[จบแล้ว] Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) 4 years later [6-2-63] คห.951
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [จบแล้ว] Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) 4 years later [6-2-63] คห.951  (อ่าน 181403 ครั้ง)

ออฟไลน์ WilpeR

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1556
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-2
มีนยังคงคิดมากเรื่องหมอกอยู่เสมอเลย เมื่อไรอะไรจะกระจ่างให้มีนเข้าใจความสัมพันธ์ของหมอกและธีรเชษฐ์น้า

ออฟไลน์ bpyt

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1319
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-2
อ่อยแบบไม่รู้ตัวแบบนี้ น้องมีนจะทำคนแก่หัวใจวายได้

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
งวดนี้ ใครได้ ใครเสียหว่า  :hao6:

ออฟไลน์ kms

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-14
ฮืออออ สวีทมากกกก ดีใจกะน้องมีนนน

ออฟไลน์ HISY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-3
(เด็ก)ผู้ชายของน้องมีนสินะ

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
อ้อนเก่งงงง  :katai2-1:

ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6
ลุงเชษฐ์ใจบาง กะน้องมีนช่างอ้อนขึ้นทุกวันๆ ล่ะ

ออฟไลน์ littlepig

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 429
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +413/-5
Chapter 36: กามเทพ



มีนาลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้งเมื่อได้กลิ่นหอมชวนน้ำลายสอลอยมาแตะจมูก เด็กหนุ่มชันตัวลุกขึ้นนั่งบนเตียงแล้วขยี้ตาอย่างง่วงงุน ข้างกายของเขาว่างเปล่า แต่ร่างสูงในกางเกงนอนก้าวออกมาจากห้องน้ำไม่กี่นาทีหลังจากนั้น เส้นผมสีรัตติกาลยังคงหมาดหลังการสระ


“ตื่นแล้วเหรอ?”



“กี่โมงแล้วเหรอครับคุณเชษฐ์?” มีนาขยี้ตาอย่างง่วงงุน




“สามทุ่มแล้ว” ร่างสูงว่า  ใช้ผ้าขนหนูผืนเล็กเช็ดผมของตัวเอง “ฉันสั่งรูมเซอร์วิสมาให้แล้ว ไปอาบน้ำก่อนก็ได้”



“ขอโทษนะครับ…” มีนาเอ่ยอย่างสำนึกผิด ทั้งที่ธีรเชษฐ์บอกว่าจะพาออกไปข้างนอกแท้ๆ “วันหลังคุณเชษฐ์ปลุกผมเลย
ก็ได้นะครับ”



“ฉันจะปลุกทำไม…” ชายหนุ่มไหวไหล่ “หลับลึกแบบนี้ลักหลับง่ายดีออก”



มีนารีบสลัดผ้าห่มผืนหนาออกอย่างรวดเร็ว แต่เสื้อผ้าของเขายังคงครบถ้วนสมบูรณ์ดี เขาได้ยินเสียงทุ้มหัวเราะเบาๆกับท่าทีลุกลี้ลุกลนของตัวเอง มีนาถอนหายใจกับความขี้แกล้งของอีกฝ่าย ตวัดขาลงจากเตียงแล้วตรงไปยังห้องน้ำ
เด็กหนุ่มรีบรูดผ้าม่านห้องน้ำปิดไม่ให้คนภายนอกมองเข้ามาเห็น แต่ถึงอย่างนั้นมีนายังคงรู้สึกได้ถึงสายตาของคนข้างนอกที่จ้องทะลุผ่านม่านเข้ามา



ธีรเชษฐ์นั่งรอเขาอยู่ที่โต๊ะอาหารตอนที่เด็กหนุ่มก้าวออกมาจากห้องน้ำ มีนานั่งลงตรงข้ามกับร่างสูง ดวงตาสีน้ำตาลกวาดมองอาหารชวนน้ำลายสอที่วางเรียงรายอยู่บนโต๊ะหลายจาน ท้องเล็กๆส่งเสียงร้องตอบรับกลิ่นหอมๆของไก่ย่างตัวอวบ




“พรุ่งนี้ฉันมีประชุมทั้งวัน ถ้าไม่กลัวหลง จะออกไปเดินเล่นรอในตัวเมืองก็ได้นะ” ธีรเชษฐ์หั่นเนื้อไก่ชิ้นใหญ่วางลงบนจานของคนตัวเล็ก ตักสลัดใส่จานของเด็กหนุ่มแล้วดันถ้วยซุปให้อีกฝ่าย ก่อนจะกลับมาตักอาหารใส่จานตัวเองบ้าง



“มะ…ไม่เป็นไรครับ ผมไปนั่งรอแถวห้องประชุมก็ได้”



มีนาตัวเกร็งขึ้นมาทันทีกับความคิดที่จะต้องออกไปเจอกับโลกภายนอกเพียงลำพัง ธีรเชษฐ์ส่ายหน้าพร้อมรอยยิ้มขำ หยิบกระเป๋าเงินของตัวเองมาเปิดเอาบัตรเครดิตสีดำที่มีนาจำได้ดียื่นให้เด็กหนุ่ม



“จะไปรอทำไม อย่างน้อยก็ลงมาเดินเล่นในห้างที่ชั้นล่างของโรงแรมก็ยังดี ฉันไม่อยากให้เธอต้องอุดอู้อยู่ในห้องแบบนี้ทั้งวัน”



ห้องแบบนี้ยากจะเรียกได้ว่าอุดอู้ แต่มีนาก็พยักหน้ารับอย่างว่าง่ายแล้วรับบัตรเครดิตใบนั้นไป



“แล้วตอนแรกเธอคิดว่าจะทำอะไรรอฉันถ้าไม่ไปเที่ยว?” ธีรเชษฐ์ถามด้วยความสงสัย มีนาชี้ไปที่กระเป๋าเป้ของตนที่วางอยู่
บนตู้เตี้ยข้างฝั่งที่ร่างสูงกำลังนั่งอยู่



“ผมเอาหนังสือมาครับ”




“เธอนี่นะ ห่างจากหนังสือซักวันเลยไม่ได้ใช่มั้ย?” ธีรเชษฐ์ส่ายหน้าอีกครั้งอย่างเหนื่อยใจ โน้มตัวไปหยิบกระเป๋าของมีนามาเปิดหยิบเอาหนังสือเล่มหนาออกมา สภาพกน้าปกที่เปื่อยยุ่ยและสติกเกอร์เลขรหัสที่แปะอยู่ที่สันปกแสดงให้เห็นว่าเป็นนิยายที่อีกฝ่ายยืมมาจากห้องสมุดมหาวิทยาลัย คิ้วเข้มเลิกสูงเมื่อเห็นว่ามันเป็นนิยายคลาสสิคที่เขาเคยถูกบังคับให้อ่านตั้งแต่สมัยเรียนอยู่มัธยมปลาย แถมยังเป็นหนังสือเล่มโปรดของคเชนทร์ที่เขาบังคับให้เพื่อนสนิทสรุปให้เขาฟังเพื่อทำรายงานส่งอาจารย์เสียด้วย




“ชอบแนวนี้เหรอ?”



“ครับ สนุกดี” มีนายิ้ม



จู่ๆธีรเชษฐ์ก็ย้อนอดีตไปสู่วันวาน สมัยเพื่อนสนิทของเขายังเป็นคนอารมณ์ดียิ้มง่ายที่ชื่นชอบนิยายคลาสสิคเป็นชีวิตจิตใจ ก่อนจะลอบกลืนน้ำลายด้วยความหวาดเสียวไปถึงกระดูกสันหลัง เริ่มไม่นึกอยากมีชีวิตอยู่รอวันที่มีนาจะกลายร่างเป็นทายาทอสูรของคเชนทร์สักเท่าไหร่




โลกนี้มีคเชนทร์แค่คนเดียวก็เพียงพอแล้ว



“คุณเชษฐ์เป็นอะไรรึเปล่าครับ?” มีนาถามเมื่อเห็นอีกฝ่ายเงียบไปนาน




“ไม่มีอะไร ตามใจเธอแล้วกัน หลังจากนี้ฉันต้องเตรียมงาน นอนไปก่อนเลย” ธีรเชษฐ์ว่า มีนาพยักหน้ารับแล้วรวบช้อนส้อม ยกน้ำขึ้นดื่มแล้วนั่งรอให้อีกฝ่ายทานต่อด้วยความเคยชิน



หลังจากมื้ออาหารจบลง ธีรเชษฐ์ก็ยึดเอาโต๊ะเครื่องแป้งหน้ากระจกบานกว้างเป็นสถานที่เตรียมงานสำหรับการประชุมในวันรุ่งขึ้น มีนาทิ้งตัวลงบนเตียงหลังจากล้างหน้าแปรงฟันเสร็จ นอนมองแผ่นหลังกว้างเปลือยเปล่าของคนที่นั่งทำงานตาแป๋วตั้งใจว่าหลังจากชิงหลับไปก่อนหน้านี้เขาจะรอให้ร่างสูงกลับมานอนข้างๆเสียก่อนถึงจะนอน



แต่ความอ่อนเพลียคงจะสะสมไว้มากกว่าที่มีนาคิด เพราะสิ่งสุดท้ายที่เขารู้สึกก่อนจะจมสู่ห้วงนิทราเป็นครั้งที่สองของวัน คือผ้าห่มผืนหนาที่ถูกดึงขึ้นมาห่มถึงคางของเขา และริมฝีปากอุ่นที่ประทับลงมาข้างแก้ม



ถ้านี่คือการลักหลับของธีรเชษฐ์ มีนาก็คิดว่าตัวเองไม่ได้ถือสาอะไรเท่าไหร่นัก




ร่างเล็กตื่นขึ้นมาด้้วยจุมพิตรับอรุณหวานล้ำที่ทำให้มีนาเผยอริมฝีปากรับอย่างเต็มใจ ความง่วงงุนที่ยังสะสมอยู่ทำให้ยางอายของร่างเล็กยังคงไม่ทำงาน  มีนาร้สึกถึงรอยยิ้มบนริมฝีปากได้รูปที่ยังคงรุกล้ำอย่างไม่สนใจความเห็นชอบของเขา แม้ว่าเด็กหนุ่มจะไม่ได้คิดที่จะปฏิเสธก็ตาม




กลิ่นอาฟเตอร์เชฟของร่างสูงในชุดสูทกลายเป็นกลิ่นโปรดของมีนาไปตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ แขนเรียวยกขึ้นโอบรอบคอของธีรเชษฐ์ ระวังไม่ให้เสื้อสูทของร่างสูงยับย่นจากการสัมผัส มีนาเอียงคอให้ริมฝีปากอุ่นไล่ฝากเครื่องหมายแสดงความเป็นเจ้าของไว้อย่างรู้งาน เปลือกตายังคงปิดสนิท ไม่กล้าลืมขึ้นสบตาเจ้าชีวิตของตนในตอนนี้



“ไปอาบน้ำได้แล้ว ลงไปกินข้าวเช้ากับฉัน” เสียงทุ้มเอ่ยทั้งที่ยังไม่ละริมฝีปากไปจากซอกคอขาว
มีนาพยักหน้า พยายามดันให้คนที่คร่อมทับร่างของเขาอยู่ให้ลุกออกไปแต่ไม่เป็นผล



“คุณเชษฐ์ครับ...”



“ค่าผ่านทาง” ชายหนุ่มเคาะที่ริมฝีปากของตัวเอง มีนาเกาแก้มด้วยสีหน้าเขินอาย ก่อนจะยื่นหน้าเข้าไปจุ๊บริมฝีปากได้รูปที่รออยู่เบาๆ แต่ดูเหมือนว่านั่นจะไม่เป็นที่พอใจของคนเก็บค่าผ่านทางเท่าไหร่นัก “ไม่พอ...”



“คุณเชษฐ์ เดี๋ยวจะสายเอานะครับ” มีนาเอ่ยเตือนด้วยสีหน้าจริงจัง  ธีรเชษฐ์เดาะลิ้นอย่างไม่พอใจ แต่ก็รู้ว่าอีกฝ่ายมีเหตุผล
หลังจากมีนาอาบน้ำแต่งตัวเรียบร้อยแล้ว ธีรเชษฐ์ยื่นเสื้อคลุมที่มธุวันซื้อให้เขาให้ร่างเล็ก ถึงแม้ว่าอากาศภายนอกจะค่อนข้างร้อน แต่อุณหภูมิในโรงแรมยังคงทำให้เด็กหนุ่มลูบแขนของตัวเองด้วยความหนาว ถึงอย่างนั้นมีนายังคงไม่ยื่นมือมารับเสื้อไปจากเขา



“ใส่เสื้อสิ”



“ผมไม่หนาวครับ” เด็กหนุ่มเอ่ยทั้งที่ริมฝีปากยังสั่นจากความหนาว ธีรเชษฐ์ขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจกับความดื้อดึงอย่างไร้เหตุผลนั้น มีนาเกลียดอะไรการใส่เสื้อหนาวนักหนา



“มีน อย่าดื้อ!” ชายหนุ่มดุ เขาไม่อยากให้อีกฝ่ายต้องมาป่วยกับเรื่องไร้สาระแบบนี้หรอกนะ



 แม้ว่าจะไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่อะไร แต่น้ำเสียงห้วนสั้นอย่างไม่พอใจที่ไม่ได้ยินมาสักพักทำให้มีนาสะดุ้งอย่างตกใจ มือเรียวเอื้อมไปรับเสื้อในมือของธีรเชษฐ์มาสวมแต่โดยดี แม้ว่าจากสีหน้าของอีกฝ่าย มีนาจะดูไม่ได้เต็มใจจะสวมมันเลยก็ตาม
พวกเขามาถึงห้องอาหารของโรงแรมไม่นานหลังจากนั้น เครื่องปรับอากาศในห้องอาหารไม่ได้ดีขึ้นจากความเย็นในห้องพักมากนัก แต่เสื้อกันหนาวที่มีนาถูกบังคับให้ใส่ทำหน้าที่ของมันได้เป็นอย่างดี




ถึงแม้ว่าเด็กหนุ่มจะอยากทนความหนาวมากกว่ารับรู้ว่าของที่มธุวันมอบให้ธีรเชษฐ์เป็นของขวัญนั้นทำหน้าที่ของมันได้ดีแค่ไหนก็ตาม



พวกเขาเดินตามบริกรไปยังโต๊ะว่างที่อยู่ไม่ไกลจากที่ตักอาหาร มีนาสังเกตว่าธีรเชษฐ์หันกลับไปมองด้านหลังของตัวเองอยู่ตลอดเวลา จึงเอ่ยถามขึ้นด้วยความสงสัย



“คุณเชษฐ์...มีอะไรรึเปล่าครับ?”



ร่างสูงไม่ตอบ เพียงแต่กวักมือเรียกให้เขาเดินตามไปยังโต๊ะที่อยู่อีกฝั่งของห้องอาหาร แม้จะไม่เข้าใจ แต่มีนาก็เดินตามอีกฝ่ายไปโดยไม่ปริปากถามอะไร



จุดหมายของธีรเชษฐ์ดูจะเป็นโต๊ะที่มีชายหนุ่มชาวไทยวัยไล่เลี่ยกับร่างสูงในชุดสูทสีเข้มและเด็กหนุ่มร่างโปร่งที่ดูน่าจะอายุไม่เกินยี่สิบปีนั่งอยู่ สาเตุที่มีนารู้ว่าคนทั้งสองเป็นเพื่อนร่วมสัญชาติ เป็นเพราะบทสนทนาของคนทั้งคู่ที่เขาได้ยินก่อนจะเดินไปถึงที่โต๊ะเสียอีก



“เป็นอะไรครับคนดี อาหารไม่ถูกปากเหรอ?” ชายหนุ่มเอ่ยถามคนอายุน้อยกว่าที่กำลังนวดขากรรไกรของตัวเองพร้อมส่งสายตาค้อนคนข้างกายวงใหญ่ ราวกับว่าอีกฝ่ายน่าจะเป็นคนที่รู้คำตอบนั้นดีที่สุด



“น่า อย่างอนป๋าน้า อ่ะ ไส้กรอกมั้ย”


ชายหนุ่มในชุดสูทยักคิ้วข้างหนึ่งด้วยสีหน้าที่ใครก็ดูออกว่าจงใจกวนคนข้างกาย จิ้มไส้กรอกชีสร้อนๆไปจ่อที่ริมฝีปากของคนที่ถลึงตาใส่เขาอย่างไม่พอใจ ทั้งที่ใบหน้าขึ้นสีเลือดฝาดทรยศความคิดของเจ้าตัว



“ไม่เอาครับ ไม่ชอบ”



“นั่นสิเนอะ บุฟเฟ่ต์ที่นี่มีแต่อันเล็ก ไม่ไหวๆ” คนอายุมากกว่าแสร้งทำสีหน้าไม่พอใจ มีนาเหลือบมองธีรเชษฐ์ สงสัยว่าอีกฝ่ายพาเขามาแอบดูคู่รักคู่นี้สวีทกันทำไม “เดี๋ยวกลับห้องไปป๋าจะจัดชุดใหญ่ให้ ดีมั้ยจ๊ะ”



“กินไปเลยครับ!” คนตัวเล็กกว่าดึงส้อมออกมาจากมือร่างสูงแล้วยัดไส้กรอกเข้าปากอีกฝ่ายให้หยุดพูดจาลามกในที่สาธารณะ มีนาที่ยืนมองดูอยู่เงียบๆนึกกลัวขึ้นมาว่าอีกฝ่ายจะสำลักไส้กรอกจนไปอุดหลอดลมหรือไม่



“ร่าเริงกันจังนะ” ธีรเชษฐ์เอ่ยขึ้น เรียกความสนใจของคู่รักตรงหน้ามาหาพวกเขาในที่สุด ชายหนุ่มในชุดสูทหันมาหาพวกเขาพร้อมรอยยิ้มกว้าง ผิดกับชายอีกคนที่กระพริบตามองพวกเขาตาปริบๆอย่างงุนงง



“มาด้วยเหรอเชษฐ์”



“กูมากกว่ามั้งความต้องเป็นคนถาม ไหนบอกว่าจะอยู่กับเมียให้เอาเอกสารมาแทน” ธีรเชษฐ์เลิกคิ้ว มีนาหันไปมอง ‘เมีย’คนที่ว่าของร่างสูงที่เขาไม่รู้จักที่มีสีหน้าเหมือนอยากจะมุดแทรกแผ่นดินลงไปใต้ผืนธรณีในตอนนี้ ในขณะที่คนถูกถามมีเพียงสีหน้าเหนื่อยหน่ายใจกับคำพูดของธีรเชษฐ์



“ไอ้เชษฐ์ ไม่พูดตรงๆซักวันมึงจะตายมั้ย”



เจ้าของชื่อมองคนตรงหน้านิ่งก่อนจะหันไปมองร่างโปร่งที่นั่งอยู่ข้างกายอีกฝ่าย คิ้วเข้มขมวดมุ่นก่อนจะเลิกขึ้นสูงอย่างประหลาดใจ มีนาแอบเห็นรอยยิ้มมุมปากของชายหนุ่มลูกครึ่งรัสเซียที่แสร้งทำสีหน้าตกใจก่อนจะเอ่ยกับคนตรงหน้า


“นี่เมียมึงเหรอ กูนึกว่าลูก”


“พูดอะไรเกรงใจผู้เยาว์ข้างๆมึงด้วยครับไอ้เพื่อนเวร”


“สวัสดีครับ”



คนถูกพาดพิงสะดุ้ง รีบยกมือขึ้นไหว้ผู้อาวุโสกว่าทั้งสองด้วยกลัวจะเป็นการเสียมารยาท ชายหนุ่มชาวไทยในชุดสูทนั้นความหล่อเหลาเรียกได้ว่าพอฟัดพอเหวี่ยงกับธีรเชษฐ์ แม้ว่าในสายตาของมีนานั้นคุณเชษฐ์ย่อมเป็นที่หนึ่งอยู่เสมอไม่ว่าจะเทียบกับใคร



หยุดเลยมีน! หยุดความคิดนั้นเดี๋ยวนี้!




“ไหว้พระเถอะลูก เอ๊ย! สวัสดี” ชายหนุ่มร่างสูงยกมือรับไหว้เขาพร้อมเอ่ยตอบอย่างเผลอตัว ก่อนจะรีบกลับลำกลางคันเมื่อรู้ตัวว่าเผลอพูดอะไรออกไป มีนายิ้มเจื่อน ไม่มั่นใจว่าตัวเองควรจะพูดอะไรมากกว่านี้กับคนแปลกหน้าทั้งสองหรือไม่



“มีน นี่วีรภัทร เพื่อนฉัน ส่วนคนนี้...” เชษฐ์ลากเสียง เลิกคิ้วเมื่อนึกขึ้นได้ว่าอีกฝ่ายยังไม่เคยแนะนำชื่อของคนรักให้ตนรู้จัก มีนาขยับยิ้มฝืนให้กับคนทั้งสองอย่างไม่รู้จะทำอะไรต่อ   



“เอ่อ...พี่ชื่อเทสต์ ยินดีที่ได้รู้จักนะ”



คนอายุน้อยกว่าแนะนำตัวขึ้นมาด้วยท่าทีเป็นมิตร ร่างโปร่งที่ดูอย่างไรก็ไม่น่าจะอายุเกินยี่สิบปีมีใบหน้าเกลี้ยงเกลาที่แม้จะไม่ได้หล่อเหลาโดนเด่นหรือสวยหวานเยี่ยงอิสตรี แต่ถือว่าเป็นผู้ชายหน้าตาดีคนหนึ่ง ดวงตาเรียวมองมีนาด้วยแววตาอ่อนโยนที่ทำให้ร่างเล็กรู้สึกไว้ใจอีกฝ่ายขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก เด็กหนุ่มยิ้มตอบออกมาอย่างจริงใจ แต่ถูกดวงตาคมสีควันบุหรี่ที่จดจ้องอย่างไม่พอใจทำให้เขาหลบกลับไปด้านหลังชายหนุ่มอีกครั้ง



“ผมไปตักอาหารให้นะครับคุณเชษฐ์” เด็กหนุ่มขออนุญาตเสียงแผ่ว ไม่นึกอยากอยู่ร่วมในวงสนทนามากไปกว่านี้ และที่สำคัญ หากอีกฝ่ายไม่รีบทานให้เสร็จในตอนนี้ คงจะได้เข้าประชุมสายกันพอดี


ธีรเชษฐ์พยักหน้า นั่งลงข้างเพื่อนสนิทโดยไม่รอให้เจ้าของโต๊ะเชิญ มีนาผละไปจากบทสนทนาของคนทั้งสาม แม้จะได้ยินเสียงของวีรภัทรดังขึ้นไล่หลังมา



“นั่นเด็กใหม่เหรอวะ? อายุถึงรึยัง? ”


มีนาสะอึก แม้จะรู้ถึงสถานะของตัวเองดี แต่การได้ยินคนข้างนอกนิยามความสัมพันธ์ของพวกเขาแบบนี้ทำให้ทุกอย่างรู้สึกจริงขึ้นมากว่าเดิม เด็กหนุ่มรีบจ้ำอ้าวออกไปจากตรงนั้นด้วยกลัวจะได้ยินคำตอบจากปากของธีรเชษฐ์



อย่างน้อย...ให้เขาได้หลอกตัวเองอย่างนี้ไปซักพักก็ยังดี


มีนาคีบขนมปังใส่เครื่องปิ้งแล้วขยับไปตักไข่ดาว ไส้กรอกและอาหารเช้าง่ายๆต่างๆให้ธีรเชษฐ์ก่อนจะหันไปชงกาแฟร้อน แม้จะรู้ว่าร่างสูงไม่ชอบกาแฟผงแบบนี้แต่นี่เป็นตัวเลือกเดียวที่ทางโรงแรมมีให้



เด็กหนุ่มประคองถาดกลับมาหาคนทั้งสามที่เงียบลงแทบจะในทันทีที่เขาอยู่ในรัศมีการได้ยิน ซึ่งสิ่งเดียวที่ร่างเล็กทำได้คือแสร้งทำเป็นไม่สังเกตความผิดปกตินั้น



“ขออนุญาตครับ” มีนาวางถาดลงบนโต๊ะ จัดวางอาหารเช้าลงตรงหน้าธีรเชษฐ์อย่างคล่องแคล่ว เด็กหนุ่มตั้งใจจะเดินเอา
ถาดไปเก็บแต่กลับถูกมือใหญ่ของเจ้าชีวิตคว้าเอวเอาไว้เสียก่อน



“มานี่” ชายหนุ่มรั้งเอวบอบบางให้มีนาเซลงมานั่งบนตักแข็ง มีนารีบตะครุบปากของตัวเองปิดกั้นเสียงร้องอย่างตกใจไว้ก่อน
จะเรียกความสนใจจากแขกคนอื่นของโรงแรม


“คุณ..คุณเชษฐ์...” มีนาไม่กล้าแม้แต่เหลือบมองสีหน้าของคนอีกสองคนที่นั่งร่วมโต๊ะอยู่ แม้อีกฝ่ายจะเคยทำแบบนี้หลายต่อหลายครั้งในห้องส่วนตัว แต่ในที่สาธารณะที่มีคนเดินผ่านไปมาขวั่กไขว่แบบนี้ มีนาอดรู้สึกเหมือนตุ๊กตาตั้งโชว์บนตักของ
ธีรเชษฐ์ไม่ได้


“ทำไมถึงไม่มีส่วนของเธอ?” ร่างสูงถามเสียงเรียบ ความหงุดหงิดฉายชัดในน้ำเสียง มีนามัวแต่กังวลว่าร่างสูงจะไม่ได้ทานอาหารเช้าจนลืมตักส่วนของตัวเองไปเสียสนิท



“คือ…ผะ..ผมไม่หิว..” เด็กหนุ่มตะกุกตะกักตอบ ไม่อยากทำให้อีกฝ่ายโมโหไปมากกว่านี้



“ตัวเท่าลูกหมา อย่าซ่าให้มันมากจะได้มั้ย”


ธีรเชษฐ์พึมพำอย่างไม่สบอารมณ์ หยิบขนมปังปิ้งทาเนยหอมๆขึ้นมาจ่อที่ริมฝีปากอิ่ม เมื่อเห็นเด็กน้อยบนตักยังมีท่าทีลังเลก็ยิ่งทำให้เขาอารมณ์เสียขึ้นไปอีก “มีนา อย่าดื้อ ฉันสั่งให้กิน”



เจ้าของชื่อสะดุ้งกับเสียงเข้ม อ้าปากงับขนมปังอย่างว่าง่าย เคี้ยวอาหารในปากอย่างเชื่องช้า แต่รีบเร่งสปีดขึ้นมาเมื่อเห็นดวงตาของอีกฝ่ายหรี่ลงอย่างไม่พอใจ สมาธิของเขาในตอนนี้อยู่กับการรีบอ้าปากรับอาหารที่ถูกป้อน ได้ยินเสียงของคู่รักที่นั่งอยู่ข้างๆกระซิบกระซาบกันดังแว่วมา



“คุณวี...ผมว่าเราย้ายโต๊ะกันมั้ยครับ”



“นั่นสิ”



มีนาไม่รู้ว่าเขาอยากจะขอบคุณคนทั้งคู่ที่ช่วยให้เขาไม่ต้องรู้สึกอับอายกับเหตุการณ์ในตอนนี้ไปกว่านี้หรือขอร้องให้คนทั้งสองอยู่ต่อเพื่อที่เขาจะได้ไม่ต้องรองรับสนามอารมณ์ของธีรเชษฐ์คนเดียว แต่คนที่ยังขู่บังคับป้อนอาหารเช้าให้เขาด้วย
สายตาตัดสินใจแทนเขาเสียก่อน



“เทสต์ ตอนประชุมฝากเด็กคนนี้ไว้กับเราหน่อยได้มั้ย” ร่างสูงหันไปบอกคนรักของเพื่อนสนิท ร่างโปร่งชี้ตัวเองอย่างงุนงง เช่นเดียวกับคนที่จู่ๆก็ถูกฝากไว้กับคนแปลกหน้าที่รู้สึกสับสนไม่แพ้กัน



“ครับ?” เสียงนั้นเป็นประโยคคำถาม แต่ธีรเชษฐ์กลับถือเอาคำพูดของคนตรงหน้าเป็นการตอบตกลงไปเสียอย่างนั้น



“ขอบใจมากนะ มีนเพิ่งมาต่างประเทศครั้งแรก กลัวจะโดนอุ้มไปขาย” ธีรเชษฐ์ก้มลงมองคนบนตักที่หลุบตาหนี ก้มหน้าลงต่ำอย่างไม่กล้าสู้หน้าคนที่จู่ๆก็ดูจะหงุดหงิดขึ้นมาในเช้านี้ “เดี๋ยวที่ฉันลงทุนไว้จะไม่ได้ถอนทุนคืน”



ร่างเล็กสะอึก คำพูดของร่างสูงทิ่มแทงหัวใจทั้งที่ไม่ใช่ข้อมูลใหม่อะไร ธีรเชษฐ์เปิดเผยชัดเจนในสิ่งที่ตัวเองต้องการมาตั้งแต่ต้น มีแต่มีนาเท่านั้นที่บิดเบือนความใจดีของอีกฝ่ายไปเป็นอะไรบางอย่างที่ไม่มีอยู่จริง



“ได้ครับ ไม่มีปัญหา” คุณเทสต์ยิ้มให้ธีรเชษฐ์ ส่วนมีนาทีไม่มีอำนาจอะไรเหนือชะตาชีวิตของตัวเองนั้นเพียงแต่นั่งนิ่งบนตัก
ของร่างสูง ปล่อยให้อีกฝ่ายบังคับป้อนอาหารเช้าที่เขาตักมาให้จนกว่าเจ้าชีวิตของเขาจะพอใจ














“คุณเทสต์ครับ จริงๆไม่ต้องลำบากมาดูแลผมก็ได้นะครับ” มีนาเอ่ยอย่างเกรงใจ สิ่งแรกที่ร่างเล็กทำหลังจากธีรเชษฐ์และวีรภัทรปลีกตัวไปเข้าประชุม คือการถอดเสื้อคลุมกันหนาวที่ธีรเชษฐ์ยืนกรานจะให้เขาใส่พับเก็บใส่กระเป๋าเป้ เด็กหนุ่มตอบสายตาใคร่รู่ของคนที่ยืนมองการกระทำของตนด้วยคำว่า ‘ผมเริ่มร้อนแล้วน่ะครับ’ แม้ว่าในความเป็นจริงแล้วมีนาจะหนาวจนฟันกระทบกันก็ตาม



“เรียกพี่เทสต์ก็ได้ ไม่ต้องเรียกคุณหรอก”



ทั้งสองอยู่ในร้านกาแฟหน้าตาน่ารักแห่งหนึ่งในห้างของถนนออชาร์ด ตกแต่งด้วยต้นไม้ปลอมพร้อมดอกสีอ่อนดูสบายตา เก้าอี้หวายบุเบาะผ้านุ่มสบายน่านั่ง คัพเค้กหน้าตาน่าเอ็นดูวางเรียงรายในตู้กระจกซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้ชายหนุ่มข้างกายมีนาแทบจะพุ่งตัวเข้ามา คุณเทสต์ หรือคุณธัชนนท์เป็นคนที่ชื่นชอบการทำอาหารเป็นชีวิตจิตใจ โดยเฉพาะการทำขนมหวาน แค่คุยกันไม่ถึงสิบนาทีมีนาก็รับรู้ถึงความหลงใหลคลั่งไคล้ในศาสตร์แห่งคหกรรมของอีกฝ่าย



มีนาตั้งใจจะรออยู่ข้างนอกเมื่อเห็นราคาสินค้าภายใน แม้เขาจะตั้งใจไว้แล้วว่าจะเสียเงินที่ธีรเชษฐ์ให้มาแค่เฉพาะกับเรื่องของกินเท่านั้น แต่ของกินพวกนี้ก็ยังราคาแพงไปสำหรับเด็กหนุ่มอยู่ดี



คนรักของคุณวีรภัทรนั้นเป็นคนที่โน้มน้าวคนได้อย่างมีศิลปะ มีนาตระหนักเรื่องนั้นได้หลังจากที่เข้ามานั่งในร้านกับร่างโปร่งเป็นที่เรียบร้อยแล้ว



“สั่งอะไรหน่อยสิ เมื่อกี้นอกจากขนมปังก็ไม่ได้ทานอะไรเลยไม่ใช่เหรอ?” คนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามของเขาทักด้วยความหวังดี



“ไม่เป็นไรครับ ผมไม่ค่อยหิว” มีนาส่ายหน้าปฏิเสธ เด็กหนุ่มไม่ใช่คนพูดเก่งมาตั้งแต่ต้น และการอยู่กับคนที่เพื่อนสนิทของ
ธีรเชษฐ์ให้สถานะเป็นคนรักทำให้มีนารู้สึกเกร็งเป็นพิเศษ



คุณธัชนนท์พยักหน้าเข้าใจ แต่ปริมาณของขนมที่ร่างโปร่งหันไปสั่งนั้นมากเกินกว่าจะเป็นสิ่งที่อีกฝ่ายจะทานหมด ก่อนที่ความสนใจของอีกฝ่ายจะกลับมาอยู่ที่เขา



“คุณเชษฐ์กับมีนนี่...เป็นอะไรกันเหรอ?”



คำถามนั้นทำให้มีนาชะงัก เขาไม่ได้ตกใจกับคำถาม หากเขาอยู่ในสถานะเดียวกับธัชนนท์เขาก็คงจะมีคำถามที่ไม่ต่างกัน
แต่สิ่งที่ทำให้เขาอึกอักอย่างลำบากใจ คือเขาไม่มีคำตอบให้กับคำถามนั้น



“ไม่เป็นไร ถ้าไม่อยากตอบพี่ก็เข้าใจ” คนถามรีบพูด มีนาส่ายหน้า



“ไม่เป็นไรครับ จริงๆคุณเชษฐ์ไม่ได้ห้าม ผมแค่...” เด็กหนุ่มกัดริมฝีปาก ธีรเชษฐ์ดูจะไม่ได้ใส่ใจอะไรเรื่องการเปิดเผยสถานะของพวกเขา สังเกตได้จากการที่อีกฝ่ายดึงเขาไปนั่งบนตักอย่างเเสดงความเป็นเจ้าของเมื่อเช้า “ไม่อยากให้คุ..พี่เทสต์มองผมไม่ดี”


“พี่เชื่อว่าคนเรามีเหตุผลในการกระทำของตัวเองนะมีน” อีกฝ่ายว่า ยิ้มให้กำลังใจ มีนายิ้มตอบสีหน้าอบอุ่นนั้นด้วยความรู้สึกดีขึ้นเล็กน้อย “แต่ถ้ามีนไม่อยากพูด ก็ไม่ต้องพูดก็ได้นะ”



“แม่ผมเป็นมะเร็ง” เด็กหนุ่มตอบเสียงเบา “ยายของผมก็มีโรคประจำตัวเยอะแยะ ผมไม่มีพ่อ พวกเราอยู่ได้ด้วยเบี้ยผู้สูงอายุ กับร้อยมาลัยขายที่ตลาด”



มีนาสังเกตว่าคนฟังมีสีหน้าเหมือนอยากจะเอ่ยปลอบเด็กหนุ่มแต่ไม่รู้ว่าจะต้องพูดอะไร ซึ่งเขาก็รู้สึกขอบคุณอยู่ลึกๆกับความใส่ใจของคนที่เพิ่งเคยเห็นหน้า



“ผมสอบติดมหาวิทยาลัยด้วยทุนเต็มจำนวน แต่ค่าหอพัก ค่ากินค่าอยู่ เอกสารทุกอย่าง ผมต้องออกเองทั้งหมด” มีนาก้มหน้าลงมองมือของตัวเองที่วางอยู่บนหน้าตัก การได้พูดออกมาทำให้ความรู้สึกละอายใจเอ่อท้นขึ้นมาอีกครั้ง “ผมเลย...ลองทำตามที่เด็กแถวบ้านแนะนำ ลองขาย..อึก...”


ลมหายใจของเด็กหนุ่มสะดุด น้ำตาหยดแรกตกลงบนตัก มีนาพยายามกระพริบตาไล่น้ำตา ภาพตรงหน้าของเขาพร่าเลือนไปชั่วขณะ



“มีน…”



“ผมโชคดีมากครับที่วันแรกของผม ผมได้เจอคุณเชษฐ์” เด็กหนุ่มเงยหน้าขึ้นพูดกับธัชนนท์พร้อมรอยยิ้ม ปาดน้ำตาที่ติดอยู่บริเวณหางตาของตัวเองออก “คุณเชษฐ์ออกค่าใช้จ่ายทั้งหมดในการรักษาพยาบาลแม่กับยาย ค่าหอ ค่ากิน ค่าอยู่...”



“แลกกับร่างกายของเธอ?”



น้ำเสียงของคนฟังเต็มไปด้วยความไม่เห็นด้วย มีนารู้ว่าอีกฝ่ายกำลังคิดอะไรอยู่ และรู้ด้วยว่าความคิดของอีกฝ่ายไม่ผิดจากความเป็นจริงเท่าไหร่นัก


แต่เขายังคงคิดว่าธีรเชษฐ์ไม่ใช่คนแบบนั้น และไม่อยากให้ธัชนนท์มองผู้มีพระคุณของเขาแบบนั้นเช่นกัน



“มันไม่ใช่อย่างนั้นนะครับ คุณเชษฐ์ไม่เคยบังคับอะไรผม หลังจากที่เขารู้ว่าผมอายุไม่ถึง คุณเชษฐ์ก็ไม่เคยแตะต้องผม” เด็กหนุ่มยิ้มออกมาน้อยๆอย่างไม่รู้ตัว แววตาเป็นประกายเมื่อพูดถึงผู้มีพระคุณของตน “ตอนนี้ผมแค่ช่วยทำความสะอาดห้อง ทำอาหาร ดูแลเรื่องเสื้อผ้า แล้วก็ไปไหนมาไหนเป็นเพื่อนคุณเชษฐ์ ส่วนเรื่อง...คุณเชษฐ์บอกว่าถ้าผมอายุสิบแปดแล้วค่อยคุยกัน”



“เห? แล้วถ้าอย่างนั้น ถ้าถึงวันเกิดขึ้นมา มีนจะไม่ปฏิเสธเขาเหรอ?” ธัชนนท์เท้าคางอย่างสนใจ



“เอ๊ะ เอ่อ..คุณเชษฐ์เป็นผู้มีพระคุณ...” ใบหน้าของมีนาร้อนเห่ออย่างเขินอาย มือไม้พันกันอย่างประหม่า “ต่อให้ชีวิตผม...ผมก็ยกให้ได้”



ใช่…เพราะเป็นธีรเชษฐ์ ต่อให้สิ่งที่อีกฝ่ายต้องการจะทำให้คำที่ตราหน้ามีนาเป็นจริงขึ้นมาอย่างไม่มีข้อโต้แย้ง แต่เด็กหนุ่มก็ยังคงยินดีที่จะยกร่างกายของตนให้อีกฝ่ายอย่างไม่ขัดขืน แม้ว่าเหตุผลของการกระทำนั้นจะไม่ได้หยุดอยู่แค่คำว่าบุญคุณอีกต่อไปมานานแล้วก็ตาม



“ลองบอกเขาไปสิ ว่าเรารู้สึกยังไง”



“…”


มีนาเงยหน้ามองคนพูดทันทีที่ได้ยินดังนั้น ริมฝีปากรูปกระจับอ้าค้างอย่างตกใจ แววตารู้ทันของคนตรงหน้าบ่งบอกว่าอีกฝ่ายอ่านความรู้สึกที่มีนามีต่อธีรเชษฐ์ออกอย่างทะลุปรุโปร่ง ซึ่งนั่นยิ่งทำให้คนตัวเล็กก้มหน้างุดอย่างทำอะไรไม่ถูก



“พี่ว่าอะไรๆมันอาจจะง่ายขึ้นก็ได้นะ”



“มะ…ไม่หรอกครับ คนอย่างผมไม่คู่ควรกับคุณเชษฐ์หรอก” มีนส่ายหน้าพรืด ลนลานอย่างเก็บอาการไม่อยู่



 ใช่ คนอย่างเขา แค่ร่างสูงนึกถูกใจร่างกายขึ้นมาก็เป็นเรื่องปาฏิหาริย์มากพออยู่แล้ว


“ค่าของคน มันตีไม่ได้ด้วยเงินหรอกนะมีน” ร่างโปร่งยิ้ม แลดูขบขันกับปฏิกิริยาของมีนาเสียเต็มประดา “ลองเอาไปคิดดูนะ”
ร่างเล็กก้มหน้านิ่ง คำพูดของธัชนนท์ดังสะท้อนอยู่ในหัว และที่มีนาไม่อยากจะเชื่อ คือเขารู้ว่าตัวเองกำลังบ้าจี้พิจารณาคำ
พูดของอีกฝ่ายขึ้นมาจริงๆ



เขาบอกแล้ว ผู้ชายตรงหน้าของเขานี่โน้มน้าวใจคนฟังเก่งชะมัด


ออฟไลน์ bpyt

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1319
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-2
น้องมีนสู้ๆ ลูก มั่นใจในตัวเองหน่อย

ออฟไลน์ เก้าแต้ม

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1290
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +88/-3
สู้ๆ หนูมีน  :mew1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
บอกเลย ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ  :ped149:

ออฟไลน์ miikii

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1719
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
น้องมีนนนนน จะไปตีคุณเชษฐ์แล้ว!!!
 :hao5:

ออฟไลน์ HISY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-3
บอกไปเลยค่ะลูก เผื่อคนแก่หายบ้า

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12

ออฟไลน์ WilpeR

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1556
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-2
มีนลองทำตามที่เทสต์บอกก็ดีนะ คนแก่จะได้หายโมโหหึงบ้าง

ออฟไลน์ TheWanFah

  • ความใกล้ชิด บางครั้ง ทำให้เราเผลอคิดไปเอง
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-1
น้องมีนต้องสู้นะ

ออฟไลน์ เป็ดอนุบาล

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-2
       สู้ๆนะมีนา :mew1:
ค่าของคนอยู่ที่เราเลือก อย่าคิดติดลบกับตัวเอง :mew1:

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
บอกเลยๆๆๆๆ

ออฟไลน์ tuek

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3549
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +214/-3
มีนหนูสู้ๆนะ

ออฟไลน์ littlepig

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 429
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +413/-5
Chapter 37: แสดงความเป็นเจ้าของ




“มา พี่ถ่ายรูปให้” ธัชนนท์เอ่ยขึ้นหลังจากที่พวกเขามาถึงจุดท่องเที่ยวสำคัญแห่งหนึ่งของประเทศ รูปปั้นเมอร์ไลอ้อนที่กำลังพ่นน้ำออกมาจากปากตัวเองอย่างพอดิบพอดี เด็กหนุ่มที่กำลังตื่นตาตื่นใจกับการได้เห็นของจริงในระยะใกล้หันไปปฏิเสธร่างสูงอย่างเกรงใจ



“ไม่เป็นไรครับ...”



“น่า มาต่างประเทศครั้งแรกทั้งที ถ่ายเก็บไว้เป็นที่ระลึกหน่อยสิ” ธัชชนนท์ดึงมือถือสมาร์ทโฟนยี่ห้อยอดฮิตติดตลาดออกมาจากมือเด็กหนุ่ม ชี้ให้อีกฝ่ายไปยืนหน้าเมอร์ไลอ้อนพร้อมกับยกมือถือขึ้นเตรียมถ่ายรูป เมื่อเห็นมีนายังคงละล้าละหลังจึง
เอ่ยขู่ด้วยชื่อของคนที่เขารู้ว่าจะทำให้มีนากลัวที่สุด “เก็บไว้ให้คุณเชษฐ์เป็นหลักฐานไง เดี๋ยวเขาหาว่าเธอไม่ยอมมาเที่ยวก็โดนดุหรอก”



ได้ผลทันตา เด็กหนุ่มรีบยิ้มให้กล้องทันที แม้จะเป็นรอยยิ้มที่ประหม่าเขินอายก็ตาม



จริงอยู่ที่มีนาไม่คิดว่าธีรเชษฐ์จะสนใจว่าเขาทำอะไรในเวลาว่าง ไม่ต้องพูดถึงการไล่เช็ครูปภาพว่าเขาได้ไปเที่ยวจริงหรือไม่ แต่การมีหลักฐานยืนยันที่อยู่มักเป็นเรื่องดีกว่าเสมอ



ทั้งสองเดินเที่ยวไปเรื่อยเปื่อย แม้ว่าธัชนนท์จะเสนอตัวพามีนาไปเที่ยวตามสถานที่ท่องเที่ยวอื่นที่อยู่ห่างออกไป แต่เด็กหนุ่มปฏิเสธอย่างสุภาพโดยให้เหตุผลว่าอยากจะรีบกลับโรงแรมให้ทันก่อนที่ธีรเชษฐ์จะประชุมเสร็จ



ถึงแม้ว่าเหตุผลที่แท้จริงของมีนานั้น จะเป็นเพียงความคิดเด็กๆที่ว่าเขาอยากจะเห็นที่อื่นๆเป็นครั้งแรกพร้อมกับคนที่กำลัง
ติดอยู่ในห้องประชุมตอนนี้ก็ตาม



ธัชนนท์เลี้ยวเข้าไปในร้านขายอาหารว่างที่มีแซนด์วิชทำเสร็จวางเรียงรายอยู่ในตู้กระจก ชายหนุ่มมักจะทำแบบนี้ระหว่างทริปเล็กๆของพวกเขา ซื้อของกินมาแบ่งมีนาที่แทบจะไม่ยอมซื้ออะไรตลอดการเดินทางโดยใช้ข้ออ้างเดิมๆที่รู้ว่ามีนาไม่มีทางปฏิเสธ



“มีน พี่กินไม่หมด ช่วยพี่กินหน่อยได้มั้ย”



ร่างเล็กก้มลงทานแซนวิชอีกครึ่งที่ร่างโปร่งแบ่งให้แต่โดยดี ยิ้มให้อีกฝ่ายอย่างขอบคุณ



“จริงสิ มีนเมมเบอร์พี่ไว้แล้วกัน เผื่ออยู่ที่ไทยมีปัญหาอะไรก็โทรหาพี่ได้นะ” ธัชนนท์เสนอ ร่างบางก้มมองโทรศัพท์มือถือในมือของตัวเองด้วยสีหน้าลำบากใจ



“ผมทำไม่เป็นน่ะครับ”



“อ่า งั้นเหรอ มาๆเดี๋ยวพี่สอนให้” อีกฝ่ายขยับเข้ามาใกล้ โน้มตัวเข้ามาสอนเมื่อเห็นว่ามีนายังคงไม่เข้าใจวิธีการทำงานของเครื่องมือสื่อสารในมือของตัวเอง ธีรเชษฐ์ซื้อโทรศัพท์เครื่องนี้ให้เขา แต่มีนาไม่มีความกล้ามากพอที่จะบอกร่างสูงว่าโทรศัพท์แบบเดียวที่เขาเคยใช้คือโทรศัพท์สาธารณะ ร่างเล็กต้องใช้วิธีการแอบดูทินกรกับพายุใช้โทรศัพท์ของตัวเองแล้วอ่านคู่มือที่มากับมือถือซึ่งไม่ได้ช่วยอะไรเขามากนัก



“เรียบร้อย อ๊ะ สองคนนั้นประชุมเสร็จแล้ว เรากลับกันดีกว่า” ธัชนนท์ว่าเมื่อเห็นข้อความเด้งขึ้นมาในโทรศัพท์ตัวเอง มีนาพยักหน้า รู้ดีว่าตัวเองมีรอยยิ้มกว้างอยู่บนหน้าแต่ไม่คิดจะปิดบังคนที่ดีกับเขามาตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกัน
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อธัชนนท์มีรอยยิ้มแบบเดียวกับเขาประดับอยู่บนริมฝีปากแบบนี้










“สนุกกันใหญ่เลย”




วีรภัทรเอ่ยเสียงกลัวหัวเราะขณะก้มลงอ่านข้อความที่คนรักส่งมาในช่วงพักเบรกก่อนเข้าช่วงสุดท้ายของการประชุม ยื่นมือถือของตัวเองให้ธีรเชษฐ์ดูภาพของมีนาที่งับคัพเค้กสีหวานคำโตจนแก้้มป่อง ปลายจมูกมีครีมฟรอสติ้งสีชมพูหวานติดอยู่เช่นเดียวกับแก้มใสชวนให้คนมองอยากจะใช้นิ้วปาดครีมที่เลอะอยู่ออกแล้วส่งเข้าปากของตัวเอง ตบท้ายด้วยการดึงคนตัวเล็กเข้ามาชิมความหวานของขนมเค้กที่อีกฝ่ายกินเข้าไป



ธีรเชษฐ์เหลือบมองโทรศัพท์ของตัวเองที่ปิดโหมดห้ามรบกวนไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทว่ายังคงไม่มีข้อความจากคนในรูปถ่ายเมื่อครู่ส่งมาหาตัวเอง



“ไปดูรูปปั้นกันมาเหรอ...กินอีกแล้ว? สรุปนี่เทสต์ลากเด็กมึงไปช่วยแบ่งเบาความอ้วนในทริปกินใช่มั้ยเนี่ย?” วีรภัทรยิ้ม มือพิมพ์ตอบคนรักอย่างไม่หยุดพัก แววตาของเพื่อนสนิทยามที่คุยกับคนรักผ่านทางข้อความนั้นเป็นสิ่งที่ธีรเชษฐ์ไม่เคยเห็นมาก่อนในช่วงเวลายี่สิบกว่าปีที่เป็นเพื่อนกันมา วีรภัทรในตอนนี้เหมือนมีแสงสว่างแผ่ออกมาจากทุกอณูของร่างกาย ใบหน้าคมเข้มตามประสาชายไทยฉาบไล้ไปด้วยความสุขเปี่ยมล้นชนิดที่ใครมองก็ต้องรู้สึกอิจฉา



ธีรเชษฐ์ก้มมองโทรศัพท์ของตัวเองอีกครั้ง ยังคงไม่มีข้อความจากมีนา


“เทสต์บอกกำลังพามีนกลับมา น่าจะถึงตอนเราประชุมเสร็จพอดี” วีนภัทรหันไปบอกเพื่อนสนิท ชาหนุ่มชะงักไปเล็กน้อยเมื่อเห็นเพื่อนอายุมากกว่าพยักหน้าด้วยสีหน้าเหมือนไปโกรธใครมาชาติเศษ “เฮ้ยเชษฐ์ เป็นไรวะ?”
“เปล่า” ถึงจะพูดอย่างนั้น แต่ดวงตาสีควันบุหรี่ยังคงจับจ้องอยู่กับหน้าจอโทรศัพท์ของตัวเองไม่วางตา วีรภัทรเลิกคิ้ว ไม่เคยเห็นมุมนี้ของเพื่อน



“อะไร? มึงงอนเด็กเหรอ?”



“งอนเชี่ยไรล่ะ เด็กนั่นต่างหากที่งอนกู” ธีรเชษฐ์เถียงเสียงห้วน “เป็นอะไรไม่รู้มาตั้งแต่เช้าแล้ว กูบอกให้ใส่เสื้อหนาวก็ไม่ยอมใส่ ตัวเองขี้หนาวจนตัวสั่นงกๆก็ยังดื้อ พอกูบอกให้ใส่เสื้อก็ทำเหมือนกูไปบังคับฝืนใจอะไรตัวเอง”



“เขาใส่ไม่สบายรึเปล่า”



“เหอะ เสื้อหนาวแคชเมียร์ตัวที่หมอกซื้อให้กูน่ะนะจะใส่ไม่สบาย” ร่างสูงกอดอก เสื้อตัวนั้นนับว่าเป็นตัวที่เป็นผู้เป็นคนที่สุดของเขาแล้ว เพราะเสื้อตัวอื่นที่ธีรเชษฐ์ซื้อเองนั้นร่างสูงไม่ใช่คนใส่ใจกับรายละเอียดของสินค้ามากพอที่จะดูอะไรนอกจากว่ามันอุ่นพอหรือไม่



“ของรักของหวงมึงอ่ะนะ? ไรวะ ทีกูยืมมึงไม่ให้ใช้” วีรภัทรโวย มีที่ไหนยอมให้เด็กในสังกัดยืมของแต่หวงกับเพื่อนฝูง
แต่แววตาของธีรเชษฐ์กลับทำให้คนที่กำลังโวยวายเริ่มฉุกคิด...หรือว่าเด็กคนนั้นจะเป็นมากกว่านั้น?
ชิ้นส่วนของปริศนาค่อยๆประกอบตัวเองเป็นรูปเป็นร่างในหัวของวีรภัทร ชายหนุ่มถามเพื่อนของตัวเองที่ยังคงหน้านิ่วคิ้วขมวดจ้องโทรศัพท์ไม่วางตา นึกอยากพิสูจน์สมมติฐานที่มีในตอนนี้ขึ้นมา



“เชษฐ์...มึงได้บอกเขารึเปล่าว่าเลขามึงเป็นคนซื้อเสื้อตัวนั้นให้”



“บอก แล้วไง?” ธีรเชษฐ์ตอบตามความจริง นึกสงสัยว่าเรื่องนั้นมาเกี่ยวอะไรกับสิ่งที่พวกเขากำลังคุยกันอยู่เมื่อครู่
วีรภัทรเกาศีรษะแกรกๆอย่างเหนื่อยใจกับความซื่อบื้อของเพื่อนสนิท บางทีเขาก็รู้สึกว่าที่เขา ธีรเชษฐ์ และคเชนทร์สนิทกันมาได้จนอายุปูนนี้เป็นเพราะความซื่อบื้อด้านอารมณ์ความรู้สึกที่ยึดเหนี่ยวพวกเขาไว้ด้วยกัน



แน่นอน หากเทียบจากเรื่องนั้น วีรภัทรในตอนนี้น่าจะเป็นคนที่ดูเป็นผู้เป็นคนที่สุดในบรรดาเพื่อนทั้งสาม เพราะคุณหมอคเชนทร์ของพวกเขานั้นดูไม่มีวี่แววจะได้ลงจากหิ้งบูชาเสียที



วีรภัทรมักจะแซวอาจารย์หมอรูปหล่ออยู่หลายครั้งว่าไม่มีคนไข้มาขายขนมจีบบ้างเลยหรือ แต่แววตาเย็นเยียบภายใต้กรอบ
แว่นของคเชนทร์นั้นดูจะเป็นคำตอบในตัวของมันเองได้เป็นอย่างดี



“มึงบอกเด็กน้อยของมึงว่าเสื้อตัวนั้น เป็นเสื้อที่มึงได้มาเป็นของขวัญจากเลขาที่มึงชื่นชมบูชาทะนุถนอมอย่างกับไข่ในหิน แถมยังเป็นคนที่มีข่าวลือว่าเป็นสนมเอกในฮาเร็มของมึงมาไม่รู้กี่ปี แถมยังบังคับให้เขาใส่ของที่เป็นเหมือนเครื่องแทนใจ
ของมึงกับเลขาคนสวย...แต่มึงไม่รู้ว่าเขางอนอะไรมึงเนี่ยนะ?”



“….”



วีรภัทรไม่รอช้า ยกโทรศัพท์มือถือของตนขึ้นมาถ่ายรูปเพื่อนสนิทที่มีสีหน้าเหมือนกวางเดินตัดหน้ารถสิบล้อเก็บไว้เป็นภาพประทับใจ ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงขบขัน



“มึงก็ไปคิดดูเอาแล้วกัน ป่ะ รีบๆประชุมให้เสร็จ กูคิดถึงอีหนูของกูจะแย่อยู่แล้ว” วีรภัทรตบบ่าเพื่อนสนิทก่อนจะลุกจากม้านั่งกลับเข้าไปในห้องประชุม



คิดว่าหลังจากนั้นมีเนื้อหาการประชุมผ่านเข้าหูของธีรเชษฐ์บ้างมั้ย?










“ประชุมเหนื่อยมั้ยครับ”



ทันทีที่พวกเขาก้าวออกมาจากลิฟต์ คนรักของวีรภัทรที่นั่งรออยู่กับมีนาแทบจะกระโจนใส่เพื่อนสนิท  วีรภัทรโอบเอวอีกฝ่ายเข้ามาใกล้ ส่วนธัชนนท์ก็ยกแขนขึ้นโอบรอบคอของคนรักพร้อมรอยยิ้ม ได้รับรางวัลเป็นหอมฟอดใหญ่จากวีรภัทร
ในขณะที่มีนาเพียงแค่ลุกจากที่นั่งแล้วยืนนิ่งอยู่หลังคนทั้งคู่ ไม่มีวี่แววจะเดินเข้ามาหาธีรเชษฐ์ด้วยตัวเอง



“แค่เห็นหน้าเธอก็หายเหนื่อยแล้ว” วีรภัทรป้อ ร่างโปร่งทุบไหล่คนรักอย่างเขินอายด้วยแรงไม่เบานักจนชายหนุ่มถึงกับกุมไหล่ร้องโอดโอย ธีรเชษฐ์ส่ายหน้าด้วยความรู้สึกสมเพชเวทนา หันไปหาเด็กน้อยของตัวเองที่ในที่สุดก็ยอมเดินมาหาเขา ในมือมีขวดน้ำแร่เย็นขวดหนึ่ง มีนารู้ว่าเขามักจะรู้สึกเจ็บคอทุกครั้งหลังการประชุม และมักจะเตรียมน้ำดื่มและน้ำผึ้งมะนาวอุ่นๆไว้ให้เขาเสมอหลังจากกลับมาถึงคอนโด แต่แปลกที่แบบนี้คงจะไปหาส่วนผสมมาชงน้ำผึ้งมะนาวเองก็คงยากอยู่



“น้ำครับคุณเชษฐ์”  มีนายื่นขวดน้ำพร้อมหลอดให้กับเขา ธีรเชษฐ์สังเกตว่าอีกฝ่ายยังคงใส่ชุดกันหนาวที่เขาให้ แม้ว่ารอยยับเป็นเส้นตรงที่บ่งบอกถึงการถูกพับเก็บใส่กระเป๋าและภาพถ่ายของมีนาในร้านเค้กที่ไม่มีชุดตัวที่ว่าอยู่จะทำให้ธีรเชษฐ์รู้ว่าอีกฝ่ายไม่ได้ใส่ชุดนี้เลยตลอดทั้งวันก็ตาม



หากเป็นเมื่อเช้า ธีรเชษฐ์คงจะดุอีกฝ่ายด้วยความเป็นห่วงว่าคนตัวเล็กจะล้มป่วยกับเรื่องไม่เป็นเรื่อง แต่หลังจากคุยกับเพื่อนสนิทเมื่อครู่ ประกอบกับท่าทีอึดอัดอย่างเห็นได้ชัดของมีนาทำให้เขาเริ่มจะพิจารณาคำพูดของวีรภัทรอย่างเป็นจริงเป็นจังขึ้นมา…



บ้าน่า นี่คือมีนานะ! เด็กนี่รู้จักทำตัวเป็นเจ้าข้าวเจ้าของใครเป็นเสียที่ไหนกัน ไม่ต้องพูดถึงการหึงหวงอย่างที่วีรภัทรว่าเลย
แต่ถึงอย่างนั้น ส่วนลึกในจิตใจของธีรเชษฐ์กลับอดยืดอกเล็กๆอย่างภูมิใจไม่ได้ที่เขาเป็นสิ่งของสิ่งแรกที่มีนาเรียนรู้ที่จะหวง
ดูท่าเขาจะเป็นเอามากแล้วจริงๆ



“ป้อน” เสียงทุ้มสั่งห้วนสั้น กลบเกลื่อนความเขินอายที่ผู้ชายวัยสี่สิบสองตัวเท่าตึกไม่ควรรู้สึก โดยเฉพาะกับเด็กน้อยตาใสตรงหน้า



มีนก้มลงบิดเปิดฝาขวดน้ำแล้วเสียบหลอดลงไปอย่างว่าง่าย ด้วยความสูงที่ต่างกันจนน่ากลัว เด็กหนุ่มต้องยกขวดขึ้นเกือบสุดแขนเพื่อให้ร่างสูงดูดน้ำ ซึ่งธีรเชษฐ์ก็ไม่ได้คิดจะช่วยก้มลงมาอำนวยความสะดวกให้อีกฝ่ายแม้แต่น้อย



เพราะเขาชอบสีหน้าตั้งอกตั้งใจของคนที่พยายามทำตามคำสั่งไร้สาระของเขาอย่างไม่เกี่ยงงอนมากที่สุด



ก็บอกแล้วว่าถ้าหากเป็นเรื่องของมีนา ชายหนุ่มรู้ว่าตัวเองนั้นเป็นเอามากจริงๆ




ธีรเชษฐ์ไม่ได้สนใจว่าเพื่อนสนิทกับคนรักหายหัวไปตอนไหน สิ่งเดียวที่เขาสนใจ คือเด็กหนุ่มร่างเล็กที่เมื่อเขาดื่มน้ำเสร็จก็ก้มหน้างุดมองพื้นนิ่งราวกับว่าฝุ่นละอองบนพื้นนั้นน่าสนใจกว่าเขานักหนา



“ตามมา”



“เอ๊ะ? เราจะไปไหนกันเหรอครับคุณเชษฐ์?”



ขาสั้นๆก้าวตามเขามาเมื่อเห็นว่าธีรเชษฐ์ไม่คิดจะตอบ ร่างสูงกดลิฟท์แล้วใช้มือขวางประตูลิฟท์ไว้ให้เด็กหนุ่มตามเข้ามา มีนาเหลือบมองใบหน้าคมเข้มไม่บ่งบอกอารมณ์เป็นระยะ พยายามจะคาดคะเนความคิดของเจ้าชีวิต แต่ธีรเชษฐ์เพียงแค่กดชั้นที่เป็นส่วนของห้างสรรพสินค้าแล้วก้าวนำร่างเล็กออกไป



ร้านเแล้วร้านเล่า ชายหนุ่มพาเขาเดินเข้าออกร้านเสื้อผ้าติดแบรนด์ราคาสูง เลือกดูเสื้อผ้าแต่ละตัวอย่างตั้งใจ เหลือบมองมีนาเป็นระยะก่อนจะส่ายหน้าแล้วเดินต่อไป เด็กหนุ่มเดินตามอีกฝ่ายเงียบๆ จนกระทั่งธีรเชษฐ์มาหยุดอยู่ตรงหน้าร้านขายเสื้อผ้าแบรนด์เนมที่พนักงานทุกคนในร้านแต่งตัวดีกว่าลูกค้าที่เดินผ่านไปมาเสียอีก ดวงตาคมจดจ้องอยู่กับหุ่นโชว์หน้าร้านที่สวมเสื้อคลุมตัวยาวสีน้ำตาลเรียบเข้ารูปบริเวณเอวที่ใครมองมาก็รู้ว่าเป็นของมีราคา มีนาพิจารณาเสื้อคลุมตัวนั้นเช่นเดียวกับร่างสูง นึกชอบสไตล์การตัดเย็บของชุดที่เก็บเนียนเรียบราวกับออกมาจากแม่พิมพ์แบบนั้น



“สวยมั้ย?” เสียงทุ้มเอ่ยถามคนที่กำลังจมอยู่ในห้วงความคิด มีนาสะดุ้งเล็กน้อยที่จู่ๆอีกฝ่ายก็ตัดสินใจหันมาพูดกับเขา เด็กหนุ่มพยักหน้า นึกสงสัยว่าใครกันที่ธีรเชษฐ์ดั้นด้นตามหาเสื้อผ้าให้อย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยแบบนี้



ก็คงไม่พ้นเลขาคนสำคัญของอีกฝ่ายนั่นล่ะนะ



“ครับ สวยมาก”



ธีรเชษฐ์ก้าวไปยังประตูกระจกบานเขื่องที่พนักงานในชุดสูทเปิดให้ร่างสูงทันทีด้วยท่วงท่านอบน้อม มีนาเดินตามชายหนุ่มเข้าไป รู้สึกเกร็งกับบรรยากาศที่แตกต่างจากภายนอกอย่างเห็นได้ชัด



ธีรเชษฐ์ก้าวเข้าไปหาพนักงานสาวที่ยืนอยู่หลังเคาท์เตอร์ พูดอะไรสักอย่างกับอีกฝ่ายแล้วชี้มายังมีนา เด็กหนุ่มเอียงคอ ก้าวตามไปยืนร่างสูงด้วยสีหน้างุนงง



“ถอดนี่ออกก่อน” ธีรเชษฐ์ดึงเบาๆที่เสื้อคลุมตัวหลวมโพรกที่มีนาใส่อยู่ ก่อนจะรับชุดตัวลองที่พนักงานสาวนำมาให้สวมแทนที่



“เอ๊ะ?” เด็กหนุ่มกระพริบตา ยังคงไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น



“ชอบมั้ย?” มือใหญ่คว้าข้อมือของคนที่กำลังจะตบไปตามตัวหาป้ายราคา “มีน ฉันถามว่าเธอชอบมั้ย?”
มีนาเงยหน้ามองคนพูด ดวงตาคมจ้องตรงมาที่เขา คิ้วเข้มขมวดมุ่นอย่างรอคอยคำตอบ



“ชะ…ชอบครับ” มีนาตอบไม่เต็มเสียง



จริงอยู่ที่เขาชอบเสื้อตัวนี้ ทั้งสไตล์การตัดเย็บ ความเรียบลืนสบายผิวของเนื้อผ้าและวิธีที่เสื้อคลุมตัวนี้โอบกอดรูปร่างของเขาอย่างพอดิบพอดีราวกับสั่งตัด แต่เขาก็รู้เช่นกันว่าราคาของสินค้ามาใหม่ในร้านระดับนี้ไม่ใช่สิ่งที่เขายินดีจะได้รับ



“ดี…เพราะฉันเลือกให้เธอ” ธีรเชษฐ์หันไปส่งบัตรเครดิตของตัวเองให้พนักงานสาว มีนาจ้องอีกฝ่ายด้วยสีหน้าสับสน



“ผมไม่เข้าใจ…”




“เสื้อตัวนี้ฉันตั้งใจเลือกให้เธอ มันเป็นของของเธอแค่คนเดียว” ชายหนุ่มเอ่ยเสียงเรียบ ลูบศีรษะของเด็กน้อยของตนเบาๆ “รักษามันไว้ให้ดีๆล่ะ”



ดวงหน้าขาวสว่างไสวขึ้นกับคำพูดนั้น ธีรเชษฐ์ไม่รู้ว่ามีนาเข้าใจสิ่งที่เขาต้องการจะสื่อมากน้อยแค่ไหน แต่รอยยิ้มเปี่ยมสุขเมื่อร่างเล็กก้มมองเสื้อคลุมตัวใหม่ของตัวเองทำให้ธีรเชษฐ์รู้สึกว่าเงินที่จ่ายไปนั้นคุ้มค่าทุกบาททุกสตางค์



ดวงตากลมโตเหลือบมองบางสิ่งที่เคาท์เตอร์โชว์สินค้าไม่ไกล ก่อนจะหันไปหาธีรเชษฐ์ด้วยสีหน้าไม่มั่นใจ



“ข้อตกลงของเรา…ยังมีอยู่มั้ยครับ?”



ทีแรก ร่างสูงเข้าใจว่าอีกฝ่ายหมายความถึงข้อตกลงของพวกเขาที่ใกล้จะถึงกำหนดวาระตัดสินใจในไม่ช้า แต่เมื่อเห็นคนตัวเล็กเล่นกับบัตรเครดิตสีดำในมืออย่างประหม่า ธีรเชษฐ์ถึงได้เขัาใจ


“อยู่ ทำไม?มีของที่อยากได้เหรอ?”



ธีรเชษฐ์ยอมรับว่าเขาประหลาดใจกับคำถาม ร่างสูงให้บัตรเครดิตกับอีกฝ่ายเพราะอยากให้มีนาได้ซื้อของที่อยากได้ แต่เขาที่รู้นิสัยของอีกฝ่ายดีก็คาดการณ์ไว้แล้วเช่นกันว่ามีนาจะไม่ยอมใช้มันซื้ออะไร



“ครับ…”



มีนาหันไปมองตู้โชว์นั้นอีกครั้ง ธีรเชษฐ์เลิกคิ้วเมื่อเห็นเข็มขัดหนังสีดำเรียบวางเรียงราย หัวเข็มขัดเป็นโลโก้ของแบรนด์ในรูปแบบต่างๆให้ลูกค้าเลือกสรร



“ก็ไม่ได้จะว่าอะไรหรอกนะ” ชายหนุ่มเปรย “แต่ฉันไม่คิดเลยนะว่าเธอจะชอบใช้อะไรแบบนี้”



“…ต่างหากครับ”



“หืม?” ชายหนุ่มขมวดคิ้ว ก้มลงเงี่ยหูฟังคนที่พึมพำไม่ได้ศัพท์ใต้ลมหายใจ



“ผมอยากซื้อให้คุณเชษฐ์ต่างหากครับ” มีนาเอ่ยซ้ำด้วยน้ำเสียงที่ไม่ได้ดังเพิ่มขึ้นมากนัก แต่ก็มากพอที่ธีรเชษฐ์จะได้ยิน
อย่างชัดเจน



ร่างสูงยิ้มมุมปาก นิ้วเรียวยาวเชยคางมนขึ้นในสบกับดวงตาสีควันบุหรี่ฉายแววขบขัน



“ไม่คิดเลยนะว่าเธอจะเป็นคนแบบนี้”



“…” มีนาหน้าเสียกับคำพูดของอีกฝ่าย ความกล้าที่รวบรวมได้เมื่อครู่สลายหายไปกับตา



“ฉันอุตส่าห์ให้อิสระเธอซื้อของที่อยากได้” ธีรเชษฐ์แสร้งเอ่ยด้วยน้ำเสียงผิดหวัง “แต่เธอดันเอาเงินของฉันไปซื้อของให้ผู้ชายเนี่ยนะ”



คนโดนแกล้งทำหน้ามุ่ย อยากจะเถียงว่าผู้ชายคนที่เขาอยากซื้อให้ก็คนเดียวกับผู้ชายที่ให้เงินเขา แต่บางอย่างในแววตาของธีรษฐ์ทำให้คำพูดของเด็กหนุ่มออกมาเป็นเสียงตะกุกตะกักด้วยความเขินอาย



“มะ…ไม่เอาก็ได้ครับ…”



“อะไรกัน ฉันเสียใจนะ” คนพูดไม่ได้มีสีหน้าเสียใจสักนิด ตรงกันข้าม ธีรเชษฐ์ดูสนุกสนานเสียด้วยซ้ำกับการได้แกล้งเด็กน้อยตรงหน้า “ไม่อยากเลือกเข็มขัดให้ผู้ชายของเธอเหรอมีน”



“คุณเชษฐ์ใจร้าย...” คนที่โดนแกล้งจนหน้าแดงก่ำน้ำตาคลอหน่วยด้วยความอับอายตัดพ้อ



“ฉันใจร้ายตรงไหน...”คนขี้แกล้งยังคงลอยหน้าลอยตา “เธอไม่ใช่เหรอที่บอกว่าจะซื้อของให้ฉันแล้วเปลี่ยนใจน่ะ”
มีนาตัดสินใจเลิกต่อล้อต่อเถียงกับคนแก่ใจร้ายแล้วหันไปสนใจการเลือกเข็มขัดหน้ามุ่ย ไม่ได้รู้เลยว่าสีหน้าที่ตัวเองทำอยู่นั้นถูกใจคนมองมากแค่ไหน



ธีรเชษฐ์ลอบยิ้มกับตัวเอง แม้เขาอยากจะให้มีนาเอาแต่ใจตัวเองมากกว่านี้ เชื่อใจเขามากพอที่จะดื้อกับเขามากกว่านี้ แต่แค่นี้ก็คุ้มค่ากับการมาถึงที่นี่แล้ว



“เส้นนี้สวยดีนะครับ” มีนาเอ่ยขึ้นในที่สุด ชี้ไปที่เข็มขัดที่ดำเรียบที่มีสัญลักษณ์ตัวอักษรย่อของแบรนด์ไขว้กันสีเงินวาว ธีรเชษฐ์พยักหน้า หันไปบอกพนักงานที่ยืนรอว่าจะเอาเข็มขัดเส้นนั้น ไม่นานนักหญิงสาวก็กลับมาพร้อมกับถุงกระดาษบรรจุกล่องใส่สินค้า ธีรเชษฐ์ยื่นมือไปรับพร้อมรอยยิ้มขอบคุณ ทั้งสองก้าวออกมาจากร้านได้ไม่นานนักเมื่อธีรเชษฐ์เอ่ยขึ้น



“ขอบใจนะ”


“ครับ?”



มีนาหยุดอยู่กับที่ หันขวับกลับไปหาคนพูดอย่างไม่มั่นใจว่าตนได้ยินถูกต้องหรือไม่ ธีรเชษฐ์มองถุงกระดาษประทับตราในมือ ก่อนจะเสริมพร้อมรอยยิ้มเจ้าเล่ห์



“ฉันรอไม่ไหวแล้วที่จะได้เห็นมันรอบข้อมือเธอ”



“เอ๊ะ…”



มีนาขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจ ก่อนจะเบิกตากว้างเมื่อความหมายของสิ่งที่อีกฝ่ายพูดกระจ่างแจ้งในหัว เด็กหนุ่มหมุนตัวก้าวหนีคนขายาวโดยไม่สนใจว่าตัวเองจะไม่รู้ทาง ไม่แม้แต่จะหยุดตกใจกับร่างสูงที่หัวเราะออกมาเสียงดังกับท่าทีของเขาโดยไม่สนใจคนที่เดินผ่านไปมาซึ่งเหลียวกลับมามองตามเสียงอย่างตกใจ



------------

 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ เก้าแต้ม

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1290
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +88/-3

ออฟไลน์ sailom_orn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-1
คุณเชษฐ์หื่นมากไปไม๋เนี่ย นี่ในห้างนะ

ออฟไลน์ Hoya

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 65
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
 :oo1: :oo1: หนูมีน.... หนีปายยยยย 5555555

ออฟไลน์ miikii

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1719
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
เป็นเอามากจริงๆคุณเชษฐ์  :hao3:
ดีนะที่มีเพื่อนมาด้วยไม่งั้นก็ยังไม่รู้ว่าน้องเป็นอะไร 555555

ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6
เป็นตาลุงเจ้าเล่ห์แล้วนะคุณเชษฐ์
แต่น้องเริ่มมีการพัฒนาบ้างแล้ว สู้ๆ น้องมีน

ออฟไลน์ kms

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-14
ฮืออออ คุณเชษฐ์ใจดีอีกเยอะๆๆๆขอร้อง แล้วน้องมีนหนูอย่าคิดเองเออเองสิลูก

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
หนูมีนมีแววจะโดนแล้ว กลับถึงห้องแล้วรายงานผลให้รู้ด้วยนะ อยากรู้ ๆ  o18

ออฟไลน์ HISY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-3
แหมม ถ้าไม่ได้เพื่อนช่วยบอกจะได้ลัลล้าขนาดนี้ไหมลุง

ออฟไลน์ mypink801

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1580
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
ตาลุงซื่อบื้อ ไม่มีเพื่อนช่วยก็คงไม่รู้อะไรสินะ
หนูมีนน่ารักมากกกกกกกกกกกกกกก เพิ่งรู้ว่าอัพในเล้าด้วยย อ่านอีกเว็บตลอดเลยยย

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
นี่ถ้าวีรภัทร ไม่พูดเรื่องเสื้อคลุม    :hao3:
คุณเชษฐ์คงนึกไม่ออก เอาแต่ดุมีนอย่างเดียว  :serius2:
มีนก็ เจียมตัว คิดมาก คิดเองเออเองอยู่คนเดียว  :เฮ้อ:
ดูท่าอีกนานกว่าจะสวีทหวานแหววแบบคู่ของวีรภัทร  :z3:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด