เกียร์สีขาวกับกาวน์สีฝุ่น
ตอนที่ 20 : DSLR
“ไป๋”
เสียงของไอ้อิฐดังขึ้นในระยะที่ห่างออกจากตัวเขาไปไม่ไกลเท่าไหร่นัก ไป๋ลืมตามองก็ค้นพบไอ้ตัวเจ้าปัญหาเมื่อวานตอนนี้นั่งยิ้มแฉ่งอารมณ์ดีบนโต๊ะอ่านหนังสือหันหน้ามามองเขา
“ลำบากแย่เลยนะมึง เมื่อวานนี้”
มันพูดต่อเมื่อเห็นว่าเขาหายจากการงัวเงียแล้ว ความจริงสิ่งที่ไอ้อิฐพูดก็คงจะไม่ผิดนัก เพราะคนป่วยนั้นอาจจะหลับสบายดีแต่เขานั้นไม่ค่อยจะดีด้วยเท่าไหร่เลย เขาต้องคอยตั้งปลุกขึ้นมาคอยเช็ดตัวให้และเรียกให้มันกินยา พอช่วงกลางดึกเผลอจะหลับๆ เข้าหน่อย มันก็ร้องตะโกนละเมอขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัว ลำบากเขาที่ต้องสะดุ้งขึ้นมาตอนดึก ถึงแม้ว่าจะช่วยอะไรไอ้เด็กชายอิฐในความฝันของมันไม่ได้ แต่เมื่อตื่นแล้วก็กลายเป็นภาระที่เขาจะข่มตาหลับลง
อาการไอ้อิฐมาดีขึ้นจริงจังหลังจากที่กินยารอบดึกและเช็ดตัวครั้งสุดท้ายประมาณเที่ยงคืนได้ ตอนแรกมันดูตัวยังร้อนอยู่หน่อยๆ แต่พอผ่านเข้าวันใหม่ไปได้ชั่วโมงกว่าแล้วอุณหภูมิในร่างกายของมันก็ลดลงอย่างดูดีเลยทีเดียว เขาเอาผ้ามาคอยซับเหงื่อมันตอนกลางดึกอีกครั้ง ก่อนจะได้หลับไปสนิทอย่างสบายใจได้ พอพิษไข้ไอ้อิฐเริ่มดับลง อาการโวยวายละเมอของมันก็อันตรธานหายไปได้ เหลือเพียงความเงียบสงบในบรรยากาศภายใต้ห้องสี่เหลี่ยมนี้
จวบจนกว่าที่ไป๋จะหลับลงอย่างสนิทได้ก็เกือบจะเข้าเวลาร่วมรุ่งสาง ซึ่งในจังหวะขณะช่วงนั้น อาการเจ็บป่วยของอิฐก็แทบจะหายไปอย่างสมบูรณ์
“ไม่เป็นไร”
เขาตอบแบบว่าง่ายพร้อมเอามือจัดทรงผมให้เป็นระเบียบขึ้นเล็กน้อย เหลือบไปมองนาฬิกาที่แขวนเพดานอยู่ก็พบว่าขณะนี้เลยเวลาเที่ยงของวันอาทิตย์ไปเกือบสองชั่วโมงแล้ว นี่เขาเหลับไปนานจนนอนตื่นบ่ายได้ขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย แต่ก็คงไม่น่าแปลกใจเท่าไหร่ เพราะกว่าเมื่อคืนเขาจะปลุกปล้ำกับอาการเจ็บป่วยของคนตรงหน้าเสร็จ พระอาทิตย์ก็แทบจะเวียนมาขึ้นอีกครั้ง
“กูเห็นว่ามึงกำลังหลับสบายกูเลยไม่อยากกวน” มันพูดยิ้มๆ
“เออสิ เมื่อวานกูนะทำอย่างกะเป็นเบ๊มึงเลย กูหละรอให้มึงหายดี กูจะจับมึงมากระทืบกระทืบกระทืบข้อหาสำออยดีนัก” เขาหันไปตอบอย่างกวนตีน
“เอาน่า เดี๋ยวกูให้มึงกระทืบแน่ แต่ตอนนี้หาอะไรรองท้องก่อนไหม”
ไอ้อิฐพูดแบบสบายๆ มันหันหน้าไปพลางชี้ให้เห็นถุงอาหารจากร้านสะดวกซื้อที่ลงไปซื้อมาให้ ไอ้วิศวะตอนนี้อยู่ในชุดไปรเวทลำลองแล้ว ชุดนักศึกษาของมันที่ดองเค็มไว้ตั้งแต่วันศุกร์ถูกเปลี่ยนใหม่เป็นที่เรียบร้อย
“นี่มึงกลับห้องมาเหรอ” เขาถามอย่างงงๆ
“เออ กูตื่นตั้งแต่สิบโมงและ แต่เห็นมึงยังไม่ตื่นเลยวนกลับไปเอารถมาก่อน กลับมาอีกรอบมึงก็ยังไม่ตื่น กูเลยกลับไปอาบน้ำเปลี่ยนชุด กลับมาอีกรอบมึงก็ยังไม่ตื่น กูเลยลงไปหาอะไรมาให้มึงรองท้อง” มันพูดอธิบายเสียยาวเหยียด
“แล้วมึงเป็นไง ไข้ลดหรือยัง ยังคลื่นไส้อยู่ไหม” ไป๋พูดถามอดีตคนไข้ของเขา
“หายละ ไข้ไม่มี อาการปรกติ ไม่คลื่นไส้ ไม่ท้องเสีย” มันตอบ
“เออ หายก็ดีละ ป่วยที่แม่งลำบากกูฉิบหาย” เขาพูดพลางดึงผ้าห่มออกจากตัวจะลุกขึ้น
“กินไรดี กูไม่รู้ว่ามึงชอบอะไรเลยซื้อมาหลายอย่าง” มันหันไปรื้ออะไรยุกยิกในถุงหูหิ้วใกล้ตัว
“ไม่เอาอะ เดี๋ยวลงไปกินที่ร้านเลยดีกว่า กูอุดอู้อยู่แต่ในห้องมาเกือบสองวันละ น่าเบื่อจะตาย กูไม่ยอมกินข้าวในห้องสี่เหลี่ยมโง่ๆ นี่อีกเด็ดขาด”
“อะ”
มันพูดพร้อมส่งของในมือให้ ก้มไปมองก็เห็นเป็นเสื้อยืด กางเกงขาสั้น และผ้าขนหนูสำหรับอาบน้ำ เขารับมาแบบไม่ถามอะไรและก้าวขาฉับๆ เข้าไปอาบน้ำอย่างเหนียวตัวเต็มทน
อาบน้ำเปลี่ยนชุดเรียบร้อย พวกเขาทั้งคู่ก็เดินลงมาหาอะไรกินใต้หอ เมื่อลงมาถึงเขาก็ได้แต่บ่นด้วยความหงุดหงิดเพราะลืมไปว่าวันอาทิตย์ร้านอาหารใต้หอไม่เปิดขาย (สงสัยกลัวรวย) เขาเลยต้องระหกระเหินนั่งรถไอ้อิฐออกไปกินข้าวหน้ามอที่ห่างออกไปแค่ระยะเดินถึง แต่ด้วยแดดในองศาที่พอจะเผาคนให้สุกได้ เขาจึงสั่งให้ไอ้อิฐเป็นสารถี มันเกาะเขามาร่วมสองวันแล้ว ถึงเวลาที่มันจะต้องเป็นเบ๊เขาบ้าง
พวกเขาเลือกร้านอาหารแนวฟิวชันราคาไม่แพงที่เป็นที่นิยมของนักศึกษาเป็นเสบียงตุนของวันอาทิตย์แบบนี้ วันหยุดทำให้จำนวนเด็กนักศึกษาที่ออกมาฝากท้องกับร้านข้าวหน้ามอดูบางตามาก พวกเขาจึงได้โต๊ะได้โดยง่ายถึงแม้ว่าปรกติร้านนี้จะหาโต๊ะยากมากก็ตาม
“ขอโทษนะคะ หมอไป๋ใช่ไหมคะ” เสียงผู้หญิงหวานใสเรียกเขาให้เงยหน้าขึ้นจากปีกไก่น้ำแดงที่เขากำลังกินอย่างเอร็ดอร่อยนี่
“ครับ?”
เขาหันหน้าไปก็เจอกับเด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่มายืนที่โต๊ะเขา มองอย่างไรก็ไม่คุ้นหน้า คาดเดาได้ว่าน่าจะไม่เคยรู้จักกัน ว่าแต่เธอมาเรียกเขาทำไม
“เราชื่อแก้มนะ เรียนอยู่นิเทศศาสตร์ปี 1”
“อ่า”
“และเราก็เป็นแอดมินเพจหมอไป๋ FC ด้วย”
“อ๋อ”
เธอคนนี้นี่เองที่เขาสงสัย แต่ใช่ว่าเขาจะตามหาอะไรมากมายนะ ความเป็นจริงเขาแทบไม่เคยกดเข้าไปดูเพจของตัวเองด้วยซ้ำ มันจั๊กกะจี้พิลึก
“เราขออนุญาตเอารูปหมอไป๋ไปลงเพจได้ไหม”
“ได้สิ”
เขาตอบแบบว่าง่าย ทำอย่างกับว่าถ้าเขาไม่ให้แล้วจะยอมลบเพจให้เขาสักหน่อย ตอนเปิดเพจก็ไม่เห็นถามเขาเลย อยากทำอะไรก็ทำเถอะ เพจสองพันกว่าไลค์คงไม่มีอิมแพคอะไรกับชีวิตเขามากมายนักหรอก
“เราขอถ่ายรูปไป๋ได้ไหม พอดีไม่มีรูปถ่ายไป๋หน้าตรงแบบตั้งใจเลย” เธอถามต่อด้วยสีหน้าเกรงใจ
“เอ่อออออ ไม่ดีกว่า เราไม่ค่อยถนัดเรื่องถ่ายรูปเท่าไหร่” เขาปฏิเสธ
“แต่ว่า...”
ผู้หญิงตรงหน้าดูกำลังพยายามจะคิดหาข้ออ้างอะไรสักอย่างมาเพื่อโน้มน้าวเขาให้จงได้ ดูจากกล้อง DSLR ที่คล้องคอก็ชัดเจนในเจตนาว่าเธอคงอยากมาถ่ายรูปเขาจริงๆ
“งั้นถ่ายรูปคู่ไปไหมหละ ถ้าไอ้ไป๋มันไม่ถนัดก็” เสียงของอิฐดังขึ้นจากอีกฟากของโต๊ะ
“ได้เหรอคะ” เธอคนนั้นหันมาถามคนตรงหน้าเขา
“ไป๋มันทำสีหน้าไม่ค่อยถูกหนะเวลาถ่ายรูปเดี่ยว แต่เวลาถ่ายรูปคู่ก็เหมือนถ่ายรูปกลุ่มแหละ มันคงโอเคมั้ง” มันพูดพลางหันมาถามเขา ไม่มีการปรึกษาเขาสักนิด
“อิฐ กูไม่ชอบ”
“เอาน่า เกรงใจเขา เขาอุตส่าห์มาขอ มึงก็คิดว่าถ่ายรูปติดหน้าห้องแลปแล้วกัน ทีแลปฟิสิกส์มึงยังยืนยิ้มแฉ่งให้เขาถ่ายรูปได้เลย”
“แต่กู...”
“รีบถ่ายจะได้แดกต่อ”
“เออๆ ก็ได้”
ไอ้อิฐลากเก้าอี้อ้อมมานั่งข้างเขา พร้อมกับฉีกยิ้มก่อนให้กล้องเป็นคนแรก พร้อมกับเอานิ้วมาสะกิดให้เขารีบยิ้มให้กล้องบ้างสักที
แชะ
เขายิ้มแบบทำสีหน้าไม่ถูกเท่าไหร่ เขาโอเคนะถ้าถ่ายรูปเล่นกับเพื่อนฝูง แต่พอมีคนมาขอถ่ายรูปแบบนี้ เขาไม่ถนัดเลย คือคนมาขอถ่ายรูปก็อยากจะได้รูปเขาหล่อๆ ถูกไหม แต่เขาคิดสีหน้าไม่ออกหนะ เขาไม่รูปว่าการปั้นหน้าหล่อมันต้องทำยังไง
แชะ
“ไอ้ไป๋ ซอสปีกไก่มึงเปรอะแก้มอะ”
“เฮ้ย ไหนวะ”
แชะ
“มานี่เดี๋ยวกูเช็ดให้”
“เฮ้ย ไม่ต้อง”
แชะ
“มาๆ หมดแล้ว”
“เชี่ย”
แชะ
“กอดคอกันหน่อยดิ”
“เออๆ”
แชะ
“เธอก็ลองๆ ไปเลือกรูปดูแล้วกัน รูปไหนไป๋มันใช้ได้ก็ครอปตัดเราออก เอาแต่รูปมันไปลงแทน” อิฐพูดอย่างว่าง่าย
“ขอบคุณค่ะ”
“อืม”
“ขอบคุณหมอไป๋ด้วยนะคะ”
“ไม่เป็นไร”
“ขอโทษด้วยนะคะถ้าทำให้ลำบากใจ”
“เฮ้ย ผมไม่ได้โกรธนะ แต่ผมแค่ทำหน้าไม่ถูกเฉยๆ”
“เอ่อออออ เราก็ถามอะไรอีกอย่างได้ไหมคะ”
“อะไรเหรอ”
“ไป๋กับอิฐนี่จงใจใส่เสื้อคู่กันหรือเปล่า?”
สิ้นสุดคำถามเขาก็ได้แต่ก้มไปดูลายเสื้อที่ใส่อยู่อย่างตกใจ เขาจำได้ว่าไอ้อิฐเป็นคนเลือกเสื้อให้เขา เขาจำได้แค่ว่ามันเป็นเสื้อยืดสีดำเท่านั้น แต่มันสกรีนไว้ว่าอะไรเขาก็ไม่ได้สนใจ จนได้มารู้ตัวก็ตอนถูกทักนี่แหละ เขาก้มมองดูเสื้อตัวเองแล้วก็หันไปดูเสื้อของอิฐเทียบกัน โอ๊ย ฉิบหายแล้ว
ไอ้อิฐ : Knight
หมอไป๋ : Bishop
นายพินต้า
ติดตามและพูดคุยกับนักเขียนได้ที่
www.twitter.com/ninepinta พอตอนเยอะขึ้น คอมเม้นเริ่มยาวขึ้น รู้สึกดีมากเลย เหมือนมีคนกำลังท่องโลกกว้างในนิยายไปกับเรา คอมเม้นกันหน่อยน้า อ่านแล้วฟินมากกกกกกกกกก