ตอนที่ 34.2
SP: HBD’ minmade
ข้อมูลของเครื่องเติมเบียร์แบบอัตโนมัติฉายอยู่บนหน้าจอคอมพิวเตอร์ของผมที่กำลังให้ความสนใจมัน ด้วยความอยากจะเพิ่มลูกเล่นใหม่ให้กับส่วนบาร์ของผับ มันเป็นเครื่องเติมเบียร์แบบที่แค่วางแก้วลงไปบนเครื่องเบียร์ก็จะถูกดันขึ้นมาจากก้นแก้ว เป็นเทคโนโลยีที่เจ๋งดีในความรู้สึกผม น่าจะเรียกคนได้จากการแชร์คลิปในทางโซเซียลได้เยอะพอดู ผมวนดูคลิปวิดีโอที่ถูกแนบมาอยู่สองสามครั้ง ก่อนจะหมุนหน้าจอนั้นไปหาอีกคนที่ก็นั่งอยู่ข้างกันเพื่ออวดความเจ๋งของมัน แต่ทว่าเมดกลับไม่ได้ทำงานอยู่อย่างที่ผมคิด
มองตามสายตาเรียวที่กำลังจดจ้องอยู่กับเข็มนาฬิกาบนผนัง เมดมองมันราวกับอยากจะขอให้มันผ่านวันนี้ไปให้ไวที่สุด และไม่ต้องหาเหตุผลอะไรให้นาน ผมคิดว่าเพราะมันอยากจะวันเกิดของมันมาถึงเลยในตอนนี้ มือที่กำลังหมุนมือถือที่ถืออยู่ไปเรื่อย ด้านหลังเคสใสนั่นมันมีการ์ดของขวัญของผมอยู่ คงอยากจะใช้ จนอดใจไม่ไหวแล้ว
“ ตั้งใจทำงานหน่อยครับคุณเลขา ”
“ กูทำงานเสร็จแล้ว ” บอกกันแบบนั้น ก่อนจะพับหน้าจอคอมของตัวเองลง แล้วหันมาสนใจหน้าจอของผม “ นั่นอะไรวะ ทำไมเบียร์มันขึ้นมาจากก้นแก้วได้ ”
“ เครื่องเติมเบียร์ที่กูซื้อมาติดไว้ในบาร์ ”
“ เฮ้ย เจ๋ง ” อีกคนบอกก่อนจะจดจ้องหน้าจอคอมของผมอยู่สักพัก เมดหันมาเหมือบมองกันในตอนนั้นผมก็สบตากับมันพอดี
“ มีอะไร ”
“ เปล่ามี ” ส่ายหน้าไปมายิ้มๆ ผมก็ยกยิ้มถามอีกครั้งเพราะรู้ดีว่าอีกคนคงมีอะไรที่กำลังคิดจะพูดอยู่ และผมก็คิดว่าผมเดาไม่ผิด
“ แน่ใจ ”
“ คือจริงๆก็มีนิดหน่อย ” บอกแบบนั้นก่อนจะเม้มริมฝีปากไว้แน่นนัยน์แววตาที่กำลังยิ้มนั้น “ ยังไงวันนี้กูก็ไม่มีงานอะไร มึงเองก็ไม่มีงาน งั้นเรากลับบ้านเร็วกันสักวันมั้ย ”
“ เผื่อมึงลืม พรุ่งนี้มึงไม่มีเรียน ไม่จำเป็นต้องกลับบ้านเร็ว ”
“ ก็แบบ..”
“ กลัวใช้การ์ดที่กูให้ไม่คุ้ม ” เอียงหน้าถามมันอีกคนก็เบิกตาโตเพราะผมดันไปรู้ทัน เมดส่ายหน้าไปก่อนจะยกมือขึ้นปัดแบบปฎิเสธ
“ บ้า มึงก็คิดมาก ใครมันจะไปคิดอะไรแบบนั้น ”
“ มึงไง ” บอกอีกคนแบบนั้นก่อนจะหันกลับมามองคอมพิวเตอร์ตัวเอง จัดการเซฟข้อมูลทั้งหมดที่สนใจไว้ก่อนจะเลื่อนเม้าส์ไปกดปิดแล้วก็ลุกขึ้นเต็มความสูงเมื่อคอมนั้นดับลง “ อยากกลับก็ลุกขึ้น ”
“ เยส ” สองมือที่กำแน่นแสดงออกถึงความรู้สึกดีใจอย่างเต็มเปี่ยม แต่ตอนที่เงยหน้าขึ้นมามองผม เมดก็แค่ยิ้มน้อยๆเหมือนตัวเองไม่ได้รู้สึกดีใจอะไรเท่าไหร่
ผมพอรู้ว่ามันจะขออะไรในการ์ดนั้น คงไม่พ้นขอให้ผมเป็นแฟนแบบที่ชอบหรือไม่ก็ต้องทำอะไรแบบที่ฝืนใจทำ เพราะเมดดูสนุกเหลือเกินแล้วก็คิดไว้แล้วว่า แผนของมันจะต้องทำให้ผมหงุดหงิดแน่นอน แต่มันคงลืมไปว่า ผม ไม่ใช่คนที่มันจะจัดการได้ง่ายๆแบบที่คิด
“ ทุกคน กลับแล้วนะ ” เมดเดินไปบอกไอ้เจแล้วก็บาร์เทนเดอร์อีกสองคนที่ยืนอยู่ที่บาร์ มือขาวกระชับประเป๋าผ้าสีขาวของตัวเองที่ใช้ใส่ของก่อนจะยิ้มกว้างด้วยความสุข
“ อ้าว ทำไมวันนี้กลับกันเร็วจังวะ ” ไอ้เจหันมาถาม มันที่เหลือบมามองผมที่ก็ได้แต่ยกยิ้มให้
“ มันมีคนบางคน อยากจะใช้ของขวัญให้คุ้ม ”
“ ไม่เกี่ยวเว้ย ” คนโดนพูดถึงยังคงปฎิเสธอยู่แบบนั้น ก่อนที่น้องชายผมจะทักขึ้น
“ พรุ่งนี้วันเกิดพี่เมดแล้ว น้องเดย์กับไอ้อัยย์เตรียมของขวัญสุดพิเศษไว้ให้แล้วนะ ”
“ เป็นของขวัญที่พี่เมดจะต้องดีใจมากๆแน่นอน ตอนที่เปิดออกมา พี่เมดจะต้องร้อง ว้าว ” ไอ้อัยย์เสริมแต่ผมกับไอ้เจได้แต่ยกยิ้มแล้วส่ายหน้า
“ จริงเหรอ ”
“ อย่าคาดหวัง ” ผมบอกมันอีกคนก็หันมาขมวดคิ้วใส่
“ ทำไมวะ ”
“ เอาง่ายๆคือมึงไม่ควรคาดหวังอะไรกับไอ้เชี้ยสองตัวนี้ ” เพื่อนผมบอกก่อนจะยักคิ้วให้อีกคนที่ก็เหลือบมองไอ้บาร์เทนเดอร์สองตัวที่ก็ทำหน้าใสซื่อพลางส่งสายตาแบบกระพริบปริบๆราวกับลูกหมามาให้
“ พี่เมดอย่าไปเชื่อนะพี่เมดต้องเชื่อน้องเดย์ ”
“ กูเชื่อเหี้ยอะไรคนในผับนี้ได้บ้าง กูถามแค่นี้ ” เมดหันมาบอกผม “ ทั้งมึงสองคน ทั้งน้องเดย์ น้องอัยย์ คือกูเลือกเชื่อใครได้บ้าง ”
“ เชื่อน้องเดย์น้องอัยย์ ” สองเสียงที่ประสานกันบอก ผมก็ปัดมือไล่ให้มันสองคนไปทำงาน
“ ไปทำงานไป กูรำคาญ ”
“ พรุ่งนี้พี่เมดมาที่ผับนะ น้องเดย์กับน้องอัยย์จะเอาของขวัญให้ ”
“ โอเค งั้นเจอกันพรุ่งนี้ ” เมดบอกแบบนั้นก่อนที่พวกมันสองคนจะยิ้มพลางส่งมือที่ที่ประสานเป็นรูปหัวใจมาให้
“ กูอยากจะอ้วก ” ผมบอกก่อนจะถอนหายใจแล้วเดินหันหลังหนีพวกมันออกมาจากผับ เมดจะเดินตามออกมาหลังจากนั้น กดปลดล๊อครถของตัวเองตอนที่เข้าไปนั่งด้านในแล้วสตาร์ทรถเพื่อถอยหลังออกจากลานจอด เมดก็เอ่ยถาม
“ เมื่อกี้มึงบอกว่าจะอ้วก กูถามจริงๆเพราะตัวเองไม่เคยทำรึเปล่าวะ ”
“ ทำอะไร ”
“ ก็พวกท่าส่งหัวใจแบบนี้ไง ” นิ้วท่าบี้หัวนมในความคิดผมถูกส่งมาให้
“ จะขอบี้หัวนมกู ? ”
“ ไอ้สัด ” เมดหลุดขำเสียงดัง “ เค้าเรียกมินิฮาร์ทเว้ย มึงแม่ง ”
“ ใครจะรู้ คิดว่าจะขอบี้หัวนม ”
“ งั้นพรุ่งนี้กูให้ทำ ” คนข้างกันยักคิ้วล้อๆ ก่อนจะทำมือแบบมินนิฮาร์ทที่มันว่า แล้วเปลี่ยนมาเป็นสองมือที่ประสานกันจนเป็นรูปหัวใจ ไปจนถึงเอามือขึ้นไปตั้งบนหัว ซึ่งอะไรแบบนี้ก็บอกได้เลยว่า เข้าไม่ถึงจริงๆ
“ ประสาท ”
“ ตื่นเต้นเว้ย กูจะถ่ายภาพมึงสักร้อยรูปเลยจำไว้ ” ยิ้มกว้างที่หันมามองกัน ทำทีเป็นไม่ใส่ใจตอนที่หันมองออกไปนอกหน้าต่างรถ จะว่าไปก็อดใจรอวันพรุ่งนี้ไม่ไหวแล้วเหมือนกัน อยากจะรู้ว่าระหว่างมันกับผมใครจะมีความสุขมากกว่ากันในวันพรุ่งนี้
กลับมาถึงที่คอนโดตอนช่วงห้าทุ่มที่กำลังจะเข้าวันใหม่ เมดที่อาบน้ำแต่งตัวเรียบร้อยวันนี้มันชุดนอนเป็นเสื้อยืดกับกางเกงบอลเหมือนอย่างเดิม มันยืนเท้าสะเอวของตัวเองมองดูนาฬิกาอยู่สักพักก่อนจะหันมามองผม
“ อีกสามสิบนาทีสุดท้ายเท่านั้น ”
“ กูไปอาบน้ำละ ”
“ เดี๋ยวก่อนๆ มึงรีบไปไหน ” บอกกันแบบนั้นผมก็เหล่มองมันที่เหลือบไปมองทางอื่นเ เมดคงรู้ตัวว่ามันกำลังทำให้ผมจับได้ในความมีพิรุธของมัน “ หนังเรื่องนี้กูเคยดูจะถึงจุดไคลแม็กซ์แล้วนะเว้ย ลุกออกไปตอนนี้กลับมาดูอีกทีไม่รู้เรื่องแน่นอน ”
“ ให้มันจริง ” บอกมันแบบนั้นอีกคนก็พยักหน้ารับเต็มกำลัง
“ ทำไมกูต้องหลอกมึงอะอาฟ ” หันไปมองหน้าทีวีแต่ตอนที่เหลือบมองมัน เมดก็แค่ยิ้มกว้างกับตัวเองแม้ตาจะมองดูทีวีอยู่ก็ตาม
เพลินไปกับเรื่องราวที่กำลังฉายจนตอนที่เหลือบตาขึ้นไปมองนาฬิกาอีกที ผมพบว่ามันเข้าสู่วันใหม่แล้ว เมดที่นั่งอยู่ข้างผม เสี้ยวใบหน้าที่กำลังจดจ่ออยู่กับหนังที่ชอบไม่ได้รู้ตัวเลยว่าช่วงเวลาที่มันรอคอยได้มาถึงแล้ว ริมฝีปากของผมแห้งจนต้องเลียมันซ้ำๆ ชอบเป็นแบบนี้ทุกทีเวลาที่ตื่นเต้น ไม่รู้ทำไม ทั้งๆที่ใจอยากทำแท้ๆแต่กลับรู้สึกว่า มันอาจจะดูตลกรึเปล่า ถ้าเป็นผม
“ สุขสันต์วันเกิด ” หลุดพูดออกไปเสียงไม่เบานัก เจ้าของวันเกิดหันมามองผมด้วยสายตางงๆ ก่อนจะเงยหน้ามองนาฬิกาที่แขวนอยู่บนผนัง เมดที่ยิ้มกว้างออกมาแต่ก่อนที่มันจะพูดอะไรผมก็ช่วงชิงความพูดพวกนั้นไปเสียก่อน ปิดริมฝีปากด้วยจูบที่ประทับลงบนริมฝีปากสีชมพูอมส้มนั้น แววตาเรียวที่หลับลงเมดเผยอริมฝีปากตอบรับมันอย่างรู้งาน ลิ้นชิ้นแทรกตัวเข้าไปกอดเกี่ยวเปลี่ยนให้จูบธรรมดานั้นกลายเป็นจูบดูดดื่มที่ลึกซึ้ง
ผละริมฝีปากออก ผมจูบเมดอีกครั้งก่อนจะมองลึกลงในในแววตาเรียวที่กำลังหอบหายใจ มันมีคำพูดอีกมากมายที่ผมอยากจะพูดเป็นคำพูดที่ไม่รู้ว่าถ้าพูดออกไปแล้วจะดูแปลกรึเปล่า เพราะนี่คือวันเกิด ก็เคยได้ยินแต่ใครๆบอกกันว่า ‘ มีความสุขมากๆ สุขภาพแข็งแรง ขอให้รวย เรียนให้เก่ง ’ แต่ทำพูดพวกนั้นผมไม่ได้อยากจะพูดเลยสักนิด ในใจมันมีแค่ว่า ‘ รู้มั้ยว่าสำคัญมากนะ รู้มั้ยว่าทำให้หมดทุกอย่างแล้วทั้งๆที่ไม่เคยทำให้ใครมาก่อน ไปซื้อของขวัญวันเกิดมาให้ด้วยนะ ไปอวดพนักงานมาด้วยว่าแฟนน่ารักมาก ’
“ อาฟ ” เมดเรียกผมให้ดึงสติกลับมา
“ เอาการ์ดขึ้นมาสิ มึงจะขออะไร ” หันเหความสนใจของอีกคนที่ก็ถือว่าได้ผล เมดก้มหน้าลงแล้วหยิบมือถือของตัวเองขึ้นมา แกะการ์ดที่มันใส่ไว้หลังเคสนั่นก่อนจะยื่นมาให้ผม
“ ขอให้มึงเป็นแฟนในแบบที่กูชอบ หนึ่งวัน ” คิ้วที่ยักขึ้นให้ผมหลังจากที่พูดจบ
“ ยังไง ” ผมไม่เข้าใจความหมายในสิ่งที่มันพูดสักเท่าไหร่ “ แฟนในแบบที่มึงชอบต้องเป็นยังไง ”
“ ก็ต้องเป็นคนที่ไม่กวนตีน พูดเพราะ อ่อนโยนกับกู แล้วก็เอาใจกู “ เมดบอกก่อนจะทำท่าคิด “ ตามใจกูด้วยนะ ไม่ทำให้กูหงุดหงิดด้วยการที่ล้อกูว่าหน้าเหมือนซาลาเปา ” หลุดยิ้มขำออกมา มันคงเคืองน่าดูเวลาผมล้อมันแบบนั้น ทั้งๆที่จริงแล้วก็ไม่ได้ไม่ชอบ ผมชอบที่มันเป็นแบบนั้น รู้สึกว่าน่ารักดีด้วยซ้ำไป
“ เรื่องมาก ” แกล้งพูดออกมาเบาๆ ผมถอนหายใจออกมาก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบการ์ดแล้วทำท่าจะฉีกมันทิ้ง แต่เมดก็ดึงกลับมาก่อน
“ มึงจะทำอะไรกับของขวัญของกู ”
“ บัตรใช้แล้วก็ต้องฉีกสิวะ จะเก็บไว้ทำเหี้ยอะไร ”
“ ไม่ได้ นี่มันของขวัญของกู กูจะเก็บเอาไว้ ” เมดเถียงออกมาผมก็มองหน้ามัน “ กูไม่ใช่ซ้าหรอกน่า มึงทำเหมือนมีหลายใบไอ้เชี้ย ก็แค่บัตรเดียวมั้ย ”
“ ใครจะไปรู้ เผื่อมึงทำขึ้นมาอันใหม่แล้วบอกกูให้ กูก็เสียเปรียบสิว่ะ ”
“ กูไม่ใช่มึง ” คนที่อยู่ตรงหน้าเถียง สีหน้าที่ไม่พอใจของมันเมดหันดูซ้ายขวาก่อนจะเดินไปหยิบปากกาเมจิสีแดงที่มันใช้เน้นข้ความในหนังสือเรียนมาให้ผม “ เขียนลงไปว่า ใช้แล้ว ”
“ โอเค ” รับปากากนั้นมาผมเขียนลงไปบนการ์ดนั้นตามที่อีกคนสั่งก่อนจะทำทีเป็นบ่นก่อนจะยื่นของคืนไปให้มัน “ ของปัญญาอ่อนจะเก็บไว้ทำไมก็ไม่รู้ ”
“ ปัญญาอ่อนกว่านี้กูก็จะเก็บไว้ ของขวัญชิ้นแรกที่มึงให้กูนะ ไม่สำคัญได้ยังไง ” เมดเดินไปเก็บปากกาไว้ที่เดิม มันเอาการ์ดใส่ลงไปในหลังเคสเหมือนเก่า ผมที่ลุกขึ้นตอนที่มันพูดแบบนั้นไม่รู้ทำไมแต่รู้สึกอยากจะกอดมันไว้สักหน่อย กอดจากด้านหลังแบบที่เมดชอบแล้วก็จูบลงข้างแก้มจนอีกคนต้องยกไหล่ขึ้นมา “ กอดกูทำไม ”
“ ไม่ได้อยากกอด ”
“ตามกฎคือมึงต้องพูดตรงๆ ” หันมามองกันยิ้มๆก่อนจะพูด ผมนิ่งไปเพราะรู้สึกตัวเองเผลอตกลงไปในหลุมแรกเข้าให้แล้วแล้วยิ่งผมถอนหายใจออกมาเซ็งๆพลางปล่อยมือที่กอดมันไว้ เมดก็ยิ่งได้ใจถามย้ำ “ กอดกูทำไม ”
“ อยากกอด ” ผมมองมันก่อนจะยกยิ้ม “ ก็มึงน่ารัก ”
“ ไปอาบน้ำเลยไป ” คนหน้าแดงพูดแบบนั้นหลังจากตั้งสติได้ เมดหันไปมองทางอื่นทำทีเป็นไม่ได้ยินในสิ่งที่พูด ผมว่าผมเจอจุดอ่อนเข้าแล้ว จุดอ่อนที่ทำให้ตัวเองรู้สึกว่า ก็เดี๋ยวมาดูกันว่าระหว่างผมกับมันใครจะแกล้งใครกันแน่
เดินเข้าไปอาบน้ำตามคำสั่งของการเป็นแฟนที่ดี แต่ทว่าตอนที่เดินออกมา ชุดนอนสีเขียวลายการ์ตูนก็ถูกเอามาแขวนไว้อยู่หน้าตู้ เมดที่ยิ้มให้ผมมันยื่นให้
“ ใส่ตัวนี้นะมึง ”
“ ไม่ ” ผมบอกปัดความปัญญาอ่อนที่ยื่นมาให้ เมดก็ยัดมันมาใส่มือ
“ ไม่มีคำว่าไม่ แฟนที่ดีต้องตามใจ ”
“ นี่คิดดีแล้วใช่มั้ย ” ถามมันกลับไปด้วยสายตานิ่งๆ
“ หมายความว่าไงวะ ”
“ คิดว่ากูจะไม่เอาคืนตอนวันเกิดกูรึไง ” ถามแบบนั้นอีกคนก็เงียบไป แต่เมดก็ยังเป็นเมดในบางเวลามันก็ดื้อเหมือนกัน และอยากจะเอาชนะเหมือนกัน
“ ไม่มีทางกลัว ”
“ ได้ ” จัดการใส่ชุดนอนลายการ์ตูนนั่นด้วยความหงุดหงิดใจ ผมมองตัวเองในกระจกที่ตอนนี้เจ้าของวันเกิดกำลังหัวเราะคิกคักถูกใจ
“ หันมานี่หน่อย ” เมดบอกผมก็หันไปแล้วก็เจอมันกำลังยื่นกล้องมาข้างหน้า ผมเอามือล้วงกระเป๋าสีหน้าที่กำลังหาเรื่องแบบไม่สบอารมณ์ยิ่งทำให้มันหัวเราะ “ ยิ้มหน่อยน่า น่ารักจะตาย คิ้วๆ เหมาะกับอารยะสุดอะไรสุด ”
“ มึงเคยตายมั้ย ”
“ ไม่ ฮ่าๆ ” เสียงหัวเราะที่ดังขึ้นของเมด ผมก้มลงมองชุดที่ตัวเองใส่อีกครั้ง จำได้ว่ามันเป็นชุดที่แม่ซื้อให้เมื่อนานมากแล้ว และผมไม่เคยใส่เลยสักครั้งเดียว ผิดกับไอ้เดย์ที่ไม่ว่าแม่จะซื้อลายเหี้ยอะไรให้มัน มันก็ใส่ได้หมด แถมยังบอกให้แม่ซื้อให้อีกเยอะๆ เพราะมันชอบ ใส่แล้วนอนสบายมันเคยบอกผมไว้ “ กูไม่เคยคิดเลยว่ามึงจะมีชุดนอนแบบนี้ในตู้ ”
“ แม่กูซื้อให้ ”
“ ถ่ายรูปหน่อย ” เมดบอก “ ต้องเก็บไว้เป็นที่ระทึกสักนิด ” ผมยืนนิ่งตอนที่อีกคนบอกส่วนคนถ่ายที่กลั้นยิ้มก็เอียงหน้าออกจากหน้ากล้องมาบอกกัน “ ทำมือมินฮาร์ทหน่อยสิอารยะ ”
“ มินิฮาร์ทอะไร ”
“ ท่าบี้หัวนมของมึงอะสัด ”
“ อ๋อ ” ดึงนิ้วขึ้นมาทำท่าแบบที่มันต้องการ ผมยกยิ้มตอนที่อีกคนกลั้นขำจนหน้าแดงส่วนมือก็กดชัตเตอร์แบบรัวๆด้วยความถูกใจ “ เสร็จยัง ”
“ เกรี้ยวกราด ” เมดบอกก่อนจะหยุดมือถือที่กำลังถ่ายรูปอยู่นั้นลง ขาที่เดินออกไปด้านนอกของห้องเมดนอนลงบนเตียงก่อนจะเลื่อนรูปที่ถ่ายเมื่อคู่ไปมา “ กูต้องอัพสักรูป ใส่แคปชั่นอะไรดี ”
“ ขอบี้หัวนมหน่อย ” บอกมันแบบนั้นตอนที่นอนลงข้างอีกคนเมดก็หันมาด่า
“ ไอ้สัด ” รอยยิ้มที่ยิ้มให้กันเมดหันหน้าจอมือถือมาให้ดู มันเป็นภาพผมที่ถ้าดูแค่หน้าก็โอเค เพราะเท่ห์ดี แต่ที่ไม่โอเคเลยคือไอ้ท่าบี้หัวนมนั่น “ เอาภาพนี้นะเท่ห์ดี ”
“ อื้ม ”
“ แคปชั่นอะไร มึงช่วยคิดหน่อย ”
“ ก็ขอบี้หัวนมหน่อย ”
“ ไม่เอาดิวะอาฟ ”
“ มาย มินิฮาร์ท ” ผมบอก อีกคนก็หันมายิ้มให้
“ แจ๋ม ” เมดว่าแบบนั้นก่อนจะกดยุกยิกอยู่บนมือถืออยู่นาน ผมคิดว่ามันคงกำลังอัพภาพแล้วในตอนที่คิดขึ้นได้ผมก็หยิบมือถือของตัวเองขึ้นมาดู แล้วตอนที่เมดวางมือถือลงข้างตัวผมกดเข้าไปดูไอ้อินสตราแกรมส่วนตัวของผม ก็พบว่า ข้อความก็เป็นอย่างที่ตัวผมบอกไป ‘ my mini heart w./ #ชุดนอนที่แสนน่ารักของอารยะ ’ ถ้าให้พูดตามความจริง ก็คือ กูโคตรเกลียดแท็กของมึงเลยวะเมด
“ ดูแล้วก็อย่าลืมกดไลค์ให้ด้วยนะครับ ”
“ ปัญญาอ่อน ” ผมบอกก่อนที่เมดจะดึงตัวเองขึ้นจากเตียงมามองกน้ากัน “ อะไรของมึง ”
“ พูดใหม่ วันนี้มึงต้องพูดตรงๆกับกู เป็นแฟนที่น่ารักหน่อยอารยะ ”
“ กวนตีน ” บอกมันแบบนั้นอีกคนก็ยิ้มก่อนจะยกนิ้วขึ้นส่ายไปมาตรงหน้าผม
“ กวนตีนก็ไม่พูดนะมึง มันไม่ใช่คำสุภาพที่แฟนที่ดีเค้าพูดกัน ”
“ แล้วถ้าแฟนกวนตีนจะให้กูพูดว่าไง ”
“ ทำไมเมดทำแบบนี้ละครับ หื้ม แล้วก็เอื้อมมือมึงขึ้นมา ” มือของเมดจับมือของผมมาไว้ที่แก้มมัน “ หยิกแก้มกูเบาๆแล้วบอกว่า นี่แหน่ะ ” หลุดหัวเราะกับท่าทางซื่อๆของมัน ผมไม่รู้ว่ามันอาจจะให้ทำแบบนี้ หรือแค่คิดอะไรที่มันตลกๆ เพื่อให้ผมอายกันแน่ แต่ที่รู้คือทั้งหมดนั่น บอกตรงๆเลยว่า โคตรน่ารัก
“ มึงเอาจริงดิ ”
“ ค่อนข้างอายอยู่เหมือนกันว่ะ ” คนบอกให้ทำหลุดยิ้มออกมาก่อนจะเม้มมันไว้ หน้าแดงๆของอีกคนเมดยกมือขึ้นปิดหน้าตัวเองก่อนจะล้มตัวลงนอนบนเตียง
“ นี่แหน่ะ ” มือของผมหยิกแก้มมันตอนที่พูดคำนั้น เมดที่นิ่งค้างไป เราที่มองหน้ากันก่อนจะหลุดหัวเราะออกมาเสียงดังในช่วงเวลาที่ต่างฝ่าย ต่างก็รับความไม่เป็นตัวเองนี้ไม่ได้
“ อารยะ มึงแม่ง ” มือที่เอื้อมมือมาตีผมด้วยความถูกใจ ส่ายหน้าไปมากับความปัญญาอ่อนนั้นก่อนจะปิดไฟในห้องให้มืดลง
“ นอนได้แล้ว พรุ่งนี้จะได้ตื่นเร็วๆ แล้วใช้การ์ดนั้นให้คุ้ม ”
“ มึงทำเหมือนกูแม่ง อยากจะใช้การ์ดนั่นจนตัวสั่น ”
“ หรือว่าไม่จริง ” ผมถามมันท่ามกลางความมืดแต่ถึงอย่างงั้นก็ยังพอมองเห็นใบหน้าขาวๆของอีกคนอยู่ เมดที่ยิ้มหว้างให้ผม
“ จริง ” ตอบออกมาแบบนั้นก่อนจะพลิกตัวมามองผมที่ก็หันไปมองมัน
“ มีอะไร ”
“ ก็แบบว่าแฟนที่ดีอะมึง ” เมดบอกก่อนจะยักคิ้วให้ผม “ มึงว่าแฟนที่ดีเค้าจะทำอะไรตอนจะนอน ”
“ เอากัน ”
“ ไอ้สัด ไม่ใช่สิว่ะ ” หลุดหัวเราะออกมากับหัวเสียนั้น ผมดึงมันเข้ามากอดก่อนจะกดหน้ามันลงไปที่อกของตัวเอง มือที่ลูบหัวมันเบาๆ
“ พอใจยัง ”
“ ก็ทำเป็นนี่หว่า แล้วมากวนตีนกู ”
“ บอกให้กูพูดเพราะๆ งั้นมึงก็ช่วยพูดเพราะๆกับกูด้วยแล้วกัน ” บอกมันแบบนั้นอีกคนก็เงยหน้าขึ้นมามองกัน “ ถ้ามึงพูดเพราะๆกับกู กูก็จะพูดเพราะๆกับมึง ตกลงมั้ย ”
“ ประโยคก่อนหน้านี้เหมือนไม่ใช่มึง ”
“ แล้วกูต้องพูดยังไง ”
“ ถ้าจะอยากให้กูพูดเพราะๆมึงก็พูดก่อน ไม่งั้นกูไม่พูด ” เมดบอกผมก็หลุดยิ้ม “ แต่เอาจริงๆ พอมาลองคิดว่า ถ้าเรียกมึงว่า อาฟ เมดว่านะเราแบบนั้น เราแบบนี้ หรือไม่ก็ อาฟอยากพูดแบบนี้กับเมดสิ เมดไม่ชอบเลย คือแบบ.. เอาจริงๆนะ โคตรไม่เราเลยวะ ”
“ ก็แค่ไม่เคยพูด ถ้าพูดบ่อยๆมันก็ชิน ”
“ วันเดียวคงไม่ชิน งั้นพูดตามสบายก็พอ แค่อย่ากวนตีนกัน แล้วก็ไม่เป็นซาลาเปาวันนึง ห้ามฟัดแก้มกูตอนเช้าแล้วบอก ไอ้หมวยตื่นไปขายซาลาเปา ห้ามบอกว่า ป๊ามึงเรียกไปขายซาลาเปา ไม่ขายโจ๊กด้วย ”
“ งั้นเอาอะไรดี ” ผมถามมันก่อนจะหลุดยิ้มขึ้นมาตอนที่คิดถึงตุ๊กตาตัวนึงที่ดูเหมือนเมดจากคำบอกเล่าของไอ้วิวที่เคยพูดกับไอ้เจ “ ตื่นได้แล้วมูมิน ”
“ ไอ้สัด ไม่เอา มึงแม่ง ”
“ ฮ่าๆ ” หลุดหัวเราะออกมา แล้วยิ่งก้มลงไปมองอีกคนที่ทำหน้าไม่พอใจมันก็ยิ่งตลก เอาจริงๆ สำหรับผม เมดก็เหมือนทุกอย่างที่ขาว นุ่ม แล้วก็กลม “ อย่าชื่อเลยมินเมดอะ ชื่อมูมินเถอะ กูว่าเข้าดี ”
“ ไม่ ” เสียงที่เถียงกันออกมาด้วยความไม่พอใจ “ ห้ามเรียก มึงเรียกกูจะฆ่ามึงสัดอาฟ ”
“ แล้วจะให้เรียกอะไร ”
“ แค่เมด แค่ชื่อกูนี่แหละ ไม่หมวยนะ เรียก เมด ”
“ อ่าห๊ะ ”พยักหน้าบอกมัน “ ก็ถ้าไม่ลืม ”
“ คนอย่างมึงไม่ลืมหรอก ยกเว้นว่าจะแกล้งลืมไอ้สัด ” หลุดยิ้มออกมากับความรู้ดีนั่น เมดเงียบไปสักพักก่อนจะบอก “ แล้วพรุ่งนี้ขออะไรอย่าง ”
“ อะไร ”
“ ช่วยจัดชุดให้หน่อยสิ ”
“ ชุดอะไร ” ผมถาม “ ชุดที่มึงต้องใส่น่ะเหรอ ”
“ ใช่ ” คนสั่งพยักหน้ารับ “ กูอยากรู้ว่ามึงจะชอบให้กูแต่งตัวแบบไหน ”
“ งั้นก็ไม่จัด ”
“ อ้าว ”
“ กูชอบแบบที่มึงไม่ใส่อะไรเลย ”
“ ไอ้หน้าเหี้ย ” เสียงถอนหายใจที่ดังขึ้นมา ผมหัวเราะกับท่าทางเซ็งๆนั่นของอีกคน “ ทำไมมึงต้องกวนตีนกูอยู่เรื่อยเลยวะ ”
“ กูแค่พูดความจริง ก็มึงถามว่าชอบให้มึงใส่แบบไหน ก็กูชอบตอนไม่ใส่เสื้อผ้ามากกว่านี่ แล้วกูผิดตรงไหนวะ ”
“ คุยกับมึงแล้วโคตรปวดหัว ” เมดซุกเข้ามาใกล้ผมที่ก็ดึงแขนที่มันหมุนอยู่ออก สายตาที่เหมือนประท้วงเงยหน้าขึ้นมามองกัน “ ขอโมเม้นท์นอนหนุนแขนหน่อยสิว่ะมึง ”
“ หัวเมดก็ไม่ได้หนักสองขีดไงครับ ตะคริวจะแดกกูเอาไงประเด็นน่ะ ” ถึงจะบอกแบบนั้นแต่ผมก็เลือกจะวางแขนไว้บนหัวมันแบบนั้น ผมชอบเวลาที่เมดซุกเข้ากับอกผม ชอบตอนที่ได้นอนอยู่ในระดับที่สูงกว่ามันเพราะจะได้เห็นหน้าอีกคนชัดๆ
“ พรุ่งนี้ตื่นไปตักบาตรกันนะ ปลุกกูด้วยนะมึง ”
“ แล้วทำไมต้อง..”
“ หน้าที่แฟนที่ดี ” เงยหน้าขึ้นมาจูบใต้คางของผมที่ก็ถอนหายใจออกมา
เมดหลับตาลงไปแล้ว จะว่าไปเราไม่ค่อยได้นอนกอดกันเลย คงเพราะส่วนใหญ่เราเหนื่อยจัดมากับการทำงาน ต่างคนพอถึงบ้าน ก็อาบน้ำแล้วก็นอน การกอดกันของเราเลยเกิดขึ้นในช่วงเวลาเช้าที่ผมตื่นก่อน หรือแม้แต่การจูบ เมดจะชอบจูบตอนที่คิดว่าผมหลับ
การทำอะไรตรงๆต่อกันสำหรับเราเป็นอะไรที่ไม่ค่อยเกิดขึ้นเท่าไหร่ อาจเพราะเราไม่ใช่คนพูดหวานด้วยกันทั้งคู่ แถมยังรู้สึกว่าการทำอะไรแบบนั้นมันไม่ใช่ตัวเอง แต่ว่าการทำอะไรอย่างที่อยากทำบ้างก็ใช่ว่าจะไม่ดีหรอก มันดีนะ อย่างน้อยตอนนี้ ผมก็รู้สึกดีกับมัน