{End} ▶▷ เขยช่างไฟสะใภ้ช่างยนต์ ◀◁ Up. #50 {15/03/2562}
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: {End} ▶▷ เขยช่างไฟสะใภ้ช่างยนต์ ◀◁ Up. #50 {15/03/2562}  (อ่าน 85373 ครั้ง)

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
น้องซนนี่มันขัดลาภจริงๆ555

ออฟไลน์ พลอยสวย

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1623
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +232/-5
โซ่น่ารักขึ้นทุกวันแฮะ

ออฟไลน์ jimmyjimmy

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1966
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-17
อ้อนนะน้องโซ่

ออฟไลน์ เขียนสือ

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-1
    • เขียน'สือ
เขยช่างไฟสะใภ้ช่างยนต์

{32}




            “อาพอร์ชจ๋าน้องซนขอขี่หลังหน่อย…เมื่อย” เสียงร้องเรียกจากหลานชายคนโปรด
ของคนรักทำเอาพอร์ชถึงกลับผวาเฮือก เพราะตั้งแต่ตื่นนอนมา นอกจากเจ้าตัวแสบมันจะ
ออดอ้อนอาโซ่สุดที่รักของมันแล้ว เจ้าตัวก็ยังร้องเรียกหาเขาอย่างไม่ขาดสาย แต่อย่าเข้าใจผิด
คิดว่าไอ้เด็กฝรั่งดองนี่มันพิศวาสเขาหรอกนะ แต่มันคือการแก้แค้น เรื่องที่เจ้าตัวมันตื่นมาเจอ
อาโซ่สุดที่รักของตัวเองนอนกอดอยู่กับเขาที่พื้นแทนที่จะอยู่บนเตียงให้มันกอดต่างหากล่ะ!
มันถึงได้ตีหน้าซื่อทำหน้าอ้อนจิกหัวหลอกใช้เขาอย่างที่เห็น แต่จะว่ามันฝ่ายเดียวก็ไม่ได้
ในเมื่อเขาเองก็เคลิ้มทำตามคำสั่งมันไปเสียทุกที แต่อย่าเข้าใจผิดคิดว่าเขาพิศวาสมันใน
เชิงชู้สาวนะ…ขนลุก! ทว่าไอ้เด็กแสบจอมซนนี่มันมีอะไรบางอย่างทำให้เขาปฏิเสธมันไม่ลง
ไม่รู้สิ…เขาอาจจะคิดมากหรือดูผิดไปก็ได้ถึงได้มองว่าไอ้เด็กฝรั่งดองจอมแสบนี่น่าสงสาร
ทั้งที่มันเองก็เกิดมาในครอบครัวที่เพียบพร้อม มีครบทุกอย่าง พี่ป้าน้าอารักใคร่ แต่วูบหนึ่ง
ในแววตาแป๋วแหว๋วของมันกำลังร้องบอกกับเขาว่ามันไม่ได้มีความสุขอย่างที่มันแสดงออก
มาแม้แต่นิดเดียว



            “มาขี่หลังอาก็ได้” โซ่เอ่ยเรียกพร้อมทั้งตั้งท่ารอรับหลานชายเมื่อเห็นว่าเอาแต่ยืน
จ้องหน้าหลานชายของตนเองอยู่พักใหญ่ เลยเข้าใจผิดคิดขึ้นมาได้ว่าพอร์ชอาจจะกำลัง
หงุดหงิดหรืออารมณ์ไม่ดีที่โดนจอมซนกวนใจมาตั้งแต่เช้า



            “อาพอร์ชไม่ชอบน้องซนหรอฮะ?” เจ้าตัวแสบเอียงคอถามด้วยสายตาเศร้าสร้อย



            “มาสิ…จะพาไปลอดอุโมงค์ดูปลาตรงโน้น” พอร์ชไม่ตอบคำถาม แต่หันหลังย่อตัว
ดึงเอาร่างเบาหวิวของหลานชายมาขึ้นหลังแล้วพาไปลอดอุโมงค์ดูปลาน้ำจืดซึ่งเป็นไฮไลท์
ของอควาเรียมหรือชื่อเต็มๆก็คือ อาคารแสดงพันธุ์สัตว์น้ำบึงบอระเพ็ดเฉลิมพระเกียรติ ๘๐
พรรษา ๕ ธันวาคม ๒๕๕๐ ซึ่งเป็นจุดแลนด์มาร์คสำคัญอีกหนึ่งแห่งของจังหวัดนครสวรรค์ที่
โซ่ตัดสินใจพาคนรักกับหลานชายมาเที่ยวในวันนี้นั่นเอง



            “ฮู้ว…ปลาฉลาม! นั่นๆ อาพอร์ชดูปลาฉลาม! น้องซนเห็นปลาฉลามด้วยล่ะอาโซ่”
ตบไหล่พอร์ชปุๆแล้วหันไปพูดอวดกับอาโซ่สุดที่รักอย่างร่าเริง เมื่อเห็นฝูงปลาตัวใหญ่ยักษ์
ว่ายวนอวดลำตัวสีเงินสวยอยู่เหนือศีรษะของตนเอง



            “นั่นมันปลาบึก” แล้วก็เป็นพอร์ชที่ช่วยพูดแก้ไขความเข้าใจผิดให้หลานชาย



            “ปลาบึก?” ฝรั่งน้อยเอียงหัวกรอกตามองท้องปลาที่ว่ายวนอยู่เหนือศีรษะของตนเอง
อย่างใช้ความคิดเมื่อได้ยินชื่อสายพันธุ์ปลาที่ตัวเองไม่เคยรู้จัก



            “ปลาบึกเป็นปลาน้ำจืดขนาดใหญ่ ไร้เกล็ด ไม่มีฟันและเกือบไม่มีหนวด ตาอยู่ต่ำกว่า
มุมปาก เมื่อมองจากด้านหน้าตรงๆจะไม่เห็น แสดงถึงการหากินตามพื้นน้ำ ปลาบึกสามารถเติบโต
ได้ถึง 3 เมตรและหนัก 150-200 กิโลกรัม ใน 5 ปี” โซ่ช่วยอธิบายขยายความให้หลานเข้าใจ



            “โหว…ตัวใหญ่จังเลยฮะอาโซ่”



            “ทำไมเก่งจังวะ?” พอร์ชหรี่มองโซ่อย่างจับผิด คิดสงสัยในความฉลาดของคนรัก



            “ไม่ได้เก่ง…แต่กูไม่โง่”โซ่กระตุกยิ้มเคาะนิ้วลงบนแผ่นพับในมือที่ได้รับมาตอนซื้อบัตร
เข้าชม ตรงหน้าที่อธิบายถึงลักษณะของสายพันธุ์ปลาน้ำจืดทั้งหมดที่ถูกจัดโชว์อยู่ในอาคาร
แสดงพันธุ์สัตว์แห่งนี้



            “มึงไม่โง่งั้น…กูก็โง่? มึงเล่นกูอีกแล้วนะเมีย!” กว่าจะรู้ตัวว่าถูกคนรักหลอกด่า โซ่ก็เดิน
หนีไปไกลแล้ว พอร์ชก็เลยได้แต่วิ่งแบกหลานตามไปติดๆ กว่าจะไล่ตามทันก็เล่นเอาเหนื่อย



            “โอ้ย!เล่นอะไรของมึงเนี่ยไอ้หมาพอร์ช” โซ่ร้องเสียงหลงเมื่อถูกพอร์ชล็อคคอจาก
ทางด้านหลังตอนทีเผลอ



            จุ๊บ! ฟอด…



            “ลงโทษเมียดื้อ!”พอร์ชอาศัยจังหวะช่วงที่ไม่มีคนคว้าคอคนรักเข้ามาจูบขมับแล้ว
หอมแก้มเป็นการลงโทษคนปากจัดที่ชอบจิกกัดหัวหน้าครอบครัว(ในนาม)อย่างเขา



            ปึก!



            “อุก!”



            “สมน้ำหน้าไอ้หมาหื่น!”



            แล้วก็เป็นอย่างที่คิดว่าโซ่ไม่ยอมเสียตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบคนเดียวแน่นอน เจ้าตัว
ถึงได้ตอบแทนคนรักด้วยหมัดฮุกตรงชายโครงด้านซ้ายทันทีที่ตั้งตัวได้



            “อูย…เล่นแรงนะเมีย”พอร์ชร้องโอดโอยด้วยความจุกเสียด แต่ก็พยายามที่จะ
ทรงตัวยืดกายตั้งหลักให้มั่นคง เพราะยังมีลูกลิงจอมซนเกาะอยู่บนหลัง



            “สมน้ำหน้า ชอบเล่นไม่รู้เรื่อง” ถึงปากจะพูดแบบนั้น แต่เขาก็ยังยื่นมือเข้าไป
ช่วยพยุงตัวคนรักเอาไว้ ไม่ให้ล้มหงายลงไป



            แต่ในขณะที่คู่รักฮาร์ดคอร์ประสานสายตา ส่งกระแสจิตสู้กันอย่างเอาเป็นเอา
ตายอยู่นั้น เจ้าจอมซนตัวแสบก็…



            “อาโซ่สู้ๆอาพอร์ชสู้ๆน้องซนไม่สู้” โยกตัวส่งเสียงตะโกนร้องเชียร์ออกมาด้วย
ท่าทางสนุกสนานร่าเริงเสียจนคู่รักฮาร์ดคอร์ที่กำลังจ้องหน้าท้าทายกันอยู่อดไม่ได้ที่จะ
หลุดหัวเราะออกมาเพราะท่าทางน่ารักน่าเอ็นดูของหลานชายจอมซนที่มีแค่ตัวเท่านั้นที่
โตเกินอายุ แต่ความสดใสร่าเริงยังคงเป็นไปตามวัย เปลี่ยนบรรยากาศตึงเครียดให้
ผ่อนคลายลงได้เพียงเสี้ยววินาที



            “ดูโชว์จบแล้วไปหาข้าวกินกัน…ซนอยากกินอะไร? กินข้าวเสร็จแล้วอาจะพาไป
ถ้ำค้างคาวไปให้อาหารลิงต่อ”โซ่ถามในขณะที่กำลังดูโชว์จระเข้รอบสุดท้ายของช่วงเช้า



            “ไปๆ น้องซนอยากไปให้อาหารลิง น้องซนอยากกินมิมิกับน้ำแตงโมปั่นร้านนั้น
ฮึ่ย…คุณจระเข้น่ากลัวจังเลยฮะอาโซ่…ฟันแหลมมาก”พูดโต้ตอบกับคุณอาสุดที่รัก
แต่สายตาก็ยังคงจับจ้องอยู่แต่กับโชว์จระเข้ในบ่อกว้าง ทำปากยื่นปากยาวบ่นว่ากลัว
แต่ก็ยังชะโงกตัวลงไปมองจนหัวแทบทิ่ม



            “มิมิอะไรของมันวะ?” พอร์ชอดไม่ได้ที่จะพูดถามออกมาด้วยความสงสัยว่า
ไอ้เมนูมิมิที่หลานว่าคืออะไร



            “เดี๋ยวตก” ยังไม่ทันได้ไขข้อข้องใจให้กับคนรัก โซ่ก็จำต้องหันไปปรามหลาน
ชายเสียก่อน เมื่อเจ้าตัวแสบกระโดดตบมือเหย่งๆให้กับนักแสดงที่ร่วมโชว์อยู่กับจระเข้
ในบ่อ หลังจากที่นักแสดงชายคนนั้นเอื้อมมือเข้าไปหยิบเงินในปากจระเข้ ทั้งเอาหัวมุด
เข้าไปโพสท่าถ่ายรูปให้เป็นของแถมสำหรับคนดูเป็นการจบการแสดงชุดแรกได้อย่างหวาดเสียว



พูดยังไม่ทันขาดคำ…



“จอมซน/ระวัง”



พอร์ชโซ่โผเข้าคว้าชายเสื้อหลานไว้แทบไม่ทัน เมื่อเด็กแสบจอมซนพลาดสะดุดขา
ตัวเองจนเกือบจะหัวทิ่มลงบ่อจระเข้ไป ทำเอาคุณอาทั้งสองใจหายไปตามๆกัน



            “แฮ่…ตกใจหมดเลย” เจ้าเด็กแสบหันมายิ้มแหยให้คุณอาทั้งสองด้วยสีหน้า
ซีดเชียว เพราะยังรู้สึกตกใจไม่หาย



            “ไม่ต้องดูแล้ว เดี๋ยวอาพาไปกินซาชิมิ”     

            ในที่สุดพอร์ชก็ได้รู้แล้วว่า ไอ้เมนูมิมิที่หลานชายอยากทานแท้จริงแล้วก็คือ
ซาชิมิหรือเมนูปลาดิบนี่เอง…เรียกของเขาซะเสียเลยนะไอ้ฝรั่งดองเอ้ย!



            “อาโซ่มาโอๆกัน ใครแพ้จ่ายค่ามิมิ” เด็กแสบจอมซนเสนอความคิดขึ้นมาอย่าง
นึกสนุก หลังจากนั่งเบื่อเพราะติดไฟแดงมาหลายนาที



            “ภาษาอะไรอีกวะ…อายุเท่าไหร่แล้วเนี่ย ตัวก็ออกจะโตแต่พูดห่าไรไม่เคยรู้เรื่อง
เลย” พอร์ชละอดไม่ได้ที่จะเอ่ยถามออกมา เมื่อเห็นว่าจอมซนพูดไม่รู้เรื่องอีกแล้ว



            เจ้าตัวแสบกรอกตาชูมือขึ้นมานับนิ้ว ก่อนที่จะตอบออกมาว่า…



            “แปดขวบฮะ…น้องซนแปดขวบ”



            ห๊ะ? พอร์ชตกใจอ้าปากค้างกับสิ่งที่ได้ยินเพราะมันช่างแตกต่างกับที่เขาคำนวณ
ไว้มากนัก แบบ…ที่คิดไว้ว่ายังไงก็ต้องมีสิบสองสิบสามขึ้นอ่ะ ถ้าวัดจากความสูงที่ตาเห็น
แต่ไหงไอ้เด็กแสบนี่มันยังไม่พ้นสิบขวบเลยล่ะ?



            “หึๆ แปลกตรงไหน ก็แค่ลูกครึ่งที่มีแม่เป็นคนอเมริกันแท้ๆ ส่วนพ่อก็สูงเกินร้อยเก้าสิบ
 ถ้าลูกจะเกิดมาแขนขายาวกว่าเด็กทั่วไปก็ไม่ใช่เรื่องผิด ส่วนเรื่องพูดไม่ค่อยชัด ไม่เต็มคำนั้นก็
ตัดไปได้เลย เพราะต่อให้เป็นมึง แต่ถ้าเกิดและเติบโตอยู่ในสภาพแวดล้อมรอบที่เต็มไปด้วยผู้คน
ที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลักในการสื่อสาร จะได้คุยเรียนรู้ภาษาไทยก็ตอนที่พ่อโทรไปคุยด้วย
วันละแค่ชั่วโมงหรือสองชั่วโมงแล้วแต่เวลาจะเอื้ออำนวย…พูดได้เท่านี้ก็เก่งแล้ว” โซ่อดไม่ได้ที่จะ
หัวเราะออกมาเบาๆ เมื่อได้เห็นสีหน้าและท่าทางของคนรัก ก่อนที่จะอธิบายให้ฟังว่าด้วยเหตุอันใด
หลานรักถึงได้มีรูปร่างสูงโปร่งกว่าเด็กวัยเดียวกัน แล้วทำไมเจ้าตัวถึงพูดภาษาไทยชัด แต่ก็ขาดๆ
เกินๆ ไม่ก็ประดิฐษ์คำแปลกออกมาพูดอย่างที่เห็น



            “แม่เป็นนางแบบ?” ตอนนี้พอร์ชไม่สนใจอะไรไปมากกว่าคุณแม่ของหลานชายคนรักหรอก
เพียงเพราะได้ยินคำว่านางแบบหัวใจก็เต้นตึงตัง รู้สึกตื่นเต้นตามประสาผู้ชายที่ชอบของสวยๆ งามๆ
 เป็นอาจิณ



            “อื้อ! ที่รักของน้องซนเป็นนางฟ้าวิกตอเรียส์ซีเคร็ตส๊วยสวยด้วยล่ะอาพอร์ช!” คราวนี้ไม่ใช่
โซ่ที่เป็นคนตอบ แต่เจ้าแสบที่ภูมิใจในตัวคนเป็นแม่พูดอวดออกมาบ้าง ทำเอาพอร์ชตาโตมากขึ้น
กว่าเดิม เพราะยังไม่เคยเห็นหน้าตาพ่อแม่ผู้ให้กำเนิดของจอมซนสักคน เพราะเจ้าตัวแสบบอกว่าแม่
ติดงานที่กรุงเทพฯ เลยขอมาหาอาม่าก่อน ส่วนคนเป็นพ่อก็ไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าใกล้ลูกไปมากไป
กว่าการเห็นหน้ากันทางโทรศัพท์หรือไม่ก็หน้าจอคอมฯอย่างที่ทำมาตลอดตั้งแต่ลืมตาขึ้นมาดูโลก
เพราะข้อตกลงทางกฏหมายที่เขียนกันไว้…ตามคำบอกเล่าจากโซ่อะนะ



            “ขี้โม้” โซ่ใช้นิ้วจิ้มหน้าผากหลานชายให้กลับไปนั่งที่เดิม หลังจากที่เจ้าตัวพยายามที่จะ
ชะโงกหน้าเข้ามาคุยกับเขาและพอร์ชทั้งที่นั่งรัดเข็มขัดอย่างแน่นหนาอยู่ทางเบาะหลัง



            “ไม่โม้น้า~ ที่รักของน้องซนสวยที่สุด ปีเตอร์ยังบอกเลย” เจ้าตัวเล็กจ้อไม่หยุดในขณะที่
โซ่เริ่มนั่งนิ่ง ไม่ยิ้มแย้มอย่างก่อนหน้า ทำเอาพอร์ชที่จับความรู้สึกได้เป็นคนแรกจึงเอ่ยถามออกมาว่า…



            “เป็นไร? โกรธหรอ? ไม่ต้องโกรธหรอกน้า ต่อให้เป็นนางฟ้ามาจากสวรรค์พี่ก็แค่มอง
เพราะทั้งตัวและหัวใจของพี่ให้ซอโซ่คนดีไปหมดแล้ว” เพราะไม่รู้ว่าคนรักมีความกังวลด้วยเรื่องใด
พอร์ชเลยหยิบยกเรื่องที่ตนเองสนใจอาชีพนางแบบของหลานชายขึ้นมาพูดหยอด เพื่อหวังจะช่วย
ให้คิ้วผูกโบว์ของคนรักคลายออกจากกัน



            “เรื่องนั้นกูรู้ดีอยู่แล้วว่ามึงยังอยากตายดีตามอายุขัย ไม่ใช่ตายทรมานเพราะโดนกูแทง
แต่ที่กูสงสัยคือ…ปีเตอร์เป็นเพื่อนน้องซนหรอ?” ประโยคแรกชะโงกหน้าเข้าไปกระซิบเบาๆ ที่ข้างหู
ของคนรักให้ได้ยินกันแค่สองคน ส่วนประโยคสุดท้ายเขาหันมาพูดกับหลานชายด้วยน้ำเสียงปกติให้ได้ยินทั่วกัน



            “ไม่ใช่ฮะ! ปีเตอร์ไม่ใช่เพื่อนน้องซน แต่ปีเตอร์เป็นบอยเฟรนด์กับที่รัก” เจ้าตัวแสบรีบ
แก้ไขความเข้าใจผิดให้คุณอาสุดที่รักได้เข้าใจ



            “แฟน? คนรัก?” โซ่เปลี่ยนประโยคคำพูดอีกครั้งเมื่อหลานชายกรอกตาทำหน้าเหมือน
ว่าไม่เข้าใจคำว่าแฟนในภาษาไทย



            “อื้อ! ปีเตอร์เป็นคนรักของที่รัก แล้วก็บอกว่าจะมาเป็นป๊ะป๋าให้น้องซน แต่น้องซนไม่เอา
เพราะน้องซนมีป๊ะป๋าอยู่แล้ว ปีเตอร์ก็เลยไม่คุยกับน้องซนอีก เพราะน้องซนเป็นเด็กดื้อ” ก็พยายาม
จะเรียบเรียงคำพูดเป็นภาษาไทยให้คุณอาสุดที่รักเข้าใจ แต่สุดท้ายแล้วก็ได้แต่พูดวกไปวนมาตาม
ความเข้าใจของตนเองที่คิดว่าดีที่สุดแล้ว



            “ซนมาอยู่ไทยกับอาไหม? อาจะลองคุยกับสเตฟดู” นี่ไม่ใช่แค่อารมณ์ชั่ววูบ แต่โซ่คิด
เรื่องของหลานชายมาสักพักแล้ว หลังจากที่ได้คุยกับพี่ชายหรืออีกนัยหนึ่งก็คือพ่อของจอมซน
ครั้งล่าสุดว่าเจ้าตัวสงสัยว่าสเตฟหรือสเตฟานี่แม่ของหลานชายดูเหมือนว่าจะปลูกรักใหม่กับนาย
แบบรุ่นน้องมาได้สักพักใหญ่แล้ว แต่ก็ไม่คิดว่าจะพาเข้ามาผัวพันกับหลานชายมากขนาดนี้



            “อยากฮะ น้องซนอยากอยู่กับอาโซ่ อยากอยู่กับอาพอร์ช อยากอยู่กับอาม่า อยากอยู่
กับป๊ะป๋า แต่ที่รักบอกว่าไม่ได้ เพราะป๊ะป๋ามีแสนดีกับมัมใหม่แล้ว…น้องซนจะเป็นส่วนเกิน” พูด
ออกมาเหมือนเป็นเรื่องปกติ ทั้งที่หยาดน้ำตาคลออยู่เต็มหน่วย ซึ่งดูก็รู้ว่าเจ้าตัวฝืนเอาไว้



            “เอาตามที่น้องซนต้องการเลย อยากอยู่กับใครก็พูดมา แล้วอาจะให้ทุกอย่างที่น้องซน
ต้องการ ขอแค่ที่ตรงนั้นเป็นความสุขจริงๆของเรา” โซ่หันมาพูดบอกกับหลานชายด้วยน้ำเสียงและ
แววตาที่มั่นคง ทำเอาเด็กชายที่ฉาบหน้าตัวเองด้วยความสดใสร่าเริงมาตลอดชีวิตแปดปีเต็มตั้งแต่
จำความได้ และแยกแยะความรู้สึกเป็นสะท้านในอก ปล่อยโฮออกมาสุดเสียง หลังจากที่สะกดกลั้น
มาหลายนาที แล้วรีบโผเข้ากอดทันทีเมื่อโซ่อาศัยจังหวะที่รถจอดติดไฟแดงข้ามไปนั่งข้างกันที่
เบาะหลัง ทำให้พอร์ชกลายเป็นคนขับรถไปโดยสมบูรณ์แบบ



            “น้องซนไม่อยากอยู่กับที่รักแล้วฮะ…ที่รักกำลังจะมีน้องใหม่กับปีเตอร์ เพื่อนที่โรงเรียน
บอกว่าน้องซนก็จะกลายเป็นหมาหัวเน่า…ฮึก…ไม่มีใครรัก”



            โซ่กำหมัดหลับตาแน่นกับสิ่งที่ได้ยิน เพราะทุกสิ่งที่จอมซนพูดมา เขาผ่านมาหมดแล้ว
ถึงได้รู้ว่าเจ็บปวดแล้วทรมานขนาดไหน แต่ที่ไม่รู้เลยคือ…ความแข็งแกร่งของหลานชายที่ส่งผ่าน
มาทางเสียหัวเราะและสีหน้าที่ร่าเริงทั้งที่ภายในใจอัดแน่นไปด้วยความบอบช้ำ



            “มีสิ…ถึงเราจะเพิ่งรู้จักกันแต่อาก็ชอบน้องซนนะ และอาก็มั่นใจว่าถ้าเรามีเวลาได้อยู่
ด้วยกันมากกว่านี้อีกนิดความชอบที่อามีจะกลายเป็นความรัก” พอร์ชพูดขึ้นมาบ้าง หลังจากที่
ฟังแบบปิดปากเงียบๆอยู่นาน ตั้งแต่ต้นจนจบ



            “จริงหรอฮะ?” สูดน้ำมูกเข้าไปฟืดใหญ่แล้วชะโงกหน้าออกมาถาม หลังจากที่ซุกหน้า
ร้องไห้อยู่กับแผ่นอกของคุณอาสุดที่รักอยู่หลายนาที



            “จริงสิ…ซนจะมาอยู่กับอาก็ได้ ถ้าเรานอนคนเดียวหรือไม่ก็นอนกับพี่มณีได้ เพราะอาโซ่
เป็นของอา เลยต้องนอน ‘กอด’ กับอาทุกคืน” พูดจบก็ยักคิ้วส่งให้จึกหนึ่งเป็นการส่งท้ายด้วย
สีหน้ากวนสุดติ่ง



            “งื้อ~ อาพอร์ชนิสัยไม่ดี!”



            โซ่เกือบจะฉีกยิ้มหวานเป็นการขอบคุณอยู่แล้วเชียวที่คนรักช่วยพูดปลอบใจหลานชาย
หลังจากที่หาเรื่องแหย่กันมาเกือบครึ่งวัน แต่พอได้ยินคำพูดประโยคสุดท้ายเท่านั้นแหละ เขาก็
รีบปิดตาหลานแล้วใช้มืออีกข้างที่ว่างชูนิ้วกลางเป็นการของคุณมันแทบไม่ทัน…กวนตีนดีนัก!









TBC.



(จอมซน อายุแปดขวบ ลูกครึ่ง ไทย(เชื้อสายจีน) - อเมริกัน)

" งื้อ~ อาพอร์ชแกล้งน้องซน! "



ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
สงสารน้องซนจัง

ออฟไลน์ พลอยสวย

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1623
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +232/-5
เฮ้อ..เราเข้าใจสังคมพ่อเลี้ยงแม่เลี้ยงเพราะเราก็ผ่านมันมาแบบอยากโดดถีบยอดหน้าคน

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4825
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
อยู่เลย ๆ หนับหนุน ๆ  :กอด1:

ออฟไลน์ Tiffany

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1157
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
น้องซนสู้ๆนะ ไปอยู่กับอาโซ่เลยจะได้เป็นครอบครัวสุขสันต์

ออฟไลน์ 19august

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 130
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-1
    • https://twitter.com/19august___
ชอบบบความรักดิบๆ ปนหวานๆของคู่นี้จังเล้ยยย
รอติดตามค่า

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7697
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
สนุกดีค่ะ

ออฟไลน์ เขียนสือ

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-1
    • เขียน'สือ


เขยช่างไฟสะใภ้ช่างยนต์

{33}





            “ฮ่าๆ อาพอร์ชแพ้ อาพอร์ชเลี้ยงมิมิน้องซนกับอาโซ่เลย…ฮุวฮะฮ่า ~ ~ ~”
เจ้าจอมซนสุดแสบหัวเราะออกมาเสียงดังด้วยความสะใจ เมื่อรู้ผลการเฟ้นหาเจ้ามือจ่าย
ค่าอาหารกลางวันด้วยเกมการตัดสินระดับโลกอย่างโอน้อยออกได้ผลสรุปที่ว่าคนที่แพ้
และต้องกระเป๋าเบาในวันนี้คือพอร์ช หลังจากที่แข่งขันกันมาหลายนานหลายนาที
ตั้งแต่ที่พอร์ชขับรถวนเข้ามาจอดหน้าร้าน



            “อ่ะโด่ว~ ตัวเท่าลูกหมาคิดว่าจะกลัวรึไง แค่นี้บอกเลย…จิ๊บจิ๊บ” พอร์ชแกล้ง
ชะโงกหน้าเข้าไปพูดแหย่จอมซนที่กอดเอวอาโซ่สุดที่รักของเจ้าตัวรอเขาล็อครถอยู่อีกฝั่ง
เมื่ออาพอร์ชส่งสารท้ารบมาขนาดนี้มีหรือว่าเจ้าเด็กแสบจะยอม



            “น้องซนจะหม่ำให้อาพอร์ชหมดเงินเลย…เชอะ!” ทำปากยื่นปากยาวเข้าขู่
ก่อนที่จะกอดอกเชิดหน้าทำท่าจะดิ้นหนี แต่ก็หนีไม่พ้น เมื่อพอร์ชเดินเข้ามาขนาบข้าง
กอดคอที่ว่างของเจ้าตัวอีกข้างเหมือนอย่างที่โซ่ทำ



            “ไง? พกเงินมาพอเปล่า?” โซ่เลิกคิ้วถามคนรักที่นั่งอยู่ทางฝั่งตรงข้ามด้วย
ท่าทางกวนๆ เมื่อเห็นสีหน้าทึ่งๆ ของคนรักหลังจากที่ได้เห็นหลานชายยัดอาหารเข้า
ปากจานแล้วจานเล่า ประหนึ่งว่ามีหลุมดำซ่อนอยู่ในกระเพาะที่แม้ว่าตนกับพอร์ชจะ
อิ่มมาสักพักแล้วก็ตาม



            “มากกว่านี้ก็ไหว แต่อย่าให้มันฝืนเพราะอยากแกล้งกูก็แล้วกัน กูยังไม่อยาก
เห็นเด็กนอนร้องไห้เพราะปวดท้อง” พอร์ชตอบรับอย่างมั่นใจ แต่ก็อดไม่ได้ที่จะทึ่งกับ
พลังการกินของเด็กน้อยที่ทำเหมือนว่าอาหารที่โกยเข้าปากไปนั้นเพิ่งจะได้ลิ้มรถเป็น
จานแรกทั้งที่เจ้าตัวนั้นนั่งทานอาหารมื้อกลางวันอยู่ในร้านนี้มาร่วมชั่วโมงแล้ว



            “เมื่อวานไม่ได้สังเกตเลยสิ?” โซ่หมายถึงอาหารเย็นเมื่อวานที่ได้ร่วมโต๊ะกับ
ญาติๆของโซ่อย่างเป็นทางการครั้งแรก



            “ทำไมวะ?” เพราะมัวแต่ตอบคำถามมากมายจากญาติผู้ใหญ่ของโซ่ที่ชวนคุย
กันตั้งแต่เริ่มต้นจนจบมื้ออาหาร พอร์ชเลยไม่มีเวลามากพอที่จะใส่ใจจอมซนหรือคนรักอย่างโซ่เลย



            “อย่างที่เห็นนี่แหละ” พยักเพยิดให้คนรักหันไปดูหลานชายที่เพิ่งจะวางจาก
เปล่าใบที่เพิ่งกินหมดเอาไว้บนยอดสุดของกองจานที่นับๆดูแล้วน่าจะเกินสิบ ดีไม่ดี
อาจจะพุ่งสูงถึงยี่สิบจานก็ได้ ถ้าเจ้าตัวยังเพลิดเพลินอยู่กับสุดยอดเมนูอาหารที่พนัก
งานเสิร์ฟขยันเดินมาแนะนำอยู่แบบนี้



            “ฮ๊า~ น้องซนอิ่มจังเลยฮะ” แล้วสิ่งที่พอร์ชกับโซ่รอคอยก็มาถึง หลังจากที่
หลานชายฟาดไอศกรีมชาเขียวกับพุดดิ้งคัสตาร์ดไปอย่างละสองถ้วย ก่อนที่จะพูดออกมาอีกว่า…



            “อาพอร์ชจ๋าจ่ายเงินเร็วๆฮะ น้องซนอยากไปดูลิงแล้ว” เจ้าตัวแสบลุกขึ้นมา
กระโดดเหยงๆ อยู่ตรงหน้าพอร์ชที่กำลังยืนจ่ายเงินค่าอาหารอยู่หน้าเคาน์เตอร์แคชเชียร์



            “ไม่ต้องมาทำพูดดี เอ็งนั่นแหละตัวช้าเลย” ได้รับเงินทอนแล้วพอร์ชก็หันมา
จัดการไอ้เด็กแสบที่ยืนบ่นกระปอดกระแปดอยู่ข้างตัวในขณะที่คุณอาสุดที่รักของมันก็
เอาแต่ทำหน้ายุ่งกดๆ จิ้มๆ โทรศัพท์อยู่ด้วยท่าทางที่ไม่ค่อยอภิรมย์นัก



            “ไม่รู้ไม่ชี้ บู่ววว~” เจ้าเด็กแสบใช้นิ้วชี้อุดหูทั้งสองข้าง ส่ายหน้า มุดตัวทำเป็นไม่ได้ยิน



            “ยังเหลือเวลาอีกตั้งเยอะ เลยไปเล่นน้ำตกกันดีไหม?” โซ่ที่เพิ่งละความสนใจ
จากโทรศัพท์มือถือ เอ่ยถามเมื่อมองดูเวลาบนหน้าปัดนาฬิกาข้อมือเรือนโปรดแล้วเห็น
ว่าเพิ่งจะเที่ยงนิดๆ เอง ซึ่งก็เท่ากับว่าพวกเขาเหลือเวลาอีกเกือบหกชั่วโมง ก่อนที่จะ
พาจอมซนไปดูค้างคาวตามสัญญา



            “แล้วคุณลิงของน้องซนละฮะอาโซ่” ไม่ใช่ไม่อยากไปเล่นน้ำตกนะ แต่น้อง
ซนอยากไปให้อาหารคุณลิงก่อน



            “ก็จะพาไปให้อาหารลิงก่อนนี่ไง…เดี๋ยวกูขับเอง” บอกกับหลานชายก่อนที่
จะหันไปตะโกนบอกกับคนรักอย่างพอร์ชที่กำลังจะเปิดประตูรถฝั่งคนขับ



            “กินเก่ง นอนง่าย แบบนี้คุณนายปลื้มจิตหลงตายห่าเลย” พอร์ชพึมพำบอก
กับคนรักที่กำลังตั้งหน้าตั้งตาขับรถจนไม่ทันได้สังเกตว่าหลานชายสุดที่รักอย่าง
จอมซนนั้นหมดฤทธิ์นอนหลับไปตั้งแต่ยังไม่ครบสิบนาทีแรกที่รถเคลื่อนตัวออก
จากร้านอาหารเลยซะด้วยซ้ำ



            “ไปน้ำตกเลยแล้วกัน ค่อยย้อนกลับมาให้อาหารลิงพร้อมกับดูค้างคาวไป
ทีเดียวเลย…ตอนเย็นอาม่านัดรวมญาติอีก เด็กจะได้ไม่ต้องเหนื่อยนั่งรถมาก” เพราะ
อยากให้หลานชายสุดที่รักได้พักผ่อนรวดเดียวยาวๆ แบบเต็มอิ่ม โซ่จึงเปลี่ยนแผน
การนิดหน่อย เพราะสถานที่ให้อาหารลิงกับดูค้างคาวคือสถานที่เดียวกัน
จะได้ไม่ต้องเสียเวลาย้อนไปย้อนมา



            “ยังไงก็ได้” เพราะ



            Tru Tru Tru



            “ฮัล…”



            //โซ่! โซ่บอกว่าน้องซนอยู่กับโซ่ใช่ไหม!//



            พอร์ชกดรับสาย เอื้อมเอาโทรศัพท์ไปแนบหูคนรัก แต่ยังไม่ทันที่โซ่
จะได้เอ่ยทักทายตามมารยาท ปลายสายก็ตะโกนร้องถามกลับมาทันทีด้วยน้ำ
เสียงร้อนรนจนรู้สึกแปลกใจ เพราะก่อนหน้านี้เขาไม่สามารถติดต่อพี่ชายคนนี้
ได้เลย จึงเลือกที่จะส่งข่าวผ่านข้อความไปให้แทน



            “ก็ใช่…ทำไม?” พูดโต้ตอบกับปลายสาย พร้อมทั้งพยักหน้า ส่งสัญญาณ
ให้พอร์ชเปิดลำโพงได้ เพราะปกติแล้วพวกเขาจะไม่ก้าวก่ายในเรื่องส่วนตัวของกัน
และกันมากนักถ้าไม่จำเป็น อย่างเช่นการเช็คข้อความในแอปพลิเคชันต่างๆ หรือ
บังคับให้เปิดลำโพงทุกครั้งที่ใครคนใดคนหนึ่งมีการโทรเข้าหรือรับสาย
แบบนั้นพวกเขาว่ามันเกินไปจริงๆ



            //สเตฟโทรมาบอกพี่ว่าจอมซนหายออกจากบ้านไปหลายวันแล้ว//
 คำบอกเล่าจะพี่ชายทำเอาโซ่แทบเผลอเหยียบเบรคหัวทิ่ม แต่ยังดีที่มีสติ
แม้ว่ามันจะเหลือเพียงน้อยนิดก็ตาม



            เด็กขี้กลัวอย่างจอมซนเนี่ยนะจะกล้าหนีออกจากบ้านเดินทางข้ามน้ำ
ข้ามทะเลมาไทยด้วยตัวคนเดียว? ไม่มีทาง



            “วันนี้อาม่านัดรวมญาติที่ xxx ตอนทุ่มครึ่ง ถ้ามาไม่ทันก็เจอกันที่บ้านแล้วกัน”
 โซ่พูดทิ้งท้ายไว้แค่นั้น แล้วกดตัดสายทิ้งทันที



            “โอเคนะ?” พอร์ชเอ่ยถามเสียงเบา แม้ว่าจะรู้ดีอยู่แล้วว่าคนรักไม่โอเคกับ
เรื่องราวที่ได้รับรู้มา เพียงแต่…เขาก็แค่อยากให้เจ้าตัวรู้ไว้ว่าที่ตรงนี้ยังมีเขาอยู่เป็นกำลังใจให้เสมอ



            “อืม”



            “แล้วทำยังไง?” พอร์ชถาม



            โซ่เงียบไปพักใหญ่ก่อนที่จะพูดบอกออกมาเบาๆ ว่า…



            “กูไม่รู้หรอกว่าทำไมจอมซนถึงได้ทำแบบนี้ แต่กูเชื่อใจหลาน”



            เสียงพูดคุยของคู่รักที่อยู่ตรงเบาะหน้าเงียบหายไปแล้ว แต่เด็กชายที่แกล้ง
นอนอยู่ทางเบาะหลังไม่ได้หลับอย่างที่คิด แถมยังได้ยินทุกอย่างที่โซ่กับพอร์ชพูดคุยกัน
เพราะเจ้าตัวสะดุ้งตื่นตั้งแต่ได้ยินเสียงโทรศัพท์ของโซ่ดังแล้ว แต่พอรู้ว่าคนที่อยู่ทาง
ปลายสายคือบิดาผู้ให้กำเนิดของตนเอง จอมซนจึงทำเนียนนอนหลับต่อไปด้วยใจตุ้มๆ
ต่อมๆ เพราะอยากจะรู้ว่าผู้เป็นพ่อนั้นโทรมาด้วยเหตุใด จนกระทั่งได้ยินคำพูดประโยค
สุดท้ายที่โซ่พูดกับพอร์ชนั่นแหละ น้ำใสๆ ถึงได้ไหลออกจากตา



            ‘น้องซนรักอาโซ่ที่สุดในโลกเลยฮะ’

..

..

..

            “อ๊ากกกก…ปล่อยๆ อาพอร์ชปล่อย! งื้อ...อาโซ่ช่วยน้องซนด้วยยยยย!!!!!!”



            เสียงหวีดร้องของหลานชายที่ดังมาพร้อมกับเสียงหัวเราะสะใจของคนรัก
อย่างพอร์ช ทำเอาโซ่ที่นั่งดูเชิงอยู่บนโขดหินถึงกลับหลุดยิ้มออกมา เพราะเสียงเรียก
ร้องขอความช่วยเหลือจากหลานชายมันช่างสวนทางกลับสิ่งที่เขาได้เห็นอยู่ในตอนนี้
เหลือเกิน เพราะไอ้ตัวแสบที่เอาแต่ร้องโวยวายเหมือนโดนรังแกกำลังตะเกียกตะกาย
ขึ้นขี่หลังพอร์ชไม่ต่างจากลูกลิง ขณะเดียวกันคนที่โดนใส่ร้ายอย่างพอร์ชก็กลายเป็น
ลูกไล่ให้กับหลานชายด้วยความเต็มใจ



            “ฟ้องหรอ? เอ็งโดนแน่ไอ้ฝรั่งดอง!” พอร์ชพยายามจะสะบัดตัวเหวี่ยงลูกลิง
บนหลังออก แต่ก็ไม่เป็นผล เพราะเจ้าตัวแสบเกาะหนึบเสียยิ่งกว่าปลาหมึก จนท้าย
ที่สุดแล้วเขาจึงต้องยอมแพ้? ซะที่ไหนล่ะ!



            “ว๊ากกก…อาพอร์ช!” เด็กแสบหวีดร้องสุดเสียงเมื่อจู่ๆ มือหนาที่พยายามจะดึง
ตนเองออกจากร่างกายของเจ้าตัวอยู่นานสองนานเปลี่ยนมาจับแน่นเกาะหนึบ แล้วพาดำดิ่งลงสู่ผืนน้ำ



            “แฮ่กๆ ฮื้อ…อาพอร์ชแกล้งน้องซน” พอกลับขึ้นสู่ผิวน้ำได้เจ้าเด็กแสบก็รีบตีขา
ว่ายน้ำหนีไปซบหน้ากอดขาอาโซ่สุดที่รักทันที



            “มากไปแล้วๆ” พอร์ชตามมาผลักหัวกลมๆของหลานชายให้พ้นจากตักนุ่มของ
คนรักที่เปลี่ยนจากยีนสกินนี่ขายาวมาเป็นกางเกงขาสั้นเหนือเข่าสีควันบุหรี่พร้อมเปียก



            “ฮึ่ย! อาพอร์ชขี้แกล้ง” หันไปเบะปากทำหน้าบู้ใส่คุณอาขี้แกล้งที่ยังคงแช่น้ำ
ลอยคอช่วยประคับประคองคอยช่วยเหลือไม่ให้ตนเองจมหายไปกับสายน้ำ



            “เล่นพอแล้วมั้ง?” โซ่ถามสองอาหลานที่พากันเล่นน้ำมานานกว่าสองชั่วโมง
หยอกบ้างแหย่บ้าง แต่ไม่มีทีท่าว่าจะพากันขึ้นจากน้ำเลยแม้แต่น้อย แถมยังพากันหนี
ไปเล่นต่อสู้กันได้อย่างหน้าตาเฉย ไม่มีใครตอบคำถามเขาสักคน



            “โดนแน่ๆ คราวนี้อาพอร์ชสู้พลังซุปเปอร์ซนไม่ได้แน่…ย๊ากกกกกกกกก!”



            ตู้ม!



            เจ้าตัวแสบปีนขึ้นโขดหิน ก่อนที่จะโดดตีลังกาทิ้งบอมโจมตีใส่พอร์ช แต่มีหรือ
ที่แสบใหญ่อย่างพอร์ชจะยอมแพ้..? คว้าตัวหลานชายได้ เขาก็จับฟาดลงน้ำทันทีด้วย
ความเร็วแสง จนสายน้ำแตกกระจายไปเป็นวงกว้างด้วยน้ำหนักและความรุนแรง



            “อ่อน! ไม่มีใครสู้พลังซุปเปอร์พอร์ชของข้าได้หรอกเว้ย…ไอ้เด็กดองเอ๋ย!”
ลากคอหลานโผล่พ้นน้ำมาได้พี่ท่านก็เกทับเต็มที่



            โซ่เกือบจะลุกขึ้นมาตะโกนต่อว่าคนรักอยู่แล้วที่เล่นรุนแรงเกินไป ถ้าไม่ติดตรงที่…



            “กร๊ากกก…เอาอีกๆ น้องซนจะเล่นอีก!” ไม่เพียงแค่พูดเปล่า เจ้าแสบเล็กก็รีบผละ
ออกจากอ้อมแขนของคนเป็นอา ว่ายน้ำป๋อมแป๋ม ปีนขึ้นโขดหิน ตั้งท่าเตรียมกระโดดตีลังกา
อีกครั้ง ในขณะที่พอร์ชเองก็กางแขนรอรับร่างของหลานชายอยู่ในน้ำเช่นเดิม แล้วก็เป็นแบบนี้
ต่อไปเรื่อยๆ อีกกว่าชั่วโมงที่สองอาหลานพากันเพลิน จนกระทั่งโซ่ขู่ว่าจะให้เดินกลับบ้านนั่น
แหละ ซุปเปอร์มโนทั้งสองคนถึงได้พากันขึ้นจากน้ำตกมาด้วยท่าทางซึมๆ เหมือนหมาหงอย



            “เลิกทำหน้างอได้แล้ว อยากไปให้อาหารลิงไม่ใช่หรอ? ถ้าไปช้ากว่านี้ลิงกลับบ้านหมดอาไม่รู้ด้วยนะ”



            พอร์ชถึงกลับต้องชะโงกเข้าไปสำรวจใบหน้าคนรักใกล้ๆ เมื่อได้ยินโซ่พูดง้อหลานชาย
ที่นั่งซึมอยู่ตรงเบาะหน้าข้างคนขับแทนตนเองที่ถูกเนรเทศให้มานั่งเบาะหลังคนเดียว เพราะตั้งแต่
คบกันมาน้อยครั้งนักที่พอร์ชจะได้เห็นมุมอ่อนโยนของคนรัก ถ้าไม่นับตอนที่เจ้าตัวพูดคุยจ๊ะจ๋าภาษา
ดอกไม้กับอีมณีลูกรักอะนะ…อันนั้นถือเป็นกรณียกเว้น



            “ไอ้หมาพอร์ช” โซ่ร้องเสียงเย็นเมื่อพอร์ชสอดมือทั้งสองข้างแทรกช่องว่างระหว่างเบาะรถ
ขึ้นมาสอดประสาน ลูบวนอยู่ตรงช่วงท้องแบนราบของตน ดึงรั้งให้หลังชิดติดกับเบา ในขณะที่จอมซน
เผลอหลับไปอีกครั้งด้วยความอ่อนเพลีย



            “คิดถึง”



            ยื่นหน้าเข้าไปกระซิบเสียงพร่าที่ข้างหู ทำเอาโซ่ถึงกลับขนลุกขนพอง แต่ก็ทำใจแข็ง
ตีเสียงนิ่งเข้าใส่



            “อยู่ด้วยกันทั้งวันทั้งคืนจะมาคิดถึงห่าอะไรอีก”



            “อยาก ‘กอด’ แรงๆ เราไม่ได้ ‘กอด’ กันมาหลายวันแล้วนะ…เมียจ๋า~” เน้นเสียงที่คำว่ากอด
เพื่อให้คนรักได้รู้ว่าตนเอง ‘คิดถึง’ เจ้าตัวมากขนาดไหน



            โซ่ตบไฟเลี้ยวแวะจอดข้างทางที่นานทีจะมีรถขับสวนเข้ามาสักคัน หันซ้ายแลขวามองดู
สภาพแวดล้อมรอบด้านที่เต็มไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่เหมือนเป็นเครื่องหมายยืนยันความอุดมสมบูรณ์
ของอุทยาน ปลดเข็มขัดนิรภัยออกจากร่างกาย หมุนตัวกลับไปหาคนรักที่ยังคงเกยคางอยู่ในซอกเล็กๆ
ที่เป็นช่องว่างระหว่างเบาะรถกับประตู



            ฉีกยิ้มหวานให้หนึ่งที ก่อนที่จะยื่นหน้าเข้าไปกระซิบเบาๆ ที่ข้างหูคนรักว่า…

            “ถ้าไม่ดื้อ ไม่ซน ไม่หาเรื่องแกล้งหลาน กลับไปไม่ทะเลาะกับพี่มณี…เมียจะยอมให้ ‘กอด’
แน่นๆ เลยครับ…สามี~”









TBC.


ออฟไลน์ 19august

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 130
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-1
    • https://twitter.com/19august___
หูยยยยแซบบบบบบ
เอ็นดูน้องซนนน

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
พอร์ชจะทำได้หราา  555

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7697
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
หูยยย~

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4825
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
หนูซนหนีมาเพราะอะไร ใครรังแกหรือเปล่า  :hao4:

ออฟไลน์ เขียนสือ

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-1
    • เขียน'สือ


เขยช่างไฟสะใภ้ช่างยนต์

{34}






            “เจี๊ยก!~ ฮุฮุ…”



            “โอ้ย…โทษที แต่กูไม่ไหวแล้วจริงๆ” พูดจบพอร์ชทรุดลงกุมท้อง หัวเราะออกมาอย่างกับคนบ้า
หลังจากที่ต้องทนกลั้นขำดูจอมซนทำท่าทางเลียนแบบลิงน้อยอยู่นานสองนาน โซ่เองก็ไม่ต่างกัน เพราะ
นอกจากจะเหมือนมากแล้วมันยังตลกมากด้วย



            “อาพอร์ชดูน้องซนๆ” เจ้าเด็กแสบเรียกให้พอร์ชที่กำลังหลอกอุ้มลูกลิงตัวน้อยอยู่ไม่ใกล้
ไม่ไกลให้ดูตัวเองที่มีลูกลิงมานั่งเกาะอยู่บนหัว



            โซ่ที่บอกว่าจะไปเข้าห้องน้ำ เดินกลับมาพร้อมกับกล้องถ่ายรูปตัวโปรดที่มักจะพกติดตัว
ไปไหนมาไหนด้วยเสมอ ถ้าหากเดินทางด้วยรถส่วนตัว หามุมเหมาะตั้งท่าเตรียมถ่ายรูป หมุนซ้าย
เล็งขวา จับโฟกัสได้ก็กดชัตเตอร์ชักภาพคนรักกับหลานชายทันที



            พยักหน้าพึงพอใจให้กับผลงานของตัวเอง แต่เหนือสิ่งอื่นใดคือ ‘ความสุขใจ’ ที่ได้เห็น
คนที่ตนรักทั้งสองคนเข้ากันได้ดีกว่าที่คิดไว้ หรืออาจจะเป็นเพราะการเล่นต่อสู้ที่น้ำตกเมื่อตอนบ่าย
ถึงได้ทำให้หลานชายอย่างจอมซนเรียกหาแต่อาพอร์ช จากที่ชอบทำตัวติดอยู่กับเขาอย่างทุกครั้งที่
ได้เจอกันในยามที่เจ้าตัวกลับมาเยี่ยมเยียนอาม่าในตอนซัมเมอร์ แต่เป็นแบบนี้ก็ดีแล้ว เขาจะได้ไม่
ต้องปวดหัวในยามที่แสบเล็กแสบใหญ่แกล้งแหย่กันโดยใช้เขาเป็นเครื่องมือ



            หรืออาจจะปวดหัวมากกว่าเดิมกันแน่นะ? เขาละไม่อยากจะคิดถึงพลังทำลายล้างในตอนที่
ซุปเปอร์พอร์ชกับซุปเปอร์ซนเขาผนวกกำลังกันป่วนโลก



            “โหวววววว…อาโซ่ดูๆ ค้างคาวๆ ค้างคาวเต็มเลย!” เด็กแสบที่อยู่บนหลังพอร์ชชี้มือชี้ไม้
ร้องเรียกให้คุณอาสุดที่รักดูฝูงค้างคาวมากกว่าพันตัวที่กำลังบินออกมาจากปากถ้ำด้วยกัน



            ทำไมพอร์ชถึงต้องแบกจอมซนนะหรือ…?



ย้อนไปเมื่อสิบนาทีที่แล้ว…



            “หึ้ย! สัสเป้ ไอ้เหี้ยแวน รุมกูหรอๆ เดี๋ยวเจอๆ” พอร์ชร้องโวยวายออกมาอย่างหงุดหงิด
เมื่อถูกเพื่อนรักทั้งสองจับมือกันตั้งป้อมรุมตีเมืองของตนเองอยู่ฝ่ายเดียว เห็นอย่างนี้เจ้าเด็กแสบ
ที่นั่งอยู่เบาะหลังก็ยื่นหน้าเข้ามาสบประมาทคนเป็นอาทันทีว่า…



            “อาพอร์ชอ่อนมากเลอ~”



            “อ้าว! เด็กห่านี่! ปากดี…เก่งนักมาแข่งกันเลยมา” สู้กับเพื่อนรักทั้งสองจนตัวอักษรคำว่า
 ‘Game Over’ และ ‘You lose’ โชว์หลาบนหน้าจอให้เจ็บใจ ก่อนที่จะคว้าโทรศัพท์ของคนรักที่
วางอยู่บนตักยื่นให้กับหลานชาย เพราะตนแอบโหลดเกมนี้ใส่เครื่องของโซ่ไว้เหมือนกัน



             แต่มีหรือที่เด็กแสบอย่างจอมซนจะกลัว เจ้าตัวรีบรับคำถ้าพร้อมกับยื่นข้อเสนอกลับไปที่ว่า…



            “ใครแพ้ต้องเป็นม้าให้คนชนะขี่หลังนะฮะ”



            แล้วผลก็ออกมาอย่างที่เห็น คงไม่ต้องบอกซ้ำหรอกนะว่าใครเป็นคนแพ้ใครเป็นคนชนะ
 ในเมื่อพอร์ชได้กลายเป็นม้าให้จอมซนขี่หลังอย่างที่เห็นบอกเลยว่าพอร์ชโคตรเจ็บใจ เล่นมา
ตั้งนานไม่มีใครเอาชนะได้ จะแพ้ก็ตอนโดนเพื่อนรวมหัวกันรุมแกล้ง แต่มาแพ้ให้เด็กแปดขวบที่
มีเทคนิคการเล่นที่เก่งเกินวัย ถ้าให้พูดตรงๆก็รู้สึกเซลฟ์นิดๆนะ แต่ยอมรับเลยว่าฝีมือการเล่นเกม
ของหลานชายโคตรเทพ ในชนิดที่ว่าหาตัวจับยาก เพราะอย่างที่บอกว่าเขาเล่นเกมนี้มานานแล้ว
เจอคนเจ๋งๆ ที่มีเหรียญการันตีว่าเป็นโคตรฝีมือมาก็เยอะ แต่ไม่เคยมีใครสักคนที่จะเอาชนะเขาได้
เพราะเขาเล่นเกมนี้มานานมาก…มากชนิดที่เรียกว่าหมกมุ่นก็ยังได้ เพราะว่างเมื่อไหร่มีอันต้องเล่น
เล่นแม่งทั้งวันทั้งคืน เล่นจนป๋ายึดรถไปเป็นเดือน จนกระทั่งมาเจอน้องซอโซ่นี่แหละไอ้พอร์ชคนนี้
ถึงได้เลิกติดเกมแล้วหันมาติดเมียแทน



            “กลับกันเถอะ อาม่าโทรตามแล้ว” โซ่เอ่ยชวนคนรักและหลานชายที่พากันแหงนหน้ามอง
ผืนฟ้าสีเข้มที่เต็มไปด้วยดวงดาวสุกสกาวและพระจันทร์ดวงโตโผล่พ้นขึ้นมาหลังจากที่ฝูงค้างคาว
นับล้านตัวบินหายลับไปกลับสายลมยามเย็น



            “ลงๆ อาพอร์ชปล่อย น้องซนจะเดินเอง” จู่ๆ เจ้าเด็กแสบก็ร้องบอกให้พอร์ชที่กำกลืนฝืนใจ
ทำหน้าที่เป็นม้าปล่อยตนเองลงเดินด้วยตัวเอง



            พอร์ชกำลังจะแกล้งว่าให้เจ็บๆ คันๆ อยู่แล้วเชียว หลังจากที่โดนเจ้าตัวแสบเล่นงานอยู่นาน
นับชั่วโมง ถ้าไม่ติดที่ว่า พอกระโดดลงจากหลังคนเป็นอาได้แล้ว เจ้าเด็กแสบก็ทำเนียนเดินเข้ามา
แทรกกลางระหว่างพอร์ชกับโซ่ ถือวิสาสะจับมือคุณอาทั้งสองคนละข้าง เหวี่ยงซ้ายแกว่งขวา พาจับ
จูงไปตามทางเดิน ก่อนที่จะพูดออกมาเบาๆว่า…



            “มีอาโซ่ มีอาพอร์ช มีน้องซน…สามคนก็พอเนอะ”



            เจ้าตัวแสบทิ้งท้ายคำพูดหน่วงใจพร้อมด้วยรอยยิ้มหวานที่ดูเหมือนว่าจะฝืนเกินทน เป็นเหตุ
ให้พอร์ชโซ่เงยหน้าสบตามองกันด้วยความเศร้าสลด  แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา นอกจากช่วยกัน
กระชับฝ่ามือน้อย ส่งผ่านความรู้สึกให้หลานชายได้รับรู้ว่ายังมีเขาทั้งสองคนพร้อมที่จะอยู่เคียงข้าง
กับเจ้าตัวตลอดเวลา ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม



            “น้องซน!”



            “หยุดอยู่ตรงนั้นแหละเฮีย กินข้าวก่อน เรื่องอื่นค่อยคุยกันที่หลัง”



            โซ่ยกมือห้ามให้พี่ชายอย่าง ‘เซน’ ซึ่งอีกนัยหนึ่งก็คือพ่อผู้ให้กำเนิดของจอมซนหยุดอยู่
กับที่ เมื่อเจ้าตัวทำท่าว่าจะเดินเข้ามาหาลูกชายอย่างจอมซนด้วยท่าทางร้อนใจ



            ใช่ว่าโซ่จะไม่อยากรู้เรื่องราวความเป็นไปของหลานชาย ว่าด้วยเหตุใดเจ้าตัวถึงได้หนี
ข้ามน้ำข้ามทะเล จากอีกซีกโลกหนึ่งมายังอีกซีกโลกหนึ่ง เพียงแต่…โซ่ก็แค่อยากยืดเวลาให้ตัว
ต้นเรื่องอย่างจอมซนได้เตรียมตัวเตรียมใจที่จะเผชิญหน้าพูดคุยกับคนเป็นพ่ออย่างเซนเป็นครั้งแรก
 หลังจากที่ติดต่อพูดคุยกันผ่านหน้าจอคอมฯมาตลอดชีวิต ตั้งแต่แรกเกิดจนถึงปัจจุบัน ที่โซ่คิดว่า
มันคงจะเป็นสถานการณ์ที่อึดอัดใจมากสำหรับเด็กวัยแปดขวบอย่างจอมซน โดยเฉพาะที่ข้างตัว
ของคนเป็นพ่อนั้นไม่ได้ว่างเปล่าอย่างที่จอมซนคิด แต่กลับมีใครอีกคนที่ยืนอยู่ข้างกายไม่ห่าง
ใครคนนั้นที่มีสถานะเป็น ‘แม่เลี้ยง’ ที่มาพร้อมกับลูกน้อยแสนรักของพวกเขาในอ้อมแขน



            “อาโซ่จ๋า ~” เจ้าเด็กแสบจอมป่วนที่ทำตัวทะเล้นเล่นซนมาทั้งวันกำลังช้อนตามองคน
เป็นอาด้วยดวงตากลมโตที่คลอไปด้วยหยาดน้ำสีใส



            “กินข้าวก่อน เดี๋ยวอาสั่งเค้ก” เพราะรู้ดีว่าหลายชายกำลังรู้สึกแย่ โซ่จึงเลือกที่จะเปลี่ยน
เรื่องคุย ทรุดตัวนั่งลงบนเก้าอี้ว่าง ก่อนที่จะดึงรั้งตัวหลานชายให้ลงมานั่งทับตัก แล้วใช้ฝ่ามือเรียว
ของตัวเองลูบหลังปลอบประโลมในยามที่เจ้าตัวเล็กซุกหน้าสะอึกสะอื้นอยู่ที่ซอกคอ



            “โซ่”



            “ซนไปนั่งกับอาพอร์ชก่อน อาจะไปห้องน้ำ” บอกกับหลานชายในขณะที่สายตาจ้องมอง
ส่งสัญญาณไปให้พี่ชายผู้ที่เป็นเจ้าของเสียงเรียกในตอนแรก



            “พูดมาเถอะเฮีย” โซ่เป็นผ่ายเปิดประเด็นขึ้นมาก่อน หลังจากที่เขาทั้งสองคนปล่อยให้
เวลาไหลไปโดยเปล่าประโยชน์มาหลายนาที



            “สเตฟบอกกับพี่ว่าน้องซนหายออกจากบ้านมาหลายวันแล้ว ตอนแรกเธอคิดว่าน้องซน
ไปค้างบ้านเพื่อนเลย…”



            “ลูกหายออกจากบ้านมาตั้งหลายวันเพิ่งจะรู้ตัว? เป็นแม่ประสาอะไรวะ”



            ยังไม่ทันทีพี่ชายอย่างเซนจะได้อธิบายจบ โซ่พูดก็สวนขึ้นมาอย่างหัวเสีย มีอย่างที่ไหน
ลูกออกจากบ้านไปตั้งหลายวันแบบไม่ได้บอกกล่าว แต่เสือกไม่ตาม!



            “พี่ก็ต่อว่าเธอไปแรงเหมือนกัน ก่อนที่เธอจะโทรกลับมาบอกว่าทางตำรวจที่เธอไป
แจ้งความไว้บอกว่าพบหลักฐานการเดินทางออกนอกประเทศของน้องซน”



            “…..”



            “และเธอกำลังจะมาถึงประเทศไทยในวันพรุ่งนี้”



            “เฮียรักจอมซนบ้างไหม? เธอเคยถามลูกรึเปล่าว่าต้องการอะไร? หรือแค่คิดว่าการคุย
ผ่านหน้าจอทุกวันก็พอแล้ว?” โซ่เป็นฝ่ายเอ่ยถามขึ้นมาบ้าง



            “รักสิ พี่รักลูกเท่ากันทั้งสองคน แต่กับน้องซนโซ่ก็รู้ว่าเพราะอะไร ทำไมเราถึงทำอะไร
มากกว่านี้ไม่ได้” เพราะข้อกฎหมายที่กำหนดมันสั่งให้คนแพ้คดีอย่างเขาไม่มีสิทธิ์ในตัวลูก นอก
เสียจากฝ่ายคนเป็นแม่จะยินยอมให้ติดต่อกัน ซึ่งเขาก็ได้สิทธิ์ เพียงแค่การพบปะพูดคุย และเฝ้า
ดูการเจริญเติมโตของลูกผ่านทางหน้าจอคอมฯ ตามเวลาที่อดีตคนรักกำหนดไว้ให้



            “ผมไม่รู้หรอกนะรักที่เฮียให้ลูกมันมีมากแค่ไหน แต่ถ้าเป็นผม…ผมจะทำทุกอย่างเพื่อ
รอยยิ้มของลูก ต่อให้ต้องแลกทั้งชีวิตเพื่อความสุขของลูกผมก็ยอม โดยเฉพาะกับตอนนี้ ถ้าจอมซน
เป็นลูกของผม ต่อให้ถูกตราหน้าว่าเป็นไอ้ฆาตกรเพียงเพราะหยิบยื่นความตายให้กับไอ้สัตว์นรกที่มัน
ลวนลามลูกของผมอย่างที่จอมซนโดนจนทนไม่ไหว ต้องหนีมาแบบนี้ผมก็จะทำ!!!”



            ระเบิดอารมณ์ใส่พี่ชายเสร็จแล้วโซ่ก็เดินผละออกมาอย่างไม่สนใจอะไร ไม่แม้จะหันกลับไป
มองคนเป็นพี่ที่ตนเองผลักล้มลงไปกับพื้น เพราะคำพูดสุดท้ายที่หลานชายพูดบอกออกมาได้อย่างหน้า
ซื่อตาใสมันทำให้เขารู้สึกโกรธจนแทบบ้า



            ‘ ปีเตอร์ชอบแกล้งจับก้นน้องซน ชอบเข้ามา kiss kris น้องซนในห้องนอน ตอนที่ที่รักไม่อยู่บ้าน
…น้องซนไม่ชอบเลยฮะอาโซ่ ’



            “อาพอร์ชจ๋า…น้องซนโตแล้ว น้องซนจะเป็นลูกอาพอร์ชกับอาโซ่ได้ไหมฮะ” เด็กชายตัวโต
เกินวัยดูตัวเล็กไปถนัดตาเมื่ออยู่ในอ้อมแขนของเด็กยักษ์ตัวจริงอย่างพอร์ช ซุกหน้าร้องถามคนเป็นอา
เบาๆ โดยที่ไม่สนใจคนรอบข้างที่เอาแต่จ้องมองมาที่เจ้าตัวด้วยความเป็นห่วงเป็นใย เพราะตอนนี้ใน
ความเชื่อใจของเด็กชายมีให้แค่คุณอาทั้งสองเท่านั้นเอง



            “ถ้าไม่ดื้อและนอนกับพี่มณีได้…เด็กตัวเท่าซนอาเลี้ยงได้สบายๆ เลย” พอร์ชพูดบอกพร้อม
กับโยกตัวไปมา



            “แต่น้องซนกินเยอะนะฮะ?” ช้อนตาถามอย่างลุ้นๆ เพราะรู้ซึ้งดีถึงพลังการทำลายล้างของ
หลุมดำในพุงน้อยๆ ของตัวเองที่ไม่เคยมีเพื่อนคนไหนกล้าที่จะแชร์อาหารกลางวันด้วย



            “เอ…ถ้าอย่างนั้นเราคงต้องถามแม่ครัวที่บ้านอาแล้วละ” พอร์ชพูดบอกพร้อมกับหยิบโทรศัพท์
ขึ้นมาต่อสายหาใครบางคน



            // ว่าไงลูกชาย // คุณนายปลื้มจิตที่กดรับสาย จ้องมองลูกชายที่กำลังกอดใครบางคนด้วย
ความฉงน จะว่าเป็นลูกสะใภ้คนโปรดอย่างโซ่ก็ไม่ใช่ ด้วยรูปร่างที่ต่างกันโดยสิ้นเชิง



            “แม่ถ้าผมกับไอ้โซ่จะมีลูกตัวโตๆ จะเป็นอะไรไหม? ถ้ามีหลานตัวโตๆ นี่แม่จะโอเครึเปล่า?”
พอร์ชถามพลางส่งสายตาบอกผ่านความในกลับไป



            // ให้กินเก่งจริงๆ เถอะ แม่จะขุนให้อ้วนเหมือนลูกหมูตัวน้อยๆ เลย // เธอไม่รู้หรอกว่าอะไร
เป็นมาอย่างไร แต่ในเมื่อลูกชายถาม เธอก็แค่ตอบ เพราะดูจากสีหน้าและท่าทางของลูกชายแล้ว มัน
บ่งบอกว่าเจ้าตัวกำลังจริงจัง ไม่ได้ล้อเล่นอย่างที่เคย



            “เอ้า…จะเป็นลูกอาไม่ใช่หรอ? ทำไมไม่คุยกับคุณย่าล่ะ?” พอร์ชเขย่าขา ขยับโทรศัพท์ให้
ตรงกับหน้าของหลานชายที่ตอนนี้คลายสะอื้นและเปลี่ยนเป็นอายม้วนต้วนไปแล้ว



            // ว่าไงครับ คนเก่งชื่ออะไรเอ่ย? บอกคุณย่าได้ไหมครับ // คุณนายปลื้มจิตช่วยลูกชาย
กระตุ้นเด็กชายอีกแรง



            “นะ…น้อง…น้องซนฮะคุณย่า” เงยหน้ายิ้มให้คนในจอทั้งน้ำตา แต่เป็นน้ำตาแห่งความดีใจ
ไร้ซึ่งความเสียใจเหมือนก่อนหน้านี้



            // หืม…ชื่อน่ารักเหมือนน้องโซ่เลย //



            “น้องซนมาหาอา” ยังไม่ทันที่ใครจะได้พูดอะไรกันต่อ โซ่ที่เดินหัวเสียเข้ามา โน้มตัวอุ้ม
เอาหลานชายไปนั่งบนตักตัวเองแทน โดยที่ไม่ได้รู้เลยว่าคนรักและหลานชายกำลังทำอะไรอยู่



            “อาโซ่ฮะน้องซนคุยกับคุณย่าอยู่” เด็กชายที่เริ่มจะกลับมาสดใสยู่หน้าบอกกับคนเป็นอา
เสียงเบาอย่างเขินอาย เมื่อชั่วแวบหนึ่งในห้วงความคิดเผลอเข้าใจผิดคิดว่ากำลังอยู่ในอ้อมกอด
ของคนเป็นแม่ที่พร้อมจะเสียสละทุกลมหายใจเพื่อลูก



            “คุณย่า?” เลิกคิ้วถามอย่างไม่เข้าใจ เพราะรู้ดีว่าจอมซนไม่ค่อยกล้าเข้าใกล้ย่าแท้ๆของ
เจ้าตัวสักเท่าไหร่ ถ้าไม่จำเป็นจริงๆ จนกระทั่งหางตาหันไปเห็นคุณนายปลื้มฉีกยิ้มอยู่ในจอมือถือ
เครื่องโปรดของคนรักนั่นเอง



            “แม่”



            // อย่าลืมพาหลานมาเที่ยวหาแม่บ้างนะครับน้องโซ่ // คุณนายปลื้มจิตทิ้งท้ายไว้สั้นๆ
เพียงเท่านั้น ก่อนที่สัญญาณจะตัดไป



            “คือ?” หันไปถามคนรักในขณะที่สองมือก็ยุ่งอยู่กับการจัดท่าทางให้หลานชายที่เผลอ
หลับกลางอากาศไปได้นอนอย่างสบาย



            “ไอ้แสบมันถามว่ามันโตแล้วมันจะเป็นลูกเราได้รึเปล่า” พอร์ชกระซิบบอกเบาๆ เพราะ
ยังไม่อยากให้ใครได้ยินในสิ่งที่หลานชายร้องขอ โดยเฉพาะกับพ่อแท้ๆ อย่างเซนที่กำลังจ้อง
มองมาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความรู้สึกมากมาย



            “จริง?”



            “อืม”



            ยิ่งได้รับรู้ในสิ่งที่หลานชายพูดกับคนรัก โซ่ก็ยิ่งคิดถึงตัวเองในอดีต…เด็กน้อยในวันวาน
ที่ยอมทำทุกอย่าง ฝืนธรรมชาติของตนเอง เพียงเพราะต้องการการยอมรับ เพื่อขอเศษเสี้ยวของ
ความรักความเอ็นดูจากบุพการีทั้งสองคนที่เห็นเขาเป็นเพียงแค่เครื่องมือการเอาชนะกัน แต่จอมซน
ยังดีกว่าเขาที่คนเป็นพ่ออย่างเซนแสดงออกมาอย่างชัดเจนว่าต้องการว่ารู้ซึ้งในความสำคัญ
และพร้อมที่จะรับเข้าสู่อ้อมกอดของครอบครัวใหม่ที่เจ้าตัวตั้งใจสร้างสรรค์ขึ้นมาเพื่อรองรับการ
กลับมาของลูกชายคนสำคัญอย่างจอมซน จะเหลือก็แค่การนับถอยหลัง…รอวันที่เสียงหัวใจของ
สมาชิกในครอบครัวเต้นเป็นจังหวะเดียวกัน









TBC.

เดี๋ยวหมดเรื่องน้องซนแล้ว เรากลับเข้าโหมดคู่รักฮาร์ดคอร์กันดีกว่าเนอะ เอื่อยมานานแล้ว กลัวคนอ่านเหงา   

เตรียมกระดาษทิชชู่กับชุดทำแผลไว้แต่เนิ่นๆ เลยเน้อ! พอถึงเวลาจะได้ไม่ฉุกละหุก

Ps. รู้ว่าอาโซ่มีความคิดความอ่านโตเกินวัยอยู่แล้วตามประสาเด็กที่เติมโตมาจากเศษเดนความรัก แต่กลับลูกคุณหนูที่มีคนตามใจมาตั้งแต่เด็กอย่างอาพอร์ช...ดูโตขึ้นเยอะเลยเนอะ #รัก

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
น้องซนน่ารักอ่ะ :กอด1:

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4825
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
สาธุ ขอให้ซนได้อยู่ที่ไทย  :m5:

ออฟไลน์ farfarneenee

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 365
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
น้องซนลูกกกกกก

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ jimmyjimmy

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1966
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-17
เป็นลูกอาโซ่นอนคั้นกลางอาพอร์ชก้อดีนะ

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3709
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7697
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
รอตอนต่อไป

ออฟไลน์ เขียนสือ

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-1
    • เขียน'สือ
เขยช่างไฟสะใภ้ช่างยนต์

{35}





 แอ๊ด…ปัง!



ตุบ..



            “อื้อ~ ไอ้บ้าพอร์ช…เสียงดัง! ที่นี่ไม่ใช่ที่บ้านนะที่ทั้งชั้นจะมีแค่เรา” โซ่ดุเสียงเข้มทันที
ที่ลอดพ้นจากการปล้ำจูบของคนรักที่เกิดขึ้นอย่างไม่ทันรู้ตัว ตอนที่ตนเองกำลังจดจ่ออยู่กับการ
ไขประตูเปิดห้องที่เปิดค่อนข้างยาก เพราะลูกบิดตัวเก่าเริ่มขึ้นสนิม



            ฟอด..



            “ขอโทษครับพี่แค่คิดถึงโซ่มากไปหน่อย”



            “อะไรจะหื่นขนาดนั้น?” ตีหน้านิ่งเลิกคิ้วกรอกตาถามแก้เขิน เมื่อถูกจู่โจมด้วยสรรพนาม
คำพูดหอมหูที่มาพร้อมกับการหอมแก้มอีกฟอดใหญ่ แต่ก็อดไม่ได้ที่จะถามออกไปว่าด้วยเหตุใด
คนรักของเขาจึงหื่นกามเช่นนี้ทั้งที่เขาทั้งสองคนก็ไม่เคยห่างหายเรื่องการทำรัก โดยเฉพาะช่วง
หลังนี้ นับตั้งแต่พากันไปตรวจเลือดแล้วผลออกมาว่าปลอดภัย พอร์ชก็ยิ่งเอาแต่ใจ เพราะเขาเคย
สัญญากับเจ้าตัวไว้ว่าจะ ‘ตามใจ’ ในเรื่องนี้ แต่ก็ไม่คิดว่าเจ้าตัวจะขยันทำชนิดที่เรียกได้ว่า
วันเว้นวัน คิดแล้วก็ได้แต่ถอนหายใจที่เผอเรอปล่อยให้คนรักอดหนักถึงขั้น หิวโซ แบบนี้



            “ก็…คิดถึง” ทำตาเยิ้มกระซิบเบาๆ ที่ข้างหู



            จะไม่ให้โซ่โอนอ่อนผ่อนปรนได้อย่างไร ในเมื่อคนรักขยันหยอดคำหวานขนาดนี้



            “ก็ได้ แต่เบาๆ นะ…หลานนอนหลับอยู่ห้องข้างๆ”



            รู้อยู่แก่ใจว่าโดนหลอกแดก แต่ก็อดที่จะคล้อยตามไม่ได้ ก็คนห่ามๆ อย่างไอ้พอร์ชอะนะ
 ถ้าจะให้หวานจริงๆ (แบบไม่ปนความปัญญาอ่อนเวลาอยากแกล้ง) ก็มีแต่เวลาแบบนี้กับเวลาที่
อยากจะขอเบิกเงินซื้อโมเดลซุปเปอร์ฮีโร่ตัวโปรดเท่านั้นแหละ อย่าหวังเลยว่ามันจะมาหวานแหวว
แต๋วจ๋าแบบนี้ได้ตลอดเวลา ส่วนมากก็จะโหดห่ามใส่กันเสียมากกว่า เพราะมันบ่งบอกถึงตัวตนที่
แท้จริงของพวกเขา คบกันวันแรกเป็นยังไงทุกวันนี้ก็ยังเป็นอย่างนั้น ไม่มีช่วงโปรโมชั่นให้สะท้อนใจ
 ถ้าหากว่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเปลี่ยนไปเพียงเพราะเบื่อที่จะสร้างความประทับใจให้แก่กันด้วยความ
อยากได้อยากครอบครอง จนต้องฝืนใจทำในสิ่งที่ไม่ใช่ตนเอง



            มาถึงตรงนี้…ก็ต้องขอบคุณคนรักอย่างพอร์ชที่เลือกใช้ความจริงใจเข้าหากัน แม้ว่ามัน
จะห่ามเกินวิธีของคนปกติไปมากก็ตาม แต่เขาเองก็พร้อมที่รักในตัวตนของพอร์ชเช่นกัน



            “ยังไม่ได้อาบน้ำเลยนะ?” บางทีโซ่ก็นึกสนุก อยากจะแกล้งคนรักขึ้นมาบ้าง พูดบอก
ทั้งที่โดนอีกฝ่ายจัดการลอกคราบอาบน้ำด้วยน้ำลายจนเปียกไปทั้งตัว หลังจากโดนอุ้มมาทุ่ม
ลงเตียงเมื่อหลายนาทีก่อน



            “ฮื่อ…รู้น่า” ตอบโต้ทั้งที่ยังซุกหน้าอยู่กับซอกคอของคนรัก



            “อะ…เจ็บ!” อย่าคิดว่าโซ่อ้อนแอ้นอ่อนแอหรืออ่อยเหยื่อเหมือนนางเอกเอวีที่คนรัก
ชอบดูเด็ดขาด เพราะที่ร้องเสียงหลงออกมาอย่างนี้ก็เพราะโดนไอ้หมามันแกล้งกัดแรงๆตรง
เนื้ออ่อนที่ไวต่อสัมผัสของร่างกายอย่างจุดแต้มบนนมต่างหากเล่า



            “ชมพู๊ชมพู…พี่พอร์ชชอบ” เงยหน้าขึ้นมาหัวเราะโรคจิตใส่ได้อย่างหน้าตาเฉย
ไม่มีหรอกที่จะสำนึกผิด บอกเลยว่าตั้งใจทำให้เจ็บ



            “โอ้ย!”



            “หึๆ”



            ถึงคราวที่พอร์ชจะต้องร้องเสียงหลงบ้าง เมื่อโซ่โน้มคอเจ้าตัวลงมากัดหูเป็นการแก้แค้น
แต่เพียงพริบตาเดียวเจ้าตัวก็เปลี่ยนมาป้อนจูบรสหวานเพื่อขอโทษและปลอบโยนไปในคราวเดียวกัน



            “สู้หรอ? เดี๋ยวรู้เลย!” กัดฟันพูดบอกเสียงเบา ก่อนจะก้มหน้าลงไปฝัดแก้มทั้งสองข้าง
ของคนรักที่นอนอยู่ใต้ร่างด้วยความหมั่นเขี้ยว



            โซ่เชิดหน้าสูดปาก เมื่อรู้สึกถึงตัวตนของคนรักที่ผ่านเข้ามาในร่างกายด้วยความยากลำบาก
เพราะพวกเขาไม่ได้พกตัวช่วยอะไรมาเลย แม้แต่ถุงยางอนามัยเพื่อนคู่ใจยามหื่นกามของพอร์ชก็ไม่มี
เพราะเจ้าตัวเลิกพกตั้งแต่เขายอมใจอ่อนให้มันแนบชิดสนิทกาย หลังจากเหตุการณ์วันตรวจเลือดโน้นแหละ



            “อ้วนว่ะ” พูดแหย่ในขณะที่ใช้มือซุกซนของตัวเองแกล้งลูบคลำตรงเนินท้องน้อยของโซ่
อย่างเบามือราวกับยั่วยวน เมื่อเห็นตัวตนของโซ่ตั้งตรงด้วยแรงอารมณ์



            “เอาหนอนน้อยมึงออกก็ผอม” ไม่พูดเปล่า แต่โซ่ทำท่าจะดันตัวหนี แต่พอร์ชรู้ทันคว้าหมับ
เข้าที่เอวของคนรักเข้าหาตัวทำเอาโซ่ถึงกับต้องเบ้หน้าด้วยความจุกเสียด เพราะการที่พอร์ชรั้งตัวเขา
เข้าหาตนเองนั้นมันก็ไม่ต่างอะไรจากการเพิ่มแรงบวกช่วยส่งแรงเสริมให้ตัวตนที่ฝังอยู่ในกายของโซ่
เลยแม้แต่น้อย



            “อ๊ะ…ไอ้เหี้ยพอร์ช!”



            “ฮ่าๆ สมน้ำหน้า กล้าเรียกลูกรักของพี่ว่าหนอน้อยได้ยังไง ใหญ่แบบนี้ก็มีแต่หัวรบขนาด
พิเศษรุ่นซุปเปอร์พอร์ชเท่านั้นแหละน้องเอ้ย!”



            ยิ่งเห็นหน้าเหยเกของคนรักมากเท่าไหร่ พอร์ชก็ยิ่งชอบใจอยากแกล้งมากเท่านั้น กว่าที่
พอร์ชจะทดสอบขีปนาวุธรุ่นซุปเปอร์พอร์ชของตัวเองเสร็จก็เล่นเอาโซ่แทบหมดสลบ แต่ดีที่ว่าเป็น
คนแข็งแรงเพราะออกกำลังกายเป็นประจำ ไม่อย่างนั้นคงน็อคกลางอากาศไปแล้ว หลังจากที่พา
หลานเที่ยวเล่นจนเหน็ดเหนื่อยมาทั้งวันตังแต่เช้ายันค่ำ



            “อย่าลืมไปรับพี่มณี” แม้ว่าจิตจะหลับไปแล้ว แต่โซ่ก็ยังฝืนลืมตาขึ้นมาพูดเตือนให้พอร์ช
ไปรับเจ้าเหมียวลูกรักจากพี่ชายอย่างเซฟที่เอาไปฝากไว้ตั้งแต่เช้า ก่อนที่จะพาจอมซนไปเที่ยว
เพราะถ้าไม่ไปรับเจ้าเหมียวตัวแสบกลับมานอนด้วย พี่เลี้ยงจำเป็นอย่างเซฟได้คลั่งแน่ เพราะกลางวัน
พี่มณีจะอยู่เล่นกับใครก็ได้ แต่ตอนกลางคืนต้องได้นอนกอดกับพ่อจ๋ากับป๋าจ๋าหรือไม่ก็ปู่ใหญ่กับคุณย่า
เท่านั้น เพราะถ้าไม่ใช่สี่คนนี้เจ้าเหมียวแสบจะงอแงร้องหม๊าวๆ กวนทั้งคืน เหตุการณ์เช่นนี้โฟล์คพี่ชาย
คนโตของพอร์ชได้ประสบพบเจอมาแล้วกับตัว หลังจากที่หลงสกิลความปลิ้นปล้อนหลอกกินขนมแมว
ของพี่มณีจึงคิดจะคว้าเอาไปนอนกอดด้วย แต่หลังจากที่พาเข้าห้องไปได้ไม่ถึงสองชั่วโมงคุณหมอคน
เก่งที่ปราบพยศมาแล้วทั้งเด็กทั้งผู้ใหญ่ตามอายุราชการของตัวเองก็ต้องยกธงยอมแพ้ ยอมเสียมารยาท
เคาะประตูห้องน้องชายกลางดึกเพื่อที่จะส่งตัวเจ้าเหมียวจอมแสบคืนพ่อแม่มัน



            กริ๊ก...



            หม๊าว~

            มาถึงตอนนี้แม้แต่เสียงร้องเรียกจากพี่มณีลูกรักโซ่ก็แทบจะไม่ได้ แต่การตอบสนองของ
ร่างกายมันเป็นไปตามความเคยชินที่ต้องคว้าเอาตัวเจ้าเหมียวลูกรักเข้ามาในอ้อมกอด ยามที่
เจ้าปุกปุยมุดผ้าห่มเข้ามานอนขดในอ้อมแขน



            หม๊าว~

            “เออรู้แล้ว อย่าเสียงดัง แม่มึงจะนอน” ปิดไฟในห้องจนดับสนิทหมดแล้วพอร์ชเองก็
ต้องรีบสอดตัวเข้าผ้าห่มผืนหนาเช่นกัน เมื่อลูกรักลูกชังอย่างเจ้าเหมียวมณีร้องเรียก ก็อย่างที่
บอกไปว่ามันเหมือนเป็นความเคยชินที่สองคนหนึ่งแมวจะต้องนอนพร้อมกัน เช่นเดียวกันกับ
ครอบครัวพ่อแม่ที่มีลูกเป็นมนุษย์ จะต่างก็ตรงที่ลูกของพอร์ชกับโซ่เป็นเจ้าเหมียวขนปุยที่ฉลาด
และแสนรู้เกินเผ่าพันธุ์ของตัวเองก็เท่านั้น

..

..

..

            “น้องซนอยากไปด้วย” ก้มหน้าพูดบอกด้วยน้ำเสียงสะอื้น เมื่อตื่นเช้ามาแล้วพบความจริง
ที่ว่าคุณอาทั้งสองต้องกลับบ้านแล้วทิ้งให้ตนเองต้องอยู่กับครอบครัวใหม่ของคนเป็นพ่อตามลำพัง



            “เสร็จธุระแล้วอาจะกลับมารับ ถ้าซนยังอยากไปกับอาอยู่ละนะ” คว้าตัวหลานชายเข้ามากอด
พูดบอกถึงเหตุผลที่ตนเองพาเจ้าตัวไปไม่ได้ ลำพังแค่กลับไปทำเรื่องลงทะเบียนเรียนในเทอมใหม่
เขาสามารถพาจอมซนไปด้วยได้อยู่แล้ว แต่เพราะธุระที่ว่านั้นมันสำคัญกับจอมซนมาก ในการที่เซน
หรือพ่อแท้ๆ ของจอมซนจะยื่นเรื่องฟ้องศาลขอสิทธิ์ในการเลี้ยงดูลูกจอมซนเป็นครั้งที่สอง หลังจาก
ที่เคยแพ้คดีมาแล้วหนึ่งครั้งตอนที่จอมซนเกิด แต่ตอนนี้ตัวแปรสำคัญคือตัวของจอมซนเอง โซ่จึงจำ
เป็นจะต้องทิ้งหลานชายไว้กลับพ่อแท้ๆ ของเจ้าตัวด้วยความเป็นห่วง แต่ก็หวังว่าพี่ชายอย่างเซนกับ
พี่สะใภ้จะใช้เวลาที่มีค่าอันน้อยนิดนี้ซื้อใจจอมซนได้สำเร็จ เพราะสำหรับคนเป็นลูกแล้ว ไม่มีใครมีค่า
และสำคัญไปกว่าคนเป็นพ่อแม่หรอก สุดท้ายแล้วก็อยู่ที่ว่าเซนจะใช้เวลาที่มีอยู่ในมีได้คุ้มค่ามากแค่ไหน
เพราะในสายตาคนนอกอย่างโซ่แล้ว พี่สะใภ้คนใหม่ถึงหน้าจะดูเหวี่ยงๆ ร้ายๆ แต่นิสัยใช้ได้ในระดับหนึ่งเลย
ถ้าวัดเอาจากสายตาเอ็นดู วิธีการเข้าหา พูดคุย และดูแลช่วยเหลือตอนที่ลูกเลี้ยงอย่างจอมซนซุ่มซ่าม
หกล้มจนเข่าแตกลับหลังคนอื่นตอนที่เจ้าตัวแสบวิ่งไปเข้าห้องน้ำที่ร้านอาหารคนเดียวอะนะ แต่ที่โซ่รู้ก็
เพราะว่าเป็นห่วงกลัวว่าหลานจะหกล้มนั่นไง เลยตามไปดู แต่ก็ไม่ที่ว่าจะได้เห็นภาพอบอุ่นจากแม่เลี้ยง
หน้าเหวี่ยงใช้ผ้าเช็ดหน้าแบรนด์ดังผืนสวยของตัวเองชุบน้ำทำความสะอาดแผลเปื้อนเลือดให้ลูกเลี้ยง
ด้วยความระมัดระวังอย่างเบามือในขณะที่ริมฝีปากสวยก็เฝ้าแต่พร่ำบอกว่าไม่เป็นไร คอยปลอบใจ
เด็กขวัญเสียให้หายกลัว เพราะเช่นนี้โซ่จึงทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น เดินหันหลังกลับไปนั่งรอหลานที่โต๊ะ
อาหารด้วยความสบายใจ



            “สัญญานะฮะ” ชูนิ้วก้อยซ้ายขวาของตัวเองยื่นเข้าไปหาคุณอาทั้งสองขอคำยืนยัน ก่อนที่
พอร์ชกับโซ่จะยื่นนิ้วก้อยของตัวเองมาเกี่ยวกับหลานคนละข้างแทนคำสัญญา



            “เตรียมตัวให้พร้อมนะเฮีย ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาดก็ตามที่ทนายบอก…ใช้เวลาให้คุ้มค่านะเฮีย”
เพราะไม่อยากให้หลานต้องมีปมฝังใจในเรื่องครอบครัวเหมือนตัวเอง โซ่จึงไม่ลืมที่จะพูดทิ้งท้ายไว้ให้
พี่ชายได้คิด เพราะมั่นใจว่าการฟ้องร้องในครั้งนี้จะไม่แพ้เหมือนก่อนหน้า เพราะทนายผู้ดูแลในคดีนี้คือ
ลูกเลี้ยงคนเก่งที่ควบหน้าที่เมียเด็กของบิดาผู้ล่วงลับของโซ่เอง



            “เป็นเด็กดีนะ ถ้าดื้ออาจะไม่มารับ” พอร์ที่อุ้มพี่มณีอยู่พูดบอกกับจอมซนที่หน้างออยู่แล้วให้
ยุ่งขึ้นไปอีก กว่าจะยิ้มได้ก็ตอนที่โซ่หันกลับมาหาหลังจากที่คุยกับเซนเสร็จ



            แล้วพูดว่า…



            “เดี๋ยวอามารับ”



            “น้องซนรักอาโซ่ที่สู้ดดดดด…” เพียงแค่นั้นเด็กหน้างอก็เปลี่ยนเป็นยิ้มแป้น
กระโดดกอดคนเป็นอาเสียเต็มรัก

..

..

..

            “ถ้าเมียกูจะหล่อขนาดนี้นะ” พอร์ชเอ่ยแซวทันทีเมื่อเห็นผมยาวรุงรังจนรวบจุกมัดได้
ของโซ่ถูกตัดเป็นรองทรงตามกฎระเบียบของวิทยาลัย หลังจากที่เขาเคยบังคับให้เจ้าตัวเข้า
ร้านตัดผมมาตลอดระยะเวลาสองสามเดือนที่ปิดเทอม แต่นอกจากจะไม่ตัดผมทิ้งแล้ว โซ่ยัง
ทำซ่าย้อมผมทั้งหัวเป็นสีฟ้าสดใสให้ดูซะเลย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นโซ่ไม่ได้ต้องการจะประชดคนรัก
หรอกนะ เพียงแต่ทุกๆ เปิดเทอมใหญ่โซ่จะชอบทำตัวเซอๆ ด้วยการไว้ผมยาว ไม่ก็ย้อมสีผม
แล้วหนีความวุ่นวายขึ้นเขาเที่ยวดอย เป็นอย่างนี้มาตั้งแต่อายุสิบสี่แล้ว เพียงแต่ปีนี้มันต่างออก
ไปก็ตรงที่มีพอร์ชก้าวเข้ามา ทุกอย่างจึงเปลี่ยนไป แต่ก็ใช่ว่าเขาจะละทิ้งตัวตนของตัวเองหรอกนะ
 เพียงแต่เขายังจัดสรรตารางชีวิตที่มีพอร์ชเข้ามาผูกติดอยู่ด้วยไม่คล่องเท่านั้นเอง เอาไว้เขาตั้งตัว
ได้เมื่อไหร่…เมื่อนั้นไอ้หมาพอร์ชได้พบเจอกับความบันเทิงแน่นอน



            “ไอ้พวกนั้นมายัง?” โซ่ทำหน้าเหม็นเบื่อใส่คนรักที่เอาแต่พูดไร้สาระแล้วถามหาเพื่อนๆ
ที่นัดเจอกันผ่านไลน์กลุ่มแทน เพราะทันทีที่เดินทางมาถึงพิจิตรพอร์ชกับโซ่ก็เอาพี่มณีไปฝากไว้
กับเสี่ยใหญ่และคุณนายปลื้มจิตที่ร้าน ก่อนจะอาศัยจังหวะที่เจ้าเหมียวลูกรักเผลอหันหลังให้บิด
น้องแมนหนีออกมาร้านตัดผมทันที



            “ไปรอที่ร้านแล้ว เหลือแค่มึงนี่แหละครับเมียที่ช้า” เพราะต้องย้อมผมกลับมาเป็นสีดำ
ดังเดิมเลยใช้เวลานานนับชั่วโมง คนที่ตัดผมเสร็จตั้งแต่สิบนาทีแรกอย่างพอร์ช จึงอดไม่ได้ที่
จะพูดเหน็บให้เจ็บแสบ แต่มีหรือที่โซ่จะสน?



            “ก็ไปสิ จะมานั่งหน้าแก่อยู่ทำไม?” พูดจบก็หันหลังเดินหนีทันที ไม่รอให้พอร์ชได้ตั้งตัวทัน
ซึ่งกว่าที่พอร์ชจะรู้สึกตัวว่าโดนหลอกด่า โซ่ก็หนีเข้าร้านบิงซูที่อยู่ถัดจากร้านตัดผมไปอีกสองร้าน
เสียแล้ว เพราะที่นั่นคือสถานที่นัดแนะรวมตัวในวันนี้



            “มึงว่าเขามองอะไรกันวะ?” แวนชะโงกหน้าเข้ามากระซิบถามเพื่อนๆ ที่กำลังล้อมวงจ้วง
บิงซูสามถ้วยใหญ่ตรงหน้าด้วยท่าทางเอร็ดอร่อย



            “แล้วคุณคิดว่าหน้าอย่างพวกเรามันเหมาะกับร้านแบบนี้หรอครับ” สุดท้ายแล้วกลาย
เป็นบุญล้อมที่ช่วยไขข้อคล้องใจให้กับคนรัก หลังจากที่คนอื่นๆ พากันยักไหล่เหมือนไม่ใส่ใจ



            แวนไล่มองหน้าเพื่อนทีละคนจนครบ ก่อนจะพูดบอกออกมาว่า…



            “เออว่ะ! โดยเฉพาะมึงกับไอ้พอร์ชนี่หน้าโคตรไม่ให้เลยวะมหา ว่าแต่ใครนัดร้านนี้วะ?”
หัวเราะคิกคักให้กับความคิดตลกๆ ในหัวตัวเอง แต่พอนึกขึ้นได้ก็ถามหาตัวต้นคิดในทันที



            สมาชิกทั้งห้าคนหันหน้ามองกันไปมาอย่างหาคำตอบ จนกระทั่งอีกสี่คนที่เหลือเห็นสายตา
มีความหมายของพอร์ชจ้องมองไปที่โซ่เท่านั้นแหละ ทุกคนก็ร้องอ๋อแบบไม่มีเสียงขึ้นมาทันที
เว้นแต่พอร์ชกับตัวต้นเรื่องอย่างโซ่เท่านั้นเองที่เอาแต่ก้มหน้าตักบิงซูเข้าปากอย่างไม่สนใจอะไร
เพราะกำลังปล่อยอารมณ์ให้ดื่มด่ำไปกับเกร็ดน้ำแข็งหวานๆ เย็นในปากที่นึกอยากกินมาหลายวัน









TBC.

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
พอร์ชสายหื่น555

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4825
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
บิงซู 3 ถ้วย ว้าว  :hao6:

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7697
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
รอตอนต่อไป~

ออฟไลน์ jimmyjimmy

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1966
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-17
บิงซู.... อยากกินขึ้นมาเลย

ออฟไลน์ พลอยสวย

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1623
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +232/-5
 พอร์ชโตขึ้นมาก

ออฟไลน์ blanchard

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 376
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-3

น้องซนจะมาอีกเมื่อไหร่อะ….   :sad4:


อยากให้เขาอยู่พร้อมหน้ากันสามคน พ่อพอร์ช แม่โซ่ แล้วก็นุ้งแสบ เอ้ย นุ้งซน    :give2:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด