Chapter 44: พบที่ปรึกษา
มีนาขมวดคิ้วอย่างประหลาดใจเมื่อหาธีรเชษฐ์ไม่พบในห้องทำงานของร่างสูง หลังจากพูดคุยกับทินกร และได้สนทนากับแทนไทยต่ออีกสักพัก เด็กหนุ่มก็เดินไล่หามาตั้งแต่สวนหลังบ้าน ทว่าไม่พบวี่แววของเจ้าของวันเกิด
“คุณเชษฐ์ครับ...”
คนที่เขาหันมาพบกลับเป็นธารธาราที่ยืนกอดอกมองเขาด้วยสีหน้าเรียบเฉย มีนาสะดุ้ง ยืนนิ่งอยู่กับที่ราวกับลูกกระต่ายที่กำลังจะโดนรถเหยียบแต่หนีไปไหนไม่ได้
“ชั้นสาม ห้องริมขวา”
ร่างโปร่งพูดแค่นั้นก่อนจะหมุนกายเดินจากไป มีนากระพริบตาปริบๆอย่างงุนงงกับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ก็เดินขึ้นบันไดไปชั้นสามตามที่อีกฝ่ายว่าอย่างไม่มีทางเลือกอื่น
ห้องริมขวาสุดทางเดินเป็ฯเพียงห้องเดียวในชั้นสามที่ประตูแง้มเปิดอ้าและมีแสงไฟลอดออกมา มีนาผลักประตูบานใหญ่ออกเบาๆ ภายในห้องนอนใหญ่ของบ้านแม้จะไม่มีฝุ่นเกาะเขรอะแต่ก็พอดูออกว่าไม่มีคนอยู่อาศัยมานานหลายปี คนที่เขาตามหานั่งอยู่บนพื้นปลายเตียง เอนพิงศีรษะกับขอบเตียงอย่างเหม่อลอย มีนาขมวดคิ้วอย่างเป็นกังวล ทรุกตัวลงข้างคนรักแล้วเอื้อมมือไปวางทาบบนมือใหญ่เบาๆ
“คุณเชษฐ์ โอเคมั้ยครับ?”
“ก็…โอเคขึ้นล่ะมั้ง” คนตอบถอนหายใจ แต่จากแววตาที่ดูกระจ่างขึ้นของร่างสูง บทสนทนาคงไม่ได้เลวร้ายอย่างที่เขาคิด
“เรื่องแบบนี้ต้องใช้เวลา แต่ผมดีใจนะครับที่พวกคุณได้คุยกันแล้ว” มีนาปลอบ
มือใหญ่เอื้อมมาดึงร่างเล็กเข้ามาใกล้ ซุกหน้าลงกับซอกคอขาวแล้วกอดเขาไว้อย่างนั้น เด็กหนุ่มที่เข้าใจว่าอีกฝ่ายต้องการการปลอบประโลมยกแขนขึ้นโอบกอดร่างสูงใหญ่เท่าที่จะทำได้ แต่สัมผัสอุ่นชื้นที่เลียแผล็บเข้าที่ต้นคอทำให้เขาตระหนักได้ว่าตัวเองคิดผิดถนัด
“ปลอบหน่อยสิ ฉันเศร้าอยู่นะ”
“คนเศร้าประเภทไหนเขาทำตัวแบบนี้กันบ้างครับ...อ๊ะ..” ลิ้นร้อนที่ลากไล้ไปตามซอกคอขาวแปรเปลี่ยนเป็นริมฝีปากที่ดูดเน้นหมายแสดงรอยความเป็นเจ้าของ มีนากอดแขนเรียวรอบคอหนาแน่นขึ้น ยอมโอนอ่อนกับสัมผัสอย่างว่าง่ายเสียจนธีรเชษฐ์ยังประหลาดใจ
“นี่…จะไม่ขัดขืนหน่อยเหรอ?”
“ทำไมต้องขัดขืนล่ะครับ...” คนตัวเล็กถามเสียงซื่อ แววตางุนงงของเด็กหนุ่มทำเอาคนแก่แทบลมจับ
“มีน…รู้ใช่มั้ยว่าเรากำลังจะทำอะไรกัน...” ไม่ว่าเปล่า ร่างของมีนาก็ถูกฉุดขึ้นไปบนเตียงนุ่มที่ร่างสูงบอกว่าไม่เคยได้นอนมานับตั้งแต่ภรรยาเสียไป เด็กหนุ่มถูกขังอยู่ภายใต้ร่างสูงใหญ่ของคนรัก ทว่านอกจากจะไม่มีท่าทีหวาดกลัวแล้ว มีนายังก้มหน้าเล็กน้อยอย่างขัดเขินอีกด้วย ท่าทีดังกล่าวทำให้ธีรเชษฐ์ขมวดคิ้วอย่างสับสน
“ก็…เป็นแฟนกันแล้วนี่ครับ...” เสียงหวานพึมพำตอบ “ต้องขัดขืนด้วยเหรอครับ...”
“….” ถ้ารู้ว่าเป็นแฟนกันแล้วจะเป็นแบบนี้ ธีรเชษฐ์ไม่รอมาจนถึงตอนนี้หรอก
เขารู้ว่ามธุวันจะต้องโกรธเขาจนหัวฟัดหัวเหวี่ยงที่ต้องให้ทินกรเป็นตัวแทนเป่าเค้กวันเกิดและกล่าวขอบคุณแขกเหรื่อในงานที่ธีรเชษฐ์เป็นคนดึงดันที่จะจัด แต่เมื่อเห็นร่างเล็กที่นอนคว่ำแผ่บนเตียงกว้างอย่างหมดสภาพ หายใจเข้าออกสม่ำเสมออย่างมีความสุขหลังจากได้ออกกำลังกายอย่างมีประสิทธิภาพ ริมฝีปากรูปกระจับผุดยิ้มมุมปากทั้งที่ยังหลับสนิท
ใครจะรู้ว่าเด็กน้อยของเขาจะมีมุมแบบนี้อยู่ด้วย
ธีรเชษฐ์ก้มลงกดจมูกลงบนแก้มนุ่มเบาๆแล้วลุกขึ้นจากเตียง คว้าเสื้อคลุมของตนมาใส่อย่างลวกๆแล้วเปิดประตูออกไปอย่างเบามือที่สุด เขาไม่ได้อยากผละจากร่างเล็กไปในตอนนี้ หากเลือกได้ เขาไม่อยากแยกจากอีกฝ่ายไปตลอดชีวิต หาก
แต่แขกที่รอเขาอยู่ในห้องทำงานนั้นธีรเชษฐ์ไม่สามารถปล่อยให้รอนานไปมากกว่านี้
“ขอบคุณนะครับที่ยอมสละเวลามาพบผม”
นิโคไลยิ้มให้กับเจ้าของบ้านในชุดคลุมตัวยาวที่นั่งลงบนเก้าอี้ทำงานของตัวเอง ธีรเชษฐ์ส่ายหน้า
“ไม่เป็นไรหรอกครับ ว่าแต่...คุณนิโคไลมีธุระอะไรกับผมเหรอครับ?”
“ก็ไม่เชิงธุระหรอกครับ ผมแค่อยากเอาของขวัญมาให้”
ทารินที่ยืนอยู่ด้านหลังของชายหนุ่มผมทองหยิบเอาซองเอกสารสีน้ำตาลปึกหนาออกมาจากกระเป๋าเดินทางส่งให้เจ้านายของตน นิโคไลรับมาด้วยสีหน้าที่ธีรเชษฐ์อ่านไม่ออก ก่อนจะถามชายหนุ่มลูกครึ่งรัสเซียด้วยน้ำเสียงใคร่รู้
“น้องมีนานี่...น่ารักดีนะครับ” มุมปากของชายหนุ่มกระตุกขึ้นเล็กน้อยเมื่อเห็นดวงตาที่แข็งกร้าวขึ้นของธีรเชษฐ์ “เห็นคุณเชษฐ์มีความสุข ผมก็ยินดี แต่นี่จะส่งผลอะไรกับข้อตกลงที่เราทำไว้รึเปล่าครับ?”
“ไม่ครับ”
ชายหนุ่มอายุมากกว่าตอบโดยไม่ต้องคิด เรียกรอยยิ้มพึงพอใจจากนิโคไลได้เป็นอย่างดี มาเฟียหนุ่มยื่นซองเอกสารในมือให้กับธีรเชษฐ์ ดวงตาสีมรกตลอบสังเกตท่าทีของชายหนุ่มตรงหน้าอย่างละเอียด
“นี่เป็นเอกสารทุกอย่างเกี่ยวกับการเสียชีวิตของภรรยาของคุณ” นิโคไลลุกขึ้นจากเก้าอี้อย่างเชื่องช้า พึงพอใจกับแรงโทสะที่แผ่ออกมามากขึ้นจากร่างของธีรเชษฐ์เรื่อยๆยิ่งดวงตาสีควันบุหรี่กวาดดูตัวอักษรบนกระดาษสีขาวมากขึ้นเท่าไหร่
“ผมขอรับรองด้วยเกียรติของหัวหน้าตระกูลอัลฟอนโซ่ ผมจะทำให้คนที่ฆ่าภรรยาของคุณต้องชดใช้อย่างสาสม”
การแก้แค้นที่เป็นแรงขับเคลื่อนให้เขายังมีชีวิตอยู่จนถึงปัจจุบัน ในวันนี้กลับรู้สึกเหมือนมันเป็นเพียงหน้าที่ต่อหญิงสาวผู้ล่วงลับ ธีรเชษฐ์ถอนหายใจหลังจากเหลือเพียงตัวเขาคนเดียวในห้อง ยกมือขึ้นลูบใบหน้าอย่างอ่อนเพลีย ก่อนจะหยิบเอกสารในซองออกมาอ่าน
“แม่มีน~”
“ซัน ไม่เอา...”
“แม่มีนคร้าบบบบ”
“ซัน เดี๋ยวใครมาเห็น”
“แม่มีนของซันนนนน”
“ซัน! ถ้าไม่หยุดเราจะดุแล้วนะ!” มีนาที่ไม่มีทางเลือกขู่เพื่อนตัวโตด้วยสีหน้าจริงจังที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่นั่นดูเหมือนจะยิ่งเข้าทางคนขี้แกล้งมากขึ้นไปอีก เจ้าตัวทำหน้าเศร้าโศกโศกาเสียเต็มประดา วิ่งไปหลบหลังต้นไม้ทำปากยู่ใส่เขาอีก
“งือออ มี้ดุอ่ะ”
พันธุกรรมสินะ…
“ไหนว่าไม่อยากให้พายุรู้ไง เดี๋ยวเขาก็มาได้ยินหรอก” มีนาถอนหายใจ
“ไม่ให้กูรู้อะไร?” เสียงของคนในหัวข้อสนทนาดังขึ้น คนมีชนักติดหลังทั้งสองสะดุ้งเล็กน้อย ก่อนจะรีบปรับสีหน้าให้เป็นปกติ
“ไม่อยากให้มึงรู้ว่ากูเป็นลูกรัก มึงเป็นลูกชังไง” ทินกรผละจากต้นไม้มากอดคอมีนาอย่างอารมณ์ดี พายุกลอกตาอย่างเหนื่อยใจแล้ววางจานข้าวลงบนโต๊ะ
“เออ ไอ้ลูกรัก ถ้าลูกรักจริงไอ้มีนจะดันหน้ามึงอยู่งี้เรอะ?”
ทินกรเพิ่งสังเกตว่าเพื่อนตัวเล็กที่กำลังจะขาดอากาศหายใจในอ้อมกอดกำลังพยายามดันตัวเขาออกอย่างไร้เรี่ยวแรง ร่างสูงหัวเราะชอบใจ กอดคนตัวเล็กแน่นขึ้นอย่างมีความสุข จนพายุต้องเป็นฝ่ายช่วยแงะมีนาออกมาก่อนที่ร่างเล็กจะโดนรัดจนกระดูกหักเข้าจริงๆ
“อะไรของมึงวะซัน วันนี้มึงอารมณ์ดีแปลกๆนะ”
“ก็กูมีความสุข” ทินกรยิ้มกว้าง คนมองส่ายหน้า คิดว่าเพื่อนของตนสมงสมองคงจะไปแล้วจริงๆ
ทินกรยิ้มให้มีนาอีกครั้งก่อนจะนั่งลงตักข้าวเข้าปาก แม้ว่าเพื่อนตัวเล็กของเขาจะไม่รู้ว่าตัวเองได้ทำอะไรให้กับครอบครัวที่ทินกรพยายามรั้งไว้ไม่ให้แตกสลายจนสุดกำลัง แต่ร่างสูงยังคงรู้สึกขอบคุณมีนาที่เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ครอบครัวของเขากำลังขยับเข้าหากันทีละนิด
แม้จะยังคงห่างไกลจากครอบครัวสุขสันต์ที่เคยวาดฝัน แต่ได้เท่านี้ก็มาได้ไกลมากแล้ว
“มีน มึงไม่ซื้อข้าวเหรอ?” พายุที่เห็นเพื่อนตัวเล็กยังคงไม่มีอะไรตกถึงท้องขมวดคิ้ว เช่นเดียวกับทินกรที่หันขวับมาทันทีที่ได้ยิน มีนาที่กลัวจะโดนเพื่อนทั้งสองยัดเยียดอาหารเข้าปากรีบอธิบาย
“วันนี้เรามีพบอาจารย์ที่ปรึกษา คณะเลี้ยงน่ะ”
“แล้วไป...” พายุพยักหน้าอย่างยอมรับได้ “อย่าให้กูรู้นะว่ามึงไม่มีเงินกินข้าวแล้วไม่บอกกู”
“ไม่ต้องห่วงน่า มีนไม่มีทางไม่มีหรอก” กลับเป็นเด็กหนุ่มลูกครึ่งรัสเซียที่ตอบอย่างมั่นอกมั่นใจ ถ้าพ่อเขาจะมีสิ่งใดที่ไม่เคยขาดตกบกพร่อง คงจะเป็นเรื่องเงินนี่แหละ
“มึงรู้ได้ไง”
“ก็…ก็แฟนมันรวยไม่ใช่รึไง?” คนปล่อยไก่ว่า มีนาส่ายหน้า ไม่คิดว่าความลับของตัวเองจะเป็นความลับอยู่ได้นานนัก
“เราไปก่อนนะ จะถึงเวลาแล้ว” ร่างเล็กว่าแล้วลุกขึ้นจากโต๊ะ
แม้ใจจะไม่ค่อยอยากสู้หน้าอาจารย์ที่ปรึกษาซึ่งรู้ดีว่าเขาเพิ่งทำอะไรมาเมื่อวานเท่าไหร่นัก แต่เขาก็ไม่อยากจะอยู่รับอารมณ์ของพายุหากทินกรเผลอหลุดพูดอะไรออกมาอีกหรอกนะ
“มาคนแรกเลยมีน คนอื่นติดเรียนกันอยู่ คงอีกสักพักกว่าจะมา” คเชนทร์กล่าวขึ้นเมื่อเห็นสายรหัสปีหนึ่งที่ตนรับผิดชอบก้าวเข้ามาในห้อง
“สวัสดีครับอาจารย์คเชนทร์” มีนานั่งลงข้างอาจารย์ที่ปรึกษาของตนแล้วแกะกล่องข้าวที่ได้รับแจกมาออกรับประทาน คเชนทร์ขยับยิ้มมองร่างเล็กที่ดูมีน้ำมีนวลกว่าครั้งแรกที่พวกเขาพบกันมาก ก่อนจะเอ่ยทัก
“ได้ของขวัญที่ครูให้ไอ้เชษฐ์ไปมั้ย?”
“ครับ ได้แล้วครับ” มีนาพยักหน้า
“แล้วไอ้เชษฐ์มันว่าไง?”
“เขาก็…หัวเราะครับ”
มีนาตอบเสียงซื่ออย่างไม่เข้าใจปฏิกิริยาของคนรัก ในบรรดาของขวัญวันเกิดที่ธีรเชษฐ์ได้รับ นอกจากที่คาดผมหูกระต่ายกับขนปุกปุยซึ่งติดอยู่กับบางสิ่งที่มีนาไม่นึกอยากคิดถึงในตอนนี้ซึ่งได้รับมาจากวีรภัทร ของขวัญของคนอื่นๆก็ดูจะเป็นของปกติที่คนทั่วไปได้รับในงานวันเกิด
ไม่เว้นแม้แต่สัปปะรดหลายสิบลูกจากคเชนทร์ที่วางกองอยู่ในห้องครัว
ธีรเชษฐ์หลุดหัวเราะออกมาเสียงดังลั่น ส่วนมีนาในตอนนั้นเพียงแต่ไม่เข้าใจว่าทำไมปริมาณมันถึงได้มากมายเพียงนั้น
สงสัยคงจะซื้อมาให้คนอื่นๆในบ้านด้วยล่ะมั้ง
“มีการ์ดด้วยครับ” มีนาหยิบการ์ดที่วางอยู่บนเคาท์เตอร์ส่งให้คนรัก แต่ธีรเชษฐ์กับพยักเพยิดให้เขาอ่าน ยังคงปาดน้ำตาออกจากหางตาจากการหัวเราะอย่างหนัก ลายมือบรรจงผิดวิสัยสายอาชีพนี้เขียนเพียงข้อความสั้นๆ
‘ของขวัญให้ลูกศิษย์กู’
“ให้ผม? อาจารย์ให้สัปปะรดคุณเชษฐ์แล้วทำไมถึงเป็นของขวัญผมได้ล่ะครับ?” มีนาเงยหน้าถามร่างสูงอย่างไม่เข้าใจ ได้รับคำตอบเป็นเพียงเสียงหัวเราะอีกระลอกจากคนรัก
ในอนาคตที่มีนาพอจะรู้เรื่องมากขึ้นกว่าในตอนนี้ เด็กหนุ่มจึงได้เข้าใจว่าทำไมคเชนทร์ถึงได้สนิทกับธีรเชษฐ์และวีรภัทรมาจนถึงปัจจุบันนี้
“แล้วเรื่องของเธอกับเพื่อนครู ตอนนี้เป็นยังไงบ้าง?” คเชนทร์ถามจี้จุด ในเมื่อยังไม่มีใครมา ก็ขอสอบถามเรื่องที่พูดต่อหน้าคนอื่นไม่ได้ก่อนก็แล้วกัน มีนาเพียงแต่ยิ้มเอียงอายให้กับอาจารย์ของตน ซึ่งนั่นเป็นคำตอบที่มากพอจะทำให้คนเป็นกังวล
ผ่อนลมหายใจอย่างโล่งอก “ดีแล้วล่ะ”
“ขอบคุณนะครับอาจารย์”
“ครูสิต้องขอบใจเธอ มีน” คเชนทร์ส่ายหน้ายิ้มๆ “เธอยังหาคนดีๆได้อีกมาก แต่ไอ้เชษฐ์ ถ้าไม่ใช่เธอก็คงไม่พบเจอคนดีๆแล้ว”
เสียงโทรศัพท์ของคเชนทร์ดังขึ้น ร่างสูงหยิบออกมาดูชื่อที่แสดงบนหน้าจอโทรศัพท์ ก่อนจะส่ายหน้าเบาๆแล้วกดรับ จากที่อีกฝ่ายยกจอโทรศัพท์ขึ้ตรงกับใบหน้าของตัวเอง คิดว่าคงกำลังวีดีโอคอลอยู่กับปลายสาย
มีนาก้มหน้าก้มตากินอาหารกล่องของตัวเอง ให้พื้นที่ส่วนตัวกับอาจารย์ที่ปรึกษา แต่เสียงที่ดังลอดออกมาจากลำโพงทำให้เขาชะงัก
“ทำอะไรอยู่?”
“ขโมยเมียเพื่อนมากินข้าวอยู่” คนหน้านิ่งยักคิ้วใส่กล้องโทรศัพท์ มีนาสำลักข้าวจนไอโขลกออกมา หยิบขวดน้ำเปล่ายกขึ้นดื่มหลายอึกเพื่อช่วยไล่อาหารลงไป
“โถ ไอ้คนเหงา กูหาผัวให้มั้ย งานดีๆแบบกูเลย” คนปลายสายล้อ
“กว่าจะหาคนเอามึงไปจากมือกูได้กูแทบกระอัก นี่มึงจะโยนเหาใส่หัวกูอีกเหรอวะ” คเชนทร์กลอกตา
มีนาไม่เคยเห็นธีรเชษฐ์ปล่อยตัวคุยเล่นกับคนอายุใกล้กันบ่อยนัก ยิ่งคเชนทร์เขายิ่งไม่เคยเห็น เด็กหนุ่มรู้สึกเหมือนเด็กนักเรียนเวลาเห็นอาจารย์ประจำชั้นตัวเองนอกโรงเรียนเป็นครั้งแรกอย่างไรอย่างนั้น
คเชนทร์เปลี่ยนกล้องให้ถ่ายจากกล้องหลังเพื่อให้ร่างสูงได้เห็นร่างเล็กที่ยังคงหน้าแดงก่ำจากการไอเมื่อครู่ มีนาพนมมือไหว้คนรัก ก่อนจะดื่มน้ำตามเข้าไปอีกหลายอึก
“อ่ะ ให้กำลังใจ”
“มึงจะให้กำลังใจหรือจะให้กูไม่มีสมาธิทำงาน”
“เรื่องมาก กลับมามองหน้ากูมั้ย”
“ไม่ๆๆๆๆ ครามคร้าบบบ ทูนหัวของเชษฐ์ อย่าหันกล้องกลับน้าาา”
มีนาหลุดยิ้มขำออกมา จริงอยู่ที่หากเรียงตามอายุแล้วธีรเชษฐ์เป็นพี่ใหญ่สุดของกลุ่ม แต่หากดูตามวุฒิภาวะ อย่างไรคเชนทร์ก็ดูเหมือนพี่ใหญ่ที่ต้องคอยจับปูใส่กระด้งแม้จะยอมปล่อยๆให้น้องๆเล่นสนุกและเล่นสนุกร่วมไปกับน้องๆเป็นครั้งคราว
“ตกลงมึงโทรมามีไร?” คเชนทร์ถาม
“จะโทรมาขอบคุณเรื่องของขวัญ”
“หึ…ชอบมั้ย?”
“ถามมีนดิ ถามกูไมวะ”
มีนากระพริบตาปริบๆอย่างงุนงงเมื่อโดนโยนคำถามใส่ หากเทียบกับเขา ธีรเชษฐ์กินเข้าไเยอะกว่าเขามาก ทำไมต้องให้มาถามเขาด้วยอ่ะ
“ก็…อร่อยครับ หวานดี”
มีนาตอบตามมารยาท คเชนทร์หลุดขำพรืดออกมา มีนาไม่รู้ว่าธีรเชษฐ์มีปฏิกิริยาอย่างไรกับคำตอบนั้น แต่จากที่เห็นคเชนทร์เหลือบมองหน้าจอแล้วหัวเราะออกมาอีกรอบ คงไม่ใช่สีหน้าปกติของอีกฝ่าย
“ไอ้คราม กูโคตรเกลียดมึงอ่ะ”
“กระตุ้นระบบไหลเวียนโลหิต เส้นเลือดจะได้แข็งแรง” คเชนทร์ขยับแว่นตอบด้วยน้ำเสียงจริงจััง ก่อนจะตัดสายเมื่อเห็นว่าภายนอกห้องมีความเคลื่อนไหว สายรหัสของมีนาเริ่มทยอยเปิดประตูเข้ามา ร่างสูงโปร่งยืดตัวตรง ‘อาจารย์คเชนทร์’ที่เหล่านักศึกษาต่างพากันเคารพยำเกรงกลับมาอีกครั้ง
แต่จนจบการพบอาจารย์ที่ปรึกษา มีนาก็ยังคงไม่เข้าใจอยู่ดีว่าความหวานของสัปปะรดเกี่ยวอะไรกับระบบไหลเวียนโลหิตของคนรัก
------------