22
“พี่ดรีมให้ไปเล่นดนตรีที่ร้านให้อ่ะ เสาร์นี้ว่างกันป่าว” สกายละสายตาจากมือถือหันมาถามเพื่อนๆ ตอนนี้พวกเขานั่งเอกเขนกกันอยู่ที่ห้องดูหนังบ้านสาวๆ เปิดหนังตลกรุ่นพ่อแม่ยังสาวอย่างเรื่องปอบดูกัน
“กูว่างนะ ไอ้เหี้ยกูชอบฉากลงโอ่งที่สุดในเรื่องแล้วคลาสสิกสาดดดด” เชนตอบก่อนจะหัวเราะชอบใจกับหนัง
“เค้ากับเจนก็ว่าง” แตงกวาเป็นคนตอบ สกายพยักหน้าแล้วตอบกลับข้อความของพี่สาวเขาเลือกตอบเฉพาะเรื่องงานร้านที่พี่ขอมาส่วนเรื่องคนอื่นสกายไม่สน
คนขี้โวยวายเบ้ปากใส่โทรศัพท์เล็กน้อยเมินชื่อของพี่คุณที่ส่งข้อความเข้ามากกว่าหนึ่งอาทิตย์ มีมาหาเขาที่มหาลัยหนึ่งครั้งแต่สกายก็ไหลเอาตัวรอดโดยที่ไม่เจอหน้ามาได้ ส่วนเรื่องมาหาที่บ้านต้องขอบคุณพี่เมษที่ไม่ยอมให้เข้ามาและปฏิเสธให้เขาทุกครั้ง
เขาอยู่ในระยะทำใจยังไม่อยากพบเจอหรือพูดคุยอะไรกับพี่คุณทั้งนั้น ขนาดพี่ดรีมพยายามหาเรื่องมาคุยเพื่อปูไปหาพี่คุณสกายยังเฉไฉไม่ยอมให้พี่สาวมีโอกาสช่วยเพื่อน หนึ่งอาทิตย์ของการอยู่ที่บ้านแฝดบอกเลยว่ามันทำให้สกายหยุดคิดเรื่องของพี่คุณได้มาก
“แล้วไอ้สองผัวเมียละเหี่ยใจไปไหน” สกายสอดส่ายสายตามองหาคู่รักบันลือโลกแต่ก็ไม่เจอ ยูที่นอนหนุนตักแจมอยู่จึงเป็นคนตอบแทน
“เห็นว่าไปเคลียร์กับพวกเพื่อนซัน”
“เอ๊ไอ้เพื่อนพวกนี้นี่มันยังไง” สกายส่ายหัวไม่ชอบใจ รู้มาจากบีสท์ว่าเพื่อนซันอยู่ข้างไอ้พี่พระเอกกันแบบไม่ลืมหูลืมตา
“ก็พวกมันไม่รู้นี่ว่าพี่เหี้ยนั่นทำอะไรบ้าง” เปายักไหล่คว้าเอามันฝรั่งใส่ปากเอ่ยตอบ
“คนเราจะเสแสร้งแกล้งทำได้ขนาดนั้นเลยหรอวะ” มาร์คถามพลางทิ้งตัวพิงขาสกาย
“มันอาจจะเลือกปฏิบัติแบบพวกเราก็ได้” เชนตอบบ้างมีแพรวพยักหน้าเสริม
“เขาอาจจะไม่ดีแค่ด้านความรักอย่างเดียวก็ได้นะ นิสัยอย่างอื่นจากที่เห็นและพอรู้จักมาบ้างก็ไม่ได้เลวร้ายอะไร”
“ความรักนี่มันน่ากลัวจริงๆ” สกายบ่นหงุงหงิงแล้วเอนตัวพิงไหล่แพรวอีกที เพื่อนสาวได้ยินดังนั้นก็หัวเราะแล้วผลักหัวสกายเบาๆ
“ทำมาเป็นบ่น หึหึ”
“ไม่ต้องหัวเราะเลยแพรว เค้าเข็ดแล้ว”
“เข็ดง่ายเกิ๊น รอพี่คุณมาง้อล่ะสิท่า” มาร์คกระแซะเพื่อนและด้วยความที่พูดไม่เข้าหูสกายเลยถีบเบาๆ จะคนตัวเล็กที่พิงขาเขาอยู่ร่วงไปนอนกับพื้น
“ไอ้หมากายนิสัยไม่ดี”
“กูไม่ได้รอให้มาง้อเหอะ”
“อ้อเหรอ”
“เออ”
“ไม่ต้องเถียงกันๆ กูจะดูหนัง” เมเปิ้ลขว้างหมอนมาเป็นการเตือน สองหนุ่มหุบปากฉับแต่ก็ไม่วายขยับปากด่ากันแบบไร้เสียง
“ไม่ได้รอมาง้อจริงดิ” แพรวกระซิบถามพอให้ได้ยินกันสองคน สกายถอนหายใจแล้วพยักหน้า
“อือ เค้าถอยแล้ว” หญิงสาวเลิกคิ้วแปลกใจหันมองหน้าเพื่อนจอมกวนที่ตอนนี้หงอยเหงาหางลู่หูตกเหมือนรักยมไม่มีผิด
“จะไม่ฟังก่อนจริงๆ หรอ”
“ฟังไปการตัดสินใจของเค้าก็ไม่เปลี่ยนหรอกแพรว ได้คุยกับหมาเชนหรือยัง” แพรวพยักหน้าแปลว่าพวกเขาคุยกันแล้ว
“ก็ตามนั้นแหละ”
“ไม่ได้เชียร์อะไรพี่คุณหรอกนะเพราะแกก็รู้ว่าเค้าเข้าข้างแกแต่แค่อยากจะบอกว่าเรื่องบางเรื่องการให้อภัยกันก็เป็นสิ่งที่ดี”
“เค้ารู้”
“อย่าคิดมากเลยปล่อยให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์” แพรวตีหน้าขาสกายเบาๆ
“อื้อ”
“หึเป็นยังไงล่ะคะคุณเพื่อน เห็นอิทธิฤทธิ์น้องชายฉันหรือยังล่ะ”
เหมือนฝันหัวเราะเท้าคางมองเพื่อนสนิทที่เอาแต่จ้องมองโทรศัพท์อย่างมีความหวัง ตรัยคุณถอนหายใจยาวช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมางานเขาหนักมากจนแทบไม่มีเวลามาตามง้อน้อง ไปหาที่มหาลัยอยู่ครั้งหนึ่งแต่น้องก็หลบพอไปหาที่บ้านพวกคนดูแลก็ไม่ยอมให้เข้า โทรไปไม่รับข้อความไม่ตอบ ฟ้าจะฆ่าพี่จริงๆ ใช่ไหมครับ
“ฟ้าโกรธแล้วเราก็มีหน้าที่ง้อ” ดรีมตาโตมองเพื่อนที่ตอบกลับเธอด้วยท่าทางเหนื่อยอ่อนไม่รู้ว่าเหนื่อยเพราะงานหรือเหนื่อยเพราะน้องชายตัวดีของเธอกันแน่
“อยากให้เจ้าตัวได้ยินจริงๆ มันจะได้รู้ว่าใครบางคนตรงนี้ทั้งรักทั้งหลงมันขนาดไหน” ตรัยคุณยิ้มบาง
“นั่นสินะ” อยากให้ฟ้าอยู่ตรงนี้จัง อยากกอดเด็กดื้อแล้วอ้อนว่างานเหนื่อย อยากเห็นหน้าให้มีกำลังใจทำงานต่อแต่จะทำอย่างไรได้ก็เขาเป็นคนทำให้น้องโกรธเองนี่นา
“นี่อย่าว่าอย่างนั้นอย่างนี้เลยนะ เราว่ารีบหน่อยก็ดี” เหมือนฝันกลับมาพูดกับเพื่อนด้วยท่าทางจริงจัง ตรัยคุณมองหน้าเพื่อนสาวอย่างสงสัย
“ฝันหมายความว่ายังไง”
“จากที่เลี้ยงมาเองกับมือ เราบอกได้เลยว่าสกายเป็นคนที่อารมณ์แปรปรวนมาก” ตรัยคุณพยักหน้าเรื่องนี้เขารู้ดี
“และเพราะมันเป็นแบบนี้เราเลยกลัวว่าถ้ากายมันตัดสินใจอะไรไปแล้วทุกอย่างที่นายทำมามันจะศูนย์เปล่า” คราวนี้ตรัยคุณยิ้มแล้วส่ายหน้า เหมือนฝันมองเพื่อนด้วยสายตาไม่เข้าใจ
“ฝันรู้ไหมว่าไม่มีอะไรศูนย์เปล่าเลย ทุกสิ่งทุกอย่างที่เราทำเพื่อน้องเราเต็มใจทำ ที่ผ่านมามันมีอุปสรรคมาขั้นกลางระหว่างเราสองคนเสมอเรามั่นใจว่าเราจะเอาทุกอย่างที่ขวางทางของเราออกไปได้เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา”
“แล้วถ้าสกายมันไม่รอแล้วล่ะคุณ”
“ไม่เป็นไร เราพอใจที่จะเป็นฝ่ายตามน้องเพราะ
น้องคือของขวัญที่มีค่าของเรา” เหมือนฝันมองเพื่อนนิ่งก่อนจะถอนหายใจยกมือยอมแพ้ คนนึงก็ดื้ออีกคนนึงก็รั้นพอกันทั้งคู่
“มันนานมากแล้วนะที่นายทำอะไรแบบนี้”
“ใช่เรารอน้องมานานรอต่อไปอีกหน่อยก็ไม่เป็นไร”
“ระวังมันไปรักคนอื่นล่ะ” เธออดไม่ได้ที่จะเอ่ยยุแหย่ให้เพื่อนไขว้เขวแต่ตรัยคุณก็ยังคงเป็นตรัยคุณ ชายหนุ่มยิ้มบางก่อนจะจิบน้ำผลไม้
“น้องจะกลับมา”
“อะไรทำให้มั่นใจขนาดนั้น”
“เราไม่ได้มั่นใจหรอกแต่เราแค่จะทำตามที่หัวใจเราบอกให้ทำ”
“น้ำเน่าจริงๆ เพื่อนฉัน” เหมือนฝันหัวเราะส่ายหัว ตรัยคุณอมยิ้มก่อนจะก้มกดส่งข้อความหาคนที่ไม่ยอมตอบกลับเขาเลยตั้งแต่วันนั้น
‘พี่มีเรื่องเยอะแยะเลยที่อยากเล่าให้ฟ้าฟัง’
‘พร้อมฟังพี่เมื่อไหร่บอกพี่หน่อยนะครับคนดี’
‘คิดถึงเรามากๆ ดูแลตัวเองด้วยนะครับ’
‘อย่าหักโหม ทานข้าวให้ตรงเวลานะครับ’ สกายเม้มปากแน่นเพราะเสือกเหลือบไปเห็นข้อความของพี่คุณที่เด้งขึ้นมาสว่างบนหน้าจอมือถือ มือขาวกำปากกาไฮไลท์แน่นพยายามดึงสติกลับมาอ่านหนังสือแต่ประโยคที่ไอ้พี่บ้านั่นพิมพ์มาเอาแต่วนเวียนอยู่ในหัวไม่ยอมหายไปสักที ไม่ชอบให้ตัวเองเป็นแบบนี้หรือเขาควรจะต้องบอกพี่คุณให้ชัดเจนไปเลยว่าสถานะของเราคืออะไร
“ทำหน้านิ่วคิ้วขมวดอะไรแบบนั้น” ยูเอ่ยถาม ตอนนี้สกายกับยูเข้ามานั่งอ่านหนังสือในห้องหนังสือของบ้านไม่ใช่เขาแค่สองคนหรอกรวมซันสมาชิกใหม่อีกคนแต่ไอ้หน้าสวยนั้นปลีกวิเวกไปนั่งอ่านตรงมุมอยู่คนเดียวตัดตัวเองออกจากโลกภายนอกอย่างสิ้นเชิง
“กำลังคิดว่าจะคุยกับพี่คุณให้จบๆ ไปเลยดีไหม” ยูเลิกคิ้ว
“พร้อมจะคุยแล้ว?” สกายโคลงหัว
“คิดว่าพร้อมนะ ปล่อยไว้แบบนี้มันค้างคาว่ะเหมือนจะเดินไปข้างหน้าก็ทำไม่ได้”
“คุยดีๆ ล่ะอย่าใช้อารมณ์” สกายยู่หน้า
“เห็นกูเป็นคนอย่างไงเนี่ย” ยูอมยิ้มแล้วก้มลงอ่านหนังสือต่อ
“อยากให้สาธยายไหมล่ะ” สกายรีบโบกมือปฏิเสธ
“ไม่ต้องเลย ตอนนี้ใจบางห้ามด่าห้ามว่า” ได้ยินเสียงหัวเราะมาจากมุมห้อง สกายหรี่ตามองไอ้หน้าสวยที่เหมือนจะหัวเราะกับหนังสือในมือแต่สกายสัมผัสได้ว่ามันหัวเราะเยาะเขามือขาวเลยขว้างหมอนไปใส่
“อ๊ะ นิสัยไม่ดี” ซันเอ่ยว่า สกายแลบลิ้นใส่
“มึงหัวเราะเยาะกูก่อน”
“กูจะไปหัวเราะเห็บหมาแบบมึงทำไมกูอ่านหนังสืออยู่” ซันตอบหน้าตายพร้อมกับยกหนังสือในมือโชว์ สกายกลอกตาแล้วเดินไปล็อคคอขยี้หัวไอ้เพื่อนหน้ามึน
“โอ๊ยกายแม่งกูจะฟ้องบีสท์” ซันร้องโวยวายเอามือปัดป่าย สกายหัวเราะชอบใจแล้วขยี้ผมยาวประบ่าของเพื่อนจนฟูฟ่อง
“อะไรไม่ได้ไม่ดีก็ฟ้องผัวตลอดแล้วอีกอย่างนะกูเชื่อมึงตายล่ะเว้ย อ่านเจ็ดวันจองเวรอยู่มึงคงขำมากสินะไอ้หมา!!!” แล้วสงครามขนาดย่อมในห้องหนังสือก็เริ่มขึ้นโดยไร้กรรมการเพราะยูเห็นว่าห้ามไปสองคนนั้นก็หาเรื่องแกล้งกันอยู่ดี
จากที่ว่าจะคุยกับพี่คุณสกายก็ยังไม่ได้ทำอะไรต่อเพราะเขามัวแต่เรียนกับซ้อมวงเพื่อไปเล่นที่ร้านพี่ดรีม พวกเขายกโขยงกันมาที่ร้านตั้งแต่เย็น นั่งคุยเล่นกินข้าวกันสักพักร้านก็เปิด พวกเขานั่งกันอยู่ข้างบนโซนวีไอพีที่วันนี้โต๊ะของพวกเขายาวเป็นพิเศษเพราะมีพวกเพื่อนของซันมาร่วมแจมด้วย บีสท์บอกว่ามันเคลียร์กับเพื่อนแฟนมันเรียบร้อยตอนนี้เลยสมัครสมานสามัคคีมาถล่มร้านพี่สาวของเขาด้วยกัน
“เชี่ยมึงพี่คนนั้นหล่อมาก” มาร์คถองสีข้างเปายิกๆ สกายที่มัวแต่สนใจอาหารจึงเงยหน้ามองตาม
“หล่อแบบไม่ให้อภัยกูเลย” ขนาดไอ้เชนยังเอ่ยชมสกายจึงพยายามหรี่ตามองคนที่พวกมันมองบ้างแล้วก็เห็นเป้าหมาย
“หล่อจริงด้วยว่ะแต่เดินมากับผู้ชายอีกคนโอบเอวด้วยกูว่าผัวเขาแน่ๆ” มาร์คป้องปากบอกพวกเขาซึ่งสกายก็พยักหน้าเห็นด้วยเพราะไอ้หุ่นหมีที่โอบเอวคนหล่อคนนั้นมองรอบข้างด้วยสายตาอาฆาตมาก
“คิวทางนี้” ซันยกมือเรียกผู้ชายหุ่นหมีคนนั้นแล้วหันมาขยิบตาใส่พวกเขาที่จ้องมันตาค้าง
“เพื่อนกูเองชื่อคิว ส่วนคนที่หล่อแบบไม่ให้อภัยมึงก็พี่พีทแฟนมัน” เชนอ้าปากค้างทำให้พวกที่เหลือในโต๊ะหัวเราะขำ
“ไงเจอกันอีกแล้ว” สกายหันตามแรงสะกิดเงยหน้ามองร่างสูงที่ยิ้มทักทายแลนั่งลงข้างๆ เขา
“ดีคิง สบายดีมึงล่ะ”
“สบายดีเหมือนกัน สบายแบบคนโสดน่ะ” อีกฝ่ายยิ้มตอบกลับและก่อนที่จะพูดอะไรกันมากกว่านั้นซานเพื่อนของซันก็ยื่นหน้ามาบอก
“มันเพิ่งเลิกกับแฟนมา”
“อ้าวไหวไหมมึง” สกายเอ่ยถามแต่อีกฝ่ายหัวเราะเบาๆ ยักไหล่ยกน้ำสีอำพันขึ้นดื่มด้วยท่าทางสบายใจ
“ไม่เป็นไรแค่แสบๆ คันๆ” สกายพยักหน้าให้อีกฝ่ายด้วยสีหน้าเข้าอกเข้าใจจนคิงหัวเราะขำ
“กูเลิกกันด้วยดีไม่มีอะไรหรอก ไม่รักกันก็เลิกดีกว่ายื้อให้เสียเวลาเสียความรู้สึก” สกายพยักหน้าเห็นด้วยแล้วตบไหล่อีกคนเบาๆ พร้อมกับส่งแก้วเหล้าให้
“อ่ะ ดื่มเพื่อลืมเธอ” คิงยิ้มบางมองคนข้างกายก่อนจะรับแก้วมาไว้ในมือยกขึ้นจิบนิดหน่อยฟังพวกเพื่อนคุยกันอย่างออกรสออกชาติ
“ได้เวลาแล้วกูไปเช็คเครื่องดนตรีแปบนะ” สกายบอกคิง อีกฝ่ายทำมือโอเคส่งมาให้ สกายเลยหันไปสะกิดเชนแตงกวาและเจน
“วันนี้เล่นเพลงที่ลูกค้าขอด้วยนะ”
แตงกวาหันมาบอกตอนที่พวกเขาซาวน์เช็คกันพวกเขาที่เหลือพยักหน้าตอบรับ สกายมองไปรอบๆ ร้านด้วยความคิดถึงเพราะไม่ได้มานานพลันสายตาก็เหลือบไปเห็นใครบางคนนั่งหน้าหล่ออยู่ที่เคาท์เตอร์บาร์ เชนเห็นเพื่อนแช่สายตานานจึงมองตามพอเห็นใครคนนั้นมุมปากก็กระตุกรอยยิ้ม
“เลี่ยงไม่คุยไม่ได้แล้วมั้งวันนี้” สกายยู่ปากเมื่อฟังคำเพื่อนพูดลอยๆ ไม่ได้เจาะจงใครแต่เขารู้ดีว่าหมาเชนมันพูดกับเขาแน่นอน
“กูพร้อมนานแล้วเหอะแค่ธุรกิจรัดตัว”
“อ้อหรา” สกายถลึงตาใส่ไอ้เพื่อนบ้าและก่อนที่จะเปิดศึกแตงกวาก็กระแอมเสียงเป็นเชิงว่าถ้าไม่หยุดตีกันพวกเขาต้องตายด้วยน้ำมือคุณเธอจริงๆ แน่
พอเสียงดนตรีเริ่มสกายก็เหมือนหลุดเข้าไปอีกโลกหนึ่ง ร่างโปร่งทิ้งสิ่งรบกวนจิตใจไว้เบื้องหลังและจมอยู่กับทำนองเพลงอย่างสนุกสนานจนกระทั่งถึงเวลาที่แตงกวาให้ลูกค้าสามารถเขียนขอเพลงใส่กระดาษมาได้ความสนุกปนวุ่นวายก็เริ่มขึ้นเพราะมันมีทั้งเพลงที่พวกเขาเล่นได้และไม่ได้อยู่ในนั้น
“มาๆ อันนี้หวังว่าพวกเราจะเล่นได้นะคะ” แตงกวาพูดใส่ไมค์แล้วเอื้อมมือไปรับกระดาษจากน้องในร้าน
“โหเพลงเก่าเสียด้วยแต่ถือว่าผ่านค่ะเพลงนี้แตงชอบมากและร้องได้ ฮ่าๆ” เธอหัวเราะใส่ไมค์เรียกเสียงเชียร์จากลูกค้าได้มากโข
“เอ๋ เหมือนว่าเขาจะขอมาให้ใครบางคนในวงเรานะคะ ฮะแฮ่มๆ ร้องไปจะเขินไปไหมเนี่ย” พอแตงกวาพูดเสียงกรี๊ดกร๊าดก็ดังขึ้นจากด้านล่าง พวกเขาที่เหลือมองหน้ากันยิ้มๆ ก่อนที่เจนจะเดินไปอ่านข้อความในกระดาษแล้วยิ้มกริ่มมองมาที่สกาย
“อะไรไหนดูมั่ง” แต่พอสกายจะเดินไปดูเพื่อนสาวก็กระแอมไอแล้วเก็บกระดาษใส่กระเป๋ากางเกงหันไปบอกเชนว่าจะเล่นเพลงอะไรแล้วหันมาพูดกับสกาย
“เขาขอเพลง
อยากให้รู้ว่ารักมึงเล่นได้ใช่ไหม” สกายชะงักหันไปมองตรงที่ใครบางคนนั่นอยู่โดยอัตโนมัติ บริเวณบาร์เครื่องดื่มมีแสงไฟเปิดสลัวอยู่สกายจึงรู้ว่าพี่คุณยิ้มมองเขาอยู่เหมือนกัน ร่างโปร่งเม้มปากแน่นแล้วพยักหน้าตอบเพื่อน
“เล่นได้” แตงกวายิ้ม
“แล้วร้องได้ป่ะ” คราวนี้สกายเลิกคิ้วแล้วพยักหน้างงๆ
“ก็พอได้นะ” หญิงสาวยิ้มกว้างแล้วผลักให้สกายไปยืนแทนที่ตัวเอง
“งั้นดีเลยมึงร้องกูจำเนื้อไม่ค่อยได้”
“ห๊ะ! ไหนว่าเพลงนี้แตงชอบ”
“ก็ชอบแต่จำเนื้อไม่ได้ไง อย่าถามมากร้องไป” พอเธอส่งสายตาบังคับมาให้สกายก็จำใจร้องอย่างเสียไม่ได้ พอลูกค้าเห็นว่าใครเป็นคนร้องเสียงกรี๊ดจากสาวๆ ก็ดังขึ้นอีกละรอก
“สกายๆๆๆ กรี๊ดดดดด แบดบอยของฉัน” สกายเกาแก้มเขินแล้วพูดออกไมค์
“อ่า...สวัสดีครับผมไม่ค่อยได้ร้องเพลงเท่าไหร่ ทนฟังเสียงหน่อยนะครับ” พอทำนองเพลงขึ้นเสียงกรี๊ดก็ดังระงม สกายประหม่าเล็กน้อยสายตามองไปยังใครบางคนที่ยิ้มมองเขาอย่างสื่อความหมาย
ด้วยเหตุใดก็ตาม เธอไม่เคยรับรู้
ใกล้เธอสักเท่าไหร่ แต่เหมือนไกล ไกลห่างกัน
ได้แค่มองหน้าเธอ ทำได้เพียงแค่นั้น
หัวใจที่แอบฝัน อยู่ใกล้กันยิ่งหวั่นไหว
เสียงทุ้มของสกายร้องไปตามจังหวะแล้วก็ต้องประหม่ายิ่งขึ้นเมื่อเห็นว่าพี่คุณเคาะมือเป็นจังหวะแล้วทำปากเหมือนร้องตาม เหลือบมองพวกเพื่อนข้างหลังก็เห็นแต่ละคนอมยิ้มจนสกายอยากล้มไมค์เดินลงเวทีไปเสียเฉยๆ ไอ้พี่บ้า ไอ้คนนิสัยไม่ดี จากตอนแรกไม่แน่ใจแต่ตอนนี้รู้แล้วว่าใครเป็นคนขอเพลงนี้
หากเธอรู้ใจ หากเธอรู้ตัว เธอจะเข้าใจกันรึเปล่า
ก็ไม่รู้เลย แต่ต้องพูดไป และจะมาเพื่อกวนใจคำถามเดียว
เสียงร้องคลอดังขึ้นทั่วทุกสารทิศบ่งบอกอายุของคนในผับแห่งนี้ สกายยิ้มมองคนดูเหมือนว่าคนเหล่านั้นจะรู้ว่ารอยยิ้มของสกายหมายความว่าอะไรจึงส่งเสียงโห่ร้องปนขำขัน
แค่อยากรู้รังเกียจกันไหม ขอให้มันอย่าเป็นแบบนั้นเลย
อยากได้ยินเสียงคนที่คุ้นเคย อยากจะเจอคนเดิมที่เคยที่เจอในเมื่อวาน
หากพรุ่งนี้ทุกอย่างหมุนไป ฉันคนหนึ่งจะยืนตรงที่เก่า
อยู่เพื่อบอกเธอ คำที่ค้างใจ ต่อให้มันจะไม่มีวันเป็นจริงเลยก็ตาม
เสียงร้องในท่อนฮุคดังทั่วทั้งร้าน สกายหลับตาฟังเสียงเหล่านั้นพร้อมกับร้องไปด้วย หัวใจสั่นไหวเพราะเนื้อเพลง คนขี้โวยวายลืมตาขึ้นมองไปยังที่พี่คุณนั่งอยู่และร้องประโยคสุดท้ายของท่อนฮุคออกมาพร้อมกับริมฝีปากของพี่คุณที่ขยับเป็นประโยคเดียวกัน
“
อยากให้รู้ว่ารักเธอ”
สกายก้มหน้ายกมือขึ้นกุมหน้าอกตัวเอง เล่นไม้นี้เลยหรือไอ้พี่บ้า คนนิสัยไม่ดี พี่คุณโคตรนิสัยไม่ดีเลย!
tbc
talk. คิดว่าจะง่ายหรอคะพี่คุณ พยายามไปอีกเถอะ ลูกฉันฉันรักฉันหวง ทำลูกฉันเสียใจรับกรรมไปก่อนแล้วกัน ง้ออีกมีหน้าที่ง้อก็ง้อไป 5555 มาดึกเลยเพราะเพิ่งเลิกงานและสารภาพเลยว่าเรานับวันผิด 5555555555 คิดว่าพรุ่งนี้วันอาทิตย์ คืองานที่เราทำมันไม่ได้หยุดตรงเสาร์อาทิตย์อ่ะเลยจำแค่วันที่ไม่รู้วัน ผลคือพลาดไงแต่ก็มาทันอยู่นา ฝากดูน้องฟ้าด้วยน้าอย่าเพิ่งทิ้งกันไป #ฟ้าของคุณ