ซีรีส์ [H.E.A.R.T.] ❤ หัวใจ...รัก [END]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ซีรีส์ [H.E.A.R.T.] ❤ หัวใจ...รัก [END]  (อ่าน 209240 ครั้ง)

ออฟไลน์ Dee^daY

  • ไม่เคย ทำให้ใครเดือดร้อน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +330/-6
เก็บไว้ทั้ง 2 เหมือนเดิม .. อิอิ

ออฟไลน์ Y-Darkness

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 189
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-0

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
คนที่แพ้ก็ต้องดูแลตัวเอง   กลับบ้าน ๆ หลานธาร  เอาธรรมมะเข้าข่มไว้หลาน  :amen:

ออฟไลน์ Micky_MN

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 198
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-3
ใช่อ่อ แปลกอ่าถ้าไม่ใช่2บุคลิก

ออฟไลน์ Sameejaejung

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 394
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +457/-17
[H.E.A.R.T.] E.Erotic หัวใจร้อนรัก


Part 10# Thara ความจริงของหมอกกับเมฆ


   “ไง เคลียร์กันเข้าใจแล้วใช่มั้ย...อ้าว ทำไมถึงได้ร้องไห้แบบนั้นล่ะธาร” หมอเจเปิดประตูเข้ามาในห้องแล้วถามด้วยน้ำเสียงสดใส แต่พอเห็นผมกำลังนั่งร้องไห้ก็รีบเดินเข้ามานั่งข้างๆ ผมทันที


   “เมฆทิ้งผมอีกคนแล้วหมอ...ฮึ่ก...ตอนนี้ผมไม่เหลือใครแล้ว...ฮืออออออ” พูดจบน้ำตาของผมมันก็ยิ่งไหลทะลักออกมามากกว่าเดิม ตอนนี้ผมไม่อายแล้วก็ไม่สนใจด้วยว่าหมอเจจะมองผมแบบไหน ที่ผู้ใหญ่อายุ 27 กำลังร้องไห้ฟูมฟายราวกับเด็ก 7 ขวบ


   “เอาเข้าไป นี่หรอที่มันบอกว่าจะเคลียร์ เฮ้ออออ โดนไอ้แสบมันหลอกเข้าแล้ว” หมอเจถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ จากนั้นก็เอามือเสยผมขึ้นไปด้วยใบหน้าเซ็งๆ


   “แล้วนี่ธารจะทำยังไงต่อไป อยากจะไปคุยกับเมฆใหม่มั้ย ผมพาธารไปได้นะ” หมอเจพูดขึ้นอย่างมีน้ำใจ เท่านั้นแหละผมที่กำลังก้มหน้าอยู่ก็รีบหันขวับไปหา


   “จริงหรอหมอเจ!”


   “จริงสิ ผมมีทั้งที่อยู่และเบอร์โทรของเมฆนั่นแหละ” คำพูดนั้นทำให้ผมรู้สึกมีความหวังจึงได้ใช้หลังมือปาดน้ำตาออกไป แต่แล้วไม่กี่วินาทีต่อมาผมก็ถอนหายใจแล้วก้มหน้าคอตกเหมือนเดิม


   “ขอบคุณนะหมอเจ แต่ผมไม่ไปหาเมฆดีกว่า ถึงไปมันก็ไม่มีอะไรดีขึ้นหรอก ยังไงพรุ่งนี้เมฆก็ต้องกลับอเมริกาอยู่ดี” พูดถึงตรงนี้น้ำตาของผมมันก็รื้นขึ้นมา เพราะต่อไปผมคงจะไม่ได้เจอกับเมฆอีกแล้ว


   “ถ้าอย่างนั้นธารจะไปหาหมอกมั้ยล่ะ ผมรู้นะว่าหมอกอยู่ที่ไหน”


   “หมอรู้ได้ยังไง” ผมรีบเงยหน้าขึ้นไปมองหมอเจอีกครั้ง


   “ก่อนหน้านี้หมอกโทรมาระบายเรื่องธารให้ผมฟัง ตอนนั้นเมฆก็อยู่ด้วย” พอได้ยินแบบนี้ผมก็เข้าใจได้ทันทีว่าทำไมเมฆถึงได้ตัดสินใจบอกเลิกผมในวันนี้ เพราะเมฆคงรู้สึกผิดคิดว่าตัวเองคือต้นเหตุ ซึ่งพอนึกถึงคำพูดของเมฆที่บอกว่าทำเรื่องเห็นแก่ตัวอย่างครอบครองผมเอาไว้คนเดียวไม่ได้ มันก็เชื่อมโยงและลงล็อกได้อย่างพอดี


   “บางทีเมฆอาจจะอยากให้ผมกลับไปคืนดีกับหมอกก็ได้มั้ง” อันที่จริงผมมั่นใจมากๆ เลยล่ะ เพราะเมฆดูหวังดีและเป็นห่วงเป็นใยหมอก ก็อย่างว่าล่ะนะสองคนนี้เป็นฝาแฝดที่มีความผูกพันมากกว่าพี่น้องซะอีก


   “ถ้าอย่างนั้นแสดงว่าธารก็จะไปง้อหมอกสินะ”


   “ไม่ล่ะ ผมทำอย่างนั้นไม่ได้” คำตอบของผมทำเอาหมอเจขมวดคิ้วด้วยความแปลกใจ


   “หมายความว่ายังไง หรือธารชอบเมฆมากกว่า”


   “เปล่าหรอก ผมชอบทั้งคู่เท่ากัน ไม่สิ...ผมต้องใช้คำว่ารักต่างหาก เฮ้ออออ นี่ก็ไม่รู้ว่าตั้งแต่คบกับสองคนนั้นมา ผมเคยพูดคำว่ารักออกไปสักครั้งรึยัง” พูดถึงตรงนี้ผมก็ทิ้งตัวพิงโซฟา จากนั้นก็เงยหน้ามองเพดานพลางคิดย้อนถึงเรื่องในอดีต


   “ธารรักทั้งคู่เท่ากันจริงๆ น่ะหรอ ถ้าถึงจุดที่จำเป็นต้องเลือกสักคนล่ะ” ผมหยุดคิดสักพักกับคำถามนั้น ซึ่งหลังจากที่ไตร่ตรองอย่างดีผมจึงได้ตอบหมอเจออกไปว่า...


   “ผมเลือกไม่ได้หรอกหมอ ผมรักทั้งคู่เท่ากันจริงๆ” ถึงแม้หมอกกับเมฆจะมีรูปร่างหน้าตาที่เหมือนกันมาก แต่กลับมีนิสัยต่างกันอย่างสุดขั้ว ซึ่งนั่นมันก็เลยทำให้ทั้งคู่มีเสน่ห์กันคนละแบบ


อย่างหมอกที่หลายคนอาจจะมองว่าเป็นผู้ชายธรรมดาที่ดูจืดชืด แต่ผมกลับมองว่าตรงนั้นแหละที่น่าหลงใหล หมอกทำให้ผมรู้สึกผ่อนคลายและสบายใจทุกครั้งเวลาที่ได้อยู่ด้วยกัน การใช้ชีวิตที่เรียบง่าย ไม่หวือหวา เวลาว่างก็เข้าวัดทำบุญสร้างกุศลให้ชีวิตมันมีความสุขจะตายไป


ส่วนเมฆที่หลายคนอาจจะมองว่าร้าย ทั้งปากเสียแล้วก็ยียวนกวนประสาท แต่เอาจริงๆ ถึงจะทำเป็นเก่งแต่เมฆก็ยอมแพ้ให้ผมตลอด ซึ่งผมมองว่าตรงนั้นแหละที่น่ารัก แถมผมยังสนุกที่ได้ต่อล้อต่อเถียงกับเมฆด้วย เมฆทำให้ชีวิตของผมมีสีสัน ถึงแม้จะได้อยู่ด้วยกันเพียงแค่แป๊บเดียวแต่ผมก็รู้สึกมีความสุขมากจริงๆ   


   “ถ้าอย่างนั้นทำไมไม่อยู่ด้วยกันแบบ 3 คนไปเลยล่ะ” คำถามของหมอเจเป็นคำถามที่ผมคิดอยู่ในใจมาโดยตลอด แต่คำตอบก็ไม่เคยเปลี่ยนไปจากวันแรกที่ผมคิดเลย


   “ไม่ ยังไงผมก็ไม่มีทางใช้ชีวิตแบบ 3 คนผัวเมียเด็ดขาด”


   “ทำไมล่ะธาร แบบนั้นมันน่าจะดีกว่าไม่ใช่หรอ เพราะธารจะได้ไม่ต้องเลือกใครคนใดคนหนึ่ง”


   “นั่นก็ใช่ แต่ถ้าผมทำแบบนั้นมันจะเห็นแก่ตัวเกินไป ผมจะมีความสุขอยู่แค่คนเดียว แต่หมอกกับเมฆคงไม่มีความสุขด้วย โดยเฉพาะหมอกที่ยังไงก็ไม่มีทางรับได้แน่ๆ” ถึงไม่ต้องถาม แต่แค่ดูความเกรี้ยวกราดของหมอกในวันนี้ผมก็รู้คำตอบแล้ว


ส่วนเมฆที่ถึงแม้จะบอกว่าสามารถใจกว้างเรื่องของผมกับหมอก แต่การที่เมฆบอกเลิกผมในวันนี้ ก็เป็นเครื่องพิสูจน์ได้อย่างดีว่าเมฆรู้สึกผิดมากที่ได้เข้ามาแทรกกลาง เพราะงั้นการใช้ชีวิต 3 คนผัวเมียแบบนั้นมันไม่มีทางมีความสุขได้ทุกฝ่ายอยู่แล้ว ส่วนผมที่เป็นคนกลางก็คงจะกระอักกระอ่วนเหมือนกัน


“แล้วแบบนี้ธารจะเอายังไงต่อไป ธารเลือกใครไม่ได้ แถมยังไม่ยอมใช้ชีวิตด้วยกันทั้ง 3 คนอีกต่างหาก” คำถามนั้นผมมีคำตอบในใจอยู่แล้ว ถึงแม้ผมจะมีเวลาคิดไม่มาก แต่ผมก็มั่นใจว่าเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด และผมก็จะไม่เสียใจภายหลังที่ตัดสินใจแบบนี้เด็ดขาด


“ผมคิดว่าผมจะอยู่คนเดียว คนโลเลอย่างผมไม่สมควรจะมีความสุขกับใครทั้งนั้น ผมควรปล่อยให้สองคนนั้นไปเจอคนดีๆ ที่รักจริงมากกว่า ไม่ใช่คนสองใจเลือกใครไม่ได้เพราะรักทั้งคู่แบบผม” พูดจบผมก็เงยหน้าให้สูงขึ้นอีกแล้วกระพริบตาช้าๆ เพื่อให้น้ำตาที่กำลังรื้นขึ้นมาไหลกลับลงไป ผมไม่อยากร้องไห้กับการตัดสินใจครั้งนี้ เพราะมันเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดแล้ว


คนเลวอย่างผมสมควรแล้วล่ะที่สุดท้ายจะต้องเหลือตัวคนเดียว...


“เอาล่ะ ถ้าตัดสินใจเลือกได้แล้วงั้นก็ไปกัน” หมอเจพูดจบก็จับมือผมแล้วฉุดให้ลุกขึ้น


“หา! ไปไหน! อะไรของหมอนี่ผมงงไปหมดแล้วนะ!”


“ผมจะพาธารไปหาหมอกกับเมฆ”


“หา! ไปทำไม! ไม่เอาผมไม่ไป!” ด้วยความตกใจผมจึงรีบสะบัดมือของหมอเจออก แต่หมอเจกลับจับมือผมให้แน่นกว่าเดิม แถมยังพาลากเดินออกไปจากห้องอีกต่างหาก


“เดี๋ยวสิหมอ! ผมก็บอกว่าผมไม่...”


“ชู่วววว อย่าโวยวายสิ นี่มันโรงพยาบาลนะธาร อีกอย่างเดี๋ยวใครมาเห็นภาพลักษณ์หนุ่มดอกไม้อย่างผมก็เสียหายกันพอดี” หมอเจหันหน้ามาหาผม แล้วเอานิ้วชี้แตะที่ริมฝีปากของตัวเอง


“เฮอะ! ช่างกล้าพูดนะว่าตัวเองเป็นหนุ่มดอกไม้ จิ้งจอกเจ้าเล่ห์ล่ะสิไม่ว่า” ผมเบ้ปากใส่ แต่นอกจากจะไม่โกรธแล้วหมอเจยังหัวเราะออกมาอีกต่างหาก


“ร่าเริงแล้วสินะธาร ถ้างั้นก็อย่าดื้อแล้วตามผมมาดีๆ” พูดจบหมอเจก็พาผมเดินต่อไป โดยที่จูงมือผมอย่างอ่อนโยนไม่ได้ลากเหมือนเมื่อกี้นี้แล้ว แต่ถึงอย่างนั้นผมก็ยังรู้สึกไม่สบอารมณ์อยู่ดี ก็ดูสิไอ้หมอบ้านี่พูดกับผมอย่างกับว่าผมเป็นเด็ก ผมก็อายุ 27 เท่ากันไม่ใช่รึไง!


หลังจากนั้นผมก็ถูกหมอเจพาไปขึ้นรถ ซึ่งก็คือรถของผมเองที่ถูกยึดกุญแจเอาไปขับซะเรียบร้อย พอถามว่าจะพาผมไปไหนก็ไม่ยอมตอบ แล้วพอผมจะร้องเรียนที่ไม่ยอมทำการทำงาน ไอ้หมอบ้านั่นก็อ้างว่าออกเวรแล้ว น่าเจ็บใจชะมัดเลย


ในเมื่อทำอะไรไม่ได้ผมเลยได้แต่นั่งกอดอกด้วยท่าทางฮึดฮัด อีตาหมอเจก็เห็นอาการของผมแหละแต่ก็ขับรถต่อไปไม่ได้สนใจแต่อย่างใด ผมที่เห็นว่าเส้นทางมันใกล้ถึงหอพักของหมอกเข้าไปเรื่อยๆ เลยเริ่มจะนั่งไม่ติดที่แล้ว


“นี่อย่าบอกนะว่าหมอจะพาผมไปหาหมอกที่หอ”


“ก็ไม่รู้สินะ” หมอเจยักไหล่ทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้


“นี่! อย่ามากวนประสาทกันนะหมอ! ก่อนหน้านี้ผมก็บอกแล้วไงว่าจะไม่ง้อไม่เจอใครทั้งนั้น!” ผมโวยวายด้วยท่าทางหัวเสียมากกว่าเดิม ไอ้หมอบ้านี่ฟังภาษาคนไม่รู้เรื่องรึไง


“เอาน่าอย่าพึ่งเหวี่ยงสิธาร นี่ผมกำลังช่วยธารอยู่นะ เชื่อเถอะว่าหลังจากนี้ธารจะต้องขอบคุณผม”


“สาปส่งล่ะสิไม่ว่า” ผมแยกเขี้ยวใส่ ส่วนหมอเจก็ไม่ได้ว่าอะไรเพียงแค่หัวเราะขำๆ แล้วขับรถอย่างอารมณ์ดีจนกระทั่งถึงหอพักของหมอก


“ลงมาสิธาร จะนั่งอยู่ตรงนี้ไปถึงเมื่อไหร่” หมอเจเปิดประตูรถฝั่งที่นั่งของผม เพราะหลังจากที่จอดรถแล้วหมอเจเดินลงไปแล้ว ผมก็ยังคงนั่งอยู่กับที่ไม่ยอมลุกไปไหน


“ผมไม่อยากลงไปอะหมอ ผมกลัวหมอกพูดจาไม่ดีใส่ หรือไม่บางทีอาจจะไล่ผมออกจากห้องเลยก็ได้” พูดถึงงตรงนี้ผมก็คอตกทันที ผมยังจำสีหน้าและคำพูดของหมอกทุกคำได้เป็นอย่างดี ผมไม่รู้ว่าถ้าผมโดนแบบนั้นอีกทีหัวใจของผมยังจะรับไหวรึเปล่า


“ไม่ต้องกลัวหรอกนะธาร” คำปลอบประโลมด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนของหมอเจทำให้ผมรู้สึกดีขึ้นมากจนสามารถยิ้มบางๆ ออกมาได้ แต่พอได้ยินคำพูดต่อไปเท่านั้นแหละผมก็รีบหุบยิ้มแทบไม่ทัน


“ยังไงธารก็โดนแน่นอน”


“ไอ้หมอบ้านี่!” ผมเงื้อหมัดขึ้น อยากจะทุบหมอเจสักหมัดสองหมัดให้สาสมกับที่มากวนประสาทผม แต่ผมก็ถูกคว้าที่ข้อมือเอาไว้ แล้วโดนลากลงจากรถไปจนได้


“ปล่อยผมนะหมอ ผมไม่อยากเจอหมอกจริงๆ” ผมพยายามบิดข้อมือให้หลุดจากการเกาะกุม แต่ไม่ว่าจะออกแรงเท่าไหร่ผมก็สู้แรงของหมอเจไม่ได้เลย


“ผมรู้ว่าตอนนี้ธารกำลังรู้สึกยังไง แต่ธารต้องไปเจอหมอกกับผม เชื่อเถอะว่าผมหวังดีกับทุกฝ่าย” หมอเจพูดกับผมด้วยสีหน้าจริงจังไม่มีแววขี้เล่นอีกต่อไป ผมที่เห็นอย่างนั้นเลยต้องยอมอยู่นิ่งๆ อย่างช่วยไม่ได้ ก่อนที่ผมจะเดินตามหมอเจขึ้นไปจนกระทั่งถึงที่หน้าห้องของหมอก


ก๊อก ก๊อก ก๊อก


“หมอกนี่พี่เอง เปิดประตูให้พี่หน่อย” ผมรู้สึกแปลกใจนิดหน่อยที่ทำไมหมอเจถึงได้มั่นใจว่าหมอกอยู่ที่นี่ ทั้งที่ก่อนหน้านี้ผมมาหาหมอกรอบหนึ่งแล้วแต่ก็พบเพียงแค่ความว่างเปล่า


“ผมว่าบางทีหมอกอาจจะไม่ได้...” แต่แล้วยังไม่ทันที่จะได้พูดจนจบประโยคผมก็ต้องเงียบไป เพราะหมอกได้เปิดประตูห้องออกมา ซึ่งพอเห็นหน้าผมเท่านั้นแหละ สีหน้าเรียบเฉยก็เปลี่ยนเป็นความโกรธและเกลียด แต่ถึงอย่างนั้นผมก็เห็นแววตาเศร้าๆ และเจ็บปวดมองตรงมาทางนี้


“คุณมาที่นี่ทำไม” น้ำเสียงเย็นชาและสีหน้าของหมอกที่เห็น ทำให้ผมรู้สึกราวกับว่ากำลังถูกบีบที่หัวใจ ผมรู้สึกทรมานจนหายใจแทบไม่ออก


“คือ...คือฉัน...”


“ถ้าจะมาแก้ตัวหรือโกหกก็กลับไปซะ ผมไม่อยากฟังแล้วก็ไม่อยากเจอหน้าคุณ” คำพูดนั้นทำให้ผมน้ำตารื้นขึ้นมา แต่ผมก็เงยหน้าแล้วพยายามกระพริบตาไล่มันกลับไป เพราะไม่อยากให้หมอกเข้าใจผิดว่าผมมาบีบน้ำตาเพื่อเรียกร้องความสงสาร แต่ถึงจะคิดอย่างนั้นน้ำตาเจ้ากรรมมันก็ยังไหลลงมาอยู่ดี


“ที่อุตส่าห์ให้พี่หมอพามาถึงนี่เพราะแค่จะมาร้องไห้ใช่มั้ย ถ้างั้นคุณก็กลับไปซะ อย่ามาเสียเวลากับผม ไปหาผู้ชายคนนั้นที่คุณรักมากจนเพ้อหาแต่มันจะดีกว่า” คำพูดของหมอกทำให้ผมเม้มปากแน่น ผมไม่อยากอยู่ที่นี่เพื่อทรมานหัวใจของตัวเองอีกแล้วเลยว่าจะเดินจากไป แต่คำพูดของหมอเจก็ทำให้ขาของผมหยุดชะงักไปซะก่อน


“แต่ผู้ชายคนนั้นมันก็คือหมอกเองนะ” คำพูดนั้นทำให้ผมเงยหน้าขึ้นไปมองหมอเจทันที


“หมายความว่ายังไงพี่หมอ ผมไม่เข้าใจที่พี่พูด” อย่าว่าแต่หมอกเลย เพราะตอนนี้ผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน หมอเจที่ได้ยินหมอกถามแบบนั้นก็ยิ้มที่มุมปากก่อนจะเฉลยออกมาว่า...


“เมฆกับหมอกคือคนคนเดียวกัน เพราะว่าหมอกมีสองบุคลิกยังไงล่ะ”


2BC


สวัสดีค่า Erotic หัวใจร้อนรักก็จบลงไปแล้วน้า ซึ่งพออ่านจบทุกคนคงจะอุทานประมาณว่า เฮ้ยยย! หรือ ห๊าาา! อะไรแบบนี้ใช่มั้ย  :a5: ก็นะ...คำพูดของหมอเจนี่หนังคนละม้วนกับที่เมฆพูดเลยนี่นา อยากรู้กันใช่มั้ยล่ะว่าใครกันแน่ที่พูดจริง  :hao3: ถ้าอย่างนั้นก็รอลุ้นตอนหน้านะคะ รับรองว่าวันศุกร์เค้าเลิกงานจะรีบมาอัพให้ทุกคนอ่านแน่นอน ส่วนตอนนี้ก็ลองเดาๆดูก่อนว่าเรื่องราวจะเป็นยังไงต่อไป จะมีเรื่องให้พลิก ให้เงิบ หรืองงต่อมั้ย มาเอาใจช่วยพี่ธารกับสองหนุ่มหมอกเมฆกันด้วยนะคะ จุ๊บๆ
(22 พ.ย. 60)

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
หมอกต้องดึงสติแรงๆนะเนี่ยงานนี้
เอาล่ะแบบนี้สาทพีในฝันก้อพับโครงการไป

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
อ้าวๆ......โดนไรท์ หลอกซ้ำซ้นและ  :z3: :z3: :z3:

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
ไม่อยากจะสรุปอะไรที่เข้าข้างตัวเองแล้ว รอหลานคนแต่งมาต่อดีกว่า  :z3:

ออฟไลน์ Al2iskiren

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1775
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-3
กรี๊ดดดด คนๆเดียวกันจริงด้วย
 :hao7:

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
ห๊ะ!!!!!  ปรับอารมณ์ไม่ทัน หลอก 20 ตลบแล้วเนี่ย..ยยยยย   :m8: :m8: :m8:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6
โดนหลอกซ้ำหลอกซ้อนซะแล้วสิ   o22

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
ดักตีไรท์ดีมั้ย

ออฟไลน์ Dee^daY

  • ไม่เคย ทำให้ใครเดือดร้อน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +330/-6

ออฟไลน์ kobyp_lu

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 193
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
555555555555  ว่าแล้ว   อาการแบบนี้เหมือนคนมีสองบุคลิก  ตอบถูกล่ะ  มันเป็นไปได้ที่คนนึงจะมาอีกคนหายไปไม่ใช่แฝดแน่ ๆ ถ้าแฝดก็ต้องเจอสองคนไหมละ  เข้าใจหมอกนะที่ทำแบบนี้คงเก็บกดจากครอบครัวแน่ ๆ อ่ะ  ถึงว่าทำไมไม่อยากพูดถึงพ่อแม่

ออฟไลน์ Y-Darkness

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 189
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-0

ออฟไลน์ Micky_MN

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 198
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-3
กรี๊ด เดาถูก 2บุคลิก  :z2:

ออฟไลน์ Sameejaejung

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 394
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +457/-17
[H.E.A.R.T.] E.Erotic หัวใจร้อนรัก


Part 10# Thara สองบุคลิก


“เมฆกับหมอกคือคนคนเดียวกัน เพราะว่าหมอกมีสองบุคลิกยังไงล่ะ”


 “ว่าไงนะ!!” ผมกับหมอกอุทานขึ้นมาพร้อมกันด้วยความตกใจ


“ไปนั่งคุยกันในห้องดีกว่า เสียงดังไปถึงข้างล่างแล้วมั้ง” หมอเจพูดอย่างชิลๆ แล้วเดินเข้าไปนั่งที่โซฟาในห้อง ส่วนผมกับหมอกก็มองหน้ากัน เมื่อต่างคนต่างไม่รู้เลยต้องเดินตามหมอเจไปนั่งที่โซฟาอย่างช่วยไม่ได้


“เรื่องที่บอกว่าผมมีสองบุคลิกนี่มันยังไงครับพี่หมอ” หมอกเริ่มเอ่ยปากถามทันที โดยที่สีหน้ามีแต่ความงุนงง สับสน และไม่เข้าใจ


“มันอาจจะฟังดูน่าเหลือเชื่อไปหน่อย แต่มันไม่ใช่เรื่องเกินจริงแน่นอน โรคสองบุคลิกมันมีอยู่จริงๆ ซึ่งบางรายอาจจะมีหลายบุคลิกที่แตกแยกออกไปมากกว่านี้ก็ได้ แต่รวมๆ ทางการแพทย์เรียกโรคนี้ว่าดิสโซสิเอทีฟ”


เรื่องนี้ผมพอจะมีความรู้อยู่บ้างเพราะพฤกษ์กับเพลิงอธิบายให้ผมฟังแล้ว แต่สำหรับหมอกอาจเป็นเรื่องใหม่พอสมควร แถมยังเกิดขึ้นกับตัวเองด้วยเลยทำหน้าไม่เข้าใจ นอกจากนี้ยังมีแววต่อต้านและไม่ยอมรับอีกต่างหาก


“ผมไม่คิดว่าตัวเองจะเป็นโรคนี้หรอกนะครับ ผมปกติดี พี่หมอเข้าใจผิดแล้วล่ะ” หมอกยืนยันหนักแน่น ส่วนผมก็สองจิตสองใจ เพราะเมฆบอกผมกับปากเองว่าตัวเองคือฝาแฝดกับหมอก แต่เนื่องจากเหตุผลมันดูไม่ค่อยน่าเชื่อ แถมข้อมูลที่ผมมีมันก็ชี้ไปที่สองบุคลิก ดังนั้นผมเลยเอนเอียงไปทางหมอเจมากกว่า


“ก็ไม่แปลกล่ะนะที่หมอกจะไม่เชื่อพี่ แต่พี่ถามหน่อยเถอะว่าหมอกไม่เคยสงสัยบ้างหรอว่า ทำไมตัวเองถึงเหนื่อยง่ายจนวูบอยู่บ่อยๆ ทั้งที่ไม่ได้เป็นโรคอะไร อย่างวันนี้ที่หมอกจำได้ล่าสุดก็ตอนทะเลาะกับธารจนปวดหัวที่คาราโอเกะใช่มั้ยล่ะ” คำถามของหมอเจทำให้หมอกขมวดคิ้วจนแทบจะเป็นเครื่องหมายคำถาม


“เรื่องเหนื่อยง่ายจนวูบผมไม่เคยสงสัย แต่เรื่องความจำล่าสุดของผมพี่หมอรู้ได้ยังไงครับ”


“ทำไมจะไม่รู้ ก็เมฆเป็นคนบอกพี่เองว่าเมฆออกมาหลังจากตอนนั้น...ที่บอกว่า ‘ไม่ใช่เรื่องของคุณ’ นั่นคือเมฆพูดนะไม่ใช่หมอก” ประโยคสุดท้ายหมอเจหันมาพูดกับผม


“หนอย...ไอ้เด็กบ้านั่น” ผมกัดฟันกรอด แต่พอเห็นหมอกหันมามองผมเลยรีบหุบปาก แล้วนั่งเงียบๆ รอฟังหมอกกับหมอเจคุยกันเพราะผมยังมีชนักติดหลังอยู่


“แต่ผมก็ยังไม่อยากเชื่ออยู่ดีครับพี่หมอ เรื่องสองบุคลิกอะไรนั่นมันดูเกินจริงเกินไป” หมอกพูดด้วยใบหน้าสับสน บางทีอาจจะกำลังเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งอยู่ล่ะมั้ง


“ถึงมันจะดูไกลตัวไปหน่อยแต่เรื่องนี้มันไม่ได้เกินจริงนะหมอก พี่ขอเอาเกียรติและอาชีพของพี่ยืนยันได้เลยว่าหมอกเป็นโรคนี้จริงๆ หมอกสร้างอีกบุคลิกขึ้นมานั่นก็คือเมฆ มันคือกลไกการปกป้องตัวเองอีกทางหนึ่งของมนุษย์ เพื่อรองรับความเครียด ความกดดัน และความเจ็บปวดที่ได้รับจากพ่อแม่ หมอกสร้างเมฆขึ้นมาตั้งแต่อายุ 12 แล้ว” คำพูดของหมอเจทำให้ผมรู้สึกหดหู่และสะเทือนใจ ถึงแม้ผมจะพอเดาเหตุผลที่หมอกมี 2 บุคลิกได้แล้ว แต่พอรู้ว่าหมอกเป็นแบบนี้มาตั้งแต่ชั้นประถมมันก็ทำให้ผมรู้สึกจุกในอกจนแทบน้ำตาคลอ


“พี่หมอรู้เรื่องนี้มาตั้งแต่ตอนไหน แล้วทำไมถึงไม่ยอมบอกผม” หมอกเอามือเสยผมแล้วก้มหน้าลงต่ำ ท่าทางตอนนี้เหมือนจะยอมรับได้แล้วว่าตัวเองมี 2 บุคลิก แสดงว่าความเครียด ความกดดัน และความเจ็บปวดที่ได้รับมันคงจะมากมายจริงๆ สินะ


“พี่รู้เรื่องนี้ประมาณ 2 ปีก่อน ตอนนั้นเมฆโทรหาพี่เพราะถูกจับที่แอบเข้าผับทั้งที่อายุไม่ถึง พอพี่ซักไซ้ก็บอกว่าเครียดเลยมาหาที่ระบาย แล้วก็เล่าเหตุผลที่หมอกสร้างตัวเองขึ้นมาให้พี่ฟัง ส่วนที่พี่เก็บเงียบเอาไว้ก็เพราะเรื่องนี้มันค่อนข้างจะอธิบายยาก และเมฆก็ขอพี่เอาไว้ด้วยเพราะไม่อยากให้หมอกต้องทนกับความกดดัน เมฆจะเป็นคนรับมันเอาไว้เอง” พอได้ยินแบบนี้หมอกก็เงียบไปพักใหญ่เพราะคงมีหลายเรื่องให้ต้องคิด โดยเฉพาะความรู้สึกเกลียดและต่อต้านเมฆที่เกิดขึ้นในครั้งแรก


บางทีตอนนี้หมอกคงจะกำลังพยายามยอมรับเมฆ ซึ่งเป็นอีกตัวตนหนึ่งของตัวเองอยู่ก็ได้ หมอกได้แต่นั่งนิ่งๆ โดยไม่พูดอะไร ส่วนผมกับหมอเจก็ไม่ได้ส่งเสียงรบกวนแต่อย่างใด เพียงแค่ให้กำลังใจอยู่ใกล้ๆ จนกระทั่งหมอกคงจะยอมรับเมฆได้จึงเริ่มเอ่ยปากออกมาอีกครั้ง


“มีวิธีไหนมั้ยครับที่ผมจะได้เจอกับเมฆ” คำถามนั้นทำเอาหมอเจถอนหายใจออกมา ก่อนจะส่ายหน้าไปมาช้าๆ


“ไม่มีหรอก เพราะถ้าเมฆออกมาหมอกก็จะอยู่ในภาวะหลับไหล ไม่มีความทรงจำในช่วงเวลาที่เมฆออกมา เพราะแบบนี้ไงล่ะเมฆถึงได้ให้พี่ช่วยโกหกทุกคนว่าหมอกร่างกายอ่อนแอจนวูบอยู่บ่อยๆ”


“ถ้างั้นก็แสดงว่าเมฆจะออกมาตอนที่ผมวูบไปสินะครับ”


“ใช่”


“แล้วพี่หมอรู้มั้ยว่าช่วงเวลาไหนเมฆจะออกมา”


“ตอนที่หมอกอยู่ในภาวะที่เครียดมากๆ ตอนนั้นแหละที่เมฆจะออกมารับความกดดันนั้นแทน จนเมื่อเมฆนอนหลับไปตัวตนของหมอกก็จะกลับมาอีกครั้ง”


“มิน่าล่ะผมถึงไม่เคยเห็นเมฆนอนหลับเลย เมฆจะทำให้ผมหลับก่อนทุกครั้งแล้วก็ใช้จังหวะนั้นหนีไปเสมอ” ผมเผลอพูดความคิดที่อยู่ในใจออกมา คำพูดนั้นทำให้หมอกหันหน้ามาหา ผมที่พอรู้ตัวว่าพลาดมากจึงได้รีบเอามือปิดปากเอาไว้ทันที


“ฉะ...ฉันขอโทษนะหมอก ฉันไม่ควรพูดชื่อเมฆตอนนี้ ฉัน...” ผมละล่ำละลัก โดยที่สมองก็พยายามคิดข้อแก้ตัวดีๆ เพื่อที่จะไม่ให้หมอกรู้สึกโกรธ แต่ก็ดูเหมือนว่าผมจะคิดมากเกินไปหน่อย เพราะนอกจากไม่โกรธหมอกยังพูดกับผมออกมาว่า...


“เล่าเรื่องของเมฆให้ผมฟังหน่อยได้มั้ยครับ”


“หา?” ผมเบิกตากว้างและอ้าปากค้างอย่างคาดไม่ถึง


“เอ่อ...นายพูดจริงหรอหมอก นายไม่ได้โกรธเกลียดเมฆแล้วหรอ” หมอกส่ายหน้าไปมาช้าๆ กับคำถามของผม


“ถึงผมจะยังรู้สึกแปลกๆ ที่มีเมฆเป็นอีกหนึ่งตัวตนของผมก็เถอะ แต่เมฆทำเพื่อผมขนาดนั้นแล้วผมจะไปโกรธเกลียดเมฆลงได้ยังไง ผมต้องขอบคุณมากกว่าที่เมฆเกิดมาเพื่อผม แต่ผมกลับพูดจาไม่ดีถึงเมฆไปแบบนั้น...” หมอกพูดได้เท่านี้ก็เงียบไป สีหน้าของหมอกดูเสียใจกับคำพูดตัวเองจริงๆ


 “ฉันเชื่อว่าเมฆต้องไม่โกรธนายแน่นอน เมฆต้องดีใจมากกว่าที่ถูกนายยอมรับ” ผมยิ้มให้แล้ววางมือลงบนไหล่ของหมอก หมอกจึงวางมือทับลงไปแล้วยิ้มบางๆ ตอบผม เราสองคนยิ้มให้กันจนบรรยากาศที่ขุ่นมัวเมื่อกี้ค่อยๆ สดใสขึ้นมา


“ในที่สุดก็เข้าใจกันได้แล้วนะ ทีนี้เชื่อรึยังล่ะว่าธารจะต้องขอบคุณผม” หมอเจพูดยิ้มๆ หน้าตาตอนนี้น่าหมั่นไส้จนผมอยากแยกเขี้ยวใส่ แต่ผมก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าที่ผมกลับมาคืนดีกับหมอกก็เพราะหมอเจจริงๆ


“เออ เชื่อแล้ว ขอบคุณนะหมอ เดี๋ยวผมจะเลี้ยงข้าวตอบแทนชุดใหญ่แบบไม่อั้นเลยเอ้า” ผมพูดอย่างใจป้ำ ส่วนหมอเจก็หัวเราะอย่างขำๆ ออกมา
“โอเคธารพูดแล้วนะ” หมอเจทำหน้าเจ้าเล่ห์


“โหย ทำหน้าแบบนี้นี่ผมชักกลัวแล้วนะว่าหมอจะจัดเต็มจนผมล้มละลายรึเปล่า” ผมทำหน้าหวาดๆ สีหน้าและคำพูดของผมเล่นเอาหมอเจถึงกับขำพรืด


“ผมไม่ใช่คนแบบนั้นหรอกน่า ธารนี่ก็ชอบมองผมในแง่ร้าย”


“นั่นเพราะผมมองออกน่ะสิว่าที่จริงหมอเป็นคนยังไง” หมอเจยักไหล่ไม่แก้ตัวใดๆ ทั้งนั้น ผมจะถือว่านั่นคือการยอมรับก็แล้วกันว่าผมพูดถูก
“เออจริงด้วย ผมมีเรื่องที่ยังสงสัยอยู่อีกอย่างน่ะหมอเจ”


“หืม? เรื่องอะไรหรอ?”


“คือผมไม่เข้าใจว่าทำไมเมฆต้องโกหกด้วยว่าตัวเองเป็นแฝดน้อง ทั้งที่เมฆเป็นอีกบุคลิกหนึ่งของหมอก” คำถามของผมทำให้หมอกทำหน้าสงสัยด้วยคน จึงได้หันไปรอคำตอบจากหมอเจด้วย


“เมฆต้องการทดสอบความรู้สึกของธารว่า จะรักมากถึงขนาดที่ยอมตัดใจเพราะเลือกใครไม่ได้รึเปล่า ถ้าหากธารเลือกทั้งคู่แล้วมีเหตุผลไม่มากพอนอกจากความต้องการของตัวเอง เมฆจะไม่ไปเจอธารอีกและจะทำเหมือนว่าตัวเองกลับต่างประเทศไปแล้ว เพราะถึงจะรักธารมากแค่ไหนแต่สำหรับเมฆหมอกนั้นคืออันดับ 1 เสมอ แต่ถ้าธารเลือกจะเสียสละและตัดใจ เมฆก็ให้ผมพาธารมาเจอกับหมอกที่นี่ และให้บอกเรื่องที่มี 2 บุคลิกให้หมอกรับรู้ด้วย”


สิ่งที่ได้ยินทำให้ผมถึงกับพูดไม่ออก ถ้าตอนนั้นผมเลือกอีกทางนึกไม่ออกเลยว่าชีวิตของผมจะเป็นยังไง การถูกบอกเลิกจากคนที่รักพร้อมกันมันทรมานหัวใจมากเกินจนผมแทบรับไม่ไหว ดีจริงๆ ที่การตัดสินใจครั้งนั้นทำให้ผมได้มานั่งอยู่ที่นี่


“เอาล่ะ ในเมื่อเรื่องทุกอย่างเคลียร์แล้วงั้นวันนี้ผมขอตัวกลับก่อนแล้วกัน...พี่ไปแล้วนะหมอก” ประโยคสุดท้ายหมอเจหันไปพูดกับหมอก ซึ่งหมอกก็พยักหน้าลงแล้วยกมือไหว้ และหลังจากที่หมอเจออกจากห้องไปหมอกจึงได้ขยับมานั่งใกล้ๆ พร้อมหันหน้ามาคุยกับผม


“ผมขอโทษนะครับคุณธารที่วันนี้พูดจาไม่ดีกับคุณ แถมยังทำให้คุณร้องไห้จนตาบวมอีกต่างหาก” หมอกพูดอย่างรู้สึกผิดพร้อมกับยกมือขึ้นมาประคองที่ใบหน้าของผม จากนั้นก็ใช้นิ้วหัวแม่มือลูบไล้ที่ใต้ดวงตาไปมาอย่างแผ่วเบา


“ไม่เป็นไรฉันไม่โกรธนายหรอก ฉันสิที่ต้องเป็นคนถามว่านายยังโกรธฉันอยู่รึเปล่า เรื่องที่ฉันกับเมฆ...เอ่อ...จะว่ายังไงดีล่ะ...ฉันรู้สึกกับเมฆเหมือนที่รู้สึกกับนาย ฉันรักพวกนายเท่ากันทั้งสองคน” ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าการตัดสินใจพูดออกไปแบบนี้มันจะดีหรือร้าย แต่ไม่ว่าผลมันจะออกมาเป็นยังไง ผมก็ไม่เสียใจเพราะได้พูดความจริงออกไปแล้ว


หลังจากพูดจบหมอกก็มองตรงเข้ามาในดวงตาของผมสักพัก สีหน้าและสายตาของหมอกนิ่งมากจนผมเดาไม่ออกว่าหมอกกำลังรู้สึกยังไง และก่อนที่ผมจะรู้สึกใจแป้วหมอกก็ยิ้มออกมาช้าๆ


“ทำไมผมต้องโกรธคุณด้วยล่ะครับ ก็เมฆกับผมเป็นคนคนเดียวกัน แถมยังมีหัวใจดวงเดียวกันอีกต่างหาก ผมรักคุณมันก็ไม่แปลกเลยที่เมฆจะรักด้วย ส่วนการที่คุณจะรักทั้งผมและเมฆมันก็ไม่แปลกเหมือนกัน ก็เพราะนั่นมันคือตัวผมทั้งคู่” คำพูดของหมอกทำให้ผมยิ้มกว้างออกมา ความสุขและความดีใจที่ปัญหาทุกอย่างคลี่คลายจึงทำให้ผมโผเข้ากอดหมอกแน่น ซึ่งหมอกก็กอดตอบผมอย่างแนบแน่นเช่นกัน


“ผมรักคุณนะครับคุณธาร”


“ฉันก็รักนายเหมือนกัน” เราสองคนยิ้มกว้างและกอดกันอยู่อย่างนั้นเนิ่นนาน จนกระทั่งซึมซับความรักจากกันและกันอย่างเต็มที่นั่นแหละ จึงได้คลายอ้อมกอดออกมาในที่สุด


“ผมอยากฟังเรื่องของเมฆ คุณพอจะเล่าให้ผมฟังได้มั้ยครับคุณธาร”


“ได้สิ นายอยากรู้เรื่องอะไรล่ะ”


“ก็เรื่องทั่วไปแหละครับ อย่างเช่นนิสัยอะไรแบบนี้”


“อืม...จะว่ายังไงดี...เมฆตรงข้ามกับนายทุกอย่างเลยล่ะหมอก ทั้งเจ้าเล่ห์ กวนประสาท แล้วก็ปากเสีย เรียกได้ว่าเป็นวายร้าย ต่างจากนายที่แสนดีราวฟ้ากับเหว เฮอะ! พูดแล้วก็หมั่นไส้ ไม่เข้าใจจริงๆ ว่าฉันหลงไปรักคนแบบนั้นได้ยังไง” ผมเบ้ปากแล้วถอนหายใจออกมา หมอกที่เห็นแบบนั้นเลยหัวเราะออกมาอย่างขำๆ


“ถึงจะพูดแบบนั้นแต่ท่าทางคุณมีความสุขมากเลยนะครับ ว่าแต่ปกติเวลาที่อยู่กับเมฆคุณจะทำอะไร หืม...ทำไปหน้าแดงล่ะครับคุณธาร?” หมอกพูดด้วยท่าทางสงสัย


ก็จะไม่ให้ผมหน้าแดงได้ยังไง ในเมื่อกิจกรรมเดียวที่ผมทำเวลาที่อยู่กับเมฆก็คือเซ็กส์อย่างเดียวนี่นา!


“เอ่อ...คือ...” ผมได้แต่อึกอักเพราะน้ำท่วมปาก ส่วนหมอกก็ยังรอคำตอบด้วยใบหน้าใสซื่อเช่นเดิม


“ว่ายังไงครับคุณธาร?”


โอ๊ย! ให้ตาย! นี่ผมควรจะโกหกหมอกหรือว่าควรจะบอกความจริงออกไปดี!


“คือ...นายจะโกรธมั้ยถ้าฉันจะบอกว่า กิจกรรมเดียวที่ฉันทำกับเมฆก็คือเซ็กส์” ผมกลั้นใจตอบความจริงออกไป เพราะผมไม่อยากโกหกหรือปิดบังอะไรหมอกอีกแล้ว


“ที่ไหน...คุณสองคนมีอะไรกันที่ไหนบ้าง” หมอกพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉย แต่ไม่รู้ทำไมผมถึงรู้สึกได้ถึงความเย็นยะเยือกที่แผ่ซ่านออกมา จนตอนนี้ผมรู้สึกขนลุกแทบจะทั้งตัวอยู่แล้ว


“คะ...ครั้งแรกก็ที่โรงแรม ห้องเดียวกับที่เคยไปกับนาย” ผมก้มหน้าลงต่ำแต่ก็แอบลอบมองขึ้นไปมองหมอก ตอนนี้ผมรู้สึกว่าตัวเองราวกับเป็นนักโทษที่กำลังถูกสอบสวนยังไงไม่รู้


“นี่ตั้งใจจะทับไลน์กันงั้นหรอ” ผมไม่รู้ว่าหมอกตั้งใจจะพูดกับใครระหว่างผมกับเมฆ แต่ที่แน่ๆ ตอนนี้ผมคิดว่าหมอกน่าจะเริ่มไม่สบอารมณ์ขึ้นมาแล้วล่ะ


“เมฆเคยพาคุณขึ้นมาที่ห้องนี้รึเปล่าคุณธาร”


“เปล่าๆ ไม่เคยเลยหมอก” ผมรีบส่ายหน้าปฏิเสธทันที คำตอบนั้นเป็นที่น่าพอใจจนทำให้บรรยากาศรอบตัวของหมอกแจ่มใสขึ้นมาหน่อย


“แล้วคุณเคยมีอะไรกับเมฆที่ไหนอีกบ้าง ระหว่างเมฆกับผมคุณเจอใครบ่อยกว่ากัน”


“ก็ต้องเป็นนายอยู่แล้ว เมฆทำตัวเหมือนผีที่เดี๋ยวแว้บไปแว้บมาตามจับตัวไม่ได้ เพราะงั้นฉันเลยมีอะไรกับเมฆแค่ 2 ครั้ง ครั้งแรกก็ที่โรงแรมอย่างที่เคยบอกไป ส่วนครั้งสุดท้ายก็คือในรถ เพราะงั้นนายไม่ต้องกังวลหรอกว่าฉันจะเจอเมฆมากกว่านาย” ผมยืนยันด้วยน้ำเสียงหนักแน่นจริงจัง โดยที่คิดว่าคำตอบนั้นจะทำให้หมอกอารมณ์ดีขึ้น แต่ก็ดูเหมือนว่ามันจะไม่ได้เป็นแบบนั้น


“บนรถ...คุณบอกว่ามีอะไรกับเมฆบนรถงั้นหรอครับคุณธาร” หมอกถามด้วยเสียงราบเรียบ ส่วนใบหน้าก็ยังนิ่งเฉยไม่ต่างจากปกติ แต่ผมกลับสัมผัสได้ถึงบรรยากาศที่แตกต่างออกไป


“นี่อย่าบอกนะว่านายกำลังหึงเมฆ?” ผมหรี่ตาลงแล้วถามอย่างไม่ค่อยแน่ใจ


“ทำไมผมต้องหึงด้วยครับ ในเมื่อเมฆกับผมก็เป็นคนคนเดียวกัน” ถึงจะบอกไม่หึง แต่หน้าของหมอกกลับบึ้งตึงอย่างชัดเจน


“ไม่หึงก็ไม่หึง ถ้างั้นฉันจะเล่ารายละเอียดให้นายฟังด้วยเลยแล้วกัน คืนนั้นน่ะฉันกับเมฆ...” แต่ยังไม่ทันที่ผมจะได้พูดอะไรต่อ หมอกก็รีบพูดขัดขึ้นแล้วหันหน้าหนีไปอีกทาง


“พอเถอะครับคุณธาร ผมไม่อยากฟังเรื่องของเมฆแล้ว” สีหน้าของหมอกในตอนนี้งอง้ำจนแทบจะเป็นตะขอ ผมจึงคิดว่าถ้าแกล้งหมอกมากกว่านี้มีสิทธิ์โดนโกรธจริงๆ จนง้อไม่หายแน่นอน


“โอเค ฉันไม่พูดเรื่องเมฆแล้วก็ได้ เพราะงั้นมาคืนดีกันนะ เลิกงอนเลิกหึงได้แล้วเด็กดี” ผมพลิกตัวไปนั่งคร่อมที่ตักของหมอกเอาไว้ จากนั้นก็ใช้สองแขนโอบรอบลำคอตรงหน้าอีกที


“ผมไม่เด็กแล้วนะครับคุณธาร” ผมคิดว่านอกจากหน้าตา ก็คงเป็นเรื่องที่ไม่ชอบให้เรียกว่าเด็กนี่แหละที่หมอกเหมือนกันกับเมฆ


“โอเคๆ นายไม่ใช่เด็กแต่เป็นผู้ใหญ่ ไม่งั้นจะสามารถทำเรื่องแบบนี้ได้ยังไงกันล่ะเนอะ” พูดจบผมก็ก้มหน้าลงไปจุ๊บที่ริมฝีปากของหมอก การกระทำนั้นทำให้หมอกอารมณ์ดีขึ้นมากจนผมรู้สึกได้ แม้ว่าหมอกจะยังไม่ได้ยิ้มออกมาแต่ใบหน้าก็เลิกบูดบึ้งแล้ว


“ผมอยากรู้ว่าระหว่างผมกับเมฆใครเก่งเรื่องแบบนั้นมากกว่ากันครับคุณธาร”


“หา?” คำถามที่ถามออกมาแบบไม่มีปี่มีขลุ่ยของหมอกทำให้ผมถึงกับเหวอ อยู่ดีๆ จะถามเรื่องแบบนี้ขึ้นมาทำไม แล้วถ้าหากตอบความจริงออกไปหมอกจะโกรธผมมั้ยเนี่ย


“เอ่อ...”


“ว่ายังไงครับคุณธาร หรือที่อึกอักเป็นเพราะไม่กล้าตอบว่าเมฆเก่งกว่าผม” ก็ใช่น่ะสิ! ขืนตอบไปแบบนั้นนายได้โกรธฉันจริงจังแน่ๆ!


“ไม่ใช่สักหน่อย แต่ฉันเปรียบเทียบไม่ถูกเพราะพวกนายสไตล์ต่างกันไงเล่า แต่ถ้าจะให้ตอบว่าฉันชอบมีอะไรกับใครมากกว่า คนคนนั้นก็คือนายนะหมอก” ที่พูดไปผมไม่ได้โกหกแต่อย่างใด ผมรู้สึกดีเวลาที่มีเซ็กส์กับหมอกมากกว่าจริงๆ เพราะหมอกมักจะทำตามคำสั่งไม่ชอบบังคับเหมือนกับเมฆ ผมชอบเป็นคนคุมเกมเองเพราะมันเร้าใจกว่าเยอะ


“คุณพูดจริงหรอครับ?” ถึงจะถามแบบนี้แต่สีหน้าของหมอกก็ดูจะเชื่อคำพูดของผมไปแล้ว


“สาบานได้เลยว่าจริง 100 เปอร์เซ็นต์” เท่านั้นแหละหมอกก็หายหน้าบึ้งแล้วอมยิ้มออกมาได้ มิหนำซ้ำยังยกสองมือขึ้นมาโอบรอบเอวของผมเอาไว้อีกต่างหาก


“ถ้างั้นผมขอพิสูจน์ได้มั้ยครับ”


“พิสูจน์? ยังไง?” ผมทำเป็นไม่เข้าใจทั้งที่รู้เต็มอกอยู่แล้ว


“เป็นของผมนะครับ...นะครับคุณธาร...” พอโดนอ้อนด้วยเสียงที่นุ่ม ทุ้ม สุภาพ แต่แอบมีความกระเส่าและแหบพร่านิดๆ มันก็ทำให้ผมถึงกับใจสั่นและต้องร้องซี้ดในใจ ผมจำได้ว่าผมแพ้เสียงนี้ตั้งแต่แรกเจอ แล้วก็คงจะแพ้ตลอดไปอย่างไม่ต้องสงสัยแน่นอน


“ถึงไม่ต้องขอฉันก็เป็นของนายอยู่แล้ว” พูดจบผมก็ก้มหน้าลงไปจูบที่ริมฝีปากของหมอกทันที จูบนี้เป็นจูบที่หวานล้ำและวาบหวามยิ่งกว่าครั้งไหนๆ ซึ่งก็อาจเป็นเพราะหัวใจของเราสองคนได้หลอมรวมกันเป็นหนึ่งเดียวอย่างสมบูรณ์...


2BC


สวัสดีค่ะ Erotic หัวใจร้อนรัก ตอนที่ 10 ก็จบลงไปแล้วน้า ในที่สุดก็ได้รู้ความจริงสักทีว่าหมอกกับเมฆเป็นคนคนเดียวกัน รวมทั้งเหตุผลที่เมฆโกหกว่าเป็นฝาแฝด และการกระทำแปลกๆที่ผ่านมา เพราะงั้นก็ขอแสดงความดีใจกับทีม 2 บุคลิกด้วยน้าเพราะคุณได้ไปต่อ  :mc4: ส่วนทีม 3P ก็อย่าพึ่งใจแป้วเน่อ แอบกระซิบเลยว่าตอนพิเศษในเล่มมีฉาก 3P ด้วยน้า (แอบมาเนียนขายของ แบบว่าใกล้ปิดพรีแล้ว อิอิ  :m23:)
ส่วนตอนหน้าและตอนต่อๆไปเราจะพยายามรีบมาลงให้บ่อยขึ้นนะคะ เพราะอยากจะรีบลงนิยายให้จบก่อนวันปิดจอง (เรื่องนี้จริงๆมี 13 ตอนแต่เราว่าจะปรับให้เหลือ 12 โดยให้แต่ละตอนมีความยาวมากขึ้น อย่างตอนนี้เราก็แอบเอาของตอนหน้ามาใส่เหมือนกัน มันถึงได้ยาวขนาดนี้ แหะๆ)
สำหรับเรื่องที่เรามาต่อช้ากว่าที่นัดไม่ใช่ว่าเราลืมหรือจะไม่ลงต่อแล้วน้า อย่าพึ่งเข้าใจผิดเน่อ แต่เป็นเพราะว่าเสาร์-อาทิตย์ที่ผ่านมาเราไปทำธุระที่กทม. แล้วก็ไปรับน้องเหมียวมาเลี้ยงแทนตัวเก่าที่ตาย ซึ่งเราไม่ได้เอาโน้ตบุ๊คไปเลยลงนิยายไม่ได้ เพราะงั้นก็ต้องอภัยที่มาลงช้าด้วยนะคะ  :m5: ส่วนหลังจากนี้เราไม่ได้ไปไหนแล้วก็จะลงตามนัดเหมือนเดิม แต่จะดึกหน่อยเพราะช่วงสิ้นเดือนงานเยอะมากกก ต้องกลับช้ากว่าเวลาปกติหลายชั่วโมงเลย  :katai4: แต่ยังไงจะรีบมาต่อให้เร็วที่สุดนะคะ แล้วเจอกันตอนหน้าในวันสองวันนี้นะคะบ๊ายบายยย  :bye2:
(27 พ.ย. 60)

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
คืนดีกันแล้ว จุดพลุฉลองจ้า

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
ชอบพี่หมอเจ   :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
สองบุคลิกจนได้

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
คนแก่อยากให้เมฆกับหมอกเจอกันอ่ะ แต่หมอเจบอกเป็นไปไม่ได้ ให้เจอกันแบบเป็นคลิปได้ปะ จะได้เข้าใจกันมากขึ้น ส่วนจะมี 3P เกิดขึ้น ยังนึกไม่ออกว่าจะเป็นแบบไหน จะเป็นในฝันของธารปะ  :confuse:

ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6
ในที่สุดก็เข้าใจกันจนได้   :katai2-1:

แอบนึกว่าจะมีบิ้กเซอไพรส์ซะอีก  ฮุ ฮุ 

ออฟไลน์ Al2iskiren

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1775
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-3
เคลียร์กันเรียบร้อย :katai2-1:

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
ว้ารอสามพีในฝันนะคะ
ดีกันแล้วก้อดีใจนะเนี่ย ธารจะรับมือทั้งสองไหวไหมนะ5555

ออฟไลน์ EoBen

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3306
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-6
เราอ่านเรื่องนี้แล้วนึกถึงหนังเกาหลีเรื่องนึงที่พระเอกมี 7-8 บุคคลิกเยอะมาก จะออกมาตามอารมณ์ตอนนั้น

แล้วเราจำได้ว่าเครียดและเศร้ามากตอนพระเอกหายจากโรค เหลือเป็นเพียงบุคคลิกปกติ

เพราะเราพูกพันกับตัวบุคคลิกทุกตัวมาก   


เราเลยเชียร์เป็น 3พี ตั้งแต่แรก เรากลัวว่าเมฆ หรือ หมอกจะหายไป


เค้าจะอยู่ทั้งคุ่ใช่ไหมคะ

ออฟไลน์ Micky_MN

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 198
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-3
โง้ยดีกันละน่ารัก ดีอะเหมือนได้แฟนสองคน

ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0

ออฟไลน์ Dee^daY

  • ไม่เคย ทำให้ใครเดือดร้อน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +330/-6
โดนควบ 2 บุคลิก ..

ออฟไลน์ Y-Darkness

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 189
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-0

ออฟไลน์ Sameejaejung

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 394
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +457/-17
[H.E.A.R.T.] E.Erotic หัวใจร้อนรัก


Part 11# Thara ความรักไม่ใช่แค่เรื่องบนเตียง เปลี่ยนระเบียงเป็นโซฟาหรือเครื่องซักผ้าแทนก็ได้


“อืม...” ความหวานจากรสจูบทำให้ร่างกายของหมอกและผมแทบหลอมละลาย แต่ถึงอย่างนั้นในระหว่างนี้พวกเราก็ใช้มือปลดเปลื้องเสื้อผ้าของอีกฝ่ายไปด้วย จนเมื่อเปลือยเปล่าทั้งตัวแล้วเราสองคนก็ลูบไล้ที่ร่างกายของกันและกัน ความร้อนของฝ่ามือที่ลากผ่านตามส่วนต่างๆ ทำให้อารมณ์ของเราพุ่งทะยานสูงขึ้นอีกเป็นทวีคูณ


“อา...” เสียงครางกระเส่าหลุดออกมาเบาๆ เมื่อเราทั้งคู่ถอนจูบออกมา ก่อนที่หมอกจะก้มหน้าลงไปซุกไซ้ที่ซอกคอของผม ตามด้วยการขบเม้มและดูดเลียเบาๆ จนผมต้องซี้ดปาก แต่หลังจากที่ถูกนิ้วมือของหมอกบีบขยี้ตรงยอดอก เสียงครางของผมก็ดังระงมมากขึ้นกว่าเดิม


“อา...ซี้ดด...อาา...” ความเสียวซ่านทำให้ร่างกายของผมสั่นสะท้าน ยิ่งนานวันหมอกก็ยิ่งเก่งและโปรมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่ต้องรอให้ผมออกคำสั่งก็รู้แล้วว่าต่อไปต้องทำแบบไหน แถมยังรู้ใจว่าผมชอบให้ดูดและเลียมากกว่า จึงได้ก้มหน้าลงมาใช้ริมฝีปากครอบครองพร้อมกับตวัดลิ้นด้วยความรวดเร็ว


“อ๊ะ...อ๊ะ...อ๊า...” ลีลาของหมอกทำเอาผมเสียวมากจนต้องแอ่นอกขึ้น สองมือจิกทึ้งที่เส้นผมดำขลับข้างหน้าไปมาเพื่อระบายความเสียวซ่าน


หมอกเหลือบสายตาขึ้นมามองใบหน้าอันสุขสมของผมแว้บหนึ่ง แล้วจึงออกแรงดูดที่ยอดอกให้แรงยิ่งขึ้น ตวัดลิ้นเลียให้เร็วมากขึ้น ส่วนยอดอกอีกข้างก็ถูกบีบขยี้อย่างหนักหน่วงไปพร้อมกัน สร้างความเสียวกระสันให้ผมจนครางลั่นอย่างห้ามไม่อยู่


“อ๊า...อ๊ะ...อ๊า...อ๊า...อ๊า...” ตอนนี้นอกจากเสียงคราง สะโพกของผมก็ยังส่ายร่อนไปมาอย่างควบคุมไม่ได้ ช่องทางข้างในมันต้องการอะไรสักอย่างเข้าไปเติมเต็ม หมอกที่รู้ความต้องการของผมดี จึงได้สอดนิ้วที่ชโลมไปด้วยเจลหล่อลื่นเข้าไปรวดเดียวจนสุดความยาว


“ซี้ดดด...อ๊าา...” ความเสียวซ่านที่ได้รับทำเอาผมครางลั่นด้วยความสุขสม ยิ่งตอนที่หมอกขยับนิ้วเข้าออกพร้อมกับหักงอเสียดสีกับผนังอันอ่อนนุ่ม มันก็ยิ่งทำให้ผมเสียวมากขึ้นจึงยิ่งส่งเสียงครางระงมมากกว่าเดิม


“หมอก...อ๊า...อ๊ะ...อ๊า...” จนเมื่อช่องทางด้านหลังของผมขยายออกมากขึ้น หมอกก็สอดนิ้วที่สองตามเข้ามาข้างใน จากนั้นก็เร่งจังหวะการขยับเข้าออกให้เร็วมากขึ้น โดยที่มืออีกข้างและริมฝีปากก็ยังคงฟัดที่ยอดอกของผมอย่างหนักหน่วงเช่นเดิม


   “อ๊า...อ๊ะ...อ๊า...อ๊ะ...อ๊า...” ตอนนี้ผมรู้สึกเสียวสุดๆ จนสะโพกสั่นระริกอย่างควบคุมไม่ได้ แต่ถึงนิ้วจะทำให้ผมพึงพอใจได้แค่ไหน มันก็ไม่มีทางเทียบเท่าท่อนเนื้อร้อนๆ ได้อยู่ดี ดังนั้นผมจึงใช้มือคว้าที่ท่อนเนื้อของหมอกที่อยู่ตรงหน้า ก่อนจะรูดขึ้นลงตามความยาวช้าๆ จนหมอกครางต่ำในลำคอ


   “อยากเข้ามาข้างในตัวฉันแล้วใช่มั้ย” ผมกระซิบที่ข้างหูของหมอก ก่อนจะสวมถุงยางไซส์บิ๊กแต่บางเฉียบครอบเอาไว้ จากนั้นก็ยกสะโพกขึ้นให้ปากทางเข้าจ่ออยู่ที่ส่วนปลายของแก่นกายหมอก


“อา...ครับคุณธาร...” หมอกกัดริมฝีปากล่างอย่างสะกดกลั้นอารมณ์ ผมที่เห็นแบบนั้นเลยไม่รอช้า จึงรีบกดสะโพกลงไปกลืนกินแก่นกายของหมอกทันทีจนมิดลำ


“อาา! คุณธาร!”


“อ๊าาา! อ๊ะ...อ๊า...หมอก!”


หมอกกับผมครางลั่น วินาทีที่ท่อนเนื้อร้อนๆ ที่ทั้งยาวและอวบอั๋นถูกสอดแทรกเข้ามา มันก็ทำให้ความเสียวซ่านแล่นพล่านไปทั้งร่าง จนช่องทางของผมหดตัวบีบและตอดรัดอย่างถี่ยิบ ตอนนี้เราสองคนเสียวซี้ดจนแทบขาดใจอยู่แล้ว


“อ๊า...อ๊ะ...อ๊ะ...อ๊า...” ผมไม่รอช้ารีบยกสะโพกขึ้นลงทันที แรงเสียดสีที่ผนังและแรงกระแทกตรงจุดกระสันทำให้ผมครางลั่นอย่างทนไม่ไหว สองมือจิกทึ้งและขยุ้มเส้นผมดำขลับของหมอกจนยุ่งเหยิงไปหมดแล้ว


“หมอก...หมอก...อ๊า...” ถึงผมจะเป็นฝ่ายขย่มและคุมเกมรักในครั้งนี้ แต่ก็ใช่ว่าหมอกจะนั่งนิ่งๆ พิงโซฟาเป็นหุ่นอย่างเดียว เพราะหมอกได้ใช้มือบีบขยี้ที่ยอดอกของผม ส่วนอีกข้างก็ใช้ริมฝีปากกับปลายลิ้นดูดเลีย การกระทำของหมอกทำให้ผมเสียวจนส่วนนั้นมีน้ำใสๆ ไหลออกมาแล้ว


“จะเสร็จแล้วหรอครับคุณธาร ทนอีกนิดได้มั้ย รอเสร็จพร้อมผมนะ” หมอกพูดกับผมเสียงกระเส่า แต่ถึงจะพูดอย่างนั้นหมอกกลับดูดที่ยอดอกของผมแรงขึ้น ตวัดลิ้นเลียเร็วขึ้น แถมยังใช้มือข้างหนึ่งกอบกุมส่วนนั้นของผมเอาไว้ แล้วรูดขึ้นลงตามความยาวอีกต่างหาก


“ถะ...ถ้าจะให้รอ...อ๊า...งั้นนายก็อย่า...อ๊ะ...อ๊า...ทำแบบนี้...” ผมพูดแทบไม่เป็นภาษา เพราะตอนนี้ผมเสียวซ่านจนแทบบ้าอยู่แล้ว ดูท่าถ้าปล่อยให้เป็นแบบนี้คนที่จะเสร็จคงมีแค่ผมคนเดียว ดังนั้นผมจึงได้เร่งการขยับสะโพก แถมยังก้มหน้าลงไปดูดและขบเม้มที่ซอกคอของหมอกไปด้วย


“อา!” หมอกหลุดเสียงครางออกมา แถมส่วนนั้นที่ผมยังคงขย่มกลืนกินอยู่ก็กระตุกและขยายใหญ่ขึ้น สร้างความเสียวซ่านให้ผมมากขึ้น จนช่องทางด้านหลังบีบและตอดรัดหมอกถี่ยิบจนเสียวสุดใจ


“ซี้ดด...คุณธาร...” เสียงกระเส่าของหมอกยิ่งทำให้ผมออกแรงขย่มอย่างเมามัน ส่วนหมอกก็ไม่น้อยหน้าเช่นกัน เพราะได้กอดรัดที่สะโพกของผมให้แนบแน่นแล้วกระแทกแก่นกายขึ้นสวน ดูท่าตอนนี้หมอกจวนเจียนจะเสร็จเหมือนกับผมแล้ว


“คุณธาร...อาา...คุณธาร...”


“หมอก...หมอก! อ๊า...อ๊ะ...อ๊า...”


เราสองคนครางลั่นห้อง ก่อนที่ผมจะก้มหน้าลงไปแลกลิ้นกับหมอกอย่างดูดดื่ม ส่วนสะโพกก็ยังคงส่ายร่อนและขย่มกลืนกินท่อนเนื้อร้อนๆ อย่างสุดแรง ในขณะที่หมอกก็ได้กระแทกแก่นกายขึ้นสวนอย่างไม่ยั้ง ทั้งยังขยับรูดรั้งที่ท่อนเนื้อของผมขึ้นลงอย่างรวดเร็วอีกต่างหาก การกระทำนั้นทำให้ผมเสียวมากจนทนต่อไปไม่ไหวอีกแล้ว


“อ๊า...อ๊า...อ๊าาาาา!” ผมถอนจูบออกมาแล้วเชิดหน้ากรีดร้องเป็นครั้งสุดท้าย จากนั้นก็ทิ้งกายลงอย่างสุดแรงแล้วปลดปล่อยความเสียวซ่านออกมาทันที


“คุณธาร! อาาา!” ส่วนหมอกเมื่อถูกช่องทางด้านหลังของผมบีบรัดเป็นจังหวะอย่างสุดแรง ก็พ่ายแพ้ให้แก่ความเสียวแล้วฉีดพ่นความสุขสมที่ได้รับออกมาจนหมดเช่นกัน ซึ่งหลังจากนั้นผมก็ทรุดกายลงไปซบที่ซอกคอของหมอก พร้อมกับหอบหายใจออกมาอย่างแรง


“อา...เก่งขึ้นกว่าเดิมเยอะเลยนะหมอก” ผมพูดในขณะที่ยังคงหอบเช่นเดิม


“ที่ผมอ่านมากกว่าหนังสือก็คือเรื่องพวกนี้นี่แหละครับ” หมอกพูดยิ้มๆ คำพูดนั้นทำให้ผมรีบยืดตัวขึ้นทันที


“ถามจริง ตอนนี้นายคือหมอกแน่รึเปล่าเนี่ย” ถึงสีหน้า แววตา และบรรยากาศโดยรวมจะเป็นหมอกจริงๆ แต่ผมก็อดจะแปลกใจไม่ได้อยู่ดีเพราะหมอกเคยพูดจาแบบนี้ที่ไหน


“อะไรกันครับ พูดแบบนี้มันน่าน้อยใจนะคุณธาร” หมอกทำหน้างอง้ำ


“โธ่...ไม่เอาไม่งอนนะ ก็ปกตินายไม่เคยพูดแบบนี้ฉันก็ต้องสับสนเป็นธรรมดาสิ” ผมทำตาปริบๆ เพื่อง้อ แถมยังใช้สองมือประคองที่ข้างแก้มแล้วก้มลงไปจุ๊บปากหมอกอีกสองที


“ที่พูดไปเมื่อกี้ผมพูดจริงนะครับ ผมศึกษาแล้วก็อ่านเรื่องพวกนี้เยอะมาก เพราะผมอยากทำให้คุณมีความสุข” หมอกพูดอย่างจริงจัง สายตาที่มองตรงมานั้นทำให้ผมอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา


“ขอบใจมากนะ ฉันมีความสุขจริงๆ” พูดจบผมก็ก้มหน้าลงไปจูบหมอกอีกครั้ง โดยที่คราวนี้ผมใช้ลิ้นเลียไปที่ริมฝีปาก จากนั้นก็ตามด้วยการงับและขบเม้มเบาๆ อีกด้วย


“พอคุณทำแบบนี้ผมก็มีอารมณ์ขึ้นมาอีกครั้งน่ะสิครับ” คำพูดนั้นของหมอกทำให้ผมหัวเราะออกมาเบาๆ


“ถ้างั้นเดี๋ยวฉันรับผิดชอบเอง ไปที่เตียงกันมั้ยหรือจะต่อยกสองที่นี่” ถึงแม้ที่โซฟานี้จะไม่กว้างเท่าเตียง แต่มันก็ไม่ได้ลำบากแถมยังทำได้หลายท่าอีกต่างหาก


“ผมอยากไปตรงที่คุณกับเมฆยังไม่เคยไป” พอได้ยินแบบนี้ผมก็แทบจะหลุดขำพรืดทันที นี่หรอที่บอกว่าไม่หึง ถ้าหึงนี่จะขนาดไหน


“อืม...งั้นไปที่ระเบียงดีมั้ย” อย่าว่าแต่กับเมฆเลย ขนาดผู้ชายคนอื่นผมยังไม่เคยทำที่ระเบียงด้วยซ้ำ ก็นะ...มีเตียงให้ทำสบายๆ ผมก็เลยไม่รู้จะไปทำตรงอื่นทำไม


“ไม่เอาครับ ถ้าทำที่ระเบียงผมกลัวว่าจะมีใครเห็นหน้าตาเซ็กซี่กับร่างกายสวยๆ ของคุณ” หมอกพูดด้วยใบหน้าจริงจัง (หวงจริงจัง) ทำเอาผมรู้สึกเขินจนหน้าร้อนวาบขึ้นมา


“ถ้างั้นจะไปตรงไหนดีล่ะ อืม...โต๊ะ ตู้ เตียง มันก็ธรรมดาเกินไป อ๊ะ! ถ้างั้นเอาเป็นเครื่องซักผ้ามั้ย ฉันว่ามันก็น่าจะได้อารมณ์ไปอีกแบบ” ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะมีคู่รักคู่ไหนเคยมีอะไรกันที่เครื่องซักผ้าบ้าง แต่ผมว่ามันก็น่าจะดีนะ ยิ่งถ้าเปิดให้เครื่องสั่นไปพร้อมกับตอนที่ทำด้วยล่ะก็ แค่คิดผมก็แทบจะร้องซี้ดด้วยความเสียวอยู่แล้ว


“อึ่ก! อะไรกันครับ จู่ๆ ก็รัดผมซะแน่นขนาดนั้น” หมอกกัดริมฝีปากล่าง ท่าทางจะเสียววาบขึ้นมาเมื่อผมเผลอบีบรัดท่อนเนื้อที่ยังคงอยู่ในตัวของผม


“ก็ฉันทนไม่ไหวแล้วน่ะสิ ไปเร็ว ไปที่เครื่องซักผ้ากัน” ผมอมยิ้มแล้วใช้สองมือโอบรอบลำคอของหมอกเอาไว้


“ถ้างั้นก็เกาะให้แน่นๆ นะครับ” พูดจบหมอกก็ลุกขึ้นยืน ผมจึงเกี่ยวขาพันรอบเอวของหมอกเอาไว้ แต่ยิ่งหมอกก้าวเท้าเดินออกไปมากเท่าไหร่แรงเกี่ยวของผมก็ยิ่งหดหาย เพราะความเสียวซ่านจากแรงสั่นทุกย่างก้าว ได้แผ่กระจายทั่วร่างจนผมสั่นสะท้านไปหมดแล้ว


“อื้อ...หมอก...” ผมซุกใบหน้าลงไซ้ที่ซอกคอของหมอกเพื่อระบายความเสียวซ่าน หมอกจึงครางซี้ดแล้วยิ่งก้าวอย่างรวดเร็วจนไปถึงเครื่องซักผ้า ตอนแรกหมอกก็ว่าจะวางผมลงบนฝาแต่ว่ามันสูงเกินไป หมอกจึงวางผมลงบนพื้นให้ยืนหันหลังแทน


“รอแป๊บนึงนะครับคุณธาร” หมอกกระซิบที่ข้างหูของผมแล้วกดจูบลงที่ซอกคอ ก่อนจะไล่ลงมาเรื่อยๆ ตามแผ่นหลังจนผมเสียวสะท้าน จนเมื่อหมอกเปลี่ยนถุงยางเป็นอันใหม่เรียบร้อย ก็ค่อยๆ แทรกแก่นกายอันใหญ่โตเข้ามาข้างในจนกระทั่งสุดความยาว


“อาาาา...” ผมครางด้วยความเสียว การถูกสอดใส่เข้ามาอย่างช้าๆ มันช่างรู้สึกซาบซ่านแต่ก็ทรมานราวกับจะขาดใจ


“แรงๆ เลยหมอก...อ๊า! ใช่! อ๊า!” แล้วหมอกก็จัดให้ตามคำขอ โดยการถอนแก่นกายออกจนเกือบสุดความยาว แล้วกระแทกกลับเข้ามารวดเดียวมิดลำจนผมเสียวแทบบ้า ช่องทางด้านหลังจึงบีบรัดและกระตุกตอดท่อนเนื้อของหมอกเป็นจังหวะอย่างรุนแรง


“ซี้ดด...คุณธาร...” หมอกกัดปากร้องซี้ด ก่อนจะยิ่งกระแทกแก่นกายเข้ามาอย่างรุนแรงและรวดเร็วมากขึ้นจนเครื่องซักผ้าสั่นสะท้าน แต่มันก็ยังสั่นไม่มากพอผมจึงได้หมุนให้มันทำงาน เท่านั้นแหละแรงสั่นมันก็ทำให้ร่างกายผมถึงกับสะท้าน ความเสียวซ่านได้ก่อตัวเพิ่มมากขึ้นทันที


“อ๊า...อ๊ะ...อ๊า...ดีจังหมอก...เสียวมากเลย...อ๊ะ...อ๊า...” ผมจิกเล็บลงที่เครื่องซักผ้าแน่น รสชาติแปลกใหม่ทำให้ผมรู้สึกเสียวถึงใจ ยิ่งตอนที่หมอกใช้สองมืออ้อมมาขยี้ที่ยอดอกพร้อมกับการกระแทกแก่นกายเข้ามา มันก็ยิ่งทำให้ผมเสียวมากจนน้ำตาคลอขึ้นมาเลย


“อา...ข้างในคุณแน่นมาก...ซี้ดด...รัดผมไม่หยุดเลย...” หมอกครางด้วยความพึงพอใจแล้วยิ่งเร่งจังหวะการซอยแก่นกายเข้ามา จังหวะการกระแทกที่ดุดันพอบวกกับแรงสั่นของเครื่องซักผ้า มันก็ทำให้ผมเสียวมากจนน้ำใสๆ ไหลออกมาจากส่วนนั้นเป็นสาย ตอนนี้ผมใกล้จะถึงจุดสุดยอดอยู่แล้ว


“หมอก...อ๊า...อ๊ะ...ฉันจะเสร็จแล้ว...มันเสียว...อ๊า...ไม่ไหวแล้ว...” ผมพูดแทบไม่เป็นภาษา สาบานเลยว่าตอนนี้สมองของผมขาวโพลนจนคิดอะไรไม่ออกแล้วจริงๆ


“ผมก็ใกล้เสร็จแล้ว อา...ไปพร้อมกันนะครับ” หมอกพูดจบก็ก้มลงขบเม้มที่ใบหูของผม จากนั้นก็เร่งจังหวะการกระแทกแก่นกายเข้าออกอย่างไม่มียั้ง ทั้งหนักหน่วง รุนแรง และรวดเร็ว โดยที่มือข้างหนึ่งก็ยังบีบคลึงและขยี้ที่ยอดอก ส่วนอีกข้างก็เลื่อนลงมาชักแก่นกายของผมเข้าออก พอเจอการรุกเร้าจากหลายๆ ทางพร้อมกันรวมทั้งการสั่นของเครื่องซักผ้า มันก็ทำให้ความเสียวพุ่งทะยานขึ้นมาจนถึงจุดสุดยอดทันที


“อ๊า...อ๊า...อ๊า...หมอก! อ๊าาาาาาา!” ผมกรีดร้องเป็นครั้งสุดท้าย แล้วปลดปล่อยความสุขสมออกมาเป็นครั้งที่ 2 จนเลอะเครื่องซักผ้า ก่อนที่มันจะค่อยๆ ไหลลงตามแนวโน้มถ่วงจนกระทั่งถึงพื้น


ส่วนหมอกเมื่อเห็นว่าผมเสร็จแล้วก็เปลี่ยนมาใช้สองมือตรึงสะโพกของผมเอาไว้ จากนั้นก็เร่งจังหวะการซอยแก่นกายเข้ามาอย่างไม่ยั้ง จนเสียงเนื้อที่กระทบกันดังลั่นยิ่งกว่าเครื่องซักผ้า


“คุณธาร...คุณธาร! อึ่ก...อาาาา!” สิ้นเสียงนั้นหมอกก็ฝังท่อนเนื้อเข้ามาในส่วนที่ลึกที่สุด แล้วก็ถึงจุดสุดยอดโดยการฉีดพ่นความเสียวซ่านทั้งหมดเข้ามา ถึงแม้จะมีถุงบางๆ ขวางเอาไว้แต่ผมก็รับรู้ถึงความรักและความร้อนรุ่มจากหมอกได้อยู่ดี


“รักนะหมอก...ฉันรัก...นาย...” ผมพยายามจะเอี้ยวหน้ากลับไปหาหมอก แต่ก็ฝืนสังขารไม่ไหวจึงได้วูบลงไปตรงนั้น บางทีรสชาติใหม่ๆ มันอาจจะตื่นเต้นเร้าใจจนเกินไปก็ได้


“คุณธาร...คุณธารครับ...คุณธาร...” หมอกเขย่าตัวผมพร้อมกับร้องเรียก แต่ผมที่สลบไปแล้วจึงไม่รับรู้เรื่องใดๆ แม้กระทั่งตอนเช้าที่มีคนไขกุญแจเปิดประตูเข้าห้องมาผมก็ยังนอนเฉยไม่ได้รู้เรื่องเลยแม้แต่น้อย...


2BC


ฮัลโหลวววว สวัสดีค่าทุกคน ฉลองสิ้นเดือนวันเงินเดือนออกด้วยการเสียเลือดกับบท NC ที่ร้อนแรง  :pighaun: ตอนนี้ก็เป็นบทกุ๊กกิ๊กน่ารักๆ ของหมอกและธารหลังจากเจอดราม่าหนักหน่วง ซึ่งเราก็หวังว่าทุกคนจะชอบกันน้า ว่าแต่เสียเลือดกันไปคนละเท่าไหร่น้อ อิอิ  :hao3:
ส่วนตอนหน้าถ้าพรุ่งนี้เราไม่ได้ค้างที่บริษัทก็จะลงให้อ่านน้า (สิ้นเดือนเหมือนสิ้นใจเพราะงานหนักหน่วงมาก ฮืออออ  :katai4:) ที่เร่งลงแบบนี้เพราะเรื่องจะได้ลงจบก่อนปิดพรี นี่ก็ปรับตอนใหม่จนเหลือ 12 ตอนแล้วจ้า ยังไงก็มาเอาใจช่วยหมอก เมฆ และธารจนถึงบทสุดท้ายด้วยนะคะทุกคน  :กอด1:
(30 พ.ย. 60)

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด