ตอนที่ 23 แฟนไงครับ
“เตรียมอะไรขอเมิง”
ผมมองอีโมที่กำลังยิ้มหน้าบานอยู่ใกล้ๆ
ก็ใครจะไปรู้ล่ะ ว่ามันให้เตรียมทำอะไร
แล้วตอนที่มันไปคุยกับไอ้คม ผมก็ไม่ได้ไปฟังด้วยนิ
เลยไม่รู้ว่ามันคุยอะไรกันบ้าง
“แผนเมิงนั้นแหละ”
มันยิ่งพูดผมก็ยิ่งไม่เขาใจ
มันบอกว่าแผนผม
แล้วผมเคยไปตกลงกับมันเมื่อไรว่ะ
ไอ้โมมองผมเหมือนเป็นอากาศธาตุ
เพราะมันไม่ได้ตอบผม แต่มันหันไปพูดกับไอ้ต้าแทน
“ต้า เมิงได้เรื่องเด็กไอ้นนท์บ้างเปล่า”
ไอ้ต้าใช่ความคิดอยู่ไม่นาน มันก็ส่ายหน้า
“เมิงว่าเด็กไอ้นนท์มันรู้จักกับไอ้บูมเปล่าว่ะ”
ไอ้กรดถามไอ้คมที่นั่งฝั่งตรงข้ามกับมัน
ผมเองพอเห็นอีโมไม่พูดเรื่องแผนอะไรนั้น
สักพักก็ลืมๆไป แล้วกลับมาคิดเรื่องไอ้ต้าต่อ
“แล้วเมิงเคยถามไอ้บูมไหม”
“ไม่ว่ะ”
พอไอ้ต้ามันตอบไอ้คม ผมก็ไม่เข้าใจเท่าไร
ตกลงไอ้ต้ามันทำอะไรมาบ้างตอนอยู่กับบูมสองคน
แล้วเรื่องแผนที่เราคิดจะแก้แค้น ไอ้ต้ามันลืมไปบ้างเปล่าเนี่ย
“แล้วตอนเมิงอยู่กับไอ้บูมเมิงทำไรว่ะ”
ไอ้คมเป็นคนถามไอ้ต้า และผมว่าทุกคนก็คงอยากรู้เหมือนกัน
ไอ้ต้ามองหน้าพวกผมเหมือนรู้ความหมาย
แล้วมันก็หยุดมองหน้าผมหมือนลังเลที่จะพูด
แต่สุดท้ายมันก็ตอบกลับมาเรียบๆ
“กะ....กูไปเที่ยวกับมันแค่ครั้งสองครั้งเองน่ะโว้ย
แล้วชื่อเด็กไอ้นนท์ กู....ก็ยังไม่รู้ แล้วเมิงจะให้กูถามไงว่ะ”
ไอ้ต้ามันบอกว่าไปเที่ยวกับบูมแค่ครั้งสองครั้ง
แล้วที่มันหายไปเป็นสัปดาห์ มันไปไหน?
“ไหนเมิงบอกว่าไปเที่ยวกันบ่อยไงว่ะ
แล้วนี้ทำไมแค่ครั้งสองครั้ง”
ไอ้ต้าดูตกใจเหมือนกันครับพอผมถามมัน
ซึ่งไม่แน่มันอาจโกหกพวกผมอยู่
หรือไม่มันก็มีความหลับอะไรสักอย่าง...กับผม
“เออ....ก็กูกับมันทะเลาะกันบ่อย
บ้างครั้งมันมาชวนกู แต่กูเบื่อๆเลยไม่ได้ไป....”
พวกผมมองหน้ากันแบบไม่อย่างเชื่อ
เพราะแสดงว่าหลังๆมานี้ ที่มันเล่าว่าแผนผ่านไปดี
แสดงว่ามันก็โกหกพวกผมมาตลอด
“ไอ้ต้า.....เมิงเอาไงกันแน่ว่ะ”
ไอ้คมดูเหมือนจะเหนื่อยใจครับ
ไอ้ต้ามันก็ลังแลที่จะพูด
ซึ่งพวกผมก็ไม่ได้ต่อว่า หรือพูดอะไรให้มันสำนึกหรอก
“พวกเมิงเข้าใจกูหน่อยดิว่ะ
มันเคยทำ.....อะไร.....ไว้กับกู คนเลยด่า เคยเกลียดกัน
แล้วเมิงจะให้จู่ๆก็ไปสนิทกัน มันไม่ง่ายน่ะโว้ย”
ไอ้ต้าดูอารมรณ์หงุดหงิดนิดหน่อยครับ
เลยไม่มีใครพูดอะไรต่อ
ส่วนพวกผมก็เหมือนรู้ว่าแผนนี้คงไปไม่รอด
ไอ้คมเลยมองมาที่ผม
ผมก็มองหน้าคนอื่นๆ แต่พวกมันก็มองมาที่ผมเหมือนกันหมด
อะไรว่ะ ชักรู้สึกแปลกๆ
“มองอะไรกูว่ะ”
ผมถามพวกมัน เพราะสงสัยว่าพวกมันมองทำไม
แล้วไอ้ต้ามันก็หันมายิ้มให้อีก
แล้วนี้ไอ้กรดที่นั่งติดๆกับผม มันก็เอามือมารั้งคอผมไว้
ส่วนไอ้ต้า มันก็เริ่มยิ้มขึ้นมาบ้างแล้วครับ
“เออ....ยังมีไอ้ต่ายนี้หว่า”
เมื่อไอ้ต้ามันพูด แล้วหันมามองที่ผม
ไอ้คมก็พยักหน้าตอบรับ
ในที่สุด….
ไอ้ต้ามันก็ไม่ปล่อยให้ผมต้องสงสัยครับ
เพราะพอมันพูดผมก็รู้ชะตากรรมทันที
“ต่าย บ้างทีคู่เมิงกับไอ้เบสน่าจะเข้าท่ากว่าว่ะ”
ผมมองพวกมันอึ้งๆ
ก็ตอนแรกนึกว่าแผนนี้จะล้มเลิกแล้วซะอีก
แล้วไง ผมถึงต้องทำอีกและ…
ผมยังไม่เตรียมใจอะไรเลยน่ะครับ ฮื่อๆๆ
“ไอ้โม เดี๋ยวเมิงคิดว่าจะปรับไอ้ต่ายยังไง
ส่วนพวกกูจะมาคิดกันว่า ไอ้ต้ากับไอ้บูม
พอจะทำอะไรได้บ้าง”
ไอ้คมเป็นสั่งเสร็จสับ
โดยมันไม่ต้องถามผมว่า คิดอะไรยังไง.....ชิชิ
แล้วพอพวกมันพยักหน้าตกลงตามที่ไอ้คมบอก
มันก็แยกย้ายกันไป โดยที่ผมยังนั่งงงๆ อยู่
เพราะยังไงก็ทำใจไมได้ ฮื่อๆๆ
“ต่ายกูให้เวลาเมิง 10 วิ
เตรียมใจแล้วยอมรับซะ”
อีโมมันพูดง่ายจัง แต่ผมทำยากน่ะครับ
ในขระที่อีโมนั่งใช้ความคิดอยู่ข้างๆผม
ไอ้คม ไอ้กรด แล้วก็ไอ้ต้า
พวกมันสามคนดูเครียดกันเข้าเส้น
แต่ถึงเครียดยังไง.... มันก็สู้อาการจิตตกของผมไม่ได้หรอก
“กริ๊งงง...หมดเวลา
แล้วเมิงก็พากูไปบนห้องเมิงได้แล้ว”
เหอ.....เมิงจะทำอะไรกูอีโม
ให้กูพาไปบนบ้าน เมิงคงไม่คิดชั่วกับกูหรอกน่ะ
“มองไรแก อย่ามาคิดว่าฉันจะทำอะไรแกน่ะย่ะ”
ผมค่อยโล่งอกลงหน่อย แต่แค่ 1 เปอร์เซ็นครับ
เพราะที่เหลือ อาการเครียดเรื่องแผนไอ้เบสมันดันไว้อยู่
หลังจากพาใจอันห่อเหี่ยวกับกระเทยอีกตัวที่ตามหลังมา
ตอนนี้ผมก็มาถึงบนห้องแล้วครับ
อีโม หันมองรอบห้องผม ที่ผ้าปูเตียงสีชมพู
แล้วมันก็หันมายิ้มกริ่ม แล้วก็หันกลับไปมองที่อื่นต่อ
อืม............
มันทำเสียงเหมือนพอใจ
แล้วมันก็เดินสำรวจห้องผมจนทั่วครับ
ผมสงสัยว่ามันสำรวจเหมืองแร่
หรือว่าสำรวจห้องผมกันแน่
เพราะมันดูทุกมุมจริงๆครับ
“หาอะไรว่ะ”
ผมเริ่มทนไม่ได้ครับ
มันเอาเสื้อผ้าผมออกมาตั้งกองไว้
แล้วมันก็เปิดลิ้นชักทุกลิ้นชักที่มีในห้อง
แล้วมันก็ทำท่าคิด แล้วก็หันมาถามผม
“แกไม่มีเครื่องสำอางบ้างเหรอย่ะ”
ผมมองหน้ามันงงๆ แล้วก็ชี้ไปในห้องน้ำครับ
มันเดินผ่านผมไป แล้วก็เข้าไปในห้องน้ำ
สักหนึ่งผมก็ตกใจกับเสียงมันอีกแหละ
“กรี้ด......แกใช่เยอะอย่างเลยเหรอ”
ผมเดินไปหามัน เห็นมันยิบเครื่องสำอางแม่ขึ้นมาดู
แล้วก็หันมามองผม
“ป่าว ของกูอ่ะอันนั้น”
ผมชี้ไปที่แปรงสีฟันอันเดี๋ยว
ไอ้ต้ามันทำหน้างงๆ แล้วพอผ่านไปสักพัก
มันก็มองผมเหมือนเป็นตัวประหลาด (กูไม่ใช่เชื้อโรคน่ะเมิง)
“นี้แกไม่คิดจะดูแลตัวเองเลยเหรอ”
ผมไม่เข้าใจความหมายของมันครับ
ดูแลตัวเอง ผมก็ดูแลตลอดนิ
“ใครบอก กูก็ดูแลตัวเองดีแล้วนี้หว่า”
“แล้วตอนที่ตื่นมา แกทำอะไรบ้างเนี่ย”
ผมมองหน้ามันแบบไม่ค่อยเข้าใจ
มันก็ทำแบบผม ทำไม่ต้องถามอีกน่ะ
เหอ.....ไม่เข้าใจจริงๆ
“ก็แปรงฝัน อาบน้ำ สระผม อืม...แล้วก็ เช็ดตัว”
อีโมมันกำลังยิ้มเยาะผมครับ
มันหัวเราะหึหึ แล้วก็สะบัดหน้าไปมา
จากนั้นก็เชิดหน้าขึ้น แล้วก็หันมามองผมเยียดๆ
“งานนี้เกิดแน่....
เชื่อเจ้น่ะ หนูต่าย...ฮ่าๆๆๆ”
.
.
.
ผมนอนผลิกไปผลิกมาอยู่หลายครั้งแล้วครับ
เสียงหัวเราะ ตามความหมายของอีโม ผมรู้ดีว่าคืออะไร?
มันต้องการจะปรับเปลี่ยนผมใหม่
ซึ่งผมเองก็ไม่ได้กลัวหรอกครับเรื่องนั้น
แต่มันบอกว่าจะพาผมไปหาหมอ
อันนี้แหละที่น่ากลัว…
ตอนที่ผมไปหาหมอตอนเด็กๆ หมอชอบฉีดยา
ผมเลยไม่ชอบครับ
แล้วเรื่องหมอๆเนี่ย หากผมหลีกได้ ผมก็จะหลีก
แต่อีโมมันพูดซะขนาดนี้ ผมว่ามันคงเอาจริงแหละครับ
“เอาไงดี หรือว่าจะปฏิเสธเรื่องแผนเหมือนกับไอ้ต้า”
ผมนอนพูดกับตัวเองในห้องนอน
ตอนนี้แม่ผมเขาหลับเรียบร้อยแล้วครับ
คงมีแต่ผมเท่านั้นแหละ ที่นอนเท่าไรก็นอนไม่หลับ
“หรือว่าจะเปลี่ยนแผนเป็นอีโมคู่กับไอ้เบส”
ผมคิดถึงภาพตอนที่อีโมเดินตามไอ้เบส
คนหนึ่งผู้ชายแมนๆ ส่วนอีกคนเดินสะบัดไปมา
คิดแล้วคงตลกน่าดู เหะๆๆ
.
.
.
อีโมมันโทรจิกผมตั้งแต่ตอนเช้า
เลยต้องทำให้อะไรๆก็ดูรีบไปหมด
พอผมตื่นมาก็รีบอาบน้ำแต่งตัว
ซึ่งผมเป็นคนอาบน้ำเร็วอยู่แล้วน่ะครับ
คือใช้เวลาไม่ถึงห้านาที แต่พออีโมมันบอกว่ารีบๆ
ผมก็จัดการตัวเองทั้งอาบน้ำทั้งแต่ตัว
ดูเวลาแล้วก็ สมนาทีเศษๆ เหะๆๆ
หลังจากนั้นผมก็วิ่งลงมาขอตังค์แม่หน้าทีวี
วันนี้เสาร์ครับ แม่เลยไม่ไปทำงาน
แล้วเรื่องประชุมลับ...
เราก็ตกลงว่าหยุดทำการวันเสาร์-อาทิตย์
“แม่ตังค์หน่อย”
พอเห็นหน้าแม่ก็พูดทันทีครับ...(ตรงไปตรงมาดีจริ๊งๆ)
พักหลังมานี้ผมไม่ค่อยได้ขอตังค์แม่เลยครับ
เพราะอยู่แต่บ้าน ไม่ค่อยได้ออกไปไหน
ฟังแล้วเหมือนเด็กเรียบร้อยเลยเนอะ หึหึ
“จะกลับกี่ทุ่มอีกล่ะคืนนี้”
แม่ผมคงคิดว่าผมไปเที่ยวกับเพื่อนอีกมั้งครับ
แต่เสียใจแม่...วันนี้ลูกทำอะไรที่เป็นงานเป็นการมากกว่านั้น
“อ่ะแน่....วันนี้เขาไปทำธุระต่างหากล่ะ”
แม่ผมก็มองผมงงๆครับ
เพราะตั้งแต่คลอดผมมา จนผมก็โตขึ้นเรื่อยๆ
แม่คงไม่เห็นผมทำอะไรที่มีประโยชน์เลย เหะๆ (ล้อเล่นน่ะ)
“แล้วจะไปทำอะไรล่ะ”
“ก็ว่าจะไปหาหมอสิว....อ่ะแม่”
ผมไม่ทันจะพูดจบ
แม่ก็รีบยิบเงินให้ทันทีครับ (สองพัน เหะๆ เสร็จกู)
ผมเองเห็นแม่ยิ้มเหมือนถูกใจอะไร
ก็ไม่ได้ถามครับ เพราะเดี๋ยวแม่เปลี่ยนใจ
พอได้ตังค์เสร็จก็รีบวิ่งมาหาอีโมหน้าหมู่บ้านครับ
มันบอกว่ามันรออยู่...
พอผมวิ่งมาถึงก็เห็นกลุ่มผู้ชายสักสี่ห้าคน
กับกำลังล้อมอีโมอยู่ ตอนแรกตกใจครับ
นึกว่าอีโมโดนรุม(โทรม).....
แต่พอเห็นมันทั้งยิ้มทั้งหัวเราะ ก็รู้ทันทีครับว่ามันคุยกันอยู่
เลยไม่ได้คิดอะไรครับ เพราะยังไม่เห็นตัวอันตราย
“โมมารอนานยังว่ะ”
ผมถามอีโมคนเดียว แต่พวกมันเล่นหันมามองที่ผมกันหมด
ผมก็ยิ้มให้พวกมันทีละคน
ซึ่งผมว่าหน้าพวกมันคุ้นๆน่ะ จึงยิ้มไล่ไปเรื่อยๆ
จนพอมาหยุดที่คนสุดท้ายก็รู้ทันทีครับว่าใคร
“ไอ้เบส...”
ผมพูดชื่อมันโดยที่ตัวเองก็ยังดูอึ้งๆอยู่เลย
ไม่รู้ไอ้เบสมาอยู่กับอีโมได้ไง
แต่พอผมหันไปมองหน้าอีโม มันก็ยิ้มเขินๆกลับมาให้
“ต่าย...ไปกันได้ยัง”
ไอ้เบสมันถามผมครับ แต่ผมไม่ตอบ
พวกมันทั้งห้าคนก็มองมาที่ผมเหมือนยิ้มเยาะ
ผมได้แต่ทำหน้าสงสัยกลับไป…(ก็งงนี้หว่า)
“ไปๆ เรารอตั้งนานแหละ”
ไอ้เบสเดินมากอดคอผม แล้วมันก็ลากผมมาที่รถ
ผมเองพอมาหยุดอยู่ที่รถมอไซค์ของมัน ก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีนั้นแหละ
“แล้วทำไมต้องไปกับนายด้วย”
ผมถามไอ้เบสแบบสุภาพครับ(ทั้งทีไม่จำเป็นเลย)
มันที่รอให้ผมขึ้นซ้อนท้ายอยู่ ก็หันกลับมายิ้มให้
แล้วสักพักหนึ่ง มันก็พูดขึ้นว่า
.
.
.
“ก็เราเป็นแฟนกันไงครับ….ต่าย”
………………………………………………………………
ปล.ขอบคุณทุกคนมากครับ ที่เข้ามาอ่านแล้วเป็นกำลังใจให้
บ้างคนอ่านแล้วอาจไม่ถูกใจ อันนี้ขอโทษด้วยเนอะ หึหึ
มีเรื่องอยากแจ้งคือ บทของเรื่องจะเรื่อยๆครับ อาจยืดบ้าง
ซึ่งมันก็ป็นนิสัยเสียของคนแต่งเองเนอะๆๆ
แล้วบ้างครั้งพล็อตเรื่องอาจไม่ถูกใจคนอ่าน
อันนี้ก็ขอโทษอีนั้นแหละ หึหึ และเนื้อเรื่องของเรื่องนี้
อยากบอกว่าอาจไม่ถึงครึ่งเรื่องเลยครับ ใครที่จะถอดใจก็ได้น่ะครับ
ยินดีกับการตัดสินใจทุกอย่างของคนอ่านคร้าบบบผม
คติคนเขียน....คนอ่านคือพระเจ้า ฮ่าๆๆๆ
สวสัดีปีใหม่ 2552 เช่นกันครับ