ซีรีส์ [H.E.A.R.T.] ❤ หัวใจ...รัก [END]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ซีรีส์ [H.E.A.R.T.] ❤ หัวใจ...รัก [END]  (อ่าน 205981 ครั้ง)

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
เข้าใจผิดอีกล่ะสิ

ออฟไลน์ Micky_MN

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 198
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-3
กลับมาก่อนนนนนนนพฤกษ์เข้าใจผิดแล้ว

ออฟไลน์ Sameejaejung

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 394
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +457/-17
 
[H.E.A.R.T.] A.Avert หัวใจซ่อนรัก


Part 6# Niza การกระทำที่ชัดเจน


   “นั่นใครอะพี่นิ หล้ออออหล่อ” แนนเงยหน้าขึ้นแล้วมองตามสายตาของผมไปยังไอ้พฤกษ์ ซึ่งตอนนี้กำลังเดินออกไปไกลจากผมเรื่อยๆ แล้ว


   “นั่นเพื่อนพี่เองที่นัดกันวันนี้ เดี๋ยวพี่ไปหามันเลยแล้วกันนะ” พูดจบผมก็ลุกขึ้นแล้วจะวิ่งออกไปหาไอ้พฤกษ์


“เดี๋ยวสิพี่นิ อย่าพึ่ง...”


   “แนน!” ตอนแรกแนนตั้งใจจะรั้งผมเอาไว้ แต่ยังพูดไม่ทันจบเสียงของผู้ชายที่คุ้นเคยก็ดังอยู่ทางข้างหลังซะก่อน แนนกับผมเลยหันไปมองจึงพบว่าเป็นภูมิที่ดูท่าทางรีบร้อนมาที่นี่


   “ตอนนี้แนนคงไม่ต้องการพี่แล้วนะ ขอให้สมหวังล่ะสาวน้อย” ผมวางมือลงบนศีรษะของแนน จากนั้นก็ตั้งใจว่าจะวิ่งตามไอ้พฤกษ์ไป แต่ไหงภูมิดันมาขวางผมเอาไว้ไม่เดินไปหาแนนล่ะเนี่ย


“ผมมีเรื่องที่ต้องคุยกับพี่นิครับ” เฮ้ยๆๆ แกอย่าทำหน้าโหดแบบนั้นใส่พี่สิวะ มันน่ากลัวเหมือนแกจะมาท้าพี่ต่อยเลยนะเว่ย


“อะ...เอาไว้วันหลังได้มั้ย ตอนนี้พี่รีบ” รีบหนีก่อนที่จะโดนแกต่อย!


   “ไม่ได้ครับ ผมต้องคุยกับพี่นิวันนี้แล้วก็ตอนนี้ด้วย” น้ำเสียงของภูมิเข้มขึ้น ส่วนสีหน้าก็ถมึงทึงจนผมขนลุกไปแทบทั้งตัว


“โอเคๆ คุยวันนี้แล้วก็ตอนนี้เลย ภูมิมีอะไรก็ว่ามา” ที่ผมต้องยอมเพราะอยากรักษาชีวิตและความปลอดภัยของตัวเองเอาไว้ ส่วนเรื่องง้อไอ้พฤกษ์เดี๋ยวค่อยว่ากัน ตอนนี้ผมยังพอมองเห็นแผ่นหลังของมันอยู่ มันดูเซ็งๆ และผิดหวังเลยค่อนข้างเดินเชื่องช้า ก็หวังว่าภูมิจะรีบพูดรีบเคลียร์ให้เรื่องมันจบไวๆ ล่ะนะ


“ผมอยากขอแนนคืน พอเห็นแนนอยู่กับคนอื่นผมถึงได้รู้ใจตัวเอง” ภูมิพูดด้วยสีหน้าจริงจัง ในที่สุดก็สมหวังแล้วนะยัยแนน


“โอเค พี่เข้าใจแล้ว งั้นพี่ไปล่ะ” พูดจบผมก็จะเดินออกจากร้านไปตามไอ้พฤกษ์ที่เห็นแผ่นหลังลิบๆ แต่ให้ตายสิ ภูมิมันดันกางแขนข้างหนึ่งออกจนผมไม่สามารถเดินไปไหนได้ จะมาขวางทำไมล่ะเนี่ย!


“ผมว่าพี่นิยังไม่เข้าใจ” คนที่ไม่เข้าใจมีแต่แกคนเดียวนั่นแหละภูมิ!


“พี่เข้าใจทุกอย่าง ที่ภูมิพูดเมื่อกี้หมายความว่าภูมิชอบแนนใช่มั้ย”


“ใช่ ผมชอบแนน” ภูมิตอบอย่างแน่วแน่และชัดถ้อยชัดคำ แนนที่ได้ยินแบบนั้นเลยยิ้มจนแก้มแทบปริ แถมยังบิดไปบิดมาด้วยความเขิน


“เราก็ชอบภูมิเหมือนกัน”


“เอาล่ะ ในเมื่อภูมิกับแนนใจตรงกันเพราะงั้นพี่ก็หมดธุระแล้ว” พูดจบผมก็เบี่ยงตัวเดินออกมา หวังว่าคราวนี้คงไม่มีใครหน้าไหนมาขวางผมเอาไว้แล้วนะ


แต่ถึงจะคิดอย่างนั้น...


“เดี๋ยวก่อนครับพี่นิ” ภูมิดันเรียกผมเอาไว้อีกครั้ง มันจะอะไรนักหนากับชีวิตของผมเนี่ย! ชักทนไม่ไหวแล้วนะโว้ยยยยยยยย!


“พวกแกจะรั้งพี่ไว้อีกนานมั้ย! ก็บอกอยู่ว่ารีบนี่ฟังภาษาไทยไม่รู้เรื่องรึไง! หรือว่าพี่ต้องพูดเป็นภาษาวากันด้าพวกแกถึงจะเข้าใจห้ะ!” เดี๋ยวปั๊ดอัญเชิญองค์ฝ่าบาททีชัลล่า (Black Panther) เข้าประทับร่างเลยนี่!


“อะ...เอ่อ...ผม...ผมแค่อยากขอบคุณพี่นิที่ยอมหลีกทางให้เราสองคน” ภูมิทำหน้าหงอเป็นลูกหมา เปลี่ยนท่าทางจากหลังมือเป็นหน้ามือเลยเมื่อเจอฤทธิ์วีนแตกของผม ไม่สิ...ความจริงน่าจะเป็นเพราะรู้ว่าใจตรงกับแนนต่างหาก


“ภูมิไม่ต้องขอบคุณพี่หรอก เพราะพี่ไม่ได้คิดอะไรกับแนนอยู่แล้ว”


“ถ้างั้นแล้วทำไม...”


“ถ้าอยากรู้ก็ไปถามแนนเอานู่น ตอนนี้พี่รีบไม่มีเวลาอธิบายหรอก แล้วก็ไม่ต้องเรียกพี่อีกด้วย ไม่งั้นพี่จะขึ้นค่าสอนเป็นชั่วโมงละ 300 เลยคอยดู” ผมขู่พร้อมกับถลึงตาใส่


ให้ตายสิเสียเวลาจริงๆ แถมผมยังซวยจนไอ้พฤกษ์เข้าใจผิดอีกต่างหาก ทำไมผมต้องมาเสียเวลาและปวดหัวกับเรื่องรักๆ ใคร่ๆ ของไอ้เด็ก 2 คนนี้ด้วยก็ไม่รู้


แต่เอ...พอลองคิดๆ ดูผมก็ผิดที่งกเงินเองนี่หว่า ไม่สิ...ต้องบอกว่าผมเป็นคนดีที่ทำให้เด็ก 2 คนมันเข้าใจกันมากกว่า ถ้าผมไม่ช่วยป่านนี้ภูมิกับแนนก็คงไม่ได้ลงเอยกันหรอก ผมนี่ช่างเป็นคนดีมีเมตตา ส่วนเรื่องค่าจ้างเป็นผลพลอยได้ เพราะงั้นฟ้าจะใจร้ายให้ผมตามหาไอ้พฤกษ์ไม่เจอไม่ได้นะ


“แม่งเดินไปทางไหนวะเนี่ย!” ผมอยากจะบ้าตาย เพราะหลังจากเดินมาตามทางที่ผมเห็นไอ้พฤกษ์ครั้งล่าสุด ปรากฏว่ามันมีทางแยกออกเป็นซ้ายกับขวา


ซ้ายคือทางเดินไปหน้าห้าง ส่วนขวาเป็นทางเดินไปลานจอดรถ งั้นผมเลือกขวาก็แล้วกัน ขอให้เลือกถูกทางทีเถอะ!


ผมออกตัววิ่งเพราะกลัวไม่ทัน ถ้าหากไอ้พฤกษ์มาทางนี้มันต้องคิดจะกลับบ้านแน่นอน ผมไม่ยอมปล่อยให้มันกลับทั้งๆ ที่ยังไม่ได้เลี้ยงข้าว...เอ๊ย! ยังเข้าใจผมผิดแบบนี้หรอกนะ ขอให้ผมวิ่งไปทันก่อนที่มันจะถึงรถด้วยเถอะเพี้ยง!


แล้วก็เหมือนว่าแต้มบุญที่ผมพึ่งได้รับมาจากการช่วยเหลือเรื่องความรักของเด็ก 2 คนนั้นจะส่งผล ผมเลยเห็นแผ่นหลังของไอ้พฤกษ์ที่กำลังเดินไปยังรถ ถึงแม้จะเห็นลิบๆ แต่ผมก็มั่นใจเพราะจำเสื้อที่มันใส่ได้ ดังนั้นผมเลยรีบวิ่งอย่างสุดฝีเท้าจนไปดักด้านหน้ามันได้สำเร็จ


“ซ่า?” ไอ้พฤกษ์ดูงงๆ ที่เห็นผมวิ่งมา แต่ก็ยังไม่ได้ถามอะไรเพราะรู้ว่าผมที่กำลังหอบแฮ่กๆ จนแทบจะลิ้นห้อยเหมือนหมา ยังไม่สามารถตอบคำถามตอนนี้ได้อยู่แล้ว


“มึงจะกลับบ้านแล้วหรอ” ผมถามหลังจากอาการหอบเริ่มดีขึ้นจนแทบเป็นปกติ


“อืม” ไอ้พฤกษ์ตอบแค่สั้นๆ ท่าทางเหมือนไม่ค่อยอยากเสวนากับผมสักเท่าไหร่


“ทำไมถึงรีบกลับนักล่ะ หรือว่ามึงคิดจะเบี้ยวไม่เลี้ยงข้าวกู” ทำเป็นเอาเรื่องสัญญามาอ้าง ความจริงแล้วผมยังไม่อยากให้ไอ้พฤกษ์กลับต่างหาก แต่ถึงอย่างนั้นผมก็กลัวว่าไอ้พฤกษ์จะคิดจริงจังว่าผมเห็นแก่กิน เลยพูดติดตลกพลางยิ้มกะให้ไอ้พฤกษ์ขำ แต่ว่ามันก็ไม่มีปฏิกิริยาอะไรเลย


หน้านิ่งแบบนี้นี่คนหรือรูปปั้นมาดามทุซโซ่!


“กูไม่ได้จะเบี้ยวสักหน่อย แต่ในเมื่อมึงมีนัดกับแฟน แล้วกูจะอยู่เป็นก้างขวางคอทำไมล่ะ” น้ำเสียงของมันดูเหมือนงอนผมยังไงก็ไม่รู้


“มึงคิดว่าแนนเป็นแฟนกู?”


“ก็หรือว่าไม่ใช่?” ไอ้พฤกษ์ย้อนถามผมคืน คำพูดของมันดูมั่นใจเสียเต็มประดา แต่สีหน้ากลับดูคล้ายกับว่าอยากให้ผมตอบปฏิเสธ ไอ้ผมที่มีนิสัยกวนตีนขี้แกล้งอยู่แล้ว บวกกับความย้อนแยงที่มันแสดงออกมา ผมเลยตอบในสิ่งที่ตรงข้ามกับที่มันหวังเอาไว้


“ก็เปล่า แนนเป็นแฟนกูจริงๆ นั่นแหละ” ทันทีที่ได้ยินแบบนี้ไอ้พฤกษ์ก็หน้าบึ้งลงทันที แต่สิ่งที่พูดผมไม่ได้โกหกนะ แนนจ้างผมเป็นแฟนจริงๆ แถมเงินค่าจ้างยังอยู่ในกระเป๋าของผมอยู่เลย


“ถ้างั้นมึงก็รีบกลับไปหาแฟนมึงเถอะ ออกมาหากูแบบนี้เสียเวลาสวีทกันเปล่าๆ” ไอ้พฤกษ์พูดจบก็เบี่ยงตัวจะเดินหนีไป ดีที่ผมมือไวเลยคว้าแขนของมันเอาไว้ได้ทัน


“เดี๋ยวสิไอ้พฤกษ์ เมื่อกี้กูยังพูดไม่จบ”


“มีอะไรที่มึงยังไม่ได้พูดอีก” ไอ้พฤกษ์พูดด้วยใบหน้านิ่งๆ แต่ผมก็ดูออกว่ามันกำลังไม่สบอารมณ์เท่าไหร่


“คือกูจะบอกว่าแนนเป็นแฟนกูจริง แต่ว่าก็แค่จ้างกูเป็นแฟนให้ผู้ชายที่ชอบหึงเฉยๆ”


“หมายความว่ามึงกับน้องคนนั้นแค่คบกันหลอกๆ?”


“ใช่แล้ว นี่ไงค่าจ้างที่กูได้มา” พูดจบผมก็ควักแบงค์สีเทาออกจากกระเป๋าเสื้อขึ้นมาโชว์ไอ้พฤกษ์ แถมยังยิ้มแฉ่งส่งให้ด้วยอีกต่างหาก


“มึงนี่มัน...หัดพูดทีเดียวให้เข้าใจง่ายๆ ไม่ได้รึไง” สีหน้าของไอ้พฤกษ์ตอนนี้เหมือนดูโล่งใจ แต่ก็คลับคล้ายคลับคลาว่าอยากบีบคอผมให้ตายยังไงยังงั้น


“อะไรกันเล่า กูแกล้งเล่นนิดหน่อยทำเป็นซีเรียสจริงจังไปได้ งอนเบอร์แรงขนาดนี้ทำอย่างกับเป็นผัวกู” ผมจีบปากจีบคอพูดเพราะกะจะให้ไอ้พฤกษ์ขำ แต่นอกจากจะไม่ขำแล้ว มันยังพูดสวนมาทันควันจนผมถึงกับไปไม่เป็นอีกต่างหาก


“แล้วกูเป็นผัวมึงได้มั้ยล่ะ ถ้าได้ กูจะได้ขอให้มึงเป็นเมียกูตอนนี้เลย”


“หา!?” ผมเบิกตากว้างออกมา ตอนนี้ผมไม่รู้ว่าควรจะงงหรือตกใจดี


มันเล่นพูดมาแบบนี้แล้วผมควรจะตอบไปว่ายังไงดีเนี่ย!


“...” ผมได้แต่ยืนเอ๋อเพราะทำตัวไม่ถูก จะว่าโกรธก็ไม่ใช่ จะเขินก็ไม่เชิง ผมรู้สึกสับสนจนคิดอะไรไม่ออกราวกับว่าสมองเป็นอัมพาต ส่วนไอ้พฤกษ์ที่เป็นคนพูดกลับยังคงหน้านิ่งไม่มีเปลี่ยนแปลง เพราะงั้นผมเลยคิดว่าตัวเองต้องทำอะไรสักอย่าง ก่อนที่บรรยากาศที่กำลังดีขึ้นจะอึดอัดไปซะก่อน


“อุ๊ปส์! ฮ่าๆๆๆ นี่มุขหรือเปลือกหอยวะเนี่ย โอ๊ยยยย ฮากริบจนต้องหัวเราะในความแป้ก ฮ่าๆๆๆ แต่เอาจริงๆ คือจังหวะแม่งพอได้อยู่ ส่วนมุขนี่ต้องไปฝึกมาใหม่ ยังไงกูก็เป็นกำลังใจให้มึงนะเพื่อน” ผมตัดสินใจหัวเราะอย่างท้องคัดท้องแข็งแล้วเดินเข้าไปตบบ่าของไอ้พฤกษ์ มันจึงทำหน้าประมาณว่า ควรจะโมโหหรือปลงกับผมดี


“เออ โทษทีที่มันไม่ฮา” ไอ้พฤกษ์ทำหน้าเบื่อหน่าย ในที่สุดมันก็เลือกปลงสินะ ดีแล้วล่ะผมจะได้ไม่ต้องเล่นใหญ่ไปมากกว่านี้


“ไม่เป็นไรๆ กูก็ไม่หวังอะไรกับคุณชายอย่างมึงอยู่แล้ว” ผมโบกมือหยอยๆ ไปมา จากนั้นก็แสร้งหัวเราะต่ออีกสักพักเพื่อความแนบเนียน


เฮ้อออออ แกล้งตอแหลตลกให้เนียนนี่มันยากจริงจริ้งงงงงงงง


ผมไม่รู้หรอกนะว่าทำไมไอ้พฤกษ์ถึงพูดแบบนั้นออกมา บางทีมันอาจจะหัวเสียมาจากที่บ้าน ระหว่างทางเจอคนขับรถกวนประสาท หรือพาลที่เจอคู่รักเยอะแยะในช่วงวาเลนไทน์เลยมาลงกับผม ซึ่งเหตุผลจะเป็นเพราะอะไรก็ช่าง แต่ผมก็มั่นใจมากว่ามันไม่ได้คิดแบบที่พูดออกมาแน่นอน


คุณชายที่แสนเลิศเลอเพอร์เฟคแบบนั้นจะอยากได้ผมเป็นเมียได้ยังไง ผู้หญิงสวยๆ ในมหา’ลัยมีตั้งเป็นร้อยเป็นพัน มันไม่มีทางสนใจผู้ชายธรรมดาแถมยังหน้าเงินอย่างผมหรอก


ยังไงก็ไม่มีทาง!


“แล้วนี่มึงยังอยากกลับบ้านตอนนี้อยู่อีกรึเปล่า” ผมถามขึ้นเพราะดูท่าทางไอ้พฤกษ์อารมณ์ดีขึ้นเยอะ ถึงจะติดเซ็งๆ อยู่นิดหน่อยก็เถอะนะ


“แล้วมึงว่างรึยังล่ะ ต้องไปเล่นละครเป็นแฟนน้องคนนั้นต่อรึเปล่า”


“ไม่ต้องแล้ว ไปก็เกะกะเปล่าๆ ป่านนี้ยัยแนนคงเป็นแฟนกับภูมิแล้วล่ะ เพราะงั้นเราไปกินข้าวกันนะ มึงคงไม่รีบกลับแล้วใช่มั้ย” ผมยิ้มกว้าง พอภารกิจเรียบร้อยท้องมันก็ร่ำร้องด้วยความหิว


“มึงอยากกินอะไรล่ะ” เย่ส! ถามแบบนี้ก็แสดงว่าไอ้พฤกษ์จะยังไม่กลับบ้านแน่นอน


“เจ้ากรรมนายเวรอย่างกูกินอะไรก็ได้แล้วแต่เจ้ามือเลย” ผมฉีกยิ้มกว้าง ไอ้พฤกษ์เลยหัวเราะออกมาเบาๆ


“ถ้างั้นไปกินอาหารเกาหลีกัน หวังว่ามึงคงจะไม่เกรียนสั่งมาเต็มโต๊ะอย่างครั้งที่ไปกินอาหารญี่ปุ่นหรอกนะ” พูดจบมันก็หรี่ตามองผมอย่างคาดโทษ


“กูยังสติดีอยู่นะเว่ย โดนมึงเอาคืนขนาดนั้นใครจะกล้าทำอีกล่ะ” นี่ถ้ามื้อนั้นมันไม่ใจอ่อนยอมจ่ายค่าอาหารให้ผม ป่านนี้ผมก็คงยังอยู่ทัวร์ห้องกรงไม่ได้มายืนสลอนอยู่ที่นี่หรอก


“ก็ดีที่มึงคิดได้ งั้นเราไปกันเถอะ เย็นกว่านี้คนเยอะเดี๋ยวได้รอคิวนาน” ไอ้พฤกษ์พูดจบก็จูงแขนผมแล้วพาเดินออกไปจากตรงนี้ ผมที่ปกติไม่เคยถูกเพื่อนผู้ชายจับมือเดินไปไหนก็ถึงกับงง แต่ผมก็ไม่ได้ชักมือออกหรือทักท้วงอะไร ก็ใครจะกล้ามีปัญหากับเจ้ามือกันล่ะ


อาหารของร้านเกาหลีที่ไอ้พฤกษ์พาไปกินมีรสชาติอร่อยมาก เล่นเอาผมซัดซะพุงกางเพราะชาตินึงจะมีปัญญาได้กินอะไรดีๆ ไม่สิ...ตั้งแต่ที่ได้รู้จักไอ้พฤกษ์มาผมก็มีลาภปากตลอด สงสัยมันคงจะเป็นตัว (เรียก) เงินตัว (เรียก) ทองจริงๆ นะเนี่ย 


หลังจากกินข้าวเสร็จผมกับมันก็เดินย่อยสักพัก ระหว่างที่เดินก็เจอแนนกับภูมิกำลังถ่ายรูปกับซุ้มและป้ายเพราะใกล้วันวาเลนไทน์กันอย่างกระหนุงกระหนิง ผมเลยชี้ให้ไอ้พฤกษ์ดูพร้อมกับย้ำว่าผมไม่ได้เป็นแฟนกับแนนจริงๆ


“เรื่องของน้องคนนั้นกูเชื่อตั้งแต่แรกแล้วว่าไม่ได้เป็นแฟนกับมึงจริงๆ แต่ก็ไม่รู้ว่าตอนนี้มึงจะมีตัวจริงอยู่รึเปล่า” พอจู่ๆ โดนไอ้พฤกษ์ถามอย่างนี้ผมก็ถึงกับงงไปเลยน่ะสิ


“จะไปมีที่ไหนล่ะ แค่เลี้ยงตัวเองก็ลำบากจะตายห่า กูจะเอาปัญญาที่ไหนไปเลี้ยงคนอื่น” ที่ผมไม่เคยมีแฟนมาตลอดก็เพราะเหตุผลนี้ ใจจริงอยากมีมั้ยก็คืออยากมี แต่มันติดอยู่ที่ผมไม่มีเงินพาไปเที่ยวหรือเลี้ยงข้าว ลำพังแค่ซื้อข้าวกินเองบางวันยังจะไม่พอ


“ถ้างั้นก็หาคนมาเลี้ยงมึงแทนสิ”


“หา! เลี้ยงกู?” ผมชี้มือเข้าหาตัวเองด้วยความงุนงง


“อืม” ไอ้พฤกษ์พยักหน้า นี่มันบ้ารึเปล่าเนี่ย


“ถุย! ผู้หญิงที่ไหนเขาจะอยากมาเลี้ยงกู แค่ชวนไปเดทแล้วหารบางคนยังว่าน่าเกลียดเลยด้วยซ้ำ” ถึงแม้ผมจะไม่เคยชวนผู้หญิงคนไหนเดทก็เถอะ แต่ผมก็เคยได้ยินพวกเพื่อนผู้หญิงในห้องเมาท์ผู้ชายให้ฟังเหมือนกัน


“กูไม่ได้หมายถึงผู้หญิงสักหน่อย”


“เอ๊า แล้วมึงหมายถึงใคร ทอม ผู้ชาย เกย์ ตุ๊ด มนุษย์ สัตว์ สิ่งของ...”


“พอ...พอแค่นั้นเลย มึงจะร่ายอะไรมากมาย กูก็แค่พูดรวมๆ เผื่ออาจมีคนใกล้ตัวอยากเลี้ยงมึงอยู่ก็ได้”


“ใคร? นอกจากมึงแล้วกูยังไม่เห็นมีใครเลยสักคน” พอได้ยินผมพูดแบบนี้ไอ้พฤกษ์ก็ถึงกับชะงักจนไปไม่เป็น มันเบิกตากว้างแล้วอ้าปากเหมือนจะพูดอะไรออกมา แต่ก็ไม่ยอมพูดมันสักที


“เอ...กูว่ากูรู้จุดประสงค์ที่มึงทำดีกับกูแล้วล่ะ” ผมหรี่ตาลง ไอ้พฤกษ์ที่เห็นแบบนั้นก็เริ่มมีอาการลนลานขึ้นมา


“มึงรู้...แล้วสินะ...” พูดจบมันก็หันหน้าหนีเพื่อหลบตา


หึ! โดนกูจับได้แล้วไอ้คุณชาย!


“การกระทำมึงชัดขนาดนี้ทำไมกูจะดูไม่ออก”


“ถ้างั้นมึงก็รู้แล้วว่ากูช...”


“มึงอยากให้กูรีบพาไปเจออาจารย์ปรัชญาเร็วๆ ใช่มั้ยล่ะ” ผมพูดขึ้นก่อนที่ไอ้พฤกษ์จะได้พูดจนจบประโยค ซึ่งก็ไม่จำเป็นเพราะการกระทำของมันก็ชัดเจนอย่างที่ผมบอกไปอยู่แล้ว ยิ่งตอนนี้มันดูอึ้งๆ อยู่ด้วยก็ยิ่งชัดไปอีกว่าผมคิดถูก


“เฮ้อออ ก็ตามนั้นแหละ” ไอ้พฤกษ์ยอมรับอย่างเซ็งๆ แหงล่ะ ก็โดนผมจับได้ซะขนาดนั้นนี่หว่า


“มึงไม่ต้องทำหน้าเซ็งไปหรอกน่า เดี๋ยววันจันทร์กูต้องเจออาจารย์อยู่แล้ว เจอปุ๊บเดี๋ยวกูจะขอร้องให้แกช่วยมึงเรื่องวิจัยปั๊บเลย” ผมให้คำมั่น นี่มันก็ผ่านมาตั้งหลายวันแล้ว ไอ้พฤกษ์จะพยายามเอาใจผมเพื่อกระตุ้นให้พาไปเจออาจารย์ก็ไม่แปลกหรอก เพราะนอกจากจะถูกปอกลอกงานยังจะไม่เสร็จอีกต่างหาก


“ขอบใจนะ” ไอ้พฤกษ์ฝืนยิ้มแห้งๆ ออกมา ท่าทางตอนนี้ดูหมดอาลัยตายอยากคล้ายๆ พวกเพื่อนผมเวลาโดนสาวเทยังไงยังงั้น นี่ถ้าผมเป็นผู้หญิงผมคงคิดว่ามันชอบไปแล้ว แต่ก็นะ...คุณชายอย่างมันจะมาชอบผู้ชายด้วยกันได้ยังไง


หลังจากนั้นไอ้พฤกษ์ก็ไม่ได้พูดอะไรกับผมอีก บรรยากาศมันอึนๆ หม่นๆ พิกลผมแลยชวนมันกลับบ้าน ซึ่งตอนแรกผมก็กะจะกลับเองนั่นแหละ แต่ไอ้พฤกษ์ยืนยันจะมาส่งผมก็เลยต้องตามนั้น


“พรุ่งนี้สอนพิเศษเสร็จเดี๋ยวกูไปรับนะ นึกร้านที่อยากไปกินเอาไว้ด้วยล่ะ” ไอ้พฤกษ์พูดขึ้นเมื่อขับรถมาจอดที่หน้าหอของผม


“อืม ขอบใจที่มาส่ง กูไปก่อนนะ” ผมหันไปโบกลาไอ้พฤกษ์จากนั้นก็เปิดประตูลงจากรถ แต่ยังไม่ทันที่ผมจะได้เดินไปไหน กระจกด้านข้างก็ถูกเลื่อนลงมาซะก่อน


“มีอะไร จะเอาของที่ห้องกูหรอ”


“เปล่า แค่อยากจะบอกว่าฝันดีเฉยๆ” ไอ้พฤกษ์ยิ้มบางๆ ส่งมาให้ พอได้ยินแบบนี้ผมก็ถึงกับงงไปเลยน่ะสิ


ขับรถมาส่ง พรุ่งนี้จะมารับไปกินข้าว แถมยังบอกอีกว่าฝันดี นี่ไอ้พฤกษ์ทำอย่างกับว่ามันกำลังชอบผม?


ชอบ...เนี่ยนะ?


บะ...บะ...บ้า! บ้าไปแล้ว! มึงแดกกิมจิจนสติฟั่นเฟือนไปแล้วหรอไอ้ซ่า!


พับผ่าสิ! อะไรเข้าสิงถึงได้มีความคิดแบบนี้ได้ก็ไม่รู้ คุณชายอย่างไอ้พฤกษ์มันจะมาชอบผมได้ยังไง คนอย่างผมมีดีตรงไหน ไม่เห็นเมคเซ้นส์เลยสักนิด เลิกคิดฟุ้งซ่านได้แล้ว!


 “เออ ฝันดีเหมือนกัน กูขึ้นห้องแล้วนะ บาย” ผมพูดจบก็เดินขึ้นห้องไป โดยท่องเอาไว้ว่ามันเข้ามาตีสนิทกับผมเพราะผลประโยชน์เท่านั้น ส่วนผมก็หวังจะปอกลอกมันไม่มีอะไรมากกว่านั้นจริงๆ!


...................................................

..................................

.................


วันหยุดผ่านไปไวเหมือนโกหก แป๊บเดียวก็ถึงวันจันทร์อันน่าเบื่อที่ผมต้องเริ่มเรียนแล้ว ดีนะที่วันนี้ผมมีเรียนแค่ช่วงเช้า ช่วงบ่ายอาจารย์ติดธุระมาสอนไม่ได้ ผมเลยมีเวลาไปช่วยงานอาจารย์ปรัชญาที่ห้องวิจัยเร็วขึ้น แน่นอนว่าค่าตอบแทนผมก็ต้องได้มากขึ้นด้วย


“เดี๋ยวนิเรียงเอกสารตรงนั้นเสร็จแล้วมาช่วยผมพิมพ์เอกสารพวกนี้หน่อยนะ” พอได้ยินแบบนี้ผมก็หันมองไปยังโต๊ะของอาจารย์ จึงเห็นว่ามีกระดาษ A4 ที่เขียนด้วยลายมือหลายสิบแผ่นวางเอาไว้ คงจะใช้เวลาหลายชั่วโมงเลยล่ะกว่าจะพิมพ์เสร็จ


“ได้ครับจารย์” ผมรับคำแล้วรีบเรียงเอกสารเข้าชั้นเป็นหมวดหมู่ให้เสร็จ จากนั้นก็เดินไปที่โต๊ะอาจารย์กะจะหยิบกองกระดาษ A4 ไปพิมพ์ที่โน้ตบุ๊คอีกเครื่องที่อยู่ในห้อง แต่ยังไม่ทันจะได้เอาไปอาจารย์ก็ยื่นถุงพลาสติกมาตรงหน้าผมซะก่อน


“นิเอาไปกินเล่นระหว่างพิมพ์นะจะได้เบื่อ” ถึงแม้อาจารย์จะเป็นคนพูดน้อย แต่ก็อ่อนโยนและใจดีกับผมตลอด บางวันยังพาออกไปเลี้ยงข้าวเลยด้วยซ้ำ แกบอกว่าเห็นผมแล้วนึกถึงน้องชายตัวป่วนที่อยู่ที่บ้าน


“ขอบคุณครับจารย์” ผมรับถุงขนมมา


ตอนแรกผมก็กะจะเริ่มทำงาน แต่พอสบโอกาสผมเลยลองพูดเรื่องของไอ้พฤกษ์ดูสักหน่อย คือเมื่อวานที่ไปกินข้าวด้วยกันผมสัญญาเรื่องนี้กับมันเอาไว้ เพราะเริ่มรู้สึกเกรงใจที่มันเปย์ผมตั้งเยอะ แต่ผมยังไม่ได้ช่วยเหลือและตอบแทนมันเลยทั้งที่เป็นเรื่องง่ายๆ


กับคนอื่นผมปอกลอกขูดรีดได้โดยไม่รู้สึกอะไร แต่ไม่รู้ทำไมกับไอ้พฤกษ์ผมถึงได้เริ่มมีความเกรงใจซะงั้น อาจเป็นเพราะตั้งแต่รู้จักกันมันเสียเงินให้ผมเป็นหมื่นๆ ซึ่งกับคนอื่นผมปอกลอกก็แค่หลักร้อย เพราะงั้นเมื่อวานที่ไปกินข้าวด้วยกันผมเลยบอกให้มันเลี้ยงเป็นวันสุดท้าย ให้มันไปทำอย่างอื่นดีกว่ามาเสียเงินเสียเวลาให้กับผม


“เออใช่จารย์ คือเพื่อนผมมันมีเรื่องอยากปรึกษาจารย์น่ะครับ จารย์พอจะมีเวลาคุยกับมันรึเปล่า” ผมรอลุ้นคำตอบอย่างมีความหวัง แต่อาจารย์ก็พังมันทิ้งอย่างไม่ใยดี


“ช่วงนี้ผมยุ่งมากนิก็รู้ อย่างวันนี้ผมต้องเร่งพิมพ์เอกสารพวกนี้ให้เสร็จด้วย” อาจารย์มองไปยังเอกสารที่วางอยู่ตรงหน้า ซึ่งเป็นครึ่งแรกของเอกสารชุดเดียวกันที่ผมต้องพิมพ์


“เดี๋ยวพวกนี้ผมทำให้ก็ได้ครับจารย์ สัญญาเลยว่าจะทำให้เสร็จภายในวันนี้ เพราะงั้นจารย์ช่วยคุยกับเพื่อนผมหน่อยน้า นะๆๆๆ” ผมส่งสายตาปิ๊งๆ ไปให้ อ้อนขนาดนี้ก็ให้มันรู้ไปสิว่าอาจารย์จะไม่ใจอ่อน


“เฮ้อออออ ก็ได้ๆ แต่นิอย่าลืมสัญญาแล้วกัน เอกสารพวกนี้ต้องพิมพ์ให้เสร็จภายในวันนี้นะ”


“รับทราบครับผม!” ผมตะเบ๊ะท่าเลียนแบบทหาร อาจารย์เลยยิ้มออกมาบางๆ พลางส่ายหน้าไปมาเล็กน้อย


“แล้วเพื่อนของนิชื่ออะไร จะคุยอะไรกับผมหรอ”


“เพื่อนผมชื่อพฤกษ์ มันอยากจะคุยเกี่ยวกับเรื่องวิจัย” พอได้ยินผมพูดแบบนี้อาจารย์ก็ร้องอ๋อออกมาเลย


“ผมจำเขาได้ ก่อนหน้านี้เขาเคยมาหาผมอยู่ 2 – 3 ครั้ง พึ่งรู้นะเนี่ยว่าเขาสนิทกับนิ” ผมไม่ตอบอะไรได้แต่หัวเราะแหะๆ ออกมา อย่าใช้คำว่าสนิทเลย ผมพึ่งรู้จักไอ้พฤกษ์ได้แค่ไม่กี่วันนี้เอง


“จารย์สะดวกคุยกับมันกี่โมง เดี๋ยวผมจะได้โทรไปบอกมัน”


“อืม....สัก 4 โมงเย็นก็แล้วกัน ตอนนี้ขอผมเคลียร์เอกสารอีกชุดก่อน”


“รับทราบครับผม! ขอบคุณครับจารย์!” ผมยิ้มกว้าง จากนั้นก็รีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วโทรหาไอ้พฤกษ์ทันที แต่พอคิดว่าตอนนี้มันอาจจะกำลังเรียนอยู่ผมเลยกดวางแล้วเปลี่ยนเป็นส่งไลน์หา ซึ่งไม่กี่วินาทีต่อมามันก็ตอบกลับว่าหลังจากหมดคาบจะรีบมาหาที่ห้องวิจัยเลย


พอคุยไลน์กับไอ้พฤกษ์จบผมก็กลับไปตั้งหน้าตั้งตาทำงาน ผ่านไปหลายชั่วโมงจนกระทั่งถึงเวลานัดก็มีสายเรียกเข้า ซึ่งก็ไม่ใช่ใครที่ไหนเป็นไอ้พฤกษ์นั่นแหละ


“ไอ้พฤกษ์น่าจะมาแล้ว ผมขอออกไปรับมันก่อนนะครับจารย์” ผมพูดจบก็วางงานแล้วออกไปนอกห้อง จึงพบกับไอ้พฤกษ์ที่กำลังยืนยิ้มอยู่ด้วยความเบิกบาน


“หน้าบานเป็นกระด้งเชียวนะมึง” ผมพูดยิ้มๆ


“ก็คนมันดีใจนี่หว่า ขอบใจนะซ่า มึงช่วยกูได้เยอะเลย”


“กูก็ไม่ได้ทำอะไรมาก...อ๊ะ!” แต่ยังไม่ทันที่จะได้พูดจนจบผมก็ต้องอุทานขึ้นมาก่อน เพราะจู่ๆ ไอ้พฤกษ์มันก็ก้มตัวลงมากอดผมไว้ แถมยังกอดซะแน่นจนผมแทบจะจมลงไปกับแผ่นอกของมันอยู่แล้ว


ตึกตัก ตึกตัก ตึกตัก


หัวใจของผมมันเต้นแรงขึ้นมาอย่างไม่มีสาเหตุ นี่ผมเป็นอะไรไป ก็แค่กอดกับเพื่อนผู้ชายทำไมหัวใจต้องเต้นแรงขนาดนี้ด้วยวะ


“ขอบคุณอีกครั้งนะซ่า” ตอนนี้ไอ้พฤกษ์มันคงจะดีใจมาก แต่ผมนี่สิดันเป็นบ้าอะไรก็ไม่รู้ เลยบังคับให้ตัวเองเลิกฟุ้งซ่านสักที


“มึงไม่ต้องขอบคุณกูขนาดนั้นก็ได้ กูไม่ได้เป็นคนดีมีน้ำใจช่วยมึงฟรีๆ สักหน่อย” ผมกอดตอบไอ้พฤกษ์แล้วตบที่ไหล่ของมันเบาๆ 2 – 3 ที ก่อนที่จะดันแผ่นอกกว้างช้าๆ เพื่อขืนตัวออกมา


“เข้าไปในห้องกันเถอะอาจารย์กำลังรออยู่” พอผมพูดแบบนี้ไอ้พฤกษ์ก็พยักหน้าลง ผมเลยเปิดประตูแล้วเดินนำมันเข้าไปข้างใน


“สวัสดีครับอาจารย์ ขอรบกวนด้วยนะครับ” ไอ้พฤกษ์ยกมือไหว้พร้อมกับกล่าวทักทาย สีหน้าของมันตอนนี้ดูแฮปปี้มากๆ ก็อย่างว่าล่ะนะจะได้คุยกับอาจารย์เรื่องวิจัยที่รอคอยมาตั้งนานสักที


“มานั่งคุยกันตรงนี้ดีกว่า” อาจารย์ชวนไอ้พฤกษ์ไปนั่งที่โซฟา ผมที่เห็นว่าไปนั่งด้วยก็คุยไม่รู้เรื่องเลยปลีกตัวไปพิมพ์เอกสารต่อ เพราะต้องรีบทำให้เสร็จภายในวันนี้


ผ่านไปไม่นานอาจารย์กับไอ้พฤกษ์ก็คุยกันอย่างออกรส อาจเป็นเพราะเก่งเหมือนกัน พูดภาษาเดียวกันเลยคุยกันถูกคอก็ได้ล่ะมั้ง มิหนำซ้ำอาจารย์ยังไปค้นเอกสารกับตำราอีกหลายเล่มมาให้มันด้วยอีกต่างหาก บางทีความรู้ที่มีคงจะให้ไปวันนี้ทั้งหมดเลยมั้ง มันจะได้ไม่ต้องมาอีกแล้วก็ลุยทำวิจัยของตัวเองไปยาวๆ


แต่เอ๊ะ ถ้าหากทุกอย่างเป็นไปได้ด้วยดี จากนี้ไปผมกับไอ้พฤกษ์ก็ไม่มีเรื่องที่จะต้องเจอกันแล้วไม่ใช่หรอ?


พอคิดได้แบบนี้จู่ๆ ผมก็รู้สึกหายใจไม่ค่อยออก ร่างกายไม่ค่อยมีเรี่ยวแรง ส่วนหัวใจมันก็เป็นหวิวๆ ยังไงก็ไม่รู้


ทำไมผมถึงได้รู้สึกแบบนี้?


นี่ผม...เป็นอะไรกันแน่?


2BC


 o14 สวัสดีค่ะทุกคน Avert หัวใจซ่อนรัก ตอนที่ 6 ก็จบลงไปเรียบร้อยแล้วน้า อ่านจบตอนนี้แล้วทุกคนรู้สึกยังไงกันบ้าง จะหน่วง จะฟิน จะซึ้ง จะฮา หรือจะรู้สึกแบบไหน แต่ถ้าทุกคนชอบและรออ่านตอนต่อไปเค้าก็จะดีใจมากๆเลยค่า  :m1:
นิยายเรื่องนี้ก็ดำเนินมาจนถึงครึ่งทางแล้วน้า ซึ่งก็มาไกลพอสมควรแล้ว แต่ถึงอย่างนั้นแม้แต่สักเศษเสี้ยว NC ก็ยังไม่มีโผล่มาเลย จนแอบได้ยินเสียงบ่น (แกมบังคับและขอร้อง (รึเปล่า)  :laugh:) ว่าอยากอ่าน NC ของพฤกษ์ซ่ากันแล้ว แหมๆๆ  :hao3: อยากเห็นลีลาของพฤกษ์กันสินะ แต่ว่าอดใจรอกันนิดนึงเนอะ ชายพฤกษ์ไม่ได้ไวไฟร้อนแรงแบบพี่ธาร ขนาดพี่ภูยังต้องรอตั้งนานกว่าจะมีเลย  o17
ยังไงก็เป็นกำลังใจให้คู่พฤกษ์ซ่าด้วยน้า ก่อนจะลุ้นให้มี NC มาลุ้นให้สองคนนี้ตกลงปลงใจกันก่อน คนนึงก็พูดอ้อมๆ อีกคนก็พยายามไม่คิดมาก แล้วเมื่อไหร่พวกแกจะได้ลงเอยกานนนนนนน ( :angry2: เสียงบ่นของเหล่านักอ่านทั้งหลาย 5555555) แล้วเจอกันในอีกสัก 3 วันนะคะที่ร้ากกกกก
ปล.เอารูปปกตัวเต็มของพฤกษ์ซ่ามาให้ชมกันค่า หวังว่าคงจะชอบกันน้า คือพฤกษ์หล่อ (น่า) ลากมาก ส่วนซ่าก็น่าร้ากมองเงินตาเป็นประกายเชียว  :m3:



(16 ก.พ. 61)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19-02-2018 20:58:20 โดย Sameejaejung »

ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6
เพลียใจแทนพฤกษ์ ที่ซ่าไม่เก็ต งั้นก็จับกดเลยดีกว่านะ   :katai2-1:

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
อยากรู้จังทำไมซ่าชอบแสวงหาเงินจังเลยนะ  :hao4:

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
ขอกันตรงๆเลยหรอ

ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12

ออฟไลน์ Y-Darkness

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 189
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-0

ออฟไลน์ Micky_MN

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 198
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-3
ซ่าเอ๋ยถ้าหนูเป็นเมียพฤกษ์หนูจะสบายทั้งชีวิตเลยนะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Dee^daY

  • ไม่เคย ทำให้ใครเดือดร้อน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +330/-6
รูปน่ารักจัง ..

ออฟไลน์ Natsuki-ChaN

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 219
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
พี่พฤกษณ์ ถ้าน้องจะไม่รู้เรื่องแบบนี้กดเลยค่ะ 5555555
เจ้าซ่าเอ้ยยยยยยย
ปล. ทีมรอ NC * --- * อยากเห็นน้องซ่าโดนแกล้ง

ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6
เกือบได้บอกรักกันซะแล้ว ซ่ากำลังหวั่นไหวกับพฤกษ์แล้ว แต่หลังจากเสร็จสิ้นภาระกิจนัดเจอกับอาจารย์แล้ว จะสานต่อกันยังงัยอ่ะ

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
ต่อไปคงต้องเรียกคู่นี้ว่า "เสี่ยพฤกษ์" กับ "อีหนูลิซ่า"  :laugh:

ออฟไลน์ Micky_MN

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 198
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-3
คงไม่เสียดายที่อดสูบเงินนะหนูซ่า

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
รอncจะผิดไหมคะ 555
สวัสดีปีใหม่ย้อนหลังค่ะ

ออฟไลน์ Dee^daY

  • ไม่เคย ทำให้ใครเดือดร้อน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +330/-6
เรียกว่า เรียกว่า ..

ออฟไลน์ Nus@nT@R@

  • Life is Investment
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5589
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +456/-11
แหม...บอกไปตรงๆซะก็จบ

ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2664
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
ถ้าซ่าจะไม่ซึน ก็รู้เรื่องนานละ
พฤกษ์ออกตัวขนาดนี้แล้ว

ซ่าจะกังวลทำไมล่ะ ถ้าไม่คิดอะไร
เสร็จภารกิจก็แยกย้ายกันไปสิ

พฤกษ์จะยอมห่างหรอ เตรียมพร้อมผูกตัวเองไว้ขนาดนั้น

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Y-Darkness

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 189
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-0

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
ยังไม่รู้ใจตัวเองอีกนะ

ออฟไลน์ Indy555

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 10
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0

ออฟไลน์ Sameejaejung

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 394
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +457/-17
[H.E.A.R.T.] A.Avert หัวใจซ่อนรัก


Part 7# Niza ประทับใจที่นิสัยรวย เอ๊ย! นิสัยดี

   
“กูกลับแล้วนะซ่า” ไอ้พฤกษ์พูดกับผมที่เดินออกมาส่งมันตรงหน้าห้องวิจัย หลังจากที่มันคุยกับอาจารย์นานถึงชั่วโมงกว่า แถมยังได้หนังสือและเอกสารกลับไปจนเต็มไม้เต็มมือ


“เออ แล้วมึงมีเรื่องที่ต้องปรึกษาอาจารย์อีกมั้ย” ผมถามเหมือนไม่ใส่ใจ แต่ลึกๆ ก็แอบหวังให้ไอ้พฤกษ์บอกว่าจะต้องมาอีก


แต่...


“ไม่ต้องแล้วล่ะ อาจารย์ให้คำปรึกษากับตอบเรื่องที่กูไม่เข้าใจได้หมดเลย” เฮ้ออออ หมดกันความหวังของผม


“งั้นหรอ ดีใจด้วยแล้วกัน” ผมพูดอย่างหมดอาลัยตายอยาก ความรู้สึกตอนนี้เหมือนตัวเองเป็นต้นไม้ที่ขาดน้ำยังไงยังงั้น ผมไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมถึงได้รู้สึกแบบนี้ แต่บางทีอาจเป็นเพราะผมกำลังจะขาดแหล่งรายได้จากลูกค้ารายใหญ่ก็ได้


“กูเข้าไปทำงานต่อก่อนนะ กลับบ้านดีๆ ล่ะ บาย” ผมโบกลือลาพร้อมกับฝืนยิ้มให้เหมือนปกติที่สุด จากนั้นหมุนตัวจะเดินกลับเข้าไปในห้องวิจัย
ผมทำใจเอาไว้แล้วว่าต่อไปคงไม่ได้เจอกับไอ้พฤกษ์อีก ถึงบางทีอาจจะสวนกันโดยบังเอิญแต่ก็คงไม่ได้คุยกัน แต่ถึงจะคิดอย่างนั้นไอ้พฤกษ์กลับพูดขึ้นมาว่า...


“เสาร์หน้าว่างมึงรึเปล่า” เท่านั้นแหละขาที่ผมกำลังก้าวอยู่ก็ชะงัก จากนั้นจึงได้หันกลับไปด้วยความงุนงงผสมกับความตื่นเต้น ถ้าจำไม่ผิดวันเสาร์หน้าเป็นวันวาเลนไทน์นี่นา


“กูมีงานสอนพิเศษ” ผมตอบด้วยใบหน้านิ่งๆ เพราะไม่อยากให้ไอ้พฤกษ์เห็นอาการตื่นเต้นของผม


“ถ้ามึงไม่ว่างก็ไม่เป็นไร” ไอ้พฤกษ์ตอบอย่างคนหมดอาลัยตายอยาก สีหน้าของมันบ่งบอกเลยว่ากำลังผิดหวังชัดเจน ผมที่เห็นอย่างนั้นเลยแอบอมยิ้มแล้วพูดขึ้นว่า...


“แล้วกูบอกตอนไหนว่ากูไม่ว่าง” เท่านั้นแหละไอ้พฤกษ์ก็รีบเงยหน้าขึ้นมา ดวงตาของมันก็เป็นประกายและจ้องมองมาที่ผมอย่างมีความหวัง


“งั้นกูขอนัดมึงเอาไว้เลยนะ” ยิ้มหน้าบานขนาดนี้แสดงว่าดีใจมากเลยล่ะซี้ที่กูว่าง


“อืม ก็ได้ แต่กูว่างตอนเย็นหลังจากสอนพิเศษเสร็จนะ ว่าแต่...มึงจะชวนกูไปไหนงั้นหรอ” ในขณะที่ถามผมแทบจะอาการตื่นเต้นแทบจะไม่มิด เพราะผมคิดว่าไอ้พฤกษ์มันจะชวนผมไปกินข้าว ดูหนัง หรือฟังเพลง แต่ผมก็ไม่คิดว่ามันจะ...


“กูอยากชวนมึงไปที่บ้าน”


“หา!” ผมตกใจจนถึงกับอ้าปากค้าง แต่แค่นั้นยังไม่พอ ประโยคต่อมาของมันยังทำให้ผมตาเบิกกว้างจนแทบจะถลนออกมาจากเบ้า


“แล้วก็อยากให้มึงนอนค้างกับกูด้วย”


“เฮ้ย!”


นี่มันอะไรกันเนี่ย ไอ้พฤกษ์มันชวนผมไปที่บ้านแถมยังอยากให้ค้างด้วย มิหนำซ้ำวันนั้นยังเป็นวันวาเลนไทน์อีกต่างหาก นี่อย่าบอกนะว่า...ไอ้พฤกษ์มันจะคิดอะไรกับผม!


ตึกตัก ตึกตัก ตึกตัก


ไม่จริงน่า ถึงจะพยายามคิดมาตลอดว่าเป็นไปไม่ได้ คุณชายแบบนั้นจะมาชอบผมได้ยังไง แต่ดูจากการกระทำและคำพูดของไอ้พฤกษ์ที่ผ่านมา มันก็พอจะเข้าเค้าอยู่ไม่ใช่หรอว่ามันคิดแบบนั้นกับผมจริงๆ?


เอาแล้วไง ตั้งแต่เกิดมาผมก็พึ่งจะเคยมีคนมาชอบครั้งแรกซะด้วย ถึงคนคนนั้นจะเป็นผู้ชายก็เถอะแต่มันก็นิสัยรวย...เอ๊ย! นิสัยดี มีน้ำใจช่วยเหลือคนจนๆ อย่างผม เพราะงั้นผมเลยไม่ได้รู้สึกรังเกียจมัน แถมในหลายๆ ครั้งยังรู้สึกประทับใจอีกต่างหาก


นี่อย่าบอกนะว่าผมก็เริ่มชอบไอ้พฤกษ์เข้าแล้ว?


ตึกตัก ตึกตัก ตึกตัก ตึกตัก ตึกตัก ตึกตัก


พอคิดได้แบบนี้หัวใจของผมก็เต้นรัวจนผมกลัวว่ามันจะหลุดออกมา ถ้าอย่างนั้นก็หมายความว่าผมกับไอ้พฤกษ์ใจตรงกัน แล้วอย่างนี้ความสัมพันธ์ของเราสองคนจะเป็นยังไงต่อไป?


แต่ในระหว่างที่ผมกำลังฟุ้งซ่านอยู่นั่นเอง ไอ้พฤกษ์ที่เห็นผมเปลี่ยนสีหน้าไปมาแทบจะ 100 หน้าในเวลาไม่ถึงนาทีก็ได้พูดขัดขึ้น


“มึงไม่ต้องตกใจแล้วก็คิดมากขนาดนั้นก็ได้ คือวันนั้นไม่มีใครอยู่ที่บ้าน กูเลยจะจ้างมึงทำความสะอาดแล้วก็ทำกับข้าวให้กูกินเท่านั้นเอง”


“หา!?” สิ่งที่ได้ยินทำเอาผมถึงกับสตั๊น ตอนนี้ผมยืนแข็งทื่อราวกับรูปปั้นเพราะวิญญาณแทบจะหลุดออกจากร่าง


ที่ไอ้พฤกษ์มันถามว่าผมว่างมั้ยในวันวาเลนไทน์ ก็เพราะว่ามันอยากจะจ้างผมไปเป็นแม่บ้านแค่นั้นงั้นเรอะ!


ฟ้าคคคคคคคคคคคคคคคคคค!


“กูไม่ทำ!” ผมพูดอย่างหัวเสียแล้วจะเดินกลับเข้าไปในห้องวิจัย แต่ไอ้พฤกษ์ก็ไม่ยอมให้ผมไปไหน เพราะได้ยื่นมือมาคว้าที่แขนของผมเอาไว้ซะก่อน


“เดี๋ยวสิซ่า คืองานมันไม่ได้หนักมาก อาหารกูก็กินแบบง่ายๆ มึงไม่ต้องกลัวว่าจะทำไม่ไหวหรอกนะ”


“กูไม่ได้กลัวเรื่องนั้นเว่ย!” ผมสะบัดแขนทิ้งแล้วเงยหน้าขึ้นไปมองไอ้พฤกษ์อย่างไม่สบอารมณ์ มันทำให้ผมเข้าใจผิดคิดไปเองเหมือนคนบ้า ฆ่าแม่งให้ตายซะตรงนี้เลยดีมั้ย!


“ถ้าไม่ได้กลัวแล้วมึงเป็นอะไรถึงไม่ยอมทำงานให้กู” ไอ้พฤกษ์มองผมอย่างหน้าซื่อตาใส


ให้ตายสิ! ผมโมโหจนแทบจะฆ่ามันได้ แต่มันกลับไม่รู้เรื่องอะไรเลยสักนิด เหมือนผมเป็นคนบ้า ฟุ้งซ่าน แล้วก็ปัญญาอ่อนที่คิดเองเออเองอยู่คนเดียว!


“กูขี้เกียจ! กูอยากนอนหายใจทิ้งกระดิกนิ้วตีนเล่นอยู่ที่หอ!” ผมพูดอย่างลอยหน้าลอยตา กะกวนประสาทให้ไอ้พฤกษ์หัวเสียอย่างผมบ้าง แต่ดูท่าว่าจะไม่ได้ผล เพราะแทนที่จะโกรธมันกลับยิ้มที่มุมปากออกมาซะงั้น


“แต่ถ้าอยู่หอมึงก็จะไม่ได้ค่าจ้างสักบาทนะซ่า”


“เฮอะ! ก็แล้วยังไง กูอยากพักผ่อนสบายๆ เงินแค่ไหนกูก็ไม่...”


“5000 สำหรับทำความสะอาดบ้าน ทำกับข้าว แล้วก็นอนค้าง 1 คืน” เท่านั้นแหละคำว่า ‘ไม่สน’ ของผมก็ถูกกลืนลงคอทันที ยิ่งผมเห็นแบงค์พันห้าใบที่ราวกับว่ามีแสงเปล่งประกายวิบวับอยู่ที่มือของไอ้พฤกษ์ ผมก็ถึงกับตาลุกวาวแล้วเข้าไปประชิดตัวมันด้วยความรวดเร็ว


“พฤกษ์เพื่อนรัก คำขอของเพื่อนอย่างมึงกูจะเมินได้ยังไง แน่นอนว่ากูต้องไม่ปฏิเสธอยู่แล้ว” ผมยิ้มหวานปานน้ำผึ้งเดือนห้า นี่เป็นอีกครั้งที่ผมเปลี่ยนสีอย่างไวราวกับกิ้งก่าเพราะอำนาจเงิน ก็สันดานเดิมมันฝังรากลึกจนแก้ไม่หายแล้วนี่นา


เงินตั้ง 5000 แถมทำงานสบายๆ ใครไม่คว้าไว้ก็โง่บรรลัยแล้ว!


“โอเค หวังว่ามึงจะไม่คืนคำนะซ่า” ไอ้พฤกษ์ยิ้มออกมากับผลลัพธ์ที่เป็นอย่างใจคิด


“กูไม่เอาน้ำลายที่ถุยทิ้งแล้วมากินหรอกน่า” ผมก็แค่อยากพูดให้มันมั่นใจ แต่ไหงมันถึงทำหน้าพะอืดพะอมออกมาก็ไม่รู้


“เอาเป็นว่าเดี๋ยววันเสาร์กูจะไปรับหลังจากมึงสอนเสร็จก็แล้วกัน ส่วนเงินค่าจ้างไว้วันนั้น...”


“ไหนๆ มึงก็ควักออกมาแล้วงั้นกูขอรับไว้เลยแล้วกันนะเพื่อน” ผมไม่รอให้ไอ้พฤกษ์พูดจนจบก็ฉกเงินในมือของมันมาเลย


“กูชักสงสัยแล้วนะว่ามึงกับโจรใครน่ากลัวกว่ากัน” สีหน้าของไอ้พฤกษ์ตอนนี้ดูละเหี่ยใจกับผมเหลือเกิน


“เออน่า กูดีกว่าโจรแน่นอน เพราะอย่างน้อยคนอย่างกูก็ไม่เคยปล้นใคร” แต่ปอกลอกนี่ทำเป็นประจำ! อันนี้ผมเสริมในใจโดยหมายหัวไอ้พฤกษ์เอาไว้เป็นอันดับแรก


คอยดูเถอะผมจะแก้แค้นโดยการปอกลอกมันให้หนัก มันมาทำให้ผมเข้าใจผิดแบบนี้มันต้องรับผิดชอบ!


“เจอกันวันเสาร์นะซ่า”


“รู้แล้วน่าจะย้ำอะไรมากมาย รีบกลับไปเลยไปกูจะได้ทำงานต่อ” ผมรุนหลังไอ้พฤกษ์ให้เดินออกไป ที่รีบไล่ไม่ใช่อะไร ผมกลัวจะหวั่นไหวกับรอยยิ้มอันอบอุ่นที่มันส่งมาให้นั่นแหละ


ถ้าไม่ได้คิดอะไรกับกูก็หยุดทำให้กูเข้าใจผิดได้แล้วไอ้คุณชาย!


 หลังจากที่ไอ้พฤกษ์กลับบ้านไปก็ได้เวลาที่ผมต้องเริ่มทำงานต่อ การที่ต้องจดจ่ออยู่กับหน้าจอและตัวอักษรทำให้ผมไม่มีเวลาคิดฟุ้งซ่าน ตลอด 4 – 5 ชั่วโมงผมมีสมาธิกับงาน จนในที่สุดก็สามารถพิมพ์เอกสารที่ได้รับมอบหมายจนเสร็จ


“ขอบใจนะนิ นี่ค่าจ้าง” อาจารย์ยื่นแบงค์สีเทาให้ หลังจากที่ผมเซฟงานใส่แฟลชไดรฟ์แล้วเอามาวางที่โต๊ะ


“ขอบคุณครับจารย์” ผมยกมือไหว้พร้อมกับยิ้มกว้าง แหงล่ะก็ผมได้ค่าจ้างตั้ง 2 เท่าของวันปกติเลยนี่นา ถึงจะต้องแลกมาด้วยการทำงานจนดึกดื่นก็เถอะ


“ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ผมขอตัวกลับเลยนะครับ”


“อืม ถ้าวันไหนมีงานให้ช่วยเดี๋ยวผมบอกอีกที”


“รับทราบครับผม!” ผมตะเบ๊ะท่าเลียนแบบทหาร จากนั้นก็เดินไปเก็บข้าวของแล้วบอกลาอาจารย์อีกครั้ง


ผมกลับมาถึงห้องตอน 5 ทุ่มกว่าๆ เวลาดึกขนาดนี้ตอนแรกผมก็คิดว่าจะอาบน้ำแล้วก็นอนหลับยาวๆ แต่ภาพความทรงจำเก่าๆ ตอนที่ไอ้พฤกษ์เคยอยู่ที่นี่ก็ฉายขึ้นมาในหัวของผมซะก่อน


พอผมมองไปที่มุมไหน ภาพเหตุการณ์ในวันนั้นมันก็ปรากฏขึ้นมา แต่ที่ชัดเจนเลยก็คือตอนที่ไอ้พฤกษ์คิดว่าผมเป็นหมอนข้าง มันกอดผมซะแน่นจนผมอึดอัด แต่ถึงอย่างนั้นผมก็รู้สึกว่าอ้อมกอดของมันช่างอบอุ่นเหลือเกิน


อบอุ่นซะจนตอนนี้ผมรู้สึกหนาวไปเลย...


เตียงที่ผมเคยคิดว่าแคบมาตลอด แต่ตอนนี้กลับรู้สึกว่ามันกว้างมาก ผมไม่เคยรู้สึกว่าตัวเองอ้างว้างจนต้องการใครสักคนมาอยู่ข้างๆ มากเท่าวันนี้
นี่มันคือความชอบใช่มั้ย?


“ไอ้พฤกษ์ นี่กูชอบมึงจริงๆ หรอวะ?”


....................................................

.............................

........


Rrrrrr...Rrrrrr...Rrrrrr...


เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นในขณะที่ผมกำลังเก็บกระเป๋าเสื้อผ้าในเวลาประมาณ 5 ทุ่มของวันศุกร์ เพราะพรุ่งนี้ผมต้องไปทำงานและนอนค้างที่บ้านของไอ้พฤกษ์หลังจากสอนพิเศษเสร็จ ถ้าเก็บกระเป๋าไปเลยจะได้ไม่ต้องเสียเวลาย้อนกลับไปกลับมา


“ฮัลโหล โทรมาหาพี่ดึกขนาดนี้มีเรื่องอะไรด่วนรึเปล่าแนน” ผมอดที่จะแปลกใจไม่ได้ ปกติแนนเคยโทรหาผมดึกขนาดนี้ที่ไหน เอาจริงๆ นอกเวลาสอนพิเศษก็แทบไม่ได้คุยกันเท่าไหร่ด้วยซ้ำ


[“คือ...ถ้าพรุ่งนี้แนนอยากให้พี่นิมาสอนช่วงเช้าแทนช่วงบ่ายจะได้มั้ยอ่า”] ฟังจากน้ำเสียงแนนค่อนข้างจะเกรงใจผมอยู่ แต่ก็คงมีเรื่องจำเป็นจริงๆ ล่ะมั้งถึงได้โทรมาหาเอาป่านนี้


“มันก็ได้อยู่นะ เปลี่ยนมาเรียนตอน 9 โมงถึงเที่ยงเป็นไง”


[“ดีเลยพี่นิ แนนจะได้ไปกินข้าวเที่ยงกับภูมิต่อ ตอนบ่ายก็ดูหนัง ส่วนตอนเย็นก็เดินชิลไม่ก็ช็อปปิ้ง”]


“เดี๋ยวนะ ที่โทรมาเลื่อนนัดเรียนก็เพราะคิดจะไปเดทกับแฟนงั้นเรอะ”


[“ใช่แล้วค่า”] น้ำเสียงของแนนลั้นลากระดี๊กระด๊ามาก มันน่าแพ่นกบาลจริงๆ


“พี่ยกเลิกกลับไปสอนเวลาเดิมซะดีมั้ย หมั่นไส้จริงๆ นี่ก็นึกว่าต้องไปทำธุระสำคัญ” ผมเบ้ปากออกมา เหม็นความรักจังโว้ย!


[“โหย ก็นี่แหละธุระสำคัญ ไม่รู้แหละแนนถือว่าพี่นิรับปากแล้ว เจอกัน 9 โมงนะพี่นิ ฝันดีค่า”] แนนพูดจบก็รีบกดวางโทรศัพท์ไปเลยก่อนที่ผมจะพูดอะไร เพราะงั้นสิ่งที่ผมทำได้เลยมีแค่การแยกเขี้ยวใส่โทรศัพท์อย่างเดียวเท่านั้น


เห็นผมทำท่าเหมือนไม่พอใจ แต่ความจริงผมกำลังอิจฉามากกว่า ก็วันวาเลนไทน์แนนได้ไปเดทกับแฟนนี่นา ส่วนผมกลับต้องไปทำงานเป็นแม่บ้านงกๆ ถึงจะเป็นบ้านของคนที่ชอบก็เถอะ แต่ในเมื่อมันไม่ได้ชอบผมแล้วมันจะมีประโยชน์อะไร


“เฮ้อออออ” ผมอดที่จะถอนหายใจออกมาไม่ได้ คนบนโลกนี้มีตั้งมากมายทำไมผมถึงไปชอบไอ้พฤกษ์ได้ก็ไม่รู้ ไม่เข้าใจตัวเองเลยจริงๆ


แต่จะว่าไปตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะมาคร่ำครวญเรื่องความรักความชอบนี่นะ ผมต้องบอกเลื่อนนัดกับไอ้พฤกษ์ซะก่อน แต่ตอนนี้มันอาจจะนอนหลับแล้วก็ได้ แถมพอรู้ใจตัวเองผมเลยรู้สึกเขินๆ ที่จะโทรหามัน เพราะงั้นส่งไลน์ไปบอกนั่นแหละดีที่สุด


‘พรุ่งนี้แนนขอเปลี่ยนเวลาเรียน กูสอนเสร็จตอนเที่ยง มึงจะมารับกูที่บ้านแนนหรือจะให้กูไปหามึงที่บ้านเลย’


หลังจากส่งเสร็จผมก็รอสักพักแต่ไอ้พฤกษ์ก็ยังไม่อ่านสักที ผมเลยคิดว่ามันน่าจะนอนแล้วเลยไปเก็บกระเป๋าต่อ เสร็จแล้วก็ขึ้นเตียงไปนอน ตื่นมาอีกทีก็ตอนที่ได้ยินเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นนั่นแหละ


Rrrrrr...Rrrrrr...Rrrrrr...


“ฮัลล...โหลววว...” ผมกดรับสายด้วยเสียงยานคาง โดยไม่ได้ดูหน้าจอด้วยซ้ำว่าใครเป็นคนโทรมา


[“ยังไม่ตื่นหรอซ่า”]


“ตื่นแล้วม้างสาสส...เสียงกูโสดสายชีพหายย...สายกว่าผีแม่หม้ายตายมา 3 ปีนี้ดเดียวว...ผ่าม!” ไงล่ะ เจอมุกเล่นเอง ชงเอง ตบเอง ถึงกับเอ๋อแดกไปเลยล่ะสิมึง


[“เอ่อ...กูไม่รู้ว่ากูควรจะพูดอะไร”]


“ถ้าง้านก้อหูบปากปาย แค่นี้น้าสาสคนจาหลับจานอน” ผมด่าส่งท้ายแล้วก็กดวางสายไปเลย


ผมนอนต่อจนกระทั่งเสียงนาฬิกาปลุก จากนั้นก็ไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า เสร็จแล้วพอมีเวลาเหลือเลยมานั่งกินแซนด์วิชพร้อมกับเช็คข้าวของในกระเป๋าว่าลืมอะไรรึเปล่า


จะว่าไปเมื่อเช้ามีไอ้หน้าหนอนคนไหนสักคนโทรหาผมนี่หว่า ไม่รู้ว่าจะชวนไปวิปัสสนารึไงถึงได้โทรมาเช้าขนาดนี้ เห็นทีต้องโทรกลับไปด่าให้รู้สำนึกซะบ้างว่า มันโทรมารบกวนการนอนอันมีค่าของผม!


ถึงจะคิดอย่างนั้นแต่พอเห็นชื่อที่โทรเข้ามาเท่านั้นแหละ ผมก็ตกใจจนเกือบทำแซนด์วิชที่คาบอยู่ในปากร่วงลงพื้น...คนที่โทรมาหาผมคือไอ้พฤกษ์งั้นหรอเนี่ย!


ซึ่งขณะที่ผมกำลังตกใจจนเบิกตากว้างเกือบจะเท่าไข่ห่านนั่นเอง ‘ไอ้หน้าหนอน’ ที่ผมพึ่งนึกด่าในใจก็โทรเข้ามาซะงั้น


“ฮะ...ฮัลโหล” จู่ๆ ก็ติดอ่างซะงั้นกู ความตื่นเต้นที่ไม่ได้คุยกัน 4 – 5 วันเทียบไม่ได้กับความอายที่คุยกันเมื่อเช้าเลยให้ตายสิ


[“เสียงไม่ได้งัวเงียแบบนี้แสดงว่าตื่นแล้วสินะ”] สัส ประโยคแรกมาก็ล้อกูเลยนะมึง


“เออ ถ้ารู้อยู่แล้วมึงจะถามทำมะเขืออะไร” ในเมื่อไอ้พฤกษ์กวนตีนผมก่อนผมก็เลยกวนตีนมันกลับ ดีเหมือนกันผมจะได้ทำตัวเหมือนเดิม ไม่ต้องเขินเวลาคุยหรือตอนเจอหน้า


[“ก็ถามเพื่อความแน่ใจ ถ้ามึงยังไม่ตื่นกูจะได้เตรียมพร้อมรับมือโหมดงัวเงีย”]


“ตอนนี้กูอยู่ในโหมดเกรี้ยวกราด อยากลองหน่อยมั้ยล่ะ”


[“ไม่ดีกว่า กูอยากลองโหมดหวานๆ ให้เข้ากับวันแห่งความรัก”] ประโยคนั้นของไอ้พฤกษ์ทำเอาผมถึงกับสตั๊น ส่วนหัวใจก็เริ่มเต้นแรงขึ้นมา ไอ้บ้านี่มันก็ชอบพูดจาให้ผมเข้าใจผิดอยู่เรื่อย!


“ที่โทรมานี่กะกวนตีนกูอย่างเดียวเลยใช่มั้ยเนี่ย” ก่อนที่จะเริ่มฟุ้งซ่านคิดไปไกลผมเลยเปลี่ยนเรื่องแม่งเลย


[“เปล่า กูจะโทรมาบอกว่ากูต้องไปซื้อของก่อนเลยอาจจะไปรับมึงช้าหน่อย อาจจะถึงที่นั่นสักเที่ยงครึ่งมึงรอได้มั้ย”]


“คงไม่ได้ว่ะ คือหลังจากนั้นแนนจะไปเดทกับภูมิไง จะให้กูนั่งสลอนรอมึงอยู่ที่นั่นมันก็ไม่ใช่จริงปะ”


[“นั่นสินะ ถ้างั้นเอาไงดี หรือมึงจะกลับหอก่อนแล้วกูค่อยไปรับมึงที่นั่น”]


“เสียเวลาตายห่า เอางี้แล้วกันเดี๋ยวกูไปหามึงที่บ้านเอง คงจะถึงพร้อมๆ กันหลังจากมึงซื้อของเสร็จนั่นแหละ”


[“แต่...”] น้ำเสียงของไอ้พฤกษ์ฟังดูเกรงใจไม่อยากให้ผมเดินทางมาเอง ผมเลยพูดตัดบทแม่งเลย


“ไม่มีแต่อะไรทั้งนั้น แชร์โลมาที่ไลน์กูแล้วกัน ตอนนี้กูสายแล้ว” พูดจบผมก็กดตัดสายไปเลย ก่อนที่ผมจะกินแซนด์วิชที่ยังเหลืออีกเกือบครึ่งรอไอ้พฤกษ์ส่งไลน์มาหา แต่พอผมเห็นสิ่งที่มันส่งมาเท่านั้นแหละ ผมก็รีบกลืนแซนด์วิชลงท้องแล้วอัดเสียงส่งกลับไปด่ามันทันที


“กูให้แชร์โลเคชั่นที่บ้านมึงมาไม่ใช่รูปปลาโลมาเว้ยไอ้เหี้ยยยยยยยยยย!”


......................................................

....................................

..................


“โอเค ถูกหมดทุกข้อ ถ้างั้นก็เลิกเรียนได้” ผมพูดขึ้นหลังจากตรวจแบบทดสอบที่ลองให้แนนกับภูมิทำหลังจากสอนเสร็จ ปกติเด็กสองคนนี้โดยเฉพาะแนนจะแก้โจทย์คณิตมาแบบส่งๆ มีวันนี้นี่แหละที่กระตือรือร้นผิดหูผิดตา สงสัยอยากเลิกเรียนเร็วๆ เพราะจะได้รีบไปเดทชัวร์


“เย่! ดีใจจังวันนี้ได้เลิกก่อนเวลาตั้ง 10 นาที” แนนพูดอย่างกระดี๊กระด๊า จากนั้นก็รีบเอาสมุดหนังสือไปเก็บที่ชั้น โดยมีภูมิมองตามทุกการกระทำพร้อมกับยิ้มด้วยความเอ็นดู


คนไม่มีคู่อย่างผมแม่งโคตรอิจฉา!


“พี่ไปก่อนนะ มีนัดทำงานพิเศษต่อน่ะ” ผมพูดจบก็โบกมือลาเด็กสองคนนั้นแล้วออกจากห้องมาเลย


ความจริงผมยังไม่ต้องรีบออกมาก็ได้ เพราะบ้านของไอ้พฤกษ์ที่ส่งโลเคชั่นมาให้ใหม่ (หลังจากที่โดนผมด่า) มันก็ไม่ได้ไกลจากที่นี่มาก ถ้าผมออกไปตอนนี้ก็คงจะถึงเร็วกว่าเวลานัด แต่ผมไม่อยากอยู่เป็นก้างขวางคอเด็กสองคนนั้น อีกอย่างกลิ่นความรักมันก็เหม็นจนผมหมั่นไส้


“ไปบ้านตรงนี้พี่คิดเท่าไหร่” ผมเรียกพี่วินมอไซค์ที่ขับผ่านหน้าบ้านแนนแล้วเอาแผนที่ให้ดู


“120”


“โหยพี่คนกันเองร้อยเดียวแล้วกัน” ถึงไม่รู้ว่าผมกับพี่วินไปสนิทกันตอนไหน แต่ก็ลองต่อดูเผื่อฟลุคจะลดได้ เงิน 20 บาทนี่ซื้อแซนด์วิชกินตอนเช้าได้ 2 วันเลยนะ


“โอเคๆ ร้อยเดียวก็ได้”


“ใจดีที่สุดเลยพี่” ผมยิ้มแก้มปริแล้วรีบก้าวขึ้นไปซ้อน ซึ่งพอผมนั่งได้ที่เท่านั้นแหละ พี่วินแกก็สวมวิญญาณวาเลนติโน รอสซี นักแข่งรถมอเตอร์ไซค์ชื่อดังแล้วบิดคันเร่งพาซิ่งทันที


ตลอดเวลา 10 กว่านาทีพี่แกขับปาดซ้าย ปาดขวา แซงหน้า แซงหลัง จนผมเสียวว่าจะตายห่า มิหนำซ้ำยังมีการแทรกกลางผ่าเข้าไประหว่างช่องว่างของรถเมล์กับรถกระบะอีกต่างหาก เล่นเอาผมร้องว้ากแล้วสวดภาวนาในใจ พร้อมกับสาบานว่าหากวันนี้รอดอย่างปลอดภัยผมจะไม่ต่อราคาพี่วินคนไหนอีกเด็ดขาด


“เอ้า ถึงแล้ว บ้านหลังนี้ใช่มั้ย” พี่วินพูดขึ้นหลังจากเบรกกะทันหันจนผมหน้าทิ่ม ตอนนี้ไม่รู้แหละว่าตรงหน้าใช่บ้านไอ้พฤกษ์รึเปล่า แต่ผมจะไม่ขอนั่งไปกับพี่แกอีกแล้ว


“ชะ...ใช่ บ้านหลังนี้แหละพี่” ผมก้าวลงจากรถอย่างเซๆ แล้วรีบยื่นแบงค์ร้อยไปให้ ซึ่งหลังจากที่ได้เงินพี่แกก็รีบซิ่งออกไปเลย
เฮ้ออออออ เกือบเอาชีวิตไม่รอดแล้วกู


ผมปาดเหงื่อแล้วจัดเสื้อผ้าหน้าผมให้เข้าที่เข้าทาง จากนั้นจึงได้หันมองบ้านสไตล์โมเดิร์นที่อยู่ตรงหน้า ความสวยงามล้ำสมัยที่เห็นทำเอาผมอดที่จะร้องว้าวออกมาไม่ได้


นี่มันบ้านในฝันชัดๆ!


ซึ่งขณะที่ผมกำลังชื่นชมความงามของบ้านอยู่นั่นเอง ประตูรั้วเลื่อนเปิดออกช้าๆ คาดว่าน่าจะถูกสั่งการโดยรีโมตจากคนที่อยู่ข้างใน


ไฮเทคเวอร์!


เรื่องแบบนี้คนในเมืองอาจจะดูเป็นเรื่องปกติ แต่คนบ้านนอกแถมยังจนกรอบแบบผมร้อยทั้งร้อยต้องตื่นเต้นด้วยกันทั้งนั้น แถมยังเห็นรถออดี้สีแดงเฟี้ยวจอดอยู่ใกล้ๆ ด้วยอีก ผมก็ฟินโคตรๆ จนแทบจะนิพพานได้อยู่แล้ว


แอบถ่ายรูปคู่แล้วอัพลงเฟซบุ๊คดีมั้ยนะ?


ถึงจะถามตัวเองในใจแบบนั้น แต่มือของผมก็ควักโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดกล้องเรียบร้อยแล้ว ซึ่งขณะที่ผมกำลังคิดท่าแอคชั่นอยู่นั่นเอง เสียงๆ หนึ่งก็ดังขึ้นมาซะก่อน


“ทำอะไรน่ะ” เสียงอันคุ้นเคยทำให้ผมรีบหันไปหา ก่อนจะพบว่าเป็นไอ้พฤกษ์ที่กำลังยืนพิงประตูบ้านพลางมองมาทางนี้พร้อมกับขมวดคิ้ว


“แหะๆ เห็นรถสวยดีกูเลยอยากถ่ายรูปคู่น่ะ ว่าแต่...พึ่งรู้นะเนี่ยว่าปกติตอนอยู่บ้านมึงแต่งตัวแบบนี้” ผมพูดพร้อมกับมองไอ้พฤกษ์ที่ดูลุคแปลกตาตั้งแต่หัวจรดเท้า


นอกจากหนังหน้าหล่อๆ ที่เหมือนเดิม นอกนั้นมันแตกต่างจากปกติที่ผมเคยเห็นทุกอย่าง ทั้งเสื้อหนัง รองเท้าผ้าใบ แล้วก็กางเกงยีนส์ขาดๆ อ้อ...ทรงผมที่เสยขึ้นแบบเว็ทลุคกับแว่นสายตาที่หายไปนั่นด้วย เรียกได้ว่าจากลุคคุณชายกลายเป็นลุคแบดบอยไปเลย


เคยได้ยินว่าการที่มันทำตัวให้อยู่ในกรอบก็เพราะความเคยชินตั้งแต่เด็ก แต่ผมก็ไม่คิดเลยว่าตัวตนที่แท้จริงของมันจะแตกต่างได้ถึงขนาดนี้


“เออไอ้พฤกษ์ นี่มึงกลับบ้านมานานแล้วหรอ”


“หืม?”


“งงอะไรของมึง ก็ที่มึงบอกว่าต้องออกไปซื้อของก่อนเลยไปรับกูไม่ทันไง” พอเปลี่ยนลุคจากคุณชายเป็นแบดบอยก็โง่ทันทีเลยนะไอ้นี่


“อ๋อ นั่นพี่ชายกูไปซื้อ”


“ถ้างั้นก็แสดงว่ามึงอยู่บ้านตลอดไม่ได้ไปไหน?”


“อืม”


“มาองมาอืมเชี่ยไรล่ะฟาย! มึงรู้มั้ยว่ากูต้องเสี่ยงตายแค่ไหนที่นั่งวินมอไซค์มา! แม่งต่อลง 20 บาททำอย่างกับกูขอนั่งฟรี!” พูดแล้วแม่งก็ขึ้น แต่ที่ขึ้นกว่าก็เพราะไอ้พฤกษ์มันอยู่บ้านเฉยๆ ไม่ยอมไปรับผมนี่แหละ


ว่าแล้วก็ขอดีดหน้าผากมันให้หายแค้นสักทีเถอะ!


“โอ๊ย! กูเจ็บนะ!” ไอ้พฤกษ์โวยวายพร้อมกับเอามือกุมหน้าผาก หลังจากที่ผมจัดการดีดหน้าผากมันอย่างสุดแรง


“รู้แล้ว ก็กูตั้งใจทำให้มึงเจ็บนี่ ฮ่าๆๆๆ” ผมหัวเราะอย่างสะใจ พอได้ระบายอารมณ์ก็รู้สึกดีขึ้นเยอะ


“ก่อนจะทำร้ายกูมึงไม่คิดจะดูอะไรให้มันดีๆ หน่อยรึไง” ไอ้พฤกษ์กอดอกมองผมอย่างเหนื่อยใจ ผมไม่รู้ว่ามันหมายความว่ายังไงเลยหันมองไปรอบๆ ตัว


“จะว่าไปที่บ้านมึงมีรถหลายคันสินะ”


“อืม มี 4 คัน”


“มิน่าล่ะวันนี้มึงถึงจะขับคันนี้...เอ๊ะ! หรือว่านี่คือกำลังจะออกไปรับกู?” พอลองคิดๆ ดูมันก็อาจจะใช่ เพราะไอ้พฤกษ์เดินออกมาจากบ้านพอดี แถมรถยังจอดอยู่ตรงนี้แทนที่จะเป็นโรงรถอีกต่างหาก ถ้างั้นก็แสดงว่าเมื่อกี้มันเจ็บหน้าผากฟรีน่ะสิ!


“บางทีกูก็ไม่ค่อยเข้าใจความคิดของมึงนะ แต่ว่าตรงนั้นแหละที่ดูน่าสนใจ” ในขณะที่พูดไอ้พฤกษ์ก็มองผมตั้งแต่หัวจรดเท้า สีหน้าและแววตาของมันดูเหมือนกำลังมีแผนร้ายยังไงก็ไม่รู้


“อะไรของมึงเนี่ย เมาแดดรึไงถึงได้พูดจาแปลกๆ”


“อาจจะใช่ก็ได้ ตรงนี้แดดมันแรง เข้าไปหลบแดดแล้วทำเรื่องสนุกๆ ในห้องกูกันดีกว่า ” ไอ้พฤกษ์ยิ้มที่มุมปากแล้วจูงมือผมเข้าไปในบ้าน ซึ่งผมก็เดินตามเข้าไปแต่โดยดีไม่คิดสงสัยอะไรเลย...


2BC


 o14 ฮัลโหลวววว Avert หัวใจซ่อนรัก ตอนที่ 7 ก็จบลงไปแล้วค่า พออ่านจบเชื่อว่าหลายๆคนต้องกำพระแน่นมาก พร้อมกับสวดภาวนาให้ซ่าแคล้วคลาดปลอดภัย...จากพี่วิน? โน้ววววว อีตาพฤกษ์ลุคแบดบอยนี่แหละ 55555
ส่วนตอนหน้าซ่าจะรอดหรือไม่ หรือจะเกิดอะไรขึ้นรึเปล่าก็มาลุ้นไปพร้อมกันนะคะ วันอาทิตย์ค่ำๆเจอกันค่ะ บ๊ายบายยยยย  :bye2:
ปล.ขอประชาสัมพันธ์นิดนึงน้า นิยายเรื่องนี้จะเปิดให้จองในวันเสาร์ที่ 24 นี้ตอนเที่ยงตรง ยังไงก็ฝากเอ็นดูและรับเลี้ยงคู่พฤกษ์ซ่าด้วยนะคะ  :กอด1:
(22 ก.พ. 61)

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 27-02-2018 07:31:51 โดย Sameejaejung »

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
วาเลนไทน์มันต้องมีสักนิดน่า

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
พฤกษ์ ทำไมถึงได้ทำร้ายจิตใจของลิซ่าได้นะ  :ling1:

ออฟไลน์ Dee^daY

  • ไม่เคย ทำให้ใครเดือดร้อน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +330/-6

ออฟไลน์ Al2iskiren

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1775
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-3
คิดว่าพฤกษ์ไม่น่าจะแค่จ้างมาทำความสะอาดกับทำกับข้าวหรอก มันต้องมีซัมติงแหงๆ  :hao3:

ออฟไลน์ Nus@nT@R@

  • Life is Investment
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5589
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +456/-11
พฤกษ์แค่อยากฉลองวันวาเลนไทน์กับซ่า แต่ต้องอ้างว่าจ้างทำงาน
ส่วนซ่า...เซ็งล่ะสิ นึกว่าเขาจะชอบตัว คู่นี้ผลัดกันทำเรือล่มเนอะ 5555

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
ยึกยักอยู่ได้คู่นี้!

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด