[จบแล้ว]Your Stranger รัก||ไม่||ลืม ตอนพิเศษ คห.1998 P.67 (13/3/63)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [จบแล้ว]Your Stranger รัก||ไม่||ลืม ตอนพิเศษ คห.1998 P.67 (13/3/63)  (อ่าน 501449 ครั้ง)

ออฟไลน์ JokerGirl

  • ∀Σ❤∀ΔΣ Forever^^
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2921
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
อดีตของหมอคราม กับพี่ชายหมอก  :mew1: :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ WilpeR

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1556
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-2
เนื้อเรื่องเริ่มเอื่อยหน่อยๆแล้วอ่า อยากรู้ปมต่อๆไปมากเลย

ออฟไลน์ littlepig

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 429
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +413/-5
“คุณผู้หญิง อย่าทำแบบนี้เลยนะคะ คุณหนูเล็กเธอยังอายุไม่เท่าไหร่ อย่างน้อยก็เห็นแก่คุณหนูเล็กเถอะนะคะ”




หลังจากนำตัวเกศราส่งที่โรงพยาบาลที่หญิงสาวเข้ารับการรักษาเป็นประจำ ทุกคนก็แยกย้ายกันกลับไปทำกิจวัตรประจำวัน ธีรเชษฐ์กลับไปประชุมงาน เด็กๆยังคงไม่กลับมาจากโรงเรียนหรือมหาวิทยาลัย คเชนทร์กลับบ้านไปพักผ่อน เหลือเพียงหัวหน้าคนรับใช้ที่ยังคงจงรักภักดีกับเธอเสมอมา




“ลูกของเกศทุกคนโตพอที่จะดูแลตัวเองได้แล้วค่ะพี่แต้ว” หญิงสาวในชุดคนป่วยยิ้มอย่างอ่อนแรง “ต่อให้ไม่มีเกศ เด็กๆก็อยู่กันได้”




“อย่าพูดแบบนั้นสิคะคุณผู้หญิง..”




แม่บ้านชราเอ่ยเสียงรวดร้าว แม้จะรู้ว่านี่เป็นทางออกที่ดีที่สุดในตอนนี้ แต่เธอก็ยังไม่อยากให้ผลลัพธ์ของแผนที่เกศราวางไว้เป็นอย่างที่คาดอยู่ดี





“ฝากลูกเกศด้วยนะคะพี่แต้ว...” หญิงสาวนิ่งเป็นเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยต่อ “...ฝากเชษฐ์ด้วยนะคะ เกศไม่อยากให้เขา
เสียใจ...”




“น่าจะสายไปยี่สิบกว่าปีเห็นจะได้แล้วมั้งคะ” ป้าแต้วเอ่ยเสียงติดตลก เกศราส่ายหน้ายิ้มๆ




“เกศได้แต่หวังว่าเขาจะเจอใครซักคน... ใครซักคนที่รักเขาได้มากกว่าที่เกศรัก” หญิงสาวรำพึง สลัดศีรษะเบาๆไล่ความคิดนั้นออกไปแล้วหันไปหาแม่บ้านของตนพร้อมรอยยิ้มอิดโรย “เอากระเป๋าเครื่องสำอางค์มาสิคะพี่แต้ว ถ้าชักช้าเดี๋ยวจะไม่ทันนัดเอานะคะ”




แม้จะไม่อยากทำตามคำสั่ง แต่หญิงชราร่างท้วมก็ยังคงยื่นกระเป๋าเครื่องสำอางค์ที่เกศราแทบไม่เคยแตะให้กับนายหญิงของตน เกศราเป็นคนสวย หญิงสาวตระกูลเหลียนนั้นเรียกได้ว่างดงามราวกับภาพวาด เช่นเดียวกับพี่ชายของเธอ หรือแม้กระทั่งวรินทร์ผู้เป็นหลาน แม้กาลเวลาหรือโรคร้ายก็ไม่อาจพรากเอาโครงหน้าหมดจดและรอยยิ้มพิมพ์ใจไปจากเธอ แต่เมื่อแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางค์อ่อนๆ หญิงสาวดูราวกับนายหญิงคนเดิมก่อนที่จะล้มป่วยไม่มีผิดเพี้ยน




ก็อกๆๆ




“พี่แต้้วคะ” เกศราเม้มริมฝีปากอย่างประหม่า ก่อนจะสูดหายใจลึกๆแล้วคลี่ยิ้มออกมาพร้อมกับพยักเพยิดไปทางประตู หญิงชราเดินไปเปิดประตูห้องพักคนไข้ตามคำสั่ง





เบื้องหน้าของเธอคือชายหนุ่มชาวต่างชาติร่างสูงในชุดสูททางการทั้งที่อุณหภูมิด้านนอกไม่ต่ำกว่าสามสิบสององศา เส้นผมสีน้ำตาลเข้มถูกหวีเรียบจัดทรงอย่างดี ดวงตาสีฟ้าเปล่งประกายอย่างมีความสุข ในมือของชายหนุ่มถือช่อดอก Bleeding Heart สีแดงช่อใหญ่ห่ออย่างสวยงามไว้ด้วยกระดาษสาสีน้ำตาล





“คุณไอแซค” ป้าแต้วเอ่ยขึ้นตามมารยาท แต่นอกจากนั้นหญิงชราไม่แม้แต่จะพยักหน้าทักทายชายวัยไล่เลี่ยกับเกศราที่เป็นสาเหตุของเพลิงไหม้คฤหาสน์อัลฟอนโซ่ที่คร่าชีวิตคุณกรรณวัชรที่เธอเลี้ยงมาตั้งแต่เล็กแต่น้อยอย่างไม่มีวันกลับ ร่างท้วมเดินผ่านอีกฝ่ายออกมานั่งรอที่ระเบียงทางเดินหน้าห้องพักคนไข้




ไอแซคก้าวเข้าไปในห้องของหญิงสาวที่เขาไม่ได้เจอมากว่ายี่ิสิบปีด้วยท่าทีประหม่าระคนตื่นเต้น เขาไม่คิดว่าในที่สุดก็จะมีวันนี้ วันที่เกศรายอมทิ้งไอ้เพลย์บอยเหยาะแหยะที่ไม่แม้แต่จะปฏิบัติกับเกศราอย่างที่หญิงสาวพึงได้รับ แล้วหันมามองเขาที่ยืนอยู่ตรงนี้มาโดยตลอดเสียที




“เกศ…คุณรู้มั้ยว่าผมดีใจแค่ไหนที่คุณนัดผมออกมา” ชายหนุ่มนั่งลงข้างเตียงของคนป่วยพร้อมรอยยิ้มอ่อนโยน “คุณยังสวยเหมือนครั้งสุดท้ายที่เราเจอกันเลยนะครับ”




“ปากหวานไปเกศก็ไม่มีอะไรจะให้หรอกนะ” เกศราอมยิ้ม ดวงตาสีเมล็ดอัลมอนด์เหลือบมองดอกไม้ในมือของร่างสูง “สวยจังเลยค่ะ”




“ผมรู้ว่าคุณชอบ” คนถูกชมตื่นเต้นกับรอยยิ้มที่เขาไม่ได้เห็นมานานแสนนาน




“ขอบคุณนะคะไอแซค”




หญิงสาวยิ้ม ปล่อยให้ไอแซคเอื้อมมือมือกุมมือของตนไว้อย่างไม่รังเกียจ ซึ่งสร้างความประหลาดใจให้กับชายหนุ่มที่ถูกหญิงสาวปฏิเสธครั้งแล้วครั้งเล่าทั้งที่เขาเห็นอย่างชัดเจนว่าอีกฝ่ายไม่ได้ไม่รู้สึกอะไรกับเขาตามที่ปากว่าเป็นอย่างมาก
และร่างสูงยิ่งรู้สึกประหลาดใจมากขึ้นไปอีกเมื่อมีเรียวอีกข้างเอื้อมมากุมมือของเขาไว้เช่นกัน




เกศราอมยิ้มกับท่าทีแตกตื่นระคนดีใจของคนที่ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน ความหลงใหลที่มีต่อเธอยังคงไม่เคยยลดน้อยลง แม้รอยยิ้มนั้นจะไม่ส่งไปถึงดวงตาเรียวสวยของหญิงสาวเลยก็ตาม




ตั้งแต่ลืมตาดูโลก เกศรา เหลียน มีพร้อมทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นหน้าตา สติปัญญา การศึกษาและฐานะ การเป็นน้องสาวคนเดียวของเงาแห่งตระกูลเหลียนทำให้เธอถูกประคบประหงมตามใจมาตั้งแต่เด็ก เรียกได้ว่าแม้เกศราจะทำอะไรผิด คาร์ลอสก็จะสั่งลงโทษคู่กรณีของเธอแทนเสมอ




เพราะเธอเป็นดั่งแก้วตาดวงใจของกรรณวัชรที่ครอบครองหัวใจของเจ้าชีวิตของตัวเองไว้ในกำมือโดยไม่รู้ตัว




แต่เพราะเป็นน้องสาวของกรรณวัชร ความคาดหวังที่มีต่อตัวเธอจึงสูงตามไปด้วย





ในตระกูลเหลียนที่ประกอบไปด้วย‘เด็กอัจฉริยะ’เป็นรากฐานของตระกูล การจะก้าวขึ้นมาสู่ยอดของห่วงโซ่อาหารนอกจากบุญพาวาสนาส่งแล้วยังต้องทุ่มเททั้งกายและใจเพื่อพิสูจน์ความสามารถของตัวเอง




เกศราเริ่มทำงานในฐานะแฮกเกอร์ของอัลฟอนโซ่ตั้งแต่วัยสิบสามปี เด็กหญิงได้รับความไว้วางใจจากคาร์ลอสให้นำทีมอัจริยะทางด้านคอมพิวเตอร์ของตระกูลวางระบบฐานข้อมูลของแก๊งทั้งหมด และขุดคุ้ยข้อมูลของคนที่บังอาจก้าวขึ้นมาตีเสมอ
พวกเขา




มีคนเคยกล่าวไว้ว่ายิ่งสูงก็ยิ่งหนาว แม้เกศราจะพิสูจน์ให้ทุกคนเห็นไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้งว่าความสามารถของเธอมิใช่ได้มาเพราะโชคช่วย แต่คำนินทา คำครหานั้นยังคงไม่ซาไปโดยง่าย




ในตอนนั้นเองที่กรรณวัชรแนะนำให้เธอรู้จักกับไอแซค เด็กกำพร้าที่ตระกูลเหลียนเก็บมาชุบเลี้ยงตั้งแต่เล็ก ไอแซคคมีความสนใจด้านคอมพิวเตอร์มากและหัวไวพอสมควร พี่ชายของเธอจึงอยากให้เกศราช่วยสอนเด็กชายอีกแรง แม้จะรู้ว่าเป็นเพียงข้ออ้างให้เธอได้มีเพื่อนวัยเดียวกันในทีม แต่เกศราก็ยอมรับความหวังดีของพี่ชายโดยไม่อิดออด




จากวันเป็นเดือน จากเดือนแปรเปลี่ยนไปเป็นปี กว่าจะรู้ตัวเธอก็มีไอแซคเป็นเสมือนเพื่อนสนิทและลูกศิษย์ที่เธอถ่ายทอดทุกสิ่งทุกอย่างที่รู้ให้อย่างเต็มใจ เด็กหนุ่มร่างสูงตามเธอไปทุกที่ราวกับสุนัขรับใช้ผู้ซื่อสัตย์ เกศราอ่านความรู้สึกในแววตาของอีกฝ่ายออกอย่างทะลุปรุโปร่ง และถึงแม้เธอจะรู้ว่าความรู้สึกนั้นไม่ใช่สิ่งที่ไอแซครู้สึกแต่ฝ่ายเดียวเสียทีเดียว แต่เกศราไม่เคยคิดที่จะตอบรับความรู้สึกของอีกฝ่าย





ความรักไม่ใช่ทุกสิ่งทกอย่างในการใช้ชีวิตร่วมกับใครสักคน สิ่งนั้นเป็นหนึ่งในบทเรียนแรกที่โรงเรียนของตระกูลเหลียนสอนให้เธอรู้ ผลประโยชน์ที่ได้มาจากการลงทุนนั้นต้องคุ้มค่าพอที่จะทำห้เธอยอมใช้ชีวิตที่เหลือร่วมกับใครสักคน และถึงแม้ไอแซคจะพยายามเพื่อเธอมากแค่ไหน เกศรารู้ว่าอีกฝ่ายไม่มีวันให้สิ่งที่เธอต้องการกับเธอได้




เธอต้องการอิสระ




ถึงแม้ชีวิตในตระกูลเหลียน...การรับใช้ตระกูลอัฟอนโซ่ จะเป็นชีวิตแบบเดียวที่เธอรู้จัก แต่ชีวิตที่ต้องทำลายชีวิตของคนอื่นอยู่ตลอดเวลาไม่ใช่สิ่งที่เกศราอยากทำ ถึงแม้เธอจะรู้ว่าคนที่ถูกเธอทำร้ายในอีกฟากของหน้าจอนั้นไม่ใช่คนบริสุทธิ์ก็ตาม
และนั่นคือตอนที่ฟ้าส่งธีรเชษฐ์มาให้เธอ




เกศราไม่ได้ใสซื่อถึงขั้นจะคิดว่าตระกูลเหลียนจะปล่อยเธอจะเงื้อมมือไปโดยง่าย ทางออกเดียวที่ใครก็ตามคิดจะออกจากตระกูลเหลียนมีเพียงความตาย หญิงสาวตระหนักในความจริงข้อนั้นดี




เธอถึงได้ปล่อยให้ตัวเองรู้สึกถึงประกายแห่งความหวังเมื่อเธอได้รู้จักกับธีรเชษฐ์ เด็กหนุ่มลูกเจ้าของร้านขายเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีทุกอย่างที่เธอต้องการ ราวกับว่าพระเจ้าประทานผู้ชายคนนี้มาเพื่ออิสระของเธอ




หลังจากที่ถูกธีรเชษฐ์ตามจีบได้สักพัก เกศราค้นพบว่าบิดาของธีรเชษฐ์คือ  คาซีเมียร์ เจเลซนอฟ เป็นหัวหน้าตระกูลเจเลซนอฟซึ่งเป็นตระกูลมาเฟียที่มีอิทธิพลพอสมควรในแถบยุโรป หากบอกว่าอัลฟอนโซ่เป็นตระกูลมาเฟียเก่าแก่แล้ว เจเลซนอฟเรียกได้มาเป็นเหมือนพี่ใหญ่ที่คอยอุ้มชูตระกูลอัลฟอนโซ่ในสมัยแรกๆ ถึงแม้อัลฟอนโซ่จะไม่เคยก้มหัวให้ใคร แต่
อย่างน้อยที่สุด ความเกรงใจและลำดับอาวุโสยังมีผลกับคนทั้งสองตระกูลเสมอมา




แม้ธีรเชษฐ์จะไม่เคยล่วงรู้ถึงชีวิตของบิดาในโลกมืด อีกทั้งระบบการสืบทอดอำนาจของแก๊งยังไม่ใช่ระบบสายเลือด แต่เกศรารู้ว่าคาซีเมียร์รักลูกชายคนเดียวของตนมากพอที่จะตัดใจไม่พบหน้าและส่งมาให้เพียงค่าเลี้ยงดูผ่านมารดาของเด็กหนุ่ม ต่อให้คนในตระกูลเหลียนต้องการ ตระกูลเจเลซนอฟก็ไม่มีทางปล่อยให้ใครแตะต้องลูกชายคนเดียวของหัวหน้าตระกูล
แน่นอนว่านั้นเป็นสาเหตุที่ทำให้เธอยอมตกลงคบกับธีรเชษฐ์ โดยแสร้งทำเป็นเมินความรู้สึกที่ชายหนุ่มอีกคนที่อยู่เคียงข้างมีให้เธอเสมอมา




ที่เธอมาล้มป่วยเอาแบบนี้ อาจเป็นเพราะกรรมตามสนองก็เป็นได้




“ว่าแต่...ที่ปรึกษาคนสำคัญของตระกูลกาวิโน่ มาหาเกศแบบนี้จะดีจริงๆเหรอคะ”




หลังจากที่เธอตกลงคบกับธีรเชษฐ์ ไอแซคโทษตัวเองที่ไม่มีค่าคู่ควรกับเธอที่ให้เธอเลือกผู้ชายที่เพิ่งก้าวเข้ามาในชีวิตได้ไม่นานมากกว่าเขา แม้เกศราจะพอรู้ถึงความรู้สึกของอีกฝ่าย แต่หญิงสาวไม่เคยคิดว่าความคิดนั้นจะทำให้ไอแซคเลือกทรยศตระกูลที่ชุบเลี้ยงตัวเองมาเพื่ออำนาจและตำแหน่งที่ชายหนุ่มไม่มีทางเอื้อมถึงหากยังทำงานให้ตระกูลอัลฟอนโซ่




“ใครกล้าพูดอะไรก็ลองดูสิ” ชายหนุ่มเอ่ยอย่างหยิ่งผยอง “ไอ้แก่กาวิโน่คงอยู่ได้อีกไม่นาน โรเบิร์ตลูกชายของมันก็ยังเหยาะแหยะเป็นคุณหนูเหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อ ไม่มีใครกล้าว่าอะไรผมหรอกครับ”




เกศราเพียงแต่ยิ้ม ท่าทีไม่รังเกียจของเธอยิ่งทำให้คนที่หลงเธอจนหน้ามืดตามัวยิ่งคิดเข้าข้างตัวเอง ซึี่งเป็นไปตามแผนที่เกศราได้วางไว้




“เกศ…มาอยู่กับผมเถอะนะ...ตอนนี้ผมมีทุกอย่างมากว่าไอ้เด็กเชษฐ์นั่นจะให้คุณได้ ขอแค่คุณเอ่ยปาก ต่อให้ต้องฆ่าใครผมก็จะทำให้คุณ...”




อา...ถ้าทุกอย่างบนโลกนี้ง่ายเหมือนการคาดเดาความคิดของผู้ชาย ชีวิตของเธอคงจะสงบสุขขึ้นกว่านี้หลายเท่านัก




“ที่เกศนัดคุณออกมา...เพราะเกศอยากบอกลาเป็นครั้งสุดท้ายค่ะ” หญิงสาวเอ่ยขึ้น ลอบยิ้มในใจกับสีหน้าซีดเผือดของคนตรงหน้า “หมอบอกว่าเกศมีเวลาไม่ถึงหนึ่งปี ไอแซค...อย่าเสียเวลาวิ่งไล่ตามเกศอีกเลยนะคะ”




เพราะหลังจากนี้ เธอจะไปในที่ที่ชายหนุ่มไม่มีวันวิ่งไล่ตามทันอีกต่อไป




“ไม่ครับ!” ดังคาด ความดื้อแพ่งที่เธอคุ้นเคยดีในตัวของอีกฝ่ายฉายชัดในแววตา “ตัวให้เหลือเวลากับคุณเพียงแค่วันเดียว ผมก็จะไม่หยุดวิ่งไล่ตามคุณ...ให้ผมได้ดูแลคุณเถอะนะเกศ...”




“ไอแซค...”





เกศราเรียกชายหนุ่มด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ เจ้าของชื่อดึงเธอเข้าไปในอ้อมกอดอย่างอ่อนโยน มือใหญ่ลูบผ่านกลุ่มผมยาวสลวยอย่างเบามือราวกับกลัวว่าหากออกแรงมากกว่านี้หญิงสาวในอ้อมกอดจะแตกหัก





“ผมซื้อบ้านไว้ที่สวิตเซอร์แลนด์ จำได้มั้ยครับ? บ้านในแถบชนบทที่คุณบอกว่าอยากไปซักครั้ง...”





คนป่วยเพียงแต่พยักหน้ากับไหล่กว้าง ไอแซคยังคงพร่ำเอ่ยทุกสิ่งที่ตนอยากบอกกับคนในอ้อมกอดมาตลอดยี่สิบกว่าปีที่ผ่านมา




“ผมรักคุณนะเกศ...ผมไม่เคยหยุดรักคุณเลย...”




“…เกศรู้” หญิงสาวตอบเสียงแผ่ว “เกศขอเวลาซักหนึ่งอาทิตย์ได้มั้ยคะ?”




คำตกลงกลายๆที่แม้แต่ไอแซคยังไม่คิดว่าตัวเองจะได้ยินทำให้ชายหนุ่มตัวแข็งทื่อ ก่อนจะละล่ำละลักถามด้วยความตื่นเต้น





“จริงเหรอครับเกศ คุณจะไปอยู่กับผมจริงๆเหรอ”




“เกศเคยพูดเล่นด้วยเหรอคะ?”




“หนึ่งอาทิตย์...งั้นผมต้องไปเตรียมบ้าน เตรียมเอกสาร...ต้องไปเดี๋ยวนี้...” ชายหนุ่มพึมพำกับตัวเอง




เกศรารู้ดีว่าช่วงเวลาเพียงหนึ่งอาทิตย์จะทำให้คนตรงหน้าวุ่นวายกับการเตรียมเอกสารและบ้านที่สวิตเซอร์แลนด์ และทำให้ตระกูลกาวิโน่ขาดที่ปรึกษาคนสำคัญซึ่งเป็นคนเดียวที่เคยทำให้ตระกูลอัลฟอนโซ่เสียศูนย์ไปพักหนึ่งไปในระยะเวลานี้




และนั่นจะเปิดช่องว่างให้แผนของเธอไม่มากก็น้อย




หลังจากที่ไอแซคขอตัวกลับพร้อมกับสัญญากว่าจะมารับเธอในสัปดาห์ต่อไป ป้าแต้วก็กลับเข้ามาในห้องพร้อมกับกระเป๋าใส่แลปท้อป หญิงชรายังคงมีสีหน้าไม่เห็นด้วยกับแผนการของเจ้านาย




“คุณผู้หญิงคะ...เสี่ยงดวงกับคนบ้า มันไม่คุ้มหรอกนะคะ”




“คนบ้าอย่างไอแซคน่ะ ไม่ยอมหยุดจนกว่าจะได้เกศไปทั้งตัวทั้งหัวใจ เกศรู้ดีค่ะ” หญิงสาวเอ่ยด้วยน้ำเสียงสมเพช รัวนิ้วที่
ผอมลีบของตนลงบนคีย์บอร์ดอย่างขะมักเขม้น หญิงสาวกระตุกยิ้มมุมปากอย่างพึงพอใจกับผลลัพธ์ที่แสดงอยู่บนหน้าจอ



เธอเพิ่งระเบิดคลังอาวุธเถื่อนของของแก๊งกาวิโน่ด้วยการแฮ็กเข้าไปในระบบควบคุมระเบิดระยะไกลของพวกมัน ซึ่งเป็นระบบที่เธอเป็นคนสอนไอแซคเองกับมือ แม้จะไม่ได้สร้างความเสียหายให้ตระกูลกาวิโน่ถึงกับล่มสลาย แต่หัวหน้าตระกูลกาวิโน่ที่ถือเรื่องหน้าตาของตนเป็นใหญ่ยอมไม่ยอมอยู่เฉยแน่ ถึงแม้เกศราจะรู้ว่าพวกมันเกรงกลัวตระกูลเจเลซนอฟมากพอที่จะไม่แตะต้องธีรเชษฐ์และลูกๆของเธอ แต่เมื่อเจอเกศราที่ไม่มีแม้แต่ตระกูลเหลียนคุ้มกาละหัวลูบคมซึ่งๆหน้าแบบนี้ ต่อให้เป็นใครก็ต้องของขึ้น





หญิงสาวเปิดช่องทางเล็กๆไว้ให้ทีมแฮ็กเกอร์ของฝั่งกาวิโน่ได้ตามรอยเธอมาถึงที่โรงพยาบาล แต่หากการคำนวณของเธอไม่ผิดพลาด เธอยังมีเวลาอีกสามวันก่อนที่พวกมันจะบุกมาที่ห้องพักคนไข้แห่งนี้เพื่อจำกัดเธอให้ศัตรูของพวกมันดูเป็นเยี่ยงอย่าง





“ถ้าเป็นอย่างนั้นทำไมถึงไม่ขอให้เขาฆ่าพวกกาวิโน่ ทำลายตระกูลของพวกมัน ไอแซคไม่มีทางปฎิเสธคำขอของคุณอยู่แล้วนี่คะ ทำไมถึงต้องเอาชีวิตตัวเองมาทิ้งแบบนี้”





แม่บ้านวัยชราถามเสียงสั่นเครือ หญิงสาวบนเตียงเพียงแต่ยิ้มให้กับคนรับใช้คนสนิทอย่างอิดโรย




“เพราะเกศอยากให้ไอแซคเจ็บ ให้เขารู้ว่าถ้าคนคนเดียวที่สำคัญที่สุดในชีวิตของเขาต้องถูกฆ่าตายโดยที่เขาทำอะไรไม่ได้มันรู้สึกยังไง”




งานศพของพี่ชายแท้ๆที่เธอไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าร่วม ความทรงจำของตัวเองที่ทรุดตัวลงสะอื้นท่ามกลางสายฝนนอกสุสานของตระกูลเหลียนโดยเห็นเพียงแค่กลุ่มคนในชุดสีดำที่บดบังทุกสิ่งทุกอย่างจนมิด แม้แต่คำบอกลาก็ยังไม่สามารถได้เอื้อนเอ่ยกับเถ้ากระดูกของพี่ชายที่เลี้ยงเธอมาไม่ต่างจากบิดามารดา





เธอไม่มีวันให้อภัยไอแซค และเธอไม่มีวันให้อภัยตัวเองที่เป็นต้นเหตุที่ทำให้ไอแซคทรยศตระกูลจนทำให้กรรณวัชรถึงแก่ความตาย





เธอรู้ว่าไอแซคที่กำลังจะตายทั้งเป็นจากการสูญเสียเธอจะต้องตามล่าทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายของหญิงสาว เกศ
ราได้แต่หวังว่าความวุ่นวายในตระกูลกาวิโน่จะทำให้พวกมันออกห่างไปจากมธุวันและเมฆาสักสองสามปีก็ยังดี





แต่เธอรู้ว่าเธอยื้อเวลาแห่งความสุขให้กับลูกชายคนโตได้เพียงเท่านี้ หลังจากนี้ เมฆาจะต้องตัดสินใจหนทางที่ตัวเองจะก้าวเดินด้วยตัวเอง โดยไม่มีเธอคอยปกป้อง




และเธอมีเวลาสามวันที่จะบอกเล่าทุกสิ่งทุกอย่างให้กับลูกชายคนโตเพื่อเตรียมพร้อมอีกฝ่ายในสงครามที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้




“พี่แต้ว ขอโทรศัพท์หน่อยค่ะ”




หญิงสาวต่อสายหาเมฆาด้วยหัวใจที่หนักอึ้ง




“ครับแม่?” เสียงของลูกชายคนโตที่เธอจะไม่สามารถปกป้องได้หลังจากนี้ดังขึ้นจากปลายสาย เกศรากลืนก้อนสะอื้นที่จุกอยู่ในอก ก่อนจะเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เธอคิดว่าเป็นปกติที่สุด







“เมฆ…พรุ่งนี้มาหาแม่แต่เช้าเลยได้มั้ยลูก แม่มีเรื่องจะคุยด้วย”


---------

นับถอยหลัง~~~
แม่เกศจะปล่อยอัลติ(เรียกงี้ป่ะ)ล้าวววว

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
ปริศนากำลังจะคลี่คลายแล้วใช่ไหม :hao4:

ออฟไลน์ JustWait

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-4

ออฟไลน์ แม้วธวัลหทัย

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
โง้ยยยยยยยยย
จะจบแล้วอ่าาาาาาา

ออฟไลน์ HISY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-3
ความรักของแม่ยิ่งใหญ่้เสมอ

ออฟไลน์ JokerGirl

  • ∀Σ❤∀ΔΣ Forever^^
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2921
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
คลายปมมาเรื่อยๆ สนุกมากๆๆๆ

ออฟไลน์ เป็ดอนุบาล

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-2
                         เป็นนิยายที่คู่ควรแก่การลงทุนมากเหมาะแก่การมีไว้ในชั้นหนังสือที่ห้องจริงๆ
ซับซ้อนจนบางทีอยากรอให้จบแล้วมาอ่าจะได้ไม่ขาดตอนแต่ไม่เคยทำได้เลย
ไรต์มีความคิดที่แบบสุดยอดมากหว่านเรื่องซะไกลตัวมากๆๆๆๆมากจนคิดตามแกะรอยตามไม่ถูก
และค่อยๆกวาดต้อนทุกๆอย่างมาไว้ในที่มันควรจะอยู่ได้แบบลื่นไหนมากเอาจริงๆนะถ้าเป็นละครคงสนุกมาก
คนคงคาดไปต่างๆน่าๆและสุดท้ายอ่าวววไหนเป็นงี้แน่ๆเลย
รออ่านตอนต่อไปนะค่ะ... :mew1: :mew1: :mew1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ net. net_n2537

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 305
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
ทำไมรู้สึกว่าไม่ควรเข้ามาอ่านเลย พออ่านแล้วขาดตอนนี่มันบีบหัวใจมาก อยากรู้อยากเห็นเรื่องราวต่อจากนี้แล้ว

ออฟไลน์ ous_p

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 146
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
 :L1:อยากรู้. บอกเมฆเรื่องอะไร

ออฟไลน์ EunSung87

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1171
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +142/-2
ปริศนาค่อยๆ เผอยออกมาทีละป่มละ

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8
หนักหน่วงงง

ออฟไลน์ Yunatsu

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3650
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +233/-5
โอ้ยย เมฆรู้เรื่องมาตลอดหรอออ
ใช่หรออ
แม่จะบอกอะไร ทำไมยิ่งอ่านยิ่งซับซ้อนนนนน

ออฟไลน์ WilpeR

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1556
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-2
ปริศนากำลังคลี่คลายทั้งหมดใช่มั้ย ลุ้นจนเหนื่อยมากเลย

ออฟไลน์ littlepig

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 429
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +413/-5
Chapter 34: [Now]

มธุวันเดินออกมาจากสนามบินโดยมีเมฆาเกาะแจไม่ห่าง ด้านหลังของเขา ประธานบริษัทและกระต่ายน้อยนามว่ามีนาเดินตามมาโดยทิ้งระยะห่างจากคู่ของพวกเขาไว้อย่างจงใจ เลขาหนุ่มไม่รู้ว่าเจ้านายรู้เรื่องของตนมากน้อยเพียงใด หรือธีรเชษฐ์เพียงแค่อยากใช้เวลาเงียบๆกับเด็กหนุ่มที่ตนโอบไหล่ไว้ไม่ได้เดินเถลไถลออกนนอกเส้นทางกันแน่




“หมอกหิวมั้ย ให้เมฆไปซื้ออะไรให้กินมั้ย?” ส่วนคนลูกนั้นก็ไม่ได้ปล่อยโอกาสที่บิดาหยิบยื่นให้หลุดมือไปง่ายๆ ชถามสารทุกข์สุกดิบของเขาทุกฝีก้าวจนผิดวิสัยแม้จะเทียบกับคนรักในอดีต มธุวันใช้กลยุทธ์ถามคำตอบคำ ออกเสียงตอบเมื่อจำเป็นกับอดีตคนรัก ถึงอย่างนั้นเมฆายังคงยิ้มกว้างให้เขาทุกครั้งที่ได้รับการพยักหน้าจากร่างโปร่ง ซึ่งไม่ใช่รอยยิ้มที่ดีต่อหัวใจดวงน้อยๆของเลขาหน้านิ่งเลย





มธุวันถึงแทบจะถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกเมื่อเห็นญาวิกากระโดดโลดเต้นโบกมือให้เขาจากทางเท้า โรเบิร์ตยืนอยู่ข้างๆพร้อมกระเป๋าเดินทางใบโตที่มธุวันไม่เข้าใจว่าเพื่อนสนิทใส่อะไรมาเยอะแยะกับการมาอยู่แค่สองสามวัน




“แก๊~ ฉันอยากกินส้มตำ ฉันอยากกินส้มตำ!” หญิงสาวร่างเล็กพุ่งเข้ามาเขย่าแขนเพื่อนรักอย่างเอาเป็นเอาตาย แม้จะรู้ว่าญาวิกากำลังท้องย่อมต้องมีของอยากทานเป็นธรรมดา แต่นิสัยงอแงอยากกินนู่นกินนี่ของเธอเป็นมาตั้งแต่สมัยมหาวิทยาลัยจนชายหนุ่มชินเสียแล้ว




“ไม่ได้นะ คนท้องเขาไม่ให้กินของเผ็ด” ร่างโปร่งก้มลงกระซิบข้างหูเพื่อนสนิท ญาวิกาทำเสียงฮึดอัด แต่ก็ยอมรามือแต่โดยดี




“อะแฮ่ม!”




เลขาหนุ่มได้ยินเสียงกระแอมกระไอมาจากด้านหลังของตนอย่างเป็นเจ้าข้าวเจ้าของ ผิดกับโรเบิร์ตที่ไม่ได้มีท่าทีอะไรกับความสนิทสนมของเขาและญาวิกา




“ฮะ? นี่พวกแกยังคบกันอยู่อีกเหรอเนี่ย?” ญาวิกาอุทานออกมาเบาๆอย่างประหลาดใจ มธุวันรีบเอามือปิดปากเพื่อน ดวงตาเรียวตวัดกลับไปมองหาเจ้านายของตนอย่างตื่นตระหนก แต่ภาพที่เขาเห็นคือธีรเชษฐ์ที่ยังคงทิ้งระยะห่างจากพวกเขาไกลโขทรุดตัวลงคุกเข่าหนึ่งข้างและ...กำลังผูกเชือกรองเท้าให้มีนาที่มีสีหน้ากระอักกระอ่วนใจ





หากเขาไม่ได้กำลังตกอยู่ในสถานการณ์ลำบากเอง มธุวันคงมีเวลาช็อคกับท่าทีของเจ้านายมากกว่านี้ แต่ตอนนี้ร่างโปร่งทำได้เพียงหันกลับมาหาเพื่อนรักที่ส่งเสียงอู้อี้ประท้วงลอดผ่านมือของเขาอยู่อย่างรวดเร็ว




“ยาหยีรู้เหรอ?”




“โอ๊ย เพื่อนคะ ฉันกับไอ้นัทรู้ตั้งแต่ปีหนึ่งเทอมแรกละ พวกฉันแค่ไม่อยากพูดเพราะกลัวแกลำบากใจ” ญาวิกาเท้าสะเอว ส่ายหน้าอย่างเซ็งๆ “จริงๆเล้ย ถ้าเปิดตัวแล้วจะประกาศบอกเพื่อนบอกฝูงหน่อยก็ไม่ได้”




“มะ…ไม่ใช่อย่างนั้นนะยาหยี คือเรา..เราเลิกกันแล้ว” มธุวันเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงลำบากใจ นอกจากคนในครอบครัวของเขาที่รับรู้เรื่องความสัมพันธ์ของมธุวันกับเมฆา ร่างโปร่งไม่เคยต้องเอ่ยประโยคนี้กับใคร สีหน้าของญาวิกาแข็งกร้าวขึ้นทันทีเมื่อได้ยินดังนั้น ร่างเล็กๆของหญิงสาวก้าวเข้ามาคั่นกลางระหว่างมธุวันกับเมฆาทันทีราวกับจะปกป้องอะไรเพื่อนที่ตัวสูงกว่าได้ คนที่สูงไม่ถึงอกของเมฆาด้วยซ้ำเงยหน้ามองร่างสูงด้วยแววตาไม่เกรงกลัว





“แล้วตานี่ตามแกมาทำไม? จะมาหาเรื่อง? รึว่าสะกดรอยตามมา? ให้ฉันแจ้งตำรวจมั้ย?”




“ไม่ใช่นะ! คือ…” มธุวันยกมือขึ้นเกาศีรษะอย่างลำบากใจ ก่อนจะตัดสินใจตอบไปตามตรง “เขาเป็นรองประธานบริษัทที่เราทำงานอยู่ เราเป็นเลขาพ่อเขา”




“ห๊ะ?”ญาวิกาหันขวับกลับมามองเพื่อนของตัวเองอย่างไม่อยากเชื่อสิ่งที่ได้ยิน “นี่แกหางานยากถึงขั้นต้องไปทำงานบริษัทแฟนเก่าเลยเหรอเนี่ย? แกจบเกียรตินิยมไม่ใช่เหรอ?”




“ยาหยี เราโตแล้ว...เราแยกแยะเรื่องส่วนตัวกับงานได้” มธุวันถอนหายใจ เขารู้ว่าถ้าบอกเรื่องราวทั้งหมดให้เพื่อนสาวฟัง มีหวังเมฆาได้โดนแหกอกกลางสนามบินแน่ “อดีตก็คืออดีต ตอนนี้เรากับคุณเมฆาเป็นแค่เพื่อนร่วมงานกัน”




“โอ๊ย ฉันล่ะเพลีย มีแต่แกเท่านั้นแหละที่แยกแยะได้มืออาชีพขนาดนี้ คนอื่นไม่มีใครเขาทำกันหรอก โอ๊ย คนสวยจะเป็นลม”
ญาวิกาบ่นอุบ มธุวันยิ้มแห้งๆให้เพื่อนรักเมื่อรู้สึกว่าสถานการณ์เริ่มคลี่คลาย เขาไม่อยากจะรู้เลยว่าหากญาวิกาค้นพบความจริงว่าสภาพของเขาเป็นอย่างไรหลังจากเลิกกับเมฆา หญิงสาวจะคิดว่าเขาเป็นมืออาชีพอย่างในตอนนี้หรือไม่




“Darling, the car is here. (ที่รกครับ รถมาแล้ว)” โรเบิร์ตที่ยืนเงียบตลอดบทสนทนาเอ่ยขึ้น ชี้ไปที่รถที่มีโลโก้กับรูปของโรงแรมริมชายหาดแห่งหนึ่งติดอยู่ที่กำลังขับมาทางพวกเขา




“อ้าว ยาหยีไม่ได้พักที่โรงแรมธาราเหรอ?” มธุวันถามอย่างประหลาดใจ ทำไมโรเบิร์ตถึงไม่เลือกพักในโรงแรมที่จัดงานแฟชั่นโชว์ ทั้งที่ตัวเองเป็นสปอนเซอร์ใหญ่ของงานแท้ๆ




“โรเบิร์ตเขาบอกว่าที่นั่นกำลังเตรียมงานคนมันวุ่ยวายน่ะ อีกอย่าง ฉันก็ดูห้องจัดเลี้ยงโรงแรมนี้ไว้ด้วย เลยคิดว่าอยู่โน่นน่าจะดีกว่า” หญิงสาวเอ่ยด้วยดวงตาเป็นประกายเมื่อคิดถึงงานแต่งของตัวเองที่กำลังจะเกิดขึ้นในเร็ววัน “เจอกันที่โรงแรม
ธาราละกันแก เดี๋ยวฉันเอาของไปเก็บก่อน”




“อื้ม เดินทางดีๆนะ” มธุวันยิ้ม โบกมือให้เพื่อนสาวที่ก้าวเข้าไปในรถโดยมีคู่หมั้นหนุ่มชาวต่างชาติเปิดประตูให้ โรเบิร์ตหันมา
พยักหน้าให้เขากับเมฆายิ้มๆแล้วเข้าไปนั่งข้างว่าที่ภรรยาตัวน้อย




“เพื่อนหมอก...ดุเหมือนกันนะ”




เมฆาเอ่ยขึ้นหลังจากถูกปืนกลจากญาวิกาพูดรัวใส่จนหาจังหวะคัดค้านแก้ต่างอะไรให้ตัวเองไม่ได้ โชคดีที่มธุวันอยู่กับร่างเล็กมากพอที่จะสามารถโต้ตอบกับหญิงสาวได้ในระดับหนึ่ง




“อือ…” มธุวันกลับเข้าสู่โหมดถามคำตอบคำแทบจะในทันทีที่เพื่อนของตนไม่อยู่ในระยะการได้ยิน แต่เมฆายังคงไม่ยอมแพ้




“แบบนี้นอกจากชนะใจหมอก เมฆต้องทำคะแนนกับทั้งนัททั้งยาหยีด้วยใช่มั้ยเนี่ย?”




“นี่คิดไปถึงไหนแล้วเนี่ยเมฆ...” เสียงทุ้มที่กระซิบหยอกเย้านั้นทำให้มธุวันเผลอโต้ตอบไปด้วยความเคยชิน ดวงตาสีเทาอมฟ้าตวัดจ้องคนลูกไม้เยอะอย่างคาดโทษ ซึ่งเมฆาเพียงแต่ยิ้มอย่างไม่สะทกสะท้าน





“มายืนจีบกันอะไรตรงนี้? รถยังไม่มาเหรอ?”





เสียงของธีรเชษฐ์ถูกเขาลืมไปชั่วขณะทำเอามธุวันเกือบสะดุ้ง โชคดีที่เลขาหนุ่มเก็บอาการทันก่อนที่เจ้านายของตนจะจับพิรุธได้




“ยังครับ น่าจะอีกซักพัก รถค่อนข้างติด”





“เหรอ งั้นจีบกันต่อไปก็ได้ เดี๋ยวดูรถให้ ฉันไม่มีอะไรทำพอดี”





ธีรเชษฐ์ขยับยิ้มมุมปากกวนเลขาคนสนิท โชคร้ายของร่างสูงที่รอยยิ้มของเขาช่างเหมือนลูกชายคนโตราวกับเคาะออกมาจากพิมพ์เดียวกัน คนที่ไม่สามารถเอาความหงุดหงิดไปลงที่คนลูกได้จึงเบนเป้าไปที่คนพ่อแทน




“ไม่มีอะไรทำใช่มั้ยครับ? งั้นอ่านเอกสารรายละเอียดความคืบหน้าที่เราต้องไปคุยกับคุณนิโคไลให้ครบทั้งสามร้อยหกสิบแปดหน้านะครับ...” ร่างโปร่งยื่นแทบเล็ตของตัวเองให้กับเจ้านายที่อ้าปากค้างกับจำนวนหน้า




“แต่ว่านั่นมันงานของเม....”




“ของใครครับ?”




เลขาหนุ่มเลิกคิ้ว ดวงตาภายใต้แว่นไร้กรอบสื่อความหมายชัดเจนว่าหากธีรเชษฐ์ตอบผิด งานของชายหนุ่มจะไม่จบอยู่เพียงแค่นี้




“ของผมครับบอส...”




ประธานบริษัทหนุ่มเอ่ยเสียงอ่อยอย่างไม่กล้าหือ แม้เขาจะไม่มีความจำเป็นที่จะต้องรู้รายละเอียดของโครงการทุกตัวอักษรและย่อหน้าอย่างลูกชายคนโตที่เป็นหัวหน้าโครงการ แต่หากรู้รายละเอียดเพิ่มก็ไม่ใช่เรื่องไม่ดีอะไรนัก ถึงแม้จำนวนสามร้อยกว่าหน้าจะทำให้เขาแอบปาดเหงื่อก็ตาม




“คุณเชษฐ์ครับ ผม...”




“คุณมีนาอยากช่วยเหรอครับ?” มีนาหุบปากฉับ ส่ายหน้าพรืดทันทีที่ได้ยินคำถามของเลขาหนุ่ม มธุวันเปิดประตูรถตู้ที่เพิ่งมาถึงออกโดยไม่รอให้คนขับวิ่งลงมา ดันที่นั่งให้เคลื่อนไปข้างหน้าเพื่อให้คนที่จะเข้าไปนั่งด้านหลังเข้าไปได้สะดวก แล้วผายมือให้กับเจ้านายทั้งสอง




“เชิญครับ ท่านประธาน คุณมีนา คุณเมฆา”




ธีรเชษฐ์บ่นอุบว่าตัวเองยังเป็นประธานบริษัทอยู่อีกจริงๆเหรอ แต่เมื่อโดนสายตาเย็นเยียบเข้าไปอีกดอกก็หุบปากฉับเข้าไปนั่งที่เบาะหลังกับมีนาอย่างว่านอนสอนง่าย




“เชิญครับ” ร่างโปร่งหันกลับไปหาเมฆา แต่ร่างสูงเพียงแต่เอื้อมมือไปจับมือจับของประตูเลื่อน




“หมอกขึ้นก่อนสิ เดี๋ยวเมฆปิดประตูให้”




“คุณเม...”




“แม่เคยบอกว่า ถ้ารักใคร ให้ดูแลเขาให้ดี...”ใบหน้าคมยื่นเข้ามาใกล้ เมฆากระซิบเสียงเบาให้แค่พวกเขาได้ยินกันเพียงสองคนเท่านั้น “...ให้เมฆดูแลหมอกนะครับ”




“ของที่มันพังไปแล้ว ฝืนดูแลรักษามันต่อ ยังไงมันก็เป็นแค่ของที่ไม่มีคุณค่าอะไรแล้วเท่านั้นแหละครับ” มธุวันตอบเสียงเย็น ก่อนจะก้าวขึ้นรถด้วยไม่อยากต่อล้อต่อเถียงกับอีกฝ่าย แต่ยังคงไม่วายได้ยินคำตอบของเมฆาที่ก้าวตามขึ้นมานั่งข้างตน




“มีคนเคยบอกเมฆว่า บนโลกนี้ไม่ขยะ มีแค่ของที่คนมองไม่รู้คุณค่าของมัน” มธุวันสะอึกกับคำพูดที่ตนเคยพูดกับอดีตคนรัก มือเรียวรู้สึกถึงมืออุ่นที่ใหญ่กว่าเอื้อมมาแตะบนหลังมือของเขาอย่างกล้าๆกลัวๆ แม้จะไม่ได้ยินดีกับสัมผัส แต่มธุวันก็ไม่ได้สะบัดมันออกแต่อย่างใด “...ต่อให้ต้องซ่อมไปตลอดชีวิต เมฆก็ไม่ทิ้งหรอกนะ”




“มุกหลอกเด็กนั่นใช้กับผมได้แค่ครั้งเดียวเท่านั้นแหละครับ คุณเมฆา”




มธุวันดึงมือออกจากการเกาะกุมของอีกฝ่ายในที่สุด เลขาหนุ่มเบือนหน้าหนีตัดบทสนทนา หันไปมองวิวทิวทัศน์ของเมืองท่องเที่ยวนอกหน้าต่างด้วยจิตใจว้าวุ่น

------------


 :katai4: :katai4: :katai4:

ออฟไลน์ SM_day

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 86
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-2
จบเมื่อไหร่นี่ต้อง เรียบเรียงอ่านอีกรอบ มีความสับสนปนงงนิดหน่อย หรือไม่นิด?

ออฟไลน์ net. net_n2537

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 305
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
กลับไปกลับมาจนปรับอารมณ์ไม่ทันล่ะ  :katai4:

ออฟไลน์ ous_p

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 146
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ง้องอนสินะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
ตอนปมคลาย หมอกจะเพิ่มความรักเมฆ  ตามง้อเมฆแค่ไหนเนี่ย

ออฟไลน์ aurusma

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 217
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-2
ใจอ่อนกับที่เมฆง้ออ่ะ :katai1:

ออฟไลน์ donutnoi

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2187
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-7
ซับซ้อนจริงๆเรื่องราว เมฆสู้ๆ

ออฟไลน์ HISY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-3
ง้อวันละนิดจิต(คนอ่าน)แจ่มใส

ออฟไลน์ WilpeR

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1556
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-2
ง้องอนกันใหญ่เลย ตอนนี้คุ้นๆนะเนี่ย เดี๋ยวมีเหตุการณ์ระเบิดใช่มั้ยเนี่ย น่าจะเป็นตอนท้ายของเรื่องแฝดอ่ะ

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8
เหัออออ

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
ใน 4 คนนี้ สงสารมีนคนเดียว ไม่รู้จะหันหาใครดี สู้ ๆ มีน  :กอด1:

ออฟไลน์ เป็ดอนุบาล

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-2
       บางทีการหนีใจตัวเองก็เท่ากับทรมานตัวเองเล่นนะหวังว่าจะเข้าใจกันในเร็ววันเพราะทุกอย่างในชีวิตมันมีเวลาของมันอย่าปล่อยให้มันเสียเวลาเลยค่ะเพราะเดี๋ยวจะมาเสียดายเวลาที่แล้วๆมาเปล่าๆ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด