11
ไม่ได้โหยหาความรักหรอกนะ
โหยหาแต่คุณนั่นแหละ
: )
เอ็นดูกำลังคิดว่าเย็นนี้จะกลับไปทำอะไรกินเป็นมื้อค่ำดีทั้งๆ ที่ยังนั่งฟังเสียงอาจารย์บรรยายบทความเกี่ยวกับเศรษฐกิจซบเซาเป็นภาษาอังกฤษในชั่วโมงเรียน
ตาเรียวจ้องโปรเจ็กเตอร์ นิ้วขาวสวยควงปากกา แต่ใจนี่ลอยไปไหนต่อไหนแล้วก็ไม่รู้
เมื่อเช้าไม่ได้กินข้าวเพราะมัวแต่วุ่นวายแต่กับเรื่องรถ ขนาดจอดรถในคอนโดยังไม่ทันขับออกไปไหนก็ถูกรถอีกคันถอยมาชนจนกระโปรงหน้าเปิด ไฟหน้าแตกกระจาย สัญญาณนิรภัยในรถ Lexus ร้องเตือนเสียงดังทั่วทั้งลานจอดรถชั้นนั้น
คนที่ขับมาชนยังเป็นเด็กนักเรียนอยู่เลย
เอ็นดูรีบวิ่งออกมาดูสถานการณ์ทั้งที่ยังแปรงฟันล้างหน้าไม่เสร็จ น้องนักเรียนยกมือขอโทษขอโพยยกใหญ่ น้องเป็นเด็กผู้ชายอวบๆ ขาวๆ น่ารัก ท่าทางจะร้องไห้ของเด็กคนนั้นทำเอาเอ็นดูไม่อยากเอาเรื่องอะไรเลย
จริงๆ เอ็นดูไม่ได้โกรธอยู่แล้ว รถมีประกันไม่ค่อยเดือดร้อนอะไรเท่าไหร่ น้องนักเรียนบอกว่าจะให้คุณพ่อมาช่วยเคลียร์และจ่ายค่าเสียหายส่วนอื่นๆ ให้ แต่เอ็นดูปฏิเสธ ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของประกันภัยจัดการก็พอ เขาไม่ติดใจเอาเรื่องแถมยังปลอบเด็กนักเรียนที่น่าสงสารคนนั้นอีกด้วย
เรื่องจบตอนที่เจ้าหน้าที่ประกันภัยมาถึง ทำเรื่องแป๊บเดียวเอ็นดูก็บอกให้น้องคนนั้นไปโรงเรียนได้แล้ว
ส่วนเอ็นดูก็นั่งแท็กซี่ฝ่ารถติดมาเรียน
Prod: แล้วเย็นนี้จะกลับเองหรือไง
Prod: รอที่มอมั้ย เดี๋ยวไปรับ
เอ็นดูกลั้นยิ้ม ละสายตาจากโปรเจ็กเตอร์มาจ้องโทรศัพท์แทน
นอกจากคุณแม่ที่รู้ว่าหลังจากนี้ยาวไปเกือบเดือนเอ็นดูจะไม่มีรถใช้งานเพราะถูกยกไปเคลม ก็มีทรงโปรดนี่แหละที่รู้เรื่องนี้ด้วยเหมือนกัน นับว่าเขาคือคนแรกเลยที่เอ็นดูเล่าเรื่องเมื่อเช้าให้ฟัง
หม่อมราชวงศ์ทรงโปรดทำท่าจะมารับเอ็นดูไปเรียนตั้งแต่เมื่อเช้าแล้ว แต่ตอนนั้นเอ็นดูนั่งอยู่บนแท็กซี่และกำลังจะถึงมหา’ลัยเลยปฏิเสธคนตัวสูงที่ทำเสียงเป็นห่วงเป็นใยผ่านโทรศัพท์
คอนโดอยู่ไกลกันขนาดนั้น เอ็นดูไม่อยากให้เขาฝ่ารถติดตอนเช้าๆ หรอก
ถึงแม้ว่าอยากจะเจอหน้าเขามากแค่ไหนก็ตาม
ผ่านมาหนึ่งเดือนกว่าๆ หลังจากที่ไปได้มีโอกาสเข้าไปเยี่ยมวังภัสร์ฤทัย เอ็นดูใช้ชีวิตปกติเหมือนเดิมทุกอย่าง แต่มีอย่างหนึ่งที่ไม่ปกติเท่าไหร่ก็คือ...ความสนิทสนมที่เอ็นดูมอบให้ทรงโปรด
พวกเขาสนิทกันมากขึ้น หนำซ้ำยังสนิทกันเหมือนกับว่ารู้จักมาเป็นปีๆ ด้วย
ไม่รู้ว่าหาเรื่องอะไรมาคุยกันได้มากมายขนาดนี้ ชีวิตของเอ็นดูไม่ได้หวือหวา แต่ก็มีเรื่องคุยกับทรงโปรดทุกชั่วโมงเลย ทรงโปรดเองก็เหมือนกัน เขาพูดคุยกับเอ็นดูอย่างเป็นธรรมชาติ ไม่มีจังหวะไหนที่ต่างคนต่างเงียบเพราะหมดเรื่องคุยเลยสักครั้ง
เอ็นดูรู้สึกตื่นเต้นกับการได้คุยกับทรงโปรดทุกครั้ง ไม่ว่าจะแชต โทรคุย วิดีโอคอลล์ หรือว่าเจอหน้า
เจอหน้านี่ยิ่งแล้วใหญ่...ตื่นเต้นกว่าเดิมไปอีก
N-Doo: คุณเลิกงานสามทุ่มไม่ใช่เหรอครับ
Prod: เลิกกี่โมงก็ได้ถ้าเราอยากให้ไปรับ
N-Doo: ไม่รบกวนคุณดีกว่า
N-Doo: ตั้งใจทำงานเถอะครับ
Prod: โอเค
Prod: เดี๋ยวเย็นนี้ไปรับ
อ่าว...
Prod: คืนนี้ขอนอนด้วยนะ
Prod: ถ้าหอบงานไปทำด้วยจะโกรธมั้ย
N-Doo: จะโกรธทำไมล่ะครับ
N-Doo: เรื่องของคุณนี่นา
Prod: กลัวมีใครบางคนงอแงที่สนใจงานมากกว่า
Prod: เดี๋ยวโดนทำหน้ามุ่ยใส่อีก
N-Doo: ผมไม่ได้งอแงสักหน่อย
Prod: แต่หนีไปนอนก่อน แถมไม่ยอมให้กอดอีกต่างหาก
N-Doo: ไม่คุยด้วยแล้วนะครับ ผมต้องเรียนต่อ
ไม่อยากโดนเขาล้อเลยชิ่งหนีด้วยการล็อกหน้าจอโทรศัพท์ เอ็นดูไม่ได้โกรธนะที่เขายกเรื่องนี้มาพูด แต่ขำตัวเองมากกว่าที่ดันไปงอนทรงโปรดทั้งที่รู้ว่าเขามีงานด่วนต้องทำ
เรื่องมันเกิดขึ้นเมื่อวานซืนที่ผ่านนี่เอง หม่อมราชวงศ์ทรงโปรดขับรถฝ่าฝนเพื่อมานอนค้างที่คอนโดของเอ็นดู ความจริงไม่ได้ตั้งใจจะงอนหรืองอแงอะไรเลยนิด แต่ตอนนั้นตีสองแล้ว ทรงโปรดยังนั่งหลังแข็งทำงานอยู่ในห้องนอนอยู่เลย ด้วยความ...เป็นห่วง เอ็นดูเลยเรียกให้เขามานอนอีกครั้ง...อือ น่าเป็นรอบที่สิบได้แล้วมั้ง
แล้วทรงโปรดก็ทำให้เอ็นดูคิดว่าเขาจะเดินมานอนจริงๆ
หม่อมราชวงศ์ทรงโปรดหันมาส่งยิ้มให้ก่อนจะลุกขึ้นเดินมาที่เตียง เอ็นดูจำได้ว่าตัวเองก็คลี่ยิ้มตอนที่คนตัวสูงโน้มตัวลงมาจูบปลายจมูก คนผิวขาวเอื้อมมือคว้าข้อมือหนา ออกแรงกระตุกเล็กน้อยส่งสัญญาณให้เขารู้ว่าควรล้มตัวลงนอนได้แล้ว แต่ทรงโปรดกลับส่ายหน้า จุมพิตหน้าผากเอ็นดูแล้วผละตัวออกเดินกลับไปนั่งทำงานเหมือนเดิม
อือ เอ็นดูเหวอไปเลย
ทรงโปรดไม่มีทางเข้าใจหรอกว่า
เอ็นดูอยากให้เขามานอนกอดจะแย่แล้ว
ก็นั่นแหละ เอ็นดูเลยเผลองอแงใส่ด้วยการหยิบมาห่มมาคลุมโปง นอนถอนหายใจฟึดฟัดไม่สนใจว่าทรงโปรดจะเรียกหรือชวนคุยยังไง จนกระทั่งไม่กี่นาทีต่อมาที่เอ็นดูได้ยินเสียง MacBook ของทรงโปรดถูกพับฝาปิดพร้อมกับเสียงเก้าอี้ลากพื้นดังครืด และตามมาด้วยเตียงที่ยวบลงเพราะน้ำหนักของทรงโปรดที่โถมลงมา เขาดึงหน้าห่มผืนใหญ่ออกให้พ้นใบหน้าขาวของเอ็นดู แต่สุคนตัวเล็กก็ดึงมันขึ้นมาปิดหน้าอีกครั้ง
‘เดี๋ยวหายใจไม่ออก’
‘...’
‘เอ็นดู’
หายใจไม่ออกจริงๆ แต่เอ็นดูก็นอนเม้มปากผ่อนลมหายใจฟึดฟัดอยู่อย่างนั้นจนกระทั่งทรงโปรดดึงผ้าห่มออกอีกครั้ง แต่คราวนี้เขาดึงออกจากตัวของเอ็นดูเลย แถมยังโยนทิ้งไว้บนพื้นข้างเตียงอีกต่างหาก
‘เอาผ้าห่มคืนมาเลยนะครับ’
‘ทำไมหน้างอ’
‘ไม่ได้งอ หน้าปกติครับ’
‘นี่ไม่ปกติแล้ว’
‘ผมง่วงแล้ว’
‘อย่าเพิ่งนอน’
‘ผมง่วง’
‘ขอโทษที่มัวแต่ทำงานแล้วไม่ได้มากอดเราเลย’
‘…’
‘กอดแล้วนะครับ หายงอนได้แล้ว’
‘ผมไม่ได้งอนนะคุณ’
‘อือ แต่งอแง’
‘เฮ้อ’
บอกเลยว่านึกถึงทีไรก็นั่งขำตัวเองจนไหล่สั่นจริงๆ
แล้วสุดท้ายในคืนนั้นเอ็นดูก็ผล็อยหลับจมอ้อมกอดทรงโปรด และการที่ตัวเองงอแงครั้งนั้นครั้งเดียว คนตัวสูงก็หยิบเรื่องนี้มาล้อกันไม่เลิกสักที
เขาบอกว่าชอบให้เอ็นดูงอแงใส่บ่อยๆ
เพราะทรงโปรดชอบปลอบ ชอบง้อให้เอ็นดูหายงอแง
แล้วก็ไม่มีสมาธิเรียนเพราะนอกจากในหัวจะมีแต่เรื่องของกินเย็นนี้ ยังมีเรื่องของทรงโปรดมารบกวนจิตใจให้ยิ้มกริ่มแก้มร้อนคนเดียวจนเพื่อนที่นั่งข้างๆ หันมอง
กระทั่งโทรศัพท์สั่นครืดเพราะมีสายเข้า โทรศัพท์ที่วางอยู่บนโต๊ะสั่นแรงจนเกิดเสียงดัง เอ็นดูรีบหยิบขึ้นมาแล้วกุมไว้แน่นก่อนหันไปพึมพำขอโทษเพื่อนที่นั่งเหลือบตามองอยู่ข้างๆ
ก้มหน้ามองหน้าจอโทรศัพท์ที่สว่างวาบพลันหลุดยิ้มอีกครั้งเมื่อเห็นว่าใครเป็นคนโทรเข้ามา แต่สุดท้ายเอ็นดูก็ตัดสายทิ้งก่อนกดเข้าแอพพลิเคชั่นที่ใช้แชตกับคนคนนั้น
N-Doo: ผมเรียนอยู่นะคุณ
Prod: ช่วยอะไรหน่อย
N-Doo: อะไรครับ
Prod: ช่วยหา How to ทำยังไงให้หายคิดถึงเอ็นดูหน่อยครับ
ฮือ คนบ้า!
ถ้าคิดจะโทรมากวนเพื่อหยอดกันแค่นี้นะ สาบานได้ว่าเอ็นดูคงทำเป็นไม่สนใจเขาแน่ๆ
ไม่น่าแชตไปถามเลย
Prod: ว่าไง มีมั้ย
N-Doo: ไม่มีครับ
Prod: เหรอ แย่เลย
Prod: คนที่คิดอยู่น่ารักมากๆ อยากให้ช่วยลดความน่ารักลงหน่อย
N-Doo: ผมไม่ได้น่ารักนะคุณ
N-Doo: คิดไปเองหรือเปล่าครับ
Prod: คนน่ารักมักบอกว่าตัวเองไม่น่ารัก
เอ็นดูเกาท้ายทอยเบาๆ พลางเม้มปาก ไม่รู้ว่าทรงโปรดว่างมากหรือไงถึงได้เอาแต่แกล้งกันแบบนี้ตลอด
N-Doo: ถ้าไม่มีอะไรผมจะปิดเน็ตแล้วนะครับ
เอ็นดูเลยทำเมินข้อความของเขา เปลี่ยนเรื่องสนทนาเอง พยายามไม่ให้ทรงโปรดหยอดคำหวานได้อีก คนผิวขาวรู้ว่าตอนนี้ตัวเองชักจะเกิดอาหารพ่ายแพ้ให้กับทรงโปรดมากเกินไปแล้ว
ก็แพ้มาตั้งนานแล้วแหละ แต่พอนับวันยิ่งรู้สึกว่า...แพ้มากขึ้นไปทุกที
Prod: มี
Prod: คิดถึงมากๆ ถ้าเจอแล้วขอกอดหน่อยได้หรือเปล่า
N-Doo: แล้วแต่คุณเลยครับ
ก็ถูกกอดทั้งๆ ที่ไม่ได้ถูกขออนุญาตมาหลายครั้งแล้ว
Prod: กอดแน่นๆ ก็ได้ใช่มั้ย
N-Doo: (ส่งสติ๊กเกอร์หมีพยักหน้า)
Prod: แล้วเอ็นดูจะกอดพี่กลับด้วยได้หรือเปล่า
N-Doo: (ส่งสติ๊กเกอร์หมีทำมือ OK)
Prod: แล้วถ้าขอให้เอ็นดูจูบด้วยได้มั้ย
N-Doo: ผมไม่ชอบจูบใครก่อนครับ
Prod: ไม่เป็นไร พี่จัดการเอง
ปากจิ้มลิ้มมุบมิบตอนที่อ่านข้อความนั้นจบ เอ็นดูไม่มีภูมิต้านทานทรงโปรดแล้ว ไม่สิ เอ็นดูไม่เคยมีภูมิต้านทานเขามาตั้งแต่แรกแล้วต่างหาก
คนผิวขาวก้มมองเวลาบนหน้าจอโทรศัพท์ เกิดอยากให้เวลาเดินเร็วกว่านี้เพื่อที่จะได้เจอทรงโปรดไวขึ้น
ความรู้สึกแบบนี้คงเป็นอาการเดียวกับทรงโปรดเป็นอยู่
เป็นอาการที่...
อยากจะขอ How to ทำยังไงไม่ให้คิดถึงเขามากเกินไป
*****
ซุปเปอร์มาร์เก็ตในห้างดังเป็นสถานที่ที่ทรงโปรดพาเอ็นดูมาเลือกซื้อของเข้าตู้เย็น รวมทั้งของใช้บางส่วนของเขาเอง
หม่อมราชวงศ์ทรงโปรดเข็นรถเข็นอยู่หน้าโซนอาหารสด ตาคมมองแผ่นหลังบางของคนผิวขาวเพลินตา น้องหยิบนู่นจับนี่ใส่ตะกร้า รู้เลยว่าเอ็นดูก็ช็อปปิ้งเก่งไม่เบาเหมือนกัน
“เบื่อหรือยังคุณ”
“ไม่เบื่อ เพลินดี”
ไม่เบื่อจริงๆ
เพราะน้องน่ามองมากเขาเลยมีจุดโฟกัสสายตา
แก้มยุ้ยขาวนวลของน้องน่ากัดเวลาก้มมองของในชั้นอาหาร แก้มน้องยุ้ยๆ ฟูๆ ดูนิ่มจนทรงโปรดแทบอดใจไม่ไหว อยากกัดให้รู้แล้วรู้รอด
น่ารักอะไรขนาดนี้วะ
นี่เขาพูดคำนี้ไปกี่ครั้งแล้วเนี่ย
“เสร็จแล้วครับ...” น้องหยิบเนื้อหมูถาดสุดท้ายใส่รถเข็น แล้วก็ต้องชะงักเมื่อสายตาเห็นโรลออนขวดสีดำยี่ห้อหนึ่งวางอยู่ในนั้น “ของคุณเหรอครับ”
ปลายนิ้วชี้เรียวขาวชี้ไปที่ขวดสีดำ
“ใช่”
“ที่ห้องคุณหมดแล้วเหรอครับ”
ทรงโปรดยกหลังมือถูกปลายจมูกเบาๆ
ที่เอ็นดูก็เพราะเมื่ออาทิตย์ที่แล้วก็เพิ่งพากันมาเดินห้างซื้อของใช้เข้าห้อง แล้วเอ็นดูก็เห็นเองกับตาว่าทรงโปรดหยิบโรลออนขวดสีนี้ ยี่ห้อนี้ติดมือไปด้วย
“ที่ห้องพี่ยังมีอยู่ แต่ที่ห้องเราไม่มี”
“ก็ผมไม่ใช้ยี่ห้อนี้นี่ครับ”
“พี่ใช้”
“...”
“ซื้อติดไว้ที่ห้องเราไง เวลาไปนอนด้วยจะได้มีใช้”
แล้วเจ้าคนน่ารักก็หมุนตัว หนีซ่อนแก้มแดงกับยิ้มเขินของตัวเองซะงั้น
“ไปจ่ายเงินได้แล้วครับคุณ”
น้องที่เดินนำไปก่อนชะงักหันกลับมาเหลือบมองทรงโปรด มือขาวกวักเรียกคนตัวสูง แน่นอนว่าเขายอมเข็นรถตามแต่โดยดี
อยู่กับเอ็นดูคุณชายทรงโปรดว่าง่ายอยู่แล้ว
เอ็นดูทำหน้าที่หยิบของลงบนสายพานของเคาน์เตอร์แคชเชียร์ ทรงโปรดเองก็ช่วยอีกแรงจนกระทั่งของทุกอย่างพร้อมคิดเงิน เสียงที่ยิงบาร์โค้ดดังติดต่อกันหลายครั้ง แต่มันก็ไม่ได้ดึงความสนใจของเอ็นดูได้เลยสักนิด
ก็เพราะตอนนี้มีแต่คนมองหม่อมราชวงศ์ทรงโปรดที่ยืนครองรถเข็นพร้อมกับออร่าเปล่งประกายแทบทั้งห้าง
ทั้งผู้หญิงและผู้ชายเลยแหละที่จ้องทรงโปรดด้วยสายตาคลั่งไคล้
เอ็นดูตวัดตามองคนตัวสูงที่ยืนทำไม่รู้ไม่ชี้ มองนู่นนี่ มองตัวเลขที่แสดงราคาสินค้าหน้าเคาน์เตอร์บ้างอะไรบ้าง ก่อนจะละสายตาจากที่อื่นแล้วมองคนตัวเล็กที่ยืนกอดอกจ้องเขาเขม็ง
ทรงโปรดเลิกคิ้ว ยกมือบีบแก้มขวาของน้องเบาๆ
“มองอะไร”
ไม่ชอบเลย
เอ็นดูไม่เข้าใจว่าเขาจะหล่อดูดีไปเพื่ออะไร ทรงโปรดผิวขาวมาก โครงหน้าเรียวยาวเห็นสันกรามชัดเจน คิ้วเข้มแถมเส้นขนยังเรียงตัวสวยยิ่งกว่าคนที่กันคิ้ว ตาคมกริบมักอ่อนโยนเวลามองเอ็นดู จมูกของเขาก็โด่งและโค้งช่วงปลาย...มองยังไงก็หาที่ติไม่ได้
เอ็นดูไม่ชอบปากของเขา ปากหยักสีธรรมชาติที่ชอบยกยิ้มเวลาตัวเองได้เปรียบกับเรื่องอะไรสักอย่าง...แถมเส้นผมสีดำที่ถูกเซ็ตเป็นทรงปัดไปทางซ้ายกลุ่มหนึ่ง ส่วนอีกกลุ่มเล็กๆ ก็อยู่ทางขวา เปิดให้เห็นหน้าผากที่ดูดีของเขา
ดูดีแม้กระทั่งหน้าผาก คิดดูละกันว่าหม่อมราชวงศ์ทรงโปรดต้องหล่อออร่ามากขนาดไหน
ไม่ชอบความหล่อที่มักดึงดูดความสนใจคนอื่นแบบนี้เลย
“เอ็นดู” เจ้าของชื่อสะดุ้งโหยงตอนที่มือหนาลูบเส้นผมนุ่มของตัวเองเบาๆ “จ่ายเงินแล้ว กลับกันครับ”
“เดี๋ยวครับ...คุณจ่ายค่าของนี่เองเหรอครับ”
เพราะว่ามีคนอื่นยืนต่อหลังพวกเขาอยู่ ทรงโปรดเลยใช้แขนแกร่งข้างซ้ายโอบไหล่กลมของน้องแล้วพาเดินออกจากจุดชำระเงินพร้อมกับเข็นรถไปด้วย
น้องถามเสียงหลงเลย พาแก้มกลมๆ เงยขึ้นมองเขาที่สูงกว่าตั้งหลายเซ็นต์
“ใช่”
“งั้นขอเลขบัญชีด้วยครับ เดี๋ยวผมโอนคืนให้”
“โอนมาทำไม”
“ของพวกนี้ผมซื้อเข้าห้องผม คุณไม่ต้องมาทำเป็นป๋าจ่ายเงินให้เลย”
“ก็ไม่ได้ป๋า”
“...”
“แต่จะหมั้นกันแล้ว เราต้องฝึกใช้กระเป๋าตังค์พี่ให้ชิน”
ไม่เห็นเกี่ยวกันเลย
“ไม่รู้แหละครับ ผมรอเลขที่บัญชีจากคุณอยู่นะ”
เอ็นดูส่ายหน้าไปมา ยู่ปากตลอดทางเดินเมื่อมองไปรอบๆ แล้วพบว่ายังมีคนมองตามทรงโปรดจนหันคอตามแทบ 360 องศา
“ไม่รู้สึกหนักใจบ้างเหรอครับที่มีแต่คนมองตาเป็นมันขนาดนี้”
“ไม่ได้สนใจสักหน่อย”
เอ็นดูเบ้ปาก
“สนใจแต่คนนี้”
นิ้วชี้เรียวยาวจิ้มลงบนแก้มนุ่มของเอ็นดู
“แค่เงยหน้ามองพี่คนเดียวก็ดีใจแล้ว”
ทรงโปรดก็คือทรงโปรด
คนที่ขยันจีบเอ็นดูได้ทุกสถานการณ์นั่นแหละ
*****
เอ็นดูไม่ได้เก่งเรื่องเข้าครัว ไม่ได้ทำอาหารเก่ง แค่เปิดยูทูบดูสูตรแล้วทำตามเท่านั้นเอง
ช่วงแรกๆ ที่ย้ายเข้ามาอยู่ในกรุงเทพฯ เอ็นดูอยู่ได้ด้วยอาหารแช่แข็งในเซเว่น บอกเลยว่ากินครบทุกเมนูแล้วแหละ จนกระทั่งพัฒนาตัวเองด้วยการซื้อของสดมาลองทำ เมนูแรกที่ทำแล้วสำเร็จก็คือข้าวไข่เจียว
สามปีกับการทำอาหารกินเอง สลับกับซื้อกินไปด้วย ทำให้เอ็นดูพอที่จะมีความเคยชินกับการเข้าครัวอยู่บ้าง เอ็นดูยังไม่เก่งในเรื่องของการกะเกณฑ์เครื่องปรุง อาหารที่ทำเอง (แม้ว่าจะเคยทำบ่อยแล้ว) รสชาติก็ยังไม่คงเดิม อร่อยบ้างไม่อร่อยบ้าง สลับกันไป
ส่วนเย็นวันนี้เอ็นดูลองทำสเต็กเนื้อที่ทรงโปรดบอกว่าอยากกิน เพราะว่าเพิ่งเคยลองทำเป็นครั้งแรกคนผิวขาวเลยรู้สึกประหม่า เชฟในยูทูบที่กำลังสอนบอกสูตรก็ลงมือทำอย่างรวดเร็วจนเอ็นดูต้องกดหยุดแล้วดูใหม่ซ้ำอยู่หลายครั้ง
แต่มันก็ลุล่วงไปได้ด้วยดี
“หอม”
เอ็นดูเกือบทำสเต็กไม่เสร็จก็เพราะคนนี้แหละ
“หิวแล้ว”
“หิวแล้วก็ปล่อยสิครับ” ตีหลังมือคนที่โอบกอดจากด้านหลัง “ไปนั่งรอที่โต๊ะเลยคุณ”
หม่อมราชวงศ์ทรงโปรดเกิดงอแงอะไรขึ้นมาอีกก็ไม่รู้ ตอนแรกเขาก็เอนหลังบนโซฟาดูทีวีอยู่ดีๆ หรอกนะ แต่ไปๆ มาๆกลับเดินมากอดเอ็นดูที่กำลังทำอาหารอยู่จากทางด้านหลัง คนตัวสูงเกยคางบนไหล่แคบๆ ของเอ็นดู ไม่พอแค่นั้น เขายังหอมพวงแก้มกลมซ้ายทีขวาทีอีกด้วย
ไล่ให้ไปนั่งรอเฉยๆ ก็ไม่ยอมไปแล้ว
“วันนี้ฝนไม่ตก ไปนั่งชมวิวที่ระเบียงกันมั้ย” คนตัวสูงยกคางขึ้นจากไหล่ของเอ็นดูแล้ว เขาเอียงหน้าถามพร้อมกระชับกอดแน่น
“คุณอยากออกไปนั่งกินที่ระเบียงเหรอครับ”
“อือ บรรยากาศน่าจะดี กินสเต็กจิบไวน์”
เอ็นดูคลี่ยิ้มเมื่อลองหลับตาฟังแล้วพบว่า...ก็น่าโรแมนติกดีเหมือนกัน
“แล้วก็มองหน้าเราไปด้วย”
“ถ้าอย่างนั้นนั่งในห้องก็ได้มั้งคุณ”
ย่นจมูกใส่คนตัวสูงที่ยืนหัวเราะชอบใจแถมยังกดปลายจมูกลงบนแก้มเอ็นดูซ้ำไปซ้ำมา
พอหม่อมราชวงศ์ทรงโปรดถูกมองด้วยสายตาค้อนๆ จากคนผิวขาว เขาเลยยอมปล่อยท่อนแขนแกร่งที่โอบกอดเอวคอดของน้องออก ก่อนจะขยับตัวยกจานสเต็กที่วางอยู่ขึ้นมาถือ สาวเท้าออกจากแพนทรี่โดยไม่ลืมที่จะหันมาส่งเสียงทุ้มและเล่นหูเล่นตากับเอ็นดูอีกด้วย
“ไปที่ระเบียงดีกว่า เปลี่ยนบรรยากาศบ้าง”
ถึงจะรู้สึกหมั่นไส้เขานิดหน่อยและแอบเบ้ปากให้กับความเจ้าเล่ห์ของทรงโปรดไปแล้ว แต่มือขาวก็เอื้อมหยิบแก้วกับขวดไวน์ที่ทรงโปรดซื้อมาเองแล้วเดินตามคนตัวสูงไปที่ระเบียงอยู่ดี
เท้าขาวที่อยู่ในสลิปเปอร์แบรนด์ดังชะงักเมื่อลมเย็นพัดมาพร้อมกับกลิ่นอายของกรุงเทพฯ ในยามค่ำคืน หม่อมราชวงศ์ทรงโปรดวางจานสเต็กไว้บนเคาน์เตอร์ที่ถูกสร้างไว้ตรงระเบียงก่อนหันมายื่นมือรับแก้วกับไวน์ที่น้องถืออยู่ไปวางไว้ด้วยเช่นกัน
“ถ้านั่งกินอยู่แล้วฝนตกลงมา เก็บของหนีไม่ทันเลยนะครับ”
เอ็นดูแซวเพราะทรงโปรดหยิบลำโพงพกพา Beats Pill+ ที่เดิมทีมันวางอยู่ข้างๆ ทีวีติดมือมาด้วย ลำโพงตัวนี้เป็นคนตัวสูงนั่นแหละ แต่เพราะว่าเขามานอนที่นี่บ่อยๆ ทรงโปรดเลยมักจะหยิบของบางส่วนจากเพนต์เฮ้าส์ของเขามาวางไว้ในห้องของเอ็นดูแทน
เจ้าของห้องอย่างเอ็นดูก็ไม่อยากจะพูดอะไรมาก ปล่อยเลยตามเลย
ตามใจหม่อมราชวงศ์ทรงโปรดไปเลยแล้วกัน
คนผิวขาวขยับตัวนั่งบนเก้าอี้สตูบาร์ข้างคนตัวสูง ระเบียงคอนโดไม่ได้กว้างเท่าไหร่ แต่มันก็พอมีพื้นที่ให้เอ็นดูสามารถวางเคาน์เตอร์และทำเป็นที่นั่งกินลมชมวิวได้
ทรงโปรดเปิดเพลงจากโทรศัพท์ที่เชื่อมต่อกับลำโพงสีดำของเขาไว้แล้ว เสียงนุ่มๆ ของชาร์ลี พูท ที่ขับขานเพลง Marvin Gaye นั้นช่างเข้ากับบรรยากาศและเพลิดเพลินดีจริงๆ ไม่สิ ถ้าเป็นเพลงไหนของชาร์ลี พูท เอ็นดูก็คิดว่ามันทั้งเพราะและดีทั้งนั้น
เพราะเอ็นดูชอบนักร้องคนนี้
มุมปากเอิบอิ่มของคนน่ารักเลยกระตุกขึ้นเล็กน้อย เอ็นดูก้มหน้าหั่นสเต็กบนจานก่อนตักเข้าปาก เงยหน้ามองวิวตอนกลางคืนของกรุงเทพ จุดที่คนผิวขาวชอบโฟกัสสายตาไปมากที่สุดที่ก็คือแม่น้ำเจ้าพระยาที่อยู่ทางซ้ายมือ
แต่สิ่งที่น่ามองพอๆ กับแม่น้ำเจ้าพระยาก็คือโครงหน้าของหม่อมราชวงศ์ทรงโปรด คนตัวสูงนั่งอยู่ทางซ้ายมือของเอ็นดู ทำให้ตอนที่หันหน้ามองวิว สายตาของเอ็นดูเลยมีภาพเสี้ยวหน้าของทรงโปรดอยู่ด้วย แสงไฟสีเหลืองนวลตรงระเบียงทำให้เอ็นดูรู้สึกว่า...ทรงโปรดดูอบอุ่นมากจริงๆ
“มองแบบนี้คิดตังค์ดีมั้ย”
แล้วก็ต้องก้มหน้าหัวเราะเมื่อเจ้าของโครงหน้าหล่อเหลาหันมายกยิ้มให้
“คงต้องเก็บตังค์ทุกคนที่มองคุณแล้วมั้งครับ” เอ็นดูยู่ปาก
ทุกคนที่มองทรงโปรด เอ็นดูหมายถึงพวกสาวๆ ที่จ้องคนตัวสูงตาเป็นมันในห้างวันนี้ และรวมถึงคนอื่นๆ ที่ชอบมองทรงโปรดแบบหลงใหล
แต่เพราะทำปากยู่หน้ามู่ทู่ให้เขาเห็น แก้มกลมๆ ของเอ็นดูเลยถูกบีบ
“ขี้หึงนะเรา”
“ไม่ได้หึงนะครับ”
“ปากแข็ง”
“นี่คุณ!”
เอ็นดูรีบยกมือปิดปากเมื่อจู่ๆ คนที่กำลังบีบแก้มก็ยื่นปากมาทาบทับลงบนกลีบปากอวบอิ่มสีชมพู เบิกตาโตมองทรงโปรดที่ผละริมฝีปากออกไปแล้ว แต่ยังนั่งยิ้มกริ่มยักคิ้วหรี่ตาให้อยู่
“หึงบ่อยๆ ดีแล้ว ชอบ”
“ถ้าผมทำให้คุณหึงบ้างล่ะครับ คุณจะชอบมั้ย” ถลึงตาใส่คนข้างๆ
“อืม...” ทรงโปรดเท้าคางบนเคาน์เตอร์ เอียงใบหน้าหล่อเหลามองเจ้าคนน่ารักที่กำลังนั่งขมวดคิ้ว
“ลองดูมั้ย”
“...”
“จะได้รู้ว่าเวลาหึงพี่โหดแค่ไหน”
อย่าท้าเลย
ถ้าทำให้หึงขึ้นมาจริงๆ...
หม่อมราชวงศ์ทรงโปรดต้องแย่แน่ๆ
#ทำแบบนี้ขาดอากาศหายใจพอดี
แย่แน่ๆ >,,,,<
แต่ว่าใครจะแย่กันนะ ♥