...แค่คุณ... ตอนที่ 22 up [29/9/61]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ...แค่คุณ... ตอนที่ 22 up [29/9/61]  (อ่าน 14879 ครั้ง)

ออฟไลน์ poppycake

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2670
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-4
Re: ...แค่คุณ... ตอนที่ 8 up [12/2/61]
«ตอบ #30 เมื่อ13-02-2018 21:56:56 »

ยังไม่ทันได้ตกลงเป็นแฟนกัน ก้อเกือบไปแล้วววววว
วั๊ยยยย วั๊ยยยย

ออฟไลน์ maekkun

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 223
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
Re: ...แค่คุณ... ตอนที่ 8 up [12/2/61]
«ตอบ #31 เมื่อ15-02-2018 12:22:51 »

 :pig4:

ออฟไลน์ earthearthx

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 26
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
Re: ...แค่คุณ... ตอนที่ 9 up [23/2/61]
«ตอบ #32 เมื่อ23-02-2018 00:36:04 »

ตอนที่ 9





พาร์ท ควิน





เช้านี้ผมลืมตาตื่นขึ้นมาก็เจอกับซอกคอของคนที่นอนกอดผมมาทั้งคืนทันที เรื่องเมื่อคืนเหมือนฝันไป เอ๊ะ หรือว่าผมฝันไปจริงๆแต่ร่างกายของอีกคนที่สัมผัสอยู่ตอนนี้คงตอบคำถามทั้งหมดได้อย่างดีว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องจริง ผมเงยหน้าขึ้นมองหน้าของคนที่ยังคงหลับใหลอยู่ในนิทรา นี่ขนาดหลับอยู่มองมุมเสยยังหล่อ คนอะไรวะ ผมเริ่มจะอิจฉาในความเพอร์เฟคของอีกคนแล้วนะ ผมเหลือบมองนาฬิกาก็พบว่าตอนนี้เข็มสั้นบนหน้าปัดชี้ไปที่เลขแปดนั่นหมายความว่าผมมีเวลาอาบน้ำแต่งตัวไปมหาลัยแค่ชั่วโมงเดียว แม้จะอยากอยู่ในอ้อมกอดของอีกคนต่อสักแค่ไหนแต่ก็ต้องตัดสินใจลุกขึ้นสักที ผมพยายามยกแขนของอีกคนที่พาดอยู่บนตัวผมออกช้าๆแต่คงไม่ช่วยอะไรเพราะเจ้าของร่างที่กอดเขาไว้ทั้งคืนเริ่มรู้สึกตัวแล้ว

"เช้าแล้วหรอ"

"แปดโมงแล้ว คิงนอนต่อไปอีกสักพักก็ได้"

"อือ"

คิงพูดทั้งที่ยังไม่ลืมตาและหลับไปทั้งอย่างนั้น ผมปล่อยให้อีกคนนอนต่อไปคว้าผ้าเช็ดตัวเข้าห้องน้ำไป สักพักพอผมออกมากลับเห็นคนที่ควรจะนอนหลับอยู่ตอนนีี้ดันมานั่งสัปหงกอยู่ปลายเตียงแทน ผมเดินเข้าไปสะกิดคิงสองสามครั้งเจ้าตัวก็สะลึมสะลือขึ้ยมามองพอเห็นว่าเป็นผมยืนอยู่ตรงหน้าก็เอาหัวมาพิงท้องผมแล้วนิ่งไปเฉย

"ง่วงก็ไปนอน ตื่นมาทำไมครับ"

"เดี๋ยวไปส่ง"

"ไปส่งพี่? ไม่เป็นไรพี่ไปเองได้"

แต่คนตรงหน้าใช่ว่าจะฟังส่ายหัวไปมาเป็นการบอกว่าไม่ยอมรับฟังสิ่งที่ผมพูดอย่างแน่นอน ผมเลยรับปากไปแต่ให้อีกคนนอนรอแล้วถ้าแต่งตัวเสร็จผมจะมาเรียกอีกคนเลยพยักหน้ารับรู้แล้วขึ้นไปหนุนหมอนนอนแต่โดยดี ผมส่ายหน้าและยิ้มให้กับอีกมุมหนึ่งของเด็กขี้เซาบนเตียงที่ผมเพิ่งเคยได้เห็น ปกติผมเป็นคนที่ติดจะยิ้มอยู่ตลอดเวลาอยู่แล้วนะแต่ว่าตั้งแต่มาเจอกับคิงผมว่าผมยิ้มมากขึ้นเข้าไปทุกที ถ้าอีกคนยังทำตัวน่ารักแบบนี้อีกหน่อยปากผมคงจะต้องฉีกไปถึงหูแน่ๆเลย

ผมปล่อยให้อีกคนนอนแล้วหันมาแต่งตัวให้เรียบร้อยจนกระทั่งแต่งตัวเสร็จก็เห็นว่าคนขี้เซายังนอนหลับปุ๋ยอยู่บนเตียง พอเห็นว่าอีกคนหลับสบายผมก็ทำใจปลุกไม่ลงตัดสินใจเดินลงไปขึ้นรถไปมหาลัยเองในที่สุด ระหว่างที่อยู่บนรถผมก็ไลน์ไปบอกคนที่หลับอยู่ในห้องว่าผมออกไปก่อนแล้วนะ หวังว่างานนี้ผมคงจะไม่โดนคิงโกรธหรอกนะครับ

ผมมาถึงมหาลัยอย่างฉิวเฉียดพอเดินมาที่โต๊ะก็เห็นว่าแก๊งผมมากันครบหมดแล้ว ไม่ทันจะหย่อนตูดแตะเก้าอี้ไอ้ชาร์ปไอ้ซองก็ทำการสอบสวนผมทันที

"เป็นไงมั่งไอ้ควิน

"มีอะไรบ้างเล่ามาให้หมด"

"อะไรของพวกมึง ก็ปกติอ่ะ"

"มึงอย่ามาาา กลับด้วยกันเฉยๆหรอกูไม่เชื่อ"

"เออมึงอย่ามาหมกพวกกู นี่เพื่อนไงเล่ามาซะดีๆ"

"ก็มันไม่มีอะไรมึงจะให้กูเล่าอะไรวะ"

"โห่ไรวะ กากจริงมึง"

"เป็นกูนี่ไม่ปล่อยให้รอดไปหรอก"

ไอ้ซองไอ้ชาร์ปบ่นผมไปอีกยาว หาว่าผมชักช้างู้นงี้ไป ไม่มีเหตุการณ์อะไรที่เร้าใจพวกมันเลย เหตุการณ์ที่เร้าใจงั้นหรอ...เหมือนผมได้ยินเสียงหน้าตัวเองไหม้เพราะดันไปนึกถึงเหตุการณ์เมื่อวานก่อนนอนซะได้ ทำไมมันถึงได้เป็นแบบนั้นได้วะ เรายังไม่ได้เป็นอะไรกันเลย แต่จริงๆเราก็เหมือนรู้อยู่แล้วว่าอีกคนคิดยังไงก็คุยกันเข้าใจแล้วเพราะงั้นก็ไม่เป็นอะไรหรอกเนอะ...ทำไมมึงใจง่ายยังงี้วะไอ้ควิน! ผมสะบัดหน้าไล่ความคิดอกุศลทิ้งไปพอดีกับที่ได้เวลาขึ้นไปเรียน ผมเดินตามไอ้คู่หูมหาประลัยไปพร้อมๆกับไอ้เต

"ควิน"

"ห้ะ"



"ถ้าไม่มีอะไรจริงมึงจะหน้​าแดงทำไม"



เหมือนตอนนี้มีไฟลุกอยู่บนหน้าผมผมหันไปมองหน้าไอ้เตมันก็กระตุกยิ้มยักคิ้วมาให้อย่างรู้ทัน ผมเลยส่งยิ้มให้มันอย่างรู้กันมันก็ไม่ตอบอะไรนมาพาเอาแขนมาพาดไหล่ผมแล้วพากันกอดคอกันไปเรียน ระหว่างที่เรียนอยู่คนที่ผมปล่อยให้นอนอยู่ก็ส่งไลน์มาว่าทำไมผมถึงไม่ปลุกยังงู้นยังงี้ ผมก็ตอบกลับไปว่าไม่อยากปลุกอยากให้นอนต่ออะไรประมาณนี้คิงก็ไม่ตอบอะไรเรื่องนี้อีกส่งมาแค่ว่าเย็นนี้ให้กลับด้วยกัน

ตกเย็นคิงมารับที่คณะแล้วก็เป็นอย่างที่ผมคาดไม่มีผิด ทันทีที่ขึ้นรถไปเด็กน้อยของผมก็เอาแต่เงียบไม่พูดอะไรกับผมสักคำสุดท้ายผมก็เลยต้องง้อก้วยอาหารเย็นและเตียงนอนอีกหนึ่งคืนแถมยังโดนแทะเล็มอีกนิดหน่อย แต่ไม่รู้สิครับยอมรับเลยว่าผมเต็มใจที่จะง้ออีกคนสุดตัวไปเลยครับ

.

.

.

.

.

.

หรือผมจะแกล้งให้คิงงอนบ่อยๆดี?







ตลอดอาทิตย์ที่ผ่านมาคิงมารับมาส่งผมทุกวันแถมยังมานอนที่ห้องผมตลอดอีกแม้ว่าวันไหนที่คิงไม่มีเรียนตอนเช้าแต่เจ้าตัวก็จะตื่นมาส่งผมถึงขนาดที่ว่าแม้จะง่วงแค่ไหนแต่ก็จะตื่นมานั่งรอผมแต่งตัวเพราะกลัวว่าผมจะแอบหนีไปเองอีก แเห็นแล้วสงสารก็สงสาร เอ็นดูก็เอ็นดู ทีสำคัญคือตอนนี้เหมือนคิงจะรู้แล้วว่าผมแพ้ทางเขาขนาดไหน ทีนี้พอคิงอยากได้อะไรก็จะเริ่มมางุ้งงิ้งมาอ้อนจนผมใจอ่อนจนได้ ผมก็ดันแพ้ไอ้ท่าทางน่ารักนั่นจนยอมไปหมด เบื่อตัวเองเหมือนกันครับ5555555 แล้วตอนนี้ก็มีหลายคนที่เริ่มสงสัยเรื่องของผมกับคิง บางคนก็แอบถ่ายรูปไปลงตามเพจไปหาสาเหตุที่ผมกับคิงเริ่มสนิทกันมากขึ้นไม่เว้นแม้แต่เพจดังของมหาลัยที่เอารูปที่ผมอยู่กับคิงไปลง แต่ผมก็ไม่ได้สนใจอะไรหรอกครับเพราะถ้าเกิดว่าผมกับคิงคบกันขึ้นมาจริงๆทุกคนก็ต้องรู้อยู่ดี ตอนนี้ใครอยากจะคิดยังไงก็ให้เขาพูดไป ใครเข้ามาถามผมก็แค่ยิ้มตอบไปแค่นั้น

วันนี้เป็นวันเสาร์แต่เมื่อคืนคิงไม่ได้มานอนกับผมหรอกนะครับเพราะเห็นว่าต้องกลับไปนอนที่บ้าน วันนี้ทั้งวันก็เลยยังไม่ได้เจอกันแต่ก็คุยแชทกันตลอดทั้งวัน ผมใช้เวลาทั้งวันไปกับการจัดห้อง เอาผ้าไปซักที่ชั้นล่างและเก็บกวาดห้องที่รกเพราะมีอีกหนึ่งชีวิตมาสถิตอยู่เพิ่มจนเย็นผมเตรียมตัวออกไปร้านอาทิมตั้งแต่ห้าโมง ที่วันนี้ไปไวก็ว่าจะไปนั่งคุยกับไอ้ไทค์สักหน่อย พอบอกคิงว่าจะไปที่ร้านคิงก็ตอบมาว่าจะตามมาตอนค่ำแถมจะเอาเพื่อนมาด้วย พอพูดถึงเพื่อนของคิงผมก็นึกถึงคนตัวเล็กที่มองหน้าผมในร้านอาหารวันนั้น คนนี้คงจะมาด้วยสินะ อืมมม เขาอาจจะแค่มองเฉยๆแหละมั้ง ว่าแต่พอคิดว่าจะต้องมารู้จักกับเพื่อนของคิงผมก็เริ่มประหม่าขึ้นมาเหมือนกำลังจะเปิดตัวยังงั้นแหละ

.

.

.

.

เพ้อเจ้อชิบหาย แค่เจอเพื่อนเองผมก็คิดไปถึงไหนแล้วแต่ถ้าต้องไปเจอเพื่อนคิงคนเดียวมันก็เกร็งๆนิดหน่อย ผมตัดสินใจโทรหาเดอะแก๊งและนัดให้พวกมันไปด้วยกันพอพวกมันรู้ก็รับปากว่าจะต้องมาแน่นอน ผมว่านะ มันมาเสือกแน่นอน555555555 แต่ก็ยังดีกว่าไปคนเดียวแหละเนอะ









ผมมาถึงร้านเกือบหกโมงเลยตรงเข้าไปหาอาทิมในห้องก่อนเลยแต่พอเข้าไปอาทิมแกคุยโทรศัพท์กับใครอยู่ไม่รู้ดูซีเรียสพอสมควรขนาดผมยกมือไหว้ลุงแกแค่พยักหน้ารับแล้วไปสนใจคนในสายต่อ ผมมองซ้ายมองขวาหาไอ้ไทค์ในห้องแต่ไม่เห็นแม้แต่เงา เลยเดินออกไปด้านนอกพอดีว่าฟิคเดินเข้ามาทักผมเลยคุยกันนิดหน่อย ก่อนฟิคจะขอตัวไปทำงานต่อผมก็ถามหาไอ้ไทค์น้องมันเลยบอกมาว่านั่งอยู่ที่โต๊ะด้านนอกผมเลยสั่งให้น้องยกอะไรออกมาให้กินสองสามอย่างแล้วตรงไปหาไอ้ไทค์ทันที

"ไงมึง กูก็เดินหามึงไปทั้งร้านเลยเหอะ"

"ทำไมวันนี้มึงมาไวจังวะ"

"ก็ที่ห้องมันไม่มีอะไรให้ทำ"

"แดกไรยัง สั่งมากินดิ"

"สั่งมาแล้ว" ตอนนี้ที่โต๊ะมีแต่เบียร์ของไอ้ไทค์อย่างเดียว วันนี้ที่ผมตั้งใจมาไวก็เพราะส่วนนึงคืออยากจะมาคุยกับไอ้ไทค์ด้วย เรื่องที่จะคุยก็เรื่องของคนที่คุณก็รู้ว่าใครนั่นแหละครับ ก็อย่างที่รู้เมื่ออาทิตย์ที่แล้วไอ้ไทค์มันเตือนผมไว้ซะเยอะแต่วันนี้ผมดันนัดคิงมาที่ร้านซะแล้ว ยังไงวันนี้มันต้องเจอกันแน่นอนผมเลยจะมาเล่าเรื่องให้มันฟังไว้ก่อนดีกว่า ผมสูดลมหายใจเข้าไปเต็มปอดก่อนจะเริ่มบอกมัน "ไทค์ กูมีอะไรจะบอก"

"อะไรของมึง"

"คือ คือกู...คุย...กับคิงอยู่ว่ะ"

เอาจริงจากใจผมก็แอบหวั่นไอ้ไทค์ไม่ใช่น้อยเลยนะถึงแม้ว่ามันจะบอกว่าแล้วแต่ผมก็เถอะ แต่ผมรู้ว่าจริงๆแล้วมันไม่อยากให้ผมคุยกับคิงจริงๆอย่างที่มันพูดหรอก ลองนึกดูคนที่ผมจะพามาแนะนำให้มันรู้จักคนแรกเป็นคนเดียวกับที่มันไม่อยากให้ผมเข้าใกล้และในชีวิตผมมีแค่ไอ้ไทค์กับอาทิมที่ผมถือว่าเป็นครอบครัวที่ผมเหลืออยู่ ถ้าเกิดว่าไอ้ไทค์มันไม่พอใจที่ผมคุยกับคิงจริงๆผมเองก็คงไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไงต่อไป...คนนึงก็เพื่อนที่โตมาด้วยกัน อีกคนก็คนแรกที่รู้สึกดีด้วย...

"มึงว่ายังไงนะควิน อีกทีดิ๊?"

อย่างที่คิดสีหน้าไอ้ไทค์เปลี่ยนไปหลังจากที่ผมพูดจบ หน้าตาดุดันที่ไม่ค่อยได้เห็นจากผู้ชายอารมณ์ดีขี้เล่นอย่างมันกำลังแสดงออกมาอยู่ตอนนี้ ผมหลุบตาหนีสายตาที่จ้องมา น้ำเสียงกดต่ำที่เอ่ยออกจากปากของมันเริ่มทำให้ใจผมไม่สู้ดีแต่ก็ต้องเงยหน้ามาคุยกับมันให้รู้เรื่องให้ได้

"มึงฟังถูกแล้ว...กูคุยกับคิงอยู่"

"..."

"มึงอย่าเพิ่งพูด ฟังกูก่อน"

"...ว่ามา"

พอไอ้ไทค์มันให้โอกาสผมก็รีบเล่าเรื่องทั้งหมดตั้งแต่วันที่เจอคิงวันแรกให้มันฟัง ไอ้ไทค์มันก็ฟังเงียบๆไม่ได้พูดอะไรแทรกเข้ามาสักคำแต่เท่าที่สังเกตสีหน้าของมันเริ่มเปลี่ยนไปเป็นบางช่วง บางครั้งก็ทำหน้าเหมือนไม่อยากเชื่อ บางทีก็ขมวดคิ้วเหมือนไม่เข้าใจจนผมเล่าจบมันก็ยังเงียบอยู่แบบนั้น

"กูรู้ว่ามึงอาจจะไม่ค่อยชอบคิงแต่ว่ากูอยะ-"

"กูไม่ได้ไม่ชอบคิง"

"อ้าว แต่ว่าวันนั้นมึงบอกกูว่า..."

"กูแค่บอกว่ามันอันตราย แล้วมันก็ไม่เคยจริงจังกับใคร"

"เออนั่นแหละ กูเข้าใจว่ามึงห่วงนะเว้ยแต่กูไม่เคยรู้สึกแบบนี้กับใครก่อน กูแค่อยากลองสักทีก็แค่นั้นเองถ้าไม่โอเคก็ถอยแค่นั้น"

"เฮ้ออออออ อาทิตย์ที่แล้วกูบอกว่าตามใจมึงแต่กูก็ไม่นึกว่ามึงจะเร็วขนาดนี้ แค่อาทิตย์เดียวมึงสามารถพามันมาเจอกูได้แล้ว กูล่ะยอมใจมึง"

"สรุปมึงโอเคใช่ป่ะ?"

"ไม่รู้ ขอดูมันก่อนแล้วกัน"

"ขอบใจมึง"

"เออๆ"

เหมือนยกภูเขาออกจากอกอย่างน้อยผมก็หมดห่วงเรื่องไอ้ไทค์ไปเปราะหนึ่งที่เหลือก็ได้แต่หวังให้ทั้งคู่ลงรอยกันเท่านั้น หลังจากที่คุยกันเรื่องคิงจบพวกผมก็นั่งทานอาหารที่สั่งไว้จนเกือบทุ่มแก๊งผมก็มาถึงกัน พอคนเริ่มเยอะแอลกอฮอล์ก็เริ่มเต็มโต๊ะ แก๊งผมรู้จักกับไอ้ไทค์ดีเพราะเจอกันหลายครั้งกินเหล้าด้วยกันก็บ่อยเลยสนิทกันไปเอง

"ไหนเด็กมึงวะไอ้ควิน เมื่อไหร่จะมากูรอจนจะเมาอยู่ล้ะ"

"เห้ยไอ้ชาร์ป! กูเผลอแปบเดียวมึงกินไปกี่แก้วเนี่ย พอเลยๆ"

"อะไรของมึงวะซอง กูจะแดกกกกกก"

"เออมึงก็ปล่อยมันกินไปเถอะน่า"

"ปล่อยแป๊ะมึงสิไอ้เต เดี๋ยวมันเมามันก็เรื้อนอีก"

"แหม กลัวมันจะได้ผัวเหมือนครั้งที่แล้วหรอไอ้ซองงง55555555555"

"ได้ผัวพ่องงง"

คือไอ้ชาร์ปมันเคยมีประเด็นครับเมื่อสามเดือนที่แล้วพวกผมไปกินเหล้าวันเกิดไอ้เตกันที่ผับแล้วไอ้ชาร์ปมันก็คออ่อนแต่ดันซดไปจนเมา เรื่องมันเกิดตอนที่มันไปเข้าห้องน้ำโดยที่ไม่บอกใครพวกผมก็กรึ่มๆกันเลยไม่ทันได้สังเกต ปกติแล้วเวลากินเหล้าไอ้ซองมันจะคอยดูไอ้ชาร์ปตลอดแต่วันนั้นพอดีว่าไอ้ซองออกไปคุยโทรศัพท์ข้างนอกไอ้ชาร์ปเลยไปห้องน้ำคนเดียวจนไอ้ซองกลับมาไม่เจอพวกผมถึงได้รู้ว่ามันหายไป สรุปว่าไปเจอตอนมันกำลังโดนผู้ชายคนนึงลากไปหลังร้านเพราะนึกว่ามันเป็นเด็กขาย ไอ้ซองสติแตกซัดคนนั้นไปไม่ยั้งจนการ์ดต้องเข้ามาห้ามส่วนไอ้คนที่ก่อเรื่องเมาหลับไปไม่รู้เรื่องรู้ราวห่าอะไรเลยหลังจากนั้นก็เป็นอย่างที่เห็น ไอ้ชาร์ปแทบไม่ได้แตะเหล้าเลยเพราะดดนไอ้ซองเบรกตลอด

พวกผมนั่งกินไปคุยไปกันอีกสักพักจนเกือบสองทุ่มคิงก็ส่งไลน์มาบอกว่าจะถึงแล้วผมก็บอกตำแหน่งโต๊ะที่นั่งกันอยู่ไปให้อีกคนก็อ่านแล้วไม่ได้ตอบอะไรกลับมา

"พวกมึง คิงจะมาถึงแล้วว่ะ"

"ฮั่นน้อวววว ตื่นเต้นหรอจ๊ะ"

"นี่คือต่างคนต่างมาเพื่อนมาแนะนำนี่คือยังไงอ่ะเพื่อนควิน"

"รู้อยู่อย่าพูดมากน่า"

พวกมันก็ช่างแซ็วเหลือเกิน ผมก็ว่าผมเปิดเผยขนาดนี้แล้วพวกมันก็ยังแซ็วไม่เลิกสักทีอีกนิดผมจะเขินแล้วนะครับ555555

"เดี๋ยวนะ ไอ้เด็กนั่นจะมาด้วยไหมอ่ะ? ที่มองหน้าไอ้ควินวันนั้นพวกมึงจำได้ป่ะ?"

"เออกูจำได้ พูดขึ้นมาแล้วกูนี่ยังรู้สึกไม่ถูกชะตาอยู่เลย"

"...กูว่าเราอาจจะคิดมากก็ได้ว่ะ ไม่มีอะไรหรอก"

"อะไรกันวะ"

"คืองี้ไอ้ไทค์วันก่อนพวกกูไปกินเอ็มเคกันแล้วบังเอิญเจอกับกลุ่มของคิง แล้วตอนจะกลับเพื่อนของคิงก็ทักไอ้ควินกันแต่มันแม่งมีคนนึงมองไอ้ควินเขม็งเลยอ่ะ ไม่รู้แม่งมองห่าอะไร"

"..."

"..."

"..."

พอไอ้ชาร์ปมันอธิบายให้ไอ้ไทค์ฟังเสร็จเดดแอร์ก็บังเกิด ไอ้ไทค์เริ่มขมวดคิ้วแล้วมองหน้าผม ผมก็ยักไหล่ให้มันไปเพราะผมก็ไม่รู้ว่าเพื่อนของคิงคนนั้นคิดยังไงกับผมหรือพวกผมจะคิดไปเองจริงๆ

"เอางี้ ยังไงวันนี้ก็ต้องเจอกันค่อยสังเกตเอาแล้วกัน"

"เออเนอะ ทำไมมึงฉลาดวะเต"

"เพราะกูหล่อ"

"ถุย"

"55555555555"

"เห้ยดูนั่น พวกนั้นมากันละ"

คำพูดของไอ้ซองทำให้พวกผมทั้งหมดมองไปทางเดียวกัน กลุ่มที่เดินเข้ามาดูแล้วไม่ได้เป็นที่สนใจแค่เฉพาะโต๊ะผมแต่คงเป็นที่สนใจของคนทั้งร้าน ผู้ชายหน้าตาดีห้าคนกำลังมุ่งตรงมาที่โต๊ะผมโดยมีสายตาของคนทั้งร้านจับจ้องไว้เป็นตาเดียว คิงเป็นคนเดินนำมาที่โต๊ะตามด้วยเพื่อนของเขา คิงแต่งตัวด้วยโทนสีดำยิ่งทำให้ดูดีมากขึ้นกว่าเดิมอีก ผมรู้สึกได้ว่าจุดโฟกัสสายตาของคนที่เดินมาเป็นผมเหมือนกันกับจุดโฟกัสของผมคือคนที่กำลังเดินมา

"มองตาไม่กะพริบเลยนะไอ้ควิน"

"หึหึ"

ผมหันไปมองไอ้ไทค์ที่แซะผมขึ้นมาแล้วผลักไหล่มันไปที ก็จะให้ทำยังไงอ่ะ ไม่ได้อยากมองสักหน่อยตามันไปเองนี่ คิงเดินมาถึงที่โต๊ะพอดี โต๊ะที่นั่งกันอยู่ตอนนี้เป็นโซฟาชุดใหญ่ของร้านผมย้ายมานั่งนี่กันเพราะคิดว่าคนน่าจะเยอะ ผมเว้นที่ไว้ฝั่งหนึ่งให้คิงกับเพื่อนของเขาแต่พอเดินมาถึงเด็กโข่งของผมก็พาร่างตัวเองมาทิ้งตัวลงขางผมจนต้องเขยิบไปทางไอ้ไทค์เพื่อให้อีกคนได้นั่งสบายๆ ส่วนคนอื่นก็นั่งลงฝั่งตรงข้ามที่เว้นไว้ให้

"หิว"

"จะกินอะไรอ่ะ"

พอตูดติดเบาะคิงก็หันมาบ่นกับผมทันที เห็นน้องหิวผมก็เลยถามไปตามความเคยชินจนลืมไปเลยว่าตอนนี้เราไม่ได้อยู่กันแค่สองคน

"แหมไอ้คิง จิตใจมึงจะไม่แนะนำพวกกูหน่อยหรอ"

"เออนี่พวกกูยังมีตัวตนอยู่มั้ย"

"ช่างมัน สวัสดีครับพวกพี่ๆ ผมเป็นเพื่อนไอ้คิงนะครับ ชื่อปาร์ค ส่วนไอ้นี่ชื่อฟิน ไอ้นี่ตังค์ส่วนไอ้คนตัวเล็กสุดนี่ชื่อไวน์"

"เออๆพี่ชื่อชาร์ปนะ ส่วนนั่นซอง เตแล้วก็ไทค์"

"จะแดกอะไรก็สั่งมาเลยแล้วกัน วันนี้กูเลี้ยงเอง"

"เห้ยไอ้ไทค์!!! ทีพวกกูแดกมาตั้งนานทำไมมึงไม่เลี้ยงวะ?"

"เออไอ้ไทค์มันไม่เลี้ยงมึงหรอกแต่กูก็ไม่เห็นมึงจะจ่ายสักทีกูเห็นกูออกตลอดป่ะไอ้สัส"

"แค่นี้มึงบ่นหรอซอง?"

"กูพูดเฉยๆไหมล่ะ"

"ตอนแรกก็เหมือนจะเก่งนะเว้ย 5555555555"

"เมื่อกี๊ตอนแรกผมเกือบปลื้มพี่แล้วนะบอกตรงๆ"

"5555555555555"

พวกน้องเขาก็ดูจะเข้ากับเพื่อนผมได้ดีพอเห็นไอ้ซองไอ้ชาร์ปมันง้องแง้งกันพวกน้องมันก็ขำตาม ผมเหลือบไปมองเด็กที่มองหน้าผมวันนั้นที่ชื่อไวน์ก็เห็นน้องเขายิ้มๆก็ไม่มีอะไรนี่หว่า

"แล้วมึงอ่ะ ไม่คิดจะพูดอะไรกับพวกกูบ้างหรอ?"

ไอ้ไทค์หันไปถามคิงที่ยังไม่ได้พูดกับใครเลยตั้งแต่มาถึง ทุกคนที่ได้ยินไอ้ไทค์พูดก็เงียบกริบรวมทั้งผมด้วย ผมหันไปมองคิงก็เห็นว่าน้องกำลังสบตากับไอ้ไทค์นิ่งๆสีหน้าของไอ้ไทค์ก็เรียบสนิทไม่ต่างกัน เหมือนต่างคนต่างดูเชิงกันไปมาพวกผมที่นั่งอยู่ที่มองตาปาดเหงื่อกันเลิ่กลั่ก จะพูดแทรกก็ไม่กล้า บรรยากาศมาคุสุดๆ ไอ้ไทค์ทำผมใจคอไม่ดีอีกแล้วครับ

"เอ่อ..."

"คิงครับ"

"..."

"จีบเพื่อนพี่อยู่"





ให้ตายสิ...พูดอะไรออกมาเนี่ยเด็กบ้า...





"หึหึหึ โอเคตามนั้น"

"เชี่ยยย หล่อสัส"

"ฮิ้วววววว"

"เพื่อนโผมมมม"

"ส่วนเพื่อนกูแข็งไปแล้วครับ"

"อะไรแข็งครับพี่"

"ไม่ต้องถามครับน้อง5555555555555"

"55555555555555"

ผมได้แต่นั่งเงียบเพราะเขินจนพูดอะไรไม่ออกหันไปหาคนก่อเรื่องเจ้าตัวก็เอาแต่ยิ้มอย่างถูกใจกับอาการของผม ผมก็เลยก้มหน้าหยิบเบียร์มาจิบแก้เขินปล่อยให้พวกมันพูดกันไปเถอะ สักพักเพื่อนของผมกับน้องๆก็เหมือนสนิทกันมาเป็นปีสรรหาสารพัดเรื่องมาคุยกันอย่างเมามันส์ไม้เว้นแม้กระทั่งไอ้เตที่พูดน้อยก็ยังแข่งกันพูดกับพวกน้องเขาไปด้วย ส่วนคิงน่ะหรอครับ

"หิว"

"เออพี่ลืมเลยจะกินอะไรอ่ะเดี๋ยวสั่งให้"

"อะไรก็ได้"

"งั้นรอแปบ"

ผมกวักมือเรียกเด็กเสิร์ฟมารับออเดอร์สั่งของมาสี่ห้าอย่างเผื่อน้องๆคนอื่นด้วย ผมกับคิงไม่ค่อยได้คุยอะไรกันส่วนมากจะนั่งฟังคนอื่นคุยกันมากกว่า คิงหันมาบอกว่าให้ฟินมารับเดี๋ยวขากลับจะรอกลับกับผมและดูท่าคงจะได้นอนห้องผมอีกตามเคย เรานั่งกันไปจนเกือบจะได้เวลาที่ผมต้องขึ้นไปร้องเพลงผมเลยลุกขึ้นกะจะไปเข้าห้องน้ำก่อนสักหน่อย

"ไปไหน"

"ไปห้องน้ำ"

"เร็วๆ"

"พี่ควินเขาไปแค่ห้องน้ำไหมล่ะไอ้คิง มึงกลัวส้วมจะสูบพี่เขาเข้าไปหรือไง"

"มึงก็พูดซะกูเห็นภาพเลยไอ้ตังค์"

"5555555555555"

"ผมไปด้วยสิ"

พอได้ยินว่าผมจะไปห้องน้ำไวน์ก็ขอไปด้วยผมก็พยักหน้าให้น้องตามมา เพื่อนผมก็มองมานิดหน่อยแต่ผมหันไปยิ้มให้พวกมันเลยไม่ได้อะไรหันไปคุยต่อ ระหว่างทางน้องก็ไม่ได้คุยอะไรกับผมสักคำผมเองก็ไม่รู้จะพูดอะไรเลยเงียบกันทั้งคู่ พอมาถึงห้องน้ำในห้องน้ำไม่มีใครเลยสักคนเราเลยแยกไปต่างคนต่างทำธุระของตัวเอง ใช้เวลาแปบเดียวพวกเราทั้งคู่ก็มาล้างมือกันที่หน้ากระจก

"พี่คงไม่ได้คิดว่าคิงจะจริงจังหรอกใช่ไหมครับ"

"ห้ะ"

อยู่ดีๆไวน์ก็พูดขึ้นโดยไม่ได้เงยหน้ามามองผมทั้งที่ยังล้างมืออยู่อย่างนั้น ผมเริ่ไม่แน่ใจว่าอีกคนอย่ากจะพูดอะไรกันแน่ ไวน์เหลือบตาขึ้นมาสบตากับผมผ่านกระจกตรงหน้าก่อนจะยืดตัวขึ้นมาแล้วหันมาหาผมเต็มตัวพลางยกยิ้มมุมปากแล้วพูดกับผม

"ผมบอกว่า...พี่คงไม่ได้คิดจริงใช่มั้ยครับว่าคิงจะจริงจังกับพี่"

"..."

"ผมเป็นเพื่อนกับคิงมาหลายปี ผมรู้จักเพื่อนผมดีว่ามันนิสัยยังไง"

"..."

"มีไม่รู้ตั้งกี่คนที่หวังจะจับคิงแต่คนที่คิดเข้าข้างตัวเองสุดท้ายก็โดนเขี่ยทิ้งไปทุกที"

"..."

"เห็นแล้วก็ได้แต่สงสาร หวังสูงไปพอตกมาก็เจ็บกันทั้งนั้น"

"..."

"มันก็แค่เล่นๆไม่คิดจะคบกับใครจริงๆหรอก พี่เข้าใจใช่ป้ะ"







งั้นหรอ...


ถ้าจะเอาแบบนี้...ก็ได้







"พี่เข้าใจ"

"ก็ดี"

"...เข้าใจว่าการที่คิงยอมให้พี่ขนาดนี้พี่คงจะพิเศษมากกว่าใครจริงๆ​"

"..."

"เข้าใจว่าพี่คงจะพี่คงจะเป็นคนแรกที่คิงคิดจะจริงจังด้วยแบบนี้​"

"..."

"และก็เข้าใจว่าไวน์คงจะห่วงพี่...ไม่ใช่น้อยถึงได้มาเตือนกันแบบนี้"

"..."

"ขอบใจแล้วกันที่บอกตั้งแต่ตอนนี้ พี่จะได้รู้ไว้ว่าควรจับมือคิงไว้ให้แน่นกว่านี้"

"..."

"คิงจะได้ไม่ทิ้งพี่เหมือนคนอื่น แล้วคนอื่น...จะได้ไม่มาแย่งคิงไป"

"...

"ไวน์ว่าดีไหม?"

"..."

สายตาวาวโรจน์ที่เต็มไปด้วยความโกรธของคนตรงหน้าผมตอบคำถามของผมได้อย่างดี ถามเด็กสองขวบก็ยังรู้ว่าคนตรงหน้ามีเจตนาแบบไหน แล้วสาเหตุมาจากอะไรคงไม่ต้องมันสืบหาความจริงให้เสียเวลา เด็กโข่งของผมเสน่ห์แรงขนาดนี้เจ้าตัวจะรู้ตัวหรือเปล่า

"กลับไปที่โต๊ะกันเถอะ มีคนรออยู่"



ปึก!



พอผมพูดจบไวน์ก็เดินกระแทกไหล่ผมออกไปจากห้องน้ำ ผมไม่อยากจะเก็บคำพูดของไวน์มาใส่ใจหรอกครับตั้งแต่เริ่มชอบคิงผมก็ทำใจไวแล้วว่าคงจะมีหลายคนที่ชอบคิงไม่ต่างจากผมเพียงแค่ผมไม่คิดว่าคนนั้นจะเป็นคนใกล้ตัวคิงขนาดนี้ ผมถอนหายใจเฮือกใหญ่ให้กับเรื่องที่คงจะต้องเจอในอนาคต เอาเถอะ ถึงผมจะเป็นคนเงียบๆแต่ไม่ได้หมายความว่าผมจะต้องยอมใคร ถ้าดีมาผมก็ดีตอบแต่ถ้าร้ายมา...



ก็เดี๋ยวได้รู้กัน...

































_________________________________________________________

ครบ 100% แล้วจ้า มาดึกตลอดไม่รู้เป็นห่าอะไร 5555555555555555555 มาละจ้า มันกำลังจะมาแล้วจ้า  หลังจากนี้จะเริ่มเข้าสู่เนื้อเรื่องแล้วน้าหลังจากที่เลยเถิดมุ้งมิ้งมานาน หุ้หุ้ ส่วนพี่ควินเราก็แซ่บอยู่นะว่าป้ะ555555 อาจจะมาช้าบ้างอย่าว่าพี่เอิร์ทเลยน้าา



ปล.ใครอยากคุยอะไรกับพี่เอิร์ทไปคุยกันได้ในทวิต @Earthybenben น้าา แต่ขอล่ะอย่าทักมาด่าอย่างเดียวพอ5555555555555555ร รักน้าา

ออฟไลน์ poppycake

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2670
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-4
Re: ...แค่คุณ... ตอนที่ 9 up [23/2/61]
«ตอบ #33 เมื่อ23-02-2018 16:46:01 »

น้องไวท์ประกาศสงครามโจ่งแจ้งมากๆๆๆๆ
พี่ควินก้อเลยจัดให้ซะเลย 5555555555

ออฟไลน์ Caramel Syrup

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 465
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-2
Re: ...แค่คุณ... ตอนที่ 9 up [23/2/61]
«ตอบ #34 เมื่อ23-02-2018 18:37:17 »

 ประกาศสงครามกันแล้ว  ยกป้ายไฟกันเล้ย 

ออฟไลน์ catka12

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 578
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-0
Re: ...แค่คุณ... ตอนที่ 9 up [23/2/61]
«ตอบ #35 เมื่อ23-02-2018 22:06:32 »

มีเพื่อนแบบนี้มันน่า...  :z6:   :m16:

ออฟไลน์ wanirahot

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 467
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1
Re: ...แค่คุณ... ตอนที่ 9 up [23/2/61]
«ตอบ #36 เมื่อ24-02-2018 00:46:34 »

ยกป้ายไฟพี่ควินอีกคน แซ่บ!

ออฟไลน์ ygff0429

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 12
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: ...แค่คุณ... ตอนที่ 9 up [23/2/61]
«ตอบ #37 เมื่อ25-02-2018 22:36:35 »

พี่คลินขี้แกล้งงงงงง :-[ :-[ :-[

ออฟไลน์ onlyplease

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
Re: ...แค่คุณ... ตอนที่ 9 up [23/2/61]
«ตอบ #38 เมื่อ25-02-2018 23:04:32 »

จัดไปเลยควิน มาดนางพญามากๆอ่ะ o13 o13

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
Re: ...แค่คุณ... ตอนที่ 9 up [23/2/61]
«ตอบ #39 เมื่อ26-02-2018 20:37:17 »

 :pig4: :pig4: :pig4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ...แค่คุณ... ตอนที่ 9 up [23/2/61]
« ตอบ #39 เมื่อ: 26-02-2018 20:37:17 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ earthearthx

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 26
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
Re: ...แค่คุณ... ตอนที่ 10 up [10/3/61]
«ตอบ #40 เมื่อ10-03-2018 10:13:57 »

ตอนที่ ​10





พาร์ท ควิน





ผมเดินกลับออกมาที่โต๊ะก็เห็นคนที่เดินชนไหลผมออกมาก่อนนั่งอยู่ที่โต๊ะแล้ว พอไวน์หันมาเห็นผมก็ส่งยิ้มมาให้ราวกับว่าเหตุการณ์ในห้องน้ำเมื่อกี๊ไม่ได้เกิดขึ้น เห็นแบบนั้นผมก็ยิ้มตอบกลับไปแล้วเดินกลับไปนั่งลงที่เดิม

"พี่ควินหายไปไหนมาหรอ เมื่อกี๊ก็ว่าเดินออกมาพร้อมกันแต่พอหันไปผมก็ไม่เห็นพี่แล้วเลยเดินกลับมาก่อน"

ทันทีที่ผมนั่งลงไวน์ก็หันมาถามผมด้วยสีหน้าเหมือนสงสัยนักหนา คำถามที่ผมไม่รู้เรื่องด้วยเลยเรียกความสนใจจากคนทั้งโต๊ะได้ในตอนนี้ ผมมองหน้าไวน์ที่กลังส่งยิ้มมาให้อย่างน่ารักถ้าเรื่องนี้ไม่เกิดกับผมก็คงไม่มีทางได้รู้เลยว่าภายใต้ใบหน้าท่าทางน่าเอ็นดูของอีกคนจะซ่อนความร้ายกาจไว้

"ไปไหนมา"

พอผมไม่ตอบสักทีคิงก็ถามผมขึ้นมาอีกครั้งใบหน้าหล่อเหลาของคนที่นั่งอยู่ด้านข้างเริ่มขมวดคิ้วเล็กน้อย ผมเลยต้องรีบตอบออกไปก่อนเด็โข่งของผมจะคิดมาก

"พี่แวะคุยกับน้องในร้านแปบนึง ไวน์คงไม่ทันได้สังเกตล่ะมั้ง เนอะ?"

ตอบคำถามที่ทุกคนสงสัยเสร็จคนอื่นก็หันไปคุยกันต่อคิงก็พยักหน้ารับรู้ ผมเลยหันไปมองหน้ากับคนที่ตั้งคำถามขึ้นมาพร้อมกับรอยยิ้มที่มุมปาก อีกคนก็มองหน้ากลับมานิ่งๆแล้วเบนสายตาไปทางอื่นในที่สุด ผมก้มมองนาฬิกาที่ข้อมือก็เห็นว่าใกล้จะได้เวลาแล้วที่ต้องขึ้นไปร้องเพลงแล้วเลยหันไปบอกคนที่นั่งอยู่ข้างๆก่อน

"เดี๋ยวพี่ไปร้องเพลงแล้วนะ"

"อือ"

"ไอ้คะเวนนนนน ทีพวกกูนั่งกันเต็มโต๊ะนี่ไม่เห็นจะหันมาบอกบ้างเลยนะ"

"เออนี่ไม่ใช่หลักไม่ใช่ตอนะเห้ย"

"จำเป็น?"

"โอ้ย! หมั่นไส้!!!"

ผมขำที่พวกมันประสานเสียงด่าผมพร้อมกันอย่างกับนัดกันมาไม่เว้นแม้แต่คนยิ้มยากอย่างคิงยังหลุดยิ้มออกมา ผมขอตัวลุกออกมาหาพวกพี่ในวงข้างเวทียกมือไหว้สวัสดีพี่ทุกคน คุยกันถามไถ่สารทุกข์สุขดิบกันนิดหน่อยเพราะพวกเราก็จะได้เจอได้คุยกันก็แค่วันที่ต้องมาร้องเพลงด้วยกันเท่านั้นนานๆทีถึงจะนัดเจอกันข้างนอกคุยกันเกือบสิบนาทีก็พากันขึ้นเวทีไป

เหมือนทุกครั้งที่ได้มายืนตรงนี้เสียงกรี๊ดและเสียงเรียกจากคนดูด้านล่างยังคงดังเหมือนเดิม ผมทักทายและพูดคุยกับทุกคนด้วยประโยคเดิมเหมือนทุกทีแต่ไม่เคยรู้สึกเบื่อเลยสักครั้งที่ได้ยินเสียงจากผู้ชม จะเรียกว่าเป็นความภูมิใจส่วนตัวก็ได้มั้งครับที่มีคนชื่นชอบเรามากขนาดนี้ดีใจทีมีคนชอบในตัวเราชอบฟังเสียงเรา ไม่รู้สิ มันรู้สึกดีจริงนะ 

ผมเริ่มร้องเพลงไปเรื่อยๆตามเพลงที่ตกลงกันไว้มีบ้างที่ร้องเพลงที่คนดูขอมา ระหว่างที่ร้องผมหันไปมองทางโต๊ะของตัวเองอยู่บ่อยครั้งแต่ทุกครั้งที่มองไปก็แทบจะไม่เห็นอะไรเพราะความสลัวของไฟในร้านแต่ผมแน่ใจแม้ว่าจะเห็นไม่ชัดว่ามีใครคนนึงที่มองมาที่ผมอยู่ตลอด คนคนเดียวกันกับที่ผมคอยจะมองหาเวลาที่มองไป วันนี้ผมว่าผมอาจจะร้องเพลงได้เพราะกว่าที่เคยร้องมาก็เป็นได้

เพราะอะไรอ่ะหรอ?

ก็เพราะได้ร้องให้คนที่ชอบฟังด้วยไงครับ~

"วันนี้ขอลาไปก่อนนะครับทุกคน เจอกันใหม่อาทิตย์หน้าไว้มากันใหม่นะคร้าบบบบ"

"พี่ควิ๊นนนนนนน"

"อย่าเพิ่งไปเลยพลีสสสส"

"กิ๊บจะมาใหม่นะค้าาาา"

ผมแจกยิ้มส่งท้ายให้ทุกคนก่อนลงจากเวทีบอกลาพี่เขาแล้วแยกตัวเดินออกมาทันที ระหว่างทางมีคนทักผมตลอดทางผมก็ตอบกลับสั้นๆบ้างยิ้มให้บ้างมาเรื่อยๆจนมีน้องผู้หญิงคนหนึ่งมาหยุดยืนตรงหน้าผม

"พี่ควินถ่ายรูปกับเยลลี่หน่อยได้มั้ยคะ"

"อ่า ได้ครับ"

พอผมตอบรับคำขอน้องคนที่ชื่อเยลลี่ก็เข้ามายืนเบียดผมด้านข้างทันที เพื่อนของน้องเป็นคนถ่ายรูปให้พลางกรี๊ดกร๊าดกันไม่หยุด น้องเยลลี่เริ่มกอดแขนผมเอาไว้แทรกเข้ามาใกล้เข้าไปทุกที คนที่ถือโทรศัพท์ก็ไม่ยอมกดสักทีมัวแต่หันไปซุบซิบกับอีกคนที่คงจะเป็นเพื่อนกันอยู่นั่นแหละผมก็ยิ้มจนเหงือกเกือบแห้งกว่าจะเสร็จ พอจะขอตัวไปก็มีอีกคนเข้ามาขอถ่ายอีกผมเลยต้องยืนยิ้มต่อไปอีก คนที่แล้วว่าใกล้แล้วนะครับแต่น้องคนนี้แทบจะเอาหน้าอกนั่นมาหนีบผมไว้อยู่แล้ว ผมเขยิบตัวออกเล็กน้อยแต่น้องเขาก็ตามติดชิดมาไม่หยุด ถ่ายให้เสร็จสักทีเถอะผมเริ่มรู้สึกร้อนๆหนาวๆอย่างบอกไม่ถูกแล้วครับ

"ขอโทษนะคะพี่ควิน"

"ครับ?"

ผมยังไม่ทันได้รู้ตัวน้องคนเขาก็เขย่งตัวขึ้นมาทำท่าะหอมแก้มผมแต่เพราะผมตกใจเลยหันหน้าเข้าหาน้องพอดีแทนที่ริมฝีปากน้องจะโดนแก้มผมกลับกลายมาเป็นแตะลงที่มุมปากผมแทน ผมสะดุ้งดีดตัวถอยออกมาจากน้องเขาแล้วหันไปมองทางโต๊ะของตัวเองที่มีคนที่ผมกลัวจะเห็นภาพเมื่อกี๊มากที่สุดนั่งอยู่ เสียงโห่แซ็วจากโต๊ะใกล้เคียงที่เห็นเหตุการณ์แทบจะไม่ได้เข้าหูผมเลยเมื่อผมหันไปแล้วพบว่า



คิง...



มองมามาทางนี้...



ตอนนี้ผมรู้เลยว่าคิงจะต้องเห็นแน่ๆและไม่รู้ว่าคิงจะคิดยังไง ตอนนี้แค่กลืนน้ำลายผมยังรู้สึกว่ามันเป็นเรื่องยาก ผมหันมาหาน้องคนที่หอมแก้มผมก็เห็นว่าน้องกับเพื่อนก็กรี๊ดกันเบาๆแล้วพากันชะโงกหน้าดูรูปในโทรศัพท์ที่กดถ่ายไว้เมื่อกี๊ ผมเอื้อมมือไปคว้าโทรศัพท์เครื่องนั้นมาท่ามกลางความงุนงงของน้องผู้หญิงทั้งกลุ่ม รูปในโทรศัพท์ถ่ายช็อตนั้นไว้ได้อย่างชัดเจนผมกดลบทิ้งแล้วยื่นคืนให้น้องเขา

"ขอโทษนะครับ แต่พี่คงให้เก็บรูปนี้ไว้ไม่ได้"

"ทะ ทำไมคะ"

"คนของพี่เขาคงไม่พอใจน่ะครับ"

"..."

"ขอตัวก่อนนะครับ"



ผมเดินตรงมายังโต๊ะโดยไม่ได้สนใจสีหน้าเหมือนเหวอของน้องกลุ่มเมื่อกี๊และไม่ได้สนใจว่าใครจะได้ยินที่ผมพูดบ้าง สองขาของผมตอนนี้ทำหน้าที่ได้ดียิ่งกว่าที่เคยใช้มาถ้าวิ่งไปได้ผมจะวิ่งไปแล้วถ้ามันทำให้ผมไปถึงตัวอีกคนได้ไวยิ่งขึ้น หวังว่าคิงคงจะเข้าใจว่าผมไม่ได้ตั้งใจ นี่เกิดมาผมยังไม่เคยลนลานขนาดนี้มาก่อนเลยนะและแล้วผมก็พาร่างตัวเองมาถึงที่โต๊ะจนได้

สายตาของคนทั้งโต๊ะทั้งเพื่อนผมและเพื่อนคิงมองมาที่ผมเป็นตาเดียวยกเว้นแค่คิงคนเดียที่ไม่ได้มองมา ผมหันไปมองหน้าเพื่อนแต่ละคนทำสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออกแม้แต่เพื่อนของคิงยังทำสีหน้ากระอักกระอ่วน ทั้งโต๊ะเงียบกริบไม่มีใครพูดอะไรออกมาสักคำ คิงก็ไม่ยอมเงยหน้ามามองผมเลยด้วยซ้ำ ผมหันไปสบตาไอ้ไทค์มันก็ส่ายหน้าให้ผมรู้ว่าไม่โอเคอย่างถึงที่สุด ผมค่อยๆนั่งลงที่เดิมข้างคิงแต่ไม่ทันจะอ้าปากพูดอะไรก็มีเสียงหนึ่งแทรกขึ้นมาซะก่อน

"แหมพี่ควินนี่แฟนคลับเยอะจังเลยนะครับ ผมล่ะอิจฉามีแต่สาวล้อมหน้าล้อมหลังเต็มไปหมดเลยอ่ะ"

"เอ่อ นะ นั่นสิเนอะ ไอ้ไวน์ก็พูดถูก อิจฉากันทั้งโต๊ะเลยเนี่ย ฮ่ะๆ"

"ใช่ๆ ไอ้ควินมันแฟนคลับเยอะ โดนแต๊ะอั๋งประจำเลย ใช่ม้ะไอ้ซองๆ"

"เออๆแต่ไอ้ควินมันไม่ได้คิดอะไรหรอก ผู้หญิงสมัยนี้แม่งน่ากลัวจู่โจมแบบไม่ค่อยตั้งตัว"

ประโยคแรกที่ถูกพูดออกมาจากปากของไวน์ทำเอาผมที่กำลังรู้สึกไม่ดีเกือบจะล้มโต๊ะให้ได้แต่ประโยคถัดมาเหมือนทุกคนจะพยายามช่วยพูดให้สถานการณ์มันดีขึ้นแต่เหมือนยิ่งพูดยิ่งแย่ผมส่ายหน้าให้ทุกคนหยุดพูดแล้วหันหน้ามาหาคนที่ยังไม่ยอมหันมาคุยกับผมสักทีแล้วลองเรียกเบาๆ

"...คิง"

"..."

ไม่มีข้อความตอบรับจากหมายเลขที่ท่านเรียกแต่อย่างใด ผมเหลือบไปมองคนอื่นก็แทบจะไม่มีใครขยับตัวรวมทั้งผมด้วย ผมเริ่มใจเสียแล้วนะที่ผ่านมาอีกคนไม่เคยจะไม่สนใจทำเมินกันแบบนี้เลย ผมเม้มปากในหัวคิดหาทางง้ออีกคนให้หายงอนให้ได้ดูแล้วคงจะยากตรงนี้คนเยอะด้วยสิ อืมมม

"คิง...กลับคอนโดกันไหม?"

ผมพูดจบคิงลุกขึ้นจากที่นั่งแล้วเดินดุ่มๆออกไปไม่บอกลาอะไรใครสักคำทำเอาทุกคนที่อยู่มองหน้ากันตาปริบๆ

"พี่ควิน ปกติไอ้คิงไม่เคยเป็นแบบนี้เลยนะ พวกผมยังนึกไม่ออกเลยว่าจะเป็นยังไงต่อ"

"จริงพี่ เคยเห็นแต่ตอนมันโกรธ น่ากลัวสุดๆอ่ะ"

"นั่งบื้ออยู่ได้ไอ้ควิน! ตามไปเร็วๆดิวะ!"

"ฮะ อะ เออๆ"

ผมมัวแต่นั่งงงทำอะไรไม่ถูกอยู่ตรงนั้น ยิ่งเพื่อนของคิงพูดมาอย่างนั้นผมยิ่งกลัวว่าจะโดนโกรธขึ้นมาจริงๆ กว่าผมจะดึงสติให้ลุกตามไปก็มองหาอีกคนไม่เจอแล้ว ผมรีบวิ่งออกไปตามทางที่เห็นคิงเดินไปจนมาถึงลานจอดรถมองซ้ายมองขวาก็ยังหาไม่เจอ จะกลับไปแล้วหรือเปล่านะ แต่เดี๋ยวก่อน...คิงบอกว่าจะกลับกับผมนี่หว่า ผมรีบวิ่งกลับไปที่รถของตัวเองทันที อาจจะดูหลงตัวเองแต่ผมมั่นใจว่าอีกคนจะไปรอที่รถแน่นอนแต่เพราะเมื่อกี๊ผมวิ่งอ้อมไปดูรอบร้านทำให้กว่าจะกลับมาถึงรถก็เหนื่อยจนต้องก้มชันเข่าเพื่อให้หายเหนื่อยอยู่เป็นนาที พอเงยหน้าขึ้นมาก็เห็นคนที่วิ่งหายืนพิงรถแล้วมองมาที่ผมด้วยสายตาว่างเปล่าแบบที่ผมไม่เคยได้รับจากอีกคนมาก่อน...



แต่ละก้าวที่เดินเข้าไปหาคิงรู้สึกมันยากเย็นเหลือเกินกว่าจะพาร่างเข้าไปอยู่ตรงหน้าอีกคนได้ก็แทบจะทรุดลงไปนั่งท่พื้นให้รู้แล้วรู้รอดซะให้ได้

"คิง...คือเมื่อกี๊พี่ไม่ดะ-"

"กุญแจรถ"

"เอ่อ คิงจะขับหรอ"

"อืม"

"...อ่ะนี่"

ผมยื่นกุญแจในมือไปให้ คิงรับไปแล้วเดินไปเปิดรถแล้วยัดร่างเข้าไปนั่งด้านคนขับผมรีบเปิดประตูข้างแล้วนั่งตามเข้าไป คิงสตาร์ทรถแล้วออกตัวทันทีผมหันไปมองสีหน้าคนขับแล้วยังไม่กล้าพูดอะไรออกไปเลยสักคำ ดึกแบบนี้รถบนถนนเริ่มบางตาทำให้คันเร่งของรถถูกใช้ได้อย่างคุ้มค่า ผมอยากให้บอกให้คนด้านข้างชะลอความเร็วลงแต่หน้าตาดุดันนั้นทำผมพูดไม่ออกได้แค่จับเบาะแล้วนึกถึงบทสวดทุกบทที่พอจะจำได้มาท่องไว้ในใจภาวนาให้กลับถึงคอนโดได้อย่างปลอดภัย ระยะทางจากร้านถึงคอนโดนที่ปกติใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมงแต่ตอนนี้มาถึงด้วยเวลาไม่ถึงสิบห้านาที หัวใจผมเต้นถี่รัวเร็วจนกลัวว่ามันจะวายตายไปก่อนจะได้ง้ออีกคน ไม่ทันจะได้คิดอะไรอีกคนก็เปิดประตูลงไปแล้ว

"คิง!"

"ไปคุยกันบนห้อง"

คราวนี้ผมไม่ยอมให้อีกคนเดินหนีอีกแล้วรีบวิ่งตามลงไปคว้าแขนอีกคนให้หันหน้ามาคุยกันให้รู้เรื่องสักทีแต่คิงบอกให้ขึ้นไปคุยกันข้างบนแล้วมือของอีกคนก็ดึงผมให้เดินตามไปที่ลิฟท์ ชั้นที่อีกคนกดไม่ใช่ชั้นที่ห้องผมอยู่แต่เป็นชั้นที่สูงกว่าชั้นของผมมากหรือว่าอาจจะเป็นชั้นที่เป็นห้องของ...คิง

ใจผมเต้นขึ้นมาพอคิดว่าจะได้ขึ้นไปที่ห้องที่ผมไม่เคยขึ้นมาแต่แล้วผมก็ต้องหยุดจินตนาการไว้เพราะถูกดึงความคิดให้มาสนใจความเจ็บบริเวณข้อมือของผมที่ถูกคนด้านข้างบีบไว้อย่างแรง พอหันไปมองอีกคนเหมือนไม่ได้รู้ตัวด้วยซ้ำว่าออกแรงบีบแขนของผมจนเจ็บใบหน้าคมมองตรงไปที่หมายเลขชั้นที่แสดงที่สูงขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งลิฟท์เปิดออกตัวของผมเหมือนโดนกระชากให้เดินตามอีกคนออกไป ผมสอดสายตามองไปรอบๆก็เห็นว่าทั้งชั้นนี้มีประตูเพียงแค่สี่ประตูเท่านั้น คนตัวสูงกว่าหยุดที่ประตูแรกล้วงหาคีย์การ์ดเปิดประตูเข้าไป

พอเข้าไปในห้องอีกคนปล่อยมือผมออกแล้วเดินไปเปิดประตูห้องหนึ่งแล้วเดินเข้าไป ผมรีบก้าวขาตามอีกคนไปก็พบว่าห้องที่คิงเดินเข้าไปเป็นห้องน้ำเพราะเจ้าตัวไม่ได้ปิดประตู ก๊อกน้ำถูกเปิดน้ำที่ไหลออกมาตอนนี้ถูกมือใหญ่วักสาดเข้าไปที่ใบหน้าของตัวเองที่ยืนอยู่หน้ากระจกจนพอใจ ผมเดินเข้าไปหยิบผ้าขนหนูที่เห็นวางอยู่ที่ชั้นข้างกระจกมาถือไว้แล้วเดินไปจับตัวคนที่กำลังหงุดหงิดให้หันมาหากัน ผ้าขนหนูถูกใช้ซับน้ำบนใบหน้าคมอย่างใจเย็น

"ใจเย็นลงบ้างหรือยัง"

"..."

"ว่ายังไงครับคิง ทำไมไม่ตอบพี่"

"..."

"หรือเราไม่อยากคุยกับพี่อีกแล้ว พี่จะได้ไม่พูดอีก"

"พูดมา"

"งั้นฟังพี่ พี่ไม่ได้ตั้งใจให้เกิดเรื่องแบบนั้นขึ้น เค้ากระโดดมาเองพี่ไม่ทันได้ตั้งตัวเลยนะจริงๆ"

"อือ"

"เชื่อพี่เถอะ ผู้หญิงคนนั้นพี่ก็ไม่รู้จัก"

"...ผมรู้"

"หืม? คือยังไง"

"เข้าใจ...ว่าพี่ไม่ได้ตั้งใจ"

"แล้วทำไม..."

"แต่มันไม่ชอบ ไม่ชอบให้ใครมาทำแบบนี้ เข้าใจแต่มันหงุดหงิด มันโมโห ไม่อยากเห็น ไม่รู้จะทำยังไง...มันต้องทำยังไงพี่ควิน..."

​คนที่ไม่รู้จะทำยังไงก้มหน้าลงวางซบลงที่ไหล่ผมแล้วพูดออกมา ประโยคที่ทั้งน่ารักและน่าสงสารของอีกคนทำให้ผมรู้สึกดีและไม่ดีไปพร้อมๆกัน ผมยกมือขึ้นลูบกลุ่มผมที่ซุกอยู่บนไหล่อย่างปลอบประโลมความรู้สึกอีกคนให้หายดี ไม่ใช่แค่คิงทีไม่รู้จะทำยังไงแต่ตอนนี้ผมเองก็ถูกหลายความรู้สึกเข้าปะทะจิตใจผมอยู่ทั้งดีใจที่อีกคนหวง รู้สึกเสียใจที่ทำให้อีกคนรู้สึกแย่ รู้สึกผิดที่ปล่อยให้คนอื่นมาทำอะไรแบบนั้นแต่ที่ชัดเจนที่สุดคือตอนนี้ความรู้สึกที่มีต่อคิงมันเพิ่มขึ้นอีกแล้ว...

"พี่ขอโทษนะครับ"

"อย่าให้เห็นอีก"

"ไม่มีอีกแล้ว"

"ถ้ามีอีกจะไม่ทน"

"จะทำอะไรพี่หรอ"

หัวทุยที่ซบอยู่ที่ไหล่ค่อยๆยกขึ้นมาแต่ไม่ได้ถอยห่างไปไหนไกล ใบหน้าอยู่ใกล้กันเพียงคืบทำให้สายตาโฟกัสอย่างอื่นไม่ได้นอกจากสบตากันและกัน ฝ่ามือของคนตรงหน้าแนบลงมาที่ใบหน้าของผมนิ้วหัวแม่มือของอีกคนแตะลงที่ริมฝีปากของผมแล้วขยับไล้ช้าๆ มุมปากยกขึ้นเล็กน้อยก่อนที่ประโยคคำตอบร้ายกาจจะถูกเอื้อนเอ่ยออกมา



"ผมจะลงโทษพี่...แบบที่พี่จะ...นึกไม่ถึงเลยล่ะ"





ไอ้เด็กบ้า...

ผมไม่สามารถแปลความหมายของคำว่าลงโทษที่อีกคนบอกให้เป็นเรื่องดีได้เลย ไอ้ควินมึงนี่มันใจบาปจริงๆ









"พี่เจ็บหรือเปล่า"

"ไม่เป็นไร แค่นี้ไม่เจ็บหรอก"

"แต่มันแดงไปหมดเลย"

"ก็เราบีบซะแรงเลยนี่"

"แสดงว่าเจ็บ"

"พี่บอกว่าไม่เจ็บก็ไม่เจ็บสิครับ"

"ขอโทษ"

"ครับ"

ตอนที่เดินออกมาข้างนอกพอดีว่าคิงดันเห็นข้อมือของผมที่ขึ้นรอยแดงจากที่อีกคนบีบตอนโมโหเลยเป็นเรื่องเถียงกันอยู่ตอนนี้ คนขี้หวงเอาแต่โทษตัวเองว่าทำให้ผมเจ็บแต่ถ้าถามว่าเจ็บไหมมันก็นิดหน่อยทีมันแดงขนาดนี้คงเป็นเพาะผมผิวขาวเวลาโดนอะไรนิดหน่อยเลยเป็นรอยขึ้นมา คนทำก็นั่งทำหน้าหมาซึมรู้สึกผิดอยู่ที่โซฟาตั้งแต่ออกมาจากห้องน้ำจนนี่ผ่านไปเกือบครึ่งชั่วโมงแล้วยังเอาแต่ถามผมอยู่นั่นแหละว่าเจ็บไม่เจ็บ

"ขอโทษ"

"เฮ้อ เอางี้แล้วกัน"

ผมยื่นข้อมือไปที่หน้าคนที่รู้สึกผิดก่อนที่จะได้รับสีหน้าไม่เข้าใจอย่าแรงกลับมา

"อะไร"

"เอาไปทำยังไงก็ได้เลยที่คิดว่าพี่จะหายเจ็บ จะพันจะทาจะอะไรก็ทำเลยมา..."

ยังไม่ทันจะจบประโยคข้อมือของผมก็โดนดึงไปก่อนที่ริมฝีปากบางของคนรู้สึกผิดจะจรดลงมาที่รอยแดงแล้วค้างไว้แบบนั้น ผมแอบสะดุ้งจนต้องดึงแขนออกเมื่อสัมผัสเปียกชื้นจากบางอย่างแตะลงที่ข้อมือแต่เหมือนอีกคนจะรู้ทันถึงได้จับมือไว้ก็ไม่ปล่อยให้ดึงออกง่ายๆ หน้าผมร้อนขึ้นมาทันทีเมื่อถูกคนตรงหน้าช้อนสายตาขึ้นมามองพร้อมกับอ้าปากและงับข้อมือเอาไว้ ลิ้นร้อนชื้นที่รู้สึกได้กำลังไล้เลียที่บริเวณรอยแดงเหมือนกำลังจะรักษาให้ สายตาไม่ได้ละจากกันสักวินาทียิ่งทำให้ความรู้สึกร้อนรุ่มเริ่มก่อตัวขึ้นก่อนอะไรจะมากไปกว่านี้ฟันคมที่งับข้อมือไว้ค่อยๆคลายออก แต่ข้อมือยังคงถูกจับเอาไว้ไม่ทันจะตั้งตัวใบหน้าอีกคนก็เคลื่อนเข้ามาใกล้ก่อนที่ริมฝีปากผมจะถูกครอบครองในที่สุด รสจูบที่ผมเริ่มจะคุ้นชินถูกมอบมาให้อย่างยาวนานจนแทบจะหมดลมหายใจ เว้นจังหวะไม่กี่วินาทีก็ถูกปรนเปรอต่ออยู่อย่างนั้น ฝ่ามือของอีกคนเริ่มสอดเข้าไปปัดป่ายภายในเสื้อของผม ความรู้สึกเสียวซ่านโจมตีจนทนแทบไม่ไหวเมื่อยอดอกถูกนิ้วมือด้านในสัมผัสไปโดน

"อือ หยะ อื้ออ"

อีกคนไม่ปล่อยให้ผมได้พูดปิดปากผมซ้ำแล้วซ้ำเล่า กระดุมเสื้อถูกปลดออกจนหมดแขนเสื้อข้างหนึ่งตกลงจากไหล่ คิงเริ่มจูบไปตามโครงหน้าของผมไล่ลงไปเรื่อยปลายจมูกที่ซุกไซร้และลมหายใจร้อนแถวลำคอทำเอาผมรู้สึกหมดแรงอย่างงายดาย ความรู้สึกเจ็บบริเวณไหปลาร้าทำให้ผมรู้ได้ทันทีว่าอีกคนจะต้องทิ้งรอยเอาไว้แน่ แต่สติตอนนี้ไม่มีเหลือพอที่จะห้ามได้มือไม้ของผมก็ไม่สามารถจะอยู่เฉยเอื้อมไปปลดกระดุมเสื้อของอีกคนให้หลุดออก มือใหญ่ของอีกคนเริ่มปลดกระดุมกางเกงของผม สติอันน้อยนิดสั่งให้ผมรีบคว้ามือของอีกคนไว้

"...พี่ควิน"

"แฮ่ก คิง"

"แค่ข้างนอก...นะ"

"อือออ"

สิ้นคำอ้อนวอนของอีกคนผมก็หมดแรงจะต้านทานมือใหญ่ปลดซิบกางเกงผมลงก่อนจะเริ่มล้วงเข้าไปทักทายน้องชายผมที่เริ่มจะตื่นตัวอยู่แล้วมือหนาเค้นคลึงแท่งร้อนของผมจนมันชูชันขึ้นมา สายตาของผมเองก็ดันเหลือบไปเห็นบางอย่างที่ดันเป้ากางเกงของอีกคนอยู่จึงได้เอื้อมมือไปปลดซิบกางเกงของอีกคนเช่นกัน

"อ่า พี่ควิน"

"อืม"

ทันทีที่สัมผัสโดนของอีกคนก็อดจะตกใจไม่ได้ ขนาดแก่นกายของผมเองก็ถือว่าน่าภูมิใจแล้วนะแต่ขนาดที่ใหญ่จนกำแทบจะไม่รอบที่ผมกำลังสัมผัสอยู่นี่มันจะเกินไปแล้วแต่ไม่มีเวลาให้อึ้งได้นานเมื่ออีกคนเริ่มขยับมือรูดรั้งความคิดของผมก็กระเจิงไปคนละทิศคนละทาง ยิ่งความเปียกชื้นเข้าครอบครองยอดอกเรียวลิ้นที่ตวัดหยอกล้ออยู่ยิ่งทำให้ผมครางออกมาไม่เป็นภาษา

"พี่ควิน...ขยับที"

"อ่า"

"ฮึมมม"

ยิ่งได้ยินเสียงอีกคนยิ่งทำให้ผมได้ใจขยับมือช้าเร็วสลับกันไปจนอีกคนทนไม่ไหวขยับสะโพกตามมือที่ผมเป็นคนชักนำ จนเมื่อไกล้ถึงขีดสุดทั้งผมและคิงต่างเร่งมือจนคิงทนไม่ไหวดึงรั้งผมให้ขยับเข้าไปไกล้กว่าเดิมก่อนที่จะกอบกุมแก่นกายของเราทั้งคู่ไว้ด้วยมือเดียวแล้วรูดรั้งรัวเร็ว ริมฝีปากหน้าประกบจูบลงมาลิ้นร้อนกวาดต้อนเกี่ยวพันกันไปทั่วทั้งปากจนวินาทีสุดท้ายที่สิ้นสุดความอดทนปลดปล่อยทุกหยาดหยดออกมา

"อ่าาาาา พี่...ควิน"

"อ่ะ อ่ะ อื้อออ คิงง"

ผมก้มเอาหัวหน้าพิงอกแกร่งของคิงอย่างหมดแรง น้ำเสียงหอบหายใจจากผมและคิงยังดังออกมาไม่หยุด ลำตัวของผมและคิงเปรอะเปื้อนของเหลวข้นที่ถูกปล่อยออกมาเต็มไปหมด บอกตรงๆว่ามีอะไรกับใครมาก็ไม่ใช่น้อยแต่ไม่เคยมีครั้งไหนที่จะตื่นเต้นแบบนี้มาก่อน ผมตัวอ่อนเปลี้ยอยู่ในอ้อมกอดของอีกคนเกือบสิบนาทีก่อนที่จะสัมผัสได้ถึงแรงกดลงมาที่บริเวณกลุ่มผม ได้ยินเสียงสูดลมหายใจเข้าช้าๆจนอดจะยิ้มออกมาไม่ได้

"พี่ควิน"

"ครับ"

"พี่ควิน"

"ว่าไง"

"พี่ควิน"

"หึหึ"

ผมเงยหน้ามองเด็กน้อยที่เรียกร้องหาผมไม่หยุด สายตาที่มองผมด้วยความหลงใหลแบบนี้ถึงได้ทำให้ผมเอ็นดูมาตลอด สายตาที่มองมาที่ผมแบบนี้ถึงได้ทำให้ผมรู้สึกอะไรได้มากมายแบบวันนี้คิงก้มหน้าแนบริมฝีปากลงมา ผมหลับตารับจุมพิตอย่างเต็มใจ ไม่มีการขยับเขยื้อนใดๆทำเพียงแค่แนบค้างไว้แบบนั้นก่อนจะละออกไป

"พี่ควิน"

"ครับ"

"คบกับคิงเถอะนะ"

.

.

.

.

.

.

"​ครับ"







































สวัสดีจ้า มาแล้วเน้อออ หายไปนานอย่าพึ่งด่าพี่เลยพี่ไม่ว่างจริงจริ๊ง เอาเป็นว่าไถ่โทษที่มาช้าหวังว่าฉากนี้จะสามแก่ใจพวกเจ้ากันนะ5555555555555 ใครที่อ่านแล้วก็ติชมกันได้นะคะ พี่อ่านทุกคอมเมนท์ที่ทุกคนส่งมาเลยน้า ขอบคุณทุกกำลังที่ทำให้พี่อยากแต่งต่อไป ยังไงก็รักทุกคนนะคะ จุ้บจู้บบบ



พุดคุยกันได้ในทวิต @earthybenben #คิงควิน น้าาาาา

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
Re: ...แค่คุณ... ตอนที่ 10 up [10/3/61]
«ตอบ #41 เมื่อ10-03-2018 11:31:56 »

 :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ poppycake

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2670
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-4
Re: ...แค่คุณ... ตอนที่ 10 up [10/3/61]
«ตอบ #42 เมื่อ10-03-2018 14:14:01 »

เราต้องการอีกกกกกก อยากได้อีกสักตอน >\\\\\<

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
Re: ...แค่คุณ... ตอนที่ 10 up [10/3/61]
«ตอบ #43 เมื่อ10-03-2018 14:47:04 »

 :pig4:k

ออฟไลน์ Plavann

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 52
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
Re: ...แค่คุณ... ตอนที่ 10 up [10/3/61]
«ตอบ #44 เมื่อ10-03-2018 17:05:31 »

น้องไวน์ แผนหนูที่จะทำให้เค้าบาดหมางกันมันกลายเป็นช่วยให้เค้าไม่อยากรอที่จะเป็นเจ้าของกันและกันแทนแล้วลูก  :laugh:

ออฟไลน์ onlyplease

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
Re: ...แค่คุณ... ตอนที่ 10 up [10/3/61]
«ตอบ #45 เมื่อ10-03-2018 17:26:27 »

So hot กันจริงๆ :mew1: :mew1: :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ earthearthx

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 26
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
Re: ...แค่คุณ... ตอนที่ 11 up [11/3/61]
«ตอบ #46 เมื่อ11-03-2018 21:47:35 »

ตอนที่ 11







พาร์ท ควิน







"เล่ามา"

"ทำไมพวกมึงต้องเสือกตลอดวะ"

"แล้วมึงไมมึงต้องเงียบทุกทีอ่ะ มึงไม่ยอมเล่าพวกกูก็ต้องถามเองป่ะ"

"กูผิด?"

"เออ!!!"

"ก็นะ วันนั้นคิงก็ไม่ได้โกรธอะไรมากอย่างที่คิดหรอก"

"อ้าววว"

"อะไรวะ ตอนนั้นหน้าแม่งเหมือนจะแปลงเป็นเดอะฮัคอยู่แล้วจะไม่โกรธยังไงวะ กูไม่เกท"

"เออ ขนาดกูยังนึกว่ามึงไม่น่ารอดเลยไอ้ควิน"

"ตอนแรกกูก็ว่างั้น เอาจริงกูก็ตกใจเหมือนกันที่คิงบอกกูว่าเข้าใจแต่ที่เห็นแบบนั้นเพราะว่ามันอดจะหงุดหงิดไม่ได้"

"โอ้ยยย คนอะไรหน้าตาดีแล้วจิตใจก็ช่างกว้างขวางยิ่งนัก"

"เหอะ หมั่นไส้"

"อิจฉาที่มึงหล่อสู้เขาไม่ได้ล่ะสิไอ้ซอง"

"อะไร กูหล่อกว่าเห็นๆ ควักลูกตาออกมาล้างบ้างนะชาร์ป"

"ถุย!"

"พอๆ เข้าเรื่องก่อน มีแค่นั้นหรอวะควิน"

"จริงๆหลังมันก็มีอะไรอีกนิดหน่อย"

"อะไรวะ"

"ก็...คิง...ขอกูคบ"

"อะไรของมึง พูดดังหน่อยดิ้"

"เออกูได้ยิงอะไรคิงๆขบๆเนี่ย"

"คิงเป็นเล็บขบ?"

"มึงใช้อะไรคิดวะชาร์ป เอาซะกูเหม็นเลย"

ผมยกมือขึ้นมากุมขมับหลังจากฟังไอ้พวกนี้มันเถียงกัน คือเรื่องมันมีอยู่ว่าทันทีีที่วันจันทร์มาถึงผมก็ถูกเพื่อนโทรตามให้มามหาลัยก่อนเวลาเรียนเกือบสองชั่วโมงบอกว่ามีงานด่วน ผมก็เลยรีบอาบน้ำแต่งตัวแล้วบึ่งมมหาลัยด้วยความเร็วแสงแต่ที่ไหนได้ โดนพวกมันหลอกให้มาเพื่อจะได้เล่าเรื่องเมื่อวันก่อนให้พวกมันฟัง ผมก็เล่าให้ฟังตามที่พูดไปนั่นแหละครับแต่พอจะบอกพวกมันว่าคิงขอผมคบแล้ว...ใครก็ได้ช่วยผมทีผมอดจะนึกไม่ได้จริงๆ ใครสั่งใครสอนให้ขอคนอื่นคบในเหตุการณ์แบบนั้นล่ะ!!! มันก็เอ่อ ติดตาเลยครับบอกตรงๆ ทั้งน้ำเสียงครางทุ้มที่ดังอยู่ข้างหู ริมฝีปากที่ทาบทับลงมาซ้ำแล้วซ้ำเล่า ไหนจะมือใหญ่ที่สัมผัสร่างกายของผมและมือของผมที่ลูบไล้...

"ไอ้ควิน!"

"ใหญ่ หะ อุ้บ!"

ไอ้เต! ใครให้มึงมาเรียกตอนนี้! ผมเผลอหลุดพูดถึงอะไรที่คิดอยู่ออกไปแล้วพอนึกได้ก็ยกมือขึ้นมาปิดปากแทบไม่ทัน ไอ้ควิน! มึงมันคนบาป!

"มึงพูดว่าอะไรนะ?"

"เปล่าๆ แล้วมึงเรียกทำไม"

"เอ้า ก็มึงยังเล่าไม่จบเลยสัส"

"อ่อ เอ้อ"

"เอ้ออะไรล่ะ ว่ามา"

"คือกูบอกว่า...คิงขอกูคบแล้ว"

"ห้ะ!!!"

"จะแหกปากกันทำไม"

"ละ แล้วมึงว่าไง"

"...ก็ตกลง"

"ฮิ้วววววววว ไอ้ควินจะมีผัว!"

"ไอ้ชาร์ป เงียบๆ!

"ควิน"

ไอ้ชาร์ปไอ้ซองยังแหกปากไม่ทันถึงสามวิไอ้เตก็พูดแทรกทุกคนขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่ทำให้ทุกคนในโต๊ะเงียบลงกะทันหัน ผมหันไปมองไอ้เตที่ตอนนี้สีหน้าของมันบ่งบอกว่ากำลังอยู่ในโหมดจริงจังมากกว่าปกติ ผมรู้ว่ามันกำลังจะพูดอะไร แต่ผมก้เงียบและรอมันพูดออกมา

"มึงซีเรียสอะไรวะเต"

"พวกมึงไม่คิดกันบ้างเลยหรือไงว่ามันแปลก"

"แปลกยังไงวะ?"

"ควินมึงคิดดีแล้วหรอที่ตกลงคบกับคิงน่ะ พวกมึงพึ่งคุยกันได้ไม่นานคิดว่ารู้จักกันดีพอแล้วไง"

"กูเข้าใจที่มึงอยากจะบอก แต่กูคิดดีแล้ว"

"เฮ้อควิน ชื่อเสียงคิงก็ไม่ใช่ว่าจะดี มึงกับมันอาจจะแค่หลงกันอยู่ก็ได้ไม่ได้รักไม่ได้ชอบอะไรกันจริงๆหรอก"

"เต มึงเคยเห็นกูเป็นแบบนี้กับใครไหมวะ กูรู้ตัวเองดีว่ากูคิดยังไง"

"แล้วคิงล่ะ มันรู้ใจตัวเองจริงๆแบบมึงหรือเปล่าควิน"

"...ก็ลองดูไปก่อนแล้วกัน กูโอเคน่า"

"เออๆ ตามใจมึง"





ไม่เป็นไรหรอกมั้ง...ขอให้ผมกับคิงคบกันราบรื่นแล้วกัน....









ติ๊ง ติ๊ง



ผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูหลังจากได้ยินเสียงไลน์เข้า พบว่าเจ้าของข้อความที่ส่งมาคือแฟนป้ายแดงของผมเองครับ



King : เลิกยัง

​Q : เลิกแล้ว กำลังลงไป

King : รอสักพัก อ.ปล่อยช้า

​Q : โอเค



ข้อความสุดท้ายขึ้นอ่านแล้วแต่อีกคนก็ไม่ได้ตอบอะไรกลับมา ผมกับคิงตกลงกันว่าจะไปกลับด้วยกันถ้าหากว่ามีเวลาเรียนตรงกันผมไม่อยากให้คิงลำบากมารับมาส่งถ้าไม่จำเป็น เรื่องของเราหลังจากที่คบกันก็ไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนไป ผมก็ยังทำตัวเหมือนเดิม คิงก็ยังเป็นคิงคนเดิมพูดน้อยและเอาแต่ใจยังไงก็ยังงั้น เมื่อวานผมก็อยู่ที่ห้องของคิงแทบทั้งวันดูหนังหาอะไรกินกันไปทั้งวันไม่มีอะไรน่าตื่นเต้นแต่ผมกลับรู้สึกว่ามันพิเศษซะเหลือเกิน รู้สึกว่าแค่ได้ใช้เวลาด้วยกันกับคิงก็มีความสุขแล้วอ่ะ อีกเรื่องหนึ่งที่ยังติดอยู่ในใจแต่ไม่มีโอกาสถามออกไปสักทีก็คือเรื่องของไวน์ ผมอยากจะเคลียร์กับคิงให้รู้เรื่องว่าเจ้าตัวรู้หรือเปล่าว่าเพื่อนตัวเองคิดยังไงหรือรู้แล้วแต่ไม่ได้สนใจ แต่ที่มั่นใจคือไวน์พยายามให้ผมกับคิงแตกกันแน่นอน



เอ๊ะ!?



ถ้างั้นไวน์ก็ต้องอยู่กับคิงตลอดน่ะสิแล้ววันนั้นผมก็เหมือนแสดงตัวไปแล้วว่าเป็นศัตรู เพราะงั้นไวน์อาจจะพูดอะไรถึงผมไม่ดีก็ได้นี่ เอาไงดีล่ะ สงสัยต้องรีบคุยกับคิงเรื่องนี้แล้วล่ะว่าแต่ตอนนี้...เลิกช้างั้นหรอ อืม ไปดูลาดเลาสักหน่อยก็แล้วกัน ผมให้ไอ้เตขับรถไปส่งที่คณะวิศวะ ไอ้เตก็ถามนิดหน่อย ผมก็ยอมบอกไปตรงๆครับว่าจะไปหาคิงและก็จะมาหาข้อมูลของไวน์นิดหน่อย พอไอ้ชาร์ปไอ้ซองได้ยินเลยขอตามมาเสือกด้วยกลายเป็นว่าพวกผมมากันครบแก๊งเลยครับ แต่ไหนๆก็ไหนๆแล้วระหว่างที่อยู่บนรถผมตัดสินใจเล่าเรื่องที่เจอไวน์ในห้องน้ำให้พวกมันฟัง

"โอ้โห เด็กนี่มันร้ายนี่หว่า"

"ถ้ากูอยู่ตรงนั้นกูกระโดดเตะปากไอ้ห่านั่นไปแล้ว"

"เออ มึงก็ใจเย็นอยู่ได้ยังไงวะ"

"ก็ไม่เห็นจะมีอะไร แค่ไม่ไปเต้นตามก็พอให้มันหัวร้อนดิ้นตายไปเองนั่นแหละ"

"ร้ายกาจ"

"หึหึ"

พวกผมมาถึงหน้าคณะของคิงพอดีเราทั้งสี่คนก็เปิดประตูรถลงไป สายตาของคนแถวนั้นก็มองตรงมาที่พวกผมทันที ผมส่งยิ้มกลับไปให้ทุกคนที่มองมาหลายคนก็ส่งยิ้มกลับมาให้บางคนก็หลบตาไปมองอย่างอื่น ตอนนี้หน้าคณะมีคนอยู่มากพอสมควรพวกผมมุ่งหน้าไปหาโต๊ะที่ว่างอยู่แถวๆนั้นแล้วนั่งรอให้คิงลงมา ผมไม่ได้ไลน์ไปบอกว่าจะมารอที่นี่ถือว่าเซอไพรส์ไปครับ ตอนนี้ที่โต๊ะของผมค่อนข้างเป็นที่สนใจโดยเฉพาะไอ้ชาร์ปที่ไม่ได้รู้ตัวเลยว่าถูกสายตาของผู้ชายคณะนี้มองมาที่มันไม่ใช่น้อยสงสารแต่ไอ้ซองนั่งขู่เขาเป็นหมาเฝ้ากระดูกไปได้ ส่วนไอ้เตก็นั่งก้มหน้าก้มตากดโทรศัพท์อยู่คนเดียว รอไม่นานนักศึกษาก็เริ่มเดินลงมาจากตึก ผมชะเง้อหาคนที่มารอและเห็นร่างคุ้นตาเดินมาเป็นกลุ่มสุดท้าย คิ้วผมกระตุกนิดหน่อยเมื่อพบว่ามีสิ่งแปลกปลอมเกาะหลังคนของผมมาด้วย ท่าทางเพื่อนในกลุ่มคงจะกำลังหยอกล้อกับคนที่อยู่บนหลังของคิงตอนนี้ใบหน้าติดจะหวานที่เกยอยู่ที่ไหล่นั่นกำลังหัวเราะอย่างสนุกสนานกับกลุ่มเพื่อน

"ตัวอะไรขี่คอคิงมาวะน่ะ"

"กูว่ามึงพาน้องไปทำบุญบ้างก็ดีนะ"

"พวกมึงนี่นะ"

ผมหันไปปรามเพื่อนก่อนจะหันมามองภาพตรงหน้าอีกครั้ง ถ้าถามว่ารู้สึกยังไงที่เห็นแบบนี้ก็ตอบได้แค่ว่า...**เข้าใจแล้วว่าทำไมวันก่อนคิงถึงได้หงุดหงิด <span id="redactor-inline-breakpoint"></span>**​เหมือนว่าเพื่อนในกลุ่มของคิงจะเห็นว่าผมนั่งอยู่ตรงนี้ถึงได้สะกิดให้คิงหันมา ผมพยายามปัดความหงุดหงิดทิ้งไปเมื่อเห็นรอยยิ้มจางของคิงที่ส่งมา คนที่ขี่หลังอยู่ถูกปล่อยลงที่พื้นอย่างไม่ใยดีก่อนที่ร่างสูงจะเดินเข้ามาหาผมก้มหัวทักทายเพื่อนผมบนโต๊ะทุกคนพอเป็นพิธี

"มานานยัง"

"แปบเดียวเอง"

"ไอ้คิงงงง เห้นพี่เขาแล้วทิ้งพวกกูเลยนะ พวกพี่ๆหวัดดีคร้าบบบ"

"หวัดดีพี่"

"ดีคร้าบบ"

พวกน้องที่เดินตามมาก็ทักทายพวกผมเรียงตัวพวกผมก็ตอบกลับกันไป แวบหนึ่งผมหันไปมองหน้าไวน์แล้วได้รับสายตาที่แสดงความไม่พอใจอย่างแรง ผมเมินสายตานั้นแล้วมาโฟกัสที่เด็กโข่งแทน

"กลับเลยป่ะ"

"อืม คิงมีอะไรอีกไหมล่ะ ไม่มีก็กลับเลยก็ได้"

"เจอแฟนแล้วไม่เห็นหัวพวกกูเลยนะเพื่อนควิน"

ไอ้ซองจีบปากจีบคอกระแนะกระแหนผมจนน่าหมั่นไส้ แต่พอจบประโยคนั้นของมันก็มีเสียงหนึ่งแทรกเข้ามาทันที

"แฟน? แฟนอะไร แฟนใครกัน?"

เป็นไวน์ที่ถามขึ้นมาด้วยสีหน้าไม่เข้าใจพลางมองผมกับคิงสลับกัน แม้แตพวกเพื่อนของคิงคนอื่นก็ทำหน้างงตามกันไป ผมเงยหน้ามองคิงที่ยืนอยู่เป็นเชิงถาม ก่อนที่คิงจะหันไปหาเพื่อนตัวเองแล้วพูดออกมา

"โทษทีกูลืมบอกพวกมึง"

"คือยังไงวะคิง มึงคบกับพี่ควินแล้วหรอ!?"

"อืม"

"จะ จริงหรอ แต่ที่ ที่ผ่านมามึงไม่เคยคบใครจริงๆเลยนี่"

"พี่ควินเป็นคนแรก"

สีหน้าของไวน์ดูสับสนจนถึงขีดสุดแต่ชั่วพริบตาก็แปรเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มสดใสส่งมาให้คิงกับผม ผมมองปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นของไวน์แล้วก็ต้องเปลี่ยนความคิดใหม่ ที่บอกว่าเด็กคนนี้คงทำได้แค่พูดผมว่าคงไม่ใช่แล้ว ไวน์อันตรายกว่าที่ผมคิด...

"โหยยย ดีใจด้วยมึงง กูนี่นึกว่าชีวิตนี้จะไม่มีใครเอามึงแล้วนะ5555555555"

"ฟัคเหอะ"

ไวน์เข้ามาตบไหล่คิงงแล้วทำท่าทางหมือนดีใจโอเว่อร์จนเพื่อนพากันขำเบาๆก่อนที่จะเปลี่ยนมาทางผม มือสองข้างของผถูกรวบไปจับไว้แล้วเขย่าไปมาแต่ใครจะรู้นอกจากผมว่านี่ไม่ใช่แค่การจับมือธรรมดา แรงบีบที่มากกว่าปกติทำให้ผมต้อง้มมองมือของตัวเองแล้วเงยหน้ามามองตัวการที่เสแสร้งอยู่ตรงหน้า

"นี่พี่ควินดูแลเพื่อนผมดีๆนะ มันอาจจะเลวไปบ้างแต่ก็เนื้อหอมสุดๆ...อย่าให้ใครมาแย่งมันไปได้นะ"

เพราะว่าตอนนี้ผมนั่งหันหน้าให้กับคนอื่นไวน์ที่ยืนข้างหน้าจึงหันหลังให้กับทุกคน สีหน้าเหมือนอาฆาตแค้นผิดกับน้ำเสียงที่เอ่ยออกมาถึงได้มีผมเห็นแค่คนเดียวผมกระตุกยิ้มส่งไปให้อีกคนอย่างแนบเนียนพอกันก่อนจะตอบกลับไป

"ไม่ต้องห่วง คนนี้ของพี่ พี่ดูแลได้แน่"

เสียงโห่แซวของเพื่อนและน้องรอบข้างไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกเขินอายอะไร ไวน์บีบมือผมด้วยแรงสุดท้ายก่อนจะปล่อยแล้วถอยไปยืนกับเพื่อน ผมลุกขึ้นมาบอกลาทุกคนแล้วชวนคิงกลับทุกคนก็เตรียมจะแยกย้ายกันไป ผมส่งยิ้มทิ้งท้ายให้กับไวน์ก่อนจะเดินจากมาพร้อมกับอีกคน









"หิว"

"หิวหรอ งั้นแวะหาอะไรกินก่อนกลับคอนโดแล้วกันนะ"

พอยัดร่างเข้ามาในรถยังไม่ทันสตาร์ทคิงก็บ่นหิวขึ้นมาทันที ผมเริ่มสงสัยแล้วนะว่ากระเพาะนี่ทำด้วยอะไรเท่าที่สังเกตมาคิงเป็นคนหิวบ่อยและกินเยอะมาก ไม่รู้ว่ากินขนาดนี้แล้วซิกแพ็คที่หน้าท้องมันยังคงสภาพอยู่ได้ยังไง

"พี่อยากกินอะไร"

"เราน่ะแหละอยากกินอะไร พี่กินอะไรก็ได้"

"เดี๋ยวค่อยคิด"

รถเคลื่อนตัวออกจากมหาลัยขับมุ่งตรงไปทางห้างดังแห่งหนึ่ง ผมเอื้อมมือไปเปิดเพลงในรถฟังระหว่างทาง ผมและคิงไม่ใช่คนที่พูดมากกันทั้งคู่ภายในรถจึงมีแค่เสียงเพลงที่ผมเปิดไว้จนมาถึงเพลงเพลงหนึ่ง


หลับตาพริ้มหรี่แสงไฟในห้องนอน

ปล่อยเสียงเรไรเล่นกล่อมให้นอนหลับฝัน

ภายใต้ผ้าห่มมีเพียงสองเราในอ้อมกอด



กลิ่นหอมของเธอนั้นปลอบให้คลายและหาย

เราช่างโชคดีที่วันนี้มีเธอข้างกาย

เส้นผมของเธอนั้นคลายยาวสยาย

ยอมได้ทุกสิ่งหากต้องทิ้งไปทุกๆอย่าง

สิ่งของเงินทองนั้นต่างหมดความหมาย



​ผมร้องตามออกมาอย่างไม่รู้ตัว สายตาจับจ้องไปที่คนข้างกาย


ถ้าหากเป็นเธอฉันจะยอม

ช้ำก็จะยอมทุกข์ก็จะยอม

ฉันจะไม่กลัวถ้าหากต้องเสียใจ

สักหนึ่งนาทีก็จะยอม

ช้ำก็จะยอมทุกข์ก็จะยอม

ฉันคงต้องยอมถ้าหากต้องเสียใจ

ถ้าหากฉันเสียใจ ถ้าหากต้องเสียใจ



หูของคนขับรถเริ่มแดงจจนผมอมยิ้มออกมาและร้องเพลงต่อไป



มีเพียงสองเราในอ้อมกอด

กลิ่นหอมของเธอนั้นปลอบให้คลายและหาย

ยอมแลกทุกสิ่งหากวันนี้ต้องเซย์กู๊ดบาย

ให้ฉันมีเธอข้างกายคนสุดท้าย


ผมหันหน้าออกมองนอกหน้าต่าง​ปากก็ยังขยับตามเนื้อเพลงไม่หยุด ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ที่รถติดอยู่ที่กลางสี่แยก ไม่รู้ตั้งแต่ตอนไหนที่ถูกอีกคนจ้องมองมา



ถ้าหากเป็นเธอฉันจะยอม

ช้ำก็จะยอมทุกข์ก็จะยอม

ฉันจะไม่กลัวถ้าหากต้องเสียใจ

สักหนึ่งนาทีก็จะยอม

ช้ำก็จะยอมทุกข์ก็จะยอม

ฉันคงต้องยอมถ้าหากต้องเสียใจ



จนท่อนสุดท้ายที่เราต่างมองตาแล้วยิ้มให้กัน...









"เดี๋ยวพี่ยกจานออกไปเอง ไปรอที่โต๊ะเลย"

ตอนนี้เรากลับมาถึงคอนโดแล้วครับ สรุปว่าเราได้ไก่ทอดชื่อดังมากินพร้อมขนมเค้กอีกหลายชิ้น ขนมเค้กของใคร? แน่นอนว่าไม่ใช่ของผม ผมค่อนข้างจะนึกไม่ถึงว่าคิงจะชอบของหวานจนกระทั่งได้เห็นกับตา เดินออกมาพร้อมกันแต่หันกลับไม่เจอ พอเดินย้อนกลับไปก็เจอผู้ชายตัวใหญ่คนเดียวยืนเลือกเค้กท่ามกลางเด็กผู้หญิงสี่ห้าคน ผมทั้งขำทั้งเอ็นดูจนแอบถ่ายรูปเก็บไว้ในโทรศัพท์เป็นสิบ พอซื้อเสร็จผมก็ให้ดิ่งกลับมาที่คอนโดทันทีเพราะกลัวว่าน้องจะหิวมากไปกว่านี้ พอมาถึงผมก็โดนลากมาที่ห้องสุดหรูของอีกคนทันที ผมแทบจะไม่ได้กลับไปเหยียบห้องตัวเองเลยครับ ดูเหมือนว่าน้องจะชอบอยู่ห้องนี้มากกว่าแล้วพอผมจะกลับห้องอีกคนก็จะตามไปด้วย จนเมื่อวานผมต้องขึ้นมานอนที่ห้องนี้ด้วยกัน

"ล้างมือยัง"

"ยัง"

"ไปล้างเลย เร็วๆ"

ระหว่างที่น้องลุกไปล้างมือผมก็ฉีกซอสเทใส่ถ้วยรอไว้ พอเจ้าตัวเดินกลับมาก็นั่งลงตรงข้ามแล้วเราก็ลงมือกินกันทันที กินเสร็จคิงอาสาล้างจานเองผมก็ปล่อยให้ไปทำพาร่างมานั่งที่โซฟาตัวยาวกลางห้องพร้อมกับกดเปิดทีวีดู สักพักคนที่อาสาล้างจานก็เดินออกมาทิ้งตัวลงนั่งข้างกันก่อนจะเอนหัวลงมาวางที่ตักผม ขาเหยียดยาวไปอีกด้านหนึ่ง

"อ้อนแบบนี้จะเอาอะไร"

ผมยิ้มถามพลางลูบหัวของอีกคนอย่างที่ทำบ่อยๆ อีกคนพลิกหน้าเข้าซุกหน้าท้องผมแขนยาวพาดเอวผมไว้นิ่งๆแบบนั้น จนสักพักเสียงลมหายใจดังเล็ดลอดออกมาจนผมต้องก้มลงไปดู เปลือกตาปิดสนิทลมหายใจเข้าออกสม่ำเสมอ หลับไปแล้วสิ ผมปล่อยให้คิงงีบไปแปบนึงก็ปลุกขึ้นมา

"คิง ตื่นก่อนเร็ว จะมานอนทับตะวันแบบนี้ไม่ได้เดี๋ยวปวดหัวนะ"

"อือ"

"อือแล้วก็ลืมตาด้วย"

"อือ"

"หึหึ เร็ววว"

ผมดันจนน้องลุกขึ้นมานั่งหน้าตาบูดบึ้ง มองผมค้อนๆขนผมหมั่นไส้

"ง่วง"

"ไปอาบน้ำไปเดี๋ยวก็หายง่วง"

"อาบให้หน่อย"

"ทะลึ่งละ"

"เขินอะไรล่ะ เห็นๆกันอยู่"

ไหนมันว่าง่วง? พอวนเข้าเรื่องแบบนี้สีหน้างัวเงียก็แปรเปลี่ยนเป็นยียวนขึ้นมาทันที กลายเป็นผมซะอีกที่ทำหน้าอายจนไม่ถูกพอได้ยินประโยคนี้ หยิบหมอนข้างๆปาใส่แม่ง

"ไปเลยไป"

"ไปด้วยกัน"

"จะบ้าหรอ พี่จะไปทำไม"

"โกนหนวดให้หน่อย"

"ทำเองไม่ได้ไหรอ"

"อยากให้ทำให้"

เฮ้อ ผมจะต้องกินอะไร เหล็กไหมใจถึงจะแข็งกว่านี้ได้สักที ผมลุกขึ้นเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวมาสองผืนแล้วกวักมือเรียกให้คิงตามมา พอเข้ามาในห้องน้ำผมก็เอาผ้าเช็ดตัวทั้งสองผืนไปแขวนไว้ ถ้าถามว่าทำไมถึงหยิบมสองผทน บอกเลยว่าผมคงไม่รอดออกไปเฉยๆได้หรอกครับ อาบมันไปเลยนี่แหละ

"ขึ้นไปนั่งข้างบน"

"ครับ"

"ที่โกนหนวดอยู่ไหน"

"ขวามือพี่อ่ะ"

"หึหึหึหึ"

"ขำอะไร"

ผมปิดปากกลั้นขำจนไหล่สั่นเพราะว่าพอหันกลับไปเด็กน้อยที่ผมไล่ให้ขึ้นไปนั่งบนอ่างล้างหน้าที่เป็นแท่นหินอ่อนอย่างดี ภาพที่ไม่คิดว่าจะมีโอกาสได้เห็นของอีกคน ขายาวที่ลอยขึ้นจากพื้นแกว่งไปมามืิอเท้าขอบอ่างนั่งอมยิ้มมองตามผมอย่างน่ารักจนผมกลั้นขำไว้ไม่อยู่ ผมส่ายหน้าตอบไปยิ้มๆเดินเข้าไปยืนระหว่างขาทั้งสองของคิงก่อนจะเริ่มทาครีมโกนหนวดให้น้อง

"จริงๆก็ขึ้นนิดเดียวยังไม่ต้องโกนก็ได้นี่"

"โกนไปเถอะ เดี๋ยยวพี่เจ็บ"

"หือ ทำไมพี่ต้องเจ็บล่ะ"

"เพราะแบบนี้"

"เห้ย! โหหห ทำพี่เปื้อนแล้วเนี่ย"

"55555555"

ผมกำลังจะโวยที่คิงเอาหน้าที่มีครีมโกนหนวดมาถูกับหน้าผมจนเปื้อนตามไปแต่พอได้เห็นว่าคิง...หัวเราะ ผมก็เหมือนต้องหยุดดูและจดจำภาพนี้เอาไว้ ครั้งแรกที่ผมได้เห็นคิงหัวเราะแบบนี้มันสวยงามจนไม่อยากให้ใครได้เห็นแบบที่ผมเห็นเลย ผมยิ้มตามอีกคนโดยไม่รู้ตัวเหมือนถูกร่ายมนตร์คาถาใส่ แต่แล้วเหมือนว่ายังไม่สาแก่ใจของคิง หัวใจผมเต้นแรงจนแทบจะหลุดจากอกอีกครั้งเมื่ออีกคนหยุดหัวเราะและส่งยิ้มมาให้จนตาหยี



ไม่ไหวแล้ว...



ผมโถมตัวเข้าใส่อีกคนวาดวงแขนโอบรอบลำคอคนที่นั่งอยู่ ใบหน้ากดลงกับไหล่หนาก่อนจะถูกแขนแกร่งโอบรัดกลับมาที่รอบเอว



ชอบ...

ผมชอบคิงมากเหลือเกิน...



"พี่ควิน"

"อย่า"

"ห้ะ"

"อย่ายิ้มแบบนี้ให้ใครเห็นเด็ดขาด"

"...ครับ"







































ลืมพี่หรือยังงง มาแล้วนะพี่มาแล้ววว ช่วงนี้พี่มีสอบเกือบไม่ได้มาแต่งแล้ว แต่คนอ่านเรียกร้องพี่ยอมทิ้งการเรียนให้ค่ะ 555555555555555555

ปล.ตอนต่อไปอาจจะมาหลังสอบเสร็จน้าา อย่าพึ่งด่าพี่เลย แต่ถ้าเกิดว่าทุกคิดถึงพี่มาก แสดงว่าทุกคนคือแม่นาคนะคะ ผ่าม5555555555 มุกไม่ฮาพาคนอื่นเครียดไปอีกไหม

เอาดีๆถ้าคิดถึงพี่ไปคุยในทวิตพี่ได้น้า @earthbenben พี่ใจดีมากบอกเลย แล้วก็ฝากแท็ก #แค่คุณ #คิงควินทด้วยน้าาา จุ้บจู้บบบบบ

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
Re: ...แค่คุณ... ตอนที่ 11 up [11/3/61]
«ตอบ #47 เมื่อ11-03-2018 22:35:37 »

 :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
Re: ...แค่คุณ... ตอนที่ 11 up [11/3/61]
«ตอบ #48 เมื่อ12-03-2018 13:16:01 »

หวานไม่เกรงใจกันเลย

ออฟไลน์ poppycake

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2670
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-4
Re: ...แค่คุณ... ตอนที่ 11 up [11/3/61]
«ตอบ #49 เมื่อ13-03-2018 09:19:07 »

หวานกันใหญ่เลยยยยยย~~~~~
แต่ว่าขุ่นน้องไวน์ก็ไม่ธรรมดาจิงๆ น่ากลัวๆ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ...แค่คุณ... ตอนที่ 11 up [11/3/61]
« ตอบ #49 เมื่อ: 13-03-2018 09:19:07 »





ออฟไลน์ earthearthx

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 26
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
Re: ...แค่คุณ... Dark side up [18/3/61]
«ตอบ #50 เมื่อ18-03-2018 12:38:00 »

​Dark side









ปึ่ก

“โอ๊ย!”

เสียงของบางสิ่งกระแทกเข้าศีรษะของเด็กชายอายุสิบสี่ที่นั่งอ่านหนังสืออยู่ที่มุมหนึ่งของห้อง เด็กชายก้มหาสิ่งของปริศนาสิ่งนั้นก่อนจะพบว่ามียางลบก้อนหนึ่งตกอยู่ข้างตัว เขาหยิบมันมากำไว้แน่นแล้วมองหาที่มาของของชิ้นนี้ซึ่งในความจริงไม่จำเป็นต้องตามหาเสียให้ยาก  ยางลบในมือถูกปาไปที่กลุ่มของเด็กชายวัยเดียวกันที่นั่งหัวเราะอยู่อีกมุมหนึ่งของห้อง กลุ่มของคนนิสัยไม่มีที่คอยเอาแต่จะกลั่นแกล้งเขาอยู่ทุกวัน

“เห้ย! มึงปายางลบใส่กูหรอวะ!?”

“มึงปามาใส่กูก่อนป่ะ!”

“อะไร ไหนหลักฐาน พวกมึงปาใส่มันป้ะวะ?”

หัวโจกของกลุ่มนั้นเดินมากระชากคอเสื้อของเขากล่าวหาต่อว่าราวกับว่าเขาเป็นคนต้นเรื่อง ประโยคหลังที่หันไปถามคนอื่นรอบตัวก็ไม่ได้รับการยอมรับแต่อย่างใด สุดท้ายก็ลงเอยเหมือนทุกครั้งร่างของเขาถูกผลักให้ล้มลงพร้อมกับเสียงหัวเราะเยาะเย้ยของคนอื่น รูปร่างผอมแห้งแขนขาเรียวเล็กอ่อนแอเกินกว่าจะสู้ใครไหวทำได้เพียงแค่ก้มหน้ายอมรับชะตากรรมเลวร้ายแบบนี้ต่อไปเหมือนกับที่ผ่านมา...









‘ไวน์ วัทธิกร วงศ์ศักดิ์สิริกูล’ ทายาทคนเล็กของตระกูลเศรษฐีชื่อดัง เติมโตมาท่ามกลางการเอาอกเอาใจจากพ่อแม่พี่ชายไม่เว้นแม้แต่แม่บ้านคนรับใช้เพราะเป็นลูกชายคนเล็กทำให้โดนตามใจมากกว่าปกติ แต่กรถูกปรนเปรอจากคนรอบข้างอาจจะไม่ใช่เรื่องดี ยิ่งนานวันเขายิ่งกลายเป็นคนเอาแต่ใจอะไรที่อยากได้เขาต้องได้อะไรที่ต้องการทุกคนจะต้องหามาให้เขา การเลี้ยงดูอยู่บนกองเงินกองทองทำให้เขารู้สึกว่ายู่เหนือกว่าใคร แม้จะเป็นเพียงเด็กอายุสิบกว่าปีแต่นิสัยของเขาก็ยากต่อการแก้ไขเสียแล้ว

ชีวิตวัยเด็กของเขาไม่ได้ไปเรียนที่โรงเรียนปกติพ่อแม่จ้างคุณครูมาสอนถึงที่บ้านเพราะว่าเขาไม่ชอบที่จะต้องตื่นเช้าเป็นอย่างนี้จนเมื่อเด็กชายอายุสิบสามปีเป็นช่วงที่จะต้องเข้าสู่ช่วงมัธยม จากหนังและละครที่เขาได้ดูทำให้เด็กชายอยากมีชีวิตเหมือนเด็กในนั้นและมื่อเอ่ยปากออกไปพ่อแม่ไม่สามารถห้ามได้เหมือนทุกครั้ง เขาได้เรียนในโรงเรียนเอกชนชื่อดังแต่ว่ามันกลับไม่เหมือนที่เขาคิดไว้เลยสักนิด



"โอ๊ย! นี่เดินยังไงห้ะ ชนเราแล้วเห็นไหมเนี่ย!"

"เอ่อ เราขอโทษนะไวน์ เราไม่ได้ตั้งใจ"

"ไม่ได้ตั้งใจอะไร! เราจะฟ้องครู!"



"นายเป็นนักเรียนทุนหรอ"

"ใช่ ทำไมหรอ"

"ไม่มีตังค์แล้วยังอยากมาอยู่รวมกับคนรวยเขาอีกนะ ไม่เจียมตัวเอาซะเลย"



"นี่ ไปซื้อน้ำให้หน่อยสิ"

"ทะ ทำไมไวน์ไม่ไปเองล่ะ"

"เอ๊ะ! แค่ซื้อน้ำทำไมต้องไปเอง บอกให้ไปซื้อก็ไปซื้อสิ!"



ชีวิตในรั้วไม่เหมือนที่คิดไว้เพราะนิสัยที่เอาแต่ใจและเหยียดหยามคนที่ด้อยกว่าทำให้เขากลายเป็นคนร้ายกาจ สร้างศัตรูไว้รอบกายเต็มไปหมด ที่นี่ไม่มีใครมาคอยรับใช้เหมือนตอนที่อยู่บ้าน ที่นี่ทุกคนเอาแต่เล่นซนเลอะเทอะสกปรก แม้ว่าที่นี่จะเป็นโรงเรียนเอกชนแม้ว่านักเรียนส่วนใหญ่จะเป็นลูกคุณหนูแต่หลายคนก็เรียนมาด้วยกันตั้งแต่สมัยประถมใครที่ไม่เข้าพวกกันก็ต่างคนต่างอยู่ไม่ก้าวก่ายกันจนเมื่อเขาเข้ามา สังคมเริ่มรังเกียจและไม่ต้อนรับเขาแต่เพราะอำนาจเงินถึงไม่มีใครทำอะไรเขาได้จนกระทั่ง...



"เห้ยนาย จะไปส่งงานครูใช่ป่ะ เราฝากส่งด้วยดิ"

"ทำไมต้องส่งให้ ไม่ใช่คนใช้"

"อะไรวะ แค่ฝากส่งเอง น่านะ"

"ก็บอกว่าไม่ไง! ฟังภาษาคนไม่รู้เรื่องหรอ? โง่!"

"จะมากไปแล้วนะ! แค่ฝากส่งจะอะไรนักหนา"

"ไม่พอใจก็ร้องไห้ไปฟ้องแม่ซะนะ"

"อะโถ่อีตุ๊ด กูไม่ง้อมึงก็ได้วะ"

"มึงว่าใครตุ๊ด!"

ไม่เคยมีใครกล้าว่าเขาแบบนี้ ทันทีที่อีกฝ่ายกำลังจะเดินผ่านเขาไปด้วยความโมโหที่โดนหาว่าเป็นตุ๊ดเขาใช้กระเป๋าที่ถือไว้ฟาดไปที่หลังของเด็กคนนั้นเต็มแรงไม่มีเวลาให้ได้คิดอะไรอีกฝ่ายหันมามองเขาสายตาเต็มไปด้วยความโกรธอย่างที่ไม่เคยมีใครใช้สายตาแบบนี้กับเขามาก่อน ถึงจะทำใจสู้แต่ขากลับก้าวถอยหลังออกไปร่างกายที่สูงกว่าของอีกคนพุ่งเขามาหาเขาโดยที่เขาไม่ทันได้ตั้งตัว

"นี่มึงจะเอาใช่ไหม?!"

ความเจ็บปวดกระแทกเข้าที่ใบหน้าด้านซ้ายความแรงของหมัดที่ส่งมาทำให้ร่างกายบอบบางของเขากระเด็นล้มไปอีกฝ่ายทำท่าจะเข้ามาซ้ำแต่มีเสียงแทรกของอาจารย์เข้ามาห้ามได้ทัน เกิดมาพ่อแม่ยังไม่เคยตีเขาสักครั้งความเจ็บที่ไม่เคยได้เจอทำเอาน้ำตารินไหลอาจารย์พากันเข้ามาปลอบใจเขาแต่คงไม่ช่วยอะไร วันต่อมากลายเป็นเรื่องใหญ่เมื่อเรื่องที่เขาโดนทำร้ายถึงหูครอบครัวทั้งสองฝ่าย แน่นอนว่าพ่อแม่เขาไม่ยอมแต่ครั้งนี้อำนาจเงินทำอะไรไม่ได้เพราะอีกฝ่ายที่เขามีเรื่องด้วยครอบครัวก็ใหญ่โตไม่แพ้กันหรืออาจจะมากกว่าด้วยซ้ำ เรื่องราวต้องจบลงแค่การขอโทษกันและกันถึงแม้เขาจะไม่อยากพูดแต่เพราะเป็นครั้งแรกที่พ่อแม่ขอร้องให้เขาทำเขาจึงต้องจำยอม

แต่ใครว่าจะจบแค่นั้น หลังจากเกิดเรื่องชีวิตเขาก้พลิกกลับตาลปัตร อีกฝ่ายคอยแต่จะกลั่นแกล้งเขาสารพัดและไม่มีใครสักคนที่จะเข้ามาช่วยมีแต่จะสะใจและสมน้ำหน้าเขา ตัวคนเดียวจะต่อสู้ก็ไม่ได้จะป้องกันยังลำบาก แม้จะอยากย้ายโรงเรียนแต่ก็ไม่อยากยอมแพ้แล้วโดนหาว่าหนีไป ได้แต่ทนก้มหน้าเรียนไปวันๆจนจบชันมัธยมต้น







เริ่มใหม่...

ไวน์ในวัยสิบหกปีตอนนี้ยืนอยู่ที่โรงเรียนเอกชนชื่อดังที่ไม่ใช่ที่เก่าที่เขาเคยเรียนเพราะที่เดิมนั้นสิ้นสุดเพียงแค่มัธยมต้น เขาตั้งใจแล้วว่าจะไม่ทำตัวเหมือนเดิมอีกจะไม่ยอมให้ซ้ำรอยกับอดีตที่เขาเคยเจอมาช่วงเวลาสามปีที่ต้องทน หลายครั้งที่ต้องร้องไห้แต่ก็ไม่อยากแพ้เขาอดทนจนพ้นมาได้จะไม่มีวันลืมเด็ดขาดเพราะฉะนั้นเขาจะเป็นคนใหม่แล้วทิ้งไวน์คนเดิมไปแต่ถึงจะพูดแบบนี้ไปแต่ความเป็นจริงเขาแค่จะต้องกดนิสัยเดิมเอาไว้แล้วสร้างหน้ากากขึ้นมาใหม่ต่างหาก ถ้าจะให้เลิกนิสัยเดิมคงเป็นไปได้ยาก แต่โชคชะตาดูแล้วคงจะไม่ได้อยู่ข้างเขา มีนักเรียนที่นี่ไม่น้อยที่มาจากโรงเรียนเดียวกับเขาพกพาชื่อเสียของเขามาเล่าต่อให้คนที่นี่ได้รับรู้มีหลายคนที่มองมาที่เขาด้วยสายตาแปลกๆเขาเดินผ่านสายตาคนเหล่านั้นไปยังห้องเรียนของตัวเอง



ผมมาถึงห้องของตัวเองในไม่ช้าทันทีที่เดินก้าเข้าห้องไปก็กลายเป็นเป้าสายตาของทุกคน 2-3 คนในห้องเค้าคุ้นหน้าคุ้นตาอย่างดีเพราะมาจากที่เดียวกัน ผมเลือกนั่งโต๊ะที่ติดหน้าต่างด้านหลังห้องที่ยังว่าอยู่แต่เมื่อเดินมาถึงกลับเห็นว่าที่นั้นโดนจองไปแล้วโดยใครก็ไม่รู้ที่ฟุบหลับอยู่พอมองไปรอบห้องก็แทบไม่มีทีเหลือแล้วเลยตัดสินใจนั่งลงที่โต๊ะคู่กันกับคนที่หลับอยู่ตรงนี้

"คนนั้นอ่ะหรอไวน์"

"คนนี้แหละที่เขาว่ากันว่านิสัยเสียสุดๆไปเลยอ่ะ"

"ไม่อยากให้อยู่ห้องเดียวกันเลยอ่ะ"

"อย่าไปมองสิเดี๋ยวก็โดนหรอก"

"ก็ดูไม่มีอะไรนี่หว่า ข่าวลือปะเนี่ย"

เสียงที่เหมือนจะเป็นการกระซิบกันในกลุ่มแต่เขากลับได้ยินทั้งหมด แม้ไม่อยากฟังแต่มันก็ต้องยอมรับว่าเป็นเรื่องจริง ต่อให้วันนี้เขาจะเปลี่ยนไปยังไงแต่ทุกคนก็ยังคิดว่าเขาเป็นคนเดิม

ทำไม

ไม่อยากฟัง

ไม่อยากได้ยินเลย

เขากำลังเปลี่ยนตัวเองนะ

ทำไมไม่มีใครเข้าใจ

เขาจะทนต่อไปไม่ไหวแล้ว

ใครก็ได้...



"เงียบน่า"



เสียงหนึ่งดังขึ้นสั่งให้ทุกเสียงในห้องเงียบลงได้ในพริบตา ผมเงยหน้าขึ้นมาเห็นทุกคนมองมาทางผม ไม่สิ ด้านข้างของผมต่างหาก ผมมองตามสายตาของคนทั้งห้องก็พบกับ...



ใครน่ะ?

หล่อ...



ใบหน้าคมเข้ม งดงามเครื่องหน้าลงตัวอย่างกับจัดวาง ถึงแม้ว่าจะมีอาการงัวเงียติดอยู่บนหน้านั่นแต่ก็ไม่ได้ทำให้เขาดูดีน้อยลงเลยสักนิด หัวใจของผมเต้นแรงขึ้นมาอย่างไม่มีสาเหตุแก้มร้อนขึ้นมาจนรู้สึกได้ คนๆนี้เป็นใครกัน

"นี่คิง นอนไม่พอหรือไงห้ะตื่นมาก็หงุดหงิดใส่คนอื่นเขาน่ะ"

"รำคาน เสียงดัง"

"มึงก็กลับไปนอนบ้านมึงเส้"

คิง? เขาคนนี้อ่ะหรอ ผมจ้องคนด้านข้างจนโดนจับได้ คิงหันมามองหน้าผมแล้วเลิกคิ้วขึ้นงงๆ ผมตกใจทำอะไรไม่ถูก กำลังคิดหาคำที่จะแนะนำตัวอยู่แต่ไม่ทันได้พูดคนตรงหน้าก็ฟุบหน้ากลับลงไปนอนอีกครั้ง ผมไม่รู้ว่าทำหน้ายังไงออกไปผู้หญิงที่นั่งด้านหน้าที่คุยกับคิงเมื่อกี๊ถึงได้หันมาพูดกับผม

"ไม่ต้องงง คิงมันเป็นแบบนี้แหละ"

"อ่อ"

"เด็กใหม่หรอ"

"อ่า"

"ชื่อไรอ่ะ"

"ไวน์"

"ไวน์? อ๋อ! เด็กที่เขาพูดถึงกันอ่ะนะ"

"...มั้ง"

"อย่าไปสนใจเลย ช่างมันๆ อ้อ เราเกลนะ"

ผมพยักหน้ารับคำของเกลสองสามที เกลเป็นคนที่แปลกมากเหมือนจะมีอะไรแต่ไม่มีอะไรพอเกลหันกลับไปผมมองไปรอบห้องอีกครั้งก็ไม่พบกับสายตาแปลกๆของใครอีกก็โล่งใจ หวังว่าจะเริ่มต้นใหม่ได้ดีนะ







ตอนนี้เป็นช่วงพักกลางวัน ผมรีบหาโอกาสคุยกับคิงทันทีเพราะตลอดช่วงเช้าอาจารย์เอาแต่แนะนำนู้นนี่จนไม่ได้คุยสักที

"เอ่อ นายชื่อคิงใช่ไหม เราไวน์นะ"

"อือ"

"คิงจะไปกินข้าวหรือเปล่า เราไปด้วยสิพอดีเราเป็นเด็กใหม่อ่ะ"

"อือ"

คิงลุกขึ้นเดินนำไปผมรีบลุกตามอีกคนทันที ตลอดทางมีคนทักคิงเต็มไปหมดแต่อีกคนทำแค่พยักหน้าหรือรับคำสั้นๆแค่นั้น สงสัยไม่ชอบพูดแฮะ จนมาถึงโรงอาหารคิงบอกขั้นตอนซื้อข้าวสั้นๆแล้วเดินไปผมก็เดินตามไปซื้อข้าวร้านเดียวกับคิง จนซื้อเสร็จคิงก็เดินมานั่งที่โต๊ะริมสุดที่ว่างอยู่เพียงตัวเดียว เหมือนว่าอาจจะเป็นโต๊ะประจำก็ได้เพราะทั้งที่รอบๆแทบจะเบียดกันไปหมดแต่โต๊ะนี้กลับว่างเอาไว้ ผมนั่งตามและพยายามคิดหาเรื่องชวนอีกคนคุยมากกว่านี้

"ไม่มีเพื่อนคนอื่นหรอ"

"เดี๋ยวก็มาอยู่คนละห้อง"

"อ่อ"

ผมจนใจที่จะชวนอีกคนคุยจริงๆ พูดน้อยจนไปต่อไม่ถูกจนได้แต่เงียบรอให้มีเรื่องคุยต่อ สักพักผู้ชายสี่คนก็มานั่งที่โต๊ะเรา ผมตกใจนิดหน่อยแต่คงเป็นเพื่อนที่คิงบอกไว้ ทุกคนทักทายกับคิงอย่างสนิทสนมก่อนจะหันมาสนใจผมที่นั่งอยู่ตรงนี้

"ใครวะ"

"เด็กใหม่"

"ห้องเดียวกับมึงหรอ"

"อือ"

"ชื่อไรอ่ะ ว่าแต่หน้าโคตรหวานเลยอ่ะ"

"แถมขาวโคตร"

"เอ่อ ไวน์"

"เห้ยไวน์ที่เขาพูดถึงกันป้ะวะ?"

"ดูคุณหนูๆหน่อย...ใช่เลยอ่ะ"

"กูก็ว่าใช่"

มือผมที่อยู่ใต้โต๊ะจิกกันจนเจ็บผมเสียใจแต่มากว่านั้นมันเริ่มเป็นความโกรธ ทุกคนพูดถึงเรื่องผมไม่หยุดจนผมเริ่มจะไม่ไหวแล้ว ทนไว้นะ ทนไว้ อย่าให้เป็นเหมือนเมื่อก่อนนะไวน์ อย่า ทนไว้



"ช่างเถอะเลิกพูดสักที"

​อีกครั้งที่เสียงของอีกคนช่วยผมไว้ ผมมองหน้าคิงอยางอธิบายไม่ถูก สองครั้งแล้วที่คิงพูดเหมือนไม่สนใจเรื่องของผมที่ทุกคนพูดกัน ดีใจเหลือเกิน

"มึงน่ะ จะเป็นยังไงมากูไม่รู้แต่อยู่ที่นี่อย่าทำเหมือนเดิมอีก"

"อืม"

มีคนให้โอกาสผมแล้ว....

คิง...









หลังจากวันนั้นผมกดด้านมืดของตัวเองไว้ให้ลึกที่สุด คนรอบข้างเริ่มดีกับผมขึ้นเรื่อยๆจนกลายเป็นว่าเรื่องของผมเริ่มเงียบและหายไปในที่สุด ตอนนี้ผมกลายเป็นไวน์ที่แสนดีถึงแม้มันจะอึดอัดไปบ้างแต่มันคุ้มแล้ว แต่สิ่งที่ดีที่สุดสำหรับผมตอนนี้คือคิง เราสนิทกันมากขึ้นจนกลายเป็นเพื่อนสนิท แต่ผมรู้ว่ามันไม่ใช่แค่นั้น





ผมชอบคิง





ผมรู้ตัวว่าชอบคิงตั้งแต่แรกที่เริ่มอยู่ด้วยกันคิงมีเสน่ที่ยากจะต้านทานไหว แต่ก็ทำได้แค่ชอบเพราะคิงไม่ชอบผู้ชาย... ผมรู้เพราะที่ผ่านมามีผู้หญิงรอบตัวคิงเต็มไปหมด ใครเสนอคิงก้สนองแต่ไม่มีสักครั้งที่คิงจะยุ่งกับเด็กผู้ชายผมได้แต่เก็บความในใจที่ไว้ให้ลึกที่สุดเพราะอย่างน้อยผมจะได้ไม่เสียคิงไป ผมใช้ชีวิตแบบนี้ตลอดเวลาสามปีทั้งสุขที่ได้อยู่ใกล้คิง ทั้งเจ็บเวลาที่เห็นคิงไปกับใคร ทำได้แค่ดูและยิ้มไปทุกครั้ง เจ็บจนไม่รู้จะพูดยังไง



ทั้งที่อยู่ใกล้กันขนาดนี้



แต่เหมือนมันไกลจนไม่มีวันไปถึง



หากตัดสินใจพูดมันออกไป



ก็ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรตามมา



ผมอยู่ในมุมของผม ต่อให้ผมไม่ได้คิงไปแต่ขอแค่คิงไม่มีใคร ขอแค่ไม่มีใคร ก็พอ...







แต่มันไม่ใช่...วันนี้ผมกับคิงเป็นนักศึกษาปีสองของมหาลับรัฐอันดับต้นๆ มันยากมากสำหรับผม ผมไม่ใช่คนหัวดี แต่เพราะคิงบอกว่าจะสอบเข้าที่นี่ผมถึงต้องพยายามทั้งอดหลับอดนอนเพื่ออ่านหนังสือ เสาร์อาทิตย์หมดไปกับการเรียนพิเศษ แน่นอนว่ามันสำเร็จเพราะวันนี้ผมได้อยู่กับคิงอย่างที่หวังแต่เหมือนว่ามันได้อย่างเสียอย่าง ผมได้อยู่กับคิงเหมือนเดิมแต่กลับต้องทนเห็นผู้หญิงมากกว่าเดิมที่เข้ามายุ่งกับคิง ผมอยากจะทำรายพวกเธอให้เข็ดหลาบหวาดกลัวจนไม่มีใครกล้ามายุ่งกับคิงของผมอีก ผมได้แต่เก็บความเจ็บปวดไว้เพียงเพราะว่ากลัวจะไม่ได้อยู่กับคิงอีก

หลายครั้งที่มีคนทักว่าผมกับคิงเป็นแฟนเป็นคู่จิ้นอะไรกัน ผมไม่เคยปฏิเสธและแอบยิ้มรับทุกคนที่พูดมา ส่วนหนึ่งเพียงเพื่อว่าให้ข่าวนี้กระจายออกไปใครต่อใครจะได้เข้าใจคิงผิด ส่วนหนึ่งคือหวังว่าคิงอาจจะหวั่นไหวบ้างแต่จนแล้วจนรอดก็ยังไม่มีสักครั้งที่คิงจะมองผมมากกว่าเพื่อน



แต่แล้ว...คนคนนั้นก็เข้ามา

พี่ควิน...คนที่ผมเกลียดมากกว่าใครบนโลกนี้



ทั้งที่ผมรู้จักคิงดีกว่า

ทั้งที่ผมรู้หมดว่าคิงชอบอะไร

ทั้งที่ผมใส่ใจทุกอย่างที่เป็นคิง

ทั้งที่ผมพยายามทำเพื่อคิงมาตลอด

ทั้งที่ผมยอมทนเจ็บมาเพื่อที่ได้ยืนข้างคิง

ทั้งที่ผมทนเห็นใครต่อใครเข้าหาคิงเพราะว่ากลัวคิงจะหนีไป

ทั้งที่ผมอยู่ตรงนี้มาตลอด

ทั้งที่ผมคือคนที่เคียงข้างคิงมานานแสนนาน

แต่ทำไมทั้งที่ทำขนาดนี้กลับสู้คนคนนั้นไม่ได้

คนที่เข้ามาในชีวิตคิงเพียงไม่กี่วัน

คนที่ไม่รู้จักอะไรคิงเลย

คนที่ไม่รู้ว่าคิงชอบอะไรสักอย่าง

คนที่ดึงความสนใจจากคิงไปทั้งหมด

คนที่คิงยอมเผยด้านที่ไม่เคยให้ใครเห็น

คนที่คิงยอมทิ้งผู้หญิงทั้งหมดเพื่อไปหา

คนที่เป็นข้อยกเว้นทุกอย่างของคิง

คนที่ได้คิงไปโดยที่ไม่ต้องทำอะไรเลย



ผมทนเพราะคิดว่าคิงไม่ชอบผู้ชาย

แต่พี่ควินเป็นผู้ชาย

ผมยอมทนเก็บความรู้สึกนี้มาห้าปี

แต่พี่ควินเข้ามาแค่ไม่กี่วัน



ผมจะ...ไม่ยอมเด็ดขาด

ไม่มีวัน...ให้มันได้ไป

ไม่ว่าจะต้องแลกด้วยอะไร

ผมจะไม่มีทางให้ใครได้คิงไป



คิงเป็นของผม

คิงของผม

ของผม

ของไวน์คนเดียว...






































______________________________________________

มาจ้า เปิดตัวตัวร้ายอย่างเป็นทางการ ใครเชียร์ให้ไทค์จัดการคะ? ไม่ค่ะ งานนี้นางเอาถึงตาย555555555555555 ตอนนี้มาเป็นดาร์กไซด์สั้นๆเพื่อเพิ่มอรรถรส มีสอบก็มีแต่เห็นเม้นแล้วมันฮึกเหิม  ขอบคุณทุกเมนท์น้าา ฝาก #คิงควิน #แค่คุณด้วยน้าา คุยกันในทวิตได้เด้อ @earthybenben
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18-03-2018 12:41:35 โดย earthearthx »

ออฟไลน์ Plavann

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 52
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
Re: ...แค่คุณ... Dark Side up [18/3/61]
«ตอบ #51 เมื่อ18-03-2018 13:23:49 »

เอาหละครับ ทีนี้เราก็จะมาลุ้นกันนะครับว่าพระเอกของเราจะตามเกมของตัวร้ายทันมั้ย อย่าหล่ออย่างเดียวแต่โง่นะคิง ไม่งั้นจะทำแคมเปญทวงพี่ควินคืน  :katai4:

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
Re: ...แค่คุณ... Dark Side up [18/3/61]
«ตอบ #52 เมื่อ18-03-2018 13:45:36 »

ร้ายจริง ๆ

ร้ายตั้งแต่เด็ก ๆ

กาลเวลาไม่ทำให้สันดานเปลี่ยน  ทำได้แค่กดมันไว้  รอให้เผยออกมา  เมื่อถึง.....

น่าสงสาร ไม่สิ น่าสมเพช มากกว่า

ออฟไลน์ poppycake

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2670
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-4
Re: ...แค่คุณ... Dark Side up [18/3/61]
«ตอบ #53 เมื่อ18-03-2018 16:35:09 »

โอ้โหหหห ใส่หน้ากากคนดีมานานขนาดนี้
ยอมใจที่ทนเก็บกดมา แต่ว่านิสัยคงแก้ยากจิงๆ =_=

ออฟไลน์ suck_love

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 780
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-1
Re: ...แค่คุณ... Dark Side up [18/3/61]
«ตอบ #54 เมื่อ18-03-2018 18:26:40 »

ควินเอาให้หมอบเลยนะลูก  :fire:

ออฟไลน์ earthearthx

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 26
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
Re: ...แค่คุณ... ตอนที่ 12 up [19/3/61]
«ตอบ #55 เมื่อ19-03-2018 21:59:42 »

​ตอนที่ 12







พาร์ท ควิน







"เสร็จแล้ว"

ผมจับคางคนตรงหน้าพลิกไปมาสองสามทีเพื่อดูว่าเรียบร้อยดีหรือยังเจ้าตัวก็หันหน้าตามอย่างว่าง่าย พอเช็คจนพอใจแล้วก็ปล่อยใบหน้าคมให้เป็นอิสระ ร่างสูงลงมายืนที่พื้นดีๆเปิดน้ำล้างหน้าล้างตัวเองระหว่างนั้นผมก็คว้าผ้าขนหนูผืนเล็กมาถือไว้รอให้อีกคนหันมา คิงเงยหน้าขึ้นมาผมก็ยื่นผ้าขนหนูในมือไปให้อีกคนก็รับไปซับน้ำบนหน้าทันที ผมปลดกระดุมเสื้อที่เลอะเทอะนิดหน่อยตอนที่โกนหนวดให้คิงแล้วโยนใส่ตะกร้าตรงมุมห้องน้ำ สายตาก็เหลือบไปเห็นว่าคนที่ยืนอยู่ด้วยกันมองมาที่ผมตาไม่กะพริบ

"มองอะไรครับ?"

"ใครให้มาถอดตรงนี้"

"ถอดตรงนี้ไม่ได้หรอ"

"ได้"

"งั้นพี่ก็ถอดได้นี่"

"ผมยืนอยู่"

"แล้วจะทำอะไรพี่ล่ะ"

"พี่ควิน"

ผมพูดพร้อมกับก้าวขาเข้าไปใกล้คิงมากกว่าเดิมยิ่งก้าวเข้าไปใกล้คิ้วอีกคนก็ขมวดเข้าหากันเรื่อยๆสีหน้ายุ่งยากใจเริ่มเผยออกมาให้เห็น เวลาได้เห็นสีหน้าแบบนี้ผมก็ไม่เคยจะอดใจไหวสักที ผมเข้าชิดตัวมาจนมาหยุดยืนอยู่ข้างหน้าอีกคนเพราะส่วนสูงของเราต่างกันไม่มากทำให้ใบหน้าของเราอยู่ในระดับเดียวกัน ผมกระตุกยิ้มแล้วขยับหน้าเข้าไปใกล้จนแทบจะติดกันสายตาของอีกคนจับจ้องมาที่ริมฝีปากของผมเช่นเดียวกับที่สายตาของผมจับจ้องที่ริมฝีปากของคิง ขณะเดียวกันผมเอื้อมมือไปที่อ้างล้างหน้าด้านหลังของคิงปิดน้ำที่ไหลออกมาไม่หยุด จังหวะที่ปากของเราแตะกันผมก็ถอยออกมา

"ทำหน้าแบบนั้นคิดว่าพี่จะทำอะไรหรอ เมื่อกี๊พี่แค่เอื้อมไปปิดน้ำให้เองนะ หึหึ"

พูดจบคิ้วเข้มก็ขมวดมากขึ้นไปมากว่าเดิมตาคมจ้องผมเขม็งใบหน้าเริ่มขึ้นสีจนผมกลั้นยิ้มไว้ไม่ไหว ไม่ทันให้ผมได้แกล้งอะไรต่อคิงเดินออกไปจากห้องน้ำโดยไม่พูดอะไรสักคำ ผมหัวเราะเบาๆในลำคอก่อนจะเดินไปพิงประตูมองตามเด็กขี้งอนที่เดินไปนั่งเปิดทีวีดูอยู่ที่โซฟา ผมนี่ท่าจะโรคจิตทั้งที่รู้ว่าแกล้งแล้วต้องมาตามง้อทุกครั้งแต่ก็อดไม่ได้สักที ผมเดินมายืนอยู่ระหว่างเด็กน้อยกับทีวีจอยักษ์แต่เหมือนว่าคิงจะทำเหมือนผมเป็นอากาศมองทะลุผ่านไปได้ซะอย่างนั้น

"ไม่อาบน้ำก่อนหรอ"

"...ไม่"

"โอเค งั้นพี่อาบก่อนแล้วกัน"

"..."

ผมเดินมาทางห้องน้ำแล้วพูดขึ้นมาลอยๆแต่กลับมีเสียงจากคนที่พูดน้อยตอบกลับมาอย่างไว

"นึกว่าจะอาบด้วยกันซะอีก"

"อาบ!"

"ไม่ทันแล้วน้อง รออาบทีหลังไปเลย"

"พี่ควิน!"

พออีกคนตอบรับคำพูดผมแล้วลุกเดินมาทางนี้ผมก็อาศัยความเร็วดึงประตูปิดแล้วล็อคอย่างไว เรียกเสียงบ่นจากคนที่ยืนอีกฟากของประตูได้พอสมควร ดูแล้วเหมือนผมจะเพิ่งไปทำให้อีกคนงอนมากขึ้นกว่าเดิม เอาไว้ออกไปค่อยง้อแล้วกัน ผมเดินมาเปิดน้ำในอ่างขนาดที่สามารถนอนแผ่สองคนจริงๆในห้องนอนก็มีห้องน้ำอีกห้องนึงคิงอาจจะเข้าไปอาบห้องนั้นแทน ระหว่างที่รอน้ำเต็มอ่างผมก็สำรวจห้องน้ำไปด้วยคอนโดเดียวกันแท้ๆแต่ห้องน้ำผมดูยังไงก็ไงก็ไม่ได้ขนาดนี้ ไม่สิห้องผมกับห้องคิงแตกต่างกันลิบลับ ก็นะ ห้องก็ใหญ่ขนาดนี้คงจะแพงไม่ใช่น้อยจะหรูขนาดนี้ก็คงไม่แปลก ผมจัดการน้ำในอ่างตีฟองจนเต็มเตรียมจะถอดเสื้อผ้าที่เหลือติดตัวออกแต่ก็ต้องชะงักเพราะได้ยินเสียงปิดประตูจากด้านที่น่าจะเป็นประตูห้อง

หืม? คิงไปไหน?

ผมตัดสินใจเปิดประตูออกไปดูด้านนอกแต่เหมือนว่าเป็นการตัดสินใจที่พลาดมาก ทันทีที่เปิดประตูออกไปคนที่รออยู่ก็แทรกตัวเข้ามาด้านใน ผมตกใจแต่พอเห็นมุมปากที่ยกขึ้นของคิงก็เข้าใจ เหอะ นี่ผมเสียท่าแล้วสิ

"อาบน้ำกัน"

"แผนสูงนักนะ"

ยอมใจแผนของคิงจริงๆ ผมปลดกระดุมและรูดซิปกางเกงถอดทิ้งเหลือไว้แค่ Calvin Klein ตัวในแต่พอเงยหน้าขึ้นมาก็เห็นว่าคิงยืนนิ่งเป็นรูปปั้น

"ไม่ถอดเสื้อผ้าล่ะ"

"นี่พี่ไม่ เอ่อ ไม่อายเลยหรอ"

"อาย? อายทำไม...ก็เห็นๆกันมาแล้วนี่ ไม่ใช่หรอ?"

"...คนอะไร"

ผมมองคนถามที่ใบหน้าซับเลือดเสียเองยิ้มๆ ถามว่าอายไหมผมก็ว่าไม่หรอกนะผู้ชายเหมือนกันมีอะไรๆเหมือนกันถึงมันจะ อ่า ไม่เท่ากันก็เถอะ ผมปล่อยคนขี้งอนที่กลายเป็นคนขี้เขินไว้แล้วหันไปเปิดน้ำล้างตัวก่อนที่เกือบจะหัวใจวายตายเพราะหันกลับมาเจอร่างกายเปลือยเปล่าไปทั้งตัวของอีกคน





ทั้งที่คิดว่าคงไม่เขินแล้วแท้ๆ ทำไมหน้ามันร้อนขึ้นมาได้วะ





ผมเบนสายตาหนีจากซิกแพ็คแน่นตรงหน้าพยายามไม่มองต่ำลงไปกว่านั้นแมเมื่อกี๊จะเผลอมองไปแล้วนิดนึงก็เถอะ เสียงหัวเราะทุ้มต่ำในลำคอดังขึ้นมาทำให้ผมต้องรีบเดินพาร่างตัวเองลงไปนั่งในอ่างก่อน คือถึงจะมีอะไรเหมือนกันแต่ก็ไม่ได้คิดว่าจะ จะ จะถอดหมดนี่...

น้ำในอ่างถูกดันจนล้นเมื่อมีบางสิ่งเข้ามาแทนผมหลบสายตาจากคิงที่นั่งตรงข้ามกันอยู่ตอนนี้ หึ้ย ทำไมถอดหมดวะภาพติดตาเพิ่มมาอีกแล้ว ถึงจะเรียกว่าอาบน้ำด้วยกันแต่ผมก็ใส่กางเกงตัวในไว้นะ! นึกว่าคิงก็คงจะใส่ด้วยซะอีก

"ไหนว่าไม่อายไง"

"ก็พี่ไม่ได้คิดว่าจะต้องมาเห็นอะไรแบบนี้อ่ะ"

"ก็เห็นๆกันมาแล้วไม่ใช่หรอ"

​พอโดนย้อนคำพูดตัวเองกลับมาแบบนี้ผมก็เถียงไม่ได้สิครับ เห็นหน้าตาเหมือกำชัยชนะไว้แบบนั้นแล้วหมั่นไส้ขึ้นมาหน่อยๆแต่ก็วุดท้ายก็หลุดยิ้มตามจนได้พอเห็นรอยยิ้มของอีกคน

"สระผมไหม"

"อือ"

"หันหลังมาทางนี้สิ"

คิงทำตามที่บอกไม่มีขัดขืนหรือต่อต้านสักนิด ผมดันตัวเองขึ้นไปนั่งขอบอ่างโดยให้คิงพิงขาเอาไว้ ผมหยิบฝักบัวเปิดน้ำเริ่มล้างผมให้อีกคนอย่างเบามือก่อนจะชโลมยาสระผมลงบนกลุ่มผมเข้มไปจนทั่ว

"นี่คิง พี่ถามอะไรหน่อยสิ"

"ครับ"

"เพื่อนที่ชื่อไวน์อ่ะสนิทกันมากเลยหรอ"

"สนิท จบที่เดียวกัน"

"อ๋อ"

ระหว่างที่สระผมไปผมก็เลยใช้โอกาสนี้ชวนคิงคุยเรื่องที่ค้างคาใจผมมาหลายวัน ไวน์เป็นคนที่ไม่น่าวางใจเลยสักนิด เขาแสดงตัวชัดเจนว่าชอบคิงและไม่ต้องการให้ผมคบกับคิง แต่ที่ผมอยากรู้คือคิง...รู้เรื่องนี้หรือเปล่า

"ถามทำไม"

"ห้ะ อ๋อ พี่เห็นว่าวันนี้ดูเหมือนไวน์จะดีใจมากที่รู้ว่าคิงคบกับพี่"

"ไม่รู้สิ แต่ดีแล้วที่คนอื่นรู้ จะได้เลิกล้อสักที"

"ล้ออะไรอ่ะ"

"ในคณะเค้าชอบล้อกันว่าผมกับมันเป็นคู่จิ้นอะไรกันนี่แหละ "

คู่จิ้น...หนุ่มหล่อกับหนุ่มหน้าหวานสินะ

"ก็ไวน์น่ารักจะตาย พี่เห็นครั้งแรกยังรู้สึกว่าน่ารักมากกว่าผู้หญิงบางคนอีก"

"พี่ควิน...คงไม่ได้ชอบมันใช่ไหม"

"เห้ยเปล่า พี่แค่ถามดู"

"จริงนะ"

"ครับ"

"แล้วไป"

"แล้วโดนแซวมาแบบนี้ไม่ใช่ว่าแอบหวั่นไหวกับเขาหรอกใช่ม้ะ"

"ไม่หวั่นไหวหรอก เพื่อนกัน"

"แล้วอีกคนนึงล่ะจะคิดว่าแค่เพื่อนกันเหมือนกันหรือเปล่า"



​สิ้นเสียงคำถามของผมความเงียบก็เข้ามาแทนที่ งั้นก็คงหมายความว่าคิงก็คงจะรู้ใช่ไหมว่าเพื่อนตัวเองไม่ได้คิดแค่เพื่อนกัน...รู้แต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร

จะบอกว่ายังไง หวั่นใจ หวาดกลัวหรือสับสนดี การที่คิงบอกว่าไม่หวั่นไหวแต่ก็ไม่ได้ว่าอะไรทั้งที่รู้ว่าไวน์คิดยังไงกับตัวเองก็หมายความว่าไม่ได้ไม่ชอบใช่หรือเปล่า ทั้งที่รู้แต่ก็ยังสนิทสนมยังเล่นยังเจอกันทุกวันแบบนี้คือก็ไม่ได้รังเกียจใช่ไหม หัวใจผมเริ่มปวดหนึบจากความคิดบ้าบอของผม ผมบอกไม่ได้ว่ากำลังรู้สึกยังไงแต่ที่แน่ๆคือความคิดของผมตอนนี้กำลังทำร้ายตัวผมเอง...

"เสร็จแล้วครับ"

"พี่ควิน"

"อาบน้ำกันเถอะ"

"พี่ควิน ฟัง"

"ก็พูดมาสิ"

เพราะความเงียบมันเริ่มทำให้อึดอัดผมเลยพยายามจะออกไปตั้งสติแต่ถูกรั้งไว้ด้วยสองมือใหญ่ ผมสูดลมหายใจเข้าลึกๆสองสามครั้งแล้วสบตากับคิง เกือบนาทีที่ไม่มีใครขยับตัวคนที่บอกให้ผมหยุดฟังกลับไม่พูดอะไรสักคำ จนแล้วจนรอดผมก็ต้องกลายเป็นคนที่เปิดประเด็นขึ้นมาอีกครั้ง

"เอางี้ อาบน้ำกันก่อนเนอะแล้วค่อยไปคุยกันข้างนอก"

"อือ"

"โอเค"

พวกผมต่างคนต่างอาบน้ำโดยที่ไม่ได้คุยกัน พวกเราใช้เวลาอาบน้ำไวจนน่าตกใจ เฮ้อ เมื่อกี๊ยังอารมณ์ดีกันอยู่เลยไหงกลายมาเป็นแบบนี้ได้นะ ผมออกจากห้องน้ำก่อนเดินมาแต่งตัวในห้องจนเสร็จก็ยังไม่เห็นคิงตาเข้ามา ผมนั่งลงที่เตียงก่อนจะคิดเรื่องนี้อีกที ถ้าจะพูดคงจะต้องบอกว่าตอนแรกผมรู้สึกเฟลนิดหน่อยเพราะที่ไวน์พูดมาก็ดูจะมั่นใจในตัวเองมากพอสมควร แล้วยิ่งคิงเหมือนจะรู้ว่าไวน์คิดยังไงแต่ก็ไม่ได้ห้ามหรือจัดการอะไร มันก็หมายควาว่าคิงไม่ได้ปฏิเสธไวน์นี่ถูกไหม แล้วเรียนจบมาจากที่เดียวกันแสดงว่าเป็นเพื่อนกันมานานแล้วผมล่ะเจอกันแค่กี่วัน ถ้าต้องเลือกคิงจะเลือกผมหรอ บอกว่าแค่เพื่อนแต่ก็เหมือนให้โอกาสส่วนผมที่เป็นแฟนแต่เรื่องของเรามันใช้เวลาไม่ถึงเสี้ยวของคิงกับไวน์เลยด้วยซ้ำ

ผมแค่หวั่นใจ...ความมั่นใจของไวน์นั่นมันสั่นคลอนความรู้สึกผมได้มาก ตอนแรกผมคิดว่าไวน์อาจจะแอบชอบข้างเดียวแต่นี่มันไม่ใช่ คิงอาจจะเปิดโอกาสให้ไวน์ก็เป็นได้



ผมจะทำยังไงดี



ต้องคุยให้รู้เรื่องเท่านั้น ผมมองไปที่ประตูก็ไม่มีีท่าว่าลูกบิดจะถูกใช้งาน ผมตัดสินใจเดินออกไปหาคิงด้วยตัวเองประตูถูกเปิดออกด้วยมือของผมแต่มองไปทางไหนก็ไม่เจอคนที่มองหา เสียงเข้มแว่วมาจากทางระบียงจนต้องเดินไปดูแล้วก็พบว่าคนที่ผมหาอยู่ยืนคุยโทรศัพท์อยู่ที่ระเบียง บานเลื่อนที่ปิดไม่สนิททำให้บทสนทนาเล็ดลอดมาให้ผมได้ยิน

"ผมจำคุณไม่ได้แล้วก็อย่าโทรมาอีก"

"ถ้าผมเคยเจอคุณแล้วผมก็น่าจะบอกแล้วใช่ไหมว่าอย่าล้ำเส้น"

"ผมจะเตือนแค่ครั้งนี้ครั้งเดียวเท่านั้น"

บทสนทนาและน้ำเสียงไร้เยื่อใยของคนพูดไม่ต้องบอกก็รู้ว่าปลายสายจะรู้สึกแย่มากแค่ไหน แม้แต่ผมที่ยืนตรงนี้ยังอดขนลุกตามไม่ได้เสียงประตูเลื่อนทำให้อีกคนหันมาสายตาที่ผมเห็นทำเอาใจผมกระตุก สายตาที่ผมไม่เคยเห็น มันว่างเปล่าเย็นชาและดุดัน สายตาแบบนี้น่ะหรอคือสายตาของคิงแบบที่คนอื่นเห็น เพียงแค่แวบเดียวก็แปรเปลี่ยนเป็นสายตาปกติแบบที่ผมเห็นทุกครั้ง เสียงเรียกจากร่างสูงทำให้สติที่กระเจิงไปกลับมาอีกครั้ง ผมก้าวไปยืนข้างกันกับคิงผมรู้สึกว่าผมถูกจ้องมองอยู่ตลอดแต่ความเงียบยังคงทำงาน ก้นกรองบุหรี่ในมืออีกคนทำให้ผมมองไปรอบด้านก่อนจะเจอซองบุหรี่ที่ถูกวางไว้บนโต๊ะเล็กๆข้างกระถางต้นไม้

"ขอบุหรี่ให้พี่หน่อยสิ"

เหมือนคิงจะไม่เข้าใจที่ผมพูดผมเลยเดินไปหยิบบุหรี่มาจุดเองแล้วกลับมายืนที่เดิม นิโคตินถูกอัดเข้าไปเต็มปอดก่อนจะถูกปล่อยออกมทั้งหมดการกระทำของผมอยู่ในสายตาของอีกคนตลอดถึงแม้ไม่ได้หันไปมองแต่ผมก็รู้ตัว

"รู้ใช่ไหมว่าที่พี่ถามในห้องน้ำหมายความว่ายังไง"

"ผมรู้ว่าไวน์ชอบผม"

"อืม"

"แต่อย่างที่บอกไปผมไม่หวั่นไหวหรอกนะพี่ควิน ถ้าจะคิดอะไรจริงๆคงคิดไปตั้งนานแล้ว ผมรู้ว่าพี่คิดอะไรแต่เชื่อผมเถอะว่ามันไม่มีอะไร"

"..."

"ผมชอบพี่ แค่พี่คนเดียวที่ทำให้ผมรู้สึกแบบนี้"

"..."

"แต่ไวน์เป็นเพื่อนผมจะให้ไปบอกหรือไปห้ามอะไรก็คงไม่ได้เพราะถึงยังไงมันก็เป็นเพื่อนผม ขอแค่ให้พี่เชื่อผม มันไม่มีอะไรทั้งนั้น"

นั่นสิ ถ้าคิงจะมีอะไรคงไม่จำเป็นต้องรอมาจนถึงป่านนี้ ขอให้เชื่องั้นหรอ มันก็ต้องเชื่ออยู่แล้วไม่ใช่เพียงเพราะแค่คำพูดของอีกคนที่ทำให้ผมเชื่อแต่สายตาที่ผมเห็นตอนคุยโทรศัพท์นั่นก็บ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่าผมพิเศษกว่าคนอื่น เรื่องนี้มันไม่มีอะไรเลยด้วยซ้ำผมนี่แหละคิดเยอะจนทำให้มันวุ่นวาย

"อืม ขอโทษทีนะพี่คงคิดมากไปหน่อย"

"ถ้ามันอึดอัดก็พูดออกมา"

งั้นหรอ ควรพูดออกไปใช่ไหม ผมสูบบุหรี่ครั้งสุดท้ายก่อนจะขยี้มันกับดินที่กระถางต้นไม้แล้วหันหน้าไปหาคิงก่อนจะพูดมันออกมา

"...เมื่อกี๊พี่คิดไปว่าบางทีเราอาจจะยังไม่รู้จักกันดีพอ"

"..."

"พี่คิดไปว่าคิงคงจะเลือกเพื่อนที่คบมาหลายปีมากกว่าพี่ที่คบกันได้ไม่กี่วัน"

"..."

"พี่คิดว่าความรู้สึกของเราทั้งคู่มันไม่มั่นคงเรายังเชื่อใจกันไม่มากพอ"

"..."

"พี่เคยบอกคิงใช่ไหมว่าอยากให้คิงแน่ใจในความรู้สึกจริงๆแล้วค่อยคบกัน แต่ตอนที่เราคบกันพี่ไม่ได้ถามคิงว่าแน่ใจแล้วจริงหรือเปล่า...เพราะงั้นตอนนี้ตอบพี่มาทีว่าคิง-"

"ผมรักพี่และผมมั่นใจว่าผมรู้ใจตัวเองดี"

​"...พี่ก็รักคิง"

​ผมเข้าไปกอดคิงเอาไว้ในอ้อมแขนร่างกายที่หนากว่าของอีกคนสำหรับผมมันดูน่าถนุถนอนมากกว่าสิ่งไหน คนๆนี้จะเย็นชาและโหดร้ายสำหรับใครบ้างผมไม่รู้แต่สำหรับผมคิงเป็นเด็กน้อยที่ผมเอ็นดูมากกว่าใคร สิ่งที่คนอื่นเห็นและพูดถึงกันคงไม่ใช่แบบที่ผมเห็นและผมก็ยินดีให้ทุกคนคิดแบบนั้นเพราะความน่ารักที่คิงมีผมไม่อยากให้คนอื่นได้เห็นมันแบบที่ผมเห็น มือข้างหนึ่งของผมยกขึ้นมาลูบกลุ่มผมที่ก้มซุกไปกับซอกคอของผมทุกส่วนของร่างกายเราแนบสนิทไปด้วยกัน อ้อมกอดนี่แทนทุกคำพูดระหว่างเราส่งผ่านทุกความรู้สึกได้เป็นอย่างดี เพียงแค่เวลาไม่กี่นาทีที่เราต่างจมอยู่กับความคิดของตัวเองมันทำให้เจ็บปวดจนยากเกินบรรยาย การที่เราไม่รู้จักกันดีพอทำให้เราไม่แน่ใจในความรู้สึกของกันและกัน

"ต่อไปนี้เราจะคุยกันให้มากขึ้น รู้จักกันให้มากขึ้นมากกว่านี้นะ พี่ไม่อยากต้องมารู้สึกแบบนี้อีกแล้ว"

"พี่ควิน"

"เพราะความไม่ไว้ใจทำให้พี่สับสนในตัวคิงและเพราะว่าคิงเองก็ไม่มั่นใจถึงไม่ได้พูดออกมาตั้งแต่แรก"

"พี่ควิน"

"หลังจากนี้ถ้ามีอะไรต้องคุยกันให้รู้เรื่องทุกครั้งเข้าใจไหมอย่าเงียบแบบนี้อีกเพราะมันไม่ได้ทำให้อะไรดีขึ้น"

"ครับ"

"ดีมาก เอาเป็นว่าเคลียร์แล้วงั้นเราเข้าไปนอนกันดีกว่าเนอะ"

ผมดันร่างหนาให้ผละออกไปแต่ไร้ผลอ้อมแขนแกร่งกลับกอดรัดแน่นขึ้นกว่าเดิมไม่ยอมปล่อยให้ผมได้เป็นอิสระ

"จะไม่ไปนอนหรือไง"

"ไป"

"ก็ปล่อยพี่สิ"

"ขออีกแปบนึง"

"ให้สองนาทีตรงนี้ลมแรงเดี๋ยวไม่สบาย อ๊ะ!"

อยู่ดีๆคิงก็ผละออกไปพร้อมกับจับมือพาเดินเข้าไปในห้องผมที่ไม่ทันได้ตั้งหลักเกือบจะเซหน้าทิ่มไปแล้ว เป็นอะไรขึ้นมาเนี่ย

"เดี๋ยวๆจะรีบไปไหนนน"

"ลมมันแรงเดี๋ยวพี่ไม่สบาย"



เห้อ ไอ้เด็กคนนี้ จะให้ผมหลงไปถึงไหนกันนะ หน้าผมนี่อีกหน่อยคงต้องไปฉีดโบท็อกแน่เลยดูแล้ววันนึงยิ้มไม่รู้กี่รอบยิ้มอยู่นั่นแหละยิ้มจนหน้าจะย่นหมดแล้วนะ เดี๋ยวเถอะ ทำให้ยิ้มมากนักจะให้ออกค่าโบท็อกซะให้เข็ด



ส่วนเรื่องวันนี้ก็ถือซะว่าเปิดใจคุยกันมากขึ้นไปแล้วกัน...ส่วนไวน์ก็คงต้องขอโทษทีแล้วกันนะเพราะยังไงแล้วคนคนนี้ก็คงไม่มีวันที่จะยกให้ได้หรอก





เพราะว่าคิงรักผม...







คิงรักผม...







โอ้ย! จะหลับอยู่แล้วดันมาเขินอะไรตอนนี้วะ!





















______________________________________

สวัสดีจ้าา มาแล้วนะอย่าโกรธกันเลยย นี่พึ่งสอบเสร็จก็มาปั่นนิยายอย่างเร่งด่วนเลยนะไม่ได้พักไม่ได้ผ่อนเลยสักนิดแต่เพื่อรีดเดอร์ทุกคน สู้ค่ะ! ตอนนี้เบาๆไปก่อนเนื้อเรื่องหลักกำลังจะเดินทางมานี่ขนาดตอนี้ไวน์มาแค่ชื่อยังเกือบสร้างความร้าวฉานให้พระนายของเราได้อ่ะค่ดเก่ง555555 นิยายเรื่องนี้กะเอาไว้ที่ 40 ตอน เรื่องยาวแน่นอนไม่ต้องห่วง ดราม่าไหมอันนี้ก็ต้องมีบ้างเนอะเป็นสีสัน แต่จบแฮปปี้ ปี้ ปี้ ปี้ ปี้แน่นวนน

ขอขอบคุณทุกเมนท์ท่ส่งมาเลยนะคะ กำลังใจคนแต่งมาจากคอมเมนท์ล้วนๆเลย T^T พอเห็นรีดเดอร์สนุกเราก็ฮึดค่ะ สุดท้ายขอฝากดันแท็กนิยายในทวิตเตอร์ #แค่คุณ #คิงควิน ด้วยน้า รักยู

ออฟไลน์ poppycake

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2670
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-4
Re: ...แค่คุณ... ตอนที่ 12 up [19/3/61]
«ตอบ #56 เมื่อ19-03-2018 22:23:23 »

พี่ควินคนแมนที่แท้จริงอ่ะ
คุยกันตรงๆเลยจร้า คิงถึงกับไปไม่เปน 555555555

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
Re: ...แค่คุณ... ตอนที่ 12 up [19/3/61]
«ตอบ #57 เมื่อ19-03-2018 23:52:49 »

 :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
Re: ...แค่คุณ... ตอนที่ 12 up [19/3/61]
«ตอบ #58 เมื่อ20-03-2018 00:40:57 »

ดีที่คุยกัน

ออฟไลน์ earthearthx

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 26
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
Re: ...แค่คุณ... ตอนที่ 13 up [27/3/61]
«ตอบ #59 เมื่อ27-03-2018 19:37:19 »

ตอนที่ 13







พาร์ท ควิน







"เออๆ กำลังลงไป"

ผมวางสายไอ้เตที่โทรมาตามพร้อมกับเปิดประตูออกจากห้องเพื่อไปที่ลิฟท์ วันนี้คิงมีเรียนเช้ากว่าผมเลยออกไปก่อนส่วนผมก็ตามให้ไอ้เตมารับไปด้วยกัน หลังจากเมื่อคืนที่ผมกับคิงไม่เข้าใจกันนิดหน่อยผมก็พยายามไม่คิดอะไรมาก ถึงแม้เรื่องของไวน์จะยังตกค้างอยู่ในใจผมบ้างแต่ถ้าคิงบอกว่ามั่นใจผมก็จะเชื่อใจเขา

ผมลงมาถึงชั้นล่างก็เห็นรถไอ้เตจอดอยู่ที่หน้าคอนโดพอเดินถึงรถผมก้เปิดประตูเข้าไปนั่งทันที ผมหันไปกะว่าจะทักไอ้เตแต่ดันเห็นสีหน้าที่ดูไม่ปกติอย่างมากของไอ้เตเข้าเสียก่อน ถึงปกติไอ้เตเป็นคนที่ไม่ค่อยแสดงอารมณ์แต่ก็ยังจัดว่าส่วนใหญ่อยู่ในโหมดอารมณ์ดีซึ่งต่างจากตอนนี้ น้อยครั้งที่ไอ้เตจะแสดงออกว่าหงุดหงิดหรือโมโหอะไราผ่านทางสีหน้าแบบนี้ ดูแลคงไม่ใช่เรื่องดีแน่นอน

"มึงมีอะไรป่าววะ ดูมึงจะหงุดหงิดนะ"

"เห็นชัดขนาดนั้นเลยหรอวะ"

"นี่มึงได้ส่องกระจกก่อนออกจากห้องป้ะเนี่ย หน้าตาเสี่ยงตีนขนาดนี้ให้หมาดูมันยังรู้เลย"

"เออพอดีเมื่อคืนกูเมาตื่นมาเจออะไรจุกจิกเลยหงุดหงิดไปหน่อย"

"เมื่อคืนมึงไปกินเหล้ากับใครวะ กูไม่เห็นรู้เลย"

"เพื่อนเก่าอ่ะ บอกไปมึงก็ไม่รู้จักหรอก"

"อ่อ"

ระหว่างที่คุยไอ้เตก็ขับรถไปเรื่อยๆตอนนี้ก็สายมากแล้วบนถนนจึงโล่งไม่ต้องกลัวว่ารถจะติด เสียงไลน์จากโทรศัพท์ผมดังขึ้นสองสามครั้งไม่ต้องบอกก็รู้ว่าใครเป็นคนส่งมา คนในแชททักมาถามว่าถึงมหาลัยหรือยังผมก็ตอบกลับไปว่าใกล้ถึงแล้วหลังจากนั้นก้ได้รับข้อความที่อีกฝ่ายบ่นว่าง่วงอย่างงั้นอย่างงี้ หึ มันน่ารักไหมล่ะครับ

"ยิ้มเข้าไป กูเริ่มจะหมั่นไส้จริงๆละ"

"อิจฉาก็หาบ้างสิ"

"กูไม่หาบ่วงมาคล้องคอตัวเองหรอกว่ะ พวกผู้หญิงอ่ะงี่เง่าเอาใจก็ยาก"

"งั้นมึงไม่ลองหาผู้ชายดูล่ะ กูว่าก็ไม่แย่นะ"

"แหม เดี๋ยวนี้แนะนำเพื่อนเข้าสมาคมเดียวกันหรอ"

"สัส"

"ว่าแต่คบกับคิงเป็นไงบ้างวะ บอกตรงๆนะกูดูยังไงคิงมันก็ไม่เข้ากับมึงเลยว่ะ"

"ยังไงอ่ะ"

"มึงนึกดูนั่นคิงนะ คิงที่ไม่มีใครเข้าถึงคนนั้น ชื่อเสียงก็ขึ้นชื่อเรื่องควาามเย็นชาไม่เอาใครแต่ไหงดันมาเอามึงวะ"

"เอาพ่อง ยังไม่ได้อะไรกันสักหน่อย"

"ห้ะ! คิงปล่อยมึงไว้ได้ยังไงวะเนี่ย"

"เพราะกูเก่ง"

"ถุย"

"กูกับคิงจะว่าดีมันก็ดี แต่ก็มีไม่เข้าใจกันบ้างอย่างเมื่อคืนก็ จะว่าไงดี เรียกว่าทะเลาะกันมั้ง"

"จริงหรอวะ แต่กูว่าไม่แปลกหรอกพวกมึงรู้จักกับแป๊บๆก็คบกันแล้ว ยังไม่รู้จักนิสัยกันดีเลย กูถามมึงอีกครั้งนะควิน ถามเพราะเป็นเพื่อนมึง...มึงแน่ใจหรอวะว่าเป็นคิงนี่ดีแล้วจริงๆ มึงอาจจะแค่ชอบเฉยๆก้ได้ กูเป็นคนห่วงมึงหรอกนะเพราะอีกฝ่ายกูก็พูดได้ไม่เต็มปากว่ามันจะชอบมึงจริงๆ"

อีกครั้งที่มีคนบอกผมอย่างนี้ ไม่ใช่ว่าผมไม่เข้าใจว่าทุกคนที่พูดเพราะเป็นห่วงแต่ทำไมทุกคนถึงคิดว่ามันอาจะเป็นแค่ความชอบ เพราะพึ่งรู้จักกันไม่นานแค่นั้นก็ตัดสินว่าไม่ใช่ความรักได้แล้วหรอ ถ้างั้นต้องรู้จักกันนานแค่ไหนถึงจะบอกได้ว่านั่นคือความรัก มันขึ้นอยู่กับเวลาหรืออะไร ไม่ได้ขึ้นอยู่ที่ความรู้สึกของตัวเราหรือไง ไม่จำเป็นต้องให้ใครมาตัดสิน ผมรู้แค่ว่าถ้าคิงมีความสุขผมก็จะมีความสุขไปกับคิงแต่ถ้าหากว่าคิงมีความทุกข์ผมก็พร้อมจะอยู่ข้างๆแล้วร้องไห้ไปพร้อมกัน




คิงเป็นความรักสำหรับผม




"มึงไม่ต้องมาเข้าใจกูหรอกเต กูเข้าใจตัวกูคนเดียวก็พอ"












ผมกับไอ้เตมาถึงมหาลัยก็เจอไอ้ชาร์ปนอนฟุบอยู่บนโต๊ะส่วนไอ้ชาร์ปก็นั่งมองอีกคนนอนอยู่อย่างนั้น  พอพวกผมเดินเข้าไปใกล้จนไอ้ซองหันมาเห็นมันก็ยักคิ้วทักทีนึงแล้วหันไปเขย่าตัวไอ้ชาร์ปที่คงจะหลับอยู่ พอโดนปลุกไอ้ชาร์ปก็เงยหน้าสะลึมสะลือขึ้นมาทันทีที่เห็นผมกับไอ้เตมันก็แหกปากขึ้นมา

"โอ้โหพวกมึง กูนึกว่าจะมากันอาทิตย์หน้าซะแล้ว ช้าชิบหาย!"

"ไม่ต้องมาโทษพวกกูเลย พวกมึงจะรีบมากันทำไมเล่า"

"ฮึ่ย!"

พอเถียงไม่ได้ไอ้ชาร์ปก็งอนสะบัดหน้าไปซบไหล่ไอ้ซอง ส่วนไอ้คนโดนซบก็ไม่สะบัดหนีแถมยังนั่งอมยิ้มอยู่คนเดียวแต่สุดท้ายก็ต้องดันหัวไอ้ชาร์ปออกเพราะหันมาเจอสายตารู้ทันของผมกับไอ้เตจนทำอะไรไม่ถูก ทำไมพวกมันไม่คุยกันไปให้รู้เรื่องสักทีนะผมไม่เข้าใจ ก็น่าจะรู้กันอยู่แล้วว่าคิดยังไงกัน ปากแข็งกันทั้งคู่

"ควิน เห็นในเพจอีเจ๊ยัง เรื่องมึงอ่ะเหมือนจะเป็นประเด็นใหญ่แล้วนะ"

"ทำไมวะ"

"ก็เรื่องมึงกับคิงไง เอ้า  ไปดูเอาเอง"

ไอโฟนรุ่นล่าสุดของไอ้ซองถูกยื่นมาให้ผมรับและเลื่อนดูโพสที่ไอ้ซองบอกทันที

เรื่องผู้ชายไว้ใจเจ๊  18 hour ago

โอ๊ยยยยยยย!!! อกอีเจ๊จะแตก สรุปเรื่องนี้มันยังไงกันแน่คะ!? หลังจากที่ช่วงนี้พี่ควินมีรถหรูคุ้นตามารับส่งทู๊กกกกกกวัน เราสืบจนรู้มาว่านั่นคือคนของหลัวคิง! นั่นก็น่าสงสัยมากพอแล้วแต่ล่าสุดมีคนเห็นพี่ควินแอนด์เดอะแก๊งของเขาไปนั่งรอใครไม่รู้ที่คณะวิศวะ คณะใครรู้ไหมคะ ใช่คะ คณะของหลัวคิง! แน่ใจได้เลยเพราะพอหลัวคิงของเราออกมาจากตึกก็วิ่งปรี่สี่คูณร้อยมหาพี่ควินทันที แถมท้ายคือพากันไปขึ้นรถขับออกไปเฉยซะงั้น ทิ้งความน่าสงสัยไว้ให้เราเหล่าทาสของหลัว ฮือออ บอกเจ๊ทีว่านี่มันอาร๊ายยยยยย อย่าให้เจ๊ชิปไปเอง ใจคอเจ๊ไม่ดี พี่ควินของเจ๊ หลัวคิงของเจ๊ ใครรู้อะไรมาจงบอกมาบัดเดี๋ยวนี้ หากเห็บไว้ไม่บอกแล้วเจ๊จับได้จักเฆี่ยนด้วยไม้หน้าสามนะจ๊ะ!

3042 like 572 comment




ผมยิ้มให้กับข้อความที่เจ๊โพสและผมไม่ได้อ่านคอมเมนท์เพราะส่วนใหญ่ก็คงถามคำถามเดียวกับเจ๊นั่นแหละ นอกจากกลุ่มผมกับกลุ่มของคิงผมก็ค่อนข้างแน่ใจว่ายังไม่มีใครรู้ความสัมพันธ์นี้ ผมยื่นโทรศัพท์คืนให้ไอ้ซองแล้วยักไหล่ให้มันว่าไม่ได้สนใจอะไร พวกมันเห็นผมไม่ได้สนใจก็เลยไม่พูดถึง พวกเรานั่งคุยนู้นนี่ไปรอเวลาขึ้นเรียนจนสักพักผมก็ปวดฉี่ขึ้นมา

"พวกมึง กูไม่เข้าห้องน้ำแปบนะ"

"นี่จะได้เวลาเรียนแล้วนะควิน"

"งั้นพวกมึงขึ้นห้องไปก่อนเลยฝากของไปด้วยเดี๋ยวกูตามไป"

"เออๆ"

ผมเดินแยกตัวมาเข้าห้องน้ำข้างตึกแถวนี้ไม่ค่อยมีคนจึงค่อนข้างเงียบแต่เดินมาถึงห้องน้ำยังไม่ทันได้ก้าวเข้าไปผมก็ได้ยินเสียงเหมือนคนทะเลาะกันดังออกมาเสียก่อน ผมว่าจะกลับไปเข้าห้องน้ำอื่นแล้วแต่ต้องเปลี่ยนใจหยุดฟังเพราะได้ยินชื่อหนึ่งถูกเอ่ยขึ้นจากใครบางคนที่เถียงกันอยู่ในห้องน้ำ

"พี่เนย์ ทำไมพี่เข้าใจอะไรยากแบบนี้วะ"

พี่เนย์? จะใช่เนย์เดียวกับที่เขาคิดหรือเปล่านะ

"แล้วทำไมบาสทำแบบนี้กับพี่! ที่ผ่านมามันคืออะไรล่ะห้ะ!"

เสียงคุันหูที่ตอบกลับบางคนทำให้ผมมั่นใจว่าหนึ่งคนในนั้นคือพี่เนย์พี่รหัสของผมแน่นอน แต่ว่ามันคงไม่ดีที่ผมจะมายืนฟังแบบนี้ผมกำลังจะเดินกลับไปแต่คนที่อยู่ในห้องน้ำดันวิ่งออกมาก่อน ผู้ชายตัวเล็กหน้าตาจัดว่าดีวิ่งออกมาเขาชะงักไปนิดนึงที่เจอเขาอยู่ตรงนี้ไม่ทัที่จะมีใครได้ตั้งสติผู้ชายอีกคนที่ผมรู้จักเป็นอย่างดีวิ่งตามออกมาจับแขนผู้ชายตรงหน้าผมไว้

"ปล่อย! พี่เนย์ผมบอกให้ปล่อย!"

"ไม่ปล่อย! มาคุยกันให้รู้เรื่องก่อน!"

"ผมพูดไม่ชัดตรงไหน? ก็บอกว่าผมมีแฟนแล้วเลิกยุ่งกับผมสักที!"

"แล้วเรื่องของเราล่ะ ที่ผ่านมามันไม่มีความหมายเลยหรือไง ทำแบบนี้ได้ไงวะ!"

พี่เนย์ออกแรงกระชากคนตัวเล็กกว่าขับไล่บางนั่นไว้แล้วอกแรงเขย่าเค้นให้อีกฝ่ายตอบคำถามจนสีหน้าของผู้ชายคนนั้นเริ่มบ่งบอกถึงความเจ็บปวดแต่ถึงกระนั้นก็ยังคงไม่ยอมแพ้ออกแรงผลักอีกคนให้ออกไปแต่ดูขนาดตัวแล้วยังไงก็คงสะบัดพี่เนย์ออกไปไม่ได้ แรงยื้อฉุดกระชากเริ่มรุนแรงขึ้นพอเห็นท่าไม่ดีผมก็เข้าไปห้ามทั้งคู่ก่อนที่เรื่องจะบานปลายและคนอื่นจะมาเห็นเอา

"พี่เนย์พอ! ปล่อยก่อน ปล่อย คุยกันดีๆก็ได้"

"อย่ามายุ่ง!"

ผมเข้าไปห้ามโดยการแกะมือพี่เนย์ออกจากไหล่ของอีกคนแต่กลับโดนพี่เนย์ผลักออกมาจนผมเสียหลักสะดุดอะไรบางอย่างล้มลง ผมเงยหน้าขึ้นมองพี่เนย์ที่ตอนนี้เหมือนคนไม่มีสติเอาแต่กระชากตัวอีกคนแล้วตะโกนใส่ไม่หยุด ผมมองไปรอบๆเริ่มเห็นว่ามีนักศึกษาสามสี่คนเดินมาดูแล้วรีบดันตัวเองให้ลุกขึ้นแล้วเข้าไปห้ามพี่เนย์อีกครั้ง ผมรวบรวมแรงทั้งหมดกระชากพี่เนย์ออกมาจากผู้ชายคนนั้นผมผลักพี่เนย์ไปอีกทางก่อนจะคว้าแขนเล็กของอีกคนแล้วดึงให้มาหลบอยู่ด้านหลัง พี่เนย์ตั้งหลักได้ทำท่าจะเข้ามาคว้าตัวคนที่หลบอยู่ด้านหลังผมทันทีแต่ผมก็ผลักพี่เนย์ออกไปอีกครั้ง คราวนี้พี่เนย์หันมาส่งสายตาวาวโรวจ์เต็มไปด้วยความโกรธเคืองนั่นให้ผมแทน ผมเองก็สบตาไมได้หันหนีมือเรียวของคคนที่ผมไม่รู้จักจับชายเสื้อผมไว้ ผมรู้สึกถึงแรงสั่นเล็กน้อยจากร่างกายของคนด้านหลังก็ไม่น่าแปลกใจหรอกเพราะไม่ว่าใครถ้าได้มาเห็นพี่เนย์ตอนนี้ก็คงมีอาการไม่ต่างกัน

"พอได้ยังพี่เนย์"

"มึงหลบไปควิน"

"พี่นั่นแหละหยุด ไปตั้งสติให้ได้ก่อนไหมทำอะไรอยู่พี่รู้ตัวบ้างหรือเปล่า"

"หลบไป"

"พี่เนย์ ผมไม่รู้ว่าอะไรยังไงแต่ตอนนี้ที่นี่พี่จะทำแบบนี้ไม่ได้"

คนที่หลบอยู่ด้านหลังของผมกำเสื้อผมแน่นกว่าเดิมราวกับว่าหวาดกลัวคนที่อยู่ตรงหน้ามากมาย พี่เนย์ยืนกำหมัดแน่นสายตาจับจ้องอยู่ที่บางคนด้านหลังผมนานนับนาทีจนสุดท้ายลมหายใจก็ถูกพ่นออกมาอย่างแรงเพื่อระบายอารมณ์ของคนคุ้มคลั่ง

"มึงไปให้ไกลๆเลยนะ อย่ามาให้กูเห็นหน้าอีก"

พี่เนย์พูดทั้งที่ไม่มองมาทางนี้แต่ทันทีที่จบประโยคคนที่หลบอยู่ด้านหลังผมก็ออกตัววิ่งจากไป คนที่มองอยู่รอบๆก็สลายตัวตามกันไปจนหมด

"โธ่โว้ย!!!!!"

หมัดหนักของคนที่กำลังคุ้มคลั่งกระแทกเข้าไปที่กำแพงอย่างแรงเหมือนคนทำไม่ได้รู้สึกเจ็บเลยสักนิด พี่เนย์ง้างมือออกมาก่อนจะต่อยเขาไปที่เดิมอีกครั้ง ผมตกใจแต่ก็รีบเข้าไปยื้อแขนอีกคนไว้ไม่ให้ทำร้ายตัวเองมากไปกว่านี้

"พี่เนย์ พอเถอะ ทำแบบนี้ไม่มีอะไรดีขึ้นมาหรอก"

"...ทำไมมันทำแบบนี้กับพี่วะควิน"

"ผมไม่รู้หรอกว่าเรื่องนี้มันเป็นยังไง แต่ที่แน่ๆถึงพี่รักเขาแค่ไหนพี่ก็ต้องรักตัวเองด้วยนะ"

พี่เนย์หันมาสบตากับผมน้ำตาที่คลออยู่รอบดวงตาของอีกคนแสดงถึงความเจ็บปวดที่กำลังเผชิญอยู่ตอนนี้ ผมยิ้มให้พี่เนย์ก่อนจะตบไหล่ปลอบใจเบาๆเพียงเท่านั้นน้ำตาที่กักกันไว้ของอีกคนก็ไหลลงมา พี่เนย์ใช้มือปาดน้ำตาทิ้งไปเงยหน้าขึ้น ผมเองก็ยืนอยู่ตรงนั้นเพราะไม่กล้าปล่อยพี่เนย์ไว้คนเดียว สักพักพี่เนย์ก็ก้มหน้าลงมามองผมอีกครั้ง น้ำตาเมื่อครู่ได้เหือดแห้งไปเหมือนมันไม่เคยมี

"ขอบใจนะ"

"อย่าทำแบบนี้อีกนะพี่ ผมตกใจแทบตาย"

"โทษทีเมื่อกี๊กูโมโหมากไปหน่อย"

"อ่ะนี่ เช็ดเลือดที่มือซะ เมื่อกี๊ผมว่าผมเห็นเลือดนะ"

ผมควักผ้าเช็ดหน้าที่พกติดตัวตลอดให้พี่เนย์เพราะตอนที่พี่เขายกมือขึ้นปาดน้ำตาผมสังเกตเห็นเลือดที่เปรอะอยู่ที่มือ ก็แน่ล่ะ ต่อยแรงซะขนาดนั้น ถ้าผมห้ามไว้ไม่ทันดีไม่ดีป่านนี้กระดูกคงแตกไปแล้ว

"...เช็ดเลือดตัวเองก่อนดีกว่าไหม"

"ห้ะ เลือดผม?"

"ที่มือมึงน่ะ"

ผมก้มดูมือตัวเองตามทีพี่เนย์บอกถึงได้รู้ตัวว่ามือตัวเองมีรอยถลอดและมีเลือดซึมออกมานิดหน่อย สงสัยคงจะเป็นตอนที่ผมล้มแล้วเอามือยันพื้นล่ะมั้ง

"อ๋อ แค่นี้เองเดี๋ยวล้างเอาก็ได้ พี่เอาไปเช็ดเหอะ แผลพีเลือดออกเยอะกว่า"

"เพราะกูผลักใช่ไหม"

"อย่าคิดมากน่าพี่ แค่นี้ไม่เป็นไรหรอก"

"กูขอโทษ"

"ไม่เป็นไรๆ ผมว่าเราไปล้างมือกันดีกว่า เลือดพี่เริ่มออกเยอะแล้วนะ"

"อืม"

พวกผมเข้าไปล้างมือในห้องน้ำก่อนจะมานั่งโต๊ะมาหินแถวนั้น แผลของพี่เนย์พล้างเลือดออกแล้วแผลก็ไม่ได้ใหญ่อย่างที่คิดเป็นแค่รอยแตกเล็กๆแต่คงเพราะปล่อยไว้นานเลือดเลยออกมาเยอะแบบนั้น ผ้าเช็ดหน้าของผมถูกนำไปซับเลือดพี่เนย์จนมันเริ่มหยุด ผมนึกขึ้นได้ว่ามีพลาสเตอร์อยู่ในกระเป๋าตังค์เลยหยิบออกมา

"เอามือมาพี่ ผมมีพลาสเตอร์เดี๋ยวแปะให้"

"มึงพกพลาสเตอร์เนี่ยนะ"

"...เพราะมีบางคนชอบมีแผลมาให้ผมทำบ่อยๆเลยพกไว้น่ะ"

ผมยิ้มแล้วตอบพี่เนย์ไป จริงที่ผมเริ่มพกพลาสเตอร์ไม่นานมานี้ คงไม่ต้องบอกใช่ไหมครับว่าเพราะใคร หึหึ พูดแล้วคิดถึงเลยนะเนี่ย

"มึงไม่มีเรียนหรอ"

"มีดิพี่ แต่คงไม่ทันแล้วล่ะ"

"โทษท่ี"

"ช่างเถอะ ว่าแต่พี่อารมณ์กลับมาปกติยัง"

"อืมหายละ"

"ดีแล้วพี่ แค่คนคนเดียวอย่าให้เค้ามาทำให้ชีวิตเราแย่ลง"

"...อืม"

ผมรู้จักพี่เนย์ดี พี่เนย์เป็นพี่รหัสของผมเราสนิทกันพอสมควรแต่ผมไม่เคยเห็นพี่เนย์เป็นแบบนี้มาก่อน ปกติแล้วพี่แกเป็นคนที่ค่อนข้างจะโหดๆเถื่อนๆออกไปทางหยาบคายเลยด้วยซ้ำ ตอนแรกพี่เนย์ไม่ค่อยชอบขี้หน้าผมเท่าไหร่เพราะผมไม่ยอมประกวดเดือนคณะ พี่เนย์เคยเป็นเดือนคณะมาก่อนเลยอยากให้น้องรหัสสืบตำแหน่งต่อไปแต่ผมไม่ยอมเลยโดนพี่เนย์แกล้งสารพัดเลยตอนรับน้อง แถมผมเองก็เป็นคนไม่ค่อยชอบพูดและนิ่งๆไม่ค่อยสนใจอะไรพี่เนย์เลยยิ่งรำคาญผมมากขึ้นไปอีกเพระตรงข้ามกับพี่แกลิบลับ แต่ก็นั่นแหละ ยังไงสายรหัสมันก็ตัดกันไม่ได้ถึงพี่แกจะไม่ชอบผมตอนแรกแต่ก็คอยช่วยเหลือมาตลอดพอผ่านไปนานๆเข้าก็เริ่มสนิทกันมากขึ้น ไปกินเลี้ยงสังสรรค์เลี้ยงสายรหัสก็เมาหัวทิ่มหัวตำทุกครั้งก็ผมนี่แหละที่หอบพี่แกไปส่ง สนิทกันไปสุดท้ายเราก็รักกันดีครับแต่พอดีว่าช่วงนี้พวกผมต่างก็เรียนหนักแถมพี่เนย์อยู่ปีสี่แล้วเลยต้องไปฝใึกงานทำให้เราไม่ค่อยได้เจอกันสักเท่าไหร่ พอมาเจอกันก็ดันอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ได้

"คนเมื่อกี๊น่ะอยู่ปี 1"

"..."

"กูเจอกับมันครั้งแรกในผับ คืนนั้นเราไปต่อด้วยกันจบลงตอนเช้าก็แยกกันไป"

"ผมไม่เคยรู้ว่าพี่ชอบผู้ชาย"

"ก็มันคนแรกนี่แหละ มึงจะฟังไหมเนี่ย"

"อ่ะเล่ามา"

"หลังจากนั้นโคตรบังเอิญ กูเจอมันอีกครั้งที่มหาลัยแล้วก็ได้รู้ว่ามันอยู่ปี ! ที่นี่ ยอมรับว่ากูก็ถูกใจมันอยู่เหมือนกันมันเองก็คงคิดแบบนี้ หลังจากวันนั้นพวกกูก็คุยกันตลอดไปไหนมาไหนด้วยกันอยู่ด้วยกันแทบทุกวัน มึงรู้ไหมควินนี่เป็นครั้งแรกที่กูอยู่กับใครสักคนได้นานขนาดนี้"

"..."

"แต่แล้วอยู่ดีๆมันก็แปลกไป หายไปไม่รับโทรศัพท์ ไม่มาให้เจอ หลบหน้ากูตลอด พอวันนี้กูจับตัวมันได้มึงรู้ป่ะว่ามันบอกกูว่าอะไร มันบอกกูว่ามันมีแฟนแล้ว เหี้ยไหมล่ะ มันบอกที่ผ่านมากูกับมันไม่เคยเป็นแฟนกันแล้วจะเดือดร้อนอะไร ไอ้เหี้ยแล้วที่นอนเอากันทุกวันนี่ไม่ใช่แฟนแล้วเรียกว่าอะไรวะ"

"..."

"กูโคตรโมโห พอกูรู้สึกดีกับใครสักคนขึ้นมาแม่งมันกลับทำกับกูแบบนี้ ที่ผ่านมาแม่งหลอกกูชัดๆ ไอ้สัสเอ้ย!!!"

"เห้ยๆ ใจเย็นพี่ เล่าแค่นี้อย่าขึ้นดิวะ"

พอเล่ามาถึงตอนท้ายๆสีหน้าของพี่เนย์ก็ดูจะหงุดหงิดขึ้นมาอีกรอบจนผมต้องเบรกเอาไว้แต่เท่าที่ฟังมาก็คงจะเจ็บปวดไม่น้อย อยู่ด้วยกันมาตลอดแต่กลับมีเราที่คิดไปเองฝ่ายเดียว

"เออโทษที พูดแล้วมันหัวร้อน"

"ของพี่เล็กป่ะวะไม่ถึงใจเด็กมันงี้"

"เล็กพ่องเดี๋ยวกูก็ควักมาโชซ์แม่ง"

"ขอเตรียมแว่นขยายก่อนนะ"

"ไอ้ควินไอ้เด็กเวรรรร"

"5555555"

"หึหึ มึงนี่มันกวนตีนจริงๆ"

ผมชวนพี่เนย์คุยไปจนพี่เริ่มอารมณ์ดีขึ้น ผมก็เป็นห่วงพี่เขาไม่อยากให้เศร้าหรอกครับ พอพี่แกยิ้มได้ผมก็สบายใจขึ้นมา พี่เขายิ้มได้แบบนี้มันดีกว่าตอนที่พี่เชแกคลั่งเป็นไหนๆ รู้จักกันมาสามปีเพิ่งเคยเห็นด้านนั้นของพี่เนย์ก็วันนี้บอกตรงๆว่าพี่เขาดูเจ็บปวดจนผมรู้สึกแย่ตามไปด้วยเลย

"เอาน่าพี่ปล่อยมันไปเถอะคนมันไม่ใช่ก็คือไม่ใช่"

"แต่มันแค้นอ่ะ"

"สักวันคนที่เป็นของพี่ก็จะมาหาพี่เอง"

"แล้วกูจะรู้ได้ไงว่าคนนั้นของมึงเป็นใคร"

คำถามของพี่เนย์ทำให้ผมคิดถึงคิง คนที่ผมต้องการให้เป็นคนคนนั้นของผม ผมพูดให้พี่เนย์ฟังพร้อมรอยยิ้ม

"คนคนนั้นเขาจะไม่ทำให้พี่เสียใจแบบนี้"

"..."

"เขาจะทำให้พี่ยิ้มได้ไม่ว่าตอนนั้นพี่จะเศร้าแค่ไหน"

"..."

"เขาจะอยู่ข้างๆเวลาที่พี่ไม่สบายใจ"

"..."

"เขาจะเป็นคนที่คิดถึงพี่เป็นคนแรกและจะเป็นคนแรกที่พี่คิดถึง"

"..."

"เขาคนนั้นจะเป็นความสุขของพี่"

"..."

"สักวันพี่จะได้เจอเขา"

".....กูอาจจะเจอแล้วก็ได้"

"พี่พูดว่าอะไรนะ ไม่ได้ยินอ่ะ"

"ห้ะ อ่อ กูบอกว่าชาตินี้จะได้เจอไหมคนแบบที่มึงว่าน่ะ"

"ถ้าไม่เจอก็ถือว่าบุญพี่ไม่มีแล้วกัน"

"สัส"

ผมก้มดูนาฬิกาที่ข้อมือก็พบว่าใกล้ได้เวลาหมดคราบแล้วเดี๋ยวพวกไอ้เตก็คงลงมา ผมพกมาแต่กระเป๋าตังค์ส่วนโทรศัพท์อยู่ในกระเป๋าไม่รู้ว่าเดี๋ยวพวกมันลงมาแล้วผมต้องไปนั่งฟังพวกมันบ่นอีกแค่ไหน

"เดี๋ยวผมต้องไปแล้วนะพี่ เพื่อนคงใกล้ลงมากันแล้ว"

"จะไปแล้วหรอ"

"หืม"

"เอ่อ"

พอผมบอกว่าต้องไปแล้วพี่เนย์แกก็รีบตอบกลับมาอย่างไวนผมตกใจพอหันไปมองหน้าพี่แกก็เห็นว่าทำหน้าตาเหวอเหมือนพลั้งปากพูดออกมา ผมยิ้มขำท่าทางแบบนั้นของพี่เนย์สงสัยคงเพราะกำลังเศร้าเลยไม่อยากอยู่คนเดียวล่ะมั้ง ผมแกล้งเอื้อมมือไปลูบหัวพี่เนย์เบาๆสองสามทีก่อนจะพูดล้อเลียนพี่แก

"หึหึ อ่ะโอ๋ๆ อยู่คนเดียวไม่ร้องนะพี่5555555"

"มึงรีบไปเลยไปแล้วหัวกูใช่ที่เล่นมึงไหมห้ะ!"

"เห้ยๆไปแล้วๆ บาย "

"ไปให้ไวๆเลยสัสก่อนรองเท้ากูจะบินไปหามึง"

"555555 ไว้เจอกันพี่"

ผมรีบวิ่งมานั่งรอเพื่อนที่โต๊ะตัวเดิมหน้าคณะ เฮ้อ หวังว่าพี่เนย์จะผ่านมันไปได้นะผมเอาใจช่วยแล้วกัน














อีกด้านหนึ่ง

ชายหนุ่มนั่งอยู่ที่เดิมพลางนึกถึงใบหน้าของรุ่นน้องที่พึ่งจากไป สัมผัสแผ่วเบาที่ยังคงอยู่บนกลุ่มผมจนต้องเอามือไปแตะซ้ำ รอยยิ้มที่ติดอยู่ตลอดเวลานั่นดึงดูดให้ต้องมองอยู่ตลอดเวลา เสียงหัวเราะที่หยอกล้อให้เขาอารมณ์ดีนั้นทำให้เขาอดจะยิ้มตามไม่ได้ ถ้อยคำปลอบโยนให้กำลังใจที่เขาต้องการมากที่สุดในตอนนี้ก็ได้รับมาอย่างทันท่วงที

ทำไม...ทั้งที่เมื่อชั่วโมงก่อนเขายังจะเป็นจะตายอยู่แท้ๆ

ทำไม...ทั้งที่รุ่นน้องคนนี้ก็สนิทกันมาตั้งนานแต่กลับมาหวั่นไหวเอาก็วันนี้

ทำไม...ความทุกข์ใจที่พึ่งพบเจอกลับจางลงภายในเวลาไม่กี่นาที

ยิ่งคิดถึงคนที่ทำให้เขาสับสนตอนนี้ยิ่งทำให้ภาพในวันวานฉายชัดมากขึ้น ตลอดเวลาสามปีที่ผ่านมารุ่นน้องคนนี้กับเขาได้ใช้เวลาด้วยกันมามากเท่าไหร่ เหตุการณ์ใดที่เขาได้ทำร่วมกัน ยิ่งคิดยิ่งทำให้หัวใจเต้นแรงดังทะลุอกออกมาจนเจ้าตัวยังตกใจ เพราะรอยยิ้มเมื่อสักครู่หรอ หรือคำปลอบโยนที่อีกคนมอบให้ หรือเพราะอีกฝ่ายเข้ามาหยุดยั้งเตือนสติเขาเอาไว้ หรือเพราะตัวเขาเองกันแน่...



"อะไรของกูวะเนี่ย...."



ควิน...
































































________________________________________________

ฮัลโหลยังจำกันได้ม๊ายยยยยยยยยยยยย 5555555555 ขอโทษจริงๆที่มาอัพได้แค่อาทิตย์ละตอนสองตอน ฮือ พยายามแล้วแต่เวลาที่มีอันน้อยนิดมันทำให้มาได้แค่นี้จริงๆ ส่วนตอนนี้นี่เอ๊ะยังไง พระเอกเราไม่มีตัวตนเลยหรอ แล้วตัวละครใหม่อะไรยังไง งงไม่งง55555 หลายคนบอกขอมาม่าไม่มากนี่ก็บอกเลยว่ามาม่าไม่มาก เปิดเรื่องมาฟินซะขนาดนี้มันจะมาม่าเยอะได้เยี่ยงไรแถมจิตใจคนแต่งไม่แข็งแกร่งพอจะทำให้น้องคิงเสียใจได้ /รู้เลยนะคะว่าทีมใคร

ปล.ชอบไม่ชอบยังไงติชมกันได้เลยน้า ทุกเมนท์ที่ส่งมาพี่เอิร์ทอ่านหมดไม่มีข้ามไปสักติ่งนึงแน่นอน ฮึดได้เพราะกำลังใจจากทุกคนของคุณมากนะคะ

สุดท้ายนี้ขอฝาก #คิงควิน ในทวิตด้วยน้า พูดคุยกกับพี่เอิร์ทได้ที่ทวิต @earthybenben รักน้าา

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด