ไอ้ว่าน สติค่ะสติ!! : ตอนที่ 10 [15/5/20] [END]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ไอ้ว่าน สติค่ะสติ!! : ตอนที่ 10 [15/5/20] [END]  (อ่าน 4657 ครั้ง)

ออฟไลน์ sk_bunggi

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 399
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฎเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฎจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิ์ส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรูปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ
หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสต์กระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทู้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพสต์ หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเว็บแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล์ บอกเมล์ แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสต์นิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insert quote ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เว็บ http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม้อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเว็บ แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสต์จนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสต์ในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรื่องบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสต์นิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสต์ให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเว็บบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ...
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เว็บไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสต์ชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเว็บไซต์ที่อ้างอิง
  (กรณีนี้จะโพสต์อ้างอิงชื่อผู้โพสต์หรือเว็บไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเว็บไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสต์และเว็บไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสต์ค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเว็บไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสต์ได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพสต์
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฎการซื้อขายของเล้าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสต์เรื่องสั้นให้มาโพสต์ที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสต์แรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสต์แรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฎ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฎทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฎข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฎข้อ 17



เว็บไซต์แห่งนี้เป็นเว็บไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฎหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเว็บไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเว็บไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

____________________________________________________________________________



ไอ้ว่าน สติค่ะสติ!!

Intro
นายเอก : น้องว่านผู้น่ารัก
ไอ้เอ๋ กูเจอแล้ว กูเจอเนื้อคู่แล้ว พ่อเทพบุตรของกู
พระเอก : พี่โทนผู้หน้านิ่ง
ทำไมเวลาเจอนายทีไรมีแต่เรื่องทุกที



เรื่องนี้นายเอกกับเพื่อนนางค่อนข้างจะไปทางสาวนะคะ ถ้าใครไม่ชอบก็บอกกันได้น้า ขออภัยด้วยจ้า

ฝากติดตามเรื่องใหม่ไว้ในอ้อมแขนทุกๆคนด้วยนะค้า เป็นการเขียนเรื่องยาวครั้งแรก

ตื่นเต้นมากๆ ไม่รู้ว่าจะชอบกันบ้างมั้ย ><


ผลงานอื่น
(เรื่องสั้น) วันนี้กินอะไรดีจ๊ะพี่
(เรื่องสั้น) พี่ครับ รับรักผมได้ไหม?
(เรื่องสั้น) ความลับ….

Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15-05-2020 10:17:21 โดย sk_bunggi »

ออฟไลน์ sk_bunggi

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 399
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
สติหายเมื่อแรกเจอ

ณ มหาวิทยาลัยในกรุงเทพฯแห่งหนึ่ง   

ตึ่ง ๆ ๆ ๆ ๆ เสียงฝีเท้าคู่หนึ่งกำลังวิ่งมุ่งหน้าเข้ามาที่ห้องสอบอย่างรีบเร่ง

“ขอโทษครับอาจารย์ ขออนุญาตเข้าห้องสอบครับ แฮ่กๆๆ” ร่างเล็กๆพูดขอเชิงไหว้อาจารย์ปรกๆ

“นี่ นักศึกษาคะ! ห้องสอบนะคะไม่ใช่ห้องน้ำถึงจะมาเข้าตอนไหนก็ได้ รบกวนมาให้ตรงเวลาด้วยค่ะ!” อาจารย์ว่ากลับด้วยน้ำเสียงดุดัน

“โธ่อาจารย์ครับ ผมไหว้ล่ะ เมื่อกี้ผมโดนรถเฉี่ยวมา ดูสิครับเลือดออกหมดเลย” ผมทำเป็นชูแขนที่เปรอะคราบเลือดให้อาจารย์ดู

“เชิญค่ะ คราวหน้ารบกวนมาให้ตรงเวลาด้วยนะคะ สอบเสร็จแล้วก็ไปทำแผลซะ”

ผมรีบขอบคุณอาจารย์ยกใหญ่แถมด้วยส่งสายตาวิ้งๆน่ารักกลับไปให้หนึ่งที ผมกำลังมองหาที่นั่งก็เห็นตรงข้างๆเอ๋เพื่อนสนิทของผมมันว่างอยู่เลยรีบกระโจนเข้าไปนั่งใกล้ๆมัน

“ไอ้ว่าน มึงโดนรถเฉี่ยวจริงหรอวะ” เอ๋หันมากระซิบกระซาบอยากรู้

“เปล่า กูเอาปากกาแดงถูๆเอา”

ตอบกลับมันไปพลางขำกันอยู่สองคน นั้นล่ะครับคือความจริงที่เจอ ผมไม่ได้โดนรถเฉี่ยวหรอกแต่เพราะผมดันปวดท้องขรี้ซะก่อนเข้าห้องสอบก็เลยมาช้า

“นักศึกษาตรงนั้นคุยอะไรกันคะ ถ้าเสร็จแล้วก็ออกมาค่ะ!” อู้ยยยย จารย์คุมสอบคนนี้ดุจริงเชียว
.
.
มาครับ ผมขอแนะนำตัวเองหน่อย ผมว่าน ธนาธิป อายุ 19 ปี อยู่คณะศิลปะศาสตร์ เอกอังกฤษเพื่อการสื่อสารสากลปี 2 แล้ว ที่บ้านผมเปิดกิจการร้านขายทองสาขาชื่อดัง ผมอาศัยอยู่กับป๊า ม๊า อาม่าและพี่ชายซึ่งตอนนี้พี่ชายผมแต่งงานและออกไปเปิดร้านทองสาขาที่สองไม่ใกล้ไม่ไกลกันนัก ส่วนผมนั้นขี้เกียจไปกลับก็เลยเช่าหอหลังมหาลัยอยู่มันซะเลยพร้อมกับไอ้คนที่อยู่ข้างๆผมนี่ล่ะครับ มันชื่ออิเอ๋เป็นเพื่อนสนิ้ทสนิทของผมตั้งแต่อยู่ม.ปลายแล้วและไม่ต้องตกใจทำไมผมเรียกผู้หญิงว่าอี เพราะจริงๆแล้วมันไม่ใช้ผู้หญิงไงล่ะครับ มันเป็นผู้ชายชนิดเดียวกันกับผมนี่ล่ะ คนในคณะมักจะบอกว่าผมกับมันเป็นฝาแฝดกันเพราะเราสองคนมักจะไปไหนด้วยกันและทำอะไรเหมือนๆกัน แม้กระทั่งรูปร่างมันก็เท่าๆกันกับผมแต่ติดที่มันจะผิวสีน้ำผึ้ง ส่วนผมจะผิวขาวเหลืองเพราะเป็นลูกคนจีน ไหนจะขาสั้นๆแขนสั้นๆที่ได้มาซึ่งตรงนี่ผมไม่เข้าใจเลยครับ เพราะเฮียวิวพี่ชายผมมันสูงม้ากกก มันเป็นนักกีฬาบาสสมัยเรียนเชียวนะ แต่ทำผมถึงออกมาตัวเตี้ยแขนขาสั้นก็ไม่รู้

“เฮ้ยไอ้ว่าน มึงทำได้มะ กูแม่งไม่มั่นใจข้อเขียนเลยอะ แต่เอาจริงๆกูก็ไม่มั่นใจซักกะข้อเดียว ฮ่าๆๆ” เอ๋มันบอกพร้อมเดินมาคล้องคอผม

“มึงก็พูดไป เห็นแก่การแหกขี้ตาอ่านหนังสือของตัวเองหน่อย” ผมว่าพลางเดินกอดคอกับมันเพื่อไปโรงอาหาร ระหว่างทางนั้นผมกับเอ๋ก็เจอเข้ากับคู่อริ

“วี้ดวี้ววววว สองสาวจะไปไหนกันหรอจ๊ะ” ไอ้ท๊อปกับเหล่าผองเพื่อนมันเอ่ยแซว

“จะไปไหนมันก็เรื่องของพวกกูไหมจ๊ะ ไอ้พวกเห็บหมา”

เอ๋สวนกลับไปทันควัน ซึ่งผมก็ไม่ได้ว่าอะไรเพราะก็ไม่ชอบขี้หน้าพวกมันเหมือนกัน

“โหย โหดเหลือเกิน เดี๋ยวปั้ดจับตบจูบเลย ฮ่าๆๆๆๆ” ไอ้แป๊ปลูกคู่มันก็พูดสวนขึ้นมาทันที

“จูบส้นตีนกูนี่ ไปไอ้ว่านหาไรกินกัน ด่ากับพวกนี้แม่งทำให้พลังงานชีวิตกูลดลงเลย”

เอ๋พูดพลางมองหาที่นั่ง เอ๋มันก็ดีอย่างครับเห็นมันตัวเล็กๆแบบนี้มันเป็นมวยนะครับเพราะที่บ้านมันเปิดค่ายมวย พ่อมันชอบชวนผมไปซ้อมอยู่บ่อยๆแต่ผมขอบายครับเรื่องใช้กำลังไม่ถนัดจริงๆ ผมเคยไปดูมันฝึกด้วยนะตัวก็เท่าลูกหมาแม่งเตะตัดขาพี่ที่เป็นครูฝึกได้เฉ้ย อย่าได้ไปกล้าแหยมกับมันเชียวนะ

“เออมึง เดี๋ยวกูไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ กูจะไปล้างรอยปากกาออกก่อน มึงไปหาซื้อไรกินก่อนเลย”

ผมบอกมันพลางลุกขึ้นจากเก้าอี้เดินตรงไปที่ห้องน้ำชายทันที ขณะที่ผมกำลังเดินออกจากห้องน้ำก็มีผู้ชายคนหนึ่งเดินมาชนไหล่ผมทำให้ผมเซไปนิดๆ แต่ที่น่าโมโหคือมึงไม่คิดจะขอโทษกูหน่อยหรอไง เดินไม่ดูทางยังมารยาททรามอีกนะ

“แกร๊บ….” ผมมองตามเสียงนั้นไปด้านล่าง หื้ม เหยียบอะไรวะ

“!!!” มันคือกล่องถุงยางครับ กล่องยังไม่เปิดใช้เลย โอ้วแม่เจ้า ใครมันช่างริอาจพบมันมาเดินเร่ร่อนที่นี้ แต่พอนึกได้ว่าเมื่อกี้มีคนเดินชนผมเลยหยิบขึ้นมาเพื่อจะเอาให้เขา

“เฮ้นายน่ะ ทำของตกไว้น่ะ”

ผมเดินไปสะกิดคนที่ก้มล้างหน้าล้างตาอยู่ และเขาก็ผงกหัวขึ้นมาพร้อมกับเสยผมที่มีน้ำเปียกบนใบหน้า

“อึก” นี่คือเสียงกลืนน้ำลายของผมเองครับ ก็จะอะไรซะอีกเพราะผู้ชายตรงหน้าผมนี่มันหล่อมากๆเลยล่ะครับ ที่ใบหูมีจิวระเบิดหูอันเล็กๆ ที่คิ้วกันเป็นรอยแหว่งดูเป็นแบดบอยบวกกับสายตาดุๆที่จ้องมองมา ทำเอามือที่ยื่นของให้ถึงกับสั่นกันเลยทีเดียว อิเอ๋ช่วยกูด้วยยยยย

“ขอบใจ” แง้ น้ำเสียงที่ตอบกลับมามันช่างทุ้มเสียจริง

“อ่ะ อื่อ ไม่เป็นไร ทีหลังก็ระวังด้วยละกัน” ทำเป็นพูดดีครับ แต่กว่าจะควานหาเสียงตัวเองเจอก็แทบลืมหายใจ ก่อนจะรีบหันหลังและวิ่งออกไปจากห้องน้ำอย่างเร็ว
.
.
“อิเอ๋ๆ กูเจอแล้ว กูเจอแล้ว! แฮ่กๆๆ” ผมรีบวิ่งกลับมาหาเอ๋ที่นั่งซู้ดเส้นก๋วยเตี๋ยวอยากสบายใจ

“แค๊กๆๆ อิว่าน แค้กๆ น้ำๆ” ผลของการที่ผมทำมันตกใจคือมันสำลักเส้นก๋วยเตี๋ยวไอออกมาแบบน้ำหูน้ำตาไหล อี๋ สกปรกจริงๆมึง

“เอ้าๆ กินดีๆสิวะมึง” ผมบอกขณะส่งน้ำดื่มให้ก่อนมันจะสำลักตาย

“อิว่านอิห่า มึงจะเสียงดังทำไมล่ะกูตกใจหมด แล้วมึงมีอะไรถึงวิ่งหน้าตั้งมาอีกเนี่ย เจอผีหรือไง”

“ยิ่งกว่าเจอผีอีกมึง! กูเจอแล้วๆกูเจอเนื้อคู่กูแล้ว!”

ผมรีบบอกมันออกไปอย่างมั่นอกมั่นใจจนทำให้เอ๋มันสำลักก๋วยเตี๋ยวอีกรอบ โฮะ ทำไมมึงถึงเป็นคนที่สกปรกแบบนี้เนี่ย (ได้ข่าวว่าแกทำให้มันตกใจนะไอ้ว่าน -_-)

“พร้วดดด! มึงพูดบ้าอะไรของมึง เนื้อคงเนื้อคู่อะไร” เอ๋มันโวยวายขึ้นมาเหมือนที่ผมพูดเป็นเรื่องไรสาระ

“จริงๆมึง ก็เมื่อกี้ที่กูไปเข้าห้องน้ำเขาเดินมาชนกู แล้วก็ไม่ยอมขอโทษ กูก็กะจะไปเอาเรื่องซะหน่อยแต่ทีนี้กูดันเหยียบอะไรเข้ารู้มั้ย”

“เหยียบขี้หรอมึง?” มันตอบอย่างหน้าตาย เลยตบหัวมันไปทีนึง

“ไอ้ห่า ไม่ใช่ เขาทำกล่องถุงยางหล่นเว้ย ทั้งกล่องเลยนะมึง กูก็เลยหยิบไปคืนเขาพอเขาหันหน้ามาหากูปุ๊บ กูรู้เลยเทพบุตรชัดๆ” ผมเล่าไปพลางทำท่ากุมมือแบบคนเพ้อฝันไป

“เดี๋ยวก่อนนะ ทำถุงยางตกทั้งกล่องเลย? ฮ่าๆๆๆๆ คนห่าอะไรวะ พกถุงยางมามหาลัย” มันหัวเราะพลางเอามือกุมท้องอย่าขำขัน

“เออดิ กูนี้งงเลย เดี๋ยวกูไปซื้อข้าวก่อนมัวแต่คุยกับมึงจนลืมแดกข้าวเลย”

ผมบอกมันพร้อมที่กับทำท่าไล่ผมให้ไปซักทีเพราะมันจะได้กินก๋วยเตี๋ยวของมันต่อ

....................................................

TBC ฉากเปิดตัวระหว่างนายเอกกับพระเอก สถานที่เจอกันน่าประทับใจมากจ้าาา  :laugh:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11-06-2020 13:00:11 โดย sk_bunggi »

ออฟไลน์ sk_bunggi

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 399
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
มีสติครั้งที่ 2

หลังจากกินข้าวกลางวันเสร็จก็รอไปสอบอีกวิชาช่วงบ่ายสอง ระหว่างนั้นผมกับเอ๋ก็ไปหาที่หลบแอบพักสายตากันซะหน่อย หนังสงหนังสือไม่อ่านล่ะครับหัวจะระเบิดอยู่แล้ว ถ้ากินเข้าไปได้ผมนี่อยากต้มหนังสือกินเลย อยู่ๆห่างตาผมก็หันไปผู้ชายคนหนึ่งรูปร่างคุ้นตาก่อนที่จะสะกิดเอ๋ให้ลุกขึ้นมาดู

“อิเอ๋ๆ นี่ไง คนนี้ไงที่กูเจอ ฮื่ออออ พ่อเทพบุตรของกู” ผมรีบเขย่าตัวเอ๋ที่มันนอนอยู่ข้างอย่างแรงจนคอมันจะหลุดจากบ่าอยู่รอมร่อ

“โอ้ยยย อิว่าน กูเจ็บ ไหน คนไหน! ถ้าไม่หล่อนะมึงกูจะด่าให้ เสียเวลานอนกู” มันด่าผมพลางมองตามนิ้วของผมไป

“นั้นไงๆ คนตัวสูงๆใส่เสื้อช็อปสีน้ำเงินเข้มๆที่เดินนำหน้าคนอื่นอะ” ว่าพลางเขย่ามันอีกระลอกหนึ่ง

“อีเชี้ยว่านนนน สติค่ะสติ มึงรู้มั้ยนั้นใคร!” เอ๋รีบหันหน้ามาพร้อมกับตีแขนผมที่ยกขึ้นมาชี้ให้มันดู

“มึงนี่ก็ถามแปลก ถ้ากูรู้กูจะถามมึงมั้ยละ เอ้อออ” นี้เพื่อนผมเป็นควายตั้งแต่เมื่อไหร่กันวะครับ

“เพี๊ยะ…ไม่ใช่แบบนั้นไหมล่ะมึง เล่นซะของสูงเชียวนะ” ฝ่ามือพิฆาตที่ส่งลงมากลางกระหม่อมพอดิบพอดี ถึงกับมึนเลยครับงานนี้

“เขาชื่อพี่โทน เป็นประธานสโมสรนักศึกษาคณะวิศวะเทคโนฯคอมพิวเตอร์ปี 4 ขึ้นชื่อว่าหล่อแต่โหดนะมึง อย่าไปยุ่งกับพี่มันเลย” มันร่ายประวัติของเทพบุตรให้ผมฟังอย่างกลัวๆ ทำอย่างกับเขาเป็นสิ่งต้องห้ามยังงั้นล่ะ

“มึงก็เวอร์ไป ไม่เห็นพี่เขาจะดูน่ากลัวตรงไหนเลย” ผมพูดอย่างไม่ใส่ใจ ถึงเขาจะหน้าตาดุแต่น้ำเสียงที่ได้ยินมาจากประโยคขอบคุณก็พอจะรู้ได้ว่าเขาไม่ใช่คนไม่ดี

“มึงก็เป็นแบบนี้ทุกที อย่าไปยุ่งจะดีกว่า กลุ่มนี้นะข่าวฉาวมันเยอะมึง”

“จ้ะๆ คุณเพื่อนผู้แสนดีย์” ทำท่าเป็นจะหอมแก้มมันแต่กลับได้ฝ่าเท้ามันยันโครมออกมาแทน ก่อนที่เราทั้งสองคนจะไปสอบรีบไปเข้าห้องสอบ
.
.

“เฮฮฮฮ สอบเสร็จแล้วเว้ย” เอ๋ตะโกนออกมาลั่นห้องทำให้เพื่อนๆทุกคนต่างพากันดีใจด้วย
 
“ไอ้เอ๋ มึงอย่าได้ใจไป นี่แค่มิดเทอมเองนะมึง” ดรีมเพื่อนร่วมห้องตะโกนดับฝันเพื่อนๆ

“เฮ้ยพวกมึง มีใครสนใจไปกินเหล้ากันป่ะ” ไอ้จ็อบ ผู้ชายเพียงคนเดียวในห้องพูดขึ้น (ที่ไม่รวมพวกผมนะ อิอิ)

“ขอบายว่ะ เหนื่อยมาก” หลายๆเสียงตอบกลับมาพร้อมกันเมื่อไม่มีใครไหวไปกับมัน ไอ้จ็อบเลยต้องพับแผนกินเหล้ามันไป

หลังจากสอบเสร็จผมกับเอ๋ก็รีบกลับหอพักกันทันที ด้วยความที่ล้าจากการสอบกันเต็มที กลายเป็นตอนนี้ผมและมันนอนเน่าเปื่อยกันจนถึงเที่ยงวันของอีกวันเลยล่ะครับ ทำไปได้ยังไงกัน ฮ่าๆๆ

“เอ๋ หิวข้าวว่ะ ไปหาไรกินกัน” พูดพลางพร้อมเช็ดผมไปด้วย

“ไปดิ ไปกินชาบูที่ห้างXXกันมะ” ผมพยักหน้าตอบมันพร้อมกับแต่งตัวพากันแว๊นออกไปที่ห้าง

กว่าผมกับมันจะได้กินก็ปาไปบ่ายครึ่งครับ คิวรอนานมากกกกก ตอนแรกผมว่าจะถอดใจแต่เพื่อนเอ๋มันอยากกิน ผมก็เราต้องเลยตามเลยและด้วยความที่มันเป็นวันหยุดของสัปดาห์ด้วยล่ะคนเลยเยอะ

“หิวๆๆ กูจะกินให้หมดเลย” เอ๋พูดพร้อมกับตักของกินจนเต็มจาน

“ตะกละจริงๆนะมึง พอก่อนไหมเดี๋ยวก็กินไม่หมดหรอก” ผมว่ามันอย่างขำๆก่อนที่เราจะเดินกลับไปที่โต๊ะเพื่อฟาดอาหารที่อยู่ตรงหน้า

“พี่โทนคะ ลองชิมอันนี้ดูสิ อร่อยมากๆเลยนะ” หื้ม ชื่อดูคุ้นๆหู ผมเลยหันไปมองหน้าเอ๋เพื่อถามมันว่ามึงได้ยินอย่างที่กูพูดไหม

“ไม่ล่ะพี่อิ่มแล้ว เมย์ทานเถอะ” เสียงทุ้มๆเย็นๆตอบกลับหญิงสาวไปในที

“แหม ทำไมอิ่มไวจังคะ หรือว่าพี่โทนรอทานเมย์หลังอาหารกันน้า ฮิฮิ” อื้อหืออออ มั่นหน้ามากเจ๊ พูดมาได้ไม่อายคนอื่น

“หึ รีบทานเถอะจะได้ออกไปกัน” ชายหนุ่มตอบกลับหญิงสาวกลับไปด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ผมกับเอ๋เลยหันกลับมากินอาหารตรงหน้าตัวเองต่อเช่นกัน

ระหว่างที่คนทั้งคู่กำลังลุกเพื่อออกจากร้าน ผมกับเอ๋รีบหันไปมองผู้ชายที่ชื่อคุ้นหูและก็ปรากฏว่าเขาคือคนเดียวกันกับพ่อเทพบุตรของผม แถมเขายังเหล่ตามองมาพวกผมนิดนึงก่อนที่จะเดินสะบัดตูดกันออกไปนอกร้าน

“หูย ผู้หญิงอะไรหน้าไม่อาย พูดแบบนี้ในที่สาธารณะได้ไงวะ” เอ๋มันบ่นหญิงสาวเพราะตัวมันก็มีน้องสาวอยู่คนหนึ่ง ซึ่งน้องสาวมันก็ค่อนข้างจะเรียบร้อยพอประมาณ

“นั้นดิ แต่ประเด็นไม่ใช่ตรงนั้นเว้ย มึงกูอยากรู้อะว่าเขาไปไหนกัน” ผมเริ่มเข้าจุดประสงค์ที่ต้องการโดยสื่อกระแสจิตไปให้มัน

“ไม่ๆๆอิว่าน มีสติค่ะ มึงอย่าบอกนะว่าจะ?” เอ๋ตอบกลับมาอย่างรู้ใจพร้อมกับส่ายหน้าอย่างแรง

“ป่ะมึง เดี๋ยวไม่ทันพี่เขา!” แล้วภารกิจสะกดรอยตามพ่อเทพบุตรก็เริ่มขึ้น

……………………….......................

“กึก” ฝีเท้าที่กำลังเดินชะงักลงทันที ผมรู้สึกช่วงที่เดินอยู่นั้นเหมือนมีคนตามยังไงยังงั้น ซึ่งจริงๆแล้วผมก็ชินที่ไปไหนมาไหนก็มันจะมีคนมองเพราะด้วยรูปร่างและหน้าตาของผมนั้นหมากยังชิดซ้าย ณเดชน์ยังชิดขวาแบบนี้ก็ต้องทำใจกันหน่อย แต่ปัญหามันไม่ได้อยู่ที่ตรงนั้นน่ะสิ ความรู้สึกผมมันบอกว่านี่ไม่ใช่การมองตามปกติแต่มันถูกเหมือนสะกดรอยตาม มันคืออะไรกันนะ?

“พี่โทน?” หญิงสาวข้างๆเรียกสติผม

“ครับ เมย์อยากไปไหนต่อมั้ย” ผมถามหล่อนเมื่อผมเริ่มรู้สึกเบื่อ ความหมายของผมคือผมอยากกลับไปนอนเต็มทนแล้ว

“เมย์ยังอยากดูรองเท้าอยู่ค่ะ เนี้ยเพิ่งได้แค่ชุดมาไม่กี่ชุดเอง” หล่อนบอกพลางทำท่าออดอ้อนน่ารัก แต่ไอ้ไม่กี่ชุดของหล่อนนี่ก็ปามา 5-6 ร้านแล้วนะและตอนนี้ขาผมก็เริ่มแข็งแล้วด้วย

ผมไม่ชอบผู้หญิงจำพวกนี้เลยสิ้นเปลืองกับการซื้อเสื้อผ้ามากมายทั้งที่ไม่รู้ว่าชาตินี้จะใส่หมดหรือเปล่า แต่กลับจากนี้ไปผมคงได้เลิกรากับเธอแล้วล่ะครับ ไม่ไหวๆถ้ายังคบกันอยู่มีหวังผมต้องได้เดินขาควิดต่อไปอีกเป็นแน่ เอาจริงๆคนที่คบส่วนใหญ่ก็คบได้ไม่นานเพราะเจอแต่พวกแบบนี้หมดและอีกเหตุผลหนึ่งก็คือผมยังไม่เจอคนที่ใช่


……………………….......................

“อิว่าน แฮ่กๆ พักก่อนๆ” เอ๋เดินลากขาตามหลังผมพร้อมดมยาดมที่แวะซื้อมาเมื่อกี้ไปด้วย

“เร็วๆดิวะมึง เดี๋ยวก็คลาดสายตาหรอก” ปากบอกมันขณะที่ตายังจับจ้องอยู่ที่ร่างสูง

“ทำไมผู้หญิงมันช็อปปิ้งกันเก่งจังวะ แค่สองสามร้านที่ผ่านมากูก็จะเดินไม่ไหวแล้วเนี่ย” มันว่าพลางยื่นเท้าสะเอวทำหน้าเอือมๆ

“ไปๆมึง พี่เขาออกมาแล้ว” แล้วผมก็จูงมือมันถูลู่ถูกังกันตามพี่เขาไป

ตอนนี้เป็นเวลา 5 โมงเย็นแล้วจนในที่สุดก็ได้ฤกษ์ออกจากห้างกันสักที ผมรีบแว๊นมอเตอร์ไซค์ตามรถหรูคันข้างหน้าไป ผมล่ะไม่เข้าใจตัวเองว่าทำไมผมต้องตามพี่เขาด้วยหรือเพราะติดใจเรื่องถุงยางก็เป็นได้ ฮ่าๆๆ แต่ก็ปล่อยเลยตามเลยเพราะตามมาจะค่อนวันได้แล้ว

ในที่สุดรถหรูก็เลี้ยวเข้ามาในคอนโดแห่งหนึ่ง นั้นไงกูว่าแล้ว! พี่มันต้องพาสาวมาโจ๊ะๆแน่นอน แต่แล้วประตูฝั่งคนนั่งข้างคนขับก็เปิดออกพร้อมกับตุ๊กตาหน้ารถที่ทำหน้างอง้ำอย่างไม่พอใจพร้อมปิดประตูเสียดังและก็เดินออกไปด้วยท่าทางอารมณ์เสีย อ่าว สงสัยสาวเจ้าจะนก ผมรีบขี่มอเตอร์ไซค์ตามรถหรูมาอีกครั้ง แต่คราวนี้ซอยที่เขาเลี้ยวเข้ามามันดูเปลี่ยวๆยังไงชอบกล

“อิว่าน กูว่ามันยังไงๆอยู่นะมึง ทำไมพี่มันถึงเข้ามาในซอยนี้วะ” เอ๋กำเสื้อผมพลางกระซิบถามผม

“กูจะไปรู้มั้ยมึง กูก็อยู่กับมึงเนี้ย หรือพี่มันปวดฉี่วะ” ผมว่าไปพลางชะลอมอไซค์ไป

“มึงจะบ้าหรอ จะมาฉี่อะไรแถวนี้ กูว่าเรารีบกลับรถกับเถอะก่อนที่พี่มันจะเห็น” เอ๋เขย่าแขนผมให้ทำตามที่มันบอก

แต่ก่อนที่จะได้ทำอะไรรถคันหรูก็ขับถอยหลังมาอย่างเร็วจนทำให้ผมและมันตกใจปล่อยมือออกจากแฮนด์มอเตอร์ไซค์จนรถล้ม

“เชี้ยยยยยย ไอ้เอ๋เป็นไรเปล่ามึง” ผมและมันที่รีบกระโจนออกจากมอเตอร์ไซค์ได้ก่อนที่มันจะล้มคว่ำทับตัวเองยืนถามไถ่กันจนลืมไปว่ามีร่างของคนๆหนึ่งลงมาจากรถและยืนมองพวกเราอยู่

……………………….......................

ผมยืนมองสองร่างที่อยู่ด้านหน้าอย่างไม่สบอารมณ์ ง่วงก็ง่วงทำไมยังต้องมาเจอพวกโรคจิตถึงขนาดขับรถตามกันมาขนาดนี้ ผมสังเกตเห็นตั้งแต่ตอนออกมาจากห้างว่ามีมอเตอร์ไซค์คันหนึ่งขี่ประกบอยู่ท้ายรถไม่ห่าง ถึงแม้ระยะไม่ใกล้ไม่ไกลแต่ก็ทำให้รู้ได้ว่ามันกำลังตามมา แต่ที่ผมงงกว่านั้นคือไอ้โรคจิตสองคนที่รูปร่างไม่น่าจะต่อสู้กับใครเขาได้เพราะหัวมันยังไม่ถึงคอผมเลยด้วยซ้ำ หรือมีใครกล้าจ้างวานให้มันมาทำงานติดตามคนหรอไง?

“พวกมึงเป็นใคร ต้องการอะไร?”

ผมพูดออกไปพร้อมไล่มองหน้าทีล่ะคน แต่ที่ผมสะดุดคือคนตัวเล็กที่พยายามประคองเพื่อนตัวเองขึ้นมา ใบหน้าน่ารักแต่หน้าซีดเผือดคงเพราะกลัวหรือตกใจอะไร ผมว่าผมคุ้นๆหน้าเจ้าของใบหน้านี้นะ แต่นึกไม่ออกว่าเคยเจอกันที่ไหน

“มะ ไม่ใช่นะครับ อย่าเพิ่งเข้าใจผิด คือ คือ….” คนตัวเล็กอ้ำอึ้งตอบกลับมาพร้อมทำท่าเลิกลั่ก

“ไม่ใช่อะไร แล้วพวกนายเป็นใครถึงต้องมาตามฉัน” ผมยิงคำถามเข้าไปอีกหนึ่งดอกพร้อมทำสายตาดุเพื่อเป็นการข่มคนตรงหน้า

“คือผู้หญิงคนเมื่อกี้เป็นแฟนเก่าเพื่อนผมน่ะครับมันเลยตามมา!” คนตัวเล็กชี้ไปที่คนมัดผมจุกอยู่ข้างๆที่ยืนทำหน้างงๆอยู่

“ชะ ใช่ครับ ไม่มีอะไรจริงๆ งั้นพวกผมไปก่อนนะ ไอ้ว่านไป!”

แล้วคนมัดจุกก็จูงมือตัวเล็กไปที่มอเตอร์ไซค์คนเล็ก อะไรมันจะเล็กซะทุกอย่างเลยวะ แต่เดี๋ยวก่อนผมนึกออกแล้วเคยเจอคนตัวเล็กที่ไหน ผมจำได้ว่าเจอตอนอยู่ในมหาลัยที่เดินชนกันนี่นา

“เดี๋ยวก่อน! เราเคยเจอกันใช่มั้ย” ก่อนที่จะโดนคนมัดจุกลากไปผมก็คว้าแขนคนตัวเล็กไวได้ทัน

“เอ อื้อ” คนตัวเล็กแค่พยักน้าส่งเสียงมาเล็กน้อยแต่ใบหูกลับเปลี่ยนเป็นสีแดง และผมก็ปล่อยเขาทั้งสองไปแต่ผมก็ยังสงสัยอยู่ว่าอะไรมันจะบังเอิญขนาดนั้นจริงไหมครับ


……………………………………………………

TBC จ้า
ตัวแคระทั้งสองไม่เนียนเลย ไปเรียนมาใหม่นะลูกกกก  :katai3:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11-06-2020 17:46:45 โดย sk_bunggi »

ออฟไลน์ sk_bunggi

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 399
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
มีสติครั้งที่ 3

“เฮ่อออ เกือบซวยแล้วมั้ย เพราะมึงคนเดียวเลยไอ้ว่าน” เอ๋มันพูดขึ้นมาระหว่างที่ซ้อนมอเตอร์ไซค์กลับมาที่หอ

“แต่ก็ดีไหมล่ะที่กูหาข้อแก้ตัวทันน่ะมึง” ผมตอบมันกลับพลางนึกขำกับคำที่ตัวเองบอกไป หน้าอย่างมันจะไปมีแฟนเป็นผู้หญิงได้ไงวะ

“ดีกับผีน่ะสิ ส่งมาไม่บอกกูเลย กูแทบกัดลิ้นตาย ดีนะพี่เขาไม่ติดใจอะไร”

“มึง แต่พี่เขาจำกูได้ด้วยอะ แถมจับแขนกูอีกตั้งหาก โอ้ย กูเขินนนนน”

ผมบิดไปบิดมาขณะที่ขี่มอเตอร์ไซด์เข้ามาในซอยหอพักส่งผลให้รถเราเซเล็กน้อย มอเตอร์ไซค์ที่ขี่ตามด้านหลังเลยบีบแตรใส่เรา

“อิว่าน ตั้งสติด้วยค่ะมึง นี่ขี่มอไซค์อยู่นะเว้ย!”

เอ๋ตะโกนด่าผมก่อนที่ผมจะรีบประคองรถและรีบขี่เข้าหออย่างเร็วเพราะกลัวรถข้างหลังจะด่าพ่อล่อแม่เอาให้น่ะสิครับคราวนี้ แหะๆ
.
.

เช้าวันพุธที่สดใสแต่ไม่สดใสสำหรับนักศึกษาที่ต้องมาเรียนแต่เช้าอย่างพวกผมนี่สิ อุตส่าห์สอบเสร็จทั้งทีถึงจะเป็นแค่มิดเทอมก็เถอะมันควรจะหยุดให้นานกว่านี้ไหมมมม อย่าจะตะโกนให้ก้องฟ้าแต่ก็ทำไม่ได้

“ไอ้ว่านกูง่วงว่ะ เลิกคลาสแล้วปลุกกูด้วยนะ” อ่าวเฮ้ย เอ๋มันชิงไปหาพระอินทร์ก่อนผมซะแล้วทีนี้ผมจะทำไงได้ครับนอกจากแอบหลับตามมันไป ฮ่าๆ

ระหว่างที่กำลังจะแอบหลับสายตาก็เหลือบไปมองที่ด้านนอกห้อง เอ๊ะ นั้นมันพี่โทนนี้นา ฮือออ คนอะไรหล่อจริงๆเลย ตามออกไปดูหน่อยดีกว่าปล่อยให้ไอ้เอ๋มันหลับไปอยู่แบบนี้ล่ะ

“เออไอ้โทน วันก่อนน้องเมย์มึงแม่งโทรมาโวยวายกับกูบอกว่ามึงไปขอเลิกกับเขา ทำไมวะน้องมันไม่โดน?” เพื่อนคนซ้ายมือเอ่ยขึ้นมา

“เปล่า แค่น่ารำคาญก็เลยเลิก” เหตุผลของพ่อเทพบุตรนั้นช่างเบสิคซะเหลือเกิน

“น่ารำคาญยังไงวะ ไม่ถึงใจหรอ ฮ่าๆๆ” เพื่อนคนขวามือก็สมทบทันที

“พอเถอะ เลิกพูดให้น้องเขาเสียหายได้แล้ว กูแค่ไม่ชอบนิสัยไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเรื่องพวกนี้” อื้อหือออ ลูกผู้ชายตัวจริงเสียงจริง เห็นไหมละผมบอกแล้วว่าพ่อเทพบุตรของผมน่ะเป็นคนดี

“โอ๊ะ ตาเถรหก!!” เสียงผมเองครับ ดันก้าวบันไดผิดขั้นเลยล้มกลิ้งกรุกๆมานอนแหมะที่พื้น ฮื่ออออ น่าอายจริงๆ

“เป็นอะไรรึเปล่า” อยู่ๆก็มีมือๆหนึ่งยื่นมาให้ผมตรงหน้า ผมจึงค่อยๆเงยหน้ามองไล่ตามมือขึ้นไปต้องเป็นพี่เทพบุตรของผมแน่เลย แต่เอ๊ะ เขาคือใครหว่า?

“อา ไม่เป็นไรครับ ขอบคุณมาก” ผมไม่ได้จับมือที่ส่งมาให้แต่พยุงตัวเองลุกขึ้นเองพร้อมกับปัดฝุ่นตามตัวออก

“มีอะไรวะปืน” เพื่อนคนด้านซ้ายของพี่โทนในตอนแรกถามขึ้น

“กูเห็นเขาล้มเลยเดินมาดูน่ะ แต่เขาบอกว่าไม่เป็นอะไร” คนตรงหน้าเอ่ยตอบเพื่อนไป

“ไม่เป็นไรแล้วทำไมมีเลือดออก?” หื้อ ใครเลือดออก

ขณะที่ผมยืนงงๆพี่โทนก็เดินเข้ามาจับที่มือผมพร้อมหงายฝ่ามือให้ดูว่ามันมีบาดแผลแถมมีเลือดออกอีกตั้งหาก ก็ว่าทำไมมันแสบๆที่มือ TT

“พวกมึงเดินไปก่อนเลย เดี๋ยวกูตามไป”

พูดกับเพื่อนจบพี่เขาก็ฉุดข้อมือผมไปที่ห้องพยาบาลทันที สัมผัสร้อนจากฝ่ามือคนข้างหน้าส่งผลให้ระบบหมุนเวียนเลือดของผมมาหลอมรวมกันบนใบหน้าจนตอนนี้มันลามมาที่หูแล้ว ไม่นะว่าน ใจเย็นๆ สติมีสติอย่างที่ไอ้เอ๋ชอบบอก

“เจอกันอีกแล้วนะ” คนตัวสูงพูดแต่ไม่ได้หันหน้ามามอง

“อ่าครับ พี่จำผมได้?” อยู่ๆเขาก็หยุดเดินแล้วหันหลังมามองผม

“พี่? นายรู้จักฉันหรอ” เขาเลิกคิ้วขึ้นข้างหนึ่งเชิงถามคำถาม

“ก็ครับ ไม่มีใครไม่รู้จักพี่” เขาพยักหน้าก่อนก้าวเท้าเดินต่อไปยังห้องพยาบาล

ตื้ด ๆ ๆ ๆ

“ฮัลโหลเอ๋ ว่าไง”

“ว่าไงอะไรมึงล่ะ นี่มึงหายไปไหนเขาเลิกคลาสกันแล้วนะ” เอ้อออ ผมลืมเอ๋มันไปเลยนี่นา สงสัยมีคนปลุกมันตอนเลิกคลาสแน่เลยและมันไม่เห็นผมมันเลยโวยวายใหญ่

“คือมีปัญหานิดหน่อยอะ ฝากมึงเก็บของมาให้หน่อยดิ”

“แล้วมึงอยู่ไหน ทำไมต้องพูดเสียงเบาๆ” แค่กูพูดเสียงเบาๆมึงก็สงสัยแล้วหรอวะเอ๋

“อยู่ห้องพยาบาลน่ะ พอดีจะมาเข้าห้องน้ำแล้วได้แผลว่ะ”

“อ้าวหรอ มึงนี่ไม่ระวังเลยนะ งั้นเดี๋ยวกูตามไปรออยู่ที่นั้นล่ะ”

วางสายจากมันก็หันมามองคนทำแผลให้ ดีนะที่เอ๋มันโทรมาพอดีไม่งั้นคนที่นั่งอยู่ตรงหน้าเขาต้องได้ยินเสียงหัวใจผมเป็นแน่ เพราะพี่เขาดันทำหน้าที่พยาบาลจำเป็นที่ทำแผลให้ผมอยู่น่ะสิพยาบาลตัวจริงดันไม่อยู่ไม่รู้ไปไหน พ่อเทพบุตรจึงไม่รอเขาบอกว่าเดี๋ยวแผลติดเชื้อแล้วก็ทำแผลให้เสร็จสรรพ

“เสร็จแล้ว”

ผมยกมือไหว้ขอบคุณพี่เขาแต่ก็ต้องตกใจอีกหนเพราะมือใหญ่ที่ยกขึ้นมาวางแปะไว้หัวของผมก่อนจะจับโยกเบาๆพร้อมกับที่เอ๋มันเปิดประตูเข้ามาพอดิบพอดี ไอ้เอ๋! มึงมันตัวขัดจังหวะจริงๆ ผมได้แต่คิดในใจ

“พี่โทนสวัสดีครับ” พี่เขาชักมือกลับพร้อมกับพยักหน้ารับไหว้จากเอ๋

“พี่ไปก่อนนะ คราวน่าก็ระวังด้วยละกัน” ผมยิ้มรับก่อนที่พี่เขาจะเดินจากไป

“อิว่านนนน ยังไงเนี้ยยังไง เล่ามา!” เอ๋ทำท่าสาวแตกก่อนจะเดินมานั่งเก้าอี้ข้างหน้าทับที่ๆพี่โทนเพิ่งลุกไป

“ก็ไม่มีไรหรอก กูหกล้มพี่เขาก็เลยพามา” ทำหน้าตาแอ๊บแบ๊วเหมือนนางเอกใส่มันไป

“มึงอย่ามาตอแหล มึงอยู่ในห้องเรียนกับกูละเอาที่ไหนไปหกล้ม” มันเอานิ้วมาจิ้มหัวผมเหมือนนางร้ายกระทำนางเอก

“เออๆ ก็ตอนมึงหลับอะ กูก็เห็นพวกพี่เขาเดินผ่านกูก็เลยแอบตามออกไปดูและก็ดันเหยียบบันไดผิดขั้นก็เลยล้มอะ แฮ่ะๆ” ยอมสารภาพความจริงออกมาให้มันฟัง

“แหมๆ พามาแล้วทำไมต้องทำแผลให้ด้วยวะ มึงทำเองก็ได้มั้ย” ยังๆไม่เลิกถามซอกแซกอีกนะมึง

“เอ้า พี่เขาอาสาจะทำให้กูก็ดีแล้วไง ไม่เห็นมีอะไรเลย” ตอบมาพลางสะพายกระเป๋าเพื่อเดินออกจากห้อง

“แหน่ะๆมีเดินหนี กูรู้หรอกน่าว่ามึงเขิน อะแฮ่ม พี่ไปก่อนนะ คราวน่าก็ระวังด้วยละกัน อะฮ้า”

เอ๋มันทำเป็นเลียนเสียงพี่โทน แต่เสียงที่ออกมานั้นมันทุเรศเกินบรรยายจนผมขำก๊ากออกมา

“เออเอ๋ มึงรู้ยังพี่โทนเลิกกับผู้หญิงคนนั้นแล้วนะ คนที่เราเห็นเมื่อวันก่อนนู้นอะ” ผมนึกได้ก่อนจะเม้าท์ให้เอ๋มันฟัง

“จริงดิ แต่เอาจริงๆนะเลิกก็ดีละ ผู้หญิงอะไรแรดก็แรดแถมยังเดินถึกกว่ากูอีก” มันพูดพลางทำหน้าขยาดซะเต็มประดา

“เออไอ้ว่าน เดี๋ยววันนี้กูกลับบ้านนะมีซ้อมมวยว่ะ” มันบอกขณะที่เรากำลังเดินออกจากมหาลัย

“อ่าวหรอ โอเคๆงั้นไว้เจอกันมึง บาย”

ผมล่ำลากับมันก่อนจะเดินแยกเข้ามาในซอยเพื่อเดินกลับเข้าหอ จริงๆหอก็เดินไปเกือบสุดซอยเลยล่ะครับ แต่ด้วยความไม่ได้รีบผมก็เดินไปเรื่อยๆ นี่ก็เริ่มเย็นแล้วพวกร้านอาหารและร้านเหล้าก็เริ่มเปิดสร้างความคึกครื้นให้ถนนหนทาง

ตึ้ด ๆ ๆ ๆ

กำลังเดินอยู่ๆก็มีสายเรียกเข้าจากม๊าผมเองครับ สงสัยจะคิดถึงกัน

“ม๊า คิดถึงจังเลยยยย” ผมพูดออดอ้อนออกไป

“ไม่ต้องมาพูดเลยน้องว่าน คิดถึงแต่ไม่กลับมาหาม๊าเลยนะ เชอะ!” นี้ล่ะครับม๊าผม ขนาดงอนยังน่ารักที่สุดในโลก

“โอ๋ๆ ก็เดี๋ยววันหยุดน้องก็กลับไงครับ ที่อาทิตย์ที่แล้วไม่ได้กลับเพราะน้องมีสอบไงม๊าจำได้ไหม”

ไม่ต้องงงว่าน้องไหนครับ ตัวผมเองนี่ล่ะเพราะม๊าชอบเรียกผมว่าน้องผมก็เลยเรียกแทนตัวเองว่าน้องกับทุกคนที่บ้าน น่ารักมั้ยละครับบบ

“ค่ะ ม๊าได้ผลไม้มาจากสวนของอาเจ็กเยอะเลย อย่าลืมกลับมากินนะคะ”

อาเจ็กผมปลูกสวนผลไม้อยู่ที่จันทบุรีและเขาจะส่งมาให้บ้านผมตลอดเลยครับ มีของกินลาภปากอีกตามเคย

“ครับ แค่นี้ก่อนนะม๊า น้องกำลังกลับห้องแล้ว จุ๊บๆครับ”

“พรึ่บ!!” อยู่ๆก็มีคนมาฉุดแขนผมแล้วพร้อมกับดึงผมออกจากทางเท้าที่ผมเดิน

“ไอ้เหี้ยท๊อป ปล่อยกูนะ!”

ไอ้ท๊อปคู่อริของผมกับเอ๋โผล่มาจากไหนไม่รู้ แต่ที่ๆมันลากผมมานั้นเป็นร้านเหล้าที่เป็นที่รู้จักกันดีสำหรับเด็กมหาลัยนี้ มันกับเพื่อนมันนั่งอยู่ที่หน้าร้าน เมากันแต่หัววันเลยนะไอ้พวกเลว

“จะดิ้นทำไมวะ จับนิดจับหน่อยทำเป็นหวงตัว”

มันโอบผมไว้ด้วยแขนข้างเดียวเพราะมันตัวใหญ่กว่าผมมาก เรียกได้ว่าไซส์หมีควายจะเห็นภาพมากกว่า มันจึงยากที่ผมจะดิ้นให้หลุดไปได้ง่าย

“ปล่อยกูไอ้ท็อป ไม่งั้นมึงจะโดนดีแน่” ทำใจสู้ขู่ใส่มัน

“หึ อย่างมึงจะมาทำอะไรกูได้วะ ถ้าไอ้เอ๋ไม่มาช่วยก็อย่าหวังจะมีใครมาช่วยมึงเลย ฮ่าๆๆ” มันหันไปหัวเราะกับเพื่อนมันพร้อมยกแก้วเหล้าขึ้นมาชนกันอย่างพอใจ

“โว้ยยยย กูบอกให้ปล่อยไง ช่วยด้วยยย”

ผมพยายามดิ้นและกระทืบเท้ามันแต่มันก็ไม่สะทกสะท้าน คนแถวนั้นเขาก็คิดแค่ว่ามันแกล้งผมเพราะมันก็ไม่ได้ทำอะไรมากกว่าการรัดผมเอาในอ้อมแขนมัน

“มึงไม่ได้ยินหรอไงว่าเขาบอกให้ปล่อย?” ทุกคนบนโต๊ะมองไปที่ทิศทางที่คนมาใหม่เข้ามา

“ใครวะ มึงมายุ่งไรด้วย นี่แฟนเขาเล่นกัน” แฟนพ่….มึงสิ ผมอยากจะตะโกนใส่หน้ามันแต่ก็ทำได้แค่ดิ้นแรงๆให้หลุด

“เชี้ยท๊อป นี่มันพี่โทนประธานสโมนะมึง”

ไอ้แป๊ปที่นั่งใบ้ก่อนน่านี้เหมือนเพิ่งนึกขึ้นมาได้ว่าใคร ไอ้ท๊อปทำเสียงไม่พอใจก่อนจะปล่อยผมออกให้เป็นอิสระ

“ก็แค่เพื่อนเล่นกันน่ะพี่ อย่าถือสาเลย” ไอ้แป๊ปรีบเอ่ยบอกพี่

“พวกมึงเล่นก็ควรมีขอบเขตหน่อยไหมวะ คนเขาไม่ชอบก็ยังรังแกอยู่นั้น” พี่โทนว่าพลางจับมือผมให้มายืนข้างๆก่อนจะพาออกจากร้าน

“ทำไมเวลาเจอนายทีไรมีแต่เรื่องทุกที” พี่โทนว่าพลางขมวดคิ้วส่งสายตาดุมาให้

“ขอโทษครับ” ผมไหว้ขอโทษพี่เขาก่อนก้มหน้ารับความผิด

“ไม่ต้องทำหน้าอย่างนั้น พี่ไม่ได้ว่าเรา” พี่โทนว่าพลางจับหัวผมโยกไปมา อีกแล้วทำแบบนี้อีกแล้ว ฮื่ออออ อกอิแป้นจะแตก อิเอ๋ช่วยกูด้วยยย

“เจอกันหลายครั้งแล้วแต่ยังไม่รู้จักชื่อเราเลย แนะนำตัวหน่อยสิ” พี่โทนถามออกมาขณะที่กำลังเดินออกไปด้วยกัน

“ครับ! ชื่อว่าน เรียนอยู่ปี2 คณะศิลปะศาสตร์ เอกอิ้งครับ” ผมตอบออกไปอย่างกระตือรือร้น

“โอเคเสียงดังฟังชัด แล้วว่านกำลังจะไปไหนล่ะ” อ้าก ชื่อของผมที่ออกมาจากปากของเขามันช่างน่าฟังมากๆเลยครับ

“อ๋อ กำลังจะกลับหอน่ะครับ แล้วพี่ล่ะกำลังไปไหนหรอ”

“จะไปเอากับข้าวที่สั่งเอาไว้น่ะ”

“เยอะมั้ยครับ ให้ผมช่วยถือไหม” ผมรีบอาสาเป็นผู้ช่วยถือของ

“หื้ม ถือไหวหรอมือเจ็บอยู่ไม่ใช่หรือไง” พี่โทนว่าพลางชี้นิ้วมาที่มือของผม

“แค่นี้ไม่มีปัญหาครับ ฮึ้บๆ” ผมทำท่ากำแบๆให้พี่เขาดู เขาก็ทำหน้าคล้ายจะขำๆผมแต่ก็ไม่ได้หลุดเสียงใดออกมาก่อนจะเดินนำผมไปที่ร้านอาหารเพื่อขนข้าวกล่องไปที่ห้องสโมสรที่มีกลุ่มเพื่อนๆเขานั่งรออยู่

เมื่อผมเข้าไปในห้องกับพี่โทน เพื่อนๆเขาก็หันมามองผมเป็นตาเดียวกันว่าผมคือใคร พี่โทนเลยบอกน้องที่รู้จักอาสามาช่วยยกอาหารให้และบอกให้พวกเพื่อนๆขอบคุณผมเพราะถือว่าผมเป็นผู้ต่อชีวิตพวกหมาจรจัด เพื่อนๆเขาก็ส่งเสียงร้องโห่พร้อมขว้างปาข้าวของมาใส่พี่โทนที่ว่าตนเองเป็นหมากัน ก่อนที่ผมจะขอตัวลากลับหอเพราะนี้ก็เริ่มดึกแล้ว

“ผมกลับแล้วนะครับพี่ๆ สวัสดีครับ” ผมไหว้และกล่าวลาพี่ๆทุกคนที่กำลังนั่งกินข้าวกันอย่างหิวโหย

“เดี๋ยวพี่ไปส่ง ไอ้กรมยืมกุญแจมอไซค์หน่อย” และพี่เขาก็เดินออกมาพร้อมพาผมไปที่ลานจอดมอเตอร์ไซค์

“ขึ้นมา หออยู่ตรงไหนบอกทางพี่ด้วยนะ” ผมรีบขึ้นมอเตอร์ไซค์ไปตามคำชวนของเขา

“หอผมอยู่สุดซอยเลยครับฝั่งซ้ายมือตึกสีเขียวๆ” ผมตะโกนบอกพี่เขาพร้อมกำเสื้อพี่เขาแน่น

อิเอ๋มึงต้องไม่เชื่อกูแน่ๆเลยว่าพี่เขาอาสามาส่งกู อร้ายยยยย ฟินโว้ยยยย ขอสูดดมกลิ่นพี่เขาซักนิดคงไม่น่าเกลียดหรอกมั้ง ฟื้ดดดดดดด อ่าาาา หอมมากกกก

แต่เอ๊ะ อะไรเปียกๆตรงจมูก เชี้ย!!! เลือดกำเดาไหล นี้กูหื่นจนขนาดเลือดไหนเลยหรอวะ ทำไงดีๆและดันประจวบเหมาะกับที่มอเตอร์ไซค์จอดพอดี

“ถึงแล้ว หื้อ เฮ้ยว่าน เป็นไรวะ” พี่โทนว่าอย่างตกใจเมื่อเอี้ยวมาด้านหลังเพื่อจะพูดกับผม เขารีบล้วงเอาผ้าเช็คหน้าตัวเองมาซับเลือดให้ผม

“มะ ไม่เป็นไรครับพี่” ตอบพี่โทนพลางจับผ้าเช็คหน้าอุดรูจมูกที่มีเลือด

พี่โทนจับหัวผมให้แหงนหน้าขึ้นและอยู่ๆเขาก็ก้มลงช้อนตัวผมขึ้นในท่าเจ้าสาวเพื่อเดินพาผมขึ้นไปที่ห้อง // ฮื่ออออ หัวใจทนไม่ไหวแล้ว รับอะไรไม่ไหวแล้ว // มาเป็นเพลงเลยตู

“ห้องอยู่ชั้นไหน เบอร์ห้องอะไร”

ผมรีบดึงสติที่กำลังจะลอยออกไปกลับมาและบอกพี่เขาไปพร้อมกับหยิบกุญแจขึ้นมาไขเมื่อมาถึงหน้าห้อง ผมรีบบอกให้พี่โทนปล่อยผมลงที่พื้นเพราะมันถึงห้องแล้วไม่เป็นไร

“เป็นบ่อยหรอที่เลือดกำเดาไหลน่ะ”

“เอ๊ะ ก็นานๆทีครับ ถ้านอนไม่พอหรือร้อนมากๆ”

ไม่กล้าบอกความจริงครับ เดี๋ยวพี่เขาจะกลัวผมซะก่อน เขาพยักหน้ารับก่อนจะเดินเข้ามาใกล้แล้วช้อนหน้าผมขึ้นมามองสำรวจ

“อีกหน่อยก็หยุดไหลแล้ว หาน้ำแข็งประคบเอา” ฉ่าาาา เสียงหน้าผมเองครับ เอาเนื้อมาวางได้เลยรับรองสุกทันกินแน่ๆ
   
“คะ ครับ ขอบคุณมากๆครับ”

เขินครับ เอาจริงๆอยากจะข่มขืนพี่มันซะตรงนี้ซะเลย อิว่าน สติค่ะสติ เอ๊ะ เสียงอิเอ๋ยังคอยมาตามหลอกหลอนทั้งๆที่ตัวมันไม่อยู่หรอเนี่ย บรื้อออ

“อืม งั้นพี่ไปแล้วนะ” ว้าก พี่เขาจะไปแล้ว เอาวะโอกาสนี้ล่ะ

“พี่โทนครับ คือ ผมจะขอไลน์พี่ไว้ได้ไหมครับ” กลั้นใจขอไปอย่างน้อยก็เผื่อฟลุ๊ควะ แล้วคนตรงหน้าก็ยื่นโทรศัพท์ตัวเองที่มีหน้าแอปพลิเคชั่นสีเขียวๆขึ้นมาให้

“ได้สิ พิมพ์ของเราลงในนี้แล้วกดแอดเลย” โฮ้ยยยย ได้จับโทรศัพท์พี่เขาด้วยอะมันช่างแข็งแรงจริงๆ (เดี๋ยวๆอิว่าน มันก็มือถือทั่วๆไปมั้ยย่ะ)

ตรึ้ง!

“อ่ะ ได้แล้วครับ ขอบคุณนะครับ” เขาพยักหน้าลาผมและเดินออกไปจากห้อง

ผมรีบเดินไปล็อคประตูแล้วกลับมานอนกรี๊ดใส่กับหมอนของตัวเอง ก็กลัวคนอื่นเขาได้ยินแล้วหาว่าบ้านี่นาเลยต้องเอาหมอนอุดปากมันซะ แฮ่ะๆ ถึงจะได้ไลน์มาแล้วแต่ผมก็ยังไม่กล้าส่งอะไรไปทักทายครับเอาแต่นั่งมองรูปโปรไฟล์เจ้าตัวอยู่แบบนั้นทั้งคืนจนหลับไป

…………………………………………………………

ตอนนี้จะยาวๆนิสนึงเน้อออ TBC จ้า
น้องมันหื่นขึ้นคอ พี่มันก็ไม่รู้ตัว  o18
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11-06-2020 17:49:09 โดย sk_bunggi »

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
แอร๊ย~ :-[

ออฟไลน์ sk_bunggi

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 399
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
มีสติครั้งที่ 4

“มึงเป็นอะไรวะว่าน นั่งจ้องโทรศัพท์ทั้งวันเลย” เอ๋มันถามพลางนั่งลงโต๊ะฝั่งตรงข้าม

“ก็ ไม่มีอะไรหรอก แค่มีความสุข ฮุๆ” ตอบไปพลางก้มมองโทรศัพท์อีกครั้ง

“มีความสุขหรือเป็นบ้าวะ เอาดีๆ” มันพูดอย่าเอือมๆก่อนจะส่งแก้วน้ำที่ผมฝากซื้อมาให้

“มีความสุขสิวะ โด่วไม่อยากจะโชว์ ดูซะให้ดีๆ เอ้า!” ผมโชว์หน้าแอปสีเขียวขึ้นมาให้มันเบิกเนตร

“เฮ้ย!ได้ไงวะ ตอนไหน ยังไง พูด” มันตกใจพร้อมเอาโทรศัพท์ผมไปถือ

“หึๆๆ ระดับกูแล้ว ไม่มีคำว่ายากเกินไปเว้ยยย” รีบขิงมันเลยครับง่ายนี้ ฮ่าๆๆ

“ก็แล้วยังไงวะ ไม่เห็นมึงจะทักพี่เขาไปเลย เอามาไว้ดองหรือไง” มันว่าพลางมองช่องแชทที่ว่างเปล่าของผมและพี่โทน

“อ๋อ กูไม่กล้าส่งไปน่ะ แฮ่ะๆ”

กำลังจะเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์คืนแต่เอ๋มันก็รีบชักออกไปพิมพ์ๆกดๆอะไรของมันก็ไม่รู้ก่อนมันจะโยนโทรศัพท์มาคืนผมและผมก็ได้รู้ครับว่ามันส่งสติ๊กเกอร์พร้อมข้อความทักทายไปให้พี่โทน ผมถลึงตาใส่มันพร้อมกับกำหมัดจะทุบใส่ผมมันสักที ก็มันดันเล่นส่งสติ๊กเกอร์รูปกระต่ายส่งจูบไปให้พี่มันน่ะสิ แล้วอยู่ๆมันก็ขึ้นว่าอ่าน อ้ากกกก พี่โทนเปิดอ่านแล้ว ไอ้เอ๋ไอ้เพื่อนชั่ว

โทน’เทคโนฯคอม: ส่งสติ๊กเกอร์แมวทำท่ากวักมือ
โทน’เทคโนฯคอม: ว่าไงเรา


ว้ากกกก พี่เขาตอบมาแล้วววว โอ่ยๆมือสั่นๆ

ว่านหางหวานๆไหมจ๊ะ: ส่งสติ๊กเกอร์หมีทำท่าขอโทษ
ว่านหางหวานๆไหมจ๊ะ: พี่โทนทำอะไรอยู่หรอครับ

โทน’เทคโนฯคอม: นอนอยู่ แล้วเราล่ะ

ว่านหางหวานๆไหมจ๊ะ: กำลังพักเที่ยงครับ วันนี้พี่ไม่มีเรียนหรอ

โทน’เทคโนฯคอม: มีวิชาเดียวตอนบ่ายครึ่งน่ะ พี่ไปอาบน้ำก่อนนะ ไว้เจอกัน
โทน’เทคโนฯคอม: ส่งสติ๊กเกอร์หมีบ้ายบาย

ว่านหางหวานๆไหมจ๊ะ: ส่งสติ๊กเกอร์กระต่ายโอเค
ว่านหางหวานๆไหมจ๊ะ: ครับ แล้วเจอกัน

“เฮ้ยๆ เป็นไงบ้างวะมึง กูกลายเป็นธาตุอากาศซะงั้น” เอ๋ที่โพล่งขึ้นมาทำผมที่กำลังนั่งบิดไปมาด้วยความเขินถึงกับเซ็ง

“ก็ไม่อะไร พี่เขากำลังจะไปอาบน้ำและออกมาเรียนไง” บอกมันพร้อมยื่นมือไปแย่งขนมมันมากิน

“นั่งด้วยคนดิ” อยู่ๆไอ้ท๊อปหมีควายคู่กัดของพวกผมก็ลงมานั่งข้างๆไอ้เอ๋ที่มันยังว่างอยู่พร้อมวางจานข้าวลงมานั่งกินหน้าตาเฉย

“ไอ้ท๊อป ใครอนุญาตให้มึงมานั่งไม่ทราบ” เอ๋ถามออกไปอย่างไม่พอใจ

“ไม่มีใคร นี่ที่สาธารณะกูจะนั่งตรงไหนก็ได้ เข้าใจไหมครับน้องเอ๋” มันหันมาตอบและยื่นหน้ามายิ้มกวนตีนให้เอ๋ทีนึง

“เออ ช่างมันเหอะเอ๋ สงสัยมันเหงาเห็นวันนี้มันอยู่คนเดียว” ก็อย่างว่าคนครับ วันนี้ผมไม่เห็นไอ้แป๊ปลูกคู่มันเลยไม่รู้หายไปไหน

“แม่งติดเมีย ไม่สนใจกูเลย” ไอ้หมีควายมันว่าพลางเคี้ยวข้าวอย่างเคืองๆ

“ห่ะ ไอ้แป๊ปนี่นะมีเมีย!!”

พวกผมตะโกนถามมันอย่างตกใจ เอาจริงๆไอ้แป๊ปมันก็ไม่ได้ขี้เหร่หรอกครับแต่มันเตี้ยไม่ต่างจากพวกผมเท่าไหร่ ผมยังสงสัยอยู่เลยว่าทำไมมันมาเป็นเพื่อนกับไอ้หมีควายนี่

“เออดิ น้องปีหนึ่งนู้น กูหล่อกว่าตั้งเยอะดันไปคว้าคนแคระมาเป็นแฟน” ฉึก! เหมือนโดนด่าไปด้วยเลยกู

“เอ้า ของอย่างนี้มันใครดีใครได้เว้ย” เอ๋มันบอกพลางตบไหล่ไอ้หมีควายไปทีนึง

“แล้ว...ถ้ากูดี กูจะได้มึงเปล่าวะ” มันพูดพร้อมกับหันไปมองหน้าเอ๋ หื้ม คำพูดมันแปลกๆนะครับว่ามั้ย

“พะ พูดอะไรของมึงเนี้ย โว่ะ จะกินมั้ยข้าวหรือจะกินกำปั้นกูว่ามา”

เอ๋มันรีบตะโกนใส่หน้าไอ้ท๊อปก่อนทำท่าฮึดฮัดแต่ผมก็แอบเห็นว่าหูมันแดงๆนิดนึงนะ ผมมองไปที่ไอ้ท๊อปก็เห็นมันมองมาและยิ้มมุมปากมาให้ ผมเลยยกนิ้วโป้งให้มันไปทีนึง เป็นอันว่าเข้าใจกันนะครับ ฮ่าๆๆ

โทน’เทคโนฯคอม: Calling

กรี๊ดดดดดด อยู่ๆพี่โทนก็คอลมาหาผม ทำไงดีๆ

“ไอ้ว่าน ไม่รับโทรศัพท์วะ ใครโทรมา” ผมรีบชูให้มันดูพร้อมทำท่าดิ้นดุ้กดิ้กด้วยความตื่นเต้น

“อิว่าน ตั้งสติๆ ซูดหายใจเข้าลึกๆ ฟื้ดดดดด นั้นล่ะ รับได้แล้วๆเดี๋ยวพี่เขาวาง” ผมรีบทำตามที่มันบอกก่อนจะรีบรับสาย

“ฮัลโหลว่าน ว่างอยู่หรือเปล่า” เสียงปลายสายถามมาคงเพราะผมรับช้า

“คะ ครับ ว่างๆครับ พี่โทนมีอะไรหรอครับ”

“พอดีพี่กำลังจะเข้าม.น่ะ ไปกินข้าวเป็นเพื่อนพี่หน่อยสิ เห็นก่อนน่านี้บอกพักเที่ยงอยู่ใช่มั้ย”

อ้ากกกกก ผู้ชายชวนกินข้าว มึงได้ยินไหมไอ้เอ๋เขาชวนกูกินข้าว ผมรีบชี้ในโทรศัพท์ให้มันดูมันก็ทำท่าลุ้นๆมาให้

“ได้ครับ ตอนนี้ผมอยู่ที่โรงอาหารอยู่พอดีครับ”

“โอเค เดี๋ยวพี่เดินไปหา แค่นี้นะพี่จอดรถก่อน” ผมรับคำไปก่อนจะวางสายและหันมาทำท่าตีมือกับเอ๋

“อิเอ๋ กูจะเป็นลมมม ขอยาดมหน่อย” ผมรีบพูดพร้อมเอามือทาบอก

“โอ้ยเพื่อนกู อ่อนมากค่ะ ตั้งสตินะคะ และก็ลุยเลยค่ะคุณเพื่อน”

แล้วเราสองคนก็นั่งคุยกันไปพลางรอพี่โทนไปด้วยโดนมีไอ้ท๊อปนั่งฟังและทำท่าทางงงๆว่าผมกับเอ๋เป็นอะไรก่อนมันจะกินข้าวต่ออย่างไม่สนใจ

…………………………………………………

ผมเพิ่งวางสายเด็กแคระไปครับ ผมก็ไม่รู้ว่าทำไมถึงถูกชะตากับเด็กคนนี้ทั้งๆที่เพิ่งเคยเจอกันไม่กี่ครั้งแต่เวลาที่เจอน้องมันก็มักจะมีปัญหาตลอดเลย แล้วผมก็ไม่รู้ว่าทำไมต้องชวนเด็กแคระมันมากินข้าวด้วยกันคงเพราะนึกถึงหน้าตาน่ารักเวลายิ้มจนแก้มปริล่ะมั่งเลยทำให้ผมตัดสินใจคอลไปหาซะ เดินมาจนจะถึงใต้ตึกวิทย์ก็เจอเข้ากับน้องเมย์แฟนเก่า เธอเดินเข้ามาหาพร้อมกอดแขมผมไม่ปล่อย

“พี่โทน ทำไมทำกับเมย์แบบนี้ล่ะคะ ทำไมไม่รับโทรศัพท์เมย์” หล่อนว่าพลางทำท่าสะอึ้นจะร้องไห้

“พี่ว่าพี่บอกเมย์ไปแล้วนะว่าทำไม ปล่อยพี่เถอะ” ผมพูดพลางถอนหายใจแรงๆทีนึง หิวก็หิวแล้วดันมาเจอแบบนี้อีก อารมณ์เสียจริงๆ

“เมย์ไม่เลิก! พี่โทนก็รู้ว่าเมย์รักพี่โทน ไม่งั้นแม่จะฟ้องคุณอาจริงๆด้วย แล้วอย่ามาว่าๆเมย์ใจร้ายนะคะ” เส้นความอดทนผมขาดผึงจนปวดขมับ

“ก็ลองดูสิ แล้วคุณกับผมจะได้เห็นดีกันว่าใครกันแน่ที่จะใจร้าย”

ผมสะบัดมือเธอออกจากแขนผมอย่างแรงจนเธอเซไปเล็กน้อย หล่อนทำท่าเหมือนจะกรีดร้องแต่ก็คงนึกขึ้นได้ว่านี้มันกลางลานที่มีคนเยอะแยะ ผมละความสนใจจากหล่อนและรีบเดินตรงไปยังโต๊ะที่มีคนที่ผมนัดไว้นั่งรออยู่ น้องมันคงเห็นเหตุการณ์เมื่อกี้เพราะดูจากหน้าตาเด็กแคระทั้งสองที่ทำท่าอยากรู้อยากเห็นซะเหลือเกิน

“พี่โทนสวัสดีครับ” เด็กแคระทั้งสองกับผู้ชายตัวใหญ่ที่เจอวันก่อนยกมือไหว้ทักทายผม

“พี่โทนหิวมั้ย ผมว่าเรารีบไปกินข้าวกันเถอะ เดี๋ยวพี่เข้าเรียนสายนะ” ว่านยิ้มมาให้ผมพร้อมพูดจัดแจงให้เสร็จสรรพ

“ไปสิ เราจะไปกับพี่ด้วยมั้ย” ผมตอบและหันไปถามอีกสองคนที่นั่งอยู่ข้างๆว่าน

“พวกผมเรียบร้อยแล้วครับ เชิญพี่ไปกับว่านมันสองคนเลย เดี๋ยวพวกผมไปก่อนดีกว่า สวัสดีครับ ไปไอ้ท๊อป!” แล้วน้องก็เดินจากไปเหลือแค่ผมกับว่านแค่สองคน

“คือ เอ๋มันบอกจะนั่งรอพี่เป็นเพื่อนผมน่ะครับ”

ผมพยักหน้าเข้าใจก่อนจะบอกให้ว่านเดินไปที่ซื้อข้าวที่โรงอาหารมานั่งทานกัน ว่านมันเป็นเด็กพูดเก่งนะครับ ปากเล็กๆที่เจือแจ้วอยู่ก็พูดไปเรื่อยฟังก็เพลินๆดีไม่ได้น่ารำคาน

“พี่โทนชอบกินมังคุดมั้ยครับ เนี้ยอาเจ๊กของผมส่งตรงมาให้จากสวนที่จันทฯเลยนะ ผมว่าจะแบ่งมาให้พี่สักหน่อยเพราะปกติผมก็จะเอามาแบ่งเอ๋มันประจำอยู่แล้ว”

“เอาสิ จะเอามาให้เมื่อไหร่ก็ไลน์มาบอกด้วยแล้วกัน” มันพยักหน้ารับก่อนจะตักข้าวกินอย่างร่าเริง

“กินดีๆ ทำเป็นเด็กไปได้” ผมยื่นมือไปเช็ดมุมปากของเด็กแคระที่มีเม็ดข้าวติดอยู่ ส่งผลให้น้องชะงักไป

“ขอบคุณครับ”

น้องมันว่าก่อนจะก้มลงกินข้าวเหมือนเดิม แต่ผมก็มองเห็นว่าใบหน้ากับใบหูมันแดงๆ จริงๆผมก็พอรู้นะว่ามันหมายถึงอะไรและผมก็คิดว่าสัญชาตญาณผมก็คิดไม่ผิดว่าเด็กแคระข้างหน้านี่กำลังชอบผมอยู่


…………………………………………………

ผมจำไม่ได้แล้วว่าพาตัวเองมาถึงหอพักตัวเองเมื่อไหร่ จำได้แค่ไปกินข้าวกับพี่โทนแค่สองคนแล้วหลังจากนั้นความรู้สึกมันก็เหมือนจะขาวโพลนไปหมด

“ว่าน ว่าน ไอ้ว่านโว้ย! กูเรียกจนคอจะแตกแล้วเนี้ย” เอ๋ที่ยืนท้าสะเอวอยู่ข้างเตียงด่าขึ้น

“หื้ม ว่ายังไงหรอเพื่อนเอ๋” หันไปหามันพร้อมทำตาเยิ้มใส่ นี้กูเมากัญชาหรอวะ ใครช่วยบอกที

“อี๋ อะไรของมึงอิว่าน ขนลุก จะอาบมั้ยน้ำน่ะหรือจะนอนเน่า” อ๋อเรียกไปอาบน้ำนี่เอง ลืมไปเลยว่านี่ก็ปาเข้าไปสองทุ่มแล้ว

“เออๆ ไปเดี๋ยวนี่ล่ะ”

หลังจากอาบน้ำเสร็จก็มานอนเช็คแอปพลิเคชั่นต่างๆในโทรศัพท์ อยู่ๆเสียงแอปพลิเคชั่นที่ผมกำลังนอนเล่นก็ดังขึ้น ใครแอดเฟสบุ๊คกับ IG ผมมานะ ไหนเปิดดูหน่อยสิ

“!!” ผมรีบลุกขึ้นมาทันทีด้วยความตกใจ

“อิเอ๋ อ้ากกกก อิเอ๋ พี่โทนๆ” ผมตะโกนลั่นพลางชี้ไปที่โทรศัพท์ตัวเอง เอ๋มันตกใจรีบวิ่งมาเตียงของผมทันที

“อะไร! มีอะไรมึง” มันรีบถามผมเป็นการใหญ่

“พี่โทน พี่โทนเขาแอดเฟสแอดIGกูมาอะมึงงงง อีกหน่อยเขาต้องได้ขอดกูแต่งงานแน่นอนเลย” เมื่อเอ๋ได้ยินดังนั้นมันก็ทำหน้าเซ็งๆและเดินกลับไปที่เตียงของตัวเองและนอนเล่นเหมือนเดิม

“อิเวร กูก็นึกว่ามีอะไรใหญ่โตตะโกนซะเสียงดัง แล้วยังไงทีไลน์มึงยังแอดเขาได้เลย ทำไมกะอิแค่นี้ต้องดีใจเวอร์”

ชิ! อิพวกใจไม่อ่อนโยนก็แบบนี้ล่ะครับ รีบกดรับก่อนและก็เข้าไปส่องดีกว่า อิอิ หูยยยย หล่อทุกรูปเลยอะ เซฟรูปให้ไวครับ กำลังนอนส่องรูปอยู่ดีๆเจ้าของก็ไลน์มาหาเฉย ฮื่อออ ชีวิตดี้ดีย์

โทน’เทคโนฯคอม: รับแอดไวจริง ทำอะไรอยู่ล่ะเรา

ว่านหางหวานๆไหมจ๊ะ: ส่งสติ๊กเกอร์หมีทำท่ายืนยิ้ม
ว่านหางหวานๆไหมจ๊ะ: นอนเล่นอยู่ครับ พี่โทนล่ะทานข้าวหรือยัง

โทน’เทคโนฯคอม: เรียบร้อยแล้ว พรุ่งนี้มีเรียนไหม
   
ว่านหางหวานๆไหมจ๊ะ: มีตอน 9 โมงครับและก็ยาวยันเย็นเลย
ว่านหางหวานๆไหมจ๊ะ: ส่งสติ๊กเกอร์กระต่ายนอนขี้เกียจ

โทน’เทคโนฯคอม: โอเค งั้นเดี๋ยวพรุ่งนี้มีพี่ไปรับ ลงมารอได้เลย 8.30


เฮร่ยยยยยย ผู้ชายจะมารับอะแกรเขินเวอร์ เล่นตัวหน่อยดีกว่า ฮ่าๆๆ

ว่านหางหวานๆไหมจ๊ะ: ไม่ต้องก็ได้มั้งพี่ เดี๋ยวผมไปเองดีกว่าเกรงใจด้วย

โทน’เทคโนฯคอม: พี่มีเรียน 9 โมงเหมือนกัน เดี๋ยวรับไปพร้อมกัน บอกเพื่อนเราด้วยล่ะจะได้ไม่เสียเวลา

ว่านหางหวานๆไหมจ๊ะ: ขอบคุณครับ เดี๋ยวผมบอกเอ๋ให้

โทน’เทคโนฯคอม: พี่ไปทำงานต่อนะ ไว้เจอกัน
โทน’เทคโนฯคอม: ส่งสติ๊กเกอร์หมีบ้ายบาย

ว่านหางหวานๆไหมจ๊ะ: ส่งสติ๊กเกอร์กระต่ายบ้ายบาย


หลังจากเลิกคุยกับพี่โทนและกำลังจะหันไปโม้กับเอ๋ก็ต้องตกใจเพราะเพื่อนผมนั้นมันมาเกาะขอบเตียงผมนั่งอ่านบทสนทนาของผมกับพี่โทนตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้

“อิเอ๋ กูตกใจหมด” ด่ามันไปที

“แหมๆ ทำเขินปากห้อยแล้วมึง หุบๆหน่อย ฮ่าๆๆๆ” มันแซวพลางเอามือมาเขี่ยปากเจ่อๆของผม เขาเรียกปากอวบอิ่มไม่ใช่ปากห้อยเว้ย

“หุบปากเลยมึง เออ พรุ่งนี้พี่โทนจะแวะมารับพวกเราตอน 8.30 นะ” ผมบอกมันก่อนจะกลับแอปและมานอนเล่นเกม

“รู้แล้ว กูมานั่งอ่านตั้งนานแล้ว” แล้วมันก็เดินกลับไปนอนเล่นที่เตียงมันเหมือนเดิม

………………………………………………

TBC นะเด้อออ
ชีวิตดีย์มีผู้ชายมารับมาส่ง ชิช่ะ เจ้าแคระน้อยนี่มันไม่สงวนตัวเลยนะ  :z6:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11-06-2020 13:51:34 โดย sk_bunggi »

ออฟไลน์ sk_bunggi

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 399
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
มีสติครั้งที่ 5

เช้านี้ช่างสดใสจริงๆครับ เพราะอะไรน่ะหรอเพราะพ่อเทพบุตรจะมารับไงล่ะครับบบบ อ่ะๆ ไม่ต้องอิจฉาไปหรอกนะ อิอิ

“เอ๋ มึงเสร็จเนี้ย 8.20 แล้วนะ จะได้ลงไปรอพี่เขา” ผมตะโกนเข้าไปในห้องน้ำที่ยังคงปิดสนิทอยู่หลังจากเอ๋มันเข้าไปสิบนาทีที่แล้ว

“มึงไปก่อนเลยว่าน ไม่ต้องรอ กูขี้แตกว่ะ ปู้ดดดด” อื้อหือ เสียงมาพร้อมเลยไปก็ได้วะ แหวะ

“จะอ้วก เออๆ งั้นไปก่อนนะรีบตามไปนะมึง เดี๋ยวกูไลน์มาหาอีกที”

ผมร่ำลามันก่อนจะรีบคว้ากระเป๋าวิ่งลงไปรอพี่โทน แต่เมื่อลงไปก็เจอคนหล่อยืนพิงรถหรูรออยู่ก่อนแล้ว ตายๆทำให้พี่เขารอไปอีก

“ขอโทษนะครับพี่โทนที่ให้รอ พอดีเอ๋มันปวดท้องมันเลยบอกให้ไปกันก่อนเลยน่ะครับ”

ผมรีบไหว้ขอโทษขอโพยพี่เขาที่ทำให้รอ พี่เขาไม่ได้ว่าอะไรก่อนส่งยิ้มมาให้และบอกให้ขึ้นรถ ตอนนี้ผมประหม่ามากเลยครับเพราะไม่เคยขึ้นรถพี่เขามาก่อนถึงจะเคยซ้อนมอเตอร์ไซค์แบบแนบชิดมาแล้วก็เถอะ

“พรึ่บ!!” กำลังนั่งคิดอะไรเพลินๆอยู่ๆพี่โทนก็โน้มตัวมาใกล้ทำให้ได้กลิ่นหอมที่เคยได้กลิ่นลอยมา ผมรีบหลับตาปี๋ไม่กล้ามองหน้าพี่โทนก่อนจะได้ยินเสียงหึเราะเบาๆ

“แกร็ก…….ขึ้นรถต้องรัดเข็มขัดด้วย” หื้ม แค่จะดึงสายรัดใช่มั้ยไม่ได้จะจูบกันใช่มั้ย อุตส่าห์ทำปากจู๋รอ

“คราวหน้าก็อย่าลืมรัด เข้าใจไหม”

จะหันหน้าไปรับคำก็ต้องหยุดชะงักเพราะนิ้วยาวที่เจ้าของรถส่งมาคลอเคลียที่แก้มด้านขวา ผมทำได้แต่พยักหน้าให้เขาไป ตายๆๆ สติผมกำลังจะลอยออกไปอีกแล้ว กลับมาก่อนสติของฉ้านนน แล้วพี่เขาก็พารถมุ่งหน้ามาที่มหาลัยทันทีก่อนที่เขาจะมาส่งผมที่หน้าคณะ เรากล่าวลากันเล็กน้อยก่อนที่เขาจะขับออกไป

ตื้ด ๆ ๆ ๆ

“ว่าไงเอ๋ อยู่ไหนแล้ว” ผมกรอกเสียงถามคนปลายสาย

“เออ ว่าน มึง มึงเข้าเรียนไปก่อน เดี๋ยวกูตามไป อ๊ะ” หื้ม เพื่อนผมมันไหวไหมนะ

“เอ๋มึงเป็นอะไรวะ ปวดท้องหรอให้กูพาไปหาหมอเปล่า” ถามมันไปอย่างเป็นห่วง

“ไม่ ไม่เป็นไรมึง เดี๋ยวกูไปร้านขายยา อือ แถวๆนี้เอา แค่นี้นะ ตู้ดๆๆ” อะไรของมันนะ แต่ก็เอาเถอะ ในเมื่อมันบอกว่าไม่เป็นไรก็คงไม่เป็นอะไร
.
.
ตอนนี้เป็นเวลาพักแล้วครับ กำลังจะโทรหาเอ๋มันก็โผล่มาเฉยพร้อมกับคนร่างหมีที่อยู่ข้างๆมันคงไปเจอกันตอนเข้าม.มามั้ง แต่พอคิดๆไปวันนี้ผมก็ไม่เห็นไอ้ท๊อปมันในคลาสช่วงเช้าเหมือนกันนี่หว่า หื้ม มันยังไงๆอยู่นะเนี้ย

“กูกำลังจะโทรหาเลย ว่าจะเข้ามากินข้าวด้วยกันเปล่า” ผมถามเอ๋พร้อมมองหน้ามันสลับกับไอ้ท๊อป ทำไมเอ๋มันต้องทำหน้าแหย่แบบนั้นด้วยวะ งงเด้

“กูไปด้วยดิ หิวเหมือนกัน พอดีเสียพลังงานไปนิดหน่อย” ไอ้หมีควายมันพูดพลางเหล่ตามองคนตัวเล็กข้างๆที่ยืนทำหน้าอมขี้อยู่

“เออๆ งั้นไปกันเลยมั้ย หิวแล้ว”

เอ๋มันพยักหน้าก่อนจะรีบเดินออกไป ทำให้ผมยืนงงก่อนที่จะหันไปหาไอ้ท๊อปเพื่อขอคำตอบ มันก็ทำท่ายักไหล่เหมือนไม่รู้ไม่ชี้ อะไรของพวกมันวะน้องว่านล่ะงงจริงๆ แต่ระหว่างที่พวกผมกำลังเดินไปหาข้าวกินอยู่นั้นก็มีสายเรียกเขากับชื่อที่คุ้นชินโทรเข้ามา

โทน’เทคโนฯคอม: Calling

“ฮัลโหลครับพี่โทน มีอะไรหรือเปล่าครับ” พี่โทนคอลมา มีอะไรหรือเปล่าน้า

“ถ้าไม่มีพี่โทรหาเราไม่ได้หรอ?” เอ๊ะ พี่เขาไม่ได้งอนผมอยู่ใช่ไหมครับฟังจากน้ำเสียงแล้ว

“ไม่ ไม่ใช่แบบนั้นครับ แค่คิดว่าพี่โทนมีอะไรด่วนหรือเปล่าเลยโทรมาหาผมน่ะครับ” ผมรีบแก้ตัวบอกเขาไป

“พี่จะถามว่าเราจะกลับบ้านวันไหน” อ๋อ สงสัยพี่โทนอยากกินมังคุดแล้วแน่เลย

“วันนี้ล่ะครับ เลิกเรียนผมก็กลับเลยเดี๋ยวผมจะเอามังคุดมาให้ด้วยนะครับ”

“ไปกี่โมงล่ะ เดี๋ยวพี่ไปส่ง” ผมฟังไม่ผิดใช่รึเปล่าว่าพี่เขาจะไปส่งน่ะ

“ห๊ะ คือ ไม่ต้องหรอกครับเดี๋ยวเฮียวิวมารับผมน่ะ”

ผมไม่ได้เล่นตัวนะครับ แต่ว่าอาเฮียจะมารับและมาส่งผมทุกอาทิตย์เพราะเป็นคำสั่งของป๊ากับม๊าที่เป็นห่วงลูกสุดที่รักอย่างผม แต่ถ้าผมไม่กลับต้องโทรไปบอกมันล่วงหน้าไม่งั้นมันจะบ่นให้ว่าเสียเวลาทำมาหากิน

“……” อยู่ๆพี่โทนก็เงียบไป

“พี่โทน? เป็นอะไรหรือเปล่าครับ” พี่เขาไม่สบายหรือเปล่านะ

“พี่จอดรถอยู่ข้างๆตึกวิทย์ ลงมาหาพี่หน่อยได้ไหมครับ” น้ำเสียงที่เขาฟังดูไม่ค่อยจะดีซักเท่าไหร่ หรือว่าพี่เขาไม่สบายจริงๆนะ

“อื้อ ได้ครับ รอแป๊บนะเดี๋ยวผมไปบอกเอ๋ก่อน”

ผมบอกพี่เขาก่อนจะตัดสายทิ้งไป ผมรีบโทรหาเอ๋บอกว่าไปกินข้าวด้วยไม่ได้ให้มันไปกับไอ้ท๊อปเลย ก่อนที่ผมจะรีบวิ่งลงจากตึกไปเพื่อไปลานจอดรถข้างๆตึกวิทย์

ก๊อกๆๆ ผมเคาะกระจกรถก่อนที่พี่โทนจะปลดล็อครถให้ผมเข้าไปในรถ สีหน้าของเขาดูไม่ดีอย่างที่ผมคิดไว้เลยมีเรื่องอะไรไม่สบายกันนะ

………………………………………………

ตอนนี้อารมณ์ผมคลุกกรุ่นมากเพราะผมเพิ่งได้รับโทรศัพท์จากแม่เรื่องที่ผมเลิกกับเมย์ ที่มีปัญหาก็คือเมย์เป็นลูกสาวเพื่อนของแม่ผม และเขาก็เป็นหุ้นส่วนที่ช่วยกันดูแลแม่จึงอยากให้ผมดองกับเพื่อนเขาเพื่อผลทางธุรกิจแต่ผมเคยบอกเขาไปแล้วว่าผมไม่ได้ชอบเมย์เลยและก็ไม่คิดจะชอบด้วยแต่เขาก็ยังคะยั้นคะยอให้ผมลองคบดูก็ไม่เสียหายอะไร คบๆไปเดี๋ยวก็รักกันเอง ซึ่งผลที่ออกก็เป็นอย่างที่ทุกคนเห็นล่ะครับคือไปไม่รอด

“พี่โทน ไม่สบายหรือเปล่าครับ ไปหาหมอกันไหม” คนข้างๆส่งเสียงเอ่ยถามขึ้น น้องทำหน้าเป็นกังวลกับอาการของผมที่เป็นอยู่เพราะผมไม่ได้พูดอะไรตั้งแต่เขาเข้ามาในรถ

ผมหลับตาลงพลางสูดหายใจเข้าลึกๆและอยู่ๆก็มีบางอย่างมาสัมผัสลงที่ตรงหน้าผากและตรงคอผม มือเล็กๆที่วางทาบเหมือนหวัดอุณหภูมิที่หน้าผากของผมกับของตัวเองเพื่อดูว่าผมยังสบายดีอยู่ไหม ท่าทางน่ารักทำให้ผมอดยิ้มออกมาไม่ได้ก่อนจะจับมือเล็กมาจูบหนึ่งที ผมไม่รู้ว่าทำไมแต่รู้แค่ว่าอยู่กับว่านแล้วผมรู้สึกดีผมสบายใจที่อยู่กับเขา หรือว่าผมเองก็เริ่มชอบคนตรงหน้านี้แล้วเหมือนกันนะ ดูเหมือนน้องจะตกใจและจะชักมือกลับแต่ผมกลับจับเอาไว้แล้วดึงตัวเขาข้ามมานั่งที่ตักตัวเองก่อนจะซุกหน้าลงกับไหล่เล็กๆด้านหน้าจนผมได้ยินเสียงหัวใจของคนตรงหน้ามันเต้นเร็วและแรงมาก

“พี่โทนไม่สบายใจอะไรหรือเปล่าครับ เล่าให้ผมฟังได้นะ” คนตัวเล็กส่งมือมาลูบหลังผมเบาๆ

“ว่าน พี่ขออะไรอย่างได้มั้ย” เอ่ยถามคนตัวเล็กก่อนจะเงยหน้าขึ้นมอง น้องนั่งทำหน้างงๆแต่ก็พยักหน้ารับให้ผม

“พี่ขอจูบเราได้ไหม” ผมพูดออกไปตามที่คิด

น้องดูตกใจก่อนหันหน้าหลบผมไปด้านอื่น ผมเลยตัดสินใจจับคางคนตรงหน้าให้หันมาสบตากันก่อนจะก้มลงจูบแก้มใสทั้งสองข้างอย่างอ้อยอิ่งและค่อยๆเลื่อนลงมาที่ริมฝีปากอิ่มที่ตอนนี้เด็กแคระขบเม้มมันไว้จนแดงไปหมด ผมค่อยๆไล่เล็มริมฝีปากเล็กก่อนจะแกล้งขบเบาๆเพื่อให้น้องคลายการเม้มปาก คนตัวเล็กสะดุ้งตกใจก่อนจะร้องออกมาทำให้ผมจูบเขาได้อย่างถนัดก่อนจะสอดลิ้นเข้าไปกวาดต้อนลิ้นเล็กๆที่พยายามจูบตอบผมด้วยท่าทางเงอะๆงะๆ

“อื้อ พะ พี่โทน” เสียงน้องพยายามเรียกผมและทุบแขนผมเบาๆเป็นอันบอกว่าน้องไม่ไหวแล้ว

“ว่าไงครับ หื้ม” ผมตอบรับพร้อมลูบปากอิ่มที่ตอนนี้มันดูบวมกว่าเก่าเพราะถูกผมขบจูบ

“คือพี่โทน ทำไมพี่โทนถึงทำแบบนี้กับผมล่ะครับ” อยู่ๆน้องก็ถามขึ้นอย่างไม่แน่ใจ นั้นสิทำไมนะ

“งั้นพี่ขอถามว่านอย่างนึง ตอบพี่ชัดๆได้มั้ย” น้องมองหน้าผมพร้อมพยักหน้าเป็นคำตอบ

“ว่านชอบพี่ใช่ไหม”

คราวนี้คนตรงหน้าทำตาโตปากเล็กก็ขบกัดกันอีกแล้ว ทำไมชอบกัดปากตัวเองนะ ผมเลยเอานิ้วไปเขี่ยให้น้องเลิกกัดมัน

“ว่ายังไงครับ พี่ยังไม่ได้คำตอบเลย” น้องพยักหน้ามาให้อีกแต่ผมทำเป็นมองไม่เห็นและไม่สนใจน้องเลยพูดออกมาแทน

“ครับ ผม….ชอบพี่” ทำไมผมถึงรู้สึกดีขนาดนี้กันนะ คงเพราะความรู้สึกของคนตัวเล็กที่ส่งมาให้ผมแน่เลย

“แล้วคำตอบของพี่ล่ะครับ?” อยู่ๆว่านก็ถามผมกลับ แววตาใสแจ๋วส่งมาให้เหมือนอยากรู้คำตอบ

“ของพี่อาจจะยังให้คำตอบไม่ได้แต่พี่รู้สึกดีกับว่านนะ ให้พี่พิสูจน์อีกหน่อยได้ไหมแล้วพี่จะบอก” ผมลูบหัวน้องเหมือนที่ชอบลูบ คนตัวเล็กพยักหน้าก่อนจะซบลงมาที่อกผม

“คือ พี่โทน ผมขอถามอะไรอย่างสิ” คนตัวเล็กเงยหน้าคนขึ้นมาจ้องผมอีกครั้งก่อนจะพูดต่อ

“วันนั้นที่เดินชนกันที่ห้องน้ำ ที่พี่ทำ เอ่อ ถุงยางหล่นน่ะ” ผมรู้ครับว่าน้องคงสงสัยว่ามันเป็นของผมรึเปล่าล่ะสิ

“ไม่ใช่ของพี่หรอก เพื่อนพี่มันแกล้งเอามาใส่ไว้น่ะ พี่ก็เพิ่งรู้ตอนไปเล่าให้พวกมันฟัง” น้องพู่ลมหายใจออกมาเหมือนโล่งใจสักพักเสียงโทรศัพท์ของน้องก็ดังขึ้น

“อือ อยู่กับพี่โทนน่ะทำไมหรอ” สงสัยจะเป็นน้องเอ๋คนเดิม

“อ้าวหรอ โอเคๆ เดี๋ยวจะรีบไปเดี๋ยวนี้ล่ะ…..พี่โทนผมต้องไปก่อนนะเพื่อนมันเรียกคุยเรื่องรายงาน ไว้เจอกันนะครับ”

น้องบอกก่อนทำท่าคะยุกคะยิกอยู่บนตัก ผมเลยเปิดประตูฝั่งผมและพาน้องลงไปก่อนหอมแก้วใสตบท้าย น้องตกใจรีบกุมแก้มตัวเองก่อนออกตัววิ่งไป ผมว่ากับคนนี้ผมโอเคนะและรู้สึกดีมากด้วย เพราะฉะนั้นผมจะต้องรีบไปจัดการเรื่องเมย์ให้เสร็จๆไปซะน่ารำคาญชะมัดยาก


………………………………………………….

ว่านหางหวานๆไหมจ๊ะ: พี่โทนอยู่ไหมมม
ว่านหางหวานๆไหมจ๊ะ: ส่งสติ๊กเกอร์หมีทำท่ายืนยิ้ม

โทน’เทคโนฯคอม: ว่ายังไงเรา ถึงห้องแล้วหรอ

ว่านหางหวานๆไหมจ๊ะ: ช่ายแล้ว เดี๋ยวพรุ่งนี้ผมเอามังคุดไปให้นะครับ พี่โทนมีเรียนกี่โมงหรอ

โทน’เทคโนฯคอม: ทีเรียนสายๆน่ะ ไม่เป็นไรเดี๋ยวพี่ไปเอาตอนเลิกก็ได้ เราเลิก 4 โมงใช่ไหมพรุ่งนี้

ว่านหางหวานๆไหมจ๊ะ: เอาแบบนั้นก็ได้ครับ

โทน’เทคโนฯคอม: ครับ เดี๋ยวพี่ไปรับหน้าคณะ เราลงมารอพี่แล้วกัน


หลังจากที่ผมกลับมาจากบ้านจนถึงหอพักก็ไลน์คุยกับพี่โทนไปเรื่อยเปื่อยจนสักพักพี่โทนก็ขอตัวไปอาบน้ำ ผมก็เลยหันมาเก็บของให้เข้าที่เข้าทาง แต่อยู่ๆเอ๋มันก็ทำเสียงโวยวายใส่โทรศัพท์ตัวเองก่อนมันจะขอตัวออกไปข้างหน้าด้วยท่าทางโมโห มันเป็นอะไรของมันกันหว่า เมนส์ไม่มาหรอไง

………………………………………………

TBC เด้อ
เฮ่ยยยย พี่มันเคลื่อนไหวแล้วหว่า อยู่ๆเด็กแคระจะโดนจับกินซะงั้น  :z2:
ฝากติดตามและคอมเม้นท์เข้ามากันได้นะคะ ขอบคุณจ้า
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11-06-2020 14:10:29 โดย sk_bunggi »

ออฟไลน์ sk_bunggi

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 399
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
มีสติครั้งที่ 6

“เออเอ๋ เดี๋ยววันนี้พี่โทนมารับนะ พอดีกูเอามังคุดมาฝากเขา” ผมบอกเอ๋ที่นอนนั่งเล่นเกมอยู่บนม้านั่ง

“ไอ้เอ๋ ได้ยินมั้ยเนี้ยยยย” ตะโกนถามมันอีกครั้งหลังจากมันยังนิ่งเฉย

“เออๆได้ยินแล้ว มึงกลับไปก่อนเลยพอดีกูมีธุระต้องไปทำต่อ” มันว่าพลางยังจดจ้องเล่นเกมอยู่

“ธุระอะไรของมึงวะ” ผมถามอย่างอยากรู้ แต่มันก็ไม่ตอบยังคงเล่นเกมต่อไปไม่สนใจผม ช่วงนี้เอ๋มันทำตัวแปลกๆยังไงชอบกลบางทีก็ทำตัวมีพิรุธ น่าสงสัยจริงๆ

หลังจากเรียนเสร็จผมกับเอ๋ก็เดินลงมาที่ใต้ตึกคณะก่อนที่มันจะขอตัวออกไปทำธุระของมัน ผมแอบมองตามหลังมัน ก่อนที่มันจะแว้บหายไปผมเหมือนเห็นมีมอเตอร์ไซค์ซุปเปอร์โฟร์คันหนึ่งมาจอดข้างหน้าและมันจะซ้อนท้ายรถคันนั้นออกไปกัน แต่ที่สงสัยคือคนๆนั้นมันลักษณะดูคุ้นๆยังไงไม่รู้แต่ผมนึกไม่ออกว่าใครนี่สิ
.
.
โทน’เทคโนฯคอม: Calling

“ครับพี่โทน ผมลงมารอด้านล่างแล้วครับ”

โอเค พี่กำลังไปรับรอก่อนนะ” ปลายสายบอกก่อนจะวางสายไป

“นี่นายน่ะ ขอคุยด้วยหน่อยสิ” อยู่ๆก็มีผู้หญิงเดินมาข้างหน้าผมก่อนที่ผมจะเงยหน้าขึ้นมอง

“ครับ มีอะไรหรือเปล่า?” ใช่ผมจำหล่อนได้ พี่เมย์ที่เป็นอดีตแฟนสาวของพี่โทน หน้าตาเธอตอนนี้ดูอยากจะหาเรื่องผมมาก

“ฮึ ไม่มีหรอก แค่อยากจะมามองหน้าคนหน้าด้านที่แย่งแฟนชาวบ้านเขา”

อยู่ๆหล่อนก็พูดเสียงดังขึ้นมาจนทำให้คนในบริเวณนั้นหันมามองพวกเราสองคน

“คุณหมายถึงอะไร ใครไปแย่งแฟนใคร?” ผมยังทำตีหน้ามึนต่อไปทั้งๆที่รู้ว่าเธอหมายถึงใคร

“อ๋อ อ่อยไว้หลายคนล่ะสิท่า เลยไม่รู้ว่าไปยุ่งกับของใครเขาบ้าง หน้าตาก็ดีแต่ไม่มีปัญหาแฟนเอง ทุเรศสิ้นดี”

โอ้โห ด่ามาได้มั่นหน้ามั่นโหนกมากเจ๊ ด้ายยย จะเอาใช่ไหม ผมกำลังจะสวนกลับไปแต่อยู่ๆก็มีมือๆหนึ่งมาฉุดแขนให้ผมมายืนข้างเขา แผ่นหลังนี้ผมจำได้ดีว่าเป็นของใคร

“พูดเกินไปหน่อยไหมเมย์? พี่ว่าเราคุยกันรู้เรื่องแล้วนะ”

พี่โทนสวนผู้หญิงคนนั้นกลับไป ตอนนี้บรรยากาศใต้ตึกคงรู้สึกเหมือนกำลังดูละครหลังข่าวกันอยู่มั้งครับ เพราะหน้าตาแต่ละคนดูอยากรู้อยากเห็นมาก

“เพราะอิตุ๊ดนี่ใช่ไหมคะ เพราะมันใช่มั้ยพี่เลยบอกเลิกเมย์!” หล่อนพูดด้วยท่าทางเกรี้ยวกราดพลางชี้นิ้วมาที่ผม

“มันไม่เกี่ยวอะไรกับว่าน พี่เลิกกับเมย์ก่อนที่จะเจอน้องอีก เมื่อไหร่เมย์จะเลิกยุ่งกับพี่ซักที”

พี่โทนดูโมโหขึ้นมาระดับหนึ่งดูได้จากที่เขาปัดมือของหญิงสาวที่ชี้มาทางผมออกไปอย่างแรง

“กรี๊ดดดดดด เมย์ไม่เชื่อ เพราะแกอิตุ๊ด ฉันจะตบแก กรี๊ดด!!”

เธอกรีดร้องก่อนจะวิ่งถลาเข้ามาตบผม แต่พี่โทนไวกว่าเขารีบดันผมให้ยืนด้านหลังตัวเองก่อนที่ฝ่ามือของหญิงสาวจะตบลงบนใบหน้าของเขาแทนผม

“เพี๊ยะ!”

พี่เมย์ถึงกับตาโตค้างอย่างตกใจพร้อมกับเสียงร้องฮือฮาของคนใต้ตึกที่เห็นฉากโดนตบเข้าเพราะไม่มีใครคาดการณ์ว่าพี่โทนจะเป็นฝ่ายโดน ซึ่งผมก็ไม่คิดว่าพี่เขาจะเอาตัวเข้ามาบังตัวผมด้วยเช่นกัน

“พอใจแล้วใช่ไหม ถ้าพอใจก็ไปซะ เลิกยุ่งกับพี่ซักที! ไปว่าน”

พี่โทนตะโกนใส่หน้าหญิงสาวอย่างไม่สนหน้าว่าหล่อนจะเป็นผู้หญิงหรือไม่ ก่อนจะฉุดมือผมเดินไปที่รถและขับออกไปมุ่งหน้าไปที่หอพักผม
.
.
“พี่โทนเจ็บมากมั้ย น้องขอโทษ” ผมหยิบผ้าเย็นออกมาประคบที่แก้มซีกซ้ายที่มีรอยฝ่ามืออย่างเห็นได้ชัด

“ไม่ต้องขอโทษ เรื่องทั้งหมดมาจากพี่พี่ตั้งหากที่ต้องขอโทษเรา” ผมส่ายหน้าเป็นเชิงบอกไม่เป็นไร

“พี่ไม่ควรมาเจ็บตัวแบบนี้ แถมคนอยู่ตั้งเยอะแยะให้ผมโดนยังดีกว่าอีก” เพราะเอาจริงๆถ้าพี่โทนไม่มา ผมว่าผมก็คงได้มีลงไม้กับมือหล่อนซักยกเป็นแน่

“ว่าน ถ้าพี่จะคบกับใครซักคนพี่ไม่มีทางให้คนที่พี่รักต้องเสียใจหรอกนะ จำไว้”

พี่โทนพูดขึ้นพร้อมกับจับมือผมที่ประคบแก้มเขาอยู่ เมื่อกี้พี่โทนพูดว่าคนที่พี่เขารักใช่ไหม มันหมายถึงผมใช่รึเปล่าครับ งื้ออออออ เขิน ><

“เป็นอะไรน่ะเรา ทำหน้าตาประหลาด หึๆ” พี่โทนเขกหัวผมเบาๆเรียกสติผม

“เปล่าครับ แฮะๆ พี่โทนจะเอามังคุดเลยไหม เดี๋ยวผมไปหยิบให้”

“ว่าน เรียกแทนตัวเองว่าน้องสิ น่ารักดี” พี่โทนไม่ได้ตอบแต่ดันพูดขึ้นคำที่ผมหลุดพูดกับที่บ้านออกมา

“เออ คือ ผมว่า.....พี่โทนจะทำอะไรครับ!” อยู่ๆคนตัวสูงดันผมให้นอนลงบนเตียงที่นั่งอยู่แล้วขึ้นมาคร่อมผม

“เรียกแทนตัวเองว่าน้องให้ฟังก่อน พี่ชอบ” อู่ยยย ทำไมต้องมากระซิบที่ข้างหูด้วยล่ะขนลุกวุ้ย

“คือ พี่โทนลุกไปก่อนได้ไหมครับ คือ น้อง น้องจะไม่ไหวแล้ววว ฮือออ”

ผมรีบยกมือขึ้นมาปิดหน้าตัวเองด้วยความอาย ก่อนที่มือใหญ่จะดึงมือผมออกและก้มลงมาจูบปากผมทันที สติสตังตอนนี้ไม่เหลือแล้วมีแต่ความรู้สึกหาบหวามที่ได้รับจนเกินจะต้านทาน พี่โทนประคองผมให้ขึ้นมานั่งคร่อมเขาแทนทั้งๆที่ปากยังคงทำหน้าที่มันอยู่ก่อนเขาจะขยับหลังพิงกับหัวเตียง เราจูบกันเนินนานจูบแล้วจูบอีกก่อนจะมานั่งกอดกัน

“แกร๊ก” เอ๋มันเปิดประตูเข้ามาและมองมาที่พวกผมอย่างตกใจ แต่ก็ต้องเอามือจุ๊ปากบอกมันว่าห้ามส่งเสียงเพราะพี่โทนดันพล่อยหลับไปคงเพราะเหนื่อย มันก็ทำท่าโอเคกลับมาก่อนจะเข้าไปในห้องน้ำเพื่อเปลี่ยนชุดออกมานอนเล่นที่เตียงตัวเอง

ผมดูนาฬิกาตอนนี้เป็นเวลาทุ่มนึงแล้วผมจึงต้องปลุกพี่เขาเพราะกลัวเขาจะหิวและไหนจะต้องกลับไปคอนโดตัวเองอีก พี่โทนสะลึมสะลือตื่นขึ้นมาผมเลยให้เขาไปล้างหน้าล้างตาในห้องน้ำก่อนจะได้กลับและผมก็ลงไปส่งพี่โทนที่หิ้วถุงมังคุดถุงใหญ่กลับไปด้วยก่อนจะขึ้นมานอนเล่นต่อบนห้อง

“เออเอ๋ มึงไปไหนมาวะ” ผมนั่งหันหน้าไปถามมันที่นอนเล่นเกมอยู่บนเตียงตัวเอง

“ก็ไปทำธุระมานิดหน่อย เสร็จแล้วก็รีบกลับมาน่ะ”

“หรอ แล้วมึงซ้อนมอไซค์ใครออกไปวะ ดูคุ้นๆแต่ก็นึกไม่ออกว่ะ” เอ๋ที่นอนเล่นเกมอยู่เหลือบตามามองผมเล็กน้อย

“ไม่มีอะไรหรอก แค่คนรู้จักน่ะ”

“อ๋อหรอ” ผมบอกมันออกไปเพราะที่จากที่ผมสังเกตเห็นช่วงนี้มันค่อนข้างจะแปลกๆไปไหนจะติดคุยโทรศัพท์ทั้งๆที่เมื่อก่อนก็ไม่ค่อยโทรหาใคร แต่ถ้ามันจะมีแฟนจริงๆผมก็ไม่ได้อะไรออกจะยินดีด้วยซะอีก ไม่รู้จะปิดบังทำไม

…………………………………………………….

ตามจริงวันนี้ผมไม่อยากกลับบ้านเลยครับ แต่ก็ต้องกลับไปเคลียร์เรื่องน้องเมย์ตัวดีของแม่ ยังไงก็จะให้ผมจบลงภายในวันนี้ให้ได้

“ตาโทนกลับมาแล้วหรอลูก แล้วนั่นถืออะไรมาน่ะ” แม่ผมรีบออกมาจากห้องนั่งเล่นและเดินมาหาผม

“คุณแม่ คุณพ่อ สวัสดีครับ” ผมวางถุงมังคุดไว้ที่โต๊ะก่อนจะบอกน้าดาคนรับใช้ที่บ้านให้เอาไปจัดใส่จานออกมา

“มังคุดน่ะครับ แฟนผมเอามาฝากจากที่บ้านเขา” พ่อทำคิ้วเลิกขึ้นเชิงถามว่าแฟนคนไหน

“เอ๊ะ บ้านหนูเมย์ไม่ได้ปลูกสวนนี่คะ หรือว่าน้องซื้อมาฝาก?” นี่คือส่วนที่แม่คิดครับ ซึ่งผมก็ปฏิเสธไป

“ก็ไม่ใช่เมย์ไงครับ เพราะเมย์ไม่ใช่แฟน ผมแค่ไปไหนมาไหนกับน้องเพื่อให้คุณแม่สบายใจ คุณแม่ก็รู้ดีนี่ครับ” ผมเริ่มเข้าประเด็นที่ผมต้องเคลียร์

“เอ๊ะตาโทน จะให้แม่บอกกี่ครั้งว่ายังไงก็ต้องเป็นหนูเมย์ที่มีคุณสมบัติเพียบพร้อมทุกอย่าง คนอื่นแม่ไม่สน”

ท่านพูดออกมาพร้อมทำท่าไม่พอใจและมองผลไม้ที่ผมเอามาอย่างเหยียดๆ ซึ่งต่างจากพ่อที่มานั่งกินเอาและชมว่าผลไม้สดมากยังงั้นยังงี้

“งั้นคุณแม่ก็ดูเอาเถอะครับว่าหนูเมย์ของแม่เพียบพร้อมขนาดไหน”

แล้วผมก็หยิบโทรศัพท์เปิดเข้าแอปพลิเคชั่นรูปตัวเอฟที่มีเว็บเพจดังของมหาลัยแท๊กมาให้ มันคือคลิปที่ผมและเมย์ยืนเถียงกันก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์ให้พ่อกับแม่ดู
 
“เป็นยังไงครับ ยังเพียบพร้อมอยู่ไหม? อ้อ ส่วนคนที่อยู่ด้านหลังผมคือแฟนผมเองนะครับ ชื่อน้องว่าน เดี๋ยวว่างๆจะพามาแนะนำ”

ผมบอกแม่ที่ทำท่าตกใจจากการดูคลิป จริงๆผมรู้นิสัยเมย์มาตั้งนานแล้วว่าเธอไม่ได้น่ารักอย่างที่แสดงออกต่อหน้าผู้ใหญ่และพยายามปฏิเสธการไปไหนมาไหนด้วยกันแต่ก็ค่อนข้างยากเพราะแม่ท่านชอบบังคับอยู่ตลอด แต่สวรรค์คงเห็นใจผมเข้าแล้วเลยดลบันดาลให้มีเหตุการณ์นี้ขึ้นมาผมเลยมีโอกาสได้เอาเรื่องมาเป็นข้อต่อรองซะที

“โอ้โห ไม่คิดว่าคนใกล้ตัวก็มีแบบนี้ด้วยนะ อ่าวคุณหญิง ทำไมเงียบแบบนั้นล่ะ”

พ่อผมท่านเป็นคนยังไงก็ได้ครับ ถ้าไม่ใช่เรื่องงานท่านก็ปล่อยๆไปโชคดีที่พ่อผมเขาไม่ค่อยเจ้ากี้เจ้าการเท่ากับแม่

“ผมขอตัวก่อนนะครับ หวังว่าคุณแม่จะจบปัญหาที่คุณแม่สร้างขึ้นมาเองได้ ฝันดีครับ”

ผมบอกทั้งคู่ก่อนที่เดินหนีขึ้นมาบนห้องตัวเอง เหมือนยกภูเขาออกจากอกเลย ต่อไปก็แค่เร่งเดินหน้าจีบคนตัวเล็กแบบไร้กังวลอีกต่อไป ผมขึ้นมาพร้อมทำธุระส่วนตัวเสร็จก็รีบส่งข้อความหาคนตัวเล็กทันที

โทน’เทคโนฯคอม: ส่งสติ๊กเกอร์หมียืนเคาะก๊อกๆ

ว่านหางหวานๆไหมจ๊ะ: ส่งสติ๊กเกอร์กระต่ายยืนยิ้ม

ว่านหางหวานๆไหมจ๊ะ: ถึงนานรึยังครับเนี่ย

โทน’เทคโนฯคอม: ถึงนานแล้วครับ แต่คุยกับคนที่บ้านอยู่น่ะ

โทน’เทคโนฯคอม: *แนบรูป*

ว่านหางหวานๆไหมจ๊ะ: พี่โทนทะลึ่ง เสื้อก็ไม่ยอมใส่

ว่านหางหวานๆไหมจ๊ะ: ส่งสติ๊กเกอร์หมีปิดหน้า

โทน’เทคโนฯคอม: ฮ่าๆ อยากโชว์เด็กแถวนี้เฉยๆน่ะ แล้วเราทำอะไรอยู่

ว่านหางหวานๆไหมจ๊ะ: *แนบรูป*

ว่านหางหวานๆไหมจ๊ะ: กำลังจะนอนแล้วครับ

โทน’เทคโนฯคอม: วันหลังเอาพี่ไปนอนกอดแทนตุ๊กตานะ หึๆ

ว่านหางหวานๆไหมจ๊ะ: บ้า >< ไปนอนได้แล้วผมก็จะนอนแล้วเหมือนกัน ฝันดีนะครับ

โทน’เทคโนฯคอม: ส่งสติ๊กเกอร์หมีนอน


คืนนี้ผมต้องนอนหลับฝันดีแน่ๆเลยครับเพราะมีคนน่ารักมาส่งเข้านอนนี้เนอะ


…………………………………………………….

TBC จ้าาาา
ขุ่นพี่จะไม่ทน ขุ่นพี่จะเริ่มหลอกล่อเด็กแคระ ขุ่นพี่จะกินน้องงงง  :katai4:

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11-06-2020 14:23:50 โดย sk_bunggi »

ออฟไลน์ sk_bunggi

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 399
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
มีสติครั้งที่ 7
   
“อิว่านๆ มึงเห็นนี่รึยัง ตอนนี้กำลังดังเชียวนะมึง”

เอ๋มันรีบวิ่งมาหาผมที่นั่งกินขนมอยู่ที่โรงอาหารพร้อมชูโทรศัพท์ที่เปิดหน้าเว็บเพจดังของมหาลัยมาให้ผมดู ชิบหาย นี่มันเหตุการณ์เมื่อวานนี้หว่า

“ข่าวสุดแซ่บเย็นนี้ของชาวเผือก พริกสิบเม็ดไปเลยเมื่อเจ๊เมย์ประธานหลีดคณะนิเทศฯตบพี่โทนประธานสโมกลางลานวิทย์
ไปสืบเสาะจากผู้เห็นเหตุการณ์มาได้ว่าเจ๊แกเดินเข้าไปหาเรื่องน้องก่อนจะด่าปาวๆแบบไม่กลัวตกเป็นขี้ปากชาวบ้านแถมยังพยายามทำร้ายร่างกายน้องคนนั้น
ซึ่งชาวเพจเราบอกว่าโจทย์ของนางชื่อน้องว่านปีสองคณะศิลปะศาสตร์ที่ช่วงนี้ไปไหนมาไหนกับพี่โทนเราบ่อยๆนั้นเอง
งานนี้ใครเป็นนางเอกใครเป็นนางร้ายก็ดูกันในคลิปเอาเองนะจ๊ะ

*แนบคลิป*”

“หื้มมมม ถ้ากูอยู่ด้วยนะ อินี่ไม่ได้มีทางได้มายืนพ่นน้ำลายแบบนี้หร้อก”

เอ๋มันทำท่าของขึ้นกะฟัดกะเหวี่ยงใส่ ผมก็ว่าอยู่ว่าทำไมมีแต่คนมองตั้งแต่เดินเข้ามาที่โรงอาหารแล้ว ที่แท้ก็เพราะข่าวอันนี้นี่เอง

โทน’เทคโนฯคอม: Calling

“ครับพี่โทน อยู่โรงอาหารใต้ตึกบริหารครับ ได้ครับ เจอกันครับ” เอ๋มันทำหน้ายิ้มๆล้อใส่ผมก่อนจะหันจะหน้าบึ้งเมื่อมันผู้มาใหม่ร่างหมีเดินมานั่งข้างมัน

“อ่าวไอ้ท๊อป มาทำไรที่ตึกนี้วะ มีเรียนเหมือนกันหรอ” ผมถามมันออกไปเพราะถึงมันจะเรียนคณะเดียวกันแต่มันก็เรียนคนละห้องกับผม

“เปล้า แค่ผ่านมาน่ะเลยแวะมาเฉยๆ” มันว่าพลางยักคิ้วส่งมาให้

“อ่าวพี่โทน สวัสดีครับ” พวกผมเอ่ยสวัสดีคนมาใหม่ที่นั่งลงข้างๆผม

“พี่โทนเห็นคลิปในเว็บเพจของม.เรายังอะ” เอ๋รีบเปิดปากถามพี่โทน แหม ไม่อยากรู้เลยนะมึง

“อื้อ เห็นแล้วล่ะ พี่ขอโทษด้วยนะไม่คิดว่าจะมีคนถ่ายไว้” พี่โทนตอบก่อนจะยกมือขึ้นมาลูบหัวผมเหมือนกำลังปลอบ

“ไม่หรอกครับ ผมน่ะไม่เป็นไรหรอก แต่พี่ตั้งหากออกจะเป็นคนดังเดี๋ยวมีปัญหาขึ้นมาทำยังไง” พี่โทนส่ายหน้าก่อนจะบอกว่าช่างมันก่อนจะก้มลงมาดูดน้ำจากแก้วของผม

“ดูนี่ๆ โอ้โห ไวยังกับ 4G” เอ๋มันยื่นโทรศัพท์มาให้ผมกับพี่โทนดู

“สวีทต่อไม่รอแล้วจ้า ณ โรงอาหารใต้ตึกคณะบริหาร
   
*แนบรูปที่พี่โทนลูบหัวผม*

“ไลค์ 1.2K ไม่ชอบ 110 คน
คอมเม้นท์ 1: ทำไมเรารู้สึกคู่นี้มันได้ โอ่ยยย ขอพายเรือหน่อยจ้า
คอมเม้นท์ 2: น้องน่ารักค่ะ เคยเจอตัวจริงหลายครั้งแล้ว กรี้ดๆ
คอมเม้นท์ 3: ตอแหล แย่งแฟนชาวบ้านเขาสิไม่ว่า
คอมเม้นท์ 4: พี่โทนของเราาาาา ไม่น้าาา
คอมเม้นท์ 5: @คอมเม้นท์ 3 มาเจอกันหน่อยไหม พูดจาหมาๆ”


และก็อีกหลายๆคอมเม้นท์ตามมา ซึ่งคอมเม้นท์ที่ 5 ก็คือไอ้เอ๋ที่เข้าไปพิมพ์ด่าให้นั้นเอง กราบขอบคุณคุณเพื่อนผู้หวังดี

“กูว่าอินี่มันต้องเป็นเพื่อนแฟนเก่าพี่โทนแน่ๆเลย” เอ๋มันพูดอย่างโมโห

“มึงก็ไปเสือกกับเขาเนอะเตี้ย” ไอ้หมีควายเหน็บเอ๋ก่อนที่เอ๋มันจะแลบลิ้นปลิ้นตาใส่อย่างน่าหมั่นไส้

“ว่านไปกับพี่หน่อยสิ พี่ขอตัวก่อนนะ” พี่โทนว่าก่อนจะจับมือผมและล่ำลาเอ๋กับท๊อป

“เราจะไปไหนกันหรอครับ?” ผมถามพี่โทนขณะเดินตามร่างสูงไปอย่างงงๆ

“ตามมาเถอะ”

แล้วเขาก็เข้ามาหยุดอยู่ข้างหน้าห้องๆหนึ่งและเปิดประตูเข้าไป ผมมองตามก็เห็นกลุ่มคนที่คุ้นหน้านั่งเล่นกันอยู่ มันคือห้องสโมสรนักศึกษาที่ผมเคยมาเมื่อคราวที่แล้วนี่เองครับ ผมรีบยกมือไหว้พี่ๆทุกคนก่อนจะพี่โทนจะให้ผมนั่งลงข้างๆบนตักตัวเอง เดี๋ยวครับพี่ ทำไมต้องบนตักด้วยล่ะ คนอยู่กันเยอะแยะ ฮื่ออออ ผมล่ะอายจริงๆครับ

“แหม พามาเปิดหรอวะมึง” ผมจำได้ครับพี่นี้ชื่อพี่กรมที่เคยให้พี่โทนยืมมอเตอร์ไซค์

“ที่พาเข้ามาคือแน่ใจแล้วใช่มั้ยวะ” พี่คนนี้ผมก็จำได้ชื่อพี่ปืนที่เคยจะช่วยผมตอนตกบันได

“อือ ออกไปได้แล้ว กูจะนอน” พี่โทนไล่เพื่อนเขาโต้งๆเลยครับ ทุกคนก็เลยหันมาโห่ร้องใส่ก่อนจะออกจากห้องไปตามที่พี่โทนบอก

“ทำอะไรก็เกรงใจบ้าง นี่มหาลัยนะมึง ฮ่าๆๆๆ” เพื่อนพี่คนนี้ผมเพิ่งรู้ว่าชื่อพี่ภัทร คนที่ฝั่งซ้ายพี่โทนในตอนที่ผมตกบันไดเหมือนกัน (ใครจำไม่ได้ขึ้นไปดูตอนที่ 3 ได้เลยจ้า) พี่โทนยกเท้าขึ้นมาเป็นคำตอบของพี่ภัทรก่อนที่เขาจะหัวเราะและเดินออกจากห้องไป

“พี่โทนง่วงหรอครับ ให้ผมนั่งข้างล่างดีกว่าไหม เดี๋ยวหนักนะ”

ผมบอกพลางเอี้ยวหลังไปมองคนที่ซบหลังผมอยู่ พี่โทนจับผมหันมาเผชิญหน้ากับเขาแทนคำตอบว่าถ้าหนักจริงเขาคงจับผมขึ้นและเปลี่ยนท่าให้หันมาหาไม่ได้หรอก

“ไม่เห็นหนักเลย ตัวเราออกจะเบา” พูดไปปากก็จูบแก้มผมไป

“พี่โทนนน นี้มันในมหาลัยนะครับ เดี๋ยวมีคนเข้ามาหรอก” ผมรีบตะครุบปากเขาก่อนที่มันจะลามลงมาที่ปากผม

“ถ้าไม่ใช่มหาลัยก็ทำได้?” แหน่ะ มาเลิกคิ้วทำหน้าตากวนใส่อีก ถ้าไม่ติดว่าหล่อนะจะตบหน้าให้ ฮ่าๆๆ

“บ้าแล้ว ไม่ใช่แบบนั้นสิ….เฮ้ย!”

อยู่เขาก็ลุกขึ้นทั้งที่ยังอุ้มผมอยู่ก่อนจะเดินหน้าออกไปตรงประตู ตายห่า อย่าบอกนะว่าเขาจะพาผมเดินออกไปจากมหาลัยทั้งแบบนี่

“กริ๊ก” เสียงล็อคประตูที่ถูกมือใหญ่เอื้อมไปปิดไว้

“เท่านี้ก็ไม่มีใครเข้ามาเห็นแล้ว”

พี่โทนว่าก่อนจะกระเตงผมมานั่งตรงโซฟาที่เดิม ร่างสูงลงผมจูบผมอีกครั้งอย่างไม่เร่งรีบพร้อมทั้งส่งลิ้นร้อนเข้ามาเกี่ยวกันไว้ ไอร้อนของลมหายใจเป่ารดกันไปมาเสียงของเหลวของผมและเขาประสานเป็นเสียงเดียวกันก่อนที่มือร้อนจะล้วงเข้ามาข้างในเสื้อสะกิดตุ่มเล็กๆที่หน้าอก ผมสะดุ้งตกใจรีบคว้ามือเขาไว้ก่อนที่มันจะเลยเถิด

“ทำไมครับ หื้ม?” เอ่ยถามแต่ปากร้อนก็ไล่เลียขบเม้มแถวซอกคอไม่ห่าง

“อื้อ พี่โทน เดี๋ยวก่อนครับ หยุดก่อน”

ผมพยายามเรียกสติคนที่กำลังมัวเมากับการโลมเลียแถวซอกคออยู่ พี่โทนถอนหายใจออกมาแรงๆทีหนึ่งก่อนนะซบหน้าลงกับไหล่ของผม

“พี่ขอโทษ กลัวรึเปล่า” พี่โทนว่าพลางกอดผมเอาไว้

“ไม่ครับ คือ พี่โทนทำไมทำแบบนี้ล่ะครับ”

ผมถามคำถามที่ผมเคยถามพี่โทนไปก่อนน่านี้ แต่เขายังไม่ได้ให้คำตอบผมซึ่งผมคิดว่ามาถึงขนาดนี้แล้วพี่เขาน่าจะมีคำตอบให้ผมซักที

“นั้นสิ ทำไมกันนะ แล้วคนที่เขาทำแบบนี้เขาเป็นอะไรกันหรอ” อยู่ๆคนตรงหน้าก็ถามผมกลับมา ผมงอนแล้วนะไม่ตอบผมซะที

“ก็ที่ทำแบบนี้เขาก็ต้องเป็นแฟนกันน่ะ….สิ”

“งั้นก็เป็นแฟนกับพี่นะครับ โอเคไหม?” ร่างสูงพูดส่วนผมขึ้นมาทั้งๆที่ยังพูดไม่จบประโยคดี หื้ม ผมหูฝาดไปใช่ไหมครับ

“มะ เมื่อกี้พี่ว่าอะไรนะครับ” ผมรีบถามกลับไปอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ

“พี่บอกว่า เป็นแฟนกับพี่นะครับ โอเคไหม ห้ามปฏิเสธด้วย” พี่เขาพูดย้ำขึ้นมาอีกครั้ง ผมรีบหยิกแก้มตัวเองเพราะผมคิดว่าตอนนี้ผมต้องฝันอยู่แน่ๆเลย ฮื่ออออ ว่านตั้งสติไว้มึง

“ทำอะไรน่ะเรา ไม่เชื่อพี่หรอไง” พี่โทนพูดขำๆก่อนจะยื่นหน้ามาจูบผมอีกครั้ง คราวนี้ผมโอบรอบคอร่างสูงไว้ก่อนจะพยักหน้าตอบแรงๆไปให้

“เป็น เป็นครับ ฮึก” แงงงงงง ดีใจที่สุดเลยเว้ยยยยย อิเอ๋กูเป็นแฟนกับพ่อเทพบุตรกูแล้วนะ T^T

“เอ้าๆ ร้องไห้ซะงั้น ทำไมแฟนพี่ขี้แงจัง”

พี่โทนเอ่ยแซวพลางเช็ดน้ำตาให้ผม อยู่ๆเขาก็ยกโทรศัพท์ขึ้นมากดเข้าโปรแกรมถ่ายรูป กล้องหน้าทำให้เห็นว่าหน้าผมเขรอะไปด้วยคราบน้ำตาก่อนที่พี่โทนจะเอาคางมาเกยบ่าผมและกดถ่ายรูปทันทีก่อนจะกดอะไรหยิกๆและวางไว้ที่โซฟาข้างตัว

“ตรึ้ง….Ton’Prechakorn tagged you in a post….
แฟนใครขี้แงจริงๆ

*แนบรูป*”
[/i]

ผมรีบยกโทรศัพท์ที่มีการแจ้งเตือนขึ้นมา โอ้โห รูปเมื่อกี้ที่พี่โทนถ่าย คือหน้าผมมันทุเรศมากเหมือนคนไม่ยอมล้างหน้าอะแต่หน้าเจ้าตัวดันหล่อมาก ซึ่งต่างกันสิ้นเชิง อ๊ากกกกก โกรธ

“พี่โทนนนน หน้าน้องทุเรศมากอ่ะ แงงงง” ผมโวยวายตีไหล่พี่โทนไปที

“ดีแล้ว จะได้ไม่มีคนมาแย่งพี่ไง ฮ่าๆๆ”

โอ้ย ถึงมีคนมาแย่งก็ไม่ไปครับเพราะ มิวสิคมา!  // ใจของฉันมันเป็นของเธอ คนเดียวทั้งใจ จะรอเธอรักเธอจนตาย ใจเอย // ก๊ากกกก มาเป็นเพลงอีกแล้วครับ

“ตรึ้ง ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ” เฮ้ย เสียงแจ้งเตื่อนของเราทั้งสองเด้งพร้อมๆกันและรัวๆเลย

“เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้วจ้า หลังจากกระแสลูบหัวกันเพิ่งบูม
คราวนี้เจ้าตัวแท๊กหากันเองซะเลยไม่ต้องรอให้เราไปเผือกกัน
#ภายใต้แฟนใครขี้แงจริงๆ #ภายใต้แฟนจริงจัง #ภายใต้ความอิจฉาตาร้อน

   *แนบรูปที่พี่โทนเอาหน้าเกยบ่าผม*

ไลค์ 1.1K ไม่ชอบ 200 คน
คอมเม้นท์ 1: กรี๊ดดดดดดด น่ารักมากๆ
คอมเม้นท์ 2: พี่โทนแกล้งน้องหรอคะ เดี๋ยวตีเลย
คอมเม้นท์ 3: เพื่อนผมครับ เพื่อนโผมมมมม
คอมเม้นท์ 4: พี่โทนนนน ฮื่อออ เสียดายของอ่ะ
คอมเม้นท์ 5: เดี๋ยวก็เลิกกัน
คอมเม้นท์ 6: คู่นี้น่ารักมากๆค่ะ #โทนว่าน"


และอีกหลายๆคนเม้นท์ที่ตามมาทั้งในของเพจมหาลัยและในที่พี่โทนแท๊กผมมาอีกเยอะแยะไปหมด

ตึ้ด ๆ ๆ ๆ

“อิว่านนนนนน มึงอธิบายกูมาค่ะ อะไรคือที่แท๊กมาในเฟส ตอบ!” ไอ้เอ๋รีบตะโกนสวนออกมาจากในโทรศัพท์ก่อนที่ผมจะพูดขึ้นเสียอีก

“โอ้ยไอ้เอ๋ หูกูจะแตกแล้วเนี้ย จะตะโกนทำไม” ผมว่ามันอย่างไม่จริงจังนัก

“มึงก็อธิบายมาสิวะ มึงไปเป็นแฟนกับพี่เขาตอนไหน”

มันยังไม่จบยังจะให้ผมอธิบายอยู่นั้น ปัญหามันคือผมอยู่ต่อหน้าที่โทนนี้สิครับ เลยไม่กล้าพูดออกไปเพราะคนมันเขินน่ะครับ อิอิ

“เออๆ เดี๋ยวกลับไปค่อยคุย แค่นี้นะ” ผมรีบตัดสายจากมันเพราะถ้ายังคุยต่อมันก็จะสาวผมไม่จบ

“ไปกันเถอะ เดี๋ยวเพื่อนรอนาน”

พี่โทนพูดก่อนจะจูงมือออกไปนอกห้องและไปส่งผมที่โรงอาหารที่เดิม เสร็จแล้วพี่เขาก็ขอตัวไปที่ทะเบียนนักศึกษาเพื่อไปทำเรื่องฝึกงาน ไอ้เอ๋เห็นผมก็รีบเม้าท์มอยอยากรู้เรื่องของผมมากซึ่งไอ้ท๊อปก็คอยเบรคเอ๋มันตลอด ดูๆไปมันก็เหมือนผัวเมียตีกันเลยนะครับ

เอ๊ะ ใช่แล้วผมนึกออกแล้ว ผู้ชายคนนั้นที่วันนั้นผมเห็นมารับเอ๋มันต้องเป็นไอ้ท๊อปแน่ๆเลย เพราะตอนนี้มันใส่เสื้อแจ๊คเกตสีแดงสีเดียวกันกับที่มันใส่วันนั้น ผมจำได้แล้ว หื้มมมมม มึงนะมึง ริอาจปิดบังกูรึนังเพื่อนตัวดีย์!

“เออเอ๋ วันนั้นที่มึงบอกไปทำธุระอะ กูเหมือนจะนึกอะไรออกว่ะ” มันหุบปากที่กำลังฝอยลงทันที

“อะไรของมึงเนี่ย ก็คุยกันจบไปแล้วหนิ” มันโวยวายขึ้นมาทันที

“ใจเย็นๆก่อนป่ะ กูแค่จะถามเฉยๆมึงจะโมโหทำไมเนี้ย” ผมก็เริ่มของขึ้นเหมือนกันครับ ทำไมแค่นี้ต้องโวยวายด้วย

“แล้วมึงจะพูดขึ้นมาทำไม กูก็บอกไปทำธุระไง” อารมณ์มันยังไม่ลง แต่วันนี้ผมก็จะคุยกับมันให้รู้เรื่อง

“กูแค่จะบอกว่ากูรู้แล้วว่าคนนั้นเป็นใคร แต่ถ้ามึงไม่อยากบอกก็ไม่เป็นไรกูจะไม่เซ้าซี้ แต่ถ้ามึงยังเห็นกูเป็นเพื่อนสนิทมึงอยู่และพร้อมที่จะพูดตอนไหนก็ค่อยบอกกูอีกทีละกัน”

ทำร่ายยาวบอกมันไป ผมกับมันไม่เคยมีความลับต่อกันครับตั้งแต่เมื่อก่อนแล้ว ไม่ว่าผมหรือมันชอบหรือไม่ชอบอะไรเราก็จะพูดให้กันฟังตลอด แต่ผมไม่เข้าใจคราวนี้มันมีอะไรต้องปิดบังด้วย

“เฮ้ยๆ พวกมึงสองคนจะทะเลาะกันทำไม ใจเย็นๆ ไอ้เตี้ยทำไม่มึงไม่บอกเพื่อนมึงไปวะ” ไอ้ท๊อปที่นั่งหุบปากมาตั้งนานก็ได้โอกาสพูดขึ้น

“โอ้ยเซ็งเว้ย เพราะมึงคนเดียวเลยไอ้ท๊อป ไอ้หมีควาย เออ บอกก็ได้กูไปกับไอ้ท๊อปมันเองล่ะ” ในที่สุดมันก็สารภาพออกมาครับ

“ก็แล้วทำไมมึงต้องทำเป็นหลบๆซ่อนๆด้วยวะ” ยังซักไซ้มันไม่เลิกครับ วันนี้ล่ะผมต้องได้รู้มันทุกอย่าง

“ก็ ก็กูเห็นมึงไม่ถูกกับมันอะ กูก็เลยไม่ได้บอกอะไร แต่กูไม่ได้คบกับมันนะเว้ย” อ่อหราาา อยากจะลากยาวไปถึงดาวอังคาร

“กูหรือมึงกันแน่ที่ไม่ถูกกับมัน กูเห็นเจอกันทีไรก็มีแต่มึงกับมันที่กัดกัน ถึงกูจะไม่ชอบขี้หน้ามันแต่ก็ไม่ได้หมายความว่ากูจะเป็นเพื่อนกับมันไม่ได้เปล่าวะ”

“ฮึ ไม่ได้คบกับกูแต่โดนกูเอาแล้วเนี้ยนะ?” อยู่ๆไอ้ท๊อปมันก็พูดสวนขึ้นมากลางวง

“ไอ้เชี้ย! มึงหุบปากไปเลยนะ กูไม่ได้เต็มใจไหม”

แล้วก็เกิดศึกระหว่างผัวเมียขึ้นครับ โดนที่เอ๋มันยืนขึ้นจิกผมของไอ้ท๊อปที่เซ็ตมาอย่างดีจนเสียทรง แต่ไอ้ท๊อปก็แปลกไม่ยักกะโกรธเอ๋ แถมมันยังทำหน้าตากวนโมโหเพื่อนผมต่อไปอีก

“อ่าว ก็กูพูดเรื่องจริง ถึงมึงไม่เต็มใจยังไงมึงก็เมียกู”

“โว้ยยยยยยย พอเลย พูดไม่รู้เรื่อง” แล้วมันก็โยกหัวไอ้ท๊อปที่มันจิกไปมาจนผมต้องรีบห้ามเพราะกลัวว่าไอ้ท๊อปจะไม่มีผมเหลือบนหัวน่ะสิ

“พอๆมึง เดี๋ยวหัวมันก็ล้านพอดี ตกลงยังไง พวกมึงสองคนคบกัน?”

ผมยังถามต่อ เอ๋มันไม่ตอบยังทำท่าฟึดฟัดไม่เลิก ส่วนไอ้ท๊อปก็ยิ้มกวนพร้อมยักคิ้วส่งมาให้ผม

“ก็แค่เนี้ย จะปิดบังทำไมก็ไม่รู้”

“ก็กูไม่ได้เต็มใจเปล่าวะ.…..บอกกูเป็นเมียแต่ไม่เคยขอกูเป็นแฟนซะหน่อย”

มันบอกกลับมาก่อนที่จะพูดประโยคทิ้งท้ายเบาๆเหมือนคนพึมพำ ซึ่งผมนั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามผมเลยไม่ได้ยิน ต่างจากไอ้ท๊อปที่มันหันมามองคนข้างๆด้วยสายตาที่ผมก็บอกไม่ถูกเหมือนกัน

“กูขอตัวมันไปก่อนนะว่าน เดี๋ยวกูพาไปส่งที่ห้องเอง”

อยู่ๆไอ้ท๊อปมันก็ลุกพรวดขึ้นมาและบอกผมก่อนจะฉุดแขนเอ๋ให้ไปกับมัน เอ๋มันก็ทำหน้าตาตื่นตกใจแต่มันก็ไม่ได้โวยวายอะไร ผมเลยยกมือบ้ายบายลามันไป อะไรของพวกมันวะอารมณ์ขึ้นๆลงๆกันจังวะ

…………………………………………………..
TBC

สวีทต่อไม่รอแล้วจ้าาาา อิพี่มันร้าย มันจ้องจะงาบเด็กแคระของเรา

ส่วนเด็กแคระอีกคนนึงก็โดนกินไปเรียบร้อยแล้ว

สปอยฉากต่อไปมี NC นะค้า เกรียมไม้เรียมรอตีตูดเด็กแคระทั้งสองบัดเดี๋ยวนี้!!  :z13:

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11-06-2020 14:53:49 โดย sk_bunggi »

ออฟไลน์ pktherabbit

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 212
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
อ่านบทแรกไปได้สักสิบย่อหน้า
รู้สึกว่าการเรียงคำในประโยคมันแปร่งๆ
อ่านแล้วติดๆ​ เลยยังไม่ได้อ่านต่อ ขออภัย​ด้วย

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
ว่านหางแซ่บๆยั่วๆมาแล้วจ้า 555

ออฟไลน์ sk_bunggi

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 399
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
อ่านบทแรกไปได้สักสิบย่อหน้า
รู้สึกว่าการเรียงคำในประโยคมันแปร่งๆ
อ่านแล้วติดๆ​ เลยยังไม่ได้อ่านต่อ ขออภัย​ด้วย

ขอบคุณสำหรับคอมเม้นท์นะคะ เราจะพยายามเอาไปแก้ไขเน้อ  :impress:

ออฟไลน์ sk_bunggi

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 399
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
ว่านหางแซ่บๆยั่วๆมาแล้วจ้า 555

ขอบคุณที่ติดตามนะค้า  :impress2:

ออฟไลน์ AkuaPink

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2033
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-1

ออฟไลน์ sk_bunggi

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 399
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
มีสติครั้งที่ 8

ผมกำลังเดินมาที่ทะเบียนนักศึกษาเพื่อมาติดต่อที่ฝึกงาน ซึ่งจริงๆผมก็ได้มีคุยๆไว้บ้างแล้วกับรุ่นพี่ที่จบไปก่อนน่าว่าจะขอเข้าไปฝึกในบริษัทซอฟท์แวร์ของเขาและพี่เขาก็ตกลงเรียบร้อย เหลือก็แค่เอกสารของทางมหาลัยที่จะต้องไปยื่นให้อย่างถูกระเบียบ ระหว่างกำลังเดินไปผมก็เจอเข้ากับเมย์ ซึ่งถ้ามองดูดีๆผมว่าหล่อนตั้งใจจะมาหาผม เพราะตรงนั้นเป็นที่จอดรถของผมอยู่ ผมทำเป็นมองไม่เห็นเธอและรีบเดินผ่านไปแต่หล่อนก็รีบลุกตามและมาคว้าแขนผมไว้

“พี่โทน เดี๋ยวก่อนสิคะ คุยกับเมย์ก่อน เมย์อธิบายเรื่องที่เกิดขึ้นได้นะคะ” หล่อนพยายามพูดเพื่อให้ผมหันไปสนใจ

“พี่ว่าเราไม่มีอะไรต้องคุยกันแล้วนะครับ” ผมบอกหล่อนก่อนจะดึงแขนของตัวเองออก

“ไม่นะคะพี่โทน เมย์ขอโทษเมย์ผิดไปแล้ว ฮึก อย่าทิ้งเมย์ไปเลยนะคะ ฮื่อออออ”

หล่อนร้องไห้ออกมาปานจะขาดใจจนดูน่าสงสาร แต่ผมไม่ต้องการฟังอะไรและก็ไม่อยากให้เรื่องของเรามันยืดเยื้อเพราะตอนนี้ผมก็มีอีกคนที่ต้องดูแลจริงๆ

“พอเถอะเมย์ พี่ขอโทษที่ไม่ปฏิเสธเราให้จริงจังตั้งแต่ตอนที่คุณแม่พาไป พี่เห็นเราเป็นแค่น้องสาวคนหนึ่งเท่านั้น ขอโทษจริงๆอย่าร้องไห้เพราะพี่อีกเลยนะ”

ผมหันไปเช็ดน้ำตาที่แก้วตาใส เธอกอดผมเอาไว้และร้องไห้อย่างหนัก ผมยืนให้เธอกอดอยู่อย่างนั้นสักพักก่อนที่หล่อนจะผละออกไป

“เมย์เข้าใจแล้วค่ะ แต่เมย์อยากให้พี่โทนรู้ไว้ว่าเมย์รักพี่โทนมาตลอด ขอบคุณสำหรับที่ผ่านมาค่ะ” หล่อนปาดน้ำตาพลางพูดให้ผมก่อนจะเดินจากไป
.
.
“ตรึ้ง…”


“ตกลงถ่านไฟเก่ามันจะคุขึ้นมาหรือเปล่าน้า หรือมีใครรู้ช่วยเจ๊เผือกกันหน่อยนะค้าชาวมหาลัย
#ภายใต้ความอยากเผือก #ภายใต้ถ่านไฟไม่เก่า

*แนบรูปที่เมย์ยืนกอดผมและรูปเช็ดน้ำตา*"

ไลค์ 1.5k ไม่ชอบ 300 คน
คอมเม้นท์ 1: ตกลงว่าพี่โทนคบคนไหนกันแน่คะ?
คอมเม้นท์ 2: ดูก็รู้ไหมว่าเขายังรักกันอะ @ThanaTTThip
คอมเม้นท์ 3: เฮ้ยพี่โทน แล้วเพื่อนผมล่ะ!
คอมเม้นท์ 4: คืนดีกันเร็วๆนะคะ เอาใจช่วย
คอมเม้นท์ 5: @คอมเม้นท์ 2 บ้านมีปัญหาหรอ ทำไมต้องแท๊กเพื่อนผมด้วย?


ผมว่างานนี้ต้องมีเด็กงอนแน่ๆเลย เดี๋ยวขอตัวไปง้อเด็กก่อนนะครับ

…………………………………………………..

ตอนนี้จะมี NC นะคะ ใช้วิจารณ์ในการอ่านด้วยน้า ><

โทน’เทคโนฯคอม: Calling

โทน’เทคโนฯคอม: Missed 7 calls


ชิ ไม่รับสายหรอก ก็จะอะไรซะอีกล่ะครับ เพิ่งบอกขอคบผมเป็นแฟนไปไม่นานก็มีคนแท๊กผมในเว็บเพจของมหาลัย ภาพที่เปิดขึ้นมาคือพี่เมย์กำลังกอดพี่โทนและพี่โทนก็เช็ดน้ำตาให้พี่เมย์ ตกลงผมเป็นอะไรสำหรับเขากันแน่ และความสัมพันธ์ของสองคนนี้ล่ะมันเป็นยังไง กลายเป็นว่าทั้งวันผมไม่รับโทรศัพท์พี่เขาเลย เรียนเสร็จผมก็รีบกลับหออย่างไว เอ๋มันก็โทรมาหาผมครับ แต่ผมก็ปฏิเสธมันไปว่าไม่เป็นไรอะไร มันไม่ได้เข้าเรียนเพราะโดนไอ้ท๊อปพาตัวไปผมเลยเช็คชื่อให้มันแทนไป

ตึ้ด ๆ ๆ ๆ

“ว่าไงเอ๋” ผมที่แอบงีบหลังจากกลับมาถึงหอตื่นเพราะเสียงโทรศัพท์ปลุก

“เออมึง กูฝากปลดล็อคประตูห้องหน่อยดิ เดี๋ยวโฟมมันเข้าไปเอาที่เย็บกระดาษในห้อง”

โฟมคือเพื่อนผู้หญิงที่อยู่หอเดียวกันและอยู่ชั้นปีเดียวกันกับผม ซึ่งปกติเธอก็ชอบมายืมอะไรที่ห้องบ่อยๆอยู่แล้ว ผมก็เออออตอบไปเพราะง่วงๆ

“เออๆ เดี๋ยวเดินไปเปิดให้”

“แกร็ก แอดดดด…กริ๊ก”

ผมวางสายมันก่อนจะเดินไปปลดล็อคห้องและกลับมานอนต่อ สักพักก็มีเสียงเปิดประตูเข้ามาสงสัยโฟมมันมาเอาของแล้ว แต่อยู่ๆเตียงที่ผมนอนก็ยวบลงไปเหมือนมีคนมานอนด้วย เฮ่ย อย่าบอกนะว่าโฟมมันจะมาข่มขืนผม ไม่น้าาาาา

“พรึ่บ….พี่โทน! เข้า เข้ามาได้ยังไง” ผมลืมตามองคนที่กำลังลงมานอนข้างๆ ผมพยายามจะลุกหนีแต่ก็ถูกพี่โทนกอดไว้แน่น

“ทำไมไม่รับโทรศัพท์พี่ครับ แล้วหนีพี่ทำไม?” เสียงทุ่มถามขึ้นอยู่เหนือศีรษะผม แต่ผมไม่ตอบ

“เป็นอะไร หื้ม” เขายังคงถามขึ้นอีก นี่เขาไม่รู้จริงๆหรอว่าที่ผมเป็นแบบนี้เพราะเขา ความน้อยใจตีตื้นขึ้นมาที่ลำคอก่อนน้ำตาจะไหลออกมา

“ฮึก ฮื่อๆ” ร้องไห้มันซะเลยครับ ทำไมผมถึงอ่อนไหวขนาดนี้นะ

“โอ๋ๆ ไม่ร้องนะพี่ขอโทษ ว่านฟังพี่ก่อนได้ไหม พี่ไม่ได้จะแก้ตัวหรืออะไร แต่ตอนที่พี่จะเดินไปทะเบียนเมย์เขามาดัดรอเจอเขาก็เลยขอคุยเรื่องวันนั้น เมย์เข้าใจแล้วก็ร้องไห้และก็เข้ากอดพี่ ที่พี่เช็ดน้ำตาให้อย่างน้อยก็ในฐานะพี่ชายที่ทำให้น้องสาวเท่านั้นเองครับ” พี่โทนพูดออกมาเป็นประโยคที่ค่อนข้างยาวเท่าที่เคยคุยกับเขามาพร้อมทั้งลูบหลังผมไปมาเพื่อปลอบให้หยุดร้อง

“จริงๆนะ ไม่ได้โกหกน้องใช่ไหม ฮึก” ผมถามออกมาทั้งสะอื้น ก่อนที่พี่โทนจะก้มลงมาจูบที่หน้าผากผม

“พี่ไม่เคยโกหกใคร ให้พี่พิสูจน์ให้ดูมั้ยละ” เขาพูดก่อนที่ปากจะเริ่มไล่จูบผม

“พี่ขอต่อจากวันนั้นนะ”

เหมือนเป็นประโยคคำขอแต่จริงๆมันคือประโยคบอกเล่าเท่านั้นครับ เพราะหลังจากที่พี่โทนพูดจบเขาก็จูบที่ปากผมอย่างหนักและไล่จูบลงที่ซอกคอที่โดนขบให้เป็นรอย ก่อนจะไล่ลงมาที่ไหปลาร้า ตอนนี้ผมเริ่มเบลอสติไม่ค่อยจะอยู่กับตัวแล้ว แต่อยู่ๆผมก็นึกขึ้นได้

“ดะ เดี๋ยวก่อนพี่โทน เดี๋ยวเอ๋มันกลับมาเห็นนะครับ” ผมรีบปรามเขาก่อน กลัวเอ๋มันจะเข้ามาและตกใจ

“ไม่กลับมาหรอก...อย่าไปโกรธเอ๋เลย พี่เป็นคนขอเองน่ะก็แฟนพี่ไม่ยอมเจอพี่เลยนี้ครับ” พี่โทนพูดพร้อมทำท่ากอดอ้อนผม หึ้ยยยย ไอ้เอ๋ไอ้คนขายเพื่อน กล้ารวมหัวกันหลอกผมหรอ

“ก็ ก็น้องโกรธอยู่นี้ เชอะ!” พี่โทนยิ้มและส่งมือมาดีดปากที่เจ่อของผมก่อนที่เขาจะจับผมเข้ามาจูบใหม่

“อื้ม...อึก”

ผมพยายามตอบรับลิ้นที่เข้ามาในปากจนน้ำใสไหลย้อยลงข้างปาก มือผมปัดป่ายถอดเสื้อออกจากร่างสูงเหมือนที่มือใหญ่กำลังปลดเสื้อนักศึกษาของผมและโยนทิ้งไปเหลือไว้แต่กางเกงบ๊อกเซอร์ที่ผมใส่นอน

“ฮื้อ..อื้อ พี่โทน เสียว”

มือใหญ่ที่นวดคลึงอยู่ที่หัวมนกลางลำตัว อีกมือก็ลูบยอดอกผมจนมันแข็งสู้มือ ส่วนปากก็ทำหน้าที่พรมจูบไปทั่วทั้งแต่ซอกคอจนถึงไหปลาร้าและลงมาที่หน้าอกจนมาหยุดที่แอ่งสะดือที่มีจิวเจาะสะดืออยู่ พี่โทนงับเหล็กเบาๆพอให้ผมสะดุ้งก่อนจะแหย่ลิ้นเข้าไปข้างในเพื่อหยอกล้อให้ผมเสียวเล่น มือที่นวดอยู่ส่วนหัวมนเปลี่ยนมาชักขึ้นลงจังหวะเดียวกันกับลิ้นที่ลงมาในหลุมสะดื้อ ผมเสียวจวนจะปล่อยออกมาแต่แล้วร่างสูงก็หยุดมือใหญ่ลงก่อน

“พี่ขอชิมตรงนี้หน่อยนะครับ”

ว่าพลางส่งยิ้มให้ผมก่อนที่ปากได้รูปจะค่อยๆไล่จูบจากหัวเข่าและเลื่อนมาที่โคนขาด้านในที่ตอนนี้โดนร่างสูงทำร่องรอยไว้ทั้งสองข้างก่อนที่จะลงมาครอบที่ส่วนอ่อนไหว

“อ๊ะ..พี่โทน ฮื้ออ...”

ผมร้องเสียงหลงเมื่อลิ้นร้อนตะหวัดจากโคนขึ้นมาที่ปลายเหมือนเขากำลังเลียแท่งไอติมของโปรด ผมยกมือขึ้นมาปิดตาทั้งสองข้างไม่กล้ามองภาพข้างหน้าเพราะสายตาที่พี่เขาส่งมามันทำให้สติผมเหลือน้อยนิดลงไปทุกที พี่โทนใช้ปากให้จนผมรับรู้ได้ว่าตัวผมเองใกล้จะถึงจุดที่จะปลอดปล่อยออกมาแล้ว

“อื้อ..พี่โทน ให้น้องทำของพี่ด้วย อ๊ะ!” พี่โทนจับผมที่นอนอยู่ขึ้นมาค่อมเขาก่อนที่เราจะสลับหัวท้ายกัน ฮื่ออออ ท่านี้มันทำให้พี่เขาเห็นอะไรๆของผมจนหมดเลยสิ อายจริงๆ

“ถอดกางเกงพี่ออกสิ”

พี่โทนพูดจบก็ละเลงเลียว่านน้อยของผมที่ยังพองตัวอยู่ ผมค่อยๆรูปซิปกางเกงที่อยู่ข้างหน้าและดึงชั้นในออก ทำให้โทนน้อยที่ไม่น้อยดีดออกมาโดนหน้าผมก่อนมันจะผงกหัวทักทายผม

“…อื้ม พี่โทน ฮึก”

ผมค่อยๆไล่เลียท่อนเอ็นที่มันเริ่มเจริญเติบโตขึ้น ได้ยินเสียงร่างสูงซูดปากตัวเอง ผมเลยลองคอบปากลงไปกลืนกินมัน พยายามยัดมันเข้าไปให้หมดแต่ก็ไม่ได้เพราะมันค่อนข้างใหญ่และลึกกว่าคอผมลงไปอีก เราสลับกันทำไปมาจนรู้สึกถึงอะไรเปียกๆที่ช่องทางด้านหลังผมจึงเอี้ยวหลังไปมองก็ต้องตกใจที่ลิ้นร้อนของคนด้านล่างกำลังไล่เลียขึ้นอยู่ที่ช่องทางผม

“เดี๋ยวพี่โทน อย่าทำนะ มันสกปรก…อ๊ะ”

ผมร้องออกมาเมื่อลิ้นสากที่เลียอยู่ถูกดันให้แหย่เข้ามาด้านใน จากลิ้นเปลี่ยนเป็นนิ้วยาวที่สอดเข้ามาพร้อมกันสองนิ้วก่อนเจ้าของจะหมุนควงมันเหมือนกำลังควานหาอะไรและอยู่ๆผมก็ต้องสะดุ้งอย่างแรงแขนขาอ่อนขึ้นมาทันทีเหมือนเขาไปโดนจุดอ่อนไหวในตัวผมก่อนที่เขาจะเพิ่มเป็นสามนิ้วและชักเข้าออกอย่างเร็วและแรง

“ตรงนี้หรอ อ่าาา ทำต่อสิว่าน”

พี่โทนพูดอ้อนเพื่อให้ผมชำเราลูกรักเขาที่ผงกหัวเหมือนกำลังขาดน้ำ ส่วนอ่อนไหวของผมที่ถูกมือใหญ่รูดอยู่ก็เริ่มสั่นก่อนที่จะทนไม่ไหวพ่นพิษออกมาเพราะความเสียวทั้งจากด้านหน้าและด้านหลัง พี่โทนรองน้ำที่ได้จากการปล่อยของผมเอามาทาที่ท่อนเอ็นตรงหน้า ก่อนมือใหญ่จะอุ้มผมไว้ใต้ร่างตัวเองและจัดแจงท่าทางให้เข้าที่เข้าทาง

“พี่ขอเข้าไปนะครับ ไม่ต้องเกร็งนะ” พี่โทนพูดขณะที่กำลังพยายามสอดใส่ท่อนเอ็นแข็งร้อนเข้ามาในตัวผม ร่างสูงขบกรามแน่นจนขึ้นเป็นสันนูน

“อ๊า...พี่โทน เจ็บ ฮึก เจ็บ”

เผลอจิกคอคนที่กำลังเคลื่อนตัวเข้ามาหาอย่างช้าๆ พี่โทนก้มลงมาจูบผมอีกครั้งทั้งขบกัดทั้งดูดจนเจ็บแต่ก็ทำให้ผมลืมการกระทำช่วงล่างไปได้ชั่วขณะ เขาจูบผมอยู่อย่างนั้นก่อนจะตัดสินใจดันเข้ามารวดเดียว ความเจ็บแล่นจี๊ดเขามาเล่นงานจนทำให้แขนขาและช่องทางเกร็ง

“ชู่วๆ ไม่ร้องนะครับ พี่จะค่อยๆทำพี่สัญญา”

พยักหน้ารับตอบไปพยายามผ่อนลมหายใจของตัวเองเพื่อไล่ความเจ็บออกไป พี่โทนยังค้างแช่ไว้ก่อนจะค่อยๆขยับเมื่อช่องทางผมเริ่มคลายตัว จากจังหวะช้าๆกลายเป็นจังหวะหนักเน้นจนต้องร้องเสียงหลงออกมา

“ฮ๊ะ…พี่..ฮื้อ รักน้องแรงๆ” ผมขอออกไปอย่างสุดทนและร่างสูงก็จัดให้ตามคำขอจนผมหัวสั่นหัวคลอน เสียงเตียงเล็กๆของผมดันกระแทกฝาผนังอย่างแรง เอิ่ม ข้างห้องมันจะด่าผมไหมไม่รู้แต่ตอนนี้ไม่สนแล้วเพราะมันเสียวมากๆ

“ซี้ดดด…ว่าน” พี่โทนที่หายใจแรงออกมาอย่างพึงพอใจสองมือขย้ำหน้าอกอันเล็กๆของผมไปด้วย

“ฮึก..อ่า พี่โทน จะออกแล้ว อ้าาา…” ผมหวีดร้องออกมาเมื่อส่วนอ่อนไหวของผมพ่นน้ำออกมาเป็นรอบที่สอง

“พรึ่บ!..”

ตัวผมถูกยกขึ้นส่วนแขนก็ค้ำกับฝาผนังห้องไว้ หัวเข่าอีกข้างก็ถูกยกขึ้นพาดกับคานหัวเตียงไว้เพื่อให้ง่ายแก่การทรงตัวและการสอดใส่ก่อนที่ร่างสูงที่ซ้อนอยู่ด้านหลังจะกระแทกเข้าหาอย่างแรง

“อ๊า..อ๊ะ..พี่โทน พี่โทน”

ผมเงยหน้าเกี่ยวคอร่างสูงลงมาจูบอย่างดูดดื่มก่อนจะส่งเสียงออกมาไม่อายใคร มือที่ค้ำผนังไว้เริ่มอ่อนแรงจนหน้าเกือบคว่ำ ยังดีที่มีมือร่างสูงโอบสะโพกผมเอาไว้ก่อนจะจับให้ผมนอนคว่ำราบลงกับเตียงและยกสะโพกให้ลอยเด่นขึ้นมาแทนและสอดใส่เข้าออกอย่างเอาแต่ใจ

“ซี้ดดด…ว่านอย่าตอดแรง เดี๋ยวพี่เสร็จเร็ว” พี่โทนพูดขณะยังคงการกระแทกอย่างแรง ทุกการกระแทกเข้ามาทำให้รู้ว่าผมรัดพี่เขาตลอดเพราะด้วยความเสียวจึงทำให้ผมไม่รู้ตัว

“พี่โทน ฮึก...ฮ้า น้องจะไม่ อ๊ะ ไหวแล้ว” ไม่ไหวครับ ถ้าผมเสร็จครั้งนี้คือครั้งที่สามแล้วต่างจากพี่โทนที่ยังไม่เสร็จซักกะที ผมควรดีใจดีมั้ยครับที่มีแฟนดุขนาดนี้? แต่คิดๆไปน่าสงสารตัวเองมากกว่าเพราะตอนนี้ผมรู้สึกเมื่อยล้าไปหมดทุกส่วน

“ใกล้แล้ว อ่าาา”

พี่โทนก้มลงมากอดผมไว้ก่อนจะซอยเร่งสะโพกเข้าออกอย่างเร็ว สักพักก็รู้สึกได้ถึงน้ำอุ่นที่ฉีดพ่นเข้ามาด้านในช่องทางของผม พี่โทนยังค้างเอาไว้ไม่ได้เอาออกเขายังคงนอนทับกอดผมอยู่ แผ่นหลังผมรับรู้ได้ถึงอาการหอบและการเต้นของหัวใจคนด้านบนอย่างแรง

“หัวใจพี่โทนเต้นแรงจัง ฮิๆ” ผมเอ่ยแซวคนด้านบนแต่ได้รับแรงกระแทกเป็นคำตอบกลับมาทีนึง

“ขอโทษที่ปล่อยข้างใน แบบนี้เราจะท้องไหมเนี่ย” คนตัวสูงแซวกลับหลังจากเขากำลังลุกขึ้นก่อนเดินไปหยิบกระดาษมาเช็ดน้ำที่ยืดติดมังกรของตัวเองออกมา

“เพี๊ยะ…จะบ้าหรอพี่โทน น้องไม่ใช่ผู้หญิงนะ” ทุบร่างสูงไปที

ผมพยายามจะลุกขึ้นนั่งแต่ก็ต้องล้มกลับไปนอนเหมือนเดิม ฮื่อออออ ทำไมมันเจ็บตูดแบบนี้เนี่ยแถมแสบอีกตั้งหาก ผมทำหน้ายู่ใส่พี่โทนที่นั่งมองขำ เหมือนเขาจะรู้จึงอุ้มผมขึ้นเพื่อเดินไปเข้าห้องน้ำพร้อมกันและภารกิจที่สองกับที่สามก็เริ่มขึ้น

......................................................

ตอนนี้เป็นเวลาเที่ยงคืนแล้วผมลุกขึ้นมากินน้ำก่อนจะเดินมานอนต่อที่เตียง คนข้างๆผมสลบไปแล้วหลังจากโดนผมแกล้งไปหลายยก ก่อนนอนผมให้น้องกินยากันเอาไว้เพราะดูท่าน้องจะต้องเป็นไข้และระบมแน่นอน จริงๆผมไม่ได้รู้เรื่องอะไรแบบนี้เลยแต่เอ๋เป็นคนบอกไว้ เดี๋ยวพรุ่งนี้เช้าผมค่อยออกไปซื้อยาให้ใหม่

ผมนั่งมองคนที่หลับตาพริ้ม น้องหลับได้น่ารักมากๆเพราะแก้มที่บี้ไปกับหมอนมันดูหน้าหยิกจนติดมือจริงๆ ว่าแล้วก็ก้มลงไปหอมแก้มใสแต่ก็นึกอะไรขึ้นได้ก่อนจะเปิดโคมไฟเล็กๆที่หัวเตียงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเข้ากล้องถ่ายรูปถ่ายตัวเองกำลังหอมแก้มน้อง ปกติผมไม่ใช่คนชอบอวดแฟนเท่าไหร่ แต่เด็กแคระที่นอนอยู่มันน่าหมั่นเขี้ยวจริงๆ มีแฟนเด็กมีแฟนน่ารักก็แบบนี้ล่ะครับ หึๆ


“Ton’Prechakorn tagged ThanaTTThip in a post….

ฝันดีนะเจ้าเด็กแคระ

*แนบรูปผมหอมแก้มน้องตอนหลับ*

ผมทำการแท๊กทั้ง IG และเฟสของน้องไปก่อนจะนอนตามน้องไปอีกคน เช้ามาก็เป็นแบบที่คิดน้องไม่สบายตัวร้อนตั้งแต่เมื่อช่วงเช้า ผมเลยต้องเช็ดตัวให้น้องและรีบโทรหาเอ๋รบกวนให้เขาซื้อยาเข้ามาหน่อยเพราะผมต้องเฝ้าน้อง ไม่ลืมฝากซื้อโจ๊กและน้ำเต้าหู้ร้อนๆเข้ามาให้เผื่อ

“แกร๊ก....เป็นไงบ้างพี่ ตัวยังร้อนอยู่เปล่า” เอ๋ที่กลับมาในห้องยื่นของที่สั่งไว้มาให้

“อือ ก็ดีขึ้นมานิดหน่อย พี่ให้กินยาไปตั้งแต่เมื่อเช้าน่ะ” ผมบอกก่อนจะรับถุงและยื่นเงินให้เอ๋ก่อนจะไปจัดโจ๊กใส่ชามให้น้อง

“โหหหห พี่เล่นเพื่อนผมซะอ่วมเลยนี่หว่า ถึงว่าทำไมนอนจับไข้” เอ๋มันเดินมันดูเพื่อนก่อนจะเลิกผ้าห่มดูร่องรอยตามตัวคนที่นอนขดตัวอยู่

“นิดหน่อยเอง เออ พี่ว่าจะคุยกับเราเรื่องว่านหน่อยน่ะ พี่อยากให้ว่านย้ายไปอยู่คอนโดกับพี่เราจะว่าอะไรรึเปล่า?” เอ๋ทำหน้าแปลกใจเล็กน้อย

“ผมก็ไม่มีปัญหานะ จริงๆผมก็ว่าจะคุยเรื่องนี้กับมันอยู่ พอดีแฟนผมก็อยากให้ผมไปอยู่ด้วยเหมือนกันแต่ผมยังไม่ได้คุยกับว่านมันเลยน่ะ”

“ถ้าพี่พาว่านไป คนที่บ้านว่านจะว่าไหม?”

“อืมมม ก็ไม่แน่นะพี่ จริงๆที่บ้านมันก็ค่อยข้างเป็นห่วงอยู่ที่มันออกมาอยู่ข้างนอกเพราะถ้าไม่มีผมมาอยู่ด้วยป๊าม๊าก็ถ้าจะไม่ยอมน่ะ”

“ตกลงพี่จริงจังกับเพื่อนผมจริงๆใช่ไหม ถ้าคิดจะมาหลอกหวังฟันมันผมเอาพี่ตายจริงๆด้วย”

“จริงจังดิ ไม่งั้นไม่พาย้ายไปอยู่ด้วยหรอก กับเรื่องเมย์มันเป็นเรื่องเข้าใจผิดน่ะแต่ตอนนี้เคลียร์เรียบร้อย”

“ถ้าพี่ทำมันเสียใจอีกนะเจอดีแน่ ส่วนเรื่องย้ายก็ลองคุยกับมันอีกทีล่ะกัน ว่านมันคงโอเคล่ะ”

“อืม ไว้เดี๋ยวพี่คุยกับว่านอีกที งั้นพี่กลับก่อนนะมีอะไรโทรหาพี่ได้” ผมลาเอ๋ก่อนจะเดินไปจูบหน้าผากที่ชื้นเหงื่อของน้องและกลับไปคอนโดตัวเองเพื่ออาบน้ำเปลี่ยนชุดและเข้ามหาลัยไปคุยเรื่องฝึกงานต่อ


......................................................

“ไอ้ว่าน ลุกขึ้นมากินข้าวกินยาก่อนมึง”

“ไม่เอา ฮึก เจ็บ” งื้อออออ อย่ามายุ่งคนจะนอน!

“เออออ กูรู้แต่มึงต้องกินข้าวจะได้รีบกินยา ไม่งั้นมึงจะหายได้ไง” นี่มันเสียงเอ๋นี้หว่า หึ้ยยย ผมยังจำเรื่องที่มันช่วยพี่โทนได้อยู่นะ

“เชอะ ไม่ต้องมาพูดเลย ไอ้คนขายเพื่อน” ผมสะบัดหน้าหนีมัน โอ้ย ปวดคอ TT

“อะไรของมึงใครขายเพื่อน กูก็แค่ช่วยให้เพื่อนกูสมหวังเหอะ อย่ามานอกเรื่อง จะลุกขึ้นมากินดีๆหรือจะกินด้วยน้ำตาจ๊ะน้องว่าน”

เอ้าไอ้นี่ เพื่อนไม่สบายอยู่นะมึงยังกล้าขู่กูอีก แต่ก็ต้องลุกขึ้นมากินครับไม่งั้นมันให้ผมกินทั้งน้ำตาจริงๆ

“อู้ยยยย ซี้ดดด เจ็บไปทั้งตัวเลยว่ะ” มันพยุงผมขึ้นมานั่งพร้อมวางโจ๊กไว้บนโต๊ะเล็กให้

“แหมๆ เพื่อนกูโตเป็นสาวแล้วเว้ย อย่าลืมกินยาคุมฉุกเฉินนะมึง ฮ่าๆๆๆ”

“มึงอย่ามาพูดดี ทีตัวเองโดนไอ้ท๊อปมันสอยตูดล่ะ”

“ก็ไม่เป็นไร กูแข็งแรงเจ็บแป๊บเดียวก็หาย ไม่เหมือนมึงหรอกไม่เคยออกกำลังกายก็เงี้ยล่ะ”

“จ้าๆ แม่คนแข็งแรง วันนี้มึงไม่ไปเรียนหรอวะ” ผมถามเอ๋ที่อยู่ในชุดอยู่บ้านเรียบร้อย

“ไม่อะ พี่โทนฝากให้กูอยู่เฝ้ามึง” พอพูดชื่อที่โทนมามันก็ทำให้ผมหน้าแดงขึ้นมาเสียดื้อๆ

“เขินอะไรมึง มานั่งทำปากห้อยอยู่นั่น” ตบหน้าผากมันไปที ทำตูหมดมู้ดตลอด

“เออมึง พี่โทนเขามาถามกูเรื่องที่เขาอยากให้มึงย้ายไปอยู่คอนโดกับเขา มึงก็ลองคุยกับดูล่ะกัน”

“อ่าว แล้วถ้ากูย้ายมึงจะอยู่กับใครล่ะ” ผมถามมันด้วยความเป็นห่วง มันหันหน้ามามองผมที่นั่งมองมันอยู่เหมือนกัน

“กูถามจริงๆ มึงอยากไปอยู่กับพี่เขาไหม” ผมพยักหน้าตอบ

“ถ้าอยากอยู่ก็ไปอยู่แต่มึงต้องเคลียร์กะป๊าม๊ามึงด้วยนะ”

“อื้อ รู้แล้วล่ะน่า แล้วตกลงมึงจะอยู่ยังไงถ้ากูไม่อยู่ด้วยวะ?”

“เอ้า ถามแปลกๆ กูก็ไปอยู่กับผัวกูสิวะ” มันตอบพลางเดินไปนอนที่เตียงตัวเอง

“โอ้โห พูดว่าผัวได้เต็มปากเต็มคำ ไหนบอกไม่ได้เป็นอะไรกันไง แรดจริงๆ!” ผมปาหมอนใส่มันไปทีนึงก่อนเราจะหัวเราะให้กัน

“ตรึ้ง!”

"วันนี้ชาวเผือกขอเผือกใต้เตียงหน่อยนะค้า
ไม่รู้หรอกว่าห้องใคร รู้แต่คนที่นอนด้วยคือฟินสุดๆ
#ฝันดีนะเจ้าเด็กแคระ #ภายใต้แฟนนอนด้วยกัน

*แนบรูปหอมแก้มผมตอนหลับ*

ไลค์ 4k ไม่ชอบ 155 คน
คอมเม้นท์ 1: โอ๊ยยย ตายๆๆๆ ตายสงบศพสีชมพู
คอมเม้นท์ 2: ฮื่อออออ เขานอนด้วยกันล่ะมึง @จินตนาฟ้าดิน
คอมเม้นท์ 3: เพื่อนผมนี้มันร้าย
คอมเม้นท์ 4: มีใครสังเกตเห็นอะไรตรงคอน้องมั้ยคะ อ๊ากกกกก จะเป็นลม
คอมเม้นท์ 5: @คอมเม้นท์ 4 เห็นเหมือนกันค่ะ ตอนแรกก็คิดว่าไม่ใช่ แต่มองไปมองไปมามันคือใช่ 5555”


เฮร้ยยยย พี่โทนลงรูปตอนหน้าตาทุเรศอีกแล้ว น่าตาน่าเกลียดมากอะดีนะไม่นอนน้ำลายยืด และผมก็ไปสะดุดคอมเม้นท์ที่เขาบอกเห็นอะไรตรงคอ ผมเลยเปิดกล้องหน้าโทรศัพท์ดู อื้อหื้อ นี่หรือคือสภาพผม ใต้ตาช้ำส่วนปากนี้บวมแดงมาก พอมองลงมาที่คอ อ้ากกกกก รอยจูบเต็มเลย ไม่น่าล่ะคนในนั้นถึงเขียนบอกว่าที่คอมีรอย ฮื่อออออ พี่โทนนะพี่โทนคนอื่นเขารู้หมดเลย!

...................................................

TBC
เห็นพี่มันหงิ่มๆฟาดน้องเรียบนะ แต่แล้วยังไงล่ะก็เด็กมันก็น่ากินนน  :z2:

อีกไม่นานก็จะจบแล้วนะคะ ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะคะ ><
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 09-09-2021 17:55:37 โดย sk_bunggi »

ออฟไลน์ AkuaPink

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2033
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-1

ออฟไลน์ nightsza

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2035
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-1
พี่เปิดตัวขนาดนี้ เขารู้กันหมดแล้วน้องงง

ออฟไลน์ sk_bunggi

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 399
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
มีสติครั้งที่ 9

ตอนนี้ผมกำลังนอนเล่นอยู่ที่คอนโดพี่โทน หลังจากหลายอาทิตย์ที่ผ่านมาผมนอนโทรมเพราะเป็นไข้พี่โทนก็คุยเรื่องที่ให้ผมย้ายมานอนคอนโดเขาแต่ผมยังไม่ตกลงเพราะว่ายังไม่ได้ไปคุยกับที่บ้านเลย ก็เลยใช้เป็นมานอนบ้างบางวัน อีกอย่างหนึ่งถึงพี่โทนจะเคยคุยกับม๊าและอาม่าผมแต่เขาก็ยังไม่เคยเข้าไปอย่างเป็นทางการเพื่อไปเจอคนที่บ้านผมเลยแต่ผมก็คิดว่าคนอื่นไม่น่าปัญหายกเว้นป๊าผมนี่ล่ะ เฮ่อออ

“ว่านจะกลับบ้านอีกทีวันไหนนะ” คนที่นอนหนุนตักผมพูดขึ้น

“วันศุกร์นี้ครับ ทำไมหรอ” ผมตอบขณะที่เกาหัวคนบนตักไปด้วย

“พี่ว่าจะเข้าไปกับเราน่ะ ยังไม่เคยเข้าไปไหว้ผู้ใหญ่เลย”

“ครับ พี่เข้าไปพร้อมน้องก็ได้ เดี๋ยวโทรบอกเฮียก่อน” ผมกดต่อสายหาเฮียวิวทันทีหลังจากพี่โทนบอกจุดประสงค์ตนเอง

ตืด ๆ ๆ

“ว่าไงตี๋เล็ก"

“เฮีย น้องจะบอกว่าวันศุกร์นี้ไม่ต้องมารับนะ เดี๋ยวพี่โทนจะไปบ้านใหญ่ด้วย”

“โทน....อ๋อ น้องเขยเฮียอะหรอ คิดดีแล้วใช่เปล่าวะ ไม่กลัวป๊าไล่เอา?”

“โด่ววว ไม่กลัวหรอก มีม๊ากะอาม่าอยู่ทั้งคน อิอิ แค่นี้นะเฮียไว้เจอกัน”

“เออๆ ไว้เจอกันตี๋เล็ก...ตู๊ด ๆ ๆ”

“ผมโทรไปบอกเฮียให้ละ เดี๋ยวโทรไปบอกม๊าด้วยดีกว่า”

Video call: Ma’Ma

“ม๊า ทำไรอยู่” ผมตะโกนทักม๊าที่เปิดกล้องและส่งยิ้มมาให้

“ทำขนมอยู่ค่ะ น้องว่านอยู่ไหนเอ่ย”

“น้องอยู่ห้องพี่โทนครับ // สวัสดีครับม๊า” พี่โทนที่นอนอยู่ลุกขึ้นมาสวัสดีม๊าและเอาโทรศัพท์ผมไปถือเองซะงั้น

“ว่าไงคะสุดหล่อของม๊า เมื่อไหร่จะมาหาม๊ากับอาม่าซักที” อย่างที่เห็นครับ พี่โทนเป็นลูกรักม๊าผมไปแล้ว

“ครับ วันศุกร์นี้จะเข้าไปกับน้องครับ”

“โอเคค่ะ เดี๋ยวม๊าทำกับข้าวรอนะคะ พี่โทนจะนอนค้างด้วยไหม ม๊าจะได้เตรียมที่นอนไว้ให้” แหน่ะ ชี้โพรงให้กระรอกเฉยเลยม๊า

“ถ้าม๊าอนุญาตผมก็ไม่ขัดครับ” นี่ก็ไม่เคยปฏิเสธเลยนะ

“งั้นแค่นี้ก่อนนะคะ ม๊าไปทำขนมต่อแล้ว” พี่โทนคืนโทรศัพท์มาให้ผมหลังจากคุยกับม๊าเสร็จ

“พี่โทน เดี๋ยวตอน 11 โมงน้องจะเข้าม.นะ นัดกับเพื่อนไปทำรายงาน”

“อื้อ แต่ตอนนี้ขอทำอย่างอื่นก่อนได้ป่ะ” ร่างสูงหันมากอดเอวผมไว้แน่นดวงตาฉายแพรวพราว

“ทะ ทำอะไรครับ เมื่อคืนก็...เพิ่งทำไปเอง” ผมรีบจับมือใหญ่ที่ลูบอยู่แถวสะโพกให้หยุด

“นะครับ คราวนี้สัญญา รอบเดียวจริงๆ” อีรอบเดียวของพี่เนี้ยมันก็ปาไปจะเป็นชั่วโมงแล้วมั้ยยย

“นิดเดียวนะ น้องยังเจ็บอยู่เลย” แล้วพี่โทนก็ลุกขึ้นมาหอมแก้มผม

“จุ๊บ! รอบเดียวครับ แต่ถ้าว่านน่ารักมากๆก็ไม่แน่ หึๆ”

เสียงจูบของเราทั้งสองก็ดังขึ้นอีกครั้งก่อนที่ร่างสูงจะจับผมลอกคราบออก

“อื้ม...พี่โทน อย่าดูดแรงสิมันบวมหมดแล้ว” ผมรีบท้วงขณะที่เขากำลังโลมรันหน้าอกที่มันบวมเป่ง

“มันชี้หน้าพี่ตั้งหาก เลยต้องทำโทษมันหน่อย”

“พอแล้ว อื้อออ เดี๋ยวน้องไปสายนะ”

บอกคนพี่ที่มัวแต่ขย้ำและดูดหน้าอกทั้งสองข้างสลับกันไปมา ร่างสูงลากผมลงจากโซฟามาและนั่งคุกเข่าอยู่ด้านล่างก่อนจะดันตัวผมให้ราบไปกับที่นั่งโซฟา

“ตรงนี้ยังนิ่มอยู่เลย” พี่โทนร้องบอกก่อนจะดันลูกชายตัวดีเข้ามา

“อ๊ะ...พี่โทน..อื้อออ แรงอีก”

ปึก ปึก ปึก ....เสียงเนื้อกระทบเนื้อดังขึ้นเคล้ากับเสียงครางของผมลั่นห้องนั่งเล่น

“ทำไมเมียพี่น่ารักจัง”

พี่โทนก้มกระซิบข้างหูก่อนจะจับตัวผมไว้มั่นและกระแทกสวนมาอย่างแรง ผมที่ไม่ทันได้ตั้งตัวร้องออกมาเสียงหลง ส่วนอ่อนไหวปลดปล่อยออกมาโดยที่ยังไม่ได้มีการสัมผัสมันซักนิด

“ฮึก...ฮั๊ะ....พี่โทน น้องเสร็จ อ่า แล้ว” ผมบอกคนตัวสูงที่ยังตั้งหน้าตั้งตากระแทกไม่ลดละ

“ฮื่มมม..ขออีกนิด”

ผมถูกจับหน้ามาให้รับจูบก่อนจะถูกอุ้มขึ้นมาที่โซฟา ขาทั้งสองข้างถูกพาดไว้ที่หัวไหลกว้างก่อนเจ้าตัวจะกระแทกท่อนเอ็นเข้ามา มือหนาที่ว่างอยู่ก็ปลุกเร่าว่านน้อยที่เพิ่งพ่นน้ำไปให้กลับมาตื่นอีกครั้ง

“พี่ อ๊ะ ไม่ไหวแล้ว” ผมปล่อยออกมารอบที่สองทำให้ช่องทางขมิบแน่นจนคนด้านบนนิ่วหน้าเร่งความเร็วตามกันมาติดๆ

“เหนื่อยหรอครับ...ฮึ้บ ไปอาบน้ำกันดีกว่า”

พี่โทนอุ้มผมขึ้นไปอาบน้ำอย่างที่พูดจริงๆ ไม่งั้นผมมีหวังเดินขาสั่นจนคนเขาคิดว่าสันนิบาตกินเป็นแน่ เราทั้งคู่ใช้เวลาอาบน้ำแต่งตัวพอสมควรก่อนที่พี่โทนจะขับรถมาส่งผมที่มหาลัย
.
.

“เสร็จแล้วโทรมานะ เดี๋ยวพี่มารับ จุ๊บ” พี่โทนจูบผมก่อนจะขับรถออกไป

“ไอ้ว่าน ทางนี้ๆ” เอ๋ที่นั่งรวมกลุ่มอยู่กับคนอื่นๆเรียกผม

“แหน่ะ พี่โทนหรอวะ อิอิ” ใหมเพื่อนคนหนึ่งในกลุ่มถามขึ้น

“อื้อ เมื่อคืนไปนอนที่คอนโดมาน่ะ พี่เขาเลยพามาส่ง”

“หรอๆแล้วกูถามได้ป่ะ กูอยากรู้ว่าพี่เขาแซ่บมากป่ะ” ใหมคนดีคนเดิมที่ยังถามไม่เลิก

“ดูจากสภาพไอ้ว่านแล้ว กูว่าไม่ต้องถามก็ได้มั้งใหม ฮ่าๆๆ” ติ๊กเพื่อนสาวอีกคนแซวขึ้นเช่นกัน

“พอเลยพวกมึง พูดเรื่องอะไรกันเนี่ยเป็นสาวเป็นนาง” ผมรีบปัดมือไล่พวกผมให้เลิกถาม

“เออๆ เรารีบไปกันเถอะ เดี๋ยวเสร็จช้า”

พวกผมทั้งสี่ก็แยกย้ายกันไปหยิบยืมหนังสือที่จะเอามาทำรายงานที่ต้องรีบส่งก่อนสอบไฟนอล โดยหัวข้อก็ไม่ได้ยากแต่เนื้อที่กลุ่มผมทำมันค่อนข้างเยอะ กว่าจะรวบรวมหนังสือที่จะใช้ก็หมดเวลาไปเป็นชั่วโมง จนตอนนี้เวลาล่วงมาหกโมงเย็นแล้วพวกผมก็ยังพิมพ์งานกันไม่เลิก

“โอ้ยยยย เมื่อยเว้ย หิวด้วย” เอ๋ที่นั่งพิมพ์งานอยู่หันมาพูดอย่างเบื่อๆ

“เดี๋ยวเสร็จบทนี้ก็กลับกันได้แล้ว” ใหมที่นั่งพิมพ์งานจนหัวฟูเอ่ยขึ้น

โทน’เทคโนฯคอม: Calling

“ครับพี่โทน”

“ยังไม่เสร็จอีกหรอเรา หกโมงแล้วนะ”

“อีกนิดเดียวก็เสร็จแล้วครับ เดี๋ยวผมโทรบอกนะ”

“อยู่ตรงไหนกัน”

“อยู่ใต้ตึกคณะผมครับ แค่นี้ก่อนนะพี่โทนผมรีบทำงานก่อน” ผมวางสายก่อนจะหันไปเจอร่างที่คุ้นเคย

“อ่าวท๊อป มาได้ไง” ติ้กพูดขึ้นหลังจากที่เห็นไอ้ท๊อปมันเดินมาใกล้ๆ

“หวัดดี มาหาแฟนน่ะ ไลน์มาก็ไม่ตอบเลยมาเอง” มันว่าก่อนจะนั่งลงมากอดคอเอ๋ที่ทำหน้าเซ็งๆใส่

“อ๋อ ไหนล่ะแฟนแก ให้มานั่งด้วยกันสิ”

“ก็นี่ไง นั่งหน้าอมขี้อยู่เนี้ย ทำไมไม่ตอบไลน์กู?” ไอ้ท๊อปมันตอบติ้กและหันไปถามเอ๋ต่อ

“เอาจริงดิ!” สองสาวที่อยู่บนโต๊ะพูดขึ้นมาอย่างพร้อมเพรียงกัน

“ตายๆๆ เพื่อนกูแต่ละคนมีแฟนกันหมดแล้วแถมหล่อด้วย ทำไมเราสองคนยังไม่มีวะอิใหม เราจะต้องขึ้นคานกันแน่ๆเลยอ่ะมึง ฮื่อออออ” ติ้กพูดออกมาพร้อมเขย่าตัวใหมที่นั่งอ้างปากค้างอยู่

“ทำอะไรกันอยู่” และคนมาใหม่อีกคนก็เดินมาพร้อมถุงเสบียงถุงใหญ่

“พะ พี่โทน กรี๊ดดดดดด” เสียงสองสาวอีกเช่นเคยที่เงยหน้าขึ้นมามองคนมาใหม่แล้วกรีดร้องออกมา

“หวัดดีพี่/สะ สวัสดีค่ะ” เอ๋กับไอ้ท๊อปทักทายขึ้นมา ทำให้สองสาวที่กำลังตกใจรีบไหว้ตาม

“ทำไมถึงมาได้ครับ ผมบอกเดี๋ยวโทรไปบอกไง” ผมรีบจับแขนให้เขานั่งลงที่ว่างข้างๆกัน

“ไม่มีอะไรทำน่ะ เบื่อๆก็เลยแวะซื้อของมาให้ กินกันได้เลยนะ”

“ขอบคุณค่ะ วันนี้พี่โทนหยุดเรียนหรอคะ” ใหมที่กำลังแกะถุงขนมปังเอ่ยถามขึ้นมา

“อื้อ พี่ไม่ค่อยมีเรียนแล้วล่ะ เดือนน่าก็ต้องไปฝึกงานแล้ว”

หลังจากที่เติมพลังกันเรียบร้อยโดนมีไหมและเอ๋ที่ฟาดของกินเรียบก็รีบกลับมาตั้งหน้าตั้งตาทำรายงานกันต่อจนตอนนี้เวลาก็ปาไปสองทุ่มกว่าแล้ว พวกเราเลยลงความเห็นกันว่าค่อยมาต่อกันอีกพรุ่งนี้โดนนัดกันเป็นเวลาเดิม เอ๋ไปกับไอ้ท๊อปที่ขี่มอเตอร์ไซค์คันเดิมมารับ ส่วนสองสาวพี่โทนอาสาไปส่งที่บ้านก่อนจะวนรถกลับมาที่คอนโดตัวเองต่อ
.
.

“กูไปก่อนนะพวกมึง เดี๋ยวต้องกลับบ้านวันนี้” ผมบอกเพื่อนๆที่ยังนั่งพิมพ์งาน

“เออๆได้ ยังไงส่วนของมึงก็เสร็จแล้ว ไว้เจอกันเว้ย”

ใหมที่กำลังเซฟงานส่วนของวันนี้พูดขึ้น ผมพยักหน้ารับก่อนจะโบกมือลาเพื่อนๆและรีบวิ่งไปหาพี่โทนที่รออยู่ที่รถ ระหว่างทางไปบ้านผมพี่โทนก็พาแวะเข้าห้างเพื่อไปซื้อของฝากให้ที่บ้าน จริงๆผมบอกว่าไม่ต้องซื้อก็ได้แต่เขาบอกว่าจะไปไหว้ผู้ใหญ่ไม่มีอะไรติดไม้ติดมือไปมันจะน่าเกลียด

“ป๊า ม๊า อาม่า น้องกลับมาแล้วววว” ผมรีบเดินเข้ามาหาทุกคนที่กำลังนั่งล้อมวงอยู่ที่โต๊ะอาหาร

“มากันแล้วหรอ มาๆได้เวลาทานข้าวพอดี แล้วนั้นถืออะไรเยอะแยะเลยลูก” ม๊ารีบเดินมาหาพี่โทน แงงงงง ลืมผมอีกแล้ว
 
“กำลังหิวอยู่พอดีเลย เฮียวิวพี่สาย หวัดดีครับ” ผมไหว้พี่สายพี่สะใภ้และเฮียวิวที่กำลังเตรียมโต๊ะอาหารสำหรับมื้อเย็น

“พี่โทนกินเยอะๆเลยนะคะ วันนี้ม๊าทำสุดฝีมือเลย” ม๊ารีบอวดอ้างตัวเองจนป๊าทำเสียงฟึดฟัด

“ขอบคุณครับ น่าทานทุกอย่างเลย”

พี่โทนก็ใช่ย่อย เอ่ยชมอาหารที่ม๊าทำให้อย่างสุดฝีมือ เราทุกคนกินไปคุยไปแต่ส่วนใหญ่คนที่บ้านจะคุยกับพี่โทนซะมากกว่า TT ฮืออออ น้องว่านถูกลืมโดยสมบูรณ์แล้วครับ

“ม๊าเตรียมที่นอนในห้องให้แล้วนะคะ ส่วนนี่เป็นผ้าขนหนูกับแปรงสีฟัน ตามสบายเลยนะพี่โทน”

ม๊าจัดแจงทุกอย่างให้พี่โทนก่อนเดินไปที่ห้องของตัวเอง

“พี่โทนจะอาบน้ำก่อนน้องมั้ย จะได้เตรียมเสื้อผ้าออกมาให้”

“อาบด้วยกันได้ไหมล่ะ จะได้ไม่เสียเวลา”

“นี่แหน่ะ! ทะลึ่ง เข้าไปอาบก่อนเลยไป”

ผมโยนเสื้อผ้าที่ใส่นอนให้พี่โทนก่อนที่เขาจะเดินหัวเราะเข้าห้องน้ำไป เสร็จแล้วผมก็เข้าไปอาบน้ำต่อ

“พี่โทนจะคุยเรื่องให้ย้ายกับป๊าม๊าตอนไหนหรอ” ผมถามขึ้นหลังหลังจากทำธุระส่วนตัวกันเสร็จเรียบร้อย

“ก็คงพรุ่งนี้ล่ะ เดี๋ยวบ่ายๆพี่จะกลับแล้ว เพื่อนพี่มันนัดกินเลี้ยงน่ะ” พี่โทนบอกพลางหันแชทที่คุยกับเพื่อนมาให้ผมดู

“อื้อ เดี๋ยวน้องให้เฮียไปส่งก็ได้ ยังไงก็กลับวันอาทิตย์อยู่แล้ว...พี่โทนหันหน้ามาหน่อย แชะ!”

ผมกดถ่ายรูปคนข้างๆที่หันมาตามเสียง แต่ที่ผมงงคือขนาดถ่ายแบบเผลอๆทำไมมันออกมาดูดีไม่ดูน่าเกลียดเหมือนผมอะ เซ็งคนหล่อเฟ้ยยยย

“เอาใหม่ เรามาถ่ายกับพี่สิ”

พี่โทนพูดขึ้นก่อนจะเลื่อนเอาคางมาเกยหัวผมแทน โอ้วววว รูปนี้โมเม้นท์แฟนก็มาอะ ไม่เคยมีรูปดีๆด้วยกันเลยซักครั้ง

“ThanaTTThip tagged in Ton’Prechakorn a post….

พาคุณชายมานอนนอกบ้าน

*แนบรูปพี่โทนเอาคางเกยหัวผม*

พี่โทนหยิบโทรศัพท์ตัวเองขึ้นมาดูก่อนยิ้ม เราคุยและนอนเล่นนิดหน่อยก่อนเราทั้งคู่จะนอนกอดกันหลับไปทั้งคืน
.
.

“ม๊า เดี๋ยววันนี้พี่โทนเขาจะกลับช่วงบ่ายๆนะ” ผมบอกม๊าหลังจากที่เรากำลังนั่งกินข้าวด้วยกัน

“อั้ยหยา ทำไมกลับเร็วจังล่ะ” ม๊าอุทานออกมาอย่างเสียดาย

“พอดีผมมีนัดน่ะครับม๊า” พี่โทนตอบม๊าอย่างสุภาพ ก่อนที่จะหันมามองผมเหมือนสัญญาณบางอย่าง

“คือ ป๊าม๊า พี่โทนมีเรื่องจะคุยด้วยอะ”

ผมพูดเกลิ่นขึ้นมาให้ ทำให้ทั้งสองหันมาพร้อมกัน เฮียวิวที่นั่งดูทีวีอยู่ก็หันหน้ามาเหมือนกัน

“พี่โทนมีอะไรหรอคะ” ม๊าที่เดินเอาผลไม้มาวางหลังจากกินข้าวกันเสร็จเอ่ยขึ้น

“พอดีผมจะขออนุญาตป๊ากับม๊า ผมอยากให้น้องย้ายไปอยู่คอนโดกับผมน่ะครับ”

“ห๊ะ อั้วไม่อนุญาต! อะไรกัน อยู่ๆจะไปอยู่กับผู้ชายได้ยังไง” ป๊าผมรีบโวยวายขึ้นหลังจากได้ยิน

“ป๊าลืมไปเปล่าว่าตี๋เล็กมันก็ผู้ชายนะ ฮ่าๆๆ”

เฮียวิวที่นั่งฟังตะโกนขึ้นแทรก และก็เหมือนป๊าเพิ่งนึกได้ว่าผมเป็นลูกชายไม่ใช่ลูกสาว เหอๆ

“ป๊าอะ นะๆๆเดี๋ยวเอ๋มันก็ย้ายออกไปอยู่กับแฟนมันเหมือนกัน ไม่งั้นน้องต้องอยู่คนเดียวเลยนะ” ผมรีบอ้อนป๊าทันที

“ป๊าม๊าไม่ต้องห่วงนะครับ เวลาเดินทางผมก็ไปส่งไปรับน้องให้เหมือนปกติ”

“อาโก๋ หลานอั๊วมันก็โตแล้ว อาโทนก็บอกอยู่ว่าไม่ต้องเป็นห่วง ลื้อจะอะไรนักหนา"

บร๊ะ! อาม่าออกโรงช่วยพูดอีกแรงแบบนี้ มีหรอครับที่ป๊าผมจะปฏิเสธ

“เหอะ ก็ได้!” เยสสส!

“ช่างป๊าเถอะ เดี๋ยวเขาก็หายโหรธ แล้วจะไปเก็บของเมื่อไหร่กันให้เฮียไปช่วยมั้ยคะ” ม๊าหันมาถามผม

“ไม่เป็นไรครับ ของน้องไม่น่าจะเยอะเดี๋ยวผมขนไปเอง”

ม๊าพยักหน้ารับก่อนเราจะคุยอะไรกันเรื่อยเปื่อย ก่อนที่พี่โทนจะกลับม๊าผมก็เตรียมของกินไว้ให้พี่เขาเพื่อเอากลับไปไว้ที่คอนโดให้เสร็จสรรพ

...................................................
TBC ค่าาา 
น้องมันก็ร้ายพอกัน ริอาจจะหอบผ้าผ่อนไปนอนกับปู้จายยยย
ไม้เรียวในมือนี่สั่นเลย!!!
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 09-09-2021 20:23:53 โดย sk_bunggi »

ออฟไลน์ sk_bunggi

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 399
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
มีสติครั้งที่ 10 ตอบจบ

หลังจากที่ป๊าม๊าอนุญาตอาทิตย์ต่อมาพี่โทนก็พาผมย้ายของออกจากหอเพื่อไปยังคอนโดของเขา วันนี้ผมกับเอ๋นัดกันเพื่อย้ายของออก ส่วนเอ๋มันก็มาขนของไปอยู่ห้องแฟนมันเหมือนกัน หลังจากขนของเสร็จผมและมันไปที่นิติเพื่อขอย้ายออกและยกเลิกการเช่าห้อง

“มีแค่นี้ใช่ ไม่ลืมอะไรแล้วนะ”

พี่โทนที่ช่วยขนของลงมาเอ่ยถามก่อนจะเดินขนกล่องใบสุดท้ายไปไว้ที่ท้ายรถ ของที่ผมมีนั้นก็ไม่ได้อะไรมากมาย ส่วนมากจะเป็นหนังสือเรียนซะส่วนใหญ่และก็ของใช้ส่วนตัวอยู่ส่วนหนึ่งเท่านั้น บางอย่างผมก็ต้องจำใจทิ้งไปเพราะพี่โทนบอกว่าอะไรไม่จำเป็นก็เอาไปทิ้งค่อยหาซื้อใหม่ก็ได้

“เอ๋ กูไปก่อนนะมึง ขอบคุณที่มาช่วยขนนะ ท๊อปกูฝากดูแลเพื่อนกูด้วยนะ ฮึก”

บ่อน้ำตาตื้นครับ เหมือนตัวเองกำลังออกจากอ้อมอกแม่ซะงั้น ก็ทำยังไงได้ล่ะ ผมอยู่กับมันมาทั้งหลายปี แต่ก็ก็ต้องมาจากกันเพราะผู้ชาย เอาเถอะ ยังไงผมก็เห็นผู้ชายสำคัญกว่าครับ แฮ่ะๆ

“เออออ มึงจะร้องทำไม ยังไงเราก็ยังเจอกันอยู่ไหมวะ ไม่ได้ลาจากกันไปไหน เดี๋ยวปั๊ดตบหัวทิ่ม”

เอ๋มันว่าผมที่กำลังกอดมันอยู่ก่อนพี่โทนจะเดินมาหา และเราทั้งสี่ก็ลากันก่อนที่จะแยกไป
.
.

ตอนนี้พวกเราขับมาถึงคอนโดแล้ว พี่โทนเดินไปที่รีเซปชั่นพร้อมพนักงานคนหนึ่งที่มาช่วยขนห้องขึ้นไปบนห้อง หลังจากขนเสร็จพี่โทนก็พาผมเดินเอาของเข้ามาเก็บที่ห้องทำงานพี่เขาก่อนที่ผมจะจัดพวกเสื้อผ้าเข้าตู้และสิ่งของอื่นๆให้เป็นที่เป็นทาง

Ma’Ma: Video call

“น้องว่านถึงไหนแล้วคะ”

“น้องถึงห้องพี่โทนแล้วครับ เพิ่งขนของขึ้นมาห้องสักพัก”

“โอเคค่ะ ขาดเหลืออะไรบอกนะคะ เดี๋ยวม๊าโอนเงินไปให้”

“อืมมม ตอนนี้ไม่มีอะไรที่อยากได้นะม๊า ยังไม่ต้องโอนมาก็ได้ครับ”

“ได้ค่ะ พี่โทนอยู่ไหนล่ะไม่เห็นพี่เขาเลย” แหน่ะ ถามหาลูกรักอีกละ

“พี่โทนเดินเข้าไปเก็บของในห้องให้น้องครับ”

“งั้นม๊าไม่กวนละ อย่าไปกวนพี่เขาให้มากนะลูก รักน้องว่านนะคะ”

หลังจากวางสายม๊าเสร็จพี่โทนก็เดินออกมาพอดี เขาชวนผมไปที่ห้างใกล้ๆเพื่อซื้อของใช้ส่วนตัวที่จำเป็น ระหว่างขับรถออกมาเราก็คุยกันไปเรื่อยเปื่อยจนผมนึกอะไรขึ้นมาได้เลยถามเขาออกไป

“พี่โทน แล้วพ่อกับแม่พี่โทนรู้เรื่องน้องรึเปล่า” ผมลืมไปเลยว่าเราไม่เคยพูดถึงเรื่องที่บ้านพี่เขาเลย

“อือ พี่เคยบอกไปแล้วล่ะ แต่พี่อยากทำอะไรให้เสร็จก่อนค่อยพาไปน่ะ”

“แล้ว แล้วที่บ้านพี่โทนไม่ว่าหรอครับ” พี่โทนที่กำลังขับรถเอื้อมมือที่ว่างมาจับหัวผมโยกไปมาก่อนจะส่งยิ้มบางๆมาให้

“ไม่ต้องห่วงหรอก มีพี่อยู่ตรงนี้” ผมพยักหน้ารับก่อนจะจับมืออุ่นที่ส่งผ่านมาให้ก่อนที่จะหันไปขับรถตามเดิม

เมื่อว่าถึงห้าง เราทั้งสองก็เดินดูของไปเรื่อยๆทั้งของใช้ที่จะใช้ร่วมกันและแวะซื้อของกินทั้งของสด ของคาวและของหวาน ส่วนผมก็เดินตามคนตัวสูงพร้อมแอบถ่ายเขาไปด้วย ก็นี่เป็นครั้งแรกที่ผมกับเขาได้มาเดินด้วยกันนี่ครับ ขอเก็บภาพพ่อบ้านที่จับนู้นหยิบนี้ไว้หน่อยเถอะ หลังจากเราซื้อของเสร็จก็แวะหาอะไรทานและมุ่งหน้ากลับคอนโด

“พี่โทนไม่เมื่อยหรอ เดินซะเยอะเลย” ผมเอ่ยแซวขณะที่คนตัวสูงถือของพะลุงพะลังเดินเข้ามาในตึก ผมเลยรีบเดินไปกดลิฟต์ให้

“ก็เมื่อยนะ แต่เห็นเรามีความสุขพี่ก็หายแล้ว” ผมยิ้มให้พี่เขาก่อนเราจะช่วยขนของเข้าไปในห้อง

“Ton’Prechakorn tagged in ThanaTTThip a post….

เด็กแคระสนุกใหญ่

*แนบรูปผมที่เดินซื้อของและกำลังจัดของในห้อง*

ไลค์ 800 คน ว้าว 50 คน
ปืนใหญ่’เทคโน: เฮ้ยๆ มีซื้อขงซื้อของเข้าบ้านด้วย
TsTkrom: อิจฉาคนมีเมียเว้ย
MAI’naja: เบื่อคนมีแฟนจริงจริ้งงง
Ae_Anija: สวีทใหญ่
ThanaTTThip: แอบถ่ายตอนไหนเนี้ย ><


ผมนอนเล่นโทรศัพท์อยู่ในห้องนอนก็มีข้อความแจ้งเตือนมาในโพสต์ เป็นรูปที่พี่เขาแอบถ่ายผมตอนเลือกของใช้และตอนเก็บของเข้าตู้เย็น แฟนผมก็มีมุมน่ารักนะครับ ผมมองออกไปที่ระเบียงที่มีคนร่างสูงยืนคุยโทรศัพท์อยู่ คืนนี้เป็นคืนแรกที่ได้มาอยู่ที่นี้อย่างเต็มตัว ถึงผมจะเคยมาบ้างแล้วแต่ก็รู้สึกเขินๆอยู่เหมือนกัน แต่ผมมีความสุขมากๆเลยล่ะเพราะมันหมายถึงทุกวินาทีต่อจากนี้ไปผมจะได้ใช้ชีวิตร่วมกับเขา ไม่ว่าจะตอนตื่นนอนหรือก่อนนอนผมก็จะเจอพี่เขาเป็นคนแรกและคนสุดท้ายของวัน อ้ายยยย เขินจังเลย ผมเผลอมองเขาอยู่อย่างนั้นจนพี่เขาคุยเสร็จก่อนจะเปิดประตูเข้ามาในห้องนอน

“ทำไมเอากระต่ายเน่ามาด้วย?” พี่โทนถามและดึงน้องเน่าออกจากผม

“ฮื้อออออ พี่โทน เอาคืนมา” กลายเป็นศึกชิงตุ๊กตาเน่าแล้วครับตอนนี้

“พี่เคยบอกแล้วไงว่าให้กอดพี่แทน เอาไอ้เน่านี้ทิ้งไปได้ละ”

และน้องเน่าผมก็โดนพี่โทนโยนทิ้งไปนอนแผละอยู่ที่พื้นก่อนมือใหญ่จะดึงผมให้มานอนกอดเขาแทน

“เมื่อกี้พี่คุยกับที่บ้านว่าวันเสาร์นี้จะพาเราเข้าไป โอเคไหม” พี่โทนขณะที่เรานอนกอดกันอยู่

“ครับ ไปค้างด้วยมั้ย”

“ไม่หรอก แค่พาไปแนะนำน่ะ เสร็จค่อยไปบ้านเราต่อ”

“อื้อ งั้นนอนกันเถอะ น้องง่วงแล้ว” ผมขยับเข้าไปซุกอกคนตัวโตก่อนจะเข้าสู่นินทรา

.
.

“ตื่นเต้นหรอ เหงื่อออกเยอะเชียว” พี่โทนแซวก่อนจะปาดเหงื่อที่ไรผมออกให้

“ก็ตื่นเต้นครับ ไม่รู้พวกท่านจะชอบน้องหรือเปล่า” ผมว่าไปตามความจริง

ตอนนี้ผมกับพี่โทนอยู่ในรถซึ่งกำลังมุ่งหน้าไปบ้านของร่างสูงที่กำลังขับรถอยู่ เราออกจากคอนโดตอน 8 โมงและแวะซื้อของไปให้ผู้ใหญ่เล็กน้อยพอเป็นพิธี ขณะนั่งขับรถพี่โทนก็เล่าถึงสมาชิกให้ฟังว่าที่บ้านจะมีคุณพ่อคุณแม่เขาอยู่ คุณพ่อพี่โทนเป็นสถาปนิก ส่วนคุณแม่ท่านเป็นลูกหลานตระกูลเก่าส่วนใหญ่จะชอบไปงานกุศลและเป็นหุ้นส่วนอยู่หลายที่ซึ่งหนึ่งในนั้นก็รวมกับบริษัทบ้านของพี่เมย์ด้วย พี่โทนมีพี่สาวอยู่หนึ่งคนชื่อพี่ทิพย์ แต่ตอนนี้ย้ายไปรับช่วงต่อของบริษัทที่บ้านในต่างจังหวัดนานๆถึงจะกลับเข้ามาที ที่บ้านจะมีแม่บ้านอยู่สองคนที่คอยรับใช้ท่านทั้งสองและเป็นคนดูแลพี่สาวกับพี่โทนมาตั้งแต่เด็กๆ ผมนั่งฟังอย่างใคร่รู้จนตอนนี้ขับมาร่วมชั่วโมงก็มาจอดอยู่หน้าบ้านหลังหนึ่งก่อนที่พี่โทนจะกดรีโมทเปิดประตูบ้านและเข้าไปจอดรถในโรงรถ

“โอ้โห บ้านพี่โทนดูดีมากเลยอะ”

ผมมองดูบ้านสไตล์โมเดิร์นที่ด้านหน้าเป็นกระจกใสทั้งบานที่มีผ้าม่านบางๆปิดด้านในไว้ รอบๆมีต้นไม้ปกคลุมเหมือนเป็นรั้วกั้นบ้านอีกชั้น

“ไปกันเถอะ ข้างนอกมันร้อน” พี่โทนบอกก่อนจะเดินจับมือผมเข้าไปในบ้าน

“คุณโทนกลับมาแล้วหรอคะ เดี๋ยวน้าไปเอาน้ำเย็นๆมาให้นะคะ” หญิงสาวคนหนึ่งเดินมารับพี่โทนก่อนจะส่งยิ้มมาให้ผมด้วยเช่นกัน

“หายไปไหนกันหมดหรอน้าดา”

“คุณท่านทั้งสองนั่งอยู่ในสวนหลังบ้านค่ะ คุณโทนเข้าไปพบได้เลย เดี๋ยวน้านำน้ำไปให้ค่ะ”

พี่โทนพยักหน้ารับก่อนจะเดินออกไปยังด้านหลังบ้านที่เป็นสวนย่อมและมีศาลาเล็กๆตั้งไว้ ผมเห็นตรงชิงช้ามีผู้ใหญ่ทั้งสองนั่งอยู่ นั้นคงเป็นพ่อกับแม่ของพี่โทน

“คุณพ่อคุณแม่สวัสดีครับ”

พี่โทนยกมือไหว้ท่านทั้งสองก่อนที่ท่านจะเงยหน้าขึ้นมามอง ผมค่อนข้างต้องตกใจเพราะคุณพ่อเขามีโครงหน้าและใบหน้าคมคายที่ไม่ต่างกันกับคนร่างสูงนัก ไม่แปลกใจที่พี่โทนจะดูดี ถ้าพี่โทนแก่ตัวมาคงเหมือนพ่อเขาน่าดู แต่สายตาดุดันกลับได้จากคนเป็นแม่ที่มองมาทางผมอย่างพิจารณา

“คุณพ่อคุณแม่ นี่ว่านแฟนผมที่เคยเล่าให้ฟังครับ”

พี่โทนแนะนำผมให้ท่านทั้งสอง ผมรีบยกมือไหว้ท่านทั้งสองก่อนที่คุณพ่อจะยิ้มออกมาให้ต่างจากคุณแม่ที่ยังคงทำท่าทางเฉยเมิน

“สะ สวัสดีครับคุณลุงคุณป้า”

“สวัสดีลูก อ่าว คุณหญิง ลูกไหว้ก็รับไหว้ลูกหน่อยสิ” คุณพ่อหันไปบอกคุณแม่ที่นั่งอ่านหนังสือไม่สนใจก่อนที่ท่านจะเอียงหน้ามาและยกมือรับไหว้น้อยๆ

“เชิญตามสบายเลย มากันเหนื่อยๆทานน้ำทานขนมก่อนสิ” คุณพ่อที่เอ่ยชวนขณะน้าดานำของว่างมาเสิร์ฟ

“ครับ ขอบคุณครับ” ผมขานรับก่อนนะรับที่น้าดายื่นขึ้นมาให้

“แล้วเป็นยังไงบ้างย้ายไปที่คอนโดเจ้าโทน ติดขัดอะไรไหม?” คุณพ่อชวนคุยให้ผมคลายอาการเกร็ง

“ไม่ครับ ทุกอย่างเรียบร้อยดี บ้านคุณลุงสวยมากๆเลยนะครับ ต้นไม้และดอกไม้สวยๆเยอะเลย ร่มรื่นดีด้วย”

“เรียกพ่อเหมือนเจ้าโทนเถอะ บ้านนี้พ่อออกแบบให้เป็นของขวัญแต่งงานกับคุณหญิงน่ะ เขาชอบบ้านที่มีสวนเอาไว้ปลูกต้นไม้เยอะๆ พ่อก็เลยออกแบบสวนหลังบ้านให้เขาปลูกต้นไม้และดอกไม้ที่ชอบ”

“โหหห โรแมนติกจังเลยนะครับ คุณหญิงเป็นผู้หญิงที่โชคดีจริงๆ” ผมยิ้มส่งไปให้ท่านก่อนที่คุณแม่จะหันหน้ามาในบทสนทนาด้วย

“ก็ลองไม่ถูกใจสิ แม่ไม่มาอยู่ด้วยหรอก” มะ แม่! ผมฟังไม่ผิดใช่มั้ยครับ ผมหันไปหาพี่โทนที่นั่งอยู่ข้างกันก่อนเขาจะยิ้มกลับมาให้

พวกเรานั่งคุยกันอยู่ที่สวนสักพักก่อนป้าใจคนรับใช้เก่าแก่ของบ้านพี่โทนจะมาตามให้ไปทานข้าวเที่ยงกัน ท่านทั้งสองชวนผมคุยทั้งเรื่องความเป็นอยู่เรื่องเรียนและเล่าเรื่องพี่โทนสมัยเด็กๆให้ฟัง จนเวลาล่วงมาบ่ายสามโมงพวกผมถึงขอตัวกลับเพราะต้องไปบ้านผมต่อ ผมล่ำลาท่านทั้งสองก่อนที่ท่านจะบอกให้ผมแวะมาบ่อยๆไม่ต้องเกรงใจ ผมดีใจมากๆครับที่เขาไม่คิดรังเกลียดคนอย่างผม วันนี้ผมมีความสุขมากๆเลย

....................................................

“ถึงบ้านแล้ววว พี่โทนเหนื่อยมั้ย ขับรถทั้งวันเลย” คนตัวเล็กลุกขึ้นมานั่งนวดขาให้ผมที่นอนอยู่บนเตียง

“ไม่หรอก ว่านมานอนนี่มา” ผมกางแขนออกและเรียกให้น้องลงมานอนข้างๆ

“มีความสุขมั้ยวันนี้” ผมถามน้องและก้มลงไปจูบหน้าผากเล็กๆ

“อื้อ มากๆเลยครับ ขอบคุณพี่โทนมากๆนะที่ทำเพื่อน้อง รักพี่โทนนะครับ” น้องเงยหน้าขึ้นมาก่อนจะจูบปากผม

“พี่ก็มีความสุขมากเหมือนกัน ขอบคุณที่เข้ามาในชีวิตพี่นะครับเด็กแคระ รักว่านเหมือนกัน”

ผมบอกก่อนจะที่เราจะกอดกันแน่น ผมสัญญากับตัวเองว่าต่อจากนี้ผมจะดูแลความรักของผมครั้งนี้ให้ดีที่สุดเท่าที่ผมจะทำได้

.
.

เวลาล่วงเลยผ่านไปจนตอนนี้ผมเรียนจบปี 4 แล้ว ช่วงนี้ผมก็ยุ่งมากเพราะทำเรื่องเรียนจบและไหนจะต้องรับปริญญาอีก
 
“พี่โทนลืมของอะไรมั้ย” คนตัวเล็กที่เดินง่วนหน้าง่วงหลังถามผม

“พี่หยิบใส่กระหมดแล้ว ไปกันเถอะ”

น้องพยักหน้ารับก่อนจะเสนอเป็นสารถีให้ผม อ้อ ตอนนี้น้องขับรถเป็นแล้วและมีใบขับขี่เรียบร้อยเพราะผมบังคับให้น้องทำจะได้ขับไปไหนมาได้ถ้าผมไม่ว่างไปรับไปส่ง และอีกอย่างพ่อผมยกรถญี่ปุ่นคันเล็กที่ไม่ได้ใช้ให้น้องเป็นของขวัญเล็กๆน้อยๆที่คบกับผม และตอนนี้น้องก็ขับรถคันนั้นที่ได้มาส่งผมจนถึงหอประชุม น้องมองหาที่จอดรถใกล้ตึกที่ผมต้องลงทะเบียนก่อนจะรีบพาผมไปลงทะเบียนบัณฑิตตามเวลาที่เขากำหนด

“พี่โทน เก๊กหล่อหน่อย แช่ะ! หล่อมากกก น้องไปหาที่นั่งรอข้างนอกนะ เสร็จแล้วโทรมา” น้องยิ้มก่อนจะโปกมือลาให้


“ThanaTTThip tagged in Ton’Prechakorn a post….

ดีใจกับบัณฑิตจบใหม่ด้วยน้า เก่งมากๆ : )

*แนบรูปผมใส่ชุดครุยยืนยิ้ม*

ผมยิ้มให้กับรูปที่น้องแท๊กมาให้ ก่อนอาจารย์จะเรียกบัณฑิตทุกคนเข้าไปในหอประชุม ใช้เวลานานพอสมควรกว่าคณะผมจะรับเสร็จก็ปาไปบ่ายโมงแล้ว ตอนนี้บัณฑิตทุกคนที่รับช่วงเช้าทยอยออกจากหอประชุมเรียบร้อยแล้วและบัณฑิตที่รับช่วงเย็นก็เริ่มมารวมตัวกันหน้าหอประชุม ผมรีบโทรหาน้องและบอกให้น้องเดินมาหาผมที่หน้าหอประชุมที่ตอนนี้มีทั้งรุ่นน้องรุ่นพี่ที่รู้จักยืนล้อมร่วมแสดงความยินดีกันอยู่

“เฮ้ยไอ้โทน เสร็จนี่ไปไหนเปล่า” ไอ้ภัทรเพื่อนสนิทผมถามขึ้น

“ไม่ว่ะ เหนื่อยๆว่าจะกลับไปนอนแล้ว ว่านมาแล้ว กูกลับก่อนนะพวกมึง”

“เดี๋ยวดิ ถ่ายรูปกันก่อน เฮ่ยๆ พวกเรามาๆ” ไอ้ปืนเพื่อนอีกคนก็พูดขึ้นเรียกเพื่อนๆทุกคนให้มาถ่ายรูปรวมกัน

“ว่านเข้ามาถ่ายกับพี่มา” ผมชวนน้องที่ถือช่อดอกไม้อยู่ในมือให้เข้ามาถ่ายกับผม

“ให้พี่โทนนะ ยินดีด้วยครับ”

น้องยื่นช่อดอกไม้ที่ถือไว้ให้ผมก่อนจะยื่นมือไปคว้าน้องมาจูบขอบคุณ คนตัวเล็กก้มหน้าเขินอายเพราะเพื่อนที่อยู่รอบๆเอ่ยแซวเราอยู่ ผมกับน้องและเพื่อนๆถ่ายรูปกันนิดหน่อย เสร็จแล้วผมก็ขอตัวกลับทันทีเพราะตอนนี้เหนื่อยมากๆ พวกเราเข้ามาในรถที่จอดอยู่โดยมีน้องเป็นคนขับเหมือนเดิม

“พี่โทนหิวมั้ย ให้แวะหาอะไรกินรึเปล่า” ผมส่ายหน้าตอบน้องก่อนจะของีบหลับระหว่างกลับ
.
.

“พี่โทนถึงแล้ว ขึ้นไปก่อนเลยเดี๋ยวน้องถือของขึ้นไปให้” น้องปลุกผมขณะกำลังจะจอดรถในคอนโด

“ไม่เป็นไรเดี๋ยวพี่ถือขึ้นไปเอง เราเดินไปกดลิฟต์รอเลย”

น้องพยักหน้าก่อนเดินนำหน้าผมไปที่ลิฟต์ ผมหยิบของที่ได้ก่อนจะล็อครถและเดินตามคนตัวเล็กไป พอถึงห้องน้องก็จัดแจงถอดชุดให้ผมและเดินไปเก็บของให้เรียบร้อย ผมรู้ว่าน้องก็เหนื่อยเพราะตัวเขาเองก็ตื่นเร็วพอๆกับผมไหนจะนั่งรอและขับรถให้อีก

“พี่โทนหิวมั้ย เดี๋ยวน้องทำกับข้าวให้” ผมเดินไปกอดน้องที่ยืนอยู่ตรงโซนทำกับข้าว

“พี่ยังไม่หิวเลย มานี่มา” ผมเดินพาน้องมานั่งที่โซฟาก่อนจะจับคนตัวเล็กหันหน้ามาหากัน

“พี่มีอะไรจะให้เราด้วยนะ” น้องทำหน้างงๆก่อนจะมองมายังสิ่งของที่ผมหยิบออกมาให้

“พะ พี่โทน”

น้องร้องออกมาเมื่อเห็นผมถือกล่องกำมะหยี่สีแดงขึ้นมาและเปิดมันออก มันคือแหวนคู่ทองคำขาวที่ผมสั่งทำไว้ก่อนจะรับปริญญา ข้างในแหวนสลักตัวย่อชื่อจริงของผมกับน้องไว้ทั้งคู่ ผมอยากให้น้องรู้ว่าผมรักเขามากแค่ไหน

“พี่สวมให้นะ แหวนนี้จะเป็นของแทนใจว่าพี่รักว่านมากนะครับ สวมให้พี่ด้วยสิคนดี”

ผมสวมแหวนที่นิ้วนางข้างขวาให้น้องและยื่นมือไปเช็ดน้ำตาให้คนตัวเล็ก ก่อนที่น้องจะจับมือขวาผมและสวมแหวนที่นิ้วนางให้เช่นกัน

“ฮึก พี่โทน ฮื่อ รักพี่โทนนะ รักมากๆด้วย” ผมโอบกอดคนตัวเล็กที่ร้องไห้ออกมา

“พี่ก็รักว่านครับ พี่ขอหมั้นไว้ก่อน ถ้าเราเรียนจบเมื่อไหร่พี่จะไปขอนะ”

น้องพยักหน้าก่อนเงยหน้าขึ้นมาจูบผม จูบที่ทำให้รู้ว่าเรารักกัน จูบที่มอบให้แก่คนที่เรารัก จูบของคนที่เป็นคู่ชีวิตและเป็นจูบที่พวกเราจะมอบให้กันต่อจากนี้และตลอดไป

Ton’Prechakorn tagged in ThanaTTThip a post….

ขอบคุณที่อยู่ด้วยกันเสมอ Beloved

*แนบรูปแหวนคู่*



THE END

....................................................

จบแล้วค้า ขอบคุณที่เข้ามาอ่านมากๆนะคะ
เป็นครั้งแรกที่มาเขียนเรื่องยาวๆอาจจะไม่โดนใจใครหลายๆคนก็เป็นได้ 555
ยังไงก็ขอบคุณที่เข้ามาอ่านผลงานของเรานะค้า  :กอด1:

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13-06-2020 11:12:37 โดย sk_bunggi »

ออฟไลน์ AkuaPink

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2033
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-1

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ nightsza

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2035
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-1
รักกันนานๆนะ ดูแลน้องดีๆล่ะ

ออฟไลน์ Keane

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 247
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +192/-0

ออฟไลน์ sugarcane_aoi

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 302
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0
เนื้อเรื่องน่ารักดีค่ะ กระชับ อ่านแล้วเพลินๆดี ว่านโก๊ะๆแต่น่ารัก พี่โทนก็ชัดเจนดี ขอบคุณมากค่ะ :pig4:

ออฟไลน์ phai

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 406
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-1
น่ารักกกก

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด