10
“มาได้ไงอ่ะพี่” สกายเอ่ยถามอีกคนเสียงตื่นเมื่อคนพี่เดินลงจากรถเรียบร้อยแล้ว ตรัยคุณยิ้มมองเด็กน้อยของเขาที่ตอนนี้แก้มขาวขึ้นสีเพราะเจ้าตัววิ่งฝ่าแดดออกมารับเขาถึงหน้าบ้าน
“ขับรถมาครับ” สกายยู่หน้ากลอกตาใส่ อยากด่าว่ากวนตีนแต่สำนึกได้ว่านี่พี่คุณจึงได้แต่กลอกตาด้านคนพี่พอเห็นเด็กน้อยทำท่าทางแบบนั้นก็ยิ้มขำแล้วขยี้หัวอีกคนอย่างเอ็นดูก่อนจะคิ้วขมวดเมื่อเห็นเสื้อผ้าที่อีกคนใส่อยู่บ้าน
“ฟ้าครับ”
“ว่าไงพี่” สกายขานรับโดยไม่หันไปมองหน้าอีกคนเพราะเจ้าตัวนั่งยองรอรับแรงกระแทกจากสุนัขตัวใหญ่ที่วิ่งส่ายหางเข้ามาหา
“นี่เสื้อหรือผ้าขี้ริ้ว” สกายเบิกตากว้างหันไปมองคนพี่ตาขวางแต่พอเห็นสีหน้าไม่ชอบใจของตรัยคุณก็เปลี่ยนสีหน้าทันที
“โถ่พี่คุณนี่อยู่บ้านนะครับ รักหวัดดีพี่คุณยัง หวัดดีพี่คุณก่อนเร็ว”
ตัวดื้อของตรัยคุณแก้สถานการณ์โดยใช้หมาเปลี่ยนเรื่องและเจ้าไซบีเรียนตัวใหญ่ก็ให้ความร่วมมือเจ้าของเป็นอย่างดีมันยกเท้าหน้าของมันขึ้นมาสะกิดขาตรัยคุณพร้อมกับเงยหน้ามอง คนพี่หลุดขำเพราะทั้งหมาทั้งเจ้าของหมาทำท่าเหมือนกันเปี๊ยบ ตรัยคุณยิ้มอ่อนก่อนจะย่อตัวลงมาส่งมือข้างหนึ่งให้สุนัขตัวใหญ่วางแต่ก็ต้องเหวอหนักเมื่อแทนที่มันจะเอาเท้ามาวางกลับเอาหน้าที่ปกคลุมด้วยขนนุ่มนิ่มมาวางแทน
“ฮ่าๆ ๆ ๆ โอ๊ยแม่งรักโคตรฮา เปามึงสอนมันหรอวะ” สกายหัวเราะเสียงดังเมื่อเห็นหมาตัวเองเอาหน้าไปวางบนมือพี่คุณแทน หันไปตะโกนถามเพื่อนแว่นของตัวเองที่เดินหัวเราะเข้ามา
“กูเปล่า น่าจะเป็นไอ้เชนไม่ก็สาวๆ สักคนที่สอน สวัสดีครับพี่คุณ” เปาตอบคำถามเพื่อนก่อนจะยกมือไหว้ตรัยคุณที่ยกมือข้างเดียวรับไหว้เพราะอีกข้างมีหน้าของหมาเขาวางอยู่
“สวัสดีครับเปา” ตรัยคุณยิ้มให้เพื่อนน้องแล้วหันมองเด็กดื้อที่หัวเราะชอบใจหมาตัวเองจนน้ำตาไหล
“น้ำตาไหลหมดแล้วฟ้า”
“ฮ่าๆ ก็มันตลกอ่ะพี่ รู้ป่าวว่าไอ้ที่ทำแบบนี้มันกำลังฮิตมากเลยนะ” สกายยกมือปาดน้ำตาบอกอีกคน ตรัยคุณเลิกคิ้วให้เด็กตัวขาวอธิบายต่อ
“พวกวัยรุ่นชอบอัดวีดีโอแบมือแล้วให้อีกคนเอาหน้ามาวางบนมืออ่ะพี่ ส่วนมากพวกคู่รักเขาจะทำกันเห็นแพรวบอกมางั้นก็ไม่คิดเหมือนกันว่าหมาผมจะตามเทรน” ตรัยคุณพยักหน้ายิ้มเอ็นดูให้ทั้งหมาทั้งเจ้าของหมา สกายให้รางวัลหมาตัวเองโดยการกอดรัดฟัดเหวี่ยงจนตัวเองล้มนั่งกับพื้น
“พี่คุณทานอะไรมาหรือยังครับ” เป็นเปาที่เอ่ยขึ้นมา หนุ่มแว่นอมยิ้มเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าคนพี่กระแอมไอแก้เขินที่เขาจับได้ว่าเจ้าตัวมองเพื่อนเขาด้วยสายตาแบบไหน
ไม่รู้ว่าสกายมันรู้หรือเปล่าแต่ถ้าจากสายตาคนนอกมองก็โคตรจะชัด
พี่คุณชัดเจนมาก
“เรียบร้อยแล้วครับ พี่แวะมารับฟ้าเฉยๆ” คนที่ถูกลากเข้าสู่บทสนทนาหันกลับมาสนใจกันอีกครั้ง สกายเลิกคิ้ว
“เอ…เมื่อวานผมไม่ได้บอกพี่เหรอว่าไม่ต้องมารับ” สกายเอียงคอใช้ความคิด คลับคล้ายคลับคลาว่าเมื่อวานบอกพี่คุณว่าไม่ต้องมารับนะหรือว่าให้มารับนะ ต่างจากอีกคนเมื่อเห็นสีหน้าลังเลของน้องก็รีบใช้โอกาสให้เป็นประโยชน์
“หืม ฟ้าบอกพี่เองนะครับว่าให้มารับก็ได้” สกายอ้าปากจะเถียงแต่ก็หุบลงเพราะเขาเองก็ไม่มั่นใจว่าบอกแบบไหนออกไปแต่ในเมื่อตอนนี้พี่คุณมาถึงบ้านแล้วจะไล่กลับก็จะดูเสียมารยาท
“อ่าถ้าอย่างนั้นพี่คุณรอแปบได้ป่ะพี่ ผมยังไม่ได้อาบน้ำแต่งตัวเลย เออเปามึงจะไปพร้อมกูเลยมั้ย” ท้ายประโยคสกายหันไปถามเพื่อน เปาไม่ตอบในทันทีชายหนุ่มหันไปมองหน้าคนอาวุโสกว่าเมื่อเห็นใบหน้าหล่อยิ้มใจดีส่งมาให้ก็พยักหน้าตอบตกลงสกายไป
“เออ ไม่รบกวนพี่คุณนะครับ?” ตรัยคุณยิ้มกว้างส่ายหน้า
“ไม่เลยครับพี่แวะส่งได้ เปาอยู่คณะไหนครับ”
“สถาปัตย์ฯครับ”
“โอเคครับ”
“ขอบคุณมากครับพี่ ไปอาบน้ำได้แล้วมั้งมึงแล้วก็พาพี่เขาเข้าบ้านเหอะข้างนอกร้อนอย่างกับนรก” สกายพยักหน้าว่าง่ายขยี้ขนรักอย่างหมั่นเขี้ยวอีกทีก่อนจะลุกขึ้นโดยมีคนพี่ลุกตาม
“เดี๋ยวไปล้างมือกันก่อนครับพี่”
“ครับ”
ตรัยคุณเดินตามหลังอีกคนไปถึงก๊อกน้ำ สกายดึงสายยางขึ้นมาเปิดน้ำให้ไหลรดมือพี่คุณก่อนจะมาราดมือตัวเองปิดน้ำแล้วกดปั๊มสบู่เหลวที่วางอยู่ข้างก๊อกน้ำถูจนเกิดฟองแล้วยื่นมือไปดึงมือคนพี่มาถูทำความสะอาด ตรัยคุณยิ้มมองเด็กดื้อที่ตั้งอกตั้งใจล้างมือให้เขา แก้มขาวขึ้นสีจางเพราะอากาศร้อนไรผมเริ่มชื้นเหงื่อจนเด็กน้อยบ่น
“จะร้อนแข่งกับนรกหรือไงก็ไม่รู้ อ่ะพี่เสร็จแล้วครับเดี๋ยวไปเช็ดมือในบ้านนะ”
“ครับ เดี๋ยวครับฟ้า” สกายกำลังจะหันหลังเดินนำเข้าบ้านหันกลับมาตามเสียงเรียกก่อนจะยืนตัวแข็งทื่อ
“เหงื่อออกครับ ระวังไหลเข้าตาจะแสบเอา” ตรัยคุณเดินเข้าไปใกล้น้องใช้สันมือหมาดน้ำค่อย ๆ ซับเหงื่อให้เด็กตัวขาวและก็ต้องแอบอมยิ้มเมื่อใบหน้าของน้องขึ้นสีแข่งกับพระอาทิตย์
น่ารัก
อยากแกล้งมากกว่านี้ถ้าไม่ติดสายตาล้อเลียนของเพื่อนน้องที่ยืนมองอยู่ตรงประตูบ้าน ตรัยคุณก็คงหอมหน้าผากอีกคนไปด้วยความหมั่นเขี้ยวแต่กลัวน้องจะเขินหนักเพราะเพื่อนอยู่ด้วยแล้วพาลไม่เข้าใกล้เขาเลยต้องอดใจเอาไว้ก่อน
เด็กตัวขาวเม้มปากแน่นก่อนจะเดินดุ่มๆ ก้มหน้าเข้าบ้านปล่อยเขาอยู่คนเดียวแต่ตรัยคุณไม่ถือสาหาความเพราะรู้ว่าน้องกำลังเขินร่างสูงจึงเดินยิ้มมองตามแผ่นหลังบางหายขึ้นไปยังชั้นบนของบ้าน
“ไม่เบานะครับพี่ น้ำครับ” เปาเดินออกมาจากครัวพร้อมน้ำเย็นหนึ่งแก้วเอ่ยกลั้วหัวเราะ
“ขอบคุณครับเปา เบาไม่ได้หรอกครับฟ้าไม่ค่อยจะรู้ตัวแล้วอีกอย่างริ้นไรเยอะถ้าไม่แสดงออกเดี๋ยวจะยิ่งได้ใจกันไปใหญ่”
เปายกนิ้วโป้งให้คนพี่ที่พูดออกมาโดยไม่ปิดบัง เขาล่ะชอบคนจริงแบบนี้จริงๆ เลย ต้องคนแบบนี้สิถึงจะปราบไอ้เพื่อนจอมดื้อของเขาอยู่หมัด ต้องมีลูกล่อลูกชนแพรวพราวแบบนี้ ใสๆ มาเสร็จสกายมันหมดไม่ได้แอ้มมันหรอก
“ผมชอบพี่จริงๆ สู้ๆ นะครับ ผมเอาใจช่วย”
“ขอบคุณครับ เปาเองก็ไปเตรียมตัวเถอะเดี๋ยวฟ้าลงมาเห็นเรายังไม่เสร็จจะโวยวาย” หนุ่มแว่นหัวเราะชอบใจอีกครั้ง พี่คุณคนนี้รู้จักเพื่อนเขาดีจริงๆ ชายหนุ่มพยักหน้ารับก่อนจะเดินหายไปยังชั้นสองของบ้านอีกคน
สองหนุ่มใช้เวลาอาบน้ำแต่งตัวไม่นานก็ลงมาชั้นล่างด้วยสภาพพร้อมไปเรียน ตรัยคุณมองเด็กดื้อของเขาที่หลบตาเขาเล็กน้อยแล้วหันไปหาเพื่อน
“ไปกันเลยป่ะมึง”
“ไปสิ เฮ้ยเดี๋ยวมึงออกไปรอที่รถกับพี่คุณก่อนเลยกูลืมโทรศัพท์ไว้บนห้อง” เปาไม่รอให้เพื่อนท้วง ร่างสูงรีบวิ่งกลับขึ้นไปทางด้านบนทิ้งให้เพื่อนตัวเองยืนอ้าปากหวอ
“เอ่อ…ไปรอที่รถกันพี่” สกายบอกอีกคนโดยไม่มองหน้า
“ฟ้าครับ”
“มีไรพี่” ขานรับแต่ไม่มองหน้า ตรัยคุณยิ้มส่ายหัวก่อนจะเดินไปยืนซ้อนหลังอีกคน มือใหญ่ทั้งสองข้างจับไหล่ให้อีกคนหันกลับมามอง สกายขืนตัวไว้ในตอนแรกแต่ก็ต้องยอมโอนอ่อนหันมาหาคนพี่ดีๆ
“คุยกับผู้ใหญ่ไม่มองหน้าแบบนี้ใช้ได้ที่ไหนกัน”
“เอ๊ะ!” สกายกำลังจะอ้าปากเถียงแต่พอเผลอมองหน้าอีกคนภาพที่พี่คุณซับเหงื่อให้ก็โผล่เข้ามาในหัวแถมยังมีตอนจุ๊บเขาในรถโผล่มาด้วย คนดีที่ไหนจะกล้าสู้หน้าวะถามจริง
พี่คุณแม่งนิสัยไม่ดี!
“เอ๊ะอะไรเด็กดื้อ แน่ะ! พี่บอกให้มองหน้าหันหนีพี่อีกแล้ว” คราวนี้สองมือใหญ่ประกบแก้มขาวบังคับให้น้องมองหน้าตนเอง
“ผมไม่ใช่เด็กดื้อ! ผมโตแล้วนะ” สกายเถียง รู้สึกจั๊กจี้หัวใจทุกครั้งที่พี่คุณเรียกเขาว่าเด็กดื้อ
“โอเคครับไม่ใช่เด็กดื้อเนอะ แต่เป็น
เด็กดีของพี่” แล้วก็รู้สึกคันหัวใจมากๆ ตอนที่พี่คุณเรียกว่าเด็กดีด้วย!
“ไม่คุยกับพี่คุณแล้ว! ผมจะไปรอไอ้เปาที่รถ!” เมื่อทำอะไรไม่ได้สกายก็โวยวายคนพี่แล้วเดินกระแทกเท้าหนีออกจากบ้านแล้วก็ต้องรีบจ้ำหนีเมื่อได้ยินเสียงหัวเราะเบาๆ ของพี่คุณตามหลังมา
พี่คุณแม่งโคตรนิสัยไม่ดีเลย!!!
“วันนี้ฟ้ากลับเองได้ไหมครับ พี่มีเข้าเวรต่อที่โรงพยาบาล” ตรัยคุณเอ่ยถามน้องเมื่อรถคันสวยของเขาขับออกจากตึกคณะสถาปัตย์ฯมาได้สักครู่
“สบายมากพี่ไม่ต้องห่วง แต่พี่สอนเสร็จแล้วทำงานต่อเลยหรอโหดอ่ะ”
“เพื่อนขอแลกเวรน่ะครับพอดีมันติดธุระด่วน”
“อ่อ” สกายพยักหน้าเข้าใจ
“อย่าลืมทานข้าวเย็นนะครับ เอายามาหรือเปล่า” สกายรีบชูถุงยาในกระเป๋าให้อีกคนดู
“ไม่ลืมๆ พี่เองก็อย่าลืมกินข้าวนะครับ”
“ครับ”
“ถ้าอย่างนั้นผมไปก่อนนะพี่ ขอบคุณครับที่มาส่ง”
“ตั้งใจเรียนนะฟ้า”
“ตั้งใจสอนนะครับพี่คุณ” ตรัยคุณยิ้มขำเมื่อเด็กดื้อของเขากวนกลับมาก่อนจะวิ่งหายเข้าไปในตึกคณะ
ร่างสูงโปร่งของนสพ.เท่าฟ้าเดินเข้ามาในตึกเรียนด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้มแต่ก็ต้องหุบลงเมื่อเห็นว่าใครนั่งอยู่ที่โต๊ะประจำของเขาและเพื่อน สกายพ่นลมหายใจออกมาช้าๆ ก่อนจะเดินเข้าไปหาคนตัวเล็ก
“ดีมึง เนมมันยังไม่มาหรอ” คนตัวเล็กที่อ่านหนังสืออยู่สะดุ้งเล็กน้อยก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาหาสกาย
“ยะ…ยัง” สกายยักไหล่ก่อนจะเดินไปนั่งตรงข้ามแวน
“ก็ดี กูมีเรื่องจะคุยกับมึงพอดี” แวนเผลอเม้มปากแน่นหลบสายตาจริงจังของสกายรู้สึกกลัวสิ่งที่คนตรงหน้าจะพูดขึ้นมาจับใจ
“ขอตอนเรียนเสร็จได้ไหม” แวนเอ่ยถามเสียงเบาแต่สกายส่ายหน้าปฏิเสธ
“จะช้าหรือเร็วยังไงมึงก็ต้องรู้แวน” คนตัวเล็กก้มหน้านิ่ง สกายเห็นดังนั้นก็ถอนหายใจแล้วเอ่ยพูด
“มึงเป็นเพื่อนที่ดีของกูนะแวน ถ้าเลือกได้กูก็ไม่อยากเสียมิตรภาพดีๆ ของมึงไป กูขอโทษที่ตอบรับความรู้สึกของมึงไม่ได้เพราะกูไม่เคยคิดกับมึงในแง่นั้นเลย ถ้ามึงจะห่างไปกูก็เข้าใจนะ”
“ให้โอกาสกูสักนิดไม่ได้เลยหรอกาย” คนตัวเล็กตรงหน้าร้องขออย่างน่าสงสาร
“ขอโทษว่ะแวน กูไม่อยากฝืนตัวเอง” แวนเงยหน้ามองสกายดวงตาใสใต้กรอบแว่นฉ่ำไปด้วยน้ำตา สกายถอนหายใจอีกรอบก่อนจะเอื้อมมือไปบีบไหล่เล็กเบาๆ
“ต้องเป็นแบบหมอคุณหรอมึงถึงจะไม่ฝืน” สกายนิ่วหน้าเมื่อชื่อพี่คุณถูกลากมาเกี่ยวอีกครั้ง
“ทำไมต้องเอาคนอื่นมาเกี่ยวอีกแล้ว”
“เพราะกูคนที่เจอมึงก่อนแพ้ให้เขาที่มาทีหลังไงกาย กูคิดมาตลอดว่าตราบใดที่มึงไม่สนผู้ชายคนไหนกูก็จะอยู่ของกูแบบนี้เผื่อสักวันมึงจะมองเห็นความรักของกูบ้าง…แต่มันไม่ใช่เลย จู่ๆ เขาก็โผล่เข้ามาในชีวิตมึง มารับมาส่งมึง ตัวติดกับมึงยิ่งกว่าพวกกูแล้วจะไม่ให้กูเอาเขามาเกี่ยวได้ไงวะในเมื่อมึงเอง…ฮึก ก็ยอมให้เขาเข้ามา” สกายนั่งนิ่งฟังเพื่อนที่พรั่งพรูคำพูดในใจออกมาทั้งน้ำตา มือเรียวยังคงบีบไหล่เล็กอย่างให้กำลังใจ
“ที่มึงพูดก็ไม่ผิดหรอก กูปล่อยให้เขาเข้ามาเอง กูเป็นคนให้เขามายุ่งวุ่นวายกับชีวิตเองเพราะอะไรรู้ไหมแวน
เพราะนั่นคือที่ของพี่คุณตั้งแต่ก่อนที่กูจะเจอมึง ไม่ใช่เขาเพิ่งเข้ามาเขาอยู่ของเขามานานแล้วแค่ช่วงเวลาหนึ่งเขาหายไปไม่ได้แปลว่าเขามาทีหลัง ส่วนเรื่องความรู้สึกกูเองก็ยังให้คำตอบไม่ได้มันเป็นเรื่องของอนาคต กูอาจจะชอบหรือไม่ชอบเขาก็ได้แต่กูอยากขอมึงนะแวน ถ้าจะโกรธโกรธกูเพราะพี่คุณเขาไม่ผิด”
สกายมองเพื่อนตัวเล็กที่ก้มหน้าร้องไห้สะอึกสะอื้น ร่างสูงโปร่งลุกขึ้นขยับมานั่งข้างๆ โอบไหล่เล็กเข้าหาตัว มองคนที่ร้องไห้อยู่ในอ้อมกอดด้วยความสงสารแต่จะให้ทำอย่างไรได้ ถ้าไม่ทำแบบนี้แวนก็จะไม่ยอมรับความจริง
สิ่งที่เขาทำได้คือยังนั่งอยู่ตรงนี้ให้มันรู้ว่าเขายังเป็นเพื่อนที่หวังดีกับมันเสมอ
“กู…ฮึก…แพ้” สกายส่ายหน้า
“ไม่ใช่หรอกมึง เรื่องนี้ไม่มีใครแพ้ใครชนะหรอก ความรักมันไม่ใช่การแข่งขัน”
“ฮึก”
“มึงจะยังเป็นเพื่อนกูได้ป่ะวะ” คนตัวเล็กนิ่งไป สกายยิ้มบางให้ตัวเองสุดท้ายก็เป็นแบบนี้ เขาเสียเพื่อนไปอีกคน
“คำถามนี้…กู…ต่างหาก…ที่ต้องถาม”
“กูบอกไปแล้วว่ามึงเป็นเพื่อนกูเสมอ” สกายกระชับไหล่อีกคนเอ่ยตอบอย่างมีความหวัง
“กูเอง…ก็อยากเป็น…เพื่อนมึง ขอเวลากู…หน่อยนะ”
“มึงจะไม่หนีกูไปไหนนะแวน”
“อือ…กูขอเวลาทำใจ” สกายยิ้มกว้าง
“ขอบคุณมึงมากๆ เลยนะเว้ยที่ไม่ทิ้งกูไป” สกายขยี้หัวเพื่อนด้วยรอยยิ้ม
“อืม”
“แต่ถ้ากูทำอะไรให้มึงลำบากใจให้รีบบอกกูเลยนะ จะด่าอะไรกูมาก็ได้กูยอมรับฟังหมด มึงสำคัญกับกูนะแวนถึงจะไม่ใช่ในรูปแบบนั้นแต่มึงเองก็รู้ใช่ไหมว่ามึงไม่ได้สำคัญกับกูน้อยไปกว่าใครเลย”
คนตัวเล็กพยักหน้าช้าๆ ใบหน้าเปื้อนน้ำตาเงยขึ้นมองคนที่เขาหลงรักมาตลอด รู้สิและเพราะรู้เลยตกหลุมรักในความเป็นสกาย เกิดความหวังเล็กๆ ขึ้นมาในใจว่าอาจจะได้เป็นคนข้างกาย แต่ความจริงก็คือความจริง
แวนทำอะไรไม่ได้เลยนอกจากยอมรับมัน
เขาเองก็ไม่อยากเสียมิตรภาพดีๆ ของสกายไปเช่นกัน เมื่อวานที่ทะเลาะกันพอได้มานั่งคิดทบทวนและฟังคำพูดเตือนของเนมก็ทำให้เขาคิดขึ้นมาได้ว่าเพื่อนดีๆ ไม่ใช่จะหากันง่ายๆ อย่างที่หลายคนบอกว่าตบมือข้างเดียวมันไม่ดัง รักข้างเดียวก็เหมือนกัน
เขาผิดเองที่พาล ผิดที่นิสัยไม่ดีทำอะไรแย่ๆ ใส่สกายและหมอคุณ ความจริงสกายไม่จำเป็นต้องสนใจเขาเลยก็ได้ แต่เพราะสกายคือสกาย คนที่เห็นคำว่าเพื่อนสำคัญยิ่งกว่าอะไร มันถึงยังนั่งอธิบายให้เขาฟังอยู่แบบนี้แถมยังคอยนั่งปลอบใจ
จะมีซักกี่คนที่นั่งปลอบคนที่ตัวเองเพิ่งปฏิเสธไปแบบมันบ้าง
“ขอบคุณมึงมากนะกายแล้วก็ขอโทษด้วยที่กูทำตัวงี่เง่า” สกายส่ายหน้าไม่ถือสา
“ไม่เป็นไรเลยเว้ย”
“อืม ไว้กูจะไปขอโทษหมอคุณนะ”
“เออๆ ไปขอโทษเขาก็ดี” แวนพยักหน้า
“แล้วก็นะข้อแรกที่กูจะขอมึงเลยคืออย่าสกินชิพกูเกินความจำเป็นได้ป่ะ กูยังอยู่ในระยะทำใจนะเว้ย” สกายยิ้มกว้างเมื่อคนตัวเล็กโวยวายแล้วปัดแขนเขาทิ้ง
“เออกูขอโทษไว้คราวหลังกูจะใช้เท้าสะกิด”
“มึงนี่มันกวนตีนจริงๆ” สกายหัวเราะชอบใจพร้อมทั้งโบกมือทักทายเนมที่เดินเข้ามา
“ไงพวกมึงคุยกันรู้เรื่องแล้วดิ” สกายกับแวนพยักหน้าพร้อมกัน
“บอกผลให้กูทราบด้วยครับ”
“ก็เพื่อนกัน” แวนบอก สกายกับเนมยิ้มให้กันอย่างยินดี
“มันต้องแบบนี้สิวะ ไป! เย็นนี้ต้องฉลอง”
“ฉลองห่าอะไรล่ะไอ้เนมจะสอบแลปอยู่วันนี้พรุ่งนี้ เอาตัวเองไปแดกข้าวให้ครบทุกมื้อยังยากเลยไอ้ห่า” สกายด่าเพื่อนพร้อมกับปาสมุดใส่ด้วยรอยยิ้ม แวนกับเนมหัวเราะ
“เออพูดถึงเรื่องสอบแล้วกูอยากร้องไห้” แวนเริ่มคร่ำครวญ
“กลับตัวก็ไม่ได้ให้กลับใจก็ไปไม่ถึงงงงงงงงงงง” เนมเสริมเสียงสูง
“เอาน่าพวกมึง เรื่องแลปไว้ใจกู” สกายทุบอกตัวเอง
“ติวให้กูด้วยนะมึง”
“เออกูด้วย หักอกกูแล้วห้ามทิ้งให้กูตกแลป!”
“เออ เชื่อใจกูได้เลยเว้ยยยยย”
สกายรู้สึกโล่งใจมากที่ทุกอย่างจบด้วยดีและแฮปปี้กันทุกฝ่าย โดยเฉพาะเขาเองที่มีความสุขม๊ากมากเห็นทีต้องรายงานผลให้เชนกับแพรวฟังเสียแล้ว
แต่ก่อนอื่นต้องขึ้นเรียนและกินข้าวให้ครบทุกมื้อก่อนเป็นอันดับแรกไม่อย่างนั้นถ้าคนบางคนรู้จะมาดุเขาอีก อืม…วันนี้พี่คุณอยู่เวรจะมีอะไรกินตอนดึกหรือเปล่านะ เห็นทีเรียนเสร็จต้องไปหาซื้อของกินไปตุนไว้ให้คนแก่เสียหน่อยแล้ว
Tbc
talk. ฮัลโหลลลลลลลลลลลลลลลลลลลลลลลลล สวัสดีทุกคนนนนน เราคัมแบคมาพร้อมกับน้องฟ้า ไม่ได้ทิ้งน้าแต่ตั้งแต่ปีใหม่เป็นต้นมามีเรื่องอะไรเข้ามาเยอะมากมันเลยทำให้ไม่อยากทำอะไรเลย ฮ่า ๆ แต่ตอนนี้มันดีขึ้นตามลำดับแล้วค่ะ จะพยายามมาให้บ่อย ๆ น้า คิดถึงทุกคนค่า ไปแล้วพรุ่งนี้เข้างานตีสาม 55555555