...แค่คุณ... ตอนที่ 22 up [29/9/61]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ...แค่คุณ... ตอนที่ 22 up [29/9/61]  (อ่าน 14963 ครั้ง)

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
Re: ...แค่คุณ... ตอนที่ 17 up [28/5/61]
«ตอบ #90 เมื่อ28-05-2018 03:10:30 »

ข้าวคงไม่ได้กินแล้วล่ะ

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
Re: ...แค่คุณ... ตอนที่ 17 up [28/5/61]
«ตอบ #91 เมื่อ28-05-2018 05:47:53 »

โจ๊ก ยังไม่ทันได้กิน พี่ควินถูกกินแทนซะแล้ว  :hao5: :sad4:  :heaven
คิง หื่น   :m20:

คิง  ควิน   :กอด1: :กอด1: :กอด1:
        :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28-05-2018 12:14:17 โดย ♥►MAGNOLIA◄♥ »

ออฟไลน์ poppycake

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2670
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-4
Re: ...แค่คุณ... ตอนที่ 17 up [28/5/61]
«ตอบ #92 เมื่อ28-05-2018 10:22:44 »

โจ๊กอะไรก้ออดไปก่อนะคะพี่ควิน -.,-

ออฟไลน์ ammchun

  • Don't Worry,Be Happy
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1389
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-4
Re: ...แค่คุณ... ตอนที่ 17 up [28/5/61]
«ตอบ #93 เมื่อ28-05-2018 18:16:56 »

ไม่ได้กินข้าวเช้าเอ๊ะหรือข้าวเที่ยงกันพอดี :katai3:

ออฟไลน์ earthearthx

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 26
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
Re: ...แค่คุณ... ตอนที่ 18 up [4/6/61]
«ตอบ #94 เมื่อ04-06-2018 02:39:29 »

ตอนที่ 18





พาร์ท ควิน




หลังจากที่ผมโดนอีกคนกระทำจนสาแก่ใจแล้ว ตอนนี้ผมก็ได้นอนเป็นผักต้มอ่อนเปลี้ยไร้เรี่ยวแรงอยู่บนเตียงเป็นที่เรียบร้อย จากตอนแรกที่ร่างกายไม่เป็นอะไรมากแต่ตอนนี้ผมกลับลุกแทบไม่ไหวช่วงล่างระบมไปหมดจากการใช้งานอย่างหนักหน่วงเมื่อชั่วโมงก่อน ส่วนต้นเหตุตอนนี้กำลังออกไปซื้อข้าวข้างนอก ตอนแรกเจ้าตัวจะไปทำโจ๊กต่อแต่ผมให้น้องออกไปซื้อข้าวมากินเลยดีกว่าเพราะตัวน้องเองก็ยังไม่ได้กินข้าวเหมือนกัน


ระหว่างที่รอผมคว้าโทรศัพท์จากหัวเตียงมาเปิดดู ที่หน้าจอแสดงเวลาเที่ยงตรงซึ่งหมายความว่าผมไปเรียนไม่ทันแล้วแต่ถึงทันก็คงไปไม่ไหวอยู่ดี ดีไม่ดีพรุ่งนี้ก็คงต้องหยุดต่ออีก ขาผมตอนนี้ยังหุบแทบไม่ลงขืนไปเรียนมีหวังโดนไอ้พวกนั้นถามยับแน่นอน นึกแล้วก็สงสัยไม่รู้ว่าคนทำมันไปตายอดตายอยากมาจากไหนมีเท่าไหร่ใส่มาไม่ยั้งเลยสักนิด อะไรนะ ทำไมผมไม่ห้ามน่ะหรอ เอ่อ จะว่ายังไงดีล่ะ พอได้ยินเสียงอีกคนเรียกชื่อแล้วมองผมด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความต้องการผมก็ปฏิเสธไม่ลง เฮ้อ บอกแล้วว่าผมแพ้คิงทุกอย่างจริงๆ


คุณมี 3 สายที่ไม่ได้รับ


พอเปิดหน้าจอมาข้อความแจ้งเตือนก็เด้งขึ้นมารัวๆทั้งไลน์ทั้งเบอร์ แต่คงไม่พ้นกลุ่มผมที่โทรมาตามนั่นแหละครับ เห็นแบบนี้แต่ผมค่อนข้างมีความเป็นส่วนตัวสูงเพื่อนที่สนิทกันเท่านั้นถึงจะมีเบอร์กับไลน์ของผมได้ นอกจากนั้นก็จะมีเฟสบุ๊คกับไอจีที่ผมจะเปิดไว้เป็นสาธารณะ ผมกดเข้าเช็คตามแจ้งเตือนก่อนที่จะพบกับความประหลาดใจ เบอร์ที่โทรเข้ามา 2 สายมาจากไอ้เตแต่อีกสายนั้นมาจากคนที่ผมไม่คิดว่าจะโทรมาเพราะเราแทบจะไม่เคยคุยกันทางโทรศัพท์เลย ผมกดโทรกลับไปด้วยความสงสัยรอสายไม่นานอีกฝ่ายก็กดรับ


“ฮัลโหล”



“ฮัลโหลพี่เนย์ โทษทีนะพี่พอดีผมตื่นสายเลยพึ่งเห็นว่าพี่โทรมา”


“มึงพึ่งตื่นเนี่ยนะ!”


“มันก็มีบ้างแหละพี่ ว่าแต่อยู่ๆโทรมาหาผมมีอะไรหรือเปล่า?”


“อ้อ เออ คือกู คือเรื่องเมื่อวานน่ะกู กู...”


“อะไรนะพี่พูดดังๆหน่อยไม่ค่อยได้ยินเลยอ่ะ”


“เออ! เรื่องเมื่อวานอ่ะ ขอบใจมึงมาก!”


“อ๋อ ไม่เป็นไรหรอกพี่ ว่าแต่พี่โทรมาแค่นี้อ่ะนะ”


ร้อยวันพันปีก็ไม่เคยโทรมาเลยสักครั้ง ปกติเวลามีเรื่องอะไรพี่แกจะเดินมาหาอะไรแบบนั้นเลยนี่หว่า ผมว่าที่โทรมานี่ถือว่าแปลกมากเลยนะ


“เปล่าๆกูว่าจะเลี้ยงเหล้าขอบใจมึงด้วย แต่วันนี้ไปหาแล้วไม่เจอมึงกูเลยลองโทรไป...นึกว่ามึงเป็นอะไรซะอีกเห็นปกติมึงไม่ค่อยหยุดเรียน”


“ไม่ต้องถึงขนาดนั้นก็ได้มั้งพี่ มันก็ไม่ได้อะไรมากซะหน่อย”


“กูบอกว่าจะเลี้ยงก็คือจะเลี้ยงดิวะ! คืนนี้มึงว่างมั้ยล่ะ?”


“โอเคๆพี่แต่ว่าคืนนี้หรอ อ่า ก็ได้ แล้วใครไปมั่งอ่ะพี่”


ผมเงียบไปแปบนึงเพราะไม่รู้ว่าวันนี้จะไปไหวมั้ย แต่นานๆทีพี่เนย์จะมาเลี้ยงผมก็เกรงใจไม่อยากให้ต้องเลื่อนเพราะผม ผมขยับตัวเช็คสภาพร่างกายตัวเองแล้วก็น่าจะพอไปนั่งเฉยๆได้อยู่เลยตอบตกลงไป


“ก็พวกกูเหมือนเดิมมึงก็เอาเพื่อนมาปกตินั่นแหละ ร้านเดิมสี่ทุ่มนะมึง มาเร็วๆล่ะ”


“ครับๆ”


พอตกลงกันเสร็จแล้วสายก็ถูกตัดไป ผมเลื่อนหน้าจอแล้วกดเข้าไลน์ข้อความจากแชทกลุ่มหลายสิบข้อความเด้งจึ้นมาอยู่บนสุด ผมกดเข้าไปอ่านก็เจอแต่ข้อความที่ถามถึงผมจนถึงเมื่อประมาณสองชั่วโมงก่อน ผมแชทบอกไปว่าวันนี้ตื่นสายเลยไปเรียนไม่ทันและทิ้งข้อความนัดเวลาไปกินเหล้ากับพี่เนย์ไว้ในกลุ่ม ยังไงพวกมันก็ไม่พลาดแน่อยู่แล้วพอดีกับเสียงประตูห้องดังขึ้น ผมกดปิดหน้าจอโทรศัพท์แล้วพุ่งความสนใจไปหาคนที่เปิดประตูเข้ามา


“ซื้อข้าวมาแล้ว พี่จะกินตรงไหน” คิงเดินเข้ามาถามแล้วทิ้งตัวนั่งลงด้านข้างเตียง ผมเลยพลิกตัวตะแคงหันหน้าเข้าหาคิง


“โอยย” เพราะพลิกตัวแรงไปหน่อยความเจ็บจากช่วงล่างก็แล่นแปล๊บขึ้นมาจนผมหลุดเสียงร้องออกไปจนทำให้น้องที่นั่งอยู่ทำสีหน้าเคร่งเครียดเปิดผ้าห่มที่คลุมตัวผมออกแล้วใช้สายตาสำรวจตามร่างกายของผมอย่างถี่ถ้วน แค่นั้นไม่พอคิงทำท่าจะเลิกเสื้อที่ผมใส่อยู่ออกอีกผมเลยต้องรีบคว้าแขนอีกคนไว้ “ไม่ได้เป็นอะไรมากหรอก พี่ขยับตัวแรงไปหน่อยเอง คิงช่วยยกมาให้พี่กินในห้องนี้หน่อยนะ” ผมไม่อยากขยับตัวไปไหนเลยสักนิด กระดิกนิดเดียวก็เหมือนร้าวไปทั้งตัว เลยบอกให้อีกคนไปเอาข้าวมากินในห้องน่าจะดีกว่า


“หึ เดินไม่ไหวแล้วสิ” น้องพูดขึ้นยิ้มๆส่งสายตาล้อเลียนชัดเจน ใช่สิ เป็นคนทำมันไม่เจ็บนี่!


“เพราะใครล่ะ”


“แล้วทำไมไม่ห้ามล่ะ”


โดนจุดสำคัญเลยครับ...


“.....ไปเอาข้าวมาเลยไป” ผมไล่ไอ้คนที่นั่งยิ้มอย่างน่าหมั่นไส้ให้ออกไปจากห้อง คิงลุกขึ้นตามที่บอกแต่ถึงอย่างนั้นก็ยังได้ยินเสียงหัวเราะในลำคอเบาๆ ผมมองตามหลังร่างสูงออกไปแล้วได้แต่นึกสงสัยว่าไอ้ลูกหมาขี้อ้อนคนเก่ามันหายไปไหน! ทำไมตอนนี้ถึงได้ดูเป็นหมาป่าแบบนี้ได้เล่า! เอ๊ะ หรือว่าผมจะเอาใจมากไปจนเหลิงเดี๋ยวนี้ถึงได้ดูเจ้าเล่ห์ขึ้นมา อืม สงสัยต้องเข้าโหมดจริงจังบ้างแล้วมั้งไม่งั้นเดี๋ยวจะได้ใจไปกว่านี้ ถกเถียงกับตัวเองในใจได้ไม่เท่าไหร่ประตูก็ถูกเปิดกลับเข้ามาอีกครั้ง กลิ่นหอมจากอาหารทำเอาท้องไส้ส่งเสียงเรียกร้องผมยันตัวลุกขึ้นนั่งทันที ชามข้าวถูกวางลงบนเตียงตรงหน้า หือ ในชามคือข้าวต้มทรงเครื่องที่ผมไม่คิดว่าจะได้กินตอนเที่ยงๆแบบนี้


“ไปซื้อข้าวต้มที่ไหนมา”


คิงยังไม่ได้ตอบคำถามผมแต่กลับเดินไปเปิดทีวีแล้วย้อนกลับมานั่งลงบนเตียงอีกฝั่งพร้อมกับจานข้าวของเจ้าตัว


“อาหารตามสั่ง”


“มันมีข้าวต้มด้วยหรอ”


“สั่งทำ”


เออว่ะ! มันก็สั่งทำได้นี่หว่า ผมพยักหน้าสองสามทีแล้วลงมือกินข้าวต้มของตัวเอง ระหว่างการกินมีเพียงเสียงพูดคุยจากทีวีเท่านั้น ต่างคนต่างกินข้าวไปเงียบๆจนเสร็จคิงก็หยิบถ้วยไปล้างในครัว ผมดูนาฬิกาก็เห็นว่าตอนนี้พึ่งจะเที่ยงกว่าคิงน่าจะยังไปเรียนช่วงบ่ายทันอยู่นะ พอน้องเดินกลับเข้ามาผมก็เลยถามขึ้น


“คิง”


“ห้ะ”


“จะไปเรียนมั้ย”


“ไม่ไป” ตอบไวเหมือนไม่ได้คิด และเจ้าตัวยังยืนยันคำตอบตัวเองด้วยการทิ้งตัวนั่งลงบนเตียงเอนหลังพิงกึ่งนั่งกึ่งนอนกดรีโมทเปลี่ยนช่องสบายใจ


“ไปตอนนี้ก็ทันเรียนตอนบ่ายหนิ ไปเหอะ” ผมหันบอกให้คิงไปเพราะน้องเรียนวิศวะผมรู้ว่ามันยากและผมก็ไม่อยากให้น้องหยุดเรียนโดยเปล่าประโยชน์


“ไม่เอา” เสียงยืนยันหนักแน่นว่ายังไงก็ไม่มีทางไปแน่นอน เฮ้อ

.

.

.

.

.

เดี๋ยวนะ....นี่คือเวลาที่เราต้องเข้าโหมดจริงจังแล้วป่ะวะ


“คิง” ผมเรียกน้องอีกครั้งพยายามทำสีหน้าให้นิ่งที่สุด ผมตามใจมาบ่อยล้ะแต่เรื่องนี้ยังไงก็ไม่ได้เด็ดขาด คิงหันมาสบตากับผมโดยไม่พูดอะไรหมายความว่าน้องยังคงดื้อดึงที่จะไม่ไป ผ่านไปหลายวินาทีผมยังคงสบตากับน้องอยู่แบบนั้นจนสุดท้ายน้องก็สไลด์ตัวเอาหัวมาเกยตักผมไว้กลายร่างเป็นลูกหมาขี้อ้อนตัวเดิม


โอ้ย! ใครสั่งใครสอนให้ทำแบบนี้! ใจพี่บางหมดแล้ว!


ผมก้มลงมองกลุ่มผมที่ซุกอยู่ที่หน้าขาแล้วอยากจะยกมือไปลูบเล่นแต่ก็ต้องหักใจตัวเองทำตัวนิ่งไว้ตามเดิม อย่านะควิน อย่าตามใจน้องนะเว้ย!


“คิง” ผมลองเรียกน้องอีกครั้งและกดเสียงลงต่ำกว่าเดิม ให้น้องรู้ว่าครั้งนี้ผมเอาจร...


“อยากอยู่กับพี่”




ครับ ยอมแล้วครับ



เป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วที่ผมต้องแพ้ให้กับคนคนนี้ คำพูดไม่กี่คำทำผมใจอ่อนซ้ำแล้วซ้ำเล่า ผมยกมือวางลงบนหัวทุยแล้วเกี่ยวพันนิ้วเข้ากับเส้นผมของอีกคน ลูกหมาของผมน่ารักขนาดนี้ผมจะทำใจแข็งลงได้ยังไงนะ ผมถอนหายใจก่อนจะปรับน้ำเสียงให้อ่อนลงแล้วตัดสินใจบอกน้องอีกครั้ง


“เราก็อยู่ด้วยกันทุกวันอยู่แล้วนี่ วิศวะน่ะเรียนหนักพี่ไม่อยากให้ขาดเรียนหรอกนะ มหาลัยน่ะไม่ใช่จะเรียนเล่นๆได้ เป็นห่วงหรอกถึงได้บอกเนี่ย”


“อือ”


ได้ยินเสียงตอบรับแต่ร่างกายก็ไม่ได้ขยับเขยื้อนแต่อย่างใด ผมไม่ได้พูดอะไรต่อเพราะที่อยากพูดก็พูดไปหมดแล้ว คิดว่ายังไงก็คงปล่อยไปตามนี้นั่นแหละแต่อยู่ดีๆคิงก็ผุดลุกขึ้นมานั่งแล้วลุกไปที่ตู้เสื้อผ้า ผมยิ้มออกมาเมื่อเห็นว่าชุดนักศึกษาถูกหยิบออกมาจากตู้ ใช้เวลาไม่นานร่างสูงหล่อของคิงก็อยู่ในชุดนักศึกษาเรียบร้อย สายตาคมเหลือบมองผมเพียงครู่เดียวก่อนเดินออกจากห้องไปโดยไม่ร่ำลาสักคำ


คืออะไร?


โกรธ? ไม่พอใจ? พอนึกได้แบบนี้แล้วผมเองก็เริ่มจะหงุดหงิด คือผมแค่บอกให้ไปเรียนจะเอาเรื่องแค่นี้มาโกรธกันงั้นหรอ มันไม่มีเหตุผลเลย ผมบอกเพราะห่วงแท้ๆไม่คิดว่ามันจะทำให้.....


แกร๊ก


เสียงประตูถูกเปิดจากคนที่ผมนึกว่าไปแล้ว ร่างสูงของคิงกลับเข้ามาในห้องอีกครั้งในมือถือน้ำไว้แก้วนึง ผมได้แต่นั่งงงจนกระทั่งอีกคนเดินเข้ามาถึงพร้อมกับยื่นของบางอย่างมาให้


“กินยาด้วย”


เม็ดยาสองสามเม็ดถูกยื่นมาให้ผมพร้อมกับน้ำแก้วนั้น ผมมองเม็ดยาสลับกับใบหน้าของคิงแล้วอยากจะร้องไห้ โถไอ้ควิน มึงนี่มันโง่นัก! น้องอุตส่าห์ไปเอายามาให้ดันไปคิดว่าน้องโกรธ ผมแอบรู้สึกผิดในใจจนอยากจะตะโกนขอโทษออกมาดังๆแต่ความจริงทำได้เพียงรับน้ำและยามาแล้วกลืนลงท้องไป


“ไปแปบเดี๋ยว เดี๋ยวมา”


ผมได้แต่พยักหน้ารับรู้แล้วมองอีกคนเดินออกไปแล้วก่นด่าความคิดโง่เง่าของตัวเองในใจ แต่ว่านี่ก็ถือว่าโชคดีนะที่ผมแค่คิด ถ้าพูดออกไปล่ะเป็นเรื่องแน่









หลังจากที่คิงออกไปผมก็นอนหลับต่อจนถึงสี่โมงเย็นพอลุกขึ้นมาก็รู้สึกว่าพอได้กินยาและนอนพักร่างกายก็โอเคขึ้นกว่าเดิมเยอะ ยังขัดๆอยู่บ้างแต่ก็ไม่เป็นไร ผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูก็เจอข้อความในกลุ่มที่พวกไอ้ชาร์ปตอบกลับมา



Charp Charp : ไปจ้าาาาา


Song : ไอ้ชาร์ปไปกูก็ไป


TeTeTe : ตามนั้น



ผมบอกแล้วว่าพวกมันไม่พลาดผมไลน์หาไอ้เตบอกให้มันมารับด้วยเพราะว่าคงขับรถไปเองไม่ไหว.....เหมือนจะลืมอะไรไปบางอย่างนะ.....


อ๋อ! ผมลืมบอกคิงไปเลยว่าคืนนี้ผมต้องไปข้างนอก พอนึกได้ยังไม่ทันที่ผมจะกดหาแชทไลน์ก็พบว่าแชทที่กำลังจะหาเด้งขึ้นมาอยู่ด้านบนสุดเพราะข้อความของอีกคนที่ส่งมาพอดี


King : พี่ควิน ต้องไปทำงานต่อที่บ้านเพื่อน กลับช้านะ


เออดี วันนี้คิงก็กลับช้าเหมือนกัน พออ่านจนผมรีบพิมพ์ตอบกลับไป


Q : กลับช้ามากมั้ย คืนนี้พี่จะไปข้างนอกเหมือนกัน


ทันทีที่กดส่งไปก็ขึ้นว่าอ่านแล้วทันทีเหมือนว่าอีกคนเปิดหน้าแชทค้างไว้ รอต่ออีกไม่กี่วินาทีก็มีข้อความตอบกลับมา


King : ไปไหน


Q : รุ่นพี่นัดกินเลี้ยงกันอ่ะ


King : ที่ไหน



Q : ที่ xxxxxpub


King : ไม่ให้ไป


พอคิงตอบกลับมาว่าไม่ให้ไปผมถึงกับต้องขมวดคิ้วด้วยความไม่เข้าใจ เพราะอะไรผมถึงไปไม่ได้ล่ะ


Q : ทำไมล่ะ


King : ยังไม่หายดีแล้วจะไปกินเหล้า?



Q : แต่พี่รับปากรุ่นพี่ไปแล้ว


ข้อความสุดท้ายที่ส่งไปขึ้นว่าอ่านแล้วแต่รอนานนับนาทีก็ไม่เห็นว่าคิงจะตอบกลับมา ผมกดออกจากแชทแล้วกดเข้าเช็คเฟสบุ๊คตัวเองระหว่างรอ แจ้งเตือนมากมายจากทั้งคนรู้จักและคนไม่รู้จัก แต่ที่สะดุดตาที่สุดคือแจ้งเตือนที่ขึ้นมาว่าไอ้ลูกหมาของผมอัพรูปในเฟสบุ๊คครั้งแรกในรอบเดือนเมื่อแปดชั่วโมงก่อน เอ่อ ประมาณแปดโมงเช้าสินะ ผมรีบกดเข้าไปดูทั้งที่ในใจเต็มไปด้วยความสงสัย ร้อยวันพันปีเฟสบุ๊คของคิงแทบไม่เคลื่อนไหวอะไรเลย การที่อยู่ๆมาอัพรูปได้นี่ก็ถือว่าเป็นเรื่องมหัศจรรย์ใจได้เลย


“รูปอะไร...หือ...เห้ย!!!!”


ทันทีที่เห็นรูปที่ถูกอัพลงไปผมเด้งตัวขึ้นนั่งด้วยความตกใจ หัวใจเต้นแรงดังจนก้องในหัวไปหมด ผมจ้องภาพที่ค้างอยู่หน้าจอด้วยความรู้สึกหลากหลายแต่ชัดเจนที่สุดคือความรู้สึกเต็มตื้นอยู่ในอก ไม่ต้องส่องกระจกก็รู้ว่าตอนนี้ผมคงจะเก็บสีหน้าเอาไว้ไม่อยู่แล้ว


“เอาจริงดิ”


ทั้งที่ภาพนี้แทบจะไม่มีอะไรอยู่ในรูปนั้นเลยไม่เห็นแม้แต่หน้าของคนที่อัพลงแต่ถึงอย่างนั้นผมกลับไม่สามารถหุบยิ้มลง


จะว่ายังไงดีล่ะ....มันเป็นแค่ภาพสีน้ำเงิน....สีน้ำเงินของผ้าห่มผืนเดียวกับที่ผมใช้อยู่ตอนนี้....และเท้าสองคู่ที่โผล่พ้นผ้าห่มออกมา....


ไม่ต้องบอกใช่มั้ยครับว่าเท้าใคร....


ภาพแค่นี้แต่แน่นอนล่ะถมันต้องไม่ใช่เรื่องแค่นี้แน่นอน การที่ลงรูปนี้ไปมันบอกอะไรได้หลายต่อหลายอย่าง คนสองคนบนเตียงเดียวกัน....มันเหมือนการประกาศว่าเจ้าของรูปมีแฟนแล้วอะไรประมาณนั้นเลย ผมไม่รอช้ารีบกดอ่านคอมเมนท์ของรูปนี้ทันที ซึ่งทุกเมนท์มันก็จะประมาณว่า...



แพรว คณิตศาสตร์ : ใคร!!!

ปู ไปหาหมอ : ไม่จริงใช่มั้ยคะคิง ฮือออ

มินท์ ชาอู่หลง : ไม่ต้องตกใจ ตีนเราเองค่ะ /มโนวนไป

วิว วันอังคาร : ใช่ผู้หญิงมั้ย ตีนดูใหญ่ๆอ่ะ

สาย ปั่น : เออผู้หญิงที่ไหนจะเท้าใหญ่ขนาดนี้

คิม เบอเร่อ : ไม่ใช่ตีนชะนีแน่นอน! ใครคือลูกสาวแม่ ตอบ!!!

นุ่น วันละนิด : อะไรเนี่ย ล้อกันเล่นใช่มั้ย



ทุกคอมเมนท์ล้วนแต่ถามถึงคนในรูปและหลายคนที่จับผิดว่ามันไม่ใช่เท้าผู้หญิง ก็แน่ล่ะ ผมก็ผู้ชายนะจะให้มาเท้าเล็กบอบบางได้ยังไง ผมเลื่อนอ่านไปเรื่อยๆ บางเมนท์ก็ดูจริงจังจนน่าทึ่งแต่ก็มีบางเมนท์ที่เรียกรอยยิ้มจากผมได้เหมือนกัน ผมลองเช็คดูที่เพจดังของมหาลัยก็พบว่ารูปนี้ถูกเอาไปสานต่อแล้วเรียบร้อย ผมเคยบอกแล้วว่าผมไม่ได้ซีเรียสอะไรเรื่องนี้แต่ก็คิดไม่ถึงจริงๆว่าจะถูกถ่ายรูปไปลงแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว ไม่รู้ว่านานแค่ไหนที่ผมเลื่อนดูเกี่ยวกับโพสนี้แต่มารู้ตัวอีกทีก็ตอนที่ได้ยินเสียงใครบางคนเข้ามาในห้อง


“ทำไมกลับมาล่ะ ไหนว่าจะไปทำงานต่อ” ผมถามคิงที่อยู่ดีๆก็มาโผล่อยู่ตรงนี้ ถึงว่าทำไมถึงไม่ตอบแชทผม คงจะขับรถกลับมาเดี๋ยวนั้นเลยสินะ


“พี่จะไปกินเหล้าได้ยังไง พี่ยังไม่หายดี” คิงไม่ได้ตอบคำถามของผมแต่พูดถึงเรื่องที่ผมจะไปข้างนอกคืนนี้แทน คิ้วเข้มขมวดจนแทบจะรวมกันเป็นเส้นเดียวบ่งบอกว่าร่างสูงกำลังไม่พอใจอย่างมาก


“พี่ไม่กินก็ได้แต่ครั้งนี้พี่รหัสเป็นคนนัดมา ยังไงพี่ก็ต้องไป” ผมเข้าใจที่น้องไม่อยากให้ไปแต่ผมก็รับปากพี่เนย์ไปแล้วและที่นัดคืนนี้มันก็เพราะผมด้วยนี่


“ไม่ให้ไป” เหมือนที่ผมพูดเมื่อกี๊เข้าหูซ้ายทะลุออกหูขวาไปเฉยๆ คิงยืนมองผมอยู่ปลายเตียงและยืนยันว่าไม่อยากให้ผมไป ผมลุกขึ้นจากที่นอนแล้วเดินไปหาอีกคนใกล้ๆ


“พี่บอกแล้วไงว่าพี่ต้องไป ก็แค่แปบเดียวเดี๋ยวก็กลับ”


“.....”


“คิง”


“.....”


“เข้าใจมั้ยเนี่ย”


“....”


คิงไม่ยอมพูดอะไรออกมา ผมเลยปล่อยคิงให้ยืนอยู่ตรงนั้นแล้วเดินมาเข้าห้องน้ำแทน เพราะถ้าเกิดว่าคุยต่อตอนนี้ก็คงจะไม่ได้อะไรกลับมาถ้าเกิดว่าคิงยังเป็นแบบนี้อยู่ ผมใช้เวลาอาบน้ำไม่นานก็ออกมา คิงย้ายร่างตัวเองไปนั่งลงอยู่ตรงปลายเตียง ผมเดินผ่านมาที่ตู้เสื้อผ้าโดยไม่สนใจอะไร ตอนนี้พึ่งจะห้าโมงแต่ผมว่าจะไปอยู่กับไอ้เตก่อน เพราะบอกตรงๆว่าตอนนี้ผมไม่อยากอยู่ในห้องนี้สักเท่าไหร่


“จะไปให้ได้เลยใช่มั้ยพี่ควิน” ประโยคแรกหลังจากที่เงียบไปนาน ฟังยังไงก็รู้ว่าคนพูดกำลังแดกดันกันอยู่


“พี่ต้องไป” ผมตอบพร้อมกับแต่งตัวไปด้วยโดยไม่ได้หันไปมอง ตอนนี้ผมเองก็เริ่มจะมีอารมณ์ขึ้นมาบ้างแล้วแต่พยายามทำใจเย็นเอาไว้เพราะไม่อยากให้มันต้องถึงขั้นทะเลาะกัน


“แล้วถ้าผมไม่ให้พี่ไปล่ะ”


“พี่ว่าพี่บอกไปแล้วนะว่าต้องไป”


“งั้นผมไปด้วย”


“อะไรนะ”


“ผมจะไปด้วย”


“คิงจะไปทำไม ไม่ต้องไปหรอก” ผมหันมาถามคิงเพราะไม่เข้าใจว่าน้องจะตามไปทำไม แค่จะออกไปกินเหล้ากับรุ่นพี่ทำไมมันถึงกลายมาเป็นแบบนี้ได้ ตอนนี้ผมไม่เข้าใจร่างสูงตรงหน้าเลยสักนิด ตอนแรกบอกไม่ให้ไปเพราะผมยังไม่หายดีอันนั้นผมเข้าใจ แต่ผมก็บอกเหตุผลไปหมดแล้วแล้วทำไมถึงยังไม่ยอมให้ไป แถมขอตามไปด้วยผมก็ยิ่งไม่เข้าใจหนักไปอีก


“แล้วที่นั่นมันมีอะไร ทำไมถึงไปด้วยไม่ได้”


ผมไม่รู้ว่าจะต้องตอบอะไรหลังจากได้ยินประโยคนี้ สมองประมวลผลทั้งหมดอย่างรวดเร็วก่อนจะตีความได้เป็นความหมายเดียว


ไม่ยอมให้ผมไปกินเหล้า....


พอผมจะไปให้ได้เลยขอตามไปด้วย....


พอผมไม่ให้ไปก็เลยถามว่ามีอะไรที่ทำให้ไปด้วยไม่ได้....


ไม่ไว้ใจ...


ความหมายเดียวที่ผมคิดได้ในตอนนี้คือไม่ไว้ใจเท่านั้น มันไม่มีทางเป็นอย่างอื่นได้อีกแล้วนอกจากนี้ มันจะมีเหตุผลอะไรอีกที่คิงพยายามห้ามผมไม่ให้ไป มันจะเป็นอะไรได้อีก


“แล้วคิงคิดว่ามันมีอะไรงั้นหรอ?”


“.....”


“ตอบพี่สิว่าคิงคิดว่ามันจะมีอะไร?” นี่เป็นครั้งแรกที่ผมเริ่มใส่อารมณ์กับน้อง ที่ผ่านมาผมยอมอ่อนให้ทุกอย่าง...แต่มันคงยังไม่พอที่จะทำให้อีกคนเชื่อใจกันได้


“...ไม่รู้”


“ไม่รู้ ไม่รู้แค่นี้อ่ะหรอ.....ตอนนี้พี่เองก็ไม่รู้แล้วเหมือนกัน ไม่รู้ว่าคิงกำลังคิดอะไรอยู่แต่คิงจะมาห้ามไม่ให้พี่ไปไหนไม่ได้หรอกนะ พี่เองก็มีสังคมของพี่ พี่เองก็มีเพื่อน”


“.....”


“คิงคิดว่าพี่จะไปทำอะไรลับหลังงั้นหรอ? พี่เองก็บอกทุกอย่างไปหมดแล้วแต่แค่คำพูดพี่มันไม่พอต้องไปเห็นเองกับตาแบบนั้นเลยใช่มั้ย?” ยิ่งอีกคนเอาแต่เงียบผมก็ยิ่งรู้สึกแย่ แต่ละคำที่พูดไปเชือดเฉือนใจตัวเองทั้งนั้น


“ไม่ใช่!”


“ไม่ใช่อะไร! ก็ชัดเจนแล้วนี่ว่าคิงไม่ได้ไว้ใจพี่เลย” ผมไม่อยากฟังอะไรต่ออีกแล้วพูดจบผมก็เดินหนีไปที่ประตูห้องทันที มือยังไม่ทันจะเอื้อมถึงลูกบิดก็ถูกคนด้านหลังกระชากกลับเข้าไปหา ผมเซไปนิดหน่อยแต่พอตั้งหลักได้ก็ผลักอีกคนออกไปได้ อย่าลืมว่าตัวผมกับคิงก็ไม่ได้ต่างกันมากเท่าไหร่มันเลยไม่ยากนักที่ผมจะพาตัวเองออกมาจากตรงนั้น หันหลังเดินต่อได้อีกไม่กี่ก้าวก็ถูกกระชากกลับไปอีกครั้ง ครั้งนี้ตัวผมจมลงไปในอ้อมกอด วงแขนแกร่งโอบรัดตัวผมไว้แน่นจนเจ็บ


“ไม่ใช่นะพี่ควิน มันไม่ใช่แบบนั้นนะ” พอคว้าตัวผมไว้ได้น้ำเสียงทุ้มต่ำก็ละล่ำละลักพูดออกมาจนฟังแทบไม่ทัน


“ปล่อยพี่” ผมดันร่างหนาให้ออกไปแต่เพราะวงแขนที่รัดแน่นทำให้ผมขยับแทบไม่ได้ ยิ่งผมดันทุรังผลักอีกคนออกแค่ไหนแรงกอดรัดก็ยิ่งแน่นขึ้นเท่านั้น


“ไม่ใช่นะพี่...ฟังก่อนฟังคิงก่อนนะ” น้ำเสียงที่อ้อนวอนอยู่ข้างหูทำใจผมอ่อนยวบแต่ความรู้สึกแย่มันก็ยังคงอยู่ คำพูดแทนตัวเองด้วยชื่อที่น้อยครั้งจะได้ยินก็ทำให้อีกใจผมอยากจะดึงตัวอีกคนมากอดไว้แต่ก็ทำไม่ได้สุดท้ายผมก็ทำได้เพียงแค่ยืนนิ่งอยู่แบบนั้น


“ปล่อย”


“หวง”


“.....”


“หวงมาก”


“.....”


“หวงจนไม่รู้จะทำยังไงแล้วพี่ควิน”


“.....”


“ไม่อยากให้พี่ไปที่แบบนั้น”


“.....”


“ถ้ามีคนเข้ามายุ่งกับพี่คิงจะทำยังไง”




หวงงั้นหรอ....


เพราะแบบนั้นเองงั้นหรอ....




ผมค่อยๆยกมือของตัวเองที่กำลังสั่นข้างนึงเกี่ยวรัดเอวหนาพร้อมกับค่อยๆวางมืออีกข้างทาบทับลงแผ่นหลังของคนตรงหน้าแล้วลูบไปมาเบาๆ


“ขอโทษ”


ผมพูดพร้อมกับเอียงหน้าไปหาใบหน้าหล่อที่ซบอยู่ตรงไหล่ผมก่อนจะประทับริมฝีปากลงบนขมับซ้ำๆอยู่แบบนั้นเพื่อไถ่โทษ เรื่องนี้เหตุผลจริงๆมันไม่ได้เลวร้ายอะไรเลยหนำซ้ำยังเป็นเหตุผลที่ดีจนผมรู้สึกผิดที่คิดกับน้องไปแบบนั้น ถ้าจะมีใครสักคนที่แย่มันก็คือผมเองนี่แหละ ผมเองที่แย่ ผมเกือบทำให้ทุกอย่างมันพังด้วยมือของผมเอง


“ขอโทษนะคิง พี่ขอโทษจริงๆ”


“อือ” หัวทุยขยับขึ้นลงและตอบรับในลำคอแต่ไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมาแต่แค่นี้ก็พอแล้ว แค่น้องให้อภัยก็พอแล้ว


เรายืนกอดกันแบบนั้นโดยไม่มีใครคิดจะคลายอ้อมกอดออกสักนิด


โชคดีของผมแค่ไหนแล้ว...ที่วันนี้ผมไม่เสียน้องไป....
























มีใครสัมผัสได้ถึงความไบโพล่าห์มั้ยคะ เอิร์ทว่าเอิร์ทสัมผัสได้ค่ะ -..- ตอนนี้เนื้อเรื่องก็มาถึงครึ่งทางได้แล้วนะคะ เพราะงั้นเราน่าจะได้เข้าเรื่องหลักจริงๆแล้วหลังจากที่ออกทะเลมานาน -/- ยังไงก็ตามแต่เอิร์ทขอขอบคุณทุกไลค์ ทุกคอมเมนท์ ทุกรีวิวที่ส่งมาเลยนะค เอิร์ทอ่านทุกบรรทัดของทุกคนและมันก็เป็นกำลังใจที่มากแบบผัวแม่นาคเลยอ่ะ ผ่าม! 555555555

ก่อนจากไปเอิร์ทมีคำถามมาถามทุกคนหน่อยน้า คือมีคนที่ถามถึงเรื่องเล่มนิยายเรื่องนี้มาบ้าง ซึ่งเอิร์ทบอกแล้วว่านี่คือเรื่องแรกของเอิร์ท นั่นหมายความว่าเอิร์ทยังไม่เคยทำเล่มของตัวเองมาก่อน แต่ไม่ต้องห่วงเพราะเอิร์ทได้ลองไปศึกษามาเรียบร้อยแล้ว ทีนี้ประเด็นมาละ คือถ้าจะต้องพิมพ์เล่มจริงๆเอิร์ทคงจะต้องเปิดพรีออเดอร์ ซึ่งด้วยงบประมาณที่คำนวณมาแล้ว จำนวนหนังสือขั้นต่ำที่ต้องการน่าจะประมาณ 50 เล่ม คำถามคือจะมีคนซื้อถึง 50 เล่มมั้ยคะ555555555 ฮือออออออ ส่วนตัวเอิร์ทไม่มั่นใจเลยว่าจะมีคนซื้อเพราะโนเนมมากมาย ยังไงก็รบกวนทุกคนหน่อยเน้ออ ฝาก#คิงควินด้วยน้า จู้บ

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
Re: ...แค่คุณ... ตอนที่ 18 up [4/6/61]
«ตอบ #95 เมื่อ04-06-2018 03:17:54 »

 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
Re: ...แค่คุณ... ตอนที่ 18 up [4/6/61]
«ตอบ #96 เมื่อ04-06-2018 06:19:38 »

 :oni2:  ดีต่อใจเจงๆ   :pig3: :pig3: :pig3:
มีอะไรก็คุยกัน ปัญหาก็จบ  :mew1:

คิง  ควีน   :กอด1: :กอด1: :กอด1:
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
Re: ...แค่คุณ... ตอนที่ 18 up [4/6/61]
«ตอบ #97 เมื่อ04-06-2018 09:07:50 »

 :pig4: :pig4: :pig4:

อิน้องนี่จะน่ารักเกินไปล้าว

ออฟไลน์ maemix

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4403
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +299/-3
Re: ...แค่คุณ... ตอนที่ 18 up [4/6/61]
«ตอบ #98 เมื่อ04-06-2018 19:46:34 »

หันหน้าคุยกันดีที่สุด #คิงควิน

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80
Re: ...แค่คุณ... ตอนที่ 18 up [4/6/61]
«ตอบ #99 เมื่อ04-06-2018 22:10:34 »

 :pig4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ...แค่คุณ... ตอนที่ 18 up [4/6/61]
« ตอบ #99 เมื่อ: 04-06-2018 22:10:34 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ ammchun

  • Don't Worry,Be Happy
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1389
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-4
Re: ...แค่คุณ... ตอนที่ 18 up [4/6/61]
«ตอบ #100 เมื่อ05-06-2018 01:56:49 »

เราว่าควินไม่มีเหตุผลเลยอะ เอาจริง :katai1:

ออฟไลน์ Tiffany

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1147
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
Re: ...แค่คุณ... ตอนที่ 18 up [4/6/61]
«ตอบ #101 เมื่อ05-06-2018 15:21:23 »

ใจร่มๆ เดี๋ยวก็ดีเอง

ออฟไลน์ earthearthx

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 26
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
Re: ...แค่คุณ... ตอนที่ 19 up [10/6/61]
«ตอบ #102 เมื่อ11-06-2018 02:33:00 »

ตอนที่ 19




พาร์ท คิง




แสงแดดในตอนเช้าลอดผ่านม่านทึบเข้ามาสาดส่องความสว่างไปทั่วทั้งห้องนอนที่มีร่างของคนสองคนกกกอดกันอยู่บนเตียง คนหนึ่งยังคงตกอยู่ในห้วงนิทราส่วนอีกคนนั้นตื่นเต็มตาตั้งแต่พระอาทิตย์ยังไม่ขึ้น แต่ถึงอย่างนั้นคนที่ตื่นอยู่ตอนนี้ก็ไม่สามารถพาตัวเองให้ลุกออกไปจากเตียงได้ ร่างหนาคล้ายถูกตรึงไว้ด้วยใบหน้ายามหลับใหลของคนในอ้อมแขน แต่ละนาทีหมดไปกับการจดจ้องและสำรวจใบหน้านี้ สายตาคมที่ทอดมองเต็มไปด้วยความรัก ยิ่งหลังจากผ่านพ้นเหตุการณ์เมื่อคืนที่เขาได้ครอบครองและเป็นเจ้าของร่างบางอย่างสมบูรณ์แล้วยิ่งทำให้เขาลุ่มหลงในทุกสิ่งทุกอย่างของคนคนนี้แบบที่ไม่เคยเป็นกับใครมาก่อน ทั้งชีวิตที่ผ่านมาด้วยหน้าตาและฐานะทำให้มีคนเข้าหาไม่ซ้ำหน้า พบเจอใครมาก็หลายต่อหลายคนแต่ไม่มีสักคนที่จะทำให้เขารู้สึกอะไรมากมายได้แบบคนในอ้อมกอดตอนนี้
 
ไม่อยากเชื่อก็ต้องเชื่อว่าคนที่ไม่เคยสนใจใครแบบเขาจะเปลี่ยนไปได้ในเวลาสั้นๆ ตั้งแต่วันแรกที่เจอกันก็เป็นเขาที่เดินตามร่างบางไป เขาจำได้ดีในวันนั้นในหัวไม่ได้คิดเลยว่ากำลังมุ่งตรงกลับไปที่คอนโดของตัวเองในใจคิดเพียงแค่อยากเดินตามคนนี้ไป หลังจากนั้นเมื่อได้รับรอยยิ้มจากอีกฝ่ายใจก็เต้นแรงขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่ ยามที่เขาถูกมือบางลูบหัวก็อบอุ่นในใจทั้งที่ไม่เคยคิดว่าจะยอมให้ใครมาแตะส่วนนี้เล่นได้สักครั้ง บางครั้งก็รู้ว่ากำลังถูกอีกคนกลั่นแกล้งแต่ก็ห้ามตัวเองไม่ให้แสดงกิริยาตอบกลับไม่ได้ ความอ่อนโยนที่ได้รับมันมามันทำให้เขารู้สึกเหมือนตัวเองอ่อนแอและสิ่งที่จะมาปลอบโยนก็คืออ้อมกอดอบอุ่นจากอีกคนเท่านั้น คนขี้รำคาญแบบเขาไม่ชอบที่จะยุ่งเกี่ยวกับใครกลับไม่เคยมีสักครั้งที่จะรำคาญเวลาที่อยู่กับคนคนนี้ ตลอดเวลาที่ผ่านมาเขาสบายใจกับการใช้ชีวิตส่วนใหญ่อยู่กับตัวเอง โลกส่วนตัวที่แม้แต่เพื่อนที่สนิทกันยังถูกขีดเส้นเอาไว้ไม่ให้เข้ามาก้าวก่ายแต่พออีกฝ่ายเป็นพี่ควินเขากลับอยากใช้ทุกนาทีอยู่ด้วยกันไม่อยากให้ห่างสายตาไปไหน

หลายครั้งที่คิดทบทวนความรู้สึกซ้ำไปซ้ำมาว่านี่อาจจะเป็นแค่ความหลงใหลไม่ใช่ความรัก แต่พอคิดว่าวันนึงจะต้องเสียคนนี้ไปก็ปวดใจแทบจะคลั่ง เพียงแค่เห็นว่ามีใครเข้าใกล้ก็หงุดหงิดจนทนแทบไม่ไหวหวงแหนอีกฝ่ายจนไม่รู้จะทำยังไงอยากกักขังเก็บเอาไว้ให้เขาได้เห็นแค่คนเดียว ความรู้สึกทั้งหมดนั่นมันมากเกินกว่าที่จะเป็นแค่ความหลงใหลในที่สุดคำตอบเดียวที่ได้ก็คือความรัก
แม้ว่าเวลาที่เราเจอกันมันจะสั้นจนไม่น่าเชื่อแต่ก็ไม่ได้แปลว่าเราจะรักใครสักคนด้วยเวลาเพียงเท่านี้ไม่ได้ แต่มันก็ไม่แน่....เขาอาจจะหลงรักอีกคนไปตั้งแต่ที่สบตากันครั้งแรกเลยก็ได้....




08:00

ผมละสายตาจากใบหน้าหวานเพื่อดูเวลาบนหน้าปัด ปกติถ้าเป็นเวลานี้ผมคงยังไม่ตื่นแต่เพราะเป็นห่วงบางคนผมถึงได้ตื่นอยู่แบบนี้ จะว่าไปตั้งแต่เมื่อคืนผมก็หลับๆตื่นๆอยู่ตลอด เคยได้ยินมาว่าครั้งแรกของผู้ชายมักจะไม่สบายตัวจนไข้ขึ้น ผมเลยคอยตื่นมาเช็คดูอยู่ตลอดว่าอีกคนเป็นยังไง แต่พอเห็นว่าไม่มีอาการอะไรก็เลยมานอนมองหน้าพี่ควินอยู่แบบนี้ ผมยกมือวางทาบทับใบหน้าสวยอย่างแผ่วเบา ใช้ปลายนิ้วโป้งเกลี่ยผมที่ปรกหน้าทิ้งไป ความรู้สึกมากมายแทบจะล้นทะลักออกมาในยามนี้ ผมเป็นลูกคนเดียวจึงติดนิสัยหวงของเล่น ก่อนหน้านี้เวลาที่มีใครมายุ่งกับพี่ควินผมก็หวงอยู่แล้วพอมาตอนนี้ผมยิ่งหวงมากกว่าเดิมแม้แต่รอยยิ้มก็ไม่อยากให้ใครได้เห็น อยากจะตีตราเอาไว้ให้ทุกคนได้รู้จริงๆ....ให้ทุกคนได้รู้งั้นหรอ

พอคิดได้แบบนั้นผมก็หยิบเอาโทรศัพท์ของตัวเองขึ้นมากดเปิดกล้องและ....ถ้าทำแบบนั้นพี่ควินจะโอเคหรือเปล่าวะ....พอคิดว่าพี่ควินอาจจะรู้สึกไม่ดีถ้าเกิดมีรูปแปลกๆออกไปผมเลยล้มเลิกความคิดทิ้งไป....แต่ว่าถ้าไม่เห็นหน้าก็ไม่เป็นไรมั้ง เพราะไม่อยากปล่อยให้ช่วงเวลานี้มันผ่านไปเฉยๆ ผมดึงผ้าห่มขึ้นให้เห็นปลายเท้าของเราทั้งสองคนแล้วกดถ่ายรูปในมุมที่เห็นแค่นั้นแล้วจัดการโพสลงในเฟสส่วนตัวแล้วยิ้มให้กับตัวเอง เอาเถอะ ถึงจะประกาศว่าพี่ควินเป็นของผมแล้วไม่ได้แต่ก็ประกาศให้ทุกคนรู้ได้ว่าผมมีเจ้าของแล้ว

ผมเลิกสนใจโทรศัพท์แล้วกลับมาสนใจร่างบางต่อสายตาผมกวาดมองไปตามร่างกายส่วนที่โผล่พ้นผ้าห่มมาเผยให้เห็นรอยรักที่ผมฝากไว้ทำให้นึกถึงเรื่องเมื่อคืน ทั้งเสียงครางหวานหู ใบหน้าสวยยามเสียวซ่าน ช่องทางที่บีบรัดมากกว่าที่เคยพบเจอ ตอนแรกผมตั้งใจว่าจะอ่อนโยนให้มากที่สุดในครั้งแรกแต่พอได้เห็นทั้งสีหน้าและท่าทางทุกอย่างของพี่ควินเชิญชวนจนไม่สามารถหยุดยั้งตัวเองไว้ได้ ผมยอมรับว่าเมื่อคืนนี้ผมจะเอาแต่ใจมากจนพี่ควินแทบจะสลบไปแต่พี่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ต่อว่าผมสักคำยอมให้ผมเรียกร้องทั้งคืน สุดท้ายเป็นผมเองที่ต้องหยุดเพราะกลัวว่าพี่ควินจะเป็นอะไร

“อึก” ภาพพี่ควินเมื่อคืนทำให้กลางกายที่สงบอยู่ใต้ผ้าห่มเริ่มตื่นตัว ผมมองพี่ควินที่หลับอย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาวอยู่ข้างๆ ไล่สายตาไปตามใบหน้า ลำคอ ลาดไหล่ ผมกลืนน้ำลายอึกใหญ่เมื่อคนที่หลับขยับตัวจนผ้าที่ห่มอยู่ขยับล่นไปเผยให้จุกเล็กสีชมพูบนหน้าอกออกมาบ่อหน้าล่อตาอยู่แบบนี้ ผมตัดสินใจค่อยๆคลายอ้อมกอดจัดท่าทางอีกคนให้นอนสบายเพื่อพาตัวเองไปที่ห้องน้ำและจัดการลูกชายที่ปวดหนึบ ถ้าไม่ติดว่าเมื่อคืนคนบนเตียงโดนไปหนักล่ะก็ผมจะปลุกให้มารับผิดชอบที่ทำให้ลูกชายผมตื่นขึ้นแต่เช้าแน่นอน!

ตลอดเวลาที่ผมปลอบใจลูกชายอยู่ในห้องน้ำในหัวก็มีแต่ภาพพี่ควินตอนที่โดนผมรังแกในอิริยาบถต่างๆ

“อาา....ชิบ!” จนเมื่อถึงปลายทางน้ำรักของผมกระเด็นเปรอะเปื้อนไปตามพื้นห้องน้ำ ผมนั่งพักปรับลมหายใจให้เข้าที่ก่อนจะก้มมองมือตัวเอง หึ ใครจะไปนึก คนอย่างไอ้คิงต้องมานั่งนึกภาพคนรักเพื่อช่วยตัวเองจนเสร็จ

ผมใช้เวลาอาบน้ำต่อไม่นานก็ออกมาแต่งตัวที่ด้านนอกกะว่าจะไปเตรียมอะไรไว้ให้พี่ควินกินตอนตื่น ก่อนจะออกจากห้องผมเดินไปหาคนที่ยังหลับอยู่บนที่นอนจัดท่าทางและผ้าห่มให้เรียบร้อยแล้วก้มลงประทับริมฝีปากลงที่ข้างแก้มสูดดมกลิ่นหอมเฉพาะตัวอย่างแผ่วเบา คนหลับขยับหน้าหนีเล็กน้อยเหมือนรำคาญ ผมเลยปล่อยให้เจ้าตัวได้นอนต่อและลุกขึ้นออกมานอกห้องแทน

ไม่รู้ว่าตื่นมาแล้วพี่ควินจะเป็นยังไง ผมกังวลว่าอาจจะไม่สบายหลังจากนี้เลยตั้งใจว่าควรจะหาอะไรอ่อนๆไว้ให้พี่ควินกิน อืม ข้าวต้มแล้วกัน

ยังไม่ทันจะออกไปข้างนอกผมก็นึกขึ้นได้ว่าถ้าเกิดว่าพี่ควินเกิดตื่นขึ้นมาตอนที่ผมไม่อยู่ล่ะ? ไม่รู้ว่าผมคิดมากเกินไปหรือเปล่า เอาจริงผมก็ไม่เคยมีอะไรกับผู้ชายมาก่อน เคยได้ยินแต่ว่ามันเจ็บมาก มีไข้ ไม่สบาย เดินไม่ไหว ผมเลยกังวลว่าพี่ควินอาจจะเป็นแบบนั้น....ผมหันไปมองห้องครัวสลับกับประตูแล้วสุดท้ายก็ตัดสินใจได้....ก็แค่ข้าวต้ม....ไม่ยากหรอกมั้ง

สุดท้ายก็พังไม่เป็นท่า....ผมค้นหาอาหารสำเร็จรูปแล้วก็เจอโจ๊กซองที่เคยซื้อไว้กินเวลาไม่สบาย เลยคิดว่าจะทำโจ๊กให้แทน ระหว่างนั้นผมไม่เลยรู้ว่ามีคนมาอยู่ด้านหลังตั้งแต่เมื่อไหร่พอได้ยินเสียงอีกคนผมก็สะดุ้งจนทัพพีในมือหล่น แต่พอผมหันไปกลับต้องพบกับภาพที่ทำให้ผมหน้าร้อน

พี่ควินในชุดเสื้อเชิ้ตสีดำติดกระดุมหมิ่นเหม่เผยให้เห็นร่องรอยเต็มตัวใส่กางเกงขาสั้น ผมที่ยุ่งเหยิงหลังจากตื่นนอนยิ่งทำให้ร่างบางดูเย้ายวน ผมละสายตาจากคนตรงหน้าแล้วหันมาให้ความสนใจหม้อ หมู ชาม ผัก ทัพพีอะไรก็แล้วแต่แทน แค่เมื่อเช้าขนาดตอนหลับยังทำให้ผมมีอารมณ์ขึ้นมาได้แล้วถ้ายังจ้องตอนที่อีกคนมีสภาพแบบนี้ผมคงทนไม่ไหวแน่ แต่มันก็เท่านั้นเมื่อพี่ควินขยับเข้ามาแนบชิดด้านหลังเพื่อแกล้งแหย่เรื่องที่ผมเข้าครัวทำอาหาร พอถูกบดเบียดด้วยไออุ่นสุดท้ายฟางเส้นสุดท้ายของผมก็ขาดผึง

ผมจัดการพี่ควินในครัวแล้วไปจบในห้องน้ำ ครั้งนี้ทำให้ร่างกายพี่ควินระบมหนักกว่าเดิมจนเดินไม่ไหว หลังจากนั้นผมก็โดนสั่งให้ไปซื้อข้าวที่ด้านล่างและขึ้นมากินด้วยกัน จนกระทั่งหลังจากกินเสร็จพี่ควินก็อยากให้ผมไปมหาลัย ผมอยากจะดื้อดึงเพื่อใช้เวลาอยู่กับอีกคนไปทั้งวันแต่สุดท้ายผมก็แพ้เพราะคำว่าห่วงจากปากบางอยู่ดี

ผมมาถึงมหาลัยก็ตรงไปหาเพื่อนที่นั่งอยู่ตรงที่ประจำ ระหว่างที่เดินก็มีสายตามองมาที่ผมแต่ก็ไม่ได้สนใจจนมาถึงที่โต๊ะ ผมโดนพวกในกลุ่มแหกปากแซวเรื่องรูปที่ลงไปจนคนแถวนั้นหันมามองกันทั่ว บางคนนี่แทบจะยื่นหูมาถึงโต๊ะผมอยู่แล้ว แต่เพื่อนผมมันก็รู้งานเลยไม่ได้พูดชื่อพี่ควินออกมา ผมก็ยิ้มรับเฉยๆไม่ได้ตอบอะไรกลับไปเพราะภาพมันก็บอกชัดเจนอยู่แล้ว มีแวบนึงที่ผมหันไปสบตากับไวน์ แววตาตัดพ้อแสดงให้เห็นไม่กี่วิก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นปกติเหมือนไม่มีอะไร

ผมรู้ดีว่าไวน์คิดอะไรกับผมเพราะที่ผ่านมาการกระทำของไวน์ค่อนข้างจะสังเกตได้ง่าย ไม่รู้ว่ามันตั้งใจหรือไม่ตั้งใจแต่ผมก็ไม่เคยพูดออกไปตรงๆว่าผมรู้ ตัวมันเองก็ไม่ได้พูดออกมาเหมือนกัน ผมเลยไม่ได้สนใจอะไร ถ้าตัดเรื่องนั้นไปไวน์มันเป็นเพื่อนที่ดีของผมมาหลายปี ถ้าเกิดว่าพูดไปอาจจะเกิดเรื่องยุ่งยากขึ้นมาเปล่าๆ มันเองก็คงรู้อยู่แก่ใจอยู่แล้วว่ามันไม่มีทางเป็นไปได้ ยังไงสักวันพอมันได้เจอคนดีๆเองนั่นแหละ

หลังจากเรียนเสร็จผมก็เตรียมจะกลับไปคอนโดทันทีแต่กลับถูกไอ้ปาร์คเรียกตัวเอาไว้

“ไอ้คิงมึงอย่าเพิ่งกลับ มึงลืมมั้ยว่าเรามีโครงงานต้องทำอ่ะ” ผมใช้เวลานึกย้อนกลับไปสักพักก็นึกออกว่ามีโครงงานที่ต้องทำส่ง

“เออ”

“สัส ลืมก็บอกมาดีๆ ว่าแต่เราจะไปทำที่ไหนดีวะวันนี้ห้องกูไม่ว่างว่ะ”

“อ้าวทำไมไม่ว่างวะ”

“พอดีเมื่อสองวันก่อนพี่กูมาขออยู่ด้วยสักอาทิตย์นึงกูลืมบอก” ปกติถ้าเกิดว่ามีอะไรที่ต้องรวมตัวกันห้องไอ้ปาร์คมักจะเป็นสถานที่ที่พวกผมเลือกใช้ เพราะว่ามันอยู่คอนโดคนเดียวเหมือนกับผม ไอ้ฟินก็อยู่หอกับเพื่อนมันอีกคน มีไอ้ตังกับไอ้ไวน์ที่เป็นคนแถวนี้บ้านพวกมันก็เลยอยู่ไม่ไกลจากมหาลัยเท่าไหร่เลยขับรถมาเรียนกันเอง

“บ้านกูก็ได้นะ พ่อแม่กูกลับดึกอยู่แล้ว”

“เออดี งั้นไปรวมกันบ้านไอ้ไวน์เลยนะ ของทั้งหมดอยู่ในรถกูเตรียมมาครบล้ะ”

ระหว่างที่ตกลงกันอยู่ของผมก็ส่งไลน์ไปบอกพี่ควินว่าจะต้องไปทำโครงงานต่อ แต่พอได้อ่านข้อความที่อีกฝ่ายส่งกลับมาหลังจากนั้นผมก็ไม่ได้สนใจเพื่อนที่พูดอยู่เลยสักนิด

“พวกมึงไปก่อนเลย เดี๋ยวกูตามไป”

“แล้วมึงจะไปไหนคิง เห้ย คิง!”

พอพูดจบผมก็หันหลังเดินมาที่รถทันทีไม่ได้หยุดตอบคำถามที่ไอ้ไวน์ตะโกนไล่หลังมาด้วยซ้ำ ผมรีบขึ่งรถกลับไปหาพี่ควินที่คอนโดเพื่อที่จะคุยเรื่องที่บอกว่าจะออกไปข้างนอกนั่น ตอนกลางวันแค่จะออกมากินข้าวยังเดินไม่ไหวแล้วจะออกไปกินเหล้ากับรุ่นพี่อะไรนั่นได้ยังไง ถ้าเกิดว่าไม่กลับมาคุยให้รู้เรื่องพี่ควินอาจจะไปตอนที่ผมยังไม่กลับก็ได้

ใช้เวลาไม่นานผมก็กลับมาถึงห้อง คนยังไม่หายดียังนอนอยู่บนเตียงพี่ควินดูแปลกใจนิดหน่อยที่เห็นผมอยู่ตรงนี้

“ทำไมกลับมาล่ะ ไหนว่าจะไปทำงานต่อ”

“พี่จะไปกินเหล้าได้ยังไง พี่ยังไม่หายดี” ผมไม่ได้ตอบคำถามของพี่ควินแต่เปิดประเด็นเรื่องที่ทำให้ผมต้องับมาแทน

“พี่ไม่กินก็ได้แต่ครั้งนี้พี่รหัสเป็นคนนัดมา ยังไงพี่ก็ต้องไป” จะบอกไม่กินมันทำได้ที่ไหนกันล่ะ ถ้ารุ่นพี่พาไปเลี้ยงที่ผับแบบนั้นมีหรอจะเลี่ยงได้น่ะ ร่างกายที่ยังไม่ฟื้นตัวดีถ้าเกิดกินเหล้าซ้ำเข้าไปต้องเป็นหนักแน่ ผมเลยไม่ยอมให้พี่ควินไป แต่เพราะพี่ควินยังยืนยันที่จะไปผมเลยใช้ความเงียบของตัวเองเข้าสู้ให้พี่ควินรู้ว่าผมไม่โอเคแล้วตอนนี้ พอเห็นว่าผมเงียบพี่ควินก็เดินเข้ามาหา ท่าทางตอนเดินก็ยังไม่เป็นปกติเป็นแบบนี้แต่ยังจะออกไปอีก เห็นแบบนี้ผมก็ยิ่งเริ่มไม่พอใจ ผมได้ยินทุกคำพูดของพี่ควินแต่ผมก็นังไม่ตอบอะไรกลับไป

เพียงแต่ว่าครั้งนี้ไม่เหมือนทุกครั้ง....พี่ควินปล่อยมือจากตัวผมแล้วเดินผ่านเข้าห้องน้ำไปโดยทิ้งผมยืนอยู่แบบนั้น ที่ผ่านมาไม่เคยเลยที่พี่ควินจะไม่สนใจผมแบบนี้ ตอนที่พี่ควินหายไปในห้างตอนนั้นพี่ควินยังไม่เมินผมเลยทั้งที่ผมโมโหใส่ ครั้งนี้แค่รุ่นพี่จะนัดเลี้ยงแค่นี้ต้องไปให้ได้เชียวหรอ ขนาดผมขอว่าไม่ให้ไปแล้วก็ยังต้องไปให้ได้ ก็แค่รุ่นพี่มันมีอะไรสำคัญขนาดนั้น ผมมานั่งรอพี่ควินที่ปลายเตียงช่วงเวลาไม่กี่นาทีผมกลับคิดฟุ้งซ่านไปได้ตั้งมากมาย สักพักนึงพอพี่ควินออกมาผมนิ่งเงียบเพื่อรอว่าพี่ควินจะพูดอะไรแต่พี่ควินกลับเดินผ่านผมไปเฉยๆ ตรงไปที่ตู้เสื้อผ้าและหยิบเสื้อผ้าที่ไม่ได้ใส่อยู่ในห้องแน่ๆออกมา

“ยังไงก็จะไปให้ได้ใช่มั้ยพี่ควิน” เป็นผมที่ทนไม่ไหวและต้องเอ่ยปากพูดขึ้นมาก่อน พี่ควินยังคงยืนยันเหมือนเดิมว่าจะไปเพราะรับปากรุ่นพี่ไว้แล้ว บอกเลยว่าผมอยากจะเห็นหน้ารุ่นพี่คนนี้จริงๆ

ผมหายใจเข้าออกช้าๆเพื่อระงับความหงุดหงิดของตัวเองลง ในใจผมเริ่มโอนอ่อนให้กับความแน่วแน่ของพี่ควินเพราะดูท่าแล้วก็คงจะห้ามไว้ไม่อยู่จริงๆแต่ก็ต้องมาชะงักอีกครั้งเมื่ออีกคนแต่งตัวเสร็จ เสื้อผ้าสีเข้มขับสีผิวขาวซีดให้สว่าง เสื้อธรรมดาแต่ที่ไม่ธรรมดาคือรอยดูดช้ำจางๆของผมที่แถวต้นคอและลาดไหล่ที่ทำให้ร่างบางตรงหน้าดูมีอะไรมากขึ้นไปอีก ใบหน้าที่ดูอ่อนล้าไม่ได้ทำให้ดูโทรมแต่กลับชวนให้ย่ำยีเหลือเกินในสายตาผม
ผมกัดฟันและถามออกไปอีกครั้ง คำตอบที่ได้รับก็ยังเหมือนเดิม ในเมื่อห้ามไว้ไม่ได้ผมก็ไม่ยอมปล่อยให้ไปคนเดียวในสภาพนี้หรอกนะ เกิดไปคนเดียวจะต้องถูกคนเข้าหาไม่ต้องสงสัย แล้วไอ้รุ่นพี่อะไรนี่มันก็คงไม่ได้มาช่วยอะไรอยู่แล้ว พอคิดไปแบบนั้นผมก็เลยเอ่ยปากร้องขอไปด้วยแต่ก็ต้องเสียศูนย์เมื่อถูกปฏิเสธกลับมา

ห้ามไม่ให้ไปก็ดื้อจะไป

ผมร้องขอให้อยู่ก็บอกว่ารับปากรุ่นพี่ไปแล้ว

พอผมขอตามไปด้วยก็ไม่ยอมให้ไป

ทำไมกันล่ะ....

แล้วที่นั่นมันมีอะไร ทำไมถึงไปด้วยไม่ได้” เพราะไม่ทันได้คิดจึงหลุดปากไปแบบนั้น แต่แล้วเหมือนทุกอย่างกลับตาลปัตรไปเป็นอีกอย่าง พี่ควินเปลี่ยนสีหน้าและน้ำเสียงเป็นแบบที่ผมไม่เคยเห็น ในแววตาบ่งบอกถึงความเจ็บปวดจนผมเริ่มสับสน ก่อนที่คำว่าไม่ไว้ใจจะหลุดออกมาจากปากของพี่ควิน ผมตกใจที่พี่ควินตีความหมายคำพูดของผมไปเป็นแบบนั้น ใจผมหล่นวูบเมื่ออีกคนหมุนตัวไปที่ประตู ไม่มีเวลาให้ได้อธิบายอะไรผมลนลานรีบตามไปคว้าตัวพี่ควินเอาไว้เมื่อร่างบางทำท่าจะหนีผมไป

ที่ผ่านมาผมรู้ว่าตัวเองเป็นคนไม่ค่อยพูด หลายครั้งที่คนอื่นมักจะไม่ค่อยเข้าใจในสิ่งที่ผมต้องการบอกแต่ไม่เคยมีครั้งไหนที่ผมอยากจะโทษที่ตัวเองพูดน้อยเท่าวินาทีนี้ อาจจะเพราะว่าผมไม่ได้พูดสิ่งที่คิดออกไปให้ชัดเจนทำให้พี่ควินเข้าใจผิด ตอนนี้ผมพร่ำบอกขอร้องให้พี่ควินฟังผมก่อนซ้ำๆ จนเมื่อคนในอ้อมกอดหยุดนิ่งทุกสิ่งที่อยู่ในใจถึงได้บอกออกไป ไม่นานใจที่เสียไปของผมก็เหมือนได้รับการฟื้นฟูจากฝ่ามือที่ลูบไปมาอยู่ที่แผ่นหลังพร้อมคำขอโทษทีกระซิบอยู่ที่ข้างหู

ผมอยากจะพูดออกไปเหลือเกินว่าพี่ไม่ได้ผิดอะไรเลยไม่จำเป็นต้องขอโทษสักนิด ผมเองที่ไม่ยอมพูดอะไรให้ชัดเจนจนเกือบจะต้องเสียสิ่งสำคัญไป ผมซบหน้ากอดรั้งเกี่ยวอีกคนไว้ในอ้อมแขนอยู่แบบนั้น คำปลอบโยนที่ได้ยินทำให้ใจที่เต้นแรงค่อยๆกลับเข้าสู่ภาวะปกติ ใช้เวลากอดกันอยู่แบบนั้นสักพักเก็บเกี่ยวไออุ่นเอาไว้แน่นก่อนจะค่อยๆปล่อยมือจากเอวบาง รอยยิ้มที่อีกคนมอบให้เพื่อไถ่โทษถูกผมจู่โจมดูดกลืนหายไป ผมละเลียดไล่เรียวลิ้นไปทั่วทั้งโพรงปาก แลกเปลี่ยนช่วงชิงลมหายใจของกันและกันนานนับนาที เสียงหอบหายใจดังขึ้นให้ได้ยินเมื่อเราทั้งคู่ผละออกจากกัน เรื่องครั้งนี้ผมจะจำให้ขึ้นใจจะไม่ยอมพลาดเพียงเพราะแค่คำพูดแบบนี้อีกแล้ว ไม่อีกแล้ว....



หลังจากนั้นผมก็ตกลงกับพี่ควินอีกครั้ง คำตอบก็ยังเป็นเหมือนเดิมว่าจำเป็นต้องไปเพราะรุ่นพี่ตั้งใจจะเลี้ยงพี่ควินเรื่องที่ไปช่วยอะไรไว้สักอย่าง ผมเลยได้แต่จำยอมให้เป็นไปตามนั้นแต่มีข้อแม้ว่าผมจะไปส่งและขากลับผมจะรอไปรับกลับมาเองและห้ามกินเหล้าเด็ดขาดเพราะยังไม่หายดี พี่ควินก็โอเคตกลงกันตามนี้

พอตกลงกันเสร็จผมก็จะต้องกลับไปทำโครงงานต่อและพอเป็นแบบนั้นพี่ควินเลยจะไม่ยอมให้ผมไปส่งแต่เพราะครั้งนี้ผมไม่ยอมบ้างจริงๆพี่ควินเลยตกลง ซึ่งตอนนี้ก็พึ่งจะประมาณห้าโมงเย็นแต่ผมต้องไปทำงานต่อผมเลยตัดสินใจลากพี่ควินให้ไปด้วยกันจนกว่าจะถึงเวลานัด

“ตอนแรกคิงบอกว่าจะไปทำงานบ้านเพื่อนใช่มั้ย แล้วบ้านใครหรอ”

“บ้านไวน์น่ะ”

“อ่อ”

“พี่ไม่ได้คิดอะไรใช่มั้ย” ผมลืมไปสนิทว่าต้องไปบ้านไอ้ไวน์ เพิ่งนึกขึ้นมาได้ก็ตอนที่ถูกถามนี่แหละ มานึกได้ตอนนี้ก็รีบหันไปถามพี่ควินก่อนเลย

“ไม่คิดหรอกเราเคยคุยเรื่องนี้กันแล้วไง คิดมากอะไรหื้ม” พี่ควินตอบกลับมาพร้อมรอยยิ้ม

“คิดแต่เรื่องพี่ทั้งนั้นแหละ” พี่ควินยกยิ้มกว้างขึ้นพอได้ยินคำตอบของผมและรอยยิ้มนั้นก็เรียกร้องให้ผมต้องยิ้มตามเสมอ....













___________________________________________
มาไม่ดึกก็ไม่ใช่เอิร์ทค่ะ ถ้าถามว่าง่วงมั้ยจะตอบไปว่าง่วงมวั้ก! 55555555 เอาล่ะค่ะ ตอนนี้ก็พามาเปิดมุมมองของน้องคิงกันเนอะ เพราะหลังจากนี้คิงอาจจะไม่ได้มีโอกาสได้เรียกคะแนนสงสารอีกแล้วก็เป็นได้ หึหึ
ปล.ขอบคุณทุกคนที่มาให้กำลังใจและคอยติดตามคิงควินนะคะ ได้กำลังใจมากมายจากตรงนี้เลย เอิร์ทอ่านเมนท์วนไปทุกวันนี่คือเรื่องจริง5555555 รักน้าา

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
Re: ...แค่คุณ... ตอนที่ 19 up [10/6/61]
«ตอบ #103 เมื่อ11-06-2018 05:29:55 »

ไวน์ คงไม่ใช้ลูกไม้ วางยาคิงนะ   :z3: :z3: :z3:

คิง  ควีน   :กอด1: :กอด1: :กอด1:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ Duangjai

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 655
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-1
Re: ...แค่คุณ... ตอนที่ 19 up [10/6/61]
«ตอบ #104 เมื่อ11-06-2018 07:07:55 »




อ่านความในใจของคิง. รักเขาแต่เก็กท่าวางฟอร์มอ่ะ

แต่ตอนนี้เปิดใจกันแล้ว. ต่อไปจะมีอะไรเข้ามาก้อคุยกันเยอะนะ

คุยไม่เยอะ ก้อใช้ใจคุยกัน เชื่อใจกัน

น้องคิงคนขี้หวง น้องควีนคนสายอ่อย


……

 :katai3:  :katai2-1:  :katai3:  :katai2-1:  :katai3:  :katai2-1:



.

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
Re: ...แค่คุณ... ตอนที่ 19 up [10/6/61]
«ตอบ #105 เมื่อ11-06-2018 09:51:51 »

เหมือนได้กลิ่นมาม่าลอยมาจากการที่คิงไปบ้านไวน์

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ poppycake

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2670
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-4
Re: ...แค่คุณ... ตอนที่ 19 up [10/6/61]
«ตอบ #106 เมื่อ11-06-2018 13:37:39 »

น้ำต้มมาม่ากำลังจะเดือดเลยจร้าาาาาาา
คิงจะไปบ้านไงน์แบบนี้ ToT

ออฟไลน์ Tiffany

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1147
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
Re: ...แค่คุณ... ตอนที่ 19 up [10/6/61]
«ตอบ #107 เมื่อ11-06-2018 22:36:21 »

น้องคิงน่ารักน่าเอ็นดู

ออฟไลน์ earthearthx

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 26
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
Re: ...แค่คุณ... ตอนที่ 20 up [22/6/61]
«ตอบ #108 เมื่อ22-06-2018 12:27:32 »

ตอนที่ 20





พาร์ท ควิน






ตอนนี้ผมยังคงอยู่บนรถที่กำลังมุ่งหน้าไปบ้านของใครบางคนที่ผมไม่ค่อยชอบสักเท่าไหร่ หลังจากที่ทะเลาะกันผมก็จับพลัดจับผลูโดนอีกคนลากให้มาด้วยกันและยังทำข้อตกลงว่าถ้าหากผมจะไปจะต้องยอมให้น้องไปรับไปส่งเท่านั้น ผมที่ยังรู้สึกผิดกับน้องก็ยอมทุกอย่างแหละครับตอนนี้ เอาจริงพอได้มานั่งบนรถเงียบๆแล้วคิดย้อนไปผมว่าผมมันงี่เง่าเอง พอนึกดีๆก็ไม่เห็นว่ามันน่าจะมีอะไรให้ทะเลาะกันได้ ที่ผมทำแบบนั้นอาจจะเพราะความปวดเมื่อยความไม่สบายตัวของร่างกายทำให้ผมเหนื่อยและหงุดหงิดง่ายกว่าปกติ เฮ้อ คิดแล้วยังอดด่าตัวเองไม่ได้เลย

“พี่จะไปสี่ทุ่มเลยหรอ”

“ก็ประมาณนั้นอ่ะที่นัดไว้” ระหว่างที่นั่งบ่นในใจอยู่ดีๆคิงก็เอ่ยปากถามเรื่องเวลาขึ้นมา

“แล้วกว่าจะกลับ ดึกไปมั้ง”

“เดี๋ยวพี่ว่าจะไปก่อนสักพักแหละ ยังไงเพื่อนพี่ก็ไปก่อนอยู่แล้ว”

หน้าหล่อขยับขึ้นลงเบาๆแล้วเงียบไปตามเดิม ผมหันไปมองเส้นทางที่ไม่คุ้นเคยไม่เคยผ่านมาแถวนี้เลยด้วย ตลอดสองข้างทางเป็นที่กว้างมีบ้านอยู่ห่างจากกันและจากที่เห็นแต่ละหลังก็เหมือนจะอลังการเกินกว่าจะเรียกว่าบ้านได้ สักพักร่างสูงก็ชะลอรถก่อนจะจอดลงที่หน้าประตูรั้วขนาดใหญ่ ไม่กี่วิประตูรั้วก็เลื่อนเปิดให้คิงขับเข้าไปข้างใน ผมเห็นยามที่หน้ารั้วออกมายืนยิ้มให้ สงสัยว่าคนข้างๆผมคงจะมาบ่อยไม่ใช่น้อยยามที่ประตูถึงได้จำได้แม่น คิงขับรถเข้ามาจอดในที่ที่น่าจะทำไว้เพื่อจอดรถเพราะมีหลังคากันแดดและช่องแบ่งเอาไว้มีรถจอดอยู่สองสามคัน

“ไปกัน”

คิงหันมาบอกก่อนจะลงรถนำไปผมเลยรีบลงตาม ระหว่างที่เดินตามร่างสูงผมก็สำรวจรอบๆไปด้วย สวนหน้าบ้านกว้างจนสงสารคนตัดหญ้า บ้านหลังใหญ่แบบที่มักจะเห็นได้ในละครหลังข่าว อื้อหือ นี่มันบ้านเศรษฐีชัดๆ

“ไวน์นี่รวยเนอะ” ผมพูดขึ้นมาขณะที่กำลังเดินเข้าบ้าน อีกคนที่ได้ยินก็เลยหันมาคุยกับผม

“พ่อแม่มันเป็นนักธุรกิจทั้งคู่”

“อ่อ ถึงว่าบ้านยังกะคฤหาสน์” เหอะๆ ถึงว่าทำไมถึงได้ดูเป็นคุณหนูเอาแต่ใจนิสัยเสียแบบนั้น คงได้ทุกอย่างดั่งใจมาตั้งแต่เด็กเลยสินะ

“มาทางนี้” คงเพราะผมมัวแต่ดูนู้นดูนี่ตั้งแต่เข้าประตูบ้านมาเลยเดินไม่ทันใจคนข้างหน้า มือหน้าคว้ามือผมกุมไว้ชักจูงไปตามทางให้ผมได้แต่เดินตาม ผมเริ่มได้ยินเสียงพูดคุยของผู้ชายสองสามคนและได้ยินชัดขึ้นเรื่อยๆเพราะมันมาจากทางที่ผมและคิงกำลังเดินไป
คิงหยุดเดินเมื่อมาถึงห้องห้องหนึ่ง ผมเห็นผู้ชายสี่คนที่น่าจะเป็นเพื่อนของคิงกำลังนั่งเถียงกันอยู่ที่พื้นที่มีของเกลื่อนอยู่เต็มไปหมด

“อ้าวไอ้คิง! กว่าจะมานะ...มึง” ผู้ชายคนนึงที่หันหน้ามาทางที่ผมยืนอยู่ตะโกนขึ้นมาทันทีที่เห็นคิงแต่ยังพูดไม่ทันจบประโยคก็ชะงักไปเมื่อสังเกตเห็นผม

“คิง! มาล้ะหรอ ไปหนะ...!” พอมีคนนึงทักขึ้นคนที่เหลือก็หันมามองตาม ผมเห็นคนตัวเล็กที่สุดในนั้นหันมาพูดแล้วก็ชะงักไปอีกคน สถานการณ์ตอนนี้คือผมกำลังถูกสายตาสี่คู่จับจ้องตาไม่กะพริบ ผมส่งยิ้มจางๆให้ทุกคน ไม่ถึงสามวินาทีมือของผมก็ถูกจับจูงอีกครั้งให้เดินไปหาทุกคนที่นั่งอยู่

“พี่นั่งรอบนโซฟานะ” คิงพาผมมานั่งลงบนโซฟาขนาดใหญ่แล้วทิ้งตัวนั่งลงที่พื้นกับคนอื่ ถ้าเดาไม่ผิดผมว่านี่คือห้องนั่งเล่นแหละ เพราะตรงข้ามกับโซฟาคือจอทีวีขนาดยักษ์ ส่วนพื้นที่ที่เพื่อนคิงนั่งอยู่คือพื้นระหว่างโซฟากับทีวี

“หวัดดีครับพี่คร้าบบบ” น้องผู้ชายคนนึงพูดขึ้นส่วนคนที่เหลือก็พูดตามยกเว้นคนเดียว

“ครับ” ผมตอบรับและยิ้มให้ทุกคนอีกครั้งหลังจากนั้นความสนใจกลับไปอยู่ที่คนหน้านิ่งที่ไม่พูดอะไรสักคำ

“กูก็นึกว่ารีบไปไหนที่แท้ไปหาพี่เค้า โถถถถ คนหลงแฟนที่แท้ทรู”

“กิ๊วกิ๊ว 555555555”

“เออ”

“แหมม ไม่มีปฏิเสธสักคำ”

“พวกมึง นี่ใช่คิงเพื่อนเราป่ะ กูว่าไม่ใช่”

“มึงแดกเพื่อนกูเข้าไปใช่มั้ย คายมันออกมา คายไอ้คิงออกม๊าาา!”

“สัส!”

ผมนั่งมองเด็กโข่งของผมที่โดนเพื่อนนั่งล้อไปทำงานไปอย่างขำๆ ผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเล่นฆ่าเวลาสลับกับการเฝ้ามองน้องๆทำงานไปด้วย หลายครั้งที่ผมรู้สึกได้ว่าถูกจับจ้องพร้อมส่งสายตามาให้อย่างไม่เป็นมิตรแต่ผมก็ไม่ได้ทำอะไรมากกว่าการมองกลับเฉยๆ อีกฝ่ายก็ไม่ได้ทำอะไรมากไปกว่านั้นเช่นกันนอกจากมองมาเป็นระยะๆ แต่มีบ้างที่ชอบขยับไปใกล้ทำเป็นถามนู้นถามนี่กับคิงให้ผมหงุดหงิดเล่น แต่ก็นะ เขาทำได้แค่นั้นก็ปล่อยให้เขาทำไปแหละเนอะ

เวลาผ่านไปนานนับชั่วโมงเสียงพูดคุยเฮฮามีให้ได้ยินตลอดเวลาโดยที่ส่วนใหญ่จะเป็นเสียงของคนสี่คนดังสลับกันไป ผมเคยเจอเพื่อนคิงมาก็หลายครั้งแต่ทุกครั้งก็เจอแบบผ่านๆเวลาไปหาคิงที่คณะแทบไม่เคยได้คุยกันเลยด้วยซ้ำ ถึงภายนอกทุกคนจะดูเฟรนลี่แต่ผมคิดว่าตัวจริงอาจจะนิ่งกว่านี้หน่อยแต่กลายเป็นตัวจริงบ้าๆบอๆหนักกว่าเดิมซะงั้น ขอสงสัยนิดนึงได้มั้ยครับว่าเด็กผมมันหลงมาอยู่ในกลุ่มนี้ได้ยังไงตั้งแต่ฟังมาผมนับคำที่ออกจากปากคิงได้เลยแต่ถึงพูดน้อยอย่างนั้นก็ต้องยอมรับแหละว่าคิงเข้ากับเพื่อนทุกคนได้เป็นอย่างดี ถึงไม่พูดเท่าไหร่แต่ก็ฟังและยิ้มตามเพื่อนอยู่ตลอด เฮ้อ น่ารักจริงๆเลย!

นอกจากนั้นยังมีอีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้ผมแปลกใจนั่นก็คือไวน์ เวลาที่ไวน์อยู่กับเพื่อนดูแตกต่างไปจากปกติ เดี๋ยวนะ หรือว่าแบบนี้คือปกติ? ไวน์ก็เหมือนเพื่อนผู้ชายทั่วไป สนิทสนมหยอกเล่นกับทุกๆคน ไม่ได้ดูร้ายกาจเหมือนกับที่ทำกับผม ขนาดมองผ่านๆตอนนี้ถ้าไม่รู้มาก่อนว่าไวน์ชอบคิงก็คงดูไม่ออกเหมือนกัน ท่าทางที่เขยิบเข้ามาใกล้มือที่จับไหล่หรือวางที่ขามันก็แนบเนียนจนดูไม่ออกว่ามีเจตนาแอบแฝง เพราะเวลาที่อยู่ด้วยกันเป็นแบบนี้สินะคิงถึงได้บอกผมว่าไวน์คือเพื่อนจริงๆ

ผ่านไปสักพักผมนั่งพิงโซฟาแล้วเล่นโทรศัพท์ไปเรื่อยๆ เสียงพูดคุยเริ่มเงียบลงจนผมต้องละสายตามาดู เหมือนว่าทุกคนจะดูจริงจังกับงานตรงหน้ามากขึ้น ผมไม่รู้หรอกว่างานที่กำลังทำอยู่คืออะไร แต่มันคงจะยากน่าดูเพราะสีหน้าแต่ละคนเริ่มดูเคร่งเครียดผิดจากตอนแรก ผมกดดูเวลาที่หน้าจอก็เห็นว่านี่ก็เกือบจะสามทุ่มแล้ว โห นี่นั่งอยู่แบบนี้มาสามสี่ชั่วโมงแล้วหรอ

“คิง พี่ว่าพักกันหน่อยมั้ย” ผมสะกิดเรียกคิงที่นั่งก้มหน้าก้มตากับกระดาษและหน้าจอโน๊ตบุ๊คให้เงยหน้าขึ้นมาหาก่อนจะบอกให้พักก่อน พอผมพูดจบประโยคคนแรกที่ลุกขึ้นกลับเป็นเพื่อนของคิงที่ฟิน แล้วคนที่เหลือก็ค่อยๆละมืออกจากงานตรงหน้าบ้าง

“ไอ้ตัง! มึงจะนอนก็เอาตีนไปทางอื่นดิวะแม่งจะทิ่มหน้ากูอยู่แล้วเนี่ย!”

“มึงเสือกเอาหน้ามาใกล้ตีนกูทำไมล่ะ”

“กูไปห้องน้ำนะ อั้นมาตั้งนานไม่กล้าลุก เกรงใจพวกมึง”

“เดี๋ยวกูไปเอาอะไรมาให้กินแล้วกัน”

ต่างคนต่างก็ต่างพักไปตามใจตนเอง ส่วนเด็กโข่งก็เลื้อยตัวมาหาผมหันตัวมาทางนี้แล้วเอาคางมาเกยเข่าผมไว้อย่างน่ารัก ผมยกมือถือขึ้นมาเก็บภาพนี้ไว้ทันทีโดยที่เจ้าตัวไม่รู้เพราะเปลือกตาปิดสนิทไว้เหมือนต้องการจะพัก

“อีกสักพักพี่จะไปแล้วนะ คิงไม่ต้องไปส่งกหรอกเดี๋ยวพี่โทรตามไอ้เตมารับก็ได้”

พอได้ยินที่ผมพูดคนที่กำลังพักสายตาก็ลืมตาขึ้นมาจ้องหน้าผมเขม็ง สายตาดุๆนั่นทำเอาเสียวหลังวาบจนต้องยกมือยอมแพ้

“โอเคๆ ไม่ต้องมองขนาดนั้นก็ได้ พี่แค่ถามเฉยๆเองงงงง”

มุมปากบนหน้าหล่อกระตุกยิ้มอย่างพอใจแล้วหลับตาลงเหมือนเดิมแต่ไม่ถึงสิบวิก็ลืมตาขึ้นมามองอีกครั้งตามด้วยแบมือมาตรงหน้าผม ผมได้แต่เลิกคิ้วให้แบบงงๆไม่รู้ว่ามือที่แบอยู่ตรงหน้าต้องการอะไร

“จะเอาอะไรครับ” ผมพูดถามออกไปพลางเอานิ้วไปจิ้มที่มือน้อง แต่แล้วผมต้องยิ้มออกมาอย่างห้ามไม่ได้เมื่อมือหนาจับนิ้วของผมไว้ ค่อยๆเลื่อนมาเป็นจับเอาไว้ทั้งมือแล้วยกมือของผมไปวางไว้บนหัวของตัวเองแล้วหลับตาลง

“ลูบหัวหน่อย”

น้องพูดมาทั้งที่ยังหลับตาอยู่แต่แค่นั้นก็ทำผมใจบางยิ่งกว่ากระดาษซับมัน น่ารักเกินไปแล้ว ถ้าอ้อนมาแบบนี้จะเอาอะไรพี่ให้ได้ทั้งนั้นพี่บอกเลย!!!

“กูว่านั่นไม่ใช่เพื่อนเราว่ะมึง”

“กูก็ว่าไม่ใช่ ไม่ใช่แน่ๆ”

เกือบลืมไปแล้วว่าไม่ได้อยู่กันแค่สองคนมือผมที่กำลังขยับลูบหัวคิงชะงักไปนิดนึง เสียงปาร์คกับตังที่แซวขึ้นมาทำให้ผมละสายตาจากหน้าคิงไปหาทั้งคู่แล้วได้แต่ยิ้มขำกับสีหน้าเหมือนเจอผีของน้องๆ ส่วนคนที่โดนกล่าวถึงทำแค่ยกนิ้วกลางไปให้ คนที่ได้รับกลับไม่สะเทือนเปลี่ยนความสนใจหันมาหาผมแทน

“พี่ควินไปทำยังไงให้มันเชื่องได้ขนาดนี้อ่ะถามจริง”

“เออนั่นดิพี่ขนาดกับพวกผมมันยังนิ่งเป็นรูปปั้น เวลาคุยกับมันเหมือนพูดเข้าหูซ้ายทะลุออกหูควายอ่ะพี่”

“จริง อยู่กับมันมาสองปีทุกวันนี้เดินด้วยกันยังเหมือนไม่ได้มาด้วยกันเลย”

“แล้วดูเวลามันอยู่กับพี่ดิ จะซุกอะไรขนาดนั้นอ่ะ ทีกับพวกกูล่ะเดินใกล้มึงยังเบี่ยงตัวหนี”

“คิงสองมาตรฐานชัดๆ! ตังไม่ยอม!”

“ปาร์คก็ไม่ยอม! คิงใจรว้ายยยยย”

ผมมองเพื่อนคิงทั้งสองคนแย่งกันพูดแล้วหัวเราะเบาๆ ประโยคแรกเหมือนจะตั้งคำถามกับผมหรือเปล่าไม่รู้แต่เหมือนว่าทั้งคู่กำลังเล่าให้ผมฟังและบ่นอีกคนไปพร้อมๆกันถึงแม้ว่าคนที่เป็นต้นเหตุจะไม่แม้แต่จะลืมตามามองด้วยซ้ำ ระหว่างนั้นอีกสองคนที่หายไปก็กลับเข้ามาพอดี

“พวกมึงโวยวายอะไรกัน” เสียงฟินดังขึ้นตรงประตูทำให้พวกผมหันไปมอง ผมเห็นฟินถือขนมเดินเข้ามาตามด้วยไวน์ที่นิ่งไปตอนที่มองมาทางผม สายตาไวน์จับจ้องอยู่ที่มือของผมที่กำลังลูบหัวให้คิง เพียงครู่เดียวที่แววตานั้นเผยความเจ็บปวดก่อนจะเปลี่ยนเป็นวาวโรจน์เมื่อมองหน้าผม

“มึงจะไปยืนอยู่ทำไมตรงนั้นไอ้ไวน์ ไม่มานั่งวะ” เสียงเพื่อนเรียกทำให้ไวน์เปลี่ยนสีหน้าอีกครั้ง เออ ยอมใจ เปลี่ยนสีหน้าไวยิ่งกว่ากิ้งก่าเปลี่ยนสีอีกครับ

“คิง มากินอะไรรองท้องก่อนเร็ว เดี๋ยวต้องทำงานอีกนาน” พอไวน์ทิ้งตัวลงนั่งก็หันมาเรียกคิงทันที มือบางจับไหล่ร่างสูงแล้วออกแรงเขย่าเล็กน้อยแต่สายตากลับมองสบอยู่กับผมแสดงออกถึงความไม่พอใจในตัวผม ตอนนี้ถ้าเกิดว่าสามคนที่นั่งกินขนมดูทีวีอยู่ข้างหลังไวน์หันมามองทางนี้คงจะได้เห็นสีหน้าที่ไม่ค่อยปกติของเพื่อนตัวเองบ้างแหละ แต่แล้วสีหน้าของไวน์ถูกเปลี่ยนอีกครั้งเมื่อคนที่ถูกเรียกขยับตัว คิงเงยหน้าขึ้นนมากะพริบตาปริบๆ

“แหม พักแปบเดียวมึงก็ยังจะนอนอีกนะ” ไวน์พูดเหมือนเอือมระอาแต่ผมว่ามันน่าจะพูดด้วยอารมณ์มากกว่า

“จะไปตอนไหน” คิงไม่ได้ตอบอะไรไวน์แต่กลับถามผมขึ้นมาแทน ผมแอบเห็นไวน์หน้าเสียไปนิดนึงที่คิงไม่สนใจเลย

“ไปเลยก็ได้ นี่ก็สามทุ่มกว่าแล้วแต่เดี๋ยวพี่ไปห้องน้ำแปบนึง” ผมตอบน้องแล้วลุกขึ้นยืน คิงพยักหน้าแล้วลุกขึ้นตาม

“อ้าวจะไปไหนกันอ่ะ” ตังที่นั่งอยู่ถามขึ้นเมื่อเห็นผมกับคิงทำท่าจะออกไปข้างนอก

“พี่ต้องไปแล้วล่ะพอดีพี่นัดเพื่อนไว้น่ะ”

“โหหห พี่ไปแล้วผมจะเอากำลังใจที่ไหนทำงานต่อล่ะ พี่ควินนนน โอ๊ย!”

“อย่าเยอะ” คิงเดินไปตบหัวปาร์คโอดครวญขึ้นมาทันที่ที่รู้ว่าผมจะไปแล้ว

“แค่นี้มึงต้องลงไม่ลงมือกับเพื่อนกับฝูงเลยหรอวะ คนใจร้ายยยยย”

“ไปเหอะ” คิงส่ายหน้าใส่ปาร์คสองสามทีอย่างเหนื่อยหน่าย

“พี่ไปก่อนนะ เดี๋ยวขอตัวคิงไปส่งพี่แป๊บนึงแอบโยนงานไว้ให้คิงเยอะๆเลยก็ได้นะ เดี๋ยวพี่ถ่วงเวลาให้” พอผมบอกน้องไปแบบนั้นเพื่อนของคิงก็ตอบกลับมากันอย่างเฮฮาแต่เหมือนจะมีคนนึงที่เฮฮาเกินไปจนเกือบจะได้ฝ่ามือจากคิงอีกทีนึง

“พี่นี่น่ารักจริงๆ ทำยังไงดีพวกมึง กูอยากมีพี่ควินเป็นของตัวเองสักคน เห้ย! ล้อเล่นน่ะล้อเล่น! ไอ้ห่าคิงใช้กำลังตลอด”

ผมดึงแขนคิงให้ออกมาจากห้องพลางหันไปก้มหน้ารับไหว้น้องๆด้านหลัง พออกมาผมถามทางไปห้องน้ำแล้วบอกให้คิงไปรอที่รถ ผมเดินหาห้องน้ำจนเจอเข้าไปทำธุระไม่กี่นาทีก็ออกมาแต่กลับพบใครบางคนพิงกำแพงดักรออยู่ซึ่งก็ไม่ได้น่าแปลกใจอะไร

“ไวน์มีอะไรจะพูดกับพี่หรือเปล่า?”

“แกใช่มั้ยคือคนในรูปของคิง” อืม ไม่ต้องพูดอะไรให้มากความ โผล่มาก็เข้าประเด็นเลยแบบนี้ก็ดีนะ

“ไม่เรียกพี่ควินแล้วหรอ ปีนเกลียวจังนะ”

“ตอบมา! คนในรูปคือแกใช่มั้ย!” แววตาโกรธแค้นดุดันที่มองมาไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกกลัวสักนิด กลับกันมันดูน่าสมเพชเหลือเกินในสายตาผม ไม่รู้ว่าอะไรที่ทำให้คนที่ดูน่าจะเพรียบพร้อมอย่างไวน์มายึดติดกับคิงจนกลายเป็นแบบนี้ได้ น่าเสียดายจริงๆ

“แล้วคิดว่าใช่มั้ยล่ะ” ผมกระตุกยิ้มมุมปากกลับไปด้วยท่าทีสบายๆผิดกับอีกคนที่เต็มไปด้วยอารมณ์โกรธ  ยิ่งผมยียวนไม่ยอมตอบก็ยิ่งดูเหมือนว่าคนตรงหน้ากำลังไม่พอใจมากยิ่งขึ้นสีหน้าฉายชัดถึงความเกลียดชัง จริงๆไม่ต้องมาถามไวน์คงจะรู้อยู่แก่ใจอยู่แล้วว่าคนในรูปยังไงก็ต้องเป็นผมอยู่แล้ว

“เป็นแกก็ดี....เพราะของที่ได้ง่ายๆมันก็จะเบื่อได้ง่ายๆเหมือนกัน” ไวน์ยกยิ้มพูดจาเย้ยหยันใส่ผมอย่างสะใจ ยกมือขึ้นกอดอกเชิดหน้าเหยียบย่ำผมด้วยคำดูถูก

“ก็นะ ถ้าเป็นแบบนั้นจริงอย่างน้อยพี่ก็เคยได้เหมือนกัน”

“เหอะ พูดได้เต็มปากเต็มคำ”

“เอาเถอะ มีเรื่องจะพูดแค่นี้ใช่มั้ยพี่จะได้ไปสักที”

“แก...”

“แต่ก่อนไปพี่ขอบอกอะไรไว้หน่อย” ผมขยับตัวเข้าไปใกล้ร่างเล็กช้าๆ ตาสบตาไม่มีใครหันหนี ผมเดินเข้าไปจนชิดตัวอีกคน ยกมือทั้งสองข้างทาบไว้ที่กำแพงกักขังคนตัวเล็กเอาไว้ คิ้วเรียวเริ่มขมวดเข้าหากันแต่ก็ยังเชิดหน้าทำเก่งแม้ว่าในแววตาเริ่มสั่นไหวเล็กน้อย

“อะไร” ไวน์เอ่ยปากถามด้วยน้ำเสียงที่ไม่หนักแน่นเหมือนตอนแรก ผมก้มหน้าลงให้สายตาของเราอยู่ระดับเดียวกันแล้วพูดออกไปด้วยสีหน้าที่ไม่ได้ประดับด้วยรอยยิ้มเหมือนที่ผ่านมา

“คิงเป็นแฟนพี่”

“......”

“ส่วนไวน์เป็นคนนอก....อย่ามายุ่งให้มากนัก”

ผมผละตัวออกแล้วหันหลังเดินออกจากมาทันทีที่พูดจบ ยอมรับเลยว่าคำพูดของไวน์เมื่อกี๊ทำให้ผมมีน้ำโหขึ้นมาแต่ผมก็ต้องทำเป็นไม่สะทกสะท้านอะไรเพื่อไม่ให้อีกฝ่ายปั่นหัวได้ ที่ผมพูดออกไปก่อนจะออกมานั่นจะเรียกว่าคำเตือนก็ได้เพราะผมไม่รู้ว่าจะอดทนกับท่าทางอวดดีนั่นได้อีกสักกี่ครั้ง แต่ถ้าไวน์ยังไม่หยุดแล้วราวีไม่เลิกถึงตอนนั้นผมคงต้องเล่นบทโหดบ้างแล้วล่ะ





“อย่าดึกมากนะ จะกลับก็โทรมา ห้ามเมาเหล้านี่ไม่ต้องกินเลยก็ได้ อย่าให้ใครมายุ่ง แล้วก็-”

จุ๊บ

ผมมองปากบางที่ขยับมากเกินกว่าปกติอย่างหมั่นเขี้ยว สุดท้ายก็อดใจไม่ไหวต้องชะโงกข้ามเลาะไปจัดการจนได้ เรื่องก็คือตั้งแต่มาถึงที่ร้านคนพูดน้อยก็พูดออกมาไม่หยุดเหมือนคนไม่เคยได้พูดทั้งที่ตลอดทางที่ขับรถมาน้องก็บอกผมแบบนี้ซ้ำไปมาจนผมจะท่องได้อยู่แล้ว พอมาจอดที่ร้านก็ไม่ยอมให้ผมลงแล้วย้ำข้อตกลงเป็นครั้งที่ร้อย ผมนั่งฟังแบบทั้งขำทั้งเอ็นดู น้องน่ารักใส่จนผมต้องทำแบบนี้จนได้

“พูดจนจำขึ้นใจแล้วครับพ่อ” ผมละริมฝีปากออกมาพูดล้อเลียนคิงโดยที่ใบหน้าของเราห่างกันเพียงไม่กี่เซน ถึงแสงไฟที่สาดส่องเข้ามาจะไม่ได้สว่างเหมือนตอนกลางวันแต่ใกล้กันขนาดนี้ก็ทำให้ผมเห็นแก้มที่ขึ้นสีของน้องได้ชัดเจน นี่น้องเขายั่วผมอยู่ใช่มั้ยครับ ถ้าใช่ก็บอกเลยว่าทำสำเร็จแล้ว ผมขยับไปงับริมฝีปากตรงหน้าซ้ำๆอย่างหยอกล้อจนได้ยินเสียงหัวเราะทุ่มต่ำในลำคอด้วยความชอบใจจากเจ้าตัวก่อนที่จะตอบกลับมาด้วยการแลบลิ้นมาไล่เลียริมฝีปากของผมแล้วแปรเปลี่ยนเป็นแนบสนิทลงมาปลายลิ้นร้อนเย้าแหย่เข้ามาสำรวจไปทั่วโพรงปาก มือหนายกขึ้นกดรั้งท้ายทอยของผมไว้ไม่ให้ถอยหนี นานนับนาทีกว่าผมจะถูกปล่อยให้เป็นอิสระน้ำใสที่ไหลจากมุมปากถูกลิ้นอุ่นชื้นจัดการทำความสะอาดให้ก่อนจะค่อยๆลากต่ำไปจนหยุดอยู่ที่ลำคอขาว ฟันคมขบกัดดูดเม้มจนผมรู้สึกเจ็บแปล๊บขึ้นมาเล็กน้อย จนเมื่อเจ้าตัวพอใจจึงได้ผละออกไป ผมขยับกลับมานั่งลงตามเดิมพลางลูบคอตัวเองที่น่าจะขึ้นรอยชัดเจนแล้วได้แต่ถอนหายใจ นี่ผมพลาดไปเองหรือเปล่า ส่วนคนทำก็นั่งยิ้มมองผลงานของตัวเองอย่าพออกพอใจ

“อยากพาพี่กลับห้องมันเดี๋ยวนี้เลย”

“หึหึ พี่ว่าพี่ไปก่อนดีกว่า ไว้จะโทรหาอีกที” ผมรีบบอกแล้วเปิดประตูลงจากรถก่อนที่จะไม่ได้ลง สายตาน้องบอกว่าถ้าผมโอเคน้องคงพาผมกลับคอนโดจริงๆ เห็นแบบนี้ผมก็รักตัวกลัวตายเหมือนกันนะครับ ถึงจะโอเคขึ้นแต่ช่วงล่างยังปวดอยู่ดี โชคดีที่วันนี้ไม่ค่อยได้เดินเท่าไหร่เลยพอทนไป

ผมปิดประตูรถแล้วโบกมือให้คนด้านในกะจะรอให้น้องไปก่อนแต่ดูจากรถที่ไม่ขยับแล้วผมคงจะต้องเป็นฝ่ายไปก่อนสินะ ผมหันหลังเดินไปที่ทางเข้าแต่เดินไปไม่กี่ก้าวก็ต้องสะดุ้งสุดตัวเพราะใครบางคนที่โผล่มาแบบไม่ให้ซุ่มให้เสียง

“ควิน!”

“โอ๊ยย!” ซ้ำยังกระโดดกอดคอจนผมเซเล่นเอาผมต้องร้องเพราะช่วงล่างถูกกระทบกระเทือนอย่างแรง

“เห้ย เป็นไร กูชนแรงขนาดนั้นเลยหรอวะ” เสียงคุ้นหูทำให้ผมหันหน้าไปดู

“โห่พี่เนย์ เล่นอะไรเนี่ย” พี่เนย์ทำหน้างงๆก่อนจะขอโทษขอโพยเลิ่กลั่ก ผมยืนนิ่งคลายความปวดลงแปบแล้วพยักหน้าให้พี่แกว่าโอเค หน้าผมอาจจะดูไม่สู้ดีพี่แกเลยเกาะแข้งเกาะขาหาว่าผมโกรธ ผมมองสำรวจพี่เนย์ที่ตอนนี้ไม่เหลือคราบของพี่เนย์ที่เจอวันก่อนเลยสักนิดท่าทางบ้าบอเป็นปกติของพี่แกทำให้ผมหลุดยิ้มจนได้ เห็นพี่เขาโอเคผมก็โอเค ก่อนที่จะเข้าไปผมหันกลับมามองด้านหลังก็ยังเห็นว่ารถของคิงยังไม่ขยับไปไหน ผมเลยหันหน้ากลับมาหาพี่เนย์แล้วชวนพี่เขาเข้าไปข้างใน “เข้าข้างในกันพี่”

“คอมึง....”

“ห้ะ อะไรนะ” พี่เนย์พูดอะไรบางอย่างแต่ผมได้ยินไม่ชัด พอถามกลับไปพี่แกก็ส่ายหน้ากลับมา ผมไม่ได้สนใจอะไรเดินตรงเข้าไปที่ผับแต่ก็ต้องหยุดเดินอีกครั้งเมื่อพี่เนย์ไม่ได้เดินตามมา ผมเรียกพี่เนย์อีกครั้งพี่แกถึงจะได้สติแล้วเดินตามผมมา อะไรของพี่แกวะ ผมมองพี่แกอย่างสงสัยเพียงแต่แปบเดียวพี่เนย์ก็กลับมาเป็นปกติยกมือมาขยี้หัวผมจนผมเสียทรง พอเห็นผมทำหน้าหงุดหงิดก็หัวเราะสะใจจนผมได้แต่ส่ายหน้าด้วยความเอือมระอา เห้อ เหนื่อยใจกับพี่รหัสคนนี้จริงๆ





ท่าทางสนิทสนมของคนสองคนอยู่ในสายตาของคนในรถทุกอิริยาบถ ช่วงที่ร่างบางเดินนำไปผู้ชายคนนั้นหันกลับมามองทางนี้ เห็นหน้าแค่ไม่กี่วินาทีเขาก็รู้สึกไม่ถูกชะตาอย่างบอกไม่ถูก ครู่เดียวก็ถูกคนของเขาเรียกกลับไป มือใหญ่ของผู้ชายคนนั้นที่ขยี้ผมของอีกคนทำให้คิ้วเข้มขมวดเข้าหากัน นี่ยังไม่ทันพ้นสายตาก็มีแมลงมาเกาะแกะแล้ว แม้จะไม่ค่อยชอบใจแต่ครั้งนี้ยังไงก็คงต้องยอม.....สงสัยครั้งหน้าคงจะต้องจัดการให้ไปไหนไม่ได้ซะแล้วมั้ง
















________________________________________
มาแล้ววววว อย่าพึ่งรุมทำร้ายเอิร์ทเลย ไถ่โทษที่มาช้าเดี๋ยวเอาอีกตอนมาลงให้ติดๆ -..-
ตอนนี้ส่วนตัวเอิร์ทนี่แต่งไปหลงไป หลงทั้งคิงหลงทั้งพี่ควินหลงไปหมด55555555555555555555555 อาจจะมีคำผิดบ้างต้องขออภัยด้วยนะคะเอิร์ทพยายามตรวจแล้วแต่มันก็เล็ดลอดไปได้ทุกที
ขอบคุณทุกคอมเมนท์ทุกรีวิวนะคะ เป็นกำลังใจที่ดีที่สุดเลยสำหรับเอิร์ท ตอนนี้อ่านแล้วก็ช่วยคอมเมนท์บอกกันด้วยน้า ใครที่เล่นทวิตเอิร์ทฝาก #คิงควิน ไว้ไปคุยกันได้น้า รักส์

ออฟไลน์ maemix

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4403
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +299/-3
Re: ...แค่คุณ... ตอนที่ 20 up [22/6/61]
«ตอบ #109 เมื่อ22-06-2018 13:45:41 »

ลุ้นว่าจะเกิดเรื่องไหมทั้งทางคิงและพี่ควิน

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ...แค่คุณ... ตอนที่ 20 up [22/6/61]
« ตอบ #109 เมื่อ: 22-06-2018 13:45:41 »





ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
Re: ...แค่คุณ... ตอนที่ 20 up [22/6/61]
«ตอบ #110 เมื่อ22-06-2018 21:17:22 »

 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
Re: ...แค่คุณ... ตอนที่ 20 up [22/6/61]
«ตอบ #111 เมื่อ22-06-2018 21:39:07 »

 :pig4: :pig4: :pig4:

ต้องให้ได้อย่างนี้สิ  หมดยุคนาย(นาง)เอกใส ๆ ไม่สู้คนแล้ว  ต้องแบบนี้นาย(นาง)เอกไสย ๆ ร้ายมาร้ายกลับไม่โกง  อิอิ

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80
Re: ...แค่คุณ... ตอนที่ 20 up [22/6/61]
«ตอบ #112 เมื่อ23-06-2018 03:28:29 »

 :pig4:

ออฟไลน์ Tiffany

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1147
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
Re: ...แค่คุณ... ตอนที่ 20 up [22/6/61]
«ตอบ #113 เมื่อ23-06-2018 14:18:53 »

น้องคิงอย่ารุนแรงกับพี่ควินมากนะคะเดี๋ยวพี่ช้ำหมด

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
Re: ...แค่คุณ... ตอนที่ 20 up [22/6/61]
«ตอบ #114 เมื่อ14-08-2018 23:30:17 »

 :call: :call: :call:

ออฟไลน์ earthearthx

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 26
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
Re: ...แค่คุณ... ตอนที่ 21 up [18/9/61]
«ตอบ #115 เมื่อ18-09-2018 03:45:30 »

ตอนที่ 21





พาร์ท ควิน






เสียงเพลงจังหวะหนักดังกระแทกเข้ามากลบเสียงรอบข้างไปจนหมด และตั้งแต่ที่เดินเข้ามาด้านในก็รู้สึกว่ามีหลายคนกำลังมองมาทางผมแต่ไม่แน่ใจว่ามองผมหรือคนข้างๆผมกันแน่

“โต๊ะไหนพี่เนย์” ผมยื่นหน้าไปถามพี่เนย์ใกล้ๆเพราะกลัวว่าพี่เขาจะไม่ได้ยิน

“ตรงนั้นไง” ถ้าผมไม่ได้คิดไปเองเมื่อกี๊เหมือนพี่เนย์จะชะงักไปนิดนึงรึป่าวนะ? ไม่ใช่หรอกมั้ง... ผมเดินไปทางโต๊ะที่พี่เนย์บอกก็เจอกับกลุ่มของเพื่อนพี่เนย์สองสามคนนั่งอยู่ มองไปรอบๆก็ยังไม่เห็นเงากลุ่มผมมาสักคน แต่เอาจริงก็คือผมมาไวไปเองนั่นแหละเพราะถ้าเกิดมาช้ากว่านี้เด็กโข่งของผมอาจจะงอแงให้ผมหมั่นเขี้ยวอีกแน่

“พี่โด พี่จีน พี่พลัม หวัดดีพี่” ผมยกมือไหว้พวกพี่ๆที่นั่งอยู่แล้วนั่งลงตรงที่ว่างตรงข้ามกัน พี่เนย์ก็เดินมานั่งลงฝั่งเดียวกันกับผมพร้อมกับหยิบแก้วชงเหล้าแล้วยื่นมาให้ผมเสร็จ ผมยกขึ้นจิบกินแค่นิดหน่อย ตอนแรกนี่กะว่าวันนี้จะไม่กินด้วยซ้ำเพราะร่างกายผมยังไม่หายดีเท่าไหร่แต่ไหนๆก็มาแล้วมันก็ต้องมีบ้างแหละเนอะ
ระหว่างที่รอเพื่อนมาผมก็เอาแต่นั่งฟังพวกพี่เขาคุยกันซะส่วนใหญ่ พวกพี่เนย์เป็นคนเฮฮาเรื่องที่คุยก็จะเป็นเรื่องตลกๆทั้งนั้น ผมก็ยิ้มตามหัวเราะตามความบ้าบอของพวกพี่เขาไป ทุกคนรู้อยู่แล้วว่าผมเป็นคนไม่ค่อยพูดเลยจะมีแค่หันมาถามความเห็นบ้าง หันมาหาพวกบ้างก็เท่านั้น สักพักนึงพวกไอ้เตก็ไลน์มาบอกว่ามาถึงร้านแล้ว ผมพิมพ์บอกตำแหน่งของโต๊ะไป รออีกไม่ถึงอึดใจร่างของเพื่อนๆก็มาโผล่ที่โต๊ะแล้ว

“พี่ๆหวัดดีค้าบบบบ”

“หวัดดีพี่”

เสียงไอ้ชาร์ปดังมาก่อนที่ตัวพวกมันจะมาถึงโต๊ะซะอีก ไอ้ซองก็ทักตามไป ปิดท้ายด้วยไอ้เตที่ยกมือไหว้พวกพี่เค้าเงียบๆแล้วนั่งลง เบาะข้างซ้ายผมยุบโดยมีเจ้าของน้ำหนักเป็นไอ้เต ผมยังไม่ทันจะอ้าปากทักพวกมันไอ้เตก็พูดสวนขึ้นมาก่อน

“ไงมึง กูไม่คิดเลยนะว่ามึงจะมาได้”

“อะไรของมึง” ผมมองไอ้เตที่ทำหน้าตากรุ้มกริ่มเหมือนรู้อะไรบางอย่าง

“จะให้กูพูดตรงๆหรอควิน มึงจะไม่เขินหรอ” จบประโยคด้วยการยกยิ้มกวนตีนใส่ผมมาทีนึง พอได้ฟังที่มันพูดผมเองก็พอจะเดาได้ถึงจะไม่แน่ใจว่ามันรู้ได้ไงก็เถอะ

“พูดมาเถอะ แต่กูว่ากูคงไม่เขินหรอกนะ” ผมตอบพร้อมกับยกยิ้มกลับให้มันไป

“ไม่เขินแล้วไม่เจ็บด้วยมั้ยจ๊ะ ตรงนั้นน่ะ” ไอ้เตถามยิ้มๆมือข้างนึงของมันที่พาดอยู่บนเบาะเลื่อนลงมาแตะบริเวณขอบกางเกงของผมลากลงต่ำอย่างล้อเลียนก่อนจะเอากลับไปพาดไว้ตามเดิม

“รู้มากจังเลยนะไอ้สัส” ผมด่ามันแบบไม่จริงจัง ยกแก้วในมือขึ้นจิบแล้วมองไปรอบๆโต๊ะ เหมือนว่าจะไม่ได้มีใครสนใจผมกับไอ้เตอยู่สักนิดแต่ต่อให้สนใจก็คงไม่ได้ยินอยู่ดี “มึงรู้ได้ไง” ผมหันไปถามไอ้เตอีกครั้งด้วยความสงสัย

“แล้วมึงว่าจะมีใครที่จะนอนอยู่กับเด็กมึงตอนเช้าได้อีก” อ่าห้ะ รูปที่คิงลงนั่นเอง ผมพยักหน้าช้าๆก่อนจะหันไปหามันอีกที

“นั่นอาจจะไม่ใช่กูก็ได้ไม่ใช่หรอวะ?”

“ถ้าไม่ใช่มึงแล้วมึงจะถ่อไปอยู่มันไอ้เด็กนั่นตอนเย็นได้ไง อีกอย่างมึงไม่ได้ไปมหาลัยในรอบปีได้มั้ง”

“ฉลาดอย่างกับแดกเพดดีกรีเป็นอาหารหลักเลยนะมึง”

“มึงเก็บไว้แดกเองเหอะสัส ว่าแต่ถึงกับขาดเรียนนี่ไอ้เด็กนั่นคงจัดเต็มเลยมั้ง” ไอ้เตยื่นหน้ามาถามใกล้ๆ ผมล่ะเกลียดสายตาที่มันส่งมาชะมัด ได้แต่ส่ายหน้าให้คำถามมัน ก่อนจะดันหน้ากวนตีนของมันไปไกลๆ

“หึ เสือก” 

“เอาเถอะว่าแต่ยอมเขาแบบนี่นี่มึงจริงจังจริงๆใช่มั้ยควิน” ไอ้เตปรับสีหน้าให้เป็นปกติแล้วพูดจาจริงจังขึ้นมาโดยไม่ได้สบตากับผมแต่กลับมองไปรอบๆร้านแทนเหมือนไม่อยากกดดัน

“ก็คงงั้น ถ้ามันดีก็ดี ถ้าไม่ดีก็จบ แต่กูก็หวังไว้ว่ามันจะดีแหละนะ” สิ้นสุดคำตอบผมไอ้เตก็ไม่ชวนคุยถึงเรื่องนี้อีก พอดีกับที่ไอ้ชาร์ปก็โวยวายขึ้นมาที่ผมไม่สนใจมัน หันไปอ้อนพวกพี่เนย์จนไอ้ซองต้องรีบดึงกลับมาทันทีเรียกเสียงโห่เสียงแซวจากพวกพี่ๆจนไอ้ชาร์ปไอ้ซองนั่งหน้าแดงทำอะไรไม่ถูกกันทั้งคู่เลยครับ555555

ตลอดเวลาที่นั่งกินเหล้าพวกผมกับพวกพี่ๆก็คุยกันไปเรื่อยเปื่อย มีแค่พี่โดกับพี่พลัมที่ลุกไปเต้นไปๆมาๆ ตัวผมอย่างที่รู้ว่าแค่เดินได้ก็มหัศจรรย์แล้วถ้าจะให้ลุกไปไหนคงไม่ไหวจริงๆ แต่ถึงอย่างนั้นผมก็ยังสังเกตได้ว่ามีบางคนมองมาที่ผม แต่ก็เท่านั้นเพราะผมไม่ได้มองหรือยิ้มตอบกลับใครไป ส่วนไอ้ชาร์ปก็พ่อไม่อนุญาตให้เข้าใกล้ใครหรือใครเข้าใกล้เลยได้แต่นั่งอยู่ในโอวาท ที่เหลือก็ขอนั่งกินชิวๆอย่างเดียวก็พอ ผมหันไปมองพี่เนย์ที่เหมือนจะเงียบกว่าปกติด้วยความสงสัย ทั้งที่บอกว่าวันนี้พามาเลี้ยงเหล้าก็นึกว่าพี่แกคงหายเศร้าจากเรื่องเมื่อวันก่อนแล้วแต่นี่ดูเหมือนชวนมากินย้อมใจมากกว่า

“พี่เนย์ โอเคมั้ยเนี่ย” ผมเอื้อมไปจับแขนพี่เนย์แล้วถาม

“...โอคงโอเคอะไรของมึง นี่กูใคร ระดับนี้ไม่มีไม่โอเคเว้ย! มึงนั่นแหละแดกๆเข้า พามาเลี้ยงทั้งทีแดกอย่างกับดม เสียดายเงินกูชิบหาย” ไม่น่าไปห่วงพี่เขาเลยนะครับ ถามดีๆโดนกลับมาเป็นชุด

“ผมไม่ค่อยสบายอ่ะพี่ ไม่ค่อยอยากกินเท่าไหร่”

“ไม่สบาย? เป็นไรวะ? แล้วถ้าไม่สบายมึงจะมาทำไม”

“นิดหน่อยเองพี่ไม่ได้เป็นหนักอะไรขนาดนั้น อย่าเว่อร์น่า” หน้าพี่เนย์ดุขึ้นมาหนึ่งระดับได้พอรู้ว่าผมไม่สบาย จนผมต้องรีบอธิบายให้พี่แกเข้าใจว่าไม่ได้เป็นอะไรมาก

“แน่ใจนะมึง ถ้างั้นก็แล้วไป” หลังจากนั้นก็นั่งคุยไปนั่งกินไปอีกสักพักโทรศัพท์ของผมบนโต๊ะก็สว่างขึ้นแสดงข้อความไลน์ที่ใครบางคนส่งมา ผมหยิบขึ้นมาปลดล็อกอย่างไวแล้วรีบกดดูข้อความนั่นทันที

King : ยังไม่กลับอีกหรอ

ผมมองเวลาบนหน้าจอที่บอกเวลาว่าผ่านเข้าวันใหม่เรียบร้อย นี่ผมนั่งคุยแบบนี่มาจะสามชั่วโมงแล้วหรอเหมือนพึ่งผ่านไปแค่ชั่วโมงเดียวยังไงยังงั้น

Q : จะกลับแล้ว
Q : ไม่ต้องมารับก็ได้นะเดี๋ยวให้ไอ้เตไปส่ง

K : จะไปรับ


ผมยิ้มให้กับข้อความที่ตอบกลับมา เห้อ เอาแต่ใจจริงๆเลยนะเนี่ย

“ไม่ทราบว่าที่ยิ้มเล็กยิ้มน้อยยิ้มนิดยิ้มหน่อยกับโทรศัพท์นี่คุยกับใครอยู่ครับเพื่อนควิน” คือวันนี้เพื่อนเตจะไม่ยุ่งสักเรื่องไม่ได้เลยใช่มั้ย

“วันนี้เพื่อนเตขี้เสือกจังเลยนะครับ”

“Kเหอะ” ผมเหนื่อยจะเถียงกับไอ้เตเลยชูนิ้วกลางให้ไปเป็นอันจบการสนทนาเรื่องนี้ ผมไลน์บอกน้องไปว่ามารับเลยก็ได้ถ้าถึงแล้วก็โทรมา แต่สิ่งที่น้องตอบกลับมาทำให้ผมต้องรีบบอกลาทุกคนบนโต๊ะทันที

“เห้ยพวกมึงกูกลับแล้วนะ พี่ๆผมกลับก่อนนะครับ” ผมลุกขึ้นบอกทุกคนอย่างเร่งรีบ ทุกคนบนโต๊ะต่างมองมาที่ผมงงๆอย่างไม่ทันตั้งตัว

“อะไรของมึงวะไอ้ควิน อยู่ๆก็จะลุกไปแบบนี้เฉยๆได้ไงล่ะโว้ยยย” ไอ้ชาร์ปแหกปากขึ้นมาก่อนใครส่วนคนที่เหลือก็รอฟังคำตอบกันตาปริบๆ

“เออกูไปก่อนน่า กูรีบ” ผมตอบมันกลับแล้วกำลังจะลุกขึ้นแต่เสียงไอ้เตก็มาขัดไว้อีก

“แล้วมึงจะกลับยังไง”

“ก็เหมือนตอนมา” ผมยักไหล่ตอบมันแบบไม่ปิดบัง มุมปากหยักของมันก็ยกขึ้นเหมือนเข้าใจคำตอบของผมในทันที พวกไอ้ชาร์ปไอ้ซองที่พอจะเดาได้จากที่คุยไลน์กันตอนเย็นก็หันไปมองหน้ายักคิ้วแบบรู้กัน พวกพี่ๆที่นั่งอยู่ก็มองหน้าพากันงงหนักกว่าเดิม

“อะไรกันวะพวกมึง บอกพวกกูบ้างดิ๊ไอ้ห่า”

“ไม่มีอะไรหรอกพี่พลัม แค่ไอ้ควินต้องรีบกลับไปหาน้องที่บ้านก็แค่นั้น” ไอ้เตชิงตอบพี่พลัมก่อนที่ผมจะได้อ้าปากซะอีก พี่พลัมที่ได้ยินแบบนั้นก็พยักหน้าแล้วก็โบกมือไล่ผมกลับไป ผมยกมือไหว้พี่ๆก่อนจะก้าวออกมาจากแต่ยังไม่ทันพ้นขอบโต๊ะ มือผมก็ถูกคว้าไว้โดยบางคนที่นั่งอยู่ ผมหันไปมองมือที่คว้าไปก่อนจะเลื่อนไปมองหน้าเจ้าของมือนั้นต่อ

“มึงมีน้องตั้งแต่เมื่อไหร่วะควิน?” พี่เนย์ถามออกโดยที่ยังไม่ปล่อยมือจากมือผม แสงไฟน้อยนิดทำให้ผมเห็นสีหน้าของพี่เนย์ไม่ชัดแต่น้ำเสียงที่ได้ยินนั้นฟังดูเรียบนิ่งอย่างบอกไม่ถูก แต่เพราะว่าผมกำลังรีบเลยตัดสินใจบอกความจริงทุกคนไปดีกว่า ยังไงก็เป็นพี่ๆน้องๆกันอยู่แล้ว อย่างที่บอกว่าผมไม่เคยคิดจะปิดบัง ถ้าใครไม่ถามก็ไม่จำเป็นต้องบอกแต่ถ้าใครถามผมก็ตอบตามตรง

“ที่จริงแล้วก็ไม่ใช่น้องหรอกพี่”

“แต่เมื่อกี๊เตมันบอก....”

“แฟนผมเอง”

“.....”

“ผมไปก่อนนะ”


ผมดึงมือออกจากการจับกุมของพี่เนย์ หันไปยกมือลาทุกคนก่อนจะพบสีหน้าล้อเลียนขั้นสุดของเพื่อนในกลุ่มและสีหน้าตกใจของพวกพี่คนอื่นๆ ผมส่ายหน้ายิ้มๆก่อนจะรีบเดินออกมา มุ่งตัวตรงไปที่ลานจอดรถที่เด็กโข่งของผมจอดรออยู่ ครับ อ่านถูกแล้ว คิงจอดรอผมอยู่ที่นั่น พูดง่ายๆก็คือน้องมาถึงตั้งแต่ที่ไลน์มาหาผมแล้ว ไม่ว่ายังไงตอนนี้ผมก็ต้องกลับอยู่ดี

ทันที่ที่เดินออกมารถคุ้นตาก็จอดอยู่ไม่ไกล ผมรีบเดินเข้าไปเปิดประตูข้างคนขับแล้วพาร่างเข้าไปด้านใน คนในรถมองมาทางนี้อยู่ก่อนแล้วทำให้ผมได้เห็นสีหน้ายุ่งๆนั่นได้ชัดเจน

“ทำไมทำหน้าแบบนั้น พี่ทำอะไรให้หงุดหงิดหรือเปล่า” ผมถามพลางยื่นมือไปกดคลึงระหว่างคิ้วเข้มที่ขมวดปมไว้ของอีกคนให้คลายออก มือหนายกขึ้นจับมือของผมไว้ให้เลิกเล่นส่งสายตาดุๆเหมือนไม่ชอบใจมาให้แต่ก็ไม่ยอมพูดอะไรออกมา

“เป็นอะไรครับ” ผมพลิกมือที่ถูกจับเข้าหามืออีกฝ่าย ยิ้มให้และเกลี่ยนิ้วโป้งวนบนหลังมือน้องอย่างเอาใจ เพียงไม่กี่วิเหตุผลที่อีกคนไม่พอใจก็ถูกเอ่ยออกมา

“ไม่ชอบกลิ่นนี้เลย” หือ กลิ่น? “กลิ่นที่ติดตัวพี่มา” อ่อ ผมยกแขนขึ้นมาดมกลิ่นที่ติดมาก็เลยเข้าใจ เป็นธรรมดาที่จะมีกลิ่นแอลกอฮอล์หรือกลิ่นน้ำหอมของคนอื่นติดมา แต่ไม่เคยคิดว่ามันจะเป็นประเด็นที่ทำให้เด็กโข่งของผมดูหงุดหงิดได้แบบนี้ สงสัยกลับถึงห้องต้องรีบไปอาบน้ำใหม่ซะแล้ว

“งั้นรีบกลับกันเถอะ พี่จะได้ไปอาบน้ำ”

“ดี เดี๋ยวจะขัดให้ไม่เหลือเลย”

“อะไรนะ” เหมือนน้องจะงึมงำอะไรบางอย่างที่ผมฟังไม่ค่อยชัด แต่พอถามน้องก็ส่ายหน้าให้ว่าไม่มีอะไรแต่สีหน้าดูดีขึ้นกว่าเมื่อกี๊นี้แล้ว อะไรของเขา เดี๋ยวก็หงุดหงิดเดี๋ยวก็อารมณ์ดี บางทีผมก็งง ยิ่งพออีกฝ่ายเห็นว่าผมมองสักพักก็หันมายิ้มให้เฉย เห้อ แล้วนี่ผมจะไปยิ้มตามทำไม อันนี้ก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน






ใช้เวลาสักพักก็มาถึงคอนโด ระหว่างทางผมถามถึงเรื่องงานของน้อง เจ้าตัวก็ตอบกลับมาว่าเกือบเสร็จแล้วที่เหลือเดี๋ยวคนอื่นทำต่อเอง ผมเลยไม่ถามอะไรต่อ ผมเดินเข้าไปในห้องนอนถอดเสื้อผ้าออกพันผ้าเช็ดตัวแล้วมุ่งไปยังห้องน้ำ แต่ไม่ทันจะปิดประตูใครบางคนก็อาศัยจังหวะนั้นแทรกตัวตามเข้ามาด้วย ผมหันไปมองก็เจอน้องยืนยกยิ้มมาให้ แขนแกร่งดันประตูให้ปิดลงเท่ากับว่าในห้องน้ำตอนนี้มีผู้ชายตัวโตสองคนกำลังยืนจ้องหน้ากัน

“ให้พี่อาบก่อนไม่ได้หรอ”

“อาบพร้อมกันทีเดียวก็ได้”

“ตามใจ” ผมได้แต่ปล่อยไปตามที่น้องต้องการ เพราะถึงจะห้ามไปแต่ตัวเข้ามาอยู่ในนี้ขนาดนี้แล้วก็เปล่าประโยชน์ “จะลงอ่างป่ะ” ผมหันไปถามเพราะเห็นว่าน้องเข้ามาอาบด้วย ปกติถ้าไม่เหนื่อยมากอะไรผมก็ไม่ค่อยจะลงอ่างแช่น้ำสักเท่าไหร่ พอน้องพยักหน้าตอบผมจึงหันมาเปิดน้ำเทโฟมลงไปตีจนฟองฟูขึ้นมา พอดีกับที่อีกคนถอดเสื้อผ้าจนหมดแล้วก้าวลงอ่างไปก่อน ผมปลดผ้าเช็ดตัวแขวนแล้วก้าวไปนั่งตรงข้ามกัน สายตาที่มองตามทุกการกระทำทำผมเขินนิดหน่อย แต่ก็แค่นิดหน่อยแหละครับ เพราะผมอายจนเลิกอายไปแล้วตอนนี้ อ่างใหญ่โตสมกับราคาห้องทำให้เราสองคนแช่กันได้สบายๆ

“พี่ควินมานี่” เพียงแค่ถูกเรียกด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนและสายตาเชิญชวน ร่างกายผมก็เขยิบตัวไปตามที่อีกคนเรียกอัตโนมัติ ผมคลานเข้าไปจนมาอยู่ที่หว่างขาของคนเรียก ไม่มีคำพูดใดให้มากความ ใบหน้าของผมถูกมือใหญ่เชยคางให้เอียงรับจุมพิตหอมหวานที่เจ้าตัวมอบให้ ผมยังคงอยู่ในท่าคลานเข้าหาอีกฝ่ายมือสองข้างของผมยันไว้ที่ต้นขาแกร่งใต้น้ำ ผมปรับองศาใบหน้าไปตามที่อีกคนชักพา นานนับนาทีที่ผมรู้สึกเหมือนกำลังถูกกลืนกิน ในที่สุดผมก็ต้องเป็นฝ่ายละริมฝีปากออกมาก่อน สีหน้าน้องบ่งบอกว่ายังต้องการอีกมากแค่ไหน แต่ผมก็คงไม่สามารถตามใจน้องได้ในเรื่องนี้

“หึ ถึงจะอยากเหมือนกันแต่พี่ยังไม่ไหวหรอกนะ” เพราะร่างกายที่ถูกรุกรานเป็นครั้งแรกเมื่อวานนี้ยังไม่คืนสภาพเป็นปกติ ความเจ็บปวดที่พึ่งเคยได้สัมผัสยังไม่ยอมหายไปง่ายๆ ทำให้ผมเองต้องหักห้ามใจเอาไว้ไม่ให้คล้อยตามไปตอนนี้

“พี่ควิน” เสียงแหบทุ้มเรียกชื่อผมแผ่วเบาอย่างน่าสงสาร สายตาน้องเหมือนเข้าใจแต่ร่างกายก็ต้องการ ในที่สุดตัวผมก็ถูกดันให้ออกห่าง ผมแอบดีใจที่น้องเลือกจะฟังคำขอของผมไม่บังคับให้ผมรองรับอารมณ์ในตอนนี้ แต่พอได้เห็นสีหน้าที่เต็มไปด้วยอารมณ์ที่ต้องอดกลั้นก็ทำให้ผมอดจะเอ็นดูไม่ได้

“เดี๋ยวพี่ช่วยนะครับ” ผมขยับเข้าไปหาร่างสูงอีกครั้งก่อนกระซิบบอกที่ข้างหูอีกฝ่ายแล้วตบท้ายด้วยการขบเม้มเบาๆ ผมขยับมือข้างนึงทาบลงที่หน้าท้องของน้อง รู้สึกถึงกล้ามเนื้อที่หดเกร็งจนขึ้นเป็นลอน ผมไล้มือลูบวนที่หน้าท้องก่อนจะค่อยๆไล่ต่ำลงไปที่โคนขา หยอกล้อด้วยการหลีกเลี่ยงจุดสำคัญปัดผ่านเฉียดไปมาจนได้ยินเสียงฮึดฮัดดังออกมาจากลำคอของคนโดนแกล้ง

“หึหึ อ้าปากให้พี่หน่อย” ทันทีที่บอกน้องก็ทำตามอย่างว่าง่าย ผมส่งลิ้นเข้าไปฉกชิงน้ำหวานในโพรงปากน้อง มืออีกข้างของผมยกขึ้นมาดันท้ายทอยของน้องให้แนบแน่นยิ่งขึ้น มืออีกข้างก็เลิกหยอกล้อกอบกุมแกนกายที่แข็งขืนตื่นตัวของอีกคนไว้ในกำมือ

“อืมม” เสียงของน้องเล็ดลอดออกมาให้ได้ยินเมื่อผมเริ่มขยับมือรูดรั้งแกนกายให้ช้าๆ สะกิดส่วนปลายอย่างยั่วเย้า นิ้วมือผมคลายออกจากส่วนนั้นแล้วเคลื่อนย้ายมาเล่นกับพวงลูกบอลกลมกลึงแทน การกระทำของผมเรียกเสียงครางของน้องได้เป็นอย่างดี ผมละริมฝีปากไล่ลงมาตามสันกรามได้รูปลากลงต่ำไปเรื่อยๆ ผมขบเม้มบริเวณลำคอแกร่งอย่างมันเขี้ยว ยิ่งได้ยินเสียงที่แสดงออกถึงความพอใจผมก็ยิ่งได้ใจ ผมขบไปตามลาดไหล่หนา ฝากฝังรอยรักไว้ตามไหปลาร้าราวกับจะตีตราจองเอาไว้ ก่อนจะหยุดริมฝีปากไว้ที่หน้าอกที่โผล่พ้นน้ำ หัวนมที่ตั้งแข็งของน้องดึงดูดสายตาอย่างบอกไม่ถูก ผมอ้าปากฝังคมเขี้ยวลงไปที่ฐานอกน้องจนขึ้นรอยฟันรอบ

“อื้อออ.....พี่ควิน” แต่เหมือนเจ้าตัวกลับชอบแทนที่จะเจ็บ น่ารักแบบนี้จะไม่ให้แกล้งได้ยังไงไหว ผมลงลิ้นดูดดึงเม็ดเล็กบนหน้าอกนั่นพลางขยับมือรูดรั้งแกนกายให้น้องหนักเบาช้าเร็วสลับกันไป มาถึงตรงนี้กลางลำตัวของผมก็ตื่นตัวขึ้นมาไม่แพ้กันแต่ว่าทั้งที่ไม่ได้แตะต้องส่วนนั้นเลยสักนิด เพียงแค่ได้สัมผัสร่างกายน้องผมก็รู้สึกเหมือนจะไปถึงปลายทางได้ไม่ยาก ผมเงยหน้าขึ้นไปประกบริมฝีปากอีกครั้งก่อนจะช่วงชิงลมหายใจในช่วงสุดท้ายของกันและกัน ผมเร่งมือให้น้องพร้อมกับกอบกุมของตัวเองไว้ด้วยมืออีกข้างของตัวเองแล้วขยับเป็นจังหวะเดียวกัน

“พี่ควิน อึก เร็ว...อีก” ตามที่น้องขอผมรูดรั้งแกนกายจนสุดอย่างรัวเร็วทั้งของน้องและของผม ในวินาทีสุดท้ายที่ทุกอย่างจะจบลง เสียงของคนที่ใบหน้าห่างกันไม่กี่เซนก็เอ่ยเรียกชื่อผมอีกครั้ง

“พี่ควิน รัก นะ อ่ะ อ่าาาา”

“อึก อื้ออออออ” คำบอกรักที่ดังอยู่ข้างหูทำให้ผมปลดปล่อยออกมาโดยไม่ทันได้ตั้งตัว ผมรู้สึกเหมือนเลือดมากองรวมกันอยู่ตรงหน้าเมื่อรับรู้ว่าผมเสร็จเพียงเพราะแค่คำพูดสั้นๆของอีกคน ยังไม่ทันจะหายเหนื่อยร่างของผมก็ถูกรั้งเข้าไปกอดไว้แน่น แต่ด้วยท่าทางของเราทั้งคู่ทำให้ใบหน้าของน้องจมหายไปในอกผม รอยยิ้มเล็กๆที่มองเห็นได้จากมุมสูงทำให้ผมต้องยิ้มตามอีกครั้ง

“คิง” ทันทีที่คนถูกเรียกเงยหน้าขึ้นมา ผมก็ก้มลงแนบริมฝีปากลงไปที่กลางหน้าผากของน้อง ค้างไว้ไม่กี่วินาทีก่อนจะผละออกมาสบตากับคนที่ยังมีรอยยิ้มติดอยู่บนใบหน้าซึ่งเป็นภาพที่ไม่ได้จะเห็นบ่อยนัก สุดท้ายกดใจไม่ไว้ต้องกดหน้าลงไปกดจูบซ้ำๆจนได้ยินเสียงหัวเราะเบาๆของอีกคน

“พี่ก็รักคิงนะ” สิ้นเสียงของผมริ้วแดงจางๆก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าหล่อ พอผมยิ้มให้คนตรงหน้านั่นก็ซุกกลับเข้าไปที่อกผมอีกครั้งอย่างน่ารัก จนผมได้แต่ขำในความน่าเอ็นดูของเด็กโข่งคนนี้ และนี่เป็นครั้งที่เท่าไหร่ไม่รู้ที่ผมกดริมฝีปากลงบนกลุ่มผมสีเข้มตรงหน้า สูดดมความหอมจากอีกคนซ้ำแล้วซ้ำเล่า มือสองข้างของกอดประคองน้องไว้ในอ้อมแขนอย่างรักใคร่หวงแหน

ต่อจากนี้ไม่ว่าจะยังไง ผมก็ไม่มีทางปล่อยคนๆนี้ไปเด็ดขาด ไม่ว่ายังไงก็ตาม

“พี่รักคิงนะครับ”

“อือ คิงก็รักพี่”



















สวัสดีค่ะรีดเดอร์ทุกคน ไม่เจอกันนานเลยคราวนี้อย่าพึ่งด่าเอิร์ทเลย แงงงงง
ขอสารภาพเลยว่าเอิร์ทเกือบจะไม่ได้มาต่อเรื่องนี้แล้วเพราะก่อนหน้านี้มีเหตุการณ์ที่ทำให้โน้ตบุ๊คของเออร์ทได้จากโลกนี้ไปพร้อมกับต้นฉบับที่แต่งไว้ทั้งหมด ในฐานะที่เป็นคนแต่งกว่าจะเขียนได้แต่ละคำแต่ละวรรคแต่บะบรรทัดมันยากมากๆ กว่าจะเข้าถึงอารมณ์ของช่วงนั้นๆ เวลาแต่งออกมาก็ได้แต่คิดว่าแบบนี้คนอ่านจะชอบมั้ยมันจะโอมั้ย กว่าจะคิดได้มันยากมากนะสำหรับเอิร์ท แล้วอยู่ๆมันก็หายไปทั้งหมดนั่นมันทำให้เอิร์ทเฟลมากๆ มากถึงมากที่สุด ตอนนั้นท้อแท้แล้วว่ามันเหนื่อย เหนื่อยมาก คือท้อมากๆแล้ว คือตอนนั้นจะแต่งใหม่ถึงจะรู้พล็อตแต่มันก็ไม่เหมือนเดิมเป๊ะๆได้หรอก
แต่คือทุกวันที่ไม่ได้ลงนิยายก็จะมีรีดเดอร์มาคอยเมนท์มา มารอ มาให้กำลังใจอยู่แทบทุกวัน บางคนก็ตามไปให้กำลังใจในแท็กในทวิต คือมันเป็นอะไรที่ทำให้เอิร์ทรู้สึกว่าแบบต้องลงให้ได้ ต้องแต่งใหม่ให้ได้ ทุกคนรออยู่
มาถึงตรงนี้เอิร์ทต้องขอบคุณรีดเดอร์ทุกคนมากๆเลยจริงๆ ขอให้ทุกคนรู้ไว้เลยว่าที่แต่งต่อไปได้ตอนนี้มันมาจากทุกคนทุกเมนท์ทุกกำลังใจจริงๆ ถ้าไม่มีกำลังใจหรือคำว่ารอจากทุกคนเอิร์ทอาจจะไม่ได้มาลงตอนใหม่อีกแล้วก็ได้
ยังไงหลังจากนี้เอิร์ทจะไม่ท้อแล้วนะ ขอโทษที่ครั้งนึงเคยคิดจะทิ้งทุกคนไปแต่เมื่อทุกคนไม่ทิ้งเอิร์ท เอิร์ทก็จะไม่ทิ้งทุกคนเหมือนกัน รักนะคะทุกคนเลย ตอนนี้เป็นยังไงก็มาเมนท์มาคุยกันได้น้า ใครอยากคุยตามไปคุยได้ในทวิตเอิร์ทนะคะ ฝาก#คิงควินด้วยน้าาา รัก<3

ปล.ไหนๆก็คัมแบ็คแล้ว เอิร์ทก็จะมีของขวัญเล็กๆน้อยๆมาฝาก..... หึหึ เอ้า! ใครยังไงว่ามา เอิร์ทรอฟัง5555555555555



ออฟไลน์ TheBig

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 15
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: ...แค่คุณ... ตอนที่ 21 up [18/9/61]
«ตอบ #116 เมื่อ18-09-2018 11:35:32 »

ดีใจที่เห็นเรื่องนี้กลับมา สู้ๆนะคะ รออ่านค่าาาาา 
 o13 o13 o13 o13 o13

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
Re: ...แค่คุณ... ตอนที่ 21 up [18/9/61]
«ตอบ #117 เมื่อ18-09-2018 21:35:07 »

 :L1: :L1:

 :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
Re: ...แค่คุณ... ตอนที่ 21 up [18/9/61]
«ตอบ #118 เมื่อ18-09-2018 22:45:21 »

 :z1: :z1: :z1:

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
Re: ...แค่คุณ... ตอนที่ 21 up [18/9/61]
«ตอบ #119 เมื่อ19-09-2018 12:12:13 »

 :pig4: :pig4: :pig4:

 :pig2: back

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด