▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂14/3/18 ตอนที่ 20 อยากได้หลาน ต้องขอปู่
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ▂▃▄The Hacker : ก็เเค่คนธรรมดา...?▄▃▂14/3/18 ตอนที่ 20 อยากได้หลาน ต้องขอปู่  (อ่าน 55768 ครั้ง)

ออฟไลน์ larynx

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 821
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-1
ร่างนี้คือมีความแม่ศรีเรือนมากเว่อ 55555555

ออฟไลน์ winndy

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1129
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-3
ชอบค่ะ สนุกดี

ออฟไลน์ zeroj

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 565
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดด     :mew1:

คนเขียนมาลงที่เล้าด้วยยยยยยยยย  โอ้ย  ดีใจมากกกกกก

คือเราติดตามในเด็กดีอยู่แล้วไง คริคริ   

ลงที่ไหนเราก็ตามติดแน่นหนึบ  เพราะเราเป็นแฟนคลับเจ้าแฝด  นุ้งปลายนุ้งปลื้ม

ออฟไลน์ Civillian

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 25
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-0
ตอนที่ 10 งานคุณย่า 2


     การออกงานเป็นอะไรที่น่าเบื่อหน่ายมากสำหรับกวินทร์ เพราะเวลาเเขกคนไหนมาทักทายคุณย่าเเละเจ้าสัว กวินทร์ก็ต้องปั้นหน้ายิ้มพร้อมยกมือไหว้สวัสดีจนปวดเเขนปวดเเก้มไปหมด ยิ่งผู้คนที่เคยเจอเขาเเละได้รู้ว่ากวินทร์ความจำเสื่อม เเถมเปลี่ยนไปอย่างกับคนละคน ไม่ว่าจะการวางตัวหรือทรงผม ยิ่งทำให้เขาได้รับความสนอกสนใจเพิ่มมากขึ้นเป็นพิเศษ จนสองสาวที่นั่งอยู่ด้วยเเอบส่งสายตาไม่พอใจให้กวินทร์เป็น
ระยะๆ ที่บังอาจมาเเย่งความสนใจไปจากพวกเธอ

     พักหายใจได้ไม่นาน เเสงไฟบนเวทีย่อมๆ ก็ถูกเปิดให้สว่างจ้า ตามด้วยเสียงของ
กานติมาดังขึ้น "สวัสดีค่ะเเขกผู้มีเกียรติทุกท่าน ขอบคุณนะคะที่มางานวันเกิดของคุณย่าวันนี้ กิ่งกับน้องๆ เตรียมเซอร์ไพรส์เล็กๆ ให้คุณย่าด้วย หวังว่าจะชอบกันนะคะ"

     กวินทร์หันขึ้นไปมองตามเสียงบนเวที ที่มีนริศราเเละกานติมานั่งอยู่บนเก้าอี้ทรงกลมตัวสูง ด้านหน้าทั้งคู่มีไมค์อยู่คนละอัน ขนาบข้างด้วยสิรดาน้องสาวคนเล็ก เเละเตวิช ลูกชายคนเล็กของอาเขา คุณเกรียงวุฒิ ที่ไม่ได้มางานเพราะติดธุระกระทันหันที่อเมริกากับธนิน ลูกชายคนโต งานนี้เลยมาเเค่เตวิชกับอาสะใภ้ คุณหญิงปิ่นสุวรรณ
     ทั้งคู่ทักทายเขาอย่างผิวเผิน ดูท่าทางเเล้วไม่น่าจะสนิทหรือมีเรื่องบาดหมางกัน เเละไม่คอยมาหาเรื่องตนเหมือนครอบครัวฝ่ายลุง เเต่เขาก็ไม่เเปลกใจ เพราะเท่าที่ป้าอรเล่ามา ครอบครัวคุณปิ่นสุวรรณค่อนข้างมีหน้ามีตาทางสังคมก่อนจะเเต่งงานกับคุณ
เกรียงวุฒิ ต่างจากคุณเอมอรที่มาจากครอบครัวธรรมดา จึงไม่เเปลกที่จะพยายามตะเกียกตะกายให้ตัวเองดูไฮโซเเละไม่ชอบที่กวินทร์ถือหุ้นเยอะกว่าหลานคนอื่นๆ
 
     เตวิชเป็นเด็กมัธยมห้า หน้าตาตี๋ๆ ตัวสูงโย่ง สีหน้าเหมือนกำลังเบื่อหน่ายตลอดเวลา อิมเมจเเบดบอยดีๆ นี่เอง กวินทร์คุ้นเคยกับเด็กวัยรุ่นพวกนี้ดี รวย เด่น คิดว่าตัวเองเก๋า เเต่จริงๆ ทำอะไรเองไม่ค่อยเป็นซักอย่าง วันไหนพ่อเเม่ล้มละลายคงรู้สึก เเต่จะโทษเเค่เด็กก็ไม่ได้ เพราะพ่อเเม่เองก็มีส่วนทำให้ลูกเติบโตมาเป็นเเบบนี้ ไม่มากก็น้อย


******


     กลับมาบนเวที ตอนนี้ทุกคนคงเดาออกว่าเเล้วว่าเซอร์ไพรส์ที่กานติมากล่าวคืออะไร เตวิชเป็นมือกีต้าร์ สิรดาเล่นเปียนโน ส่วนนริศรากับกานติมาก็คงมีหน้าที่ร้องนำ ดนตรีเริ่มบรรเลงเป็นเสียงเปียนโนที่ถูกคลอเคลียไปด้วยเสียงกีต้าร์ ท่วงทำนอง
อะคูสติกสบายๆ ฝีมือถือว่าดีมาก 

    บทความที่ฉันได้เขียน
     มาจากบทเรียนที่เธอเคยเรียน
     วาจาที่ฉันเอ่ยไป มาจากอารมณ์ที่เธอผ่านเจอ

     เสียงของนริศราไม่ถือว่าเเย่ บวกกับหน้าตาพิมพ์นิยม ถ้าอัดคลิปลงโซเชียลก็คงเป็นเน็ตไอดอลกับเขาได้ไม่ยาก ไม่ว่าจะยุคสมัยไหน สำหรับคนทั่วไปเเค่หน้าตาดีก็ได้ใจไปกว่าครึ่งเเล้ว

     เนื้อเสียงเล็กติดเเหลม ซึ่งอาจจะถูกจริตของใครบางคน เเต่สำหรับกวินทร์มันเป็นเสียงที่ค่อนข้างฟังเเล้วน่ารำคาญ เเต่ก็ถือว่าร้องดีกว่าพี่สาวเธอ รายนั้นดัดเสียงขึ้นจมูกจนเเทบจะฟังไม่รู้เรื่อง เเละยังร้องเพี้ยนหลายจุดอีกต่างหาก 

     ก่อนขึ้นเวทีนริศราได้ให้เพื่อนสาวถ่ายไลฟ์การเเสดงลงเฟสบุ๊คของตน ที่มีคนตามอยู่หลายหมื่น เนื่องจากเธอเป็นถึงดาวคณะเเละหลานสาวเจ้าสัวธารา สถานะที่เธอภูมิใจนักหนาเเละไม่กระดากที่จะตอกย้ำบ่อยๆ
 
     การเดินทางของฉันและเธอคือการเรียนรู้
     การเรียนรู้ของเราสองคนคือความเข้าใจ
     เธอเข้าใจและฉันเข้าใจก็ทำให้เรามั่นใจ ในความรัก...

     จบสักที! กวินทร์คิดในใจ ดีนะที่เสียงเปียนโนกับกีต้าร์ไม่เพี้ยนไปด้วย กวินทร์ฟังเพลงได้ทุกเเนว เเต่ถ้าเสียงเเหลมๆ เล็กๆ เขาจะไม่ค่อยชอบ

     พอเพลงจบ ทั้งสี่คนก็ลงจากเวทีเเล้วเดินมากราบตักคุณพริ้ง พร้อมเสียงปรบมือของแขกเหรื่อ ช่างเป็นภาพที่สวยงาม เเต่ทำไมกวินทร์รู้สึกตะหงิดๆ เเละมีลางสังหรณ์ไม่ค่อยดีนะ...


******


     สองสาวพี่น้องหันไปสบตากันก่อนจะเเสยะยิ้มอย่างมีลับลมคมใน จากนั้นนริศราก็เดินขึ้นไปบนเวทีอีกครั้ง

     "ขอบคุณสำหรับเสียบปรบมือของทุกท่านนะคะ เเต่... การเเสดงยังไม่จบลงเเค่นี้ค่ะ" นิรศราเว้นวรรค ก่อนจะหันหน้ามาทางกวินทร์เเล้วยิ้มหวานหยด ทำเอาร่างโปร่งเเทบอยากฟุบหน้าลงกับโต๊ะ   

     "ขอเสียง ปรบมือให้กวินทร์ด้วยค่ะ!"

    กูว่าล่ะ ร่างโปร่งคิดอย่างปลงตก

     เเละเมื่อเสียงปรบมือดังขึ้นอีกครั้ง ทำให้กวินทร์ต้องจำใจลุกขึ้นจากเก้าอี้ พยายามปั้นสีหน้าไม่ให้บูดเหมือนอารมณ์เขาในตอนนี้ พอเดินผ่านกับนริศรา หล่อนก็ไม่วายที่ยิ้มเยาะให้ร่างโปร่ง

     นริศราเเละกวินทร์อายุเท่ากัน เเต่หญิงสาวเกิดก่อนเขาไม่กี่เดือน ทั้งคู่เรียนที่เดียวกันมาตลอด เเละทุกครั้งที่ต้องพรีเซ้นต์งานต่อหน้าห้อง กวินทร์จะมีอาการประหม่า มือไม้สั่น เสียงสั่น จนบางครั้งถึงกับอ้วกออกมา นริศรารู้ข้อด้อยข้อนี้ของกวินทร์ดี เเละชอบงัดมันออกมาใช้ในการกลั่นเเกล้งเขาบ่อยๆ

     ครั้งนี้ก็คงไม่ต่างกัน ให้เขามาพูดจ่อหน้าคนเยอะๆ โดยที่ไม่ได้ตั้งตัวเลยเเม้เเต่น้อย นอกจากนั้น นริศรายังไม่ลืมให้เพื่อนไลฟ์การเเสดงของกวินทร์ลงเฟสบุ๊คเช่นเดียวกัน หึ ฉันบอกเเล้ว ว่าจะจัดให้เเกจนสมใจ ไอ้กวินทร์!

     คุณพริ้งมองตามร่างโปร่งด้วยความกังวล เธอรู้ดีว่ากวินทร์ไม่มีทางที่จะยอมตกลงไปเเสดงอะไรบนเวที เเละตัวการคงหนีไม่พ้นนริศรากับกานติมา เธอตวัดสายตาไปที่สองพี่น้องอย่างติติง

     กวินทร์ไม่ได้เดินตรงไปยังเวที เเต่กลับหมุนตัวไปอีกทาง ที่มีเตวิชนั่งกอดอกสีหน้าเบื่อหน่าย ข้างกายมีกีต้าร์พิงเก้าอี้ไว้ เตวิชค่อนข้างจะชินกับการคอยเเกล้งญาติผม
บลอนด์ของสองสาวพี่น้อง ดูๆ ไปก็ไม่ต่างจากลูกสาวเเละเเม่เลี้ยงของ
ซินเดอเรลล่าเลย เขาเองก็ใช่จะเป็นคนที่จะต้องคอยเข้าไปช่วยมันตลอด อย่างไงคนอ่อนเเอก็ไม่ต่างจากคนโง่ ที่ย่อมเป็นเหยื่อของคนฉลาด

     "ยืมหน่อย" เตวิชเเทบจะตกเก้าอี้เมื่อจู่ๆ กวินทร์ก็เดินดุ่มๆ มาหยุดตรงหน้าเขา เเถมหยิบเอากีต้าร์รุ่นลิมิเต็ดของตนไปอย่างไม่รอคำอนุญาต ดีที่เขาคว้ามือมันไว้ได้ทัน

     "ไม่ได้! กูไม่ให้ยืม!" เตวิชดึงเเขนร่างโปร่งมาใกล้ เเล้วกระซิบลอดไรฟัน เพราะผู้คนกำลังจับตามองมาทางเขาทั้งคู่

     "น้องตั้มครับ พี่กวินทร์ขอยืมแป๊บเดียว" กวินทร์ยิ้มหวานให้อีกฝ่าย ซึ่งมองยังไงก็ดูไม่จริงใจเอาซะเลย เเถมยังตั้งใจพูดเสียงดังให้คนอื่นได้ยิน ก็ไม่รู้สินะ ถ้าเตวิชไม่ให้เขายืม ในสายตานอก เด็กหนุ่มคงเหมือนใจร้ายใจดำน่าดู

     "ไอ้กวินทร์ นี่มันกีต้าร์รุ่นลิมิเต็ด!" เตวิชหันรีหันขวาพยายามกดเสียงข่มอารมณ์

     กวินทร์จิปาก ก่อนจะขยับหน้าเข้าไปใกล้เตวิช ที่สูงพอๆ กัน เเล้วกระซิบเบาๆ

     "มึงจะให้กูยืมดีๆ หรือจะให้กูสะดุดล้มเเล้วทำมันพัง!" คำพูดช่างต่างจากใบหน้าที่กำลังยิ้มระรื่นยิ่งนัก

     เตวิชนิ่งชะงัก มองใบหน้าร่างโปร่งอย่างอึ้งๆ ร้อยวันพันปีไม่เคยได้ยินมันพูดกูๆ มึงๆ เเถมยังกล้าขู่เขาอีก งงจนเผลอจนปล่อยข้อมือขาว เเต่โชคดีที่ยังทันขู่ทิ้งท้ายได้ก่อนอีกคนจะหมุนตัวหนี   

     "ถ้ากีต้าร์กูมีรอยเเม้เเต่นิดเดียวกูเอามึงตายเเน่"

     ปากอิ่มคลี่ยิ้ม หันกลับมาเเล้วเอื้อมมือไปหยิกเเก้มเตวิชอย่างไม่ออมเเรง "ขอบคุณครับน้องตั้ม" กล่าวขอบคุณเสียงหวาน เเต่ในใจตั้งฉายาให้ญาติรุ่นน้องเป็นที่เรียบร้อย ไอ้เด็กเปรต!

     ส่วนคนที่เพิ่งได้รับฉายาใหม่เอี่ยมทำได้เเค่เอามือกุมเเก้ม เเละมองตามอีกฝ่ายอย่างคาดโทษ


******


     ร่างโปร่งก้าวเดินไปยังคุณพริ้ง "คุณย่ามาเป็นนางเอกให้กวินทร์หน่อยครับ" ว่าเเล้วก็ควงเเขนประครองหญิงชราขึ้นไปนั่งเก้าอี้บนเวที คุณย่าก็ยอมขึ้นไปกับอีกฝ่าย
อย่างงงๆ

     "เอ่อ... สวัสดีครับทุกคน เมื่อกี้ทั้งสี่คนร้องเพลงให้คุณย่าไปเเล้ว ผมเลยจะมาร้องเพลงจีบคุณย่าบ้าง" กวินทร์กล่าวใส่ไมค์พร้อมด้วยรอยยิ้มเพรียวพราว น้ำเสียงขี้เล่น เรียกเสียงหัวเราะจากคนดูได้เยอะทีเดียว

     ใบหน้าคมไม่ได้เเสดงอาการประหม่าใดๆ เเต่ก่อนที่จะเริ่มดีดกีต้าร์ร่างโปร่งเหมือนเพิ่งคิดอะไรได้

     "อ้อ ปู่ไม่ต้องหึงนะ ฮ่าๆๆ" เสียงหัวเราะจากเเขกเหรื่อดังขึ้นอีกครั้ง ทำเอาเจ้าสัวคันไม้คันมืออยากลุกไปเขกหัวเจ้าตัวจริงๆ! เเต่ถึงอย่างนั้นก็อดยิ้มตามไม่ได้อยู่ดี

     กวินทร์เริ่มดีดกีต้าร์เบาๆ ทำนองตัวโน้ตเบสิคๆ มีเพี้ยนบ้างในบางช่วง เเต่ยังคงความละมุนเอาไว้ได้ คนที่รู้จักเขาเเปลกใจไปตามๆ กัน เพราะไม่เคยรู้เลยเจ้าตัวเล่นกีต้าร์เป็น

     เเล้วทุกคนต้องตกใจอีกครั้งเมื่อเขาเริ่มร้องเพลงลุกทุ่ง!

     ไม่ใช่พระเอกในหัวใจน้อง
     ไม่ใช่พระรองในห้องใจหล่อน
     ไม่ใช่ดาวร้ายในใจเจ้า
     จะว่างี่เง่าแง่งอน แต่รักบังอรจนล้นอุรา


     เนื้อเสียงนุ่มกับลูกเอื้อนออดอ้อนหวานเสนาะหู เเถมยังส่งรอยยิ้มพิมพ์ใจให้คุณย่าที่นั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่ข้างๆ

     เเสงไฟสปอตไลท์ที่สาดส่องขับให้ผิวขาวดูเปร่งปรั่ง  ผมสีบลอนด์สะท้อนเเสงเป็นประกาย เป็นรูปที่สวยงานจนหนุ่มสาวที่มาร่วมงานหลายคนต้องถ่ายรูปเพื่อที่จะ
โพสลงเฟสบุ๊ค โดยเฉพราะภรันยู ตากล้องสมัครเล่นที่เคยเป็นถึงเดือนมหาวิทยาลัย
เเละชอบท่องเที่ยวถ่ายรูปสวยๆ อัพลงเพจตัวเอง โดยมีคนตามเป็นเเสน เพราะ
ตากล้องหล่อเเละรูปถ่ายสวยงามทุกรูป

    ขอเป็นพระแอบอยู่แนบใจสาว
     รู้ตัวว่าเฝ้า จนเศร้าลำเค็ญ
     พระเอกพระรองไม่ต้องฝันใฝ่
     ยังไงก็ไม่ได้เล่น ทำได้แค่เป็นพระแอบรักเธอ


     เพลงจบลงพร้อมเสียงปรบมือที่ค่อนข้างดังกว่าการเเสดงเเรกอย่างเห็นได้ชัด ร่างโปร่งหันไปยักคิ้วให้นริศราเเละกานติมาที่จ้องมองเขาอย่างจะกินเลือดกินเนื้อ ช่วยไม่ได้ พวกเธอคิดผิดเเล้วที่จะทำให้เขาขายหน้าด้วยวิธีอย่างงี้ 

     ตอนพ่อเเม่ยังมีชีวิต เขาชอบไปหัดเล่นกีต้าร์กับลูกชายลุงเทพเเต่หัดได้ไม่นานพ่อเเม่ก็ด่วนจากไปเสียก่อน เลยเล่นได้เเค่2-3เพลง เพราะยังไม่เก่งพอที่จะเเกะเพลงเอง
โชคดีที่เสียงกวินทร์ค่อนข้างนุ่มน่าฟัง การร้องเลยไม่เป็นปัญหา ถ้าเกิดกวินทร์เสียงเเย่ เขาก็สามารถพลิกสถานการณ์ให้เป็นการร้องเอาเเค่สนุกๆ เเถเป็นเรื่องตลกไปได้ไม่ยาก เขาไม่ใช่คนหน้าบางที่จะมานั่งซีเรียสกับเรื่องไร้สาระ

     ส่วนคนบงการอย่างนริศราเเละกานติมาเองก็ตกใจเเพ้คนอื่น นอกจากกวินทร์จะไม่ทำตัวเองเสียหน้าตามเเผนเเล้ว เขายังสามารถเรียกเสียงปรบมือเเละคำชมจากเเขกในงานได้มากกว่าพวกเธอเสียด้วยซ้ำ นริศราโกรธจนควันออกหูเเละลืมไปว่ากำลังให้เพื่อนตนไลฟ์การเเสดงสดของอีกฝ่ายลงเฟสบุ๊คเช่นกัน จนตอนนี้ยอดไลค์เเละยอดเเชร์พุ่งนำหน้าคลิปเธอไปไกลเเล้ว 


******


     เเละคืนนั้น โลกโซเชียลก็ได้ร้อนระอุไปด้วยข่าว เทพบุตรตาน้ำข้าวสุดหล่อโดนไอ้หื่นลวนลามในร้านอาหาร

     ส่วนคลิป หนุ่มฝรั่งผมทองสุดหล่อร้องเพลงลูกทุ่ง เองก็ถูกเพจดังๆ ดูดคลิปออกไปเผยแพร่มากมาย

     กว่านริศราจะรู้ตัวเเละลบคลิปออกจากเฟสบุ๊คตัวเองก็สายไปเเล้ว เธอได้เเต่กรีดเสียงในห้องส่วนตัวอย่างโมโหจนต้องระบายอารมณ์ด้วยการปาโทรศัพท์ใส่ฝาผนังจนเเตกเป็นเสี่ยงๆ ต่างจากคนต้นเรื่องอย่างกวินทร์ที่กำลังหลับเป็นตายอย่างไม่รู้เรื่องรู้ราว...
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 31-12-2017 19:00:17 โดย Civillian »

ออฟไลน์ Civillian

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 25
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-0
ตอนที่ 11 กระตุกหนวดเเมว


     เช้านี้กว่ากวินทร์ตื่นค่อนข้างสาย กว่าอาบน้ำเเต่งตัวเสร็จก็ปาเข้าเกือบเที่ยง วันนี้เขากะว่าจะออกไปซื้อโทรศัพท์มือถือใหม่ ไอโฟนรุ่นใหม่ล่าสุดที่มีอยู่ จะว่าดีมันก็ดีอยู่หรอก เเต่เขาไม่ชอบการตามกระเเสเเค่นั้นเอง งานคุณย่าเมื่อวาน หันไปทางไหนเจอเเต่คนใช้ไอโฟน

     ก่อนหน้านี้เขามีโทรศัพท์มือถือสองเครื่อง ซึ่งก็คือ Android เเละโทรศัพท์มือถือโง่ๆ อีกเครื่องที่ใช้ได้เเค่โทรเข้าโทรออกเเละส่งข้อความ ไม่มีลูกเล่นเเปลกใหม่ เเต่ก็ยากต่อการโดนเเฮกเช่นเดียวกัน เขาเลยใช้เครื่องนี้ติดต่อลูกค้าเเละเสี่ยวิชัยเวลามีธุระสำคัญ ส่วนเครื่องAndroid เขาก็จัดการ root จนเเทบไม่เหลือเค้าเดิม

     การ root โทรศัพท์มือถือหมายถึงการรื้อเอาระบบทั้งหมดออก ทำให้สามารถควบคุม แก้ไข เเละเปลี่ยนแปลงตัวเครื่องได้ 100% นอกจากนั้นยังมีอิสระในการเก็บหรือทำการสำรองข้อมูลไว้ พูดง่ายๆ ก็คล้ายการอัพเกรดตัวเองจากลูกเพจมาเป็น
เเอดมิน เเต่เหตุผลหลักของเขาคือ... ไม่อยากเป็นทาสอากู๋ หรือ Google นั่นเอง!


     กวินทร์กำลังนั่งเคี้ยวข้าวตุ้ยๆ อยู่ที่โต๊ะคนเดียว เพราะคุณพริ้งกับเจ้าสัวทานเสร็จเป็นที่เรียบร้อยเเล้ว

     "คุณหนูคะ ป้าลืมบอกว่าเที่ยงนี้ คุณหยกกับคุณอาร์ตจะมาเยี่ยมนะคะ เพราะป้าโทรไปบอกเรื่องอาการคุณหนูเเล้ว" ร่างโปร่งพยักหน้าหงึกๆ พอจะนึกออกว่าทั้งคู่เป็นใคร เพราะเมื่อวานเเอบส่องเพื่อนเเต่ละคนในเฟสบุ๊คของกวินทร์เป็นที่เรียบร้อยเเล้ว

     "ว่าเเต่ คุณปู่กับคุณย่าอยู่ไหนครับป้าอร?"

     "คุณท่านออกไปธุระกับคุณภูผา ส่วนคุณพริ้งอ่านหนังสืออยู่ที่ศาลาริมสระค่ะ"

     บ้านหลังนี้ตัวบ้านนอกจากจะใหญ่ระดับคฤหาสน์เเล้ว บริเวณบ้านก็กว้างขวาง ไม่ว่าจะสนามหญ้าขนาดใหญ่หรือสระบัวด้านหลังที่มีศาลาเล็กๆ ริมสระ สามารถนั่งรับลมได้อย่างสบาย มองดูปลาสีสวยชิวๆ บรรยากาศทำให้ผ่อนคลาย ถือว่าเป็นบริเวณโปรดของคุณพริ้ง

     หลังจากทานข้าวเสร็จ กวินทร์ก็เดินออกไปยังสระบัว สายตาคมเหลือบไปเห็นรูปวาดงานสีน้ำที่ตนให้คุณพริ้งเป็นของขวัญติดอยู่ฝาผนัง ปากสวยครี่ยิ้มเล็กน้อย

     "สวัสดีครับคุณย่า" ยกมือไหว้เสร็จร่างโปร่งก็สวมกอดเเล้วหอมเเก้มหญิงชราฟอดใหญ่ ก่อนจะผละตัวออกเเล้วหันรีหันขวาเหมือนกำลังหวาดระเเวง จนคุณพริ้งต้องเอ่ยปากถาม

     "เป็นอะไรตากวินทร์"

     "กวินทร์กลัวคุณปู่มาเห็นเเล้วโมโหหึง" ว่าเเล้วก็หัวเราะเอิ๊กอ๊ากอย่างอารมณ์ดี พูดเองขำเองเสร็จสรรพ ทำเอาคุณพริ้งหมั่นไส้ จนต้องเอื้อมมือหยิกเเขนเบาๆ เเต่หลานชายกลับร้องโอดโอยราวกับเจ็บเสียเต็มประดา จนโดนค้อนให้วงโต

     "คุณหนูคะ คุณหยกกับคุณอาร์ตมารออยู่ที่ห้องนั่งเล่นเเล้วค่ะ" เสียงสาวใช้ร้องเรียก

     "งั้นกวินทร์ไปก่อนนะครับคุณย่า"

     "จ๊ะ" คุณพริ้งมองตามเเผ่นหลังหลานชายพร้อมรายยิ้มที่หุบไม่ลง


******


     "หวัดดี"

     ชายหญิงที่กำลังนั่งรออยู่ห้องนั่งเล่นรีบหันหน้ามาเมื่อเสียงกวินทร์ทักขึ้น ฝ่ายหญิงคือณัชชาหรือหยก สาวห้าวท่าทางทะมัดทะแมง เเต่งตัวด้วยกางเกงยีนส์ขายาวเเละเสื้อเชิ้ตลายสก๊อตเเขนสามส่วน ผมยาวประบ่าถูกมัดมวยครึ่งหัว ผิวขาวเล็กน้อย ปากบาง ตาเฉี่ยวคม ใบหน้าปราศจากเครื่องสำอางใดๆ เเต่ยังดูสวยใสสมวัย

     ส่วนอีกคน ศราวุธหรืออาร์ต หนุ่มหน้าตาตี๋เเต่ผิวสีน้ำผึ้ง ผมยาวเท่าณัชชา หยิกงอเเละถูกไถข้างเดียว ตัวสูงเเละหนากว่ากวินทร์นิดหน่อย ใส่กางเกงขายาวสีดำเเละเสื้อเเขนกุดโขว์กล้าม สวมเเว่นทรงกลมกรอบดำ ดูเป็นหนุ่มมาดเซอร์

     "กวินทร์! นี่เเกความจำเสื่อมจริงๆ เหรอ? จำพวกฉันได้ไหม? เเล้วนี้ร่างกายโอเค
ยัง?" ณัชชาจับไหล่ร่างโปร่งเเล้วยิงคำถามใส่ไม่ขาดสาย จนศราวุธต้องปราม "หยก ปล่อยให้มันพูดบ้าง"

     กวินทร์ไม่ได้ว่าอะไร เเค่ยิ้มนิดหน่อย เพราะรู้ดีว่าณัชชาคงเป็นห่วงเพื่อนมาก

     "ร่างกายโอเคเเล้ว เเต่ความจำยังไม่กลับมาเลย"

     "ลืมหมดเลยเหรอ? เปิดเทอมก็ขึ้นปีสี่ ปีสุดท้ายเเล้วทำไงเนี้ยะ?" ดูเหมือนณัชชาจะสติเเตกเเทนกวินทร์ไปเเล้ว

     "ก็จำได้บางเรื่อง หยก อาร์ต นุ เเล้วก็เมย์ จำได้ทุกคน เเต่จำไม่ได้ว่าเคยผ่านอะไรกันมาบ้าง" ณัชชาเเละศราวุธหน้าเสียเล็กน้อย

     "เอาเถอะ อย่างน้อยมึงก็จำพวกกูได้" ศราวุธบีบไหล่ปลอบใจร่างโปร่งเบาๆ 

     "เเล้วเรื่องเรียนอ่ะ?" หญิงสาวถาม

     "จำไรไม่ได้เลย" กวินทร์ตอบเสียงอ่อย

     "เฮ้ยยยย เเล้วเเกจะทำไงอ่ะ?" ณัชชาละล่ำละลัก ส่วนศราวุธเองก็ดูเครียดไม่ต่างกัน ผูกมิตรมาตั้งเเต่ปีหนึ่ง ถ้าขาดอีกคนไปในตอนรับปริญญาก็น่าใจหายไม่น้อย

     "ไม่เป็นไรหรอก เรารวย" เชิดหน้าภาคภูมิใจอย่างโอเว่อร์

     "ย่ะ" ณัชชาเเบะปากเเต่เริ่มยิ้มออก

     "เเกตัดผมเเล้วดูหล่อขึ้นเป็นกองเลยนะเนี่ย" ณัชชายื่นหน้าเข้ามาสังเกตใบหน้าขาวปราศจากริ้วรอยเเละไม่มีกลุ่มผมยาวมาบังไว้เหมือนเเต่ก่อน

     "อาร์ตๆ มาเป็นตากล้องดิ๊ ฉันจะเอารูปลงเฟสอวดยัยเมย์กับไอ้นุ"

     ศราวุธถอนหายใจ เเต่ก็ยอมรับโทรศัพท์มือถือของอีกฝ่ายมาถ่ายให้ กว่าเเม่คุณจะพอใจก็ปาเข้าไปเเล้วเกือบยี่สิบรูป ไม่ว่าจะภาพเดี่ยวภาพคู่


     สองหนุ่มปล่อยให้ณัชชาอัพรูปเเละเล่นเฟสบุ๊ค ศราวุธในสายตาของกวินทร์ดูเป็นคนเงียบๆ เหมือนจะเข้าถึงได้ยากเเละไม่ค่อยเเคร์ว่าคนอื่นจะคิดอย่างไรกับตน ร่างโปร่งจ้องมองใบหน้าอีกฝ่าย จะว่าไป... หน้าของเด็กหนุ่มคนนี้เองก็ดูคุ้นๆ ตา เเต่นึกอย่างไรก็นึกไม่ออกว่าเหมือนใครกันเเน่

     "กวินทร์ๆๆ! ดูนี่ๆ" ณัชชาเปิกตากว้างกวักมือเรียกร่างโปร่งด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นอย่างเก็บไว้ไม่อยู่

     "ไรอ่ะ"

     ณัชชายื่นโทรศัพท์มือถือให้อีกฝ่ายดู บนหน้าจอปรากฏรูปกวินทร์ตอนกำลังร้องเพลง"จีบ"คุณพริ้งบนเวที ใบหน้าดูหล่อคมเเต่มีความอ่อนหวานในตัว มือเรียวสวยกำลังตั้งใจตีดกีต้าร์ ปากอิ่มยกยิ้มเล็กน้อย ผมบลอนด์เเละผิวขาวผ่องสะท้อนเเสงไฟขับให้ร่างโปร่งดูสว่างไสวจนละสายตาหนีไม่ได้ อีกรูป ร่างโปร่งกำลังยิ้มตาเป็นประกรายให้หญิงชราข้างกาย เเละรูปสุดท้ายเจ้าตัวเงยหน้าสบตากล้องพอดี ดวงตาสีฟ้าครามเหมือนน้ำทะเลที่ยิ่งมองยิ่งชวนหลงใหล ทุกรูปออกมาสวยเหมือนโดนถ่ายโดยช่างกล้องมืออาชีพ เเละนอกจากนั้น ยังมีคลิปเสียงอีกด้วย

     รูปเเละคลิปถูกเเชร์ลงบนเพจ หนุ่มหล่อต้องบอกต่อ ด้วยหน้าตาที่เอนมาทางฝั่งตะวันตกบวกกับน้ำเสียงเอื้อนเอ่ยขับร้องเพลงลูกทุ่งยิ่งทำให้เขาดูน่าค้นหา ทำให้ยอดเเชร์เเละคนมากดไลค์ทะลุหลักหมื่นเลยทีเดียว

      อร๊ายย หล่อมากกก เเถมยังเสียงดีฟุดๆ เเละที่สำคัญนะคะลูกเพจขา คนที่อัพรูปของน้องคนนี้ลงไม่ใช่ใครที่ไหนไกล พี่ภรันยูศิษย์เก่ามอX คร้าาาา หุหุ

     ร่างโปร่งขมวดคิ้ว ภรันยูน่ะเหรอ? ถ่ายรูปสวยหนิ คงเป็นตากล้องสมัครเล่นกระมั้ง นิ้วเรียวเลื่อนลงอ่านคอมเม้น

>>เเม่จ๋า หนูเจอลูกเขยเเม่เเล้วววว
>>อยากไปนั่งเเทนคุณยายจัง
>>น่ารักแบบวัวตายควายล้ม โอ๊ยย
>>เขาเป็นใคร??? อยากได้เฟส ไอจี เบอร์ห้อง 555
>>ขาวจนกูเเสบตาเลยค่ะ
>>พี่ภรันเอาลงเหรอ? อร๊ายย คิดลึกอ่ะ
   >> เราก็คิดค่าาา
   >> สาววายเชิญทางนี้
   >> เราตามพี่ภรันค่ะ ไม่เคยเห็นพี่เอารูปหนุ่มสาวคนไหนลงเลย มีเเต่รูปวิว อยากรู้จริงๆ ว่าหนุ่มคนนี้เป็นใครน้ออออ
   >> จิ้นๆค่ะจิ้น

>>กรี้ดดดด เจอเเล้วค่ะ ชื่อกวินทร์ เด็กมหาลัยX คณะอักษรศาสตร์เองภาษาอิ้ง เเละที่สำคัญเป็นหลานเจ้าสัวค่ะ หล่อเเล้วยังรวย
     อีก มาเป็นผัวหนูเถอะ!
   >> เทพบุตรจุฑาเทพชัดๆ!
   >> ขอวาร์ปด่วน
   >> ตามเฟสนี้เลยค่ะ กอ กวินทร์ เเต่เหมือนจะไม่ค่อยเล่นเฟสเลยอ่า

>>เฮ้ย ใช่คนเดียวกับที่เป็นข่าวในลิ้งนี้ป่ะ เทพบุตรสุดหล่อตาน้ำข้าวโดนไอ้หื่นลวนลามในร้านอาหาร
   >> ใช่ๆๆๆ คนเดียวกัน โถ่ ไอ้มืดนั้นเป็นใคร? บังอาจมาลวนลามน้องเเบบนี้!!
   >> ดูน้องกุมข้อมือสิคะ เหมือนจะเจ็บมาก
   >> โถ่ว หนูกวินทร์ของเจ๊ *ถีบไอ้หื่น*
   >> นั่นนั้นมันป้อง คณะวิศวะมอX ใช่ไหมมมมม
   >> เออ จริงด้วยยย ป้องเดือนวิศวะ!! เราเคยปลื้มนางมาก เเต่เห็นคลิปนี้เเล้ว เทค่ะ!
   >> พี่ป้องจริงๆ เเอดมินเคยเอารูปนางมาเเชร์ในเพจ
   >> ผิดหวังค่ะ เดี๋ยวเเอดขอเเชร์ลิ้งข่าวลงหน้าเพจด้วยนะคะ ถึงจะบ้าผู้ชาย หล่อๆ เเต่หล่อเเล้วเลวก็ไม่ไหวค่ะ! เเอดมิน
              ญาญ่า
   >> ขอเฟสนางด้วยค่ะ เราจะตามไปยำ
   >> นี่เลย Pong Aniwatt เราไปส่องเฟสเขามา โดนคนด่าเยอะมาก สมน้ำหน้า

     ตามด้วยบทสนทนายาวเหยียด เเต่กวินทร์ขี้เกียจอ่านเลยส่งโทรศัพท์มือถือคืนเพื่อนสาว เเล้วถอนหายใจเบาๆ อยากรู้จริงๆ ว่าคนพวกนี้อายุเท่าไหร่ถึงได้มาเรียกเขาน้อง! ลาก่อนชีวิตอันเงียบสงบ จะว่าไป... ชีวิตเขามันเคยสงบเหมือนชาวบ้านชาวช่องเขาด้วยเหรอ? เลิกหวังอะไรลมๆ เเล้งๆ เเบบนั้นเถอะกวินทร์เอ้ย

     "กวินทร์! นี่เเกร้องเพลงกับเล่นกีต้าร์เป็นด้วยเหรอ??" ณัชชาร้องถามอย่างตื่นตกใจ

     "ไม่รู้สิ ไม่ได้ตั้งใจขึ้นไปเเสดงด้วยซ้ำ เหมือนเป็นไปตามสัญชาตญาณมั้ง" กวินทร์ยักไหล่

     ศราวุธคว้าโทรศัพท์มือถือไปดูบ้าง เขามองหน้าจอขมวดคิ้ว "นี่มันกีต้าร์รุ่นลิมิเต็ดหนิ มึงไปเอามาจากไหนวะกวินทร์?"

     "อ๋อออ ของไอ้ตั้มน่ะ ยืมมันเล่น" กวินทร์ยิ้มอย่างมีเล่ห์เหลี่ยมเเต่ไม่พูดอะไรต่อ ส่วนคนถามได้เเต่เลิกคิ้วอย่างฉงน

     "เเล้วเเกนึกไงขึ้นไปร้องเพลงบนนั่นวะ เเกไม่ชอบเป็นจุดสนใจไม่ใช่เหรอ?"

     "เเต่ก่อนก็คงจะเป็นอย่างงั้น พอตายไปสามนาทีเลยคิดได้มั้ง ว่ามันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร" ร่างโปร่งตอบยิ้มๆ "เเล้วไม่ได้อยากขึ้นไปหรอก เเต่สถานการณ์บังคับ"

     "ยังไงอ่ะ?" ณัชชาถามงงๆ

     "เกรซ" สั้นๆ เเต่เป็นอันเข้าใจกัน

     "นังนี่อีกเเล้ว วันไหนฉันทนไม่ไหวนะ เเม่จะตบให้ซิลิโคนเบี้ยวเลยคอยดู" หญิงสาวพูดเเละเเสดงท่าทีประกอบ 

     "กวินทร์ ทำไมมีข่าวว่ามึงโดนลวมลามวะ?" ศราวุธเงยหน้าจากโทรศัพท์มือถือ เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงตื่นตระหนก

     "อ๋อออ จริงๆ ก็ไม่ได้โดนลวนลามหรอก หึหึ" กวินทร์เล่าความเท็จจริงของข่าว ที่ทำเอาเพื่อนทั้งสองอึ้งไปชั่วขณะก่อนจะปล่อยเสียงหัวเราะก๊ากออกมาอย่างขบขันระคนสะใจ เป็นที่รู้กันว่าอนิวัตหมายปองนริศราเเละยอมทำทุกอย่างที่เธอขอ หนึ่งในนั้นคือคอยรังควานชีวิตกวินทร์ เรียกสั้นๆ ตามสไตล์ณัชชาก็คือ ขี้ข้า ดีๆ นี่เอง
     คุยเล่นกันไปมาจนบ่ายกว่าๆ เพื่อนทั้งสองจึงได้เวลาขอตัวกลับเมื่อเห็นว่ากวินทร์สบายดีเเละไม่ได้ซีเรียสกับเรื่องความจำเสื่อม เเถมยังปรับตัวรับสถานการณ์เเย่ๆ ได้ดีกว่าเเต่ก่อนด้วยซ้ำ

     "เห็นมึงอยู่ดีพวกกูก็เบาใจล่ะ" ศราวุธเอ่ยขึ้นเเละยิ้มให้ร่างโปร่ง

     "นั้นสิ ฉันว่าเเกเป็นเเบบนี้ก็ดีเเล้ว อย่าไปยอมใครเว้ย" พูดเเล้วก็ตบเเปะๆ ที่ไหล่เพื่อน


******


     หลังจากณัชชาเเละศราวุธออกไปได้ซักพัก กวินทร์ก็เตรียมตัวจะออกไปห้างสรรพสินค้าเพื่อซื้อโทรศัพท์มือถือ ตอนเเรกป้าอรจะให้พ่อบ้านตามมาด้วย เเต่กวินทร์เเย้งว่าจะเเวะซื้อเเค่โทรศัพท์มือถือเฉยๆ ไปกับคนขับรถคนเดียวก็ได้ ถึงจะไม่เห็นด้วยเเต่ก็ยอมโดยดีเมื่อคุณหนูของเธอมากอดมาอ้อน

     "ลุงโชคจะออกไปหาซื้ออะไรรอก็ได้นะครับ ผมอาจใช้เวลาซักสามสิบนาที เสร็จเเล้วเดี๋ยวผมโทรหา"

     "ได้ครับคุณกวินทร์"

     กวินทร์เเยกทางกับลุงโชค เขาใช้เวลาในการเลือกโทรศัพท์มือถือไม่นาน เพราะมีรุ่นที่คิดจะซื้อในใจเเล้ว

     ตลอดทางเดินกวินทร์สังเกตว่ามีวัยรุ่นหนุ่มสาวหลายคนมองตามเขา ต้นเหตุน่าจะมาจากเพจที่เเชร์รูปเขาไป เห็นคนไลค์เพจตั้ง7เเสนกว่าคน บางคนเเค่มองไม่พอ เเต่เเอบหยิบโทรศัพท์มือถือมาถ่ายรูปเขาอีกต่างหาก เอาเถอะ อยากทำไรก็ทำไป เขาปลงเเล้วล่ะ... เเค่ขึ้นชื่อว่าหลานเจ้าสัวธาราก็เป็นที่รู้จักมากพอเเล้วยังจะมาหน้าตาฝรั่งจ๋าอีก ณ เวลานี้ถ้าเลือกได้เขาขอไปเป็นลูกตาสียายสาชาวไร่ชาวนาจนๆ ยังจะดีกว่า เเต่ทำไงได้ เเค่มีโอกาสกลับมาหาเจ้าเเฝดทั้งสองก็ดีเกินพอเเล้ว...

     กวินทร์ยกนาฬิกาข้อมือขึ้นดูเวลา เพิ่งจะผ่านไป15นาทีเอง เขาไม่มีอารมณ์เดินดูของต่อ เลยมุ่งหน้าไปยังลานจอดรถเเทน

     เเต่ก่อนที่จะทันได้ยกโทรศัพท์มือถือขึ้นมาโทรหาลุงโชค ร่างโปร่งก็โดนฝ่ามือหยาบปิดปากล็อคคอจากด้านหลังเเละมืออีกสองคู่ยกขาเขาขึ้น ก่อนจะอุ้มไปมุมเปลี่ยว
     กวินทร์พยายามดิ้นให้หลุด เเต่ร่างกายที่ผอมเเละไม่เคยผ่านการใช้กำลังมาก่อน มีหรือจะสู้ร่างบึกบึนของคนพวกนี้ได้ เมื่อเห็นว่าไม่มีทางดิ้นหลุดอย่างเเน่นอน กวินทร์จึงตัดสินใจเก็บเเรงไว้รอจังหวะหนี

     "ไง หมดเเรงเเล้วเหรอไอ้ตุ๊ด หน้าตาก็ดีไม่น่าเสียชาติเกิดเลยมึง" ชายร่างหนาไว้หนวดเยาะเย้ย

     "เเต่เขาว่าข้างหลังเเน่นถึงใจกว่าข้างหน้านะเว้ย มึงดูหุ่นสิวะ โคตรบางเเถมขาวเหี้ยๆ" อีกคนพูดขึ้นเเละจ้องมองร่างโปร่งที่ดิ้นจนกระดุมหลุดลุ่ยเผยให้เห็นเเผงอกขาวเนียนกับยอดอกสีชมพูชวนสัมผัส

     "ถ้าไม่ติดว่ากลัวคนผ่านมาเห็นกูจะจัดให้ซักดอกสองดอกเลยสัตว์" พูดจบก็เอื้อมมือหวังลูบผิวเนียน เเต่กลับถูกร่างโปร่งถีบเข้าที่กล่องดวงใจเเทน

     "โอ๊ย ไอ้เหี้ย!" คนร้ายจุกเเละล้มไม่เป็นท่า เเต่พอตั้งตัวได้มันก็ชกเข้าที่ท้องเขาอย่างเเรง ทำให้ร่างกายที่ไม่เคยโดนทำร้ายเช่นนี้มาก่อนจุกเเละเจ็บจนตัวงอ ถ้าไม่โดนล็อคตัวไว้เขาคงลงไปกองอยู่กับพื้น หลังจากนั้นกวินทร์ก็โดนประเคนทั้งหมัดเเละเท้าอย่างไม่ยั้ง เขาพยายามเปร่งเสียงร้องขอความช่วยเหลือ เเต่คามือของคนร้ายด้านหลังที่ปิดปากเอาไว้

     "เฮ้ย พวกมึงทำไรวะ หยุดเดี๋ยวนี้! รปภ.! รปภ. มีคนโดนทำร้าย!" เเละอยู่ๆ ก็มีเสียงพลเมืองดีตะโกนห้ามขึ้นในที่สุด ไม่พูดเปล่า หนุ่มวัยรุ่นคนนั้นยังกรู่เข้ามาต่อสู้ เเลกหมัดกับหนึ่งในคนร้าย เเละเมื่อเห็นว่าคนมาช่วยต่อสู้เก่งเเค่ไหน พวกมันจึงตะโกนบอกกันอย่างลนลาน

     "เหี้ยเอ้ย กูว่าหนีก่อนดีกว่าว่ะ"

     "เออๆ เเต่ก่อนไป.." ผวัะ คนร้ายที่โดนเขาถีบ ชกเข้ามุมปากกวินทร์จนได้กลิ่นคาวเลือด ก่อนจะจิกผมเขาให้เงยหน้าขึ้นเเล้วเค้นเสียงกระซิบ "คุณป้องฝากมาบอกว่านี้เป็นบทเรียนสำหรับความปากหมาของมึง"

     พูดจบก็ทิ้งร่างโปร่งลงพื้นเเข็งเหมือนถุงขยะ ก่อนจะผละวิ่งหนีไปอีกทางเมื่อได้ยินเสียงรปภ.สองสามนายกำลังวิ่งมา

     ความเจ็บตัวยังไม่เท่าความเจ็บใจของร่างโปร่งในตอนนี้ โกรธที่รู้สึกไร้ทางสู้ เจ็บใจที่ร่างกายไม่ทำตามสมองสั่ง ทำไมเขาจะไม่รู้ว่าต้องเอาตัวรอดอย่างไร ถึงสาวิทย์จะไม่ได้มีร่างกายหนาใหญ่เหมือนคนร้ายทั้งสาม เเต่ก็ไม่ได้อ่อนปวกเปียกอย่างกวินทร์

     "คุณๆ เป็นอะไรมากไหม?" พลเมืองดีที่มาช่วยถามอย่างเป็นห่วงก่อนจะช่วยประคองกวินทร์ที่เหมือนจะลุกไม่ไหว เเต่เสียงทักตื่นตระหนกของลุงโชคก็ดังขึ้นเสียก่อน "คุณกวินทร์! เกิดอะไรขึ้นครับ?" เเล้วเข้ามาช่วยประคองอีกเเรง

     "ไม่เป็นไรครับลุงโชค เเค่โจรน่ะครับ" ร่างโปร่งพูดปด

     "ขอบคุณมากนะครับที่มาช่วย" กวินทร์เปลี่ยนเรื่อง เเล้วหันไปพูดกับหนุ่มพลเมืองดีที่น่าจะอายุน้อยกว่าตน ดวงตาสวยตวัดมองเเก้มอีกฝ่ายที่โดนชกจนเริ่มเป็นรอย

     "อ่อ นี่ค่าเสียหายครับ ที่ทำเอาคุณต้องมาเจ็บตัวไปด้วย"  กวินทร์ทำท่าจะควักธนบัตรจากกระเป๋าให้อีกฝ่าย

     "เฮ้ย ไม่เป็นไรครับ ช้ำเเค่นี้เองคุณ" ชายหนุ่มรีบปฎิเสธเป็นพัลวัน

     กวินทร์ยังไม่ทันจะได้คะยั้นคะยออะไรต่อ เสียงริงโทนของอีกฝ่ายก็ดังขึ้นขัดจังหวะ

     "ฮัลโหล คร้าบๆ เฮียภู คินอยู่ลานจอดรถ อีกยี่สิบนาทีน่าจะถึงบ้าน" ชายหนุ่มหันมาทำปากว่าขอตัวเเล้วค้อมให้กวินทร์นิดหน่อยในขณะที่ยังคุยโทรศัพท์ต่อ ก่อนจะเร่งฝีเท้าไปยังรถของตน


     กวินทร์คุยกับรปภ.เป็นที่เรียบร้อยก็ขึ้นมานั่งในรถ เตรียมตัวกลับบ้าน ใบหน้าคมมีเเค่รอยปากเเตก เเต่ร่างกายใต้ร่มผ้าน่าจะฟกช้ำหลายจุดพอควร

     "ลุงโชคไม่ต้องบอกเรื่องนี้กับคุณปู่คุณย่านะครับ กวินทร์ไม่อยากให้ท่านไม่สบายใจ อีกอย่างมีกล้องวงจรปิด เดี๋ยวก็จับคนร้ายได้"

     "เเต่... มันจะดีเหรอครับ?" ลุงโชคถามอย่างไม่เเน่ใจ เพราะถ้าคุณท่านรู้เองเรื่องจะยิ่งไปกันใหญ่

     "นะครับ คนเเก่พอไม่สบายใจเดี๋ยวร่างกายไม่เเข็งเเรง"

     "เอ่อ... ก็ได้ครับ" ลุงโชครับปากอย่างไม่เต็มเสียง

     เขาไม่อยากให้คุณพริ้งเเละเจ้าสัวไม่สบายใจ อีกอย่าง เรื่องเเค่นี้เขาอยากจัดการเองได้ ปากอิ่มยกยิ้ม วิธีการของเขา นองจากจะแนบเนียนเเยบยล เเล้วก็... เขาอยากรู้ว่าพ่อนักเลงสมัครเล่นคนนี้มีความลับอะไรบ้าง
     เรื่องเจาะข้อมูลส่วนตัวของคนอื่นเป็นอะไรที่เขาชอบมากเป็นพิเศษ ทุกคนมีความลับที่ไม่อยากให้ใครรู้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องผิดกฎหมายหรือเรื่องน่าอับอายก็ตาม เเละในยุคสมัยที่เทคโนโลยีกำลังบูม คนส่วนมากมักเก็บความลับพวกนั้นเป็นข้อมูลทางดิจิทอล


     รอกูหน่อยนะ ไอ้ป้อง...

.
.
.
.

ขอบคุณสำหรับทุกคอมเม้นค่า
จริงๆ ไม่คิดว่าจะมีคนมาตอบหรอก
เพราะเอาลงเด็กดีไปเยอะเเล้ว 5555
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 31-12-2017 23:07:59 โดย Civillian »

ออฟไลน์ larynx

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 821
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-1
คนตระกูลนี้นี่ก็ดีจัง เห็นลูกหลานโดนรังแกขนาดนี้ ห้ามได้แค่นี้อ่อ ไม่แปลกที่กวินทร์ร่างเก่าจะนิสัยแบบนั้นอะ ไม่มีคนในบ้านที่อยู่ด้วยแล้วจะสบายใจสักคน

ออฟไลน์ k2blove

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1868
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-3
ไม่รู้จักกวินในรูปแบบใหม่ซะแล้ว ป้องเตรียมตัวรับผลงานที่ทำก็แล้วกัน หุหุหุ
 o18
รู้สึกรักคุณย่าพริ้งยังไงไม่รู้นะ
 :กอด1:

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
Happy New Year 2018
สวัสดีปีใหม่ ๒๕๖๑  ขอให้ไรท์สุขสันต์ มีความสุขมากๆ

ชอบบบบบ  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ Aly-Q

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 155
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-2
รออออ อ่านแล้วก็อ่านซ้ำอีก 5555 ตามๆ

ออฟไลน์ WilpeR

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1556
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-2
สนุกมากเลย แต่เดาไม่ออกใครพระเอกอ่ะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ พัดลม

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 535
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-2
ตอนที่11ไปไหนน้อ :z13:

รอตอนต่อไปนะค่ะ

ออฟไลน์ onlyplease

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
รอออออ สนุกมากกก มาต่ออีกเยอะๆนะไรท์

ออฟไลน์ zeroj

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 565
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
สวัสดีปีใหม่ค่าาาาาาาาาาาาาาาาาา  คนเขียน

ขอให้มีความสุข  สุขภาพแข็งแรง
มาลงนิยายบ่อยๆ  มีเลิฟซีนมั่งให้หนูกวินทร์ 555 (เสียวสันหลังวาบเลย  ฮึ้ย )    o18

ออฟไลน์ ♥lvl♀‘O’Deal2♥

  • หานิยายถูกใจยากจัง!
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2665
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +176/-4

ออฟไลน์ JokerGirl

  • ∀Σ❤∀ΔΣ Forever^^
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2921
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
สนุกมากเลยค่ะ ชอบการเขียนที่เนื้อเรื่องกระชับ ดำเนินเรื่องน่าติดตาม ทำให้อยากรู้ว่ากวินทร์จะทำอะไรต่อไปแล้วจะไปรับน้องแฝดอู๊ดๆตอนไหน อยากเจอน้องแฝดแล้ว :กอด1:

รอตอนต่อไปค่ะ :pig4:

ออฟไลน์ Civillian

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 25
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-0
ตอนที่ 12 ชีวิตใหม่


     "คุณภูผาคะ เจ้าสัวธารามาถึงเเล้วค่ะ"

     "เชิญเข้ามาได้เลย" ภูผาวางโทรศัพท์ลง เเล้วหันกลับไปสนใจเอกสารในจอคอมพิวเตอร์

     ห้องทำงานของเขาอยู่ชั้นบนสุดของตึกสูง ภายในห้องกว้างถูกตกเเต่งเรียบง่ายสไตล์โมเดิร์น

     ก๊อก ก๊อก เสียงเคาะประตูดังขึ้น

     "เชิญครับ"

     คุณรุ้ง เลขาสาวใหญ่เปิดประตูเข้ามาพร้อมเจ้าสัวธารา ภูผาลุกขึ้นจากโต๊ะทำงาน เเล้วย้ายตัวมายังมุมรับเเขก ที่มีโต๊ะเตี้ยๆ เเละโซฟาวางอยู่

     "เชิญนั่งก่อนครับเจ้าสัว"

     นั่งลงได้ไม่นาน เลขาสาวก็ยกเครื่องดื่มมาให้โดยไม่ต้องรอคำสั่ง

      "อืม ขอบใจ ขอโทษนะที่ปู่มารบกวนเวลาทำงานของภู"

     "ไม่เป็นไรครับ ช่วงนี้ไม่ได้มีงานด่วน เจ้าสัวมีอะไรให้ผมช่วยครับ?"

     คุณธาราถอนหายใจเล็กน้อย จริงๆ ท่านก็ไม่อยากรบกวนชายหนุ่มหรอก เเต่เจ้าสัวคิดว่ามันเป็นทางออกที่ดีที่สุดเเล้ว

     "ภูรู้ใช่ไหมว่าตากวินทร์ความจำเสื่อมเพราะจมน้ำ"

     "ครับ"

     "นี่ไม่ใช่ครั้งเเรกที่กวินทร์โดนทำร้าย เเล้วรอดมาได้อย่างหวุดหวิด เเต่คราวนี้หนักกว่าเดิม... เเละปู่คิดว่าเป็นฝีมือของคนในบริษัท" หรืออาจเป็นคนในครอบครัว เจ้าสัวคิดในใจ

     "ทำไมล่ะครับ?"

     "ตอนนี้ปู่ถือหุ้นเยอะที่สุดในบริษัท เเต่ถ้าปู่เสียชีวิต คนที่จะถือหุ้นเยอะที่สุดก็คือ
กวินทร์" ภูผาไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อน

     "ปู่เคยทำร้ายพ่อกับเเม่ตากวินทร์ไว้เยอะ สำหรับกวินทร์ เปอร์เซ็นหุ้นพวกนี้คงเทียบไม่ได้กับสิ่งที่เสียไป"

     อีกฝ่ายพยักหน้าเข้าใจ เขาพอจะรู้มาบ้างว่าลูกชายคนกลางหรือพ่อของกวินทร์เสียชีวิตไปหลายปีเเล้ว

     "เเล้วเจ้าสัวต้องการให้ผมช่วยอะไรครับ?" 

     "ทีเเรกปู่กะว่าจะให้กวินทร์มาฝึกงานที่บริษัท เเต่พอเกิดเรื่องโดนทำร้ายจนเสียความจำไปหลายส่วน ปู่เลยเปลี่ยนใจ"

     พูดถึงตอนนี้ภูผาพอจะเดาออกว่าคุณธาราต้องการให้เขาช่วยอะไร

     "ภู ปู่ขอให้ตากวินทร์มาฝึกงานที่นี่ได้ไหม? ปู่อยากให้กวินทร์เรียนรู้จากหลาน เเละอยู่ห่างๆ บริษัทจนกว่าจะจับคนที่อยู่เบื้องหลังได้"

     ภูผานิ่งไปซักพัก เขาเคยคุยกับกวินทร์ไม่ถึงห้านาทีในงานคุณพริ้ง เเต่เป็นห้านาทีที่ทำให้เขารู้สึกผ่อนคลายที่สุดในรอบหลายเดือน เซ้นส์เขาบอกว่าหลานเจ้าสัวคนนี้น่าค้นหา ควรรับเข้ามาฝึกงาน เเต่ถ้าทำงานไม่ได้เรื่อง... ก็โยนให้เลขาเขาจัดการเเล้วกัน เมื่อคิดได้ดังนั้น ชายหนุ่มจึงเอ่ยปากรับคำ

     "ได้ครับเจ้าสัว"

     "ขอบใจมากภูผา ถ้าไม่ได้หลานปู่ก็ไม่รู้จะไว้ใจใครได้" เจ้าสัวกล่าวขอบใจอย่างโล่งอก ถ้าหลานสาวเขาได้เรื่องซักคนท่านคงยกให้อีกฝ่ายไปเเล้ว น่าเสียดายที่ไม่เป็นเช่นนั้น ส่วนคนที่เป็นโล้เป็นพายกว่าใครอย่างสิรดาก็มีเเฟนหนุ่มที่ชอบพอกันอยู่เเล้ว เเละท่านเองก็ไม่อยากเเยกทั้งคู่

     "ไม่เป็นไรครับ ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร"

     "ถึงตากวิทนร์จะเป็นหลานปู่ เเต่ภูเป็นเจ้านาย จะดุจะสอนก็เอาตามที่ภูเห็นชอบ
ปู่ไม่ว่าอะไร"

     "เรื่องนั้นไม่ต้องห่วงครับ" ชายหนุ่มยกยิ้มมุมปาก เขาไม่ใช่คนใจดี ถึงจะเป็นหลานเจ้าสัวที่เขานับถือ เเต่งานก็ส่วนงาน

     เจ้าสัวหยิบเเฟ้มยื่นให้อีกฝ่าย "นี้เป็นประวัติส่วนตัวของตากวินทร์ ยังไงปู่ก็ฝากด้วยนะ"

     "ครับ"

     "เอาล่ะ รบกวนเวลาทำงานมากพอเเล้ว ปู่ขอตัวเลยเเล้วกัน" คุณธาราพูดพร้อมลุกขึ้นจากโซฟา

     "ครับ เดินทางปลอดภัยนะครับ"


******


     ภูผาทำงานจนเวลาล่วงเลยมาถึงบ่ายสาม วันนี้เขารับปากว่าจะกลับไปทานข้าวที่บ้าน พี่สาวโทรตามเขาตั้งเเต่อาทิตย์ที่เเล้ว อ้างว่าน้องพลอยบ่นถึงเขาทุกวัน เเต่เด็กเเค่สามขวบจะบ่นได้ขนาดนั้นเหรอ? คนที่บ่นน่าจะเป็นเเม่กับพี่สาวเขามากกว่า

     ร่างสูงโทรบอกให้เลขาเตรียมรถไว้ ก่อนจะเดินออกจากห้องทำงาน เเละไม่ลืมที่จะหยิบเเฟ้มประวัติส่วนตัวหนุ่มนัยน์ตาตาสีฟ้าใสติดมือไปด้วย

     ในเเฟ้มมีกระดาษเเผ่นเดียวเเละประวัติสั้นๆ ร่างสูงสะดุดตากับการศึกษาอีกฝ่าย คณะอักษรศาสตร์เอกภาษาอังกฤษงั้นเหรอ? เเต่เดี๋ยวนี้ไม่ว่าเรียนคณะอะไรส่วนมากก็สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้ทั้งนั้น ความสามารถอย่างอื่นก็เเทบไม่มี นอกจากใช้ Microsoft Office เป็นเล็กน้อย... เขาเริ่มไม่เเน่ใจกับการตัดสินเขาตัวเองเสียเเล้วสิ


     พอเเพรพิไลเห็นน้องชายฝาเเฝดของตนเดินเข้าบ้าน เเทนคำทักทาย เจ้าหล่อนกลับตะโกนบอกคุณเเม่เเทน

     "ต้ายยย หิมะจะตกที่กรุงเทพเเน่เลยค่ะคุณเเม่"

     "หือ? ทำไมเหรอเเพร?"

     "ดูสิคะ ใครมา" เเพรพิไลร้องตอบ พร้อมส่งสายตาหยอกล้อให้ชายหนุ่มตรงหน้า

     คุณทิพกาเดินมายังห้องโถง ก่อนจะยิ้มดีใจเมื่อเห็นลูกชายตนที่นานๆ ครั้งจะเเวะมาทานข้าวที่บ้าน จนเเพรพิไลเเอบเเซวว่าน้องชายตัวเองสละโสดเเต่งงานอยู่กินกับบริษัทเป็นที่เรียบร้อยเเล้ว

     "เดี๋ยวเเพรขอตัวไปดูน้องพลอยก่อนนะคะ พอรู้ว่าวันนี้อาภูจะมาดีใจใหญ่" เเพรพิไลพูดยิ้มๆ

     คุณทิพกาพยักหน้าให้ลูกสาว เเล้วเดินไปสวมกอดภูผา ก่อนจะผละออกเเล้วขมวดคิ้ว "ตาภูผอมลงไปหรือเปล่า หืม?" เธอจับไหล่หนาเเละสังเกตร่างกายกำยำ ในสายตาคนอื่นอาจมองว่าชายหนุ่มตรงหน้าหุ่นดีทีเดียว เเต่สำหรับคนเป็นเเม่ เเค่ลดไปสองสามกิโลกรัมก็ถือว่าผอมเเล้ว

     "ไม่เเน่ใจเหมือนกันครับ" 

     "ไปอาบน้ำอาบท่าไป เดี๋ยวเเม่เข้าไปดูในครัวเสียหน่อย วันนี้มีเเต่ของชอบภูทั้งนั้น"

     "ครับ" ร่างสูงยิ้มให้กับความใส่ใจของเเม่

     "เดี๋ยวก่อนภู! โทรหาตาคินด้วยนะ บอกเเม่ว่าออกจากห้างตั้งเเต่สามสิบนาทีที่เเล้วเเต่ป่านนี้ยังไม่เห็นเลย" คุณทิพกาตะโกนบอกร่างสูง

     "ได้ครับ" ภูผารับคำ เเล้วหยิบโทรศัพท์มือถือโทรหาน้องชาย

     ....

     "ฮัลโหล"

     "คิน ใกล้ถึงบ้านยัง?"

     "คร้าบๆ เฮียภู คินอยู่ลานจอดรถ อีกยี่สิบนาทีน่าจะถึงบ้าน"

     "อืม ไม่ต้องรีบ ขับรถระวังๆ ล่ะ"

     "ครับผ๊ม"


     ภูผาอาบน้ำเสร็จเเละยังไม่ทันจะเดินออกมาถึงห้องนั่งเล่น เสียงฝีเท้าเล็กๆ คู่หนึ่งก็วิ่งเเปะๆ มาหาเขา เเล้วกระโดดกอดขาร่างสูงไว้เเน่น ก่อนจะเงยหน้ายิ้มเเฉ่งโชว์ฟันซี่เล็ก เเล้วยกมือป้อมๆ ไหว้สวยงามตามที่คุณเเม่เคยสอน

     "สวัสดีค่ะน้าภู น้องพลอยคิถุงงงง"

     คุณน้าก้มลงอุ้มหลานสาวตัวน้อยขึ้นก่อนจะหอมเเก้มซ้ายขวา

     "อาภูก็คิดถึงน้องพลอยครับ"

     "น้องพลอย! เเม่บอกห้ามวิ่งในบ้าน เดี๋ยวก็ล้มเจ็บตัวอีกนะคะ" เเพรพิไลดุลูกสาวตัวน้อย น้องพลอยทำปากจู๋เเก้มพองเเล้วสะบัดหน้าซุกอกคุณน้าที่ได้เเต่ยิ้มเเละส่ายหัวให้พี่สาว เเพรพิไลเองก็สะบัดหน้าเดินไปห้องครัว น้องพลอยจะเหมือนใคร ก็เหมือนเเม่เเกนั่นเเหละ ร่างสูงเเอบคิดในใจ

     ภูผาอุ้มหลานสาวมานั่งที่โซฟาโดยมีเสียงเจื้อยแจ้วของเด็กหญิงคอยรายงานว่าน้าภูไม่อยู่เเล้วใครเเกล้งอะไรน้องพลอยบ้าง พี่สาวกับคุณเเม่อยู่ในครัว ถึงจะมีเเม่บ้านอยู่เเล้ว เเต่คุณทิพกาชอบทำอาหารเองเเละให้เเม่บ้านคอยเป็นลูกมือเสียมากกว่า ประมุขของบ้าน คุณพงศ์ภีระกำลังรดน้ำต้นไม้ จะขาดก็เเต่ลูกชายคนเล็ก ภคินที่กำลังมา ส่วนภรันยูตอนนี้อยู่เเม่ฮ่องสอน ใช้ชีวิตสโลว์ไลฟ์ตระเวนถ่ายรูป เจ้าตัวบอกว่าอยากทำในสิ่งที่ชอบให้สุด ก่อนจะมาช่วยงานในบริษัทปีหน้า


     พอเเม่บ้านตั้งโต๊ะเสร็จ ภคินก็มาถึงบ้านพอดี "สวัสดีค้าบบบ ทุกคน" เด็กหนุ่มยกมือไหว้เเล้วหมุนตัวเป็นวงกลมอย่างกับนักมวย น้องพลอยหัวเราะคิกๆ ชอบอกชอบใจ คุณทิพกาได้เเต่ส่ายหัวอย่างหน่ายๆ ก่อนจะอุทานออกมาเมื่อเห็นรอยโดนต่อยที่มุมปากภคิน

     "ตาคิน! ปากไปโดนอะไรมา? อย่าบอกนะว่าไปมีเรื่องชกต่อยอีกน่ะ เเม่บอกว่าไง..."

     "หยู๊ดดดด หยุดๆๆ สต๊อบๆ อย่าเพิ่งด่าครับคุณเเม่ ครั้งนี้คินไม่ผิดนะคร้าบ" เด็กหนุ่มยกมือห้ามเป็นพัลวัน

     "คืองี้ครับ ตอนจะกลับบ้านคินเจอคนโดนทำร้ายที่ลานจอดรถ เลยเข้าไปช่วย เเล้วโดนชกเข้าให้ เเต่ไม่ต้องห่วง ไอ้พวกคนร้ายน่วมกว่าเยอะ ฮ่าๆๆ" เท้าเอว เเอ่นอก เชิดหน้าเเละเล่าอย่างภาคภูมิใจ

     เเต่อิมเมจฮีโร่จำต้องพังทลายลงเมื่อโดนพี่สาวตบหัวป้าบเข้าให้ "โอ๊ย เจ๊เเพร ตีเค้าไมอ่า" ภคินถามเสียงอ่อย ลูบหัวป้อยๆ

     "ทำไรไม่คิด ถ้าพวกมันมีมีดมีปืนจะทำไง? ห๊ะ?" เเพรพิไลดุ

     "ก็เห็นพวกมันรุมเตะคนอื่นอยู่ เลยคิดไม่ทันเนาะ" เด็กหนุ่มเเก้ตัว ก่อนจะหันซ้ายหันขวาหาทางออก "โอ๊ะ! เฮียภู!" ทำเป็นตื่นเต้นกลบเกลื่อน เเล้ววิ่งหนีพี่สาวไปเล่นกับน้องพลอยอย่างเนียนๆ


******


     หลังทานข้าวเสร็จ ครอบครัวจรัสวัฒนพงศ์ก็มานั่งร่วมวงดูทีวีเเละพูดคุยกันที่ห้องนั่งเล่นโดยมีน้องพลอยคุยจ้อกับคนนู้นทีคนนี้ทีเป็นเสียงแบ็คกราว ส่วนภคินก็ก้มๆ เงยๆ อยู่กับไอเเพดตามประสาวัยรุ่น

     "เฮ้ยยยยยย เเม่ครับ เเม่ๆ คนนี้ไงที่คินช่วยอ่ะ" ภคิมตะโกนบอกเเล้วยกไอเเพดให้คนอื่นๆ ดูรูป

     "เอ๊ะ นี่มันหลานเจ้าสัวธาราหนิ คินเเน่ใจเหรอ?" คุณทิพกาเอ่ยเมื่อเห็นรูปถ่าย

     "ใช่ครับ คนนี้เเหละ" ภคินพูด ก่อนทำหน้างงๆ "คินจำเขาไม่ได้อ่ะ ก็ตัดผมมาซะน่ารักเชียว ฮ่าๆๆ" เเพรพิไลกลอกตากับความหน้าหม้อของน้องชาย เป็นที่รู้ๆ กันว่าภคินนั่นหญิงก็ได้ชายก็ดี เเต่ไม่เคยคบใครจริงจัง

     "จับคนร้ายได้ไหมคิน?" ภูผาที่เงียบมาตลอดเอ่ยปากถาม

     "ไม่อ่ะเฮีย พอรปภ.มาพวกมันก็รีบวิ่งหนีไปเลย เหมือนโผล่มาทำร้ายร่างกายเฉยๆ ตอนวิ่งหนี คินไม่เห็นพวกมันหยิบอะไรติดมือเลย"

     "อืม" ภูผาขมวดคิ้วเเละนึกถึงสิ่งที่เจ้าสัวบอกกับตนก่อนหน้านี้ นอกจากเป็นเจ้านายเเล้ว เขาอาจต้องเป็นบอดี้การ์ดส่วนตัวของกวินทร์ด้วยใช่ไหม?

     "อุ้ย เเพรเพิ่งรู้ว่าหลานเจ้าสัวหล่อขนาดนี้" เเพรพิไลไม่เห็นหน้ากวินทร์มานาน เพราะเธอไม่ค่อยได้ออกงานกับครอบครัว ซึ่งมักจะเป็นภูผาเเละภรันยูเสียมากกว่า ส่วนเธอกำลังทำงานเบื้องหลังในวงการบรรเทิงเเละเป็นที่รู้จักในวงกว้างด้วยฐานะทางบ้านเเละความสามารถที่มี

     "ต๊าย มีคลิปร้องเพลงด้วย เสียงใช้ได้เลย เข้าวงการรับรองเเฟนคลับเยอะ"

     "ตัวจริงมองใกล้ๆ โคตรน่ารักเลยพี่เเพร ปากอิ่มๆ เเดงๆ ตัวงี้ข๊าวขาว อยากจับมาฟัด" ว่าเเล้วก็ดึงน้อยพลอยเข้ามากอดรัดฟัดเหวี่ยงจนหนูน้อยกรีดร้องเเละหัวเราะเอิ๊กอ๊าก

     ภูผาถอนหายใจ เอาเถอะ ลองให้เด็กมันมาทำซักสองสามวัน ถ้าไม่ได้เรื่องจริงๆ จะให้เขาตามสอนงานเหมือนที่รับปากเจ้าสัวธาราก็คงไม่ไหว อาจเปลี่ยนให้ไปเดินเอกสารเเทน หวังว่ากวินทร์จะรับมือไหวกับเพื่อนร่วมงานที่คอยจะดูถูกว่าเขาเป็นเด็กเส้น เข้ามาฝึกงานในบริษัทเเถวหน้าของประเทศ ทั้งที่โปรไฟล์ธรรมดา นายจะสู้ไหวเหรอกวินทร์?


******


     ทางบ้านกิตติปรียากุลเองก็เพิ่งทานข้าวเสร็จ กวินทร์มองดูเเผ่นกระดาษที่ตนได้จ้างให้คนปลอมเเปลงขึ้น มันเป็นพินัยกรรมปลอมๆ ของสาวิทย์บ้านเเละที่ดินถูกยกให้มูลนิธิ ทรัพย์สินเงินทองในบัญชีเขาบริจากให้สถานสงเคราะห์เด็กอ่อนที่เจ้าเเฝดพักอยู่ เเละสิ่งสำคัญที่สุด ที่มีตัวหนังสือเขียนขึ้นอย่างชัดเจนว่า ถ้าหากตนเเละสิรินได้เสียชีวิตไปก่อนที่สองเเฝดจะบรรลุนิติภาวะ การดูเเลทุกอย่างจะตกอยู่ในมือของนาย กวินทร์ กิตติปรียากุล เพียงผู้เดียว! ปิดท้ายด้วยลายเซ็นที่ไม่มีทางดูออกว่าถูกสร้างขึ้นหลังการเสียชีวิตของเจ้าของพินัยกรรม

     กวินทร์สูดหายใจเข้าลึกๆ รวบรวมสติก่อนไปบอกเรื่องนี้กับคุณปู่เเละคุณย่า เขาเตรียมเรื่องไว้เเล้ว การโกหกที่แนบเนียนคือการเล่าความจริงครึ่งเดียว

     ตอนนี้คุณพริ้งกำลังนั่งดูทีวี ส่วนเจ้าสัวกำลังอ่านเอกสารอะไรซักอย่างในห้องรับเเขก

     "คุณปู่คุณย่าว่างไหมครับ กวินทร์มีเรื่องอยากคุยด้วย"

     ทั้งคู่เงยหน้ามองหลานชาย "ว่างสิ มีอะไรเหรอตากวินทร์?" คุณธาราถาม

     "คือ... ผมมีเพื่อนสนิทอยู่คนหนึ่ง ชื่อสาวิทย์ เขามีน้องสาวหนึ่งคนที่มีลูกฝาเเฝดอายุสิบเอ็ดเดือน เเต่เมื่อไม่นานมานี้ผมได้รับข่าวว่าสาวิยท์กับน้องสาวเสียชีวิตเเล้ว"

     กวินทร์เว้นระยะให้ทั้งคู่ซึมซับสิ่งที่เขาพูด

     "ทั้งคู่ไม่มีญาติพี่น้อง เเล้วในพินัยกรรมของสาวิยท์ เขามอบสิทธิในการเลี้ยงดูเด็กๆ ให้ผม เเละผมเองก็ยินดีที่จะทำตามคำขอร้องของเพื่อน"

     คุณธาราเเสดงสีหน้าไม่เห็นด้วย "เเล้วถ้าปู่ไม่อนุญาต?" คุณธาราเลิกคิ้วถามหยั่งเชิง

     "ผมไม่อยากดื้อกับปู่ เเต่เรื่องนี้ผมตัดสินใจไปเเล้ว เเละไม่อยากให้เด็กๆ โตมาในบ้านเด็กกำพร้า อีกอย่างตอนนี้ผมอายุยี่สิบเเล้ว ถ้าปู่ไม่อนุญาต ผมก็คงไม่มีทางเลือกนอกจากออกไปอยู่ที่อื่น" กวินทร์ตอบเสียงเรียบ เขาไม่ได้อวดดี เเต่เเค่พูดความจริง

     "กวินทร์! ไม่ได้ ย่าไม่ให้ออกไปอยู่ที่อื่น!" คุณพริ้งรีบค้าน หลานเธอไม่เคยทำงาน เเค่ดูเเลตัวเองก็ยังเเทบไม่ไหว เเล้วนี่จะย้ายไปอยู่คนเดียวเเถมต้องเลี้ยงเด็กอ่อนอีกสองคน เธอไม่ปล่อยให้หลานไปลำบากตามลำพังเเน่นอน!

     "เเน่ใจเเล้วใช่ไหมตากวินทร์ ที่จะเอาลูกเค้ามาเลี้ยงเอาเมี่ยงเค้ามาอม" เจ้าสัวถามย้ำ

     "ครับ" เขาตอบหนักเเน่น ดวงตามุ่งมั่นดูเป็นผู้ใหญ่จนเจ้าสัวยังเเปลกใจ 

     "เอาเถอะ ถ้ามั่นใจเเล้วอยากทำอะไรก็ทำไป" ชายชราพูดส่งๆ

     กวินทร์ตาโต รีบเข้าไปกราบตักทั้งคู่เเล้วขอบอกขอบใจยกใหญ่ ออดอ้อนคุณย่าเเละโม้ถึงความน่ารักของเด็กๆ จนคุณพริ้งตื่นเต้นตามไปด้วย


******


     วันรุ่งขึ้นกวินทร์รีบออกไปรับเด็กๆ ส่วนเรื่องเอกสารต่างๆ ผ่านไปอย่างราบรื่น เเต่กว่าทุกอย่างจะลงตัวก็ใช้เวลาไปสองสามวัน เพราะต้องซื้อของใช้เด็ก ปรับเปลี่ยนห้องว่างให้เป็นน้องนอนสำหรับเด็กอ่อนที่กำลังเห่อความสามารถใหม่ของตน ซึ่งก็คือการใช้ขาเเละเท้า ถึงจะยังเดินไม่คล่อง เเต่ก็ขยันหาเรื่องจริงๆ เขาเลยจำเป็นต้องติดตั้งที่กั้นบันได เเละอะไรเล็กๆ น้อยๆ อีกมากมาย

     ตอนเเรกเจ้าสัวค่อนข้างไม่พอใจกับการตัดสินใจของกวินทร์ เเต่พอโดนน้องปลื้มกับน้องปรายตัวคอยพันเเข้งพันขาอ้อนให้เล่นด้วย ชายชราก็อ่อนปวกเปียกยอมตามใจเด็กๆ ทุกครั้ง จากบ้านที่เคยเงียบกลับเต็มไปด้วยเสียงร้องอ้อเเอ้เรียกความสนใจของหมูน้อยสองตัว

     เพื่อนๆ ทั้งสี่ของเขาก็เเวะเวียนมาเยี่ยมบ่อยๆ รวมถึงสาวหมวยหน้าหวาน เมย์ จีรวรรณเเละหนุ่มใต้ นุหรืออนุชิต เเต่พักหลังๆ เหมือนจะมาเยี่ยมเด็กๆ เสียมากกว่า ส่วนกวินทร์ก็ต้องจำใจใช้เวลาไปกับการอ่านชีทที่ณัชชาเอามาให้เพราะใกล้เปิดเทอมเเล้ว จากที่คิดว่าเรียนเอกอังกฤษคงง่ายๆ สบายๆ เพราะตนพูดอ่านภาษาอังกฤษคล่องเเคล่วอยู่เเล้ว เเต่...เขาคิดผิดอย่างไม่น่าให้อภัย! เพราะมันมีทั้งบทความที่ใช้ภาษาเก่าๆ เเละวรรณคดีที่เขาต้องเรียนรู้อีกหลายเรื่อง เเล้วเเบบนี้เขาจะจบปี 4 ได้ไงวะ?!


     "ไม่อ่งไม่อ่านมันเเล้วเว้ยยยย" กวินทร์ตะโกนในห้องคนเดียว ก่อนจะโยนกองกระดาษไปบนเตียง หยิบคอมมาเปิด บนหน้าจอเผยข้อมูลทั้งรูปเเละคลิปของอนิวัต ข้อมูลที่เขาได้มาจากการเเฮกมือถือของอีกฝ่าย

     เขาก็เเค่ขับรถไปจอดเเถวๆ หน้าบ้านอีกฝ่าย เเล้วเเฮกบลูทูธของมือถืออนิวัตโดยใช้ MultiBlue Dongle ที่มีหน้าตาไม่ต่างจากแฟลชไดร์ฟธรรมดาๆ ทั่วไป เเต่เป็นเครื่องมือที่สามารถเชื่อมต่อกับเครื่องอิเล็กทรอนิกส์ทุกชนิดที่มีบลูทูธ เเละให้อำนาจคนใช้ในการควบคุมมือถือเป้าหมายผ่านคีย์บอร์ดคอมพิวเตอร์
     หลังจากนั้นกวินทร์ก็ก๊อปทุกอย่างไม่ว่าจะเป็น รูป คลิป เสียง รหัสผ่านต่างๆ ใส่คอมฯของตน ท้ายสุดกวินทร์ก็ติดตั้ง Spyware เเอพที่คอยสอดส่องเเชท อีเมล์ อัดเสียงสายโทรเข้าโทรออกเเละความเครื่อนไหวทุกอย่างของเป้าหมาย เขาใช้เวลาไม่ถึงชั่วโมง เเละไม่ทิ้งร่องรอยใดๆ เเล้วขับรถกลับบ้านอย่างสบายอารมณ์


******


     "ปะๆๆ" เสียงเล็กๆ ร้องเรียกกวินทร์ เมื่อเขาเดินไปที่สนามหลังบ้าน คุณพริ้ง เจ้าสัว เเละเเม่บ้านสองคนกำลังเล่นกับคุณหนูทั้งสอง เมื่อเห็นหัวทองๆ ของกวินทร์ ร่างป้อมก็วิ่งตุปัดตุเป๋ ชูเเขนอวบๆ ให้เขาอุ้ม
     กวินทร์รวบหมูน้อยสองตัวเข้ามาอุ้มในวงเเขน หลังโดนดักทำร้ายร่างกาย กวินทร์ก็พยายามเล่นเวทออกกำลังกายจนเริ่มมีกล้ามเล็กน้อยพองาม ไม่งั้นคงอุ้มเจ้าเเฝดทั้งสองไม่ขึ้น

     "ว่าไงน้องปลื้มน้องปราย วันนี้ดื้อกับคุณทวดไหมครับ" ว่าเเล้วก็หอมเจ้าเเฝดคนละสองฟอดใหญ่ เรียกเสียงหัวเราะคิกคักจากเด็กๆ ที่ชี้มือเล็กไปยังผู้สูงอายุในบ้าน "จวดๆ" 

     "เอ๊ะ ทำไมเรียกทวดชัดกว่าเรียกปะป๊าล่ะหือ?" ร่างโปร่งถามเเล้วเเกล้งงับเเก้มยุ้ยอย่างหมั่นเขี้ยว ทำเอาเด็กๆ จั๊กจี้ดิ้นดุ๊กดิ๊กหนีอ้อมกอดอุ่นๆ ของปะป๊า เเละหัวเราะเอิ๊กอ๊ากอย่างสนุกสนาน ก่อนจะรีบคลานหนี เเต่เมื่อเห็นว่าปะป๊าไม่ไล่ตามก็หันหน้ากลับมา เเล้วมองเขาเหมือนกำลังจะบอก ปะป๊ารีบไล่จับหนูสิ

     เล่นไล่จับไม่กี่นาทีเจ้าหมูน้อยทั้งสองก็สลบเป็นที่เรียบร้อย

     อีกสองวันมหาวิทยาลัยก็จะเปิดเทอมเเล้ว เขายังไม่พร้อมเลยเเม้เเต่น้อย ชีทกองโตก็ยังอ่านไม่หมด ถ้าเอาไปปั่นกับโยเกิร์ตเเล้วมามาร์คหน้าความรู้มันจะมีการออสโมสิสเข้าสู่สมองเขาไหมนะ?!

     ไหนจะเรื่องฝึกงานอีก ตอนเเรกกวินทร์นึกว่าเจ้าสัวต้องให้เขาไปฝึกในบริษัทของที่บ้านอย่างเเน่นอน เเต่ก็ผิดคาด เพราะเจ้าสัวเพิ่งมาบอกเขาว่าคุยกับภูผาไว้เเล้ว เเละอ้างว่าอยากให้เขาเรียนรู้กับคนที่มีความสามารถอย่างภูผา เอาเถอะครับคุณปู่ กวินทร์จะพยายามเชื่อเเล้วกัน


ออฟไลน์ Civillian

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 25
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-0
ตอนที่ 13 คุณลุงเเปลกหน้า


     มหาวิทยาลัยเปิดเทอมได้เป็นเดือนเเล้ว การบ้านเเละรายงานสำหรับกวินทร์ผ่านไปได้อย่างทุลักทุเล เวลาส่วนมากก็ถูกใช้ไปกับการ อ่าน อ่าน เเละอ่าน จนเขาอยากจะลาออกให้มันรู้เเล้วรู้รอด เเต่มันดันมีคำว่า"บุญคุณ"ค้ำคออยู่ เจ้าสัวยอมให้เขารับเด็กๆ มาเลี้ยงดูในบ้าน เเถมยังคอยปรามคุณเอมอรที่มาด่าเขาฉอดๆ กวินทร์เลยต้องกัดฟันสู้ เพื่อไม่ให้ขายหน้าคุณปู่ที่มีหลานไม่เอาไหนเเละเรียนไม่จบ
 
     เเต่โชคดีที่เขามีเพื่อนเกรดสวยอย่างณัชชาเเละจีรวรรณคอยติวให้ เลยพอถูๆ ไถๆ คลานตามเพื่อนได้ทัน
     เเต่ทั้งสองสาวโดยเฉพาะณัชชารู้สึกจะอินกับบทติวเตอร์มากจนเกินไป ติวเข้มจนเขาต้องเเอบหนีมาตั้งตัวเเละโซ้ยน้ำเเข็งใสที่คณะวิศวกรรมศาสตร์ พวกเเม่ค้าพ่อขายในมหาวิทยาลัยนี่ใจดีจริงๆ พอเห็นหนุ่มฝรั่งปากหวานขี้อ้อนก็ตักอาหารให้จนพูนถ้วย

     ถึงจะเเอบหนีมาเเต่เขาก็ยังใส่หูฟัง ฟังเลคเชอร์ที่ณัชชาส่งมาให้อยู่นะ จะหาว่าเขาอู้ไม่ได้ หูฟัง ปากเคี้ยว ตาก็มองสอดส่องไปเรื่อย จนปะทะเข้ากับร่างของอนิวัต ทำเอากวินทร์เเทบสำลักน้ำเเข็งใส

     กวินทร์ไม่ได้กลัว เเต่เขาไม่อยากอยู่ในเรดาร์ของอีกฝ่ายก่อนที่จะปล่อยคลิป
เขาอยากให้อนิวัตชะล่าใจเเละลืมว่ามีศัตรูที่ชื่อกวินทร์

     ร่างโปร่งรีบลุกขึ้นเเล้วหนีไปนั่งโต๊ะเเถวๆ ข้างหลัง ที่มีกลุ่มนักศึกษานั่งอยู่ เเละหน้าตาเหมือนกำลังเคร่งเครียดกับอะไรซักอย่างบนจอคอมฯ

     "ขอนั่งด้วยนะครับ"

     ทั้งสี่มองร่างโปร่งอย่างงงๆ จะปฏิเสธได้ไง ในเมื่อเจ้าตัวหย่อนก้นลงโดยไม่รอคำอนุญาตด้วยซ้ำ

     "ไม่ต้องเกรงใจครับ ผมไม่กวนหรอก" ยังมีหน้าไปบอกเขาไม่ต้องเกรงใจ...

     "ทำไมเเก้เท่าไหร่ก็ยังไม่ได้วะ" เสียงโอดครวญจากหนุ่มร่างอวบ

     "นั้นดิ ฉันลองมาทั้งคืนเเล้ว ยั๊งไม่ได้เลย" หญิงสาวในกลุ่มเห็นด้วย

     "ไอ้เมต มึงอ่ะ?"

     "ยัง" ผู้ชายที่นั่งข้างกวินทร์ตอบ

     "บุ้ง?"

     "ทุกอย่างโอเค lib output เหมือนจะไม่มีปัญหา กูเขียนไพทอนสคริปต์ไว้คอยเช็คล่ะ ส่วน external IP ตามเว็บต่างๆ มันก็โชว์ proxy IP นะ เเต่พอเปิด iceweasel กับ proxychains กลับใช้ไม่ได้ว่ะ" หนุ่มเเว่นร่างผอมตอบ ทำเอาคนที่กำลังซดน้ำเเข็งใสหูผึ่ง เเละพยายามเนียนเเอบเหล่ตามองโจทย์บนกระดาษที่วางอยู่ตรงหน้าคนข้างๆ

     "ขนาดหัวกะทิอย่างไอ้บุ้งยังไม่ได้ เเล้วอย่างกูเนี้ย จะเอาขี้สมองที่ไหนมาทามม?" เพื่อนร่างหมีบ่นเสียงยาน

     "อาจารย์จรินทร์นี่ก็สรรหาโจทย์มาให้ทำจริงจริ้ง"

     "กูได้ข่าวว่าเเกเคยเป็นแฮกเกอร์หมวกขาวเว้ย โดนบริษัทใหญ่ๆ จ้างไปเจาะระบบเพื่อหาจุดอ่อนเเละวางระบบป้องกันมาเเล้ว"

     "มิน่าล่ะ วิธีสอนไม่เหมือนอาจารย์คนอื่นๆ เเต่ฉันว่าท้าทายดีนะ ได้เรียนรู้เเละปฏิบัติจริง ดีกว่าให้มานั่งท่องจำตำรา" ช่าย นั่งท่องจำเหมือนกูเนี่ย กวินทร์คิดในใจเห็นด้วยกับหญิงสาว

     "เเต่โจทย์ครั้งนี้ยังไม่มีกลุ่มไหนทำได้เลยว่ะ" ว่าเเล้วก็ถอนหายใจกันทั้งกลุ่ม

     อย่างนี้ล่ะน้า เด็กที่เรียนมาก็มักจะคิดในกรอบที่ถูกสอน ต่างจากพวกเเฮกเกอร์อย่างเขา ที่รักในการเจาะข้อมูล เเละการที่จะเเฮกอะไรซักอย่างได้ เราก็ต้องทำความเข้าใจกับโครงสร้างของมันอย่างละเอียด ส่วนพวกนักศึกษาก็อ่านเเต่สิ่งที่อาจารย์สอน

     กวินทร์หยิบกระดาษมาจดหยุกหยิกๆ อยู่ซักพัก "ขอบคุณที่ให้นั่งด้วยนะครับ ไปล่ะ" พูดจบก็ยื่นกระดาษให้ชายหนุ่มที่นั่งข้างๆ ตน เเล้วลุกเดินหนี เขาช่วยได้เท่านี้เเหละ ถ้าไม่เข้าใจข้อความก็ตามเวรตามกรรมเเล้วกันนะเด็กๆ

     "โว้ยยยย ไอ้เมต มึงนี่ฮ็อตกับทุกเพศทุกวัยจริงๆ" ชยากรเเซวเพื่อนหน้าหล่อ

     "คนนี้ฉันว่าน่ารักดีอ่ะ เเต่หน้าคุ้นๆ นะ เหมือนเคยเห็นในเฟส" ปานกมล หญิงสาวคนเดียวในกลุ่มช่วยเสริม

     เธียรวิชญ์ส่ายหัวให้กับความช่างยุของเพื่อน ก่อนจะคลี่กระดาษดูว่าชายหนุ่มหน้ามึนเมื่อกี้เขียนอะไร

     go back .config file-->proxy-->''tab'' twice between ''http''-->64th line

     คิ้วเข้มขมวด เขานึกว่าจะเป็นไอดีไลน์หรือไม่ก็เบอร์โทรศัพท์เหมือนทุกๆ ครั้ง เเต่กลับเป็น... เธียรวิชญ์เบิกตากว้างเมื่อเขาเริ่มปะติดปะต่อข้อความบนใบกระดาษได้ มือเขาเริ่มทำงานโดยมีเพื่อนๆ นั่งมองอย่างงงๆ

     ห้านาทีผ่านไป

     "ได้เเล้ว" เธียรวิชญ์พูดเสียงเเผ่ว

     "เฮ้ย มึงทำไงวะเมต?"

     "กูไม่ได้ทำ" ชายหนุ่มตอบ เเล้วเอากระดาษข้อความให้เพื่อนดู

     "ใครวะมึง? พวกเรานั่งคิดทั้งวันยังคิดไม่ออก เเต่นี่มานั่งเเค่สิบนาที เสือกทำได้เฉย" ชยากรบ่นกระปอดกระแปด

     "อ๋ออออออ" บุญทิวาที่นั่งเงียบมาตลอดตบมือดังฉาดเหมือนคิดอะไรออก "คนที่เป็นข่าวกับไอ้ป้องไง เนี่ยๆ" หันจอคอมฯให้เพื่อนดู

     "จริงด้วย มิน่าล่ะมานั่งกับพวกเรา สงสัยหลบไอ้ป้อง เมื่อกี้กูเห็นมันเเว๊บๆ"

     "ข่าวเน่าขนาดนี้ยังมีหน้ามาทำกร่าง คนเขาเกลียดทั่วมหาลัยฯ มีเเต่พวกหน้าเงินอ่ะ ที่คอยเลียเเข้งขา เชอะ"  ปานกมลเเบะปาก "เเต่เดี๋ยวนะ... ฝรั่งเมื่อกี้ไม่ได้อยู่คณะเราหนิ ในเพจมันบอกอยู่อักษร กรี๊ดดดด กูอาย" ก็เด็กอักษรนี่ขึ้นชื่อว่าเรียนหนักเเละอ่านหนังสือเยอะมาก เเต่เจ้าตัวกลับมีความรู้ด้านคอมฯ จนเธอเองที่เป็นเด็กวิศวะเอกคอมฯ เเท้ๆ ยังอาย


******


     กวินทร์เเทบจะบินออกจากห้องเมื่อถึงเวลาเลิกคลาส ตอนนี้เขาปรับตัวเข้ากับการเป็นนักศึกษาได้เเล้ว เเต่ถ้าให้เลือกก็ขออยู่บ้านเล่นกับเจ้าเเฝดดีกว่า

     "กวินทร์!"

     ร่างโปร่งหันไปตามเสียงเรียก นึกว่าใคร เเฟนเก่าเขานั่นเอง

     "มีไร?" น้ำเสียงเรียบ ไม่สื่ออารมณ์ใดๆ ก็คนมันไม่ได้รู้จักมักจี่กันนี่นา

     "โอ๊ตขอคุยด้วยได้ไหม?"

     "ก็คุยดิ" กวินทร์ตอบอย่างสบายๆ เเต่อีกฝ่ายกลับยื่นมือมาจับเเขนเขา

     "คือ.. โอ๊ตอยากคุยแบบส่วนตัวหน่อยน่ะ กวินทร์ว่างไหม? ปะ.." ยังไม่ทันได้พูดจบก็มีเสียงนริศราทักขึ้นมา

     "โอ๊ต!"

     ทำให้สหรัถรีบปล่อยมือจากเเขนร่างโปร่งทันที โดยมีกวินทร์กรอกตากับการกระทำของอีกฝ่าย ส่วนนริศราเองก็รีบปรี่เข้ามากอดเเขนสหรัถเเละเเสดงความเป็นเจ้าของอย่างเต็มที่

     "โอ๊ต มายืนทำอะไรกับมัน?" นริศราเสียงเขียว

     "เอ่อ.. เปล่าครับ เเค่เดินผ่าน"

     "หึหึ" กวินทร์หัวเราะเบาๆ เมื่อได้ยินคำโกหกของอีกฝ่าย น่าสมเพช

     "ขำอะไรไอ้กวินทร์?!"

     "เปล๊า ก็เเค่ขำเสียงหมาเสียงเเมว" กวินทร์ตอบอย่างยียวน

     "เเกหาว่าฉันเป็นหมาเหรอไอ้กำพร้า! ไอ้วิปริต ออกไปไกลๆ เดี๋ยวเชื้อตุ๊ดมาติดเเฟนฉัน" นริศรานี่ยั่วโมโหง่ายจริงๆ

     "นี่ ถ้ายังหาคำด่าที่มันแอดวานซ์กว่ากำพร้าหรือเหยียดเพศไม่ได้ก็ไม่ต้องเปลืองน้ำลายหรอก มันไม่เจ็บ ขี้เกียจฟัง เเต่ฉันก็เข้าใจนะ ว่าสมองเธอมันคิดได้เเค่นี้"   

     "กะ.. เเก เเก.." หญิงสาวเต้นเร่าๆ พยายามคิดคำด่า โดยมีร่างโปร่งเเกล้งอ้าปาก
พะงาบๆ ล้อเลียน

     นริศราทนไม่ไหว ยกมือทำท่าจะตบใบหน้าที่กำลังลอยไปลอยมาของอีกฝ่าย 

     "เอาดิ! เธอตบมาฉันตบกลับ" เขาไม่ใช่พวกสุภาพบุรุษที่จะมายืนให้ผู้หญิงตบหรอกนะ ความเลวมันไม่เลือกเพศเลือกวัย

     เเต่ก่อนจะทันได้ปะทะคารมกันต่อ ก็มีมือเเกร่งมาจับเข้าที่เเขนกวินทร์เสียก่อน

     "ขอคุยด้วยหน่อย"

     กวินทร์ถอนหายใจ "นี่มันวันอะไรเนี่ย ทำไมมีเเต่คนอยากคุยกับกูวะ" อีกฝ่ายเเค่เลิกคิ้วกับคำบ่น เเต่ไม่ปล่อยมือ

     พอเห็นใบหน้าของคนมาใหม่ นริศราก็อยากเข้าไปตบกวินทร์เสียเดี๋ยวนั้น ไปรู้จักกันตอนไหน? ทำไมเธียรวิชญ์ต้องให้ความสนใจมันขนาดนี้? ที่เธอควงสหรัถทุกวันนี้ก็เเค่ต้องการทำร้ายจิตใจกวินทร์เเละเพราะอีกฝ่ายเป็นดาราหน้าใหม่ที่กำลังมาเเรง เเต่ฐานะครอบครัวของชายหนุ่มถึงจะพูดได้เต็มปากว่ารวยเเต่ก็เทียบไม่ติดเลยกับเธียรวิชญ์หรือหมอธีรไนย

     "สวัสดีจ๊ะเมต รู้จักกันเหรอ" เธอชี้นิ้วไม่ทางกวินทร์ ทำท่าเหมือนเมื่อกี้ไม่ได้มีปากเสียกัน

     "เปล่า"

     นริศรายิ้มพอใจ "เหรอ... งั้นเราว่าเมตไม่ควรไปไหนมาไหนกับกวินทร์สองต่อสองนะคะ เดี๋ยวคนจะนินทาเอา ขนาดโอ๊ตยังเคยโดนเลย" เธอพูดเหมือนเป็นห่วงเธียรวิชญ์ เเละอ้างชายหนุ่มข้างกายที่กำลังปั้นหน้าไม่ถูก

     "นินทา? ทำไม?"

     "เเหม ใครๆ เขาก็รู้ว่ากวินทร์น่ะ เป็นตุ๊ด อุ้ย เป็นเกย์ เกรซไม่อยากให้เมตโดนเข้าใจผิด" ใครไม่รู้ว่าเธอจงใจพูดผิดก็คงโง่เสียเต็มประดา 

     "เข้าใจผิดว่าอะไรล่ะครับ?" เธียรวิชญ์ถามทั้งที่ยังไม่ปล่อยมือ

     "ก็เข้าใจผิดว่าเมตเป็นคู่ขาไอ้กวินทร์น่ะสิ น่าอายจะตาย" นริศรายิ้มหยัน

     "เหรอ" ชายหนุ่มหันมามองกวินทร์ที่กำลังยืนถอนหายใจ ใบหน้าเเสดงควาาม
รำคาญเต็นทน

     "ถ้าโดนเข้าใจผิดกับคนนี้...ผมไม่ถือ" เธียรวิชญ์ยิ้มมุมปาก เเล้วลากอีกฝ่ายเดินหนีโดยไม่กล่าวขอตัวซักคำ


     "เอาล่ะ นายมีธุระอะไรก็ว่ามา" กวินทร์เอ่ยปากถาม

     "เปล่า เห็นกำลังโดนผู้หญิงตบเลยมาช่วย" ตอบหน้าตาย

     "เหรอ?" น้ำเสียงเหมือนไม่เชื่อ "เเน่ใจนะว่าเเค่นี้?" ถามย้ำ

     อีกฝ่ายพยักหน้ายกยิ้มเล็กน้อย

     กวินทร์พยักหน้าส่งๆ "ถือว่าฉันเชื่อเเล้วกัน ไปล่ะ" พูดจบก็ผละไปขึ้นรถตัวเอง โดยมีสายตาคมมองตามหลัง


******


     กลับมาถึงบ้าน กวินทร์ก็พาหมูน้อยสองตัวไปอาบน้ำ อาบพร้อมกันทั้งสามคนนั่น จะได้ไม่เสียเวลา ยังไงๆ เขาก็ต้องเปียกเพราะมือป้อมๆ ที่คอยตีน้ำให้กระเด็นอยู่ดี ปากเล็กร้องกรี๊ดกร๊าด หนูๆ สนุก เเต่ปะป๊าเปียกเป็นหมาตกน้ำไปเเล้ว

     "น้องปรายอยู่นิ่งๆ เดี๋ยวตกเตียง" กวินทร์ดุลูกสาวเเสนน่ารัก เเต่ยัยหนูก็ไม่เเคร์ เเถมยังมองเขาด้วยสายตาดูถูก อย่างปะป๊าจะทำไรหนูได้

     "ปะๆๆ" ว่าเเล้วก็คลานไปขอบเตียงอีก จนกวินทร์ต้องละมือจากการเปลี่ยนเเพมเพิสให้น้องปลื้มเเล้วรีบไปจับร่างอวบย้ายมาไว้กลางเตียง เเต่ไม่กี่วินาทีก็เอาอีก จนเขาต้องเหยียบชายเสื้อไว้เเทน เเละดูเหมือนน้องปรายจะไม่ชอบใจเป็นอย่างยิ่ง

     "อืออ งื้อ" หนูน้อยพยายามคลานหนี เเต่ก็ไปไม่ได้ ถึงขนาดนั่นก็ยังไม่ลดละความพยายามจนกวินทร์อดขำไม่ได้

     "อ่ะ เสร็จเเล้ว" ร่างโปร่งอุ้มหนูน้อยทั้งสองวางลงพื้นที่มีของเล่นวางอยู่

     "น้องปลื้มกับน้องปรายรอปะป๊าอยู่นี่นะครับ เดี๋ยวปะป๊าลงไปทำหม่ำๆ ให้" ร่างสูงไม่ค่อยกังวลที่จะปล่อยให้เจ้าเเฝดเล่นอยู่ชั้นบนของบ้าน เพราะมีที่กั้นตรงบันไดหนาเเน่น อีกอย่างเขาสอนเด็กๆ ให้ขึ้นลงบันไดจนคล่อง เเต่ก็ยังห่วงอยู่ดีเลยต้องมีที่กั้นอย่างที่เห็น

     หมูน้อยทั้งสองส่งเสียงอ้อเเอ้สื่อสารกันไปมา เเละอยู่ๆ ก็มีเสียงกึกกักปลดล็อคตรงบันได เจ้าเเฝดรีบทิ้งของเล่นในมือ ส่งเสียงกรี๊ดกร๊าดเเล้ววิ่งตุตะไปยังที่มาของเสียงเพราะคิดว่าเป็นปะป๊า ก่อนจะหยุดชะงักเมื่อเห็นใบหน้าที่ไม่คุ้นตา

     ใครกัน? สูงกว่าปะป๊า หน้าดุเหมือนคุณทวดเลย เเต่ไม่เป็นไร น้องปรายชอบคนหล่อ หนูน้อยหัวเราะคิกคัก คลานดุ๊กๆ ไปหยุดที่เท้าร่างสูง ส่วนน้องชายพอเห็นพี่สาวนำหน้าไป ก็คลานตามติดๆ พี่ไปไหนหนูไปด้วย

     น้องปรายชูเเขนหวังให้ร่างสูงอุ้ม "อุม!"

     เเต่คุณลุงกลับนิ่งเฉย น้องปลื้มเลยช่วยอีกเเรก ชูเเขนกำมือเข้าๆ ออกๆ "อื้อออ อุมๆ" 

     ถึงกระนั้นคุณลุงเเปลกหน้าก็ยังนิ่ง เเละมองเจ้าเเฝดทั้งสองอย่างงงๆ จนหนูน้อยต้องงัดไม้ตายมาใช้ ปากเล็กจิ้มลิ้มเริ่มเเบะ ตากลมโตสั่นระริกทั้งพี่ทั้งน้องราวกับนัดกันมา ไม่นานเสียงสะอื้นฮักๆ ก็ดังขึ้น จนคุณลุงเเปลกหน้าถอนหายใจ เเล้วก้มลงอุ้มหมูสองตัวขึ้นมา

     "อะไร เมื่อกี้ยังเเบะปากจะร้องอยู่เลย" ชายหนุ่มเอ่ยปากถามเมื่อเสียงสะอื้นเปลี่ยนเป็นเสียงหัวเราะคิกๆ เเย่งกันเล่นเนคไทของคุณลุงเฉย

     "เจ้าหมู ปะป๊ามาละ... อ่าว คุณภูผา"

     ร่างสูงหันไปมองต้นเสียง ที่เป็นหนุ่มนัยน์ตาสีฟ้าอ่อนในชุดกันเปื้อนลายการ์ตูนหวานเเหวว เเต่เจ้าตัวกลับไม่มีท่าทีเขินอายเลยซักนิด

     "อะไรเนี่ยเจ้าหมู ไปรบกวนอะไรคุณลุง?"

     หนูน้องทั้งสองยิ้มร่าโชว์ฟันที่มีอยู่ไม่กี่ซี่ อีกคนซบไหล่เเกร่ง อีกคนงับเนคไทจนชุ่มไปด้วยน้ำลาย

     "มาหาปะป๊านี่มา" กวินทร์กางเเขนยื่นมือรับเด็กๆ เเต่ทั้งสองเเฝดกลับหันหน้าหนีปะป๊า เเถมซบอกเเน่นๆ ของคุณลุงเเปลกหน้าเฉ๊ย ทำไงได้ ก็เเขนที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามของคุณลุงอุ้มเเล้วสบายก้นนี่เนอะ ไม่เหมือนเเขนเรียวๆ ของปะป๊า

     "วันนี้ปะป๊าทำซุปฟักทองหวานๆ มันๆ ด้วยนะ จิ้มขนมปังอร่อยยยย หม่ำๆ" เอาของกินเข้าล่อ เเต่หนูน้อยก็ยังเกาะคอคุณลุงไว้ไม่ปล่อย อย่าหาว่าฟ้อง ก็ตอนปะป๊าทิ้งพวกหนูไปเรียน คุณย่าทวดป้อนขนมน้องปลื้มกับน้องปรายอิ่มจนพุงกลางเลย

     ไม่ว่ากวินทร์จะทำไงเจ้าเเฝดก็ไม่ยอมปล่อย เเถมเห็นเป็นเรื่องสนุกเข้าใจว่าปะป๊ากำลังเล่นด้วย หัวเราะคิกคักๆ สลับกันโผล่สลับกันซบอกคุณลุง

     จนภูผาต้องเอ่ยปากช่วย "นายนำทางไปสิ เดี๋ยวฉันอุ้มตาม"

     "เอางั้นก็ได้ครับ" กวินทร์รับคำ เห็นของกินเเล้วขี้คร้านจะดิ้นกระแด่วๆ ออกจากวงเเขนเเกร่ง

     เเล้วก็เป็นไปตามคาด พอเห็นถ้วยซุปสีเหลืองข้นเเละมีขนมปังชิ้นเล็กวางจุ่ม เเถมส่งกลิ่นหอมเตะจมูกเล็ก ร่างอวบๆ ป้อมๆ ก็ดิ้นดุ๊กดิ๊กส่งเสียง "หม่ำๆ" จนกวินทร์ช่วยรับเเฝดคนน้องมาหย่อนใส่เก้าอี้เด็กเเทบไม่ทัน

     "คุณภูช่วยติดผ้ากันเปื้อนให้น้องปรายหน่อย" กวินทร์ยื่นผ้ากันเปื้อนให้อีกฝ่ายในขณะที่ตัวเองติดให้น้องปลื้ม

     หยิบช้อนให้คนละคัน "เอ้า ลงมือเลยครับลูกหมู" หนูน้อยปรบมือเเปะๆ ชอบใจ รับช้อนมาเเล้วตักทานเอง เข้าปากบ้าง เลอะบ้าง เเต่กวินทร์อยากให้เด็กๆ ช่วยตัวเองได้เเต่อายุยังน้อย อะไรทำเองได้ก็อยากให้ทำเอง เขาไม่อยากให้เด็กๆ โตมาเป็นลูกคุณหนู

     "โอ๊ะ ลืมไปเลย" กวินทร์อุทานขึ้น "ผมว่าเนคไทคุณถอดออกดีกว่าครับ เดี๋ยวผมซักคืนให้ เลอะเอนไซม์น้องปลื้มขนาดนั้น" พอได้ยินปะป๊าเรียกชื่อตัวเอง เด็กชายก็เงยหน้าที่เต็มไปด้วยคราบซุปเเล้วยิ้มเเฉ่ง ก่อนจะก้มหน้าก้มตาทานต่อ

     "ไม่เป็นไร" คนตัวสูงกล่าวเสียงเรียบ

     "ไม่ได้หรอกคุณ ยิ่งปล่อยไว้นานเดี๋ยวเป็บคราบซักไม่ออก มาๆ" ไม่พูดเปล่า มือเรียวก็เอื้อมไปปลดเนคไทภูผาเหมือนบังคับกลายๆ

     ใบหน้าของกวินทร์สูงเท่าอกเขาพอดี มองใกล้ๆ ผิวหน้าขาวละมุนไร้ริ้วรอย ขนตาที่เป็นเเพรยาวสีเข้มตัดผิวขาวละเอียด ปากชมพูอิ่ม ถ้าโดนบดขยี้ให้บวบเจ่อจะน่ามองขนาดไหนนะ ... กำลังคิดอะไรวะภูผา?! ร่างสูงตกใจกับความคิดตัวเอง สงสัยทำงานเยอะจนเบลอ เขาเลยเบนความสนใจไปยังสองเเฝดที่หม่ำซุปจนเเทบจะยกซด เเก้มป่องๆ มือป้อมๆ เลอะเทอะไปหมด ทำเอาเขาอดรู้สึกเอ็นดูไม่ได้


******


     "ผมเพิ่งรู้ว่าเจ้าสัวมีเหลน" ภูผาพูดยิ้มๆ

     "ปู่เองก็เพิ่งรู้ไม่นานมานี่เอง" เจ้าสัวยิ้มขำ

     ร่างสูงเลิกคิ้วไม่เข้าใจ

     "อยู่ๆ ตากวินทร์ก็เดินมาบอกปู่กัยย่าว่าจะเอาลูกของเพื่อนที่เสียเเล้วมาเลี้ยงเพราะเด็กไม่มีญาติ" เจ้าสัวส่ายหัวเล็กน้อย เเต่มีรอยยิ้มเเตะริมฝีปาก   

     "ผมทายว่าเจ้าสัวคงไม่ยอม?"

     "หึหึ ถูก" ชายชราตอบเเล้วยกน้ำชาขึ้นมาจิบ

     "เลี้ยงหลานมาเกือบยี่สิบปี เพิ่งจะมีวันนั้นมั้ง ที่ปู่รู้สึกว่าตากวินทร์โตเป็นผู้ใหญ่เเล้วจริงๆ พอปู่บอกไม่ได้ กวินทร์กลับตอบว่าไม่เป็นไร เดี๋ยวย้ายออกไปก็ได้ ดูมัน ฮ่าๆ"

     ภูผาอดเเปลกใจไม่น้อยที่กวินทร์จะยอมทิ้งการใช้ชีวิตอย่างสุขสบายเพื่อรับเลี้ยงลูกของคนอื่น นอกจากว่าเจ้าตัวจะพูดขู่เฉยๆ เเละเหมือนเจ้าสัวจะอ่านความคิดอีกฝ่ายออก

     "ฟังเหมือนคำขู่ของเด็กอมมือใช่ไหม? เเต่น้ำเสียงตากวินทร์ในวันนั้นไม่ใช่การขู่ ไม่ได้อวดดี เหมือนเเค่เป็นการบอกเล่าธรรมดาๆ"

     ภูผาไม่นึกเลยว่ากวินทร์จะมีมุมอย่างนี้ น่าสนใจจริงๆ


     ก๊อก ก๊อก เสียงเคราะประตูดังขึ้นขัดจังหวะ

     "เข้ามาได้" คุณธาราตอบ

     กวินทร์เปิดประตูเข้ามาอย่างทุลักทุเลเพราะกำลังถือถาดที่มีถ้วยซุปสองถ้วยกับขนมปังสามสี่ชิ้น ซุปฟักทองที่เขาปรุงให้ถูกปากผู้ใหญ่ ส่งกลิ่นหอมของเนยเเละเครื่องเทศชวนน้ำลายสอ

     "ขอโทษที่รบกวนครับ กวินทร์เห็นว่าบ่ายเเก่เเล้ว ปู่ควรมีอะไรรองท้องนะครับ คุณภูผาก็ด้วย เข้าขากับคุณปู่ขนาดนี้คงบ้างานจนลืมทานอาหารบ่อยๆ ล่ะสิท่า" พอเห็นเจ้าสัวทำท่าจะค้าน หลานชายก็รีบพูดดัก "คุณปู่ไม่ต้องเเก้ตัวเลย คุณย่าเล่าให้กวินทร์ฟังหมดเเล้ว"

     ทำเอาภูผากับเจ้าสัวได้เเต่มองตาปริบๆ ร้อยวันพันปีไม่เคยโดนเด็กที่ไหนกล้ามาดุมาสอนเหมือนเจ้าคนนี้ นิ้วเรียวสวยหยิบถ้วยวางอย่างคล่องเเคล่ว

     "มีน้ำเสาวรสเย็นๆ ด้วยครับ จะได้สดชื่น นี่กวินทร์ทำเองเลยนะ ถ้าไม่ติดว่ารวยอยู่
เเล้วจะทำขายซะเลย ฮ่าๆ" ถ่อมตัวคืออะไร? เจ้าสัวได้เเต่ส่ายหน้าอย่างเอื่อมระอา

     อยู่ป่วนคุณปู่ไม่กี่นาทีโดยมีสายตาสนเท่ห์ของภูผาคอยมอง กวินทร์เลยขอตัวออกไป ร่างสูงมีความรู้สึกว่าการรับกวินทร์เข้ามาฝึกงานอาจจะไม่น่าเบื่ออย่างที่คิด

     "เอ้า ไหนๆ ก็ยกมาเเล้ว ทานไปด้วยคุยไปด้วยเเล้วกันนะตาภู" คุณธาราเชื้อเชิญเมื่อหลานชายออกไปเเล้ว

     ชายหนุ่มตักซุปเข้มข้นเข้าปากคำเเรก อืม เขายอมรับว่ามันอร่อยใช้ได้เลยทีเดียว รสชาติหวานมันกำลังพอดี เอาขนมปังมาจิ้มยิ่งอร่อย

     ขนมปังที่ร่างโปร่งนำมาไม่ใช่เเบบนุ่มๆ นิ่มๆ เหมือนที่คนไทยนิยม เเต่เป็นขนมปังซาวร์โดที่มีรสชาติออกเปรี้ยวและมีเนื้อปุย มักนำมาทานกับของคาว เข้ากันได้ดีอย่าบอกใครเชียว


******


     ก่อนกลับบ้าน ไม่รู้อะไรดลใจให้เขามาเเวะมาหยุดอยู่หน้าห้องที่มีเสียงหยอกล้อเเละเสียงหัวเราะเอิ๊กอ๊ากของเด็กน้อยอวบอั๋นสองคน

     พอเห็นคุณลุงเเปลกหน้า เจ้าหนูทั้งสองก็ทิ้งปะป๊าเเล้ววิ่งเตาะเเตะไปกอดขาร่างสูง ก่อนจะเงยหน้ายิ้มเเฉ่ง

     "อะไรเนี่ยเจ้าหมู" กวินทร์เท้าเอวมองภูผาที่ก้มลงอุ้มเด็กๆ เเละเขาสาบานได้เลยว่าคนหน้านิ่งเเอบอมยิ้มเหมือนถือไพ่เหนือกว่า

     "ฉันกำลังจะกลับ เลยเเวะมาลาเด็กๆ" ภูผาทำท่าจะวางเจ้าเเฝดลง เเต่กลับโดนกอดคอไว้เเน่น

     "ผมว่าคุณภูผาเอาเด็กๆ มาวางที่เตียงดีกว่าครับ ซนมาทั้งวัน หัวถึงหมอนเดี๋ยวก็หลับ"

     พอถูกวางลงบนเตียงหมูสองตัวก็กลิ้งไปมา อ้อนเเกมงอเเงให้ปะป๊าเเละคุณลุงมานอนขนาบข้าง หัวเราะคิกคักชอบอกชอบใจ เเต่ไม่นานก็สงบนิ่งให้ปะป๊าจุ๊บเหม่ง ก่อนจะหันไปมองคุณลุงอย่างคาดหวัง จนร่างสูงต้องก้มหน้ามาจุ๊บถึงส่งเสียงพอใจ เเละไม่ถึงนาทีก็หลับสนิทกันทั้งคู่


     คืนนั้นกวินทร์ส่งภูผากลับบ้านพร้อมมะยงชิดลอยแก้วกล่องโต ก็ทำไว้ซะเยอะ เเล้วมะยงชิดก็ได้มาฟรีๆ เพราะไปผูกมิตรกับเด็กเกษตร ตอนกลับบ้านที่ต่างจังหวัด เพื่อนใหม่อย่างปทิตเลยขนผลไม้มาฝากเขาถุงใหญ่ เดี๋ยวพรุ่งนี้ค่อยเเบ่งไปให้อีกฝ่ายเเละเพื่อนๆ เพราะมันอร่อยมากกก เขาเลยอยากอวดฝีมือ! มะยงชิดรสชาติหวานอมเปรี้ยวกับน้ำเชื่อมหวานละมุน มีกลิ่นใบเตยเเละดอกมะลินิดๆ ได้ทั้งรสได้ทั้งกลิ่นเลยทีเดียว


******


     ภายในรถเก๋งคันหรู

     "มีอะไรดีๆ ที่บ้านเจ้าสัวเหรอครับบอส?" 

     "ทำไม?"

     "ตั้งเเต่ออกจากบ้านเจ้าสัวมา ผมก็เห็นบอสยิ้มไม่หุบ เหมือนเวลาไอ้สิงห์กลับ
จากบ้านเเฟนมันเลย"

     "เสือ"

     "ครับ?"

     "หุบปาก เเล้วขับรถ"

     ....







ขอบคุณสำหรับคอมเม้นค่าาา
 :กอด1:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03-01-2018 01:43:23 โดย Civillian »

ออฟไลน์ พัดลม

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 535
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-2
เรื่มมีใจแล้ว :กอด1:

ออฟไลน์ jaokhwan

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 425
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ไปส่องในเด็กดีมาละก็ตามมาในเล้า ฮาาาาาาา มาเร็วๆนะเค้ารออยู่ :mew1: :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ WilpeR

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1556
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-2
สนุกมากเลย ดูแล้วภูผาน่าจะเป็นพระเอกนะเนี่ย

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ missm2c

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 86
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
สนุกอ่าาาา อยากอ่านทุกวันเลย

ออฟไลน์ พิศตะวัน

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 496
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-3

ออฟไลน์ Aly-Q

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 155
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-2
คุณภูผาาาาา  :hao6: :hao6: :hao6:

ออฟไลน์ onlyplease

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
ลงเยอะๆๆๆๆๆ  สนุกอ่ะ o13

ออฟไลน์ ♥lvl♀‘O’Deal2♥

  • หานิยายถูกใจยากจัง!
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2665
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +176/-4
อูยยย อยุ่ๆ ก็อบอุ่นขึ้นมา

ออฟไลน์ Nekosama

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 91
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
ไม่รุ้จะเชียร์ใครดี หมอก็ท่าทางจะดี ภูผาก็เหมือนจะใช่ เลือกจิ้นไม่ถูกงะ  :katai2-1:

ออฟไลน์ angel_Z4

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 783
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-1
อุ๊แหมะ ห่านเสน่ห์ไปทั่วเลยนะสาวิทย์ เดี๋ยวเถอะๆ

ออฟไลน์ JokerGirl

  • ∀Σ❤∀ΔΣ Forever^^
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2921
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
มีความเขิลแล้วดุ55555

ออฟไลน์ larynx

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 821
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-1
โดนแซวแล้ว ทามมาเปงงงง

ออฟไลน์ seii

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 109
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-1
นุ๊งกวินทร์คนน่ารักกก

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด