เขยช่างไฟสะใภ้ช่างยนต์
{43}
“ไงเด็กหนุ่มๆ เย็นนี้ไปฉลองที่ไหนกันดี?”
“น้องซนอยากกินหนึบๆ อีก”
เจ้าตัวแสบรีบตอบเสียงใสในทันทีเมื่อคุณย่าคนใหม่เดินขึ้นมาถามถึงบนห้อง หลังจากที่ปล่อยให้ครอบครัวสุขสันต์เขาพากันมาอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้านานนับชั่วโมง
“แล้วไอ้หนึบๆ ของเอ็งมันคืออะไรวะ?” พอร์ชถามหลังจากที่พยายามคิดแล้วคิดอีกว่าไอ้หนึบๆ ที่จอมซนพูดมันคือเมนูอะไร
“ทอดมันหรอ…ใช่ไหม?” โซ่พูดบอกออกมาอย่างนึกขึ้นได้ว่าครั้งที่ไปรวมตัวกินข้าวกับอาม่าจอมซนเคยอ้อนให้ตนเองตักทอดมันในจานที่อยู่ไกลออกไปให้ แล้วเรียกอาหารจานนั้นว่าไอ้หนึบๆ
“อื้อๆ น้องซนชอบ หนึบๆ ราดน้ำหวานๆ” ก็รู้ชื่อเมนูแล้วนะ แต่น้องซนว่ามันเรียกอยากเกินไป เรียกหนึบๆนี่แหละน่ารักดี ราดน้ำหวานๆ ที่มีคุณหอม คุณแตงกวา กับคุณพริกว่ายน้ำเล่นอยู่ในนั้นแล้วอร่อยดี…น้องซนช้อบชอบ!
“ไปร้าน…ไหมล่ะ?” โซ่ลองเสนอชื่อร้านที่คุณป๋าของพอร์ชเคยพาไปกินเมื่อคราวที่แล้วและจำได้ว่าทอดมันร้านนี้เหนียวหนึบอร่อยเหมือนกับร้านที่อาม่าเคยพาไปกิน
“น้องโซ่เลี้ยง?”
“ผมกำลังหาเจ้ามืออยู่หรอกครับแม่” โซ่รีบตอบกลับไปอย่างไม่ต้องเสียเวลาคิด
“จะไปยากอะไร ส่งไอ้สองพี่น้องลงไปอ้อนปู่จ๋าข้างล่างซิเดี๋ยวเจ้ามือเขาก็รีบเสนอตัวเองแหละ” พยักพเยิดไปทางจอมซนที่กำลังช่วยแต่งตัวให้พี่มณีอยู่บนพื้นใกล้ๆ หลังจากที่เจ้าตัวแสบแอบอุ้มพี่มณีเข้าไปเล่นน้ำด้วยตั้งนานสองนาน กว่าจะรู้ตัวซิห้องน้ำแทบแตก เพราะสองพี่น้องกำลังซัดกันนัวอยู่ในอ่างอาบน้ำที่เต็มไปด้วยฟองครีมอาบน้ำคนผสมแชมพูอาบน้ำแมว
“น้องซน”
“น้องซนรู้ๆ”
เพียงแค่โดนพอร์ชเรียกชื่อเจ้าตัวแสบก็รีบวิ่งลงไปข้างล่างทันที โดยไม่ลืมที่จะหิ้วปีกพี่มณีติดมือออกไปด้วย
ไม่รู้ว่าไปรักกันตั้งแต่ตอนไหน แต่ที่แน่นอนเลยคือ พี่มณีร้องหม๊าวๆ เพื่อที่จะขู่จอมซนและขอร้องให้ใครสักคนออกมาช่วยตัวเองไปตลอดทาง
“ไปไหนของมัน แค่จะเรียกมาหวีผม” พูดบอกออกมาด้วยน้ำเสียงกลั้วหัวเราะเพราะรู้ดีอยู่แล้วว่าลูกชายกำลังจะไปไหน เพียงแต่ เมื่อกี้…เขาแค่จะเรียนเจ้าตัวมาหวีผมจริงๆ นะ ไม่ได้จะใช้ให้ไปไหนซักหน่อย
“เราสองคนก็เตรียมตัวเถอะ แม่ขอลงไปดูเจ้าสองพี่น้องอ้อนคุณปู่เขาสักหน่อย” ว่าแล้วคุณนายปลื้มจิตขอก็ปลีกตัวออกจากห้องไปอีกคน
หมับ!
“ขอบคุณครับ”
“มาอารมณ์ไหนอีก?” แกล้งเลิกคิ้วถามด้วยท่าทางกวนๆ ทั้งที่รู้ดีอยู่แล้วว่าคนรักหมายถึงเรื่องใด แต่ก็นะ…ขอเล่นตัวหน่อย
“อยากเล่นมวยปล้ำบนเตียง”
“มา! จะรีบแกผ้ารอ”
รู้ทั้งรู้ว่าอีกฝ่ายแกล้งยั่วไปอย่างนั้น แต่พอร์ชก็พร้อมที่จะทำให้คำพูดกลายเป็นเรื่องจริง โดยการผลักโซ่ออกห่างก่อนที่จะกระโดดขึ้นไปถอดเสื้อผ้าบนเตียงด้วยท่าทางรีบร้อน
เพียะ!
“ถอดเสื้อผ้าเสร็จแล้วก็รีบไปอาบน้ำเลยครับป๋าจ๋าของน้องซน” ตบตุบลงไปบนกล้ามเนื้อหน้าท้องของคนรักแล้วรีบไล่ให้คนบ้ากามไปอาบน้ำ
“ไรว้า…ชอบมาหลอกให้อยากแล้วก็จากไป อย่างนี้ทุกทีเลย” เบะปากทำแก้มพองลมเดินคอตกเข้าห้องน้ำไปด้วยท่าทางงอนๆ
“เดี๋ยว!” โซ่เอ่ยเรียกคนรักไว้ก่อนที่เจ้าตัวจะปิดประตูห้องน้ำ
“อะไรอีก?” เอี้ยวหน้ากลับมาถามด้วยท่าทางเหวี่ยงวีนแบบที่ไม่เข้ากับหน้าเลย
“อาบด้วยก็ได้ แต่…รอบเดียวนะ”
พูดบอกด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาในประโยคสุดท้ายก่อนที่จะเดินตามคนเจ้าเล่ห์เข้าห้องน้ำไปโดยที่ไม่ได้รู้เลยว่าท่าทางเหวี่ยงวีนที่มันแสดงออกมาทั้งหมดนั้น…มันตอแหล!
“น้องซนจะไปบอกพ่อจ๋ากับป๋าจ๋า” พอปู๋จ๋ายอมตกลงเป็นเจ้ามือมื้อเย็นด้วยความเต็มใจแล้วจอมซนก็อยากที่จะไปบอกข่าวดีให้คุณพ่อทั้งสองของตนเองได้ทราบ แต่ติดที่ว่าถูกคุณย่าเรียกรั้งไว้เสียก่อน
“เดี๋ยวน้องซน!”
“ฮะ?” หันกลับไปถามด้วยสายตาใสซื่อจนคนเป็นย่าลำบากใจที่จะตอบ
“คุณคะ”
คุณนายปลื้มจิตหันไปขอความช่วยเหลือจากสามีที่นั่งอมยิ้มอยู่ข้างๆ หลังจากที่เธอแอบไปกระซิบเรื่องราวน่ารักระหว่างลูกชายกับลูกสะใภ้ที่เธอบังเอิญไปได้ยินมาตอนที่คิดจะเข้าไปบอกให้โซ่เตรียมพวกสเปรย์หรือโลชันทากันยุงสำหรับจอมซนติดไปด้วย แต่เธอกลับเปิดประตูเข้าไปในจังหวะที่ไฟรักในห้องน้ำกำลังร้อนแรงอยู่พอดีจึงต้องถอยออกมาแบบเงียบๆ ไม่ให้ทั้งสองได้รู้ตัว เดี๋ยวจะมองหน้ากันไม่ติดเอา ลำพังไอ้ลูกชายของเขาไม่เท่าไหร่หรอกเพราะมันมีความหน้าด้านเป็นอาวุธ แต่คนนิ่งๆ แบบโซ่นี่สิเธอไม่กล้าเสี่ยง
“เดี๋ยวเขาก็ลงมา น้องซนอยู่ช่วยย่าเป่าขนให้พี่มณีก่อนดีกว่า ปู่ว่ามันยังไม่แห้งดีเลยนะ” เสี่ยใหญ่ละอยากจะหัวเราะออกมาดังๆ เมื่อเห็นต้นแบบความเจ้าเล่ห์ของพอร์ชอย่างคุณนายปลื้มจิตผู้เป็นภรรยาหมดหนทางที่จะหลอกล่อหลานรัก เพราะยังคงตื่นเต้นปนตกใจที่ต้องไปรับรู้ในความรักอันลึกซึ้งระหว่างลูกชายกับลูกสะใภ้เข้าให้
“อีกสักสองสามปีมึงเตรียมของไว้รับขวัญลูกเขยได้เลยครับเมีย” พอร์ชพูดบอกในขณะที่ช่วยเตรียมของให้จอมซนแทนโซ่ที่ยังแต่งตัวไม่เสร็จ
“อะไรของมึงอีก?”
“ก็นี่ไง…ตอนพ่อมันเป็นเด็กชอบพกกระติกน้ำคิตตี้โตมาก็ได้กูเป็นผัว ส่วนไอ้ตัวลูกที่พกตุ๊กตาผู้หญิงสีชมพูไปไหนมาไหนด้วยอย่างนี้…มึงคิดว่าจะเหลือหรอครับเมีย?” พอร์ชพูดพลางหยิบยกตุ๊กตาเด็กผู้หญิงคาดหูกระต่ายใส่ชุดสีชมพูจากกระเป๋าเป้ใบน้อยของจอมซนขึ้นมาให้โซ่ดูเป็นขวัญตา
โซ่ยักไหล่ทำเป็นไม่สนใจ แต่ก็อดที่จะเป็นกังวลไม่ได้เพราะจอมซนเป็นเด็กน่ารักและบริสุทธิ์สดใสมาตามวัยอย่างที่ควรจะเป็น โซ่เลยอดห่วงไม่ได้ว่ากลัวหลานชายจะโดนหลอกหรือชักจูงไปในทางที่ไม่ดี เพราะถ้าจะให้พูดกันตามตรง บอกเลยว่าการที่จะมาอยู่ในวงโคจรชายรักชายนี้มันไม่ใช่เรื่องง่าย แถมยังมีแต่ความเสี่ยงทั้งจากทางด้านร่างกายหรือจิตใจที่จะต้องมีความแข็งแรงเป็นพิเศษ เพราะนอกจากจะต้องปกป้องตัวเองแล้วยังต้องช่วยปกป้องคนรักจากสายตาที่เต็มไปด้วยอคติจากคนภายนอกอีกด้วย
แต่หนึ่งความโชคดีจากร้อยความโชคร้ายของโซ่ก็คือ ‘พอร์ช’ ผู้ชายที่อยู่เคียงข้างดูแลและพร้อมที่จะปกป้องตลอดเวลา
“แม่เป็นอะไรรึเปล่าครับ” โซ่เอ่ยถามคุณนายปลื้มจิตที่มีท่าทางลุกลี้ลุกลนไม่เป็นตัวเองมาตั้งแต่ออกจากบ้าน
“ไม่เป็นไรจ้ะ แม่ว่าเรารีบเข้าไปในกันเถอะ ยุงเริ่มมาแล้ว” คุณนายปลื้มจิตตอบแบบปัดๆ ให้จบไปก่อนที่จะชิ่งหนีด้วยการจับจูงมือจอมซนเดินน้ำหน้าไป โดยมีสามีอย่างเสียใหญ่ที่ล่วงรู้ถึงสาเหตุของความว้าวุ่นภายในจิตใจของภรรยาเดินกลั้นหัวเราะตามหลังไปตลอดทาง
“เป็นอะไรของเขา หรือว่ากูทำอะไรผิดตรงไหนหรือเปล่าวะ?” ความสงสัยของโซ่ยังคงอยู่เพราะคุณนายปลื้มจิตดูแปลกไปจากเดิมมากเกินไป ดูขัดๆ เกร็งๆ ยังไงก็ไม่รู้
“ช่างเขาเถอะ” พอร์ชตอบปัดอย่างไม่ใส่ใจ กอดคอพาโซ่เดินตามคนอื่นเข้าร้านไป
“น้องซนไม่อยากกินปลาฮะ” จอมซนเบะปากบอก ทำท่าจะเขี่ยเนื้อปลาสีขาวนวลที่โซ่ตักให้ออกจากจาน ถ้าไม่ติดว่าโดนโซ่ใช้ช้อนเบรกคั่นไว้ก่อน
“กินเข้าไปสิ ปลามีประโยชน์นะ” พอร์ชที่เหลือบไปสายตาของคนรักก็พอจะเดาได้ว่าเจ้าตัวกำลังไม่ชอบใจที่จอมซนไม่ยอมกินปลาที่ตักให้ เพียงแต่ยังไม่อยากดุหลานเท่านั้นเอง
“น้องซนไม่อยากเจ็บคอ” พูดบอกออกมาด้วยน้ำเสียงอ่อยๆ
“ทำไมล่ะ” พอร์ชถามต่อในขณะที่โซ่เองก็รอฟังคำตอบ
“กระดูกมันชอบแทงคอน้องซนเจ็บ” คิดแล้วก็รู้สึกเจ็บแปลบบริเวณลำคอตรงจุดที่เป็นบ่อเกิดแห่งความทรงจำอันสุดแทนจะทรมานกับการกินปลาในแต่ละครั้ง ตั้งแต่จำความได้ไม่มีครั้งไหนเลยที่จอมซนจะกินปลาโดยไร้ปัญหาก้างติดคอด้วยวิธีการเลี้ยงดูแบบพึ่งพาตนเองของแม่จอมซนที่มักจะปล่อยให้ลูกได้เรียนรู้ด้วยตนเองมากกว่าที่จะคอยพะเน้าพะนอเอาใจจนลูกแทบจะทำอะไรเองไม่เป็นเหมือนพ่อแม่ชาวเอเชียส่วนใหญ่
“แต่อันนี้ไม่มีก้างแล้วนะอาเอาก้างออกให้หมดแล้ว” โซ่พูดบอกพร้อมกับช่วยตักปลาวางใส่ช้อนให้อย่างเอาใจ เมื่อรู้ถึงเหตุผลของหลานชาย
แม้ว่าโซ่จะบอกแบบนั้น แต่จอมซนก็ยังไม่สนใจ เด็กน้องวางมือจากช้อน กอดอก นั่งหลังตรงสะบัดหน้าหันหนีไปอีกทางทำเอาโซ่ขมวดคิ้วขุ่น ส่วนเสี่ยใหญ่ คุณนายปลื้มจิตและพอร์ชก็ได้แต่มองหน้ากันอย่างเหลอหลาเพราะเดาอารมณ์ของสองอาหลานไม่ถูก
วันนี้จอมซนเอาแต่ใจแบบแปลกๆ ส่วนโซ่ก็พร้อมเหวี่ยงแบบงงๆ
“น้องซนจะดื้อกับอาหรือ” รู้ตัวว่าหงุดหงิด แต่โซ่ก็พยายามที่จะเอาน้ำเย็นเข้าลูบ เพราะเป็นเรื่องปกติที่เด็กอย่างจอมซนจะงอแง แต่ที่ไม่ปกติคือร่างกายของเขาเองที่มันปวดเมื่อยเสียจนอยากจะกระโดดถีบหน้าคนรักที่นั่งบื้อเป็นหมาเมายาเบื่ออยู่ข้างๆ เพราะมันคือต้นเหตุ ถ้ามันไม่หื่นเขาก็ไม่ใจอ่อนจนซ้ำไปทั้งตัวแบบนี้หรอก
แต่ที่เกลียดที่สุดก็คือ…ไอ้ท่ายากของมันนี่แหละ! ขยันหามาใช้นัก!
“น้องซน อาจะ…”
“พ่อจ๋า! ไหนบอกว่าจะเป็นพ่อจ๋าของน้องซนไง! น้องซนไม่อยากมีอาโซ่แล้วน้องซนอยากมีแต่พ่อจ๋า!”
“น้องซน! / น้องซน!”
ทั้งสี่คนร้องเรียกเป็นเสียงเดียวเมื่อจอมซนลุกวิ่งหนีออกไปจากห้องอาหารส่วนตัวหลังจากที่ระเบิดความน้อยใจใส่โซ่จนหมดสิ้น
“เดี๋ยวกูจัดการเอง อย่าทำหน้าแบบนั้นสิครับแม่ แค่เด็กแสบน้อยใจโซ่ปราบได้สบายอยู่แล้ว” วางมือบนบ่าพอร์ชเป็นเชิงห้ามเมื่อเห็นว่าเจ้าตัวทำท่าว่าจะลุกตามจอมซนไป ก่อนที่จะหันไปพูดบอกให้คุณนายปลื้มจิตที่กำลังนั่งทำหน้านิ่วคิ้วขมวดคลายกังวล
ส่วนจอมซนที่วิ่งหนีออกมาก็ไม่ได้ไปไหนไกล เด็กน้อยหนีมานั่งไกวชิงช้าอยู่ในสนามเด็กเล่นที่ทางร้านจัดไว้รับรองลูกค้าที่มาแบบเป็นครอบครัวตรงข้างร้าน
ต่อให้รู้มากหรือตัวโตแค่ไหน แต่ความจริงแล้วจอมซนก็เป็นได้แค่เด็กแปดขวบที่ต้องการการแสดงความรักความห่วงใยอย่างชัดเจนแบบตรงไปตรงมา โดยเฉพาะในส่วนของความเป็นพ่อที่ขาดหายไปตั้งแต่จำความได้ แม้ว่าจะได้คุยกับพ่อแท้ๆ อย่างเซนผ่านทางวีดีโอคอลมาตลอดทั้งชีวิตก็ตาม นั่นยังไม่เท่ากับความรักความผูกผันที่เจ้าตัวมีต่อโซ่ซึ่งมีศักดิ์เป็นอา เพราะเจ้าตัวได้สัมผัสได้อยู่ใกล้ชิดกับโซ่แทบทุกครั้งที่คนเป็นแม่อนุญาตให้ไปอยู่บ้านอาม่าได้ชั่วคราวระหว่างที่เธอมีงานถ่ายแบบที่ประเทศไทย ในขณะที่พ่อแท้ๆ อย่างเซนโดนสั่งห้ามเด็ดขาดไม่ให้เจอหน้าลูก ถ้ายังอยากที่จะเห็นหน้าและพูดคุยกันผ่านจอโทรศัพท์อยู่ เพราะตอนนั้นศาลอเมริกาตัดสินให้จอมซนอยู่ในความดูแลของผู้เป็นแม่แต่เพียงผู้เดียว
เสียงเหยียบย่ำพื้นทรายไม่อาจเรียกร้องความสนใจจากเด็กน้อยได้ ถ้าไม่ได้เห็นรองเท้าคุ้นตามาหยุดยืนอยู่ด้านหน้าพร้อมกับเงาที่พาดผ่านทับลำตัว
“จะไม่เงยหน้าขึ้นมาคุยกันหน่อยหรอ…ลูกชาย” โซ่พูดบอกพร้อมกับขยับเข้าไปลูบหัวเด็กน้อยอย่างเบามือ จึงได้รู้สึกถึงแรงสะอื้นนั่นยิ่งทำให้โซ่มั่นใจเข้าไปอีกว่าสิ่งที่ตนเองคิดนั้นถูกต้องแล้ว
จอมซนก็ไม่ต่างจากตัวเขา เราสองคนต่างเป็นคนขาดทั้งคู่ จะแปลกอะไรถ้าหากว่าตัวเขานั้นอยากจะเติมเต็มให้หลานชายด้วยคำว่า ‘พ่อ’ แลกกับคำว่า ‘ครอบครัว’ ที่ขาดหายไปในช่วงวัยเด็กที่ผ่านมาของตนเอง
“น้องซนไม่ชอบเป็นหลานอาโซ่” เสียงเล็กของเด็กน้อยบ่นงึมงำออกมาเบาๆ ในขณะที่ยังคงนั่งก้มหน้ามองพื้นอยู่เหมือนเดิม
แต่ยังไม่ทันที่โซ่จะได้พูดอะไรออกมา ดวงตากลมสวยที่คลอไปด้วยหยดน้ำสีใสเงยหน้าช้อนตาขึ้นมามองโซ่ช้า ก่อนจะพูดบอกออกมาอีกว่า…
“น้องซนอยากเป็นลูกจ๋าของพ่อจ๋าของป๋าจ๋ามากกว่า” ไม่รู้ว่าด้วยความน้อยใจหรืออย่างไรถึงได้ทำให้น้ำตาที่พยายามจะกลั้นมาตลอดรินไหลออกมาไม่ขาดสาย
โซ่นั่งลงตรงหน้าให้สายตาอยู่ในระดับเดียวกับหลานชายก่อนที่จะยื่นมือเข้าไปช่วยเช็ดน้ำตาให้เด็กน้อยที่สะอื้นหนักขึ้นทุกที
“แล้วปะป๊าเซนของน้องซนล่ะ” ไม่ได้ตั้งใจจะแกล้งหรือถ่วงเวลาแต่อยากจะรู้จริงๆ ว่าลึกๆแล้วในใจหลานชายคิดอย่างไรกับคนเป็นพ่อถึงได้ยึดติดกับพ่อมโนอย่างพวกเขานัก
“ปะป๊าก็คือปะป๊า พ่อจ๋าก็คือพ่อจ๋า น้องซนรักเหมือนกัน แต่ปะป๊ามีแสนดีแล้ว” ชัดเจนในตอนแรก แต่เสียงแผ่วในประโยคสุดท้ายทำให้โซ่รับรู้ได้ทันทีว่านอกจากความน้อยเนื้อต่ำใจแล้วก็ยังมีความหวาดกลัวอีกหนึ่งอย่างที่ฝังลึกอยู่ในใจของจอมซน
โซ่ไม่ใช่คนเก่งกาจหรือเป็นผู้เชี่ยวชาญมาจากไหนที่หยั่งรู้ถึงความรู้สึกแท้จริงในใจของหลานชาย แต่เป็นเพราะ ‘ความขาด’ ต่างหากล่ะที่กำลังบอกว่าเราเหมือนกัน เขาจึงไม่รู้สึกแปลกใจนักถ้าหากว่าเราจะเข้ากันได้ดี
มันเป็นเรื่องง่ายที่ทำได้ยากในชีวิตจริง เป็นเรื่องใกล้ตัวที่คนเรามักจะมองข้าม เหมือนอย่างที่เซนไม่เข้าใจว่าความผูกพันและความเชื่อใจไม่ได้เกิดขึ้นได้เพียงเพราะการบอกรักผ่านทางหน้าจอ เช่นเดียวกับที่พ่อของเขาเองก็ไม่เคยได้รับรู้ว่าสำหรับโซ่แล้วอ้อมกอดที่แสนอบอุ่นมีค่ามากกว่าเงินทองที่เขากองไว้ให้
“แต่อาก็มีพี่มณีแล้วนะ” อันนี้ยอมรับเลยว่าตั้งใจแกล้งหลังจากที่ได้รู้ในสิ่งที่อยากจะรู้เรียบร้อยแล้ว
“พ่อจ๋าไม่รักน้องซนหรอ” เบะปากร้องไห้หนักกว่าเดิมขึ้นไปอีก
“แล้วอยากให้รักรึเปล่าล่ะ”
พอได้ยินโซ่ถามออกมาแบบนั้นพอร์ชที่ยืนแบบดูอยู่หลังพุ่มไม้ก็แทบจะกระโจนเข้าไปโบกหัวคนรักสักทีสองทีโทษฐานที่แกล้งลูกรักของตนเอง
ยอมรับเลยว่าตอนแรกก็ไม่ค่อยถูกชะตากับจอมซนสักเท่าไหร่ ออกจะหมั่นไส้เลยด้วยซ้ำ แต่พอได้ใกล้ชิดทำความรู้จักแล้วพอร์ชก็รู้สึกเอ็นดูจอมซนขึ้นมา แต่ไม่ใช่ในแบบชู้สาวนะ แค่รู้สึกรักและผูกพันกับจอมซนเหมือนน้องชายมากกว่า ยิ่งรู้ว่าจอมซนรักโซ่มากเท่าไหร่เขาก็อยากจะดูแลเจ้าตัวมากขึ้นเท่านั้น ไม่รู้ว่าทำไมหรืออาจจะเป็นเพราะเขาเป็นน้องเล็กในบรรดาพี่น้องทั้งหมดหรือเปล่าไม่แน่ใจ
แต่ทั้งหมดทั้งมวลนั้นไม่นับโซ่ที่อยู่ในฐานะคนรักหรอกนะ เพราะรายนั้นน่ะ…ไอ้พอร์ชคนนี้ได้มอบกายถวายชีวิตให้ไปหมดแล้วทั้งหัวใจ
“รัก…กอด…พ่อจ๋ากอดน้องซนหน่อย” พยักหน้าตอบคำถามทั้งน้ำตา กางแขนสองข้างออกกว้าง อ้อนวอนขอให้คนเป็นอากอด
“อยากให้รักก็หยุดร้องไห้ได้แล้ว เดี๋ยวไม่สบาย” คว้าตัวหลานชายเข้ามากอดปลอบ นับหนึ่ง สอง สาม ฮึบในใจ ตั้งสติ หลับตาขอโทษดินฟ้าอากาศที่ตัวเองจะติ๊ต่างเปลี่ยนโหมดจากอาไปทำหน้าที่พ่อในนามให้หลานชาย
“หยุดร้องไห้แล้วฟังก่อนนะน้องซน” ดันตัวหลานชายออกห่าง ใช้สองมือจับใบหน้าเด็กน้อยให้สบตา จ้องมองให้ลึกลงไปในส่วนลึก ก่อนจะตัดสินใจพูดอะไรบางอย่างออกมา
“เมื่อกี้อาไม่ได้ตั้งใจ อาขอโทษที่ลืมตัวทั้งที่เราตกลงกันแล้วว่าจะเปลี่ยนมาเป็นพ่อลูกกัน…ถูกไหม?”
“ฮะ” ถึงจะไม่ชอบให้โซ่เรียกแทนตัวว่าอาเหมือนก่อนหน้า แต่จอมซนก็ยอมฟัง แม้ว่าจะมีน้ำตาคลออยู่ตลอดเวลาก็ตาม
“เพราะอย่างนั้น…หลังจากนี้เรามาเป็นพ่อลูกกันจริงๆ ดีกว่าเนอะ”
“น้องซนรักพ่อจ๋าที่สุดในโลกเลยฮะ”
จอมซนโผเข้ากอดโซ่ทันทีเมื่อได้ยินในสิ่งที่ตนเองรอคอยมาตลอด ก่อนที่พอร์ชจะเดินออกมาจากที่ซ่อนเข้ามาร่วมวงสนทนาด้วยอีกคน ส่งให้บรรยากาศที่อบอุ่นอยู่แล้วสดใสขึ้นทันตา เพราะเมื่อไหร่ก็ตามที่มีพอร์ชกับจอมซนร่วมวงกันเมื่อนั้น…วุ่นวายทุกที
“อ้าว…แล้วป๋าล่ะ?”
“น้องซนรักป๋าจ๋าเหมือนกันฮะ แต่น้อยกว่าพ่อจ๋ากับพี่มณีนิดนึง”
เด็กแสบกลับมาร่าเริงอีกครั้งเมื่อได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตากับคนที่ตัวเองรัก ทำปากยื่นปากยาวพูดแหย่พอร์ชอย่างไม่เกรงกลัวในขณะที่อยู่ในอ้อมกอดของโซ่ เพราะรู้ดีว่าตนเองจะปลอดภัยจากการแก้แค้นเอาคืนของพอร์ช
ก็นะ…ใครอยากให้ป๋าจ๋าของพี่มณีกลัวพ่อจ๋าของน้องซนกันเล่า…คึคึ
TBC.
คิดถึงจังเลยยยยยยยยยยย~~~~ ภาคนี้เอากี่ตอนดี 60 ตอนไหวไหม? แต่คนเขียนไม่หวาย ฮ่าๆ
จะพยายามมาเร็วกว่านี้นะคะ สงสารคนอ่านลุ้นตอนใหม่นิยายเรายิ่งกว่าหวยอีก เดือนหนึงมาที #ด้วยรัก