:: บทที่ 17 อ้อนจูบ ::
ผมกลับมาตั้งใจอ่านหนังสือต่อ กระทั่งฝุ่นแล้วเสร็จผมถึงได้รวบเก็บชีตตาม ฝุ่นเดินเข้าห้องน้ำ ผมเข้าเป็นคนถัดไป
พอออกไปอีกรอบฝุ่นก็ทิ้งตัวลงนอนเรียบร้อยแล้ว พลิกตะแคงข้างท่าเดิมของมันนั่นแหละ ดวงตาปิดสนิท ผ้าห่มคลุมจนถึงอก อากาศเริ่มเย็นลงบ้างแล้วควายถึกของผมอันตรธานหายไป ซึ่งผมเดาเอาว่าฝุ่นน่าจะกอดอยู่
ผมยิ้มออกมาบางๆ ดีใจที่ฝุ่นให้ความสำคัญกับมันมากขนาดนี้
ผมเดินช้าๆ ไปทิ้งตัวลงนั่งขัดสมาธิที่พื้นใกล้มัน วางข้อศอกราบกับที่นอน จ้องหน้าคนหลับ ดวงตาฝุ่นปิดสนิท ลมหายใจเข้าออกสม่ำเสมอ
มันคงจะหลับไปแล้ว
ผมค่อยๆ วางคางลงบนหลังมือที่ผสานกันอยู่ จ้องหน้าคนหลับ ยกมือขึ้นเกลี่ยผิวแก้มมันแผ่วเบา
…แก้มแฟนผมนุ่มจัง…
แล้วอยู่ๆ ดวงตาที่ปิดสนิทของฝุ่นก็ปรือเปิดขึ้น ฝุ่นไม่มีท่าทีตกใจหรือสะทกสะท้านที่เห็นผมมานั่งอยู่ตรงนี้ จ้องกลับนิ่งๆ เท่านั้น
บางครั้งผมก็คิดว่าฝุ่นดูเย็นชาไปนะ ตกใจในความหล่อของกูบ้างก็ได้
“ทำไมยังไม่นอน” มันถามกลับนิ่งๆ
“อยากมองหน้ามึงอีกสักนิดก่อนนอน”
“โรคจิต” ขนาดเวลาด่าผม สีหน้ามันยังไม่เปลี่ยนเลย
ผมยิ้ม จ้องตามันอย่างรักใคร่
“ฝุ่น...” มันไม่พูดอะไร จ้องตาผมกลับนิ่งๆ ตามเดิม “...อีกชั่วโมงกว่าๆ ก็จะเที่ยงคืนแล้วนะ”
“แล้วไง”
“ใกล้จะหมดเวลาของวันนี้แล้ว ไม่คิดจะมาสร้างความทรงจำดีๆ ด้วยกันก่อนจะหมดวันเหรอ”
“ราตรีสวัสดิ์” มันพูดสั้นๆ ปิดตาลงอีกรอบ ผมหัวเราะ
“อยากจูบ”
“อะ” มันลืมตา ขยับดึงควายถึกออกจากอกมาเอาปากควายชนปากผม ผมเบี่ยงหน้าหนี ผมมองมันงงๆ
“กูอยากจูบมึง ไม่ใช่ตุ๊กตา”
“มึงบอกเองไม่ใช่รึไงว่าควายถึกคือกู เนี่ย อยากจูบก็จูบไป”
ผมหัวเราะกับความคิดมัน กดหัวควายถึกต่ำลง
“อยากจูบมึง ไม่ใช่ควายถึก”
“ราตรีสวัสดิ์” มันตัดบทแค่นั้น ดึงเอาควายถึกไปกอดต่อ ดึงผ้าห่มมาห่มดีๆ หลับตาลงอีกรอบ
“ฝุ่น” ผมเซ้าซี้
“นอนพล กูง่วง”
“ขอจูบหน่อย”
“ราตรีสวัสดิ์” แล้วมันก็พลิกหันหลังให้ ผมหัวเราะกับการหลบหนีของมัน ผมขยับเข้าไปชิดเตียง เกยคางไว้บนที่นอน จิ้มไหล่มันเบาๆ
“ขอจูบหน่อยสิ นะนะ จูบนิดเดียว ไม่เสียหายหรอก จูบหวานๆ ไม่หื่นหรอก”
“นอนได้แล้วพล” มันตอบมาโดยไม่หันกลับ
“นะ” ผมไม่ยอมแพ้ จิ้มไหล่มันอีกรอบ มันเล่นเกมเงียบครับ
“ฝุ่น” ผมค่อยๆ ดึงเอาผ้าห่มออกจากตัวมัน มันพยายามยื้อไว้เหมือนกัน แต่ผมมือแข็งกว่า รูดลงจนตัวมันว่างเปล่ากอดเพียงควายถึกแน่น
“พล อย่างี่เง่าน่า มานอนได้แล้ว” มันดันตัวลุกนั่งขมวดคิ้วทำหน้าไม่พอใจใส่
“อยากจูบ” ผมยังนั่งอยู่ที่เดิม กอดผ้าห่มที่ดึงมาแน่น แหงนหน้ามองคนที่นั่งอยู่สูงขึ้นไป
“ถ้ากูบอกว่าไม่ล่ะ”
“กูจะไม่บังคับจูบมึงหรอก แต่จะนั่งอ้อนแบบนี้ไปเรื่อยๆ จนกว่ามึงจะยอมอนุญาตให้กูจูบได้”
“ไม่บังคับก็เหมือนบังคับนะพล”
“นะ” ผมอ้อนด้วยท่าทางน่าสงสาร สาวๆ ละลายมาหลายรายแล้วละครับ มันถอนหายใจแรง วางควายถึกลง ทิ้งขาลงมาวางราบที่พื้น ทำให้ตอนนี้ผมนั่งอยู่ตรงกลางระหว่างขามันพอดี
“ถ้าได้จูบแล้วจะนอนใช่ไหม”
ผมพยักหน้า
มันไม่พูดอะไร ทาบสองมือกับแก้มผมไว้จนหน้าผมแหงนนิดๆ แล้วก้มลงมามอบจูบเบาๆ
ว้าว
นี่ผมฝันไปเหรอ
ฝุ่นจูบผมเนี่ยนะ…
ผมหลับตาลง ตอบรับการบดเบียดหวานๆ จากอีกคน ฝุ่นแยกออกระหว่างจูบหวานๆ ของเราสองคนกับจูบแบบกระตุ้นอารมณ์ จูบแบบนี้ จูบทั้งวันผมก็ไม่ตื่นหรอกครับ แต่รู้สึกดีพิลึก
ฝุ่นค้างปากไว้กับปากผม นานจนผมไม่แน่ใจว่าฝุ่นหลับคาปากผมหรือเปล่า กระทั่งมันเป็นฝ่ายดึงหน้าออก ผมยังหลับตานิ่ง ซึมซับรสจูบดีๆ นั้น คลี่ยิ้มเพ้อๆ สองมือยังกอดผ้าห่มแน่น
“…ว้าว” ผมครางออกมาเบาๆ “รู้สึกดีเป็นบ้า อย่างกับขึ้นสวรรค์” ผมบอกตรงๆ
“ลงจากสวรรค์มานอนได้แล้ว กูง่วง” มันดึงผ้าห่มจากอกผม ผมลืมตามอง สีหน้ามันยังนิ่งเรียบ แต่ไม่สบตาผมครับ
ผมคลายมือจากผ้าห่ม โอบวงแขนรอบเอวคนที่นั่งอยู่บนเตียง ไม่พูดอะไร เอียงหน้าแนบกับพุงมันเบาๆ
“พล นอนได้แล้ว”
“อีกนิดสิ กูกำลังมีความสุข ขอซึมซับอารมณ์นี้เก็บไว้นานๆ หน่อย” ผมหลับตาลง ผมชอบกอดแม่ท่านี้ประจำ แล้วแม่ก็จะลูบหัวผม ปากให้พรบ้าง สั่งสอนบ้าง ตำหนิบ้างถ้าได้ข่าวว่าผมทำตัวไม่ดี
“ลูบหัวกูหน่อยสิ”
“เป็นหมารึไง”
“ผัวต่างหาก”
มันตอบกลับด้วยการขยำหัวผมแรง หัวผมโยกไปมาตามแรงนั้น ผมหัวเราะร่วนไม่ขัดขืนใดๆ ทั้งสิ้น
“ปล่อยได้แล้วพล กูง่วง”
“แต่กูยังไม่ง่วงเลย”
“ไม่ง่วงมึงก็ตื่นคนเดียวไป กูจะนอน” มันผลักหน้าผมออก แต่ผมไม่ยอมปล่อย กระชับกอดมันแน่นขึ้นไปอีก
“เวลาตื่น ตื่นคนเดียวมันไม่สนุกหรอกนะ มันต้องตื่นด้วยกันทั้งสองคนสิ”
“อย่ามาลามกพล จะเที่ยงคืนแล้ว”
“กูไม่ได้คิดอะไรสักหน่อย หมายถึงตื่นขึ้นมาคุยกันต่างหาก คิดไปถึงไหนเนี่ย”
มันผลักหัวผมออกแรงแล้วดึงหูจนผมเจ็บร้องโอ๊ยๆ
“โอเคๆ นอนก็นอน แหม ขอสวีตตามประสาผัวเมียนานๆ หน่อยก็ไม่ได้” ผมบ่นหงุมหงิม ยอมคลายเอวมันออกแล้ว มันหยิบควายถึกมากอด ทิ้งตัวลงนอน ผมก้าวขึ้นเตียงตาม ทำหน้าที่ปิดไฟขยับเข้าโอบกอดมันไว้ หอมหัวมันไปเบาๆ ที
“ราตรีสวัสดิ์ ฝันถึงกูด้วยนะที่รัก” แล้วผมก็หลับลงไปง่ายๆ ทั้งอย่างนั้น
จริงๆ วันนี้ฝุ่นมีเรียนบ่าย แต่มันตื่นแต่เช้าเพราะจะเข้าห้องสมุดไปทำรายงานกลุ่ม ผมเดินไปส่งมันตามเดิม แย่งของบางอย่างจากมือมันมาถือเองด้วย “กูไม่ได้เป็นง่อยพล กูถือเองได้”
“กูรู้ แต่กูอยากถือให้” เห็นแวบๆ ว่าแก้มมันแดงหน่อยๆ ครับ ผมฉีกยิ้มด้วยความดีใจ กระเถิบเข้าไปเดินใกล้ๆ มัน “แต่ถ้ามึงอยากจะถืออะไรสักอย่าง กูอยากให้มึงถือ...” ผมค้างคำพูดไว้ แกล้งทำสีหน้ากรุ้มกริ่มบวกหื่นๆ หน่อย มันผลักหัวผมแรง
“อย่ามาลามกแถวนี้พล”
“อะไร ลามกตรงไหน แค่จะให้มึงถือหัวใจกูแค่เนี้ย” ผมหัวเราะเสียงดังที่แกล้งมันได้ มันทำหน้ากึ่งอายกึ่งโมโห ผลักผมออกห่างอีกรอบ เดินลิ่วนำหน้าไป ผมหัวเราะร่วน ก้าวตามไปติดๆ
เราแวะทานข้าวกันที่คณะ แน่นอนว่าผมเป็นคนออกเงินแทนมันเหมือนเคย มันคงระอาถึงได้ไม่เถียงอะไร
ใช้เวลาไม่นานก็มาถึงห้องสมุด คนเพียบครับ ห้องสมุดเป็นสถานที่ล้ำค่ามากจริงๆ สำหรับพวกทำรายงาน มันยกมือถือโทรหาเพื่อนๆ ในกลุ่ม จนรู้ว่าคนที่มาก่อนนั่งอยู่ตรงจุดไหน ผมพามันเดินไปใกล้ แต่ไม่ได้เข้าไปในกลุ่มหรอกครับ ผมยื่นของทั้งหมดคืนมัน
“เดี๋ยวตอนเย็นกูมารับ”
“ไม่ต้องหรอก น่าจะดึก”
“กี่โมง”
“ไม่รู้ เสร็จตอนไหนก็ตอนนั้น”
ผมเหลือบมองไปทางกลุ่มมันที่มองมาทางพวกเราแล้ว เห็นมีผู้ชายหน้าตาดีอยู่ด้วยคนหนึ่ง
“ไอ้นั่นจะอยู่ด้วยเหรอ”
ฝุ่นหันไปมองตาม
“คนไหน”
“คนหล่อๆ ตัวสูงๆ หน้าตาลูกครึ่งหน่อย”
“อ๋อ โจ ใช่ ทำไม” มันขมวดคิ้วถามงงๆ
“มันหล่อเกินไป” ผมตอบคิ้วขมวด
“แล้วเกี่ยวอะไรด้วย” ฝุ่นถามงงๆ
“เดี๋ยวมึงหลงเสน่ห์มัน”
ฝุ่นโบกหัวผมแรง
“กูไม่ได้พิศวาสเพศเดียวกันนะพล”
“แล้วกูง่า”
“กูไม่ได้พิศวาสมึงด้วย”
ผมหน้าบึ้ง
“กูน้อยใจนะ”
“เรื่องของมึง รีบไปได้แล้ว”
โธ่ ง้อกูหน่อยก็ไม่ได้
“เลิกเรียนแล้วกูจะมานั่งเฝ้า”
มันถอนหายใจแรง
“อย่าทำตัวไร้สาระสิพล กูไม่หลงใครและไม่มีใครมาหลงกูทั้งนั้น”
“ไม่มีได้ไง กูไง”
“มึงมันจิตไม่ปกติไง เพื่อนๆ รอแล้ว แค่นี้ล่ะ” มันบอกแค่นั้น หันหลังเดินเข้าไปในกลุ่ม เห็นมันพูดคุยอะไรกัน หันมามองผมกันด้วย ผมไม่สนสายตาผู้หญิงที่มองมาอย่างชื่นชม แต่มองไปยังผู้ชายที่รูปร่างหน้าตาดีที่สุดไว้ก่อน
มึงอย่ามาหลงเมียกูนะเฟ้ย ไม่งั้นโดนกัด
ฝุ่นมันหันมามองผม ขมวดคิ้ว ขยับปากให้ผมอ่านเบาๆ
‘ไปได้แล้ว’
ผมจำต้องเดินออกไป
ผมนั่งเรียนแบบอารมณ์ไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ผมว่าอาการผมชักจะหนักไปแล้วนะ ในหัวมีแต่เรื่องของฝุ่นทั้งนั้นเลย ผมถอนหายใจแรง ขึ้นสเตตัสสั้นๆ
'แฟนผมเจ้าเสน่ห์มาก ทำไงให้เขารักผมเพียงคนเดียวได้ครับ’
มีคนเข้ามาคอมเมนต์สารพัด จริงจังบ้าง ออกแนวไร้สาระบ้าง ผมเก็บทุกรายละเอียด กระทั่งใจเต้นนิดๆ เมื่อฝุ่นเข้ามาคอมเมนต์ด้วยข้อความที่ทำให้ผมหลุดขำ
‘ปิดเฟซบุ๊กแล้วตั้งใจเรียนพล’
สมกับเป็นเมียผมจริงๆ ผมตอบคอมเมนต์ของมันสั้นๆ
‘ครับ แม่’
แล้วก็มีคนเข้ามาแซวกันใหญ่ที่ผมตอบแบบนั้น ส่วนใหญ่เข้าใจว่าผมประชด บางคนไม่รู้ว่าฝุ่นเป็นใคร คนที่รู้ก็ตอบให้
เออดี ไม่ต้องเสียเวลาตอบ
ผมปิดเฟซบุ๊กแล้วตั้งใจเรียนตามเมียสั่ง กระทั่งหมดคลาสรอบบ่าย อยากไปกินข้าวเที่ยงกับมัน แต่มันบอกต้องไปกินกับกลุ่ม มื้อเย็นก็ด้วย
เอาเถอะ เรียนก็สำคัญไม่แพ้กัน
งานเข้ากะทันหัน ผมมีงานกลุ่มเหมือนกัน กว่าจะทำกันเสร็จก็ปาเข้าไปสามทุ่มครึ่ง ผมไลน์ไปถามฝุ่นได้ความว่ามันยังไม่เสร็จ ผมถามพิกัดจนรู้ว่ามันยังอยู่กันแถวๆ คณะ ฝนโปรยลงมาห่าใหญ่ ผมถือร่มวิ่งเข้าไปในคณะมัน นักศึกษายังอยู่กันหลายชีวิต ผมเล็งหาเป้าหมายของผมทันที
ผมเห็นฝุ่นแล้วครับ มันนั่งหันหน้ามาทางผม ตรงหน้าคือแมคบุ๊กของใครไม่รู้ แต่ด้านหลังมันมีผู้ชายหล่อๆ ที่ชื่อโจ โจ้หรือแจ็คหรือโจ๊กสักอย่างยืนคร่อมอยู่
มันจะใกล้ชิดกันเกินไปหรือเปล่า!
คนที่ชื่อจออะไรนั่นเงยหน้าเห็นผมก่อน ผมส่งออร่าไม่เป็นมิตรใส่ทันที มันก้มสะกิดฝุ่น คนที่กำลังก้มหน้าหันไปมองคนสะกิดแล้วหันมาตามปากที่บุ้ยใบ้จนมาเจอผม
ผมเดินเข้าไปใกล้ ตัวเปียกหน่อยๆ
“ใกล้เสร็จยัง” ผมไม่สนคนอื่น ถามตรงๆ เลย
“ยัง อีกเยอะเลย มึงกลับไปก่อนก็ได้ รีบอาบน้ำสระผมด้วยล่ะ เดี๋ยวเป็นหวัด”
ผมยิ้มออกมาบางๆ กับความห่วงใยนั้น วางร่มไว้ห่างๆ
“ไม่เป็นไร รอกลับพร้อมกันเลย”
“นานนะพล เบื่อเปล่าๆ”
“ไม่เป็นไร” ผมยืนยัน
“ตามใจ เบื่อก็กลับละกัน” มันหันไปแนะนำว่าเพื่อนมันชื่ออะไรกันบ้าง ผมพยายามจดจำโดยเฉพาะไอ้คนชื่อโจนั้น (ชื่อจริงคือโจเซฟ ลูกครึ่งไทยเยอรมัน)
ผมเลือกหาที่นั่งว่างๆ ให้เห็นฝุ่นได้ชัดๆ ไม่มีใครสนใจผมอีก ตั้งหน้าตั้งตาทำรายงานตัวเองไป ผมหงุดหงิดเพราะคนชื่อโจเป็นพิเศษ เพราะตอนนี้มันยังไม่หยุดคร่อมคนของผมอยู่
ผมมองตาขวางยิ่งกว่าเดิม อยากเข้าไปดึงตัวฝุ่นออก แต่กลัวมันจะประเจิดประเจ้อไป ผมจึงยอมทนนั่งเฉยๆ แรกๆ นั่งมอง หลังๆ ผมเริ่มเอางานมาอ่านบ้าง เล่นมือถือรอบ้าง เบื่อครับ ฝุ่นมันก็ลืมผมไปเลย
หรือว่าผมจะกลับก่อนดี
กำลังจะบอกขอกลับก่อนก็ต้องชะงัก ฝุ่นเป็นเด็กอนามัย ถ้าไม่ติดงานอะไรสี่ทุ่มมันก็หลับแล้ว นี่จะเที่ยงคืน มันยังไม่ได้นอน ไอ้โจนั่นเห็นว่าฝุ่นง่วงจึงนวดไหล่นวดคอให้ ฝุ่นมันไม่ดื่มแอลกอฮอล์ ไม่ดื่มเครื่องดื่มที่ใส่น้ำตาล รวมถึงคาเฟอีนทุกชนิดด้วย คนอื่นเขาล่อกาแฟ มันนั่งดื่มน้ำเพรียวๆ ตาปรอยจนน่าสงสาร
ฝุ่นยิ้มให้ไอ้ผู้ชายคนนั้น เท้าผมกระตุกยิกๆ
เอามือออกไปจากไหล่เมียกูเล้ย!!!
ผมนั่งมองตาขวางยิ่งกว่าเดิม คนชื่อโจเงยหน้าขึ้นมาเห็น
“ง่วงแล้วเหรอพล ตาแข็งเชียว”
ทุกคนหันมามอง ผมจึงปรับตาขุ่นๆ ให้กลับเป็นปกติ
“กลับไปก่อนเลยพล ไม่ต้องรอ” ฝุ่นมันบอก ผมส่ายหัว
“ทำไปเถอะ รอได้”
ทุกคนเหมือนเจอแรงกดดันจากผมรีบพากันเร่งทำจนเที่ยงคืนครึ่งถึงได้แล้วเสร็จ
ผมพุ่งเข้าหาฝุ่นทันทีที่มันลุกยืน แย่งทุกอย่างมาถือเอง
“กูถือเองได้”
“มึงเดินเฉยๆ ก็พอ บาย” ผมหันไปลาเพื่อนฝุ่นแค่นั้น แล้วดันพาตัวฝุ่นก้าวไปข้างหน้า ฝนตกลงมาปรอยๆ ผมถือของทั้งหมดด้วยมือหนึ่ง อีกมือถือร่ม
“ให้กูช่วยถือพล”
“ไม่เป็นไร รีบเดินเถอะ ดึกแล้ว มึงจะได้รีบกลับไปนอน” ผมเร่ง มันไม่เซ้าซี้อีก ก้าวเร็วขึ้น
ถามว่าง่วงไหม ง่วงครับ ง่วงมาก เมื่อยด้วย นั่งรอเฉยๆ ตั้งหลายชั่วโมง แต่เมียผมตอนนี้น่าสงสารกว่า ตามันจะปิดอยู่รอมร่อ พอถึงห้องผมรีบไล่มันไปอาบน้ำ มันใช้เวลาไม่นานก็เรียบร้อย ผมเข้าไปอาบต่อ ออกไปฝุ่นก็หลับแล้วล่ะครับ นอนกอดควายถึกหลับปุ๋ยเลย ผมขยับผ้าห่มห่มให้ดีๆ ก้มหอมหน้าผากมันเบาๆ
แม่เคยทำกับผมบ่อยๆ ตอนเด็กๆ ผมเข้าใจแล้วว่าทำไม เวลาที่เรารู้สึกรักใครสักคน การได้หอมแค่หน้าผากก็ทำให้รู้สึกดีได้แล้ว
ผมทิ้งตัวลงนอนบ้าง ขยับเข้าไปกอดฝุ่นเบาๆ แปลกนะ ปกติผมขี้หื่นจะตาย เหนื่อยจากเรียนขนาดไหนผมก็ยังดี๊ด๊าเรื่องใต้สะดือ แต่ช่วงนี้เหมือนเรื่องนั้นจะไม่สลักสำคัญอะไร ไม่ใช่ผมไม่ต้องการฝุ่น แต่ผมมีความรู้สึกว่า การระบายความใคร่ของตัวเองไม่สำคัญเท่ากับให้ฝุ่นได้นอนพักบ้าง
ถ้าเป็นแต่ก่อน ผมคงไม่สน
แต่นั่นอาจเพราะผมไม่ได้รู้สึกอะไรกับมันแบบนี้ล่ะมั้ง
“ถ้ากูเป็นโรคกามตายด้านขึ้นมา มึงไม่ได้ตายดีแน่ฝุ่น” ผมกระซิบขู่คนหลับขำๆ หลับตาลงแล้วหลับไปพอกัน
เช้าวันศุกร์ ผมตื่นก่อน ทำทุกอย่างให้เบาที่สุดเพราะอยากให้ฝุ่นได้พักยาวๆ กระทั่งแล้วเสร็จถึงได้ปลุกฝุ่นขึ้นมาอาบน้ำบ้าง ผมยังทำหน้าที่เหมือนเดิมคือเดินไปส่งมันที่คณะ ทานข้าวด้วยกัน
“กูจองที่พักไว้แล้วนะ ส่วนนี่ตารางเที่ยวของเรา” ผมส่งกระดาษแผ่นหนึ่งให้ ฝุ่นมองงงๆ
โอ้ ไม่ต้องมอง กูไม่ขยันทำขนาดนั้น
“แมทมันจัดการให้ทุกอย่าง”
ฝุ่นหัวเราะอย่างรู้ดี ดูตารางอีกที
“ไปกันยังไง รถไฟหรือรถตู้”
“มอ’ไซค์”
มันมองผมงงๆ เพราะรู้ว่าผมไม่มีรถอะไรสักคัน
“แมทมันใจดีให้ยืมมา”
ฝุ่นขมวดคิ้ว
“รบกวนแมทเปล่าๆ ไปเที่ยวสถานที่คนเยอะแบบนั้น เกิดรถหายขึ้นมาทำไง ไปรถโดยสารก็ได้”
ผมส่ายหัว
“ตอนแรกก็ว่าจะนั่งรถไฟหรือรถตู้ไปนั่นแหละ แต่คิดไปคิดมา มอ’ไซค์ดีกว่า”
มันทำหน้าไม่สบายใจ ผมยิ้มใส่ใบหน้านั้น มองตามันอย่างมีความหมาย
“กูอยากให้โลกนี้มีแค่มึงกับกู ถ้านั่งรถตู้หรือรถไฟ เราจะทำได้แค่นั่งเคียงข้างกัน แต่ถ้านั่งมอเตอร์ไซค์ ถ้ากูขับ กูจะถูกมึงกอดไปตลอดทาง หรือถ้ามึงขับ กูจะได้กอดมึงไปแน่นๆ ตลอดทางเช่นกัน” ผมฉีกยิ้มอารมณ์ดีใส่ มันทำหน้าเอือมระอา
“งั้นมึงขับไปคนเดียว เดี๋ยวกูนั่งรถตู้ไปเอง”
“ถ้ามึงอยากให้กูเปลี่ยนสเตตัสในเฟซบุ๊กว่ามีแฟนแล้วและกำลังคบอยู่กับมึงก็ลองขึ้นรถตู้ไปสิ”
มันหน้าบูด ทำท่าจะพูดอะไรสักอย่าง แต่เสียงเรียกของใครสักคนหยุดคำมันลง ฝุ่นหันไปมองพอๆ กับผม คนกลุ่มเมื่อวานยืนอยู่กันครบ ฝุ่นพับเก็บตารางเที่ยว ไม่พูดลาผมสักคำหันหลังเดินลิ่วๆ เข้าไปสมทบ ผมไม่ได้มองฝุ่น แต่มองไอ้ผู้ชายหล่อๆ คนนั้น
รู้ว่าตีท้ายครัวเมื่อไหร่ ตาย!
ผมเลิกช้ากว่าฝุ่นเพราะติดทำงานกลุ่ม ผมรีบโทรหาแมทก่อนเพื่อไปดูรถ มันบอกว่ารออยู่หน้าหอแล้ว พอไปถึงก็เห็นแมทยืนเท่อยู่ข้างรถมัน มันโยนกุญแจให้
“ขามึงถึงพื้นด้วยเหรอวะแมท สั้นอย่างกับขากบ”
“ปากแบบนี้เอากุญแจกูคืนมา” มันขยับจะมาแย่งคืน แต่ผมชักหนี
“ล้อเล่นน่า กูเห็นคันใหญ่ เลยสงสัย” มันไม่ได้เตี้ยมากหรอกครับ สูงกว่าฝุ่นนิดหน่อย
“คันนี้ไม่ใช่ของกู ของพี่กู พอดีมันเอารถกูไปซื้อน้ำเต้าหู้แล้วเอาไปเสยถังขยะข้างร้านขายน้ำเต้าหู้เข้า ตอนนี้กำลังซ่อมอยู่ นี่ถ้า
กูไม่ให้มึงยืมรถ กูคงไม่รู้ว่าไอ้พี่ชายวายร้ายของกูมันแอบเอารถกูไปขับเล่นอีก รถตัวเองมีไม่ใช้ ชอบเอาของกูไปอยู่เรื่อย” ท้ายๆ มันบ่นของมันหงุมหงิม
“พี่เขาคงกลัวหยากไย่ขึ้นล่ะมั้ง ซื้อไว้ทำไม รู้ว่าตัวเองเป็นพวกไม่ค่อยชอบขับรถ”
“รสนิยมส่วนตัวของกู”
“เออ แล้วรถเป็นไงบ้างล่ะ”
“ถลอก ต้องทำสีใหม่”
ผมพยักหน้า
“ขอบใจที่ให้ยืมนี่ละกัน” ผมชูกุญแจรถให้ดู มันพยักหน้า
“ดูแลดีๆ ละกัน”
ผมรับปาก ลองก้าวขึ้นไปนั่งคร่อม สตาร์ตเครื่อง เสียงมันดังกระหึ่มจนหัวใจเต้นแรง
แมทยืนมอง ผมลองบิดไปและกลับในระยะสั้นๆ เพื่อทดสอบ เมื่อมั่นใจว่าน่าจะพอเอาอยู่ก็นำรถกลับมาจอดที่เดิม
“เครื่องดีฉิบ”
มันพยักหน้า
“น้ำมันเต็มถัง กลับมาก็เติมให้เต็มเหมือนเดิมละกัน”
ผมรับปาก หยิบมือถือขึ้นมากดถ่ายรูปไว้กันหลงกันลืม
“ขอบใจอีกที เดี๋ยวจะซื้อของมาฝาก” แล้วผมก็เดินพาดไหล่มันเดินขึ้นห้อง พอถึงชั้นสองมันก็แยกเดินไปห้อง ผมเดินอารมณ์ดีควงกุญแจขึ้นชั้นสี่ไปต่อ
ฝุ่นกลับถึงห้องก่อนผม อาบน้ำแต่งตัวเรียบร้อยแล้วด้วย ตัวหอมฟุ้งเลย มันนั่งอ่านหนังสืออยู่ ผมเดินเอากุญแจรถแมทไปวางไว้ใกล้ๆ หนังสือมัน ฝุ่นเงยหน้ามองงงๆ
“กุญแจม้าเหล็กที่เราจะควบไปเที่ยวด้วยกันพรุ่งนี้ไงจ้ะเมียจ๋า”
มันหน้าเบี้ยวกับสำนวนชวนสำรอกของผม ส่ายหัวนิดๆ หันกลับไปอ่านหนังสือต่อ ผมหัวเราะ คร่อมมันกับโต๊ะ ก้มหอมแก้มมัน
ฟอดใหญ่ ฝุ่นรีบเบี่ยงหน้าหนี ผมตามไปหอมอีกฟอด
“หอมจัง”
“อย่ารุ่มร่ามพล กูจะอ่านหนังสือ”
“จัดกระเป๋ารึยัง” ผมไม่สนใจคำปรามนั้น ใช้ปากบี้แก้มมันเล่น
“จัดแล้ว” มันใช้ทั้งศอกทั้งแขนดันตัวผมออก แต่ผมไม่ขยับครับ ไซ้ปากกับแก้มมันแรงขึ้น
“เตรียมไปกี่ชุด”
มันพยายามยกมือขึ้นมาดันหน้าผมออก หลุดจากจุดหนึ่ง ปากปลาไหลอย่างผมก็เลื่อนไปอีกจุดหนึ่ง
“สองชุด ปล่อยดิพล” แก้มไม่ได้ขอหูละกัน ผมงับมันเบาๆ มันรีบหดคอทันที ขนลุกซู่อย่างเห็นได้ชัด ผมหัวเราะ บี้แก้มฝุ่นด้วย
ปลายจมูกและปากอีกรอบ สูดดมกลิ่นมันเข้าปอดรัวๆ
“ไอ้โรคจิตหื่นกาม ปล่อยกู!”
ผมหัวเราะกับคำต่อว่านั้น ไม่เถียง เพราะผมทำตัวเหมือนพวกโรคจิตจริงๆ
“มึงเสือกตัวหอมทำไม ขอดมให้กลิ่นมึงเต็มปอดกูก่อน”
“โอ๊ยพล ไอ้บ้า ปล่อยกู!!” มันทั้งเบี่ยงทั้งหลบ ผมหัวเราะเสียงดังยอมถอนตัวออก แก้มมันแดงเถือกจากการโดนฟัดเมื่อกี้ มองมาตาขวาง ถูแก้มตัวเองแรงๆ
วันนี้มันใส่เสื้อยืดยุ่ยๆ ตัวเก่งของมันตามเดิม น่าฟัดฉิบ!!
ผมรีบหันหลังก่อนที่อะไรๆ จะตื่นขึ้นมางอแง ไปอาบน้ำออกมาแต่งตัวแล้วจัดกระเป๋าตาม
“ฝุ่นเอานี่ไปด้วยไหม” ผมยกควายถึกขึ้นให้มันดู ฝุ่นหันมามอง
“ควาย”
“ก็ควายไง”
“มึงนั่นแหละควาย เอาไปทำไม”
ผมฉีกยิ้มกว้าง
“คิดว่าติดจนห่างกันไม่ได้”
มันส่ายหัวไปมา หันไปอ่านหนังสือต่อ ผมวางควายถึกไว้ที่เดิม มองนาฬิกา
“รีบมานอนได้แล้วฝุ่น พรุ่งนี้ต้องตื่นไปกันแต่เช้านะ” ผมเรียก มันหันไปมองนาฬิกาตาม ไม่ดื้อครับ ปิดหนังสือลง เดินมาทิ้งตัว
ลงนอน ผมบริการเลิกผ้าห่มให้ มันทิ้งตัวลงนอนอย่างว่าง่าย พลิกตะแคงข้างตามเดิม ผมขยับเข้าไปกอดมันเบาๆ
…ฟึ่บ!…
เอ่อ…
ไม่ใช่เสียงอะไรตกพื้นหรอกครับ แต่เป็นเสียงน้องผมเอง มันขยับดันกางเกงขึ้นมา
…อะไรมันจะตื่นง่ายปานนั้น...
ผมทำเป็นไม่สนใจเพราะอยากเข้านอนเร็วๆ พรุ่งนี้จะได้สนุกกันให้เต็มที่ แต่กลิ่นหอมๆ ของฝุ่นยิ่งกระตุ้นให้น้องผมแข็งยิ่งกว่าเดิมจนชนฝุ่นเข้า
“ห้องน้ำเลยพล” มันพูดเสียงเบาโดยไม่หันมามอง
สมองสั่งให้ผมลุกเข้าห้องน้ำ แต่ร่างกายผมกลับทำตรงกันข้าม ผมขยับซุกซอกคอฝุ่นเบาๆ ฝุ่นมันใช้ศอกดันอกผมออก
“ไหนว่าให้นอนเร็วจะได้ตื่นกันเช้าๆ ไง” มันหันมาพูดคิ้วขมวด ไม่ไหวแล้วครับ กระทิงเด็กดีตบะแตกแล้ว ผมจับมันพลิกหงาย คว้าควายถึกโยนลงพื้นไม่ไยดี คร่อมร่างของมันทันที ปากฉกปาก มือขวาฉกนม มือซ้ายเลื่อนต่ำลงไปเค้นคลึงเนินเนื้อของมันแรง
…ผมไม่ได้สัมผัสมันมากี่วันแล้วเนี่ย…
“กูทนไม่ไหวแล้วฝุ่น” ผมพูดด้วยน้ำเสียงหื่นสุดๆ น้องตุงจนชนกางเกง มันพยายามผลักผมออก
แต่แรงแค่นั้นทำอะไรผมไม่ได้หรอกครับ
ผมเลื่อนปากต่ำลงไปที่ซอกคอ ลุกกระชากเสื้อมันออก ซุกซอกคอใหม่ ผมครางในลำคอด้วยความพอใจ คลึงหัวนมน้อยๆ ของมันอย่างมันมือ ฝุ่นบีบมือผมแรงคงเพราะเสียว ขาสไลด์ไปมา มืออีกข้างยังไม่ยอมแพ้ ทั้งผลักทั้งทุบหลังผมแรง ผมเลื่อนปากต่ำลงมาที่หัวนมน้อยๆ นั้นช่วยนิ้วกระตุ้น ตวัดเลียบ้าง ดูดดึงบ้าง งับบ้าง ไม่ลืมสร้างริ้วรอยไว้ด้วย ประกาศว่ามันเป็นของผม ฝุ่นครางสะท้าน ผมพรากเสื้อตัวเองออก ปากยังไม่ยกหนีไปจากผิวเนื้อมัน ลากต่ำลงไปที่หน้าท้อง ไล้วนไปรอบสะดือ
ฝุ่นครางเสียงดัง ผมพรากกางเกงมันเป็นชิ้นถัดไปจนตัวมันเปลือย เขวี้ยงกางเกงตัวเองตามไปติดๆ เลียริมฝีปาก น้องผมสั่นริกคงอยากกินฝุ่นแทบเป็นแทบตาย ผมพยายามอดทน จับฝุ่นคว่ำคุกเข่าแล้วบริการเปิดทางให้มันด้วยลิ้น ฝุ่นครางแทบขาดใจจนเห็นว่ามันขยายได้ที่แล้วนั่นแหละ ผมถึงได้ขยับประชิด ปิดประตูเมืองด้วยกุญแจดุ้นใหญ่
ฝุ่นมันพยายามผ่อนคลายร่างกายให้ผมเข้าไปได้ง่ายๆ ผมคำรามเมื่อน้องผมค่อยๆ ถูกกลืนหายเข้าไปภายใน
“พร้อมนะ” ผมถาม แต่ไม่รอฟังคำตอบ ขยับเอวรัวปืนใหญ่ใส่ทันที ลีลามีเท่าไหร่ ผมใส่ไปเต็มร้อยครับ เน้นให้มันรู้สึกดี พอมีอารมณ์ฝุ่นมันก็คล้อยตามดีอยู่หรอก เพียงแต่บางครั้งผมจะรุนแรงเกินไปจนมันต้องขอร้องให้ผมเบาแรงลงมาบ้าง
“เบา…พล” ฝุ่นร้องขอมาอีกเป็นรอบที่ร้อย เพราะผมยังไม่ลดดีกรีความร้อนแรงลง เหงื่อไหลซก
“อยากเบาเหมือนกันฝุ่น แต่มึงเอ็กซ์มาก กูเบาไม่ไหวจริงๆ” ผมขยับเร็วขึ้นไปอีกสวนทางกับคำขอมัน
“พล…” ดูเอาเถอะครับ มาร้องขอกันด้วยดวงตาเชื่อมหวานแบบนี้ ใครจะไปอดใจไหว ปากงี้แดงพอๆ กับผิวแก้มที่ถูกผมเติมเชื้อไฟสวาท ปากมันครางสะท้าน สองมือกำที่นอนแน่น ริ้วแดงๆ กระจายเต็มเนินอก หัวนมตั้งชันสันริก
จนในที่สุด ผมก็พ่นพิษได้สำเร็จลากพาฝุ่นตามมาติดๆ ผมขยับเข้าออกเพื่อลากเอาน้ำขาวๆ ออกมา ผมชอบดู ฝุ่นนอนหมดแรง ผมก้มดูด้วยความชื่นชม
“สวย ขอถ่ายรูปเก็บไว้ได้ไหม”
“อย่าพล…”
ผมไม่ฟัง ขยับไปหยิบมือถือบนหัวเตียงมากดถ่าย ไม่ให้เห็นหน้าหรอกครับ เห็นแค่ส่วนนั้นเฉยๆ
“โรคจิตน่าพล เกิดภาพหลุดออกไปล่ะ”
“ไม่มีใครรู้หรอก ไม่ได้ถ่ายหน้านี่ สวยจัง”
“ลบเลยพล” มันถีบผมแรงจนตัวหลุด ลุกขึ้นมาพยายามไขว่คว้ามือถือผมไป
“ไม่ลบ กูจะเอาไว้ว่าว”
“ไอ้ทุเรศ!!”
ผมโน้มโยนมือถือไปกองรวมกับเสื้อผ้าที่ถอดทิ้งไว้เมื่อกี้ หันมารวบจับมันกอดแน่น
“สำหรับสองคืนที่ไม่ได้ทำ”
“พอแล้วพล!”
ผมไม่ฟังคำมัน เริ่มต้นกระตุ้นอารมณ์ฝุ่นอีกรอบ
tbc.
รู้สึกห่างหายฉากหื่นไปนาน