[จบแล้ว] Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) 4 years later [6-2-63] คห.951
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [จบแล้ว] Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) 4 years later [6-2-63] คห.951  (อ่าน 180626 ครั้ง)

ออฟไลน์ WilpeR

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1556
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-2
คุณเชษฐ์ดูเป็นตาลุงหื่นกามเลย 5555 แถมขี้อิจฉาซะด้วย เห็นเพื่อนมีคนรักส่งรูปให้รู้สถานการณ์ตลอดเวลา แต่ของตัวเองเงียบก็จ้องใหญ่เลย

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7697
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
อื้อหือ!!!!คุณเชษฐ์

ออฟไลน์ littlepig

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 429
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +413/-5
Chapter 38:เสียแผน



มีนาไม่รู้ว่าพวกเขาจะออกไปไหนกันในวันนี้ เด็กหนุ่มรู้แค่ว่าธีรเชษฐ์ปลุกเขามาอาบน้ำแต่งตัวตั้งแต่ฟ้ายังไม่สาง ร่างเล็กที่แต่งตัวในชุดเสื้อยืดกางเกงขายาวสบายๆนั่งขยี้ตาป้อยๆอยู่บนเตียงนุ่มเมื่อร่างสูงก้าวออกมาจากห้องน้ำในชุดลำลองที่มีนาไม่ค่อยได้เห็นบ่อยนัก เสื้อยืดเข้ารูปอวดกล้ามแน่นพอเป็นพิธีถูกสวมทับด้วยเสื้อตัวนอกสีเข้มเข้ากับกางเกงยีนส์ขายาว เส้นผมที่มักจะหวีเป็นทรงถูกปล่อยให้ลู่ลงตามแรงโน้มถ่วงทำให้ใบหน้าของชายหนุ่มดูอ่อนเยาว์ลงมาก ดูไปแล้วแอบ
คล้ายคลึงกับลูกชายคนโตของตัวเองอยู่พอสมควร


แต่คุณเชษฐ์ก็หล่อกว่าอยู่ดีนั่นแหละ



มีนาเถียงในใจเงียบๆ ก่อนจะฉุกคิดได้และนึกอยากเขกหัวตัวเองแรงๆ ไม่รู้ว่าเขาจะเถียงกับตัวเองเรื่องความหล่อของคนตรงหน้าทำไม



“เดินไหวมั้ย? หรือจะให้ฉันอุ้ม?” ธีเรชษฐ์ถามคนที่กลายเป็นคนขี้เซาตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ด้วยรอยยิ้มขบขัน


“เราจะไปไหนกันเหรอครับ?” มีนาถาม ลุกขึ้นจากเตียงแล้วคว้ากระเป๋าเป้ของตัวเองมาสะพาย


“ถ้าบอกก็ไม่สนุกน่ะสิ” ธีรเชษฐ์บ่ายเบี่ยง เอื้อมมือไปจับมือเล็กไว้แล้วดึงให้อีกฝ่ายเดินตามมา


มีนายังคงไม่รู้จุดหมายปลายทางในวันนี้แม้กระทั่งตอนที่พวกเขาอยู่ในรถที่ทางโรงแรมจัดเตรียมไว้ให้ แม้กระทั่งตอนที่เขาสังเกตเห็นป้ายโฆษณาสวนสนุกขนาดยักษ์ที่เริ่มมีจำนวนถี่ขึ้นตลอดระยะทางที่ผ่านมา


จนกระทั่งป้ายสวนสนุกที่ว่าแทบจะกระแทกตาเขาอยู่แล้วนั่นแหละ มีนาถึงได้หันไปมองคนอายุมากกว่าด้วยแววตาประหลาดใจ ธีรเชษฐ์กอดอกเบือนหน้าหนี แก้ต่างให้ตัวเองอย่างเร่งรีบ



“ฉันเห็นมันใกล้ดี ขี้เกียจหาที่เที่ยวให้” เป็นหนึ่งในไม่กี่ครั้งที่มีนารู้สึกว่าตัวเองอ่านอีกฝ่ายออกอย่างทะลุปรุโปร่ง ท่าทีเมื่อครู่ไม่ว่าจะมองอย่างไรก็ไม่เนียนเลยสักนิด “ทำไม ไม่ชอบรึไง?”



“ผมไม่รู้หรอกครับ” มีนาส่ายหน้า “ก็ผมไม่เคยมาที่แบบนี้นี่นา”



แม้ว่าธีรเชษฐ์ไม่ควรจะแปลกใจกับคำตอบนั้น แต่เขายังคงเหลือบมองคนตัวเล็กด้วยสายตาไม่อยากเชื่ออยู่ดี หลังจากยืนรอต่อแถวเข้าสวนสนุกไม่นานนัก พวกเขาก็ผ่านด่านตรวจบัตรมาอีกฟากของประตูในที่สุด มีนายืนอ้าปากค้างมองความใหญ่โตสุดลูกหูลุกตาของสวนสนุกที่เต็มไปด้วยสีสันสดใสและเสียงเพลงสนุกสนานอย่างตกตะลึง ธีรเชษฐ์คว้ามือของคนข้างกายไว้อีกครั้ง กลัวว่าคนที่มัวแต่ตื่นตกใจกับแสงสีเสียงรอบกายจะถูกฝูงชนกลืนหายไปเสียก่อน



ชายหนุ่มยอมรับว่าตัวเองรู้สึกมากกว่าเป็นกังวลในการพามีนามาสวนสนุกในครั้งจนี้ เขาจำได้ดีว่าครั้งก่อนที่เขาคิดจะพาอีกฝ่ายไปเที่ยวสวนสนุกนั้นเกิดอะไรขึ้น



แต่ไม่นานนัก หลังจากปรับตัวกับความสดใสของสีสันรอบกายได้สำเร็จ เด็กหนุ่มข้างกายก็เริ่มผ่อนคลายลงและโอนอ่อนตามบรรยากาศรอบกายมากขึ้นในที่สุด รอยยิ้มที่แต่งแต้มบนใบหน้าหวานสร้างความโล่งใจให้แก่คนที่ลุ้นจนตัวเกร็งได้เป็นอย่างมาก



ดวงตาสีควันบุหรี่เหลือบไปเห็นรถขายของที่ละรึกรูปตัวการ์ตูนจากภาพยนตร์อนิเมชั่นเรื่องดังหลายสิบเรื่อง ธีรเชษฐ์ดึงให้เด็กหนุ่มที่ยังคงยืนยิ้มมองครอบครัวที่พาลูกเด็กเล็กแดงมาเที่ยวให้เดินตามมา มีนาที่ยังคงงุนงงว่าอีกฝ่ายดึงให้ตนไปไหนย่นคอกนีตามสัญชาตญาณเมื่อจู่ๆอีกฝ่ายก็สวมที่คาดผมที่มีกระต่ายขนปุยสีขาวขนาดเกือบเท่าหัวของมีนาเกาะอยู่ลงมาบนหัวเสียอย่างนั้น


“อะ…อะไรครับเนี่ย”



“เหมาะกับเธอดีออก” คนที่หันไปจ่ายเงินยิ้มขำ จูงมือคนตัวเล็กให้ออกเดินต่อโดยไม่สนใจเสียงร้องประท้วงเบาๆของคนตัวเล็ก “อยากทำอะไรก่อน?”


“ผม…แล้วแต่คุณเชษฐ์ครับ” คนไม่เคยมาสวนสนุกตอบ เขาจะไปรู้ได้ยังไงว่ามีอะไรให้ทำบ้าง


“จะดีเหรอ?” คนถูกตามใจยิ้มอย่างนึกสนุก “เพราะถ้าแล้วแต่ฉัน…ไอ้ที่ฉันอยากทำคงไม่เหมาะกับสวนสนุกเท่าไหร่”



“คุณเชษฐ์!” เอาอีกแล้ว ทำไมช่วงนี้คนพูดน้อยถึงได้ชอบพูดจาแบบนี้ใส่เขานักนะ


“บอกแล้วไงให้เก็บไว้เรียกบนเตียง” คนขี้แกล้งเย้า ดึงให้เด็กหนุ่มเดินตามไปยังแถวรถไฟเหาะที่น่าจะยาวที่สุดในบรรดาเครื่องเล่นทั้งหมดอย่างกลัวว่าคนขี้อายจะเขินจนม้วนตัวหนีเขาไปเสียก่อน



“คะ…คุณเชษฐ์ครับ มันดูจะ…”


มีนากลืนน้ำลาย เงยหน้ามองเครื่องเล่นที่แล่นผ่านพวกเขาไปด้วยความเร็วแรงสูงพร้อมกับเสียงกรีดร้องดังลั่นเขย่าขวัญคน
ขี้กลัวของคนบนเครื่องเล่นด้วยสายตาหวาดหวั่น


“อยู่กับฉันจะกลัวอะไร?” 



ธีรเชษฐ์เอ่ยด้วยสีหน้าจริงจังที่ทำให้มีนารู้สึกว่าอีกฝ่ายไม่ได้พูดถึงแค่เครื่องเล่น สีหน้าที่ทำให้เขารู้สึกปลอดภัยขึ้นมาเพียงแค่ได้เห็น



ขอแค่มีคุณเชษฐ์อยู่ข้างๆ เขาก็ไม่กลัวอะไรแล้ว…


ความคิดที่วาบขึ้นมาในหัวถูกมีนาสะกดไว้อย่างรวดเร็ว หลายวันที่ผ่านมาต่อให้ตักเตือนตัวเองแค่ไหน แต่ทุกครั้งที่ได้เห็นแววตาอ่อนโยน ได้ยินน้ำเสียงนุ่มทุ้มที่เขาเฝ้าฝันจะได้ยินอีกฝ่ายใช้กับตัวเอง มีนาก็มักจะเผลอลำพองใจกับสิ่งที่ได้รับอยู่เสมอ


เขาควรจะกลัว…เขาควรจะกลัวให้มากๆ


มีนาขยับตัวเข้าใกล้ร่างสูงข้างกายอีกนิด ได้รับรางวัลเป็นท่อนแขนที่โอบรอบไหล่บางไว้อย่างมั่นคง



แต่ถ้าสวรรค์จะมีเมตตา เขาขอละทิ้งความกลัวนั้นไว้สักวันจะเป็นอะไรไหมนะ?







ธีรเชษฐ์รู้สึกผิดเล็กน้อยหลังจากก้าวลงมาจากเครื่องเล่นที่ขึ้นชื่อว่าน่าหวาดเสียวที่สุดในสวนสนุก แม้แต่ตัวเขาเองขนาดขึ้นมาไม่รู้กี่รอบยังแอบเดินเซตอนลุก ไม่อยากจะคิดเลยว่าคนตัวเล็กข้างกายจะตกใจขนาดไหน


คงจะไม่หมดสนุกไปก่อนหรอกนะ



ดวงตาคมเหลือบมองคนข้างกายที่เดินก้มหน้าไม่พูดไม่จาตั้งแต่ก้าวออกมาจากเครื่องเล่นเมื่อครู่ ไหล่บางสั่นระริก และนั่นทำให้คนที่กังวลอยู่แล้วแตกตื่นขึ้นไปอีก


“มีน เป็นอะไร…”


ร่างสูงถาม จังหวะเดียวกับที่มีนาเงยหน้าขึ้นมองเขา ดวงตากลมโตเป็นประกายสุกใส


“ขอบคุณนะครับคุณเชษฐ์! ผมไม่เคยรู้สึกอะไรแบบนี้มาก่อนเลย!”ร่างเล็กในตอนนี้ราวกับมีสายรุ้งทอประกายรอบตัว “อีก
รอบได้มั้ยครับ?”


“เอ่อ...”


“อันนั้นก็เหมือนแบบนี้เหรอครับ?” มีนาชี้ไปยังรถไฟเหาะตีลังกาที่อยู่อีกฟากของสวนสนุก ธีรเชษฐ์ที่ไม่เคยเห็นสีหน้าที่เปี่ยมล้นไปด้วยความสุขอย่างที่เห็นในตอนนี้พยักหน้า จู่ๆก็เกิดหาเสียงตัวเองไม่เจอขึ้นมาเสียอย่างนั้น “เราไปเล่นอันนั้นต่อได้มั้ยครับ?”



“…เอาสิ” ธีรเชษฐ์ตอบรับอย่างว่าง่ายราวกับต้องมนต์ มีนายิ้มกว้าง คล้องแขนกับท่อนแขนแกร่งหลวมๆแล้วเป็นฝ่ายดึงให้คนอายุมากกว่าเดินตามไปบ้าง ซึ่งธีรเชษฐ์ก็ปล่อยให้อีกฝ่ายลากไปโดยไม่ขัดขืน


ไอ้ดีใจที่เห็นคนตรงหน้ามีท่าทีตื่นเต้นดีใจแบบนี้เขาก็ดีใจอยู่หรอก...


 แต่เล่นพูดว่า’ไม่เคยรู้สึกอะไรแบบนี้มาก่อน’ แบบนี้ เล่นเอาคนที่เคยทำให้อีกฝ่ายครวญครางขาสั่นระริกใต้ร่างเสียความมั่นใจไปเหมือนกันนะ


มีนาลากเขาไปทางนู้นทางนี้ทีอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย จากที่กลัวอีกฝ่ายจะไม่สนุก กลายเป็นกลัวร่างเล็กจะวิ่งเล่นเพลินจนหลุดมือหายไปในฝูงชนเสียก่อน


“หิวมั้ย? พักกินอะไรก่อนมั้ย?”


ธีรเชษฐ์ถามคนข้างกาย มีนาส่ายหน้า รอยยิ้มกว้างที่ทำให้คนมองหัวใจไม่หยุดนิ่งยังคงประดับอยู่บนใบหน้า  แต่ธีรเชษฐ์ยังคงไม่วางใจ เขาไม่อยากหันไปอีกที่แล้วเด็กหนุ่มเป็นลมล้มพับไปก่อนหรอกนะ


“ถ้าอย่างนั้นให้เล่นอีกอันแล้วค่อยไปกิน ตกลงมั้ย?”


ธีรเชษฐ์ลืมตัวเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่เขาเคยใช้กับลูกน้อยทั้งสามเวลาที่พาเด็กๆไปเที่ยวเมื่อครั้งวันวาน ท่าทีสนุกสนานสมวัยของมีนาทำให้เขาอดนึกไพล่ไปถึงลูกชายของตัวเองไม่ได้ ร่างสูงหุบปากฉับทันทีที่รู้ตัว แต่ดูจากสีหน้าของมีนา สิ่งที่เขาคิดไม่อาจเล็ดรอดการสังเกตของร่างเล็กไปได้


และจากรอยยิ้มหวานที่อันตรธานหายไปอย่างรวดเร็ว มีนาไม่ได้ชอบมันแม้แต่น้อย


“ฉัน…”


“เราไปกินเลยก็ได้ครับ” มีนาตอบ เสียงหวานตึงขึ้นอย่างชัดเจน ธีรเชษฐ์ลอบกลืนน้ำลาย รู้ตัวว่าเมื่อครู่นี้ตัวเองพลาดเองเต็มๆ


“มีน คือฉัน…”


“ไปกันเถอะครับ” คนตัวเล็กไม่ฟัง เดินดุ่มๆนำเขาไปโดยไม่รอ แต่ที่ทำให้คนมองสะอึกมากไปกว่าเดิมคือการที่อีกฝ่ายถอดที่คาดผมของตัวเองมาถือไว้ด้วย


ใจหนึ่งก็ดีใจที่อีกฝ่ายรู้จักโกรธเขาแบบนี้ แต่อีกใจก็แอบหวั่นว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่สร้างมาจะกลับไปอยู่ที่ศูนย์เพียงเพราะคำพูดของตัวเอง


เขาไม่ได้คิดกับมีนาเหมือนลูก แต่ด้วยอายุที่ต่างกันขนาดนี้ มันก็ต้องมีบ้างที่เขาจะปฏิบัติกับมีนาเหมือนเด็กอายุเท่ากัน
ในร้านอาหารที่มีเมนูมากมายได้แรงบันดาลใจมาจากตัวการ์ตูนในสวนสนุก แต่มีนากลับเจาะจงเลือกเมนูข้าวแกงกระหรี่หน้าตาเรียบๆมาทาน เรียกได้ว่าตอกย้ำสุดๆว่าเคืองกันแค่ไหน


ไม่น่าเชื่อ เรื่องแค่นี้จะเป็นสิ่งที่ทำให้คนตัวเล็กฟิวส์ขาดได้


ทางฝ่ายคนตัวสูงที่คิดจนหัวแทบแตกว่าจะทำอย่างไรให้ทริปวันนี้ไม่กร่อยไปตลอดวันกวาดตามองเมนูบนผนังบ้าง ก่อนจะยิ้มออกมาเมื่อเห็นสิ่งที่ตนกำลังตามหา


“เอ๊ะ…”


มีนาเบิกตากว้างอย่างประหลาดใจเมื่อเห็นธีรเชษฐ์อุ้มถ้วยพาเฟ่ต์ขนาดพอๆกับกะละมังขนาดเล็กตรงมายังโต๊ะของพวกเขา ภายในบรรจุไอศรีมสลับชั้นกับผลไม้ ครีมสด และเค้กเนื้อนุ่มหลายสิบชั้นโปะด้วยไอศรีมลูกกลมหลากหลายรสชาติด้านบน มีสตรอเบอร์รี่หั่นซีกปักตั้งเป็นหูกระต่ายบนไอศกรีมแต่ละลูก


“ทำไมถึง…”


“ก็มันน่ารักดี” ธีรเชษฐ์ตอบอย่างไม่ใส่ใจ “มาสวนสนุกทั้งทีกินอะไรน่ารักๆบ้างสิ”


“ผม…ไม่ใช่เด็กแล้วนะครับ” มีนาพึมพำเสียงขุ่น


“ฉันก็ไม่ใช่” ธีรเชษฐ์ยิ้ม ตักไอศกรีมคำใหญ่เข้าปาก เกือบเผลอนิ่วหน้ากับรสชาติหวานเลี่ยนที่ไม่ได้ลิ้มรสมานาน “ไม่ได้หมายความว่าฉันจะทำอะไรแบบนี้ไม่ได้นี่”


ชายหนุ่มตักไอศกรีมหลากชั้นอีกคำแล้วยื่นช้อนไปจ่อที่ริมฝีปากอิ่ม มีนาเม้มปากอย่างดื้อดึง แต่กลับแลดูน่าเอ็นดูอย่างที่ธีรเชษฐ์ก็ไม่เข้าใจตัวเอง


“ไม่เอาน่า ช่วยฉันซักคำสิ” ธีรเชษฐ์หลอกล่อ ทั้งที่รู้เต็มอกว่านั่นจะยิ่งทำให้คนตัวเล็กโกรธ


“…” มีนายังคงเป็นมีนา แม้จะบอกว่ากำลังดื้อแต่สิ่งที่อีกฝ่ายทำมีเพียงเม้มปากแน่นเป็นเส้นตรง ไม่แม้แต่จะหันหน้าหนีช้อนที่จ่อชิดริมฝีปากตนอยู่


“มีนา…”เงียบ


“มีน….”ยังคงนิ่ง


“ดื้อ”


ได้ผล คราวนี้มีนาอ้าปากค้างกับสิ่งที่หลุดออกมาจากปากของร่างสูงจนสามารถยัดไอศกรีมใส่เข้าไปได้ทั้งลูก ธีรเชษฐ์ยิ้มขำ ดึงช้อนคันโตกลับมาเสียบในถ้วยไอศกรีมของตน


“คะ…คุณเชษฐ์ว่าไงนะครับ”


“ดื้อ...ไหนว่าไม่ใช่เด็ก ทำไมดื้อแบบนี้ครับ?” เสียงทุ้มอ่อนโยนในแบบที่ทำให้มีนาหน้าร้อนผ่าวขึ้นมา ดวงตาคมตรึงให้คนตรงหน้านิ่งอึ้งอยู่กับที่


“ผม…ดื้อ?” มีนาเอ่ยทวนช้าๆ ราวกับไม่เคยมีใครเคยนำชื่อของเขากับคำคำนั้นมาอยู่ในประโยคเดียวกันมาก่อน



“ถ้าไม่ใช่เธอแล้วจะใคร?” ธีรเชษฐ์เลิกคิ้ว “เด็กดื้อ แล้วแบบนี้จะไม่ให้ฉันพูดกับเธอเหมือนเด็กๆได้ยังไง?”



“….” มีนากัดกระพุ้งแก้มห้ามตัวเองไม่ให้เถียงคนตรงหน้า รู้ว่ายิ่งเขาเถียง ยิ่งจะเพิ่มน้ำหนักให้ข้อกล่าวหาของร่างสูง


“แล้วทีนี้จะบอกฉันได้รึยัง...” นิ้วเรียวยาวจิ้มแก้มนิ่มเบาๆ “...ว่าทำไมถึงได้ดื้อแบบนี้”


“…ก็คุณเชษฐ์พูดกับผมเหมือนเด็ก” มีนายอมพึมพำตอบในที่สุด ธีรเชษฐ์ถอนหายใจ บีบแก้มนิ่มอย่างมันเขี้ยว



“ก็เด็กจริงๆนี่” ร่างสูงรีบเสริมก่อนที่คนฟังจะหน้าบูดไปมากกว่านี้ “แต่เธอก็น่าจะรู้ ว่าฉันไม่ได้มองเธอเป็นเด็กน้อยแบบที่ฉันมองซัน ธาร หรือเจ้าเมฆ ฉันไม่เคยมองเธอแบบนั้นมาตั้งแต่วันแรกที่เราเจอกัน”



ถ้าเขาคิดแบบนั้นน่าจะเป็นอะไรที่น่ากลัวกว่า


“…”



คนตัวเล็กตรงหน้าเขาบรรลุจุดสูงสุดของความดื้อ เบือนหน้าหนีคำพูดของเขากลางประโยคให้เห็นจะจะตา
แต่ไม่รู้ทำไม นั่นกลับทำให้หัวใจของคนที่คิดว่าตัวเองไม่มีอยู่แล้วเต้นแรงขึ้นมาเสียอย่างนั้น



“หรือเธออยากให้ฉันมองเธอแบบนั้น” ร่างบางส่ายหัวพรืดอย่างรวดเร็วกับคำถามนั้น ธีรเชษฐ์ยิ้มขำ “แล้ว...อยากให้ฉันมอง
เธอแบบไหน?”



มีนารีบเอื้อมมือไปหยิบช้อนไอศกรีมที่ธีรเชษฐ์วางไว้ตักขนมเข้าปากคำใหญ่เพื่อหลีกเลี่ยงบทสนทนา



แม้จะอยากแกล้งต่ออีกสักนิด แต่ธีรเชษฐ์รู้ดีว่าถ้าเขายังดึงดัน คนตรงหน้าคงซัดไอศกรีมถ้วยยักษ์นี่จนหมดก่อนจะยอมพูดกับเขาแน่



“เสร็จแล้วไปเดินถ่ายรูปก่อนแล้วกัน ไปเล่นต่อตอนนี้คงไม่ไหว” ชายหนุ่มลุกขึ้นจากเก้าอี้เมื่อเห็นว่ามีนาอิ่มแล้ว เด็กหนุ่มพยักหน้าเงียบๆ แล้วลุกตามอีกฝ่ายไป ดวงตาสีน้ำตาลยังเหลือบมองเขาเป็นระยะอย่างไม่ไว้วางใจ


“ไปยืนตรงนั้นสิ” ธีรเชษฐ์ชี้ไปยังรูปปั้นตัวการ์ตูนกระต่ายชื่อดังในชุดกะลาสีหน้าท่าเรือจำลองภายในสวนสนุก มีนาลังเล ก่อนจะรีบก้าวไปตามที่ร่างสูงชี้เมื่อเห็นคนด้านหลังเริ่มต่อแถวกัน


ธีรเชษฐ์หยิบโทรศัพท์ของตัวเองขึ้นมาถ่ายรูปร่างเล็กที่ยืนเกร็งอยู่ข้างรูปปั้นเหมือนกลัวมันจะมีชีวิตขึ้นมาทำร้ายตัวเอง ก่อนจะเรียกให้คนที่ยังคงไม่เข้าใจถึงความสนุกของการยืนถ่ายรูปกับรูปปั้นที่ตัวเองไม่รู้จักเดินตามหามุมถ่ายรูปสวยๆต่อไป


“คุณเชษฐ์ ไม่ต้องถ่ายรูปให้ผมก็ได้นะครับ” มีนาเอ่ยขึ้นอย่างเกรงใจหลังจากรูปที่สิบที่ร่างสูงถ่าย ธีรเชษฐ์เลิกคิ้ว



“ใครบอกว่าฉันถ่ายให้เธอ?”


“เอ๊ะ?” ร่างเล็กหันไปหาอีกฝ่ายอย่างประหลาดใจ ชายหนุ่มยิ้มมุมปาก



“ฉันถ่ายเก็บไว้ต่างหาก”...เก็บไว้ในวันที่ไม่มีเธออยู่ข้างๆ



“เก็บไว้...?”


“เผื่อวันที่เธอไม่ติดหนี้ฉันแล้ว จะได้เอารูปพวกนี้แบล็กเมลล์” ชายหนุ่มเอ่ยทีเล่นทีจริง แต่คนตัวเล็กกลับหยุดฝีเท้าของตัวเองทันทีที่ได้ยินดังนั้น



“คุณเชษฐ์คิดว่าจะมีวันนั้นจริงๆเหรอครับ?”



แค่นี้มีนาก็มองไม่เห็นยอดภูเขาของกองหนี้ที่ท่วงศีรษะเขาอยู่แล้ว ไม่ต้องพูดถึงหนี้บุญคุณที่ทดแทนไม่ได้ด้วยเงินของอีกฝ่าย



และความจริงที่ว่ามีนาไม่นึกอยากจะให้พันธะประหลาดระหว่างพวกเขาสิ้นสุดลงมาได้ระยะหนึ่งแล้ว



“นี่เธอคิดว่าจะต้องอยู่ใช้หนี้ฉันไปตลอดชีวิตเลยรึไง?”



ถึงเขาจะพูดแบบนั้นอยู่บ่อยๆ แต่เขาก็ไม่คิดว่าจะมีใครที่ว่าง่ายพอจะยอมอยู่ใช้หนี้เขาไปจนตายโดยไม่ดิ้นรนหาทางหนีที
ไล่หรอกนะ



“…” เด็กหนุ่มเงียบไปกับคำถามนั้น แต่สีหน้าของอีกฝ่ายแทนคำตอบได้เป็นอย่างดี  ธีรเชษฐ์ถอนหายใจ มือใหญ่วางลงบนกลุ่มผมนุ่ม



“ฉันบอกแล้วไงว่าฉันไม่ใจไม้ไส้ระกำขนาดนั้นหรอกน่า เธอก็หัดคิดถึงอนาคตหลังเป็นอิสระจากฉันไปแล้วซะบ้าง...”



“วันที่ไม่มีคุณเชษฐ์…ผมไม่อยากคิดถึงหรอกครับ”



คำตอบที่โพล่งขึ้นมากลางคันของร่างเล็กทำให้ธีรเชษฐ์ชะงัก ดวงตาสีควันบุหรี่ตวัดมองคนพูดอย่างไม่เข้าใจ มีนาเงยหน้าขึ้นมองเขา ดวงตากลมโตประสานกับดวงตาที่ยังคงไม่ละไปจากใบหน้าขาว



“มีน…”


“ผมชอบคุณเชษฐ์ครับ”



มีผู้คนมากมายพยายามทำให้ธีรเชษฐ์จนด้วยคำพูด แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ร่างสูงรู้สึกเหมือนแม้แต่จะหายใจเขายังจำไม่ได้ว่าต้องทำอย่างไร



ความคิดแรกที่วาบเข้ามาในหัว คือมีนาทำลายแผนที่เขาอุตส่าห์คิดหัวแทบแตกจนย่อยยับไม่มีชิ้นดี



ชายหนุ่มวางแผนไว้ว่าจะใช้เวลาทั้งวันในสวนสนุกจนถึงช่วงเริ่มขบวนพาเหรด ชายหนุ่มจะพามีนาไปยังม้านั่งริมะเลสาบที่
มธุวันช่วยโบกไม้กายสิทธิ์ประสานงานกับทางสวนสนุกให้กันพื้นที่เล็กๆตรงนั้นไว้ ดุพลุไฟหลากสีที่จะถูกยิงขึ้นฟ้าหลังจากจบขบวนพาเหรด แล้วสารภาพสิ่งที่อยู่ในใจของตัวเองให้เด็กหนุ่มร่างเล็กรู้



ผู้ชายอายุขนาดเขา ผ่านประสบการณ์มาโชกโชนจนน่าตบแบบเขา ธีรเชษฐ์ไม่คิดว่าการทำอะไรแบบนี้เป็นเรื่องจำเป็นอะไร การแสดงออกหวานเลี่ยนมีแต่จะทำให้ความคาดหวังของคนรับเพิ่มขึ้น เป็นการลงทุนที่ไม่คุ้มค่า



แต่สิ่งที่แตกต่างออกไปจากทุกครั้ง คือคนคนนี้คือมีนา


เด็กหนุ่มตัวน้อยแสนบริสุทธิ์ที่แม้จะถูกเขาทำให้แปดเปื้อนเพียงใด ความใสซื่อก็ยังคงไม่ละไปจากดวงตากลมโตนั้น คนที่ก่อนจะได้มีโอกาสในความสัมพันธ์ที่เกิดจากความรักอย่างคนปกติก็ถูกลากเข้ามาในโลกของคนที่หมดศรัทธาอย่างธีรเชษฐ์
คนที่แม้จะถูกเขาทำร้ายซ้ำแล้วซ้ำเล่าแต่ยังคงไม่เคยถือโทษโกรธเคืองสิ่งที่ร่างสูงทำ



คนที่ไม่ว่าอย่างไร ธีรเชษฐ์ก็อยากให้อีกฝ่ายมีความทรงจำการถูกสารภาพรักที่เด็กหนุ่มจะไม่มีวันลืม และเพราะเป็นมีนา เขาถึงอยากให้เด็กหนุ่มได้สิ่งที่ดีที่สุดแม้ว่าเขาจะต้องอับอายเพียงใด


“…ผมชอบคุณเชษฐ์ ผมน่ะ ชอบคุณเชษฐ์มาตลอด…” เสียงหวานสั่นเครือ ดวงตาสีน้ำตาลมีน้ำใสเอ่อคลอหน่วย “ผมรู้ตัวดี
ว่าไม่คู่ควร ผมรู้ว่าตัวเองไม่มีอะไรที่จะให้คุณเชษฐ์ได้… แต่ผมแค่อยากให้คุณรู้ ว่าผมไม่เคยคิดจะไปจากคุณถ้าคุณไม่ต้องการ”



ขบวนพาเหรดยังไม่เริ่ม ถนนที่พวกเขายืนอยู่ยังคงมีผู้คนเบียดเสียดคับคั่ง เสียงพูดคุยจ้อแจ้กจอแจจากทั่วทุกสารทิศทำให้เสียงของมีนาแทบจะถูกกลบไปจนหมดหากไม่ได้ตั้งใจฟัง แต่เด็กหนุ่มกลับทำให้คำสารภาพนั้นสมบูรณ์แบบในตัวของมันได้โดยไม่ต้องพยายาม



“ผม…”


 มีนากัดริมฝีปาก หากธีรเชษฐ์คิดว่ามีนาไม่สามารถทำให้เขาประหลาดใจได้แล้วในวันนี้ การกระทำของร่างเล็กพิสูจน์ชัดว่าเขาคิดผิดถนัด เมื่อคนที่ทำท่าจะพูดอะไรต่อกลับหมุนตัววิ่งหนีเขาเข้าไปในฝูงชน เมื่อได้สติจากความตกใจเมื่อครู่ ธีรเชษฐ์รีบก้าวตามอีกฝ่ายไปด้วยความร้อนรน แต่ร่างเล็กๆกลืนหายไปในฝูงชนที่เริ่มหนาตัวขึ้นเรื่อยๆอย่างง่ายดาย



“มีน!”


ชายหนุ่มพยายามสอดส่ายสายตาหาร่างเล็กที่วิ่งหนี หยิบโทรศัพท์ออกมาโทรหาอีกฝ่ายแต่ไม่มีใครรับ สวนสนุกที่พวกเขามาแม้จะไม่ได้ให้ที่สุดในโลกแต่ก็มีพื้นที่มากพอที่จะให้เด็กหนุ่มตัวเล็กหลบซ่อนตัวเองจากสายตาของเขา


ยิ่งเวลาผ่านไปธีรเชษฐ์ยิ่งร้อนใจ เขาไล่หาไปตามทุกเครื่องเล่น ทุกร้านขายของ ทุกจุดถ่ายรูป ไม่มีร่องรอยของมีนา ใน
ตอนนี้ขบวนพาเหรดเริ่มออกมาสร้างสีสันให้กับค่ำคืนอันมืดมิด ทำให้บริเวณโดยรอบของสวนสนุกแทบไม่มีผู้คน ร่างสูงหยิบโทรศัพท์ออกมาจะกดโทรมีนาอีกครั้ง ก่อนที่ความคิดหนึ่งจะแล่นเข้ามาในหัว





“ฮึก…”


มีนาขดตัวนั่งอยู่ด้านหลังรูปปั้นขนาดยักษ์ที่บดบังสรีระของตนจนมิด เด็กหนุ่มไม่รู้ว่าตัวเองร้องไห้มานานแค่ไหน แต่แสงอาทิตย์เคยอาบไล้ทะเลสาบให้กลายเป็นสีส้มนวลตาลับขอบฟ้าไปได้ระยะหนี่งแล้ว


ทำไมเขาถึงได้ทำอะไรโง่ๆแบบนั้นออกไป


ทั้งที่ทุกอย่างกำลังดีขึ้น ธีรเชษฐ์กำลังเริ่มจะใจดีกับเขาแท้ๆ ทำไมมีนาถึงได้พูดอะไรแบบนั้นออกไป


โลภ…


มีนาได้ยินเสียงในหัวของตัวเองอย่างชัดเจน



คนอย่างเขา ธีรเชษฐ์ไม่มีทางรู้สึกแบบเดียวกันตอบกลับมาหรอก



มีนาปิดปากกลั้นเสียงสะอื้น แม้ว่าน้ำใสๆจะพรั่งพรูออกมาจากดวงตาของร่างเล็กไม่หยุดราวกับทำนบแตก



โง่…โง่ๆๆ โง่ๆๆๆๆ!!!


“เจอซักที ฉันเป็นห่วงแทบแย่”



มีนาสะดุ้งเมื่อร่างทั้งร่างถูกดึงจากพื้นที่นั่งอยู่เข้าไปในอ้อมกอดของคนที่เขากำลังหลบหน้า ธีรเชษฐ์กอดรัดคนที่ตนตามหาจนทั่วสวนสนุกไว้แน่น รู้สึกเหมือนได้หายใจหายคออีกครั้ง ชายหนุ่มนึกดีใจที่มีนาไม่เก่งเรื่องเทคโนโลยี ทำให้เขาสามารถใช้แอพติดตามโทรศัพท์ตามหาอีกฝ่ายจนพบในที่สุด


“ฮึก…คะ…คุณเชษฐ์…”



มีนาพยายามยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาที่ไม่ยอมหยุดไหลอาบแก้มขาว แต่เขารู้ว่าไม่สามารถซ่อนดวงตาที่แดงก่ำร่างสูงได้



“ทีหลังอย่าหนีมาแบบนี้อีกนะ” เสียงทุ้มกระซิบ ยกมือขึ้นช่วยเช็ดน้ำตาให้กับร่างเล็กอย่างเบามือ “ถ้าฉันหาเธอไม่เจอขึ้นมาจะทำยังไง? หืม?”



“ขะ…ขอโทษครับ” มีนาพยายามปรับเสียงให้เป็นปกติที่สุดเท่าที่จะทำได้ ลำคอแห้งเป็นผงจากการร้องไห้ติดต่อกันมานาน



“แล้วตกลงวิ่งหนีมาทำไม” ร่างสูงถาม ราวกับจำเรื่องน่าอายที่มีนารวบรวมความกล้าทั้งหมดสารภาพออกไปก่อนหน้าไม่ได้แล้ว ซึ่งมีนาไม่รู้ว่าควรจะดีใจหรือเสียใจ



“ผม…ไม่กล้าสู้หน้าคุณเชษฐ์ครับ” เด็กหนุ่มตอบตามตรง ซุกหน้าลงกับแผ่นอกกว้างด้วยไม่อยากรับรู้สีหน้าของอีกฝ่ายในตอนนี้



“เล่นวิ่งหนีมาแบบนี้ ใจคอไม่คิดจะฟังคำตอบฉันเลยรึไง?”



ธีรเชษฐ์ก้มถามคนที่มุดอยู่ที่อกเขา มีนาส่ายหน้า เขารู้อยู่แล้วว่าคำตอบของธีรเชษฐ์คืออะไร ทำไมเขาจะต้องทรมานตัวเองด้วยการได้ยินอีกฝ่ายเอ่ยมันออกมาจริงๆด้วย



“มีน ดูปากฉันนะ”


มือใหญ่ช้อนใต้คาวเรียวบังคับให้คนดื้อดึงเงยหน้าขึ้นมองตัวเอง ดวงตาสีน้ำตาลกลมโตจ้องนิ่งที่ริมฝีปากได้รูป ปล่อยให้ธีรเชษฐ์ปฏิเสธเขาให้จบๆเสียที



แต่สิ่งที่อีกฝ่ายทำ มีเพียงการประทับริมฝีปากลงมาอย่างไม่ปล่อยให้เขาได้ตั้งตัว ลิ้นร้อนสอดเข้ามาในริมฝีปากที่เผยอเล็กน้อยในจังหวะที่พลุสีสันสดใสถูงยิงขึ้นฟ้า แสงสีที่แตกกระจายบนฝืนฟ้ายามรัตติกาลบรรยายความรู้สึกของมีนาในตอนนี้ได้เป็นอย่างดี



“อุตส่าห์จะหาที่โรแมนติกๆสารภาพ ดันมาถูกเธอแย่งพูดก่อนซะได้”



“เอ๊ะ?” คนที่ยังมึนเมากับรสจูบหวานฉ่ำขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจ



“ฉันชอบเธอ” ธีเชษฐ์ประคองใบหน้ารูปไข่นั้นอย่างทะนุถนอม ดวงตาสีควันบุหรี่ที่แม้จะมีแววประหม่าแต่กลับไม่ยอมละสายตาไปจากคนตรงหน้า ใบหน้าของมีนาร้อนฉ่ากับคำสารภาพสายฟ้าแลบ ก้อนเนื้ออกเต้นรัวอย่างบ้าคลั่งจนเขาแทบไม่มีโอกาสได้พักหายใจ “คบกับฉันนะมีน”



เอ๊ะ...


เอ๊ะ....



เอ๋?!!!!




----
สอบเสร็จแล้วจิทำไรก็ดั้ยยยย//กลับไปอ่านหนังสือต่อ

ออฟไลน์ sailom_orn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-1
 :hao6: คุณเชษฐ์ก็โรแมนติกเหมือนกันนะเนี่ย

ออฟไลน์ bpyt

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1340
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-2
กลับมาก๊อนนนนน คนเขียนนนนน อย่าทิ้งให้คนอ่านอย่างเราเอ๊ะ!! ตามน้องมีนสิ

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
แอร๊ยยยย :hao7:

ออฟไลน์ mypink801

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1600
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
คุณเชษษษษษษษษษษฐ์ โดนน้องตัดหน้าแต่ก็ทำคะแนนตีตื้นได้ ขอน้องคบแล้ววววววววววววว
น้องมีนลูกกกกกกก อย่าเขินจนเป็นลมนะะ น้องมีนน่ารักกก
ชอบหวานๆ ไม่เอามาม่าจะดีมากค่าา อิอิ เขินคุณเชษฐ์ โรแมนติกใช่ย่อยยย  :impress2:
รักคุณคนเขียนนน

ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6
ลุงเชษฐ์จอมเก็ก ถึงกับเก็กแตกเพราะกลัวน้องมีนจะหายไปเหรอ.  :hao3:

ออฟไลน์ miikii

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1725
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
แผนเขาก็โรแมนติกอยู่นาว่าไม่ได้
แต่ก็แอบขำที่มีนาบอกก่อน โอ๊ย ลูก 55555555555

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ ดาวโจร500

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 649
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-3
ลุ้นมาตั้งแต่เรียนยันเรียนจบ :sad4: :o12: :o8: :impress2:
เขาเข้าใจกันแล้วแม่

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7697
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
รอตอนต่อไป

ออฟไลน์ arjinn

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1377
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +180/-1
กรี๊ดดดดดดดดด แม่เจ้า สุดยอด
หวานกันไม่บอกก่อนเลย
ลุ้นกับชื่อตอนจะแย่ค่ะ

มีนาร้องไห้เคล้าน้ำตาลจริงๆ
คุณเชษฐ์ตอนนี้ทำไมดูหนุ่มอ่ะ 555
ขอบคุณที่พูดออกมานะคะ

❤❤

ออฟไลน์ เก้าแต้ม

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1296
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +88/-3
ดีต่อใจ

ออฟไลน์ tuek

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3556
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +214/-3
ขอน้องคบแล้ว

ออฟไลน์ HISY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-3
งานเบิกเนตรคนแก่ก็มาจ้าาา
ตอนหน้าเราจะฟินสุดกู่ชิมิ

ออฟไลน์ WilpeR

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1556
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-2
ว้าว เป็นตอนที่รู้สึกดีมากเลย

ออฟไลน์ littlepig

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 429
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +413/-5
Chapter 39: กินเปรี้ยว


หากจะถามว่ามีนาได้ตอบตกลงคำขอของธีรเชษฐ์หรือไม่


สัมผัสชื้นแฉะที่ลากไล้ลงมาตามผิวกายขาวเนียนและความรู้สึกวาบหวิวในท้องน้อยทุกครั้งที่แรงดูดดุนทิ้งรอยไว้บนร่างเปลือยเปล่าของมีนาคงจะเป็นคำตอบได้เป็นอย่างดี


“อ๊ะ..คะ..คุณเชษฐ์...”


ร่างเล็กแอ่นรับสัมผัสจากริมฝีปากร้อนที่ทาบทับลงมาบนแผ่นอกบางอย่างเผลอไผล เรียกเสียงหัวเราะทุ้มต่ำในลำคออย่างพึงพอใจจากธีรเชษฐ์ได้เป็นอย่างดี


บอกตามตรง มีนารู้สึกประทับใจร่างสูงมากที่ไม่ได้ฉีกเสื้อผ้าเขาออกเป็นชิ้นๆทันทีที่รถที่อีกฝ่ายเรียกวนมารับพวกเขา เขายิ่งรู้สึกประทับใจมากขึ้นไปอีกที่ร่างสูงมีสติพอจะแขวนป้ายห้ามรบกวน ปิดประตูคล้องโซ่ห้องพัก วางสัมภาระของพวกเขาลงบนโต๊ะอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย ก่อนจะพุ่งเข้ามาหาร่างเล็กด้วยความเร็วของเสือชีต้าร์ที่ออกล่าเหยื่อ



ใช่...พวกเขายังคงอยู่บนพื้นห้องโดยมีเสื้อผ้าที่แทบจะไม่เหลือชิ้นดีรองใต้เรือนกายขาวเนียนของมีนาไว้ลวกๆด้วยฝีมือของคนที่เห็นได้ชัดว่าอยากจะอ่อนโยนแต่กำลังจะทนความต้องการของตัวเองไม่ไหว



ร่างเล็กสะท้านเฮือกเมื่อริมฝีปากช่ำชองคู่นั้นครอบครองเม็ดทับทิมสีหวานอย่างหิวกระหาย ดูดเน้นย้ำราวกับตุ่มไตที่แข็งขืนสู้การหยอกเย้านั้นจะมีน้ำนมไหลออกมา นิ้วเรียวยาวสะกิดเขี่ยตุ่มไตอีกข้างไม่ให้ได้อยู่อย่างสงบ มีนานึกอยากจะค้อนคนตรงหน้าแต่ความปั่นป่วนที่อีกฝ่ายมอบให้ทำให้สมองเขาไม่สามารถสั่งงานอะไรได้นอกจากการโอนอ่อนตามทุกสัมผัสของคนประสบการณ์มากกว่า


“ฮะ…มะ…ไม่ไหว…”



มันมากเกินไป การปลุกเร้าจากธีรเชษฐ์มันมากเกินกว่าที่มีนาจะรับไหว ลิ้นร้อนตวัดดูดเลียเม็ดทับทิมสีหวานจนเกิดเสียงหยาบโลนระคายหู ก่อนที่ร่างเล็กจะถูกพลิกให้คลานเข่าอยู่บนผ้าผืนบางที่เคยเป็นเสื้อของตัวเอง ผิวกายเนียนถูกแสดงความเป็นเจ้าของจนแดงเป็นจ้ำกุหลาบกระจายทั่วร่าง



“คุณเชษฐ์…อ๊ะ…เตียง…”



“หึๆ…กลัวเจ็บเข่าเหรอ?”เสียงทุ้มเย้าข้างหู



มีนาพยักหน้า เพราะเหตุผลที่แท้จริงที่เขากล้าเอ่ยปากขอให้อีกฝ่ายย้ายสถานที่ทำกิจกรรมก่อนที่เรื่องจะบานปลายไปมากกว่านี้น่าอายกว่าข้อสันนิษฐานของธีรเชษฐ์หลายเท่า



เขากลัวเข่ากับข้อศอกของตัวเองจะเสียดสีจนดำด้าน ดูไม่สวยงามสำหรับร่างสูง



ก่อนหน้านี้มีนามักจะนั่งถูพื้น คุกเข่ากับพื้น ทำอะไรไม่สนใจความสวยงามไร้ค่าพวกนั้นเป็นอาจิณ แต่หลังจากได้พูดคุยกับเจนวิทย์ มีนาค้นพบว่ามีหลายสิ่งที่เขาปล่อยปะละเลยโดยไม่คำนึงว่าจะทำให้ธีรเชษฐ์พอใจเรือนร่างของเขาลดลง
โชคดีที่เขาไหวตัวทันก่อนหน้าที่ข้อศอกขาวจะมีอะไรมากกว่ารอยแดง มีนาจึงหมั่นทาครีมบำรุงตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
ร่างเล็กร้องออกมาเบาๆอย่างไม่ทันตั้งตัวเมื่อร่างทั้งร่างถูกอุ้มขึ้นจากพื้นตรงไปยังเตียงใหญ่ที่อยู่ไม่ไกล แต่ยังไม่ทันที่เด็กหนุ่มจะได้จัดที่จัดทางของตนให้ดี สัมผัสของมือใหญ่ที่แหวกก้อนเนื้อกลมกลึงออกและริมฝีปากที่งับลงบนก้อนเนื้อนุ่มนิ่มอย่างมันเขี้ยวก็มากพอที่จะทำให้คนประสบการณ์น้อยแทบประคองตัวเองไม่อยู่



“ไม่ต้องห่วง ฉันยังไม่ลืมสัญญาของเราหรอกน่า” ร่างสูงเอ่ยขึ้นขณะที่นิ้วเรียวยาวซึ่งชุ่มไปด้วยของเหลวที่มีนาไม่อยากรู้ว่าคืออะไรไล้วนรอบช่องทางอ่อนนุ่มอย่างหยอกเอิน ไม่ได้รู้เลยว่าฝ่ายคนโดนกระทำนั้นปาสัญญาทิ้งลงมารีน่าเบย์ไปตั้งแต่คำว่า ’ฉันชอบเธอ’ที่สวนสนุกแล้ว



“มะ…อึ่ก!” ร่างเล็กเกร็งตัวตามสัญชาตญาณเมื่อรู้สึกถึงสิ่งแปลกปลอมที่แทรกเข้ามา ธีรเชษฐ์โน้มตัวลงทาบทับแผ่นหลังขาวเนียน กระซิบถามข้างหูของเด็กหนุ่ม



“อะไรนะ?”




“มะ…ไม่…“



“ไม่ชอบเหรอมีน?” นิ้วเรียวยาวหมุนควงภายในช่องทางอ่อนนุ่มที่ตอบรับสัมผัสของเขาอย่างกระตือรือร้น ไม่อยากจะนึกเลยว่าหากเปลี่ยนเป็นอย่างอื่นจะสุขล้นเพียงใด “แต่ร่างกายเธอมันไม่ได้พูดแบบนั้นนะ”



“มะ…อื้อ!…ช้าลง…อ๊ะ…”



นิ้วเรียวที่ขยับเข้าออกเป็นจังหวะเนิบช้ายอมหยุดให้คนที่พยายามจะพูดอะไรบางอย่างกับตัวเอง แม้ว่าการรับรู้สถานะปัจจุบันของจัวเองหลังจากสติเริ่มกลับเข้าร่างจะทำให้มีนาอับอายจนพูดไม่ออกก็ตาม



“ว่าไง…ไม่อะไร?”ชายหนุ่มถามย้ำ ขยับนิ้วครูดผนังอ่อนนุ่มให้คนใต้ร่างบิดเร่าเป็นเชิงขู่ “ถ้าไม่ตอบฉันจะขยับแล้วนะ”



“ไม่…ไม่ต้องสนเรื่องสัญญาก็ได้ครับ”


ธีรเชษฐ์มั่นใจว่าเขาได้ยินเสียงเส้นสติของตัวเองขาดผึงอย่างชัดเจน เด็กนี่ตั้งใจจะไม่ปล่อยเขาให้หลุดมือไปเลยใช่มั้ย
แต่ธีรเชษฐ์เชื่อว่าเขาต้องอดเปรี้ยวไว้กินหวาน แม้ว่าใจจริงจะอยากกินทั้งตอนหวานและตอนเปรี้ยวมากแค่ไหนก็ตาม



“ฉันรอได้”




แต่ผมรอไม่ได้…



มีนาดีใจที่ตัวเองมียางอายมากพอที่จะไม่หลุดประโยคนั้นออกมา



เขาอยากเป็นของธีรเชษฐ์ อยากให้อีกฝ่ายทำให้เขาเป็นของตัวเอง ให้เขาได้รับการยืนยันอีกครั้งว่าทุกสิ่งทุกอย่างของมีนาเป็นของธีรเชษฐ์ ให้ร่องรอยของร่างสูงบนตัวเขาเป็นหลักฐานว่ามีนาไม่ได้คิดเรื่องทั้งหมดขึ้นมา ความต้องการแสนน่าอับอายนี้กำลังทำให้เด็กหนุ่มทุรนทุรายเหมือนถูกเปลวเพลิงแผดเผาจากภายใน



“คุณเชษฐ์…”


ร่างสูงผละออกจากเด็กหนุ่มเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายพยายามพลิกตัวกลับมาหาตน



มีนาคว้ามือของคนอายุมากกว่าไว้อย่างร้อนรน กลัวการแยกจากแม้เพียงเสี้ยววินาที เสียงหวานอ้อนวอน



“ขะ…เข้ามานะครับ”



“มีน…”



“เข้ามา…ได้มั้ยครับ?”



ถ้าธีรเชษฐ์ตายคาอกเด็กนี่ เขาจะกลายเป็นผีร้ายอาฆาตมาหลอกหลอนมีนาทุกค่ำคืนไม่ไปผุดไปเกิด



“รอก่อนนะครับคนเก่ง…” ชายหนุ่มดึงมือเรียวเล็กที่ยึดมือของเขาไว้แน่นขึ้นมาประทับจุมพิตที่หลังมือขาวอย่างอ่อนโยน เรียกสีเลือดฝาดบนแก้มใสได้เป็นอย่างดี “อีกแค่ไม่กี่วัน แล้วฉันสัญญาว่าเธอจะไม่มีแรงร้องขอฉันแบบนี้อีก”



มีนาหลบสายตาที่มองมาที่เขาด้วยความต้องการอย่างไม่ปิดบัง มันไม่เหมือนกับทุกครั้งที่ผ่านมา แววตาของธีรเชษฐ์ไม่ได้มีเพียงความปรารถนาดิบและสัญชาตญาณของสัตว์ป่า ความอ่อนโยนที่มีนาเคยเฝ้าฝันถึงฉายชัดในแววตาจนคนถูกมองอายม้วนไปทั้งตัว



“ตะ…แต่ว่า…”


“ไม่ต้องห่วง ฉันไม่ปล่อยให้เธอนอนทั้งอย่างนี้หรอก” ธีรเชษฐ์ยิ้มขำ “เดี๋ยวใครจะพูดเอาได้ว่าผู้ชายของเธอไม่ดูแล”



คะ…ใครจะไปพูดเรื่องแบบนั้นกันครับ?!



มีนายังไม่ทันจะได้เถียง มือใหญ่ที่ขยับลงมาตามหน้าท้องแบนราบก็กุมจุดอ่อนไหวที่เรียกร้องหาสัมผัสอย่างน่าอายของตนไว้ ก่อนที่ริมฝีปากได้รูปจะครอบครองทำหน้าที่แทนมือใหญ่อย่างชำนาญ


“อ๊ะ…คุ…อ๊า…” สะโพกมนขยับตามจังหวะที่ร่างสูงเป็นผู้ควบคุม อย่างห้ามไม่อยู่ มีนาพยายามดันศีรษะของอีกฝ่ายออก แต่นอกจากธีรเชษฐ์จะไม่ยอมทำตามคำขอแล้ว นิ้วเรียวที่แทรกเข้ามาในช่องทางด้านหลังยังทำให้มือที่พยายามดันอีกฝ่ายออกเปลี่ยนเป็นขยุ้มเส้นผมสีรัตติกาลแน่น ร่างเล็กกระตุกเฮือกหนีสัมผัสรุกเร้านั้นเข้าไปในโพรงปากอุ่นที่อ้ารับอย่างเต็มใจ
มีนาไม่มีแรงแม้แต่จะกัดริมฝีปากกลั้นเสียงครางแว่วหวาน ขยับตามจังหวะรักของนักรบเจนสนามอย่างไม่มีข้อโต้แย้ง ใบหน้าเรียวหวานสะบัดเชิดขึ้นอย่างเสียวซ่าน ร่างทั้งร่างบิดเร่าจากสัมผัสที่ปรนเปรอจากทั้งด้านหน้าและด้านหลังพร้อมกัน



“อ๊ะ…อ๊า…คุณ…อึ่ก…อะ…ออกไป…”


แน่นอนว่าธีรเชษฐ์ไม่คิดจะใส่ใจคำเตือนนั้น ร่างเปลือยเปล่าเกร็งกระตุกไปทั้งร่างกับสัมผัสที่ทำให้เขาทนไม่ไหวในที่สุด ก่อนจะทิ้งตัวลงบนเตียงนุ่ม หอบหายใจเอาอากาศเข้าปอดอย่างเหนื่อยอ่อน



ธีรเชษฐ์ยืดตัวลุกขึ้น ลิ้นสากแลบเลียริมฝีปากเอาน้ำหวานของคนตัวน้อยอย่างอ้อยอิ่ง จ้องมองผลงานของตัวเองที่นอนหอบร่างเปลือยเปล่าผมเผ้ายุ่งเหยิงอยู่บนเตียงอย่างพึงพอใจ



“น่าจะพอแก้ขัดได้ล่ะนะ”



“ละ…แล้วคุณเชษฐ์…” แม้ขาเรียวจะยังสั่นระริก แต่มีนายังคงไม่วายนึกเป็นห่วงคนที่ยังไม่ได้รับการปลดปล่อย เด็กหนุ่มค่อยๆขยับชันตัวจากเตียง ดวงตากลมโตเบิกกว้าง รีบเสตามองไปทางอื่นเมื่อเห็นความต้องการเด่นชัดภายในกางเกงยีนส์ราคาแพงของร่างสูง



“ไม่ต้องห่วงฉันหรอก”


มือใหญ่วางลงบนกลุ่มผมนุ่มอย่างปลอบประโลม แต่มีนากลับส่ายหน้าเบาๆ ดวงตาสีน้ำตาลช้อนมองคนตรงหน้าด้วยสายตาอ้อนวอนที่ทำให้คนแก่ใจกระตุก



“ผม…ผมขอทำให้นะครับ”


อยากกินเปรี้ยว อยากกินเปรี้ยวว้อย!!!



“อย่าฝืนล่ะ” ปากพูดไปอย่างนั้นแต่ในใจระริกระรี้จนเขายังหมั่นไส้ตัวเอง



ร่างเล็กเอื้อมไปปลดเข็มขัดหนังสีดำใหม่เอี่ยมที่มีนาเป็นคนซื้อให้เขาด้วยมือที่สั่นเทา แต่นั่นเป็นครั้งแรกที่ธีรเชษฐ์สังเกตว่าอาการสั่นนั้นไม่ได้มาจากความกลัว



มือเล็กจัดการอาภรณ์ชิ้นอื่นของธีรเชษฐ์อย่างเชื่องช้า มีนาผงะเล็กน้อยเมื่อเห็นความเกรี้ยวกราของร่างสูงเต็มตา มือเรียวขาวเนียนกอบกุมความเป็นชายของอีกฝ่ายอย่างประหม่า ก่อนจะเริ่มขยับข้อมือด้วยจังหวะที่เนิบช้าเสียจนธีรเชษฐ์แทบคลั่ง
แต่ที่ทำให้ร่างสูงคลั่งขึ้นมาจริงๆในตอนนั้นคือลิ้นเรียวเล็กที่เลียริมฝีปากของตัวเองเบาๆโดยไม่รู้ตัว



และสมองของเขาเลือกเวลานั้นในการปะติดปะต่อภาพเหตุการณ์ทั้งหมดในหัวของจำนวนครั้งที่ร่างเล็กเสนอตัวให้เขา



“นี่เธอ…ชอบใช้ปากให้ฉันขนาดนั้นเลยเหรอ?”



หลังจากหลุดถามออกไปธีรเชษฐ์คิดว่าอีกฝ่ายจะอายม้วนลุกหนีไปกลางคันเสียแล้ว แต่แทนคำตอบ ริมฝีปากอวบอิ่มรูปกระจับสีหวานกลับเผยออ้าครอบครองความเป็นชายที่กำลังพองโตจนปวดหนึบอย่างทุลักทุเลพร้อมกับช้อนตามองปฏิกิริยาของร่างสูงตาแป๋ว



ตาย…เขาได้ตายคาอกเด็กจริงๆก็คราวนี้แหละ


ธีรเชษฐ์เลือกที่จะใช้ไหล่บางเป็นแหล่งยึดเกาะเพื่อไม่ให้ตัวเองเผลอขยับเร่งคนที่ยังไม่พร้อม แต่จังหวะที่ริมฝีปากอิ่มและลิ้นเรียวเล็กกำลังปรนเปรอให้เขานั้นพอดีเสียจนคนสอนครางเสียงต่ำอย่างพึงพอใจ สะโพกสอบขยับสวนจังหวะของริมฝีปากนุ่มนิ่มที่การฝึกฝนหลายสิบครั้งจนเริ่มทำให้เด็กหนุ่มมีความมั่นใจมากขึ้นจากเมื่อก่อน มีนาถอนริมฝีปากออกมาช้าๆ ลิ้นเรียวเล็กจะลากไล้ไปตามความยาวจนร่างสูงกระตุกเกร็งหน้าท้อง แตะของฝั่งอย่างรวดเร็วยิ่งกว่านักว่ายน้ำเหรียญทองมืออาชีพ



หากนี่เป็นแผนของมีนาที่จะทำให้เขาหัวใจวายตายก่อนวัยอันควรเพื่อปลดหนี้ของตัวเอง ธีรเชษฐ์คิดว่าเด็กหนุ่มกำลังปฏิบัติตามแผนการของตัวเองได้อย่างมีประสิทธิภาพเกินไปแล้ว










ในเช้าวันแรก มีนาเคยกลัวว่าหากเขาลืมตาตื่นขึ้นมาจริงๆ พวกเขาจะกลับไปอยู่ในคอนโดของธีรเชษฐ์ เรื่องทั้งหมดจะเป็นเพียงแค่ความฝันที่สมองของเด็กหนุ่มสร้างขึ้นเพื่อหนีจากความเป็นจริง


แต่หลังจากวันที่สามที่เขาถูกปลุกด้วยเสียงทุ้มของคนที่คร่อมอยู่เหนือร่างกล่าวอรุณสวัสดิ์ข้างหูและริมฝีปากร้อนที่จุมพิตบนหน้าผากอย่างแผ่วเบา ไล่ลงมาแตะจมูกรั้นและประทับบนแก้มใสทั้งสองข้าง รอให้มีนาลืมตาตื่นขึ้นมาแตะริมฝีปากนุ่มกับริมฝีปากที่รออยู่เบาๆพร้อมรอยยิ้มเขินอาย เขาก็เริ่มจะเชื่อแล้วว่าเรื่องทั้งหมดเป็นความจริง



มีนาไม่เคยเป็นเจ้าของนาฬิกาปลุกนอกจากฟังก์ชั่นในโทรศัพท์ แต่เขาเชื่อว่าธีรเชษฐ์น่าจะเป็นนาฬิกาปลุกที่ราคาแพงและ
มีประสิทธิภาพที่สุดในโลก



ตื่นทีตื่นไปหมดทั้งตัว


“รีบอาบน้ำเร็ว เดี๋ยวถึงสนามบินสาย” ธีรเชษฐ์ว่า ขโมยหอมฟอดใหญ่จากแก้มนิ่มไปอีกหนึ่งฟอดก่อนจะลุกให้คนตัวเล็กไปอาบน้ำ มีนายิ้มขอบคุณร่างสูง เปิดประตูตู้เสื้อผ้าหยิบชุดของตัวเองออกมา แอบเหลือบมองคนบนเตียงเพื่อดูว่าอีกฝ่ายจะเดินตามมาหรือไม่



“อาบไปเถอะน่า วันนี้ฉันไม่แกล้งหรอก” ธีรเชษฐ์ที่เช็คอีเมลล์ในโทรศัพท์ของตัวเองตอบเสียงกลั้วหัวเราะราวกับอ่านใจมีนาได้ทั้งที่ไม่ได้เงยหน้าขึ้นมา เด็กหนุ่มพยักหน้าแล้วผลุบหายเข้าไปในห้องน้ำ รู้สึกโชคดีที่พลังการอ่านใจของอีกฝ่ายไม่ได้หยั่งลึกไปถึงส่วนลึกในจิตใจของเขาที่นึกอยากให้ร่างสูงเดินตามเข้ามา



โลภ…มีนาตระหนักแล้วว่าตัวเองเป็นคนโลภมากจริงๆ



เด็กหนุ่มก้าวออกมาจากห้องน้ำ แล้วพบกับภาพของธีรเชษฐ์ที่นั่งพับเสื้อผ้าใช้แล้วของพวกเขาลงกระเป๋าเดินทาง ข้าวของเครื่องใช้ของคนทั้งสองถูกแพ็คอย่างเป็นระเบียบในกระเป๋าชนิดที่มีนาไม่เคยคิดมาก่อนว่าอีกฝ่ายจะสามารถทำได้
เด็กหนุ่มทรุดตัวลงข้างคนที่นั่งอยู่บนพื้น



“คุณเชษฐ์ไม่ต้อง…”



“เธอหมดสิทธิ์ใช้ข้ออ้างนั้นกับฉันแล้ว มีนา”ธีรเชษฐ์เอ่ยขัด คนข้างกายเอียงคออย่างไม่เข้าใจ ข้ออ้างอะไรกัน?



“ต่อไปนี้ เธอไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธความช่วยเหลือจากฉัน เพราะเธอไม่ใช่ลูกหนี้ของฉันอีกต่อไปแล้ว เข้าใจมั้ย?” ธีรเชษฐ์บีบจมูกคนทำหน้าใสซื่อเบาๆ มีนายังคงรู้สึกไม่คุ้นชินกับการกระทำที่แสดงออกถึงความเอ็นดูอย่างชัดเจนของอีกฝ่าย แต่
ปฏิเสธไม่ได้ว่ามันทำให้รอยยิ้มเขินอายไม่เคยจางหายไปจากริมฝีปากของเด็กหนุ่ม



เเต่ถึงอย่างนั้น เรื่องน่ากังวลสำหรับมีนาก็ยังคงไม่หมดแต่เพียงเท่านี้



“เงินมากมายขนาดนั้น ผมทำเป็นเหมือนไม่ได้ติดค้างอะไรคุณเชษฐ์ไม่ได้หรอกนะครับ”



“ถ้าอย่างนั้นก็จ่ายคืนฉันมา จะห้าปีสิบปี หรือจะใช้หนี้ฉันไปตลอดชีวิตได้ยิ่งดี อย่างน้อยมันก็เป็นเครื่องการันตีว่าเธอจะไม่ไปไหน” ธีรเชษฐ์ถอนหายใจ เขารู้อยู่แล้วว่านิสัยของมีนาไม่มีทางปล่อยให้ชีวิตตัวเองง่ายดายขนาดนั้น “แต่อย่าเอามันมาปน กับเรื่องของเรา อายุฉันปูนนี้แล้ว ถ้าฉันคิดจะเริ่มใหม่กับใคร ฉันไม่คิดจะคบเล่นๆรอเธอขัดดอกเสร็จแล้วทิ้งฉันนอน
พะงาบอยู่บนเตียงโรงพยาบาลหรอกนะ”



ธีรเชษฐ์ไม่มีทางรู้เลยว่ามีนาใจเต้นไปกี่ครั้งกับสิ่งที่ชายหนุ่มพูดออกมาภายในหนึ่งลมหายใจ แต่เขาคิดว่าอีกฝ่ายน่าจะพอเดาได้จากร่างกายทรยศที่แดงเถือกไปทุกสัดส่วนในตอนนี้



“คุณเชษฐ์...ไม่ได้แก่ขนาดนั้นซักหน่อยครับ...” เด็กหนุ่มแย้งเสียงเบา


“ไม่แก่ขนาดนั้น?” ธีรเชษฐ์เลิกคิ้ว “มีน ตอนที่เธอเกิด ฉันมีลูกสามคนกับบริษัทอีกหนึ่งบริษัท เธอคิดว่าฉันไม่แก่ขนาดนั้นจริงๆเหรอ?”



“…ผมไม่เคยคิดว่าคุณเชษฐ์แก่เลยนะครับ” มีนาพึมพำตอบ คนฟังหัวเราะเสียงต่ำ ลูบหัวเด็กหนุ่มเบาๆอย่างมันเขี้ยว



“ก็แน่ล่ะสิ แค่ตอนนี้เธอยังจับไข้ตั้งแต่ครั้งแรก ถ้าเจอฉันสมัยหนุ่มๆคงได้หามเข้าโรงพยาบาล”



“ผะ…ผมไม่ได้หมายความถึงเรื่องนั้นซักหน่อยครับ!”คนโดนแกล้งรีบแก้ตัวเสียงสูง แม้จะรู้ว่ามันสายไปเสียแล้ว



“เธอเนี่ยนะ จะให้ฉันหยุดแกล้งก็ทำตัวให้มันน่าแกล้งน้อยกว่านี้หน่อยสิ” คนอายุมากกว่าขโมยหอมฟอดใหญ่ไปจากแก้มนิ่มอีกครั้ง ก่อนจะลุกไปสำรวจว่ามีของที่ลืมไว้หรือไม่เป็นครั้งสุดท้าย มีนายกมือขึ้นแตะแก้มของตัวเองเบาๆ รอยยิ้มเอียงอายประดับมุมปากไม่จางหาย



แล้วใครบอกคุณเชษฐ์ล่ะครับว่าผมอยากให้หยุดแกล้ง...










“มาเที่ยวต่างประเทศทั้งที จะไม่ซื้ออะไรไปฝากเพื่อนหน่อยเหรอ?”



ธีรเชษฐ์เอ่ยทักเมื่อเห็นมีนาไม่มีท่าทีจะสนใจอะไรในเขตปลอดภาษี ร่างเล็กที่อยู่ในชุดคลุมที่ธีรเชษฐ์เลือกให้หันกลับมามองเขา ดวงตากลมโตเป็นประกายอย่างดีใจระคนประหลาดใจ



“เอ๊ะ...ได้เหรอครับ?”


ทำหน้าแบบนั้นมาจะขอดาวขอเดือนขอพระอาทิตย์ก็ได้หมดนั่นแหละ



ธีรเชษฐ์อยากจะกุมขมับกับความหลงเด็กของตัวเอง ถ้ามีนาเป็นพวกสิบแปดมงกุฎจ้องจะสูบเงินเขาแล้วหนีไปล่ะก็ ธีรเชษฐ์คงสิ้นเนื้อประดาตัวไม่เหลือเงินสักบาทเดียว



“บัตรเครดิตที่ฉันให้ไปถือว่าเป็นของของเธอ” มือใหญ่ยกขึ้นห้ามคนที่กำลังจะเถียง “ฉันไม่ชอบให้คนของฉันลำบาก ถ้าเธอจะคบกับฉัน เธอต้องทนของราคาแพงที่ฉันซื้อให้ ทนกับร้านอาหารหรูๆที่ฉันจะพาไป ทนกับบัตรเครดิตไม่จำกัดวงเงินที่ฉันให้ เธอทนเพื่อฉันได้ใช่มั้ย?”



เล่นพูดดักกันแบบนี้ เด็กดีอย่างมีนาจะกล้าตอบว่าทนไม่ได้ได้อย่างไรกัน



คนใจร้าย ยังไงก็ใจร้ายอยู่วันยังค่ำ











มีนาเดินดูสินค้าฆ่าเวลาไปเรื่อยๆอย่างไร้จุดหมาย แม้จะอยากซื้อของฝากให้มารดาและยาย แต่ราคาสินค้าที่คนอย่างเขาไม่ควรมีเงินจ่ายทำให้ตัวเลือกของเด็กหนุ่มมีจำกัด



ร่างสูงข้างๆเดินตามเขาโดยไม่ปริปากบ่น บนหลังสะพายเป้ใบน้อยของมีนาที่อีกฝ่ายดึงดันจะถือให้จนร่างเล็กยอมแพ้



“คุณเชษฐ์ มีอะไรรึเปล่าครับ?” เด็กหนุ่มถามเมื่อเห็นอีกฝ่ายยืนมองอะไรบางอย่างบนชั้นวางอยู่นานสองนาน ธีรเชษฐ์ส่ายหน้า ดวงตาสีควันบุหรี่สลดลงอย่างที่มีนาไม่ค่อยได้เห็นบ่อยนัก



“สมัยก่อน เจ้าซันชอบขอให้ฉันซื้อช็อกโกแลตยี่ห้อนี้มาฝากเวลามาทำงานต่างประเทศ” ร่างสูงว่า หยิบกล่องช็อกโกแลตขนาดพอๆกับหนังสือหนึ่งเล่มออกมา ภายในบรรจุช็อกโกแลตขนาดเล็กหลากรสคละกันตามสีห่อ ดูจากป้ายราคาแล้วขนมกล่องนี้ไม่ได้มีราคาแพงนัก “ช่วงที่เกศป่วยหนัก เขาไม่เคยพูดเรื่องช็อกโกแลตนี่ เขาไม่เคยขออะไรจากฉัน ปกติเขาก็เป็นคนพูดน้อยอยู่แล้ว แต่ช่วงที่แม่เขาป่วย เด็กคนนั้นไม่เคยพูดกับใครอีก”



มีนานึกภาพทินกรเป็นเด็กเงียบๆไม่ออก ในความคิดของเขา นิสัยของทินกรตรงตามความหมาย เด็กหนุ่มคือพระอาทิตย์ คือความเจิดจ้าที่ทำให้มีนายิ้มได้เสมอ



“…ซื้อไปฝากสิครับ”


“…?” ธีรเชษฐ์หันมามองหน้าเขาด้วยสีหน้าไม่เข้าใจ มีนาเงยหน้าขึ้นยิ้มจให้อีกฝ่ายอย่างให้กำลังใจ



“ผมว่าคุณทินกรต้องดีใจแน่ๆเลยครับ”



“ลูกชายฉันไม่ใช่เด็กๆแล้ว คงไม่ได้ชอบอะไรแบบนี้แล้วล่ะ” ชายหนุ่มทำท่าจะนำสินค้ากลับไปวางที่ชั้น แต่มีนาไวกว่ายื้อ
ข้อมือของคนข้างๆไว้


“ถ้าอย่างนั้นผมซื้อเองก็ได้ครับ” เด็กหนุ่มดึงดัน “ผมซื้อฝากคุณเชษฐ์ไปให้คุณทินกรได้มั้ยครับ”



คนฟังหลุดขำพรืดออกมากับคำถามนั้น จากสีหน้างุนงงของมีนา ร่างเล็กคงไม่ได้รู้เลยว่าสิ่งที่ตัวเองพูดนั้นสื่อความหมายเช่นไร



“ได้สิ” ธีรเชษฐ์หยิบขนมกล่องนั้นใส่ตะกร้าพลาสติก “ซันคงดีใจที่แม่เลี้ยงซื้อขนมมาฝาก”


“ผมไม่ได้…” ใบหน้าขาวขึ้นสีเลือดฝาดทันทีที่เข้าใจ ร่างสูงหัวเราะ ไม่ยอมให้เด็กหนุ่มปฏิเสธ



“อย่าอายไปเลยน่า จะช้าจะเร็วเธอก็ต้องเจอกับลูกชายฉัน เจ้าเมฆกับเจ้าธารนี่คงไม่ต้องแนะนำกันแล้ว ก่อนหน้านี้เธอบอกว่าเคยเจอกับซันไม่ใช่เหรอ?”



“แค่เคยคุยงานกันบ้างน่ะครับ” มีนาโกหก ความหวาดกลัวในตัวเขาบอกให้เด็กหนุ่มยืดเวลาการเผชิญหน้ากับทินกรในฐานะ...อะไรก็ตามในตอนนี้ให้นานที่สุด



“ถ้าจะมีลูกคนไหนของฉันที่น่าจะเป็นมิตรกับเธอ ก็คงจะเป็นซัน” ธีรเชษฐ์คาด ซึ่งไม่ผิดจากความเป็นจริงเสียเท่าไหร่ “ฉันว่านะ ดีไม่ดีเด็กนั่นจะดีใจด้วยซ้ำที่ได้คนรุ่นราวคราวเดียวกันมาเป็นเพื่อน”



มีนานึกย้อนไปถึงทุกครั้งที่ทินกรพูดถึงเด็กในสต็อกของธีรเชษฐ์ แม้จะไม่ได้มีความรังเกียจเจือปนอยู่ในน้ำเสียง แต่มีนาไม่คิว่าเพื่อนของเขาจะพิสมัยความคิดนั้นเสียเท่าไหร่



“แต่คุณทินกรก็มีคุณธารธาราไม่ใช่เหรอครับ?”



แม้จะมีอายุห่างกันสามสี่ปี แต่มีนาก็ยังคิดว่าพี่น้องทั้งสองน่าจะยังอยู่ในวัยที่สามารถพูดคุยกันได้
ธีรเชษฐ์นิ่งไปกับคำถามนั้น ยกมือขึ้นเกาหลังคอด้วยสีหน้ายุ่งยากใจ



“ธาร...ไม่ค่อยชอบซันเท่าไหร่”



“เอ๊ะ?”



สิ่งที่ธีรเชษฐ์พูดออกมานั้น คนที่เคยเห็นสองพี่น้องอยู่ด้วยกันอย่างเขาแทบจะเดาไม่ออกเลยว่าจะเป็นเรื่องจริงไปได้อย่างไร แต่หากนึกย้อนดูแล้ว เขาก็ไม่ได้เห็นสองพี่น้องอยู่ด้วยกันบ่อยสักเท่าไหร่



“เกศอาการทรุดลงทันทีที่ซันเกิด ตอนนั้นธารยังเด็ก ไม่เข้าใจว่ามันไม่ใช่ความผิดของน้อง ตอนเด็กๆธารเลยไม่เล่นกับซันเท่าไหร่ สองคนนั้นพอโตขึ้นก็รักกันดีอยู่หรอก แต่เรื่องในอดีตมันกลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้ สองคนนั้นเลยไม่ค่อยสนิทกันมาตั้งแต่แรก” ธีรเชษฐ์อธิบาย “ส่วนเมฆมีโลกส่วนตัวของเขาอยู่แล้ว ไม่ค่อยสุงสิงกับน้องแต่แรกอยู่แล้ว ช่วงมหาวิทยาลัยก็ดูจะเริ่มมีสังคมขึ้นบ้างนะ แต่หลังจากรถคว่ำตอนก่อนขึ้นปีสี่ ก็กลับมาเป็นเด็กเงียบๆเหมือนเดิม”


มีนาไม่เคยรู้มาก่อนว่ามีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นในชีวิตของเพื่อนที่เขาค่อนข้างสนิท เด็กหนุ่มตัดสินใจว่าหลังจากนี้จะใส่ใจเพื่อน
ร่างสูงให้มาก ถึงแม้ว่าทินกรจะมีคนดูแลเป็นอย่างดีอยู่แล้วในตอนนี้ก็ตาม



“แล้วก็นะ” ร่างสูงปรายตามองเด็กหนุ่มข้างกาย “เลิกเรียกลูกชายฉันว่าคุณซักที ตอนนี้เธอเป็นแฟนของฉัน ยังไงเธอก็มีสิทธิเรียกพวกเขาด้วยชื่อเล่น”



การเรียกทินกรว่าซันเป็นเรื่องปกติในชีวิตของมีนา แต่แค่ความคิดของการเรียกธาราว่าพี่น้ำอุ่นหรือคุณเมฆาว่าพี่เมฆก็ทำให้ขนอ่อนทั่วร่างของเด็กหนุ่มลุกชันโดยง่าย



“มะ...ไม่ดีกว่าครับ”


ธีรเชษฐ์เพียงแค่ยิ้มกับน้ำเสียงตะกุกตะกัก ไม่ได้หงุดหงิดอะไรกับคำตอบของคนรัก เรื่องแบบนี้มันต้องค่อยๆเป็นค่อยๆไป



ว่าแต่ เมื่อกี้เขาเรียกมีนว่าอะไรนะ?



-------------

 :mew1: :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ AkuaPink

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2033
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-1

ออฟไลน์ mypink801

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1600
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
แฟนไงคุณเชษฐ์ เรียกน้องว่าแฟนนนนนนนนนนนน
น้องมีนลูกก หนูไม่ได้โลภนะ หนูแค่หื่น 5555555555 :hao7:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ BABYBB

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1123
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1
เรียกว่าแฟนข่ะคุณพ่อ!!!

ออฟไลน์ เก้าแต้ม

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1296
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +88/-3
น่าร๊ากกก

ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6
ลุงเชษฐ์รู้สึกงัยบ้างมีแฟนเด็ก กระชุ่มกระชวยดีมั้ยคะ  :hao3:

ออฟไลน์ miikii

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1725
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
โอ๊ยน้ออออ  :katai2-1:
เดี๋ยวก็ได้กินหวานแล้ว

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4825
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
หนูมีน จะได้เป็นแม่บ้านใจกล้าแล้วนิ  :hao3:

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7697
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
แหม เพิ่งพูดไปเองนะคุณเชษฐ์  ลืมซะแล้ว555

ออฟไลน์ HISY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-3
มีแฟนเด็กต้องหมั่นตรวจเช็คร่างกายย~~

ออฟไลน์ littlepig

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 429
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +413/-5
Chapter 40: เป็นแฟนแล้วนะ

มีนาไม่ได้มีโอกาสดูภาพยนตร์รักโรแมนติกมากนัก แต่เขาคิดว่าสิ่งที่ตัวเอกของเรื่องกำลังรู้สึกคงไม่ต่างจากสิ่งที่เขาเป็นอยู่ตอนนี้มากนัก


“เย็นนี้ฉันมารับนะ”



แม้ว่าธีรเชษฐ์จะไปรับไปส่งเขาแทบทุกวันเป็นหนึ่งในกฎของอีกฝ่าย แต่เมื่อประกาศิตเปลี่ยนเป็นประโยคคำถามที่มาพร้อมกับแววตาออดอ้อนของเจ้าชีวิต คนขี้ใจอ่อนอย่างมีนาหรือจะกล้าปฏิเสธ



“คุณเชษฐ์จะมากี่โมงเหรอครับ?” มีนาถามตามความเคยชิน ปกติแล้วตารางชีวิตของเขาในแต่ละวันถูกจัดตามกำหนดเวลาของร่างสูง กิจกรรมหลังเลิกเรียนหรือการนัดเพื่อนทานอาหารเย็นไม่เคยมีอยู่ในชีวิตของเด็กหนุ่ม



“กี่โมงก็ได้ อยากกลับแล้วค่อยโทรตามฉัน” ธีรเชษฐ์ตอบอย่างไม่ใส่ใจ มีนานิ่งอึ้งไปกับความเปลี่ยนแปลงอันยิ่งใหญ่ที่เกิดขึ้นอย่างกระทันหันภายในเวลาอันสั้นทำให้ร่างเล็กรู้สึกปรับตัวไม่ทัน



ธีรเชษฐ์สังเกตเห็นสีหน้าของคนรัก คิ้วคมตกลงอย่างรู้สึกผิด



“ถ้าอยากไปเที่ยวกับเพื่อนก็บอกได้นะ”



“ขอบคุณนะครับคุณเชษฐ์” มีนายิ้ม รับน้ำใจของอีกฝ่ายไว้แม้จะรู้ว่าเพื่อนเพียงไม่กี่คนของเขาคงเลือกที่จะอยู่กับคนรักมากกว่านัดกันไปสังสรรค์ก็ตาม เด็กหนุ่มยกมือไหว้ลาคนอายุมากกว่าแล้วเอื้อมไปเปิดประตูรถ


“เดี๋ยวมีน…”



ธีรเชษฐ์เอ่ยรั้ง ยกมือขึ้นเคาะที่แก้มของตัวเองเบาๆ มีนามีสีหน้าขัดเขิน แต่ก็ยอมโน้มตัวมากดจมูกลงบนแก้มสากของคนรักหมาดๆของตัวเองแต่โดยดี



คนถูกหอมยิ้ม ก่อนจะเอื้อมมือมาที่แก้มเนียนใส ใช้นิ้วหัวแม่มือเช็ดคราบซอสจากมื้อเช้าออกจากแก้มของเด็กหนุ่มเบาๆ


“จะบอกว่าซอสเลอะแก้ม”



“...ผมไปเรียนแล้วนะครับ” มีนารีบเปิดประตูลงจากรถกลบเกลื่อนความอาย แม้รอยยิ้มกว้างจนแทบจะฉีกไปถึงใบหูไม่เคยละจากใบหน้าหวาน เด็กหนุ่มมองส่งรถของคนรักที่เคลื่อนตัวออกไปจนลับสายตาก่อนจะตรงไปยังตึกเรียนของตัวเอง




คิดถึงคุณเชษฐ์แล้ว...








มีนารู้สึกว่าตัวเองเพิ่งค้นพบโลกใบใหม่ของคนเห่อแฟนจากเพื่อนทั้งสองในมุมที่เขาไม่เคยสังเกตมาก่อน



“รายงานตัวก่อน เดี๋ยวเมียหาไม่เจอ”



พายุถ่ายรูปร้านข้าวขาหมูที่พวกเขานั่งอยู่ด้านหน้า เช่นเดียวกันทินกรที่เสียงหูฟังกดวีดีโอคอลหาแฟนหนุ่มอายุมากกว่าตั้งแต่นั่งลง เข้าสู่โลกสีชมพูของตัวเองเป็นที่เรียบร้อยแล้ว



แน่นอนว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ทั้งสองทำแบบนี้ แต่มันเป็นครั้งแรกที่ทำให้มีนาเริ่มสนใจการกระทำของเพื่อน



“พายุ ปกติเป็น…เป็นแฟนกันนี่ต้องส่งข้อความหากันตอนไหนบ้างเหรอ?”


คำว่า ‘แฟน’ ยังคงเป็นเรื่องกระดากปากสำหรับมีนา ยิ่งในตอนนี้คำคำนั้นไม่ใช่แค่สถานะจอมปลอมที่เขาเอาไว้เรียกธีรเชษฐ์ต่อหน้าเพื่อนทั้งสองอีกต่อไป มีนายิ่งรู้สึกว่าตัวเองมีพิรุธมากขึ้นไปอีก




“หือ? ก็ต้องทุกตอนดิวะ” พายุขมวดคิ้วตอบราวกับเป็นเรื่องที่มีนาควรรู้อยู่แล้ว “ถ้ามึงคิดถึงใครมึงก็ส่งข้อความหา โทรหาเขา เป็นเรื่องปกติป่ะ? ดูไอ้ซันดิ แม่งจะสิงจออยู่ละน่ะ”



จริงอย่างที่อีกฝ่ายว่า ทินกรนั้นแทบจะหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกับโทรศัพท์ตัวเอง ซึ่งเป็นสิ่งที่มีนานึกภาพบิดาของเพื่อนทำไม่ออก



“แล้ว...เราต้องพูดอะไรบ้างเหรอ”



“ฮะ? นี่มึงเปลี่ยนผัวใหม่แล้วเหรอวะ? ทำไมจู่ๆถึงได้สนใจอะไรแบบนี้?” คนชอบเผือกละความสนใจจากหน้าจอมาทำหูผึ่งใส่เพื่อน มีนาส่ายหน้า เรียกเสียงโห่อย่างผิดหวังจากพายุได้เป็นอย่างดี



“เราแค่…อยากลองอะไรใหม่ๆบ้าง”




“อ๋อ เรื่องนี้เอง กูก็นึกว่าอะไร” พายุพยักหน้ารับอย่างเข้าใจด้วยสีหน้าที่จริงจังจนมีนาเริ่มไม่คิดแล้วว่าอีกฝ่ายกำลังพูดเรื่องเดียวกับเขา “งี้แหละ อยู่กันไปก็ต้องอยากได้อะไรกร๊าวใจเป็นเรื่องธรรมดา”



“กร๊าว…?” มีนาทวนคำอย่างไม่เข้าใจ



“เออ เวลามึงถ่ายรูปส่งให้เขาก็ให้มั่นใจว่าไม่ติดหน้ามึง ดูว่าไม่มีเงาสะท้อน แล้วมึงก็ถอด…”



มีนาไม่ได้ยินประโยคหลังจากนั้นของพายุเนื่องจากเพื่อนอีกคนที่เมื่อครู่ยังสวีทหวานกับคนรักรีบเอามือมาปิดหูเขาไว้แน่น




“พายุ! มึงพูดอะไรกับเพื่อนเนี่ย?!” ทินกรโวยวาย มีนาพยายามแกะมือใหญ่ที่ประกบปิดหูของตัวเองไว้จนมิด แต่เพื่อนตัวโตกลับไม่สนใจความพยายามของเขาสักนิด




“อะไรของมึงวะซัน? ไอ้มีนแม่งเผลอๆจะเจนสนามกว่ามึงด้วยซ้ำ อาจารย์มันประสบการณ์เยอะจะตาย” พายุกลอกตากับความปกป้องเพื่อนจนเกินเหตุของทินกร



คนฟังมีสีหน้าลังเล แต่ก็ยอมปล่อยมือจากหูของมีนาแต่โดยดี



“มีน…นายอยากส่งอะไรให้แฟนก็ส่งไปเถอะ คิดถึงก็พิมพ์บอกไปว่าคิดถึง แค่นี้เขาก็คงดีใจแล้ว” ทินกรแนะนำอย่างมี

เหตุผล แต่คำแนะนำของอีกฝ่ายไม่ได้ช่วยมีนาในตอนนี้เท่าไหร่



“เราไม่อยากกวนเขา คุณ…แฟนเรางานยุ่งมาก”



“ข้อดีของข้อความคือเขาเปิดอ่านตอนไหนก็ได้ไง” เพื่อนตัวสูงยังคงพูดต่อ โดยไม่ได้เอะใจเลยว่ากำลังพูดอยู่กับคนรักของบิดา “ถ้าเขาว่างเดี๋ยวเขาก็ตอบ”



“หราาาา” พายุลากเสียงอย่างหมั่นไส้ “แล้วใครวะที่งอนสะบัดสะบิ้งจนพี่ภัทรต้องมาง้อถึงมหาลัยเพราะเขาไม่ตอบ
ข้อความ?”



มีนานึกภาพตามแล้วอดหลุดขำออกมาไม่ได้



“…เออ กูมันขี้เหงา ใครจะโชคดีมีแฟนอยู่ด้วยตลอดเหมือนมึงล่ะ” ทินกรตัดพ้อ มีนาหันซ้ายแลขวาดูการเถียงกันไปมาเหมือนคู่สามีภรรยาแก่ๆของเพื่อน รู้สึกเหมือนไม่ได้เจอคนทั้งคู่มานาน



“ให้กูบอกพี่ภัทรให้มะว่ามึงอยากได้แฟนแถวนี้”



“หยุดเลยไอ้ยุ! แล้วมึงมีเบอร์พี่ภัทรได้ไงเนี่ย?!”



“เมียเพื่อนคือครอบครัวป่ะวะ มึงแหละทำไมไม่มีเบอร์เจน เพื่อนกันป่ะเนี่ย?”



เด็กหนุ่มตัวโตทั้งสองยื้อยุดฉุดกระชากโทรศัพท์มือถือกันอย่างเอาเป็นเอาตายโดยไม่สนคนที่กำลังจะโดนบี้แบนอยู่ระหว่างพวกตน มีนายิ้มอย่างเอ็นดูแกมระอา รู้ว่าห้ามปรามไปก็คงเท่านั้น



“ได้ งั้นมึงเอาเบอร์เจนมา มีน เอาเบอร์แฟนมาด้วย ครอบครัวเดียวกันต้องมีเบอร์ดิ”



สะดุ้งในสะดุ้ง มีนาที่เมื่อครู่ยังยิ้มแย้มรีบส่ายหน้าพรืด มือกำโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงนักศึกษาของตัวเองแน่น



“มะ…ไม่ได้...”



“ทำไมอ่า มีนไม่เห็นเราเป็นครอบครัวเหรอ” ลูกชายของคนรักถามมีนาด้วยแววตาเจ็บปวดเหมือนลูกสุนัขโดนเตะ ราวกับเด็กน้อยที่ถูกภรรยาใหม่ของบิดาทอดทิ้งอย่างไม่ใยดี



ปะ...ไปกันใหญ่แล้ว ทำไมถึงได้กลายเป็นแบบนี้ไปล่ะ?



มีนาถึงกับเหงื่อตกกับคำถามนั้น



“นั่นดิวะไอ้มีน นี่ลูกมึงนะ จะไม่ให้มันเห็นหน้าพ่อตัวเองหน่อยเหรอ?” พายุแซวเสียงกลั้วหัวเราะ ไม่ได้รู้เลยว่าคำพูดส่งเดชของตัวเองนั้นจะตรงกับสถานการณ์จริงแค่ไหน



ทินกรพยักหน้าสนับสนุน เล่นเอามีนาลมจะจับเสียให้ได้



“เรา…เรามีเรียน”



สู้ไม่ไว้ก็ต้องถอยกลับไปตั้งหลัก มีนาคว้ากระเป๋าลุกพรวดขึ้นจากโต๊ะทั้งที่เหลือเวลอีกเกือบสองชั่วโมงจะถึงคาบถัดไป เพื่อนตัวโตทั้งสองที่รู้ว่าแกล้งร่างเล็กเกินไปแล้วรีบคว้าตัวมีนาไว้ ยื้อยุดฉุดกระชากกันอยู่สักพักกว่ามีนาจะยอมนั่งกลับลงไปเพราะแรงมหาศาลของเพื่อน



“โอ๋…ไม่งอนดิ ก็เดี๋ยวนี้มึงเล่นหายไปกับผัวตลอดเลยอ่ะ” พายุจิ้มจึกๆที่ไหล่ของเพื่อนเป็นการขอคืนดี



มีนาอยากจะถามเหลือเกินว่าเขาต่างจากทั้งสองคนตรงไหน แต่คำถามนั้นถูกกลืนลงไปในลำคอทันทีที่เห็นกล่องช็อกโกแลตคุ้นตายื่นมาตรงหน้า



“เราแบ่งให้ อย่างอนเราเลยนะ” ทินกรทำตาปิ๊งๆใส่เพื่อนตัวเล็ก ซึ่งมีหรือมีนาจะสามารถโกรธใบหน้านี้ลง เล่นถอดแบบบิดามาซะอย่างกับโขกพิมพ์แบบนี้ “พ่อเราซื้อมาให้จากต่างประเทศเลยนา”



อีกอย่าง ความรู้สึกอุ่นวาบในอกที่เห็นว่าธีรเชษฐ์นำช็อกโกแลตกล่องนั้นไปฝากลูกชายคนเล็กจริงๆก็ทำให้มีนาแทบกลั้นยิ้มไว้ไม่อยู่



“พ่อซื้อขนมมาฝากนี่เอง ไม่น่าล่ะลั้ลลาเชียว ซื้อได้ด้วยของกินนะมึงเนี่ย” พายุเหน็บ ทินกรยิ้มรับ



“จริงๆแฟนพ่อฝากมาให้ แต่แค่พ่อเอามาให้กูก็ดีใจแล้ว"



“หา?!”


มีนานึกขอบคุณที่เสียงของพายุนั้นดังกว่าเขาอยู่หลายขุมทำให้ทินกรไม่ทันสังเกตว่าพวกเขาทั้งสองนั้นร้องออกมาอย่างไม่อยากเชื่อในเวลาเดียวกัน



“แฟน…คนรัก? เมีย? เลิฟเวอร์? ว้อทททท” 



พายุที่เห็นภาพธีรเชษฐ์เป็นพระเอกนิยายฮาเร็มคลำไม่เจอหางก็ฟาดดะไม่เหลือมาโดยตลอดไม่คิดว่าจะได้ยินคำนี้หลุดออกมาจากปากของทินกร ส่วนมีนานั้นไม่เคยคิดว่าธีรเชษฐ์จะกล้าเอ่ยถึงเขาต่อหน้าทินกรแบบนี้ คนโดนเปิดตัวอย่างครึ่งๆกลางๆรู้สึกลมจะจับขึ้นมาอีกครั้ง



“กูก็ไม่เคยได้ยินพ่อเรียกใครแบบนั้น ตั้งแต่แม่เสีย...พ่อไม่เคยพูดถึงใคร” ทินกรตอบ แววตาเด็กหนุ่มดูปลงอนิจจังมากกว่าเศร้าสร้อยเมื่อเอ่ยถึงบิดามารดา “แต่หลังๆพ่อดูมีความสุขขึ้นมาก ถ้าเขามีคนที่ทำให้เขามีความสุขได้แบบนี้ กูก็ดีใจ”



ต้นเหตุของความสุขนั้นนั่งหน้าแดงเป็นลูกตำลึงอยู่ข้างคนพูด หัวใจดวงน้อยเต้นรัวจนแทบจะหลุดมานอกอก ทั้งความสุขและความหวาดกลัววันที่ทินกรจะรู้ความจริงผสมปนเปกันไป



แต่แบบนี้...จะดีแล้วจริงๆน่ะเหรอ?









“ขออนุญาตนะครับคุณมีนา”



มธุวันไม่รอฟังคำอนุญาตของร่างเล็กจับสายวัดคาดรอบอกของร่างในชุดนักศึกษาอย่างคล่องแคล่ว จดสัดส่วนของเด็กหนุ่มลงบนกระดาษด้วยสีหน้าครุ่นคิดราวกับตัวเองเป็นช่างตัดชุด แม้ความรู้สึกของมีนาในเรื่องของเลขาหนุ่มจะยังไม่เปลี่ยนแปลง แต่เขาต้องยอมรับว่ามธุวันเป็นเลขาที่ทำงานได้เกินค่าจ้างของตัวเองไปมากโข



“โทษทีนะ ให้ทำอะไรกระทันหันอีกแล้ว”



แม้จะพูดแบบนั้นแต่แววตาของธีรเชษฐ์ไม่มีแววสำนึกผิดแม้แต่น้อย ประธานบริษัทเอนพิงโต๊ะทำงานของตัวเอง ปล่อยให้เลขาสารพัดประโยชน์ที่วันนี้แปลงร่างเป็นสไตล์ลิสจัดการงานของตัวเองต่อไป



“ถ้าไม่ได้หมายความตามนั้นก็ไม่ต้องพูดครับ” มธุวันตอบเสียงเย็น มีนาแอบสะดุ้งกับกิริยาที่อีกฝ่ายใช้กับเจ้านาย แต่ธีรเชษฐ์เพียงแค่หัวเราะอย่างไม่ถือสา



วันนี้ร่างสูงให้มธุวันวัดตัวมีนาเพื่อหาเสื้อผ้าใส่ออกงานวันเกิดของอีกฝ่ายที่กำลังจะเกิดขึ้นในไม่กี่วัน เรื่องของตัวงานส่วนใหญ่มธุวันจัดการให้หมดแล้ว เหลือแค่รายละเอียดปลีกย่อย และเสื้อผ้าของมีนาที่มธุวันยังไม่มีสัดส่วนอยู่ในมือ



ที่จริงแล้ววันนี้ธีรเชษฐ์สั่งให้เลขาของตัวเองนำแบบแผนของงานเลี้ยงทั้งหมดมาให้มีนาดูเพื่อให้เด็กหนุ่มได้มีส่วนในการตัดสินใจ แต่มีนาเพียงแค่เออออตามแผนการเดิมอย่างไม่อิดอออด ส่วนหนึ่งเป็นเพราะเวลากระชั้นชิดแบบนี้หากเปลี่ยน
อะไรก็คงไม่ทัน อีกส่วนเป็นเพราะการจัดงานของมธุวันแม้จะมีขอบเขตเวลาที่น้อยนิดหากเทียบกับสเกลงาน แต่ผลลัพธ์ที่ออกมาสะท้อนให้เห็นตัวตนของเลขาหนุ่มอย่างชัดเจน



สมบูรณ์แบบไร้ที่ติ


ในที่สุดเลขาหนุ่มก็ลุกขึ้นจากการวัดรอบต้นขาของร่างเล็ก นับว่าเป็นสิบนาทีที่อึดอัดที่สุดในชีวิตของเด็กหนุ่มก็ว่าได้



”ท่านประธาน ไหล่กว้างขึ้นรึเปล่าครับ? ผมว่าน่าจะต้องแก้นะ”



…จนกระทั่งมธุวันเบนเข็มไปสนใจเจ้านายของตัวเองนั่นแหละ



“เอาเท่าที่ได้น่า”


ธีรเชษฐ์เอนตัวหนีเลขาที่ก้าวมาหาตัวเองพร้อมสายวัด แม้จะไม่ได้พูดออกมาตามตรง แต่ดวงตาสีควันบุหรี่ที่เหลือบมองมาทางมีนาอย่างเป็นกังวลนั้นทำให้เขารู้ว่าสาเหตุของท่าทีประหลาดนั้นคงไม่พ้นตัวเขา



และมีนาคงจะอมยิ้มกับความใส่ใจนั้น หากดวงตาเย็นเยียบสีเทาอมฟ้าไม่ไล่ตามสายตาของเจ้านายมาหยุดที่เขาเช่นกัน
บางทีมีนาก็นึกสงสัย ว่าคนหนึ่งคนจะต้องผ่านอะไรมาถึงได้สามารถใช้เพียงสายตาก็ทำให้คนถูกมองหนาวยะเยือกไปถึงกระดูกสันหลังอย่างง่ายดายแบบนี้



มธุวันไหวไหล่ราวกับจะบอกว่า ‘เรื่องของคุณ’ แล้วหมุนกายเดินออกจากห้องไป ธีรเชษฐ์มองตามเลขาของตนไปแล้วถอนหายใจออกมา มีนาลูบแขนตัวเองขึ้นลงด้วยสีหน้าเป็นกังวล



“ผมคง…ถูกคุณมธุวันเกลียดเข้าแล้วจริงๆ”



“เขาเคยชอบใครด้วยเหรอ?” ร่างสูงถามเสียงกลั้วหัวเราะ แววตาอ่อนลงเมื่อเห็นว่ามีนาดูจะเป็นกังวลจริงๆ “ฉันว่า…มันดูตรงกันข้ามมากกว่านะ”



“เอ๊ะ?” เด็กหนุ่มเงยหน้าขึ้นมองอีกฝ่ายอย่างไม่เข้าใจ



“เด็กคนนั้นน่ะ เวลาเจอคนที่ถูกชะตาก็ประมาณนี้แหละ กับขวัญข้าวก็มองอยู่เงียบๆแต่เวลาเขามาขอความช่วยเหลือก็ไม่เคยปฏิเสธ” ธีรเชษฐ์ยิ้มมุมปาก ”ลองคุยกับเขาดูสิ”



มีนาส่ายหน้าพรืดโดยไม่ต้องคิด เรียกเสียงหัวเราะเบาๆจากคนมองได้เป็นอย่างดี ชายหนุ่มกวักมือเรียกคนรักตัวเล็กเข้ามา
ในอ้อมแขนที่อ้ารออยู่ก่อนแล้ว



อุ่น…



มีนาขยับซุกหน้ากับแผ่นอกกว้างอย่างสบายใจ แอบเห็นด้วยกับมธุวันว่าไหล่ของธีรเชษฐ์ดูกว้างขึ้นจริงๆ คงจะมาจากที่จู่ๆร่างสูงก็นึกครึ้มอยากออกกำลังกายขึ้นมาในช่วงนี้



“พรุ่งนี้ฉันต้องไปดูงานที่ต่างจังหวัด กลับมามะรืนเย็น” มือใหญ่ลูบศีรษะของมีนาอย่างรักใคร่ “อยู่คนเดียวได้ใช่มั้ย? จะไปนอนกับแม่ก็ได้นะ”



“ผมอยู่ได้ครับ“ มีนาตอบเสียงอู้อี้จากการที่ยังคงซุกหน้าอยู่กับอกของคนรัก เขาอยู่ได้จริงๆ แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าเขาอยากจะอยู่คนเดียวในห้องกว้างของร่างสูงเสียเท่าไหร่




ว่าแต่…ถ้าธีรเชษฐ์จะกลับมาเย็นมะรืน นั่นก็หมายความว่า…



“พอกลับมาแล้ว…” มือใหญ่ที่โอบรอบเอวบางไว้เมื่อครู่ไล่ตามแนวกระดูกสันหลังภายใต้ชุดนักศึกษา แต่แค่นั้นก็มากพอที่จะทำให้คนไวสัมผัสสั่นเทิ้มไปทั้งร่างราวลูกนกตากฝน “…ฉันจะดูแลเธอจนถึงเช้าเลย ดีมั้ย?”



“…ดี…ครับ”




แม้เสียงหวานจะแผ่วเบาแต่คนหูดียังคงได้ยินอย่างชัดเจน ร่างสูงโน้มลงจุมพิตบนกระหม่อมของเด็กหนุ่มเบาๆ เชยคางมนขึ้นรับจุมพิตหวานล้ำ มัดจำไว้ให้หายคิดถึงแม้จะรู้ว่าไม่เป็นผล ริมฝีปากรูปกระจับเผยออ้ารับลิ้นร้อนที่แทรกเข้ามาตักตวงความหวานอย่างเต็มใจ มือเรียวเล็กขยุ้มเสื้อตัวในของอีกฝ่ายจนยับย่น ร่างที่แทรกระหว่างขายาวของคนรักอิงแอบแนบชิดไออุ่นผ่านเนื้อผ้าอย่างโหยหา



ไม่ใช่แค่ธีรเชษฐ์หรอกนะที่นับวันรอ



“ถือซะว่าแยกกันอยู่ก่อนเข้าหอแล้วกันนะ” เสียงทุ้มหยอกเย้า แต่คนฟังที่แก้มแดงระเรื่ออย่างเขินอายกลับพยักหน้ารับอย่างเชื่อฟัง




ธีรเชษฐ์ไม่รู้ว่ามีนาทำคุณไสยอะไรใส่เขา อีกฝ่ายถึงได้ทำอะไรก็น่ากอดน่าฟัดไปหมดในความคิดของร่างสูง




เขาจะลงแดงตายก่อนถึงมะรืนนี้มั้ยเนี่ย


---------

ออฟไลน์ bpyt

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1340
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-2
อย่าเพิ่งตายก่อนได้แอ้มเมียเด็กล่ะคุณเชษฐ์์ รอไปตายคาอกเมียเด็กดีกว่าาา 555

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด