[END] Oh! God ผมโดนท่านเจ้าที่ตามรังควานครับ!:: จบแล้ว [22-08-2018]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [END] Oh! God ผมโดนท่านเจ้าที่ตามรังควานครับ!:: จบแล้ว [22-08-2018]  (อ่าน 97822 ครั้ง)

ออฟไลน์ Hazel_nut

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 164
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +164/-3
แจ้งข่าวเล็กๆ น้อยๆ ค่ะ


สวัสดีค่ะทุกคน คิดถึงจังเลย ฮือออ //ส่งจูบรอบทิศ

พอท่านเจ้าที่จบก็ไม่ได้มาอัพเดตอะไรเลยเนอะ ตอนพิเศษอีกตอนก็ยังไม่ได้อัพ โปรดรอกันอีกสักนิดนะคะ ตอนนี้เรากำลังอยู่ในช่วงรีไรท์ท่านเจ้าที่นี่แหล่ะค่ะ ตกลงกับบก. ไว้ว่าเดดไลน์เดือนธันวานี้ เลยต้องเร่งมือหน่อย แถมช่วงนี้เริ่มสอบแล้วด้วย ใกล้วันสัมมนาจริงเข้าไปทุกที เหนื่อยจะขาดใจแล้วค่ะ ฮือๆ

พูดถึงเรื่องรีไรท์ท่านเจ้าที่หน่อยแล้วกัน อย่างแรกเลยเราขอบอกก่อนว่าต้นฉบับท่านเจ้าที่ เดิมมีทั้งหมด 44 ตอน + บทนำกับบทส่งท้าย ทั้งสิ้นก็ 260 หน้าเวิร์ดได้อ่ะค่ะ เยอะฉิบหาย 55555 แต่ค่ะแต่ เรารู้สึกว่ามันเยอะเพราะเนื้อเรื่องบางฉากบางตอนเนี่ยมันยืดเยื้อเกินไป หลังจากรีไรท์รอบแรกเสร็จ เราก็เลยตัดส่วนที่ไม่โอเคสำหรับเราออก แล้วก็เอาสองบทมารวมกันเป็นบทเดียว เท่ากับว่าจาก 44 ตอนจึงลดลงมาเหลือ 22 ตอน และจาก 260 หน้า จึงลดลงมาเหลือ 208 หน้าค่ะ ทั้งนี้ทั้งนั้นเราจะทำการรีไรท์อีกสองรอบเป็นอย่างต่ำ อาจมีเพิ่มหรือลดลงอีกก็เป็นได้ แต่ยืนยันว่าไม่แตกต่างจากเนื้อเรื่องเดิม ไม่ต้องอ่านซ้ำก็ได้ค่ะ

และก็ในส่วนที่เรารีไรท์เสร็จ เราจะกลับมาแก้ไขในเว็บทั้งสามเว็บแน่นอนค่ะ แต่ไม่ได้เปลี่ยนจำนวนตอนเน้อ คือในเว็บลงไว้ 44 ตอน เราก็จะแก้ไขตามจำนวนตอนเท่าเดิม แต่ในเล่มก็จะเปลี่ยนเป็น 22 ตอน งงกันไหมคะ? 5555 เอาเป็นว่าเนื้อเรื่องจะเหมือนกันหมดทุกอย่าง สรุปงี้เข้าใจง่ายกว่าเนอะ

สำหรับใครที่รอเรื่องใหม่ ขอให้รออีกสักพักนะคะ ไว้เราเคลียร์ต้นฉบับพร้อมตอนพิเศษของท่านเจ้าที่ได้เมื่อไหร่ เราจะเริ่มอัพเรื่อง Worthless ของตาย ค่ะ เรื่องนี้จะไม่ยาวเท่าท่านเจ้าที่แน่นอน พอจบจากนั้นก็จะเปิดเรื่องของน้องไวท์ต่อ เอาสิ แพลนนิยายมาหมดแล้วตอนนี้ เหลือแค่ว่าจะมีเวลาแต่งไหมเท่านั้นค่ะ 55555

มาแจ้งข่าวเท่านี้ กลัวทุกคนจะลืมเราและท่านเจ้าที่กับน้องแทงค์ไปเสียก่อน อืมมม...กระซิบเบาๆ ว่าตอนนี้ได้คนวาดปกแล้วนะคะ หุหุ อยากเห็นปกไวๆ จังเลยย แต่เหนือสิ่งอื่นใดคือเราควรรีบปิดต้นฉบับค่ะ แง้ //หัวเราะทั้งน้ำตา

ออฟไลน์ Ice_Iris

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1227
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +74/-0


เจ้าที่หล่อบอกต่อด้วย

ขอบคุณที่แบ่งปันขอรับ


ออฟไลน์ บีเวอร์

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 392
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1

ออฟไลน์ Timber

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 112
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0

ออฟไลน์ Zerzes_kim

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 1
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ทำไมเราคิดต่างอะ เรื่องฝึกงาน แทงค์เหมือนคนลืมเพื่อนจริงๆ ไม่แปลกที่เนสกับคาร์กจะโกรธ คนเขียนเน้น "เรื่องงี่เง่า" กับ "ไม่ผิดที่จะเลือกโอกาสดีๆ" มากเกินไป โอกาสดีๆของแทงค์มันไปตัดโอกาสของทั้งวงอะในความคิดเรานะ คือถ้าแทงค์แยกตัวออกไปฝึกงาน วงก็ต้องขาดมือกลองถูกมั้ย แล้วเพื่อนที่เหลือล่ะจะทำยังไง หาคนใหม่ก็กว่าจะเข้าขากัน แทงค์ดีใจจนตอบตกลงไปเลย แบบไม่สนความเห็นเพื่อนเลยสักนิด เออ ถ้าแทงค์บอกอาจารย์ว่า เดี๋ยวผมต้องปรึกษาวงก่อน จะให้คำตอบพรุ่งนี้ แล้วมาคุยกับเพื่อนว่า เออเอาแบบนี้แบบนั้นมั้ย ถ้าเพื่อนไม่เข้าใจ ตอนเนี่ยแหละที่เนสกับคาร์กสมควรโดนด่า แต่นี่คนเขียนเข้าข้างแทงค์เกินไป พยายามผลักให้เนสกับคาร์กผิด แทงค์คนดีเหลือเกินพูดช่วยเพื่อน เราว่ามันไม่ใช่อะ แทงค์ผิดที่ตอบตกลงไปเลยโดยไม่ถามความเห็นของวง วงดนตรีอะ ใครหายไปมันก็พังหมด เล่นคนเดียวต่อให้เก่งแค่ไหนก็ไม่เพราะหรอก ไหนว่าไปไหนไปกันเป็นวง ตั้งใจว่าจะหาประสบการณ์ไปพร้อมกันกับวง แต่พอมีเรื่องดีๆเข้ามาหา ไม่ปรึกษาเพื่อนสักคำ เออ ถ้าเอาเข้าไปเป็นวงแล้วแทงค์ตอบตกลงแทนก็ว่าไปอย่าง แต่นี่เป็นเรื่องของตัวเอง ที่มีคนมาเห็นได้ก็เพราะวง มึโอกาสปุ๊ป สละเรือ เป็นเราเราก็โกรธอะ มาบอกตอนที่ตอบตกลงไปแล้วก็เหมือนมัดมือชกให้เราโอเคกับมันอะ ไม่ใช่เรื่องเล็กๆเลยนะถ้ามันเกี้ยวกับอนาคตของคนหลายคนอะ พอเห็นว่าย้ำ "เรื่องงี่เง่า" บ่อยๆแล้วเราขัดใจ

ออฟไลน์ aoihimeko

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3132
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +155/-9
จบสวยยยบยย

มันดีต่อใจจริงๆ ชอบคุณเจ้าที่ มากกก

ออฟไลน์ reborn

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 675
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-1

ออฟไลน์ Sohso

  • You are my precious thing And I will always love you.
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1372
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-3
คู่ของไวท์กับคู่ของธีร์อ่ะ

ออฟไลน์ 【focus_kung】

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
ทำไมเราถึงเพิ่งได้อ่านเรื่องนี้ พลาดมากกกกก
สนุกมากๆค่ะ ชอบมากกกก
ตอนนี้มองเห็นศาลพระภูมิทีไรนี่ก็คิดนะว่าท่านเจ้าที่ทั้งหลายจะเห็นว่ามันเชยจริงๆหรือเปลีร
โอยยยย อ่านไปบาปจะกินกบาล

ออฟไลน์ Hazel_nut

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 164
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +164/-3
Extra 3

ความผิดพลาดในคืนนั้น

[Clark X Nes]

 

ย้อนกลับไปเมื่อวันนั้น...

วันที่พี่เฟิ่งกลับมาเปิดร้านหลังจากหยุดไปสองสัปดาห์เต็ม วันที่พวกเขาทั้งสี่คนได้กลับมาเล่นดนตรีอีกครั้ง และพากันสังสรรค์กับพี่เฟิ่งด้วยการกรอกเหล้าเข้าปากแบบไม่สนใจว่าตนเองจะเมาแค่ไหนในคืนวันพุธ

หลังจากฮัทมาส่งคู่ซี้คู่กัดที่บ้านของเนสแล้วคลาร์กดันเดินตามลงไปด้วย หนุ่มหน้านิ่งก็ตัดสินใจปล่อยให้เพื่อนทั้งสองอยู่ด้วยกันก่อนตัวเองจะขับรถกลับบ้าน โดยไม่รู้เลยว่าจะเกิดบางอย่างที่ไม่คาดฝันขึ้น

คนเมาทั้งสองก้าวเท้าเข้าบ้านมาได้แบบทุลักทุเลสุด ๆ เนสล้มตัวลงนอนตรงทางเดินเข้าบ้าน แสงไฟสว่างจ้าขึ้นจากเซนเซอร์อัตโนมัติยามเมื่อมีคนอยู่ในบ้าน ก่อนที่หนุ่มลูกครึ่งจะล้มตัวลงนอนตามที่ข้าง ๆ กัน

“เท่นี่ที่หนายนะ?” คลาร์กเอ่ยถามขึ้นมาด้วยน้ำเสียงอ้อแอ้ ขณะที่เจ้าบ้านเลิกคิ้ว สายตาพร่าเลือนมองไปรอบ ๆ ตัวก่อนจะตอบ

"บ้านใคร...อ๊ะนี่บ้านกู๊หนิหว่าา"

"บ้านกูด้วยยย" คลาร์กยกมือขึ้นไปโบกสะบัดในอากาศ

“เหรอ เออ ๆ บ้านเรา...ท้างคู่!” เนสพยักหน้าเออออ ก่อนจะพยายามผุดลุกขึ้นนั่งอย่างยากลำบาก และยากเข้าไปอีกเมื่อเขาพยายามจะลุกขึ้นยืน “มึง ๆ ปายห้องนั่งเล่นกานดีกว่า”

“อือ ๆ” ลูกครึ่งหนุ่มได้ยินดังนั้นก็พยายามลุกขึ้นเช่นกัน กว่าจะยืนขึ้นมาได้ก็เล่นเอาเซล้มไม่เป็นท่าไปซะหลายครั้ง ตื่นขึ้นมาคนเมาทั้งสองคนได้งงแตกแน่ ๆ ว่ารอยช้ำตามตัวนี้มาจากไหน ล้มกระแทกกันเองบ้างล่ะ กระแทกพื้น กระแทกกำแพงบ้างล่ะ

เฮ้อ

หลังจากนั้นเนสกับฮัทก็โซเซเข้ามานั่งแปะลงบนโซฟาในห้องนั่งเล่นได้สำเร็จ สองคนกอดคอกันร้องเพลง เมาจนแทบไม่ได้สติอยู่รอมร่อ แต่ก็ยังคึกคักเกินกว่าจะหลับได้ลง

"ไอ้คากกก"

"คลาร์กเว้ย กูชื่อคลาร์กกก" เจ้าของชื่อว่าเสียงยานคางด้วยสำเนียงฝรั่งแท้ ๆ แถมยังพูดผิด ๆ ถูก ๆ "เรียกห้ายถูกเดะว้าไอ้เนส"

"อ่าวหรออ เออ ๆ โต้ดที" เนสเองก็ไม่ต่างกัน ซุ่มเสียงเริ่มฟังไม่ได้ศัพท์เข้าไปทุกทีแล้ว

ร้องเพลงกันไปอีกพักใหญ่โดยที่ไม่มีดนตรีประกอบ จู่ ๆ คลาร์กก็กลิ้งตกจากโซฟาลงไปนอนแผ่หลาที่พื้น แต่มันคงจะไม่เป็นอะไรเลยสักนิดถ้าไม่ใช่เพราะเจ้าตัวกอดคอเนสอยู่ พอตัวเองตกลงไปก็เผลอเกี่ยวคอเพื่อนตามลงไปด้วย

พลั่ก!

“โอ๊ยยย”

สภาพของทั้งสองคนตอนนี้เลยกลายเป็นว่าคลาร์กนอนหงายโดยมีร่างที่ผอมบางกว่าของเนสทาบทับอยู่ด้านบน

“ไอ้เชี่ยเจ็บบบ”

“ท่ดๆ โทษที” หนุ่มลูกครึ่งว่าพลางจับต้นแขนของเพื่อนหวังจะพาลุกขึ้น แต่เมื่อสายตาไปปะทะเข้ากับริมฝีปากของเนสก็อดจะทักออกไปไม่ได้ "ไอ้เนส ทำมายมึงปากแดง...แท้ว้า”

“หือ?” เนสเลิกคิ้ว ยกหัวขึ้นมามองคนถาม สายตายังคงพร่าเลือนจากฤทธิ์น้ำเมาที่ทำให้เขามองอะไรแยกร่างไปหมด แต่กระนั้นก็ยังตอบออกไปว่า "กูลากไก่ปายกินในน้ำมา เลือดก่ายติดปาก!"

คลาร์กได้ยินดังนั้นก็โวยวายลั่น "ไอ้เพื่อนเวน! ม่ายแบ่งกันกินเลอ"

"งั้นเมิงมากินจากปากกุมา" เนสว่าอย่างเมา ๆ พลางยื่นหน้าเข้าไปหาคลาร์ก ลูกครึ่งหนุ่มนิ่งไป สมองที่ไม่สามารถไตร่ตรองได้อย่างรอบคอบเหมือนปกติสั่งให้เขาแนบปากกับปากของเพื่อนสนิท

เร็วเท่าความนึกคิดจากจิตใต้สำนึก คลาร์กเลื่อนฝ่ามือทั้งสองข้างของตัวเองมาตรึงต้นคอของเนสเอาไว้ ก่อนจะเอียงหน้าแล้วแนบริมฝีปากของตนเองเข้ากับเรียวปากบางของคนด้านบน

เนสนิ่งงัน เบิกตาโตด้วยความตกใจ ชั่ววูบหนึ่งเขามองทุกอย่างเป็นภาพกระจ่างชัดในดวงตา ในใจไม่คิดว่าเพื่อนจะทำอะไรแบบนี้กับเขา และยังคงมึนงงอยู่ว่าอะไรทำให้คลาร์กทำแบบนี้...โดยลืมไปสิ้นว่ามันเกิดจากคำพูดของตัวเองก่อนหน้านี้นั่นล่ะ

‘งั้นเมิงมากินจากปากกุมา’

แต่แม้จะยังไม่เข้าใจ หากกระนั้นเบื้องลึกในใจของเนสก็ผลักดันให้เขาบดปากตอบคลาร์กด้วยความเมาล้วน ๆ ที่ยังคงไม่สร่างซาลงไปเลยแม้แต่น้อย...คลาร์กเป็นฝ่ายสอดปลายลิ้นเข้าหาเนส เกี่ยวปลายลิ้นอีกฝ่ายไปมา มือหนาค่อย ๆ ดันร่างของเพื่อนผมทองลงนอนราบไปกับพื้นแทนที่ตัวเขาเอง ก่อนตามด้วยสอดปลายนิ้วเข้าไปลูบหน้าท้องที่มีกล้ามเนื้อแน่นเป็นลูกเบา ๆ หากแต่สร้างความสยิวให้คนได้รับไม่น้อยเลย

แต่แล้วเนสก็ผลักคลาร์กให้ถอนจูบระหว่างกันออก หอบหายใจแรงเพราะรสจูบดูดดื่ม

"อาไร...วะ" คลาร์กบ่นเมื่อโดนขัดจังหวะ มือข้างหนึ่งของเขาจับเอวของเนสเอาไว้เฉย ๆ แทนที่จะลูบไล้เหมือนอย่างก่อนหน้านี้ ด้วยยังงง ๆ อยู่ว่าทำไมถึงโดนเพื่อนรักผลักอกเสียสุดแขน

เนสเอ่ยถามหลังจากหยุดหอบได้แล้ว "มึงจะกดกูเหรอฟะ"

"เอ้อ เออ มั้ง...” หนุ่มลูกครึ่งตอบรับด้วยน้ำเสียงไม่แน่ใจ เศษเสี้ยวหนึ่งของสมองที่ยังมีสติยั้งคิดบอกเขาว่าการทำแบบนี้กับเพื่อนตัวเองไม่ถูกต้อง เพราะอาจนำไปสู่มิตรภพที่จบลงก็ได้

แต่ทุกอย่างที่เขาคิดพลันชะงักงันไปหมดเมื่อเนสโพล่งขึ้นเสียงดังว่า "แต่กูเป็นรุก!"

น้ำคำที่ทำให้คนฟังต้องสะบัดหน้าไล่ความมึนงง ฤทธิ์แอลกอฮอล์ก่อนหน้านี้ดูเหมือนจะเจือจางลงเรื่อย ๆ แต่ความปรารถนาแรงกล้าที่จะทำสิ่งที่ค้างเอาไว้อีกครั้งเสือกไสให้เขาตอบออกไปว่า...

"วันนี้มึงก็ลองเป็นรับห้ายกูสิ!"

"เอางั้นอ่อ" ยิ่งผิดจากปกติเข้าไปใหญ่เมื่อเนสถามกลับด้วยความไม่แน่ใจ แต่พอคลาร์กพยักหน้าให้ หนุ่มผมทองก็ยอมเห็นด้วย "กะด๊าย!"

คลาร์กยิ้มกว้างจนตาหยี โน้มใบหน้าลงไปกดจูบที่เรียวปากแดงของเพื่อนซี้อีกครั้ง ปัดป่ายปลายลิ้นที่ริมฝีปากล่างของเนส ดูดดึงเล็กน้อยเป็นสัญญาณขอให้เปิดปากออก...และเมื่อคนใต้ร่างยอมอ้าปาก หนุ่มลูกครึ่งก็ไม่ปฏิเสธเลยที่จะแทรกปลายลิ้นเข้าหาโพรงปากอุ่นกรุ่นกลิ่นเหล้ารสชาติขมปร่าที่ติดอยู่บนปลายลิ้นของอีกฝ่าย

จุ๊บ...จุ๊บ...

เสียงจูบแลกลิ้นดังก้องไปทั่วห้องนั่งเล่นกว้าง ความเงียบรอบด้านยิ่งทำให้เสียงลมหายใจของพวกเขาดังกระเส่าเข้าไปอีก มือหนาเลื่อนขึ้นไปสะกิดยอดอกของเนส ทำเอาคนโดนกระทำสะดุ้ง ครางเสียงแผ่วในลำคอเพราะปากยังโดนประกบปิดแนบแน่นอยู่

“อืม”

คลาร์กผละจูบออกมาเพื่อให้เพื่อนได้หายใจหอบอากาศเข้าปอดอีกเฮือกใหญ่ๆ ก่อนชายหนุ่มสองสัญชาติจะบดจูบลงไปอีกครั้ง หนักหน่วงและเร่าร้อนยิ้งกว่าเดิม

ความร้อนผ่าวใต้กางเกงแข็งขืนชูชัน สัมผัสกับความร้อนผ่างของคนใต้ร่างที่ดุนดันขึ้นมาแตะกันโดยมีกางเกงยีนส์เท่านั้นที่ขวางกั้น...ความต้องการของพวกเขาทั้งสองคนล้นปรี่จนไร้ซึ่งความคิดไตร่ตรองหาเหตุผลให้กับการกระทำของตนเอง สิ่งที่ปรารถนาคือการได้สัมผัสร่างกายกันและกันอย่างลึกซึ่ง

นี่ดูเหมือนจะไม่ใช่สิ่งที่เพื่อนกันควรทำด้วยกันเลยสักนิด แต่ยามนี้ความต้องการทางเพศและความเมาดูเหมือนจะเป็นตัวควบคุมการกระทำทั้งหมดของพวกเขา

อย่างรวดเร็ว...สองมือของทั้งคู่ปปลดเปลื้องเสื้อผ้าออกจากร่างกายก่อนจะทาบทับแนบสัมผัสกันอีกครั้ง เนสครางต่ำในลำคอยามเมื่อสองมือของคลาร์กลูบไปทั่วร่างกายของเขา และยิ่งกระตุกเฮือกเข้าไปอีกเมื่อลูกครึ่งหนุ่มกอบกุมความแข็งขืนของเขาเอาไว้ รูดรั้งมันอย่างเนิบนาบแช่มช้า

คลาร์กไม่แน่ใจว่าเขาไปรู้วิธีมาจากไหน ทั้ง ๆ ที่เขาไม่เคยทำกับผู้ชายมาก่อน อาจจะเป็น GV สักเรื่องที่เคยลองเปิดดูเพราะอยากรู้อยากเห็นว่าผู้ชายเขาทำกันยังไงล่ะมั้ง เพราะนาทีต่อมาชายหนุ่มก็แตะปลายนิ้วที่เปียกลื่นไปด้วยน้ำอยากจากแก่นกายของเนส มาแตะไล้เข้าที่ช่องทางเล็ก ๆ ด้านหลังของเพื่อนหนุ่มผมทองแทน

หลังจากนั้นมันเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วมากจนแทบจะจำขั้นตอนไม่ได้ ทั้งการสอดแทรกปลายนิ้วเข้าภายใน การแตะกระตุ้นเร้าที่จุดกระสันเรียกเสียงครางเครือของคนใต้ร่าง หรือการสอดใส่ที่นำความเจ็บมาให้เนสจนร้องลั่น ความเมาที่มีก่อนหน้าปลิวหายภายในพริบตา เหลือเพียงความเจ็บแต่อยากของเจ้าตัว

ช่องทางที่บีบรัดแน่นด้วยไม่เคยเจออะไรใส่เข้าไปมาก่อนเลยสักครั้งทำให้คลาร์กสูดหายใจเข้าลึกเพื่อควบคุมอารมณ์ไม่ให้ทำตามใจด้วยการกระแทกเข้าไปจนมิดด้าม ขณะที่เนสมีใบหน้าบิดเบ้ แต่ก็ไม่ได้ห้ามปรามหรือผลักไสการกระทำของเพื่อนสนิทแต่อย่างใด

เรื่องนี้มันเลยเถิดจนเกินจะหักห้ามใจตัวเองได้ทันแล้วล่ะ

กว่าจะเข้าที่เข้าทางก็เล่นเอาทั้งสองเหงื่อตกสร่างเมาไปตาม ๆ กัน เนสบอกให้คลาร์กขยับเบา ๆ ก่อนเป็นอย่างแรก ก่อนที่ทุกอย่างจะลงตัวในอีกห้านาทีต่อมา และท่วงทำนองแห่งความหรรษาของทั้งคู่ก็เกิดขึ้น ท่ามกลางเสียงครางแหบต่ำในลำคอ และเสียงเนื้อกระทบเนื้อของพวกเขาสองคนยามเมื่อท่อนเนื้อร้อนผ่าวกระทั้นกระแทกเข้าสู่ช่องทางด้านหลังหนักหน่วงร้อนแรง

และเมื่อทุกอย่างสิ้นสุดลง...ความเป็นเพื่อนของพวกเขาก็ไม่อาจเป็นเหมือนเดิมได้อีกต่อไป

__________

ช่วงสายของวันต่อมาทั้งคลาร์กและเนสก็ต้องตื่นขึ้นมาด้วยความตระหนกขั้นสุดเมื่อพบว่าตนเองนอนแก้ผ้ากอดก่ายกันอยู่ในห้องนั่งเล่น

“นี่มันเกิดอะไรขึ้นวะเนี่ย” หนุ่มลูกครึ่งร้องถามพลางยกมือขยี้หัว หลังจากคว้าเสื้อผ้ามาใส่เรียบร้อยแล้ว

“เรา...เรามีอะไรกันเหรอวะเมื่อคืนนี้” เนสเองก็เอ่ยออกมาอย่างไม่แน่ใจนัก พยายามเค้นสมองว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างเมื่อคืน แต่จากความเจ็บที่ช่องทางด้านหลัง ก็พอจะเป็นคำตอบให้เขาได้แล้วว่ามันเกิดขึ้นจริง

เมื่อคืนเขากับไอ้คลาร์กได้กันไปแล้วเรียบร้อย และคนที่เป็นฝ่ายรับก็คือเขาด้วย!

ห่าเอ๊ย เคยแต่จิ้มคนอื่นเขา ไหงคราวนี้เขาดันโดนจิ้มได้วะ แถมคนจิ้มยังเป็นเพื่อนสนิทอีกต่างหาก!

หลังจากทบทวนกันดูดี ๆ และส่วนเสี้ยวหนึ่งในความทรงจำของเมื่อคืนมีภาพหลายภาพเด้งเข้ามาในหัวเพื่อช่วยยืนยัน ทั้งสองคนก็ต้องยอมรับไปโดยปริยายว่าเมื่อคืนพวกเขา...ได้กันจริง ๆ ว่ะ

“เหี้ยเอ๊ย ไม่น่าเมาแหลกขนาดนั้นเลย”

“เออ นั่นดิ” เนสตอบรับอย่างเห็นด้วย และเริ่มจะสติแตกขึ้นมาแล้ว จนต้องคอลวิดีโอไลน์กลุ่มไปหาไอ้ฮัทกับไอ้แทงค์เพื่อถามเรื่องเมื่อคืนว่ามันเกิดอะไรขึ้น ทำไมคลาร์กถึงมานอนบ้านของหนุ่มหัวทองได้

คุยกันไม่กี่ประโยคพร้อมกับที่เกือบหลุดปากโวยวายเรื่องที่พวกเขาสองคนได้เสียเกินเพื่อนกันออกไป เนสก็จัดการวางสายแล้วหันมาทึ้งหัวตัวเองแก้เครียด

“เวร ๆๆ ทำไมมันเป็นงี้ไปได้วะเนี่ยยย”

“หลังจากนี้กูจะไม่เมาจนไร้สติอีกแล้ว เหี้ย” หนุ่มลูกครึ่งเองก็มีท่าทีไม่ต่างกันนัก

ไม่ใช่ว่ารังเกียจการมีเซ็กส์กับเพื่อนหรอกนะ แต่ก็นั่นล่ะ...เพราะเป็นเพื่อนไง เพื่อนสนิท เพื่อนร่วมวง เพื่อนรัก ไม่ใช่เพื่อนนอน เพราะงั้นการนอนกับเพื่อนที่ไม่ใช่เพื่อนนอนจึงเป็นอะไรที่ชวนให้กระอักกระอ่วนใจสุดๆ แล้ว

“เอาไงต่ออ่ะทีนี้” หนุ่มผมทองเอ่ยถามหลังจากพยายามสงบสติอารมณ์ตัวเองอยู่นาน

เกิดความเงียบขึ้นหลังจากนั้น ทั้งคนถามและคนโดนถามเองก็ต่างไม่แน่ใจว่าควรพูดยังไงออกไปดี...ที่จริงจะบอกว่าครั้งนี้เป็นครั้งเดียวและจะไม่ให้เกิดขึ้นมาอีก แต่ลึกๆ ก็เกิดความรู้สึกลังเลขึ้นมา

ทำไมกันนะ...ทำไมพวกเขาถึงต่างฝ่ายต่างลังเลใจล่ะ?

ฉับพลันนั้นความคิดหนึ่งก็แล่นเข้าสู่สมองของคลาร์ก แต่ก่อนจะเอ่ยอะไรออกไปเกี่ยวกับสิ่งที่คิด ชายหนุ่มจะต้องแน่ใจในอะไรบางอย่างก่อน

“ไอ้เนส”

“อะไร”

“เมื่อคืน...มึงรู้สึกดีเปล่าวะ?”

“หะ? ทำไมถามงี้วะ!?”

“เออน่า ตอบมา รู้สึกดีไหม?”

คนโดนถามหน้าแดงขึ้นมาเสียเฉย ๆ อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนไม่ว่ากับใคร เมื่อนึกย้อนไปถึงเรื่องเมือคืนที่พอจะจำได้บ้างแล้วก็ให้หน้าร้อนผ่าว ตอบออกไปโดยไม่คิดปิดบัง “เออ มันก็ดีอ่ะ”

“เราเป็นเพื่อนกัน มึงรู้ใช่ไหม?” ลูกครึ่งหนุ่มยังคงถามอีก

“ก็เออ กูรู้อยู่แล้วไหมล่ะ”

“ที่จริงเราจะแกล้งปล่อยผ่านเรื่องนี้ไปก็ได้ แต่...”

“แต่...” เนสลากเสียงตามเพื่อนสนิทสองเชื้อชาติ

“ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้ว เราสองคนมาแบบว่า...ลองคบกันดูมั้ย?”

“หา!?” หนุ่มผมทองถึงกับร้องลั่น “มึงเป็นบ้าอะไรเนี่ย เฮ้ย! เราเพื่อนกันนะ อีกอย่างมึงก็ไมได้ชอบกูด้วย และกูก็เหมือนกัน กูไม่ได้คิดอะไรกับมึงเกินเพื่อนนะเว้ย!”

“กูรู้”

“งั้นมึงเสนอให้เราลองคบกันทำไมวะ!?”

“ก็...” คลาร์กยกมือขยี้เส้นผมอย่างขัดใจ ทั้งขัดใจตัวเองและเพื่อนสนิทผมทองนั่นล่ะ “กูชอบนะ เซ็กส์ของพวกเราเมื่อวานอ่ะ ก็เลยอยากให้เราลองคบกันดูก่อน ลองเปลี่ยนสถานะดูก็ไม่เสียหายหรอก...มั้งนะ”

“อ๋อ ที่มึงเสนอแบบนี้เพราะชอบเซ็กส์ที่ทำกับกูแล้วอยากทำอีกว่างั้น!” เนสเอ่ยตรงประเด็นชัดเจน ทำเอาคนฟังหน้าร้อนผ่าวและกระอักกระอ่วนใจยังไงพิกล หากแต่เขาก็ยังยอมพยักหน้าตอบ

“เออ ก็ตามนั้นอ่ะ อีกอย่างช่วงนี้กูก็ไม่ได้ไปตกหญิงที่ไหน มึงก็เบื่อๆ ไม่ใช่เหรอ คบกันแก้เหงาก็ไม่เสียหายป่ะวะ เอากันแก้เบื่อไรเงี้ย”

“ทั้งๆ ที่เราเป็นเพื่อนกัน?”

“อ่า นั่น...” หนุ่มลูกครึ่งไม่รู้แล้วว่าจะพูดอย่างไรดี เอาเข้าจริงในความนึกคิดของเขาก็ไม่เข้าใจตัวเองนักว่าคิดยังไงถึงเสนอวิธีการนี้ออกมา มันก็แค่...เขาไม่อยากให้เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนเป็นเรื่องคืนเดียวก็เท่านั้น “ถ้ามึงไม่โอเคกูไม่ว่านะเว้ย แค่เสนิอ่ะ เพราะกูยอมรับ กูชอบเซ็กส์ที่ทำกับมึงว่ะ มึงแม่ง...โคตรร้อนแรงเลย”

“ไอ้สัด! ก็ไม่ต้องพูดไหมเล่า!?” เนสหน้าแดงขึ้นมาทันที ใจที่กำลังสับสนกับคำพูดของเพื่อนและสิ่งที่เกิดขึ้น แต่เพียงแค่คำพูดของคลาร์กลับทำให้เขาไขว้เขวได้อย่างน่าประหลาด

พวกเราเป็นเพื่อนกัน นั่นคือความจริง

แต่พวกเราเพิ่งจะมีอะไรกันไป นั่นก็คือความจริง

และยิ่งไปกว่านั้นคือพวกเราชอบใจในเซ็กส์เมื่อคืนที่มอบให้แก่กัน...

มีความรู้สึกว่าไม่อยากให้มันจบลงแค่คืนเดียวเหมือนกัน เพราะงั้นลองคบกันก็คงไม่เป็นไรมั้ง

น่า ก็แค่เอากันแก้เหงาไง เซ็กส์เฟรนด์น่ะ...ก็อะไรทำนองนั้น

“ตกลง”

“หือ?” คลาร์กเลิกคิ้วขึ้นสูงเป็นเชิงถามย้ำ เมื่อกี้เขามัวคิดเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวานจนไม่ทันได้ฟัง

เนสสูดหายใจเข้าลึกเพื่อพูดอีกครั้ง “กูบอกว่าตกลง เรามาลองคบกัน”

คำพูดที่ทำให้หนุ่มลูกครึ่งยิ้มร่า ก่อนจะประเดิมการ ‘ลอง’ คบกันของพวกเขาทั้งสองคน ด้วยการแนบจูบลงบนปากแดงๆ ของเนสอย่างหนักหน่วง ก่อนจะเลยเถิดไปเป็นการมีเซ็กส์รอบที่สองในเวลาไม่ถึงยี่สิบสี่ชั่วโมงของทั้งคู่

และครั้งนี้พวกเขามีสติครบถ้วนสมบูรณ์ทุกอย่าง

__________

สามปีต่อมาคือช่วงเวลาที่เกิดอะไรขึ้นมากมายหลายเรื่อง ทั้งเรื่องที่เป็นไปได้และเป็นไปไม่ได้ ทั้งเรื่องที่น่าดีใจและเศร้าใจ ทั้งเรื่องที่ดีและไม่ดี รวมไปถึง...เรื่องที่เหนือความคาดหมายด้วย

เรื่องความสัมพันธ์ของคลาร์กกับเนส

จากการทดลองคบกันเพื่อเซ็กส์แก้เหงา กลับกลายเป็นความจริงจังและจริงใจ ช่วงเวลาที่ดำเนินผันผ่านจวบจนสามปีนี้ การลองคบกันของทั้งสองกลายเป็นการคบกัน...อย่างแท้จริง

คลาร์กจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่ารักเนสตอนไหน เนสเองก็ไม่ต่างกัน เขาไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่ารักคลาร์ก ต่างฝ่ายต่างรู้แค่ว่าไม่อยากไปคบใครอีกแล้ว เพราะแค่ได้คบกันเองแบบนี้ก็มีความสุขมากที่สุด

จากเพื่อน...จึงเลื่อนสถานะมาเป็นคู่รักโดยสมบูรณ์

ไม่มีการทดลอง ไม่มีแค่เรื่องเซ็กส์ ไม่ใช่การแกล้งกันเล่นของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งทั้งนั้น

พวกเขารักกันจริง ๆ และคบกันเฉกเช่นคนเป็นแฟนกันจริง ๆ

“พวกมึงคิดจะเปิดตัวเมื่อไหร่”

เสียงของเพื่อนร่วมวงดังขึ้นในวันหนึ่งที่พวกเขาต้องขึ้นเล่นร้านพี่เฟิ่ง (ใช่ พวกเขายังทำงานร้านพี่เฟิ่งอยู่แม้ว่าจะเป็นศิลปินดังแล้วก็ตาม) เนสเงยหน้าจากเนื้อเพลงที่กำลังอ่านเพื่อมองแทงค์ ขณะที่คลาร์กเองก็หยุดมือกับสิ่งที่กำลังทำก่อนจะเดินมานั่งลงข้าง ๆ หนุ่มผมทอง

“ทำไม?”

“อ้าว พวกมึงไม่คิดจะบอกกับแฟน ๆ หน่อยเหรอวะว่าคบกันมาสามปีแล้ว”

“ก็คิดจะบอกนะ” คลาร์กตอบ

“เมื่อไหร่?” ฮัทที่มักเงียบเสมอเลิกคิ้วเอ่ยถาม คนโดนถามทั้งสองเงียบ แทงค์จึงเสนอไอเดียให้

“เอางี้ไหมมึง ไหน ๆ คู่กูก็เปิดตัวไปแล้วกลางงานแถลงข่าว คู่มึงก็ประกาศไปเลยคืนนี้กลางร้านเหล้า”

“ประกาศ? ประกาศไงวะ?” หนุ่มสองเชื้อชาติถาม ครึ่งหนึ่งสนใจกับข้อเสนอของเพื่อนมาก แต่อีกครึ่งหนึ่งก็รู้สึกลังเลใจไม่น้อยเช่นกัน

“ก็แล้วแต่พวกมึงสิว่าจะประกาศยังไง กูแค่เสนอว่าให้เปิดตัวคืนนี้ไปเลย”

“กูเห็นด้วย” ฮัทพยักหน้าสนับสนุนคำพูดของแทงค์

เนสที่เงียบคิดอยู่พักหนึ่งยกยิ้มร่าแล้วโพล่งขึ้นมาว่า “กูคิดออกละจะเปิดตัวยังไง”

“ยังไง?” สามเสียงถามขึ้นพร้อมกัน หากแต่คนโดนถามกลับส่ายหน้าพลางหัวเราะ

“ไว้รอดูแล้วกัน”

พอถึงเวลาขึ้นเล่นในตอนหนึ่งทุ่มตรง หลังจากหมดเพลงเร็วชวนเต้นเรียกเหงื่อไปสามเพลง ก็มาถึงคราวที่ของเพลงช้าบ้าง เขาหันไปกระซิบบอกเพื่อนร่วมวงว่าให้เล่นเพลง ‘ไม่อยากพูดว่ารักให้รู้สึกดี’ ของเมฆ จิรกิตติ์

แม้คนในวงจะงง ๆ แต่ก็พอเข้าใจได้ว่านี่อาจเป็นหนึ่งในวิธีประกาศให้แฟน ๆ ได้รู้ว่าเขากับมือกีตาร์ของวงน่ะเป็นแฟนกัน ดังนั้นจึงไม่มีใครคิดแย้งอะไร

“ต่อไปเป็นเพลงที่ผมอยากร้องให้กับคนๆ หนึ่งครับ” เนสหันมาเอ่ยกับแฟนคลับและลูกค้าของร้านพี่เฟิ่ง “เพลงนี้ไม่ใช่เพลงของวงเรา แต่ผมคิดว่าอยากจะร้องเพราะมันตรงกับสิ่งที่ผมต้องการจะสื่อให้คนๆ นั้นได้รับรู้ความในใจของผม ไปฟังกันเลยครับ”

ดนตรีประสานดังขึ้นทันทีที่แทงค์ให้สัญญาณด้วยการเคาะไม้กลองเข้าด้วยกันสามครั้ง จนเข้าท่อนแรกที่เนสร้องออกไปด้วยเสียงนุ่มทุ้ม จนเข้าสู่ท่อนฮุกที่ชายหนุ่มหันไปสบตากับมือกีตาร์...คลาร์ก แฟนหนุ่มของเขา

ไม่อยากจะพูดว่ารักให้เธอรู้สึกดี

อยากทำอะไรดีๆ ให้เธอรู้สึกรัก

ไม่ต้องพูดเพื่อเอาใจ

อยากให้เธอนั้นดูที่การกระทำ ของฉัน

แล้วนักร้องนำของวงก็ทำในสิ่งที่ไม่มีใครคาดคิด เมื่อเจ้าตัวเดินตรงไปหามือกีตาร์ก่อนจะรั้งคออีกฝ่ายโน้มเข้ามาหาแล้ว...กดจูบลงไปบนเรียวปากของคลาร์กท่ามกลางสายตาคนทั้งร้านเหล้า!

“กรี๊ดดดดดดดดด!!!!!!!!!”

“เฮ้ย!!!”

“อ๊ายยย พี่เนสกับพี่คลาร์กจูบกันอ่ะ!”

“เขาคบกันเหรอวะ เฮ้ยๆๆ”

เสียงของคนในร้านดังเซ็งแซ่ ทันทีที่เนสถอนจูบออก หนุ่มผมทองก็สบตากับหนุ่มลูกครึ่งที่กำลังเบิกตาค้างด้วยสายตาเป็นประกายหยอกล้อ ก่อนจะหันกลับมาหาคนดูแล้วกล่าวขึ้นว่า...

“ผมกับคลาร์กเป็นแฟนกันครับ พวกเราคบกันมาได้สามปีแล้ว”

“กรี๊ดดดดด!!!!”

“เชี่ยยย เปิดตัวว่ะ”

“โหยพี่แม่งจริง!”

หลายเสียงยังคงดังขึ้นด้วยการพูดถึงข่าวน่าช็อกของสมาชิกวงเหล้า...ศิลปินหน้าใหม่ไฟแรงแห่งปี

ท่ามกลางสายตาและเสียงกรี๊ด ก่อนที่เพลงจะดำเนินต่อไปพร้อมกับที่นักร้องนำกลับมาร้องเพลงอีกครั้ง คลาร์กก้าวเข้ามาใกล้เนสมากขึ้นก่อนจะกระซิบคำพูดให้ได้ยินกันแค่สองคน...

“ร้ายนักนะ แต่...กูชอบว่ะ รักมึงชะมัด”

น้ำคำที่ทำให้เนสเกือบหลุดหัวเราะ แต่พยายามฝืนไว้และทำแค่ฉีกยิ้มกว้าง พลางคิดในใจว่า...

เออ กูก็รักมึง

ไว้บอกมันหลังจากจบงานคืนนี้แล้วกัน หึ ๆ




[FIN]





__________

กว่าจะแต่งจบ โฮกกก ไม่ได้เขียนนิยายแบบจริงๆ จังๆ นานมาก เพราะทุกวันนี้ก็ทำอย่างมากแค่รีไรท์ตัดนั่นเพิ่มนี่เท่านั้น พอมาเขียนตอนพิเศษตอนสุดท้ายที่จะลงเว็บหลังจากไม่ได้เขียนมานาน ก็รู้สึกว่ามันดูแปลกพิกล อ้อ อ่านๆ ไปถ้าใครงงหรือคิดว่ามันไม่สมเหตุสมผลต้องขอโทษด้วยนะคะ เราปวดตาอ่ะ สมองเบลอๆ ยังไงจะกลับมาตรวจทานแล้วแก้ให้นะคะ เอาแบบนี้ไปอ่านก่อนเนอะ

อยากทอล์คอีกหลายเรื่องแต่คิดว่าไม่ไหวแล้วล่ะ ต้องนอนแล้ว ไว้โอกาสหน้าจะมาชวนคุยนะคะ ไม่รู้จะมีคนอยากคุยกับเรามั้ย เห็นชวนคุยทีไรเงียบกันทุกที ฮือออ แล้วพบกันเมื่อมีโอกาสค่ะ คิดถึงนะ รักมากด้วย จุ๊บๆ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22-12-2017 00:21:46 โดย Hazel_nut »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7

ออฟไลน์ เป็ดอนุบาล

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-2

ออฟไลน์ k2blove

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1868
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-3

ออฟไลน์ aoihimeko

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3132
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +155/-9

ออฟไลน์ MSeraph

  • This too shall pass
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1751
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-3
คู่นี้ก้น่ารักนะเนี่ยย
ขอบคุณค่าาา

ออฟไลน์ JokerGirl

  • ∀Σ❤∀ΔΣ Forever^^
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2921
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
เป็นการเปิดตัวที่อล่างฉ่างมาก5555 เหมาะกับนิสัยเนสดี :laugh:

ออฟไลน์ Gatjang_naka

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 619
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
ท่านเจ้าที่ 555 อยากไปจุดธูปที่ศาลพระภูมิ แล้วด่ามั่งเลย555 เผื่อจะได้แบบนี้บ้าง :hao7:

ออฟไลน์ Persephone

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 48
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
คือเมื่อกี้ดูทีวี มีธุรกิจบ้านเทวดา แบบ เฮ้ย เหมือนเรื่องนี้เลย ใช่เลยอ่ะ55555555 แค่ไม่มีลายชมพูพาสเทลกับยูนิคอร์นสีรุ้ง :hao7:

Cr.The angel home บ้านเทวดา

ออฟไลน์ beer9999

  • หนึ่งนาทีเพื่อรัก
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 76
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-4
    • https://www.facebook.com/nok.kaew0801219232
ชอบอ่ะ น่ารักดี แต่ น้ำตาไหลแปบกลั้นไม่อยู่อ่ะ ขอบคุณน๊า

ออฟไลน์ airicha

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 856
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
น่ารักมาก อ่านแล้วชอบ
แต่อยากอ่านคู่ไวท์กับคู่ของธีร์ด้วย
อยากรู้เรื่องราว เกี่ยวโยงกับท่านเจ้าที่ยังไง
แค่ยังไงก็ขอบคุณนิยายดีๆนะคะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Hazel_nut

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 164
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +164/-3

Special Chapter

HAPPY NEW YEAR

 

ปีใหม่ปีแรกที่เขาสูญเสียหัวใจไปมันเป็นยังไง...แทงค์จำได้แม่นเลยล่ะ

ก่อนที่จะได้พบกับท่านเจ้าที่ ปีใหม่ของเขาก็แค่วันธรรมดาวันหนึ่ง ไม่มีอะไรพิเศษไปกว่าเดิม ก็แค่ไปสังสรรค์กับเพื่อน แล้วกลับบ้านมานอนในสภาพที่มีสติและเมากรึ่มๆ เท่านั้น หรือไม่ก็เมาหนักจนหลับคาที่ต้องให้เพื่อนมาส่ง

ไม่มีอะไรพิเศษเลยจริงๆ จนเมื่อเขาได้พบกับคนที่รักมากกว่าใคร หากแต่ก็เสียอีกฝ่ายไปในเวลาไม่นานเช่นกัน

ปีใหม่ปีนั้นเปรียบดั่งนรกสำหรับเขา หลายเดือนนับจากที่ท่านเจ้าที่จากไป แทงค์ไม่เคยทำใจได้เลย เขายังคงไปเรียน ไปทำงาน ไปเที่ยวกับเพื่อน แต่ทุกอย่างที่เขาทำไร้ซึ่งความสุข ราวกับว่าคำๆ นั่นมันโดนขโมยไปจากชีวิตของเขา ทิ้งไว้เพียงความคิดถึงและความเสียใจที่โอบล้อมรอบตัวเขาไม่จางหาย

ตอนนั้นเขาปฏิเสธคำชวนของเพื่อน ไม่ว่าจะพวกไอ้เนสหรือไอ้ธีร์ ไม่ว่าใครเขาก็ไม่ตอบรับคำชวนไปเคานท์ดาวน์ด้วยเลยแม้แต่คนเดียว เพราะเขาไม่อยากไปไหน อยากอยู่เงียบๆ ในบ้านที่มีแตค่เขากับความทรงจำที่คิดถึง

คืนนั้นหนาวจับใจ ทรมานราวกับมีเกล็ดน้ำแข็งห่อหุ้มตัวเขาทั้งๆ ที่มันไม่มีทางเป็นไปได้ ก็ในเมื่อนี่มันประเทศไทยนะ จะไปหนาวจับจิตจับใจแบบนั้นได้อย่างไรกันล่ะ

เวลานับถอยหลัง แทงค์นอนเหม่อมองนาฬิกาอยู่บนเตียงนอน ไม่นำพากับเสียงพลุที่ดังมาให้ได้ยิน เสียงสรวลเสเฮฮาของเพื่อนบ้านที่กำลังฉลอง เสียงเพลงรื่นเริง ไม่ว่าเสียงอะไรก็ราวกับลอยผ่านการรับรู้ของเขาไปหมดทั้งสิ้น

เขาปิดตาลงในตอนที่เข็มนาฬิกาเลื่อนจากห้าสิบแปดนาทีเป็นห้าสิบเก้านาที...อีกแค่นาทีเดียวเท่านั้นวันสุดท้ายของปีนี้ก็จะผ่านไป และปีใหม่ก็จะมา

ปีใหม่ที่เขาก็ยังคงสูญเสียหัวใจไปอยู่ดี

ชายหนุ่มนอนลืมตานิ่งๆ อยู่ท่าเดิม ไม่นำพาต่อเสียงพลุที่ดังขึ้น เสียงเฉลิมฉลองหรือเสียงเพลง ไม่ว่าเสียงอะไรก็ไม่เข้าหูของเขา ปล่อยความคิดให้ล่องลอยไปอย่างไร้จุดหมาย ในสมองวนเวียนคิดแต่ว่าตอนนี้ท่านเจ้าที่จะเป็นยังไง ไปเกิดใหม่ที่ไหน ครอบครัวที่ได้ต้อนรับอดีตเทวดาผู้สูงศักดิ์จะดูแลเขาดีหรือเปล่า

และเขาคงจะเป็นอย่างนั้นจนถึงเช้าหากไม่ใช่เพราะเหล่าเพื่อนๆ ของเขาบุกมาถึงที่บ้านเพื่อลากเขาออกไปสังสรรค์ วันนั้นเขาเผลอตวาดใส่พวกมันไปด้วยซ้ำตอนที่โดนตื๊อมากๆ เข้าจนตัวเองรำคาญ

“มึงจะไปไหนก็ไป แต่กูไม่ไปไหนทั้งนั้น!!!”

“ไอ้แทงค์! มึงเลิกเป็นอย่างนี้ได้ไหมวะ!?”

“กูจะเป็นยังไงก็เรื่องของกู อย่ามายุ่ง!”

“ไม่ยุ่งไม่ได้ เพราะมึงเป็นเพื่อน แล้วพวกกูจะปล่อยมึงให้จมกับควาเศร้าต่อไปได้ยังไง! มึงรู้ตัวไหมว่าตอนนี้สภาพมึงดูไม่ได้ขนาดไหน หา?!”

“...”

“กูเข้าใจว่ามึงเสียใจ แต่อย่าทำร้ายตัวเองดิวะไอ้แทงค์”

“นั่นดิ พวกกูเป็นห่วงนะเว้ย ถ้ามึงอยากระบายก็พูดกับพวกกู แต่อย่าเป็นแบบนี้ อย่าทำเหมือนชีวิตมึงไม่เหลือใครทั้งๆ ที่มึงยังมีเพื่อนอย่างกู ไอ้เนส ไอ้คลาร์ก ไอ้ฮัท ทุกคนที่เป็นเพื่อนมึงยังยืนอยู่ตรงนี้ ตรงหน้ามึงนี่ไง!”

“...”

“เพราะงั้นช่วยเห็นความห่วงใยของพวกกูเหอะนะ”


คำพูดของไอ้พัฟในตอนนั้นทำให้เขาได้สติ แทงค์เริ่มกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง เหตุผลแรกเพราะไม่อยากให้เพื่อนเป็นห่วง ก็จริงอย่างที่มันพูด...เขาไม่ได้อยู่คนเดียว ตอนนี้เขายังมีเพื่อน มีญาติพี่น้องเหลืออยู่ แม้จะไม่ได้ใกล้ตลอดเวลา แต่ก็ยังสัมผัสได้ถึงความห่วงใยเสมอ

และเขาไม่ควรทำให้คนเหล่านี้เป็นห่วงไปมากกว่านี้อีก

เวลาผันผ่าน จากปีใหม่ปีนั้นเข้าสู่ปีใหม่ปีต่อมา แต่ทุกอย่างไม่เหมือนเดิม...แทงค์ไม่ได้เศร้าเสียใจร้องไห้คนเดียวอีกแล้ว เขากลับมาใช้ชีวิตตามปกติ ไปเที่ยวเล่น ทำงาน ไปเรียน ไปสังสรรค์กับเพื่อน หากแต่สิ่งหนึ่งที่เขายังคงเฝ้านึกถึงเสมอก็คือท่านเจ้าที่

เพราะไม่ว่าอย่างไรเขาก็หยุดรักและคิดถึงคนๆ นั้นไม่ได้...ไม่มีวัน

ปีใหม่ปีที่สามเวียนผ่าน เขาดำเนินชีวิตด้วยความสุขที่มากกว่าเดิม และแน่นอนความคิดถึงคำนึงหาท่านเจ้าที่ก็ยังมีอยู่เช่นเดิมเหมือนกัน เขากลายเป็นศิลปิน มีเพลง มีแฟนคลับ เป็นที่รู้จักมากขึ้น

แต่สิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นกับเขาเมื่อได้ทำงานร่วมกับโมเดลลิ่งชิ้นนั้น...งานที่ทำให้เขาได้พบกับคนที่จากไปและกลับมายืนอยู่ตรงหน้าเขาอีกครั้งแบบที่ไม่เคยคิดฝันมาก่อน

ท่านเจ้าที่ของเขากลับมาหลังจากปีใหม่ปีที่สามผ่านพ้น

 

 

ปีนี้คือปีใหม่ปีที่สี่ แต่ไม่ใช่ปีที่เขาสูญเสียหัวใจอีกแล้ว...

คนที่หัวใจเฝ้าคิดถึงมาอยู่ตรงหน้าเขา กอดเขาเอาไว้ท่ามกลางลมหนาวที่พัดโชยมาสัมผัสผิวกาย

“นึกยังไงพาผมมาเที่ยวที่นี่”

มือกลองหนุ่มเอ่ยถาม แย้มยิ้มเมื่อได้ยินคำตอบที่กระซิบอยู่ข้างหู

“ก็แค่คิดว่าที่นี่โรแมนติกดี”

“เหรอ”

“ไม่คิดงั้นเหรอ?” ร่างสูงย้อนถาม แขนแกร่งปล่อยคนร่างโปร่งออกเพื่อมองสบตา คิ้วเข้มเลิกขึ้นสูงเป็นเชิงขอคำตอบจากคำถามที่ได้เอ่ยออกไป

คนโดนถามยิ้มกริ่ม “ก็ดี”

“แค่ก็ดีเนี่ยนะ?”

“อ่า...ฮะ งั้นอยากได้คำตอบแบบไหนล่ะ”

“ที่นี่ดีมาก ผมชอบ”

“โห นี่มั่นใจมากเลยสินะว่าผมต้องชอบที่นี่”

“แน่นอน” นายแบบหนุ่มยิ้มเจ้าเล่ห์ โน้มใบหน้าลงแนบหน้าผากตนเองกับหน้าผากของคนรัก ดวงตาสีรัตติกาลสบลึกเข้าไปยังนัยน์ตาของอีกฝ่าย “เพราะพี่ตั้งใจให้ที่นี่เป็นความทรงจำที่ดีที่สุดในการฉลองปีใหม่ปีแรกของเรา”

แทงค์นิ่งงันไป ชายหนุ่มหวนนึกไปถึงเทศกาลปีใหม่เมื่อปีก่อนๆ คิดแล้วก็หลุดหัวเราะออกมาอย่างห้าไม่ได้เมื่อนึกย้อนไปถึงปีนั้นที่เขาโดนไอ้พัฟพูดเคตือนสติ ก่อนวันต่อมามันจะลากเขาไปฉลองปีใหม่ที่ต่างจังหวัด

ภูตลาต้องเอ่ยถามเมื่อเห็นคนรักหัวเราะขึ้นมาเสียเฉยๆ “หัวเราะอะไรเนี่ย”

“เปล่าๆ ผมไม่ได้ขำพี่นะ แต่ผมนึกถึงครั้งก่อนนู้นที่ผมไม่ยอมไปฉลองปีใหม่ที่ไหนเพราะยังเสียใจเรื่องพี่น่ะ”

“อ่า...” พอได้ยินแบบนั้นนายแบบหนุ่มก็พูดอะไรไม่ออก สีหน้ารู้สึกผิดฉายชัดจนแทงค์ต้องโบกมือไปมาแล้วว่า

“อย่าคิดมากเลย ตอนนั้นพี่ก็ไม่ได้อยากทิ้งผมไปนี่จริงมั้ย?”

“อืม”

“ปีนั้นผมอาการแย่มากล่ะมั้ง เอาแต่เรียน ทำงาน แต่ไม่ยอมไปเที่ยวไปสังสรรค์ที่ไหนกับเพื่อนเลย พวกไอ้เนสกับไอ้พัฟไม่รู้ว่ามันไปคุยวางแผนกันตอนไหน พวกมันบุกมาลากผมออกไปเที่ยวที่อยุธยา พาไปไหว้พระเก้าวัดอ่ะ ฮ่าๆๆ”

“นึกว่าจะไปทะเลหรืออะไรทำนองนั้นเสียอีก”

“นั่นสินะ แต่รู้ไหมพวกมันให้เหตุผลกับผมว่าอะไร”

“อะไรล่ะ?”

“พวกมันบอกว่ามึงเอาแต่เสียใจแบบนี้ จิตใจมึงก็ไม่ยอมสงบลงสักที มาไหว้พระบ้างเผื่อว่าจะทำให้จิตใจสงบและปลงได้กับการจากไปของพี่”

“ฮะๆ นายมีเพื่อนที่ดีนะ”

“นั่นสิครับ” แทงค์ตอบรับพลางหัวเราะ

ร่างสูงนึกบางอย่างขึ้นได้ “ว่าแต่นายบอกพวกเขาไปว่าอะไรเหรอ ตอนที่พี่ไม่อยู่แล้วน่ะ”

“อ้อ ผมบอกไปว่าพี่ย้ายไปแล้ว พวกมันก็ถามนะว่าผมโดนพี่ทิ้งเหรอ ผมก็บอกว่าเปล่า แต่พี่แค่จำเป็นต้องไป และคงจะไม่ได้เจอกันอีก”

“แล้วพวกเขาก็เชื่อ?”

“แรกๆ ไอ้เนสไอ้คลาร์กก็โมโหแหล่ะ มันปักใจเชื่อว่าพี่ทิ้งผม แต่พอผมยืนยันมากๆ เข้าพวกมันก็เชื่อ แถมยังแต่งเรื่องเพิ่มความเข้าใจให้ตัวเองด้วยการคิดเป็นตุเป็นตะว่าพี่เป็นลูกเศรษฐีพันล้านจากต่างประเทศ แต่โดนกีดกันไม่ให้รักกับผมเลยต้องแยกจากกัน”

“ฮ่าๆๆๆๆ” ได้ฟังมาถึงตรงนี้ภูตลาก็อดจะหัวเราะลั่นไม่ได้ ความคิดของมนุษย์นี่ช่างบรรเจิดดีจริงๆ “แล้วนายบอกพวกเขาว่าไง”

“หึๆ ก็บอกแค่ว่าอยากคิดอะไรก็เชิญ” แทงค์หัวเราะตาม “แต่ตอนนี้พวกมันก็เชื่อตามที่พี่โกหกกับท่านประธานและสื่อมวลชนนั่นล่ะ ว่าพี่ไปเป็นนายแบบตามความฝันเลยต้องไปจากผม”

“อืมมม แบบนี้ดีกว่านะ ไม่เว่อร์จนเกินจริง ไม่คิดงั้นเหรอ?”

“ครับๆๆ แฟนผมเนียนกว่าครับ ฮ่ะๆ”

นายแบบหนุ่มรั้งร่างโปร่งมากอดอีกครั้ง หากแต่คราวนี้สวมกอดจากด้านหลังแทน วางคางลงบนศีรษะของแทงค์แล้วโยกตัวไปมาพาให้มือกลองหนุ่มต้องหลุดหัวเราะอีกรอบ อยากจะแซ็วอยู่หรอกว่าทำเหมือนเขาเป็นเด็กๆ แต่พอดีว่าเขาก็ชอบน่ะนะ เลยไม่ได้ท้วงอะไร

“ว่าแต่จะบอกได้หรือยังว่าทำไมพาผมมาที่นี่ บ้านพักตากอากาศกลางเขาแบบนี้ไม่ใช่จะจองก็จองได้ง่ายๆ พี่ไปแอบจองเอาไว้ตั้งแต่ตอนไหนกันเนี่ย”

“ก็หลายเดือนอยู่นะ แล้วก็อย่างที่พี่บอกไปนั่นล่ะ พี่อยากให้ปีใหม่ปีแรกของเราเป็นที่น่าจดจำที่สุด”

ได้ฟังดังนั้นแทงค์ก็รู้สึกอิ่มเอมใจอย่างบอกไม่ถูก แก้มแทบปริเมื่อเขาไม่สามารถหุบยิ้มลงได้ มีแต่จะยิ้มกว้างมากขึ้นกว่าเดิมเรื่อยๆ ซะด้วยซ้ำ

“นี่”

“หืม?”

“ผมมีของขวัญปีใหม่ให้พี่ด้วยนะ”

“หืมมม” ร่างสูงทำตาเป็นประกาย แบมือไปตรงหน้าคนรักทันที “ไหนๆๆ”

“อยู่ในห้องอ่ะ”

“งั้นไปเอา” ว่าแล้วก็จับจูงมือบางให้เดินกลับเข้าห้องพัก แต่แทงค์ก็รั้งเอาไว้ซะก่อน

“พี่อยู่นี่แหล่ะ เดี๋ยวผมเข้าไปเอาคนเดียว”

“จะเซอร์ไพรส์กันหรือไง หึๆ”

“ไม่มีเซอร์ไพรส์ไรทั้งนั้น อย่าหวังเลย ฮ่าๆๆ” มือกลองหนุ่มหัวเราะขำ “รอนี่แหล่ะ อีกสิบนาทีจะเที่ยงคืนแล้ว ผมอยากให้เห็นพลุ”

“ไม่เห็นเกี่ยวกับที่จะกลับเข้าไปเอาของในห้องเลย”

“เกี่ยวแน่ๆ เพราะถ้าพี่เข้าไปด้วย เดี๋ยวพี่ก็หาเรื่องจับผมทุ่มลงเตียงแล้วเคานท์ดาวน์บนเตียงแทนน่ะสิ!”

“ฮ่าๆๆๆ”

“หัวเราะแบบนี้ผมพูดถูกใช่ไหมล่ะ เจ้าที่อะไรวะหื่นชะมัด”

“ตอนนี้พี่ไม่ได้เป็นเจ้าที่แล้วนะแทงค์ จะหื่นกับแฟนก็ไม่แปลกหรือเปล่าครับ? หึๆ”

แทงค์แกล้งถลึงตาใส่ร่างสูงก่อนจะรีบก้าวเท้าเข้าไปในห้อง ไม่อยากต่อปากต่อคำกับแฟนหนุ่มมากไปกว่านี้เพราะกลัวจะถึงเวลาเคานท์ดาวน์เสียก่อน

ไม่นานชายหนุ่มก็เดินกลับออกมาพร้อมกับกล่องขนาดพอเหมาะไม่เล็กหรือใหญ่จนเกินไป เป็นกล่องสำเร็จรูปที่สามารถเปิดฝาได้เลยโดยไม่ต้องเสียเวลาแกะกระดาษใดๆ ทั้งสิ้น

“เหลืออีกกี่นาทีครับ”

“ห้านาที” ภูตลาหันมาตอบ ดวงตาคู่คทเหลือบลงมองกล่องในมือบาง “นั่นของพี่?”

“อ่าฮะ แต่จะว่าไปผมมีของให้พี่แล้วพี่ล่ะ มีให้ผมบ้างเปล่า?” แทงค์เลิกคิ้วยียวนใส่ ให้คนตัวโตกว่าขยี้เส้นผมอย่างมันเขี้ยว

“พี่ก็พามาเที่ยวที่นี่ไง นี่แหล่ะของขวัญปีใหม่ของพี่”

“พูดจริง?”

นายแบบหนุ่มพยักหน้า ก่อนจะรีบถาม “โกรธหรือเปล่า?”

“ฮะ? โกรธอะไร ผมไม่ได้โกรธอะไรนะ”

“ก็ที่พี่ไม่มีของขวัญให้ไง”

“เฮ้ย! ไม่โกรธๆ ผมก็แค่ถามไปงั้น แค่พี่พามาเที่ยวก็เป็นของขวัญที่ดีที่สุดแล้ว” แทงค์ยิ้มละไมให้แฟนหนุ่ม ก่อนจะยื่นกล่องในมือให้อีกฝ่าย “อ่ะ เอาไปเปิดดูสิครับ”

“เปิดได้เลยเหรอ?”

“ใช่”

อดีตเทวดาหนุ่มรับกล่องมา เรียวนิ้วแกร่งเตรียมเปิดฝากล่องด้วยความตื่นเต้น เหลือบขึ้นสบตาสีนิลสวยของคนรัก เมื่ออีกฝ่ายพยักหน้ายิ้มกว้างให้ ชายหนุ่มก็เปิดกล่องออกทันที

ของในกล่องเป็นของธรรมดา แต่ทันทีที่เห็น...ภูตลาก็ไร้ซึ่งคำพูดใดจะเอ่ยออกมาแทนความรู้สึกเต็มตื้นในใจ

ในนั้นคือสมุดเล่มหนึ่ง หน้าปกมีรูปคู่ของพวกเขาสองคนพร้อมกับประโยคหนึ่งประกอบรูปถ่ายนั้น...

ความทรงจำครั้งใหม่ของเรา

“เปิดดูข้างในสิครับ” มือกลองหนุ่มพยักพเยิดหน้าให้กับของในกล่อง

ภูตลาหยิบสมุดออกมาก่อนจะเปิดสู่หน้าแรก แล้วเขาก็ได้รู้ว่าสิ่งนี้คือสมุดภาพของเขากับแทงค์

ในนั้นมีภาพของพวกเขาตั้งแต่วันแรกที่กลับมาเจอกัน...วันแถลงข่าวและจูบหวานๆ บนเวทีท่ามกลางสื่อมวลชนและแฟนคลับ ภาพที่ถ่ายด้วยกันอัพลงโซเชียลแทบทุกวัน หรือแม้แต่ภาพที่เราถ่ายเล่นกันในวันหยุด ทุกๆ ภาพล้วนมีความหมาย เพราะมันคือการรวมช่วงเวลาที่เราได้กลับมาอยู่ด้วยกันอีกครั้ง

หน้าสุดท้ายของสมุดภาพคือประโยคเรียบง่ายแต่ตราตรึงหัวใจคนอ่านที่สุด

I LOVE YOU

นายแบบหนุ่มเงยหน้าสบตาเป็นประกายของคนรัก มือหนาข้างหนึ่งละจากสมุดภาพมาจับใบหน้าขาวใสของมือกลองหนุ่ม ก่อนจะโน้มลงจุมพิตที่ริมฝีปากอิ่ม เนิ่นนานก่อนจะผละออกเพื่อกระซิบบอกคำรักหวานๆ กลับไป กอ่นที่เสียงพลุจะดังขึ้นเมื่อเวลาเที่ยงคืนมาถึง

“ไอเลิฟยูทู”

ปั้ง! ปั้ง!

“แฮปปี้นิวเยียร์ครับพี่ภู”

“สุขสันต์วันปีใหม่ครับ”

อ้อมกอดอันอบอุ่นในวันปีใหม่แรกของพวกเรา...แทงค์จะไม่มีวันลืมเด็ดขาด





__________

ตอนพิเศษปีใหม่ค่ะ มาช้ามากกก 55555 แต่หวังว่าจะยังมีคนอยากอ่านนะคะ ฮือ ปีใหม่ปีแรกของอดีตท่านเจ้าที่กับน้องแทงค์ เราห่างหายจากการเขียนนิยายไปเป็นเดือนได้ ถ้าภาษามันแปลกๆ ก็บอกได้นะคะ เราก็มึนๆ งงๆ เหมือนกัน ป่วยอยู่ด้วย เป็นหวัดมาหลายวันแล้ว พิมพ์ไปไอไป เอื้อ จะตายยย

ช่วงนี้ดองหมดทุกอย่าง เพิ่งส่งต้นฉบับท่านเจ้าที่ไปค่ะ เลยยังไม่ได้เขียนอะไรอีก เรื่องของตายนั่นก็ชะงักงันไปเป็นเดือนกว่าๆ แล้วเช่นกัน แง อยากเขียนนะ แต่ฟีลตอนนี้ไม่มีอารมณ์จริงๆ ค่ะ ไม่มีแรงใจจะเขียนเลย ทำไงดี แง้ อยากจะกรีดร้องโวยวายใส่ตัวเองเหลือเกิน

ก็...ขอสวัสดีปีใหม่ย้อนหลังนะคะ ขอให้ปีนี้นักอ่านทุกคนของท่านเจ้าที่พบเจอแต่สิ่งที่ดีเข้ามาในชีวิต มีปัญหาอุปสรรคอะไรก็ขอให้ป่านพ้นไปได้อย่างรวดเร็ว ร่ำรวยเงินทอง มีความสุขในทุกๆ วันกันนะคะ รักกกก //มินิฮาร์ท



ออฟไลน์ เป็ดอนุบาล

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-2

ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0

ออฟไลน์ aoihimeko

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3132
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +155/-9

ออฟไลน์ mentholss

  • "เหตุผล" หรือ "ข้ออ้าง"
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1278
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-1

ออฟไลน์ zysygy

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 100
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0

ออฟไลน์ ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น

  • Administrator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6853
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1320/-22
พล็อตเรื่องน่าติดตามดีครับ
ฮาไปกับความง๊องแง๊งของทั้งคู่

ตอนจบค่อนข้างจะเคลียร์ไปเรื่องราวบางส่วนใน ตอนพิเศษ ถือว่าได้รวมยอมรับได้ว่าจบแล้ว

ออฟไลน์ Praykanok

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 234
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
น่าร้ากกกกกกกก อ่านรวดเดียวจบเลยยยยย
เขินท่านเจ้าที่มากกกกก ><

ออฟไลน์ Noname_memi

  • 7 or never, 7 or nothing
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1
ฮามากชอบ  5555555  :laugh:

ออฟไลน์ Noname_memi

  • 7 or never, 7 or nothing
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1
 :a5: o22 พีค! 55555 นึกว่าผีสาวจะมาตามแทงค์

ที่ไหนได้อยากเห็นท่านเจ้าที่  :m20:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด