม่เหมือนกันครับ”



ถึงจะอยู่กันคนละฝั่ง แต่หม่อมราชวงศ์ทรงโปรดขับรถไปกลับแบบนี้เป็นประจำเขาเลยคิดว่ามันไม่ไกล ที่ไหนมีเอ็นดู ที่นั่นเขาไปได้หมด



“นี่คุณดื่มกาแฟตอนบ่ายอีกแล้วเหรอครับ”



“มันชิน”



“งั้นก็หัดดื่มแค่ตอนเช้าให้ชินบ้างสิครับ”



“ไปหยิบมาให้พี่ดื่มหน่อยสิ เริ่มปวดหัวแล้ว”



ขนาดบอกไปหยกๆ หม่อมราชวงศ์ทรงโปรดยังไม่ฟังเลย แต่ก็นั่นแหละ คนมันเคยแล้ว ถ้าให้เลิกดื่มเขาคงจะปวดหัวแย่



เอ็นดูเลยแกะมือหนาที่คล้องเอวออกก่อนลุกขึ้นแล้วเดินตรงไปยังโต๊ะทำงาน เอ็นดูเดินอ้อมไปตรงจุดที่ใกล้กับแก้วกาแฟมากที่สุด ซึ่งแก้วกาแฟของคุณชายเขาก็ตั้งอยู่ใกล้ๆ กับ iMac ราคาร่วมแสนนั่น



จังหวะที่กำลังจะหยิบแก้วกาแฟขึ้นมา สายตาของเอ็นดูเหลือบเห็นแบบรีสอร์ตบนหน้าจอที่ถูกสร้างขึ้นด้วยโปรแกรมอะไรสักอย่างที่เจ้าตัวไม่รู้จัก เอ็นดูไม่ได้อยากละลาบละล้วงเรื่องงานของเขา แต่แบบรีสอร์ตที่เห็นมันคุ้นตา เหมือนกับว่า...มันเป็นแบบที่เอ็นดูเคยให้เขาดูเลยต้องหยุดมอง



“ชอบมั้ย”



แล้วเจ้าของห้องที่นั่งอยู่บนโซฟาก็ขยับตัวเดินตรงเข้ามาหา หม่อมราชวงศ์ทรงโปรดนั่งประจำบนเก้าอี้ทำงานของตัวเอง รั้งเอวบางๆ ของเอ็นดูให้นั่งลงบนตัก มือหนาจับเมาส์ขยับแบบรีสอร์ตบนหน้าจอให้เอ็นดูเห็นรายละเอียดต่างๆ



“พี่เอาแบบรีสอร์ตที่เราทำไว้ในแอพมาใส่รายละเอียดเพิ่มเติม ถ้าไม่ชอบตรงไหนบอกได้เลย เดี๋ยวแก้แบบให้”



“คุณ...เอาจริงเหรอครับ”



“พี่พูดจริงทำจริง”



“แต่นี่มันไม่ใช่เรื่องเล่นๆ เลยนะคุณ”



“ไม่ได้เล่นสักหน่อยเอ็นดู พี่จริงจัง”



คนที่นั่งหันหลังให้หน้าจอกลั้นยิ้มจนแก้มป่อง เอ็นดูเอนหลังพิงอกกว้าง จับมือหนาของเขาขึ้นมาประสานนิ้วเรียวไว้ด้วยกันก่อนประคองมือหนาขึ้นมาจูบเบาๆ



“ชอบหมดเลยครับ สวยมากๆ เลย...ขอบคุณนะครับ”



คนตัวบางถูกกระชับกอดแน่นขึ้น แผ่นหลังของเอ็นดูแนบแน่นไปกับอกกว้าง ทรงโปรดวางคางบนไหล่แคบ



มากกว่านี้ก็ทำให้ได้ อะไรที่เอ็นดูอยากได้เขาจะหามาให้ทุกอย่าง



เอ็นดูเก่งจริงๆ ที่ทำให้เขาทั้งรักทั้งหลงได้มากขนาดนี้



“เปลี่ยนจากคำขอบคุณมาเป็นคบกับพี่แทนดีมั้ย”



คนถูกถามชะงัก ทำหน้าเลิ่กลั่ก หัวเราะเบาๆ



“คือ...คุณจะขอผมเป็นแฟน?”



“อือ ข้ามขั้นมาตั้งเยอะแล้วเพิ่งจะขอ ไม่โกรธพี่ใช่มั้ย”



“จีบติดแล้วเหรอครับ”



“นี่ยังไม่ติดอีกเหรอ”



“คุณพูดเองเออเองหมดเลย...ชอบขี้ตู่ด้วย”



“เอ็นดู...”



“ครับพี่โปรด”



ชอบพูดจังไอ้พี่โปรดเนี้ย แล้วไม่รู้ทำไมเวลาที่น้องพูดชื่อเขาต้องทำเสียงหวานๆ มากกว่าปกติด้วย



ทรงโปรดอดใจไม่ไหวจนต้องจูบท้ายทอยหอมๆ ของคนที่นั่งอยู่บนตัก เดี๋ยวนี้น่ะอ้อนเก่งนัก พออ้อนแล้วก็ทำมึนไม่รู้ไม่ชี้ ทำเหมือนกับว่าเมื่อกี้ตัวเองไม่ได้เรียกเขาว่าพี่โปรด



“พี่จีบเอ็นดูติดหรือยัง”



“คิดว่าไงล่ะครับ”



“คิดว่าจีบติดแล้ว”



“...”



“...”



“ครับ...จีบผมติดแล้ว”



น้องขยับตัวลุกขึ้นจากตัก หันหน้าหาคนตัวสูงที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ ขยับตัวนั่งคร่อมคุณชายทรงโปรดที่ใช้มือหนาๆ จับเอวไว้ก่อน



“แล้วเป็นแฟนกันได้หรือยัง”



เกลียดสายตาเจ้าเล่ห์ของเขาจริงๆ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้เลย



สายตาแบบนี้เป็นเอกลักษณ์ของคุณชายทรงโปรดไปแล้ว



“อันนี้คิดว่ายังไงล่ะครับ”



“คิดว่าได้”



“ครับ”



“ครับอะไร”



“อื้อออ คุณอ่ะ”



“บอกมาเร็วๆ”



“...”



“...”



“ก็เป็นแฟนคุณได้แล้วนี่ไง เป็นแล้วเนี่ย”



คนเขินแก้มแดงปลั่งพูดจบแล้วก็รีบซบหน้าลงบนอกแกร่งทันที เอ็นดูกลั้นยิ้มเขินร้องฮือเพราะถูกคุณชายหอมแก้มซ้ายทีขวาที ฟัดซะจนเอ็นดูแทบช้ำไปหมด



ทรงโปรดไม่รู้มาก่อนเลยว่ากระต่ายน้อยในวันนั้นจะทำให้เขารู้สึกเหมือนได้ยืนอยู่ในทุ่งสวยๆ คอยมองกระต่ายตัวขาววิ่งเล่นแบบสุขใจได้ขนาดนี้ ไม่รู้มาก่อนเลยว่าเขาจะใช้หัวใจรักใครคนหนึ่งได้มากมายขนาดนี้



แต่ตอนนี้ที่รู้...หม่อมราชวงศ์ทรงโปรดขาดหม่อมหลวงจิราไม่ได้เลย



จะขาดไปได้ยังไง ในเมื่อเอ็นดูเป็นหัวใจของเขา เป็นลมหายใจบริสุทธิ์ที่ต่อเติมให้ชีวิตของทรงโปรดมีสีสัน



คนที่ทำให้หม่อมราชวงศ์ทรงโปรดหยุดทุกอย่างได้...

หยุดแล้วมองแต่เอ็นดูคนเดียว

หยุดแล้วรักแค่เอ็นดูคนเดียว

















 

 

 

 

 
#ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี

หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ตอน 18 - up 26.9.61
เริ่มหัวข้อโดย: momonuke ที่ 26-09-2018 18:18:41
ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจกันพอดี!!!!!! :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1:
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ตอน 17 - up 26.9.61
เริ่มหัวข้อโดย: k00_eng^^ ที่ 26-09-2018 18:21:31
หวานเวอร์ เขินอ่ะ :-[
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ตอน 18 - up 26.9.61
เริ่มหัวข้อโดย: momonuke ที่ 26-09-2018 19:05:01
เขินนน แงๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ตอน 18 - up 26.9.61
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 26-09-2018 19:18:20
#ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี :-[ :-[ :-[
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ตอน 18 - up 26.9.61
เริ่มหัวข้อโดย: Gokusan ที่ 26-09-2018 19:52:19
อ่านสะใจ คนเขียนขยันมว้ากกกก ^^

เป็นนิยายฮีลใจในวันเหนื่อยๆ ไม่มีดราม่าให้ปวดหัวเพิ่ม 555 ดีงามมากค่ะ

ไม่ต้องหมั้นแล้วม้างงงง แต่งเล้ยยยย อิอิ
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ตอน 18 - up 26.9.61
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 26-09-2018 20:46:05
ขาดอากาศหายใจกันทุกตอนค่ะ  :hao5:

มีคำผิดข้างบน ไฟลุก เป็น ล นะคะ  :mew1:
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ตอน 18 - up 26.9.61
เริ่มหัวข้อโดย: Mafiaziip ที่ 26-09-2018 22:49:39
น้องน่ารักมากจริง ๆ เหมาะสมกันมากเลย คนน้องขี้อ้อน คนพี่ก็ขี้หยอด

 :impress2: :กอด1: :impress2: :กอด1:

 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ตอน 18 - up 26.9.61
เริ่มหัวข้อโดย: チイ ที่ 27-09-2018 02:55:01
ไม่เคยอ่านเรื่องไหนหวานกันได้ทุกตอนขนาดนี้เลยค่ะ
ทั้งที่เป็นแค่เรื่องราวความหวานของคน2คนไม่มีประเด็น
อื่นให้หนักใจแต่รู้สึกได้เลยว่าเรื่องมีน้ำหนักทีพอดีแล้ว
ไม่น่าเบื่อไม่หว่องอ่านไปอิจฉาไปเบ้ปากให้ความเลี่ยนไป
อรรถรสมากค่ะ :mew2:

หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ตอน 18 - up 26.9.61
เริ่มหัวข้อโดย: kungverrycool ที่ 27-09-2018 08:03:15
 :o8:โอ๊ยย เขินแทนน้อง
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ตอน 18 - up 26.9.61
เริ่มหัวข้อโดย: BAKA ที่ 27-09-2018 11:37:48
คนอ่านก็เขินจนจะขาดใจตายเหมือนกันค่ะ ฮืออออออ
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ตอน 18 - up 26.9.61
เริ่มหัวข้อโดย: Stmmltww ที่ 27-09-2018 12:08:24
ขอบคุณค่า เขินกับคู่นี้มากๆเลย :z3: :z3:
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ตอน 18 - up 26.9.61
เริ่มหัวข้อโดย: benceii ที่ 27-09-2018 17:20:29
 อยากมีน้องเอ็นดูเป็นของตัวเองบ้าง น้องงงงงงง น่ารักใจพังมาก ๆ
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ตอน 18 - up 26.9.61
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 27-09-2018 22:27:57
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ตอน 18 - up 26.9.61
เริ่มหัวข้อโดย: TheWanFah ที่ 28-09-2018 14:56:03
ชายโปรดดีอะไรแบบนี้
เขินทุกตอนเลยค่ะ
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ตอน 18 - up 26.9.61
เริ่มหัวข้อโดย: nulsdd ที่ 28-09-2018 23:49:17
ชอบมาก อ่านแบบฟีลกู๊ด พระเอกนายเอกไม่งี่เง่า ไม่มีตัวร้าย อ่านได้เรื่อยๆ อ่านแบบไม่อยากรู้ตอนจบ nc 18+ฮอตมาก
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ตอน 18 - up 26.9.61
เริ่มหัวข้อโดย: มนุษย์บิน ที่ 29-09-2018 00:17:14
 :ling1: หน่องจะสำลักความหวานตรัยยยยยยสสสส์sssss
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ตอน 18 - up 26.9.61
เริ่มหัวข้อโดย: Jiraapp ที่ 29-09-2018 08:26:03
หวานไม่เห็นใจคนอ่านบ้างเลยคู่นี้  :-[
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ตอน 18 - up 26.9.61
เริ่มหัวข้อโดย: Lotsa ที่ 02-10-2018 14:50:53
ฮีลลลลลหัวใจมากค่ะ
หัวข้อ: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ตอน 19 - up 3.10.61
เริ่มหัวข้อโดย: Swanlee ที่ 03-10-2018 22:16:31





19

It's quite difficult not to fall for you



 

เสียงคนคุยกันคละเคล้ากับเสียงช้อนกระทบจานบนโต๊ะอาหารมื้อค่ำในวังวงศ์ประดิษฐ์ อาหารเสิร์ฟได้สิบห้านาทีแล้ว แต่พวกผู้ใหญ่กินไปคุยไปกับข้าวบนโต๊ะเลยไม่พร่องสักเท่าไหร่ มีแต่ไวน์ราคาแพงที่พร้องไปเยอะที่สุด เพราะมันเป็นของชอบของหม่อมราชวงศ์ทรงโปรดและใครอีกหลายคนที่นั่งร่วมทานมื้อค่ำในคืนนี้



ทรงโปรดไม่ได้ร่วมบทสนทนาด้วยและผู้ใหญ่ก็ไม่ได้พูดถึงเขา แต่กำลังพูดถึงเรื่องเก่าผสมกับเหตุการณ์ปัจจุบันที่พวกท่านพบเจอ รวมทั้งลามไปเรื่องที่เมื่อก่อนเขามักถูกถามบ่อยๆ ว่า ‘จะแต่งงานเมื่อไหร่’



อือ ตอนนี้เขาไม่ได้โดนถามคำถามนั้นเพราะว่าที่คู่หมั้นที่จะเข้าพิธีหมั้นกันในวันพรุ่งนี้นั่งอยู่ข้างๆ แต่คนที่โดนถามคือทรงคุณกับทรงเพลิง พี่ชายของเขาเอง



ทรงโปรดขำไหล่สั่นตอนที่เห็นสีหน้าของพี่ชาย เขารู้ว่ามันเป็นคำถามน่าเบื่อ แต่ก็เลี่ยงไม่ได้เมื่ออยู่ต่อหน้าผู้ใหญ่ มันเป็นคำถามยอดฮิตสำหรับคนที่เรียนจบมีงานทำแล้ว



“ถ้าเป็นเมื่อก่อนพี่คือหนึ่งในสามที่โดนถาม”



“ตอนนี้ล่ะครับ”



“ตอนนี้เป็นคนถามเอง เอ็นดูอยากแต่งงานเมื่อไหร่”



“คุณนี่นะ...”



เจ้าของพิธีมงคลในวันพรุ่งนี้นั่งกระซิบกระซาบกันเบาๆ เอ็นดูกล้าที่จะฉีกยิ้มกว้างและยกมือตีแขนแกร่งเพราะตัวเองไม่เป็นจุดสังเกตเท่าไหร่ ใช่ เอ็นดูมีกำแพงหนาๆ อย่างกายของทรงเพลิงกับทรงโปรดบังอยู่ เดิมทีแค่ทรงโปรดนั่งข้างๆ ก็บังเอ็นดูแทบมิดแล้ว แต่หม่อมราชวงศ์ทรงเพลิงไหล่กว้างตัวหนากว่าทรงโปรดมาก ตอนนี้เอ็นดูเป็นกระต่ายตัวน้อยไปเลย



“สามีนั่งหัวโด่ตรงนี้ ทำไมคุณเมียเอาแต่มองคนอื่นล่ะครับ”



“เบาๆ เลยนะคุณ...มั่วตลอด” น้องตีแขนเขาไปป้าบหนึ่งเต็มๆ อือ แต่อย่างที่บอก ทรงโปรดกับเอ็นดูไม่ได้เป็นจุดสนใจเท่าไหร่น้องเลยกล้าทำร้ายร่างกายเขาต่อหน้าคนเยอะๆ “ไม่ได้มองสักหน่อย”



“เห็นอยู่ว่ามองพี่เพลิง”



“พี่ชายคุณไม่ใช่คนอื่นนี่ครับ”



“ยอมรับว่ามอง?”



หม่อมราชวงศ์ทรงโปรดเลิกคิ้วขวาขึ้น เขาเอาตัวบังหม่อมราชวงศ์ทรงเพลิงที่เอ็นดูเพิ่งใช้ตาหวานๆ มองเมื่อกี้ ทรงโปรดวางศอกบนขอบโต๊ะ ขยับตัวหันหาเอ็นดู เอียงเล็กน้อยเพื่อให้ตัวเองบังพี่ชายได้มิด ดุนลิ้นข้ามแก้มเมื่อเจ้ากระต่ายของเขาทำคอยืดคอยาวมองผ่านเขาไปอีก



“เอ็นดู” เสียงทุ้มๆ โหดๆ ของหม่อมราชวงศ์ทรงโปรดทำให้เอ็นดูใจสั่นรัวจริงๆ



เอ็นดูกลั้นยิ้มเม้มปากแน่น พอเห็นหน้าหงิกๆ ของทรงโปรดเลยหดคอกลับเป็นปกติแล้วหันหน้าตักอาหารเข้าปาก



“เดี๋ยวจะอดกินมื้อเย็น”



“หึงแม้กระทั่งพี่ชายตัวเองได้ไงครับเนี่ย”



“ไม่รู้ หึงหมด”



“มองเฉยๆ ไม่ได้คิดอะไรเลยครับ”



ทรงโปรดรู้ว่าเอ็นดูไม่สนใจคนอื่น แต่เคยได้ยินคำนี้มั้ย คนเจ้าชู้มักขี้หึง อือ นั่นแหละ หม่อมราชวงศ์ทรงโปรดคนนี้ขี้หึงมาก ทั้งหึงทั้งหวง



“จะไม่ให้เจอพี่เพลิงแล้ว”



“อ้าว คุณนี่”



“อยากมองดีนัก”



“ผมมองเพราะพวกคุณหน้าตาเหมือนกันไงครับ...แต่นิสัยพี่เพลิงคงไม่เหมือนคุณ”



คงมีแต่เอ็นดูนี่แหละที่บอกว่าเขากับพี่ชายหน้าตาเหมือนกัน ทั้งๆ ที่คนอื่นบอกว่าหน้าตาพวกเขาไปกันคนละทางเลย หม่อมราชวงศ์ทรงโปรดอมยิ้ม มองเจ้าคนน่ารักที่ก้มหน้าก้มตาจิ้มอาหารเข้าปาก



“เหมือนตรงไหน แล้วนิสัยพี่มันเป็นยังไง”



“เหมือนกันบางมุมเท่านั้นแหละครับ” เอ็นดูลู่ไหล่ “ไม่คุยแล้ว เดี๋ยวคุณทำหน้าหงิกใส่ผมอีก”



คุณชายทรงโปรดหัวเราะ ไม่ได้หัวเราะเอ็นดูหรอก แต่หัวเราะให้กับความขี้หึงไม่เข้าเรื่องของตัวเอง กับพี่ชายเขาไม่ได้หึงจริงจังอะไรขนาดนั้น จริงอยู่ที่อารมณ์หนึ่งเป็นความหึง แต่อีกอารมณ์ก็อยากแกล้งเอ็นดูด้วยเหมือนกัน



“หน้าแดงแล้วนะครับ” คนดื่มไวน์หมดไปหลายขวดถูกดึงแก้มเบาๆ เอ็นดูเอียงคอมองเขา เหลือบมองแก้วไวน์ที่ทรงโปรดถืออยู่ไม่ยอมปล่อย “คุณไม่ค่อยกินข้าวเลย เอาแต่ดื่มไวน์”



“ไม่หิว”



“ไม่หิวก็ต้องกินครับ ไม่มีอะไรรองท้องคุณเลย”



“งั้นป้อนหน่อย”



“อะไรคุณ”



“ป้อนหน่อย” ทรงโปรดย้ำ



“วางแก้วไวน์นะครับ แล้วหยิบช้อนตักข้าว”



“ป้อนพี่โปรดหน่อยครับ”



อือ เขามันดื้อด้าน



แต่ไหนแต่ไรแล้วที่หม่อมราชวงศ์ทรงโปรดถูกเลี้ยงมาแบบสปอยทุกอย่างในชีวิต เขาเป็นลูกชายคนเล็กของภัสร์ฤทัยที่อยากได้อะไรก็ต้องได้ แต่ไม่ได้เอาแต่ใจจนเสียคน แค่อยากทำอะไรก็ทำ แต่ยังอยู่ในกรอบของความถูกต้อง (ในบางเรื่อง)



แล้วมีเหรอที่ตื๊อไปขนาดนั้นว่าที่คู่หมั้นจะเฉยเมยใส่ หม่อมราชวงศ์ทรงโปรดหัวเราะเบาๆ เมื่อเห็นว่าเจ้าคนน่ารักอมยิ้มไปด้วยส่ายหัวไปด้วย มือขาวหยิบช้อนกับส้อมในจานของเขาขึ้นมาถือไว้



“คุณอยากกินอะไรล่ะครับ”



เอ็นดูตั้งท่าเตรียมตักอาหารให้เขาแล้ว



“มาใกล้ๆ นี่มา”



ทรงโปรดกวักมือเรียก พอน้องขยับตัวเข้าใกล้ เขาเลยโน้มหน้าลงไปกระซิบ



“อยากกินเอ็นดู”



“คุณ!” น้องรีบชะงักแล้วขยับตัวกลับไปนั่งท่าเดิมทันที ตาสวยๆ มองค้อนทรงโปรด “พูดดีๆ หน่อยครับ ผู้ใหญ่อยู่เยอะแยะ”



“นี่ก็ดีแล้วนะ ถ้าอยู่สองคนจะพูดอีกอย่าง...” ทรงโปรดลากเสียงยาว แต่ยังคุมเสียงให้เบาแบบที่ได้ยินแค่สองคน “อยากฟังมั้ย”



“คุณ...พอเลย ไม่ต้องกินแล้ว”



ไม่ใช่กระต่ายที่ตกหลุมพรางเสืออย่างทรงโปรด แต่เป็นกระต่ายที่เขินจนหาทางหนีไม่ได้



เอ็นดูแก้มแดงปลั่ง ข่มความเขินของตัวเองด้วยการนั่งเหยียบเท้าหม่อมราชวงศ์ทรงโปรดไว้



อือ ตอนแรกก็ไม่เจ็บเท่าไหร่แต่พอนานๆ ไปเริ่มเจ็บแล้วว่ะ

แหม่ เหยียบมาได้ ถ้าไม่ใช่เมียนี่มีเรื่องเลยนะครับเอ็นดู



“ถ้าคุณไม่กินอะไรแล้วก็ไปเถอะครับ...ผมอิ่มแล้วด้วย”



“ไปไหน”



“ขนเสื้อผ้าไปไว้ที่รีสอร์ตคุณไง”



“สรุปคืนนี้จะไปนอนรีสอร์ตพี่?”



“ไม่ใช่ครับ ผมหมายถึงให้คุณขนเสื้อผ้าของคุณออกจากห้องผมไปไว้ที่รีสอร์ตคุณต่างหาก”



ที่ถูกไล่แบบนี้ไม่ใช่อะไรหรอก...ตั้งแต่ขับรถจอดเทียบหน้าวังวงศ์ประดิษฐ์ ทรงโปรดก็รีบให้สาวใช้ถือกระเป๋าเป้ของเขาขึ้นไปไว้ในห้องเอ็นดูทันที เจ้าของห้องได้แต่อ้าปากทำหน้างง เขาไม่ได้โดนเจ้าของห้องไล่ทันทีเพราะคุณหญิงป้าเห็นดีเห็นงามด้วยที่คืนนี้ทรงโปรดจะร่วมห้องกับเอ็นดู



ถึงจะโดนไล่ทรงโปรดก็ไม่แคร์ ยังไงคืนนี้เขาก็ต้องนอนกับน้องอยู่แล้ว เพราะพรุ่งนี้ต้องตื่นเช้ามาทำบุญและเข้าพิธีหมั้นด้วยกัน



“ไม่ไล่กลับกรุงเทพไปเลยล่ะ”



“ไล่แล้วจะกลับเหรอครับ”



“ถ้าพี่กลับแล้วเราจะหมั้นกับใคร”



“เฮ้อ...”



รู้มั้ย โคตรชอบเสียงเฮ้ออะไรนี่ของน้องมากเลยว่ะ



แต่ถึงเอ็นดูจะถอนหายใจจนผู้ใหญ่หันมามอง ทรงโปรดก็ไม่รู้สึกสลดที่เป็นต้นเหตุให้น้องถูกจับจ้องทั้งที่อุตส่าห์หลบสายตาของพวกท่านได้แล้วแท้ๆ



“อะไรจ๊ะเอ็นดู มาฮงมาเฮ้อต่อหน้าผู้ใหญ่ซะเสียงดังเชียว” คุณหญิงป้าเหล่มอง น้ำเสียงของท่านฟังดูไม่ได้อยากเอ็ดหลานชายที่เผลอเสียมารยาทกลางโต๊ะอาหาร แต่ดูเป็นการแหย่เล่นมากกว่า



“ขอโทษครับคุณหญิงป้า ประทานโทษครับท่านพ่อ...ขอโทษทุกคนนะครับ”



พอเจ้าตัวก้มศีรษะขอโทษก็เป็นอันจบ บทสนทนาที่ยังมันส์ติดปากคุณหญิงป้าเริ่มขึ้นอีกครั้งเหมือนเมื่อกี้ไม่มีอะไรเกิดขึ้น เอ็นดูไม่ได้เป็นจุดสนใจแล้ว ไม่ได้ถูกสายตาของใครมองทั้งสิ้น



แต่กลายเป็นเขาที่ถูกสายตาหวานๆ ของคนที่เพิ่งกล่าวขอโทษไปจ้องเขม็ง หม่อมราชวงศ์ทรงโปรดชะงัก เอียงคอมองหน้าง้ำงอของว่าที่คู่หมั้น



“โกรธอะไร เป็นกระต่ายตาแดงเชียว” จะยกมือลูบแก้มกลมแต่กลับโดนรวบมือหนาไปวางไว้บนตักนุ่มๆ แทน



“อย่าจับนะครับ เดี๋ยวก็โดนกัดหรอก”



“รู้ครับรู้ กระต่ายตาแดงดุจะตาย”



เอ็นดูเลิกเล่นแล้ว น้องปล่อยมือทรงโปรดก่อนเปลี่ยนไปนั่งหลังตรงเหมือนเดิม นี่ถ้าอยู่กันแค่สองคนนิ้วทรงโปรดมีรอยฟันของเอ็นดูประดับไว้แล้วแน่ๆ



ก็ชอบเล่นกันแบบนี้แหละ ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่เอ็นดูเล่นกับเขาด้วยวิธีกัดบางส่วนบนร่างกายของฝ่ายตรงข้ามให้มีร่องรอย ทรงโปรดชอบกัดคอเอ็นดู แต่พอโดนน้องบ่นบ่อยๆ เลยเปลี่ยนไปกัดอกขาวๆ แทน ส่วนเอ็นดูน่ะชอบกัดคอกับกัดนิ้วชี้ของเขา บางทีก็งับหูงับจมูกเหมือนกระต่ายตัวน้อยๆ ที่ปีนขึ้นตัวแล้วซุกซนไปทั่ว



แต่ทรงโปรดจะเล่นแบบนี้กับเอ็นดูเฉพาะตอนที่อยู่กันแค่สองคนเท่านั้น สถานที่เล่นประจำก็คือเตียงในห้องของน้อง มันมีความหมายแฝงสำหรับการเล่นกัดกันแบบนี้ก็คือการที่เขากับน้องจะรักกันแบบลึกซึ้งในนาทีต่อมา



อือ นั่นแหละ น้องส่งสัญญาณลับให้แล้ว ทรงโปรดกระชุ่มกระชวยขึ้นมาเลย : )



“อิ่มหรือยังเรา” หม่อมราชวงศ์ทรงโปรดกระแอมไอ



“อิ่มแล้วครับ”



“ไปเดินย่อยกันมั้ย”



“ดึกแล้วมีที่ให้น่าเดินย่อยที่ไหนครับ ฝนก็ตก”



“เห็นคุณหญิงป้าบอกว่าที่นี่มีโรงจอดรถชั้นใต้ดิน”



“ครับ คุณอยากดูเหรอ”



“อือ กำลังคิดไอเดียร์ที่จอดรถหลบฝนชั้นใต้ดินในรีสอร์ตเหมือนกัน”



“ก็ดีนะครับ”



“พาไปดูหน่อย”



เอ็นดูแหงนมองคนตัวสูงที่จิบไวน์หน้าระรื่น ดึกดื่นป่านนี้ยังมีอารมณ์อยากดูนู่นอยากดูนี่ คนผิวขาวเม้มปากเล็กน้อย เอื้อมมือติดกระดุมเสื้อเชิ้ตสีดำที่เขาปลดมันออกถึงสามเม็ดให้เหลือปลดไว้แค่เม็ดเดียว



“งั้นก็แต่งตัวให้มิดชิดหน่อยนะครับ เดี๋ยวยุงมากัดอกเอา”



“ยุงที่ชื่อเอ็นดูเหรอ”



“ยุงก็คือครับ ยุงที่บินได้...ไม่ใช่ผม” ปากจิ้มลิ้มขยับเล็กน้อย “จะไปก็ไปครับ ขออนุญาตลุกออกจากโต๊ะให้ผมด้วย”



พอเห็นท่าทางเหวี่ยงหน่อยๆ กับสายตามองค้อนแบบน่าฟัดของน้องทรงโปรดก็ยกยิ้มร้ายกาจกว่าเดิม อือ ให้ทำไงได้ ตอนนี้เขาโคตรจะมีความสุข



ทรงโปรดชอบให้เอ็นดูยุ่งกับเสื้อผ้าหน้าผมของเขา เลยจงใจทำตัวไม่เรียบร้อยเพื่อรอให้น้องมาจัดแจง แล้วมันก็ได้ผลเลยแหละ เอ็นดูใส่ใจตั้งแต่หัวจรดเท้าของทรงโปรด



มีเมียดีเป็นลาภอันประเสริฐ

มีเมียน่ารักอยากฟัดให้ตายคาอก : )



“ผมกับเอ็นดูขอตัวก่อนนะครับ” หม่อมราชวงศ์ทรงโปรดหาจังหวะเหมาะสมบอกกล่าวผู้ใหญ่



“อิ่มกันแล้วเหรอจ๊ะ” คุณปนัดดาที่นั่งอยู่ตรงข้ามคุณหญิงป้าถามขึ้น เธอชะเง้อมองลูกชายคนเล็กที่นั่งถัดจากพี่ชายทั้งสองคน



“ครับคุณแม่ ผมจะออกไปเดินเล่นกับน้องครับ”



“กางร่มไปนะชายโปรด อย่าให้โดนฝนเอาเดี๋ยวพรุ่งนี้จะไม่สบาย”



“ครับคุณแม่”



ส่งยิ้มให้คุณแม่ที่เป็นห่วงเป็นใยไม่เปลี่ยน คุณชายทรงโปรดกุมมือเล็ก กำลังจะขยับตัวลุกขึ้นพร้อมกับเอ็นดูแต่ก็ต้องชะงักเมื่อถูกมือหนาของคุณชายทรงเพลิงจับบ่า



“จะไปสวีทกันตรงไหน พี่กับพี่คุณจะได้เลี่ยงไม่เดินไปตรงนั้น” คุณชายทรงเพลิงยกยิ้ม กระซิบกับน้องชายเบาๆ



“โรงจอดรถชั้นใต้ดินครับ”



“มิดชิดดี เก็บเสียงด้วยมั้ย”



คนชอบแซวน้องชายหัวเราะในลำคอเมื่อเห็นว่าทรงโปรดยกยิ้มที่ร้ายกาจเจ้าเล่ห์กว่าเขาหลายเท่า มือก็กุมมือขาวของว่าที่คู่หมั้นไว้แน่น อือ แน่นอนว่าเอ็นดูได้ยินสิ่งที่สองพี่น้องกระซิบกระซาบกันถึงได้หน้าแดงก่ำขนาดนั้น



“อยากรู้ต้องลองเดินผ่านแถวนั้นครับพี่เพลิง”



“...คุณ ไปได้แล้วครับ” เจ้าคนหน้าเเดงรีบเบรกบทสนทนาของสองพี่น้อง



หม่อมราชวงศ์ทรงโปรดหัวเราะพร้อมๆ กับหม่อมราชวงศ์ทรงเพลิงที่ยักไหล่ให้ นี่ขนาดแค่คุยกันสองคนเอ็นดูยังหน้าแดงขนาดนี้ เชื่อเถอะว่าถ้าหม่อมราชวงศ์ทรงคุณร่วมบทสนทนาด้วย เอ็นดูคงได้เป็นลมกลางโต๊ะอาหารมื้อค่ำแน่ๆ



พี่น้องบ้านนี้ร้ายจะตาย โดยเฉพาะผู้ชายสามคนนี้







*****





 

คุณชายทรงโปรดกางร่มขนาดพอดีสำหรับสองคน เดินไปตามทางที่สองข้างล้อมไปด้วยสนามหญ้า ไฟสีนวลสลัวท่ามกลางฝนโปรยลงมาคละเคล้ากับกลิ่นชื้นของหญ้าทำให้บรรยากาศตอนนี้เหมาะกับการนั่งซุกอยู่ในผ้าห่มมากกว่าออกมาเดินให้น้ำฝนกระเด็นใส่ขากางเกง



อือ เอ็นดูอยากนอนอยู่ในห้องมากกว่าออกมาเดินอยู่ข้างนอกแบบนี้ แต่ทำยังไงได้ในเมื่อหม่อมราชวงศ์ทรงโปรดเขาอยากไปดูสถานที่จอดรถชั้นใต้ดินนักหนา



คนตัวขาวที่เดินเคียงข้างคุณชายทรงโปรดใต้ร่มคันเดียวกันกอดอกพลางเม้มริมฝีปาก พยายามทำตัวเล็กตัวน้อยอยู่ในร่ม เบี่ยงตัวไปทางขวาเพื่อไม่ให้ไหล่ข้างซ้ายของคนที่ถือร่มอยู่เปียกฝน



“เข้ามา” ทรงโปรดพูดพร้อมกับรั้งไหล่เล็กๆ ให้ขยับเบียดชิดกันมากกว่าเดิม



“คุณก็ขยับเข้ามาด้วยสิครับ” ยู่ปากเงยหน้าบอกคนตัวสูงที่ขยับตัวออกจากร่ม เอ็นดูชะโงกหน้ามองไหล่ข้างซ้ายของเขา พอเห็นว่าเสื้อเชิ้ตราคาแพงของคุณชายทรงโปรดเปียกน้ำก็ทำหน้างอ “เสื้อเปียกหมดแล้วคุณ”



“เราก็อยู่นิ่งๆ สิครับ”



น้ำเสียงดุไม่จริงจังกับริมฝีปากอุ่นๆ ของหม่อมราชวงศ์ทรงโปรดที่กดลงบนขมับข้างซ้ายเหมือนเป็นการสยบให้คนที่พยายามขยับตัวออกจากร่มอยู่นิ่งๆ...มันก็ได้ผลแหละ เพราะหลังจากที่ถูกคุณชายเขาจุ๊บเหม่งเจ้าเด็กน่ารักคนนี้ก็นิ่งไปเลย



หม่อมราชวงศ์ทรงโปรดหัวเราะเมื่อคนที่ถูกดุเมื่อกี้นิ่งไปได้แค่แป๊บเดียวก่อนจะใช้แขนนุ่มๆ คล้องเอวแกร่งของเขา เอ็นดูออกแรงรั้งเอวของคุณชายเบาๆ ให้ขยับตัวเข้าใกล้ แต่แรงน้องมีน้อยเกิน จากที่รั้งก็เหมือนกับแค่สะกิดเท่านั้น



“ขยับเข้ามาหน่อยสิครับ”



“ไม่เป็นไร”



“เป็นครับ...เดี๋ยวคุณไม่สบาย”



“ถ้าไม่สบายก็ดี เราจะได้เอาใจพี่เยอะๆ”



“นี่ผมยังเอาใจคุณไม่เยอะอีกเหรอครับ”



“เยอะแล้ว แต่อยากได้มากกว่านี้”



“...โลภมาก”



เป็นแบบนี้ทุกครั้งที่ทุกช่วงของการสนทนามักจะมีเสียงหัวเราะเบาๆ ของทรงโปรดและเอ็นดูปนกัน เป็นเสียงหัวเราะที่เต็มไปด้วยความสุข อุ่นใจ เป็นเสียงหัวเราะที่หาที่ไหนไม่ได้ เพราะเอ็นดูไม่เคยหัวเราะแบบนี้กับใคร...ทรงโปรดก็เหมือนกัน



จนกระทั่งเอ็นดูชะลอเท้าเมื่อถึงหน้าประตูสถานที่จอดรถชั้นใต้ดิน เสียงหัวเราะหายไปแล้วเปลี่ยนเป็นเสียงคุยกันของคนสองคน เอ็นดูหยิบรีโมทขึ้นมา กดให้ประตูม้วนสีครีมเลื่อนขึ้น



“สวย” หม่อมราชวงศ์กระซิบ



“คิดเหมือนผมเลย โรงจอดรถนี่เพื่อนคุณพ่อออกแบบนะครับ”



“ไม่ได้หมายถึงโรงจอดรถ พี่หมายถึงเรา”



“...”



“สวยจังแฟนพี่โปรด”



“...ผมเป็นผู้ชาย ต้องบอกว่าหล่อสิครับ” เงยหน้าตอบคนที่เพิ่งหุบร่มแล้วจับพิงไว้กับกำแพง



แล้วอะไรดลใจให้เอ็นดูจับมือหนาไว้แน่นๆ ก็ไม่รู้ ไม่ได้จับอย่างเดียว เอ็นดูยังช้อนตามองคนตัวสูงพร้อมกับปิดปากอมยิ้มอีกต่างหาก ไฟสีส้มสว่างจากโรงจอดรถที่เปิดอัตโนมัติไว้ตลอดทั้งคืนสาดส่องให้เห็นโครงหน้าหล่อเหลาของคุณชายทรงโปรดชัดเจน



หน้าโรงจอดรถมีหลังคายื่นพอที่จะให้คนสองคนยืนหลบฝน เอ็นดูกับทรงโปรดไม่ได้ก้าวเข้าไปดูภายในเพราะเอาแต่ยืนส่งยิ้มให้กัน ทรงโปรดก้มหน้ามองเจ้าคนผิวขาว เขาใช้มือทัดผมกลุ่มหนึ่งไว้ที่หลังใบหูนิ่มของน้อง ขยับเท้าเดินไปข้างหน้า ส่วนเอ็นดูก็สาวเท้าถอยหลังจนกระทั่งแผ่นหลังเล็กๆ แนบไปกับผนังสีครีม



เอ็นดูหลบสายตาที่หวานซึ้งผิดปกติของทรงโปรดโดยการหันมองสายฝนที่กระหน่ำแรงกว่าเดิม ฝนที่สาดเข้ามาบางส่วนไม่ทำให้ทรงโปรดเลิกมองเอ็นดูด้วยสายตาแบบนี้ได้...เอ็นดูไม่ชินกับสายตาของเขา เพราะปกติจะถูกทรงโปรดมองแบบคนเจ้าเล่ห์ซะมากกว่า



แต่นี่อะไร...จู่ๆ ก็ทำตาหวานเยิ้มลึกซึ้งใส่ คนถูกมองจะละลายจมกองพื้นแล้ว



“เข้าไปข้างในมั้ยครับ...อื้อ”



ในเมื่อฝนมันน่ามองกว่าเขา คุณชายทรงโปรดเลยเบี่ยงเบนความสนใจด้วยจูบนุ่มๆ บนริมฝีปากหวานฉ่ำ มือหนาจับคางน้องเบาๆ พลางบีบนวดให้คนน่ารักค่อยๆ เผยอกลีบปากออก...แล้วก็สมดั่งใจคุณชายเขาเลย น้องเปิดปากรอรับความลึกซึ้งจากเขา แต่คุณชายกลับไล้เลียริมฝีปากอวบเล่น



“ย...อย่าแกล้งสิครับ”



เบี่ยงหน้าหลบจูบได้ครู่เดียวทรงโปรดก็ขยับหน้าตามาปิดปากต่อ เขาหัวเราะเบาๆ เมื่อได้ยินเสียงหายใจฟึดฟัดจากคนตัวขาว คุณชายทรงโปรดละเลียดเม้มปากสีชมพู ดูดกลืนจนเกิดเสียงสลับกับผละออกแล้วจูบใหม่อยู่อย่างนั้นจนน้องต้องยกแขนขึ้นคล้องคอแกร่งแล้วรั้งให้คุณชายบดเบียดริมฝีปากแนบแน่นกว่าเดิม



ทรงโปรดยกยิ้ม สองมือล็อกเอวบางให้แนบชิดกับตัวของเขา หน้าท้องนุ่มๆ สัมผัสโดนกลางลำตัวที่แสดงถึงความเป็นผู้ชายแข็งแกร่ง เอ็นดูขยับตัวปลุกเขาให้ตื่น จากอากาศที่เย็นฉ่ำก็กลายเป็นร้อนรุ่มเหมือนมีพระอาทิตย์เต็มดวงมาส่องอยู่ตรงหน้า



หม่อมราชวงศ์ทรงโปรดรู้ความปรารถนาของตัวเอง เขาต้องการน้องทุกเวลา...ตอนนี้ก็ใช่ เขาอยาก outdoorตรงหน้าโรงจอดรถนี่แหละ แต่ติดอยู่ที่ว่าพรุ่งนี้มีงานสำคัญของพวกเขา ถ้าเกิดเผลอไปฟัดน้องตอนนี้...มีหวังเอ็นดูต้องงอแงตื่นเช้าไม่ไหวแน่ๆ



แปะ



“อย่ายั่ว เดี๋ยวไม่ได้นอนหรอก”



หน้าผากของคนผิวขาวถูกตีด้วยนิ้วสองนิ้ว ทรงโปรดไม่ได้รุนแรงอะไรกับน้อง เขาออกจะถนอมเอ็นดู แต่เจ้าคนน่ารักกลับทำหน้างอยกมือขึ้นลูบหน้าผากป้อยๆ



“เจ็บเหรอ”



“ถ้าผมตีบ้างอย่าโกรธก็แล้วกัน”



“เอาเลย ตีคืนสิ”



คุณชายทรงโปรดยื่นหน้าให้ว่าที่คู่หมั้นตีกลับ ถ้าน้องจะใช้ห้านิ้วกับฝ่ามือนุ่มๆ ฟาดลงบนแก้มเขาก็ไม่โกรธ เอาที่เอ็นดูทำแล้วสบายใจเลย



จุ๊บ



“ตีคืนแล้วครับ”



คุณชายทรงโปรดมองคนผิวขาวที่กลั้นยิ้ม นิ้วเล็กๆ ก็จิ้มแก้มทรงโปรดข้างที่เพิ่งใช้ริมฝีปากแนบลงมา



“ตีแรงไม่ได้ครับ เดี๋ยวพรุ่งนี้คุณไม่หล่อ”



“...ปกติชอบทำตัวน่ารักแบบนี้กับไอ้ภูด้วยหรือเปล่า”



“จะหมั้นกันแล้วคุณยังถามถึงภูอีกเหรอครับ” เอ็นดูหัวเราะจนไหล่สั่น



อือ แต่ก็ชอบให้เขามาหึงมาหวงแบบนี้ เอ็นดูไม่ได้รู้สึกรำคาญกับท่าทีขี้หึงขี้หวงของทรงโปรด กลับรู้สึกชอบเอามากๆ



“ไม่เคยครับ”



“แสดงว่าพี่เป็นคนแรก”



“คุณเป็นคนแรกของผมเสมอ”



หม่อมราชวงศ์หัวเราะชอบใจกับคำตอบแสนเอาใจของว่าที่คู่หมั้น คนโตกว่ารั้งคนตัวเล็กเข้ามากอดไว้แน่น ทรงโปรดวางคางบนศีรษะกลมพลางหอมและจูบสลับกันไป



เอ็นดูเรียนรู้ที่จะมัดทรงโปรดไว้กับตัวและหัวใจทีละนิดจนกระทั่งตอนนี้น้องแทบไม่ต้องทำอะไรสักอย่าง ทรงโปรดก็ยินยอมมอบตัวและหัวใจทั้งดวงไว้ที่น้อง



สาบานได้เลย...ทั้งชีวิตนี้หม่อมราชวงศ์ทรงโปรดไม่เคยรู้สึกรักใครเท่าที่รู้สึกรักเอ็นดูมาก่อน



“เอ็นดู พี่โปรดรักเอ็นดูนะครับ”



“...”



“พี่ไม่เคยพูดกับใคร”



รักจนสามารถพูดคำนี้ได้ เป็นคำแรกในชีวิตที่ทรงโปรดยกให้คนคนนี้



“ขอบคุณครับ”



เสียงอู้อี้ในอกแกร่งกับแก้มแดงๆ ที่ทรงโปรดก้มมองทำให้เขายิ้มกว้าง



“ผมก็รักคุณเหมือนกันนะครับ”



“…”



“แล้วก็...ไม่เคยพูดคำนี้กับใครด้วย”



และที่กล้าพูดออกมาก็เพราะว่ามั่นใจแล้ว...



มั่นใจว่าหม่อมราชวงศ์ทรงโปรดคนนี้คืออีกหนึ่งชีวิตที่เติมเต็มเอ็นดูจริงๆ












#ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี





หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ตอน 19 - up 3.10.61
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 03-10-2018 22:22:19
สำลักความหวานแล้วค่ะ ทำร้ายคนโสดที่สุดอะ
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ตอน 19 - up 3.10.61
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 03-10-2018 22:59:28
กลิ่นความรักมันฟุ้งไปหมดจนลืมว่าฝนตกกก  :mew1:
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ตอน 19 - up 3.10.61
เริ่มหัวข้อโดย: BAKA ที่ 03-10-2018 23:45:50
จย้าาาาาา พยายามจะไม่เหม็นความรักแล้วนะ แต่ไม่ไหวจริงๆ ฮาาาาา
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ตอน 19 - up 3.10.61
เริ่มหัวข้อโดย: กาแฟมั้ยฮะจ้าว ที่ 04-10-2018 08:49:28
ขอบคุณครับ +1 ให้นะครับ o13
หัวข้อ: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ตอน 20 end - up 4.10.61
เริ่มหัวข้อโดย: Swanlee ที่ 04-10-2018 09:17:03
20

คุณหล่อ ดูดี ยิ้มร้ายๆ ของคุณทำให้ผมใจสั่น

คุณเพอร์เฟ็กต์ที่สุดสำหรับผมเลย





 

พิธีหมั้นเรียบง่ายผ่านไปหลังจากที่หม่อมราชวงศ์ทรงโปรดสวมแหวนจองตัวหม่อมหลวงจิรา แหวนสีเงินวับวาวที่ฝังเพชรเม็ดเล็กรอบแหวนวงนั้นที่สวมนิ้วนางข้างซ้ายของเอ็นดู เป็นแหวนวงเดียวในโลกจากแบรนด์ Cartier



ที่บอกว่าเป็นวงเดียวในโลกเพราะด้านในของแหวนสลักคำว่า P’ Prod ♥ N-Doo



พร้อมกับจดหมายรักฉบับเล็กที่คุณชายเขาแอบหย่อนใส่กระเป๋าสูทของเอ็นดู แต่คนที่ได้รับจดหมายยังไม่เปิดอ่าน เพราะรู้ว่าถ้ารีบเปิดต่อหน้าผู้ใหญ่ตัวเองอาจจะซ่อนแก้มแดงๆ ไว้ไม่ได้



ของหมั้นที่หม่อมราชวงศ์ให้กับเอ็นดูมีอยู่แค่สองอย่าง อย่างแรกคือแหวนที่เอ็นดูสวมอยู่ตอนนี้...ส่วนอย่างที่สองคือใบโฉนดที่ดินตัวจริงบนเขาใหญ่ที่อยู่ห่างจากวังวงศ์ประดิษฐ์หลายกิโลเมตร จำนวนพื้นที่ทั้งหมดที่ระบุไว้ในโฉนดก็...หนึ่งพันห้าร้อยไร่



สินหมั้นแค่สองอย่างแต่มูลค่านับร้อยล้านที่คุณชายมอบให้คู่หมั้นไม่เท่ากับหัวใจทั้งดวงที่เอ็นดูมอบให้ทรงโปรดดูแล ต่อจากนี้พวกเขาเป็นเสมือนคนเดียวกันที่ต้องคอยแบ่งทุกข์แบ่งสุขไปเรื่อยๆ



ครอบครัวภัสร์ฤทัยและวงศ์ประดิษฐ์ร่วมทานอาหารเช้าด้วยกันหลังจากที่ทำพิธีหมั้นเสร็จแล้ว เป็นเช้าแรกในชีวิตที่เอ็นดูรู้สึกอิ่มทั้งที่แตะอาหารไปแค่นิดเดียว พอถูกคู่หมั้นตัวสูงถามว่าทำไมถึงกินเลยบอกเขาไปตามตรงว่าอิ่ม...แล้วคู่หมั้นของเอ็นดูก็สรุปอาการให้ง่ายๆ



‘สงสัยอิ่มความสุข’

‘ไม่คิดว่าเมื่อคืนผมอาจจะกินจนอิ่มถึงเช้าบ้างเหรอครับ’

‘ดูหน้าก็รู้ เรามีความสุขที่ได้หมั้นกับพี่จนกินอะไรไม่ลง’



อือ ก็ตามที่เขาพูดเลย ในเมื่อหน้าของเอ็นดูแสดงออกชัดเจนขนาดนั้นจนถูกจับได้แล้วจะปฏิเสธไปทำไม เอ็นดูเป็นอย่างที่ทรงโปรดบอกจริงๆ อิ่มสุขจนแทบสำลักแล้วเนี่ย



พอเสร็จพิธีหมั้นในช่วงเช้า หม่อมราชวงศ์ภูมินทร์และน้องชายของเขาก็ขอตัวกลับกรุงเทพฯ คนพี่น่ะมีคนไข้ต้องไปผ่าตัด ส่วนคนน้องที่คุ้นเคยกับคุณแม่ของเอ็นดูก็ตามพี่ชายไปติดๆ เพราะไม่มีธุระอะไรแล้ว



ส่วนคนอื่นๆ น่ะยังอยู่กินลมชมวิวของเขาใหญ่ และพักอยู่ในรีสอร์ตของหม่อมราชวงศ์ทรงโปรดที่อยู่ใกล้ๆ กับวังวงศ์ประดิษฐ์นี่เอง



“ขับรถดีๆ นะคะชายโปรด แถวนี้พอฝนตกแล้วถนนมันลื่น” คุณนภัสราลูบไหล่ทรงโปรดเบาๆ



ถึงแม้ว่าตอนนี้ฝนไม่ได้ตกลงมาเหมือนเมื่อคืนก็ตาม บรรยากาศครึ้มๆ อากาศดีแบบนี้ถนนก็ยังลื่นอยู่ดี



“ครับคุณแม่ ผมกับน้องขอตัวก่อนนะครับ อาจจะกลับมาอีกทีค่ำๆ เลย”



“ตามสบายเลยค่ะลูกๆ รักษาเนื้อรักษาตัวกันด้วยนะคะ”



คู่หมั้นข้าวใหม่ปลามันยกมือไหว้ผู้ใหญ่ที่ยืนรอส่งอยู่หน้าวัง หม่อมราชวงศ์ทรงโปรดมองน้องที่นอบน้อมพลางยกยิ้ม ไม่ว่าจะผ่านไปกี่วันกี่เดือน สิ่งที่ครอบครัววงศ์ประดิษฐ์พร่ำสอนเอ็นดูยังฝังลึกอยู่ในตัวน้องจนทำให้ครอบของเขาเกิดความประทับมากมาย



ทรงโปรดกุมมือขาวของน้องแล้วเดินตรงไปยังเบนซ์คันหรูสีดำคุ้นตาพร้อมกัน ก่อนที่คุณชายจะชะลอเท้าแล้วแสดงความเป็นสุภาพบุรุษต่อหน้าครอบครัวโดยการเปิดประตูให้น้องเข้าไปนั่ง



“ขอบคุณครับ”



หม่อมราชวงศ์ทรงโปรดไม่ได้ทำดีเอาหน้าผู้ใหญ่ แต่มันเป็นปกติของทรงโปรดที่มักจะเปิดประตูให้เอ็นดูเข้าไปนั่ง และเป็นคนเดียวที่เขาทำแบบนี้ให้



“เปลี่ยนจากขอบคุณเป็นจูบสักห้านาทีดีกว่า”



“คุณนี่ก็เยอะตลอดเลย”



เขาไม่ได้พูดอะไรแบบนั้นต่อหน้าผู้ใหญ่ แต่เข้ามาพูดให้ได้ยินกันแค่สองคนในรถหรูคันนี้ แถมยังยิ้มกริ่มเจ้าเล่ห์ให้อีกต่างหาก



“ตอนแรกจะเอาสักสิบนาที”



“เว่อร์แล้วคุณ จูบอะไรตั้งสิบนาทีครับ”



สมใจเขาแล้วที่ทำให้เอ็นดูขมวดคิ้วได้ เพราะตอนนี้คุณชายทรงโปรดนั่งหัวเราะไหล่สั่นอยู่ในรถปล่อยให้เอ็นดูนั่งทำหน้ามุ่ยอยู่คนเดียว



“ความเชื่อบ้านเราน่าสนใจดี หมั้นเสร็จแล้วก็ให้ขับรถเที่ยวได้ด้วย” เขาพูดตอนที่หักพวงมาลัยออกจากรั้วของวัง ทรงโปรดขับรถผ่านสนามหญ้า ผ่านหน้ารีสอร์ตหรูที่เขาเป็นเจ้าของโครงการ



“ถ้าไม่โอเคบอกได้เลยนะครับ เผื่อคุณอยากพักผ่อนมากกว่า”



“ของชอบเลยแบบนี้ จะได้มีเวลาอยู่ด้วยกัน”



เอ็นดูลู่ไหล่ลงพร้อมกับคลี่ยิ้ม นึกว่าเขาจะอึดอัดกับธรรมเนียมความเชื่อเก่าแก่ของวงศ์ประดิษฐ์ที่เมื่อเสร็จสิ้นพิธีหมั้นหรือพิธีสมรสแล้วต้องพากันขับรถออกจากวังไปที่ไหนสักที่เพื่อความยืนยาวของชีวิตคู่ที่ต้องใช้ร่วมกัน



“ถ้าอย่างนั้นพาผมไปหาคุณพ่อได้มั้ยครับ”



“พาพี่ไปเปิดตัวใช่มั้ย”



“ใช่ครับ ให้คุณพ่อสแกนว่าคุณโอเคหรือเปล่า ถ้าไม่โอเคก็ให้ท่านหักคอคุณเลย”



ทรงโปรดหัวเราะให้กับปากจิ้มลิ้มที่ยู่ๆ ยื่นๆ ตอนพูด เอ็นดูใส่อารมณ์บนหน้าจนเขายิ้มกว้าง สาบานได้ว่าไอ้ท่าทางน่ารักๆ เหมือนเด็กแบบนี้เอ็นดูต้องไม่เคยทำให้ใครเห็น ก็แหม หม่อมหลวงจิราคีพลุคเก่งจะตาย



“เอ็นดู”



“ครับ” ขานรับพร้อมส่งยิ้มระรื่น เอ็นดูไม่ได้นั่งหันหน้ามองทางตรงๆ แต่กลับหันมาทางขวาเพื่อมองเจ้าของรถคันนี้แทน



“ดีใจมั้ยที่ได้หมั้นกับพี่”



ทรงโปรดมองคนข้างกายที่นั่งหลังตรงเป็นตุ๊กตาหน้ารถ ขณะที่เอ็นดูนั่งลูบแหวนหมั้นสีเงินพร้อมกับรอยยิ้มจางๆ บนใบหน้า



“จะพูดยังไงดีครับ...ผมไม่เคยรู้สึกกับใครแบบนี้”



ต่อให้เคยมีแฟนมาแล้วก็ตาม แต่ไม่มีใครพิเศษเท่าหม่อมราชวงศ์ทรงโปรดเลยสักนิด คนที่เข้ามาค้นใจจนเจอความลับหลายๆ อย่างที่เอ็นดูซ่อนเอาไว้ ทรงโปรดคือคนที่ทำให้เอ็นดูทะลักทุกความรู้สึกออกมาอย่างไม่สามารถเก็บงำเอาไว้ได้อีก



“...ผมดีใจที่ได้หมั้นกับคุณนะครับ”



“แล้วดีใจมั้ยที่ได้พี่เป็นแฟน”



“หนักใจได้มั้ยครับ”



ทรงโปรดหัวเราะ



“สาวของคุณเยอะจริงๆ เมื่อคืนผมเห็นนะ...แชตหาคุณเต็มเลย”



“อือ แต่ก็โดนจับบล็อกหมด”



“...”



“เมียพี่โหดจริงๆ หึงโหดหวงโหด”



“ม...ไม่ใช่สักหน่อย ก็โทรศัพท์คุณสั่นทั้งคืน ผมรำคาญนี่ครับ”



ถูกจับได้แต่เอ็นดูก็ไม่ยอมรับหรอก...เมื่อคืนเอ็นดูไม่ได้จะตั้งใจละลาบละล้วงเรื่องส่วนตัวของเขา แต่ตอนที่หม่อมราชวงศ์ทรงโปรดเข้ามากอด มาหอม แล้วก็กกเอ็นดูไว้ในอ้อมกอดจนคุณชายเขาหลับไป แต่คนที่ยังไม่หลับก็คือเอ็นดูนี่แหละ



ไม่หลับเพราะเสียงโทรศัพท์ที่วางอยู่บนโต๊ะข้างหัวเตียงมันสั่นครืดหลายครั้ง



มั่นใจว่าไม่ใช่ตัวเองแน่ๆ พอชะโงกหน้ามองก็เห็นหน้าจอไอโฟนรุ่นใหม่ล่าสุดที่มีแสงสว่างวาบ อือ เอ็นดูก็เลยคว้ามาเพื่อตั้งใจจะปิดสั่นปิดเสียงไปให้หมด แต่นิ้วดันพลาดไปกดเข้าอ่านแชตพวกนั้นซะได้



หม่อมราชวงศ์ทรงโปรดไม่ได้ใส่รหัสสำหรับล็อกเครื่องอะไรไว้เลย ตอนนั้นหน้าเอ็นดูชาวาบเพราะเมื่อเข้าหน้าแชตมันก็ขึ้น Read ให้กับคนที่ส่งข้อความเข้ามาทันที พออ่านไม่ตอบก็โดนตื๊อไง ตื๊อทั้งๆ ที่เจ้าของโทรศัพท์เครื่องนี้มีแฟนเป็นตัวเป็นตนแล้ว



ยอมรับว่าไม่ใช่อารมณ์ชั่ววูบที่กดบล็อกแชตผู้หญิงพวกนั้นไป ไม่ใช่แค่คนสองคนที่ส่งข้อความมาออดอ้อนขอเจอทรงโปรด แต่ที่เอ็นดูไล่ดูแล้วกดบล็อก...น่าจะเกือบๆ สิบคนเลยละมั้ง



ฮอตจริงๆ คุณชายทรงโปรด ไม่รู้ว่าไปร่ายมนต์อะไรไว้พวกสาวๆ ถึงได้ตามตื๊อขนาดนี้



“รำคาญแปลว่าหึง”



เอ็นดูมองคนที่พูดเองเออเอง หม่อมราชวงศ์ทรงโปรดยกยิ้ม บังคับพวงมาลัยรถด้วยมือขวาข้างเดียว ส่วนอีกข้างวางบนตักนุ่มๆ คอยบีบนวดคู่หมั้นที่นั่งทำปากยู่



“แล้วแต่คุณจะคิดเถอะครับ”



เพราะไม่อยากเถียงกับเขาเพราะจริงๆ แล้วเอ็นดูนั่นแหละที่ขี้หึงขี้หวงมากกว่าหม่อมราชวงศ์ทรงโปรดตั้งหลายเท่า คนที่เพิ่งถูกจับได้ว่าไปบล็อกแชตสาวๆ ในสต็อกของทรงโปรดเลยนั่งกอดอกพิงเบาะ ตาหวานๆ มองถนนเลนเดียวบนภูเขาที่โอบล้อมไปด้วยธรรมชาติ เอ็นดูสอดนิ้วไว้กับนิ้วแกร่ง บีบเบาๆ ส่งกำลังใจให้คนที่ทำหน้าที่ขับรถพาเอ็นดูไปหาคุณพ่อ



ในตอนที่คุณชายทรงโปรดกำลังตั้งใจขับรถ เอ็นดูก็นึกขึ้นได้ว่ามีจดหมายน้อยๆ ที่ทรงโปรดหย่อนไว้ในกระเป๋าสูทที่ยังไม่ได้อ่าน ระหว่างที่คุณชายเขากำลังมองทางข้างหน้าและไม่ได้หันมาสนใจคนที่นั่งข้างๆ เอ็นดูเลยอาศัยจังหวะนั้นค่อยๆ หยิบจดหมายน้อยใบสีแดงขึ้นมาเปิดอ่าน



 

To my N-Doo

I would love to fall asleep with you wrapped up in my arms every single night.

Baby, you literally complete me.

                                                            Love♥

 



พออ่านจบแก้มกลมๆ ก็แดงปลั่ง เอ็นดูยิ้มกว้างพลางหันมองคนที่เป็นเจ้าของลายมือในจดหมายน้อยฉบับนี้ คนผิวขาวกัดริมฝีปากเบาๆ เอนศีรษะซบลงบนแขนแกร่งของหม่อมราชวงศ์ทรงโปรด อ่านจดหมายในมือซ้ำไปมา แล้วหน้าก็แดงซ้ำไปซ้ำมาด้วยเหมือนกัน



รู้ว่าเขาเป็นคนหวานจนเลี่ยน...แต่ก็ไม่คิดว่าคุณชายทรงโปรดจะเขียนอะไรเลี่ยนๆ แบบนี้ให้



อือ ก็นั่นแหละ ต่อให้เลี่ยนแค่ไหนเอ็นดูก็ชอบ…



ชอบที่เขาเป็นแบบนี้ เป็นทรงโปรดที่รักเอ็นดูคนเดียว







*****







ถึงแม้ว่าเช้าวันนี้ท้องฟ้าจะไม่ค่อยสว่างเท่าไหร่ ออกจะครึ้มๆ เหมือนฝนเตรียมโปรยลงมา แต่คนสองคนที่ถือดอกกุหลาบหอมๆ สีขาวกันคนละดอกก็ยังคงเดินขึ้นเนินเขาเพื่อไปหาคนสำคัญของเอ็นดู



“ลืมเตรียมร่มมาเลยครับ คุณรออยู่ตรงนี้มั้ย เดี๋ยวผมวิ่งไปที่รถแป๊บหนึ่ง”



“ตามใจครับ พี่ไม่กลัวเปียก แต่กลัวเราจะไม่สบายมากกว่า”



“อืมมมม งั้นไม่ไปแล้วครับ” คนที่เปลี่ยนใจกะทันหันฉีกยิ้มกว้าง เอ็นดูแกว่งแขนข้างที่จับกับมือของทรงโปรดก่อนจะก้าวเท้าเดินต่อ



“รอตรงนี้ เดี๋ยวพี่เอาร่มให้”



“คุณณณณ ไม่ไปนะครับ คุณพ่อรออยู่นู้นแล้ว”



“เดี๋ยวฝนตกแล้ว เห็นมั้ยฟ้ามืดมานู่น”



“ถ้าฝนตกคุณก็ใช้มือบังฝนให้ผมสิครับ”



เอ็นดูกัดริมฝีปาก ช้อนตามองคนตัวสูงที่ก้าวเท้าตามพร้อมใบหน้าเปื้อนรอยยิ้ม



“หรือเอาสูทมาบังหัวผมไว้ก็ได้ เดี๋ยวผมซุกอยู่บนอกคุณเอง”



“คุณพ่อจะรู้มั้ยว่าลูกชายคนนี้ขี้ยั่วมากแค่ไหน”



หม่อมราชวงศ์ทรงโปรดบีบแก้มกลมเบาๆ เขามันเขี้ยวน้องมากอยากฟัดให้จมพื้นแต่ติดที่สถานที่นี้เป็นวัดป่าที่เงียบสงบ



“ยั่วอะไรกันครับ”



อือ ไม่ยั่วเลย

เดี๋ยวก็กัดปาก เดี๋ยวก็ซบไหล่ แล้วไอ้ตาหวานๆ ที่ชอบช้อนมองคืออะไร...นี่คือคนปกติเขาทำกันเหรอวะเนี่ย



หม่อมราชวงศ์ทรงโปรดยกยิ้ม เขาเร่งฝีเท้าให้เดินไปยังสถานที่ที่เอ็นดูชี้นิ้วขึ้นไปตั้งแต่ยังไม่จอดรถ ตอนนี้เห็นทรงโปรดเห็นโครงสร้างที่ทำจากหินอ่อน ทรงสูงคล้ายเจดีย์ตั้งอยู่ใกล้ๆ กุฏิของวัด เขาไม่มั่นใจว่าต้องใช้คำเรียกว่าอะไร แต่ตอนอยู่อังกฤษเขามักจะเรียกว่าสุสานของชาวพุทธ



ทรงโปรดรีบเดินไปหาคุณพ่อของน้อง ให้น้องใช้เวลาอยู่กับคุณพ่อสักพัก จากนั้นเขาคงต้องรีบพาเอ็นดูกลับวัง หรือหาที่เงียบๆ ให้พ้นจากรัศมีของวัดแล้วฟัดน้องสักทีสองที



อือ นี่แหละ คุณชายทรงโปรดจะโดนคุณพ่อของเอ็นดูหักคอก็คราวนี้



“ถึงแล้วครับ”



ชะลอเท้าเมื่อเดินมาถึงหน้าเจดีย์ที่มีรูปของผู้ชายคนหนึ่งยิ้มให้ฝังใส่กรอบไว้ ทรงโปรดไล่อ่านบนข้อความบนหินอ่อนที่สลักชื่อนามสกุลของเจ้าของรูปชัดเจน



เขากับน้องนั่งคุกเข่าลง ทรงโปรดวางดอกไม้ไว้บนหน้ารูปภาพร้อมๆ กับน้อง เขาสังเกตเอ็นดูตลอด น้องกำลังพนมมือก้มลงกราบรูปภาพและเจดีย์ซึ่งเป็นที่อยู่ใหม่ของคุณพ่อที่เสียชีวิตไปแล้ว



“สวัสดีคุณพ่อหน่อยมั้ยครับ” ทรงโปรดพยักหน้าก่อนก้มลงกราบบนฐานหินอ่อนแบบที่เอ็นดูทำเมื่อกี้



เขาเป็นห่วงน้องเกินไปหน่อย คอยจับตาดูอาการจนลืมว่าต้องทำความเคารพคุณพ่อของน้อง อือ ก็ผิดคาดเลยแหละ ทรงโปรดคิดว่าว่าเอ็นดูคงจะร้องห่มร้องไห้เพราะคิดถึงคนที่จากไป แต่น้องกลับวาดยิ้มสวยๆ แถมยังทำตัวร่าเริงสดใสอีกต่างหาก



“คุณพ่อเคยบวชที่นี่ครับ ท่านชอบมาทำบุญที่นี่บ่อยๆ เป็นวัดประจำของครอบครัวเลยครับ”



เป็นวัดป่าที่ถูกธรรมชาติโอบล้อมอย่างสมบูรณ์ ทุกอย่างในวัดนี้เรียกได้ว่าต่างจากวัดที่เขาเคยเข้า กุฏิวัดยังความดั้งเดิมด้วยไม้สีซีด มีพระไม่ถึงสิบรูป แต่กลับรู้สึกสงบและผ่อนคลายมากกว่าการได้เข้าวัดใหญ่ที่คนแน่นเบียดเสียด



เอ็นดูส่งยิ้มให้เขาหลังจากที่พูดจบ แล้วละสายตากลับไปมองรูปภาพของคุณพ่อที่ฝังบนเจดีย์หินอ่อนลายสวย



“วันนี้ที่บ้านมีงานมงคลครับคุณพ่อ งานหมั้นของเอ็นดูเอง วันนี้เอ็นดูพา...คู่หมั้นมาหาคุณพ่อด้วยนะครับ”



เขาอมยิ้มตอนที่เห็นความสุขเต็มใบหน้าของน้อง เอ็นดูพูดกับรูปภาพของคุณพ่อ สลับกับมองเขาไปด้วย



“ผมโปรดครับคุณพ่อ แต่ก่อนเป็นผู้ชายร้ายๆ เดี๋ยวนี้หงอแล้วครับ กลัวเมีย โอ๊ย”



“พูดอะไรแบบนี้ครับ เดี๋ยวคุณพ่อก็หักคอคุณจริงๆ หรอก”



ปกติเอ็นดูจะตีเขาดังแปะ ตีเล่นๆ ไม่จริงๆ จัง แต่คราวนี้ตีดังเพี้ยะ...แขนจะแกร่งแน่นมัดกล้ามก็เจ็บเอาเรื่องเลยว่ะ



“ท่านพ่อบอกว่าคุณพ่อของเราเป็นคนอารมณ์ดี ตอนออกทริปบาหลีด้วยกันตอนสมัยหนุ่มๆ ท่านชอบดื่มเหมือนพี่”



“รู้ดีกว่าผมอีกนะคุณ”



อีกเรื่องที่เหมือนเป็นจุดไต้ตำตอก็คือ หม่อมราชวงศ์เทพพงศ์กับหม่อมเจ้าทรงยศเป็นเพื่อนนักเดินทางด้วยกันตอนสมัยยังหนุ่มยังแน่น อือ ก็เพิ่งรู้ตอนที่เอ็นดูไปเจอท่านพ่อครั้งแรกนั่นแหละ สืบสาวราวเรื่องกันจนรู้ว่าโลกใบนี้มันกลมแค่ไหน พ่อแม่รู้จักกันมาตั้งนาน แถมลูกๆ ยังรักยังชอบได้เกี่ยวดองกันอีกต่างหาก



“ขอโทษที่เสียมารยาทครับคุณพ่อ แต่เมื่อก่อนผมเป็นแบบนั้นจริงๆ” มือหนายกไหว้คุณพ่อของน้อง



“น่าจะยิ่งกว่านั้นด้วยมั้ง...”



“อะไรครับ จะฟ้องคุณพ่อเหรอ เอาใหญ่เลยนะเอ็นดู”



“คุณพ่อก็ต้องรู้สิครับว่าเมื่อก่อนคุณเป็นยังไง แล้วตอนนี้เปลี่ยนไปมากแค่ไหน” คนขี้ฟ้องอมยิ้มจนแก้มป่อง แม้จะอยู่ต่อหน้าคุณพ่อแต่สองมือก็กุมกันไว้แน่นตลอด แค่นี้ก็ไม่ต้องพูดอะไรเยอะแล้ว สายตาของทรงโปรดที่ใช้มองเอ็นดูแทนคำตอบทั้งหมดว่าตอนนี้เขาเปลี่ยนจากเมื่อก่อนมากแค่ไหน



“ดอกไม้สดยังอยู่เลย มีคนมาหาคุณพ่อก่อนหน้านี้เหรอ” ข้างๆ กุหลาบขาวที่เขาวางเมื่อกี้มีสีกุหลาบขาวลักษณะเดียวกันวางอยู่ เป็นกุหลาบที่ถูกตัดหนามเหมือนกับที่คุณแม่ของเอ็นดูเตรียมให้พวกเขาเมื่อเช้านี้เป๊ะๆ



“คุณแม่มาที่นี่ทุกวันครับ ทำบุญตอนเช้าเสร็จก็มาทำบุญที่วัดต่อ แวะมาหาคุณพ่อด้วย เลยมีกุหลาบมาวางไว้ทุกวันครับ”



ทรงโปรดผงกศีรษะเบาๆ เขารู้แล้วว่าถึงครอบครัวของน้องจะเคร่งครัดในกฎบางอย่าง แต่ความอบอุ่นที่วงศ์ประดิษฐ์มีให้เอ็นดูไม่ได้น้อยลงจนทำให้น้องกดดันเสียผู้เสียคนหรือเป็นคนก้าวร้าว แต่กลับกัน เอ็นดูได้รับความรักและถูกดูแลเอาใจใส่มาเป็นอย่างดี น้องถึงได้น่ารักและมารยาทดีแบบนี้



เขาไม่รู้ว่าวิธีการสอนลูกหลานของวงศ์ประดิษฐ์เป็นยังไง แต่ที่บ้านเขาจะเน้นให้ลูกหลานใช้ชีวิตด้วยตัวเอง ลุยน้ำลุยฝนตามใจชอบแต่ต้องไม่นอกลู่นอกทาง



อือ ก็ในเมื่อวิธีการอบรมสั่งสอนต่างกัน เขาเลยโตมาหล่อ ส่วนน้องก็โตมาน่ารัก : )



“คุณ”



โดนเรียกด้วยเสียงหวานๆ



“ว่าไงครับเอ็นดู”



ก็เลยตอบกลับด้วยเสียงหล่อๆ



“ผมไม่เคยพาใครมาหาคุณพ่อแบบนี้นะครับ ภูผาก็ไม่เคยมาที่นี่”



ทำหน้าหล่อๆ ระบายยิ้มฟังเสียงหวานๆ พูด



“คุณเป็นคนแรกเลยครับที่ผมพามา”



รอยยิ้มแสนอบอุ่นของหม่อมราชวงศ์ทรงโปรด ภัสร์ฤทัย



“ขอบคุณที่ให้พี่เป็นคนแรกครับเด็กดี”



เอ็นดูเป็นคนแรกที่ได้เห็นรอยยิ้มอบอุ่นจากเขา



“คุณเป็นคนเดียวและคนสุดท้ายที่ผมพามานะครับ”



“ขอบคุณครับเอ็นดู”



และเป็นคนสุดท้ายของชีวิตทรงโปรด







*****





 

ท้องฟ้าสีครามอมส้มนวลสวยงามที่ลอยอยู่เหนือภูเขาของพื้นที่เขาใหญ่ทำให้คู่หมั้นของเจ้าของโครงการรีสอร์ตแห่งนี้ต้องหยิบโทรศัพท์ออกมาถ่ายเก็บภาพความประทันใจเอาไว้



รีสอร์ต Ozone life ที่อยู่ใกล้ๆ วังวงศ์ประดิษฐ์กลายเป็นสถานที่ดินเนอร์เล็กๆ ของคู่หมั้นข้าวใหม่ปลามัน คุณชายทรงโปรดจัดพื้นที่บนระเบียงที่รับลมเย็นๆ และเห็นวิวสวยๆ ให้เอ็นดูโดยเฉพาะ รวมทั้งให้เชฟชื่อดังระดับโลกจัดแจงมื้อค่ำของพวกเขาอีกด้วย



ดินเนอร์เล็กๆ น้อยๆ ที่มีมูลค่าเกือบล้าน



ที่มีมูลค่าเว่อร์วังขนาดนั้นก็เพราะคาเวียร์เบลูก้าที่คุณชายเขาจัดให้เอ็นดูโดยเฉพาะ ราคาของเจ้าคาเวียร์เบลูก้านี่ก็ไม่เท่าไหร่หรอก รู้แค่ว่ามันเกือบเหยียบล้านบาทก็พอ : )



เอ็นดูกินคาเวียร์บ่อยเลยรู้วิธี เช่นเดียวกับคุณชายทรงโปรดที่เตรียมช้อนมุกสำหรับตักคาเวียร์เบลูก้า อือ นั่นแหละ คาเวียร์เป็นอะไรที่ Sensitive มาก ถ้าใช้ช้อนธรรมดาตักกินก็หมดรสชาติพอดี ต้องใช้ช้อนธรรมชาติเท่านั้น นั่นก็คือช้อนมุกที่คุณชายทรงโปรดเพิ่งวางมันลงบนจานเมื่อกี้



“เหนื่อยมั้ยครับ ขับรถพาผมตะลอนทั้งวัน”



“เหนื่อย ไหนเอาแก้มมาหอมให้หายเหนื่อยหน่อย”



คุณชายเขาไม่ยอมขาดทุนหรอก หมดไปเยอะกับคนผิวขาวที่นั่งอยู่ด้วยกันตรงนี้ ยังไงก็ต้องได้ฟัดได้หอมให้หนำใจ



“ใจเย็นครับ เดี๋ยวคนอื่นคิดว่าคุณกำลังทำอนาจารหรอก” เอ็นดูหัวเราะ รู้อยู่หรอกว่าตรงนี้เป็นพื้นที่ค่อนข้างส่วนตัวพอสมควรเลย แต่ก็อยากแซวคู่หมั้นเล่นๆ ไง



“ทำอนาจารต้องเปลือย เอามั้ย”



“จริงๆ เล้ย”



ฝ่ามือขาวๆ ดันโครงหน้าหล่อเหลาที่ยื่นมาใกล้ให้ห่างออกไปหน่อยก่อนจะใช้มือทั้งสองข้างประคองกรอบหน้าของคุณชายทรงโปรดเอาไว้



นี่เหรอคนที่ทำให้เอ็นดูหวั่นไหวได้ทุกครั้ง



นี่เหรอคนที่ทำให้วุ่นวายใจจนบางครั้งก็เกือบกินไม่ได้นอนไม่หลับ



เห็นตาคมที่เจ้าเล่ห์คู่นี้ทีไรก็อดนึกถึงวันแรกที่เจอกันไม่ได้เลย



คิดถึงใบหน้านิ่งๆ ที่เหมือนจะดุ



คิดถึงคำพูดคำจาร้ายกาจของเขาในงานเลี้ยงที่โรงแรม



คิดถึงเรื่องที่บังเอิญทำร่วมกันจนได้ผูกข้อมือ



คิดถึงน้ำเสียงเว้าวอนของเขาตอนที่เอ็นดูงอน...ทรงโปรดเป็นคนแรกเลยที่ใส่ใจเอ็นดูขนาดนี้



คิดถึงคนที่เป็นเจ้าของรอยจูบหวานๆ ที่อบอุ่นใจทุกครั้งเมื่อได้สัมผัส



คิดถึงอ้อมกอดที่ทำให้เอ็นดูรู้สึกปลอดภัย



คิดถึงหมดเลย...ทุกวันเวลาที่ได้ใช้ร่วมกัน



พิเศษ มีค่ามากกว่าอะไรทั้งหมดในโลกนี้



“มองขนาดนี้ลากพี่เข้าห้องเลยมั้ย”



“ผมไม่ได้คิดอะไรแบบนั้นสักหน่อย”



“ไหนลองเรียกชื่อตัวเองหน่อยสิ ไอ้ผมๆ คุณๆ เนี่ยขอซื้อได้มั้ย ไม่ต้องใช้แล้ว”



“ก็ชินแบบนี้จะให้ทำยังไงล่ะครับ”



“เอ็นดูของพี่โปรด ไหนลองอ้อนหน่อยสิครับ”



“...”



“เป็นแฟนกันแล้ว หมั้นก็หมั้นแล้ว ที่เราเรียกแทนตัวดูห่างไกลเกินไปรู้มั้ย”



“รู้ครับ”



พยักหน้าหงึกๆ รับทราบตามที่คุณชายเขาพูดทุกอย่าง



เอ็นดูเลียริมฝีปาก อือ จริงๆ มันก็จะเขินๆ ยากๆ หน่อย ไม่รู้สิ คำพวกนี้เอ็นดูมักหลุดเรียกตอนที่กอดกันบนเตียงเท่านั้น พอจะให้เรียกแบบนี้หน้าก็แดงปลั่งขึ้นมาเลย



“เอ็นดู”



“อื้อๆ พี่โปรด พี่โปรดครับ...พอใจยังเนี่ยคุณ”



“แน่ะ”



“ขอเถอะนะครับ ผมจะเอาหน้าจุ่มดินอยู่แล้วเนี่ย”



คุณชายทรงโปรดหัวเราะพลางจูบริมฝีปากเอิบเบาๆ รู้ว่าน้องเขินเกินจะเรียกก็ไม่บังคับ ยังไงตอนอยู่บนเตียงทรงโปรดก็ได้ยินคำว่า ‘พี่โปรด’ ซ้ำไปซ้ำมาอยู่ดี



“คุณให้ของหมั้นผมตั้งเยอะแยะ แต่ผมยังไม่ได้ให้อะไรคุณบ้างเลย”



“เยอะที่ไหน แค่สองอย่างเอง”



“นับเป็นมูลค่าสิครับ”



หม่อมราชวงศ์ทรงโปรดหัวเราะในลำคอ มือหนาลูบผมนุ่มพลางจัดเส้นผมที่คลอเคลียหน้าผากสวยเบาๆ



“เป็นเด็กดีของพี่โปรดก็พอ”



“อันนี้ง่ายมากๆ เลยครับ”



“เอ็นดู”



“ครับ”



สบตากันหวานซึ้ง คาเวียร์บูเลก้าที่ว่าราคาแพงก็ไม่มีความหมายเมื่อดวงตาสวยๆ ของเอ็นดูน่าสนใจกว่าเยอะ



เอ็นดูชอบที่ตัวเองเป็นแบบนี้



ชอบที่กล้าสบตากับเขา และส่งยิ้มให้กันอย่างไม่เขินอาย



“ขอบคุณครับที่ให้โอกาสพี่ได้ดูแลเรา”



“ขอบคุณเหมือนกันครับที่รับผมไปดูแล ขอบคุณมากๆ เลยครับ...พี่โปรด”



ชอบที่ต่อจากนี้จะได้ดูแลกันไปเรื่อยๆ ได้จับมือกันไปนานๆ : )









The end







#ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี

 

 





ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขียน the end แต่ก็ใจหายวาบๆ ทุกทีเลยค่ะ
เอ็นดู เป็นชื่อที่เราชอบมากๆ ตั้งแต่คิดชื่อนายเอกมาเลย หวังว่าทุกคนจะชอบเหมือนกันนะคะ :)
ขอบคุณที่อยู่ด้วยกันมาจนถึงตอนที่ 20
นิยายแล้วจบแล้วแต่เรายังไม่จบนะ รอสเปเชี่ยลอีก 1 ตอนกันดีกว่า^^
บะบุย : )
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ตอน 20 end - up 4.10.61
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 04-10-2018 10:01:00
 :pig4: :pig4: :pig4:

จบแล้ว  มดขึ้นทั้งเรื่อง
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ตอน 20 end - up 4.10.61
เริ่มหัวข้อโดย: momonuke ที่ 04-10-2018 11:32:48
ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆเรื่องนี้นะคะ ขอบคุณที่ทำให้รู้ว่า ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี เป็นยังไง ฮืออออออ
ต้องคิดถึงน้องๆแน่ๆเลยๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ตอน 20 end - up 4.10.61
เริ่มหัวข้อโดย: enas290843 ที่ 04-10-2018 11:39:17
จบแล้วต้องคิดถึงน้องเอ็นดูกับพี่โปรดแน่ๆเลย
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ตอน 20 end - up 4.10.61
เริ่มหัวข้อโดย: kungverrycool ที่ 04-10-2018 14:11:44
หวานกันจนหยดสุดท้าย จริงๆคู่นี้ คนอ่านจะเป็นเบาหวานกันหมดละ555 รอ ตอน special จ้า  o13
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ตอน 20 end - up 4.10.61
เริ่มหัวข้อโดย: TheWanFah ที่ 04-10-2018 14:44:00
ดีมากๆ ชอบมากๆ
เอ็นดูกับพี่โปรดน่ารักมากๆเลย
รอสเปเชี่ยลนะคะ
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ตอน 20 end - up 4.10.61
เริ่มหัวข้อโดย: theindiez ที่ 04-10-2018 14:45:29
น้องเอ็นดูน่าเอ็นดูสมชื่อเลยค่ะ
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ตอน 20 end - up 4.10.61
เริ่มหัวข้อโดย: Naamtaan22 ที่ 04-10-2018 18:59:08
เป็นเรื่องที่หวานมากๆเลยค่ะอ่านไปยิ้มไปตลอดเลยสนุกมากๆอยากให้มีภาคต่อเลยค่ะเรื่องของพี่ทรงคุณกับพี่ทรงเพริงก็ได้นะคะ ขอบคุณมากนะคะกับนิยายสนุกๆแบบนี้ :mew1:
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ตอน 20 end - up 4.10.61
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 04-10-2018 19:32:19
หวานละมุนละไม อยู่ในทุกตอนนนน  :-[  :o8:
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ตอน 20 end - up 4.10.61
เริ่มหัวข้อโดย: nulsdd ที่ 04-10-2018 22:05:23
ไม่อยากให้จบเลย อ่านได้เรื่อยๆแบบระแวงมดจะกัด ตลอดความหวานมันล้นจอ
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ตอน 20 end - up 4.10.61
เริ่มหัวข้อโดย: Tiffany ที่ 04-10-2018 23:11:57
ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆนะคะ อ่านแล้วเบาหวานจะขึ้นเกือบทุกตอนเลยค่ะ
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ตอน 20 end - up 4.10.61
เริ่มหัวข้อโดย: `ลoงสิจ๊ะ™ ที่ 05-10-2018 09:23:45
งือ..ละมุนหวานๆอมยิ้มไปกับทุกตอนที่อ่าน
ขอบคุณที่แต่งนิยายสนุกๆให้อ่านนะคะ
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ตอน 20 end - up 4.10.61
เริ่มหัวข้อโดย: เขมกันต์ ที่ 05-10-2018 13:51:30
ขอบคุณมากค่ะ
เป็นเรื่องที่สมกับชื่อเรื่องมาก
หายใจเข้าลึกๆ ตลอดเลย กลัวจะขาดใจและสำลักความหวานของโปรดและเอ็นดู :mew1:
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ตอน 20 end - up 4.10.61
เริ่มหัวข้อโดย: Loammy ที่ 05-10-2018 14:19:45
หวาน น่ารักมากเลยค่ะ อ่านเพลินมาก รออ่านตอนพิเศษนะคะ  :L2:
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ตอน 20 end - up 4.10.61
เริ่มหัวข้อโดย: BABYBB ที่ 05-10-2018 16:20:36
อ๊อยยยยย หวานมากกกกกกก รักกันนานๆจนแก่เฒ่าไปเลยน้าาาาาาา :pig4:
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ตอน 20 end - up 4.10.61
เริ่มหัวข้อโดย: TuEyyy ที่ 05-10-2018 21:33:57
แค่นี้ก้จะขาดอากาศหายใจตายอยู่แล้วค่ะ ละมุนมาก ฟินมาก ชอบมาก ขอบคุณนะคะ  :-[ :-[
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ตอน 20 end - up 4.10.61
เริ่มหัวข้อโดย: songte ที่ 05-10-2018 22:21:58
สำลักความหวาน หวานกันจริงเลย อิจ

 :pig4: :mew1:
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ตอน 20 end - up 4.10.61
เริ่มหัวข้อโดย: Maccagadz ที่ 06-10-2018 00:03:17
คุณชายยยยยย
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ตอน 20 end - up 4.10.61
เริ่มหัวข้อโดย: Meen2495 ที่ 06-10-2018 05:40:32
หวานในหวานจริง ๆ เรื่องนี้
ตั้งแต่บรรทัดแรกจนบรรทัดสุดท้าย
มีแต่ความรัก ... เป็นนิยายหวาน ๆ ที่อ่านได้เรื่อย ๆ จริง ๆ ค่ะ

ขอบคุณนะคะสำหรับความหวานนี้
ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ตอน 20 end - up 4.10.61
เริ่มหัวข้อโดย: AeAng11 ที่ 06-10-2018 09:52:51
อ่านไปยิ้มไปหวานมากน่ารักมากพี่โปรดแพ้น้องหมดทุกทาง
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ตอน 20 end - up 4.10.61
เริ่มหัวข้อโดย: Maccagadz ที่ 06-10-2018 10:16:43
คุณชายยย ตั้งใจใช่ไหมคะ
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ตอน 20 end - up 4.10.61
เริ่มหัวข้อโดย: patee ที่ 06-10-2018 11:40:37
 :L2: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ตอน 20 end - up 4.10.61
เริ่มหัวข้อโดย: มนุษย์บิน ที่ 06-10-2018 12:24:30
 :กอด1: หวานตั้งแต่บรรทัดแรกของเรื่องจนบรรทัดสุดท้ายยอมแล้ววววจมกองน้ำตาลมากกกชอบมากกกกละมุนละไมมากกกกก  :กอด1:
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ตอน 20 end - up 4.10.61
เริ่มหัวข้อโดย: Stmmltww ที่ 06-10-2018 19:00:06
ขอบคุณมากค่า เขินมากๆเลยแง คู่นี้น่ารักมากๆ :-[
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ตอน 20 end - up 4.10.61
เริ่มหัวข้อโดย: imseries ที่ 06-10-2018 20:35:13
จบแล้ววว
ชอบมากๆค่ะ น้องน่ารักมากๆ :mew1:เอ็นดูสมชื่อ
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ตอน 20 end - up 4.10.61
เริ่มหัวข้อโดย: unicorncolour ที่ 07-10-2018 00:16:40
ถ้าตอนพิเศษเป็นเรื่องราวหลังแต่งงาน..คาดว่าคนโสดคงตายเรียบ :heaven

ความรักอย่างหวาน..อิจฉาน้องเอ็นดูอย่างแรง  :m1: :m3:  :mc2: :mc3:
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ตอน 20 end - up 4.10.61
เริ่มหัวข้อโดย: yunnutjae ที่ 07-10-2018 17:44:45
โอ้ย หวานทั้งเรื่องเลยยยย  :-[
น้องงงงงงงงงงง เอ็นดูนี่คือกินได้ไหม? //พี่โปรดถีบ
น่ารักอะ งุ้ยๆมาก อยากหอมหัวววว  :laugh:
พี่โปรด หมาป่าของน้องขอสิงร่างซักตอนสิ 555555555555 คือผช.สายเปย์ สาย(เคย)เจ้าชู้แต่ตอนนี้รักเมียมากนะ รักเรื่องนี้จังค่ะไม่อยากให้จบเลยยยย จะมีเรื่องแยกของพี่ๆคุณชายไหมอะ นี่แอบเชียร์พี่ปัน กับพี่เพลิง(?) (ถึงแม้จะไม่มีโมเมนต์ที่เขาเจอกันเลยก็ตาม เรือผีมากๆ  :really2: 555555) รอตอนพิเศษนะคะ  o13
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ตอน 20 end - up 4.10.61
เริ่มหัวข้อโดย: Legpptk ที่ 07-10-2018 19:35:53
ชอบเรื่องนี้มากกกดด
เอ็นดูน่ารัก อยู่บนเตียงก็ร้อนแรง
เป็พี่โปรดคงจะฟัดน้องทั้งวัน
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ตอน 20 end - up 4.10.61
เริ่มหัวข้อโดย: memozy ที่ 08-10-2018 18:46:51
ชอบเรื่องนี้
ขอบคุณค่ะ :-[ :-[
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ตอน 20 end - up 4.10.61
เริ่มหัวข้อโดย: badbadsumaru ที่ 09-10-2018 03:08:42
ละมุนมาก อ่านไปเขิลไปแบบสุด ฮืออออ
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ตอน 20 end - up 4.10.61
เริ่มหัวข้อโดย: q.tr ที่ 09-10-2018 10:37:24
หวานกันจนจะขาดอากาศหายใจตามชื่อเรื่องเลย  :-[
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ตอน 20 end - up 4.10.61
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 09-10-2018 13:33:39
ขอสมัครเป็น FC รอเรื่องต่อไปจ้า  :L2:
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ตอน 20 end - up 4.10.61
เริ่มหัวข้อโดย: aeecd ที่ 09-10-2018 17:11:08
ชอบเอ็นดู :hao7:
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ตอน 20 end - up 4.10.61
เริ่มหัวข้อโดย: panpang ที่ 10-10-2018 14:31:19
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ตอน 20 end - up 4.10.61
เริ่มหัวข้อโดย: clairon ที่ 10-10-2018 18:17:05
 :-[ :o8:

ยอมแล้วววว
อะไรจะหวานขนาดนี้
คือเขียนได้ละมุนมาก
จนคิดว่าไม่น่าจะมีncเด้อ
แต่พอถึงฉสกระเบียงเท่านั้นและ
ระทวยอ่อนหยวบเป็นผักลวกเลยจ้า
เขียนได้เขินหนักมากกกกกกก
น้องเอ็นดูน่ารัก พี่ทรงโปรดก็น่าหลง
โอ้ยยย กิ่งทองใบหยก จริงๆเลยลูกเอ้ยยย  :mew1:
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ตอน 20 end - up 4.10.61
เริ่มหัวข้อโดย: meyj4ever ที่ 11-10-2018 08:28:44
หวานน้ำตาลยังแพ้เลยคู่นี้
น่ารักละมุนละไมมากๆ >//<
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ตอน 20 end - up 4.10.61
เริ่มหัวข้อโดย: LadySaiKim ที่ 11-10-2018 09:11:29
น่ารักกกกกกก :katai2-1:
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ตอน 20 end - up 4.10.61
เริ่มหัวข้อโดย: NnAeMe ที่ 11-10-2018 10:00:42
น่ารักก

อยากอ่านสเปหลังแต่งงานเลยคู่นี้

หวานหยดย้อยมากๆ

 :-[
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ตอน 20 end - up 4.10.61
เริ่มหัวข้อโดย: MaidenQueen ที่ 11-10-2018 12:00:42
เขินในทุกๆตอน แบบอมยิ้มไม่ไหวแล้ว คุณไรท์แต่งดีมากเลยค่ะ น้องเอ็นดูก็โคตรน่ารัก พี่ทรงโปรดก็ชอบแกล้งน้อง ไม่รู้จะบรรยายยังไงนอกจาก เหม็นความรัก 555555
หัวข้อ: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - special1.1 end - up 12.10.61
เริ่มหัวข้อโดย: Swanlee ที่ 12-10-2018 16:10:48
01



กอดอุ่นๆ กับจูบหวานๆ

คละเคล้ากันจนใจผมสั่นรัว

 





“เมื่อไหร่จะปิดเทอม ฮึ?”



เช้าวันนี้สดใสกว่าวันไหนๆ ถึงฝนจะตก พายุเข้า ลมพัดแรงจนกลัวว่ากระจกเพนต์เฮ้าส์จะหลุดออก แต่เชื่อเถอะ นี่เป็นเช้าที่หม่อมราชวงศ์ทรงโปรดแฮปปี้สุดๆ แล้ว



คนตัวสูงเปลือยทั้งตัวอยู่ใต้ผ้าห่มจูบต้นคอขาวๆ ของเอ็นดูที่นอนหันหลังให้ น้องตื่นก่อนเขา แต่ยังไม่ลุกไปไหนเพราะถูกทรงโปรดกอดไว้แน่น คนที่ตื่นก่อนเลยนอนเล่นโทรศัพท์ตั้งแต่หกโมงเช้า เล่นไปหลับไปจนตอนนี้เวลาล่วงเลยจนถึงสิบโมงแล้ว



“ย้ายมาอยู่ด้วยกันเดินทางง่ายกว่ามั้ย ไหนดูหน่อย...ใต้ตาคล้ำหมดแล้วมั้งเนี่ย”



“อื้ออออ ขอดูขอบตาหลายรอบแล้วนะครับ”



ครางงุ้งงิ้งเมื่อถูกพลิกตัวให้หันมานอนมองหน้ากัน ที่เอ็นดูนอนหันหลังให้เขาไม่ใช่เพราะรักเรามันเก่าแล้ว แต่เป็นเพราะคุณชายทรงโปรดไม่ยอมใส่เสื้อผ้าสักทีต่างหาก



เมื่อคืนเพิ่งฟัดกันเสร็จตอนตี่สี่ พอทรงโปรดขยับตัวออกไปเอ็นดูก็คว้าเสื้อกับกางเกงขึ้นมาใส่มั่วๆ หยิบอะไรได้ก็ใส่หมด ไม่นอนเปลือยยั่วให้คุณชายเขาลุกมากดจมเตียงอีกรอบหรอก



นี่ก็หยิบมั่วมากๆ ถึงขั้นหยิบบ็อกเซอร์ของคุณชายเขามาใส่ เสื้อเชิ้ตตัวโคร่งกินมือก็ของคุณชายเขา ก็นะ ตอนนั้นเสื้อของทรงโปรดอยู่ใกล้มือเอ็นดูมากที่สุด ส่วนของตัวเอง...ขาดแล้วขาดอีก



ต่อจากนี้ต้องขอถอดเสื้อเองแล้ว ให้เขาถอดทีไร กระดุมหลุดจากรังดุมทุกทีเลย : (



“ขอบตาคล้ำแล้ว เดี๋ยวไม่สวยนะครับคนดี”



“คล้ำเพราะคุณไม่ยอมให้ผมนอนต่างหาก”



“คล้ำเพราะเอ็นดูไม่ยอมมาอยู่กับพี่โปรด”



หยิกแก้มคนขี้ตื๊อที่เอาแต่เรื่องเดิมๆ มาพูด แต่ที่เขาพูดให้ย้ายมาอยู่ด้วยกันก็เพราะความเป็นห่วงล้วนๆ เลยนั่นแหละ



ปีนี้นักศึกษาชั้นปีสี่ของทุกคณะถูกย้ายไปเรียนอีกวิทยาเขตหนึ่งในกรุงเทพ ถามว่าไกลกันมากมั้ย...ก็พอสมควรนะ แต่มันก็ยังอยู่ในละแวกที่พักและบริษัทของทรงโปรด เอ็นดูเลยคิดว่าไม่ไกลกันมากเท่าไหร่



ไอ้เรื่องขอบตาคล้ำเพราะต้องนอนดึกตื่นเช้าที่คุณชายเขาประท้วงอยู่เนี่ยตัดทิ้งไปได้เลย เอ็นดูนอนดึกอยู่แล้ว และก็ตื่นเช้าปกติมาตลอดทั้งชีวิต ทรงโปรดคิดไปเองมากกว่าว่าเอ็นดูน่ะขอบตาคล้ำ



เมื่อคืนเอ็นดูเลยแวะซื้อแผ่นมาส์กหน้ารูปหมีแพนด้ามาใช้ แล้วก็ถ่ายรูปเก็บไว้เพราะตอนนั้นหม่อมราชวงศ์ทรงโปรดถูกจับมาส์กหน้าหมีแพนด้าไปด้วย คุณชายแสนเจ้าเล่ห์ในคราบหมีแพนด้าดูตลกจนเอ็นดูไม่สามารถถ่ายภาพนิ่งไว้อย่างเดียว ต้องบันทึกวิดีโอเก็บไว้เป็นคลิปแห่งความประทับใจด้วย



“มาส์กอีกแผ่นดีมั้ยครับ”



“จะหาเรื่องจับพี่ใช้ไอ้หมีแพนด้าด้วยน่ะสิ”



“คุณใช้แล้วน่ารักจะตาย...เนี่ย ดูสิครับ หน้าดูบลิ๊งค์ๆ ขึ้นมาทันทีเลย”



ไม่ได้พูดอย่างเดียว แต่นิ้วชี้กลมๆ นี่ก็จิ้มแก้มทรงโปรดด้วย



เอ็นดูใช้เท้าเขี่ยให้ผ้าห่มสีเทาคลุมร่างเปลือยของทรงโปรด รู้ว่าเขาหล่อ บึกบึน แข็งแรง แต่ตอนนี้ข้างนอกฝนตก แถมคุณชายเขายังเปิดแอร์ที่อุณหภูมิสิบเก้าองศาอีกต่างหาก ถ้ายังล่อนจ้อนแบบนี้มีหวังไม่สบายแน่ๆ



“คุณ ไปอาบน้ำได้แล้วมั้งครับ”



“วันหยุดยังไล่ไปอาบน้ำอีก”



“จะได้สดชื่นไงครับ ไม่อย่างนั้นคุณก็ต้องได้แปะมาส์กหน้าอีก”



ตั้งแต่หมั้นกันมาแปดเดือนกว่า ห้องนอนของคุณชายทรงโปรดเคยมีแค่เตียงนอนกับโต๊ะทำงาน แต่ตอนนี้มีโต๊ะเครื่องแป้งเพิ่มมาด้วย เอาไว้วางครีมบำรุงผิว หน้าตึง ใต้ขอบตาดำ กันแดดสารพัดชนิด



ไม่ใช่เอ็นดูที่เป็นคนใช้ แต่เขาเองที่แหละที่ใช้



เมียสั่งให้ใช้ ขัดใจได้ที่ไหน



“หิวหรือยังครับ...ถ้าผมทำสเต็กอีกคุณจะเบื่อมั้ย”



เอ็นดูวางแขนกับศอกบนอกหนั่นแน่น นิ้วชี้ขาวๆ เขี่ยปลายจมูกโด่งของทรงโปรดเล่น พอเบื่อจมูกก็ไปเล่นผมแทน



“ไม่เคยเบื่อ เราทำสเต็กอร่อยที่สุด”



“อย่ามาอวยเลยครับ คุณทำอร่อยกว่าผมอีก”



เพนต์เฮ้าส์ของทรงโปรดกว้างขวางมาก มีแพนทรี่ขนาดใหญ่ กับอุปกรณ์ทำครัวน่าเล่นหลายอย่าง สุดสัปดาห์ทีไรเอ็นดูมักจะแวะซุปเปอร์เพื่อซื้อวัตถุดิบมาทำอาหารกินด้วยกัน มันพิเศษกว่าการออกไปกินข้างนอก ส่วนรสชาติไม่ต้องพูดถึง ได้เชฟหม่อมราชวงศ์ทรงโปรดคอยช่วยปรุง อร่อยเหาะแน่นอน



ทรงโปรดกระชับเอวบางของคนที่เกยขึ้นมาบนตัวเขา ชะโงกหน้าขึ้นจูบริมฝีปากอวบสีชมพูที่เดี๋ยวเม้มเดี๋ยวคลายสองทีแล้วผละออก



“Good morning my N-Doo”



“อรุณสวัสดิ์ครับ”



ก็เป็นอย่างนี้ทุกที เขาสปีคอิงลิชออกไป น้องก็ตอบไทยแท้กลับมา



น่ารัก งามอย่างไทยเลยครับหม่อมหลวงจิรา



แต่คนตัวขาวที่อยู่บนอกของเขาคงไม่อยากลุกไปอาบน้ำกินข้าว เพราะตอนนี้นิ้วชี้เล็กๆ ที่ใช่ชี้นู่นสั่งนี่กำลังวาดเป็นวงกลมวงเล็กๆ ตรงกลางอกของทรงโปรด



วาดเป็นกลมไม่พอ แต่ไอ้สายตายั่วยวน กัดปากหน่อยๆ นี่หมายความว่าไงวะ



“พี่โปรด”



“ครับ” คนตอบกระชับกอด มืออีกข้างบีบก้นนุ่มเบาๆ



“Again?”



“What...”



“...Fuck me” พึมพำเบาๆ แต่ทำเอาทรงโปรดตาสว่าง



เอ็นดูกัดปากหน่อยๆ จนเขาต้องใช้นิ้วบดคลึงกลีบปากสวยๆ นั่นเอง



ทรงโปรดยกยิ้ม มือหนาแหวกสาปเสื้อเชิ้ตตัวใหญ่ที่เอ็นดูใส่อยู่ออกทีละนิด



“เมื่อกี้ไล่ให้พี่ไปอาบน้ำ”



“...ก็...ในห้องน้ำไงครับ”



เอ็นดูบอกว่าชอบอ่าง Jacuzzi ในห้องน้ำของเพนต์เฮ้าส์นี้มากที่สุด บอกตามตรงว่าเขายังไม่เคยเล่นในอ่างกับน้อง...สงสัยวันนี้ทรงโปรดคงไม่พลาดพาเอ็นดูสำรวจเพนต์เฮ้าส์อีกครั้ง



ที่ไหนก็ได้ขอแค่ได้กอดเอ็นดู คุณชายทรงโปรดก็พร้อมไปทุกที่ที่เอ็นดูอยากไป







*****





 

กลิ่นหอมๆ ลอยมาจากแพนทรี่ปลุกให้คนที่นอนอยู่บนโซฟาลืมตาขึ้น ทรงโปรดผงกศีรษะ มองต้นเหตุของกลิ่นหอมๆ ที่ยืนก้มหน้าก้มตาตักอะไรบางอย่างออกจากกระทะ เขายิ้มกว้างตอนที่น้องช้อนตามอง หม่อมราชวงศ์ทรงโปรดรีบลุกขึ้นนั่งทันทีทันใดเลยทีเดียว



แล้วก็ต้องก้มหน้ามองท่อนล่างของตัวเองที่มีกางเกงขายาวตัวเมื่อวานมาสวมอยู่ทั้งที่เขาถอดมันออกตั้งแต่เมื่อคืน และก็ปล่อยตัวเองล่อนจ้อนไว้อย่างนั้น



เดี๋ยวก็ถอดอีกไง เมื่อเช้าว่าจะไม่จัด แต่น้องก็รีเควสต์ห้องน้ำมา : )



“ผมใส่ให้เองครับ”



“ใส่ทำไม”



“คุณจะโป๊เดินทั่วห้องหรือไงครับ ไม่อายผมก็อายผีหน่อย”



คนตัวโตหัวเราะไหล่สั่น นอนด้วยกันมาตั้งกี่ครั้งแล้วเอ็นดูก็ยังไม่ชินกับความหน้าด้านของเขาสักที แต่ปกติทรงโปรดก็ไม่ใช่คนที่ชอบเดินแก้ผ้าไปมาในห้องของตัวเองหรอก พอมีแฟนก็เป็นงี้เลย เป็นเฉพาะตอนที่นอนกับน้องเท่านั้นด้วย



คุณชายก้าวขายาวๆ เดินไปหาคนที่กำลังง่วนอยู่กับโต๊ะอาหาร ไม่กี่ก้าวเขาก็คว้าคนที่ตัวหอมๆ เข้ามาอยู่ในอ้อมกอดได้แล้ว หม่อมราชวงศ์ทรงโปรดหอมแก้มซ้ายทีขวาที จูบท้ายทอยขาวๆ หอมๆ เข้าเต็มปอดก่อนจะวางคางบนไหล่ของน้อง



“ทำไมทำแค่จานเดียว”



“ทำให้คุณคนเดียวไงครับ”



“แล้วเราไม่กินกับพี่ด้วยเหรอ”



“คุณกินไปเถอะครับ เดี๋ยวผมจะไปอ่านหนังสือต่อ”



“เอ็นดู นี่วันหยุด”



“ไม่งอแงสิครับ วันพุธผมมีสอบ”



นับวันคุณชายทรงโปรดก็งอแงอย่างกับเด็กมากขึ้นทุกที วันหยุดเมื่อไหร่ต้องรีบมาหา ถ้าไม่มาทรงโปรดจะไปหาเอง แล้วที่สำคัญวันหยุดก็ห้ามแตะงาน แต่เอ็นดูยังไม่ได้ทำงาน มีแต่เรื่องเรียนเท่านั้นแหละ

เขาไม่ได้ห้ามน้องอ่านหนังสือ แต่ทุกๆ วันที่ไม่ได้อยู่ด้วยกันเอ็นดูก็อ่านหนังสือประจำอยู่แล้ว ยิ่งช่วงสอบยิ่งแล้วใหญ่ น้องห้ามไม่ให้เขาโทรหาเพราะขอเจียดเวลาไปเตรียมสอบ ก็นั่นแหละ ก็ทำตามแล้วไง ฉะนั้นวันหยุดเอ็นดูต้องให้เวลาเขาเต็มที่



“กลัวเครียดต่างหาก แค่พูดเรื่องสอบก็ขมวดคิ้วแล้วเรา”



“ไม่เรียนไม่รู้หรอกครับ”



“พูดอย่างพี่ไม่เคยเรียน”



“คุณมันคนเก่งนี่นา แถมยังจบจากอังกฤษอีกต่างหาก”



แขวะไม่พอยังตีมือหนาที่ล็อกเอวไว้แน่นอีกต่างหาก เอ็นดูเอี้ยวตัวหันหลัง เดินเอากระทะไปวางไว้บนอ่างล้างจานทั้งๆ ที่คุณชายยังกอดไว้แน่นอยู่อย่างนั้น ทรงโปรดเอื้อมมือไปเปิดก๊อกล้างมือให้น้อง มองคนน่ารักในอ้อมกอดล้างมือขาวๆ อย่างทุลักทุเล



เออ รู้ว่าน้องขยับตัวลำบากก็ไม่ยอมปล่อย โคตรติดน้องเลยว่ะไอ้โปรด



นี่เพื่อนพ้องก็แทบไม่มีใครอยากคบกับเขาแล้ว แหงดิ ก็คุณชายทรงโปรดเขาติดคู่หมั้นซะขนาดนั้น ไม่ว่าจะจอมภพหรือพีชนัดคุณชายไปงานไหน ก็ลงท้ายด้วยคำว่าล่มทุกที



นี่ขนาดยังไม่ได้แต่งยังไม่ได้อยู่ด้วยกัน หม่อมราชวงศ์ทรงโปรดยังไม่กล้านอกลู่นอกทางเลย



“ปล่อยได้แล้วครับ ไปกินข้าวได้แล้ว”



“แล้วเราก็จะหนีพี่ไปอ่านหนังสือ”



“ขอวันเดียวนะครับ ถ้าคุณกินข้าวอาบน้ำเสร็จแล้วผมจะออกมาอยู่ด้วยเลย”



เอ็นดูเอี้ยวหน้าหันกลับไปมองคนตัวสูงที่ยืนซ้อนตัวอยู่ด้านหลังแถมยังกดไม่ยอมปล่อย พอเห็นปากจิ้มลิ้มยู่ๆ กับหางตาที่ตกนิดหน่อยของน้องแล้วใจก็อ่อนยวบ คุณชายทรงโปรดรีบดันไหล่แคบให้หมุนตัวกลับมาสบตากัน คนโตกว่าหัวเราะก่อนโน้มตัวจุ๊บปากสีชมพูหวานๆ



“พี่ล้อเล่น ไปอ่านหนังสือให้เต็มที่เถอะ”



“กัดฟันพูดทำไมครับ”



“พูดออกมาจากใจนะเนี่ย”



“จากใจของคุณคือกัดฟันเหรอครับ”



จุ๊บหน้าผากของคนตัวขาวแรงๆ ถ้ารั้งไม่ให้อ่านหนังสือเอ็นดูคงไม่ยอมแล้ว เขาแค่แกล้งน้องเล่นเท่านั้นแหละ ทรงโปรดสนับสนุนเรื่องเรียนของเอ็นดูจะตาย อยากให้เรียนจบวันพรุ่งนี้มะรืนนี้ใจแทบขาดแล้ว



“ตั้งใจอ่านหนังสือ อย่ามัวแต่คิดถึงพี่”



“ใครจะคิดถึง...คุณนั่นแหละ อย่ามาป่วนผมในไลน์ก็แล้วกัน”



“พี่ไม่ได้ถือโทรศัพท์ออกจากห้อง”



ทรงโปรดปล่อยกอดแล้วยกมือทั้งสองข้างขึ้นระดับศีรษะ ไหวไหล่พร้อมเอียงหน้าเล็กน้อยบอกให้น้องรู้ว่าที่ตัวเขาไม่มีอะไรนอกจากกางเกงที่เอ็นดูใส่ให้



โทรศัพท์มันไม่จำเป็นกับเขาเลยถ้าเอ็นดูมาอยู่ด้วย บางครั้งเขาก็ทำมันหายด้วยซ้ำ เดือดร้อนให้น้องโทรเข้าแต่ก็เกือบหาไม่เจอเพราะทรงโปรดปิดสั่นปิดเสียงไว้ จนกระทั่งไปเจอว่ามันอยู่ในสูทที่เขาใส่ทำงานหรือบางครั้งก็ไปนอนอยู่ในเครื่องซักผ้า



คนตัวบางเลื่อนเก้าอี้ให้หม่อมราชวงศ์ทรงโปรด ตบลงบนพนักพิงเก้าอี้เบาๆ เป็นการบอกแบบไม่ต้องพูดว่าให้มานั่งกินสเต็กที่ทำไว้ให้ได้แล้ว



“กินให้อร่อยนะครับ” ไม่ใช่แค่บอกแต่ยังยื่นหน้าสวยๆ มาจูบลงบนแผงอกของเขาอีกต่างหาก



แล้วก็ไม่รับผิดชอบการกระทำของตัวเองด้วยนะ มาทิ้งจูบนุ่มๆ ไว้แล้วเดินหนีขึ้นชั้นสอง



ยั่วเก่งแบบนี้ระวังจะไม่ได้อ่านหนังสือสอบ

ยั่วเก่งแบบนี้ระวังโดนจับทำการบ้านแทน :P







*****







เอ็นดูอมยิ้มแก้มป่องอยู่บนชั้นสองของเพนต์เฮ้าส์หลังจากที่แอบมองแฟนตัวเองนั่งกินสเต็กร้อนๆ...ก็แอบมองได้ประมาณสิบนาทีนั่นแหละ ที่ทำอย่างนั้นไม่ใช่เพราะอะไรเลย แค่อยากเห็นว่าตอนที่ไม่ได้กินข้าวพร้อมกัน ทรงโปรดจะทำตัวยังไง



เขาน่ารักมากๆ ในสายตาเอ็นดู คุณชายทรงโปรดในวัยยี่สิบเก้าปีเมื่อไม่กี่อาทิตย์ที่ผ่านมานั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่หั่นสเต็กพอดีคำเข้าปาก นี่ถ้าเอ็นดูนั่งอยู่ด้วย รับรองได้ว่าคุณชายเขาคงจะยิ้มกว้างกว่านี้



คนผิวขาวเปิดประตูห้องนอนของหม่อมราชวงศ์ทรงโปรด พาตัวเองเดินตรงไปยังโต๊ะทำงานขนาดใหญ่ที่ตั้งติดริมหน้าต่าง หย่อนตัวลงบนเก้าอี้หนังสีดำราคาแพง หยิบชีทเรียนออกจากกระเป๋าเป้แล้วมันไว้บนโต๊ะไม้สีดำ



เป็นสอบครั้งสุดท้ายของชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัยที่ยากเย็นกว่าครั้งไหนๆ...ที่มันยากเพราะไม่มีคนให้คำปรึกษาอย่างเช่นพี่ปัน รายนั้นไปทัวร์ยุโรป แล้วก็ขาดการติดต่อไปเฉยๆ เลยด้วย



แล้วก็อย่าถามถึงคนเก่งอย่างหม่อมราชวงศ์ทรงโปรด คนนั้นน่ะติวเรื่องที่เอ็นดูเรียนอยู่ไม่ได้แน่นอน แค่เห็นชีทปึกใหญ่เขาก็ขมวดคิ้วหันหน้าหนีทันที



จะไม่หันหน้าหนีได้ยังไง คุณชายทรงโปรดเขาจบสถาปัตยกรรมศาสตร์จากมหาวิทยาลัยชื่อดังของอังกฤษ เรียนกันคนละสายแบบนี้ถ้าเขาติวให้เอ็นดูได้ก็เก่งแย่แล้ว



เอ็นดูคลี่ยิ้มพลางส่ายหน้า นึกถึงคุณชายเขาทีไรก็กลั้นยิ้มไว้ไม่ได้สักครั้ง



แล้วเนี่ย...ที่ขอมานั่งเงียบๆ อ่านหนังสือคนเดียวก็ไม่ใช่ว่ารำคาญหรอกนะ แต่ถ้าต้องอ่านหนังสือโดยที่ทรงโปรดอยู่ใกล้ๆ คำจากหนังสือสักตัวอักษรก็ไม่มีทางเข้าหัวเอ็นดู



ก็ถ้าอยู่ด้วยกันเอ็นดูก็ต้องสนใจแต่เขา ต้องมองแต่หน้าเขาคนเดียว...มองอย่างอื่นไม่ได้เลย



เพราะล็อกไว้ที่ใบหน้าเขาอย่างเดียว :)

 



จอมภพPP: (Share location)

จอมภพPP: สามทุ่มเจอกัน

Peach: รู้นานแล้ว

จอมภพPP: บอกไอ้โปรดมันครับมึง

Peach: เออ ไอ้หม่อม สามทุ่มเจอกัน



 

 

เอ็นดูชะโงกหน้ามองไอโฟนของคุณชายทรงโปรดที่สั่นครืดอยู่บนโต๊ะ ขมวดคิ้วเมื่อเห็นว่าข้อความที่เหมือนกับเป็นการนัดแนะมีตติ้งกันระหว่างกลุ่มเพื่อน



ไม่ได้อยากรู้เลยนะว่าเพื่อนเขาส่งข้อความอะไรมาอีกบ้าง แต่เพราะได้ยินเสียงโทรศัพท์ที่สั่นครืดๆ ติดกันหลายครั้งมันก็รบกวนสมาธิเอ็นดูในระดับหนึ่งเลยแหละ คนผิวขาวเลยคว้าต้นเหตุที่ทำให้ไม่มีสมาธิอ่านหนังสือทั้งๆ ที่ยังไม่เริ่มอ่านสักบรรทัดลุกขึ้นยืนแล้วเดินฉับๆ ออกจากห้องลงไปยังชั้นหนึ่ง



“อ้าว อ่านหนังสือเสร็จแล้วเหรอ”



“ยังไม่ได้อ่านเลยครับ นี่ เพื่อนคุณทักมา”



คุณชายทรงโปรดที่ยังกินสเต็กไม่เสร็จยื่นมือรับโทรศัพท์ เขาขอบคุณคู่หมั้นที่อุตส่าห์สละเวลาเดินเอาลงมาให้ทั้งที่ความจริงเอ็นดูสามารถกดปิดเครื่องไปเลยก็ได้ถ้ารำคาญ



แต่เอ็นดูไม่ทำแบบนั้น (ถึงแม้ว่าทรงโปรดจะเคยอนุญาตไว้แล้วก็ตาม) เอ็นดูไม่รู้สึกรำคาญเพื่อนๆ ของทรงโปรดเลยสักนิด กลับกัน เอ็นดูอยากให้ทรงโปรดออกไปเที่ยวเล่นเหมือนอย่างที่ผ่านมาบ้าง



แต่เขาดันทำตัวแบบนี้ เพื่อนถึงได้ไลน์ตามยิกๆ



“ไม่ไป”



“พี่พีชกับพี่ภพคงคิดว่าผมตั้งกฎกับคุณไว้แน่ๆ”



“ไม่หรอก มันรู้ว่าพี่หลงเมีย”



“เกี่ยวกันที่ไหนครับ”



“เกี่ยว เรามาทำให้พี่หลงทำไม”



คนตัวขาวยู่ปากกลั้นยิ้ม รู้ตัวแหละว่าหม่อมราชวงศ์ทรงโปรดคนนี้หลงเอ็นดูมากๆ ไม่เที่ยวไม่ดื่มไม่นอกลู่นอกทางอะไรเลย มุ่งมั่นทำแต่งาน แถมยังเร่งสร้างโครงการรีสอร์ตที่เชียงรายให้เสร็จควบคู่กับเริ่มให้จอมภพเพื่อนของทรงโปรดกับทีมวิศวกรลงดูพื้นที่ตรงเขาใหญ่



แต่รีสอร์ตที่เขาใหญ่เนี่ย...คุณชายทรงโปรดใส่ใจรายละเอียดมากเป็นพิเศษและยังเร่งให้รีสอร์ตสร้างเสร็จภายในระยะเวลาสองปีอีกต่างหาก



เรียกได้ว่าตอนนี้คุณชายเขางานล้นมือเลยแหละ...เลยอยากให้ไปหาที่ผ่อนคลายบ้าง



แต่ไม่ใช่ผ่อนคลายด้วยการมาลงที่เอ็นดูนะ แบบนั้นน่ะ...ทรงโปรดทำแทบทุกครั้งที่เจอกัน ช้ำไปหมดแล้วเนี่ย : (



“ยิ้มคนเดียวอีกแล้ว มีอะไรดีๆ บอกกันบ้างสิ”



คนไม่รู้ตัวว่ากำลังยิ้มหน้าแป้นถูกรวบให้ขึ้นไปนั่งหย่อนขาบนโต๊ะกินข้าว คุณชายทรงโปรดก็นั่งอยู่บนเก้าอี้เหมือนเดิมนั่นแหละ มือไม้ซุกซนคอยจับคอยบีบต้นขาขาวๆ ที่ซ่อนอยู่ในกางเกงยาวสีเทา เงยหน้ามองเอ็นดูที่นั่งอยู่ในตำแหน่งที่สูงกว่า



“ยิ้มเรื่องคุณแหละครับ” วางมือขาวๆ ไว้บนไหล่กว้างพลางใช้ปลายนิ้วโป้งนวดสันกรามที่เห็นเป็นรูปชัดเจนของทรงโปรด จำได้ว่าเมื่ออาทิตย์ที่แล้วคุณชายเขาเพิ่งจะวิดีโอคอลล์พร้อมกับโกนหนวดไปด้วย นี่ไรหนวดสีเขียวๆ ก็เริ่มขึ้นอีกแล้ว



“คุณไปหาเพื่อนก็ดีนะครับ ผมจะได้อยู่อ่านหนังสือเงียบๆ”



“แสดงว่าถ้าพี่อยู่จะเสียงดังว่างั้น”



“เปล่าครับ แต่ถ้าคุณอยู่ผมไม่มีสมาธิอ่านหนังสือ”



“ไม่แฟร์ พี่ไม่ได้กวนตอนเราอ่านหนังสือสักหน่อย”



เอ็นดูส่ายหน้าเบาๆ พลางทำหน้ามู่ทู่...



“คุณไม่รู้เหรอครับ”



หม่อมราชวงศ์ทรงโปรดน่ะไม่รู้อะไรเลยสักนิด



“ผมอ่านหนังสือทีไร...”



“...”



ไม่รู้ว่าเอ็นดูน่ะ...



“หน้าคุณก็ลอยมาแทนที่ตัวอักษรบนหนังสือทุกที”



ก็หลงคุณชายทรงโปรดเหมือนกัน





[มีต่อด้านล้าง]
หัวข้อ: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - special 1.2 end - up 12.10.61
เริ่มหัวข้อโดย: Swanlee ที่ 12-10-2018 16:13:17



“นี่กูตาฝาดเปล่าวะ”



“หล่อเหี้ยๆ มันมาทีกูนี่ดับ”



“น้องเอ็นดูปล่อยตัวมึงออกมาได้แล้วเหรอไอ้หม่อม”



“เห็นมึงไม่อ่านแชตกูเลย นึกว่าจะไม่มาซะอีก”



ไฟสลัวๆ ยังไม่สามารถกลบสีหน้าตื่นเต้นๆ ของไอ้สองคนนี้ได้ จอมภพดี๊ด๊าวางแก้วเหล้าไว้บนโต๊ะ ส่วนพีชปรบมือแปะๆ สามสี่ครั้งให้กับการปรากฏตัวของหม่อมราชวงศ์ทรงโปรดที่ช่วงนี้ไม่ว่างเคลียร์คิวให้พวกพ้องสักเท่าไหร่



เอาเข้าจริงๆ ทรงโปรดก็เจอกับสองคนนี้แทบทุกวัน แค่ไม่ได้เจอในบาร์หรือนั่งไร้สาระด้วยกัน นู้น เจอกันในงานซะมากกว่า



สายงานที่ทำมันก็เกี่ยวข้องกัน อย่างจอมภพนี่ก็เป็นวิศวกรที่กำลังดูโครงสร้างรีสอร์ตแทบทุกโครงการที่กำลังสร้าง ส่วนไอ้พีชนี่ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเขาสักเท่าไหร่ นอนกลางวันตื่นกลางคืน แต่รายนั้นพักอยู่คอนโดใกล้ๆ กันเลยทำให้เจอกันบ่อย



ทรงโปรดก้าวขาไม่กี่ก้าวก็ถึงโซฟากำมะหยี่สีแดงเข้ม เขาสำรวจบาร์ใหม่ของพีชที่เปิดมาแล้วแปดเดือนก่อน มันก็ไม่ได้แตกต่างจากร้านเดิมที่ทรงโปรดชอบไปนั่งบ่อยๆ ที่ต่างกันก็แค่จำนวนคน ยอมรับเลยว่าที่นี่สงบกว่าเยอะ ไม่เปิดเพลงเสียงดัง แต่เปิดคลอเบาๆ เหมาะกับการให้คนเข้ามานั่งชิวๆ นั่งคลายเครียด



คาเฟ่กึ่งบาร์ของแท้แบบที่ไอ้เจ้าของร้านโฆษณาเอาไว้ จะชิวก็ชิวได้ มีเบเกอรี่ให้ แต่ถ้าอยากเมาก็มีเหล้าเบียร์พร้อมเสิร์ฟ เครื่องดื่มที่นี่เกรดดีทั้งนั้น ราคามันก็แพงตามเกรดไปด้วย แต่หลายคนรู้ดีว่าถ้าเข้าร้านไอ้พีชเงินต้องถึง เอาเงินมาแลกของดีๆ แลกความสุขเล็กๆ น้อยๆ เพื่อผ่อนคลายความเครียดที่เจอมาทั้งวัน



“หน้ายุ่งๆ ของมึงมันบาดใจสาว ไม่รู้ตัวเหรอวะ” พวกเขาชนแก้วไวน์ขณะที่จอมภพเอาแต่พูด



เครื่องดื่มยอดนิยมที่สามหนุ่มชอบมากที่สุดคือไวน์ รสชาติมันละมุนลิ้นที่สุดแล้ว ยิ่งไวน์ปีเก่าๆ หมักนานๆ ยิ่งชอบ



“น้องยอมปล่อยให้คนหล่อๆ อย่างมึงออกมาได้ไงวะ” พีชหรี่ตามอง “นึกว่าน้องจะมาด้วย กูเลยให้เด็กเอาแก้วมาเพิ่ม”



“ให้มาเดี๋ยวน้องก็โดนพวกมึงแซว” เสียงทุ้มเรียบๆ ของหม่อมราชวงศ์ทรงโปรดทำเอาเพื่อนอีกสองคนที่นั่งอยู่ด้วยกันส่งเสียงโห่



“หืมมมม กูไม่แซวหรอกจ้า”



“มึงน่ะกลายเป็นหมาหวงก้างไปแล้วไอ้หม่อม”



เป็นเรื่องที่เจอกันเมื่อไหร่จอมภพกับพีชก็พูดวนไปแบบไม่เคยเบื่อ ก็แหง ก่อนจะมาเจอเอ็นดูคุณชายทรงโปรดเขาร้ายกาจกว่านี้ตั้งเยอะ คุยกับใครไม่ได้นานก็จับเข้าโรงแรมหมด



“มึงน่าจะพามานะ เพื่อมีคนดีๆ มาจีบ...เอ็นดูจะได้เก็บไปพิจารณา” จอมภพหัวเราะกลั้ว



เขาพูดเล่น แค่อยากแหย่คนกลัวเมียให้มีอาการหัวร้อนๆ บ้างก็เท่านั้น แต่กลับกัน หม่อมราชวงศ์ทรงโปรดกลับนั่งยิ้มกริ่ม แกว่งแก้วไวน์ในมือเบาๆ



“อยากพามาอยู่ แต่น้องอ่านหนังสือสอบ”



“ที่ไม่พามาเพราะกลัวว่าจะมีคนมาจีบน้องมากกว่ามั้งไอ้หม่อม”



“อ้อออ กลัวว่าน้องจะทำตัวเจ้าชู้ๆ แบบมึงอะเด้”



“ไม่กลัว คุมได้อยู่แล้ว”



“หูยยยย ยอมใจเลยครับ”



“ภพ เมื่อกี้มึงได้อัดเสียงมันไว้เปล่าวะ เดี๋ยวส่งไปให้สาวๆ ที่แม่งเคยคั่วฟัง”



“โอ๊ยกูพลาด ทรงโปรดครับ พูดประโยคเมื่อกี้ให้ผมอัดเสียงอีกสักรอบได้มั้ยครับ”



“ไลฟ์สดลงไอจีไปเลยมึง”



คุณชายทรงโปรดหัวเราะให้กับความบ้าบอของเพื่อนที่เขาคบกับมันอยู่แค่สองคน จอมภพกับพีชเหมือนคนบ้าไปแล้ว อีกคนถือโทรศัพท์ขึ้นมาจ่อหน้าเขา ไม่รู้หรอกว่ามันกดถ่ายหรือแค่ยกขึ้นมาเฉยๆ ส่วนพีชเจ้าของบาร์ที่ชอบคีพลุคพูดน้อยเวลาอยู่ในที่สาธารณะก็เก็บอาการพูดมากไว้ไม่ไหว สุดท้ายก็ร่วมกันทำตัวเป็นเด็กตามจอมภพไปด้วย



ส่วนหม่อมราชวงศ์ทรงโปรดที่ไม่หือไม่อือกับความบ้าๆ บอๆ ของเพื่อนได้แต่นั่งจิบไวน์พร้อมกับกลั้นยิ้ม เขามองเพื่อนสองคนที่ยังโสดสนิท



ต้องลองสักครั้ง ต้องเจอคนที่เข้ามาเป็นอีกครึ่งชีวิตดูสักครั้ง แล้วพีชกับจอมภพจะไม่มีทางมานั่งล้อเลียนเขาแบบนี้แน่นอน



พวกนั้นไม่มีทางรู้หรอก ว่าการมีคนให้รักและมีคนให้คอยดูแลมันดียังไง



เนี่ย แค่นึกถึงนิดหน่อยหน้าเอ็นดูก็ลอยมาทันที



คุณชายทรงโปรดอยากกลับไปกอดคนตัวนุ่มให้แน่นๆ จะแย่แล้ว : )







*****







คนที่อ่านหนังสือยาวตั้งแต่บ่ายแก่ๆ จนถึงสี่ทุ่มครึ่งนั่งก้มหน้าใช้หัวนิ้วมือนวดหว่างคิ้วเบาๆ ปวดหนึบหน่อยๆ เพราะจ้องตัวสือนานหลายชั่วโมง



แต่ถึงตาจะล้าจากการอ่านหนังสือยังไงคนที่ชอบเล่นโซเชียลในระดับหนึ่งก็ไม่ลดละที่จะใช้สายตาในการส่องอะไรในอินเตอร์เน็ตสักหน่อย เอ็นดูคว้าโทรศัพท์ที่วางอยู่ใกล้ๆ กองหนังสือ ปลดล็อกหน้าจอแล้วเปิดสัญญาณอินเตอร์เน็ตทันที...ก็ตอนที่ต้องอ่านหนังสือเอ็นดูต้องการใช้สมาธิมากๆ เลยเลือกที่จะปิดสิ่งที่ตัวเองเสพบ่อยที่สุด



และทันทีที่เปิดสัญญาณอินเตอร์เน็ตได้ สิ่งแรกที่เด้งแจ้งเตือนก็คือแชตจากคุณชายทรงโปรดเขานั่นแหละ

 



Prod: ถึงแล้วครับ กำลังเดินเข้าไปหาไอ้สองคนนั้น

Prod: เปลี่ยนใจให้พี่กลับไปช่วยติวหนังสือยังทันนะ ;)

 



เกลียดอิโมจิหน้ายิ้มขยิบตา ._.



ข้อความนี้ถูกส่งมาตั้งแต่เมื่อชั่วโมงที่แล้ว ความจริงคุณชายเขารายงานตั้งแต่ออกจากห้อง ขึ้นรถ ขับรถหรืออยู่บนถนน



 

Prod: เอ็นดู

Prod: อ่านหนังสือจบยังครับ

Prod: พี่โปรดคิดถึงจะแย่

 



อันนี้ของเมื่อสิบห้านาทีที่แล้ว เอ็นดูอมยิ้มพลางเลื่อนนิ้วอ่านข้อความสลับกับดูภาพถ่ายที่เขาส่งมา ทรงโปรดบอกหมดเลยว่าดื่มอะไรบ้าง กำลังทำอะไรอยู่กับเพื่อนๆ บ้าง



นี่ไม่ได้ขอให้เขารายงานเลยนะ คนดีของเอ็นดูจัดให้เองทั้งนั้น



 

N-Doo: อ่านจบแล้วครับ

N-Doo: คืนนี้จะกลับกี่ทุ่มเหรอครับ

Prod: กำลังได้ที่

Prod: ห้าทุ่มครึ่งพี่ค่อยกลับ

N-Doo: กินข้าวบ้างนะคุณ อย่าดื่มแต่ไวน์

 



ไม่รู้กี่แก้วต่อกี่แก้วที่กองอยู่บนโต๊ะแล้วทรงโปรดถ่ายส่งมาให้ แต่คนที่กำลังติดลมอยู่กับบรรยากาศเก่าๆ คงไม่สนใจเรื่องปริมาณที่ดื่มเข้าไปหรอก



ข้อความล่าสุดที่ส่งไปขึ้นว่า Read เอ็นดูเลยกดออกจากแอพแชตแล้วเข้าไอจีตามปกติ



เขาชอบกดส่องไอจีสตอรี่ชีวิตหรูหราของคนอื่นๆ บางคนไปเที่ยวต่างประเทศ เช็กอินว่ากำลังอยู่ที่นู่นอยู่ที่ แต่นั่นก็ไม่ทำให้เอ็นดูชะงักมากเท่าไอจีสตอรี่ของผู้หญิงคนหนึ่งที่เอ็นดูต้องแช่นิ้วกดค้างบนหน้าจอ



Ingfha 5น.

มีแฟนยังคะ

อยากตกอยู่ในอ้อมกอดอุ่นๆ จังเลย งื้อ!!!

 



แคปชั่นที่แปะไว้บนรูป ทำพื้นหลังเด่นๆ ให้เป็นสีเหลืองกับตัวอักษรสีขาวนั่นน่ะที่ทำให้เอ็นดูเม้มปาก เจ้าของไอจีสตอรี่ที่ถ่ายรูปผู้ชายตัวสูงๆ หล่อๆ ผมไม่ได้เซ็ตแต่ก็ยังดูดี...ไม่ได้ถ่ายแค่รูปเดียว แต่ยังมีอีกอันที่มาเป็นคลิป



เขาจะไม่กดหยุดดูแบบนี้หรอก ถ้าผู้ชายคนนั้นไม่ใช่หม่อมราชวงศ์ทรงโปรด

 



Ingfha 2น.

หล่อไม่ไหวแล้วอ่ะ

ใครอยากเสพความหล่อมาที่นี่นะ @sozine cafe&bar



 

อือ ได้ เดี๋ยวจะไปเสพความหล่อของคุณชายทรงโปรดถึงที่เลย



อยากหล่อเรี่ยราดดีนัก



เอ็นดูไม่ลังเล มือขาวๆ คว้ากุญแจรถของตัวเองขึ้นมาพร้อมกับกระเป๋าสตางค์และโทรศัพท์ ก้าวฉับๆ ปิดไฟในเพนต์เฮ้าส์แทบทุกดวง เหลือไว้ก็แค่ไฟตรงระเบียงกับตรงสระว่ายน้ำที่ทรงโปรดชอบให้เปิดไว้เพราะมันสวยดี พอทำทุกอย่างเรียบร้อยก็รีบเดินออกจากห้อง ใบหน้าหวานๆ เรียบนิ่ง



พอถึงลานจอดรถก็รีบปลดล็อกรถตัวเองทันที เอ็นดูเข้าไปประจำตำแหน่งที่นั่งคนขับ เข้าเกียร์แล้วเหยียบคันเร่งอย่างใจเย็น



นับว่าใจเย็นแล้วนะ ถ้าใจร้อนกว่านี้คงได้เหยียบคันเร่งสักสักหนึ่งร้อยยี่สิบไปแล้ว



ปลายทางอยู่ที่บาร์นั่น ตอนนี้ตัวยังอยู่บนถนนแต่ใจของเอ็นดูไปอยู่ข้างๆ คุณชายทรงโปรดสุดหล่อคนนั้นแล้ว



ตลอดทางเอ็นดูได้ยินเสียงโทรศัพท์แจ้งเตือนข้อความเข้าตลอด แต่เขาไม่สนใจและตั้งหน้าตั้งตาขับรถไปยังจุดหมายที่ตัวเองปักหมุดไว้...จนกระทั่งเมื่อเขาหักพวงมาลัยเลี้ยวเข้าไปจอดรถในชั้นใต้ดินของบาร์



ทุกอย่างเป็นอย่างรวดเร็ว ขาขาวๆ ก้าวฉับเดินเข้าบาร์ สิ่งแรกที่เอ็นดูทำก็คือกวาดตามองรอบๆ มองหาคนที่สูงเด่น



เพราะทรงโปรดไม่เหมือนใครและโดดเด่นมากๆ ต่อให้อยู่ในไฟสลัว เอ็นดูขยับเท้าเดินตรงไปจุดที่หม่อมราชวงศ์ทรงโปรดกำลังนั่งกระดกไวน์เข้าปากกับกลุ่มเพื่อน ทรงโปรดหัวเราะและยิ้มเมื่อใครสักคนในกลุ่มพูดอะไรตลกๆ ออกมา



ทรงโปรดจะรู้ตัวมั้ยว่ารอยยิ้มของเขาหล่อจนบาดใจสาวๆ มากแค่ไหน



“อ้าว น้องเอ็นดู” จอมภพที่กำลังกระดกไวน์ลงคออีกครั้งชะงัก เรียกคนที่ยืนอยู่ข้างหลังหม่อมราชวงศ์ทรงโปรด



“หูยยยย มาตามถึงที่เลยว่ะ”



เอ็นดูยกมือไหว้เพื่อนของหม่อมราชวงศ์ทรงโปรดก่อนเอียงคอส่งยิ้มบางๆ ให้คุณชายที่กำลังหันหน้ามอง มือหนาเอื้อมจับมือนุ่มๆ จะรั้งให้น้องมานั่งด้วยกันแล้วไถ่ถามว่ามาที่นี่ได้ยังไง แต่เอ็นดูกลับส่ายหน้าแล้วเป็นฝ่ายดึงต้นแขนแกร่งของคุณชายทรงโปรดให้ลุกขึ้นแทน...คนที่โดนดึงก็ยอมลุกแบบงงๆ



ไม่รู้ดิ...ยิ้มบางๆ ของน้องโคตรน่ากลัว



คนตัวเล็กกว่าเงยหน้ามองหน้าหล่อๆ ของคุณชายทรงโปรด ทำหน้าหงิกหน่อยๆ ทรงโปรดก็อยากรั้งศีรษะกลมๆ มาซบอกแล้วก้มลงหอมหัวสักฟอดให้ชื่นใจ...แต่มันไม่ได้ไง สถานการณ์มันไม่ใช่อย่างนั้น



“เรามาที่นี่ได้ไงครับ” ถามเสียงอ่อนๆ ลูบโครงหน้าที่มีผมนุ่มๆ คลอเคลีย



คุณชายทรงโปรดในตอนนี้โคตรจะหวั่นใจ ก็น้องดันนิ่งๆ เงียบๆ เหมือนทะเลไม่มีคลื่น แล้วสุดท้ายลมแรงๆ ก็โถมคลื่นลูกใหญ่เข้าฝั่ง



“ตามโลเคชั่นมาครับ”



“โลเคชั่น?”



“ครับ เจอในไอจี”



ไม่พูดอย่างเดียวแต่ยังเลิกคิ้วให้คุณชายเขาอีกต่างหาก น้องขยับมือข้างที่ถือโทรศัพท์ ทำท่าเหมือนอยากจะเปิดอะไรบางอย่างให้ดูแต่ก็ไม่



“ไปนั่งก่อน อยากดื่มอะไรมั้ยเรา”



“...” ไม่ตอบแต่ยกมือป้องปากพร้อมกับหาวออกมาเบาๆ ไอ้เสื้อกินมือของน้องนี่ก็โคตรดี ขนาดมันใหญ่กว่าตัวน้อง แต่พอเอ็นดูเอามาใส่กลับทำให้ดูเซ็กซี่แบบไม่ตั้งใจ



หรือตั้งใจก็ไม่รู้



“เออๆ มึงกลับไปเหอะ นี่ก็ดึกละ” จอมภพกัดปากหน้าแดง พูดเสียงสั่นๆ แถมยังแกล้งทำติดอ่างอ้ำอึ้ง มือหงิกหงอไม้นี่จิกโซฟาจนแทบขาด  อย่าว่าแต่จอมภพเลย พีชที่ทำนิ่งๆ ก็กำแก้วไวน์แน่นจนแทบแตกคามือแล้ว



“ไปก่อนนะครับ”



“จ้า ตามสบายเลยจ้า”



เสียงจอมภพดังไล่หลังเอ็นดูที่หมุนตัวกอดอกเดินดุ่มๆ ออกไป น้องไม่ได้จูงมือเขาให้เดินตาม แต่ก็เหมือนกับมีอะไรบางอย่างจากตัวเอ็นดูแผ่ออกมาให้ทรงโปรดรีบสาวเท้าตามออกไปอย่างไว



“เอ็นดู”



หม่อมราชวงศ์ทรงโปรดคว้าแขนนุ่มๆ แล้วรั้งตัวน้องให้เข้าสู่อ้อมกอดตอนที่เดินเข้ามาในลานจอดรถ คนที่ตัวมีแต่กลิ่นไวน์ขับคนผิวขาวให้หันหน้ามาคุยกัน ทรงโปรดยิ้มกว้างเมื่อเห็นว่าหน้าหวานๆ หงิกงอกกว่าเดิม



“ไหนบอกพี่สิ อาการมันเป็นยังไง”



“อะไรครับ”



“โกรธอะไรพี่โปรด”



เปลี่ยนจากยืนกอดกันเฉยๆ เป็นคล้องไหล่ของคนเด็กกว่าแล้วพากันก้าวเท้าเดินไปที่เบนซ์คันหรู ทรงโปรดแหย่น้องด้วยการเขี่ยคาง



ก็โคตรน่าแกล้งเลย ตัวขาวๆ นุ่มๆ แก้มกลมน่าบีบ ปากจิ้มลิ้มยู่ๆ นี่อีก น้องไม่รู้ตัวแน่ๆ ว่าตัวเองโคตรปลุกอารมณ์เขามากแค่ไหน



ยิ่งดื่มไวน์แล้วเลือดในร่างกายมันสูบฉีดด้วยแล้ว...อย่าให้พูดเลยว่ะ



อยากกอดเอ็นดูใจจะขาด



พอหม่อมราชวงศ์ทรงโปรดปลดล็อกรถด้วยรีโมท เอ็นดูก็รีบดึงแขนคนตัวสูงให้เดินมาที่ประตูฝั่งข้างคนขับ เปิดประตูให้เสร็จสรรพแถมยังปรับเบาะให้เอนไปข้างหน้า เอ็นดูก้าวเข้าไปในรถ นั่งลงตรงเบาะหลัง เงยหน้ามองเจ้าของรถที่ยืนมองเงียบๆ ใช้แขนขาวๆ เอื้อมคล้องรอบคอคุณชายทรงโปรดให้โน้มตัวลงมา



“ขึ้นมาครับ”



คุณชายทรงโปรดไม่มีคำถาม เขาก้าวเท้ายาวๆ เข้าไปนั่งเบาะหลังทั้งที่ไม่เคยเข้าไปนั่งมาก่อน น้องขยับตัวแบ่งที่นั่งให้คุณชาย แขนคล้องลำคอแกร่งไม่ปล่อย คุณชายทรงโปรดไม่ทันได้หย่อนก้นนั่ง ริมฝีปากอุ่นๆ ก็ถูกริมฝีปากหวานฉ่ำของเอ็นดูครอบครอง



เอ็นดูผลักอกของทรงโปรดให้นั่งลงบนเบาะและเอนตัวไปกับพนักพิง ส่วนตัวเองก็ขยับตัวปีนขึ้นไปนั่งคร่อมบนตักหนาๆ ของเขาแทน ริมฝีปากอวบขยับบดเบียด ระบายไฟร้อนในอกผ่านจูบดุเดือดที่น้องเป็นฝ่ายเริ่มเอง



ใช่ว่าคุณชายเขาจะตกใจซะเมื่อไหร่ คนที่ถูกจูบยกยิ้ม วางมือหนาบนเอวเล็กๆ ของเอ็นดู ประตูรถยังไม่ทันได้ปิดน้องก็จัดเขาซะแล้ว โชคดีที่โรงจอดรถชั้นใต้ดินในร้านของพีชไม่ค่อยมีคนเอารถเข้ามาจอดเท่าไหร่ ส่วนใหญ่จะจอดกันหน้าร้าน...ที่นี่เลยมีแค่เขากับเอ็นดูกับหอบหายใจเสียงดัง



 “เด็กดี บอกพี่โปรดก่อนได้มั้ยครับว่าเป็นอะไร”



“ลงโทษก่อนแล้วค่อยบอกได้มั้ยครับ”



คนถูกลงโทษกระตุกยิ้ม น้องผละจูบได้แป๊บเดียวเท่านั้นก็ทำท่าจะโน้มลงมาจูบใหม่ แต่หม่อมราชวงศ์ทรงโปรดคนเจ้าเล่ห์เอียงหน้าหนี มองคนน่ารักที่นั่งหน้าแดงก่ำ



“พี่จะถูกลงโทษหนักมากมั้ย” เลิกคิ้วทำหน้าหล่อๆ ถามเอ็นดูที่นั่งหอบ



“หนักครับ”



“หนักยังไง” ใช้นิ้วแกร่งเขี่ยผมนุ่มทัดใบหูขาวๆ เอ็นดูที่แก้มแดงๆ ตัวขาวๆ ตอนนี้ทำให้ทรงโปรดแทบอยากจับน้องกดลงไปกับเบาะแล้วโถมตัวเข้าแรงๆ...ที่ในหัวเขาก็มีแต่อะไรแบบนี้ก็เพราะน้องเลย



“หนักยังไง”



“ให้คุณเดินไม่ได้เลย”



หม่อมราชวงศ์ทรงโปรดถูกจูบปิดปากอีกครั้งจากคนที่นั่งคร่อมแล้วบดสะโพกลงมาแน่นๆ เขากอดเอ็นดู เงยหน้ารับจูบก่อนกลายเป็นคนคุมเกมเองด้วยจูบที่อ่อนโยน ละเลียดขบริมฝีปากหวานๆ ให้น้องครางสั่น

ทรงโปรดถามตัวเองในใจ อยากรู้เหลือเกินว่าใครกันแน่ที่จะเดินไม่ได้ อยากรู้เหลือเกินว่าใครกันแน่ที่จะถูกลงโทษ



อยากรู้เหลือเกินว่าคนยั่วเก่งที่บดสะโพกปลุกเขาอยู่ตอนนี้ จะสู้กับทรงโปรดได้สักกี่น้ำ : )

 

 

 

 

 

 

#ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี









 

 







อื้อออ พี่โปรดคะ ._.

สำหรับใครที่รอเล่มถ้าได้ความคืบหน้าแล้วจะมาแจ้งให้ทราบทันทีเลยงับ


หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - special end - up 12.10.61
เริ่มหัวข้อโดย: Kx0806 ที่ 12-10-2018 16:54:31
จบค้างแบบนี้คนอ่านขาดอากาศหายใจพอดี  :z3: งื้อออออ
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - special end - up 12.10.61
เริ่มหัวข้อโดย: catka12 ที่ 12-10-2018 20:53:27
 :hao7: น้องเอาพี่โปรดอยู่จริงๆ  :hao7:   o13
FYI : เรื่องนี้ทำe-book ด้วยเถอะค่ะplease.....  :call:
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - special end - up 12.10.61
เริ่มหัวข้อโดย: unicorncolour ที่ 12-10-2018 21:30:40
 :hao6: :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - special end - up 12.10.61
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 12-10-2018 22:28:36
ตัดจบได้....ทำร้ายจิตใจมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ    :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - special end - up 12.10.61
เริ่มหัวข้อโดย: TheWanFah ที่ 13-10-2018 00:00:51
ตัดจบแบบนี้ ขาดอากาศหายใจกันพอดีเลยค่ะ 555
น้องก็ยั่วพี่เหลือเกิน
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - special end - up 12.10.61
เริ่มหัวข้อโดย: q.tr ที่ 13-10-2018 07:27:10
น้องแซ่บเวอร์  :hao7:
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - special end - up 12.10.61
เริ่มหัวข้อโดย: พระสนมฝ่ายซ้าย ที่ 13-10-2018 17:43:37
ตามทันแล้วค่า ^^
สมกับประโยคที่ว่า #ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี
อยากเม้นคำนี้ทุกหน้าเลยค่ะ กลัวเหมือนสแปม 5555
พี่โปรดหลงน้องหนักมากจริงๆ ก็น้องน่ารักน่ากอดซะขนาดนั้น
ช่วงหลังๆรู้สึกน้องดูยั่วพี่โปรดมากขึ้นนะ คนอ่านก็โดนไปด้วย 555
มารอดูน้องบดๆต่อค่ะ -////-
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - special end - up 12.10.61
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 14-10-2018 01:39:11
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - special end - up 12.10.61
เริ่มหัวข้อโดย: monkeytwin ที่ 14-10-2018 18:18:54
 :oo1: :oo1: :oo1:
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - special end - up 12.10.61
เริ่มหัวข้อโดย: Maymon ที่ 14-10-2018 22:51:13
ขอบคุณมากๆค่ะ
หวานทั้งเรื่องเลยค่ะ
อ่านแล้วลื่นไหลดีมากเลยค่ะ จะติดตามผลงานนะคะ :mew1:
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - special end - up 12.10.61
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 15-10-2018 01:30:44
 :pig4: :pig4: :pig4:

อ่าว...ทำไมฉากนั้นจึงถูกตัดฉับจบสเปฯ หล่ะเนี่ย
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - special end - up 12.10.61
เริ่มหัวข้อโดย: badbadsumaru ที่ 15-10-2018 05:03:42
ตายๆ เอ็นดูลูกกกกก
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - special end - up 12.10.61
เริ่มหัวข้อโดย: Ice_Iris ที่ 17-10-2018 21:01:26

ขอบคุณที่แบ่งปันขอรับ
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - special end - up 12.10.61
เริ่มหัวข้อโดย: aoihimeko ที่ 18-10-2018 12:14:50
ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีๆจ้า
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - special end - up 12.10.61
เริ่มหัวข้อโดย: miwmiwzaa ที่ 23-10-2018 03:25:51
ขอบคุณ​ค่า
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - special end - up 12.10.61
เริ่มหัวข้อโดย: aurusma ที่ 23-10-2018 15:38:17
 :hao5: ชอบมากกก ขอบคุณมากๆนะคะ
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - special end - up 12.10.61
เริ่มหัวข้อโดย: khunkun91 ที่ 23-10-2018 16:18:33
ชอบมากๆ พี่โปรดกับน้องเอ็นดู ดีไปหมดเลยยยยย
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - special end - up 12.10.61
เริ่มหัวข้อโดย: cinpetals ที่ 26-10-2018 13:37:54
ทำไมน้องดุขนาดนี้ คึคึ :haun4:
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ตอน 01 - up 23.8.61
เริ่มหัวข้อโดย: Noname_memi ที่ 29-10-2018 15:27:54
หูยยยยย น่าตื่นเต้นมากค่ะ ท่าทางจะแซ่บ
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ตอน 02 - up 24.8.61
เริ่มหัวข้อโดย: Noname_memi ที่ 29-10-2018 15:46:23
ชายโปรดดดดดด ร้ายนะเราอะ :hao7:
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ตอน 03 - up 28.8.61
เริ่มหัวข้อโดย: Noname_memi ที่ 29-10-2018 15:59:51
ฮืออออ ไม่ไหวค่ะ ทรงตัวไม่อยู่ ละมุนเหลือเกิน แต่ว่านะ

เอ็นดูนี่ดูมีอะไรกับชายโปรดนะคะ เขินหรือยังไง ทำไมไม่มอง

หน้าหรือแอบชอบชายโปรดคะลูก
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ตอน 04 - up 29.8.61
เริ่มหัวข้อโดย: Noname_memi ที่ 29-10-2018 16:15:41
ชายโปรดร้ายยย สงสารเอ็นดูในอนาคตทีเดียว

ส่วนคุณหญิงป้าคะ ไอ้เราก็ตกใจนึกว่าจะว่าที่เป็นผชทั้งคู่

ที่ไหนได้ดันมาทำให้เข้าทางชายโปรดซะงั้น  :laugh:
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ตอน 05 - up 30.8.61
เริ่มหัวข้อโดย: Noname_memi ที่ 29-10-2018 16:29:30
รุกน้องหนักเกินไปแล้วค่ะคุณชายโปรด เราเขินจะตายแล้ววว
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ตอน 10 - up 6.9.61
เริ่มหัวข้อโดย: Noname_memi ที่ 29-10-2018 19:56:37
ชอบที่เอ็นดูตอบกลับภูผา และชอบที่ชายโปรดเหยียบเท้าภูผา  :laugh:

แบบรู้สึกสะใจอะ ส่วนเราเหรอตอนนี้พอๆ กับชื่อเรื่องเลยค่ะ
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ตอน 12 - up 13.9.61
เริ่มหัวข้อโดย: Noname_memi ที่ 29-10-2018 21:17:55
น้องงงง  :ling2:  เราตายไปแล้ว  :jul1: ตอนนี้ล่องลอยยิ่งกว่าวิญญาณ

มันมากกว่าขาดอากาศหายใจอะค่ะ มันแบบจะตายอะ

ฮอตเว่อร์ เหิกกก  :haun4: เอ็นดูเปลี๋ยนไป๋ ตาย ตาย ตายย

ป.ล. เกลียดคนรวยจังค่ะ กับการทิ้งมือถือกับลำโพงตากฝนเนี่ย

ทีหลังบอกเราได้ค่ะ เราจะรีบไปเก็บ สาบานว่าจะไม่แอบดูเลยค่ะ
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ตอน 14 - up 20.9.61
เริ่มหัวข้อโดย: Noname_memi ที่ 29-10-2018 21:42:31
 :เฮ้อ: เราเหนื่อยจังเลยค่ะ เหนื่อยที่หายใจไม่ค่อยทันค่าาาา

เบาหวานจะขึ้นตาไปหมดแล้ว งดน้ำตาลสักเดือนจะพอไหม
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ตอน 15 - up 25.9.61
เริ่มหัวข้อโดย: Noname_memi ที่ 29-10-2018 22:05:30
 :katai1: แต่ได้ร้องออกมาว่า นี่มัน...อะไรเนี่ย! ฮือ

เอ็นดูต้องปลอดภัยนะ
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ตอน 17 - up 26.9.61
เริ่มหัวข้อโดย: Noname_memi ที่ 29-10-2018 22:41:44
ถึงกับขำออกเสียงตอนที่เอ็นดูพูด กราบถวาย..  :jul3:
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ตอน 20 end - up 4.10.61
เริ่มหัวข้อโดย: Noname_memi ที่ 30-10-2018 00:18:09
อ้าว  :katai1: เพิ่งเห็นว่าจบแล้ว   :o12: อ่านเพลินมากเลยค่ะ

จะมีตอนพิเศษไหมคะ สนุกมากๆ ชอบมากค่ะ ยังไม่อยากให้จบเลย
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - special end - up 12.10.61
เริ่มหัวข้อโดย: Noname_memi ที่ 30-10-2018 01:30:15
เอ็นดูววววว เราต้องการไม้เรียวค่ะ ฮือ อะไรจะปานนั้นลูกก
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - special end - up 12.10.61
เริ่มหัวข้อโดย: sk_bunggi ที่ 02-11-2018 11:37:54
ฮื่อออออ ไม่ไหวๆ ใจบางแทนหนูเอ็นดูไม่ทันเลย  :-[ :-[
ร้ายกาจทั้งพี่ทั้งน้อง ขี้ยั่วเหมือนกัน เด่วจับตีเลย งื้อออออออ
พี่โปรด น้องเอ็นดู #ตายอย่างสงบ ศพสีชมพู  :m25: :m25:
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - special end - up 12.10.61
เริ่มหัวข้อโดย: Nobodylove ที่ 03-11-2018 21:26:58
โอ้ยยยยย เขินนนนนน โอ้ยยยยย  ยิ่งฉาก NC คือตายยยยยย :haun4: :jul1:  ชอบบบบบบบ ชอบมากกกกกกกก ขอบคุณคนแต่งมากเลยค่ะ
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - special end - up 12.10.61
เริ่มหัวข้อโดย: booboos ที่ 04-11-2018 15:35:48
 :L2:   น่ารักจัง
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - special end - up 12.10.61
เริ่มหัวข้อโดย: sira_nann ที่ 04-11-2018 22:02:46
ขอบคุณค่ะ  :pig4: :pig4:

 :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - special end - up 12.10.61
เริ่มหัวข้อโดย: ฟ้าใสคนนอกโลก ที่ 26-11-2018 18:26:07
โคตรดี โคตรละมุนนนนน ใจบางมากกกกกกก  :impress2: :impress2:
หัวข้อ: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ( แจ้งข่าวตีพิมพ์ หน้า8 ) - 9.12.61
เริ่มหัวข้อโดย: Swanlee ที่ 09-12-2018 09:26:00


สวัสดีค่ะ หลังจากที่หายไปนานพอสมควร วันนี้จะมาแจ้งข่าวว่า
ทำแบบนี้...ขาดอากาศหายใจพอดี ตีพิมพ์กับสำนักพิมพ์ everY นะคะ
งะฮ่อ เกียมตังหยอดน้องปุ๊กหมูรอรับพี่โปรดกับน้องเอ็นดูไปไว้ในอ้อมกอดได้เลย

ในเล่ม มีสเปเชี่ยล (ถ้าจำไม่ผิด น่าจะ 5 ตอนค่ะ) ที่การันตีว่าหวานและสนุกแน่นอนค่ะ
ส่วนออกวันไหน ปกมาให้อวดเมื่อไหร่รอติดตามกันนะคะ คร่าวๆ น่าจะวางแผงช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ปี 62 ค่ะ

ถ้ามีอัพเดตอะไรเกี่ยวกับพี่โปรดน้องเอ็นดู จะรีบมาแจ้งเลยค่า


เจอกันนิยายเรื่องใหม่ เร็วๆ นี้ได้อ่านแน่นอนค่า : )




ขอบคุณที่รอ ขอบคุณที่ยังอยู่ด้วยกัน <3






#ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี




หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ( แจ้งข่าวตีพิมพ์ หน้า8 ) - 9.12.61
เริ่มหัวข้อโดย: Gatjang_naka ที่ 10-12-2018 20:36:53
ละมุนมากจ้า 555 ฉากสุดท้าย คลาดว่าคนที่เดินไม่ได้ คงไม่ใช่พี่โปรดหรอก :hao7:
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ( แจ้งข่าวตีพิมพ์ หน้า8 ) - 9.12.61
เริ่มหัวข้อโดย: kinjikung ที่ 05-01-2019 12:02:18
นิยายของคุณ swanlee เป็นนิยาย feel good ที่ไม่มีดราม่ามาทำให้เครียด เราชอบแนวนี้อ่านสบายดี แต่เรื่องนี้เรารู้สึกว่าคุณ swanlee ใช้คำบรรยายเกี่ยวกับตัวนายเอกเยอะมาก เราอ่านแล้วรู้สึกว่า นี่น้องเอ็นดูกลายเป็นของเหลวอะไรซักอย่างไปแล้ว 555 ส่วนฉากนั้น เฮ้ยน้องมาเหนือมาก ครั้งแรกนึกว่าน้องจะเหนียมอายซะอีก น้องดูเป็นงานมากจริงๆ แอบขัดแย้งกับลักษณะภายนอก หรือน้องแอบไปศึกษาตามเวปมา สุดท้ายขอบคุณคนแต่งมากสำหรับนิยายเบาๆ อีกเรื่อง
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ( แจ้งข่าวตีพิมพ์ หน้า8 ) - 9.12.61
เริ่มหัวข้อโดย: ItIsMe ที่ 06-01-2019 12:37:10
พี่โปรด น้องเอ็นดูมากกกกกกก ชอบความน่ารัก ความไม่ดราม่า อ่านแล้วสบายใจดีจัง มีวามสัขกับตัวละครมากๆ

รอตอพิเศษ หรือเรื่องต่อไปของคนเขียนน้า
ขอบคุณนิยายที่านุก ๆ น้า
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ( แจ้งข่าวตีพิมพ์ หน้า8 ) - 9.12.61
เริ่มหัวข้อโดย: TheDoungJan ที่ 09-01-2019 16:56:22
ฮื่ออ. คือน่ารักมากๆๆๆ พลาดไปสุดๆเลย เห็นเรื่องนี้ตั้งแต่อัพแรกจนจบแต่ก็ไม่ได้เข้ามาอ่าน. จนมีน้องแนะนำมา คือดีมากๆเลยค่ะ อ่านไปอมยิ้มไป น้องเอ็นดูในความคิดเราคือน้องหนุบหนับน่าบีบน่าฟัดมากเลย จนถึงฉากนั้น หึหึ น้องดุมาก รู้กเอ้ยย ไปหัดมาจากไหน ใจทรงโปรดละลายหมดแล้ว คนเขียนบรรยายให้เราหลงรักน้องมาก นอกจากชื่อเรื่องที่ทำเราหายใจไม่ทันแล้วน้องเอ็นดูกับพี่โปรดก็ทำเราเขินจนขาดอากาศหายใจด้วยค่ะ  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ( แจ้งข่าวตีพิมพ์ หน้า8 ) - 9.12.61
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 13-01-2019 20:24:40
น่ารักมากเลยเอ็นดูของพี่โปรด :กอด1:
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ( แจ้งข่าวตีพิมพ์ หน้า8 ) - 9.12.61
เริ่มหัวข้อโดย: pamhicc ที่ 13-01-2019 23:13:46
เหม็นความรักมากกกก อิจฉาาาา น้องเอ็นูนี่ก็แอบแซ่บตลอด
น่ารักมากๆเลยค่า  :pig4:
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ( แจ้งข่าวตีพิมพ์ หน้า8 ) - 9.12.61
เริ่มหัวข้อโดย: mizzmizz ที่ 18-01-2019 19:45:28
ขี้ยั่วอะไรขนาดนั้นล่ะลูกกกก
ปล.ขอบคุณนะคะที่แต่งนิยายน่ารักๆ ให้เราเสพ
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ( แจ้งข่าวตีพิมพ์ หน้า8 ) - 9.12.61
เริ่มหัวข้อโดย: Parapoyfaii ที่ 20-01-2019 07:59:27
จบแล้ววววว
แงง บรรยากาศอบอุ่นไปหมดเลยยย ชอบมากกก
ส่วนน้องก็คือนุ่มนิ่มไปหมด อยากบีบน้อง น่าเอ็นดูสมชื่อมาก
ในด้านของพี่โปรดก็คือ อห speechless สุด คนอะไรเพอร์เฟคได้ขนาดนี้
เหมาะสมกันสุดแล้วคู่นี้ ดีงามมากๆ
ขอบคุณคนแต่งนะคะที่แต่งนิยายดีๆ อ่านแล้วใจฟูสุด
ขอบคุณค่า  :mew1: o13
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ( แจ้งข่าวตีพิมพ์ หน้า8 ) - 9.12.61
เริ่มหัวข้อโดย: Aunttk ที่ 14-02-2019 00:31:45
ไม่อยู่นะคะ..ตายยยยยยยย  :hao5:
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ( แจ้งข่าวตีพิมพ์ หน้า8 ) - 9.12.61
เริ่มหัวข้อโดย: memozy ที่ 14-02-2019 11:52:05
งื้ออออ น้องน่ารักน้องเอ็นดูกับพี๋โปรด
ขอบคุณสำหรับนิยาย  :o8: :-[ o13
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ( แจ้งข่าวตีพิมพ์ หน้า8 ) - 9.12.61
เริ่มหัวข้อโดย: SaJung13 ที่ 22-04-2019 20:39:20
น้องเอ็นดูน่ารักกกกกกก
อยากได้ไว้เอง
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ( แจ้งข่าวตีพิมพ์ หน้า8 ) - 9.12.61
เริ่มหัวข้อโดย: chatchawewe ที่ 22-04-2019 21:28:04
 :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ( แจ้งข่าวตีพิมพ์ หน้า8 ) - 9.12.61
เริ่มหัวข้อโดย: zoiesty ที่ 13-06-2019 13:48:55
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ( แจ้งข่าวตีพิมพ์ หน้า8 ) - 9.12.61
เริ่มหัวข้อโดย: nano ที่ 15-06-2019 23:59:23
โอ้ยยยย แทบขาดอากาศหายใจจริงๆนะ
อะไรจะฟินขนาดนี้  น่ารัก อ่านแล้วฟินทั้งเรื่อง
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ( แจ้งข่าวตีพิมพ์ หน้า8 ) - 9.12.61
เริ่มหัวข้อโดย: ตุยชิคชิค ที่ 13-07-2019 04:35:00
ฮือออ ผิดผีกับน้อวแล้วนะคุณชายโปรดด :katai3:
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ( แจ้งข่าวตีพิมพ์ หน้า8 ) - 9.12.61
เริ่มหัวข้อโดย: cirrus ที่ 18-07-2019 00:38:45
คุณป้าก็ไม่ได้หัวโบราณหนิ นึกว่าจะดราม่ากะคุณป้าซะอีก555555
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ( แจ้งข่าวตีพิมพ์ หน้า8 ) - 9.12.61
เริ่มหัวข้อโดย: sailom_orn ที่ 26-07-2019 22:16:38
 :L1: เรื่องนี้หงานมาก ตามมาก็จากคุณชายเพลิง
อ่าน2เรื่องนี้น้ำตาลในเลือดจะขึ้นไม๋เนี่ย :heaven ฟิยฝน
ขอบคุณผู้แต่งค่า
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ( แจ้งข่าวตีพิมพ์ หน้า8 ) - 9.12.61
เริ่มหัวข้อโดย: van16 ที่ 28-07-2019 18:57:14
สนุกค่ะ เอ็นดูน่าเอ็นดูสมชื่อ น่ารักน่าบีบมากๆ
ชอบอ่านแนวนี้ อ่านไปยิ้มไป หวานๆ แก้เครียดดีค่ะ
 :pig4:   :pig4:
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ( แจ้งข่าวตีพิมพ์ หน้า8 ) - 9.12.61
เริ่มหัวข้อโดย: AngPao1932 ที่ 30-07-2019 03:37:44
ฟิลละมุน หุงอุ่นตุ๋นต้มนึ่งมาก ดีงามหวานเยิ้มทั้งเรื่อง ขอบคุณมากเลยจ้าาาาาาาาาาา :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ( แจ้งข่าวตีพิมพ์ หน้า8 ) - 9.12.61
เริ่มหัวข้อโดย: mu_mam555 ที่ 09-08-2019 18:42:35
สนุกมากเลยค่ะ
ดีต่อใจละมุนละมัย ไร้มาม่า
ขอบคุณมากค่าที่เขียนเรื่องนี้มาให้อ่าน
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ( แจ้งข่าวตีพิมพ์ หน้า8 ) - 9.12.61
เริ่มหัวข้อโดย: Tonson777 ที่ 24-11-2019 16:24:05
ละมุนละไมหว่นจนน้ำตาลขึ้นตาจริงๆสำหรับคู่นี้ :mew1:
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ( แจ้งข่าวตีพิมพ์ หน้า8 ) - 9.12.61
เริ่มหัวข้อโดย: Aunttk ที่ 19-01-2020 21:18:35
เกียมไม้เรียว วันนี้แม่ต้องได้ตีลูกแน่ๆ เอ็นดู ยั่วเก่งงงง  :hao7:
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ( แจ้งข่าวตีพิมพ์ หน้า8 ) - 9.12.61
เริ่มหัวข้อโดย: Bear Company ที่ 22-01-2020 20:07:12
 :-[
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ( แจ้งข่าวตีพิมพ์ หน้า8 ) - 9.12.61
เริ่มหัวข้อโดย: kimhamwong ที่ 25-01-2020 07:06:47
 :ling1หวานมากกก ละมุน น้องเอ็นดู นุ่มนิ่มน่าฟัด
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ( แจ้งข่าวตีพิมพ์ หน้า8 ) - 9.12.61
เริ่มหัวข้อโดย: ffern ที่ 17-02-2020 23:48:05
นิยายคุณhealใจเรามากๆเลยค่ะ มันfeel goodที่สุดเลย ชอบมากกลายเป็นนิยายในลิสต์ที่ปักใจไปเเล้ว อยากไปป่าวประกาศให้ทุกคนได้รู้จักชายโปรดกับน้องเอ็นดู เอ็นดูเป็นนายเอกไทป์เรามากๆน้อง้หมือยของเหลวนุ่มๆ อ่านเเล้วใจบาง ตอนเเรกที่เริ่มอ่านไม่คิดว่าจะสนุกขนาดนี้ เเต่มันกินใจเรามากเลย เราชอบมากชอบจริงๆ ชอบทุกอย่างของเรื่องนี้เลย เราหลงรักเอ็นดูกับพี่โปรดมากๆเรียกว่าอ่านรวดเดียวจบเลย  ดีมากน่ารักที่สุด ขอบคุณนิยายดีๆนะคะ :mew1: o13
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ( แจ้งข่าวตีพิมพ์ หน้า8 ) - 9.12.61
เริ่มหัวข้อโดย: samsung009 ที่ 26-02-2020 22:44:49
 :pig4:
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ( แจ้งข่าวตีพิมพ์ หน้า8 ) - 9.12.61
เริ่มหัวข้อโดย: nOn†ღ ที่ 15-04-2020 14:04:15
 :pig4:
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ( แจ้งข่าวตีพิมพ์ หน้า8 ) - 9.12.61
เริ่มหัวข้อโดย: BM_CBC ที่ 01-01-2022 01:02:44
 :pig4:
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ( แจ้งข่าวตีพิมพ์ หน้า8 ) - 9.12.61
เริ่มหัวข้อโดย: Maeo ที่ 08-01-2022 11:07:54
เขินไม่ไหวแล้ว  :hao7:
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ( แจ้งข่าวตีพิมพ์ หน้า8 ) - 9.12.61
เริ่มหัวข้อโดย: Pakeleiei ที่ 12-01-2022 18:11:45
ดีมากเลยมุแงงงงงง ฟิลกู๊ดมากๆๆๆ

อ่านแล้วรู้สึกตามชื่อเลย สนุกมากค่าาา
หัวข้อ: Re: { yaoi } • ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี - ( แจ้งข่าวตีพิมพ์ หน้า8 ) - 9.12.61
เริ่มหัวข้อโดย: airicha ที่ 12-01-2022 23:16:38
หวานทั้งเรื่อง
น้องเอ็นดูน่ารักน่าบีบ
ขอบคุณสำหรับนิยายน่ารักๆค่ะ