หยก 9-04-19 {{:::บทส่งท้าย:::}}
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: หยก 9-04-19 {{:::บทส่งท้าย:::}}  (อ่าน 45211 ครั้ง)

ออฟไลน์ Amo

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 172
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +136/-1
Re: หยก 05-10-17 {{:::17:::}}
«ตอบ #60 เมื่อ05-10-2017 20:47:19 »

17

    หลิวลู่เดินไปสมทบกับสองอาหลานที่กำลังสนทนากันเกี่ยวกับเขาอยู่ วรากรคงจะเล่าเรื่องราวของเขาให้หลานชายคนเดียวฟังไปบ้างแล้ว เมื่อทั้งสองได้ยินเสียงฝีเท้าเขาเดินเข้าไปใกล้ก็หยุดบทสนทนาลง

   “อาหลิว หากก่อนหน้านี้ผมทำอะไรให้อาไม่พอใจ ผมก็ขอโทษอาด้วยนะครับ” พยัคฆ์กล่าวขอโทษเขาทันทีที่เห็นว่าเป็นใครเดินเข้าไป

   “ไม่เป็นไร อาไม่ถือ แต่อย่าเรียกอาว่าอาหลิวเลย จะเรียกตามหลาน ๆ อาก็ได้”

   “แล้วอากร เรียกอาหลิวว่าอะไรครับ อย่างน้อยถ้าเจอกันที่ที่ออฟฟิต เราจะได้เรียกเหมือนกัน”

   “อาเรียก...กวางน้อย” วรากรส่งสายตาหวานเยิ้มไปให้จนเขาต้องเสหน้าหนี

   “เฮีย!! เอาดีๆ นี่มันใช่เวลาไหม?”

   “ฮ่าๆๆ ขอโทษๆ อาก็เรียกชาติอย่างที่แกเรียกนั่นแหละไอ้เสือ”

   “ครับ งั้นผมเรียกอาชาติแล้วกันนะครับ”

   “ที่ให้เฮียมารอ คงจะอยากคุยเรื่องลตาสินะ” วรากรเข้าเรื่อง

   “อืม เฮียรู้เรื่องเจ้าสัวเซียงแค่ไหน?”

   “เท่าที่พวกเราพอจะรู้ เจ้าสัวเซียง ค้าไม้อยู่ทางเหนือครับ แล้วมีหนี้ก้อนใหญ่ตามบ่อนต่าง ๆ ไม่ใช่แค่ที่สองที่ บ้านนี้มีหนี้สินพอสมควร” พยัคฆ์รายงานเขา

   “เรื่องนั้น อารู้อยู่แล้ว แล้วเรื่องคุณลตานั่นล่ะ”

   “เรื่องนี้ผมเพิ่งเริ่มสืบได้ไม่นาน ยังไม่ค่อยรู้รายละเอียดเท่าไรครับ”

   “อืม...”

   “หลิว เฮียขอหลิวแล้วนะ” วรากรย้ำคำมั่นสัญญาระหว่างเรา ตั้งแต่วันที่เขาเข้าไปหาวรากรที่ห้องทำงาน

   “ผมรู้ ผมจะไม่ปิดบังอะไรเฮียแล้ว แค่ไม่รู้ว่าจะเริ่มจากตรงไหนดี”

   “งั้นก็เริ่มที่เจ้าสัวเซียงสิ มันตามหาหลิวทำไม”

   “ตระกลูไบ่เคยเป็นคนที่ค้าขายกับตระกูลฝู่มาก่อน พวกนั้นไปมาหาสู่กับครอบครัวฝู่มานาน สนิทสนมกันจนกระทั่ง เจ้าสัวเซียง หรือ ไบ่เซียง(白象) ถูกทาบทามให้แต่งงานเข้าตระกูลฝู่ ตระกลูไบ่ที่มีลูกชายเพียงคนเดียวมีหรือจะยอม ยิ่งมีข่าวลือเรื่องอาซ้อแล้วด้วย พวกนั้นค่อย ๆ ตีตัวออกห่าง โดยอ้างว่าได้ส่งเจ้าสัวเซียงมาดูแลปางไม้ที่นี่ และเมื่ออาหงส์เกิด ทางตระกูลไบ่ก็กลับมาทาบทามให้อาหงส์ไปเป็นคู่หมายของลูกชายเจ้าสัวเซียง เพราะรู้ว่าอาหงส์มีเมฆาขาวอยู่”

   “นายเกรียงไกรนี่นะ ใครได้ไปนี่ตกนรกทั้งเป็น” พยัคฆ์วิจารณ์

   “ตระกูลไบ่ตอนนั้นก็หากินกับพวกค้าอาวุธเถื่อน โดยให้ใช้เส้นทางที่พวกมันได้สัมทานป่าไม้มา ให้พวกค้าอาวุธนั่นใช้ในขนของ แล้วพวกที่ถูกจับได้ส่วนหนึ่งก็ใช้เส้นทางของเจ้าสัวเซียง”

   “ครั้งล่าสุด ที่ไปหาหลิวที่บ้านใหญ่ ก่อนจะเกิดเรื่องกับตระกูลฝู่ น่าจะเป็นวันเดียวกับที่มันเข้าไปทาบทามหงส์ เฮียได้มีโอกาสเห็นไบ่เซียงในตอนนั้น”

   “อืม...ตอนนี้ตระกลูฝู่ที่ฮ่องกงก็เหมือนมังกรไร้หัว หางก็กัดกันเอง เท่าที่ผมรู้  พวกธุรกิจถูกกฎหมายน่ะยังอยู่ แต่ไม่รุ่งเรืองเหมือนเมื่อก่อน เหมือนแค่เป็นฉากหน้าของการขายของผิดกฎหมายเท่านั้น ภายในตระกูลก็แบ่งเป็นฝักเป็นฝ่าย สลับสับเปลี่ยนกันขึ้นกุมอำนาจมาตลอด 20 ปี”

   “นี่แสดงว่า หยกก็ยังมีพี่น้องหรือญาติอยู่ที่ฮ่องกงอีกหรอครับ”

   “ถึงใช่ ก็ไม่ได้เป็นสายตรงเหมือนอย่าอานั่นแหละ เป็นคนนอกทั้งนั้น”

   “หลิวไม่ควรคิดแบบนี้นะ หลาน ๆ เขามีแต่หลิว เป็นอา เป็นน้องของพ่อแท้ ๆ เป็นญาติเพียงคนเดียวที่หลาน ๆ ไว้ใจ อยากคิดว่าตัวเองเป็นคนนอกแบบนี้อีก เข้าใจไหม? การคิดแบบนั้นมันอาจจะทำร้ายจิตใจหลานโดยไม่รู้ตัว” วรากรพยายามเตือนเขา

   “อาชาติ เป็นน้องแท้ ๆ ของพ่อน้องหยกหรอครับ”

   “อืม”

   “พ่อของหยกคงไม่ได้เป็นอดีตหน่วยซีลด้วยอีกคนหรอกนะครับ”

   “ไม่ใช่หรอก พี่ชายอาก็แค่อดีตตำรวจธรรมดาๆ น่ะ”

   “ถ้าผมเดาไม่ผิด เจ้าสัวเซียงต้องการให้นายเกรียงไกรแต่งงานกับหงส์ เมื่อหงส์ที่เป็นทายาทสายตรงก็มีสิทธิ์ที่จะเข้าไปจัดการธุรกิจของครอบครัวฝู่ได้ ใช่ไหมครับ แล้วเขารู้ได้ยังไงว่าหงส์อยู่กับอา?”

   “อาสงสัยว่าตระกูลไบ่เป็นคนแพร่ข่าวลือทั้งหมด เพราะไม่อยากให้ไบ่เซียงมันมาแต่งเข้าตระกูลฝู่ หลังจากหงส์เกิดได้ไม่กี่ปี อาก็ออกจากงานมาเป็นบอดี้การ์ดให้อาซ้อ ไม่แปลกหรอกที่ไบ่เซียงมันจะสงสัยอา และตอนนั้นหงส์ก็ติดอากับเฮียกรมาก”

   “แล้วถ้าหงส์ไม่ยอมแต่งงานกับนายเกรียงไกรล่ะครับ”

   “หงส์ไม่ยอมแต่งงานกับนายเกรียงไกรแน่นอน และไม่คิดจะดองกับตระกูลไบ่ด้วย อย่าลืมสิ ถึงตอนนั้นหงส์จะยังเด็ก แต่ก็มีเมฆาขาวห้อยติดตัวตลอด”

   “หงส์รู้ว่าคนพวกนั้นคิดและต้องการอะไร แล้วแบบนี้พวกมันจะมีแผนอะไรต่อไป”

   “ถ้าเลวร้ายจริง ๆ  พวกมันก็คงชิงเมฆาขาวไป แล้วอ้างสิทธิ์ในการถือครองหยกเข้าไปคุมกิจการของตระกูลฝู่”

   “อาชาติหมายความว่า หยกสามชิ้นนั่น เปรียบเหมือนตราประจำตระกูล หรือป้ายประกาศิตอะไรเทือก ๆ นั้นหรอครับ”

   “ใช่”

   “ธุรกิจของตระกูลฝู่นี่ใหญ่แค่ไหนกัน ถึงได้ต้องแย่งกันขนาดนี้”

   “หึ!! ไอ้เสือ แกรู้จัก เยี่ยนหวอ กรุ๊ป (燕窝) ไหมล่ะ?”

.........................................................................

   ผมกำลังฝึกจับสัมผัสที่เจ่เจ้สอนผมอยู่ในห้อง เจ่เจ้คอยบอกผมว่าผมต้องทำยังไงตลอด เพราะเธอสัมผัสความรู้สึกของผมได้ มันเลยค่อยข้างง่ายและพัฒนาไปได้เร็ว

   “หยก”

   “ครับ” ผมลืมตาขึ้น มองหน้าเจ่เจ้

   “คุณเสือกำลังขึ้นมาแล้วนะ”

   “...” ผมไม่รู้ว่าผมพร้อมจะเจอเขาตอนนี้ไหม ผมได้แต่หลับตาลงอีกครั้ง พยายามปิดรับทุกสัมผัสเข้ามาหาผม

   “ใจเย็น ๆ หยก ไม่ต้องตื่นกลัวไป ค่อยๆ ทำไปอย่าที่เจ่เจ้สอน”

   ผมยังคงหลับตามฟังเสียงเจ่เจ้ไปเรื่อย ๆ เสียงเจ้หงส์เหมือนจะเป็นที่ยึดเหนี่ยวของผมในขณะนี้ เพราะผมปิดกั้นสัมผัสทั้งหมดแม้กระทั่งสัมผัสของของเจ่เจ้เอง ความรู้สึกของพี่เสือที่ส่งหาตอนนี้ ผมสามารถรับรู้ได้ถึงความเป็นห่วงของเขา ถึงตอนนี้มันจะบางเบา แต่มันก็ค่อยๆ รุนแรงขึ้นเรื่อย นี่ขนาดเจ้าตัวยังมาไม่ถึงห้องเลยด้วยซ้ำ มันค่อย ๆ รุนแรงขึ้นอย่างช้า ๆ ผมต้องพยายามอยางหนักเพื่อจะปิดกั้นความีรู้สึกนั้น จนได้ยินเสียงประประตูเข้ามา เสียงฝีเท้า

   “อาหยกเป็นอะไรไป”

   “หงส์สอนหยกจัดการเรื่องความรู้สึกอยู่น่ะคะ อ่าวแล้วคุณเสือล่ะคะ”

   “ไอ้เสือมันไม่ยอมเข้ามาน่ะ มันว่าหยกน่าจะยังกลัวมันอยู่” คำพูดคำนี้ของอากร ทำให้ผมนึกถึงคำสัญญาที่พี่เสือขอผมไว้ พี่เสือหรอ? นี่ผมเริ่มชินกับชื่อนี้ตั้งแต่เมื่อไรกัน เขาเป็นห่วงผมจริง ๆ ผมรู้สึกได้ ความรู้สึกของมันก็ยังรุนแรงสำหรับผมอยู่ดี ผมควรจะทำยังไงดี ผมไม่ได้กลัวว่าเขาจะกินหรือจะขังผมแล้ว แต่ความรู้สึกกดทับพวกนี้ มันทำให้ผมหายใจไม่ออก

   “หยก ใจเย็น ๆ นะ อย่าสับสนสิ มีสมาธิอยู่กับตัวเอง” เสียงของเจ่เจ้ช่วยเรียกสติของผม มันมาพร้อมความรู้สึกของพี่เสือที่ค่อย ๆ ถอยห่างออกไป ไกลออกไป นี่มันอะไรกัน เขาจะหันหลังให้ผมอย่างนั้นหรอ ทำไม? ผมถึงรู้สึกใจหายกับความคิดนี้
   ผมลืมตาขึ้น สัญชาตญาณมันนำไปก่อนความคิด ผมก้าวออกไปจากห้องทันที เมื่อความคิดได้อย่างนั้น ผมเห็นแผ่นหลังนั้นกำลังเดินไปยังโถงลิฟท์ เขาจะหันหลังให้ผมจริง ๆ หรอ?

   ผมกึ่งเดินกึ่งวิ่งเข้าไปหาเขา ผมพยายามจะเรียกเขา แต่ไม่สามารถเปล่งเสียงออกไปได้ เสียงฝีเท้าของผมทำให้เขาหันมา สีหน้าเขาตกใจไม่น้อย ผมเองก็เริ่มรู้สึกกว่าเท้าไปข้างหน้าได้ยากขึ้น ความรู้สึกเหมือนเดินลุยน้ำ มันเดินไปข้างหน้าไม่ได้อย่างใจ
   
   ความรูสึกกดทับที่มีมากขึ้น กำแพงที่ผมสร้างขึ้นมันหายไปตั้งแต่เมื่อไร มันทำให้ต้องรับความรู้สึกคนตรงหน้าเขามาเต็ม ๆ

   “อย่า...ปะ...ไป...”

   ความรู้สึกสุดท้ายของผม คืออ้อมกอดที่กอดผมอยู่เมื่อคืน...เขา...ไม่ได้ทิ้งผม...ใช่ไหม...

   แล้วทำไม...ผมถึงกลัวว่าเขา...จะทิ้งผมไป...มากขนาดนี้...

.........................................................................

   พยัคฆ์ลงจากสวนชั้นลอยพร้อมกับวรากร อาชาติ เรื่องที่พวกเขาคุยกันข้างบน ทำให้เขาเข้าใจอะไร ๆ ได้มากขึ้น เข้าใจว่าทำไมเมื่อคืนอาชาติต้องให้เขาพาหยกหลบคุณลตา พาไปทีบ้านก็ไม่ได้ มาโรงพยาบาลก็ไม่ได้ เพราะทั้ง 2 ที่ ล้วนจะนำมาพบเมฆาขาวชิ้นอื่น ๆ ได้ทั้งสิ้น อันตรายต่อทุกคนที่สวมมันอยู่ ตอนนี้พวกเข้ายังไม่สามารถเดาไม่ได้ว่าพวกเจ้าสัวเซียงต้องการแค่ไหน ต้องการทั้งคนทั้งของ หรือแค่ของ ไม่ว่าทางไหนก็อันตรายทั้งนั้น

   หยกเป็นคนที่เขาห่วงมากกว่าใคร ลูกชายคนเดียวที่เป็นทายาทของตระกูล ให้เขาคิดในทางเลวร้ายที่สุด เจ้าสัวเซียงอาจจะต้องการกำจัดหยกทิ้งไปเลยก็เป็นได้
   
   ตอนนี้หยกน่าจะสวมเมฆาขาวอยู่ เมื่อประตูลิฟท์เปิดออก เขาจึงเลือกที่จะเดินรั้งท้าย อาชาติหันมามองเขาเล็กน้อย เมื่อมาถึงหน้าห้องพักของหงส์ เขาจึงเลือกที่จะยืนรออยู่ข้างนอก

   “อาหยกเป็นอะไรไป”

   “หงส์สอนหยกจัดการเรื่องความรู้สึกอยู่น่ะคะ อ่าวแล้วคุณเสือล่ะคะ”

   “ไอ้เสือมันไม่ยอมเข้ามาน่ะ มันว่าหยกน่าจะยังกลัวมันอยู่”

   เขาได้ยินเสียงที่คุยกันดังมาจากในห้อง จึงยืนฟังอยู่ข้างนอก เขาคงต้องให้เวลากับหยกสักพัก

   “ตอนนี้ยังโชคดี ที่คุณลตาไม่รู้ว่าพวกเรารู้จักกับหยก ดังนั้นทุกคนก็ทำตัวให้เป็นปกติ หยกสามารถไปทำงานได้ แต่ห้ามไปที่ค่ายมวยนั่นอีกเด็ดขาด รวมทั้งที่ทำงานของเจ็กด้วย”

   “ลตาน่าจะตามสืบเรื่องเฮียอีกสักพัก ดังนั้นเฮียจะให้ไอ้เสือไปเฝ้าที่ค่ายมวยสัก 2-3 วันให้ลตาตายใจ ว่าพวกเราไม่ได้อะไรจากที่นั่น”

   “ผมจะรบกวนให้เฮียส่งคน คอยตามดูโบตั๋น แต่ไม่ถึงกับต้องคุ้มครองอะไร แค่ตามดูอยู่ห่าง ๆ ก็พอ”

   “ได้ แล้วหยกล่ะ?”

   “ผมว่าหลานเฮียคงอยากจะอาสา แค่ตามห่าง ๆ จะเป็นอะไรไหมหงส์”

   “ขึ้นอยู่กับการฝึกของหยกค่ะเจ็ก หยก หยก” อยู่ๆ เขาก็ได้ยินเสียงหงส์เหมือนจะตกใจอะไรบางอย่าง “หยก ใจเย็น ๆ นะ อย่าสับสนสิ มีสมาธิอยู่กับตัวเอง” หรือเขาจะอยู่ใกล้หยกเกินไป จำได้ว่าแถว ๆ หน้าลิฟท์มักจะมีพื้นที่ให้ญาติผู้ป่วยออกมายืดเส้นยืดสาย เขาไปรอไกลหน่อยคงไม่เป็นไร

   เมื่อเขาเดินห่างออกมา กลับได้ยินเสียงเปิดประตูห้องพร้อมเสียงฝีเท้าหนัก ๆ ที่กึ่งเดินกึงวิ่งมาจากด้านหลัง เขาแปลกใจจนต้องหันไปมองดู หยกกำลังวิ่งเข้ามาหาเขา สีหน้าหวาดกลัวนั่น น้องหยกกลัวเขาอีกแล้ว แต่ทำไมถึงยังวิ่งเข้ามาหา ดวงตาที่คลอไปด้วยน้ำใส ๆ นั่น มันทำให้พยัคฆ์ใจแทบขาด แววตาแห่งความเจ็บปวด หรือเขาจะทำให้คนตรงหน้าต้องเจ็บปวดขนาดนี้

   หยกเดินมาได้อีกไม่กี่ก้าว ร่างกายที่เริ่มโงนเงน ดีที่เขาพุ่งตัวเข้าไปรับร่างนั้นไว้ได้ทัน ก่อนที่ร่างนั้นจะร่วงกระแทกพื้น มือน้อย ๆ เกาะแขนเขาอย่างอ่อนแรง

   “อย่า...ปะ...ไป...” เสียงน้องหยกบอกเขาเสียงแผ่ว แต่มันกลับดังก้องอยู่ในความรู้สึกเขา มันสะท้อนไปสะท้อนมาอย่างไม่มีที่สิ้นสุด น้องหยกออกมาตามเขา? เสียงฝีเท้าที่เดินเข้ามาใกล้ทำให้เข้าต้องละจากใบหวาน

   “เฮ้อ...ตกใจแทบแย่ อยู่ ๆ ก็วิ่งออกมา ดีนะที่คุณเสืออยู่ตรงนี้”

   “น้องหยกเป็นอะไรไปครับอาชาติ” เขาถามพร้อมกับสอดแขนไปที่ใต้ร่างโปร่งก่อนอุ้มขึ้นแนบอก

   “คงต้องไปถามหงส์แล้ว อาก็ไม่รู้เหมือนกัน” เขาอุ้มหยกตามอาชาติไปที่ห้อง อากรยืนรออยู่หน้าประตูอยู่แล้ว เขาวางหยกลงบนโซฟายาว จัดท่าให้นอนในท่าที่สบายก่อนใช้เกลี่ยนิ้วซับน้ำตาให้อย่างเบามือ เขาไม่อยากเห็นสีหน้าที่หยกหวาดกลัวเขาและแววตาที่เจ็บปวดแบบนั้นอีก ไม่อยากเห็นอีกเลย

   “หยกเป็นอะไรไปครับ?” เขาถามขึ้นเหมือนละเมอ 

   “เฮ้อ...หงส์น่าจะเป็นฝ่ายต้องถามคุณมากกว่าค่ะ?”

   “ถามผม?” เขาละสายตามจากคนตรงหน้าไปยังคนที่นั่งอยู่บนเตียงทันที

   “คุณกับหยกเพิ่งจะเจอกัน ได้ใกล้ชิดกันก็เมื่อวานนี้เอง ซึ่งก่อนหน้านี้คุณแทบเข้าใกล้หยกไม่ได้เลย แล้วพวกคุณ..." หงส์มีสีหน้าหนักใจ ฉันสัมผัสได้ถึง สายใยแห่งความผูกพันธ์ ที่หยกมีต่อคุณ มันเป็นไปได้ยังไง?”

   “คุณหมายความว่ายังไง ความผูกพันธ์อะไรกัน”

   “ฉันเข้าใจว่าหยกคงยังไม่รู้ตัว ว่าเขาผูกพันธ์กับคุณแค่ไหน เมื่อครู่ที่เขารู้สึกได้ว่าคุณเป็นห่วงเขา แต่คุณกลับหันหลังเดินหนีเขาไป”

   “ผมแค่จะไปหาที่นั่ง หน้า...ลิฟท์...”เขาหันกลับไปมองหน้าที่หลับใหล จริงหรือที่หยกความผูกพันธ์กับเขา ทั้ง ๆ ที่พวกเราเองยังไม่ค่อยได้ทำความรู้จักกันสักเท่าไร

   “หยกเข้าใจว่าคุณจะไปจากเขา”

   “...” เขาเองก็สับสนกับเรื่องที่เกิดขึ้นมากมายในวันสองวันนี้ ถ้าเขาไม่เจอกับตัวมาบ้าง เขาคงคิดว่าตัวเองบ้าไปแล้ว

   “ไอ้เสือ ไอ้เสือ” เขาหันมองวรากรที่เรียกเขา “ให้พวกอาเรียกตั้งนาน หงส์เขาถามแกไม่ได้ยินเหรอ?”

   “ถาม? ถามว่าอะไรนะครับ? อ่อ อืม...ผมไม่รู้ว่าเรื่องนี้รึป่าวนะครับ ผมเองก็เพิ่งรู้จากหยกเมื่อคืน”

   เขาเล่าเรื่องที่ตลอดอาทิตย์ที่ผ่านมา ทั้งเขาและหยกต่างฝันถึงกันและกัน อาจจะเป็นวันและเวลาเดียวกันด้วยซ้ำ แต่เขาไม่สามารถหาข้อพิสูจน์ได้ ในความฝันหยกอาจจะตกใจที่เจอเขา แต่ไม่ได้กลัว

   “ในความฝันเราไม่สามารถพูดหรือคุยกันได้ ส่วนใหญ่จะสื่อสารกันทางภาษากายมากกว่า ผมไม่ได้หวังจะให้คุณหรืออา ๆ เชื่อผมนะ เพราะผมเองก็ยังพิสูจน์อะไรไม่ได้”

   “มันก็เป็นไปได้อยู่ค่ะ เพราะความรู้สึกของคุณที่มีต่อหยกมันค่อนข้างแรง ยามที่คุณหลับจิตของคุณอาจจะล่องลอยไปสัมผัสจิตของหยกได้ มันคงค่อย ๆ สร้างความผูกพันธ์ระหว่างคุณกับหยกขึ้นมา”

   “ผม...ไม่อยากเห็นหยกเป็นแบบนี้เพราะผม”

   “ไม่ต้องกังวลหรอกค่ะ ให้เวลาหยกเขาหน่อย วันนี้เขาทำได้เท่านี้ก็ถือว่าดีมากแล้ว อากรค่ะ ระหว่างนี้ให้คุณเสือคอยตามหยกก็ดีนะคะ จะได้ให้หยกค่อย ๆ ฝึกกับคุณเสือไปด้วย เริ่มจากระยะห่างก่อน แล้วค่อย ๆ เข้าใกล้ทีละนิด ไม่นานหยกก็ชินไปเอง”

   “แล้วผมจะรู้ได้ยังไงล่ะครับว่าระยะประมาณไหน ความรู้สึกของผมถึงจะไม่รุ่นแรงเกินไปสำหรับหยก ในเมื่อคุณไม่ได้อยู่บอกกับผม”

   “คุณมีโทรศัทพ์ คุณก็โทรถามหยกเอาสิค่ะ ไม่เห็นต้องรอให้หงส์คอยบอกเลย” สิ้นคำพูดของหงส์ ทั้งวรากรและหลิวลู่ก็ได้แต่ปล่อยหัวเราะออกมาอย่างห้ามไม่อยู่   

.........................................................................

   โบตั๋นกำลังนั่งวาดแพทเทิร์นสำหรับตัดผ้า ตามดีไซด์ของเพ็ญนภาในสตูดิโอ นอกจากเธอจะเป็นนางแบบไร้สังกัดตามคำชวนของเพ็ญภาพแล้ว เธอยังขอทำงานในส่วนของห้องเสื้อด้วย ซึ่งคอลเล็คชั่นหน้า เพ็ญนภารับปากเธอว่าจะให้เธอออกแบบเสื้อผ้า 1 ชุด นั่นก็เท่ากับว่าเธอก้าวเข้าใกล้ความฝันไปอีกก้าวหนึ่งแล้ว

   “น้องตั๋น น้องตั๋นขา เห็นรึยังค่ะ” เสียงเพ็ญนภาเขามาทำลายฝันกลางวันของเธอให้หายไปในอากาศทันที

   “อะไรกันค่ะพี่ภา ตั๋นตกใจหมด”

   “แหม๋ น้องตั๋นก็มัวแต่เหม่อน่ะสิ คิดถึงใครอยู่ค่ะ ใช่คุณพยัคฆ์หรือเปล่าเอ่ย” โบตั๋นแอบเบะปากเล็กน้อยเมื่อเพ็ญนภาเอ่ยชื่อคนที่เธอไม่ค่อยอยากได้ยิน

   “แล้วพี่ภามีอะไรรึป่าวค่ะ”

   “มีสิ นีไงค่ะนี่ไง ดูสิ”

   โบตั๋นมองสมาร์ทโฟนในมือเพ็ญนภา ปรากฎแบนเนอร์โฆษณากินเนื้อที่ไปเกือบครึ่งหน้าจอของสมาร์ทโฟน ภาพเธอกับหยกถ่ายเซ็ทแฟชั่น ในคอนเซ็ป Twin มันทำให้เธอถึงกับตะลึง หยก...สวยมาก สวยจนเธอตกใจ

   “ตะลึงเลยใช่ไหมค่ะ นี่ถ้าพี่ไม่รู้มาก่อนว่าน้องหยกเป็นผู้ชายนะ พี่คงชวนมาเป็นนางแบบให้ห้องเสื้อพี่แล้วล่ะค่ะ นี่ต้องให้เครดิตช่างภาพเขานะคะ เอ้...ช่างภาพคนนั้นชื่ออะไรนะคะ... คุณเมฆใช่ไหม? เขาถ่ายภาพน้องทั้งสองของพี่ได้ออกมาสวยกันทั้งคู่ เหมือนเป็นฝาแฝดกันเลยค่ะ”

   โบตั๋นยังคงตะลึงกับภาพตรงหน้า ใช่พี่ชายของเธอสวยมาก ถึงทั้งคู่จะเหมือนกับเป็นคู่แฝดกัน แต่ถ้ามองภาพๆ นี้กันจริง
 ๆ กลับแยกหยกกับเธอได้อย่างชัดเจน เธอที่ดูร่างเริง สดใส แววตาที่สื่อออกมาในแนวซุกซน แต่หยกกลับดูสวย หวาน มีเสน่ห์หน้าดึงดูด ละสายตามไปจากแววตาหวานซึ้งนั้นไม่ได้จริง ๆ อย่างที่เจ้เปิ้ลพูดไว้ไม่มีผิด ขนาดเธอเป็นน้องสาวแท้ ๆ ยังถอนสายตาจากภาพตรงหน้าไม่ได้เลย

   “ภาพเซ็ทนี้ทางห้องเสื้อโน้นเขาพอใจมาก นี่เค้าถึงกับซื้อพื้นที่บิลบอร์ดยาว 3 เดือนเลยนะคะน้องตั๋น น้องพี่ดังกันใหญ่แล้ว”

   “ว่าอะไรนะคะ? 3 เดือนเลยหรอค่ะ?” เธอไม่ได้ตกใจเรื่องความเด่นดังที่กำลังจะเกิดขึ้น แต่เธอเป็นห่วงความปลอดภัยของหยกมากกว่า ถ้าคนพวกนั้นจำหยกได้ล่ะ?

   “ใช่จ้า 3 เดือนเลย ไม่รู้ว่าทางนั้นจะลงดิจิทัล บิลบอร์ดแถวบีทีเอสด้วยรึป่าวนะ พี่ยังไม่ได้ไปสืบ หูย...แค่คิดพี่ก็ตื่นเต้นจะแย่แล้ว”

To Be Continue
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03-01-2018 16:27:37 โดย Amo »

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4992
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
Re: หยก 05-10-17 {{:::17:::}}
«ตอบ #61 เมื่อ05-10-2017 21:09:11 »

งานเข้าแน่เลย

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ donutnoi

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2187
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-7
Re: หยก 05-10-17 {{:::17:::}}
«ตอบ #62 เมื่อ05-10-2017 21:22:29 »

น่าติดตามๆ  :katai2-1:

ออฟไลน์ cheezett

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 471
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
Re: หยก 05-10-17 {{:::17:::}}
«ตอบ #63 เมื่อ05-10-2017 22:46:27 »

สับสนกันเบาๆน้องหยกค่อยๆปรับนะคะคนดี พี่เสือมาดีค่ะ5555
แลดูว่างานจะเข้า ลุ้นๆๆ
ขอบคุณคนเขียนนะคะมาทุกวันเลย ชอบมากๆ  :3123: :pig4:

ออฟไลน์ Amo

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 172
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +136/-1
Re: หยก 09-10-17 {{:::18:::}}
«ตอบ #64 เมื่อ09-10-2017 08:11:07 »

18

    เกรียงไกรนั่งอยู่บริเวณเคาน์เตอร์บาร์ในผับหรูแห่งหนึ่ง วันนี้เขาเลือกที่จะมาคนเดียว ไม่ชวนเพื่อนฝูงมาด้วยให้เปลืองเงิน มีเพื่อนมาด้วยทีไร ลูกชายคนเดียวของเจ้าสัวเซียงอย่างเขาต้องเป็นคนควักกระเป๋าจ่ายทุกที ไม่รู้ว่ากฎนี้ใครเป็นคนตั้งขึ้นมากัน

   เขาพอรู้ว่าสถานการณ์ทางการเงินของครอบครัวเขาว่ามันไม่ดีเท่ากับเมื่อก่อน เพราะเตี่ยของเขาเอาเงินที่ได้มาไปลงที่บ่อนหมด อย่างเมื่อเดือนที่แล้วยังแอบเอาเครื่องเพชรของแม่ไปจ่ายหนี้ที่บ่อนอีก จนแม่ของเขาต้องแยกกลับไปนอนบ้านเดิมของตัวเอง ยังดีที่แม่ยังคงใจดีให้เงินเขาใช้อยู่บ้าง แต่ก็ต้องใช้อย่างจำกัดจำเขี่ย

   เตี่ยของเขาก็แปลกดันไปทุ่มเงินกับการตามหาใครที่ไหนก็ไม่รู้ จ้างทั้งบริษัทฯ ไอ้พยัคฆ์ และยังยัยลตานั่นอีก ไม่รู้ว่าถ้าตามไอ้หลิวลู่เจอแล้วบ้านเขามันจะรวยขึ้นมาได้ยังไงกัน

   “อ่าวคุณเกรียง มานั่งทำอะไรคนเดียวครับนี่” เขาหันไปตามเสียงที่ทักทายมา “จำผมไม้ได้หรอครับ?”

   “ใคร?”

   “แหม๋ แค่ไม่ได้ใช้บริการเด็กในสังกัดผมไม่กี่เดือน ถึงกับลืมผมเลยหรอครับ”

   “อ๋อ...เมฆสินะ”

   “ค่อยยังชั่วหน่อย นึกว่าจะจำกันไม่ได้ซะแล้ว มาคนเดียวแบบนี้ สนใจให้ผมส่งเด็กมานั่งเป็นเพื่อนแก้เหงาไหมครับ”

   “มีเด็กใหม่ ๆ ไหมล่ะ หน้าเก่าลีลาเดิมอั๊วไม่เอานะ”

   “แน่ะ ดูถูก... นี่เลยดูนี่ ๆ สวยๆ แจ่มๆ ทั้งนั้น” อีกฝ่ายเลื่อนแท็บเล็ตมาไว้ตรงหน้าเกรียงไกร ก่อนจะสไลด์นำให้ลูกค้ารายใหญ่ได้เห็นเด็กใหม่ ๆ ในสังกัด เกรียงไกรสไลด์หน้าภาพไปเลื่อย จนเจอคนที่ถูกใจ แววตาหวานซึ้ง ใบหน้าสวยได้รูป ยิ่งเทียบกับแฝดอีกคนแล้ว ผู้หญิงคนนี้ดู...หน้าค้นหาจน...ไม่อาจจะละสายตาไปได้เลย

   “อั๊วเอาคนนี้”

   “เฮ้ย ไม่ได้ คู่นี้เป็นเด็กไม่มีสังกัด จะให้ผมไปพามาได้ยังไง”

   “ถ้าไม่ใช่แล้วเซฟรูปมาทำไม”

   “นั่นมันงานถ่ายของผม ผมก็ต้องเก็บไว้สิ คงหลงมาอยูโฟลเดอร์นี้น่ะ”

   “ยิ่งไม่มีสังกัดก็ยิ่งดีสิ นายจะทำยังไงก็ได้ไม่ใช่หรอ?”

   “มันก็ใช่...แต่...”

   “เอาน่า อั๊วจะจ่ายให้อย่างาม”

   “ก็ได้ๆ แต่...ใสๆ อย่างโบตั๋นไม่น่าจะใช่แนวคุณเลยนะ”

   “ใครบอก อั๊วจะเอาคนที่นัยน์ตาชวนฝันคนนี้ต่างหาก”

   “เฮ้ย...คนนี้ยิ่งแล้วใหญ่ ยิ่งไม่ใช่สเป็คอย่างคุณเกรียงแน่ๆ”

   “ทำไมว่ะ นั่นก็ไม่ใช่ นี่ก็ไม่ใช่”

   “ก็หยกเขาเป็นผู้ชายนี่”

   “หืม...ผู้ชายงั้นหรอ?” เกรียงไกรมองอย่างชั่งใจ เขาไม่เคยมีอะไรกับผู้ชายมาก่อน แต่มันก็คงจะไม่ต่างกับผู้หญิงหรอก หน้าสวยขนาดนี้ “ลองสักหน่อยจะเป็นไรไป”

   “คุณเกรียงเอาจริงอ่ะ”

   “เออสิว่ะ เห็นอั๊วล้อเล่นหรือไง”

   “อืม...หยกดูจะอ่อนแอกว่าคนน้อง เป็นลมก็ง่าย งานนี้คงไม่ยาก หมื่นนึง”

   “ถ้าถูกใจอั๊ว อั๊วให้มากกว่านั้นยังได้”

   “แต่ไม่ใช่คืนนี้นะ”

   “อ่าว!! ไอ้นี่”

   “เดี๋ยว ๆ ใจเย็นดิคุณ ก็ผมบอกแล้วว่าเด็กมันไร้สังกัด ให้ผมสืบก่อนสิว่า น้องทำงานที่ไหนยังไง ให้ไปพามาให้ตอนนี้ แล้วไอ้เมฆคนนี้มันจะไปหาจากที่ไหนมาให้”

   “เออ อั๊วให้เวลาลื้อ 3 วัน ช้ากว่านั้นถือว่าเป็นโมฆะ”

   “เฮ้ย 3 วัน น้อยไปป่าวเฮีย สักอาทิตย์ไม่ได้หรอคุณเกรียง...”

   “ไม่!! อั๊วพูดคำไหนคำนั้น”

.........................................................................

   “สวัสดีค่ะคุณวรรณ ตาซื้อขนมเจ้าอร่อยมาฝากค่ะ” ลตาเดินนวยนาดมาดนางพญาเข้ามาเช่นเดิมทุกครั้ง ซึ่งวรรณามองภาพนี้จนเบื่อ

   “สวัสดีค่ะ และก็ขอบคุณนะคะคุณลตา คุณกรไม่เห็นแจ้งวรรณไว้เลย ว่านัดคุณลตาไว้”

   “ตาไม่ได้นัดหรอกค่ะ มาเซอร์ไพรส์น่ะคะ ว่าแต่มีแขกไหมค่ะ” ลตาถามพร้อมกับชี้เข้าไปในห้อง

   “ไม่มีค่ะ คุณกรนั่งเคลียร์เอกสารอยู่”

   “ถ้าอย่างนั้นลตาเข้าไปก่อนนะคะ อ่อ!! คุณวรรณไม่ต้องรายงานค่ะ เดี๋ยวไม่เซอร์ไพรส์นะคะ” วรรณายิ้มให้เล็กน้อย คุณกรของเธอไม่มีทางเซอร์ไพรส์แน่นอน

   ลตาค่อย ๆ ผลักประตูเข้าไป สายตากสอดส่องภายในห้องไปด้วยก่อนทำเสียงมีจริตจะก้าน

   “เซอร์ไพรส์.....”

   “อ่าวคุณลตา มาได้ยังไงครับ ผมจำได้ว่าวันนี้เราไม่ได้มีนัดกัน”

   “แหม๋...ก็ตามาเซอร์ไพรส์คุณกรยังไงค่ะ แล้วนี้งานยุ่งหรอค่ะ?”

   “ไม่เท่าไรหรอกครับ”

   “หน้าเครียดเชียว ตาช่วยนวดให้คุณนะคะ แล้วนี่อ่านอะไรอยู่ค่ะ ตามากวนคุณรึป่าว?”

   “เฮ้อ...รายงานเจ้าเสือมันน่ะครับ”

   “แค่รายงานของคุณเสือ ทำไมต้องถอนหายใจแบบนั้นด้วยละค่ะ”

   “คนที่เสือตามอยู่ เขาไหวตัวทัน หายเข้ากลีบเมฆไปอีกแล้วน่ะครับ”

   “ใครล่ะคะ อุ้ยขอโทษค่ะ ตาลืมไป...ว่าเรื่องงานของคุณ...”

   “ขอบคุณนะครับ ที่คุณลตาเข้าใจผม” วรากรจงใจปิดแฟ้มเอกสารโดยให้รูปของหลิวลู่อีกคนแลบออกมาเล็กน้อย ถึงจะไม่เห็นเต็ม ๆ แต่เขารู้ว่าลตาพอจะเดาได้ “นี่ก็ใกล้เที่ยงแล้ว เราไปทานข้าวกันไหมครับ”

   “อุ๊ย...ไปสิค่ะ...อืม...ลตาขอเลือกร้านนะคะ”

   “ได้สิครับ”

   “งั้นร้านอาหารญี่ปุ่นร้านเดิมนะคะ”

   “ด้วยความยินดีครับ” เขาว่าก่อนจะเดินออกมาโดยมีลตาตวงแขนเขาเช่นเคย

.........................................................................

    หยกและโบตั๋นแวะมาหาหงส์ที่โรงพยาบาลกันแต่เช้า ติดๆ กันหลายวัน ซึ่งแทบจะเป็นกิจวัตรสำหรับสองพี่น้องที่ต้องเขามาหาหงส์ทุกวัน เป็นภาพชินตาของเหล่าหมอและพยาบาล ยิ่งตอนนี้หยกมีหมอทั้งพยาบาลหลงใหลได้ปลื้มเพราะภาพบนแบรนด์เนอร์นั่นอีก จนบางวันเหล่าแฟนคลับแทบจะมาตั้งขบวนรออย่างกับจะเตรียมใส่บาตรพระตอนเช้า

   “ตั๋น เป็นอะไรหน้ามุ้ยแต่เช้าเลย” หงส์ทักเมื่อเห็นหน้าน้องสาวของตนตั้งแต่เดินเข้าห้องมา

   “งอนหยก”

   “งอนเฮีย งอนเรื่องอะไร”

   “เมื่อเช้าพยาบาลตั้งขบวนรอรับหยกอีกแล้วอ่ะเจ่เจ้”

   “เจ่เจ้ก็นึกว่าเรื่องอะไร ขี้อิจฉานะเรา”หงส์แซวโบตั๋นเล็กน้อย ก่อนจะหันมาถามเอาสาเหตุจากตัวต้นเรื่อง “แล้วหยกล่ะช่วงนี้มาแต่เช้าจนพยาบาลจำเวลามาของหยกได้”

   “หยกเลื่อนสอนที่สถาบันมาเป็น 9 โมงเช้า แล้วต้องเพิ่มชั่วโมงสอนแทนพี่โอ๊ตที่ขาหักด้วยครับ สอนเสร็จก็ต้องรีบเข้าร้านเลย ถ้าไม่มาตอนนี้ก็ดึกดื่นเที่ยงคืนนั่นเลย ถึงจะแวะมาหาเจ่เจ้ได้”

   “อืม ดึกแบบนั้นก็ไม่ต้องมาหรอก เอาเวลาไปพักผ่อนเถอะ อีกอย่างอาทิตย์หน้าหมอก็ให้เจ่เจ้กลับไปพักที่บ้านได้แล้ว”

   “เย้...ตั๋นจะได้ไม่ต้องนอนคนเดียวอีกแล้ว”

   “แล้วตั๋นล่ะ ออกมาแต่เช้าเหมือนกัน ยัยภาใช้งานเราหนักหรอไง”

   “ป่าวนะ พี่ภาไม่ได้ใช้งานอะไรตั๋นหนักหรอก ตั๋นแค่...”

   “ตั๋นก็รู้ ว่าช่วงนี้เจ็กลู่คอยตามหยกอยู่ห่างๆ ตั๋นเองก็มีคนของอากรคอยดูแลอยู่ เจ่เจ้อากรก็คอยมาด้วยตัวเอง ไม่เห็นต้องมีอะไรน่าห่วง”

   “ตั๋นเคยได้ยินมาว่าพวกผู้ร้ายน่ะ ชอบแอบเนียนเข้ามากับพวกแฟนคลับนี่”

   “ที่ตั๋นไม่ชอบใจพวกพยาบาลที่มาปลื้มหยกก็เพราะแบบนี้เองหรอ” หงส์แกล้งเขกหัวโบตั๋นเบา ๆ ทีหนึง “แล้วแบบนี้เจ่เจ้จะให้สวมเมฆาขาวไว้ทำไม” หงส์เอ็ดไม่จริงจังนัก

   “ก็มันอดไม่ได้นี่ ยิ่งเดียวนี้หยกน่ะดังจะตาย นี่เจ่เจ้ดู มีคนตั้งไอจีชื่อนางฟ้าบาริสต้าให้หยกด้วยนะ นี่ๆ ลงรูปที่ร้านพี่กันต์ด้วย” โบตั๋นส่งโทรศัพท์ให้หงส์ดู

   “หยกก็ระวังตัวหน่อยนะ สัมผัสอะไรได้ ที่รู้สึกไม่ชอบมาพากลก็หลีกเลี่ยงไว้”

   “ครับ”

   “ตั๋นต้องไปแล้วค่ะ วันนี้มีนัดคุยงานกับเจ้เปิ้ล ที่จริงเจ้เขาอยากให้หยกไปด้วย แต่ตั๋นไม่อนุญาตนะ แค่นี้หยกก็ดังจะแย่แล้ว”

   “ทำไมเฮียต้องรอให้ตั๋นอนุญาตด้วย เฮียไม่ชอบงานแบบนั้นอยู่แล้ว”   

   “ระวังตัวดี ๆ นะตั๋น”

   “ค่ะเจ่เจ้ ไปก่อนนะหยก ระวังตัวด้วยล่ะ”

   “อืม”

   “วันนี้คุณเสือเขาจะมาแทนเจ็กลู่แล้วนะ เจ็กเขาจะได้มาค่อยดูเจ่เจ้ เกรงใจอากรที่ต้องทำเป็นมาคุยงานที่นี่ทุกวัน”

   “ครับ แล้วเรื่องคุณลตาล่ะครับ”

   “วันนี้คงมีความคืบหน้าอะไรบ้างล่ะ ไม่อย่างนั้นคุณเสือคงจะยังไม่เข้ามาหาเราน่ะ”

   “เราต้องระวังกันแบบนี้ไปจนถึงเมื่อไรครับเจ่เจ้”

   “ทนอีกนิดนะ หลังจากตั๋นจบ เจ่เจ้จะเคลียร์ทุกอย่างให้เรียบร้อย”

   “เจ่เจ้มีอะไรให้หยกหรือตั๋นช่วยก็บอกพวกเรานะครับ”

   “จ้า ก็เรามีกันอยู่แค่นี้ใช่ไหม? เอาเป็นว่า หยกค่อย ๆ ฝึกสิ่งที่เจ่เจ้สอนไป อย่าตระหนก แล้วตอนปิดกั้นความรู้สึก หยกรู้ใช่ไหมว่าเราเลือกที่จะกันใคร หรือไม่กันใครก็ได้ ดังนั้นหยกอย่าปิดกั้นสัมผัสของหยกทั้งหมด ไม่อย่างนั้นหยกอาจจไม่รับรู้ถึงอันตรายใกล้ตัวเพราะมัวแต่ไประวังสิ่งที่อยู่ไกล”

   “ครับ หยกจะจำไว้ เจ่เจ้ถ้าหยกสัมผัสจิตคนอื่นมันจะเป็นยังไงหรอครับ”

   “ถ้าเราเข้าหาเขาเร็วเกินไป ก็จะเหมือนกับที่หยกกลัวคุณเสือในช่วงแรก ๆ ที่พบกัน”

   “พี่เสือ...มาแล้ว?”

   “อืม...ใช่จ้า คุยกับเจ็กลู่อยู่ถัดลงไปจาก 2 ชั้น แสดงว่าระยะแระมาณนี้เราไม่อึดอัดใช่ไหม?”

   “ครับ”

   “อยากให้พี่เขาอยู่ห่างประมาณไหนก็บอกเขาไป พี่เขาน่ะยินดีที่จะทำเพื่อหยกทุกอย่างเลยนะ รู้ใช่ไหม?”

   “ครับ...ผมรู้”

   “หน้าแดงหมดแล้วหยก หน้าขึ้นสีง่ายจังนะช่วงนี้ เดี๋ยวหมอกับพยาบาลก็ยิ่งหลงกันเข้าไปใหญ่”

   “เจ่เจ้อย่าล้อหยกสิครับ”

.........................................................................

   ผมยังคงงงอยู่ว่าพี่เสือก้าวเข้ามาชีวิตผมตั้งแต่เมื่อไร ทั้งที่ผมคุยกับเขาน้อยมาก ถึงผมจะรับรู้ความรู้สึกที่พี่เขามาต่อผมทุกอย่าง ตั้งแต่วันแรกที่เจอกันเขารู้สึกอย่างไร วันที่เขาบอกชอบผมกับตั๋นที่หน้าโรงพยาบาล และที่เขาพยายามไม่เข้าใกล้ผมทั้งที่ผมรู้ว่าเขาอยากเข้ามาผมมากไหน พี่เสือทำให้ผมได้ทุกอย่างจริง ๆ อยากที่เจ่เจ้บอก

   ผมรู้ว่าพี่เสือมาแล้ว เจ่เจ้ว่าเขาคุยกับเจ็กลู่อยู่และผมคงเดาว่าเขาคงจะอยู่ตรงนั้นไม่ขึ้นมาหาผมที่ห้องเจ่เจ้แน่นอน เพราะตั้งแต่วันนั้น วันที่ผมเริ่มหัดปิดกั้นสัมผัสครั้งแรก ผมก็ไม่ได้เจอพี่เสืออีกเลย

   ครืด...

   “เจ็ก เหนื่อยหน่อยนะคะ”

   “ไม่หรอก แค่นี้เอง”

   “เรื่องคุณลตาเป็นยังไงบ้างค่ะ”

   “แผนเฮียกรน่าจะได้ผล ตอนนี้คุณเสือก็เลิกไปเฝ้าที่ค่ายมวยได้แล้ว คุณลตาเองตั้งแต่วันที่เจอหยก ก็ไม่ได้ไปเรียนมวยอีกเลย ทางเหล่าฝู่ก็มีคนแปลกหน้าเวียนเข้าไปที่ร้านเยอะผิดปกติ”

   “บอกให้เหล่าฝู่ระวังตัวด้วยนะคะ”

   “ปัญหาใหญ่คงเป็นไอ้แบนเนอร์ตามถนนนั่นแหละ ป่านนี้เจ้าสัวเซียงคงจะเดาได้แล้วว่าหยกกับโบตั๋นเป็นใคร”

   “ไวถึงขนาดนั้นเลยหรอค่ะ”

   “เจ็กก็ไม่แน่ใจนักหรอก แต่ไอ้แบนเนอร์มันมีติดไปทั่ว”

   “หยกกับตั๋นไม่น่าจะรับงานนั้นเลย ทำให้ทุกคนต้องเดือดร้อนกันไปทั่ว” ผมแทรกขึ้นระหว่างที่เจ็กลูกับเจ่เจ้คุยกัน

   “แต่หงส์ว่าดีนะคะ”

   “อืม คิดอีกทาง ก็จริงอย่างที่หงส์ว่านะ”

   “ยังไงกันครับ หยกตามเจ่เจ้กับเจ็กไมทัน”

   “ก็ถ้าหยกกับตั๋นดัง เจ้าสัวก็ทำอะไรเราไม่ได้ง่าย ๆ ยังไงล่ะ เพราะมีคนคอยติดตามชื่นชมเราอยู่”

   “อ่อ...ครับ”

   ติ๊ ง งง เสียงจากแอพพลิเคชั่นบนโทรศัพท์ทำให้ผมก้มมอง

   Payak : สวัสดีครับน้องหยก

   Payak : พี่เสือรอหยกอยู่แถว ๆ ร้านกาแฟในโรงพยาบาลนะครับ

   Payak : ถ้าน้องหยกลงมาจากห้องของหงส์แล้ว

   Payak : บอกพี่นิดนึงนะครับ


   ผมอ่านจบก็เงยหน้ามองไปทางเจ็กลู่

   “อืม เจ็กให้เบอร์เรากับคุณเสือไปเองแหละ แล้วนี่จะต้องไปสอนแล้วไม่ใช้หรอ?”

   “ครับ”

   “ยังไงก็ระวังตัว อย่าประมาทนะ”

   “ครับผมไปก่อนนะครับ เจ่เจ้ เจ็กลู่”

   “ตอบพี่เขาด้วยล่ะ พี่เขาจะได้รู้ว่าเรากำลังลงไป” ผมพยักหน้าเล็กน้อยก่อนก้มลงพิมพ์ขอ้ความอย่างว่าง่าย

   Yok : หยกกำลังลงไปครับ

   Payak : สติกเกอร์เจมส์ส่งจูบรูปหัวใจมาให้


To Be Continue

   อาทิตย์นี้ amo ขอหนีเที่ยวต่างจังหวัด 3-4 วัน

   ถ้าก่อนไปขยี้ทันอีกสักตอน ก็จะมาอัพให้นะคะ

   ไปลั้ลล้าแพร๊บน้า......

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4992
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
Re: หยก 09-10-17 {{:::18:::}}
«ตอบ #65 เมื่อ09-10-2017 08:53:20 »

ฝาแฝดอย่างโบตั๋นยังเสน่ห์แรงไม่เท่าหยกเลย

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
Re: หยก 09-10-17 {{:::18:::}}
«ตอบ #66 เมื่อ09-10-2017 09:11:53 »

หยกจะรู้เท่าทันเมฆไหมนะ

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
Re: หยก 09-10-17 {{:::18:::}}
«ตอบ #67 เมื่อ09-10-2017 11:46:37 »

สงสัยไม่อยากหายใจนะนายเมฆ

ออฟไลน์ Amo

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 172
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +136/-1
Re: หยก 15-10-17 {{:::19:::}}
«ตอบ #68 เมื่อ15-10-2017 00:49:33 »

ตอนที่ 19

    หลังจากที่หยกออกจากห้องไปแล้วหงส์ก็เริ่มหารือสิ่งที่ตัวเองวางแผนไว้ตั้งแต่ก่อนผ่าตัด เนื่องจากสถานการณ์ตอนนี้ไม่ค่อยจะดีนัก หากเจ้าสัวเซียงรู้เรื่องหยกและโบตั๋น ก็มีความเป็นไปได้มากที่ทางโน้นจะรู้ว่าพวกเธอยังมีชีวิตอยู่เช่นกัน

   “เจ็กลู่ หงส์ตัดสินใจแล้ว ว่าหลังจากที่หงส์แข็งแรงดี และพอจะเดินทางได้ หงส์จะไปตระกูลฝู่”

   “คุณหนู...”

   “หงส์บอกเจ็กแล้วไงค่ะ เจ็กเป็นญาติคนเดียวของหงส์ ถือว่าหงส์ขอร้อง อย่าเรียกหงส์ว่าคุณหนูใหญ่อีกเลยนะคะ หรือว่าเจ็กไม่เห็นว่าหงส์กับน้อง ๆ เป็นหลาน”

   “อาหงส์...” หงส์ยิ้มออกมาได้ในที่สุด

   “ระหว่างนี้หงส์อยากรู้เรื่องทางโน้นเพิ่ม เจ็กพอจะสืบให้หงส์ได้ไหมค่ะ?”

   “หงส์ต้องการจะทำอะไรกันแน่ บอกให้เจ็กสบายใจก่อนได้ไหม ว่าหงส์จะทำอะไร อันตรายแค่ไหน”

   “หงส์จะขายเยี้ยนหวอค่ะ”

   “นั่นมัน...”

   “หงส์รู้ค่ะ ว่ามันยากและตระกูลฝู่ก็อยู่มานาน แต่ก็มันจบสิ้นไปแล้วนะคะ ตั้งแต่วันที่หม่าม๊าตายในห้องขัง และตอนนี้มันจะมีแค่ชูวนาสุวรรณเท่านั้น”

   “ถ้าหงส์ติดสินใจอย่างนั้น เจ็กก็จะช่วย แล้วที่หงส์จะไปตระกูลฝู่นี่ แสดงว่าวางแผนไว้แล้วใช่ไหม?”

   “ค่ะ หงส์อยากขอความเห็นจากอากรและคุณเสือเพิ่มเติม ในฐานะที่พวกเขาเป็นคนนอก อาจจะมองมุมที่ต่างจากหงส์หรือเจ็กลู่”

   “อืม...”

   “อากรเขาไม่เหมือนเมื่อก่อนแล้วนะคะ เจ็กไม่ต้องห่วงเขาหรอก อากรเอาตัวรอดได้ ไม่ใช่หนุ่มแหน่มแน้มเจ้าสำอางค์เหมือนสมัยก่อน เจ็กกู้รู้ข้อนี้ดี”

.........................................................................

   โบตั๋นมาถึงห้องเสื้อของเพ็ญนภา เจ้เปิ้ลที่มารออยู่นานแล้ว ทั้งสองคนดูจะคุยกันอย่างสนุกสนานจนไม่ได้ยินเสียงเธอก้าวเข้ามาในห้องเลยด้วยซ้ำ

   “อะแฮ่ม!! นินทาอะไรตั๋นอยู่รึป่าวค่ะ”

   “แหม๋น้องโบตั๋น ใครจะกล้าไปนินทาอะไรเราล่ะคะ ชื่นชมสิไม่ว่า ไหนค่ะไหน น้องหยกล่ะคะ?” เจ้เปิ้ลชะเง้อมองเหมือนหาใครสักคนทางด้านหลังของโบตั๋น

   “ตั๋นบอกเจ้ไปแล้ว...หยกเขาไม่ชอบงานแบบนี้ เขาไม่รับหรอกค่ะ”

   “แต่ลูกค้าอยากได้น้องหยกจริง ๆ นะคะ น้องเขาเข้าคอนเซ็ปยูนิเซ็กซ์มาก ที่สำคัญไม่มีใครมาแรงเท่าน้องหยกเลยนะในตอนนี้”

   “สวัสดีคร้าบ สาว ๆ คุยกันถึงไหนแล้วครับ”

   “นี่แกมาอะไรเอาป่านนี้ สายตลอด” เจ้เปิ้ลแว้ดใส่คนที่มาใหม่

   “อ่าว พี่เมฆก็มาด้วยหรอค่ะ”

   “พี่ก็ต้องมาสิ ตื่นเต้นจะตายที่จะได้ถ่ายน้องหยกอีก ครั้งที่แล้วน่ะ งานชิ้นโบว์แดงพี่เลยนะ อ่าว!! แล้วไหนล่ะน้องหยก” ช่างภาพหนุ่มถามเมื่อมองไม่พบเป้าหมายที่ตัวเองต้องการเจอ

   “ตั๋นเริ่มน้อยใจแล้วนะ แหม๋ๆ คำก็น้องหยก สองคำก็น้องหยก”

   “น้องโบตั๋นอย่าพึ่งน้อยใจไปค่ะ ดูนี่สิค่ะ มีแฟนคลับตั้งไอจีให้เราสองคนด้วยนะคะ” เพ็ญนภาส่งสมาร์ทโฟนส่งให้กับเธอ

   “ใช่ค่ะ นี่เจ้กับน้องภาเพิ่งกดฟอลโล่กันเมื่อกี้เลยนะคะ เสียดายมีรูปน้องโบตั๋นซะเยอะ มีรูปน้องหยกนิดเดียวเอง”

   “อุ๊ย!! คุณเปิ้ลไม่รู้อะไร ถ้าน้องหยกต้องนี่คะ ไอจีนางฟ้าบาริสต้าค่ะ เสิร์ชเลยๆ”

   “กรี๊ดดด...น้องภาขา น้องหยกใส่ชุดบาริสต้าแล้วน่ารักมากกกก อย่างกับนางเอกคอฟฟี่ปริ้นเลยค่ะ”

   “ไหนครับ ๆ โห...แฟนคลับน้องหยกเยอะจริง ๆ รูปเพียบเลย”

   “ใช่ไหมล่ะค่ะคุณเมฆ ดูสิค่ะแค่ไม่กี่วันมีคนฟอลโล่เกือบ 400K แล้ว”

   “ห๊ะ!! เยอะขนาดนั้นเลยหรอค่ะ”

   “ใช่สิจ๊ะน้องโบตั๋น”

   “โอ๊ย...ดังเกินไปรึป่าวค่ะเนี๊ยะ”

   “ว่าแต่ แฟนคลับน้องหยกเขาไปตามถ่ายกันที่ไหนครับ เผื่อผมจะไปเป็นปาปารัสซี่กับเขาบ้าง”

   “นี่ ก่อนแกจะไปรับจ๊อบเป็นปาปารัสซี่นะ ส่งงานคราวที่แล้วให้ทันก่อนเห๊อะ”

   “พอแล้วค่ะ ทั้งคุณเปิ้ล คุณเมฆ มาคุยเรื่องงานของแบรนด์ก่อนดีกว่าค่ะ” เพ็ญนภาห้ามทัพไว้ได้ทันก่อนที่ทั้ง 2 จะทะเลาะไปกันใหญ่

   “คราวนี้งานแบรนด์เลยหรอค่ะพี่ภา”

   “ก็ใช่นะสิ แต่ถ่ายเป็นกลุ่ม 7 คนนะ หญิง 3 ชาย 3 แล้วให้น้องหยกเป็นตัวเมน น้องโบตั๋นเองก็เป็น 1ใน 3 นะคะ” เจ้เปิ้ลเริ่มเกริ่นเป็นงานเป็นการ “น้องโบตั๋นขา...ช่วยเจ้หน่อยนะคะ ช่วยพูดกับน้องหยกให้พี่หน่อยยนะคะ”

   “น้องโบตั๋นค่ะ โอกาสมันไม่ใช่จะมีมากันง่าย ๆ นะคะ แล้วถ้าน้องโบตั๋นได้ทำงานกับแบรนด์ดัง ๆ มันก็จะเป็นประสบการณ์ที่ดีในการทำความฝันของหนูนะคะ”

   “ตั๋นก็สงสัย ว่าทำไมเจ้ถึงนัดตั๋นมาคุยงานที่ห้องเสื้อพี่ภา ที่แท้จะมารุมกินโต๊ะตั๋นนี่เอง”

   “แหม๋...น้องโบตั๋นอย่าพูดแบบนี้สิค่ะ พวกพี่หวังดีกับหนูจริง ๆ นะคะ น้า....นะคะถือว่าช่วย ๆ กัน” เจ้เปิ้ลคะยั้นคะยอเต็มที่

   “เฮ้อ...ตั๋นของถามเจ้หงส์ก่อนนะคะ”

   “เรื่องยัยหงส์เดี๋ยวพี่ช่วยพูดอีกแรงค่ะ” โบตั๋นได้แต่ทำหน้าหนักใจ พี่ภาช่างไม่รู้สถานการณ์ของครอบครัวเธอเล๊ย..

.........................................................................

   วันนี้ผมรู้สึกว่าเพลินกับการทำงานมากครับ อาจเป็นเพราะว่าชินกับการทำงานเต็มเวลา หรืออาจจะเรียกว่าเกินเวลามากกว่าก็ได้ครับ เวลามันเหมือนเดินผ่านไปอย่างรวดเร็ว อีกไม่กี่ชั่วโมงผมก็จะเลิกงานแล้วครับ

   “หยก เหนื่อยไหมเรา?” พี่แหม่มเดินเข้ามาถามผมหลังเคาน์เตอร์ครับ ที่จริงแกก็ถามทุกคนล่ะแหละครับช่วงนี้ ไม่ใช่อะไรครับ สองสามวันมานี้ลูกค้าที่ร้านคนแน่นมาก โต๊ะเต็มไม่มีที่นั่งก็สั่งกลับบ้าน เบเกอรี่พี่กันต์หมดตั้งแต่ยังไม่บ่าย แกต้องเขาทำเพิ่มบางรายการที่มีวัตถุดิบพอจะทำได้

   “ไม่ครับ ผมแค่ชงกาแฟ ไม่ได้งานหนักเหมือนอย่างในครัวหรืองานเสิร์ฟ”

   “นั่นสิ ลูกค้ามาจากไหนกันเยอะแยะนะช่วงนี้”

   “หยก สตอเบอรี่ เฟรปเป้ 2 กีวี่ เฟรปเป้ 1 ครับ” ก๊องเดินเข้ามาสั่งเครื่องดื่มให้ลูกค้า

   “นี่ก็อีก ทานอาหารอิตาเลียนแต่มาสั่งเครื่องดื่มส่วนของคาเฟ่” พี่แหม่มไม่วายบ่น

   “เขาคงอยากดื่มน่ะครับ”

   “เขาอยากชิมฝีมือนางบาริสต้าของเรานะครับพี่แหม่ม” ก๊องพูดแทรกขึ้นมา

   “ตาก๊อง อย่ามายืนอู้แถวนี้เลย ไปทำงาน”

   “พี่แหม่ม เดินทั้งวันเลยนะครับ ให้พักเท้าบ้างเถอะ”

   “สงสัยต้องให้คุณกันต์รับคนเพิ่มแล้วมั้ง ถ้าอีก 2-3 วันยังเป็นแบบนี้อีก”

   “ไม่ต้องรออีก 2-3 วันหรอกครับ เตรียมรับคนเพิ่มได้เลย”

   “ทำไมแกมั่นใจขนาดนั้นห๊ะตาก๊อง”

   “อ้าว นี้พี่แหม่มยังไม่รู้หรอครับว่าร้านเราลูกค้าเยอะขึ้นเพราะอะไร”

   “เพราะอะไรล่ะ?”

   “ก็เพราะนางฟ้าบาริสต้าของร้านเราไงครับ พี่แหม่มไม่รู้หรอว่าพวกผมเหนื่อยกันขนาดไหน ที่ต้องแกล้งเดินผ่านกล้องถ่ายรูปบ้าง กล้องมือถือบ้าง เวลาลูกค้าจะแอบถ่ายรูปนางฟ้าของเราน่ะ”

   “แล้วทำไม่ต้องทำกันขนาดนั้นด้วย”

   “พี่เล่นไอจีไหมครับ”

   “ไม่ได้เล่นอ่ะ ฉันเล่นไม่เป็น”

   “มิน่าล่ะ คืองี้...”

   “สตอเบอรี่ เฟรปเป้ 2 กีวี่ เฟรปเป้ ได้แล้วครับ” ผมขัดขึ้น ผมไม่ค่อยชอบนักหรอกครับที่ใคร ๆ เรียกผมว่านางฟ้าบาริสต้าน่ะ

   “ก๊อง เดี๋ยวแกกลับมาเล่าต่อเลยนะ”

   “คร้าบ..พี่แหม่ม”

   “เฮ้อ...สงสัยพี่ต้องเรียนรู้ไอ้พวกโซเชียลมีเดีย โซเชียลเนตเวิร์ค อะไรพวกนี้ไว้บ้างแล้ว”

   “พี่แหม่มครับ ลูกค้าเรียกเก็บเงินครับ” ผมสะกิดเมื่อเห็นลูกค้าโต๊ะด้านโน้นโบกมือมาทางนี้

   เอ้...หรือที่ผมทำงานเพลินเพราะลูกค้าที่เข้าร้านมากผิดปกติ ทำให้ไม่มีเวลาคิดอะไรฟุ้งซ่าน ผมมองดูหน้าฬิกาแขวนผนังอีกครั้ง เวลาค่ำขนาดนี้แล้วพี่เสือจะทานอะไรรึยัง?

   ผมไม่เห็นเขาหรอกครับ ก็ตั้งแต่ที่โรงพยาบาลวันนั้นนั่นแหละ ผมไม่รู้ว่าพี่เสือเห็นผมจากจุดที่เขาเฝ้าดูผมอยู่รึป่าว เขาไม่ได้รับส่งผม แค่ตามอยู่ห่าง ๆ ส่วนผมก็เดินทางมาทำงานเองปกติ แต่ผมสัมผัสถึงเขาได้ว่าเขาอยู่ใกล้ ๆ ผมตลอดเวลา มันไม่ทำให้ผมอึดอัดแต่กลับรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัยอย่างบอกไม่ถูก

   “น้องหยกค่ะ ทำเอาพี่หน้าแตกเชียว” พี่แหม่มเดินมาโวยกับผม มีก๊องเดินหัวเราะตามหลังมา

   “ทำไมหรอครับ”

   “เขาเรียกพี่เก็บเงินซะที่ไหนล่ะคะ เขาโบกมือให้น้องหยกต่างหากล่ะคะ”

   “อ่าว?”

   “ไม่ต้องอ่าวหรอกหยก หยกคงไม่รู้ว่าตัวเองดังขนาดไหน มีคนตั้งไอจีให้หยกด้วยนะ นี่ไงนางฟ้าบาริสต้า มีคนตามไอจีนี้เป็นแสนเลยนะ”

   “ตายแล้ว ไหนขอพี่ดูหน่อยสิค่ะ” พี่แหม่มคว้าจากมือผมไปดู แกท่าทางตื่นเต้นมาก “เออก๊อง มันกดดูต่อยังไง”

   “โถ่...พี่แหม่ม...มานี่เดี๋ยวผมสอน...”

   ที่ร้านลูกค้าเยอะแบบนี้เพราะผมอย่างนั้นหรอ? อย่าบอกน่ะว่ามาจากแบนเนอร์ที่เจ็กลู่พูดถึงเมื่อเช้า   

.........................................................................

   พยัคฆ์ย้ายสถานที่เพื่อจะเฝ้าหยกมาเป็นที่เท่าไรแล้วก็ไม่รู้ ไม่คิดเลยว่าร้านอาหารที่น้องหยกทำงานอยู่จะอยู่ย่านธุรกิจกลางเมือง แถมเป็นเส้นที่รถไฟฟ้าวิ่งผ่าน ครั้งที่แล้วที่เจอน้องหยกตรงสี่แยกไฟแดงก็ไม่ได้นึกเอะใจ แล้วถ้าจำไม่ผิด ร้านนี้ก็น่าจะเป็นร้านที่ต้นกล้า เด็กในบ้านของเขามาตามเฝ้าคนขายขนมอยู่

   ย่านนี้พื้นที่ทุกตารางนิ้วเป็นเงินเป็นทาง จอดรถนานก็ไม่ได้ ร้านอาหารก็นั่งนานมากไม่ได้ รอบ ๆ ร้านก็มีแต่อาคารสำนักงานเต็มไปหมด เมื่อไรเขาจะเข้าไปใกล้น้องหยกได้มากกว่านี้ แต่อาจจะเป็นเพราะความเรื่องมากของเขาด้วยละมั้ง ที่เลือกอยู่ในสถานที่สามารถมองเห็นน้องเขาได้

   โทรศัพท์ของเขาสั่นเตือนว่ามีข้อความเข้า

   Yok : กำลังจะเก็บร้านแล้วครับ

   Payak : เหนื่อยไหมครับ

   Payak : พี่อยากไปส่งเราจัง

   Yok : หยกกลับเองได้ครับ


   Yok : พี่เสือทานอะไรรึยังครับ

   นี่เขาคงไม่ได้คิดเข้าข้างตัวเองใช่ไหม ว่าน้องหยกเป็นห่วงเขา

   Payak : ถ้ายังไม่ทาน น้องหยกจะไปทานกับพี่ไหมครับ

   น้องหยกหายไปนาน อ่านข้อความแล้วแต่ไม่ตอบ น้องคงลำบากใจ

   Payak : พี่ล้อเล่นน่ะครับ

   Payak : ทานเรียบร้อยตั้งแต่หัวค่ำแล้วล่ะครับ

   Payak : ขอบคุณที่เป็นห่วงนะครับ


   เขาเห็นว่าน้องหยกอ่านข้อความแล้วแต่ไม่ตอบ เขาคงต้องให้เวลากับน้องเขาอีกสักพัก

   ขณะนี้พยัคฆ์ยืนอยู่บนสถานีรถไฟฟ้า ซึ่งคาดว่าเป็นสถานที่น้องหยกต้องขึ้นมาเพื่อเดินทางกลับบ้าน เขาใช้กล้องส่องทางไกลตัวจิ๋วมองไปยังหน้าร้าน ขนาดร้านสี่ทุ่มกว่าแล้วยังมีคนมายืนออกกันเต็มหน้าร้าน เขาได้ยินเสียงคนวิ่งลงมาจากบันไดสถานนีรถไฟฟ้าฟ้าข้างบน กลุ่มเด็กสาวกลุ่มหนึ่งวิ่งกรูมาเกาะราวกันตกข้าง ๆ เขา ทำให้ต้องรีบซ่อนกล้องส่องทางไกลทันที

   “แก๊...เห็นไหม ร้านปิดแล้ว” เด็กสาวคนที่วิ่งมาถึงเป็นคนแรกตะโกนเสียงดัง

   “ไปยืนรอหน้าร้านเหมือนพวกนั้นไหม พี่นางฟ้าน่าจะยังไม่ออกมา” น้องคนที่สอง

   “เอางั้นหรอแก แต่แกดูสิ จะฝ่าคนพวกนั้นเข้าไปได้ไง ฉันว่าเรารออยู่ตรงนี้ดีไหม รอดูว่าพี่เขาเดินไปทางไหนค่อยไปดักรอ” และน้องคนที่สาม

   “เออ จริงแก...พวกเราอยู่มุมสูง ได้เปรียบเห็นๆ” เด็กสาวคนแรก

   “นี่ๆๆ ดูรูปไอจีวันก่อน พี่เขาอยู่ในขบวนรถไฟฟ้านะแก” น้องคนที่สาม

   “จริงดิ...ไหนดูสิ” เด็กสาวคนแรก

   “เฮ้ย...จริงด้วย พี่เขาต้องขึ้นสถานนีนี้แน่ ๆ เลย” น้องคนที่สอง

   “กรี๊ดดดดด” ทั้งสามร้องออกมาพร้อมกัน จนเขาต้องผละออกมา

   โทรศัพท์ของเขาสั่นอีกครั้ง แค่มันสั่นเขาก็รู้ว่าเป็นข้อความของใคร พอคิดถึงเจ้าของข้อความ หน้าของเขาก็ระบายไปด้วยรอยยิ้ม

   Yok : หยกออกหน้าร้านไม่ได้

   Yok : ต้องออกหลังร้าน

   Yok : พี่แหม่มจะไปส่งที่สถานนีถัดไป


   Payak : ครับ

   Payak : ระวังตัวด้วยนะครับ

   Payak : พี่เป็นห่วง


To Be Continue

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
Re: หยก 15-10-17 {{:::19:::}}
«ตอบ #69 เมื่อ15-10-2017 01:35:41 »

 :pig4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: หยก 15-10-17 {{:::19:::}}
« ตอบ #69 เมื่อ: 15-10-2017 01:35:41 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4992
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
Re: หยก 15-10-17 {{:::19:::}}
«ตอบ #70 เมื่อ15-10-2017 10:56:29 »

:pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
Re: หยก 15-10-17 {{:::19:::}}
«ตอบ #71 เมื่อ15-10-2017 13:49:23 »

บางทีก็คิดว่ามันเกินไปไหม ดูจะก้าวก่ายชีวิตส่วนตัวเขาเหลือเกิน ถึงจะเป็นเพราะชอบก็เถอะ

ออฟไลน์ fahsai

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 815
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +56/-2
Re: หยก 15-10-17 {{:::19:::}}
«ตอบ #72 เมื่อ15-10-2017 21:15:42 »

เมื่อไหร่พี่เสือจะได้อยู่ใกล้ๆน้องหยก

ออฟไลน์ Amo

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 172
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +136/-1
Re: หยก 17-10-17 {{:::20:::}}
«ตอบ #73 เมื่อ17-10-2017 19:28:50 »

20

    ผมเก็บเคาน์เตอร์เสร็จก็เข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเตรียมจะกลับบ้าน แต่ก๊องกับเพื่อนร่วมงานคนอื่น ๆ ในร้านไม่ยอมให้ผมกลับ จนกระทั่งคนในครัวออกมาสมทบ

   “อ่าว ทำไมยังไม่กลับกันอีกล่ะ” เอ็มผู้ช่วยเชฟถามพวกผม

   “กำลังหาวิธีกลับอยู่” ก๊องตอบพรางมองออกไปนอกหน้าต่าง

   “มีอะไรว่ะก๊อง” เอ็มเดินไปมองดูที่ประตูร้าน

   “มึงดูเองดิ ลำพังพวกกูอ่ะกลับกันได้อยู่แล้ว แต่หยกนี่สิ ถ้าจะงานเข้าหนัก”

   “โห... นี่ขนาดปิดร้านแล้วนะ ยังมายืนรอกันอยู่อีกหรอ?”

   “เออดิ ดีนะพวกกูห้ามหยกไว้ทัน ขืนออกไปเลยมีหวังเละ”

   ผมปล่อยให้เพื่อนร่วมงานคุยกันไป ส่วนผมก็อ่านข้อความของพี่เสือ ที่อ่านค้างไว้ตอนเปลี่ยนเสื้อ

   Payak : พี่ล้อเล่นน่ะครับ

   Payak : ทานเรียบร้อยตั้งแต่หัวค่ำแล้วล่ะครับ

   Payak : ขอบคุณที่เป็นห่วงนะครับ


   “ยิ้มน้อย ยิ้มใหญ่อะไรจ๊ะน้องหยก” พี่แหม่มเดินออกมาจากหลังร้านพร้อมพี่กันต์พี่แก้ว คงจะเคลียบัญชีกันเสร็จแล้ว ว่าแต่...ผมยิ้มอยู่หรอ?

   “สงสัยดูไอจีของตัวเองอยู่ เป็นพี่ พี่ก็ปลื้มค่ะ มีคนฟอโล่เราขนาดนั้น” พี่แก้วยิ้มแซว

   “มะ...ไม่ใช่ครับ อ่านข้อความของ...” นั่นสิ ของใครดีล่ะ “เพื่อนน่ะครับ”

   “เพื่อนหรือว่าแฟน ยิ้มแบบนั้นพี่ว่าน่าจะเป็นแฟนมากกว่า” พี่แหม่มแซว ทำให้เพื่อน ๆ คนอื่นที่ยืนอออยู่ตรงทางออกประตูหน้าร้านต่างหันมามองผมเป็นตาเดียวกัน มันอึดอัดพอ ๆ กับความรู้สึกของพี่เสือเลยครับ

   “มะ...ไม่ใช่ครับ ไม่ใช่”

   “พี่แซวเล่นนิดหน่อย หน้าแดงเชียว ดูพวกไอ้ก๊องสิ เคลิ้มกันไปถึงไหนต่อไหนแล้ว” พี่แหม่มบุ้ยใบให้ผมไปมองพวกที่ยืนหน้าประตู

   “...”

   “แล้วนี่พวกนายทำยังไม่กลับกัน” พี่กันต์ถามขึ้น เพราะคืนนี้พวกเรายังอยู่กันครบทุกคน

   “พวกเรากำลังคิดกันอยู่ว่าจะพาหยกออกไปยังไง ไม่ให้พวกนั้นรุมทึ้งเอา”เอ็มหันมาบอกพี่กันต์

   “แกก็พูดน่าเกลียด รุมทึ้งที่ไหน”

   “น้อยไปสิพี่แหม่ม วันนี้พี่ก็เห็น ใครมาสั่งเครื่องดื่มหรือขนมตรงเคาน์เตอร์นี่ ต้องมีได้แตะนิด แตะหน่อย หยกไม่ช้ำก็ดีเท่าไรแล้ว” ก๊องพูดเหมือนฟ้อง พนักงานเสิร์ฟด้านนอกพอรู้กันบ้าง แต่คนในครัวนี่สิ

   “เฮ้ย จริงดิ” เอ็มหงุดหงิดขึ้นมาเป็นคนแรกเลยครับ คนอื่น ๆ ในครัวก็ดูท่าจะหงุดหงิดไม่น้อย ก็มีบ้างครับที่โดนลูกค้าจับไม้จับมือตอนส่งเครื่องดื่มหรือกล่องขนม ใช่ว่าจะเป็นเรื่องคอขากบาดตายสักหน่อย

   “แหม๋ๆๆ หวงกันเข้าไป อีกหน่อยน้องหยกของพวกเรามีแฟนเป็นตัวเป็นตน ยังจะมาหวงกันแบบนี้อีกไหม” พี่แก้วแซว

   “มันไม่เกี่ยวหรอกครับว่าหยกจะมีแฟนหรือยังไม่มี ถึงยังไงหยกก็เป็นนางฟ้าของพวกเราอยู่ดี” ก๊องพูดทุกคนพรางพยักหน้ารับตาม ๆ กัน ผมก็ดีใจอยู่หรอกครับที่เพื่อนร่วมงานรักผมน่ะ แต่ไอ้ตำแหน่งนางฟ้าเนี๊ยะ ไม่เอาได้ไหมครับ

   “เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน เดี๋ยวหยกกลับรถพี่ พี่ไปส่งหยกขึ้นสถานีรถไฟฟ้า สถานีถัดไปก็แล้วกันนะ”

   “พี่แหม่ม ผมติดรถไปด้วยดิ”

   “แกเดินกลับไม่ใกล้กว่าหรอเอ็ม บ้านก็อยู่แค่นี้ จะนั่งรถย้อนไปย้อนมาทำไม”

   “ผมจะไปส่งหยกขึ้นรถไฟฟ้า”

   “เฮ้ย!! งั้นกูไปด้วยดิ พี่แหม่มก๊องไปด้วยครับ”

   “เออ เอากันเข้าไป ตามใจ ๆ ป่ะหยก เรากลับกัน” พี่แหม่มรุนหลังผมให้เดินกลับไปทางหลังร้าน ลานจอดรถของร้านเราต้องเข้าจากซอยข้าง ๆ ครับ

   “เฮ้ย พวกมึงอ่ะ รอให้เห็นรถพี่แหม่มออกไปก่อนนะ แล้วพวกมึงค่อยกลับ” คนที่เหลือพยักหน้ารับกันเป็นแถว ผมเห็นพี่กันต์พี่แก้วแกยิ้มขำกับท่าที่ของพวกเพื่อน ๆ ผม ก่อนที่แกจะแยกตัวขึ้นไปพักผ่อนข้างบน ผมขึ้นรถได้ก็พิมพ์ข้อความบอกพี่เสือ

   Payak : ครับ   

   Payak : ระวังตัวด้วยนะครับ

   Payak : พี่เป็นห่วง


.........................................................................

   เมฆขับรถมาจอดอยู่ฝั่งตรงข้ามร้านที่หยกทำงานอยู่ กว่าเขาจะแกะรอยตามหาร้านจากหน้าไอจีได้ก็ใช้เวลาร่วมชั่วโมง เมื่อมาถึงร้านก็ปิดไปเรียบร้อยแล้ว เขาเห็นหน้าร้านมีคนมายืนออกันอยู่เต็มไปหมด ถ้าเขาเดาไม่ผิด น่าจะเป็นแฟน ๆ ที่ติดตามไอจีนางฟ้าบาริสต้าแน่นอน งานที่ว่าง่าย ท่าทางจะไม่ง่ายอีกต่อไป

   “อัลโหล คุณเกรียง ผมเมฆนะ”

   “ไง จะให้อั๊วไปรอรับคนที่ไหน”

   “มันไม่ง่ายอย่างนั้นน่ะสิ”

   “เฮ้ย คิดจะเบี้ยวอั๊วหรอว่ะ?”

   “คุณเกรียงไม่รู้อะไร น้องหยกของคุณน่ะดังจะตาย มีแต่คนล้อมหน้าล้อมหลัง น้องโบตั่นทำงานมาก่อนตั้งนาน ยังไม่ดังขนาดนี้เลย ผมนี่ยังหาทางเข้าไม่ถึงตัวน้องหยกเขาเลยนะ”

   “อะไรกันว่ะ?”

   “เอาเป็นว่าผมจะหาทางให้แล้วกัน แต่จะไม่ใช่ราคาที่ตกลงกันแล้วนะ”

   “แล้วอั๊วจะเชื่อได้แค่ไหน?”

   “เอาไว้ผมได้ตัวน้องหยกมาเมื่อไรค่อยตกลงราคากันทีหลังก็ได้ ผมแฟร์พอ”

   ก๊อก ๆๆ เสียงเคาะกระจกตรงประตูข้างคนขับดังขึ้น เขาจึงลดกระจกลงก่อนกดวางสาย

     “สวัสดีครับ” ตำรวจจราจรตะเบ๊ะให้เขา “ตรงนี้มันเป็นที่ห้ามจอดนะครับ”

   “ครับ ๆ ผมทราบ พอดีรับโทรศัพท์ครู่นึงน่ะครับ สอดคล้องกับโครงการ โทร.ไม่ถือ เลี่ยงไม่ได้ ให้ใช้อุปกรณ์เสริม ยังไงล่ะครับ พอดีผมไม่มีอุกรณ์เสริม จอดคุยจะได้ปลอดภัยครับ นี่ก็เสร็จแล้วครับ จะไปพอดี”

   “ยังไงครั้งหน้าก็เก็บอุปกรณ์เสริมติดรถไว้ก็ดีนะครับ หรือควรจะจอดในที่ที่สามารถจอดได้ครับ”

   “ครับคุณตำรวจ ขอบคุณครับ”

.........................................................................

    โบตั๋นออกจากบ้านพร้อมหยกเช่นเคย ถึงหงส์จะบอกกับเธอว่ามีคนคอยดูแลพวกเธออยู่ก็ตาม แต่เธอก็ยังไม่ไว้ใจอยู่ดี เธอไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดเธอถึงเป็นเช่นนี้ จะว่าเป็นลางสังหรณ์ก็อาจจะเป็นไปได้

   เมื่อคืนเธอรู้ว่าไอ้แมวหง่าวนั้นตามมาส่งหยกจนถึงบ้าน เธอจำรถคันใหญ่สีดำนั่นได้ ถึงแม้มันจะแค่ขับผ่านหน้าบ้านของเธอไปก็ตาม นายนั่นน่ามันจะจริงใจกับพี่ชายเธอจริง ๆ หรอ ผู้ชายด้วยกันเนี๊ยะนะ ยังไงความไม่ไว้ใจอีตาแมวนั่นมันก็ยังคงมีอยู่

   แค่ไม่กี่วันหยกก็ดังมาก แค่ถ่ายแฟชั่นงานเดียวก็ดังเปรี้ยงปร้าง ไม่ใช่ว่าจะมีแค่งานของพี่เปิ้ลงานเดียวที่ติดต่อเข้ามาช่วงนี้ พี่ภาบอกเธอว่า มีเอเจนซี่อื่น ๆ ติดต่อพี่ภามาเพราะเข้าใจว่าเธอเป็นหยก หรือไม่ก็ขอให้เธอติดต่อหยกให้ น่าปวดหัวจริง ไม่รู้ป่านนี้ผู้หญิงที่ตามหยกเมื่อคราวก่อนจะเห็นหยกตามแบนเนอร์นั่นรึยัง

   “ตั๋นมีเรื่องอะไรในใจก็พูดมาเถอะ” หงส์เป็นคนเปิดประเด็นก่อน เธอรู้ว่าทั้งเจ่เจ้และหยกรู้อยู่แล้วว่าเธอกำลังกังวลอะไรในตอนนี้

   “เจ่เจ้รู้อยู่แล้วยังจะถามอีก ตัดสินมาเลยไม่ได้หรอ?”

   “หยกล่ะ เราว่ายังไง”

   “โอ๊ย...ไม่ต้องถามหยกหรอก ใจอ่อนอย่างหยกเจอพี่ภาพูดเข้าหน่อยก็ตามใจเขาซะหมด”

   “ตั๋นไม่อยากให้หยกไปถ่ายแบบเสื้อผ้านั่นไม่ใช่หรอ ก็ตามใจตั๋นสิ”

   “จริงหรอค่ะ เจ่เจ้โอเคใช่ไหมค่ะ ถ้าตั๋นไม่ให้หยกรับงานนี้”

   “อืม...แต่น่าเสียดายนะ เห็นยัยภาบอกว่าเขาจะไปถ่ายกันที่พังงา”

   “ไม่เห็นน่าเสียดายตรงไหนเลย”

   “หยกว่าไหม ว่าเราสามพี่น้องไม่ได้ไปเที่ยวด้วยกันตั้งนานแล้วเน๊อะ เจ่เจ้ว่าไปเที่ยวพังงากันก็ดี เจ่เจ้จะได้พักฟื้น สูดอากาศบริสุทธิ์ด้วย”

   “เจ่เจ้รู้หรอครับ ว่าเขาเดินทางกันช่วงไหน?”

   “จ๊ะ ยัยภาบอกเจ่เจ้แล้ว นี่เดี๋ยวถ้าเจ็กลู่มา ก็ว่าจะชวนไปด้วยกัน”

   “โหยยย...เจ่เจ้อ่ะ ถ้าจะพูดถึงขนาดนี้ก็บอกให้หยกรับงานไปเลยเห๊อะ ทำมาเป็นพูดอ้อมอยู่ได้”

   “เจ่เจ้รู้ว่าตั๋นกังวลอะไร แต่ตั๋นก็ต้องไว้ใจหยกนะ หยกเขาดูแลตัวเองได้ เหมือนที่เจ่เจ้ไว้ใจตั๋น ว่าตั๋นก็สามารถดูแลตัวเองได้”

   “ตั๋นก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน ว่าทำไมตั๋นถึงได้กระวนกระวายเรื่องหยกขนาดนี้”

   “ทำใจให้สบายเถอะ เฮียไม่เป็นอะไรจริง ๆ”

   “ถ้าไม่มีนายแมวหง่าวนั่นอยู่ใกล้ ๆ ตั๋นจะสบายใจกว่านี้”

   “เมื่อไรตั๋นจะญาติดีกับคุณเสือเขาสักที เราก็คนกันเองทั้งนั้น”

   “ไว้นายนั่นพิสูจน์ตัวเองให้ตั๋นเห็นก่อนเถอะ”

   “แล้วต้องให้เขาพิสูจน์แบบไหนล่ะ เราถึงจะพอใจ”

   “ไม่รู้ล่ะ เท่าที่ทำอยู่ตอนนี้ ยังไม่พอสำหรับตั่นก็แล้วกัน” เธอมองหน้าหยกที่เอาแต่ปิดปากเงียบเมื่อพูดถึงตาแมวนั่น เดิมทีหยกก็เงียบอยู่แล้ว ตอนนี้ยิ่งเงียบหนักเขาไปอีก

   “เอา ๆ ตามใจเรา”

.........................................................................

   ผมลงมาจากห้องของเจ่เจ้ เตรียมจะไปสอนที่โรงเรียน ตามปกติครับ เดินผ่านเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ก็ยังมีพี่ ๆ เจ้าหน้าที่คอยส่งยิ้มให้ผมเป็นระยะ ๆ กำลังจะก้าวออกจากประตูโรงพยาบาล พี่พยาบาลคนหนึ่งก็วิ่งเข้ามาหาผม

   “น้องหยกค่ะ” ผมหันมองตามเสียงเรียก เขารู้จักชื่อของผมได้ยังไง?

   “ครับ”

   “อุ๊ย...มองใกล้ ๆ อย่างนี้ น้องหยกหน้าใส๊ใส”

   “เออ...”

   “อ่อ... นี่ค่ะ” พี่เขายื่นถุงใส่แซนวิชของร้านกาแฟในโรงพยาบาลให้ผม “ไม่ใช่ของพี่หรอกค่ะ เจ้าของเค้าโน๊ตไว้ในถุงแล้ว ทานให้อร่อยนะคะ”

   “อ่อ...ขอบคุณครับ”

   “ว่าแต่พี่ขอถ่ายรูปกับน้องหยกหน่อยได้ไหมค่ะ?”

   “เออ...ก็ได้ครับ”

   “ว๊าย...ขอบคุณค่ะ มาค่ะ 1 2 3” พี่เขาดูรูปที่ถ่ายกับโทรศัพท์เรียบร้อย ก็เอ่ยขอบคุณก่อนเดินกลับไปยังเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ รวมกลุ่มกับคนอื่น ส่วนผมก็รีบเดินออกมาเลยครับ ก่อนจะมาใครมาขอถ่ายรูปอีก

   ระหว่างจะเดินไปขึ้นรถ ผมลวงลงไปหยิบกระดาษโน๊ตในถุงขึ้นมาอ่าน อยากรู้ว่าใครฝากขนมมาให้

               พี่ไม่แน่ใจว่าน้องหยกทานอะไรตอนเช้าแล้วรึยัง

            พี่เห็นแซนวิชที่ร้านเขาน่าทานเลยซื้อมาฝาก ทานให้อร่อยนะครับ

            พี่ล่วงหน้าไปรอแถว ๆ โรงเรียนก่อนนะ

                           คิดถึง....พี่เสือ



   ผมอ่านข้อความจบ ในอกผม มันเหมือนมีลูกโป่งที่พองลมจนแทบจะแตกออกมาเสียให้ได้ มันไม่ได้รู้สึกอัดอัดแต่มันกลับรู้สึกดีจนผมอธิบายไม่ถูก อาการแบบนี้เขาเรียกว่า ปลื้มใจ รึป่าวครับ?

.........................................................................

   พยัคฆ์นั่งอยู่ส่วนพักคอยของทางสถาบันจัดไว้ให้ผู้ปกครองนักเรียนนั่งรอ สถาบันนี้นอกจะเปิดรับสอนเทควันโด และฮับกีโด ของเกาหลีแล้ว ยังมีคอร์สอื่น ๆ อีก เช่น ไอกิโด้ คาราเต้ ยูโด ของญี่ปุ่น น้องหยกสอนเทคควันโดอยู่ในยิมด้านใน ครั้งก่อนที่เจอกัน ก็เหมือนจะได้ยินว่าไปเป็นเทรนเนอร์มวย น้องหยกของเขามีความสามารถด้านศิลปะการป้องกันตัวแค่ไหนกันนะ?

   วันนี้เขาลองส่งข้อความไปถาม หลังจากก้าวเข้าประตูมาแล้ว ว่าระยะที่เขายืนอยู่นี่ น้องหยกอึดอัดไหม แล้วข้อความที่ได้รับตอบกลับมานั้นก็ทำให้เขาอมยิ้มอารมณ์ดีจนถึงตอนนี้

   เขาเข้าใกล้น้องหยกมาได้อีกนิดแล้ว เมื่อเทียบกับเมื่อวานที่เขาต้องทนร้อน นั่ง ๆ นอน ๆ อยู่ในรถของตัวเองที่ลานจอดหน้าสถาบันแห่งนี้ แม้ว่าการมาเฝ้าที่สถาบันนี้ เขาแทบจะไม่ได้เห็นหน้าน้องหยกเลยก็ตาม แต่ถ้าเทียบกับที่ร้านอาหารนั่นแล้ว ที่นี่ก็ถือว่าเขาได้ใกล้ชิดกับน้องหยกมากกว่า

   “ดูรูปนี้สิค่ะแม่น้องพราว”

   “อุ๊ย นี่ครูหยกนี่ค่ะ?”

   “ใช่ค่ะ เมื่อวานน้องฮีโร่เอามาอวดให้พี่ดู เขาว่าครูของเขาน่ะดังใหญ่แล้ว”

   “รูปนี้ครูหยกดูสวยเหมือนผู้หญิงเลยนะคะ”

   “นั่นสิค่ะ”

   “อ๊ะใต้รูปแฮชแท็กด้วยค่ะ พี่เพิ่งเห็น ดูสิค่ะ”

   “นางฟ้าบาริสต้า?”

   เสียงผู้ปกครองนักเรียนที่คุยกันเรียกความสนใจของพยัคฆ์ได้เป็นอย่างดี ที่สะดุดหูน่าจะเป็น นางฟ้าบาริสต้า ชื่อนี้คุ้น ๆ เหมือนเขาเคยได้ยินที่ไหนมาก่อน

   “อ๊ะ เด็ก ๆ เลิกคลาสกันแล้ว น้องพราวทางนี้ลูก”

   “สวัสดีค่ะ คุณแม่ฮีโร่”

   “สวัสดีค่ะน้องพราว แล้วน้องฮีโร่ละค่ะ?”

   “ฮีโร่อยู่กับครูหยกค่ะ ตอนเรียนฮีโร่ข้อเท้าพลิก”

   “ตายแล้ว!!” คุณแม่ทำท่าจะเดินไปทางโรงยิม ก็เห็นหนุ่มหน้าตี๋อุ้มเด็กผู้ชายออกมา “อ่าวครูศักดิ์ แล้วครูหยกล่ะค่ะ”

   “ครูหยก โดนครูศักดิ์ทำโทษ กักบริเวณให้อยู่แต่ในโรงยิม เพราะไม่ระวัง ทำฮีโร่เจ็บ” เด็กน้อยบอกพร้อมย้ายวงแขนจากคุณครูหน้าตี๋ไปโอบรอบคอคุณแม่แทน

   “ครูหยกโดนกักบริเวณจริง ๆ หรอค่ะ?” คุณแม่กระซิบถามครูศักดิ์

   “ไม่ใช่หรอกครับ น้องฮีโร่ร้องไห้ตอนข้อเท้าพลิก ปลอบยังไงก็ไม่ยอมหยุด ผมขู่ว่าจะทำโทษครูของแก เลยหยุดร้องน่ะครับ”

   “ครูหยกเลยต้องอยู่แต่ในโรงยิมจริง ๆ”

   “ครูหยกเขาเต็มใจนะครับ”

   พยัคฆ์ฟังผู้ปกครองกับครูเขาคุยกันแล้ว ถ้าทางน้องหยกคงเป็นที่รักของเด็ก ๆ ทำให้เขานึกถึงข้อมูลที่อ่านเจอเมื่อวันสองสามวันก่อน จะว่าเป็นข้อมูลก็ไม่เชิง เขาแค่ค้นข้อมูลเกี่ยวกับความสัมพัน์ระหว่างความรักของคนเพศเดียวกัน แล้วไปเจอนิยายแนวชายรักชายที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งสามารถท้องได้ แต่มันก็เป็นเพียงนิยาย...ถ้าน้องหยกมีลูกกับเขาได้จริงล่ะ ลูกของเขาคงหน้าตาน่ารักเหมือนน้องหยกแน่ ๆ  คิดแล้วก็ได้แต่ยิ้มให้กับตัวเอง

   ติ้งง ง ง ง

   Yok : พี่เสือหยุดคิดเลยนะ

   เขาอ่านข้อความผ่านแอพพลิเคชั่นแล้วก็อดยิ้มไม่ได้ เค้ารู้สึกอะไรอยู่ในตอนนี้ น้องหนกคงรับรู้แล้ว

   Payak : หยุดคิดอะไรครับ

   Payak : ให้พี่หยุดคิดถึงน้องหยกนะหรอ?

   Yok : พี่เสือลามก ๆๆๆๆๆๆๆๆๆ


   เขาหัวเราะขึ้นมาทันทีเมื่อเห็นข้อความสุดท้ายที่กดไม้ยมกค้างยาวมาหลายบรรทัด   

To Be Continue

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8896
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80
Re: หยก 17-10-17 {{:::20:::}}
«ตอบ #74 เมื่อ17-10-2017 19:35:39 »

 :pig4:

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4992
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
Re: หยก 17-10-17 {{:::20:::}}
«ตอบ #75 เมื่อ17-10-2017 19:59:16 »

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
Re: หยก 17-10-17 {{:::20:::}}
«ตอบ #76 เมื่อ17-10-2017 20:12:50 »

 :กอด1:

ออฟไลน์ donutnoi

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2187
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-7
Re: หยก 17-10-17 {{:::20:::}}
«ตอบ #77 เมื่อ17-10-2017 20:23:17 »

 :mew1: เข้าใกล้หยกอีกนิดแล้ว

ออฟไลน์ zuu_zaa

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2003
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +115/-1
Re: หยก 17-10-17 {{:::20:::}}
«ตอบ #78 เมื่อ18-10-2017 22:38:40 »

สนุกมากกกกกก

ออฟไลน์ Amo

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 172
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +136/-1
Re: หยก 21-10-17 {{:::21:::}}
«ตอบ #79 เมื่อ21-10-2017 10:24:34 »

21

    ผมกำลังเก็บอุปกรณ์ปฐมพยาบาลเบื้องต้นให้เข้าที่ เพราะเพิ่งพันข้อเท้าให้น้องฮีโร่เสร็จเรียบร้อย ความรู้สึกของพี่เสืออยู่ ๆ ก็เปลี่ยนไป จากเดิมที่คอยเป็นห่วงเป็นใยจนบ่อยครั้งมันทำให้ผมรู้สึกอุ่นใจ เวลานี้มันกลับกลายเป็นความรู้สึกอยากจะกลืนกิน แล้วคำพูดของพี่เสือก็ผุดขึ้นมาในหัวของผม พี่กินเราแบบนี้ กลัวพี่ไหมครับ พร้อมกับภาพต่างๆ ฉายขึ้นมาในสมองราวกับว่าผมกำลังดูภาพยนต์อยู่ ความรู้สึกนี้ทำให้ขนอ่อนตามร่างกายของผมลุกตั้งอย่างห้ามไม่อยู่

   ผมรีบเดินไปยังกระเป๋าสัมภาระของตัวเองค้นเอาโทรศัพท์ขึ้นมา ส่งข้อความไปหาพี่เสือด้วยมือที่ค่อนข้างสั่น

   Yok : พี่เสือหยุดคิดเลยนะ

   Payak : หยุดคิดอะไรครับ

   Payak : ให้พี่หยุดคิดถึงน้องหยกนะหรอ?


   พี่เสือทำเป็นเฉไฉ ผมรู้ว่าเขารู้ ว่าผมกำลังบอกให้เขาหยุดคิดเรื่องอะไร ไอ้บ้าแมวหง่าวบ้า เขาจะรู้ไหมว่าถึงแม้ความรู้สึกของเขาเริ่มกลับมาเป็นปกติ แต่ผมนี่สิ มโนสำนึกยังคงฉายภาพเดิม ๆ ซ้ำไปซ้ำมา จนผมรู้สึกถึงความร้อนที่เห่อขึ้นมาบนใบหน้า

   Yok : พี่เสือลามก ๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

   “หยกเป็นอะไรไป ไม่สบายรึป่าว ทำไมหน้าแดงขนาดนี้” พี่ศักดิ์เดินเข้ามาในยิมตั้งแต่เมื่อไร ผมไม่ทันรู้ตัว ในมือก็รีบเก็บโทรศัพท์เข้ากระเป๋า

   “มะ...มะ...ไม่เป็นไรครับ”

   “หรือว่าในนี้มันร้อนเกินไป ไม่ต้องอยู่ในยิมก็ได้ พี่แค่ขู่ฮีโร่เท่านั้นเอง”

   “ไม่เป็นไรจริง ๆ ครับพี่ศักดิ์”

   “แต่หน้าเราแดงมากเลยนะ ทุกทีออกกำลังก็แค่หน้าขึ้นสีนิดหน่อย”

   “เดี๋ยวผมไปล้างหน้าล้างตาสักหน่อย น่าจะดีขึ้นครับ”

   “ตามใจ ระวังเป็นลมเป็นแล้งไปล่ะ”

   “ครับ” เพราะไอ้แมวบ้านั่นคนเดียว ทำผมให้ต้องขายหน้าต่อหน้าพี่ศักดิ์เอาได้

.........................................................................

   วรากรเดินลงมาจากชั้นบนอย่างอารมณ์ดีเหมือนทุกวัน ขณะเดินผ่านห้องนั่งเล่นเพื่อเลยไปยังห้องครัว เขาเห็นหลานชายตัวดีนั่งหันหลังให้ อยู่บนโซฟาเดี่ยว

   “ไปไง มาไง เมื่อคืนแกกลับมานอนบ้านได้ล่ะ?” เขาถาม หลายชายเขาหันมา

   “ก็ไม่มีอะไรนี่ครับ ว่าแต่อากรดูอารมณ์ดีผิดปกตินะครับ”

   “ฉันก็เป็นแบบนี้ของฉันทุกวันนั่นแหละ”

   “จริงอ่ะ” เขามองหน้าอาของตัวเองอย่างไม่ค่อยจะเชื่อ จนป้าแม่บ้านเดินเข้ามาในห้องนั่งเล่น

   “คุณกรจะรับกาแฟในห้องนี้ไหมค่ะ ป้าจะได้ไปยกมาให้”

   “เอามาห้องนี้เลยก็ได้ครับ”

   “แล้วคุณหลิวล่ะค่ะ จะรับพร้อมกันเลยไหมค่ะ” สิ้นคำถามขอแม่บ้าน พยัคฆ์ก็เลิกคิ้วยียวนส่งให้ผู้เป็นอา เขารู้ถึงสาเหตุที่ทำให้อาของเขาอารมณ์ดีในช่วงนี้แล้ว

   “ยังครับ ไว้รอถามเจ้าตัวเขาก่อนดีกว่า” อากรตอบก่อนเหลือบตามองเขาเล็กน้อย

   “ป้าให้ไอ้กล้า มันเข้ามาหาผมหน่อยสิครับ” พยัคฆ์รั้งป้าไว้เล็กน้อย

   “คุณเสือมีอะไรจะใช้มันหรอค่ะ”

   “ไม่มีอะไรหรอกครับ ว่าจะถามมันถึงเรื่องร้านขนมที่มันไปติดเจ้าของร้านน่ะ”

   “โอ้ย...นางฟ้าหน้าหยกเข้าไม่ใช้เจ้าของร้านหรอกค่ะ แต่เดี๋ยวป้าไปตามมาให้นะคะ”

   “อะไรของแกว่ะไอ้เสือ”

   “ผมสังหรณ์ใจอะไรนิดหน่อยนะครับ”

   “สังหรณ์เรื่องอะไรของแก”

   “...”

   ต้นกล้าเดินมาพร้อมกับถาดใส่แก้วกาแฟพร้อมขนมปังปิ้ง อาหารเช้าง่าย ๆ เมนูประจำของอากร เด็กหนุ่มค่อย ๆ ว่างถ้วยจานต่าง ๆ ลงบนโต๊ะกลาง เมื่อเรียบร้อยแล้วจึงเอ่ยถามพยัคฆ์

   “แม่บอกว่าคุณเสือต้องการพบผม”

   “อืม ฉันว่าจะถามเรื่องร้านขนมเมื่อคราวก่อนที่นายไปซื้อมาน่ะ มันอยู่ที่ไหน?”

   “อ่อ อยู่ตรงปากซอยทางเข้าบ้านเรานี่แหละครับ คุณเสือถามทำไมครับ หรืออยากทานขนมร้านนี้ เดี๋ยวผมออกไปซื้อให้ก็ได้นะครับ” ต้นกล้ารีบอาสา   

   “ป่าว ๆ แค่สงสัย แล้วทำไมนายต้องกระตือรือร้นขนาดนั้นว่ะ”

   “โหย...ไม่ได้หรอกคุณเสือ ช่วงนี้ร้านกำลังดัง บางวันขนมหมดตั้งแต่เปิดร้านได้ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงเลยนะ”

   “อะไรจะขนาดนั้นห๊ะ เจ้ากล้า” อากรเอ่ยออกมาอย่างไม่ค่อยอยากจะเชื่อ ส่วนต้นกล้าจากที่นั่งคุกเข่าอยู่ตอนนี้มันเปลี่ยนมานั่งขัดสมาธิเรียบร้อยแล้ว

   “คุณกรไม่รู้อะไร ก็ตั้งแต่นางฟ้าของผมเขาไปถ่ายโฆษณานะ มีแต่คนแกะรอยตามเขามาถึงที่ร้านเลย ผมยังเสียดายไม่หาย ไม่น่าไปบ้าจี้ ตั้งไอจีให้นางฟ้าของผมตามแรงยุจากไอ้เพื่อน ๆ ที่มหา’ลัยเล๊ย...จากเมื่อก่อนยอดฟอลโล่แค่หลักพัน ตอนนี้ขึ้นเป็นแสน”

   “เฮ้อ...นายนี่เอง แล้วถ้าฉันเดาไม่ผิด ไอ้ชื่อนางฟ้าบาริสต้า ก็มาจากนายด้วยใช่ไหม?”

   “เฮ้ย...ไม่ใช่ พี่ ๆ พนักงานในร้านนั่นเขาเป็นคนตั้งให้ตะหากล่ะ ผมได้ยินเข้า เห็นว่าชื่อนี้เหมาะกับนางฟ้าของผมดี เลยเอามาใช้”

   “เอ่อ ๆ นายไปได้แล้ว” พอร่างเด็กหนุ่มลับหายไป วรากรก็เอ่ยถามอย่างพอจะเดาได้

   “นางฟ้า เพิ่งถ่ายโฆษณา ทำงานร้านอาหาร ถ้าอาเดาไม่ผิด คงเป็นหยกล่ะสิ”

   “ก็ใครซะอีกล่ะครับ ผมก็สังหรณ์ใจอยู่แล้วเชียว ตั้งแต่ผมตามน้องหยกไปที่ร้านมา 2-3 วัน มีคนเข้าร้านเยอะมาก ออหน้าร้านก็มี จนบางครั้งผมมองไม่เห็นข้างในร้านเลยด้วยซ้ำ”

   “ไม่ต้องห่วงหรอกน่า หยกเขามีเมฆาขาวห้อยติดตัวอยู่ตลอดเวลา”

   “...”

   “ฮ่าๆๆ แกอย่าบอกนะ ว่าแกอิจฉา?”

   “...”   

.........................................................................

   หลิวลู่กำลังเดินลงมาจากชั้นบน ก็ได้ยินเสียงวรากรหัวเราะเสียงดังลั่นมาจากชั้นล่าง ทำให้เขาสงสัยว่าใครมาหาตั้งแต่เช้า เมื่อเดินลงมาแล้วเขาเลี่ยงเดินไปที่ห้องครัวอย่างแผ่วเบา เพื่อไม่ให้คนในห้องถัดไปเห็นเขา

   “อ่าวคุณหลิว ทำไมเดินเข้ามาถึงในนี้ได้ล่ะคะ ไปรอป้าที่ห้องนั่งเล่นกับคุณกรก่อนก็ได้ค่ะ เดี๋ยวป้ายกกาแฟไปให้”

   “ไม่เป็นไรครับ ผมเห็นว่าคุณกรมีแขก”

   “แขกที่ไหนกันค่ะ คุณเสือตะหาก เมื่อคืนคงกลับเข้ามาดึก คุณหลิวเลยไม่ได้ยินเสียงรถของแก”

   “ถ้าอย่างนั้น ผมไปรอที่ห้องนั่งเล่นก็แล้วกันครับ”

   ถ้าเป็นเวลาปกติ เขาคงได้ยินเสียงอยู่หรอกเพราะคนที่ทำงานแบบเขานั้นต้องตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา ถ้าไม่เป็นเพราะเฮียกรคอยก่อกวนเขาตลอดคืน พอได้หลับก็หลับลึกจนไม่รู้เรื่องรู้ราว ว่าพยัคฆ์กลับเข้ามานอนที่บ้านเมื่อคืนนี้ เขาเดินเข้าไปสมทบอาหลานภายในห้องนั่งเล่น เฮียกรส่งยิ้มให้จนเขารู้สึกหมั่นไส้ยังไงชอบกล

   “ผมเพิ่งทราบว่าอามาพักที่บ้าน ตั้งแต่เมื่อไรครับ” เหมือนพยัคฆ์จะถามสารทุกข์สุขดิบทั่วไป แต่ใบหน้าติดจะล้อเลียนเขาอยู่เล็กน้อย

   “หึ!! อาหลิวเขามาอยู่ที่นี่ตั้งนานแล้ว แกนั่นแหละที่ไม่รู้จักกลับบ้านกลับช่อง”

   “เดี๋ยวอาชาติออกไปที่โรงพยาบาลพร้อมกับผมเลยไหมครับ” พยัคฆ์ไม่สนใจคำแหน็บแนบของผู้เป็นอา

   “ไม่เป็นไร วันนี้หงส์ออกจากโรงพยาบาลได้แล้ว เห็นว่าเพื่อนเขาอาสาไปรับน่ะ อาว่าจะไปรอหงส์ที่บ้านเลย”

   “อืม แล้วเรื่องที่หงส์อนุญาตให้หยกกับโบตั๋นรับงานถ่ายแบบอีกตัว แกรู้เรื่องนี้แล้วรึยัง?” วรากรเอนหลังพิงผนัก ก่อนเอามือพาดไว้ ทำเหมือนกำลังจะโอบไหล่ของเขาที่นั่งข้าง ๆ กันอยู่

   “งานอะไรครับ” พยัคฆ์ถามยิ้ม ๆ ในท่าทีหวงคนรักของวรากร

   “อากับหงส์คิดว่า การที่ให้ทั้งสองคนรับงานถ่ายแบบอีกงาน เพื่อให้คนรู้จักมากกว่านี้ พวกเจ้าสัวจะได้ไม่กล้าทำอะไรบุ่มบ่าม” เขาตอบอย่างไม่สนใจมือไม้ของเฮียกร แต่เขากลับสังเกตเห็นหน้าพยัคฆ์ทำหน้าตาบอกบุญไม่รับ

   “ไอ้เสือมันอิจฉาเหล่าแฟนคลับที่ตามติดหยกน่ะ ตัวเองเข้าใกล้เขายังไม่ได้” ว่าจบวรากรก็หัวเราะออกมาอีกครั้ง

   “พวกอาทนกันได้ยังไง ห่างกันไปเป็นสิบ ยี่สิบปี”

   “เอาน่า อย่างเพิ่งโอดครวญไป ดีซะอีกแกจะได้พิสูจน์ให้ทั้งหยก อาหลิว ที่สำคัญก็โบตั๋น เห็นความจริงใจของแก”

   “ครับ ๆๆ แล้วเรื่องถ่ายแบบนั่น มันยังไงกันครับ?”

   “อาก็ยังไม่รู้รายละเอียดนะ คงต้องให้อาหลิวเล่าแหละ”

   “ก็ไม่มีอะไรมาก หงส์เขาก็แค่จะไปพักผ่อนด้วย เท่าที่อารู้นอกจากทีมงานแล้ว ก็จะมีหงส์แล้วก็เพื่อนของเขาตามไปด้วย แต่พักกันคนละส่วนนะ อาเองก็จะตามไปเหมือนกัน”

   “เฮียคงไปไม่ได้นะ เดี๋ยวคุณลตาจะสงสัย” วรากรบอกเขาก่อนหันไปสั่งหลานชาย “ไอ้เสือแกก็ไปกับอาหลิว แล้วเอาคนของเราไปด้วยสัก 3-4 คน”

   “ครับ แล้วเขาไปกันวันไหนครับ ผมจะได้จัดคน”

   “สิ้นเดือนนี้”

   “อาชาติ เพื่อนหงส์ที่ไปด้วยนี่คงไม่ใช่...”

   “บังเอิญว่าใช่นะ คุณเพ็ญนภา”

   “นี่ผมต้องระวังไม่ให้คุณเพ็ญนภาเจอรึป่าวครับเนี๊ยะ”

   “เอาไว้ดูสถานะการก่อนแล้วกัน เท่าที่อารู้ คุณสุพรรษาภรรยาของเจ้าสัวเขาก็เป็นลูกค้ารายสำคัญของคุณเพ็ญ”

   เพราะหมั่นไส้สองอาหลานทำให้หลิวลู่เลือกที่จะปิดปากเงียบเกี่ยวกับความจริงเรื่องเพ็ญนภา ไม่ได้ปิดบัง แต่...ก็แค่ยังไม่ได้บอกเฮียกรตอนนี้เท่านั้นเอง

.........................................................................

   กลายเป็นว่าทุกวันนี้นอกจากผมจะมีพี่เสือคอยประกบตามอยู่ห่าง ๆ แล้ว เวลาเลิกงานที่ร้านพี่กันต์ก็จะมีเอ็มกับก๊องตามมาส่งจนผมขึ้นรถไฟฟ้าสถานีถัดไป โดยพวกเราทั้งหมดติดรถพี่แหม่มกันมา และถ้าวันไหนที่เป็นวันหยุดของเอ็มหรือก๊อง ก็จะมีเพื่อนคนอื่น ๆ ในร้านสลับตามมาส่งแทน

   ส่วนวันไหนที่พี่แหม่มหยุดหรือเลิกก่อนผม พี่แก้วก็จะให้พี่กันต์เป็นคนมาส่งผมด้วยตัวเองจนบางครั้งผมก็เกรงใจ ให้พี่กันต์ไปส่งน่ะดีแล้ว ก็ถือซะว่าเป็นบริการเล็กๆ น้อย ๆ จากทางร้านแล้วกันนะ พี่แก้วชอบแซว เพราะช่วงสองสามสัปดาห์นี้ยอดขายที่ร้านพุ่งขึ้นมาเกือบ 3 เท่าเลยครับ พี่แก้วว่าเพราะมีพีอาร์ดีอย่างผม

   “หยก พี่คนนั้นเขามาจอดรถหลังร้านอีกแล้วล่ะ ทำไมมาที่ร้านเราแล้วไม่เคยเข้าร้านล่ะ?” เอ็มถามผมหลังจากที่เดินออกไปทิ้งขยะที่หลังด้านกลังร้าน

   “เราไม่ให้พี่เขาเข้ามาเองล่ะ” ก็ตอนนี้พี่เสือเข้าใกล้ผมได้ที่สุดเท่านี้นี่ครับ ถ้ามาใกล้กว่านี้ผมคงทำคอฟฟี่อาร์ตไม่ได้แน่ ๆ ครับ

   “ทำไมล่ะ ทะเลาะกันหรอ?”

   “ป่าว แค่เห็นว่าช่วงนี้ร้านคนเยอะอ่ะ”

   “แล้วเขาเป็นอะไรกับหยกหรอ เห็นเขามาเฝ้าหยกหลายวันแล้ว”

   “เออ..เขาเป็นเพื่อนเจ้หงส์อ่ะ แล้วช่วงนี้โบตั๋นชอบพูดให้เจ้หงส์ไม่สบายใจว่ามีสตอล์กเกอร์ตามหยก พี่เขาเลยมาคอยดูแลน่ะ”

   “เฮ้ย!! จริงดิ แต่ที่เจ้หงส์ให้เพื่อนมาคอยตามดูแบบนี้ เราก็ว่าดีเหมือนกัน เราจะได้หายห่วง หรือถ้าจะให้ดีกว่านี้นะ พี่เขาก็น่าจะไปส่งหยกสิ แต่นี่เห็นกลับไปก่อนทุกที” ใช่ครับ พี่เสือเหมือนจะรู้เวลา เขาจะถอยห่างผมออกไปก่อนทุกครั้ง จนบางครั้งผมก็รู้สึกโหวง ๆ ในอกยังไงชอบกล

   “เอ็ม เราวานอะไรเอ็มหน่อยได้ไหม?”

   “อะไรล่ะ บอกมาเลย ถ้าอะไรที่ช่วยหยกได้เอ็มจัดการให้ทุกอย่าง”

.........................................................................

   พยัคฆ์เอนนอนอยูที่เบาะด้านหลัง เปิดกระจกหน้าต่างไว้ให้ลมพอเข้ามาได้ เขายอมทนร้อนแบบนี้มาหลายวันแล้ว เพื่อให้ได้ใกล้ชิดกับน้องหยกมาขึ้น เขาเปิดดูข้อมูลที่ลูกน้องส่งมาให้ผ่านแทบเล็ตเรื่องของลตาและเกรียงไกร ซึ่งเป็นไปอย่างที่เขากับวรากรคิดจริง ๆ

   ร้านอาหารญี่ปุ่นที่อากรกับลตาไปครั้งล่าสุดนั้น ลตาเลือกจองห้องเดิม หลังจากทานอาหารเสร็จ เขาให้คนเข้าไปทำทีว่าอาของเขาลืมของ พอค้นไปค้นมาก็เจอข้อความที่ลตาแอบซ่อนเอาไว้ในปลอกเบาะรองนั่ง คนของเขาแค่ถ่ายรูปกลับมาให้เขา อากร และอาหลิวดูเท่านั้น ก่อนสอดข้อความเก็บไว้ตามเดิม ไม่ได้แหวกหญ้าให้งูตื่น

   “เออ..พี่เสือใช่ไหมครับ” พยัคฆ์ขมวดคิ้ว เมื่อไอ้ฝรั่งที่คอยตามส่งหยกมายื่นด้อมๆ มองๆ อยู่ข้างรถของเขา ทำให้เขาลุกขึ้นมานั่ง “หยกฝากนี่มาให้ครับ” มันยื่นกล่องคราฟมาให้เขา

   “หยกฝากมา?”

   “ครับ หยกออกมาเองไม่ได้ หน้าร้านคนเยอะ ทิ้งเคาน์เตอร์ออกมาคงไม่ดี เลยวานผมให้เอามาให้ครับ”

   “ขอบใจนะ”

   “ทานให้อร่อยนะครับ เฮ้อ...ผมล่ะอิจฉาพี่จริง ๆ ผมทำงานกับหยกมา 3 ปี หยกยังไม่เคยทำอะไรให้พวกผมกินกันสักครั้งเลย”

   “นี่...หยกทำเองหรอ?”

   “ครับ ถึงจะเป็นอาหารง่าย ๆ ก็เถอะ แต่อย่ามาดูถูกหยกของพวกเรานะครับ” ไอ้ฝรั่งพูดเสร็จมันก็เดินกลับเขาร้านไป พยัคฆ์มองกล่องคราฟในมือก่อนค่อย ๆ เปิดออก ข้างในเป็นแซนวิชคลับน่าตาหน้าทานพร้อมกาแฟร้อน แซนวิชยังคงอุ่น ๆ อยู่ แสดงว่าน้องหยกของเขาคงเพิ่งทำเสร็จสินะ

To Be Continue

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: หยก 21-10-17 {{:::21:::}}
« ตอบ #79 เมื่อ: 21-10-2017 10:24:34 »





ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
Re: หยก 21-10-17 {{:::21:::}}
«ตอบ #80 เมื่อ21-10-2017 15:10:12 »

 :pig4:

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4992
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
Re: หยก 21-10-17 {{:::21:::}}
«ตอบ #81 เมื่อ21-10-2017 15:43:58 »

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8896
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80
Re: หยก 21-10-17 {{:::21:::}}
«ตอบ #82 เมื่อ21-10-2017 20:15:39 »

 :pig4:

ออฟไลน์ ซีเนียร์

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 778
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
Re: หยก 21-10-17 {{:::21:::}}
«ตอบ #83 เมื่อ21-10-2017 23:47:39 »

ติดตามจ้า :L2:

ออฟไลน์ Amo

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 172
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +136/-1
Re: หยก 22-10-17 {{:::22:::}}
«ตอบ #84 เมื่อ22-10-2017 11:24:12 »

22

    คืนนี้เจ็กลู่มาค้างที่บ้านเรา ซึ่งนานๆ จะมีสักครั้ง คนที่ดีใจที่สุดคงไม่พ้นโบตั๋น ที่ขอแลกห้องนอนกับผม เพื่อที่จะได้นอนกับเจ็กลู่

   “ไม่เอาน่า อาตั๋น ลื้อโตเป็นสาวแล้วจะมานอนกับอั๊วได้ยังไง”

   “ก็ตั๋นอยากนอนกับเจ็กนี่ น้า... ขอตั๋นนอนด้วคนนะ”

   “ไม่เอา ๆ”

   “เจ็กอ่า...น้า...”

   “งั้นคืนนี้อั๊วกลับ ไม่คงไม่ค้างมันแล้ว”

   “โหย...เจ็กอ่ะมาไม้นี้อีกแล้ว”

   “ตั๋นก็อย่าไปเซ้าซี้เจ็กสิ ทำตัวเป็นเด็ก ๆ ไปได้” โดนเจ่เจ้เอ็ดเข้าอีก หน้าง้ำเลยครับ

   “ก็ได้ ๆ”

   “ตั๋น แล้วค่าใช้จ่ายส่วนต่างที่เราต้องจ่ายเพิ่มล่ะ ทางเจ้เปิ้ลเขาบอกมารึยังว่าเท่าไร เฮียจะได้เตรียมจ่าย” ผมถามเพราะอีกไม่กี่วันก็ต้องเดินทางกันแล้วครับ หลังจากจ่ายค่าผ่าตัดของเจ่เจ้ พวกเรายังพอมีเงินเหลืออยู่บ้าง

   “ต่อไปนี้เรื่องเงิน ลื้อไม่ต้องจัดการแล้ว มีค่าใช้จ่ายอะไรก็ให้บอกเหล่าฝู่”

   “ได้ยังไงล่ะครับ แล้วกงฝู่มาเกี่ยวอะไรด้วย” ผมถามอย่างตกใจ และไม่เข้าใจ

   “ที่จริงแล้วร้านยาที่เหล่าฝู่ดูแลอยู่ มันเป็นร้านของพวกเราน่ะ เหล่าฝู่เป็นคนดูแลให้” นี่เจ่เจ้ ๆ รู้เรื่องร้านยาด้วยหรอครับ แล้วโบตั๋นก็ถามแทนผม

   “ร้านนั้นเป็นของพวกเรา ได้ยังไงค่ะเจ่เจ้”

   “ก็มันเป็นเงินของอาหงส์ที่มีติดตัวมานั่นแหละ เจ็กไม่อยากให้ใครแกะรอยได้ เลยเอาออกมาเปลี่ยนเป็นอย่างอื่น”

   “โห...ตึกนั่นไม่ใช่ล้านสองล้าน เจ่เจ้แอบรวยนี่นา แหม๋...แล้วให้พวกเราทำงานหาเงินเรียนกันดอง เหนื่อยแทบตาย” โบตั๋นบ่น เพราะพวกเราต้องหางานพิเศษต่าง ๆ เพื่อส่งตัวเองเรียนมหาวิทยาลัย ค่าใช้จ่ายในบ้านก็ได้จากเงินที่เจ่เจ้ส่งขนมขายตามร้านต่าง ๆ

   “แล้วตายไหมจ๊ะ” เจ่เจ้แซวขำ ๆ กับท่าทางงอน ๆ ของโบตั๋น

   “ของลื้อก็มีอาตั๋น พวกลื้อมีสมบัติติดตัวมากันบ้าง ไว้อั๋วจะค่อย ๆ พาไปดู ให้อะไรๆ ลงตัวกว่านี้ก่อน”

   “คราวก่อนเจ็กเล่าว่า เจ็กพาพวกผมหนี เพราะมีคนจะมาบุกที่บ้าน เจ็กบอกได้ไหมครับว่าคนพวกนั้นเป็นใคร?” ผมเห็นเจ็กสบตาเจ่เจ้นิดนึงก่อนจะเล่า

   “ก็พวกที่แอบค้าอาวุธ บางส่วนก็เป็นคนของตระกูลฝู่เองที่ไปเข้ากับพวกนั้น เพราะเห็นแก่ผลประโยชน์ อีกส่วนก็เป็นพวกที่เข้ามาทำงานใหม่กับตระกูลฝู่ ซึ่งบางคนเตี่ยพวกลื้อก็เคยจับมันเข้าไปนอนในคุกอยู่หลายปี”

   “เขามาแก้แค้นป๊าของตั๋นหรอ?”

   “อั๊วสงสัยว่า คนกลุ่มนั้นมันจงใจให้ถูกจับได้ เพื่อจะได้เล่นงานเตี่ยลื้อกับตระกูลฝู่ แต่อั๊วยังไม่มีหลักฐาน”

   “แล้วทำไมเราต้องหลบพวกนั้นด้วยละคะเจ็กลู่ พวกนั้นก็ได้เยี้ยนวอไปแล้วนี่ ถึงจะไม่มีเมฆาขาวก็เถอะ ตั๋นว่าต่างคนต่างอยู่ก็จบ”

   “มันไม่ง่ายอย่างนั้นน่ะสิอาตั๋น ตามกฎหมายกรรมสิทธิ์ของบ้าน และหุ้นของเยี้ยนวอจะตกเป็นของทายาทโดยชอบธรรม และยังมีคนของตระกูลฝู่อีกไม่น้อย ที่ยังรอทายาทอย่างพวกลื้ออยู่”

   “งั้นที่เจ่เจ้บอกว่าหลังจากหายดี เจ่เจ้จะจัดการให้เรียบร้อย ก็คือเรื่องนี้หรอครับ”

   “ก็ส่วนหนึ่ง เจ่เจ้ลื้อจัดการได้แค่เรื่องบ้าน แต่เรื่องหุ้นเยี้ยนวอ ลื้อต้องจัดการ”

   “ผม?”

   “ลูกคนโต แต่เพราะเป็นลูกสาว เลยได้แต่ดูแลเรื่องภายในบ้าน ส่วนลูกชาย ถึงจะเป็นคนรองยังไงก็ต้องสืบทอดกิจการของตระกูล”

   “อ่าว แล้วตั๋นล่ะ”

   “ตอนนั้นลื้อเพิ่งเกิดได้ไม่นาน เหล่าฝู่ยังไมได้จัดการอะไรให้ลื้อ”

   “ว้า...” โบตั๋นทำหน้าทำตาเสียดายเต็มที่ ทำให้เจ่เจ้กับผมอดยิ้มออกมาไม่ได้

   “เจ่เจ้ ยกหุ้นของเจ่เจ้ให้เอาไหม?”

   “จะเท่าไรกันเชียว อีกอย่าง ตั๋นไม่อยากได้สักหน่อย เห็น ๆ อยู่ว่าเหยียดเพศแม่กันแค่ไหน?”

   “ลื้อก็ จะพูดเล่นอะไรก็อย่าลามปามถึงบรรพบุรุษสิ บาปกรรม” โบตั๋นแลบลิ้นทะเล้นออกมา

   “ถ้าอย่างนั้น ที่พวกเขายังตามหาพวกเรา เพราะอยากได้หุ้นหรอครับ”

   “ใช่ และพวกเจ้าสัวเซียง ที่พวกมันอยากจะดองกับพวกลื้อเพราะถ้ามันแต่งเข้ามา ก็จะได้หุ้นจากเยี้ยนวอไปด้วย”

   “มันจะสักกี่ตังค์กันเชียว แย่งกันอยู่ได้”

   “เมื่อกี้ เฮียยังเห็นเราเสียดายอยู่เลย”

   “ก็พอพูดถึงพ่อลูกคู่นั้นแล้วมันหงุดหงิดนี่”

   “แล้วเจ่เจ้กับผมมีหุ้นอยู่เท่าไรหรอครับ ถ้าเขาอยากได้กันก็ยกให้พวกเขาไปก็ได้นะครับ ปัญหาจะได้จบ”

   “คงยกให้กันง่ายๆ ไม่ได้หรอกหยก ของเจ่เจ้แค่นิดหน่อย แต่ก็หยกน่ะไม่เหมือนกัน”

   “แล้วมันเท่าไรกันละค่ะ ตั๋นอยากรู้จะแย่อยู่แล้ว”

   “ของอาหงส์มีอยู่ 6% ส่วนของหาหยกมีอยู่ 54%”

   “ก็เท่ากับว่าเจ่เจ้กับหยกเป็นเจ้าของบริษัทฯ”

   “ใช่ แล้วที่เจ่เจ้ลื้อบอกว่าให้กันไม่ได้เพราะมูลค่าหุ้นที่ลื้อถืออยู่มันมูลค่ามากกว่าพันล้านดอลล่าฮ่งกง”

   “ห๊ะ!!” ผมกับโบตั๋นอุทานออกมาพร้อมกัน ก็คิดดูสิครับ พันล้านก็น่าตกใจแล้ว แต่มันไม่ใช่บาทไทยนี่สิครับที่ทำให้ยิ่งตกใจเข้าไปใหญ่ 

.........................................................................

   เกรียงไกรเดินตามหาเจ้าสัวเซียงทั่วบ้าน หายังไงก็ไม่เจอ เขาเพิ่งจะเห็นจดหมายจากทนายความ ที่เป็นตัวแทนของสุพรรษา ส่งมาเพื่อขอหย่า เตี่ยกับแม่เขาจะหย่ากัน มาหย่าอะไรกันตอนนี้ เขาเดินหามาจนถึงหน้าห้องทำงาน ก็เปิดประตูเข้าไป เห็นเจ้าสัวเซียงคุยอยู่กับลตา ทั้งคู่หยุดคุยแล้วหันมามองที่เขา

   “นี่เธอมาได้ยังไง ไหนเตี่ยบอกไม่ให้คุณเข้ามาที่นี่ไง”

   “ฉันจะมาไม่มามันก็เรื่องของฉัน คุณไม่มีสิทธิ์มาสั่งฉัน”

   “นี่!! เธอ”

   “พอ ๆ อาเกรียง ลื้อมีอะไร เข้ามาทำไมไม่รู้จักเคาะประตู”

   “เตี่ยเห็นจดหมายของทนายบ้านโน้นรึยัง”

   “เห็นแล้ว”

   “แล้วเตี่ยยังจะใจเย็นอยู่เนี่ยะนะ”

   “แล้วลื้อจะให้อั๊วทำยังไง หย่าๆ ไปก็ดี จะได้จบๆ”

   “แล้วอั๊วล่ะ?”

   “ต๊าย...โตแต่ตัวจริง ๆ แค่นี้ทำเป็นคิดไม่ได้” ลตาไม่วายเหน็บแนม

   “ไม่ใช่เรื่องของเธอ”

   “เฮ้อ...อาเกรียง งานที่ปางไม้ก็มีลื้อก็ไม่ไปทำ บ้านนี้ก็มีให้ลื้อซุกหัวนอน บ้านแม่ลื้อ ลื้อก็จะไปอยู่เมื่อไรก็ได้ ทางเลือกลื้อก็ยังมีเยอะแยะ ลื้อก็เลือกเอาสักทางสิ”

   “เจ้าสัว ฉันกลับเลยแล้วกันนะ” ลตาขัดขึ้น ไม่อยากอยู่เป็นกรรมการห้ามมวยระหว่างพ่อลูก

   “อืม ลื้อก็เตรียมตัวให้พร้อมแล้วกัน” ลตาพยักหน้าให้เจ้าสัวก่อนเดินออกจากห้องทำงานไป

   “เตี่ยมีเรื่องสำคัญอะไร ถึงให้ยัยลตามาหาถึงที่นี่ แล้วไม่กลัวว่าพวกไอ้พยัคฆ์นั่นมันจะรู้เรื่องยัยนั่นแล้วหรือไง”

   “ช่างคนพวกนั้น อั๊วไม่ต้องการใช้พวกมันแล้ว ตอนนี้ทั้งคน ทั้งของที่อั๊วต้องการ อั๊วก็เจอหมดแล้ว”

   “เตี่ยเจออาหลิวอะไรนั่นแล้วหรอ?”

   “อาหลิวน่ะไม่สำคัญอีกต่อไปแล้ว ส่วนลื้อ ก็เตรียมตัวไว้”

   “แล้วเตี่ยไปเจอใคร แล้วอั๊วต้องทำอะไร”

   “อั๊วจะให้ลื้อแต่งงาน”

   “ห๊ะ!! แต่งกับใคร? แล้วทำไมอั๊วต้องแต่ง”

   “ถ้าลื้อได้แต่กับอี ลื้อจะสบายไปทั้งชาติ”

   “ใครกัน”

   “ฝู่หงส์”

.........................................................................

   ผมกำลังอยู่หน้าเกตเตรียมขึ้นเครื่องไปภูเก็ต นี่ถือว่าเป็นการขึ้นเครื่องบินครั้งแรกของผมกับโบตั๋นเลยครับ โบตั๋นเก็บอาการตื่นเต้นไว้ไม่อยู่ เดินไปคุยกับพี่ภาที เจ่เจ้ที เจ็กลู่นั่งรออยู่ข้าง ๆ ผมได้แต่หัวเราะชอบใจ เที่ยวบินนี้มีแค่พวกเรา 5 คนเท่านั้นครับ ส่วนทีมงานคนอื่น ๆ เดินทางไปก่อนหน้านี้ประมาณ 2 ชั่วโมง พวกผมตามไปทีหลัง

   “หยก ลื้อไม่ตื่นเต้นอย่างอาตั๋นอีกรึไง”

   “ตื่นเต้นสิครับ เกิดมาเพิ่งจะเคยขึ้นเครื่องบินเป็นครั้งแรก”

   “กลัวไหมล่ะ”

   “ไม่ครับ เออ...เจ็กครับ แล้วอากรไม่ไปเที่ยวกับเราด้วยหรอครับ”

   “อีต้องทำงาน ให้หยุดไปเที่ยวหลาย ๆ วันได้ยังไง” ใช่ครับ เราไปกันอาทิตย์นึงเลย ที่จริงทีมงานเขาใช้เวลาเตรียมงาน 1 วัน และถ่ายทำกันแค่ 2 วัน แล้ววันสุดท้านทางทีมงานมีปาร์ตี้เล็ก ก่อนเดินทางกลับในเช้าวันรุ่งขึ้น ส่วนพวกผม 5 คนอยู่เที่ยวกันต่อ พี่ภาเป็นตัวตั้งตัวตีครับ

   “แล้วพี่เสือ...เขา...จะตามมาไหมครับ” ผมถามเสียงเบา ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมถึงต้องถามถึงเขาด้วย ในเมื่อผมก็ได้เที่ยวกันพร้อมหน้าพร้อมตาในครอบครัว

   “อีล่วงหน้าไปก่อนตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว”

   “ล่วงหน้าไปแล้ว” ผมไม่อยากจะเชื่อ เมื่อคืนพี่เสือยังขับรถตามไปส่งผมอยู่เลย แล้วพี่เขาเอาเวลาไหนไปเตรียมตัว

   “อืม”

   “เจ็กๆ มาถ่ายรูปกัน หยกก็มาด้วยกันเร็ว” โบตั๋นโพล่เข้ามาคว้าแขนของเจ็กลูกก่อนเรียกผมตามไปเพื่อถ่ายรูป โดยที่มีฉากด้านหลังเป็นรูปเครื่องบินลำโต

   เมื่อพวกเราลงจากเครื่องบิน ก็มีรถอัลพาร์ดมารับเราเพื่อเดินทางต่อไปยังพังงา ผมมารู้ทีหลังว่าคนที่ขับรถให้เป็นคนของอาการส่งมาพร้อมกับพี่เสือ เขามาช่วยดูแลพวกเรา แล้วไม่ใช่มีแค่นี้ครับ พอถึงโรงแรมก็มีพี่อีก 2 คนมาคอยรอเราที่ล็อบบี้ พาเราไปยังบ้านพัก ซึ่งพี่ ๆ เขาเช็คอินให้เราเรียบร้อย

   อากรให้เลขาจองที่พักในส่วนของรีสอร์ตให้พวกเราทั้งหมด บ้านพักของเรามี 2 ห้องนอน มีห้องนั่งเล่นเล็ก ๆ พี่ภากับเจ่เจ้พักห้องนึง อีกห้องเป็นของผมกับโบตั๋น ส่วนเจ็กลู่ไปพักกับพี่เสือที่บ้านหลังถัดไป ส่วนทีมงานพักอยู่ในห้องพักบนตึกสูงของโรงแรม

   ผมเก็บของเข้าที่เรียบร้อย โบตั๋นก็ชวนผมเดินออกไปเดินดูรอบ ๆ ที่พัก เราสองคนเดินมาด้วยกัน ก็มีพี่ ๆ ที่เดินมารับพวกเราคนหนึ่งเดินตามอยู่ห่าง ๆ ผมรู้สึกแปลก ๆ ไม่ชินกับการที่มีใครคอยมาเดินตามแบบนี้ โบตั๋นเหลือบมองผมนิดนึง

   “เดี๋ยวหยกก็ชินเองแหละ”

   “ตั๋นรู้จักพี่เขาหรอ?”

   “อืม รู้จัก 2 ใน 3 นะ คนที่มารับเราที่หน้าล็อบบี้อีกคนตั๋นไม่เคยเห็นหน้า ส่วนที่เหลือก็คอยดูแลตั๋นอยู่ห่าง ๆ”

   “อ่อ...อากรให้คนตามมาซะเยอะเชียว”

   “ไม่เยอะหรอก ตั๋นว่านะ เพราะเราอาจจะต้องทำงานแยกกัน อีตาแมวหง่าวนั่นก็ตามหยกไปไม่ได้ทุกที่ด้วย ไหนเจ่เจ้อีกล่ะ ใช่ม่ะ?”

   “อืม จริงนะ”

   พวกเราเดินผ่านโซนรีสอร์ตเข้ามาในส่วนของตัวโรงแรม ส่วนนี้มีสระว่ายน้ำ ฟิตเนส และสปาให้บริการแขกที่มาพัก บรรยากาศในโรงแรมดีมาก รอบ ๆ ส่วนใหญ่จะเป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่มาเที่ยวพักผ่อนกัน

   “ไม่เห็นพวกเจ้เลย สงสัยพักกันอยู่ในห้อง” โบตั๋นเปรย

   “แล้ววันนี้พวกเราต้องทำอะไรกันบ้างล่ะ?”

   “ก็มีบรีฟคอนเซ็ปนิดหน่อย เจ้นัดตั๋นไว้ตอน 4 โมงเย็นอ่ะ ใช้เวลา 1 ชัวโมงก่อนที่ทีมงานจะพาไปเลี้ยงข้าวเย็น”

   “อืม”

   “หยกเป็นอะไรรึป่าว มองหาใครหรอ?”

   “ป่าว ไม่มีอะไรหรอก เฮียแค่มองดูอะไรรอบ ๆ เท่านั้นเอง ไม่ได้หาใครสักหน่อย” โทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงผมสั่น จึงหยิบมาดูก่อนเก็บเข้ากระเป๋าตามเดิม “ว่าแต่...เราไปหาอะไรรองท้องกันไหม”   

   “เอาสิ ตั๋นอยากดื่มน้ำมะพร้าวลูกโต ๆ” โบตั๋นพูดเสร็จก็เดินนำผมเข้าไปในโรงแรม ผมรีบเดินตามเขาไปติด ๆ

   ...


   ..


   .


   Payak : กาแฟที่นี่

   Payak : สู้รสมือน้องหยกไม่ได้เลย


   พี่เสือคงนั่งมองผมจากคอฟฟี่ช็อปของโรงแรม ถึงแม้ผมจะไม่เห็นเขา ถึงแม้ผมจะไม่สามารถสัมผัสถึงความรู้สึกของเขาได้ในตอนนี้ แต่ผมแน่ใจว่าเขาจะอยู่ตรงนั้น...เพื่อผม

To Be Continue

ออฟไลน์ warin

  • รถไฟขบวนนั้น ได้แล่นผ่านไปแล้ว
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1938
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-1
    • -
Re: หยก 22-10-17 {{:::22:::}}
«ตอบ #85 เมื่อ22-10-2017 11:55:15 »

ขอบคุณค่ะ  ติดตามจ้า

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
Re: หยก 22-10-17 {{:::22:::}}
«ตอบ #86 เมื่อ22-10-2017 11:55:49 »

 :pig4:

ออฟไลน์ cheezett

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 471
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
Re: หยก 22-10-17 {{:::22:::}}
«ตอบ #87 เมื่อ23-10-2017 20:59:51 »

เริ่มเปิดใจทีละนิด พี่เสือสู้ๆ  :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ Amo

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 172
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +136/-1
Re: หยก 29-10-17 {{:::23:::}}
«ตอบ #88 เมื่อ28-10-2017 10:34:28 »

23

    พยัคฆ์นั่งดื่มกาแฟอยู่ในคอฟฟี่ช็อปของโรงแรม เขาอยากจะไปรับน้องหยกของเขาที่สนามบิน แต่ก็รู้ดีว่าเป็นไปไม่ได้ มันยังไม่ถึงเวลา เมื่อไม่นานมานี้มักจะมีคนคอยบอกเขาว่า ยังไม่ถึงเวลา ยังไม่ถึงเวลา ได้ยินบ่อยจนเขารำคาญ ไม่คิดว่ามาวันนี้เขาจะเป็นคนใช้ประโยคนี้ซะเอง

   เขากำลังนึกถึงหน้าสวย ๆ ตาซึ้ง ๆ จมูกน่างับของใครบางคน... แล้วอยู่ๆ คนที่เขากำลังนึกถึงก็ปรากฎตัวอยู่บริเวณทางเข้าคอฟฟี่ช็อป จะให้เขาลุกจากโต๊ะ เพื่อเลี่ยงออกไปตอนนี้ก็คงไม่ทันแล้ว ที่นี่มีประตูเข้าออกอยู่ทางเดียว คงต้องรอให้น้องหยกของเขาหาที่นั่งก่อน เขาถึงค่อยเลี่ยงออกไปได้

   พยัคฆ์มองตามร่างโปร่งจนเพลินมารู้ตัวอีกที น้องหยกก็เลือกที่นั่ง ที่ค่อนข้างใกล้เขาพอสมควร โบตั๋นเดินตามมาหันมองเขาเล็กน้อยก่อนนั่งเก้าอี้ตัวตรงข้ามกับหยก น้องหยกอมยิ้มก่อนหลบสายตาเขา น้องหยกยังกลัวเขารึป่าว? เห็นทีเขาคงต้องออกไปเสียแล้ว

.........................................................................

   ผมเดินเข้ามาถึงคอฟฟี่ช็อปก็เห็นพี่เสือนั่งอยู่ด้านใน ผมเดินนำโบตั๋นเข้ามาก่อน เพราะเธอมัวแต่เมียงมองเพื่อเลือกที่นั่งอยู่ ผมค่อยๆ เดินเข้าไปหาพี่เสือทีละนิด คอยจับความรู้สึกของเขา จนผมสัมผัสได้ถึงความรุนแรงจนผมเริ่มใจสั่น จึงเลือกนั่งบริเวณที่ผมคิดว่าผมทนรับความความรู้สึกนั้นได้

   ผมนั่งลงถัดจากโต๊ะที่พี่เสือนั่งไปแค่ 3 โต๊ะ โบตั๋นที่เดินตามมา เหลือบมองพี่เสืออย่างไม่พอใจ ก่อนที่จะนั่งตรงข้ามผม พี่เสือเขาอยู่ที่นี่จริง ๆ ถึงตอนนี้ผมจะรู้สึกใจสั่น แต่มันไม่ได้เหนื่อยกับการรับมือกับความรู้สึกของพี่เสืออย่างที่ผ่าน ๆ มา ผมเริ่มรู้สึกชินกับความรู้สึกแบบนี้ พอนึกมาถึงตรงนี้ผมก็เกือบจะกลั้นยิ้มเอาไว้ไม่อยู่ บังเอิญผมสบสายตากับพี่เสือเข้า อยู่ ๆ ผมก็ไม่กล้าที่จะมองสายตาดุ ๆ คู่นั้น จนต้องเสสายตาไปมองทางอื่น

   “นี่หยกกลัวเขา แล้วมาเลือกนั่งใกล้เขาขนาดนี้ทำไม ตั๋นรู้สึกได้นะว่าหยกยังหวาด ๆ อีตาแมวหง่าวนั่นอยู่”

   “ก็...ไม่ได้กลัวมากขนาดนั้นแล้วนะ คงเพราะฝึกตามที่เจ่เจ้สอนแหละ ว่าแต่ตั๋นล่ะ ฝึกไปถึงไหนแล้ว” ผมแล้วก็ก้มลงดูเมนูเค้กของที่นี่ น่าทานทั้งนั่นเลยครับ

   “ตั๋นว่ามันก็ไม่ได้ยาก สงบดีด้วย เวลาที่ไม่ต้องสัมผัสกับความรู้สึกของใครต่อใครน่ะ”

   “เฮียยังทำอย่างนั้นไม่ไดเลย ตั๋นเก่งกว่าเฮียนะเนี๊ยะ” ผมยังคงก้มหน้าก้มตาดูเมนูไปเรื่อย

   “เพราะหยกมีไอ้แมวนั่นคอยป้วนเปี้ยนอยู่นะสิ” ผมเงยหน้าขึ้นกำลังจะตอบ เห็นตั๋นมองไปทางพี่เสือ ที่เขาเดินเลี่ยงออกจากคอฟฟี่ช็อปไป มันทำให้ผมรู้สึกโหวงในอกอีกแล้ว มันเป็นผลข้างเคียงอะไรจากการฝึกรึป่าวนะ มีโอกาสคงต้องถามเจ่เจ้

   “ยังดีนะที่นายนั่นรู้จักที่จะอยู่ห่าง ๆ หยกไว้น่ะ”

   “อือ” ผมตอบแค่นี้ เพราะอยู่ๆ ผมก็รู้สึกไม่อยากจะทานขนมเค้กแล้ว ถึงมันจะดูสวย ดูน่าทานขนาดไหน

.........................................................................

   หลิวลู่ หงส์ และเพ็ญนภาเดินออกจากบ้านพักเข้ามาที่ตัวโรงแรมเพื่อรับประทานอาหารเย็น หยกและโบตั๋นทางทีมงานพาไปทานที่ร้านชื่อดังของเขาหลัก ส่วนพยัคฆ์แยกออกไปทานกับลูกน้องข้างนอกใกล้ ๆ กันกับโรงแรมเพื่อที่จะเลี่ยงไม่ให้เพ็ญนภาพบเห็น

   พวกของพยัคฆ์ขับรถมาจอดอยู่หน้าร้านอาหารตามสั่งร้านหนึ่ง ที่แบ่งออกเป็นสองโซน พวกเขาเลือกนั่งโซนริมทางเท้าติดถนน เพราะเวลานี้นักท่องเที่ยวยังมาทานกันไม่เยอะมาก เหมาะสมหรับคุยงานกันโดยไม่ต้องระวังตัวมากนัก ส่วนด้านในร้านเป็นห้องปรับอากาศ ซึ่งมีลูกค้านั่งอยู่หลายโต๊ะ

   เมื่อสั่งอาหารเสร็จเรียบร้อย พวกเขาก็คุยกันเรื่องทั่ว ๆ ไปจนกระทั่งอาหารถูกนำมาเสิร์ฟจนเต็มโต๊ะ จึงเริ่มเข้าเรื่องงานขณะที่รับประทานอาหารไปด้วย

   “พรุ่งนี้คุณภาจะตามทีมงาน เพื่อไปดูคุณหงส์กับคุณหยกถ่ายแบบกัน คุณภาน่าจะจำพวกเราได้บ้าง” นายเอพลขับประจำทริปนี้เอ่ยขึ้นคนแรก

   “ผมว่าคงต้องให้พี่ชาติเป็นคนตามคุณๆ ทั้งสองคนแทน คุณเพ็ญคงไม่สงสัยอะไร” นายต้าออกความเห็นก่อนมองไปยังเจ้านายกึ่งเพื่อนร่วมงาน

   “แล้วพรุ่งนี้เขาจะไปถ่ายทำที่ไหนกัน” พยัคฆ์หันไปถามลูกน้องอีกคนที่คอยตามเช็คประวัติของทีมงานที่เข้ามาร่วมงานในครั้งนี้

   “เท่าที่ทราบมา ทางทีมเช่าเรือยอร์ชไว้ 2 วัน และเหมาเรืออีกลำเพื่อไปยังหมู่เกาะสิมิลัน”

   “อืม ถ้าอย่างนั้นพรุ่งนี้เราก็เช่าเรือไปที่สิมิลัน คี นายไปสืบมาว่าพวกทีมงานจะไปส่วนไหนของสิมิลันบ้าง เอ เก่ง นายไปกับฉัน ช่วยดูแลคุณโบตั๋นเหมือนเดิม ส่วนต้น ต้า พวกนายอยู่ที่นี่คอยดูแลคุณหงส์ แล้วคี ถ้าเสร็จงานของนายแล้ว ก็ตามไปช่วยต้นกับต้า” ทุกคนพยักหน้ารับรู้

   “ตอนผมเจอคุณโบตั๋นกับคุณหยกที่หน้าล็อบบี้เมื่อตอนบ่าย ผมแทบแยกทั้งคู่ไม่ออก นี่ถ้าคุณกรไม่ให้ผมดูข้อมูลของคนทั้งคู่ก่อน ผมคงนึกว่าฝาแฝดกัน” นายต้นเริ่มชวนคุย

   “ผมก็เหมือนกัน ถึงจะคอยตามคุณโบตั๋นมาระยะหนึ่ง พอตอนไปรับที่สนามบิน ผมยังตกใจที่คุณหยกกับคุณโบตั๋นหน้าตาคล้ายกันมาก” พลขับประจำทริปเสริม

   “อย่าว่าแต่พวกนายเลย ตอนฉันเจอ 2 คนนี้แรก ๆ ยังคิดว่าเป็นคน ๆ เดียวกันเลย พอมาเจอพร้อมกันถึงได้รู้ว่าคนละคน” พยัคฆ์เองก็ไม่ต่างจากลูกน้องคนอื่น ๆ

   “แล้วคุณพยัคฆ์มองออกได้ยังไงครับว่าใครเป็นใคร แนะนำผมหน่อย เดี๋ยวผมจะตามผิดคน” นายเก่งสารภาพ

   “ไอ้เก่ง มึงก็ดูดี ๆ สิว่ะ คุณโบตั๋นเธอนะ ผมยาวกว่าคุณหยกนิดนึงนะ แล้วเธอก็ชอบเอาผมทัดหูไว้” นายเอแนะนำ

   “ฉันไม่เคยสังเกตุนะ อาจจะเป็นเพราะตามแต่หยก ส่วนโบตั๋นเจอกันทีไร เธอมักจะแยกเขี้ยวใส่ฉันทุกที”

   “คุณพยัคฆ์ไปทำอะไรให้คุณโบตั๋นไม่พอใจล่ะครับ เธอถึงดูจะไม่พอใจคุณตลอดเวลา” คีที่นั่งฟังอยู่ถามบ้าง งานของเขาไม่ต้องติดตามใคร เพียงแต่ค่อยหาข้อมูล หาแหล่งข่าว จะมีก็แค่งานอารักขานิด ๆ หน่อย ๆ

   “คงเป็นเพราะฉันไปจีบพี่เขามั้ง”

   “ห๊า...คุณหงส์น่ะหรอครับ” ต้าถามบ้าง

   “หยก” พยัคฆ์ตอบหน้าตายเหมือนพูดถึงเรื่องลมฟ้าอากาศทั่ว ๆ ไป แต่กลับทำให้คนทั้งโต๊ะแทบสำลักอาหารที่ทานกันอยู่

.........................................................................

   ผมอยู่บนเรือยอร์ชกับนายแบบอีก 3 คน เข้ม หล่อ ล่ำ กล้ามปู ผมยืนกับพวกเขา ถึงความสูงจะไล่เลี่ยกันแต่ผมก็ดูตัวบางไปถนัดตาเลยครับ บนเรือมีทีมงานอีกส่วนหนึ่ง เรือลำนี้มี 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ บรรทุกคนได้ 30 คนเชียวครับ ห้องหนึ่งไว้สำหรับเปลี่ยนเสื้อผ้า นอกนั้นทางทีมงานก็กระจายตัวกันอยู่ ทำงานตามหน้าที่ของตัวเองไป ระหว่างที่เรือแล่นไปยังหมู่เกาะสิมิลัน พี่ ๆ ทีมงานก็จับพวกเราแต่งหน้ากัน พี่โอ๋รีเควส ขอเจ้เปิ้ลมาดูแลผมโดยเฉพาะ แต่ช่างภาพที่มาถ่ายผมบนเรือวันนี้ไม่ใช่พี่เมฆที่เคยถ่ายผมเมื่อครั้งก่อน

   โบตั๋น กับนางแบบอีก 2 คน ไปเรืออีกลำหนึ่งพร้อม ๆ กับทีมงานที่เหลือ ตรงไปที่หมู่เกาะสิมิลันก่อน ทางทีมงานแบ่งกลุ่มกันทำงาน วันนี้ผมอยู่แต่บนเรือยอร์ช ส่วนพรุ่งนี้ผมถึงจะมีคิวถ่ายบนเกาะ และภาพ 2 เซตสุดท้ายจะถ่ายรวมเราทั้งหมดในสถานที่เที่ยวมีชื่อของเขาหลัก

   เสื้อผ้าที่ผมต้องถ่ายจะเป็นสีขาวทั้งหมด ส่วนนายแบบคนอื่น ๆ จะเป็นสีเข้มอย่างดำ กรม และน้ำตาล ซึ่งจะใส่เข้าคู่กับสาว ๆ ในเซตที่ถ่ายรวมกัน

   “น้องหยกมาหลบแดดตรงนี้ก่อนดีกว่าค่ะ เดี๋ยวคนอื่นแต่งตัวเสร็จแล้วค่อยออกไปประจำที่” พี่โอ๋ลากผมเข้ามาในร่ม “อุ๊ย น้องหยกต้องถอดสร้อยคอออกก่อนนะคะ เมื่อกี้พี่ไม่ทันเห็น”

   “อ่อ ผมก็ลืมครับ” ผมถอดเมฆาขาวออกมาใส่ไว้ในถุงกำมะหยี่ที่เตรียมมาก่อนยัดมันลงในกระเป๋ากางเกงเหมือนตอนถ่ายงานคราวที่แล้ว

   “ครั้งก่อนพี่เห็นน้องตั๋นฉกเจ้าถุงใบนี้ ที่แท้ก็สร้อยคอนี่เอง ถ้าทางจะหวงมากเลยนะคะ”

   “ครับ ของดูต่างหน้าพ่อกับแม่น่ะครับ”

   “อุ๊ย พี่ขอโทษนะคะ”

   “ไม่เป็นไรหรอกครับ”

   “ว่าแต่แดดนี่แรงจริง ๆ มาค่ะ พี่ทาครีมกันแดดให้ดีกว่า เดี๋ยวผิวสวย ๆ ของน้องหยกจะเสียหมด”
   
   “ไม่ต้องแล้วครับ เมื่อครู่พี่โอ๋ก็ทาให้ผมแล้วนะครับ”

   “ไม่ได้ค่ะ ทาซ้ำๆ ก็ไม่เป็นไรหรอกค่ะ พี่เสียดายผิวขาว ๆ นวล ๆ แบบนี้”

   “ไม่ต้องเอาใจหยกขนาดนั้นก็ได้ครับ เดี๋ยวจะเคยตัว” เจ็กลู่เดินออกมาหลังจากที่นั่งฟังพี่โอ๋กับผมคุยกันอยู่นาน”

   “แหม๋ คุณอาขา โอ๋ก็ไม่ได้เอาใจน้องเขาขนาดนั้นซะหน่อย” ผมมองหน้าพี่โอ๋ แล้วพยักหน้าให้แกนิดนึง “พี่เอาใจหยกขนาดนั้นเลยหรอค่ะ หว๋าย...พี่ไม่รู้ตัวเลยนะคะเนี๊ยะ”

   “เดี๋ยวตั๋นมารู้ทีหลังจะโดนงอนเหมือนคราวที่แล้วอีกนะครับ”

   “จ้า ๆ แหม๋ ก็มันรักน้องเสียดายพี่นี่น้า...อ๊ะ!! พี่อ้วนเรียกไปถ่ายรูปแล้ว น้องหยกสู้ ๆ นะคะ” พี่โอ๋เดินกางร่มมาส่งผมจนถึงหัวเรือ จุดแรกที่เราจะถ่ายกัน วันนี้เราต้องถ่ายกัน คนหนึ่ง 8 เซทรวมทั้งเดี่ยวทั้งกลุ่ม

   ผมตามมาสมทบกับโบตั๋นที่ชายหาดก็บ่ายคล้อยแล้ว แต่ยังพอมีแสงอยู่ พี่เมฆที่ถ่ายทีมสาว ๆ ปรึกษากับพี่อ้วนเล็กน้อยจึงได้ข้อสรุปว่าเราจะถ่ายรวมกลุ่มกันต่อเท่าที่จะถ่ายได้ ก่อนจะเก็บของกลับกัน

   ระหว่างที่ซับหน้า เติมหน้ากันอยู่ ผมสัมผัสได้ถึงความรู้สึกที่คุ้นเคย พอพี่โอ๋เติมแป้งให้ผมเรียบร้อย ผมก็มองไปรอบ ๆ เพื่อหาเจ้าของความรู้สึกนั้น ถึงผมจะไม่เห็นตัวแต่มันก็ทำให้ผมอารมณ์ดีอย่างบอกไปไม่ถูก

   “โห...น้องหยก ตอนอยู่บนเรือไม่เห็นจะยิ้มได้แบบนี้เลย” พี่อ้วนแซวผม

   “แหม๋ๆ ก็เพราะบนเรือมีแต่ถ่ายกับหนุ่ม ๆ นี่มีสาว ๆ มาถ่ายด้วยก็ต้องอารมณ์ดีเป็นธรรมดาสิค่ะคุณช่างภาพ” พี่ภาตะโกนแซวมาจากกลุ่มทีมงาน จนพี่อ้วนหน้าเจื่อนไปเล็กน้อย ก่อนที่เราจะเริ่มทำงานกันต่อ

   “หยก” โบตั๋นเขามาสะกิดผมก่อนกระซิบ “อารมณ์ดีเพราะนายแมวหง่าวหรอ?”

   “ห๊ะ...”

   “แล้วไม่ใช่หรือไง เหยียบผืนทรายได้ ตั๋นก็เห็นหยกยิ้มไม่หุบเลย”

   “...”

.........................................................................

   หลังจากนั่งเรือกลับมาฝั่งเขาหลักเรียบร้อย หยกก็พาโบตั๋นกลับมานอนพักที่ห้อง เนื่องจากโบตั๋นเมาเรือจนกระทั่งเวลา 2 ทุ่ม ทั้งสองคนจึงเดินไปหาอะไรทานในโรงแรม โดยไม่ลืมที่จะบอกหงส์และเพ็ญนภาไว้

   เมื่อทั้งสองก้าวออกมาจากบ้านพัก ก็เห็นคนของวรากรคอยสแตนบายรออยู่ที่หน้าบ้านพักหลังถัดไป ทั้งสองเดินมาออกมาจนเกือบถึงตัวโรงแรม คนของวรากรจึงค่อยเดินตามมาโดยเว้นระยะห่างให้สามารถมองเห็นได้ แต่ไม่ใกล้จนเกินไป

   “อากรให้คนตามเรามากี่กัน เมื่อกลางวันเฮียเห็นอยู่สองคน ตอนนี้ก็มีอีกสอง”

   “ใจคอหยกจะไม่ให้เขาพักหรือไง มันก็ต้องสลับกันบ้างสิ”

   “ไม่ใช่ เฮียไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น เฮียแค่คิดว่าพวกเราน่ะ ดูแลตัวเองได้ อีกอย่างเรามาทำงาน ไม่ต้องมาตามดูแลกันขนาดนี้ก็ได้”

   “มันก็จริง แต่ตั๋นว่า เป็นแบบนี้น่ะดีแล้ว หยกก็รู้ใช่ไหมว่าตั๋นไม่สบายใจ”

   “อืม เฮียรู้สึกได้”

   “ตั๋นบอกไม่ถูกอ่ะ รู้แต่ตั๋นห่วงหยกมาก เจ่เจ้ที่ว่าป่วย เพิ่งผ่าตัดเสร็จตั๋นก็ห่วง แต่มันไม่เหมือนกับที่ตั๋นกังวลเรื่องหยก”

   “อาจจะเป็นเพราะเฮียเคยโดนผู้หญิงที่ชื่อลตาตามละมั้ง ตั๋นถึงได้กังวล”

   “ไม่รู้สิ ตั๋นเองก็อธิบายไม่ถูก แล้วยิ่งเรื่องที่เจเจ้ให้นายแมวหง่าวตามหยกนั่นอีก หากเกิดอะไรขึ้นมา เขายังเข้าใกล้หยกไม่ค่อยได้เล๊ย แล้วจะไปช่วยหยกได้ยังไง มีแต่จะซ้ำเติมทางความรู้สึกสิไม่ว่า ตั๋นล่ะไม่เข้าใจเจ่เจ้จริง ๆ”

   “เอาเป็นว่า เฮียจะระวังตัวแล้วกัน”

   “ว่าแต่ ทานอะไรกันดี ตั๋นไม่อยากทานอะไรเลี่ยน ๆ ในโรงแรมเลย ออกไปหาอย่างอื่นข้างๆ โรงแรมกันไหม?”

   “ตามใจสิ เฮียให้คนป่วยตัดสินใจ”

   “ตั๋นแค่เมาเรือเอง ไม่ได้ป่วยสักหน่อย”

   “แล้วพรุ่งนี้ตั๋นต้องถ่ายงานบนเรือทั้งวัน จะไหวหรอ?”

   “หยกอย่าเพิ่งพูดถึงเรื่องชวนอ้วกสิ เดี๋ยวทานอะไรไม่ลงกันพอดี”

   โบตั๋นเลือกร้านอาหารอีสานร้านหนึ่งใกล้ๆ กับโรงแรม ซึ่งตอนกลับสามารถเดินเลียบชายหาดกลับไปยังบ้านพักได้ ไม่ต้องเดินอ้อมเข้าทางด้านหน้าของโรงแรมอย่างตอนขามา

.........................................................................

   นายคีลงลิฟท์มาจากชั้นที่ตัวเองพักอยู่ ขณะที่กำลังเดินไปยังโซนของรีสอร์ทก็พบคุณหยกและคุณโบตั๋นเดินออกไปทางหน้าโรงแรม เขาเห็นเพื่อนร่วมงานสองคนเดินตามประกบคุณ ๆ ทั้งสองอยู่ไม่ห่าง ต้นกับต้าพยักหน้าทักทายเขาเล็กน้อย

   เขาเดินมาถึงส่วนรีสอร์ต กำลังจะเดินไปยังบ้านของพยัคห์ก็พบกับคนที่ไม่คิดว่าจะพบที่นี่ เขาจึงค่อยๆ สะกดรอยตามไปเงียบ ๆ ทำทีเป็นเดินชมบบรยากาศภายในโรงแรมไปเรื่อย จนถึงบ้านพักส่วนในสุด ที่บ้านแต่ละหลังปลูกแยกห่างกัน และมีสวนเล็ก ๆ กั้นระหว่างบ้านแต่ละหลังเพื่อสร้างความเป็นส่วนตัวยิ่งขึ้น บ้านแต่ละหลังสามารถจอดรถได้ 1 คัน

   เมื่อเห็นเป้าหมายที่เขาติดตามอยู่เดินเข้าไปที่บ้านหลังหนึ่ง คีจึงเดินวนดูรอบ ๆ ไปเรื่อย ๆ เมื่อไม่เห็นว่าคนในบ้านจะออกมาอีก เขาจึงรีบเดินไปยังบ้านพักของพยัคฆ์ทันที โดยไม่ลืมที่จะถ่ายภาพบ้านพัก พร้อมทะเบียนของรถเช่าที่จอดอยู่ในบ้านพักหลังนั้นไว้ด้วย

.........................................................................

   ผมกับโบตั๋นทานอาหารกันเสร็จเรียบร้อยก็เดินเล่นกันริมหาดไปเรื่อยๆ เป็นการย่อยไปในตัว พวกเราเดินกันมาจนเกือบถึงบริเวณที่ไม่มีร้านรวงริมหาด จึงพากันเดินย้อนกลับทางเดิม

   พี่ๆ สองคนที่เดินตามพวกเรามา เห็นว่าพวกเรากำลังจะกลับ เขาก็ยืนรออยู่ที่เดิม ผมเห็นพี่คนหนึ่งเดินเข้าไปในร้านขายของชำบริเวณใกล้ ๆ กับที่พวกเขายืนอยู่กัน

   “เฮียว่าเราไม่น่าเดินไปไกลเลย สงสารพี่ ๆ เขานะ ต้องมาคอยเดินตามเรา”

   “ก็อากาศมันดีนี่นา ลมก็เย็นสบาย ตั๋นเดินเพลินเลย ไม่คิดว่าเราจะเดินกันมาไกลขนาดนี้”

   “นั่นสิ ตึกโรงแรมอยู่ซะไกลลิบเชียว”

   “ตอนเราเดินผ่านมา ตั๋นไม่เห็นมีร้านขายยาเลยเน๊อะ ว่าจะซื้อยาแก้เมาเรือสักหน่อย”

   “ใครเขาจะมาเปิดร้านขายยาริมหาดกันล่ะ”

   “ก็แหม๋... เผื่อจะมีไง” เราสองคนหัวเราะกับความคิดแปลก ๆ ของโบตั๋น ที่เศรษฐกิจแบบนี้ เหมาะกับการเปิดร้านอาหาร ร้านเช่าอุปกรณ์ต่าง ๆ สำหรับเล่นน้ำมากกว่าจะมาเปิดร้านขายยาซะอีก

   ผมเห็นพี่ที่เข้าไปในร้านของชำเดินออกมาพร้อมกับถุงใส่เบียร์กระป๋องมาจำนวนหนึ่ง เหมือนพี่ ๆ เขาจะรู้ว่าหลังจากนี้พวกผมคงจะไม่ออกไปไหนกันแล้ว ถึงได้เตรียมดื่มกัน แต่ดูจากจำนวนกระป๋องในถุง ผมเดาว่าคงจะซื้อไปเผื่อพี่เสือด้วยแน่ ๆ นี่

   ผม...นึกถึงเขาอีกแล้ว...

   พวกเราเดินเลยพี่ ๆ เขามาแล้ว และอาจจะเป็นเพราะผมเริ่มชิน อีกทั้งพี่พวกนั้นเขาก็ไม่ได้ตามติดจนกระทั่งผมอึดอัด จึงไม่ได้เหลียวหลังหันไปมองอย่างช่วงแรก ๆ ที่โดนตาม

   เวลานี้คงดึกมากแล้ว เพราะร้านอาหารหลายร้านเริ่มปิดให้บริการ นักท่องเที่ยวตามริมหาดเริ่มบางตา ผมกับโบตั๋นเดินกันมาจนเกือบจะถึงร้านอาหารที่เรามาทานกันเมื่อคู่ โบตั๋นก็เหลือบเห็นป้ายร้านขายยาที่อยู่ในซอยก่อนถึงร้านอาหารนั่น

   “หยกร้านยา ยังไม่ปิดด้วย แวะไปซื้อกันแป๊บนึงนะ”

   “เอาสิ เรารีบกันดีกว่า ก่อนที่ร้านจะปิด”

   ผมกับโบตั๋นจึงรีบวิ่งเข้าไปในซอย เห็นป้ายร้านยาอยู่ไม่ไกล แต่ตัวร้านเข้าซอยไปลึกพอสมควร โชคดีที่ไปถึงแล้วร้านยังไม่ปิด โบตั๋นเลยได้ยาแก้เมาเรื่อมาตามที่ตั้งใจไว้ พวกเราเตรียมจะย้อนกลับไปยังหน้าปากซอยก็พบกลุ่มคนเมามาจากไหนไม่รู้ 3-4 เดินตรงเขามา ผมจึงพยายามเดินเลี่ยงและดึงแขนโบตั๋นให้เธอเลี่ยงมาอยู่ข้างหลังผม ขณะที่เดินผ่านพวกเขา กลิ่นเหล้าฉุนจมูกโชยเข้าจมูกกลบกลิ่นอายของน้ำทะเลจนหมด พวกนี้เขากินหรืออาบกันแน่

To Be Continue

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
Re: หยก 29-10-17 {{:::23:::}}
«ตอบ #89 เมื่อ28-10-2017 11:14:07 »

เป็นเรื่องแน่ๆ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด