( จบแล้ว ) Throw UP #ผับชั้นสาม :: {ตอนพิเศษ: up! 31-12-62} #หน้า 58
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ( จบแล้ว ) Throw UP #ผับชั้นสาม :: {ตอนพิเศษ: up! 31-12-62} #หน้า 58  (อ่าน 502457 ครั้ง)

ออฟไลน์ JustWait

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-4

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3066
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
เฮียอาฟ~ กรีดร้องแปป

ออฟไลน์ EoBen

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3306
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-6
รู้สึกสงสารสาวๆที่ผ่านมาของอารยะเลยค่ะ

ที่ไม่ได้เจอมุมนี้ให้เห็น


ชอบจัง เป็นคนที่แสดงออกว่ารัก ได้อย่างเต็มที่มาก


ไม่สงสัยเลย 

ออฟไลน์ shoi_toei

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +222/-26
อาฟฟฟ แก ป่วย แล้วโคตรมุ้งมิ้งงง

ออฟไลน์ patwo

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 989
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +932/-27

ตอนที่ 34

ภายในห้องเรียนที่ได้ยินแต่เสียงน่าเบื่อของอาจารย์ประจำวิชาที่กำลังอ่านสไลด์บนหน้าจอ ผมหลับตาลงด้วยใจที่อยากจะฟุบหลับไปหลายครั้ง เพราะด้วยอาการป่วยที่เพิ่งทุเลาลง ผมรู้ตัวว่าร่างกายยังไม่แข็งแรงเต็มร้อย แต่จะให้เอาแต่นอนก็คงไม่ได้ ไม่มีวันให้ขาดเรียนแล้ว แม้ว่าจะติดใจคุณบุรุษพยาบาลส่วนตัวที่เอาใจเก่งมากแค่ไหนก็ตามที

[ อาธีร์บอกว่ารถเสร็จแล้ว ค่าทำสีรอบคันแสนนึงนะ โอนเงินให้อาด้วย ] ข้อความปรากฏขึ้นบนหน้าจอมือถือ ดึงความสนใจของผมให้ก้มลงไปมองมันก่อนจะบ่นกับตัวเองยิ้มๆตอนที่ได้อ่าน “ ได้สักทีไอ้สัด รถกู”

[ โอเค ]

[ แล้วจะให้เอาไง ] น้องชายผมถามกลับมา [ จะให้กูเอารถไปให้ที่คอนโดเลยมั้ย หรือสัดพี่จะมาเอาเอง ] อ่านข้อความนั้นแล้วเอาแต่คิดว่าจะทำยังไง

ใจนึงก็อยากจะไปเอาเองเพราะอยากจะเช็คความเรียบร้อยด้วยตัวเอง แต่ถ้าเป็นแบบนั้นผมก็ต้องให้เมดขับรถของมันกลับซึ่งแบบนั้นไม่มีทางที่ผมจะยอมอยู่แล้ว เมดขับรถไม่ถนัด แถมร้านทำรถเจ้าประจำก็อยู่นอกเขตเมือง แถวนั้นรถส่วนใหญ่เลยค่อนข้างจะขับเร็ว ขับรถได้ระดับเมดมีหวังไม่สอยท้ายรถคนอื่น ก็คงโดนสอยท้ายรถตัวเองแน่นอน ขนาดให้จอดเทียบข้างฟุตปาธง่ายๆมันยังจอดไกลเป็นเมตร แถมยังขับช้าเป็นเต่า

[ มึงขับมาไว้ที่คอนโดกูเลยก็แล้วกัน แล้วเช็คให้ดีนะ ]

[ โอเคจ้า ]

[ แล้วมึงจะไปยังไง ]

[ ก็เดี๋ยวกูขับรถไปหาไอ้อัยย์ที่คอนโดก่อน มันจะได้ขับรถกูกลับไง คือกูไม่ได้โง่เนอะ แต่มึงอย่าลืมบอกพี่เมดให้โอนเงินให้อาธีร์แล้วกันสัดพี่ ]

[ เออ ไม่ลืม ] ตอบมันแบบปัดรำคาญ ก่อนจะกดออกจากหน้าจอเพื่อไปคุยกับอีกคนที่เหมือนจะกำลังตั้งใจเรียนอยู่ในวันนี้ เพราะตั้งแต่ที่ผมไปส่งมันที่มหาลัยเมดก็ไม่มีข้อความอะไรส่งกลับมาอีกเลย ยกเว้นตัวผมที่ส่งข้อความไปบอกมันว่า ‘ ถึงแล้ว ’ อย่างปลอดภัยเหมือนทุกที ทั้งๆที่ปกติมันจะส่งข้อความมาหาผมตลอดและบ่นทุกเรื่องแบบเด็กขี้ฟ้อง

[ ไอ้ขี้ฟ้อง ] ผมทักมันอีกคนก็ส่งสติกเกอร์หน้าหงุดหงิดกลับมาให้ เผลอยิ้มออกมาตอนที่ท้าวคางมองดูภาพเล็กๆของคนที่ผมกำลังคุยอยู่

ภาพดิสของเมดในไลน์เป็นภาพที่มันกำลังหลับตาแล้วชูสองนิ้วให้ไว้ที่ตาเรียวสองข้าง มันใช้ภาพนี้ตั้งแต่ที่เรารู้จักกันและทุกครั้งที่เราได้คุยกันผ่านไลน์ สิ่งที่ผมจะทำเสมอก็คือ กดภาพหน้าดิสนั่นให้ขยายขนาดใหญ่ขึ้นมาแล้วมองอยู่แบบนั้นทั้งๆที่มันก็เป็นภาพเดิม

[ ขี้ฟ้องอะไร วันนี้กูยังไม่ได้ฟ้องอะไรเลยเถอะสัด ]

[ แล้วไม่มีอะไรให้ฟ้องรึไง ] ผมแกล้งถามเพราะบางทีมันก็มีเรื่องที่มันไม่ชอบใจเท่าไหร่เหมือนกัน โดยเฉพาะเรื่องเพื่อนสนิทของมันที่ชอบมารังควานอยู่ใกล้ๆ แต่ช่วงหลังเหมือนเมดจะแค่เก็บมันไว้ทำเป็นไม่สนใจอะไรแบบนั้น เพราะไม่อยากจะเล่าให้ผมต้องรู้สึกไม่ดี

[ มึงดูยัดเยียดให้กูต้องพูดนะอาฟ ทำไม ? ชอบเวลาที่กูวอแวแล้วละสิ น่ารักดีใช่มั้ยละครับ ] อีกคนพิมพ์ตอบกลับมาผมก็เผลอยิ้ม

[ หลงตัวเอง ]

[ แต่เสียใจด้วยนะ เพราะวันนี้จะไม่มีใครมาทำให้กูอารมณ์เสียทั้งนั้น ]

[ ยกเว้นกู ] ผมบอกก่อนจะยกยิ้ม [ โอนเงินค่าทำสีรถให้กูด้วย รถกูเสร็จแล้ว ]

[ เท่าไหร่ ]

[ แสนนึง ] ข้อความที่ส่งไปขึ้นว่าอ่านแต่กับไม่มีข้อความตอบรับกลับมา ผมเผลอกลั้นยิ้มเพราะคิดถึงสีหน้าของคนอ่านที่ตอนนี้คงช็อคตาตั้งกับสิ่งที่เห็นไปแล้ว

[ มึงอำกูใช่มั้ยสัดอาฟ แสนนึงเลยเหรอ แค่ทำสีรถรอบคันเองนะ ]

[ มึงใช้คำว่าเองนะ กับการทำสีรถซูปเปอร์คาร์เหรอวะเมด ] ผมถามย้ำมันอีกคนก็ส่งสติกเกอร์แบบไม่เชื่อใจกันมาให้

[ ไม่ใช่ว่าใส่ศูนย์เพิ่มไปตัวนึงนะ ]

[ โอนไปบัญชีนี้แสนนึง ] ผมส่งรูปภาพรายละเอียดการโอนไปให้มัน [ แล้วก็ตั้งใจเรียน จะได้ไม่คิดอะไรโง่ๆแบบนั้นอีก ]
 
[ ก็คนอย่างมึงมันเจ้าเล่ห์ เชื่อได้ที่ไหน ] ก็จริงอยู่ผมไม่เถียงหรอก แต่ก่อนหน้านี้ที่ยังไม่ได้มันเป็นแฟนไง ตอนนี้ได้แล้ว แผนโง่ๆพวกนั้นมันจำเป็นที่ไหน มันไม่จำเป็นแล้ว

[ โอนแล้วส่งภาพสลิปกลับมาให้กูด้วย ]

[ ครับ ] เมดตอบรับมันหายไปนานก่อนจะส่งภาพสลิปเงินมาให้ผม [ เรียบร้อยครับ ]

[ อื้ม ] ส่งข้อความรับรู้ตอบกลับไป แต่ยังไม่ทันกดปิดหน้าจออีกฝ่ายก็ส่งข้อความตอบกลับมาก่อน

[ แล้วกูต้องทำยังไงกับเรื่องเงินวะ ] สติกเกอร์รูปหมีแก้มพองๆสีขาวที่ดูท่าทางกำลังหนักใจถูกส่งมาให้ผมที่ก็เผลอยิ้มออกมาเพราะคิดไปว่ามันช่างหน้าตาเหมือนกับคนส่งเหลือเกิน

มันเป็นในหนึ่งเหตุผลที่ผมชอบหันไปมองเมดตอนที่มันนั่งอยู่ข้างๆกันในรถ คนตัวขาวกับแก้มกลมๆ ปากแหลมที่บางทีก็ชอบชี้ชวนให้ผมดูนู้นดูนี่ระหว่างทาง ไม่ก็ตั้งใจทำงานกับหน้าจอไอแพต เป็นคนข้างๆที่ไม่ว่าจะมองไปเมื่อไหร่ ก็รู้สึกได้ว่า ‘ น่ารัก ’

[ นั่นสิ จะแบ่งจ่ายยังไงดีนะ ] ผมแกล้งถามมันกลับไปทั้งๆที่จริงแล้ว ผมไม่เคยคิดจะเอาเงินมันจริงๆตั้งแต่แรก

หลังจากที่เมดเข้ามาทำงานที่ผับ เราไปเปิดบัญชีเพื่อแยกสัดส่วนของเงินทั้งหมดที่ต้องแบ่งออกเป็นรายรับ รายง่าย เงินเก็บ ส่วนอีกบัญชีคือหนี้ที่เมดจะโอนเข้ามาให้เพื่อบอกว่ามันได้จ่ายหนี้ผมตามที่เราตกลงกันไว้แล้ว ซึ่งเงินพวกนั้นผมตั้งใจเอาไว้ว่าถ้าเมดจ่ายครบเมื่อไหร่ ผมก็จะคืนให้มันอยู่ดี

[ แบบเดิมได้มั้ยมึง ] หลุดยิ้มกับประโยคที่เห็นบนหน้าจอพร้อมกับไอ้หมีขาวตัวน่ารักที่มันส่งมาอ้อนกัน ก็ถือว่าเป็นโชคดีของผมที่ยังโดนอ้อนผ่านหน้าจอ เพราะคิดว่าสภาพว่าถ้ามันมาอยู่ตรงหน้าแล้วพูดคำนี้ ท่าทางผมคงไม่น่าไหว

[ คิดดูก่อน ]

[ ก็จ่ายแบบเดิมนั่นแหละอารยะ ก็ผ่อนจนครบแสนไง ยังไงกูก็ไม่ไปไหนอยู่แล้วมั้ย ]  และถึงจะไปก็ไม่ให้ไปให้อยู่แล้ว มันเป็นคำที่ผมอยากพิมพ์แต่ก็ได้แค่คิดไปในตอนที่อ่านข้อความนั้นของมัน

[ แล้วเย็นนี้จะกินอะไร ]

[ ชาบูได้มั้ย กูอยากกิน ]

[ ตามใจ ] ก็ไม่เคยปฎิเสธอยู่แล้วไม่ใช่เหรอวะ ผมกดปิดหน้าจอมือถือของตัวเองตอนที่คว่ำมันไว้กับโต๊ะเรียน เผลอยิ้มออกมาตอนที่คิดถึงท่าทางดีใจของมันที่ตอนนี้ก็คงจะยิ้มกว้างอยู่กับหน้าจอ

“ มีความสุขจังนะ ” หันไปเหล่มองเพื่อนสนิทที่นั่งข้างกัน ไอ้เจที่กำลังยิ้มล้อผมที่ทำทีเป็นไม่ใส่ใจด้วยการปั้นหน้านิ่งเหมือนอย่างทุกที “ จะเก็กไปไหนไอ้สัด ทำเป็นกลบเกลื่อนทั้งๆที่ในใจนี่แทบติดปีกบิน ”

“ พูดมากจังไอ้สัด “ ผมบอกปัดอีกคนก็ดึงตัวเองเข้ามาใกล้เพื่อเหล่มอง “ กูแค่ดีใจที่รถกูเสร็จแล้ว ”

“ อ้อเหรอ  ” พยักหน้ารับแบบไม่เชื่อ ผมก็ได้แต่ถอนหายใจตอนที่มองหน้ามัน

“ มีใครบอกมึงบ้างมั้ยว่า ช่วงนี้มึงมีความสุขจนดูน่ารำคาญ ” เจยิ้มกว้างให้ผมมันยักคิ้วด้วยความสุขเหมือนกับว่าไม่มีคำพูดใด หรืออะไรทั้งนั้นจะมาทำให้คนอย่างมันรู้สึกแย่ได้ “ กับไอ้วิวนี่คือดีมากจนทำให้มึงเป็นบ้าได้เลย ”

“ กูดูมีความสุขขนาดนั้นเลย ” ผมยกยิ้มมองคนที่ถามคำถามสิ้นคิดนั้นออกมา ถ้ามีกระจกก็อยากจะยื่นให้แต่ติดที่ว่าไม่มี มันคงไม่ทันสังเกตว่าตัวมันเองเป็นคนที่ไม่ชอบความวุ่นวาย แต่ตอนนี้มันกลับมีความสุขมากขึ้นแม้มันจะต้องวุ่นวายมากขึ้นก็ตาม

จากที่ทุกเย็นที่มันจะแค่หาข้าวกินในมหาลัยกับเพื่อน แต่เดี๋ยวนี้มันรีบไปที่ลานจอดรถพร้อมผมหลังเลิกเรียกทุกวัน แล้วสถานที่นัดของมันส่วนใหญ่ก็คือร้านกาแฟเงียบๆ ที่ไอ้วิวน้องของเมดเลือกที่จะไปอ่านหนังสือเพื่อเตรียมสอบ เป็นช่วงเวลาที่ถ้าเป็นเมื่อก่อนมันคงเบื่อกับการไปนั่งดูใครทำอะไรสักอย่างนิ่งๆ แต่กลับกันที่ในตอนนี้มันไม่เบื่อเลย สังเกตได้จากสตอรี่ไอจีของมันที่เมดเอามาให้ผมดูตลอด แล้วผมก็จะทำหน้าอ้วกใส่คนที่พูดด้วยทุกครั้ง เวลาเมดอ่านแคปชั่นที่เพื่อนตัวเองเขียนถึงอีกคนให้ฟัง

“ ถามจริง เอากันแล้วทำไมยังเป็นแค่คนคุยวะ ”

“ คือพอเอากับไอ้เมดแล้วก็ข่มกูเลยว่างั้น ” หันมาถามยิ้มๆผมก็ยักคิ้วใส่ ก็ไม่ปฎิเสธหรอก มีความรู้สึกแบบนั้นอยู่เหมือนกัน “ กูว่ามันไม่เชิงว่าแค่คนคุยวะ เพราะเดี๋ยวนี้ทุกวันศุกร์กับเสาร์มันก็มานอนห้องกู ”

“ แรดสมเป็นไอ้วิว ” ผมยกยิ้มก่อนจะส่ายหน้าไปมาตอนที่คิดถึงหน้าไอ้เด็กนั่น “ แล้วไอ้เมดรู้มั้ยว่ามันมานอนกับมึง ”

“ คงรู้เฉพาะวันที่ถาม ไม่ถามก็คงไม่รู้ แต่กูถือว่าไม่แรดนะ เพราะกูได้กำไร ”

“ ก็สมเป็นคนเหี้ยอย่างมึง ”

“ พูดอะไรดูตัวเองก่อนมั้ยครับ เพื่อนอาฟ ” เจว่า “ เมื่อก่อนมึงยังวางแผนใส่ศูนย์ในบิลให้ไอ้เมดต้องอยู่ใช้หนี้เลยสัด ไม่นับเจาะยางรถเค้าอีก ของกูมันพูดกันตรงๆ เข้าใจกันตรงๆ ”

“ เข้าใจว่า ”

“ เข้าใจว่ามันอยากจะโฟกัสกับเรื่องเรียนก่อน อยากจะสอบเข้ามหาลัยให้ได้ พอเรื่องวุ่นวายในชีวิตมันจบก็ค่อยมาพูดถึงสถานะจริงจัง ”

“ ก็หวังว่ามันจะไม่หันไปสนใจรุ่นพี่ในมหาลัยแทนลุงแก่ๆอย่างมึงที่มันชอบเรียกก็แล้วกัน ”

“ อย่าเอาชีวิตมึงมาเป็นไม้บรรทัดให้ชีวิตกูสิครับ ” คนข้างๆผมยักคิ้วแบบคนเหนือกว่าให้ “ กูมันพวกปากกับใจตรงกัน พูดคุยด้วยเหตุผล ไม่ใช่เหี้ยอะไรก็พูดอ้อมโลก แถมไม่รู้จะเผลอด่าเมียด้วยคำแรงๆวันไหน ขีดความอดทนของคนมันมีจำกัดนะกูบอกไว้ ”

“ ต้องแคร์ด้วยเหรอวะ ” หันไปถามอีกคนที่ก็ยิ้มก่อนจะพยักหน้ารับ

“ ไว้กูจะคอยสมน้ำหน้าไอ้คนที่บอกว่าไม่ต้องแคร์ วันที่แม่งมาถามกูว่าต้องทำยังไงดีเพื่อง้อไอ้เมดก็แล้วกัน ไอ้สัด ” ทำทีเป็นไม่สนใจอะไรในคำพูดของเพื่อนอะไร ผมรู้ว่าเจมันรู้ดีอยู่แล้วว่าผมจะเป็นยังไงถ้าเกิดเหตุการณ์นั้นขึ้น “ แล้วมึงคิดได้รึยังว่าจะซื้ออะไร ”

“ อะไร ? ” ขมวดคิ้วงงก่อนจะหันไปหามันด้วยความไม่เข้าใจ เจที่นิ่งไปสักพักก่อนจะยกยิ้มขึ้นมา

“ ไม่มุกใช่มั้ย ”

“ มุกเหี้ยอะไร ”

“ อีกสามวันวันเกิดไอ้เมด อย่าบอกนะว่ามึงไม่รู้ ” ทุกอย่างเงียบไปหมดในตอนนั้นแม้แต่เสียงอาจารย์หน้าห้องก็ยังขาดช่วงไป ผมที่ได้แต่มองตาเพื่อนสนิทแล้วนั่นก็คงเป็นคำตอบอย่างดีให้กับอีกคนแล้ว ไอ้เจถามถอนหายใจออกมามันส่ายหน้า “ รับรางวัลผัวดีเด่นแห่งปีไปเลยครับสัด ” ไม่พูดเปล่ามันเอื้อมมือมาจับไหล่ผมก่อนจะบีบแน่นราวกับจะบอกว่า ‘ กูยอมแพ้แล้วกับความไม่ใส่ใจของมึงแล้วจริงๆ ’

“ แล้วมึงรู้ได้ยังไง ”

“ ไอ้วิวชวนกูไปหาซื้อของขวัญให้พี่มันเย็นนี้ ”

“ แล้ววิวจะซื้ออะไร ” คำถามที่ทำให้คนตอบได้แต่ยักไหล่พลางส่ายหน้าเพราะมันเองก็คงไม่รู้ ผมถอนหายใจออกมาอีกครั้งก่อนจะหยิบมือถือขึ้นมาดูในส่วนของปฎิทินที่ตัวเองเคยบันทึกเอาไว้ แล้วมันก็เป็นอย่างที่เพื่อนผมพูด ไม่ได้มีการโกหกกันแต่อย่างใด แล้วกูจะซื้ออะไรดีวะ ?

   รู้สึกหนักใจกับคำถามที่ถามตัวเองซ้ำไปซ้ำมาตั้งแต่เรียน ในสมองผมมีแค่คำถามก่อนหน้านั้นวนไปวนมาอยู่ตลอด ผมกำลังคิดถึงของที่เมดชอบ ของที่คิดว่าควรจะซื้อให้มันในวันเกิด แต่เหมือนจะไม่มีอะไรดีๆเข้ามาในสมองสักอย่างเดียว

‘ อาฟ กินสิ มึงเหม่ออะไรอยู่ ’ คนที่นั่งอยู่ตรงหน้า เอ่ยถามกันตอนที่ผมเอาแต่จ้องหน้ามันในช่วงมื้อเย็นที่เราไปกินชาบูด้วยกัน เมดดึงมือขึ้นจับแก้มตัวเองตอนที่ผมได้สติแล้วหันมาสนใจชาบูในหม้อต่อ ‘ หรือว่าหน้ากูติดอะไรอยู่ หรือมึงคิดจะแกล้งอะไรกูอยู่ ’

‘ หน้ามึงติดอะไรอยู่ ’ ผมแกล้งบอกมันทั้งๆที่ไม่ใช่ เมดเอื้อมมือหยิบมือถือตัวเองขึ้นมาเปิดกล้องหน้าแล้วส่องไปมาตามหน้าตัวเอง
‘ ติดอะไรวะ ไม่เห็นมี ’

‘ ความอ้วน ’

‘ ไอ้สัด ’ สถบด่าออกมาแบบนั้น ทำทีไม่พอใจแต่ก็ยังคีบเบคอนเข้าปากไปเต็มคำ ปากที่เคี้ยวไม่หยุดดูน่ารักจนผมหลุดยิ้มแล้วต้องหันไปมองอีกทาง

ก็ถ้าถามผมว่าตั้งแต่รู้จักกับคนตรงหน้ามาสิ่งที่ทำให้เมดมีความสุขที่สุดคืออะไร ผมจะตอบอย่างไม่ลังเลเลยว่า ‘ ของกิน ’ แต่ว่าอะไรแบบนั้นก็ไม่น่าจะใช่ของขวัญวันเกิดแบบที่คนอย่างเมดจะอยากได้เท่าไหร่

ถึงจะดูเหมือนว่าถ้าเป็นผมให้จะเป็นอะไรก็ได้ แต่ใจจริงผมก็พอรู้ว่ามันก็ชอบอะไรที่ดูใส่ใจและโรแมนติก เมดชอบให้เอาใจ ชอบคำพูดหวานๆ แต่น่าเศร้า ที่คนอย่างผมไม่มีอะไรที่เป็นแบบนั้นสักอย่างเดียว

“ ทำไมเอาแต่นั่งเงียบวะสัดพี่ ” น้องชายผมเอ่ยถามตอนที่เห็นว่าผมนั่งนิ่งอยู่นานตรงส่วนบาร์ ผมเหลือบมองแก้วเบียร์ที่อยู่ตรงหน้าและก็พบว่าความเย็นที่เคยมีมันหายไปหมดแล้ว

“ พี่มึงกำลังมีเรื่องให้ต้องคิดหนัก ” ไอ้เจที่นั่งข้างกันบอกยิ้มๆ ก่อนไอ้เดย์จะถามกลับอย่างอยากรู้

“ เรื่อง ? ”

“ เสือก ” ผมบอกปัดมันอีกคนก็ทำทีเป็นเบิกตาใส่ ก่อนไอ้เจจะหันมาบอกผม

“ ให้ไอ้เดย์ช่วยคิดก็ดีนะ เผื่อมันมีความคิดดีๆ ”

“ แล้วตกลงวันนี้ไอ้วิวซื้ออะไร ”

“ เสื้อเชิ้ตลายทาง ”

“ ก็ทั้งตู้แล้วไอ้สัด ” บอกมันแบบนั้นก่อนจะหยิบแก้วเบียร์ขึ้นมากิน

เมดเป็นคนชอบใส่เสื้อลายทางมากในความรู้สึกของผม มันมีทั้งแบบเสื้อยืดแขนยาว แขนสั้น และแบบเชิ้ต มีทั้งลายทางยาวแนวตั้ง แนวนอน เยอะจนผมรู้สึกว่าตอนซื้อคงไปเหมามาแบบยกโหลแบบที่มันมีทุกสีมาจากประตูน้ำ แต่ถึงอย่างงั้นก็ยอมรับว่าเวลามันใส่ก็ดูน่ารักดี ผมชอบเวลาที่มันไว้แล้วเสื้อแขนยาวพวกนั้นจะปิดมือมันทั้งหมด จนเห็นแค่ปลายนิ้ว เป็นอะไรที่ก็...โคตรน่ารัก

