...แค่คุณ... ตอนที่ 22 up [29/9/61]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ...แค่คุณ... ตอนที่ 22 up [29/9/61]  (อ่าน 14938 ครั้ง)

ออฟไลน์ broke-back

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5947
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-16
Re: ...แค่คุณ... ตอนที่ 21 up [18/9/61]
«ตอบ #120 เมื่อ19-09-2018 15:16:30 »

ไวนต้องเข้ารับการรักษาจิตบำบัด ฟื้นฟูอาการอิจฉาริษยาให้จางหาย
หรือไม่งั้นก็ต้องให้ฝูงผู้ชาย พาไปรุมโทรมให้หายคันหายอยากเสียที
อยาก-เหลือ-เกิน  เมิ๊งงงงงงงงงง

พระเอก+นายเอก ยังมั่นคงกันอยู่ เหนียวแน่น จริงๆคู่นี้
รู้แระ..ตอกย้ำความเป็นคู่คุณ แค่คุณ ของคิงและควิน

ออฟไลน์ Nung66669

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
Re: ...แค่คุณ... ตอนที่ 21 up [18/9/61]
«ตอบ #121 เมื่อ21-09-2018 20:19:55 »

หวังว่านังไวย์จะไม่ทำอะไรรุนแรงนะถ้าเล่นแบบจิตวิทยาไม่ค่อยจะห่วงควินเท่าไหร่นางทันอยู่แล้วกลัวอย่างเดียวเล่นไม่ซื่อ รอบกัด เอาคนมาทำร้ายควินแต่คิงคงไม่บ่อยไว้เนาะ ดราม่าชามใหญ่จะมีไหม?
สนุกค่ะอย่าลืมมาต่อนะรออยู่จ้า :กอด1:

ออฟไลน์ miikii

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1719
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
Re: ...แค่คุณ... ตอนที่ 21 up [18/9/61]
«ตอบ #122 เมื่อ26-09-2018 14:32:44 »

รู้เรื่องนะพี่เนย์

ออฟไลน์ earthearthx

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 26
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
Re: ...แค่คุณ... ตอนที่ 22 up [29/9/61]
«ตอบ #123 เมื่อ29-09-2018 19:48:09 »

ตอนที่ 22













พาร์ท คิง









เสียงพูดคุยโหวกเหวกโวยวายของเหล่าหมู่มวลมนุษย์ชาววิศวะที่หน้าตึกคณะในช่วงเช้าก่อนเข้าเรียน เป็นอะไรที่รบกวนจิตใจของใครบางคนที่ฟุบหน้าหลับตาอยู่บนโต๊ะในสภาพกึ่งหลับกึ่งตื่น แม้ในใจจะรู้สึกรำคาญเสียงรบกวนรอบข้างแต่ความง่วงงุนและความขี้เกียจที่เข้าครอบงำทำให้ร่างสูงเลือกที่จะก้มหน้านอนอยู่ตรงนี้แทนที่จะเดินเข้าไปนอนรอในห้องก่อนเงียบๆ



“มึงไปอดหลับอดนอนมาจากไหนนักหนาวะคิง ตั้งแต่มาถึงนี่มึงก็เอาแต่นอนไม่พูดไม่จา”



“ปล่อยมันนอนไปเหอะ มันตื่นมาก็ไม่คุยกับมึงอยู่ดี”



“เออ จริงของมึงว่ะไวน์”



ผมได้ยินเสียงเพื่อนคุยกันแต่ก็ไม่มีอารมณ์จะเงยหน้าขึ้นไปมอง สองสามวันที่ผ่านมาผมนอนดึกและไม่ค่อยเป็นเวลาเท่าไหร่ สาเหตุก็มาจากอีกคนที่อยู่ด้วยกันช่วงนี้ทำแต่งานจนดึกดื่น พี่ควินบอกว่าปี3 มีงานเยอะมากจนทำแทบไม่ทัน พอเห็นว่าคนตัวบางทำงานหามรุ่งหามค่ำก็พาให้ผมเป็นห่วงจนอดหลับอดนอนอยู่เป็นเพื่อนไปด้วย ถึงแม้ว่าทุกคืนผมจะถูกไล่ให้ไปนอนก่อนแต่พอไม่มีอีกคนให้กอดมันก็นอนไม่หลับอยู่ดี สรุปผมเลยได้แต่สะลึมสะลือมาเรียนทุกวันแบบนี้ไงครับ



“ไอ้ไวน์ไอ้คิง! โอ้ยยย กูหาพวกมึงเจอสักที!” เสียงใครไม่รู้ตะโกนเรียกชื่อผมพร้อมกับเสียงคนวิ่งเข้ามาใกล้



“มึงจะแหกปากทำไมวะไอ้นัท มีเรื่องอะไรค่อยมาพูดใกล้ๆไม่ได้หรือไง” อันนี้น่าจะเป็นเสียงของไอ้ปาร์คพูดขึ้นมา



“เออโทษทีว่ะ”



“ว่าแต่เมื่อกี๊มึงเรียกกูกับคิงใช่ป่ะวะ?”



“ใช่ๆพอดีกูมีเรื่องจะคุยกับพวกมึงหน่อย แล้วไอ้ที่นอนอยู่นั่นไอ้คิงใช่มั้ยน่ะ”



“เออ มีอะไรพูดเลย” จนถึงตอนนี้ผมก็ยังไม่ได้เงยหน้าขึ้นไปคุยกับพวกมันแม้ว่าจะได้ยินชื่อตัวเองอยู่ในการสนทนานี้ก็ตาม คนที่วิ่งมาหาพวกผมคือนัท มันเป็นเพื่อนในสาขาเดียวกันนี่แหละครับ สนิทกับกลุ่มพวกผมอยู่พอตัวแต่ถึงอย่างนั้นปกติผมก็ไม่ใช่คนที่คุยกับคนอื่นสักเท่าไหร่กับนัทก็เช่นกัน ตอนนี้ผมเลยนึกไม่ออกว่ามีเรื่องอะไรที่ไอ้นัทจะพูดแล้วจะเกี่ยวกับผมได้



“คือ...เอ่อ...คือกูจะมาขอร้องมึงกับคิงให้ช่วยไปถ่ายรูปโปรโมทคณะให้หน่อย...ได้มั้ยวะ”



“ถ่ายรูปอะระ-”’



“ไม่” ผมเงยหน้าขึ้นมาพร้อมกับคำตอบโดยที่ไม่จำเป็นต้องฟังรายละเอียดเพิ่มเติมอะไรอีก ได้ยินแค่นี้ก็รู้แล้วว่าจะเป็นยังไงต่อ



“เดี๋ยวคิงๆ มึงจะฟังไอ้นัทมันอธิบายอะไรก่อนหรอวะ” ไอ้ไวน์หันมาพูดกับผม หันไปหันมาระหว่างผมกับนัท



“เอ้าไอ้คิง! มึงก็ไม่ได้หลับนี่หว่า ทีพวกกูคุยด้วยไม่คุยทีมีเรื่องงี้ละเด้งขึ้นมาเป็นสปริงเชียวไอ้สัส”



“เงียบไปปาร์ค” ผมหันไปบอกไอ้ปาร์คแล้วหันมามองหน้านัทที่ทำท่าทางเลิ่กลั่กตรงหน้า เสียงไอ้ปาร์คงุ้งงิ้งใส่ผมจนต้องหันไปปรายตามองอีกรอบมันถึงจะยอมหยุดพูดแล้วสะบัดมือไล่ผมให้กลับไปคุยกับนัทต่อ



“คือมึง...แบบว่าอันนี้มันงานคณะเรานะเว้ย แค่ถ่ายรูปนิดหน่อยเองนะมึง” นัทพยายามพูดให้ผมฟังด้วยสีหน้าที่แสดงออกว่ากำลังลำบากใจ



“ฟังมันสักนิดก่อนดิวะมึง...แล้วคือถ่ายไปทำไม ถ่ายเพื่ออะไรยังไงวะนัท แล้วทำไมต้องเป็นกูกับคิงด้วยล่ะ” ไวน์หันมาบอกให้ผมฟังก่อนจะหันไปคุยกับนัทต่อ



“คืองี้ๆ มันก็ใกล้ช่วงต้องโปรโมทคณะแล้ว พวกกูคิดกันว่าคณะเรามีอะไรดีจะได้เอาไปโชว์บ้าง แล้วทีนี้พวกผู้หญิงมันก็คิดว่าช่วงนี้พวกกระแสคู่จิ้นอะไรนี่แหละมาแรงมาก พวกกูเลยว่าจะลองถ่ายรูปโปรโมทคณะแนวคู่จิ้นดูบ้าง คนเค้าน่าจะชอบกัน”



“แล้วเกี่ยวอะไรกับกู” ผมถามขึ้นทันทีหลังจากที่นัทพูดจบ



“ไอ้คิง! มึงก็พูดไม่รักษาน้ำใจมันเลยไอ้ห่า ไอ้นัทมันหน้าเสียเป็นแกงค้างคืนแล้วมึงเห็นมั้ยน่ะ”



“เอออย่างที่ไอ้ฟินพูด นัทมันแค่มาขอให้ช่วยมึงอย่าไปดุมันแบบนั้นดิ” ผมถอนหายใจเมื่อถูกไอ้ฟินไอ้ไวน์ว่ากลับมา พอเห็นว่าผมเงียบนัทก็เริ่มพูดต่อ



“คือพวกกูลองคิดดูว่ามีใครพอจะเหมาะกับงานนี้บ้าง หลายๆคนก็แนะนำว่าพวกมึงสองคนอยู่ด้วยกันตลอด แถมหน้าตาก็ดีทั้งคู่ ไอ้ไวน์ก็ตัวเล็กน่ารัก ไอ้คิงก็หล่อแมนแฮนซั่มบอยขนาดนี้ ดูแล้วยังไงก็น่าจะโอสุด พวกผู้หญิงหลายคนก็แอบกรี๊ดพวกมึงอยู่นะเว้ย แล้วพอหลายๆคนพูดแบบนั้นกูเลยมาขอร้องพวกมึงนี่ไง แค่ถ่ายรูปโปรโมทเอง พวกมึงสนิทกันอยู่แล้วยิ่งไม่ต้องมาอึดอัดอะไรด้วย นะพวกมึง ถือว่าช่วยคณะ นะนะ”



“คือกูไม่มีปัญหาหรอกนะ แต่ว่า...” ไอ้ไวน์บอกกับนัทก่อนจะเหลือบมามองผมเล็กน้อยแล้วเงียบไป



“ไม่” ผมยังยืนยันคำตอบเดิมแล้วฟุบหน้าลงนอน



“เดี๋ยวพวกกูคุยกันอีกทีนะมึง” เสียงไอ้ไวน์ดังขึ้นพร้อมกับเสียงฝีเท้าที่เดินออกไป



“คิง มึงเงยหน้ามาคุยกันก่อน” ตัวผมถูกเขย่าด้วยมือเล็กๆของไอ้ไวน์จนผมนอนไม่ได้



“ก็บอกว่าไม่ไง” ผมเริ่มจะหงุดหงิดขึ้นมา ทั้งง่่วงทั้งถูกเซ้าซี้จนไม่เป็นอันจะนอน พอหันมามองหน้ามันก็ถูกคะยั้นคะยอต่ออีก



“แค่ถ่ายรูปเอง น่าสนุกออก ได้ช่วยคณะด้วยนะมึง ทำเหอะนะ” ไอ้ไวน์พูดพลางเขย่าแขนผมงอแงเป็นเด็กๆ



“มึงอ้อนให้ตายมันก็ไม่ทำหรอก กูพนันที่ยี่สิบ”



“ถุย เก็บไว้ซื้อลูกชิ้นเถอะยี่สิบของมึงน่ะไอ้สัส”



“สี่สิบไปเลยเป็นไง”



“กูให้ร้อยนึง ยังไงไอ้คิงก็ไม่ทำ”



“แทนที่พวกมึงจะช่วยกูพูด เสือกมาพนันส้นตีนอะไรก็ไม่รู้ โว้ะ!” ผมปล่อยให้ไอ้ไวน์กับคนอื่นๆในกลุ่มเถียงกันแล้วหยิบโทรศัพท์ออกมากดไลน์หาบางคนที่ไม่รู้ว่าป่านนี้จะตื่นหรือยัง พอดีวันนี้ผมมีเรียนเช้าส่วนพี่ควินมีเรียนบ่าย ผมเลยต้องมาก่อนแล้วปล่อยให้อีกคนนอนต่อไป แต่จนถึงเวลาขึ้นเรียนก็ยังไม่มีข้อความตอบกลับมาสงสัยคงยังไม่ตื่น



ผมขึ้นเรียนโดยหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูตลอดเวลา ไม่รู้สิ ผมว่าผมคงจะติดพี่ควินมากเข้าไปทุกที ทั้งที่เจอกันอยู่ทุกวัน นอนด้วยกันทุกคืน แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังรู้สึกเหมือนไม่พอ อยากแตะต้องร่างนั้นอยู่ตลอดเวลา ยิ่งพี่ควินไม่เคยห้ามไม่เคยขัดใจ ความรู้สึกของผมก็ยิ่งถลำลึกจมลงในบ่วงของพี่ควินมากเข้าไปทุกที









หมดคาบลงพวกผมก็พากันออกมาหาอะไรกินที่โรงอาหาร โดยมีผมกับไอ้ไวน์นั่งเฝ้าโต๊ะและคนอื่นๆไปซื้อข้าว ระหว่างรอไอ้ไวน์ยังคงพูดให้ผมเปลี่ยนใจไปถ่ายรูปอยู่ตลอด ซึ่งแน่นอนว่าผมก็ปฏิเสธทุกทีจนกระทั่งใครบางคนดันผ่านมาได้ยินเข้า



“ไอ้น้องรักกกก” เสียงคุ้นหูดังขึ้นจากด้านหลังพร้อมกับวางมือพาดลงบนไหล่ของผม



“หวัดดีพี่” ผมหันไปทักทายคนที่มายืนอยู่ข้างๆพร้อมกับไอ้ไวน์



“พี่ไวท์ หวัดดีครับ”



“เออดี” พี่ไวท์มองไอ้ไวน์ด้วยหางตา ตอบรับไปส่งๆแบบไม่ใยดี แล้วหันหน้าหนีมายิ้มให้ผมแทน



“มาทำไรอ่ะพี่” ไอ้ไวน์ถามขึ้น



“กูก็มาหาน้องรหัสที่รักของกูน่ะสิ ว่าแต่ไม่เห็นหน้ามึงหลายวันเลยนะน้องรัก มีเวลาไปคุยกับพี่สักหน่อยมั้ยจ๊ะ” ประโยคแรกเป็นของไอ้ไวน์ ส่วนประโยคหลังเป็นของผม และพี่ไวท์พูดด้วยน้ำเสียงที่แตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด



“คุยตรงนี้ก็ได้นี่พี่”



“กูจะคุยกับน้องกู ตรงไหนก็เรื่องของกู มึงไม่เกี่ยวป่ะ?”



“พอได้แล้ว เดี๋ยวกูมาแล้วกัน” ผมหยุดทั้งคู่ไว้ก่อนจะทะเลาะกันแล้วหันไปบอกไอ้ไวน์ที่สีหน้าเริ่มจะไม่ปกติ มองหน้าพี่ไวท์ไม่ละสายตา ส่วนอีกคนก็ยืนทำหน้ายั่วโมโหอย่างไม่สะทกสะท้านจนผมต้องจับแยก



“ไปกันเถอะ ไปหาที่เงียบๆคุยกันนนนนน” พอผมลุกขึ้นจากโต๊ะ พี่ไวท์ก็พุ่งเข้ามากอดแขนผมแล้วลากผมออกไปจากตรงนั้นโดยเร็ว ทิ้งไอ้ไวน์ให้นั่งเฝ้าโต๊ะอยู่คนเดียว



พี่ไวท์ลากผมเดินออกมาที่ซุ้มไม้ข้างๆตึกที่ว่างอยู่ ปล่อยมือออกจากแขนผมกระโดดเข้าไปนั่งด้านในแล้วกระดิกเท้าเรียกผมยิกๆ



คนตรงหน้าผมตอนนี้คือพี่รหัสของผมเอง พี่ไวท์เป็นผู้ชายตัวเล็ก หน้าตาถือว่าน่ารัก ผิวสองสีไม่ขาวไม่ดำ รวมๆจัดว่าเป็นคนน่ารักผิดกับนิสัยที่ค่อนข้างหยาบคายผิดกับหน้าตาลิบลับ



“มานั่งเร็วๆดิ้มึง ลีลาอะไรอยู่ได้”



“มีอะไร”



“ไว้ก่อน เมื่อกี๊มึงเห็นหน้าเพื่อนมึงป่ะ? เหมือนจะแดกกูอ่ะ สะใจชิบหาย” ดูจากรอยยิ้มบนหน้านั่นก็คงจะสะใจจริงๆแหละ



“ก็ไปยั่วโมโหมัน” ผมตอบสั้นๆ ทิ้งตัวลงนั่งฝั่งตรงข้ามกับพี่แก ต้องขอบอกว่าพี่ไวท์กับไอ้ไวน์ไม่ถูกกันตั้งแต่ปี1 สาเหตุคงจะมาจากตัวผมเอง ตอนที่ไอ้ไวน์รู้ว่าผมได้พี่รหัสเป็นผู้ชายน่ารักคนนึงมันก็เหมือนไม่พอใจเท่าไหร่ ถึงแม้มันจะพยายามเก็บไว้ไม่แสดงออกแต่ผมกับพี่ไวท์ก็รู้สึกได้ พี่ไวท์ที่ไม่แน่ใจเลยตัดสินใจถามว่าผมกับไอ้ไวน์เป็นอะไรกัน ซึ่งผมก็ตอบไปว่าเป็นแค่เพื่อนไม่ได้จะเป็นอะไรมากกว่านั้น และผมขอไว้ว่าไม่ให้พี่ไวท์พูดอะไรไปเพราะไม่อยากจะมีปัญหา พี่ไวท์ก็รับปากว่าจะไม่พูดไป ตอนแรกๆพี่ไวท์มีบ้างที่เข้ามาหาผมก็กะจะแกล้งมันเล่นๆแต่ไม่รู้ว่ายังไงมีอยู่วันนึงที่ผมไม่ได้ไปมหาลัย วันถัดมาก็มีคนมาบอกว่าพี่ไวท์เกือบจะเข้าไปต่อยไอ้ไวน์ ผมเองก็ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ พอถามไปก็ไม่มีใครพูดผมเลยปล่อยไป แล้วหลังจากนั้นเวลาเจอกันท่าทีของพี่ไวท์ที่มีต่อมันก็เปลี่ยนไป



“เออเห็นหน้ามันละอดไม่ได้แม่งสักที ยังไงกูก็เกลียดขี้หน้ามันว่ะ แล้วแม่งมันดันมาชื่อคล้ายกูอีกอันนี้กูยังรับไม่ได้ด้วยบอกตรงๆ”



“ก็เปลี่ยนชื่อไปสิ”



“อ้าววว เรื่องอะไรที่กูจะต้องเป็นคนเปลี่ยน มันสิต้องเปลี่ยน”



“งั้นก็เลิกพูดเรื่องชื่อสักที พูดทุกครั้งไม่เบื่อหรือไง”



“เออแม่งพูดนิดพูดหน่อยไม่ได้”



“เอาดีๆ มีอะไร”



“เออๆ กูจะมาคุยเรื่องโปรโมทคณะ”



“ไม่” ผมตอบทันทีที่ได้ยิน



“มึงหยุดเลย มึงต้องทำ ถึงแม้ว่ากูจะเกลียดขี้หน้าเพื่อนมึงขนาดไหนแต่งานนี้เพื่อคณะ กูจะเว้นให้สักครั้ง”



“ถ้าพี่อยากทำนักก็ทำเอง” ผมขมวดคิ้วด้วยความหงุดหงิด ทำไมจะต้องมาบังคับอะไรผมกันนักหนา



“เหอะ เพราะกูก็ต้องทำนี่ไงถึงได้มาบอกให้มึงไปทำด้วย!”



“หมายความว่าพี่ก็ต้องถ่ายด้วย?”



“เออ กูก็โดนขอร้องมาเหมือนกัน”



“แล้วมันเกี่ยวกับผมตรงไหน ทำไมผมต้องทำ”



“ก็กูสั่งนี่ไงละโว้ย!!! มึงช่วยงัดหน้าหล่อๆมาโชว์ให้เป็นบุญของคณะเราที่มีคนแบบมึงทีเหอะ กูไหว้ล่ะ”



“แล้วถ้าไม่ทำ?”



“คำสั่งรุ่นพี่”



“แล้วไง”



“เฮ้ออออ มึงนี่นะ เคารพกูหน่อยเถอะ เอาเป็นว่ากูขอร้องแล้วกัน เพื่อคณะเรา ถ่ายให้มันจบๆไป”



“.......”



“กูขอ”



“.....แค่ครั้งนี้เท่านั้น”



“เออ”



















‘ฮัลโหล’


“พี่อยู่ไหน” หลังจากเลิกเรียนผมรีบตรงมารับพี่ควินที่คณะเหมือนทุกวัน เพียงแต่วันนี้รอจนเกือบยี่สิบนาทีก็ยังไม่เห็นวี่แววของร่างบางจะออกมาจากตึกเลยสักนิด สุดท้ายเลยตัดสินใจโทรไปหา ทันทีที่ปลายสายตอบรับผมก็ถามออกไปทันที



‘อยู่ห้องสมุดไงทำมะ.....เอ้า! ถึงเวลาแล้วหรอ ขอโทษๆพี่มัวแต่ทำงานจนลืมดูเวลาเลย แปบนึงๆพี่เก็บของก่อน’


“ไม่เป็นไร อย่ารีบ” ผมบอกเพราะได้ยินเสียงเหมือนว่าอีกคนกำลังรีบร้อนทำอะไรสักอย่างอยู่



‘เสร็จแล้วๆ....ไปก่อนนะพี่เนย์’ ปลายสายพูดกับผมก่อนที่จะพูดประโยคหลังกับใครสักคน พี่เนย์? ใคร? เหมือนไม่เคยได้ยินชื่อนี้เลย



‘อะไรวะบทจะรีบจะไปก็ไปเฉยเลยมึง รอกูก่อนกูจะออกไปด้วย / โอเคงั้นเร็วเลยพี่ / มึงจะรีบไปตามควายที่ไหนวะ! / เอาน่า มาๆผมช่วย’ เสียงไม่คุ้นหูของใครสักคนที่กำลังคุยอยู่กับพี่ควินเล็ดลอดออกมาให้ได้ยินจากโทรศัพท์แล้วหลังจากนั้นสายก็ถูกตัดไป ผมรออีกไม่กี่นาทีพี่ควินก็เดินออกมาจากมุมหนึ่งของตึกพร้อมกับบางคนที่น่าจะเป็นเจ้าของเสียงในสายเมื่อกี๊นี้



ถ้าผมจำไม่ผิด ผู้ชายคนนี้คือคนๆเดียวกับคนที่ผมเห็นที่ลานจอดรถของผับเมื่อวันก่อน ผมสังเกตว่าข้างๆของพี่ควินไม่มีเพื่อนเดินตามออกมาอีก แสดงว่าเมื่อกี๊อยู่กับคนนี้แค่สองคน ไม่รู้ว่าเป็นเพราะความรู้สึกไม่ถูกชะตาตั้งแต่ครั้งก่อนหรือเปล่า ผมถึงได้รู้สึกแปลกๆที่เห็นพี่ควินอยู่กับคนๆนี้ ผมมองตามระหว่างที่พี่ควินเดินมา จากท่าทางของทั้งสองคนดูแล้วคงจะสนิทกันมากพอตัวอีกคนถึงได้พาดแขนไว้บนไหล่บางนั่นได้ จนมาถึงทางที่ต้องแยกกันพี่ควินหันไปโบกไม้โบกมือลาแล้ววิ่งตรงมาที่รถผมที่จอดรออยู่ ส่วนอีกคนที่แยกกันยังยืนอยู่ที่เดิมแต่สายตามองตามพี่ควินไม่หยุดจนคิ้วผมเริ่มจะขยับเข้าหากันอีกครั้ง



“ขอโทษนะคิง รอพี่นาน ฮึก เลย แฮ่กๆ” เสียงพี่ควินที่พูดขึ้นพร้อมๆกับเปิดประตูรถเข้ามานั่งไปด้วยเรียกให้ผมต้องหันมาสนใจ ใบหน้าขาวขึ้นสีเลือดจางเล็กน้อยจากความเหนื่อย



“เมื่อกี๊ก็บอกว่าอย่ารีบ” ผมว่าดุๆแล้วหยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาซับเหงื่อตามขอบหน้าสวยให้



“ก็คิงรอนาน”



“รอได้”



“โอเคๆไม่เถียงแล้ว” ผมเก็บผ้าเช็ดหน้าเข้ากระเป๋าตามเดิมหลังจากที่ใช้งานมันเสร็จ แล้วเตรียมตัวออกรถแต่ก่อนไปผมมองไปทางทิศที่พี่ควินมา.....ผู้ชายคนนั้นยังยืนอยู่ที่เดิมไม่ขยับและมองมาทางนี้อย่างกับจะมองให้ทะลุฟิล์มมาข้างใน



“คนนั้นใคร” พี่ควินมองไปตามทางที่ผมถามแล้วก็ตอบออกมา



“อ๋อพี่เนย์ พี่รหัสพี่เอง มีอะไรเปล่า?”



“เปล่า แค่เห็นว่ามองตามพี่มาเลยถามดู”



“ไม่มีอะไรหรอก ไปกันเถอะ”



“อือ” ผมค่อยๆขับรถออกจากตรงนั้น แล้วเหลือบมองกระจกข้างที่สะท้อนร่างของชายคนหนึ่งที่นึงมองตามมาจนลับสายตา



ผมรู้ดีว่าพี่ควินมีสเน่ห์แค่ไหน ไม่ว่าจะผู้หญิงหรือผู้ชายก็ถูกดึงดูดเข้ามาหาได้ทั้งนั้น แม้แต่ผู้ชายคนนั้นเองก็คงจะหลงสเน่ห์พี่ควินเข้าแล้วเหมือนกัน อืม แต่แย่หน่อยที่คนนั้นคงจะได้แต่มองต่อไป....ไม่มีวันได้ครอบครอง









“ทำงานอีกแล้วหรอ” หลังจากเดินออกมาจากห้องน้ำผมก็ถามขึ้นเมื่อเห็นว่าพี่ควินคว้าเอาหนังสือและชีทหลายปึกมาวางที่โต๊ะกลางห้องแล้วนั่งกับพื้นซึ่งเป็นที่ประจำเวลาพี่ควินทำงาน พอเห็นแบบนั้นผมเดินตามมาทิ้งตัวนั่งลงข้างๆ



“อืม อันเก่ายังไม่เสร็จดีเลยมีอันใหม่เพิ่มมาอีกแล้ว แถมพรุ่งนี้มีสอบ ชีทพี่ก็ยังอ่านไม่ทันเลยด้วย” คนหน้าสวยตอบผมด้วยสีหน้าอ่อนล้าน่าสงสาร



“มีอะไรที่ให้ช่วยได้บ้างมั้ย” ผมถามเพราะอยากช่วยจริงๆ เวลาเห็นพี่ควินทำงานจนสีหน้าไม่สู้ดีผมเองก็รู้สึกแย่ที่ได้แต่มองแล้วช่วยอะไรไม่ได้เลย แต่พอถามออกไปก็ได้รับรอยยิ้มกลับมา



“ช่วยไปนอนเผื่อพี่ได้มั้ยครับ” มือเรียวยกขึ้นมาลูบผมของผมเบาๆแบบที่ผมชอบให้ทำ ปกติผมไม่เคยให้ใครมายุ่งกับหัวแต่กับพี่ควินต่อให้เขาจับหัวผมฟาดขอบโต๊ะผมยังแอบคิดว่าอาจจะยอมเลยด้วยซ้ำ



“ไม่เอา จะนอนพร้อมพี่” ทุกวันพี่ควินจะไล่ให้ผมไปนอนก่อนแต่ก็อย่างที่บอกว่าผมนอนไม่ลงหรอกครับ



“ดื้อจริงๆ วันหลังพี่จะลงไปทำที่ห้องพี่แล้วนะถ้ายังดื้ออยู่แบบนี้”



“ถ้าพี่ไปคิงจะไปรอหน้าห้องพี่” ผมพูดจริง ถ้าพี่ควินหนีไปผมก็จะตามไปให้ดู



“โอเค พี่เชื่อว่าคิงทำแน่ งั้นก็นั่งรอไปก่อน พี่จะรีบทำแล้วเราค่อยไปนอนกันเนอะ”



“อือ”



หลังจากนั้นผมก็นั่งเล่นเกมรอพี่ควินทำงานไปสักพัก ไปหยิบน้ำหยิบขนมมากินกับพี่ควินบ้าง จนเวลาผ่านไปเกือบสองชั่วโมงแบตโทรศัพท์ผมก็หมด แต่พี่ควินก็ยังคงทำงานอยู่อย่างนั้น ผมเดินเอาโทรศัพท์ไปชาตไว้แล้วมานั่งมองพี่ควินเงียบๆ



หน้าตาที่จัดว่าทั้งหล่อทั้งสวยที่กำลังเคร่งเครียดกับกองงานตรงหน้าดูน่าหลงใหลไม่แพ้กับใบหน้ายามยิ้มสดใส ทุกอากัปกิริยาของคนตรงหน้าชวนให้ลุ่มหลงไปซะหมด แค่มองนานๆยังทำเอาใจเต้นแรงขึ้นมาอย่างไม่มีสาเหตุ ระหว่างที่กำลังพิจารณาคนตรงหน้าผมก็นึกขึ้นได้ว่ามีเรื่องที่ยังไม่ได้เล่าให้ฟัง



“พี่”



“หืม?”



“เดี๋ยวอาทิตย์หน้าคิงต้องไปถ่ายรูปโปรโมทคณะด้วยล่ะ” พอผมพูดจบพี่ควินก็เงยหน้าจากกองชีทมามองหน้าผมแทน



“โปรโมทคณะหรอ อืม พี่ไม่คิดว่าคิงจะไปทำอะไรแบบนี้ด้วยนะเนี่ยแต่ก็ดีแล้วล่ะ” พี่ควินยิ้มให้ก่อนจะก้มลงไปมองกองชีทตามเดิม



“แต่ว่าคิงต้องถ่ายกับไวน์” มือที่จับปากกาอยู่ชะงักลง และเป็นอีกครั้งที่คนตรงหน้าเงยหน้าขึ้นมามองผม



“ถ่ายคู่หรอ” พี่ควินถาม



“อือ รุ่นพี่เค้าขอมาไม่ทำก็ไม่ได้”



“อ่อ โอเค พี่เข้าใจน่า” ผมสบตาพี่ควินเพื่อความแน่ใจ ผมกลัวว่าพี่ควินจะคิดมากเรื่องผมกับไวน์อีก แต่สายตาที่สบกันอยู่ตอนนี้ไม่มีร่อยรอยของความกังวลหรืออะไรที่ผมคิดเอาไว้สักนิด สายของพี่ควินแน่วแน่ว่าเชื่อใจผม เท่านั้นก็ทำให้ผมเผยรอยยิ้มออกไปได้



ผ่านมาสักผมผมก็นั่งมองพี่ควินทำงานอยู่แบบนั้นจนกระทั่งคนตรงหน้าหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาใครบางคน



“ฮัลโหลพี่เนย์....ว่างป่าว.....โอเคคือพี่ช่วยดูรูปที่ส่งไปในไลน์หน่อยดิ คือผมอ่านชีทพี่ไม่ออกตรงนั้นอ่ะ....สำคัญด้วยดิ....ดูให้หน่อยๆ.....โอเคขอบคุณพี่”



พี่เนย์อีกแล้ว ทำไมชื่อนี้ผ่านมาให้ได้ยินบ่อยขนาดนี้นะ....

















“คิง คิง ตื่นก่อน”



“......” ผมลืมตาช้าๆเพราะได้ยินเสียงเรียกจากพี่ควิน



“พี่บอกแล้วว่าง่วงก็ไปนอนไม่ต้องมาอยู่เป็นเพื่อนพี่หรอก ลุกไปนอนดีๆเร็วนอนแบบนี้เดี๋ยวปวดหลังปวดคอหรอก” สิ่งแรกที่เห็นคือหน้าของคนรักที่ปลุกผมอยู่ใกล้ นี่ผมเผลอนั่งหลับกับโต๊ะงั้นหรอ ตั้งแต่เมื่อไหร่



“.....ตอนนี้กี่ทุ่ม” ผมหรี่ตาถามเมือตื่นมาเจอกับแสงไฟที่ยังสว่างทั่วทั้งห้อง



“เที่ยงคืนกว่าน่ะ คิงหลับไปยังไม่ถึงชั่วโมงเลยแต่ยังไงก็ลุกไปนอนดีๆ”



“ยังไม่เสร็จอีกหรอ” กองชีทบนโต๊ะยังระเกะระกะอยู่เต็มไปหมดส่วนเจ้าของกองชีทนั่นก็ยังคงถือปากกาไว้ในมือ



“อืม เหลืออีกนิดหน่อย แปลเดียวเดี๋ยวก็เสร็จแล้วล่ะ คิงไปนอนรอพี่ในห้องก็ได้นะ”



“ไม่เอา”



“หึหึ ตาจะลืมไม่ขึ้นแล้วยังจะมาเถียงพี่อีก” แค่ได้ยินเสียงก็นึกออกเลยว่าคนพูดกำลังยิ้มแบบไหนอยู่ แต่ก็อย่างที่พี่ควินพูด ตอนนี้ผมง่วงจนจะลืมตาไม่ไหวอยู่แล้วแต่ก็ไม่อยากจะทิ้งพี่ควินไปแล้วไปนอนคนเดียวนี่



“จะรอ...เร็ว” ผมแนบหน้าลงกับโต๊ะแล้วพยายามลืมตาคุยกับพี่ควิน



“เฮ้อ บอกไม่ฟังจริงๆ” พี่ควินส่ายหน้าใส่แล้วขยับตัวหันมาทางนี้ ตบหน้าขาของตัวเองเบาๆแล้วเรียกผมไป “มานอนนี่มา” พอได้ยินแบบนั้นผมก็รีบขยับตัวไปใกล้ นอนคว่ำวางหัวลงบนตักของพี่ควินเหยียดขาออกส่วนมือก็โอบกอดเอวบางเอาไว้แล้วหลับลง



ผมนอนอยู่แบบนั้นอีกนานเท่าไหร่ไม่รู้ แต่ตลอดเวลาก็รู้สึกถึงสัมผัสอบอุ่นที่วนเวียนอยู่ที่ผม มือเรียวไกล่เกลี่ยเส้นผมของผมเล่นเหมือนกับจะกล่อมให้ผมหลับ รู้สึกตัวอีกทีก็ตอนที่ถูกปลุกให้ไปนอนในห้องด้วยกัน พอล้มตัวลงนอนบนเตียงได้ผมก็คว้าอีกคนเข้ามากอดให้สาแก่ใจ ได้ยินเสียงหัวเราะเบาๆตอนที่ผมซุกไซ้สูดดมความหอมจากซอกคอบาง ไม่รู้ไปไงมาไงแต่ว่าสุดท้ายในคืนนี้.....ผมกลายเป็นคนที่ถูกโอบกอดไว้ในอ้อมแขนอย่างอ่อนโยน...และสัมผัสสุดท้ายที่ได้รับในคืนนี้คือจุมพิตบางเบาแทนคำบอกฝันดีจากคนที่ผมรักหมดใจ.....พี่ควิน















มาแล้วจ้า ตอนนี้ไม่มีอะไรมากแต่ตอนหน้าก็ไม่แน่ 5555555555 ขอบคุณคอมเมนท์ของทุกคนที่ส่งมาน้า ตอนที่แล้วเมนท์ถล่มทลายจนตกใจ แต่เอิร์ทนั่งอ่านทุกตัวอักษรเลยน้าา รักทุกคนมากกกกกกกก 55555555

ปล.ไปพูดคุยกันใน #คิงควิน ในทวิตได้น้า รัก :กอด1:

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
Re: ...แค่คุณ... ตอนที่ 22 up [29/9/61]
«ตอบ #124 เมื่อ29-09-2018 20:00:23 »

 :katai2-1:

ออฟไลน์ Nung66669

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
Re: ...แค่คุณ... ตอนที่ 22 up [29/9/61]
«ตอบ #125 เมื่อ30-09-2018 06:11:01 »

 o12 เบื่ออิไวน์

คิงอ้อนพี่ได้น่ารักมาก

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
Re: ...แค่คุณ... ตอนที่ 22 up [29/9/61]
«ตอบ #126 เมื่อ30-09-2018 10:00:05 »

 :pig4: :pig4: :pig4:

จับคู่ให้อิไวน์ไปซะ เอาพี่เนย์หรือพี่ไวท์ก็ได้ มาม่าจะได้หมดไป

ออฟไลน์ miikii

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1719
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
Re: ...แค่คุณ... ตอนที่ 22 up [29/9/61]
«ตอบ #127 เมื่อ05-10-2018 16:36:51 »

พี่เนย์ก็เหมือนยังดูมีความหวังมั้ย

ออฟไลน์ Nung66669

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
Re: ...แค่คุณ... ตอนที่ 22 up [29/9/61]
«ตอบ #128 เมื่อ30-10-2018 20:16:09 »

คิงควินหายไปไหนคิดถึงแล้วกลับมาเถอะนะ :ling2:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด