( จบแล้ว ) Throw UP #ผับชั้นสาม :: {ตอนพิเศษ: up! 31-12-62} #หน้า 58
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ( จบแล้ว ) Throw UP #ผับชั้นสาม :: {ตอนพิเศษ: up! 31-12-62} #หน้า 58  (อ่าน 482717 ครั้ง)

ออฟไลน์ patwo

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 989
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +932/-27
   เวลาสองชั่วโมงผ่านไปเร็วราวกับโกหก ฝนที่เคยตกกระหน่ำตอนนี้หลงเหลือไว้แค่ความเปียกชื้นของหยดน้ำ ผมหันมองนาฬิกาที่ติดอยู่บนผนังหลังจากที่เคลียร์งานทั้งหมดเสร็จเรียบร้อย เผลอถอนหายใจออกมาเบาๆตอนที่หันไปมองคนป่วยที่ยังนอนนิ่งอยู่แบบนั้น เมื่อครึ่งชั่วโมงก่อนหน้านี้ผมลองเดินไปเอามือไปจับที่หน้าผากของอาฟ แล้วก็พบว่าพิษไข้นั้นไม่ได้ลดลงแต่อย่างใด ผมลองเช็ดตัวให้มันอีกครั้ง แต่ดูเหมือนว่าทุกอย่างก็ยังเหมือนเดิม อาการไม่ได้ดีขึ้นเลย

“ ไปหาหมอหน่อยมั้ยมึง “ ย่อตัวลงนั่งข้างเตียงก่อนที่ผมจะเอื้อมมือไปจับหน้าผากของคนที่นอนอยู่ อาฟพลิกตัวกลับไปอีกทางผมก็เริ่มออกแรงเขย่าแขนคนดื้อดึงที่ยังนิ่ง “ อาฟ ไปหาหมอกัน ”

 “ ไม่ “ ปฎิเสธออกมาสั้นๆ ก่อนจะถอนหายใจ “ นอนอีกชั่วโมงคงดีขึ้น ” คำพูดเอาแต่ใจของมันที่ชวนให้ผมถอนหายใจก่อนจะเอื้อมมือไปจับหน้าผากนั้น

“ งั้นกูให้มึงนอนอีกชั่วโมงนึง แล้วถ้ายังไม่ดีขึ้นต่อให้มึงไม่ยอมกูก็จะตีหัวมึงให้สลบแล้วลากพาไปหาหมออยู่ดี ” ไม่มีคำตอบอะไรหลุดออกมาจากปากคนช่างเถียง ผมเดินกลับไปทำงานที่โต๊ะต่อยังเหลือเอกสารของวันพรุ่งนี้ที่คิดว่าคงทำให้เสร็จไปตั้งแต่วันนี้เลยก็ท่าจะดีเผื่อพรุ่งนี้ต้องดูแลอาฟทั้งวันผมก็จะได้ไม่ต้องพะวงกับงานที่ค้างอยู่

หนึ่งชั่วโมงที่บอกกันไปผ่านไปแล้ว ผมที่นั่งอยู่บนเตียงมองดูคนที่หลับสนิทก่อนจะเอื้อมมือไปเขย่าตัวคนป่วยที่ก็ลืมตาขึ้นมามองกันด้วยความอ่อนแรง

“ ไปโรงพยาบาล “

“ ไม่ “ กูว่าแล้ว ว่าต้องตอบแบบนี้

“ งั้นถ้ามึงไม่ไปกูจะโทรเรียกรถพยาบาลให้มารับมึงที่ผับ “ บอกแบบนั้นคนที่นอนอยู่ก็มองเหล่ผม “ คิดให้ดีนะว่าถ้ากูเรียกมา มันจะต้องเปิดสัญญาณขอทางมาเลยนะ จากโรงพยาบาลถึงนี่ก็ไกลอยู่ แล้วพอมาจอดที่ผับ คนเค้าต้องสงสัยแน่นอนว่ามีอะไร หนำซ้ำพยาบาลก็ต้องขึ้นมาหิ้วปีกมึงจากบนนี้ลงไป ผ่านลูกค้าเป็นสิบๆคนที่นั่งกินเหล้าอยู่ ผ่านคนที่ทำงานในผับ แล้วแบบนั้นพอไอ้เจ น้องเดย์หรือว่าน้องอัยย์เห็นมันก็ต้องซุบซิบแล้วก็ล้อมึงว่า ไอ้อาฟแม่งมีอะไรกับไอ้เมดเมื่อคืนวันนี้ป่วยเลยแน่นอน แม่ง อ่อนชิบหาย ” คนที่ฟังผมพูดนิ่งไปผมรู้ว่าอาฟกำลังคิดภาพตามที่ผมบอก

“ กูป่วยอยู่แล้วมั้ย ”

“ มึง ปากคนมันไปไวนะ ” ผมขู่มันซ้ำ “ น้องเดย์น้องอัยย์รู้ก็เท่ากับโลกรู้แล้วมั้ยละ มึงจะยอมเสียฟอร์มจริงๆเหรอ มึงเป็นเจ้าของผับ throw up นะเว้ย คิดให้ดีอาฟ ”

“ พูดจบยัง “ อาฟลุกขึ้นนั่งก่อนจะถาม

“ จะไปแล้วใช่มั้ย ” ไม่มีคำตอบจากคนป่วยใบหน้าคมฉายสีหน้าและแววตาที่สุดแสนจะเบื่อหน่ายใส่ผม อาฟลุกขึ้นจากเตียงมันถอนหายใจก่อนจะหันมาถามผมที่นั่งอยู่

“ จะไปมั้ยโรงพยาบาลน่ะ ”

“ ก็แค่นั้นอะ ” ผมบอกก่อนจะยิ้ม “ ว่าง่ายๆแบบนี้ค่อยน่ารักหน่อย ”

   เดินลงมาชั้นล่างพร้อมกันหลังจากที่ผมหยิบของสำคัญใส่กระเป๋าเรียบร้อย อาฟไม่ได้แสดงออกถึงอาการปวดหัวจนต้องพยุงทั้งๆที่ร่างกายมันไม่ไหว แต่มันก็คือมัน ที่ไม่แสดงความอ่อนแอออกให้ใครเห็นแน่นอนไม่ว่าจะด้วยเรื่องอะไร ทุกอย่างถูกปกปิดไว้บนใบหน้าคมที่เรียบนิ่งนั้นจนดูเหมือนมันไม่มีความรู้สึกอะไร

“ ไหวเปล่าวะนั่น ” เจเดินเข้ามาถามตอนที่อาฟเดินเอามาล้วงกระเป๋าลงมาถึงชั้นล่าง สายตาคมที่หันไปมองเพื่อนก่อนจะส่ายหน้าไปมาทำเหมือนไม่ได้เป็นอะไร

“ กูไม่ได้เป็นอะไร ”

“ กูเอาเอกสารไปให้พี่ซองก่อน มึงยืนรออยู่ตรงนี้ แปปนึงนะ ”

“ เร็วๆนะ ” เสียงทุ้มติดอ้อนนั้นชวนให้ผมยิ้มกว้างก่อนจะพยักหน้ารับ

“ จ้าๆ พี่ไปนานหรอก น้องอาฟรอพี่เมดแปปน้า ” แกล้งแซวมันก่อนจะเดินตรงออกไปหาพี่ซองแล้วปล่อยให้เพื่อนซี้สองคนยืนคุยกัน มันเป็นเอกสารเกี่ยวกับบัญชีของเดือนใหม่ ที่พอขึ้นเดือนใหม่เราก็ต้องเปลี่ยนสมุดที่จดรายละเอียดสำหรับสต๊อกกันใหม่เพราะมีเหล้าบางตัวที่เพิ่มเข้ามาและต้องเช็ควันต่อวัน

“ หน้ามึงโคตรไม่ไหวไอ้สัดอาฟ ” เจบอกอีกคนที่ก็ส่ายหน้าไปมาไม่ยอมรับ

“ กูไม่ได้เป็นเหี้ยอะไรทั้งนั้น ฝากร้านด้วยนะ วันนี้คงกลับเร็ว ”

“ ปากแข็งจริงไอ้สัด จะล้มอยู่แล้ว ”

“ กูไม่ได้อ่อนแอขนาดนั้นมั้ย ”

“ หรือเพราะมึงตากฝนวันก่อน ” คนโดนถามหันมามองผม ก็คงมีอะไรปิดบังกันอยู่นั่นแหละ แต่ไม่อยากจะโดนผมดุไง เลยต้องเงียบไว้

“ พูดมากไอ้สัด ”

“ ก็คือจะมีความกลัวเมียเบาๆ ” เจหันมาเหล่ผมที่ทำทีเป็นไม่ได้ยินแล้วคุยกับพี่ซองไปเรื่อยเพื่อความสบายของคนโดนเพื่อนล้อ

“ แค่ไม่อยากบอก เรื่องไร้สาระ ”

“ ก็ถ้าเมดรู้ว่ามึงไปเล่นเตะบอลกลางฝนจนหวัดแดกก็คงโดนด่าเพราะทำตัวไร้สาระจริงๆนั่นแหละสัด ”

“ มึงก็เล่นทำไมยังพูดมากได้วะ ”

“ นี่ใคร ” ชี้มือเข้าหาตัวเอง “ กูพี่เจ ”

“ มึงยังไม่รู้จักตัวเองแล้วใครจะไปรู้จักไอ้สัด ”

“ มีมงมีมุก ไม่เจียมสังขารเลยพ่อคุณ สะกิดก็ล้มละไอ้สัด กลับบ้านไปนอนพักผ่อนไป ”

“ ก็กูบอกอยู่ว่าไม่ได้เป็นอะไร ” คนป่วยเถียงเพื่อนด้วยใบหน้าไม่สู้ดี ส่วนผมที่ตอนนั้นอธิบายงานกับผู้จัดการผับเสร็จพอดี ก็เลยเดินตรงเข้าไปหาคนป่วยที่ก็ยืนรออยู่ แล้ววินาทีที่อาฟหันมาเห็นผมเดินมายืนข้างๆมันก็บอก

“เมด ปวดหัวจังเลยว่ะ ” ไม่ทำแค่พูดแต่ทว่ามันกลับยื่นมือของมันมากอดคอผมไว้ก่อนจะซบลงกับไหล่ ท่าทางที่ทำให้เจได้แต่อ้าปากค้าง

“ โอ้โห ออสก้าร์เอามาก เพื่อนถามบอกไม่เป็นไร แต่พอเมียถามบอกปวดหัวจัง ยืนก็แทบไม่ไหวต้องกอด เสมือนใกล้ตายแล้ว ”
“ เสือก ” อาฟหันไปบอกอีกคนที่ก็แบะปากคว่ำหมั่นไส้เพื่อนตัวเองอยู่มาก

“ พาอาฟไปหาหมอก่อน ฝากร้านด้วยนะเจ ”


“ ได้ครับ ” อีกคนบอกก่อนจะยักคิ้วให้ผม “ ฝากไอ้อาฟด้วยนะเมด ถามหมอด้วยก็ดีว่าต้องงดใช้แรงในร่มผ้ารึเปล่า ”

“ ไม่งดเว้ย ” คนป่วยที่ยังไม่เจียมสังขารหันไปบอก ผมก็ได้แต่ส่ายหน้าแล้วเดินพามันมาที่รถก่อนจะดันร่างคนป่วยที่ทำทีเหมือนใกล้ตายให้พิงประตูฝั่งคนนั่งข้างก่อนจะจับไปบนหน้าขาของอีกคน

“ กุญแจรถอยู่ไหนวะ ”

“ กระเป๋าขวา ”

“ ล้วงออกมาให้หน่อย ”

“ ไม่มีแรง ปวดหัว ”  พูดแบบนั้นก่อนจะพิงรถแล้วหลับตาอยู่แบบนั้น เอาจริงๆก็คือโคตรน่าหมั่นไส้ หรือผมควรปล่อยให้มันตายไปทั้งแบบนี้ดี

“ โคตรแสดงไอ้สัด เมื่อกี้กูเห็นมึงยังเถียงไอ้เจบอกไม่เป็นไรอยู่เลย ” ถึงจะพูดแบบนั้น แต่ผมก็ล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกงด้านขวาของมันอยู่ดี กางเกงขาเดฟที่ค่อนข้างฟิตทำให้ล้วงมือเข้าไปยากหนำซ้ำคนป่วยก็ดูเหมือนจะยืนนิ่งอยู่แบบนั้นโดยไม่ช่วยอะไรทั้งนั้น


“ ก็ช่วยขยับตัวหน่อยสิวะ กูจะได้ล้วงง่ายๆ”
“ ไม่มีแรง ” บอกกันแบบนั้นก่อนจะยกยิ้มขึ้นมองผม แกล้งกันอยู่ชัดๆแค่ดูก็รู้แล้ว

“ มึงแม่ง “ เผลอถอนหายใจแล้วล้วงเข้าไปให้ลึกขึ้น อาฟยิ้มกว้างก่อนจะกระซิบ

“ ล้วงดีๆนะ ถ้าตรงนั้นตื่นขึ้นมา เมดต้องรับผิดชอบนะรู้มั้ย ”

“ เอาชีวิตตัวเองให้รอดก่อนมั้ยอาฟ ” ผมบอกมันที่หลุดยิ้มออกมา

“ กูสู้ตายนะบอกไว้ก่อน ” คำพูดที่กระซิบลงข้างหูพร้อมกับมือที่เอื้อมมากอดเอวกันไว้ ไอร้อนจากลมหายใจของอีกฝ่ายเป่ารดใบหูของผมที่ก็ต้องเอียงหลบทันทีในตอนที่อีกคนกดจมูกลงหอมแก้มแล้วตอนที่มันกำลังไล้ลงมาที่คอแบบแกล้งกัน ผมก็หยิบกุญแจขึ้นได้พอดี

“ ได้แล้ว ” ดึงกุญแจออกจากกระเป๋ากางเกงของคนป่วยได้สำเร็จ กดปลดล็อครถอย่างรวดเร็วก่อนจะเปิดประตูให้อีกคนเข้าไปนั่ง“ เข้าไปเลยไป “ บอกแบบนั้นแต่เหมือนอีกฝ่ายจะยังขืนตัว ผมก็เงยหน้ามองมัน “ อะไรอีกครับคุณชายอารยะ เข้าไปสิว่ะ อย่าเรื่องมากนักเลยนะ ”

“ ข้างนี้ ” ชี้ที่แก้มข้างขวาของตัวเอง มันมองผมด้วยสายตาที่โคตรจะอ่อนแรงเพราะอาการป่วยแต่ถึงอย่างงั้นมันก็ยังยิ้มแบบมีความสุขที่ได้กวนตีนผม

“ มึงแม่งโคตรรรรรรวอแวเลย ”


“ ข้างนี้ ” ย้ำแบบนั้นอย่างไม่ยอมแพ้ผมก็ได้ถอนหายใจ ก่อนจะมองซ้ายดูขวาว่าไม่มีใครเดินผ่านมารึเปล่า เพราะมันคงดูแปลกแน่นอน ถ้ามีผู้ชายสองคนมายืนเบียดกันอยู่แบบนี้ถึงจะเป็นแฟนกันก็เถอะ “ ข้างนี้ “

“ เออๆ “ หอมแก้มอีกคนไปเต็มฟอด อาฟยิ้มก่อนจะชี้ไปที่อีกข้าง

“ ข้างนี้ด้วย “

“ มึงแม่งกูประสาทจะแดกอยู่แล้วนะไอ้สัด ” จับหน้ามันมาหอมซ้ายหอมขวาด้วยความหงุดหงิดแถมจูบที่ปากไปด้วยหนึ่งทีเพื่อไม่ให้มันต้องขออีก “ พอแล้วนะ เข้าไปในรถเลย อย่าให้กูต้องโมโหนะ “

“ แรดว่ะ กูยังไม่ได้สั่งเลย จูบกูด้วย ” มองกันเหล่ๆมันก็ยิ้มก่อนจะมองตาผมที่ก็จ้องมันแบบหาเรื่อง

“ อาฟ ” เรียกมันด้วยเสียงทุ้มที่กำลังหงุดหงิด ก่อนริมฝีปากอุ่นของคนป่วยจะแนบลงบนริมฝีปากของผม ไม่ใช่การจูบแบบดูดดื่มมันไร้การรุกล้ำ แต่ทว่ามันกลับลิดรอนความคิดของผมที่ว่า อยากจะวิ่งไปเอาไม้หน้าสามมาฟาดหัวคนป่วยจอมงอแงนี้ให้สลบสักทีจะได้จัดการพาไปโรงพยาบาลได้ง่ายๆ “ แรดว่ะ “ ผมบอกมันตอนที่อีกคนถอนจูบออก “ กูยังไม่ได้สั่งเลย จูบกูด้วย ”

“ จูบแฟนใครเค้านับกัน ” เบือนหน้าไปอีกทางผมถอนหายใจออกมาเพราะรู้สึกว่าตัวเองกำลังหน้าแดงเพราะแค่คำพูดสั้นๆนั้นกับแววตาคมที่กำลังมองกันอย่างมีความหมายแม้กำลังเจ็บป่วย

“ ขึ้นรถไปได้แล้วไป จะได้ไปมั้ย โรงพยาบาลน่ะไอ้สัด  เรื่องมากจริง ” ว่าแบบนั้นก่อนจะผลักมันเข้าไปในรถเสียงหัวเราะที่ดังมาจากคนป่วยที่ชวนให้ผมหัวเสียเพราะอีกคนคงรู้ดีว่า ที่ผมบอกปัดเพราะเขินกับคำพูดนั้นของมันก็เท่านั้น

ถอนหายใจอยู่หลังพวงมาลัยที่ไม่ได้ขับนานแล้ว เหล่มองอาฟที่นั่งพิงเบาะยิ้มๆกับท่าทางของผม มันดึงเข็มขัดนิรภัยมาคาดตัวเองก่อนจะจ้องมองกันตั้งแต่ที่เริ่มสตาร์ทรถ

“ มึงอย่ามองกันขนาดนี้สิวะ กูเกร็งนะ ”

“ กูจะถึงโรงพยาบาลเพื่อเข้าตรวจว่าป่วยเป็นอะไรใช่มั้ย “ มันถามผมที่ก็พยักหน้ารับ “ ไม่ใช่เพราะโดนรถชนนะ ”

“ ไอ้สัด ปากปีจอจริงมึง กูไม่ขับรถพามึงไปคว่ำที่ไหนหรอก ”

“ งั้นเหรอ ” ท่าทางที่ดูไม่เชื่อกัน ผมเอื้อมมือมาเปิดแอร์ของรถก่อนจะขับเกียร์เป็นถอยหลังแล้วค่อยๆเคลื่อนตัวออก และจังหวะที่กำลังหมุนพวงมาลัย “ ไม่ต้องหมุนพวงมาลัย ถอยตรงไปก่อน หน้ารถมึงยาว เดี๋ยวก็ไปฝากรอยไว้กับรถไอ้เดย์อีก นั้นก็เบนซ์อย่าเพิ่มหนี้อีกเลย ”


“ ถอยตรงไปก่อน ” พูดกับตัวเองแบบนั้น ผมได้ยินเสียงถอนหายใจของคนที่นั่งข้างกัน

“ เตรียมจูบท้ายคันหน้าไว้ได้เลย ”

“ ไม่มีทาง กูมีใบขับขี่นะบอกไว้ก่อน ”

“ กูให้มึงหมื่นนึงเลย ถ้ามึงขับเข้าช่องจอดแบบตอนสอบใบขับขี่ได้ในครั้งเดียว ” หันไปมองมันที่ยักคิ้วให้กัน แน่นอนว่าผมทำไม่ได้หรอก จำได้ว่าตอนนั้นผมสอบใบขับขี่ด้วยรถแบบเกียร์กระปุกและจดจำไปอย่างดีเรียกว่าเป็นสเต๊ปกันเลยทีเดียว ซึ่งถามว่าตอนนี้จำได้มั้ยก็ขอบอกเลยว่า คืนคุณครูสอนขับรถไปหมดแล้ว

“ นั่งนิ่งๆอย่าพูดมาก กูต้องการสมาธิในการขับรถ ” ผมถอยตรงออกมาเรื่อยๆตอนที่คิดว่าหน้ารถน่าจะอยู่ในระยะปลอดภัยแล้วเพราะท้ายรถตอนนี้ก็เหมือนจะเข้าไปใกล้รถที่อยู่ด้านหลังมากขึ้น

“ หน้ารถไม่ผ่าน ใส่เกียร์แล้วขับขึ้นหน้าไปก่อน ”

“ มึงแม่งเข้ามาจอดในที่แคบทำไมวะ ”

“ ทำไมไม่ลองโทษตัวเองก่อนว่า ทำไมมึงถึงขับรถไม่เก่งแบบนี้ ” อยากจะเถียงกลับคำพูดของมันเหมือนกันว่า แล้วใครกันที่ชอบขับรถพาผมไปนู้นไปนี่แบบที่ไม่ให้ขับเองเลยแบบนั้นมันเลยไม่ได้ฝึกแล้วมันก็เลยไม่เก่ง แต่ว่าจะโทษมันฝั่งเดียวก็ไม่ถูกเพราะมันดูเหมือนตัวผมเองด้วยที่ชอบให้มันเป็นแบบนั้น “ ขับรถขึ้นไปข้างหน้า “

“ ขับขึ้นไปข้างหน้า ” ผมพูดก่อนจะทำตามที่อีกคนสั่ง

“ แล้วระหว่างถอยก็หักพวงมาลัยไปทางซ้ายให้สุด ”

“ เย้ ออกมาได้ละ ” หันไปยิ้มให้มันที่ก็ถอนหายใจออกมา ผมขับขยับเปลี่ยนเกียร์ให้เดินหน้า “ ไปละนะ ”

“ หวังว่านรกจะไม่อยู่ข้างหน้า ”

“ ไอ้สัด ปากเสีย ” พูดออกไปแบบนั้นแต่ทว่ามันก็ไม่ค่อยผิดจากที่อาฟพูดเท่าไหร่ อาจจะไม่ถึงขั้นเรียกว่านรกแต่นั่นก็ใกล้เคียง เพราะผมเล่นเบรกแรงจนคนป่วยแทบจะพุ่งไปชนคอนโซลรถเป็นสิบครั้งถ้าคาดเข็มขัดนิรภัยเอาไว้

จอดรถลงที่ลานจอดของโรงพยาบาลผมเลือกจอดในที่ที่กว้างที่สุดเลยเพื่อการถอยออกอย่างปลอดภัย หันไปยิ้มกว้างให้คนป่วยที่ก็มองผมนิ่งๆเพราะมันต้องเดินไกลสักหน่อย

“ ถ้าจะจอดไกลขนาดนี้ทีหลังก็ให้เดินมาจากผับเลยก็ได้ ”

“ กูบอกให้มึงลงที่หน้าโรงพยาบาลก่อนนะ แต่มึงบอกเองว่าไม่ลงจะลงพร้อมกู ” หันไปเถียงมันอีกคนก็ถอดหายใจพลางปลดเข็มขัดนิรภัยออก อาฟบ่นเบาๆ

“ ยังกับทัวร์นรก ”

“ แต่กูก็พามึงมาถึงโดยที่ไม่ชนรถสักคันเลย ” ยิ้มกว้างให้มันอย่างคนหน้าด้านที่ยังคงความภูมิใจเอาไว้ ผมกดล็อครถก่อนจะเดินไปยืนข้างมันที่ตอนนั้นก็เอื้อมมือมากอดคอผมไว้ “ ปวดหัวอยู่มั้ย ”

“ หนักกว่าเดิม ” มันบอกผมก็ยิ้มก่อนจะเอื้อมมือไปจับหน้ามันไว้ ลูบแก้มอีกคนเบาๆ

“ มาหาหมอเดี๋ยวก็หายแล้ว ”

“ พูดเหมือนหมอมีพลังวิเศษเสกให้กูหายป่วยได้ ”


“ แต่อย่างน้อยเราได้รู้ว่าป่วยเป็นอะไร ต้องกินยาอะไรถึงจะหาย หรือว่าต้องฉีดยา ”

“ ไม่มีทาง ” คำพูดของคนที่เดินอยู่ข้างกันพูดขึ้นผมก็หันไปมอง

“ อะไรไม่มีทาง ”

“ กูไม่ฉีดยาแน่นอนบอกไว้ก่อน ”

“ ทำไมอะ ? บางทีมันต้องฉีดนะ กินยาอย่างเดียวมันไม่หาย ”

“ ไม่ฉีด ” ย้ำกันอย่างงั้นผมก็ได้แต่ถอนหายใจ เพราะเถียงมันไปเท่าไหร่อีกคนก็คงเอาแต่บอกว่าไม่ฉีดอยู่แล้ว แบบนั้นก็ให้หมอจัดการแล้วกันถ้าหมอบอกว่าฉีดก็คือต้องฉีดยังไงซะมันก็เถียงไม่ได้อยู่แล้ว

เดินขึ้นตึกของโรงพยาบาลเอกชนที่เคยได้ยินมาว่ามันแพงสุดๆสำหรับค่ารักษา เอ่ยสอบถามข้อมูลกับพนักงานที่อยู่ด้านในก่อนที่เธอจะเดินนำเราให้มานั่งที่หน้าห้องตรวจห้องนึงที่ตอนนี้ก็แทบไม่มีใครเลยยังเว้นพยาบาลที่เค้าเตอร์


“ มึงนั่งนี่ก่อน กูจะไปกรอกรายละเอียดคนป่วย ”

“ อื้ม “ อาฟหลับตาลงมันเอนตัวนอนพักอยู่กับเก้าอี้ ส่วนผมก็เดินไปหาพยาบาลที่เค้าเตอร์เพื่อกรอกรายละเอียดของคนป่วยที่ต้องการเข้าตรวจ ผมกรอกชื่อ อายุ เบอร์โทรศัพท์ก่อนจะกรอกส่วนสูงที่รู้ลงไป

“ อาฟ มึงหนักเท่าไหร่ ” ผมเดินกลับมาถามมันอีกคนก็ส่ายหน้า

“ ไม่รู้ ไม่ได้ชั่งนานแล้ว ”

“ งั้นก็ลุกขึ้นมาชั่งก่อน ” ดึงมือมันขึ้นมาอีกคนก็เดินไปชั่งน้ำหนักแบบดิจิตอลที่เมื่อตัวเลขปรากฏขึ้นผมก็ได้แต่ยิ้มแห้งๆกับตัวเองและในตอนที่กรอกเลขสองหลักลงไปนั้นสมองผมก็คิด โมเม้นท์อุ้มท่าเจ้าหญิงจะไม่เกิดกับชีวิตกูอย่างแน่นอนในจุดนี้ ขี่หลังยังไม่รู้เลยว่าจะรอดเปล่า บางทีหลังอาจจะหักไปก่อนก็ได้ และที่สำคัญผมจะไม่ชั่งน้ำหนักให้ไอ้อาฟรู้เด็ดขาดไม่อย่างงั้น ชื่อเรียกหมวยตื่นได้แล้วในตอนเช้าอาจจะเปลี่ยนเป็นอย่างอื่นแทน

“ มึงชั่งสิเมด ”

“ ชั่งทำไมกูไม่ได้ป่วย มึงกลับไปนั่งไป ” ผมบอกปัดมัน ให้ตายก็ไม่ชั่งบอกไว้เลย “ นี่ครับ ” ยื่นเอกสารไปให้พนักงานที่ก็รับไปก่อนจะยิ้ม

“ นั่งรอสักครู่นะคะ ”

“ ครับผม ” เดินกลับไปนั่งข้างอีกคนที่ถอนหายใจออกมา อาฟเอียงหน้าลงมาพิงที่ไหล่ผมก็ยื่นมือไปจับที่หน้าผากมัน

“ ปวดหัว จูบหน่อย ”


“ ตลกแดกละนี่โรงพยาบาลไม่ใช่บ้านมึง ” บอกแบบนั้นก่อนอีกคนก็ดึงตัวเองขึ้นจากไหล่แล้วก็ถอนหายใจออกมาเซ็งๆ อาฟเอียงหน้ามองผมแบบหาเรื่อง “ มองอะไร “

“ อยากมอง มึงมีปัญหาอะไร กูมองแฟนกู ”

“ เดี๋ยวเข้าไปหาหมอกูจะให้เค้าฉีดยาวัคซีนกันพิษสุนัขบ้าให้มึงด้วย ” เอื้อมมือไปจับแก้มร้อนๆของอีกคนอาฟก็ยกยิ้ม “ หรือว่าเข้าห้องผ่าตัดผ่าหมาออกไปจากปากดี เผื่อจะหยุดปากเสียได้บ้าง ”


“ งั้นมึงก็ผ่าความน่ารักของมึงทิ้งไปด้วยสิ ” คำพูดที่ทำให้ผมนิ่งไปก่อนจะหันไปทางอื่นด้วยแก้มแดงๆ

“ พูดอะไรของมึง ”

“ พูดตอแหลไง ” หยุดความเขินไว้แค่นั้นตอนได้ฟังผมหันมามองมันตาขวางแต่อาฟก็แค่ยักคิ้วให้ “ แต่กูไม่ฉีดยานะบอกไว้ก่อน ถ้ามึงบอกให้หมอฉีด กูจะฉีดมึงด้วย ”

“ จะมาฉีดอะไรกู มึงมีเข็มรึไง ”

“ มี ” ไม่เพียงแค่พูดมันเล่นจับมือผมมาตั้งไว้บนส่วนกลางของมัน “ นี่ไง เมื่อคืนก็ฉีดมึงอยู่ ”

“ ไอ้สัด นี่มันโรงพยาบาล ” พูดเสียงลอดไรฟันตอนที่ดึงมือออกอย่างเร็ว ผมหันไปมองรอบๆก็ยังโชคดีที่ไม่มีใครมาสังเกตเห็น

“ มึงก็อย่าไปปากมากบอกหมอแล้วกัน ไม่ใช่พอหมอบอกว่า กินยาก็หาย ส่วนมึงก็พูดขึ้นว่าฉีดยาไปเลย ”

“ ทำไมวะ ”

“ จบไม่สวยแน่ครับ ผมบอกคุณไว้ก่อน ” เอื้อมมือมาบีบแก้มจนปากผมจู๋แต่ถึงอย่างงั้นผมก็ยังเถียงมัน

“ หมอเค้าไม่แนะนำอะไรแบบนั้นหรอก ที่ต้องฉีดเพราะบางทีกินยาอย่างเดียวมันไม่หาย มันต้องฉีดยาควบคู่ตังหาก ”จ้องมองอีกคนที่ก็เงียบไป อาฟคลายมือที่บีบปากผมออกก่อนจะถอนหายใจออกมาด้วยท่าทางที่ดูเหมือนไม่ค่อยสบายใจเท่าไหร่ แต่จริงๆมันก็ดูไม่โอเคกับการมาโรงพยาบาลเท่าไหร่แล้วหนำซ้ำยังย้ำนักย้ำหนาว่าไม่ยอมฉีดยาแน่นอน หรือว่า.. “ ถามจริง มึงกลัวเข็มฉีดยาเหรอวะ ”

“ ใครกลัว ” ปฎิเสธออกมาทันควันด้วยสายตาที่หลบไปมองทางอื่น อาฟนิ่งผมก็แกล้งขยับตัวเข้าไปใกล้มันก่อนจะจิ้มลงที่แขนทีสองที


“ กลัวเข็มจริงๆเหรอวะ ”

“ กูไม่ได้กลัว ” สีหน้าจริงจังที่หันมาบอกกัน ผมดึงตัวเองเข้าไปจ้องตามันใกล้ๆ ใช้สายตาจับผิดราวกับไม่เชื่อในสิ่งที่อีกคนบอกทำให้อาฟหันไปทางอื่นก่อนจะถอนหายใจ “ ใครจะไปกลัวอะไรปัญญาอ่อนแบบนั้น ”

“ มึงไม่กลัวก็ดี ” ทำทีเป็นพยักหน้ารับให้คนไม่ยอมรับความจริง “ เพราะถ้ามึงไม่กลัวเดี๋ยวพอหมอบอกว่า ฉีดยาด้วยก็ดี กูก็จะบอกเลยว่า ฉีดเลยจะได้หายไวๆ ”

“ ต่อยกับกูมั้ยเมด ”

“ ไม่กลัวไม่ใช่เหรอวะ เข็มเล็กนิดเดียวซีเรียสอะไร ” ทุกอย่างนิ่งไปผมได้ยินแต่เสียงถอนหายใจของอีกคนที่เอาแต่พิงหลังกับพนักพิงของเก้าอี้แบบครุ่นคิด “ ถ้ามึงกลัวเข็ม กูจะได้ช่วยพูดกับพยาบาลแบบ ไม่ฉีดได้มั้ยครับ พอดีสะดวกกินยา อะไรก็ว่าไป แต่ถ้าไม่บอกให้รู้ ถ้าหมอบอกว่าฉีดมั้ย กูก็จะบอกเลยว่า ฉีดเลย ฉีดมันเลย ”

ความเงียบเข้ามาปกคลุมเราในช่วงระยะเวลานั้นผมเหล่มองอีกคนที่ก็นั่งนิ่งด้วยสีหน้าที่ไม่สู้ดีนัก อาฟเงียบอยู่นานตรงหน้าห้องที่เรากำลังรอเรียกชื่อ สองมือของมันที่ตั้งอยู่บนตักขยับไปมาราวกับใช้ความคิดไม่ต่างกับสายตาที่ก็เหลือบมองผมอยู่ตลอดในช่วงเวลาที่มันนั่งนิ่ง

“ ไม่รู้หมอที่นี่จะมือหนักรึเปล่า เมื่อก่อนกูเคยมาฉีดยาที่นี่เหมือนกัน หมอฉีดเจ็บมาก มือโคตรหนัก ” ไซโคความกลัวใส่มันเข้าไป ตอแหลทั้งนั้นกูเคยเข้าที่ไหนโรงพยาบาลแพงขนาดนี้

“ เหรอวะ ”

“ ก็หวังว่ามึงจะไม่เจอหมอคนนั้นนะ ” ผมเหล่มองมันที่ตอนนี้เหงื่อเริ่มซึมออกมาทั้งๆที่ในห้องก็ค่อนข้างเย็น “ แต่มึงไม่กลัวเข็มก็คงไม่เป็นหรอก ”

“ กลัว ” คำพูดสั้นๆที่หลุดออกมาจากปากอีกคน มันเบาเสียจนผมต้องกัดฟันตัวเองไว้แน่นเพราะไม่อยากจะยิ้มกว้างออกไปให้มันคิดว่าผมกำลังล้อเลียนความกลัวของมันทั้งๆที่มันก็ดูไม่เข้ากับหน้ามันเลยสักนิด ก็ออกจะเท่ห์แต่เสือกกลัวเข็มฉีดยา
คะ

ออฟไลน์ patwo

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 989
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +932/-27

“ ว่าไงนะ “ ทำทีเป็นถามย้ำทั้งๆที่สีหน้ากำลังยิ้มขำ อาฟหันมามองหน้าผมด้วยความไม่ชอบใจถอนหายใจออกมาใส่กันก่อนจะย้ำ
“ กูกลัวเข็ม พอใจยัง ”

“ ฮึก..แปปนะ ” ยกมือขึ้นเบรกมันก่อนจะหันไปอีกทางแล้วเผลอยิ้มกว้างพร้อมกับเสียงหัวเราะเงียบๆคนเดียวอยู่สักพัก ผมสูดลมหายใจเข้าไปปอดตั้งสติไม่ยิ้มให้มันเห็นเพราะอาจจะทำร้ายจิตใจหนุ่มสุดคลูเข้าให้

“ อยากจะหัวเราะก็หัวเราะออกมา จะกั้นอยู่ทำไม จะหัวเราะเยาะกูก็ทำเลย ”

“กูไมได้หัวเราะเยาะมึงสักหน่อย ” ผมบอกมันแบบนั้นอีกคนก็ถอนหายใจและยิ่งเซ็งเข้าไปใหญ่เพราะตอนนี้มันเอาแต่หันไปมองทางอื่นและไม่มองผมเลย “ อาฟ ไม่เอาน่ามึง ” เอ่ยเรียกเสียงอ่อนแต่อีกคนก็ไม่ทีท่าว่าจะหันมา “ อาฟครับ ”

“ อะไร รำคาญจะพูดก็พูดเลยเรียกอยู่ได้ ”

“ หงุดหงิดอะไร ก็แค่กลัวเข็มกูไม่ได้หัวเราะเยาะเย้ยมึงสักหน่อย ”

“ อย่าบอกนะว่าเมื่อกี้มึงไม่ได้หันไปหัวเราะ ” มันถามด้วยท่าทางหาเรื่อง “ แล้วหันไปทำไม ”

“ ก็หันไปยิ้ม แต่ยิ้มเพราะกูเห็นว่ามันน่ารักดี แบบผู้ชายอย่างมึงกลัวเข็ม มันก็น่ารักออก”

“ ไม่เท่ห์เลย ” มันพูดเสียงเบาผมก็เอียงหน้ามองก่อนจะยิ้มกว้างกับท่าทางที่ดูเป็นเด็กของมัน ก็คงไม่ชอบใจที่ตัวเองเป็นแบบนี้หรอกอาฟคงคิดแบบนั้น ในสายตาของมันก็คงอยากจะดูเท่ห์ให้แฟนอย่างผมรู้สึกว่า มันไม่มีข้อติอะไร แต่สำหรับผม ผมไม่ได้รู้สึกอะไรแบบนั้น ผมรู้สึกแค่ว่า ดีซะอีก อย่างน้อยก็ยังมีช่วงเวลาเล็กๆที่ผมจะปกป้องมันได้แม้ว่าจะเป็นแค่เข็มฉีดยาอันเล็กๆนั่นก็เถอะ

“ ยังไงมึงก็เท่ห์เสมอสำหรับกู ” ผมบอกมันแบบนั้นอาฟก็หันมามอง “ คนเรามันไม่จำเป็นต้องเท่ห์ทุกเรื่องนี่ จะให้มึงปกป้องกูอยู่คนเดียวมันก็ไม่แฟร์มั้ยวะ ให้กูปกป้องมึงบ้างสิ ถึงจะเป็นแค่เข็มฉีดยากูก็จะจับมือมึงไว้แน่นๆเลยจะไม่ไปไหนเด็ดขาด ถึงหมอจะไล่กู แต่พี่เมดจะไม่ทิ้งน้องอาฟไปไหนหรอกนะ ”

“ ปัญญาอ่อน ”

“ กูชอบที่ได้เห็นมึงทุกมุมนะ ”

“ เมด ” เสียงที่เรียกผมหลังจากที่เงียบไปนาน ใบหน้าคมดึงตัวเองเข้ามาจูบที่ริมฝีปากก่อนที่มันจะยกยิ้มแล้วหันไปทางอื่น อาฟพูดเสียงเบาๆ “ มึงจะน่ารักไปไหนวะ ”

ใบหน้าของผมแดงจัดตอนที่มันหันมามองกันอีกครั้งหลังจากที่พูดคำนั้นจบ ผมก้มหน้าลงเพราะไม่สามารถทนมองสายตานั้นได้ ก็นึกว่าจะรอดแล้ว สุดท้ายก็แพ้ให้มันอยู่ดี ทำไมกันวะ ไม่มีวันไหนที่จะชนะใสๆได้เลยรึไง วันที่ผมจะไม่เขินกับการกระทำของผู้ชายคนนี้

“ แล้ว ทำไมมึงถึงกลัวเข็มวะ ” เลือกถามคำถามที่ตัวเองอยากรู้ อาฟที่มองหน้ากันอยู่ก็ถอนหายใจออกมา “ สัญญาจะไม่บอกใคร ” เอานิ้วก้อยไปเกี่ยวนิ้วมันไว้แล้วพยักหน้ารับเชิญชวนให้มันเล่า “ บอกหน่อยน่า กูอยากรู้ ”

“ ตอนเด็กๆ กูเคยมาฉีดยาแล้วเหมือนพยาบาลคนนั้นจะเป็นมือใหม่ เค้าฉีดยากูเจ็บมาก มือโคตรหนัก ”

“ เข้าใจอยู่ เพราะเจ็บมากๆมึงเลยกลัวการฉีดยาไปเลยสินะ ” พยักหน้ารับเข้าใจมัน วิวเองมันก็กลัวเข็มเหมือนกันเพราะตอนเด็กๆโดนพยาบาลจับมัดแล้วฉีดยากลายเป็นว่าตอนเด็กๆถ้าแม่พามันมาที่โรงพยาบาลมันจะร้องไห้ตั้งแต่ล้อรถยังไม่ทันเข้ามาในเขตโรงพยาบาลเลยก็ว่าได้ ทั้งดีดทั้งดิ้นกลายเป็นความทรงจำเลวร้ายของมันมาจนถึงปัจจุบันเลยทีเดียว แม้กระทั้งตอนนี้ก็เหมือนว่าจะยังไม่มีใครเอามันอยู่สักคน แม้แต่ผมก็เถอะ  “ งั้นพี่เมดจะอยู่กับน้องอาฟเองนะครับ ”

“ ไม่ต้องมาปัญญาอ่อน” บอกแบบนั้นแต่กลับเอื้อมมือมาจับมือผมไว้แน่นแม้จะไม่หันมามองกันก็ตาม

“ มึงชอบน่ากูรู้ ” สะกิดเข้าที่แขนของอีกคนก่อนที่เสียงเรียกจากพยาบาลจะทำให้ทั้งผมทั้งมันหันไปมอง

“ คุณอารยะคะ ”

“ ไปกันเค้าเรียกแล้ว ” ดึงอีกคนขึ้นมาจากที่นั่ง เราเดินเข้าไปในห้องตรวจที่ตอนนี้มีคุณหมอผู้หญิงวัยกลางคนนั่งยิ้มต้อนรับอยู่ อาฟที่หันมามองผมตอนที่เอ่ยทักเธอ

“ สวัสดีครับคุณหมอ ”

“ สวัสดีค่ะ ” เธอตอบรับผมก็นั่งลงตรงเก้าอี้ แล้วตอนนี้อาฟก็กระซิบถาม

“ คนนี้รึเปล่า ”

“ อะไรคือคนนี้รึเปล่า ”
 
“ ที่มึงบอกว่ามึงเคยมาฉีดยาแล้วเค้าฉีดเจ็บมาก ”

“ อ้อ “ ผมหันไปยิ้มแห้งๆให้มัน จะบอกว่าตอแหลก็กลัวโดนด่าที่ปั่นมันให้กลัวซะใหญ่โต ตอนนั้นเลยพูดได้แค่ว่า “ ไม่ใช่หรอก คนละคนกัน ” ลมหายใจที่ผ่อนออกมาอย่างโล่งอก ผมนึกเอ็นดูกับความกลัวของมันจนอยากจะดึงมาหอมหัวแล้วพูดให้กำลังใจว่า ‘ไม่เป็นนะครับนะคนเก่งพี่เมดอยู่นี่เดี๋ยวจะกอดน้องอาฟเตอร์ไว้เอง’  แต่ครั้นว่าจะดูปัญญาอ่อนไปหน่อยเลยได้แต่ยิ้มให้กำลังใจมันอยู่แบบนี้

“ เป็นอะไรมาคะ ”

“ ไม่สบายน่ะครับ ” ไม่ใช่เสียงคนป่วยแต่เป็นผมเองที่พูดกับคุณหมอ “ พอดีว่าปวดหัวมากๆแล้วก็ตัวร้อน กินยาลดไข้ไปแล้วแต่ดูเหมือนว่าจะไม่ลดเลยครับหมอ ”

“ มีอาการเจ็บคอมั้ย ” ผมหันไปมองอาฟ หมอที่นั่งอยู่ก็งง

“ อ้าว ไม่ใช่คนนี้ป่วยเหรอ ” เธอชี้มาทางผมที่ก็ส่ายหน้าไปมาก่อนจะชี้นิ้วไปยังคนข้างๆ
 
“ คนนี้ครับ ที่ป่วย ”

“ ก็เจ็บครับ ”

“ มีอาการไอมั้ยคะ ”

“ นิดหน่อยครับ แต่ไม่มีน้ำมูก ”

“ งั้นหมอขออนุญาตินะคะ ” เธอหยิบเครื่องทางการแพทย์ขึ้นมาตรวจอีกคน ก่อนจะสอบถามอาการเบื้องต้นอีกหลายอย่างพร้อมจดรายละเอียดลงไปแฟ้มที่ตั้งอยู่ข้างหน้าซึ่งผมคิดว่าน่าจะเป็นอาการทั้งหมดบวกกับการสั่งจ่ายยา “ หมอคิดว่าน่าจะเป็นไข้หวัดธรรมดานะคะ เพราะช่วงนี้อาการเปลี่ยนแปลงบ่อยด้วย แนะนำให้กินยาตามที่สั่งแล้วก็พักผ่อนเยอะๆ ดื่มน้ำอุ่นให้มากๆ สักสี่ห้าวันไข้จะค่อยๆลดลงแล้วค่ะ ”

“ ไม่ค่อยชอบป่วยนานน่ะครับ มีวิธีที่ทำให้หายป่วยเร็วกว่านี้มั้ย ”

“ ถ้าอยากจะหายป่วยเร็ว หมอแนะนำให้ฉีดยานะคะ แต่ว่าไม่ควรฉีดบ่อยนะเพราะมันจะทำให้ดื้อยา อดทนรอสักสามสี่วันพักผ่อนให้เยอะๆน่าจะดีกว่า ” ผมหันมองอาฟ มองจากสายตาก็รู้ว่ามันอยากจะหายป่วยให้เร็วกว่านี้การที่ต้องนอนซมสามสี่วันมันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว เรามีงานที่ต้องทำ หนังสือก็ต้องเรียน จะให้มานอนป่วยนับวันรอให้หายป่วยมันก็ไม่ไหว แต่ครั้นจะให้ฉีดยา ก็ไม่ใช่วิถีทางที่อาฟอยากจะเลือกเท่าไหร่เหมือนกัน

“ จะฉีดยามั้ย ” ผมหันไปกระซิบถามอาฟอีกคนก็มองผมนิ่งๆ มันที่ใจนึงก็กลัวแต่อีกใจก็อยากหายเร็วๆก็ได้แต่นิ่งไม่ได้ตอบอะไร “ ถ้าฉีดก็ได้นะ ” เอื้อมมือไปจับมือมันไว้ผมบีบแน่น “ ก็มีกูอยู่ข้างๆไง ไม่เป็นอะไรหรอก ”
 
“ กลัวเข็มเหรอคะ ”

“ เปล่าหรอกครับ ” ผมยิ้มให้คุณหมอ “ คุณหมอฉีดยาให้หน่อยได้มั้ย พอดีว่าเราป่วยนานไม่ได้น่ะครับ มีสอบวันมะรืนด้วย ถ้าฉีดยาวันนี้กลับไปนอนพักพรุ่งนี้จะได้ตื่นขึ้นมาอ่านหนังสือแล้วไปสอบวันมะรืนได้ทัน ”

“ งั้นก็ได้ค่ะ ” เธอว่าแบบนั้นก่อนจะเขียนอะไรสักอย่างลงบนกระดาษแล้วยื่นให้พยาบาลก่อนจะถอยเก้าอี้ไปหลายหลังก่อนจะลุกขึ้นเพื่อเตรียมยา แล้วตอนนั้นอาฟก็หันมาถามย้ำกับผม

“ ไม่ใช่คนนี้แน่นะ คนที่มึงบอกว่าฉีดยาเจ็บ ”

“ ไม่ใช่แน่นอน ” บอกย้ำมันแบบนั้นก่อนจะเอื้อมมือไปจับมือที่เย็บเฉียบของมันไว้แน่น อาฟเหลือบมองผมก่อนจะทำท่าทีไม่สนใจเสมือนตัวเองไม่ได้กลัวเข็มแต่อย่างใด ทั้งๆที่มันไม่รู้หรอกว่าหมอเค้าก็ดูออกหมดนั่นแหละ มันเล่นหน้าซีดเป็นไก่ต้มขนาดนั้น

“ ไม่ได้กลัวเข็มแน่นะ ”

“ ครับ “ ตอบครับแต่จับมือกูแน่นมาก ถ้าไม่ติดว่ามันกลัวอยู่ ผมคงร้องบอกให้ปล่อยเดี๋ยวนี้เลย เพราะเจ็บจนกระดูกกูจะหักอยู่แล้ว

“ โอเค “ คุณหมอพยักหน้ารับยิ้มๆ แล้วก็เลื่อนเก้าอี้มาใกล้และยิ่งวินาทีที่แขนเสื้อของอาฟถูกดึงขึ้นพร้อมด้วยแอลกฮอล์ที่ทาลงบนแผลมันก็ยิ่งกำมือผมแน่นขึ้นไปอีก มันแน่นจนผมรู้สึกอยากจะร้องตะโกนแต่ถึงอย่างงั้นผมกลับยิ้มกว้างออกมาตอนที่เห็นมันสูดลมหายใจเข้าปอดแล้วหลับตาแน่นอยู่บนเก้าอี้

อาฟก็คืออาฟนั่นแหละ ผมรู้สึกแบบนั้นตอนที่กำลังมองมัน ในสายตาของคนอื่นมันเข้มแข็งจนแทบไม่เป็นอะไร แต่จริงๆกลับไม่ใช่อะไรแบบนั้นเลย มันก็มุมที่อ่อนแอของมัน มุมที่มันเองก็ไม่อยากจะให้ใครเห็นได้เห็น

“ เสร็จแล้วค่ะ ” คุณหมอบอกตอนที่ฉีดยาเสร็จ เสียงถอนหายใจของอาฟดังออกมาลั่นห้องมันผ่อนตัวลงกับเก้าอี้ที่นั่งจนคุณหมอยังแอบขำ ก็ไม่ได้กลัวหรอก ไม่ได้กลัวนิดเดียวน่ะครับ แต่กลัวมาก

“ หมอสั่งจ่ายยาให้เรียบร้อยแล้วนะคะ ยังไงถ้ายังไม่หายก็มาหาใหม่นะคะ และที่สำคัญก็คือพักผ่อนให้เยอะๆละ ”

“ ครับผม ขอบคุณมากครับ ” ยกมือขึ้นไหว้คุณหมอผมลุกขึ้นจากเก้าอี้พร้อมกับคนป่วยที่บอกได้คำเดียวเลยว่า หมดแรงจะก้าวเดิน “ นั่งรอตรงนี้กูจะไปจ่ายค่ายาจะได้กลับบ้าน ”

“ ไม่อยากให้ไป ” มือที่คว้ากันไว้ผมก็หลุดขำ

“ ให้กูไปเถอะ รีบไปเอายา รีบกลับบ้าน จะอ้อนกูตรงนี้จริงดิ ? ไม่อายเค้าเหรอไงอารยะ ”

“ รีบไปรีบกลับ ”

“ จ้า พี่เมดรู้แล้วครับ ” ผมขานรับก่อนจะเดินไปที่เค้าเตอร์จ่ายยาที่พนักงานก็อธิบายกับผมว่ายาสามถุงที่ได้มามีอะไรบ้าง มันเป็นยาที่ต้องกินทุกสี่ชั่วโมงและมีทั้งยากินก่อนและหลังอาหารควบคู่ด้วย  จัดการจ่ายเงินทั้งหมดซึ้งราคาก็เรียกได้ว่าคงเส้นคงวากับมาตรฐานโรงพยาบาลเอกชน

“ ขอบคุณมากค่ะ ”

“ ขอบคุณครับ ” เก็บทุกอย่างใส่ในกระเป๋าเงินก่อนจะเดินกลับมาหาคนป่วยที่ก็ยังมีสีหน้าไม่สู้ดี เอื้อมมือไปจับมือมันผมยิ้มบอก “ ไปกันมึง เสร็จแล้ว ”

“ อื้ม ”

มือเรียวเอื้อมมือมากอดคอผมตอนที่เราเดินออกไปจากโรงพยาบาลผมปลดล็อครถ อาฟก็เข้าไปนั่งด้านในพร้อมกับผมที่ก็เข้าไปนั่งตรงที่นั่งคนขับเช่นกัน วางถุงยาไว้ตรงที่วางน้ำข้างเกียร์ผมผ่อนลมหายใจออกมาตอนที่มันคาดเข็มขัดนิรภัยเสร็จ
“ ทำไมท่าทางมึงดูไม่ดีเลยวะ หมอฉีดยาเจ็บมากเลยเหรอ”

“ เปล่า ” มันส่ายหน้าก่อนจะหันมามองผม “ แค่ยังไม่ได้รางวัลปลอบใจจากแฟนก็แค่นั้น ”

“ ถามจริง ” ผมยิ้มบอกมัน “ มึงป่วยหรือใครเข้าสิงมึงวะอาฟ ”

“ จูบหน่อย ” คำพูดที่พูดออกมาตรงๆของมันชวนให้ผมนิ่งไปตอนที่อีกคนก็แค่หันมามองหน้ากัน กำลังคิดว่าตัวผมเคยจูบอาฟก่อนมั้ยนะ นี่เป็นครั้งแรกรึเปล่า ทำไมหัวใจมันถึงได้เต้นแรงขนาดนี้ ผมทำทีเป็นมองซ้ายขวาทั้งๆที่มีอะไรให้มอง ก่อนจะกลืนน้ำลายแล้วค่อยๆดึงตัวเองเข้าไปใกล้อีกคน ผมจูบลงบนริมฝีปากอุ่นนั้น ช่างว่าง่ายเสียจริงหัวใจ แค่บอกว่าจูบหน่อย ก็จูบให้แล้ว “ เจ็บมากเลย ” อาฟบอกตอนที่ผมผละริมฝีปากออก “ ตรงที่หมอฉีดยากูมันเจ็บมากเลย ”

“ ตอแหล ” ผมบอกมัน “ เมื่อกี้กูถามยังบอกว่าเปล่า “ กูจูบเสร็จมึงเจ็บเลยนะ นี่ถ้าจูบมากกว่านี้ต้องเจ็บมากกว่านี้แน่ เพราะอาการสำออยมันกำเริบขึ้นมาไงไอ้สัด ” คนป่วยหลุดหัวเราะออกมาก่อนจะยื่นมือขึ้นมาขยี้หัวผม

“ เซ็งสัด ” อาฟพูดเสียงเบาก่อนจะหันไปมองด้านนอกของเรา “ วันนี้กูเป็นแฟนที่ไม่เท่ห์เลย ”

“ ยังไงวะ ”

“ ก็กลัวเข็ม”

“ ที่มึงต้องกลัวก็เพื่อให้กูคนที่ไม่กลัวเข็มจับมือมึงไว้ตลอดไง ” บอกแบบนั้นอีกคนก็หันมามองหน้ากัน

“ งั้นเหรอ ”

“ อื้ม ” พยักหน้ารับแบบนั้นผมดึงตัวเองเข้าไปกอดอีกคนไว้ อาฟกำลังรู้สึกไม่รู้หรอกผมรู้ ทั้งอาการเจ็บป่วยทางร่างกายแล้วก็จิตใจของมัน “ ให้กูเป็นคนที่จำเป็นต้องมีสำหรับมึงบ้างสิวะ อย่ามีแค่มึงคนเดียวที่กูจำเป็นต้องมี ”

“ เอางั้นเหรอ ”

“ เออ ” อาฟเงียบไปในตอนที่ผมพยักหน้ารับตอบรับแล้วดึงตัวเองขึ้นมามองหน้ามัน “ แต่กูชอบนะได้เห็นมึงที่เป็นแบบนี้ ”
“ ชอบที่กูดูปัญญาอ่อน ”

“ ไม่ใช่แบบนั้น ” ผมส่ายหน้า “ มึงคิดไปคนเดียวมากกว่าว่ามันดูไม่เท่ห์ทั้งๆที่จริงแล้ว คนเราจะเท่ห์ไม่เท่ห์มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับสิ่งที่กลัว กลัวก็แค่กลัว มันก็ไม่แปลกเปล่าวะทุกคนมันก็มีสิ่งที่กลัวเหมือนกันอะ ” ยักคิ้วมองมันที่ก็เอาแต่มองผมไม่พูดอะไร “ แล้วที่กูรู้สึกชอบที่ได้เห็นว่ามึงกลัวอะไรแบบนี้กับเค้าเหมือนกัน นั่นก็เพราะว่ากูจะได้เห็นมึงอีกด้านนึง ด้านที่ต้องมาเป็นแฟนเท่านั้นถึงจะเห็น แล้วกูก็รู้สึกว่ามันดีมากเลยที่เราได้เป็นแฟนกัน ”

“ มึงเพิ่งรู้เหรอ ” อาฟถามก่อนจะดึงตัวเองเข้ามาจูบผมไว้ “ กูรู้มาตั้งแต่ขอมึงเป็นแฟนแล้ว ว่ามันดีมากเลยที่เป็นมึง ”

“ เอาจริงๆนะมึง” แกล้งทำหน้าหงุดหงิดใส่มันตอนที่อีกคนผละริมฝีปากออก “ ไม่ทำให้กูเขินสักวัน มึงจะตายมั้ยวะ ”


..............................................................

ก็คือพี่อาฟนั้นเป็นคนน่ารัก
เราเขียนตอนนี้ความรู้สึกที่ว่า อยากให้มีสักมุมที่ผู้ชายคนนี้จะน่ารักกับแฟนของเค้า
สักมุมที่เมดจะได้ปกป้องอาฟบ้าง มันอาจจะดูเล็กน้อย แต่เราอยากจะให้เห็นว่าความสัมพันธ์นึงมันค่อนข้างไม่มีอะไรที่พิเศษเลย เพราะแค่รักกัน นั่นก็คือความพิเศษแล้ว ฮิ้ววววววว
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านและคอมเม้นท์
ฝากแท็ก #ผับชั้นสาม ในทวิตเตอร์ด้วยนะ
 :katai4:

ออฟไลน์ klaew

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1237
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-2
หูยยยยย พี่อาฟฟฟฟฟฟ

ออฟไลน์ anythinginitt

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 184
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
น่ารักมากเลย พี่อาฟมุ้งมิ้งเว่อร์ :hao5: :hao5: :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4

ออฟไลน์ ammchun

  • Don't Worry,Be Happy
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1389
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-4
เหม็นความรักจ้าาาาาา :katai2-1: :katai2-1:

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7

ออฟไลน์ chaotic69

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 225
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
โถวววว อารยะวันนี้หมดสภาพ เหลือแต่ความน่ารักของน้องอาฟเตอร์เท่านั้นเองงงงง :-[

ออฟไลน์ Chompoo reangkarn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1089
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-0
ให้รางวัลคนรักเมีย :L2:

ออฟไลน์ momonuke

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 753
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
อาฟน่ารักกก ขี้อ้อนมากกกกกกกกก  :mew1: :mew1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
อาฟ  น่ารักมากกกกกก   :mew1: :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ arjinn

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1369
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +180/-1
อารยะกับความอ้อนของเขา
หายไวๆ นะ เดี๋ยวจะมีเซลล์เอาเหล้ามาเสนอ จะเป็นผช. หรือเปล่านะ หรืออาจจะไม่เกี่ยวไม่มีบท กังวลเล็กน้อย

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
อาฟป่วย อ้อนใหญ่เลยนิ  o18

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
หวานแม้ยามเจ็บป่วย

ออฟไลน์ broke-back

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5947
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-16
เค้ารักกัน

รักกันๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

ออฟไลน์ SHmnex

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 63
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
เมดได้เห็นอารยะมุมนี้ โคตรพิเศษเลยนะ เมดเขินแค่ไหนเราเขินตามเลย

ออฟไลน์ FRODO

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 414
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +42/-1

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9

ออฟไลน์ JokerGirl

  • ∀Σ❤∀ΔΣ Forever^^
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2921
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
น้องอาฟของพี่เมดน่ารักจังเลย :กอด1: ขยันทำให้พี่เมดเขินได้ตลอด

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Noname_memi

  • 7 or never, 7 or nothing
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1
โอ้ยยยย ดีต่อใจมาก ละมุน ชอบอาฟโหมดนี้มาก ช่วยด้วย

 :o12:  :-[ :impress2:

ออฟไลน์ Nung66669

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
อาฟก็คืออาฟ กลัวแต่ความอาฟมันค้ำคอ ตอนนี้อาฟน่ารักเมดดูแมนขึ้นมานิดนึง 55555
 :กอด1: :L2:

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
 :hao6: :hao6: :hao6:  ด.ช. อาฟงอแง

ออฟไลน์ Tiffany

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1147
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
ตอนนี้พี่อาฟน่ารักมากเลย

ออฟไลน์ buathongfin

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1244
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-3
เหม็นคนจีบกัน ขนาดเป็นแฟนกันแล้วก็ยังจีบ โอ้ยยย  :z1:

ออฟไลน์ songte

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1414
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
อุ้ยยย กลิ่นฟามรักตลบอบอวลมากมาย ต้องเขินกันเบอไหน หยอดกันไปกันมาตลอด ขอให้รักให้เข้าใจกันมากๆนะอะไรมันเกินพอดีก็ประบตัวหากัน คิดเยอะๆกว่าจะมาถึงตอนนี้เจ็บกันมาเท่าไหร่ รักษาคสามรุ้สึก ความรักนี้ไว้นานๆนะ

ออฟไลน์ ซีเนียร์

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 767
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0

ออฟไลน์ LadySaiKim

  • ▫▪□Dezine'Kim□▪▫
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1703
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-0
ขอแบบพี่อาฟ 1 คน ใส่ห่อกลับบ้านจ้าาาาา :hao6:

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
อาฟมุมนี้น่ารักดี

ออฟไลน์ alt1991

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 370
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-1
 :-[ :-[ :-[ มุ้งมิ้ง ฟรุ้งฟริ้ง  :mew1: กรุ้งกริ้ง วุ้งวิ้ง :L1: กระจาย  :-[ :-[ :-[

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด