Fall in lust, Chapter 23 :: Change. (เปลี่ยน) [ครึ่งหลัง]
‘อูว… อ่า…’ ใบหน้าที่ไอติมมองว่าคล้ายคิงคองยิ้มพึงใจและออกไปทางเย้ยนิด ๆ เมื่อหันไปมองหนุ่มหัวทองที่นอนเอาตัวพิงโซฟาในห้องดูทีวีอยู่ข้างกัน สองมือถือกล้องวิดีโอเก็บภาพไอติมกำลังนั่งขย่มอยู่บนตัวของเลโอ
‘หน้าแกเป็นเหี้ยไรวะ’ เลโอขำเสียงทุ้มกับคำถามของไบรอั้นที่ถามด้วยหน้าตาหมั่นไส้เต็มที่ ไบรอั้นเลื่อนสายตาขึ้นมองไอติมเอาหน้าผากวางชิดกับหน้าผากเลโอ เปลือกตาปิดลง ริมฝีปากเผยอและส่งเสียงร้องอื้ออ้าแผ่วเบา เลโอแลบลิ้นเลียริมฝีปากของไอติม ร่างผอมบางแลบลิ้นตัวเองออกมาเกลี่ยกับลิ้นของเลโอแบบไม่รู้ทิศทางเพราะสติกำลังเลือนลางกับความเสียววูบวาบช่วงล่าง
‘ฉันจะต้องคิดถึงไอติมมากแน่ๆ’ เลโอว่าเสียงทุ้มแล้วดูดลิ้นไอติมไปหนึ่งที สองมือบีบก้นขาวเนียนอีกรอบจนรอยแดงเพิ่มขึ้น
‘แกก็ทำได้แค่นั้นแหละ’ ไบรอั้นหันกล้องเข้าหาหน้าตัวเองและยิ้มมุมปากด้วยความเหนือกว่า เลโอหันไปเบะปากก่อนหันไปจูบไอติมที่หยุดนิ่งและนอนหอบน้อย ๆ อยู่บนตัวคิงคองหนุ่ม เลโอหอมแก้มไอติมไปที สองมือแหวกก้นไอติมแล้วก็เด้งเอวขึ้นรัว เสียงเนื้อตีกันดังลั่นห้องแข่งกับเสียงทีวีที่เปิดคลอไว้ ไอติมย่นคิ้วและร้องอืออาเสียงเบาหวิว ฟันบนขบริมฝีปากล่างแน่น เลโอขบฟัน ใบหน้าเหยเกเพราะความเสียว
‘หมดเวลาของแกแล้ว’ ไบรอั้นชูโทรศัพท์ให้เลโอมองตัวเลขที่วิ่งอยู่บนหน้าจอ หนุ่มยุโรปหยุดสิ่งที่ตัวเองทำอยู่และกลอกตามองบนพร้อมทำหน้าเซ็ง ไอติมสูดปากเบา ๆ ใบหน้าบิดเบี้ยวเล็กๆ
‘Rabbitch, come here.’ ไบรอั้นหงายมือซ้ายก่อนกระดิกปลายนิ้วทั้งสี่เรียกให้ไอติมมาหาตัวเอง ไอติมค่อย ๆ ลุกขึ้นออกจากแก่นกายของเลโอ โดยมีเลโอมองตามด้วยความเสียดาย ไอติมมองหน้าเลโอแล้วยิ้มอ่อนแรงก่อนคลานเข่าเข้าไปหาไบรอั้นที่ยื่นกล้องให้เลโอรับไป ไอติมตวัดขาซ้ายขึ้นนั่งคร่อมไบรอั้น หนุ่มหัวทองจับแก่นกายที่แข็งพร้อมรบให้ตรงรูที่เปิดเป็นโพรงของไอติมแล้วดันเข้าไป ไอติมกดตัวลงช้า ๆ จนนั่งมิดลำ
‘What is this? (อันนี้อะไร)’ ไบรอั้นมองหน้าไอติมตาวาว มือขวาตบก้นไอติมหลายทีติดกัน ไอติมยิ้มเคลิ้มและขมิบกลีบเนื้อรัดแท่งเนื้อของไบรอั้น
‘My carrot. (แคร็อทของผม)’ ไบรอั้นจูบปากไอติม กระต่ายลามกเปิดปากให้อีกฝ่ายกวาดลิ้นไปรอบโพรงปากตัวเองโดยมีเลโอคอยบันทึกภาพไว้ให้
ไอติมอมยิ้มเขินอยู่หน้าจอแม็คบุ๊ก ขาสองข้างบีบเข้าหากัน ดวงตาสีน้ำตาลมองภาพเคลื่อนไหวบนหน้าจอด้วยความรู้สึกร้อนวูบวาบ แก้มสองข้างแดงปลั่ง เผลอกัดริมฝีปากโดยไม่รู้ตัว หัวใจเต้นตึกตักเมื่อหวนคิดถึงบรรยากาศในวันนั้น ถือว่าเป็นอีกหนึ่งความทรงจำดี ๆ และอีกหนึ่งความทรงจำเด็ด ๆ ของตัวเองในปีนี้
“เฮ้ย โห ไอ้เหี้ย นั่นมึงเหรอน่ะ” ไอติมหันไปมองทางด้านซ้ายมือ หน้าเดนอยู่ห่างจากปลายจมูกของไอติมเพียงนิดเดียว คนตัวขาวขมวดคิ้วแล้วพับหน้าจอแม็คบุ๊กลงครึ่งหนึ่ง
“เสียมารยาท!” ไอติมแว้ดใส่ เดนนี่ดันตัวขึ้นแล้วเดินไปนั่งตรงข้ามกับไอติม ใบหน้าคมเข้มมุ่ยเล็กน้อย
“ถ้าคลิปหลุดขึ้นมามึงจะทำยังไง” ไอติมเบิกตากว้างมองหน้าเพื่อนหนึ่งแวบ
“จะหลุดได้ไง ไฟล์อยู่กับกู ถ้าแม็คบุ๊กพังเดี๋ยวก็ซื้อใหม่เลย ไม่เอาไปซ่อม” ไอติมทำหน้าเหมือนเด็กที่ภูมิใจกับวิธีคิดของตัวเอง
เดนนี่มองอย่างหมั่นไส้ “รวยเหลือเกินนะมึง”
ไอติมทำลอยหน้าลอยตา ดันฝาพับแม็คบุ๊กขึ้นอีกรอบเพื่อจะกดปิดคลิป สายตามองหน้าจอค้างไว้สักแปบแล้วก็ถอนหายใจเบา ๆ ก่อนใช้มือขวาดันหน้าจอให้ปิดลง ริมฝีปากสีแดงยื่นน้อย ๆ แววตาหงอยเหงาแบบที่เดนเคยเห็นมาแล้วเวลาที่มันอยากกินหมูกระทะแล้วเขาขัดมัน
“ไหนว่ามึงตักตวงช่วงเวลานั้นจบก็คือจบ” ไอติมสบตาเดน หน้าตามึน ๆ งงๆ
“ก็จบไปแล้วไง”
“โอ่โห หน้าตามึงอาลัยอาวรณ์ขนาดนี้เนี่ยนะ” ไอติมพ่นลมหายใจออกทางจมูกแรง ๆ และทำหน้าเซ็ง
“ไอ้เดน มึงอาจจะไม่เคยเป็นนะ แต่ว่ากูเป็น กูใจหาย”
“อาการใจหายมันเป็นแค่ช่วงแรกที่จากกันเปล่าวะ มึงกับเขาก็ห่างกันมาเกือบสองอาทิตย์ ใจมึงยังไม่เลิกหายรึไง”
“ใครเป็นคนกำหนดระยะเวลาอาการใจหาย” ไอติมย่นคิ้วทำหน้าสงสัย
“กู” ไอติมเกือบจะอ้าปากหวอ แต่ก็เปลี่ยนเป็นเบะปากแทน
“เดี๋ยววันนี้มึงก็เจอเขาละ ทำอย่างกับมึงจากกันถาวร ไหนจะที่มึงต้องไปทำงานกับเขาอีก” ไอติมทำแก้มพองลม เดนนี่ยื่นมือขวาไปบีบแก้มไอติมจนลมนั้นยุบไป
“ก็เขาไม่ตอบข้อความกูเลยอะ” เดนนี่ขมวดคิ้ว
“มึงแคร์เขาขนาดนั้นเลยรึไง” ไอติมกะพริบตาปริบ ๆ ดวงตาสุกใสดูงง
“ถ้าเราส่งข้อความหาใครสักคนแล้วเขาไม่ตอบเรา แล้วพอเรานึกสงสัยก็คือเราแคร์เขาเหรอ…” ไอติมทำหน้าสงสัยตามที่ปากว่าจริงๆ
“…บางทีกูแค่อาจต้องการคำตอบที่กูถามไปจากเขาก็ได้นี่” เดนนี่ถอนหายใจ
“เอางี้ มึงแคร์เขามั้ย” ไอติมนิ่งคิด ดวงตามองข้างบน ในหัวกำลังประมวลผล ผ่านไปเป็นนาทีได้ ไอติมก็กลับมามองเดนนี่แล้วตอบ
“อาการแคร์มันต้องเป็นยังไง” เดนนี่เผยอริมฝีปากบนขึ้นและกะพริบตาปริบ ๆ กลายเป็นฝ่ายครุ่นคิดบ้าง เพราะเขานึกไม่ออกว่าจะอธิบายสิ่งที่เพื่อนถามว่ายังไง
“เอ่อ… ก็แบบที่มึงเป็นอยู่ละมั้ง คิดถึงเขา รอข้อความจากเขา”
“งั้นกูก็แคร์พี่บุรุษไปรษณีย์แถวบ้านด้วยดิเวลากูสั่งของออนไลน์อะ เพราะกูคิดถึงเขา เฝ้ารอเขาว่าเมื่อไหร่เขาจะมา ยิ่งส่งแบบธรรมดากูยิ่งคิดถึงเลย” เดนนี่เหยียดริมฝีปากเป็นเส้นตรง หนังตาปรือลง ใบหน้าแสดงออกถึงความเหนื่อย และล้มเลิกความตั้งใจที่จะอธิบายอะไรให้มันฟังอีก
“แล้วทำไมมึงไม่ส่งแบบอีเอ็มเอสล่ะ”
“ก็บางร้านค่าส่งมันแพงอะ”
“โอ้ย” เดนนี่รู้สึกเครียด เขามองหน้าไอ้ห่าติมที่ยังคงทำหน้าประมาณว่าอะไรเหรอใส่เขาอยู่เลย
“ไปช่วยกูทำงานมั้ยหรือจะนั่งชมลีลาตัวเองต่อ…” เดนนี่ตัดสินใจเปลี่ยนเรื่องเพราะกลัวตัวเองต้องเปลี่ยนสมองแทนเนื่องจากปวดหัวกับเพื่อนตัวเอง
“…แต่ลีลามึงยังต้องพัฒนาอีกเยอะ อันนี้ช่วยคอมเม้นต์” เดนนี่หัวเราะแบบไม่เสียง ไอติมถลึงตาใส่
“เดี๋ยวกูก็เก่ง!”
“ก็ดี เก่งแล้วก็มาให้กูลอง จะได้ตอบได้ว่าเก่งยัง” ไอติมมองค้อนเดนนี่ไปทีพร้อมสบถคำหยาบเป็นอวัยวะเพศชายใส่เพื่อน ก่อนจะลุกไปช่วยงานในร้านเดนนี่ต่อหลังจากมานั่งหลบมุมเปิดแม็คบุ๊กเช็กงานที่จะส่งให้ลูคัสและเลยเถิดไปย้อนดูคลิปของตัวเองกับสองหนุ่มด้วยความคิดถึง
เลโอยังคงติดต่อกับไอติมในอินสตาแกรม ทั้งทางคอมเม้นต์และข้อความ ตอนนี้พ่อคิงคองหนุ่มสนุกสนานอยู่ที่ลาว อัปรูปลงแอพพลิเคชั่นที่เจ้าตัวเป็นคนแนะนำให้ไอติมได้รู้จัก และเห็นว่าจะปิดทริปที่บาหลีก่อนบินกลับไปยุโรปบ้านเกิดเมืองนอนของตัวเอง และจะมาอเมริกาอีกทีเมื่อไหร่เจ้าตัวก็ยังไม่แน่ใจ แต่ก็ปากหวานว่ามาทันช่วงที่ไอติมยังอยู่ในอเมริกาแน่นอน
“Hello, what do you want?” ไอติมพูดกับฝรั่งผู้ชายผมขาวคนหนึ่งที่หน้านิ่วคิ้วขมวดมองเมนู ไอติมไม่ได้เร่งรัดจะเอาคำตอบทันที ทำเพียงยืนรออยู่ห่าง ๆ จากโต๊ะแบบเงียบเชียบ จนกระทั่งคุณลุงร่างท้วมคนนั้นเงยหน้าขึ้นมองทางเขาและพยักหน้าลงหนึ่งทีเป็นการเรียก
“Could you tell me what is it? How it looks like? (บอกหน่อยได้มั้ยว่านี่อะไร หน้าตามันเป็นยังไง)” ไอติมมองตามนิ้วมือที่ชี้อยู่บนชื่อเมนู ไอติมมองชื่อเมนูนั้นก็เห็นว่าเป็นชื่อแกงป่าของไทยชนิดหนึ่ง ไอติมเหลือบมองรูปที่อยู่ข้างชื่อเมนู และคิดว่าฝรั่งคนนี้คงจะเห็นแล้วแต่คงอยากได้ข้อมูลเพิ่มเติม
“เอ่อ it’s like เอ่อ…” ฝรั่งคนนั้นมองหน้าไอติมและขมวดคิ้ว สีหน้าไม่ค่อยพึงพอใจเท่าไหร่
“You can’t speak English? (พูดภาษาอังกฤษไม่ได้เหรอ)” น้ำเสียงแข็งกระด้างเอ่ยถาม
“Yes, yes. I can speak, a little bit. (ใช่ ใช่ ผมสามารถพูด นิดหน่อย)” ฝรั่งหัวขาวคนนั้นชักสีหน้าจนไอติมหน้าเหวอไปนิด
“Stupid. Call someone could talk to me. I don’t want to speak with a trainee monkey. (โง่จริง เรียกใครสักคนที่สื่อสารกับฉันได้ ฉันไม่อยากคุยกับลิงฝึกหัด)” ไอติมอ้าปากหวอ ไม่ใช่เพราะอึ้งที่โดนด่า แต่เพราะงงว่าโดนด่าว่าอะไร แต่ก็คือเข้าใจว่าตัวเองน่าจะโดนเหวี่ยงอยู่
“เอ่อ… sorry แอม…” ลูกค้าคนนั้นยกมือซ้ายขึ้นเป็นการห้าม และสีหน้าที่ไม่พึงพอใจก็ยิ่งชัดขึ้น
“Do what I said, monkey. Understand? (ทำตามที่ฉันบอกเจ้าลิง เข้าใจมั้ย)” ไอติมย่นคิ้ว และหันไปมองทางเดนที่กำลังเดินมาทางเขาด้วยใบหน้าตึงเรียบและแววตาขึงขัง
“He is not monkey. He is rabbit. (เขาไม่ใช่ลิง เขาเป็นกระต่าย)” ไอติมหันขวับกลับไปมองอีกด้าน รอยยิ้มกว้างปรากฏขึ้นบนใบหน้าแทนที่ด้วยสีหน้ายุ่งเหยิงเมื่อกี้
“ไบรอั้น!” ไอติมมองหน้าอดีตหนุ่มหัวทองที่ตอนนี้เส้นผมเป็นสีน้ำตาลอ่อนด้วยความรู้สึกปะปนกัน ทั้งตะลึง ดีใจ แปลกใจที่อีกฝ่ายมาโผล่ที่ร้าน
“เฮอะเฮยยยย” ไอติมยิ้มร่าส่งเสียงทักทายด้วยคำประหลาด ดวงตาเป็นประกายเจิดจ้า มองใบหน้าของไบรอั้นที่ยังคงหล่อเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือดูละมุนตามสีผม ไอติมกำลังจะพุ่งตัวเข้าไปกอดแต่ก็ชะงักไว้เพราะเพิ่งสังเกตว่าไบรอั้นไม่ได้มาคนเดียว แต่มากับฝรั่งตัวโตอีกหกคน ทุกคนส่งยิ้มให้ไอติม และสองคนกำลังมองหน้าไอติมและยิ้มขำขันอยู่
“ไอ้นี่มันเหยียดเชื้อชาติเจ้าเด็กนี่” ไบรอั้นพูดกับเดนนี่หน้าเรียบเฉย เดนนี่พยักหน้าโดยไม่ได้รู้สึกตกใจใด ๆ เพราะได้ยินอยู่ก่อนแล้ว
“Out, please. (เชิญออกครับ)” เดนนี่พูดอย่างสุภาพแต่น้ำเสียงหนักแน่นพร้อมกับผายมือไปทางประตู ผู้ชายคนที่ว่าไอติมหน้าตึง หันมองพวกไบรอั้นที่มองนิ่งกลับมา ก่อนสลับไปมองเดนนี่ที่ท่าทางเอาจริง ชายร่างท้วมสบถคำหยาบอีกหลายคำในขณะที่ลุกเดินไปทางประตู ไอติมมองตามหลังผู้ชายคนนั้นด้วยสีหน้าไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่แต่ก็ไม่ได้โกรธเกรี้ยวกราด เพราะแปลไม่ออกว่าอีกฝ่ายด่าตัวเองว่าอะไรบ้าง
“หวังว่าจะมีที่นั่งสำหรับคนเจ็ดคนนะ” ไบรอั้นพูดกับเดนนี่ หนุ่มลูกครึ่งพยักหน้าผายมือขวาไปทางโต๊ะตัวใหญ่ตัวหนึ่งในร้านที่อยู่ริมหน้าต่างติดกับถนน ไบรอั้นหันไปพยักหน้ากับเพื่อนที่มาด้วยกัน หกหนุ่มด้านหลังที่มีขนาดไซซ์ตัวบึ้กทุกคนพากันเดินไปโต๊ะที่เดนนี่แนะนำ ไอติมหันไปมองกลุ่มฝรั่งตัวใหญ่ด้วยความตื่นตาตื่นใจ หนึ่งในนั้นที่ผิวขาวเหลืองและมีผมสีดำขลับขยิบตาให้ไอติมตอนนั่งลงบนเก้าอี้ตัวยาว ไอติมคลี่ยิ้มเขินตอบ
“Find another man after ending with Leo, do you? (หาผู้ชายคนใหม่หลังจากจบกับไอ้เลโองั้นเหรอ)” ไอติมหันไปมองคนถามที่ยิ้มบางด้วยความงงเพราะจับใจความไม่ทัน ไบรอั้นขยับยิ้มมากขึ้นอีกนิดเป็นรอยยิ้มขำ
“Lost you go where. You don’t answer my message เลย” ไบรอั้นมองหน้าไอติมด้วยรอยยิ้มขำขันจนไอติมยิ้มตามอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่ขวัญใจไอติมจะคลี่ยิ้มกว้าง และไอติมก็ยิ้มกว้างตาม
“I just found out how much I miss your English grammar. (ฉันเพิ่งรู้ตัวว่าฉันคิดถึงโครงสร้างภาษาอังกฤษของนายแค่ไหน)” ไอติมยิ้ม แม้จะงงแต่ก็ยิ้มตามเคย
“I miss you. (ผมคิดถึงคุณ)” ไอติมพยักหน้าหงึก ๆ ไบรอั้นยิ้ม ดวงตาสีเทาสดใสเหมือนช่วงเวลาที่อยู่ด้วยกันหลังจากเลโอไปลาวแล้ว ไอติมเลื่อนสายตาไปมองรอยสักบนหน้าแขนขวาของไบรอั้นที่เจ้าตัวพับแขนเสื้อเชิ้ตสีขาวขึ้นไปไว้ตรงข้อพับไม่ให้บดบังลวดลายบนแขน ไอติมยิ้มกับรอยสักที่เป็นคนเลือกลายให้ ตอนนี้มันแห้งสนิทและโดดเด่นคมชัดอยู่บนแขนของไบรอั้น
“Beautiful. (สวย)” ไอติมยิ้มกว้าง ก้าวเท้าเดินเข้าไปหาไบรอั้นหนึ่งก้าว มองไบรอั้นด้วยความไม่แน่ใจว่าควรจะวางตัวยังไง ราวกับไม่ได้เจอกันมาเนิ่นนานทั้งที่จริงยังไม่ครบสองอาทิตย์ด้วยซ้ำที่ห่างกัน
“What?” ไบรอั้นย่นคิ้ว หรี่ตามองไอติมด้วยความรู้สึกขำกับท่าทีเหมือนคนเพิ่งรู้จักกันทั้งที่ปกติกระต่ายตัวนี้จะกระโดดพุ่งตัวมากอดเขาแล้ว
“ฮะ?” ไอติมถามด้วยความเหลอหลา สองมือไพ่หลังเอาไว้ มองหน้าไบรอั้นและยิ้มกว้าง ไบรอั้นขำ ยื่นมือขวาไปดึงไอติมเข้ามากอด ไอติมยิ้มแล้วยิ้มอีก สองแขนตวัดรัดร่างใหญ่หนาของไบรอั้นแน่นราวกับเป็นระบบตอบรับอัตโนมัติ
“Would you like to take a walk? (ไปเดินเล่นหน่อยมั้ย)” ไอติมแหงนหน้าขึ้นมองไบรอั้นที่มองไปทางเพื่อนเขาและกำลังพูดอะไรกันสักอย่างจนเพื่อนอีกหกคนของไบรอั้นส่งเสียงตอบรับกลับมา ก่อนตามด้วยเสียงผิวปากและร้องวู้ว ๆ จนไอติมหันไปมองด้วยความงง พอหันไปมองทางเค้าน์เตอร์เดนนี่ก็กวักมือเรียก ไอติมผละออกจากตัวของไบรอั้น เดินไปได้สามก้าวก็ลืมว่าควรจะบอกไบรอั้นสักหน่อยเลยหันไปบอกขวัญใจตัวเองที่ทำหน้างงนิดหน่อย
“Wait.” ไบรอั้นพยักหน้า ไอติมหมุนตัวเดินไปหาเดนนี่ตรงเค้าน์เตอร์
“เขาบอกกับเพื่อนเขาว่าจะชวนมึงไปเดินเล่น มึงไปกับขวัญใจมึงก่อนก็ได้ไป จะได้เลิกทำหน้าเหงาหอย”
“มึงไม่โกรธกูนะ” เดนนี่ย่นคิ้ว
“ทำไม กลัวกูหึงเหรอ”
“แล้วมึงหึงป้ะ” ไอติมยิ้มทะเล้น เดนนี่กลอกตา ยกมือขวาปัดมือเป็นเชิงไล่ ไอติมยิ้มกริ่ม เดินไปหยิบเสื้อกันหนาวมีฮู้ดสีดำมาใส่ หมุนตัววิ่งกลับไปหาไบรอั้นอย่างเร็วก่อนจะพากันเดินออกไปด้านนอกร้าน ออกไปสู่อากาศเย็นสบายอันเป็นเอกลักษณ์อย่างหนึ่งของเมืองซานฟรานฯ
“Where are you?” ไอติมถามหลังจากเดินออกมาข้างนอกร้าน ไอติมหันไปมองรถลางที่แล่นผ่านหน้าไปแล้วคลี่ยิ้มก่อนหันกลับไปมองไบรอั้นตามเดิม
ไบรอั้นที่เข้าใจว่าไอติมจะถามว่าอะไรยิ้มน้อย ๆ ก่อนตอบ “I have a lot of work to do and I have something to make it clear. (ฉันมีงานมากมายที่ต้องทำและฉันมีบางอย่างที่ต้องเคลียร์)”
ไอติมค่อนข้างแน่ใจว่าตัวเองเข้าใจไม่ผิดที่อีกฝ่ายเอ่ยออกมา แต่ก็ถามย้ำอีกทีเพื่อความแน่ใจ “Work?”
“Yes.”
“And clear? Clear what? (และเคลียร์ เคลียร์อะไรเหรอ)” ไบรอั้นที่กำลังเดินมองวิวท่าเรือไกลลิบจากจุดที่ตัวเองอยู่หันมองไอติมแล้วคลี่ยิ้ม
“My freedom. (อิสระของฉัน)” ไอติมต้องนึกอยู่พักนึงว่าคำนี้แปลว่าอะไรเนื่องจากคำศัพท์หลายคำที่พอไม่ได้ใช้บ่อย ๆ ไอติมก็จะลืม
“อ๋อ” ถึงจะร้องอ๋อตอบรับ แต่ไอติมก็ไม่รู้หรอกว่าไบรอั้นกำลังพูดถึงอะไร เข้าใจความหมายของคำศัพท์คำนั้น แต่ไอติมไม่เข้าใจว่าทำไมเขาต้องพูดคำนี้
ไบรอั้นยิ้มขำเพราะรู้ว่าไอติมไม่เข้าใจ ถึงจะทำพยักหน้าแต่สีหน้าเด๋อด๋านั้นคือคำตอบที่ดีกว่า “But it’s failed. (แต่มันไม่สำเร็จ)”
“เฟล?” ไบรอั้นนึกคำอธิบายที่จะอธิบายให้กระต่ายลามกฟัง
“It’s nothing. Nothing happened. (มันไม่มีอะไร ไม่มีอะไรเกิดขึ้น)” ไอติมเดินก้าวเท้าช้า ๆ ปากอ้าหวอเล็กน้อย คิ้วมุ่ยหน่อย ๆ เพราะพยายามทำความเข้าใจกับประโยคของไบรอั้น
“When you try to do something but it’s not success. (เวลาที่นายพยายามทำอะไรบางอย่างแต่มันไม่ประสบความสำเร็จน่ะ)”
“อ๋อออ” ไอติมยิ้มอย่างเข้าใจ พยักหน้าตอบรับรัวเร็วว่าเข้าใจจริง ๆ ก่อนยื่นมือขวาไปจับมือซ้ายของไบรอั้น ฝรั่งตัวโตหันมองหน้าไอติมและยิ้มก่อนจะกุมมือไอติมตอบ
“Where do you live? When you go to L.A. (นายพักที่ไหน ตอนนายไปแอลเอ)” ไอติมเข้าใจกับคำถามนี้และพยายามเรียบเรียงคำตอบในหัว
“Denny brother room. (เดนนี่น้องชายห้องนอน)” ไบรอั้นย่นคิ้วนิดหน่อย พยายามทำความเข้าใจว่านอนห้องใครกันแน่ ดีที่เขารู้ว่าเดนนี่คือเพื่อนสนิทของเจ้าเด็กนี่
“You can go to my house. (นายไปบ้านฉันได้นะ)” ไอติมยิ้ม
“Thank you, but I’m okay. (ขอบคุณ แต่ผมโอเค)”
“No. I meant it. You can stay with me. It’s more convenient for you, I guess. (ไม่ ฉันหมายความตามนั้น นายอยู่กับฉันได้ ฉันว่ามันน่าจะสะดวกกับนาย)” ไอติมทำหน้านึก แปลอยู่ในหัวตัวเองด้วยความไม่มั่นใจ
“Your house is big. (บ้านคุณหลังใหญ่)” ไบรอั้นขำเบาๆ
“Yes. You want to be with me? (ใช่ นายอยากอยู่กับฉันมั้ย)” ไอติมบุ้ยปากไปมาหน้าตาครุ่นคิด ในหัวนึกภาพรูมเมทสามคนนั้นของไบรอั้น
“I don’t like your roommate. (ผมไม่ชอบรูมเมทของคุณ)” แวบแรกไบรอั้นงง แต่ก็แค่แวบสั้น ๆ เท่านั้น เพราะไบรอั้นเข้าใจว่ารูมเมทของเขาที่เด็กลามกบอกนั้นคือใครและมีใครบ้าง
“But you like me. That’s enough. (แต่นายชอบฉัน แค่นั้นก็พอ)” ไอติมกะพริบตาปริบ ไม่ใช่ว่าเขินแต่งง
“อือฮึ” ไบรอั้นหัวเราะเบา ๆ ที่รู้ว่าไอติมงง และตอบรับแบบมึน ๆ งงๆ
“I want you to stay with me. (ฉันอยากให้นายอยู่กับฉัน)” ไอติมมองหน้าไบรอั้นและกะพริบตาปริบ ๆ ก่อนที่จะยกยิ้มขึ้น
“Really? (จริงเหรอ)” ไอติมถามเสียงใสพร้อมกับเอียงหน้า ไบรอั้นพยักหน้าแล้วยิ้มบางเบา
“It’s real. (จริง)” ริมฝีปากสีแดงอ้าขึ้นราวกับกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ก็หุบไว้เพราะสายตาของไอติมมองเห็นสร้อยสีทองคล้องอยู่บนคอของไบรอั้น ไอติมคลี่ยิ้มแบบไม่เห็นฟัน ยื่นมือซ้ายไปแหวกปกเสื้อเชิ้ตสีขาวของไบรอั้นออก
“Wow, little rabbit. (ว้าว กระต่ายน้อย)” ไอติมเงยหน้าขึ้นมองไบรอั้นและยิ้มกว้าง
“No, it’s a rabbitch. (ไม่ใช่ มันคือแรบบิชต่างหาก)” ไอติมยิ้มตาหยี ไบรอั้นยิ้มอ่อนโยน ใบหน้าของเขาดูซอฟต์ขึ้นหลังจากเปลี่ยนสีผมกลับมาเป็นสีเดิม แต่ก็ยังไม่เดิมร้อยเปอร์เซ็นต์ เพราะต้องรอให้สีทองที่ย้อมไปก่อนหน้านี้หายไปจนหมดก่อน
“I’ve got your postcard after come back from Thailand. (ฉันได้โปสการ์ดนายแล้วหลังกลับมาจากไทย)”
“อ๋อ โปสการ์ด okay” ไอติมจำได้ว่าส่งโปสการ์ดจากเกาะสมุยมาให้ไบรอั้นที่บ้านของเขาในแอลเอ
“And I’m already know the meaning of kam-lung-jai. (และฉันก็รู้ความหมายของคำว่า กัม ลัง จัย แล้ว)” หนุ่มเอเชียยิ้มเอ็นดูกับการออกเสียงภาษาไทยของฝรั่ง
“Anthony tell you? (แอนโทนี่บอกคุณ?)” ไบรอั้นยิ้มและพยักหน้าลงหนึ่งที
“Then you should stay close to me, to be my kam-lung-jai. (นายเลยควรอยู่ใกล้ฉัน คอยเป็น แกม แลง จัย ให้ฉัน)” ไอติมมองหน้าไบรอั้นตาแป๋ว และพอไบรอั้นยักคิ้วให้ ไอติมก็รู้สึกว่าหน้าตัวเองร้อนวาบ หัวใจเต้นกระตุกขึ้นมาวูบหนึ่ง และลงท้ายด้วยการยิ้มเขิน
“งุ้ยยย” มือที่ตอนแรกจับไปโดยไม่คิดอะไรกลายเป็นสิ่งที่ยิ่งทำให้ไอติมเขิน เลยดึงมือออกจากมือของไบรอั้นเอาไปไพล่หลังเอาไว้ หนุ่มอเมริกันเห็นท่าทางนั้นก็เลยแกล้งยื่นมือจะไปจับมือของไอติม เด็กมือไวใจกล้าก่อนหน้านี้บิดตัวหนีและซุกมือไว้ด้านหลังแน่น ไม่ยอมให้อีกฝ่ายดึงออกไป ไอติมหัวเราะคิกคักและกระเถิบตัวหนีไบรอั้น
“Where is my pervert boy? (เด็กลามกของฉันหายไปไหนแล้วล่ะ)” ไบรอั้นหยอกในขณะที่ยื่นสองมือไปด้านหลังของไอติมจนเหมือนกำลังพยายามจะกอดกันอยู่พักหนึ่งก่อนจะดึงมือขวาของไอติมออกมาจนได้และใช้มือซ้ายตัวเองจับมือเรียวบางไว้แน่น ไอติมเม้มปากและพยายามกลั้นยิ้มเขิน
“You are shy because I hold your hand. I’m not shy when you hold my cock. (นายเขินเพราะฉันจับมือนาย ทีนายจับจู๋ฉัน ฉันยังไม่เขินเลย)” ไอติมกัดริมฝีปากล่างแล้วขำคิกคัก
“อั้นอ่า…”
“Call me Zach. (เรียกฉันว่าแซ็ค)” ไอติมชะงักนิดหน่อย สีหน้าเปลี่ยนเป็นประหลาดใจและมองไบรอั้นด้วยความไม่แน่ใจ
“Really? (จริงเหรอ)” ไบรอั้นพยักหน้าพร้อมกับยิ้มอ่อน
“Real. (จริง)” ไอติมกะพริบตามึน ๆ งง ๆ ความเขินหายไป แทนที่ด้วยความลังเลใจประหลาด ๆ จนไบรอั้นเองก็ประหลาดใจไปด้วย
“Something wrong? (มีอะไรงั้นเหรอ)”
ไอติมยกมือเกาหัวและทำหน้าเหมือนคนหลงทางอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะคลี่ยิ้มบาง ๆ ตามด้วยพยักหน้าหงึก ๆ ไบรอั้นมองเจ้าเด็กลามกแล้วครุ่นคิดกับท่าทางที่ตรงข้ามกับที่เขาจินตนาการไว้ เสี้ยวหนึ่งของใจของเขามันแป้ว ๆ ฟีบ ๆ กับการที่ไม่ได้เห็นท่าทีที่เขาคิดว่าควรจะเป็น
“It’s fine if you don’t want to stay with me and don’t want to call me Zach. (ไม่เป็นไรนะถ้านายไม่อยากอยู่กับฉันและไม่อยากเรียกฉันว่าแซ็ค)” ไบรอั้นยักไหล่สองข้าง ท่าทางสบาย ๆ ไม่ได้ซีเรียส ไม่ได้น้อยอกน้อยใจหรือรู้สึกโกรธเคืองอะไร แต่ก็มีเสียเซลฟ์บ้างนิดหน่อย เพราะกระต่ายตัวจ้อยดันแสดงออกคนละอย่างกับภาพในหัวของเขา
“Let’s go back to the restaurant. (กลับไปที่ร้านอาหารเถอะ)” ไบรอั้นดึงมือไอติมให้หมุนตัวกลับไปตามทางเดิมพร้อมกับสีหน้าผิดหวังเล็ก ๆ แต่ในขณะที่ก้าวเท้ากันไปได้สักพักเสียงใสเบา ๆ ก็ดังขึ้น
“แซ็ค” สีหน้าของแซ็คเปลี่ยนเป็นยิ้มแย้ม