[END] Oh! God ผมโดนท่านเจ้าที่ตามรังควานครับ!:: จบแล้ว [22-08-2018]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [END] Oh! God ผมโดนท่านเจ้าที่ตามรังควานครับ!:: จบแล้ว [22-08-2018]  (อ่าน 97836 ครั้ง)

ออฟไลน์ xหยกน้อยx

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 113
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
รักท่านเจ้าที่

ออฟไลน์ Hazel_nut

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 164
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +164/-3
ตอนที่ 39

“เปล่าสักหน่อย”

 

หนึ่งสัปดาห์ต่อมา

ผมฮัมเพลงอย่างอารมณ์ดีในตอนที่มารวมพลกับพวกไอ้เนสก่อนจะไปร้านพี่เฟิ่ง ตอนนี้หกโมงเย็นแล้วครับ วันนี้พวกเราค่อนข้างสายนะเนี่ย ต้องขึ้นเล่นตอนหนึ่งทุ่มด้วย แต่ไม่เป็นไรหรอก ไปทันแน่นอน

“หน้าตาเบิกบานจังนะ” ไอ้เนสเอ่ยแซะ

“แหงสิ ก็วันนี้วันเกิดมันนะ ไม่ให้อารมณ์ดีได้ไง” ไอ้คลาร์กเป็นลูกคู่รับไม้ต่อมาในการแซะผมทันที

แต่ที่มันพูดก็ถูกแล้วครับ วันนี้เป็นวันเกิดผม อันที่จริงผมลืมไปแล้วด้วยซ้ำ ถ้าไม่ใช่เพราะท่านเจ้าที่ถามขึ้นในวันหนึ่งที่เรากำลังปูเสื้อนอนเล่นอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ใกล้ ๆ กับชิงช้าที่เขาทำให้ผมอยู่ล่ะก็ ผมคงลืมสนิทไปแล้วล่ะ

‘วันเกิดนายจะไปไหนหรือเปล่า?’

‘วันเกิดใคร?’ จำได้ว่าตอนนั้นผมย้อนถามพร้อมทำหน้างงส่งให้ไปด้วย เขาก็เลยเขกมะเหงกลงหัวผมหนึ่งที

‘วันเกิดนายไง ลืมเหรอเนี่ย’

‘เออ จริงด้วยวะ! ผมลืมจริง ๆ นะเนี่ย ฮะ ๆๆ’

สุดท้ายผมก็ยังไม่ทันได้ตัดสินใจเลยว่าจะไปฉลองวันเกิดที่ไหน เพราะคนที่ตัดสินใจแทนผมน่ะคือไอ้พวกเพื่อนเฮงซวยทั้งหลายนี่ไง พวกมันบอกว่าจะจัดงานฉลองวันเกิดให้ผม ส่วนพี่เฟิ่งก็เห็นดีเห็นงามรับปากว่าจะเลี้ยงเหล้าฟรี งานนี้ไอ้พวกขี้เมาอย่างไอ้เนสกับไอ้คลาร์กเลยชอบใจใหญ่ บังคับผมให้มางานวันเกิดของตัวเองที่จัดขึ้นในร้านพี่เฟิ่งจนได้

งงไหมครับ? บังคับเจ้าของวันเกิดมางานวันเกิดของตัวเอง ตลกดีว่ะ ฮ่า ๆๆ

“ตั้งแต่มีผัวนี่หน้ารื่นรมณ์ตลอดดด” ผมคงเผลอยิ้มออกมาล่ะมั้ง ไอ้เนสเลยแซ็วทั้ง ๆ ที่มันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าผมยิ้มเพราะอะไร ผมก็เลยสวนกลับอย่างไม่ยอมน้อยหน้า

“ตั้งแต่มึงกับไอ้คลาร์กเป็นผัวเมียกันก็น่าหมั่นไส้ขึ้นตลอด ๆ เหมือนกันนะ”

แล้วก็ได้รับนิ้วกลางกับคำด่ากลับมาหนึ่งคำเน้น ๆ “สัด!!!”

“ฮ่า ๆๆๆๆ” พวกเราหัวเราะลั่น ตบหัวเอ่ยแซ็วกันอีกยกหนึ่ง

“ไอ้คลาร์กมึงช่วยออกค่าเหล้าด้วย ถึงพี่เฟิ่งบอกจะเลี้ยงแต่เราก็น่าจะเกรงใจเขาหน่อย เปิดขวดทีไม่ใช่ถูก ๆ เดี๋ยวร้านพี่เขาขาดทุน พวกมึงยิ่งแดกเหล้าต่างน้ำกันอยู่ด้วย”

“เอ๊า ทำไมต้องกูอ่ะ พวกมึงก็ช่วยกันด้วยดิ มีแค่ไอ้แทงค์คนเดียวก็พอที่แดกฟรี” ไอ้ฝรั่งเอ่ยแย้ง

“ก็มึงรวย” ไอ้ฮัทพูดมาคำเดียวพวกผมก็ถึงกับฮาลั่น มีแค่คนที่รวยอยู่คนเดียวเท่านั้นที่ทำหน้าเอือมใส่

 “งั้นมึงเลี้ยงนะคลาร์ก พวกกูรอแดก” ไอ้เนสเอ่ยอย่างชอบใจ ตบไหล่ผัวมันดังตุบ ๆ

“ไม่ได้ครับเมีย ถึงผัวจะรวยมากแค่ไหน แต่งานนี้เลี้ยงไอ้แทงค์ก็ต้องหารกันสิครับ เอาไว้เราแดกเหล้าด้วยกันสองคนเมื่อไหร่ ถ้าเป็นตอนนั้นเดี๋ยวผัวจะเลี้ยงเมียไม่อั้นเลยครับ หึ ๆ”

“แล้วมึงจะได้มอมมันให้เมาหนัก ๆ ก่อนจะจับปล้ำสินะ” ไอ้ฮัทเอ่ยต่ออย่างรู้เท่าทันความคิดไอ้ฝรั่งดี ผมงี้หัวเราะลั่นเลย ไอ้ฉิบหาย พวกมึงจะตลกกันเกินไปแล้ว ฮ่า ๆๆๆ

“มึงก็อย่าพูดดิวะ รู้ทันกูได้แต่เงียบ ๆ ไม่เป็นไง๊!”

“ไอ้ฝรั่งแผนสูง อย่าหวังจะได้แอ้มกูเลยสัด!” ไอ้เนสขึงตาใส่ ก่อนจะหน้าแดงแทนเมื่อผัวมันบอกว่า...

“ได้ข่าวกูแอ้มมึงมาหลายครั้งละนะเมีย”

“ไอ้เหี้ยยย”

__________

วันนี้พี่เฟิ่งให้พวกผมเล่นถึงแค่ครึ่งแรก ส่วนครึ่งหลังเปิดเพลงเอา เขายกให้เป็นกรณีพิเศษเพราะเห็นว่าเป็นวันเกิดผม ที่สำคัญคือเขาอยากจะเจอหน้าแฟนผมด้วย (พูดแล้วก็แอบเขินว่ะ เรียกท่านเจ้าที่ว่าแฟนเนี่ย)

พอสามทุ่มพวกเราก็เก็บอุปกรณ์แล้วมารวมตัวกันที่โต๊ะวีไอพี วันนี้นอกจากพวกไอ้เนสเพื่อนผม แล้วก็พี่เฟิ่งกับเมีย ยังมีไอ้พัฟ แล้วก็ไอ้ธีร์กับไวท์มาด้วย มากับเพื่อนของพวกมันน่ะแหล่ะครับ ไวท์มากับอัศ ส่วนไอ้ธีร์มากับเอลเลียต

“ไงมึง” เสียงทักที่ดังขึ้นพร้อมกับฝ่ามือที่ตบลงบนไหล่ของผมทำให้ผมต้องเงยหน้าขึ้นไปมอง แล้วก็เจอเข้ากับคนที่เพิ่งเอ่ยถึงในใจไปเมื่อกี้

“มาแล้วเหรอวะไอ้ธีร์ ไวท์ นั่งดิ ๆ” ผมชี้มือไปที่โซฟาที่ยังว่างอยู่ ก่อนจะยิ้มทักทายอีกสองคน “หวัดดีอัศ เอล”

“อืม” ทั้งสองพยักหน้าพลางยิ้มบาง ๆ ให้ผม อัศเสริมขึ้นอีกว่า “แฮปปี้เบิร์ดเดย์นะครับคุณแทงค์”

“ขอบใจ เออ ลืมแนะนำ นี่...” ผมแนะนำคนมาใหม่ให้เพื่อนกับพี่ ๆ รู้จัก พวกไอ้เนสไม่เคยเจอกับพวกไอ้ธีร์หรอกครับ แต่พวกมันก็ต่างฝ่ายต่างรู้นะครับว่าผมมีเพื่อนจากมหา’ลัยชื่ออะไร มีเพื่อนจากที่ทำงานพาร์ทไทม์ชื่ออะไร

ไอ้พัฟเป็นคนถัดมาที่มาถึง “มึงมาพอดี นี่พัฟ เพื่อนสนิทตั้งแต่เด็กของกู”

“ไงมึง”

“อ้าวไอ้ธีร์ มึงมาด้วยเหรอ” ไอ้พัฟกับไอ้ธีร์เอ่ยทักทายกัน แบบที่ทำให้ผมต้องขมวดคิ้ว

“พวกมึงรู้จักกันด้วยเหรอวะ?” คือผมไม่เคยรู้มาก่อนว่าพวกมันรู้จักกัน ไปรู้จักกันตอนไหนเนี่ย

“รู้จักดิ ก็ไอ้พัฟมันเรียนเอกเดียวกับกู แต่อยู่คนละห้องกัน มีแค่วิชาเดียวที่เราเรียนด้วยกัน เออ กูได้ดูหนังสั้นของไอ้พัฟนละนะ ศาลพระภูมิบ้านมึงสวยฉิบหายพออยู่ในหนัง ฮ่า ๆ”

“เอ๊า นี่พวกมึงเรียนเอกเดียวกันหรือวะเนี่ย ไม่เห็นเล่า” แม่งโคตรบังเอิญเลยว่ะ

“ก็ไม่รู้มาก่อนหรอก จนกระทั่งกูได้ดูหนังสั้นของมันก็เลยเข้าไปถามมัน ได้ความมาว่ามันเป็นเพื่อนรักตั้งแต่เด็กของมึงนั่นแหล่ะ โลกกลมชะมัด”

หลังจากนั้นพวกเราก็พูดคุยกันไปเรื่อย ดื่มไปด้วยแบบไม่ต้องเกรงใจเพราะพี่เฟิ่งสั่งเปิดขวดไม่อั้น แต่พวกผมบอกไปแล้วว่าจะขอหารเพราะไม่อยากให้พี่เขาเลี้ยงคนเดียว มันเปลืองเดี๋ยวร้านขาดทุน พี่เฟิ่งก็เลยยอมทำตามที่พวกผมขอ เขาบอกว่าดี พวกมึงช่วยกูประหยัดนี่ล่ะดี ฮ่า ๆ

ผ่านไปหนึ่งชั่วโมง ผมที่กำลังดื่มชิล ๆ ไม่ได้กระดกเอา ๆ เหมือนครั้งก่อนที่พี่เฟิ่งบังคับแดก ก็โดนพวกเพื่อนตัวดีหันมารุมถาม...ถามถึงพี่ภูของผมน่ะแหล่ะครับว่าทำไมไม่มาสักที

“ไหนพี่ภูอ่ะ มึงบอกว่าเขาจะมาไม่ใช่เหรอวะ?”

“อีกสักพักน่าจะมามั้ง เขาติดงาน”

“ติดงาน? พี่เขาทำงานไรวะ เลิกดึกจัง”

ผมยักไหล่ให้คำถามไอ้เนส ตอบแค่ว่า “ธุรกิจส่วนตัวน่ะ”

“แล้วจะมากี่โมงล่ะ พวกกูจะได้รอ ไม่อยากเมาก่อนจะได้ทำความรู้จัก ถึงครั้งก่อนจะเจอกันแต่ก็ไม่ได้ถามแม้แต่ชื่อเลยว่ะ” ไอ้คลาร์กว่าพลางวางแก้วเหล้าลงกับโต๊ะกระจก

“ไม่รู้แฮะ แต่คงไม่ถึงเที่ยงคืนหรอก”

ผมนึกไปถึงเมื่อวานที่บอกเขาว่าจะไปฉลองกับเพื่อนที่ร้านพี่เฟิ่ง ผมชวนเขาด้วยนะว่าจะมาด้วยกันไหม เทวดาเข้าร้านเหล้าผิดศีลหรือเปล่า ท่านเจ้าที่หัวเราะใหญ่ บอกว่าเข้าได้แล้วก็รับปากว่าจะมาฉลองด้วย แต่ขอเคลียร์งานก่อน

นั่นล่ะครับ เป็นเหตุผลที่ผมยังนั่งรออยู่ตรงนี้โดยไม่กระวนกระวายหรือโทรตามเขา ก็นะ...เขาทำงานนี่หน่า เห็นว่าใกล้ช่วงเลือกตั้งเข้ามาทุกทีงานก็ยิ่งยุ่งขึ้นเป็นกอง ซึ่งผมก็เข้าใจเขานะครับเลยไม่ได้เซ้าซี้อะไร หรือถ้าเขามาไม่ได้จริง ๆ ผมก็ไม่ว่าหรอก คนเรามีหน้าที่ความรับผิดชอบไม่เหมือนกัน และบางครั้งหน้าที่ก็สำคัญกว่าสิ่งอื่นใด

“เออ กูว่าจะถามไม่ได้ถามสักที” ไอ้ธีร์เอ่ยขึ้น เรียกให้ผมหลุดจากความคิดเพลิน ๆ ของตัวเอง ผมหันไปมองมันแล้วเลิกคิ้ว “ไหนบอกแค่เพื่อนบ้าน ทำไมไม่ถึงเดือนมาบอกว่าเป็นแฟนกันวะครับเพื่อน”

“เออ นั่นดิ ตอนนั้นมึงก็บอกว่าไม่ใช่ผัว แค่เพื่อนบ้าน” ไอ้เนสพยักหน้าสนับสนุน ให้ผัวมันเสริมอีกว่า...

“มาตอนนี้เป็นผัวแล้วคืออะไรเหรอครับบบ”

“มึงมีผัวตอนไหนกูไม่รู้เรื่องเลยห่า ไม่เคยจะบอก” ไอ้พัฟที่ไม่เคยเจอพี่ภูมาก่อนว่าบ้าง ทำหน้าตัดพ้อใส่ผมอย่างน่าถีบด้วยเถอะ...ก่อนจะปิดท้ายด้วยไวท์ เห็นเรียบร้อยสุภาพนี่ก็ไม่วายแซ็วผมนะครับ

“ตอบมาเลยครับคุณแทงค์ กับพี่ภูนี่ไปรักกันตอนไหนเหรอครับ ฮะ ๆ”

“ก็...อุ๊บ”

ฟึ่บ!

ผมยังไม่ทันได้พูดก็โดนมือใหญ่ปิดปากเสียก่อน และเจ้าของมือก็ไม่ใช่ใครที่ไหนแต่เป็นคนที่ผมกำลังรออยู่นั่นล่ะ

“เรื่องของเราก็ให้เป็นเรื่องของเราสิครับ อย่าไปบอกคนอื่น หึ ๆ” พี่ภูปล่อยมือจากปากของผม ส่งยิ้มเจ้าเล่ห์มาให้ ทำเอาผมใจสั่นเลยว่ะ เพิ่งเคยเห็นเขาทำหน้าแบบนี้เป็นครั้งแรก ไอ้เหี้ย ใจบางมากอ่ะ เขิน!

“โอ้โห พี่พูดแบบนี้กำลังด่าว่าพวกผมเสือกหรือเปล่าอ่ะ” ไอ้ธีร์แกล้งโวยวาย แต่หน้ามันนี่ยิ้มกว้างเชียวล่ะครับ

“เขาอาจจะบอกว่าอย่ายุ่งมากกว่ามั้งธีร์”

“กูอยากคิดให้ได้อย่างไวท์ว่ะ ดูซอร์ฟลงเยอะเลยไอ้ห่า”

“ฮ่า ๆๆๆ” ทุกคนหัวเราะกับคำพูดของไอ้พัฟ ตามด้วยไอ้ฮัทที่โพล่งขึ้นเป็นคนถัดมา

“พี่ภูอาจจะอยากจะเก็บเรื่องนี้เป็นเรื่องของเราสองคนกับไอ้แทงค์เฉย ๆ ก็ได้ พวกมึงก็คิดมาก เขาไม่ได้ด่าว่าเสือกหรอกน่ะ ใช่ไหมครับพี่?”

ผมมองหน้าคนตัวสูงที่ยังยืนอยู่ที่เดิม อีกฝ่ายกวาดตามองทุกคน ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงกลั้วหัวเราะ “ที่ธีร์พูดน่ะถูกแล้ว”

“อ้าว!!!”

“ฮ่า ๆๆๆ กูล่ะชอบแฟนมึงว่ะไอ้แทงค์” พี่เฟิ่งที่ไม่พูดแซ็วผมสักประโยคพูดขึ้นมา ส่วนเจ๊เฟย์เมียเขาก็เสริมว่า...

“แฟนแทงค์หล่อมากอ่ะ อย่างกับนายแบบ โอ๊ย เจ๊จะเป็นลม หล่ออะไรขนาดนี้คะเนี่ย หล่อกว่าผัวเจ๊อีก”

“อ้าวเฟย์ ทำไมพูดถึงผัวงี้ล่ะครับ”

คนที่เหลือหัวเราะลั่น ผมเองก็เช่นกัน ก่อนทุกคนจะพากันเงียบราวกับนัดกันไว้ยังไงยังงั้น เมื่อจู่ ๆ ท่านเจ้าที่ดึงแขนผมเป็นเชิงบอกให้ลุกขึ้น...แม้จะยังงง ๆ แต่ผมก็ยอมทำตามที่เขาต้องการ แล้วก็ต้องอึ้งเมื่อร่างสูงนั่งลงแทนที่ผม ตามด้วยแยกขาออกกว้างแล้วดึงผมให้ลงไปนั่งตรงกลางหว่างขาของเขาแทน

แม่เจ้า ไม่คิดว่าผมจะเขินบ้างหรือไงที่ต้องนั่งอยู่กลางหว่างขาเขาท่ามกลางสายตาคนอื่นเนี่ย ไอ้ฉิบหายยย

“โห่ววววว” ทุกคนที่เห็นการกระทำของผมกับพี่ภูส่งเสียงโห่ใส่ทันที ตามมาด้วยเสียงแซ็วอีกระลอกใหญ่

“ทำอะไรเกรงใจกันบ้างครับเพื่อนครับ”

“ที่นั่งมีเยอะแยะ จำเป็นต้องนั่งด้วยกันขนาดนั้นไหมครับ”

“ห่างกันบ้างไม่ได้หรืองายยย จำเป็นต้องอิงแอบแนบชิดกันขนาดนั้นป่ะ!”

“แล้วยังมีหน้ามาคลอเคลียกันให้เห็นอีก โว้ยยย หมั่นไส้!!”

พอเลิกอึ้งได้ผมก็ถึงกับหัวเราะร่วน อิงหลังพิงแผ่นอกแกร่งที่ไม่ได้สวมอะไร...ครับ ไม่ได้สวมอะไร พี่ภูของผมมาร้านเหล้าด้วยการไม่สวมเสื้ออะไรข้างในสักชิ้น สวมแค่เสื้อแจ็คเก็ตหนังสีดำ เปิดโชว์ซิกซ์แพ็คส์แน่นๆ ให้ได้เห็น กับกางเกงยีนส์สีเข้มเอวต่ำเห็นกระดูกสะบักสวยๆ

ไอ้เหี้ย ทำไมแฟนกูฮ็อตงี้ว่ะ กูจะตายแล้ว ใจเต้นไม่เป็นส่ำเลยเวรเอ๊ย!

หมับ

ท่อนแขนแข็งแรงของคนด้านหลังโอบเอวผมแล้วดึงเข้าไปหาให้แนบชิดมากขึ้นทำให้ผมต้องเอียงหน้ามองเขา...ท่านเจ้าที่ยกยิ้มบาง ๆ เลิกคิ้วแล้วกระซิบถามผมข้างหู ชนิดที่ลมหายใจอุ่นร้อนของเขาทำให้ผมขนลุกซู่ไปทั้งตัว

“ใจเต้นแรงนะ เขินฉันเหรอ”

“อะ...” ผมอุทานเบา ๆ เอียงหน้าหลบก่อนจะตอบเสียงสั่น “เปล่าสักหน่อย”

นอกจากเสียงสั่นแล้วใจผมยังสั่นมากด้วยครับ ไอ้ฟัคคค อย่ามาอ่อยกันนะเว้ย! เดี๋ยวแม่งก็จับเทวดาปล้ำมันตรงนี้ซะหรอก! เขินอะไรล่ะ ไม่มีเว้ย ไม่มี๊!

“ตรงนี้ไม่ได้มีแค่เราสองคนนะครับ เฮลโหลลล เห็นพวกผมมั้ยเอ่ยยย” ไอ้พัฟแทรกเสียงขัดจังหวะ ผมก็เลยหันไปคว้าแก้วเหล้ามากระดกดื่มแก้เขิน ได้ยินเสียงหัวเราะทุ้มต่ำของคนด้านหลังพาเอามือสั่นไปด้วยอีกสเต็ป หอกหัก อย่ามาหัวเราะด้วยเสียงเซ็กซี่แบบนั้นได้ป่ะ!? กูจะทนไม่ไหวแล้วนะ!

“แหน่ะ ๆ ถึงแสงจะไม่ค่อยสว่าง แต่กูก็เดาได้ว่ามึงเขินนะครับเพื่อน”

“วิ้ววว ไอ้แทงค์เขินว่ะ ของแปลกต้องเก็บภาพไว้”

“ไอ้พวกเหี้ย” ผมด่าพวกมันออกไป เรียกเสียงหัวเราะอีกครั้ง ผมก็เลยหันมาต่อว่าท่านเจ้าที่ของผมแบบไม่จริงจังนักแทน “เพราะพี่เลย ทำให้พวกมันแซ็วไม่เลิกเนี่ย”

“อ้าว ความผิดฉันเหรอ? งั้นเดี๋ยวไถ่โทษ” เขาว่าพลางจับหน้าผมให้มั่น แล้วกดจูบที่ปากผมหนัก ๆ หนึ่งที แต่ทำเอาผมเบิกตาโตด้วยไม่คิดว่าเขาจะกล้าทำอะไรแบบนี้ต่อหน้าคนอื่น “จูบแล้วหายโกรธเนอะ”

“อะ ไอ้...!” ผมถึงกับไม่รู้จะพูดอะไรเลยครับ เลยพูดไปส่ง ๆ ว่า “ไม่หายเว้ย!!”

ได้ยินดังนั้นท่านเจ้าที่แกล้งตีหน้าเศร้าใส่ผม “แล้วทำไงถึงจะหายโกรธล่ะเนี่ย”

ผมนิ่งคิดเมื่อได้ยินอย่างนั้น ก่อนจะเป็นฝ่ายยกยิ้มเจ้าเล่ห์ เอาวะ ไหนๆ ก็ขนาดนี้แล้ว เลิกเขินแล้วเล่นให้เต็มที่แม่งดีกว่า...ผมโน้มใบหน้าไปที่ข้างหูของเขาแล้วกระซิบด้วยโทนเสียงที่พยายามทำให้แหบต่ำและสั่นพร่า

“ต้องจูบอีกเยอะ ๆ จูบจริง ๆ ที่ไม่ใช่แค่ปากแตะปากนะ แล้วผมจะยอมหายโกรธทันทีเลย”

...ไม่ลืมกดจูบลงที่ข้างหูของอีกฝ่ายไปหนึ่งที ก่อนจะผละออกมาดูปฏิกิริยา

แต่แล้วก็ต้องเป็นผมเองอีกนั่นล่ะที่ขนลุกซู่ไปทั้งตัว เมื่อท่านเจ้าที่มองผมด้วยดวงตาเป็นประกายกล้า กล่าวเสียงหนักราวกับจะคาดโทษกัน “ไว้กลับบ้านเมื่อไหร่นายโดนแน่ไอ้เด็กแสบ”

ฉิบหาย กูจะโดนอะไรบ้างวะเนี่ย ฮ่า ๆๆๆ




__________

รีบมาอัพก่อนจะลืม ทำงานติดพันอยู่ค่ะ พรุ่งนี้เช้ามีพรีเซนต์งานอีกแล้ววว //ร้องไห้

หวานเนอะ เลี่ยนอ่ะ เพื่อนก็ขยันแซ็วขยันแซะ เจ้าแทงค์ก็ขยันเขิน ขยันหื่น(หืม?) ลำไยเด้อ 55555 เอาล่ะเหวย ตอนที่ 39 แล้ว ตอนหน้าตามที่สัญญาเอาไว้ ตื่นเต้นนนน เอาจริงๆ เราไม่ถนัดฉาก nc อ่ะ ที่เขียนไปก็ไม่รู้จะดีหรือเปล่า เดี๋ยวพรุ่งนี้มาอัพต่อให้เลยละกัน ฮ่าาาา

ไปทำงานต่อละนะ ไว้เจอกันพรุ่งนี้ (ถ้าเราไม่ลืม ไม่ขี้เกียจ ไม่ติดงาน หรือไม่ติดนิยายนะคะ 55555)

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18-12-2017 21:42:02 โดย Hazel_nut »

ออฟไลน์ suikajang

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 813
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-0
โหท่านมาแบบโซฮอตสุดๆ  :z1:
 :3123:  :pig4:  :3123:

ออฟไลน์ GBlk

  • ขอให้สรรพสัตว์จงมีความสุข
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1431
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +82/-43
ฉันเป็นคนเดียวหรือเปล่านะ ที่นับตอนมาตลอด 5555

ออฟไลน์ MSeraph

  • This too shall pass
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1751
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-3
เขินพี่ภูอะะะ โซแดมฮอตตมากค่าา
แทงค์เหมือนเขินและหื่นแทนคนอ่านไปเรียบร้อยแล้วค่ะ
ดีใจจริงๆที่น้องรู้งานได้ขนาดนี้5555
เหม็นความรักกกค่ะ 555555
รอตอนหน้าพี่ภูต้องโดนล่อลวงไปแน่ๆเลยค่ะคุณขาา

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
 :m10: รออ่านตอนกลับถึงบ้านอีกกว่า  :haun4:

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ แม้วธวัลหทัย

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
แทงค์คนเจ้าเล่ห์
งื้อออออออ
ท่านภูตลาเจ้าขาาาาาาา

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
ทุกอย่างลงตัว
ความบาดหมางระหว่างเพื่อน กลับมาคืนดีกัน
ความก้าวหน้าทางอาชีพดนตรี ได้รับการติดต่อทั้งวง ไม่ใช่แค่แทงค์คนเดียว
ความสัมพันธ์ระหว่างแทงค์ กับพี่ภู ดีมากๆ

แทงค์ รู้แล้วว่าสักวันเจ้าที่ต้องไปจากแทงค์แน่นอน
แต่ก็เป็นเรื่องของอนาคต ตอนนี้ก็ใช้เวลาอยู่กันอย่างมีความสุข
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Hazel_nut

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 164
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +164/-3
ตอนที่ 40

“เกมนี้ผมเป็นคนนำนะครับ”

 

รอบนี้ผมมั่นใจว่าผมไม่ได้เมา แค่กรึ่ม ๆ ดื่มพอให้ตาเยิ้มเท่านั้น แต่ผมยังมองทุกอย่างเป็นภาพชัดเจนนะครับ ไม่มึนหัว ไม่เห็นคนแยกร่าง เอาเป็นว่าสติผมครบถ้วนทุกประการ แต่ไอ้คนเมาอ่ะนู่น...ไอ้เนสกับไอ้คลาร์กครับ ก็รู้ตัวว่าแดกมาก ๆ แล้วจะเมาเรื้อน แต่พวกแม่งก็ยังจะซัดเหล้าต่างน้ำกันอีก ผมล่ะซูฮกพวกมันจริง ๆ เมาขนาดนี้เดี๋ยวแม่งก็เสียตัวให้กันอีกอ่ะ อ่า แต่คิดดูอีกทีพวกแม่งก็เป็นผัวเมียกันอยู่แล้วป่ะวะ คงไม่แปลกถ้าพวกมันจะได้เสียกันอีก

ไอ้ฮัทก็ยังเหมือนเดิม แผนกเก็บศพผู้ไม่เคยเมา จะว่าไปบางทีผมก็อยากเห็นมันเมาเหมือนกันนะ จับแม่งกรอกเหล้าดีกว่า เดี๋ยวผมค่อยโบกแท็กซี่ไปส่งมันที่บ้าน อยากเห็นมันเมาจริง ๆ นะครับ ฮ่าาา

"ไอ้ฮัท แดก ๆๆ" ผมคิดได้ก็ยัดแก้วเหล้าเพียว ๆ ปราศจากโซดาผสมให้มัน

"กะจะมอมกูเหรอ?" มันทำหน้ารู้ทัน ยิ้มกวนตีนฉิบหาย แต่ก็ยอมกระดกดื่มหมดแก้วในทีเดียว

"โอ้โห มึงนี่คอทองแดงเคลือบไนลอนป่ะเหี้ย ทำไมดื่มเพียวแบบไม่สะทกสะท้านเลยวะ ฮ่า ๆๆ"

"ส่วนมึงคอทองเหลืองเครือบสเปรย์ว่ะไอ้แทงค์" มันสวนกลับมาอีก อะไรคือคอทองเหลืองเคลือบสเปรย์วะ? คิดจะถามแต่ผมยังไม่ทันได้เอ่ยปากก็มีเสียงแทรกขึ้นว่า...

"นี่ตกลนพวดเมิงพุดเริ่งรัยกานน"

"เสียงไอ้เนสแม่งอย่างจี้ อ้อแอ้ฉิบหาย ฮ่า ๆๆๆ" พี่เฟิ่งที่นั่งจิบเหล้าเงียบ ๆ หัวเราะลั่น พี่มันเหมือนคนโรคจิตอ่ะ ชอบเห็นพวกผมเมา เอ้อ ประหลาดคน

"อ้อคือคราย แอ้คือคราย อ้อแอ้เปนฝ้าแฝ้ดกันเหยอออ" ไอ้คลาร์กออกอาการเมาตามมาติด ๆ เลยครับ

"ฝาแฝดไหมละไอ้ฝรั่ง ฮ่า ๆ เพื่อนมึงตลกสัด ๆ อ่ะไอ้แทงค์" ไอ้ธีร์พูดไปหัวเราะขำไปด้วย

ผมหันไปมองมัน หนุ่มนิเทศยังจิบเหล้าเคล้าดนตรีอย่างสบายใจ แต่เพื่อนมันน่ะฟุบลงซบไหล่มันไปละ

"เอลเลียตเมาแล้วเหรอวะ" พอได้ยินผมถามมันก็เอี้ยวหน้ามองคนที่หลับตาสนิทบนไหล่มันก่อนจะจุดยิ้มเจ้าเล่ห์

"อือ น่าจะเมา ไอ้นี่เวลาเมาไม่เรื้อนหรอก เมาแล้วหลับมากกว่า...อ้อ เมาแล้วยิ่งร้อนแรงด้วย" ประโยคท้ายมันพูดงึมงำของมันคนเดียว ผมนั่งอยู่ไกลก็เลยไม่รู้ว่ามันพูดอะไร แต่ก็ไม่ได้ถามเพราะไม่ใช่เรื่องของผมอีกตามเคย

ผมหันมาสนใจเพื่อนหนุ่มจากสถาปัตย์ต่อ "ไวท์เป็นไง คออ่อนป่ะเนี่ย"

"นิดหน่อย เราไม่ค่อยดื่มหรอก ผสมโค้กมากกว่าเหล้าอีก" เจ้าตัวโคลงแก้วในมือให้ดู บอกว่าโค้กเพียว ๆ ผมก็เชื่อนะนั่น ไวท์คงไม่ชอบดื่มล่ะมั้ง ส่วนอัศเพื่อนเขาก็นั่งจิ้มกับแกล้มกินเล่นมากกว่า

เออดีเว้ย ไอ้คู่นี้ไม่เมาแน่ ๆ อ่ะ สายสุขภาพกันแหง ๆ

คนสุดท้ายที่ผมจะมองข้ามไม่ได้คือเพื่อนสมัยเด็ก...ตอนนี้ไอ้พัฟเป็นไงรู้ไหมครับ?

มันเมาครับ เมาแล้วพูดเป็นต่อยหอยเลยไอ้ห่า ขุดเรื่องสมัยไหนมาพูดผมเองยังจำไม่ได้ทุกเรื่องอ่ะ แล้วเจ๊เฟย์ดันตั้งใจฟังด้วยนะ ทำไมวันนี้อะไร ๆ มันก็ดูประหลาดไปหมดเลยล่ะเนี่ย

แต่ก็ตลกดีแหล่ะครับ เป็นวันเกิดที่เจ๋งโคตร ๆ ของผมอ่ะ ฮ่า ๆๆ

"ห้ามเมานะแทงค์" เสียงนุ่มทุ้มดังขึ้นที่ข้างหูพร้อมกับวงแขนแกร่งที่เปลี่ยนจากกอดเอวเป็นกอดคอผมแทน ผมเอียงหน้าเข้าหาแก้มสากที่มีไรหนวดขึ้นจาง ๆ ก่อนจะถูไถไปมา...คนโดนกระทำกดตาจ้องผม มุมปากกระตุกยิ้มร้าย

อื้อหือ ยิ้มงี้ไม่เหมือนเทวดาเลยครับ เหมือนตัวร้ายมากกว่า!

"ไม่เมาหรอก หมดแก้วนี้ผมก็เลิกดื่มแล้วล่ะ"

"ดีมากครับ"

คำเดียวพร้อมรอยยิ้มหวานทำเอาผมหน้าร้อนวาบเลยครับคุณผู้ชม

ไอ้ฉิบหาย ใครสั่งใครสอนให้อ่อยกันงี้วะ! เดี๊ยะ ๆ เดี๋ยวกูจับปล้ำแม่งจริง ๆ หรอกไอ้ท่านเจ้าที่!!

__________

เราสองคนกลับมาถึงบ้านเอาตอนตีหนึ่งกว่าๆ หลังจากตระเวนไปส่งเพื่อนๆ ทั้งหมดกลับถึงบ้านแล้ว คนที่พวกเราไปส่งก็มีไอ้เนส ไอ้คลาร์ก ไอ้ฮัท แล้วก็ไอ้พัฟครับ ส่วนไอ้ธีร์กับไวท์นี่ไม่เมาเท่าไหร่เลยกลับกันเองได้

ใช่ครับ ไอ้ฮัทเมา! วันนี้ผมได้รู้เลยว่ามันเมาแล้วเป็นยังไง...อาจจะแปลกใจว่าเออ พวกมึงเป็นเพื่อนกันมาสองปีไม่เคยเห็นเพื่อนเมาเหรอ? แต่มันใช่ไงครับ ถึงจะดื่มด้วยกันบ่อยแต่พวกผมไม่เคยเห็นไอ้ห่าเงียบนี่มันเมาสักที อย่างมากก็กรึ่ม ๆ มันบอกชอบเป็นแผนกเก็บศพเพื่อนกลับไปส่งบ้านมากกว่าเลยดื่มไม่เยอะ แถมยังคอแข็งอีกด้วยเลยเมายากไปอีก

แต่ครับแต่ แต่วันนี้มันเมาไง ไอ้ฉิบหายอย่างพีคอ่ะ มันเมาแล้วชอบโวยวายครับ โวยวายจะร้องเพลงบ้างล่ะ จะออกไปเต้นบ้างล่ะ ท้าคนนั้นคนนี้ต่อยบ้างล่ะ โคตรจี้ ฮ่า ๆๆๆ

“เหนื่อยชะมัด” ผมพูดขึ้น ทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟาเต็มแรง บิดขี้เกียจแก้ความเมื่อยขบไปด้วย...แบกไอ้พวกนั้นเข้าบ้านไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ นะครับ เล่นเอาหลังแทบเคล็ด ถึงจะตัวเท่า ๆ กันก็เหอะ แต่น้ำหนักไม่เท่ากันแน่ผมมั่นใจ

“แต่ก็มีความสุขใช่ไหมล่ะ” ท่านเจ้าที่เอ่ยด้วยรอยยิ้มรู้ทันความรู้สึกผม เขาก้าวเข้ามายืนตรงหน้าผม ผมก็เลยขยับตัวขึ้นแล้วโอบเอวหนาเอาหน้าซุกซิกซ์แพ็คส์ของเขา

“อื้ม ผมมีความสุขมาก”

มือหนาลูบหัวผม “ดีแล้ว”

ผมเงยหน้ามองพี่ภู อีกฝ่ายก็กำลังก้มลงมามองผมเช่นกัน ผมเลยลุกขึ้นจับเขาให้หันมานั่งลงบนโซฟาแทนผม ก่อนตัวเองจะขึ้นไปนั่งคร่อมตักเขาเอาไว้ ท่านเจ้าที่มองผมอย่างอึ้ง ๆ แต่หลังจากนั้นก็ยกยิ้มร้ายพลางหัวเราะแล้วว่า...

“นี่ตกลงเมาใช่ไหม ไม่อย่างนั้นนายคงไม่ทำอะไรแบบนี้กับฉันหรอก”

“ไม่เมา แต่อยากทำเฉย ๆ”

“หืม? รู้ตัวไหมว่าครั้งก่อนที่นายเมา นายจู่โจมฉันด้วย”

“ครั้งก่อน?” ผมเลิกคิ้ว พยายามนึกว่าครั้งก่อนนี่ผมไปทำแบบนี้เอาตอนไหน จะว่าตอนที่โดนพี่เฟิ่งมอมก็ไม่ใช่ เพราะอันนั้นผมตื่นมาก็จำได้หมดแทบทุกอย่างที่เกิดขึ้น งั้นก็เหลือแค่ตอนล่าสุดที่ผมซัดเบียร์ไปแปดขวด อ่า...แต่ตอนนั้นผมจำอะไรไม่ได้จริง ๆ ครับ ลืมสนิทเลย ไม่รู้เป็นงั้นไปได้ไง นี่มันขัดกับหลักความสามารถพิเศษของผมนะครับเนี่ย “ผมเคยทำแบบนี้ ตอนที่ผมเมาครั้งล่าสุดป่ะ?”

“อ่าฮะ” พี่ภูพยักหน้า “ตอนนั้นนายจูบฉัน”

ผมหน้าร้อนวูบ ถึงจำไม่ได้ แต่แค่ได้ยินก็รู้สึกอับอายสุด ๆ แล้วว่ะ นี่ผมทำแบบนั้นจริงดิ!?

ผมซุกหน้าหนีอายกับไหล่แกร่ง ร่างสูงหัวเราะกับท่าทางของผมก่อนจะกดจูบที่ข้างแก้มผมหนัก ๆ ไม่วายขยี้ปลายจมูกด้วยนะ...อย่าทำแบบนี้สิเฟ้ย เดี๋ยวอดใจไม่ไหว!

แล้วความอดทนของผมก็ขาดสะบั้นลงในตอนที่ท่านเจ้าที่เคลื่อนใบหน้ามาซุกไซ้ที่ข้างใบหูของผม ลมหายใจอุ่นร้อนรินรดทำเอาผมใจสั่น ยิ่งเมื่อริมฝีปากของอีกฝ่ายเม้มเบา ๆ เข้าที่ติ่งหู สติของผมก็เหมือนจะยิ่งกระเจิดกระเจิงหายไปในพริบตา

พรึ่บ!...ผมขยับตัวนั่งในท่าที่แนบชิดกว่าเดิม สะโพกของผมแนบกับกึ่งกลางลำตัวของพี่ภู ผมยืดตัวขึ้นจนใบหน้าของเราเสมอกัน แล้วจากนั้นก็บดสะโพกลงไปอย่างเนิบช้า หยอกเย้าให้คนที่ทำให้ผมฝืนทนต่อไปไม่ไหวได้สติแตกบ้าง

ท่านเจ้าที่สูดลมหายใจเข้าลึกเหมือนตั้งตัวไม่ทันกับการกระทำของผม แต่ผมไม่ได้สนใจหรอกว่าเขาจะรู้สึกยังไง เพราะผมยังคงคลึงสะโพกตัวเองอยู่อย่างนั้น แนบลำตัวลงไปชิดกับร่างแกร่ง...ผมกดดวงตาสบกับนัยน์ตาของพี่ภู เคลื่อนใบหน้าเข้าหาจนลมหายใจของเรากระทบกัน แล้วก็เป็นผมอีกนั่นล่ะที่เอียงหน้าเพื่อกดจูบลงบนเรียวปากบางของอีกฝ่าย

“อืม...” ร่างสูงครางแผ่ว ๆ ในลำคอ ไม่ได้ผลักไสผมออก ตรงข้ามกลับโอบกระชับเอวผมไว้มั่น ตอบรับจูบที่ผมมอบให้ด้วยการอ้าปากออกให้ผมได้สอดปลายลิ้นเข้าหา เกี่ยวกระหวัดรัดพันลิ้นของเราเข้าหากันแนบแน่น

เราจูบกันอยู่นาน ผมโดนไล่ต้อนจนต้องหดเรียวลิ้นหนีแต่ท่านเจ้าที่ก็ไล่ตามมาแล้วช่วงชิงลมหายใจของผมต่อ ทำเอาผมแทบบ้าคลั่งกับจูบอันแสนร้อนแรงนี้...ผมลูบไล้ฝ่ามือเปะปะไปตามแผ่นอกและแผ่นท้องเป็นลอนสวย สะกิดเขี่ยที่ยอดอกของอีกฝ่ายเบา ๆ หากแต่สิ่งที่ได้รับกลับมาคืออาการสะดุ้งเล็ก ๆ ของเขา

เราถอนริมฝีปากออกจากกัน หอบหายใจแรง พี่ภูไม่ละสายตาไปจากทุกการกระทำของผม ส่วนผมก็ไม่คิดจะหยุดสิ่งที่กำลังทำอยู่แต่อย่างใดเช่นกัน...ผมเอื้อมมือสอดเข้าไปในกลุ่มผมสีปีกกา กำขยุ้มมันเบา ๆ รั้งให้ใบหน้าหล่อเข้มเงยขึ้นอีกนิด ก่อนจะกัดลงไปที่ปลายคางของท่านเจ้าที่จนเกิดรอยฟัน ผมคงกัดแรงอยู่ไม่น้อยเพราะได้ยินเสียงเขาร้องซี๊ดดังลอดออกมาเบา ๆ ให้ได้ยิน

“ฮะ ๆ” ผมอดหัวเราะไม่ได้ การได้เห็นเขาเจ็บจนร้องนี่มันน่าอภิรมณ์แปลกๆ ดีแฮะ

แต่เฮ้! ผมไม่ได้มีรสนิยม BDSM หรอกนะครับ ไม่ได้เป็น S หรือ M ด้วย แค่อยากกัดเพราะหมั่นเขี้ยวเฉย ๆ หึ

“อึก...” ผมได้ยินเสียงกลืนน้ำลายดังตามมาเมื่อเคลื่อนใบหน้าลงกดจูบที่กลางลำคอของร่างสูง เหลือบตามองใบหน้าคมคร้ามเล็กน้อยแล้วผมก็ตัดสินใจ...แลบปลายลิ้นตวัดเลียลูกกระเดือกบนลำคอแกร่ง “...อ่า”

กดจูบไปทั่วเพื่อฝากรอยจาง ๆ ไว้ ทั้งที่ไหปลาร้าและส่วนอื่น ๆ เลาะเล็มผิวเนื้อสีแทนสวยลงมาเรื่อยจนถึงตุ่มไตกลางอก...ผมขบกัดข้างหนึ่ง ขณะที่อีกข้างใช้ปลายนิ้วสะกิดเขี่ยอย่างไม่น้อยหน้า

“อะ...ฮึ่ม...นายทำ...อ่า...” ท่านเจ้าที่พูดแทบไม่เป็นคำ ผมผละออกสบตาเขาอีกครั้ง ยกยิ้มเจ้าเล่ห์ใส่

“อยู่เฉย ๆ นะพี่ภู” ผมขยิบตาใส่เขา “เกมนี้ผมเป็นคนนำนะครับ”

อย่างรวดเร็ว...ผมยกสะโพกตัวเองขึ้น ตวัดมือลงด้านล่างเพื่อปลดเข็มขัดกับกระดุมกางเกงของร่างสูงออก ควักเอาตัวตนของอีกฝ่ายออกมาสู่อากาศภายนอก

!!!

อ่า...ขนาดใหญ่ไม่เบานี่หว่า

ผมคิด แล้วก็คงเผลอเลียริมฝีปากโดยไม่รู้ตัวด้วยล่ะมั้งเพราะท่านเจ้าที่ถึงกับหัวเราะร่วน มือหนาสอดเข้าใต้เสื้อยืดของผมแล้วลูบฝ่ามือไปทั่วแผ่นหลัง เล่นเอาผมขนลุกไปทั้งตัวด้วยความวูบวาบเพราะสัมผัสร้อนผ่าวนั่น

“ทำหน้าหื่นนะ”

ผมหน้าร้อนฉ่า ตอนลงมืออ่ะไม่เขินหรอก แต่พอโดนพูดแบบนี้ใส่ก็อดจะเขินไม่ได้ว่ะ “เงียบไปเลย”

“หึ ๆ” เทวดาอารักษ์หุ่นนายแบบเลื่อนฝ่ามือข้างหนึ่งลงไปที่สะโพกของผม บีบเค้นผ่านกางเกงยีนส์ให้ผมสูดหายใจดังเฮือก แล้วไม่กี่นาทีต่อมากางเกงของผมทั้งตัวนอกตัวในก็ถูกดึงออกอย่างรวดเร็ว...อะ ไอ้ท่านเจ้าที่ทำได้ยังไงวะเนี่ย เปลื้องผ้าผมไวโคตร! จริง ๆ แอบหื่นใช่ไหม!? เป็นเทวดาทำไมว่องไวเป็นงานขนาดนี้เล่า!

ผมอยากจะถามอยู่หรอกนะ แต่อารมณ์ที่กรุ่นขึ้นมาระหว่างเราก็ทำให้ผมปัดคำถามนั้นทิ้งไปอย่างไม่คิดจะใยดีอีก ผมกลับมาสนใจร่างแกร่งตรงหน้าต่อ...ปลายนิ้วของผมเลื่อนไปที่เรียวปากของพี่ภู ลูบมันเบา ๆ แล้วส่งสายตาเป็นความนัยให้เขา วินาทีต่อมาท่านเจ้าที่ก็แลบปลายลิ้นเลียลงบนนิ้วทั้งสองของผม

มืออีกข้างของผมไม่ได้ว่างเว้น ขยับรูดรั้งความเป็นชายของร่างสูงไปด้วย พอเห็นว่าพอแล้วผมก็ผละนิ้วออกจากปากของเขา ก่อนจะ...สอดนิ้วทั้งสองเข้าที่ช่องทางด้านหลังของตัวเอง

“อึก ฉิบ...เสียดว่ะ...” ผมสบถเบา ๆ เพราะไม่ได้ไปยุ่งกับมันมานานมาก ไม่แปลกที่ผมจะเจ็บ ๆ เสียด ๆ อย่างนี้

“ไหวหรือเปล่า” พี่ภูเอ่ยถาม ขบเม้มใบหูของผมสลับเลียไปมาพาเอาผมวูบวาบยิ่งกว่าเก่า เรียวนิ้วแกร่งบดคลึงยอดอกของผมผ่านเสื้อเนื้อนุ่ม การเสียดสีของเนื้อผ้ากับหัวนมทำให้ผมยิ่งสะท้าน สั่นระริกไปทั้งร่าง

“อืม...ไหว...แทงค์ไหว...”

ท่านเจ้าที่ชะงักเมื่อได้ยินที่ผมตอบ ใบหน้าคมคร้ามขยับมาบดจูบจนปากผมแดงช้ำไปหมด “น่ารัก”

คำชมของเขาทำให้ผมใจเต้นตึกตัก ตัดสินใจในวินาทีนั้นว่าควรจะหยุดมือที่ขยับขยายทางแล้วหลอมรวมร่างกายของเราสองคนเข้าด้วยกันได้แล้ว...สิ้นความคิดนั้นผมก็ยกสะโพกขึ้น จับความแข็งแกร่งจ่อที่ปากทางแล้วกดสะโพกตัวเองลงไปช้า ๆ

“อึก...ฮ้า...อ่า...”

ความเจ็บเสียดทำให้ผมน้ำตาปริ่มโดยไม่รู้ตัว แทนที่จะกดลงไปพรวดเดียว ผมเลยต้องค่อย ๆ ขยับลงไปทีละนิด กลืนกินความใหญ่โตทีละน้อย จนเมื่อผมลงไปสุดปลายทาง ทั้งผมทั้งท่านเจ้าที่ก็ผ่อนลมหายใจออกมาด้วยความโล่งใจ

“อ่า...ทำไมมันถึงดูตลกได้ละเนี่ย” ผมพูดขึ้นกลั้วเสียงหัวเราะ

“แต่ฉันว่ามันดูเซ็กซี่มากกว่านะ” เทวดาหนุ่มหน้าหล่อของผมยกยิ้มเจ้าเล่ห์ ดวงตาสีรัตติกาลมองผมด้วยสายตาระยิบระยับราวกับราชสีห์มองเหยื่อ เล่นเอาผมสั่นสะท้านไปทั้งร่างอีกครั้ง

“เงียบน่า พูดมาก ๆ แล้วผมเขินเว้ย” ผมยกมือไปปิดปากของเขา และไม่รอให้อีกฝ่ายหาเรื่องโต้แย้งอะไรกลับมาอีกด้วย เพราะผมจัดการ...ขยับ

ฟึ่บ ฟึ่บ ฟึ่บ

ผมยกสะโพกขึ้นแล้วกดลงอย่างไม่เร่งรีบ รับเอาความแข็งแกร่งใหญ่โตเข้ามาเนิบช้า ลมหายใจของผมกับเขาถี่กระชั้นในทุกครั้งที่ร่างกายของเราเชื่อมสัมผัสกัน...ผมโอบกอดลำคอของท่านเจ้าที่เอาไว้ อีกฝ่ายซุกไซ้ซอกคอของผม กดจูบฝากรอย บางครั้งก็ครอบครองตุ่มไตกลางอกของผมผ่านเสื้อยืด ผมล่ะอยากจะบอกเขาว่าทำแบบนั้นมันยิ่งทำให้ผมเสียว แต่ก็พูดไม่ออกเพราะทำได้เพียงส่งเสียงครางแผ่ว ๆ ในลำคอเท่านั้น

อ่า...มันรู้สึกดี รู้สึกดีมาก ๆ ในทุกครั้งที่ความร้อนผ่าวกระทบจุดกระสันของผม ยิ่งเมื่อข้างหูได้ยินเสียงหอบหายใจแสนเซ็กซี่ของพี่ภู ผมก็ยิ่งรู้สึกดีแทบบ้า ดีมากจนเผลอขยับสะโพกเร็วขึ้น

เสียงเนื้อกระทบเนื้อดังก้องไปทั้งห้องนั่งเล่น ความเงียบสงัดถูกแทนที่ด้วยเสียงครางแหบพร่าของเราสองคน

“อืม...แทงค์...อ่า...ดีครับ...”

“อื้อ...พี่ภู...จูบผม...”

ท่านเจ้าที่จูบผมตามคำขอ บดจูบเคล้าคลึงสอดปลายลิ้นเข้าหาอย่างดุดัน ผมเร่งสะโพกขยับเร็วขึ้น รู้สึกได้ถึงปลายทางที่ใกล้จะมาถึง แล้วเพียงไม่นานเลยที่ผมจะประทุออกมาเมื่อถึงจุดสิ้นสุดของปลายทางแห่งอารมณ์

“อื้อ...” ผมกอดร่างแกร่งแน่นในตอนที่ความอุ่นร้อนของเขาฉีดพ่นเข้าสู่ในกายผม โน้มใบหน้ากดจูบที่ข้างแก้มสาก กระซิบเสียงเบาแหบพร่าที่ข้างใบหูของอีกฝ่าย “รัก”

พี่ภูจูบที่ข้างขมับของผมแล้วตอบกลับมาเพียงว่า...

“เหมือนกัน”



__________

อิ้ววว เขิน 5555555 ได้แค่นี้แหล่ะ หื่นได้แค่นี้จริงๆ ก๊ากกกก! ไม่รู้จะทอล์คอะไรเลยเนี่ย หวังว่าจะฟินกันนะคะ ฮ่าาา รู้สึกยังไงเมนต์บอกกันได้นะ คิดว่ามันไม่ค่อยลื่นไหลหรืออะไรติมาได้เลยค่ะ เราจะได้เอาไปแก้ไขเนอะ เพราะมีโครงการเขียนความหื่นอีกเยอะ (หืม? 555)

วันนี้ปวดหัวมาก นั่งหาวิจัยสามชั่วโมงแต่หาอันที่ใช้ได้ไม่ได้เลยสักอัน ดีนะเมื่อเช้าพรีเซนต์งานผ่านไปได้ด้วยดี แต่ได้แค่เจ็ดคะแนนเต็มสิบค่ะ 555 พอใจแหล่ะ ดีกว่าได้น้อยอ่ะเนอะ นี่เกือบไม่ได้มาอัพแล้ว กำลังอ่านวิชชอร์อยู่ (นิยายแฟนตาซีค่ะ) เราเป็นคนชอบอ่านอ่ะ ถ้าอยู่กับหนังสือเมื่อไหร่จะผละไปทำอย่างอื่นได้ยาก แต่สัญญาไว้แล้วก็ไม่อยากให้ทุกคนรอเก้อ

ตอนหน้าไม่มั่นใจว่าจะมาได้เมื่อไหร่เพราะต้องไฟต์กับงานวิจัยอีก วันจันทร์พรีเซนต์ไง ฮือออ ไปละค่ะ เจอกันตอนหน้าเด้อ รักทุกคน จุ๊บๆ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18-12-2017 22:07:21 โดย Hazel_nut »

ออฟไลน์ xหยกน้อยx

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 113
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ชอบนิยายเรื่องนี้มากๆคะ น่ารักมากเลย

ออฟไลน์ MSeraph

  • This too shall pass
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1751
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-3
กรี้ดดดดดดดดดด น้องแทงค์แซ่บมากกกลูกกก
ออนท้อปปป ครั้งแรกก้ออนท้อปปเลยหรออ
พี่ภูฟินไปถึงไหนแล้วเนี่ยยย
เมียเด็กเอาใจขนาดนี้ รัก หลงไปไหนไม่รอดแล้วว
พี่ภูก้แซ่บบบ อบอุ่นด้วยยยย งืออออ
รอค่าาา

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ pigarea

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 748
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
โอ๊ยยยย ใจกล้ามากค่า

ออฟไลน์ เป็ดอนุบาล

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-2
     เค้าได้กัแล้วค่าาาา
น่ารักทั้งพี่ภูและน้องแทงค์เลยนะค่ะหวานไม่เกรงใจเลยนะค่ะแต่แอบกังวลว่าจะไปไงต่อเพราะพี่ภูต้องไปเกิดนี่ค่ะฮือออออ ร่ออ่านตอนต่อไปนะค่ะ :mew1: :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
แซ่บเวอร์มาก ๆ คะ หลานแทงค์  :m3: :m3:

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7

ออฟไลน์ แม้วธวัลหทัย

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
หวายยยยยยย
ได้กันแล้ววววววววววว
รู้สึกเหมือนลูกออกเรือน
555555555555555555

ออฟไลน์ numay

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1035
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-1

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4

ออฟไลน์ Hazel_nut

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 164
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +164/-3
ตอนที่ 41

“ป้อนหน่อย”

 

ช่วงครึ่งเดือนหลังผมกับท่านเจ้าที่แทบไม่ค่อยได้เจอกันเลยครับ ตัวผมก็ยุ่ง ๆ กับเรื่องเรียน นอกจากต้องเคลียร์งานส่งอาจารย์แล้ว ผมยังมีสอบย่อยเยอะแยะเต็มไปหมดอีกต่างหาก แถมเริ่มเข้าบริษัทแล้วด้วยเลยยิ่งยุ่งเข้าไปใหญ่

ส่วนพี่ภูของผม รายนั้นโหมเคลียร์งานเอกสารสารพัดก่อนลงจากตำแหน่งผู้ว่าราชการศาลพระภูมิเต็มตัว ทั้งติดประชุมหารือเรื่องนโยบายพรรคใหม่ และสารพัดการประชุมมากมายก่ายกองที่ทำให้เขาแทบจะไม่ได้พักผ่อน เจอกันแต่ละทีผมงี้อยากจะต่อยให้หน้าแหก ใต้ตาคล้ำอดหลับอดนอน เขาผอมลงด้วยผมมั่นใจ เพราะเวลากอดมันรู้สึกได้เลยล่ะว่าเขาผอมลง แค่มองยังรู้เลยเถอะ

ทุกครั้งที่เรามีเวลาอยู่ด้วยกัน ทั้งผมและเขาก็เลยเลือกที่จะนอนกอดกันดูหนัง อ่านหนังสือ หรือทำอะไรก็ได้ขอแค่ได้ทำหรืออยู่ด้วยกันเท่านั้นก็พอ เพียงแค่นี้ผมก็คิดว่ามันมากพอสำหรับเราสองคนแล้วล่ะ

วันนี้ผมไม่ได้ทำงานพิเศษที่ดีซีซุปเปอร์ฯ ขอลางานเพราะต้องเข้าบริษัทน่ะครับ ตอนผมบอกผู้จัดการเรื่องที่ได้เป็นเด็กเทรนในค่ายเพลงดังนะ ผู้จัดการดีใจกับผมใหญ่ แถมยังป่าวประกาศจนพนักงานทั้งร้านรู้หมดทุกกะเลยด้วยซ้ำ เล่นเอาผมประหม่าจนทำตัวไม่ถูก แต่พอเห็นทุกคนมาร่วมแสดงความยินดีผมก็อดจะรู้สึกดีใจไม่ได้เหมือนกัน อ่า...มีคนยินดีกับเรามันย่อมดีกว่าเขามาอิจฉาเรานี่ครับจริงไหม?

ว่าแต่ตอนนี้ท่านเจ้าที่กำลังทำอะไรอยู่นะ คิดถึงว่ะ อยากกอดจังเลยแฮะ

กำลังคิดถึงเขาเพลิน ๆ ผมก็สัมผัสได้ถึงแรงยวบของฟูกนอน หันไปมองก็เจอเข้ากับคนที่กำลังคิดถึง ดวงตาของเขามองมาที่ผมก่อนเรียวปากนั้นจะส่งยิ้มมาให้ ท่าทางของเขาดูเหนื่อยล้า ให้ตาย ผมคิดว่าเขาควรพักผ่อนอ่ะ...ตอนนี้เลย

“อาบน้ำเปลี่ยนชุดก่อนไหมครับ จะได้มานอน พี่ไม่ได้นอนมากี่วันแล้วเนี่ย”

“อืม ไม่เป็นไรหรอก เดี๋ยวมานะ” เขาพยักหน้ารับ ลูบหัวผมเบา ๆ สองสามทีก่อนจะหายตัวไปพักหนึ่ง กลับมาอีกทีก็เปลี่ยนจากชุดสูทเป็นเสื้อกล้ามสีขาวกับกางเกงขาสั้นใส่สบายสีน้ำตาลแล้ว

ร่างสูงทิ้งตัวลงนอนข้างผม มือหนารั้งผมเข้าไปใกล้แล้วช้อนคอผมขึ้นให้หนุนแขนของเขาแทนหมอน ทำซะผมเหมือนตุ๊กตายัดนุ่นธรรมดา ๆ เลย แต่ผมก็ยังนอนหงายอยู่ท่าเดิม ใช้ดวงตาเหลือบขึ้นมองใบหน้าอ่อนล้าของเขา

“ไม่ร้อนเหรอมากอดกันอย่างนี้”

“ร้อน แต่อยากกอดมากกว่า”

“โอเค๊ งั้นนอนเถอะ พี่ดูเหนื่อยมากเลย”

“ฉันไม่ได้เหนื่อยมากมายอะไร”

“ตาคล้ำ แถมยังผอมลงเนี่ยนะไม่เหนื่อยมากมายอะไร? นอนไปเลยไป เดี๋ยวมื้อเย็นผมทำของโปรดให้ อยากกินอะไรครับ” ผมพลิกตัวเพื่อจะได้มองหน้าเขาได้ถนัดตามากกว่าเดิม

คนโดนถามทำหน้าคิดอยู่พักหนึ่ง ก่อนจะร่ายยาวเมนูที่อยากกินออกมายาวเหยียดแบบที่ทำให้ผมตาโต

“อยากกินแกงเทโพ ไข่เจียวหมูสับ ต้มยำรวมมิตรทะเล ผัดคะน้าปลาเค็ม”

“ได้ มีอีกไหม เอาให้เต็มที่ ผมจะขุนพี่ให้กลับมามีเนื้อมีหนังมากกว่านี้”

“ฮะ ๆ ไม่มีแล้ว ที่เหลือถ้าอยากจะทำอะไรอีกก็แล้วแต่นายแล้วกัน”

“อ่าฮะ” ผมพยักหน้ารับคำ ยืดตัวขึ้นไปกดจูบที่ริมฝีปากของร่างสูง อีกฝ่ายเกี่ยวลิ้นตอบผมก่อนจะผละออก ผมยิ้มให้เขา “นอนเถอะครับ ไว้มื้อเย็นผมจะปลุกนะ”

“อืม อย่าเพิ่งไปไหนนะ”

“ไม่ไปไหนหรอก จะอยู่จนกว่าพี่จะหลับสนิทเลย” คำตอบของผมทำให้ได้รับจูบหนัก ๆ ที่หน้าผากมาอีกที

ผมนอนฟังเสียงหัวใจที่เต้นเป็นจังหวะคงที่สอดประสานไปกับเสียงลมหายใจเข้าออกสม่ำเสมอของคนหลับ จนผ่านไปราวสองชั่วโมงได้ผมก็ค่อย ๆ ดึงตัวเองออกจากอ้อมกอดอุ่น ขยับตัวลงจากเตียงแผ่วเบาที่สุดด้วยไม่อยากให้ท่านเจ้าที่ตื่น...เมื่อแน่ใจว่าเขาจะไม่ตื่น ผมก็ออกจากห้องลงมาที่ครัวเพื่อทำอาหารให้เขาตามที่ตั้งใจไว้

ใกล้จะสี่โมงแล้ว กว่าจะทำเสร็จก็คงทันท่านเจ้าที่ตื่นพอดี เริ่มตอนนี้เลยแล้วกันเพราะในตู้เย็นก็มีของครบครัน ผมไปซื้อมาตุนเอาไว้กับท่านเจ้าที่เมื่อวันหยุดที่ผ่านมาน่ะครับ หลัง ๆ มานี้ถ้าทำอาหารได้ ไม่ผมก็เขาจะทำอาหารให้อีกคนกินเสมอ

หนึ่งชั่วโมงต่อมาอาหารก็เสร็จไปแล้วสองอย่างคือแกงเทโพกับผัดคะน้าปลาเค็ม เหลือต้มยำรวมมิตรทะเลกับไข่เจียว อันหลังนี้ผมเลือกทำทีหลังสุดเลยเพราะอยากให้ท่านเจ้าที่ได้กินตอนร้อน ๆ มันจะอร่อยกว่านะผมว่า ข้าวก็หุงเรียบร้อย ทำต้มยำต่อเลยแล้วกัน

ขณะที่ผมจัดการเอาเครื่องต้มยำลงหม้อ เสียงหวานที่ผมไม่ค่อยได้ยินบ่อยนักก็ดังขึ้นพร้อมกับการปรากฏตัวของเจ้าของเสียง “สวัสดียามเย็นเจ้าค่ะคุณแทงค์”

“อ๊ะ สวัสดีครับพี่มัทนา” ผมหันกลับมาทักทาย ส่งยิ้มให้นางไม้กุหลาบป่า ฝ่ายนั้นยิ้มตอบ

“กำลังทำอะไรหรือเจ้าคะ”

“ทำมื้อเย็นน่ะครับ พี่มัทนามีอะไรหรือเปล่า มาหาท่านเจ้าที่เหรอครับ?”

“เปล่าเจ้าค่ะ แค่มาทักทายเท่านั้น งานของท่านภูตลาเสร็จหมดแล้ว สัปดาห์หน้าคือการเลือกตั้ง หลังสิ้นสุดการเลือกตั้งจึงจะมีงานเลี้ยงอำลาตำแหน่งของท่านภูตลาเจ้าค่ะ”

“แล้วอีกสองวันหลังจากนั้นเขาก็จะไป...” ผมพูดกับตัวเองเบา ๆ หัวใจพลันวูบโหวงเมื่อตระหนักได้ว่าเหลือเวลาอีกไม่ถึงสิบวันที่ผมกับเขาจะได้อยู่ด้วยกันอย่างนี้

เขากำลังจะไปเกิดใหม่ ในขณะที่ผมต้องอยู่ต่อไปคนเดียว...อีกแล้ว

ความคิดนั้นทำให้ผมเหมือนจะหายใจไม่ออก...ผมสูดหายใจเข้าลึก หันไปบอกกับพี่มัทนาเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เหมือนว่าผมไม่ได้กำลังเสียใจอยู่ “เดี๋ยวผมไปข้างนอกหน่อยนะครับ ฝากพี่ดูบ้านให้หน่อยนะ”

“เจ้าค่ะ”

ปลีกตัวออกมาจากห้องครัว ผมเห็นสายตาของพี่มัทนาที่มองตามหลังมาแต่ก็ทำเป็นไม่ใส่ใจ...สายตาที่เต็มไปด้วยความเห็นใจของเธอ ผมไม่รู้ว่าควรจะรู้สึกยังไงดี

ผมออกมาที่หน้าปากซอย ก็แถว ๆ หน้าดีซีซุปเปอร์แหล่ะครับ อย่างที่เคยบอกว่ามันมีของกินขายเยอะ ผมก็เลยกะว่าจะมาหาของกินเล่นกับขนมหวานไว้กินล้างปากหลังมื้อเย็น...เลือกซื้อของกินอยู่พักหนึ่ง พอได้ของที่ต้องการครบถ้วนผมก็ถือของทั้งหมดกลับมายังรถที่จอดทิ้งไว้หน้าซุปเปอร์ เข้าไปทักทายพี่ ๆ พนักงานและพี่ผู้จัดการเล็กน้อย ก็ต้องประหลาดใจเมื่อเจอเข้ากับไวท์ ถ้าจำไม่ผิดวันนี้ไวท์ไม่มีกะไม่ใช่เหรอ?

“อ้าวไวท์ มาทำไรที่นี่อ่ะ”

“อ่า ไงแทงค์ สบายดีนะ” เขาทักผมกลับ ยิ้มให้น้อย ๆ แต่สีหน้าดูไม่ดีนักจนผมต้องดึงแขนเขาเอาไว้

“เป็นอะไรหรือเปล่า ไปหาที่นั่งคุยกันไหม เอ่อ ถ้าไม่คิดว่าเราก้าวก่ายเรื่องของไวท์นะ”

เขาเงียบไปหลายนาทีเมื่อได้ยินที่ผมพูด แต่สุดท้ายก็พยักหน้าให้ผม เราสองคนก็เลยหาที่นั่งคุย แล้วก็มาจบที่ม้านั่งด้านนอกซุปเปอร์ฯ

“เล่าได้นะถ้าไวท์อยากเล่า” เป็นอีกครั้งที่ผมเอ่ยกับเขาแต่ไวท์ก็ยังคงเงียบ ผมก็เลยใช้โอกาสนี้ลอบสังเกตเขา

ตอนนี้ไวท์ดูผอมลง ทำไมตอนนี้ถึงมีแต่คนผอมลงล่ะเนี่ย หรือทำงานหนักเหมือนกัน? เออ จะว่าไปไวท์เรียนสถาปัตย์นี่นะ คงตัดโมอะไรพวกนั้นจนไม่ค่อยได้กินได้นอน หน้าก็โทรม ๆ เหมือนจะไม่สบายด้วย

ผมกำลังสำรวจอีกฝ่าย แต่ก็ต้องสะดุดเมื่อเสียงของไวท์ดังขึ้นว่า “เขาไปแล้วแทงค์ เราจะทำยังไงดี”

“หือ? ใครไปไหนเหรอ?” ผมย้อนถามอย่างไม่ค่อยเข้าใจนัก

“เขา...อึก...อัศน่ะ เขาไม่อยู่แล้ว เรา...ฮึก...” พูด ๆ อยู่แล้วไวท์ก็ร้องไห้ออกมาเสียเฉย ๆ เล่นเอาผมเหวอ

“อะ เอ่อ” เจออย่างนี้ผมก็ไม่รู้เลยว่าจะปลอบยังไงดี งั้นปล่อยให้เขาได้ร้องไห้จนพอใจแล้วกันนะ

นานอยู่เหมือนกันกว่าที่ไวท์จะหยุดร้องได้ ไวท์ดูอ่อนล้าเหลือเกิน แผ่นหลังค้อมลง ใบหน้าเปรอะเปื้อนน้ำตา ผมลูบไหล่ปลอบเขาโดยไม่พูดอะไร และผมก็ไม่คิดจะถามถึงสาเหตุที่เขาร้องไห้ด้วยเหมือนกัน ถ้าไวท์อยากเล่าก็คงจะเล่าเอง ผมไม่อยากยุ่งเรื่องคนอื่นหากเจ้าตัวไม่ต้องการพูดถึง

“แทงค์ ขอบคุณนะที่นั่งดูเราร้องไห้เหมือนคนบ้าตั้งนาน” ไวท์เอ่ยขึ้นหลังจากหยุดร้องไห้ได้แล้ว

“เราไม่ได้ทำอะไรสักหน่อย แค่นั่งเฉย ๆ เอง”

“อ่า แล้วนี่แทงค์มาทำอะไรเหรอ?”

“อ๋อ เรามาซื้อขนม” ผมยิ้มพลางชูถุงในมือให้เขาดู แต่ก็ต้องเบิกตากว้างพลางก้มมองนาฬิกาข้อมือ “ฉิบหายละ ลืมไปเลยว่ายังทำต้มยำไม่เสร็จ พี่ภูตื่นหรือยังเนี่ย”

“เอ่อ ถ้าแทงค์รีบก็ไปเถอะ เราโอเคแล้วล่ะ ขอบคุณอีกครั้งนะที่อยู่เป็นเพื่อน”

“บอกแล้วไงว่าไม่เป็นไร แล้วก็...ไม่ว่าเจอเรื่องอะไร เราขอให้ไวท์ผ่านมันไปให้ได้นะ”

อีกฝ่ายยิ้มให้ผม ทำท่าจะร้องไห้อีกครั้งแต่ก็เหมือนพยายามฝืนเอาไว้ “อื้ม!”

ผมโบกมือลาแล้วเดินจากมา นึกไปถึงสิ่งที่ตัวเองพูดเมื่อกี้ก็อดหัวเราะด้วยความสมเพชตัวเองไม่ได้ ฮะ ๆ ไปบอกให้คนอื่นผ่านไปให้ได้ แต่ตัวผมเองนี่สิกลับผ่านมันไปไม่ได้

ผ่านความเสียใจที่รู้ว่ากำลังจะต้องเสียคนที่รักไปไม่ได้สักที

__________

กลับมาถึงบ้านผมก็แทบจะทำถุงสารพัดอย่างที่ถือมาหลุดมือ เมื่อจู่ ๆ มีมือหนึ่งยื่นมาดึงร่างของผมอย่างรวดเร็ว และคงจะล้มไปแล้วถ้าไม่ใช่เพราะมีกำแพงมนุษย์ขวางกั้นผมเอาไว้อยู่

“ทำอะไรเนี่ยพี่ภู!” ผมโวยวายด้วยความตกใจ

คนทำฝังหน้ากับกลุ่มผมของผมแล้วบ่นอุบอิบ “ไปไหนมา นานจัง”

“ผมไปซื้อขนมมาให้พี่ไง” ว่าพลางชูของในมือให้ดู “ปล่อยเร็ว เดี๋ยวไปทำต้มยำกับทอดไข่ เราจะได้กินข้าวกัน แต่ถ้าพี่หิวก็กินกับข้าวที่มีไปก่อนนะ เดี๋ยวผมจะรีบทำอีกสองอย่างให้”

“ไม่ ฉันจะรอนาย”

“รอทำไม?”

“อยากกินพร้อมนาย...ไม่ได้เหรอ” พูดแล้วทำไมต้องทำหน้าอ้อนด้วยวะนั้น ไม่รู้เหรอว่าทำคนมองใจสั่นอ่ะไอ้ท่านเจ้าที่นี่!

ผมเบือนหน้าหนีเพราะทนต่อสายตาออดอ้อนไม่ไหว ตอบเสียงสั่นกลับไป “ดะ ได้ดิ”

หลังจากนั้นกว่าผมจะได้ทำกับข้าวจนเสร็จก็เล่นเอาหมดเสียงไปกับการตะโกนใส่ท่านเจ้าที่ซะหลายรอบ...คนจะทำกับข้าวก็ตามมาวอแวอยู่ได้ โว้ย! ว่าจนไม่รู้จะว่ายังไงแล้ว เดินกอดเอวตามหลังมาเหมือนลูกลิงเวลาเกาะหลังแม่ลิงไม่มีผิด อ้อนอะไรนักหนาเนี่ย ทำงี้ผมก็เขินนะเว้ย

“ปล่อยได้แล้วน่า ผมจะได้ไปตักข้าวให้”

“ไม่เอา ไปด้วย”

ผมเอี้ยวหน้ามองคนด้านหลัง อดถามกลั้วเสียงหัวเราะไม่ได้ว่า “ทำไมดูงอแงแปลก ๆ คิดถึงผมเหรอ”

“อืม ไม่อยากอยู่ห่างจากนายเลย”

“อะ...กะ ก็ไม่ต้องพูดตรง ๆ ตลอดก็ได้นะ” ผมต่อว่าเขาทั้งที่หน้าร้อนผ่าวขึ้นมาเพราะความเขิน

“เขินเหรอ?” เขาเลิกคิ้วถามผมเป็นเชิงหยอกล้อ แต่คิดเหรอว่าคนหน้าด้านอย่างไอ้แทงค์จะปฏิเสธ

“เออดิ”

คำตอบที่ได้ทำให้ท่านเจ้าที่มอบหอมหนักๆ ที่ข้างแก้มให้ผมมาหนึ่งที

“นายเขินแล้วน่ารัก”

อะ...ไอ้ท่านเจ้าที่โดนผีสิงอีกแล้วหรือเปล่าวะ ทำไมขยันหยอดจังเลยเนี่ย!

สุดท้ายเขาก็ยอมปล่อยผมให้เป็นอิสระเมื่อได้เห็นผมหน้าแดงเรื่อตามที่ใจต้องการ ผมรีบหันไปตักต้มยำใส่ชามตามด้วยจานไข่เจียวแล้วเดินมาวางร่วมกับอาหารอีกสองอย่าง บนโต๊ะอาหารตอนนี้มีเมนูที่ท่านเจ้าที่อยากกินอยู่ครบถ้วน ผมเดินกลับไปคดข้าวอีกครั้ง ขณะที่ท่านเจ้าที่ลุกไปเตรียมน้ำเย็นกับแก้วมาให้ เออดี ช่วย ๆ กันบ้าง ฮ่า ๆ

“ป้อนหน่อย” พี่ภูเอ่ยขึ้นหลังจากเรานั่งลงเตรียมลงมือกินข้าว แต่คำพูดของเขาทำให้ผมต้องส่ายหน้า

“เป็นเด็กเหรอต้องให้คนอื่นป้อนข้าว”

“ก็อยากให้ป้อน เถอะน่า นะๆ ป้อนหน่อย” เขาออดอ้อน เล่นเอาผมใจเต้นขึ้นมาเลย สุดท้ายผมจะทำอะไรได้ล่ะนอกจากยอมทำตามที่เขาร้องขอ

“ครับ ๆ งั้นกินข้าวเยอะ ๆ นะ พี่ดูยังเพลียอยู่เลย กินเสร็จจะได้ไปพักผ่อน”

“ขอบคุณครับ”

อ่า ให้ตายเถอะ เวลาเขายิ้มหวานนี่มัน...ไม่ดีกับใจเลย รู้สึกเหมือนหัวใจจะวายว่ะ โว๊ะ!



__________

ไม่สบายค่ะ หมอบอกเป็นทอนซิลอักเสบ อยากจะร้องไห้ TOT พรุ่งนี้พรีเซนต์ยังแปลวิจัยไม่ถึงไหนเลยค่ะ งอแง ฮือออ เจ็บคอไม่อยากพูด แต่พรุ่งนี้ต้องพูดไง กรีดร้องงงง //กระทืบเท้าเร่าๆ

ตอนนี้ก็จะหวานอมขม และคิดว่าคงเป็นงี้ไปจนถึงตอนจบ ฮ่าา มีสองคำถามที่จะมาตอบในวันนี้ค่ะ...ข้อแรก ท่านภูเป็นเจ้าที่ ได้กับน้องแทงค์นี่บาปไหม 5555 เหยแก พูดตามตรงเรื่องนี้มันก็บาปตั้งแต่แรกแล้วป่ะวะ บาปที่ฉันนี่แหล่ะเอาเจ้าที่มาเป็นพระเอกเนี่ย! เออ แต่เราก็เคยบอกนะว่าแบบสวรรค์เรื่องนี้ไม่เหมือนเรื่องอื่นนะ ไม่อิงความจริง 100% นะ เพราะงั้นในตอนที่แล้วก็ให้คิดกันเอาเองเนอะว่ามันบาปไหม

ส่วนอีกคำถาม...น้องแทงค์ยังซิงหรือเปล่า 5555 ประเด็นนี้เราก็อยากให้จิ้นกันเองเช่นกันค่ะ เราไม่อยากกำหนดตายตัวให้ จินตนาการสำคัญกว่าความรู้เด้อ 55555 ไปละ อีก 4 ตอนก็จะจบแล้ววว

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19-12-2017 22:03:14 โดย Hazel_nut »

ออฟไลน์ suikajang

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 813
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-0
เริ่มปูทางให้ต้องจากกันแล้ว อัศไปแล้ว เหลือท่านภู  เฮ้อ....  :monkeysad:
หายป่วยไวไวนะค่ะ  :3123:
 :L2:  :pig4:  :L2:

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
เรื่องมันเศร้าเหลือเกิน  :monkeysad:

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ เป็ดอนุบาล

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-2

ออฟไลน์ MSeraph

  • This too shall pass
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1751
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-3
ทั้ง3คู่จะหายไปในเวลาใกล้ๆกันเลยเนอะ
ไม่ว่าพี่ภูจะเตรียมการอะไรไว้นะ ขอให้มันไปด้วยดีเถอะะ
สงสารแทงค์อะ เหมือนต้องกลับไปอยู่คนเดียวอีกครั้ง
รอค่าา

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7

ออฟไลน์ แม้วธวัลหทัย

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
แล้ววววว มันนนน จะผ่าน ไปปปปปด้วยดีย์
ส่งเพลงพี่พ็อพไปปปปป

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด