26
“มึง...” สกายสะกิดแขนเพื่อนเรียกร้องความสนใจแต่พอเปาหันมาสนใจไอ้เพื่อนตัวดีก็ปิดปากเงียบเป็นอย่างนี้มาประมาณสามสี่รอบจนเปาคิดว่าถ้ามีรอบที่ห้าเขาจะฟาดกบาลมันจริงจังแล้ว
“อะไร”
เปาปรายตามองเพื่อนครู่หนึ่งก็กลับไปสนใจหนังสือในมือต่อ คนที่กำลังว้าวุ่นใจบึนปากงอนที่เพื่อนไม่สนใจตัวเองเท่าที่ควรวันนี้เปาและสกายเป็นเวรมาอยู่เฝ้าบีสท์ที่โรงพยาบาล ภาพเหล่านั้นทำเอาผู้ที่เห็นเหตุการณ์ทั้งสองคนอมยิ้มหัวเราะกลั้นขำกันจนหน้าดำหน้าแดงจนกระทั่งคนเจ็บอย่างบีสท์ทนความท่ามากของสกายไม่ไหวจึงเอ่ยขึ้น
“พูดก่อนจะโดนมันถีบไอ้กาย” สกายเม้มปากแน่น ย่นจมูกเหลือบมองซันที่นั่งให้เพื่อนบีสท์อ้อนก่อนจะเปล่งเสียงออกมา
“กูว่าลุงงอนกูแน่เลยอ่ะ”
“ลุง?” บีสท์ย้อนถาม สกายกลอกตาถอนหายใจตอบเสียงหน่าย
“พี่คุณ”
“อ้อ ก็มึงเรียกพี่เขาซะเสียหมด หล่อหนุ่มแน่นขนาดนั้นไปเรียกเขาลุงได้ไง” ซันแก้ตัวแทนแฟนตัวเองเลยถูกสกายโยนหมอนใส่แต่คนรักแฟนยิ่งชีพอย่างบีสท์มีหรือจะปัดป้องให้ไม่ทัน
“ไปทำอะไรให้พี่เขางอนล่ะ” เปาเอ่ยถามเนิบๆ
“เรื่องคิง”
“อ้อ” คราวนี้ทั้งสามคนร้องอ้อพร้อมกัน
“ไปเคลียร์กับคิงก่อนไป” ซันบอกเสียงสบายแต่คนไม่สบายใจน่ะสกาย
“ขอโทษนะซัน” ซันเลิกคิ้วแล้วหันไปป้อนผลไม้บีสท์ต่อ
“เรื่องอะไร ถ้าเป็นเรื่องคิงไม่ต้องขอโทษหรอกขานั้นมันรู้ตัวเองดีถึงจะขยันหยอดมึงยังไงกูว่ามันก็รู้นะว่าสายตามึงหยุดที่ใครแต่ไปคุยให้รู้เรื่องน่ะดีที่สุด”
“อือ...” สกายตอบรับเสียงหงอย
“ว้าหมดเวลาของกูแล้วหรอ” เสียงของคิงดังมาจากประตูพวกเขาหันไปมองโดยมีสกายทำหน้าตื่นมองอีกฝ่ายตาโต
“คิง...มึงได้ยินหมดเลยหรอ” สกายถามเสียงเบาคิงยิ้มบางพยักหน้ารับร่างสูงถอนหายใจเล็กน้อยแล้วเดินมานั่งตรงโซฟาไม่ไกลจากสกายนัก
“กูขอโทษที่ทำให้มึงเสียเวลานะคิงแต่ แต่กูเคยบอกมึงแล้วนะเว้ย” สกายกล่าวขอโทษแต่ก็ไม่วายแก้ตัวให้ตัวเอง สีหน้าเดี๋ยวหงอยเดี๋ยวเอาแต่ใจทำให้คนที่โดนปฏิเสธอมยิ้มเอ็นดู คิงถอนหายใจอีกครั้งรู้สึกเสียดายที่เจอกับคนๆ นี้ช้ากว่าใครบางคน
“ตอนแรกกูก็ตั้งความหวังเอาไว้นะแต่พอวันที่บีสท์มันถูกรถชนแล้วเห็นมึงพุ่งเข้าหาหมอคนนั้นกูก็รู้เลยว่าแข่งยังไงก็แพ้”
“โกรธกูไหมอ่ะ” สกายเหลือบตาถามคิงยิ้มส่ายหน้า
“โกรธทำไมวะกูเป็นคนดึงดันเองไม่ใช่รึไง ก็นะเจอคนถูกใจทั้งทีก็อยากจะลองดูสักตั้งแต่แหม่พี่เขาครบสูตรขนาดนั้นกูจะเอาอะไรไปสู้วะ หล่อ รวย เก่ง อ่อนโยน นี่มันผู้ชายในฝันของสาวๆ เลยนะ” คิงเอ่ยชมคนที่เขาเคยเกือบตั้งให้เป็นคู่แข่งแต่พอประเมินดูแล้วไม่ต้องแข่งก็รู้ว่าตัวเองยังห่างชั้นกับอีกฝ่ายเยอะ
“เออแต่ตอนนี้ไอ้คนที่มึงชมว่าหล่อ รวย เก่ง อ่อนโยนน่ะแถมความขี้งอนเข้าไปด้วย!” สกายบ่นร่างสูงโปร่งถอนหายใจฮึดฮัดทิ้งตัวพิงพนักพิงโซฟาแล้วเตะขาไปมา
“ทำไงดีวะ” สุดท้ายคนขี้โวยวายก็หงอยช้อนตามองเพื่อนทีละคนอย่างขอความช่วยเหลือ ทุกคนมองหน้ากันยิ้มๆ แล้วพยักเพยิดให้เปาเป็นคนตอบ
“ก็ไปง้อสิวะง่ายๆ” สกายขมวดคิ้ว
“ง่ายตรงไหน กูต้องเริ่มง้อยังไงกูยังไม่รู้เลยไอ้หมาเปา อีกอย่างนะกูกับพี่คุณก็ไม่ได้เป็นอะไรกันด้วย” ท้ายประโยคเสียงเบาจนทุกคนในห้องแทบจะไม่ได้ยิน คิงกระตุกยิ้มมุมปากก่อนจะโน้มตัวป้องปากเข้าหาสกาย
“กูมีวิธีนะติดแต่ว่ามึงจะกล้าหรือเปล่า” เมื่อได้ยินดังนั้นสกายก็ตาวาวพยักหน้าหงึกหงักเหมือนเด็กที่พ่อแม่อนุมัติซื้อของเล่น
สกายยืนละล้าละลังอยู่หน้าห้องของใครบางคน ไม่ต้องบอกก็รู้ว่านี่คือหน้าห้องของคุณหมอตรัยคุณคนดีศรีสยามแต่ตอนนี้คุณหมอคนดีของทุกคนกำลังงอนสกายผู้หล่อเหลาคนนี้อยู่ถึงขนาดไม่ยอมตอบข้อความกันเลยนะ พี่คุณแม่งต้องโกรธเขามากแน่ๆ เลยอ่ะ โทรหาก็ถามคำตอบคำเป็นอะไรที่สกายขัดใจสุดๆ พอหนักเข้าอีกฝ่ายถึงขนาดตัดบทเขาวางสายใส่กันเลยนั่นทำให้ความอดทนของสกายหมดลงและตั้งใจว่าจะต้องเคลียร์กับพี่คุณให้รู้เรื่องวันนี้
เขาจดจำวิธีที่คิงแนะนำมาได้ขึ้นใจ สกายใช้เวลาทำใจถึงสามวันเต็ม! ก่อนที่จะเดินไปรวบรวมขอกำลังใจจากเพื่อนๆ ทุกคนในกลุ่มแล้วขับรถมาถึงคอนโดของพี่คุณเพราะคุณหมอเขาออกเวรมาตั้งแต่สองชั่วโมงที่แล้ว วิธีการของคิงเหมือนจะง่ายแต่พอคนอย่างสกายฟังปุ๊บขนตูดก็ลุกซู่นึกสภาพตัวเองทำอะไรแบบนั้นแล้วก็อยากอ้วกแต่คิงมันคอนเฟิร์มมาแล้วว่าได้ผลล้านเปอร์เซ็นต์แล้วคนอย่างสกายมีหรือจะไม่อยากลอง
“เอาวะ! สู้ดิมึงกายแค่
อ้อนเอง” สกายพึมพำกับตัวเองเบาๆ แล้วเดินวนไปวนมาหน้าประตูของพี่คุณมากว่าห้านาทีแล้ว บอกว่าแค่อ้อนนั้นเหมือนจะง่ายแต่พอต้องตั้งใจทำสกายกลับรู้สึกว่ามันยากแสนยาก ตัวเขาก็ใหญ่อย่างกับควายไบซันให้มาทำอ้อนทำแบ๊วใส่พี่คุณที่ตัวใหญ่กว่ากันอย่างนี้ดูอย่างไรมันจะไม่ทุเรศลูกตามากกว่าน่ารักหรือ แต่แบบมีแค่พี่คุณที่เห็นไง ลุงอาจจะมองข้ามความตัวควายของเขาไปแล้วมองว่าน่ารักก็ได้
หรือเปล่าวะ
แม่งเอ๊ย! ยิ่งคิดยิ่งเครียด เครียดเว้ย! อยากโทรไปตะโกนด่าใครสักคนสองคนและสองชื่อที่ผุดมาในหัวของสกายก็คือ เพื่อนเชนและไอ้โฟล์คแฟนหนุ่มของแพรว คิดได้ดังนั้นมือก็รีบคว้าโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรออกหาเพื่อนสนิทเป็นคนแรก
“หวะ...”
“ไอ้ควายเชน!!!!!” เพื่อนยังไม่ทันพูดสวัสดีจบคำสกายก็ด่าสวนกลับไปเสียงดังก่อนจะตัดสายทิ้งแล้วกดโทรหาไอ้โฟล์คต่อทันที
“ว่างะ...”
“กูเกลียดมึงมากไอ้โฟล์ค!!!!!”
อีกครั้งที่ปลายสายยังไม่ทันพูดอะไรสกายก็ตะโกนใส่โทรศัพท์เสียงดังแล้วกดสายทิ้งถอนหายใจเฮือกใหญ่ด้วยความโล่งอกเหมือนได้ระบายความอึดอัดระลอกใหญ่ออกไป คราวนี้มีแรงฮึดขึ้นมาเยอะเขายิ้มกับตัวเองก้มลงกดส่งข้อความไปหาเพื่อนทั้งสองใจความว่าระบายอารมณ์เสร็จก็ปิดโทรศัพท์กันพวกมันโทรกลับมาด่า สูดลมหายใจลึกพร้อมเผชิญหน้ากับพี่คุณเต็มที่แต่แล้วก็สะดุ้งตกใจจนเข่าอ่อนเมื่อคนที่เขาตั้งใจมาหาเอ่ยถามพร้อมขมวดคิ้วมองเขาอยู่ตรงประตูหน้าห้อง
“โวยวายอะไรหน้าห้องพี่ครับ”
“พะ...พี่คุณ”
“ครับ” เป็นอีกครั้งที่พี่คุณไม่มีรอยยิ้มบนใบหน้าเช่นเคยแถมยังพูดจาห้วนสั้นใส่กันอีก สกายเม้มปากกำมือแน่นด้วยความประหม่าก่อนจะสาวเท้าเข้าใกล้พี่ชาย
“มาหา...มากินข้าวด้วย” สกายบอกเสียงเบา ตรัยคุณเหลือบมองถุงกับข้าวพะรุงพะรังในมือน้องก่อนจะพยักหน้าเบี่ยงตัวให้อีกคนเข้ามาในห้อง สกายยิ้มดีใจรู้สึกมีกำลังใจง้อขึ้นมาหนึ่งระดับรีบวิ่งเข้ามาในห้องพี่คุณก่อนที่อีกคนจะเปลี่ยนใจ
“พี่คุณเหนื่อยไหม อาบน้ำหรือยังพี่ไปอาบน้ำก่อนนะเดี๋ยวผมจัดการอุ่นกับข้าวให้” สกายเดินถือของไปวางตรงเคาท์เตอร์ครัวแล้วหันกลับมาพูดคุยกับคนพี่ที่เดินตามเข้ามา พี่คุณยังอยู่ในชุดทำงานอยู่สกายเลยรีบเอ่ยเอาใจ
“ครัวพี่จะไม่พังใช่ไหม” สกายย่นหน้าทันทีที่ได้ยินแต่สำเหนียกได้ว่าวันนี้มาง้อห้ามโวยวายเอาแต่ใจใส่พี่คุณเด็ดขาด
“โห่พี่ไว้ใจผมได้เลย นะๆ ไปอาบน้ำให้สดชื่นก่อน” ไม่ว่าเปล่าสกายวิ่งมาพลิกตัวคนพี่เกาะหลังพี่คุณแล้วออกแรงดันให้อีกคนเดินไปยังห้องนอนชั้นบน เมื่อพี่คุณยอมขึ้นไปอาบน้ำแต่โดยดีสกายก็จัดการเอากับข้าวที่ตัวเองซื้อมาอุ่นและจัดใส่จานเรียบร้อยไม่นานพี่คุณในชุดลำลองก็เดินลงมา
“มาๆ พี่กินข้าวกันของโปรดพี่ทั้งนั้น” สกายก้าวเร็วมาจูงมือพี่คุณไปนั่ง ตรัยคุณมองการกระทำเอาใจเล็กน้อยของน้องกระตุกยิ้มมุมปากเล็กน้อยอย่างที่น้องไม่ทันได้เห็นแล้วปล่อยตัวตามการชักนำของอีกคน รอดูวิธีง้อของน้องจนแทบทนไม่ไหว
ถือว่าเขาอดทนมาได้หลายวันไม่หลุดมาดนิ่งตามคำแนะนำของเพื่อนสาวซึ่งก็คือพี่สาวของน้องนั่นแหละ ฝันบอกว่าถ้าอยากให้น้องชัดเจนก็ต้องใช้ไม้แข็งไม่อย่างนั้นจอมดื้อของเขาก็ไม่มีวันแสดงออก ตรัยคุณเกือบหลุดแผนหลายครั้งเพราะอยากโอ๋น้องแต่ที่เขาทำได้ก็คือรีบกดตัดสายทิ้งเมื่อได้ยินเสียงหงอยเหงาของน้องแล้วก็ต้องมานั่งทอดถอนหายใจเฮือกใหญ่ รอมาหลายวันจนใจแป้วคิดว่าน้องจะไม่มาง้อกันเสียแล้วสุดท้ายแผนแกล้งงอนของเขาก็ได้ผล
เขากำลังจะได้จัดการเด็กดื้อสมใจแล้ว
“อร่อยไหมพี่” ตรัยคุณเหลือบมองน้องที่จ้องเขาตาแป๋วอย่างรอคอยคำตอบ ท่าทางน่ารักจนเขาอยากจะฝังเขี้ยวลงไปที่แก้มขาวแต่ก็ทำได้แค่พยักหน้ารับนิ่งๆ
“ครับ” พวกเขาทานข้าวกันต่อโดยมีสกายตักกับข้าวเอาใจคนพี่อย่างไม่ขาด พอทานข้าวเย็นกันเสร็จสกายก็ลุกขึ้นเก็บถ้วยชามเตรียมล้างแต่ตรัยคุณแย่งงานน้องไปเสียก่อน
“ไปนั่งรอเถอะครับ พี่ไม่ได้ซื้อถุงมือไว้ให้คู่เก่าเปื่อยไปหมดแล้ว”
สกายอมยิ้มมองแผ่นหลังของพี่คุณที่ยืนล้างจานอยู่ ร่างโปรงสูดลมหายใจลึกก่อนจะก้าวเข้าไปประชิดตัวพี่คุณแล้วกอดเอวพี่จากด้านหลัง ซบหน้ากับแผ่นหลังกว้างอย่างออดอ้อน ตรัยคุณชะงักมือที่กำลังล้างจานอยู่เล็กน้อยก่อนจะนิ่งเงียบรอดูว่าน้องจะทำอะไรต่อไป
“ขอบคุณครับ” สกายเอ่ยขอบคุณเสียงอู้อี้เพราะยังฝังหน้าอยู่กับแผ่นหลังของพี่คุณ
“ไม่ไปนั่งรอดีๆ ล่ะครับ” แทนคำตอบสกายถูหน้าไปมากับหลังพี่คุณพร้อมกับกอดเอวอีกคนแน่น
“ไม่เอา พี่คุณโกรธ”
“พี่ไม่ได้โกรธครับ”
“งั้นงอน” คราวนี้พี่คุณเงียบแสดงว่างอนจริงๆ
“งอนอะไรผมอ่ะพี่”
“ไม่มีอะไรนี่ครับ” สกายย่นจมูกเมื่อได้ฟังพี่คุณปฏิเสธเสียงสูง
“ถ้าเรื่องคิงฟังผมอธิบายก่อนได้ไหมอ่ะ” ตรัยคุณล้างจานใบสุดท้ายเสร็จพลิกตัวหันกลับมาหาสกาย
“ไปนั่งคุยกันดีๆ เถอะครับ” สกายพยักหน้าหงึกดึงมือตรัยคุณให้เดินตาม
“ผมคุยกับคิงเรียบร้อยแล้วนะพี่ เราเป็นเพื่อนกัน” ตรัยคุณนั่งเว้นระยะห่างจากน้องเล็กน้อยนั่งกอดอกฟังน้องพูด
“ครับ” สกายยู่หน้าเมื่อพี่คุณตอบกลับมาสั้นๆ
“พี่อ่ะ”
“ครับ? พี่ทำไม เอาจริงพี่ก็ว่าอะไรเราไม่ได้ไม่ใช่หรือครับ พี่แค่รู้สึกไม่พอใจแต่ในเมื่อเราไม่ได้เป็นอะไรกันพี่ก็ต้องจัดการกับความรู้สึกของพี่ด้วยตัวเอง” เป็นครั้งแรกในรอบหลายวันที่พี่คุณพูดประโยคยาวๆ แบบนี้ให้สกายได้ยิน แต่พอได้ยินแล้วใจคนฟังก็วูบโหวง
“พี่คุณ...ถ้าไม่สำคัญทำไมผมต้องตามมาง้อพี่ล่ะ” สกายขยับเข้ามาใกล้
“ไม่รู้สิครับเพราะพี่เป็นเพื่อนของฝันมั้งครับ” สกายเบะปากคล้ายจะร้องไห้ พี่คุณไม่เคยประชดประชันแบบนี้เลย สกายทำไรไม่ถูกเลยโถมตัวกอดเอวอีกคนแน่น
“ไม่ใช่สิพี่ พี่คุณไม่เป็นแบบนี้ ไม่เอา”
“แบบไหนครับ” ตรัยคุณไล่ต้อนเด็กน้อยของเขาอยากกอดตอบแทบแย่แต่ต้องห้ามใจตัวเองเอาไว้
“พี่ก็รู้ว่าผมไม่เคยคิดแบบนั้นมานานแล้ว พี่สำคัญคือพี่สำคัญ พี่คุณสำคัญเพราะพี่คุณพิเศษ…
เป็นคนพิเศษของผม” ตรัยคุณยิ้มกว้างเพราะน้องยังซบหน้าในอกเขาจึงไม่เห็น
“แล้วคนพิเศษคนนี้ทำอะไรได้บ้างครับ”
“ได้หมดเลย” สกายรีบตอบเพราะกลัวพี่คุณจะคิดมากไปกว่านี้โดยที่ไม่รู้เลยว่ากำลังจะถูกหมาป่าเจ้าเล่ห์จับกิน
“พี่หวงได้ไหม”
“ได้”
“พี่ห้ามได้ไหม”
“ได้ครับ”
“พี่กอดเราได้ไหม”
“ได้ได้”
“พี่จูบเราได้ไหม”
“กะ…ก็ได้”
“แล้วอย่างนี้ฟ้าจะยอมรับได้หรือยังครับว่า
เรารักกัน” สกายแทบลืมหายใจเมื่อฟังคำพูดจี้ใจของพี่คุณ
“พี่คุณ…มั่นใจแล้วใช่ไหมว่าเป็นผม” สกายสัมผัสได้ถึงความอบอุ่นที่โอบล้อมร่างกายของเขา ใบหน้าขาวฝังแน่นกับอกอุ่นของพี่คุณ การกระทำของพี่คุณชัดเจนเสมอเป็นตัวสกายเองที่เฉไฉมาตลอด
“ฟ้ารู้คำตอบดีอยู่แล้วครับ”
“ครับ”
“คำตอบล่ะครับ” สกายพยักหน้าหงึกหงักก่อนตอบเสียงเบา
“
ผมรักพี่คุณ” ตรัยคุณยิ้มกว้างกอดกระชับตัวน้องแน่นก่อนจะก้มหน้าลงจูบหน้าผากเด็กดื้ออย่างแสนรัก
“กว่าจะบอกรักพี่ได้นะเด็กดื้อ”
“ก็มันพูดง่ายที่ไหนกันเล่า” สกายโวยวายอยู่ในอ้อมกอดของตรัยคุณ คนพี่ยิ้มกว้างกดจูบทั่วใบหน้าแดงๆ ของเด็กดื้อแล้วจูบซ้ำๆ บนริมฝีปากสีอ่อน
“
พี่รักเราคนเดียวนะครับ รักมาตลอดไม่เคยเปลี่ยน” สกายน้ำตารื้น รู้สึกอุ่นไปทั้งหัวใจ ใบหน้าและน้ำเสียงของพี่คุณไม่มีส่วนไหนเลยที่สกายจะสังเกตเห็นคำโกหก มันมั่นคงจนหัวใจสกายสั่นไหวไปกับคำว่ารักเป็นครั้งแรก
ครั้งแรกที่เขารู้สึกได้รับความรักมากมายขนาดนี้
“พี่เหนื่อยกับผมบ้างหรือเปล่า” ตรัยคุณรวบเอวน้องยกตัวสกายให้ขึ้นมานั่งคร่อมตักกอดเอวน้องไว้หลวมๆ ส่ายหน้าเป็นคำตอบ
“ไม่เคยครับ”
“ซักนิดก็ไม่มีหรอ” ตรัยคุณยิ้มยืดตัวจูบปากน้องแล้วผละออกมาส่ายหน้า
“ไม่มีครับ” สกายหน้าแดงโน้มตัวมากอดคอพี่คุณแล้วซบหน้าบนไหล่หนาอย่างขวยเขิน หัวใจเต้นแรงจนเจ็บแต่กลับมีความสุขจนต้องยิ้มออกมากว้างๆ เป็นการระบาย
“บอกได้ไหมว่าทำไม”
“เพราะฟ้าเป็นเป้าหมายเดียวในชีวิตพี่ที่ต้องคว้าเอามาให้ได้” สกายนิ่งอึ้ง ผละตัวออกมามองหน้าพี่คุณเล็กน้อยแล้วเอ่ยถามต่อ
“นานเท่าไหร่แล้ว” ตรัยคุณยิ้มอ่อนโยนยกมือข้างหนึ่งลูบหัวน้องไล้ลงมาลูบแก้มแช่เอาไว้
“ตั้งแต่ที่เราสัญญากัน” สกายตาโต
“ตั้งแต่เด็ก”
“ครับ”
“นั่นมัน…บ้าไปแล้ว” สกายสบถออกมาอย่างไม่เชื่อหูตัวเอง
“ฟ้าจำเหตุการณ์ตอนนั้นได้ไหมครับ” สกายเม้มปากแน่น สมองพยายามคิดไปถึงอดีตในตอนที่เขากับพี่คุณสัญญาว่าจะแต่งงานกัน
ในตอนนั้นเขานั่งเล่นกับพี่คุณอยู่ในสวนหลังบ้าน นั่งต่อเลโก้กันอยู่เป็นบ้านและอาณาจักรของเรา สกายจำบริบทตอนนั้นไม่ค่อยได้แต่ใจความโดยรวมคือเขาไปขอพี่คุณแต่งงาน
“จำได้ไม่หมดอ่ะพี่” ตรัยคุณอมยิ้มแล้วดึงตัวน้องเข้ามากอดซบอกตัวเองอีกครั้ง
“วันนั้นเรานั่งเล่นเลโก้กันอยู่”
“ครับอันนี้ผมจำได้”
“ฟ้าขอให้พี่ต่อบ้านหลังใหญ่ๆ ให้” ตรัยคุณเล่าต่อ สกายพยักหน้ารับ
“ผมต่อต้นไม้กับสวน” สกายเล่าบ้าง ตรัยคุณยิ้มแล้วหันไปหอมแก้มน้องฟอดใหญ่
“ฟอด! ครับ แล้วฟ้าก็บอกว่าถ้าโตมาฟ้าจะแต่งงานแล้วมีบ้านใหญ่ๆ แบบนี้” คราวนี้สกายเงียบเพราะเขาจำไม่ค่อยได้
“พี่เลยบอกว่าบ้านนี้พี่เป็นคนต่อ” สกายเม้มปากแก้มแดง คำพูดในวันวานเริ่มไหลกลับเข้ามาในความทรงจำ
“ฟ้าถามพี่ว่าต้องทำยังไง” ยิ่งฟังพี่คุณเล่าแก้มสกายก็ยิ่งแดง มือขาวกำเสื้อพี่คุณแน่น
“พี่บอกว่าถ้าฟ้าอยากได้บ้านหลังนี้
ฟ้าต้องแต่งงานกับพี่”
“พี่คุณบอกว่าจะให้เลี้ยงหมาตัวใหญ่ๆ หลายๆ ตัวด้วย”
“ใช่ครับแล้วพี่บอกอะไรอีกจำได้ไหมหืม?”
“พี่คุณบอกว่าถ้าแต่งงานกับพี่คุณ พี่คุณจะตามใจทุกอย่าง”
“ใช่แล้วครับ”
“ผมเลยวิ่งเข้าไปบอกทุกคนว่าจะแต่งงานกับพี่คุณ” ตรัยคุณยิ้มขำแล้วหอมแก้มน้องอีกฟอดใหญ่ ใช่แล้ว ในตอนนั้นไม่ใช่น้องหรอกที่อยู่ๆ ก็วิ่งเข้าไปประกาศกับทุกคนว่าจะแต่งงานกับเขา
แต่เป็นเขาเองที่เป็นผู้บงการอยู่เบื้องหลังทั้งหมด ก็ช่วยไม่ได้นี่นาน้องดันทำให้เขาตกหลุมรักจนถอนตัวไม่ขึ้นทำไมล่ะ
น้องฟ้าของพี่คุณ
tbc
talk. ถึงร้ายก็รักค่ะพี่หมอ หนูรักกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก ฮืออออ ทำไมพี่หมอไม่ใช่ของฉัน!