ตอนที่ 15 TOR วันนี้เป็นวันเกิดของเด็กๆ กวินทร์เเละพวกเเม่บ้านเตรียมอาหารไว้เยอะเเยะมากมาย ส่วนเค้กก็สั่งเค้กสตรอว์เบอร์รี่จากร้านเบเกอรี่ ส่วนอาหารก็จะเป็นพวกของว่างเสียมากกว่า เช่นเต้าหู้อาเงะดาชิ อาหารญี่ปุ่นที่นำเอาเต้าหู้ไปชุบเเป้งทอดกรอบ ทอดในน้ำมันร้อนๆ ให้เหลืองเล็กน้อย เวลาทานก็ตักใส่ถ้วยเล็กๆ ราดน้ำซุปที่มีรสหวานอมเค็ม โรยหน้าด้วยคะสึโอะบุชิหรือปลาเเห้งนั่นเอง
อีกเมนูคือเนื้อห่อหน่อไม้ฝรั่ง เอาเนื้อเเผ่นบางไปพันรอบๆ หน่อไม้ฝรั่ง นำไปคลุก
เเป้งมันสำปะหลัง ทอดในน้ำมันเล็กน้อย พอเนื้อเริ่มสุก เทน้ำซอสเทอริยากิลงคลุก ปล่อยให้เนื้อซึมซับซอสเข้าไปซักพักก่อนจะตักขึ้น โรยงาขาวลงไปเล็กน้อย รสชาติอร่อยเด็ด เนื้อนุ่มๆ กับหน่อไม้ฝรั่งกรุบๆ เหมาะกับการทานเล่น นอกจากนี้ยังมีพาสต้าสลัดที่ปรุงรสกลางๆ ไว้ทานคู่กับพวกบาร์บีคิวที่มีทั้ง เนื้อ ไก่ หมู ของทะเลจำพวกกุ้งเเละปลา ราดด้วยน้ำซอสสองสามชนิดที่เขาทำเอาไว้ เด็กๆ เองก็สามารถทานได้ ส่วนของเเก้เลี่ยนก็มียำวุ้นเส้นเเละยำมะม่วงเข้ามาเสริม
งานนี้เด็กๆ ที่มาก็มีเเค่น้องพลอยเเละญาติเด็กตัวเล็กของเพื่อนเขาสองคน เมนูสำหรับพวกเด็กๆ มียากิโซบะใส่กุ้ง ที่กวินทร์หั่นผักให้เป็นชิ้นเล็กๆ ลงไปผัดด้วย ปรุงรสชาติให้หวานเล็กน้อย อีกเมนูก็คือมันหวานเเละเเครอทหั่นเป็นเเท่งๆ เหมือนเฟรนช์ฟราย คลุกกับน้ำมันมะกอก โรยเกลือพริกไทยเล็กน้อย ก่อนจะนำไปอบจนกรอบนอกนุ่มใน รสชาติหวานอยู่เเล้ว ไม่ต้องจิ้มอะไร เจ้าเเฝดชอบมาก
นอกจากนั้นก็มีของหวานเล็กๆ น้อยๆ เช่นวุ้นผลไม้ เเละไอศครีมที่เขาทำเอง โดยการนำเอากล้วยกับผลไม้ที่ชอบไปฟรีซจนเเข็ง จากนั้นก็ปั่นให้เนื้อเนียนละเอียด ไม่ต้องเติมน้ำตาลหรือครีม จะโรยด้วยช็อกโกแลตหรือน้ำผึ้งก็ได้ เป็นเมนูของหวานแคลอรี่ต่ำที่กำลังฮิตในบ้าน
******
เเขกมาถึงงานกันหมดเเล้ว เพื่อนกวินทร์ที่มาก็มีเเค่ณัชชาเเละจีรวรรณกับหลานชายสองคนของณัชชา เสียดายกวินทร์บอกเพื่อนๆ ช้าไปหน่อย คนอื่นเลยไม่ว่างกัน
นอกจากสองสาวก็มีคุณทิพกา เเพรพิไลเเละน้องพลอย คุณลุงของเจ้าเเฝดติดงาน มาไม่ได้
ส่วนญาติๆ เขาน่ะเหรอ? กวินทร์เเค่เชิญพอเป็นพิธี เเละไม่ได้บอกด้วยว่าคุณทิพกาจะมา เลยไม่มีใครโผล่หรือเเม้เเต่จะเเจ้งให้เขารู้ว่าจะไม่มา ยกเว้นสิรดา ลูกสาวคนเล็กของป้าสะใภ้ ที่โทรมาบอกว่าต้องไปติวกับเพื่อน กวินทร์ล่ะไม่อยากคิดเลยว่าถ้าเขาเรียนเเพทย์เหมือนหญิงสาวเขาจะทำอย่างไร?!
เด็กๆ กำลังวิ่งเล่นกัน โดยมีเพื่อนเขาคอยทำหน้าที่พี่เลี้ยง ส่วนเจ้าสัวเเละคุณพริ้งกำลังคุยกับคุณทิพกา
"ไม่ได้เจอน้องกวินทร์นาน เเปลงโฉมซะพี่จำไม่ได้เลยนะคะ" เเพรพิไลเเซวร่างโปร่งอย่างเป็นมิตร เธอรู้สึกถูกใจชายหนุ่มรุ่นน้องคนนี้ ยิ่งรู้ว่าเจ้าตัวรับเด็กมาเลี้ยงถึงสองคน เธอยิ่งชื่นชม เพราะคนเป็นเเม่ย่อมรู้ดีว่าเลี้ยงเด็กนั้นยากเเค่ไหน
"ฮ่าๆๆ ไว้ผมยาวเเล้วมันรกหูรกตาน่ะครับ เลยไปตัดออก"
"เข้าใจเลือกทรงมากค่ะ ถ้าน้องกวินทร์สนใจเข้าวงการบันเทิง บอกพี่ได้เลยนะคะ
หน้าอย่างงี้หายยากในบ้านเรา"
"ไม่เอาดีกว่าครับ เเค่เลี้ยงเด็กๆ ก็ไม่มีเวลาเเล้ว"
"ถ้าเปลี่ยนใจบอกพี่ เดี๋ยวจัดให้"
"ครับๆ" กวินทร์ตอบรับยิ้มๆ
"ป๊ะ หม่ำๆ" สองเเฝดวิ่งมาหาร่างโปร่ง สงสัยเล่นซนจนหิว ตัวป้อมๆ พยายามเเย่งกันปีนขึ้นตักเขา โดยมีพี่ชายวัยสี่กับสามขวบคอยดันก้น ดูน่ารักน่าเอ็นดูจนณัชชาต้องหยิบมือถือมาถ่าย
"เด็กๆ มาทานข้าวก่อนครับ"
หลานชายของณัชชาทานง่ายไม่อิดออด เเต่น้องพลอยนี่สิ พอเห็นผักใบเขียวเเซมอยู่ในยากิโซบะ เด็กน้อยก็ย่นจมูกใส่ทันที ส่วนเมนูอื่นๆ ก็ไม่ทาน คุณเเม่พยายามตะล่อม เเต่หนูน้อยก็ไม่ยอมท่าเดียว มีเเต่ร้องจะกินของหวาน
"น้องพลอยไม่ทานเหรอครับ? อร่อยน้าา" กวินทร์ชวนหนูน้อยที่กำลังกอดอกหน้าบึ้ง เพราะคุณเเม่ไม่ยอมให้ทานวุ้นผลไม้
"น้องพลอยมะฉอบปัก"
"ทำไมครับ?"
"ไม่ย่อย"
"เอ้า เเล้วน้องพลอยรู้ได้ไงว่าไม่อร่อย?"
กวินทร์ยิ้มอย่างรู้ทันเมื่อเห็นเด็กหญิงทำท่าคิดหนัก
"พี่กวินทร์ทำเองเลยนะครับ ถ้าน้องพลอยไม่ลองชิมพี่คงเสียใจ" กวินทร์พูดด้วยน้ำเสียงหงอยๆ เเละทำเนียนเเทนตัวเองว่าพี่ ปั้นหน้าเศร้า ทำเอาหัวใจดวงน้อยกระตุกเลยทีเดียว
"หม่ำ ย่อยๆ" น้องปรายเคี้ยวยากิโซบะจนเเก้มตุ่ย มือขวาถือส้อมที่ปะป๊าม้วนเส้นไว้ให้ มือซ้ายก็ถือเเท่งมันหวานอบ เเต่ก็ยังมีเวลามาพูดอีกน้อ
"เห็นไหมครับ น้องปรายยังบอกว่าอร่อยเลย" กวินทร์พูดพร้อมยื่นส้อมให้เด็กหญิง
ที่ค่อยๆ รับไปอย่างไม่เเน่ใจ
"อั้น น้องพลอยจาชิมนิ้ดดดนุง"
"ครับๆ นิ้ดดดดหนึ่งก็ได้"
จากนิดหนึ่งก็เพิ่มเป็นอีกนิดหน่อย ทีละคำๆ จนน้องพลอยเริ่มทานอย่างเอร็ดอร่อยไม่น้อยหน้าเจ้าเเฝด ไม่เกี่ยงเเม้กระทั้งผักสีเขียวชิ้นเล็กในยากิโซบะ ทำเอาคุณเเม่เเละคุณยายปลื้มยิ่งนัก
"ปกติน้องพลอยไม่ทานผักเลย ใครกล่อมก็ไม่ฟัง" เเพรพิไลกล่าว
"เด็กๆ ก็อย่างงี้เเหละครับ พอเห็นเด็กรุ่นเดียวกันทาน ก็อยากลองดูบ้าง"
"ถ้ากลับบ้านไปไม่ยอมทานเหมือนอยู่นี่ สงสัยพี่ต้องโทรตามกวินทร์กับน้องปลื้มน้องปรายเเน่ๆ เลย"
"ได้เลยครับ" กวินทร์ตอบรับขำๆ
ทานอาหารเสร็จ พวกผู้ใหญ่ก็จับเด็กๆ ไปล้างไม้ล้างมือ เพราะปล่อยให้ทานเองตามสไตล์เจ้าบ้าน หลังจากนั้นก็ถึงเวลาร้องเพลงแฮปปีเบิร์ดเดย์โดยมีเสียงเพี้ยนๆ ของเด็กๆ ทั้งสามคอยเสริม
"เเอพปี้บ้าดดดดเท
เเอพปี้บาดเททท
เเอพปี้บ้าดเท ทูจูววว"
ครับ เอาที่สบายใจเลยหนูๆ นอกจากนี้ยังมีการส่งเสริมความเพี้ยนด้วยเสียงปรบมือที่ไม่เข้าจังหวะเอาเสียเลยของเจ้าเเฝด เดี๋ยวช้า เดี๋ยวรัว ตามอารมณ์ล้วนๆ
กวินทร์เอาเทียนมาปักคัพเค้กสองก้อน ให้เจ้าเเฝดคนละก้อน "เอาล่ะ เจ้าเเฝดมาเป่าเค้กมา"
สองเเฝดไม่เข้าใจ มีเเต่เอื้อมมือป้อมๆ หมายจะคว้าเอาเค้กสีสวย
"ไม่จับครับ เป่าปู้ดๆ"
"ปู้ดๆ" น้องพลอยทำปากจู๋ช่วยอธิบาย
เจ้าเเฝดทำหน้างงๆ เเต่พอเห็นท่า"ปู้ดๆ"ของน้องพลอยก็หัวเราะคิกคักเเละพยายามเรียนเเบบ
"ปู้ๆๆ" น่ารักน่าชังจนสาวๆ หยิบกล้องขึ้นมาถ่ายคลิป
น้องปลื้มกับน้องปรายเป่าปู้ๆ อยู่หลายครั้ง เเต่นอกจากจะไม่มีลมซักเเอะเเล้ว ยังมีเเต่น้ำลายหยดติ๋งๆ ถึงกระนั้นเจ้าเเฝดก็ยังไม่ย่อท้อ สีหน้าจริงจังเเถมยืดตัวจนจะตกเก้าอี้อยู่รอมร่อ
เเต่จนเเล้วจนรอดเทียนก็ไม่มีทีท่าว่าจะดับ ทำเอาสองเเฝดเริ่มเเสดงอาการฮึดฮัดขัดอกขัดใจ
"เอ้าๆ ไหนลองใช้หลอดเป่าสิครับ" กวินทร์ปิ๊งไอเดีย
ปู๊ดเดียวดับ หนูน้อยดีอกดีใจ ปรบมือเเปะๆ เงยหน้ายิ้มเเฉ่งให้ร่างโปร่ง ปะป๊ะหนูฉลาดที่สุดเล้ย
ทานเค้กเเละปล่อยให้เด็กๆ เล่นกันนิดหน่อยเเขกก็ลากลับบ้าน เพราะถึงเวลางีบของพวกหนูๆ เขาล่ะ กวินทร์เเลกเฟซบุ๊คเเละไลน์กับเเพรพิไลเสร็จสรรพ เอาไว้เม้าท์กันเรื่องลูกลิง ส่วนเจ้าเเฝดพอทุกคนกลับได้ไม่นานก็สลบนอนกองก้นตุ้บป่องสบายกว่าใคร นอนช่วงเย็นๆ อย่างนี้ สามทุ่มคงไม่ยอมนอนเเน่ๆ เลย เเค่คิดกวินทร์ก็เหนื่อยเเล้ว!
******
ตอนนี้เวลาจะสามทุ่มเเล้ว เเต่เจ้าเเฝดยังไม่นอน เเถมคึกคักสุดๆ วันนี้ได้ของเล่นใหม่เยอะ เห่อยิ่งกว่าอะไรดี กวินทร์บอกทุกคนให้ซื้อของเหมือนกันสองชิ้น เพราะถ้าได้คนละเเบบเดี๋ยวเเย่งกันเล่น
ในขณะที่กวินทร์กำลังปล่อยให้เจ้าเเฝดวิ่งเล่นเจี๊ยวจ๊าวกันที่ห้องโถน เสียงริงโทนเพลงประจำตัวของ ดาร์ธ เวเดอร์ ก็ดังขึ้น เท่ระเบิด เวลาดังข้างนอกรู้สึกไม่อยากรับเลย อยากปล่อยให้มันดังไปเรื่อยๆ
"ฮัลโละ- น้องปลื้มอย่าเคาะโต๊ะ คุณทวดกำลังหลับ" พูดฮัลโหลยังไม่ทันจบคำ เเฝดเบอร์หนึ่งก็สร้างเรื่องเเล้ว
"ยังไม่นอนเหรอ?"
กวินทร์ขมวดคิ้วเล็กน้อย เขาจำเสียงได้ เเต่ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะโทรมา เลยมองหน้าจอเพื่อความชัวร์เเละปรากฏชื่อภูผาตามคาด
"เอ่อ สวัสดีครับคุณภูผา เจ้าเเฝดยังไม่นอนเลย วันนี้คึกมาก"
"ฉันอยู่หน้าบ้าน"
กวินทร์ชะโมงหน้าไปมองประตูรั้ว มีรถคันหรูของภูผาจอดเทียบประตูเหล็กอยู่ โชคดีประตูเป็นเเบบอัตโนมัติที่สามารถใช้รีโมทเปิดได้จากในบ้าน ไม่งั้นคงเเย่ เพราะพวกเเม่บ้านพ่อบ้านเข้าไปพักผ่อนที่เรือนเล็กหมดเเล้ว จะเรียกให้มาเปิดประตูก็กระไรอยู่ ดูเหมือนภูผาเเละพยัฆค์กำลังเเบกกล่องอะไรซักอย่างมาด้วย
"น้องปลื้มน้องปราย ดูซิ ใครมาเอ่ย"
เจ้าหนูเงยหน้าขึ้น พอเห็นภูผาก้าวเท้าเข้ามา เด็กๆ ก็ร้องกรี๊ดกร๊าด เเล้วโยนของเล่นในมือทิ้งอย่างไม่ใยดี ก่อนจะวิ่งตุตะไปหา
"จุนยุง อุมๆ" เเหนะ อะไรจะอยากให้อุ้มขนาดนั้น กวินทร์คิดในใจ
"เจ้าเเฝด สวัสดีคุณลุงก่อนเร็ว" กวินทร์ทำท่ายกมือไหว้ให้ดู ซึ่งหนูq ก็ทำตามอย่างเเข็งขัน ก้มหัวจนเเทบจะติดพื้น มีสัมมาคารวะมากครับลูก
ไหว้เสร็จก็ไม่รีรอ รีบวิ่งไปหาคุณลุงทันที ส่วนภูผาก็วางกล่องลงเเละอ้าเเขนรับ เจ้าหนูหัวเราะคิกคักชอบอกชอบใจ เเถมหอมเเก้มร่างสูงฟอดใหญ่
เจอกันเเค่ครั้งเดียว เเต่ทำอย่างกับคุณลุงเป็นพ่ออีกคน ชริ "ฉันเอาของขวัญมาให้เด็กๆ" ภูผาบอก ส่วนเจ้าเเฝดก็โม้ใหญ่ ส่งเสียงพูดคุยภาษา
เอเลี่ยนปนมนุษย์ใส่คุณลุงของพวกเขา
"เย่นๆ" น้องปลื้มพูดกับภูผาเเละชี้ไม้ชี้มือไปยังกองของเล่นใหม่
"ของขวัญใหม่เหรอ?"
เเฝดเบอร์หนึ่งพยักหน้าหงึกๆ เบอร์สองส่ายหน้าดิ้กๆ ตกลงยังไงกันเเน่ครับเจ้าเเฝด? ร่างสูงหัวเราะหึหึ ก่อนจะวางเด็กๆ ลงพื้น พอเท้าเเตะพื้นปุ๊บสองเเสบก็เดินไปดูกล่องปริศนาปั๊บ จับๆ เเตะๆ เเล้วชี้ให้ปะป๊าดู "ปะๆ"
"เดี๋ยวฉันกับเสือจะประกอบให้ นายอยากวางตรงไหน?"
"มุมนี้ก็ได้ครับ" เอาไว้ห้องโถงดีที่สุดเเล้ว ขืนยกขึ้นห้องนอนมีหวังไม่ยอมนอนเเน่ ของที่ภูผาซื้อมาเป็นรั้วกั้นเด็กขนาดย่อมๆ ส่วนอีกกล่องมีลูกบอลเล็กๆ เท่ากำปั้นเจ้าเเฝดหลายร้อยลูก จากในรูปเหมือนจะเอาบอลใส่ในคอกเเล้วให้เด็กๆ เข้าไปเล่น ดูเเล้วราคาน่าจะหลายพัน
"เพิ่งเลิกงานเหรอครับ?" กวินทร์หาเรื่องคุย
"อืม"
ภูผาเเละพยัคฆ์กำลังช่วยกันประกอบรั้วกั้น โดยมีหมูสองตัวคอยช่วยหยิบนั้นหยิบนี้ ไม่รู้จะเรียกว่าช่วยงานหรือช่วยป่วนดี
"เเล้วทานข้าวเย็นกันหรึยังครับ?"
"ฉันกะว่าจะเเวะทานที่บ้าน"
กวินทร์พยักหน้าหงึกๆ "ช่วยดูเจ้าเเฝดซักสิบนาทีหน่อยนะครับ เดี๋ยวผมมา"
"อืม"
กวินทร์กลับมาพร้อมถาดที่มีจานข้าวราดเเกงเขียวหวานเนื้อ ทอดมันปลา กับแกงจืดฟักมะนาวดองคนละถ้วย เป็นเมนูเเกงจืดที่หาทานได้ยาก รสชาติกลมกล่อม เปรี้ยวนิดๆ ทำไม่ยากเเต่อย่าให้ลูกมะนาวเเตกเชียว ไม่งั้นเเกงจืดจะกลายเป็นเเกงขม คุณปู่คุณย่าทานไปเยอะเลย เจ้าเเฝดเองก็ชอบ
พอกวินทร์กลับมารั้วกั้นก็เสร็จพอดี เเกะกล่องเอาลูกบอลเทใส่ทำเอาเจ้าเเฝดตาวาววับ ส่งเสียง ว้าวๆ ไม่ขาดปาก
"เสร็จเเล้วก็มาทานข้าวกันก่อนครับ"
"ไม่เป็นไร พวกฉันไม่อยากรบกวน"
"เเต่กวินทร์ยกออกมาเเล้ว คุณภูผาจะให้ยกกลับเหรอ?" กวินทร์ย้อน เขาเเอบเห็นพยัคฆ์มองจานข้าวตาละห้อยตอนร่างสูงปฏิเสธ
"มาครับ เชิญๆ คุณเสือ" ตัดบทง่ายๆ
ในขณะที่สองหนุ่มทานข้าว เจ้าเเฝดก็สนุกอยู่กับคอกลูกบอล ดำผุดดำว่ายเหมือนกำลังเล่นน้ำ โดยมีกวินทร์ทำตัวเป็นฉลามจากนอกรั้ว พอปะป๊ายื่นมือเข้ามา เจ้าหนูก็ส่งเสียงกรี๊ดกร๊าดอย่างสนุกสนาน
ภูผามุมปากกระตุกกับภาพตรงหน้า ลูกน้องคนสนิทยิ้มอย่างรู้ทัน เเต่ชะงักกึกเมื่อเจ้านายส่งสายตาพิฆาตมาให้ พยัคฆ์เลยก้มหน้าก้มตาทานข้าวกลบเกลื่อน
เเหม เขินก็บอกเถอะครับบอส "น้องปลื้มน้องปราย คุณลุงจะกลับเเล้วมาบ๊ายบายเร็ว" กวินทร์บอกเจ้าเเฝดที่กำลังเล่นกันอย่างไม่เเคร์ใคร เเต่พอได้ยินปะป๊าเรียกก็พยายามตะเกียกตะกายปีนรั้วออกมา หลังจากนั้นก็ไปพันเเข้งพันขาออดอ้อนให้คุณลุงอุ้ม "ยุงๆ อุม" ส่วนคุณลุงเองก็ไม่อิดออด
เเต่วันนี้มีของเล่นใหม่ หอมเเก้มคุณลุงเเละไหว้ขอบคุณตามที่ปะป๊าทำให้ดูเจ้าเเฝดก็ดิ้นอยากลงไปเล่นลูกบอลต่อ
"นายเองก็ชอบไปร้าน Bresso ด้วยเหรอ?" ภูผาถามเมื่อเหลือบไปเห็นเเก้วน้ำปั่นที่มีโลโก้ร้านคู่เเข่งเพื่อนเขาวางอยู่ขอบหน้าต่าง
"เพื่อนลากไปทำรายงานที่นั้นบ่อยๆ น่ะครับ ทำไมเหรอ?"
"ร้านคู่เเข่งเพื่อนฉันเอง ร้าน Coffee Room"
"อ๋อ ร้านที่ดูหรูๆ ใช่ไหมครับ?"
"อืม"
"ดูร้านเงียบๆ นะ ผมว่าถ้าเพื่อนคุณภุูผาอยากได้ลูกค้าพวกนักศึกษาควรมีเมนู ของหวานเเละเครื่องดื่มราคาเบาๆ เพิ่ม ผมเคยไปครั้งเดียว เเพงยิ่งกว่าสตาร์บัคอีก ผมเข้าใจนะว่าของเกรดดี เเต่ถ้าเพิ่มพวกเมนูเกรดธรรมดาลงไปซักสองสามอย่าง เเล้วจ้างเน็ตไอดอลคนดังจากมหาลัยฯใกล้ๆ ให้ช่วยโปรโมทเนียนๆ ผ่านโซเชียล ผมว่าน่าจะได้ลูกค้าเพิ่มหลายประเภทนะครับ" กวินทร์พูดยาวเหยียด
"อืม ถูกของนาย ไอ้กันเเค่ลงทุน เเต่ไม่ได้บริหารเอง เดี๋ยวฉันจะเอาไอเดียนายไป
เสนอเเล้วกัน"
"ผมเเค่ออกความคิดเห็นส่งๆ ไม่ต้องใส่ใจก็ได้ครับ ฮ่าๆ"
"เเต่ที่นายเสนอมาก็ถือว่าใช้ได้"
"ขอบคุณครับ เเต่ไม่เเน่นะ อยู่ดีๆ คู่เเข่งเพื่อนคุณภูผาอาจเจ๊งไปเองก็ได้ฮ่าๆ" กวินทร์พูดทีเล่นทีจริง เเล้วยิ้มอย่างอารมณ์ดีเเต่ภูผากลับรู้สึกว่าเหมือนมีอะไรบางอย่างภายใต้รอยยิ้มซื่อๆ นั้น
"เห็นว่ามีหลายสาขาเเละกำลังขยายเพิ่ม" มีหลายสาขา หมายความว่ากำลังไปได้ดีเเละมั่นใจว่าจะอยู่อีกนานเจ้าของกิจการจึงกล้าขยาย
"นั่นสินะ..." กวินทร์ไม่ขยายความ ส่วนอีกฝ่ายก็ไม่ถามอะไร
"ขอบคุณนะครับที่อุตส่าห์เเวะมา เเล้วยังซื้อของขวัญให้เจ้าเเฝดด้วย"
"ฉันยินดี" ร่างสูงตอบนิ่งๆ ตามสไตล์
"กลับดีๆ นะครับ" กวินทร์ยกมือไหว้คนตรงหน้าเเละรวมไปถึงพยัคฆ์ นอกจากคนสนิทเเละครอบครัวก็ไม่มีคนอายุน้อยที่ยกมือไหว้รวมไปยังลูกน้องเขา เป็นสิ่งที่ทำให้ภูผาเเปลกใจเเละรู้สึกชอบการกระทำของร่างโปร่งไม่น้อย
******
ภายในห้องสวีทของโรงเเรมหรู สองร่างของชายหญิงกำลังกอดก่ายเเละปลดเสื้อผ้ากันอย่างเร่าร้อน เเต่ทว่าเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นขัดวังหวะเสียก่อน วิเชียรผละฝ่ายหญิงออกเเล้วเอื้อมมือไปรับโทรศัพท์ เเต่ฝ่ายหญิงกลับดึงเเขนเขาไว้
"ไม่ต้องรับหรอกค่ะเชน เรามาต่อกันดีกว่า" หญิงสาวยิ้มอย่างเชิญชวนเเละลูบอกเเกร่งของฝ่ายชาย
"ปล่อย" วิเชียรสะบัดเเขนอย่างเเรงจนไปโดนหน้าคู่ขา "ว๊าย" เเต่เขากลับไม่เเคร์
เธอมองเขาอย่างหัวเสียก่อนจะลุกหนี
"ฮัลโหล"
"สวัสดีนาย วิเชียร ภูสิทธ์อุดม" ชายหนุ่มขมวดคิ้วเพราะไม่คุ้นกับเสียงของผู้หญิงในสาย เเต่...น้ำเสียงโมโนโทนเเปลกๆ เหมือนไม่ใช่คน คล้ายเสียงโปรแกรมอัตโนมัติของ Google translate ที่สามารถอ่านข้อความได้
"คุณเป็นใคร?"
"ฉันเป็นใครไม่สำคัญ เรามาคุยเรื่องของคุณดีกว่า" น้ำเสียงโมโนโทน การออกเสียงเเปลกๆ วิเชียรมั่นใจเเล้วว่าไม่ใช่เสียงคนพูดเเน่นอน
"เรื่องอะไร?"
"ก็เรื่องร้านกาเเฟที่เปิดบังหน้าการเผยเเพร่สื่อลามกอนาจารเเละค้าประเวณีเด็กไงจ๊ะ" คำพูดกวนบาทา เเต่น้ำเสียงกลับไร้ชีวิต ทว่าฟังเเล้วชวนหงุดหงิดยิ่งนัก
"มึง!" วิเชียรคำรามใส่มือถือ
"คุณเป็นเจ้าของเว็บไซต์ JUST KIDDING... เข้าใจตั้งชื่อนะ" Just kidding เเปลว่า เเค่ล้อเล่น เเต่คำว่า kid เฉยๆ เเปลว่า เด็ก...
"คุณใช้ TOR network เพื่ออำพรางเซิร์ฟเวอร์ เเละก็ซ่อนได้ดีเลยล่ะ แต่ซ่อนฉันไม่ได้" เสียงที่เปร่งออกมาเป็นเสียงผู้หญิง เเต่คนเบื้องหลังจริงๆ กลับเป็นชายหนุ่มนัยน์ตาสีฟ้า ผู้ซึ่งกำลังป้อนข้อความให้โปรแกรมอ่าน เสียงนิ้วกระทบคีย์บอร์ดดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง สื่อให้รู้ว่าเจ้าตัวมาสามารถพิมพ์ได้เร็วขนาดไหน
"เเต่เส้นทางหัวหอมโปรโตคอลมันไม่ได้ลับหูลับตาอย่างที่คุณคิดหรอกนะ เพราะว่าคนที่ควบคุมทางออก ก็จะควบคุมเส้นทางข้อมูลได้เช่นกัน เเละนั่น หมายความว่าฉันเป็นคนควบคุมทั้งหมด"
ใช่เเล้ว TOR หรือ the onion routing เป็นเครื่องมือในการอำพรางตัวเวลาท่องอินเทอร์เน็ต เพื่อไม่ให้ใครรู้ว่าคุณเป็นใครหรือเชื่อมต่อจากที่ไหนธรรมดาเเล้วเวลาคนทั่วไปเล่นอินเทอร์เน็ตข้อมูลจะถูกส่งผ่านเซิร์ฟเวอร์เดี่ยวที่ไม่มีการป้องกัน เเต่เส้นทางหัวหอมโปรโตคอลหรือ the onion routing protocol จะใช้จุดเชื่อมต่อหลายๆจุด เเละทุกๆ จุดจะมีการ encrypt หรือเข้ารหัสข้อมูล เเละจะถูกเปิดก็ต่อเมื่อถึงผู้รับข้อมูลปลายทางเเล้ว
"ไอ้เหี้ย! มึงเป็นใคร?!" วิเชียรตะโกนอย่างความคุมอารมณ์ไม่อยู่เมื่อรู้ว่าอีกฝ่ายไม่ใช่คนธรรม เเถมน้ำเสียงโมโนโทนของโปรเเกรมก็ไม่ต่างจากน้ำมันเชื้อเพลิงที่สาดใส่ให้อารมณ์เขาลุกโชน
"ฉันมีข้อมูลทุกอย่างของคุณ อีเมล์ ไฟล์ รูป"
"ไอ้สัตว์ มึงเเฮกกู! กูจะเเจ้งจำตรวจจับมึงเเล้วฆ่ามึงทิ้งซะ"
"ตำรวจงั้นเหรอ คุณอยากให้ตำรวจรู้เรื่อง สื่อลามกตั้ง100TBเเละการค้าประเวณีเด็กอายุไม่ถึงสิบห้าปีของคุณน่ะเหรอ? ได้ข่าวว่ามีเด็กที่ขโมยจากนักท่องเที่ยวชาวยุโรปมาหลายรายเลยหนิ ถ้าโดนจับ คุณจะไม่มีทางสามารถใช้เงินซื้อตั๋วออกจากซังเตได้อย่างเเน่นอน"
เพราะคดีจะโดนจับตามองจากประเทศอื่นๆ ถ้าตำรวจรับเงินใต้โต๊ะเเล้วปล่อยให้วิเชียรหนีไป มันจะกลายเป็นเรื่องใหญ่ระดับประเทศทันที
"มึงกำลังเเบล็กเมล์กู? มึงต้องการเงินปิดปากใช่ไหม? กูไม่ให้! ถ้ากูยอมจ่ายตอนนี้ เดี๋ยวมึงก็จะเอาอีกหลายๆ ครั้ง อย่าลืมว่ามึงเองก็ทำผิดกฎหมายนะไอ้สัตว์" วิเชียรพูดด้วยน้ำเสียงดุดันและเกรี้ยวกราด
"ก็เเค่ส่วนหนึ่ง ห้าพันห้าร้อยห้าสิ-"
อ่าว ส้นตีน!!! มือสวยกดลบเเทบไม่ทันเมื่อโปรแกรมไม่อ่าน 5555 ให้เป็น ห้าห้าห้าห้า ตามที่เขาต้องการ
"ปกติเเล้วนะ ฉันจะไม่โทรหาคนร้ายอย่างนี้หรอก เเต่มันมีโอกาสที่คุณจะหลบหนีหรือบอกผู้ดูแลระบบให้รื้อเซิร์ฟเวอร์ของคุณ เเล้วลบข้อมูลทุกอย่างทิ้ง ฉันก็เลยใส่เวลาเเละสถานที่ของตอนนี้ลงในข้อมูลที่ส่งให้ตำรวจ"
พอพิมพ์จบ ตาคมก็มองไปยังหน้าจอคอมฯอีกเครื่องที่มีวีดีโอกล้องวงจรปิดของโรงเเรมที่เหยื่อเขาพักอยู่ ตำรวจไม่ต่ำกว่าสิบนายได้เคลื่อนไหวมาใกล้ห้อง 710 เเล้ว
"ดะ...เดี๋ยวๆ อย่างเพิ่งวาง คะ...คุณต้องการเงินเท่าไหร่? ผมยอมจ่ายให้หมด" วิเชียรอ้อนวอนอย่างละล่ำละลักเมื่อรู้ว่าตัวเองได้ถูกต้อนให้จนตรอกเเล้ว
ตอนนี้ตำรวจมาหยุดอยู่ที่หน้าประตูเเล้ว มือเรียวพิมพ์ข้อความสุดท้ายเเล้วกด Enter ก่อนจะตัดสายทิ้ง
"นั่นคือส่วนที่คุณคิดผิด เงินไม่ใช่ประเด็น"
ตู๊ด ตู๊ด ตู๊ด
"ฮัลโหลๆ!!!!" วิเชียรตะโกนใส่โทรศัพท์อย่างบ้าคลั่ง
ปั้ง! เสียงประตูที่ถูกเปิดดังขึ้นอย่างเเรง เเละนายตำรวจหลายสิบนายก็กรูเข้ามารายรอบเตียงพร้อมเล็งปืนไปทางวิเชียรทุกนาย
******
ภารกิจเสร็จสิ้น มือเรียวพับจอโน๊ตบุ๊คลง เรื่องนี้เป็นคดีข้ามประเทศเพราะมีเด็กต่างชาติที่ถูกขโมยมาขายตัว คงไม่มีนักการเมืองตำรวจยศสูงนายไหนโง่พอที่จะเล่นไม่ซื่อให้เขาเเบล็กเมล์หรอกนะ
เสี่ยวิชัยรักลูกทุกคน เเต่รักตัวเองมากกว่า ดังนั้นเรื่องนี้ เสี่ยวิชัยคงไม่กล้าสู้อย่างเเน่นอน ปากอิ่มคลี่ยิ้ม
เเต่อีกไม่นานหรอก เดี๋ยวเสี่ยก็ได้ไปนอนในซังเตกับลูกชายเเน่นอน ถ้าไม่โดนศัตรูคนไหนฆ่าตายก่อนนะ... ขอบคุณสำหรับทุกๆ คอมเม้นค่า
ตอนนี้ inspired มาจาก mr robot เลย
ไม่รู้มีใครดูไหม