ตอนที่ 24 หาหมอ
“ก็เราเป็นแฟนกันไงครับ….ต่าย”
ยิ้มของไอ้เบส มันเริ่มทำให้ผมขนลุก
จนตอนนี้กลายเป็นน่ากลัวไปแล้วครับ
“อ่ะ....เออ.....”
“ต่าย เดี๋ยวเมิงกับเบสขับรถตามกูมาเลยน่ะ”
อีโมมันเดินเข้ามาระหว่างที่ผมกำลังอ้ำอึ้งจะตอบไอ้เบส
“ได้ๆ โมขับนำไปเลยน่ะ”
ไอ้เบสเป็นคนตอบคำถามแทนผม
ซึ่งผมตอนนี้อยู่ในภาวะงุนงง และไม่เข้าใจ
ผมหันมองหน้าอีโม ด้วยความสงสัย บ่นคำถาม
แต่สุดท้ายผมก็ไม่รู้จะพูดยังไงดี เพราะไอ้เบสมันมองอยู่
เลยได้แต่ยิ้มฝืดๆให้มันไป
ระหว่างทางจากบ้านผมถึงตัวเมือง
ก็ไม่ไกลมากครับ ขับรถสิบนาทีก็ถึง
แต่ไม่รู้ทำไม พอนั่งรถกับไอ้เบส ผมถึงคิดว่ามันไกลเอามากๆ
แล้วทุกครั้งที่ไอ้เบสมันขยับตัว ผมก็มองมันไม่คลาดสายตาครับ
ไม่รู้ว่าตัวเองระแวงไปหรือเปล่า แต่เหมือนไอ้เบสมันมองผมอยู่ตลอดเวลา
ซึ่งผมเองก็ไม่ได้ชวนมันคุย และมันเองก็ขับรถไปเงียบๆ โดยไม่ได้พูดกับผมเหมือนกัน
จนเมื่อรถติดไฟแดง....
“สวมหมวกให้หน่อย”
เบสพูดกับผม พร้อมกับยื่นหมวกกันน็อกมาให้
มันเองขับออกจากบ้านผมมาได้สักพักแล้วครับ
แล้วทำไมมันไม่สวมตั้งแต่ออกรถมาว่ะ...ไม่เข้าใจ
“สวมเองได้ไหม”
ผมถามไอ้เบส โดยในใจไม่ได้คิดจะกวนตีนหรืออะไรน่ะครับ
แต่มือมันก็มี แล้วมันใส่เองสะดวกกว่าตั้งเยอะ
“ทำหน้าที่แฟนหน่อยดิว่ะ”
ผมชะงักไปพักหนึ่ง เพราะร้อยยิ้มบนหน้าขาวๆของมันนี้แหละ
ไม่คิดว่ามันยิ้มแล้วจะหล่อมากกว่าเดิม (หล่อวันหล่อคืน จริงๆเมิง)
ใจมันวูบๆครับ ไม่อยากมองหน้ามันแหละ...
ผมเลยรีบคว้าหมวกมาสวมให้มันทันที
มือไม้ผมก็สั่นไปหมด เป็นไรว่ะ.....
“มือสั่นเนอะ”
ไอ้เบสมันช่วยย้ำผมอีกที
ซึ่งผมอยากบอกมันเหลือเกิน...กูรู้แล้ว...
แต่ไม่รู้ทำไมสั่น
“อืมเสร็จแหละ”
ผมพวกมัน แล้วหวังว่ามันจะหันหน้ากลับไปสักที
แต่เปล่าครับ มันยังมองหน้าผมต่อ
ผมเป็นคนที่ไม่ชอบให้ใครมองหน้าน่ะครับ
ไม่ใช้อะไรหรอก เขินมากกว่า
เพราะผมเป็นคนไม่มั่นใจในตัวเอง
แล้วพอเขามองหน้าเรานิ่งๆ เหมือนเขากำลังคิดอะไรอยู่
ซึ่งผมจะเผลอยิ้ม แล้วสุดท้ายผมก็ต้องหลบหน้าไปเอง
“มองหน้าทำไม”
ผมถามไอ้เบสน้ำเสียงหาเรื่องมากๆครับ (ก็กูพาลนี่หว่า...)
แล้วไอ้เบสมันก็ไม่ได้เกรงกลัวผมเลยครับ
เพราะมันยังคงยิ้มให้ผม จนรถที่จอดรออยู่ข้างๆเข้าเริ่มแหระ
“เออ...........กูแพ้เมิง”
ผมบ่นแบบไม่พอใจครับ เพราะในเมื่อมันไม่หลบ
สุดท้ายก็ต้องเป็นผมที่ต้องหลบ....(เหอ....เกลียดเมิงจริงๆ)
ไอ้เบสมันก็ยังไม่รู้สึกครับ มันก็ยังคงยิ้มให้ผมต่อ
แถมมีหัวเราะหึหึให้อีกด้วย...กูขนลุก...
ผมว่าผมกลั่นยิ้มมานานแล้วน่ะครับ
หากไอ้เบสมันยังมองหน้าผมแบบนี้ต่อไป
ไม่ช้าก็เร็ว ผมต้องหลุดยิ้มออกมาแน่ๆ
“ไฟจราจรมันมีสามสีเหรอ….
แล้วป้ายจราจรมันสีเหลือง เหรอเนี่ย....
อ่าว...มีพวงมาลัยขายสี่แยกด้วยเหรอ...”
ผมมองไปเรื่อยครับ แล้วทำทีเป็นชี้นิ้วไปที่ต่างๆ
ที่คิดว่าจะเบี่ยงแบนความสนใจไอ้เบสได้
แต่ก็เปล่า....
จนในที่สุด ผมก็ยิ้มออกมาจนได้ครับ
(คนบนรถข้างๆ เขายิ้มให้ผม แต่ผมไม่ได้ยิ้มให้เขา มั่วแหระ.....)
ไม่ใช่ยิ้มเขินไอ้เบสแต่อย่างใด แต่ยิ้มเพราะดีใจกับสิ่งที่เห็นมากกว่าครับ เหะๆ
“ไปได้แหละ”
ผมชี้ให้มันดูไฟเขียวที่ ไฟจราจรครับ
และก็.....สำเร็จ มันยิ้มหยดย้อยให้ผมทีหนึ่ง
ก่อนจะกลับไปขับรถเหมือนเดิม…ฮ่าๆๆ
เหอ.....กูแทบตาย
ตลอดทางที่นั่งรถกับมันมา
ก็เจอแยกไฟแดงอีกสองสามแยกครับ
แต่ดีหน่อยที่ไฟแดงไม่นาน ผมเลยรอดไป…(บุญกูยังมีอยู่)
ส่วนอีโม กระเทยรายนั้นก็ขับรถนำหน้าไอ้เบสอยู่ครับ
แต่มันไม่ได้ขับเองน่ะ เพื่อนไอ้เบสมันขับให้
แล้วหลายที่ผมเห็นมันหัวเราะอยู่กับเพื่อนไอ้เบส
สงสัยมันคงคุยกับเพื่อนไอ้เบสถูกคอมั้งครับ
ก็เพื่อนมันน่าตาใช่ได้เลยล่ะ...(แล้วอีโมจะพลาดเหรอ เหะๆ)
ไอ้เบสมันขับรถไปอีกไม่นานก็ถึงครับ
ผมเห็นมันมาหยุดให้ผมลงแถวๆ...ตลาดกิมหยง…
จากนั้นมันก็ไปจอดรถครับ…(ไปให้นานเหอะเมิง)
ผมมาถึงที่นี้ก็ประมาณแปดโมงครับ
ซึ่งยังตอนเช้าอยู่ ปกติแล้วตลาดจะมีของขายเยอะประมาณช่วงสายๆ
แต่พึ่งรู้ครับว่าตอนเช้าก็มีของขายเยอะ แล้วเท่าที่ผมเห็นก็น้ำเต้าหู้ กับปลาท่องโก๋
เพราะสองอย่างนี้ผมชอบครับ เลยมองอะไรก็เป็นสองอย่างนี้ เหะๆ
แต่ของกินอื่นก็เยอะน่ะครับ...(น้ำลายเริ่มไหลแหระ)
หลังจากลงรถแล้วมารวมกลุ่มกันจนครบ (แต่ขาดไอ้เบส ซึ่งผมไม่นับ...)
ผมรู้สึกแปลกๆครับ เวลายืนกับกลุ่มคนอื่นที่ไม่ใช่ไม่ใช่กลุ่มของตัวเอง
แล้วทุกครั้งที่เพื่อนไอ้เบสมองผม มันเหมือนระแวงอยู่เรื่อยๆ
เซ็นเยอะจริงๆเนอะผม....
“คลินิกไหนว่ะ โม”
ผมถามอีกโมที่ยืนอยู่ข้างๆเพื่อนไอ้เบส
ไม่รู้มันจะพาผมมาหาหมอหรือมาหาของกินครับ
ก็เล่นยืนอยู่หน้าร้านผัดไท...ของผมโปรดผม
“ต้องเดินไปอีกนิดอ่ะ”
อีโมบอกผม แล้วมันก็เปลี่ยนจากเดินกับเพื่อนไปเบส เป็นมาเดินติดกับผม
ซึ่งผมคิดว่ามันเป็นโอกาสเหมาะที่จะกระซิบคุยกัน......(ซุบซิบ ซุบซิบ)
แต่ก็คิดเท่านั้นแหละ....ครับ
เพราะเมื่อผมกำลังจะอ้าปากพูดกับอีกโม
อุปสรรค์ตัวใหญ่มันก็มาซะก่อน.....ไอ้เบส
“ต่าย ร้อนไหม”
ไอ้เบสมันไปจอดรถ แล้วมันก็หายไปสักพัก
ตอนแรกแอบดีใจนึกว่ามันจะกลับไปแล้วซะอีก
แต่ทำไมเมิงยังอยู่….
“ก็นิดหน่อย แต่เพราะนายมากกว่า เราถึงร้อน”
มันถามผมว่าร้อนไหม แต่มันไม่ได้ดูสิ่งที่มันกระทำกับผมเลย
พอมันมายืนข้างผมปุบ มันก็เอาแขนมาพาดไว้บนไหล่ผมโดยไม่ได้ถามเลย
ว่าแขนมันจะนัก หรือผมจะรำคาญมันบ้างหรือเปล่า
แล้วที่สำคัญ มันไม่ได้อายเพื่อนๆ หน้าหล่อ(โหด) ของมันที่มองกันอยู่เลย
“แฟนกันก็ต้องกอดกันดิ”
เวลามันพูดประโยคนี้ทีไร ผมเหมือนถูกยัดเยียดทุกทีครับ (ไม่เคยคิดจะดีใจเลย)
ผมอยากจะถามอีโมอยู่หลายครั้งล่ะ เรื่องไอ้เบสทำไมถึงเป็นแบบนี้?
ตกลงแล้วมันไปคุยกับไอ้เบสตอนนั้น แล้วทำไงไอ้เบสถึงตอบตกลง
แต่ตลอดเช้ามานี้ ผมก้ไม่ได้มีโอกาสถามอีโมเลยสักครั้ง
เพราะเวลามีช่องว่าง ไอ้เบสมันก็จะมาอุดไว้ตลอด....มารจริงๆ
“จริงไหมพวกเมิง แฟนกันก็ต้องกอดดิว่ะ”
ไอ้เบสมันยังหันไปถามเพื่อนมันอีกครับ
ผมเห็นเพื่อนมันยิ้มเยาะ (แบบมีประสงค์ร้าย)
เลยอยากให้อีโมมันรู้สึก และเห็นเหมือนผม
แต่....มันคงไม่เห็นหรอกครับ
เพราะเรื่องเดียวที่มันสนใจตอนนี้คือเพื่อนไอ้เบส
ขนาดผมโดนไอ้เบสทำบ้าอะไรอยู่ มันก็ยังคุยกับเพื่อนไอ้เบสได้หน้าตาเฉย
เหอ...............เพื่อนกู
“นี้ไงๆ คลินิกนี้ไง”
พอเดินกันมาอีกสักพัก อีโมมันก็พูดขึ้นแล้วก็มันชี้นิ้วไปที่หน้าประตูคลินิก
ซึ่งมีตัวหนังสือมโหฬารเขียนว่า....รักษาสิว....
ผมก็พยักหน้าให้มัน ไอ้โมมันเลยจูงมือผมเดินเข้าไปสองคนครับ
ตอนแรกตามความเข้าใจผมคือ พวกไอ้เบสจะอยู่ด้านนอก
แต่....
ทำไมพวกมันถึงยกขบวนกันเข้ามาในนี้ได้ว่ะ
แถมพอเข้ามาก็นั่งกระดิกเข้า ตากแอร์สบายใจเลยครับ
“สวัสดีครับ”
พนักงานต้อนรับหน้าตาหล่อ ขาว สูง ทักผมตั้งแต่เดินเข้าไปแล้วครับ
แต่สงสัยผมไม่ได้ยิน อีโมมันเลยสักกิดแขนผม นั้นแหละ ผมถึงรู้สึกตัว
“ครับ สวัสดีครับ”
ผมยกมือไหว้พี่เขาตามมารยาทครับ
พี่พนักงานดูจะทำตัวไม่ถูกเท่าไรครับ
เพราะไอ้พวกที่มันนั่งรอผมอยู่ มันแอบแซวพี่เขา
ไอ้พวกนี้มันชั่วเนอะพี่เนอะ.....
พอผมมานั่งได้สัก พี่เขาก็เข้ามาถามเรื่องทั่วไปครับ
เช่นแพ้ยาอะไรบ้าง หรือเคยไปหาหมอที่ไหนหรือเปล่า
ผมก็บอกว่าไม่ แล้วพี่เข้าก็บอกว่าของผมเป็นแค่นิดเดียว
ไม่นานก็หาย(ซึ่งผมก็คิดแบบนั้น นั้นแหละ)
แต่อีโมมันยืนยันว่าจะรักษา ผมก็เออๆ เพราะขอเงินแม่มาแล้วด้วย
แล้วอีกอย่างก็รำคาญด้วยครับ (เป็นสิวแล้วมันเจ็บชิบหาย ฮื่อๆๆ)
ผ่านไปสักพัก พี่เขาก็เอาใบกรอกประวัติมาให้ผม
แล้วก็เดินเข้าไปในห้องตรวจ...
ไอ้เบสมันก็เดินเข้ามาดูครับ ตอนแรกยังไม่เห็นมันหรอก
แต่รู้สึกว่ามีคนมายืนข้างๆ เลยใช้หางตามองมันเขี่ยๆ (อี๋.......)
แต่ผมก็ไม่ได้ถามหรือพูดอะไรมันครับ..
เพราะผมตั้งหน้าตั้งตากรอกประวัติอยู่ งุดงุด.....
“อย่าลืมวงเล็บว่ามีแฟนแล้วด้วย”
ผมหันไปมองมันแบบ....เสือกไรด้วย
เพราะประโยคนี้มันสะกิดใจผมครับ
จะให้ผมเขียนได้ไงก็ยังไม่มีแฟนนี้หว่า....
“ยังไม่มี” ผมตอบมันไปเรียบๆครับ
แต่พอมันตอบผมกลับมานี้ซิ....แทบสะอึก
“แล้วเราอ่ะไม่ใช่แฟนเหรอ หรืออยากเป็นมากกว่านั้น”
ไอ้เบสมันทำให้ผมคิดน่ะครับ ไม่ใช่ผมคิดไปเอง
แล้วสายตาหื่นๆของมันนี้ก็อีก แบบนี้จะไม่ให้ผมคิดได้ไง
“ก็เอาดิ”
ปากผมพูดไปไม่ทันได้คิดอะไรครับ เพราะนึกสนุกมากกว่า
แล้วเพื่อนไอ้เบสมันก็ร้องเชียร์อยู่ข้างๆ
สงสัยวันนี้คงเป็นวันซวยของผมจริงๆครับ
พอเพื่อนมันร้องเชียร์ มือไอ้เบสก็เริ่มทำหน้าที่ครับ
มือมันเริ่มไต่มาที่คอผม ผมก็นั่งนิ่งให้มันทำอยุ่ได้ครับ
ไม่เข้าใจว่าทำไม มือผมก็มี ทำไมไม่ปัดมือมันออกว่ะ หรือเพราะผมอึ้งอยู่มั้งครับเลยไม่ทันคิดอะไร (สมองกูปลาทองนี้หว่า)
“อ่ะ...เอ่อ...น้องเสร็จยังครับ”
พี่พนักงานเขาเดินออกมาจากในห้องตรวจแล้วครับ
ผมพอได้ยินเสียงก็รีบปัดมือไอ้เบสออกครับ (แอบเสียได้ หึหึ)
ไม่รู้พี่เขาเห็นเปล่าน่ะครับ เพราะพี่เข้าดูอึ้งๆไป
สำหรับไอ้เบส ผมก็นึกว่ามันจะตกใจ แต่เปล่าเลย....มันยังยืนยิ้มให้ผมอยู่ข้างๆ
ผมอยากถามมันครับ ว่าในชีวิตมันอายอะไรบ้าง เหะๆๆ
หลังจากกรอกประวัติส่วนตัวเสร็จ และไอ้เบสมันก็เดินไปนั่งกับเพื่อนมันแล้วด้วยครับ
พี่พนักงานก็ให้ผมเข้าไปพบหมอตรวจ
เมื่อผมเข้าไปในห้อง คุณหมอหน้าขาว แถมหล่อด้วย
ก็กำลังนั่งยิ้มรอผมอยู่ แล้วเรื่องที่คุยก็ไม่มีอะไรมากครับ
คุณหมอก็บอกวิธีใช้ยาที่คลินิกเขาจะให้ไป
ผมก็เอออ้อไปครับ รู้บ้างไม่รู้บ้าง
แล้วหมอก็บอกวิธีดูแลผิวหน้า ผมก็พยักหน้าตอบรับแบบครับ
จนสุดท้ายหมอก็เขียนใบนัดให้ผมครับ ซึ่งอีกสองสัปดาห์ก็มาอีกครั้ง
พอออกจากห้องตรวจ ผมก็เดินออกมารอเอายาที่หน้าเคาน์เตอร์
ซึ่งตอนนี้ไอ้พวกนั้นก็ยังนั่งตากแอร์กันอยู่อีกครับ
แล้วพวกมันก็ยังแซวพี่พนักงานเป็นอยู่เป็นระยะๆ
แต่พี่แกก็น่ารักครับ ไม่ด่าอะไรพวกมัน แถมยิ้มให้อีกด้วย เหะๆ (มันแปลก)
หลังจากผมเอายาซึ่งมีไม่มากครับ แล้วพี่เขาก็อธิบายวิธีใช้ให้ผมอีกที
ผมก็ครับๆอีกตามเคย แล้วจ่ายตังค์เสร็จสับ ก็หมดไป หกร้อยครับ
(เงินยังเหลืออีกเยอะ ฮ่าๆๆๆ)
พอตอนที่กำลังจะออกจากคลินิก ผมเห็นไอ้เบสมันยิ้มให้พี่พนักงานด้วยครับ
แล้วพี่เขาก็เขินซะด้วย......เฮ้ย........
สงสัยไอ้เบสมันหม้อแน่ๆ ครับ ก็นิสัยของมันอยู่แล้วล่ะ
พวกมันซึ่งร่วมถึงผมกับอีโมด้วย ก็ค่อยๆทยอยออกมากันจนหมด
ตอนนี้ก็มายืนเป็นรวมกลุ่มกันหน้าคลินิกนี้แหละครับ ไม่รู้จะไปไหนดี เหะๆๆ
พวกมันเหมือนกำลังคิดครับว่าจะไปไหนต่อ
ผมเห็นว่าท่าจะไม่ดี เลยผู้ตัดหน้าพวกมันซะก่อน
“กลับบ้านเลยแล้วกัน”
ผมคิดว่ากลับบ้านนี้แหละดีที่สุดครับ
แถมจะได้คุยกับอีโมอีกด้วย
“ไม่”
ไอ้เบสพูดขึ้นครับ ผมเลยหันไปมองหน้ามัน
“ไปหาอะไรกินกัน”
พวกไอ้เบสมันพยักหน้าตอบรับกันหมดทุกคนครับ
ผมเลยหันไปมองอีกโม เพื่อหวังว่ามันจะกลับบ้านตามที่ผมคิด
แต่ช้าไปครับ…
“ต่ายไปหาอะไรกินกัน”
ผมทำหน้าไม่ค่อยพอใจเท่าไรครับ แล้วหันไปมองไอ้เบสคนต้นคิด
มันก็ยักคิ้วให้ประมาณเยาะเย้ย ผมก็ได้แต่เก็บอารมณ์ครับ
แล้วก็กัดฟันพูดในที่สุด
.
.
.
“เบส...จะ....กิน...อะ....ไร....เหรอ”
..................................................................
ปล.ขอบคุณทุกๆคนครับ ที่เข้ามาอ่านเม้น และช่วยดันครับ ฮ่าๆๆๆๆ
เมื่อวานไปเขียนมา ก็ได้ไป 3 ตอน กะจะลงวันนี้จนหมด ไม่รู้อ่านกันไหวไหมครับ
สำหรับเนื้อเรื่อง ผมเองก็ไม่แน่ใจเท่าไรว่าจะคุ้มหรือเปล่า
ที่จะไปเฉลยตอนหลัง ว่าเรื่องและที่มาของความงงๆ
ทำไมถึงเป็นแบบนี้ ก็เฉลยจะอยู่ในตอนที่ 26 ครับ
เขียนเสร็จแล้วล่ะครับ....วันนี้จะรอดูว่ามีคนรออ่านบ้างเปล่า(3ตอนรวด)
เนื้อเรื่องงๆไหม คนเขียนก็งง อ่าว.....แล้วจะหยุดเขียนดีไหมหว่าเนี่ย