[จบแล้ว] Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) 4 years later [6-2-63] คห.951
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [จบแล้ว] Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) 4 years later [6-2-63] คห.951  (อ่าน 232903 ครั้ง)

ออฟไลน์ BABYBB

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1123
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1
น้องมีนนนนน คนดีของศรี :impress2:

ออฟไลน์ Majariga

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 414
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
เรื่องราวมากมายมาก ดีนะที่น้ำอุ่นช่วยไว้ ไม่งั้นคุณเชษฐ์โดนงอนตลอดไป แหงๆ

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
ได้รับการไว้ใจจากธารแล้ว อะไร ๆ ก็จี๊บ ๆ ไปหมด  o13

ออฟไลน์ WilpeR

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1555
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-2
หนูมีนมีความสุขแล้ว สรุปคนที่ช่วยคู่นี้กลับกลายเป็นธารที่ตอนแรกเหมือนจะไม่ชอบมีนซะงั้น 555

ออฟไลน์ กุหลาบเดียวดาย

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 812
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-2
ความรักเยียวยาทุกสิ่งนะ เด็กน้อย

ออฟไลน์ littlepig

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 429
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +413/-5
บทที่ 52 น้ำตาที่เก็บไว้

“อ๊ะ น้ำแข็งหมดแล้ว เดี๋ยวผมเข้าไปเอาในครัวก่อนนะครับ”



ทินกรเขย่าแก้วที่เหลือเพียงก้อนน้ำแข็งเล็กจิ๋วของตนเบาๆ ก่อนจะลุกขึ้น คว้าเอาแก้วของคนรักไปด้วย ภรัณยูพยักหน้า ก่อนจะหันกลับไปสนใจบทสนทนาบนโต๊ะอาหารของเพื่อนร่วมโต๊ะคนอื่นต่อ



ทินกรกล่าาวเข้าไปในห้องครัวที่ว่างเปล่า กดแก้วลงบนช่องใส่น้ำแข็งของตู้เย็นฝังผนังอย่างไม่รีบร้อน ริมฝีปากที่มักประดับด้วยรอยยิ้มร่าเริงอยู่เสมอเลือนหายไปจากใบหน้าคมเข้มอย่างช้าๆ แทนที่ด้วยสีหน้าบิดเบี้ยวเหยเกคล้ายจะหลุดสะอื้นออกมาได้ทุกเมื่อ ทินกรพิงศีรษะกับบานประตูตู้เย็น  แนบหน้าผากกับโลหะเย็นนิ่ง ข่มกลั้นความรู้สึกที่ตีตื้นขึ้นมาจากในอกให้กลับลงไปในที่ที่มันสมควรอยู่



งานเฉลิมฉลองที่ควรเต็มไปด้วยความสุขไม่มีที่ว่างให้กับความเจ็บปวดของเขา



ทว่าแขนเรียวที่สอดเข้ามาโอบกอดเอวสอบไว้จากด้านหลังและศีรษะของคนรักที่แนบลงมาบนแผ่นหลังกว้างดูจะไม่คิดเช่น
นั้น



“พะ…พี่ภัทรครับ?” ทินกรรู้สึกว่าอารมณ์ที่ไม่คงที่นักทำให้น้ำเสียงของตนสั่นเครือ



“จับได้แล้ว” เสียงหวานพึมพำแนบชัดแผ่นหลังกว้าง ทินกรดึงมือของคนที่โอบเขาไว้ออกอย่างเบามือแล้วหันไปเผชิญหน้าอีกฝ่ายด้วยสีหน้างุนงง



“จับ? จับอะไรได้เหรอครับ?”



“จับซันได้แล้ว...” มือเรียวประคองใบหน้าของคนรักพร้อมรอยยิ้มจาง แววตาของคนอายุมากกว่ามีทั้งความอ่อนโยนและเจ็บปวดปะปนกันไป “เลิกหนีหน้าพี่ทุกครั้งที่ซันเจ็บซักทีได้มั้ย ให้พี่วิ่งตามแบบนี้มันเหนื่อยนะ”



ทินกรสะอึก ดวงเนตรคมจดจ้องใบหน้าอ่อนโยนของคนรักที่เขาเพิ่งสังเกตถึงความอ่อนล้าในแววตา



“ผม…”



“สามเดือนที่ผ่านมา ซันไม่เคยร้องไห้ให้พี่เห็นเลยนะ รู้ตัวรึเปล่า” มือเรียวไล้ไปตามโครงหน้าคมคายอย่างทะนุถนอม ราวกับเด็กหนุ่มร่างสูงตรงหน้าเป็นแก้วเจียระไนที่พร้อมจะแตกหักได้ทุกเมื่อ “ตอนนี้ไม่มีอะไรแล้ว ทุกคนปลอดภัยดี ทุกคนมีความสุขแล้ว ซัน...ร้องออกมาได้แล้วนะครับเด็กเก่ง”



คำพูดของคนที่เขาไม่คิดอยากให้เห็นน้ำตาที่สุดกลับทำให้หยาดน้ำใสพรั่งพรูออกมาจากดวงตาของเด็กหนุ่มราวกับทำนบแตก ภรัณยูอ้าแขนรอรับร่างที่โถมเข้ากอดเขาไว้แน่นอย่างเต็มใจ ปล่อยให้เสียงสะอื้นจากคนที่ซุกหน้าอยู่กับซอกคอของเขาดังข้างหูอย่างไม่คิดห้าม มือเรียวลูบผมของคนรักอย่างปลอบโยน พร่ำกระซิบคำชื่นชมให้กับเด็กหนุ่มที่กล้าหาญพอที่จะปลดปล่อยความอัดอั้นตันใจที่เก็บกักไว้ภายในตลอดสามเดือนหากไม่ใช่ทั้งชีวิตออกมาให้เขาได้รับรู้



เขาจำได้ดีว่าในวันนั้น แววตาของเด็กหนุ่มอ้อมกอดของเขาว่างเปล่าเพียงใด









“ซัน ตื่นได้แล้ว วันนี้มีประชุมเช้านะ”




ภรัณยูเขย่าปลุกชีเปลือยที่นอนแผ่ไม่อายฟ้าอายดินบนเตียง ตอนที่นาฬิกาปลุกดังเขายังหยวนให้ได้เพราะถึงอย่างไรทินกรก็ต้องรอใช้ห้องน้ำต่อจากเขา แต่หลังจากอาบน้ำแต่งตัวเสร็จแล้ว เจ้าเด็กขี้เซาบนเตียงยังคงไม่มีทีท่าว่าจะลุกขึ้นมาโดยง่าย ทั้งที่คนที่นอนหมดแรงบนเตียงควรจะเป็นเขาเสียมากกว่า


“ซัน ลุกขึ้นมาได้…อ๊ะ!”




ร่างของเขาถูกพลิกลงบนนอนแผ่หลาบนเตียงกว้างโดยมีเจ้าลูกหมายักษ์คร่อมทับ ทินกรฉีกยิ้มอวดฟันเขี้ยวที่แม้จะไม่น่ากลัวเท่าพี่ชายคนโต จากประสบการณ์ของภรัณยูยังคงแหลมคมกว่าชาวบ้านอยู่มาก



“พี่ภัทรใส่ชุดทำงานแล้วน่ารักที่สุดเลยครับ”



“ก็เห็นพูดแบบนี้ทุกชุด” มือเรียวดันหน้าของคนที่โน้มลงมาใกล้ออกไป “หยุดเลย เดี๋ยวก็ไปทำงานสายหรอก”



“ไม่สายหรอกครับ ประชุมตั้งเก้าโมง” ทินกรแย้ง


“เผื่อเวลากินข้าวกินปลาหน่อยเถอะ วันนี้ประชุมทั้งเช้าไม่ใช่เหรอ?”



“กินพี่ภัทรแทนไม่ได้เหรอครับ?” ทินกรต่อรองเสียงออดอ้อน แม้จะรู้ดีว่าคนรักไม่มีทางยอมให้ตนทำตามอำเภอใจ ยิ่งหลังอาบน้ำแต่งตัวเสร็จแล้วแบบนี้ด้วย



“ซัน ไม่ดื้อสิ ไปทำงานก่อน กลับมาค่อยว่ากัน” ภรัณยูดุคนรัก แม้ว่าคำตอบนั้นจะไม่ใช่คำปฏิเสธเสียทีเดียว ร่างสูงยิ้มร่า ผละออกจากคนใต้ร่างเพื่อไปอาบน้ำตามคำขอ แต่กลับถูกมือเรียวรั้งไว้ “เดี๋ยว…”



“ครับพี่ภั…อื้อ…”


ริมฝีปากได้รูปถูกครอบครองโดยริมฝีปากของคนรัก เด็กหนุ่มประหลาดใจได้เพียงครู่เดียวก็ตอบรับสัมผัสนั่มหยุ่นนั้นอย่างเต็มใจ เมื่อได้รับการเติมพลัง ทินกรจึงผลุบหายเข้าไปในห้องน้ำพร้อมรอยยิ้มเริงร่า



ภรัณยูมองตามร่างสูงไปจนลับสายตา รอยยิ้มเอ็นดูประดับบนริมฝีปากบาง ก่อนจะลุกไปปิ้งขนมปังชงกาแฟในครัวให้เจ้าเด็กแสบที่หากไม่ทำไว้ให้คงหิ้วท้องเข้าประชุมอีกตามเคย



ทินกรดูจะปรับตัวเข้ากับตำแหน่งประธานบริษัทชั่วคราวได้ดีทีเดียว



ความกังวลของเด็กหนุ่มก่อนหน้านี้ที่คิดว่าภาระหน้าที่ที่เพิ่มขึ้นจะทำให้พวกเขาไม่มีเวลาให้กันปลิวหายไปตั้งแต่วันแรกที่พวกเขากลับมาจากบริษัทในวันแรก ภรัณยูแทบจะฉีกทึ้งเสื้อสูทราคาแพงของคนรักที่หน้าประตูบ้านจนทินกรต้องรวบร่างโปร่งอุ้มพาดบ่าขึ้นมาบนห้องก่อนที่คนรับใช้สักคนจะบังเอิญผ่านมาเห็นสภาพล่อแหลมของพวกเขา ภรัณยูไม่อยากยอมรับ แต่มาดประธานบริษัทของคนรักทำให้ชายหนุ่ม ‘เครื่องติด’ ง่ายกว่าปกติ



การร่วมรักของพวกเขาจึงเร่าร้อน รุนแรง และทำให้ทินกรที่มักจะงอแงขอทำรอบเพิ่มฟุบลงหอบหายใจไม่ต่างจากเขา
ข้อดีคือมันทำให้เด็กหนุ่มกระตือรือร้นที่จะสวมสูทผูกไทค์ให้เขาดูในทุกๆเช้า



“ไปกันได้แล้ว”




ภรัณยูยื่นขนมปังปิ้งทาเนยถั่วแผ่นหนึ่งกับกาแฟให้คนรักแล้วหยิบส่วนของตัวเองก้าวออกไปยังรถที่จอดรออยู่ ตั้งแต่ได้ใบขับขี่มาเด็กหนุ่มแทบจะไม่ยอมให้ภรัณยูได้แตะต้องพวงมาลัยอีก พวกเขามาถึงบริษัทไม่นานหลังจากนั้น และถึงแม้ในเวลาทำงาน รักษาการประธานบริษัทจะไม่มาก่อกวนเขา ภรัณยูยังคงเลือกที่จะซื้ออาหารกลางวันขึ้นไปทานบนห้องกับอีกฝ่าย



"...มาต่อกันที่เหตุระเบิดที่โรงแรมธาราสาขาxxxกันนะคะ ขณะนี้เจ้าหน้าควบควมเพลิงไว้ได้แล้ว ยังไม่ทราบว่าสาเหตุมาจากการก่อการร้ายหรืออุบัติเหตุ ทางด้านผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตยังไม่มีรายงานตัวเลขที่ชัดเจน ทั้งนี้จุดที่ระเบิดเป็นบริเวณที่อยู่ใกล้กับงานแฟชั่นโชว์ ทำให้มีผู้คนอยู่เป็นจำนวนมาก...”



ภรัณยูรู้สึกว่าถุงใส่ข้าวกล่องในมือนั้นอ่อนแรงอย่างไร้การควบคุม ร่างโปร่งเบิกตากว้างเงยหน้ามองหน้าจอของโทรทัศน์ในโรงอาหารพนักงานท่แสดงภาพของโรงแรมหรูที่มีมีเปลวเพลิงและควันหนาจนแทบมองไม่เห็นภายใน โรงแรมที่เขาจำได้ว่าเป็นที่พักของทั้งประธานและรองประธานบริษัททรัพย์ดำรงในขณะนี้ รวมถึงเลขาคนเก่งและเพื่อนสนิทของทินกร ดวงตาสีน้ำตาลไล่กวาดมองชื่อผู้บาดเจ็บที่ขึ้นบนหน้าจออย่างเป็นกังวล แม้ว่ารายชื่อจะไม่ได้ยาวอย่างที่คิด สองคนที่ปรากฏในนั้นยังคงทำให้ภรัณยูลืมหายใจไปทั่วขณะ



‘ธีรเชษฐ์ ทรัพย์ดำรง’



‘เมฆา ทรัพย์ดำรง’



ชายหนุ่มไม่ได้สนใจว่าจะมีใครมองมาเมื่อขาเรียวสับก้าวออกไปจากโรงอาหาร มุ่งตรงไปยังห้องทำงานของรักษาการประธานบริษัทในยามนี้ด้วยความร้อนรนอย่างถึงที่สุด



เขาไม่อยากให้ทินกรต้องเผชิญหน้ากับข่าวร้ายนี้ตามลำพัง



“คุณภรัณยู เข้าไม่ได้ครับ”



ทว่าเรื่องกลับไม่ได้ง่ายดายอย่างที่เขาคิดเมื่อพนักงานรักษาความปลอดภัยสองคนก้าวมาขวางเขาไว้เสียก่อน



“ผมจะไปหาซัน”



การขัดขวางของคนทั้งสองยิ่งทำให้ภรัณยูรู้สึกร้อนใจ แต่พนักงานรักษาความปลอดภัยที่รู้จักเขาดียังไม่ยอมให้ชายหนุ่มผ่านเข้าไปโดยง่าย แม้จะไม่ได้ใช้กำลังกับเขาแต่ยังคงรั้งภรัณยูไว้ไม่ยอมให้เข้าไปในห้องทำงานของคนรักโดยง่าย



“คุณภรัณยู ท่านประธานสั่งห้ามไม่ให้คุณเข้าไปครับ”



“อะ…อะไรนะ?”


 ภรัณยูไม่อยากเชื่อสิ่งที่ได้ยิน ในขณะที่เขากำลังสับสนอยู่นั้น ประตูห้องของทินกรก็เปิดออก พร้อมกับร่างของคุณชายรองแห่งตระกูลทรัพย์ดำรงที่ก้าวออกมาด้วยสีหน้าซีดเซียว ดวงตาเรียวรีแดงก่ำ ผิดกับชายหนุ่มหน้าสวยที่เปี่ยมได้ด้วยความมั่นใจที่ภรัณยูเคยเห็น



“คุณธาร…”



“อย่าพึ่งเข้าไปจะดีกว่านะครับ” กระทั่งเสียงหวานยังสั่นเครือคล้ายผ่านการร้องไห้มาอย่างหนัก ถีงอย่างนั้นอีกฝ่ายยังคงพยายามส่งยิ้มให้กับเขา




“ทำไมล่ะครับ?” ภรัณยูถามอย่างไม่เข้าใจ



“ผู้ชายบ้านผมก็เป็นซะแบบนี้นั่นแหละครับ” ธารธาราไหวไหล่ กล่าวด้วยน้ำเสียงขบขันไม่เข้ากับสถานการณ์ “เกลียดที่สุดที่คนรักเห็นเราตอนที่อ่อนแอ ชอบแบกเรื่องหนักๆไว้คนเดียว…”




“…” ภรัณยูยังคงเหลือบมองทางประตูห้องทำงานของทินกรเป็นระยะด้วยสีหน้าวิตก ยิ่งพูดแบบนี้เขายิ่งร้อนใจที่จะเข้าไปหาทินกร



“ปล่อยเขาไว้คนเดียวสักพักเถอะครับ ถ้าซันเห็นคุณกังวลแบบนี้ จะยิ่งทำให้เขารู้สึกผิดนะครับ”



“…” ภรัณยูไม่อยากยอมรับ แต่จากนิสัยของคนรัก คงจะเป็นเช่นนั้นจริงๆ




“ผมต้องไปดูอาการ…พ่อ…กับพี่เมฆที่โรงพยาบาล ยังไงทางนี้คงต้องฝากคุณภรัณยูดูแล”



คำว่า ‘พ่อ’ ฟังดูแปร่งหูอย่างน่าประหลาดเมื่ออกมาจากปากของอีกฝ่าย ภรัณยูพยักหน้ารับคำหนักแน่น เมื่อลับร่างพี่ชายรองของคนรัก คนที่ยังคงถูกห้ามไม่ให้เข้าไปในห้องทำงานที่ทินกรขังตัวเองอยู่ในนั้นจึงตัดสินใจนั่งลงที่โต๊ะรับรองซึ่งอยู่ห่างออกไปไม่ไกล เฝ้ารอให้เด็กหนุ่มออกมาจากห้องเมื่ออีกฝ่ายพร้อมจะเผชิญหน้ากับโลกภายนอกอีกครั้ง






เวลาล่วงเลยไปจนดวงตะวันลาลับขอบฟ้า ภรัณยูที่นั่งสับปะหงกอยู่หน้าห้องผุดลุกขึ้นมาทันทีที่ได้ยินเสียงประตูห้องเปิดออกในที่สุด



“ซัน!”


“ขอโทษนะครับพี่ภัทร ให้พี่รอซะนานเลย”



ทินกรกล่าวขอโทษขอโพยพร้อมรอยยิ้มจาง นอกจากความอ่อนล้าในแววตาแล้ว ภรัณยูแทบไม่เห็นร่องรอยของเห็นการสะเทือนใจที่ร่างสูงเพิ่งประสบ ทินกรก้มลงหยิบกระเป๋าเอกสารของร่างโปร่งที่วางอยู่บนพื้นข้างกาย



“ซัน พี่…”



“ไว้ค่อยคุยกันที่บ้านดีกว่านะครับ” ทินกรตัดบทด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน เหมือนว่าคนที่ควรไก้รับการปลอบโยนคือภรัณยู ไม่ใช่ตน



ความเงียบเข้าปกคลุมรอบกายพวกเขาทั้งสอง ภรัณยูเหลือบมองเด็กหนุ่มข้างกายที่ไม่ได้พูดอะไรตั้งแต่พวกเขาออกมาจากบริษัทจนถึงคฤหาสน์ มือใหญ่กำพวงมาลัยแน่นจนข้อนิ้วขึ้นสีขาว



ภรัณยูก้าวลงมาจากรถที่ทินกรวิ่งอ้อมมาเปิดประตูให้เช่นทุกวัน ริมฝีปากเรียวเผยออ้าหมายเอื้อนเอ่ยคำถามที่ค้างคาใจ ทว่าริมฝีปากของทินกรที่ประกบทาบทับลงมาปิดกั้นคำถามนั้นไปจนหมดสิ้น



“อือ…ซัน…อื้อ… พอก่อน…” เสียงหวานปนหอบปรามคนที่เลื้อยลงมาคลอเคลียซอกคอขาวอย่างลุ่มหลง “นี่มันหน้าบ้านนะ”



“ผมอยากกอดพี่ภัทร…” เสียงแหบพร่าพึมพำ ดูดเม้มผิวกายบางอย่างหลงใหลมัวเมา



“เข้าบ้านกันก่อนนะ”



ครั้งนี้ภรัณยูไม่คิดแม้แต่จะปฏิเสธ เขารับรู้ได้จากแววตาของคนรักว่าทินกรในยามนี้โหยหาการปลอบโยนเพียงใด แม้จะไม่ใช่การแก้ปัญหาที่ถูกต้อง แต่เขายังคงอยากให้คนรักที่ผ่านเรื่องเลวร้ายมาทั้งวันไดพักผ่อนบ้าง



“อ๊ะ…ซะ…อ๊าาา ตรงนั้…ฮะ…แรงอีก…แรง…”



ทินกรเลียริมฝีปาก เสียงครางหอบกระเส่าของคนรักที่บิดเร่าอยู่ใต้ร่างของเขามานับชั่วโมงปลุกอารมณ์รักให้โหมกระพือ สะโพกสอบสวนขยับรับสะโพกงอนงามที่บทเบียดลงมาอย่างไม่คิดยอมแพ้



แต่ความสุขสมที่ได้รับจากคนรักกลับไม่อาจกลบฝังความว่างเปล่าในอกหลังจากได้รับข่าวการบาดเจ็บของพี่ชายคนโตและบิดาได้



“อ๊ะ…ซัน…!!”



ขาเรียวตวัดโอบรอบเอวสอบกระตุกเฮือกอย่างควบคุมไม่อยู่ เช่นเดียวกับร่างสูงเหนือกายขาว ทินกรฟุบลงบนร่างของคนรักอย่างอ่อนเพลีย เสียงหอบหายใจของร่างสูงยังคงดังต่อเนื่องข้างหูของภรัณยู



มือเรียวลูบกลุ่มผมนุ่มของคนรัก ประทับจุมพิตแผ่วเบาบนแก้มสาก



“ซัน เรื่องท่านประธาน…”



“พี่ภัทร ผมเหนื่อยแล้วครับ” ทินกรตัดบท น้ำเสียงของเด็กหนุ่มอ่อนล้าดังที่ตนอ้าง แม้จะไม่เต็มใจนัก ภรัณยูยังคงยอมปล่อยหัวข้อสนทนาให้เป็นเรื่องของวันต่อไปดังที่ทินกรต้องการ



ทว่าวันแล้ววันเล่า ท่านประธานจำเป็นของเขาก็ยังคงหาข้ออ้างหลบหลีกหัวข้อสนทนากับภรัณยูอยู่ร่ำไป อ้างว่าติดประชุมบ้าง อ้างว่าต้องทำรายงานส่งอาจารย์บ้าง และทุกครั้งที่คนอายุมากกว่าตื๊อถามอย่างไม่ยอมแพ้ ทินกรเพียงแค่หันมายิ้มให้เขาแล้วตอบว่า



“ครับ ผมเป็นห่วงพ่อกับพี่เมฆ แต่ตอนนี้ทุกคนต้องการผม เอาไว้ค่อยร้องไห้หลังจากที่ทุกคนมีความสุขดีแล้วก็ยังไม่สายนี่ครับ”




ด้วยความเป็นคนที่ชอบเซ้าซี้ ต่อให้ไม่เห็นด้วยกับเด็กหนุ่มเพียงใด ภรัณยูก็ยังคงเคารพการตัดสินใจของร่างสูง




เขาไม่รู้ว่านั่นเป็นครั้งที่เท่าไหร่ที่ทินกรใช้วิธีนี้ แต่ภรัณยูได้แต่หวังว่ามันจะเป็นครั้งสุดท้าย






ทินกรไม่มีทางรับรู้ได้เลยว่าเขาโล่งใจแค่ไหนที่ได้ยินเสียงร้องไห้ของอีกฝ่ายในที่สุด ร่างโปร่งโอบร่างของคนรักที่สะอึกสะอื้นจนตัวโยนไว้ในอ้อมกอดแน่น แม้ว่านี่จะไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาเห็นอีกฝ่ายร้องไห้ แต่ความอัดอั้นตันใจที่สะท้อนในเสียงสะอื้นยังคงเสียดแทงทุกอนุภาคในร่างกายของเขายังคงเป็นสิ่งที่ภรัณยูไม่มีวันคุ้นชิน



เด็กคนนี้อดทนมานานเหลือเกิน...


“ร้องออกมาเยอะๆนะครับ เด็กเก่ง” จุมพิตเบาบางประทับบนกระหม่อมของคนรัก “ต่อจากนี้ไม่ว่าจะเรื่องอะไร พี่ช่วยซันแบกรับมันไว้เอง ให้พี่ได้กอดซันไว้แบบนี้เวลาที่ซันเสียใจได้มั้ย อย่าหนีพี่ไปอีกได้มั้ย...”



“ฮึก…พะ…พี่ภัทรทำผมขี้แย....” เสียงทุ้มพึมพำปนสะอื้น ใบหน้าหล่อเหลาที่บัดนี้แดงก่ำซุกแน่นกับซอกคอของภรัณยู อับอายเกินกว่าจะให้อีกฝ่ายเห็นสภาพของตนนตอนนี้



“ไม่เห็นเป็นไรเลย...” ร่างโปร่งผละออกจากคนที่ดื้อดึงจะกอดเขาไว้เล็กน้อย ดวงเนตรเรียวรีหยีโค้งตามรอยยิ้มเมื่อเห็นคนรักทำปากยู่ราวกับเด็กน้อย อดไม่ได้ที่จะขโมยจุมพิตจากริมฝีปากยื่นๆนั้นอย่างเอ็นดู “พี่ชอบเด็กขี้แย”




“ไม่..ฮึก..ไม่จริงอ่ะ”



“พี่ชอบเด็กขี้อ้อน...”


“ไม่เชื่อ...”



“พี่ชอบเด็กที่ตามตื๊อพี่ทุกวี่ทุกวันไม่รู้จักเหนื่อย พี่ชอบเด็กดื้อที่ไม่ยอมทิ้งพี่ไปไหนเวลาโดนไล่ พี่ชอบเด็กนิสัยไม่ดีที่แกล้งพี่จนหมดแรงทุกคืน...” ริมฝีปากเรียวประกบปิดทับริมฝีปากของคนที่ยังคงมองเขาด้วยสายตาเคลือบแคลงใจ ประคองใบหน้าของทินกรให้รับจูบหวานล้ำที่ตนรู้ว่าอีกฝ่ายชื่นชอบหนักหนา “พี่ชอบเด็กที่ชื่อทินกรคนนี้ พี่รักเด็กคนนี้ที่สุดในโลกเลย รู้มั้ยครับ?”



“…ผมรักพี่ภัทรที่สุดเลยครับ!!”



ภรัณยูหลุดหัวเราะออกมาเบาๆเมื่อร่างสูงใหญ่โถมเข้าใส่จนเข้าต้องลงไปนอนแผ่หลาบนพื้น ไม่คิดปัดป้องริมฝีปากร้อนที่ตะโบมจูบตามใบหน้าและเรียวคอระหงงส์อย่างตะกละตะกลาม โอบแขนรอบลำคอหนาพร้อมรอยยิ้มกว้าง




หลังจากนี้ เขาจะไม่ยอมให้ทินกรร้องไห้คนเดียวอีกต่อไปแล้ว....


----------------





ออฟไลน์ theindiez

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 225
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-1
มีความสุขสักทีนะซันน ดีใจจกับน้องด้วย

ออฟไลน์ เก้าแต้ม

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1290
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +88/-3
ซันเข้มแข็งมาก :mew1:

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
ทุกคนแฮปปี้แล้ว~

ออฟไลน์ HISY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-3
ไม่ต้องร้องไห้คนเดียวอีกแล้วนะซัน

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3066
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
เรื่องร้ายๆผ่านไปได้สักที

ออฟไลน์ hikkie

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 85
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
ต่อไปก็น่าจะหวานชื่นแล้ว

ออฟไลน์ mypink801

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1580
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
ต่อไปต้องมีแต่หวานๆแล้วแหละะ ทุกอย่างคลี่คลาย แฮปปี้น้า

ออฟไลน์ river

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2398
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +231/-3
กีดกันคนที่รักในวันที่ทุกข๋
ไม่คิดว่าคนที่รักเขาไม่ทุกข์บ้างเหรอที่โดนกีดกัน

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
เป็นธรรมดาที่ซันจะช็อคมากกว่าใคร เพราะเรื่องในอดีตที่เกิดขึ้นซันยังเด็กอยู่มาก  :กอด1:

ออฟไลน์ AeAng11

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 528
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
ต่อไปขอให้มีความสุขทุกๆคนนะคะ

ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6
เจ้าเด็กน้อย พยายามเข้มแข็งเป็นผู้ใหญ่ได้ดี แต่ก็เป็นเด็กอ่อนแอ อ้อนพี่ภัทรได้นะ พี่เค้าชอบ

ออฟไลน์ Majariga

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 414
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
เจ้าซันเก่งมาก โตมาแบบเท่ๆเลย กอดๆ :กอด1: :กอด1:

ออฟไลน์ BABYBB

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1123
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1
เก่งมากเจ้าซันนนนนน o13

ออฟไลน์ bun

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2364
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-5
ดีขึ้นแล้วซินะซัน

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2664
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
ดีใจมากค่ะ ที่ทุกคนได้กลับมาเป็นครอบครัวแล้ว

ทุกคนร่วมมือกันเอาคืนธีรเชษฐ์ ก็สมควรแล้วล่ะ
ทำน้องเสียใจ ร้องไห้ฟรี แล้วตัวเองก็ซึมแทนจ้า

ชอบที่มีนบอก บอกให้ไปไหนก็ไป ก็จะไปที่นี่ จะทำไม
มีนน่ารักมาก น่าเอ็นดูตลอดเวลา และมีขู่ด้วยจ้า 5555

สงสารซันนะ อัดอั้นมานาน เก็บมาตลอด
ในที่สุดก็ได้ปลดปล่อยละนะ

แต่ละคน เจอความสุขของกันและกันแล้วจ้า แฮปปี้

ออฟไลน์ littlepig

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 429
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +413/-5
Epilogue: คำว่าตลอดไป


หลายเดือนผ่านไป


“สอบเสร็จแล้วว้อยยยย!!!”


ถ้าหากไม่ติดว่าจะถูกมีนาบ่นงุ้งงิ้งๆเรื่องความสะอาดของพื้นที่สาธารณะและแอบหวั่นใจอยู่พอสมควรว่าตัวเองจะต้องซ่อมวิชานี้ พายุคงจะฉีกเอกสารประกอบการเรียนโยนขึ้นฟ้าให้กลายเป็นหิมะกระดาษโปรยปรายทั่วพื้นไปแล้ว



“เสียงดังอ่ะยุ คนมองหมดแล้ว” เจนวิทย์ติง แต่เจ้าตัวก็อดยิ้มอย่างมีความสุขไม่ได้ที่วันหยุดที่รอคอยจะมาถึงเสียที



 หลังจากนี้ทั้งสองมีแผนจะไปเที่ยวต่างประเทศด้วยกันเป็นครั้งแรกตั้งแต่เริ่มคบหาดูใจกันมา ความจริงแล้วเจนวิทย์ตั้งใจจะชวนเพื่อนๆไปเที่ยวกันเป็นกลุ่ม แต่ทุกคนเมื่อถูกสายตาของพายุจ้องจนแทบทะลุเพียงแต่ยิ้มเจื่อนแล้วบอกว่าไม่ว่าง กระทั่งทินกรและมีนาที่ไม่ได้เกรงกลัวสายตาของเพื่อนสนิทยังเลือกที่จะปล่อยให้เพื่อนทั้งสองได้ฮันนีมูนกันให้สมดังใจคุณชายพายุเขา



“ก็ยุดีใจนี่ครับ จะได้อยู่กับเจนซักที”



สุนัขในปากของร่างสูงรีบกุลีกุจอมาคลอเคลียคนรักไม่ห่าง ก็เจนวิทย์เล่นไล่ตะเพิดเขาไปนอนบนโซฟสมาตั้งหลายวันในช่วงเทศกาลสอบ ทำเอาคนอารมณ์ไม่คงที่แยกเขี้ยวใส่คนรอบข้างไปทั่ว โดยเฉพาะเพื่อนสนิททั้งสองที่โดนกัดไปตั้งหลายแผลแต่ยังคงยิ้มหน้าระรื่นอยู่ได้ ไม่สิ คงต้องบอกว่าในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา โลกสีชมพูทั้งของมีนาและทินกรมีชั้นบรรยากาศหนาแน่นเสียจนไม่มีใครสามารถแทรกซึมเข้าไปในพื้นผิวโลกได้



โดยเฉพาะมีนาที่หน้าตาอิ่มเอิบหวานฉ่ำชวนให้ผู้ชายเหลียวหลังมองทั้งที่คอลายพร้อยเหมือนโดนยุงหามทั้งฝูง จนพายุต้องผลัดเวรกับทินกรตามเพื่อนตัวเล็กไปทุกที่ไม่เว้นแม้แต่เข้าห้องน้ำ



“หยุดเลย วันนี้ไปฉลองกับเพื่อนก่อน” เจนวิทย์ดันหน้าคนรักที่จู่โจมเข้ามาอย่างไม่สนใจที่สาธารณะอย่างไม่จริงจังนัก หันไปสนใจมีนากับทินกรที่เก็บข้าวเก็บของเตรียมกลับบ้านหลังจากสอบเสร็จเช่นกัน “ซันกับมีนไปด้วยกันมั้ย เพื่อนๆในกลุ่มเรานัดกันไปร้องคาราโอเกะน่ะ”



“ขอบใจมากนะเจน แต่วันนี้เรานัดกับที่บ้านไว้น่ะ” ทินกรยิ้มให้คนรักของเพื่อนสนิทอย่างสุภาพ “มี้เขาอยากฉลองที่พ่อหายดีแล้วด้วย เลยว่าจะทำอาหารเย็นกินกันที่บ้านน่ะ”



คนมีนาที่ก้มหน้าก้มตาตรวจเช็คคำตอบในชีทเรียนของตนสำลักอากาศขึ้นมากระทันหัน



“มึงนี่ก็ติดคุณมี้มึงเหมือนกันนะเนี่ย พ่อมึงไม่ว่าเหรอวะ” พายุเลิกคิ้วถาม “ไปเกาะแกะเมียเด็กเขาอ่ะ”



“เดี๋ยวนี้พ่อกล้าหือที่ไหน แค่มี้ขมวดคิ้วใส่ก็เครียดจนหงอกขึ้นแล้ว” ทินกรหัวเราะ เหลือบมองคนข้างกายที่ในตอนนี้แทบจะซุกหน้าลงไปกับชีทเรียนอยู่แล้ว “ว่างๆมากินข้าวบ้านกูดิ จะได้เห็นว่าพ่อกูกลัวมี้ทิ้งขนาดไหน”



“มีเมียเด็กก็ต้องอัพเลเวลแบบนี้ล่ะ” คนฟังเอ่ยเสียงกลั้วหัวเราะ “พูดถึงเมียเด็ก คุณเมียเด็กตอนนี้ชีวิตเป็นไงบ้าง ผัวเสี่ยมึงยังคนเดิมอยู่ป่ะ”



“อื้อ คนเดิมนั่นแหละ” มีนาพยักหน้าหงึกหงักแม้แก้มยังแดงเรื่อ ไม่รู้ว่าเป็นโชคดีหรือโชคร้ายที่เขามีเพื่อนอย่างพายุ มีนาจึงได้รู้สึกชาชินกับแต่ละคำที่อีกฝ่ายใช้



เขารู้ว่าเมื่อตัวเองเลือกที่จะเดินเคียงข้างธีรเชษฐ์ มุมมองของคนอื่นต่อความสัมพันธ์ของพวกเขาย่อมไม่ใช่สิ่งที่สวยงาม แต่ในเมื่อความรักของเขาไม่ได้ทำร้ายใคร มีนาจึงเลือกที่จะปล่อยให้ความเห็นของคนรอบกายเป็นเพียงลมผ่านหูที่เขาพยายามไม่นึกใส่ใจ



“ให้กูเดานะ มึงก็ไม่ไปเหมือนกัน อยากฉลองปิดเทอมกับผัวเสี่ยสองต่อสอง?” พายุเลิกคิ้วอย่างรู้ทัน



“เปล่าหรอก วันนี้มีทานข้าวกับครอบครัวเขาน่ะ” มีนาอมยิ้ม ทินกรเหลือบมองเพื่อนตัวเล็กข้างกายอย่างประหลาดใจ แต่ดูเหมือนว่าพายุจะยังคงเชื่อมโยงทั้งสองจุดเข้าด้วยกันไม่ได้



“แล้วมึงเข้ากับลูกเขาได้เหรอวะ มึงอายุน้อยกว่าลูกเขาอีกไม่ใช่เหรอ?” พายุขมวดคิ้ว มีนานิ่งคิด ก่อนจะพยักหน้า



“อื้อ...ครอบครัวเขาเป็นคนไม่ค่อยพูดเท่าไหร่ แต่จริงๆแล้วใจดีมากเลยนะ” เด็กหนุ่มร่างเล็กตอบยิ้มๆ “พายุไม่ต้องเป็นห่วงหรอก เราดูแลตัวเองได้”



“ตัวเท่าลูกหมา กล้าพูดนะมึง” พายุโยกศีรษะเพื่อนตัวเล็กเบาๆ ยังไม่วายเอ่ยสัมทับด้วยน้ำเสียงจริงจัง “แต่มึงรู้ใช่มั้ยว่ามึง
มาหากููได้ตลอด”



“อื้อ รู้แล้ว” มีนาเงยหน้าขึ้นยิ้มให้เพื่อนสนิท



ตลอดชีวิตที่ผ่านมา เขาไม่เคยคิดฝันว่าตัวเองจะมาได้ไกลถึงเพียงนี้ ทั้งแม่และยายของเขาได้รับการรักษาที่ดีที่สุดเท่าที่เงินจะหาซื้อได้ พวกเขาไม่ต้องนอนหนาวสั่นอยู่ในเพิงสังกะสีเล็กๆ ไม่ต้องกังวลว่ามื้อต่อไปจะมีอะไรตกถึงท้องหรือไม่
ในตอนนี้ เขามีครอบครัวที่เขารักเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งครอบครัว มีเพื่อนที่คอยดูแลปกป้องเขาอยู่เสมอ สำหรับคนในวัยเดียวกันกับเขา ทุกสิ่งทุกอย่างที่มีนามีในตอนนี้อาจถูกมองเป็นเรื่องน่าอึดอัด น่าเบื่อหน่าย ซ้ำซากจำเจ แต่เด็กหนุ่มค้นพบว่า การตื่นมาพบกับใบหน้าของคนที่รักที่นอนหลับสนิทอยู่ข้างกาย การได้เห็นรอยยิ้มของธีรเชษฐ์ในทุกๆวัน การถูกยอมรับเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวของคนรักที่ค่อยๆเปิดรับเขาทีละน้อย สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นสิ่งที่มีนาโหยหามาทั้งชีวิต และเป็นสิ่งที่ในตอนนี้เขาได้มาครอบครองในมือ



ซึ่งมีนาไม่คิดว่าเขาจะมีวันปล่อยมันไปตราบเท่าที่เขายังมีลมหายใจ



“แล้วนี่มึงกลับยังไง? รถเข้าศูนย์อยู่ไม่ใช่เหรอ?” พายุหันไปถามทินกร “ให้กูไปส่งมั้ย?”



“พ่อกูมารับ”



“เฮ้ย! จริงดิ?!” คนฟังตาลุกวาวเมื่อได้ยินดังนั้น ถึงแม้พายุจะไม่ได้สังเกต แต่มีนาสังเกตเห็นรอยยิ้มมุมปากอย่างสมใจของลูกเลี้ยงที่บ่งบอกว่าทุกอย่างกำลังดำเนินไปตามแผนการที่ตนวางไว้ “แบบนี้ต้องไปไหว้คุณพ่อซะหน่อยละ อยู่มาตั้งนานไม่เห็นเคยเจอ”



“เออ พ่อกูก็คงอยากเห็นหน้ามึงเหมือนกัน” คนเจ้าแผนการตอบยิ้มๆ



พูดไม่ทันขาดคำ รถสปอร์ตคันหรูใหม่เอี่ยมสีขาวสะอาดที่มีนาเป็นคนช่วยเลือกกับมือเลี้ยวเข้ามาจอดบริเวณที่พวกเขากำลังนั่งอยู่ ฟิล์มกระจกมืดรอบด้านที่บดบังทัศนียภาพภายในรถทำให้พวกเขามองไม่เห็นคนขับ แต่คนที่เห็นรถคันนี้เข้าออกบ้านอยู่เป็นเนืองนิตย์ทั้งสองคนรู้ดีว่าร่างสูงที่อยู่ในนั้นเป็นใคร



“พ่อกูมาละ”



เด็กทั้งสี่ลุกขึ้นจากม้านั่งเพื่อกล่าวทักทายบิดาของทินกร พายุไม่ได้สังเกตเลยว่่านอกจากเพื่อนตัวสูงแล้ว เจ้าตัวเล็กข้างกายก็เก็บกระเป๋าสะพายลุกไปกับเขาด้วย



แน่นอน เมื่อไม่เห็นการกระทำของมีนาย่อมมองไม่เห็นทินกรที่ยกมือถือขึ้นมากดอัดวีดีโออย่างแนบเนียน ประตูรถคันหรูเปิดออก พร้อมการร่างสูงใหญ่ในชุดสูทสีเข้มที่ตนไม่ได้ใส่มาระยะหนึ่งก้าวออกมา ในอ้อมกอดมีดอกกุหลาบขาวช่อใหญ่จัดห่อสวยงามผูกริบบิ้นสีเงินเรียบหรู  เพียงแค่การยกมือขึ้นเสยผมจัดทรงอย่างไม่ใส่ใจก็ทำให้สาวๆรวมถึงหนุ่มๆหลายคนที่มองมาเข่าทรุดล้มพับไปตามๆกัน



ไม่เว้นแม้แต่พายุที่เสียศูนย์ไปชั่วขณะเมื่อได้เห็นโฉมหน้าบิดาแท้ๆของทินกรเป็นครั้งแรก



“อะ…”



นิ้วมือสั่นเทาชี้ไปมาระหว่างคนทั้งสามด้วยสีหน้าสับสนที่ควรค่าแก่การบันทึกภาพเก็บไว้เป็นที่สุด ดวงตาคมเบิกกว้าง คิ้วเข้มเลิกสูงจนแทบจะหายไปในไรผม ริมฝีปากอ้ากว้างอย่างตกตะลึงจนแมลงทั้งฝูงสามารถบินเข้าปากได้อย่างง่ายดาย




“เชี่ย...” ร่างสูงชี้ไปทางทินกรที่ยิ้มกริ่มอย่างพึงพอใจในผลลัพธ์ของแผนการ



“เชี่ย...” กลับมาชี้หน้ามีนาที่กำลังกลั้นหัวเราะไว้อย่างสุดความสามารถ



“เชี่ย!!!” และสุดท้ายมาหยุดอยู่ที่ผัวเสี่ยฝรั่งของมีนาที่เลิกคิ้วมองเขาด้วยแววตาขบขันอย่างไม่ปิดบัง



“พ่อครับ นี่พายุเพื่อนผม” ทินกรแนะนำ ก่อนจะหันไปหาพายุที่ยังคงนิ่งค้างอยู่กับที่อย่างสับสน “ไอ้ยุ นี่พ่อกู ส่วนนี่...”
เด็กหนุ่มโอบเพื่อนตัวเล็กเข้ามาในอ้อมกอดพร้อมรอยยิ้มกว้าง



“...มี้กู แม่มีน”


“พอ ไอ้เด็กลามปาม” ธีรเชษฐ์รีบดึงคนรักออกมาจากอ้อมกอดของลูกชายคนเล็กด้วยสายตาไม่เป็นมิตร ยื่นดอกไม้ช่อโตนั้นให้มีนา ตอนที่ร่างสูงถึงก็ดูช่อใหญ่มากแล้ว เมื่ออยู่ในอ้อมกอดของเด็กหนุ่มนั้นมีนาแทบจะจมหายไปในช่อดอกไม้ เด็กหนุ่มไล้นิ้วไปตามกลีบดอกสีขาวบริสุทธิ์อย่างชื่นชม ก่อนจะช้อนตาขึ้นมองคนรักด้วยสายตาเป็นกังวล



“คุณเชษฐ์...ผมว่ามันแพงไปนะครับ...”



“โอกาสพิเศษน่า ฉันไม่ได้ซื้อดอกไม้ให้เธอทุกวันซักหน่อย” ธีรเชษฐ์แย้ง



ใช่ อีกฝ่ายไม่ได้ซื้อดอกไม้ให้เขาทุกวัน แต่ของขวัญอย่างอื่นไม่ว่าจะเป็นวัตถุสิ่งของหรือการกระทำเล็กๆที่อีกฝ่ายตั้งใจทำให้เขาในแต่ละวันนั้นก็มากพอที่จะทำให้เด็กหนุ่มได้รับความรักอย่างท่วมท้นจนแทบจะจมหายลงไปในความรักของอีก
ฝ่าย



แต่ก็นะ ใช่ว่ามันจะเป็นเรื่องไม่ดีเสียเมื่อไหร่



“ขอบคุณนะครับ แต่วันหลังขอเป็นของกินได้มั้ยครับ” จริงอยู่ที่เขาชอบดอกไม้ของธีรเชษฐ์มาก แต่มีนายังคงรู้สึกเสียดายทุกครั้งที่ได้รับของราคาแพงจากธีรเชษฐ์ที่เขาจำเป็นจะต้องทิ้งไม่กี่วันให้หลัง อย่างน้อยได้อิ่มท้องก็ยังดี



“ขนมอยู่ท้ายรถ” ร่างสูงโอบคนรักเข้ามาแนบชิด ก้มลงขโมยหอมฟอดใหญ่จากแก้มนิ่ม หากไม่ติดว่าเป็นสถานศึกษาเขาคงทำมากกว่านี้ไปแล้ว ใครใช้ให้เด็กน้อยของเขาน่ากอดน่าฟัดทุกวินาทีแบบนี้ล่ะ



“อื้อ คุณเชษฐ์ อายเขาครับ”



ถึงจะพูดอย่างนั้นแต่ใจจริงแล้วมีนาก็อดอืดอกเล็กๆอย่างภูมิใจในตัวคนรักไม่ได้เมื่อเห็นสายตาของคนรอบข้างที่มองคุณเชษฐ์ของเขาราวกับเทพบุตรมาจุติ ร่างเล็กก้มหน้างุดซ่อนความเขินอายในช่อดอกไม้ใหญ่ เรียกหอมฟอดใหญ่จากอีกฝ่ายไปได้อีกหนึ่งฟอด



“เอ่อ มีน…มาดูพายุหน่อยสิ…”



สองคนที่สวีทกันไม่สนใจโลกก่อนนี้หันมาตามเสียงเรียกของทินกร พายุที่ยังคงอ้าปากค้างมองทพวกเขาไม่วางตามีท่าทีเหมือนจะเป็นลมล้มพับลงไปได้ทุกเมื่อ



“นี่เหรอพายุ…” ธีรเชษฐ์เอียงคอมองเด็กหนุ่มผิวเข้มด้วยสีหน้าสนใจ “ก็ไม่เห็นจะหล่อเท่าไหร่นี่”



“ไม่หล่อก็เตะปี๊บดังกว่าลุงแล้วกัน” ต่อให้ตะลึงตาค้างแค่ไหน สุนัขในปากของพายุก็ยังคงทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพไม่ขาดตกบกพร่อง คิ้วเข้มของคนที่ถูกเรียกว่าลุงกระตุกกึก มีนารู้สึกเหมือนสายฟ้าฟาดเปรี๊ยะรักว่างดวงตาของคนทั้งสอง



“งั้นเหรอ…” ร่างเล็กที่ภาวนาให้คนทั้งสองไม่ลากตัวเองเข้าไปในวงตะลุมบอนด้วยถอนหายใจเมื่อคางเรียวถูกคนรักเชยขึ้นให้สบตา “เพื่อนเธอว่ามาแบบนี้ สงสัยฉันคงต้องทำรอบให้มากกว่านี้แล้วสิ”



“พะ…พอแล้วครับคุณเชษฐ์ แค่นี้ก็…” มีนากัดริมฝีปาก ดวงหน้าขาวแดงเรื่อ ไม่กล้าสบตาเพื่อนทั้งสองของตน “กลับกันเถอะครับ คนอื่นคงรอแย่แล้ว”



“นั่นสินะ” ธีรเชษฐ์เห็นดีเห็นงามกับคนรัก ซึ่งดูจะเป็นสิ่งเดียวที่ชายหนุ่มทำตั้งแต่มีนาเดินกลับมาในชีวิตของตน ร่างสูงเหลือบมองเพื่อนของคนรักและลูกชาย ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงจัง



“ขอบใจนะ ที่ช่วยดูแลมีนมาตลอด”



“ลุงก็อย่าทำมันเสียใจแล้วกัน ผมรู้ที่อยู่บ้านลุงนะ” พายุขู่ด้วยสีหน้าจริงจังไม่แพ้กัน



ธีรเชษฐ์ก้มมองร่างในอ้อมกอดพร้อมรอยยิ้ม เช่นเดียวกับมีนาที่เงยหน้ามองคนรักด้วยหัวใจในแววตา



“ไม่ทำแล้วล่ะ ทั้งชีวิตนี้ จะไม่ทำอีกแล้ว”







เสียงโหวกเหวกโวยวายเป็นภาษารัสเซียเรียกสีหน้าประหลาดใจจากคนที่เพิ่งกลับมาได้เป็นอย่างดี ภาพที่เห็นหลังจากเปิดประตูบ้านเข้ามานั้นก็ไม่ได้ช่วยอธิบายสถานการณ์เท่าไหร่นัก



เมฆาในชุดสียืดกางเกงขาสั้นตัวใหญ่คำรามเมื่อถูกน้องชายคนรองกระโดดล็อกคอ ขาเรียวตวัดเกาะพี่ชายไว้จากด้านหลัง ขยี้ผมที่มักจะถูกจัดทรงเป็นระเบียบอยู่ตลอดของรองประธานทรัพย์ดำรง เสียงสบถดังลั่นของคนเสียงดังทั้งสองทำให้มีนาก้าวหลบหลังคนรักโดยไม่รู้ตัว ร่างเล็กเงยหน้ามองทินกรอย่างขอความช่วยเหลือ แต่ลูกคนสุดท้องของบ้านเพียงแต่พยักหน้าหงึกหงักอย่างเห็นด้วยกับอะไรก็ตามที่พี่ใหญ่ของบ้านกำลังเถียงคนที่ล็อคคอตัวเองไว้จนแทบขาดอากาศกายใจตอนนี้



“ลูกใครวะ”



คนเป็นพ่อนวดขมับอย่างปวดหัวกับลูกชายทั้งสาม ก้าวไปดึงเอาลูกคนรองที่ตัวเล็กที่สุดออกมาจากพี่คนโต ธารธาราเกาะผู้เป็นบิดาไว้แน่น แลบลิ้นใส่พี่ชายของตนราวกับเด็กน้อยเอาแต่ใจ



“เขาทะเลาะอะไรกันเหรอซัน”




“พี่เมฆเอาขนมพี่อุ่นไปซ่อน บอกว่าพี่อุ่นกินหวานไปแล้ว” ทินกรหันมาอธิบาย “ก็จริงนะ แต่เป็นเราเราไม่กล้าหรอก เดี๋ยวพี่อุ่นงับหัว”



มีนากระพริบตาปริบๆกับคำตอบที่ได้รับ หันไปมองธารธาราที่ปกติแล้วติดพี่ชายมากกว่าบิดายังคงกอดธีรเชษฐ์กลม ไม่สนใจเมฆาที่พยายามง้อตนอย่างเงอะๆงะๆสักนิด



แม้จะรู้ดีว่าเป็นสิ่งคิดไปเอง แต่บางครั้งมีนาก็อดรู้สึกว่าตัวเองเป็นส่วนเกินในครอบครัวสุขสันต์ที่เพิ่งประกอบติดรอยร้าวในอดีตได้สำเร็จไม่ได้



“น่า เดี๋ยวพ่อให้มีนทำไข่เจียวให้ ไม่งอแงนะ…ธาร! อย่ากัดเมฆ!” ธีรเชษฐ์คว้าตัวลูกชายคนรองที่ทำท่าจะงับมือของคนพี่ ซึ่งเห็นได้ชัดว่าจงใจแหย่ นึกโอดครวญกับฟ้าดินว่าตนแก่เกินไปสำหรับเรื่องแบบนี้แล้วจริงๆสินะ



ธารธาราสงบลงเล็กน้อยเมื่อได้ยินดังนั้น ยังคงมองพี่ชายของตนด้วยสายตาคาดโทษ ส่วนธีรเชษฐ์เพียงแต่หันมายิ้มให้คนรักด้วยสีหน้าขอโทษขอโพยกับควาาวุ่นวาย



ไม่ได้รับรู้ว่าท่าทีของพวกเขาเมื่อครู่ช่วยให้ก้อนเนื้อในอกพองมีนาพองโตขึ้นมาอย่างตื้นตันเพียงใด



“ครับ ผมจะไปทำให้เดี๋ยวนี้เลย”



“…ไม่ต้องรีบก็ได้” ธารธารางึมงำ ซุกหน้าเข้ากับอกของบิดาคล้ายเพิ่งรู้สึกตัวว่าการอาละวาดเป็นเด็กน้อยของพวกตนเมื่อครู่อยู่ในสายตาของแม่เลี้ยงคนใหม่ของตน



“อ้าวมีน มาแล้วเหรอ? พี่ฝากตำพริกแกงหน่อยสิ ให้แทนทำทีไรเผ็ดจนไฟออกปากทุกที” มธุวันชะโงกหน้าออกมาจากครัวเมื่อได้ยินเสียงของคนรักของเจ้านาย หรือหากจะเรียกให้ถูกต้องกว่านั้นคงต้องพูดว่าเป็นแม่เลี้ยงของสามีของตน



“โธ่ พี่หมอกครับ ไม่เผ็ดก็ไม่ใช่แกงเผ็ดสิครับ” เสียงคนรักของธารธาราแย้งขึ้นดังลอดออกมาจากในครัว เช่นเดียวกับเสียงเบาของภรัณยูที่เอ่ยแทรกขึ้นมาอย่างกล้าๆกลัวๆ



“เอ่อ…คุณหมอกครับ ผมว่าไฟมัน…”



“เฮ้ย!”




“จะมีซักวันมั้ยที่พากันเข้าครัวแล้วครัวไม่ไหม้น่ะ” ธีรเชษฐ์ถอนหายใจ




ครอบครัวใหญ่ที่แสนวุ่นวาย บ้านที่เคยเงียบเหงาเต็มไปด้วยเสียงโหวกเหวกโวยวายและกลิ่นไหม้คละคลุ้งในอากาศ อาหารเย็นที่เคยเป็นเมนูแนะนำในภัตราคารหรูชื่อดัง ในวันนี้ปรุงจากฝีมือคนรักของเขาและลูกชายทั้งสามที่กำลังมะรุมมะตุ้มกันอยู่ในครัว และธีรเชษฐ์รู้ดีว่าพวกเขาเลือกอาหารเย็นแบบไหนมากกว่ากัน



เหล่าสมาคมพ่อบ้านที่ถูกแบนจากห้องครัวและธารธาราที่ดูจะสนุกสนานกับการปล่อยให้คนรักผันตัวไปเป็นนางทาสในครัวช่วยกันจัดจานอาหารบนโต๊ะอย่างขะมักเขม้น ถึงท้องจะร้องโครกครากประท้วงอย่างรุนแรงก็ทำได้เพียงสงบเสงี่ยมเจียมตนรออาหารเย็นนที่เปี่ยมไปด้วย’ความรักและความใส่ใจอย่างเปี่ยมล้น’ ตามที่เลขาของเขาเคยนิยามไว้ เรียกได้ว่าหากใครบังอาจแกะลูกอมกินรอแก้หิวมีโทษถึงไล่ออกไปนอนในโรงรถได้เลยทีเดียว



“มาแล้วคร้าบบบ”



แทนไทยในชุดผ้ากันเปื้อนสีสันสดใสเป็นคนนำทัพออกมาพร้อมกับผัดปลาสามรสส่งกลิ่นหอมยั่วน้ำลาย คนในครัวเริ่มทยอยกันออกมาพร้อมกับจานอาหารในมือ ทินกรรีบกุลีกุจอมาช่วยคนรักถือถ้วยยำวุ้นเส้นเช่นเดียวกับเมฆาที่รีบรับหม้อแกงเผ็ดเป็ดย่างมาจากมธุวัน ธีรเชษฐ์สั่นศีรษะอย่างขบขัน ก่อนจะสังเกตว่าคนรักของตัวเองเป็นคนสุดท้ายที่ยังคงอยู่ในครัว จึงผละจากโต๊ะทานอาหารเข้าไปในครัวที่ยังได้ยินเสียงน้ำมันร้อนฉ่ากระเด็นจากกระทะเป็นระยะ คนรักตัวเล็กของเขายังคงง่วนอยู่หน้าเตาทั้งที่ข้างกายมีจานไข่เจียวสีเหลืองอร่ามดูฟูกรอบน่าทานวางอยู่แล้ว



“ทำอะไรอยู่”



“ทำไข่เจียวให้คุณธารครับ เขาชอบไข่เจียวนุ่มๆ ใส่นมข้นจืดเยอะๆ” มีนาอธิบายทั้งที่ยังคงง่วนอยู่กับไข่ในกระทะ ธีรเชษฐ์มองภาพตรงหน้าด้วยแแววตาอ่อนโยน ความสัมพันธ์ของธารธารากับมีนาแม้ห่างไกลจากคำว่าครอบครัวยังคงเรียกได้ว่าญาติดีกันแล้ว ซึ่งสาเหตุนั้นมาจากเสน่ห์ปลายจวักของคนรักของเขาที่ทำให้คนเรื่องมากเรื่องไข่เจียวอย่างธารธาราติดใจได้ในคำแรกที่รับประทาน



ถ้าหากรู้ว่าจะง่ายขนาดนี้เขาคงให้มีนทำไข่เจียวสักสิบฟองไปเซ่นไหว้ลูกชายคนรองเขาเสียตั้งแต่แรกคงหมดเรื่อง



“จริงสิ เมื่อวานเห็นมีแจ้งเข้ามาว่าเธอรูดบัตรร้านปากกาไป ปกติฉันไม่เคยเห็นเธอซื้อปากกาแพงๆแบบนั้นเลย ซื้อไปให้ใครเหรอ?” มือใหญ่วางบนแผ่นหลังเหนือสะโพกกลมของคนรัก แม้จะอยากดึงอีกฝ่ายเข้ามากอดไว้แน่นๆให้สมกับที่ไม่ได้เจอกันตลอดทั้งวันแต่เขาไม่ไว้ใจกระทะน้ำมันร้อนฉ่าตรงหน้ามีนาเท่าไหร่นัก



ความจริงแล้วบัตรเครดิตที่ธีรเชษฐ์ให้มีนาเป็นสิทธิ์ของร่างบางโดยชอบธรรม เขาไว้ใจคนรักให้จัดการกับรายจ่ายในชีวิตประจำวันมากพอที่จะไม่ก้าวก่าย แต่มีนายืนกรานที่จะให้เขารับรู้ว่าเงินของเขาหายไปกับอะไรบ้าง



“พี่ภีมน่ะครับ เขาอุตส่าห์ช่วยผมมาตั้งหลายเรื่อง เลยซื้อไปขอบคุณซักหน่อย”มีนาอธิบาย



 ภีม หรือ ภวัต เป็นนักศึกษาปีสามภาควิชากายภาพบำบัดที่มีนารู้จักโดยบังเอิญผ่านกิจกรรมมหาวิทยาลัย ชายหนุ่มร่างโปร่งผิวสีน้ำผึ้งที่คเชนทร์มักจะเห็นมีนาอยู่ด้วยบ่อยครั้งในช่วงที่ธีรเชษฐ์รักษาตัวอยู่ต่างจังหวัด คนรักของเขามักจะนเำรื่องอาการของธีรเชษฐ์ไปปรึกษาอีกฝ่าย ขอคำแนะนำในการดูแลเขาบ่อยครั้งจนทำให้เพื่อนสนิทของธีรเชษฐ์เข้าใจผิด



 หากเป็นเมื่อก่อน เขาคงหึงหวงจนแทบบ้าแค่ได้ยินชื่อผู้ชายคนอื่นออกมาจากปากของคนรัก แต่หลังจากทุกสิ่งทุกอย่างที่พวกเขาผ่านมาด้วยกันเขาเพียงแค่อยากให้ทุกวันของพวกเขามีเพียงความรักและความเชื่อใจอย่างที่เด็กคนนี้มีให้เขามาโดยตลอด



“แล้วไป แต่อย่าซื้อของขวัญให้ผู้ชายคนอื่นบ่อยนักก็แล้วกัน ฉันหึงนะรู้มั้ย” เสียงทุ้มกระซิบข้างหูทีเล่นทีจริง พวงแก้มใสซับสีเรื่อพร้อมรอยยิ้มเขินอาย มีนาปิดเตาแก๊สแล้วตักไข่เจียวออกมาจากกระทะ



“ไม่ต้องห่วงหรอกครับ เจ้านายพี่ภีมน่ากลัวจะตาย”



“เจ้านาย?” ร่างสูงขมวดคิ้ว เขานึกว่าเด็กคนนั้นเป็นนักศึกษาเสียอีก



“ครับ บ้านพี่ภีมทำงานให้บ้านเจ้าสัววิสุทธรากร คุณเชษฐ์รู้จักมั้ยครับ?”



“อืม เคยร่วมงานกันอยู่บ้าง” ร่างสูงพยักหน้าครุ่นคิด แม้จะไม่ได้สนิทชิดเชื้อกันเกินผู้ร่วมลงทุนธุรกิจต่างๆ ธีรเชษฐ์ยังคงนับถือท่านเจ้าสัวเหมือนญาติผู้ใหญ่คนหนึ่ง


จะว่าไป ก่อนหน้านี้ไม่นาน ก็มีเด็กแปลกๆคนหนึ่งมาเจรจาของซื้อหุ้นวิสุทธากรทั้งหมดที่ตระกูลทรัพย์ดำรงถืออยู่ แถมข้อเสนอยังใจดีเสียจนน่าสงสัย แต่คนที่รับเรื่องไว้ในช่วงนั้นคือทินกร ทำให้ลูกชายของเขาที่ไม่ค่อยไว้ใจข้อเสนอประหลาดนั้นปฏิเสธไป



“พี่ภีมเป็นคนรับใช้ส่วนตัวของลูกชายคนโตของท่านเจ้าสัวครับ” มีนากล่าวต่อด้วยสีหน้าไม่เข้าใจนัก “ผมก็ไม่มั่นใจว่าทำไม แต่คุณนคินทร์คนนั้นชอบมานั่งรอพี่ภีมคุยกับผมตลอดเลย ทั้งที่ตัวเองเรียนวิทยาเขตอินเตอร์แท้ๆ แถมจ้องผมเหมือนจะจับไปโยนทะเลด้วย เป็นเจ้านายที่น่ากลัวมากๆเลยครับ”



อา…



ธีรเชษฐ์อ้าปากหมายอธิบาย ก่อนจะตัดสินใจว่าเรื่องบางเรื่องควรให้มีนาได้ลองสังเกตเองบ้างคงสนุกกว่า



“ดีแล่ว คนน่ากลัวแบบนั้นอยู่ให้ห่างๆจะดีกว่า” สิ่งที่ธีรเชษฐ์พอจะจำได้เกี่ยวกับลูกชายคนโตของท่านเจ้าสัวคือความหล่อ
เหลามาดคุณชายสไตล์ผู้ดีเก่าของเด็กคนนั้น ตัวอันตรายประเภทนั้นกันมีนาไว้ให้ห่างน่าจะดีกว่า



มีนาพยักหงึกหงักอย่างว่าง่าย ยื่นจานไข่เจียวจานนั้นให้ธีรเชษฐ์แล้วหันไปหยิบจานที่วางอยู่ก่อนหน้า ด้วยกลัวว่าหากชักช้าไปกว่านี้อาจจะโดนลูกชายคนรองของบ้านงับหัวไม่ต่างจากที่เมฆาโดนไปเมื่อครู่



ธีรเชษฐ์นั่งลงข้างคนรัก ตักอาหารใส่จานของมีนาขณะที่รอบกายของพวกเขา บทสนทนาระหว่างลูกชายทั้งสามกับคนรักยังคงดังอยู่เรื่อยๆ โดยเฉพาะทินกรที่ดูเหมือนเพิ่งกระดกกาแฟหมดไปทั้งถังทุกครั้งที่พวกเขามารวมตัวกันอย่างในวันนี้



“พี่ภัทรๆ ปิดเทอมเราไปเที่ยวต่างประเทศกันบ้างมั้ยครับ ผมเห็นไอ้ยุไปกับแฟน…”



“เอาสิ พี่ยังเหลือวันหยุดอยู่…”



“แทน พี่ก็อยากไปอ่ะ”



“เอาสิครับพี่อุ่น ถ้ารีบจองตั๋วน่าจะทัน…”



“ไปกับพี่กับเมฆมั้ย พวกพี่จะไปญี่ปุ่นกัน”



“หมอก! ไหนว่าเราจะไปฮันนีมูนกันไงครับ”



“ก็ฮันนีมูนไง แค่ให้น้องติดไปด้วยเอง เครื่องบินส่วนตัวสะดวกกว่าเครื่องบินพาณิชย์ตั้งเยอะ”



“แต่ถ้าอย่างนั้นเมฆก็อดทำ…”


“ทะลึ่ง!”



“ถ้าไปกันหมดบ้านแบบนี้ พาพ่อไปด้วยดีมั้ยครับจะได้มีคนจ่าย…พ่อครับ? พ่อ?” ธีรเชษฐ์ที่เหม่อมองภาพครอบครัวสุขสันต์ล้อมรอบโต๊ะอาหารตรงหน้าสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อมีนาสะกิดเขาเบาๆที่ต้นแขน ร่างสูงเห็นทินกรที่มองมาทางเขาอย่างรอคอยคำตอบ เช่นเดียวกับคนอื่นๆที่มองมาทางเขาเป็นตาเดียว



“…อืม ไปสิ”


“เย้! Family trip!”



 เจ้าลูกคนเล็กที่โตจนบริหารบริษัทเองได้แล้วกระโดดโลดเต้นอย่างดีใจในเก้าอี้ของตัวเอง คราวนี้ไม่มีใครคิดจะห้ามปราม รอยยิ้มสว่างไสวดุจดวงตะวันที่ออกมาจากก้นบึ้งของจิตใจของเด็กหนุ่มเป็นสิ่งที่พวกเขาไม่ได้เห็นบ่อยนัก รอยยิ้มที่ทำให้
คนมองต้องขยับยิ้มตามอย่างห้ามตัวเองไม่ได้



นั่นสินะ พวกเขาไม่ได้ไปเที่ยวกันเป็นครอบครัวมานานแค่ไหนแล้วนะ



 “พี่เมฆๆ ผมอยากไปดูภูเขาฟูจิ~”



“พี่เมฆๆ อุ่นอยากไปโอซาก้าอ่ะ”


“ไม่ได้ หมอกเขาอยากไปฮอกไกโด”



อา…เขาพอจะจำได้แล้วว่าทำไมพวกเขาถึงไม่ค่อยได้ไปเที่ยวกันบ่อยนัก




------------------

ออฟไลน์ littlepig

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 429
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +413/-5


“เฮ้อ…เหนื่อย”



ร่างสูงที่ใช้แรงไปกับการล้างจานกองโตแทบจะฟุบลงกับเตียงทันทีที่ออกมาจากห้องน้ำ มีนาที่นอนอ่านหนังสือนิยายจาก
หนังสือกองโตที่คนรักซื้อให้รออยู่บนเตียงยิ้ม ปิดหนังสือแล้วขยับเข้าไปใกล้ร่างสูงในกางเกงนอนผ้าลื่น โอบแขนรอบเอวสอบพร้อมเกยคางบนไหล่กว้าง



“ก็บอกแล้วว่าผมล้างเองไงครับ”



“ได้ไงล่ะ แบบนี้เธอก็ทำงานอยู่คนเดียวน่ะสิ ฉันบอกว่าให้เก็บไว้ให้เด็กมาล้างก็ไม่ยอม” ร่างสูงบ่น พลิกกายกลับมานอนหงายแล้วรวบเอาร่างเล็กเข้ามาในอ้อมกอด จมูกโด่งคลอเคลียจมูกเล็กอย่างรักใคร่ “เธอกับเรื่องจัดของให้เรียบร้อยนี่มันยังไงนะ”



“ก็ผมไม่ชอบนี่ครับ” เด็กหนุ่มตอบงึมงำ “คุณเชษฐ์รำคาญผมเหรอครับ?”



“คิดว่าฉันกล้าเหรอ” ร่างสูงยิ้มขำ มือใหญ่ลูบศีรษะกลมอย่างเอ็นดู “เอาสิ ถ้าเธอไม่ชอบให้มีจานเลอะในอ่าง ฉันก็จะช่วยล้าง ถ้าเธอไม่อยากให้มีผ้ากระจายเต็มพื้น ฉันก็จะช่วยเก็บ ถ้าเธอไม่อยากให้บ้านรก ฉันก็จะช่วยกวาด ขอแค่เธอมีความสุข จะให้ฉันทำอะไรก็ได้ทั้งนั้น”



“แล้วคุณเชษฐ์รู้มั้ยครับ ว่าผมมีความสุขที่สุดตอนไหน”



ดวงแก้วกลมโตสุกใสสบกับดวงเนตรคม มีนาเกยคางกับแผงอกแกร่งพร้อมรอยยิ้มกว้าง



“แล้ว…คุณเชษฐ์รู้มั้ยครับว่าผมมีความสุขที่สุดตอนไหน?”



ร่างสูงเลิกคิ้ว รอให้อีกฝ่ายเฉลยคำถามนั้นด้วยตัวเองแม้จะพอรู้ว่าคำตอบของมีนาคืออะไร



“ผมมีความสุข…” ริมฝีปากนิ่มประทับลงบนแผ่นอกเปลือยเปล่าของคนรัก “เวลาที่คุณเชษฐ์มีความสุข”


“ถ้าอย่างนั้น…” ริมฝีปากได้รูปขยับยิ้มมุมปาก มีนาสะดุ้งเมื่อมือใหญ่ซุกซนเลื้อยลงมาตามแผ่นหลังขาวมาหยุดอยู่ที่ก้อนเนื้อกลมนิ่มใต้กางเกงนอนตัวบาง “ฉันก็พอจะรู้แล้วล่ะว่าจะทำให้เธอมีความสุขยังไง”



“ไหนว่าเหนื่อยไงครับ…” ถึงจะพูดอย่างนั้น บั้นท้ายกลมกลึงกลับขยับบดเบียดมือใหญ่ให้ขยำความนุ่มนิ่มในมืออย่างมันเขี้ยว “ไม่นอนแล้วเหรอครับ”



“หืม อยากให้ฉันนอนจริงเหรอ?” ร่างสูงเย้า มีนาก้มหน้าอย่างขัดเขิน ผิดกับร่างกายที่ให้ความร่วมมือกับคนรักที่ดึงรั้งขอบกางเกงของตนลงเป็นอย่างดี



“ผมอยากให้คุณเชษฐ์พักผ่อน…แต่ผมก็อยากให้คุณเชษฐ์มีความสุข”



มือเรียวเล็กเคลื่อนลงมาเกี่ยวที่ขอบกางเกงของคนรักเช่นกัน หลายเดือนที่ผ่านมานี้ เด็กน้อยของเขาเติบโตขึ้นจากเด็กขี้อายในวันวานอยู่มาก แน่นอนว่าริ้วสีแดงเรื่อที่พาดผ่านพวงแก้มใสจะยังคงไม่จางหายไปโดยง่าย แต่มีนาเรียนรู้ที่จะร้องขอและไขว่คว้าในสิ่งที่ตนต้องการ ซึ่งนั่นยิ่งทำให้ธีรเชษฐ์รู้สึกว่าตัวเองหลงอีกฝ่ายจนโงหัวไม่ขึ้นมากขึ้นทุกวัน



“อึก…มีน…”



“เพราะฉะนั้น วันนี้ให้ผมดูแลคุณเชษฐ์นะครับ”



คำขอแสนน่ารักที่มาพร้อมกับมือเรียวที่นวดคลึงตัวตนของเขาอย่างเอาอกเอาใจไม่เปิดช่องว่างให้ร่างสูงปฎิเสธ ธีรเชษฐ์พยักหน้า ปล่อยให้เด็กน้อยของตนทำตามอำเภอใจโดยไม่คิดขัดขวาง



ก็เขาเป็นผู้ชายของมีนานี่นะ



“อื้อ…”  มีนากัดริมฝีปาก ผ่อนลมหายใจเมื่อร่างเล็กหย่อนกายลงกลืนกินตัวตนของร่างสูงทีละน้อย ความอ่อนนุ่มที่แม้ยังคงโอบรัดธีรเชษฐ์ไว้ยังคงสังเกตได้ว่ามีการเตรียมพร้อมมาระดับหนึ่ง ร่างสูงยักคิ้วให้เด็กหนุ่มอย่างรู้สึก ก่อนจะถูกลงโทษโดยความอุ่นร้อนที่ตอดรัดตัวตนของเขาอย่างไม่ปราณีตั้งแต่เริ่ม



“อ๊ะ…อะ…คะ…คุณเชษฐ์…อ๊ะ…” นิ้วเรียวเล็กสอดประสานกับมือใหญ่เป็นเครื่องพยุงในร่างที่ขยับโยกบนตักของเขาเคลื่อนไหวได้สะดวกขึ้น ธีรเชษฐ์กัดฟันกรอด พยายามลืมตามองผ่านม่านหมอกราคะไปยังตัวตนที่ร่อนสะโพกบดเบียดเสียดสีเร้าจังหวะรัก ดวงเนตรกลมโตหวานฉ่ำด้วยความสุขสม ชายหนุ่มดึงร่างเล็กเข้ามาแนบอก ขยับสวนจังหวะยั่วเย้าของคนรักอย่างอดรนทนไม่ไหว เสียงหวานกระเส่าที่หอบครางข้างหูมีแต่จะทำให้คนฟังขยับสาวสะโพกสอบกระแทกกระทั้นจนร่างในอ้อมกอดของเขาโยกคลอนราวตุ๊กตาตัวหนึ่ง



“อ๊ะ…คุณเชษฐ์…อ๊ะ…จะ…ไม่ไหว…ลึก…อื้ม…”



“ไม่ชอบเหรอครับ…”



ลิ้นร้อนตวัดเลียตามซอกคอขาวขึ้นมาบรรจบกับริมฝีปากที่เผยออ้าส่งเสียงครางหวานอย่างสุขสม มีนาส่งเสียงในลำคอคล้ายพยายามตอบคำถามนั้น ก่อนจะตัดใจยอมแพ้แล้วเกี่ยวกระหวัดลิ้นเล็กพัวพันตอบรับแทนคำตอบ



สะโพกกลมกลึงบดสอดประสานรับจังหวะรักของร่างแกร่งข้างใต้ ทั้งที่บอกว่าจะดูแล แต่ในความเป็นจริงแล้วคนที่ทำงานหนักที่สุดยังคงเป็นร่างสูงที่เพิ่งบ่นว่าเหนื่อยก่อนหน้านี้



ร่างทั้งสองสอดประสานหลอมรวมเป็นหนึ่งในที่สุด ร่างเล็กฟุบลงบนแผงอกแกร่งอย่างหมดแรง หอบหายใจทั้งที่ช่องทางอ่อนนุ่มยังคงตอดรัดตัวตนของอีกฝ่ายอย่างอ้อยอิ่ง ความรู้สึกอ่อนวาบภายในร่างที่ควรจะทำให้เขารู้สึกไม่สบายตัวกลับทำให้มีนาหลับตาพริ้มผ่อนลมหายใจอย่างมาอย่างมีความสุข



“อาบน้ำอีกรอบไหวมั้ย หรือให้ฉันเช็ดตัวให้” ธีรเชษฐ์กระซิบถามคนรักความสะอาดบนตัวของเขา



มีนานิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะส่ายหน้าเบาๆ



“ผม…ขออยู่แบบนี้สักพักได้มั้ยครับ…”



เด็กหนุ่มแนบใบหน้าลงกับแผ่นอกกว้างของคนรัก ฟังเสียงหัวใจของธีรเชษฐ์ที่เต้นตุบกระทบหูเป็นจังหวะ เช่นเดียวกับความอุ่นร้อนภายในร่างของเขาที่แม้จะสงบลงบ้างแล้วยังคงประกาศตนเด่นชัดยากจะเมินเฉย



 เขาอยากรู้สึกถึงตัวตนของอีกฝ่าย อยากได้เครื่องยืนยันว่าอีกฝ่ายยังอยู่ตรงนี้กับเขา…



มีนาขมวดคิ้วเมื่อรู้สึกถึงการขยับของร่างข้างใต้ แม้เนิบช้าไม่เร่งร้อนกลับปลุกเร้าร่างที่ไวต่อสัมผัสจากกิจกรรมที่เพิ่งจบไปได้เป็นอย่างดี



“คุณเชษฐ์…อะ…ทะ…ทำอะไรครั…อ๊ะ…!”



“กล่อมเธอนอนไง…” มือใหญ่ขยำแหวกก้อนเนื้อกลมกลึงให้สัมผัสนาบชิดย้ำลึกจนมีนาต้องเกาะยึดบ่าแกร่งเพิ่งหาที่ระบาย ดวงตากลมโตฉ่ำหวานช้อนขึ้นมองค้อนคนขี้แกล้ง “ชอบให้ตบก้นไม่ใช่เหรอ…”



“ชะ…ใช้อะไรตบ…อ๊ะ…อะ…” ร่างเล็กที่เริ่มสติหลุดลอยจากจังหวะเนิบช้าชวนเสียสติซุกหน้าลงกับอกคนรักเพื่อตัดปัญหา ปล่อยให้ร่างของตนถูกโยกตามจังหวะกล่อมนอนลามกของคนใจร้ายอย่างไร้เรี่ยวแรงขัดขืน



“ก็ดูเธอจะชอบให้ตบแบบนี้นี่” ร่างสูงเย้า ยังคงรักษาจังหวะเนิบช้าคล้ายจะโยกกล่อมเด็กน้อยให้ผล็อยหลับคาอกไปจริงๆ มือใหญ่ยึดสะโพกกลมไม่ให้ทำตามอำเภอใจโดยง่าย “นอนซะเด็กดี คืนนี้ฉันจะกล่อมเธอเอง…”



มีนาอยากจะประท้วงเหลือเกินว่าเพลงกล่องธีรเชษฐ์นั้นจะทำให้พวกเขาตื่นกันยันฟ้าสางเสียมากกว่า แต่เสียงที่เล็ดลอด
ออกมามีเพียงเสียงครางหวานหูจากการกลั่นแกล้งของผู้ใหญ่ใจร้ายคนนี้



ถ้าเป็นธีรเชษฐ์ จะให้ถูกแกล้งไปตลอดชีวิต มีนาก็ไม่คิดว่าเขาจะมีปัญหาอะไร


“คุณ…คุณเชษฐ์…อะ…” เสียงหวานเริ่มพร่าจากความกระสันซ่าน มีนาเลียริมฝีปากที่แห้งผาก ท่าทียั่วยวนที่ไร้ซึ่งการสร้างเสริมเติมแต่งยิ่งทำให้ธีรเชษฐ์ลุ่มหลงจนแทบคลั่ง “รัก…อ๊ะ…”



“หึ ทำตัวแบบนี้ คืนนี้กะจะให้ฉันกล่อมถึงเช้าจริงๆสินะ” ร่างสูงพลิกกายให้คนตัวเล็กลงไปนอนใต้ร่าง ดึงหมอนใบโตนุ่มนิ่มมารองใต้สะโพกของคนรักที่ยังคงระบมจากกิจกรรมก่อนหน้า ส่วนที่สอดประสานยังคงรุกเร้าให้สะโพกมนยกตามอย่างโหยหา



“มะ…ไม่เป็นไรครับ…” ดวงตาปรือปรอยฉ่ำเยิ้มหยีโค้งด้วยรอยยิ้มหวานล้ำที่ยั่วยวนอย่างไร้เดียงสา ขาเรียวตวัดโอบสะโพกสอบแนบแน่น “พรุ่งนี้ผมไม่มีเรียน…”



ธีรเชษฐ์ไม่รู้ว่าตัวเองจะมีชีวิตยืนยาวไปอีกเท่าไหร่…




แต่ที่เขารู้ คือสถานที่ตายของเขา คงไม่พ้นอกของเด็กหนุ่มร่างเล็กคนนี้เป็นแน่



THE END
_______________-

จบแล้วววววววว กรี๊ดดดดดดด
ยอมรับว่าที่ลัดคิวมาปั่นเพราะอยากให้เรื่องนี้จบในวันคริสต์มาส เป็นของขวัญให้กับนักอ่านทุกคนในช่วงวันหยุดยาวที่กำลังจะถึงนี้
ขอบคุณมากๆนะคะที่เป็นกำลังใจให้น้องมีน คุณเชษฐ์ น้องซีน พี่ภัทร มาโดยตลอด ขอให้ปี 2020 นี้เป็นปีที่ดีสำหรับทุกคนนะคะ
วันนี้น่าจะเป็นตอนสุดท้ายในปี 2019แล้ว เจอกันใหม่ปีหน้า ฝากเรื่องใหม่ๆไว้ในอ้อมใจของทุกคนด้วยนะค้าาาาาา

ออฟไลน์ theindiez

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 225
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-1
ขอบคุณนะคะไรต์ของขวัญวันคริสมาสต์น่ารักมาก ๆๆเลย ตอนจบน้องมีนแซ่บมากก 5555 นว้องง คุณเชษฐ์จะตายคาอกน้องแล้ว

ออฟไลน์ arjinn

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1369
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +180/-1
ขอบคุณมาก
ชอบคู่คุณเชษฐ์กับมีนาที่สุด
รออ่านมาตั้งตอนโน้นน มาจบเป็นคู่สุดท้าย

ขอบคุณอีกครั้ง
Merry Christmas นะคะ
 :ling2:

ออฟไลน์ Hoya

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 65
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
 :L1: :L1: เย้..ดีใจ จบแล้ว
ดีใจ กับครอบครัว ทรัพย์ดำรง
ขอบคุณ คุณหมูน้อย ค่ะ

Merry Christmas คุณหมูน้อย และ เพื่อนนักอ่านทุกคน
มีความสุข มากๆ กันทุกคนค่ะ  :L2: :L2:

ออฟไลน์ HISY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-3
ดีใจที่ทุกคนมีความสุข
อยากอ่านทริปครอบครัว คงยุ่งเหยิงน่าดู
ขอบคุณสำหรับนิยายนะคะ

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
 :m25: หาเรื่องเข้าโรงบาลตอนสิ้นปีอีกแล้วเรา  :pighaun:

ออฟไลน์ mypink801

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1580
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
ขอบคุณมากนะคะ หวานมาก แฮปปี้ทุกคนนน
อยากอ่านตอนไปเที่ยวกันจังเลยยย

ออฟไลน์ bun

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2364
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-5
ครอบครัวกลับมาสุขสันต์อีกครั้ง

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด