ตอนที่ ๕๑
“แหมดูสิ ท่าทางสนุกกันใหญ่เลย” ชมพู่พูดพลางยิ้มหยันๆ
“ทำไม แกเห็นคนอื่นมีความสุขแล้วไม่ชอบใจเหรอไง” ต้อยเบือนสายตาจากกลุ่มของน้ำหยด มายังชมพู่ แล้วหันไปมองหน้าหมู
“ก็ดูเด๊ะ ในโรงอาหารยังถึงเนื้อถึงตัวกันขนาดนี้ อยู่กันตามลำพังจะขนาดไหน เห็นว่าไปขลุกอยู่ด้วยกันบ่อยๆไม่ใช่เหรอ” ชมพู่ยังคงพูดต่อ
“แกไปรู้เรื่องเค้าได้ไงวะ” อ้วนสงสัย
“รู้ก็แล้วกัน” ชมพู่เหยียดปาก “เห็นว่าไปหอ๕บ่อยๆ บางทีก็อยู่จนดึกจนดื่น”
“ก็เค้าเพื่อนกัน ก็ไปหากัน ... หรือแกจะให้เค้าไปขลุกอยู่หอหญิง” ต้อยพูดด้วยน้ำเสียงขุ่นๆ
“เพื่อนอะไรกันยะ ดูโน่น เห็นมะ โอบคอโอบไหล่กันขนาดนั้น” ชมพูดแล้วหันไปมองน้ำหยด ที่โดมและชูโอบไหล่ไว้คนละข้าง กำลังเดินอยู่ในกลุ่มเพื่อนที่กำลังออกจากโรงอาหาร
“ทำไม แกไม่มีคนโอบแบบเค้าน่ะสิ ถึงได้คอยหาเรื่องซะจริง” ต้อยเบ้หน้า
“แล้วทำไมแกถึงเข้าข้างเค้านัก หรือว่า …” ชมพู่หยีตา “แกชอบเค้าเหรอไง” พูดแล้วก็ยิ้มเหยียดๆ
“ใช่ เราชอบพี่น้ำ” ต้อยยอมรับ อย่างไม่กลัวเพราะเขายอมรับกับหมูไปแล้ว “แต่เราชอบแล้วไม่ได้ไปคอยหาเรื่องใส่คนที่พี่เค้าคบอยู่ หาทางให้เค้าเลิกกัน แล้วมาคบกับเราเหมือนที่บางคนอยากให้มันเป็น”
“นายว่าใคร” คราวนี้ชมพู่พูดโกรธๆ ... ความโกรธนั้นออกมาทั้งทางน้ำเสียง สีหน้าและแววตา จนทุกคนบนโต๊ะหันมามอง
“ใครอยากจะรับว่าทำอยู่ก็รับไป”
พูดจบต้อยก็ลุกจากเก้าอี้ยาวเดินออกจากโรงอาหารไป ส่วนชมพู่เปลี่ยนสายตาที่โกรธเกรี้ยวไปยังน้ำหยดที่อยู่ไกลๆแทน
หมูที่นั่งเงียบอยู่นานก็ลุกขึ้นเดินตามต้อยออกไป ทำให้ชมพู่ยิ่งหน้าบึ้งด้วยความขุ่นเคือง
......................................................................
................................
รถสปอร์ตสีแดง ที่ดูคุ้นตาจอดอยู่ใกล้ๆหอชาย๙ ทำให้หมูรู้สึกแปลกใจ พอจอดรถจักรยายและลอคล้อเรียบร้อย จึงได้ยินเสียงทักทายดังมาจากคนที่เปิดประตูรถออกมา
“หมู” เสียงทักทายพร้อมกันตัวของเด็กหนุ่มที่เดินเข้ามาใกล้
“ว่าไง ติ๊ก” หมูทักตอบ
“น้ำล่ะ” ติ๊กถามถึงคนที่ตนเองรีบมาหาเมื่อสอบเสร็จเมื่อตอนเที่ยง
“อยู่กับพรรคพวกเค้ามั๊ง เห็นเดินออกมาจากโรงอาหารด้วยกัน” หมูตอบด้วยสีหน้าเรียบเฉย
“อ้าว ... เหรอ งั้นเดี๋ยวเรานั่งรอก่อนก็ได้”
“งั้นเราขอตัวก่อนนะ” พูดจบหมูก็เดินเข้าหอพักไป ปล่อยให้ติ๊กยืนงงอยู่พักหนึ่ง ก่อนจะเดินกลับเข้าไปในรถ ปรับเบาะนั่งให้เอยหลังลง พร้อมกับเปิดเพลงเบาๆฟังไปพลางในระหว่างที่นั่งรอ แต่พอเวลาผ่านไปสักพักก็ผลอยหลับไปไม่รู้ตัว
“ติ๊ก ...อ่ายติ๊ก” เสียงตะโกนอยู่ข้างๆหู จนติ๊กสะดุ้งสุดตัว
“ไอ้น้ำหยด” ติ๊กเรียกคนที่ยืนอยู่ข้างประตูรถที่เปิดอยู่ พลางโน้มตัวเข้ามาใกล้ๆเขา
“นอนหลับเข้าไปได้ไง เดี๋ยวก็ขาดอากาศตายหรอก” น้ำหยดพูดพลางขมวดคิ้วจนหน้าผากย่น พลางขยับตัวออกไป ติ๊กปิดเครื่องเสียงและแอร์ในรถ ออกมาปิดประตูแล้วลอคประตูด้วยกุญแจไฟฟ้า
“รอนานไปหน่อยหว่ะ เลยเผลอหลับไป” พูดแล้วก็บิดขี้เกียจ
ท่าทางบิดไปบิดมา ทำให้น้ำหยดยิ้มเพราะนึกขัน พอบิดขี้เกียจเสร็จ ติ๊กก็มองหน้าน้ำหยดนิ่ง
“มองไร” น้ำหยดถามด้วยความสงสัย
“บางทีเราก็สงสัยนะ ว่านายน่ะร่าเริงเกินไปรึเปล่า แล้วนี่มีเรื่องอะไรกับไอ้หมูมันเหรอไง” ติ๊กถามด้วยน้ำเสียงเป็นงานเป็นการพลางกอดอก
“ไม่มีนี่ ทำไมเหรอ” น้ำหยดมองหน้าติ๊กอย่างงงๆ
“เมื่อกี้เจอหมู หน้ามันหงิกเชียวตอนที่ถามถึงนาย”
“เหรอ” น้ำหยดก้มหน้าครุ่นคิดก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาตอบ “เราไม่ได้คุยกับหมูเลยตั้งแต่ศุกร์ที่แล้ว สัปดาห์นี้พวกปี๑ก็สอบกันทุกวัน คงเครียดกับเรื่องสอบมั๊ง ว่าแต่นายเหอะ ... มาทำไม”
“มาหานายน่ะแหละ พ่อสั่งให้มา” พูดแล้วติ๊กก็โอบไหล่น้ำหยด “ไปคุยกันที่ห้องนายดีกว่า เดี๋ยวคืนนี้เราค้างหน่อยนะ พรุ่งนี้สายๆค่อยกลับ”
“อื้อ” น้ำหยดรับคำ พลางเดินเข้าหอพักไปกับติ๊ก