...แค่คุณ... ตอนที่ 22 up [29/9/61]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ...แค่คุณ... ตอนที่ 22 up [29/9/61]  (อ่าน 14919 ครั้ง)

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
Re: ...แค่คุณ... ตอนที่ 13 up [27/3/61]
«ตอบ #60 เมื่อ27-03-2018 20:50:38 »

 :pig4: :pig4: :pig4:

้แฮชแท็ก  ยังคงคิงควิน  คงไม่เปลี่ยนไปเป็น   เนย์ควิน เนอะ   

ออฟไลน์ poppycake

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2670
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-4
Re: ...แค่คุณ... ตอนที่ 13 up [27/3/61]
«ตอบ #61 เมื่อ28-03-2018 08:33:48 »

เปิดตัวศัตรูหัวใจฝั่งคิงล้าวววววววว

ออฟไลน์ Tiffany

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1147
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
Re: ...แค่คุณ... ตอนที่ 13 up [27/3/61]
«ตอบ #62 เมื่อ28-03-2018 12:31:21 »

เชียร์น้องคิง รักแท้มันก็ต้องมีบททดสอบกันบ้าง

ออฟไลน์ Plavann

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 52
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
Re: ...แค่คุณ... ตอนที่ 13 up [27/3/61]
«ตอบ #63 เมื่อ06-04-2018 12:42:09 »

เอาแล้วๆ ต่างคนต่างมีคู่แข่ง

ออฟไลน์ earthearthx

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 26
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
Re: ...แค่คุณ... ตอนที่ 14 up [19/4/61]
«ตอบ #64 เมื่อ19-04-2018 22:21:19 »

ตอนที่ 14



พาร์ท ควิน



ผมเดินกลับมานั่งรอเพื่อนที่โต๊ะม้าหินหน้าคณะตัวเดิม ไม่รู้จะโดนพวกมันด่าอะไรบ้างแต่มันก็ฉุกระหุกจริงๆนะตอนนั้น จะให้ทิ้งพี่เนย์ไปผมก็ทำไม่ลงสภาพแบบนั้นจะปล่อยให้อยู่คนเดียวได้ยังไง แต่ผมก็นึกไม่ถึงเลยนะว่าจะพี่เนย์จะโมโหร้ายได้ถึงขนาดนั้น ปกติถึงจะเถื่อนแต่ก็ใจดีจะตาย ช่างเถอะ คนเราก็ต้องมีช่วงฟิวส์ขาดบ้างแหละเนอะ
ผมกำลังนั่งคิดอะไรไปเรื่อยจนกระทั่งได้ยินเสียงใครบางคนตะโกนเรียกชื่อผมจนคนแถวนี้หันมามองกันหมดแต่ก็แค่มองเฉยๆนะครับเพราะเป็นเป็นเรื่องปกติของเจ้าของเสียงนี้

“ควินจ๋าาาา”

ผมยิ้มให้กับเบเบ้ที่ตะโกนเรียกชื่อผมพร้อมกับวิ่งเข้ามาหา เบเบ้เป็นเพื่อนในคณะของผมเอง แต่เห็นชื่อเบเบ้นี่อย่าพึ่งเข้าใจผิดนะครับว่าเป็นผู้หญิงตัวเล็กน่ารักเอวบางร่างเล็กอะไรแบบนั้น เพราะเบเบ้ที่ยืนอยู่ตรงหน้าของผมตอนนี้ต่างจากนั้นลิบลับ ร่างกายสูงใหญ่ไหล่กว้างตรงหน้าของผมไม่มีอะไรใกล้เคียงกับผู้หญิงแม้แต่น้อย ใช่ครับ เบเบ้เป็นผู้ชายที่มีใจเป็นผู้หญิงนั่นเอง

“เสียงมาก่อนตลอดเลยนะ”

“ไม่อยากจะบอกเลยว่าใจมาถึงก่อนเสียงอีกนะจ๊ะ”

“ถึงว่าสิ นั่งอยู่ดีๆก็รู้สึกอยากเข้าวัดทำบุญเฉยเลย”

“แหมมม นี่เบเบ้เองจ้า นี่เพื่อนเองนะควินนะ ไม่ใช่ผีจ้า”

“ฮ่าๆ”

ผมนั่งขำเบเบ้ที่นั่งลงฝั่งตรงข้ามพลางส่งสายตาจิกกัดมาให้ผม จริงๆแล้วผมกับเบเบ้สนิทกันครับเราเรียนด้วยกันมาตั้งสามปีแถมตอนรับน้องแรกๆเบเบ้มันก็เข้ามายุ่งกับกลุ่มพวกผมบ่อยๆโดยเฉพาะไอ้เต มันบอกเห็นหน้าแล้วมันใช่ทำเอาไอ้เตผวาไปพักนึงเลย แต่ก็แค่มาแซวตามประสานั่นแหละครับเบเบ้มันไม่ได้มาอะไรนักหรอก กลายเป็นว่าเป็นเรื่องฮาของพวกผมไปๆมาๆก็สนิทกันไปเอง

“ว่าแต่ว่าคนอื่นไปไหนหมด เดี๋ยว ไม่สิ กูต้องถามว่าทำไมมึงมานั่งตรงนี้คนเดียว ตอนนี้คนอื่นน่าจะเรียนอยู่ไม่ใช่หรอวะ”

“พอดีกูมีอะไรต้องทำนิดหน่อยเลยเข้าเรียนไม่ทัน แล้วมึงล่ะบอมทำไมพึ่งมา”

“บอมพ่องมึงสิสัส กูบอกให้เรียกเบเบ้!”

“อ้าว เออลืมๆ ฮ่าๆๆ”

คงไม่มีใครคิดหรอกนะครับว่ามันจะชื่อเบเบ้จริงๆ จริงๆแล้วชื่อที่พ่อแม่มันตั้งให้มาคือบอมหรือเต็มๆก็คือบอมเบย์ แต่เพราะว่าชื่อมันมาดแมนเกินไปเลยจัดการเปลี่ยนชื่อตัวเองใหม่จากบอมเบย์เป็นเบเบ้ มันบอกชื่อนี้แหละถึงจะเหมาะกับมัน ซึ่งค่อนข้างจะขัดกับรูปลักษณ์ของมันสุดๆไปเลยครับ รูปร่างมันทั้งสูงและไหล่ยังกว้างอีกทำให้มันดูตัวใหญ่เกินกว่าสาวสองปกติ แน่ที่เป็นแบบนี้ไม่ใช่เพราะมันตั้งใจหรอกมันบอกว่าเป็นกรรมพันธุ์ครอบครัวมันตัวใหญ่ทุกคน มันเลยดูเป็นคนที่บึกบึนนิดหน่อย ถ้ามันไม่ออกสาวขนาดนี้ให้ตายก็ไม่มีใครรู้หรอกครับว่ามันไม่ใช่ผู้ชาย หน้าตามันก็จัดว่าดูดีในระดับหนึ่งเลยนะครับ ผมบอกตรงๆว่าแอบเสียดายเพราะถ้าเกิดว่ามันเป็นผู้ชายคงจะมีคนสนใจมันเพียบเลยล่ะ

“เออพูดแล้วโมโห จริงๆกูมาเรียนทันแหละแต่พอดีก่อนมากูแวะซื้อของแล้วพอซื้อของเสร็จก็ดั๊น! มียายคนนึงเป็นลมพัดตึ้งล้มลงไป ประเด็นคือผู้หญิงแถวนั้นเอาแต่กรี๊ดแล้วก็โวยวายส่วนผู้ชายก็ทำห่าอะไรไม่ถูก แล้วสรุปคืออะไรรู้ป่ะ คือกูไง กูนี่มีสติสุด วิ่งเข้าไปอุ้มยายขึ้นมาแล้วพาไปโรงบาล และก็มาเรียนไม่ทันนี่ล่ะจ้ะอีห่า”

“แมนมาก กูว่ามึงควรเลิกเป็นตุ๊ด”

“เออกูก็ว่าอยู่ งั้นเดี๋ยวกูขอถุยน้ำลายแปบนะเผื่อว่าตุ๊ดในตัวกูจะหลุดออกไปพร้อมกับเสลด แบบนี้มั้งอีสัส”

“ฮ่าๆๆๆๆ”

“เออมาเจอมึงแบบนี้ก็ดี กูมีอะไรจะถาม นี่กูคาใจมาหลายวันแล้วถ้าวันนี้ยังไม่ได้ถามมึงกูจะต้องอกแตกตายแน่ๆ”

“หืม? อะไรล่ะ”

“มึงต้องพูดความจริงห้ามโกหกกูนะ”

ผมเริ่มขมวดคิ้วแล้วจ้องหน้าเบเบ้อย่างสงสัย อะไรจากผมที่มันจะอยากรู้ขนาดนั้น แต่แล้วมันก็ไม่ปล่อยให้ผมสงสัยนานซึ่งคำถามที่มันถามออกมาก็ไม่ได้ทำให้ผมแปลกใจเท่าไหร่

“คือมึงกับน้องคิงอ่ะเป็นอะไรกันวะ?”

“ทำไมมึงถามแบบนั้น”

ผมยังไม่ตอบแต่เลือกถามมันกลับไป แม้ว่าผมจะพอเดาได้ว่าทำไมเบเบ้ถึงได้คิดแบบนี้แต่ก็อยากได้ยินเหตุผลจากคนอื่นชัดๆว่าเพราะอะไรที่ทำให้ใครต่อใครหันมาสนใจและผมก็ยังอยากรู้ว่าคนอื่นคิดยังไงกันกับเรื่องนี้กัน

“โอ้ยมึ้งงง กูนี่เรียนกับมึงทุกวันนะอย่าลืม เข้าเรียนก็เข้าพร้อมกัน ออกก็ออกพร้อมกัน มึงคิดว่ากูตาบอดหรอถึงจะมองไม่เห็นคนที่คอยมารับมาส่งมึงทุกวันน่ะห้ะ แล้วก็ถึงกูไม่เห็นแต่คนอื่นก็เห็น เค้าพูดกันทั้งมหาลัยแล้วว่ามึงกับคิงมีซัมติงกันอ่ะ เพจอะไรก็ลงกันโครมๆ นี่มึงรู้จักโลกโซเชี่ยลป่ะถามจริงไม่รู้เลยหรอว่าเรื่องนี้มันดังขนาดไหนอ่ะ!”

“ก็พอได้ยินมาบ้างแต่ไม่นึกว่าเรื่องของกูจะเป็นที่สนใจของคนมากขนาดนั้น”

“นี่มึงไม่ได้ด่ากูว่าเสือกใช่ป่ะวะ?”

“กูพูดแบบนั้นตรงไหน มึงคิดไปเองแล้วล่ะ”

“สัส กูไปคิดไปเองก็ควายแล้วโว้ย! แค่เดี๋ยว มึงไม่ต้องมาเปลี่ยนประเด็น มึงตอบกูมาเลยว่ามึงกับคิงมีซัมติงกันจริงใช่ม้ะ!”

“มึงอยากให้กูตอบว่าอะไรล่ะ”

ผมยิ้มอย่างใจเย็นแล้วตอบกลับแบบไม่สะทกสะท้านทำเอาเบเบ้ถึงกับทำท่าเหมือนอยากจะเข้ามาเขย่าคอผมให้ตอบคำถามของมันให้ได้ ผมไม่ได้จะไม่ตอบมันนะ ผมแค่อยากรู้ความคิดของมันก่อนก็แค่นั้น

“อย่ามาลีลาไอ้ควิน! ตอบกูมาสักทีอย่าให้แม่ต้องมีน้ำโหนะคะ!”

“เออๆ ไม่มีอะไรมากหรอกก็แค่คุยกันอยู่ประมาณนั้น”

ผมเลือกบอกเบเบ้ไปว่าคุยกันอยู่เฉยๆ ไม่ใช่ว่าผมไม่อยากบอกกับคนอื่นหรอกนะว่าคบกันอยู่กับคิงแต่ผมไม่รู้ว่าคิงจะคิดยังไงถ้าหากคนอื่นรู้เรื่องนี้ ตัวผมถึงใครจะรู้หรือไม่รู้ผมก็ไม่ได้สนใจอะไรหรอก ห่วงแต่ว่าคิงจะรู้สึกยังไงมากกว่ายิ่งเจ้าตัวยิ่งมีแฟนคลับเยอะอยู่แล้วด้วย ยังไงก็ค่อยๆบอกไปจะดีกว่า

“กูว่าแล้วอีเหี้ย พอมาได้ยินกับหูแล้วกูอยากจะกรี๊ด! ทำไมต้องเป็นมึงแล้วทำไมต้องเป็นคิงด้วยล่ะ ฮือออ ถึงกูจะดีใจที่เผ่าพันธุ์กูจะมีประชากรมากขึ้นแต่ต้องไม่ใช่มึงสองคนสิ! ทำไมคนหล่อๆสองคนถึงต้องมาได้กันเอง! แล้วตุ๊ดแบบกูจะไปอยู่ตรงไหน! ทั้งมึงและคิงควรจะเป็นผัวคนอื่นหรือเป็นผัวกูสิ ทำม๊ายยยยยยยพวกมึงต้องได้กันเอง ฮืออออออออ กูเสียจายยยยย”

“หึหึหึ”

ผมนั่งมองเบเบ้ที่พอได้ฟังคำตอบก็เอาแต่โอดครวญออกมาไม่หยุดแล้วก็ได้แต่ขำอยู่คนเดียว ท่าทางเจ็บปวดแบบโอเวอร์แอคติ้งนั่นเรียกรอยยิ้มจากผมและคนรอบข้างที่ถึงจะไม่รู้เรื่องด้วยแต่ก็พากันยิ้มตามได้ง่าย แต่อยู่ดีๆเบเบ้ก็หยุดแสดงท่าทางประหลาดแล้วกลับมาเริ่มซักไซ้ผมต่อ

“มึงรู้ไหมควินว่ามึงทำให้คนอกหักทั้งมหาลัย”

“ขนาดนั้นเลยหรอวะ”

“เออสิ! ครึ่งนึงของมหาลัยต้องอกหักจากคิง ส่วนอีกครึ่งนึงต้องอกหักจากมึงเนี่ย!”

“มึงก็เวอร์ไปบอมแล้วก็อย่าโวยวายนักเลย คนมองหมดแล้ว”

ผมถอนหายใจทิ้งไปทีนึงเพราะความเหนื่อยจากการคุยกับเบเบ้นี่ล่ะครับ ผมรู้หรอกว่าตัวผมเองก็มีคนชอบอยู่ไม่น้อยไปกว่าคิงนักหรอกแต่มันก็ไม่ได้มากมายอย่างที่เบเบ้มันพูดหรอกครับ อีกอย่างคนพวกนั้นผมว่าพวกเขาก็คงแค่ปลื้มพวกผมเท่านั้นแหละไม่ได้มารักมาชอบอะไรจริงจังหรอก ต่อให้ผมจะคบกับคิงหรือไม่คบยังไงก็ไม่น่าจะมีผลกระทบสักเท่าไหร่หรอกมั้ง

“เฮ้ออออ แต่ก็เอาเถอะคิดอีกทีก็คงจะดี”

“ดี? ดียังไง”

“ก็ดีกว่าปล่อยให้มึงกับคิงไปเป็นผัวคนอื่นน่ะสิ! เออว่ะ จะว่าไปพวกมึงมาได้กันเองก็โออยู่นะ ให้พวกมึงได้กันเองดีกว่าให้ใครได้ไป โฮะๆ”

ผมจะไม่เถียงคนเป็นไบโพลาร์แล้วกันนะครับ ตลอดเวลาที่รอให้พวกเพื่อนลงมาเบเบ้มันก็ถามนู้นถามนี่ผมไม่หยุด ผมก็เล่าให้ฟังไปคร่าวๆประมาณว่าอยู่คอนโดเดียวกัน เจอกันบ่อยๆเลยคุยกันไม่ได้เล่ารายละเอียดอะไรมากมาย แต่ผมก็กำชับมันไม่ให้ไปบอกคนอื่นต่อนะ ให้คิดกันไปเองน่ะดีแล้วเพราะมันเป็นเรื่องของคนสองคนไม่จำเป็นต้องประกาศให้ใครรู้ ตอนแรกเบเบ้มันก็ไม่ยอมบอกจะเล่าให้คนอื่นฟังประกาศให้รู้ไปเลยว่าผมและคิงมีเจ้าของแล้วแต่เพราะผมขอไว้มันเลยรับปากจนได้แต่ก็แขวะทิ้งท้ายมาว่าสุดท้ายยังไงคนเขาก็รู้กันหมดแล้วอยู่ดีจะพูดหรือไม่พูดก็มีค่าเท่ากัน ผมก็บอกแล้วว่าไม่ได้จะไม่บอกเพียงแค่ไม่เราไม่ต้องไปประกาศถ้าใครถามมาผมก็ตอบ ใครไม่ถามก็ไม่จำเป็นต้องไปบอกก็เท่านั้นจนเบเบ้มันหมดปัญญาจะเถียงผมแล้วยอมแพ้ไปแต่โดยดี
รออีกสักพักก็เริ่มเห็นนักศึกษาเดินลงมาจากตึกเพียงไม่นานก็เห็นร่างคุ้นตาของเพื่อนผม ไอ้ชาร์ปหันมาเห็นผมนั่งอยู่ก็รีบวิ่งสี่คูณร้อยมาที่โต๊ะด้วยความเร็วที่น่าจะทำลายสถิติโลกได้ ทันทีที่มันมาถึงโต๊ะก็แหกปากด่าผมทันที

“ไอ้ควิน! หายหัวไปไหนมา! พวกกูนึกว่าโดนฉุดไปนอกโลกแล้วรู้ไหมวะ!”

“โทษทีมึงพอดีมีเรื่องตอนไปห้องน้ำนิดหน่อยเลยขึ้นเรียนไม่ทันจริงๆ”

“มึงมีเรื่องอะไร แล้วมีเรื่องกับใครไอ้ควิน”

ไอ้บอลกับไอ้เตที่เดินตามมาพอได้ยินคำตอบของผมก็ถามขึ้นมาด้วยสีหน้าตึงเครียดแม้แต่ไอ้ชาร์ปที่โวยวายเมื่อกี๊ก็เปลี่ยนสีหน้าเป็นจริงจังแล้วจ้องมาที่ผมแทน ก่อนที่เพื่อนผมจะยกพวกไปตีกับใครผมก็รีบอธิบายเรื่องที่ไปเจอมาที่ห้องน้ำให้พวกมันฟัง



“โถถถถถถถ พี่เนย์ของเบเบ้น่าสงสารเหลือเกิน ส่วนอีนั่นมันกล้าทำแบบนี้ได้ยังไง! จิตใจทำด้วยอะไร! มีตาหามีแววไม่!”

“มึงจะอินอะไรนักหนาอีเบ้ พวกกูนี่ควรจะพูดคำนั้นไหมไม่ใช่มึง”

หลังจากที่ผมเล่าเรื่องพี่เนย์ให้พวกมันฟัง เบเบ้ที่นั่งเงียบอยู่นานก็พูดขึ้นมาเป็นคนแรกตามมาด้วยไอ้ซองที่นั่งข้างกัน ที่ผมเล่าให้พวกนี้ฟังเพราะว่าพวกนี้ก็สนิทกับพี่เนย์กันหมด ไอ้ซองเองก็เป็นน้องรหัสของเพื่อนในกลุ่มพี่เนย์เหมือนกัน ไอ้เตกับไอ้ชาร์ปหลังจากผมเล่าจบแล้วก็ยังไม่พูดอะไรขึ้นมา พวกผมมองหน้ากันอยู่แบบนั้นสักพักก่อนจะถอนหายใจพร้อมๆกัน

“เฮ้อออ กูไม่รู้จะพูดยังไงเลยว่ะ พี่เนย์เนี่ยนะ? ขนาดฟังแล้วกูยังไม่อยากจะเชื่อ”

“กูก็คิดเหมือนไอ้ชาร์ปนะ ไอ้ที่พี่เนย์ตะคอกใส่หรือกระชากตัวเด็กคนนั้นกูไม่ได้แปลกใจเลยนะ ก็รู้ๆกันอยู่ว่าพี่เนย์แม่งเถื่อนอยู่แล้ว แต่ที่กูนึกไม่ถึงเลยเนี่ยคือพี่เนย์จะชอบใครสักคนถึงขนาดต้องรั้งไว้หรือถึงขั้นร้องไห้ออกมาเนี่ยดิ แม่งนึกภาพยังไงกูก็นึกไม่ออก”

“เอาเหอะพวกมึง คนเรามันก็ต้องมีมุมอ่อนแอกันบ้าง พี่เนย์ก็คนมีความรู้สึกเสียใจเหมือนคนปกตินั่นแหละ”

ผมบอกไอ้ชาร์กับไอ้เตที่ดูจะคิดจริงจังกับเรื่องนี้มากเกินไป ตอนแรกผมเองก็ตกใจแต่เพราะเห็นมากับตาเลยพอเข้าใจความรู้สึกของพี่เนย์ตอนนั้นบ้าง ส่วนที่พวกเพื่อนผมมันคิดมากกันเพราะว่าไม่เคยได้เห็นมุมแบบนี้ของพี่เนย์ ส่วนใหญ่พวกมันจะเห็นพี่เนย์แบบที่ถึงจะพูดจากระโชกโฮกฮาก เล่นกับเพื่อนแรงๆ ด่ารุ่นน้องและหยาบคายยังไงแต่พี่เนย์ก็ไม่เคยเอาอารมณ์เป็นใหญ่หรือทำร้ายใครก่อนเลยสักครั้ง เพราะแบบนั้นพวกผมถึงได้เคารพพี่เขามาก พอพวกเพื่อนผมมาได้ยินเรื่องแบบนี้ความรู้สึกมันก็ประมาณว่าไอดอลที่ชื่นชอบโดนลอลทำร้ายล่ะมั้งครับ

“พอๆเลิกคิดเหอะ เรื่องของพี่เขาเราอย่าไปอะไรมากเลย ไปหาอะไรกินกันเหอะ”

“...เออ ไปก็ไป ว่าแต่วันนี้จะแดกอะไรอ่ะซอง”

“เปลี่ยนอารมณ์ไวจังเลยนะมึงแล้วมึงนั่นแหละอยากแดกอะไร”

“ข้าวขาหมู”

“อ้วน”

“แต่กูอยากกิน!”

“แล้วกูห้ามสักคำยัง...อ้วนก็ดีจะได้ไม่มีใครมอง”

“หลังๆมึงพูดว่าอะไรกูไม่ได้ยิน”

“ป่ะ เปล่าๆ กูกำลังนึกอยู่ว่ามีขาหมูร้านไหนอร่อยบ้าง”

“แล้วไป”

ไอ้ขาร์ปกับไอ้ซองที่เปลี่ยนโหมดไวปานกิ้งก่าเปลี่ยนสีพากันยืนเถียงกันอย่างมุ้งมิ้งโดยมีแบล็คกราวเป็นผมไอ้เตและเบเบ้สามคนยืนมองด้วยสายตาเอือมระอาเกินกว่าจะบรรยายได้
ทำไมมันไม่คบๆกันสักทีนะ...

“กูไปก่อนล่ะ อยู่แถวนี้แล้วเหม็นความรัก!”

“เออบาย”

ผมบอกลาเบเบ้ที่เหม็นความรักจนเดินจากไปหากลุ่มเพื่อนของตัวเองที่ยืนรออยู่ ส่วนผมกับไอ้เตสบตากันแปบนึงก่อนจะพยักหน้าให้กันคนละทีแล้วเดินตามไอ้สองคนข้างหน้าไป







“เตไปส่งกูก่อนนะ”

“เออ”

วันนี้อาจารย์ปล่อยไวกว่าปกติเพราะมีธุระด่วนผมเลยว่าจะไปนั่งรอเด็กโข่งเลิกเรียนที่คณะวิศวะ ผมวานให้ไอ้เตไปส่งผมส่วนไอ้ซองกับไอ้ชาร์ปก็แยกตัวกลับไปก่อนแล้ว ไอ้เตใช้เวลาไม่กี่นาทีก็วนรถมาจอดที่หน้าตึกวิศวะ ผมบอกลามันแล้วลงจากรถเดินไปนั่งรอคิงที่โต๊ะม้าหินแถวนั้น จริงๆผมจะกลับเองก็ได้แต่ปัญหาคือพอบอกอีกคนไปว่าจะกลับเองก็โดนเงียบใส่ไปครึ่งค่อนวัน สุดท้ายผมก็ยอมแพ้แล้วมารอไปกลับพร้อมกันแบบนี้ทุกวัน ถามว่ามันลำบากไหมเอาจริงๆก็ไม่นะ โชคดีที่เวลาเรียนผมกับคิงค่อนข้างใกล้เคียงกัน มีแต่ไม่กี่วันที่คิงมีเรียนก่อนถ้าอย่างวันนั้นผมก็มาเองหรือไม่ไอ้เตก็ไปรับเลยไม่ลำบากอะไรนัก
ผมไลน์ไปบอกคิงว่ามานั่งรออยู่ตรงไหนแต่เจ้าตัวไม่เปิดอ่านคงเรียนอยู่ล่ะมั้ง ผมกดเข้าแอพสีน้ำเงินเลื่อนดูหน้าฟีดไปเรื่อยๆ อ่านไปกดไลค์ไปโพสของเพื่อนไป จนมาสะดุดที่โพสหนึ่งของเพจดังมหาลัย


เรื่องผู้ชายไว้ใจเจ๊   10 min

เจ๊มีอะไรจะบอกจ้าทุกคน! วันนี้สายข่าวของเจ๊รายงานมาว่าเรื่องที่เราสงสัยกันว่าพี่ควินของเจ๊กับหลัวคิงของเจ๊มีซัมติงกันเป็นเรื่องเข้าใจผิดค่ะ! เอ้าตายล่ะ เจ๊เริ่มจะสับสนแล้วนะจ๊ะ สายของเจ๊รายงานมาว่าที่ชะนีทั้งหลายเห็นว่าพี่ควินกับน้องคิงขึ้นรถคันเดียวกันทุกเช้าเย็นเป็นเพราะว่าทั้งสองคนอยู่คอนโดเดียวกันก็เท่านั้น! มิได้มีเรื่องอะไรมากมายไปกว่านั้นเลย
ยังไม่พอเท่านี้นะคะ!!!

ยังบอกมาอีกว่าน้องคิงของเรามีตัวจริงอยู่แล้ว! แถมยังเป็นคนใกล้ตัวน้องคิงสุดๆอีกด้วย! ทางเจ๊และชาวแก๊งค์เลยรวบรวมสมองอันน้อยนิดและความสวยอันล้นเหลือที่มีคิดแล้วคิดอีกว่าใครคือคนนั้นหรือว่าคนคนนั้นคือน้องไวน์หนุ่มน้อยน่ารักขวัญใจชาววิศวะ เพื่อนสนิทในกลุ่มของน้องคิงนั่นเอง!
แต่เดี๋ยวก่อนถ้าทุกคนยังจำได้ปีที่แล้วเคยมีกระแสไวน์คิงอยู่สักพักแต่แล้วก็ค้นพบว่ากระแสนั้นเป็นเพียงข่าวลือเพราะทั้งคู่เป็นแค่เพื่อนกันจริงๆ แล้วนี่คือยังไงคะ ยังไง เกิดมาเจ๊ยังไม่เคยโพสอะไรที่ยาวเป็นทางมอเตอร์เวย์ขนาดนี้มาก่อน เจ๊จะไม่ไหวแล้วนะคะ เจ๊เครียดค่ะเจ๊เครียด!!!


529 like 391 comments


ผมอ่านโพสนี้จบไม่รอช้ารีบกดอ่านความคิดเห็นด้านล่างต่อทันที ข้อความทีี่แสดงขึ้นมามากมายจนตาลายไปหมด ผมเริ่มกดเลื่อนอ่านความคิดเห็นไปช้าๆที่ละคน

Four phaka : น่าจะเป็นไวน์นั่นแหละเจ๊เห็นอยู่ด้วยกันตลอดเลย

Weir guson : เป็นเกย์หรอวะ เสียดายหน้าตาก็ดี

Bella rakee : เราเคยได้ยินคนอื่นแซวสองคนนี้ว่าผัวๆเมียๆอะไรประมาณนี้ด้วยนะ แล้วก็ไม่มีใครปฏิเสธด้วยอ่ะ จริงหรอเนี่ยยยย

Pope yedu : ถ้ารู้ว่าเป็นนะกูจีบไปนานแล้วจ้ะ!

Golf gaff : ถ้าคิงเป็นเกย์จริงก็ไม่อะไรนะ แต่ขอให้ตัวจริงไม่ใช่ไวน์ได้ไหมอ่ะ นี่ไม่ค่อยชอบนางอ่ะ

Metal wink : คิงไม่ใช่เกย์แน่นอนค่ะ พิสูจน์มาแล้ว

King fan : เค้าคบกันอยู่จริงๆค่ะเจ๊ เห็นมานานแล้วสนิทกันมากกว่าปกติ

Hina hani : เย้! เราเชียร์คู่นี้มานานมากกกก ฮือ ฝันเป็นจริงก็วันนี้ อยากร้องไห้เลยค่ะ

ความคิดเห็นมากมายมีทั้งคนที่เห็นด้วยเรื่องของไวน์กับคิงและคนที่ไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้ มีผู้หญิงบางคนบอกว่าคิงไม่ใช่เกย์แน่นอนและอีกหลายคนที่สงสัยว่าคิงเป็นเกย์จริงหรือเปล่า มีคนพูดถึงเรื่องผมกับคิงอยู่ไม่กี่คน แต่ส่วนใหญ่เหมือนจะเอนเอียงไปทางเดียวกันนั่นก็คือเชื่อว่าคิงกับไวน์คบกันอยู่จริงๆเหตุผลก็มาจาการที่เห็นสองคนนี้อยู่ด้วยกันตลอดเวลา ดูเหมือนจะสนิทกันมากกว่าปกติและเคยเห็นรุ่นพี่หรือเพื่อนในคณะแซวบ่อยๆอะไรประมาณนี้
อ่านต่อได้อีกไม่เท่าไหร่ผมก็กดปิดหน้าจอให้ดับไปทันที ตอนนี้ผมเริ่มรู้สึกหงุดหงิดเกินกว่าจะอ่านต่อไปได้ ยิ่งอ่านที่ใครต่อใครบอกว่าคิงกับไวน์สนิทกันมากแค่ไหนยิ่งทำให้ความอึดอัดในใจมันมากขึ้นทุกที ยิ่งผมรู้อยู่แก่ใจว่าเด็กคนนั้นคิดกับคนของผมแบบไหนมันก็ยิ่งทำให้ผมอดคิดมากไม่ได้


หยุดเลยนะควิน...อย่าใช้อารมณ์


ผมพยายามเตือนสติตัวเองให้ใจเย็น ผมหลับตาหายใจเข้าออกลึกๆสักพักก่อนจะลืมตาขึ้นมาพร้อมกับอารมณ์ที่เริ่มจะกลับมาคงที่ จะว่าผมเห็นแก่ตัวก็ได้ที่คิดว่าตอนนี้คิงเป็นคนของผมและผมก็ไม่ต้องการให้ใครเข้าใจหรือคิดว่าคิงเป็นคนอื่นถึงแม้ว่าคนอื่นคนนั้นจะมาก่อนผมก็ตาม
ตอนนี้พอใจเย็นลงแล้วผมก็คิดได้ว่าจะไม่ให้เรื่องของไวน์มาทำให้ผมหงุดหงิดอีก ผมไม่อยากจะหยิบเรื่องนี้มาเป็นประเด็นเหมือนครั้งก่อนที่เคยทะเลาะกับคิง เราเคยคุยกันเรื่องนี้และเข้าใจกันแล้วคิงบอกว่าเป็นแค่เพื่อนผมก็จะไม่คิดอะไร ใครจะพูดยังไงก็ปล่อยเขาแล้วกันยังไงตอนนี้คนที่เป็นแฟนตัวจริงของคิงก็คือผมนี่นา!
ผมกดปลดล็อคหน้าจอโทรศัพท์และเลื่อนอ่านความคิดเห็นต่ออีกครั้งเผื่อว่าจะรู้อะไรเกี่ยวกับไวน์และคิงมากขึ้นจะได้เตรียมรับมือถูกแต่ยังเลื่อนอ่านได้ไม่ทันไรก็มีบุคคลปริศนามาทิ้งตัวนั่งลงฝั่งตรงข้ามโดยไม่บอกไม่กล่าวอะไรสักคำจนผมต้องเงยหน้าขึ้นไปมอง ที่เห็นตรงหน้าผู้หญิงผิวขาวผมตรงยาวสลวย หน้าตาจัดว่าสวยแต่ถูกแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางค์ทั่วทั้งใบหน้า มองลงมาหน่อยก็พบกับเสื้อนักศึกษาที่ค่อนข้างรัดจนผมรู้สึกอึดอัดแทน ยิ่งรัดจนเห็นขนาดหน้าอกหน้าใจที่เหมือนจะใหญ่จนเกินงามนั่นอีก ผมละสายตากลับไปมองหน้าเธออีกครั้งเห็นว่าเธอส่งยิ้มมาให้ผมผมเลยยิ้มตอบกลับไป

“สวัสดีค่ะพี่ควิน ขอนั่งด้วยคนนะคะ”

“ครับ ว่าแต่รู้จักพี่ด้วยหรอ”

“แหมใครบ้างจะไม่รู้จักพี่ควินล่ะคะ อ้อ ลืมแนะนำตัวเลยชื่อดรีมนะคะ เรียนนิเทศปีสองค่ะ”

“อ่อ ครับ ยินดีที่ได้รู้จักนะครับดรีม”

ผมยิ้มแล้วตอบกลับหญิงสาวตรงหน้าไปทั้งที่ในใจก็ยังอดสงสัยไม่ได้ว่ามาบอกผมทำไม ถ้าให้ผมทายเธอคงไม่เดินมาเพื่อแค่แนะนำตัวกับผมแน่ล่ะครับ

“พี่ควินมาทำอะไรที่นี่หรอคะ มารอคิงใช่หรือเปล่าคะ?”

“ครับ” นั่นไง ทายไว้ไม่มีผิด

“ดูพี่ควินสนิทกับคิงมากเลยนะคะ เอ่อ คือดรีมถามอะไรหน่อยได้ไหมอ่ะคะ”

“ครับ ถามได้”

“ใจดีอย่างที่เค้าพูดกันเลยนะคะพี่ควินเนี่ย คือดรีมเห็นในเพจเค้าบอกว่าพี่ควินอยู่คอนโดเดียวกับคิงนี่จริงใช่ไหมคะ?”

“ครับ” จริงๆแล้วผมว่านี่มันเรื่องส่วนตัวพอสมควรนะแต่ก็ไม่อยากให้เป็นเรื่องอะไรเลยตอบกลับไปแค่สั้นๆ

“ค่อยยังชั่วหน่อย พอดีช่วงนี้ได้ยินเรื่องของพี่กับคิงมาแบบไม่ค่อยดีเท่าไหร่เลยไม่ค่อยสบายใจน่ะค่ะ”

ผมยิ้มให้คนตรงหน้าโดยไม่ตอบอะไรกลับไปแต่เหมือนมันกลับทำให้เธอเข้าใจว่าผมใจดีนักหนาถึงได้เริ่มถามคำถามต่อมาอีก

“ถ้างั้นพี่ควินน่าจะรู้ใช่ไหมคะว่าตอนนี้คิงคบกับใครอยู่หรือเปล่าที่เขาว่ากันว่ามีอะไรกับไวน์นี่ไม่จริงใช่ไหมคะ”

“ครับ เรื่องนั้นไม่จริงครับ” ผมก็ตอบความจริงไปคิงกับไวน์ไม่ได้มีอะไรอย่างที่คนเขาพูดกันจริงๆใช่ไหมล่ะครับ

“ดรีมว่าแล้วว่าข่าวลือ! ขอบคุณพี่ควินมากเลยนะคะ ถ้าไม่เจอพี่ดรีมคงจะไม่หายคาใจแน่เลยค่ะ”

“ครับ”

ผมคงจะคุยกับดรีมจนไม่ทันได้สังเกตว่าใครบางคนกำลังเดินมาทางนี้จนกระทั่งรู้สึกว่ามีใครมายืนซ้อนอยู่ด้านหลังพอหันไปดูถึงได้รู้ว่าเป็นคนเดียวกันกับคนที่ผมมานั่งรอ ผมเงยหน้าสบตากับคิงก่อนจะพบว่ามีบางสิ่งที่เปลี่ยนไป สายตาเหมือนลูกหมาขี้อ้อนเวลาที่อยู่กับผมตอนนี้มันได้แปรเปลี่ยนเป็นแววตาเรียบนิ่งจนไม่สามารถคาดเดาความคิดอะไรของอีกคนได้เลย

“คุยอะไรกัน”

“คือว่ะ-“

“คิงงงงง”

ผมยังไม่ทันตอบคำถามของอีกคนก็มีเสียงของหญิงสาวคนเดียวที่นั่งอยู่ตรงนี้แทรกเข้ามา ชั่วพริบตาที่ผมหันมาสนใจคิงดรีมก็พาตัวเองมายืนอยู่ตรงด้านข้างของร่างสูงแล้ว ผมมองมือเรียวที่ถือวิสาสะจับแขนของคิงเอาไว้หนำซ้ำยังบดเบียดหน้าอกเข้ากับต้นแขนแกร่งอย่างยั่วเย้า ความไม่พอใจเริ่มตีตื้นกลับขึ้นมาอีกครั้งแต่ก็ต้องนิ่งเอาไว้เพราะอีกฝ่ายเป็นผู้หญิง แต่เหมือนว่าคนที่ถูกหญิงสาวเกาะแกะอยู่ก็จะหงุดหงิดไม่ต่างจากผม คิงสะบัดแขนตัวเองออกจากการเกาะกุมอย่างแรงจนร่างบางผงะถอยหลังไปสองสามก้าว
ไม่ใช่แค่เพียงดรีมที่ตกใจการกระทำของคิงเพราะแม้แต่ผมเองยังคิดไม่ถึงว่าคิงจะสะบัดตัวแรงจนอีกคนกระเด็นไปแบบนั้น ผมยืนขึ้นเพื่อที่หันไปคุยกับคิงแต่พอหันมามองหน้าอีกคนผมกลับพูดอะไรไม่ออก

มันเรียบนิ่ง...ไร้ความรู้สึก

“ถามว่าคุยอะไรกัน”

“...ดรีมแค่จะมาหาคิงแต่พอดีเจอพี่ควินนั่งรอคองอยู่ก็เลยนั่งคุยเฉยๆเองนะคะ”

“แล้วมาทำไม”

“ก็คิงไม่ติดต่อมาหาดรีมเลยนี่คะ ยิ่งเดี๋ยวนี้ดรีมได้ยินว่ามีคนพูดถึงคิงไม่ค่อยดี ดรีมเป็นห่วงเลยมาหาคิงน่ะค่ะ”

“มันเป็นเรื่องของเธอหรือไง”

“เอ่อ คิง ดรีมแค่...”

“กลับไปแล้วอย่ามายุ่งเรื่องของผมอีก”

“คิง! ทำมะ!”

“อย่าให้ผมพูดซ้ำ”

“.....ค่ะ!”

ผมยืนมองดูเหตุการณ์ตรงหน้าโดยไม่ได้ขยับตัวเลยสักนิด ตอนนี้ความรู้สึกไม่พอใจเมื่อกี๊ไม่หลงเหลืออยู่เลยตั้งแต่เห็นสีหน้าและแววตาของคิงตอนที่มองดรีม มันบ่งบอกว่าผู้หญิงคนนี้ไม่ได้มีค่าหรือความหมายอะไรต่อคิงเลย ไม่มีความรู้สึกอะไรกับคนคนนี้ทั้งนั้น เหมือนเป็นเพียงอากาศเป็นแค่ฝุ่นละอองที่ไร้ค่า

สายตาที่ผมไม่เคยเห็นจากคิงเลยสักครั้ง...แม้แต่ครั้งแรกที่เจอกันคิงก็ไม่เคยมองผมแบบนั้น

สายตาที่คิงมองคนอื่นเป็นแบบนี้งั้นหรอ...ท่าทีที่แสดงต่อคนอื่นก็เป็นแบบนี้งั้นหรอ

ถึงผมจะรู้ว่าคิงเป็นคนที่นิ่งเงียบแต่ก็ไม่เคยแสดงท่าทีเฉยชาแบบนั้นออกมาสักครั้ง...

เหมือนคิงที่อยู่ตรงหน้าผมตอนนี้กับคิงที่อยู่กับผมที่ผ่านมาเป็นคนละคนกัน ผมจะดูโรคจิตไหมครับถ้าจะบอกว่าตอนนี้ผมรู้สึก...ดีสุดๆไปเลย มีผมคนเดียวที่คิงแสดงท่าทีแบบนั้นด้วย บ้าจัง ผมรักคนคนนี้จะตายอยู่แล้ว

“พี่ควิน”

“ห้ะ ว่าไงนะคิง”

“ถามว่าเมื่อกี๊ผู้หญิงคนนั้นมาพูดอะไรไม่ดีหรือเปล่า”

“อ๋อ เปล่าหรอก ว่าแต่มีอะไรต้องทำอีกไหมจะได้กลับกัน”

“ไม่มี”

“โอเค แล้วหิวหรือเปล่า ตอนนี้ยังไม่เย็นเลยไปหาอะไรกินรองท้องก่อนไหม”

“อือ หิวแล้ว”

ผมยิ้มออกมาทุกครั้งที่ได้ยินคำว่าหิวจากปากคิง ฟังยังไงมันก็รู้สึกว่ากำลังถูกอีกคนอ้อนอยู่ท่าทางเวลามองก็ดูน่ารักน่าเอ็นดูไปหมด นี่ผมต้องไปบำบัดจิตใจให้แข็งแรงกว่านี้ไหมครับ

“คิง มึงกับพี่ควินจะไปทางไหนอ่ะ กูขอติดรถไปด้วยดิ”

ที่คนเขาพูดกันว่าเวลาคนเรามีความสุขทีไรมักจะต้องมีมารผจญมาขัดจังหวะทุกทีนี่น่าจะจริง เพียงแค่ได้ยินเสียงผมก็จำได้โดยไม่ต้องมองด้วยซ้ำว่าใคร ผมเบนหน้าไปมองคนที่ขอติดรถไปด้วยก่อนจะเบนหน้ากลับมาหาคิงเพื่อฟังคำตอบ

“เออ มึงจะไปไหนล่ะ”

“แล้วมึงจะไปไหนกันอ่ะ”

“หาไรกิน”

“เห้ยจริงอ่ะ กูไปด้วยกูหิวอ่ะ นะมึง นะ น้าาาาา”

ผมสบตากับคิงที่หันมาสบตากับผมอย่างกับนัดกันไว้ คิ้วเข้มที่ขมวดเข้าหากันนิดหน่อยทำให้ผมรู้ว่าอีกคนกำลังใช้ความคิดอย่างหนัก เฮ้อ เอาเถอะ ไม่เป็นไรหรอกมั้ง

“ให้ไวน์ไปด้วยกันก็ดีนะพี่ว่า กินหลายคนก็คงสนุกดีเดี๋ยวมื้อนี้พี่เลี้ยงเอง”

“เดี๋ยวผมเลี้ยงเอง”

“เอาน่าพี่เลี้ยงเอง ถือว่าเลี้ยงน้องไง”

“ใครน้อง นี่ไม่ใช่น้อง”

“น้อง”

“ไม่น้อง”

“น้องคิง”

“ไม่น้อง!”

“หึหึ”

“จะไปกันได้ยัง”

คนที่ผมเกือบจะลืมไปแล้วว่ายืนอยู่ตรงนี้ด้วยถ้าหากว่าเขาไม่พูดขัดจังหวะขึ้นมาเสียก่อน

“โอเคๆไปกันเถอะ”

ผมหันหลังเดินมุ่งหน้าไปทางที่รถของคิงจอดไว้ประจำโดยมีร่างสูงเจ้าของรถเดินขนาบอยู่ด้านข้าง ปล่อยให้คนที่ไร้บทสนทนาเดินตามรั้งท้าย ชั่วครู่ที่ถูกแทรกจังหวะขึ้นมาผมไม่รู้ว่าคิงจะเห็นไหมแต่ผมเห็นมันชัดเจน สีหน้าที่แสดงถึงความเกลียดชังที่ส่งมาถึงแม้จะเป็นเพียงแค่เสี้ยววินาทีก่อนสีหน้าจะแปรเปลี่ยนไปอย่างแนบเนียนก็ตาม


























มาแล้วจ้า พร้อมกับพนมมือขออภัยทุกคนที่มาลงช้า -/- สองสามอาทิตย์ที่ผ่านมามันยุ่งมากกกกกกก ยิ่งมารวมกับช่วงสงกรานต์ที่ต้องตระเวนไปหาญาติยิ่งแล้วใหญ่ กลับมาแล้วเหมือนเคราะห์ซ้ำกรรมซัดดันไม่สบายอีกจนแต่งนิยายไม่ไหว วันนี้ไม่ไหวแล้วมันต้องลงให้ได้สักทีเลยแต่งตั้งแต่เมื่อคืนจนเสร็จเอาตอนนี้ ต่อไปนี้จะมาลงตามปกติน้า อาทิตย์นึงจะลงให้ได้ 1-2 ตอนอย่าว่ากันน้าา ส่วนทุกคอมเมนท์เอิร์อ่านทุกเมนท์เลยนะคะ ปริ่มอกปริ่มใจมากที่ทุกคนชอบ น้ำตาจะไหล555555
ปล.อ่านแล้วเป็นยังไงกันบ้างตอนนี้ เริ่มรู้สึกถึงอะไรกันบ้างหรือยัง5555555555555 ฝากแท็ก #คิงควิน #แค่คุณ ในทวิตด้วยน้า รักทุกคนนน
ืึ

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
Re: ...แค่คุณ... ตอนที่ 14 up [19/4/61]
«ตอบ #65 เมื่อ19-04-2018 23:17:28 »

 :pig4: :pig4: :pig4:

ตัวร้าย  นี่มันร้ายได้ใจนะ

ทำเป็นตีเนียน  อาศัยความเป็นเพื่อนสนิทแล้วคิดจะอัพเลเวล  ชิส์

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
Re: ...แค่คุณ... ตอนที่ 14 up [19/4/61]
«ตอบ #66 เมื่อ21-04-2018 13:29:49 »

อย่านึกว่าคนอื่นจะตามเธอไม่ทันนะย่ะ

ออฟไลน์ weedear

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1139
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-4
Re: ...แค่คุณ... ตอนที่ 14 up [19/4/61]
«ตอบ #67 เมื่อ21-04-2018 20:22:44 »

 :mew1:

ออฟไลน์ ygff0429

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 12
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: ...แค่คุณ... ตอนที่ 14 up [19/4/61]
«ตอบ #68 เมื่อ24-04-2018 20:24:56 »

รออออออออ

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
Re: ...แค่คุณ... ตอนที่ 14 up [19/4/61]
«ตอบ #69 เมื่อ25-04-2018 07:58:12 »

ทั้งหญิงทั้งชายวุ่นวายกับคิง  :serius2:
ผู้หญิงที่ชอบคิง เป็นไปได้ขนาดนี้

ไวน์ นี่ตลก ถ้าคิงจะชอบนาย ก็คงชอบไปนานแล้ว
ทำตัวเป็นก ข ค ควิน
และคงทำไปเรื่อยๆ หนักขึ้นๆ ดูแล้วนะ   o18

คิง ควิน   :กอด1: :กอด1: :กอด1:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ...แค่คุณ... ตอนที่ 14 up [19/4/61]
« ตอบ #69 เมื่อ: 25-04-2018 07:58:12 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ golove2

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +277/-6
Re: ...แค่คุณ... ตอนที่ 14 up [19/4/61]
«ตอบ #70 เมื่อ25-04-2018 11:21:32 »

ขอกระโดดถีบนังไวน์หน่อยเถอะ

 :z6: :z6: :z6:

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
Re: ...แค่คุณ... ตอนที่ 14 up [19/4/61]
«ตอบ #71 เมื่อ25-04-2018 20:22:46 »

เอาให้อีไวน์กระอักเลือดไปเลยนะ

ออฟไลน์ earthearthx

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 26
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
Re: ...แค่คุณ... ตอนที่ 15 up [4/5/61]
«ตอบ #72 เมื่อ04-05-2018 23:33:13 »

ตอนที่ 15




พาร์ท ควิน



ภายในรถยนต์คันหรูที่กำลังขับเคลื่อนไปบนท้องถนนเต็มไปด้วยความเงียบ เงียบถึงขั้นที่รู้สึกว่าเสียงของเครื่องปรับอากาศของรถมันดังกว่าปกติทั้งที่มีถึสามชีวิตนั่งหายใจอยู่ในนี้ ตั้งแต่เข้ามานั่งในรถจนกระทั่งขับมาถึงตรงนี้ยังไม่มีใครพูดอะไรขึ้นมาสักคำ แม้แต่คนที่ติดรถมาด้วยก็ไม่ถามไถ่ถึงสถานที่ที่กำลังจะไปด้วยซ้ำ ผมเองก็ไม่รู้ว่าคิงจะไปไหนแต่เดาจากทางที่ขับมาก็เดาได้ไม่ยาก คงไม่พ้นห้างเดิมที่มาแวะกันบ่อยๆ ผมเริ่มรู้สึกไม่ค่อยดีที่ต้องอยู่ท่ามกลางบรรยากาศแบบนี้จนต้องหันไปหาเรื่องคุยกับอีกคนที่กำลังขับรถอยู่เพื่อทำลายความอึดอัดตอนนี้ทิ้งไป

“เรากำลังจะไปกินอะไร คิดไว้หรือยัง?”

“แล้วพี่อยากกินอะไร”

“พี่กินอะไรก็ได้ คิงเลือกมาแล้วกัน”

“กูอยากกินอาหารญี่ปุ่นอ่ะคิง”

ไวน์ที่นั่งอยู่ด้านหลังพูดขึ้นมาในช่วงที่ผมกับคิงยังไม่ทันจะตกลงกันว่าจะกินอะไรพร้อมกับโผล่หน้ามาแทรกกลางระหว่างเบาะ ดูเหมือนว่าคงไม่ต้องเถียงกันแล้วล่ะครับว่าอะไรคือเมนูของมื้อนี้ ไม่รอให้ใครตอบรับไวน์ยิ้มให้ผมแล้วถามขึ้นมาอีกครั้ง

“อาหารญี่ปุ่นก็ได้ใช่มั้ยครับพี่ควิน?”

“ได้สิ”

“ได้ยินมั้ยคิง พี่ควินโอเคแล้ว ไปเลยไวๆๆ”

“เออๆ”

พอได้ตามที่ต้องการแล้วไวน์ก็ถอยกลับไปนั่งพิงเบาะเหมือนเดิม หยิบโทรศัพท์ในมือขึ้นมากดแล้วเงียบไปเหมือนในตอนแรก ผมละสายตาเปลี่ยนความสนใจจากไวน์มาหาคิง สักพักคนที่ผมมองอยู่ก็เหมือนรู้สึกตัวว่ากำลังถูกจ้องอยู่ถึงได้เบนหน้ามามองผมก่อนจะเลิกคิ้วเป็นเชิงถาม ผมส่ายหน้าปฏิเสธไปว่าไม่มีอะไรแล้วเปลี่ยนความสนใจเป็นวิวด้านนอกกระจกแทน ภายในรถตกอยู่ในความเงียบอีกครั้ง ต่างคนต่างอยู่ในความคิดของตัวเอง ส่วนตัวผมบอกเลยว่าเรื่องที่อยู่ในหัวตอนนี้คงเป็นเรื่องอื่นไปไม่ได้นอกจากเรื่องของไวน์ ถ้าจะให้พูดตรงๆก็คงต้องบอกว่าเสียดาย ผมว่าไวน์เป็นคนที่น่ารักมาก ยิ่งดูก็ยิ่งน่ารัก ทั้งหน้าตาท่าทางรูปร่างทุกอย่างมันดูน่าทะนุถนอมไปหมด ถ้าเกิดว่าไวน์ไม่ได้มาพูดหรือทำอะไรแย่ๆใส่ผมป่านนี้ผมเองก็คงจะรู้สึกเอ็นดูเขาเหมือนน้องเหมือนนุ่งไปแล้ว เฮ้อ นึกมาถึงตรงนี้ผมก็เสียดายจริงๆนั่นแหละครับ เอาเป็นว่าขอให้ไวน์ไม่ทำอะไรแย่ไปกว่านี้แล้วกัน

ใช้เวลาอีกไม่กี่นาทีก็มาถึงที่หมายวนรถหาที่จอดไม่นานก็เจอเสร็จแล้วก็เดินไปด้านใน ตอนนี้เราสามคนเดินเรียงกันโดยที่คิงคั่นกลางระหว่างผมกับไวน์ ผมเห็นไวน์สะกิดคิงให้คุยด้วยแทบตลอดแต่ผมไม่ได้ยินหรอกว่าคุยอะไรกันเพราะว่าถึงจะเดินเรียงกันแต่เราสามคนก็ไม่ได้เดินชิดตัวติดกันขนาดที่จะได้ยินได้

“คิงๆ แวะซื้อเค้กกันก่อน”

เราเดินมาหยุดที่หน้าร้านเค้กชื่อดัง ไวน์พูดพร้อมกับลากคิงเข้าไปด้วยกัน คิงหันมามองหน้าผมแล้วพยักหน้าให้ ผมเลยเดินตามเข้าไป ผมยิ้มให้พนักงานต้อนรับกล่าวต้อนรับสองสามคนที่ยืนอยู่ ผมเดินมายืนข้างคิงและไวน์ที่หน้าเคาน์เตอร์

“มึงเอาอะไรบ้างคิง เดี๋ยวกูสั่งให้”

“ไม่เป็นไร เดี๋ยวกูสั่งเอง”

“โอเค”

“พี่ควินเอาอะไร”

“คิงเลือกเลย พี่ไม่ค่อยกินหรอก”

คิงหันมาถามผมพอได้รับคำตอบแล้วก็พยักหน้ารับรู้ หันไปสั่งเค้กที่ตัวเองต้องการกับพนักงาน

“อ้าว พี่ควินไม่ชอบกินเค้กหรอ”

“ก็ไม่ได้ไม่ชอบนะ กินก็ได้ไม่กินก็ได้”

“โหยยย ยังงี้ก็แย่อ่ะดิพี่ พี่รู้ใช่มั้ยว่าคิงมันชอบกินเค้กจะตาย ผมนี่ต้องไปนั่งกินเป็นเพื่อนมันประจำ คนอื่นก็ไม่มีใครชอบกินแบบมัน มีแต่ผมเนี่ยแหละที่มันลากไปไหนมาไหนด้วยตลอด ถ้าพี่ไม่ชอบกินเค้กแบบนี้หวังว่ามึงคงไม่มาชวนกูไปนั่งกินเป็นเพื่อนบ่อยๆเหมือนเดิมหรอกนะไอ้คิง”

ผมฟังไวน์พูดออกมาจนจบรวมถึงท้ายประโยคที่ย้ายไปพูดกับคิงด้วยสีหน้าแบบไหนผมก็ไม่รู้ แต่ที่รู้เลยคือผมเริ่มจะเบื่อแล้วล่ะ ผมสบตากับคิงทันทีที่จบประโยคกินพื้นที่ของไวน์ สีหน้าของคิงก็เรียบนิ่งแต่คิ้วขมวดด้วยสาเหตุอะไรผมก็ไม่รู้เหมือนกัน

“พูดมากไปแล้วมึง”

“ก็มันใช่อย่างที่กูพูดมั้ยล่ะ เดี๋ยวก็ต้องชวนกูมานั่งกินด้วยอยู่ดีอ่ะ”

สำคัญตัวเองมากไปแล้วมั้งคิดเองเป็นตุเป็นตะ ผมยังไม่ได้พูดอะไรสักคำ ผมขอเบรกความคิดของไวน์ก่อนที่จะต้องทนฟังมากไปกว่านี้ก่อนนะ

“พี่ว่าพี่ก็ไม่ได้บอกนะว่ามากินด้วยไม่ได้น่ะ”

“.....”

“แล้วถ้ามันรบกวนไวน์แบบนั้น พี่ว่าวันหลังคิงซื้อไปกินที่ห้องก็ได้นะครับ”

“อือ ไว้มากินกับพี่”

“ครั้งหน้าจะกินก็บอกพี่ เดี๋ยวพี่มากินด้วยเนอะ”

“อือ”

“เห้ยคิง มึงลืมสั่งวานิลาหรือเปล่า”

“ห้ะ เออว่ะ เอาวานิลาเพิ่มด้วยครับ”

ความสนใจของคิงถูกดึงจากผมไปที่ไวน์อีกครั้ง อีกคนคอยจะขัดคอผมตลอดตั้งแต่บนรถจนมาถึงตอนนี้ ผมพยายามทำใจเย็นแล้วถอยยืนพิงกำแพงร้านรอทั้งคู่อย่างสงบ พอได้เค้กครบแล้วคิงก็ส่งสายตามาให้ผมประมาณว่าเรียบร้อยแล้ว เราเดินออกมาจากร้านและกำลังจะมุ่งตรงไปเพื่อกินอาหาร แต่ระหว่างทางผมไม่มีโอกาสได้พูดอะไรกับคิงเลย คนตัวเล็กที่เดินอยู่ข้างกันไม่รู้ว่าสรรหาอะไรมาพูดกับคิงนักหนา ผมเดินเงียบๆคนเดียวเหมือนไม่ได้มาด้วยกันยังไงยังงั้น ผมหันไปมองสองคนที่เดินคุยกระหนุงกระหนิงกันผมก็เริ่มหงุดหงิดขึ้นมานิดหน่อยแล้วสิ แล้วนั่นอะไร ปากจะเข้าไปในหูแล้วนะเห้ย คนฟังก็ยืนฟังหน้าตายไม่รู้ตัวบ้างเลยหรือไงว่าจะโดนดูดขี้หูอยู่แล้วน่ะ

ผมค่อยๆลดความเร็วของฝีเท้าให้ช้าลงจนกลายเป็นว่าตอนนี้ผมเดินตามหลังทั้งสองคน สาบานได้เลยว่าผมมั่นใจว่าคิงไม่รู้สึกเลยสักนิดว่าตอนนี้ผมไม่ได้เดินอยู่ข้างเขาแล้วแต่ไม่ใช่กับอีกคน ไวน์หันหน้ามาคุยกับคิงตลอดเวลาแน่นอนว่าเขาก็ต้องหันมาเห็นผมด้วย ร่างเล็กชายตามองผมเล็กน้อยก่อนที่จะแสยะรอยยิ้มที่ติดอยู่ที่ใบหน้าหวานคล้ายจะเยาะเย้ยผม ไม่เพียงเท่านั้นแขนเล็กยื่นมาเกาะเกี่ยวแขนของร่างสูงที่ยืนอยู่ข้างกันแล้วเร่งให้อีกคนเดินเร็วขึ้นไปอีก ระยะห่างของผมกับคนด้านหน้าเริ่มห่างไปทุกที ผมตัดสินใจหยุดยืนกับที่หยิบโทรศัพท์ที่อยู่ในกางเกงขึ้นมากดค้างที่ปุ่มล็อกหน้าจอสไลด์หน้าจอเพื่อปิดเครื่อง ออกเดินไปคนละทางกับที่คิงและไวน์เดินไปพร้อมกับยกข้อมือขึ้นมาเพื่อดูเวลา

“อืมม บ่ายสามกับอีกยี่สิบนาที”

เอาล่ะ อย่าหาว่าพี่ใจร้ายเลยนะคิง

ผมมองหาร้านอาหารแถวนี้ตัดสินใจเดินเค้าร้านสเต็กที่อยู่ใกล้สุดสั่งสเต็กแซลมอนให้ตัวเอง แล้วนั่งรออย่างสบายใจ โชคดีที่สาขานี้ร้านค่อนข้างใกล้ผมนั่งในมุมที่ไม่ค่อยสะดุดตามองเห็นได้ยากจากภายนอกแต่มองเห็นภายนอกได้ชัดเจน รอสักพักสเต็กแซลมอนที่สั่งไปก็มาอยู่ตรงหน้า ผมลงมือกินช้าๆอย่างไม่รีบร้อน สายตาของผมจับจ้องไปที่ด้านนอกร้าน ยังไม่ทันไรสิ่งที่ผมมองหาก็ผ่านมาให้ได้เห็น

“หึ”

ผมยกยิ้มกับตัวเองมือก็ทำหน้าที่ตัดแซลมอนเข้าปากไปด้วย คนที่ผมทิ้งไว้ตอนนี้กำลังหยุดยืนอยู่แถวหน้าร้านไม่ไกลเท่าไหร่ สีหน้าไม่สู้ดีเท่าไหร่แต่ดีต่อใจของผมเหลือเกิน ท่าทางลนลานมองซ้ายมองขวาเหมือนเด็กหาของเล่นทำให้มุมปากผมยกขึ้นมากกว่าเดิม ว่าแต่ทำไมคิงถึงอยู่คนเดียว สงสัยได้ไม่กี่วิร่างเล็กของอีกคนก็โผล่เข้ามาในสายตา ไวน์ก้มตัวเท้ามือกับเข่าของตัวเองท่าทางเหนื่อยหอบแล้วพูดอะไรสักอย่างกับคิง อืม ดูแล้วน่าจะกำลังหงุดหงิดเลยนะนั่น ผมก้มหน้าตักสลัดเข้าปากเงยหน้ามาอีกทีร่างสูงของคิงก็หายไปแล้ว เหลือแค่ไวน์ที่ยังอยู่ที่เดิมเพียงครู่เดียวก่อนจะออกตัววิ่งหายไป ผมยิ้มแล้วก้มหน้ากินสเต็กที่เหลือในจาน
ผ่านไปไม่ถึงสิบนาทีร่างสูงที่หายไปก็วิ่งกลับมาหยุดแถวหน้าร้านอีกครั้ง มือหนาของคิงกดโทรศัพท์แล้วยกขึ้นแนบหูซ้ำๆหลายครั้ง ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าปลายสายคือใคร เหมือนภาพเก่าเล่าใหม่ไวน์ที่พึ่งตามมาทันพุ่งเข้าคว้าแขนของคิงไว้แล้วพูดอะไรบางอย่างแต่ครั้งนี้ต่างจากเดิมตรงที่คิงไม่ได้วิ่งต่อแต่หันกลับมาพูดอะไรสักอย่างกับไวน์ ไม่รู้ว่าเพราะสองคนนั้นเสียงดังหรือเพราะอะไรคนที่ยืนรอบๆถึงได้หันมามองทั้งสองคน ผมเห็นคิงสีหน้าเครียดจนย่ำแย่ทำเอาผมสงสาร

เฮ้อ พอเท่านี้แล้วกัน

ผมรอให้สองคนที่อยู่หน้าร้านไปทางอื่นสักพัก เสร็จแล้วก็เช็คบิลแล้วเดินออกมา ผมเดินด้วยความช้าเท่าเต่าขี่หอยทาก สอดส่ายสายตามองหาคนที่พึ่งหายไปแต่ว่ามองไปทางไหนก็ไม่เจอ ผมเดินไปเรื่อยๆตามทาง แล้วก็ไม่นานเหมือนที่คิด แรงกระชากจากด้านหลังทำเอาตัวผมสะบัด คนที่ทำก็ไม่ใช่ใครที่ไหนก็คนที่ผมรออยู่นี่ไง

“พี่หายไปไหนมา!”

“ใจเย็นๆก่อน”

“ไปไหนมา!”

ผมแอบตกใจที่คิงเสียงดังใส่ผมแบบนี้ คิงที่ไม่ได้คำตอบแบบที่ต้องการกำลังโมโหขึ้นเรื่อยๆ มือที่กำแขนผมเริ่มบีบแน่นขึ้นทุกที ผมมองจ้องหน้าคิงนิ่งโดยไม่พูดอะไรแม้จะเริ่มเจ็บแขนแล้วก็ตาม ที่ผมเงียบเพราะตอนนี้คิงไม่ได้อยู่ในอารมณ์ที่จะรับฟัง ดีไม่ดีจะทะเลาะกันจริงๆก็ได้ พอเห็นผมเงียบไปคิงก็เงียบตาม จ้องหน้ากันสักพักคิงก็เหมือนเริ่มรู้สึกตัว แรงบีบที่แขนคลายลง ไม่ต้องมองก็รู้ว่ามันจะต้องขึ้นรอยแน่นอนและยิ่งผิวซีดๆแบบผมอาจจะเป็นรอยช้ำเลยก็ได้

“ไปคุยกันที่รถดีกว่านะ”

ผมบอกกับคิงแล้วหมุนตัวเดินนำไปที่ลานจอดรถโดยไม่ได้หันไปสนใจคนที่เดินตามหลังมาเลย ผมรู้ว่าคิงเดินตามมาตลอดเพราะมีเสียงฝีเท้าอยู่ด้านหลังตลอดทาง

“เมื่อกี๊พอออกจากร้านเค้กมาพี่บังเอิญหยุดแวะดูสร้อยที่ร้านนึงพอหันมาอีกทีก็ไม่เห็นคิงแล้ว จะโทรหาแบตก็ดันหมดพอดี พี่เดินหาอยู่แปบนึงก็ไม่เจอเลยคิดว่าคิงอาจจะกินข้าวกับไวน์แล้ว แล้วจะให้พี่ทำยังไง พี่จะทำอะไรได้ พอไม่รู้จะทำยังไงพี่เลยหาอะไรกินแล้วกะว่าจะมารอที่รถ แต่พอออกมาก็มาเจอคิงพอดี ไม่ทันได้พูดได้บอกอะไรคิงก็เป็นซะแบบนี้ แล้วไง ทีนี้จะใจเย็นลงได้ยัง?”

พอมาถึงลานจอดรถคนเริ่มบางตาผมก็เมคเรื่องขึ้นมาเพื่ออธิบายเรื่องที่หายไปให้คิงฟังทั้งที่ยังเดินนำหน้าอยู่แบบนั้น ผมใส่อารมณ์เข้าไปนิดหน่อยเพื่อให้คิงรู้สึกผิด แต่ผมไม่ได้หันไปพูดตรงๆเลยไม่รู้ว่าตอนนี้คนฟังทำหน้าแบบไหนแต่เสียงเท้าที่ใกล้กว่าเดิมจนมาหยุดตรงหน้าทำให้ผมก้าวต่อไปไม่ได้ ผมเบี่ยงตัวไปทางซ้ายอีกคนก็เข้ามาขวาง จะไปทางขวาอีกคนก็ตามมาอีก ผมเก๊กหน้าให้นิ่งแล้วจ้องมองหน้าคิงตรงๆ พอเห็นเหงื่อที่ยังผุดอยู่ตามไรผมและใบหน้าแล้วอยากจะเช็ดให้จริงๆแต่ต้องใจแข็งเอาไว้ ทั้งที่ตอนนี้คิงยืนขวางตรงหน้าผมแท้ๆแต่กลับก้มหน้ามองเท้าตัวเองหูลู่หางตกไปเรียบร้อย ผมกัดปากตัวเองเอาไว้ไม่ให้ยิ้มรีบเบี่ยงตัวก้าวให้พ้นแต่อีกคนก็รู้ทันเข้ามาขวางเหมือนเดิม

“หลบไป”

ผมแข็งใจฮึดทำขรึมอีกรอบบอกให้อีกคนหลีกทางไปแต่ไม่เป็นผล ร่างสูงใหญ่ปักหลักตัวเองไว้นิ่งไม่มีขยับ สภาพแบบนี้อีกนิดนึงจะต้องครางงี๊ดง๊าดแล้วแน่ๆ

“คิง พี่บอกให้หลบไป”

ผมพูดอีกครั้งทีละคำด้วยน้ำเสียงหนักแน่นทั้งที่ในใจไม่ใช่เลย เสียงของผมคงจะเข้มผิดปกติหมาน้อยตรงหน้าถึงได้กดมุมปากบางหยักลงเล็กน้อย ช้อนตาขึ้นมองนิดนึงก่อนจะหลุบตาลงไปใหม่ก่อนจะช้อนขึ้นมองสบตาผมอีกครั้งเหมือนไม่แน่ใจ

บ้าจริง น่ะ น่ารัก น่ารักเกินไปแล้ว!

“ขอโทษครับ”

“.....” ไม่ใช่อะไร ผมกัดปากตัวเองอยู่ อย่าพูดเชียวนะไอ้ควิน ถ้าอ้าปากออกไปต้องหลุดยิ้มแน่นอนไม่ต้องสงสัย อุตส่าห์เนียนมาขนาดนี้แล้วนะอย่าหลุดเชียววววววว

“ขอโทษครับพี่ควิน”

“.....” อย่ามาเรียกชื่อพี่ตอนนี้ ได้โปรด ขอร้อง

คิงขอโทษนะครับ


ตายครับ...


พอดีกับเสียงโทรศัพท์ของหมาตรงหน้าดังขึ้นมา ผมรีบอาศัยจังหวะนี้เดินผ่านอีกคนมาได้ในที่สุด โอยยย หัวใจผมเต้นเป็นจังหวะอีดีเอ็มแล้วเนี่ย ดาเมจรุนแรงเกินไป หายใจเข้าควิน ฮึบ ฮึบ

ผมมุ่งหน้ามาที่รถแล้วหลับตายืนพิงรถไว้เพื่อทำสมาธิ คิงเดินตามมาพร้อมกับคุยโทรศัพท์ไปด้วย ถ้าได้ยินไม่ผิดผมว่าปลายสายคงเป็นอีกคนที่ผมจงใจทิ้งไวในห้าง ผมปรับสีหน้าให้นิ่งเรียบทำเมินมองไปทางอื่น คิงวางสายแล้วเดินเข้ามาหาผมอีกครั้ง มือใหญ่คว้ามือผมไปกอบกุมไว้ ก้มหน้ามองมือผมบีบเล่นไปมาพึมพัมคำว่าขอโทษครับเบาๆไม่หยุด ผมทนไม่ไหวหลุดยิ้มออกมาจนได้แต่ว่าคิงก้มหน้าเลยไม่ได้เห็น ผมเงียบอยู่แบบนั้นหลายครั้งที่คิงช้อนตาขึ้นมามองแล้วผมต้องทำเป็นโกรธ จนกระทั่งคนที่ผมรออยู่ปรากฏตัวในสายตาผมแต่ไกล

“พี่ควิน คิงขอโทษนะครับ”

“ที่ขอโทษนี่ขอโทษเรื่องอะไรบอกพี่หน่อย”

“ที่ปล่อยให้พี่อยู่คนเดียว”

“อาห้ะ”

“ขอโทษครับ”

“ครับ”

“ไม่โกรธแล้วนะ”

“ครับ”

“เหมือนพี่ยังโกรธอยู่”

“ไม่โกรธแล้ว”

“จริงหรอ”

“เฮ้อ มานี่มา”

พอสิ้นคำผมคิงก็เขยิบตัวเข้ามาชิดซบหน้าลงที่หัวไหล่ของผมถอนหายใจรดต้นคอจนผมขนลุก มือข้างนึงของผมตอนนี้วางอยู่บนกลุ่มผมนุ่มของคิง ส่วนมืออีกข้างของผมยังถูกมือใหญ่กุมเอาไว้ ทั้งร่างกายตอนนี้เกือบทุกส่วนแนบไปกับลำตัวของคิง ยกเว้นเพียงสายตาของผม...ที่กำลังมองสบกันกับสายตาอีกคู่หนึ่งที่จ้องมาที่ผม ไวน์ที่ยืนอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากนี้จุดที่ผมอยู่เท่าไหร่นัก ในสายตาของไวน์เต็มไปด้วยหลากหลายความรู้สึกทั้งเจ็บปวดและโกรธเคือง มันทั้งน่าสงสารและน่ารังเกียจ ผมยกยิ้มให้ไวน์เหมือนที่เขายิ้มให้ผม สีหน้าของไวน์เหยเกกว่าเดิมก่อนจะหันหลังแล้วรีบเดินจากไป ผมเคยเห็นใจที่ไวน์ไม่สมหวังกับความรักแต่ถ้าจะต้องช่วยเหลือด้วยการแบ่งปันคนรักให้ใช้ผมก็คงไม่ได้ใจกว้างขนาดนั้น

ที่ผมทำแบบนี้เหตุผลมันก็ไม่ได้มีอะไรมากมาย ผมแค่อยากให้ใครบางคนรู้ไว้ว่าใครสำคัญสำหรับคิง ไวน์อาจจะสะใจที่ดึงความสนใจจากคิงไปจากผมได้แต่ผมอยากจะบอกให้เค้าได้รู้ตัวว่ากำลังคิดผิดมากแค่ไหน ผมรู้ว่าถ้าผมหายไปคิงจะตามหาผมโดยไม่สนใจอะไรและก็เพื่อเตือน...ว่าไวน์ไม่มีทางมายืนแทนที่ผมได้


ส่วนคิงที่...ผมต้องทำเป็นโกรธและแอบหนีไปเหตุผลไม่ใช่ว่าแค่จะสั่งสอนไวน์หรอกนะครับ


แต่นี่คือการลงโทษ...ที่คิงไม่สนใจผม หลังจากนี้คิงจะได้จำเอาไว้ว่าถ้าสนใจคนอื่นมากกว่าผมอีกจะเป็นยังไง


หึหึ ผมเคยบอกแล้วว่าผมไม่ใช่คนดีอย่างที่ใครคิด ผมละมือจากผมของคิง ร่างสูงก็ผละออกจากไหล่ผมเช่นกัน

“กลับห้องเรากันเถอะ”

“เมื่อกี๊ไวน์บอกกำลังมา”

“แต่นานแล้วนะ ลองโทรไปตามอีกทีสิ” ถ้ามาก็แปลกแล้วล่ะ

“แป๊บนึง” หลังจากนั้นคิงก็กดโทรออกทันทีรอไม่นานปลายสายก็รับ ไม่รู้ว่าคุยอะไรกันแต่ไม่ถึงนาทีคิงก็วางสายไป

“มันบอกเจอคนแถวบ้านเลยติดรถเค้ากลับไปแล้ว”

“งั้นเรากลับกันเลยเนอะ”

ร่างสูงพยักหน้ากดปลดล็อกรถแล้วอ้อมไปนั่งด้านคนขับ ผมเปิดประตูเข้าไปนั่งรออีกคนสตาร์ทรถแล้วขับออกไป ขับออกจากห้างได้สักพักผมก็นึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้

“เดี๋ยวนะคิง นี่กินอะไรหรือยัง?”

“ยัง”

“เอ้า แล้วเมื่อกี๊ก็ไม่บอกนี่จะถึงคอนโดแล้วด้วย”

“ที่ห้องมีอะไรให้กินมั้ย”

“ที่ห้องหรอ น่าจะมีกุ้งเหลืออยู่หน่อยนึงมั้ง”

“ไข่เจียวกุ้งสับ”

“คนอะไรทำไมถึงได้ชอบไข่เจียวนักนะ”

“ก็ชอบ”

“โอเคตามนั้น”

“ก็ชอบอ่ะ”

“รู้แล้ว”

“ชอบครับ”

“หมายถึงไข่เจียวใช่มั้ย”

“ชอบพี่ควิน”

“เด็กบ้า...แต่พี่ก็ชอบนะ”

“อือ”

“ยิ้มอะไร พี่หมายถึงไข่เจียว หึหึ”

“.....”

พอผมบอกว่าชอบไข่เจียวยิ้มบนหน้าหล่อก็หายไปในพริบตาเหมือนไม่เคยมี หันหน้าหนีแล้วไม่มองผมอีกเลย ผมขำแล้วเอานิ้วไปจิ้มแก้มคิงสองสามที

“พูดแค่นี้ทำเมินนน หยอกนิดหยอกหน่อยทำงอนนน”

“พึ่งรู้”

“ห้ะ?”

“พึ่งรู้ว่าพี่ชอบกินไข่”

“เออพี่ก็ไม่เคยบอกนี่เนอะ”

“เดี๋ยวไว้จะเอาไข่...ให้กินเยอะๆเลยนะครับ”

“อ่ะ ไอ้ เด็กบ้า”

“หึหึ เขิน?”

“เขินบ้าอะไร เปล๊า!”

“ก็ว่าอยู่ พูดถึงไข่เจียวจะเขินได้ไง”

“เด็กเวร”

“ฮ่าๆๆๆๆ”

“ชิ ฝากไว้ก่อนเถอะ”

“รีบมาเอา...คืนไวๆนะครับ”

ไอ้เด็กนี่...เอา...ใหญ่...แล้วว่ามั้ยครับ


























________________________________________________
พนมมือขออภัยทุกคนด้วยน้ำตา ที่พี่มาช้าเพราะพี่เจอทางตัน5555555555555 ฮือ คือมันแต่งไม่ออกจริมๆ แบบนี่ตอนที่ 15 แล้วนะทำไมพี่ควินกับน้องคิงยังไม่ได้กัน! ห้ะ อะไรนะ ผิดประเด็น อ่อๆคือมันยากมากเด้อ จะแต่งแบบไหนกลัวเรื่องมันช้าไปมั้ยหรือไวไปหรือเปล่า แอบงงและเครียดเบาๆ แต่ต้องขอขอบคุณทุกคนที่ยังรออ่านเสมอ ขอบคุณทุกคอมเมนท์ที่เมนท์มาเลย มีกำลังใจแต่งเพราะทุกคน พอท้อก็จะมาวนอ่านคอมเมนท์ซ้ำๆเพืื่อเรียกขวัญกำลังใจ ขอบคุณทุกคนจริงๆนะคะ จะพยายามแต่งให้ออกมาดีกว่านี้นะคะ

ปล.ถ้ามีใครเล่นทวิต ฝาก #คิงควินด้วยนะคะ

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
Re: ...แค่คุณ... ตอนที่ 15 up [4/5/61]
«ตอบ #73 เมื่อ04-05-2018 23:54:37 »

 :pig4: :pig4: :pig4:

สะใจอ่ะ  ไวน์เหรอจะมาสู้ควินได้

แค่ชื่อก็บ่งบอกแล้วว่า เคะราชินี  อิอิ

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
Re: ...แค่คุณ... ตอนที่ 15 up [4/5/61]
«ตอบ #74 เมื่อ05-05-2018 00:48:36 »

พี่ควินร้ายมากกกก แค่ชอบจัง นายเอกสู้คนแบบนี้ อิอิ

ออฟไลน์ poppycake

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2670
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-4
Re: ...แค่คุณ... ตอนที่ 15 up [4/5/61]
«ตอบ #75 เมื่อ05-05-2018 10:08:46 »

พี่ควินคือร้ายมากเลยคร้าาาาาาาา #ชอบคนร้ายๆ >\\\\<
ไวท์จะได้เพลาลงบ้าง อะไรจะตั้งหน้าตั้งตามาวอร์ขนาดนั้นนนนน

ออฟไลน์ Tiffany

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1147
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
Re: ...แค่คุณ... ตอนที่ 15 up [4/5/61]
«ตอบ #76 เมื่อ05-05-2018 13:03:14 »

ตอนนี้ชอบพี่ควินมาก เอาคืนได้แบบแสบสันจริงๆ

ออฟไลน์ Plavann

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 52
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
Re: ...แค่คุณ... ตอนที่ 15 up [4/5/61]
«ตอบ #77 เมื่อ05-05-2018 14:43:33 »

ตอนนี้กำลังดีเลยครับ ถึงเนื้อเรื่องมันเหมือนจะไปช้า แต่ทุกตอนมีประเด็นหลักให้เล่ามาตลอด ทำให้เรารู้สึกว่าเห้ย ตอนนี้คิงควินจะเจออะไรบ้าง เพื่อพัฒนาความสัมพันธ์ของทั้งคู่ อย่างที่ผ่านมาเราได้เห็นมุมมองของไวน์ ได้รู้นิสัยของพี่ควินมากขึ้น ได้เห็นด้านอ้อนของคิง ซึ่งผมมองว่าทุกอย่างมันมาในจังหวะที่พอดีแล้ว
เป็นกำลังใจให้คนเขียนนครับ

ออฟไลน์ insomniac

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1482
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-3
Re: ...แค่คุณ... ตอนที่ 15 up [4/5/61]
«ตอบ #78 เมื่อ05-05-2018 20:01:00 »

สมน้ำหน้าคิงตอนนี้จริงๆ เดินคุยกับเพื่อนจนแฟนหายตั้งนานยังไม่รู้ตัว

ออฟไลน์ earthearthx

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 26
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
Re: ...แค่คุณ... ตอนที่ 16 up [14/5/61]
«ตอบ #79 เมื่อ14-05-2018 12:32:54 »

ตอนที่ 16



พาร์ท ควิน




พอมาถึงคอนโดแล้วผมก็เปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อรีบมาเข้าครัวทำอาหารให้อีกคนอย่างรวดเร็วเพราะกลัวว่าคนที่ผมแกล้งจนอดข้าวนั้นจะหิวมากไปกว่านี้ ปกติแล้วตั้งแต่อยู่ด้วยกันมาผมมักจะใส่ใจเรื่องการกินของคิงเสมอไม่เคยละเลยสักครั้ง พอมาตอนนี้เห็นคิงนั่งรอที่โต๊ะคอยชะเง้อมองผมที่ทำอาหารอยู่ก็แอบรู้สึกผิดขึ้นมานิดนึง ผมรีบตีไข่ในถ้วยพร้อมให้สัญญากับตัวเองไว้เลยเอาว่าครั้งหน้าผมจะไม่แกล้งตอนน้องหิวอีกแล้วล่ะครับ
พอทำอาหารเสร็จคิงก็เข้ามาช่วยถือจานไปวางที่โต๊ะเหมือนที่ทำทุกครั้ง ผมจัดการตักข้าวตามไปให้แต่พอคิงเห็นว่ามีข้าวแค่ถ้วยเดียวก็มองผมด้วยความสงสัย

“คิงกินเถอะพี่กินมาแล้วไงเมื่อกี๊นี้น่ะ แล้วเดี๋ยวคิงกินเสร็จแล้วก็ไปอาบน้ำก่อนเลยนะ พี่จะลงไปเอาของที่ห้องแปบนึง”

“ไปเอาอะไร”

“ไปเอาแฟลชไดร์ฟ มีงานในนั้นพี่จะเอามาทำต่อ”

“มาไวๆ”

“ครับ แปบเดียว”

ผมเดินออกมาจากห้องแล้วยืนรอลิฟต์สักพักเพื่อลงมาที่ห้องตัวเอง ผมแตะคีย์การ์ดเพื่อเข้าห้องพอกดสวิตช์ไฟให้ทำงานผมก็เข้าไปในห้องนอนเพื่อหาแฟลชไดร์ฟ ใช้เวลาไม่นานผมก็ได้ของที่ต้องการ ผมมองไปรอบๆห้องของตัวเองที่ช่วงนี้ไม่ค่อยจะได้ใช้งานสักเท่าไหร่เพื่อดูความเรียบร้อย ตั้งแต่คิงลากผมให้ไปอยู่ด้วยผมก็ไม่ค่อยได้เข้ามาในห้องของตัวเองนอกจากจะมาหยิบของใช้ส่วนตัวบางอย่าง ตอนนี้ทั้งเสื้อผ้าโน๊ตบุ๊คและของใช้ประจำส่วนใหญ่ก็ไปอยู่ที่ห้องคิงซะหมด ผมเช็ครอบๆห้องอีกครั้งก่อนจะปิดไฟและขึ้นลิฟต์กลับไปที่ห้องของคิง

ผมเปิดประตูห้องมาเจอคิงนั่งดูทีวีอยู่ที่โซฟา เจ้าตัวหันมาหาผมแล้วกวักมือเรียกให้เข้าไปหา ผมเดินไปนั่งลงข้างๆ ตูดยังไม่ทันแตะโซฟาตัวผมก็โดนรวบไปกอดไว้ซะงั้น ผมไม่ได้ตกใจอะไรเพราะว่ามันเป็นเรื่องปกติ ผมคิดว่าคิงน่ะน่าจะติดสัมผัสอะไรพวกนี้นะ พออยู่ด้วยกันทีไรคอยแต่จะมาจับมากอดมาซุกผมอยู่ตลอด ถ้าถามว่าผมทำยังไงล่ะก็

“จะเอาอะไรอีกว่ามา”

“คิดถึง”

ก็เป็นซะแบบนี้ แล้วใครมันจะไปทนได้! ผมยกมือขยี้หัวคนช่างอ้อนอย่างหมั่นเขี้ยว เมื่อก่อนล่ะกว่าจะพูดได้สักคำผมนี่แทบจะรำขอพรทีเดี๋ยวนี้ล่ะพูดเอาพูดเอาแถมแต่ละคำที่พูดออกมาทำเอาแทบลืมหายใจตายกันไปเลย

“เวอร์จริงๆ แล้วทำไมยังไม่ไปอาบน้ำอีกเนี่ย”

“รอพี่”

“รอพี่ทำไม?”

“สระผมให้หน่อย”

“อ่อ งั้นเดี๋ยวพี่ไปหยิบผ้าแล้วตามไป”

ผมดึงแขนที่เกี่ยวรอบตัวผมไว้ออกแล้วลุกขึ้นพยักหน้าให้คิงไปรอที่ห้องน้ำเจ้าตัวก็เดินไปรออย่างว่าง่าย ผมเดินไปหยิบผ้าขนหนูแล้วตามเข้าห้องน้ำพอดีกับที่คิงกำลังทิ้งตัวลงนั่งในอ่างทำให้เมื่อกี๊ผมได้เห็นอะไรวับๆแวมๆให้ใจสั่นเล่น เห็นเต็มๆมาก็บ่อยแต่ทำใจให้ชินไม่ได้เลยจริงๆ เอ๊ะ ว่าแต่ทำไมน้ำเต็มอ่างเร็วจังวะ

“ทำไมน้ำเต็มอ่างเลยล่ะ”

“เปิดไว้รอพี่ตั้งนานแล้ว”

ผมพยักหน้ารับคำแล้วเดินเข้าไปทิ้งตังนั่งลงที่ขอบอ่างอีกคนก็หันหลังเอนหัวมาพิงขาไว้ทันที ผมเริ่มลงมือสระผมให้อีกคนเหมือนที่เคยทำมาแล้วหลายต่อหลายครั้ง ท่ามกลางความเงียบระหว่างเราไม่มีความอึดอัดทุกอย่างที่ทำอยู่ตอนนี้เริ่มกลายเป็นส่วนนึงของชีวิตประจำวันระหว่างเรา

“มีอะไรทำไมมองพี่แบบนั้น” ผมถามเพราะอยู่ดีๆคองก็แหงนหน้าขึ้นมามองผมแต่ไม่ยอมพูดอะไรออกมา

“พี่ควิน”

“ว่าไง”

“พี่ยังคิดมากเรื่องไวน์อยู่มั้ย”

“แล้วอยากให้พี่คิดหรือเปล่า”

ผมสัมผัสได้ถึงความกังวลในแววตาของคิงจนอดจะยิ้มให้ไม่ได้ อยากจะบอกเหลือเกินว่าผมไม่ได้คิดอะไรเลยเพราะทุกอย่างมันก็เห็นอยู่ชัดๆแต่ก็ไม่อยากให้ได้ใจจนเกินไปผมเลยเลี่ยงที่จะตอบคำถามของคิงตรงๆ

“มันไม่มีอะไร” พอผมไม่ตอบแววตาของคิงก็สั่นไหว คำพูดที่ไม่มีอะไรแต่น้ำเสียงคล้ายกำลังอ้อนวอน ผมยิ้มแล้วไม่ตอบอะไรเปิดน้ำล้างฟองออกจากผมของอีกคนจนหมด คิ้วเข้มขมวดเข้าใกล้กันมากขึ้นเมื่อได้รับความเงียบจากผม ใบหน้าหล่อที่แหงนมองจนหัวมาวางอยู่ที่หน้าขาของผมจากที่ตอนแรกแค่พิงไว้ทำให้ผมหลุดขำ ผมก้มหน้าลงไปจุ๊บเบาๆที่ริมฝีปากของคิงทีนึงแล้วเงยหน้ากลับขึ้นมา

“พี่รู้”

คอผมถูกแขนแกร่งเหนี่ยวรั้งให้ก้มลงไปอีกครั้งคราวนี้ริมฝีปากถูกบดเบียดรุนแรงกว่าครั้งก่อน ลิ้นร้อนของคนด้านล่างแลบเลียออกมาดุนดันให้ผมต้องอ้าปากเพื่อรับมันเข้ามาเกี่ยวกระหวัดกับเรียวลิ้นของผม ผมใช้มือยันขอบอ่างเอาไว้แต่ก็ไม่ช่วยอะไร ทันทีที่ผละริมฝีปากออกจากกันตัวของผมก็ถูกดึงรั้งจนลงมานั่งอยู่ในอ่างกับอีกคน ตัวของผมเปียกชุ่มทั้งตัวเพราะเสื้อผ้าที่ยังไม่ได้ถอดแต่ไม่มีเวลาจะโวยวายอะไร มือหน้าจับใบหน้าของผมให้หันไปหาแล้วมอบจุมพิตให้อีกครั้ง ความร้อนชื้นเข้ามาสำรวจโพรงปากผมครั้งแล้วครั้งเล่าตัวของผมถูกจับให้หันหน้าเข้าหาอีกคนไม่ต้องบอกก็รู้ว่าตอนนี้ผมกำลังนั่งทับบางอย่างที่กำลังตื่นตัวอยู่ใต้น้ำ

“อื้ออออ” ผมครางประท้วงในลำคอเมื่อเริ่มขาดอากาศหายใจทำให้คิงถอนริมฝีปากออกไป ผมหอบหายใจนิดหน่อย จูบจาบจ้วงของอีกคนแทบจะดูดวิญญาณของผมออกไปด้วย ผมสบตากับคิงที่มีหายใจหนักออกมาไม่แพ้กัน สายตาของคิงบ่งบอกความต้องการที่กำลังพุ่งขึ้นอย่างชัดเจน ผมเข้าใจดีเพราะผมเองในตอนนี้ก็คงไม่ต่างกัน มือหนารั้งชายเสื้อของผมแล้วดึงขึ้นจนพ้นหัวก่อนจะเขวี้ยงทิ้งไปแถวๆนั้น เช่นเดียวกันกับกางเกงที่ผมใส่อยู่กำลังถูกอีกคนดึงทึ้งจนหลุดไป ทั้งหมดแล้วไม่ยากอย่างที่คิดเพราะได้รับความร่วมมือจากผมเป็นอย่างดี ร่างกายเปล่าเปลือยแนบชิดอยู่ภายใต้น้ำ อะไรๆของเราที่เสียดสีกันไปมาจนเริ่มปวดหนึบ

“พี่ควิน” เสียงทุ้มแหบต่ำที่เอ่ยเรียกชื่อของผมออกมา สายตาเว้าวอนและมือหนาที่ปัดป่ายไปทั่วแผ่นหลังของผมเพื่อรู้ว่าอีกคนต้องการอะไร

“ว่าไงครับ” ผมตอบกลับไปพร้อมกับวางมือลงบนแผ่นอกหนาของคิงก่อนจะลูบไล้ต่ำลงเรื่อยๆ

“อึก พี่ควิน” ผมรู้ดีว่าจะเกิดอะไรหลังจากนี้แต่ว่าพอได้เห็นสีหน้าคล้ายกับกำลังอดกลั้นของคิงมันก็ทำให้ผมอดใจไม่อยู่ ผมลากมือลงต่ำจนไปถึงแกนกายกลางลำตัวของอีกคน

“หึหึ” ผมเลื่อนมือข้ามผ่านจุดสำคัญไปโดยไม่ได้แตะต้องแต่กลับวนเวียนอยู่แถวนั้นทำให้คนตรงหน้าเริ่มขมวดคิ้วจ้องหน้าผมเขม็ง

“อย่าแกล้ง อึก กันแบบนี้นะพี่ควิน”

“พี่แกล้งอะไร หืม” ผมตอบกลับยิ้มๆคิงตอนนี้น่าแกล้งสุดๆจนผมหยุดตัวเองไม่อยู่แต่แล้วผมคงมาได้แค่นี้ ความอดทนของคิงน่าจะสิ้นสุดลงแล้ว มือใหญ่กว่าคว้ามือของผมแล้วนำไปวางที่กลางลำตัวที่ผมปัดผ่านไปมาอยู่หลายครั้ง ผมแอบตกใจกับความใหญ่โตที่ผมกำแทบไม่รอบนี้ ผมนิ่งค้างไว้เพราะตกใจแต่คิงคงจะเข้าใจว่าผมแกล้งอีกเช่นเคยถึงได้ตัดพ้อออกมาอย่างน่าเอ็นดู

“คนนิสัยไม่ดี” เป็นคำต่อว่าที่น่ารักจนผมใจอ่อน ผมขยับมือตัวเองเพื่อรูดรั้งแกนกายของอีกคน มืออีกค้างรั้งใบหน้าหล่อให้เข้ามาใกล้แล้วประกบจูบแลกเปลี่ยนเอนไซม์กันอีกครั้ง ผมแทรกลิ้นเข้าไปกวาดต้อนในโพรงปากของอีกคนก่อนจะต้องสะดุ้งเมื่อมือใหญ่จับแกนกายของผมไปกอบกุมไว้เช่นกัน

“อืมม” ผมผละริมฝีปากออกซบหน้าลงที่ซอกคอหนา แกนกายของผมถูกมือใหญ่รูดรั้งขึ้นลงเป็นจังหวะเดียวกันกับผม เสียงครางต่ำเล็ดลอดออกมาให้ได้ยินเป็นพักๆ จนเมื่อใกล้จะถึงปลายทางผมแทบจะคุมตัวเองไว้ไม่อยู่ มือใหญ่เลยรวบทั้งของผมและของตัวเองไว้ด้วยกัน

“จะ อึก จะออก อื้ออ”

“อืมม พี่ควิน”

“อ่ะๆ คิง เร็วๆ”

“อื้ม”

ผมกอดคอร่างสูงเอาไว้แน่นเมื่อจังหวะถูกเร่งให้เร็วขึ้น สติผมกระเจิดกระเจิงในสมองขาวโพลนจนคิดอะไรไม่ออก รับรู้เพียงความเสียวซ่านที่ถูกอีกคนมอบให้ เสียงครางที่ดังอยู่ข้างหูยิ่งทำให้อารมณ์พุ่งทะยานไปจนถึงขีดสุดจนวินาทีสุดท้ายที่ทุกอย่างทะลักทลายออกมา

“อ่ะ อ๊ะ อื๊อออ~”

“อ่าาาา”

ผมหอบเหนื่อยอย่างหมดแรง เซ็กส์ที่เคยมีมานับครั้งไม่ถ้วนยังเทียบอะไรกับตอนนี้ไม่ได้ ผมไม่อยากจะนึกไปถึงตอนที่จะต้องมีอะไรกับคิงจริงๆ ถ้าถึงตอนนั้นผมไม่ต้องตายคาอกไปเลยหรือไง ผมพักหายใจไม่กี่นาทีก็รู้สึกถึงอะไรบางอย่างที่ดุนดันอยู่ที่หน้าขาผมอีกครั้ง

เอ่อ จะไม่ ไม่เหนื่อยเลยหรอ

ผมค่อยๆเงยหน้าขึ้นมาแล้วก็ต้องพบกับสายตาของอีกคนที่จ้องผมอยู่ก่อนแล้ว สายตาของคิงยังคงเต็มไปด้วยความต้องการ อาจจะมากกว่าในตอนแรกด้วยซ้ำไปผมกลืนน้ำลายเหนียวๆลงคอก่อนจะเบนหน้าหนีเพราะทนสู้สายตาอีกคนไม่ไหว

“พี่ควิน” น้ำเสียงแหบพร่าบ่งบอกถึงสิ่งที่ต้องการชัดเจน ผมกัดปากตัวเองแน่นแล้วค่อยๆเบนสายตากลับไป

“อือ”

“ไม่พอ”

“อือ”

“.....ได้มั้ยครับ”

ยังไงสักวันมันก็ต้องมาถึง ผมก้มหน้าจนคางชิดอกเพื่อซ่อนความเขินอายของตัวเอง

“.....อือ”

ฟึ่บ

สิ้นคำตอบของผมคิงพยุงตัวลุกยืนขึ้นผมนั่งคล่อมตักอยู่จึงต้องรีบเกี่ยวขาเข้าที่เอวสอบไว้ทันทีเพราะกลัวตก ได้ยินเสียงหัวเราะเบาๆออกมาน่าหมั่นไส้แตาผมก็ทำได้แค่ซุกหน้าตัวเองไว้ที่ไหล่เท่านั้น ร่างสูงก้าวขึ้นเตียงมาปล่อยผมลงบนที่นอนช้าๆ ตอนนี้ไม่มีอะไรบดบังร่างกายของเราไว้แสงไฟกลางห้องยิ่งทำให้ทุกอย่างชัดเจนแบบเอชดี ผมหวั่นใจเมื่อเห็นกลางกายของคิงที่กำลังแข็งขืนอย่างเต็มตา มันขยายใหญ่กว่าปกติจนผมกลัว มันจะต้องเอ่อ เจ็บมากแน่ๆ

“คิงจะไม่ทำให้พี่เจ็บ” สีหน้าของผมคงจะบอกทุกอย่าง คิงก้มลงมากระซิบที่ข้างหู ไม่รู้ว่าเพราะอะไรแต่คำพูดนั้นทำให้ความกลัวผมหายไปเกินครึ่ง ผมมองตาคิงที่ตอนนี้มันมีความหนักแน่นอยู่ในนั้น ผมพยักหน้าให้คิงก่อนจะได้รับจุมพิตกลับมา ร่างสูงลุกขึ้นเดินโทงเทงแบบนั้นไปที่หน้ากระจกคว้ากระปุกวาสลีนที่วางอยู่มาแล้วเดินไปปิดไฟที่ข้างประตู

“ถ้าปิดไฟพี่อาจจะกลัวน้อยลง” ผมอยากจะร้องไห้ให้กับความใส่ใจนี้และมันก็จริงอย่างที่คิงบอก ถ้าหากว่าผมจะต้องเห็นตอน อ่า นั่นแหละ ผมอาจจะกลัวมากกว่านี้ แต่เพราะนี่เป็นช่วงเวลาหัวค่ำแสงที่ลอดผ่านม่านเข้ามาก็มากพอที่จะทำให้เห็นทุกอย่างได้ถึงแม้จะไม่ชัดเจนเท่าไหร่ก็ตาม

ใจผมเต้นแรงเมื่อร่างสูงเข้ามาใกล้ร่างกายกำยำมีกล้ามหน้าท้องที่เรียงตัวสวยจนละสายตาไม่ได้ คิงขึ้นมาคล่อมตัวผมไว้บนเตียงก่อนจะเริ่มสานต่อภารกิจที่ค้างไว้ ริมฝีปากของผมถูกครอบครองอีกครั้งลิ้นร้อนชื้นแทรกเข้ามาในโพรงปากควานหาลิ้นของผมและเกี้่ยวต้อนไปมา นิ้วข้างนึงลูบไล้ตั้งแต่ลำคอลงไปหยุดที่เม็ดทับทิมบริเวณหน้าอก

“อึก” นิ้วยาวบดขยี้ตุ่มไตจนชูชัน ส่วนล่างที่แทรกมาอยู่ตรงหว่างขาทิ้งตัวลงมาบดเบียดกันจนเริ่มตื่นตัว ลิ้นร้อนละจากริมฝีปากลากเลียลงมาที่ลำคอ ความเจ็บแปลบที่เกิดขึ้นแสดงว่าอีกคนคงจะทิ้งรอยไว้ให้ได้ดูต่างหน้าเป็นแน่ ผมกอดก่ายอีกคนเอาไว้เพื่อยึดเหนี่ยวเมื่อยอดอกถูกกลืนหายไปความเสียวซ่านเข้าปะทะจนกลั้นเสียงไว้ไม่ไหว คนที่ครอบครองเขาไว้หยอกล้อเข้าด้วยการละเลงลิ้นรัวเร็วที่เม็ดทับทิมของผม

“อ๊ะ อ๊ะ” ยิ่งผมครางออกมาอีกคนยิ่งหยอกล้อหนักหน่วงสลับข้างดูดดึงทิ้งยอดอกของผมจนมันบวมช้ำอย่างเห็นได้ชัด นิ้วเรียวยังคงบดขยี้ข้างที่ไม่ได้ครอบครองด้วยริมฝีปากอย่างต่อเนื่อง ช่วงล่างที่ขยับเคลื่อนเสียดสีไปมาไม่หยุดจนเริ่มปวดหนึบที่กลางกาย

“พี่สวย” คิงยืดตัวขึ้นตรงจับขาของผมให้แหวกออกกว้างแล้วพูดออกมาพร้อมกับแลบลิ้นเลียริมฝีปากของตัวเอง หน้าของผมตอนนี้ร้อนจนแทบไหม้ ผมพยายามดันขาตัวเองให้หุบเข้าหากันแต่ยิ่งทำอีกคนก็ยิ่งจับให้กว้างมากกว่าเดิม

“อื้อ คิง” ผมเรียกชื่อคิงเพื่อขอร้องให้หยุดมองและทำท่าทางน่าอายแบบนี้ได้แล้ว คิงขยับเอวดันแกนกายของตัวเองให้ถูไถกับแกนกายของผมเบาๆแต่เพียงแค่นั้นความเสียวซ่านก็โจมตีเข้ามาเต็มๆ

“อืมม”

“อ่า พี่ควิน” ร่างสูงขยับตัวลงมาจับขาผมให้กว้างก่อนที่ใบหน้าของคิงจะเข้ามาใกล้กับสิ่งนั้น

“เห้ย! คิง จะทำอะ อ๊ะ อ๊า อื๊ออ”

ผมที่กำลังตกใจยังไม่ทันจะห้ามปรามอะไรคิงก็ครอบปากลงมาที่แท่งร้อนของผม การจู่โจมโดยไม่ได้ตั้งตัวของคิงทำให้ผมคุมสติไม่ได้อีกต่อไป ภายในปากของคิงทั้งอุ่นและชื้นจนแทบจะแตก ใบหน้าหล่อที่ขยับขึ้นลงอยู่ที่หว่างขามันทำให้ผมเบลอไปหมด ผมได้แต่ร้องครางจะขาดใจ มือที่ดันหัวอีกฝ่ายเปลี่ยนเป็นขยุ้มผมอีกคนไว้เด้งเอวสวนไปตามจังหวะ

“ฮ่ะ ฮ่ะ  อ่ะ อ๊ะ คิง จะ อ่ะ ออก!”

พออีกคนรับรู้ว่าผมใกล้จะถึงกลับยิ่งเร่งจังหวะให้เร็วยิ่งขึ้น ลิ้นร้อนลากเลียไปตามความยาวก่อนจะกลืนกินเข้าไป

“อื้อ คิง ออก ป่ะ ไป อ่ะ”

ถึงจะบอกไปแบบนั้นแต่คิงยิ่งรูดรั้งเร็วกว่าเดิม ยิ่งใกล้เห็นปลายทางผมเริ่มหน้ามืดตามัวเด้งเอวกระแทกแกนกายเข้าออกภายในปากของอีกคนโดยไม่สนใจ ไม่กี่นาทีต่อมาตัวผมกระตุกสองสามทีก่อนที่ของเหลวสีขุ่นจะพุ่งออกมา คิงดูดกลืนทุกหยาดหยดลงไปอย่างไม่นึกรังเกียจ ผมนอนหมดแรงอยู่แบบนั้นพอเหลือบมองอีกคนเห็นคิงกำลังยุ่งอยู่กับกระปุกที่หยิบมา

“คิง มานี่” ผมเรียกให้คิงเข้ามาใกล้ๆเจ้าตัวก็เขยิบตัวคล่อมทับผมไว้ ผมดึงอีกคนให้ทาบทับลงมาแล้วกอดเอาไว้แน่น ใบหน้าคมซบลงที่ไหล่บาง ฝลมหายใจรินรดอยู่บริเวณลำคอ

“พี่ควิน”

“พี่ขอโทษนะเมื่อกี๊นี้”

“ไม่เป็นไรครับ” คิงยันลำตัวขึ้นมาทำให้ตอนนี้ใบหน้าของเราห่างกันเพียงไม่กี่เซน ผมยกมือขึ้นปาดคราบขาวขุ่นที่เปื้อนมุมปากคิงออก อีกฝ่ายมองตามมือผมแล้วอมยิ้ม

“ยิ้มอะไร ทีหลังอย่ากลืนเข้าไปนะรู้เปล่า”

“หวาน”

“มันจะไปหวะ อุ๊บ!”

ริมฝีปากของผมถูกปิดไม่ให้พูดต่อ ผมปรับองศาใบหน้ารับจูบของคนตรงหน้าก่อนจะต้องสะดุ้งเมื่อรู้สึกถึงความเย็นบริเวณช่องทางด้านหลัง คิงมอบจุมพิตให้ผมโดยไม่ปล่อยให้ผมได้มีโอกาสพูดใดๆทั้งสิ้น ความเย็นที่วนเวียนอยู่ที่ช่องทางด้านหลังทำให้ผมเกร็งโดยไม่รู้ตัว นิ้วของอีกคนกดไปรอบๆรอยจีบนั้นสักพักเพื่อคลายตัวค่อยๆกดแทรกนิ้วแรกเข้ามาช้าๆ

“อื้อ” เพียงแค่นิ้วแรกแค่ส่วนเดียวมันก็อึดอัดไปหมด

“คลายตัวหน่อยพี่ควิน อย่าเกร็งนะครับ”

แค่นิ้วแรกยังติดขนาดนี้แล้วไอ้นั่นมันจะเข้าไปได้ยังไง ผมลองพยายามผ่อนลมหายใจเข้าออกคลายความเกร็งที่ช่องทางนั้นไป อาจจะเพราะมีตัวช่วยทำให้นิ้วแรกเข้าไปได้สำเร็จ คิงขยับนิ้วเดียวนั้นเข้าออกสักพักเพื่อให้ผมคุ้นชิน

“อย่างเกร็งนะ”

นิ้วที่สองถูกสอดเข้ามาเพิ่ม ความอึดอัดที่มีก็ยิ่งมากขึ้นไปอีก ผมพยายามผ่อนคลายทำให้นิ้วที่สองเข้ามาได้ง่ายกว่าตอนนิ้วแรก คิงค่อยๆขยับเข้าออกไปมา มันอึดอัดแต่ผมก็พยายามทนให้มากที่สุด จนเมื่อนิ้วที่สามเริ่มแทรกเข้ามา มันแน่นจนคิงต้องดึงออกแล้วใช้เจลเข้าช่วยอีกครั้ง นิ้วทั้งสามที่อยู่ภายในตัวผมเพื่อขยายช่องทางมันทำให้ผมรู้สึกเหมือนหายใจไม่ออก ผมก้มลงมองที่ช่องทางก่อนจะพบว่าคิงเองก็อดทนไม่ต่างกัน แกนกายแข็งขืนเครียดจนเส้นรอบๆนั้นผุดขึ้นมาจนน่ากลัว สีหน้าที่อดกลั้นทำให้ผมตัดสินใจได้

“เข้ามาเถอะ”

“แต่ว่ามัน”

“พี่ไหว”

ผมยิ้มให้คิงเพื่อยืนยันว่าผมไหวทั้งที่จริงๆในใจผมก็แอบหวั่นนิ้วทั้งสามถูกถอนออกไป ผมรู้สึกวูบโหวงเล็กน้อย คิงยืดตัวขึ้นจนสุดจับขาข้างนึงของผมให้กางออกก่อนจะจ่อแท่งร้อนของตัวเองที่ชโลมเจลๆว้แล้วที่ช่องทางของผม

“ถ้าไม่ไหวพี่บอกนะ”

“อือ อึก อื้อออ!!!”

เพียงแค่ส่วนหัวที่ดุนดันเข้ามาผมก็ผวาคว้าตัวของคิงมากอดไว้ มันเจ็บจนน้ำตาซึม เหมือนร่างกายจะฉีดขาดออกจากกัน ทั้งที่เตรียมตัวขนาดนี้แล้วแต่เหมือนไม่ได้ช่วยอะไรเพราะขนาดที่เตรียมไว้เทียบไม่ได้กับของจริงที่คาอยู่ตอนนี้

“ชู่ว ใจเย็น อ่า พี่ควิน อย่ารัดคิงแน่นแบบนี้”

“มัน อึก เจ็บ”

“ไม่ร้องนะครับ คิงขอโทษนะ ไม่เป็นไรไม่ทำแล้วครับ”

คิงใช้มือข้างนึงมาปาดน้ำตาของผมซึ่งผมไม่รู้เลยว่าตัวเองร้องไห้ตั้งแต่เมื่อไหร่ สีหน้าทรมานของคิงที่ผมเห็นทำให้น้ำตาผมไหลออกมามากกว่าเดิม

“ไม่เป็นไร เข้ามาเถอะ”

“พี่เจ็บ”

“ไม่เป็นไร พี่ไหว”

“แน่นะ”

“ครับ”

“ถ้าไม่ไหวจริงๆบอก”

ผมพยักหน้ารับรู้ แท่งร้อนเริ่มขยับเข้ามาอีกครั้ง ผมกอดก่ายคิงเอาไว้แน่น ความยาวที่เข้ามาลึกขึ้นเรื่อยๆจนผมทนไม่ไหว ไหล่หนาตรงหน้าถูกผมใช้ระบายอารมณ์เต็มที่ ผมกัดลงไปจนรู้สึกถึงรสเลือดในปาก คิงดันตัวเองฟันฝ่าความคับแน่นเข้ามาเรื่อยๆจนหยุดลงในที่สุด

“อ่าาา พี่ควิน เข้าไปหมดแล้วครับ”

“ฮื้ออ คนอะไรทำไมมันอะไรขนาดนั้นอ่ะ!”

“หึหึ โอ๋ๆ ขอโทษที่มันขนาดนั้นนะครับ”

ผมหมั่นไส้รอยยิ้มของอีกคนจนกัดลงที่ไหล่ตรงหน้าอีกรอบแต่เจ้าของไหล่เหมือนไม่ได้รู้สึกอะไร ผมหายใจเข้าออกลึกๆสองสามทีคนด้านบนก็เริ่มขยับตัว สองแขนแกร่งยันเตียงเอาไว้โดยกักตัวผมไว้ด้านในก่อนที่ช่วงล่างจะเริ่มขยับเป็นจังหวะเนิบนาบ

“อืมม”

ผมครางในลำคอเพราะความรู้สึกเริ่มโจมตี เมื่อร่างกายเริ่มคุ้นชิ้น เอวสอบก็เริ่มขยับเข้าออกด้วยจังหวะที่เร่งมากขึ้น แรงกระแทกกระทั้นที่เพิ่มขึ้นจนผมตัวสั่นตัวคลอนไม่หยุด หยาดเหงื่อของคนด้านบนตกกระทบลงมาบนตัวผม เสียงหอบครางต่ำยิ่งให้ทำอารมณ์พุ่งพล่าน คนด้านบนหยัดตัวขึ้นก่อนจะจับขาผมข้างนึงพาดบ่าแล้วจะสาวเอวเข้าออกต่อแบบไม่ให้เสียจังหวะ

“อ๊ะ อ๊ะ อ๊า” มือทั้งสองข้างของผมดึงทึ้งผ้าปูที่นอนจนยับยู่ยี่แทบจะขาดติดมือมา ช่องทางของผมที่ได้รับการเสียดสีมันร้อนจนเหมือนจะละลายให้ได้

“อ่าาา พี่ควิน แน่นโคตร” คิงครางออกมาและดันแก่นกายให้เข้ามาลึกจนสุด

ความเสียวปะทะเข้ามาไม่หยุด ผมทำได้แค่จิกเล็บกับที่นอนและครางออกมาเพื่อระบาย คิงจับสะโพกผมขยับไปมาตามจังหวะการเข้าออก ผมไม่ได้แตะต้องของตัวเองเลยแต่กลับรู้สึกดีจนบอกไม่ถูก ความเจ็บปวดในคราแรกหายไปราวกับไม่เคยเกิดขึ้น

“อื้อ คิง ช้า ช้าลง หน่ะ หน่อย”

“พี่ควิน พี่ควิน อืมม”

ไม่ใช่เพียงแต่ไม่ทำตามคำขอของผมแต่คิงกลับเร่งจังหวะให้รัวเร็วจนผมแทบจะหายใจไม่ทัน แรงกระแทกแรงจนเตียงขยับ แท่งร้อนที่ขยับเข้าออกโดนบางจุดที่ทำให้ผมต้องกรีดร้องออกมา

“อ่า คิง ตรงนั้น อ่ะ อ๊ะ!”

คิงปล่อยขาของผมลงแล้วจับตัวผมพลิกคว่ำจนหน้าแนบกับหมอนโดยที่ช่องทางนั้นยังเชื่อมต่อกัน ผมยันตัวขึ้นมาเอี้ยวมองไปด้านหลังก่อนที่ทาบทับลงมาแนบกัน พรมจูบทำรอยไปทั่วแผ่นหลังของผม แกนกายรัวเร็วเข้าออกกระแทกโดนจุดเดิมซ้ำๆ เสียงเนื้อกระทบกันดังไปทั่วห้อง

“คิง อื้ออ”

“พี่ควิน อืมม ของคิง”

“คะ คิง จูบ จูบหน่อย”

ร่ายสูงจับหน้าผมให้รับจูบที่มอบมาให้ เรียวลิ้นทั้งคู่เกี่ยวกระหวัดรัดต้อนกันไปมา น้ำใสไหลลงตามมุมปาก จูบจ้วงขโมยลมหายใจของกันและกัน ก่อนที่ผมจะผละหน้าออกมาเมื่อใกล้จะทนต่อไปไม่ไหว

“อ๊าา คิง คิง”

“พร้อมกันนะพี่ควิน”

คิงกอดรัดตัวผมไว้แนบใบหน้าลงบริเวณไหล่ผมเอวสอบขยับเข้าออกรุกเร้ารุนแรงจนผมแทบจะพยุงตัวไว้ไม่ได้ ผมพึมพำชื่อคิงออกมาราวกับใจจะขาด เช่นเดียวกับที่อีดคนครางชื่อผมออกมาไม่หยุด แรงกระแทกรัวเร็วทิ้งท้ายก่อนที่ธารน้ำอุ่นจะพุ่งเข้ามาในตัวผม

“อ่ะ อ่ะ อือ อื๊ออออออ”

“อ่าาาา พี่ควินน”

ผมทิ้งตัวนอนราบไปกับที่นอนโดยที่มีอีกคนทาบทับตามลงมาไม่ห่าง กลิ่นคาวคละคลุ้งอบอวลไปทั่ว เสียงลมหายใจหอบเหนื่อยไม่สามารถแยกแยะได้ว่าเป็นของใคร ใช้เวลาหงายนาทีกว่าจะเข้าสู่ภาวะปกติ ผมค่อยๆพลิกตัวทำให้ส่วนนั้นหลุดจากการเชื่อมต่อส่งเสียงน่าอายออกมา
ถึงแม้จะพลิกตัวมานอนหงายแต่ก็ยังไม่พ้นร่างของอีกคนที่ตามมาทาบทับไว้ ผมยกมือขึ้นลูบกลุ่มผมนิ่มที่ซบอยู่ที่อกเบาๆ

“พี่ควิน”

“หืม”

“.....พี่ควิน”

“ครับ”

“ไม่พอ”

“ห้ะ”

ผมถึงกับต้องหก้มหน้ามามองหน้าของคนที่บอกว่าไม่พอ คิงที่นอนซบอกผมอยู่เงยหน้ามาส่งตาปริบๆให้ผม

“นะ”

“เหนื่อยอ่ะ”

“นะครับ”

“.....”

ร่างสูงพลิกตัวขึ้นมาทาบทับร่างผมไว้อีกครั้ง มองหน้าทำตาหมาหงอยและคำขอร้องแบบนี้ผมก็ไม่เคยจะชนะได้เลยสักครั้ง แกนกายที่เริ่มกหัวให้เห็นอีกครั้งทำให้ผมต้องก้มหน้ารับชะตาชีวิตต่อไป

“ขอคิงนะครับ”

ผมยิ้มให้เด็กมักมากตรงหน้าก่อนจะคว้าคอเจ้าตัวลงมาปิดปากซะ แล้วบทเพลงก็เริ่มบรรเลงขึ้นอีกครั้ง

อีกครั้ง

อีกครั้ง

และอีกครั้ง




















XXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXX
มาละจ้า ถือว่านี่คือตอนไถ่โทษ หวังว่าทุกคนอ่านแล้วจะไม่ถือโทษโกรธที่เอิร์ทมาลงช้านะคะ 55555555555555555555555555 สรุปตอนนี้ก็เรียบร้อยไปแล้วจ้า พี่ควิ๊นนนนน เอิร์ททถ่ทเทมากมายตอนนี้ ตีสี่แล้วเนี่ยยังไม่ได้นอน!!! 555555555555 ขอบคุณทุกคอมเมนท์ทุกรีวิวทุกคนที่เข้ามาอ่านเลยนะคะ ดีใจมากที่ทุกคนคอยเป็นกำลังใจให้ ขอบคุณมากๆนะคะ รักทุกคนเลยน้าชุ้บๆ
ปล.ใครเล่นทวิตเอิร์ทฝาก #คิงควิน ด้วยนะค้าา

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ...แค่คุณ... ตอนที่ 16 up [14/5/61]
« ตอบ #79 เมื่อ: 14-05-2018 12:32:54 »





ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
Re: ...แค่คุณ... ตอนที่ 16 up [14/5/61]
«ตอบ #80 เมื่อ14-05-2018 13:52:38 »

 :pig4: :pig4: :pig4:

สรุปกี่รอบอ่ะ?   อิอิ

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
Re: ...แค่คุณ... ตอนที่ 16 up [14/5/61]
«ตอบ #81 เมื่อ14-05-2018 15:48:11 »

 :haun4: :haun4: :haun4: :haun4:

ออฟไลน์ poppycake

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2670
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-4
Re: ...แค่คุณ... ตอนที่ 16 up [14/5/61]
«ตอบ #82 เมื่อ14-05-2018 17:52:16 »

คิงกินพี่คลินไปหมดล้าววววววว -.,-

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
Re: ...แค่คุณ... ตอนที่ 16 up [14/5/61]
«ตอบ #83 เมื่อ14-05-2018 18:14:55 »

แค่ควีน ..... แค่คิง    :hao5: :sad4: :heaven

ออฟไลน์ ammchun

  • Don't Worry,Be Happy
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1389
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-4
Re: ...แค่คุณ... ตอนที่ 16 up [14/5/61]
«ตอบ #84 เมื่อ15-05-2018 01:51:07 »

เรียบร้อยโรงเรียนคิงส์ :katai3: :katai3:

ออฟไลน์ netich

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 227
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
Re: ...แค่คุณ... ตอนที่ 16 up [14/5/61]
«ตอบ #85 เมื่อ15-05-2018 05:07:54 »

 :katai2-1: :katai2-1:

ออฟไลน์ punchnaja

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3354
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +383/-5
Re: ...แค่คุณ... ตอนที่ 16 up [14/5/61]
«ตอบ #86 เมื่อ15-05-2018 18:58:55 »

มันส์อ่ะเรื่องนี้

ออฟไลน์ earthearthx

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 26
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
Re: ...แค่คุณ... ตอนที่ 17 up [28/5/61]
«ตอบ #87 เมื่อ28-05-2018 00:21:04 »

ตอนที่ 17




พาร์ท ควิน



แสงแดดที่ลอดผ่านม่านเข้ามาในยามสายทำให้ร่างบางที่นอนอยู่บนเตียงขยับตัวหลบหลีกแสงที่ตกกระทบใบหน้าแต่นั่นก็ยังไม่ใช่สิ่งที่ปลุกให้ผมตื่นจากนิทรา เสียงโครมครามจากนอกห้องนอนต่างหากที่ทำให้ผมต้องตื่นขึ้น
“โอย” ผมโอดครวญเบาๆเมื่อจะลุกขึ้นนั่งความปวดจากส่วนนั้นแล่นริ้วขึ้นมาตามไขสันหลัง ผมนอนลงบนที่นอนตามก่อนจะปรับโฟกัสสายตาแล้วมองไปรอบห้อง มองจนทั่วก็ไม่เจออีกคนที่หลับไปพร้อมกันแต่ว่าคงไม่ต้องหาเพราะเจ้าตัวน่าจะเป็นเจ้าของเสียงที่ดังอยู่ข้างนอกนั่นแหละ ผมค่อยๆลุกขึ้นนั่งช้าๆอีกครั้ง รู้สึกปวดเมื่อยไปหมดทั้งตัว ผมก้มลงสำรวจตัวเองตามร่างกายที่ถูกอีกคนชำระล้างทำความสะอาดให้แล้วเรียบร้อยเพราะผมจำได้ว่ารอบสุดท้ายนั้นถูกออดอ้อนในห้องน้ำตอนพาไปล้างตัว ภาพเมื่อคืนลอยวนเวียนอยู่ในหัวทีละฉากจนผมอดจะหน้าร้อนขึ้นมาไม่ได้
“ทำไปจนได้” ผมส่ายหน้าไล่ภาพลามกในหัวทิ้งไปแล้วลองพยุงตัวยืนขั้นช้าๆ เคยได้ยินว่าครั้งแรกมันเจ็บจนเดินแทบไม่ได้นี่ผมเชื่อแล้วครับว่าจริงแต่อาจจะเพราะว่าเมื่อคืนอีกคนอ่อนโยนกับผมขนาดนั้นร่างกายเลยไม่แย่อย่างที่คิดไว้ ผมเดินได้แต่ค่อนข้างรู้สึกเสียดนิดหน่อย ขาสั่นเล็กน้อยแต่ไม่ได้ถึงขนาดเดินไม่ได้ ผมก้าวไปห้องน้ำอย่างทุลักทุเล หือ? นั่นผมหรอ! ผมยืนตะลึงอึ้งอยู่ที่หน้ากระจก ร่องรอยจากเมื่อคืนเต็มไปทั่วทั้งตัวไม่เว้นแม้แต่หน้าท้อง จริงหรอวะ เมื่อคืนทำไมไม่เห็นจะรู้ตัวเลย อา แย่ล่ะ อย่าให้ใครเห็นสภาพนี้เด็ดขาดเลย....

ผมแค่ล้างหน้าแปรงฟันแล้วเดินออกมาด้านนอก ตามหาที่มาของเสียงที่ดังมาตลอดหลายนาที ผมกอดอกพิงประตูมองร่างสูงคุ้นตาที่ทำอะไรบางอย่างอยู่ที่ครัว ผมยิ้มเมื่อเห็นท่าทางงกๆเงิ่นๆหันรีหันขวางใครดูก็รู้ว่าคิงคงไม่คุ้นชินกับการเข้าครัวเลยสักนิด ผมเดินไปใกล้ๆแต่เพราะอีกคนหันหลังอยู่เลยไม่สังเกตเห็นผมแถมผมยังเดินช้าเหมือนย่องมาเลยไม่มีแม้แต่เสียงเดินให้ได้ยิน

“ทำอะไรอยู่”

เคร้ง

พอได้ยินเสียงผมคิงก็สะดุ้งจนทำทัพพีในมือหล่น ทำเอาผมตกใจไปด้วย คิงหมุนตัวมามองผมเพียงครู่เดียวแล้วก็หลบตาหมุนตัวกลับไปเก็บทัพพีไปล้างต่อ ผมชะโงกหน้าดูหม้อที่คิงทำไว้แล้วก็ได้แต่สงสัย

“ต้มน้ำ? ต้มทำไมอ่ะกระติกน้ำร้อนก็มีหนิ”

“จะทำโจ๊ก”

“ห้ะ โจ๊ก?”

“อือ”

ทำโจ๊กเนี่ยนะ คิงทำโจ๊กเนี่ยนะ! ผมยังไม่หายสงสัยก็ว่าจะอ้าปากถามต่อแต่ใบหูแดงๆของคนหันหลังทำให้ผมชะงัก หรือว่าจะทำให้ผม?

“หึหึ ทำให้พี่หรอครับ” ผมเดินเข้าไปยืนซ้อนด้านหลังวางคางเกยบ่าอีกคนแล้วถามออกไป

“รู้แล้วยังจะถามอีก”

“ทำเป็นหรอเราน่ะ”

“ไม่เป็น”

“อ้าว”

ผมผละตัวออกจากอีกคนพร้อมกับที่คิงหันกลับมา น้องมองหน้าผมแต่แค่สบตาแปบเดียวก็เบนสายตาหนีไป ผมมองเลยไปด้านหลังเห็นหม้อสองสามใบวางกองไว้และผมก็มั่นใจว่าผมไม่ได้เป็นคนใช้หม้อนั่นแน่ๆ แล้วทำไมมากองอยู่นั่นได้ล่ะ

“แล้วนั่นหม้ออะไรเยอะแยะอ่ะ”

“ตอนแรกจะทำข้าวต้มให้พี่แต่มันทำไม่ได้”

โอ้ยยย ผมฟังคำตอบแล้วอยากจะตะโกนคำว่าเอ็นดูออกมาดังๆ คิงทำหน้าหงอยลงนิดหน่อยตอนที่บอกผมว่าทำไม่ได้ ผมเลยยิ้มแล้วลูบหัวปลอบใจไอ้ลูกหมาตรงหน้าไป

“แล้วงั้นจะทำโจ๊กได้หรอ”

“ซื้อมาสองซอง”

ผมมองตามสายตาของคิงไปที่โจ๊กสองซองที่บอก อ๋อ เพราะงี้ถึงได้ต้มน้ำสินะ เอ๊ะ แต่กดน้ำร้อนเฉยๆก็ได้นี่หว่า สงสัยคิงจะเห็นว่าผมมองหม้อที่ต้มน้ำสลับกับกระติกน้ำร้อนเลยชิงพูดออกมาก่อน

“กะจะใส่ไข่กับหมูให้ด้วย”

“อ๋อ แต่ทำได้หรอเดี๋ยวพี่ทำเองก็ได้นะ”

“พี่ไม่เป็นอะไรหรอ”

คำถามของคิงทำให้ภาพเมื่อคืนวิ่งเข้าสู่สายตาผมอีกครั้ง ผมรู้สึกเหมือนเลือดทั้งตัวมากองรวมกันอยู่ที่ใบหน้าแต่เหมือนกับว่าไม่ใช่ผมคนเดียวที่รู้สึกแบบนั้น คนตรงหน้าของผมก็หน้าแดงไม่ต่างกันจนผมแปลกใจ ผมต้องเป็นคนที่ต้องอายไม่ใช่หรอ แล้วน้องนี่จะเขินผมทำไม ยิ่งพอสบตากันกลายเป็นว่าอีกคนหลบตาผมก่อนตลอด พอเห็นแบบนี้แล้วความอายของผมก็หายไปเหลือไว้แต่ความอยากแกล้งคนขี้เขินตรงหน้าซะแล้วสิ

“อือ พี่ไม่เป็นอะไรแล้วล่ะ มันก็ไม่ได้เจ็บมากอย่างที่คิด”

“จริงนะ”

“ครับ....ก็คิงดูแลพี่ดีขนาดนั้นนี่เนอะ” ผมขยับตัวเข้าไปพูดท้ายประโยคใกล้ใบหน้าของคิง ทำให้หน้าหล่อๆยิ่งแดงเข้าไปอีก ยิ่งเห็นแบบนั้นผมก็ยิ่งอารมณ์ดี

“พี่ควิน อย่าแกล้ง”

“ใครแกล้งกันล่ะ พี่พูดจริงนะ”

“พี่ควิน”

“ครับ”

ยิ่งผมพยายามสบตาคิงก็ยิ่งหลบตาไปเรื่อยๆ คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันแต่สีเลือดฝาดยังคงแต่งแต้มอยู่บนใบหน้า ผมยิ้มตามกว้างขึ้นทุกที ในใจตอนนี้มีแต่คำว่าน่ารักเต็มไปหมด บอกตรงๆว่าผมก็ไม่เข้าใจว่าทำไมคิงถึงได้เขินผมแบบนี้ ผมรู้ว่าคิงคงมีเซ็กส์มาไม่ใช่น้อยเพราะงั้นก็ไม่น่ามามีอาการแบบนี้ ส่วนตัวผมผ่านผู้หญิงมาบ้างแต่นี่ก็เป็นครั้งแรกที่ผมยอมให้ใครสักคน ไอ้อาการแบบนี้ผมมากกว่ามั้ยที่ควรเป็นน่ะ แต่เพราะความน่ารักทำให้ตอนนี้ผมอยากแกล้งมากกว่าจะมาหาคำตอบอ่ะนะ

“พี่ควิน หลบไป”

“ทำไมครับ พี่มะ อุ๊บ!”

ตัวผมถูกรั้งเอวเข้าไปก่อนริมฝีปากของอีกคนจะประกบเข้ามาเรียวลิ้นสอดแทรกเข้ามาตวัดไปทั่วโพรงปาก ผมหลับตารับจูบที่ได้รับมา มือใหญ่เอื้อมไปทำอะไรสักอย่างด้านหลังก่อนจะพลิกร่างดันผมไปจนติดเคาเตอร์ด้านหลังตัวของผมถูกแขนแกร่งยกขึ้นไปนั่งด้านบนก่อนร่างสูงจะแทรกเข้ามาอยู่กลางหว่างขา ใบหน้าผมปรับเปลี่ยนองศาไปมาตามที่อีกคนต้องการจนผมเกือบจะหมดลมหายใจจึงได้ผละออกจากกัน

“บอกแล้วว่าอย่าแกล้ง....เพราะแค่เห็นพี่ในสภาพนี้มันก็แทบจะอดใจไม่ไหวอยู่แล้ว”

สายตาร้อนแรงของอีกคนมองสำรวจผมไปทั่วร่างกายทำให้ผมต้องมองตามสุดท้ายถึงจะเข้าใจว่าทำไมอีกคนถึงได้หลบตาผมตั้งแต่ผมออกมา ผมพึ่งเกทตอนนี้แหละว่าสภาพผมมันก็ล่อแหลมพอสมควร เสื้อเชิ้ตสีดำตัวยาวคลุมบ็อกเซอร์ที่ใส่อยู่ติดกระดุมไม่กี่เม็ด เผยให้เห็นรอยรักที่อีกคนทิ้งไว้ทั่ว โอเค ถ้าผมเจอคนรักในสภาพนี้ผมก็คงไม่ต่างกัน

“งั้นถ้าพี่ไม่แกล้งแล้วล่ะ”

“...ไม่ทันแล้ว”

“อื้ออ”

ริมฝีปากโฉบลงมาอีกครั้งเกี่ยวกระหวัดต้อนลิ้นร้อนไปทั่วทั้งปากไล้เลียลงมาตามสันกรามดูดเม้มลำคอของผมจนคาดว่ามันจะต้องมีร่องรอยมากขึ้นแน่ๆ ก่อนจะเลยเถิดมากไปกว่านี้ผมก็นึกขึ้นได้ว่ามีหม้อที่ต้มน้ำอยู่แต่พอเหลือบไปมองก็พบว่าแก๊สถูกปิดไปแล้ว คงจะเป็นตอนที่ถูกดันไปข้างหลังเมื่อกี๊สินะ ผมหลับตาพริ้มเคลิบเคลิ้มไปกับสัมผัสซุกซนของอีกคน พยายามจะทักท้วงให้หยุดแต่เสียงกลับไม่ออกไปอย่างที่คิดมีแต่เสียงครางในลำคอที่เล็ดลอดออกไป

“อืม ไหนว่าจะทำโจ๊กให้พี่...ไง”

“ไว้ค่อยกินนะครับ”

“อือ”

ตอนนี้ให้คิงกินพี่ก่อน

ถามว่าผมได้ตอบรับหรือปฏิเสธอะไรมั้ยก็ไม่ เพราะถูกปิดปากอีกครั้ง กระดุมเสื้อที่ติดไว้ถูกปลดทิ้งมือหนาลูบไล้ไปทั่วแผงอกบดขยี้ตุ่มไตที่ยังคงบวมช้ำมาจากเมื่อคืน ความเจ็บปนความเสียวทำเอาผมสับสนพล่าเบลอไปชั่วขณะ อยากจะขอให้อีกคนหยุดมือแต่ก็อยากเรียกร้องให้ทำมากขึ้น เป็นความย้อนแย้งที่ผมก็บอกไม่ถูก กว่าจะรู้ตัวกางเกงตัวบางที่ใส่อยู่ก็ถูกดึงไปกองที่ข้อเท้าแล้ว เวลาสายแบบนี้สว่างจนเห็นชัดไปเสียทุกอย่าง ใบหน้าที่อยู่ห่างกันเพียงคืบสะท้อนอารมณ์ออกมาทั้งหมด ความเซ็กซี่ตรงหน้าเกินกว่าจะบรรยายได้ ผมแลบลิ้นเลียริมฝีปากช้าๆเมื่อรู้ว่าความต้องการของตัวเองก็หยุดไม่ได้แล้วเช่นกัน มือข้างหนึ่งของผมวางบนเคาน์เตอร์เพื่อพยุงตัวส่วนอีกข้างเกี่ยวรั้งลำคออีกคนไว้ ลึกๆในใจบอกตรงๆว่ากลัวนิดหน่อยเพราะตรงนั้นยังรู้สึกเสียดแต่อย่างที่รู้ๆว่าผู้ชายมันควบคุมอารมณ์ยากยังไงถ้ามันเกิดขึ้นมาแล้วก็ต้องเอาออกให้ได้นั่นล่ะครับ
คิงดูดเม้มลงต่ำเรื่อยๆก่อนจะครอบครองหน้าอกของผมไว้ด้วยปาก เม้มและดูดดึงเม็ดทับทิมของผมจนต้องสูดปากเพื่อคุมอารมณ์ที่กำลังพุ่งสูง เรียวลิ้นดุนกันหยอกล้อจนผมต้องร้องขอให้อีกคนเลิกแกล้งกัน มุมปากอีกคนกระตุกยิ้มก่อนจะยกตัวขึ้นมามอบจุมพิตให้เป็นครั้งที่เท่าไหร่ไม่รู้ ผมขยุ้มกลุ่มผมดำสนิทแน่นเมืื่อมือหนาล้วงเข้าไปกอบกุมส่วนอ่อนไหวของผมไว้ในมือนิ้วเรียวลากลงต่ำไปกว่านั้นก่อนจะวนรอบช่องทางที่เมื่อคืนพึ่งถูกใช้งาน

“อึก...อา”

ผมหลุดครางออกมาเมื่ออีกฝ่ายกดนิ้วเข้าไป ช่องทางที่ยังคงคับแน่นบีบรัดนิ้วมือของคิงจนเสียงทุ้มต่ำสบถออกมา

“อา ให้ตายเถอะ เมื่อคืนทำไปขนาดนั้นแท้ๆ”

“อือ...เบา...หน่อย”

ผมบอกเมื่อคนตรงหน้าแทรกนิ้วเข้าออกรัวเร็วเพื่อเตรียมช่องทางให้พร้อม ผมผ่อนคลายมากกว่าเดิมเมื่อมันไม่ได้เจ็บเหมือนครั้งแรกเพียงแต่อึดอัดและรู้สึกเสียดตึงก็เท่านั้น ความสนใจของผมถูกดึงกลับมาเมื่อนิ้วเรียวถูกถอนไปปรากฏแกนกายตื่นตัวของอีกคนมาแทนตรงหน้า ผมกลืนน้ำลายลงคอเมื่อต้องมาเห็นชัดๆกลางความสว่างว่ามันเกินกว่าที่คิดไว้ ในความเลือนลางของเมื่อคืนผมก็คิดว่ามันใหญ่โตแล้วพอต้องมาเห็นกับตาแบบนี้ผมถึงกับหน้าเสีย

“ชู่วว ไม่เป็นไรนะครับ ไม่ต้องกลัวนะ”

“คิง พะ พี่ว่ามันจะ เอ่อ”

“ผ่อนคลายนะ”

“อ๊ะ เดี๋ยว! คิง เดี๋ยว อ๊ะ!”

ผมผวาเข้ากอดอีกคนไว้เมื่ออีกคนจ่อแกนกายที่ช่องทางแล้วกดเข้ามา ผมรู้สึกถึงความเปียกชื้นบนใบหน้าอีกครั้งเพราะความเจ็บที่แล่นริ้วขึ้นมา ทำไมล่ะ เมื่อกี๊มันยังไม่เห็นเจ็บเลยนี่! แขนแกร่งโอบรอบตัวผมไว้ตลอดเวลา ผมพยายามผ่อนคลายให้มากที่สุด รู้สึกถึงความร้อนที่เคลื่อนเข้ามาในตัวของผม ใช้เวลาเพียงแปบเดียวแกนกายร้อนผ่าวก็ฝากฝังเข้ามาในร่างผมจนสุดความยาว

“อาา”

“อึก...อย่าพึ่งขยับ”

“หึหึ”

ไม่รู้ว่าคิงได้ฟังที่ผมพูดบ้างมั้ยเพราะทันทีที่สิ้นเสียงผมเอวสอบก็ขยับทันที ความยาวที่เคลื่อนออกจนแทบสุดก่อนจะกระแทกกลับเข้ามาอย่างแรงจนผมแทบหวีดร้อง ผมช้อนตามองหน้าอีกคนที่จงใจแกล้งอย่างไม่พอใจแทนที่จะขอโทษผมกลับได้รับรอยยิ้มกลับมาแทน คิงดูจะพอใจกับการได้แกล้งผมมากจนหมั่นไส้ ผมทุบอกแกร่งไปทีนั่นแหละถึงได้ขอโทษขอโพยออกมา

“ไม่แกล้งแล้วครับ หึหึ”

“เดี๋ยวเหอะ”

“ต่อไปนี้เอาจริงแล้วนะ”

“สักที อึก!”

ผมเท้ามือสองข้างไปด้านหลังเมื่อข้อพับขาทั้งสองข้างถูกช้อนขึ้นมาด้วยมือของอีกคนแล้วจับอ้าค้างไว้ก่อนที่เอวหนาของคิงจะเริ่มขยับเป็นจังหวะ

“อื้อ...อือ...คิง”

“พี่...ควิน”

จังหวะถูกเร่งขึ้นอย่างรวดเร็วจนผมครางออกมาไม่เป็นภาษา เสียงเนื้อกระทบกันดังออกมาจนตัวผมที่ได้ยินยังรู้สึกอาย ยิ่งใบหน้าที่บ่งบอกถึงความต้องการของคิงในยามนี้ทำให้ร่างกายผมร้อนขึ้นมาอีกเป็นเท่าตัว ไม่เคยนึกเลยว่าจะต้องมามีอะไรกันในที่สว่างขนาดนี้ ตัวผมถูกจับให้ลงมายืนด้านล่างก่อนจะถูกพลิกให้หันหน้าเข้ากับเคาน์เตอร์ แกนกายใหญ่โตของอีกคนสอดเข้ามาอีกครั้งเอวสอบกระแทกกระทั้นเข้ามาไม่หยุดจนผมตัวสั่นตัวคลอน

“อา...อ๊ะ..อือ..อออ”

“อาา...แน่นจริง”

“อย่า...อึก...พูดนะ”

ผมรีบห้ามปราบอีกคนที่เริ่มจะบรรยายความรู้สึกออกมาให้ผมได้อายขึ้นไปอีก เอวสอบขยับเข้าออกโดนจุดซ้ำแล้วซ้ำเล่าผมได้แต่อ้าปากครางรับจนเสียงแหบเสียงแห้ง ขาข้างหนึ่งของผมถูกยกขึ้นทำให้แท่งร้อนของอีกคนเข้ามาได้ลึกยิ่งกว่าเดิม ผมเอื้อมมือข้างนึงไปด้านหลังเพื่อยันหน้าท้องของอีกคนไว้แต่เหมือนมันไร้ค่าเพราะมือข้างนั้นถูกมือใหญ่คว้าไปกอบกุมไว้เสียอย่างนั้น กลางกายของผมที่ไม่ได้แตะต้องขยับไปมาตามแรงกระแทก คิงปล่อยมือจากขาข้างนั้นของผมแล้วเปลี่ยนมากอบกุมแล้วรูดรั้งที่กลางกายของผมแทน ร่างหนาทาบทับลงมาจนแนบติดกัน เอวหนาขยับพลิ้วไม่มีสะดุด แรงกระแทกถี่เร็วจากด้านหลังและมือที่ขยับอยู่ด้านหน้าทำให้ความอดทนของผมมาถึงขีดสุด

“อื้ออ...จะออก...อา”

“รอก่อน...อึก”

นิ้วโป้งของอีกคนกดปิดปลายแกนกายของผมเอาไว้ไม่ให้ได้เสร็จสมอย่างที่ต้องการ ผมถึงกับต้องหันไปหาเพื่อขอให้คิงปลดปล่อยผม แต่อีกคนกลับปิดปากผมด้วยริมฝีปากของตัวเองก่อนที่ผมจะได้ร้องขออะไร ความทรมานจากการอดกลั้นทำให้ดวงตาผมร้อนผ่าวน้ำตารื้นแต่ถึงกระนั้นแรงขยับโยกจากด้านหลังกลับรุนแรงขึ้นจนเสียงดังลั่น

พั่บ พั่บ พั่บ พั่บ

“ฮื้ออ...คิง...ปล่อยพี่...นะ”

“อาา...จะ...เสร็จแล้ว”

“อ่ะ...อ่ะ...อือออ”

“อาาาา”

คิงขยับปล่อยให้ผมได้ปลดปล่อยออกมาในที่สุดพร้อมกับความอุ่นร้อนที่ไหลเข้ามาเติมเต็มในร่างกายของผม ร่างสูงขยับเอวต่ออีกสามสี่ครั้งเพื่อรีดทุกหยาดหยดออกมา แกนกายที่กระตุกอยู่ภายในตัวผมจนรู้สึกได้ ทันทีที่แกนกายถูกถอนออกไปผมก็หมดแรงไหลลงไปกองอยู่ที่พื้นคิงที่ตกใจรีบทรุดลงตามมาทันที

“พี่ควิน เป็นอะไรมั้ย”

“ไม่ ไม่เป็นไร”

ตัวผมถูกรวบไปพิงอกแกร่งด้านหลังไว้ รู้สึกถึงแรงกดย้ำลงมาที่กลุ่มผมซ้ำๆจนผมเอียงหน้าไปมอง คิงยิ้มให้ผมก่อนจะกดริมฝีปากมาทาบทับกับริมฝีปากของผมไว้โดยไม่ล่วงล้ำเข้ามา ทำซ้ำๆหลายครั้งจนผมหลุดหัวเราะออกมาและคิงก็หัวเราะตามมา เป็นบรรยากาศที่ดีจนผมอยากจะหยุดไว้แบบนี้ ความสุขมันจุกอกจนจะล้นให้ได้ผมยิ้มให้คิงและคิงก็ยิ้มให้ผม

“ลุกไหวมั้ย”

“ไหวๆ”

คิงค่อยๆพยุงผมให้ลุกขึ้นมา ผมก้มลงมองที่ขาตัวเองเพราะรู้สึกได้ว่าบางอย่างกำลังไหลลงมาตามเรียวขา น้ำขุ่นขาวที่ถูกปล่อยไว้ด้านในค่อยๆไหลออกมา หน้าผมร้อนจนคิดว่าอีกนิดไฟคงจะลุกเป็นโกสท์ไรเดอร์เลยก็ว่าได้ จนกระทั่งผมเงยหน้ามาเจอสายตาที่จดจ้องไปที่เรียวขาผม คิงมองตาไม่กระพริบก่อนจะเงยหน้ามามองผมด้วยสายตาที่ทำให้ผมขนลุกทั้งตัว

“พี่ควิน”

“หยุดคิดเลยนะ”

“หึหึ”

ผมรีบชี้หน้าคิงหยุดความหืื่นที่ทะลุสีหน้าและน้ำเสียงออกมาไว้ก่อนเลย ถ้าขืนอยู่ตรงนี้ต่อผมว่าคงไม่ปลอดภัยอีกต่อไป ผมรีบถอยห่างออกมาเพื่อจะไปห้องน้ำ แต่พอยิ่งขยับขาก้าวเท้าออกมาเหมือนว่าสิ่งที่คั่งค้างอยู่ด้านในดันไหลออกมามากกว่าเดิม

“พี่ควิน”

“หยุดอยู่ตรงนั้นเลยนะ”

คิงแลบลิ้นเลียปากตัวเองอย่างเย้ายวนใจเดินเข้ามาใกล้ผมเรื่อยๆ ผมได้แต่ก้าวถอยออกไปแต่ว่าสุดท้ายก็ไม่พ้น คิงเข้ามาประชิดตัวก่อนจะขว้าแขนผมไว้

“เดี๋ยวคิงเอาออกให้”

“ไม่เป็นไรนะพี่ว่าพี่เอาออกเองก็ด้ายย”

“เถอะน่า คิงอยากช่วย”

“ไม่เป็นไรหรอกก”

“หึหึ”

“คิง เดี๋ยว เดี๊ยววว”

แล้วผมก็โดนลากเข้าห้องน้ำไป เฮ้อ ไหนๆก็ไหนๆแล้วก็เลยตามเลยแล้วกันเนอะครับ



















กราบคนอ่านแบบเบญจางคประดิษฐ์ ขอโทษที่มาช้าจริงๆค่ะ รู้สึกผิดมหันต์แล้วจ้า โปรดอย่าโกรธกันเลย55555555 ที่มาช้าคือตอนนี้เอิร์ทค่อนข้างพิมพ์นิยายได้ลำบากขึ้นนิดหน่อย เพราะว่าสายตาย่ำแย่ลงจนจ้องจอนานๆไม่ได้เลยมันปวด พอมองนานๆมันก็เริ่มซ้อนๆกัน นี่คือกำลังจะสายตาสั้นใช่มั้ย ฮืออออ บอกตรงๆว่าอยากแต่งมาก แต่งมาหลายวันแต่มันแต่งนิดหน่อยก็ต้องหยุดเพราะปวดตาจนแต่งต่อไม่ได้ ฮือออ ขอโทษจริงๆนะคะ แต่นี่อ่านทุกคอมเมนท์แล้วมันเลยฮึด แบบต้องแต่งอ่ะเพราะคนรออ่านเยอะ ขอบคุณทุกคนที่รอตลอดนะคะ อย่างนึงที่เอิร์ทดีใจมากๆคือทุกคนไม่มีใครว่าหรือด่าเอิร์ทเลยที่มาต่อช้า ทุกคนมีแต่ให้กำลังใจแล้วก็รอทั้งนั้น มันปริ่มในใจมากจนไม่ว่ายังไงก็ต้องมาอ่ะ เดี๋ยวจะรีบไปตัดแว่นแล้วมาต่อปกตินะคะ ยังไงอ่านแล้วเป็นอะไรยังไงกันบ้างบอกกันด้วยน้า ขอบคุณทุกคนเลยน้า รักส์
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28-05-2018 09:40:07 โดย earthearthx »

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
Re: ...แค่คุณ... ตอนที่ 17 up [28/5/61]
«ตอบ #88 เมื่อ28-05-2018 00:30:10 »

 :pig4: :pig4: :pig4:

ร่างพังมั้ย พี่ควิน  หุหุ

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
Re: ...แค่คุณ... ตอนที่ 17 up [28/5/61]
«ตอบ #89 เมื่อ28-05-2018 02:32:50 »

อ่าา ไม่ได้กินละโจ๊ก ได้โจ๊ะกันแทน อิอิ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด