24
“ไหมต๋องมาเจอได้มั้ยยยย เพราะฉันหมั่นข่นใจจจจจอ่อนนนนนนนน” สกายยกมืออุดหูเพราะรำคาญเสียงไอ้เตี้ยมาร์คที่ระเบิดเสียงร้องผิดคีย์ร้อยแปดสิบเดซิเบลของมันออกมาลั่นบ้าน
“กูรำคาญเว้ย!!! คนยิ่งปวดหัวอยู่ไอ้ห่านี่”
สกายด่าเพื่อนตัวเล็กอย่างหงุดหงิดเพราะด้วยอาการเมาค้างของตัวเองส่วนหนึ่งอีกส่วนหนึ่งเพราะเขิน ก็หลังจากที่เล่าเรื่องที่ไปคุยกับพี่คุณมาไอ้เพื่อนห่าก็ร้องเพลงยอดฮิตของวงดีทูบีเสียลั่นบ้านด่าเท่าไหร่มันก็ไม่สะท้านแถมยังมีไอ้เชนโหยหวนเป็นลูกคู่อีก สกายอยากจะบ้าตาย
“อ่อนกว่ากองขี้ควายเหลวก็ใจเพื่อนมึงนี่แหละพี่เปา” มาร์ควิ่งหนีกระสุนหมอนที่สกายขว้างใส่มาหลบหลังยูยื่นหน้าออกมาเสี้ยวหนึ่งบอกกับเปา อีกคนพยักหน้าหงึกหงักเห็นด้วยสกายแทบอยากลุกไปถีบมันเรียงตัวผิดก็แต่ตัวเองง่อยเปลี้ยเพราะดื่มหนักมากเมื่อคืน ก็พอได้เคลียร์กับพี่คุณเสร็จมันก็อารมณ์ดี พออารมณ์ดีก็ดื่มไม่ยั้งรู้ตัวอีกทีก็ภาพตัดตื่นมานอนตายในห้องตัวเองแล้ว
“มึงเปรียบใจกูได้อุบาทมากไอ้น้องหมาก”
“คริคริ”
“แต่เคลียร์กันได้ก็ดีแล้ว กูบอกแล้วว่าพี่คุณโคตรคนจริง” เปาบอกไม่ผิดจากที่เขาคิดไว้เสียเท่าไหร่ ท่าทางพี่คุณที่แสดงออกกับเพื่อนเขามันชัดเจนมากจนเปาคิดไปในทางอื่นไม่ได้พอเกิดเรื่องวันนั้นเขาก็รู้สึกว่ามันต้องมีเบื้องลึกเบื้องหลังและก็เป็นอย่างที่คิดจริงๆ
“คือผัวเลยอ่ะ นิสัยแบบผัวมากเลยนะเว้ยไอ้กาย” มาร์คยื่นหน้าออกมาจากหลังของชายยู
ป้าบ!
“โอ๊ยไอ้กาย! กูเจ็บ!” มาร์คร้องโวยวายเพราะการที่ยื่นหน้าออกมาทำให้สกายโจมตีอีกฝ่ายอย่างง่ายดาย คนตัวเล็กเลยโดนเพื่อนปาหมอนใส่หน้าเต็มๆ
“เยส!” สกายร้องเสียงดังเมื่อเป้าหมายถูกโจมตียักคิ้วกวนใส่เพื่อนตัวเล็กที่กระโจนโถมตัวใส่เขาอย่างอาฆาต
“โอ๊ยไอ้มาร์คเบากูปวดหัว” สกายร้องบอกแต่ก็อ้าแขนรับตัวเพื่อนที่โถมเข้าใส่
“สมน้ำหน้านี่แน่ะๆ” ไม่ว่าเปล่ามาร์คยังเขย่าไหล่เพื่อนจนสกายเริ่มหน้าซีดคนตัวเล็กจึงถูกยูลากคอออกจากตัวสกาย
“เดี๋ยวมันอ้วก” ชายยูบอกแค่นั้น มาร์คแลบลิ้นใส่สกายอีกทีก่อนวิ่งหายไปหายาให้เพื่อนกินอย่างรวดเร็ว
“แล้วเมียมึงไปไหน” สกายทิ้งตัวนอนยาวบนโซฟาใช้ตักบีสท์ต่างหมอนเอ่ยทักเมื่อไม่เห็นซัน
“ไปมหาลัย”
“อ่อไม่ตามไปเฝ้ารึไง” เอ่ยถามเพราะเรื่องราวของเพื่อนไม่ได้ปิดบังอีกต่อไป บีสท์ส่ายหน้าปฏิเสธ
“เดี๋ยวตอนเย็นค่อยไปรับแล้วมึงโอเครึยังเรื่องพี่คุณน่ะ”
“อือก็ตามที่เล่าไปนั่นแหละ” สกายพลิกตัวนอนตะแคงด้วยความเกียจคร้านยกขาตัวเองวางพาดผ่านหน้าตักของเชนที่นั่งอยู่อีกฝั่งของโซฟา
“เพื่อนบังเกิดเกล้าจริงๆ มึง” เชนบ่นแล้วตีขาเพื่อนเบาๆ คนถูกว่าหัวเราะเบาๆ แล้วหลับตา
“กูทำถูกไหมวะ” พวกเพื่อนที่เหลือมองหน้ากันแล้วยิ้ม
“ก็ไม่ได้ทำอะไรผิดนี่” ยูตอบ
“กูชอบในความตรงไปตรงมาของพี่คุณนะ เขาดูจริงจังกับเรื่องของมึงมาก” บีสท์บอกสกายพยักหน้าทั้งที่ยังหลับตา
“จริงจังจนกูสะท้อนใจตัวเองที่หาความดีไม่ได้” คนขี้โวยวายหัวเราะกับคำพูดตัวเอง
“คนทุกคนมีนิสัยต่างกัน อย่าคิดว่าตัวเองไม่มีดี” ยูบอกอีกครั้งพอดีกับมาร์คเดินกลับมาสะกิดสกายให้ลุกขึ้นมากินยา
“กินยาก่อนกาย กูอิจฉามึงจริงๆ นะเนี่ยแต่ก็ยินดีมากที่มึงมีความรักที่ดี” มาร์คบอกคนตัวเล็กยื่นยาพร้อมน้ำให้เพื่อนแล้วนั่งจ๋องบนพื้น สกายอมยิ้มแล้วขยี้หัวเพื่อนตัวเล็กอย่างหมั่นเขี้ยว
“มันเพิ่งเริ่มน่า”
“หรา” คราวนี้ทุกคนประสานเสียงแม้กระทั่งยูและบีสท์ สกายถลึงตาเกาแก้มแก้เขินและล้มตัวลงนอนตักเพื่อนอีกครั้ง
“กูจะหลับ”
“เขินแล้วเปลี่ยนเรื่องตลอด”
“ไม่มีใครเขาหน้าด้านเท่ามึงหรอกมาร์ค”
“เดี๋ยวโดนกูกัดหูขาด” สกายหัวเราะชอบใจแล้วหลับพักสายตา
“แต่อย่าว่างั้นงี้เลยนะเมื่อคืนใครเห็นเหมือนกูเห็นบ้าง คิงเพื่อนซันอ่ะ” มาร์คพูดโพล่งขึ้นกวาดตามองพวกเพื่อนก็ได้รับเสียงตอบรับอย่างกระตือรือร้นจากเชน
“กูๆ กูเห็น”
“กูก็ว่าเห็นนะ” เปาตอบกลับมา
“เห็น” ยูตอบส่วนบีสท์พยักหน้าแปลว่าตัวเองก็เห็นเหมือนกัน มาร์คจิ้มแขนสกายรู้ว่ามันไม่ได้หลับ
“แล้วมึงอ่ะ” คนถูกถามขมวดคิ้วส่ายหน้าทั้งที่ยังหลับตา
“ไม่เห็นกูเมา” สกายตอบตามความจริง
“เออว่ะกูลืม ถ้างั้นกูบอกเลยแล้วกันว่าพี่หมออาจจะมีคู่แข่ง” คราวนี้สกายลืมตามองเพื่อนด้วยสายตาสงสัย
“อะไรของมึงไอ้น้องหมาก”
“คิงมันชอบมึง”
“กู?” สกายชี้นิ้วเข้าตัวแล้วหัวเราะเมื่อเพื่อนตัวเล็กพยักหน้าขึ้นลงแข็งขัน
“ตลกแล้วบอกว่ามันชอบมึงยังน่าเชื่อมากกว่า” นอกจากพี่คุณที่แก่จนสายตาฝ้าฟางแล้วไม่น่ามีคนอื่นที่มาหลงชอบเขานะ อ่า...ยกเว้นแวนไว้คนอันนั้นมันผ่านไปแล้วสกายไม่นับแล้วกันเพราะตอนนี้พวกเขาเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันและกันเช่นเดิม
“มึงไม่รู้อะไรไอ้กายเมื่อคืนมึงเมาแล้วอ้อนมันจนมันตาเยิ้มเลยเหอะ” มาร์คกอดอกบอก สกายตาค้าง
“กะ...กูเนี่ยนะอ้อน”
“เออ ไม่เชื่อถามไอ้บีสท์หรือคนอื่นก็ได้” พอเพื่อนคนอื่นพยักหน้าสกายก็รู้สึกปวดหัวตุบๆ เรื่องพี่คุณยังไม่ทันจบก็มีเรื่องคนอื่นเข้ามาอีกหรือเนี่ย
“ก็ไม่ผิดที่จะให้โอกาสมันดูไม่ใช่หรือไง พี่คุณเขาก็ไม่ได้ว่าอะไรนี่” เปายิ้มบอก สกายขมวดคิ้วเครียด
“กูรู้แต่...” แต่ก็ไม่คิดจะทำจริง ปากดีบอกพี่คุณไปอย่างนั้นเพราะไม่คิดว่าจะมีใครเข้ามาแต่พอรู้ว่าตัวเองมีคนมาสนใจมันก็อดเครียดไม่ได้ พี่คุณจะโกรธหรือเปล่านะ
“หึ” สกายตวัดสายตามองเพื่อน บีสท์หัวเราะออกมาน้อยๆ มองสกายด้วยสายตารู้ทันทำเอาคนท่ามากเก้อเขินเพราะถูกเพื่อนจับได้
“ไม่ต้องมาหัวเราะกูแบบนี้เลยไอ้บ้าบีสท์”
“ปากดี”
“ดีแต่ปากด้วย” เชนเสริมเลยถูกคนขี้โมโหถีบขาไปหนึ่งที
“เดี๋ยวถีบให้ตกโซฟาเลย” สกายโวยวาย
“เอาไงทีนี้” เปาถามทะลุกลางปล้อง สกายชะงักเท้าที่จะถีบเชนอีกรอบกลางอากาศแล้ววางบนตักเพื่อนอีกรอบ
“พวกมึงคิดมากกันไปเอง ไม่มีอะไรหรอก” สกายบอกปัด
“แล้วจะคอยดู”
เย็นวันนั้นหลังจากที่บีสท์ไปรับซันกลับจากมหาวิทยาลัยและแวะซื้อของที่ซุปเปอร์มาเก็ตใกล้บ้านพวกเขาก็นั่งล้อมวงกินข้าวทางหลังบ้านเช่นเดิม ด้วยความที่อยู่กันครบและพวกสาวๆ เกิดอยากกินปูไข่ดองมากบวกไอ้หมากเพิ่มเข้าไปอีกคนและสกายก็รู้สึกอยากกินกุ้งแม่น้ำตัวใหญ่ๆ พวกเขาทั้งหมดจึงจัดการสั่งร้านเดลิเวอร์รี่มาส่ง สั่งกันเยอะจนเจ้าของร้านน่าจะยิ้มแก้มปริแต่คนมาส่งอาจต้องหลั่งน้ำตาเพราะมันเยอะมาก รอเกือบชั่วโมงของก็มาส่งพวกเขาแบ่งให้พวกพี่เมษเรียบร้อยแล้วก็มาทำอาหารเพิ่มอีกสองสามอย่าง
“ว่าไงไอ้หนุ่มเนื้อหอม” เจนผลักหัวสกายแล้วนั่งลงข้างๆ ในมือเธอมีจานกุ้งตัวใหญ่พร้อมน้ำจิ้มซีฟู้ดสุดแซ่บ
“เจนดมดูแล้วหรอ” สกายยิ้มกวนแถมยื่นแขนไปตรงหน้าเพื่อนสาว เจนเบ้ปากแล้วผลักแขนสกายออก
“กูไม่ชอบดมตัวคนบ้า” สกายตาโตแล้วแสยะยิ้ม
“แหมไอ้กี้ก็ไม่ได้สติดีไปกว่าเค้าเท่าไหร่หรอกเจน” คนขี้โวยวายเอ่ยพาลไปถึงแฟนหนุ่มของเพื่อน พวกที่เหลือได้ยินก็หัวเราะพยักหน้าเห็นด้วยกับสกาย เจนยิ้มส่ายหัวยกมือนวดขมับ
“สงสัยตอนนั้นกูโดนมันเล่นของใส่”
“ตอนนี้จะชิ่งก็ไม่ได้แล้วด้วย” แตงกวายิ้มเยาะ แต่เพื่อนที่เหลือหัวเราะหึ ๆ ส่งสายตามองเธออย่างมีเลศนัยไม่เว้นแต่สกาย
“เห็นนะกับจิมมี่เพื่อนซันอ่ะ” เชนหรี่ตาชี้นิ้วใส่เพื่อนสาว แตงกวายักไหล่จกกุ้งกินต่อไม่สะทกสะท้าน
“ก็ดูๆ ไปเรื่อยๆ”
“นั่นก็คนบ้าเหมือนกันนะ” ซันแกะปูให้บีสท์เสร็จก็เงยหน้าขึ้นมาบอกแตงกวาเสียงเอื่อย พวกที่เหลือหัวเราะเมื่อเห็นหญิงสาวหน้าเหวอคนที่หัวเราะเสียงดังสุดก็หนีไม่พ้นเจน
“ไม่ต่างจากกูเลยแตง”
“แต่จิมนิสัยดี” ซันบอกอีกครั้งแล้วหันไปอ้าปากรับกุ้งที่ป้อนถึงปากจากแฟนหนุ่มตัวเอง สกายกลอกตาอยากจะด่าความรักของมันสองคนแต่ก็คร้านจะทำเพราะด่าไปพวกมันก็ไม่สะทกสะท้านแถมเพื่อนบีสท์จะยังกวนให้เขาหมั่นไส้มากขึ้นไปอีก
“แล้วเพื่อนมึงคนอื่นอ่ะนิสัยดีไหม” เปาถามซันแต่สายตามองสกายแล้วยิ้มมุมปาก สกายถลึงตาใส่แล้วก้มหน้ากินต่อ
“ถ้านิสัยไม่ดีจะคบเป็นเพื่อนทำไม” ซันขมวดคิ้วถาม สีหน้าสงสัยจริงจังไม่มีความกวนอยู่ในน้ำเสียงสักนิดทำให้คนฟังหัวเราะกับความมึนของแฟนเพื่อนคนนี้ นี่แหละที่ทำให้สกายชอบแกล้งมันนัก
“เออมึงก็ถามอะไรโง่ๆ นะพี่เปา” เมเปิ้ลบอกกลั้วหัวเราะ เปาพยักหน้าเกาหัว
“อือไม่รู้เลยว่าใครโง่กว่ากัน อ่ะ! ไอ้บีสท์แหย่นิดแหย่หน่อยไม่ได้เลยนะ!” เปาขว้างเปลือกกุ้งคืนบีสท์รับไว้อย่างแม่นยำแล้วทิ้งในจานขยะ
“ว่าแฟนกู”
“โอ๊ยมึงเอามันไปเลี่ยมทองบูชาเถอะจะรักอะไรขนาดนั้น” สกายอดรนทนไม่ได้เอ่ยกัด วันนี้ว่าจะสงบปากสงบคำไม่จิกกัดไอ้คู่รักบันลือโลกแล้วนะแต่มันทนไม่ได้จริงๆ
“ความคิดดี” บีสท์อมยิ้มมองแฟนตัวเองเลยถูกตีแขนจากนั้นมันก็คุยกันงุ๊งงิ๊งอยู่สองคนป่วยการจะไปแทรกสกายเลยหันมากินกุ้งของตัวเองพอดีกับโทรศัพท์ที่ดังขึ้น รายชื่อคนโทรเข้ามาทำเอาพวกเพื่อนยิ้มส่งสายตาล้อเลียน คนขี้โวยวายทำได้แค่ถลึงตาใส่ก่อนจะลุกขึ้นคว้าโทรศัพท์เดินออกไปคุยนอกวงข้าวท่ามกลางเสียงโห่แซวของเพื่อน
“ครับพี่” สกายกดรับโทรศัพท์เมื่ออยู่ไกลจากเสียงรบกวนของพวกเพื่อน
‘กินข้าวหรือยังครับฟ้า’“กำลังกินเลยพี่วันนี้สั่งซีฟู้ดมากินกันอร่อยโคตร พี่อ่ะกินอะไรหรือยัง” สกายทิ้งตัวนั่งลงข้างสระน้ำ
‘ยังเลยครับพี่เพิ่งออกเวร’“แล้วกลับบ้านเลยหรือเปล่าพี่ ถ้าไม่ไหวก็ไม่ต้องทำกินเองนะซื้อจากข้างนอกเอาจะได้ไม่เสียเวลา” ช่วงนี้งานของพี่คุณหนักมาก เขาสองคนพอปรับความเข้าใจกันแล้วสกายก็รับสายคนพี่เหมือนปกติ
‘ครับ’“เป็นอะไรหรือเปล่าพี่เสียงดูเหนื่อยๆ” สกายเอ่ยถามเมื่อพี่คุณตอบกลับมาเสียงเหนื่อยอ่อน ได้ยินเสียงถอนหายใจจากปลายสายก็อดเป็นห่วงไม่ได้
‘นิดหน่อยครับแต่ที่มากก็คือคิดถึงฟ้ามากเลย’“ไอ้พี่บ้า” สกายแทบเอาความเป็นห่วงกลับคืนมาไม่ทัน ปลายสายหัวเราะชอบใจเมื่อแหย่น้องสำเร็จ
“พี่คุณ” สกายเรียกอีกฝ่ายแล้วเงียบ เขากำลังชั่งใจอยู่ว่าจะเล่าเรื่องคิงให้พี่คุณรู้ดีหรือเปล่า แต่เขากับพี่คุณก็ยังไม่ได้เป็นอะไรกันจะไม่บอกก็ได้นี่นา
‘ครับ’“พวกเพื่อนบอกว่า...เพื่อนของซันชอบผม” สุดท้ายสกายก็เลือกที่จะบอกกับพี่คุณไปตามตรง
‘ทำไมถึงเลือกบอกพี่ครับ’“ไม่รู้เหมือนกัน แค่คิดว่าน่าจะบอกพี่คุณ” สกายก้มหน้ามองผิวน้ำในสระ พี่คุณเงียบไปอีกครั้งก่อนเสียงทุ้มจะดังขึ้น
‘ฟ้าไม่ผิดที่จะเปิดโอกาสแต่พี่ก็คงต้องตอบตามความจริงว่าพี่หวง’“ตาลุงนิสัยไม่ดี มีสิทธิ์อะไรมาหวงฮะ”
‘นั่นสิครับสิทธิ์อะไรดีนะ’“ไม่ต้องพูดต่อเลยพี่บ้า” สกายได้ยินเสียงอีกฝ่ายหัวเราะก็หัวเราะตาม
‘เขามาบอกกับฟ้าเองหรือเปล่า’“เปล่าครับ เพื่อนบอกมา”
‘ถ้าเขาเป็นคนดีก็ทำความรู้จักเขาไว้เถอะครับถึงจะไม่ใช่ในแง่นั้นแต่เป็นเพื่อนกันไว้ก็ไม่เสียหาย ฟ้าไม่ผิดที่จะเรียนรู้คนอื่นถ้าเขาดีกว่าพี่ทำให้ฟ้ามีความสุขมากกว่าพี่ก็ยินดี’“จะไม่เสียใจหรอ”
‘เสียใจครับ’“พี่แม่ง” แล้วอย่างนี้สกายจะกล้าทำหรือพูดออกมาเสียขนาดนี้แล้ว
‘แต่ถ้ามันเป็นความสุขของฟ้าถึงจะเสียใจก็ไม่เป็นไรครับ’“ไม่พูดแล้ว พี่ไปหาอะไรกินเลยแล้วก็พักผ่อนด้วยนะพี่” สกายเปลี่ยนเรื่องเอ่ยบอกอีกคนให้ไปพักผ่อน
‘ครับ ฟ้าเองก็เหมือนกันนะกินแต่พอดีอย่ากินเยอะเกินไปนะครับเดี๋ยวปวดท้อง’“รู้น่าผมไม่ใช่เด็กแล้วนะ” สกายย่นจมูกใส่ถึงอีกฝ่ายจะไม่เห็นก็เถอะ
‘ครับๆ ไปแล้วนะครับเด็กดี’“ครับๆ คุณลุงขับรถดีๆ พี่ถึงห้องแล้วไลน์มาบอกหน่อยก็ดี”
‘ครับผม’ ทุกวันของสกายผ่านไปอย่างเรียบง่าย เรียนกลับห้องมาอ่านหนังสือพี่คุณแวะเวียนมาหาบ้างแต่ก็ไม่ได้รุ่มร่ามเหมือนเมื่อก่อน บอกว่าจะเริ่มใหม่ก็คือเริ่มกันใหม่การเข้าหาของพี่คุณชัดเจนว่าเขาไม่ได้อยู่ในสถานะน้องชายของเพื่อนสนิทเหมือนเมื่อก่อนที่สกายเข้าใจและสกายก็รู้สึกพอใจกับความสัมพันธ์นี้จะมีก็แต่...
“คนนี้เพื่อนซันที่ชื่อคิงใช่ป่ะ” สกายยื่นโทรศัพท์ตัวเองให้ยูดู ชายหนุ่มยื่นหน้าเข้ามามองแล้วพยักหน้า
“ใช่เขาเริ่มรุกเข้าหามึงแล้ว?” สกายส่ายหน้า
“มันอาจจะแอดมาเฉยๆ ก็ได้คิดมากว่ะ”
“อย่าโลกสวย” พอโดนเพื่อนว่าคนขี้โวยวายก็หน้ามุ่ย ยูผลักหัวเพื่อนด้วยความเอ็นดู วันนี้สกายว่างไม่มีอะไรทำและอยากผ่อนคลายสมองเห็นชายยูว่างอยู่เหมือนกันจึงชักชวนกันออกมาหาหนังดูสักเรื่อง พอดูเสร็จเห็นว่าใกล้มหาวิทยาลัยของบีสท์เลยโทรหาเพื่อนเพื่อติดรถมันกลับบ้านด้วยกัน
“เชอะโทรหาบีสท์ดีกว่า” สกายกดโทรศัพท์โทรหาเพื่อนสนิทนัดแนะเจอกันที่มหาวิทยาลัยของเพื่อนเสร็จพวกเขาก็ออกเดินทางไปยังสถานที่นัดหมายทันที
“ลมอะไรหอบเอาคนหล่อมากันวะเนี่ย” ฟี่เพื่อนในคณะของบีสท์ตะโกนเสียงดังจนคนที่นั่งอยู่ใต้คณะหันมาสนใจสกายและยูที่เดินเข้ามา สกายกลอกตาผิดกับยูที่ยิ้มบางเขาทั้งคู่เดินเข้ามานั่งที่โต๊ะของฟี่โดยไม่สนใจสายตาใคร่รู้ของใครหลายคน
“หวัดดีฟี่ บีสท์ล่ะ” ยูเอ่ยทักแล้วถามหาเพื่อน ฟี่บุ้ยปากขึ้นไปยังด้านบนตึก
“ตรวจงานอยู่เดี๋ยวก็เสร็จรอแปบ”
“แล้วมึงอ่ะ” สกายถามบ้าง
“ของกูเสร็จแล้วแต่มันบอกให้กูรอต้อนรับมึงสองคนก็เลยต้องอยู่รอ” ฟี่ยักคิ้วสลับข้างจนสกายอยากเอื้อมไปดึงขนคิ้วมันให้หลุดออกมาสักหย่อมสองหย่อม
“ทำไมไม่ปูพรมแดงให้กู”
“คณะกูมีแต่เสื่อแดงแทนกันได้มั้ย”
“ก็พอไหว”
“งั้นรอแปบ” ฟี่ทำท่าจะลุกไปจริงร้อนถึงยูต้องรีบรั้งไว้ส่วนคนที่ต่อล้อต่อเถียงอย่างสกายกลับหัวเราะชอบใจแล้วยื่นมือไปแปะกับฟี่ที่หัวเราะเช่นเดียวกัน
“มึงนี่ยังกวนตีนเหมือนเดิมเลยนะฟี่”
“ไม่ต่างจากมึงหรอกหมากาย”
“หมอเว้ยหมอ”
“ดีนะที่แก้ถ้าไม่แก้ไม่ฮานะ” และอีกมากมายเท่าที่ความเกรียนของทั้งคู่จะมี ยูได้แต่ยิ้มและปล่อยให้ทั้งสองคนฟาดฟันความเกรียนใส่กันสักพักบีสท์ก็ลงมาพร้อมกับโมเดลในมือ
“ป่ะเสร็จแล้วฟี่มึงกลับเลยป่าว” บีสท์บอกเพื่อนสนิทก่อนจะหันไปถามฟี่
“อือกลับก็กลับ”
“เอารถอะไรมาให้กูไปส่งก่อนไหม” บีสท์อาสาแต่ฟี่ส่ายหน้าปฏิเสธ
“วันนี้เอารถยนต์มา ไปนะพวกมึงไว้เจอกันใหม่”
“เคกลับดีๆ หมาฟี่”
“รับทราบหมากาย” พวกเขาโบกมือลากันก่อนทั้งสามจะพากันเดินไปยังรถของบีสท์
“เดี๋ยวไปหาซันก่อนนะ” บีสท์บอก
“ต้องรอแพรวกลับด้วยนะ” คราวนี้เป็นสกาย บีสท์กับยูพยักหน้าก่อนจะขับรถไปยังคณะของซัน ทั้งสามเดินเข้ามาในคณะท่ามกลางสายตาที่มองมาด้วยความสนใจอีกครั้ง สกายยักไหล่ก็เข้าใจว่าหล่อแต่ไม่ต้องมองขนาดนี้ก็ได้เสียดายไอ้เชนเพื่อนรักไม่มาด้วยไม่อย่างนั้นได้เดินหน้ากระดานเป็นสี่หนุ่มเอฟโฟไปแล้ว
“มึงชอบสกาย?” เสียงทุ้มของซันเอ่ยขึ้นพวกเขาทั้งสามคนหยุดเท้าทันที คนรักของเพื่อนกำลังคุยอยู่กับเพื่อนสนิทในกลุ่มตัวเองและทั้งหมดก็ไม่ได้รับรู้ถึงการมาของเขาทั้งสามคน บีสท์กับยูหันมองหน้าเขาทันทีที่ได้ยินประโยคนั้นของซัน
“ไม่ใช่กูแต่เป็นเพื่อนมึงที่เพิ่งโสดต่างหาก” เพื่อนซันที่ชื่อซานปฏิเสธแล้วบุ้ยหน้าไปทางคิง
“มันเมาน่ารักดี”
“หา?” ซันตาโตเมื่อได้ยินคำตอบของเพื่อนตัวเองท่าทางของซันไม่ผิดไปจากสกายนัก ร่างโปร่งตาค้างเมื่อได้ยินคนกล่าวถึงตัวเองว่าน่ารักบีสท์กับยูแทบกลั้นขำไว้ไม่อยู่
“แปลว่ามึงไม่เคยเจอมันตอนเมา” ซานเอ่ยขึ้นอีกครั้งสกายรู้สึกปวดหัวตุบๆ เหตุการณ์วันที่เมาเหมือนหมาวันนั้นเขาจำอะไรไม่ได้เลยไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองเผลอไปทำตัวแบบที่เรียกว่าน่ารักนั่นตอนไหน
“ไม่เคยเห็นตอนเมามาก ๆ”
“นี่ไง ให้คิงมันพูดดีกว่าว่าทำไมอยู่ดี ๆ ก็ใจสั่นกับผู้ชายด้วยกัน” ซานบอกกับซันอีกครั้งแล้วหันไปให้เจ้าของเรื่องเป็นคนพูดเอง
“มันเมาแล้วอ้อน
น่ารักมาก” สกายอ้าปากค้างบีสท์กับยูหลุดขำกันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วดีที่ที่พวกเขาทั้งสามคนยืนอยู่คือหลังเสาทำให้พวกซันไม่เห็นและพวกเขาก็ไม่เห็นสีหน้าคนพูดเหมือนกันแต่ฟังจากน้ำเสียงแล้วสกายก็อยากจะเอาเท้าขึ้นมาก่ายหน้าผาก
ไม่น่าเลยกู ไม่น่าเกิดมาหล่อจนทำให้คนสนใจเลย เฮ้อ...เกิดเป็นเท่าฟ้านี่เหนื่อยใจจริงๆ
tbc
talk. เกิดเป็นคนหล่อนี่มันน่าลำบากใจจริมๆ เฮ้อออออออ #ฟ้าของคุณ