ออฟไลน์ patwo

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 989
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +932/-27
“ มันก็ต้องซื้อของที่พี่มันชอบสิว่ะ “ เจบอก “ แต่กูโดนรวมเงินซื้อเสื้อนี่ให้ไอ้เมดด้วยนะ ”

“ ให้กูเดา มึงออกมามากกว่าครึ่ง ”

“ เดาเก่งไอ้หน้าเหี้ย ” เจหันมาด่าผมก็ยิ้ม

“ แล้วกูขอเดาเลยว่า ตอนเด็กวิวเอามาให้พี่เมดมันต้องแบบ พี่เมดนี่คือของขวัญของวิวบวกเงินพี่เจอีกนิดหน่อย ”

“ นิดหน่อยพ่อมึง 70 เปอร์เซ็นต์คือเงินกู ” เพื่อนผมหันไปเถียงไอ้เดย์ที่พูดออกมายิ้มๆ

“ ก็กูบอกอยู่ว่านั่นมันเด็กวิว มีแค่มันที่ทำได้ มึงยังจำวันก่อนที่พี่เจมึงจะเลี้ยงข้าวกูได้มั้ยละ ตอนนั้นเด็กวิวบอกกู เงินเดือนพี่เดย์ก็มีให้พี่เจเลี้ยงทำไมอะ ”

“ คือน้องมึงเกือบเอาขวดน้ำเขวี้ยงใส่หัวน้องไอ้เมดกูขอบอกแค่นี้” เจบอกผมที่ก็ถอนหายใจหน่ายๆกับความวุ่นวายของพวกมันตอนที่หันมาเล่า “ แต่ก่อนหน้านั้นสัดเดย์มึงแม่งก็พูดก่อนนะ มึงเป็นเด็กเสี่ยเหรอวิวทำไมต้องให้พี่เจเลี้ยงวะ ”

“ กูหยอกไง เด็กมันน่ารัก ใครจะคิดว่าเด็กมันจะปากหมาขนาดนั้น ”

“ มึงหยอกผิดคนแล้วไอ้เหี้ย มันไม่ยอมให้มึงหยอกแล้วนั่งติ๋มๆให้มึงแกล้งหรอกสัด ” เจส่ายหน้าใส่น้องชายผม “ แต่สมน้ำสมเนื้อดีนะ คนอย่างมึงต้องเจอแบบไอ้วิว นั่งเขินๆให้มึงหยอกนี่ไม่ใช่แนว อะไรแบบนั้นกูไม่ชอบ ”

“ พอเป็นเมียมึงอะไรแม่งก็ดีหมดนั่นแหละ ตบหน้ากูยังดีเลยมั้ง ” ไอ้เจยิ้มก่อนจะพยักหน้ารับคำพูดของไอ้เดย์ก่อนจะยกนิ้วให้ “ ตอนแรกกูเห็นมันเงียบๆคิดว่า แนวน่ารัก ที่ไหนได้ปากร้ายชิบหาย เผลอแปปเดียวเรียกกู สัดพี่เดย์ พ่อแม่ไม่สั่งสอนไม่รู้ว่ามาเป็นน้องพี่เมดที่แสนน่ารักของกูได้ยังไง ยังกับจับฉลากได้มาไอ้สัด ”

“ ถ้ากูพูดมึงจะหาว่ากูเข้ามามันมั้ย ” เจถามอีกคน “ ก็มึงด่ามันก่อนมั้ยว่ามันเป็นเด็กแรด เอาจริงๆพวกมึงแม่งก็ปากหมาทั้งคู่ กูโคตรรำคาญไอ้สัด”

“ คือใดๆ กูก็ผิด กูผิดคนเดียว ใช่สิ กูมันแค่น้องจะไปสู้อะไรเท่าเมียเด็กแรดของพี่มึง ” น้องผมว่าแบบนั้น “ สู้พี่เมดก็ไม่ได้ พี่เมดของน้องเดย์ที่แสนใจดีและน่ารักคนนั้น ”

“ แล้วมึงซื้ออะไรให้พี่สะใภ้มึงวันเกิด ” คำถามของไอ้เจทำให้ผมหันไปมองน้องชายผมที่ก็หันมามองผมทันที เดย์เปลี่ยนสีหน้าเป็นเจ้าเล่ห์มันยักคิ้วให้ผม

“ แน่นอน ระดับน้องเขยที่ต้องการจะเคลมพี่สะใภ้ทุกวินาทีอย่างกูต้องไม่พลาด ซื้อเรียบร้อยครับ หารเงินกับเพื่อนอัยย์ ห่อของขวัญสวยงามให้เพื่อนที่มหาลัยทำให้ น่ารักใสๆด้วยโบว์สีชมพู คิ้วๆ ”

“ รำคาญ ” บอกมันที่จ้องหน้าผมในตอนพี่พูดประโยคนั้นราวกับจะอวดว่า ตัวมันที่เป็นแค่น้องยังพร้อมกว่าผมที่เป็นแฟนเสียอีก

“ ปากบอกรำคาญคิดได้ยังว่าจะซื้ออะไร ”

“ แล้วมึงซื้ออะไร ”

“ บอกแล้วกูจะได้อะไร ” เดย์ถามผมไอ้เจก็ถอนหายใจออกมา

“ อย่าหน้าเงินนักเลยไอ้สัดเดย์ ”

“ ชีวิตมันต้องดิ้นรน ต้องกินต้องใช้ รถกูเติมน้ำมันไม่ใช่น้ำเปล่า ข้าวกูก็ต้องซื้อแดกไม่ได้ขอใครมาฟรี ”

“ อัยย์ ” ผมเอ่ยเรียกบาร์เทนเดอร์อีกคนที่ยืนอยู่อีกฝั่ง น้องหันมาผมที่ก็กวักมือเรียกให้เข้ามาใกล้ๆ

“ ครับเฮีย ”

“ มึงซื้ออะไรให้ไอ้เมด ” คำถามของผมมาพร้อมกับเงินหนึ่งพันบาทที่ยื่นไปให้ ผ่านหน้าน้องชายตัวเองที่ได้แต่อ้าปากค้างที่เห็นผมทำแบบนั้น

“ ที่รวมเงินซื้อกับไอ้เดย์น่ะเหรอ ” ผมพยักหน้ารับ “ ถุงยางอนามัยแบบบางเฉียบแพ็คนึง ”

“ พวกหน้าเหี้ย ” ไอ้เจหลุดยิ้มกว้างก่อนจะส่ายหน้าแล้วยกเหล้าตรงหน้าขึ้นกิน

“ เอาไป ” ยื่นเงินให้ไอ้อัยย์ก่อนจะหันไปยักคิ้วให้น้องชายตัวเองที่ก็ได้แต่จ้องหน้าผมด้วยสายตาหงุดหงิด

“ สัดพี่มึงแม่ง ”

“ กูหมั่นไส้มึง ” ไม่ลุกขึ้นถีบให้ก็บุญแล้ว เล่นลิ้นแบบวอนตีนกูเหลือเกินไอ้น้องเหี้ย “ แล้วคิดเหี้ยอะไรถึงซื้ออะไรแบบนั้นให้มัน ” ผมถามคำถามที่อยากรู้น้องชายผมก็ทำทีเป็นมองไปทางอื่น

“ ไม่ได้ตังค์ ไม่อยากตอบ ”

“ อัยย์ ” เอ่ยเรียกอีกคนอีกครั้ง เดย์ก็หันมายกมือห้าม “ กูแจกได้ทั้งคืนนะ ถ้ามึงยังกวนตีนกูอยู่แบบนี้ ”

“ ก็ให้กูบ้างสิว่ะ นี่น้องไง น้องเดย์ที่ครั้งนึงพี่อาฟเคยรักมาก ”

“ ไม่เคย ” ผมบอกก่อนจะเชิดหน้าไปทางไอ้อัยย์ “ ไปแบ่งกับแม่งคนละห้าร้อย  อัยย์ ” ท้ายประโยคผมเรียกอีกคนที่ก็พยักหน้ารับเข้าใจให้สิ่งที่ผมจะสื่ออยู่แล้ว

“ แบ่งให้ไอ้เหี้ยเดย์ด้วย ”

“ ไม่อยากเลยเอาจริง กูควรได้พันนึงคนเดียวมั้ยวะ ”

“ แบ่งกูด้วยไอ้สัด ถ้ากูไม่กวนตีนสัดพี่มึงจะได้มั้ย ” เดย์หันไปเถียงเพื่อนตัวเองผมก็ถอนหายใจ

“ ค่อยไปเถียงกันในนรกได้มั้ยไอ้สัด ตอบกูก่อน คิดเหี้ยอะไรถึงซื้อไอ้นั่นให้ไอ้เมด ” มองหน้าพวกมันที่ยิ้มด้วยความรู้สึกดีอย่างที่สุดราวกับว่าของขวัญชิ้นนั้นที่มันซื้อ มันผ่านการคิดนอนคิดมาอย่างดี ทั้งๆที่จริง ก็แค่เด็กกวนตีนสองคนที่อยากจะเลือกซื้ออะไรที่ดูกวนตีนที่สุดก็เท่านั้น

“ สัดพี่ นี่มึงไม่เห็นถึงความหมายน่ารักที่ซ่อนอยู่ของถุงยางอนามันเลยเหรอวะ ” เดย์ถามผมก็ส่ายหน้า

“ กูเห็นแต่ความขี้เงี่ยน ”

“ ไม่ลึกซึ้ง ” นิ้วชี้ส่ายไปมาตรงหน้าผมพร้อมหน้าตาที่ทำท่าทางเหมือนกับคำที่พูด “ กูจะบอกให้มว่าถุงยางอนามัยคือสิ่งที่คนเราควรให้แฟนในวันวาเลนไทน์ที่สุดแล้ว เพราะมันบอกหมดทุกความรู้สึกแล้ว ว่าเราทั้งรักทั้งต้องการแล้วก็ห่วงใยเค้ามากแค่ไหน ”

“ ไอ้สัด ” ผมสถบออกมาพร้อมไอ้เจที่ก็ส่ายหน้าไปมาในคำอธิบายของคนตรงหน้า

“ หรือมึงว่าไม่จริง จะมีอะไรที่แทนความรู้สึกว่าเราต้องการเค้ามากแค่ไหนได้เท่าถุงอนามัยวะ ไม่มีแล้ว เป็นความต้องการที่มาในรูปแบบของความห่วงใยด้วยนะมึง ไม่อยากให้เธอติดโรค ”

“ ถามจริงนะเดย์ มึงตายไปนี่นรกจะรับมั้ย ” เพื่อนผมถามอีกคนที่ก็ส่ายหน้าไปมา

“ กูก็ทำดีด้วยการพาคนขึ้นสวรรค์ไปแล้วไง “

“ ไอ้สัด เหนื่อยจะพูดกับมึง ” เจบอกก่อนจะหันมาหาผมที่ตอนนี้ก็ได้แต่คิดถึงของขวัญดีๆสักชิ้นที่ตัวเองอยากจะซื้อให้อีกคน “ คิดหนักไอ้สัด คิดหนัก ”

“ กูไม่ได้คิดอะไรทั้งนั้น ” หันไปบอกทั้งไอ้เจไอ้เดย์ที่กำลังมองผมก่อนที่น้องชายผมจะพูดขึ้น

“ กูว่ามึงไม่เห็นต้องคิดมากเลย ถ้าเป็นมึง ถึงจะไม่ให้อะไรแต่แค่จำวันเกิดเค้าได้ แค่พูดว่า สุขสันต์วันเกิดนะ กับคนที่ไม่ใส่ใจอะไรเลยอย่างมึง พี่เมดแม่งก็ดีใจมากๆแล้วเชื่อกู ”

“ เหมือนมึงกำลังด่ากู ” ผมถามน้องที่ก็พยักหน้ารับ

“ กูก็ไม่ได้ชมมึงไง ”

“ กูว่าลองทำตามใจมัน มันก็แฮปปี้แล้วไอ้เมดอะ ” เจบอกแบบนั้นผมก็พยักหน้ารับก่อนจะหยิบเบียร์ตรงหน้าขึ้นกินอีกครั้ง

“ เหมือนอย่างวันก่อนไง ไอ้สัดพี่มันป่วยใช่มั้ย ”

“ สัดเดย์ ” ผมพูดขัดมันเพราะว่าอีกคนกำลังจะพูดเรื่องอะไร ไอ้เดย์ยิ้มกว้างให้ผมก่อนจะหันไปพูดกับไอ้เจที่ทำท่าทางเหมือนกำลังอยากรู้

“ แล้วคราวนี้นะพี่เจ กูกลับบ้านไปเห็นสัดพี่มันนอนตักพี่เมดอยู่เว้ย แต่พี่เมดอะนั่งดูหนังอยู่ กูเลยเข้าไปนั่งดูหนังกับพี่เมดแล้วคราวนี้มันก็อินไง กูก็นั่งดูยาวๆ จนสัดพี่มันตื่น แล้วรู้มั้ยตอนมันตื่นมันทำไง มันกอดพี่เมดเอวจ้า แล้วก็บอกว่า เมดครับ ปวดหัว ตอนนั้นคือกูแบบ อีเชี้ยยยยยย มึงเป็นใคร นี่มันไม่ใช่พี่ชายที่กูคลานตามออกมา  ”

“ ฮ่าๆ ” ไอ้เจหัวเราะเสียงดังมันหันมาแซวผม “ อ้อนเมียมากเว่อร์จ้า ”

“ ทำตัวเหมือนใกล้ตายอะ แรงจะเดินจะยืนก็ไม่ค่อยมี พี่เมดชงกาแฟคือต้องกอดไว้ บ่นปวดหัวทุกสามวิ กับความเรื่องมากอีกร้อยอย่าง พี่เมดไม่เอาแก้วเขวี้ยงใส่หัว กูว่านับเป็นบุญ ไม่รู้ป่วยหรือจะตาย คือกูงงมาก ”

“ หยุดพูดได้ยัง ” ผมบอกมันก่อนจะถอนหายใจ เอาจริงๆ ตอนนี้สำหรับผมไอ้เดย์คือเหตุผลเดียวเลยที่ทำให้ผมอยากจะย้ายคอนโดออกไปอยู่กับเมดแบบสองคน ปากหมาชิบหายไอ้เด็กเวร

“ เออ หยุดพูดได้ยังพี่มึงเขินหมดละ ”

“ รำคาญพวกมึง ” ผมลุกจากเก้าอี้ตรงส่วนบาร์ตอนที่พูดออกมาแบบนั้น ไม่มีอะไรที่ช่วยได้สักอย่าง ผมคิดในใจแบบนั้นตอนที่สมองยังเปล่า สำหรับของขวัญสักชิ้นที่อยากจะซื้อให้เมดในวันพิเศษของมัน

   อาจจะจริงที่บอกกันว่าคนไม่ใส่ใจอย่างผมซื้ออะไรให้คนได้รับก็คงดีใจทั้งนั้น แต่ถึงอย่างงั้นผมก็อยากจะให้อะไรสักอย่างที่คนอย่างมันจะเอาแต่พูดถึงไม่หยุดปากและทุกครั้งที่คิดถึงมัน เมดก็จะเอาแต่ยิ้มอย่างมีความสุข ผมอยากจะให้อะไรสักอย่างที่ทำให้มันเป็นอะไรแบบนั้นได้

“ วันนี้ข้างล่างคนเยอะมั้ย ” คำถามที่เอ่ยถามกันตอนที่ผมเปิดประตูเข้าไปในห้อง เสียงนิ้วที่กำลังพิมพ์งานอยู่บนคีย์บอร์ดเมดเงยหน้าขึ้นมองก่อนจะก้มลงไปทำงานต่อราวกับว่าคำถามที่ถามนั้นเป็นเพียงแค่การชวนคุย ไม่ใช่คำถามที่อยากจะรู้จริงๆ

“ เยอะ ” ผมบอกก่อนจะเดินมานั่งลงที่โต๊ะทำงานของอีกคน “ เต็มทุกโต๊ะ ”

“ มีไรวะ ” อีกคนเงยหน้าขึ้นมาถาม คงเห็นว่าอยู่ๆผมมานั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานของมัน

“ อีกสามวัน วันเกิดมึง อยากได้อะไรเป็นของขวัญ ”

“ ถามจริง คิดจะโรแมนติกกับกูหน่อยมั้ยอะ ” เมดหันมามองหน้าผมก่อนจะยิ้มกว้างในแววตาของมันที่มีแต่ความสุขนั้นชวนให้ผมแอบอมยิ้มตาม

“ ยังไง ”

“ ก็อารมณ์ที่ว่าเซอร์ไฟส์วันเกิดด้วยของขวัญสุดพิเศษอะไรทำนองนั้น ”

“ นอนมั้ย ? แล้วฝันเอา ”

“ ไอ้สัด ” ด่าออกมาแบบไม่มีเสียง ท่าทางที่เปลี่ยนไปเป็นหาเรื่องของมัน เมดมองหน้าจอคอมพิวเตอร์ที่อยู่ตรงหน้าก่อนจะเอื้อมมือไปจับเม้าส์แล้วเลื่อนไปมาอยู่ที่หน้าจอ “ จริงๆ ไม่ต้องให้อะไรก็ได้ กูไม่ได้มีอะไรจะอยากได้เป็นพิเศษหรอก ขอแค่เราไปกินข้าวด้วยกันสักมื้อก็พอแล้ว ”

“ งั้นเหรอ ”

“ อื้ม ” อีกคนพยักหน้ารับก่อนจะหันมายิ้มให้ผม “ แค่มึงจำวันเกิดกูได้แม่งก็โคตรวิเศษแล้วอาฟ ทั้งๆที่ปกติ วันนี้วันอะไรมึงยังไม่รู้เลย ”


“ จริงๆไอ้เจบอกกูเลยรู้ ” ผมก้มลงบอกมันที่ก็เงยหน้าขึ้นมองกันแบบยิ้มๆ

“ ก็สมเป็นมึงอะ ”

“ อยากได้แค่ไปกินข้าวมื้อเดียวกันจริงๆเหรอวะ ปกติก็กินด้วยกันอยู่แล้วไม่ใช่รึไง ”

“ก็แสดงว่าทุกวันมันพิเศษสำหรับเราไง ”

“ อ้วกได้มั้ยวะ ถังขยะอยู่ไหน ”

“ ชิส์ ” เมดจิ๊ปากไม่พอใจมันหันมามองผมด้วยหางตาก่อนจะเอียงหน้ามาจ้องกัน “ มึงอยากจะให้กูบอกจริงๆใช่มั้ยว่าอยากจะได้อะไรเป็นของขวัญวันเกิด ”

“ ก็แค่รู้ว่าอยากจะได้อะไร ถ้าทำได้ก็จะทำให้ ”

“ ยกเลิกหนี้ให้กูสิ ”

“ ตลกจังครับคุณมินเมด สองพันรึไงหนี้มึงอะ ” ผมยิ้มให้มันที่ก็หุบยิ้มลงทันที

“ อะไรวะไม่สายเปย์เลย ” เราเงียบให้กันสักพักตอนที่มันทำทีเป็นบ่นแล้วหันไปทำงานต่อ ผมที่ตอนนั้นเอาแต่มองมันเพราะไม่คิดว่ามันจะอยากให้ยกหนี้ให้จริงๆ

 “ อยากให้กูยกหนี้ให้จริงๆเหรอ ”

“ ไม่อะ กูพูดเล่น ” อีกคนส่ายหน้าไปมา “ ยังไงกูก็อยากจะรับผิดชอบในสิ่งที่กูทำเองมากกว่า ”

“ อื้ม ”

“ แต่ถ้าถามว่ากูอยากจะได้อะไรจากมึงเป็นของขวัญ มันไม่ได้อยากจะได้อะไรเป็นชิ้นๆเลยวะ กูแค่อยากจะให้วันนั้นมันเป็นวันดีๆของกูก็แค่นั้น แบบว่า มึงที่ไม่กวนตีนกูสักวัน แค่นั้นก็เป็นอะไรที่วิเศษที่สุดสำหรับกูแล้วละครับ ”

“ เหรอ งั้นก็เอาสิ ”

“ ห๊ะ ? ยังไง ” ใบหน้าน่ารักที่เงยหน้าขึ้นมามองกันด้วยสายตางงๆ ผมเอื้อมมือไปหยิบนามบัตรของผับที่ตั้งอยู่ในกล่องบนโต๊ะขึ้นมาแผ่นนึง ด้านหลังของมันที่มีพื้นที่ว่างอยู่ ก่อนจะใช้ปากกาสีเขียนลงไปบนนั้น ‘ บัตรขอพร ขอได้หนึ่งข้อ มีอายุการใช้งานหนึ่งวันในวันเกิด ’  ผมยื่นให้มัน “ เอาจริงดิ ”

“ ขอได้แค่ข้อเดียว คิดให้ดี ”

“ ปัญญาอ่อน ” เมดบอกผมตอนที่เงยหน้าขึ้นมามองผมยิ้มๆก่อนจะก้มลงไปมองกระดาษแผ่นนั้นแล้วยิ้มกว้างแบบนั้นอยู่นาน “ แต่น่ารักดีว่ะ ไว้วันเกิดมึงกูทำบ้าง ”

“ เลียนแบบ ” ก้มหน้าลงไปบอกมันก่อนจะจูบที่ริมฝีปากของอีกคนก่อนจะลุกออกเดินออกจากมาห้อง ทั้งๆที่เพิ่งเดินขึ้นมาแต่คิดถ้าต้องมาเห็นเมดยิ้มน้อยยิ้มใหญ่กับของขวัญงี่เง่าชิ้นนั้น ผมคงทนไม่ไหว เพราะมันเป็นท่าทางที่น่ารักมากเกินไป   

   นั่งอยู่ในรถที่กำลังขับกลับคอนโดในช่วงเวลาหลังเลิกงาน เมดที่นั่งข้างผมยังคงดูตื่นเต้นกับบัตรขอพรได้หนึ่งข้อที่ผมให้เป็นของขวัญวันเกิด มันที่มองออกไปนอกหน้าต่างเป็นระยะเหมือนกำลังคิดอยู่ตลอดเวลาว่า พรหนึ่งข้อนั้นมันจะขออะไรดี

“ เอามือลงมันบังกระจกข้าง ” เอื้อมมือไปดึงมือมันที่ยกขึ้นเพื่อดูการ์ดนั้นอยู่ลงแต่แทนที่จะดึงมือกลับผมกลับแค่จับมือมันไว้ ก็เหตุผลจริงๆมันก็ไม่มีอะไร นอกเสียจาก ผมอยากจะจับมือมันในช่วงเวลาติดไฟแดงที่น่าเบื่อนี้ก็เท่านั้น

“ หรือกูควรขอให้มึงพูดตามใจปากหนึ่งวัน ” เมดบอกก่อนจะหันมามองหน้าผมแบบล้อๆ “ แบบว่าถ้ามึงอยากจะจับมือกู ก็ต้องพูดว่า เมดครับอาฟขอจับมือหน่อย ”

“ ถามจริง ? ใครอยากจะจับมือมึง ” ผมถามมันทั้งๆที่มือของตัวเองก็ยังกุมมือของอีกคนอยู่

“ งั้นก็ปล่อย ” ทำทีเป็นดึงมือตัวเองออก แต่ผมก็กลับไว้แน่นทำทีเป็นหันไปทางอื่นไม่สนใจ คนที่นั่งข้างกันก็ได้ถอนหายใจ “ กูแม่งอยากจะมีบัตรเชี้ยนี่สักสามสิบใบ แล้วกูจะนั่งเขียนนิสัยเหี้ยๆของมึงตั้งแต่ใบแรกยันใบสุดท้ายเลย กูจะเปลี่ยนมันให้หมด ”

“ งั้นเหรอ แต่เสียใจด้วยนะที่มีใบเดียว ”

“ เออ เพราะแม่งมีใบเดียวนี่แหละ เลยไม่รู้จะเขียนอะไรลงไปดี เพราะข้อเสียของมึงที่กูอยากจะเปลี่ยนมีเป็นล้านได้ ”

“ จริงๆถ้าเขียนได้หลายใบ อยากให้มึงช่วยเขียนให้ข้อนึงเหมือนกัน ” ผมพิงกับเบาะรถก่อนจะหันไปมองหน้ามันที่ก็หันมามองหน้าผมด้วยความสบแววตาไม่สบอารมณ์

“ เขียนว่าอะไร ” เมดถามยิ้มๆ “ กูรู้นะ มึงจะแกล้งอะไรกูอีก ”

“ เขียนสั่งให้มึงเลิกน่ารักวันนึงได้มั้ย กูจะได้พักบ้าง ” สิ้นคำพูดของผมอีกผม อีกคนก็ทำทีเป็นกลั้นยิ้มก่อนจะหันไปทางอื่น มือของผมที่จับมือมันกุมแน่นมากขึ้นเมดก็บอกทั้งๆที่แก้มมันกำลังแดงไปหมด

“ ไม่ได้ บัตรนี่ของกู กูไม่เขียนให้ใครทั้งนั้นอะ ”

“ ขี้เหนียว ”

“ มึงแม่ง ” บ่นกับตัวเองเบาๆตอนที่ก้มหน้าลงแล้วขยับที่นั่งไปมาเหมือนคนทำตัวไม่ถูก เมดมองสัญญาณไฟที่อยู่ตรงหน้าที่กำลังจะหมดเวลาของไฟสีแดง “ ไฟใกล้เขียวแล้ว หันไปมองนอกถนนได้แล้วไป ”

“ อยากมองมึงอะ ” ผมยังคงแกล้งเย้าอีกคนที่ก็หันไปยิ้มกับนอกหน้าต่างท่าทางที่กำลังเขินจนตอนนี้ความแดงของหน้าก็เริ่มลามลงสู่คอ

“ อะไรของมึงวะสัดอาฟ ไม่ต้องเลย ” เมดบอกปัด แล้วตอนที่มันหันมามองหน้ากันผมก็บอก

“ อยากมองหน้ามึงอยู่แบบนี้  น่ากินดี ไม่รู้คนหรือซาลาเปา ” ดึงมือที่จับมือมันอยู่ออก ผมหยิกแก้มมันเบาๆ “ หมูสับหรือหมูแดงก็ไม่รู้เนอะ ”


“ ไอ้เหี้ย ” ปล่อยให้คนข้างๆนั่งหงุดหงิดอยู่แบบนั้น ส่วนผมที่ทำเป็นไม่ใส่ใจอะไรแต่กลับกลั้นยิ้มอยู่แบบนั้นจนเมื่อยแก้มไปหมด “ ไว้ถึงวันเกิดกูเมื่อไหร่ กูจะเอาคืนมึงให้สาสม ”

“งั้นเหรอ แล้วกูจะคอยดู ” พูดแบบนั้นแล้วตอนที่หันหน้าไปมองอีกคน ก็พบว่ามันกำลังมองกันด้วยสายตาที่กำลังอาฆาตแค้นน่าดู


   แวะเข้ามาในห้างคนเดียว ตอนช่วงก่อนวันเกิดของอีกคนแค่หนึ่งวันทั้งๆที่จริงตัวผม ไม่ใช่คนชอบเดินห้างสักเท่าไหร่ ‘ วันเกิดไอ้เมด มึงให้อะไรมันคิดได้ยัง พรุ่งนี้แล้วนะ ’ เจเอ่ยพูดกับผมตอนช่วงเย็นของเมื่อวานที่มีเรียน หันไปมองหน้ามันที่ก็ยังคงยักคิ้วกวนตีนให้แต่ผมที่ก็ไม่ได้ตอบอะไรออกมา ‘ ถ้ายังไม่มี ซื้อรองเท้าสักคู่ก็ได้ ไอ้เมดชอบรองเท้า วันนั้นกูเห็นไอ้วิวมันตัดสินใจอยู่นานระหว่างร้องเท้ากับเสื้อ ’

‘ อื้ม ’ ตอบอีกคนสั้นๆ ทำเป็นไม่ได้สนใจอะไร แต่สุดท้ายผมกลับมายืนอยู่หน้าร้านแบรนด์ดังเจ้าของรองเท้าคู่ที่ตัวเองดันไปเปิดดูหลังจากที่เพื่อนพูดจบ แล้วตอนนี้ผมก็กำลังพูดกับตัวเองอยู่ในใจว่า ‘ ก็แค่เห็นว่าถ้าได้ใส่ก็คงสวยดี แล้วแค่พรนั้นมันงี่เง่าไปก็แค่นั้น ’ ไม่ได้คิดอะไรอย่างอื่นแบบที่ อยากจะให้มันดีใจเพราะได้ของที่ชอบมากๆ หรืออะไรทั้งนั้น 

“ สวัสดีค่ะ ” พนักงานร้านเอ่ยทักกันด้วยรอยยิ้ม ในตอนที่ผมเดินเข้าไปด้านใน พยักหน้ารับคำทักทายนั้นก่อนจะหันไปยื่นมือถือที่ฉายภาพแคปหน้าจอของรองเท้าคู่ที่ชอบไปให้

“ มาซื้อรองเท้าคู่นี้ครับ ”

“ ทางด้านนี้เลยค่ะ ” ผมเดินตามเธอไปก่อนจะเจอเข้ากับโซนรองเท้าในแบบที่อยากซื้ออยู่สองสามคู่ ผมยืนนิ่งมองมันอยู่แบบนั้นเพราะกำลังคิดจินตนาการไปว่าลวดลายไหนจะเข้ากับอีกคนมากที่สุด “ ไม่ทราบว่าสนใจแบบไหนคะ ”

“ แบบนี้ครับ ” ผมชี้ไปที่รองเท้าผ้าใบแบบคาดสีเขียวแดงตามยี่ห้อแบรนด์ แต่ที่ลังเลก็ลายปักที่อยู่บนรองเท้า ผมกำลังคิดว่าระหว่างงูกับเสือควรเป็นแบบไหนดี เมดจะเป็นคนที่กลัวงูจนมองภาพงูไม่ได้รึเปล่า หรืออาจจะไม่ชอบสีเหลืองที่ตัดกันแบบนั้น

“ แล้วไม่ทราบว่า..”

“ ผมไม่รู้ว่าระหว่างลายปักงูกับเสือ แฟนผมจะชอบอันไหน ”

“ ถ้าซื้อให้คุณผู้หญิงแนะนำว่า..”

“ แฟนผมเป็นผู้ชายครับ ” ผมหันไปบอกเธอที่ก็นิ่งไปก่อนจะยิ้มแล้วพยักหน้ารับ “ พอดีจะซื้อให้เป็นของขวัญวันเกิด ”

“ แล้วลักษณะของคุณแฟนเป็นแบบไหนคะ เผื่อดิฉันจะช่วยแนะนำได้ ”

“ ก็..” ผมคิดถึงคนที่ถูกถามถึง ผมคิดถึงเมื่อเช้าที่เรานั่งกินซาลาเปาในรถระหว่างทางไปเรียนด้วยกัน คิดถึงตอนที่มันนั่งเคี้ยวซาลาเปาหมูแดงด้วยแก้มตุ๋ยๆ กับแววตาที่มองออกไปข้างนอกพร้อมกับชี้ไปที่ร้านโจ๊กข้างทางแล้วก็บอกกับผมว่าตัวมันอยากกินมากแค่ไหน ก่อนจะเล่าถึงโจ๊กหมูในแบบที่ชอบ ระดับความสุกของไข่ที่อยู่ในโจ๊กว่าแบบไหนถึงจะอร่อย เป็นความทรงจำล่าสุดที่ทำให้ผมยิ้ม แล้วตอนที่เงยหน้าขึ้นมองพนักงานผมก็ได้คำจำกัดความสั้นๆสำหรับอีกคนแค่ว่า “ เค้าก็แค่น่ารักน่ะครับ ”

“ งั้นเอาเป็นปักลายเสือมั้ยคะ น่ารักดีนะคะ สีตัดกันดูสดใสดีด้วยค่ะ ” ผมมองไปที่รองเท้าคู่นั้น หยิบขึ้นมันขึ้นมาดูใกล้สำหรับรองเท้าผ้าใบส้นเตี้ยคู่นั่น ก็จริงอย่างที่พนักงานบอกมันดูสดใสดี

“ เอาแบบนี้แล้วกันครับ เค้าใส่เบอร์ประมาน 42.5 ”

“ ประมานไซส์ 9.5 นะคะ ”

 “ ครับ ” แล้วสุดท้ายรองเท้าคู่นั้นก็เข้ามาอยู่ในรถของผม มันถูกซ่อนไว้ที่เบาะหลังของคนขับในรถของ gtr ของผม คิดไม่ออกเลยว่าวันพรุ่งนี้จะเป็นยังไง แต่ถ้าขอได้ ก็อยากจะให้เป็นวันดีๆสำหรับเจ้าของขวัญไปทั้งวัน

............................................................................
ถ้าถามว่าทำไมถึงต้องเป็น 34.1 นั่นก็เพราะมันจะมี 34.2 ในวันอาทิตย์นี้ ( อย่าลืมเข้ามาอ่านกันนะ )
และถ้าถามว่า อ้าว.. แล้วทำไมไม่ลงให้หมดเหมือนทุกที คำตอบก็คือ แต่งแล้วแต่ยังไม่เสร็จ อีกอย่างคือยังไม่ค่อยถูกใจเท่าไหร่ เลยขอแบ่งออกเป็นสองพาสนะคะ

สุดท้ายนี้ สุขสันต์วันเกิดนะคะ น้องมินเมดของแม่ เจอกันอีกทีวันอาทิตย์ค่ะ

ฝากแท็ก #ผับชั้นสาม ในทวิตด้วยนะคะ
ขอบคุณมากจ้า   :katai2-1:

ออฟไลน์ LadySaiKim

  • ▫▪□Dezine'Kim□▪▫
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1697
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-0
ชอบความปากร้ายแต่น่ารักของคุณๆเค้านะคะ o18

ออฟไลน์ songte

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1411
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
ความอาฟ นี่บางทีก็เกินบรรยาย ดีนะเมดยังเข้าใจ แต่ถ้าไม่ปรับปรุงบ้างไรบ้างสักวันมันต้องมีวันไม่เข้าใจกันแน่
แต่ยังก็ตามขอให้พรุ่งนี้เป็นวันเกิดที่ดีสุดของเมดนะ

ออฟไลน์ JokerGirl

  • ∀Σ❤∀ΔΣ Forever^^
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2921
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
ความปากแข็งนี้ ปากไม่ตรงกับใจเลย ดีนะที่เมดเข้าใจ แต่พอป่วยนี่เมดยังกะมีลูกเลยอ้อนสุด

ออฟไลน์ klaew

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1237
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-2
บางทีความเป็นอาฟก็น่ารักดี

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3066
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
อาฟ แกจำวันเกิดแฟนแกไม่ได้เรอะ!!!

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
ปากหนอปาก

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7515
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
อาฟ แหย่เมดน่ารักดี  :mew1:

เดย์  วิว  ปากร้ายพอกัน  สมน้ำสมเนื้อ   :katai2-1:

ให้สงสัย ยีนส์ กับแฟนเก่าเมด จะรู้คิด
ว่าต่างคนต่างอยู่หรือเปล่า เลยเงียบไป  แต่ไม่น่าเป็นไปได้   :z3: :เฮ้อ: :really2:

อาฟ  เมด   :กอด1: :กอด1: :กอด1:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
โอ๊ยยย ป๊ามากๆ ซื้อกุดชี่ให้เลยอะ อยากได้บ้าง อิอิ

ออฟไลน์ momonuke

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 753
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
นุรอวันอาทิตย์ใจจดใจจ่อเลยค่ะะะ  :hao7: :hao7:

ออฟไลน์ Nung66669

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
บอกได้อย่างเดียวเลยว่าน่ารัก....................ก อาฟทำไมน่ารักแบบนี้  :o8: อิจฉาเมดแรงมาก

ออฟไลน์ SHmnex

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 63
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ทำไมอาฟต้องทำให้เขินพอๆกับเมดเลยอ้ะ
น่ารักเกินไปแล้วนะคู่นี้

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
เอาจริง ๆ นี่อาฟไม่รู้วันเกิดเมด แล้วคนอื่นรู้ได้ไง รู้จากวิวกันทุกคนหรอ  :hao4:

ออฟไลน์ Noname_memi

  • 7 or never, 7 or nothing
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1
อาฟฟฟฟ ทำไมนับวันน่ารักจังอ่ะ จิตใจอ่อนไหว  :-[

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4

ออฟไลน์ meteexp

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 709
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
ปากแข็งตลอด~

ออฟไลน์ uyong

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 362
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-1
สัดพี่ปากแข็งจริงๆ​  รอวันอาทิตย์นะ​ :z1:  :mew1:

ออฟไลน์ donutnoi

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2187
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-7
ฝีปากชาว Throw UP แต่ละคน คือกินกันไม่ลง วิวสู้ได้คือสุดยอด

อยากให้ถึงวันเกิดเมดเร็วๆจะดูคนปากแข็งจะทำอะไรให้สุดที่รัก

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2664
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
5555 อ้อนเบอร์แรงมากค่ะ แต่เมดก็เอ็นดู ชอบให้อาฟมีมุมนี้
อาฟเอ้ย พยายามมากค่ะ ชอบนะ เวลาใครทำอะไรเพื่อเราแบบนี้
เมดก็ไม่คงรู้สึกแบบเดียวกัน วันดีๆ หนึ่งวันที่มีแต่สีสันและความสุข

เมดจะต้องเขินไปอีกนาน และอาฟก็ต้องเก๊กไปจนโลกลืม

แต่ละคนมีความร้ายนะคะ ตลกเดย์อัยย์ สมควรแล้วที่เป็นคู่ซี้
เจคือรู้ทันทุกอย่าง รู้ไปหมด แล้วช่วยชีวิตอาฟได้ตลอด 5555

ออฟไลน์ HydrA

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2684
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-2
ตามอ่านทันแล้วค่ะ อ่านแล้วหลงรักเลยค่ะ อาฟเค้าก็โรแมนติกในแบบของเค้าน๊า เป็นคนที่รักเมดแบบหนั่งรากลึกจริงๆ ประทับใจค่ะ

ออฟไลน์ Chompoo reangkarn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1087
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-0

ออฟไลน์ broke-back

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5947
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-16
ยิ่งอ่านยิ่งหลงรักสัดพี่
เฮียอาฟ..อยากได้อ่ะ
อิอิ

ออฟไลน์ patwo

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 989
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +932/-27
ตอนที่ 34.2
SP: HBD’ minmade



ข้อมูลของเครื่องเติมเบียร์แบบอัตโนมัติฉายอยู่บนหน้าจอคอมพิวเตอร์ของผมที่กำลังให้ความสนใจมัน ด้วยความอยากจะเพิ่มลูกเล่นใหม่ให้กับส่วนบาร์ของผับ มันเป็นเครื่องเติมเบียร์แบบที่แค่วางแก้วลงไปบนเครื่องเบียร์ก็จะถูกดันขึ้นมาจากก้นแก้ว เป็นเทคโนโลยีที่เจ๋งดีในความรู้สึกผม น่าจะเรียกคนได้จากการแชร์คลิปในทางโซเซียลได้เยอะพอดู ผมวนดูคลิปวิดีโอที่ถูกแนบมาอยู่สองสามครั้ง ก่อนจะหมุนหน้าจอนั้นไปหาอีกคนที่ก็นั่งอยู่ข้างกันเพื่ออวดความเจ๋งของมัน แต่ทว่าเมดกลับไม่ได้ทำงานอยู่อย่างที่ผมคิด 

มองตามสายตาเรียวที่กำลังจดจ้องอยู่กับเข็มนาฬิกาบนผนัง เมดมองมันราวกับอยากจะขอให้มันผ่านวันนี้ไปให้ไวที่สุด และไม่ต้องหาเหตุผลอะไรให้นาน ผมคิดว่าเพราะมันอยากจะวันเกิดของมันมาถึงเลยในตอนนี้ มือที่กำลังหมุนมือถือที่ถืออยู่ไปเรื่อย ด้านหลังเคสใสนั่นมันมีการ์ดของขวัญของผมอยู่ คงอยากจะใช้ จนอดใจไม่ไหวแล้ว

“ ตั้งใจทำงานหน่อยครับคุณเลขา ”

“ กูทำงานเสร็จแล้ว ” บอกกันแบบนั้น ก่อนจะพับหน้าจอคอมของตัวเองลง แล้วหันมาสนใจหน้าจอของผม “ นั่นอะไรวะ ทำไมเบียร์มันขึ้นมาจากก้นแก้วได้ ”

“ เครื่องเติมเบียร์ที่กูซื้อมาติดไว้ในบาร์ ”

“ เฮ้ย เจ๋ง ” อีกคนบอกก่อนจะจดจ้องหน้าจอคอมของผมอยู่สักพัก เมดหันมาเหมือบมองกันในตอนนั้นผมก็สบตากับมันพอดี

“ มีอะไร ”

“ เปล่ามี ” ส่ายหน้าไปมายิ้มๆ ผมก็ยกยิ้มถามอีกครั้งเพราะรู้ดีว่าอีกคนคงมีอะไรที่กำลังคิดจะพูดอยู่ และผมก็คิดว่าผมเดาไม่ผิด

“ แน่ใจ ”

“ คือจริงๆก็มีนิดหน่อย ” บอกแบบนั้นก่อนจะเม้มริมฝีปากไว้แน่นนัยน์แววตาที่กำลังยิ้มนั้น “ ยังไงวันนี้กูก็ไม่มีงานอะไร มึงเองก็ไม่มีงาน งั้นเรากลับบ้านเร็วกันสักวันมั้ย ”

“ เผื่อมึงลืม พรุ่งนี้มึงไม่มีเรียน ไม่จำเป็นต้องกลับบ้านเร็ว ”

“ ก็แบบ..”

“ กลัวใช้การ์ดที่กูให้ไม่คุ้ม ” เอียงหน้าถามมันอีกคนก็เบิกตาโตเพราะผมดันไปรู้ทัน เมดส่ายหน้าไปก่อนจะยกมือขึ้นปัดแบบปฎิเสธ

“ บ้า มึงก็คิดมาก  ใครมันจะไปคิดอะไรแบบนั้น ”
 
“ มึงไง ” บอกอีกคนแบบนั้นก่อนจะหันกลับมามองคอมพิวเตอร์ตัวเอง จัดการเซฟข้อมูลทั้งหมดที่สนใจไว้ก่อนจะเลื่อนเม้าส์ไปกดปิดแล้วก็ลุกขึ้นเต็มความสูงเมื่อคอมนั้นดับลง “ อยากกลับก็ลุกขึ้น ”

“ เยส ” สองมือที่กำแน่นแสดงออกถึงความรู้สึกดีใจอย่างเต็มเปี่ยม แต่ตอนที่เงยหน้าขึ้นมามองผม เมดก็แค่ยิ้มน้อยๆเหมือนตัวเองไม่ได้รู้สึกดีใจอะไรเท่าไหร่

ผมพอรู้ว่ามันจะขออะไรในการ์ดนั้น คงไม่พ้นขอให้ผมเป็นแฟนแบบที่ชอบหรือไม่ก็ต้องทำอะไรแบบที่ฝืนใจทำ เพราะเมดดูสนุกเหลือเกินแล้วก็คิดไว้แล้วว่า แผนของมันจะต้องทำให้ผมหงุดหงิดแน่นอน แต่มันคงลืมไปว่า ผม ไม่ใช่คนที่มันจะจัดการได้ง่ายๆแบบที่คิด

“ ทุกคน กลับแล้วนะ ” เมดเดินไปบอกไอ้เจแล้วก็บาร์เทนเดอร์อีกสองคนที่ยืนอยู่ที่บาร์ มือขาวกระชับประเป๋าผ้าสีขาวของตัวเองที่ใช้ใส่ของก่อนจะยิ้มกว้างด้วยความสุข

“ อ้าว ทำไมวันนี้กลับกันเร็วจังวะ ” ไอ้เจหันมาถาม มันที่เหลือบมามองผมที่ก็ได้แต่ยกยิ้มให้

“ มันมีคนบางคน อยากจะใช้ของขวัญให้คุ้ม ”

“ ไม่เกี่ยวเว้ย ” คนโดนพูดถึงยังคงปฎิเสธอยู่แบบนั้น ก่อนที่น้องชายผมจะทักขึ้น

“ พรุ่งนี้วันเกิดพี่เมดแล้ว น้องเดย์กับไอ้อัยย์เตรียมของขวัญสุดพิเศษไว้ให้แล้วนะ ”

“ เป็นของขวัญที่พี่เมดจะต้องดีใจมากๆแน่นอน ตอนที่เปิดออกมา พี่เมดจะต้องร้อง ว้าว ” ไอ้อัยย์เสริมแต่ผมกับไอ้เจได้แต่ยกยิ้มแล้วส่ายหน้า

“ จริงเหรอ ”

“ อย่าคาดหวัง ” ผมบอกมันอีกคนก็หันมาขมวดคิ้วใส่

“ ทำไมวะ ”

“ เอาง่ายๆคือมึงไม่ควรคาดหวังอะไรกับไอ้เชี้ยสองตัวนี้ ” เพื่อนผมบอกก่อนจะยักคิ้วให้อีกคนที่ก็เหลือบมองไอ้บาร์เทนเดอร์สองตัวที่ก็ทำหน้าใสซื่อพลางส่งสายตาแบบกระพริบปริบๆราวกับลูกหมามาให้

“ พี่เมดอย่าไปเชื่อนะพี่เมดต้องเชื่อน้องเดย์ ”


“ กูเชื่อเหี้ยอะไรคนในผับนี้ได้บ้าง กูถามแค่นี้ ” เมดหันมาบอกผม “ ทั้งมึงสองคน ทั้งน้องเดย์ น้องอัยย์ คือกูเลือกเชื่อใครได้บ้าง ”

“ เชื่อน้องเดย์น้องอัยย์ ” สองเสียงที่ประสานกันบอก ผมก็ปัดมือไล่ให้มันสองคนไปทำงาน

“ ไปทำงานไป กูรำคาญ ”

“ พรุ่งนี้พี่เมดมาที่ผับนะ น้องเดย์กับน้องอัยย์จะเอาของขวัญให้ ”

“ โอเค งั้นเจอกันพรุ่งนี้ ” เมดบอกแบบนั้นก่อนที่พวกมันสองคนจะยิ้มพลางส่งมือที่ที่ประสานเป็นรูปหัวใจมาให้
 
“ กูอยากจะอ้วก ” ผมบอกก่อนจะถอนหายใจแล้วเดินหันหลังหนีพวกมันออกมาจากผับ เมดจะเดินตามออกมาหลังจากนั้น กดปลดล๊อครถของตัวเองตอนที่เข้าไปนั่งด้านในแล้วสตาร์ทรถเพื่อถอยหลังออกจากลานจอด เมดก็เอ่ยถาม

“ เมื่อกี้มึงบอกว่าจะอ้วก กูถามจริงๆเพราะตัวเองไม่เคยทำรึเปล่าวะ ”

“ ทำอะไร ”

“ ก็พวกท่าส่งหัวใจแบบนี้ไง ” นิ้วท่าบี้หัวนมในความคิดผมถูกส่งมาให้

“ จะขอบี้หัวนมกู ? ”

“ ไอ้สัด ” เมดหลุดขำเสียงดัง “ เค้าเรียกมินิฮาร์ทเว้ย มึงแม่ง ”

“ ใครจะรู้ คิดว่าจะขอบี้หัวนม ”

“ งั้นพรุ่งนี้กูให้ทำ ” คนข้างกันยักคิ้วล้อๆ ก่อนจะทำมือแบบมินนิฮาร์ทที่มันว่า แล้วเปลี่ยนมาเป็นสองมือที่ประสานกันจนเป็นรูปหัวใจ ไปจนถึงเอามือขึ้นไปตั้งบนหัว ซึ่งอะไรแบบนี้ก็บอกได้เลยว่า เข้าไม่ถึงจริงๆ

“ ประสาท ”

“ ตื่นเต้นเว้ย กูจะถ่ายภาพมึงสักร้อยรูปเลยจำไว้ ” ยิ้มกว้างที่หันมามองกัน ทำทีเป็นไม่ใส่ใจตอนที่หันมองออกไปนอกหน้าต่างรถ จะว่าไปก็อดใจรอวันพรุ่งนี้ไม่ไหวแล้วเหมือนกัน อยากจะรู้ว่าระหว่างมันกับผมใครจะมีความสุขมากกว่ากันในวันพรุ่งนี้

   กลับมาถึงที่คอนโดตอนช่วงห้าทุ่มที่กำลังจะเข้าวันใหม่ เมดที่อาบน้ำแต่งตัวเรียบร้อยวันนี้มันชุดนอนเป็นเสื้อยืดกับกางเกงบอลเหมือนอย่างเดิม มันยืนเท้าสะเอวของตัวเองมองดูนาฬิกาอยู่สักพักก่อนจะหันมามองผม

“ อีกสามสิบนาทีสุดท้ายเท่านั้น ”

“ กูไปอาบน้ำละ ”

“ เดี๋ยวก่อนๆ มึงรีบไปไหน ” บอกกันแบบนั้นผมก็เหล่มองมันที่เหลือบไปมองทางอื่นเ เมดคงรู้ตัวว่ามันกำลังทำให้ผมจับได้ในความมีพิรุธของมัน “ หนังเรื่องนี้กูเคยดูจะถึงจุดไคลแม็กซ์แล้วนะเว้ย ลุกออกไปตอนนี้กลับมาดูอีกทีไม่รู้เรื่องแน่นอน ”

“ ให้มันจริง ” บอกมันแบบนั้นอีกคนก็พยักหน้ารับเต็มกำลัง

“ ทำไมกูต้องหลอกมึงอะอาฟ ” หันไปมองหน้าทีวีแต่ตอนที่เหลือบมองมัน เมดก็แค่ยิ้มกว้างกับตัวเองแม้ตาจะมองดูทีวีอยู่ก็ตาม

เพลินไปกับเรื่องราวที่กำลังฉายจนตอนที่เหลือบตาขึ้นไปมองนาฬิกาอีกที ผมพบว่ามันเข้าสู่วันใหม่แล้ว เมดที่นั่งอยู่ข้างผม  เสี้ยวใบหน้าที่กำลังจดจ่ออยู่กับหนังที่ชอบไม่ได้รู้ตัวเลยว่าช่วงเวลาที่มันรอคอยได้มาถึงแล้ว ริมฝีปากของผมแห้งจนต้องเลียมันซ้ำๆ ชอบเป็นแบบนี้ทุกทีเวลาที่ตื่นเต้น ไม่รู้ทำไม ทั้งๆที่ใจอยากทำแท้ๆแต่กลับรู้สึกว่า มันอาจจะดูตลกรึเปล่า ถ้าเป็นผม

“ สุขสันต์วันเกิด ” หลุดพูดออกไปเสียงไม่เบานัก เจ้าของวันเกิดหันมามองผมด้วยสายตางงๆ ก่อนจะเงยหน้ามองนาฬิกาที่แขวนอยู่บนผนัง เมดที่ยิ้มกว้างออกมาแต่ก่อนที่มันจะพูดอะไรผมก็ช่วงชิงความพูดพวกนั้นไปเสียก่อน ปิดริมฝีปากด้วยจูบที่ประทับลงบนริมฝีปากสีชมพูอมส้มนั้น แววตาเรียวที่หลับลงเมดเผยอริมฝีปากตอบรับมันอย่างรู้งาน ลิ้นชิ้นแทรกตัวเข้าไปกอดเกี่ยวเปลี่ยนให้จูบธรรมดานั้นกลายเป็นจูบดูดดื่มที่ลึกซึ้ง

ผละริมฝีปากออก ผมจูบเมดอีกครั้งก่อนจะมองลึกลงในในแววตาเรียวที่กำลังหอบหายใจ มันมีคำพูดอีกมากมายที่ผมอยากจะพูดเป็นคำพูดที่ไม่รู้ว่าถ้าพูดออกไปแล้วจะดูแปลกรึเปล่า เพราะนี่คือวันเกิด ก็เคยได้ยินแต่ใครๆบอกกันว่า ‘ มีความสุขมากๆ สุขภาพแข็งแรง ขอให้รวย เรียนให้เก่ง ’ แต่ทำพูดพวกนั้นผมไม่ได้อยากจะพูดเลยสักนิด ในใจมันมีแค่ว่า ‘ รู้มั้ยว่าสำคัญมากนะ รู้มั้ยว่าทำให้หมดทุกอย่างแล้วทั้งๆที่ไม่เคยทำให้ใครมาก่อน ไปซื้อของขวัญวันเกิดมาให้ด้วยนะ ไปอวดพนักงานมาด้วยว่าแฟนน่ารักมาก ’

“ อาฟ ” เมดเรียกผมให้ดึงสติกลับมา

“ เอาการ์ดขึ้นมาสิ มึงจะขออะไร ” หันเหความสนใจของอีกคนที่ก็ถือว่าได้ผล เมดก้มหน้าลงแล้วหยิบมือถือของตัวเองขึ้นมา แกะการ์ดที่มันใส่ไว้หลังเคสนั่นก่อนจะยื่นมาให้ผม

“ ขอให้มึงเป็นแฟนในแบบที่กูชอบ หนึ่งวัน ” คิ้วที่ยักขึ้นให้ผมหลังจากที่พูดจบ

“ ยังไง ” ผมไม่เข้าใจความหมายในสิ่งที่มันพูดสักเท่าไหร่ “ แฟนในแบบที่มึงชอบต้องเป็นยังไง ”

“ ก็ต้องเป็นคนที่ไม่กวนตีน พูดเพราะ อ่อนโยนกับกู แล้วก็เอาใจกู “ เมดบอกก่อนจะทำท่าคิด “ ตามใจกูด้วยนะ ไม่ทำให้กูหงุดหงิดด้วยการที่ล้อกูว่าหน้าเหมือนซาลาเปา ”  หลุดยิ้มขำออกมา มันคงเคืองน่าดูเวลาผมล้อมันแบบนั้น ทั้งๆที่จริงแล้วก็ไม่ได้ไม่ชอบ ผมชอบที่มันเป็นแบบนั้น รู้สึกว่าน่ารักดีด้วยซ้ำไป

“ เรื่องมาก ” แกล้งพูดออกมาเบาๆ ผมถอนหายใจออกมาก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบการ์ดแล้วทำท่าจะฉีกมันทิ้ง แต่เมดก็ดึงกลับมาก่อน

“ มึงจะทำอะไรกับของขวัญของกู ”

“ บัตรใช้แล้วก็ต้องฉีกสิวะ จะเก็บไว้ทำเหี้ยอะไร ”

“ ไม่ได้ นี่มันของขวัญของกู กูจะเก็บเอาไว้ ” เมดเถียงออกมาผมก็มองหน้ามัน “ กูไม่ใช่ซ้าหรอกน่า มึงทำเหมือนมีหลายใบไอ้เชี้ย ก็แค่บัตรเดียวมั้ย ”

“ ใครจะไปรู้ เผื่อมึงทำขึ้นมาอันใหม่แล้วบอกกูให้ กูก็เสียเปรียบสิว่ะ ”

“ กูไม่ใช่มึง ” คนที่อยู่ตรงหน้าเถียง สีหน้าที่ไม่พอใจของมันเมดหันดูซ้ายขวาก่อนจะเดินไปหยิบปากกาเมจิสีแดงที่มันใช้เน้นข้ความในหนังสือเรียนมาให้ผม “ เขียนลงไปว่า ใช้แล้ว ”

“ โอเค ” รับปากากนั้นมาผมเขียนลงไปบนการ์ดนั้นตามที่อีกคนสั่งก่อนจะทำทีเป็นบ่นก่อนจะยื่นของคืนไปให้มัน “ ของปัญญาอ่อนจะเก็บไว้ทำไมก็ไม่รู้ ”

“ ปัญญาอ่อนกว่านี้กูก็จะเก็บไว้ ของขวัญชิ้นแรกที่มึงให้กูนะ ไม่สำคัญได้ยังไง ” เมดเดินไปเก็บปากกาไว้ที่เดิม มันเอาการ์ดใส่ลงไปในหลังเคสเหมือนเก่า ผมที่ลุกขึ้นตอนที่มันพูดแบบนั้นไม่รู้ทำไมแต่รู้สึกอยากจะกอดมันไว้สักหน่อย กอดจากด้านหลังแบบที่เมดชอบแล้วก็จูบลงข้างแก้มจนอีกคนต้องยกไหล่ขึ้นมา “ กอดกูทำไม ”

“ ไม่ได้อยากกอด ”

“ตามกฎคือมึงต้องพูดตรงๆ ” หันมามองกันยิ้มๆก่อนจะพูด ผมนิ่งไปเพราะรู้สึกตัวเองเผลอตกลงไปในหลุมแรกเข้าให้แล้วแล้วยิ่งผมถอนหายใจออกมาเซ็งๆพลางปล่อยมือที่กอดมันไว้ เมดก็ยิ่งได้ใจถามย้ำ “ กอดกูทำไม ”

“ อยากกอด ” ผมมองมันก่อนจะยกยิ้ม “ ก็มึงน่ารัก ”

“ ไปอาบน้ำเลยไป ” คนหน้าแดงพูดแบบนั้นหลังจากตั้งสติได้ เมดหันไปมองทางอื่นทำทีเป็นไม่ได้ยินในสิ่งที่พูด ผมว่าผมเจอจุดอ่อนเข้าแล้ว จุดอ่อนที่ทำให้ตัวเองรู้สึกว่า ก็เดี๋ยวมาดูกันว่าระหว่างผมกับมันใครจะแกล้งใครกันแน่

เดินเข้าไปอาบน้ำตามคำสั่งของการเป็นแฟนที่ดี แต่ทว่าตอนที่เดินออกมา ชุดนอนสีเขียวลายการ์ตูนก็ถูกเอามาแขวนไว้อยู่หน้าตู้ เมดที่ยิ้มให้ผมมันยื่นให้

“ ใส่ตัวนี้นะมึง ”

“ ไม่ ” ผมบอกปัดความปัญญาอ่อนที่ยื่นมาให้ เมดก็ยัดมันมาใส่มือ

“ ไม่มีคำว่าไม่ แฟนที่ดีต้องตามใจ ”

“ นี่คิดดีแล้วใช่มั้ย ” ถามมันกลับไปด้วยสายตานิ่งๆ


“ หมายความว่าไงวะ ”

“ คิดว่ากูจะไม่เอาคืนตอนวันเกิดกูรึไง ” ถามแบบนั้นอีกคนก็เงียบไป แต่เมดก็ยังเป็นเมดในบางเวลามันก็ดื้อเหมือนกัน และอยากจะเอาชนะเหมือนกัน

“ ไม่มีทางกลัว ”

“ ได้ ” จัดการใส่ชุดนอนลายการ์ตูนนั่นด้วยความหงุดหงิดใจ ผมมองตัวเองในกระจกที่ตอนนี้เจ้าของวันเกิดกำลังหัวเราะคิกคักถูกใจ

“ หันมานี่หน่อย ” เมดบอกผมก็หันไปแล้วก็เจอมันกำลังยื่นกล้องมาข้างหน้า ผมเอามือล้วงกระเป๋าสีหน้าที่กำลังหาเรื่องแบบไม่สบอารมณ์ยิ่งทำให้มันหัวเราะ “ ยิ้มหน่อยน่า น่ารักจะตาย คิ้วๆ เหมาะกับอารยะสุดอะไรสุด ”

“ มึงเคยตายมั้ย ”

“ ไม่ ฮ่าๆ ” เสียงหัวเราะที่ดังขึ้นของเมด ผมก้มลงมองชุดที่ตัวเองใส่อีกครั้ง จำได้ว่ามันเป็นชุดที่แม่ซื้อให้เมื่อนานมากแล้ว และผมไม่เคยใส่เลยสักครั้งเดียว ผิดกับไอ้เดย์ที่ไม่ว่าแม่จะซื้อลายเหี้ยอะไรให้มัน มันก็ใส่ได้หมด แถมยังบอกให้แม่ซื้อให้อีกเยอะๆ เพราะมันชอบ ใส่แล้วนอนสบายมันเคยบอกผมไว้  “ กูไม่เคยคิดเลยว่ามึงจะมีชุดนอนแบบนี้ในตู้ ”

“ แม่กูซื้อให้ ”

“ ถ่ายรูปหน่อย ” เมดบอก “ ต้องเก็บไว้เป็นที่ระทึกสักนิด ” ผมยืนนิ่งตอนที่อีกคนบอกส่วนคนถ่ายที่กลั้นยิ้มก็เอียงหน้าออกจากหน้ากล้องมาบอกกัน “ ทำมือมินฮาร์ทหน่อยสิอารยะ ”

“ มินิฮาร์ทอะไร ”

“ ท่าบี้หัวนมของมึงอะสัด ”

“ อ๋อ ” ดึงนิ้วขึ้นมาทำท่าแบบที่มันต้องการ ผมยกยิ้มตอนที่อีกคนกลั้นขำจนหน้าแดงส่วนมือก็กดชัตเตอร์แบบรัวๆด้วยความถูกใจ “ เสร็จยัง ”

“ เกรี้ยวกราด ” เมดบอกก่อนจะหยุดมือถือที่กำลังถ่ายรูปอยู่นั้นลง ขาที่เดินออกไปด้านนอกของห้องเมดนอนลงบนเตียงก่อนจะเลื่อนรูปที่ถ่ายเมื่อคู่ไปมา “ กูต้องอัพสักรูป ใส่แคปชั่นอะไรดี ”

“ ขอบี้หัวนมหน่อย ” บอกมันแบบนั้นตอนที่นอนลงข้างอีกคนเมดก็หันมาด่า

“ ไอ้สัด ” รอยยิ้มที่ยิ้มให้กันเมดหันหน้าจอมือถือมาให้ดู มันเป็นภาพผมที่ถ้าดูแค่หน้าก็โอเค เพราะเท่ห์ดี แต่ที่ไม่โอเคเลยคือไอ้ท่าบี้หัวนมนั่น “ เอาภาพนี้นะเท่ห์ดี ”

“ อื้ม ”

“ แคปชั่นอะไร มึงช่วยคิดหน่อย ”

“ ก็ขอบี้หัวนมหน่อย ”

“ ไม่เอาดิวะอาฟ ”

“ มาย มินิฮาร์ท ” ผมบอก อีกคนก็หันมายิ้มให้

“ แจ๋ม ” เมดว่าแบบนั้นก่อนจะกดยุกยิกอยู่บนมือถืออยู่นาน ผมคิดว่ามันคงกำลังอัพภาพแล้วในตอนที่คิดขึ้นได้ผมก็หยิบมือถือของตัวเองขึ้นมาดู แล้วตอนที่เมดวางมือถือลงข้างตัวผมกดเข้าไปดูไอ้อินสตราแกรมส่วนตัวของผม ก็พบว่า ข้อความก็เป็นอย่างที่ตัวผมบอกไป ‘ my mini heart  w./ #ชุดนอนที่แสนน่ารักของอารยะ ’  ถ้าให้พูดตามความจริง ก็คือ กูโคตรเกลียดแท็กของมึงเลยวะเมด

“ ดูแล้วก็อย่าลืมกดไลค์ให้ด้วยนะครับ ”

“ ปัญญาอ่อน ” ผมบอกก่อนที่เมดจะดึงตัวเองขึ้นจากเตียงมามองกน้ากัน “ อะไรของมึง ”

“ พูดใหม่ วันนี้มึงต้องพูดตรงๆกับกู เป็นแฟนที่น่ารักหน่อยอารยะ ”

“ กวนตีน ” บอกมันแบบนั้นอีกคนก็ยิ้มก่อนจะยกนิ้วขึ้นส่ายไปมาตรงหน้าผม

“ กวนตีนก็ไม่พูดนะมึง  มันไม่ใช่คำสุภาพที่แฟนที่ดีเค้าพูดกัน ”

“ แล้วถ้าแฟนกวนตีนจะให้กูพูดว่าไง ”

“ ทำไมเมดทำแบบนี้ละครับ หื้ม แล้วก็เอื้อมมือมึงขึ้นมา ” มือของเมดจับมือของผมมาไว้ที่แก้มมัน “ หยิกแก้มกูเบาๆแล้วบอกว่า นี่แหน่ะ ”  หลุดหัวเราะกับท่าทางซื่อๆของมัน ผมไม่รู้ว่ามันอาจจะให้ทำแบบนี้ หรือแค่คิดอะไรที่มันตลกๆ เพื่อให้ผมอายกันแน่ แต่ที่รู้คือทั้งหมดนั่น บอกตรงๆเลยว่า โคตรน่ารัก

“ มึงเอาจริงดิ ”

“ ค่อนข้างอายอยู่เหมือนกันว่ะ ” คนบอกให้ทำหลุดยิ้มออกมาก่อนจะเม้มมันไว้ หน้าแดงๆของอีกคนเมดยกมือขึ้นปิดหน้าตัวเองก่อนจะล้มตัวลงนอนบนเตียง

“ นี่แหน่ะ ” มือของผมหยิกแก้มมันตอนที่พูดคำนั้น เมดที่นิ่งค้างไป เราที่มองหน้ากันก่อนจะหลุดหัวเราะออกมาเสียงดังในช่วงเวลาที่ต่างฝ่าย ต่างก็รับความไม่เป็นตัวเองนี้ไม่ได้

“ อารยะ มึงแม่ง ” มือที่เอื้อมมือมาตีผมด้วยความถูกใจ ส่ายหน้าไปมากับความปัญญาอ่อนนั้นก่อนจะปิดไฟในห้องให้มืดลง

“ นอนได้แล้ว พรุ่งนี้จะได้ตื่นเร็วๆ แล้วใช้การ์ดนั้นให้คุ้ม ”

“ มึงทำเหมือนกูแม่ง อยากจะใช้การ์ดนั่นจนตัวสั่น ”

“ หรือว่าไม่จริง ” ผมถามมันท่ามกลางความมืดแต่ถึงอย่างงั้นก็ยังพอมองเห็นใบหน้าขาวๆของอีกคนอยู่ เมดที่ยิ้มหว้างให้ผม

“ จริง ” ตอบออกมาแบบนั้นก่อนจะพลิกตัวมามองผมที่ก็หันไปมองมัน

“ มีอะไร ”

“ ก็แบบว่าแฟนที่ดีอะมึง ” เมดบอกก่อนจะยักคิ้วให้ผม “ มึงว่าแฟนที่ดีเค้าจะทำอะไรตอนจะนอน ”

“ เอากัน ”

“ ไอ้สัด ไม่ใช่สิว่ะ ” หลุดหัวเราะออกมากับหัวเสียนั้น ผมดึงมันเข้ามากอดก่อนจะกดหน้ามันลงไปที่อกของตัวเอง มือที่ลูบหัวมันเบาๆ

“ พอใจยัง ”

“ ก็ทำเป็นนี่หว่า แล้วมากวนตีนกู ”

“ บอกให้กูพูดเพราะๆ งั้นมึงก็ช่วยพูดเพราะๆกับกูด้วยแล้วกัน ” บอกมันแบบนั้นอีกคนก็เงยหน้าขึ้นมามองกัน “ ถ้ามึงพูดเพราะๆกับกู กูก็จะพูดเพราะๆกับมึง ตกลงมั้ย ”

“ ประโยคก่อนหน้านี้เหมือนไม่ใช่มึง ”

“ แล้วกูต้องพูดยังไง ”

“ ถ้าจะอยากให้กูพูดเพราะๆมึงก็พูดก่อน ไม่งั้นกูไม่พูด ” เมดบอกผมก็หลุดยิ้ม “ แต่เอาจริงๆ พอมาลองคิดว่า ถ้าเรียกมึงว่า อาฟ เมดว่านะเราแบบนั้น เราแบบนี้ หรือไม่ก็ อาฟอยากพูดแบบนี้กับเมดสิ เมดไม่ชอบเลย คือแบบ.. เอาจริงๆนะ โคตรไม่เราเลยวะ ”

“ ก็แค่ไม่เคยพูด ถ้าพูดบ่อยๆมันก็ชิน ”

“ วันเดียวคงไม่ชิน งั้นพูดตามสบายก็พอ แค่อย่ากวนตีนกัน แล้วก็ไม่เป็นซาลาเปาวันนึง ห้ามฟัดแก้มกูตอนเช้าแล้วบอก ไอ้หมวยตื่นไปขายซาลาเปา ห้ามบอกว่า ป๊ามึงเรียกไปขายซาลาเปา ไม่ขายโจ๊กด้วย ”

“ งั้นเอาอะไรดี ” ผมถามมันก่อนจะหลุดยิ้มขึ้นมาตอนที่คิดถึงตุ๊กตาตัวนึงที่ดูเหมือนเมดจากคำบอกเล่าของไอ้วิวที่เคยพูดกับไอ้เจ “ ตื่นได้แล้วมูมิน ”

“ ไอ้สัด ไม่เอา มึงแม่ง ”

“ ฮ่าๆ ” หลุดหัวเราะออกมา แล้วยิ่งก้มลงไปมองอีกคนที่ทำหน้าไม่พอใจมันก็ยิ่งตลก เอาจริงๆ สำหรับผม เมดก็เหมือนทุกอย่างที่ขาว นุ่ม แล้วก็กลม “ อย่าชื่อเลยมินเมดอะ ชื่อมูมินเถอะ กูว่าเข้าดี ”

“ ไม่ ” เสียงที่เถียงกันออกมาด้วยความไม่พอใจ “ ห้ามเรียก มึงเรียกกูจะฆ่ามึงสัดอาฟ ”

“ แล้วจะให้เรียกอะไร ”

“ แค่เมด แค่ชื่อกูนี่แหละ ไม่หมวยนะ เรียก เมด ”

“ อ่าห๊ะ ”พยักหน้าบอกมัน “ ก็ถ้าไม่ลืม ”

“ คนอย่างมึงไม่ลืมหรอก ยกเว้นว่าจะแกล้งลืมไอ้สัด ” หลุดยิ้มออกมากับความรู้ดีนั่น เมดเงียบไปสักพักก่อนจะบอก “ แล้วพรุ่งนี้ขออะไรอย่าง ”

“ อะไร ”

“ ช่วยจัดชุดให้หน่อยสิ ”

“ ชุดอะไร ” ผมถาม “ ชุดที่มึงต้องใส่น่ะเหรอ ”

“ ใช่ ” คนสั่งพยักหน้ารับ “ กูอยากรู้ว่ามึงจะชอบให้กูแต่งตัวแบบไหน ”

“ งั้นก็ไม่จัด ”

“ อ้าว ”

“ กูชอบแบบที่มึงไม่ใส่อะไรเลย ”

“ ไอ้หน้าเหี้ย ” เสียงถอนหายใจที่ดังขึ้นมา ผมหัวเราะกับท่าทางเซ็งๆนั่นของอีกคน “ ทำไมมึงต้องกวนตีนกูอยู่เรื่อยเลยวะ ”

“ กูแค่พูดความจริง ก็มึงถามว่าชอบให้มึงใส่แบบไหน ก็กูชอบตอนไม่ใส่เสื้อผ้ามากกว่านี่ แล้วกูผิดตรงไหนวะ ”

“ คุยกับมึงแล้วโคตรปวดหัว ” เมดซุกเข้ามาใกล้ผมที่ก็ดึงแขนที่มันหมุนอยู่ออก สายตาที่เหมือนประท้วงเงยหน้าขึ้นมามองกัน “ ขอโมเม้นท์นอนหนุนแขนหน่อยสิว่ะมึง ”

“ หัวเมดก็ไม่ได้หนักสองขีดไงครับ ตะคริวจะแดกกูเอาไงประเด็นน่ะ ” ถึงจะบอกแบบนั้นแต่ผมก็เลือกจะวางแขนไว้บนหัวมันแบบนั้น ผมชอบเวลาที่เมดซุกเข้ากับอกผม ชอบตอนที่ได้นอนอยู่ในระดับที่สูงกว่ามันเพราะจะได้เห็นหน้าอีกคนชัดๆ

“ พรุ่งนี้ตื่นไปตักบาตรกันนะ ปลุกกูด้วยนะมึง ”

“ แล้วทำไมต้อง..”

“ หน้าที่แฟนที่ดี ” เงยหน้าขึ้นมาจูบใต้คางของผมที่ก็ถอนหายใจออกมา

เมดหลับตาลงไปแล้ว จะว่าไปเราไม่ค่อยได้นอนกอดกันเลย คงเพราะส่วนใหญ่เราเหนื่อยจัดมากับการทำงาน ต่างคนพอถึงบ้าน ก็อาบน้ำแล้วก็นอน การกอดกันของเราเลยเกิดขึ้นในช่วงเวลาเช้าที่ผมตื่นก่อน หรือแม้แต่การจูบ เมดจะชอบจูบตอนที่คิดว่าผมหลับ

การทำอะไรตรงๆต่อกันสำหรับเราเป็นอะไรที่ไม่ค่อยเกิดขึ้นเท่าไหร่ อาจเพราะเราไม่ใช่คนพูดหวานด้วยกันทั้งคู่ แถมยังรู้สึกว่าการทำอะไรแบบนั้นมันไม่ใช่ตัวเอง แต่ว่าการทำอะไรอย่างที่อยากทำบ้างก็ใช่ว่าจะไม่ดีหรอก มันดีนะ อย่างน้อยตอนนี้ ผมก็รู้สึกดีกับมัน


 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด