เกียร์สีขาวกับกาวน์สีฝุ่น EP40 (จบ) : เกียร์สีขาว (16/07/2018)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: เกียร์สีขาวกับกาวน์สีฝุ่น EP40 (จบ) : เกียร์สีขาว (16/07/2018)  (อ่าน 117211 ครั้ง)

ออฟไลน์ ciaiwpot

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1106
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-0
น่าจะเลขห้องจริงๆนั้นแหละ
หอมีกี่ชั้นนะ

ออฟไลน์ Tiffany

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1157
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
950 จะเป็นอิฐมั้ยน้า

ออฟไลน์ day9day

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2181
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +284/-9
เข้ามาพร้อมๆกัน หลายคนดี

ออฟไลน์ พัดลม

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 542
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-2
ใครน้อ 950  :m28:

นี้มันใบ้หวยชัดๆ  :laugh:

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3437
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ fsbeentaken

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 153
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
ชอบจังงงง

มาต่อไวๆนะค้าาาาาา

  :bye2: o13

ออฟไลน์ buathongfin

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1251
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-3
ชอบ มีแข่งเป็นบ้านๆด้วย เรียกได้ว่าถนัดกันคนละอย่าง ลงตัว พอดี  :hao6:

ออฟไลน์ songte

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1425
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
เดากันไปอีก ใครเป็นใคร
แต่อิฐแอบชอบและกำลังจะกจีบจิงจังใช่มะ เอาใจช่วยนะ

ออฟไลน์ fullfinale

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 687
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-0
อยากไปดักรอหน้าห้องไป๋เลย  :hao7: #ทีมยังไม่รู้แต่คิดว่าเป็นอิฐ

รอๆๆๆๆ  :กอด1:

ออฟไลน์ yewlyz

  • MindSet The Others
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 31
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
อิฐเธอแอบชอบไป๋ใช่มั้ยยยยยย  :mew4: :mew4: :mew4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ catka12

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 587
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-0
  o13แทงหวยเลยค่ะหมอไป๋ 950 ..... ชอบมากกกก อยากให้อิฐรุกหมอไป๋เยอะๆ  o13

ออฟไลน์ netich

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 228
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0

ออฟไลน์ ninepinta

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 79
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-0
เกียร์สีขาวกับกาวน์สีฝุ่น



            ตอนที่ 9 : ความถี่ของคลื่นเสียง



            หลังจากที่ไอ้อิฐบอกความต้องการที่แท้จริงของมัน อะไรก็ง่ายขึ้น



            ไอ้อิฐกับไอ้เพียวกลายมาเป็นขาประจำของโรงอาหารคณะวิทย์ไปโดยปริยาย มันบอกว่าพวกมันต้องมาเสนอหน้าบ่อยๆ ให้น้ำหอมคุ้นเคย ไอ้เพียวเอาไลน์กับเบอร์น้ำหอมจากเขาไปแล้ว ไม่รู้ว่ามันสานต่อยังไงบ้าง เขาเองก็ไม่ค่อยได้สนใจ รู้แค่ว่ามีพวกมันมาร่วมวงบ่อยๆ ก็สนุกดี





 

            “เฮ้ย ไอ้อิฐ มึงนี่ฮอตกว่าที่กูคิดไว้นะเนี่ย ดูดิ๊ เพจแฟนคลับมึงคนกดไลค์เกินหมื่นคนแล้ว”



            ว่านพูดขึ้นพร้อมกับหันหน้าจอโทรศัพท์มือถือไปให้ไอ้อิฐดู วันนี้มันอยู่ในชุดช๊อปสีน้ำเงินเข้มอีกแล้ว พอมันมานั่งอยู่ในคณะวิทย์ที่มีแต่คนใส่ชุดนักศึกษาบ้างชุดกาวน์ทำแลปบ้าง มันก็กลายเป็นจุดเด่นขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้เลย



            “แอดมินเขาขยันโพสมั้ง กูไม่ค่อยรู้เรื่องอะไรหรอก”



            ตัวต้นเรื่องตอบแบบไม่ค่อยสนใจอะไรนัก มันกำลังก้มหน้าก้มตาอ่านแลปฟิสิกส์อยู่ วันนี้เป็นวันแรกที่วิชาฟิสิกส์จะมีแลปหลังจากที่สัปดาห์แรกอาจารย์มาพูดแนะนำรายวิชาเฉยๆ มันไม่ได้ขยันหรอก มันแค่มีควิชเฉยๆ



            “วันนี้ไป๋เรียนแลปฟิสิกส์ที่ตึกไหนอะ”



            เสียงจากคนที่นั่งข้างเขาดังเป็นคำถามขึ้น ไอ้โฟคนั่นเอง ไอ้นี่ก็กลายมาเป็นหนึ่งในขาประจำของกลุ่มเขาไปแล้ว ตอนสัปดาห์แรกมันมาส่งเขาตอนเช้า แต่พอสัปดาห์ต่อมาเขาเอารถมาเรียนเอง มันก็ยังมานั่งเรียนแล้วก็กินข้าวกับพวกเขาเหมือนเดิม สงสัยมันจะนับผมกับไอ้ว่านเป็นเพื่อนกลุ่มเดียวกับมันไปเรียบร้อยแล้วมั้ง



            “ตึกวิศวะอะ แล้วมึงหละ”



            ไป๋ตอบ วิชาฟิสิกส์เป็นวิชาที่ใช้พื้นที่กว้างกว่าห้องแลปเคมีกับชีววิทยา คณะแพทย์อย่างเขากับไอ้ว่านเลยต้องระเห็จไปทำแลปร่วมกับคณะวิศวะ ส่วนคณะเภสัชกับทันตะยังคงใช้ตึกวิทยาศาสตร์เหมือนเดิม



            “ตึกวิทยานี่แหละ” ไป๋ผงกหัวเป็นเชิงรับรู้

 





            “เฮ้ยๆๆ น้ำหอมมาหวะ”



            เสียงของไอ้เพียวดังขึ้นในระดับกระซิบกระซาบขึ้นในโต๊ะ บุคคลที่เหลืออันได้แก่ไป๋ อิฐ โฟค และว่านจึงหันไปรอบๆ แทบจะพร้อมกัน น้ำหอมกำลังเดินมาทางนี้จริงๆ ด้วย จะว่าไปเขาก็ไม่ค่อยได้เจอน้ำหอมบ่อยเท่าไหร่นัก ดูเหมือนเธอจะไม่ค่อยได้เข้าห้องเลคเชอร์เท่าไหร่



            “ไป๋ วันนี้ไป๋เข้าประชุมดาวเดือนหรือเปล่า” เธอเอ่ยพูดขึ้นทันที ดูเหมือนเป้าหมายของการเดินมาที่โต๊ะจะเป็นตัวเขา



            “อืม เขาดิ ก็ไม่ได้ติดอะไรนะ” เขาตอบพลางลอบมองไอ้เพียว มันกำลังก้มหน้าก้มตาเล่นโทรศัพท์มือถืออย่างขะมักเขม้น



            “ดีเลย เราคงไม่ได้เข้าอะไป๋ ติดแคสงาน มีอะไรบอกเราแล้วกันนะ” ฝ่ายนั้นพูดง่ายๆ



            “ได้เลย”



            “อ๊าว นี่เดือนวิศวะไม่ใช่เหรอ” น้ำหอมหันไปเอ่ยทักไอ้อิฐที่ตอนนี้กำลังนั่งฟังเขาและน้ำหอมพูดกันอยู่



            “อืม สวัสดี เราชื่ออิฐ” ไอ้อิฐตอบ เขายิ้มให้มันนิดหน่อย ในขณะที่อีกฝ่ายก็ยิ้มตอบกลับมาเช่นกัน



            “แล้วทำไมถึงมานั่งกับไป๋หละ เป็นบัดดี้ไป๋เหรอ”



            เสียงหญิงสาวเอ่ยถามพร้อมกับรอยยิ้ม ไป๋ที่นั่งฟังอยู่ถึงกับสะดุ้งน้อยๆ ความจริงเขาต่างหากที่ต้องเทคแคร์ไอ้อิฐ ไม่ใช่มันที่ต้องมาที่นี่สักหน่อย ส่วนไอ้โฟคก็หันหน้ามายิ้มแหยๆ กับเขา ไอ้นี่ต่างหากที่จับได้เขาเป็นบัดดี้



            “เปล่าหรอก พอดีเพื่อนเรามีธุระให้ไป๋ช่วยนะ นี่เพื่อนเรานะ ชื่อเพียว”



            ไอ้อิฐตบบ่าไหล่เพียวเป็นการแนะนำ ไอ้เพียวเงยหน้าขึ้นยิ้มให้น้ำหอมหนึ่งทีถ้วนก่อนจะก้มหน้าก้มตาเล่นมือถือต่อ ท่าทางมันคงจะเขิน



            “อ๋อ เข้าใจแล้ว งั้นเราไปแล้วนะไป๋ โชคดี” น้ำหอมหันกลับมาบอกเขาเป็นการจบบทสนทนา

 





            ความจริงการที่ไอ้อิฐมาเสนอหน้ากับพวกเขาบ่อยๆ ก็ถือเป็นเรื่องที่มีประโยชน์อย่างมาก เพราะเขาจะได้ไม่ต้องลำบากลำบนถ่อไปเทคแคร์มันหรือจะต้องปกปิดมันให้ลำบาก เขาอาศัยวิธีฝากตังให้ไอ้ว่านซื้อของมาแบ่งกันกินบ่อยๆ นี่แหละการเทคแคร์ของเขา ง่ายดี ไว้จังหวะดีๆ ค่อยซื้ออะไรจริงจังให้มัน



            ส่วนไอ้โฟคหลังจากที่ไม่ได้มาส่งเขาตอนเช้าแล้ว มันก็หันมาซื้อโน่นนี่ให้กินบ้าง แต่ส่วนใหญ่มันจะชอบเสนอตัวถือกระเป๋าให้ ตอนแรกเขาโคตรอึดอัดเพราะมันดูตลกมากที่จะให้ผู้ชายมาถือกระเป๋าให้แบบนี้ แต่พอมันแย่งบ่อยๆ เขาก็ชิน หลังๆ เขาเลยหาพวกหนังสือแลปหรือหนังสือเรียนมาให้มันถือแทน จะได้ไม่ต้องวุ่นวายเถียงกันให้ลำบาก เตรียมของมาให้มันถือซะเลย จบๆ ไป

 





            ไอ้โฟคนี่เป็นมนุษย์เหมือนคนเป็นพี่ชายคนโต นิสัยเหมือนแบบชอบเทคแคร์คนอื่นไปเรื่อย ขับรถไปส่งเอย อาสาไปซื้อข้าวให้เอย ถือกระเป๋าให้เอย ที่สำคัญมันยิ้มบ่อยมาก จะอธิบายไอ้โฟคยังไงดีนะ มันเป็นคนมีแก้มหน่อยๆ ชอบยิ้มตาหยีแบบโชว์ฟันเรียงกันเป็นระเบียบ มันไม่ได้ยิ้มแบบคนขี้เก๊กนะ แต่ยิ้มแบบเด็กยิ้มเวลาได้ของเล่นอะไรแบบนั้น



            ไอ้เพียวนี่ก็อีกคน มันก็เป็นมนุษย์ตัวติดหนึบมาพร้อมกับไอ้อิฐ ตั้งแต่วันที่ไอ้อิฐมาบอกเรื่องน้ำหอม มันก็มาเสนอหน้าที่โต๊ะพวกเขาตลอด แต่ความจริงมันก็ไม่ค่อยพูดเรื่องน้ำหอมเท่าไหร่หรอก เหมือนมานั่งเป็นกลุ่มเพื่อนกันมากกว่า เวลาเจอน้ำหอมที่มันก็ก้มหน้างุดๆ กับโทรศัพท์มือถือ ไอ้อิฐบอกว่ามันเขิน



            เขาปรึกษาไอ้ว่านเป็นที่เรียบร้อยเรื่องที่ไอ้อิฐมาบอก ความจริงเขาก็อยากช่วยแหละ เพราะถ้าไอ้เพียวมาที่นี่บ่อยๆ เขาก็เทคแคร์บัดดี้เขาซึ่งก็คือไอ้คิงคองอิฐได้ไม่ยากเย็นนัก สบายเขาไปเปลาะหนึ่ง ส่วนไอ้ว่านก็ไม่ได้ขัดอะไร มันดูจะเต็มใจช่วยไอ้เพียวมากกว่าเขาเสียอีก อย่างว่าแหละนะ ไอ้ว่านมันเป็นคนอารมณ์ดี เฟรนลี่ ชอบช่วยเหลือคนอื่นไปเรื่อย มันไม่มีปัญหาอะไรหรอก ไม่ว่าจะเรื่องไอ้เพียว หรือไอ้อิฐ หรือไอ้โฟคที่มานั่งหัวโด่สลอนกันเต็มโต๊ะกินข้าวทั้งเช้า กลางวัน เย็นแบบนี้

 





            ตอนบ่ายของวันนี้เป็นวิชาแลปฟิสิกส์ ห้องแลปมีสามห้องใหญ่ใช้ร่วมกันสองคณะแพทย์กับวิศวะ ห้องแรกเป็นแพทย์ล้วนไล่ลำดับไปเรื่อยๆ ตัดตรงโต๊ะไอ้ว่านพอดี ส่วนเขามาขึ้นห้องใหม่อยู่ห้องสองกับคณะวิศวะอีกส่วนหนึ่ง ไอ้อิฐก็อยู่ห้องนี้ด้วย ส่วนห้องสุดท้ายเป็นวิศวะล้วน ไอ้เพียวหลุดไปอยู่ห้องนี้



            แลปฟิสิกส์มีห้องละ 12 โต๊ะ แลปวันหนึ่งจะทำพร้อมกัน 6 เรื่อง เรื่องละ 2 โต๊ะ ไอ้อิฐได้รอบที่ตรงกับเขาพอดี เขาเลยทำแลปเหมือนกับมันทุกอาทิตย์ ส่วนไอ้ว่านไอ้เพียวที่อยู่อีกห้องจะสลับหัวข้อกันไป ทำเหมือนกันแต่จะเหลื่อมสัปดาห์กัน ไม่ได้ตรงกันเหมือนเขากับไอ้อิฐ

 





            “มึงคิดความถี่ของคลื่นเสียงได้เท่าไหร่วะ”



            เสียงของไอ้อิฐดังขึ้นไม่ห่างจากเขาไปเท่าไหร่ หมอไป๋ที่กำลังก้มหน้าก้มตาทำรีพอร์ตแลปจึงหันไปทางฝั่งขวาตามที่มาของเสียงแล้วก็พบว่า จมูกเขาเกือบจะชนหูมันอยู่แล้ว มันยื่นหน้ามาดูรีพอร์ตที่เขากำลังเขียนในระยะใกล้มาก ใกล้ในระยะที่เขาจะเห็นรอยลักยิ้มของมันได้ชัดมากเลยทีเดียว



            “ไอ้สัด มาไม่ให้ซุ่มให้เสียง”



            เขาเอ่ยด่ามันเบาๆ แต่มันก็ดูไม่ได้สนใจอะไรเขามากนัก มันหยิบเก้าอี้แถวนั้นมาแทรกตัวนั่งร่วมกับเขาบนโต๊ะแลป เพื่อนในโต๊ะเงยหน้าขึ้นมามองเล็กน้อยว่าทำไมถึงมีเด็กวิศวะมานั่งรวมกับพวกหมอด้วย แต่พอไม่เห็นเขาพูดอะไร เพื่อนในโต๊ะแลปคนอื่นก็ก้มหน้าก้มตาเขียนงานกันต่อ



            “ตกลงมึงคิดได้เท่าไหร่”



            มันเอารีพอร์ตแลปของเขามาเปิดรื้อดูอย่างหาคำตอบ มันพลิกไปพลิกมาแล้วก็จดๆ ผลของเขาไปในรีพอร์ตของมันเฉยเลย



            “เฮ้ย มึงลอกได้ไงวะ ผลการทดลองมึงได้เท่าไหร่เอาไปคำนวณเองดิ มันต้องได้ไม่เท่ากัน” เขาพูดพลางดึงรีพอร์ตแลปคืนจากมือมัน



            “เออๆ กูจดวิธีคิดไปก่อน เดี๋ยวกูเอาไปแทนค่าผลแลปของกลุ่มกูเองน่า” มันตอบออกมา



            “เป็นวิศวะภาษาไรวะ มานั่งลอกแลปฟิสิกส์จากหมอเนี่ย” ไป๋บ่นพึมพำ



            “กูไม่ได้ลอกจากหมอ กูลอกจากมึงต่างหาก”



            “แล้วมันต่างกันยังไงวะ”



            “ต่างสิ”



            “เออๆ ช่างมึงเหอะ”

 





            “เดี๋ยวมึงไปประชุมดาวเดือนเย็นนี้ยังไง”



            ไอ้อิฐเอ่ยถามขณะที่ยังลอกรีพอร์ตเขาไม่หยุด เย็นนี้มีประชุมดาวเดือนคณะด้วย คณะวิศวะอยู่ติดรั้วหน้ามหาวิทยาลัย ส่วนคณะวิทย์ที่ประชุมค่อนไปเกือบท้ายมหาวิทยาลัย ถ้าเดินไปลิ้นก็คงไหลมารวมที่คอหอยพอดี แต่ถ้าขับรถไปก็วุ่นวายอีก เพราะที่จอดรถคณะวิทย์ในเวลาแบบนี้คงหาได้ไม่ง่ายนัก



            “ขับรถไปมั้ง” เขาตอบไปส่งๆ



            “ซ้อนจักรยานกูไปดิ วันนี้กูเอาจักรยานมา” ไอ้อิฐพูดทั้งที่ก้มหน้าเขียนรีพอร์ตอยู่



            “ไม่เอาอะ ยางแบนพอดี แค่มึงคนเดียวจักรยานก็คงจะแทบรับน้ำหนักไม่ไหวแล้ว”



            คือไอ้อิฐนี่ไม่ใช่คนอ้วนนะ แต่มันเป็นคนสูง น่าจะสูงเกินร้อยแปดสิบ แถมตัวมันก็มีแต่กล้ามเต็มไปหมด มันดูแบบเป็นคนตัวหนาๆ มากกว่า



            “ตัวมึงเล็กแค่เนี้ย ทำอะไรยางจักรยานกูไม่ได้หรอกน่า ที่จอดรถคณะวิทย์หายากนะเว้ยตอนนี้ เดี๋ยวหาว่าไม่เตือน” ไอ้อิฐหันหน้ามาพูดกับเขา



            “คิดแป๊บ”



            “คิดเชี่ยไรนักหนาวะ แค่ซ้อนจักรยาน”



            “เออๆ แต่ขากลับมึงวนมาส่งกูที่รถด้วยนะ” เขาพูด



            “เออ กูก็ว่าจะติดรถมึงกลับหออยู่แล้ว ทิ้งจักรยานไว้คณะนี่แหละ”



            “อ๊าว”



            “กูลอกเสร็จและ กูกลับไปทำงานต่อแล้วนะ เลิกเรียนเจอกันหน้าห้องแลปนี่แหละ เดี๋ยวเดินลงไปด้วยกัน” มันพูดแบบตัดบทก็จะลุกกลับไปโต๊ะของมันเฉย อะไรของมันวะ บทจะมาก็มา บทจะไปก็ไป เดาใจยากฉิบหาย ไอ้นี่







               นายพินต้า







               ติดตามและพูดคุยกับนักเขียนได้ที่ www.twitter.com/ninepinta


               ตอนหน้ามาซ้อนจักรยานอิฐไปด้วยกันนะ อิอิ อย่าลืมเม้นให้น้า รออ่านเลย อยากอ่านคอมเม้นๆๆ อ้อนๆๆ

ออฟไลน์ ninepinta

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 79
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-0
คนมาเม้นให้เยอะขึ้น หูยยยยย ดีใจ นั่งอ่านทุกคอมเม้นเลย มาเม้นให้หนูเยอะๆ หน่อยนะ แต่งไปถึงตอนที่สามสิบกว่าแล้ว ใกล้จบภาคหนึ่งแล้ว โอ๊ยยยยย ตื่นเต้น มาเม้นเยอะๆ นะ จะได้มาลงบ่อยๆ เย่ๆๆๆๆๆ

 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:

ออฟไลน์ พัดลม

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 542
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-2
เนียนมากนะค่ะนู๋อิฐ

แต่เราชอบนะละมุนดี :impress2:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28-05-2018 18:26:11 โดย พัดลม »

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3437
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ ciaiwpot

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1106
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-0

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
อ้างเพื่อนทำเนียนมาเองหรือเปล่าอิฐ

ออฟไลน์ เอมมี่

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 572
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1
อิฐมาแบบเนียนมากจนไป๋ไม่รู้ตัวเลย

ออฟไลน์ Tiffany

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1157
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
อิฐกับโฟค สองคนนี้ใครจะเนียนกว่าใคร

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
หมายเลขนั้น เป็นของอิฐสินะ
เพียว ชอบน้ำหอมจริงรึ
เป็นข้ออ้างที่อิฐเข้าหาไป๋แน่เลย   :hao3:
อิฐ  ไป๋   :กอด1: :กอด1: :กอด1:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ songte

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1425
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
อิฐสายเนียน รุกไป๋แบบไม่ให้ตั้งตัว กว่าจะรุ้ตัวคงขาดอิฐไม่ได้แล้ว

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3382
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
 :pig4: :pig4: :pig4:

หมอไป๋ผู้เสน่ห์แรง จะลงเอยกับใครน้อ?

ออฟไลน์ uyong

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 362
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-1

ออฟไลน์ catka12

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 587
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-0
 :o8:  :-[  :impress2: สรุปว่าเรื่องเพื่อนชอบนำ้หอมก็ข้ออ้างใช่ปะ?  :hao7: เนียนว่างั้น  :hao3:  o13

ออฟไลน์ day9day

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2181
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +284/-9
พัฒนาความสัมพันธ์ ????

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3494
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
แหม อิฐ เนียนเลยนะ

ออฟไลน์ พลอยสวย

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1623
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +232/-5

ออฟไลน์ ninepinta

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 79
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-0
เกียร์สีขาวกับกาวน์สีฝุ่น



ตอนที่ 10 : ถนนจักรยาน



             “ขึ้นมาดิ”



            ไอ้อิฐพูดหลังจากที่ขึ้นคร่อมจักรยานตรงคนขับเป็นที่เรียบร้อยแล้ว มันยังใส่เสื้อช๊อปที่ใช้ทำแลปอยู่เลย ส่วนตัวเขาถอดเสื้อกาวน์แล้วเอามาถือไว้แทน



            “กูว่ากูเดินก็ได้หวะ กูตัวหนัก กูกลัวล้ม” ไป๋พูดออกมาอย่างตัดสินใจ



            “ขึ้นๆ มาเถอะน่า เพื่อนกูบางคนอ้วนกว่ามึงตั้งเยอะกูยังเคยปั่นให้ซ้อนมาแล้ว เอาอะไรกับคุณหมอตัวบางเฉียบอย่างมึงวะ” ไอ้อิฐหันมาพูดแกมบ่นๆ



            “แต่ถ้าล้มมึงห้ามมาด่ากูนะเว้ย”



            “เออๆ ขึ้นๆ มาเหอะ”



            ไป๋ไม่ต่อความยาวสาวความยืด แต่จัดการขึ้นคร่อมจักรยานไอ้อิฐเพื่อมุ่งหน้าสู่คณะวิทย์ ความจริงไอ้อิฐก็ถือว่าเป็นคนดังพอสมควรเลยมั้ง เพราะตอนลงมาใต้คณะพร้อมกับมันมีทั้งเพื่อนทั้งรุ่นพี่ทักมันเต็มไปหมด อย่างว่าแหละนะ มันทั้งหน้าตาดีทั้งเล่นกีฬาเก่ง เวลามันขยันฉีกยิ้มก็คงจะมีคนหลงเสน่ห์มันอยู่ไม่น้อย

 





            “เชี่ยยย ไอ้อิฐ เดี๋ยวนี้ถึงขั้นจีบหมอแล้วเหรอวะ ฮ่าฮ่าฮ่า”



            เสียงตะโกนแซวดังโหวกเหวกโวยวายมาจากโต๊ะหินอ่อนตอนที่ไอ้อิฐปั่นจักรยานผ่านโต๊ะไปพร้อมเขา เขาพอจำหน้าได้ เหมือนเจ้าของเสียงจะเป็นเพื่อนรุ่นเดียวกับไอ้อิฐ เขาจำหน้าได้จากห้องแลปฟิสิกส์



            “จีบพ่องมึงสิ”



            ไอ้อิฐตะโกนตอบออกไปอย่างกวนตีน เสียงด่าของมันเรียกเสียงฮาครืนจากคนบนโต๊ะได้อย่างดี ท่าทางพวกมันจะแซวไอ้อิฐเล่นมากกว่าจะคิดจริงจัง เพราะพอไอ้อิฐตะโกนด่าพวกมันก็ขำและไม่สนใจเขาอีก ซึ่งนั่นก็ดีแล้ว มันคงพิลึกชะมัดถ้าเขาจะโดนผู้ชายมาจีบ แค่คิดก็ตลกแล้ว



            “มึงไม่ต้องไปสนใจนะ พวกนี้มันปากหมาพูดเล่นไปงั้นแหละ”



            ไอ้อิฐพูดขึ้นทั้งที่ยังคงขมักเขม้นปั่นจักรยานต่อไป พอสิ้นคำพูดได้ไม่นานมันก็หักเลี้ยวจักรยานออกจากทางจักรยานที่แทรกตัวไปตามทางเดินของนักศึกษา มันหันมาปั่นจักรยานตรงทางถนนรถยนต์แทน ดูเหมือนทางแถบนี้จะมีคนสัญจรไปมาน้อยกว่า

           





            “เกาะเอวกูไว้ได้นะ” มันพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบๆ



            “ไม่เอาอะ ตลกฉิบหาย” เขาเถียง



            “ข้างหน้ามันมีลูกระนาด เดี๋ยวก็ได้ล้มหน้าคว่ำหรอกมึง”



            “แล้วมึงจะมาปั่นบนถนนทำไมวะ เมื่อกี้ปั่นอยู่ตรงทางจักรยานอยู่ก็ดีอยู่ละ”



            “กูรำคาญพวกปากหมา”

           





            “เชี่ยอิฐ!”



            เสียงของเขาอุทานขึ้นอย่างตกใจพร้อมกับคว้าเอวของคนตรงหน้าไว้อย่างตกใจ ใช่แล้ว ไอ้อิฐปั่นข้ามลูกระนาดอย่างที่มันเตือนไว้ แต่มันไม่ได้บอกไว้สักคำว่ามันจะไม่ลดความเร็วลงแบบนี้เลย คนบ้าคนบอที่ไหนปั่นจักรยานข้ามลูกระนาดแบบไม่ลดความเร็ววะ นี่ยังดีว่าลูกระนาดที่มหาวิทยาลัยไม่ได้ชันมาก ไม่งั้นได้ล้มหน้าแหกทั้งคู่แน่



            “ก็กูบอกแล้วให้ระวัง”



            ฝั่งคนขับพูดด้วยน้ำเสียงเรียบๆ แต่ถ้าใครมองอยู่ในเวลานี้คงจะเห็นรอยยิ้มแบบปิดไม่มิดของคนที่กำลังปั่นจักรยานอย่างสบายใจเฉิบนี่ เสียดายว่าไป๋ไม่สามารถมองเห็น เขาเลยไม่มีโอกาสได้รู้ว่ารอยยิ้มของไอ้อิฐในเวลานี้มันสว่างไสวแค่ไหน

           





            “ไอ้เชี่ยอิฐ!”



            หมอไป๋อุทานขึ้นอีกรอบอย่างไม่ทันขาดคำ เขาเพิ่งปล่อยเอวไอ้อิฐไปได้เมื่อกี้ มันก็พาเขาตะลุยลูกระนาดอีกรอบ ตอนแรกเขาคิดว่ามันจะได้บทเรียนว่าต้องลดความเร็วลง แต่เขาคิดผิด มันไม่ได้ชะลอจักรยานเลย เขาจึงเสียหลักและต้องจับเอวมันเพื่อพยุงการทรงตัวเอาไว้อีกรอบ



            “กูบอกให้มึงระวังแล้วนะ”



            “กูรู้ว่ามึงบอกให้กูระวัง แต่กูไม่รู้ว่ามึงจะปั่นจักรยานได้เชี่ยแบบนี้ ใครสั่งใครสอนให้มึงไม่ลดความเร็วลงเลยตอนขึ้นลูกระนาดวะฮะ รีบไปเฝ้ายมบาลรึไงมึง”



            “ก็จับเอวกูไว้ก็สิ้นเรื่อง เร่งๆ ลดๆ มันปั่นเหนื่อยนะเว้ย” มันเถียงมาอย่างข้างๆ คูๆ



            “ถ้ากูล้มลงไปหน้าแหกใครจะรับผิดชอบ หมอเลสิคยิ่งสั่งให้กูงดเล่นอะไรผาดโผนอยู่เนี่ย ถ้าหน้าฟาดแล้วกระจกตากูหลุดมึงจะรับผิดชอบกูยังไง กูไม่อยากกลับไปใส่แว่นหนาเตอะแบบแต่ก่อนแล้วนะเว้ย”



            ไอ้ไป๋ก่นด่าไอ้อิฐอย่างรัวเป็นชุด แต่ก่อนเขายังยั้งๆ ปากไว้บ้าง แต่ตอนหลังพอสนิทกันมากขึ้นก็รู้นิสัยกันดี ไม่รู้จะเงียบทำไม ด่ามันนี่แหละ ด่ามันให้มันสำนึก



            “ใส่แว่นเหมือนแต่ก่อนก็ดีอยู่แล้ว” อีกฝ่ายตอบกลับมาด้วยเสียงเบาๆ

 





            “ระวัง”



            ไอ้คนขับจอมป่วนในเวลานี้พูดขึ้นอีกเมื่อเห็นว่าข้างหน้ามีลูกระนาดอีกชุดใหญ่ มันไม่พูดเปล่าแต่ยังเอามือข้างขวาของมันมาคว้ามือข้างขวาของเขาที่ไม่ได้ถือของอยู่ให้ไปจับเอวมันด้วย หรือถ้าจะให้พูดให้ถูก จับหน้าท้องของมันมากกว่า พอมือของไป๋ได้สัมผัสกับหน้าท้องของไอ้อิฐแล้วก็ได้แต่สะท้อนใจ ขนาดแค่โดนจากนอกเสื้อยังรู้เลยว่าซิกแพคของมันแข็งและแน่นขนาดไหน หุ่นของมันโคตรนักกีฬา ส่วนหุ่นของเขาไม่ต้องพูดถึง ไม่มีความแข็งแรงสักนิด อย่าว่าแต่ฟิตกล้ามเลย แค่ดึงตัวเองให้ไปวิ่งที่ฟิตเนสใต้หอนี่เขายังไม่ค่อยอยากจะทำเลย



            “เชี่ยย”



            ไป๋ไม่มีโอกาสตัดสินใจมากนัก เพราะไม่ทันขาดคำไอ้อิฐ ล้อหน้าของจักรยานก็สัมผัสกับลูกระนาดไปแล้ว เขาถือคติปลอดภัยไว้ก่อนโดยการคว้าเอวไอ้คนตรงหน้าไว้แน่น นี่ถ้ารู้ว่ามันจะปั่นจักรยานได้หมาไม่รับประทานแบบนี้นะ เขาสู้ยอมเอารถเขามาวนหาที่จอดซะยังจะดีกว่า ไอ้ไป๋นะไอ้ไป๋ ไม่น่าไว้ใจไอ้คิงคองบ้าพลังจอมเถื่อนนี่เลย

 





            “จับเอาไว้ให้ดีนะมึง ถ้าคว่ำไป แผนจะเป็นเดือนมหาวิทยาลัยของมึงล่มแน่”



            ไอ้อิฐพูดด้วยเสียงดังไปกว่ากระซิบไปแค่นิดเดียว แต่นั่นก็แทบไม่มีปัญหาในการได้ยินเลย แค่นี้หน้าของเขาก็แทบจะแนบกับแผ่นหลังไอ้คนตรงหน้านี่อยู่แล้ว



            “ทำอย่างกูอยากเป็นตายห่างั้นแหละ” เขาตอบแบบประชด



            “ไม่อยากเป็นแล้วจะลงแข่งทำไม”



            “ไม่ต้องมาทำปัญญาอ่อน มึงนั่นแหละเป็นคนท้ากู”

 





            “กูไม่น่าท้ามึงเลย” ไอ้วิศวะตรงหน้าเขาพูดด้วยเสียงเบาราวกับจะรำพึงกับตัวเองมากกว่าพูดกับเขา

            “ไม่ต้องมาพูดมาก กูจะเอากาวน์ของกูคืนให้ได้”



 



            “มึงอยากได้คืนขนาดนั้นเชียวเหรอ กาวน์มึงที่ใส่อยู่ที่หูกูเนี่ย”



            “เออดิ นี่มันของรักของหวงกูเลยนะ กูไม่น่าหลวมตัวให้มึงไปเลย”



            “ทำไม คนอย่างกูมันแย่มากนักหรือไง”



            “กูแค่อยากได้ของกูคืน มึงรีบตัดสินใจสักทีว่าจะใช้สิทธิ์จะสั่งอะไรกู ให้กูเป็นเบ๊ให้มึงสักวันมะ เดี๋ยวกูจะคอยวิ่งซื้อข้าวซื้อน้ำให้มึง แต่พอใช้กูเสร็จก็คืนตุ้มหูกูมา”

 





            “ฟังดูดีนะ แต่กูไม่เอาหรอก”



            “แล้วมึงจะเอายังไง”



            “ชนะกูให้ได้สิ”



            “รางวัลเดือนมหาวิทยาลัยเนี่ยนะ”



            “เออ”



            “กูแม่งไม่น่าหลวมตัวไปแข่งกับมึงเลย นี่ถ้ากูรู้ว่ามึงมีแฟนคลับเยอะแยะขนาดนี้กูไม่มาแข่งกับมึงให้เสียเวลาหรอก แม่งโคตรไม่แฟร์เกม เสียเวลากูฉิบหาย กูนี่ไม่น่าหัวร้อนกับปากมึงเลย”



            ไป๋ยังคงบ่นไม่หยุด ตอนนั้นเขาหมั่นไส้ไอ้อิฐนี่มาก แต่ตอนนี้ไม่ค่อยจะเป็นแล้ว อย่างว่าแหละนะ พอสนิทกันมากขึ้น เขาก็รู้ว่าบางทีไอ้อิฐมันก็แค่กวนตีนไปตามนิสัย

 





            “ความจริงกูก็ไม่น่าท้ามึงแข่งเลย”



            “ทำไม กลัวแพ้กูหรือไง ไอ้อิฐเอ๊ย คอยดูรอบตอบคำถาม กูต้องชิงคะแนนจากกรรมการมาชนะมึงให้ได้”



            “กูแม่งไม่อยากให้มึงชนะเลย”



            “ทำไม หวงกาวน์อะไรนักหนา คืนๆ กูมาเหอะ มึงนี่ก็บ้าการแข่งขันจริงๆ”



            “กูไม่ได้หวงกาวน์มึงเท่าไหร่หรอก”



            “งั้นมึงก็กลัวเสียหน้าหละสิ มึงมันฮอตมากสินะ ไอ้อิฐผู้มีแฟนคลับในเฟสกว่าหมื่นคน คงมีคนเข้ามาให้เลือกไม่หวาดไม่ไหวเลยหละสิ”

 





            “กูไม่อยากให้มึงเด่นไปกว่านี้ต่างหาก” ไอ้อิฐตอบมาด้วยเสียงเบา



            “ทำไมวะ กูเด่นแล้วจะทำไม”



            “ไม่รู้ดิ กูว่ามึงเป็นแค่เด็กเรียนบ้าตำราแว่นหนาเตอะแบบตอนม.ปลายก็ดีอยู่แล้ว”

 





            สิ้นคำตอบสุดท้ายของอิฐก็ไม่มีคำพูดใดเกิดขึ้นระหว่างชายทั้งสองคนอีก หากถ้ามีใครสักคนกำลังจับตามองทั้งคู่อยู่ก็คงได้แต่ตั้งคำถามว่าทำไมถนนข้างหน้าก็ตัดเข้ามาสู่ทางราบแล้ว แต่คนหนึ่งก็ยังไม่ปล่อยมือจากอีกคนอีก แต่ไม่มีสายตาไหนและบทสนทนาใดแทรกกลางระหว่างความเงียบของคนทั้งคู่นี้ คนหนึ่งยังคงมุ่งหน้าปั่นจักรยานต่อไปเรื่อยๆ และอีกคนก็ยังคงซ้อนท้ายต่อไปอย่างไม่ถามจุดมุ่งหมาย

 





            หรือความเงียบจะเป็นคำตอบที่แท้จริงของเขาทั้งสองคน







               นายพินต้า







               ติดตามและพูดคุยกับนักเขียนได้ที่ www.twitter.com/ninepinta


               ถึงตอนที่ 10 แล้ว เย่เย่เย่ ภาคแรกมีทั้งหมด 40 ตอนและตอนนี้แต่งจบแล้ว ฮ่าฮ่า ไม่ต้องกลัวจะดองและหายไปนะ เพราะแต่งจบแล้ว ยังไงก็คงต้องลงให้ครบหมดแน่นอน แต่จะมีภาคต่อไปไหมไว้รอดูกระแสตอบรับก่อน สารภาพว่านี่คือนิยายรักเรื่องแรกที่แต่ง ยังต้องฝึกฝนและพัฒนาอีกมากยังไงก็ขอคำแนะนำติชมหรือคอมเม้นเป็นกำลังใจด้วยนะ คอมเมนท์จากคนอ่านสำคัญต่อนักเขียนจริงๆ : )

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด