[H.E.A.R.T.] A.Avert หัวใจซ่อนรัก
Part 3# Niza แอบมองเธออยู่นะจ๊ะ แต่เธอไม่รู้บ้างเลย~
ตั้งแต่ที่ผมเดินลงจากบันไดมา ดวงตาเรียวยาวของไอ้พฤกษ์ก็เบิกกว้างจนผมสังเกตได้ กระทั่งผมเดินลงไปถึงข้างล่างมันก็ยังไม่ยอมกระพริบตาเลยด้วยซ้ำ จนเมื่อผมเริ่มโวยวายชี้หน้าด่าพวกเพื่อนเรียงตัวนั่นแหละ มันจึงคล้ายๆ ว่าได้สติเลยหันหน้าหนีไปทางอื่น แต่ถึงอย่างนั้นผมก็ยังเห็นอยู่ดีว่าสีหน้าของมันแดงนิดหน่อยจนลามไปถึงใบหู
เป็นอะไรของมัน อากาศวันนี้หนาวจนมันเป็นไข้ หรือว่าแดกเหล้าเยอะเกินไปจนเมากันแน่?
แต่จะเพราะอะไรก็ช่าง มันจะเป็นอะไรก็ไม่ได้เกี่ยวกับผมสักหน่อย ตอนนี้มันใช่เวลาไปสนใจคนอื่นที่ไหน เรื่องของตัวเองยังไม่รู้จะจัดการยังไงเลยเนี่ย
“พร้อมยังไอ้ซ่า เอ๊ย! ต้องบอกว่าน้องลิซ่าต่างหาก” ไอ้แมนหันมาพูดยิ้มๆ แม่งเปลี่ยนชื่อผมให้เพี้ยนไปไกลกว่าเดิมไม่พอ มันยังมีการย้ายวงให้ลิซ่าจากอยู่ BLACKPINK มาเป็น BNK48 อีกต่างหาก เอากับมันสิ
“ถ้าจะเรียกกูว่าลิซ่า แล้วทำไมมึงไม่ให้กูร้องเต้นเพลงของ BLACKPINK ไปเลยล่ะ”
“แหม่ พูดอย่างกับมึงทำได้ อีกอย่างพวกกูไม่มีใครจำชื่อเพลงวงนี้ได้ด้วยแหละ จำได้แค่ท่อน now burn baby burn ฮ่าๆๆๆ” ไอ้แมนหัวเราะร่า ในขณะที่ผมก็ได้แต่เหลือบตามองบน เพราะตอนที่มันพูดคำว่า burn แม่งกระดกลิ้นรัวยิ่งกว่าปืนกลซะอีก
“เออ จะว่าไปมึงเปิดเพลงให้กูด้วยนะเว่ย ใช่ว่ากูร้องเป๊ะเต้นได้อะไรขนาดนั้น” ไอ้ผมก็ไม่ใช่โอตะ ลำพังวันๆ หาเงินเลี้ยงตัวเองก็ลำบากแล้ว ถ้าต้องไปเปย์ไอดอลหรือนักร้องอีกได้บรรลัยกันพอดี
“ไม่มีปัญหา เดี๋ยวกูไปเปิดให้” ไอ้แมนพูดจบก็เข้ายูทูบจากโน้ตบุ๊กที่กำลังเปิดเพลงอยู่ จากนั้นก็เสิร์ชหาเพลงคุกกี้เสี่ยงทายแบบ dance version ซึ่งตัดแล้วเหลือแค่ 2 นาที
“พร้อมรึยังมึง” ไอ้แมนหันมาถามผม
“ไม่พร้อมก็ต้องพร้อมล่ะตอนนี้” เอาวะ กัดฟันเต้นตามไม่กี่นาทีก็จบแล้ว จากนั้นผมจะได้ไปเปลี่ยนไอ้เสื้อผ้าไซส์หมากระเป๋านี่เป็นเสื้อผ้าคนปกติสักที ตอนนี้ผมชักจะเริ่มเย็นตรงช่วงต้นขาและหน้าท้องแล้วเนี่ย
“โอเค ถ้างั้นกูเปิดเลยนะ” ไอ้แมนพูดจบก็กดเริ่มเล่นเพลง จากนั้นก็รีบกลับไปนั่งประจำที่แล้วมองตรงมาทางนี้พร้อมกับเพื่อนคนอื่นๆ
ทันทีที่ดนตรีขึ้นผมก็กัดฟันทนนับ 1 – 3 เพื่อข่มความอาย จากนั้นก็ยกมือยกขาเต้นตามน้องเฌอปราง น้องเจนนิษฐ์ และน้องปัญที่อยู่ในคลิป
แอบมองเธออยู่นะจ๊ะแต่เธอไม่รู้บ้างเลย
แอบส่งใจให้นิดๆ แต่ดูเธอช่างเฉยเมย
เอาล่ะเตรียมใจไว้หน่อย มันจะหัวก้อยต้องเสี่ยงกัน
Yeah Yeah Yeah
พอผมเริ่มเต้นไอ้พวกผีเจาะปากแถมยังชิงหมามาเกิดอย่างพวกเพื่อนผมก็แหกปากร้องแซวกันทันทีจนผมยิ่งอายกว่าเดิม จะมีก็แค่ไอ้พฤกษ์คนเดียวที่นั่งอยู่นิ่งๆ แต่กลับยกยิ้มขึ้นมาเล็กน้อย รอยยิ้มนั้นมันหมายความว่ายังไง ผมไม่สามารถเดาความคิดของมันได้เลย
คนน่ารักก็เยอะนะที่เดินอยู่ทั่วๆ ไป
คนธรรมดาอย่างฉันนะเธอคงจะไม่สนใจ
เอาล่ะเตรียมใจไว้เถอะ เราเองก็ชักเริ่มไม่แน่ใจ
Yeah Yeah Yeah
ถ้าผมเป็นผู้หญิงแล้วถูกไอ้พฤกษ์มองแบบนี้ ผมคงคิดว่ามันสนใจผม แต่นี่ผมเป็นผู้ชาย แถมยังเป็นผู้ชายแปลกๆ ที่กำลังแต่งตัวประหลาด เพราะงั้นข้อสันนิษฐานนั้นก็เป็นอันตกไป บางทีไอ้พฤกษ์มันอาจจะกำลังคิดแผนแกล้งหรือเอาคืนที่ผมหลอกมันมาที่นี่ก็ได้
เหมือนว่าฉันนั้นเคว้งคว้างลอยไปกับเสียงเพลง
ยังคงบรรเลงไม่มีวันเลือนราง
เพราะไม่รู้ว่าเค้านั้นในใจแอบคิดอะไร
ยังคงกังวลไม่แน่ใจในคำตอบนั้น
เพราะยังไงก็ต้องเสี่ยง รักไม่รักก็ต้องเสี่ยง
Come on Come on Come on Come on baby
ให้คุกกี้ทำนายกัน
ระหว่างที่ผมเต้นตามเพลง สมองของผมก็พยายามคิดแผนรับมือไอ้พฤกษ์ไปด้วย คนหน้านิ่งแบบนั้นใครจะไปรู้ว่ามันกำลังคิดอะไรอยู่ ยิ่งตอนนี้มันกำลังยิ้มแถมยังจ้องผมตาไม่กระพริบด้วยอีก ผมก็ยิ่งคิดว่ามันน่ากลัวเพราะต้องมีแผนอะไรในใจแน่ๆ
Koisuru Fortune Cookie
มาลุ้นดูสิ อาจจะเจอความหวังที่ยังรออยู่
Hey Hey Hey
Hey Hey Hey
พอถึงท่อนนี้ เสียงของไอ้พวกเพื่อนผมก็ดังมากขึ้นจนผมไม่มีสมาธิไปคิดถึงเรื่องของไอ้พฤกษ์ แน่ล่ะเพราะช่วงที่ร้อง Hey Hey Hey ผมต้องหมุนตัวเต้นจนกระโปรงมันเปิด ขนาดผมพยายามหมุนเบาๆ แล้วนะแต่พวกมันก็ยังเห็นบ็อกเซอร์ของผมจนแหกปากแซวออกมาอยู่ดี
แล้วไม่เพียงเท่านั้น ไอ้พวกเพื่อนของผมบางคนนำโดยไอ้แมนยังลุกขึ้นมาเต้นข้างๆ ผมอีกต่างหาก สงสัยวิญญาณโอตะจะเข้าสิงพวกมัน แต่ก็ดีเหมือนกัน มีเพื่อนเต้นยังไงมันก็ดีกว่าเต้นคนเดียวล่ะวะ ต่อไปก็ท่อนสุดท้ายแล้ว กัดฟันทนอีกแค่อึดใจเดียว!
รัก ไม่รัก จะรัก ไม่รัก ก็ลองเสี่ยงดูอีกสักนิด
ปาฏิหาริย์และดวงชะตาอาจทำให้เราไม่คาดคิด
ฉันมั่นใจว่าเราจะเป็นดั่งฝันในวันแห่งความรัก
สักวันนึง...
“จบแล้วโว้ยยยยยยยย!” ผมกำหมัดแล้วชูมือขึ้นด้วยความโล่งใจที่ในที่สุดผมก็หลุดพ้นแล้ว
“แหม พอจบเพลงก็ทำตัวห้าวเลยนะจ๊ะน้องลิซ่า” ไอ้แมนพูดขึ้นพร้อมกับยิ้มกรุ้มกริ่ม ยังไม่พอ มันยังมีการวาดมือมาตบตูดผมแถมยังบีบเบาๆ อีกต่างหาก
“ไอ้เหี้ยแมน!” ผมสะดุ้งด้วยความตกใจแล้วแยกเขี้ยวใส่มันด้วยความโมโห แต่มันก็หัวเราะคิกๆ คักๆ ไม่รู้สึกรู้สา เพื่อนคนอื่นเลยพลอยเป็นไปกับมันด้วยแถมยังกรูกันเข้ามาจะลวนลามผมอีกต่างหาก
“ไม่ต้องอายไปหรอกน่าน้องลิซ่า”
“มาหาป๋าสิจ๊ะคนดี”
“เอ...ถ้าพี่เปิดกระโปรงน้องลิซ่าแล้วจะมีงูออกมามั้ยนะ” แล้วก็อีกสารพัดคำพูดที่พูดขึ้นพร้อมกันจนผมจับใจความไม่ได้ แต่ที่แน่ๆ ถ้าผมไม่ทำอะไรสักอย่างผมคงถูกไอ้พวกนี้ปู้ยี่ปู้ยำแน่ๆ
“หยุดดดดดดดด! หยุดเลยนะไอ้พวกเหี้ยยยยยยย!” ผมชี้หน้าด่าแล้วจ้องพวกมันเรียงตัว ยกเว้นไอ้พฤกษ์ที่ยังคงนั่งอยู่กับที่ไม่ได้กรูเข้ามาหาผมเหมือนคนอื่นๆ แต่ถึงอย่างนั้นมันกลับมองมาทางนี้อย่างไม่วางตาราวกับกำลังดูสถานการณ์อยู่
“โหยมึง จับนิดจับหน่อยทำเป็นหวงตัวไปได้ มึงเป็นผู้ชายจะไปเสียหายอะไรวะ” ไอ้แมนพูดขึ้น พอได้ยินแบบนี้ไอ้สนกับพวกเพื่อนคนอื่นเลยพยักหน้าเห็นด้วย
“เออ พวกกูก็แค่หยอกเล่นไม่ได้คิดจะทำอะไรมึงจริงจังสักหน่อย วันนี้แม่งมีแต่ตัวผู้ พอเห็นมึงแต่งหญิงแล้วน่ารักพวกกูเลยคึกเฉยๆ มึงอย่าซีเรียสเลยน่าไอ้ซ่า” ตอนแรกผมก็ว่าจะด่ากลับไอ้สนไปอยู่หรอก แต่พอคิดอะไรดีๆ จากคำพูดของมันได้ ผมเลยเปลี่ยนท่าทีแล้วอมยิ้มที่มุมปากออกมา
“รู้สึกว่าพวกมึงอยากได้สาวมาเอนเตอร์เทนสินะ ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวกูทำหน้าที่นั้นให้ดีมั้ยล่ะ” เท่านั้นแหละพวกเพื่อนของผมก็เบิกตากว้างอย่างเป็นประกาย ยกเว้นไอ้พฤกษ์คนเดียวที่ขมวดคิ้วแถมยังหรี่ตาลง
“แต่...กูยังพูดไม่จบนะ” กลับกันพอผมพูดประโยคนี้ไอ้พฤกษ์กลับเบิกตากว้างขึ้น แต่พวกเพื่อนของผมกลับขมวดคิ้วและหรี่ตาลงแทน
“อะไรของมึงวะไอ้ซ่า” ผมยิ้มที่มุมปากก่อนจะเฉลยไอเดียเด็ดที่ผมพึ่งคิดได้สดๆ ร้อนๆ
“กูไม่ได้จะเอนเตอร์เทนฟรีๆ ของแบบนี้มันต้องมีค่าจ้าง แต่กับเพื่อนกับฝูงกูคิดไม่แพงหรอก อย่างป้อนข้าวป้อนน้ำคำละ 20 ชงเหล้าแก้วละ 50 แต๊ะอั๋งนิดๆ หน่อยๆ ครั้งละ 100 แต่ทำเกินกว่านั้นขอให้พ่องตาย แถมยังจะได้กินตีนกูด้วย โอเค้?” ผมยิ้มหน้าบาน คืนนี้ฟันเหนาะๆ 2 พันเป็นอย่างต่ำ หึหึ
อีกอย่างไหนๆ ตอนนี้ผมก็ดวงซวยถูกพวกมันแกล้งให้แต่งหญิง เพราะงั้นผมเลยขอพลิกวิกฤติเป็นโอกาสโดยการปอกลอกเพื่อเอาคืนพวกมันก็แล้วกัน ฮ่าๆๆๆๆๆ
“โอ้โห มึงนี่หาเงินได้ทุกที่ทุกเวลาเลยนะไอ้ซ่า” ผมยักไหล่กับคำพูดของไอ้แมน
“แน่นอน ก็แทบทุกอย่างบนโลกมันต้องใช้เงินซื้อทั้งนั้นนี่หว่า อ้อ...จะว่าไปราคาที่กูบอกเมื่อกี้คือจ่ายสดงดเซ็น ถ้าหากใครมือลั่นทำก่อนที่จะจ่ายกูปรับ 2 เท่านะบอกไว้ก่อน”
“โอเค งั้นเดี๋ยวกูขอเจิมเป็นลูกค้าคนแรกของมึงก็แล้วกัน...ชงเหล้าให้เฮียทีน้องลิซ่า” พูดจบไอ้แมนก็สวมบทเป็นเฮียสายเปย์ยื่นแบงค์ 100 มาให้ผมแล้วบอกไม่ต้องทอน พอเห็นแบบนั้นวิญญาณน้องลิซ่า ณ BNK (?) ก็เข้าสิงร่างของผมทันที
“ได้เลยค่ะเฮีย” ผมจีบปากจีบคอพูด จากนั้นก็รีบไปชงเหล้าให้ไอ้แมนด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม แถมด้วยการป้อนเหล้าคำนึงเพื่อเซอร์วิสอีกด้วย เรียกเสียงโห่ร้องและผิวปากจากเพื่อนคนอื่นได้อย่างเกรียวกราว พวกมันจึงได้พากันควักเงินแล้วเรียกผมไปเอนเตอร์เทนกันยกใหญ่
การกระทำทั้งหมดอยู่ในสายตาของไอ้พฤกษ์ตลอดเวลา แต่ว่ามันก็นั่งหน้านิ่งไม่ได้มีทีท่าจะเรียกผมไปเอนเตอร์เทนแต่อย่างใด
“น้องลิซ่ามีบริการนวดไหล่มั้ยจ๊ะ” ไอ้สนถามขึ้นหลังจากที่ผมเวียนชงเหล้าให้มันแก้วที่ 3
“ก็ถ้าพี่สนจ้างน้องซ่าก็นวดให้ค่ะ”
“แล้วน้องลิซ่าคิดยังไงล่ะจ๊ะ”
“อืม...นาทีละ 100 ก็แล้วกัน”
“โอ้โห ขนาดหมอนวดมืออาชีพยังตกแค่นาทีละ 3 – 4 บาท ถ้าน้องลิซ่าจะคิดราคาขนาดนี้ก็เอาตังไปฟรีๆ ไม่ต้องนวดให้พี่หรอก”
“โอเคตามนั้น พูดแล้วอย่าคืนคำนะคะพี่สน” ผมยิ้มหวานก่อนจะฉกแบงค์ 100 จากมือไอ้สนแล้วสะบัดบ็อบเดินไปหาเพื่อนคนอื่นที่เป็นคิวถัดไป การกระทำของผมทำเอาไอ้สนถึงกับหน้าเหวอเอ๋อแดก ส่วนคนอื่นๆ ก็ฮาแตกแบบไม่ไว้หน้ามัน
“เอ...จะว่าไปเหมือนมึงไม่ได้เรียกใช้ไอ้ซ่าเลยปะไอ้พฤกษ์” ไอ้แมนถามขึ้นในระหว่างที่ผมกำลังชงเหล้าให้เพื่อนที่นั่งข้างๆ ไอ้พฤกษ์
“อืม” มันพยักหน้า
“ทำไมล่ะวะ กูว่าเรียกใช้มันก็สนุกดีออก แถมโอกาสที่จะได้ยินมันพูดจาหวานๆ เอาใจแบบนี้ไม่น่ามีอีกแล้วนะเว่ย” เรื่องที่ไอ้แมนถามผมก็รู้สึกสงสัยอยู่เหมือนกัน ผมสังเกตเห็นนะว่ามันคอยมองผมอยู่ตลอด แต่ทำไมถึงไม่ยอมเรียกอันนี้ผมก็ไม่รู้
“กูไม่มีอะไรให้มันทำน่ะ อย่างเหล้ากูก็ไม่อยากดื่มแล้ว”
ถุ้ย! เหตุผลแบบนั้นใครเชื่อก็คงต้องไปแดกหญ้าแทนข้าวกันแล้ว!
“ถ้างั้นก็ใช้ให้มันนวดหรือป้อนกับแกล้มก็ได้นี่นา” ไอ้แมนเสนอ ถ้ามันพูดกับเพื่อนคนอื่นผมคงจะรีบขอบคุณที่มันชงให้ผมได้ลูกค้า แต่พอมันพูดกับไอ้พฤกษ์ผมเลยอยากจะสาปส่งมันแทน
“ก่อนมึงจะบอกให้มันเรียกใช้กู ช่วยถามกูก่อนมั้ยว่าอยากให้มันเรียกใช้รึเปล่า” ผมเบ้ปากแล้วมองเหยียดใส่ไอ้พฤกษ์ เฮอะ! ทำอย่างกับว่าผมแคร์มันงั้นแหละ คนเรียกใช้ผมเยอะแยะไม่เห็นต้องไปแคร์มันสักหน่อย
“กูว่ากูเปลี่ยนใจแล้ว ตอนนี้กูอยากกินเหล้า ชงให้กูแก้วนึงสิซ่า” ไอ้พฤกษ์พูดขึ้นพร้อมกับยิ้มบางๆ สีหน้าของมันตอนนี้ถึงจะอยู่ในโหมดคุณชาย แต่ผมก็รู้สึกได้ว่ามันต้องมีแผนแกล้งผมแน่ๆ เพราะงั้นฝันไปเถอะว่าผมจะทำ
“กูไม่...”
“เดี๋ยวกูจ่ายให้มึง 2 เท่า”
“เอาเข้มมากมั้ยมึง” ผมยิ้มหวานแล้วรีบถลาไปหาไอ้พฤกษ์อย่างรวดเร็ว เรื่องเปลี่ยนสีและเปลี่ยนจากหลังส้นตีนเป็นหน้ามือเป็นเรื่องถนัดของผมอยู่แล้ว เงินมากองอยู่ตรงหน้าใครจะบ้าไม่เอากันล่ะ
“ไม่ต้องเข้ม ฝาเดียวพอ”
“โอเค งั้นเดี๋ยวกูชงให้ก่อนค่อยจ่ายทีหลังก็ได้” ผมพูดอย่างใจดีแล้วรีบชงเหล้าให้ไอ้พฤกษ์ตามคำสั่ง เพราะถึงผมจะไม่อยากญาติดีกับมัน แต่ว่าผมอยากญาติดีกับเงินของมันนี่นา แล้วอีกอย่างทะเลาะกับมันไปก็ไม่ได้อะไรขึ้นมา ถึงจะชนะก็ได้แค่ความสะใจ แต่แล้วยังไง ความสะใจมันกินได้มั้ย สู้เอาคืนโดยการรีดไถเงินมันดีกว่า ฮ่าๆๆๆๆ
“เอ้า ได้แล้วเหล้าของมึง” ผมพูดจบก็ยื่นเหล้าที่พึ่งชงเสร็จไปให้ไอ้พฤกษ์ แต่มันกลับนั่งนิ่งๆ ไม่ยอมยื่นมือมาหยิบซะงั้น
“ทำไมกับกูพูดเสียงแข็งนักล่ะ ทีคนอื่นนี่พูดเสียงหวานเชียว” ไอ้พฤกษ์ยิ้มที่มุมปาก คิดแล้วเชียวว่ามันต้องมีแผนที่จะแกล้งผม
แต่เอาวะ ท่องเอาไว้ว่าเพื่อเงิน!
“แหม...เหี้ยพฤกษ์ เอ๊ย! เฮียพฤกษ์อย่าน้อยใจไปเลยค่ะ เดี๋ยวน้องซ่าจะนวดไหล่ให้ในราคาปกติไม่ต้องจ่าย 2 เท่านะคะเหี้ย เอ๊ย! เฮีย” ผมพูดเสียงอ้อนเสียงหวาน ส่วนคำด่าแน่นอนว่าผมตั้งใจ แต่ไอ้พฤกษ์ที่ดูออกก็ไม่ได้ว่าอะไร ใบหน้าของมันยังคงยิ้มในโหมดคุณชายตามปกติ
“ดีเลยน้องซ่า เฮียกำลังเมื่อยอยู่พอดี” พอไอ้พฤกษ์พูดแบบนี้ผมเลยขยับไปคุกเข่าที่ด้านหลังแล้วนวดไหล่ให้มัน แต่ถึงจะได้นาทีละตั้ง 100 ผมก็ไม่ได้นวดอะไรจริงจัง แค่บีบๆ แตะๆ พอเป็นพิธี ครบ 1 นาทีก็รีบหยุดแล้วเคลื่อนตัวไปข้างๆ พลางแบมือไปตรงหน้ามัน
“ขอค่าจ้างด้วยค่ะเฮีย” แล้วไอ้พฤกษ์ก็ยื่นแบงค์ 1000 มาให้ผม
“มีทอนรึเปล่า” แหม่ พูดแบบนี้ก็เข้าทางคนชั่วอย่างผมเลยสิ
“ไม่มีค่ะเฮีย ที่เหลือทิปน้องซ่าเลยแล้วกันนะคะเฮีย น้าาาา” ผมพูดเสียงหวานกว่าเดิมพร้อมทำตาปริบๆ ก็ลองดูสิว่าไอ้พฤกษ์มันจะกล้าปฏิเสธต่อหน้าคนเยอะแยะ งานนี้ผมฟันกำไรบาน ฮ่าๆๆๆๆ
“โอเค ที่เหลือเฮียทิปน้องซ่าก็ได้” นั่นไง เป็นอย่างที่คิดเอาไว้เป๊ะ
“ขอบคุณนะคะเฮีย” ผมยิ้มจนตาหยีแล้วรีบฉกเงินมาด้วยความไวแสง ขืนมันเกิดเปลี่ยนใจหรือตุกติกผมก็ชวดเงินกันพอดี
“เดี๋ยวสิน้องซ่า รีบเก็บเงินเร็วไปรึเปล่า เมื่อกี้เฮียยังพูดไม่จบเลยนะ เฮียยังไม่ได้บอกข้อแม้น้องซ่าไปเลย”
“โอ๊ยยยยย ข้อแม้อะไรก็ว่ามาเลยค่ะเฮีย เพื่อ (เงิน) เฮียน้องซ่าทำได้ทุกอย่างอยู่แล้ว” ผมพูดในระหว่างที่กำลังพับแบงค์พันที่พึ่งได้มาเป็นสี่เหลี่ยมเล็กๆ จะได้ยัดใส่กระเป๋าเสื้อขนาดจิ๋วที่อยู่ตรงอกเสื้อได้ เพราะงั้นผมจึงไม่ทันเห็นสายตาเจ้าเล่ห์กับรอยยิ้มที่มุมปากของไอ้พฤกษ์เลยแม้แต่น้อย
“น้องซ่าพูดเองนะว่าทำได้ทุกอย่าง”
“แน่นอนค่ะเฮีย”
“โอเค ทุกคนเป็นพยานนะ” พอได้ยินแบบนี้ผมก็คิดว่ามันชักจะทะแม่งๆ เลยรีบเงยหน้าขึ้นเพื่อที่จะถามเรื่องข้อแม้ แต่ว่ายังไม่ทันที่ผมจะได้ถามอะไร ไอ้พฤกษ์ก็ฉุดแขนของผมให้เสียหลักเซลงไปนั่งที่ตักของมัน จากนั้นมันก็ใช้วงแขนกอดเอวผมเอาไว้แน่นพร้อมกับพูดว่า...
“นั่งตักเอาใจเฮียสัก 10 นาทีก็แล้วกันนะน้องซ่า”
2BC
สวัสดีค่า จบไปแล้วน้าสำหรับ Avert หัวใจซ่อนรัก ตอนที่ 3 ไหนใครไปแอบซ้อมเพื่อที่จะได้มาเต้นเป็นเพื่อนซ่าวันนี้ขอเสียงหน่อยยยยยย ><
ตอนนี้ก็เป็นตอนน่ารักๆ (หรือน่าปวดหัวกับความเกรียน) ของไอ้ซ่าตอนนึง แถมยังเป็นตอนที่ได้เห็นความร้ายกาจของคุณชายอย่างพฤกษ์อีกด้วย
ซึ่งก็หวังว่าตอนนี้จะทำให้ทุกคนอมยิ้ม หัวเราะ และสนุกสนานกันนะคะ แล้วระหว่างที่กำลังอ่านก็เปิดเพลงคุกกี้เสี่ยงทายไปด้วยก็ได้ เปิดแบบ dance version นะคะเนื้อเพลงที่ถูกตัดจะได้ตรงกันเพื่อความอรรถรส อิอิ
แล้วมาลุ้นกันตอนหน้านะคะว่าระหว่างแผนปอกลอกพฤกษ์ของซ่า กับแผน...(อะไรสักอย่าง)...ของพฤกษ์แผนไหนจะเด็ดกว่ากัน ซ่ามุมแดงกับพฤกษ์มุมน้ำเงินใครจะชนะกันนะ? มาลุ้นและเอาใจช่วยทีมที่เชียร์ประมาณวันศุกร์นะคะทุกคน ขอบคุณทุกคอมเมนท์และกำลังใจนะคะ บ๊ายบายยย
(16 ม.ค. 61)