[จบแล้ว]Your Stranger รัก||ไม่||ลืม ตอนพิเศษ คห.1998 P.67 (13/3/63)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [จบแล้ว]Your Stranger รัก||ไม่||ลืม ตอนพิเศษ คห.1998 P.67 (13/3/63)  (อ่าน 505425 ครั้ง)

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
น่าน..........ทันกัน   :hao3:
นิโคไล กับโรเบิร์ท   :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

หมอก ใจดีกับเมฆได้แล้วนะ  :mew1:
เมฆ  หมอก   :กอด1: :กอด1: :กอด1:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ WilpeR

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1556
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-2
สงครามกำลังเริ่มขึ้นแล้ว

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
โอ๊ยยย นึกว่าดู The x file แฟ้มลับคดีพิศวง

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8
ต่างคนต่างมีคนต้องปกป้อง

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
โรเบิตรู้เรื่องหมอกแล้วเหรอ

ออฟไลน์ ous_p

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 146
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
 ความหมายดอกไม้นี่ต้องมีความรู้มากเลย

ออฟไลน์ Yunatsu

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3650
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +233/-5
โอ้ยยย ว่าแล้ว
สงสารยาหยีจริงๆเลยยยยย

นิโคไลลลลลล ประกาศสงครามแบบนี้เลยหรอ

แต่ว่าเมฆ จะได้หรือยัง จำได้หรือยัง

ออฟไลน์ แมว

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 129
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
รออออ :katai2-1: :katai2-1:

ออฟไลน์ meyj4ever

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 344
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
เมฆความจำจะกลับมาแล้วใช่มั้ย
ขอให้หมอกใจอ่อนไวๆด้วยเถิด

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ littlepig

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 429
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +413/-5
มธุวันยืนชั่งใจอยู่หน้าประตูห้องนอนของเมฆา ในมือมีถุงใส่กล่องข้าวผัดกระเพราหมูไข่ดาวของโปรดของร่างสูงจากร้านอาหารในเมือง ถึงแม้เมฆาจะบอกว่าไม่ต้องซื้ออะไรให้ แต่มธุวันก็อดเป็นห่วงไม่ได้ว่าคนป่วยจะไม่ยอมทานอาหารจืดๆของโรงแรมแล้วทำให้พาลไม่ยอมทานยาไปด้วย เลขาหนุ่มยกมือขึ้นเคาะประตู เขาได้ยินเสียงคนข้างในขยับตัวลุกขึ้นจากเตียง และเสียงฝีเท้าที่ใกล้เข้ามาที่ประตูห้องเรื่อยๆ ก่อนที่เมฆาที่ยังคงไม่ได้อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าจะเปิดประตูห้องด้วยสีหน้าสะลึมสะลือ



ไหนว่าไม่เป็นไรแล้วไง...



“ยังปวดหัวอยู่เหรอ?”




มือเรียวเอื้อมไปแตะหน้าผากของคนป่วยที่ดูเหมือนจะมีเพียงไข้อ่อนๆ เมฆาส่ายหน้า ยกมือขึ้นกุมมือที่ยังคงทาบทับอยู่บนหน้าผากของตนพร้อมรอยยิ้มอ่อนแรง ราวกับไม่ได้รู้ตัวว่ากำลังทำอะไรอยู่ ทำเอาคนใจแข็งโกรธไม่ลง




“ไม่ค่อยปวดแล้ว”




“กินข้าวก่อน จะได้กินยา พวกเรายังมีงานต่อนะ”



ถึงอย่างไรเมฆาก็ยังมีงานแฟชั่นโชว์ที่ต้องเข้าร่วม หากชายหนุ่มยังไม่ป่วยจนถึงกับขยับไม่ได้ มธุวันก็ไม่อยากให้เมฆาเสียมารยาทกับคำเชิญของคู่ค้าคนสำคัญอย่างนิโคไล



คนป่วยที่เหมือนลูกแมวแสนเชื่องขนาดเท่าพญาราชสีห์เดินต้อยๆตามมธุวันเข้าห้องพักของตัวเองแต่โดยดี เลขาหนุ่มเปิดข้าวกล่องวางบนโต๊ะแล้วหยิบขวดน้ำออกมาจากตู้เย็น เมฆานั่งลงที่โต๊ะทานอาหารเล็กนั้นขณะมองมธุวันจัดเตรียมยาและน้ำให้ตน แม้จะไม่อยากคิดเข้าข้างตัวเองแต่การกระทำของออีกฝ่ายยากจะตีความเป็นอย่างอื่น




“กินซะ จะได้อาบน้ำแต่งตัว” มธุวันขมวดคิ้ว มองคนที่ตักข้าวเข้าปากอย่างเชื่องช้าผิดวิสัย “อาบน้ำไวมั้ย?”




“ไม่เป็นไร เดี๋ยวเมฆเช็ดตัวเอา” เมฆาตอบ




“กินไป เดี๋ยวไปเตรียมผ้าขนหนูให้” แม้จะพยายามทำเสียงให้ห้วนสั้นอย่างไร ความเป็นห่วงที่มธุวันไม่อยากให้อีกฝ่ายรู้ก็มักจะพยายามหาทางเล็ดลอดออกมาทุกที




ระหว่างที่อยู่ในห้องน้ำ มธุวันใช้เวลานั้นพยายามรวบรวมเอาสติของตัวเองกลับคืนมา อาการป่วยของเมฆาทำให้เขารู้สึกกระวนกระวายใจจนทำให้ความรู้สึกที่พยายามกักเก็บเอาไว้ยิ่งล้นทะลักออกมาจากซอกหลืบเล็กๆของใจ เขาเกลียดที่แม้จะไม่ได้ตั้งใจ แต่เมฆายังคงสามารถปั่นหัวให้เขาเต้นตามเกมของอีกฝ่ายได้




ตั้งสติสิ! มาไกลขนาดนี้แล้ว อย่าให้เขาดึงเรากลับไปในวังวนนั้นอีกสิมธุวัน




มธุวันวักน้ำใส่ใบหน้าของตัวเองเพื่อเรียกสติ หลังจากที่จิตใจสงบลงบ้างแล้ว ชายหนุ่มจึงถือผ้าขนหนูบิดหมาดออกไปหาคนป่วยที่ดูเหมือนจะทานอาหารและยาเสร็จเรียบร้อยแล้ว




“อ่ะ เดี๋ยวไปหยิบชุดให้”




มธุวันปล่อยให้คนป่วยจัดการทำความสะอาดร่างกายตัวเองแล้วเปิดกระเป๋าเดินทางใบเล็กของเมฆาออก ในกระเป๋ามีชุดเพียงหนึ่งชุดสำหรับวันนี้ แต่สิ่งที่สะกดดวงตาสีเทาอมฟ้าไว้คือรูปถ่ายใบเล็กที่แนบอยู่ในช่องตาข่ายของกระเป๋าเดินทาง




รูปของเขาที่มีรอยยิ้มอ่อนละมุนประดับอยู่บนริมฝีปาก




หากจะให้ลงรายละเอียดมากกว่านั้น มันคือรูปของเขาในเสื้อโค้ทตัวยาวสีน้ำตาล และฉากหลังที่มองอย่างไรก็บอกได้ว่าเป็นประเทศญี่ปุ่น มธุวันพอจะจำได้รางๆว่าตัวเองในตอนนั้นกำลังอมยิ้มเมื่อเห็นเด็กน้อยวัยเพียงสองสามขวบเดินเตาะแตะจูงมือมารดาไปตามทางเท้า แต่เขาไม่ได้สังเกตว่ารองประธานหนุ่มแอบถ่ายรูปเขาเก็บเอาไว้




“เมฆ…” แต่ก่อนที่จะได้ถามเรื่องรูปถ่ายในกระเป๋าเดินทางให้รู้เรื่อง มธุวันก็หันมาเจอกับปัญหาใหม่ที่เร่งด่วนกว่านั้นมาก
“ทำไมไม่ถอดกางเกง?”




“หือ? เอ่อ...ก็..ก็หมอกอยู่...” เมฆาเกาหลังคอของตัวเองหน้าเจื่อนด้วยความอาย




“แล้วไง? มีอะไรที่ยังไม่เคยเห็นบ้าง?”




มธุวันไหวไหล่อย่างไม่ใส่ใจ แต่เมื่อเมฆายังคงมีสีหน้าลังเล ความรู้สึกอยากเอาชนะที่มธุวันไม่รู้ว่าเป็นเพราะตนอยากพิสูจน์ให้คนตรงหน้าหรือตัวเองเห็นกันแน่ว่าตัวตนของเมฆาไม่สามารถทำอะไรตนได้ทำให้มธุวันก้าวไปหาร่างสูงแล้วดึงเอาอาภรณ์ชิ้นเดียวที่ติดกายเมฆาลงมากองกับข้อเท้าของชายหนุ่มแล้วเงยหน้าขึ้นมองคนที่ยืนอึ้งอย่างทำอะไรไม่ถูกพร้อมกับเลิกคิ้ว




“ชักช้า”




เมฆากลืนน้ำลายเอื้อก ภาพของอดีตคนรักที่คุกเข่าอยู่บนพื้นตรงหน้าร่างที่ไม่มีอะไรปิดบังความรู้สึกของเขาทำให้ร่างสูงต้องรีบเบือนหน้าหนี ฝ่ายมธุวัน แม้ว่าหัวใจจะเต้นโครมครามในอก แต่ร่างโปร่งก็ยังคงดึงดันจะทู่ซี้ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นต่อไป




เพื่อให้สถานการณ์ประหลาดนี้จบไปโดยเร็ว เมฆาจึงรีบเช็ดทำความสะอาดร่างกายของตัวเองให้เสร็จแล้วคว้าเอาเสื้อผ้าที่มธุวันหยิบให้มาใส่อย่างรวดเร็ว เลขาหนุ่มลุกขึ้นยืนเต็มความสูง ช่วยคนที่กำลังง่วนอยู่กับการติดกระดุมเสื้อคล้องเนคไทค์ลงบนคอของอีกฝ่าย




“ฝึกทำเองได้แล้ว...” มธุวันพึมพำ เขาไม่คิดจะอยู่ช่วยเมฆาผูกเนคไทค์ไปตลอดชีวิตหรอกนะ




“ถ้าเมฆทำเองได้ เมฆก็ไม่มีข้ออ้างให้หมอกช่วยแล้วสิ” เมฆาพึมพำตอบเสียงอ่อย มธุวันท่องย้ำกับตัวเองว่าจะไม่ละลายไปกับการออดอ้อนอย่างหน้าไม่อายของคนตรงหน้า แต่ดวงตาสีเทาอมฟ้าก็ยังคงอ่อนลงกับประโยคนั้นอยู่ดี




“ก็ไปหาคนอื่นมาผูกให้สิ”



“หมอกก็รู้ว่าเมฆทำไม่ได้”




มธุวันนึกอยากให้แววตาของอีกฝ่ายไม่สะท้อนความจริงออกมามากขนาดนี้ เพราะหากเป็นเช่นนั้นเขาคงไม่ต้องลำบากกับความสับสนในใจเท่าที่เป็นอยู่



“…ทำงานไหวมั้ย?” เลขาหนุ่มเปลี่ยนเรื่อง ก้มลงเก็บผ้าเช็ดตัวและเสื้อผ้าชุดเก่าของร่างสูงขึ้นมาพับ



“อือ…”




ถึงจะไม่ไหวมธุวันก็รู้ว่าคนตรงหน้าก็คงไม่ยอมบอกเขาตรงๆอยู่ดี ร่างโปร่งจึงไม่คิดจะถามซอกแซกอะไร




ทั้งสองมาถึงสถานที่จัดงานแฟชั่นโชว์ก่อนที่งานจะเริ่มไม่นานนัก ธีรเชษฐ์กับมีนามารออยู่ที่หน้างานพร้อมกับนิโคไลเรียบร้อยแล้ว ชายหนุ่มชาวต่างชาติมีลูกน้องร่างสูงใหญ่หลายคนยืนล้อมหน้าหลังประหนึ่งเกราะกำบัง แต่เมื่ออยู่ท่ามกลางผู้เข้าชมและสื่อมวลชนที่เป็นชาวต่างชาติเสียส่วนใหญ่ เหล่าชายหนุ่มหน้าตาเคร่งเครียดจึงดูไม่ได้โดดเด่นสะดุดตาอะไรมากนัก




นิโคไลกำลังแลกเปลี่ยนบทสนทนากับชายหนุ่มชาวเอเชียร่างสูงในชุดสูทสีดำสนิทที่มธุวันรู้สึกคุ้นหน้า แต่ไม่มั่นใจว่าเคยเห็นอีกฝ่ายที่ไหน




“มาพอดีเลยครับคุณหมอก คุณเมฆ” ชายหนุ่มชาวอิตาลีหันกลับมาเห็นพวกเขา “นี่คุณเฟิ่งหยางหมิง เพื่อนของผมครับ”



“คนรู้จัก”



ชายหนุ่มที่มธุวันเพิ่งนึกออกว่าคือหนึ่งในนักธุรกิจอายุน้อยที่น่าจับตามองที่สุดในเอเชีย ทายาทของมหาเศรษฐีตระกูลเฟิ่ง มาเฟียฮ่องกงชื่อดังประวัติยาวนานตระกูลหนึ่งแก้คำพูดของอีกฝ่ายด้วยภาษาไทยที่ยังคงติดสำเนียงต่างชาติเล็กๆ ซึ่งจากอายุที่ดูจะน้อยกว่านิโคไลพอสมควรทำให้มธุวันอดประหลาดใจกับคำพูดและน้ำเสียงปีนเกลียวของอีกฝ่ายไม่ได้



ทว่าคนอายุมากกว่าเพียงแค่ขยับยิ้มขำอย่างไม่ถือสา




“คนรู้จักก็คนรู้จัก ผมว่าพวกเราไปนั่งกันดีกว่าครับ”




นิโคไลหันมาสนใจแขกของตน ที่นั่งของพวกเขาอยู่บริเวณหน้าสุดติดขอบเวที ชนิดที่เรียกได้ว่าหากยืดแขนยืดขาผิดท่านายแบบนางแบบบนเวทีอาจจะถูกขัดขาตกลงมาก็เป็นได้




เฟิ่งหยางหมิงนั่งลงที่แถวเดียวกับพวกเขา ไม่ห่างจากนิโคไลไปมากนัก ดวงตาคมสีรัตติกาลจับจ้องไปที่เวทีโดยไม่สนใจสภาพแวดล้อมรอบข้างแม้แต่น้อย




“โทษทีแก มัวแต่หาแท็กซี่อยู่เลยมาสาย”




ญาวิกาทรุดตัวลงข้างมธุวันอย่างรีบร้อน แม้ว่างานจะยังไม่เริ่ม โรเบิร์ตทรุดตัวลงข้างคู่หมั้นสาว ดวงตาคมหรี่ลงเล็กน้อยเมื่อเห็นนิโคโลกระตุกยิ้มมุมปากให้ด้วยแววตาที่คาดเดาไม่ออก แต่เลือกที่จะหันไปสนใจเวทีตรงหน้าแทน




“ไม่ต้องโกหกก็ได้ยาหยี เราเข้าใจ” มธุวันยิ้มขำ หญิงสาวร่างเล็กที่มักจะเป็นฝ่ายหยอกล้อเพื่อนๆหน้าขึ้นสี กระซิบเสียงตะกุกตะกัก




“อะ…อะไรเล่า ก็บอกว่าหาแท็กซี่อยู่ไง”




“ซิปข้างหลังรูดไม่สุดนะ” มธุวันกระซิบคืนก่อนจะหันไปสนใจเวทีที่ยังคงไม่มีใครออกมาเช่นเดียวกับคนอื่นๆ ปล่อยให้เพื่อนสาวประมวลผลคำพูดของตัวเองแล้วหันไปตีเผียะเข้าที่ต้นแขนของคู่หมั้นหนุ่มที่ทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ด้วยใบหน้าแดงก่ำ




“อึ่ก...”




เลขาหนุ่มขมวดคิ้วเมื่อได้ยินเสียงหายใจสะดุดของเมฆาซึ่งนั่งอยู่ข้างๆ มธุวันหันไปหาคนป่วยด้วยความกังวล แต่นอกจากสีหน้าที่ดูไม่ค่อยสู้ดีเท่าไหร่ของอีกฝ่ายแล้ว เมฆายังคงดูเป็นปกติในสายตาของเขา




“ไหวมั้ย?” มธุวันโน้มตัวเข้าไปกระซิบถาม เมฆาพยักหน้า แต่ไม่ได้ตอบอะไรมากกว่านั้น




แม้จะยังไม่คลายกังวล แต่เลขาหนุ่มก็ทำได้เพียงให้ความสนใจไปยังงานที่กำลังจะเริ่มในไม่กี่อึดใจ โดยที่ส่วนหนึ่งก็ยังคงพะวะพะวงกับคนข้างๆ




เสียงเพลงเริ่มขึ้นพร้อมกับนางแบบคนแรกในชุดแต่งงานสีขาวบริสุทธิ์ฟูฟ่องที่ดูค่อนข้างคล้ายคลึงกับชุดเจ้าสาวในฝันของเด็กหญิงตัวน้อย แต่สำหรับญาวิกา มธุวันไม่คิดว่าเพื่อนของเขาจะชอบชุดแบบนั้นเท่าไหร่นัก




“ยาหยีอยากได้ชุดแบบไหนเหรอ?” มธุวันกระซิบถามว่าที่เจ้าสาว เตือนตัวเองว่าเขามาเพื่อช่วยเพื่อนรักเลือกชุดที่สวยที่สุดในวันที่สำคัญที่สุดของตัวเอง ไม่ใช่มาเป็นพยาบาลจำเป็นให้กับอดีตคนรัก





“ฉันว่าหลักๆคือไม่รัดแล้วก็ไม่ยาวมาก...” ญาวิกาตอบ มือเล็กวางบนหน้าท้องที่ยังคงแบนราบของตัวเองอย่างปกป้องอยู่ตลอดเวลา “...กลัวสะดุดอ่ะ”




เมื่อคิดว่านักออกแบบเสื้อผ้าแฟชั่นที่เฝ้าฝันถึงชุดแต่งงานของตัวเองมาตลอดชีวิตถูกจำกัดตัวเลือกด้วยข้อจำกัดทางร่างกายแบบนี้ มธุวันก็อดสงสารเพื่อนไม่ได้ แต่เขารู้ดีว่าการได้แต่งงานมีครอบครัวที่อบอุ่นเป็นความฝันที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเพื่อนรัก และจากรอยยิ้มกว้างที่ประดับอยู่บนใบหน้าของญาวิกา เขาไม่คิดว่าหญิงสาวรู้สึกว่าตัวเองพลาดโอกาสอะไรไปสักนิด




“…บอกไปรึยัง?” แม้จะไม่ได้เฉพาะเจาะจงหัวข้อคำถามของตน เขาก็รู้ว่าญาวิกาเข้าใจ หญิงสาวหน้าเจื่อนลงก่อนจะส่ายหน้าเบาๆ มธุวันทำได้เพียงยิ้มบางอย่างเหนื่อยใจ




เฮ้อ...แบบนี้หลานจะคลอดก่อนคนเป็นพ่อจะได้รู้มั้ยล่ะเนี่ย?




งานแฟชั่นโชว์ครั้งนี้ดำเนินไปโดยมีว่าที่เจ้าสาวกับเพื่อนเจ้าสาวอย่างมธุวันช่วยกันวิเคราะห์สไตล์ของชุดที่ญาวิกาชอบที่สุดอย่างขะมักเขม้น ชุดที่เข้าตาที่สุดในตอนนี้น่าจะเป็นชุดผ้าลินินปล่อยชายที่ยาวถึงข้อเท้าซึ่งแม้จะไม่ใช่ชุดที่ญาวิกาน่าจะถูกดึงดูดเข้าหาในเวลาปกติ แต่สัญชาตญาณความเป็นแม่ทำให้สิ่งที่สำคัญที่สุดของหญิงสาวในตอนนี้คือความปลอดภัยและสบายของลูกในท้อง




โรเบิร์ตหยิบโทรศัทพ์ออกมาจากกระเป๋ากางเกง หันมาหาคู่หมั้นของตนเป็นเชิงขอตัวแล้วลุกออกไป มธุวันไม่ได้ให้ความสนใจมากนักเพราะมัวแต่กระซิบกระซาบกับเพื่อนรักถึงแบบชุดที่ญาวิกาถูกใจนั้น




“อ๊ะ แกๆ เขาจะเดินฟินาเล่แล้ว” ญาวิกาเอ่ยขึ้นอย่างตื่นเต้น มธุวันกลับไปให้ความสนใจกับเวทีที่นางแบบคนล่าสุดเพิ่งเดินกลบเข้าไปด้านหลัง





แสงไฟรอบเวทีหรี่ลงพร้อมกับควันที่พวยพุ่งออกมาจากพื้น เปลี่ยนเวทีให้เป็นม่านหมอกแห่งความฝันเพื่อต้อนรับร่างสูงโปร่งในชุดกี่เพ้าผ้าเนียนลื่นสีม่วงสดเฉดเดียวกับดวงตา วรินทร์ย่างเยื้องกรีดกรายออกมาจากหลังเวทีด้วยรอยยิ้มจางจากริมฝีปากเรียวสวยเคลือบด้วยลิปสติกสีม่วงเข้มฉ่ำวาวที่เปี่ยมไปด้วยความมั่นใจและกลิ่นอายยั่วเย้าอันเป็นเอกลักษณ์ของนายแบบหนุ่ม เล่นเอาหนุ่มๆที่มองใจหวิวกันเป็นแถว รองเท้าส้นเข็มสีเข้มยิ่งทำให้เรียวขายาวที่โผล่บนรอยแยกจากกระโปรงผ่าข้างซึ่งสูงเสียจนแทบไม่เหลืออะไรให้จินตนาการยิ่งดูน่าหลงใหลยิ่งขึ้นไปอีก




แม้จะตะลึงงันกับความงดงามของนายแบบหนุ่มไม่แพ้คนอื่นๆ มธุวันยังอดรู้สึกถึงสายตาดุดันจากมาเฟียชาวฮ่องกงที่จับจ้องนายแบบหนุ่มท่ามกลางกระแสความหลงใหลนั้นไม่ได้




เขาไม่รู้ว่าวรินทร์รับรู้ถึงสายตาของเฟิ่งหยางหมิงหรือไม่ เพราะนายแบบหนุ่มขยับหมุนตัวฟูลบอดี้เทิร์นหนึ่งรอบอย่างงดงาม
ตรงหน้าของมาเฟียหนุ่มหน้าหยกพร้อมกับขยิบตาให้ก่อนจะเดินต่อไป เรียกสายตาของทุกคนให้มองตามก้อนเนื้อกลมกลึงในชุดแนบเนื้อที่มธุวันยังคงมีภาพติดตาจากวันที่อีกฝ่ายมาสนุกกับธีรเชษฐ์ในห้องทำงานไปด้วยแววตากระหายอย่างไม่ปิดบัง





“อื้อหือ...อย่างแซ่บอ่ะ แต่สีม่วงนี่มันสีอัปมงคลวันแต่งงานไม่ใช่เหรอ?ที่เขาบอกว่าสีแม่หม้ายอ่ะ?” ญาวิกาขมวดคิ้ว มธุวันไหวไหล่ ไม่มั่นใจว่าจะตอบเพื่อนรักอย่างไร



“หยีครับ…”



โรเบิร์ตที่กลับมาจากคุยธุระแตะไหล่คนรักเบาๆ ว่าที่บ่าวสาวพูดคุยกระซิบกระซาบอะไรกันอยู่สักพัก ญาวิกาก็หันมาหามธุวัน




“หมอก ฉันต้องรีบกลับไปที่โรงแรม ไปคุยเรื่องห้องจัดงานก่อน มีคนกำลังจะวางมัดจำวันที่ฉันจะเอา ฉันต้องไปเคลียร์ก่อน” หญิงสาวเอ่ยอย่างรีบร้อน




“อ๋อ…แล้วคุณโรเบิร์ต...”




“เขามีคุยงานที่นี่ต่อ แต่เสร็จแล้วเดี๋ยวเขาตามไปแหละ ขอบใจมากนะแก ฉันไปละ”




ด้วยรู้นิสัยของเพื่อนสนิททำให้มธุวันไม่คิดจะห้าม หากว่าญาวิกายังไม่เห็นเอกสารระบุชัดเจนเป็นลายลักษณ์อักษรว่าเธอจองห้องได้แล้ว ร่างเล็กคงได้แต่กระสับกระส่ายไม่เป็นอันทำอะไรอยู่แบบนี้




หลังจากที่มองส่งเพื่อนไปจนลับสายตา เลขาหนุ่มก็หันกลับมาให้ความสนใจกับการแสดงชุดที่สองที่กำลังจะเริ่มในไม่ช้า
-----------(มีต่อด้านล่างนะจ๊ะ อิอิ)-------------------









ออฟไลน์ littlepig

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 429
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +413/-5
เสียงปรบมือดังก้องไปทั่วห้องจากผู้ชมจำนวนหลายร้อยคน แสงแฟลชจากกล้องนับสิบนับร้อยฉายวาบไปยังเหล่านางแบบนายแบบและดีไซเนอร์ชื่อดังบนเวทีที่ถือดอกไม้ช่อใหญ่โค้งรับคำชม




คนที่โดดเด่นที่สุดในงานคงไม่พ้นวรินทร์ที่เดินชุดฟินาเล่ปิดการแสดงทั้งสองชุด ซึ่งแม้จะไม่ค่อยรู้เรื่องแฟชั่น แต่มธุวันก็ยังพอจะเดาออกว่าไม่ใช่เรื่องที่เกิดขึ้นบ่อยนัก โดยชายหนุ่มในตอนนี้อยู่ในชุดเจ้าสาวแบบตะวันตกทรงนางเงือกสีขาวบริสุทธิ์ ผ้าลูกไม้แทรกเส้นด้ายทองช่วยขับความเรียบง่ายให้ดูหรูหรา ปักคริลตัลเม็ดเล็กวาวระยับเล็กลวดลายสวยงามยามกระทบแสงไฟ ลิปสติกสีม่วงเข้มถูกแทนที่ด้วยลิปกลอสอมชมพูฉ่ำวาว ใบหน้าเกลี้ยงเกลาและลำคอระหงส์ถูกขับให้โดดเด่นขึ้นจากเส้นผมยาวที่ถูกเกล้าขึ้นเป็นมวย ประดับประดาด้วยดอกไม้เล็กๆสีขาว ทำให้ร่างสูงโปร่งดูราวกับนางฟ้าที่เพิ่งบินลงมาจากสรวงสวรรค์ แต่สิ่งที่ทำให้คนดูต้องรีบเช็ดน้ำลายคือแผ่นหลังขาวเนียนเกลี้ยงเกลาที่ไร้อาภรณ์ใดปกคลุม และคว้านลึกลงมาจนเห็นแนวกระดูกสันหลังที่เรียงตัวสวยของนายแบบหนุ่มลงมาเป็นแนวยาว...





ตู้ม!!




ท่ามกลางคงตกใจและความมึนงง เขาถูกแรงกระแทกบางอย่างทำให้ถูกผลักลงไปกองกับพื้น มธุวันไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เสียงระเบิดดังลั่นทำให้แก้วหูของชายหนุ่มส่งเสียงหวีดร้องออกมา เศษฝุ่นสีขาวจากตัวอาคารที่ถูกแรงระเบิดปริศนาทำให้ตาของเขามองไม่เห็นทัศนียภาพรอบกายไปชั่วขณะ




“เมฆ…”




เขาไม่รู้ว่าตัวเองกำลังตะโกน หรือกำลังกระซิบเรียกหาอดีตคนรัก แต่วินาทีนั้น เขาเพียงแค่ต้องการรู้ว่าเมฆาอยู่ที่ไหน
ความมึนเบลอจากแรงระเบิดค่อยๆจางหายไป มธุวันตระหนักว่าที่ตนไม่สามารถมองเห็นทัศนียภาพรอบข้างได้ เป็นเพราะร่างของคนที่เขาร้องเรียกหาซึ่งคร่อมทับร่างของเขาอยู่




“อึ่ก...”




เมฆากัดฟันกรอด ยันตัวลุกขึ้น ฉุดมธุวันให้ลุกขึ้นมาท่ามกลางความโกลาหลของผู้คนที่วิ่งหนีตายกันจ้าละหวั่น พวกเขาถูกกระแสฝูงชนผลักให้เคลื่อนตัวหนีตามกันออกมา ไม่อย่างนั้นคงได้แบนเป็นกล้วยปิ้งอยู่บนพื้นเป็นแน่




ตู้ม!!!




แรงระเบิดอีกครั้งจากฝั่งห้องครัวที่อยู่ห่างออกไปสร้างความแตกตื่นให้กับฝูงชนอีกระลอก ถึงแม้ว่าจะไม่มีใครบาดเจ็บจากแรงระเบิดตรงๆก็ตาม



มธุวันเกาะร่างสูงใหญ่กว่าไว้แน่นด้วยกลัวกระแสฝูงชนจะแยกพวกเขาออกจากกัน ในที่สุดทั้งสองก็มาถึงทางออกโรงแรม มธุวันได้ยินเสียงระเบิดอีกระลอกดังขึ้นจากภายในตัวอาคาร แต่ทันทีที่หลุดพ้นออกมาข้างนอก ร่างทั้งร่างของเลขาหนุ่มก็แทบจะปิดเครื่องเตรียมรีบูทใหม่ด้วยตัวของมันเอง เขาเห็นหลายคนทรุดตัวลงนั่งหายใจบนพื้นหญ้า แต่หนึ่งในนั้นไม่ใช่เมฆาที่มองไปรอบๆด้วยสีหน้าแตกตื่นเหมือนเด็กหลงทาง




“เมฆ?”




“พ่อ…”



แววตาหวาดกลัวที่เขาไม่คิดว่าตัวเองเคยเห็นฉายชัดบนใบหน้าของเมฆาเมื่อชายหนุ่มตระหนักว่าบิดาของตนไม่ได้อยู่ในกลุ่มของผู้คนที่สามารถหนีออกมาได้ก่อนพวกเขา มธุวันรีบคว้าแขนของอีกฝ่ายไว้เมื่อเมฆาหมุนตัวกลับไปในทางที่ผู้คนกำลังวิ่งหนีออกมา




“หมอกไปด้วย...”



“หมอกอยู่ที่นี่นะ อย่างน้อยเมฆก็รู้ว่าหมอกปลอดภัยอยู่ตรงนี้...” มือใหญ่แกะมือที่เกาะแขนของตัวเองไว้ออก แววตาของเมฆาดูหวาดผวากับความคิดที่ว่ามธุวันจะกลับเข้าไปในนั้นอีกครั้ง “ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับหมอก...เมฆต้องเป็นบ้าแน่ๆ...”




มธุวันรู้ดีว่าเปล่าประโยชน์ที่จะห้ามอดีตคนรักไม่ให้กลับเข้าไปช่วยบิดา เมฆาจะไม่มีวันให้อภัยตัวเองหากเกิดอะไรขึ้นกับธีรเชษฐ์ ไม่สำคัญว่านั่นไม่ใช่ความผิดของเมฆา เขารู้ว่าถึงอย่างไรอีกฝ่ายก็จะไม่มีวันเลิกโทษตัวเอง และการที่เขาเข้าไปด้วยคงมีแต่จะทำให้เมฆาต้องพะวะพะวงกับความปลอดภัยของเขาเพิ่มอีกคน



ถึงจะรู้แบบนั้น แต่ก็ใช่ว่าจะทำให้การปล่อยเมฆากลับเข้าไปในโรงแรมที่ยังคงมีควันพวยพุ่งออกมาง่ายขึ้น




มธุวันดึงคอเสื้อของอีกฝ่ายเข้ามาประกบริมฝีปาก จุมพิตดูดดื่มหวานล้ำไร้ซึ่งความขุ่นเคืองใจจากสิ่งใดก็ตามที่เกิดขึ้นระหว่างพวกเขาในช่วงตลอดหลายปีที่ผ่านมา จุมพิตที่เมฆาจูบตอบอย่างโหยหาราวกับโอเอซิสในทะเลทราย



“ถ้าเมฆไม่กลับมา หมอกจะโกรธเมฆไปตลอดชีวิต...”




ลูกแก้วสีเทาอมฟ้าวาวฉ่ำไปด้วยของเหลวที่เอ่อล้นขอบตา เมฆายิ้ม ประทับริมฝีปากได้รูปลงบนหน้าผากของคนที่ตนยังคงรักด้วยหัวใจทั้งหมดที่มี




“ครับ รอเมฆนะครับคนดี...”




มธุวันยกมือปิดปากกลั้นก้อนสะอื้นที่จุกอยู่ในลำคอ มองร่างของคนรักที่วิ่งหายเข้าไปในฝูงชนด้วยดวงหน้าที่อาบไปด้วยน้ำตา




“คุณหมอกครับ!!” เสียงร้องอย่างแตกตื่นพร้อมกับแรงดึงที่แขนทำให้มธุวันหันกลับไป โรเบิร์ตจับแขนของเขาไว้ด้วยใบหน้าซีดเผือด “ยาหยีแย่แล้วครับ!ทางนี้ครับ!”




ชื่อของเพื่อนรักทำให้มธุวันสาวเท้าตามคู่หมั้นของหญิงสาวไปยังด้านข้างของโรงแรมที่เป็นมุมลับตาคนโดยไม่ต้องคิด ร่างโปร่งไม่ได้เอะใจเลยว่าทำไมญาวิกาที่กลับไปที่โรงแรมของตัวเองตั้งแต่จบการแสดงชุดแรกถึงได้ยังอยู่ในที่เกิดเหตุ แต่ก่อนที่มธุวันจะทันได้นึกอะไร มือใหญ่ที่ถือผ้าชุบของเหลวบางอย่างก็โปะเข้าที่จมูกและปากของเขา อารามตกใจ มธุวันเผลอสูดหายใจเอาสารในผ้าเข้าไป และถึงแม้จะดิ้นรนเพียงไร ยาสลบที่เริ่มออกฤทธิ์ก็ทำให้ดวงตาสีเทาอมฟ้าปรือปรอยลงพร้อมกับสติสัมปชัญญะของมธุวันเลือนหายไปอย่างง่ายดาย










เมฆายกแขนเสื้อขึ้นปิดจมูกเพื่อป้องกันฝุ่นควันที่ลอยคลุ้งไปทั่วตัวอาคาร ดวงตาสีควันบุหรี่สอดส่ายหาบิดาของตนอย่างเร่งรีบ ในตัวโรงแรมแทบจะไม่มีคนหลงเหลืออยู่แล้ว แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้นการตามหาธีรเชษฐ์ยังคงเป็นเรื่องยากจากฝุ่นควันที่บดบังทุกสิ่ง และทำให้ดวงตาของเขาแสบร้อนจนแทบลืมไม่ขึ้น




แต่ไม่ว่าสิ่งที่เมฆาคิดว่าตัวเองจะได้เห็นจะเป็นอะไรก็ตาม เขาไม่คิดว่าภาพของบิดาถือปืนยิงสวนกลุ่มชายปริศนาเคียงข้างมาเฟียหนุ่มชาวอิตาลีจะเป็นหนึ่งในนั้น




“พ่อ….”




“ระวัง!”




แรงฉุดกระชากดึงให้เมฆาที่เรียกได้ว่าแทบจะยืนเอ๋ออยู่กลางดงกระสุนเซลงไปหมอบอยู่ด้านหลังเคาท์เตอร์ประชาสัมพันธ์ เมฆาหันไปมองผู้ช่วยเหลืออย่างงุนงง ชายชาวต่างชาติรูปร่างสูงใหญ่ที่หมอบอยู่ข้างเขามีเส้นผมสีเงินแซมจนแทบไม่เห็นเค้าลางของเส้นผมสีรัตติกาลและริ้วรอยรอบดวงตาสีควันบุหรี่คมเข้มที่ผ่านโลกมาหลายสิบฝนซึ่งเป็นเพียงสองสิ่งที่ทำให้ภาพลักษณ์์ภายนอกของชายวัยหกสิบกว่าปีที่ดูใกล้เคียงกับอายุจริง แต่รูปร่างที่อุดมไปด้วยมัดกล้ามนั้นชายหนุ่มวัยฉกรรจ์ยังต้องยอมแพ้




“คุณ…ปู่?”




คาซีเมียร์กลอกตา ตบซองกระสุนเข้ารังเพลิงของปืนพกกระบอกหนึ่งแล้วส่งให้หลานชายคนโต




“เดินทะเล่อทะล่าเข้าไปเดี๋ยวก็กลายเป็นผีเฝ้าโรงแรมหรอก” ปู่ของเขาเอ่ยเสียงแกมตะคอก เมฆาเคยพบกับปู่ของตัวเองเพียงไม่กี่ครั้งในวัยเด็ก แต่ท่าทีเข้มงวดและแววตาดุๆนั้นมักจะทำให้เขารู้สึกเหมือนตัวเองกำลังทำอะไรผิดเสมอ “คุ้มกันหลังให้ด้วย”



“ฮะ? อะไร...เฮ้ย! ปู่ครับ!”



เมฆาพุ่งตัวตามปู่ของตนไปตามสัญชาตญาณเมื่อจู่ๆชายชราก้มตัววิ่งออกไปจากที่กำบัง ชายหนุ่มไม่มั่นใจด้วยซ้ำว่าตนรู้ได้อย่างไรว่าต้องทำอะไร ราวกับมือทั้งสองข้างมีความคิดเป็นของตัวเองเมื่อเมฆายกปืนขึ้นยิงสวนใครก็ตามที่พยายามจะหยุดการเคลื่อนไหวของพวกเขา




คาซีเมียร์ไถลตัวเข้าไปหลบที่ด้านหลังส่วนหนึ่งของเวทีที่ธีรเชษฐ์และนิโคไลกำลังใช้เป็นที่กำบังอยู่ก่อนแล้ว โดยมีเมฆาวิ่งตามไปติดๆ ชายหนุ่มทำได้เพียงขอบคุณปาฏิหาริย์กระสุนของกลุ่มชายปริศนายังไม่ฝังลงบนร่างของเขาสักนัด




“ช้านะตาแก่...” ธีรเชษฐ์หันมาบ่นบิดาของตัวเอง ก่อนจะเบิกตากว้างเมื่อเห็นว่ามีใครติดสอยห้อยตามมาด้วย “เมฆ?”





“พ่อครับ นี่มันเรื่องอะไรกัน?” เมฆาถามอย่างไม่เข้าใจ




“ไว้ค่อยปรึกษาปัญหาครอบครัวกันทีหลังดีมั้ยครับทุกคน” นิโคไลหันมาเอ่ยพร้อมรอยยิ้มที่ไม่เข้ากับสถานการณ์ คาซีเมียร์ขมวดคิ้ว ถามด้วยน้ำเสียงที่เหมือนคุณปู่ที่พาหลานตัวน้อยออกไปซื้อขนมโดยที่พ่อแม่เด็กไม่ได้ยินยอม แต่ไม่เข้าใจว่าตัวเองกำลังทำอะไรผิด




“ถ้าจะแก้แค้นตระกูลที่สั่งฆ่าเมียแก ทำไมลูกแกจะตามมาแก้แค้นให้แม่มันไม่ได้?”




“อะ…” คำถามของเมฆาถูกกลืนหายลงไปในลำคอเมื่อความเจ็บปวดแล่นปลาบไปทั่วศีรษะอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว ภาพของมารดาที่นอนหายใจรวยรินจมกองเลือดอยู่ในอ้อมกอดของตนที่วาบขึ้นมาในสมองยิ่งทำให้ร่างสูงสับสน




แม่...แม่ของเขาเสียชีวิตจากหัวใจล้มเหลว...




เขาไม่ได้อยู่กับแม่ในวาระสุดท้าย...



แล้วทำไม...




คำอธิบายอะไรก็ตามที่ธีรเชษฐ์มีให้กับเมฆาถูกขัดจังหวะด้วยเสียงระเบิดอีกลูก แต่จากที่เมฆาสังเกต คนของฝั่งนิโคไลที่กำลังยิงสวนกลับกลุ่มชายปริศนานั้นมีจำนวนเยอะกว่ามาก ทำให้เขารู้สึกใจชื้นพอสมควร เมฆาไม่รู้ว่าตัวเองยิงใครไปบ้าง สัญชาตญาณการเอาตัวรอดของเขาบอกให้เขากำจัดศัตรูของตัวเองให้หมด แม้ว่าส่วนลึกในจิตใจของร่างสูงจะภาวนาให้คนที่ล้มลงไปจากกระสุนของเขายังมีลมหายใจอยู่ก็ตาม




“Left wing’s cleared! (ปีกซ้ายปลอดภัยแล้วครับ)” เสียงตะโกนของใครบางคนทำให้นิโคไลยิ้มออก แม้ว่าพวกเขาจะยังอยู่ในระหว่างการดวลปืน แต่ฝ่ายตรงข้ามนั้นเหลือจำนวนน้อยเสียจนแทบไม่น่าจะเป็นปัญหา




“Right wing’s cleared! (ปีกขวาปลอดภัยแล้วครับ)”




นิโคไลลุกขึ้นยืนเต็มความสูง กระสุนนัดสุดท้ายทะลุเข้ากลางหน้าผากของชายคนเดียวที่ยังหลงเหลืออยู่ ก่อนที่ชายในชุดสูทสีดำซึ่งเมฆาจำได้ว่าเป็นลูกน้องคนหนึ่งของนิโคไลจะประกาศ




“All clear! (ปลอดภัยหมดครับ!)”




อะดรินาลีนที่พลุ่งพล่านค่อยๆลดหายไปทำให้ร่างสูงรู้สึกเหมือนถูกสูบพลังออกไปจนหมด เมฆมองไปรอบกาย เห็นเพียงซากปรักหักพังและร่างหลายร่างนอนอยู่บนพื้น เขาเพิ่งสังเกตว่าคนทั้งหมดที่ช่วยยิงคุ้มกันให้พวกเขาไม่ได้มีเพียงลูกน้องของนิโคไล นอกจากชายชาวเอเชียหลายคนแล้ว ยังมีชายอีกหลายคนที่เขาค่อนข้างมั่นใจว่าทำงานให้กับปู่ของเขา ที่หางตา ชายหนุ่มเห็นบิดาของเขากำลังเปลี่ยนกระสุนให้กับปืนของบิดาของตน




เขาไม่คิดว่าจะมีเรื่องอะไรที่ทำให้เขาประหลาดใจได้อีกแล้วตลอดชีวิต




“Boss! Look out!!(บอสครับ ระวัง!)”



ปัง!




ร่างของมือปืนที่ยังมีสติอยู่ซึ่งหวังจะลอบยิงนิโคไลทีเผลอทรุดลงไปบนพื้น เผยให้เห็นนายแบบหนุ่มในชุดเจ้าสาว ที่ถือปืนพกกระบอกเล็กซึ่งมีควันกรุ่นจากปากกระบอกปืนอยู่ด้านหลัง



ปัง!ปัง!ปัง!



วรินทร์ฝังกระสุนลงในร่างของมือปืนที่นอนเรียงรายอยู่บนพื้นอีกครั้งเพื่อความมั่นใจ ดวงตาสีม่วงสดเย็นเยียบและว่างเปล่า ราวกับว่ามันเป็นเพียงกิจวัตรประจำวันหนึ่งในชีวิตของตน




โอเค...เขาขอถอนคำพูด เมฆาคิดว่าหลังจากนี้น่าจะมีเรื่องให้เขาประหลาดใจเพิ่มอีกมาก




นิโคไลขยับยิ้มมุมปากแล้วกางแขนออกกว้าง วรินทร์โผเข้าไปในอ้อมกอดของร่างสูงอย่างรู้งาน ที่ด้านหลังของนายแบบหนุ่ม เฟิ่งหยางหมิง นักธุรกิจชาวฮ่องกงที่เมฆาเพิ่งสังเกตว่ายังอยู่ในตัวโรงแรมกัดฟันกรอดมองดูคนทั้งคู่ด้วยแววตาที่สามารถปลิดชีพคนที่ถูกมองได้ในพริบตาเดียว




ว่าแต่ ทำไมนิโคไลถึงได้รู้จักกิ๊กเก่าของพ่อเขาด้วยล่ะเนี่ย?




จากสีหน้าสับสนของธีรเชษฐ์ ดูเหมือนบิดาของเขาก็ดูสับสนกับภาพตรงหน้าไม่แพ้กัน




ฉับ!




ดวงตาสีม่วงเบิกกว้างอย่างตกใจ ในมือของนิโคไลมีมีดพกขนาดเล็กซึ่งเป็นสาเหตุให้เส้นผมเนียนละเอียดสีดำสนิทที่เคยยาวระสะโพกถูกตัดลงไปกระจายกับพื้น มาเฟียหนุ่มชาวอิตาลียิ้มอย่างอ่อนโยน นิ้วยาวเชยคางมนให้ใบหน้าเกลี้ยงเกลาเงยขึ้นมองเขา




“ไปเถอะริน...”



“นิค…” ดวงตาสีม่วงสดไหวระริก ไม่เข้าใจว่าคนตรงหน้าหมายความว่าอย่างไร




“เงาน่ะ..ต้องเป็นของอัลฟอนโซ่ทั้งตัวและหัวใจ” นิโคไลเลิกคิ้วมองเลยไปยังชายหนุ่มชาวเอเชียที่ยืนเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันอยู่ด้านหลังของวรินทร์ “เงาที่เลี้ยงไม่เชื่องอย่างรินน่ะ ฉันไม่ต้องการหรอกนะ”




แม้คำพูดของชายหนุ่มจะดูไร้เยื่อใย แต่แววตาของนิโคไลนั้นฉายแววอ่อนโยนอย่างที่วรินทร์แทบไม่เคยเห็นมันมองมาที่เขามาก่อน นิโคไลดึงให้เงาของตัวเองที่ยังคงนิ่งอึ้งจากความตกใจให้เริ่มเดินไปหาเฟิ่งหยางหมิงที่ยืนกอดอยู่ ดูคล้ายพ่อเจ้าสาวที่กำลังจะส่งตัวลูกให้เจ้าบ่าวในพิธีแต่งงานแบบข้างพิลึกพิลั่นในความเห็นของเมฆา




“ของตอบแทนเล็กน้อยจากผม หวังว่าเราจะได้ร่วมงานกันอีกครั้งนะครับ คุณเฟิ่ง”




“อย่าเจอกันอีกจะดีกว่าครับ” เจ้าของชื่อดึงร่างของวรินทร์ที่แม้จะเป็นคนตัวสูงแต่ก็ยังเซเข้าไปซบกับอกกว้างของชายหนุ่มราวกับเด็กสาวตัวน้อยมากอดไว้แนบออก ท่าทีแสดงความเป็นเจ้าของแทบจะในวินาทีแรกที่ได้สัมผัสร่างของวรินทร์ทำให้นิโคไลยิ้มขำ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร




“回去! (กลับ!)”




เพียงแค่นั้นชายเกือบครึ่งหนึ่งในห้องก็เดินตามชายหนุ่มชาวฮ่องกงไปอย่างว่าง่าย ส่วนนิโคไลก็หันไปหากลุ่มคนที่...หากเมฆาเข้าใจไม่ผิด น่าจะกำลัง ‘เก็บกวาด’ หลักฐานของการต่อสู้เมื่อครู่ ชี้ไปที่ศพของชายคนหนึ่งบนพื้นแล้วพูดอะไรสักอย่างเป็นภาษาอิตาลี ไม่ได้เป็นเดือดเป็นร้อนกลับเปลวเพลิงที่อยู่รอบกายพวกเขา




“ผมว่าเราออกไปจากที่นี่กันเถอะครับ” เมฆาหันไปบอกบิดาและปู่ของตัวเอง แม้ว่าเขาจะไม่ค่อยเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ความร้อนใจที่อยากจะกลับไปหามธุวันมีมากกว่า และที่สำคัญ อาการปวดหัวที่ค่อยๆกลับเข้ามาทำให้เขาเริ่มรู้สึกยืนไม่อยู่




“Team A down. Cannot locate Star at the moment. (ทีมAถูกโจมตี ตอนนี้ไม่สามารถระบุตำแหน่งของดวงดาวได้ครับ)”



เมฆาไม่มั่นใจว่าคำพูดนั้นหมายความว่าอย่างไร แต่จากสีหน้าซีดเผือดของนิโคไลหลังจากได้ยินรายงานของลูกน้อง เขาคิดว่านั่นไม่น่าใช่ข่าวดีเท่าไหร่นัก




แต่ตอนนี้ศีรษะของเขาหนักอึ้งเกินกว่าจะสามารถคิดอะไร เมฆารู้สึกว่าร่างของตนเริ่มส่ายไปมาอย่างควบคุมไม่อยู่ สิ่งสุดท้ายที่เขารับรู้ได้คือเสียงร้องเรียกชื่อเขาและแรงกระแทกจากธีรเชษฐ์ที่ผลักเขาให้พ้นจากปูนชิ้นใหญ่ที่ตกลงมาจากเพดาน




ภาพอันแสนเลือนรางของบิดาที่ถูกทับด้วยเศษปูนชิ้นใหญ่ทำให้เมฆาพยายามฝืนเปลือกตาขึ้น แต่ชายหนุ่มไม่สามารถต่อสู้กับความมืดที่เข้าครอบงำตนทีละนิดได้ และจมดิ่งลงสู่ความว่างเปล่าในที่สุด






-----------


เอาความยาวมาชดเชยที่วาร์ปหายไปนาน55555
เปิดเทอมแล้วความยุ่งเพิ่มระดับสิบ แต่จะวาร์ปมาหาทุกคนให้จงได้5555 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:

ออฟไลน์ เก้าแต้ม

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1290
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +88/-3
ตัดตอนได้ค้างคา.... :katai1:

ออฟไลน์ WilpeR

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1556
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-2
ค้างงงงงงงงงมากอ่ะ

ออฟไลน์ แมว

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 129
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
ค้างงง :z13: :z13: :katai1:

ออฟไลน์ จุ๊บจิ๊บจ๊ะจ๋า

  • I LOVE MY SMILE
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1892
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +103/-4
โอ้ยยยยยยยยย ระทึกทุกเลยค่ะ รีบไปช่วยน้องหมอกเร็ว

ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6
น้องหมอก น้องมีนจะเป็นงัยบ้างน้อ   ค้างมาก

ขอตอนต่อาไปด่วนๆ เลยนะคะ  พลีสสสสสสสสสสสส     :mew2:

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8
เอิ่มมม

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
นิโคไล ประมาทโรเบิตซินะ

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
ขอให้ทุกคนปลอดภัยนะ  :hao5:

ออฟไลน์ HISY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-3
ตายยย ค้างคามากค่าาา
นอนอืดรอตอนหน้าาาา

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
 :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: เมฆ ต้องตามหาเชษฐ์ มันก็ใช่อ่ะ ก็พ่อนี่   :mew2:
แต่หมอก หมอก ถูกจับตัวไปแล้ว  :serius2: :serius2: :serius2:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ JokerGirl

  • ∀Σ❤∀ΔΣ Forever^^
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2921
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
อ๋อ ตอนนี้เองที่มีข่าวว่าวรินทร์ตาย แต่จริงๆ ไม่ตาย เลิกเป็นเงาแล้วมีชีวิตของตัวเองแล้วเนอะ กำลังมันส์เลย รอตอนต่อไปค่ะ :pig4:

ออฟไลน์ O-RA DUNGPRANG

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1760
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-5

ออฟไลน์ ous_p

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 146
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ไม่นะๆ หมอกโดนจับไปแล้ว ธีรเชษฐ์จะเป็นยังไง

ออฟไลน์ maekkun

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 223
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
ลุ้น ลุ้น

ออฟไลน์ aurusma

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 217
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-2
ไม่นะ ทำไมส่อแววดราม่ามาแบบนี้เลยล่ะ

ออฟไลน์ fridayafternoon

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 6
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
เกลียดความตัดจบ

ออฟไลน์ Onsm

  • To be Continue
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 21
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
 :z3: แล้วไงต่ออ่าาาาาา

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด