►Love me #จับเพื่อนทำเมีย : ตอนที่ 24 บทส่งท้าย 100% [23-8-18] (ตอนจบ)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ►Love me #จับเพื่อนทำเมีย : ตอนที่ 24 บทส่งท้าย 100% [23-8-18] (ตอนจบ)  (อ่าน 334192 ครั้ง)

ออฟไลน์ moonny07

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 2
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0

ออฟไลน์ mypink801

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1580
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
หวานเชียว แต่ตอนจับมือแอบสงสารพล คงหงอเลยสินะ
ฝุ่นยังใจแข็งอยู่ใช่มั้ยเนี่ยย พลสู้หน่อยนะ เอาใจช่วย

ออฟไลน์ Pankwun

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 63
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ทำไมสวีทหวานกันขนาดนี้คะ งื้อออฟินนนน

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
โมเม้นท์นี้ ดีต่อใจ

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
กว่าฝุ่นจะให้จับมือเดิน ต้องมีจับเวลาด้วย พลก็ลองโอบเอวเดินไปก่อนซิ  :hao3:

ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6
ปลาทะเลแถวนั้นคงสำลักความหวานกันเป็นเบือ   o18

ออฟไลน์ Nung66669

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
เหมือนจะสงสารพลนะ แต่บางทีก็อยากตบกระโหลกชอบจังเลยบังคับข่มขู่เขาเนี้ย

ออฟไลน์ memew

  • ขอบคุณที่เข้ามาอ่านจ้าาา
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 456
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +382/-10
    • :: Memew แฟนเพจ :
:: บทที่ 19 หวานกว่าน้ำผึ้งก็มึงนี่แหละ ::


ผมเริ่มนับจากหนึ่งเป็นสอง จากสองเป็นสาม กระทั่งจังหวะที่สิบ จนถึงยี่สิบ… สามสิบ… ห้าสิบ

ผมหยุดเท้าไว้กับที่ เพราะไม่แน่ใจหัวใจผมเต้นเร็วเกินไป หรือว่าฝุ่นไม่ได้นับ ผมหันไปมองเจ้าของมือที่ถูกผมกุมไว้กับอก

“นี่หัวใจกูเต้นเร็วจนเกินหกสิบครั้งต่อนาที หรือมึงลืมนับฝุ่น กูว่ามันน่าจะเกินนาทีแล้วนะ”

มันค่อยๆ ดึงมือออก ซึ่งผมก็ยอมปล่อยโดยดี

“หัวใจมึงเต้นเร็วเอง”

ผมมองหน้ามัน ฝุ่นไม่ได้มองตอบ แม้จะกังขาแต่ผมไม่คิดจะหาคำตอบ ผมแบ่งรองเท้าอีกข้างมาถือเสียเพื่อไม่ให้มือว่าง

“ตรงนี้สวยดีแฮะ คนน้อยด้วย เล่นน้ำกันตรงนี้ไหม” ผมชวน มันพยักหน้า เราวางรองเท้าไว้บนฝั่งไม่ห่าง ก้าวลงน้ำไป สนุกดีครับ น้ำใสมาก

ในน้ำเราไม่ได้เป็นที่สนใจมากเหมือนบนบก ผมอาศัยช่วงเวลานี้เข้าประชิดตัวมัน โอบกอดไว้จากทางด้านหลัง ฝุ่นดิ้นหนี แต่ไม่หลุดหรอก แขนผมเหนียว ผมเกยคางไว้บนหัวมัน

“ปล่อย พล กูจะเล่นน้ำ”

“เล่นไปสิ ไม่ได้ห้ามซะหน่อย”

“อายเขาบ้างอะไรบ้างพล”

ผมหันหลังให้ฝั่ง หันหน้าออกท้องทะเล  พาฝุ่นเดินลงไปในน้ำที่ลึกขึ้น มันว่ายน้ำได้ แต่ผมไม่ให้โอกาส พอน้ำลึกมาก ขามันก็เหยียบพื้นไม่ถึง ผมจับมันพลิกหันมาเผชิญหน้า ฝุ่นพยายามจะยื้อออก แต่ผมไม่ปล่อย ผมพยุงจับเอวมันลอยกลางน้ำ มันจับแขนผมไว้

“อายเขาพล”

“กูไม่อาย”

“แต่กูอาย ไอ้หน้าด้าน”

ผมยิ้ม มองตามัน มองและมองอยู่อย่างนั้นจนมันเสแก้มแดงๆ ไปทางอื่น

“เลิกมองได้แล้ว”

“กูอยากมอง นี่ถ้ามึงกินได้ กูกินมึงไปทั้งตัวแล้ว”

แก้มมันแดงยิ่งกว่าเดิมอีก ขยับปากด่าแผ่ว

“โรคจิต”

ผมหัวเราะ มองคนที่ไม่กล้าสบตาผมแล้วตอนนี้ มันมองเพียงแค่แผงอกผมกลีบปากซีดๆ เม้มแน่น ที่แดงคงมีแค่พวงแก้มกับใบหูเท่านั้น

ผมค่อยๆ รวบดึงฝุ่นเข้ามาชิด หัวใจไหวแรง ผมจับคางมันดันให้เงยขึ้น และก่อนที่มันจะอ้าปากทักท้วงหรือดิ้นรนปฏิเสธ ผมก้มปิดปากฝุ่นทันที มอบจูบหวานๆ ลงไปแทนที่

…จูบที่ผมจะมอบให้มันคนเดียว…

…จูบที่ทำให้ผมรู้สึกเหมือนร่างกายกำลังลอยได้…

…จูบที่ทำให้หัวใจผมมีขนาดใหญ่กว่าท้องทะเลที่กำลังแช่อยู่ …

ผมค่อยๆ คลายปล่อยเมื่อปากชาช้ำได้ที่ ผมรอคอยความเจ็บที่จะพุ่งเข้ามา หากมันจะต่อย เตะหรือตบผมสักที ผมจะไม่ขยับหนีเลย

แต่มันไม่ทำครับ ดันตัวออกให้ผมปล่อย และผมก็ทำตาม มันขยับตัวนิดหนึ่งแล้วทิ้งตัวดำดิ่งลงไปใต้น้ำ แหวกว่ายไปทางฝั่ง
หัวใจผมยังเต้นแรง ตัวยังเบาหวิว ผมไม่ได้ตามฝุ่นไป เพราะอยากให้เวลามันได้ปรับอารมณ์ตัวเองบ้าง พอๆ กับผมตอนนี้

ผมทิ้งตัวนอนหงาย มองเมฆที่กำลังเคลื่อนที่เอื่อยๆ ด้านบน หลับตาลง นึกถึงรสจูบหวานๆ เมื่อกี้

ปากฝุ่นมันหวานมากจริงๆ

ไม่ใช่แค่ปากสิ ทั้งเนื้อทั้งตัวมันเลยต่างหาก

ผมพลิกตัวลงจากท่านอนหงายมองไปทางที่คิดว่าฝุ่นน่าจะอยู่ เห็นมันนั่งอยู่ตรงริมฝั่งนั่นแหละครับ กอดเข่า คลื่นน้ำซัดปลายเท้าเป็นระลอก 

ผมตัดสินใจขึ้นจากน้ำเดินขึ้นไปหา ทิ้งตัวลงนั่งข้างๆ

“ขอมือหน่อย” ผมร้องขอมันเบาๆ ฝุ่นหันมามอง แต่ไม่ยกมือให้ ผมอมยิ้ม เลื่อนมือที่กำบางสิ่งไว้ไปตรงหน้า มันมอง

“อะไร”

“ไม่ใช่หัวใจกูหรอก กูเจอมันระหว่างเดินขึ้นมาเมื่อกี้”

มันจ้องหน้าผมนิดหนึ่งก่อนก้มมองปริศนาที่อยู่ในมืออย่างคลางแคลง สุดท้ายก็ยอมเลื่อนมือมาแบออกเพื่อรอรับ ผมค่อยๆ วางสิ่งนั้นลงบนฝ่ามือขาวเบาๆ

มันคือเปลือกหอยครับ สีขาวอมชมพู ผมเก็บขึ้นมาเพราะรู้สึกว่ารูปร่างมันคล้ายหัวใจดี

…หัวใจสีชมพู…

มันนิ่งมอง ในขณะที่ผมไม่ได้เลื่อนสายตาไปจากดวงตามัน

ฝุ่นเม้มปากแน่น กำหัวใจเปลือกหอยของผมเข้าหากัน แล้วมันก็กอดเข่าตามเดิม ผมทำแบบเดียวกันบ้าง ยกเข่าขึ้นมากอด ทอดมองคลื่นน้ำ ผู้คนที่ผ่านไปผ่านมาตรงหน้า

แสงร้อนทอดห่างหายไปเรื่อยๆ ตามตารางเที่ยว จริงๆ เราต้องขึ้นฝั่งไปอาบน้ำอาบท่าเพื่อเตรียมไปเที่ยวกันต่อ แต่ผมไม่สน ผมไม่อยากพรากช่วงเวลาดีๆ แบบนี้ระหว่างผมกับฝุ่นให้หายไป

ผมเห็นท้องฟ้าเป็นเหมือนโปสการ์ด พื้นหลังสีฟ้าสดใส แต้มลายด้วยเมฆสีขาว ต่ำลงมาเป็นทะเลสีเขียว ผมอยากปรินต์มันออกมาและเขียนคำว่า ‘รักฝุ่น’ ลงไปตัวโตๆ

ผมขยับเข้าไปชิดมันอีกนิดจนผิวเนื้อร้อนผ่าวของฝุ่นกระทบผิวเนื้อต้นแขนผม กระแสอุ่นๆ นั้นมันซาบซ่านเข้ามาถึงหัวใจที่กำลังเต้นอยู่ภายในตอนนี้

ผมค่อยๆ ขยับมือทั้งที่ยังกอดเข่าอยู่ ไปแตะมือข้างที่ไม่ได้กำเปลือกหอยรูปหัวใจผมเมื่อกี้

แรกผะแผ่ว พอเห็นว่าฝุ่นไม่ได้ขัดขืนผมจึงขยับเลื่อนปลายนิ้วเข้าหานิ้วมันมากขึ้นราวกับมือผมมีชีวิต จนในที่สุด ผมก็สามารถจับมันเอาไว้ได้ ผมหันไปมอง ฝุ่นไม่ได้มองผม ไม่ได้ชักมือกลับด้วย

ผมแนบแก้มลงบนแขนที่รองด้วยเข่า มองคนที่กำลังเหม่อมองไปยังท้องฟ้าและผืนทะเลตรงหน้า

หน้ามันตอนนี้น่ามองกว่าทะเลตรงหน้าเป็นไหนๆ

“มาเพื่อดูทะเลไม่ใช่เหรอพล”

“มึงน่ามองกว่าท้องทะเลเป็นไหนๆ”

มันเม้มปากแน่น แต่ไม่ยอมหันมาสบตา คงมีแค่ผิวหน้านั้นที่เปลี่ยนสีนิดๆ

“หนูอยากเล่นน้ำ แม่ลงน้ำกัน!!”

เสียงแผดจ้าเล็กแหลมนั้นพาเอาเราสองคนสะดุ้ง ผมรีบปล่อยมือพอๆ กับฝุ่นที่ชักมือกลับ เราหันไปมองเจ้าของเสียงพร้อมกัน
เป็นเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ อายุราวๆ 5 ขวบ กำลังพยายามจูงมือแม่เพื่อพาลงน้ำ ตามมาติดๆ ด้วยคุณพ่อที่อุ้มเด็กชายตัวน้อยวัยน่าจะยัง 2-3 ขวบไว้ในอ้อมแขน หมวกใบโตนั้นแทบจะบดบังใบหน้าเล็กๆ จนมิด พอเห็นว่าใกล้ถึงทะเล คนเป็นแม่จึงปล่อยมือลูกน้อย พอๆ กับคนพ่อที่ปล่อยลูกชายในมือลงพื้น เด็กน้อยที่เดินได้แล้วหัวเราะร่า วิ่งตามพี่สาวลงน้ำไปติดๆ โดยมีคนเป็นพ่อแม่ก้าวตามไปดูแลใกล้ๆ

ผมหันกลับมาหาฝุ่นอีกรอบ

“น่ารักดี”

มันพยักหน้าเห็นด้วย หันมาสบตาผม

“ป่ะ ขึ้นเถอะ จะได้ไปเดินตลาดจั๊กจั่นกันต่อ”

มันพยักหน้า ขยับตัวลุก เก็บรองเท้าของใครของมันสวมใส่เดินขึ้นฝั่งกลับที่พัก ผมให้ฝุ่นอาบน้ำก่อน พอเสร็จถึงได้เข้าไปต่อ
ผมหัวเราะ เพราะพอออกไปก็เห็นมันหลับแล้ว อยากล้มโปรแกรมทุกอย่างแล้วฟัดมันให้หนำใจ แต่ถ้าทำงั้นมันก็ไม่ต่างกับผมนอนกอดมันอยู่หอสิ ผมทิ้งตัวลงนั่งข้างๆ เอวฝุ่น คร่อมทับมันไว้ ก้มจูบหน้าผากเบาๆ ที

“ตื่นได้แล้วเจ้าหญิง เราต้องไปเที่ยวกันต่อ”

มันงัวเงียลุกขึ้นอย่างขี้เกียจ

“หรือจะไม่ไปก็ได้นะ ถ้าอยากนอนมากกว่า”

มันอ้าปากหาวหวอด

“ไม่เป็นไร อยากไปเที่ยว เผื่อได้อะไรติดไม้ติดมือไปฝากเพื่อนๆ เพิ่ม” มันขยับทำท่าจะลุกจากเตียง แต่ผมใช้สองแขนกั้น ผลักมันล้มลงนอนต่อด้วยอก ฝุ่นตาโต แล้วผมก็ก้มลงไปจูบหวานๆ กับมันอีกรอบ

เอาให้หวานที่สุดเท่าที่จะหวานได้ หวานจนฝุ่นมันละลาย หวานจนมันต้องยอมเลื่อนมือขึ้นมาโอบรอบลำคอผมตอบรับ

ผมคลายปล่อย ฝุ่นค่อยๆ ลดมือที่โอบรอบลำคอผมลง ผมเลื่อนจับมือมันมากดจูบแผ่วเบา

“หวานกว่าน้ำผึ้งก็มึงนี่แหละ” 

มันผลักผมออกห่าง เด้งลุกขึ้นนั่ง

“น้ำผึ้งบูดน่ะสิ”

โธ่ กูขอหวานหน่อยก็ไม่ได้

ผมหัวเราะ ลุกขึ้นยืน มันก้าวลงมาจากเตียงตาม หูงี้แดงเถือก

“ได้ข่าวว่ากูเปิดแอร์เบอร์ 18 นะ ทำไมมึงยังไม่หายร้อนฮึ?” ผมแตะแก้มมันเบาๆ เลื่อนต่ำลงไปที่ปลายคาง ฝุ่นเหลือบมองตาผม
ผมยิ้มกรุ้มกริ่มมอง

“แก้มงี้แดงเถือกเลย”

มันปัดมือผมออกแรง ก้าวลิ่วๆ นำออกจากห้องไปก่อน ผมหัวเราะพอใจที่แกล้งมันได้ ก้าวตามไปติดๆ

กว่าจะมาถึงตลาดจั๊กจั่นก็หกโมงครึ่ง ผมกับฝุ่นตาวาวเลยครับ รู้สึกตื่นตาตื่นใจเพราะมีงานแฮนด์เมดเยอะ ตอนแรกว่าจะใช้เวลากันที่นี่แป๊บเดียว แต่เอาเข้าจริงเรากลับเดินกันนานมาก ฝุ่นมันได้ของทำมือไปฝากเพื่อนพ้องน้องพี่มันหลายชิ้น ผมได้นิดหน่อย กะเอาไปฝากพวกน้องๆ กับพ่อแม่ รวมถึงเพื่อนๆ ในกลุ่มด้วยเช่นกัน

คนเยอะมาก ผมเห็นมีคู่รักชายชายจับมือเดินเคียงกัน ผมมองคนของตัวเอง ขยับเข้าไปเดินใกล้ๆ สักพักก็ค่อยๆ จับมือฝุ่นไว้ มันรีบชักมือกลับทันที

“ไม่มีใครสนใจหรอก คนเยอะ”

“พล”

“สิบนาที” ผมร้องขอด้วยน้ำเสียงอ้อนๆ มันมองตาผม กวาดมองไปรอบๆ ไม่มีใครสนใจจริงๆ เพราะต่างคนต่างเดินดูของกันหมด (หรือจะแอบดูอันนี้ก็ไม่รู้นะ) 

“แค่สิบนาทีนะ”

ผมพยักหน้า แล้วเราก็เดินจับมือกันไปตามทาง

มันให้ความรู้สึกดีจริงๆ หัวใจผมเหมือนลูกโป่งลอยฟ้า

ไม่ใช่สิ…

ตอนนี้เหมือนบอลลูนลอยฟ้ามากกว่า

ยังไม่ทันชุ่มปอดดีฝุ่นก็ชักมือกลับ ผมยอมอย่างเสียดาย

“กูหิว”

ผมไม่เซ้าซี้ดื้อด้าน

“ไปกินกันที่ตลาดโต้รุ่งละกัน ของกินเยอะกว่า ราคาถูกกว่าด้วย”

มันพยักหน้า เราไปถึงตลาดโต้รุ่งกันเกือบสองทุ่ม ตลาดจั๊กจั่นว่าคนเยอะแล้ว ตลาดโต้รุ่งคนเยอะกว่า พอลงรถได้ ผมก็จับมือฝุ่นมากุมทันที ลากพามันเดิน

“พล”

“คนเยอะ มืดด้วย ไม่มีใครสนใจหรอก” ผมบังคับ มันพยายามยื้อ แต่เดี๋ยวเดียวก็ต้องยอม ผมปล่อยมือมันอีกรอบเมื่อพากันเดินมาถึงร้านขายของที่เราอยากกิน เราใช้สูตรเดิมครับ ไม่นั่งร้านไหนทั้งนั้น ซื้อของที่อยากกินแล้วเดินกินไปตามทาง

ตลาดโต้รุ่งไม่ได้กว้างมาก ของที่เราสนใจมีน้อย ส่วนใหญ่ก็จะซ้ำๆ กับตลาดจั๊กจั่นและสามพันนามที่เราดูกันก่อนหน้า ปลายซอยไปโผล่ที่ตลาดฉัตรศิลา เราก็เดินกันต่อ

สี่ทุ่มเราก็พากันกลับ เมื่อยมาก เหนื่อยด้วย ง่วงด้วย การเที่ยวมันใช้พลังงานค่อนข้างเยอะ

ผมให้ฝุ่นอาบน้ำก่อนตามเดิม ตัวเองตบท้าย พอออกไปก็ต้องหัวเราะอีกรอบเพราะฝุ่นมันหลับไปแล้วครับ

ตอนแรกวางแผนไว้ว่ากลับถึงที่พัก ผมจะฟัดมันให้หนำใจสักยกสองยก แต่อย่าเลยครับ หมดแรงแล้ว ผมทิ้งตัวลงนอนข้างๆ ฝุ่น ดึงผ้าห่มมาคลุม กอดมันเบาๆ หอมหัวมันนิดๆ แล้วหลับไปทั้งอย่างนั้น

“ราตรีสวัสดิ์เมียรัก”


ผมกับฝุ่นพากันหลับยาวตื่นกันอีกทีเกือบเก้าโมง อาหารเช้าเขาเสิร์ฟกันก่อนสิบโมง ทันก็ทัน ถ้าไม่ทันก็ว่าจะพามันไปกินอะไรที่สถานีรถไฟเลย

ฝุ่นบิดขี้เกียจได้อย่างน่ารัก คงเพราะอากาศใกล้ทะเล และวันหยุดที่ไม่ได้เร่งร้อน ผมก้มหอมแก้มมันเบาๆ

“นอนต่ออีกนิดก็ได้ เดี๋ยวกูไปอาบน้ำก่อน”

มันพยักหน้า ผมเข้าห้องน้ำไปอาบน้ำทำธุระส่วนตัวออกมาก็ปลุกฝุ่นให้เข้าไปอาบน้ำต่อ

พักเดียวมันก็เดินหน้าใสออกมา ผมนั่งคอยอยู่ข้างเตียง แพ็กกระเป๋าแล้วเรียบร้อย เพราะเราจะเช็กเอาท์ เที่ยวเสร็จก็กลับกันเลย
ผมนั่งคอยจนฝุ่นแต่งตัวเสร็จถึงได้กวักมือเรียก ฝุ่นเดินเข้ามาใกล้ ผมจับมันถลามานั่งคร่อมบนตักทันที มือหนึ่งโอบกอดรอบตัวมันกันขัดขืน อีกมือจับท้ายทอย แล้วมอบจูบหวานๆ ให้มันที

ฝุ่นรีบยกสองมือจับต้นแขนผมไว้หวังผลัก แต่รสจูบของผมเบรกแรงขัดขืนมันลง ฝุ่นเรียนรู้ได้ดีว่าถ้าผมจูบแบบนี้ไม่เป็นอันตรายอะไรกับมันหรอก

…จูบหวานๆ…

ผมค่อยๆ คลายปล่อยริมฝีปากออก ดวงตามันหลับพริ้ม ก่อนจะกะพริบปรือเปิดขึ้นมามอง ผมจ้องนิ่ง เลื่อนมือมาจับปลายคาง เกลี่ยแผ่วเบา ผมจูบแก้ม จูบปลายคาง เลื่อนขึ้นไปจูบหน้าผาก ทุกสัมผัสไม่ต่างกับจูบหวานๆ ที่ผมมอบให้ฝุ่นบนกลีบปาก
ผมวางริมฝีปากนิ่งไว้บนพวงแก้มขาว อ้อยอิ่งเกลี่ยกลิ้งไปมาด้วยปลายจมูก

“หอมจัง” ผมกระซิบแผ่ว ดอมดมผิวแก้มใส

“พอได้แล้ว กูหิว”

ผมยิ้มทั้งที่ปากยังไม่ห่างไปจากผิวแก้มมัน ยกหน้าออก มองมันด้วยแววตาวิบวับ

“ขออีกหนึ่งจูบหวานๆ แล้วเด็กชายธนพลจะกลายเป็นเด็กดีพาเที่ยวทั้งวันเลย”

มันหัวเราะ แต่ไม่จูบครับ อาศัยจังหวะผมเผลอผลักหน้าผมจนหงายแล้วโดดออกจากตักไปยืนที่พื้น ผมเด้งกลับมานั่งที่เดิม ทำปากจู๋ๆ ร้องขอ

“นะ ขอหนึ่งจูบ ให้รางวัลกูหน่อย อุตส่าห์ไม่ปล้ำมึงเมื่อคืน”
ฝุ่นส่งเสียงเหอะขึ้นจมูก เดินเลี่ยงไปเก็บของยัดเป้

“จูบหมอนกูไปนู่น กูจะไปกินข้าว”

“อะไรว้า ใจแข็งจริง” ผมบ่น แต่ก็ยอมลุกโดยดี ก้าวตามมันไป แต่ก่อนที่มือฝุ่นจะถึงลูกบิด ผมจับมันหันหลังพิงบานไม้ กั้นมันกันหนีด้วยอ้อมแขน ปล้นจูบมันซะเลย

ฝุ่นยกมือขึ้นมาหวังผลัก ผมยึดจับ กดตรึงกับบานไม้ อีกมือมันจับอยู่ที่สีข้างผม

ผมค่อยๆ คลายปล่อยเมื่อหนำใจ

“ขอบใจ อร่อยมาก”

มันผลักผมออกแรง เช็ดปากลวกๆ ผมหัวเราะ มันเปิดประตูก้าวออกไป

“กินข้าวจากทางที่พักหรือจะไปนั่งกินกันชิลๆ ที่สถานีรถไฟ”

ฝุ่นนิ่งคิด

“รถไฟละกัน”

ผมพยักหน้า พากันเดินไปเช็กเอาท์ ขับรถตรงไปยังรถไฟทันที ใกล้สถานีมีร้านขายทั้งโจ๊กและน้ำเต้าหู้ปาท่องโก๋ ผมกับมันกินกันไปล็อตใหญ่ ทั้งโจ๊กทั้งน้ำเต้าหู้ หลังจากนั้นเราก็พากันไปชมสถานีรถไฟ ถ่ายรูปกันไปตามระเบียบ ผมอัปรูปลงเฟซไปสองสามรูป อยากได้รูปถ่ายกับฝุ่นด้วย แต่ไม่รู้ว่าจะถ่ายกับมันยังไงไม่ให้คนจับได้ว่าคือฝุ่น

ผมนิ่งคิด แสงแดดตอนก่อนสิบโมงสาดไปด้านหน้า ผมยิ้ม จับฝุ่นมายืนใกล้ๆ กอดคอมันแน่น เอาให้แสงเงาที่ตกทอดดูสวยงามที่สุด ดูไม่ออกว่าชายหรือหญิงด้วย

“ทำอะไร”

“ถ่ายรูป อย่าเพิ่งดิ้น มุมนี้แหละ” ผมกดดังแชะ แล้วเช็กภาพ สวยถูกใจกำลังดี เป็นภาพที่ผมยืนอยู่หน้าป้ายรถไฟ แสงเงาทอดหาป้าย ผมยืนตรง ดึงหัวฝุ่นมาซบไหล่ ดูเป็นภาพคู่รักที่ดูไม่ออกว่าเป็นชายหรือหญิงดี ผมยิ้มด้วยความพอใจ กดอัปเฟซทันที

“ทำไมต้องโชว์ชีวิตส่วนตัวให้คนอื่นดูด้วย”

“อยากอวดเมีย” ผมตอบโดยไม่เงยหน้า มันเตะหน้าแข้งผมอีกรอบ มีแต่คนเข้ามากรี๊ด ผมหัวเราะหึๆ เก็บมือถือลงกระเป๋า ล่ำลาจากชานชาลามุ่งตรงไปยังเพลินวาน แลนด์มาร์กของหัวหิน

ผมเคยมารอบหนึ่งเมื่อนานมาแล้ว มาอีกทีมันเปลี่ยนไปเยอะเหมือนกัน แต่ก็ยังมีกลิ่นอายของความเก่าแก่เอาไว้ ดูท่าฝุ่นมันจะชอบ เดินดูด้วยความเพลิดเพลิน เราเดินกันช้าๆ ไม่เร่งรีบ จุดไหนน่าสนใจก็ถ่ายรูปเก็บเอาไว้หน่อย เราใช้เวลาเพลิดเพลินกับเมืองเก่ากันประมาณชั่วโมงก็พากันมุ่งตรงสู่หาดตะเกียบ กะจะไปกินข้าวกันที่นั่นแหละ

ไปถึงก็เที่ยงพอดี เราเลือกหาร้านที่วิวดีที่สุด แล้วนั่งบนเก้าอี้ชายหาด เราช่วยกันสั่งของที่ต้องการ เที่ยงนี้จัดเต็มครับ
หลังจากแม่ค้ารับออร์เดอร์ ผมก็ทิ้งตัวบนเตียงผ้าใบ ฝุ่นทำแบบเดียวกันบ้าง จ้องมองคลื่นน้ำใสๆ มีคนลงเล่นบางส่วนแล้ว ที่นี่เงียบกว่าทะเลหัวหินตรงที่เราเล่นกันอีก อาจจะเพราะมันเที่ยงด้วยล่ะมั้ง 

พออาหารมา เราก็ลงมือกินกันอย่างเอร็ดอร่อย ผมแกะกุ้งย่างตัวโตๆ ให้ฝุ่น ตักต้มยำกุ้งให้มันบ้าง ส้มตำบ้าง จนจานมันพูนไปด้วยของกิน

“กินเองบ้างสิพล ให้กูจนกูจะกินไม่หมดแล้ว”

“ไม่หมดก็เอามาให้กู เดี๋ยวทำหน้าที่เทศบาลเอง”

มันทำจริงๆ ครับ ตักแบ่งกลับมาให้ ผมยิ้มกริ่มด้วยความพอใจ เพราะอยากได้อารมณ์เมียแบ่งอาหารให้สามีบ้าง ถ้าขอตรงๆ มันคงไม่ทำให้ ผมตักใส่ปาก เคี้ยวตุ้ย มองคนให้ตาเยิ้ม

“อร่อย”

มันเสหลบทันที ผมหัวเราะหึๆ อาหารมามากขนาดไหนก็ไม่อาจคณนาช้างสองตัว ในที่สุด มันก็หมดเกลี้ยง ผมทิ้งตัวลงนอน หนังท้องตึง หนังตาก็หย่อนคล้อย ผมปิดตาลงไปง่ายๆ


ตื่นขึ้นมาอีกทีฝุ่นยังนอนอยู่ ผมไม่ปลุก อยากให้มันได้พักผ่อนเยอะๆ เช่นกัน
ผมแอบจับมือมันมาวางไว้บนอก หยิบกล้องมากดถ่ายเบาๆ แล้วอัปลงเฟซ

‘ณ เขาตะเกียบ เวลานี้มีผมกับคนรักอยู่ด้วยกัน’

ทุกคนจะเห็นตั้งแต่หน้าอกผมลงไป มีมือฝุ่นที่ถูกผมกุมอยู่บนอก พอกดอัปเสร็จก็พลิกหันไปมอง ฝุ่นยังหลับสนิท ผมวางมือมันลงที่เดิม หลับตามไปอีกรอบ กระทั่งบ่ายสองกว่าๆ เราก็พากันคิดตังค์ ผมชวนมันเดินเล่นริมหาดอีกประมาณครึ่งชั่วโมง แดดร้อน แต่ลมเย็น ดีว่ามีหมวกมาช่วยบดบังแสงร้อนได้บ้าง

พอหนำใจก็ชวนกันไปต่อที่สวนสนุก เป็นสถานที่สุดท้ายในตารางเที่ยวของเราแล้ว

ค่าผ่านประตูห้าสิบบาท อย่างเคย เราเดินถ่ายรูปกันนิดหน่อย ก่อนผมจะชวนมันไปเล่นเครื่องเล่นบางอย่าง กระทั่งไปจบที่ชิงช้าสวรรค์ ผมกับมันพากันเดินขึ้นไปนั่ง ผมนั่งชิดฝุ่นมาก จนฝุ่นมันต้องดันผมออก แต่ผมหน้าด้าน

ได้ทีก็โอบกอดมันไว้เลย มองวิวที่กำลังเคลื่อนที่ไปเรื่อย ๆ พอไปถึงจุดสูงสุด ผมก็จับคนข้างๆ มาจูบค้างไว้หนึ่งที ถอนปากออกมามองตา

“กูรักมึงนะ”

ฝุ่นนิ่งมอง หลุบตาลงต่ำ ผมไม่ได้คาดหวังว่ามันจะตอบอะไรกลับมา ดึงมันมาซบไหล่ มองวิวที่กำลังเคลื่อนที่ต่ำลงเรื่อยๆ
ผมกุมผสานมือฝุ่นแน่น คลึงเบาๆ อย่างรักใคร่ หอมหัวไปหนึ่งที



ผมก้าวลงมาจากชิงช้าสวรรค์ด้วยสีหน้าแช่มชื่น เพื่อเดินทางกลับหอ

“สนุกไหม” ผมถามคนตัวเล็กกว่า

มันพยักหน้า

“มีความสุขไหม” ผมถามต่อ มันพยักหน้ารับอีกรอบ

“แล้วรักกูบ้างรึยัง”

มันจ้องตาผม

“เรากลับกันเถอะ” แล้วเสตอบไปทางอื่นเสีย ผมไม่เซ้าซี้

มีคนเคยบอกว่า สำหรับบางคน ต้องใช้เวลาเพื่อให้แน่ใจว่ารัก การที่ผมรักมันมาก ไม่ได้หมายความว่าผมจะมาบังคับให้มันรักผมเท่ากัน แต่ผมจะทำให้มันรักผมไปเรื่อยๆ

ขากลับ สองวงแขนของฝุ่นโอบกระชับมารอบเอวผมโดยที่ผมไม่ต้องออกปากบังคับ รู้สึกถึงแผงอกมันบนแผ่นหลังผม
ให้ท้องฟ้าและสายลมเป็นพยาน ผมรักฝุ่นฉิบหาย



พอกลับถึงหอ เราก็พากันหลับเป็นตายไปอีกรอบ ผมตื่นอย่างเกียจคร้านในเช้าวัดถัดมา แทบไม่อยากตื่นเลย ฝุ่นลุกเดินเข้าห้องน้ำไปก่อน ผมเด้งตามเพราะเดี๋ยวต้องไปส่งมันที่คณะอีก

“อย่าเพิ่งไปก่อนนะ เดี๋ยวกูไปส่ง อาบน้ำแผล็บเดียว”

“กูรู้เส้นทางไปคณะกูพล”

ผมดึงมันเข้ามาจูบเบาๆ

“รอแป๊บ” แล้ววิ่งเข้าห้องน้ำไป แอบกลัวเหมือนกันว่ามันจะแอบออกไปก่อนเพราะไม่ได้ขู่อะไรกันก่อนไป ผมอาบน้ำแค่ลวกๆ เดินออกจากห้องไป ฝุ่นมันยังนั่งคอย อ่านหนังสืออยู่ข้างเตียง มันเงยหน้ามอง

เพราะรีบผมจึงยังไม่ได้เช็ดตัว อาบเสร็จก็คว้าผ้าเช็ดตัวพันเอวแล้วก้าวออกมาจากห้องน้ำในสภาพตัวเปียกๆ นั่นแหละ

“เช็ดตัวให้แห้งก่อนพล ห้องเลอะ”

“โทษที กลัวมึงหนีไปก่อน”

มันมองค้อน ก้มหน้าอ่านหนังสือต่อ ผมเดินตรงดิ่งไปแต่งตัว พอเรียบร้อยก็ชวนฝุ่นออกไป เจอแมทกับไมค์ระหว่างทาง พวกมันรีบพากันวิ่งเข้ามาหา

“น้ำทะเลเค็มๆ กลายเป็นน้ำเชื่อมหมดแล้วพวกมึง สวีตกันไม่เห็นใจคนโสด”

ผมยักคิ้วใส่พวกมันคนละที ฝุ่นล้วงหยิบของฝากที่เตรียมไว้มายื่นให้ พวกนั้นพากันดี๊ด๊ารับไปด้วยความยินดี โดยเฉพาะแมทที่ได้เยอะกว่าใครเพื่อนจนโดนไมค์อิจฉา ฝุ่นมันฝากไปให้พี่เมธด้วย

เรานั่งกินมื้อเช้าด้วยกัน โดยมีกู้กับดิวมาสมทบ สักพักไวท์ก็มาสมทบด้วยเหมือนกัน หลักๆ พวกมันก็ต้องการมาแซวผมกับฝุ่นนี่แหละ

“ผัวขา เมื่อไหร่จะพาเมียไปเที่ยวแบบนี้บ้างล่ะคะ เมียอยากไปบ้าง เมียอยากไปบ้าง” ผีอีดิวเข้าสิงไอ้ดิวอีกรอบ กำมือสองข้างทุบต้นแขนกู้เบาๆ

“พามันไปหน่อยก็ดีนะกู้ ช่วงนี้มันเฮี้ยน พาแวะไหว้หลวงปู่ทวดก่อน หาน้ำมนต์มาสาดไล่ผีออกจากตัวมัน” ไมค์แนะนำกลั้วหัวเราะ

บังเอิญว่าห่างออกไปอีกฟาก พี่เรย์นั่งอยู่กับบรรดาเพื่อนๆ ของแก ฝุ่นเห็นพี่เขาแล้ว แต่ทางนั้นยังไม่เห็น ฝุ่นยิ้ม

“รอเดี๋ยว กูเอาของฝากไปให้พี่เรย์ก่อน” มันดีดตัวเตรียมจะลุก ผมรีบจับข้อมือมันไว้ทันทีอัตโนมัติ

“โทษที ไปเถอะ” ผมคลายปล่อยช้าๆ มันลุกขึ้น เดินไปทางนั้น ผมมองตามแทบตาไม่กะพริบ มันเดินเข้าไปหาคนตัวสูง ยกมือไหว้ รายนั้นโอบหัวมันเข้าไปกอด ฝุ่นฉีกยิ้มกว้าง มันรีบล้วงหยิบเอาพวงกุญแจที่เตรียมไว้ยกให้ รายนั้นฉีกยิ้ม ยกขึ้นส่องดู ทำท่าเหมือนนิ่งคิด ขยับปากถามอะไรฝุ่นสักอย่าง

ฝุ่นตอบรับ พี่มันขยับปากพูดอะไรอีก คนของผมมีสีหน้ากึ่งรับกึ่งสู้ตอบรับ สีหน้าของคนที่ปกติอารมณ์ดีตลอดเวลานิ่งขรึมลง มองฝุ่นด้วยสีหน้านิ่งๆ ฝุ่นพลอยเปลี่ยนสีหน้าไปด้วย

พี่เรย์ดึงฝุ่นเข้าไปใกล้อีก กวาดมองไปรอบๆ คล้ายจะหาใครสักคน จนมาเจอพวกผม ไม่มีใครสนใจ

…ยกเว้นผมคนเดียว…

พี่เรย์มองผมนิ่งๆ ฝุ่นมองตามสายตาของพี่เรย์จนมาเจอะผมเข้า พี่เรย์หันกลับไปมองฝุ่นต่อ เปลี่ยนสีหน้าจากนิ่งขรึมไปเป็นสดใสร่าเริงตามเดิม ผมยังไม่ถอนสายตาไปจากคนทั้งคู่ กระทั่งฝุ่นขอตัวเดินกลับมา ผมมองไปยังคนตัวสูง เขายังมองฝุ่นอยู่ ก่อนเลื่อนสายตามาสบตาผมอีกรอบ เรามองกันค้างไว้แบบนั้น แต่เพียงเดี๋ยวเดียวเท่านั้นเพราะฝุ่นเดินมาถึงพอดี ทิ้งตัวลงนั่งข้างๆ

ผมเลิกสนใจพี่เรย์ ขยับที่ให้ฝุ่นดีๆ คล้องมือบนเอวมันด้วยความเคยชิน เลื่อนแก้วน้ำไปให้ ลงมือกินกันต่อ

“คุยอะไรกันเมื่อกี้” ผมหันไปถามฝุ่น

“พี่เขาถามว่าสนุกไหม กูก็ตอบไปว่าสนุกดี”

“เหมือนจะเยอะกว่านั้นนะ”

“ยุ่งไรกะเรื่องส่วนตัวกูกะพี่เขา”

“เห็นพี่มันทำท่าซีเรียส เลยอยากรู้”

มันนิ่งคิด

“เขาถามว่าไปกันแค่สองคนเหรอ กูบอกใช่”

ผมนิ่ง พยายามประมวลผล ก่อนหันกลับไปมองพี่เรย์อีกที ถอนหายใจแรง หันไปกระซิบข้างหูฝุ่นเบาๆ

“กูว่าพี่เรย์รู้แล้วล่ะว่าแฟนลับๆ ของกูคือใคร”

ฝุ่นทำช้อนร่วงจากมือลงจานดังเคร้ง แต่ไม่ได้เรียกความสนใจจากใคร เพราะในโรงอาหารก็เสียงดังกันเป็นปกติ หนำซ้ำไอ้คนในกลุ่มก็กำลังพากันเมาท์เรื่องสาวๆ กันอยู่

มันมองหน้าผม ฝุ่นไม่ใช่คนโง่ มันนิ่งหาความเป็นไปได้แผล็บเดียวก็น่าจะพอเดาออก

“เพราะมึงนั่นแหละ ถ้ามึงไม่อัปอะไรไร้สาระแบบนั้นมันคงไม่เป็นแบบนี้” แล้วมันก็ลุกพรวดคว้าของทุกอย่างลุกขึ้นยืน ทุกคนในกลุ่มหันมามอง ผมรีบลุกตามทันที ฝุ่นหันมาชี้หน้า

“อย่าเสือกตามกูมา!” แล้วมันก็วิ่งลิ่วๆ หนีไป ผมอยากตามไป แต่นี่ไม่ใช่เวลาที่เหมาะ ขืนตามไป มีแต่จะพูดอะไรที่ทำให้คนอื่นรู้กันพอดี


(มีต่อ)  https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=66432.msg3861065#msg3861065
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18-08-2018 06:13:17 โดย memew »

ออฟไลน์ Nus@nT@R@

  • Life is Investment
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5589
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +456/-11

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ mypink801

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1580
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
หวานกว่าฝุ่นก็น้ำผึ้งบูด 555555555
หวานมากก คามลับจะแตกแล้วเหรออ โอ้ววว ดราม่ามั้ยเนี่ยย

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
หมั่นไส้คนอินเลิฟมากจ้า~ :hao7:

ออฟไลน์ Hananijinji

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 82
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
พ่อคนหลงเมีย แค่กๆสำลักน้ำอ้อย :hao7:

ออฟไลน์ mooping-7

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +88/-5
หวานกว่าน้ำผึ้งก็ฝุ่นเยี่ยแหละ โอ้นยยยยอิคุณพลหวานเบอร์แรงมากกก

ออฟไลน์ arissara

  • ดาดาเดเด
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 531
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-2
ฮิ้ววววว อยากฟังพาร์ทความรู้สึกฝุ่นบ้างอ่ะ ทำไมหน้าเเดงบ่อยจัง แมนๆไม่คิดอะไร ไม่หลงพิศวาสอย่างที่บอกก็ไม่น่าเขินนะ

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
เล่นเอาใจกันซะไม่เห็นคนอื่นอยู่ในสายตาเลยนะ  :hao3:

ออฟไลน์ Nus@nT@R@

  • Life is Investment
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5589
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +456/-11
อ่าาา ฝุ่นโกรธแล้ว

ออฟไลน์ tiger2006

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0

ออฟไลน์ SoN

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2965
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +123/-15

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
ฝุ่นจะปิดทำไมอ่า พี่เรย์รู้ก้อย้อนไปสิแล้วพี่คิดว่าไง
บางทีก้อสงสารพลมัน

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ meteexp

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 709
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0

ออฟไลน์ jimmyjimmy

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1962
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-17
น้อง ฝุ่น ก้อ ประกาศ ไป เลย.. จะได้ไม่ต้องกลัวใครจะรู้

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2

ออฟไลน์ mypink801

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1580
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
ไม่ดราม่าจริงใช่มั้ยย
ทำไมฝุ่นกลัวว อยากรู้ฝุ่นคิดไงกันแน่ เริ่มสงสารพลและ

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
แบบบางทีถ้าพลไม่บังคับฝุ่นหรือเอารูปมาอ้างเราว่าฝุ่นมันก็เฉยๆ แหล่ะ มีแต่พลที่ชอบบังคับ
บางทีก็น่าจะให้พลมันน้ำตาตกบ้างนะกับการชอบเอาแต่ใจตัวเองและชอบบังคับแบบนี้มันทำให้คนอื่นลำบาก

ออฟไลน์ memew

  • ขอบคุณที่เข้ามาอ่านจ้าาา
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 456
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +382/-10
    • :: Memew แฟนเพจ :
“เกิดอะไรขึ้นวะ” คนในกลุ่มรุมกันถาม ผมถอนหายใจแรง เห็นชัดถึงความโง่เง่าและไม่รอบคอบของตัวเอง ผมกลับมาทิ้งตัวลงนั่งตามเดิม มองเพื่อนๆ ทุกคน

“การที่กูรักมัน ผิดนักเหรอวะ”

“รักน่ะ ไม่ผิดหรอก แต่ผิดเพศไปหน่อย และที่สำคัญ มันยังไม่ได้ยอมรับมึงร้อยเปอร์เซ็นต์ ว่าแต่เกิดอะไรขึ้น ทำไมมันพรวดพราดหนีไปแบบนั้น”

ผมนิ่งคิด

“กูว่าพี่เรย์เขารู้แล้วว่าแฟนลับๆ ของกูคือใคร”

“รู้ได้ไง”

“กูว่ากูรู้ว่าพี่เขารู้ได้ไง” ไอ้นิตินักวิเคราะห์พูดขึ้นมาเมื่อผมยังไม่ได้ให้คำตอบใคร

“ไอ้ห่านี่มันชอบอัปเฟซอวดเมีย ล่าสุดทุกคนก็รู้กันหมดว่ามันไปหัวหินกับแฟนลับๆ แล้วมึงก็ดันบอกพี่เขาว่าฝุ่นต้องไปเที่ยวกับมึงอาทิตย์นี้ โป๊ะเชะ ควายไถ่นาก็เดาออก”

ผมนิ่งไป ผมคิดไปไม่ถึงจริงๆ

ยังไม่ทันได้สาธยายความโง่ของตัวเองออกมาตีแผ่ ผมก็เห็นใครบางคนลุกเดินมาทางนี้ ผมมองตาม เพื่อนๆ หันไปสนใจด้วย

“กูฟันธงว่าชัวร์” แมทย้ำมาอีกที ผมนิ่ง

“พี่มีเรื่องจะคุยด้วยหน่อยพล ว่างหรือเปล่า”

ผมรวบช้อน ยกน้ำจิบ ถึงจะกินไปได้แค่ครึ่งเดียวก็เถอะ คว้าเป้

“คุยเสร็จกูกลับคณะเลยละกัน”

ทุกคนพยักหน้า โบกมือคล้ายกับบอกว่า ‘โชคดี’ ผมเดินตามพี่เรย์ออกไปยังที่ที่เงียบที่สุด ผมรู้เจตนาจึงไม่เอ่ยถามอะไรขึ้นก่อน เขาหันมามอง

“เรื่องฝุ่น” พี่มันเม้มปากแน่น หรี่ตามองผม “แฟนลับๆ ของนายคนนั้นคือฝุ่นใช่ไหม”

ผมไม่มีท่าทีตกใจอะไร จ้องกลับนิ่งๆ

“ครับ”

พี่มันพ่นลมหายใจออกแรง ลูบหน้าตัวเอง

“ไม่รู้มาก่อนว่าฝุ่นเป็น…”

“มันไม่ได้เป็นหรอก” ผมแก้ไขให้ “ผมบังคับมันเอง”

พี่เรย์เปลี่ยนสายตาเป็นนิ่งขรึม

“นายไม่ควรทำแบบนี้นะพล แล้วยิ่ง…” พี่มันนิ่งไป “นายเป็นพวกชอบความรุนแรงด้วย ริ้วรอยพวกนั้น”

“ใช่ ผมทำเอง” ผมยอมรับตรงๆ สายตาพี่แกขรึมยิ่งกว่าเดิม

“นาย”

“ผมรักมัน” ผมบอกตรงๆ พี่เรย์มองอึ้ง

“แล้วฝุ่นล่ะ รักนายหรือเปล่า”

“ไม่แน่ใจ อาจจะรักไปแล้วหรืออาจจะยัง กำลังจีบอยู่”

พี่มันมองอึ้ง

“คราวนี้ผมขอถามพี่ตรงๆ แบบลูกผู้ชาย” ผมใช้สายตาจ้องนิ่ง พี่เรย์พยักหน้า

“พี่คิดอะไรกับฝุ่นหรือเปล่า”

คิ้วเข้มขมวดมุ่น จ้องผมกลับตาเขม็ง

“ฝุ่นเป็นน้อง”

“แค่นั้น”

“แค่นั้นสิ จะแค่ไหน” พี่มันนิ่งคิด มองหน้าผม “นี่นายหึงพี่กับฝุ่นเหรอ”  พี่มันขำพรืดออกมาเบาๆ ก่อนตีสีหน้านิ่งขรึมอีกรอบ

“ถึงยังไงพี่ก็อยากให้นายเลิกทำแบบนี้ พี่เป็นห่วงอนาคตของฝุ่น”

“ผมรู้ว่าการคบกันแบบนี้ไม่ได้เป็นที่ยอมรับอะไรมากมาย แต่ผมรักมัน ผมอยากดูแล อยากปกป้อง และอยากทำให้มันมีความสุขด้วย”

พี่มันนิ่งมอง

“พี่จะถามฝุ่นก่อน”

ผมถอนหายใจแรงบ้าง

“ถ้าพี่ถามมัน มันก็บอกว่าไม่ได้เป็นอะไรกับผมอยู่ดี”

“แต่พี่ไม่อยากให้นายบังคับฝุ่น”

“มันเป็นหนึ่งในหนทางที่จะทำให้ผมได้หัวใจฝุ่น”

“พล นายกำลังเอาแต่ใจตัวเองนะ”

“ผมยอมรับ แต่เพราะผมรักมัน ผมไม่ยอมปล่อยฝุ่นไปแน่ๆ”

พี่เรย์ขมวดคิ้ว

“แต่ความรักของนาย กำลังทำให้ฝุ่นเขาเดือดร้อนนะ เห็นแก่ตัวเกินไป”

“ผมยอมรับ ใครจะด่าว่าผมยังไงผมก็ไม่มีทางปล่อยมือจากฝุ่นแน่ๆ” ผมมองเขากลับด้วยสีหน้าจริงจัง พี่เรย์มองอึ้ง

เสียงมือถือของผมดังเบาๆ ขัดเราทั้งคู่ ผมล้วงหยิบมามองเบอร์ เป็นของฝุ่นครับ ผมรีบกดรับทันที

“คุยอะไรกับพี่เรย์” มันถามทันทีที่ผมรับสาย ผมมองตาพี่เรย์

“เรื่องของมึงนั่นแหละ พี่เขารู้แล้ว และอยากให้กูเลิกยุ่งกับมึง” มันนิ่งไป ผมกรอกเสียงตามลงไปอีก “แต่กูบอกพี่เขาไปว่า ไม่ว่าจะยังไงกูก็ไม่มีทางยอมแพ้เด็ดขาด กูต้องการมึง” ปลายสายยังเงียบ ผมจะคิดว่าสายหลุด ถ้าไม่ได้ยินเสียงจ้อกแจ้กจอแจที่ดังลอดออกมา มันคงอยู่ในคลาสแล้วดิวหรือไวท์สักคนคงคาบข่าวไปบอก

“ขอกูคุยกับพี่เรย์หน่อย”

ผมรีๆ รอๆ พอมันบอกมาอีกทีผมก็ส่งมือถือให้ พี่เรย์รับไปแนบหู

“.......”

“แน่ใจได้ยังไงว่าจะเป็นอย่างนั้น”

“……”

“แล้วเราล่ะ คิดยังไงกับพล” ปากพี่เรย์ถามคนในสาย แต่ตามองผม หัวใจผมไหวแรง

“….”

“ให้พี่ช่วยไหม” ช่วย ช่วยอะไร

“…..”

“มีอะไรบอกพี่ได้ตลอด พี่พร้อมช่วยนะ เข้าใจไหม”

ผมขนลุกชันขึ้นมาทันที มองพี่เรย์ตาขวาง แล้วเขาก็วางสายหลังจากนั้น

“พี่บอกไว้ก่อน ถ้านายรังแกฝุ่น พี่ไม่ไว้หน้านายแน่” เขาบอกพร้อมยื่นมือถือคืน ผมรับมายัดใส่กระเป๋ากางเกง

“ถ้าพี่หมายถึงรังแกเรื่องอื่นๆ คงไม่มี แต่ถ้าเรื่องบนเตียง…” ผมยักไหล่ “มันเป็นเรื่องของคนสองคน ช่วยไม่ได้ ฝุ่นมันเอ็กซ์ ยิ่ง
เวลาเกิดอารมณ์…” ผมเลีย   ริมฝีปาก สมองด้านหื่นร่างภาพฝุ่นขึ้นมาบนหัวได้เป็นฉากๆ แค่คิดผมก็ต้องเบ้หน้าเพราะน้องผมมันตื่นขึ้นมาดันกางเกง พี่เรย์ก้มมอง อึ้งไปกับอาการของผม ผมพยายามบังคับให้น้องสงบลง

“พี่รู้ได้ไง” ผมถามต่อเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจ

“พี่เป็นเฟรนด์กับเฟซบุ๊กเรา เห็นไทม์ไลน์ตลอด”

ผมขมวดคิ้ว หยิบมือถือมาดู จำได้ว่าไม่ได้รับเฟรนด์ใครมานานแล้วนะ

“แอดไว้นานแล้ว ตั้งแต่ได้น้องรหัสใหม่ๆ น้องมันแอดให้พร้อมกัน”

ผมยิ่งขมวดคิ้วใหญ่ เพราะปกติ ถ้าไม่ใช่เพื่อน ผมจะไม่รับคนแปลกหน้า ยกเว้นสาวๆ

“ตอนแอด พี่ใช้ดิสรูปการ์ตูนที่ละไมวาดให้ คงเหมือนผู้หญิงมั้ง พลเลยรับแอด”

ผมถึงบ้างอ้อ

“ตอนแรกไม่เอะใจหรอกว่าเป็นฝุ่น แต่พอฝุ่นเอาของมาฝากเลยรู้ว่าไปหัวหิน แล้วพลก็บอกว่าฝุ่นติดไปเที่ยวกับพลเสาร์อาทิตย์นี้ นึกย้อนไปถึงรอย เอ่อ..จูบ พี่เลยพอเดาออก”

ผมนิ่งฟัง

“พี่รังเกียจฝุ่นมันไหม” ผมไม่ได้ถามเพื่อตัวเอง แต่ถามแทนฝุ่นต่างหาก ผมรู้ว่าในโลกนี้ไม่ได้มีแค่ผมกับเพื่อนๆ ในกลุ่ม ยังมีเพื่อนๆ นอกกลุ่ม ครอบครัวและสังคมภายนอกอีก ผมรู้ว่ามันไม่ใช่เรื่องง่าย แต่เป็นเรื่องที่เป็นไปได้

พี่เรย์ขมวดคิ้ว

“ไม่ได้รังเกียจ แต่เป็นห่วง โดยเฉพาะเรื่องที่นายทิ้งรอยไว้”

“อันนั้นเป็นรสนิยมส่วนตัว ผมก็พยายามเพลาๆ ลงอยู่” ผมอ้อมแอ้มบอก

“พี่จะไปคุยกับฝุ่นอีกที ถ้าฝุ่นขอความช่วยเหลือพี่มา พี่พร้อมช่วยเต็มที่”

ผมจ้องตาคนพูด สายตาบ่งบอกว่าไม่ยอมแพ้เช่นกัน

เราแยกย้ายกันหลังคุยกันเสร็จ ผมกดส่งเมสเสจไปหาฝุ่นด้วยข้อความสั้นๆ

‘รักมึง’

คุ่ย แต่จริงใจนะครับคุณเมีย


tbc

เปลี่ยนชื่อตอนเล็กน้อย หลายคนคิดว่าดราม่า = = ;

//ขอบคุณทุกคอมเมนต์ค้าบ :mew1:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18-08-2018 05:42:13 โดย memew »

ออฟไลน์ mooping-7

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +88/-5
เข้าใจความรู้สึกของพลนะ. สู้ๆ

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
#พลโป๊ะแตก 
แน่ะเอาน้องขึ้นมาข่มด้วย

ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6
พลก็ต้องคิดถึงใจฝุ่นด้วยเหมือนกันนะ รักแล้วก็ควรต้องทะนุถนอมกันบ้าง

ออฟไลน์ mypink801

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1580
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
เข้าใจๆ พี่เรย์ก็พูดถูก เห็นใจฝุ่นด้วย
เอาใจช่วย อยากรู้คุยอะไรกัน

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด