✽✽ DOWNPOUR : ขอให้พรุ่งนี้ไม่มีสายฝน ✽✽ CH20 + บทส่งท้าย หน้า9 [ 24/06/18 ]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ✽✽ DOWNPOUR : ขอให้พรุ่งนี้ไม่มีสายฝน ✽✽ CH20 + บทส่งท้าย หน้า9 [ 24/06/18 ]  (อ่าน 63083 ครั้ง)

ออฟไลน์ SweetAlice0701

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 93
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-3
.

.

.

ผมรู้ว่ามันเหี้ยมากที่จนป่านนี้แล้ว ผมยังสลัดคำพูดของคู่อริออกไปจากห้วงความคิดไม่ได้ ทั้งๆ ที่ผมควรจะคิดว่ามันแค่กวนตีนเล่นแล้วก็รีบๆ ลืมไปซะ

เพราะถ้าผมยังลังเลและเก็บข้อเสนอของมันเอาไว้ในใจอยู่อย่างนี้ คนที่น่ากลัวที่สุดจะไม่ใช่ไอ้แดน ดรัณภพที่จ้องจะใช้ผมสร้างกระแสเพื่อให้ได้ในสิ่งที่ตัวเองต้องการ แต่จะกลายเป็นผมเองที่ยอมลดศักดิ์ศรีลงไปทำสัญญาณซาตานเพื่อที่จะแย่งผู้ชายซึ่งกลายเป็นคนรักของเพื่อนสนิทไปแล้ว


ร่วมมือกับศัตรูถาวรเพื่อทำร้ายมิตรแท้

ไอ้ห่าเอ๊ย.... ตอนเด็กๆ ผมคงดูหนังจีนมากไปแล้วมั้งเนี่ย.......



“มิลค์ อย่ากัดสายชาร์จโทรศัพท์สิ!”

ผมลุกขึ้นไปอุ้มลูกสาวออกมาจากดงปลั๊กไฟข้างโต๊ะทำงานเมื่อมือถือที่เสียบชาร์จไฟทิ้งไว้เกือบร่วงกระแทกพื้น  ชีวิตส่วนตัวก็พังพินาศ งานที่ต้องปั่นส่งอาจารย์ก็ไร้ความคืบหน้าเพราะสมองฟุ้งซ่านเกินไป อะไรก็พลอยขวางหูขวางตาไปหมด 

“ถ้าไฟช็อตปากมึง กูจะสมน้ำหน้าให้”

มิลค์มองหน้าผมด้วยสายตาประมาณว่า ‘หนูจะเล่น พ่อจ๋าอย่าเสือก!’ แล้วก็เข้าไปวุ่นวายแถวรางปลั๊กอีก ผมก็เลยต้องวางมือจากงานชั่วคราวเพื่อแกว่งไม้ตกแมวก่อนที่อุปกรณ์ไฟฟ้าห้องผมจะฉิบหายวายวอดหมด.... มือข้างหนึ่งก็ทำหน้าที่ทาสไป อีกข้างหนึ่งก็ฉวยโทรศัพท์มากดดูโน่นนี่ไปเรื่อยเปื่อย

อยู่ดีๆ ผมก็นึกถึงอินสตราแกรมของตัวเองขึ้นมา....

ผมเลิกเล่นเฟซบุคไปนานมากแล้วเพราะทนไม่ได้ที่ถูกแท็กคอมเมนท์กระหน่ำด่า ทุกคนก็เลยเข้าใจว่าผมไม่เล่นโซเชียล คนที่จะคุยกับผมได้ก็คือต้องแอดไลน์กันเท่านั้นซึ่งผมก็ไม่รับแอดมั่วซั่ว.... ก็มีแค่อินสตราแกรมนี่แหละที่ไม่มีใครรู้ว่าผมแอบสร้างไพรเวทแอคเคาท์เอาไว้ ไม่ฟอลโลว์ใคร ไม่ให้ใครฟอลโลว์และไม่เคยลงรูปอะไร แค่เอาไว้ส่องคนที่อยากส่องเท่านั้นเอง

และคนที่ผมอยากส่องในตอนนี้ก็คือบีบี๋....

ผมพิมพ์ชื่อแอคเคาท์ที่จำได้ขึ้นใจลงในช่องเสิร์ช รูปดิสเพลย์ที่แสนจะคุ้นตาก็โผล่ขึ้นมา ไอ้บี๋ไม่เคยล็อคแอคเคาท์เพราะมันยินดีจะให้ทุกคนที่เข้ามาได้รับรู้ชีวิตดี๊ดีย์~ของมันอยู่แล้ว และมันก็เป็นพวกโพสต์อวดทุกเรื่อง อัพทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นที่เที่ยว อาหาร กาแฟ ขนม หรือว่าคนที่กำลังคบกัน



   Im_BeeBeE
   รูป : บีบี๋ใส่เสื้อช็อปวิศวะเครื่องกล ถ่ายคู่กับพี่โรมที่ป้ายหน้าคณะวิศวะฯ
   แท็กรูป @Do_As_RomanS
   แคปชั่น : วันแรกก็พามาฝากตัวเป็นสะใภ้วิศวะแล้ว~




ผมยิ้มขื่นๆ ให้กับภาพบนหน้าจอ ยอมรับเลยว่าเป็นรูปคู่เปิดตัวที่น่ารักมาก ไอ้บี๋เป็นคนหน้าตาน่าเอ็นดูอยู่แล้ว ส่วนพี่โรมก็หล่อเถื่อนๆ ตามสไตล์พวกวิศวะฯ เครื่องกล เป็นความแตกต่างที่เรียกได้ว่าลงตัวสุดๆ

แต่จะน่ารักกว่านี้ถ้าเสื้อช็อปที่มันใส่ขิงชาวบ้านไม่ใช่ตัวที่ผมเคยใส่มาก่อน



   ‘ว้ายยยย มีความเปิดตัววววว’

   ‘ยินดีด้วยจ้าน้องบี๋ แฟนหล่อแซ่บพริกสิบเม็ดมากมาย’

   ‘ไม่น่าเชื่อ เฮียโรมยอมลงจากคานแล้วโว้ย!’

   ‘ยินดีด้วยนะคะ เหมาะสมกันมากเลย’

   ‘พี่โรมน้องบี๋น่ารักมว้ากกกกกก’

   ‘คืนนี้เจอกันที่ร้านนะเฮีย ขอดื่มฉลองหน่อย’




ขนาดบรรดาขามุงยังคิดเหมือนกับผมเลย ไม่มีใครปฏิเสธได้หรอกว่าพี่โรมกับบีบี๋เป็นเหมือนเพอร์เฟคแมทช์ที่หลุดออกมาจากโลกนิยายวาย ยิ่งอ่านคอมเมนท์ชื่นชมสองคนนั้นมากเท่าไรก็ยิ่งบั่นทอนจิตใจมากเท่านั้น ต่อให้เป็นผมที่ได้คบกับพี่โรมก็เชื่อเถอะว่าไม่มีคนตามอวยแบบนี้หรอก สุดท้ายผมก็ต้องยอมแพ้แล้วเลียแผลตัวเองอย่างเงียบๆ ตามเดิม

ผมย้ายมือถือไปชาร์จต่อที่โต๊ะเล็กข้างเตียงก่อนจะทิ้งตัวลงบนที่นอนอย่างหมดอาลัยตายอยาก พลางคิดในใจว่าการได้โพสต์รูปติดแคปชั่นบอกคนอื่นว่าเราเป็นที่รักของใครบางคนมันจะทำให้รู้สึกดีแค่ไหน.... รอยยิ้มของไอ้บี๋ในรูปดูมีความสุขมาก มากเสียจนผมเกลียดตัวเองที่คิดอิจฉามัน อยากจะแย่งรอยยิ้มแบบเดียวกันนั้นให้มาประดับหน้าตัวเองบ้าง

ข้อเสนอของไอ้แดนผุดขึ้นมาในสมองอีก พร้อมๆ กับที่โทรศัพท์ของผมส่งเสียงแจ้งเตือนว่ามีข้อความไลน์เข้า



      Do_As_RomanS : เรื่องเมื่อวันก่อน กูต้องขอโทษมึงจริงๆ

                             บีบี๋บอกกูว่ามันคุยกับมึงแล้ว จากนี้ไปกูกับมันก็คงจะคบกันแบบเปิดเผย

                                ถ้ามันทำให้มึงรู้สึกแย่ กูก็ต้องขอโทษด้วย

                                มึงอาจจะเกลียดที่กูเอาแต่ขอโทษ แต่มันเป็นอย่างเดียว ที่กูจะทำให้มึงได้ในตอนนี้

                                เอาไว้กูจะไปหามึงที่คณะนะ ดูแลตัวเองดีๆ ด้วย




จอโทรศัพท์มือถือดับไปแล้วเมื่อผมไม่คิดจะพิมพ์อะไรตอบกลับไป หัวใจของผมกระตุกตอนอ่านข้อความแรก หลังจากนั้นทุกสิ่งทุกอย่างก็คล้ายกับจะหยุดนิ่งไปเสียเฉยๆ มีเพียงหยดน้ำที่รื้นออกมาจุกอยู่ตรงหัวตา ทำเอากระบอกตาผมปวดหนึบไปหมด.... มันเหมือนถูกตบหัวแล้วลูบหลัง จากนั้นก็ย้อนกลับไปตบหัวใหม่ซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนอยากจะเป็นบ้าไปเสียให้มันรู้แล้วรู้รอด


ขณะที่มีคนมากมายเข้ามาอวยพรขอให้พี่โรมรักกับบีบี๋ไปนานๆ แต่เจ้าตัวกลับส่งไลน์หาผม ให้ความหวังพร้อมๆ กับกระทืบผมให้กระอักเลือดตายไปด้วย



ผมอยากรู้จริงๆว่าเขาทำหน้ายังไงตอนที่พิมพ์คำพูดโหดร้ายพวกนี้ออกมา

ในเมื่อเขาใจร้ายกับผมขนาดนี้ แล้วถ้าผมจะเอาคืนเขาบ้างล่ะ.... ทุกคนคงหันมาสาปแช่งให้ผมตกนรกไม่ได้ผุดได้เกิดเลยสินะ?




“ทิชา ดึกป่านนี้แล้วจะออกไปไหน?”


“ไปหาเพื่อนแปบนึงครับ........”  ผมตอบคำถามแม่ก่อนจะคว้ากุญแจรถที่แขวนอยู่เหนือชั้นวางรองเท้า


“ไปหาเพื่อน? ตอนเกือบสี่ทุ่มเนี่ยนะ??”  แม่ละสายตาจากบทละครที่อ่านค้างไว้แล้วลุกขึ้นมามองสารรูปผมให้ชัดๆ “แต่งตัวแบบนี้คงจะไปเที่ยวล่ะสิ”


เสื้อยืดหลวมโพรกกับกางเกงขาสั้นสำหรับใส่อยู่บ้านเปลี่ยนมาเป็นเสื้อเชิ้ตพับแขนปลดกระดุมโชว์ไหปลาร้ากับกางเกงสกินนี่ฟิตพอดีตัว ซึ่งเป็นอะไรที่ถ้าไม่ใช่โอกาสพิเศษจริงๆ หรือนัดเดทกับใครก็อย่าหวังเลยว่าจะได้เห็นผมใส่.... แม่เองก็รู้จักนิสัยผมดีถึงได้ไม่ห้ามปราม ออกจะดูโล่งใจเสียด้วยซ้ำที่ลูกชายอย่างผมยอมออกจากบ้านไปมีสังคมกลางคืนเหมือนวัยรุ่นทั่วไปบ้าง 


“เอาเถอะ วัยแกก็แบบนี้แหละ.... เอารถไปก็ขับดีๆ ถ้าเมาก็นั่งแท็กซี่กลับมา ถ้าโดนจับตรงด่านเป่า พ่อแกคงได้โทรมาแหกอกแม่อีก”


ผมพยักหน้ารับแล้วออกไปเปิดประตูรั้วเตรียมสตาร์ทรถ ไอโฟนที่ยัดไว้ในกระเป๋าด้านหลังกางเกงส่งเสียงแจ้งเตือนข้อความเข้าอีกครั้ง



            Im_BeeBeE : เพื่อนชาาาาาาาาา         

                     จะนอนยัง กูอยากคอลเรื่องพี่โรมให้มึงฟังง่า *สติ๊กเกอร์*




มุมปากผมกระตุกขึ้นเล็กน้อยก่อนที่จะรัวนิ้วพิมพ์ตอบไป



          Tisha_950701 : กูเก็บขี้แมวอยู่ มีอะไรพิมพ์ทิ้งไว้ก่อน

                                 เดี๋ยวว่างแล้วจะคอลกลับไปเอง




หัวใจของผมเต้นแรงขึ้นนิดหน่อยในตอนที่โยนมือถือไว้เบาะตรงเบาะนั่งข้างคนขับ เสียงแจ้งเตือนข้อความเข้ายังคงดังอย่างต่อเนื่องบอกให้รู้ว่าไอ้บี๋คงอดทนรอไม่ไหวเลยรัวส่งไลน์เล่าเรื่องพี่โรมมาแล้ว แต่มันคงไม่รู้หรอกว่านอกจากผมจะไม่กดอ่านแล้ว ต่อให้มันนั่งรอทั้งคืน ผมก็จะไม่คอลกลับตามที่รับปากด้วย

ผมใช้เวลาไม่ถึงสองนาทีก็เซ็ทอัพแผนที่บนหน้าจอเนวิเกชั่นเสร็จเรียบร้อย และตอนนี้รถมินิคูเปอร์ก็กำลังแล่นออกจากซอยไปยังจุดหมายปลายทาง



‘เบอร์ลิค เอกมัย.... ระยะทาง 0.8 กิโลเมตร’



TO BE CONTINUE


✽✽✽✽✽✽✽✽✽✽

TALK

ระหว่างที่เขียนตอนนี้ อยู่ดีๆก็นึกถึงคำพูดในฟิคเรื่องเก่าของตัวเอง
คนที่ผ่านช่วงมัธยมจนเข้ามหาลัยมาได้ ไม่มีหรอกคำว่าซื่อใสไร้เดียงสา อยู่ที่ว่าจะเทามาก เทาน้อยหรือเป็นสีดำสกปรกซักไม่ออกไปเลย
ตัวละครทุกตัวในเรื่องนี้ก็เป็นแบบนั้นแหละค่ะ ^___^  :katai4:

ขอบคุณสำหรับการติดตามเจ้าค่ะ ดีใจมากๆเลยที่มีคนเข้ามาอ่าน  :mew1:

Alice
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06-12-2017 19:48:45 โดย SweetAlice0701 »

ออฟไลน์ สาว801

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 133
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-2
 มันเทาเข้มมากๆค่ะ เราถอนคะแนนพี่โรมเป็นติดลบเลยค่ะ ต่อให้มาทำดีขนาดไหนแต่เล่นใช้ทิชาเป็นสะพานทอดไปหาบีบี๋แบบนี้มันใจร้ายมาก พี่โรมจะถอดหน้ากากคนดีออกก็ได้นะ ทิชาจะได้ตาสว่างเร็วๆ แดนก็มาวอแวกับทิชาเพราะผลประโยชน์ ทั้งพี่ทั้งน้องพอๆกัน :angry2: :m16:

ปล. เราอยากเห็นภาพที่คนเขียนเอามาประกอบอ่ะค่ะแต่มันไม่ขึ้น :katai1:

ออฟไลน์ มะเขือม่วง

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 435
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0

ออฟไลน์ Zetnezz

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 225
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0

ออฟไลน์ FeaRes

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 738
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-2
พี่โรมใจร้ายยยยยย //กอดทิชา

ออฟไลน์ ก้มหน้าก้มตา

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 137
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
เทาได้ใจมากค่ะ

อ่านไปอ่านมา คนไม่รักเรา ไม่ใช่ว่าเค้าจะผิด
เค้ามีสิทธิที่รู้สึกรักจะรักจะชอบใคร

แต่เค้าก็ไม่มีสิทธิมาทำให้เราเป็นสะพานไปหาคนอื่นแบบเน๊
ไม่มีสิทธิมาทำให้เราเจ็บช้ำเพื่อให้ตัวเองสมหวังในรัก
ทังพี่โรมและบีบี็

แต่ในใจก็อยากให้น้องเป็นนายเอกสวยใส
ไม่ต้องไปย่งใครมาคืน แต่จะต้องดูดี เลิศ เชิด และเป็นคนที่ดี
และประสบความสำเร็จจนทุกคนต้องมาง้องอน

นี้อินมากกก
รอลุ้นตอนต่อไปค่ะ

นั่งอินต่อ

ออฟไลน์ stickyyrice

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-5
ฮือออ เมื่อคนดีๆจะเข้ามาในชีวิตทิชาบ้าง

ออฟไลน์ nuengku.kimjaejoong

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 8
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
 :sad4: :sad4: :sad4:ฮืออออ อยากอ่านต่อแล้วค่ะ เราชอบนายเอกแนวนี้เลย ไม่ดีเกินไป ไม่ร้ายเกินไป น้องชาสู้ๆนะลูก

ออฟไลน์ Mod40

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 55
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
รอติดตามอยู่นะคับทิชาจะเดินหน้าต่อไปยังไง

ออฟไลน์ jjasu

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 84
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
 :sad4: :sad4: รออ่านต่อนะคะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ prmino

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 3
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ชอบมาก ชอบทุกอย่างเลย ชอบตัวละครแบบนี้จังดูเหมือนจะเข็มแข็งแต่ก็ดูอ่อนไหวง่าย ทิชาดูมีแต่เรื่องเสียใจมาให้เจอสงสารอ่าาาาา ตอนนี้ยังไม่เชียร์ใครทั้งนั้น ขอเบิกตัวละครใหม่ได้มั้ยคะ55555555 รอติดตามนะคะะะะะ

ออฟไลน์ SweetAlice0701

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 93
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-3
6
~ นกน้อยหลงฝูง ~


เบอร์ลิคในคืนวันจันทร์ไม่ได้คนแน่นมากเหมือนตอนที่มาคราวก่อน ผมจึงเดินเข้าไปถึงหน้าบาร์ได้ไดยไม่ต้องเบียดเสียดกับใคร.... สายตาสอดส่ายมองหาเป้าหมายที่ผมรู้จากการส่องคอมเมนท์ในไอจีว่าเขาจะมาร้านวันนี้ ก็เป็นธรรมเนียมประหลาดๆ ของคณะวิศวะฯ ที่ว่ารุ่นน้องในสายของเจ้าของร้านจะต้องผลัดกันมาช่วยคุมร้าน ทั้งคุมกฎและสร้างกฎของพวกตัวเองขึ้นมาทำให้เบอร์ลิคถูกเรียกว่าเป็นแดนสวรรค์สำหรับพวกห้อยเกียร์

ที่อื่นลูกค้าอาจเป็นพระเจ้า แต่ที่นี่คนนอกเป็นได้แค่พลเมืองชั้นสอง

อะไรก็ตามที่เป็นผลผลิตมาจากคณะฯ วิศวะ คือชนชั้นพิเศษที่มีอำนาจปกครองและจะได้รับความคุ้มครองด้วยกฎเกณฑ์ของที่นี่

ถ้าคุณไม่เชื่อ ผมจะแสดงให้ดู....


“น้องครับ........” 

ใครบางคนที่ไม่รู้จักเรียกผมจากทางด้านหลัง เมื่อหันไปมองทางนั้นก็ทำแววตากรุ้มกริ่มใส่ คงจะมั่นใจในเบ้าหน้าของตัวเองอยู่ไม่น้อย

 “มาคนเดียวเหรอ? ไปนั่งด้วยกันทางโน้นไหม?”

คนแปลกหน้าผายมือให้ผมเห็นว่าเขามากับเพื่อนกลุ่มใหญ่ ยึดครองโซฟามุมวีไอพีที่อยู่บนชั้นลอยเกือบทั้งแถบ ก็เหมือนจะดีนะ เสียแต่ว่าที่คอของหมอนี่โล่งโจ้งไม่มีสิ่งที่ผมต้องการห้อยอยู่นี่สิ 

“ไม่ล่ะครับ ขอบคุณ”

“ไม่ต้องเกรงใจหรอกน่า.... โต๊ะพวกพี่มีของให้เล่นเพียบเลยนะ สวยๆ แบบน้องเดี๋ยวพี่แบ่งให้ฟรีเลย” 

อีกฝ่ายยังคงตื๊อแถมยังทำท่าจะจับมือถือแขนลากผมไปโดยที่ยังไม่ยินยอมพร้อมใจ

“ผมก็อยากลองนะ แต่แฟนผมคงไม่ยอมให้เล่นด้วย........”  ผมแกล้งหลิ่วตาไปทางโซฟาด้านหลังเวทีไลฟ์สด อันเป็นที่รู้กันว่าเป็นที่นั่งของบรรดารุ่นน้องเจ้าของร้าน  “ถ้าพี่จะไปขออนุญาตแฟนผมให้ ผมก็โอเค”

ทั้งที่ผมอุตส่าห์ยิ้มให้อย่างเป็นมิตรสุดๆ แต่เขากลับทำหน้าแหยงขนลุกขนพองอย่างกับว่าผมเป็นเชื้อโรคยังไงยังงั้นก่อนจะเดินหนีไปเลย

“เด็กของพวกวิศวะฯ นี่หว่า.... เชี่ยเอ๊ย เกือบซวยแล้วกู!”

นั่นคือประโยคสุดท้ายจากคนๆ นั้นที่ลอยมากระทบหู ก็อย่างที่บอกว่าทุกอย่างที่เป็นผลผลิตจากคณะวิศวะฯ รวมถึงพวก ‘สะใภ้’ จะได้รับความคุ้มครองจากกฎเหล็กของที่นี่ พวกที่มาจากคณะอื่นก็เลยไม่กล้าเสี่ยงยุ่งกับผมถ้าไม่อยากโดนกระทืบฟรี ถึงแม้ว่าจะยังไม่รู้ว่าผมตอแหลแอบอ้างหรือเปล่าก็เถอะ


ผมเดินไปยังโซฟาข้างเวที เดาเอาว่าพี่โรมน่าจะอยู่ตรงนั้นเลยคว้าขวดชามะนาวทำเป็นผ่านไปห้องน้ำที่อยู่หลังประตูใกล้ๆ กัน คนเดินสวนกันไปมาไม่มีใครผิดสังเกตว่ามีนกหลงฝูงอยู่แถวนี้ ผมเจอพี่โรมนั่งอยู่กับพี่อีกคนซึ่งน่าจะเป็นศิษย์เก่าที่จบไปแล้ว ท่าทางเครียดจัดเหมือนมีปัญหาหนักอก ผมก็เลยเนียนหลบเข้าไปใต้บันไดทางลงจากเวที.... เพราะวันนี้เป็นวันจันทร์ซึ่งมีดนตรีเล่นสดแค่ช่วงหัวค่ำถึงสี่ทุ่ม ไม่ได้เล่นยาวไปจนถึงตีสองเหมือนคืนวันศุกร์-เสาร์ เสียงรอบข้างไม่ดังเท่าไร ผมจึงได้ยินสิ่งที่พี่โรมคุยกับเพื่อนโดยที่ไม่ต้องพยายามเงี่ยหูฟังมากนัก


   ‘ไงวะไอ้โรม ได้ข่าวว่ามีแฟนแล้วนี่.... ทำไมหน้ามึงยังกะเสียบอลหมดตูด’

   ‘มีเรื่องนิดหน่อยว่ะพี่’

   ‘เรื่องเรียนหรือชีวิตส่วนตัว’

   ‘ชีวิตส่วนตัว..........’



พี่โรมพูดค้างไว้แค่นั้นแล้วก็เงียบไปแปบหนึ่ง ก่อนจะต่อความให้จบ


   ‘พูดตามตรงแม่งไม่ใช่เรื่องของผมด้วยซ้ำ แต่ก็....เออ.....นั่นแหละพี่’

   ‘เรื่องเหี้ยไรไหนมึงว่ามาดิ เผื่อกูช่วยได้..... เฮ้ย ไอ้กอล์ฟ หยิบโคโรน่ามาให้กูกับไอ้โรมคนละขวด ถ้าเฮียเม้งมาคุยเรื่องโต๊ะบอลก็บอกไปว่ากูยังไม่ว่าง ให้รอก่อน’

   

ผมตัวลีบจนแทบจะแนบไปกับกำแพงใต้บันไดเมื่อลูกน้องที่ชื่อกอล์ฟเดินผ่านไปมาเพื่อเอาเบียร์มาให้พี่คนนั้นตามคำสั่ง.... ผมมองเห็นหน้าเขาแค่แวบเดียวเมื่อกี้ แต่ฟังจากคำพูดแล้วน่าจะใช่พี่รุจ เจ้าของร้านเบอร์ลิคที่ร่ำลือกันว่าเป็นตำนานของพวกวิศวะฯ เครื่องกลที่จบออกมาแล้วไม่ทำงานตามสายที่เรียน แต่เสือกได้ดิบได้ดีเพราะอบายมุขทุกรูปแบบ


   ‘เรื่องที่ผมคุยกับน้องบี๋ มันทำให้ใครคนนึงไม่สบายใจ......’

   ‘ใครวะ?’

   ‘มีเด็กสินกำอีกคนที่ผมรู้จักก่อนจะจีบบีบี๋ เขาเป็นเพื่อนสนิทของน้องมัน’




ผมสะดุ้งสุดตัว หัวใจเต้นแรงจนลมหายใจติดขัด

พี่โรม.... กำลังพูดถึงผม??



   ‘ผมว่าผมก็คุยกับทิชาแบบปกตินะ น้องมันน่าเห็นใจน่ะพี่ ไปไหนก็ชอบโดนคนอื่นมองในแง่ร้ายทั้งๆ ที่มันต่างหากที่เป็นฝ่ายถูกรังแก ผมเลยอยากดูแลมันเหมือนเป็นรุ่นพี่รุ่นน้อง แต่น้องมันคงเข้าใจผิดว่าผมคุยด้วยเพราะจะจีบมั้ง เอาเป็นว่ามันชอบผมก็แล้วกัน.... ทีนี้พอไอ้ทิชารู้ความจริงว่าผมจีบบีบี๋เพื่อนสนิทมันก็เลยสติแตก.... ทิชาคิดว่าผมใช้มันเป็นสะพานเพื่อไปจีบบีบี๋ หาว่าผมล้อเล่นกับความรู้สึกมันแล้วก็ร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวร.......ผมแม่ง......เฮ้อ......รู้สึกแย่ฉิบหายเลยพี่’



   คำพูดของพี่โรมก็เหมือนค้อนที่ทุบเข้ากลางใจผม.... ใช่สิ ผมแม่งเพ้อเจ้อที่คิดไปเองว่าพี่โรมมาจีบ คิดว่าพี่โรมจะเป็นคนดีไม่เหมือนกับพวกเหี้ยที่ทำร้ายผม

   พูดแบบไม่อายเลยนะ ผมโคตรสะใจเลยที่ได้ยินว่าพี่โรมรู้สึกแย่แค่ไหนกับสิ่งที่ทำเอาไว้กับผม....!



   ‘อ้อ กูพอจะเข้าใจละ.... เด็กที่ชื่อทิชามาร้องห่มร้องไห้ใส่มึง มึงก็เลยมีความสุขได้ไม่เต็มที่เพราะว่ามีคนเจ็บปวดจากความรักของมึงสินะ’

   ‘ประมาณนั้นแหละพี่’

   ‘แล้วมึงจะแคร์ทำไมวะ ในเมื่อคนที่มึงอยากคบคือน้องบี๋ ไม่ใช่เพื่อนเขา…. ถ้ามึงรู้ว่าเขาชอบมึงก่อนหน้านี้แล้วมึงจะไม่จีบบีบี๋หรือไง?’

   ‘........................’

   ‘เหี้ยโรม กูว่ามึงคิดเยอะจนสมองเจ๊งแล้ว.... มึงชอบใครก็เป็นสิทธิ์ของมึงที่จะจีบคนนั้น การที่มึงยอมผิดหวังเพื่อถนอมน้ำใจคนที่ไม่ได้เป็นอะไรกับมึงเลยเนี่ย กูว่าแม่งไร้สาระฉิบ!’

   ‘ผมก็ว่างั้นว่ะ.....แต่ที่เหี้ยก็คือทิชามันเคยใส่ช็อปผมแล้วนะ’

   ‘อะไรนะ!? แล้วมึงให้ไอ้เด็กนั่นใส่ช็อปมึงซี้ซั้วได้ไงวะ!!??’

   ‘ครั้งแรกที่เจอกัน......ผมชอบมัน.......’

   ‘เชี่ยละ ไอ้โรมเอ๊ย!’

   ‘แต่พอผมเจอบีบี๋ ผมก็คิดว่าบีบี๋แม่งใช่ในสิ่งที่ผมมองหามากกว่า สุดท้ายผมก็มองข้ามไอ้ทิชาไป.........’




คุณคงคิดว่าผมใจเต้นหน้าแดงเพราะประโยคที่ว่าพี่โรมเคยชอบผมสินะ?

ไม่เลย.... ข้างในอกผมเดือดพล่านปวดแสบปวดร้อนเหมือนมีน้ำกรดไหลเวียนอยู่

เขาไม่ผิดหรอกที่ไม่เคยรู้ว่าผมมีปมในใจเรื่องที่ไม่เคยเป็นที่ต้องการสำหรับใคร แม้กระทั่งกับพ่อบังเกิดเกล้าและพี่สาวของตัวเอง เขาไม่ผิดที่ไม่รู้ว่าผมเคยถูกหลอกให้รักและถูกทำให้ผิดหวังซ้ำซาก.... แต่ตอนที่พี่โรมชอบผม เขาก็อ่อนโยนด้วยจนผมหวั่นไหว ทว่า ทันทีที่เขาคิดว่าชอบคนอื่นมากกว่า เขาก็เปลี่ยนใจจากผมไปหาไอ้บี๋ง่ายๆ เสแสร้งทำเหมือนว่าเรื่องที่เขาอ่อยผมไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

แม่งเหี้ย.... เหี้ยที่สุดของที่สุด!

ผมหยิบมือถือออกมาเปิดไลน์ แค่นหัวเราะใส่ข้อความหลอกเด็กที่พี่โรมส่งมาหาก่อนจะพิมพ์ตอบกลับไป
   


Tisha_950701 : ชาก็ต้องขอโทษพี่เหมือนกันที่เอาแต่ใจ
                       ไม่โกรธพี่โรมแล้วก็ได้



ไม่ถึงสามวินาที ผมก็ได้ยินเสียงไลน์เด้งมาจากมุมโซฟาที่พี่โรมนั่งอยู่


‘เฮ้ย พี่รุจ.... น้องมันยอมตอบไลน์ผมแล้วว่ะ’

‘น้องไหน? นกน้อยที่ชอบมึงน่ะเหรอ?’

‘ทิชามันโอเคแล้ว มันบอกว่าไม่โกรธผมแล้วก็ได้’

‘เออ ไอ้ห่า เห็นมึงบอกว่าแม่งร้องไห้จะเป็นจะตาย แต่บทจะหายโกรธก็เสือกหายง่ายๆ เด็กหนอเด็ก’

‘แบบนี้ก็ดีแล้วพี่.... ไอ้ทิชาเวลาคุยปกติน่ะน่ารักจะตาย แต่ตอนมันโกรธนี่ทำเอาผมโคตรใจเสียเลย’

‘งั้นมึงคงสบายใจแล้ว เดี๋ยวกูออกไปคุยกับเฮียเม้งก่อนนะ.... วันนี้ไอ้เต๊ดไม่มา มึงช่วยเฝ้าแถวๆ บาร์ให้กูด้วย อย่าให้ไอ้พวกลูกน้องพม่าเม้มเงินกูได้ล่ะ ขี้เกียจลากมากระทืบให้เหนื่อย’

‘โอเคครับพี่’




พี่รุจคนนั้นเดินออกมาก่อน จากนั้นผมถึงเห็นพี่โรมเดินไปที่บาร์น้ำตามคำสั่ง และก่อนที่ผมจะโผล่ออกมาจากใต้บันไดก็มีข้อความเด้งเข้ามาในมือถือ
                         

Do_As_RomanS : ดีใจนะที่มึงยอมคุยกับกูแล้ว
               กลับมาเป็นเด็กดีของกูเหมือนเดิมนะ *สติ๊กเกอร์*



ผมไม่รู้หรอกว่า ‘เด็กดี’ ในความหมายของพี่โรมมันเป็นยังไง.... เขาอาจจะอยากให้ผมสงบปากสงบคำอยู่เฉยๆ ไม่เข้ามาขวางทางรักของเขากับบีบี๋ อยากให้ผมเป็นแค่น้องชายที่แค่ลูบหัวแวะคุยด้วยนิดหน่อยก็พอ หรืออาจจะไม่ได้ต้องการอะไรเลย แค่พิมพ์ไปเรื่อยเพื่อความสบายใจของตัวเองก็เท่านั้น


แล้วผมต้องแคร์ว่าพี่โรมคิดอะไรยังไงด้วยเหรอ? ไม่จำเป็นมั้ง?


ในเมื่ออยากทำให้ผมรัก ผมก็จะรักเขาให้ขาดใจตายไปเลย.... ผมจะไม่ไปไหนแล้วเขาก็จะเขี่ยผมทิ้งเหมือนเศษขยะไม่ได้ด้วย

ผมก็เป็นคนประเภทนั้นแหละ!



“พี่โรม!”

ผมพุ่งตรงไปยังเคาท์เตอร์บาร์ทันทีที่พี่โรมว่างจากคุมคนงานจัดชุดเหล้ากับมิกเซอร์ให้ลูกค้า ร่างสูงกำลังก้มๆ เงยๆ จัดการกับลังเบียร์เปล่าก่อนจะเงยขึ้นมองเจ้าของเสียงเรียกชื่อซึ่งถีบตัวขึ้นนั่งบนเก้าอี้สตูลทรงสูง พอเห็นว่าเป็นผมก็เบิ่งตาโตทำหน้าเหมือนถูกผีหลอกตอนกลางวันแสกๆ

“ทิชา....!” ลังเปล่าในมือพี่โรมหล่นลงพื้น  “มึงมาอยู่นี่ได้ไง!?”

“เห็นข้อความแล้วคิดถึงพี่ก็เลยอยากมาหา” 

ผมยกมือขึ้นเท้าคางพลางส่งยิ้มให้ในแบบที่มั่นใจว่าอีกฝ่ายต้องยิ้มตาม แต่คงไม่ใช่กับคนในวิศวะฯ ที่รู้ดีที่สุดว่าเบอร์ลิคแตกต่างจากร้านอื่นตรงไหน และที่นี่ก็ไม่ควรจะมีเหล่านกน้อยมานั่งคุยกันจุ๊กจิ๊กเหมือนอย่างร้านนมปั่นแถวมอด้วย

“แต่กูเคยบอกมึงแล้วไม่ใช่เหรอว่าอย่ามาที่นี่!?”

“คนอื่นเขาก็มากันได้ตั้งเยอะ แล้วทำไมชาจะมาไม่ได้ล่ะ?” ผมทำลอยหน้าไม่รู้ไม่ชี้ ยึดหลักว่าในเมื่อลูกค้าที่เป็นนิสิตคณะอื่นยังนั่งอยู่ได้เต็มร้าน ผมก็ต้องอยู่ได้เหมือนกัน “มีคนแอบบอกว่าพี่โรมจะอยู่นี่ทุกวันจันทร์ พุธ ศุกร์ คราวหน้าชาก็จะมาหาพี่อีก”

“กลับบ้านซะ เดี๋ยวกูเรียกรถให้”

“ไม่กลับ”

“ทิชา มึงก็รู้ว่าที่นี่ไม่เหมาะกับคนอย่างมึง.... กลับไปเดี๋ยวนี้!”

น้ำเสียงพี่โรมบ่งบอกว่าเจ้าตัวเริ่มไม่สบอารมณ์ขึ้นมาแล้ว นี่แหละโลกของความเป็นจริงที่ผมต้องเจอ.... แชทในไลน์ก็แค่ตัวอักษร อาศัยแค่สมอง นิ้วพิมพ์และสันดานตอแหลอีกนิดหน่อยก็สามารถทำให้หัวใจของใครบางคนพองโต เพื่อที่จะได้เหยียบขยี้มันด้วยฝ่าเท้าเมื่อถึงเวลาที่พบหน้ากัน

“จริงๆ แล้วพี่โรมก็แค่ไม่อยากเจอหน้าชาสินะ?”

รอยยิ้มระรื่นบนใบหน้าผมเลือนหายไป สายตาหลุบต่ำลงมองมือของตัวเองซึ่งบีบแน่นประสานกันอยู่บนตัก ปลายจมูกแดงขึ้นนิดหน่อยเมื่อต้องสูดหายใจลึกดับความร้อนไม่ให้กลั่นตัวออกทางกระบอกตา 

“งั้นที่บอกในไลน์ว่าจะไปหาที่คณะก็คงโกหกตามเคย........”

พี่โรมสบถเบาๆ ดูเขาไม่ค่อยพอใจนักที่ผมตัดพ้อประชดประชัน แต่คงเพราะความรู้สึกผิดในใจที่ทำให้ผมร้องไห้ล่ะมั้ง เขาถึงได้แต่เสยผมแรงๆ ระบายความหงุดหงิด ถอนหายใจอีกสองเฮือกแล้วก็หยิบเลมอนไอซ์ทีจากตู้แช่มาให้ผม

“งั้นมึงก็นั่งตรงนี้ ห้ามไปไหนโดยไม่บอกกูเด็ดขาด.... เข้าใจไหม?”

ผมรับชามะนาวมาจิบ รสสัมผัสหวานอมเปรี้ยวเย็นเจี๊ยบกับมือหนาที่ลูบหัวผมเรียกรอยยิ้มให้กลับมาอีกครั้ง “อื้ม ก็ชาเป็นเด็กดีของพี่โรมไง ไม่กล้าดื้อหรอก”

“ไม่กล้าห่าไร มึงน่ะตัวแสบเลย”

ทีแรกผมก็คิดว่าเสี่ยงเกินไปที่จะเข้ามาในเบอร์ลิค กฏบางอย่างของที่นี่ทำให้ผมหวั่นใจ แต่ถ้าอยู่ที่มหาลัย ก็ไม่มีทางที่ผมจะได้ใกล้ชิดพี่โรมแบบนี้ แล้วคนเราถ้าไม่ยอมเข้าถ้ำเสือก็อย่าหวังเลยว่าจะได้พ่อเสือไปทำพันธุ์

เรื่องดีอีกอย่างคือผมรู้แล้วว่าถ้าผมดึงดันจะเอาให้ได้ พี่โรมก็ไม่กล้าขัดใจ


‘เฮ้ย เด็กนั่นแฟนไอ้โรมเหรอ?’

‘ที่เห็นในไอจี ไม่ใช่คนนี้นะเว้ย.... น้องสินกำสะใภ้เราชื่อบีบี๋’

‘อ้าว แล้วนี่มานั่งอ้อล้อไอ้โรมได้ไงเนี่ย?’

‘กูว่าหน้าแม่งคุ้นๆ ด้วย’

‘อ้อ.... กูว่ากูรู้แล้วว่าใคร!’




“นี่เราน่ะ ชื่อทิชาใช่ไหม?”

“ครับ...?”

ผมตอบรับผู้หญิงสองคนที่เข้ามาทักอย่างงๆ เพราะฟังจากน้ำเสียงชวนหาเรื่องนั้นดูเหมือนพวกเธอน่าจะรู้ดีอยู่แล้วว่าผมเป็นใครพอเห็นโลหะรูปเฟืองอันเล็กที่ห้อยอยู่บนคอของสาวรุ่นพี่ทั้งสอง ผมก็พอจะเดาสาเหตุของการถามไถ่อย่างไม่เป็นมิตรนี้ได้รางๆ

“มานั่งนี่ได้ยังไง? น้องเป็นอะไรกับไอ้โรมเหรอ?”

“อยากรู้ก็ไปถามพี่โรมเองสิครับ”

“น้องคะ พวกพี่อุตส่าห์พูดด้วยดีๆ นะ!” 

เห็นที คำว่า ‘ดี’ ในพจนานุกรมของผมกับพวกวิศวะฯ น่าจะต่างกันแบบฟ้ากับเหว ผมก็แค่ไม่อยากเสวนากับคนที่ไม่รู้จัก แต่สิ่งที่พวกเธอทำมันคือการข่มขู่คุกคามชัดๆ 

“ถ้าได้ยินมาไม่ผิด เราน่ะเป็นเพื่อนน้องบี๋ แฟนไอ้โรมไม่ใช่เหรอ.... แล้วนี่คิดจะทำอะไร? จงใจมาอ่อยแฟนเพื่อนตัวเองหรือไง!?”

“ผมนั่งเฉยๆ ไม่ได้ทำอะไรสักหน่อย” 

กับคนที่ไม่ใช่ญาติ ไม่ใช่เพื่อน ผมไม่เห็นจำเป็นจะต้องแคร์ แรงมาก็แรงกลับ ร้ายมาก็ร้ายกลับไม่โกงอยู่แล้ว 

“ถ้านั่งเฉยๆ อยู่คนเดียวแปลว่ามาอ่อยผู้ชาย งั้นผู้หญิงสองคนที่นั่งอยู่ท่ามกลางผู้ชายเป็นฝูงจะแปลว่าอะไร.... สวิงกิ้งหรือเวียนเทียนล่ะ?”

“หนอย อีเด็กเปรตนี่!!”

“แม่งก็ร่านเหมือนแม่มันนั่นแหละ.... ตัวแม่ก็แย่งผัวชาวบ้าน ตัวลูกก็แย่งผัวเพื่อน ดอกทองฉิบหาย!”

ผู้หญิงสองคนนั้นชี้หน้าตะโกนด่าผมปาวๆ แต่ละคำที่พ่นออกมาก็สุดแสนจะคลาสสิกโอลด์สคูลมาก อย่างเช่น แรด ร่าน คัน ดอก ซ้ำไปซ้ำมาอยู่แค่นี้.... ในสถานการณ์ปกติ ผมคงหัวร้อนที่อยู่ดีๆ ก็โดนชะนีไม่มีหัวนอนปลายเท้าจิกด่า แต่วันนี้ผมไม่ได้โมโหเท่าไรแล้วก็ไม่คิดที่จะโต้ตอบมากไปกว่าที่ด่าคืนไปแล้ว

เพราะผมรู้ว่าจะมีใครบางคนจัดการกับเรื่องน่ารำคาญใจนี้ให้....


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05-12-2017 22:55:42 โดย SweetAlice0701 »

ออฟไลน์ SweetAlice0701

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 93
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-3
“ไอ้เมย์ ไอ้รสา.... พวกมึงมาโวยวายห่าอะไรวะเนี่ย!?”

พี่โรมรีบวางมือจากงานแล้วพรวดพราดเข้ามาขวางกลางไม่ให้หนึ่งในสองคนนั้นฟาดมือใส่หน้าผม แน่นอนว่าสองสาวรุ่นพี่จะต้องไม่พอใจที่พี่โรมปกป้องผม แต่มันก็เป็นอย่างที่เห็นคือพี่โรมไม่ยอมให้ใครแตะต้องผมได้แม้แต่ปลายเล็บ

“คนนี้กูขอเหอะ พวกมึงอย่ายุ่งกับน้องมันเลย”

“ไอ้โรม กูรู้ว่ามึงเป็นคนดี เป็นพระเอกของเรื่องนี้ แต่มึงต้องแหกตาดูด้วยว่าอีเด็กทิชานี่มันไม่ใช่กระต่ายน้อย แต่มันเป็นงูพิษ!”

“มึงเปิดตัวน้องบีบี๋เป็นสะใภ้วิศวะฯ แล้วนะ มึงไม่ควรยุ่งกับคนอื่น.... อย่างน้อยก็ต่อหน้าพวกกูทุกคนที่นี่!”

“ห่าเอ๊ย พวกมึงคิดกันไปถึงไหนแล้ววะ ทิชามันเป็นน้องกูนะ”

“น้องบ้าอะไร มองมึงยังกับจะแดกเข้าไปอยู่ละ.... มึงก็เป็นซะแบบนี้!”

ผมนั่งจิบชามะนาวไปพลาง ดูพี่โรมเถียงกับผู้หญิงสองคนไปพลาง มันก็ตลกดีที่ฝ่ายหนึ่งพยายามเรียกร้องอะไรก็ไม่รู้แทนน้องบีบี๋ที่ป่านนี้คงนอนเล่นคุกกี้รันอยู่บ้าน ในขณะที่อีกฝ่ายหนึ่งก็เอาแต่ปฏิเสธว่าผมเป็นแค่น้อง.... แต่ก็เป็นน้องที่พี่โรมเอาเคยเสื้อช็อปให้ใส่เหมือนเป็นสะใภ้วิศวะไม่มีผิด

“ให้เด็กมึงกลับไปซะก่อนที่จะมีเรื่องดีกว่า ไอ้โรม.... กูขอเตือนมึงในฐานะเพื่อนนะ”

“ไม่ต้องไปเตือนหรอก เมย์.... ขอให้แม่งโดนสักทีเหอะ กูจะหัวเราะให้!”

ดูท่าทางสงครามน่าจะสงบแล้ว รุ่นพี่สาวสองคนเดินกลับไปยังที่นั่งของพวกเธออย่างฉุนเฉียวตามประสามนุษย์เมนส์ พี่โรมเองก็ดูโมโหมากเช่นกัน.... ไม่รู้หรอกนะว่าโมโหที่เพื่อนถือวิสาสะมาไล่ผมหรือโมโหที่โดนด่าว่าทำเหมือนจับปลาสองมือ แค่พี่โรมไม่ได้หงุดหงิดแล้วพาลใส่ผมก็ถือเป็นอันว่าใช้ได้


“ทิชา มึงโอเคใช่มั้ย?”

“อืม ชาไม่เป็นไรหรอกพี่”

ผมทำเป็นฝืนหัวเราะให้คนตรงหน้าเห็น เพิ่งรู้เดี๋ยวนี้เองว่าความน่าสงสารก็เป็นอาวุธชั้นดีอย่างหนึ่ง อยู่ที่ว่าผมจะกล้าหยิบมันขึ้นมาใช้หรือเปล่า 

“โดนด่าแบบนี้จนชินแล้ว ใครอยากพูดอะไรก็ช่างเขาเหอะ”

พี่โรมแตะมือลงบนบ่าผม.... มันไม่สำคัญอีกแล้วว่าคนอื่นจะพูดว่ายังไง จะมองผมด้วยสายตาแบบไหน สำหรับผมในตอนนี้ขอแค่พี่โรมรับรู้ว่าผมเคยเจ็บมาก่อน ผมเปราะบางและอาจแตกสลายได้ทุกเมื่อด้วยน้ำมือเขา ผมก็มีสิทธิ์ที่จะได้รับทุกสิ่งทุกอย่างที่สมควรได้ไม่น้อยไปกว่าบีบี๋เลย

“มึงชอบชามะนาวเหรอ เห็นกินแต่ไอ้นี่ทุกที?”

“ไม่ได้ชอบหรอก.... แต่พี่โรมหยิบให้ก็ดื่มได้หมดแหละ"

“งั้นนั่งจนหมดขวดนี้ก็กลับได้แล้วนะ พรุ่งนี้มึงมีเรียนเช้านี่”

“รู้ได้ไง?”

“ก็บีบี๋มันเรียนสิบโมง มึงก็น่าจะลงเรียนวิชาเดียวกันไม่ใช่เหรอ?”

ผมยักไหล่เป็นเชิงว่า ‘ขอบใจนะ พูดได้ดีมาก’ ก่อนจะพยายามทำหัวให้โล่งแล้วจิบชามะนาวต่อไปเรื่อยๆ ผมหยิบโทรศัพท์ออกมากดดูนาฬิกา ตัวเลขบอกเวลาเกือบเที่ยงคืนแล้ว งานผมที่ทำค้างไว้ก็ยังไม่เสร็จ ไหนจะสารพัดข้อความจากไอ้บี๋ที่กระหน่ำส่งมาเป็นร้อยนั่นอีก.... บางทีคืนนี้ผมอาจจะต้องยอมถอยกลับไปตั้งหลัก


“เอ้านี่ บริการฟรีจากพี่”

ขวดคราฟท์เบียร์ยี่ห้อไม่คุ้นตาถูกวางให้ตรงหน้า ผมจำได้ว่าคนที่กำลังยักคิ้วหลิ่วตาอยู่นี้คือพี่รุจ เจ้าของร้านซึ่งเป็นที่ปรึกษาให้พี่โรม.... กับคนๆ นี้ผมรู้ว่าไม่ควรหยาบคายหรือคิดลองดีกับเขา ผมจึงเพียงแค่ยิ้มกลับไปตามมารยาทและตอบปฏิเสธอย่างสุภาพ

“ขอบคุณนะครับ แต่ผมไม่ดื่มแอลกอฮอล์”

“มาเบอร์ลิคทั้งที น้องเล่นกินแต่มิกเซอร์ชามะนาวเนี่ย เสียชื่อร้านพี่หมดดิวะ” 

พี่รุจหัวเราะลั่น พยายามยัดเยียดขวดน้ำเมาสีเขียวเข้มมาให้ผมถือให้ได้ 

“แค่จิบนิดเดียวไม่เป็นไรหรอก อีกสิบนาทีจะมีดีเจมาเปิดแผ่น กรึ่มเบียร์นิดนึง จะได้นั่งฟังเพลงเพลินๆ ไง”

“ผมขับรถมาครับ ขี้เกียจโดนจับเป่า”

“โอ๊ย เรื่องแค่นี้เอง.... เดี๋ยวพี่ให้ไอ้โรมไปส่งบ้านก็ได้”

“ไม่รบกวนขนาดนั้นดีกว่าครับ ผมแค่อยากมานั่งเฉยๆ”

“พูดจริงนะเว้ย พี่เป็นทวดรหัสมัน ถ้าพี่สั่งให้มันไปส่งน้องถึงบ้าน ไอ้โรมมันก็ต้องไป”

เจ้าของร้านอวดอ้างใช้อิทธิพลเต็มที่ไม่เว้นแม้กระทั่งกับรุ่นน้องตัวเอง จะว่าไปก็เหมาะแล้วที่จะเจริญรุ่งเรืองในธุรกิจสีเทา

“พี่หาคนขับรถให้น้องแล้ว ไม่มีเหตุผลให้ปฏิเสธแล้วนะ”

สัญชาตญาณของผมเตือนให้รู้สึกถึงนัยยะบางอย่างจากการกระทำของอีกฝ่าย เขาน่าจะรู้ไม่ใช่เหรอว่าพี่โรมเพิ่งเปิดตัวบีบี๋และผมก็ไม่ใช่สะใภ้วิศวะฯ แต่เพราะคำพูดคำจาที่ฟังดูเป็นกันเองกับท่าทางสบายๆ ไม่ได้คุกคามน่ากลัวอะไร ผมก็เลยฝังกลบสัญญาณอันตรายนั้นเอาไว้ก่อน

ของเหลวสีอำพันไหลลงลำคอไปอย่างยากลำบาก ผมหน้าเบ้เกือบสำลักเพราะไม่ชินกับกลิ่นฉุนกึกและรสชาติขมจัด

“ปกติไม่ดื่มเหรอ?”

“ไม่เลยครับ” 

ผมว่าพลางกระดกชามะนาวคู่ชีพลงไปอึกใหญ่ หวังจะให้รสเปรี้ยวอมหวานช่วยล้างความขมออกไปจากลิ้นและคอให้หมด เข้าใจถ่องแท้เลยว่าของที่ไม่ชอบ ให้ตายยังไงก็ไม่มีทางเปลี่ยนใจมาชอบได้ 

“ถ้าผมเมานอกบ้านแล้วเกิดมีเรื่องไม่ค่อยดีขึ้นมา พ่อแม่จะลำบากกับอะไรหลายๆ อย่าง ผมก็เลยตัดปัญหาด้วยการไม่ดื่ม.... พอรู้ตัวอีกทีก็กลายเป็นพวกคออ่อนดื่มเหล้าไม่เป็นไปแล้ว”

“ฟังดูน่ารักดีว่ะ โคตรคุณหนูเลย”

น้ำเสียงพี่รุจฟังดูเหมือนเอ็นดูผมอยู่พอควร ผมเองก็คิดแบบนั้นจนกระทั่งเขายื่นหน้าเข้ามาใกล้ๆ แล้วกระซิบอะไรบางอย่างให้พอได้ยินกันแค่สองคน


“แต่ถ้าน้องคิดจะมาชิงเกียร์ที่มีเจ้าของแล้วที่นี่.... พี่ว่าน้องควรจะหัดดื่มเอาไว้จะได้รู้ว่ารสเบียร์แต่ละยี่ห้อจริงๆ มันเป็นยังไง แล้วก็ต้องรู้จักเอาตัวรอดเองให้ได้ด้วย”


อยู่ดีๆ ข้างในท้องก็ร้อนวูบเหมือนโดนไฟลวก ก่อนที่ผมจะรู้ตัวว่ามันไม่ใช่แค่ท้องแต่เหมือนว่าอวัยวะทุกส่วนถูกนาบด้วยเตาย่าง จังหวะชีพจรเร่งเร็วขึ้นจนได้ยินเสียงตึกตักดังออกมาจากอก เลือดสูบฉีดไปทั่วกายอย่างบ้าคลั่งราวกับมีปีนฉีดน้ำแรงดันมหาศาลซ่อนอยู่ภายในร่าง เหงื่อเม็ดโตผุดซึมตามไรผมและแผ่นหลังจนชื้นแฉะ.... อากาศรอบข้างอบอ้าวจนแทบทนไม่ได้ ผมร้อนและเริ่มเวียนหัวหายใจไม่ออก อาการเหมือนคนกำลังจะเป็นลมแต่ผมคิดว่าไม่น่าจะใช่ บางทีมันอาจเป็นอะไรที่แย่กว่านั้น

ผมพลิกข้างขวดคราฟท์เบียร์ขึ้นมาดู บนฉลากเขียนชัดเจนว่ามีแอลกอฮอล์อยู่แค่ 4.7% ต่อให้ผมเป็นไก่อ่อนยังไงก็ไม่น่าจะมึนเร็วขนาดนี้

ยกเว้นเสียแต่ว่าที่ผมเพิ่งดื่มเข้าไปมันจะไม่ใช่แค่เบียร์....!!

“จิบๆ แค่นิดเดียวเอง เมาแล้วเหรอน้อง?”  พี่รุจเอ่ยถาม พยายามก้มหน้ามองผิวแก้มของผมที่ตอนนี้กลายเป็นสีแดงจัด “ไม่ต้องอายน่า.... เบียร์ที่พี่เอาให้ใครกินก็เมาหัวทิ่มทั้งนั้นแหละ ไหนมาดูอาการหน่อยสิ”

ทันทีที่มือสากแตะโดนแก้ม ผมก็สะดุ้งเฮือกราวกับโดนไฟชอร์ต ความร้อนถาโถมเข้าสู่บริเวณท้องน้อยปั่นป่วนเหมือนมีคลื่นน้ำวนอยู่ข้างใน แขนขาอ่อนเปลี้ยหมดเรี่ยวแรงและครั่นเนื้อครั่นตัวแปลกๆ โดยเฉพาะตรงช่วงล่างที่ปวดหนึบจนต้องเกร็งต้นขาหนีบแน่นเอาไว้.... ผมไม่ใช่เด็กห้าขวบที่จะเข้าใจว่าตัวเองป่วยไข้ขึ้นกะทันหัน ผมรู้ดีว่าอาการแบบนี้คืออะไร

แล้วก็รู้ด้วยว่าผมตัดสินใจผิดมหันต์ที่ไม่เชื่อสัญชาตญาณระวังภัยของตัวเองตั้งแต่ทีแรก....!

“สงสัยผมจะเมาแล้ว ขอตัวไปห้องน้ำแปบนึงนะครับ” 

พูดเสียงสั่นขณะพยายามยันตัวลุกขึ้นจากเก้าอี้สตูล คอแห้งผากจนต้องกลืนน้ำลายถี่ยิบ คิดในใจแค่ว่าจะต้องรีบล้วงคออาเจียนเอาสิ่งที่ดื่มเข้าไปออกมา

“ปวดฉี่เหรอ?”  พี่รุจปีนออกมาจากด้านหลังเคาท์เตอร์ ดึงแขนผมไว้ไม่ยอมให้หนีไปไหนได้ “ถ้าไม่ได้ปวดฉี่จริงก็ไม่ต้องไปห้องน้ำหรอก.... เสียดายของ”

“อย่าจับ........ฮึก.......!”

แค่ถูกแตะเนื้อต้องตัว อารมณ์ความรู้สึกที่ควบคุมไม่ได้ก็ยิ่งเตลิดไปไกลและรวดเร็ว กางเกงชั้นในของผมเริ่มเปียกเพราะบางสิ่งซึ่งขยับขยายปล่อยน้ำหล่อลื่นอยู่ภายใต้ร่มผ้า.... ร่างกายผมตื่นตัวรุนแรงจนไวต่อสัมผัสไปหมดทุกส่วน ผมตั้งสติให้มั่นเผยอปากสูดอากาศเข้าปอดให้มากที่สุด แต่มันไม่ช่วยให้มีอะไรดีขึ้นเลย ผมยังคงร้อนรุ่มไปทั้งกายและอยากปลดปล่อยความอัดอั้นบริเวณหว่างขาออกมาให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้

ทว่า พี่รุจกลับตรงเข้ามาลากตัวผม รวบเอวแล้วจับโยนขึ้นไปนั่งบนเคาท์เตอร์บาร์ให้ทุกคนในร้านได้เห็นสภาพน่าอับอายนี้ชัดๆ

“เฮ้ย พวกมึงทุกคนฟัง!”  เสียงห้วนประกาศกร้าว  “คืนนี้เรามีนกน้อยบินหลงฝูงมาเว้ย!!”

สายตาสารพัดรูปแบบจากทุกมุมร้านจับจ้องมายังผมซึ่งถูกล็อกตัวเอาไว้บนบาร์เหมือนสินค้าประมูล ทั้งแปลกใจ สนใจ สงสัย ขบขัน สมน้ำหน้า เยาะเย้ย และสมเพชเวทนา ผมมองไปรอบๆ ไม่ต่างจากสัตว์เล็กที่ตื่นกลัวคมเขี้ยวของผู้ล่า.... พี่รุจกระชากคอเสื้อผมจนกระดุมหลุดหายไปสองเม็ด สาบเสื้อร่วงลงมาจากไหล่ให้คนพวกนั้นได้เห็นผิวขาวจัดที่โดนบ่มด้วยฤทธิ์เหล้าและยาจนเป็นสีชมพูระเรื่อ

ผมมองหาพี่โรม แต่ไม่รู้ว่าเขาอยู่ตรงไหนของร้าน....

“มีคนบอกว่ามันจะมาชิงเกียร์ที่มีเจ้าของแล้ว อยากมีผัววิศวะฯ จนต้องแรดมาหาแดกถึงถิ่นกู.... พวกมึงคนไหนเกียร์ยังอยู่ที่คอตัวเองช่วยมาสงเคราะห์มันหน่อยเด๊ะ!”

เสียงโห่ฮาเป่าปากดังขึ้นรับคำสั่งจากพี่รุจ.... ผมรู้ทันทีว่าตัวเองกำลังเผชิญอยู่กับอะไร เพราะผมไม่ใช่สะใภ้วิศวะฯ ตัวจริง เกียร์ของพี่โรมไม่ใช่ของผม ดังนั้น การมาหาพี่โรมก็ไม่ต่างจากมาขึ้นเขียงให้พวกนี้จับเชือด

“พี่โรม........ฮึก......พี่โรม..............”

“ไม่ต้องกลัวนะน้อง เคสแบบน้องเนี่ยมีมาให้เห็นอยู่เรื่อยๆ แหละ ไม่ใช่คนแรกหรอก” 

พี่รุจบอกผมซึ่งนั่งตัวสั่นอยู่บนที่สูงก่อนที่เขาจะล้วงมือลงมาปลดกระดุมกางเกงยีนแล้วดึงลงจนทุกคนได้เห็นขาอ่อนผม... ผมดิ้นรนขัดขืน บอกตัวเองว่านี่คือการเข้าถ้ำเสือที่ผมตัดสินใจเลือกเอง อย่าร้องไห้ต่อหน้าคนพวกนี้เป็นอันขาด แต่ไอ้น้ำตาไม่รักดีก็เสือกไหลออกมาจนได้

“กติกาคือให้รุ่นน้องพี่ผลัดกันเอา.... โดนเอาน้ำนึงก็ได้เกียร์ไปคล้องคอหนึ่งวัน อยากคล้องกี่วันก็อ้าขารอได้ตามใจเลยนะ น้องทิชาคนสวย”



“แต่หลังจากนั้น ถ้าโดนเรียกว่ากะหรี่ห้อยเกียร์ก็ช่วยไม่ได้นะอีหนู”



✽✽✽✽✽✽✽✽✽✽




ไม่รู้ว่าอ่านแล้วจะงงกันมั้ย แต่กฎของเบอร์ลิคจะมีขยายความให้เข้าใจเพิ่มเติมอีกนิดหน่อยในพาร์ทของพี่โรม (ในฐานะคนใน 5555)
ฉากที่บางท่านรอคอยก็คัมมิ่งซูน ฮริๆ

ส่วนผู้อ่านท่านไหนจะทีมใคร อันนี้ก็ขอเว้าซื่อๆในฐานะคนเขียนว่าอย่าเพิ่งทีมใครเลย ตัวละครที่คุณรักในวันนี้ คุณอาจจะเกลียดเข้าไส้ในวันหน้า และตัวละครที่คุณเกลียดในวันนี้ อาจจะทำให้คุณรักในวันหน้าเช่นกัน  :hao5:
อ่านแบบเราเป็นพระเจ้า เฝ้าดูเหตุการณ์บนโลกมนุษย์น่าจะดี ^___^

ขอบคุณสำหรับทุกคอมเมนท์+การติดตาม เจอกันคราวหน้าคะ่  :mew1:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08-12-2017 22:19:48 โดย SweetAlice0701 »

ออฟไลน์ fahsai

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 815
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +56/-2
สงสารชาาาาา อ่านแล้วก็น้ำตาซึม อิพี่โรมคนดีบ้าไร
คนแต่งอย่าใจร้ายกะชานักเลย ฮือออออออ #ไม่ทีมใครขอให้ชาเจอคนดีๆบ้าง

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
โอ้ยยยย จะร้องอ่ะ ทำไมทิชาต้องเกิดมาเจอแต่เรื่องแย่ๆแบบนี้ แต่ก็ยังดื้อที่จะมาเบอร์ลิคอ่ะ  :sad4: นี่คือที่มาของมรสุมรึป่าว

ออฟไลน์ stickyyrice

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-5
ฮืออออ ทำไมเป็นแบบนี้ มาช่วยน้องด้วยยย

ออฟไลน์ เปลว แว๊บแว๊บ

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 113
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1
##ขอใช้ภาษาไม่สุภาพนะคะ###
อย่าไปตามมันเลยลูกปล่อยอิพี่โรมไปตายไหนก็ไป โอ้ยยยย ที่อิพี่โรมคุยกับเพื่อนแล้วหงุดหงิด ไม่ชอบเลยการแอบคุยกันของเพื่อนกับผัวเพื่อนเนี่ย แล้วแบบแฮปปี้จ้าาาาา ปาดหน้าเค้กกันเห็นๆ ไหนวะเพื่อนรัก โอเคอยากมันต้องมีใจอยากได้อยู่ด้วยแหล่ะวะมันถึงไม่บอกเพื่อนสนิทเนี่ย จริงๆทิชาอย่าไปตามอิพี่โรมกับบี๋เยอะคือ ปล่อยมันไปเป็นคู่รักสวีทวี๊ดวิ้วเหอะ เราก็สวยๆเริดๆ แบบเอ้ากูแรดเหรอ ก็แรดให้มันจบมันสิ้นสมใจคนปล่อยข่าวเลย บี๋ก็ให้ไปอยู่กับอิพี่โรมสึดรักไป เนี่ยแบบทิชาเกือบจะฉลาดแล้วลูกถ้าไม่ไปวิ่งตามอิพี่โรมมัน  สู้ๆค่ะคนแต่งคืออ่านแล้วทำให้เราอินมาก แต่งเก่งมากๆค่ะ รออ่านตอนต่อไปนะคะ ขอโทษเรื่องภาษาไม่สุภาพด้วยค่ะ :L2:

ออฟไลน์ Acrokate

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 6
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ลุ้นในการกระทำทุกตัวละครเรยคะ แต่ก้อย่างได้แบบชื่อเรื่องน้าขอให้พนไม่มีสายฝน อยากให้ทิชาเจอฟ้าหลังฝนบ้าง

ออฟไลน์ FeaRes

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 738
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-2
 :sad4:
สงสารทิชาอ่าาา พวกนั้นทำเกินไปแล้ววว

ออฟไลน์ ravyy

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 77
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
โอ้ยยยยยยยมหัวจัยยยยย สงสารน้อง ใครจะว่าน้องเหี้ยยังไงพิก็จาอยุทีมหนู!!!!!!!
อิเหี้.ยพี่รุจนี่เสือกไมอะ รำคาญ!! ยังผญสองคนเหมือนกัน พวกคณะวิดวะในร้านนั่นก็เหมือนกัน
มีสิทธิ์ไรมาทำแบบนี้วะ อยากเข้าไปจิกหัวตกเรียงตัว พวกมึ.งไม่พอใจนั่นก็เป็นอารมณ์ที่ต้องรับผิดชอบเองอะ ทำไมต้องไปทำร้ายย่ำยีคนๆนึงถึงขนาดนั้น!!
ทีมน้องชา! แก้แค้นมันให้หมดเลยรู้กกกกกกกก #ความแค้นบังตา จะมีใครที่ดีกะชาบ้างแบบ ไม่ต้องนิสัยดีอะแต่แค่ไม่ต้องมาทำร้ายใจทิชาอีกแล้ว จะมีไหมอะ ขนาดพ่อแม่แท้ๆของน้องยังหวังพึ่งไม่ได้เลย
 :m31: :m31: :m31: :m31:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ โอ

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 141
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-1
สรุปแล้วรอบตัวน้องแม่งเลวระยำทุกคน :m31: :z6:

ออฟไลน์ prmino

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 3
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
โอ้ยน้องงงงงงงงงงงงง สงสารอะช่วยน้องด้วยยยยย คือแบบยิ่งอ่านยิ่งเทาอะ ละแบบจะมีใครดีกับน้องจริงๆบ้างมะ แงงงรอนะคะ

ออฟไลน์ minjeez

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 272
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
สรุปรอบตัวทิชาจะมีแต่คนเหี้ยๆเลยใช่ไหม
แล้วเรื่องนี้อย่าบอกนะว่าพี่โรมกับแดนรู้เห็เป็นนใจด้วย
ถ้ายังงั้นทิชาหนูไม่ต้องหาใครแม่งละ
อยู่คนเดียวเถอะ ดีกว่าหาไปเรื่อยเจ็บไปเรื่อยแบบนี้

ออฟไลน์ Kmdew98

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 1
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
สงสารทิชา โกรธพี่โรม โกรธบีบี๋ โกรธแดน โกรธทุกคน

ออฟไลน์ โอ

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 141
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-1
ขอให้มีพระเอกตัวจริงมาช่วยไม่ใช่ท่าดีทีเหลวแบบโรมคนโลทำเป็นช่วยให้ความหวังพอเจออีบี๋แล้วเปลี่ยนใจง่ายๆแถมยังคอยวนเวียนเหยียบย่ำควารู้สึกทิชาอีบี๋ก็เลวพอกันตั้งแต่ทีแรกที่พาทิชาไปที่แบบนั้นจนเกือบโดปล้ำทำอะไรเห็นแก่ตัวรู้อยู่ที่แบบนั้นไม่ดีแต่ก็รั้นจะไปเพื่อนกันเขาไม่ทำเรื่องแบบนี้หรอก บางทีรู้สึกเหมือนบี๋คบทิชาไว้เพื่อให้ตัวเองดูดีกว่ายิ่งมีเรื่องโรมมาเกี่ยวยิ่งรู้สึกเหมือนทำเป็นพูดว่าห่วงความรู้สึกเพื่อนถ้าเป็นแบบนั้นจริงคงถามทิชาก่อนที่จะไปคบกับโรมไม่ใช่แอบคบกันไปแล้วถึงมาบอกมาถามความรู้สึกเจอแบบนี้โคตรเสียคววามรู้สึกอ่ะเหมือนคนๆนี้พร้อมแทงเราข้างหลังตลอดเวลา :z6:

ออฟไลน์ SweetAlice0701

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 93
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-3
ROME’s PART

   

                Do_As_RomanS : ดีใจนะที่มึงยอมคุยกับกูแล้ว
                                    กลับมาเป็นเด็กดีของกูเหมือนเดิมนะ *สติ๊กเกอร์*




ผมแม่งต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ ที่ตอบทิชาไปแบบนั้น

รู้ทั้งรู้อยู่เต็มอกว่าการกระทำของตัวเองก็เป็นการให้ความหวังน้องมัน ผมควรจะตัดขาด เลิกยุ่งและโฟกัสที่ความรักของผมกับบีบี๋ซึ่งเพิ่งเริ่มต้นอย่างเป็นทางการในวันนี้

แต่สิ่งที่พิมพ์ไปทั้งหมดก็เป็นความรู้สึกจริงๆ ของผม ยิ่งนึกถึงช่วงเวลาสั้นๆ ก่อนหน้านี้ผมก็ยิ่งเสียดาย.... เวลาที่ไอ้ทิชายิ้มหรือแม้แต่เวลาที่มันเขินเพราะโดนผมแกล้งหยอก มันน่ะโคตรของโคตรแห่งความน่ารักเลย ในขณะที่น้ำตาของมันทำให้ผมจุกในอกอย่างพูดไม่ออกบอกไม่ถูก ถึงทิชาจะไม่ใช่คนที่ผมเลือก แต่ผมก็ไม่อยากเห็นมันร้องไห้และพาลคิดว่าตัวเองไร้ค่าไม่คู่ควรกับความรักจากใคร



‘จริงๆ แล้วพี่โรมก็แค่ไม่อยากเจอหน้าชาสินะ? งั้นที่บอกในไลน์ว่าจะไปหาที่คณะก็คงโกหกตามเคย........’

‘งั้นมึงก็นั่งตรงนี้ ห้ามไปไหนโดยไม่บอกกูเด็ดขาด.... เข้าใจไหม?’

‘อื้ม ก็ชาเป็นเด็กดีของพี่โรมไง ไม่กล้าดื้อหรอก’

‘ไม่กล้าห่าไร มึงน่ะตัวแสบเลย’




จากเหตุการณ์เมื่อกี้นี้ ผมเริ่มเรียนรู้ว่ากับทิชาจะใช้ไม้แข็งด้วยไม่ได้ หัวใจของมันก็เปรียบเหมือนแก้วที่มีรอยร้าวขีดข่วนและใกล้จะแตกเต็มที ผมพยายามใจเย็น พูดด้วยดีๆ ประคับประคองสถานการณ์ไม่ให้มันรู้สึกว่าผมแค่ใช้มันเป็นทางผ่านไปหาบีบี๋ จะเรียกว่าผมกำลังหาทางรับมือกับทิชาก็คงไม่ผิดนัก

ก็ได้แต่หวังว่าทิชาจะรับรู้และยอมรับสถานะน้องชายที่ผมมอบให้ ผมพร้อมจะดูแลเอาใจใส่มันไม่ต่างจากน้องแท้ๆ พ่อแม่เดียวกันที่บ้านผมเลย



‘มึงชอบชามะนาวเหรอ?’

‘ไม่ได้ชอบหรอก…. แต่พี่โรมหยิบให้ก็กินได้หมดแหละ’




ทิชาแม่งยิ้มน่ารักจริงๆ ครับ

ในฐานะพี่ชาย ผมก็อยากให้มันเจอใครสักคนที่ดีกว่าผม คนที่สามารถสร้างรอยยิ้มประดับหน้าสวยๆ ของมันได้ตลอดไป



แต่ให้ตายเถอะ ทำไมมันถึงได้ยุ่งอย่างนี้วะ!?



“เฮียโรม เด็กที่นั่งคุยกับเฮียที่เคาท์เตอร์ตะกี้ใครอะ?”

ไอ้ป๋วย รุ่นน้องปีสองภาคเดียวกันกับผมเดินเข้ามาหลังร้านในตอนที่ผมกำลังยุ่งอยู่กับการเก็บค่าต๋งจากสาวไซด์ไลน์แถวรัชดาที่เข้ามาหาลูกค้าในเบอร์ลิค สีหน้ามันดูเหวอๆ นิดหน่อยแต่ผมก็คิดว่ามันแค่ถามเล่นเพราะอยากเสือกเรื่องชาวบ้านไปตามประสา

“ทิชา น้องกูเอง.... มีไรเปล่าวะ?”

“ใช่น้องจริงเหรอ?”

“ทำไมมึงถามงี้?”

ผมหันไปเลิกคิ้วใส่มัน เข้าใจว่าไอ้ทิชามันสวยสะดุดตาออกขนาดนั้น ไอ้ป๋วยจะแอบปิ๊งก็ไม่แปลก ที่ผมสงสัยก็คือมันดูติดใจเรื่องสถานะระหว่างผมกับทิชามากเป็นพิเศษ 

“มึงไปอยู่ไหนมา ไม่เห็นที่แฟนกูแท็กในไอจีหรือไงวะ.... เขารู้กันหมดทั้งภาคแล้วว่าวันนี้กูหาเปิดตัวสะใภ้วิศวะคนใหม่ให้พวกมึงชื่นชม”

“เรื่องนั้นอะผมรู้แล้ว.... ถ้าเฮียบอกว่าทิชาอะไรนั่นเป็นน้อง งั้นที่เจ้เมย์กับเจ้รสาไปคุยกับเฮียรุจว่าเขามาชิงเกียร์ก็ไม่จริงอะดิ”

“เมย์กับรสาเรอะ?” 

คราวนี้เป็นผมเองที่ต้องทำหน้าเหวอ แต่ก็พยายามคิดในแง่ดีว่าไม่น่าจะมีอะไรเพราะผมเองก็เพิ่งคุยกับเมย์และรสาไปเมื่อไม่กี่นาทีก่อน ถึงแม้ว่าทั้งสองสาวจะไม่ค่อยโอเคกับสิ่งที่ผมพยายามอธิบายนักก็เถอะ ส่วนเฮียรุจ ผมก็บอกเฮียแกมาตั้งแต่แรกแล้วว่าทิชาคือน้องต่างคณะที่ผมเอ็นดู ถึงมันจะชอบผมแต่ก็ไม่มีเกินเลยมากกว่านั้น 

“กูบอกสองคนนั้นไปแล้วว่าทิชาเป็นน้อง เฮียรุจก็รู้แล้วว่ากูกับทิชาไม่มีอะไรกัน.... น้องมันแค่แวะมาคุยด้วยเฉยๆ เดี๋ยวมันก็จะกลับแล้วเนี่ย”

ไอ้ป๋วยทำท่าเหมือนคนโดนเอาขยะเปียกยัดปาก เสียงอึกทึกโห่ฮาปาเถื่อนจากข้างในดังลอดออกมาทั้งที่วันนี้ไม่มีฉายบอลคู่สด

“งั้นผมว่าเฮียรีบออกไปเคลียร์เหอะ ที่คุยๆ ไว้นั่นอะ ไม่น่าจะมีใครเข้าใจตรงกันกับเฮียสักคน”

มันว่าพลางชี้นิ้วไปทางบาร์น้ำที่ผมปล่อยทิชานั่งอยู่ตามลำพัง ดูมันค่อนข้างกลัวที่จะเล่าให้ผมฟังว่าเกิดอะไรขึ้นก่อนที่มันจะเดินออกมาตรงนี้ 

“แล้วผมก็เห็นเฮียรุจเข้าไปคุยกับทิชาแล้วด้วย..........”

“เหี้ยเอ๊ย!”

ผมรีบวิ่งกลับเข้ามาในร้านทันทีที่รู้ว่าเหตุการณ์กำลังจะพลิกจากหน้ามือเป็นหลังตีน ไม่มีเวลาหยุดคิดเลยด้วยซ้ำว่ามันเกิดขึ้นได้ยังไง ผมรู้แค่ว่าผมบอกกับทุกคนไปแล้วว่าทิชาคือน้อง.... แต่ทำไมเฮียรุจถึงได้เอากฎที่ใช้กับคนนอกมาลงโทษมัน!?


‘กติกาคือให้รุ่นน้องพี่ผลัดกันเอา.... โดนเอาน้ำนึงก็ได้เกียร์ไปคล้องคอหนึ่งวัน อยากคล้องกี่วันก็อ้าขารอได้ตามใจเลยนะ น้องทิชาคนสวย’


ภาพแรกที่ผมเห็นก็คือเฮียรุจกับรุ่นพี่ปีสี่กำลังรุมจับร่างเล็กบนเคาท์เตอร์บาร์แก้ผ้า แม้จะอยู่ไกลแต่ก็รู้โดยอัตโนมัติว่าทิชาโดนมอมยาจนหมดสภาพ แม้จะยังพอมีสติอยู่บ้างแต่ก็อ่อนแรงเกินกว่าจะปัดป้องมือผู้ชายที่มาถูกเนื้อต้องตัวมัน ร่างผอมบางสั่นเทิ้มด้วยความกลัวสุดชีวิต


‘แต่หลังจากนั้น ถ้าโดนเรียกว่ากะหรี่ห้อยเกียร์ก็ช่วยไม่ได้นะอีหนู’


มันเป็นเรื่องที่รู้กันในหมู่นักเที่ยวว่าเบอร์ลิคเป็นสถานที่ที่ถูกคุมด้วยกฎประหลาดหลายข้อที่เฮียรุจตั้งขึ้น นิสิตคณะวิศวะฯ และบรรดาเขยสะใภ้ที่เปิดตัวแล้วก็ถือเป็น ‘คนใน’ จะได้รับการคุ้มครองทั้งร่างกายและจิตใจในแบบที่พวกเราไม่สามารถหาได้จากโลกภายนอก.... โดยเฉพาะกับเรื่องชู้สาวซึ่งเป็นเรื่องส่วนตัว ที่เบอร์ลิคก็มีกฎเหล็กว่า ‘เกียร์อยู่ที่ไหน ใจอยู่ที่นั่น’ ชาววิศวะฯ ที่เปิดตัวแฟนแล้วจะไม่นอกใจหรือเอาใครก็ตามที่ไม่มีเกียร์มากกที่นี่ ต่อให้เป็นแค่เขยหรือสะใภ้ แต่ถ้าได้คล้องเกียร์แล้ว เฮียรุจก็จะไม่ยอมให้น้องๆ ของแกต้องเจ็บเป็นอันขาด

ผู้หญิงหรือผู้ชายที่อยู่ในหมวด ‘คนนอก’ ถ้าอยากได้ลิ้มรสบรรยากาศความเป็นคนในที่นี่ก็สามารถเสนอตัวเองแลกกับเกียร์ได้ ส่วนมากคนที่ทำแบบนี้คือพวกรักสนุกหรือไม่ก็แค่อยากมีสิทธิพิเศษซื้อขนมกับน้ำแข็งได้ในราคาถูกกว่าปกติ ไม่ได้สนใจว่าจะมาเป็นผัวใครเมียใครนักหรอก.... แต่ถ้าเป็นคนนอกที่ถูกลงความเห็นว่ามาเพื่อ ‘ชิงเกียร์ที่มีเจ้าของแล้ว’ ก็จะถูกจับมอมยาแล้วลากขึ้นมาประจานโทษฐานที่ทำให้ครอบครัวชาววิศวะฯ สั่นคลอน

ที่นี่ไม่ลงโทษคนใน แต่กับคนนอกคือไม่มีความปรานีใดๆ ทั้งสิ้น....


“เฮียรุจ อย่าครับ!” 

ผมแทรกตัวเข้าไปถึงบาร์จนได้ เสียงโห่ร้องยังคงดังลั่นไม่ขาดสายเมื่อตอนนี้ไอ้ทิชาเปลือยไปครึ่งตัวแล้ว ตัวผู้เป็นฝูงรุมกันเข้ามาขอให้ได้จับเนื้อขาวๆ ของมันเหมือนซอมบี้ในหนังไม่มีผิด

“น้องมันแค่แวะมาหาผมจริงๆ นะพี่ ไม่ได้มีอะไรเลย.... พี่อย่าเอาเรื่องมันนะครับ ผมขอ!”

ผมถอดแจ็กเก็ตยีนที่สวมอยู่ห่มร่างบนเคาท์เตอร์เอาไว้พลางดึงตัวทิชามากอดแน่นไม่ให้ใครแตะต้องมันได้อีก เสียงครางสะอื้นดังแผ่วอยู่ในอ้อมอกผม เช่นเดียวกับที่เสียงก่นด่าดังขรมอยู่รอบตัว

“ไอ้โรม อย่าปัญญาอ่อนไปหน่อยเลยน่า.... มึงคิดว่าเด็กนี่แค่อยากคุยกับมึงจริงๆ น่ะเหรอ?”

เฮียรุจเองก็มองผมด้วยสายตาคาดโทษผสมด่าว่าไอ้หน้าโง่

“มึงบอกกูเองนี่ว่าทิชามันหลงมึงมาก เพ้อเจ้อว่ามึงจะเอามันทำเมียจนสติแตก มันกล้ามาเหยียบที่นี่ก็เพราะจ้องจะจับมึงทำผัวนั่นแหละ”

ใช่... ผมพูดเอง

และคงเพราะพวกรุ่นพี่ที่นี่ลงความเห็นกันแล้วว่ามันสมควรโดน สิ่งนี้ถึงได้เกิดขึ้น

แต่ทิชามันบอกผมว่าแค่อยากมาหา อยากเจอหน้าผม เราสองคนเข้าใจกันดีแล้วในฐานะพี่ชายกับน้องชาย และอีกแค่แปบเดียวหลังจากที่ผมเก็บเงินเสร็จ ผมก็จะออกไปส่งมันขึ้นรถกลับบ้านอยู่แล้ว

“วันนี้มึงเปิดตัวน้องสะใภ้ให้พวกกูรู้จักแล้ว อีเด็กทิชานี่ก็เท่ากับพยายามชิงเกียร์ที่มีเจ้าของ.... กูต้องจัดการมันตามกฎ” 

เฮียรุจคีบบุหรี่ขึ้นสูบ พูดกับผมที่ทั้งโกรธทั้งกลัวแทนน้องอย่างไม่ยี่หระ

 “กูอุตส่าห์ให้เมย์กับรสาเข้าไปไล่มันแล้ว ย้ำแล้วย้ำอีกด้วยนะว่ามึงเป็นแฟนน้องบีบี๋เพื่อนมัน.... แต่มึงก็ยังปล่อยให้มันนั่งอยู่ในร้านกู ถ้าน้องบีบี๋รู้ว่ามึงโอ๋ไอ้ทิชาขนาดนี้ก็คงไม่สบายใจ ซึ่งกูคงยอมให้น้องสะใภ้กูเสียใจไม่ได้ ถึงกูจะยังไม่เคยเจอน้องบีบี๋ตัวเป็นๆ ก็เหอะ”

“ทิชามันยังเด็กนะเฮีย...... กฎอะไรของเรา มันก็ไม่รู้เรื่องด้วยหรอก.....ผมไหว้ล่ะ เฮียอย่าทำมันเลย!” 

ผมประสานมือไหว้เฮียรุจทั้งที่ยังกอดทิชาไว้

“ฮึก.........พี่โรม.........ช่วยชาด้วย.........ฮือ............” 

“ไม่ต้องร้องหาผัวคนอื่นหรอก อีหนู.... คืนนี้มึงได้มีผัวเป็นของตัวเองสมใจแน่ แต่จะกี่คน กูไม่รับประกัน!” 

แค่ได้ยินทิชาร้องหาผม พี่รุจก็ตรงเข้าไปกระชากหัวมันแล้วลากกลับขึ้นมาบนเคาท์เตอร์บาร์ เสียงร้องไห้สะอื้นอย่างขวัญเสียแผดดังขึ้นในขณะที่มือเล็กพยายามรั้งชายเสื้อของผมเอาไว้ ผมรีบตามไปคว้าตัวทิชากลับมา แต่พวกพี่ปีสี่เข้ามารุมจับแขนผมไพล่หลังแล้วเตะข้อพับด้านหลังเข่าให้ลงไปกองกับพื้น พี่รุจมองผมสลับกับนกน้อยด้วยสายตาไม่ยินดียินร้ายก่อนจะสั่งการต่อ 

“ไอ้ออฟ มึงหิ้วไอ้เด็กนี่ขึ้นไปข้างบนเลย.... ส่วนพวกมึงทุกคน ใครที่ยังมีเกียร์อยู่กับตัวแล้วอยากเสียบแม่งก็ตามไอ้ออฟขึ้นไป!”

“พี่โรม! พี่โรม.......ช่วยด้วย...........!!!”

ร่างเล็กหวีดเสียงจนคอแทบแตก ทั้งดิ้นรนและขัดขืนอย่างน่าสงสาร น้ำตาไหลอาบแก้มร้องเรียกขอความช่วยเหลือ แต่เหมือนกับตะโกนอยู่คนเดียวกลางทะเลทรายเวิ้งว้าง ไม่มีใครได้ยินเสียงนั้นเลยนอกจากผม และไม่มีใครคิดจะวางมือจากของฟรีเกรดพรีเมียมด้วย

“จะต้องให้ผมทำไงวะเฮีย..... จะทำก็มาทำผมนี่ ผมผิดเองที่ไม่ไล่มันไป!”

“โทษทีว่ะ แต่กูไม่มีนโยบายซ้อมคนกันเอง”

ผมคลานเข้าไปหาเฮียรุจ ก้มหัวจนติดพื้นขอร้องแทนทิชา คิดจริงๆ ว่าต่อให้เฮียสั่งลูกน้องพม่ากระทืบผม ผมก็ยอม 

“เด็กมันเจอเรื่องแย่ๆ จากที่อื่นมาเยอะแล้ว.... เฮียสงสารมันเถอะ ยกโทษให้มันสักครั้ง.........”

“มันจะคุยกับมึงที่ไหนก็ได้แต่ต้องไม่ใช่ที่นี่.... มึงเลือกน้องบีบี๋แล้ว มึงก็ห้ามยุ่งกับมันต่อหน้าพวกกูทุกคน!” 

เฮียรุจตอกย้ำความผิดของผมด้วยกฎที่ผมเองก็รู้ดีอยู่แก่ใจ.... ใช่แล้ว  ผมผิดที่ไม่ใจแข็งไล่มันกลับบ้านไปให้จบๆ ผิดที่มัวแต่กลัวว่ามันจะเสียใจเพราะเรื่องเล็กน้อยจนมองข้ามไปว่ายังมีเรื่องที่ร้ายแรงกว่า และถ้าไอ้ทิชามันเกิดเป็นอะไรขึ้นมา ทั้งหมดนี้ก็เป็นความผิดของผมคนเดียว

ในตอนนั้นเอง เฮียรุจก็สั่งให้ไอ้ออฟลากตัวทิชากลับมาโยนไว้ตรงหน้าผม เร็วเกินกว่าจะรับเอาไว้ได้ทัน ร่างผอมบางกึ่งเปลือยจึงกระแทกพื้นเสียงดังโครม  ร่างเล็กทั้งเจ็บทั้งจุกจนตัวงอร้องไม่ออก ก่อนที่ผมจะเอาตัวเองเข้าไปบังไม่ให้ใครเห็นสภาพน่าอายของมัน

แน่นอนว่าทุกอย่างบนโลกนี้ย่อมต้องมีข้อแลกเปลี่ยน ความปลอดภัยของนกน้อยหลงฝูงที่ชื่อทิชาก็ต้องมีราคามหาศาลเช่นกัน

“ไอ้โรม ถอยออกมาเดี๋ยวนี้.... มึงจะเย่อของส่วนรวมไม่ได้ ยกเว้นเสียแต่ว่ามึงจะเปลี่ยนใจยกเกียร์ให้มันใส่!”

คนรอบข้างส่งเสียงฮือฮาขึ้นมาทันทีที่ได้ยินประกาศล่าสุดจากเฮียรุจ เงื่อนไขนั้นคือทางรอดเดียวของทิชา แต่มันต้องแลกมาด้วยการที่ผมจะต้องทรยศบีบี๋ ทรยศแฟนของผม ทรยศสะใภ้ของชาววิศวะฯ.... ต่อหน้าทุกคน!

“โรม มึงคิดให้ดีๆ นะเว้ย.... ทิชาแม่งก็ไม่ได้เวอร์จิ้นป่าววะ มีผัวมาแล้วกี่คนก็ไม่รู้ ไม่คู่ควรกับเกียร์มึงหรอก”

ผมยังไม่ได้ถอดเกียร์ให้บีบี๋เก็บเอาไว้ เพราะตั้งใจว่าจะเอาไปเปลี่ยนสายใหม่ก่อนแล้วค่อยให้ตอนฉลองครบรอบหนึ่งเดือน ดังนั้น เกียร์ซึ่งเปรียบได้ดั่งหัวใจของผมจึงยังคล้องอยู่ที่คอตัวเอง.... เพื่อนคนหนึ่งพยายามห้ามผม แน่นอนว่าเรื่องที่เกิดขึ้นในคืนนี้อาจไม่เป็นความลับ ผมอาจจะต้องสูญเสียบีบี๋ไปเพราะทิชา บอกลาความรักที่ผมเพิ่งจะเริ่มต้นได้เพียงวันเดียวไปตลอดกาล

แต่ผมก็แกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นและทิ้งให้ทิชาจมอยู่กับความทุกข์ไปจนชั่วชีวิตไม่ได้เหมือนกัน

รอยยิ้มของทิชาน่ารักมาก และผมก็อยากให้มันยิ้มเยอะๆ

เชี่ยเอ๊ย ผมพูดแบบนี้กี่ครั้งแล้วนะ....?



“ไอ้โรม เอาจริงเหรอวะ!?”

“กว่ามึงจะเจอคนถูกใจแบบน้องบีบี๋นี่ไม่ใช่ง่ายๆ นะเว้ย มึงคิดดูอีกทีเหอะ”

ผมตัดสินใจถอดเกียร์ที่ห้อยคออยู่คล้องให้ทิชา ช้อนตัวมันอุ้มแล้วออกไปทางหลังร้านซึ่งมีบันไดขึ้นไปยังห้องพักชั้นสอง.... เพื่อนคนเดิมยังคงตะโกนห้ามผมไม่ให้คิดสั้นทำอะไรโง่ๆ ทิชาอาจจะเป็นแค่ของเล่นแสนสวยแต่ไม่มีค่าในความรู้สึกนึกคิดของใครต่อใคร แต่สำหรับผม ทิชาก็เป็นแค่เด็กเอาแต่ใจ ขี้เหงา และต้องการความรักมากเป็นพิเศษก็เท่านั้นเอง

ท่ามกลางสายตาที่มองมาเหมือนรุมประณาม ประโยคเดียวที่ผมพูดได้ก็มีแค่....


“ผมขอโทษครับเฮีย.... แต่ผมทิ้งไอ้ทิชาไม่ลงจริงๆ”


ออฟไลน์ SweetAlice0701

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 93
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-3
.

.

.

“พี่โรม........ฮือ.......ช่วยด้วย..........”

“อดทนอีกหน่อยนะ ทิชา.... เดี๋ยวมึงก็หายแล้ว..........”

นอกตัวร้านมีโกดังสองชั้นที่เฮียรุจทำไว้ที่พักสำหรับพวกผม เอาไว้มาสุมหัวกินเหล้า ปั่นงาน อ่านหนังสือสอบ หรือแม้แต่มั่วหญิงพี้ยา.... ทิชากระสับกระส่ายส่งเสียงสะอื้นมาตลอดทางที่อยู่ในอ้อมแขนผม ฤทธิ์ยาทำให้เนื้อตัวมันร้อนเหมือนเป็นไข้ ผิวขาวจัดเปลี่ยนเป็นสีชมพูเข้ม ริมฝีปากบางเผยอหอบหายใจจนอกเปลือยเปล่ากระเพื่อมไหว คล้ายว่าผมจะได้ยินเสียงหัวใจมันเต้นเหมือนกับจะหลุดออกมา

ผมถีบประตูห้องน้ำให้เปิดออกแล้ววางทิชาลงบนพื้นตรงที่อาบฝักบัว ความเย็นจากผนังกระเบื้องทำเอาคนตัวเล็กสะดุ้งสุดแรง ร่างผอมบางไม่ได้สวมกางเกง เหลือเพียงแค่เสื้อเชิ้ตซึ่งขาดรุ่งริ่งจนแทบจะปกปิดอะไรไม่ได้.... ไอ้ทิชานั่งชั่นเข่า พยายามหนีบเรียวขาขาวเข้าหากันไม่ให้ใครเห็นบางสิ่งที่เต็มตึงอยู่ใต้กางเกงชั้นใน บ่งบอกถึงสภาพร่างกายที่ไม่อาจต้านทานต่อสิ่งแปลกปลอมได้

“อื้อ.......ยะ.....เย็น....!!”

ผมคว้าฝักบัวเปิดน้ำใส่ไอ้ทิชา กะว่าอุณหภูมิเย็นจัดน่าจะช่วยดับร้อนและเรียกสติอีกฝ่ายกลับมาได้บ้าง แต่สิ่งที่เห็นก็คือคนตรงหน้ายิ่งร้องครวญครางน่าสงสาร เนื้อตัวเปียกปอนสั่นสะท้าน หยดน้ำเกราะพราวไปทั้งร่าง โดยเฉพาะกับตรงบริเวณนั้นที่แฉะจนแยกไม่ออกว่าเป็นเพราะน้ำฝักบัวหรือน้ำอะไรกันแน่

“พี่โรม...........ฮึก............” 

นัยน์ตาคู่สวยหรี่ปรือขณะเรียกหาผม เส้นผมเปียกชื้นแนบลู่ตัดกับผิวแก้มขาวเนียน

“........พี่โรม.......พี่ต้องช่วยชานะ.....ฮึก......พี่โรม......อย่าทิ้งชาไว้คนเดียว..........”

น้ำเสียงและสายตาเว้าวอนมองตรงมายังผม ใบหน้าหวานฉายชัดถึงความต้องการที่มากกว่าแค่ได้รับการปกป้อง ไม่ว่าใครก็ตามที่โดนยานางรำของเฮียรุจเข้าไป อย่างต่ำๆ ก็ต้องสามชั่วโมงถึงจะหาย แต่ถ้าเป็นเด็กน้อยประเภทเหล้ายาไม่เคยแตะ บางคนก็โดนยันเช้ากว่าอาการจะทุเลาลง

“กูอยู่นี่แล้วไง.... ไม่ได้ทิ้งมึงไปไหนสักหน่อย”

“ไม่จริงหรอก........อึก.........เดี๋ยวพี่โรมก็เห็นคนอื่นน่ารักกว่าชาอีก..........”

ผมรู้ดีอยู่แล้วว่าทิชาเป็นคนสวย แต่ที่ปฏิเสธไม่ได้เลยก็คือความเซ็กซี่เย้ายวน แม้จะเป็นผู้ชายเต็มตัวแต่ก็มีเสน่ห์ดึงดูดผู้ชายด้วยกันให้อยากเข้าหา มันมีทั้งความน่าทะนุถนอมแล้วก็ความน่าฉีกทึ้งทำลายอยู่ในคนๆ เดียวกัน ไม่ต่างจากดอกไม้กลีบอ่อนแสนบอบบางซึ่งมีเกสรล่อแมลงตัวผู้ให้หลงเข้าไป

แม้แต่ผมก็ยังกลัวว่าตัวเองจะติดกับ....

“พี่โรม........พี่โรมของชา.........”   

ร่างเล็กดึงให้ผมนั่งลงแล้วเบียดตัวเข้าหาจนกระทั่งเราทั้งคู่เปียกไปด้วยกัน นัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มมองหน้าผมอย่างร้องขอ กลีบปากสีระเรื่อเอาแต่เสียงออดอ้อนขานชื่อผมไม่เว้นวาง 

“ให้ชาเป็นของพี่โรมนะ......ฮึก......ชาอยากเป็นของพี่จนทนไม่ไหวแล้ว...........”

“ตั้งสติหน่อยมึง......เชื่อกูนะ ทนอีกนิดเดียว.......”

ผมบอกให้ทิชาอดทน แต่เอาจริงๆ ผมก็เริ่มไม่แน่ใจแล้วว่าผมกำลังบอกมันหรือบอกตัวเองกันแน่

ทิชาส่ายหน้าก่อนจะยิ่งขยับตัวเข้ามา ในที่สุดมันก็ปีนขึ้นมานั่งอยู่บนตักผมจนได้ แววตามันหยาดเยิ้มชวนให้นึกถึงน้ำผึ้งเดือนห้า.... แม่งโคตรยั่วน้ำลาย แค่เห็นก็เปรี้ยวปาก ใจของผมเองก็คล้ายถูกเขย่ารุนแรงจนเสียศูนย์

“มัน......ฮึก......มันไม่หาย.....ตรงนี้มันปวดเหมือนจะระเบิดอยู่แล้ว........”

ทิชาจับมือผมไปซุกไว้ตรงหว่างขา ผมตกใจจะชักมือออกแต่มันกลับยิ่งกดให้สัมผัสแนบแน่นกว่าเดิม.... ผมรับรู้ได้ทุกอณูความเต็มตึงที่นูนเน้นอยู่ภายใต้กางเกงชั้นใน ราวกับปลาตัวน้อยที่เพิ่งถูกปล่อยลงแม่น้ำ เพียงแค่สัมผัสจากภายนอกผ่านเนื้อผ้า ดอกไม้งามก็ทำท่าจะชูช่อออกมาจากผืนดินเสียให้ได้ 

“........ชาอยากได้พี่โรมจังเลย......อยากได้ทุกอย่างของพี่............”

ริมฝีปากนุ่มคลอเคลียที่ข้างแก้มผม เสียงแหบหวานกระซิบเชิญชวนในขณะที่เจ้าตัวสอดมือผมลงไปแตะต้องเนื้อแท้ใต้ร่มผ้า.... จิตใต้สำนึกตะโกนสั่งให้ผมถอยออกมา อย่าถลำลึกไปกับคนที่ตัวเองบอกว่าไม่รักมากไปกว่านี้ แต่ทว่า ร่างกายกลับไปยอมเชื่อฟังคำสั่งจากสมองเอาเสียเลย

ทิชาจูบผมก่อนจะเงยหน้าให้ผมได้เห็นความปรารถนาในแววตา

เกียร์หรือหัวใจของผมก็กำลังทิ้งตัวแกว่งไกวอยู่บนอกขาวๆ ของมัน
   

“คืนนี้.........ให้ชาเป็นเมียพี่โรมนะ...........?”


ราวกับสติสัมปชัญญะถูกกระชากหลุดหายไปในอากาศ ผมบดขยี้ริมฝีปากช่างยั่วให้สาสมกับที่ทิชาวอนขอ ลิ้นอุ่นแทรกเข้าไปภายในโพรงปากนุ่มหยอกล้อละเลงความใคร่กับเรียวลิ้นเล็กซึ่งตั้งรับตอบสนองเป็นอย่างดี ผมตักตวงรสหวานตรงหน้าอย่างตะกละตะกลามจนอดสงสัยไม่ได้ว่าตัวเองไปอดอยากมาจากไหน ทว่า เรื่องนั้นมันคงไม่สำคัญอีกต่อไปแล้วในเมื่อทั้งผมและทิชา เราต่างก็มีสิ่งที่อยากได้จากอีกฝ่าย

กางเกงชั้นในของร่างเล็กถูกผมรูดลงไปเกี่ยวอยู่ตรงข้อเท้าระหว่างที่เรากำลังจูบแลกลิ้นกัน ผมตรงเข้ากอบกุมแก่นกายที่เต้นตุบตับรอคอยที่จะถูกครอบครอง เสียงครางในลำคอของทิชายิ่งยั่วอารมณ์ผมไม่ต่างจากน้ำมันที่ราดลงบนกองไฟ.... ผมรูดมือขึ้นลงตามคำเรียกร้อง ส่งความรัญจวนให้แล่นพล่านไปทั่วร่างบนตักเสมือนถูกจี้ด้วยกระแสไฟฟ้าอ่อนๆ ทิชาสั่นไปทั้งตัว อ้าขาออกกว้างรับการปรนเปรอจากผมอย่างลืมอาย แก้มใสซุกซบถูไถกับอกผมพลางจิกมือตัวเองระบายความเสียวซ่าน อาศัยเพียงฤทธิ์ยาที่ตกค้างอยู่ในกระแสเลือด แทบไม่ต้องใช้เทคนิคอะไรเลย ไม่นานเอวคอดกิ่วก็บิดเกร็งแอ่นโค้งราวคันศร

“อ๊ะ.......อาาาาาาา...............”

เมื่อเกลียวคลื่นแห่งความหฤหรรษ์ระลอกแรกผ่านพ้นไป ทิชาหวีดเสียงกระเส่าปล่อยคราบไคลสีขาวพุ่งจากปลายยอดแก่นกายเล็กออกมาชโลมมือผมจนชุ่มแฉะ นัยน์ตากลมโตฉ่ำด้วยหยาดน้ำฉายชัดถึงความสุขสมปนทรมาน.... มือเล็กยังคงกุมมือผมให้คาอยู่ตรงที่เดิม ไม่ให้ยกออกแม้ว่ามันจะเสร็จนำไปก่อนแล้วก็ตาม

“มือพี่โรม......อุ่นดีจัง........” 

รอยยิ้มพึงพอใจปรากฏบนใบหน้าสวยเมื่อผมกับมันทำลายคำว่า ‘ดูแลกันแบบพี่น้อง’ จนย่อยยับ และจากเสียงออดอ้อนของนกน้อยปีกหักตัวนี้กับสันดานดิบตามประสาผู้ชายในตัวผม บาปของเราทั้งคู่ก็คงจะไม่สิ้นสุดลงง่ายๆ 

“ชักอยากรู้แล้วสิว่าอย่างอื่นของพี่จะอุ่นแบบนี้ด้วยหรือเปล่าน้า........?”

ผมพอเดาออกว่าทิชากำลังจะทำอะไร.....

“เฮ้ย ไม่ต้องก็ได้นะ.... กูทำให้มึงดีกว่า” 

บางส่วนในสามัญสำนึกผมบอกว่าแค่ใช้มือกับดูดปากกันนี่ก็เหี้ยมากแล้ว ถ้าผมปล่อยให้ทิชาซึ่งโดนยาปลุกเซ็กส์มาบริการอย่างว่าให้ คำว่าใจหมาที่น้องมันเคยด่าผมก็เห็นทีจะเบาไป

“ก็พี่โรมดูไม่ค่อยมีอารมณ์นี่......ชากลัวพี่จะไม่สนุก........” 

ร่างบางขยับตัวลงจากหน้าตักผมก่อนจะตวัดลิ้นเลียริมฝีปากตัวเอง กลีบปากสีสดบวมเจ่อนิดหน่อยหลังจากที่ถูกผมบดเข้าใส่แรงๆ แต่มันกลับยิ่งทำให้ไอ้ทิชาดูเซ็กซี่มากยิ่งขึ้นไปอีก

“เดี๋ยวชาอมของพี่โรมให้นะ......เราจะได้มีความสุขด้วยกันไง..........”

“กูเคยบอกแล้วไงว่าอย่าพูดแบบนี้ให้ใครได้ยินอีก” 

ผมดุมัน รู้ทั้งรู้ว่าน้องพูดไปเพราะไม่ได้สติ หากผมก็ไม่สบายใจที่มันกล้าพูดจาเสนอตัวง่ายๆ อย่างนี้ให้กับผู้ชายที่ไม่ได้เป็นอะไรกันอยู่ดี

แต่ประโยคต่อมาที่ได้ยินก็ทำเอาผมด่าไม่ออก

“เพราะรักนะ.....ถึงอยากทำให้”

ดวงตาสุกใสราวแก้วเจียระไนราคาแพงคู่นั้นกำลังสะท้อนภาพของผม ชั่วแวบหนึ่งที่ผมเผลอคิดว่ามันไม่ได้พูดเพราะขาดสติ แต่มันพูดเพราะอยากให้ผมรู้ว่ามันยอมแลกแม้กระทั่งศักดิ์ศรีเพื่อให้ได้ผมมา 

“ไม่ได้ทำให้ทุกคน........มีแค่คนที่ชาคิดว่ารักเท่านั้นถึงจะอยากทำให้...........”

“ชาแค่อยากรักพี่โรมในแบบของชา อย่าห้ามกันเลยนะ......”

ผมไม่ตอบ.... ก็อย่างที่บอกว่าหลังจากเหตุการณ์ที่ริมสระน้ำโรงแรมเมื่อคราวก่อน ผมก็ไม่กล้าขัดใจทิชาอีกแล้ว

ผมกลัวว่าแก้วร้าวใบนี้จะแตกสลายไปต่อหน้าต่อตา....


ทิชาถอดกางเกงผมอย่างรีบร้อน ผมคิดว่าส่วนหนึ่งเป็นเพราะฤทธิ์ยาที่ทำให้มันหน้ามืดตามัวจนยอมทำทุกอย่างขนาดนี้

คนที่ไม่ได้เป็นอะไรเลยก็คือผม

คนที่รับรู้ทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่ตรงหน้าแต่ก็ยังปล่อยให้มันดำเนินต่อไป

ก็คือผม....


มือเล็กขยำเข้ากับความเป็นชายของผมผ่านบ็อกเซอร์ ลูบไล้จนกระทั่งมันตั้งลำผงาดเต็มความยาวถึงค่อยดึงเอาสิ่งปกปิดออก ผมเห็นมันจ้องมองแกนกายที่กำลังพองขยายไม่ต่างจากสัตว์ดุร้ายซึ่งต้องการอาละวาดล่าเหยื่อ ดวงตาคู่สวยฉายแววซุกซนเหมือนเด็กที่ถูกตาต้องใจของเล่นชิ้นใหม่ก่อนที่ปลายลิ้นอุ่นชื้นจะตวัดเลียไล้เล็มท่อนเอ็นซึ่งเต็มไปด้วยกลิ่นอายของชายหนุ่มทีละน้อย

กลีบปากบางหยัดมุมขึ้นระหว่างที่เจ้าตัวเหลือบสายตาแพรวพราวยั่วเย้า 

“เริ่มจะตื่นเต้นขึ้นมาแล้วเนอะ......?”

ทิชาครอบปากลงมายังแก่นกายร้อนรุ่ม ดูดเม้มเลียรอบความเป็นชายของผมอย่างสุดความสามารถ เรียวลื้นเล็กตวัดหยอกเย้าส่วนปลายในขณะที่มือก็ไม่อยู่นิ่ง หยอกเย้าเค้นคลึงไปทั่วทุกส่วนที่คิดว่าจะทำให้ผมสนุกถึงใจได้มากที่สุด....  เลือดหนุ่มในตัวผมสูบฉีดแรงขึ้นตามแรงกระตุ้น เสี้ยววินาทีหนึ่งที่ผมหยุดคิดว่าทิชามันต้องผ่านเรื่องพรรค์นี้มามากแค่ไหน ผิดหวังมาแล้วกี่ครั้ง เปลืองตัวเปลืองใจมาเท่าไรกว่าที่จะมาจบลงตรงนี้กับผม

“อืม............”

ท่อนเนื้อกำยำขยายยาวจนทิชารับมันเอาไว้ในโพรงปากแทบไม่ไหว ร่างเล็กดูหายใจลำบากคล้ายจะสำลักเพราะความใหญ่โตจนคับคอ ทว่ายังคงพยายามโลมเลียต่อเนื่องไม่ให้เสียจังหวะ ห้วงอารมณ์ของผมปะทุแรงราวกับลาวาร้อนใต้ภูเขาไฟ เสียงสูดน้ำลายดังสลับกับเสียงดูดดึง รวมถึงปลายนิ้วเล็กซึ่งหยอกเย้าถุงเนื้อกลมกลึงที่อยู่ต่ำลงไปอีกกำลังทำให้ผมคลั่ง

ในที่สุด ทิชาก็ปล่อยท่อนเนื้อร้อนรุ่มซึ่งถูกเล้าโลมด้วยริมฝีปากจนแข็งตั้งชันให้เป็นอิสระ ก่อนจะผลักผมให้นั่งเอนหลังพิงผนังห้องน้ำแล้วขยับกายขึ้นคร่อม.... ความงดงามและอ้อนแอ้นบอบบางปรากฏชัดสู่ประสาทส่วนการมองเห็นของผม ไอ้ทิชาแม่งสวยไปหมดทุกส่วน สวยจนผมแทบลืมหายใจ แม้กระทั่งส่วนนั้นของมันซึ่งเสียดสีอยู่กับหน้าท้องผมก็ยังเป็นสีชมพูเข้ม....สวยฉิบหาย........

“อื้อ.......อ๊ะ........”

สองมือเล็กยันอกผมเอาไว้ระหว่างที่เจ้าของช่องทางอ่อนนุ่มแสนเร่าร้อนจะยกสะโพกครอบครองตัวตนของผมจากทางด้านบน.... ความกระสั่นซ่านแล่นริ้วสู่ขั้วหัวใจของเราทั้งคู่ ใบหน้าอ่อนใสบิดเบี้ยวเหยแกเมื่อความใหญ่โตค่อยๆ สอดแทรกรุกคืบเข้าไป ผมส่งมือหนาไปช่วยปลอบโยนมันทางด้านหน้า สาวรูดแกนกายเล็กซึ่งฉ่ำเยิ้มอย่างเมามัน โน้มตัวมาดูดดึงสะกิดติ่งไตบนผืนอกเนียบเรียบกระทั่งร่างเล็กรับเอาเนื้อหนุ่มอวบอัดเข้าไปได้จนมิดถึงโคน

“อ๊ะ.....อื้อ........พี่โรม......”

ทิชาเริ่มขยับโยกขึ้นลงเหมือนควบม้า ส่งเสียงครวญครางระงมไปทั่วห้องน้ำแคบๆ ร้องหาผมที่กำลังแผลงฤทธิ์ดุร้ายอยู่ในตัวมัน

“.....ทิชา.......อืม.....มึงนี่แม่ง.......”

ผมเองก็เสียวสนุกเร้าใจไม่แพ้กัน.... ว่ากันตามประสาผู้ชาย ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะมีคนสวยระดับนี้ทั้งใช้ปาก ทั้งขึ้นขี่ให้.... ผมทิ้งความรู้สึกผิดชอบชั่วดีทุกอย่างเอาไว้ข้างหลัง มองหน้าทิชาอย่างหลงใหล มันกำลังเสียวร้อนร่านเหมือนจะขาดใจ กำลังมีความสุขที่ได้เอากับผม เราเหมือนแม่เหล็กต่างขั้วที่ดึงดูดเข้าหากัน ไม่มีใครยอมปล่อยมือตัวเองจากอีกฝ่าย ผมเองก็ไม่ยอมปล่อยมือออกจากทุกส่วนของทิชาที่ผมสามารถครอบครองได้ในยามนี้

“พะ.....พี่โรม......พี่โรมของน้อง.....อ๊ะ......!”

ไอ้ทิชาครางแล้วครางอีก ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไรที่มันเรียกแทนตัวเองว่าน้อง รู้แค่ว่าผมฟังแล้วตื่นตัวยิ่งกว่าเดิม อยากจะจับร่างขาวๆมาฟัดขย้ำให้หายมันเขี้ยว

ทิชายังคงควบคุมเกมรักเอง ขึ้นสุดลงสุดสะใจ ขย่มตัวอยู่บนหน้าตักผมตามแรงอารมณ์คุกรุ่นซึ่งมีผมช่วยโหมกระพือ.... ผมเข้าไปได้ลึกมาก ส่วนปลายท่อนเอ็นกระแทกโดนจุดอ่อนไหวในตัวมันนับครั้งไม่ถ้วน ผนังนุ่มก็ขมิบตอดรัดผมให้ต้องซี้ดปากอยู่เป็นระยะ

“......ทิชา เบาหน่อยมึง เดี๋ยวก็ตายคาอกกูพอดี....”

“อื้อ....พี่โรม......พี่จ๋า.....”

แน่นอนว่าทิชามันไม่ฟังผมหรอก เด็กดื้อยังเรียกร้องเอาแต่ใจทั้งๆที่ตัวมันหอบแฮ่กคล้ายจะตายเพราะความเสียดเสียวให้ได้ 

“......อ๊ะ.....มือพี่โรม.....แรงอีก....รูดให้น้องแรงๆ.....”

ร่างเล็กอ้อนขอให้ผมเล่นกับแกนเนื้อน่ารักทางด้านหน้าให้หนักหน่วงขึ้น ทิชาหน้าแดงจัด ตาปรือเหมือนล่องลอยอยู่ในห้วงภวังค์ที่มีแต่เรื่องกามารมณ์ ยิ่งผมปรนเปรอให้มันมากเท่าไร มันก็ยิ่งทิ้งน้ำหนักให้ผมกระแทกเข้าไปข้างในแรงขึ้นเท่านั้น.... เราทั้งคู่ช่วยกันขับเคลื่อนความปรารถนามาจนเกือบถึงปลายทาง ทั้งจุก ทั้งเจ็บ ทั้งเสียวซ่านและสุขสมอย่างที่ไม่มีใครคาดถึง

“อะ.....”

“พี่โรม....อีกนิด......อ๊า...............!”

หน้าท้องแบนราบหดเกร็ง ช่องทางรักตอดผมแรงๆ ทิ้งท้ายก่อนที่ทิชาจะหวีดร้องลั่นแล้วปลดปล่อยความอัดอั้นออกมาจนเต็มหน้าท้องผม ผมเองก็กัดฟันแน่นก่อนจะปล่อยน้ำรักเข้าไปข้างในตัวน้อง.... โพรงถ้ำอ่อนนุ่มยังคงเต้นตุบเสียดสีเบาๆ ไม่ยอมให้ผมถอดถอนออก ทิชาทิ้งตัวลงซบบ่าผมคล้ายจะหมดแรง เราสองคนหอบหายใจส่งท้ายเซ็กส์มันส์สุดเหวี่ยง ท่อนบนชื้นเหงื่อและน้ำจากฝักบัวที่เปิดไว้ก่อนหน้านี้ ส่วนท่อนล่างก็แฉะด้วยคราบคาวของกันและกัน

“พี่โรม......จูบน้องหน่อยสิ......”

ไม่ทันไร ไอ้ทิชาก็อ้อนผมอีก ผมไม่เสียเวลาอิดออด ส่งมือข้างหนึ่งจับท้ายทอยคนตัวเล็กให้ประกบจูบแลกลิ้นกันดูดดื่ม.... แล้วก็เป็นอย่างที่คิดเอาไว้ไม่ผิด แค่ดูดปากเนื้อชนเนื้อไม่ถึงนาที ท่อนเนื้อของผมที่ยังคาอยู่ในตัวน้องก็ตื่นขึ้นมาอีก เช่นเดียวกับที่แก่นกายเล็กสั่นระริกชี้ชันถูไถกับกล้ามแข็งเป็นลอนซึ่งผมสุดแสนจะภาคภูมิใจ

แทบไม่ต้องเล้าโลมให้มากความ เราทั้งคู่ก็พร้อมจะเริ่มต้นเกมรักที่สอง ทว่าหนนี้ ดูท่าทางคนสวยของผมจะไม่มีแรงขึ้นนำแบบเมื่อกี้เสียแล้ว ร่างเล็กยังคงซบหน้าอยู่กับบ่าผมพลางกระซิบเสียงพร่า

“อยากได้พี่โรมอีกจัง.....แต่น้องขึ้นเองไม่ไหวแล้วอะ........”

“เหนื่อยแล้วเหรอ?” 

ผมหอมแก้มทิชาไปฟอดใหญ่ก่อนจะไซ้ซอกคอให้มันจักจี้เล่น ซึ่งมันก็ร้ายฉิบหาย นอนแผ่ลงไปกับพื้นให้ผมตามไปขึ้นคร่อมระดมจูบตรงนั้นตรงนี้ได้สะดวก

“ปกติน้องก็มีแรงขึ้นไหวแค่รอบเดียวแหละ ที่เหลือชอบอ้อนให้พวกผู้ชายทำให้......”

เป็นอีกครั้งที่ผมนึกขึ้นได้ว่าทิชามันเพิ่งโดนยาปลุกมา มันไม่รู้ตัวหรอกว่ากำลังพูดอะไร

แล้วตัวผมล่ะ.... ไปโดนอะไรมาตั้งแต่ตอนไหน? ทำไมถึงโคตรไร้สติจนกลายเป็นไอ้หื่นกามจอมฉวยโอกาสแบบนี้?

“แล้วทุกทีผู้ชายที่มึงว่ามันทำให้กี่ครั้ง?”

ผมถามทั้งที่ยังลากมือไปตามจุดที่ทำให้ร่างเล็กส่งเสียงครางเรียกหาแต่ ‘พี่โรม.....พี่โรม......พี่จ๋าของน้อง.......’

“จำไม่ได้.....อื้มมมม....ไม่หนึ่งก็สองเองมั้ง........”

“งั้นมึงก็ลืมไอ้พวกนั้นไปได้แล้ว กูว่ากูให้มึงได้มากกว่า”

ผมยกขาไอ้ทิชาข้างหนึ่งขึ้นพาดบ่า สอดแทรกกระทั้นความใหญ่โตของตัวเองเข้าออกช่องทางรักแสนหวานอย่างเร่าร้อนแทบลืมหายใจ.... ในสมองของผมมีแต่เสียงร้องของทิชา มันครางบอกจนหมดเปลือกว่ารักผมหลงผมและต้องการผมมากแค่ไหน มันอ้าขากว้างรับทุกสิ่งที่ผมมอบให้อย่างยินดี แม้ว่ามันจะรุนแรง แม้ว่ามันจะเจ็บปวดจนน้ำตาซึม ถูกจับพลิกเปลี่ยนท่าไปมาราวกับตุ๊กตายาง แต่ทิชาก็ยังยิ้มเหมือนมีความสุขทุกครั้งที่ผมเสร็จกิจข้างในตัวมัน

ไม่รวมครั้งแรกที่น้องมันออนท็อปเอง ผมเสร็จไปประมาณสี่ครั้ง ส่วนทิชาน่าจะมากกว่านั้น....

โชคดีที่คืนนี้ไม่มีใครแวะมาใช้ห้อง.... เกือบเช้ากว่าผมจะอุ้มทิชาออกมาจากห้องน้ำ เอาเสื้อยืดที่เก็บไว้ที่นี่ใส่ให้มันแล้วเอาไปนอนกอดบนเตียง เราจูบกันบ้าง ใช้มือให้กันอีกนิดหน่อยแล้วจึงเคลิ้มหลับไปเมื่อร่างกายมาถึงขีดจำกัด

ภาพสุดท้ายที่ผมเห็นก่อนที่ตาทั้งสองข้างจะปิดลงก็คือเกียร์วิศวะฯ ซึ่งเปรียบเสมือนหัวใจของตัวเองคล้องอยู่ที่คอไอ้ทิชา

ผมเอื้อมมือไปตั้งใจจะถอดออก แต่เพราะอะไรก็ไม่รู้เหมือนกัน ผมถึงได้ปล่อยให้มันห้อยอยู่ต่อไปแบบนั้น


ผมนี่แม่ง ก็แค่ผู้ชายใจหมาอย่างที่น้องมันด่าจริงๆ นั่นแหละ....



TO BE CONTINUE



++++++


เพิ่งเห็นว่ามีคนตั้งแท็กนิยายเรื่องนี้ให้ในทวิตเตอร์ ขอบคุณมากเลยนะคะ เขียนมา 5 ตอนไม่ได้รู้เลยว่ามีฟีดแบคอยู่ในทวิตด้วย
ถ้าใครเล่นทวิตก็สามารถเข้าไปพูดคุยกันได้ที่แท็ก #ขอให้พรุ่งนี้ไม่มีสายฝน ได้นะคะ
เราเช็คทวิตทั้งวัน จะได้เมาท์มอยกันค่ะ  :katai2-1:

ขอบคุณสำหรับทุกการติดตามและคอมเมนท์นะคะ
ถึงฟิคเรื่องนี้จะทำให้ปวดตับ แต่เราจะพยายามให้ทุกคนปวดตับอย่างเป็นสุขค่ะ 5555555
 :mew1: :mew1:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 09-12-2017 00:09:05 โดย SweetAlice0701 »

ออฟไลน์ fahsai

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 815
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +56/-2
สงสารใครดีละทีนี้ บีบี๊ ทิชา หรือคนอ่านเอง

ออฟไลน์ kokoro

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1089
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +138/-2
ลุ้นใจหายใจคว่ำกับตอนจบคืนนี้
โชคดีที่มีรุ่นน้องมาถามพี่โรมอ่ะระ
พี่โรมก็คงเอ็นดูน้องมากจริงๆ ถึงยอมปกป้อง
แต่เปิดตัวแฟนไปแล้ว และถลำถลึกไปแล้ว ที่เหลือคือตกลงว่าจะยังไงต่อแหละ
ดูท่าจะติดใจแอบป๊ะกันนอกรอบอีกแหม

ออฟไลน์ Guill

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 678
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-4
เอาล่ะเว่ย

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด