|:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.48 : How do you feel?.:29.10.19:[END]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: |:.Fall in Lust ประสบกามประสบรัก.:| Ch.48 : How do you feel?.:29.10.19:[END]  (อ่าน 172001 ครั้ง)

ออฟไลน์ คุณเจ้

  • Follow your heart, but take the brain with.
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-8
Fall in lust, Chapter 17 :: Little Rabbit. (กระต่ายตัวน้อย)



   “Okay… nice… lick it… good… follow your feeling…” ลูคัสก้มลงมองกระดาษเอสี่ในมือที่บนนั้นมีสคริปต์ยาวเกือบครึ่งหน้าพิมพ์ไว้อยู่ เขาเงียบและปล่อยให้นักแสดงหนุ่มผมแดงอ่อนหยิกเป็นลอนบาง ๆ เล่นไปตามอารมณ์ที่บรีฟกันมาคร่าว ๆ และปล่อยให้ดัสตินตากล้องคนเก่งของทีมเก็บภาพในมุมอย่างที่ควรเก็บตามที่ลิสต์มาในกระดาษด้วยเช่นกัน
   

“อ้า… อ่า…” เสียงครางใหญ่ดังแหบพร่าเบา ๆ พร้อมกับที่นักแสดงหนุ่มคนนั้นปลดปล่อยออกมาเต็มหน้าท้องปนไปกับไอศกรีมสีขาวที่ทาตัวเอาไว้  ลูคัสมองจากหน้าจอมอนิเตอร์ก็พยักหน้าด้วยความพอใจกับภาพที่ออกมานั้นดูจะตรงกับสคริปต์ที่ครีเอทีฟคนใหม่ของเขาเขียนมาให้
   

“Keep recording, Dustin.” ลูคัสมองที่หน้าจอมอนิเตอร์ นับวินาทีอยู่ในใจจนถึงจังหวะที่คิดว่าเหมาะสมแล้วก็สั่งให้ดัสตินถอยออกมาตั้งกล้องกับขาตั้งกล้อง นักแสดงหนุ่มที่ไอติมเลือกมานั่งอ้าขาอยู่บนเค้าน์เตอร์ครัว โดยที่ตามตัวยังเหนียวเหนอะไปด้วยไอศกรีมรสนมผสมน้ำขาวขุ่นข้นของเจ้าตัว
   

“What’s your name?”


“Castrol.” หนุ่มหัวนมชมพูตัดกับผิวขาวนวลเนียนตอบเสียงหล่อและยิ้มหล่อไม่แพ้เสียง ดวงตาสีดำจ้องมองกล้องราวกับกำลังจ้องตาใครสักคน


“How old are you now?... Where did you come from?...” ลูคัสถามเสียงราบเรียบและเว้นจังหวะให้อีกฝ่ายตอบ บรรยากาศการถามตอบเป็นไปอย่างสบาย ๆ เพราะลูคัสไม่ต้องการให้นักแสดงเคร่งเครียด หรือตอบด้วยความจริงจัง ครีเอทีฟของเขาบอกว่าถ้าบรรยากาศกดดันอาจทำให้ไปกดเสน่ห์ในตัวของผู้ชายคนนี้ ฉะนั้นเลยต้องทำให้ตัวนักแสดงรีแล็กซ์และตอบเหมือนกำลังคุยเล่นกับเพื่อน แบบนั้นจะทำให้กลุ่มเพศที่สามตกหลุมรักเขา
    

อันที่จริงครีเอทีฟมือใหม่ก็อยากมาทำงานวันนี้ด้วย แต่เพราะอยู่คนละประเทศและถ้ารอกันไปมาก็จะเสียเวลา เขาเลยบอกให้เซ็กซ์ครีเอฟทีฟของเขารับผิดชอบงานอีกชิ้นที่เขาสั่งให้ทำไปก็แล้วกัน ยังไงก็รวมอยู่ในชิ้นงานทั้งหมดที่ต้องส่งเป็นงานแรกเพื่อพิจารณาการทดลองงานอยู่แล้ว
   

“Good job.” หลังจากจบบทสนทนา ลูคัสก็ยกนิ้วโป้งทั้งสองข้างขึ้น หนุ่มหัวสีแดงอ่อนไถลก้นลงจากเค้าน์เตอร์ครัวลงมายืนบนพื้นและคลี่ยิ้มบางเบา ดัสตินโยนผ้าขนหนูให้หนุ่มผิวขาวเนียนไปเช็ดตัว
   

“And what’s next? Waiting? (แล้วยังไงต่อครับ รอเหรอ)” ว่าที่นักแสดงหน้าใหม่ถามพลางเช็ดลำตัวจนความเหนียวเหนอะหนะหายไปจากกล้ามท้องเป็นบล็อกชัดเจน แต่ไม่ใช่กล้ามท้องแบบแข็งกระด้างติดกระดูก เป็นกล้ามท้องเนื้อนูนเนียนละมุนตา
   

“Yep, we have to wait the feedback from audience. But I think you gonna slay them all. (ใช่ เราต้องรอฟีดแบ็คกลับมาจากคนดู แต่ฉันคิดว่านายจะได้ใจพวกเขานะ)” ลูคัสยิ้มให้กำลังใจ หนุ่มผิวขาวใบหน้ามีกระจาง ๆ ยิ้มรับและพยักหน้าหนึ่งครั้ง
   

“I hope so. (ผมก็หวังงั้นนะ)”
   

“You could go to take a shower if you want. (นายอาบน้ำได้นะถ้าอยากอาบ)” ดัสตินว่าพลางชี้ไปที่ประตูห้องน้ำ นักแสดงหนุ่มหน้าใหม่พยักหน้าและเดินพันผ้าขนหนูไปทางห้องน้ำตามที่ดัสตินชี้ไป ตากล้องหนุ่มเดินไปดึงกล้องออกจากขาตั้งกล้อง
   

“ทำไมหมอนี่ได้มาเล่นหนังเกย์ล่ะ”
   

“ไอศกรีมบอกแบบนั้น” ดัสตินยิ้มขำพลางเก็บขาตั้งกล้องและเอาไปวางไว้บนเค้าน์เตอร์ครัวคู่กับกล้อง
   

“แล้วหมอนี่ก็ดันว่าง่ายซะด้วย” ดัสตินนั่งลงบนขอบโต๊ะ
   

“ค่าตัวถูกใจ กับเป็นไบเซ็กซ์ชวลอยู่แล้ว” ดัสตินทำหน้าว่าอ้อด้วยความเข้าใจ ลูคัสยักไหล่ซ้ายและก้มหน้าลงไปจดโน้ตลงบนกระดาษสคริปต์
   

“เด็กคนนั้นบอกให้ฉันไปเล่นหนังโป๊ แต่ระบุว่าให้ไปเล่นหนังโป๊เกย์ซะงั้น” ลูคัสเงยหน้าขึ้นยิ้มขำกับดัสติน
   

“แล้วนายตอบไอศกรีมไปว่าไง” ดัสตินยักไหล่สองข้างและเบะปากเล็กๆ
   

“ฉันบอกว่าฉันจะยอมเล่นถ้าหมอนั่นเล่นกับฉัน” อดีตพระเอกหนังโป๊หัวเราะร่วน
   

“ป่านนี้เล่นกับไอ้ไบรอั้นสนุกใหญ่แล้ว”
   

“ไอ้ไบรอั้นยอมเล่นด้วยงั้นเหรอ” ดัสตินถามด้วยความอยากรู้ แต่สีหน้าที่แสดงออกมานั้นแสนจะราบเรียบ 
   

“เท่าที่รู้ก็ยอมเยอะอยู่นะ” ดัสตินเบ้ปากหนึ่งที
   

“แปลกดี” ลูคัสยกขาขวาขึ้นวางบนหน้าตักซ้าย วางศอกขวาบนที่วางแขนของเก้าอี้ไม้
   

“ไม่แปลกหรอก” หนุ่มกล้ามโตยักคิ้วหนึ่งที ดัสตินหรี่ตามอง
   

“พูดเหมือนรู้อะไร…” ลูคัสคลี่ยิ้มด้วยความขบขัน ดัสตินมองเพื่อนต่างวัยอย่างจับผิด
   

“…รู้อะไรมาแน่ๆ” อดีตพระเอกหนังผู้ใหญ่ทำหน้าเหลอหลาแต่ก็ยังรู้สึกขำอยู่
   

“เปล่าเลย ฉันก็รู้เท่าที่นายรู้นั่นแหละ”
   

“นายรู้เหรอว่าฉันรู้อะไร” ลูคัสส่ายหัวและหัวเราะเบาๆ
   

“ไม่อะ” ดัสตินส่ายหน้าด้วยความหน่ายเล็ก ๆ ก่อนหันหน้าไปมองบุคคลใหม่ที่เพิ่งเดินเข้ามาในบ้าน
   

“เพิ่งถ่ายเสร็จ?” เจค็อบถามทั้งสองคนในขณะที่เดินเข้าไปหาน้ำดื่มจากตู้เย็น
   

“ใช่ เขาไปล้างตัวอยู่” เจค็อบที่หยิบน้ำเปล่าออกมาเทใส่แก้วหันมองอีกสองคน
   

“เด็กคนนั้นมีอะไรให้น่าเชื่อถือนัก” เจค็อบวางเหยือกน้ำไว้บนโต๊ะในครัวและยักคิ้วไปทางลูคัสพลางยกแก้วน้ำขึ้นดื่ม
   

“เด็กมันมีของนี่”
   

“แต่คนก่อนที่เด็กคนนั้นเลือกมา…” เจค็อบเบะปากยักไหล่ขวา ทำหน้าเหมือนกำลังกินของขม ผู้ชายคนนั้นเป็นอีกคนที่เด็กคนนั้นจิ้มเลือกเอาไว้ วันก่อนลองมาเข้าฉากกับนักแสดงหญิงคนหนึ่งในค่ายไปแล้ว แต่แสดงออกมาได้แย่มาก ไม่เห็นจะมีอะไรให้ตื่นตาตื่นใจเหมือนที่เด็กนั่นคิด
   

“…ฉันว่าเด็กคนนี้แค่เลือกตามสเป็กที่ตัวเองชอบ ซึ่งไม่ใช่ทุกคนที่ชอบเหมือนเด็กคนนี้”
   

“ทุกคนก็ไม่ได้ชอบนักแสดงของเราหมดทุกคนหรอกนะเจค” เจ้าของค่ายหนังทำหน้าหน่ายให้ลูคัสที่ยิ้มบาง เขาวางแก้วน้ำลงบนโต๊ะ ก่อนที่สายตาจะถูกร่างสูงขาวล่ำที่ผมเปียกแค่ด้านหน้าดึงให้หันไปมอง
   

“Hi.” หนุ่มหัวแดงอ่อนทักทายเจค็อบและส่งยิ้มให้ หนุ่มสูงวัยแต่ยังดูดีพยักหน้าให้หนึ่งที ก่อนหันกลับไปมองลูคัสต่อ
   

“ผลจะเป็นยังไง รอดูฟีดแบ็คจากคนดูก่อนก็แล้วกันน่า…” ลูคัสหยุดมองว่าที่ดาวดวงใหม่ของค่ายเดินไปตรงประตูห้องทำงานของเจค็อบ ก่อนหายเข้าไปด้านใน
   

“…และก็รอดูด้วยว่างานที่ทำกับไบรอั้นจะออกมาเป็นยังไง” เจค็อบใช้นิ้วชี้ขวาดันแว่น ใบหน้ายังคงไร้อารมณ์ตั้งแต่เดินเข้ามา
   

“เห็นว่ามันสนุกกับเด็กคนนั้นน่าดู คงทำออกมาได้ดีแหละ” ดัสตินเสริม ลูคัสเหล่ตามองเพื่อนและอมยิ้มน้อย ๆ เจค็อบกระตุกยิ้มเย็นหนึ่งที
   

“ก็สนุกให้เต็มที่ กลับมาจะได้ลุยงานได้เต็มที่เช่นกัน” เจค็อบล้วงโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋ากางเกง กดคลิกเข้าแอพพลิเคชั่นที่ต้องการก่อนจะยื่นให้ดัสตินและชี้ไปที่ลูคัสเป็นเชิงบอกว่าให้ส่งต่อ โปรดิวเซอร์หนุ่มรับโทรศัพท์มาไว้ในมือ ก้มมองดูแล้วก็เงยหน้าขึ้นมองเจค็อบด้วยสายตาตะลึงนิดหน่อย
   

“เดี๋ยวก่อนนะ” เจค็อบเดินเข้ามาคว้าโทรศัพท์ไปจากมือลูคัสก่อนจะเดินไปทางห้องทำงานของตัวเอง ลูคัสพ่นลมหายใจแล้วหันใบหน้าตึง ๆ ไปมองดัสตินที่กำลังทำหน้างงๆ
   

“อะไรล่ะ” ลูคัสพ่นลมหายใจอีกที
   

“เราน่าจะมีทางช่วยไอ้ไบรอั้นมันนะ” ดัสตินค่อย ๆ ขยับเปลือกตาให้กว้างขึ้นแล้วก็แกล้งมองหน้าลูคัสแบบตาค้าง ๆ ไว้อย่างนั้น ลูคัสวางเท้าขวาลงบนพื้นและลุกขึ้นยืนเต็มความสูง
   

“จะช่วยยังไง” ดัสตินขยับมุมปากทั้งสองข้างขึ้นเป็นรอยยิ้มสั้น ๆ แล้วก็หุบลงพร้อมกับปรือตามองเพื่อนตัวยักษ์ที่พ่นลมหายใจอีกหนึ่งที
   

“เริ่มจากตัวมันเล่ารายละเอียดก่อนเลย” ดัสตินยักคิ้วและทำหน้าว่าแหงล่ะ
   

“ให้มันพักผ่อนก่อนแล้วกัน ได้มีพื้นที่ส่วนตัวเพิ่มขึ้นบ้างมันอาจจะง้างปากเล่าอะไรเพิ่ม”
   

ลูคัสโยกหัวไปมาและทำหน้าเซ็ง หันไปมองทางประตูห้องทำงานของเจค็อบ ยกนิ้วชี้ด้านซ้ายชี้ไปทางห้องนั้นก่อนหันไปมองดัสตินที่พยักหน้ารับทันที “ฟีดแบ็คหมอนั่นน่าจะดี”



   เสียงคลื่นทะเลหายไป แทนที่ด้วยเสียงฝนตกพรำ ๆ ที่มาพร้อมกับบรรยากาศอึมครึมของท้องฟ้าในยามบ่ายที่จริง ๆ แล้วมันควรจะส่องประกายด้วยแสงแดดจ้า แต่กลายเป็นว่าตั้งแต่มาถึงและจนตื่นนอน ไอติมก็สาปแช่งฝนในใจไปไม่รู้กี่ครั้ง ถึงขั้นไปถามพนักงานโรงแรมให้หายข้องใจว่าฝนมันจะหยุดช่วงไหน และฝนจะตกทุกวันหรือเปล่า คำตอบที่ได้รับกลับมาก็คือคาดเดาอะไรไม่ได้กับฝน
   

ไอติมนั่งลงบนระเบียงไม้หน้าห้อง แขนขวายกกอดเสาปูนสีแดงเลือดหมู นั่งมองผ่านม่านฝนไปที่ผืนทะเลที่ยุบเป็นหลุมตะปุ่มตะป่ำเป็นวงกว้างเพราะโดนเม็ดฝนตกลงใส่ ไอติมถอนหายใจหน้าเซ็ง ส่งกำลังใจให้เจ้าลำแสงของแดดที่กำลังพยายามสู้กับความครึ้มบนท้องฟ้าอยู่ นึกถึงส่วนลดทั้งหลายที่น้าแพนให้มาว่าทำไมได้มาเยอะจังก็ไม่แปลกใจ เพราะช่วงนี้มันเป็นช่วงโลว์ซีซั่นของที่นี่ ดันคิดเอาเองว่าปลายปีไม่มีฝนแล้ว แต่ลืมคิดไปว่าที่นี่เป็นเกาะ สุดท้ายก็ต้องมาติดแหง็กแบบนี้
   

“Are you going to make love with that pole? (จะเมคเลิฟกับเสาต้นนั้นเหรอ)” ไอติมหันหน้าไปมองไบรอั้นในสภาพเปลือยท่อนบน ท่อนล่างใส่กางเกงผ้าร่มสีดำขาสั้น ผมสีทองยุ่งนิดหน่อยและใบหน้าก็เพิ่งจะตื่น
   

“Make love?” ไบรอั้นนั่งลงบนเก้าอี้ไม้ที่คล้ายเตียงอาบแดด ยกสองแขนขึ้นวางบนขอบพนักพิงด้านบน
   

“I did not ask you to make love with me. (ฉันไม่ได้ขอให้นายเมคเลิฟกับฉันนะ)” ต้องรีบดักเอาไว้ก่อน ไอ้เด็กนี่ยิ่งชอบตีความแบบที่ตัวเองได้ประโยชน์เต็ม ๆ เสมอ
   

“Make love with you, okay.” ไอติมยิ้มคิกคัก ไบรอั้นมองไอติมตาปรือ เด็กลามกลุกจากระเบียงไปนั่งลงบนตักฝรั่งตัวโต ไอติมเอนหัวลงนอนบนไหล่ขวาของร่างหนา
   

“I’m sorry. It’s rain. (ผมขอโทษ มันฝน)” ไบรอั้นเข้าใจว่าอีกฝ่ายอยากจะสื่ออะไร เขามองท้องฟ้าครึ้มที่ตอนนี้มีแสงแดดพยายามส่องแสงลอดออกมาจากก้อนเมฆสีทึบ
   

“It’s not your fault. We can’t control the nature. (ไม่ใช่ความผิดนายสักหน่อย เราควบคุมธรรมชาติได้ที่ไหนล่ะ)”
   

“I’m hungry. (ผมหิว)” ไบรอั้นหัวเราะหึเบา ๆ ปล่อยให้ไอติมพลิกตัวนอนหงายทับตัวเขา และขยับขมับเข้ามาชิดกับกรอบหน้าเขาไว้
   

“Sunshine is coming. It’s going to end soon. (แสงอาทิตย์เริ่มมาแล้ว เดี๋ยวฝนก็หยุดตก)” ไบรอั้นยกมือขวาชี้ไปที่ท้องฟ้า ไอติมมองลำแสงจาง ๆ ท่ามกลางสีหมองหม่นของท้องฟ้า
   

“Sky after rain is always beautiful. (ฟ้าหลังฝนคือสดใสเสมอ)” ไบรอั้นเลื่อนสายตามองใบหน้าเรียวสวยที่กำลังยิ้มละมุน แววตาสีน้ำตาลอ่อนสดใสยามมองท้องฟ้ามืดครึ้มอันนั้น
   

“Every cloud has a silver lining. (ฟ้าหลังฝนย่อมสดใสเสมอ)” ไบรอั้นว่าเสียงทุ้ม แปลประโยคของไอติมให้เป็นสำนวนที่ถูกต้องอีกที ดวงตาสีเทาอ่อนมองแสงแดดที่ลอดผ่านออกมาจากก้อนเมฆสีทึบด้วยความรู้สึกเบาสบาย
   

“อือฮึ” ริมฝีปากของหนุ่มหัวทองขยับตรงมุมปากเล็กน้อยเป็นรอยยิ้มขำอ่อน ๆ กับการตอบรับของเจ้าเด็กลามกที่ไม่รู้ว่าเข้าใจจริง ๆ หรือเปล่า เขาเอาสองแขนลงจากขอบพนักพิงของเก้าอี้ วางไว้บนตัวของไอติม โดยที่เจ้าตัวก็ยกสองแขนขึ้นมาวางบนแขนเขาอีกที
   

‘I don’t believe or not believe I just feel love is very good power. (ผมไม่ได้เชื่อหรือไม่เชื่อ ผมแค่รู้สึกว่าความรักเป็นพลังงานที่ดีมากๆ)’
   

“How can you still admire love after what was happening to you? About your father and mother. (นายชื่นชมความรักอยู่ได้ยังไง หลังจากเกิดเรื่องนั้นกับนาย เรื่องพ่อกับแม่นายน่ะ)” ไอติมยื่นมือมือซ้ายไปวางบนฝ่ามือด้านขวาของไบรอั้น สอดนิ้วตัวเองลงไปในซอกนิ้วมือและกุมเอาไว้ เจ้าของมือวางมือนิ่งให้เด็กมันเล่นตามใจ
   

“Love don’t wrong. It’s human who hurt human. Love don’t move. (รักไม่ผิด เป็นคนนั่นแหละที่ทำร้ายคนด้วยกันเอง รักไม่ได้เคลื่อนที่)” ไบรอั้นหัวเราะเบา ๆ กับประโยคสุดท้าย
   

“Love does nothing. It’s human who does. (รักไม่ได้ทำอะไร มนุษย์ต่างหากที่ทำ)” เขาแปลงความหมายของประโยคสุดท้ายอีกที ไอติมยิ้มคิกคัก
   

“You are my dictionary. (คุณเป็นพจนานุกรมของผม)” ไบรอั้นยักคิ้ว ไอติมยื่นหน้าไปหอมสันกรามของฝรั่งตัวโตหนึ่งที
   

“I have many strange words from you in my head. (ฉันมีคำแปลก ๆ จากนายในหัวเยอะแยะไปหมด)” ไบรอั้นมองลำแสงของแดดที่ตอนนี้เริ่มฉายความสว่างมากขึ้นอีกนิด แต่ยังไงก็ยังสู้ความมืดทึบของก้อนเมฆไม่ได้ แต่อย่างน้อยก็ยังพอเห็นแสงสว่างรำไรอยู่ในความมืดนั้น
   

“And you ล่ะ You believe in love? (แล้วคุณล่ะ เชื่อในความรักมั้ย)” ไบรอั้นมองม่านฝนที่ตกพรำ ๆ หูฟังเสียงเม็ดฝนกระทบกับหลังคาห้องพักของพวกเขาที่อยู่ชั้นสอง ต้นมะพร้าวที่สูงเลยหลังคาห้องพักเอนไหวไปตามแรงลมอ่อนๆ
   

“We are about to getting divorce. (เรากำลังจะหย่ากัน)”
   

ภาพความทรงจำในอดีตแล่นเข้ามาในหัวและจอดแช่ไว้อย่างนั้นระยะหนึ่งให้ไบรอั้นนิ่งคิด ไอติมแหงนหน้ามองใบหน้าที่กำลังตกอยู่ในภวังค์ตาแป๋ว ผ่านไปได้เป็นนาที หนุ่มหัวทองก็กะพริบตาก่อนตอบเสียงเบา
   

“I used to, (ฉันเคยเชื่อ)” ไบรอั้นกระตุกยิ้มมุมปากทั้งสองข้างขึ้นนิดหนึ่งแบบสั้น ๆ ก่อนจะมีสีหน้าราบเรียบตามเดิม
   

“But now I’m not. (แต่ตอนนี้ไม่แล้ว)” ไบรอั้นเลื่อนสายตามองหน้าไอติมที่กำลังย่นคิ้ว
   

“Why? (ทำไมล่ะ)”
   

“Because I used to. (เพราะฉันเคยเชื่อยังไงล่ะ)”
   

“เอ๊า” ไอติมงง ไบรอั้นคลี่ยิ้มและหัวเราะเสียงทุ้ม เจ้าเด็กลามกทำหน้าไม่เข้าใจ ไม่รู้ว่าไม่เข้าใจเพราะแปลไม่ได้ หรือไม่เข้าใจกับคำตอบที่เขาตอบ
   

“Love has its own expiration date, (รักมันมีวันหมดอายุของมัน)” เด็กลามกยังคงทำหน้าไม่เข้าใจ ไบรอั้นเลิกคิ้วขึ้นและพยายามนึกคำอธิบายเพิ่มเติม
   

“When you buy some milk, you will see the date on the box. It will tell you to drink before you can’t drink it. (เวลาที่นายซื้อนม นายจะเห็นวันที่เขียนไว้บนกล่อง มันจะบอกว่านายควรดื่ม ก่อนที่จะดื่มไม่ได้)” ไอติมนึกตามประโยคของไบรอั้น นึกภาพกล่องนมอย่างที่เขาว่าในหัว จับใจความและตีความอยู่พักนึงก่อนจะร้องอ๋อและพยักหน้าด้วยความเข้าใจ ไบรอั้นทำหน้าโล่งใจที่เด็กมือไวเข้าใจสิ่งที่เขาพยายามบอก
   

“It call บูด เอ่อ what you call บูด in English เออ forget it.” เมื่ออธิบายไม่ได้สักที ไอติมเลยเลือกจะเลิกพยายามอธิบาย เป็นอันว่าเขาเข้าใจในสิ่งที่ไบรอั้นพยายามจะบอก แม้อาจจะแปลเป็นว่ารักมันมีวันบูดไปแล้วก็เถอะ
   

ไบรอั้นหัวเราะแบบไม่มีเสียง มองใบหน้ายุ่งเหยิงของเด็กลามกด้วยความขบขัน คงอยากลุกไปหยิบโทรศัพท์มาเปิดคำศัพท์น่าดู แต่เพราะนอนกำลังสบายได้ที่เลยขี้เกียจแล้ว “Yes, love could be rotten. (ใช่ รักมันบูดได้)”
   

“I believe in lust, (ผมเชื่อในราคะ)” ไอติมตอบเสียงแจ้ว หน้าซื่อตาใส ไบรอั้นหัวเราะเสียงเบาแต่ก็ทำเอาไหล่สั่น ไอติมยิ้มตาหยี
   

“Because it real than love. (มันจริงยิ่งกว่ารัก)”
   

“Yeah, you can see it when your dick is hard. (ใช่ นายมองเห็นมันได้ตอนที่จู๋นายแข็ง)” ไอติมยกมือขวาขึ้นป้องปากและหัวเราะคิ ๆ ฝรั่งหัวทองยิ้มขบขัน นิ้วมือขวายกขึ้นกุมมือซ้ายของเด็กลามกที่สอดซอกนิ้วเขาอยู่ ไอติมไถหัวอ้อนคนตัวโตและหันกลับไปมองท้องฟ้าที่ตอนนี้ฝนเริ่มบางตาลงกว่าเดิม 
   

ไบรอั้นขยับแขนซ้ายขึ้นวางบนหน้าท้องของไอติม เอียงหน้าเข้ากับขมับของร่างเล็ก สายตามองท้องฟ้าที่ลำแสงของแดดมีขนาดใหญ่ขึ้นกว่าเดิม แม้สีลำแสงจะยังจาง แต่มันก็ค่อย ๆ ส่องความสว่างทะลุความมืดนั้น
   

“Hey,” เลโอที่ตื่นมาเข้าห้องน้ำชะงักเท้าตรงกรอบประตูและมองภาพตรงระเบียงด้วยความรู้สึกง่วง ๆ งงๆ
   

เพื่อนร่วมทริปอีกสองคนกำลังนอนหลับอยู่ตรงระเบียงห้อง เจ้าถิ่นนอนทับเพื่อนเขา และเพื่อนเขาก็เอาแขนขึ้นทับคนข้างบนตัวเองอีกที เลโอเลื่อนสายตาไปมองบรรยากาศฝนพรำ กะจะรอให้ฝนหยุดแล้วค่อยชวนสองคนนั้นออกไปหาอะไรกิน เขาเดินกลับไปนอนที่เตียงใหญ่ตามเดิม หยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดเล่นฆ่าเวลาไปเรื่อย

V
v
v


   
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18-02-2019 01:30:31 โดย ขุ่นเจ้ »

ออฟไลน์ คุณเจ้

  • Follow your heart, but take the brain with.
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-8
V
v
v
   
ตอนที่พระอาทิตย์แทบจะลับหายไปจากท้องฟ้า ช่วงเวลานั้นฝนถึงหยุดตก แต่ก็ยังไม่ทิ้งคอนเซ็ปต์เมฆสีเทาให้ลอยเอื่อยอยู่บนท้องฟ้า ไอติมเข้าไปอาบน้ำก่อนคนแรกโดยที่ไบรอั้นแอบแปลกใจกับความรีบร้อนนั้น เพราะปกติเจ้าเด็กลามกจะไม่พลาดหาช่องทางลวนลามเขาด้วยการอาบน้ำด้วยกัน
   

“Going somewhere? (ไปไหนเนี่ย)” ไอติมหยิบกล้องถ่ายรูปสีดำออกมาจากกระเป๋าขึ้นมาคล้องคอ หยิบโทรศัพท์ใส่กระเป๋ากางเกงขาสั้นสีน้ำเงินลายดอกชบาสีขาว
   

“Scout location. (สเก๊าท์โลเคชั่น)” ไบรอั้นเลิกคิ้วขึ้นและหันไปมองวิวข้างนอกห้องผ่านกระจกสี่เหลี่ยมผืนผ้าบานใหญ่ที่เปิดม่านโชว์วิวทะเลสีครามเข้มด้านนอกหลังฝนตกที่ตอนนี้บรรยากาศเริ่มเป็นสีฟ้าหม่นเพราะจะมืดแล้ว
   

“Now? (ตอนนี้เนี่ยนะ)” ไอติมที่เตรียมตัวเรียบร้อยพยักหน้า
   

“It still has light little to see. (มันยังมีแสงน้อยให้เห็น)” ว่าจบก็รีบเดินออกไปจากห้องพักทันที ไบรอั้นหันกลับมาดึงเสื้อผ้าออกจากกระเป๋า เพื่อเตรียมอาบน้ำ เสียงเปิดประตูห้องน้ำดังขึ้น เลโอที่เดินเปลือยกายออกมาและกำลังใช้ผ้าขนหนูเช็ดตามตัวมองไปรอบห้อง
   

“ไอศกรีมไปไหนแล้วล่ะ”
   

“ไปสำรวจพื้นที่” เลโอพยักหน้าเข้าใจและเดินไปนั่งโซฟาตัวยาว หยิบเสื้อผ้าออกมาจากกระเป๋าเป้มาวางไว้ข้างตัว หนุ่มหัวทองถอดกางเกง ทั้งกางเกงชั้นในและกางเกงขาสั้นออกลงไปกองบนพื้น หยิบผ้าขนหนูขึ้นมาจากเตียงแล้วจะเดินเข้าไปในห้องน้ำ แต่ก็ชะงักไว้แปบหนึ่ง
   

“เราต้องไปถามเรื่องเช่ารถมอเตอร์ไซค์ใช่มั้ย” เลโอพยักหน้า
   

“ไอศกรีมติดต่อไว้แล้ว เดี๋ยวฉันลงไปรับกุญแจและเช็กสภาพรถให้แล้วกัน” ไบรอั้นพยักหน้าแล้วเดินหายเข้าไปในห้องน้ำ เลโอหยิบเสื้อกล้ามสีขาวลายรถตุ๊ก ๆ ของประเทศไทยขึ้นมาสวมทับตัว ตามด้วยหยิบกางเกงชั้นในกับกางเกงขาสั้นขึ้นมาพร้อมกับลุกขึ้นยืนเพื่อใส่ พอเสร็จเรียบร้อยก็กางผ้าขนหนูไว้บนโซฟาแล้วเดินออกไปจากห้องพักพร้อมกับดึงประตูปิดตามหลัง
   

ไบรอั้นใช้เวลาสิบกว่านาทีในการอาบน้ำ เขาเช็ดตัวจนแห้งหมาด ๆ โทรศัพท์เขาดังพอดีตอนที่ออกมาจากห้องน้ำ  เขาหยิบขึ้นมาดูก็เห็นว่าเป็นสายโทรเข้าผ่านวอทสแอพ แต่พอเห็นว่าเป็นใครก็หน้าตึงนิด ๆ และพ่นลมหายใจเบาๆ
   

“ฮัลโหล”
   

[ไม่คิดจะโทรหากันหน่อยเหรอ]
   

“ว่าตรง ๆ ก็ไม่อยาก” ปลายสายร้องหึ และขำในลำคอแผ่วเบา
   

[คงสนุกน่าดูเลยสิ] ไบรอั้นนั่งลงบนเตียง ใบหน้านิ่งคิดครู่หนึ่ง
   

“สนุกดี” เขาไม่ได้ตอบประชด ตอบตามความเป็นจริงที่เขาคิดและรู้สึก
   

[เธอรู้ขอบเขตตัวเองดีนะแซ็ค] เจ้าของชื่อขบกรามเบา ๆ จังหวะนั้นประตูห้องพักเขาเปิดออกและร่างของไอติมก็เดินเข้ามาพร้อมกับรอยยิ้มเหมือนเด็ก
   

“ฟินิชชช โอ้ ซอรี่ๆ” ไอติมตาโตด้วยความตกใจที่เห็นว่าไบรอั้นกำลังคุยโทรศัพท์อยู่ เด็กลามกเลยปิดปากเงียบ ถอดสายคล้องกล้องออกจากคอ เอากล้องไปวางไว้บนเตียงฝั่งที่กระเป๋าเป้ตัวเองวางอยู่บนนั้น
   

“แค่นี้แล้วกัน ฉันกำลังจะไปกินข้าว” ปลายสายที่ไบรอั้นคุยด้วยกดวางสายให้เองโดยที่เขาไม่ต้องตัดสายหนี หนุ่มหัวทองพ่นลมหายใจแผ่วเบา หันไปมองอีกคนที่กำลังนั่งเช็กรูปจากกล้อง
   

“I’m finished, too. (ฉันก็เสร็จแล้วเหมือนกัน)” ไอติมหันมองฝรั่งหัวทองและยิ้มเหลอหลา ลุกขึ้นเดินไปนั่งข้างฝรั่ง ยื่นหน้าจอกล้องให้ดูรูปชายหาดมุมหนึ่ง
   

“This is very good place. I hope it will not rain after back from island tour. (ตรงนี้ที่ดีมาก ๆ ผมหวังว่ามันจะไม่ฝนหลังจากกลับจากทัวร์เกาะ)” ไบรอั้นพยักหน้า ไอติมกดปิดกล้อง วางไว้ข้างกระเป๋าเป้ตัวเองแล้วหันกลับมามองหนุ่มหัวทอง ไอติมก้มลงมองกลางลำตัวของไบรอั้นแล้วก็เงยหน้าขึ้นยิ้มตาหวานให้กับอีกคน ฝรั่งหัวทองกลอกตามองบน ไอติมหัวเราะคิก
   

“Your eyes. (ตานายนี่นะ)” ไบรอั้นว่าคล้ายหน่ายใจ แต่ไม่ได้รู้สึกหน่ายอย่างที่สีหน้าและน้ำเสียงแสดงออก แค่กัดเด็กมันนิด ๆ หน่อยๆ
   

“Whaaaat? (อะไรเหรอออ)” ไอติมลากเสียงยานและมองไบรอั้นตาพราว ไบรอั้นกระตุกยิ้มมุมปาก ยกมือขวาผลักหัวไอติมจนหงายหลังไปนิดหนึ่ง ไอติมหัวเราะและดึงหัวกลับมาตั้งตรง มองไบรอั้นหยิบเสื้อกล้ามสีดำไม่มีลายขึ้นมาสวมใส่
   

“Hey, I got the key and already checked motorcycle. (เฮ้ ฉันได้กุญแจละ แล้วก็เช็กมอเตอร์ไซค์แล้วด้วย)” ไบรอั้นที่กำลังใส่กางเกงในพยักหน้าให้เลโอที่ยืนรออยู่ตรงหน้าประตู ไอติมหยิบกระเป๋าผ้าแบบมีสายสะพายข้างทรงสี่เหลี่ยมสีเหลืองออกมาจากกระเป่าเป้ ยัดโทรศัพท์กับกระเป๋าตังค์เข้าไปในนั้น พอไบรอั้นแต่งตัวเสร็จก็เดินออกไปจากห้องพร้อมกันทั้งสามคน ไบรอั้นยื่นกุญแจห้องให้ไอติมเก็บไว้ ไอติมแหงนหน้ามองท้องฟ้าเห็นว่าฟ้ายังแลบ ๆ อยู่บ้าง ได้แต่ข่มขู่ฝนฟ้าในใจว่าขอให้ได้ออกไปกินข้าวก่อน เพราะตั้งแต่เช้าที่มาถึงนี่จนกระทั่งพระอาทิตย์ตกดิน ยังไม่ได้กินอะไรเลยนอกจากน้ำเปล่า
   

ที่พักที่ทั้งสามคนเลือกมาพักเป็นรีสอร์ทขนาดเล็ก ตั้งอยู่ริมสุดของชายหาดฝั่งซ้ายมือเวลาหันหน้ามองทะเล ห้องพักของพวกไอติมอยู่บนชั้นสองของอาคารที่ตั้งอยู่บริเวณหน้าหาด เป็นรีสอร์ทธรรมดา ๆ ที่คนไทยไม่ค่อยมาพักเนื่องจากว่ากันตามตรงสภาพมันไม่ได้ใหม่มาก แต่ก็ไม่ได้ทรุดโทรมจนน่ากลัว จุดเด่นที่ทำให้ไอติมกับอีกสองหนุ่มตัดสินใจเลือกที่นี่เพราะชายหาดตรงนี้สวย น้ำทะเลสีฟ้าใส วิวภูเขาก็เขียวขจีด้วยต้นไม้
   

“You wanna drive? (แกอยากขับมั้ย)” เลโอชูกุญแจรถขึ้น ไบรอั้นยักไหล่สองข้างด้วยท่าทีสบายๆ
   

“Okay.” ไบรอั้นรับกุญแจมาจากมือเพื่อน เดินไปที่รถมอเตอร์ไซค์สีดำแบบสตาร์ทมือ พอเสียบกุญแจและบิดกุญแจเตรียมสตาร์ทก็หันไปมองไอติม
   

“You want to sit here or you want to sit back. (นายอยากจะนั่งตรงนี้หรือนั่งข้างหลัง)” ไบรอั้นชี้ข้างหน้าตัวเองกับข้างหลัง แทนคำตอบแบบคำพูด ไอติมเดินไปนั่งซ้อนหน้าฝรั่งหัวทอง ไบรอั้นขยับถอยหลังให้ เลโอยกขาขึ้นคร่อมซ้อนท้ายด้านหลัง
   

“And where are we going? (แล้วเรากำลังจะไปไหนกัน)”
   

“Eat and shopping. I will tell you. (กินและช้อปปิ้ง ผมจะบอกคุณ)” ไอติมชี้ถนนใหญ่ที่อยู่ตรงทางเข้ารีสอร์ท ไบรอั้นสตาร์ทรถและบิดรถออกไปจากรีสอร์ทที่พวกเขาพัก
   

จากจุดที่ทั้งสามคนเลือกมาพัก ตั้งอยู่ห่างจากบริเวณศูนย์กลางของเกาะสมุยสิบห้านาที กับคนที่ไม่เคยมาก็อาจจะเพิ่มเวลาเข้าไปอีกนิดหน่อย แต่ตอนขามาจากท่าเรือมารีสอร์ท ไอติมมองทางมาตลอดเลยพอจะจำได้ว่ามันต้องขับไปทางไหน อีกอย่างมันมีความง่ายตรงที่ถนนเส้นหลักจากท่าเรือมาที่พักพวกเขามันมีเส้นเดียว ขับย้อนขึ้นไปตามถนนเดี๋ยวก็ถึง
   

เนื่องด้วยเป็นระยะเวลามืดค่ำแล้ว วิวทิวทัศน์ที่เห็นได้ชัดสุดก็คือแสงไฟจากบ้าน อาคาร รีสอร์ท และรวงร้านต่าง ๆ ตามข้างทางที่ขับผ่าน ไอติมนั่งหรี่ตาโต้ลมมายี่สิบนาทีหน่อย ๆ จนกระทั่งมาถึงช่วงหาดเฉวงที่เรียกได้ว่าเป็นแหล่งของกิน ของช้อปปิ้งหลัก ๆ บนเกาะนี้ ไอติมมองอาคารขนาดใหญ่ที่กำลังก่อสร้างด้วยความเด๋อด๋าอยู่พักหนึ่งก่อนจะเห็นป้ายว่าเป็นการสร้างห้างสรรพสินค้าชื่อดังที่มีสาขาอยู่ทั่วประเทศ และกำลังจะมีอีกหนึ่งสาขาบนเกาะนี้
   

“Which restaurant? (ร้านไหน)” ไอติมส่ายหัว แล้วก็พยายามบอกไบรอั้นว่าให้จอดแถวนี้ก่อน ไบรอั้นขับไปจอดใกล้กับร้านหนังสือที่หน้าร้านมีชั้นวางขายโปสเตอร์ตั้งอยู่คู่กับเค้าน์เตอร์ไม้เล็ก ๆ และตู้ไปรษณีย์สีแดง ไอติมลงจากรถและยืนมองสำรวจร้านอาหารที่อยู่ฝั่งตรงข้ามแล้วก็สะดุดตากับร้านสีแดงร้านหนึ่งที่มีระเบียงยื่นออกมาเป็นโซนนั่งหน้าร้าน ไอติมชี้ให้สองหนุ่มดู ทั้งสองคนพยักหน้าอย่างง่าย ๆ ไอติมเดินนำไปที่ร้าน เปิดเมนูที่วางอยู่บนแท่นสูงเหมือนกับที่วางกระดาษโน้ตดนตรีของวงออเคสตร้าที่วางอยู่หน้าร้าน พอเห็นว่ารูปเมนูที่แปะไว้มันน่าสนใจเลยเข้าไปบอกจำนวนกับพนักงาน พนักงานหนุ่มเดินนำทั้งสามคนไปที่โต๊ะด้านนอกร้านที่อยู่ชิดกับริมรั้วระเบียง และอยู่ตรงข้ามกับร้านหนังสือพอดี ไบรอั้นกับไอติมนั่งข้างกัน ส่วนเลโอนั่งตรงข้ามกับไบรอั้น
   

“That’s interesting… I want to try this one… You are? Yeah. Why not. Do you have something to recommend us?” ไบรอั้นหันไปถามติมพร้อมกับยื่นเมนูให้
   

“What?” ไอติมงงเพราะตามไม่ทัน ไบรอั้นจิ้มเมนู
   

“You have something special to tell us? (นายมีบางอย่างที่พิเศษจะบอกเรามั้ย)” ไอติมนิ่งคิดแปบหนึ่งก่อนจะเก็ทว่าไบรอั้นถามอะไร
   

“Oh, no. (โอ้ ไม่อะ)” ไบรอั้นทำตาโตและกลอกตาหนึ่งที เลโอหัวเราะ ไอติมยิ้มแล้วก็จิ้มเลือกอาหารทะเลให้ไบรอั้นไปหนึ่งอย่าง
   

“Is this good? (มันดีเหรอ)” ไอติมไม่รู้ว่ามันดีหรือไม่ดี แต่เห็นแล้วอยากกินเลยพยักหน้าตอบรับไปก่อน สองหนุ่มปรึกษากันอีกสักพักจนได้เมนูที่ต้องการถึงกวักมือเรียกพนักงานมารับออเดอร์ ไอติมช่วยทั้งสองคนสั่งจนได้อาหารกองกลางสี่อย่างพร้อมกับข้าวเปล่าหนึ่งโถ สองหนุ่มสั่งเบียร์มาดื่ม ส่วนไอติมสั่งน้ำมะพร้าวปั่น
   

“เป็นเพราะฝนด้วยรึเปล่า เลยดูเงียบๆ” เลโอถามพลางมองถนนหน้าร้านที่มีคนเดินอย่างบางตา เสียงเพลงจากร้านข้าง ๆ ดังขับกล่อมให้บรรยากาศไม่เงียบเหงาจนเกินไป
   

“เด็กลามกบอกว่าเป็นช่วงโลว์ซีซั่น” หนุ่มหัวทองหันไปมองเด็กที่ตัวเองเอ่ยถึงกำลังนั่งยิ้มกับโทรศัพท์ เขาแอบยื่นหน้าเข้าไปดูก็เห็นว่าเจ้าเด็กมือไวกำลังนั่งเล่นแอพพลิเคชั่นที่เลโอเป็นคนแนะนำ
   

“แกคิดยังไงกับเด็กคนนี้” เลโอยื่นคางไปทางไอติมพร้อมกับมองหน้าเพื่อน ไบรอั้นทำตาโตนิดหน่อย หันไปมองเด็กข้าง ๆ แล้วหันกลับไปมองหน้าเพื่อน
   

“แกถามต่อหน้าเขาเลยเหรอ เด็กนี่ฟังภาษาอังกฤษออกนะ ถึงจะไม่ค่อยคล่องก็เถอะ”
   

“เวลาที่เด็กคนนี้โฟกัสอย่างอื่นอยู่ ฟังไม่ทันหรอกว่าเราพูดอะไรกัน” ไบรอั้นนิ่งไปแปบหนึ่งก่อนจะยักคิ้วหนึ่งทีพร้อมกับเอนหลังพิงพนักเก้าอี้ไม้
   

“ก็เป็นเด็กน่ารักดี” ไบรอั้นหันมองไอติมที่กำลังเลื่อนดูรูปในแอพพลิเคชั่น แล้วก็เลื่อนสายตาขึ้นมองพนักงานชายที่เอาเบียร์กับน้ำปั่นของไอติมมาเสิร์ฟ
   

“แค่นี้เหรอ” เลโอถามพลางยกแก้ว ขวดเบียร์สองขวดและถังน้ำแข็งมาวางไว้ตรงขอบโต๊ะด้านซ้ายมือของตัวเอง ไบรอั้นคีบน้ำแข็งใส่แก้วตัวเองกับของเพื่อน ส่วนเลโอเป็นคนเทเบียร์
   

“ลามก แล้วก็ลวนลามฉันเก่ง” เลโอขำ ยิ้มกว้างจนเห็นเหงือกสีชมพู ยิ้มแบบที่ไอติมมักคิดว่าเป็นคิงคอง
   

“ไม่ใช่แบบนั้นสิ หมายถึง ถูกใจแกมั้ย” ไบรอั้นยกเบียร์ขึ้นดื่มและเหลือบมองไอติมที่ตามองจอโทรศัพท์แต่ปากดูดน้ำปั่นในแก้วจ๊วบๆ
   

“เด็กมันไม่ดื้อ แค่มือซนไปหน่อย แต่อยู่ด้วยแล้วก็โล่ง ๆ ดี”
   

“แล้วถูกใจแกรึเปล่า” เลโอแกล้งมองจี้เอาคำตอบจากเพื่อน ไบรอั้นย่นคิ้ว ทำหน้าเอือมแล้วไม่ตอบคำถามของเพื่อน พอดีกับที่พนักงานเริ่มเอาอาหารมาเสิร์ฟให้ที่โต๊ะ
   

แม้ว่าบนโต๊ะจะมีเนื้อปู เนื้อกุ้ง เนื้อกั้ง เนื้อปลา แต่ไอติมก็ไม่ลืมที่จะสั่งปีกไก่ทอดมาด้วย ไอติมปล่อยให้อีกสองหนุ่มคุยกันตามสบาย ส่วนตัวเองก็นั่งแทะปีกไก่อย่างเพลิน ๆ ไม่ได้คิดจะเข้าแทรกกลางระหว่างบทสนทนาของอีกสองคน
   

“Hey, we would like to go to the club. You okay? (เฮ้ เราอยากจะไปคลับกันน่ะ นายโอเคมั้ย)” ไอติมหันไปหาไบรอั้นทั้งที่ยังเคี้ยวไก่อยู่ก่อนจะพยักหน้าด้วยความเข้าใจและไร้ปัญหาที่จะไป
   

“พี่พนักงานฮะ ถนนคนเดินอันไหนน่าไปมากกว่ากัน ระหว่างเฉวงกับ Fisherman village” ไอติมถามพลางเคี้ยวปีกไก่หงับ ๆ พนักงานชายที่เดินผ่านมาพอดีหยุดแวะตอบคำถามของลูกค้า
   

“พี่มีเพื่อนเป็นฝรั่งมาด้วย ผมว่าไปฟิชเชอร์แมนดีกว่าครับ ขับรถไปจากนี่ก็ไม่เกินสิบห้านาที มีป้ายบอกตลอดทาง หรือพี่จะเปิดแม็พไปก็ได้”
   

“โอ้ โอเคพี่ ขอบคุณฮะ” ไอติมรู้สึกว่าการที่ต่างคนต่างเรียกพี่ทั้งที่หน้าของอีกฝ่ายดูจะอายุมากกว่าไอติม มันคือการสู้กันอย่างหนึ่ง
   

เหมือนว่าพอเวลาขยับไปดึกเรื่อย ๆ คนก็เริ่มจะออกมาเดินมากขึ้น ยังไม่มากเท่ากับไฮซีซั่น แต่ก็ไม่เงียบเหงาเท่ากับตอนแรกที่เลโอถามไบรอั้น ประมาณสองทุ่มครึ่งทั้งสามคนก็กินอาหารเสร็จ ไอติมเรียกพนักงานมาเก็บเงิน อาหารมื้อนี้ราคาแรงใช่ย่อย แต่หารสามก็เลยเบาลงไปหน่อย ถึงจะหน่อยเดียวจริง ๆ ก็เถอะ
   

“I want to buy postcard. (ผมอยากซื้อโปสการ์ด)”
   

“Take your time. (ตามสบายเลย)” ไอติมยิ้มเหลอหลาพักหนึ่งแล้วหันไปมองไบรอั้น หนุ่มหัวทองนั่งนึกแปบหนึ่งก่อนจะพูดออกมา


“We will wait you. (เราจะรอนาย)” ไอติมร้องอ๋อเบา ๆ และพยักหน้าให้สองหนุ่มก่อนจะลุกเดินออกไปจากร้าน มองซ้ายมองขวาสักแปบก็ค่อยข้ามถนนไปร้านหนังสือที่มีโปสการ์ดวางขายอยู่บนชั้นตะแกรงเหล็กสีดำ ไอติมหมุนตะแกรงเหล็กทรงกลมช้า ๆ มองหาภาพที่รู้สึกถูกใจ หมุนวนอยู่รอบนึงก็เลือกหยิบมาหกใบ
   

“Six? For who? (หกใบเลยเหรอ ให้ใครบ้างเนี่ย)” ไบรอั้นถามไอติมที่ยืนเขียนโปสการ์ดอยู่ตรงเค้าน์เตอร์เล็ก ๆ ข้างตู้ไปรษณีย์สีแดงอันใหญ่ที่ทางร้านทำไว้ให้
   

“I will send to my best friend, my two roommate, Lukas, Anthony แล้วก็ and น้อง Robert. (ผมจะส่งให้เพื่อนสนิทผม รูมเมทผมสองคน ลูคัส แอนโทนี่แล้วก็โรเบิร์ต)” หนุ่มหัวทองย่นคิ้ว
   

“Lukas and Anthony? And who is Robert? Your best friend? (ลูคัสกับแอนโทนี่เหรอ แล้วใครคือโรเบิร์ต เพื่อนสนิทนายเหรอ)” ไอติมส่ายหัวทั้งที่กำลังเขียนการ์ดอยู่และค่อย ๆ อธิบาย ช้า ๆ ชัด ๆ เพื่อไม่ให้ไบรอั้นงง แม้ในใจจะรู้สึกว่าไบรอั้นน่าจะงงก็ตาม
   

“My best friend name Denny, you used to see him. And เอ่อ… (เพื่อนสนิทผมชื่อเดนนี่ คุณเคยเจอเขา และ เอ่อ…)” ไอติมหยุดเขียนโปสการ์ด เงยหน้าคิดคำศัพท์ที่พยายามจะใช้


“Robert is brother of Denny. He give room for me when I go to L.A. (โรเบิร์ตเป็นน้องชายของเดนนี่ เขาให้ห้องสำหรับผมตอนผมไปแอลเอ)” ไอติมบิดหน้ามองไบรอั้นที่พยักหน้าด้วยความเข้าใจ เลยทำให้ไอติมโล่งใจและมีกำลังใจพูดต่อ


“And what about Lukas and Anthony? (แล้วลูคัสกับแอนโทนี่นี่คือยังไง)”


“I want to thank you to help me and give work. (ผมอยากขอบคุณที่ช่วยผมและให้งาน)”


“Oh, I see. And don’t you want to send it to me? (อ้อ เข้าใจละ แล้วไม่อยากส่งให้ฉันบ้างเหรอ)” ไอติมเด้งตัวขึ้นมาและทำตาโต


“อุ๊ you want too เหรอ” ไอติมไม่ได้คิดจะลืม แต่เห็นว่าอยู่ด้วยกันเลยไม่ได้คิดว่าต้องซื้อแล้วส่งไปให้


ไบรอั้นยิ้มขำและพยักหน้า แกล้งอำเด็กมันเล่น แต่ปรากฏว่าไอติมหันไปเลือกโปสการ์ดจากชั้นวางอย่างจริงจังอยู่พักหนึ่งก่อนหมุนตัวกลับมาโชว์โปสการ์ดให้ดู เป็นรูปพระอาทิตย์กำลังตกสีส้มแดง ตัดกับขอบผืนทะเลสีฟ้า มีฝูงนกเล็ก ๆ เป็นเงาสีดำบินผ่านดวงอาทิตย์ดวงโต มุมขวาของโปสการ์ดเป็นต้นมะพร้าวโค้งเข้าไปในทะเล ด้านซ้ายเป็นกลุ่มโขดหินที่มีต้นไม้ขึ้นอยู่สามสี่ต้น


“You like? (คุณชอบ?)” ไบรอั้นยักคิ้วและยิ้มขำน้อย ๆ ไอติมยิ้มกว้างและชะโงกหน้าไปมองหาเลโอที่กำลังยืนอยู่กลางถนน กำลังใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายรูปให้เห็นตึกและรวงร้านทั้งสองข้างทาง โดยมีถนนที่มีคนเดินกันอย่างไม่แออัดอยู่ตรงกลางภาพ


“Leo, you want postcard? (เลโอ อยากได้โปสการ์ดมั้ยฮะ)” คิงคองหนุ่มลดมือถือลงพร้อมกับหันตัวไปมองอีกสองคน


“No, but thank you. (ไมล่ะ แต่ขอบคุณนะ)” ไอติมก้มลงไปเขียนข้อความลงบนโปสการ์ดต่อ ทุกใบจะเขียนด้วยข้อความที่ต่างกันออกไป มีของเดนนี่กับรูมเมทอีกสองคนที่เขียนเป็นภาษาไทย ไอติมไม่ได้ทำเป็นประจำเวลาไปเที่ยว แค่นึกอยากทำทริปนี้เฉย ๆ อีกอย่างก็ใช่ว่าเขาจะไปเที่ยวบ่อย ที่สำคัญเห็นว่าโปสการ์ดมันสวยดีเลยอยากซื้อส่งให้ เหมือนเป็นของฝากเล็ก ๆ น้อยๆ


“Don’t you want to send to Jake, Kevin and Mandy? (ไม่อยากส่งให้เจค เควินแล้วก็แมนดี้บ้างเหรอ)” ไอติมที่กำลังติดแสตมป์บนโปสการ์ดหันไปมองหน้าไบรอั้นแบบงง ๆ แต่พอสติจับชื่อที่ไบรอั้นพูดได้ก็ทำหน้าแหยแล้วส่ายหัวอ่อน ๆ หนุ่มหัวทองหัวเราะร่วน เพราะจำได้ว่าไอติมมีปฏิกิริยากับสามคนนั้นยังไง


 “Hey, Jake is your boss. (เฮ้ เจคเป็นเจ้านายนายนะ)” ไบรอั้นแกล้งแซว ไอติมยู่หน้าแล้วก็หันกลับไปติดแสตมป์ต่อ หนุ่มหัวทองมองหนุ่มหัวดำแล้วก็ขำกับความรู้สึกอันชัดเจนของเจ้าเด็กลามก

V
v
v
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18-02-2019 01:31:33 โดย ขุ่นเจ้ »

ออฟไลน์ คุณเจ้

  • Follow your heart, but take the brain with.
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-8
V
v
v

จ่ายเงินค่าโปสการ์ด ค่าแสตมป์และค่าจัดส่งเรียบร้อย ทั้งสามคนก็ขับรถย้อนขึ้นไปตามทางที่ขับมา ซึ่งระหว่างทางที่จะไปถนนคนเดินอันเป็นจุดหมาย ก็มีร้านขายของฝาก ขายของที่ระลึกให้เห็นผ่านตาค่อนข้างมากอยู่ ห้างที่กำลังสร้างหากสร้างเสร็จก็คงเป็นจุดท่องเที่ยวอีกจุดของเกาะนี้


ไอติมไม่จำเป็นต้องใช้แมพ เพราะมีป้ายบอกทางชัดเจนว่าสถานที่ที่เขาทั้งสามคนจะไปต้องไปทางไหน ช่วงเวลาอยู่บนรถมอเตอร์ไซค์ไอติมมองวิวสองข้างทางไปเรื่อย รถมอเตอร์ไซค์ไซซ์มาตรฐานดูเป็นคันจิ๋วเมื่อมีฝรั่งล้ำบึ้กสองคนนั่งอยู่ หนุ่มไทยที่นั่งข้างหน้าก็ตัวบอบบางร่างน้อยเลยยิ่งเสริมให้ฝรั่งอีกสองคนดูตัวใหญ่ แต่ถึงอย่างนั้นเบาะของรถก็พอดีก้นของทั้งสามคน แม้ก้นของไอติมจะชนความตุงของเป้าไบรอั้นอยู่ตลอดเวลาก็ตาม แต่นั่นแหละ ไอติมชอบ


“Is that it? (นั่นใช่รึเปล่า)” ไบรอั้นก้มหน้าลงถามไอติมและยกมือซ้ายชี้ไปที่ซุ้มประตูสีฟ้าขาวที่บนนั้นเขียนว่า Fisherman’s Village ไอติมพยักหน้ารัว ๆ ไบรอั้นมองหาที่จอดรถพักหนึ่งและตัดสินใจเลี้ยวเข้าไปในลานดินด้านหน้าก่อนที่จะถึงประตูทางเข้า พอจอดรถเรียบร้อยสามหนุ่มก็เดินเข้าไปด้านในที่มีคนหนาตากว่าจากจุดเดิมที่จากมา ส่วนมากจะเป็นชาวต่างชาติ


ที่นี่เป็นหมู่บ้านชาวประมงเก่าแก่ที่ชาวท้องถิ่นช่วยกันปรับปรุง รีโนเวทให้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวอีกแห่งของเกาะจนมีชื่อเสียงโด่งดังในหมู่นักท่องเที่ยว โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มักจะถูกจริตกับที่นี่มากเป็นพิเศษ ถนนคนเดินของที่นี่ถือว่าเป็นนัมเบอร์วันบนเกาะ มีของฝาก ของที่ระลึก และของแฮนด์เมดเยอะแยะมากมายที่สามารถดึงเงินนักท่องเที่ยวให้ออกจากกระเป๋าได้ง่าย นอกจากจะมีร้านขายสินค้าแล้ว ยังมีร้านอาหารกับร้านเหล้าด้วย


“It’s cozy. (บรรยากาศดีจัง)” ไบรอั้นพึมพำเบา ๆ หูฟังเสียงเพลงจังหวะสนุก ๆ ที่เปิดจากตรงไหนสักแห่งในถนนคนเดินอย่างเพลิน ๆ สายตามองร้านต่าง ๆ ที่ตั้งอยู่สองข้างทางด้วยความรู้สึกแปลกใหม่ ซึ่งนอกจากร้านพวกนี้ ยังมีร้านประจำที่อยู่ใต้อาคารไม้อีกด้วย


“อันนี้เท่าไหร่ฮะ” ไบรอั้นกับเลโอหันไปมองไอติมที่จู่ ๆ ก็เดินไปยืนหน้าร้านเครื่องประดับร้านหนึ่ง ไบรอั้นกำลังจะเดินเข้าไปหาไอติม แต่ก็ชะงักหันมองเลโอที่สะกิดเรียก


“เดี๋ยวฉันเดินนำไปก่อนแล้วกัน ฉันว่าจะหาซื้อของสักหน่อย แกอยู่กับไอศกรีมนี่แหละ”


“ไม่รอไปพร้อมกันรึไง”


“รอกันไปมา เดินไม่เสร็จสักที ฉันกลัวฝนจะตก” เลโอชี้ท้องฟ้าที่มืดครึ้มและมีฟ้าแลบเป็นระยะ ไบรอั้นพยักหน้าขึ้นแล้วเดินเข้าไปหาไอติมที่หยิบสร้อยสีเงินขึ้นมาเส้นหนึ่ง


“Lovely? (น่ารักมั้ยฮะ)” ไบรอั้นมองสร้อยเส้นนั้นในมือไอติม ตัวสร้อยเป็นโซ่อันเล็ก ๆ คล้องกันดูแข็งแรง ตัวจี้เป็นรูปขนนกสีเงินอันจิ๋ว


“It’s fine. (ก็ดีนะ)”


“I give you. (ผมให้)” ไบรอั้นยกคิ้วขึ้น มองไอติมด้วยความงุนงง


“For what? (ให้เพื่อ?)”


“Just want to give. (แค่อยากให้)”


“You are a sugar momma, huh? (นายเป็นสายเปย์สินะ ใช่มั้ย)” ไอติมไม่เข้าใจคำศัพท์นั้นแต่ก็ยิ้ม ไบรอั้นมองรอยยิ้มจริงใจที่ดูอยากจะให้เขาอย่างที่ปากว่าจริง ๆ เขาหยิบสร้อยมาจากมือไอติมและเอาไปวางไว้บนชั้นตามเดิม


“You don’t want เหรอ” ไอติมถามเสียงอ่อย ไบรอั้นหันไปยิ้มขำก่อนหันกลับไปมองบนแผงสร้อยคออีกที เลือกอยู่พักหนึ่งก็หยิบสร้อยสีทองอ่อนที่มีจี้เป็นรูปกระต่ายสีทองอ่อนจนเกือบจะเป็นสีครีมมันเลื่อมตัวกระจ้อยร่อยห้อยอยู่


“This one. (อันนี้)” ไบรอั้นชูสร้อยจี้กระต่ายหูตั้ง มีดวงตาเรียวยาว นั่งหันข้างและมีหางกลม ๆ ติดอยู่ตรงก้นขึ้นให้ไอติมเห็น เด็กลามกยิ้มกริ่มและพยักหน้ารัว ๆ เพราะเห็นว่ามันน่ารักดี


“You like rabbit? (คุณชอบกระต่ายเหรอ)” ฝรั่งหัวทองมองหน้าไอติมแล้วยิ้มด้วยความตลก แล้วก็ขำพรืดออกมา ไอติมมองอย่างเอ๋ออ๋าแต่ก็ยิ้มไปด้วย แม้จะไม่เข้าใจว่าขวัญใจตัวเองขำทำไม


“I think it’s like you. (ฉันว่ามันเหมือนนายดี)” ไอติมทำหน้างง


“Like me?” ไบรอั้นยักคิ้วและพยักหน้าพร้อม ๆ กัน เขายื่นสร้อยคอไปให้ไอติม ร่างบางรับไปถือไว้และมองด้วยความไม่เข้าใจ แต่ใบหน้าก็ยังคงเปื้อนยิ้ม


“I am your little rabbit. (ผมเป็นกระต่ายน้อยของคุณ)” ไบรอั้นหัวเราะหางตาย่น ไอติมมองภาพนั้นแล้วก็ยิ้มอย่างสุขใจ


“Yeah, you are. (ใช่ นายเป็นงั้นแหละ)” ไอติมยิ้มแฉ่งและหันไปถามราคากับคนขายผู้ชาย ตอนแรกไอติมคิดว่าราคามันคงไม่ได้แพงมาก แต่ปรากฏว่าแพงเอาเรื่องอยู่ เพราะตัวสร้อยและจี้ทำมาจากวัตถุชั้นดี เจ้าของร้านกลัวไม่เชื่อก็เปิดหนังสือข้อมูลสร้อยให้ไอติมดูเป็นจริงจังและอธิบายว่ามีที่ไปที่มายังไง ไอติมรับฟังแต่ก็ไม่ได้คิดตามอะไรมากมาย เพราะสุดท้ายก็ควักเงินจ่ายไป


“Come, I will put it on your neck. (มา ผมจะวางมันบนคอคุณ)”


“You keep it. No need to give anything to me. (นายเก็บไว้เถอะ ไม่จำเป็นต้องให้อะไรฉันหรอก)” ไอติมสั่นหัว


“Please, I want to give you. Don’t worry I’m happy to pay for you. (ได้โปรด ผมอยากให้คุณ ไม่ต้องกังวล ผมมีความสุขที่ได้เปย์ให้คุณ)” ไบรอั้นหัวเราะกับความใจป้ำของเด็กลามก เขาพยักหน้าด้วยความขำ ก้าวเท้าเดินเข้าไปใกล้ไอติม


“You are really sugar momma. (นายนี่มันสายเปย์จริงๆ)” ไอติมวัดขนาดสร้อยกับหัวของไบรอั้นด้วยสายตาและคิดว่ามันน่าจะสวมลงคอเขาพอดีเลยยืดตัวขึ้นสวมให้ขวัญใจตัวเอง มีติดขัดนิดหน่อยเพราะสร้อยพอดีกับหัวไบรอั้น แต่พอจับยัด ๆ สักแปบก็หล่นลงไปคล้องคอหนาได้อย่างลงตัว จี้กระต่ายตัวจิ๋วห้อยอยู่ตรงกลางร่องเนินหน้าอกบึ้ก ๆ ของไบรอั้นพอดี


“Handsome!” ไอติมยกสองมือปรบมือเปาะแปะเหมือนเด็ก ไบรอั้นยิ้ม แล้วก็หัวเราะด้วยความตลก ไอติมย่นคิ้ว


“What? (อะไรอะ)” ไบรอั้นทำมือบอกให้ไอติมเดินไปแม้จะยังคงขำอยู่ ไอติมคล้องแขนซ้ายของไบรอั้นแล้วก็แหงนหน้ามองใบหน้าหล่อที่กำลังขำจนหน้าแดงระเรื่อด้วยความสงสัย


“Nothing. It’s just… the little rabbit is lovely. (เปล่าหรอก ก็แค่… กระต่ายตัวน้อยมันน่ารัก)” ไอติมทำหน้าไม่เข้าใจในขณะที่เดินไปข้างหน้าพร้อมกับฝรั่ง


“Is it good meaning? (มันเป็นความหมายที่ดีใช่มั้ยฮะ)” ไอติมถามอย่างไม่แน่ใจ ไบรอั้นที่หยุดขำแบบหนัก ๆ ได้แล้วและเปลี่ยนเป็นยิ้มกรุ้มกริ่มแทนพยักหน้าหงึกๆ


“Of course, little rabbit. (แน่นอนสิ เจ้ากระต่ายตัวน้อย)”

   
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18-02-2019 01:32:06 โดย ขุ่นเจ้ »

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
กระต่ายเอ๊ยยยย

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4014
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
หมันเขี้ยวน้อง น่าร้ากกกกก

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
ไอติมกระต่ายกะทิ  :hao6:

ออฟไลน์ t2007

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2400
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-5
ไอติมสดใสตลอดเวลา มีพลังชีวิตล้นเหลือ

ออฟไลน์ oki

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 300
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-0
รู้สึกได้ว่าพี่อั้นมองไอติมด้วยฟิลเต้อกระต่ายน้อยใสๆมากก แต่น้องดันสู้ชีวิตมากเรื่องอย่างนั้น ฮ่าๆ

ออฟไลน์ aiyuki

  • รักแท้ไม่แบ่งแม้เพศพันธุ์
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2628
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-6
ไอติมน่ารักกก

ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6
ไอติมก็เหมาะกับกระต่ายน้อยดี สดใส น่ารัก พี่อั้นคงจะเอ็นดูน้องมากขึ้นเรื่อยๆ แล้วสินะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Jiraapp

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 380
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
เป็นกระต่ายน้อยของพี่อั้นแล้ว แทรกซึมเข้าไปลู้กกกกก

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3377
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

ออฟไลน์ mybear_sr

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 242
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
เจ้าติมเป็นกระต่ายไปแล้วว55555

ออฟไลน์ dekying kukkig

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1462
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-1
เปย์ให้สุดไปหยุดที่เป็นแฟนให้ได้นะติม  :katai3:

ออฟไลน์ Gugii

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 139
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
ขอน้องติมกับเดนนี่อีกสักรอบบบค่ะ  :hao7:

ออฟไลน์ Grey Twilight

  • Moderator
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 393
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +171/-17
^ เห็นด้วยครับ! ว่าอยากให้น้องติมได้กับเดนนี่อีก ฮือ เราชอบคู่นี้ครับ! (หัวเราะ) เดี๋ยวอาจจะต้องรอก่อน พอน้องติมได้บินไปทำงานที่นั่น เซ็กซ์ครีเอทีฟก็ต้องการอะไรใหม่ๆเพื่อสร้างแรงดึงดูดของหนัง และต้องการคนสอนบทบนเตียงใช่ไหมครับ? เราจะให้เดนนี่เป็นติวเตอร์ส่วนตัว ทำมันทั้งวันทั้งคืนเลย เพื่อจินตนาการที่บรรเจิด! ฮ่าๆ แค่คิดก็ฟินสุดๆแล้วครับ (หัวเราะ)

ออฟไลน์ คุณเจ้

  • Follow your heart, but take the brain with.
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-8
Fall in lust, Chapter 18 :: Carrot & Papaya. (แคร็อทและมะละกอ)



   ด้วยความที่เมื่อคืนอยู่ที่ร้านเหล้าแถวเฉวงกันจนดึกดื่นและดื่มกันไปเยอะ วันต่อมาสองฝรั่งเกือบตื่นไปทริปทัวร์หมู่เกาะอ่างทองไม่ทันหากไอติมผู้ที่ไม่ได้ร่วมดื่มด้วยไม่ปลุกทั้งสองคนที่อยู่ในสภาพมึน ๆ เมา ๆ ให้ลุกไปอาบน้ำแต่งตัวก่อนที่รถตู้ของบริษัททัวร์จะมารับหน้าที่พัก พอขึ้นรถตู้ปุ๊บ สองหนุ่มก็หลับเอาแรงทันทีแม้ว่าเส้นทางจากรีสอร์ทไปท่าเรือจะไม่ได้ไกลกันมาก และยังไปหลับต่อบนเรือด้วย กลายเป็นไอติมที่ต้องพยายามฟังคำแนะนำของไกด์ไทยที่พูดเป็นภาษาอังกฤษ เนื่องจากทริปนี้ชาวไทยมีแค่ไอติมคนเดียว
   

แม้ว่าจะมึนเมาและหน้าตาดูพร้อมหลับทุกที่ แต่พอถึงช่วงทำกิจกรรมดำน้ำ ปีนเขา และพายเรือคายัค สองฝรั่งก็ไม่รู้ไปขุดพลังมาจากไหน คึกคักสนุกสนานกันยิ่งกว่าไอติมที่หอบแฮ่ก ๆ ตอนไต่เขาเพื่อไปชมวิวของหมู่เกาะทั้งหลาย ก็ถือว่าคุ้มกับความเหนื่อยที่ไต่ขึ้นมา เพราะได้ภาพลงอินสตาแกรมหลายช็อต และได้ภาพคู่กับไบรอั้นกับภาพเราสามคนมาอีกหลายภาพด้วย
   

ถือว่าวันนี้ฟ้าฝนปรานีที่ไม่ตกลงมา มีแค่ขู่ด้วยความครึ้มของก้อนเมฆบางลูกในบางจุดให้ลุ้นหลายครั้งว่าฝนจะหยดลงมาเมื่อไหร่ แต่ตั้งแต่เช้าจนจบทริป และจนกลับมาถึงที่พักช่วงเกือบสี่โมงเย็น ฝนฟ้าก็ถือว่ามีความอดทนอดกลั้นไม่ปลดปล่อยตัวเองลงมาทำลายบรรยากาศทริปดี ๆ ของวันนี้ และไอติมหวังว่าฟ้าฝนจะยังคงอดทนต่อไป เพราะแค่แสงแดดรำไรในช่วงเวลาใกล้ค่ำก็ลุ้นมากพออยู่แล้วว่าจะไม่มีแสงให้ทำงาน ถ้าฝนตกลงมาอีกคงชวนหงุดหงิดน่าดู 
   

“Where are you leading me now? (นายกำลังพาฉันไปไหนเนี่ย)” ไบรอั้นในชุดกางเกงผ้าร่มขาสั้นสีดำ ท่อนบนไร้เสื้อผ้าถามไอติมที่แบกเป้สีดำเดินนำหน้าไปทางตีนเขาอีกฝั่งของหาดที่อยู่คนละฝั่งกับที่พักพวกเขา บนตัวของเขามีเพียงสร้อยคอสีทองอ่อนที่ไอติมซื้อให้เมื่อวานนี้ประดับอยู่บนผิวกาย บนหัวใส่หมวกสานสีน้ำตาลขนาดเล็กที่ปลายหมวกแตกเป็นซี่เหมือนไม่ได้เก็บรายละเอียด แต่จริง ๆ คือเป็นสไตล์ของหมวก
   

“Secret space. (พื้นที่ลับ)” ไอติมตอบด้วยความตื่นเต้นในระหว่างที่พาไบรอั้นเดินไปตามทางเทปูนติดกับตีนเขาที่มีต้นไม้ขึ้นเขียวขจีหนาทึบอยู่บนพื้นที่ของเนินเขา และมีก้อนหินโขดหินที่เกิดขึ้นจากธรรมชาติตั้งขึ้นอย่างหนาแน่น ไล่ไปจนถึงในทะเล ไอติมมองจำนวนนักท่องเที่ยวที่มาถ่ายรูปทะเลยามเย็นตรงบริเวณลานปูนด้วยหัวใจตุ้ม ๆ ต่อม ๆ ภาวนาว่าขออย่าให้มีใครเดินเลยไปไกลมากกว่าจุดนี้ หรือมากสุดก็อยู่ตรงโขดหินก้อนใหญ่ ๆ ที่สามารถเดินขึ้นไปถ่ายรูปบนนั้นได้แค่นั้นพอ
   

“Are we almost there? (เราใกล้ถึงรึยัง)” ไบรอั้นถามตอนที่ไอติมพาเขาเดินไต่แนวหินที่เชื่อมกับพื้นคอนกรีตลงไปในน้ำทะเลสีฟ้าเขียว มีก้อนหินมากมายวางเกาะกลุ่มตามธรรมชาติอยู่ในน้ำ มีก้อนใหญ่ ๆ ที่ตั้งสูงขึ้นเป็นฉากกั้นระหว่างฝั่งที่เป็นถนนคอนกรีตกับอีกฝั่งนึงที่เด็กลามกกำลังพาเขาไป บริเวณนี้เสียงคลื่นนั้นแทบไม่มี ก็จะมีที่ดังมาจากช่วงกลาง ๆ ทะเล เสียงเรือยนต์ดังมาจากท้องทะเลไกลลิบ เสียงผู้คนก็น้อย เพราะไม่ใช่ช่วงท่องเที่ยวหลัก ไบรอั้นยกมือขวาดันโขดหินขนาดใหญ่ที่ยื่นออกมาในทะเลต่อจากภูเขาด้านบน ค่อย ๆ เดินตามไอติมที่น้ำทะเลสูงถึงใต้ก้น แต่สำหรับเขาก็แค่หัวเข่าเท่านั้น
   

“Here!” เสียงเล็ก ๆ บอกอย่างตื่นเต้นตอนที่เดินอ้อมโขดหินก้อนใหญ่มาได้สำเร็จ ไบรอั้นมองพื้นที่ลับที่เจ้าเด็กนั่นว่าด้วยสายตาสำรวจพลางก้าวเท้าเดินขึ้นไปบนหาดทรายขนาดเล็ก
   

“Small beach. (หาดทรายน้อย)” ไบรอั้นทำปากยื่นและพยักหน้าหนึ่งทีพลางมองไปรอบๆ
   

“You are truly creative. (นายก็เหมาะกับตำแหน่งครีเอทีฟจริง ๆ เนอะ)” สถานที่ที่ไอติมพามาเป็นพื้นที่หาดทรายติดกับเนินเขาที่มีต้นไม้ขึ้นหนาทึบอยู่ด้านบนภูเขาเป็นเหมือนฉากหลัง น้ำทะเลบริเวณนี้สีสวยใสแต่นิ่งสนิท ไม่มีคลื่นน้ำให้เห็น ซึ่งอันที่จริงไบรอั้นไม่แน่ใจว่ามันเรียกว่าหาดได้หรือไม่ เพราะมันค่อนข้างแคบและมีขนาดเล็ก หาดทรายตรงนี้ตีกรอบด้วยกลุ่มโขดหินจนมีลักษณะเป็นครึ่งวงกลมแบบบิดเบี้ยวนิดหน่อย บนพื้นทรายก็มีหินต่างไซซ์วางระเกะระอยู่ คือถ้าจะมานอนอาบแดดตรงนี้ก็คงนอนได้ไม่เกินสามคน แต่สิ่งที่จะได้ไปก็คือความเป็นส่วนตัว เพราะดูตัดออกจากหาดบริเวณหน้าที่พักพวกเขา แต่ก็ไม่ถึงเป็นส่วนตัวพ้นสายตาใครขนาดนั้น ถ้ามีคนปีนขึ้นมาบนโขดหินที่เขาเดินอ้อมมาก็จะมองเห็นเขาสองคน หรือถ้าชัดสุดก็อาจจะมีใครสักคนเดินลุยน้ำอ้อมโขดหินมาที่หาดเล็ก ๆ ตรงนี้แบบที่เขาสองคนทำ
   

“Okay, what we are going to do now? (เอาล่ะ เราจะทำอะไรต่อล่ะทีนี้)” ไอติมถอดกระเป๋าเป้ออกและนั่งลงบนพื้นทรายละเอียด กวักมือเรียกให้ไบรอั้นไปนั่งข้างกัน ฝรั่งหัวทองเดินไปนั่งข้างกับไอติมที่หยิบกล้องถ่ายวิดีโอตัวเดิมออกมาจากกระเป๋าเป้
   

“I will give you help yourself เอ่อ jerk on เอ้ย”
   

“Jerk off. (ช่วยตัวเอง)” ไอติมพยักหน้ารัว ๆ ไบรอั้นหันไปมองวิวทะเลที่ตอนนี้ยังระยิบระยับด้วยแสงแดดจากท้องฟ้าจากโซนที่พวกเขาอยู่ แต่ท้องฟ้าที่อยู่ห่างออกไปก็เริ่มแผ่ความครึ้มเข้ามา อีกสักสองชั่วโมงพระอาทิตย์ก็จะเริ่มตกแล้ว
   

“I have to say I’m not in mood to do that. (ฉันต้องบอกว่าตอนนี้ฉันไม่มีอารมณ์ที่จะทำแบบนั้น)” ไบรอั้นหันกลับไปมองไอติมที่ยกกล้องขึ้นมาถ่ายแล้ว เขายักคิ้วหนึ่งที ไอติมคลี่ยิ้ม
   

“Horny? (หงี่มั้ย)” ไบรอั้นเบะปากและสั่นหัวหงึก ๆ ไอติมหัวเราะอิ๊ะอ๊ะในลำคอ
   

“Can I help you? (ให้ผมช่วยมั้ย)” ไบรอั้นส่ายหัวแบบช้า ๆ แต่ชัด ๆ ไอติมพยักหน้าหงึก ๆ ไบรอั้นเพิ่มความเร็วในการส่ายหัว ไอติมวางกล้องไว้บนพื้นทราย โกยทรายขึ้นสูงให้ดันกล้องแหงนขึ้น มองผ่านฝาหน้าจอกล้อง จัดสักแปบจนได้มุมที่ถูกใจ ก่อนจะหันไปหาไบรอั้นที่นั่งเหยียดขาสองข้าง สองแขนค้ำตัวอยู่ด้านหลัง ไอติมเดินเข่าไปตรงหน้าไบรอั้น ยื่นสองมือไปดึงกางเกงขาสั้นลงมาจนเห็นกางเกงว่ายน้ำสีเขียวขี้ม้าทรงสามเหลี่ยม ไบรอั้นยกก้นขึ้นเพื่อให้ไอติมดึงกางเกงออกได้สะดวกจนกระทั่งดึงหลุดออกจากขาของเขาไป
   

“Rabbit will eat carrot. (กระต่ายจะกินแคร็อท)” ไอติมนั่งลงข้างด้านขวาของไบรอั้น คนตัวโตหันมองเด็กลามกที่มองจ้องเขาตาเป็นมัน
   

“You can’t. (นายกินไม่ได้)”
   

“Why? (ทำไมอะ)” ไอติมยิ้มตาใส เอียงตัวเข้าหาไบรอั้น มือขวาวางลงบนเป้ากางเกงว่ายน้ำและลูบวนตามเข็มนาฬิกา ก้มหน้าลงจูบไหล่ขวาของไบรอั้นหนึ่งทีแล้วเงยหน้าขึ้นมองอีกฝ่ายตามเดิม ไบรอั้นมองไอติมอย่างเพลิดเพลิน ริมฝีปากขยับเป็นรอยยิ้มเล็ก ๆ ไอติมยิ้มกริ่ม มือขวาลูบวนไปเรื่อยจนรับรู้ว่าข้างในนั้นเริ่มขยายตัวก็เปลี่ยนเป็นใช้มือบีบและจับตามแนวพาดยาวที่เบี่ยงไปทางขวาช้าๆ
   

“This carrot is huge more than the little rabbit could eat it all. (แคร็อทอันนี้ใหญ่เกินกว่าที่กระต่ายตัวน้อยจะกินหมด)” ไอติมคลี่ยิ้มตาแป๋ว ไบรอั้นยิ้มน้อย ๆ กระต่ายตัวน้อยยื่นหน้าเข้าไปจูบริมฝีปากเจ้าของแคร็อทอันเขื่อง คนตัวโตตอบรับด้วยการงับปากสีแดง ก่อนที่คนตัวเล็กกว่าจะงับริมฝีปากหนากลับโดยที่มือยังคงบีบลูบคลำแครอทไม่หยุด
   

ตุ ตะ ตรุบ ตรับ~
   

เสียงดูดลิ้นดังอย่างแผ่วเบา ลิ้นต่างขนาดเกลี่ยไล้กันไปมาอยู่ครู่หนึ่งจนไอติมจนลุกซู่ไปทั้งตัวกับความรู้สึกลิ้นนุ่ม ๆ ดุนดันอยู่ในปาก ตอนที่ไอติมรู้สึกตัวเบาจนคล้ายจะลอยได้ก็ดึงหน้าออก น้ำลายสีใสยืดติดตอนดึงลิ้นออกจากกัน ไอติมยิ้มกว้าง ใบหน้าใสแดงฉ่ำ อาการขนลุกยังคงแล่นไปทั่วร่างกาย ไบรอั้นยิ้มมุมปากซ้ายแล้วก้มลงมองมือไอติมที่ลูบอยู่บนเนินตุงของเป้ากางเกง เขายกมือซ้ายขึ้นมาดึงขอบกางเกงว่ายน้ำออกเพราะรู้สึกอึดอัด ดึงขอบกางเกงลงไปไว้ใต้ไข่สองใบ แคร็อทที่กระต่ายน้อยจ้องจะกินดีดตัวตั้งตรงแข็งปัก
   

“โวว~” ไอติมร้องครางราวกับเพิ่งเคยเห็นครั้งแรก ไบรอั้นหัวเราะลมออกจมูก เอามือซ้ายกลับไปวางที่เดิม ไอติมไม่เสียเวลาจับเล่น ก้มลงใช้ปากดูดส่วนหัวสีชมพูอ่อนซ้ำ ๆ ย้ำ ๆ โดยไม่ขยับลงไปข้างล่าง
   

“อ่า…” ไบรอั้นหลับตาพริ้มและครางเสียงเบา นั่งเหยียดขาเหยียดแขนด้วยความรู้สึกชิล ๆ เปิดเปลือกตามองทะเลสีฟ้าเขียวด้วยความรู้สึกผ่อนคลาย ก้มลงมองก็เห็นหัวสีดำกำลังผงกหัวขึ้นลงที่กลางลำตัวของเขา หนุ่มหัวทองยกมือขวาขึ้นมาบีบก้นไอติมแน่น กระต่ายตัวน้อยที่กินแต่ส่วนหัวแคร็อทดึงหัวขึ้นมองฝรั่งแล้วยิ้ม หันไปหยิบกล้องขึ้นมาจากพื้นทรายมาถ่ายหน้าของไบรอั้น
   

“Horny now? (หงี่ยัง)” ไอติมลดกล้องลงจับภาพแคร็อทอันเขื่องพักหนึ่งก่อนแหงนกล้องจับหน้าไบรอั้นตามเดิม ฝรั่งหัวทองตาเยิ้มพยักหน้ายอมรับ
   

“I want to fuck someone. (ฉันอยากเอาใครสักคน)” ว่าไปมือก็บีบก้นไอติมไป ไอติมหัวเราะ
   

“Could it be me? (เป็นผมได้มั้ย)” ไบรอั้นยิ้มอ่อนและส่ายหัว
   

“No. (ไม่ได้)”
   

“Why? (ทำไมล่ะ)”
   

“No. (ไม่)” ไบรอั้นคลี่ยิ้มกว้างขึ้นอีกนิด ปล่อยมือออกจาก้นไอติมไปวางบนพื้นทรายตามเดิม ไอติมลดกล้องลงข้างตัวและก้มลงดูดส่วนหัวแคร็อทอีกหลายทีก่อนจะดึงหัวขึ้นตั้งตรง ยกกล้องขึ้นถ่ายหน้าไบรอั้นตามเดิม
   

“Okay, I’m gonna fuck you now. Give me your ass. (ก็ได้ ฉันจะเอานายแล้ว เอาก้นนายมาให้ฉัน)” ไอติมหัวเราะและส่ายหัว ไบรอั้นหรี่ตามองแวบหนึ่ง
   

“You can not fuck me but you can fuck this. (คุณเอาผมไม่ได้ แต่คุณเอาอันนี้ได้)” ไอติมหันไปแหวกกระเป๋าเป้ก่อนจะหยิบของบางอย่างออกมา ไบรอั้นเลื่อนสายตาไปมอง แวบแรกเขาขมวดคิ้ว แต่ก็เปลี่ยนเป็นหัวเราะขำขัน
   

“What the hell? Papaya? You are going to let me fuck papaya? (ห่าอะไรเนี่ย มะละกอเหรอ นายจะให้ฉันเย็xมะละกอเนี่ยนะ)” ไอติมหัวเราะ มือซ้ายถือมะละกอสีส้มลูกใหญ่และยาว ตัวเนื้อมะละกอยังมีความแข็งอยู่เพราะเพิ่งสุกได้ไม่นาน ไอติมยื่นมะละกอลูกนั้นไปตรงหน้าไบรอั้น
   

“Yes, fuck papaya. (ใช่ เอามะละกอนี่แหละ)” ไบรอั้นมองมะละกอสลับกับมองหน้ากล้องที่เปรียบเสมือนหน้าไอติมตอนนี้แล้วก็ขำด้วยความเหลือเชื่อ
   

“Seriously? (เอาจริงเหรอ)” ไอติมกะพริบตาปริบๆ
   

“Don’t be serious. Happy happy.” ไบรอั้นหัวเราะ กระต่ายลามกคงเข้าใจว่าเขากำลังเครียดถึงได้ตอบกลับมาแบบนั้น
   

“Alright. (ก็ได้)” ไบรอั้นหยิบมะละกอไปจากมือไอติม ยกขึ้นสำรวจไปทั่วลูก ไอติมหยิบมีดพกสีเงินที่หยิบติดมือมาจากบ้านด้วยขึ้นมาจากกระเป๋าพร้อมกับน้ำเปล่าขวดใหญ่หนึ่งขวด ยื่นของทั้งสองอย่างให้หนุ่มหัวทอง ไบรอั้นวางขวดน้ำไว้ข้างตัว ไอติมยื่นมือไปดึงกางเกงว่ายน้ำลงมาที่หน้าแข้งของไบรอั้น กระเถิบถอยหลังห่างจากฝรั่งไปประมาณหนึ่งก้าว ยกกล้องจับภาพไบรอั้นที่กำลังใช้มีดคว้านตรงจุกมะละกอออกให้เป็นรู ไอติมหันไปมองแถวโขดหินที่เดินเลาะกันมาว่ามีใครมาหรือไม่ รู้สึกโล่งใจที่ยังไม่มีใครโผล่ขึ้นมายืนบนโขดหิน และไอติมก็ยังคงภาวว่าขอให้เสร็จจากตรงนี้ก่อนแล้วใครอยากจะมาก็มา
   

“Put water in it. (เอาน้ำใส่เข้าไป)” ไอติมชี้ไปที่น้ำและชี้ที่รูมะละกอ ไบรอั้นใช้มือซ้ายเปิดขวดน้ำแล้วยกขึ้นเทใส่มะละกอไปประมาณครึ่งลูก วางขวดน้ำลง ใช้มือซ้ายปิดรูนั้นไว้แล้วเขย่าอยู่พักหนึ่งก็เทน้ำออก เมล็ดมะละกอไหลออกมาพร้อมกับน้ำจำนวนหนึ่ง ไบรอั้นมองรูมะละกอและเงยหน้าขึ้นมองไอติมแล้วก็ยิ้มขำด้วยความรู้สึกตลก เด็กลามกพยักหน้าหงึก ๆ เป็นเชิงบอกว่าให้เริ่มเลย ไบรอั้นยืดตัวตรง ใช้มือขวาจับอวัยวะส่วนนั้นไว้ให้นิ่งแล้วยัดส่วนหัวเข้ารูของมะละกอ แต่เข้าได้แค่ส่วนหัวก็เกิดการติดขัด แม้ว่าเขาจะพยายามดันมะละกอลงไปตามความยาวของอวัยวะแล้วก็ตาม
   

“It’s stuck. (มันติด)” ไบรอั้นเงยหน้าขึ้นมองไอติมในขณะที่มือซ้ายจับมะละกอ มือพยายามดันแคร็อทตัวเองเข้าไปในนั้น ไอติมหัวเราะ
   

“Your dick is big. You have to make very big hole. (จู๋คุณใหญ่อะ คุณต้องทำรูให้ใหญ่มากๆ)” ไบรอั้นยิ้มขำมุมปาก ดึงมะละกอออกจากส่วนหัว หยิบมีดพกสีเงินขึ้นมาปาดบริเวณขอบปากรูมะละกอเพื่อขยายรูทางเข้า พอรู้สึกว่ามันดูกว้างขึ้นแล้วก็วางมีดลงและลองยัดอีกครั้ง แต่ก็ยังคงติดที่ส่วนหัวอยู่ดี
   

“Hey, haha” ไบรอั้นหัวเราะอ้าปากกว้างจนหางตาปิดเมื่อรูมะละกอยังคงเล็กเกินไปสำหรับน้องชายพ่อเดียวกันของเขา ไอติมหัวเราะตามและบอกให้ไบรอั้นขยายรูเพิ่มอีก หนุ่มหัวทองหยิบมีดมาปาดขอบรูเพิ่มอีกนิดเพื่อขยายความกว้าง พอปาดเสร็จก็ใช้นิ้วชี้กับนิ้วกลางแยงเข้าไปในรูนั้นแล้วบิดนิ้วไปมา เงยหน้าขึ้นมองกล้องแล้วยิ้มกว้างพร้อมกับแลบลิ้น
   

“I choose very big papaya. (ผมเลือกมะละกอที่ใหญ่มากๆ)” ไอติมบอก
   

“You have to choose the bigger. (นายต้องเลือกใหญ่กว่านี้)” ไอติมกัดปากล่างแล้วยิ้ม ไบรอั้นมองเป้ากางเกงของไอติมที่โป่งตุงเพราะบางสิ่งกำลังดันอยู่
   

“Big bulge. (ตุงเชียวนะ)” ไบรอั้นยกมือขวาชี้เป้าของไอติม เจ้าของเป้าก้มลงมองและยิ้มเขินแต่ก็ไม่อาย
   

ไบรอั้นจับลูกชายยัดเข้าไปในรูของมะละกอ มันติดขัดนิดหน่อย แต่รอบนี้ก็เข้าลึกกว่าเดิม เขาสูดปากแผ่วเบาเพราะความคับแน่นของรู เมื่อเข้าไปได้เกือบครึ่ง ไบรอั้นก็ใช้ทั้งสองมือจับมะละกอและพยายามดันลงทีละนิด เขาสูดปากจนเกิดเสียงลมหวิว ๆ เงยหน้าขึ้นมองกล้องก็เห็นว่าไอติมกำลังกัดริมฝีปากล่างและมองเขาตาเป็นมัน ไบรอั้นยิ้มเย้า สายตาเชิญชวน และในที่สุดเขาก็ดันมะละกอลงจนกลืนกินเอ็นเนื้อของเขาเกือบมิด เพราะส่วนหัวชนกับปลายมะละกอแล้ว
   

“ออ… ซู…” ไบรอั้นห่อปากครางก่อนจะสูดปากซู๊ดเบา ๆ ข้างในเป็นโพรงโล่งให้ความรู้สึกสบาย ๆ แต่ตรงส่วนรูนั้นก็รัดแท่งเนื้อเขาแน่น พอเขาขยับมะละกอขึ้นก็อ้าปากครางเบา ๆ แล้วแหงนหน้าขึ้นจนลำคอด้านหน้าตึงแน่น สองมือจับลูกมะละกอขยับขึ้นลงอย่างเชื่องช้าเพื่อปรับให้มันไปด้วยกันได้กับแก่นกาย
   

ไอติมมองภาพฝรั่งตัวใหญ่กำลังนั่งใช้มะละกอช่วยตัวเองด้วยความรู้สึกวาบหวิว ไบรอั้นที่มีหมวกสานแตกปลายอยู่บนหัว มองแล้วให้ความรู้สึกถึงทะเลและชายหาดในหน้าร้อน มีกางเกงว่ายน้ำสีเขียวคาอยู่ตรงหน้าขาทั้งสองของ เขานั่งตัวงอเล็กน้อย ทำให้ช่วงกล้ามท้องพับเป็นชั้นบาง ๆ มันไม่ได้ทำให้เขาหุ่นย้วย แต่กลับทำให้ดูเป็นธรรมชาติตามปกติของมนุษย์ที่ไม่ได้เป๊ะเป็นรูปปั้น ต้นขาแข็งแรงอ้าออก ปลายขาทั้งสองอ้าเป็นมุมฉากแคบ ๆ ไม่กว้างเท่าต้นขาด้านบนเพราะโดนกางเกงว่ายน้ำรั้งเอาไว้ สองแขนตั้งฉากในมุมพอดี ทำให้กล้ามแขนขึ้นลูกชัดเจน
   

ฟิบ ฟิบ ฟิบ ฟิบ~
   

เกิดเสียงลมคล้ายเวลาบีบกระบองลมยามที่มะละกอถูไถขึ้นลงกับแท่งเนื้อ ไอติมซูมกล้องเข้าไปตรงช่วงโคนและไข่ที่น้ำสีส้มของมะละกอไหลออกมาเลอะเนื้อแถวนั้น ยิ่งพอไบรอั้นโกนขนตรงนั้นจนหมดยิ่งทำให้เห็นน้ำสีส้มชัดขึ้น มีเมล็ดมะละกอสีดำที่สภาพเละแล้วไหลออกมาด้วยสามสี่เม็ด ไอติมถ่ายภาพที่น้ำมะละกอไหลหยดลงบนพื้นทราย แช่ภาพไว้สักแปบก็ค่อย ๆ ไล่กล้องกลับขึ้นไป จับที่ภาพมะละกอกำลังเคลื่อนไหวไปเรื่อย ๆ ด้วยสองมือใหญ่ เอนหลังเพื่อซูมภาพออกอีกหน่อย ให้เห็นแค่ช่วงหุ่นของไบรอั้นที่ล่ำสันกำยำ ฉากหลังคือโขดหินตรงตีนเขากับตัวต้นไม้สีเข้มและหาดทรายสีขาว มีเสียงลม เสียงเรือ และเสียงมะละกอถูไถกับแท่งเนื้อเป็นซาวด์ประกอบฉาก แต่เสียงที่เพราะที่สุดตอนนี้คงเป็นเสียงครางของไบรอั้นเอง
   

“Ah…” ไอติมเขยิบกล้องขึ้นอีกนิดเพื่อให้เห็นช่วงปากกับคางที่มีเคราสีเข้มของเขา แต่ก็แช่อยู่แค่นั้น ริมฝีปากสีแดงอ่อนขยับเป็นระยะด้วยความเสียว เดี๋ยวห่อปาก เดี๋ยวสูดปากสลับกันไป ไอติมมองสร้อยคอกระต่ายแล้วยิ้มอิ่มใจ
   

“How you feel? (รู้สึกยังไงฮะ)” ไอติมถามเสียงเบา ค่อย ๆ เลื่อนกล้องขึ้นไปจับหน้าไบรอั้นที่คลี่ยิ้มกว้างพร้อมกับยักคิ้วหนึ่งที สายตาสีเทาอ่อนมองกล้องเป็นประกาย สองมือเริ่มขยับมะละกอเร็วขึ้นจากเดิมเพราะรูตรงนั้นเริ่มเข้ากับแท่งเนื้อตัวเองแล้ว ไอติมค่อย ๆ ลุกขึ้น และก้าวข้ามกางเกงว่ายน้ำที่รั้งหน้าขาสองข้างของไบรอั้นก่อนจะค่อย ๆ นั่งลงคุกเข่า ถ่ายภาพไบรอั้นกำลังเร่งจังหวะมะละกอ สีหน้าของเขากำลังเมามันส์ แต่ในจังหวะที่กำลังมันส์ได้ที่ ปลายมะละกอก็เกิดทะลุจนส่วนหัวแคร็อทของกระต่ายน้อยโผล่พ้นออกมา ไบรอั้นชะงักกึกและเงยหน้าขึ้นมองกล้องก่อนจะหัวเราะพร้อมกับไอติมที่โน้มตัวเอากล้องไปถ่ายเก็บภาพนั้นไว้
   

“Poor papaya. (มะละกอที่น่าสงสาร)” ไอติมพึมพำเสียงเบา
   

“Is it going to stand my cock till I cum? (มันจะทนจู๋ฉันได้จนฉันแตกมั้ยเนี่ย)” ไบรอั้นถามเสียงทุ้มด้วยความตลก ไอติมหัวเราะเบา ๆ ค่อย ๆ ดึงตัวกลับไปนั่งตามเดิม
   

“Try it. (ลองดูสิ)” ไบรอั้นยิ้มบางแล้วเริ่มใช้สองมือขยับมะละกอต่อไป ส่วนหัวสีชมพูมีเนื้อมะละกออ่อนติดอยู่แต่เขาก็ปล่อยมันไว้แบบนั้น รูที่เขาเป็นคนเจาะยังคงให้ความรู้สึกคับแน่นบีบรัดแก่นกายเขาได้ดี ไบรอั้นเงยหน้ามองไปทางโขดหินเมื่อได้ยินเสียงแว่วของคน แต่ก็ยังไม่มีคนปีนขึ้นมาแถวนั้น เขาเลื่อนสายตามองไอติมที่กำลังมองเขาผ่านฝาพับที่เป็นหน้าจอของกล้องอย่างตั้งใจ แต่ฟันก็กัดริมฝีปากล่างไม่เลิก เขายิ้มอ่อนโยน ก่อนจะเร่งมือเร็วขึ้นอีกนิด ปลายมะละกอที่โดนแทงจนทะลุเริ่มขยายตัวความเละ เนื้อมะละกอติดตรงส่วนปลายสีชมพูอ่อนของไบรอั้นหนาขึ้น
   

“Errr…” ไบรอั้นครางเสียงทุ้มหนัก ริมฝีปากเผยออ้า เปลือกตาปิดพริ้ม หน้าท้องเกร็งแน่นก่อนที่สองแขนจะกระตุกหนึ่งทีพร้อมกับที่ลูกชายเขาพ่นน้ำขาวขุ่นข้นออกมาหนาเตอะ มีบางส่วนพุ่งไปบนพื้นทรายแต่ส่วนมากจะเยิ้มอยู่บนหัวปนกับเนื้อมะละกอแล้วก็ไหลไปตามความยาวของเขา ไอติมกลับเข้ามาอยู่ใกล้เขาอีกครั้ง และใช้กล้องจับภาพตรงบริเวณนั้น ไบรอั้นนั่งหอบน้อย ๆ หน้าท้องหดเกร็งเป็นระยะ ไอติมเลื่อนกล้องขึ้นมาช้า ๆ จนมาถึงหน้าเขา แต่เจ้าเด็กลามกกลับถ่ายแค่ช่วงปากที่เห็นฟันกัดแน่นและสันกรามของไบรอั้นที่ขบกันจนสันขึ้นชัด
   

“Wow,” ไอติมกระซิบ ไล่กล้องไปตามร่างกายของไบรอั้น แล้วลงไปที่ตรงกลางอีกครั้ง ไบรอั้นใช้สองมือบีบมะละกอแตกออกเป็นสองชิ้น ไอติมเก็บภาพแคร็อทสีเนื้อที่มีเนื้อเยื่อของมะละกอติดอยู่ตรงส่วนหัวปนกับน้ำสีขาวจนดูหนาเตอะ จุดอื่น ๆ ของแก่นกายมีประปราย เมล็ดสีดำกองอยู่ตรงโคนอยู่สามสี่อัน สองมือของไบรอั้นวางบนต้นขา ในมือถือมะละกอข้างละชิ้น หน้าท้องยังหดเป็นระยะ สิ่งสำคัญก็คือ ลูกชายของไบรอั้นยังคงตั้งโด่แข็งแรงไม่ล้มลง ไอติมไล่กล้องขึ้นไปบนหน้าของไบรอั้นที่อยู่ใต้หมวกสาน ใบหน้าของเขายังคงมีอารมณ์… อยู่
   
V
v
v
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18-02-2019 13:07:28 โดย ขุ่นเจ้ »

ออฟไลน์ คุณเจ้

  • Follow your heart, but take the brain with.
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-8
V
v
v

“Your dick. (จู๋คุณอะ)” ไบรอั้นยิ้มมุมปากพร้อมกับยักคิ้ว
   

“Yeah.” ไอติมมองไบรอั้นตาเป็นประกายและกัดริมฝีปากล่างแน่น
   

“Fuck me? (เอาผมมั้ย)” ไบรอั้นไม่ตอบหรือปฏิเสธ ทำเพียงมองหน้าไอติมแล้วยิ้มกรุ้มกริ่ม เขาวางมะละกอไว้ข้างตัว หยิบน้ำเปล่าขึ้นมาล้างแท่งเนื้อของตัวเอง ไอติมวางกล้องไว้บนพื้นทรายโดยไม่ได้จัดมุมใด ๆ หันไปที่กระเป๋าแล้วหยิบเจลหล่อลื่นออกมา ลุกขึ้นยืนแล้วก็ถอดกางเกงขาสั้นออกจากขา เหลือแต่เสื้อยืดสีขาว ไบรอั้นหดขาพร้อมกับโน้มตัวไปข้างหน้าเพื่อถอดกางเกงว่ายน้ำออก ไอติมแท่งที่แข็งตัวมานานพุ่งชี้หน้าไบรอั้นที่นั่งเอาแขนยันตัวรอแล้ว ไอติมบีบเจลหล่อลื่นใส่นิ้ว แหกขาออกเล็กน้อยแล้วเอานิ้วซ้ายทาตรงกลีบเนื้อตัวเองก่อนจะแยงเข้าไปเพื่อเบิกทาง พอรู้สึกว่าได้ที่แล้วก็โยนเจลเข้าไปในกระเป๋า กระเถิบเท้าเข้าใกล้ไบรอั้นอีกนิดแล้วอ้าขาออกพร้อมกับนั่งยอง ๆ มือซ้ายเลื่อนไปจับแคร็อทของฝรั่งตัวใหญ่ จับส่วนหัวมันยัดเข้าไปในรูก่อนจะค่อย ๆ นั่งลง และแม้ว่าจะทาเจลหล่อลื่นไปแล้วแต่ก็ยังคงรู้สึกคับแน่นเหลือเกิน
   

“โอ่ะ…” ไอติมแหงนหน้าขึ้นและหลับตาพริ้ม วางสองแขนไว้บนข่วงไหล่ของไบรอั้น ค่อย ๆ กดตัวเองลงไปจนกระทั่งแคร็อทฝังเข้าไปด้านในจนมิดด้าม ไอติมเปิดเปลือกตาขึ้นพร้อมกับอ้าปากกว้าง หน้าท้องหดเข้าไปเพราะความจุกเสียด นั่งแช่นิ่ง ๆ เพราะยังไม่กล้าขยับ ไบรอั้นขยับกล้องมาวางไว้ฝั่งซ้ายของตัวเอง ใช้ก้อนหินก้อนเล็กดันหน้ากล้องขึ้น แต่ไม่รู้ว่ามุมที่ได้จะเป็นยังไง
   

“See? I can eat your carrot. (เห็นมั้ย ผมกินแคร็อทคุณได้)” ไอติมยิ้มอย่างภูมิใจ ไบรอั้นมองหน้าไอติมด้วยใบหน้านิ่ง ก่อนจะยกมือขวาที่เปื้อนทรายขึ้นตีก้นซ้ายของไอติมไปที และเอากลับไปวางไว้ที่เดิม
   

พอรู้สึกว่าอยู่ตัวแล้ว ไอติมก็เริ่มขยับโดยการหมุนก้นไปตามเข็มนาฬิกาอย่างช้า ๆ ไอติมหลับตาพริ้ม แหงนหน้าขึ้นนิดหนึ่ง ลูกกระเดือกอันน้อยเคลื่อนไหวยามที่กลืนน้ำลายลงคอ ไบรอั้นเองก็เคลิ้มไม่แพ้กัน เขาขยับหัวเข่าสองข้างกว้างอีกนิด นั่งอ้าซ่าให้ไอติมเป็นคนคอนโทรลตัวเอง ไอติมยื่นหน้าเข้าไปจูบปากไบรอั้นและแลบลิ้นเลียริมฝีปากของอีกคน ไบรอั้นเปิดปากแล้วแลบลิ้นออกมาเกลี่ยไล้คลอเคลีย หน้าผากไอติมดันปีกหมวกด้านหน้าจนพับเข้าไปทำให้หมวกแหงนขึ้นเกือบหลุดออกจากหัวของฝรั่ง ทั้งสองคนปิดปากสนิทและคลึงลิ้นกันและกันอย่างหนักหน่วง ตอนนั้นเองที่ไอติมเริ่มขยับตัวขึ้นลงจนเกิดเสียงเนื้อกระทบกันดังตับ ๆ ร่างผอมบางร้องครางแล้วถอนจูบออก แหงนหน้าขึ้นและอ้าปากหวออ่อน ๆ มีเสียงลมดังแผ่วออกมาจากช่องคอ ไบรอั้นยื่นหน้าเข้าไปดูดคอไอติมตรงช่วงใต้คางอย่างแรงหนึ่งทีแล้วก็ดึงหน้าออก
   

“อึ่ อึ่…” ไอติมเปิดเปลือกตามองหน้าไบรอั้นที่กำลังมองตัวเองอยู่ด้วยสายตาฉ่ำเยิ้ม ไอติมยกสองมือขึ้นจับกรอบหน้าหล่อ เอียงหน้าแล้วยื่นเข้าไปจูบปากไบรอั้น อีกฝ่ายแลบลิ้นออกมาไอติมเลยดูดไปหนึ่งทีก่อนจะดึงหน้าออกแล้วเด้งตัวขึ้นลงเป็นจังหวะสม่ำเสมอ เสียงเนื้อกระทบกันดังก้องในหูของทั้งสองคนแต่ก็ยังได้ยินเสียงเรือจากกลางทะเล และเสียงผู้คนที่ดูจะเริ่มเทมาทางฝั่งนี้มากกว่าเดิม
   

“The view is so good. (ตอนนี้วิวดีมากเลย)” ไบรอั้นยักคิ้วไปทางท้องฟ้า ไอติมที่ยังนั่งขย่มอยู่บิดหน้าหันไปมอง ท้องฟ้าที่เริ่มมีสีส้มสีแดงปนกับสีฟ้าสีน้ำเงินเข้ม เจ้ากระต่ายหยุดขย่มแล้วลุกขึ้นยืนยอง ๆ แบบช้า ๆ หันหน้าออกไปทางทะเลแล้วค่อย ๆ นั่งลงโดยมีไบรอั้นช่วยจับแก่นกายให้เข้าไปในก้นที่บริเวณปากทางเปิดอ้าแล้ว ไอติมหายใจหอบเบา ๆ เอนตัวพิงกับร่างของไบรอั้น ยกแขนซ้ายขึ้นจะคล้องหนา ปลายนิ้วปัดไปโดนหมวกของไบรอั้นตกลงพื้น แต่เจ้าของก็ไม่ได้สนใจหยิบขึ้นมา ไอติมยื่นหน้าเข้าหาไบรอั้นแล้วก็ยื่นปลายลิ้นเกลี่ยกันไปมาแบบชิล ๆ ไอติมยิ้มแหะ ชวนให้ไบรอั้นยิ้มไปด้วยทั้งที่ยังเลียลิ้นของกันและกันอยู่
   

“You are really the rabbit, (นายนี่มันกระต่ายจริงๆ)” ไอติมคลี่ยิ้มเริงร่าและเริ่มเด้งเอวขึ้นลงด้วยจังหวะเท่าเดิม ไอติมแท่งที่แข็งไม่ยอมลงตั้งโด่และเด้งตัวตามจังหวะขึ้นลง น้ำสีใสไหลเยิ้มจนส่วนหัวฉ่ำแฉะ ไบรอั้นใช้เสื้อไอติมเช็ดทรายออกจากมือซ้ายจนสะอาดแล้วยื่นไปวางบนหัวสีชมพูของไอติมแท่งก่อนจะวนมือย้อนเข็มนาฬิกาเร็ว ๆ ไอติมหน้าหยี กัดฟันแน่น
   

“Look at the rabbit’s face now. (ดูหน้าเจ้ากระต่ายตอนนี้สิ)” ไบรอั้นยิ้มร้ายกาจ ไอติมกัดริมฝีปากล่างแน่น สีหน้าทรมาน หน้าท้องหดเกร็ง จังหวะเด้งเริ่มแปลกไปเพราะทั้งแสบและเสียวตรงส่วนหัว
   

“อื๊อ! อ๊า!”
   

“ชู่! ชู่วๆ เฮ้ๆ” ไบรอั้นปล่อยมือออกจากตรงนั้นแล้วเอานิ้วชี้ขึ้นจุ๊ที่ปากหน้าตาตื่นพร้อมทั้งหันไปมองบริเวณโขดหินที่อีกฝั่งนึงมีเสียงชาวต่างชาติกำลังพูดคุยและคงถ่ายรูปกันอยู่ให้ได้ยินแว่วมา ไอติมหยุดเด้งเอว แหงนหน้าหอบคราง  ไบรอั้นหันกลับมามองเด็กลามกแล้วก็ยิ้มขำก่อนจะจับให้คนด้านบนออกจากแก่นกายเขา ไอติมลุกขึ้นยืนแบบงง ๆ ไบรอั้นดันตัวลุกขึ้นนั่งยอง ๆ  หยิบกางเกงขาสั้นทั้งของเขาและไอติมขึ้นมาวางบนพื้นทรายตรงบริเวณที่เขานั่ง ก่อนหันไปดึงให้ไอติมนั่งลง
   

“Lie on your stomach, (นอนคว่ำหน้าลง)” ไอติมทำหน้างง ๆ ไบรอั้นเลยคิดคำอธิบายอีกรอบ
   

“Dodgy. (ท่าหมา)” ไอติมเข้าใจเลยวางเข่าลงบนกางเกง โน้มตัวไปข้างหน้า ตอนที่กำลังจะเอาข้อศอกวางบนพื้น ไบรอั้นก็ดึงต้นเขาให้ไถลลงไป และกดก้นเขาลงจนช่วงกลางลำตัวราบติดไปกางเกงที่ปูอยู่บนพื้นทราย ไอติมเหลียวหน้าไปมองไบรอั้น หนุ่มหัวทองจับเขาอ้าขาแล้วก็นอนแทรกลงตรงกลาง จับแคร็อทดันเข้ามาในก้นเขา สองแขนดันตัวเอาไว้ ไอติมใช้ข้อศอกดันตัวขึ้น ยกแขนขวาขึ้นคล้องคอไบรอั้นจากด้านหน้า ดึงให้คนข้างบนลงมาจูบกับตัวเอง ไบรอั้นก้มลงไปจูบด้วย และเริ่มขยับสะโพกเข้าหาไอติม เสียงเนื้อก้นของไอติมกับเนื้อช่วงโคนขาของไบรอั้นกระทบกันตับๆ
   

“อืมม… อา… หมอั่ว…” เสียงอืออาของทั้งสองคนดังคลอประสานกันยามที่ลิ้นของกันและกันเลียกันไปมาจนน้ำลายเยิ้ม ไอติมถอนจูบ มองหน้าไบรอั้นที่อยู่ใกล้กันแล้วยิ้ม หนุ่มตาสีเทาอ่อนหอมหน้าผากกระต่ายไปหนึ่งที ไอติมคลี่ยิ้มน่ารัก กดหน้าลงมองที่กล้อง หางตาเห็นกางเกงว่ายน้ำสีเขียวขี้ม้าวางอยู่ใกล้กันเลยยื่นมือขวาไปหยิบมาสูดดมตรงบริเวณเป้ากางเกง
   

“How it smells like? (กลิ่นเป็นไงล่ะ)” ไบรอั้นถามทั้งที่ยังกระแทกไปเรื่อย ๆ ไอติมคลี่ยิ้มและแลบลิ้นเลียริมฝีปากล่างไปที
   

“My carrot is so good. (แคร็อทของผมกลิ่นหอมมาก)” ไบรอั้นยิ้มมุมปาก ไอติมวางมือขวาที่กำกางเกงว่ายน้ำของไบรอั้นลงบนพื้นทราย ก้มหน้าลงเพราะความเสียวท้องน้อย ร้องครางคล้ายใจจะขาดอยู่ในลำคอ ไบรอั้นหยุดกระแทกไปแปบหนึ่งแล้วคุกเข่าลงบนพื้นโดยไม่ให้สิ่งที่เชื่อมกันอยู่หลุดร่วง เขาดึงเอวไอติมให้ตั้งโด่งขึ้น ไอติมใช้แขนซ้ายเป็นหมอนรองหน้าตัวเอง ไบรอั้นยื่นมือไปหยิบหมวกขึ้นมาสวมตามเดิม แล้วก็เริ่มกระแทกต่อ แต่รุนแรงขึ้นกว่าเดิม
   

ปักๆๆๆ!!!
   

ไอติมอ้าปากกว้าง เปลือกตาปิดจนตาหยี ส่งเสียงซี๊ดซ๊าดไม่ขาดปาก ตอนที่ลืมตาขึ้นเพราะรู้สึกพร่าเบลอในหัว ไอติมก็ปล่อยกางเกงว่ายน้ำไว้บนพื้น ยื่นมือไปหยิบกล้องมาตรงหน้าตัวเอง แหงนหน้ากล้องไปหาไบรอั้นโดยที่ไม่รู้ว่าเห็นชัดมากน้อยแค่ไหน แต่ก็จับไว้อยู่อย่างนั้น
   

“ซื้ด อ้า โอ๊ย…” ไอติมครางเสียงเพี้ยน ใบหน้าบิดเบี้ยว บริเวณท้องน้อยทั้งเสียวทั้งจุกราวกับว่าปลายแก่นกายของไบรอั้นแทงถึงกระเพาะ ในตอนที่รู้สึกเหมือนจะขาดใจจนกัดฟันแทบจะแตก ไอติมแข็งก็ปล่อยน้ำพุ่งออกมาเอง ไอติมครางฮือ ปล่อยมือออกจากล้อง และหันตัวไปดันไบรอั้นเพื่อให้หยุดเนื่องจากมันเสียวตรงเส้นเอ็นจนขนลุก
   

“Oh, no, please…” ไบรอั้นยิ้มเหี้ยม กระแทกเข้าหาแรงกว่าเดิม มือขวาของไอติมที่ดันตัวล่ำหนาของไบรอั้นไว้สั่นระริก แขนซ้ายที่ดันตัวไว้ก็สั่นจนแทบจะหมดแรง ไอติมตาเหลือกขึ้นข้างบน ริมฝีปากอ้ากว้างร้องครางเสียงสั่นและเพี้ยนจนนึกว่าเป็นไข้
   

“Why? This is not you. My rabbit love to fight with my carrot. (ทำไมล่ะ นี่ไม่ใช่นายเลย กระต่ายของฉันชอบที่จะสู้กับแคร็อทของฉันนะ)” ไบรอั้นจับมือขวาของไอติมออกจากตัว จับดึงให้ตึงและดึงแขนซ้ายมาดึงให้ตึงอีกข้าง จากนั้นก็กระแทกรัว ๆ จนตัวไอติมสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง
   

“อ๊าๆๆๆ” ไอติมพยายามห้ามเสียงแต่ก็ห้ามไม่ได้
   

“Hey, bite your tongue. (เฮ้ เงียบไว้น่า)” ไอติมที่ทั้งเคลิ้ม ทั้งเสียว และทั้งจุกกัดริมฝีปากล่างแน่น ใบหน้าเรียวสวยคล้ายคนจะร้องไห้ ไบรอั้นดึงแขนไอติมไว้แน่นจนตัวไอติมลอยและกระแทกด้วยความรู้สึกมัน (ส์) เขี้ยว ไบรอั้นอ้าปากกว้างและทำหน้าเหยเกคล้ายว่าเจ็บอะไรสักอย่างแต่มันคือความเสียว หนุ่มหัวทองแยกเขี้ยวในตอนที่รู้สึกถึงอาการใกล้ปลดปล่อย พอถึงจุดที่จะพ่นน้ำเขาก็หยุดกะทันหันและพ่นน้ำเข้าไปในก้นของไอติม
   

“อ้า อ้า ซี้ดดด…” ไบรอั้นหลับตาแน่นและกัดฟันแน่น เขาค่อย ๆ ปล่อยแขนของไอติม กระต่ายตัวน้อยทรุดตัวลงกับพื้นอย่างหมดแรง ทำให้ความใหญ่ยาวของไบรอั้นเด้งหลุดออกพร้อมกับที่น้ำขาวขุ่นไหลเยิ้มออกมาจากกลีบเนื้อสีอ่อน ไบรอั้นที่หายใจหอบโน้มตัวไปข้างหน้า หยิบกล้องมาถ่ายตรงก้นไอติม ใช้มือซ้ายแหวกตรงรูเพื่อเก็บภาพความฉ่ำแฉะตรงนั้นไว้ น้ำสีขาวไหลเยิ้มคารูสีน้ำตาลอ่อนของไอติม เขาเลื่อนหน้ากล้องมาจับภาพลูกชายเขาที่มีน้ำสีขาวเลอะเปรอะเปื้อนพักหนึ่ง แล้วก็เลื่อนกลับไปที่รูของไอติมอีกพักก่อนจะเอากล้องกลับไปวางที่เดิม แหงนหน้ากล้องขึ้นอีกนิด จับไอติมที่นอนหมดแรงให้นอนหงาย เขายิ้มขำตอนที่เห็นไอติมหมดสภาพ ดวงตาดูเหม่อลอยหน่อย ๆ แขนสองข้างวางข้างตัวอย่างปวกเปียก ขาสองข้างแบะออกแบบอ่อนแรง ไบรอั้นก้มลงมองลูกชายตัวเองที่ยังแข็งโด่แล้วเงยหน้าขึ้นมองไอติมที่หน้าแดงก่ำและดูท่ากำลังพยายามฟื้นตัว เขาทำหน้าหนักใจ ครุ่นคิดอยู่พักหนึ่งแล้วสุดท้ายก็ตัดใจ


ไบรอั้นเขยิบเข้าไปใกล้ไอติม จับขาขาว ๆ แบะออก จับใต้ต้นขาของไอติมวางไว้บนหน้าขาของตัวเอง ดันลูกชายเสียบเข้าไปในรูฉ่ำแฉะอีกรอบ ไอติมตัวกระตุกเฮือก สองแขนที่เมื่อยล้ายกขึ้นจับแขนไบรอั้นอย่างอ่อนแรง ยังไม่ทันพูดอะไรฝรั่งตัวใหญ่ก็จัดการซอยอีกรอบ พอไอติมอ้าปากจะร้องก็หยิบกางเกงว่ายน้ำขึ้นมาอุดปากเอาไว้ ก้มลงจูบหน้าผากไอติมหนึ่งจุ๊บแล้วก็ซอยถี่แบบที่ไอติมก็ได้แต่ร้อง…
   

…ว้าวในใจ ว่ามันถูกใจเหลือเกิน ถึงแม้จะแทบไม่มีแรงรีแอคกับขวัญใจตัวเองแล้วก็ตาม แต่กระต่ายตัวนี้ก็อิ่มกับแคร็อทจนจุกท้องไปหมด

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18-02-2019 13:08:01 โดย ขุ่นเจ้ »

ออฟไลน์ aiyuki

  • รักแท้ไม่แบ่งแม้เพศพันธุ์
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2628
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-6
ว้าววว น้องติมแซ่บมากกก

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
อยากกินมะละกออออ  :hao6:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ naruxiah

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 912
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-2
น้องติมทำไม​น้องติมดูฟินขนาดนี้คะลูก :z1:

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3377
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3377
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
ไอติมเชี่ยวขึ้นมาก

ออฟไลน์ nisaday

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 134
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
งานออนดาบีชแซ่บนัวก็มาจ้าาาา
พี่ไบรอันไปโดนยาดองโด่ไม่รู้ล้มมาอ้ะป่าว
ความดิบเถื่อนบนหาดทรายนี้ อ่านแล้วเลือดจิหมดตัวจ้าาาา

ออฟไลน์ Gugii

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 139
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
เดี๋ยวอีกไม่นานไอติมคงพูดอังกฤษคล่องแล้ว
แล้วเมื่อไหร่จะสามพี 555

ออฟไลน์ Janemera

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 152
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
น้องติมสู้เพื่อแครอทททท :jul1: :m25: :laugh:

ออฟไลน์ Ti0590

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 455
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
โอ๊ยยยยยย แซ่บมากกก เป็นเรื่องที่อ่านข้างนอกไม่ได้ ต้องกลับมาอ่านที่บ้านน เหมือนไบรอั้นจะรู้สึกดีๆกับไอติมเพิ่มขึ้นเนาะะ

ออฟไลน์ ณ ที่เดิม™

  • มากกว่าชีวิต...
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1699
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +72/-0
อื้อหือ ออนเดอะบีซซะด้วย
กว่าจะจบเรื่องง ไอติม จะไม่พรุนแย่เหรอ  :hao6:

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
เลือดโซมกาย..ยยยยยย    :jul1: :jul1: :jul1:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด