ซีรีส์ [H.E.A.R.T.] ❤ หัวใจ...รัก [END]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ซีรีส์ [H.E.A.R.T.] ❤ หัวใจ...รัก [END]  (อ่าน 205960 ครั้ง)

ออฟไลน์ Sameejaejung

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 394
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +457/-17
[H.E.A.R.T.] A.Avert หัวใจซ่อนรัก


Part 4# Niza ความงกเป็นเหตุ


“เออใช่ แล้วเรื่องเกม Truth or Dare นี่เอาไง จะเล่นต่อเลยปะหรือว่าพอแค่นี้” ไอ้แมนถามพลางมองหน้าเพื่อนรอบวง พอมันพูดขึ้นแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน ผมจะได้เลิกฟุ้งซ่านเรื่องของไอ้พฤกษ์สักที


“กูก็อยากเล่นต่อนะ แต่กูขี้เกียจทำตามคำสั่งเหี้ยๆ อีกอะถ้าเลือก Dare” พอผมพูดแบบนี้ก็มีเพื่อนบางคนพยักหน้าเห็นด้วย


“ถ้างั้นกูว่าเปลี่ยนกติกาใหม่ดีมั้ย ใครเลือก Dare ให้เปลี่ยนเป็นแดกเหล้าเข้มๆ สักแก้ว แต่ถ้าเลือก Truth ก็ตอบเรื่องจริงไปตามเดิม” ไอ้สนเสนอ ผมว่าก็เป็นไอเดียที่ดีเหมือนกัน เพราะผมจะได้หารายได้โดยการชงเหล้า คนเมาน่ะเปย์ง่ายจ่ายคล่องอยู่แล้ว


“กูเห็นด้วยกับไอ้สน มีใครเห็นด้วยอีกบ้าง” ผมมองหาแนวร่วมแต่ก็มีแต่คนลังเล ผมเลยเอาไหล่สะกิดไอ้พฤกษ์แล้วถลึงตาให้มันอยู่ข้างผม ดีที่มันฉลาดเลยเข้าใจอะไรง่ายหน่อย


“กูก็เห็นด้วยเหมือนกัน” พอมีคนเปิดก็มีคนตาม ไอ้พวกที่ลังเลหลายคนก็หันมาสนับสนุนข้างเดียวกับผม จนในที่สุดก็ได้เปลี่ยน Dare ให้กลายเป็นดื่มเหล้าเข้มๆ 1 แก้วสมใจ


“กูรู้นะมึงคิดอะไรอยู่” ไอ้พฤกษ์เอียงศีรษะมากระซิบข้างหูผม แสนรู้จริงๆ ไอ้คุณชาย


“ถ้ารู้แล้วก็เงียบไปไม่ต้องพูดมาก” ผมถลึงตาใส่มัน จากนั้นก็หันไปส่งเสียงเชียร์ (แช่ง) พวกเพื่อนที่เริ่มทอยลูกเต๋า...เกม Truth or Dare กำลังเริ่มเล่นอีกครั้งแล้ว


ครั้งนี้ เนื่องจากไม่มีการสั่งให้ทำอะไรแปลกประหลาดพิสดาร การเล่นเกมแต่ละครั้งเลยใช้เวลาไม่นาน ส่วนใหญ่เมื่อซวยทอยเต๋าได้แต้มรวมน้อยสุดก็มักจะเลือก Dare ที่ได้ดื่มเหล้า (แน่นอนว่าผมเป็นคนชง) เพราะคำถามของคนที่เลือก Truth มันรุนแรงและสัปดนขึ้นเรื่อยๆ


ผ่านไปครึ่งชั่วโมงมีเพื่อนที่ดวงซวยและคออ่อนเมาหลับไป 1 คน หนึ่งชั่วโมงเพิ่มเป็น 3 คน ชั่วโมงครึ่งเพิ่มเป็น 6 คน จนตอนนี้เหลือสมาชิกเพียงแค่ 4 คน นั่นก็คือไอ้สน ไอ้แมน ไอ้พฤกษ์ แล้วก็ผม แต่ถึงจะบอกว่าเหลือ 4 คน อันที่จริงต้องบอกว่าเหลือคนที่สติดี 3 คน ส่วนอีกคนกำลังเมาเรื้อนพูดอะไรแทบไม่รู้เรื่อง ดังนั้นพวกผมเลยตกลงกันว่าจะหยุดเล่นเกมกันแค่นี้


“มึงช่วยกูพาไอ้แมนขึ้นไปนอนบนห้องหน่อยดิไอ้ซ่า” ไอ้สนพูดกับผมแล้วหิ้วปีกข้างหนึ่งของไอ้แมนที่กำลังพูดพล่ามอะไรอยู่ก็ไม่รู้ ผมที่เห็นอย่างนั้นจึงได้รีบลุกขึ้นไปหิ้วปีกอีกข้างของมันเอาไว้


“ไอ้พฤกษ์ ระหว่างนี้มึงช่วยเก็บแก้วกับจานไปไว้ในครัวหน่อยนะ” ผมหันไปสั่งไอ้พฤกษ์ มันจึงพยักหน้าลง ผมกับไอ้สนเลยช่วยกันพยุงไอ้แมนที่ตัวอ่อนเปลี้ยแทบไม่มีแรงเดินขึ้นไปบนห้องของมันที่อยู่ชั้นสอง ซึ่งกว่าจะถึงก็เล่นเอาแทบหมดแรงเพราะไอ้แมนแม่งไม่ค่อยให้ความร่วมมือ แต่โชคยังดีที่พอหัวถึงหมอนมันก็นอนหลับเป็นตาย


“เออ มึงช่วยหาฟูกไปปูนอนให้ไอ้พวกข้างล่างหน่อยนะ เดี๋ยวกูว่าจะไปเปลี่ยนชุดแล้วก็เอากิ๊บไปคืนที่ห้องน้องไอ้แมนน่ะ” ผมพูดกับไอ้สน


“ได้ๆ เสร็จแล้วตามมาแล้วกัน” ผมพยักหน้า จากนั้นก็เดินไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่ห้องน้องไอ้แมน เสร็จแล้วผมก็ลงมาช่วยไอ้สนกับไอ้พฤกษ์ที่กำลังจัดระเบียบพวกที่เมาหลับอยู่ข้างล่าง ซึ่งกว่าจะลากพวกมันไปนอนบนฟูกครบทุกคนได้ก็ใช้เวลาเกือบสิบนาที


“แม่ง เหนื่อยฉิบหาย แต่ละคนแดกควายกันมารึไงถึงได้ตัวหนักขนาดนี้” ผมบ่นพร้อมกับปาดเหงื่อ


“ถ้าเหนื่อยมึงจะนอนนี่มั้ยล่ะ โซฟาก็ยังว่างนะ” ไอ้สนพูดกับผม


“ไม่ล่ะ กูกลับไปนอนที่หอเลยดีกว่า อยู่ถัดไปแค่ 2 ซอยเอง” ที่หลังม.ซอยแต่ละซอยมันไม่ห่างกันมากอยู่แล้ว จากบ้านไอ้แมนเดินไปที่หอผมอย่างมากก็แค่ 10 นาทีเท่านั้นแหละ


“แล้วมึงล่ะจะนอนที่นี่รึเปล่า” คราวนี้ไอ้สนหันไปถามไอ้พฤกษ์บ้าง


“ไม่ดีกว่ากูเกรงใจ เดี๋ยวกูขับรถกลับบ้านเลยแล้วกัน” แน่นอนมันต้องปฏิเสธอยู่แล้ว ก็มันไม่ได้สนิทกับไอ้พวกนั้นจะกล้านอนค้างด้วยได้ยังไง ไอ้สนที่เหมือนจะนึกขึ้นได้เลยไม่ได้รบเร้าจะให้มันนอนที่นี่


“แล้วบ้านมึงอยู่แถวไหน กูจะเช็คดูในกลุ่ม ‘มีด่านบอกด้วย’ ให้ว่าแถวนั้นมีด่านตั้งอยู่รึเปล่า” ที่ไอ้สนถามแบบนี้ก็ไม่แปลก เพราะถึงไอ้พฤกษ์มันจะไม่ได้เมา แต่มันก็ดื่มเหล้าไปหลายแก้วอยู่ ถ้าเจอด่านแล้วได้เป่ายังไงก็เกินแน่นอน


“กูอยู่แถววัชรพล”


“โอเคเดี๋ยวกูเช็คแป๊บ.............โอ้โห! มีแม่งตั้ง 3 ด่าน ดักแม่งทุกแยกเลยมึงเอ๊ย!” ไอ้สนอุทานจากนั้นก็ยื่นโทรศัพท์ให้ไอ้พฤกษ์ดู


“จริงด้วยแฮะ ดักเส้นที่เข้าบ้านกูทุกทางเลย” ไอ้พฤกษ์ทำหน้าเครียด


“แล้วมึงจะทำไงล่ะเนี่ย กลับบ้านไม่ได้ยังไงก็ต้องหาที่นอนแถวนี้แล้วล่ะ” ผมทำเป็นหูทวนลมในสิ่งที่ไอ้สนพูด เพราะเรื่องของไอ้พฤกษ์มันไม่ใช่เรื่องของผม คืนนี้มันจะไปนอนที่ไหนหรือจะแวะไปนอนที่ห้องกรงก็ตามใจ แต่ไหงไอ้สนถึงได้ลากผมเข้าไปเกี่ยวด้วยก็ไม่รู้


“เออ จะว่าไปมึงไปนอนที่หอไอ้ซ่าก็ได้นะ วันนี้มันฟันเงินมึงไปตั้งเยอะ”


“อ้าวเฮ้ย! เงินนั่นมันค่าจ้างที่มันใช้แรงงานกู กูได้บังคับขู่เข็ญให้มันเอาเงินมาให้รึไง แล้วทำไมกูต้องพามันไปนอนที่หอให้เป็นภาระด้วย ทำอย่างกับว่าค่าน้ำค่าไฟกูได้ใช้ฟรี” พอผมโวยวายแบบนี้ไอ้พฤกษ์ก็หรี่ตาลง แถมยังทำหน้าเจ้าเล่ห์ขึ้นมา


“เอ...ถ้าจำไม่ผิดวันนี้มึงต้องเอาเงินให้กูด้วยนี่นะ”


“หา? ค่าอะไร อย่ามามั่ว” ผมทำหน้างง ไอ้พฤกษ์มันกำลังจะหลอกต้มเอาเงินผมใช่มั้ย


“ก็ค่าส่วนแบ่ง 40% ที่มึงหลอกให้กูมา...” แต่ว่ายังไม่ทันที่ไอ้พฤกษ์จะได้พูดจนจบประโยค ผมก็รีบกระโดดขึ้นไปเอามืออุดปากมันไว้ ความฉิบหายเกือบมาเยือนผมแล้วมั้ยล่ะ


“เดี๋ยวคืนนี้มึงไปนอนที่หอกูนะเพื่อนรัก แหม...แกล้งเล่นแค่นี้ถึงกับจะใส่ร้ายกูเลยหรอ ร้ายไม่เบานะเนี่ย” ผมยิ้มหวานทั้งที่ตาเหลือกแทบถลน ในขณะที่มือก็ยังคงอุดปากไอ้พฤกษ์เอาไว้เหมือนเดิม


นี่ถ้าไอ้พวกเพื่อนมันรู้ว่า ผมหลอกให้ไอ้พฤกษ์มาที่นี่แล้วเราสองคนก็ไม่ได้สนิทกัน ผมได้ถูกยึดเงินคืนแถมยังได้กินยำตีนชัวร์!


“จะว่าไปนี่ก็ชักง่วงแล้ว งั้นเดี๋ยวกูกลับหอก่อนนะไอ้สน บาย” ผมรีบโบกมือลา ก่อนที่จะลากไอ้พฤกษ์ออกมาจากบ้านอย่างไว ส่วนไอ้สนที่ถึงแม้จะงงๆ อยู่แต่ก็ไม่ได้ถามอะไรแล้วเดินไปหาที่นอน


“หึหึ” ไอ้พฤกษ์หัวเราะในลำคอหลังจากที่ผมลากมันออกมาจนถึงรถ ผมจึงรีบปล่อยมือออกจากปากของมันแล้วเท้าสะเอวอย่างหาเรื่อง


“หัวเราะอะไร อย่าได้ใจไปหน่อยเลยไอ้คุณชาย กูไม่ได้จะให้มึงนอนฟรีๆ เพราะกูจะยึดเงิน 40% ที่ต้องแบ่งให้มึงถือเป็นค่าเช่าห้อง” ผมยิ้มที่มุมปาก
เอาวะ อย่างน้อยก็ยังดีที่ไม่ต้องเสียเงิน 720 บาทให้ไอ้พฤกษ์ กล้ำกลืนฝืนทนให้มันนอนค้างที่ห้องไม่กี่ชั่วโมงยังไงก็คุ้มล่ะน่า


แต่ถึงจะคิดอย่างนั้น ไอ้พฤกษ์มันกลับทำลายความคิดของผมลงอย่างโหดเหี้ยม!


“งั้นกูเปลี่ยนใจไม่ไปนอนหอมึงดีกว่า มึงเอาเงินมาเดี๋ยวกูไปเช่าห้องพักรายวันแถวนี้เอา เพราะอย่างมากกูก็ได้จ่ายแค่ 5 – 6 ร้อย จะได้นอนสบายๆ มีเงินเหลือซื้อข้าวเช้า แล้วก็จะได้ไม่ต้องรบกวนมึงด้วย” ไอ้พฤกษ์โปรยยิ้มมาดคุณชาย แต่สายตาของมันมองยังไงก็วายร้ายชัดๆ


ม่ายยยยยยยยย ผมไม่ยอมให้ 720 ปลิวออกจากประเป๋าของผมเด็ดขาดดดดดดดดด


“เฮ้ยเพื่อน รบกงรบกวนอะไร ไม่ต้องเกรงใจหรอกไปนอนหอกูนี่แหละ” ผมเปลี่ยนท่าทีจากหลังส้นตีนเป็นหน้ามือพร้อมกับยิ้มหวาน จากนั้นก็รีบเขย่งปลายเท้าเพื่อที่จะได้วาดแขนไปกอดคอคนสูงเปรตอย่างไอ้พฤกษ์


“แต่กูว่าไม่...”


“ไม่ต้องมีต่งมีแต่อะไรแล้วเพื่อน ไปนอนหอกูนี่แหละ เดี๋ยวกูทำข้าวเที่ยงเลี้ยงมึงอีกมื้อเลยเอ๊า” ผมพูดอย่างใจป้ำ ก็แน่ล่ะเพราะเมื่อกี้ไอ้พฤกษ์มันทำท่าจะปฏิเสธผมนี่นา แล้วดูท่าว่ามันค่อนข้างจะพอใจเลยลอบยิ้มออกมาได้ แต่ก็ไม่วายได้คืบจะเอาศอก


“ทำข้าวเช้าให้กูกินด้วยสิ”


“ได้ทีเอาใหญ่เลยนะมึง แต่เสียใจด้วย ตอนเช้ากูยังไม่ตื่น” นี่มันก็ดึกมากแล้ว ผมเลยคิดว่าเที่ยงนู่นแหละผมถึงจะลืมตาตื่น อีกอย่างพรุ่งนี้ก็เป็นวันเสาร์ด้วย ผมเลยไม่รู้ว่าจะรีบตื่นขึ้นมาตั้งแต่เช้าทำไม


“ถ้างั้นมึงก็ทำข้าวเที่ยงกับเย็นเลี้ยงกูแล้วกัน” ไอ้พฤกษ์ต่อรอง ผมเลยเบ้ปากใส่มัน


“นี่ไอ้คุณชาย มึงไม่คิดจะกลับบ้านกลับช่องบ้างเลยรึไง”


“ไว้ค่อยกลับตอนเย็นก็ได้ กูไม่รีบ พรุ่งนี้กูไม่มีธุระที่ไหน”


“แต่กูมี กูไม่ได้นอนสบายบนกองเงินกองทองแบบมึงนะโว้ย ตอนบ่ายกูต้องไปทำงานพิเศษ”


“อ้อ ถ้างั้นกูกินแค่ข้าวเที่ยงก็ได้” ไอ้พฤกษ์ทำหน้าเสียดายนิดๆ


“มันก็ต้องเป็นอย่างนั้นอยู่แล้ว” พูดจบผมก็เปิดประตูเข้าในนั่งในรถทันทีโดยที่ไม่ต้องให้ไอ้พฤกษ์เชิญ มันจึงเดินตามมานั่งยังฝั่งคนขับ จากนั้นก็ถามทางไปหอพักของผมซึ่งอยู่ถัดไปอีก 2 ซอย


หลังจากขับออกจากบ้านไอ้แมน ไอ้พฤกษ์ก็แวะซื้อของใช้ที่โลตัสเอ็กซ์เพรสก่อน เพราะงั้นกว่าจะมาถึงหอของผมเลยเสียเวลาไปประมาณ 15 นาที แต่ก็ดีเพราะถ้ามันมาใช้ของร่วมกันกับผมมันก็ไม่ไหว อย่างสบู่ โฟมล้างหน้า ผ้าเช็ดตัวอะไรพวกนี้ผมพอเข้าใจ แต่พวกกางเกงในหรือแปรงสีฟันที่เป็นของใช้ส่วนตัวผมไม่โอเค


“ถึงแล้ว ห้องแคบนิดนึงนะเว่ย” ผมพูดในขณะที่ไขกุญแจเข้าไปในห้องของตัวเอง ห้องนี้มีขนาดแค่ 20 ตร.ม. เท่านั้นเพราะค่าเช่าแค่ 2000 แน่นอนว่าราคาถูกขนาดนั้นภายในห้องมันเลยแทบไม่มีอะไร มีแค่ตู้เสื้อผ้า พัดลมติดผนัง โต๊ะเครื่องแป้ง แล้วก็เตียงขนาด 3.5 ฟุตเท่านั้นเอง


“ห้องมึงไม่มีแอร์หรอ” ไอ้พฤกษ์ถามพลางกวาดสายตามองรอบๆ ห้องของผม


“ไม่มี ห้องแอร์มันแพงกูไม่มีปัญญาจ่าย” ห้องพัดลม 2000 ส่วนห้องแอร์ 3000 คนจนๆ อย่างผมก็ต้องอยู่ห้องพัดลมอยู่แล้ว แต่ถึงห้องนี้จะมีแอร์ผมก็ไม่เปิดหรอกเพราะมันเปลืองไฟ


“แล้วอย่าบอกนะว่าห้องนี้ก็ไม่มีเครื่องทำน้ำอุ่นด้วย”


“แน่นอนอยู่แล้ว” กรุงเทพแม่งร้อนเกือบทั้งปีไอ้คุณชายนี่มันยังจะอาบน้ำอุ่นอยู่อีกหรอ ท่าทางจะบ้า


“ถ้างั้นกูเปลี่ยนใจไปเช่าห้องพักแถวนี้นอนดีกว่า ดูท่าจะสบายกว่ากันเถอะ” พอได้ยินแบบนี้ผมก็รีบวิ่งไปขวางประตูเอาไว้ทันทีเลยน่ะสิ


“โหย มาถึงที่นี่แล้วมึงจะไปลำบากหาที่นอนทำไม อีกอย่างนี่มันก็จะเที่ยงคืนแล้วนะเว่ย มึงหาที่พักแถวนี้ไม่ได้ง่ายๆ หรอก” ผมพยายามเกลี้ยกล่อมไอ้พฤกษ์อย่างสุดฤทธิ์ เพราะไม่อยากคืนเงิน 720 ให้มัน


“ถึงมึงจะพูดแบบนั้น แต่เตียงที่ห้องมันก็แค่ 3.5 ฟุตเองนะ กูกับมึงจะนอนกันยังไง”


“ไม่เห็นยาก มึงนอนพื้น ส่วนกูก็นอนเตียง” ผมยิ้มแฉ่ง เท่านั้นแหละไอ้พฤกษ์มันก็ยื่นมือออกมาตรงหน้าผมทันที


“งั้นมึงเอาเงิน 720 มาเลย”


“โหย ล้อเล่นน่ะเพื่อน มึงนอนเตียงไปเลยเดี๋ยวกูนอนพื้นเอง โอเคตามนี้เนอะ” ผมยิ้มอย่างประจบประแจง ทั้งที่ในใจกำลังสาปแช่งไอ้พฤกษ์อยู่
ก็ไม่รู้ว่าคุณชายสายเปย์แบบมันเกิดผีเข้ารึไง จู่ๆ ถึงได้มางกกะอีแค่เงินหลักร้อยแบบนี้ หงุดหงิดจริงเว่ย!


“เฮ้อ ก็ถ้ามึงอยากให้กูนอนที่นี่ขนาดนั้น กูจะยอมนอนด้วยก็ได้” คำพูดของไอ้คุณชายทำเอาผมอดไม่ได้ที่จะแอบเบ้ปากเป็นรูปสระอิ แต่เพียงไม่กี่วินาทีผมก็ตอแหลยิ้มหวานใส่มัน


“อย่างนั้นล่ะเพื่อน เอาล่ะ ถ้างั้นมึงไปอาบน้ำก่อนเลยนะ เดี๋ยวกูจะไปจัดที่นอนของกู”


“เอางั้นก็ได้” แล้วไอ้พฤกษ์ก็หยิบเสื้อผ้ากับของใช้เข้าไปในห้องน้ำ ผมจึงไปเอาเสื่อกับผ้าขนหนูอีกผืนมาปูเป็นที่นอน ส่วนหมอนที่ห้องมีอันเดียวผมเลยเอาเสื้อกันหนาวตัวหนาๆ มาม้วน ซึ่งพอลองหนุนดูมันก็พอจะใช้แก้ขัดแทนหมอนได้ แต่ที่นอนนี่สิแข็งฉิบหายไม่ต่างอะไรจากการนอนพื้นเปล่าๆ


“มึงนอนได้หรอน่ะ ไม่แข็งรึไง” ไอ้พฤกษ์ที่เดินออกมาจากห้องน้ำถามขึ้น ตอนนี้มันใส่เสื้อยืดสีขาวกับกางเกงนอนขายาวลายตาราง ถึงแม้มันจะแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าธรรมดา แต่ว่าออร่าคุณชายของมันก็ยังแผ่กระจายออกมาอยู่ดี


“ไม่มีปัญหา กูนอนได้สบายมาก” ผมยักไหล่อย่างไม่ยี่หระ เพราะถ้าบอกว่านอนไม่ได้ เกิดไอ้พฤกษ์มันบอกจะสละเตียงแล้วไปนอนที่อื่น ผมก็เสียเงิน 720 ที่สามารถกินข้าวได้ทั้งอาทิตย์ไปให้มันน่ะสิ


“โอเค ถ้างั้นกูนอนเลยแล้วกัน” พูดจบไอ้พฤกษ์ก็เดินขึ้นเตียงไปนอน ส่วนผมก็คว้าผ้าเช็ดตัวกับชุดนอนแล้วเดินเข้าไปในห้องน้ำ จากนั้นไม่นานเมื่อทำอะไรเสร็จผมก็เดินออกมา แต่ก็พบว่าไอ้พฤกษ์ได้นอนหลับไปแล้ว โดยนอนติดผนังหันหน้าไปทางนั้นอย่างเรียบร้อยเลยล่ะ


แปลกแฮะ นึกว่าจะแปลกที่จนนอนไม่หลับซะอีก เพราะคนส่วนใหญ่ก็เป็นแบบนั้น แต่จะว่าไปบางทีฤทธิ์แอลกอฮอล์อาจจะทำให้หลับง่ายก็ได้ ที่ไอ้พฤกษ์กินถึงไม่เยอะมากแต่ก็ไม่ต่ำกว่า 3 – 4 แก้วล่ะนะ


ผมไม่ได้สนใจเรื่องที่มันหลับอีก แต่ก็พยายามเดินไปหยิบจับนู่นนี่อย่างระวังไม่ให้เกิดเสียงดัง จนกระทั่งไม่มีอะไรทำแล้วผมก็ปิดไฟ ตามด้วยการเดินไปยังที่นอนชั่วคราวซึ่งปูไว้ข้างๆ เตียงที่ไอ้พฤกษ์นอน


เอ...เกือบ 20 นาทีแล้วสินะที่ไอ้พฤกษ์นอนอยู่ท่านี้ บางทีคุณชายอย่างมันอาจจะนอนนิ่งๆ แบบนี้ทั้งคืนโดยไม่เปลี่ยนท่าเลยก็ได้ เพราะงั้น...ถ้าผมแอบขึ้นไปนอนก็คงจะไม่เป็นไรหรอกมั้ง ที่ว่างก็เหลือตั้งเยอะ


ความคิดบรรเจิดทำเอาผมลอบยิ้มออกมา เพราะถ้าผมนอนตรงนี้ที่แข็งไม่ต่างจากนอนพื้น ตื่นขึ้นมาผมได้ปวดเมื่อยไปทั่วทั้งตัวแน่ๆ ซึ่งพอตัดสินใจได้อย่างเด็ดขาดแล้ว ผมก็ค่อยๆ ปีนขึ้นไปบนเตียงจนสามารถนอนอยู่บนนั้นได้ในที่สุด


ตอนแรกผมก็หวั่นๆ อยู่ว่าไอ้พฤกษ์จะจับได้ แต่ว่ามันที่กำลังหลับเป็นตายก็ไม่ได้รู้สึกตัวเลยสักนิด ยังคงนอนนิ่งๆ หันหน้าเข้าผนังเหมือนเดิม


“สาบานว่านอน? กูนึกว่าซ้อมตาย” ผมพูดออกมาเบาๆ แล้วส่ายหน้าไปมา จากนั้นก็ว่าจะพลิกตัวหันไปเอาหมอนที่อยู่ข้างล่าง แต่ไอ้พฤกษ์ก็ดันหันหน้ากลับมาทางนี้ซะงั้น!


“เฮ่ย!” ผมอุทานออกมาด้วยความตกใจ แล้วยังไม่พอ มันยังมีการวาดแขนมากอดเอวผมเอาไว้อีกต่างหาก!


“ไอ้พฤกษ์ มึงปล่อยกูเดี๋ยวนี้นะเว่ย ไอ้พฤกษ์...ไอ้พฤกษ์...ไอ้พฤกษ์!” ในขณะที่พูดผมก็พยายามดิ้นและแกะแขนของมันออกไป แต่ให้ตาย คนบ้าอะไรหลับลึกฉิบหาย นี่มันซ้อมตายจริงๆ ใช่มั้ยเนี่ย


“ไอ้พฤกษ์! ไอ้เชี่ยพฤกษ์! ไอ้...” แต่ยังไม่ทันที่ผมจะได้โวยวายอะไรต่อ ไอ้พฤกษ์มันก็เอามือข้างหนึ่งกดศีรษะของผมให้ซุกลงไปซบที่อกของมัน จากนั้นมันก็ออกแรงกอดผมแน่นขึ้นเป็นเท่าตัว


“อื้อ!!!” ผมคำรามในลำคออย่างหัวเสีย ไอ้พฤกษ์มันคิดว่าผมเป็นหมอนข้างรึไงถึงได้กอดซะแน่นขนาดนี้ แถมยิ่งผมดิ้นและโวยวาย มันก็ยิ่งกอดผมแน่นมากขึ้นจนแทบหายใจไม่ออกอีกต่างหาก ผมเลยคิดว่าป่วยการที่จะต่อต้าน ซึ่งพอลองอยู่นิ่งๆ มันก็คลายวงแขนจนผมสามารถหายใจหายคอได้อย่างคล่องปอด


จะว่าไปแล้วถ้าไม่อคติผมก็รู้สึกว่า การได้นอนอยู่ในอ้อมกอดของไอ้พฤกษ์มันก็สบายดีเหมือนกัน เพราะแขนของมันสามารถหนุนแทนหมอนได้เป็นอย่างดี ส่วนลำตัวของมันก็รู้สึกอบอุ่นจนผมคิดว่าไม่ต้องมีผ้าห่มก็ได้


พอรู้สึกสบายก็ชักจะเริ่มง่วงแล้วสิ


เพราะงั้น...ผมจะยอมนอนนิ่งๆ อยู่ในอ้อมกอดของไอ้พฤกษ์คืนนึงก็แล้วกัน


พอคิดได้แบบนั้นผมก็ปิดเปลือกตาลงแล้วเข้าสู่ห้วงนิทรา โดยที่ผมไม่รู้ตัวเลยว่า คนที่คิดว่ากำลังหลับเป็นตายได้แอบยิ้มออกมา จากนั้นก็กระชับอ้อมกอดแล้วเข้าสู่ห้วงนิทราตามผมในที่สุด...


2BC


 o14 ฮัลโหลวววว สวัสดีค่า Avert หัวใจซ่อนรัก ตอนที่ 4 ก็จบลงไปแล้วน้า สารภาพมาซะดีๆ ว่าตอนนี้ใครกำลังแอบยิ้มเหมือนพฤกษ์อยู่ อย่าทำซึนแล้วชูมือขึ้นขอเสียงหน่อยค่า  :a11:
ส่วนตอนหน้ามาลุ้นกันว่าความสัมพันธ์ของคู่พฤกษ์ซ่าจะพัฒนาขึ้นมั้ย แล้วจะมีโมเมนท์หวานๆ น่ารักๆ แบบนี้ให้ทุกคนฟินกระจายรึเปล่า  :-[ ยังไงก็มาลุ้นและเอาใจช่วยทั้งคู่ด้วยน้า ขอบคุณสำหรับคอมเมนท์และกำลังใจนะคะทุกคน  :pig4:
(31 ม.ค. 61)

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
รอดูตอนตื่นนอน อีหนูลิซ่าจะแก้ตัวว่าไง ถึงได้ขึ้นมานอนด้วยกัน  :katai3:

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
เนียนเนาะพฤกษ์

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
บริการดีมีหมอนข้างอุ่นๆ

ออฟไลน์ Al2iskiren

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1775
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-3
พฤกษ์ขี้แกล้ง :-[

ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0

ออฟไลน์ patsakon

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 235
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-2
นายเอกขี้แกล้ง555

ออฟไลน์ Dee^daY

  • ไม่เคย ทำให้ใครเดือดร้อน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +330/-6

ออฟไลน์ Y-Darkness

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 189
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-0

ออฟไลน์ Micky_MN

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 198
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-3
 :o8:  ร้ายนะเฮียพฤกษ์

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6
ร้ายกว่าน้องซ่าก็พฤกษ์นี่แหละ   :hao3:

ออฟไลน์ Sameejaejung

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 394
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +457/-17
[H.E.A.R.T.] A.Avert หัวใจซ่อนรัก


Part 5# Niza บรรยากาศที่เปลี่ยนไป


แสงแดดแรงๆ ในช่วงสายๆ ส่องทะลุผ้าม่านเข้ามากระทบเปลือกตา ผมที่กำลังนอนฝันหวานอยู่เลยรู้สึกตัวตื่นอย่างช่วยไม่ได้ แต่ความรู้สึกสบายและอบอุ่นที่กำลังโอบกอดผมเอาไว้เลยไม่ได้ทำให้ผมลืมตา ผมกะว่าจะนอนเล่นต่ออีกสักพัก เพราะหมอนข้างที่กำลังกอดอยู่มีขนาดพอดี ไม่นุ่มไม่แข็งเกินไปแถมยังมีขนาดใหญ่กอดแล้วอุ่นอีกต่างหาก


หืม...หมอนข้าง?


ที่ห้องผมมีหมอนข้างตั้งแต่เมื่อไหร่?


พอคิดได้แบบนั้นผมก็รีบลืมตาขึ้นมาทันที เท่านั้นแหละผมถึงได้เห็นว่าไอ้ที่กอดอยู่ไม่ใช่หมอนข้าง แต่เป็นคุณชายอย่างไอ้พฤกษ์ต่างหาก!


“ตื่นได้สักทีนะ นึกว่ามึงจะกอดกูไปจนค่ำซะแล้ว” ไอ้พฤกษ์พูดยิ้มๆ เป็นเชิงล้อ ส่วนผมก็ได้แต่เหวอและตัวแข็งทื่อทำอะไรแทบไม่ถูก


“มะ...มะ...มะ...มึงตื่นมาตั้งแต่ตอนไหน”


“จริงๆ กูตื่นตั้งแต่ 8 โมงแล้ว แต่พอจะลุกมึงก็ไม่ยอมกอดกูไว้แน่น กูเลยนอนต่อจนถึงประมาณ 20 นาทีที่แล้วนี่แหละ” ถ้าอย่างนั้นก็แสดงว่ามันนอนมองผมอยู่นิ่งๆ แบบนี้ตั้ง 20 นาทีเลยเรอะ!


“แล้วทำไมมึงไม่ยอมปลุกกู” ถึงแม้ใจจริงอยากจะโวยวาย แต่ผมก็ทำได้แค่ก้มหน้างุดแล้วพูดด้วยเสียงอ้อมแอ้มเท่านั้น เพราะสายตาของไอ้พฤกษ์ที่จ้องมองมามันทำให้ผมรู้สึกแปลกๆ แถมหัวใจก็เริ่มที่จะเต้นไม่เป็นจังหวะแล้วด้วย


“กูไม่ใช่คนโหดร้ายขนาดที่กล้าปลุกคนที่กำลังหลับสบายได้หรอกนะ ว่าแต่...ได้กอดกูแล้วรู้สึกดีขนาดนั้นเลยหรอ” ประโยคสุดท้ายของไอ้พฤกษ์ทำเอาผมรีบเงยหน้าขึ้นไปทันที จึงเห็นว่าตอนนี้มันกำลังยิ้มน้อยๆ ล้อเลียนผมอยู่


“กูต่างหากที่ต้องเป็นคนถามประโยคนี้ เพราะเมื่อคืนมึงต่างหากที่เป็นคนกอดกูไว้แน่นไม่ยอมปล่อย”


“สงสัยตอนนั้นกูคงคิดว่ามึงเป็นหมอนข้างล่ะมั้ง ว่าแต่มึงเถอะขึ้นมาทำอะไรบนเตียง อย่าบอกนะว่าแอบคิดอะไรกับกู?” ไอ้พฤกษ์หรี่ตาลง ส่วนผมก็ได้แต่ทำหน้าเหยเก


“ช่างกล้าพูด สมองกูปกติไม่ได้มีปัญหานะไอ้คุณชาย” พูดจบผมก็เบ้ปาก จากนั้นก็ว่าจะลงจากเตียงหนีไปให้ไกลจากไอ้คนหลงตัวเอง แต่ว่ามันก็กระชับวงแขนกอดเอวผมไว้แน่นไม่ยอมให้ไปไหน


“ถ้าอย่างนั้นแล้วมึงแอบย่องขึ้นมานอนบนเตียงทำไม” ถามเฉยๆ ได้มั้ย ทำไมต้องกอดกูซะแน่นแถมยังก้มหน้าลงมาใกล้กูด้วย!


“ก็พื้นมันแข็งซะขนาดนั้นจะให้กูนอนได้ยังไงกันเล่า!” พูดจบผมก็พยายามผลักที่อกแล้วก็แกะแขนของไอ้พฤกษ์ออก แต่ว่าผมก็สู้แรงของมันไม่ได้


“อืม...พื้นแข็งมันก็ฟังดูมีเหตุผล แต่ตรงนั้นของมึงที่แข็งอันนี้จะแก้ตัวว่ายังไง?” ไม่พูดเปล่าไอ้พฤกษ์ยังเลื่อนมือลงไปจับที่บั้นท้ายของผม จากนั้นก็ออกแรงดันให้เข้าไปหาตัวมัน จนตอนนี้ส่วนนั้นของเราสองคนกำลังดุนดันกัน และที่สำคัญ...ไอ้นั่นของผมกำลังแข็งอย่างที่ไอ้พฤกษ์พูดจริงๆ ด้วย!


“เชี่ย!” ผมเบิกตากว้างด้วยความตกใจ จนเมื่อได้สติผมก็รีบรวบรวมแรงทั้งหมดที่มีผลักไอ้พฤกษ์จนกระเด็นติดฝา จากนั้นก็รีบลงจากเตียงมาก่อนที่จะถูกคว้าตัวเอาไว้ได้


“เรื่องที่มันแข็งตอนเช้าทำไมกูต้องอธิบาย! มันก็เป็นปกติของผู้ชายไม่ใช่รึไงไอ้เหี้ยพฤกษ์!” ผมโวยวายหน้าแดงหูแดงด้วยความโมโหปนอับอาย ก่อนที่จะรีบคว้าผ้าเช็ดตัวแล้ววิ่งเข้าห้องน้ำไปอย่างไว โดยมีเสียงหัวเราะ ‘หึหึ’ ของไอ้พฤกษ์ดังหลอกหลอนอยู่ทางด้านหลัง


ให้ตายสิ เมื่อกี้ผมเกือบจะหัวใจวายตายอยู่แล้ว ตั้งแต่เกิดมาจากท้องพ่อท้องแม่ผมไม่เคยใกล้ชิดใครจนไอ้นั่นกับไอ้นั่นแนบกันถึงขนาดนี้ จริงอยู่ว่ามันมีกางเกงขวางเอาไว้ แต่เนื้อผ้ามันบางจะตาย แล้วอย่างนี้มันจะต่างอะไรกับการสัมผัสโดนกันตรงๆ กันเล่า


วายร้าย...มึงมันวายร้ายในคราบคุณชายชัดๆ!


ผมขบเขี้ยวเคี้ยวฟันอย่างฮึดฮัดที่ประเมินไอ้พฤกษ์ต่ำไป แต่จะให้ทำไงได้ เรื่องนี้ผมผิดเองที่แอบปืนขึ้นไปนอนเตียงเดียวกันกับมัน ไม่สิ ต้องบอกผมผิดตั้งแต่งกเงิน 720 บาทต่างหาก ถ้าผมตัดใจเอาให้มันไปตั้งแต่แรก มันก็คงไม่มีทางได้แกล้งผมอย่างเมื่อกี้นี่หรอก


เฮ้อออออ เมื่อคืนก็ได้เงินมาตั้งเกือบ 4000 แท้ๆ ถึงแบ่งไอ้พฤกษ์ไปก็ยังเหลืออีกตั้ง 3000 กว่าบาท ไม่น่างกเงินที่ไม่ถึง 20 % เล้ยยยยย


แต่เอาเถอะ ถึงจะคร่ำครวญไปก็เท่านั้น ตอนนี้สิ่งที่ผมควรทำคือการอาบน้ำ ทำกับข้าว แล้วก็ออกไปทำงานพิเศษต่างหาก ถึงแม้ผมจะอยากเอาคืนที่ไอ้พฤกษ์มันแกล้งผม แต่เอาไว้ผมค่อยหาทางเอาคืนมันคราวหลังก็ได้ เรื่องทำงานเลี้ยงปากเลี้ยงท้องมันสำคัญกว่าการแก้แค้นเยอะ


หลังจากที่อาบน้ำเสร็จผมก็พันผ้าเช็ดตัวออกมา ผมรีบเดินไปใส่เสื้อผ้าเลยไม่ได้สังเกตถึงสายตาคู่หนึ่งที่กำลังมองมา จนเมื่อผมแต่งตัวเรียบร้อยแล้วนั่นแหละ เจ้าของสายตาคู่นั้นถึงได้คว้าผ้าเช็ดตัวแล้วเดินเข้าห้องน้ำไป โดยใช้เวลาไม่นานก็อาบน้ำเสร็จแล้วเดินออกมา แต่ก็สวมเสื้อผ้าชุดเดิมที่ใส่นอนเพราะซื้อมาแค่ชุดเดียว ก็นะ...เดี๋ยวก็กลับบ้านอยู่แล้ว แถมเมื่อคืนก็ใส่ชุดนั้นนอนแค่แป๊บเดียวเท่านั้นเอง


“มึงหิวรึยัง ถ้าหิวแล้วก็ไปกินได้เลย อาหารสุดพิเศษแสนอร่อยที่กูตั้งใจทำอย่างสุดฝีมือ” ผมยิ้มอย่างมีเลศนัยแล้วหันหน้าไปทางโต๊ะญี่ปุ่นที่ผมเอาไปกางไว้กลางห้อง ส่วนตอนนี้ผมกำลังจัดกระเป๋าเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับทำงานพิเศษ


“นี่มึงกล้าใช้คำว่า ‘อาหารสุดพิเศษแสนอร่อยที่ตั้งใจทำอย่างสุดฝีมือ’ กับมาม่าคัพที่แค่เปิดฝาแล้วก็เทน้ำร้อนใส่เนี่ยนะ?” ไอ้พฤกษ์ยืนกอดอกแล้วมองผมนิ่งๆ


“ถ้ามึงมีปัญหาก็ไม่ต้องกิน เดี๋ยวกูจะกินมันทั้ง 2 ถ้วยเอง” พูดจบผมก็แบกกระเป๋าที่เก็บเสร็จเรียบร้อยแล้วไปนั่งที่โต๊ะ จากนั้นก็ยื่นมือไปจับถ้วยมาม่าส่วนของไอ้พฤกษ์แล้วลากเข้ามาหาตัวเอง


“จริงอยู่ที่กูมีปัญหา แต่กูก็ไม่ได้บอกสักหน่อยว่ากูจะไม่กิน” ไอ้พฤกษ์นั่งลงที่ฝั่งตรงข้ามผม ก่อนจะยื่นมือมาเอาถ้วยมาม่าคืนไป


ผมสังเกตเห็นว่าตอนที่เปิดฝาออกท่าทางของมันคาดหวังให้มีอะไรนอกจากเส้น แต่นั่นมันก็แค่ความหวังลมๆ แล้งๆ มันแกล้งกวนประสาทผมแต่เช้าผมคงจะใส่นู่นนั่นนี่เข้าไปให้มันหรอก แค่ใส่น้ำร้อนเข้าไปให้ก็บุญขนาดไหนแล้ว


“จริงสิ กูยังไม่ได้ถามเลยว่ามึงทำงานพิเศษเกี่ยวกับอะไร” ไอ้พฤกษ์ถามในระหว่างที่กำลังฉีกซองเครื่องปรุงเทลงในมาม่า


“สอนพิเศษเด็กม.6 เตรียมแอดฯ”


“หืม? เป็นงานที่ดีเลยนี่” ไอ้พฤกษ์เลิกคิ้วด้วยท่าทางแปลกใจ


“อะไรของมึง ทำหน้าอย่างกับเห็นมิจฉาชีพทำงานสุจริต”


“มึงพูดเองนะ” ไอ้พฤกษ์พูดยิ้มๆ ผมเลยแยกเขี้ยวใส่แล้วยกส้อมขึ้นทำท่าจะจิ้มไปที่มัน มันเลยยกมือขึ้นทั้งสองข้างเพื่อแสดงออกว่ายอมแพ้


“อย่าโหดนักสิ ความจริงกูก็ไม่ได้คิดอะไรขนาดนั้นสักหน่อย แต่กูแค่แปลกใจเฉยๆ เพราะคิดว่ามึงน่าจะทำพวกพาร์ทไทม์”


“เฮอะ! งานพวกนั้นแม่งเหนื่อยจะตายห่า ค่าจ้างก็ต่ำเตี้ยเรี่ยดิน ให้เงินหลักพันแต่ใช้งานหลักแสนแม่งโคตรไม่คุ้ม สู้เอาเวลาไปรับจ็อบนู่นนั่นนี่ดีกว่าเยอะ”


งานพวกนั้นผมผ่านมาหมดแล้ว ทั้งร้านฟาสต์ฟู้ด ร้านสะดวกซื้อ หรือว่าร้านอื่นๆ ที่ตั้งอยู่ในห้างและศูนย์การค้า ตอนนั้นที่ผมตัดสินใจทำเพราะไม่มีทางเลือก แต่ในเมื่อมีหนทางอื่นที่ได้เงินมากกว่าแถมยังไม่เหนื่อยเท่า ทำไมผมต้องไปทำงานพวกนั้นด้วยล่ะ


“แล้วงานสอนพิเศษมึงได้ค่าตอบแทนเท่าไหร่”


“หวังว่าที่ถามนี่มึงคงจะกะไม่มาแย่งงานกูหรอกนะ” ผมมองไอ้พฤกษ์อย่างไม่ไว้ใจ ขืนมันหมั่นไส้ผมจนอยากทำแบบนั้นจริงๆ มีหวังผมได้ตกงานแหง


“มึงนี่ก็คิดในแง่ร้ายกับกูจังนะ ที่กูถามก็เพราะอยากรู้ค่าตอบแทนเฉยๆ เผื่อบางทีกูอาจจะมีงานอะไรให้มึงทำ”


“ถ้างั้นก็แล้วไป ส่วนค่าสอนกูได้ชั่วโมงละ 200 กูสอน 2 คนเลยได้ชั่วโมงละ 400 สอนทุกเสาร์ – อาทิตย์ตั้งแต่บ่ายโมงถึง 4 โมงเย็น”


“แสดงว่าอย่างน้อยมึงก็จะได้ค่าสอนเดือนละ 9600 ยิ่งถ้าเดือนไหนมี 5 สัปดาห์มึงก็จะได้ 12000 นี่ยังไม่รวมกับเงินที่มึงหาได้ยิบย่อยรายวันอีก เดือนนึงมึงคงได้ไม่ต่ำกว่า 20000 สินะ หาเงินเก่งเหมือนกันนี่นา” สายตาของไอ้พฤกษ์ดูชื่นชมผมหน่อยๆ แปลกคน ปกติมีแต่คนมองว่าผมหน้าเงินกันทั้งนั้น


 “เอาจริงๆ กูไม่เคยได้เงินเดือนละมากขนาดนั้นหรอก เงินที่นอกเหนือจากสอนพิเศษใช่ว่ากูจะได้ทุกวัน มีพักหลังตั้งแต่ที่รู้จักมึงกูถึงได้เงินเยอะหน่อย”


“จะบอกว่ากูเป็นสายเปย์?” ไอ้พฤกษ์อมยิ้มอย่างมั่นหน้า


“เปล่า กูหมายความว่ามึงเป็นตัวเงินตัวทอง” ผมพูดหน้าตาย เท่านั้นแหละไอ้พฤกษ์ก็ถึงกับเงิบจนพูดไม่ออก สีหน้าและท่าทางแบบนั้นของมันตลกมากจนผมถึงกับหลุดขำออกมา


“มีอะไรน่าหัวเราะรึไง” ไอ้พฤกษ์พยายามเก๊กหน้านิ่ง แต่ผมก็ดูออกแหละว่าตอนนี้มันกำลังเสียหน้าสุดๆ


“เปล๊า ไม่มีอะไร รีบกินมาม่าได้แล้วเดี๋ยวมันก็อืดหมดหรอก” ผมพูดทั้งที่ยังคงขำอยู่ ไอ้พฤกษ์ที่ไม่อยากต่อความยาวสาวความยืเพราะจะยิ่งเข้าตัวเลยลงมือกินมาม่าไปเงียบๆ จนกระทั่งหมดถ้วยนั่นแหละมันถึงได้พูดออกมาอีกครั้ง


“กูขอถามได้มั้ยว่าทำไมมึงต้องหาเงินให้ได้มากขนาดนี้ ที่บ้านไม่ได้ส่งเงินให้ใช้หรอ”


“ก็กูเหลือตัวคนเดียวจะให้ใครมาส่งล่ะ ค่ากิน ค่าอยู่ ค่าเทอม กูต้องจ่ายเองทั้งหมด” พอผมพูดแบบนี้สีหน้าของไอ้พฤกษ์ที่พอจะเดาอะไรได้ก็ถึงกับนิ่งและสลดลงไปเลย


“ไม่เอาน่ามึงอย่าทำหน้าแบบนั้นสิ เรื่องมันผ่านมาตั้งเป็นชาติกูไม่เศร้าแล้วล่ะ” ผมยิ้มออกมาได้โดยไม่ต้องฝืน จริงอยู่ว่าผมยังคิดถึงพ่อกับแม่ทุกวัน แต่ผมก็ทำใจได้ไม่ร้องไห้ฟูมฟายเหมือนช่วงแรกๆ แล้ว


“ถึงอย่างนั้นก็เถอะ ยังไงกูก็เสียใจด้วยนะ”


“อืม” ผมพยักหน้าลง จากนั้นก็ก้มหน้าก้มตากินเศษมาม่าที่ยังเหลืออยู่ก้นถ้วย


อันที่จริงผมอิ่มและตั้งใจจะทิ้งอยู่แล้ว แต่จู่ๆ ผมก็เกิดอาการทำตัวไม่ถูกขึ้นมา ซึ่งนั่นก็เป็นเพราะสีหน้าและคำพูดของไอ้พฤกษ์ที่เปลี่ยนไป เหมือนว่ามันมองผมเป็นคนใหม่ ทำไมถึงไม่กวนประสาทหรือหาเรื่องแกล้งผมเหมือนเดิมก็ไม่รู้ เป็นแบบนั้นยังเข้าหน้ากันง่ายมากกว่าอีก


“เย็นนี้มึงว่างมั้ย”


“หืม?” ผมเงยหน้าขึ้นแล้วทำหน้างง เพราะจู่ๆ ไอ้พฤกษ์ก็พูดขึ้นแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย


“หลังจากสอนพิเศษเสร็จไปกินข้าวกัน เดี๋ยวกูเป็นเจ้ามือเอง”


“พูดจริง?” ผมหรี่ตามองไอ้พฤกษ์อย่างไม่ค่อยเชื่อสักเท่าไหร่ อารมณ์ไหนเนี่ยถึงได้อยากเลี้ยงข้าวผม


“อืม แล้วก็ไม่ใช่แค่วันนี้ แต่หลังจากนี้ทุกๆ เย็นเดี๋ยวกูเลี้ยงเอง...ไปกินข้าวด้วยกันนะ” ไอ้พฤกษ์พูดจบก็ยิ้มออกมา แถมยังส่งสายตาอันอบอุ่นมองมาอีกต่างหาก ทำเอาผมเริ่มรู้สึกใบหน้าร้อนผ่าว ส่วนหัวใจก็เริ่มที่จะเต้นไม่เป็นจังหวะ


“ก็...ก็ได้กูไม่มีปัญหาอยู่แล้ว แต่มึงอย่าคืนคำแล้วกัน ไม่งั้นกูจะเป็นเจ้ากรรมนายเวรหลอกหลอนมึงไปทั้งชาติเลย” ผมทำเป็นขู่เพื่อกลบเกลื่อนอาการ จากนั้นก็รีบลุกขึ้นแล้วหยิบมาม่าทั้งสองถ้วยไปทิ้งที่ถังขยะ เพราะบรรยากาศที่จู่ๆ ก็เปลี่ยนไปทำเอาผมแทบทำอะไรไม่ถูกอยู่แล้ว
บ้าจริง นี่ผมกำลังเขินอยู่ใช่มั้ยเนี่ย!


2BC


 :oni1: สวัสดีค่า Avert หัวใจซ่อนรักตอนที่ 5 ก็จบลงไปแล้วน้า ตอนนี้บรรยากาศก็จะแลดูแปลกๆอย่างชื่อตอนจริงๆเนอะ ไม่รู้จะเรียกว่ากวนประสาท น่ารัก มุ้งมิ้ง หรือเรียกว่าอะไรดี แต่ที่แน่ๆความรู้สึกของทั้งพฤกษ์และซ่าน่าจะมีการพัฒนาแล้วนะ แต่หวังว่าคงพัฒนาขึ้นไม่ใช่พัฒนาลง 555555  :laugh:
ตอนที่ผ่านๆมาเห็นแต่ละคนคอมเมนท์ว่าชายพฤกษ์ร้ายกันทั้งนั้น โธ...ทำไมต้องใสร้ายลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของเค้าด้วย พฤกษ์ร้ายตรงไหน เจ้าเล่ห์เมื่อไหร่ ไม่มี๊ พฤกษ์เป็นผู้ชายที่แสนดีและอบอุ่นต่างหาก (จะมีใครเชื่อเค้ามั้ยเนี่ย  o17)
ส่วนครึ่งหลังมาลุ้นกันนะคะว่าทั้งคู่จะได้ไปกินข้าวด้วยกันรึเปล่า ถ้าไปกินมันจะมุ้งมิ้งหรือน่ารักแค่ไหน เอ...เรื่องนี้จะเปลี่ยนจากสายฮาเกรียนแตกกลายเป็นสายหวานมั้ยนะ  :confuse: ยังไงก็มาลุ้นและเอาใจช่วยคู่พฤกษ์ซ่ากันด้วยน้า แล้วก็ขอบคุณสำหรับคอมเมนท์มากๆเลยค่า  :pig4:
ปล.เอารูปสเก็ตปกนิยายมาให้ชมกันค่า ใครที่ยังไม่เห็นมาหวีดกันเร้วววว ระหว่างความหล่อทะลุแว่นของพฤกษ์กับความคิวตี้คาวาอี้ซ่า ใครโดนใจมากกว่าน้อ?  :give2:

(3 ก.พ. 61)

ออฟไลน์ Y-Darkness

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 189
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-0

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
แหม.... ที่แค่กินมาม่าคัพยังจะหวานได้อย่างนี้ ทำให้สงสัยว่าถ้าหนูลิซ่า เผอิญไปเจอกับเพลิงที่อื่นจะรู้สึกเหมือนกันรู้สึกกับพฤกษ์ไหมนะ สงสัย ๆ  :m21:

ออฟไลน์ Al2iskiren

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1775
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-3

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
อื้มกว่าจะคุยกันดีได้ต้องเอาน้องชนกันก่อน55

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12

ออฟไลน์ Dee^daY

  • ไม่เคย ทำให้ใครเดือดร้อน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +330/-6

ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Micky_MN

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 198
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-3
ไม่ได้สงสารแต่จะจีบซ่าใช่มั๊ยเฮียพฤกษ์

ออฟไลน์ EoBen

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3306
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-6
เค้าจีบกันค่ะ จีบแบบไม่รุ้ตัวด้วย

ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6
เฮ้ย !   พฤกษ์เริ่มรู้สึกอะไรๆ แล้วใช่ป่ะ   :hao3:

ออฟไลน์ Sameejaejung

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 394
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +457/-17
[H.E.A.R.T.] A.Avert หัวใจซ่อนรัก


Part 5# Niza นัดเดท


“จริงสิ มึงต้องไปสอนพิเศษแถวไหน เดี๋ยวกูจะแวะไปส่ง” ไอ้พฤกษ์ถามพร้อมกับลุกขึ้นเก็บโต๊ะญี่ปุ่นไปไว้ที่เดิม ก็ดีที่มันไม่รู้ว่าผมเขินเลยเปลี่ยนไปพูดเรื่องอื่น


“แถวลาดพร้าว”


“ดีเลย ไม่ไกลจากบ้านกูเท่าไหร่”


“งั้นมึงไปเก็บของเถอะ กูว่าจะออกไปแล้ว” ความจริงผมจะออกไปช้ากว่านี้สัก 20 นาทีก็ได้ แต่ที่ผมรีบออกไปก็เพราะรู้สึกทำตัวไม่ถูกนี่แหละ


“ไปตอนนี้เลยก็ได้ ของที่กูซื้อเมื่อคืนก็เอาไว้ที่นี่แหละ” คำพูดของไอ้พฤกษ์ทำเอาผมถึงกับขมวดคิ้วด้วยความงุนงง


“เพื่อ? กูกับมึงใช้คนละยี่ห้อ มึงเอาไว้ที่นี่กูก็ไม่ได้ใช้อยู่แล้ว”


“กูก็ไม่ได้บอกว่าเอาไว้ให้มึงใช้สักหน่อย” ไอ้พฤกษ์ตอบหน้าตาย นี่มันตั้งใจจะกวนตีนผมใช่มั้ยเนี่ย


“แล้วมึงจะเอาไว้ที่นี่ทำมะเขืออะไร” ผมกอดอกมองมัน ตอนนี้ผมชักจะไม่ค่อยสบอารมณ์เท่าไหร่แล้ว แต่พอได้ยินคำตอบเท่านั้นแหละ จากที่ไม่สบอารมณ์ก็เปลี่ยนเป็นความงุนงงทันที


“ก็เผื่อวันไหนกูกลับบ้านไม่ได้เลยต้องนอนค้างที่นี่อีกน่ะสิ”


“หา?”


“ไม่ต้องมาหาเลย อย่างวันนี้มึงก็หลอกกูให้ออกมาจากบ้าน แล้วก็มัดมือชกให้กูนอนค้างที่นี่ไม่ใช่รึไง” พอโดนไอ้พฤกษ์ย้อนความจริงมาแบบนี้แล้วผมจะไปเถียงอะไรได้ล่ะ


“ถ้างั้นก็ตามใจ จะเอาของไว้ที่นี่ก็แล้วแต่มึง” อนาคตมันก็ไม่แน่นอน ถึงผมจะไม่ค่อยอยากให้ไอ้วายร้ายในคราบคุณชายอย่างไอ้พฤกษ์มานอนที่นี่กับผมเท่าไหร่ แต่บางทีอาจจะมีเรื่องอะไรที่ให้ผมต้องตามมันมาก็ได้ใครจะไปรู้


“ถ้างั้นไหนๆ ก็ไหนๆ กูเอาเสื้อผ้าชุดเมื่อคืนไว้ที่นี่แล้วฝากมึงซักด้วยแล้วกัน” แม่งได้คืบจะเอาศอกนะไอ้คุณชาย แต่ผมขี้เกียจจะพูดกับมันแล้ว อยากทำอะไรก็เอาที่สบายใจเลยแล้วกัน


“เออ เดี๋ยวกูเอาไปซักให้”


“ขอบใจ เดี๋ยวกูเอาเงินให้แป๊บนึง” แล้วไอ้พฤกษ์ก็หยิบกระเป๋าตังออกมา ผมไม่รู้หรอกว่ามันจะให้ผมเท่าไหร่ แต่ผมก็เอามือไปจับมือของมันไว้ก่อน
“ไม่ต้องหรอกมึง ยังไงวันนี้มึงก็ต้องไปส่งกูอยู่แล้ว” การที่ผมซักเสื้อผ้าให้ยังไม่คุ้มค่าน้ำมันเลยด้วยซ้ำ


“งั้นเดี๋ยวเย็นนี้กูเลี้ยงข้าวมึงเต็มที่เลยแล้วกัน” ไอ้พฤกษ์ยิ้มออกมา ไอ้นี่ท่าทางจะบ้า ได้เสียเงินแล้วยิ้มอย่างมีความสุข


“เออ กูจะถล่มให้ยับเลยคอยดู” พอได้ยินแบบนี้ไอ้พฤกษ์ก็หัวเราะออกมา ก่อนที่เราสองคนจะเดินออกจากห้องไปขึ้นรถ แล้วมุ่งตรงไปยังบ้านของเด็กที่ผมต้องสอนพิเศษ


ระหว่างทางที่อยู่บนรถด้วยกันเกือบชั่วโมงผมก็ชวนไอ้พฤกษ์คุยไปเรื่อย ผมรู้ว่ามันเป็นคนไม่ค่อยพูดเท่าไหร่ ถ้าหากผมเงียบไปอีกคนบรรยากาศได้ชวนอึดอัดแน่ๆ


ผมชวนไอ้พฤกษ์คุยหลายเรื่อง ตอนแรกก็แค่เพื่อไม่ให้รถเงียบเท่านั้น แต่ไปๆ มาๆ กลับทำให้ผมได้รู้จักมันมากขึ้น ซึ่งนั่นก็ทำให้มุมมองความคิดที่ผมมีต่อมันเปลี่ยนไป ความจริงแล้วมันไม่ใช่คุณชายที่เกิดมาบนกองเงินกองทองอย่างที่ผมคิดเลย


ช่วงวัยเด็กของไอ้พฤกษ์ลำบากกว่าทั้งชีวิตของผมอีกมั้ง แถมมันยังไม่เคยได้รับความอบอุ่นจากพ่อและแม่อีกต่างหาก มันกับพี่น้องรวมทั้งหมด 5 คนเกิดจากความผิดพลาด แม่ไม่ต้องการมันเพราะกระทบกับงานเลยเอามาทิ้งไว้กับยาย ถึงจะส่งเงินมาให้ใช้ทุกเดือนแต่ก็ไม่ได้มากมายอะไร แถมยายก็แก่มากแล้วคนที่ดูแลทุกคนเลยเป็นพี่ชายคนโตที่ยังคงเรียนอยู่


   การที่ได้เห็นพี่ชายทำหน้าที่ทุกอย่างเลยทำให้มันรู้สึกว่าจะเป็นภาระไม่ได้ ดังนั้นมันเลยตั้งใจเรียนและประพฤติตัวให้อยู่ในกรอบทุกอย่าง ถึงแม้หลังจากนั้นหลายปีจะลืมตาอ้าปากได้จากเงินประกันหลังแม่ตาย แต่มันก็ไม่คิดจะเปลี่ยนแปลงอะไรเพราะไม่ใช่เรื่องเสียหาย แล้วมันก็ไม่ได้รู้สึกว่าฝืนที่ต้องทำแบบนี้ด้วย


“พอได้รู้แบบนี้กูก็ชักรู้สึกผิดยังไงก็ไม่รู้ที่เคยไม่ชอบมึง คือกูคิดว่าโลกแม่งโคตรไม่ยุติธรรม เลยหมั่นไส้คุณหนูคุณชายแบบมึงที่ชีวิตโรยด้วยกลีบกุหลาบ แต่กูต้องพยายามแทบตายยังไม่มีอะไรสู้มึงได้เลย” คนที่คิดแบบนี้ไม่ได้มีแค่ผมคนเดียว แต่ผู้ชายเกือบครึ่งมหา’ลัยก็คิดแบบนี้ด้วยกันทั้งนั้น ใครอยากให้วันๆ มันมีแต่สาวๆ สวยๆ รุมล้อมกันล่ะ ความอิจฉามันก็เลยพุ่งปรี๊ดน่ะสิ


“กูก็เคยไม่ชอบมึงเหมือนกัน แต่พอได้มารู้จักมึงจริงๆ กูก็ไม่ได้คิดแบบนั้นแล้ว ว่าแต่มึงเถอะ ที่ตอนแรกบอกว่าไม่ชอบกู แล้วตอนนี้ล่ะ...ชอบกูรึเปล่า?” ในจังหวะที่ถามรถกำลังจอดไฟแดงอยู่พอดี เพราะงั้นไอ้พฤกษ์เลยหันหน้ามาทางนี้แล้วมองมาข้างในดวงตาของผม


“อะ...เอ่อ...” จู่ๆ ผมก็รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นคนติดอ่าง ก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าแค่คำถามง่ายๆ ทำไมมันถึงได้ตอบยากนัก


“ว่ายังไง ชอบหรือไม่ชอบ?” ไอ้พฤกษ์โน้มตัวเข้ามาใกล้ผมมากขึ้น สายตาที่จ้องมองมาราวกับจะอ่านผมเข้าไปข้างในถึงจิตใจ ผมที่โดนเร่งเอาคำตอบมากๆ เข้าเลยไม่รู้จะว่ายังไง เลยต้องหาทางตอบให้พ้นตัวไปก่อน


“แล้วมึงล่ะ เมื่อกี้บอกว่าเคยไม่ชอบกู แต่ไม่เห็นบอกเลยว่าตอนนี้มึงคิดยังไง” พอโดนผมถามแบบนี้ไอ้พฤกษ์ก็นิ่งไป ผมไม่เข้าใจจริงๆ ว่าทำไมคำถามนี้มันถึงได้ตอบยากนักก็ไม่รู้ ทั้งมันทั้งผมต่างก็อึกอักด้วยกันทั้งนั้น


“กูก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน บางทีกูอาจจะ...”


ปี๊นนนนนนน ปี๊นนนนนนนน


แต่ยังไม่ทันที่ไอ้พฤกษ์จะพูดจนจนบประโยคเสียงบีบแตรของรถคันหลังก็ดังขึ้น นั่นแหละเราสองคนถึงได้เห็นว่าตอนนี้ไฟสัญญาณจราจรเปลี่ยนเป็นสีเขียวแล้ว ไอ้พฤกษ์เลยหันหน้ามองตรงแล้วรีบขับรถออกไป ไม่อย่างนั้นรถคันหลังได้ลงมาด่าพ่อเราสองคนแน่ๆ


“เดี๋ยวมึงเลี้ยวซ้ายแยกหน้า แล้วก็เลี้ยวซ้ายในซอยที่ 3 อีกที” ผมบอกทางไอ้พฤกษ์ซึ่งมันก็พยักหน้า จากนั้นไม่นานรถก็มาจอดอยู่ที่หน้าบ้านเด็กที่ผมต้องสอนพิเศษ


“ขอบใจนะ กูไปล่ะ” พูดจบผมก็จะเปิดประตูลงจากรถ แต่ไอ้พฤกษ์ก็ยื่นมือมาคว้าที่แขนของผมเอาไว้ก่อน


“เดี๋ยวสิ ตอนเย็นให้กูมารับมั้ย”


“ไม่ต้องหรอกเดี๋ยวกูไปเอง ว่าแต่มึงจะให้กูไปเจอที่ไหน”


“อเวนิวมั้ยล่ะใกล้ดี”


“โอเค ประมาณ 4 โมงครึ่งเจอกัน งั้นกูไปล่ะ” ผมโบกมือลาไอ้พฤกษ์ จากนั้นก็เปิดประตูลงจากรถแล้วกดกริ่งหน้าบ้าน จนกระทั่งแม่ของเด็กออกมาเปิดประตูให้แล้วเดินนำผมเข้าไปในบ้าน นั่นแหละไอ้พฤกษ์ถึงวางใจแล้วค่อยขับรถออกไปในที่สุด


“ใครมาส่งอะพี่นิ” แนน เด็กที่ผมสอนพิเศษถามขึ้นหลังจากที่ผมเดินขึ้นไปบนห้อง ท่าทางจะมองลงมาจากระเบียงในห้องที่อยู่ชั้นสอง คนอื่นๆ นอกจากเพื่อนจะเรียกผมว่า ‘นิ’ กันทุกคน


“เพื่อนมาส่ง แล้วนี่แนนอยู่คนเดียวหรอ ภูมิไปไหนซะล่ะ” ผมมองซ้ายมองขวาหาภูมิ เด็กอีกคนที่ผมสอนพิเศษไปพร้อมกับแนน สองคนนี้เป็นเพื่อนที่เรียนด้วยกันและอยู่ในหมู่บ้านนี้เหมือนกันด้วย


“วันนี้ภูมิไม่มาหรอกพี่นิ”


“อ้าวทำไมล่ะ”


“ก็...วันก่อนแนนบอกชอบภูมิ แต่ภูมิบอกว่ายังไม่อยากคิดเรื่องอื่นนอกจากเรื่องแอดฯ แล้วหลังจากนั้นภูมิก็หลบหน้าแนนมาตลอด” แนนพูดจบก็ถอนหายใจด้วยใบหน้าเซ็งๆ


“เอาน่าอย่าเสียใจไปเลย ผู้ชายไม่ได้มีคนเดียวในโลกสักหน่อย” ไอ้ผมก็ไม่เคยอกหักซะด้วย เลยคิดคำปลอบใจที่ดีที่สุดได้เท่านี้แหละ


“แต่ผู้ชายแบบภูมิมีคนเดียวนะพี่นิ แล้วแนนก็ไม่ได้เสียใจด้วย แต่เซ็งแล้วก็เบื่อผู้ชายโง่เง่าที่ไม่รู้ใจตัวเองต่างหาก”


“หืม? แนนคิดว่าภูมิชอบแนนว่างั้น?”


“ไม่ใช่แค่คิดแต่ว่ามั่นใจเลยล่ะ ต้องทำยังไงนะไอ้ซื่อบื้อนั่นถึงจะรู้ใจตัวเองสักที...จริงสิแนนนึกออกแล้ว! พี่นิช่วยแกล้งเป็นแฟนแนนให้ภูมิหึงได้มั้ย!”


“หา? เรื่องแบบนั้นพี่ไม่เอาด้วยหรอก ลองไปให้คนอื่นช่วยดูนะแนน” ทุกวันนี้ชีวิตของผมก็วุ่นวายจะตายห่า แล้วอย่างนี้ผมจะไปหาเรื่องเสี่ยงตีนอีกทำไม ยิ่งแนนดูมั่นใจนักหนาว่าภูมิชอบตัวเองด้วยอีก พิษรักแรงหึงมันน่ากลัวจะตาย


“แต่แนนไม่ได้จะให้พี่นิช่วยฟรีๆ สักหน่อย”


“ถึงอย่างนั้นก็เถอะ แต่ถ้าจะให้รับเงินค่าจ้างจากลูกศิษย์ตัวเองพี่ว่ามัน...”


“แนนให้พี่นิพันนึง”


“โอเคงั้นจัดไป” ผมยิ้มหวานแล้วรีบตอบรับไปโดยไม่ต้องเสียเวลาคิด ก็เงินพันนึงผมอยู่ได้เป็นอาทิตย์เลยนี่นา อีกอย่างภูมิก็ดูเป็นเด็กเนิร์ดๆ คงไม่โมโหหึงถึงขนาดใช้กำลังกับผมหรอก...มั้ง


“พอเป็นเรื่องเงินนี่ว่าง่ายเลยนะพี่นิ” แนนอมยิ้มแล้วยื่นแบงค์พันมาให้ผม


“ก็ถ้าพี่สังเคราะห์แสงแทนอาหารได้ก็คงไม่ต้องดิ้นรนหาเงินขนาดนี้หรอก ว่าแต่แนนจะให้พี่ทำอะไรบ้าง” ไหนๆ ก็ไหนๆ วันนี้ไม่ต้องสงต้องสอนมันแล้ว ถึงสอนไปแนนก็คงจดจ่ออยู่กับแผนที่จะทำให้ภูมิหึงอยู่ดี เพราะงั้นเรื่องที่จะสอนวันนี้ผมยกยอดไปเป็นพรุ่งนี้ก็แล้วกัน แน่นอนว่าค่าจ้างของวันนี้ผมก็ต้องไม่เอาอยู่แล้ว


หลังจากนั้นผมกับแนนก็ปรึกษากันเรื่องแผนการยาวไปเป็นชั่วโมง ซึ่งบางแผนมันก็น่ารักดี แต่บางแผนนี่ผมก็เสี่ยงโดนตีนมากๆ ดีนะที่พอคัดค้านแล้วแนนยังพอฟังบ้าง แต่บางเรื่องก็ยืนยันที่จะทำจนผมต้องยอมอย่างช่วยไม่ได้


สรุปแล้วตามแผนคือแนนจะให้เพื่อนที่นัดกันเรียบร้อย ทำเป็นบังเอิญเห็นเราสองคนอยู่ด้วยกันอย่างกระหนุงกระหนิงแล้วถ่ายรูปส่งไลน์ไปให้ภูมิ แผนการง่ายๆ แต่ก็เรียกตีนได้ง่ายเช่นกัน ขอให้คุณพระคุณเจ้าคุ้มครองผมด้วยเทอญ...


“พี่นิไปรอหน้าห้องนะเดี๋ยวแนนเปลี่ยนเสื้อผ้าแป๊บนึง”


“โอเค” พูดจบผมก็สะพายกระเป๋าแล้วเดินออกไปรอนอกห้อง ก่อนที่สักพักแนนที่เปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นแนวเซ็กซี่เล็กๆ เปิดนิดปิดหน่อยจะเดินออกมานอกห้อง แต่ก่อนออกบ้านก็ต้องสวมเสื้อกันหนาวทับไว้ไม่งั้นเดี๋ยวจะถูกแม่ดุ


“พร้อมยังพี่นิ”


“พร้อมตั้งแต่ได้แบงค์เทาๆ แล้ว” พอได้ยินแบบนี้แนนก็หัวเราะออกมา ก่อนที่จะเดินนำผมลงไปข้างล่างเพื่อขอแม่ออกไปข้างนอก ซึ่งท่านก็อนุญาตแต่กำชับว่าอย่ากลับดึกก็พอ


“เออใช่ แล้วเราจะไปที่ไหนกัน” ผมถามในขณะที่กำลังรอรถแท็กซี่ที่หน้าบ้านแนน


“อเวนิวใกล้ๆ นี่แหละพี่นิ พอภูมิเห็นรูปแล้วจะได้รีบออกมาหาเร็วๆ” แนนอมยิ้มเขินๆ พลางบิดไปมาด้วยท่าทางดี๊ด๊า แต่ผมนี่สิกลับตาเหลือกเพราะดันลืมเรื่องสำคัญ...


เย็นนี้ผมมีนัดกับไอ้พฤกษ์กินข้าวนี่หว่า!


“แนน! แผนเราเอาไว้ทำพรุ่งนี้ได้มั้ย! พี่ลืมไปว่าเย็นนี้พี่มีนัดแล้ว!”


“ไม่รู้แหละ พี่นิรับเงินไปแล้วแนนไม่ยอมให้เลื่อนหรอกนะ”


“งั้นแนนเอาเงินคืนไป เย็นนี้พี่ไปด้วยไม่ได้จริงๆ” พูดจบผมก็เอาเงินคืนแนน ถึงจะเสียดายจนน้ำตาแทบไหลก็เถอะ แต่ผมไม่อยากผิดคำพูดที่ให้ไว้กับไอ้พฤกษ์นี่นา


“ง่ะ ได้ไงล่ะพี่นิ แนนนัดเพื่อนกับเตี๊ยมแผนการทุกอย่างเอาไว้แล้วนะ” แนนยัดเงินคืนใส่กระเป๋าเสื้อของผม


“โธ่...แต่พี่มีนัดแล้วจริงๆ แนนหาคนอื่นมาช่วยเล่นละครแทนพี่ไม่ได้หรอ”


“กระชั้นชิดแบบนี้แนนจะไปหาทันได้ยังไงกันเล่า...เอางี้มั้ยพี่นิ พี่ไม่ต้องยกเลิกนัดก็ได้ แต่เลื่อนเวลาออกไปสัก 2 ชั่วโมง...ไม่สิ แค่ชั่วโมงเดียวก็ได้ นะๆๆๆ ช่วยแนนหน่อยนะพี่นิ น้าาาาา” แล้วแนนก็กอดแขนผมพร้อมกับช้อนตาปริบๆ ขึ้นมามอง ไอ้ผมที่เป็นคนแพ้ลูกอ้อนอยู่แล้วเลยใจอ่อนอย่างช่วยไม่ได้


“โอเคๆ เดี๋ยวพี่จะเลื่อนนัดเพื่อนก็แล้วกัน” ตอนนี้พึ่งบ่าย 3 ครึ่ง ผมกับไอ้พฤกษ์นัดกันในอีก 1 ชั่วโมง บ้านมันก็อยู่ใกล้ๆ เพราะงั้นผมว่ามันคงยังไม่ออกมาหรอกมั้ง


“เย้ๆๆ พี่นิใจดีที่สุดเลย” แนนกระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจ จากนั้นก็หันไปโบกแท็กซี่ที่ขับผ่านมาพอดี ในขณะที่ผมก็ต่อสายโทรหาไอ้พฤกษ์ แต่มันก็ไม่รับสายผมเลยไลน์ไปบอกว่าติดธุระสำคัญ ขอเลื่อนนัดเป็นตอน 5 โมงครึ่งแทน


พอไปถึงที่อเวนิวผมกับแนนก็นัดแนะกับเพื่อนที่ไปถึงก่อนแล้วทำตามแผนทันที แนนควงผมไปตรงนั้นตรงนี้อย่างสนุกสนาน ส่วนผมก็ยิ้มด้วยท่าทางร่าเริงเพราะไม่มีเรื่องที่ต้องกังวล แถมยังมีโอบเอว กอดไหล่ ป้อนขนม เช็ดปาก รวมทั้งอื่นๆ อีกมากมายหลายอย่าง พูดเลยว่าถ้าทำขนาดนี้แล้วภูมิยังไม่หึงก็ไม่รู้จะว่ายังไงแล้ว...ก็ถ้าภูมิชอบแนนจริงๆ ล่ะนะ


“เป็นไงบ้าง ภูมิได้ส่งอะไรตอบกลับมามั้ย” ผมถามแนนหลังจากเดินวนอเวนิวมาร่วมชั่วโมง ก่อนที่เราสองคนจะมาหยุดนั่งพักกันที่ร้านไอติม โดยนั่งที่โซฟาตัวเดียวกัน


“หน้าแนนเป็นแบบนี้พี่นิคิดว่าภูมิจะตอบอะไรกลับมาอีกมั้ยล่ะ” แนนทำหน้าหมดอาลัยตายอยาก เพราะหลังจากที่เพื่อนแนนส่งรูปไปให้ภูมิก็ไม่มีปฏิกิริยาอะไรเลย ไม่หึง ไม่เกรี้ยวกราด และไม่ซักถามอะไรทั้งนั้น เรียกได้ว่าตรงข้ามกับที่แนนมโนเอาไว้อย่างสุดขั้วเลยล่ะ


“เอาน่าอย่าเศร้าไปเลย แนนอายุแค่นี้ยังมีโอกาสเจอคนดีๆ อีกเยอะ” ผมลูบศีรษะเล็กๆ เพื่อปลอบใจ


“แนนไม่สวย ไม่น่ารัก ไม่มีเสน่ห์หรอพี่นิ” แนนพูดอย่างเศร้าๆ แล้วเอียงศีรษะมาซบที่ไหล่ของผม


“ใครว่าล่ะ แนนทั้งสวย ทั้งน่ารัก แล้วก็มีเสน่ห์มากๆ ต่างหาก แต่การที่จะชอบหรือรักใครสักคนมันไม่ได้มองกันแค่ตรงนั้นหรอกนะ หรือแนนจะบอกว่าชอบภูมิตรงที่หน้าตา?”


“เด็กเนิร์ดใส่แว่นหนาแบบนั้นพี่นิก็ช่างกล้าถาม แนนชอบภูมิตรงที่นิสัยต่างหากเล่า”


“นั่นไงล่ะ เพราะงั้นก็ไม่ต้องนอยด์เรื่องหน้าตาหรอกนะแนน แล้วก็ไม่ต้องนอยด์เรื่องนิสัยหรือว่าอย่างอื่นของตัวเองด้วย บางทีคนไม่ใช่มันก็ไม่ใช่ล่ะนะ อย่าคิดมากแล้วก็อย่าเศร้าไปเลย ร่าเริงแล้วก็ยิ้มเข้าไว้น้องสาวคนสวยของพี่” พูดจบผมก็ขยี้ที่ศีรษะของแนนเบาๆ แนนที่กลัวผมจะยุ่งเลยบ่นอุบแล้วลุกขึ้นมาจัดทรงผม แต่ในที่สุดก็ยิ้มออกมาจนได้


“แนนขอบคุณมากๆ เลยนะพี่นิ ขอน้องสาวคนนี้กอดพี่ชายอีกทีได้มั้ย”


“ด้วยความเต็มใจเลยล่ะสาวน้อย” ผมอ้าแขนออก แนนเลยโผเข้าสู่อ้อมกอดของผม


เราสองคนกอดกันกลมราวกับเป็นพี่น้องกันจริงๆ ผมที่ไม่เคยมีพี่น้องและตอนนี้เหลือตัวคนเดียวเลยรู้สึกมีความสุขมาก แต่แล้วเมื่อผมมองออกไปนอกกระจกความสุขก็ถึงกับชะงักลง เพราะว่าผมเห็นไอ้พฤกษ์กำลังมองตรงมาทางนี้!


“อ๊ะ!” ทันทีที่สบตากันผมก็อุทานออกมา แม้จะรู้ว่าระยะห่างขนาดนี้แถมยังมีกระจกกั้นเสียงของผมคงส่งไปไม่ถึง แต่ผมก็อยากอธิบายเพราะไม่อยากให้ไอ้พฤกษ์เข้าใจผิด ทั้งที่เป็นอย่างนั้นมันกลับฝืนยิ้มออกมาบางๆ ราวกับว่าเข้าใจทุกอย่างและไม่อยากรบกวน จากนั้นก็หมุนตัวเดินจากไปเลย...


2BC


 o15 สวัสดีค่ะทุกคน Avert หัวใจซ่อนรักตอนที่ 5 ก็จบลงไปแล้วน้า ตอนนี้มีหลายฉากที่น่าจะทำให้ทุกคนยิ้มได้ ระหว่างพฤกษ์กับซ่าแต่ละคนชอบใครมากกว่ากันน้อ? ไหนใครชอบฉากไหนมาเม้ามอยกันเนอะ  :hao3:
ส่วนพารากราฟสุดท้าย...มาลุ้นกันค่ะว่าจบอย่างนี้แล้วตอนหน้าจะเป็นยังไง นี่พฤกษ์จะคิดว่าตัวเองอกหักซ้ำสองรึเปล่านะ เรื่องนี้จะเปลี่ยนจากสายฮาเป็นสายเศร้า สายหวาน สายซึ้ง สายมุ้งมิ้ง หรือจะเป็นสายเดิม ยังไงก็มาลุ้นและเอาใจช่วยพฤกษ์กับซ่าด้วยน้า แล้วเจอกันตอนหน้าประมาณวันอาทิตย์นะคะทุกคน บ๊ายบายยย  :bye2:
(8 ก.พ. 61)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08-02-2018 23:34:35 โดย Sameejaejung »

ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0

ออฟไลน์ Al2iskiren

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1775
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-3

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
เอาละซิ หวังจะให้ภูมิเห็น กลับเป็นพฤกษณ์เสียนี่ ทำไงดีล่ะ  :katai1:

ออฟไลน์ Dee^daY

  • ไม่เคย ทำให้ใครเดือดร้อน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +330/-6
ต้มมาม่าเลย ..

ออฟไลน์ EoBen

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3306
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-6
อ่าว เข้าใจผิดเลย


ออฟไลน์ Y-Darkness

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 189
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-0

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด