{End} ▶▷ เขยช่างไฟสะใภ้ช่างยนต์ ◀◁ Up. #50 {15/03/2562}
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: {End} ▶▷ เขยช่างไฟสะใภ้ช่างยนต์ ◀◁ Up. #50 {15/03/2562}  (อ่าน 85682 ครั้ง)

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7

ออฟไลน์ Jthida

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1549
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-3
 พึ่งได้เข้ามาอ่านสนุกดีค่ะ ชอบเวลาพอร์ชเรียกแม่มณีว่าอีมณีตลก 555555555 อยากรู้เรื่องพี่ออดี้กับผัวเด็กกก

ออฟไลน์ tiger2006

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
ไหน ๆ โซ่ก็เมาให้เห็นแล้ว ขออีพี่ตอนเมาด้วยสิ  :hao3:

ออฟไลน์ กาแฟมั้ยฮะจ้าว

  • Let me hug you tight, and I’ll make you feel how important you are.
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 920
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +570/-0
ขอบคุณครับ กด +1 ให้นะครับ :a9

ออฟไลน์ netich

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 227
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0

ออฟไลน์ พลอยสวย

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1622
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +232/-5
เหม็นจ้าา

ออฟไลน์ เขียนสือ

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-1
    • เขียน'สือ


รสรักคัพเค้ก

(ออดี้ &  ครีมเค้ก)

ตอนที่ 1





            “จะกลับแล้วหรอ”



            เจ้าของเสียงนุ่มทุ้มที่ดังมาพร้อมกับวงแขนแข็งแกร่งทางด้านหลัง เรียกร้องความสนใจจากออดี้ที่กำลังยืนแต่งตัวอยู่หน้าโต๊ะเครื่องแป้งได้อย่างง่ายดาย เพราะเขาเองก็กำลังหาจังหวะในการตกลงทำความเข้าใจกับเจ้าตัวอยู่พอดี



            “อืม”



            “อยู่ต่ออีกนิดไม่ได้หรอพี่” คนตัวสูงที่ยืนอยู่ทางด้านหลังก้มหน้าจูบซอกคอขาวอย่างออดอ้อนเหมือนเด็กน้อยทั้งที่ตัวใหญ่อย่างกับยักษ์ไม่ต่างไปจากพ่อหมีโตเต็มวัย



            “กูว่าเรามาทำความเข้าใจกันใหม่ดีไหมกาย” เป็นครั้งแรกที่ออดี้เอ่ยปากพูดเต็มประโยคไม่เว้นว่างเป็นคำๆ เหมือนหลายคืนที่ผ่านมา



            “เรื่องอะไรครับ” เอ่ยถามเสียงอ่อนไม่กระโชกโฮกฮากเหมือนตอนก่อเรื่องร้าย



            “ก็เรื่องที่มึงกับกูไม่ได้เป็นอะไรกันยังไงล่ะ”



            “ไม่ได้เป็นอะไรได้ยังไง! ในเมื่อพี่เป็นเมียผมและผมก็เป็นผัวพี่”



            คนหนึ่งเอ่ยเสียงเรียบเฉย ต่างจากอีกคนที่เริ่มโวยวายตามอารมณ์ที่พุ่งสูง



            “ตลก…เหมือนมึงจะลืมไปนะกาย ว่ากูไม่ได้เต็มใจมากับมึง กูไม่ได้เต็มใจนอนกับมึง แต่มึงกับเพื่อนเหี้ยๆ ของมึงต่างหากล่ะ…ที่ฉุดกูมาทำระยำตำบอนแบบนี้!”



            ในเมื่อเหลือกันแค่สองคนก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่ออดี้จะต้องกลัวอีกต่อไป ในเมื่ออีกฝ่ายเป็นพวกเก่งแต่ปากใช้แต่เพื่อน พอเหลือตัวคนเดียวแล้วก็หงอยหมาไม่ต่างจากเด็กอมมือคนนึง



            “ไม่…ผมไม่ยอม ยังไงพี่ก็ต้องเป็นของผม…ผมรักพี่นะ” เพราะรู้ว่าการดึงดันไม่ใช่ทางออกดี กายจึงเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ ใช้วิธีออดอ้อนเข้าสู้อดีตว่าที่พี่เขยที่ตนอุ้มมาเชยชมจนสมใจ



            ออดี้ตัดสินใจหมุนตัวหันมาเผชิญหน้ากับคนสารเลวที่ฉุดตนเองมาให้เพื่อนมันทำร้ายร่างกายย่ำยีหัวใจด้วยสายตาว่างเปล่า ก่อนที่มุมปากได้รูปจะค่อยๆ ฉีกยิ้มบิดเบี้ยวออกมา เป็นอะไรที่ดูสยองมากกว่าน่ามอง



            “หึ! รักหรอ? มึงทำกับคนที่มึงบอกว่ารักอย่างนี้หรอ…กูไม่ลากหัวมึงเข้าตารางก็บุญหัวมึงแล้วไอ้เหี้ยกาย!”



            เฉดหัวเข้าไปหนึ่งทีแรงๆ หวังว่าช่วยเขย่าสมองไอ้เด็กเปรตตรงหน้ากลับมาคิดเรื่องดีๆ ได้บ้าง ไม่ใช่เอาแต่มั่วสุมก่อเรื่องชั่วไปวันๆ



            “…..”



            “ที่ผ่านมากูจะนึกว่าให้ทานหมามันแดก เพราะมึงบอกเองว่ากูเป็นสาเหตุที่ทำให้พี่มึงตาย สิ่งเหล่านั้นกูได้ชดใช้ให้มึงไปหมดแล้ว…ทุกอย่างมันควรจบแค่ตรงนี้”



            “แต่ผมรักพี่นะพี่ดี้ ผมขอโทษที่ทำอะไรไปโดยไม่คิดหน้าคิดหลัง ขอโทษที่ทำให้พี่เสียใจ พี่จะให้ผมทำอะไรก็ได้ จะให้ผมกราบก็ได้ แต่อย่าทิ้งผมไปเลยนะ”



            “กูไม่ได้รักมึงกาย คนที่กูรักมีแค่คนเดียวก็คือ ‘อาย’ พี่สาวของมึง”



            “พี่…”



            “กูยอมรับเลยนะว่าก่อนหน้านี้กูเคยรู้สึกรักและเอ็นดูมึงไม่ต่างไปจากน้องชายแท้ๆ ของกู” มาถึงตรงนี้ออดี้ละไม่อยากจะเชื่อเลย ถ้าไม่ได้โดนกับตัว เพราะที่หลายปีที่ผ่านมา กายเป็นเด็กแสบที่น่ารักไม่ต่างไปจากพี่สาวอย่างอาย ผู้หญิงที่ทำให้เขาตกหลุมรักตั้งแต่แรกเห็น



            “…..”



            “จำไว้เลยนะ…หลังจากนี้ไปมึงกับพวกเพื่อนเหี้ยของมึงอย่าได้โผล่หัวมาให้กูเห็นหน้าอีก เพราะกูจะไม่พลาดอีกแล้ว”



            “…..”



            “รับรองเลยว่า…เจอที่ไหนกูกระทืบที่นั่น”



            “…..”



            “แต่ถ้าพวกมึงยังไม่ยอมหยุดอีก ก็เตรียมเปลี่ยนจากฝูงหมาไปเป็นเหยื่อให้กูล่าได้เลย”



            “…..”



            “กูสาบานเลยว่าจะไม่ฆ่า แต่กูจะล่าจนสุดขอบฟ้า อะไรที่พวกมึงเคยทำกับกู…กูจะทบต้นทบดอกคืนให้พวกมึงเป็นร้อยเท่า ให้สาสมกับสันดานหมาลอบกัดอย่างพวกมึง”



            “…..”



            “แล้วมึงจะรู้ว่านรกที่แท้จริงเป็นยังไง”



            พูดจบก็กัดฟันเดินออกจากห้องพักของกายไปอย่างมาดแมนทั้งที่ภายในบอบช้ำแสนสาหัส โดยที่กายเองก็ไม่กล้าตามออกไปเพราะรู้ดีว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่ออดี้พูดมานั้นมันคือเรื่องจริง ถ้าไม่ใช้วิธีรอบกัดอาศัยจังหวะที่ออดี้เผลออย่าหวังเลยว่าเขาจะสู้เจ้าตัวได้ ในเมื่อออดี้เองก็หาใช่ลูกตาสีตาสาไม่มีทางสู้ เพราะนอกจากครอบครัวจะกว้างขวางแล้วเพื่อนพ้องก็มีมากมายทุกระดับชั้น ไล่ตั้งแต่เด็กแว้นยันไฮโซโบว์ใหญ่ทั้งในกรุงเทพและบ้านเกิด



            วูบ…



            หลับตา กลั้นใจ เตรียมเกร็งตัวรอความเจ็บปวด เมื่อรู้สึกหน้ามืดขึ้นกลางคัน หลังจากที่ฝืนร่างกายเดินลงบันไดมามากกว่าสองชั้น



            หมับ!



            “เดินไม่ระวังจะเจ็บหนักกว่าเดิมนะครับ”



            แต่เหมือนสวรรค์ยังเห็นใจ ส่งผู้ช่วยกล้ามโตเข้ามาหยุดยั้ง ก่อนที่หน้าจะทิ่ม หัวจะฟาดไปตามแรงโน้มถ่วงของโลก



            “ขอบใจ” ออดี้ตัดบทบอกทันทีเมื่ออีกฝ่ายช่วยพยุงมาจนถึงหน้าอพาร์ทเม้นท์



            “ให้ผมไปส่งดีกว่า” เพราะดูจากสภาพของอีกฝ่ายแล้ว เขาเองก็ไม่อาจวางใจ ขืนปล่อยให้ไปคนเดียวมีหวังได้เป็นลมอยู่กลางทาง



            “ไม่เป็นไร ขอบใจ” แม้ว่าจะถึงขีดสุดของร่างกายแล้ว แต่ออดี้ก็ไม่ลืมที่จะเอ่ยขอบคุณซ้ำอีกครั้งตามคำสอนสั่งของผู้เป็นแม่ที่ฝังอยู่ในหัว



            “ไปเถอะผมเต็มใจ” ไม่เสียเวลารอให้อีกฝ่ายปฏิเสธ คุณผู้หวังดีก็จัดการอุ้มออดี้ที่มีขนาดตัวสูงใหญ่เกินกว่ามาตรฐานชายไทยขึ้นรถไปประหนึ่งว่าออดี้นั้นตัวเบาดุจปุยนุ่น



            “ยุ่ง!” นั่นคือคำพูดสุดท้ายของออดี้ ก่อนที่เจ้าตัวจะหมดสติไปจริงๆ



            “ถ้าเป็นคนอื่นที่ไม่ใช่ผม พี่ได้โดนปล้ำอีกรอบแน่…ออดี้”



            ถามว่าเขาเป็นใครนะหรือ? จะให้อธิบายยังไงดีล่ะ? ในเมื่อเขาเป็นฝ่ายเดียวที่ยังคงจดจำเรื่องราวในอดีตได้เป็นอย่างดี ในขณะที่ออดี้หลงลืมมันไปหมดแล้ว



            “ไงเฮีย! ไปฉุดเด็กที่ไหนมา?” เพียงแค่ก้าวขาเข้าร้านนกขุนทองประจำร้านก็เอ่ยทักมาทันที ก่อนที่พนักงานคนอื่นจะฮือฮาไปตามกัน เมื่อเห็นใครบางคนอยู่ในอ้อมแขนของเจ้านาย



            “ฉุดบ้านมึงสิ ไปๆ ไปทำงาน อย่าเสือกเรื่องของกูมาก ถ้ายังอยากได้เงินตอนสิ้นเดือน” ว่าจบก็เดินหนีทันทีก่อนที่จะโดนไอ้พวกจุ้นจ้านซักไซ้ไปมากกว่านี้



            “โหย~ ไรว้า…จะมีเมียทั้งทีเล่นของสูงเลยนะเฮีย” สมุนตัวร้ายพาเป่าปากวิ๊ดวิ้วแหกปากร้องแซวลูกพี่อย่างสนุกสนาน ไม่มีหรอกที่จะกลัวคำขู่ เพราะรู้ดีว่าเฮียไม่ใช่คนใจร้ายใจดำขนาดที่จะหักเงินลูกน้องตาดำๆ เพียงเพราะถูกแซว



            แล้วจะไม่ให้แซวได้อย่างไรในเมื่อเฮียสุดหล่อของเราไปคว้าเอาคนหล่อกว่ามาเป็นเมีย แถมคนๆ นั้นยังไม่ใช่คนธรรมดา แต่เป็นถึงลูกชายคนโตของเสี่ยใหญ่เจ้าพ่อมอเตอร์ที่คาดว่าจะลงเล่นการเมืองท้องถิ่นในไม่ช้านี้ เรียกได้ว่าครบเครื่องเรื่องส้นตีนเลยครับ…โชคดีนะเฮีย



            หนึ่งวันผ่านไป



            “ที่ไหนอีกวะเนี่ย?”  ออดี้ถึงกับต้องกุมขมับเมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาแล้วพบว่าตนเองอยู่ในที่ที่ไม่คุ้น มองดูตรงไหนก็แปลกตาไปหมดกับสไตล์การตกแต่งห้องแบบโมเดิร์นลอฟท์



            นั่งอึนอยู่กับตัวเองได้ไม่นานเจ้าของห้องตัวจริงก็เปิดประตูเข้ามาทักทายด้วยรอยยิ้มพิมพ์ใจประหนึ่งว่าเป็นนายงามสันติภาพมาหลายสิบปี



            “ตื่นแล้วหรอ เป็นไงบ้าง ยังปวดหัวอยู่รึเปล่าครับ”



            “มึงเป็นใครวะ?” ความจริงแล้วออดี้หาใช่คนไร้มารยาทจนถึงขั้นเอ่ยทักทายคนแปลกหน้าด้วยคำพูดหยาบคายแบบนี้หรอกนะ โดยเฉพาะกับผู้มีพระคุณ แต่เป็นเพราะสัญชาตญาณเอาตัวรอดในกายต่างหากล่ะที่ร้องบอกว่าให้ระวัง หลังจากที่พลาดไปแล้วครั้งนึง



            “พี่จำผมไม่ได้หรอ?” โน้มตัวลงจ้องตาลองเสี่ยงถามอีกสักครั้งให้แน่ใจ



            “เราเคยรู้จักกัน?” เอ่ยถามกลับไปด้วยฉงนเพราะมั่นใจมากว่าตนไม่เคยรู้จักกันคนตรงหน้ามาก่อนอย่างแน่นอน



            “ช่างเถอะครับ เอาเป็นว่าเดี๋ยวผมพาพี่ไปส่งบ้านเลยแล้วกัน” มาถึงตรงนี้แล้วก็หมดคำที่จะพูดเพราะรู้ดีว่าฝืนไปก็เท่านั้นในเมื่ออีกฝ่ายไม่คิดที่จะสนใจกันสักนิด อีกทั้งยังแสดงท่าทางหมางเมินใส่กันอย่างชัดเจน จึงไม่กล้าที่จะเอ่ยรั้งให้เจ้าตัวอยู่ต่อ แม้ว่าในใจกำลังร่ำร้องก็ตาม



            “ระวังครับ!”



            เพราะนอนนานและลุกเร็วเกินไปออดี้จึงเกิดอาการหน้ามืดจนเกือบจะหงายหลังล้มลงไป แต่ยังดีที่อีกคนคว้าตัวไว้ได้ทัน



            “ขอบใจ” พูดพลางดันตัวออกจากอ้อมแขนอันแข็งแกร่งของอีกคน



            “ด้วยความยินดีครับ” ขยิบตายิ้มหวานส่งให้สักหนึ่งทีเพิ่มความประทับใจ ในขณะที่ออดี้ได้แต่ทำหน้าเอือมใส่ เพราะไม่ได้รู้สึกพิศวาสในเพศชาย แม้ว่าจะถูกกายกับเพื่อนๆ ขืนใจก็ตาม



            มาถึงตอนนี้…เขาก็ยังเป็นเขาที่ไม่รู้สึกอินกับพวกรักร่วมเพศสักเท่าไหร่ ออกจะรังเกียจเสียด้วยซ้ำ แม้ว่าพี่ชายที่เคารพรักอย่างโฟล์คจะมีคนรักเป็นผู้ชายก็ตาม



            “พี่ไม่คิดจะพูดอะไรกับผมบ้างหรอ?” สุดท้ายแล้วสารถีสุดหล่อก็เป็นฝ่ายเปิดปากพูดออกมาเป็นคนแรก หลังจากที่ทนอึดอัดมาพักใหญ่ เพราะตั้งแต่ขับรถออกมาจากร้าน ออดี้ก็ไม่พูดอะไรเลย เอาแต่นั่งเงียบอย่างเดียว



            “ขอบใจ” ก็ยังย้ำคำเดิมถึงบุญคุณที่อีกฝ่ายยื่นมือเข้ามาช่วยในขณะที่ตนไม่ต้องการ



            “ไม่ต้องซาบซึ้งขนาดนั้นก็ได้ที่ทำไปผมหวังผลตอบแทนทั้งนั้นแหละ” สวมบทพระเอกทำดีพูดดีด้วยไม่ชอบ พ่อเลยกวนประสาทให้ซะเลย ปากหนักดีนัก



            “จะเรียกเท่าไหร่ก็ว่ามา” ไม่จำเป็นต้องพูดคุยกันอีกต่อไปในเมื่ออีกฝ่ายไม่ได้เป็นคนดีเหมือนอย่างที่เขาคาดการในตอนแรก



            “จะจ่ายไหวหรอ? ผมเรียกแพงนะ”



            “มีปัญญาจ่าย!”



            เหอะ! คิดว่าจะดี สุดท้ายก็ไม่พ้นพวกหน้าเงินช่วยเหลือคนเพราะหวังผลตอบแทน



            “ถ้าอย่างนั้นผมไม่เกรงใจแล้วนะ”



            “จะเอาเท่าไหร่ก็ว่ามาเถอะอย่ามัวแต่ร่ำไร!”



            สุดท้ายแล้วออดี้ก็หมดความอดทน ตวาดถามเสียงขุ่น เมื่ออีกฝ่ายเอาแต่เล่นแง่ดึงเวลาไม่ยอมปล่อยให้เขาลงจากรถสักทีทั้งที่มาจอดอยู่หน้าบ้านได้พักใหญ่แล้ว



            “ผมขอแค่ ‘หัวใจ’ ของพี่ก็พอครับ”







TBC.

                        อะแฮ่มๆ ก่อนอื่นเลยก็ต้องขอกราบประทานโทษที่หายหัวไปนาน เนื่องจากคนเขียนโดนเบญจเพศ(ออกแนวงมงาย) เล่นงานอย่างแสนสาหัส มือเจ็บ มือบวม (เปิดคอมทำงานไม่ได้) เจ็บตัว วนเวียนอยู่อย่างนี้ จนกระทั่งเมื่อวานที่ไม่รู้ว่าโง่หรือโง่มากกันแน่ถึงได้แหย่นิ้วเข้าไปกรีดเลือดบูชาใบพัดพัดลมให้เจ็บต่อไปอีก แต่จะให้คนอ่านรอต่อไปก็คงไม่ได้ เลยฝืนสังขานหอบนิ้วเดี้ยงๆมาอัพนิยายในวันนี้ #ไม่โกรธไม่งอนกันน้า #คิดถึง #ด้วยรัก

ปล. รู้ว่าเฮียเค้กหล่อ แต่...ห้ามนอกใจพี่มณีนะ! เดี๋ยวพี่ก็กลับมาทวงบัลลังก์​หนุ่มหล่อของพี่คืนแล้ว...หม๊าว~

ออฟไลน์ ก้มหน้าก้มตา

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 137
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
คิดถึง


แต่ว่าออดี้ทำไมเจอเรื่องราวสาหัสยิ่งนัก

ดูคนในเรื่องตกระกำลำบากกันเหลือเกินค่ะ

ดีว่ารวยแทบทุกคนเลย
55555555

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
จะได้รู้เรื่องของออดี้ก็เขาซะที  o18

ออฟไลน์ พลอยสวย

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1622
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +232/-5
หายเร็วๆน๊า รอได้ค่ะ

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4

ออฟไลน์ เขียนสือ

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-1
    • เขียน'สือ


เขยช่างไฟสะใภ้ช่างยนต์

{41}







            เซ็ง!



            พอร์ชบอกเลยว่าเซ็งถึงเซ็งมาก เพราะทันทีที่พิธีไหว้ครูในแผนกเสร็จสิ้น ฝนก็เทลงมาห่าใหญ่ ตกลงมาแบบไม่ให้ลืมหูลืมตา กว่าจะกลับบ้านได้ทำเอาเปียกกันทั้งตัวตั้งแต่หัวยันหาง



            แต่มีหรือที่คนอย่างเขายอมแพ้ให้กับฟ้าฝนที่ไม่เป็นใจ?



            พอร์ชคิดวางแผนใหม่เปลี่ยนจากการบอกรักแสนหวานภายใต้แสงดาวที่ริมแม่น้ำมาเป็นดินเนอร์สุดสวีทภายใต้แสงไฟหลอดนีออนที่บ้านแทน



            แต่ทุกสิ่งอย่างที่พอร์ชฝันไว้ก็ต้องจบลง



            เพียงเพราะ…



            หม๊าว~



            “พี่มณี!”



            โซ่เกือบจะได้เป็นแชมป์พุ่งหลาวชายอยู่แล้ว ถ้าไม่ติดว่าถูกพอร์ชรั้งแขนไว้ก่อน เมื่อเห็นพี่มณีลูกรักมายืนรอต้อนรับอยู่หน้าประตู หลังจากที่ไม่ได้เจอกันมานานหลายวัน



            หม๊าว~



            “มาให้พ่อกอดหน่อย…คิดถึงจังเลย~” สะบัดแขนออกจากการเกาะกุมของคนรักแล้วอ้าแขนรอรับเจ้าเหมียวอ้วนที่กำลังส่ายตูดดุ๊กดิ๊กเตรียมพร้อมที่จะเข้าชาร์จตามคำขอ



            เหมี๊ยว~



            “พอลูกชายสุดที่รักมา ผัวอย่างกูก็กลายเป็นหมาหัวเน่าไปเลยนะ”



            ไม่ได้อิจฉาหรอกนะ ก็แค่รู้สึกหมั่นไส้เฉยๆ ที่คุณเมียสุดที่รักเห็นแมวอ้วนจอมขี้เกียจแถมยังขี้เก๊กอย่างอีมณีดีกว่าผัวแสนดีที่คอยอาบน้ำแปลงฟันให้อย่างพี่



            งอนได้ไหม?



            ถ้างอนจริงแล้วจะโดนล้อว่าเป็นตุ๊ดไหม?



            โอย…หมดกันดินเนอร์ภายใต้แสงไฟนีออนที่สุดแสนโรแมนติกของกู…อีมณี๊!



            “เป็นไร” ฟัดลูกชายจนหายคิดถึงแล้วก็ถึงเวลาที่โซ่จะต้องมาง้อป๋าพอร์ชจ๋าของน้องมณีที่ทำสะบัดสะบิ้งเดินหนีขึ้นห้องมาก่อน



            “งอน” รีบตอบกลับไปตามตรงแบบไม่มีการเล่นตัวเลยสักนิด



            “อะ…ง้อ” พูดบอกพร้อมกับหยิบยื่นกระดาษเอสี่สีขาวในกระเป๋าเป้ให้กับคนรัก



            “อะไรอ่ะ?” พอร์ชเองก็รับมาอย่างงงๆ



            “ใบทวงนี้ อ่านจบแล้วตอบกลับมาด้วยล่ะ” บอกเสร็จก็หันหลังเดินหนีเข้าห้องน้ำไป เพราะเพิ่งจะนึกขึ้นได้ว่าตัวเองตัวเปียกเพราะแว๊นน้องแมนฝ่าฝนกลับบ้านมา



คู่มือการเลี้ยง ‘น้องโซ่’





            ชื่อ*-สกุล* : นายไอศูรย์  กิจจานนท์  ชื่อเล่น : ซอ.โซ่ อายุ : 16 ปี 8 เดือน 13 วัน

วันเกิด : อังคาร / 25 / ธันวาคม / 2544 เวลา 02:35 น. ราศี : ธนู นักษัตร : มะเส็ง

            น้ำหนัก : 58 ส่วนสูง 178 กรุ๊ปเลือด : B

การศึกษาเตรียมอนุบาล*-ประถม* : เอกชนคาทอลิก

การศึกษาระดับมัธยม : รั้วน้ำเงิน-ขาว

การศึกษาปัจจุบัน : วิทยาลัยเทคนิค (แผนกช่างไฟ)

            ความสามารถทางการสื่อสาร

                        - 5 ภาษา (ไทย / อังกฤษ / จีน / ญี่ปุ่น / เกาหลี)

            นิสัยส่วนตัว

                        - รักสงบ เกลียดความวุ่นวาย นิสัยไม่ดี เอาแต่ใจ

                        - ชอบงานศิลปะ วาดภาพ ถ่ายรูป ฟังเพลง

                        -  เข้าป่า ปีนเขา ส่องสัตว์ นอนดูดาว อยากไปทะเล (ไม่เคยไป)

            สถานะภาพ

                        - โสด

                        - แฟนไม่มี

                        - ลูก 1 ตัว

                        - สามี 1 คน

            งานอดิเรก : ตัดผม / เปลี่ยนสีผม / ร้องเพลงเปิดหมวก / ขายกระเป๋า / ขายเสื้อ

            ความใฝ่ฝัน : สัตวแพทย์ / สถาปนิก / มัณฑนากร

            อนาคต : ไม่แน่นอน…ขอแค่มีพี่พอร์ชอยู่ด้วยกันก็พอเนอะ!



❣​ อ่านต่อหน้าหลังด้วยนะครับป๋าพอร์ชจ๋าของพี่มณี  ❣​



            พอร์ชคงไม่ทันรู้ตัวว่าใบหน้าบูดบึ้งในตอนแรกของตนเองนั้นแปรเปลี่ยนไปเป็นรอยยิ้มกว้างแสนสดใสทันทีเมื่อได้เห็นข้อความบรรทัดแรกบนกระดาษสีขาวสะอาดตาที่โซ่บรรจงเขียนมาเป็นอย่างดี



❤​ To...คุณแฟนที่รัก ❤​

            มีหลายสิ่งหลายอย่างที่เราไม่สามารถรับรู้ได้ทั้งหมดภายในระยะเวลาหนึ่งปีที่เราคบกันมา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องในอดีต ปัจจุบัน หรือปัญหาในอนาคตข้างหน้าที่เราสองคนต้องเจอ แต่ในเมื่ออดีตที่ค้างคาของกูมันทำให้มึงรู้สึกแย่ กูก็พร้อมที่จะเล่าให้ฟัง แต่ขออย่างเดียวอย่าเจ็บปวดหรือเสียใจเพราะความไม่เอาไหนของกูอีกเลยนะ เพราะกูไม่สามารถกลับไปแก้ไขอดีตได้ และอาจจะฟังดูเว่อไปนิด ถ้ากูจะบอกว่า…กูอยากให้มึงเดินจูงมือกูไปจนถึงวันสุดท้ายของชีวิตเลย

            เมื่อก่อนกูเคยคิดว่าตัวเองแกร่งจนไม่ต้องง้อใคร ปกป้องได้ทุกคนไม่ว่าจะเป็นเพื่อนพ้องน้องพี่ จนกระทั่งเจอมึง กูถึงได้รู้ว่าตัวเองโคตรอ่อนแอ

            มึงคนที่เข้ามาเติมเต็มความอ้างว้างของกู มึงคนที่เข้ามาทำให้ชีวิตที่แสนสงบสุขของกูวุ่นวาย มึงคนที่เข้ามาทำลายกำแพงในใจของกู มึงคนที่…กูรักสุดหัวใจ

            มาถึงตรงนี้แล้วก็ต้องบอกกันตามตรงว่า…ทิ้งกูมึงตาย! #รักนะครับไอ้หมาพอร์ช



จาก…น้องโซ่ผู้น่ารัก

​..

..

..

            แอ๊ด*…*



หมับ!



            “ขอบคุณครับ”



            “เป็นบ้าอะไรของมึงอีกเนี่ย!”



            โซ่ร้องถามเสียงหลงด้วยความตกใจเมื่อโดนจู่โจมจากคนรักที่พุ่งเข้ามากอดทันทีเปิดประตูห้องน้ำออกมา



            “ขอบคุณครับขอบคุณ ในที่สุดเราก็รักกัน ไม่ใช่แค่กูรักมึงหรือมึงรักกูอย่างที่ผ่านมา…กูโคตรรักมึงเลยครับเมีย!” ไม่รู้ว่าเป็นความความดีใจเกินไปหรืออย่างไรถึงได้ทำให้พอร์ชยกตัวโซ่ขึ้นโยนไปมากลางอากาศแบบที่ไม่เกรงใจผ้าเช็ดตัวผืนเล็กบนสะโพกของโซ่เลยแม้แต่น้อย



            “เออ…รักเหมือนกัน ไปอาบน้ำได้แล้ว เดี๋ยวไม่สบาย” พูดบอกพร้อมกับก้มลงจูบตรงกลางศีรษะของคนรักที่ยังคงโอบอุ้มตนเองไว้



            “รับทราบครับผม!” วางโซ่ลงยืนบนพื้นแล้วทำท่าทางเลียนแบบทหารตอนรับคำสั่งเจ้านายอย่างแข็งขัน แล้วผลุบหายเข้าไปในห้องน้ำ



            ก่อนวิ่งย้อนกลับมาขโมยหอมแก้มโซ่เสียฟอดใหญ่แล้วพูดว่า…



            “ขอมัดจำไว้ก่อน เดี๋ยวคืนนี้พี่จัดชุดใหญ่ให้เลย ถือว่าเป็นรางวัลของเด็กดี” สบายใจแล้วก็กลับหันหลังเดินผิวปากเข้าห้องน้ำไปอย่างสบายใจ



            “ไอ้หื่นเอ้ย!”



            หมดกัน…จากที่จะหยุดความวุ่นวายใจ เพิ่มความไว้เนื้อเชื่อใจให้แก่ตนและคนรักตามที่บุญล้อมแนะนำมาว่า…ถ้าไม่กล้าสู้หน้าพูดบอกไปตามตรงก็เขียนจดหมายสารภาพความในใจผ่านตัวอักษรแทนก็ได้…คลาสสิกดี…แต่กลับมาจบที่ความหื่นของคุณแฟนเฉยเลย



            ยุบหนอ…



            พองหนอ…



            ไม่โกรธหนอ…



            เดี๋ยวก็เสร็จหนอ…



            ไม่หนอแล้วโว้ย….โอ้ย!



            จากที่คิดว่าจะได้สวีทหวานกับคนรักอย่างสันติหลังจากที่หลอกให้ไอ้มารขนยาวอย่างอีมณีลูกรักไปนอนกับปู่ย่ามันได้ แต่ความจริงกลับไม่เป็นอย่างฝัน เมื่อจู่ๆ ไอ้พี่ชายตัวดีที่หนีหายไปอยู่กับผัวเด็กมานานนับเดือนโผล่พรวดเข้ามากึ่งลากกึ่งจูงเขากับโซ่ออกจากบ้านมาโดยที่ไม่มีคำอธิบายอะไรทั้งสิ้น จนกระทั่งมาถึงร้านเหล้าของผัวเด็กมันนั่นแหละเจ้าตัวมันถึงได้เปิดปากบอกออกมาได้ว่าวันนี้นักร้องประจำร้านของมันเบี้ยวไม่ยอมมาทำงานถึงต้องใช้โซ่ที่เขาเพิ่งมารู้ที่หลังว่าเจ้าตัวเคยแอบมารับจ๊อบร้องเพลงแรกเหล้าอยู่ที่นี่เมื่อตอนมอต้นทั้งที่ผิดกฎหมาย เพราะอายุไม่ถึง แต่เชื่อเถอะว่าไม่มีตำรวจท้องที่หน้าไหนก็ไม่กล้าเสี่ยงเข้ามาเอาจับลูกชายคนโตของท่านผู้การฯ เข้าคุกหรอกในเมื่อบารมีพ่อมันค้ำหัวซะขนาดนี้



            “ไงมึง…เป็นเด็กดีอย่างนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่วะ” ออดี้ย้อนกลับเข้ามาหาน้องชายที่กำลังนั่งจิบน้ำหวานสีสวยอยู่ในมุมมืดที่ค่อนข้างเป็นส่วนตัว หลังจากที่ไปช่วยคนรักอย่างเค้กจัดการระบบงานในร้านเสร็จเรียบร้อยแล้ว

            “แล้วมึงล่ะ…คิดมีผัวตั้งแต่เมื่อไหร่?” ถามย้อนกลับไปด้วยท่าทางกวนประสาทสุดติ่งที่เผลอซึมจากคนรักอย่างโซ่มาแบบไม่รู้ตัว จะมีก็แต่คู่สนทนาอย่างออดี้เท่านั้นแหละที่เล็งเห็นว่ามีหลายสิ่งหลายอย่างในตัวน้องชายที่เปลี่ยนไป



            “มึงนี่มัน…”  พอเจอคำถามตรงๆ จากพอร์ชแบบนี้ออดี้ก็ไปไม่เป็นเหมือนกัน



            “เออน่า…กูไม่สนหรอกว่าใครจะเป็นผัวใครจะเป็นเมีย ขอแค่มึงรักเขาและเขารักมึงจริงๆ ก็แล้ว” เพราะพี่ชายเผลอแสดงสีหน้าลำบากใจออกมา พอร์ชจึงเลือกที่จะพูดบอกออกมาตามตรง จากที่เคยคิดว่าจะยื้อเวลาไว้แกล้งให้ออดี้ปวดหัวเล่น



            “แล้วมึงล่ะ?”



            “กูทำไม”



            “ช่วงนี้ดูสงบเสงี่ยมขึ้นเยอะ…ไอ้โซ่นี่ตัวจริงแล้วว่างั้น?”



            “มีเพชรอยู่ในมือแล้ว กูไม่โง่ทิ้งกลับไปหาก้อนกรวดหรอก”



            “คิดได้อย่างนั้นก็ดี เพราะกูยังไม่อยากเสียน้ำตาร้องให้ในศพน้อง” ออดี้หยุดพูดแล้วหันไปชนแก้วกับสาวสวยในชุดแม่เสือพร้อมล่าเหยื่อ



            ก่อนที่จะหันกลับมาพูดกับพอร์ชว่า…



            “ได้ข่าวว่าเพชรในมือมึงมันไม่ธรรมดา แต่เป็นเพชรแท้เกรดเอ…ตัวพ่อในเขตนี้เลย”



            “ก็พอรู้อยู่ แต่…ยังรู้ไม่หมด”



            “หรือมึงรับอดีตมันไม่ได้หรอ?”



            “ไม่ใช่อย่างนั้นกูก็แค่…”



            “อยากเสือก?”



            “เออ…แต่มันผิดมากเลยรึไงวะที่กูอยากรู้ทุกเรื่องของเมียตัวเองเนี่ย!”



            “ไม่ผิดหรอก เพราะมึงมันขี้เสือก แต่จะดีกว่านี้ถ้ามึงรู้จักรักษาน้ำใจคนอื่นบ้าง”



            “โอ้ย…อย่าว่าแต่รักษาน้ำใจเลย ทุกวันนี้กูแทบจะกราบเช้ากราบเย็นอยู่แล้ว แต่ติดที่กูห้ามความเสือกตัวเองไม่ได้นี่แหละ”



            พอร์ชไม่ได้เถียงนะ แค่พูดความจริง เพราะไม่ว่าจะทำอะไรในทุกวันนี้เขามักจะนึกถึงจิตใจโซ่มากกว่าความรู้สึกของตัวเอง เพียงแต่…เขาไม่สามารถนิ่งเฉยกับเรื่องราวในอดีตหรือปัจจุบันที่ทำให้โซ่เสียใจได้เลย



            “มึงลองคิดกลับกันดูสิ ถ้าจู่ๆ เมียมึงก็มาจี้ถามว่าแฟนเก่ามึงเป็นใครอยู่ที่ไหน รักยังไง เลิกยังไง ยังคิดถึงอยู่รึเปล่าหรือว่าตายจากกันไปแล้ว? เรื่องง่ายๆ แค่นี้มึงคิดไม่ได้?”



            มาถึงตรงนี้แล้วพอร์ชก็ได้แต่อึ้ง เมื่อลองคิดตามในสิ่งที่พี่ชายพูด เพราะตัวเขาเองก็ไม่อยากให้ใครมารื้อฟื้นเรื่องในอดีตที่มันจบไปแล้วเหมือนกัน โดยเฉพาะคนรักอย่างโซ่ที่เขารักและเป็นห่วงความรู้สึกของเจ้าตัวมากที่สุด



            “ถ้ามึงอยากเสือกมากจนทนไม่ไหวก็ค่อยๆ ไปตะล่อมถามจากเพื่อนมันเอา หรือไม่ก็รอจนกว่ามันจะพร้อมแล้วพูดออกมาเอง แทนที่จะไปจี้ปมให้มันเจ็บช้ำน้ำใจอยู่แบบนี้”



            “อือ” สุดท้ายพอร์ชก็ก้มหน้ายอมรับความผิดพลาดของตนเองอย่างจำยอม หลังจากคิดย้อนกลับไปแล้วพบความจริงที่ว่าความรักความห่วงใยที่มาพร้อมกับความหวงแหนของตนนั้นมันไม่เกิดผลดีกับโซ่เลย มีแต่จะตอกย้ำให้ช้ำใจเหมือนอย่างที่ออดี้บอก



            “รีบคิดให้ได้ แล้วอย่าปล่อยให้ความรักของมึงกลายเป็นความเห็นแก่ตัวไปซะล่ะ…ไอ้น้องรัก” เมื่อได้พูดในสิ่งที่อยากจะพูดไปหมดแล้ว ออดี้ก็เตรียมที่จะกลับไปช่วยคนรักดูแลความเรียบร้อยภายในร้านต่อ แต่ติดที่ถูกพอร์ชเรียกไว้



            “เดี๋ยว!”



            “อะไร?”



            “กูเคยบอกไปแล้วใช่ไหมว่ากูรักมึง?”



            “เออ…ทำไม?”



            “วันนี้กูยังยืนยันคำเดิมนะ แต่…มีผัวแล้วน่ารักขึ้นเยอะเลยนะเรา…คึ…คึ”



            “ฮึ่ม…ไอ้พอร์ช…ไอ้น้องเหี้ย!”



            เกือบจะจบซึ้งจบสวยอยู่แล้วเชียว ถ้าไม่ติดประโยคสุดท้ายที่มาพร้อมกับสีหน้าและเสียงหัวเราะแบบจงใจกวนประสาทของพอร์ชที่ทำเอาออดี้เดือดจนแทบอยากจะเอาขวดเบียร์ในมือฟาดให้หัวแตกกันไปข้าง แต่ติดที่ว่าไอ้ตัวแสบมันเป็นลูกรักของคุณนายปลื้มจิตที่แม้แต่หัวหน้าครอบครัว(ตัวปลอม)อย่างพ่อเขาก็ยังไม่กล้าหือ แล้วมีหรือที่ไก่รองบอนอย่างเขาจะไม่กลัว



            01.35 น.



            จึก!



            “ตัวเอง…ตัวเองจ๋า ~”



            จึก! จึก!



            “น้องโซ่จ๋า~ แม่ ‘น้อง’ มณีจ๋า~”



            โซ่ถึงกับตื่นเต็มตาเมื่อถูกคนรักสะกิดพร้อมกับคำพูดหวานหูที่น้อยครั้งนักที่จะได้ยินเจ้าตัวเรียกลูกชายอย่างพี่มณีว่า ‘น้อง’ เพราะส่วนมากพอร์ชจะเรียกพี่มณีด้วยถ้อยคำหยาบคายที่ว่า ‘อีมณี’ ด้วยน้ำเสียงประชดประชันที่แฝงไปด้วยความอิจฉาตาร้อนของเจ้าตัว



            “ว่าไงครับคุณป๋าจ๋า ~” หันกลับมากระพริบตารับคำเสียงหวานไม่แพ้กัน



            “ดึกแล้ว งานก็ทำแล้ว ลูกก็ไปนอนกับปู่ย่าแล้ว…เรามาทำน้องให้พี่มณีกันเถอะ” ว่าแล้วก็กระโดดขึ้นค่อมคนรักไว้ ก่อนที่จะสะบัดผ้าห่มขึ้นคลุมโปรงเตรียมพร้อมที่จะปฏิบัติภารกิจคู่รักสมความตั้งใจ



            ถ้าไม่ติดที่ว่า…



            หม๊าว…



            “พี่มณี!”



            “กูไม่น่าทำประตูแมวให้มึงเลยอีมณี๊! อีแมวปีศาจ! อีมารคอหอย!”







ป๋าจ๋าไม่ได้แอ้มพ่อจ๋าของพี่หรอก...แบร่~

​**#พี่มณีเดอะวินเนอร์**





TBC.

   รู้ว่าสาย รู้ว่าช้า คนเขียนก็ไม่อยากให้เป็นแบบนี้เหมือนกันจ้า เพราะยิ่งหายไปนานเท่าไหร่ คนอ่านก็หายตามไปมากเท่านั้น แต่ทำไงได้? ในเมื่องานราชงานหลวง​มีเข้ามาไม่ขาดมือ ถ้าแยกร่างได้ก็อยากจะทำ

อย่าว่าแต่คนอ่านนอยเลย คนเขียนก็นอยเหมือนกัน อยากอัพใจจะขาด แต่ฟ้าไม่เข้าใจ #ด้วยรัก #คิดถึงมาก

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
มณีจะมาตอนนี้ไม่ได้เด้อ

ออฟไลน์ เขียนสือ

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-1
    • เขียน'สือ


เขยช่างไฟสะใภ้ช่างยนต์

{42}





            ในวันที่คลื่นลมสงบ พายุกำลังจะโถมทำลาย ถึงคราวที่โลกต้องสลาย วิทยาลัยเทคนิคต้องลุกเป็นไฟ



            เมื่อมีข่าวลือที่ว่า…



            ‘ไอ้พอร์ชมีชู้’



            “ใจเย็นๆ อย่าเพิ่งงวู่วามนะครับคุณโซ่” บุญล้อมกำลังกึ่งวิ่งกึ่งเดินตามโซ่ไปแผนกช่างยนต์เตือนสติให้โซ่ใจเย็น เพราะทันทีที่มีผู้หวังดีประสงค์ร้ายคาบข่าวคาวๆของพอร์ชมาบอกถึงในแผนกโซ่ก็เกิดอาการหัวร้อนอย่างที่เห็น

            แต่นอกจากโซ่แล้วใครจะรู้ล่ะว่าอาการร้อนรนกระวนกระวายใจเพราะคนรักหายออกจากบ้านไปตั้งแต่กลางดึกแบบไม่มีบอกกล่าวมันเป็นเช่นไร…ก็แทบคลั่งเลยไง!



            “เด็กมึงโคตรน่าฟัดเลยไอ้พอร์ช!”



            “เออจริง…กูว่าน้องมันแม่งน่าขย้ำกว่าเมียสายโหดของมึงเยอะเลย”



            หนึ่งในเพื่อนร่วมชั้นเรียนขอพอร์ชกัดฟันพูดบอกด้วยความหมั่นเขี้ยว ซึ่งตรงกับจังหวะที่โซ่เดินมาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าประตูห้องเรียนของพอร์ชพอดี หลังจากนั้นพวกคนที่เหลือก็พากันวิพากษ์วิจารณ์ไปต่างๆ นาๆ ด้วยความสนุกปากโดยที่ไม่ได้รู้เลยว่าเงาหัวของตนเองกำลังจะหายไปเมื่อยมทูตที่ตกเป็นประเด็นอย่างโซ่กำลังนับหนึ่งยืนฟังอย่างตั้งใจ



            “เมียก็ส่วนเมีย เด็กก็ส่วนเด็กอย่าเอามาเหมารวมกันครับไอ้พวกเชี่ย!” เอื้อมมือออกไปเคาะหัวเพื่อนคนละทีสองทีก่อนที่จะดึงแขนกลับมาวางไว้ที่เดิมบนไหล่บางของคนข้างกายที่ถูกแก๊งช่างยนต์เรียกขานมาพักใหญ่ว่าเป็น ‘เด็กไอ้พอร์ช’



            “โฮ่…” พอได้ยินอย่างนั้นแล้วอสูรช่างไฟก็พากันโฮ่แซวเป็นการใหญ่เพราะดูจากสีหน้าและท่าทางของพอร์ชแล้วไม่มีออกอาการเกรงกลัวในโซ่เหมือนที่ผ่านมา



            หรือว่ามันจะเลิกกันแล้ว…จริงดิ?



            นั่นคือข้อสันนิฐานของเหล่าอสูรช่างยนต์หลายคนที่มีความคิดเห็นตรงกัน แต่ก็ติที่ว่าไม่มีใครกล้าถามออกไปตรงๆ



            จนกระทั่งมีหน่วยหน้ากล้าตายอย่างเป้พูดขึ้นมาว่า…



            “โอ้ย…อะไรของมึงอีกครับไอ้คุณพอร์ชพาเด็กมาเดินโชว์ตัวแล้วเป็นครึ่งค่อนวัน แต่ยังเสือกกลัวเมียไม่เลิก กูว่าป่านนี้เมียมึงเตรียมหอบลูกหนีแล้วม้าง…ถ้าผัวจะเหี้ยขนาดนี้”



            นี่ไม่ได้ด่านะ แค่พูดความจริงตามที่เห็นว่าวันนี้ไอ้พอร์ชมันมีสก๊อยบอยคนใหม่เปลี่ยนจากไอ้โซ่ขาโหดเมียมันมาเป็นเด็กตัวขาวหน้าตาน่ารักแถมยังโคตรน่าฟัดไม่พอ มันยังพากันลากไปโน่นมานี่ตั้งแต่เช้ายันบ่าย ตลอดห้องเรียนไปจนถึงห้องน้ำตัวตัวติดกันไม่เคยห่าง อีกทั้งได้เด็กนี่ยังเอาแต่ไอ้พอร์ชว่า ‘ป๋าจ๋า’ แล้วอย่างนี้จะให้แปลเป็นอื่นได้อย่างไร…ถ้าไม่ใช่กิ๊กมัน



            “พูดดีๆ หน่อยไอ้เพื่อนเหี้ย เดี๋ยวเมียกูมาได้ยินแล้วจะซวยกันหมด” พอร์ชยังคงพูดเล่นได้อย่างหน้าตาเฉยต่างจากเพื่อนรอบข้างที่กำลังทยอยเดินออกจากห้องไปทีละคนสองคน จนเหลือเป้เป็นคนสุดท้ายที่ทิ้งปริศนาคำพูดไว้ให้พอร์ชได้ฉุกคิดก่อนไปด้วยสีหน้าและแววตาสมน้ำหน้าปนเห็นใจนิดๆ ว่า...



            “มึงได้รับสิทธิ์นั้นเดี๋ยวนี้ไอ้เพื่อนรัก งานนี้คำว่าซวยคงไม่พอ กูบอกเลย…บรรลัยแน่” แล้วเป้ก็หันหลังเดินจากไป ทั้งห้องจึงตกอยู่ในความสงบเพราะเหลือแค่พอร์ชกับ ‘เด็ก’ ของมัน



            “น้องทำอะไรผิดหรอฮะป๋าจ๋า” เด็กน้อยเอ่ยถามกับพอร์ชด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาราวกับกระซิบทำให้โซ่ที่ยื่นห่างไปทางด้านหลังไม่ได้ยิน แต่ได้เห็นภาพที่ทั้งสองนั่งอิงแอบแนบซบกันอย่างชัดเจนเต็มสองตา



            “ปล่อยพวกมันไปเถอะ เดี๋ยวถึงเวลาก็พากันกลับเข้ามาเอง” ตอบกลับไปอย่างไม่คิดอะไรเพราะคิดว่าเพื่อนจะพาไปพักดื่มน้ำเข้าห้องน้ำตามประสาเหมือนอย่างทุกทีที่ถึงชั่วโมงว่างแบบนี้



            “คุณพอร์ชครับ!” บุญล้อมเสนอตัวเป็นหน่วยหน้ากล้าตายเดินอ้อมไปเผชิญหน้ากับพอร์ชที่นั่งหันหลังให้กับประตูห้องในตำแหน่งที่โซ่ยื่นกำหมัดแน่น…มองอยู่นานแล้ว



            “อ้าว! มาไงมหา เพื่อนมึงอ่ะ?”

            “โธ่…มันใช่เรื่องที่จะมาใจเย็นไหมครับ? เงาหัวจะหายอยู่แล้ว!”



            กลายเป็นบุญล้อมเสียเองที่ใจร้อนเป็นไฟเพราะไม่อยากให้เพื่อนรักอย่างโซ่กลายเป็นฆาตกรด้วยเหตุผลโง่เง่าว่าแฟนมีชู้ จึงทำใจกล้าหน้าด้านเสนอตัวมาเป็นสื่อกลางเจรจาโดยที่ไม่มีใครขอ เพราะรู้ดีว่าไอ้อาการนิ่งเงียบแต่เส้นเลือดปูดเกร็งไปทั้งตัวแบบนี้คือสัญญาณเตือนของหายนะที่คาดการความรุนแรงไม่ได้ เพราะโซ่เป็นคนที่โมโหร้ายมาก และจะโกรธมากขึ้นไปอีก ถ้าสิ่งที่ทำให้เกิดอารมณ์โมโหนั้นคือการหักหลังไม่ว่าอีกฝ่ายจะอยู่ในสถานะใดก็ตาม



            “อะไรของมึงวะมหา?” ก็แปลกใจอยู่หรอกนะที่จู่ๆ คนที่น่าจะกำลังนั่งเรียนอยู่ในตึกวิทย์ฯ เหมือนกับเมียเขา(จำตารางสอนเมียได้เป๊ะเลยไง/น่ารักป่ะล่ะ?) มาโผล่อยู่ตรงหน้า แต่ก็นั่นแหละอะไรก็เป็นไปได้หลังจากที่มันได้สอยไอ้แวนปากเปราะเพื่อนของเขาไปทำเมีย



            “ก็เรื่องเด็กคนนี้ไงครับ ชาวบ้านเขาลือกันให้แซดว่าคุณพอร์ชมีเมียน้อย ป่านนี้คงได้รับรู้ทั่วกันทั้งวิทยาลัยแล้วมั้งครับ!” ยิ่งพูดยิ่งโมโหเลยยิ่งใส่อารมณ์ประหนึ่งว่าเป็นเมียพอร์ชอีกคน



            “ห๊ะ! กูเนี่ยนะมีเมียน้อย?” พอร์ชละไม่อยากจะเชื่อหู คนบูชาเมียอย่างเขาเนี่ยนะจะมีชู้?



            โธ่…ทุกวันนี้นี่ไม่จับขึ้นหิ้งจุดธูปถวายน้ำแดงกราบเช้ากราบเย็นให้ก็บุญหัวแล้วครับพี่น้อง…ทั้งรักทั้งหลงขนาดนี้



            “ซบกันไม่เกรงใจส้นตีนกูเลยนะ”



            บุญล้อมหุบปากเงียบทันทีเมื่อโซ่ยอมเปิดปากพูดออกมาด้วยน้ำเสียงราบเรียบแต่แฝงไปด้วยความคุกรุ่นที่ร้อนรนอยู่เต็มอก



            “โซ่!”



            “เออ…กูเอง!”



            พอร์ชสะดุ้งตกใจเมื่อหันมาเห็นคนรักยืนจ้องอยู่ด้านหลังด้วยสายตาที่น่ากลัว ในขณะที่โซ่เองก็เดินตรงมาที่พอร์ชด้วยท่าทางหงุดหงิดเต็มขั้น



            เขาพร้อมแล้วที่จะสั่งสอนคนไม่รักดีอย่างพอร์ชด้วยกำปั้นของตนเอง ถ้าไม่ติดที่ว่า...



            หมับ!



            “หม่าม๊าจ๋า~”



            “หม่าม๊าจ๋า?!!!!”



            เด็กน้อยหนึ่งเดียวที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นชู้ของพอร์ชมาตั้งแต่เช้ายันบ่าย หันกลับมาเรียกโซ่ว่า ‘หม่าม๊าจ๋า’ เสียงดังลั่นก่อนที่จะพุ่งเข้าไปกอดโซ่ท่ามกลางความตื่นตะลึงของโซ่และตัวประกอบกว่ายี่สิบตัวที่แอบสังเกตการณ์อยู่ด้านนอก



            “จอมซน!”



            “แฮ่…น้องซนเองจ้า…น้องซนกลับมาหาป๋าจ๋ากับหม่าม๊าจ๋าแล้วจ้า~” เจ้าเด็กแสบเงยหน้าขึ้นมายิ้มตาหยีพูดบอกด้วยท่าทางน่ารักจนโซ่อดไม่ได้ที่จะยกสองมือขึ้นมาขยี้ผมสีทองสดใสของหลานชายที่ถูกเก็บซ่อนไว้ภายในฮู้ดเสื้อคลุมมาทั้งวัน



            พอตั้งสติได้โซ่ก็เริ่มสำรวจมองร่างกายของหลานชายที่ดูเหมือนว่าจะโตขึ้นกว่าเดิมมาก หลังจากที่ไม่ได้เจอกันมาหลายเดือนเพราะเรื่องคดีความที่ยังไม่มีทีท่าว่าจะจบลงได้ง่าย แต่ไหงเจ้าตัวแสบถึงมาโผล่ที่นี่ได้



แถมยังเรียกเขาว่า…

            “หม่าม๊า? เมื่อกี้นี้น้องซนเรียกอาว่าหม่าม๊าใช่ไหม?” เพราะมัวแต่ดีใจที่ได้เจอหลานชาย กว่าจะนึกขึ้นได้ก็เกือบจะลืมไปเสียแล้ว



            “อื้อ! เรียกได้…ป๋าจ๋าบอกว่าน้องซนเป็นลูกน้องซนเรียกได้” พยักหน้าตอบออกไปซื่อๆ ตามคำอนุญาตของพอร์ชที่เลื่อนขั้นจากการเป็นอาไปเป็นป๋าจ๋าของน้องซนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว



            “แต่อาเป็นผู้ชาย” ทดอีกหนึ่ง! กดความรู้สึกอยากตบกบาลคนรักเก็บไว้ในใจ เอาไว้คิดบัญชีกันที่บ้านแล้วอธิบายให้หลานฟัง แต่เหมือนว่าหลานรักจะไม่เข้าใจ ถึงที่เบะปากเรียกน้ำตาออกมากดดันกันแบบนี้



            “อาโซ่ไม่รักน้องซนหรอฮะ ฮึก! น้องซนเสียใจ ฮึก! น้องซนขอป๊าป๋าแล้ว ฮึก! น้องซนจะมาเป็นลูกอาพอร์ชกับอาโซ่… ฮื่อ…” บ่อน้ำตาแตกงอแงเสียงดังจนตัวประกอบข้างนอกแตกตื่น แต่ก็ไม่มีใครกล้าเข้ามายุ่งเรื่องในครอบครัว แม้แต่บุญล้อมที่สวมบทเพื่อนบ้านมาในตอนแรกก็เฟดตัวเองออกไปเป็นตัวประกอบนอกห้องกับฝูงช่างยนต์เจ้าถิ่นเช่นกัน



            “โซ่…” พอร์ชเรียกชื่อคนรักเสียงอ่อย จากที่ตั้งใจว่าจะไปรับหลานมาทำเซอร์ไพร์คนรักทันที เมื่อสายลับอย่างอาม่าส่งข่าวมาว่าเซนได้รับการอนุญาตจากศาลว่าให้น้องซนอยู่ในการดูแลของพ่อผู้ให้กำเนิดชั่วคราวจนกว่าคดีจะสิ้นสุด แต่น้องซนกลับเป็นฝ่ายร้องขอที่จะมาอยู่กับพอร์ชและโซ่แทน ซึ่งพอร์ชเองก็ตอบตกลงไปทันที



            แต่ไหงเรื่องราวที่น่ายินดีเช่นนี้กลับกลายเป็นฉากน้ำเน่าในละครหลังข่าวเพราะนางเอกไม่ยอมรับลูกน้อยหอยสังข์ของตัวเองไปได้ล่ะ?



            “เงียบไปเลยพอร์ช กลับบ้านไปมึงโดนแน่…หยุดร้องก่อนนะน้องซนที่อาไม่ให้เรียกหม่าม๊าก็เพราะว่าอาเป็นผู้ชาย แต่ถ้าน้องซนจะเรียกอาว่า ‘พ่อจ๋า’ แบบพี่มณีอาก็ไม่ขัดข้อง”



            คำตอบของโซ่ทำให้หลานชายที่หมดหวังในคราแรกฉีกยิ้มหวานได้กว้างกว่าเดิม



            “น้องซนรัก ‘พ่อจ๋า’ ที่สุดเลยฮะ…งื้อ!”



            ก่อนหน้านี้เคยแอบคิดไว้เหมือนกันว่าน่าจะรู้สึกดีมากแน่ๆ หากได้เป็นลูกของอาโซ่อีกคน แต่พอได้เป็นจริงๆ ก็อดที่จะเขินไม่ได้ เพราะหัวใจกำลังพองโตและอัดแน่นไปด้วยความรู้สึกที่แสนดี



            “ไปรับมาตั้งแต่เมื่อไหร่ กูเกือบหัวใจวายตายแล้วไหม”



            เด็กน้อยนอนหลับไปด้วยความอ่อนเพลียที่เกิดจากการเดินทางไกลมาตั้งแต่เมื่อวาน เหลือไว้แต่สองหนุ่มวัยคะนองที่อายุยังไม่ถึงเกณฑ์นั่งปรับทุกข์สุขหลังจากที่ได้ภาระชิ้นใหญ่มาเป็นของขวัญในวันครบรอบสองปีของเราสองคน



            สองปี = หนึ่งแมว + หนึ่งคน



ภาระที่ต้องการ



ภาระที่สำคัญ



ภาระที่ยินยอมพร้อมใจ*…รับผิดชอบดูแล*



เป็นภาระที่ทั้งพอร์ชและโซ่พร้อมที่จะ*…รัก*



            “ก็อาม่าโทรมาบอกว่ามีเด็กงอแงร้องหาอาโซ่สุดที่รักตั้งแต่กรุงเทพฯถึงชุมแสงมาสี่ชั่วโมงเต็มกูก็เลยสงสารไปรับมาก็แค่นั้น”



            พูดบอกเหมือนไม่ใส่ใจทั้งที่มุมปากกำลังแต้มรอยยิ้มเมื่อคิดย้อนไปตอนที่รักสายอาม่าแล้วได้ยินเด็กงอแงร้องหาอย่างไม่คาดคิดว่า ‘อาพอร์ชจ๋าๆ มารับน้องซนหน่อย น้องซนคิดถึง’  เท่านั้นแหละ พอร์ชก็กระโจนออกจากเตียงไปรับหลานในทันที



            “ทำเป็นพูดดีไปเลี้ยงเด็กมันไม่ใช่เรื่องง่ายนะเว้ย ถึงจะโตแล้วก็เถอะ”



            โซ่เอ่ยเตือนด้วยความกังวลปนเกรงใจ เพราะจอมซนไม่เกี่ยวอะไรกับพอร์ชเลยด้วยซ้ำ เป็นแค่หลานของเขาเท่านั้น เช่นเดียวกันกับเรื่องของที่บ้านของพ่อแม่เรื่องที่ค่ายมวยโซ่ก็จัดการทุกอย่างด้วยตนเองและพยายามที่จะไม่ให้เดือดร้อนมาถึงพอร์ชกับพ่อแม่ของพอร์ช แม้ว่าทุกคนจะเต็มใจช่วยเหลือเขาก็ตาม บอกตามตรงว่าโคตรเกรงใจ



            “พูดเหมือนเคยมีลูกเลยเนอะ”



            “ไอ้จุกไง…ลูกกู”



            “ห้ะ?”



            ตอนแรกว่าจะแหย่คนขี้กังวลเล่นให้หายเครียดแต่กลายเป็นตนเองเสียเปล่าที่ต้องตกใจเมื่อคนรักพูดบอกออกมาอย่างหน้าตาเฉยว่ามีเด็กหัวโก๊ะ(ที่ถูกไถเกรียนไปแล้ว)เป็นลูก



            “มึงคิดบ้าบออะไรของมึงอีกห้ะพอร์ช? ไอ้จุกกับกูอายุต่างกันแค่ห้าปี ถ้ากูเป็นพ่อมันจริงๆ ป่านนี้กูคงได้ไปเป็นเซียนอยู่สวรรค์แล้ว ทำสาวตอนอายุห้าขวบเนี่ย”



            “อ่าว…ก็มึงพูดแบบนั้นกูก็ต้องตกใจไว้ก่อนสิ มึงก็รู้ว่ากูเชื่อคนง่าย”



            “แถวบ้านกูเรียกโง่ ก็เคยบอกอยู่ว่ากูเป็นคนเลี้ยงมันมา ป้อนข้าว ป้อนนม ซักผ้าอ้อม อาบน้ำเช็ดตัว ล้างก้น กูทำมาหมดแล้ว กูถึงรู้ว่ากูชอบเด็ก แต่ก็ใช่ว่าจะรักได้ทุกคน เพราะเด็กบางคนก็เกินที่จะรับไหว”



            “แต่จำไว้เลยนะพอร์ชอะไรที่กูผูกจิตหรือให้ใจไปแล้วกูจะไม่มีวันจะรับคืน ขอแค่อย่าหลักหลังหรือทำให้กูเกลียดก็พอ เพราะกูไม่อยากฆ่าคนที่รักอีกแล้ว”



            ฆ่าในที่นี้โซ่ไม่ได้หมายถึงการลงมือฆาตกรรมให้ถึงแก่ความตาย แต่โซ่กำลังพูดถึงการฆ่าตัวตนคนสำคัญในชีวิตจิตใจของตนเองเหมือนอย่างที่เคยทำกับคนเป็นพ่อเป็นแม่มาแล้วต่างหากล่ะ ไม่ใช่ไม่รัก ไม่ใช่ไม่ห่วง แต่ความห่วงใยที่ส่งผ่านความรักบริสุทธิ์โดนทำร้ายกลับมาซ้ำแล้วซ้ำเล่ามันก็ถึงเวลาที่โซ่จะต้องทำลายจิตบริสุทธิ์นั้นทิ้งไปเพื่อรักษาหัวใจตัวเอง



            กริ๊ง!



            “จะไปไหน?” พอร์ชแทบจะคว้าตัวคนรักเอาไว้ไม่ทันเมื่อโซ่ก็ทำท่าว่าจะลุกออกไป



            “กูยังเหลืออังกฤษสื่อสารอีกสองชั่วโมง ส่วนมึง…ถ้าน้องซนตื่นแล้วก็กรุณาพาลูกกลับบ้านนะครับป๋าจ๋า~”



            ยกนิ้วขึ้นมาลูบไล้ไปตามโครงหน้าของพอร์ชอย่างหยอกล้อ ก่อนที่จะหันหลังเดินจากไป แต่ก็ไม่วายที่จะย้อนกลับมาดีดริมฝีปากอวบอิ่มจนห้อยย้อยของพอร์ชที่กำลังเคลิ้มเสียเต็มแรงด้วยความหมั่นไส้



            ไม่ใช่เพราะไอ้ปากห้อยๆนี่รึไงที่คอยเอาเปรียบให้เขาเจ็บตัวด้วยความเต็มใจอยู่เรื่อย*!*







TBC.

"น้องซนคัมแบคแล้วนะฮะพี่สาว"





           แรกเริ่มมีคนเตือนก็ไม่เคยเชื่อ แถมยังว่าเขาอีกว่างมงาย แต่ตอนนี้เชื่อหมดใจแล้วว่าเบญจเพจมันแรงจริง กว่าจะได้กลับมาเจอกันแทบลากเลือด เดี๋ยวแมวป่วย เดี๋ยวคนป่วยดูแลกันไป นี่เพิ่งสร่างไข้ก็มาลงให้เลย

#ขอโทษที่ให้รอ #ขอบคุณที่ยังรอ #รักนะคะคิดถึงมากด้วย #ปาดน้ำตาเบาๆ

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
เกือบหน้าแหกแล้วไหมล่ะ   o18

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
ใจหายวาบเลยทีเดียว กลัวพระเอกตาย555

ออฟไลน์ กาแฟมั้ยฮะจ้าว

  • Let me hug you tight, and I’ll make you feel how important you are.
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 920
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +570/-0

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
คิดถึงคู่นี้~

ออฟไลน์ Tiffany

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1147
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
กลัวแทนพอร์ช กลัวพระเอกโดนน้องโซ่จัดหนัก

ออฟไลน์ พลอยสวย

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1622
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +232/-5
มาแล้ว //ดูแลสุขภาพตัวเองด้วยนะคะ

ออฟไลน์ ก้มหน้าก้มตา

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 137
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
คิดถึงๆๆ น้องโซ่

ออฟไลน์ shoi_toei

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +222/-26

ออฟไลน์ naezapril

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 120
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
น้องซนนนนน

ออฟไลน์ A_bookworm

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 127
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-0
น้องซนกลับมาแล้วววว :z2:

ออฟไลน์ เขียนสือ

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-1
    • เขียน'สือ
เขยช่างไฟสะใภ้ช่างยนต์

{43}







            “ไงเด็กหนุ่มๆ เย็นนี้ไปฉลองที่ไหนกันดี?”



            “น้องซนอยากกินหนึบๆ อีก”



            เจ้าตัวแสบรีบตอบเสียงใสในทันทีเมื่อคุณย่าคนใหม่เดินขึ้นมาถามถึงบนห้อง หลังจากที่ปล่อยให้ครอบครัวสุขสันต์เขาพากันมาอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้านานนับชั่วโมง



            “แล้วไอ้หนึบๆ ของเอ็งมันคืออะไรวะ?” พอร์ชถามหลังจากที่พยายามคิดแล้วคิดอีกว่าไอ้หนึบๆ ที่จอมซนพูดมันคือเมนูอะไร



            “ทอดมันหรอ…ใช่ไหม?” โซ่พูดบอกออกมาอย่างนึกขึ้นได้ว่าครั้งที่ไปรวมตัวกินข้าวกับอาม่าจอมซนเคยอ้อนให้ตนเองตักทอดมันในจานที่อยู่ไกลออกไปให้ แล้วเรียกอาหารจานนั้นว่าไอ้หนึบๆ



            “อื้อๆ น้องซนชอบ หนึบๆ ราดน้ำหวานๆ” ก็รู้ชื่อเมนูแล้วนะ แต่น้องซนว่ามันเรียกอยากเกินไป เรียกหนึบๆนี่แหละน่ารักดี ราดน้ำหวานๆ ที่มีคุณหอม คุณแตงกวา กับคุณพริกว่ายน้ำเล่นอยู่ในนั้นแล้วอร่อยดี…น้องซนช้อบชอบ!



            “ไปร้าน…ไหมล่ะ?” โซ่ลองเสนอชื่อร้านที่คุณป๋าของพอร์ชเคยพาไปกินเมื่อคราวที่แล้วและจำได้ว่าทอดมันร้านนี้เหนียวหนึบอร่อยเหมือนกับร้านที่อาม่าเคยพาไปกิน



            “น้องโซ่เลี้ยง?”



            “ผมกำลังหาเจ้ามืออยู่หรอกครับแม่” โซ่รีบตอบกลับไปอย่างไม่ต้องเสียเวลาคิด



            “จะไปยากอะไร ส่งไอ้สองพี่น้องลงไปอ้อนปู่จ๋าข้างล่างซิเดี๋ยวเจ้ามือเขาก็รีบเสนอตัวเองแหละ” พยักพเยิดไปทางจอมซนที่กำลังช่วยแต่งตัวให้พี่มณีอยู่บนพื้นใกล้ๆ หลังจากที่เจ้าตัวแสบแอบอุ้มพี่มณีเข้าไปเล่นน้ำด้วยตั้งนานสองนาน กว่าจะรู้ตัวซิห้องน้ำแทบแตก เพราะสองพี่น้องกำลังซัดกันนัวอยู่ในอ่างอาบน้ำที่เต็มไปด้วยฟองครีมอาบน้ำคนผสมแชมพูอาบน้ำแมว



            “น้องซน”



            “น้องซนรู้ๆ”



            เพียงแค่โดนพอร์ชเรียกชื่อเจ้าตัวแสบก็รีบวิ่งลงไปข้างล่างทันที โดยไม่ลืมที่จะหิ้วปีกพี่มณีติดมือออกไปด้วย



            ไม่รู้ว่าไปรักกันตั้งแต่ตอนไหน แต่ที่แน่นอนเลยคือ พี่มณีร้องหม๊าวๆ เพื่อที่จะขู่จอมซนและขอร้องให้ใครสักคนออกมาช่วยตัวเองไปตลอดทาง



            “ไปไหนของมัน แค่จะเรียกมาหวีผม” พูดบอกออกมาด้วยน้ำเสียงกลั้วหัวเราะเพราะรู้ดีอยู่แล้วว่าลูกชายกำลังจะไปไหน เพียงแต่ เมื่อกี้…เขาแค่จะเรียนเจ้าตัวมาหวีผมจริงๆ นะ ไม่ได้จะใช้ให้ไปไหนซักหน่อย



            “เราสองคนก็เตรียมตัวเถอะ แม่ขอลงไปดูเจ้าสองพี่น้องอ้อนคุณปู่เขาสักหน่อย” ว่าแล้วคุณนายปลื้มจิตขอก็ปลีกตัวออกจากห้องไปอีกคน



            หมับ!



            “ขอบคุณครับ”



            “มาอารมณ์ไหนอีก?” แกล้งเลิกคิ้วถามด้วยท่าทางกวนๆ ทั้งที่รู้ดีอยู่แล้วว่าคนรักหมายถึงเรื่องใด แต่ก็นะ…ขอเล่นตัวหน่อย



            “อยากเล่นมวยปล้ำบนเตียง”



            “มา! จะรีบแกผ้ารอ”



            รู้ทั้งรู้ว่าอีกฝ่ายแกล้งยั่วไปอย่างนั้น แต่พอร์ชก็พร้อมที่จะทำให้คำพูดกลายเป็นเรื่องจริง โดยการผลักโซ่ออกห่างก่อนที่จะกระโดดขึ้นไปถอดเสื้อผ้าบนเตียงด้วยท่าทางรีบร้อน



            เพียะ!



            “ถอดเสื้อผ้าเสร็จแล้วก็รีบไปอาบน้ำเลยครับป๋าจ๋าของน้องซน” ตบตุบลงไปบนกล้ามเนื้อหน้าท้องของคนรักแล้วรีบไล่ให้คนบ้ากามไปอาบน้ำ



            “ไรว้า…ชอบมาหลอกให้อยากแล้วก็จากไป อย่างนี้ทุกทีเลย” เบะปากทำแก้มพองลมเดินคอตกเข้าห้องน้ำไปด้วยท่าทางงอนๆ



            “เดี๋ยว!” โซ่เอ่ยเรียกคนรักไว้ก่อนที่เจ้าตัวจะปิดประตูห้องน้ำ



            “อะไรอีก?” เอี้ยวหน้ากลับมาถามด้วยท่าทางเหวี่ยงวีนแบบที่ไม่เข้ากับหน้าเลย



            “อาบด้วยก็ได้ แต่…รอบเดียวนะ”



            พูดบอกด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาในประโยคสุดท้ายก่อนที่จะเดินตามคนเจ้าเล่ห์เข้าห้องน้ำไปโดยที่ไม่ได้รู้เลยว่าท่าทางเหวี่ยงวีนที่มันแสดงออกมาทั้งหมดนั้น…มันตอแหล!



            “น้องซนจะไปบอกพ่อจ๋ากับป๋าจ๋า” พอปู๋จ๋ายอมตกลงเป็นเจ้ามือมื้อเย็นด้วยความเต็มใจแล้วจอมซนก็อยากที่จะไปบอกข่าวดีให้คุณพ่อทั้งสองของตนเองได้ทราบ แต่ติดที่ว่าถูกคุณย่าเรียกรั้งไว้เสียก่อน



            “เดี๋ยวน้องซน!”



            “ฮะ?” หันกลับไปถามด้วยสายตาใสซื่อจนคนเป็นย่าลำบากใจที่จะตอบ



            “คุณคะ”



            คุณนายปลื้มจิตหันไปขอความช่วยเหลือจากสามีที่นั่งอมยิ้มอยู่ข้างๆ หลังจากที่เธอแอบไปกระซิบเรื่องราวน่ารักระหว่างลูกชายกับลูกสะใภ้ที่เธอบังเอิญไปได้ยินมาตอนที่คิดจะเข้าไปบอกให้โซ่เตรียมพวกสเปรย์หรือโลชันทากันยุงสำหรับจอมซนติดไปด้วย แต่เธอกลับเปิดประตูเข้าไปในจังหวะที่ไฟรักในห้องน้ำกำลังร้อนแรงอยู่พอดีจึงต้องถอยออกมาแบบเงียบๆ ไม่ให้ทั้งสองได้รู้ตัว เดี๋ยวจะมองหน้ากันไม่ติดเอา ลำพังไอ้ลูกชายของเขาไม่เท่าไหร่หรอกเพราะมันมีความหน้าด้านเป็นอาวุธ แต่คนนิ่งๆ แบบโซ่นี่สิเธอไม่กล้าเสี่ยง



            “เดี๋ยวเขาก็ลงมา น้องซนอยู่ช่วยย่าเป่าขนให้พี่มณีก่อนดีกว่า ปู่ว่ามันยังไม่แห้งดีเลยนะ” เสี่ยใหญ่ละอยากจะหัวเราะออกมาดังๆ เมื่อเห็นต้นแบบความเจ้าเล่ห์ของพอร์ชอย่างคุณนายปลื้มจิตผู้เป็นภรรยาหมดหนทางที่จะหลอกล่อหลานรัก เพราะยังคงตื่นเต้นปนตกใจที่ต้องไปรับรู้ในความรักอันลึกซึ้งระหว่างลูกชายกับลูกสะใภ้เข้าให้



            “อีกสักสองสามปีมึงเตรียมของไว้รับขวัญลูกเขยได้เลยครับเมีย” พอร์ชพูดบอกในขณะที่ช่วยเตรียมของให้จอมซนแทนโซ่ที่ยังแต่งตัวไม่เสร็จ



            “อะไรของมึงอีก?”



            “ก็นี่ไง…ตอนพ่อมันเป็นเด็กชอบพกกระติกน้ำคิตตี้โตมาก็ได้กูเป็นผัว ส่วนไอ้ตัวลูกที่พกตุ๊กตาผู้หญิงสีชมพูไปไหนมาไหนด้วยอย่างนี้…มึงคิดว่าจะเหลือหรอครับเมีย?” พอร์ชพูดพลางหยิบยกตุ๊กตาเด็กผู้หญิงคาดหูกระต่ายใส่ชุดสีชมพูจากกระเป๋าเป้ใบน้อยของจอมซนขึ้นมาให้โซ่ดูเป็นขวัญตา



            โซ่ยักไหล่ทำเป็นไม่สนใจ แต่ก็อดที่จะเป็นกังวลไม่ได้เพราะจอมซนเป็นเด็กน่ารักและบริสุทธิ์สดใสมาตามวัยอย่างที่ควรจะเป็น โซ่เลยอดห่วงไม่ได้ว่ากลัวหลานชายจะโดนหลอกหรือชักจูงไปในทางที่ไม่ดี เพราะถ้าจะให้พูดกันตามตรง บอกเลยว่าการที่จะมาอยู่ในวงโคจรชายรักชายนี้มันไม่ใช่เรื่องง่าย แถมยังมีแต่ความเสี่ยงทั้งจากทางด้านร่างกายหรือจิตใจที่จะต้องมีความแข็งแรงเป็นพิเศษ เพราะนอกจากจะต้องปกป้องตัวเองแล้วยังต้องช่วยปกป้องคนรักจากสายตาที่เต็มไปด้วยอคติจากคนภายนอกอีกด้วย



            แต่หนึ่งความโชคดีจากร้อยความโชคร้ายของโซ่ก็คือ ‘พอร์ช’ ผู้ชายที่อยู่เคียงข้างดูแลและพร้อมที่จะปกป้องตลอดเวลา



            “แม่เป็นอะไรรึเปล่าครับ” โซ่เอ่ยถามคุณนายปลื้มจิตที่มีท่าทางลุกลี้ลุกลนไม่เป็นตัวเองมาตั้งแต่ออกจากบ้าน



            “ไม่เป็นไรจ้ะ แม่ว่าเรารีบเข้าไปในกันเถอะ ยุงเริ่มมาแล้ว” คุณนายปลื้มจิตตอบแบบปัดๆ ให้จบไปก่อนที่จะชิ่งหนีด้วยการจับจูงมือจอมซนเดินน้ำหน้าไป โดยมีสามีอย่างเสียใหญ่ที่ล่วงรู้ถึงสาเหตุของความว้าวุ่นภายในจิตใจของภรรยาเดินกลั้นหัวเราะตามหลังไปตลอดทาง



            “เป็นอะไรของเขา หรือว่ากูทำอะไรผิดตรงไหนหรือเปล่าวะ?” ความสงสัยของโซ่ยังคงอยู่เพราะคุณนายปลื้มจิตดูแปลกไปจากเดิมมากเกินไป ดูขัดๆ เกร็งๆ ยังไงก็ไม่รู้



            “ช่างเขาเถอะ” พอร์ชตอบปัดอย่างไม่ใส่ใจ กอดคอพาโซ่เดินตามคนอื่นเข้าร้านไป



            “น้องซนไม่อยากกินปลาฮะ” จอมซนเบะปากบอก ทำท่าจะเขี่ยเนื้อปลาสีขาวนวลที่โซ่ตักให้ออกจากจาน ถ้าไม่ติดว่าโดนโซ่ใช้ช้อนเบรกคั่นไว้ก่อน



            “กินเข้าไปสิ ปลามีประโยชน์นะ” พอร์ชที่เหลือบไปสายตาของคนรักก็พอจะเดาได้ว่าเจ้าตัวกำลังไม่ชอบใจที่จอมซนไม่ยอมกินปลาที่ตักให้ เพียงแต่ยังไม่อยากดุหลานเท่านั้นเอง



            “น้องซนไม่อยากเจ็บคอ” พูดบอกออกมาด้วยน้ำเสียงอ่อยๆ



            “ทำไมล่ะ” พอร์ชถามต่อในขณะที่โซ่เองก็รอฟังคำตอบ



            “กระดูกมันชอบแทงคอน้องซนเจ็บ” คิดแล้วก็รู้สึกเจ็บแปลบบริเวณลำคอตรงจุดที่เป็นบ่อเกิดแห่งความทรงจำอันสุดแทนจะทรมานกับการกินปลาในแต่ละครั้ง ตั้งแต่จำความได้ไม่มีครั้งไหนเลยที่จอมซนจะกินปลาโดยไร้ปัญหาก้างติดคอด้วยวิธีการเลี้ยงดูแบบพึ่งพาตนเองของแม่จอมซนที่มักจะปล่อยให้ลูกได้เรียนรู้ด้วยตนเองมากกว่าที่จะคอยพะเน้าพะนอเอาใจจนลูกแทบจะทำอะไรเองไม่เป็นเหมือนพ่อแม่ชาวเอเชียส่วนใหญ่



            “แต่อันนี้ไม่มีก้างแล้วนะอาเอาก้างออกให้หมดแล้ว” โซ่พูดบอกพร้อมกับช่วยตักปลาวางใส่ช้อนให้อย่างเอาใจ เมื่อรู้ถึงเหตุผลของหลานชาย



            แม้ว่าโซ่จะบอกแบบนั้น แต่จอมซนก็ยังไม่สนใจ เด็กน้องวางมือจากช้อน กอดอก นั่งหลังตรงสะบัดหน้าหันหนีไปอีกทางทำเอาโซ่ขมวดคิ้วขุ่น ส่วนเสี่ยใหญ่ คุณนายปลื้มจิตและพอร์ชก็ได้แต่มองหน้ากันอย่างเหลอหลาเพราะเดาอารมณ์ของสองอาหลานไม่ถูก



            วันนี้จอมซนเอาแต่ใจแบบแปลกๆ ส่วนโซ่ก็พร้อมเหวี่ยงแบบงงๆ



            “น้องซนจะดื้อกับอาหรือ” รู้ตัวว่าหงุดหงิด แต่โซ่ก็พยายามที่จะเอาน้ำเย็นเข้าลูบ เพราะเป็นเรื่องปกติที่เด็กอย่างจอมซนจะงอแง แต่ที่ไม่ปกติคือร่างกายของเขาเองที่มันปวดเมื่อยเสียจนอยากจะกระโดดถีบหน้าคนรักที่นั่งบื้อเป็นหมาเมายาเบื่ออยู่ข้างๆ เพราะมันคือต้นเหตุ ถ้ามันไม่หื่นเขาก็ไม่ใจอ่อนจนซ้ำไปทั้งตัวแบบนี้หรอก



            แต่ที่เกลียดที่สุดก็คือ…ไอ้ท่ายากของมันนี่แหละ! ขยันหามาใช้นัก!



            “น้องซน อาจะ…”



            “พ่อจ๋า! ไหนบอกว่าจะเป็นพ่อจ๋าของน้องซนไง! น้องซนไม่อยากมีอาโซ่แล้วน้องซนอยากมีแต่พ่อจ๋า!”



            “น้องซน! / น้องซน!”



            ทั้งสี่คนร้องเรียกเป็นเสียงเดียวเมื่อจอมซนลุกวิ่งหนีออกไปจากห้องอาหารส่วนตัวหลังจากที่ระเบิดความน้อยใจใส่โซ่จนหมดสิ้น



            “เดี๋ยวกูจัดการเอง อย่าทำหน้าแบบนั้นสิครับแม่ แค่เด็กแสบน้อยใจโซ่ปราบได้สบายอยู่แล้ว” วางมือบนบ่าพอร์ชเป็นเชิงห้ามเมื่อเห็นว่าเจ้าตัวทำท่าว่าจะลุกตามจอมซนไป ก่อนที่จะหันไปพูดบอกให้คุณนายปลื้มจิตที่กำลังนั่งทำหน้านิ่วคิ้วขมวดคลายกังวล



            ส่วนจอมซนที่วิ่งหนีออกมาก็ไม่ได้ไปไหนไกล เด็กน้อยหนีมานั่งไกวชิงช้าอยู่ในสนามเด็กเล่นที่ทางร้านจัดไว้รับรองลูกค้าที่มาแบบเป็นครอบครัวตรงข้างร้าน



            ต่อให้รู้มากหรือตัวโตแค่ไหน แต่ความจริงแล้วจอมซนก็เป็นได้แค่เด็กแปดขวบที่ต้องการการแสดงความรักความห่วงใยอย่างชัดเจนแบบตรงไปตรงมา โดยเฉพาะในส่วนของความเป็นพ่อที่ขาดหายไปตั้งแต่จำความได้ แม้ว่าจะได้คุยกับพ่อแท้ๆ อย่างเซนผ่านทางวีดีโอคอลมาตลอดทั้งชีวิตก็ตาม นั่นยังไม่เท่ากับความรักความผูกผันที่เจ้าตัวมีต่อโซ่ซึ่งมีศักดิ์เป็นอา  เพราะเจ้าตัวได้สัมผัสได้อยู่ใกล้ชิดกับโซ่แทบทุกครั้งที่คนเป็นแม่อนุญาตให้ไปอยู่บ้านอาม่าได้ชั่วคราวระหว่างที่เธอมีงานถ่ายแบบที่ประเทศไทย ในขณะที่พ่อแท้ๆ อย่างเซนโดนสั่งห้ามเด็ดขาดไม่ให้เจอหน้าลูก ถ้ายังอยากที่จะเห็นหน้าและพูดคุยกันผ่านจอโทรศัพท์อยู่ เพราะตอนนั้นศาลอเมริกาตัดสินให้จอมซนอยู่ในความดูแลของผู้เป็นแม่แต่เพียงผู้เดียว



            เสียงเหยียบย่ำพื้นทรายไม่อาจเรียกร้องความสนใจจากเด็กน้อยได้ ถ้าไม่ได้เห็นรองเท้าคุ้นตามาหยุดยืนอยู่ด้านหน้าพร้อมกับเงาที่พาดผ่านทับลำตัว



            “จะไม่เงยหน้าขึ้นมาคุยกันหน่อยหรอ…ลูกชาย” โซ่พูดบอกพร้อมกับขยับเข้าไปลูบหัวเด็กน้อยอย่างเบามือ จึงได้รู้สึกถึงแรงสะอื้นนั่นยิ่งทำให้โซ่มั่นใจเข้าไปอีกว่าสิ่งที่ตนเองคิดนั้นถูกต้องแล้ว



            จอมซนก็ไม่ต่างจากตัวเขา เราสองคนต่างเป็นคนขาดทั้งคู่ จะแปลกอะไรถ้าหากว่าตัวเขานั้นอยากจะเติมเต็มให้หลานชายด้วยคำว่า ‘พ่อ’ แลกกับคำว่า ‘ครอบครัว’ ที่ขาดหายไปในช่วงวัยเด็กที่ผ่านมาของตนเอง



            “น้องซนไม่ชอบเป็นหลานอาโซ่” เสียงเล็กของเด็กน้อยบ่นงึมงำออกมาเบาๆ ในขณะที่ยังคงนั่งก้มหน้ามองพื้นอยู่เหมือนเดิม



            แต่ยังไม่ทันที่โซ่จะได้พูดอะไรออกมา ดวงตากลมสวยที่คลอไปด้วยหยดน้ำสีใสเงยหน้าช้อนตาขึ้นมามองโซ่ช้า ก่อนจะพูดบอกออกมาอีกว่า…



            “น้องซนอยากเป็นลูกจ๋าของพ่อจ๋าของป๋าจ๋ามากกว่า” ไม่รู้ว่าด้วยความน้อยใจหรืออย่างไรถึงได้ทำให้น้ำตาที่พยายามจะกลั้นมาตลอดรินไหลออกมาไม่ขาดสาย



            โซ่นั่งลงตรงหน้าให้สายตาอยู่ในระดับเดียวกับหลานชายก่อนที่จะยื่นมือเข้าไปช่วยเช็ดน้ำตาให้เด็กน้อยที่สะอื้นหนักขึ้นทุกที



            “แล้วปะป๊าเซนของน้องซนล่ะ” ไม่ได้ตั้งใจจะแกล้งหรือถ่วงเวลาแต่อยากจะรู้จริงๆ ว่าลึกๆแล้วในใจหลานชายคิดอย่างไรกับคนเป็นพ่อถึงได้ยึดติดกับพ่อมโนอย่างพวกเขานัก



            “ปะป๊าก็คือปะป๊า พ่อจ๋าก็คือพ่อจ๋า น้องซนรักเหมือนกัน แต่ปะป๊ามีแสนดีแล้ว” ชัดเจนในตอนแรก แต่เสียงแผ่วในประโยคสุดท้ายทำให้โซ่รับรู้ได้ทันทีว่านอกจากความน้อยเนื้อต่ำใจแล้วก็ยังมีความหวาดกลัวอีกหนึ่งอย่างที่ฝังลึกอยู่ในใจของจอมซน



            โซ่ไม่ใช่คนเก่งกาจหรือเป็นผู้เชี่ยวชาญมาจากไหนที่หยั่งรู้ถึงความรู้สึกแท้จริงในใจของหลานชาย แต่เป็นเพราะ ‘ความขาด’ ต่างหากล่ะที่กำลังบอกว่าเราเหมือนกัน เขาจึงไม่รู้สึกแปลกใจนักถ้าหากว่าเราจะเข้ากันได้ดี



            มันเป็นเรื่องง่ายที่ทำได้ยากในชีวิตจริง เป็นเรื่องใกล้ตัวที่คนเรามักจะมองข้าม เหมือนอย่างที่เซนไม่เข้าใจว่าความผูกพันและความเชื่อใจไม่ได้เกิดขึ้นได้เพียงเพราะการบอกรักผ่านทางหน้าจอ เช่นเดียวกับที่พ่อของเขาเองก็ไม่เคยได้รับรู้ว่าสำหรับโซ่แล้วอ้อมกอดที่แสนอบอุ่นมีค่ามากกว่าเงินทองที่เขากองไว้ให้



            “แต่อาก็มีพี่มณีแล้วนะ” อันนี้ยอมรับเลยว่าตั้งใจแกล้งหลังจากที่ได้รู้ในสิ่งที่อยากจะรู้เรียบร้อยแล้ว



            “พ่อจ๋าไม่รักน้องซนหรอ” เบะปากร้องไห้หนักกว่าเดิมขึ้นไปอีก



            “แล้วอยากให้รักรึเปล่าล่ะ”



            พอได้ยินโซ่ถามออกมาแบบนั้นพอร์ชที่ยืนแบบดูอยู่หลังพุ่มไม้ก็แทบจะกระโจนเข้าไปโบกหัวคนรักสักทีสองทีโทษฐานที่แกล้งลูกรักของตนเอง



            ยอมรับเลยว่าตอนแรกก็ไม่ค่อยถูกชะตากับจอมซนสักเท่าไหร่ ออกจะหมั่นไส้เลยด้วยซ้ำ แต่พอได้ใกล้ชิดทำความรู้จักแล้วพอร์ชก็รู้สึกเอ็นดูจอมซนขึ้นมา แต่ไม่ใช่ในแบบชู้สาวนะ แค่รู้สึกรักและผูกพันกับจอมซนเหมือนน้องชายมากกว่า ยิ่งรู้ว่าจอมซนรักโซ่มากเท่าไหร่เขาก็อยากจะดูแลเจ้าตัวมากขึ้นเท่านั้น ไม่รู้ว่าทำไมหรืออาจจะเป็นเพราะเขาเป็นน้องเล็กในบรรดาพี่น้องทั้งหมดหรือเปล่าไม่แน่ใจ



            แต่ทั้งหมดทั้งมวลนั้นไม่นับโซ่ที่อยู่ในฐานะคนรักหรอกนะ เพราะรายนั้นน่ะ…ไอ้พอร์ชคนนี้ได้มอบกายถวายชีวิตให้ไปหมดแล้วทั้งหัวใจ



            “รัก…กอด…พ่อจ๋ากอดน้องซนหน่อย” พยักหน้าตอบคำถามทั้งน้ำตา กางแขนสองข้างออกกว้าง อ้อนวอนขอให้คนเป็นอากอด



            “อยากให้รักก็หยุดร้องไห้ได้แล้ว เดี๋ยวไม่สบาย” คว้าตัวหลานชายเข้ามากอดปลอบ นับหนึ่ง สอง สาม ฮึบในใจ ตั้งสติ หลับตาขอโทษดินฟ้าอากาศที่ตัวเองจะติ๊ต่างเปลี่ยนโหมดจากอาไปทำหน้าที่พ่อในนามให้หลานชาย



            “หยุดร้องไห้แล้วฟังก่อนนะน้องซน” ดันตัวหลานชายออกห่าง ใช้สองมือจับใบหน้าเด็กน้อยให้สบตา จ้องมองให้ลึกลงไปในส่วนลึก ก่อนจะตัดสินใจพูดอะไรบางอย่างออกมา



            “เมื่อกี้อาไม่ได้ตั้งใจ อาขอโทษที่ลืมตัวทั้งที่เราตกลงกันแล้วว่าจะเปลี่ยนมาเป็นพ่อลูกกัน…ถูกไหม?”



            “ฮะ” ถึงจะไม่ชอบให้โซ่เรียกแทนตัวว่าอาเหมือนก่อนหน้า แต่จอมซนก็ยอมฟัง แม้ว่าจะมีน้ำตาคลออยู่ตลอดเวลาก็ตาม



            “เพราะอย่างนั้น…หลังจากนี้เรามาเป็นพ่อลูกกันจริงๆ ดีกว่าเนอะ”



            “น้องซนรักพ่อจ๋าที่สุดในโลกเลยฮะ”



            จอมซนโผเข้ากอดโซ่ทันทีเมื่อได้ยินในสิ่งที่ตนเองรอคอยมาตลอด ก่อนที่พอร์ชจะเดินออกมาจากที่ซ่อนเข้ามาร่วมวงสนทนาด้วยอีกคน ส่งให้บรรยากาศที่อบอุ่นอยู่แล้วสดใสขึ้นทันตา เพราะเมื่อไหร่ก็ตามที่มีพอร์ชกับจอมซนร่วมวงกันเมื่อนั้น…วุ่นวายทุกที



            “อ้าว…แล้วป๋าล่ะ?”



            “น้องซนรักป๋าจ๋าเหมือนกันฮะ แต่น้อยกว่าพ่อจ๋ากับพี่มณีนิดนึง”



            เด็กแสบกลับมาร่าเริงอีกครั้งเมื่อได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตากับคนที่ตัวเองรัก ทำปากยื่นปากยาวพูดแหย่พอร์ชอย่างไม่เกรงกลัวในขณะที่อยู่ในอ้อมกอดของโซ่ เพราะรู้ดีว่าตนเองจะปลอดภัยจากการแก้แค้นเอาคืนของพอร์ช



            ก็นะ…ใครอยากให้ป๋าจ๋าของพี่มณีกลัวพ่อจ๋าของน้องซนกันเล่า…คึคึ







TBC.

           คิดถึงจังเลยยยยยยยยยยย~~~~ ภาคนี้เอากี่ตอนดี 60 ตอนไหวไหม? แต่คนเขียนไม่หวาย ฮ่าๆ

จะพยายามมาเร็วกว่านี้นะคะ สงสารคนอ่านลุ้นตอนใหม่นิยายเรายิ่งกว่าหวยอีก เดือนหนึงมาที #ด้วยรัก

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
น้องซนเริ่มโตแล้ว  :mew4:

ออฟไลน์ ตุยชิคชิค

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 88
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1
น้องซนน่ารักมากกลูก  มณีเองมีคู่แข่งแล้วนะะ :katai3: o13

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด