V
v
v
ตอนที่พระอาทิตย์แทบจะลับหายไปจากท้องฟ้า ช่วงเวลานั้นฝนถึงหยุดตก แต่ก็ยังไม่ทิ้งคอนเซ็ปต์เมฆสีเทาให้ลอยเอื่อยอยู่บนท้องฟ้า ไอติมเข้าไปอาบน้ำก่อนคนแรกโดยที่ไบรอั้นแอบแปลกใจกับความรีบร้อนนั้น เพราะปกติเจ้าเด็กลามกจะไม่พลาดหาช่องทางลวนลามเขาด้วยการอาบน้ำด้วยกัน
“Going somewhere? (ไปไหนเนี่ย)” ไอติมหยิบกล้องถ่ายรูปสีดำออกมาจากกระเป๋าขึ้นมาคล้องคอ หยิบโทรศัพท์ใส่กระเป๋ากางเกงขาสั้นสีน้ำเงินลายดอกชบาสีขาว
“Scout location. (สเก๊าท์โลเคชั่น)” ไบรอั้นเลิกคิ้วขึ้นและหันไปมองวิวข้างนอกห้องผ่านกระจกสี่เหลี่ยมผืนผ้าบานใหญ่ที่เปิดม่านโชว์วิวทะเลสีครามเข้มด้านนอกหลังฝนตกที่ตอนนี้บรรยากาศเริ่มเป็นสีฟ้าหม่นเพราะจะมืดแล้ว
“Now? (ตอนนี้เนี่ยนะ)” ไอติมที่เตรียมตัวเรียบร้อยพยักหน้า
“It still has light little to see. (มันยังมีแสงน้อยให้เห็น)” ว่าจบก็รีบเดินออกไปจากห้องพักทันที ไบรอั้นหันกลับมาดึงเสื้อผ้าออกจากกระเป๋า เพื่อเตรียมอาบน้ำ เสียงเปิดประตูห้องน้ำดังขึ้น เลโอที่เดินเปลือยกายออกมาและกำลังใช้ผ้าขนหนูเช็ดตามตัวมองไปรอบห้อง
“ไอศกรีมไปไหนแล้วล่ะ”
“ไปสำรวจพื้นที่” เลโอพยักหน้าเข้าใจและเดินไปนั่งโซฟาตัวยาว หยิบเสื้อผ้าออกมาจากกระเป๋าเป้มาวางไว้ข้างตัว หนุ่มหัวทองถอดกางเกง ทั้งกางเกงชั้นในและกางเกงขาสั้นออกลงไปกองบนพื้น หยิบผ้าขนหนูขึ้นมาจากเตียงแล้วจะเดินเข้าไปในห้องน้ำ แต่ก็ชะงักไว้แปบหนึ่ง
“เราต้องไปถามเรื่องเช่ารถมอเตอร์ไซค์ใช่มั้ย” เลโอพยักหน้า
“ไอศกรีมติดต่อไว้แล้ว เดี๋ยวฉันลงไปรับกุญแจและเช็กสภาพรถให้แล้วกัน” ไบรอั้นพยักหน้าแล้วเดินหายเข้าไปในห้องน้ำ เลโอหยิบเสื้อกล้ามสีขาวลายรถตุ๊ก ๆ ของประเทศไทยขึ้นมาสวมทับตัว ตามด้วยหยิบกางเกงชั้นในกับกางเกงขาสั้นขึ้นมาพร้อมกับลุกขึ้นยืนเพื่อใส่ พอเสร็จเรียบร้อยก็กางผ้าขนหนูไว้บนโซฟาแล้วเดินออกไปจากห้องพักพร้อมกับดึงประตูปิดตามหลัง
ไบรอั้นใช้เวลาสิบกว่านาทีในการอาบน้ำ เขาเช็ดตัวจนแห้งหมาด ๆ โทรศัพท์เขาดังพอดีตอนที่ออกมาจากห้องน้ำ เขาหยิบขึ้นมาดูก็เห็นว่าเป็นสายโทรเข้าผ่านวอทสแอพ แต่พอเห็นว่าเป็นใครก็หน้าตึงนิด ๆ และพ่นลมหายใจเบาๆ
“ฮัลโหล”
[ไม่คิดจะโทรหากันหน่อยเหรอ]
“ว่าตรง ๆ ก็ไม่อยาก” ปลายสายร้องหึ และขำในลำคอแผ่วเบา
[คงสนุกน่าดูเลยสิ] ไบรอั้นนั่งลงบนเตียง ใบหน้านิ่งคิดครู่หนึ่ง
“สนุกดี” เขาไม่ได้ตอบประชด ตอบตามความเป็นจริงที่เขาคิดและรู้สึก
[เธอรู้ขอบเขตตัวเองดีนะแซ็ค] เจ้าของชื่อขบกรามเบา ๆ จังหวะนั้นประตูห้องพักเขาเปิดออกและร่างของไอติมก็เดินเข้ามาพร้อมกับรอยยิ้มเหมือนเด็ก
“ฟินิชชช โอ้ ซอรี่ๆ” ไอติมตาโตด้วยความตกใจที่เห็นว่าไบรอั้นกำลังคุยโทรศัพท์อยู่ เด็กลามกเลยปิดปากเงียบ ถอดสายคล้องกล้องออกจากคอ เอากล้องไปวางไว้บนเตียงฝั่งที่กระเป๋าเป้ตัวเองวางอยู่บนนั้น
“แค่นี้แล้วกัน ฉันกำลังจะไปกินข้าว” ปลายสายที่ไบรอั้นคุยด้วยกดวางสายให้เองโดยที่เขาไม่ต้องตัดสายหนี หนุ่มหัวทองพ่นลมหายใจแผ่วเบา หันไปมองอีกคนที่กำลังนั่งเช็กรูปจากกล้อง
“I’m finished, too. (ฉันก็เสร็จแล้วเหมือนกัน)” ไอติมหันมองฝรั่งหัวทองและยิ้มเหลอหลา ลุกขึ้นเดินไปนั่งข้างฝรั่ง ยื่นหน้าจอกล้องให้ดูรูปชายหาดมุมหนึ่ง
“This is very good place. I hope it will not rain after back from island tour. (ตรงนี้ที่ดีมาก ๆ ผมหวังว่ามันจะไม่ฝนหลังจากกลับจากทัวร์เกาะ)” ไบรอั้นพยักหน้า ไอติมกดปิดกล้อง วางไว้ข้างกระเป๋าเป้ตัวเองแล้วหันกลับมามองหนุ่มหัวทอง ไอติมก้มลงมองกลางลำตัวของไบรอั้นแล้วก็เงยหน้าขึ้นยิ้มตาหวานให้กับอีกคน ฝรั่งหัวทองกลอกตามองบน ไอติมหัวเราะคิก
“Your eyes. (ตานายนี่นะ)” ไบรอั้นว่าคล้ายหน่ายใจ แต่ไม่ได้รู้สึกหน่ายอย่างที่สีหน้าและน้ำเสียงแสดงออก แค่กัดเด็กมันนิด ๆ หน่อยๆ
“Whaaaat? (อะไรเหรอออ)” ไอติมลากเสียงยานและมองไบรอั้นตาพราว ไบรอั้นกระตุกยิ้มมุมปาก ยกมือขวาผลักหัวไอติมจนหงายหลังไปนิดหนึ่ง ไอติมหัวเราะและดึงหัวกลับมาตั้งตรง มองไบรอั้นหยิบเสื้อกล้ามสีดำไม่มีลายขึ้นมาสวมใส่
“Hey, I got the key and already checked motorcycle. (เฮ้ ฉันได้กุญแจละ แล้วก็เช็กมอเตอร์ไซค์แล้วด้วย)” ไบรอั้นที่กำลังใส่กางเกงในพยักหน้าให้เลโอที่ยืนรออยู่ตรงหน้าประตู ไอติมหยิบกระเป๋าผ้าแบบมีสายสะพายข้างทรงสี่เหลี่ยมสีเหลืองออกมาจากกระเป่าเป้ ยัดโทรศัพท์กับกระเป๋าตังค์เข้าไปในนั้น พอไบรอั้นแต่งตัวเสร็จก็เดินออกไปจากห้องพร้อมกันทั้งสามคน ไบรอั้นยื่นกุญแจห้องให้ไอติมเก็บไว้ ไอติมแหงนหน้ามองท้องฟ้าเห็นว่าฟ้ายังแลบ ๆ อยู่บ้าง ได้แต่ข่มขู่ฝนฟ้าในใจว่าขอให้ได้ออกไปกินข้าวก่อน เพราะตั้งแต่เช้าที่มาถึงนี่จนกระทั่งพระอาทิตย์ตกดิน ยังไม่ได้กินอะไรเลยนอกจากน้ำเปล่า
ที่พักที่ทั้งสามคนเลือกมาพักเป็นรีสอร์ทขนาดเล็ก ตั้งอยู่ริมสุดของชายหาดฝั่งซ้ายมือเวลาหันหน้ามองทะเล ห้องพักของพวกไอติมอยู่บนชั้นสองของอาคารที่ตั้งอยู่บริเวณหน้าหาด เป็นรีสอร์ทธรรมดา ๆ ที่คนไทยไม่ค่อยมาพักเนื่องจากว่ากันตามตรงสภาพมันไม่ได้ใหม่มาก แต่ก็ไม่ได้ทรุดโทรมจนน่ากลัว จุดเด่นที่ทำให้ไอติมกับอีกสองหนุ่มตัดสินใจเลือกที่นี่เพราะชายหาดตรงนี้สวย น้ำทะเลสีฟ้าใส วิวภูเขาก็เขียวขจีด้วยต้นไม้
“You wanna drive? (แกอยากขับมั้ย)” เลโอชูกุญแจรถขึ้น ไบรอั้นยักไหล่สองข้างด้วยท่าทีสบายๆ
“Okay.” ไบรอั้นรับกุญแจมาจากมือเพื่อน เดินไปที่รถมอเตอร์ไซค์สีดำแบบสตาร์ทมือ พอเสียบกุญแจและบิดกุญแจเตรียมสตาร์ทก็หันไปมองไอติม
“You want to sit here or you want to sit back. (นายอยากจะนั่งตรงนี้หรือนั่งข้างหลัง)” ไบรอั้นชี้ข้างหน้าตัวเองกับข้างหลัง แทนคำตอบแบบคำพูด ไอติมเดินไปนั่งซ้อนหน้าฝรั่งหัวทอง ไบรอั้นขยับถอยหลังให้ เลโอยกขาขึ้นคร่อมซ้อนท้ายด้านหลัง
“And where are we going? (แล้วเรากำลังจะไปไหนกัน)”
“Eat and shopping. I will tell you. (กินและช้อปปิ้ง ผมจะบอกคุณ)” ไอติมชี้ถนนใหญ่ที่อยู่ตรงทางเข้ารีสอร์ท ไบรอั้นสตาร์ทรถและบิดรถออกไปจากรีสอร์ทที่พวกเขาพัก
จากจุดที่ทั้งสามคนเลือกมาพัก ตั้งอยู่ห่างจากบริเวณศูนย์กลางของเกาะสมุยสิบห้านาที กับคนที่ไม่เคยมาก็อาจจะเพิ่มเวลาเข้าไปอีกนิดหน่อย แต่ตอนขามาจากท่าเรือมารีสอร์ท ไอติมมองทางมาตลอดเลยพอจะจำได้ว่ามันต้องขับไปทางไหน อีกอย่างมันมีความง่ายตรงที่ถนนเส้นหลักจากท่าเรือมาที่พักพวกเขามันมีเส้นเดียว ขับย้อนขึ้นไปตามถนนเดี๋ยวก็ถึง
เนื่องด้วยเป็นระยะเวลามืดค่ำแล้ว วิวทิวทัศน์ที่เห็นได้ชัดสุดก็คือแสงไฟจากบ้าน อาคาร รีสอร์ท และรวงร้านต่าง ๆ ตามข้างทางที่ขับผ่าน ไอติมนั่งหรี่ตาโต้ลมมายี่สิบนาทีหน่อย ๆ จนกระทั่งมาถึงช่วงหาดเฉวงที่เรียกได้ว่าเป็นแหล่งของกิน ของช้อปปิ้งหลัก ๆ บนเกาะนี้ ไอติมมองอาคารขนาดใหญ่ที่กำลังก่อสร้างด้วยความเด๋อด๋าอยู่พักหนึ่งก่อนจะเห็นป้ายว่าเป็นการสร้างห้างสรรพสินค้าชื่อดังที่มีสาขาอยู่ทั่วประเทศ และกำลังจะมีอีกหนึ่งสาขาบนเกาะนี้
“Which restaurant? (ร้านไหน)” ไอติมส่ายหัว แล้วก็พยายามบอกไบรอั้นว่าให้จอดแถวนี้ก่อน ไบรอั้นขับไปจอดใกล้กับร้านหนังสือที่หน้าร้านมีชั้นวางขายโปสเตอร์ตั้งอยู่คู่กับเค้าน์เตอร์ไม้เล็ก ๆ และตู้ไปรษณีย์สีแดง ไอติมลงจากรถและยืนมองสำรวจร้านอาหารที่อยู่ฝั่งตรงข้ามแล้วก็สะดุดตากับร้านสีแดงร้านหนึ่งที่มีระเบียงยื่นออกมาเป็นโซนนั่งหน้าร้าน ไอติมชี้ให้สองหนุ่มดู ทั้งสองคนพยักหน้าอย่างง่าย ๆ ไอติมเดินนำไปที่ร้าน เปิดเมนูที่วางอยู่บนแท่นสูงเหมือนกับที่วางกระดาษโน้ตดนตรีของวงออเคสตร้าที่วางอยู่หน้าร้าน พอเห็นว่ารูปเมนูที่แปะไว้มันน่าสนใจเลยเข้าไปบอกจำนวนกับพนักงาน พนักงานหนุ่มเดินนำทั้งสามคนไปที่โต๊ะด้านนอกร้านที่อยู่ชิดกับริมรั้วระเบียง และอยู่ตรงข้ามกับร้านหนังสือพอดี ไบรอั้นกับไอติมนั่งข้างกัน ส่วนเลโอนั่งตรงข้ามกับไบรอั้น
“That’s interesting… I want to try this one… You are? Yeah. Why not. Do you have something to recommend us?” ไบรอั้นหันไปถามติมพร้อมกับยื่นเมนูให้
“What?” ไอติมงงเพราะตามไม่ทัน ไบรอั้นจิ้มเมนู
“You have something special to tell us? (นายมีบางอย่างที่พิเศษจะบอกเรามั้ย)” ไอติมนิ่งคิดแปบหนึ่งก่อนจะเก็ทว่าไบรอั้นถามอะไร
“Oh, no. (โอ้ ไม่อะ)” ไบรอั้นทำตาโตและกลอกตาหนึ่งที เลโอหัวเราะ ไอติมยิ้มแล้วก็จิ้มเลือกอาหารทะเลให้ไบรอั้นไปหนึ่งอย่าง
“Is this good? (มันดีเหรอ)” ไอติมไม่รู้ว่ามันดีหรือไม่ดี แต่เห็นแล้วอยากกินเลยพยักหน้าตอบรับไปก่อน สองหนุ่มปรึกษากันอีกสักพักจนได้เมนูที่ต้องการถึงกวักมือเรียกพนักงานมารับออเดอร์ ไอติมช่วยทั้งสองคนสั่งจนได้อาหารกองกลางสี่อย่างพร้อมกับข้าวเปล่าหนึ่งโถ สองหนุ่มสั่งเบียร์มาดื่ม ส่วนไอติมสั่งน้ำมะพร้าวปั่น
“เป็นเพราะฝนด้วยรึเปล่า เลยดูเงียบๆ” เลโอถามพลางมองถนนหน้าร้านที่มีคนเดินอย่างบางตา เสียงเพลงจากร้านข้าง ๆ ดังขับกล่อมให้บรรยากาศไม่เงียบเหงาจนเกินไป
“เด็กลามกบอกว่าเป็นช่วงโลว์ซีซั่น” หนุ่มหัวทองหันไปมองเด็กที่ตัวเองเอ่ยถึงกำลังนั่งยิ้มกับโทรศัพท์ เขาแอบยื่นหน้าเข้าไปดูก็เห็นว่าเจ้าเด็กมือไวกำลังนั่งเล่นแอพพลิเคชั่นที่เลโอเป็นคนแนะนำ
“แกคิดยังไงกับเด็กคนนี้” เลโอยื่นคางไปทางไอติมพร้อมกับมองหน้าเพื่อน ไบรอั้นทำตาโตนิดหน่อย หันไปมองเด็กข้าง ๆ แล้วหันกลับไปมองหน้าเพื่อน
“แกถามต่อหน้าเขาเลยเหรอ เด็กนี่ฟังภาษาอังกฤษออกนะ ถึงจะไม่ค่อยคล่องก็เถอะ”
“เวลาที่เด็กคนนี้โฟกัสอย่างอื่นอยู่ ฟังไม่ทันหรอกว่าเราพูดอะไรกัน” ไบรอั้นนิ่งไปแปบหนึ่งก่อนจะยักคิ้วหนึ่งทีพร้อมกับเอนหลังพิงพนักเก้าอี้ไม้
“ก็เป็นเด็กน่ารักดี” ไบรอั้นหันมองไอติมที่กำลังเลื่อนดูรูปในแอพพลิเคชั่น แล้วก็เลื่อนสายตาขึ้นมองพนักงานชายที่เอาเบียร์กับน้ำปั่นของไอติมมาเสิร์ฟ
“แค่นี้เหรอ” เลโอถามพลางยกแก้ว ขวดเบียร์สองขวดและถังน้ำแข็งมาวางไว้ตรงขอบโต๊ะด้านซ้ายมือของตัวเอง ไบรอั้นคีบน้ำแข็งใส่แก้วตัวเองกับของเพื่อน ส่วนเลโอเป็นคนเทเบียร์
“ลามก แล้วก็ลวนลามฉันเก่ง” เลโอขำ ยิ้มกว้างจนเห็นเหงือกสีชมพู ยิ้มแบบที่ไอติมมักคิดว่าเป็นคิงคอง
“ไม่ใช่แบบนั้นสิ หมายถึง ถูกใจแกมั้ย” ไบรอั้นยกเบียร์ขึ้นดื่มและเหลือบมองไอติมที่ตามองจอโทรศัพท์แต่ปากดูดน้ำปั่นในแก้วจ๊วบๆ
“เด็กมันไม่ดื้อ แค่มือซนไปหน่อย แต่อยู่ด้วยแล้วก็โล่ง ๆ ดี”
“แล้วถูกใจแกรึเปล่า” เลโอแกล้งมองจี้เอาคำตอบจากเพื่อน ไบรอั้นย่นคิ้ว ทำหน้าเอือมแล้วไม่ตอบคำถามของเพื่อน พอดีกับที่พนักงานเริ่มเอาอาหารมาเสิร์ฟให้ที่โต๊ะ
แม้ว่าบนโต๊ะจะมีเนื้อปู เนื้อกุ้ง เนื้อกั้ง เนื้อปลา แต่ไอติมก็ไม่ลืมที่จะสั่งปีกไก่ทอดมาด้วย ไอติมปล่อยให้อีกสองหนุ่มคุยกันตามสบาย ส่วนตัวเองก็นั่งแทะปีกไก่อย่างเพลิน ๆ ไม่ได้คิดจะเข้าแทรกกลางระหว่างบทสนทนาของอีกสองคน
“Hey, we would like to go to the club. You okay? (เฮ้ เราอยากจะไปคลับกันน่ะ นายโอเคมั้ย)” ไอติมหันไปหาไบรอั้นทั้งที่ยังเคี้ยวไก่อยู่ก่อนจะพยักหน้าด้วยความเข้าใจและไร้ปัญหาที่จะไป
“พี่พนักงานฮะ ถนนคนเดินอันไหนน่าไปมากกว่ากัน ระหว่างเฉวงกับ Fisherman village” ไอติมถามพลางเคี้ยวปีกไก่หงับ ๆ พนักงานชายที่เดินผ่านมาพอดีหยุดแวะตอบคำถามของลูกค้า
“พี่มีเพื่อนเป็นฝรั่งมาด้วย ผมว่าไปฟิชเชอร์แมนดีกว่าครับ ขับรถไปจากนี่ก็ไม่เกินสิบห้านาที มีป้ายบอกตลอดทาง หรือพี่จะเปิดแม็พไปก็ได้”
“โอ้ โอเคพี่ ขอบคุณฮะ” ไอติมรู้สึกว่าการที่ต่างคนต่างเรียกพี่ทั้งที่หน้าของอีกฝ่ายดูจะอายุมากกว่าไอติม มันคือการสู้กันอย่างหนึ่ง
เหมือนว่าพอเวลาขยับไปดึกเรื่อย ๆ คนก็เริ่มจะออกมาเดินมากขึ้น ยังไม่มากเท่ากับไฮซีซั่น แต่ก็ไม่เงียบเหงาเท่ากับตอนแรกที่เลโอถามไบรอั้น ประมาณสองทุ่มครึ่งทั้งสามคนก็กินอาหารเสร็จ ไอติมเรียกพนักงานมาเก็บเงิน อาหารมื้อนี้ราคาแรงใช่ย่อย แต่หารสามก็เลยเบาลงไปหน่อย ถึงจะหน่อยเดียวจริง ๆ ก็เถอะ
“I want to buy postcard. (ผมอยากซื้อโปสการ์ด)”
“Take your time. (ตามสบายเลย)” ไอติมยิ้มเหลอหลาพักหนึ่งแล้วหันไปมองไบรอั้น หนุ่มหัวทองนั่งนึกแปบหนึ่งก่อนจะพูดออกมา
“We will wait you. (เราจะรอนาย)” ไอติมร้องอ๋อเบา ๆ และพยักหน้าให้สองหนุ่มก่อนจะลุกเดินออกไปจากร้าน มองซ้ายมองขวาสักแปบก็ค่อยข้ามถนนไปร้านหนังสือที่มีโปสการ์ดวางขายอยู่บนชั้นตะแกรงเหล็กสีดำ ไอติมหมุนตะแกรงเหล็กทรงกลมช้า ๆ มองหาภาพที่รู้สึกถูกใจ หมุนวนอยู่รอบนึงก็เลือกหยิบมาหกใบ
“Six? For who? (หกใบเลยเหรอ ให้ใครบ้างเนี่ย)” ไบรอั้นถามไอติมที่ยืนเขียนโปสการ์ดอยู่ตรงเค้าน์เตอร์เล็ก ๆ ข้างตู้ไปรษณีย์สีแดงอันใหญ่ที่ทางร้านทำไว้ให้
“I will send to my best friend, my two roommate, Lukas, Anthony แล้วก็ and น้อง Robert. (ผมจะส่งให้เพื่อนสนิทผม รูมเมทผมสองคน ลูคัส แอนโทนี่แล้วก็โรเบิร์ต)” หนุ่มหัวทองย่นคิ้ว
“Lukas and Anthony? And who is Robert? Your best friend? (ลูคัสกับแอนโทนี่เหรอ แล้วใครคือโรเบิร์ต เพื่อนสนิทนายเหรอ)” ไอติมส่ายหัวทั้งที่กำลังเขียนการ์ดอยู่และค่อย ๆ อธิบาย ช้า ๆ ชัด ๆ เพื่อไม่ให้ไบรอั้นงง แม้ในใจจะรู้สึกว่าไบรอั้นน่าจะงงก็ตาม
“My best friend name Denny, you used to see him. And เอ่อ… (เพื่อนสนิทผมชื่อเดนนี่ คุณเคยเจอเขา และ เอ่อ…)” ไอติมหยุดเขียนโปสการ์ด เงยหน้าคิดคำศัพท์ที่พยายามจะใช้
“Robert is brother of Denny. He give room for me when I go to L.A. (โรเบิร์ตเป็นน้องชายของเดนนี่ เขาให้ห้องสำหรับผมตอนผมไปแอลเอ)” ไอติมบิดหน้ามองไบรอั้นที่พยักหน้าด้วยความเข้าใจ เลยทำให้ไอติมโล่งใจและมีกำลังใจพูดต่อ
“And what about Lukas and Anthony? (แล้วลูคัสกับแอนโทนี่นี่คือยังไง)”
“I want to thank you to help me and give work. (ผมอยากขอบคุณที่ช่วยผมและให้งาน)”
“Oh, I see. And don’t you want to send it to me? (อ้อ เข้าใจละ แล้วไม่อยากส่งให้ฉันบ้างเหรอ)” ไอติมเด้งตัวขึ้นมาและทำตาโต
“อุ๊ you want too เหรอ” ไอติมไม่ได้คิดจะลืม แต่เห็นว่าอยู่ด้วยกันเลยไม่ได้คิดว่าต้องซื้อแล้วส่งไปให้
ไบรอั้นยิ้มขำและพยักหน้า แกล้งอำเด็กมันเล่น แต่ปรากฏว่าไอติมหันไปเลือกโปสการ์ดจากชั้นวางอย่างจริงจังอยู่พักหนึ่งก่อนหมุนตัวกลับมาโชว์โปสการ์ดให้ดู เป็นรูปพระอาทิตย์กำลังตกสีส้มแดง ตัดกับขอบผืนทะเลสีฟ้า มีฝูงนกเล็ก ๆ เป็นเงาสีดำบินผ่านดวงอาทิตย์ดวงโต มุมขวาของโปสการ์ดเป็นต้นมะพร้าวโค้งเข้าไปในทะเล ด้านซ้ายเป็นกลุ่มโขดหินที่มีต้นไม้ขึ้นอยู่สามสี่ต้น
“You like? (คุณชอบ?)” ไบรอั้นยักคิ้วและยิ้มขำน้อย ๆ ไอติมยิ้มกว้างและชะโงกหน้าไปมองหาเลโอที่กำลังยืนอยู่กลางถนน กำลังใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายรูปให้เห็นตึกและรวงร้านทั้งสองข้างทาง โดยมีถนนที่มีคนเดินกันอย่างไม่แออัดอยู่ตรงกลางภาพ
“Leo, you want postcard? (เลโอ อยากได้โปสการ์ดมั้ยฮะ)” คิงคองหนุ่มลดมือถือลงพร้อมกับหันตัวไปมองอีกสองคน
“No, but thank you. (ไมล่ะ แต่ขอบคุณนะ)” ไอติมก้มลงไปเขียนข้อความลงบนโปสการ์ดต่อ ทุกใบจะเขียนด้วยข้อความที่ต่างกันออกไป มีของเดนนี่กับรูมเมทอีกสองคนที่เขียนเป็นภาษาไทย ไอติมไม่ได้ทำเป็นประจำเวลาไปเที่ยว แค่นึกอยากทำทริปนี้เฉย ๆ อีกอย่างก็ใช่ว่าเขาจะไปเที่ยวบ่อย ที่สำคัญเห็นว่าโปสการ์ดมันสวยดีเลยอยากซื้อส่งให้ เหมือนเป็นของฝากเล็ก ๆ น้อยๆ
“Don’t you want to send to Jake, Kevin and Mandy? (ไม่อยากส่งให้เจค เควินแล้วก็แมนดี้บ้างเหรอ)” ไอติมที่กำลังติดแสตมป์บนโปสการ์ดหันไปมองหน้าไบรอั้นแบบงง ๆ แต่พอสติจับชื่อที่ไบรอั้นพูดได้ก็ทำหน้าแหยแล้วส่ายหัวอ่อน ๆ หนุ่มหัวทองหัวเราะร่วน เพราะจำได้ว่าไอติมมีปฏิกิริยากับสามคนนั้นยังไง
“Hey, Jake is your boss. (เฮ้ เจคเป็นเจ้านายนายนะ)” ไบรอั้นแกล้งแซว ไอติมยู่หน้าแล้วก็หันกลับไปติดแสตมป์ต่อ หนุ่มหัวทองมองหนุ่มหัวดำแล้วก็ขำกับความรู้สึกอันชัดเจนของเจ้าเด็กลามก
V
v
v